Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แผนการจัดการเรียนรู้วิชาออกแบบและเทคโนโลยีม.2

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาออกแบบและเทคโนโลยีม.2

Published by Jiraporn Anne, 2023-06-18 09:33:18

Description: แผนการจัดการเรียนรู้วิชาออกแบบและเทคโนโลยีม.2

Search

Read the Text Version

แผนการจดั การเรยี นรู้ รายวชิ าออกแบบและเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว22102 ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 นางสาวจิราภรณ์ หวา่ งแสง ตำแหน่ง ครผู ู้ชว่ ย กล่มุ สาระการเรยี นรู้ วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี โรงเรยี นลำทะเมนไชยพทิ ยาคม สำนกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศึกษานครราชสมี า สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

บันทึกขอ้ ความ ส่วนราชการ โรงเรยี นลำทะเมนไชยพิทยาคม สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน ที่ ……………………. วนั ที่ 26 พฤษภาคม 2566 เรื่อง ขออนญุ าตใช้แผนการจดั การเรยี นรู้ วชิ าออกแบบและเทคโนโลยี รหัสวชิ า ว22102 เรียน ผอู้ ำนวยการโรงเรยี นลำทะเมนไชยพิทยาคม ดว้ ยนางสาวจิราภรณ์ หวา่ งแสง ตำแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย โรงเรียนลำทะเมนไชยพทิ ยาคม อำเภอลำทะเมนชัย จงั หวัดนครราชสีมา สงั กดั สำนกั งานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษามัธยมศกึ ษานครราชสีมา ไดร้ บั มอบหมายใหท้ ำการสอน รายวชิ าออกแบบและเทคโนโลยี รหัสวิชา ว22102 ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2566 ในการนี้ข้าพเจา้ ไดจ้ ัดเตรียมการสอนโดยการวเิ คราะหผ์ เู้ รียนและสภาพทเ่ี ปน็ ปัญหาใน การเรียนการสอนจึงได้วางแผนเพื่อพฒั นาการเรียนการสอนในส่วนที่รับผิดชอบ โดยจัดทำแผนการจัดการเรยี นรู้ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคญั สอดคล้องกับหลักสูตรสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ (ฉบับปรับปรุง ๒๕๖๐) จึงขออนุญาตดำเนินการสอนตามแผนการ จดั การเรียนรู้ที่แนบมาพร้อมน้ี จึงเรียนมาเพอื่ โปรดพจิ ารณา ลงช่อื .......................................... ครูผสู้ อน (นางสาวจิราภรณ์ หว่างแสง) ตำแหนง่ ครูผชู้ ว่ ย ความคิดเหน็ ของหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ ความคิดเห็นของผชู้ ว่ ยผอู้ ำนวยการกลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ .......................................................................... ...................................................................................... ลงชือ่ .................................................... ลงชื่อ .................................................... (นางสาวฐิตมิ า สวาสนา) (นายวริ พงษ์ ปะนามะเส) หัวหน้ากลุม่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ผู้ช่วยผ้อู ำนวยการกลมุ่ งานบรหิ ารวชิ าการ ความคิดเห็นของรองผู้อำนวยการโรงเรยี นลำทะเมนไชยพิทยาคม ......................................................................................................................................................................................... ลงชอ่ื .................................................... (นางเยาวลกั ษณ์ สอนสะอาด) รองผอู้ ำนวยการโรงเรยี นลำทะเมนไชยพิทยาคม ความคิดเหน็ ของผ้อู ำนวยการโรงเรยี นลำทะเมนไชยพิทยาคม ........................................................................................................................................................................................ ลงช่อื .................................................... (นายนภภูมิ แก้ววเิ ศษ) ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นลำทะเมนไชยพทิ ยาคม

คำนำ การจดั ทำแผนการจัดการเรยี นร้นู ับเปน็ วธิ ีหนึ่งทที่ ำใหค้ รผู ู้สอนได้มีการเตรยี มการสอนล่วงหนา้ ก่อนทจ่ี ะทำ การสอนจริง โดยมกี ารเตรียมเน้อื หาเตรียมกจิ กรรม เตรยี มสื่อการเรียนการสอนรวมทัง้ วิธกี ารวดั ผลประเมินผลซึ่งการ เตรยี มการสอนจะชว่ ยให้ครผู ู้สอนมคี วามพร้อมท่จี ะสอนให้ผ้เู รียนบรรลตุ ามจดุ มุ่งหมายของหลักสตู ร การจดั ทำแผนการจดั การเรยี นรฉู้ บบั น้ี ผู้จดั ทำได้ศึกษาคน้ ควา้ หลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน พุทธศกั ราช 2551 (ฉบบั ปรับปรุง พุทธศกั ราช 2560) โครงสร้างหลกั สตู รสถานศกึ ษา และเอกสารอืน่ ๆ ที่เกี่ยวข้อง วเิ คราะหห์ ลกั สูตร จัดทำกำหนดการสอน โครงสรา้ งรายวชิ า และหารปู แบบการทำแผนการจัดการเรียนรู้โดยเนน้ ให้ ผ้เู รียนไดเ้ รียนผ่านกระบวนการคิดดว้ ยตนเอง โดยคำนงึ ถึงสภาพแวดล้อมของผูเ้ รยี นเปน็ หลัก แผนการจดั การเรียนรู้ฉบับน้ี จดั ทำไวเ้ พื่อสะดวกต่อการจัดกิจกรรมการเรยี นการสอน สามารถนำไป ประยกุ ต์ใช้ได้ทุกปกี ารศกึ ษา ผทู้ ่ีจะนำไปใชค้ วรอา่ นคำชแ้ี จงการใชแ้ ผนการจดั การเรียนรู้ใหเ้ ข้าใจก่อนนำไปใช้จริง ขา้ พเจ้าหวังเปน็ อย่างย่ิงวา่ แผนการจดั การเรยี นร้ฉู บับนจ้ี ะช่วยให้การเรยี นการสอนรายวิชาออกแบบและ เทคโนโลยี ดำเนนิ ไปดว้ ยดี และทำใหผ้ เู้ รียนมีความรคู้ วามสามารถ มที ักษะกระบวนการและมีคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ตรงตามจดุ มุ่งหมายของหลกั สูตรต่อไป นางสาวจริ าภรณ์ หวา่ งแสง ผ้จู ัดทำ

สารบญั ตอนที่ 1 ส่วนนำ 1. ความนำ 2. วิสัยทศั น์หลกั สตู รโรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม 3. วิสัยทศั น์หลักสูตรกลมุ่ สาระการเรียนรู้ 4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 5. คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 6. แบบบันทึกการวิเคราะหผ์ เู้ รียน ตอนท่ี 2 การวเิ คราะหห์ ลักสูตร 1. สาระ มาตรฐาน ตัวชวี้ ดั รายวิชา 2. คำอธิบายรายวิชา 3. โครงสรา้ งรายวชิ า ตอนที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้

ตารางสาระมาตรฐานการเรยี นรู้ และตวั ชว้ี ดั กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์ สาระท่ี 4 เทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 สาระและมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้ีวัด สาระที่ 4 เทคโนโลยี 1.คาดการณ์แนวโน้มเทคโนโลยที ีจ่ ะเกิดข้ึน โดยพิจารณา มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยี จากสาเหตหุ รือปัจจัยทส่ี ง่ ผลต่อการเปลย่ี นแปลงของ เพื่อการดำรงชวี ติ ในสังคมที่มีการเปลีย่ นแปลงอยา่ ง เทคโนโลยี และวิเคราะห์ เปรียบเทียบ ตัดสินใจเลือกใช้ รวดเรว็ ใช้ความรู้ และทักษะทางด้านวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี โดยคำนึงถึงผลกระทบที่เกิดข้นึ ต่อชวี ติ สังคม คณิตศาสตร์ และศาสตร์อ่ืน ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรือพัฒนา และสิ่งแวดล้อม งานอย่างมคี วามคดิ สร้างสรรค์ดว้ ยกระบวนการออกแบบ 2.ระบปุ ัญหาหรือความต้องการในชุมชนหรือท้องถ่ิน สรปุ เชิงวศิ วกรรม เลอื กใช้เทคโนโลยีอย่างเหมาะสม โดยคำนงึ กรอบของปญั หา รวบรวม วเิ คราะหข์ ้อมลู และแนวคิดที่ ถึงผลกระทบต่อชีวติ สังคม และส่งิ แวดล้อม เก่ยี วข้องกับปัญหา 3.ออกแบบวิธกี ารแก้ปญั หา โดยวิเคราะห์เปรียบเทียบ และตดั สินใจเลอื กข้อมูลท่ีจำเป็นภายใต้เงื่อนไขและ ทรัพยากรท่ีมีอยู่ นำเสนอแนวทางการแกป้ ัญหาใหผ้ ู้อนื่ เข้าใจ วางแผนขัน้ ตอนการทำงานและดำเนินการ แก้ปัญหาอย่างเปน็ ขั้นตอน 4.ทดสอบ ประเมินผล และอธิบายปัญหาหรือข้อบกพร่อง ทีเ่ กิดข้ึน ภายใต้กรอบเงื่อนไข พร้อมท้ังหาแนวทางการ ปรับปรุงแก้ไข และนำเสนอผลการแกป้ ัญหา 5.ใช้ความรู้ และทักษะเกยี่ วกับวัสดุ อปุ กรณ์ เครื่องมือ กลไก ไฟฟ้า และอเิ ล็กทรอนิกส์ เพ่ือแกป้ ัญหาหรอื พฒั นา งานได้อย่างถกู ต้องเหมาะสม และปลอดภัย มาตรฐาน ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคำนวณในการ 1. ออกแบบอลั กอริทึมท่ีใช้แนวคิดเชงิ คำนวณในการ แกป้ ัญหาที่พบในชวี ิตจริงอยา่ งเป็นข้ันตอนและเป็นระบบ แก้ปัญหา หรือการทำงานที่พบในชวี ติ จริง ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่อื สารในการเรียนรู้ การ 2. ออกแบบและเขียนโปรแกรมท่ีใช้ตรรกะและฟังกช์ นั ทำงานและการแก้ปัญหาได้อย่างมีประสทิ ธิภาพ ร้เู ท่าทนั ในการแกป้ ญั หา และมจี ริยธรรม 3. อภปิ รายองค์ประกอบและหลกั การทำงานของระบบ คอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยีการส่ือสาร เพ่ือประยุกต์ใช้ งานหรอื แกป้ ญั หาเบื้องต้น 4. ใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศอย่างปลอดภยั มีความ รับผิดชอบ สร้างและแสดงสิทธิในการเผยแพร่ผลงาน

คำอธิบายรายวิชา ศึกษาแนวคิดเชงิ คำนวณในการแก้ปัญหาทพี่ บในชวี ิตจริง และเขยี นโปรแกรมอยา่ งง่าย เพ่อื ช่วย แกป้ ญั หา รู้จักองค์ประกอบและหลกั การทำงานของระบบคอมพวิ เตอรแ์ ละเทคโนโลยีการสือ่ สาร ใช้ เทคโนโลยีสารสนเทศอยา่ งปลอดภยั มคี วามรับผดิ ชอบในการสรา้ งและแสดงสิทธใิ นการเผยแพร่ผลงาน โดยใช้กระบวนการแจกแจง การคิดหารูปแบบ การคิดเชิงนามธรรม การออกแบบขัน้ ตอนวธิ ี เพ่ือใหก้ ารแกป้ ญั หามีประสิทธภิ าพ ใช้วงจรการพัฒนาโปรแกรมเพอ่ื เปน็ แนวทางในการพฒั นา หรือเขียนโปรแกรม ประยุกต์ใชง้ านเทคโนโลยีการสอื่ สารเพ่ือแก้ปัญหาเบ้อื งต้น และเลอื กใชแ้ นวทาง ปฏิบัติทเี่ หมาะสมจากการใชเ้ ทคโนโลยีสารสนเทศ เพ่ือใหผ้ ู้เรียนตระหนกั ในคุณคา่ ของความรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีทใ่ี ชใ้ นชวี ิตประจำวัน ใช้ความรแู้ ละกระบวนการทางวทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยีในการดำรงชีวติ และการประกอบอาชพี แสดงความชื่นชม ยกย่อง และเคารพสิทธใิ นผลงานของผคู้ ดิ ค้น เขา้ ใจผลกระทบท้งั ด้านบวกและดา้ นลบ ของการพัฒนาทางวิทยาศาสตร์ต่อสิง่ แวดลอ้ มและตอ่ บรบิ ทอนื่ ๆ และศึกษาหาความรู้เพมิ่ เตมิ ทำ โครงงานหรือสร้างชน้ิ งานตามความสนใจ รหัสตวั ช้ีวัด ว 4.2 ม.2/1, ม.2/2, ม.2/3 ,ม.2/4 รวมทัง้ หมด 4 ตัวชี้วัด

โครงสร้างรายวชิ าพ้นื ฐาน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี รายวิชาออกแบบและเทคโนโลยี ว22102 ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 เวลาเรยี น 20 ช่วั โมง จำนวน 0.5 หน่วยกติ ลำดบั ชื่อหน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ เวลาเรียน นำ้ หนกั และตัวชี้วัด (ช่วั โมง) คะแนน 1 เทคโนโลยกี บั การดำรงชีวติ ว 4.1 ม.2/1 • สาเหตหุ รือปัจจยั ตา่ ง ๆ เช่น 3 10 ของมนษุ ย์ ความกา้ วหน้าของศาสตรต์ ่าง ๆ การ เปลีย่ นแปลงทางดา้ นเศรษฐกิจ สงั คม วัฒนธรรม ทำใหเ้ ทคโนโลยมี ีการ เปลย่ี นแปลงตลอดเวลา • เทคโนโลยีแต่ละประเภทมีผลกระทบ ตอ่ ชวี ติ สงั คม และส่งิ แวดล้อมท่ี แตกตา่ งกัน จึงต้องวเิ คราะห์ เปรียบเทยี บข้อดี ข้อเสยี และ ตัดสนิ ใจเลอื กใชใ้ ห้เหมาะสม 2 การแกป้ ัญหากับ ว 4.1 ม.2/2 • การระบปุ ญั หาจำเป็นต้องมีการ 7 20 วเิ คราะหส์ ถานการณ์ของปัญหาเพ่อื กระบวนการออกแบบเชิง ว 4.1 ม.2/3 สรปุ กรอบของปญั หาแลว้ ดำเนนิ การ สบื ค้น รวบรวมขอ้ มูล ความรู้จาก วิศวกรรม ว 4.1 ม.2/4 ศาสตรต์ ่าง ๆ ทเี่ กยี่ วข้อง เพื่อนำไปสู่ การออกแบบแนวทางแกป้ ัญหา • วเิ คราะห์ เปรียบเทยี บ และตัดสินใจ เลือกข้อมลู ทีจ่ ำเปน็ โดยคำนึงถงึ เงอื่ นไขและทรัพยากร • การออกแบบแนวทางการแกป้ ญั หา ทำได้หลากหลายวิธี เชน่ การร่างภาพ การเขยี นแผนภาพ การเขยี นผังงาน • การกำหนดข้ันตอนระยะเวลา ในการทำงาน กอ่ นดำเนนิ การ แก้ปัญหาจะช่วยใหก้ ารทำงานสำเรจ็ ตามเป้าหมาย และลดข้อผิดพลาดของ การทำงานท่อี าจเกิดข้ึน

ลำดับ ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ เวลาเรยี น นำ้ หนัก และตวั ช้ีวัด (ชวั่ โมง) คะแนน 3 วัสดแุ ละเครอ่ื งมอื สำหรบั การแก้ปัญหา ว 4.2 ม.2/5 • การทดสอบและประเมนิ ผลเปน็ การ 15 4 การสรา้ งชิ้นงานดว้ ยกลไก ว 4.1 ม.2/5 ตรวจสอบชนิ้ งาน หรอื วิธีการวา่ 15 ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ สอบกลางภาค 20 ในชีวิตประจำวัน สอบปลายภาค สามารถแก้ปัญหาได้ตามวตั ถุประสงค์ 20 รวม 100 ภายใต้กรอบของปัญหา เพ่ือหา ข้อบกพร่อง และดำเนนิ การปรับปรุง ให้สามารถแกไ้ ขปัญหาได้ • การนำเสนอผลงานเป็นการถ่ายทอด แนวคดิ เพอ่ื ให้ผ้อู น่ื เข้าใจเก่ียวกบั กระบวนการทำงาน และชน้ิ งานหรอื วิธกี ารที่ได้ • วัสดแุ ต่ละประเภทมสี มบตั ิแตกตา่ งกัน 5 เช่น ไม้ โลหะ พลาสติก จึงตอ้ งมี การวิเคราะหส์ มบัติเพื่อเลือกใช้ให้ เหมาะสมกับลักษณะของงาน • อุปกรณ์และเคร่ืองมือในการสรา้ ง ชนิ้ งานหรือพฒั นาวิธีการมีหลากหลาย ประเภท ต้องเลือกใช้ให้ถูกต้อง เหมาะสม และ • การสร้างชิ้นงานอาจใชค้ วามรู้ เรื่อง 5 กลไก ไฟฟา้ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ เชน่ LED มอเตอร์ เฟือง รอก 20

โครงสร้างเวลาเรยี น รายวิชาออกแบบและเทคโนโลยี ว22102 ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 2 ภาคเรียนท่ี 1 เวลาเรียน 20 ชว่ั โมง หน่วยการเรียนร/ู้ แผนการจัดการเรียนรู้ เวลาเรียน (ชั่วโมง) หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 1 เทคโนโลยีกบั การดำรงชีวติ ของมนษุ ย์ • แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง การเปล่ียนแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี 1 • แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 เรื่อง การวเิ คราะหแ์ ละเลือกใช้รถยนตอ์ ย่างเหมาะสม 1 • แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 3 เร่ือง การวเิ คราะหแ์ ละเลือกใชค้ อมพิวเตอร์ 1 และโทรศัพทเ์ คล่ือนท่ีอยา่ งเหมาะสม หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 2 การแก้ปญั หากับกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม 1 • แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 1 เรื่อง การระบุปัญหา 1 • แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 เรื่อง การรวบรวมข้อมลู และแนวคิดทเี่ กีย่ วข้องกับปญั หา 1 • แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง การออกแบบวิธกี ารแก้ปัญหา 1 • แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 4 เรื่อง การวางแผนและดำเนินการแก้ปัญหา • แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 5 เรือ่ ง การทดสอบ ประเมินผลและปรับปรุงแก้ไข 1 1 วธิ ีการแกป้ ัญหาหรือชิ้นงาน 1 • แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 เรอื่ ง การนำเสนอวธิ ีการแก้ปัญหาผลการแกป้ ญั หาหรอื ชิน้ งาน • แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 7 เรื่อง โครงงานกบั กระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม 1 หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 วสั ดแุ ละเครอ่ื งมือสำหรับการแกป้ ัญหา 1 • แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 เรอ่ื ง การวิเคราะหค์ ุณสมบัติของวสั ดุกบั ลักษณะงาน 1 • แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 2 เร่อื ง เคร่ืองมือพื้นฐานในการสร้างชิ้นงาน 1 • แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง การสร้างชัน้ วางของข้ันบนั ไดด้วยไม้พาเลท : 1 1 • แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 4 เรอ่ื ง การสร้างช้นั วางของขน้ั บนั ไดด้วยไม้พาเลท : 2 • แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 5 เร่อื ง การสรา้ งชั้นวางของขน้ั บนั ไดด้วยไม้พาเลท : 3 1 หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 4 การสร้างชน้ิ งานด้วยกลไก ไฟฟา้ และอิเล็กทรอนิกส์ 1 ในชีวติ ประจำวัน 1 • แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 1 เรอ่ื ง กลไกของเคร่ืองมอื เครื่องใชใ้ นชีวติ ประจำวัน 1 • แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง ไฟฟา้ และอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์เบือ้ งต้น 1 • แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 3 เรอ่ื ง การสร้างชิ้นงานด้วยกลไก ไฟฟา้ และอิเลก็ ทรอนิกส์ • แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 4 เรื่อง การสร้างห่นุ ยนตเ์ ดนิ สี่ขา : 1 • แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 เรื่อง การสรา้ งหุ่นยนต์เดนิ ส่ีขา : 2 รวม 20

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 1 กล่มุ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 โรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม ภาคเรยี นท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 1 เรอื่ ง การเปลี่ยนแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง ผ้สู อนนางสาวจิราภรณ์ หว่างแสง สอนวันที่........เดือน.............พ.ศ. ........... 1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวช้ีวัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลกั ของเทคโนโลยีเพ่ือการดำรงชวี ติ ในสังคมท่ีมกี ารเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ความรู้และทักษะทางด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ น่ื ๆ เพ่ือแกป้ ญั หาหรือพฒั นางานอย่างมคี วามคิด สร้างสรรคด์ ้วยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เลือกใช้เทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม โดยคำนึงถึงผลกระทบต่อชวี ติ สังคม และสิง่ แวดล้อม ตัวชีว้ ดั ว 4.1 ม.2/1 คาดการณ์แนวโนม้ เทคโนโลยที ีจ่ ะเกดิ ข้ึน โดยพิจารณาจากสาเหตหุ รือปัจจัยทส่ี ่งผลตอ่ การ เปลย่ี นแปลงของเทคโนโลยี และวิเคราะห์เปรียบเทยี บ ตดั สินใจเลือกใชเ้ ทคโนโลยี โดยคำนึงถงึ ผลกระทบทีเ่ กิดขึ้นต่อ ชวี ิต สงั คม และส่ิงแวดลอ้ ม 2. สาระการเรียนรู้ การเปลยี่ นแปลงเทคโนโลยีเกดิ จากความต้องการของมนุษย์ท่ไี ม่มีที่ส้ินสุด ความเจริญกา้ วหน้าของศาสตร์ ตา่ ง ๆ ตลอดจนสภาพเศรษฐกจิ การทำความเขา้ ใจเก่ยี วกับสาเหตแุ ละปจั จยั ทที่ ำใหเ้ กิดการเปลี่ยนแปลงของ เทคโนโลยีต่าง ๆ จะช่วยเป็นแนวทางในการพฒั นาต่อยอดให้มีประสทิ ธภิ าพและทนั สมยั มากขึ้น และยงั ช่วยคาดการณ์ เทคโนโลยีทจ่ี ะเกดิ ข้ึนในอนาคตได้ การใช้เทคโนโลยี มีทงั้ ผลกระทบด้านบวกและด้านลบ ดังนั้นจงึ จำเปน็ ต้องคำนงึ ถงึ ผลกระทบตา่ ง ๆ ใหร้ อบด้าน ทง้ั ผลกระทบท่เี กิดขึน้ ต่อมนษุ ย์ สังคม และเศรษฐกิจ 3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธิบายการเปลย่ี นแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี (K) 2. คาดการณ์เทคโนโลยีทจี่ ะเกิดขึ้นในอนาคต (P) 3. มีความกระตือรอื รน้ ในการปฏิบตั ิกจิ กรรมการเรยี นรู้ (A) 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการส่ือสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุง่ มัน่ ในการทำงาน

6. กระบวนการจดั การเรียนรู้ 1.ขน้ั สงั เกต รวบรวมข้อมลู (Gathering) 1. นกั เรยี นรว่ มกันสังเกตเทคโนโลยใี นชวี ิตประจำวันทีม่ ีการเปล่ยี นแปลง โดยบนั ทึกคำตอบ เปน็ แผนภาพความคิด ดงั นี้ โทรทัศน์ โทรศัพท์เคลื่อนท่ี คอมพวิ เตอร์ หม้อหงุ ข้าว เตารดี เทคโนโลยี ในชีวิตประจำวัน ทม่ี กี ารเปลี่ยนแปลง รถยนต์ เครื่องซักผ้า 2. นักเรียนร่วมกันตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ดังน้ี • ในชีวิตประจำวนั นักเรียนใช้เทคโนโลยีอะไรบา้ งในการอำนวยความสะดวกให้กับตนเอง (ตวั อย่างคำตอบ โทรศพั ท์เคล่ือนท่ี คอมพวิ เตอร์ เคร่ืองซักผา้ และรถยนต์) 3. นักเรยี นรว่ มกนั สงั เกตภาพการเดนิ ทางของมนุษย์ แล้วตอบคำถาม ดังน้ี ภาพที่ 1 ภาพที่ 2 ภาพท่ี 3 • นกั เรยี นอธิบายภาพท่ี 1 (เปน็ การเดนิ ทางด้วยเทา้ ในอดตี ) • นักเรยี นอธิบายภาพที่ 2 (เปน็ การเดินทางดว้ ยยานพาหนะในปจั จบุ นั )

• นกั เรียนอธิบายภาพท่ี 3 (เป็นการเดินทางด้วยไอพ่นสว่ นตวั และเป็นการเดินทางในอนาคต) • จากภาพเปน็ ภาพเกยี่ วกบั อะไร (การพฒั นาเทคโนโลยกี ารเดินทางของมนุษย)์ 4. นักเรียนรว่ มกนั ศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มูลเกีย่ วกบั การเปลยี่ นแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี จากแหล่งการเรยี นร้ตู ่าง ๆ อยา่ งหลากหลาย เช่น อินเทอร์เนต็ หนงั สือเรยี น 2.ขนั้ คิดวเิ คราะห์และสรปุ ความรู้ (Processing) 5. นักเรียนร่วมกนั วเิ คราะห์เกย่ี วกบั การเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยี แลว้ ยกตัวอยา่ งเทคโนโลยี ในชีวติ ประจำวนั ท่ีมกี ารเปลี่ยนแปลง โดยเขยี นบนั ทกึ คำตอบลงในตาราง ดงั ตัวอย่าง ช่ือเทคโนโลยี ลกั ษณะของการเปล่ียนแปลง สาเหตุของการเปลยี่ นแปลง 1. โทรทศั น์ • เปลี่ยนจากจอภาพขาวดำ • ตอ้ งการภาพเสมือนจรงิ มีสีสัน 2. โทรศพั ทเ์ คล่อื นท่ี มาเปน็ จอภาพสี • ต้องการให้น้ำหนักเบา 3. คอมพวิ เตอร์ • เปลย่ี นจากรปู ทรงส่ีเหลีย่ มคล้าย ไม่เปลอื งพ้ืนท่ี เคลอ่ื นย้ายสะดวก กลอ่ งมาเป็นรปู ทรงบาง โคง้ มน • เปลย่ี นจากการพดู คุยทางเสียง • ต้องการทำให้โทรศัพท์มี ไดอ้ ย่างเดียวมาเป็นสง่ ขอ้ ความ ประโยชนม์ ากกว่าการสือ่ สาร อา่ นขา่ ว ดหู นงั ฟังเพลง ใช้ค้นหา จึงพัฒนาใหส้ ามารถใช้ประโยชน์ ขอ้ มลู ได้ ด้านอน่ื ๆ ได้อีกมากมาย • เปลยี่ นจากตัวเครื่องทใ่ี หญ่ • ต้องการให้พกพาได้สะดวก มาเป็นขนาดเล็ก • ต้องการใหค้ อมพวิ เตอรท์ ำงาน • เปลย่ี นจากประสิทธิภาพในการ ได้รวดเรว็ ใช้เวลาประมวลผลน้อย ประมวลผลช้ามาเป็นประมวลผล ถูกต้อง แม่นยำ ได้อยา่ งรวดเรว็ 6. นักเรียนร่วมกนั วิเคราะห์ภาพเทคโนโลยี แล้วบอกสาเหตุของการเปลยี่ นแปลงของเทคโนโลยีต่อไปนี้ • เครื่องช่งั นำ้ หนักแบบเขม็ เป็นเครื่องช่ังน้ำหนักแบบดจิ ิทัล (สาเหตุของการเปลีย่ นแปลง คอื ต้องการความแม่นยำและความรวดเรว็ ในการช่งั น้ำหนัก)

• ตะเกียงเปน็ ไฟฉาย (สาเหตุของการเปล่ียนแปลง คอื ต้องการความสะดวกในการพกพาและความสว่างทีส่ ม่ำเสมอ) • ขวดแกว้ เปลีย่ นเป็นขวดพลาสติก (สาเหตุของการเปลยี่ นแปลง คือ ต้องการใหม้ ีน้ำหนกั เบา ไมแ่ ตก พกพางา่ ย) 7. นกั เรยี นรว่ มกันวิเคราะห์คุณสมบัติในอนาคตของเทคโนโลยีตอ่ ไปน้ี คุณสมบัติในอนาคต (• พวงมาลยั เปลีย่ นเป็นแท็บเลต็ ได้ • มรี ะบบ AI เขา้ มาช่วยเหลือ • ใชพ้ ลงั งานไฮโดรเจนแทนน้ำมนั หรือพลงั งานทดแทนอ่ืน ๆ • ใชพ้ ลังงานไฟฟา้ เตม็ รปู แบบ • จอดรถให้อัตโนมตั )ิ

คุณสมบตั ิในอนาคต (• รปู ทรงเปลี่ยนไปจากเดิม เช่น มรี ปู ทรงคลา้ ยปากกา แหวน • มีลกั ษณะโคง้ งอได้ • มเี ทคโนโลยปี ญั ญาประดิษฐห์ รอื AI • มีเทคโนโลยี AR ทำใหเ้ ห็นภาพเสมือนจริง • แบตเตอรี่ทำงานไดย้ าวนานข้ึน • ใชป้ ระโยชนไ์ ดห้ ลากหลายมากขนึ้ ) คณุ สมบตั ิในอนาคต (• สามารถใชแ้ ทนโทรศัพทเ์ คลอื่ นทไ่ี ด้ • แสดงหน้าจอในรูปแบบสมาร์ตโฟน • ถ่ายภาพ บนั ทึกวดิ โี อได้ • ฉายวดิ ีโอเสมอื นจริงได้ • ตรวจสอบการทำงานของรา่ งกาย)

8. นักเรยี นรว่ มกันวิเคราะห์เกี่ยวกับผลกระทบของเทคโนโลยี โดยบอกประโยชนแ์ ละผลกระทบ จากเทคโนโลยีต่อไปน้ี ประโยชน์ ผลกระทบ (• ใช้ในการบรรจุสิ่งของ ทำให้ (• เปน็ มลภาวะต่อสงิ่ แวดล้อม เคล่ือนย้ายได้สะดวก • ปญั หาขยะ • สามารถนำมาหลอมละลาย • ใช้เวลานานในการย่อยสลาย และขนึ้ รูปใหมไ่ ด้ โดยธรรมชาติ • มนี ้ำหนักเบา ทำให้พกพา • ถา้ นำไปเผาจะทำใหเ้ กิด สะดวก) แกส๊ พิษ ประโยชน์ ผลกระทบ (• ใชใ้ นการเดนิ ทาง อยา่ งรวดเร็ว (• ในการสร้างเสน้ ทาง • มคี วามเส่ียงต่ออุบัติเหตุน้อย) ตอ้ งทำลายระบบนิเวศป่า • อาจชนกับสัตว์ป่า ทำใหส้ ัตว์ 6.2 ออกแบบ ป่าลดจำนวนลง) ประโยชน์ ผลกระทบ (• เปน็ พลังงานไฟฟา้ สำรอง (• เกิดการปนเป้ือนต่อดนิ ท่สี ามารถพกพาไปไหนได้ น้ำใต้ดนิ และแหลง่ ผวิ นำ้ สะดวก) เมอ่ื ทิ้งลงในบริเวณนั้น • ทำให้เกดิ มลพษิ ทางอากาศ • กำจัดยาก) ประโยชน์ ผลกระทบ (• ชว่ ยปรบั อุณหภมู หิ อ้ ง (• ส้ินเปลอื งพลงั งานไฟฟ้า ใหเ้ ย็นสบาย) • ถ้าเปิดเคร่ืองปรับอากาศ เปน็ เวลานานอาจทำให้ไม่สบาย • ใช้เป็นสารเคมีที่ทำลาย ส่งิ แวดลอ้ ม)

ประโยชน์ ผลกระทบ (• ใชใ้ นการเดินทางไดส้ ะดวก (• อาจเกดิ อบุ ตั ิเหตุได้งา่ ย รวดเรว็ • กอ่ ให้เกดิ มลภาวะ • ใชข้ นย้ายสงิ่ ของ) ทางอากาศ • เสียงดงั รบกวนผ้อู ืน่ ) ประโยชน์ (• ชว่ ยกำจัดศตั รูพชื ได้ ผลกระทบ ในเวลาอนั รวดเรว็ (• ทำให้เกดิ สารพษิ ตกคา้ ง • ใช้ตน้ ทุนในการกำจดั ศัตรูพืช ในพชื และสตั ว์ นอ้ ย) • ทำใหส้ ิง่ แวดลอ้ มเป็นพิษ • มสี ารพิษสะสมในร่างกาย ส่งผลเสยี ตอ่ สขุ ภาพ) 9. นักเรียนร่วมกนั วเิ คราะห์ โดยตอบคำถามกระตุ้นความคดิ ดังน้ี • เพราะเหตุใดเทคโนโลยีจงึ มีการพฒั นาหรือเปลยี่ นแปลงอยู่ตลอดเวลา (ตวั อย่างคำตอบ เพ่ือตอบสนองความต้องการของมนุษย์ท่ีไมม่ ีที่สน้ิ สดุ และเพื่อแก้ปัญหา ทเี่ กดิ จากเทคโนโลยีก่อนหน้า) • เทคโนโลยแี ตล่ ะอย่างมีประโยชน์ต่อมนษุ ย์โดยไมม่ ีผลเสียใช่หรอื ไม่ (ไมใ่ ช)่ 10. นักเรยี นร่วมกนั สรปุ ความคิดรวบยอดเกยี่ วกับการเปลยี่ นแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี ดังน้ี มนุษย์สร้างเทคโนโลยีข้นึ มาเพ่อื ตอบสนองความต้องการและใช้แก้ปัญหาตา่ ง ๆ ทำให้มนษุ ย์ มคี วามสะดวกสบายมากย่งิ ข้ึน การใช้เทคโนโลยมี ที ง้ั ผลกระทบดา้ นบวกและดา้ นลบ ควรเลือกใช้เทคโนโลยใี ห้ เหมาะสม และศึกษาแนวทางการป้องกนั และแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ท่ีอาจเกดิ ขึ้น 3.ขน้ั ปฏบิ ตั แิ ละสรปุ ความรู้หลงั การปฏบิ ตั ิ (Applying and Constructing the Knowledge) 11. นักเรียนแบง่ กลุ่มตามความเหมาะสม ออกแบบเทคโนโลยีทอ่ี าจเกดิ ขนึ้ ในอนาคตตามจนิ ตนาการและ ตกแต่งให้สวยงาม แล้วตอบคำถามลงในชิน้ งานที่ 1 เทคโนโลยแี ห่งอนาคต 12. นักเรียนร่วมกันสรุปสิง่ ท่ีเขา้ ใจเป็นความรรู้ ว่ มกัน ดังนี้ การเปลยี่ นแปลงเทคโนโลยีเกดิ จากความต้องการของมนุษย์ทไ่ี ม่มที สี่ น้ิ สดุ ความเจริญกา้ วหนา้ ของศาสตร์ต่าง ๆ ตลอดจนสภาพเศรษฐกจิ การทำความเข้าใจเก่ยี วกับสาเหตุและปจั จยั ทท่ี ำใหเ้ กดิ การเปล่ียนแปลง ของเทคโนโลยตี า่ ง ๆ จะชว่ ยเป็นแนวทางในการพัฒนาต่อยอดใหม้ ปี ระสิทธิภาพและทันสมัยมากข้ึน และยังช่วย คาดการณ์เทคโนโลยีทีจ่ ะเกิดข้นึ ในอนาคตได้ การใช้เทคโนโลยีมที ้ังผลกระทบด้านบวกและด้านลบ ดงั น้นั จงึ จำเปน็ ต้อง คำนึงถงึ ผลกระทบตา่ ง ๆ ใหร้ อบดา้ น ทง้ั ผลกระทบที่เกดิ ขึ้นตอ่ มนษุ ย์ สังคม และเศรษฐกิจ

13. นกั เรยี นแต่ละกล่มุ ออกมานำเสนอเทคโนโลยแี หง่ อนาคตของกลมุ่ ตนเองหนา้ ช้ันเรียน เพ่อื แลกเปลี่ยนเรยี นรู้กนั อาจใช้โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ในการนำเสนอ เพ่ือให้เห็นข้อมลู ไดช้ ัดเจน และนา่ สนใจ 7. ส่ือการเรยี นรู้ 7.1 สอื่ การเรยี นรู้/แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น รายวชิ าพื้นฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. ภาพการเดินทางของมนุษย์ 3. ภาพเทคโนโลยี 4. แหล่งการเรียนรู้ท้ังภายในและภายนอกโรงเรยี น 8. กระบวนการวัดและประเมนิ ผล 1. ประเมินความรู้ เรื่อง การเปล่ียนแปลงและผลกระทบของเทคโนโลยี (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม (P) ดว้ ยแบบประเมิน 3. ประเมินช้ินงาน เร่อื ง เทคโนโลยีแห่งอนาคต (P) ดว้ ยแบบประเมนิ 4. ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มุง่ มั่นในการทำงาน (A) ด้วยแบบประเมนิ แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ (Rubrics) แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลุ่ม รายการการประเมนิ ระดบั คุณภาพ กระบวนการ 432 1 ทำงานกลุม่ ไมม่ ีการกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท บทบาทสมาชกิ และไมม่ ีการชี้แจง สมาชกิ ชัดเจน สมาชกิ ชดั เจน เฉพาะหัวหนา้ เปา้ หมาย สมาชิก ต่างคนต่างทำงาน และมกี ารช้แี จงเปา้ หมาย มีการชแ้ี จงเปา้ หมาย ไม่มีการชี้แจงเป้าหมาย การทำงาน อย่างชดั เจนและ อยา่ งชัดเจน มีการปฏิบตั ิงานร่วมกนั ปฏิบตั ิงานร่วมกัน ปฏิบตั ิงานรว่ มกนั อยา่ งร่วมมือร่วมใจ แตไ่ มม่ กี ารประเมิน ไมค่ รบทุกคน พร้อมกับการประเมนิ เปน็ เป็นระยะ ๆ ระยะ ๆ

แบบประเมนิ ช้นิ งานท่ี 1 เรอื่ ง เทคโนโลยีแห่งอนาคต รายการการ ระดบั คณุ ภาพ ประเมิน 4 3 2 1 การออกแบบ ออกแบบเทคโนโลยี ออกแบบเทคโนโลยี ออกแบบเทคโนโลยี ออกแบบเทคโนโลยี เทคโนโลยใี นอนาคต ได้สวยงาม ได้สวยงาม และส่อื ความหมายได้ และสอื่ ความหมายได้ บอกชือ่ เทคโนโลยี และสื่อความหมายได้ และสอื่ ความหมายได้ บอกช่อื สาเหตุของ บอกชือ่ สาเหตุของ สาเหตุของ ชดั เจน บอกช่ือ ดี บอกชอ่ื สาเหตุของ การเปลี่ยนแปลงและ การเปลยี่ นแปลงและ การเปลี่ยนแปลง สาเหตุของการ การเปลย่ี นแปลงและ สามารถเปรยี บเทียบ สามารถเปรียบเทียบ และเปรียบเทยี บ เปลีย่ นแปลง สามารถเปรยี บเทียบ เทคโนโลยีแบบเดิม เทคโนโลยีแบบเดิม เทคโนโลยีแบบเดมิ และสามารถ เทคโนโลยแี บบเดมิ และแบบใหม่ได้ดี และแบบใหมไ่ ด้ไม่ และแบบใหม่ เปรยี บเทียบ และแบบใหม่ได้อย่าง พอสมควร ละเอยี ด เทคโนโลยแี บบเดิม ถูกต้อง และแบบใหม่ได้อย่าง ถกู ต้อง ละเอียด แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ใฝ่เรยี นรู้ ตวั ชวี้ ดั ที่ 4.1 ตัง้ ใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเข้าร่วมกิจกรรมการเรยี นรู้ พฤติกรรมบ่งช้ี ดีเยี่ยม (3) ดี (2) ผา่ น (1) ไม่ผ่าน (0) 4.1.1 ต้งั ใจเรยี น 4.1.2 เอาใจใส่ เข้าเรียนตรงเวลา เขา้ เรียนตรงเวลา เขา้ เรยี นตรงเวลา ไม่ต้งั ใจเรยี น และมีความเพียร พยายาม ตัง้ ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้ังใจเรยี น เอาใจใส่ ในการเรยี นรู้ 4.1.3 สนใจเข้ารว่ ม และมีความเพยี ร และมีความเพยี ร ในการเรียน มีสว่ นรว่ ม กิจกรรมการเรยี นรู้ ตา่ ง ๆ พยายาม พยายาม ในการเรียนรู้ และเข้า ในการเรียนรู้ มีสว่ น ในการเรียนรู้ มีส่วน ร่วมกจิ กรรมการ ร่วมในการเรียนรู้ และ รว่ มในการเรยี นรู้ และ เรยี นร้ตู ่าง ๆ เขา้ ร่วมกจิ กรรมการ เข้ารว่ มกจิ กรรมการ เปน็ บางครง้ั เรยี นร้ตู ่าง ๆ เรยี นรตู้ า่ ง ๆ บ่อยครั้ง ทงั้ ภายในและ ภายนอกโรงเรยี นเปน็ ประจำ

มงุ่ ม่ันในการทำงาน ตวั ช้ีวดั ที่ 6.1 ต้งั ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีการงาน พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ยี่ยม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบ ตง้ั ใจและรับผิดชอบ ไมต่ ้งั ใจปฏิบัติ 6.1.1 เอาใจใส่ต่อ ตั้งใจและรับผดิ ชอบ ในการปฏบิ ัติหนา้ ท่ี ในการปฏิบตั หิ น้าที่ หนา้ ที่การงาน ที่ไดร้ ับมอบหมาย ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย การปฏิบัตหิ น้าที่ ในการปฏิบัตหิ นา้ ท่ี ใหส้ ำเร็จ มีการ ใหส้ ำเร็จ ปรบั ปรุงและ ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย พฒั นาการทำงานให้ ดขี ้ึน 6.1.2 ตงั้ ใจและ ให้สำเร็จ มีการ รบั ผดิ ชอบใน ปรับปรงุ และ การทำงานให้ พัฒนาการทำงานให้ สำเรจ็ ดีข้ึนด้วยตนเอง 6.1.3 ปรับปรุงและ พฒั นาการทำงาน ด้วยตนเอง

9. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของหัวหนา้ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ (นางสาวฐิตมิ า สวาสนา) ตำแหนง่ หัวหน้ากลมุ่ สาระวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี วนั ที่..........เดอื น...........................พ.ศ............. 10. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของผชู้ ว่ ยผู้อำนวยการกลมุ่ งานบริหารวิชาการ ............................................................................................................................. ................................................. ......................................................................................................................................... ..................................... ............................................................................................................................. ................................................. ลงชือ่ (นายวิรพงษ์ ปะนามะเส) ตำแหนง่ ผู้ช่วยผู้อำนวยการกลุ่มงานบริหารวชิ าการ วนั ท.ี่ .........เดอื น...........................พ.ศ............. 11. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของรองผู้อำนวยการโรงเรียน ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอื่ (นางเยาวลกั ษณ์ สอนสะอาด) ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรยี นลำทะเมนไชยพิทยาคม วันที่..........เดือน...........................พ.ศ.............

12. ความคดิ เห็น/ขอ้ เสนอแนะของผอู้ ำนวยการโรงเรยี น ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอ่ื (นายนภภมู ิ แกว้ วเิ ศษ) ตำแหนง่ ผอู้ ำนวยการโรงเรียนลำทะเมนไชยพทิ ยาคม วนั ที.่ .........เดือน...........................พ.ศ............. 13. บนั ทึกผลหลังการจดั การเรยี นรู้ 13.1 ผลการเรยี นรทู้ ี่เกิดข้ึนกบั ผู้เรยี น ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 13.2 ปญั หา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. 13.3 ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................................................................................................... .......... ลงชือ่ ..............................ผ้สู อน (นางสาวจริ าภรณ์ หวา่ งแสง) ตำแหนง่ ครูผู้ช่วย ………../………./………… ผู้ประเมนิ

แผนการจดั การเรยี นรู้ หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 1 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 โรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศกึ ษา 2566 แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ 2 เรอ่ื ง การวิเคราะห์และเลอื กใช้รถยนต์อย่างเหมาะสม เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผู้สอนนางสาวจิราภรณ์ หวา่ งแสง สอนวันที.่ .......เดอื น.............พ.ศ. ........... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั /ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยเี พ่ือการดำรงชวี ิตในสังคมท่ีมีการเปลี่ยนแปลงอยา่ งรวดเร็ว ใช้ความรูแ้ ละทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ ื่น ๆ เพื่อแก้ปญั หาหรือพัฒนางานอยา่ งมคี วามคิด สร้างสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชงิ วิศวกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยีอยา่ งเหมาะสม โดยคำนึงถึงผลกระทบตอ่ ชวี ติ สังคม และส่ิงแวดล้อม ตวั ชีว้ ัด ว 4.1 ม.2/1 คาดการณ์แนวโน้มเทคโนโลยีที่จะเกิดขนึ้ โดยพจิ ารณาจากสาเหตหุ รือปจั จัยท่ีสง่ ผลตอ่ การ เปลี่ยนแปลงของเทคโนโลยี และวิเคราะหเ์ ปรียบเทียบ ตดั สินใจเลอื กใช้เทคโนโลยี โดยคำนงึ ถึงผลกระทบทเ่ี กดิ ขนึ้ ต่อ ชีวติ สงั คม และสง่ิ แวดลอ้ ม 2. สาระการเรียนรู้ รถยนตส์ ่งผลตอ่ คุณภาพชีวิตของมนษุ ย์ในปจั จบุ นั เปน็ อย่างมาก เชน่ ใช้ในการเดินทาง และรถยนตย์ ังเป็น ตัวชว่ ยในการขับเคลอื่ นเศรษฐกจิ เช่น การคมนาคมขนสง่ และรถยนตย์ งั ส่งผลเสยี ต่อสงิ่ แวดล้อมโดยการปล่อยไอเสยี หรือเขม่า จงึ ทำให้เกดิ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ ซึง่ เปน็ หน่ึงในแก๊สทท่ี ำให้เกิดปรากฏการณ์แก๊สเรือนกระจก และทำให้ เกิดภาวะโลกร้อนตามมา ดังนนั้ จงึ ควรหาวธิ ีปอ้ งกันและวธิ แี ก้ปัญหาในการใช้รถยนต์ทีเ่ หมาะสม 3. จุดประสงค์การเรยี นรู้ 1. อธิบายผลกระทบที่เกดิ จากรถยนต์ (K) 2. วเิ คราะห์ผลกระทบและการเลอื กใชร้ ถยนต์อยา่ งเหมาะสม (P) 3. เหน็ ความสำคญั ของผลกระทบและการเลือกใช้รถยนตอ์ ยา่ งเหมาะสม (A) 4. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคิด 3. ความสามารถในการแกป้ ญั หา 4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 5. คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. มุ่งมน่ั ในการทำงาน

6. กระบวนการจดั การเรยี นรู้ 1.ข้ันสังเกต รวบรวมข้อมูล (Gathering) 1. นกั เรยี นร่วมกนั สังเกตภาพรถยนต์ แลว้ ตอบคำถาม ดังนี้ • จากภาพสื่อถงึ อะไร (ตัวอยา่ งคำตอบ มลภาวะทางอากาศท่เี กิดจากรถยนต)์ • จากภาพสง่ ผลกระทบด้านบวกอย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ ชว่ ยให้การเดนิ ทางสะดวกขึน้ และใช้เวลาน้อย) • จากภาพส่งผลกระทบดา้ นลบอยา่ งไร (ตัวอย่างคำตอบ ควันไอเสียและเขมา่ ทีเ่ กดิ จากรถยนต์ ก่อให้เกดิ มลภาวะทางอากาศ และในบริเวณที่การจราจรติดขัด ทำให้เกิดความเครียดสะสม ส่งผลกระทบต่อสุขภาพผู้ใชร้ ถใช้ถนน) 2. นกั เรยี นร่วมกันศึกษาคน้ คว้าข้อมลู เกยี่ วกบั การวิเคราะห์และเลือกใชร้ ถยนต์อย่างเหมาะสม จากแหล่งการเรยี นรู้ต่าง ๆ อย่างหลากหลาย เชน่ อนิ เทอรเ์ นต็ หนงั สือเรียน 2.ข้นั คิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ (Processing) 3. นักเรยี นร่วมกันวเิ คราะห์ผลกระทบด้านบวกและด้านลบของรถยนต์ โดยบนั ทึกคำตอบ เปน็ แผนภาพความคิด ดังตวั อย่าง ผลกระทบของรถยนต์ ด้านบวก ด้านลบ ชว่ ยให้การเดนิ ทางสะดวกขน้ึ ใชเ้ วลาน้อยลง อาจทำให้เกิดอบุ ตั เิ หตุได้ ชว่ ยใหก้ ารตดิ ตอ่ ทางคมนาคมรวดเรว็ ยิ่งขน้ึ ก่อใหเ้ กิดมลภาวะทางอากาศ ขนส่งสนิ คา้ ได้ครงั้ ละปริมาณมาก ในบริเวณท่ีการจราจรตดิ ขัด และมคี วามรวดเร็ว ทำใหเ้ กดิ ความเครยี ด

4. นกั เรยี นรว่ มกันวิเคราะหก์ ารใชร้ ถยนต์ที่ส่งผลกระทบด้านคุณภาพของชวี ติ และสงั คม แล้วตอบคำถาม ดงั นี้ • ในชีวิตประจำวัน นักเรยี นใช้ประโยชน์จากรถยนต์อย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ใช้ในการเดินทางมาโรงเรยี นโดยผู้ปกครองขับยนต์รถมาส่ง และใชใ้ นการเดินทางไปเทีย่ วตา่ งจังหวดั ) • ความแตกตา่ งระหว่างการเดินทางดว้ ยเทา้ กับการเดินทางดว้ ยรถยนต์คืออะไร (ตัวอยา่ งคำตอบ เวลาท่ีใชใ้ นการเดนิ ทาง โดยการเดนิ ทางดว้ ยเทา้ จะใชเ้ วลานานกวา่ การเดนิ ทางดว้ ยรถยนต์) • นกั เรยี นวางแผนการเดินทางไปตา่ งจงั หวัดหรอื สถานท่ีทยี่ ังไมเ่ คยไปอยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ค้นหาเส้นทางการเดนิ ทางจากเวบ็ ไซต์ https://www.google.com/maps เพ่อื ศกึ ษาเส้นทางท่ใี กลท้ ่ีสดุ และปอ้ งกันการหลงทาง) • นกั เรียนคาดการณ์เกย่ี วกบั การใชร้ ถยนต์ในอนาคตว่าจะเป็นอย่างไร และส่งผลกระทบอยา่ งไร (ตัวอยา่ งคำตอบ จำนวนของรถยนตจ์ ะเพิม่ มากข้ึน จงึ ส่งผลใหเ้ กดิ การจราจรติดขัด และเกดิ อบุ ตั ิเหตุเพิ่มมากขน้ึ ) 5. นักเรยี นรว่ มกนั วเิ คราะหก์ ารใชร้ ถยนต์ที่ส่งผลกระทบตอ่ เศรษฐกิจ แลว้ ตอบคำถาม ดังนี้ • โลจสิ ติกส์ (Logistics) คืออะไร (เปน็ ระบบการจัดการการส่งสินค้า ข้อมลู และทรัพยากรอย่างอ่ืน จากจดุ ตน้ ทางไปยังจุดบริโภคตามความต้องการของ ลกู คา้ ) • การขนสง่ สินค้าในปัจจุบันเป็นอย่างไร (ตวั อยา่ งคำตอบ เป็นการขนส่งสนิ ค้าดว้ ยรถกระบะ รถบรรทกุ และรถจักรยานยนต์ทีม่ กี ารขนสง่ อย่างรวดเรว็ ) • นักเรียนคิดวา่ ในอนาคตการขนส่งสินค้าจะเปน็ อย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ จะขนสง่ สนิ ค้าได้อย่างรวดเร็ว อาจนำเทคโนโลยใี หม่ ๆ เขา้ มาใชง้ าน เช่น โดรนส่งของ) • ผลกระทบด้านลบของการใช้รถยนตด์ ้านเศรษฐกิจคืออะไร (ตวั อย่างคำตอบ เกดิ ปัญหาทางการเงินกบั สถาบันทางการเงินจากการกู้เงินแล้วไมใ่ ชห้ นี้ จงึ ทำให้ส่งผลเสียต่อระบบ เศรษฐกจิ ) 6. นกั เรยี นร่วมกันวิเคราะหก์ ารใช้รถยนต์ที่สง่ ผลกระทบกับสง่ิ แวดลอ้ ม แลว้ ตอบคำถาม ดงั น้ี • รถยนต์สง่ ผลกระทบกบั สงิ่ แวดล้อมอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ก่อให้เกดิ โรครา้ ยแก่มนุษยจ์ ากไอเสียและเขมา่ รถยนต์ อกี ทั้งในไอเสียจะมีแก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ ซ่ึง เปน็ หนึ่งในแก๊สท่ีทำให้เกดิ ปรากฏการณ์แกส๊ เรือนกระจก ซึ่งทำให้ผวิ โลกร้อนขึน้ ส่งผลใหก้ ารใช้ชวี ติ ลำบากมากข้นึ ) • ถา้ ในอนาคตรถยนต์มจี ำนวนมากขึน้ จะส่งผลกระทบอย่างไรตอ่ ส่ิงแวดล้อม (ตวั อย่างคำตอบ เกิดมลพิษทางอากาศมากข้นึ และเกดิ ฝนุ่ PM 2.5 ตามมา ซึ่งเปน็ อันตรายต่อมนุษย์ อกี ทงั้ ทำใหเ้ กิด ภาวะโลกร้อนมากยิ่งขึ้น) 7. นกั เรียนรว่ มกนั วิเคราะห์วธิ ีป้องกนั และวธิ ีแกป้ ัญหาในการใช้รถยนต์ แล้วตอบคำถาม ดังนี้ • นักเรียนมีวิธปี อ้ งกันการเกิดอุบัตเิ หตุจากการใช้รถยนต์อย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ตรวจสภาพรถยนตก์ ่อนออกเดนิ ทาง ขับรถด้วยความไม่ประมาท และขับในอัตราเร็วท่ีกฎหมาย กำหนด ปฏบิ ัตติ ามกฎจราจร เมาไม่ขบั ถ้างว่ งควรนอนพกั )

• นักเรียนมีวิธแี ก้ปัญหาการจราจรตดิ ขัดอย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ลดการใชร้ ถยนต์สว่ นตัว โดยหันไปใช้ระบบขนส่งสาธารณะ) • นักเรยี นมวี ธิ ีลดมลภาวะทางอากาศจากการใช้รถยนตไ์ ด้อย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ปรบั ปรุงรถยนต์จากการใช้นำ้ มันมาเป็นการใชพ้ ลงั งานไฟฟา้ หรือสรา้ งนำ้ มนั เชอื้ เพลิงท่ีปลอ่ ยแก๊ส คาร์บอนไดออกไซดน์ ้อยลง) 8. นกั เรยี นรว่ มกนั วิเคราะห์ โดยตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ดังนี้ • การเลือกใชเ้ ทคโนโลยีควรพิจารณาถงึ สิง่ ใดบ้าง (ตวั อยา่ งคำตอบ จุดประสงค์ของการใช้งาน และผลกระทบทเ่ี กดิ จากเทคโนโลยี) 9. นกั เรียนร่วมกนั สรปุ ความคิดรวบยอดเก่ยี วกับการวเิ คราะห์และเลอื กใช้รถยนต์อยา่ งเหมาะสม ดงั นี้ การใช้รถยนต์ควรคำนงึ ถงึ ผลกระทบดา้ นคณุ ภาพของชีวติ และสังคม ด้านเศรษฐกจิ และด้านสิ่งแวดล้อม และควรหาวธิ ปี อ้ งกันและวธิ แี กป้ ญั หาเพ่ือเปน็ แนวทางในการปฏิบัติท่ีเหมาะสม จงึ จะสง่ ผลให้เกดิ การใชร้ ถยนต์ได้อย่าง มปี ระสิทธิภาพและปลอดภยั มากย่งิ ขึ้น 3.ขั้นปฏบิ ัติและสรปุ ความรู้หลงั การปฏบิ ตั ิ (Applying and Constructing the Knowledge) 10. นกั เรียนแบง่ กลุ่มตามความเหมาะสม รว่ มกันสืบคน้ ข้อมลู บนอนิ เทอรเ์ น็ตเกี่ยวกับรถยนต์ในอนาคต จากนน้ั รว่ มกันออกแบบรถยนตใ์ นอนาคตของตนเอง โดยใชค้ อมพิวเตอรใ์ นการออกแบบพร้อมอธิบายคุณสมบตั ิพิเศษของ รถยนต์ 11. นกั เรียนร่วมกนั สรปุ สิ่งท่ีเข้าใจเป็นความรรู้ ่วมกัน ดงั นี้ รถยนต์สง่ ผลตอ่ คุณภาพชีวติ ของมนุษยใ์ นปจั จุบันเป็นอย่างมาก เชน่ ใชใ้ นการเดินทางและรถยนตย์ งั เป็น ตัวช่วยในการขับเคลือ่ นเศรษฐกิจ เช่น การคมนาคมขนส่ง และรถยนตย์ ังส่งผลเสยี ต่อสิง่ แวดล้อม โดยการปลอ่ ยไอเสยี หรอื เขมา่ จึงทำให้เกิดแก๊สคารบ์ อนไดออกไซด์ ซง่ึ เป็นหนงึ่ ในแกส๊ ที่ทำใหเ้ กิดปรากฏการณ์แกส๊ เรือนกระจก และทำให้ เกดิ ภาวะโลกรอ้ นตามมา ดังนน้ั จงึ ควรหาวธิ ีป้องกนั และวธิ ีแกป้ ญั หาในการใชร้ ถยนต์ท่ีเหามะสม 12. นกั เรยี นแต่ละกลุม่ ออกมานำเสนอเกยี่ วกับรถยนตใ์ นอนาคตของกลมุ่ ตนเองหน้าช้ันเรียนเพอ่ื แลกเปล่ียน เรยี นรูก้ นั อาจใชโ้ ปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการนำเสนอ เพ่ือให้เห็นข้อมลู ได้ชัดเจนและน่าสนใจ 7. ส่ือการเรียนรู้ 7.1 ส่ือการเรยี นรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียน รายวิชาพ้นื ฐานวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลย)ี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 ของสถาบนั พฒั นาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. ภาพรถยนต์ 3. คอมพวิ เตอร์ 4. แหล่งการเรยี นรู้ทง้ั ภายในและภายนอกโรงเรียน 8. กระบวนการวัดและประเมนิ ผล 1. ประเมินความรู้ เรอ่ื ง การวเิ คราะหแ์ ละเลือกใชร้ ถยนตอ์ ย่างเหมาะสม (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม (P) ด้วยแบบประเมิน 3. ประเมินคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มุ่งม่นั ในการทำงาน (A) ดว้ ยแบบประเมิน

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics) แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม รายการการประเมิน ระดบั คุณภาพ กระบวนการ 432 1 ทำงานกลมุ่ ไมม่ กี ารกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท บทบาทสมาชิก และไมม่ กี ารช้ีแจง สมาชกิ ชดั เจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหวั หนา้ เปา้ หมาย สมาชกิ ตา่ งคนตา่ งทำงาน และมกี ารชี้แจงเปา้ หมาย มกี ารชี้แจงเป้าหมาย ไมม่ กี ารชี้แจงเปา้ หมาย การทำงาน อย่างชัดเจนและ อยา่ งชดั เจน มีการปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั ปฏบิ ัติงานรว่ มกนั ปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั อยา่ งรว่ มมือร่วมใจ แต่ไมม่ ีการประเมนิ ไม่ครบทกุ คน พรอ้ มกบั การประเมินเปน็ เปน็ ระยะ ๆ ระยะ ๆ แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ ตวั ช้วี ัดท่ี 4.1 ตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเยีย่ ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) 4.1.1 ตัง้ ใจเรียน 4.1.2 เอาใจใส่ เขา้ เรียนตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา เข้าเรยี นตรงเวลา ไม่ตั้งใจเรียน และมคี วามเพยี ร พยายาม ตง้ั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ ในการเรียนรู้ 4.1.3 สนใจเขา้ รว่ ม และมีความเพยี ร และมคี วามเพยี ร ในการเรียน มีส่วนร่วม กิจกรรมการเรยี นรู้ ตา่ ง ๆ พยายาม พยายาม ในการเรียนรู้ และเข้า ในการเรยี นรู้ มสี ่วน ในการเรียนรู้ มีสว่ น รว่ มกจิ กรรมการ รว่ มในการเรยี นรู้ และ รว่ มในการเรยี นรู้ และ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ เขา้ ร่วมกิจกรรมการ เข้าร่วมกิจกรรมการ เป็นบางคร้งั เรียนร้ตู า่ ง ๆ เรยี นรตู้ า่ ง ๆ บ่อยครัง้ ท้งั ภายในและ ภายนอกโรงเรียนเปน็ ประจำ

มงุ่ ม่ันในการทำงาน ตวั ช้ีวดั ที่ 6.1 ต้งั ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีการงาน พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ยี่ยม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบ ตง้ั ใจและรับผิดชอบ ไมต่ ้งั ใจปฏิบัติ 6.1.1 เอาใจใส่ต่อ ตั้งใจและรับผดิ ชอบ ในการปฏบิ ัติหนา้ ท่ี ในการปฏิบตั หิ น้าที่ หนา้ ที่การงาน ที่ไดร้ ับมอบหมาย ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย การปฏิบัตหิ น้าที่ ในการปฏิบัตหิ นา้ ท่ี ใหส้ ำเร็จ มีการ ใหส้ ำเร็จ ปรบั ปรุงและ ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย พฒั นาการทำงานให้ ดขี ้ึน 6.1.2 ตงั้ ใจและ ให้สำเร็จ มีการ รบั ผดิ ชอบใน ปรับปรงุ และ การทำงานให้ พัฒนาการทำงานให้ สำเรจ็ ดีข้ึนด้วยตนเอง 6.1.3 ปรับปรุงและ พฒั นาการทำงาน ด้วยตนเอง

9. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของหวั หนา้ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ............................................................................................................................. ................................................. .......................................................................................................................................................... .................... ............................................................................................................... ............................................................... เทคโนโลยี ลงชอ่ื (นางสาวฐติ มิ า สวาสนา) ตำแหน่ง หวั หน้ากลมุ่ สาระวิทยาศาสตร์และ วันท่ี..........เดอื น...........................พ.ศ............. 10. ความคิดเหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผู้ชว่ ยผู้อำนวยการกลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอื่ (นายวริ พงษ์ ปะนามะเส) ตำแหนง่ ผู้ชว่ ยผอู้ ำนวยการกลุ่มงานบริหารวชิ าการ วนั ที่..........เดอื น...........................พ.ศ............. 11. ความคิดเห็น/ขอ้ เสนอแนะของรองผู้อำนวยการโรงเรยี น ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่ือ (นางเยาวลักษณ์ สอนสะอาด) ตำแหน่ง รองผ้อู ำนวยการโรงเรยี นลำทะเมนไชยพิทยาคม วนั ที่..........เดือน...........................พ.ศ.............

12. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของผู้อำนวยการโรงเรยี น ............................................................................................................................. ................................................. .................................................................................. ............................................................................................ ............................................................................................................................. ................................................. ลงชอื่ (นายนภภมู ิ แก้ววเิ ศษ) ตำแหนง่ ผู้อำนวยการโรงเรียนลำทะเมนไชยพทิ ยาคม วนั ท่.ี .........เดอื น...........................พ.ศ............. 13. บนั ทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้ 13.1 ผลการเรยี นรู้ท่ีเกดิ ข้ึนกบั ผเู้ รียน ............................................................................................................................. ................................................. ................................................................................................................................... ........................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. 13.2 ปญั หา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 13.3 ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข ....................................................................................................................................... ....................................... ........................................................................................... ................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ลงช่อื ..............................ผู้สอน (นางสาวจิราภรณ์ หวา่ งแสง) ตำแหน่ง ครูผู้ชว่ ย ………../………./…………

แผนการจัดการเรยี นรู้ หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2566 แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี 3 เรอื่ ง การวิเคราะหแ์ ละเลือกใช้คอมพวิ เตอร์และโทรศัพทเ์ คล่ือนที่อยา่ งเหมาะสม เวลาเรียน 1 ชว่ั โมง ผสู้ อนนางสาวจริ าภรณ์ หวา่ งแสง สอนวันท.่ี .......เดอื น.............พ.ศ. ........... 1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วัด/ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรียนรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เข้าใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพื่อการดำรงชวี ิตในสังคมที่มีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเร็ว ใช้ความรแู้ ละทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตร์อน่ื ๆ เพ่ือแก้ปญั หาหรือพัฒนางานอยา่ งมคี วามคดิ สร้างสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวศิ วกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม โดยคำนึงถึงผลกระทบตอ่ ชวี ติ สงั คม และสงิ่ แวดล้อม ตัวช้วี ัด ว 4.1 ม.2/1 คาดการณ์แนวโน้มเทคโนโลยที ีจ่ ะเกิดขึน้ โดยพจิ ารณาจากสาเหตหุ รอื ปัจจัยท่สี ง่ ผลตอ่ การ เปล่ยี นแปลงของเทคโนโลยี และวิเคราะห์เปรียบเทยี บ ตัดสินใจเลอื กใช้เทคโนโลยี โดยคำนึงถึงผลกระทบทเ่ี กิดขึ้นต่อ ชวี ิต สงั คม และส่งิ แวดลอ้ ม 2. สาระการเรยี นรู้ คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์เคลื่อนทเี่ ป็นอุปกรณอ์ เิ ล็กทรอนิกสเ์ หมอื นกันและมีลักษณะการใชง้ านท่คี ล้ายคลงึ กนั โดยคอมพวิ เตอรจ์ ะใช้ประมวลการทำงานท่ีมีความซับซอ้ น เช่น ระบบสบื ค้นหนังสือในหอ้ งสมุด การใช้โปรแกรม วาดภาพ 3 มติ ิ ใชค้ วบคุมการทำงานในตู้ ATM สว่ นโทรศพั ทเ์ คลื่อนท่ี จะมขี นาดเลก็ จงึ พกพาไดส้ ะดวก นิยมใช้ในการ ติดต่อสือ่ สาร การซือ้ -ขายสนิ ค้าออนไลน์ คอมพิวเตอร์และโทรศัพท์เคล่อื นทีย่ ังสง่ ผลกระทบต่อด้านต่าง ๆ เชน่ เม่ือใช้ เปน็ เวลานานอาจทำให้เกดิ อาการนิ้วล็อก ปวดหลัง เสียสายตา และช้ินส่วนอิเล็กทรอนิกสจ์ ากคอมพิวเตอร์และ โทรศัพท์เคล่ือนทเ่ี ม่ือไม่ใชง้ านแลว้ จะเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ ทำใหเ้ กิดมลพษิ ในดินและน้ำอีกด้วย 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายผลกระทบที่เกิดจากคอมพวิ เตอร์และโทรศัพทเ์ คลื่อนที่ (K) 2. วเิ คราะห์ผลกระทบและการเลอื กใช้คอมพิวเตอร์และโทรศัพทเ์ คล่ือนท่ีอย่างเหมาะสม (P) 3. เห็นความสำคัญของผลกระทบและการเลือกใช้คอมพิวเตอร์และโทรศพั ท์เคล่ือนที่อยา่ งเหมาะสม (A) 4. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการแก้ปญั หา 3. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ 4. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5. คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรยี นรู้ 2. มุ่งมนั่ ในการทำงาน

6. กระบวนการจัดการเรียนรู้ 1.ขนั้ สงั เกต รวบรวมข้อมลู (Gathering) 1. นกั เรยี นรว่ มกนั บอกประโยชนข์ องคอมพวิ เตอร์ โดยบันทกึ คำตอบเป็นแผนภาพความคดิ ดงั นี้ ใชเ้ ก็บข้อมูล จำนวนมาก ใช้ติดต่อสือ่ สาร ใช้ในการคำนวณ ผลทางคณิตศาสตร์ ใชต้ รวจจบั ฝนุ่ ละออง ประโยชน์ ใช้พมิ พ์เอกสาร ในอากาศ PM 2.5 ของคอมพิวเตอร์ หรือรายงาน ใชค้ วบคุม ใชว้ าดภาพ 3 มิติ การทำงานในตู้ ATM 2. นกั เรยี นรว่ มกนั บอกประโยชน์ของโทรศัพทเ์ คล่ือนท่ี โดยบนั ทึกคำตอบเปน็ แผนภาพความคิด ดังน้ี ใชถ้ า่ ยภาพ ใชต้ ดิ ต่อสอื่ สาร ใชแ้ ชรป์ ระสบการณ์ ใชต้ ดิ ตามขา่ วสาร ประโยชน์ของ ใช้เลน่ เกม โทรศพั ท์เคลือ่ นท่ี ใชท้ ำธุรกรรม ใช้ซือ้ -ขายของออนไลน์ ทางการเงิน

3. นักเรียนร่วมกันสังเกตภาพขยะอเิ ล็กทรอนิกส์ แล้วตอบคำถาม ดังน้ี • จากภาพคือภาพอะไร (ขยะอิเลก็ ทรอนิกส์) • ขยะอิเลก็ ทรอนกิ ส์เกดิ จากอะไร (วัสดหุ รือชิ้นส่วนทางอเิ ล็กทรอนิกสท์ ี่ไมใ่ ชง้ านแลว้ ) • นกั เรียนสังเกตอปุ กรณเ์ ทคโนโลยีรอบ ๆ ตวั แลว้ บอกว่าอปุ กรณ์ใดสามารถกลายเปน็ ขยะอเิ ลก็ ทรอนิกส์ไดบ้ า้ ง (ตวั อยา่ งคำตอบ คอมพิวเตอร์ โทรศพั ท์เคล่ือนท่ี ไมโครโฟน พัดลม เครอ่ื งปรบั อากาศ โทรทศั น์ เคร่ืองขยายเสยี ง ลำโพง หลอดไฟฟ้า ฮับ) 4. นักเรยี นร่วมกันศึกษาค้นคว้าข้อมูลเกี่ยวกับการวเิ คราะหแ์ ละเลือกใช้คอมพิวเตอร์และโทรศพั ท์เคลอื่ นท่ี อยา่ งเหมาะสม จากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ อยา่ งหลากหลาย เช่น อนิ เทอรเ์ น็ต หนังสอื เรยี น 2.ขน้ั คิดวิเคราะหแ์ ละสรปุ ความรู้ (Processing) 5. นกั เรยี นรว่ มกนั วิเคราะหเ์ กีย่ วกับการใช้คอมพิวเตอร์ แลว้ ตอบคำถาม ดังน้ี • คอมพิวเตอร์มีประโยชนต์ ่อด้านคุณภาพของชีวติ และสังคมอย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ ใชต้ ิดต่อส่ือสาร พมิ พร์ ายงานหรอื เอกสาร ใช้ออกแบบภาพ 3 มิติ ใชด้ ูภาพยนตรห์ รือเล่นเกมเพ่ือ ความบนั เทิง) • ผลกระทบของการใชค้ อมพิวเตอร์ดา้ นคุณภาพของชีวติ และสงั คมคืออะไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ทำให้การคดิ คำนวณลดลง เสยี สายตา ปวดหลงั ) • คอมพวิ เตอร์มปี ระโยชน์ต่อด้านเศรษฐกิจอยา่ งไร (ตวั อย่างคำตอบ ใช้ควบคมุ การทำงานของตู้ ATM เช่น ใชค้ ำนวณเงนิ ฝากเงิน ถอนเงิน โอนเงิน) • ผลกระทบของการใช้คอมพิวเตอรด์ ้านเศรษฐกิจคืออะไร (ตัวอยา่ งคำตอบ เกิดการว่างงาน เพราะคอมพิวเตอรท์ ำงานได้ดีกวา่ มนุษย์ในบางงาน จึงมกี ารปลดพนักงาน)

• คอมพวิ เตอร์มีประโยชนต์ อ่ ด้านสิง่ แวดล้อมอย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ใชเ้ ปน็ เคร่อื งตรวจวัดระดับฝุ่นละอองในอากาศ PM 2.5 ใชใ้ นการพยากรณอ์ ากาศ) • คอมพวิ เตอร์สง่ ผลกระทบอย่างไรต่อสงิ่ แวดลอ้ ม (ตวั อยา่ งคำตอบ ก่อใหเ้ กดิ ขยะอเิ ล็กทรอนิกส์ จึงทำใหเ้ กดิ มลพษิ สะสมในดินหรือในน้ำ) • นักเรยี นมวี ิธปี อ้ งกนั และวธิ ีแก้ปัญหาจากการใชค้ อมพิวเตอร์อย่างไร (ตวั อย่างคำตอบ หลีกเลี่ยงการใชค้ อมพวิ เตอรเ์ ป็นเวลานาน ปรบั ตัวใหเ้ ข้ากบั ยุคดจิ ทิ ลั โดยนำคอมพิวเตอรม์ าใชใ้ นการ ทำงานมากขนึ้ ฝกึ คิดเลขด้วยตนเอง เมื่อไม่ใช้งานหรือต้องการทิ้งอปุ กรณ์ใหน้ ำไปท้งิ ในถังขยะอเิ ล็กทรอนิกส์) 6. นักเรียนรว่ มกันวิเคราะห์เก่ยี วกบั การใช้โทรศัพท์เคล่อื นท่ี แล้วตอบคำถาม ดงั นี้ • โทรศพั ท์เคลอ่ื นท่ีมีประโยชน์ต่อดา้ นคุณภาพชีวิตและสังคมอยา่ งไร (ตวั อยา่ งคำตอบ ใช้ในการติดต่อสื่อสารกับบุคคลอน่ื ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ และประหยัดคา่ ใชจ้ า่ ยได้มากข้ึน) • โทรศพั ท์เคลอื่ นทสี่ ่งผลกระทบอยา่ งไรกบั นกั เรยี น (ตวั อย่างคำตอบ เมอ่ื ใชเ้ ป็นเวลานานจะทำใหเ้ กิดอาการนว้ิ ล็อกหรือเสียสายตา) • โทรศัพทเ์ คลื่อนที่มีประโยชน์ต่อดา้ นเศรษฐกิจอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ การทำธุรกิจออนไลนผ์ ่านโทรศัพทเ์ คล่ือนที่ เช่น สามารถซ้ือ-ขายสินคา้ บนโทรศพั ท์เคล่ือนท่ีได้ทุกท่ี ทกุ เวลา) • ผลกระทบจากการซ้ือสนิ คา้ ออนไลนค์ ืออะไร (ตวั อยา่ งคำตอบ อาจถูกหลอกใหโ้ อนเงนิ ไปก่อน แลว้ ไม่สง่ สนิ ค้า หรือได้รับสนิ คา้ ไม่ตรงกับการโฆษณา) • นกั เรียนมีวธิ ีป้องกนั และวธิ แี ก้ปัญหาทเ่ี กดิ จากการเลน่ โทรศัพท์เคลื่อนที่อย่างไร (ตัวอยา่ งคำตอบ ควรเลน่ กฬี าเพือ่ สร้างมนุษยสมั พนั ธ์กบั บุคคลรอบขา้ งและสรา้ งความผ่อนคลาย เมอื่ ทำธุรกรรม ทางการเงินผ่านโทรศัพทเ์ คลื่อนทคี่ วรใช้บริการสง่ ข้อความแจ้งเตอื นเมื่อทำธุรกรรมทางการเงินเสร็จ ควรท้งิ โทรศพั ท์เคลอื่ นท่ีท่ีไมใ่ ชง้ านแล้วในกลอ่ งรับบริจาคโทรศัพท์เคล่อื นท่ีของหน่วยงานตา่ ง ๆ) 7. นักเรยี นร่วมกนั สรปุ ความคดิ รวบยอดเกยี่ วกบั การวิเคราะห์และเลอื กใช้คอมพวิ เตอรแ์ ละโทรศัพทเ์ คลื่อนท่ี อย่างเหมาะสม ดงั น้ี คอมพวิ เตอร์และโทรศัพท์เคลื่อนทสี่ ่งผลกระทบด้านคณุ ภาพของชีวติ และสังคม เชน่ ใชเ้ พ่ือความบนั เทิง ใช้ในการคำนวณหรือการจดบันทึกข้อมลู ตา่ ง ๆ ทำให้เกดิ ความสะดวกสบายมากย่งิ ขึ้น และยัง ส่งผลตอ่ ด้านเศรษฐกจิ เชน่ การใชท้ ำธรุ กรรมทางการเงิน ใชจ้ ดรายการอาหาร จงึ ส่งผลให้เกิดปญั หาการวา่ งงานจาก การนำเทคโนโลยีมาทำงานแทนมนุษย์ และขยะอเิ ล็กทรอนิกส์ยังสง่ ผลกระทบตอ่ สิง่ แวดลอ้ มอีกดว้ ย ดงั นน้ั ควรหาวิธี ปอ้ งกันและวิธีแก้ปญั หา เพื่อเป็นแนวทางปฏบิ ัตทิ ี่เหมาะสมตอ่ การใช้งานคอมพวิ เตอรแ์ ละโทรศพั ทเ์ คล่อื นท่ี

3.ขนั้ ปฏบิ ัตแิ ละสรุปความรู้หลังการปฏิบตั ิ (Applying and Constructing the Knowledge) 8. นักเรียนจบั คูแ่ บง่ กลุม่ ตามความเหมาะสมของจำนวนเครื่องคอมพิวเตอร์ โดยใหม้ ีนักเรียน 1 คน ท่ีมี ประสบการณ์ในการใช้งานคอมพิวเตอร์ จากนนั้ รว่ มกนั สืบค้นขอ้ มูลเก่ียวกับขยะอเิ ลก็ ทรอนิกส์ แลว้ จดั ทำสอ่ื นำเสนอ โดยใช้คอมพวิ เตอร์ในการออกแบบ มหี วั ขอ้ ในการนำเสนอ ดังนี้ • ความหมายของขยะอเิ ล็กทรอนกิ ส์ • ปัญหาหรือผลกระทบของขยะอิเล็กทรอนิกส์ • ธาตทุ ม่ี ีอย่ใู นขยะอิเล็กทรอนิกส์ • วิธแี ก้ปัญหา • แนวโน้มในอนาคต 9. นกั เรียนรว่ มกนั สรุปสงิ่ ทเี่ ข้าใจเปน็ ความรรู้ ว่ มกัน ดงั น้ี คอมพวิ เตอร์และโทรศัพทเ์ คล่ือนท่เี ป็นอปุ กรณอ์ เิ ล็กทรอนิกสเ์ หมอื นกันและมีลักษณะการใชง้ านที่ คลา้ ยคลึงกัน โดยคอมพิวเตอรจ์ ะใช้ประมวลการทำงานท่มี ีความซับซ้อน เชน่ ระบบสบื ค้นหนังสือในห้องสมุด การใช้ โปรแกรมวาดภาพ 3 มติ ิ ใช้ควบคมุ การทำงานในตู้ ATM ส่วนโทรศพั ทเ์ คล่ือนทจ่ี ะมีขนาดเล็กจึงพกพาไดส้ ะดวก นิยม ใชใ้ นการตดิ ต่อสื่อสาร การซอ้ื -ขายสินค้าออนไลน์ คอมพิวเตอร์และโทรศพั ท์เคล่ือนทยี่ งั สง่ ผลกระทบต่อด้านต่าง ๆ เช่น เมือ่ ใช้เปน็ เวลานานอาจทำให้เกิดอาการนว้ิ ลอ็ ก ปวดหลัง เสียสายตา และช้นิ สว่ นอิเล็กทรอนกิ สจ์ ากคอมพิวเตอร์ และโทรศัพทเ์ คล่ือนท่ีเมอื่ ไม่ใชง้ านแล้วจะเป็นขยะอิเล็กทรอนิกส์ ทำใหเ้ กดิ มลพษิ ในดนิ และน้ำอีกดว้ ย 10. นกั เรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอเกี่ยวกบั ขยะอิเลก็ ทรอนิกสข์ องตนเองหน้าช้ันเรยี น เพอื่ แลกเปลีย่ นเรยี นรู้กัน อาจใชโ้ ปรแกรมคอมพวิ เตอร์ในการนำเสนอ เพือ่ ให้เห็นขอ้ มูลไดช้ ัดเจน และนา่ สนใจ 7. สอ่ื การเรียนรู้ 7.1 สื่อการเรยี นรู้/แหล่งการเรียนรู้ 1. หนังสอื เรยี น รายวิชาพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 2 ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวชิ าการ (พว.) 2. ภาพขยะอเิ ลก็ ทรอนิกส์ 3. คอมพิวเตอรท์ ่ีเชื่อมต่ออเิ ล็กทรอนิกส์ 4. แหลง่ การเรียนร้ทู ้งั ภายในและภายนอกโรงเรยี น 8. กระบวนการวดั และประเมินผล 1. ประเมนิ ความรู้ เร่ือง การวิเคราะหแ์ ละเลือกใช้คอมพิวเตอรแ์ ละโทรศัพท์เคลือ่ นทีอ่ ย่างเหมาะสม (K) ดว้ ยแบบทดสอบ 2. ประเมนิ กระบวนการทำงานกลุม่ (P) ด้วยแบบประเมนิ 3. ประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ดา้ นใฝเ่ รยี นรู้ มุ่งมัน่ ในการทำงาน (A) ดว้ ยแบบประเมนิ

แบบประเมนิ ตามสภาพจริง (Rubrics) แบบประเมินกระบวนการทำงานกลุ่ม รายการการประเมิน ระดบั คุณภาพ กระบวนการ 432 1 ทำงานกลมุ่ ไมม่ กี ารกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มีการกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท บทบาทสมาชิก และไมม่ กี ารช้ีแจง สมาชกิ ชดั เจน สมาชกิ ชัดเจน เฉพาะหวั หนา้ เปา้ หมาย สมาชกิ ตา่ งคนตา่ งทำงาน และมกี ารชี้แจงเปา้ หมาย มกี ารชี้แจงเป้าหมาย ไมม่ กี ารชี้แจงเปา้ หมาย การทำงาน อย่างชัดเจนและ อยา่ งชดั เจน มีการปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั ปฏบิ ัติงานรว่ มกนั ปฏบิ ตั งิ านรว่ มกนั อยา่ งรว่ มมือร่วมใจ แต่ไมม่ ีการประเมนิ ไม่ครบทกุ คน พรอ้ มกบั การประเมินเปน็ เปน็ ระยะ ๆ ระยะ ๆ แบบประเมนิ คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ใฝเ่ รยี นรู้ ตวั ช้วี ัดท่ี 4.1 ตง้ั ใจ เพยี รพยายามในการเรียนและเข้ารว่ มกิจกรรมการเรียนรู้ พฤติกรรมบ่งชี้ ดีเยีย่ ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) 4.1.1 ตัง้ ใจเรียน 4.1.2 เอาใจใส่ เขา้ เรียนตรงเวลา เข้าเรียนตรงเวลา เข้าเรยี นตรงเวลา ไม่ตั้งใจเรียน และมคี วามเพยี ร พยายาม ตง้ั ใจเรียน เอาใจใส่ ต้งั ใจเรียน เอาใจใส่ ตั้งใจเรยี น เอาใจใส่ ในการเรียนรู้ 4.1.3 สนใจเขา้ รว่ ม และมีความเพยี ร และมคี วามเพยี ร ในการเรียน มีส่วนร่วม กิจกรรมการเรยี นรู้ ตา่ ง ๆ พยายาม พยายาม ในการเรียนรู้ และเข้า ในการเรยี นรู้ มสี ่วน ในการเรียนรู้ มีสว่ น รว่ มกจิ กรรมการ รว่ มในการเรยี นรู้ และ รว่ มในการเรยี นรู้ และ เรยี นรู้ตา่ ง ๆ เขา้ ร่วมกิจกรรมการ เข้าร่วมกิจกรรมการ เป็นบางคร้งั เรียนร้ตู า่ ง ๆ เรยี นรตู้ า่ ง ๆ บ่อยครัง้ ท้งั ภายในและ ภายนอกโรงเรียนเปน็ ประจำ

มงุ่ ม่ันในการทำงาน ตวั ช้ีวดั ที่ 6.1 ต้งั ใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ตั หิ นา้ ท่ีการงาน พฤตกิ รรมบ่งชี้ ดเี ยี่ยม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) ตัง้ ใจและรบั ผดิ ชอบ ตง้ั ใจและรับผิดชอบ ไมต่ ้งั ใจปฏิบัติ 6.1.1 เอาใจใส่ต่อ ตั้งใจและรับผดิ ชอบ ในการปฏบิ ัติหนา้ ท่ี ในการปฏิบตั หิ น้าที่ หนา้ ที่การงาน ที่ไดร้ ับมอบหมาย ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย การปฏิบัตหิ น้าที่ ในการปฏิบัตหิ นา้ ท่ี ใหส้ ำเร็จ มีการ ใหส้ ำเร็จ ปรบั ปรุงและ ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย ทไี่ ดร้ ับมอบหมาย พฒั นาการทำงานให้ ดขี ้ึน 6.1.2 ตงั้ ใจและ ให้สำเร็จ มีการ รบั ผดิ ชอบใน ปรับปรงุ และ การทำงานให้ พัฒนาการทำงานให้ สำเรจ็ ดีข้ึนด้วยตนเอง 6.1.3 ปรับปรุงและ พฒั นาการทำงาน ด้วยตนเอง

9. ความคิดเห็น/ข้อเสนอแนะของหวั หนา้ กล่มุ สาระการเรียนรู้ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................ ................................................ .................................................................................................................................................. ลงชื่อ (นางสาวฐติ ิมา สวาสนา) ตำแหนง่ หัวหนา้ กลมุ่ สาระวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี วันท่ี..........เดือน...........................พ.ศ............. 10. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผชู้ ว่ ยผู้อำนวยการกลมุ่ งานบริหารวชิ าการ ............................................................................................................................. ............................................................... ............................................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................. ..................... ลงชอ่ื (นายวริ พงษ์ ปะนามะเส) ตำแหน่ง ผชู้ ว่ ยผอู้ ำนวยการกลุ่มงานบรหิ ารวชิ าการ วนั ที.่ .........เดือน...........................พ.ศ............. 11. ความคดิ เหน็ /ข้อเสนอแนะของรองผู้อำนวยการโรงเรยี น ............................................................................................................................. ............................................................... ....................................................................................................................................................................................... ..... ............................................................................................................................. ..................... ลงชอ่ื (นางเยาวลกั ษณ์ สอนสะอาด) ตำแหนง่ รองผ้อู ำนวยการโรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม วนั ที่..........เดือน...........................พ.ศ.............

12. ความคดิ เหน็ /ขอ้ เสนอแนะของผอู้ ำนวยการโรงเรียน ............................................................................................................................. ............................................................... .................................................................................................................................................... ........................................ ........................................................................................... ....................................................... ลงชื่อ (นายนภภมู ิ แก้ววเิ ศษ) ตำแหน่ง ผู้อำนวยการโรงเรียนลำทะเมนไชยพิทยาคม วนั ท่.ี .........เดอื น...........................พ.ศ............. 13. บันทกึ ผลหลังการจดั การเรียนรู้ 13.1 ผลการเรยี นรูท้ ี่เกดิ ขึ้นกับผู้เรยี น ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................... ............................................... .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 13.2 ปัญหา/อุปสรรค ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................................................. . ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. 13.3 ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข ................................................................................................................................... ........................................... ....................................................................................... ....................................................................................... ............................................................................................................................. ................................................. ลงชื่อ..............................ผู้สอน (นางสาวจริ าภรณ์ หว่างแสง) ตำแหนง่ ครผู ้ชู ่วย ………../………./…………

แผนการจดั การเรยี นรู้ หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 2 กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 2 โรงเรยี นลำทะเมนไชยพิทยาคม ภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2566 แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 1 เรอ่ื ง การระบปุ ญั หา เวลาเรียน 1 ชั่วโมง ผสู้ อนนางสาวจริ าภรณ์ หว่างแสง สอนวันที.่ .......เดอื น.............พ.ศ. ........... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั /ผลการเรียนรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยเี พ่ือการดำรงชีวติ ในสังคมที่มีการเปล่ียนแปลงอย่างรวดเรว็ ใชค้ วามรู้และทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ ่ืน ๆ เพ่ือแก้ปญั หาหรอื พัฒนางานอย่างมีความคดิ สร้างสรรค์ ด้วยกระบวนการออกแบบเชิงวิศวกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยอี ยา่ งเหมาะสม โดยคำนึงถงึ ผลกระทบต่อชวี ิต สงั คม และสง่ิ แวดล้อม ตวั ชวี้ ัด ว 4.1 ม.2/2 ระบุปญั หาหรือความต้องการในชมุ ชนหรือท้องถ่ิน สรปุ กรอบของปญั หา รวบรวม วเิ คราะห์ ขอ้ มลู และแนวคดิ ทเี่ กยี่ วข้องกับปัญหา 2. สาระการเรียนรู้ การระบุปัญหาอยา่ งมแี บบแผนเปน็ สิ่งสำคัญท่ีทำใหเ้ กดิ การแก้ปญั หาอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ ในระดบั สากลได้ ใชเ้ ทคนคิ 5W1H ในการสำรวจปัญหาและแนวทางการแก้ไขโดยการใช้คำถาม เมื่อระบุปญั หาแลว้ ตอ้ ง วิเคราะห์ สาเหตขุ องปัญหาโดยใช้แผนภาพก้างปลา และขน้ั ต่อไปเป็นการระบุขอบเขตของปัญหา ทำให้แกป้ ัญหาได้อยา่ งชัดเจน และง่ายมากย่ิงข้นึ 3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธบิ ายเกยี่ วกับการระบุปัญหา (K) 2. ระบุปญั หา วเิ คราะห์สาเหตขุ องปัญหา และการระบุขอบเขตของปญั หาในชุมชน (P) 3. เห็นความสำคัญของการระบุปญั หา (A) 4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝ่เรียนรู้ 2. มุ่งมั่นในการทำงาน

6. กระบวนการจัดการเรยี นรู้ 1.ขัน้ สงั เกต รวบรวมข้อมลู (Gathering) 1. นักเรยี นรว่ มกนั สังเกตภาพปัญหาดา้ นตา่ ง ๆ แล้วตอบคำถาม ดงั น้ี • จากภาพเปน็ การใชพ้ ลงั งานอยา่ งไร (ใชพ้ ลังงานไฟฟา้ ในการให้แสงสว่าง) • จากภาพอาจเกดิ ปัญหาใดตามมา (พลังงานไฟฟา้ ไม่เพยี งพอ) • ในชีวิตประจำวนั นักเรยี นใชพ้ ลังงานไฟฟ้าอย่างไรบา้ ง (ตัวอยา่ งคำตอบ ใช้ในการชาร์จแบตโทรศัพท์เคลอื่ นท่ี ดูโทรทัศน์ ใชใ้ นเคร่ืองปรับอากาศ) • จากภาพคือปัญหาอะไร (ปัญหาน้ําเนา่ เสยี และขยะในลำคลอง) • นกั เรียนคิดวา่ จะสง่ ผลกระทบอยา่ งไร (ตวั อย่างคำตอบ สง่ กล่นิ เหม็นรบกวน สัตว์นำ้ ไม่มีท่ีอยู่อาศยั )

• จากภาพคือปญั หาอะไร (ปญั หาความแห้งแลง้ ) • นักเรยี นคดิ ว่าจะสง่ ผลกระทบอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ ทำใหไ้ ดผ้ ลผลติ จากการเกษตรน้อยลง) • จากภาพคือปญั หาอะไร (ปัญหาอาหารไม่สะอาด) • นกั เรียนคิดว่าจะส่งผลกระทบอย่างไร (ตัวอย่างคำตอบ อาจทำใหเ้ กิดโรคท่ีเกีย่ วกับทางเดินอาหาร หรอื อาหารเป็นพิษ) 2. สง่ ตัวแทนนักเรยี น 2-3 คน ออกมาเล่าประสบการณป์ ญั หาทพี่ บเกย่ี วกบั ด้านพลงั งาน ด้านสิง่ แวดล้อม ดา้ นการเกษตร ดา้ นอาหารให้เพอ่ื น ๆ ฟงั หนา้ ชน้ั เรยี น 3. นกั เรียนร่วมกันศึกษาคน้ ควา้ ข้อมลู เก่ียวกับการระบปุ ัญหา จากแหล่งการเรียนร้ตู ่าง ๆ อย่างหลากหลาย เช่น อนิ เทอรเ์ นต็ หนงั สือเรยี น 2.ข้ันคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ (Processing) 4. นกั เรยี นรว่ มกนั วิเคราะห์ แลว้ ตอบคำถามกระตุน้ ความคดิ ดังน้ี • เราทราบได้อย่างไรว่าส่ิงใดเป็นปัญหา (ตวั อย่างคำตอบ เป็นส่ิงทส่ี ่งผลกระทบต่อส่ิงแวดล้อมและมนุษย์ ส่งผลให้การดำเนนิ ชีวติ เปน็ ไปได้อยา่ ง ยากลำบาก) 5. นักเรียนร่วมกันวิเคราะหเ์ ก่ียวกับปัญหาในชมุ ชนในดา้ นต่าง ๆ ดังตัวอยา่ ง

ดา้ นสงิ่ แวดล้อม น้ําเนา่ เสยี ทง้ิ ขยะไม่เป็นที่ แรสะงบสปุวา่ัญงหตอานกลางคนื ไม่เพยี งพอ ดา้ นพลังงาน วยั รุน่ เสียงดงั ระบุปญั หา พลังงานไฟฟ้าไมเ่ พยี งพอ ไฟฟา้ เข้าไม่ถงึ บา้ นท่ีอยู่ไกล ดา้ นการเกษตร ระบปุ ญั หา การใช้สารเคมใี นการทำการเกษตร การบุกรกุ พ้ืนท่ี ไดผ้ ลผลติ จาก การทำการเกษตรนอ้ ย พ้นื ที่การทำการเกษตรไม่เพยี งพอ ด้านอาหาร ระบุปัญหา อาหารไม่สะอาด ไมม่ ีการถนอมอาหาร อาหารไม่เพยี งพอ อาหารขายแพงกว่าราคาปกติ 6. นักเรียนรว่ มกนั วเิ คราะหเ์ กย่ี วกับเทคนิค 5W1H โดยเขียนองคป์ ระกอบเป็นแผนภาพความคิด แล้วตอบ คำถาม ดังนี้ Who ใคร How What อย่างไร ทำอะไร 5W1H Why Where ทำไม ทไ่ี หน When เมอ่ื ใด

• เทคนิค 5W1H ใชท้ ำอะไร (ใชใ้ นการตง้ั คำถาม ในการสำรวจปัญหาและแนวทางแก้ปัญหา) • สง่ิ ท่ีไดร้ ับจากการใช้เทคนคิ 5W1H คืออะไร (ตัวอย่างคำตอบ - สามารถแก้ปัญหาได้ตรงจุด เปน็ ขัน้ ตอนและเปน็ กระบวนการทางวศิ วกรรม - สามารถคาดคะเนผลลัพธข์ องการแกป้ ัญหาได้ค่อนขา้ งแมน่ ยำ - สามารถนำไปเปน็ ฐานข้อมลู สำหรบั ปัญหาท่ีมีลกั ษณะคล้ายกนั ) • นกั เรียนอธบิ ายความหมายของแตล่ ะองคป์ ระกอบของ 5W1H (Who หมายถึง ใครท่ีมสี ่วนเกย่ี วข้อง ใครทีไ่ ด้รับผลกระทบกบั เรื่องนี้ What หมายถงึ อะไรคอื ส่ิงท่ีต้องทำ อะไรคือส่ิงท่ที ำให้เกิดปัญหา Where หมายถงึ ทไ่ี หนที่ควรจะลงไปทำ ทไี่ หนท่ีมปี ญั หา เหตุการณ์เกิดที่ไหน When หมายถงึ ปัญหาเกดิ เม่ือใด เหตกุ ารณน์ จี้ ะจบเม่ือใด Why หมายถึง ทำไมถงึ ทำหรือเลือกสิง่ นัน้ ทำไมจึงเกิดปัญหานั้น How หมายถงึ เราจะทำอย่างไรในการแก้ปัญหาน้นั ๆ ได้ สิ่งน้นั มผี ลอยา่ งไรบ้าง) 7. นกั เรียนร่วมกนั วิเคราะห์เกี่ยวกับการระบุปญั หา แลว้ ตอบคำถาม ดงั น้ี • เม่ือระบปุ ญั หาจากการใชเ้ ทคนคิ 5W1H ได้แลว้ ขั้นต่อไปคืออะไร (วเิ คราะห์สาเหตุของปัญหา) • การวเิ คราะหส์ าเหตุของปญั หาใชว้ ธิ ีการใดเพ่ือใหเ้ ข้าใจงา่ ย (ใช้แผนภาพก้างปลา (fish bone diagram)) • แผนภาพก้างปลา (fish bone diagram) ประกอบด้วยกสี่ ่วน อะไรบ้าง พร้อมอธิบาย (2 ส่วน คอื ส่วนหัวเป็นสว่ นของปญั หาหรือผลกระทบ และส่วนของก้างปลาเปน็ สว่ นของสาเหตุหลกั ๆ) • หลังจากวเิ คราะห์สาเหตุของปญั หาแลว้ ข้ันตอ่ ไปคืออะไร (การระบุขอบเขตของปัญหา) • การระบุขอบเขตของปัญหาคืออะไร (เป็นการกำหนดกรอบประเด็นของปญั หาว่ามีความครอบคลมุ มากน้อยเพียงใด) • ประโยชน์ของการระบุขอบเขตของปัญหาคืออะไร (มีส่วนช่วยใหก้ ารหาหนทางในการแก้ไขปัญหาไดง้ ่ายและตรงจดุ มากขน้ึ ) 8. นักเรยี นร่วมกนั สรุปความคดิ รวบยอดเก่ยี วกบั การระบปุ ัญหา ดังน้ี การระบปุ ัญหาควรใช้เทคนิค 5W1H เข้ามาใชใ้ นการตง้ั คำถามทำใหส้ ามารถแก้ปญั หาได้ตรงจดุ เป็น ข้ันตอน เม่ือระบปุ ญั หาได้แล้วต้องวเิ คราะห์สาเหตุของปัญหา โดยใชแ้ ผนภาพก้างปลาเพ่ือคน้ หา แนวทางการแก้ปัญหาท่ีเหมาะสมทีส่ ดุ หลังจากวิเคราะห์สาเหตุของปญั หาแลว้ ก็จะเปน็ การระบขุ อบเขตปัญหา ซ่ึงเป็น การกำหนดกรอบประเดน็ ของปญั หาวา่ มีความครอบคลุมมากนอ้ ยเพียงใด ซ่ึงจะมสี ว่ นช่วยให้การหาหนทางแก้ปญั หาได้ งา่ ยและตรงจดุ มากขึ้น

3.ข้ันปฏบิ ตั แิ ละสรปุ ความรูห้ ลังการปฏบิ ัติ (Applying and Constructing the Knowledge) 9. นกั เรียนแบง่ กลุ่มตามความเหมาะสมร่วมกันระบุปัญหาในชุมชนที่สง่ ผลกระทบมากท่สี ุด 1 ปญั หา แล้วใช้เทคนิค 5W1H มาชว่ ยกำหนดปัญหา จากนัน้ วเิ คราะห์สาเหตุ โดยใชแ้ ผนภาพกา้ งปลา ดงั ตัวอย่าง 1) ระบปุ ัญหาเก่ียวกบั น้ําในลำคลองเนา่ เสยี หลักการ 5W1H ผลการระบปุ ญั หา Who ใครท่ีทำให้นา้ํ ในลำคลองเน่าเสีย What อะไรเปน็ ปจั จัยหรือสาเหตุทที่ ำให้เกดิ นาํ้ เนา่ เสยี Where บรเิ วณทที่ ำใหน้ าํ้ เน่าเสยี เกิดจากทีไ่ หน When เมื่อไรถึงจะไม่มีนาํ้ เน่าเสียในลำคลอง Why ทำไมถงึ ไมม่ ีการบำบัดน้าํ เน่าเสีย How จะมีวธิ ีการอยา่ งไรให้นํ้าในลำคลองกลบั มาใสสะอาด 2) วิเคราะห์สาเหตุของปญั หา การปล่อยน้ำเสยี หรือสารเคมี การท้ิงขยะลงในลำคลองหมู่บ้าน จากโรงงานตา่ ง ๆ ปัญหา คอื สาเหตุ นำ้ ในลำคลองเน่าเสีย ออกซิเจนในน้ำมนี ้อย ไมม่ ีการไหลเวียนของน้ำในลำคลอง 3) การระบุขอบเขตของปัญหา การแกป้ ัญหาน้ตี อ้ งม่งุ ประเด็นไปทางด้านการทิ้งขยะลงในลำคลองหมู่บา้ น เนื่องจากคน ในชมุ ชนมกี ารทง้ิ ขยะไม่เป็นที่ และท้ิงลงในลำคลอง อกี ท้ังยังปลอ่ ยสง่ิ ปฏิกูลลงในลำคลองจนทำให้ น้าํ เนา่ เสีย ควรแก้ไขโดยการรณรงค์และหาถงั ขยะใหเ้ พยี งพอกบั คนในชุมชน และจัดอบรมเก่ียวกบั การเพิ่มออกซเิ จนในนํา้ เช่น การใชก้ งั หันนาํ้ หรือ EM Ball 10. นกั เรยี นร่วมกนั สรุปสิง่ ทีเ่ ข้าใจเป็นความรูร้ ่วมกัน ดงั นี้ การระบปุ ัญหาอยา่ งมแี บบแผนเปน็ ส่งิ สำคญั ท่ีทำให้เกิดการแกป้ ัญหาอย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ ในระดบั สากลไดใ้ ชเ้ ทคนิค 5W1H ในการสำรวจปัญหาและแนวทางการแกไ้ ขโดยการใช้คำถาม เมอ่ื ระบปุ ญั หาแล้วต้อง วเิ คราะหส์ าเหตุของปญั หา โดยใชแ้ ผนภาพกา้ งปลา และขน้ั ตอ่ ไปเปน็ การระบขุ อบเขต ของปญั หา ทำให้แกป้ ญั หาได้อย่างชดั เจนและง่ายมากยง่ิ ขึ้น

7. สื่อการเรยี นรู้ 7.1 สื่อการเรยี นรู้/แหลง่ การเรียนรู้ 1. หนังสอื เรียน รายวชิ าพนื้ ฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี (การออกแบบและเทคโนโลยี) ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 2 ของสถาบันพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พว.) 2. ภาพปญั หาดา้ นตา่ ง ๆ 3. แหล่งการเรียนรทู้ ัง้ ภายในและภายนอกโรงเรยี น 8. กระบวนการวัดและประเมนิ ผล 1. ประเมินความรู้ เรอ่ื ง การระบุปญั หา (K) ด้วยแบบทดสอบ 2. ประเมินกระบวนการทำงานกล่มุ (P) ดว้ ยแบบประเมนิ 3. ประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ดา้ นใฝ่เรียนรู้ มงุ่ มน่ั ในการทำงาน (A) ดว้ ยแบบประเมนิ แบบประเมนิ ตามสภาพจรงิ (Rubrics) แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลุ่ม รายการการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ กระบวนการ 432 1 ทำงานกลมุ่ ไม่มีการกำหนด มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท มกี ารกำหนดบทบาท บทบาทสมาชิก และไมม่ ีการช้แี จง สมาชิกชัดเจน สมาชิกชัดเจน เฉพาะหัวหนา้ เปา้ หมาย สมาชิก ต่างคนต่างทำงาน และมีการชีแ้ จงเป้าหมาย มีการช้แี จงเปา้ หมาย ไม่มีการช้ีแจงเป้าหมาย การทำงาน อย่างชัดเจนและ อยา่ งชดั เจน มีการปฏิบตั ิงานรว่ มกนั ปฏบิ ตั งิ านร่วมกนั ปฏบิ ัติงานร่วมกัน อยา่ งรว่ มมือรว่ มใจ แตไ่ มม่ กี ารประเมนิ ไมค่ รบทุกคน พรอ้ มกับการประเมนิ เป็น เป็นระยะ ๆ ระยะ ๆ

แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ใฝเ่ รียนรู้ ตวั ชว้ี ดั ท่ี 4.1 ตั้งใจ เพยี รพยายามในการเรยี นและเข้ารว่ มกิจกรรมการเรยี นรู้ พฤตกิ รรมบ่งช้ี ดีเย่ยี ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ ่าน (0) 4.1.1 ตง้ั ใจเรียน 4.1.2 เอาใจใส่ เขา้ เรียนตรงเวลา เขา้ เรยี นตรงเวลา เขา้ เรียนตรงเวลา ไมต่ ง้ั ใจเรยี น และมีความเพยี ร พยายาม ต้ังใจเรยี น เอาใจใส่ ตง้ั ใจเรียน เอาใจใส่ ตัง้ ใจเรียน เอาใจใส่ ในการเรียนรู้ 4.1.3 สนใจเขา้ ร่วม และมคี วามเพยี ร และมีความเพียร ในการเรียน มีส่วนร่วม กิจกรรมการเรยี นรู้ ต่าง ๆ พยายาม พยายาม ในการเรยี นรู้ และเข้า ในการเรียนรู้ มสี ่วน ในการเรยี นรู้ มีส่วน รว่ มกจิ กรรมการ ร่วมในการเรยี นรู้ และ รว่ มในการเรยี นรู้ และ เรยี นรตู้ ่าง ๆ เขา้ รว่ มกิจกรรมการ เขา้ ร่วมกิจกรรมการ เป็นบางครัง้ เรียนรตู้ า่ ง ๆ เรียนรูต้ ่าง ๆ บอ่ ยคร้ัง ทง้ั ภายในและ ภายนอกโรงเรยี นเปน็ ประจำ มุ่งม่ันในการทำงาน ตวั ช้ีวัดท่ี 6.1 ต้ังใจและรบั ผดิ ชอบในการปฏบิ ัตหิ น้าท่กี ารงาน พฤติกรรมบ่งช้ี ดีเยย่ี ม (3) ดี (2) ผ่าน (1) ไมผ่ า่ น (0) ตั้งใจและรบั ผิดชอบ ต้ังใจและรับผดิ ชอบ ไม่ต้ังใจปฏบิ ัติ 6.1.1 เอาใจใสต่ ่อ ตั้งใจและรับผิดชอบ ในการปฏบิ ัติหนา้ ที่ ในการปฏิบัติหน้าท่ี หน้าทกี่ ารงาน ท่ีได้รับมอบหมาย ท่ไี ดร้ ับมอบหมาย การปฏิบัติหน้าท่ี ในการปฏิบัตหิ น้าท่ี ให้สำเร็จ มีการ ใหส้ ำเรจ็ ปรับปรุงและ ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย ทีไ่ ด้รับมอบหมาย พัฒนาการทำงานให้ ดีขึน้ 6.1.2 ตั้งใจและ ใหส้ ำเร็จ มีการ รับผิดชอบใน ปรับปรุง และ การทำงานให้ พฒั นาการทำงานให้ สำเรจ็ ดขี น้ึ ด้วยตนเอง 6.1.3 ปรับปรุงและ พัฒนาการทำงาน ด้วยตนเอง

แผนการจัดการเรียนรู้ หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 1 กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตรแ์ ละเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 โรงเรยี นลำทะเมนไชยพิทยาคม ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2566 แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 เรือ่ ง การรวบรวมข้อมูลและแนวคิดทเ่ี กย่ี วข้องกบั ปัญหา เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง ผู้สอนนางสาวจริ าภรณ์ หว่างแสง สอนวนั ท่.ี .......เดอื น.............พ.ศ. ........... 1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั /ผลการเรยี นรู้ มาตรฐานการเรยี นรู้ มาตรฐาน ว 4.1 เขา้ ใจแนวคิดหลักของเทคโนโลยีเพ่ือการดำรงชวี ติ ในสงั คมที่มกี ารเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว ใชค้ วามรูแ้ ละทักษะทางดา้ นวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และศาสตรอ์ ืน่ ๆ เพื่อแก้ปัญหาหรอื พัฒนางานอยา่ งมคี วามคิด สร้างสรรค์ ดว้ ยกระบวนการออกแบบเชงิ วศิ วกรรม เลือกใชเ้ ทคโนโลยอี ย่างเหมาะสม โดยคำนงึ ถึงผลกระทบต่อชวี ติ สงั คม และส่งิ แวดล้อม ตวั ชี้วดั ว 4.1 ม.2/1 ระบปุ ญั หาหรอื ความต้องการในชุมชนหรอื ท้องถ่ิน สรปุ กรอบของปญั หา รวบรวม วเิ คราะห์ ขอ้ มูลและแนวคดิ ทเ่ี กี่ยวข้องกับปัญหา 2. สาระการเรียนรู้ การรวบรวมข้อมูล เป็นกระบวนการในการรวบรวมข้อมูลที่จะได้มาเพ่ือใชใ้ นการทำวจิ ยั หรือกิจกรรมใด กิจกรรมหนงึ่ ข้อมูลทรี่ วบรวมมาน้ันอาจจะเปน็ ตวั เลขหรือข้อความก็ได้ เม่ือรวบรวมข้อมูลเรยี บร้อยแล้วข้ันต่อไปก็คอื การออกแบบวิธีการแก้ปัญหาและการตัดสินใจท่จี ะเลือกวิธีการท่ีดที ี่สดุ จากข้อมูลท่ีไดร้ วบรวมมา เพื่อแกป้ ัญหาได้อย่าง เป็นข้นั ตอนและมีขอ้ ผิดพลาดนอ้ ยท่ีสดุ 3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ 1. อธบิ ายเกย่ี วกบั การรวบรวมข้อมลู และแนวคิดท่เี ก่ยี วขอ้ งกับปัญหา (K) 2. รวบรวมขอ้ มลู และแนวคดิ ท่ีเกยี่ วข้องกับปัญหา (P) 3. เหน็ ความสำคญั ของการรวบรวมข้อมูลและแนวคดิ ทเ่ี กย่ี วข้องกบั ปัญหา (A) 4. สมรรถนะสำคัญของผเู้ รียน 1. ความสามารถในการสื่อสาร 2. ความสามารถในการคดิ 3. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต 5. คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ใฝเ่ รียนรู้ 2. ม่งุ ม่นั ในการทำงาน

6. กระบวนการจดั การเรียนรู้ 1.ข้นั สงั เกต รวบรวมข้อมูล (Gathering) 1. นกั เรียนร่วมกันสังเกตภาพวิธกี ารรวบรวมขอ้ มูล แลว้ ตอบคำถาม ดงั นี้ • จากภาพ เป็นการรวบรวมข้อมลู ดว้ ยวธิ ใี ด (การสัมภาษณโ์ ดยตรงกับแหล่งขอ้ มูล) • จากภาพ เป็นการรวบรวมข้อมูลดว้ ยวธิ ีใด (การสัมภาษณท์ างโทรศัพท)์ • จากภาพ เป็นการรวบรวมข้อมูลด้วยวธิ ใี ด (การสังเกตการณ์)

• จากภาพ เปน็ การรวบรวมข้อมูลดว้ ยวิธีใด (การรวบรวมขอ้ มูลดว้ ยเอกสารหรือเว็บไซต์) 2. นักเรยี นร่วมกันศึกษาคน้ คว้าข้อมลู เกย่ี วกับการรวบรวมข้อมลู และแนวคดิ ทเ่ี ก่ียวข้องกับปญั หา จากแหล่ง การเรยี นรตู้ ่าง ๆ อย่างหลากหลาย เช่น อนิ เทอร์เน็ต หนงั สือเรยี น 2.ขั้นคิดวิเคราะหแ์ ละสรุปความรู้ (Processing) 3. นกั เรียนร่วมกันวิเคราะห์ แลว้ ตอบคำถามกระตนุ้ ความคดิ ดงั น้ี • การรวบรวมขอ้ มลู มคี วามสำคัญต่อการแก้ปัญหาอย่างไร (ตวั อยา่ งคำตอบ สามารถนำความรูจ้ ากการรวบรวมข้อมลู มาให้แก้ปัญหา และใช้ในการออกแบบวธิ กี าร แก้ปญั หาในขัน้ ต่อไป) 4. ถา้ นกั เรยี นต้องการรวบรวมข้อมลู เกย่ี วกบั ปญั หาฝุ่น PM2.5 จะรวบรวมขอ้ มูลจากแหล่งใด โดยบันทึกคำตอบเปน็ แผนภาพความคดิ ดงั นี้ ผูเ้ ช่ียวชาญด้านฝุน่ PM2.5 แหลง่ รวบรวมขอ้ มูล อนิ เทอรเ์ นต็ ปญั หาฝุน่ PM2.5 เอกสารหรือหนังสอื ประชาชน ท่เี ก่ียวข้อง ทป่ี ระสบปัญหา 5. นักเรยี นร่วมกนั วิเคราะห์เก่ยี วกบั การรวบรวมข้อมลู และแนวคดิ ทเี่ กี่ยวข้องกับปญั หา แลว้ ตอบคำถาม ดงั น้ี • การรวบรวมขอ้ มลู หมายถงึ อะไร (หมายถึงกระบวนการในการรวบรวมขอ้ มลู ท่จี ะได้มาเพือ่ ใช้ในการทำวิจยั หรอื กจิ กรรมใด กิจกรรมหน่ึง ข้อมลู ท่รี วบรวมมาน้นั อาจจะเป็นตวั เลขหรอื ข้อความก็ได้) • ลกั ษณะของข้อมูลท่ีดคี วรเปน็ อยา่ งไร (ขอ้ มูลทร่ี วบรวมมาตรงจุดประสงค์ มีความทนั สมยั และอยู่ภายในกรอบของปัญหา มีความกระชับ อ่านแล้วเข้าใจงา่ ย ไมก่ ำกวม) • ขอ้ มูลเชิงปรมิ าณแตกต่างกับข้อมูลเชงิ คุณภาพอย่างไร

(ตวั อย่างคำตอบ ขอ้ มูลเชิงปรมิ าณ เปน็ ข้อมูลท่วี ัดคา่ ออกมาเปน็ ตวั เลขได้ และสามารถนำมา คำนวณได้ สว่ นข้อมูลเชิงคณุ ภาพ เป็นข้อมูลท่ีไม่สามารถวัดออกมาเปน็ ตวั เลขได้) • ข้อมลู ปฐมภูมิแตกต่างกบั ขอ้ มลู ทตุ ยิ ภมู อิ ยา่ งไร (ตวั อย่างคำตอบ ข้อมลู ปฐมภูมิ เป็นข้อมูลทีผ่ ู้ทำการสำรวจเก็บมาจากแหลง่ ข้อมูลโดยตรง หรือเก็บมาใหม่ ณ เวลานน้ั แตข่ ้อมลู ทุตยิ ภูมเิ ป็นข้อมูลที่ได้มาจากองค์กรหรอื หนว่ ยงานอ่นื ๆ ทไ่ี ด้ทำการ รวบรวมไว้แลว้ ) • ยกตวั อย่างข้อมลู ทุติยภูมิ (ตัวอย่างคำตอบ สถิตกิ ารเสยี ชวี ติ ในชว่ งเทศกาลปใี หม่ พ.ศ. 2562 ขอ้ มูลจำนวนประชากร ในประเทศไทย สถิติการเกิดอุบัติเหตุของรถต้โู ดยสารสาธารณะ พ.ศ. 2562) • นักเรียนคิดว่าวิธกี ารรวบรวมข้อมลู วธิ ีใดดีที่สดุ เพราะเหตใุ ด (ตวั อยา่ งคำตอบ การสมั ภาษณ์โดยตรงกับแหล่งข้อมลู เพราะวา่ ได้ข้อมูลท่ีตรงกับความต้องการ เม่อื ผู้ถูกสมั ภาษณ์มคี วามสงสัยในประเดน็ คำถาม สามารถซักถามได้ทันที ทำให้คำตอบที่ไดม้ ีความถูกต้อง กับความต้องการมากท่สี ุด) 6. สง่ ตัวแทนนกั เรยี นออกมาเขียนข้นั ตอนการรวบรวมขอ้ มูลบนกระดาน ดงั ตัวอย่าง 6. ประมวลผลและวเิ คราะห์ขอ้ มูล โดยใช้หลักทางสถติ ิศาสตร์ และหลักทางวทิ ยาศาสตร์ 5. ทำการรวบรวมข้อมูล 4. กำหนดวิธีในการรวบรวมขอ้ มลู พร้อมแบบสอบถามเพื่อเกบ็ ข้อมูล 3. กำหนดกลมุ่ ตัวอยา่ งท่ีจะทำการเกบ็ รวบรวมข้อมูล 2. กำหนดขอบเขตของการรวบรวมข้อมลู 1. กำหนดจดุ ประสงค์ ตัวแปร ตัวชว้ี ดั ทีเ่ กี่ยวข้องกบั ปัญหา 7. นักเรยี นรว่ มกนั สรุปความคดิ รวบยอดเกีย่ วกับการรวบรวมข้อมลู และแนวคดิ ทเ่ี กยี่ วข้องกับปญั หา ดงั น้ี การรวบรวมขอ้ มลู ควรศกึ ษารายละเอียดทจ่ี ำเปน็ ต่อการรวบรวมขอ้ มูลที่ควรทราบ ได้แก่ ลักษณะของข้อมูลท่ีดีทค่ี วรรวบรวม ลกั ษณะของข้อมูล ประเภทของข้อมูล ขนั้ ตอนในการรวบรวมข้อมลู และวิธกี ารรวบรวมขอ้ มูล เม่ือศึกษารายละเอยี ดเหลา่ นี้แลว้ จะสามารถรวบรวมข้อมูลได้อยา่ งตรงจุดประสงค์และได้ ขอ้ มูลที่มคี ุณภาพ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook