Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้วิชาออกแบบและเทคโนโลยีม.3

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาออกแบบและเทคโนโลยีม.3

Published by Jiraporn Anne, 2023-06-18 09:33:58

Description: แผนการจัดการเรียนรู้วิชาออกแบบและเทคโนโลยีม.3

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าออกแบบและเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว23102 ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 นางสาวจิราภรณ์ หวา่ งแสง ตำแหน่ง ครผู ู้ชว่ ย กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นลำทะเมนไชยพทิ ยาคม สำนกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศึกษานครราชสมี า สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

บันทึกข้อความ สว่ นราชการ โรงเรยี นลำทะเมนไชยพทิ ยาคม สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้นื ฐาน ที่ ……………………. วนั ที่ 26 พฤษภาคม 2566 เร่ือง ขออนุญาตใช้แผนการจัดการเรยี นรู้ วิชาออกแบบและเทคโนโลยี รหสั วิชา ว23102 เรยี น ผอู้ ำนวยการโรงเรียนลำทะเมนไชยพทิ ยาคม ดว้ ยนางสาวจิราภรณ์ หวา่ งแสง ตำแหนง่ ครูผู้ช่วย โรงเรยี นลำทะเมนไชยพิทยาคม อำเภอลำทะเมนชยั จังหวดั นครราชสีมา สังกดั สำนักงานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษามธั ยมศึกษานครราชสมี า ได้รับมอบหมายใหท้ ำการสอน รายวิชาออกแบบและเทคโนโลยี รหัสวิชา ว23102 ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 3 ในภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2566 ในการนีข้ า้ พเจา้ ไดจ้ ดั เตรยี มการสอนโดยการวเิ คราะห์ผเู้ รียนและสภาพทเี่ ปน็ ปัญหาใน การเรียนการสอนจึงได้วางแผนเพื่อพัฒนาการเรียนการสอนในส่วนที่รับผิดชอบ โดยจัดทำแผนการจัดการเรียนรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ สอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐) จึงขออนุญาตดำเนินการสอนตามแผนการ จดั การเรยี นรทู้ ี่แนบมาพร้อมน้ี จึงเรยี นมาเพื่อโปรดพจิ ารณา ลงช่อื .......................................... ครูผสู้ อน (นางสาวจริ าภรณ์ หว่างแสง) ตำแหน่ง ครผู ูช้ ว่ ย ความคิดเห็นของหัวหน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้ ความคดิ เหน็ ของผชู้ ่วยผู้อำนวยการกล่มุ งานบรหิ ารวชิ าการ .......................................................................... ...................................................................................... ลงช่อื .................................................... ลงชือ่ .................................................... (นางสาวฐิตมิ า สวาสนา) (นายวริ พงษ์ ปะนามะเส) ผ้ชู ว่ ยผอู้ ำนวยการกลมุ่ งานบรหิ ารวิชาการ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ความคดิ เหน็ ของรองผู้อำนวยการโรงเรยี นลำทะเมนไชยพทิ ยาคม ......................................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื .................................................... (นางเยาวลกั ษณ์ สอนสะอาด) รองผู้อำนวยการโรงเรยี นลำทะเมนไชยพิทยาคม ความคดิ เห็นของผอู้ ำนวยการโรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม ........................................................................................................................................................................................ ลงช่ือ .................................................... (นายนภภมู ิ แกว้ วิเศษ) ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นลำทะเมนไชยพทิ ยาคม

คำนำ การจดั ทำแผนการจดั การเรียนรูน้ บั เป็นวธิ ีหนึ่งทท่ี ำใหค้ รผู ู้สอนไดม้ ีการเตรียมการสอนล่วงหน้า กอ่ นที่จะทำ การสอนจริง โดยมกี ารเตรยี มเนื้อหาเตรยี มกิจกรรม เตรียมส่อื การเรียนการสอนรวมทั้งวิธกี ารวดั ผลประเมนิ ผลซึ่งการ เตรยี มการสอนจะชว่ ยให้ครูผู้สอนมคี วามพรอ้ มทจ่ี ะสอนให้ผู้เรียนบรรลุตามจดุ มงุ่ หมายของหลกั สูตร การจดั ทำแผนการจัดการเรยี นรู้ฉบบั น้ี ผจู้ ัดทำได้ศึกษาค้นควา้ หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรงุ พทุ ธศักราช 2560) โครงสร้างหลักสูตรสถานศกึ ษา และเอกสารอนื่ ๆ ทเี่ กี่ยวข้อง วเิ คราะห์หลักสตู ร จัดทำกำหนดการสอน โครงสรา้ งรายวชิ า และหารูปแบบการทำแผนการจดั การเรียนรโู้ ดยเนน้ ให้ ผู้เรยี นได้เรยี นผา่ นกระบวนการคิดดว้ ยตนเอง โดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อมของผู้เรียนเปน็ หลัก แผนการจัดการเรียนรู้ฉบับน้ี จัดทำไวเ้ พ่ือสะดวกต่อการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอน สามารถนำไป ประยุกตใ์ ช้ไดท้ ุกปีการศกึ ษา ผูท้ ่จี ะนำไปใชค้ วรอา่ นคำชแ้ี จงการใชแ้ ผนการจดั การเรยี นรู้ให้เข้าใจก่อนนำไปใชจ้ ริง ขา้ พเจา้ หวังเปน็ อย่างยิ่งวา่ แผนการจดั การเรยี นร้ฉู บบั นีจ้ ะช่วยให้การเรยี นการสอนรายวิชาออกแบบและ เทคโนโลยี ดำเนนิ ไปดว้ ยดี และทำใหผ้ เู้ รยี นมีความรู้ความสามารถ มที ักษะกระบวนการและมีคุณลกั ษณะอันพึง ประสงคต์ รงตามจุดมุ่งหมายของหลักสูตรต่อไป นางสาวจิราภรณ์ หว่างแสง ผจู้ ดั ทำ

สารบัญ ตอนที่ 1 ส่วนนำ 1. ความนำ 2. วิสัยทศั น์หลกั สตู รโรงเรียนลำทะเมนไชยพทิ ยาคม 3. วิสัยทศั น์หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรยี นรู้ 4. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รยี น 5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 6. แบบบันทึกการวิเคราะหผ์ เู้ รียน ตอนท่ี 2 การวเิ คราะหห์ ลักสูตร 1. สาระ มาตรฐาน ตัวชวี้ ัดรายวิชา 2. คำอธิบายรายวิชา 3. โครงสรา้ งรายวชิ า ตอนที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้

มาตรฐานการเรยี นรู้ และตวั ช้วี ดั กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 รายวิชาออกแบบและเทคโนโลยี รหสั วิชา 23102 กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 เวลา 20 ชวั่ โมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วดั สาระท่ี 4 เทคโนโลยี มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยี 1. วิเคราะห์สาเหตุ หรือปจั จัยทส่ี ่งผลต่อการเปล่ียนแปลง เพ่ือการดำรงชวี ติ ในสงั คมที่มีการ ของเทคโนโลยี และความสัมพันธ์ของเทคโนโลยี เปลยี่ นแปลงอยา่ งรวดเร็ว ใช้ความรู้ กบั ศาสตร์อ่ืน โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ หรือคณิตศาสตร์ เพื่อเปน็ แนวทางการแกป้ ัญหา คณิตศาสตร์ และศาสตร์อื่น ๆ หรอื พฒั นางาน เพ่ือแก้ปัญหาหรือพฒั นางานอย่าง 2. ระบปุ ัญหาหรือความต้องการของชุมชนหรือท้องถนิ่ มีความคิดสร้างสรรคด์ ว้ ยกระบวนการ เพ่ือพัฒนางานอาชีพ สรุปกรอบของปัญหา รวบรวม ออกแบบเชิงวิศวกรรม เลอื กใช้ วเิ คราะห์ข้อมูลและแนวคิดท่เี กย่ี วข้องกับปัญหา เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม โดยคำนึง โดยคำนงึ ถึงความถูกต้องด้านทรัพยส์ นิ ทางปัญญา ถงึ ผลกระทบต่อชีวติ สังคม และ 3. ออกแบบวธิ กี ารแก้ปัญหา โดยวิเคราะห์ เปรียบเทยี บ สิ่งแวดล้อม และตัดสนิ ใจเลอื กข้อมูลท่ีจำเป็น ภายใต้เง่ือนไข และทรัพยากรที่มีอยู่ นำเสนอแนวทางการแก้ปัญหา ให้ผู้อนื่ เข้าใจด้วยเทคนคิ หรือวธิ กี ารทีห่ ลากหลาย วางแผนข้ันตอนการทำงานและดำเนินการแก้ปัญหา อย่างเป็นขนั้ ตอน 4. ทดสอบ ประเมนิ ผล วิเคราะห์ และให้เหตผุ ล ของปัญหาหรือข้อบกพร่องท่ีเกิดขึ้นภายใต้กรอบ เง่ือนไข พรอ้ มท้ังหาแนวทางการปรบั ปรุง แก้ไข และนำเสนอผลการแกป้ ัญหา 5. ใช้ความรู้ และทักษะเก่ียวกับวัสดุ อปุ กรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกสใ์ หถ้ ูกต้องกับลักษณะ ของงาน และปลอดภัย เพ่ือแก้ปญั หาหรอื พฒั นางาน

คำอธิบายรายวชิ า รายวชิ าออกแบบและเทคโนโลยี รหัสวิชา 23102 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์ ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 เวลา 20 ชว่ั โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกติ ............................................................................................................................. ........................................... ศกึ ษาและวเิ คราะหส์ าเหตุหรือปจั จัยท่สี ่งผลตอ่ การเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี และความสมั พนั ธ์ ของเทคโนโลยีกับศาสตร์อนื่ ระบุปญั หาหรือความต้องการของชมุ ชนหรอื ท้องถ่นิ เพือ่ พัฒนาอาชีพ สรุปกรอบของปัญหา รวบรวม วิเคราะหข์ ้อมลู และแนวคดิ ท่ีเกี่ยวข้องกับปัญหา ออกแบบวิธแี กป้ ัญหา ทดสอบ วิเคราะห์ และใหเ้ หตุผลของปัญหาหรือข้อบกพร่องทีเ่ กิดข้นึ ภายใต้กรอบเงื่อนไข พร้อมท้งั หาแนวทาง การปรับปรงุ แกไ้ ขและนำเสนอผลการแก้ปญั หา โดยใช้กระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรมในการวิเคราะห์ปัญหา และใชห้ ลักการทางวิทยาศาสตร์ ในการหาข้อมูล การสำรวจ การประเมิน และตั้งสมมุติฐาน ใช้ความรแู้ ละทักษะเกย่ี วกับวสั ดุ อปุ กรณ์ เคร่อื งมือ กลไก ไฟฟ้า อเิ ล็กทรอนกิ ส์ เพื่อแก้ปญั หาหรือพัฒนางาน เพ่ือให้ผเู้ รยี นมคี วามกระตือรือรน้ สนใจที่จะเรียนรู้ มคี วามคิดสรา้ งสรรค์เก่ียวกบั เรื่องท่จี ะศกึ ษา ตามท่กี ำหนดใหห้ รอื ตามความสนใจ มีสว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เห็น และยอมรบั ฟังความคิดเห็นของผู้อนื่ แสดงความรบั ผิดชอบด้วยการทำงานที่ไดร้ ับมอบหมายอย่างมุ่งม่นั รอบคอบ ประหยดั ซอื่ สตั ย์ จนงานลลุ ่วงเป็นผลสำเร็จ และทำงานร่วมกับผู้อ่นื อยา่ งมีความสขุ รหสั ตัวชี้วดั ว 4.1 ม.3/1, ม.3/2, ม.3/3, ม.3/4, ม.3/5 รวมท้ังหมด 5 ตัวช้ีวดั

โครงสร้างรายวิชาพนื้ ฐาน วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาออกแบบและเทคโนโลยี ว23102 ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 เวลาเรยี น 20 ชว่ั โมง จำนวน 0.5 หนว่ ยกิต ลำดบั ชอื่ หน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระการเรียนรู้ เวลาเรยี น น้ำหนัก และตวั ชี้วัด (ชวั่ โมง) คะแนน 1 เทคโนโลยีกบั ศาสตร์อน่ื ว 4.1 ม.3/1 • เทคโนโลยมี กี ารเปลี่ยนแปลง 4 12 และการเปลีย่ นแปลงของ ตลอดเวลาตงั้ แต่อดีตจนถึงปัจจุบนั 12 เทคโนโลยี ซง่ึ มสี าเหตหุ รือปจั จัยมาจากหลายดา้ น เช่น ปญั หาหรือความต้องการของ มนุษย์ ความก้าวหน้าของศาสตร์ต่าง ๆ การเปลี่ยนแปลงทางดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม วฒั นธรรมสง่ิ แวดล้อม • เทคโนโลยมี คี วามสมั พนั ธ์กับศาสตร์ อนื่ โดยเฉพาะวทิ ยาศาสตร์ โดย วทิ ยาศาสตรเ์ ปน็ พน้ื ฐานความรู้ ทีน่ ำไปส่กู ารพัฒนาเทคโนโลยี และ เทคโนโลยีทไ่ี ด้สามารถเปน็ เคร่ืองมือ ท่ีใชใ้ นการศึกษา ค้นควา้ เพื่อให้ไดม้ า ซง่ึ องค์ความร้ใู หม่ 2 พฒั นางานอาชพี ของชมุ ชน ว 4.1 ม.3/2 • ปญั หาหรือความต้องการอาจพบได้ใน 4 อย่างสร้างสรรค์ งานอาชพี ของชุมชนหรือท้องถนิ่ ซงึ่ อาจมหี ลายด้าน เช่น ด้านการเกษตร อาหาร พลังงานการขนสง่ • การวเิ คราะหส์ ถานการณป์ ัญหา ช่วยให้เข้าใจเงอื่ นไขและกรอบของ ปญั หาได้ชดั เจน จากนั้นดำเนินการ สืบค้น รวบรวมข้อมลู ความร้จู ากศาสตร์ ตา่ ง ๆ ท่ีเก่ียวข้องเพื่อนำไปสู่การ ออกแบบแนวทางการแก้ปญั หา

ลำดับ ช่ือหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ เวลาเรยี น น้ำหนัก 3 การออกแบบวิธกี าร และตัวช้ีวัด (ชัว่ โมง) คะแนน แกป้ ัญหา ว 4.1 ม.3/3 • การวิเคราะห์ เปรียบเทยี บและตัดสินใจ 4 12 4 การประเมินผลวธิ กี าร แก้ปญั หา ว 4.1 ม.3/4 เลือกข้อมูลทจี่ ำเป็นโดยคำนงึ ถงึ 12 ทรัพยส์ นิ ทางปัญญาเง่ือนไขและ ทรัพยากร เช่นงบประมาณ เวลา ข้อมูล และสารสนเทศ วสั ดุ เคร่ืองมือและ อุปกรณ์ ชว่ ยให้ได้แนวทางการแกป้ ัญหา ทเ่ี หมาะสม • การออกแบบแนวทางการแก้ปัญหา ทำไดห้ ลากหลายวิธี เชน่ การร่างภาพ การเขียนแผนภาพการเขียนผังงาน • เทคนิคหรือวธิ กี ารในการนำเสนอ แนวทางการแก้ปัญหามหี ลากหลาย เชน่ การใชแ้ ผนภมู ิตารางภาพเคลื่อนไหว • การกำหนดขน้ั ตอนและระยะเวลา ในการทำงานก่อนดำเนนิ การแกป้ ญั หา จะช่วยให้การทำงานสำเร็จไดต้ าม เปา้ หมาย และลดข้อผิดพลาดของการ ทำงานท่ีอาจเกิดขึ้น • การทดสอบและประเมนิ ผล 4 เปน็ การตรวจสอบชิ้นงานหรอื วิธกี าร ว่า สามารถแก้ปญั หาได้ตาม วตั ถุประสงค์ภายใต้กรอบของปญั หา เพ่อื หาขอ้ บกพร่อง และดำเนินการ ปรบั ปรงุ โดยอาจทดสอบซ้ำ เพอ่ื ให้สามารถแก้ไขปญั หาได้ • การนำเสนอผลงานเป็นการ ถา่ ยทอดแนวคดิ เพอ่ื ให้ผ้อู นื่ เข้าใจ เกี่ยวกบั กระบวนการทำงาน และชิ้นงานหรือวธิ ีการที่ได้ ซง่ึ สามารถทำได้หลายวธิ ี เชน่ การเขียนรายงาน การทำแผน่ นำเสนอผลงาน การจัดนทิ รรศการ

การนำเสนอผา่ นส่ือออนไลน์

ลำดบั ชื่อหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ เวลาเรยี น น้ำหนกั และตวั ช้ีวดั (ชัว่ โมง) คะแนน 5 การสรา้ งชน้ิ งานด้วย • วสั ดุแตล่ ะประเภทมีสมบัติ กระบวนการออกแบบเชงิ ว 4.1 ม.3/5 แตกตา่ งกัน เช่น ไม้ โลหะ พลาสติก 4 12 วศิ วกรรม เซรามิก จึงต้องมีการวิเคราะห์สมบตั ิ สอบกลางภาค เพื่อเลือกใช้ใหเ้ หมาะสมกบั ลักษณะ สอบปลายภาค ของงาน • การสรา้ งชิน้ งานอาจใช้ความรู้ รวม เร่อื งกลไก ไฟฟา้ อิเลก็ ทรอนิกส์ เชน่ LED LDR มอเตอร์ เฟือง คาน รอก ล้อ เพลา • อปุ กรณ์และเครื่องมือในการ สรา้ งชิ้นงานหรือพัฒนาวิธกี าร มหี ลายประเภท ต้องเลือกใช้ ให้ถูกต้อง เหมาะสม และปลอดภยั รวมทั้งร้จู กั เก็บรกั ษา 20 20 20 100

โครงสรา้ งเวลาเรยี น รายวิชาออกแบบและเทคโนโลยี ว23102 เวลาเรยี น ช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 3 ภาคเรียนที่ 1 เวลาเรียน 20 ช่วั โมง (ชว่ั โมง) หนว่ ยการเรียนรู้/แผนการจัดการเรยี นรู้ 1 1 หน่วยการเรยี นร้ทู ่ี 1 เทคโนโลยกี ับศาสตร์อ่นื และการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เร่อื ง ความสมั พนั ธข์ องเทคโนโลยกี บั ศาสตรต์ ่าง ๆ 1 และการเปลยี่ นแปลง 1 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 2 เรอื่ ง วฏั จกั รของเทคโนโลยี แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3 เรอื่ ง ความต้องการและการแก้ปญั หาของมนษุ ยส์ ู่การเปลี่ยนแปลง 1 • แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ของเทคโนโลยี แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 4 เรื่อง การเปลย่ี นแปลงทางเศรษฐกจิ สงั คม วฒั นธรรม 1 • แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี และสงิ่ แวดล้อมกับเทคโนโลยี 1 1 หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 2 พฒั นางานอาชพี ของชุมชนอย่างสร้างสรรค์ แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 1 เรือ่ ง ปัญหาและความต้องการของสงั คม ชมุ ชน หรือท้องถน่ิ 1 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง การวิเคราะห์สถานการณ์โดยใชก้ ระบวนการออกแบบ 1 เชิงวิศวกรรม 1 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 เรื่อง การสบื ค้น รวบรวม และหาความสมั พันธข์ องขอ้ มูล 1 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เรอ่ื ง แหล่งข้อมูลและความน่าเช่อื ถอื ของข้อมลู หนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 3 การออกแบบวธิ ีการแก้ปัญหา 1 แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 เรื่อง ปัจจยั ตัวแปร และข้อจำกดั ของการออกแบบ 1 แนวทางการแกป้ ัญหา แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การวเิ คราะห์เชงิ เปรียบเทยี บและตดั สินใจ 1 1 เลอื กรูปแบบวธิ ีการแก้ปัญหา แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 3 เรือ่ ง การวางแผนและดำเนินการแก้ปญั หา แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 4 เรื่อง การวางแผนและดำเนินการแกป้ ัญหาในชุมชน หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 การประเมนิ ผลวธิ กี ารแก้ปญั หา แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง รปู แบบของการทดสอบ เครือ่ งมอื และซอฟต์แวรท์ ี่ชว่ ยในการ • แการทดสอบ การวดั ผล และการวเิ คราะห์ข้อมลู แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เร่อื ง กระบวนการประเมนิ ผลเชงิ เปรียบเทียบและการประเมนิ ผล • แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี เชงิ ตัดสนิ หรอื วดั ผล แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง การตรวจสอบข้อบกพร่องของกระบวนการทงั้ หมด • แผนการจัดการเรียนรู้ที่ และการให้ขอ้ เสนอแนะในการปรบั ปรุง แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 4 เรอ่ื ง นำเสนอวิธีการแก้ปญั หา ผลการแก้ปัญหาหรือชิ้นงาน

โครงสร้างเวลาเรียน รายวชิ าออกแบบและเทคโนโลยี ว23102 ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 ภาคเรยี นที่ 1 เวลาเรียน 20 ชว่ั โมง หนว่ ยการเรยี นร/ู้ แผนการจัดการเรียนรู้ เวลาเรียน (ชั่วโมง) หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 การสร้างชิน้ งานด้วยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 เร่อื ง การวเิ คราะหค์ ุณสมบัตขิ องวัสดแุ ละลกั ษณะการใชง้ าน 4 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรือ่ ง ปัจจัยในการเลือกใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ หรือเคร่ืองมือในการ ารจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 เร่ือง ทำโครงงานหรอื ชน้ิ งาน 20 แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง แหลง่ ท่ใี ชใ้ นการสืบคน้ ข้อมูลวัสดุ อุปกรณ์ หรอื เคร่ืองมอื ารจัดการเรียนรู้ท่ี 1 เรือ่ ง และอา่ นคา่ เพ่ือทำความเข้าใจคณุ สมบตั ิ แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4 เรอ่ื ง การป้องกันอนั ตรายจากการใชเ้ ครื่องมือในการสร้างชน้ิ งาน ารจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรือ่ ง การสร้างชน้ิ งานดว้ ยกลไก ไฟฟ้า และอเิ ล็กทรอนิกส์ รวม

แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 โรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2566 แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 1 เร่อื ง ความสัมพนั ธ์ของเทคโนโลยกี บั ศาสตร์ตา่ ง ๆ และการเปลย่ี นแปลง เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอนนางสาวจิราภรณ์ หวา่ งแสง สอนวันท่ี........เดือน.............พ.ศ. ........... 1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชวี ติ ในสังคมท่ีมีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว ใชค้ วามรูแ้ ละทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ น่ื ๆ เพ่ือแกป้ ญั หาหรอื พัฒนางานอยา่ งมคี วามคิด สรา้ งสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยีอย่างเหมาะสม โดยคำนึงถงึ ผลกระทบต่อชีวติ สงั คม และสิง่ แวดล้อม ตัวช้ีวดั ว 4.1 ม.3/1 วเิ คราะห์สาเหตุ หรือปจั จยั ที่ส่งผลตอ่ การเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยี และความสมั พันธ์ของ เทคโนโลยกี ับศาสตร์อนื่ โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรอื คณติ ศาสตร์ เพอ่ื เปน็ แนวทางการแก้ปัญหาหรือพฒั นางาน 2. สาระการเรยี นรู้ เทคโนโลยี คือ สง่ิ ท่ีมนุษยส์ รา้ งขนึ้ เปน็ ชน้ิ งานหรือวธิ กี าร เพื่อตอบสนองความต้องการ แกป้ ัญหาหรือสรา้ ง ความสะดวกสบาย โดยเทคโนโลยที มี่ นุษย์สร้างขึน้ มาน้นั จะมีความสัมพันธ์กบั ศาสตร์อืน่ ๆ ดว้ ย และจะเปลย่ี นแปลง และพัฒนาไปตามวัฏจักรของเทคโนโลยี ซ่ึงเกดิ จากปัจจัยด้านตา่ ง ๆ ตามบทบาทของสังคม เศรษฐกิจ หรอื ทิศทางของ โลกทีเ่ ปลี่ยนไป 3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธบิ ายความสัมพนั ธ์ของเทคโนโลยกี บั ศาสตร์ตา่ ง ๆ (K) 2. วิเคราะหป์ จั จัยที่เป็นสาเหตุในการเปลย่ี นแปลงเทคโนโลยี (P) 3. มคี วามกระตือรอื รน้ ในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมการเรยี นรู้ (A) 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มุ่งม่ันในการทำงาน

6. กระบวนการจัดการเรียนรู้ 1.ข้นั สงั เกต รวบรวมข้อมลู (Gathering) 1. นักเรียนรว่ มกนั สงั เกตบัตรภาพเทคโนโลยี แล้วบอกวา่ เกีย่ วกับศาสตร์ใด ดงั ตวั อยา่ ง (วทิ ยาศาสตร)์ (คณติ ศาสตร)์ (วิศวกรรมศาสตร์) (แพทยศาสตร์) 2. นกั เรยี นร่วมกนั สนทนาแลกเปลย่ี นความคดิ เห็นเกย่ี วกับความสมั พันธข์ องเทคโนโลยีกับศาสตรต์ ่าง ๆ แลว้ ตอบคำถาม ดงั นี้ • เทคโนโลยีมีความสมั พันธ์กับศาสตรแ์ ขนงอ่ืนอยา่ งไรบ้าง (ตวั อย่างคำตอบ เทคโนโลยีทม่ี ีประสทิ ธิภาพจะตอ้ งทำงานไดบ้ นพื้นฐานของวิทยาศาสตร์ คณติ ศาสตร์ และศาสตร์อ่นื ๆ ท่เี กย่ี วข้อง โดยมกี ารเชื่อมโยงสอดคล้องทีส่ มั พนั ธ์กนั เช่น เทคโนโลยี เครอื่ งมอื ทางการเกษตร ต้องทำงานได้บนพืน้ ฐานของการเกษตร และเกษตรกรสามารถใช้งานไดจ้ ริง ทำให้งานที่ทำสะดวกและเกิดผลลพั ธ์ทด่ี กี ว่าเดมิ ) • เทคโนโลยีที่เกี่ยวกบั หม้อหงุ ข้าวไฟฟ้ามีความสมั พันธ์กับศาสตรต์ า่ ง ๆ อยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ มกี ารใช้องค์ความรเู้ ก่ยี วกับพลังงาน เช่น พลงั งานไฟฟ้า พลงั งานความร้อน วสั ดอุ ปุ กรณ์ และการออกแบบหมอ้ หุงข้าวไฟฟ้า) • วิวัฒนาการของเทคโนโลยกี ารหุงขา้ วจากอดตี จนถงึ ปจั จุบันเปน็ อยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ การหุงข้าวสมัยโบราณ เรมิ่ จากการหงุ ขา้ วดว้ ยเตาฟืน เตาถ่าน ต่อมาพัฒนา เปน็ การหุงดว้ ยเตาแกส๊ และเข้าสกู่ ารหงุ ข้าวดว้ ยเตาไฟฟ้า) 3. นกั เรียนศกึ ษาคน้ ควา้ และรวบรวมข้อมูลเก่ียวกับความสัมพนั ธ์ของเทคโนโลยกี บั ศาสตร์ต่าง ๆ และการเปลย่ี นแปลง จากแหล่งการเรียนรตู้ ่าง ๆ ทห่ี ลากหลาย เชน่ หนังสือเรียน อินเทอร์เน็ต

2.ขน้ั คดิ วเิ คราะห์และสรุปความรู้ (Processing) 4. นกั เรียนรว่ มกันวิเคราะหเ์ ทคโนโลยที ก่ี ำหนดวา่ เกย่ี วข้องกบั ศาสตรใ์ ด พร้อมอธบิ ายโดยเขียนคำตอบเปน็ แผนภาพความคิดบนกระดาน ดงั ตวั อย่าง • พัดลม • รถยนต์ (ตวั อย่างคำตอบ) วิทยาศาสตร์ เร่ือง กลไกไฟฟา้ คณิตศาสตร์ เพราะต้องคำนวณ เพราะต้องใช้ไฟฟ้าในการทำงาน ขนาดของใบพดั ความสูงต่าง ๆ จึงต้องคำนวณปริมาณกระแสไฟฟา้ พดั ลม การทำมุมองศาของใบพัด ที่ตอ้ งใช้ แรงดันไฟฟ้า และการต่อวงจรอิเล็กทรอนิกส์ วศิ วกรรมศาสตร์ เพราะใช้ออกแบบ โครงสรา้ ง วัสดทุ ี่ใช้ มมุ องศาของใบพัด วิศวกรรมศาสตร์ เชน่ การคำนวณ วิทยาศาสตร์ เชน่ สารเคมที ี่ใช้ แรงกระแทกขณะการชน การออกแบบ ในวัสดุตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ โลหะ สีเคลือบผวิ โครงสร้าง เพ่ือใหต้ ้านแรงลมน้อยท่สี ดุ รถยนต์ รถยนต์ วงจรอิเล็กทรอนกิ สต์ ่าง ๆ ภายในรถยนต์ คณิตศาสตร์ ใชใ้ นการคำนวณ เพื่อหาค่าตา่ ง ๆ เช่น ความสงู ความยาวของรถยนต์ คำนวณอตั ราเรง่ หรอื อตั ราเรว็ ของรถยนต์ 5. นักเรยี นร่วมกันวิเคราะห์เกย่ี วกบั ความสัมพนั ธ์ของเทคโนโลยกี ับศาสตรต์ า่ ง ๆ และการเปลีย่ นแปลง แลว้ ตอบคำถามต่อไปน้ี • เทคโนโลยีใดบา้ งที่นำมาใช้แก้ปัญหาด้านการเกษตร (ตัวอย่างคำตอบ เตาชีวมวล รถเกย่ี วขา้ ว รถไถนา โดรนพ่นยา เคร่ืองสขี า้ ว ระบบสปริงเกอร์ เคร่ืองสูบนำ้ เข่ือน) • เทคโนโลยีใดบา้ งท่ีนำมาใชแ้ ก้ปญั หาน้ำเน่าเสยี (ตัวอยา่ งคำตอบ กงั หันน้ำ EM Ball ระบบบำบัดนำ้ เสียรปู แบบต่าง ๆ)

• ประโยชนจ์ ากการใชเ้ ตาชีวมวลคอื อะไร (ตัวอย่างคำตอบ ลดปญั หาฝุ่นและหมอกควันท่ีเกิดจากการเผาวสั ดเุ หลือใช้ทางการเกษตร) • ประโยชน์จากการใช้กังหันนำ้ บำบัดนำ้ เสียคอื อะไร (ตวั อยา่ งคำตอบ ช่วยเพิ่มออกซเิ จนในนำ้ ทำใหน้ ำ้ เนา่ เสียกลบั มาสะอาดได้ และทำใหส้ ตั ว์น้ำอาศยั อยไู่ ด้) 6. นักเรยี นร่วมกันสรปุ ความคิดรวบยอดเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเทคโนโลยีกับศาสตรต์ ่าง ๆ ดงั น้ี ในการแก้ปัญหาใด ๆ ลว้ นอาศยั หลกั การของเหตแุ ละผล ซ่ึงใชอ้ ธิบายความสัมพันธข์ องส่ิงต่าง ๆ ได้อย่างเหมาะสม โดยหลักการของเหตุและผลนนั้ จำเปน็ ต้องใช้วิทยาศาสตรแ์ ละคณิตศาสตร์มาเป็นเครอ่ื งมือ ในการหาปจั จยั ความสมั พนั ธ์ เหตจุ งู ใจ โดยอาศยั การค้นควา้ ในหลาย ๆ หวั ข้อที่เก่ยี วข้องกบั เหตุซ่ึงนำไปสผู่ ล 3.ข้ันปฏบิ ตั ิและสรปุ ความรู้หลังการปฏิบตั ิ (Applying and Constructing the Knowledge) 7. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละเท่า ๆ กัน จากน้นั แตล่ ะกล่มุ ร่วมกนั ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมที่ 1.1 วเิ คราะห์ การเปลย่ี นแปลงเทคโนโลยี โดยเลอื กเทคโนโลยที ม่ี ใี นปัจจุบนั หรอื คาดการณว์ า่ จะเกิดขึ้น โดยวเิ คราะห์ปัจจัย ท่ีเป็นสาเหตดุ า้ นตา่ ง ๆ ในการเปล่ียนแปลงเทคโนโลยี ดงั หวั ข้อต่อไปน้ี • ชอื่ เทคโนโลยี • ประโยชนข์ องเทคโนโลยี • วเิ คราะห์ปจั จัยทีเ่ ป็นสาเหตุในการเปล่ียนแปลงเทคโนโลยีลงในตาราง • เขียน Mind Map สรุปการเกิดเทคโนโลยี จากน้นั บนั ทกึ คำตอบลงในชน้ิ งานที่ 1 8. นักเรยี นร่วมกนั สรุปสิ่งทีเ่ ขา้ ใจเปน็ ความรู้รว่ มกนั ดงั นี เทคโนโลยี คือ สงิ่ ทม่ี นษุ ยส์ ร้างขึ้นเป็นชน้ิ งานหรือวธิ ีการ เพ่ือตอบสนองความต้องการ แกป้ ัญหาหรือสร้างความ สะดวกสบาย โดยเทคโนโลยที ่ีมนุษย์สรา้ งขึ้นมาน้ันจะมีความสมั พนั ธก์ ับศาสตร์อ่นื ๆ และจะเปลีย่ นแปลงและพัฒนาไป ตามวัฏจกั รของเทคโนโลยี ซึ่งเกิดจากปัจจัยด้านต่าง ๆ ตามบทบาทของสังคม เศรษฐกิจ หรือทิศทางของโลกท่ีเปลย่ี นไป 7. ส่ือการเรียนรู้ 7.1 ส่อื การเรยี นรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสือเรยี น รายวชิ าพนื้ ฐาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 3 ของสถาบนั พัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. บตั รภาพเทคโนโลยี 3. ห้องคอมพวิ เตอรท์ ี่เชือ่ มต่อเครือข่ายอนิ เทอรเ์ น็ต 4. แหล่งการเรยี นรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรียน 8. กระบวนการวดั และประเมนิ ผล 1. ประเมินความรู้ เร่อื ง ความสัมพันธข์ องเทคโนโลยีกบั ศาสตรต์ า่ ง ๆ และการเปลยี่ นแปลง (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม่ (P) ด้วยแบบประเมิน 3. ประเมินช้ินงาน เรอื่ ง วิเคราะห์การเปลย่ี นแปลงเทคโนโลยี (P) ด้วยแบบประเมนิ 4. ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ด้านใฝเ่ รยี นรู้ มุง่ มั่นในการทำงาน (A) ดว้ ยแบบประเมนิ

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics) แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม รายการการประเมิน ระดบั คุณภาพ กระบวนการ 432 1 ทำงานกลมุ่ ไมม่ กี ารกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท บทบาทสมาชิก และไมม่ กี ารช้ีแจง สมาชกิ ชดั เจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหวั หนา้ เปา้ หมาย สมาชกิ ตา่ งคนตา่ งทำงาน และมกี ารชี้แจงเปา้ หมาย มกี ารชี้แจงเป้าหมาย ไมม่ กี ารชี้แจงเปา้ หมาย การทำงาน อย่างชัดเจนและ อยา่ งชดั เจน มีการปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั ปฏบิ ัติงานรว่ มกนั ปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั อยา่ งรว่ มมือร่วมใจ แต่ไมม่ ีการประเมนิ ไม่ครบทกุ คน พรอ้ มกบั การประเมินเปน็ เปน็ ระยะ ๆ ระยะ ๆ แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ ตวั ช้วี ัดท่ี 4.1 ตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเยีย่ ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) 4.1.1 ตัง้ ใจเรียน 4.1.2 เอาใจใส่ เขา้ เรียนตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา เข้าเรยี นตรงเวลา ไม่ตั้งใจเรียน และมคี วามเพยี ร พยายาม ตง้ั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ ในการเรียนรู้ 4.1.3 สนใจเขา้ รว่ ม และมีความเพยี ร และมคี วามเพยี ร ในการเรียน มีส่วนร่วม กิจกรรมการเรยี นรู้ ตา่ ง ๆ พยายาม พยายาม ในการเรียนรู้ และเข้า ในการเรยี นรู้ มสี ่วน ในการเรียนรู้ มีสว่ น รว่ มกจิ กรรมการ รว่ มในการเรยี นรู้ และ รว่ มในการเรยี นรู้ และ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ เขา้ ร่วมกิจกรรมการ เข้าร่วมกิจกรรมการ เป็นบางคร้งั เรียนร้ตู า่ ง ๆ เรยี นรตู้ า่ ง ๆ บ่อยครัง้ ท้งั ภายในและ ภายนอกโรงเรียนเปน็ ประจำ

มงุ่ ม่ันในการทำงาน ตวั ช้ีวดั ที่ 6.1 ต้งั ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีการงาน พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ยี่ยม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบ ตง้ั ใจและรับผิดชอบ ไมต่ ้งั ใจปฏิบัติ 6.1.1 เอาใจใส่ต่อ ตั้งใจและรับผดิ ชอบ ในการปฏบิ ัติหนา้ ท่ี ในการปฏิบตั หิ น้าที่ หนา้ ที่การงาน ที่ไดร้ ับมอบหมาย ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย การปฏิบัตหิ น้าที่ ในการปฏิบัตหิ นา้ ท่ี ใหส้ ำเร็จ มีการ ใหส้ ำเร็จ ปรบั ปรุงและ ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย พฒั นาการทำงานให้ ดขี ้ึน 6.1.2 ตงั้ ใจและ ให้สำเร็จ มีการ รบั ผดิ ชอบใน ปรับปรงุ และ การทำงานให้ พัฒนาการทำงานให้ สำเรจ็ ดีข้ึนด้วยตนเอง 6.1.3 ปรับปรุงและ พฒั นาการทำงาน ด้วยตนเอง

9. ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของหัวหนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................ ................................................ .................................................................................................................................................. ลงช่อื (นางสาวฐติ ิมา สวาสนา) ตำแหนง่ หวั หนา้ กลมุ่ สาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วันที่..........เดือน...........................พ.ศ............. 10. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผ้ชู ่วยผู้อำนวยการกลมุ่ งานบริหารวชิ าการ ......................................................................................................................... ................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... .............................................................................................................................. .................... ลงช่ือ (นายวิรพงษ์ ปะนามะเส) ตำแหน่ง ผู้ช่วยผอู้ ำนวยการกลมุ่ งานบริหารวชิ าการ วนั ท่.ี .........เดือน...........................พ.ศ............. 11. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการโรงเรียน ............................................................................................................... ............................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ..................... ลงช่ือ (นางเยาวลกั ษณ์ สอนสะอาด) ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรยี นลำทะเมนไชยพิทยาคม วันที่..........เดือน...........................พ.ศ.............

12. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้อำนวยการโรงเรยี น ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ..................... ลงชอื่ (นายนภภมู ิ แกว้ วิเศษ) ตำแหน่ง ผ้อู ำนวยการโรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม วันท่.ี .........เดือน...........................พ.ศ............. 13. บันทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้ 13.1 ผลการเรียนรู้ที่เกดิ ขึ้นกบั ผู้เรยี น ............................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................. ................................ .................................................................................................. ............................................................................ 13.2 ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 13.3 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข .................................................................................................................................................................... .......... ........................................................................................................................ ...................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ..............................ผู้สอน (นางสาวจริ าภรณ์ หวา่ งแสง) ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย ………../………./…………

แผนการจัดการเรียนรู้ หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 โรงเรยี นลำทะเมนไชยพิทยาคม ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 เรื่อง วฏั จักรของเทคโนโลยี เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผสู้ อนนางสาวจริ าภรณ์ หวา่ งแสง สอนวนั ท.่ี .......เดอื น.............พ.ศ. ........... 1. มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้ีวดั /ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยเี พ่ือการดำรงชีวติ ในสงั คมท่ีมกี ารเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเรว็ ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อ่ืน ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรอื พัฒนางานอย่างมีความคิด สรา้ งสรรค์ ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสม โดยคำนึงถงึ ผลกระทบตอ่ ชวี ิต สังคม และสิ่งแวดล้อม ตวั ชว้ี ัด ว 4.1 ม.3/1 วเิ คราะห์สาเหตุ หรือปัจจัยที่ส่งผลต่อการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี และความสัมพนั ธ์ของ เทคโนโลยีกบั ศาสตร์อื่น โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรอื คณิตศาสตร์ เพ่ือเป็นแนวทางการแก้ปัญหาหรือพฒั นางาน 2. สาระการเรียนรู้ เทคโนโลยถี กู พัฒนาข้ึนเพื่ออำนวยความสะดวกและแก้ปญั หาท่เี กดิ ข้นึ ในการดำเนินกจิ กรรมต่าง ๆ ของมนษุ ย์ โดยการประยกุ ต์ความรู้จากหลาย ๆ ศาสตร์ เพ่ือนำไปสรา้ งหรือพฒั นาเปน็ เคร่ืองมือ เคร่ืองจกั ร วธิ ีการ หรือกระบวนการเพื่อการแก้ปัญหาในเรอ่ื งน้ันใหส้ ำเรจ็ ลุลว่ งและสามารถนำไปใชง้ านได้อยา่ งแพรห่ ลาย เทคโนโลยีหนึ่ง เม่อื เกดิ ข้ึนมาแล้วพอเวลาผา่ นไปก็อาจมีการสญู หายหรือไมไ่ ด้รบั ความนิยม ดงั น้ัน ผผู้ ลิตจงึ ต้องพัฒนาเทคโนโลยี ตลอดเวลา 3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายวฏั จกั รของเทคโนโลยี (K) 2. วิเคราะหก์ ารใชเ้ ทคโนโลยีในอดตี ปจั จุบัน และอนาคต (P) 3. มคี วามกระตอื รือรน้ ในการปฏิบตั กิ จิ กรรมการเรียนรู้ (A) 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มงุ่ ม่นั ในการทำงาน

6. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ 1.ข้ันสังเกต รวบรวมข้อมูล (Gathering) 1. นักเรยี นรว่ มกันสังเกตอปุ กรณ์เทคโนโลยรี อบ ๆ ตวั แลว้ เลอื กมา 1 เทคโนโลยี แลว้ อธบิ ายการเปลย่ี นแปลง ตงั้ แตอ่ ดีตจนถึงปัจจบุ นั (ตวั อยา่ งคำตอบ ปากกา ในอดตี ปากกาทำจากขนนกโดยจิ้มท่หี มึกแล้วนำมาเขียน และได้มีการพัฒนาขึน้ เรอ่ื ย ๆ จนเป็นปากกาที่มีลูกล่ืนสามารถบรรจหุ มึกไวภ้ ายในได้ มหี ลายสีใหเ้ ลือกใช)้ 2. นักเรยี นรว่ มกันสนทนาแลกเปลย่ี นความคดิ เหน็ เกีย่ วกับวัฏจักรของเทคโนโลยี แล้วตอบคำถาม ดังน้ี • เทคโนโลยมี ีวฏั จักรอยา่ งไร (ตวั อย่างคำตอบ เร่ิมต้นจากการวิจยั และพัฒนาเพื่อสร้างเทคโนโลยีใหม่ จากนั้นวางจำหน่ายได้กำไรหรือ ผลตอบแทนกลบั มา และมีการเจริญเตบิ โตเตม็ ทีข่ องการผลติ และจำหนา่ ย เม่ือถงึ ระยะเวลาหนึง่ จะมคี ู่แข่งและมี เทคโนโลยที ด่ี ีกว่า จงึ ทำให้เทคโนโลยหี มดความนิยมและทำใหเ้ ทคโนโลยีนน้ั สญู หายไป) • เทคโนโลยใี ดบา้ งในอดีตท่ีไม่ไดร้ ับความนยิ มในปจั จุบนั หรือสูญหายไป (ตวั อยา่ งคำตอบ กล้องฟลิ ์ม Floppy disk เกม playstation 1 เกม playstation 2 เคร่อื งพมิ พด์ ีด ตลบั เทป เคร่อื งเลน่ CD-DVD) 3. นกั เรียนร่วมกนั สงั เกตกราฟวัฏจกั รของเทคโนโลยี ต่อไปนี้ Maturity B M M ชว่ งเตบิ โตเต็มท่ี u s Vital Life L in e s A D L’ s0 กำไรหรือ D ช่วงขาลง เส่อื ม หรือไมเ่ ป็นท่ีนยิ ม ผลประกอบการ G Time a The Technology Life Cycle Path i n R&D R&D ชว่ งการวิจยั และพัฒนา 4. นักเรยี นศกึ ษาคน้ คว้าและรวบรวมขอ้ มลู เกย่ี วกบั วัฏจกั รของเทคโนโลยี จากแหล่งการเรียนร้ตู ่าง ๆ ทีห่ ลากหลาย เชน่ หนังสอื เรยี น อินเทอร์เน็ต

2.ขนั้ คดิ วเิ คราะห์และสรุปความรู้ (Processing) 5. นักเรียนร่วมกนั วเิ คราะหภ์ าพวิวฒั นาการของเทคโนโลยีการถา่ ยภาพและการพิมพบ์ นกระดาษท่มี ีการ เปล่ียนแปลงไปจากอดตี มาจนถึงปัจจุบัน ดงั น้ี 6. นกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายแลกเปล่ียนความคิดเหน็ เก่ยี วกบั เทคโนโลยีการถ่ายภาพ แลว้ ตอบคำถาม ดังน้ี • เพราะเหตุใดเทคโนโลยกี ารถ่ายภาพจึงมกี ารเปลีย่ นแปลงไป (ตวั อย่างคำตอบ เพราะความตอ้ งการพัฒนาและเปลยี่ นแปลงของของมนุษยใ์ นการจัดเก็บ และบันทึกรปู ทค่ี งทนถาวรมากยง่ิ ข้นึ ) • เทคโนโลยกี ารถา่ ยภาพมคี วามสัมพนั ธ์กบั ศาสตร์อืน่ ๆ อย่างไรบา้ ง (ตวั อยา่ งคำตอบ มีความสัมพันธก์ ับหลกั การทางวิทยาศาสตร์ เช่น เลนส์ แสง และการบันทึกภาพ) 7. นกั เรียนร่วมกันอภปิ รายแลกเปลี่ยนความคดิ เห็นเกย่ี วกับวัฏจักรของเทคโนโลยี แลว้ ตอบคำถามดังน้ี • เทคโนโลยมี วี ัฏจกั รอยา่ งไร (วฏั จักรของเทคโนโลยมี ี 3 ช่วง ประกอบดว้ ย ชว่ งที่ 1 เป็นช่วงของการวจิ ยั และพัฒนา ช่วงท่ี 2 เป็นชว่ งท่ี เทคโนโลยเี จริญเติบโตเตม็ ท่ีหรือไดร้ ับความนยิ ม และช่วงท่ี 3 เปน็ ชว่ งขาลงหรือไม่ได้รบั ความนยิ ม) • วฏั จักรของเทคโนโลยีการถา่ ยภาพและการพิมพ์ภาพมกี ารเปลี่ยนแปลงไปอย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ การถา่ ยภาพในอดตี เริม่ ต้นจากการบันทึกภาพลงบนฟิลม์ ปจั จุบนั การบนั ทึกลง สือ่ ดิจิทลั การพมิ พ์ภาพในอดีตใช้ระบบเคร่ืองพิมพข์ นาดใหญ่ แสดงสไี ด้น้อย ในปจั จบุ นั สามารถพมิ พ์ภาพได้อยา่ งรวดเรว็ ด้วยเครอ่ื งพิมพ์ท่มี ีขนาดเล็กและแสดงสไี ดส้ มจริงมากข้ึน) 8. นักเรียนรว่ มกนั สรปุ ความคิดรวบยอดเก่ยี วกบั วฏั จกั รของเทคโนโลยี ดงั น้ี เทคโนโลยีมีการเปลย่ี นแปลงไปตลอดเวลา ท้ังนก้ี เ็ พราะความต้องการในการแก้ปัญหาของมนุษย์ ในด้านตา่ ง ๆ เทคโนโลยที ี่เปล่ียนแปลงไปและมวี ิวัฒนาการที่ก้าวหน้าขึ้นอย่างตอ่ เน่ืองน้ันก็เพราะการนำองค์ความรู้ดา้ น ศาสตรต์ า่ ง ๆ เข้ามาประยุกต์ใช้ ทำให้เกดิ การเปลยี่ นแปลงเป็นวัฏจักรของเทคโนโลยี 3.ข้ันปฏิบัติและสรุปความรู้หลงั การปฏบิ ัติ (Applying and Constructing the Knowledge) 9. นกั เรยี นแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละเทา่ ๆ กนั จากนัน้ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั วเิ คราะหเ์ ทคโนโลยีทใ่ี ชใ้ นอดีตและมี การพฒั นามาจนถึงปัจจบุ ัน และคาดวา่ ในอนาคตจะไม่ไดร้ ับความนิยมหรอื อาจสูญหายไป โดยบันทึกคำตอบลงในตาราง ดังตวั อย่าง

เทคโนโลยีในอดตี เทคโนโลยีในปัจจบุ ัน เทคโนโลยีในอนาคต 1. แผ่น CD, DVD ในอดตี นยิ ม • ปัจจุบันแผน่ CD หรือ DVD ใชแ้ ผ่น CD หรือ DVD ในการ ได้มีการพฒั นาใหส้ ามารถ • ในอนาคตแผน่ CD และ DVD เก็บข้อมลู ขนาดเล็ก เกบ็ ข้อมลู ได้มากขน้ึ จะสญู หายไป เพราะมบี ริการ และสามารถลบขอ้ มลู คลาวด์เข้ามาแทนที่ สามารถ 2. อนิ เทอรเ์ นต็ ในอดีตได้มกี าร แล้วนำกลับไปใชใ้ หม่ได้ เรยี กใช้ขอ้ มลู เวลาใดก็ได้ ใช้อินเทอร์เน็ต 1G 2G 3G เพยี งเชอ่ื มต่ออินเทอร์เนต็ ทส่ี ามารถตดิ ต่อส่ือสารกัน • ปจั จบุ ันได้มกี ารนำ และมีอปุ กรณ์เกบ็ ข้อมลู ได้ท่วั โลก อนิ เทอรเ์ นต็ 4G เข้ามาใชง้ าน ขนาดเล็กมาแทนแผ่น CD สามารถรบั -ส่งข้อมูลไดร้ วดเร็ว และ DVD ท่ีสามารถเกบ็ ข้อมูล สามารถใชโ้ ทรในรูปแบบ ได้มากกวา่ หลายเท่า วิดีโอได้ • ในอนาคตอินเทอรเ์ นต็ 4G อาจ ไม่ได้รับความนิยม เพราะไดม้ ี อนิ เทอร์เน็ต 5G เขา้ มาแทน ซ่ึงมีความเรว็ มากกว่า 4G ประมาณ 10-100 เท่า 10. นกั เรียนร่วมกนั สรุปสงิ่ ท่ีเข้าใจเป็นความรู้ร่วมกนั ดงั นี้ เทคโนโลยีถกู พฒั นาข้ึนเพื่ออำนวยความสะดวกและแกป้ ัญหาที่เกิดขน้ึ ในการดำเนินกจิ กรรมตา่ ง ๆ ของมนุษย์ โดยการประยกุ ตค์ วามรจู้ ากหลาย ๆ ศาสตร์ เพ่ือนำไปสรา้ งหรือพัฒนาเป็นเคร่ืองมือ เคร่ืองจักร วิธีการ หรือ กระบวนการเพ่ือการแกป้ ัญหาในเรอื่ งนน้ั ใหส้ ำเรจ็ ลุล่วงและสามารถนำไปใชง้ านได้อยา่ งแพรห่ ลาย เทคโนโลยหี น่งึ เมอ่ื เกดิ ขึ้นมาแลว้ พอเวลาผา่ นไปกอ็ าจมีการสญู หายหรือไม่ไดร้ ับความนิยม ดงั นัน้ ผ้ผู ลติ จงึ ต้องพัฒนาเทคโนโลยีลอดเวลา 7. ส่ือการเรยี นรู้ 7.1 สือ่ การเรียนรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพื้นฐาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ของสถาบันพฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. กราฟวฏั จกั รของเทคโนโลยี 3. ภาพววิ ฒั นาการของเทคโนโลยกี ารถ่ายภาพและการพิมพ์บนกระดาษ 4. แหล่งการเรียนรู้ท้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น 8. กระบวนการวดั และประเมินผล 1. ประเมนิ ความรู้ เรอ่ื ง วฏั จักรของเทคโนโลยี (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกล่มุ (P) ด้วยแบบประเมิน 4. ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ด้านใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทำงาน (A) ด้วยแบบประเมนิ

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics) แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม รายการการประเมิน ระดบั คุณภาพ กระบวนการ 432 1 ทำงานกลมุ่ ไมม่ กี ารกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท บทบาทสมาชิก และไมม่ กี ารช้ีแจง สมาชกิ ชดั เจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหวั หนา้ เปา้ หมาย สมาชกิ ตา่ งคนตา่ งทำงาน และมกี ารชี้แจงเปา้ หมาย มกี ารชี้แจงเป้าหมาย ไมม่ กี ารชี้แจงเปา้ หมาย การทำงาน อย่างชัดเจนและ อยา่ งชดั เจน มีการปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั ปฏบิ ัติงานรว่ มกนั ปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั อยา่ งรว่ มมือร่วมใจ แต่ไมม่ ีการประเมนิ ไม่ครบทกุ คน พรอ้ มกบั การประเมินเปน็ เปน็ ระยะ ๆ ระยะ ๆ แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ ตวั ช้วี ัดท่ี 4.1 ตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเยีย่ ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) 4.1.1 ตัง้ ใจเรียน 4.1.2 เอาใจใส่ เขา้ เรียนตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา เข้าเรยี นตรงเวลา ไม่ตั้งใจเรียน และมคี วามเพยี ร พยายาม ตง้ั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ ในการเรียนรู้ 4.1.3 สนใจเขา้ รว่ ม และมีความเพยี ร และมคี วามเพยี ร ในการเรียน มีส่วนร่วม กิจกรรมการเรยี นรู้ ตา่ ง ๆ พยายาม พยายาม ในการเรียนรู้ และเข้า ในการเรยี นรู้ มสี ่วน ในการเรียนรู้ มีสว่ น รว่ มกจิ กรรมการ รว่ มในการเรยี นรู้ และ รว่ มในการเรยี นรู้ และ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ เขา้ ร่วมกิจกรรมการ เข้าร่วมกิจกรรมการ เป็นบางคร้งั เรียนร้ตู า่ ง ๆ เรยี นรตู้ า่ ง ๆ บ่อยครัง้ ท้งั ภายในและ ภายนอกโรงเรียนเปน็ ประจำ

มงุ่ ม่ันในการทำงาน ตวั ช้ีวดั ที่ 6.1 ต้งั ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีการงาน พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ยี่ยม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบ ตง้ั ใจและรับผิดชอบ ไมต่ ้งั ใจปฏิบัติ 6.1.1 เอาใจใส่ต่อ ตั้งใจและรับผดิ ชอบ ในการปฏบิ ัติหนา้ ท่ี ในการปฏิบตั หิ น้าที่ หนา้ ที่การงาน ที่ไดร้ ับมอบหมาย ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย การปฏิบัตหิ น้าที่ ในการปฏิบัตหิ นา้ ท่ี ใหส้ ำเร็จ มีการ ใหส้ ำเร็จ ปรบั ปรุงและ ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย พฒั นาการทำงานให้ ดขี ้ึน 6.1.2 ตงั้ ใจและ ให้สำเร็จ มีการ รบั ผดิ ชอบใน ปรับปรงุ และ การทำงานให้ พัฒนาการทำงานให้ สำเรจ็ ดีข้ึนด้วยตนเอง 6.1.3 ปรับปรุงและ พฒั นาการทำงาน ด้วยตนเอง

9. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของหัวหนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................................... .................... ............................................................................................................... ............................................................... ลงชื่อ (นางสาวฐิติมา สวาสนา) ตำแหนง่ หัวหน้ากลมุ่ สาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วนั ท.่ี .........เดอื น...........................พ.ศ............. 10. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้ชว่ ยผู้อำนวยการกลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ ......................................................................................................................... ..................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................................... .................... ลงชอ่ื (นายวริ พงษ์ ปะนามะเส) ตำแหนง่ ผู้ชว่ ยผูอ้ ำนวยการกล่มุ งานบริหารวชิ าการ วนั ท.ี่ .........เดอื น...........................พ.ศ............. 11. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของรองผู้อำนวยการโรงเรียน ............................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................................ .............................. ลงช่ือ (นางเยาวลกั ษณ์ สอนสะอาด) ตำแหน่ง รองผอู้ ำนวยการโรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม วันที่..........เดือน...........................พ.ศ.............

12. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผู้อำนวยการโรงเรียน ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื (นายนภภูมิ แกว้ วิเศษ) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนลำทะเมนไชยพทิ ยาคม วนั ที.่ .........เดอื น...........................พ.ศ............. 13. บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้ 13.1 ผลการเรยี นรทู้ ี่เกิดขึน้ กับผเู้ รียน ............................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................. ................................ .................................................................................................. ............................................................................ 13.2 ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 13.3 ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข .................................................................................................................................................................... .......... ........................................................................................................................ ...................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่อื ..............................ผูส้ อน (นางสาวจิราภรณ์ หว่างแสง) ตำแหนง่ ครผู ชู้ ่วย ………../………./…………

แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 กลมุ่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 3 โรงเรยี นลำทะเมนไชยพิทยาคม ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2566 แผนการจัดการเรียนร้ทู ่ี 3 เรอ่ื ง ความต้องการและการแกป้ ญั หา ของมนษุ ยส์ ู่การเปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง ผูส้ อนนางสาวจิราภรณ์ หว่างแสง สอนวันท่.ี .......เดือน.............พ.ศ. ........... 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวดั /ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชีวติ ในสงั คมท่ีมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ใชค้ วามร้แู ละทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ ่นื ๆ เพื่อแกป้ ัญหาหรอื พฒั นางานอยา่ งมคี วามคิด สรา้ งสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสม โดยคำนึงถงึ ผลกระทบต่อชวี ติ สงั คม และสิง่ แวดล้อม ตัวช้วี ดั ว 4.1 ม.3/1 วิเคราะหส์ าเหตุ หรือปัจจัยท่ีสง่ ผลต่อการเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี และความสัมพันธข์ อง เทคโนโลยีกบั ศาสตรอ์ ืน่ โดยเฉพาะวิทยาศาสตร์ หรอื คณติ ศาสตร์ เพ่ือเปน็ แนวทางการแก้ปัญหาหรือพัฒนางาน 2. สาระการเรยี นรู้ ความต้องการของมนษุ ยไ์ ม่มีที่ส้นิ สุด เม่ือมนษุ ย์มีพฤติกรรมในการอยรู่ วมกันเป็นครอบครวั สงั คมเผา่ พนั ธ์ุ ประเทศ ซึ่งเกิดความหลากหลายทางพฤติกรรม มีหลายปจั จยั ทีท่ ำใหม้ นุษย์เกิดความต้องการและสง่ ผล ไปสู่การ แกป้ ญั หาต่าง ๆ เม่อื มกี ารแก้ปญั หาย่อมเกดิ ความเปลยี่ นแปลง ซ่งึ ปัจจยั ทีท่ ำให้มนุษยม์ ีความตอ้ งการเพ่ือนำไปสู่การ แกป้ ัญหาในเชิงสังคมวิทยาโดยทฤษฎคี วามต้องการตามลำดบั ขนั้ ของมาสโลว์ 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายความต้องการและการแก้ปัญหาของมนุษย์สกู่ ารเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี (K) 2. สงั เกตและรวบรวมข้อมลู เกย่ี วกับความต้องการของมนษุ ย์และผลกระทบทเี่ กิดข้นึ ในด้านตา่ ง ๆ (P) 3. มคี วามกระตือรอื รน้ ในการปฏิบตั กิ จิ กรรมการเรียนรู้ (A) 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มุ่งมั่นในการทำงาน

6. กระบวนการจัดการเรียนรู้ 1.ขนั้ สงั เกต รวบรวมข้อมูล (Gathering) 1. นักเรยี นร่วมกันสนทนาแลกเปลีย่ นความคิดเหน็ เกีย่ วกบั ความตอ้ งการและการแก้ปัญหาของมนษุ ย์ส่กู าร เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี แล้วตอบคำถาม ดังน้ี • มนษุ ย์มีความต้องการทส่ี นิ้ สดุ หรอื ไม่ (ไม่สิน้ สดุ ) • มนษุ ยพ์ ัฒนาเทคโนโลยกี ารหุงข้าวจากอดีตมาจนถึงปัจจบุ ัน เป็นเพราะสาเหตุหรือความต้องการแบบใด (ตัวอยา่ งคำตอบ ความต้องการดา้ นความสะดวกสบาย ไม่ต้องใชเ้ ตาถ่าน และไม่ต้องเฝ้าดูตลอดเวลา) 2. นักเรียนสังเกตแผนภาพทฤษฎคี วามตอ้ งการตามลำดับขน้ั ของมาสโลว์ แต่ละประเภททำใหเ้ กิดเทคโนโลยี อะไรบา้ ง และเทคโนโลยีนนั้ ส่งผลต่อการเปลยี่ นแปลงในดา้ นตา่ ง ๆ อยา่ งไร ดังตัวอยา่ ง Self- ความต้องการความสมบรู ณ์ของชีวติ actualization ความตอ้ งการความเคารพนบั ถอื Esteem ความต้องการความรักและความเป็นเจา้ ของ Love/Belonging Safety ความต้องการความมั่นคงปลอดภัย Physiological ความตอ้ งการทางกายภาพ (ตัวอย่างคำตอบ 1) ความต้องการทางกายภาพ ทำให้เกิดเทคโนโลยดี ้านการอำนวยความสะดวกสบายต่าง ๆ ทำให้เกดิ การ เปลี่ยนแปลงด้านความต้องการพนื้ ฐานของมนุษย์ 2) ความต้องการด้านความม่ันคงปลอดภยั ทำให้เกดิ เทคโนโลยปี อ้ งกนั ภยั และการดแู ลสขุ ภาพทำให้มนษุ ย์ เกดิ ความม่นั คงปลอดภัย 3) ความต้องการความรกั และความเป็นเจ้าของ ทำใหเ้ กิดเทคโนโลยีการส่อื สารระหวา่ งบคุ คลในครอบครัว ทำให้มนุษยส์ ่ือสารกันและแสดงความรักความเป็นเจ้าของ 4) ความต้องการความเคารพนับถือ ทำให้เกิดเทคโนโลยีอำนวยความสะดวกท่ีมคี ุณภาพสูง เชน่ รถยนต์ โทรศัพท์ ทำใหเ้ กิดความเช่ือถือและความเคารพนบั ถือจากผู้อ่นื 5) ความต้องการความสมบูรณ์ของชวี ติ ทำให้เกดิ เทคโนโลยที ี่ทำใหเ้ กดิ ความสมบูรณข์ องชวี ติ เช่น เทคโนโลยดี ้านการทำเด็กหลอดแกว้ ทำใหม้ นุษยเ์ กิดความสมบูรณ์ในชีวติ มากข้นึ ) 3. นักเรยี นศึกษาค้นคว้าและรวบรวมขอ้ มูลเกี่ยวกับความต้องการและการแก้ปญั หาของมนุษยส์ กู่ าร เปล่ียนแปลงของเทคโนโลยี จากแหล่งการเรยี นรูต้ ่าง ๆ ทีห่ ลากหลาย เช่น หนงั สอื เรยี น อินเทอร์เนต็

2.ขน้ั คิดวิเคราะห์และสรปุ ความรู้ (Processing) 4. นักเรียนรว่ มกันอภปิ รายแลกเปล่ียนความคดิ เห็นเก่ยี วกบั ความต้องการและการแกป้ ญั หาของมนุษย์ส่กู าร เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี แล้วตอบคำถาม ดงั น้ี • เทคโนโลยมี กี ารเปล่ียนแปลงตลอดเวลาซ่ึงเกดิ จากปัจจัยหลายด้าน นักเรยี นคดิ วา่ ปัจจยั ใดนา่ จะมผี ลให้ เทคโนโลยีเปลีย่ นแปลงไปมากท่ีสุด (ตวั อย่างคำตอบ ความต้องการทางด้านกายภาพ เนือ่ งจากเปน็ ความต้องการพื้นฐานของมนุษย์) • เทคโนโลยโี ทรศพั ท์เคลื่อนท่ีทำให้เกิดความต้องการข้ันใดของมนุษย์ และปจั จุบันเทคโนโลยดี า้ นนสี้ ง่ ผล ต่อการดำเนนิ ชวี ติ ท้ังข้อดแี ละขอ้ เสยี อย่างไรบ้าง ทำใหเ้ กิดการเปลีย่ นแปลงด้านใด (ตวั อยา่ งคำตอบ ความต้องการด้านกายภาพ ข้อดีคอื การติดต่อสอื่ สารสะดวก ข้อเสียคือ ทำให้ เสียสุขภาพเมอ่ื ใชเ้ ป็นเวลานานและเป็นช่องทางในการหลอกลวงได้ง่ายขน้ึ ) 5. นกั เรียนรว่ มกันวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยีภาชนะใส่อาหารและนำ้ ตง้ั แตอ่ ดีตจนถึงปจั จุบนั โดยเขียนคำตอบเป็นแผนภาพความคดิ บนกระดาน ดังตวั อยา่ ง กะลามะพรา้ ว เครอ่ื งจักสาน เครือ่ งปัน้ ดินเผา โลหะ พลาสติก จากพชื เซรามิก 6. นกั เรยี นรว่ มกันวเิ คราะห์การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยเี คร่ืองนุ่งหม่ ต้ังแต่อดีตจนถงึ ปัจจบุ ัน โดยเขียนคำตอบของนกั เรียนเปน็ แผนภาพความคิดบนกระดาน ดังตัวอยา่ ง หนังสตั ว์ พชื พนั ธ์ุ ผ้าสงั เคราะห์เคมี เชน่ ไนลอน เสน้ ใยทนไฟ มาทอเปน็ ผา้ ผา้ ซาติน ผ้าลนิ ิน 7. นักเรยี นร่วมกนั สรปุ ความคิดรวบยอดเกย่ี วกับความต้องการและการแกป้ ัญหาของมนุษยส์ ู่การเปลี่ยนแปลง ของเทคโนโลยี ดังนี้ ความต้องการของมนุษยใ์ นทุกระดับ สง่ ผลให้เกิดประเดน็ คำถามตา่ ง ๆ เพื่อแสวงหาคำตอบเรียกได้วา่ เปน็ การ ตงั้ คำถามเพื่อให้ไดม้ าซ่งึ คำตอบ และบางคำถามก็เป็นจุดเรมิ่ ตน้ ของปัญหาท่ีมนุษยต์ ้องหาแนวทางแก้ไขเพื่อให้ได้มาซงึ่ ผลลพั ธ์ท่สี นองความต้องการได้ และการแสวงหาคำตอบหรือแนวทางแก้ไขอาจเรมิ่ ดว้ ยการลองผดิ ลองถูกจนกลายเป็น ประสบการณ์และถ่ายทอดสืบตอ่ กันมา เป็นทีม่ าของการทดลอง การบันทึก และการหาเหตุผล รวมทัง้ การคดิ ที่จะต่อ ยอด การปรับปรงุ เปล่ียนแปลงใหม้ ีประสิทธิภาพมากขึ้น ใช้งานง่ายขึ้น ประหยัดเวลา และมีทรัพยากรมากขึ้น

3.ขัน้ ปฏิบตั ิและสรุปความรู้หลังการปฏิบัติ (Applying and Constructing the Knowledge) 8. นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละเทา่ ๆ กัน จากน้นั แตล่ ะกลมุ่ ร่วมกันวเิ คราะห์เทคโนโลยีในหวั ข้อ ท่ีกำหนด แล้วตอบคำถาม ดงั นี้ a. เทคโนโลยกี ารเก็บภาพ b. เทคโนโลยีการทอผ้า c. เทคโนโลยีการสง่ จดหมาย d. เทคโนโลยีการพมิ พ์ข้อความ e. เทคโนโลยีการเดนิ ทาง • เทคโนโลยนี เ้ี กิดจากความต้องการข้ันใดของมนษุ ย์ • เทคโนโลยมี ีขอ้ ดีและข้อเสยี อย่างไรบา้ ง • เทคโนโลยนี ที้ ำใหเ้ กดิ การเปล่ียนแปลงดา้ นใด เพราะเหตุใด 9. นักเรียนร่วมกันสรปุ สงิ่ ทีเ่ ข้าใจเปน็ ความรูร้ ่วมกนั ดังนี้ ความตอ้ งการของมนุษย์ไม่มีท่ีส้ินสุด เมอื่ มนุษย์มีพฤติกรรมในการอยู่รวมกันเปน็ ครอบครวั สังคม เผา่ พันธ์ุ ประเทศ ซ่ึงเกดิ ความหลากหลายทางพฤติกรรม มีหลายปัจจัยทท่ี ำใหม้ นุษยเ์ กิดความต้องการและสง่ ผลไปสกู่ าร แกป้ ัญหาตา่ ง ๆ เมื่อมกี ารแก้ปญั หาย่อมเกดิ ความเปลยี่ นแปลง ซึง่ ปจั จยั ท่ที ำให้มนุษยม์ ีความตอ้ งการเพื่อนำไปสู่การ แก้ปัญหาในเชิงสงั คมวิทยาโดยทฤษฎคี วามต้องการตามลำดับขน้ั ของมาสโลว์ 7. สื่อการเรยี นรู้ 7.1 สอื่ การเรยี นรู้/แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียน รายวชิ าพื้นฐาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) 2. แผนภาพทฤษฎีความต้องการตามลำดบั ขั้นของมาสโลว์ 3. แหลง่ การเรยี นร้ทู ้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น 8. กระบวนการวัดและประเมนิ ผล 1. ประเมินความรู้ เรื่อง ความต้องการและการแกป้ ัญหาของมนษุ ย์ส่กู ารเปลีย่ นแปลงของเทคโนโลยี (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ 3. ประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านใฝ่เรยี นรู้ มงุ่ ม่นั ในการทำงาน (A) ด้วยแบบประเมิน

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics) แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม รายการการประเมิน ระดบั คุณภาพ กระบวนการ 432 1 ทำงานกลมุ่ ไมม่ กี ารกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท บทบาทสมาชิก และไมม่ กี ารช้ีแจง สมาชกิ ชดั เจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหวั หนา้ เปา้ หมาย สมาชกิ ตา่ งคนตา่ งทำงาน และมกี ารชี้แจงเป้าหมาย มกี ารชี้แจงเป้าหมาย ไมม่ กี ารชี้แจงเปา้ หมาย การทำงาน อย่างชัดเจนและ อยา่ งชดั เจน มีการปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั ปฏบิ ัติงานรว่ มกนั ปฏบิ ตั ิงานรว่ มกนั อยา่ งรว่ มมือร่วมใจ แต่ไมม่ ีการประเมนิ ไม่ครบทกุ คน พรอ้ มกบั การประเมินเปน็ เปน็ ระยะ ๆ ระยะ ๆ แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ ตวั ช้วี ัดท่ี 4.1 ตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเยีย่ ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) 4.1.1 ตัง้ ใจเรียน 4.1.2 เอาใจใส่ เขา้ เรียนตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา เข้าเรยี นตรงเวลา ไม่ตั้งใจเรียน และมคี วามเพยี ร พยายาม ตง้ั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ ในการเรียนรู้ 4.1.3 สนใจเขา้ รว่ ม และมีความเพยี ร และมคี วามเพยี ร ในการเรียน มีส่วนร่วม กิจกรรมการเรยี นรู้ ตา่ ง ๆ พยายาม พยายาม ในการเรียนรู้ และเข้า ในการเรยี นรู้ มสี ่วน ในการเรียนรู้ มีสว่ น รว่ มกจิ กรรมการ รว่ มในการเรยี นรู้ และ รว่ มในการเรยี นรู้ และ เรียนรู้ตา่ ง ๆ เขา้ ร่วมกิจกรรมการ เข้าร่วมกิจกรรมการ เปน็ บางคร้งั เรียนร้ตู า่ ง ๆ เรยี นรตู้ า่ ง ๆ บ่อยครัง้ ท้งั ภายในและ ภายนอกโรงเรียนเปน็ ประจำ

มงุ่ ม่ันในการทำงาน ตวั ช้ีวดั ที่ 6.1 ต้งั ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีการงาน พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ยี่ยม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบ ตง้ั ใจและรับผิดชอบ ไมต่ ้งั ใจปฏิบัติ 6.1.1 เอาใจใส่ต่อ ตั้งใจและรับผดิ ชอบ ในการปฏบิ ัติหนา้ ท่ี ในการปฏิบตั หิ น้าที่ หนา้ ที่การงาน ที่ไดร้ ับมอบหมาย ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย การปฏิบัตหิ น้าที่ ในการปฏิบัตหิ นา้ ท่ี ใหส้ ำเร็จ มีการ ใหส้ ำเร็จ ปรบั ปรุงและ ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย พฒั นาการทำงานให้ ดขี ้ึน 6.1.2 ตงั้ ใจและ ให้สำเร็จ มีการ รบั ผดิ ชอบใน ปรับปรงุ และ การทำงานให้ พัฒนาการทำงานให้ สำเรจ็ ดีข้ึนด้วยตนเอง 6.1.3 ปรับปรุงและ พฒั นาการทำงาน ด้วยตนเอง

9. ความคิดเหน็ /ข้อเสนอแนะของหัวหนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................ ................................................ .................................................................................................................................................. ลงช่อื (นางสาวฐติ ิมา สวาสนา) ตำแหนง่ หวั หนา้ กลมุ่ สาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วันที่..........เดือน...........................พ.ศ............. 10. ความคดิ เห็น/ข้อเสนอแนะของผ้ชู ่วยผู้อำนวยการกลมุ่ งานบริหารวชิ าการ ......................................................................................................................... ................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... .............................................................................................................................. .................... ลงช่ือ (นายวิรพงษ์ ปะนามะเส) ตำแหน่ง ผู้ช่วยผอู้ ำนวยการกลมุ่ งานบริหารวชิ าการ วนั ท่.ี .........เดือน...........................พ.ศ............. 11. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการโรงเรียน ............................................................................................................... ............................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ..................... ลงช่ือ (นางเยาวลกั ษณ์ สอนสะอาด) ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรยี นลำทะเมนไชยพิทยาคม วันที่..........เดือน...........................พ.ศ.............

12. ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้อำนวยการโรงเรียน ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ..................... ลงช่ือ (นายนภภูมิ แก้ววิเศษ) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม วันท.่ี .........เดอื น...........................พ.ศ............. 13. บันทึกผลหลังการจดั การเรยี นรู้ 13.1 ผลการเรยี นรู้ทเี่ กิดขน้ึ กับผู้เรียน ............................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................. ................................ .................................................................................................. ............................................................................ 13.2 ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 13.3 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข .................................................................................................................................................................... .......... ........................................................................................................................ ...................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่ือ..............................ผู้สอน (นางสาวจิราภรณ์ หวา่ งแสง) ตำแหน่ง ครูผชู้ ่วย ………../………./………… แผนการจัดการเรียนรู้

หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 1 กลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 3 โรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศึกษา 2566 แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 เร่ือง การเปล่ียนแปลงทางเศรษฐกจิ สงั คม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อมกับเทคโนโลยี เวลาเรียน 1 ช่ัวโมง ผสู้ อนนางสาวจริ าภรณ์ หวา่ งแสง สอนวนั ท่ี........เดือน.............พ.ศ. ........... 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั /ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยเี พ่ือการดำรงชีวิตในสงั คมท่ีมีการเปลี่ยนแปลงอยา่ งรวดเร็ว ใชค้ วามรแู้ ละทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ น่ื ๆ เพื่อแกป้ ัญหาหรอื พฒั นางานอย่างมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยอี ย่างเหมาะสม โดยคำนึงถงึ ผลกระทบต่อชีวติ สังคม และสง่ิ แวดล้อม ตัวช้ีวัด ว 4.1 ม.3/1 วเิ คราะห์สาเหตุ หรือปัจจัยท่ีสง่ ผลต่อการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และความสัมพนั ธ์ของ เทคโนโลยีกบั ศาสตรอ์ ื่น โดยเฉพาะวทิ ยาศาสตร์ หรอื คณิตศาสตร์ เพือ่ เป็นแนวทางการแก้ปญั หาหรือพฒั นางาน 2. สาระการเรียนรู้ ความต้องการและการแกป้ ญั หาของมนษุ ยเ์ ป็นปัจจัยสำคญั ท่ที ำให้เกดิ การเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ซึ่ง บางครงั้ การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยีได้สง่ ผลกระทบถงึ เศรษฐกจิ สงั คม วฒั นธรรม และสง่ิ แวดล้อม เชน่ เทคโนโลยี ดา้ นการตดิ ต่อส่อื สาร ถูกพัฒนาเพ่อื แกป้ ญั หาด้านการสื่อสารทางไกลของมนุษย์ ส่งผลให้เศรษฐกจิ และสงั คมมีการ เปลย่ี นแปลงตามไปอย่างรวดเร็วด้วย 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายการเปลยี่ นแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม วฒั นธรรม และสิ่งแวดล้อมกับเทคโนโลยี (K) 2. วิเคราะห์การเปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยที สี่ ่งผลกระทบทางเศรษฐกจิ สงั คม วฒั นธรรมและสงิ่ แวดลอ้ ม (P) 3. มีความกระตือรือรน้ ในการปฏิบตั กิ ิจกรรมการเรยี นรู้ (A) 4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต 5. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มงุ่ มัน่ ในการทำงาน

6. กระบวนการจัดการเรียนรู้ 1.ขัน้ สังเกต รวบรวมข้อมลู (Gathering) 1. นักเรียนรว่ มกนั สังเกตบตั รภาพ แล้วระบวุ า่ เป็นสังคมชนบทหรอื สังคมเมือง ดงั ตวั อยา่ ง (สงั คมเมือง) (สังคมชนบท) (สงั คมเมือง) (สังคมชนบท) 2. นกั เรียนรว่ มกนั สนทนาแลกเปล่ียนความคดิ เกย่ี วกบั การเปลย่ี นแปลงทางเศรษฐกิจ สงั คม วฒั นธรรม และ ส่งิ แวดล้อมกับเทคโนโลยี แลว้ ตอบคำถาม ดังนี้ • เศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดลอ้ มรอบตัวนกั เรยี นเปลยี่ นแปลงไปจากอดีตหรือไม่ (เปลย่ี นแปลง/ไม่เปลี่ยนแปลง) • วฒั นธรรมใดบา้ งในท้องถนิ่ ท่ีเปล่ยี นแปลงไป (ตวั อยา่ งคำตอบ การเกีย่ วข้าวท่มี ีรถเกี่ยวขา้ วมาแทนการใชแ้ รงงานคน และเมื่อก่อนมปี ระเพณเี ตน้ กำรำ เคียว และการลงแขกดำนา แต่ปจั จบุ ันไดส้ ูญหายไป) • นักเรียนรู้จักคา่ นิยมหรอื ไม่ (รจู้ ัก/ไม่รูจ้ กั ) 3. นักเรยี นศึกษาค้นควา้ และรวบรวมข้อมลู เก่ียวกับการเปลย่ี นแปลงทางเศรษฐกิจ สงั คม วัฒนธรรมและ สง่ิ แวดล้อมกบั เทคโนโลยี จากแหลง่ การเรียนรูต้ า่ ง ๆ ทห่ี ลากหลาย เช่น หนงั สอื เรียน อินเทอรเ์ นต็

2.ข้ันคดิ วิเคราะหแ์ ละสรปุ ความรู้ (Processing) 4. นักเรียนรว่ มกนั วเิ คราะห์คา่ นิยมที่ดีและคา่ นิยมที่ไม่ดี โดยยกตวั อย่างเปน็ แผนภาพความคดิ บนกระดาน ดังตัวอย่าง การประพฤติดเี ป็นแบบอยา่ ง การรณรงคล์ ดใชถ้ ุงพลาสตกิ แก่บคุ คลอ่ืน การรณรงค์งดบริโภคหูฉลาม คา่ นยิ มทดี่ ี การแบง่ ปันขอ้ มลู ขา่ วสาร เชน่ การรณรงค์ไม่ทิง้ ขยะ ประกาศตามหาคนหายบนโลกออนไลน์ ในแม่นำ้ หรือทะเล การปฏบิ ัตภิ ารกิจท้าทาย การใช้ของฟุ่มเฟือย ราคาแพง (challenge) เพ่อื ใหผ้ ้อู น่ื ปฏิบตั ติ าม ตามกระแสโลก ในโลกออนไลน์ ดาราแสดงพฤตกิ รรมรนุ แรง ผา่ นโลกออนไลน์กอ่ ให้เกิด คา่ นิยมทไ่ี มด่ ี การเลยี นแบบ การใชถ้ อ้ ยคำดูถูกคนอื่น (bully) ทำให้บุคคลนนั้ เกิดความเครียด

5. นักเรยี นร่วมกนั อภิปรายแลกเปล่ียนความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั การเปล่ียนแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม วัฒนธรรม และสง่ิ แวดลอ้ มกับเทคโนโลยี แลว้ ตอบคำถาม ดังน้ี • ความนิยมของมนุษยข์ ึ้นอยกู่ ับปัจจยั ใดบ้าง (ตวั อยา่ งคำตอบ สภาพทางเศรษฐกจิ สังคม วัฒนธรรม และสิ่งแวดล้อม) • การเปลย่ี นแปลงทางเศรษฐกิจ สังคม วฒั นธรรม และสิ่งแวดลอ้ ม ทำใหเ้ ทคโนโลยเี ปล่ียนแปลงอย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ เทคโนโลยเี ข้ามามบี ทบาทต่อการดำเนินชีวิตมากข้ึน มคี วามใกลช้ ิดกับมนุษยม์ ากขนึ้ เพอ่ื รู้จัก ใช้เทคโนโลยีในการพัฒนาระบบเศรษฐกจิ สังคม วัฒนธรรม และส่ิงแวดลอ้ ม) • การใช้งานโทรศัพทเ์ คลื่อนที่เม่อื มสี ัญญาณเรยี กเข้าจะมีเสียงเตอื นดังขน้ึ นักเรยี นยกตวั อย่างสถานท่ีท่ี ควรปดิ เสยี งเรียกเขา้ พร้อมใหเ้ หตผุ ลประกอบ (ตัวอยา่ งคำตอบ ห้องประชมุ หอ้ งเรยี น หรือขณะเขา้ แถวเคารพธงชาติ เพราะตอ้ งแสดงความเคารพต่อ สถานทีแ่ ละสถานการณใ์ นขณะทำกจิ กรรมนนั้ ๆ และไม่ให้สง่ เสยี งดงั รบกวนผอู้ น่ื ) • รา้ นขายอาหารตามส่ังร้านหนงึ่ มีลูกค้าจำนวนไม่มาก ลกู คา้ สามารถสง่ั อาหารและรอรบั ประทานอาหารได้ ทนั ที ต่อมาบรเิ วณใกลเ้ คยี งร้านอาหารได้ปรบั เป็นสถานีขนส่ง ทำใหม้ ีลกู ค้าเป็นจำนวนมากและไม่สามารถใช้วธิ เี ดมิ ได้ จากกรณดี ังกล่าวนี้ นกั เรียนจะออกแบบระบบส่งั อาหารดว้ ยวิธีการใดจงึ จะสะดวกและทันสมยั (ตัวอยา่ งคำตอบ ระบบสง่ั อาหารและจดั ลำดบั ด้วยแอปพลิเคชนั เพ่ือให้ทุกคนสามารถส่ือสาร และรูล้ ำดับควิ ของตนเองได้ทันท)ี 6. นักเรียนรว่ มกันสรุปความคิดรวบยอดเกี่ยวกับการเปลย่ี นแปลงทางเศรษฐกจิ สงั คม วฒั นธรรม และ ส่ิงแวดลอ้ มกับเทคโนโลยี ดังน้ี ความเป็นอยู่ของมนุษย์ในปัจจุบนั มกั เกี่ยวข้องกับการเปลี่ยนแปลงทางสังคม เศรษฐกจิ วฒั นธรรม และ ส่ิงแวดลอ้ มอย่างหลีกเลีย่ งไม่ได้ ซงึ่ การเปลย่ี นแปลงในดา้ นต่าง ๆ ย่อมส่งผลกระทบกับมนษุ ย์ ดังนนั้ เทคโนโลยีท่ี นำมาใช้มักจะเปลย่ี นแปลงไปด้วย ตวั อยา่ งเชน่ การใช้โทรศัพท์เคลื่อนทีเ่ มื่อเราอยคู่ นเดียว อาจเปดิ เปน็ ระบบเสยี ง เตือน แต่เม่ือเราอยใู่ นสงั คมที่มคี นมากขนึ้ อาจต้องเลอื กโทรศัพท์เคล่ือนทีท่ ีม่ ีระบบสั่น เพื่อไม่ใหร้ บกวนผูอ้ น่ื หรือธรุ กจิ ร้านค้าต่าง ๆ เม่ือมลี ูกค้าไมม่ ากการทำรายการต่าง ๆ อาจใช้วิธกี ารจดบนั ทึก แต่เมื่ออยู่ในสังคมท่ใี หญ่ขนึ้ มลี กู ค้ามาก ข้นึ อาจต้องนำเทคโนโลยีหรอื คอมพวิ เตอร์มาชว่ ยในการบันทกึ และประมวลผลข้อมูล 3.ขั้นปฏิบตั ิและสรปุ ความรู้หลังการปฏิบัติ (Applying and Constructing the Knowledge) 7. นักเรียนแบง่ กลุ่ม กลมุ่ ละเท่า ๆ กนั จากน้ันแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันวเิ คราะห์การเปลี่ยนแปลง ของเทคโนโลยีท่สี ง่ ผลกระทบทางเศรษฐกจิ สงั คม วฒั นธรรม และสิ่งแวดล้อม โดยบนั ทึกคำตอบลงในตาราง ดงั ตวั อย่าง

ผลกระทบดา้ น ผลกระทบดา้ นบวก ผลกระทบดา้ นลบ เศรษฐกจิ • ชว่ ยใหเ้ ศรษฐกจิ เจริญเติบโตอยา่ งรวดเรว็ • อาจเกิดการตกงาน เน่ืองจากเทคโนโลยี • ร้านคา้ ขนาดเล็กสามารถแข่งขนั กบั เขา้ มาแทน รา้ นค้าขนาดใหญไ่ ด้ • อตั ราการแข่งขันเพิ่มขน้ึ • ทำให้ประเทศเกิดการพฒั นาอยา่ งรวดเร็ว • ช่วยเพม่ิ รายไดข้ องประชาชน สังคม • การตดิ ต่อสื่อสารง่ายขนึ้ • อาจเกดิ การเผยแพร่ข่าวปลอม • สามารถทำกจิ กรรมรว่ มกนั ผ่าน • ถกู มจิ ฉาชีพหลอกลวงได้ง่ายข้ึน อินเทอร์เน็ต • เกิดพฤติกรรมเลยี นแบบจากส่อื ออนไลน์ • ประชาชนรบั รู้ข่าวสารได้อย่างรวดเร็ว • การเดนิ ทางสะดวกสบาย วัฒนธรรม • เผยแพร่วัฒนธรรมในทอ้ งถ่นิ ไดง้ ่าย • วฒั นธรรมบางอยา่ งหายไป เชน่ • ช่วยให้ชาวบ้านมรี ายได้เพ่มิ ข้ึน การทอผ้า สงิ่ แวดล้อม • เทคโนโลยบี างอย่างชว่ ยอนรุ ักษ์ • การปล่อยนำ้ เสยี สงิ่ แวดล้อม • การปลอ่ ยควนั พิษ • เกิดพลังงานทดแทนใหม่ข้นึ มา 8. นกั เรียนร่วมกนั สรุปสิ่งท่เี ข้าใจเป็นความรรู้ ว่ มกนั ดงั น้ี ความต้องการและการแก้ปญั หาของมนษุ ย์เปน็ ปจั จัยสำคัญท่ีทำใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี ซึ่ง บางคร้ังการเปล่ียนแปลงของเทคโนโลยีได้ส่งผลกระทบถงึ เศรษฐกจิ สงั คม วฒั นธรรม และส่ิงแวดล้อม เช่น เทคโนโลยีด้านการตดิ ต่อสอ่ื สาร ถูกพัฒนาเพื่อแก้ปัญหาด้านการสอื่ สารทางไกล ของมนษุ ย์ สง่ ผลใหเ้ ศรษฐกจิ และสังคมมกี ารเปลีย่ นแปลงตามไปอย่างรวดเร็วด้วย 7. สอื่ การเรยี นรู้ 7.1 สอื่ การเรยี นรู้/แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 3 ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวิชาการ (พว.) 2. บตั รภาพสงั คมชนบทและสังคมเมอื ง 3. แหลง่ การเรียนรทู้ ้ังภายในและภายนอกโรงเรียน 8. กระบวนการวัดและประเมนิ ผล 1. ประเมนิ ความรู้ เรื่อง การเปล่ยี นแปลงทางเศรษฐกจิ สงั คม วัฒนธรรม และส่งิ แวดล้อม กับเทคโนโลยี (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทำงานกลมุ่ (P) ดว้ ยแบบประเมิน 3. ประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ด้านใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมนั่ ในการทำงาน (A) ดว้ ยแบบประเมนิ

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics) แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม รายการการประเมิน ระดบั คุณภาพ กระบวนการ 432 1 ทำงานกลมุ่ ไมม่ กี ารกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท บทบาทสมาชิก และไมม่ กี ารช้ีแจง สมาชกิ ชดั เจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหวั หนา้ เปา้ หมาย สมาชกิ ตา่ งคนตา่ งทำงาน และมกี ารชี้แจงเป้าหมาย มกี ารชี้แจงเป้าหมาย ไมม่ กี ารชี้แจงเปา้ หมาย การทำงาน อย่างชัดเจนและ อยา่ งชดั เจน มีการปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั ปฏบิ ัติงานรว่ มกนั ปฏบิ ตั ิงานรว่ มกนั อยา่ งรว่ มมือร่วมใจ แต่ไมม่ ีการประเมนิ ไม่ครบทกุ คน พรอ้ มกบั การประเมินเปน็ เปน็ ระยะ ๆ ระยะ ๆ แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ ตวั ช้วี ัดท่ี 4.1 ตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเยีย่ ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) 4.1.1 ตัง้ ใจเรียน 4.1.2 เอาใจใส่ เขา้ เรียนตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา เข้าเรยี นตรงเวลา ไม่ตั้งใจเรียน และมคี วามเพยี ร พยายาม ตง้ั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ ในการเรียนรู้ 4.1.3 สนใจเขา้ รว่ ม และมีความเพยี ร และมคี วามเพยี ร ในการเรียน มีส่วนร่วม กิจกรรมการเรยี นรู้ ตา่ ง ๆ พยายาม พยายาม ในการเรียนรู้ และเข้า ในการเรยี นรู้ มสี ่วน ในการเรียนรู้ มีสว่ น รว่ มกจิ กรรมการ รว่ มในการเรยี นรู้ และ รว่ มในการเรยี นรู้ และ เรียนรู้ตา่ ง ๆ เขา้ ร่วมกิจกรรมการ เข้าร่วมกิจกรรมการ เปน็ บางคร้งั เรียนร้ตู า่ ง ๆ เรยี นรตู้ า่ ง ๆ บ่อยครัง้ ท้งั ภายในและ ภายนอกโรงเรียนเปน็ ประจำ

มงุ่ ม่ันในการทำงาน ตวั ช้ีวดั ที่ 6.1 ต้งั ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีการงาน พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ยี่ยม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบ ต้งั ใจและรับผิดชอบ ไมต่ ้งั ใจปฏิบัติ 6.1.1 เอาใจใส่ต่อ ตั้งใจและรับผดิ ชอบ ในการปฏบิ ัติหนา้ ท่ี ในการปฏิบตั หิ น้าที่ หนา้ ที่การงาน ที่ไดร้ ับมอบหมาย ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย การปฏิบัตหิ น้าที่ ในการปฏิบัตหิ นา้ ท่ี ใหส้ ำเร็จ มีการ ใหส้ ำเร็จ ปรบั ปรุงและ ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย พฒั นาการทำงานให้ ดขี ้ึน 6.1.2 ตงั้ ใจและ ให้สำเร็จ มีการ รบั ผดิ ชอบใน ปรับปรงุ และ การทำงานให้ พัฒนาการทำงานให้ สำเรจ็ ดีข้ึนด้วยตนเอง 6.1.3 ปรับปรุงและ พฒั นาการทำงาน ด้วยตนเอง

9. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของหวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ..................... ลงชื่อ (นางสาวฐติ มิ า สวาสนา) ตำแหน่ง หัวหนา้ กลมุ่ สาระวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วนั ท.่ี .........เดอื น...........................พ.ศ............. 10. ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้ช่วยผู้อำนวยการกลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ ......................................................................................................................... ................................................................... ............................................................................................................................. ............................................................... .............................................................................................................................. .................... ลงชอ่ื (นายวริ พงษ์ ปะนามะเส) ตำแหน่ง ผู้ช่วยผ้อู ำนวยการกลมุ่ งานบริหารวิชาการ วันท.่ี .........เดอื น...........................พ.ศ............. 11. ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของรองผู้อำนวยการโรงเรียน ............................................................................................................... ............................................................................. ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ..................... ลงชื่อ (นางเยาวลักษณ์ สอนสะอาด) ตำแหน่ง รองผ้อู ำนวยการโรงเรยี นลำทะเมนไชยพิทยาคม วันท่ี..........เดือน...........................พ.ศ.............

12. ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของผูอ้ ำนวยการโรงเรยี น .................................................................................... ........................................................................................................ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................. ..................... ลงช่อื (นายนภภมู ิ แกว้ วเิ ศษ) ตำแหน่ง ผอู้ ำนวยการโรงเรียนลำทะเมนไชยพทิ ยาคม วนั ท.ี่ .........เดือน...........................พ.ศ............. 13. บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้ 13.1 ผลการเรยี นรูท้ เี่ กิดข้ึนกบั ผู้เรียน .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 13.2 ปญั หา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ................................................. ........................................................................................................................................................................... ... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 13.3 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ................................................................................................................................. ............................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ ..............................ผ้สู อน (นางสาวจิราภรณ์ หวา่ งแสง) ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย ………../………./…………

แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 2 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 3 โรงเรยี นลำทะเมนไชยพิทยาคม ภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2566 แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1 เร่ือง ปญั หาและความต้องการของสังคม ชมุ ชน หรือทอ้ งถน่ิ เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง ผ้สู อนนางสาวจริ าภรณ์ หว่างแสง สอนวนั ที่........เดอื น.............พ.ศ. ........... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้ีวดั /ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยีเพ่ือการดำรงชีวิตในสงั คมที่มีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเรว็ ใชค้ วามร้แู ละทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อ่นื ๆ เพื่อแกป้ ัญหาหรอื พัฒนางานอยา่ งมีความคดิ สร้างสรรค์ ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เลือกใช้เทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสม โดยคำนงึ ถึงผลกระทบต่อชีวติ สังคม และสิ่งแวดล้อม ตวั ชวี้ ัด ว 4.1 ม.3/2 ระบุปญั หาหรอื ความต้องการของชุมชนหรือท้องถิน่ เพ่ือพัฒนางานอาชพี สรปุ กรอบของปญั หา รวบรวม วิเคราะห์ข้อมูลและแนวคิดที่เกี่ยวข้องกบั ปญั หาโดยคำนงึ ถึงความถูกต้องด้านทรพั ย์สนิ ทางปัญญา 2. สาระการเรยี นรู้ ความตอ้ งการของมนุษย์เริ่มจากปจั จยั พน้ื ฐานของชวี ติ เปน็ หลัก เชน่ ความต้องการดา้ นปัจจยั 4 ความต้องการ ใหช้ วี ิตความเป็นอยูท่ ด่ี ีขนึ้ ความตอ้ งการเหลา่ น้ีมีความเกี่ยวข้องกบั เศรษฐกิจและสงั คมโดยสง่ ผลตอ่ ความเปน็ อยู่ โดยรวมของประเทศ ท้ังเชอื่ มโยงกบั การปกครอง การลงทุน การใชง้ บประมาณ และองคป์ ระกอบตา่ ง ๆ ของสังคม ทงั้ สนิ้ 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายปญั หาและความต้องการของสังคม ชมุ ชน หรือท้องถ่นิ (K) 2. วเิ คราะห์ปญั หาและความต้องการของสังคม ชมุ ชน หรอื ทอ้ งถิ่น (P) 3. มีความกระตือรอื ร้นในการปฏบิ ัติกจิ กรรมการเรียนรู้ (A) 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุ่งมัน่ ในการทำงาน

6. กระบวนการจัดการเรียนรู้ 1.ขั้นสงั เกต รวบรวมข้อมลู (Gathering) 1. นักเรยี นร่วมกนั สนทนาแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับปัญหาและความตอ้ งการของสงั คม ชุมชน หรอื ทอ้ งถ่ิน แลว้ ตอบคำถาม ดังน้ี • นักเรียนคดิ ว่ามนุษยม์ ีความต้องการส่ิงใดเป็นหลกั เพราะเหตใุ ด (ตัวอย่างคำตอบ มคี วามต้องการปจั จยั ด้านพนื้ ฐานเปน็ หลัก เชน่ ความตอ้ งการดา้ นปจั จัย 4 เพราะมนุษย์ มคี วามต้องการใหม้ ีชวี ติ ความเปน็ อยู่ ฐานะทางเศรษฐกจิ ครอบครัว สงั คม ชุมชน ตลอดจนสภาพแวดล้อมทดี่ ี) • ความตอ้ งการดา้ นปจั จัย 4 มีอะไรบา้ ง (อาหาร ท่ีอยอู่ าศยั เคร่ืองนุ่งห่ม ยารกั ษาโรค) • องค์กรใดมหี น้าทวี่ างแผนแม่บทเพ่ือนำมาพัฒนาประเทศ(สำนักงานคณะกรรมการพฒั นาเศรษฐกจิ และ สงั คมแห่งชาติ (คสช.)) • ปญั หาของสงั คมในปจั จบุ ันมีอะไรบา้ ง (ตัวอย่างคำตอบ ประชาชนมรี ายได้ไมเ่ พยี งพอต่อการดำรงชีวิต ปัญหาหน้สี ิน ความเหลอื่ มล้ำทางเศรษฐกจิ ปญั หายาเสพติด) • ปญั หาของชมุ ชนในปจั จบุ นั มีอะไรบา้ ง (ตัวอยา่ งคำตอบ ปัญหาชุมชนแออัด เยาวชนเสพยาเสพติด ปัญหาขยะจำนวนมาก ปญั หานำ้ เนา่ เสีย) 2. นักเรียนศึกษาค้นคว้าและรวบรวมขอ้ มลู เก่ยี วกบั ปญั หาและความต้องการของสังคม ชมุ ชน หรือทอ้ งถ่นิ จากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ ทห่ี ลากหลาย เช่น หนงั สือเรยี น อินเทอร์เนต็ 2.ขั้นคดิ วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความรู้ (Processing) 3. นักเรยี นแบง่ กลุ่ม กลุ่มละเทา่ ๆ กัน จากนน้ั แตล่ ะกล่มุ ร่วมกนั วเิ คราะห์แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคม แหง่ ชาติ โดยสบื ค้นจากอินเทอรเ์ นต็ เพื่อศึกษาข้อมลู แต่ละฉบบั โดยเปรียบเทยี บแตล่ ะฉบบั 4. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั อภิปรายแลกเปลย่ี นความคดิ เห็นเก่ียวกบั แผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ แล้วตอบคำถาม ดงั นี้ • แผนแมบ่ ทพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมของประเทศจดั ทำทุกกปี่ ี (ทกุ 5 ป)ี • แผนแม่บทนีม้ ีความสำคัญอย่างไร (เป็นตัวกำหนดทิศทางในการพัฒนาประเทศ) • แผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาตฉิ บบั ทเ่ี ท่าไรทีม่ ีการนำหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ (ฉบบั ท่ี 12) 5. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั อภิปรายแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกย่ี วกบั ไทยแลนด์ 4.0 แล้วตอบคำถาม ดงั นี้ • ไทยแลนด์ 4.0 คืออะไร (ตวั อย่างคำตอบ การพัฒนาเศรษฐกจิ ของประเทศในแต่ละยคุ ) • การพฒั นาเศรษฐกิจของประเทศในแตล่ ะยคุ มีอะไรบา้ ง (ยคุ 1.0 สังคมเกษตรกรรม ยุค 2.0 อุตสาหกรรมเบา ยุค 3.0 อตุ สาหกรรมหนัก ยคุ 4.0 เศรษฐกิจขบั เคลือ่ นด้วยนวตั กรรม) • อธิบายยุค 1.0 สังคมเกษตรกรรม (ตวั อย่างคำตอบ เป็นยุคที่คนไทยปลกู ขา้ ว พชื สวน พชื ไร่ เล้ยี งหมู เป็ด ไก่ นำผลผลติ ไปขายสรา้ งรายได้และยงั ชีพ)

• อธบิ ายยุค 2.0 อุตสาหกรรมเบา (ตัวอยา่ งคำตอบ เป็นยุคทมี่ ีเคร่ืองมือชว่ ยผลิตเส้ือผ้า กระเป๋า เคร่ืองด่ืม เครื่องเขียน เครื่องประดับ) • อธิบายยุค 3.0 อตุ สาหกรรมหนัก (ตวั อยา่ งคำตอบ เปน็ ยุคทเ่ี น้นการสง่ ออก เชน่ เหลก็ กล้า รถยนต์ แกส๊ ธรรมชาติ ปูนซเี มนต์ โดยใช้เทคโนโลยีจากต่างประเทศเพื่อเนน้ การส่งออก) • อธบิ ายยุค 4.0 เศรษฐกจิ ขับเคลือ่ นด้วยนวัตกรรม (ตัวอย่างคำตอบ เปลย่ี นจากการขบั เคลื่อนประเทศดว้ ยอุตสาหกรรม เปน็ การขับเคล่ือนดว้ ยเทคโนโลยี ความคดิ สร้างสรรค์ และนวตั กรรม และเปลย่ี นจากการเน้นภาคการผลติ สินคา้ ไปสู่การเนน้ ภาคการบรโิ ภคมากขึ้น) • ไทยแลนด์ 4.0 มเี ป้าหมายพัฒนาอตุ สาหกรรมหลักอะไรบ้าง (1. อาหาร การเกษตร เทคโนโลยีชีวภาพ 2. สุขภาพ อนามยั ชีวการแพทย์ 3. อุปกรณ์สมารต์ เทคโนโลยหี ่นุ ยนต์ และอิเล็กทรอนิกส์ 4. ดิจิทัลและเทคโนโลยสี มองกลฝังตวั 5. สรา้ งสรรค์ สงั คม วัฒนธรรม และการบริการที่มมี ูลคา่ สูง) • องค์กรใดเปน็ ผจู้ ดั ทำนโยบายและแผนวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมแหง่ ชาติ (สำนักงานคณะกรรมการนโยบายวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวตั กรรมแหง่ ชาติ (สวทน.)) • ส่วนสำคัญทีท่ ำใหเ้ กิดการลงทุน การดำเนินการ การผลติ การสร้างงาน และการจา้ งงานมาจากส่งิ ใด (สภาพคลอ่ งทางเศรษฐกิจ) 6. นักเรียนร่วมกันสรุปความคดิ รวบยอดเกีย่ วกบั ปัญหาและความตอ้ งการของสงั คม ชมุ ชน หรือทอ้ งถน่ิ ดงั น้ี การศึกษาแผนพฒั นาเศรษฐกิจและสงั คมแห่งชาติเปน็ ปัจจัยและเปน็ ข้อมูลเบื้องต้นในการมองหรือศึกษา ปญั หา และทิศทางท่ปี ระเทศจะถูกพัฒนาไป ควรศกึ ษาแผนพฒั นาเหล่าน้ี เพื่อให้เห็นสภาพในปัจจบุ ันของพน้ื ทีส่ งั คม และสภาวะทเี่ ปน็ อยใู่ นปจั จบุ ัน ข้อมูลตา่ ง ๆ จะช่วยให้เห็นถึงภาพรวมของประเทศและทิศทางท่สี ามารถพฒั นาได้ใน อนาคต 3.ขน้ั ปฏิบัตแิ ละสรปุ ความร้หู ลังการปฏิบตั ิ (Applying and Constructing the Knowledge) 7. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มร่วมกันออกแบบโปสเตอร์ ไทยแลนด์ 4.0 โดยใชโ้ ปรแกรมคอมพิวเตอร์ท่ีถนัดในการ ออกแบบ แล้วนำไปตดิ บอรด์ แสดงผลงาน 8. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มรว่ มกันศึกษาเว็บไซต์ของสำนักงานคณะกรรมการนโยบายวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและ นวัตกรรมแหง่ ชาติ 9. นกั เรียนร่วมกนั สรปุ สิ่งท่ีเขา้ ใจเป็นความร้รู ว่ มกัน ดงั นี้ ความต้องการของมนุษย์เริม่ จากปจั จยั พื้นฐานของชีวติ เป็นหลกั เชน่ ความตอ้ งการด้านปัจจยั 4 ความ ตอ้ งการให้ชวี ติ ความเปน็ อยู่ที่ดีข้นึ ความต้องการเหล่านี้มีความเกีย่ วข้องกบั เศรษฐกจิ และสงั คมโดยสง่ ผลต่อความ เป็นอยู่โดยรวมของประเทศ ทั้งเชื่อมโยงกับการปกครอง การลงทนุ การใช้งบประมาณ และองคป์ ระกอบต่าง ๆ ของ สังคมทง้ั ส้ิน

7. สอื่ การเรียนรู้ 7.1 สอ่ื การเรยี นรู้/แหล่งการเรยี นรู้ 1. หนังสือเรยี น รายวชิ าพืน้ ฐาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 3 ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. ห้องคอมพวิ เตอร์ท่ีเช่ือมต่อเครือข่ายอินเทอรเ์ น็ต 3. แหลง่ การเรียนรทู้ ัง้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น 8. กระบวนการวัดและประเมนิ ผล 1. ประเมนิ ความรู้ เร่อื ง ปญั หาและความต้องการของสังคม ชุมชน หรอื ทอ้ งถ่ิน (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม (P) ดว้ ยแบบประเมนิ 3. ประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ด้านใฝ่เรียนรู้ ม่งุ มัน่ ในการทำงาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics) แบบประเมินกระบวนการทำงานกล่มุ รายการการประเมิน ระดับคณุ ภาพ กระบวนการ 432 1 ทำงานกลมุ่ ไม่มีการกำหนด มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท บทบาทสมาชิก และไมม่ ีการชี้แจง สมาชิกชดั เจน สมาชิกชดั เจน เฉพาะหวั หนา้ เปา้ หมาย สมาชิก ต่างคนตา่ งทำงาน และมีการชีแ้ จงเปา้ หมาย มกี ารชแ้ี จงเปา้ หมาย ไมม่ กี ารชีแ้ จงเปา้ หมาย การทำงาน อย่างชัดเจนและ อย่างชัดเจน มกี ารปฏบิ ตั ิงานรว่ มกนั ปฏบิ ัตงิ านรว่ มกนั ปฏบิ ัติงานรว่ มกนั อย่างรว่ มมอื รว่ มใจ แต่ไมม่ กี ารประเมนิ ไมค่ รบทกุ คน พรอ้ มกบั การประเมินเป็น เปน็ ระยะ ๆ ระยะ ๆ

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ ตวั ชว้ี ดั ท่ี 4.1 ตั้งใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเข้ารว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดีเย่ยี ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) 4.1.1 ตง้ั ใจเรียน 4.1.2 เอาใจใส่ เขา้ เรียนตรงเวลา เขา้ เรยี นตรงเวลา เขา้ เรียนตรงเวลา ไมต่ ง้ั ใจเรยี น และมีความเพยี ร พยายาม ต้ังใจเรยี น เอาใจใส่ ตง้ั ใจเรียน เอาใจใส่ ตัง้ ใจเรียน เอาใจใส่ ในการเรียนรู้ 4.1.3 สนใจเขา้ ร่วม และมคี วามเพยี ร และมีความเพียร ในการเรียน มีส่วนรว่ ม กิจกรรมการเรยี นรู้ ต่าง ๆ พยายาม พยายาม ในการเรยี นรู้ และเข้า ในการเรียนรู้ มสี ่วน ในการเรยี นรู้ มีส่วน รว่ มกจิ กรรมการ ร่วมในการเรยี นรู้ และ รว่ มในการเรยี นรู้ และ เรยี นรตู้ ่าง ๆ เขา้ รว่ มกิจกรรมการ เขา้ ร่วมกิจกรรมการ เป็นบางครัง้ เรียนรตู้ า่ ง ๆ เรียนรูต้ ่าง ๆ บอ่ ยคร้ัง ทง้ั ภายในและ ภายนอกโรงเรยี นเปน็ ประจำ มุ่งม่ันในการทำงาน ตวั ช้ีวัดท่ี 6.1 ต้ังใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ัตหิ น้าท่กี ารงาน พฤติกรรมบ่งช้ี ดีเยย่ี ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ า่ น (0) ตั้งใจและรบั ผิดชอบ ต้งั ใจและรับผดิ ชอบ ไม่ต้ังใจปฏบิ ัติ 6.1.1 เอาใจใสต่ ่อ ตั้งใจและรับผิดชอบ ในการปฏบิ ัติหนา้ ที่ ในการปฏิบัติหน้าท่ี หน้าทกี่ ารงาน ท่ีได้รับมอบหมาย ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย การปฏิบัติหน้าท่ี ในการปฏิบัตหิ น้าท่ี ให้สำเร็จ มีการ ใหส้ ำเรจ็ ปรับปรุงและ ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย ทีไ่ ด้รับมอบหมาย พัฒนาการทำงานให้ ดีขึน้ 6.1.2 ตั้งใจและ ใหส้ ำเร็จ มีการ รับผิดชอบใน ปรับปรุง และ การทำงานให้ พฒั นาการทำงานให้ สำเรจ็ ดขี น้ึ ด้วยตนเอง 6.1.3 ปรับปรุงและ พัฒนาการทำงาน ด้วยตนเอง


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook