Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพวิถีน้ำพุร้อน : การสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม

การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพวิถีน้ำพุร้อน : การสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่ม

Published by smileroute, 2021-09-03 01:14:59

Description: หนังสือเรื่องการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพวิถีน้ำพุร้อน: การสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มเล่มนี้จัดทำและเรียบเรียงข้อมูลจากเอกสารและหนังสือต่างๆ ที่ปรากฏในบรรณานุกรมและจากผลงานวิจัยเรื่อง “นวัตกรรมการท่องเที่ยวน้ำพุร้อนในอารยธรรมล้านนา” ที่ได้รับการสนับสนุนงบประมาณแผนบูรณาการพัฒนาศักยภาพวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ผู้เขียนหวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ในการอ่านประกอบการเรียนการสอนวิชาการจัดการการท่องเที่ยวในรูปแบบต่างๆ ในสถาบันการศึกษาทุกระดับ และเป็นประโยชน์ต่อภาคีการท่องเที่ยวทุกภาคส่วน สามารถนำไปใช้เป็นสื่อการเรียนรู้ในการพัฒนาการท่องเที่ยวที่ก่อให้เกิดความยั่งยืนทางเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

Search

Read the Text Version

การท่องเท่ียวเชิงสขุ ภาพวิถีน้�ำพุรอ้ น : การสรา้ งคณุ ค่าและมลู ค่าเพ่ิม



โครงการการส่งเสริมและการพัฒนาต่อยอดสินค้า และบริการท่ีเกี่ยวเนอ่ื งกบั การทอ่ งเทยี่ วเชงิ สขุ ภาพ วถิ ีน้ำ� พรุ ้อน โดยชุมชนในกลมุ่ จงั หวดั ล้านนา การท่องเทีย่ วเชงิ สุขภาพวถิ ีน้�ำพรุ อ้ น : การสรา้ งคณุ ค่าและมูลค่าเพ่ิม

การทอ่ งเทยี่ วเชิงสขุ ภาพวิถนี ้ำ� พรุ ้อน : การสร้างคณุ ค่าและมูลคา่ เพ่มิ ผ้เู ขียน ผู้ชว่ ยศาสตราจารย์ ดร.บษุ บา สทิ ธิการ ดร.นทั ธริ า ภกั ดไี พโรจน์ อาจารย์สดุ ศริ ิ รุง่ เรือง อาจารย์กสุ ุมา ท่งุ พรวน ดร.ชัย ชงิ ตัน ออกแบบรปู เล่ม นางสาววไลพร ชายนอ้ ย นางสาวเปรมลักษณ์ มูลใจ พมิ พค์ รงั้ ท่ี 1 ปที ี่พมิ พ์ 2564 จดั พิมพโ์ ดย มหาวทิ ยาลัยแมฟ่ ้าหลวง ได้รบั ทนุ สนับสนุนโครงการกจิ กรรมสง่ เสริมและสนบั สนนุ การวจิ ัย และนวตั กรรม การจดั การความรู้การวจิ ยั และถา่ ยทอดเพ่อื การใช้ ประโยชน์ จาก สำ� นกั งานการวจิ ยั แหง่ ชาติ (วช.) ประจำ� ปงี บประมาณ พ.ศ. 2563 ISBN (e-book) 978-616-470-052-9

คำ� น�ำ หนังสือเรื่องการท่องเท่ียวเชิงสุขภาพวิถีน้�ำพุร้อน : การสร้าง คุณค่าและมูลค่าเพิ่มเล่มน้ีจัดท�ำและเรียบเรียงข้อมูลจากเอกสารและ หนังสือต่างๆ ที่ปรากฏในบรรณานุกรมและจากผลงานวิจัยเรื่อง “นวัตกรรมการท่องเท่ียวน�้ำพุร้อนในอารยธรรมล้านนา” ที่ได้รับ การสนับสนุนงบประมาณแผนบูรณาการพัฒนาศักยภาพวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วจิ ัยและนวัตกรรม ประจ�ำปงี บประมาณ พ.ศ. 2562 ผ้เู ขยี น หวังว่าหนังสือเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ในการอ่านประกอบการเรียน การสอนวชิ าการจดั การการทอ่ งเทย่ี วในรปู แบบตา่ งๆ ในสถาบนั การศกึ ษา ทุกระดับ และเป็นประโยชน์ต่อภาคีการท่องเท่ียวทุกภาคส่วน สามารถ น�ำไปใช้เป็นส่ือการเรียนรู้ในการพัฒนาการท่องเท่ียวท่ีก่อให้เกิดความ ยั่งยนื ทางเศรษฐกจิ สงั คม และส่งิ แวดล้อม ผเู้ ขยี นมแี นวทางการเขยี นทเี่ ขา้ ใจงา่ ย หลกี เลยี่ งศพั ทท์ างวชิ าการ เพอ่ื ใหผ้ อู้ า่ นไดร้ บั สาระสำ� คญั ของเนอ้ื หาเกยี่ วกบั การทอ่ งเทย่ี วเชงิ สขุ ภาพ ทเี่ ชอ่ื มโยงการใชป้ ระโยชนจ์ ากนำ้� พรุ อ้ นมที กั ษะ สามารถสรา้ งคณุ คา่ และ มูลค่าเพ่ิมแก่แหล่งท่องเที่ยวน�้ำพุร้อนและกิจกรรมเช่ือมโยง มีทัศนคติ และพฤติกรรมในเชิงสร้างสรรค์ท่ีส่งเสริม สนับสนุนการอนุรักษ์ ฟื้นฟู ทรัพยากรธรรมชาติและศิลปะวัฒนธรรมเพื่อการส่งเสริมและพัฒนา การทอ่ งเทีย่ วใหเ้ กดิ ความยั่งยืน โดยจัดหมวดหมู่ความรู้เปน็ 5 หนว่ ยคือ 1) การท่องเท่ียวเชิงสุขภาพวิถีน้�ำพุร้อนซึ่งเสนอความรู้เบ้ืองต้นเก่ียวกับ การท่องเท่ียวเชิงสุขภาพวิถีน้�ำพุร้อน รูปแบบและกิจกรรม/บริการ การท่องเทย่ี ว เพอ่ื ใชเ้ ป็นฐานความรูใ้ นการสร้างคณุ ค่าและมลู ค่าเพิ่มแก่ แหลง่ ท่องเท่ยี วนำ้� พรุ อ้ น 2) การสร้างคุณคา่ และมลู ค่าเพม่ิ การท่องเทีย่ ว เชิงสุขภาพวิถีน้�ำพุร้อนและบริการเชื่อมโยงโดยบูรณาการแนวคิด

ส่วนประสมทางการตลาดบริการและองค์ประกอบของแหล่งท่องเท่ียว การสร้างคุณค่าและมูลค่าเพ่ิมแก่ผลิตภัณฑ์ทางการท่องเท่ียวทั้งทาง ธรรมชาติ ศิลปะวัฒนธรรม และภูมปิ ญั ญา วิถถี ิ่น รวมทั้งการออกแบบ ประสบการณ์และการบริการในเส้นทางการท่องเท่ียวในพื้นท่ีน้�ำพุร้อน เชอ่ื มโยงกบั แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วใกลเ้ คยี ง 3) การสอ่ื ความหมายซง่ึ เปน็ สง่ิ สำ� คญั ในการถ่ายทอดบริบทและเอกลักษณ์ ของแหล่งท่องเท่ียวเพ่ือก่อให้เกิด ความรู้ความเข้าใจ ส่งเสริมให้เกิดการมีส่วนร่วม และการเรียนรู้ร่วมกัน รวมท้ังสร้างคุณค่าให้แหล่งท่องเที่ยว 4) การด�ำเนินการด้านการตลาด โดยใช้กลยุทธ์ น�ำเสนอเอกลักษณ์เฉพาะที่โด่ดเด่นเพื่อสร้างภาพลักษณ์ หรอื ตราสนิ คา้ ทน่ี กั ทอ่ งเทย่ี วเชอ่ื มนั่ ในคณุ ภาพของสนิ คา้ และบรกิ ารเพอ่ื จูงใจนักท่องเที่ยวให้มาท่องเท่ียวในแหล่งท่องเท่ียวเป้าหมาย และ 5) การพัฒนาผลิตภัณฑ์เช่ือมโยงการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพวิถีน้�ำพุร้อน ใหเ้ กดิ ผลเชงิ พาณชิ ยด์ ว้ ยการสรา้ งคณุ คา่ และมลู คา่ เพมิ่ สนิ คา้ และบรกิ าร โดยพฒั นาจากศักยภาพและฐานทรพั ยากรของชุมชนในพ้นื ที่ ทั้งนี้ในเนื้อหาบางส่วนผู้เขียนได้น�ำเสนอกรณีศึกษาเก่ียวกับ การท่องเท่ียวน�้ำพุร้อนในต่างประเทศและการจัดการการท่องเที่ยว เชิงสุขภาพวิถีน้�ำพุร้อนโดยถอดบทเรียนจากประสบการณ์ที่ผู้เขียนได้รับ จากกระบวนการวจิ ยั เรอื่ งนวตั กรรมการทอ่ งเทย่ี วนำ�้ พรุ อ้ นในอารยธรรม ล้านนา (2562) และการจัดการการท่องเที่ยวโดยชุมชนที่ผ่านมาเพ่ือใช้ เปน็ ตวั อยา่ งสำ� หรบั การเรยี นรกู้ ารสรา้ งคณุ คา่ และมลู คา่ เพม่ิ แกแ่ หลง่ ทอ่ งเทยี่ ว น�้ำพุร้อนในหลากหลายรูปแบบท่ีสามารถน�ำไปประยุกต์ใช้ในแหล่งท่อง เที่ยวอ่ืนๆ ได้ตอ่ ไป เพ่ือให้บรรลุตามวัตถุประสงค์ของหนังสือเล่มน้ี ผู้อ่านควรเริ่ม อา่ นต้งั แต่หนว่ ยแรกจนถึงหน่วยสุดทา้ ยตามล�ำดบั ของเน้ือหา

ความดีของหนงั สือเล่มน้ี ขอมอบแด่ส�ำนักงานการวจิ ยั แหง่ ชาติ ในการสนับสนุนทุนวิจัยเพื่อการพัฒนาการท่องเท่ียวที่ผ่านมา และ มหาวทิ ยาลยั แมฟ่ า้ หลวง ทใ่ี หเ้ วลาและโอกาสในการทำ� โครงการวจิ ยั อยา่ ง ตอ่ เน่ือง จนกอ่ เกดิ เป็นองคค์ วามรทู้ ี่ผเู้ ขยี นถ่ายทอดไว้ในหนังสือเลม่ นี้ ขอบคณุ คณุ บุญทวี สุปรดี ิ์เวศน์ จากบรษิ ทั Tea Luck Cha ที่ให้ ความอนุเคราะห์เป็นวิทยากรสอนชุมชนในพ้ืนที่น�้ำพุร้อนโป่งพระบาท ดา้ นการผลิตชาสบั ปะรดตามฐานทรพั ยากรพื้นถ่นิ คณุ ชนดิ าภา พวงพโิ ล วทิ ยากรสอนการผลติ สครบั สมนุ ไพรขดั ผวิ ผลติ ภัณฑบ์ ำ� รงุ ผวิ มอื และ การหมักโคนผ้าทอ และคุณวไลพร ชายน้อย ทช่ี ว่ ยขบั เคลอ่ื นการสรา้ งตราสนิ คา้ สนิ คา้ ในทง้ั 3 พน้ื ท่ี หนงั สอื เลม่ นเี้ สรจ็ สมบูรณ์ได้ด้วยความช่วยเหลือจากกัลยาณมิตร คุณเปรมลักษณ์ มูลใจ จึงขอขอบคุณไว้ ณ โอกาสนี้ บุษบา สทิ ธิการและคณะ

สารบัญ 1หนว่ ยท่ี การท่องเทยี่ วเชิงสขุ ภาพวถิ ีน�้ำพุรอ้ น 1.1 การท่องเที่ยวเชิงสขุ ภาพ 2 1.2 การทอ่ งเทยี่ วเชงิ สุขภาพวิถนี �ำ้ พรุ อ้ น 4 1.3 การท่องเทย่ี วเชิงสขุ ภาพวิถนี ้ำ� พรุ ้อนโดยชุมชน 5 1.4 รูปแบบการใหบ้ รกิ ารด้านสุขภาพท่ีสอดคลอ้ งกับ 5 แหลง่ ท่องเทยี่ วน�้ำพุร้อน 1.5 องค์ประกอบของแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว 11 1.6 แนวคิดสว่ นประสมทางการตลาดบรกิ าร 13

สารบญั 2หน่วยท่ี การสร้างคุณค่าและมูลคา่ เพมิ่ การท่องเท่ยี วเชิง สุขภาพวถิ นี ้�ำพรุ ้อน 2.1 การสรา้ งคุณคา่ และมูลคา่ เพิม่ แกผ่ ลิตภัณฑ์ทาง 20 การท่องเทีย่ วและบริการ 2.2 การออกแบบบริการ 28 2.3 การออกแบบประสบการณ์ 30 2.4 แนวทางปฏิบตั สิ �ำหรบั สถานบรกิ ารด้านสขุ ภาพ 43 ตามฐานวิถชี วี ติ ใหม่ 2.5 กรณศี ึกษา : เสน้ ทางเช่ือมโยงการทอ่ งเทย่ี วเชิงสง่ 75 เสริมสุขภาพวถิ ีนำ้� พุรอ้ น 3หนว่ ยที่ การส่อื ความหมาย 3.1 รปู แบบการสอ่ื ความหมาย 71 3.2 เครือ่ งมือการส่อื ความหมาย 72 3.3 บทบาทของการสือ่ ความหมายทางการท่องเทย่ี ว 75 3.4 กรณศี กึ ษา การสือ่ ความหมาย ของน�ำ้ พรุ อ้ น 78 ดอยสะเก็ด จงั หวดั เชียงใหม่

สารบัญ 4หน่วยที่ การดำ� เนนิ การดา้ นการตลาด 4.1 การสรา้ งตราสนิ คา้ 82 4.2 กลยุทธก์ ารทำ� ตราสนิ คา้ แบบงา่ ย 82 4.3 กระบวนการพัฒนาตราสนิ คา้ เพอื่ การทอ่ งเที่ยว 87 4.4 การพัฒนาตราสนิ ค้าเพอื่ แหล่งทอ่ งเทย่ี วเชงิ สุขภาพ 90 วิถนี ำ�้ พุรอ้ น 4.5 การพฒั นาสอ่ื การตลาดออนไลนเ์ พือ่ การสร้าง 91 ความสมั พันธ์กับนักท่องเทีย่ ว 4.6 การตลาดออนไลนท์ ่คี ณุ สามารถทำ� ไดเ้ อง 96 4.7 เครอื่ งมอื ด้านการตลาด 102

5หนว่ ยท่ี สารบัญ การพัฒนาผลิตภณั ฑ์เชื่อมโยงการทอ่ งเทย่ี ว 108 เชงิ สขุ ภาพวถิ ีนำ้� พรุ อ้ น 113 5.1 การสรา้ งคณุ คา่ และมูลค่าเพ่ิมแหล่งทอ่ งเท่ียว 116 น�ำ้ พุร้อน 137 5.2 การคัดเลือกผลติ ภัณฑ์ส�ำหรับการพัฒนา ให้เกดิ ผลเชิงพาณิชย์ 5.3 การออกแบบตัวอย่างผลิตภณั ฑ์ตน้ แบบ บรรณานุกรม

12

1 การท่องเท่ียวเชงิ สุขภาพวิถนี ำ้� พุรอ้ น เพื่อสร้างความเข้าใจเบื้องต้นเก่ียวกับ การท่องเที่ยวเชิงสุขภาพวิถีน�้ำพุร้อน ในหน่วยน้ี ผู้เขียนจ�ำแนกองค์ความรู้ ออกเป็น 6 ดา้ น ประกอบด้วย 1) การทอ่ งเทีย่ วเชงิ สขุ ภาพ 2) การทอ่ งเทย่ี วเชงิ สขุ ภาพวถิ นี ำ้� พรุ อ้ น 3) การทอ่ งเทยี่ วเชงิ สขุ ภาพวถิ นี ำ้� พรุ อ้ น โดยชุมชน 4) รปู แบบการใหบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพท่ี สอดคลอ้ งกบั แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วนำ้� พรุ อ้ น 5) องค์ประกอบของแหล่งทอ่ งเท่ยี ว 6) แนวคดิ สว่ นประสมทางการตลาด บรกิ าร

1.1 การท่องเท่ยี วเชงิ สุขภาพ การทอ่ งเทยี่ วเชงิ สขุ ภาพ คอื การเดนิ ทางทอ่ งเทย่ี วเพื่อเยยี่ มชม แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วทสี่ วยงามทางธรรมชาตแิ ละวฒั นธรรม ตลอดจนการเรยี นรู้ วถิ ชี วี ติ และพกั ผอ่ นหยอ่ นใจ โดยแบง่ เวลาสว่ นหนงึ่ จากการเดนิ ทางทอ่ งเทยี่ ว เพ่ือท�ำกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพและกิจกรรมรักษาฟื้นฟูธรรมชาติ (การท่องเท่ียวแห่งประเทศไทย : 2552) ดังนั้นกิจกรรมการท่องเท่ียว เชงิ สขุ ภาพจงึ เปน็ กจิ กรรมทผี่ สมผสานระหวา่ งกจิ กรรมเทยี่ วชมแหลง่ ทอ่ งเทยี่ ว และกจิ กรรมเชงิ สขุ ภาพ ซง่ึ จำ� แนกตามวตั ถปุ ระสงคข์ องการทอ่ งเทย่ี ว คอื 1) การทอ่ งเทยี่ วเชงิ สง่ เสรมิ สขุ ภาพ (Health Promotion) ไดแ้ กก่ ารรกั ษา ดว้ ยแพทย์แผนไทย การรบั ประทานอาหารเพ่ือสขุ ภาพ การเที่ยวชมและ การใช้บริการการรักษาด้วยสมุนไพรในชนบท การเท่ียวชมแหล่งเกษตร ธรรมชาติ การทอ่ งเทย่ี วในแหลง่ นำ้� พรุ อ้ นและการอาบนำ�้ แร่ การฝกึ สมาธิ 2

และบำ� เพญ็ ภาวนา การทอ่ งเทยี่ วในแหลง่ ธรรมชาติ และใชบ้ รกิ ารในสถาน บรกิ ารสง่ เสริมสุขภาพ เช่น สปา เปน็ ตน้ และ 2) การทอ่ งเที่ยวเชงิ บ�ำบัด รักษาสขุ ภาพ (Health Healing) ไดแ้ ก่ การท�ำฟนั การศลั ยกรรมเสรมิ ความงาม การผา่ ตดั แปลงเพศตามโรงพยาบาล คลนิ กิ หรอื สถานพยาบาล ตา่ งๆ เปน็ ตน้ จะเหน็ ได้วา่ การท่องเทยี่ วเชิงสง่ เสรมิ สุขภาพ เป็นกจิ กรรม ทพี่ ฒั นามาจากฐานรากของชมุ ชนเนน้ การเดนิ ทางทอ่ งเทยี่ วในแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว และใชท้ รพั ยากรและภูมปิ ัญญาไทยท่ีมีในทอ้ งถิน่ เป็นหลัก ซ่ึงถา้ สามารถ พัฒนาและส่งเสริมด้านการตลาดการท่องเท่ียวรูปแบบน้ีได้ก็เท่ากับ เป็นการส่งเสริมให้เกิดความเติบโตระบบเศรษฐกิจชุมชนโดยมี “ชุมชน และภาคกี ารทอ่ งเทย่ี วในพน้ื ท”่ี เปน็ ผไู้ ดร้ บั ผลประโยชนจ์ ากการทอ่ งเทย่ี ว โดยตรง 3

1.2 การทอ่ งเทยี่ วเชงิ สขุ ภาพวถิ นี ำ�้ พรุ อ้ น การทอ่ งเทย่ี วเชงิ สขุ ภาพวถิ นี ำ้� พุ ร้อนหมายถึง การเดินทางเพ่ือเย่ียมชม แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติเพื่อการ เรยี นรวู้ ถิ ชี วี ติ ทางวฒั นธรรมและเพอื่ การ พักผ่อนหย่อนใจ โดยแบ่งเวลาจากการ ท่องเท่ียวไปท�ำกิจกรรมส่งเสริมสุขภาพ อย่างถูกหลักวิชาการและมีคุณภาพ มาตรฐาน เช่น การอาบน�้ำแร่หรือน�้ำพุ รอ้ น การทำ� กจิ กรรมวารบี ำ� บดั การนวด/ อบ/ ประคบสมุนไพร การฝกึ กายบรหิ าร ท่าฤๅษีดัดตน และให้การบริการอาหาร และเครื่องด่ืมเพ่อื สุขภาพ เปน็ ตน้ ตลอด จนการมโี อกาสไดแ้ ลกเปลยี่ นประสบการณ์ และสังสรรค์ทางสังคมเพื่อการสร้าง เสริมสุขภาพท่ีดีกับบุคคลอ่ืนในระหว่าง การเดินทางท่องเท่ียว ซึ่งก่อให้เกิดการ เปล่ียนแปลงทัศนคติ ค่านิยม และ พฤติกรรมในการสง่ เสรมิ และรกั ษาฟน้ื ฟู สุขภาพให้สมบูรณ์ด้วยตัวเองมากย่ิงขึ้น ทั้งนี้หัวใจของการท่องเที่ยวคือการให้ บริการท่ีสร้างความประทับใจและตอบ สนองความต้องการหรือความคาดหวัง ของนกั ท่องเท่ยี วหรอื ผรู้ บั บรกิ าร 4

1.3 การท่องเท่ยี วเชิงสขุ ภาพวถิ ีน�้ำพุรอ้ นโดยชุมชน การทอ่ งเทยี่ วเชงิ สขุ ภาพวถิ นี ำ้� พรุ อ้ นโดยชมุ ชน หมายถงึ การเดนิ ทางท่องเที่ยวเพ่ือพักผ่อนหย่อนใจในแหล่งท่องเท่ียวทางธรรมชาติใน ชุมชนต่างๆ ที่มีทรัพยากรและส่ิงอ�ำนวยความสะดวกเอ้ือต่อการท�ำ กิจกรรมเชิงสุขภาพ อาทิ เช่น การแช่น�้ำพุร้อน การนวด หรือการอบ สมนุ ไพร เป็นต้น โดยชุมชนเปน็ ผู้กำ� หนดกระบวนการ ทศิ ทาง และรปู แบบการท่องเท่ียวให้สอดคล้องกับมาตรฐานด้านความปลอดภัยและ สุขภาพอนามัย ท้ังน้ีคนในชุมชนมีฐานะเป็นเจ้าของทรัพยากรท่องเที่ยว ในพนื้ ทแี่ ละเปน็ ผทู้ ไี่ ดร้ บั ผลกระทบจากการทอ่ งเทยี่ วทง้ั โดยทางตรงและ ทางออ้ ม (พมิ พร์ วี โรจนร์ งุ่ สตั ย:์ 2553) ดงั นนั้ หลกั การสำ� คญั ในการจดั การ การท่องเท่ียวคือ การส่งเสริมการมีส่วนร่วมของชุมชนในกระบวนการ การพฒั นาการทอ่ งเทย่ี วตง้ั แตก่ ารตดั สนิ ใจ การวางแผนพฒั นาการทอ่ งเทยี่ ว การน�ำแผนพฒั นาฯสูก่ ารปฏิบตั ิ การตดิ ตามและประเมินผล และการแก้ ปญั หาทเี่ กดิ ขนึ้ รวมทงั้ การจดั การทกี่ อ่ ใหเ้ กดิ การกระจายรายไดอ้ ยา่ งทวั่ ถงึ เปน็ ธรรมและการสรา้ งคณุ คา่ แกท่ รพั ยากรการทอ่ งเทยี่ วทง้ั ทางธรรมชาติ และวัฒนธรรมในชุมชน 1.4รปู แบบการใหบ้ รกิ ารดา้ นสขุ ภาพทสี่ อดคลอ้ งกบั แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วนำ�้ พรุ อ้ น การให้บริการด้านสุขภาพที่เชื่อมโยงกับน้�ำพุร้อน จ�ำแนกตามความ ตอ้ งการของผใู้ ช้บริการดงั นี้ 1) การนวดร่างกาย (Body Massage) คือกิจกรรมทางเลือกยอดนิยมของการท�ำสปา ช่วยให้ร่างกาย ผอ่ นคลายไดด้ เี ยยี่ ม โดยสปาแตล่ ะแหง่ จะมรี ปู แบบการนวดตา่ งกนั ไป ขนึ้ อยู่กับการน�ำเอาความโดดเด่นของการนวดแบบใดมาผสมผสานให้เป็น เอกลกั ษณ์ของสปาแต่ละแหง่ เชน่ นวดแผนไทย นวดบำ� บดั อโรมา และ 5

การนวดของชนชาตอิ ืน่ เช่น การนวดแบบสวดี ชิ (Swedish Massage) เป็นต้น เป็นการนวดเพื่อผ่อนคลายและกระตุ้นระบบการหมุนเวียนของ โลหติ ทผ่ี วิ หนงั โดยใชเ้ ทคนคิ การลบู ไลไ้ ปตามกลา้ มเนอ้ื มกี ารลบู การเคาะ เพอ่ื กระตนุ้ ระบบประสาท และการเขยา่ อยา่ งเปน็ จงั หวะ ปจั จบุ นั มกี ารนำ� พฤกษาบ�ำบัดเข้ามาใช้ประกอบในการนวดด้วย เพ่ือให้ผู้รับบริการเกิด ความผอ่ นคลายทงั้ รา่ งกาย จิตใจ และอารมณ์ 2) อบซาวนา่ หรอื อบสมนุ ไพร (Aroma Steam / Herbal Steam) คอื กจิ กรรมการกระตนุ้ รา่ งกายดว้ ยความรอ้ นเพอ่ื ใหร้ ขู มุ ขนในรา่ งกายเปดิ กว้างพร้อมท่ีจะขับสารพิษออกมากับเหง่ือวิธีการน้ีได้รับความนิยมมาก ทส่ี ดุ มขี น้ั ตอนงา่ ยไมซ่ บั ซอ้ น สามารถทำ� เองไดห้ ากมอี ปุ กรณเ์ ครอื่ งซาวนา่ 3) สครับ (Scrub) สครับ คือการกระตุ้นระบบการหมุนเวียนของเลือดด้วยการขัด ผวิ ดว้ ยพรรณพชื จากธรรมชาติ เชน่ พชื สมนุ ไพรตา่ งๆ รวมทงั้ การใชเ้ กลอื ทะเล สาหรา่ ย หรอื ฟองนำ�้ เพอื่ ขจดั เซลลผ์ วิ หนงั ทเ่ี สอ่ื มสภาพใหห้ ลดุ ออก ไป ใหเ้ ซลลผ์ วิ ใหมข่ นึ้ มาทดแทนและเปน็ การเตมิ สารอาหารใหผ้ วิ ดว้ ย การส ครบั ผวิ นจ้ี ะชว่ ยใหส้ ุขภาพผิวดขี ึ้น ผิวเนยี นนุ่ม เรยี บ และสผี ิวสมำ่� เสมอ ย่ิงขึ้น ทงั้ นก้ี ารขดั ผวิ สามารถใชส้ มนุ ไพรขดั หรอื ใชผ้ สมกบั ครมี ขดั ผวิ เพอื่ หลกี เลยี่ ง การเกดิ อาการแพ้ หรอื มปี ญั หาเรอื่ งความแหง้ ของผวิ ทเ่ี กดิ จาก การใช้สมุนไพรบางประเภท เพราะในครีมขัดผิวนั้นมีเน้ือครีมท่ีช่วยให้ ความลน่ื ในการถหู รอื ขดั เมด็ ของครมี จะชว่ ยลดแรงการเสยี ดสกี บั ผวิ หนงั ซง่ึ จะปอ้ งกนั การอกั เสบและการแพข้ องผวิ หนงั ได้ สมนุ ไพรทนี่ ยิ มใช้ ไดแ้ ก่ ชาเขยี ว มสี รรพคณุ ชว่ ยลดรวิ้ รอย กาแฟมสี รรพคณุ ในการขดั สารพษิ งาดำ� มีสรรพคุณเหมาะส�ำหรับคนผิวแห้ง รวมถึงผลไม้รสเปร้ียวมีสรรพคุณใน การผลดั ผวิ บำ� รุงผวิ เป็นต้น 6

4) การห่อรา่ งกาย (Body Wrap) การหอ่ รา่ งกาย คอื การหอ่ ลำ� ตวั และแขน ขา คลา้ ยการหอ่ ทารก แรกเกดิ ดว้ ยผลติ ภณั ฑจ์ ากธรรมชาตทิ ม่ี สี รรพคณุ พเิ ศษ ไดแ้ ก่ สาหรา่ ยทะเล (Seaweed Mask) โคลนทะเล สมนุ ไพรบางชนดิ แลว้ หอ่ ด้วยผา้ ห่มชุบ นำ้� ร้อนหรือผา้ ห่มชุบน�้ำเย็นนาน 20-30 นาที ขั้นตอนนี้ชว่ ยให้รา่ งกายมี อณุ ภมู สิ งู ขึน้ อยา่ งคงท่ี รขู มุ ขนเปดิ กว้างเพอื่ ขับของเสยี ออกจากร่างกาย ฟื้นฟูสภาพผิวและช่วยให้เกิดการผ่อนคลายอย่างลึกล�้ำ บรรเทาอาการ ปวดเมอื่ ย กลา้ มเนื้อ และขอ้ ต่ออกั เสบ 5) วารีบำ� บดั หรือ การบำ� บดั ด้วยนำ�้ (Hydro Therapy) การทำ� กจิ กรรมวารบี ำ� บดั มหี ลากหลายรปู แบบ ไดแ้ ก่ การแชต่ วั ในนำ�้ การอบตวั การหอ่ ตัว การประคบ การสูดดม การใช้น�้ำร้อนจดั สลบั นำ้� เยน็ จดั การฉดี น้�ำ การรดน้�ำ การว่ายน�้ำ และสปา บางแห่งอาจใหผ้ ูใ้ ช้ บรกิ ารนอนแชใ่ นอา่ งทโี่ รยดว้ ยกลบี ดอกไม้ (Floral Bath) แลว้ หยดนำ�้ มนั หอมระเหยกบั เกลอื แรล่ งไปผสม วธิ แี ชต่ วั แบบนจ้ี ะชว่ ยใหจ้ ติ ใจผอ่ นคลาย ได้ดี ช่วยกระตุน้ การหมุนเวียนของโลหติ และบ�ำบัดอาการผดิ ปกตบิ าง อย่างตามสรรพคุณของชนิดน�้ำมันหอมระเหยที่ใช้ ในการใช้บริการวารี บำ� บดั แตล่ ะครง้ั ควรเครง่ ครดั ตามเวลาทกี่ ำ� หนด เชน่ 10-30 นาที เปน็ ตน้ พรอ้ มทง้ั ระมดั ระวงั การแพน้ ำ้� มนั บางชนดิ และหลกี เลยี่ งการใชบ้ รกิ ารวารี บำ� บดั เม่ือรสู้ กึ ไม่สบาย นอกจากนย้ี งั มกี จิ กรรมวารบี ำ� บดั อนื่ ๆ ไดแ้ ก่ การอาบนำ�้ ทเี่ รยี กวา่ (Swiss Shower) คอื ยนื อาบนำ้� รอ้ นสลบั กบั นำ้� เยน็ ทพี่ งุ่ ออกมาจากฝกั บวั พรอ้ มกนั 8-10 จดุ ทวั่ รา่ งกาย เพอื่ กระตนุ้ ใหเ้ กดิ การหมนุ เวยี นของโลหติ น้�ำเย็นท�ำให้หลอดเลือดหดตัว ส่วนน�้ำร้อนท�ำให้หลอดเลือดขยายตัว การยืดหดของหลอดเลือดจะช่วยกระตุ้นการท�ำงานของอวัยวะภายใน 7

และ การอาบน้�ำแบบ (Vichy Shower) เป็นการบ�ำบัดด้วยแรงดันน�้ำ โดยใช้ฝักบัวหลายอันเรียงในแนวตรงตามความยาวของร่างกาย ให้ผู้ใช้ บรกิ ารนอนควำ�่ ลง ใหแ้ รงดนั ของนำ้� พงุ่ ออกมากระทบแผน่ หลงั และทอ่ นขา อย่างครอบคลุมนาน 15-20 นาที ชว่ ยเปดิ รูขุมขนเพอ่ื ให้สมุนไพรตา่ งๆ ทนี่ ำ� มาพอกตวั ภายหลงั สามารถซมึ เขา้ สผู่ วิ หนงั ชน้ั ในไดด้ ขี นึ้ วธิ กิ ารนชี้ ว่ ย คลายเครียดและลดอาการปวดเมื่อยกลา้ มเนอ้ื เป็นต้น 6) โภชนบำ� บัด (Nutrition Therapy) โภชนบำ� บดั เนน้ การกนิ สารอาหารตามธรรมชาตหิ ลกี เลย่ี งอาหารแหง้ อาหารแปรรูป อาหารปรุงแต่ง หรือปนเปื้อนสารเคมี และสารอาหาร ดดั แปลง มีนกั โภชนาการหรอื แพทย์ทางเลอื กเป็นผแู้ นะน�ำ 7) Exercise Breathing Therapy เป็นวิธีบ�ำบัดที่พบมากในสปายุคพัฒนาซ่ึงมีการออกก�ำลังกาย หลากหลายรปู แบบ ไดแ้ ก่ การออกกำ� ลงั กายแบบแอโรบกิ และการยดื เสน้ ยดื สาย เช่น โยคะ ไทเกก็ ช่กี ง ร�ำกระบอง และการออกกำ� ลงั กายในน�ำ้ เป็นต้น ท้ังนี้ในการออกก�ำลังกายแต่ละประเภทต้องมีครูฝึกคอยให้ค�ำ แนะนำ� ท่ถี กู ตอ้ ง 8) การฝึกสมาธิ (Meditation) และการฝึกจิต (Autogenic Training) วตั ถปุ ระสงคใ์ นการฝกึ สมาธแิ ละการฝกึ จติ คอื เพอ่ื ผอ่ นคลายและ หยุดความคิดและอารมณ์ให้นิ่งกับความสงบ ไม่ฟุ้งซ่าน เรียนรู้ท่ีจะรู้จัก ตวั เอง เข้าใจในพฤตกิ รรมและปัญหาตา่ งๆ ของตนเอง เพื่อเปลยี่ นแปลง พฤติกรรมที่ไม่พึงประสงค์ และปรับปรุงแก้ไขความสัมพันธ์กับบุคคลอื่น มีความสุขในสังคมและสิ่งแวดล้อม มีชีวิตอย่างมีความหมายและมีชีวิต ชีวามากข้ึนนอกจากน้ีทางการแพทย์ทางเลือกได้อธิบายว่าการฝึกสมาธิ 8

และการฝึกจิต อย่างสม่�ำเสมอสามารถช่วยลดอัตราการเต้นของหัวใจ ลดความดนั โลหิต ลดความเครยี ด และมีผลตอ่ การเจรญิ เตบิ โตของเซลล์ มะเรง็ เป็นต้น 9) ดนตรีบ�ำบดั (Music Therapy) การฟังดนตรีมีผลต่อการเปล่ียนแปลงของร่างกาย จิตใจ การท�ำงานของสมอง ท�ำให้เกิดการเปล่ียนแปลงของอัตราการเต้นของ หวั ใจ ความดนั โลหติ การตอบสนองของมา่ นตา ความตงึ ตวั ของกลา้ มเนอื้ และการไหลเวยี นของโลหติ ดงั นน้ั สปาบางแหง่ ไดน้ ำ� ดนตรมี าประยกุ ตใ์ ช้ ในการบรกิ ารเพอื่ สง่ เสรมิ สขุ ภาพทางรา่ งกายและจติ ใจของผใู้ ชบ้ รกิ ารโดย การเปิดเพลงทฟี่ งั แลว้ รู้สกึ ผอ่ นคลายเช่น เพลงคลาสสกิ ไลท์มิวสิก เพลง ไทยเดิม เพลงกลุ่มนี้จะช่วยสร้างจินตภาพเพ่ือการผ่อนคลาย ฟื้นฟูและ บำ� บดั รกั ษาโรค ทำ� ใหเ้ กดิ สมาธิ 10) วธิ บี ำ� บดั ทอ่ี าศยั แสงสี คลนื่ แสง (Color-Light-SolarTherapy) วธิ บี �ำบดั ทอี่ าศยั แสง สี คลืน่ แสงเพอื่ บำ� บัดฟ้ืนฟู เช่น พลังออรา (aura) เปน็ ตน้ ในคนปกตมิ พี ลงั ออราเปน็ รศั มที ล่ี อ้ มรอบกายหยาบอยทู่ กุ ทศิ ทาง ในลกั ษณะสามมิติ รูปกลมรี รปู ไข่ ล้อมรอบรา่ งกาย 2-3 เมตร ผทู้ มี่ ปี ระกายพลงั ออราออ่ น พลงั ภายนอกจะสามารถเขา้ มากอ่ กวนไดง้ า่ ย ทำ� ใหส้ ามารถถกู ครอบงำ� และเหนด็ เหนอื่ ยไดง้ า่ ย ลม้ เหลวงา่ ย และเจบ็ ปว่ ย ในการรักษาอาการเหล่าน้ีสามารถท�ำได้หลากหลายวิธีได้แก่ การอาบ แสงตะวนั (Solar Therapy) ของชาวอินเดยี การใชพ้ ลงั งานแสงอาทิตย์ การใช้รังสีอินฟราเรดด้วยเครื่องมือทันสมัย การใช้ฝักบัวอาบน�้ำแสงสี (Color Shower) และการใช้แสงไฟหลากหลายสสี ัน เพือ่ การบ�ำบัดตาม อารมณท์ ตี่ อ้ งการผอ่ นคลายในขณะอาบนำ�้ เชน่ สแี ดง ชว่ ยเตมิ พลงั ใหแ้ ก่ ร่างกาย และใหค้ วามรู้สึกสดช่ืน มชี วี ติ ชีวา สเี หลอื ง ช่วยกระตุน้ ให้เกดิ ความคิดสรา้ งสรรค์ เป็นตน้ 9

11) การใชพ้ ลงั ของหิน หรอื ครสิ ตัลจากธรรมชาติ (Crystal- Rock Therapy) การใชพ้ ลงั ของหิน หรอื คริสตัลจากธรรมชาติเพ่ือการผ่อนคลาย ฟน้ื ฟู และบำ� บดั โดยกอ้ นหนิ หรอื ครสิ ตลั มคี ณุ สมบตั ใิ นการเกบ็ ความรอ้ น ไวไ้ ด้นาน และเปลง่ รังสีอินฟราเรดแบบไม่เรืองแสงทำ� ใหร้ อ้ นสบายแตไ่ ม่ ระคายเคือง ในการใช้พลังของหินหรือคริสตัลจากธรรมชาตินั้นต้องผ่าน การวเิ คราะหจ์ ากธาตแุ ละพฤตกิ รรมของผใู้ ชแ้ ตล่ ะคน ซง่ึ มหี ลากหลายวธิ ี การ เช่น การน�ำมาวางเรียงรายตามจุดฝังเข็มของร่างกาย การท�ำเป็น เครอ่ื งประดับสวมใส่ และการน�ำมาวางไวใ้ นหอ้ งหรอื วางใกลต้ ัว เป็นตน้ 12) สมุนไพรบ�ำบัด (Herbal Therapy) ในปัจจุบันการใช้สมุนไพรเพ่ือการบ�ำบัดและส่งเสริมสุขภาพได้รับความ นิยมอย่างแพร่หลาย รูปแบบการใช้สมุนไพรมีหลากหลายขึ้นอยู่กับ ประเภทของสมุนไพรและวัตถุประสงค์ของการใช้ ได้แก่ การประกอบ อาหารและการท�ำเคร่ืองดื่มโดยใช้สมุนไพรท่ีให้กล่ินหอม การท�ำอาหาร เสริมเพอื่ สร้างความสดชนื่ ลดไขมันในเลือด ลดน�ำ้ หนกั ลดระดบั น้�ำตาล คลายเครียด ชว่ ยใหน้ อนหลบั งา่ ย และการใชส้ มนุ ไพรเพือ่ บ�ำรงุ ผวิ พรรณ เช่น การอบไอน้�ำ การแช่ตวั พอกผวิ และบ�ำรงุ ผิว เป็นต้น 10

1.5 องคป์ ระกอบของแหล่งทอ่ งเท่ยี ว แหล่งท่องเท่ียว หมายถึง สถานท่ีท่องเที่ยว กิจกรรม และ วฒั นธรรมประเพณที ส่ี ะทอ้ นใหเ้ หน็ ถงึ อารยธรรมทอ้ งถน่ิ ทมี่ ลี กั ษณะเดน่ มีการผสมผสานองค์ประกอบหลากหลายมิติเพ่ือให้เกิดส่ิงดึงดูดใจและ คณุ คา่ ทางการท่องเทย่ี ว ท่ีสามารถดึงดูดความสนใจ ของนักทอ่ งเทย่ี วให้ เข้ามาเยี่ยมชม องค์ประกอบของแหล่งท่องเที่ยว จ�ำแนกเป็น 7 องค์ ประกอบ ดังนี้ 1) สงิ่ ดงึ ดดู ใจทางการทอ่ งเทยี่ ว (Attraction) หมายถงึ ทรพั ยากร การท่องเที่ยวจ�ำแนกเป็นทรัพยากรทางธรรมชาติ ทรัพยากรทางศิลปะ วฒั นธรรม ประเพณวี ถิ ชี วี ติ ของคนในชมุ ชนและเทศกาลประจำ� ปี รวมทงั้ ส่ิงก่อสร้างต่างๆที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อจุดดึงดูดให้นักท่องเท่ียวเดินทางมา ท่องเทีย่ ว 2) กจิ กรรมการท่องเท่ยี ว (Activity) และกจิ กรรมนนั ทนาการ (Tourist Activities และ Recreational Activities) นบั เปน็ องคป์ ระกอบ ทสี่ ำ� คญั ในยคุ ปจั จบุ นั เพราะเปน็ การทน่ี กั ทอ่ งเทยี่ วไดม้ ี โอกาสทำ� กจิ กรรม ต่าง ๆ ตามความสนใจเฉพาะ ได้แก่ การเดินป่าศกึ ษาระบบนิเวศป่าร้อน ช้ืน การพายเรือ ล่องแก่ง การตกปลาหมึกในทะเลลึกตลอดจนการร่วม กจิ กรรมกบั ชมุ ชนเจา้ บา้ น เชน่ การดำ� นา การเกย่ี วขา้ ว การรว่ มพธิ บี ายศรี สู่ขวญั เป็นต้น ซงึ่ กิจกรรมท้งั หมดจะเปน็ ประสบการณ์ (Experience) ท่ี อยู่ในความทรงจ�ำ ของนักท่องเท่ียวและกิจกรรมดังกล่าวมักก่อให้เกิด การกระจายรายไดใ้ นชุมชนในแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว 11

3) การเข้าถงึ แหล่งท่องเทย่ี ว (Accessibility) ไดแ้ ก่ การมีระบบ โครงสร้างพ้ืนฐานที่เหมาะสม เช่น สนามบิน ระบบคมนาคม ตลอดจน การให้บริการด้านอุตสาหกรรมขนสง่ เช่น การขนสง่ ทางอากาศ ทางบก และ ทางน�้ำ ซึ่งจะเอื้ออ�ำนวยให้นักท่องเท่ียวสามารถเดินทางไปถึง จุดหมายปลายทาง (Destination) หรือแหล่งท่องเท่ียว (Attraction) ได้อยา่ งสะดวก รวดเรว็ และปลอดภัย 4) สิง่ อำ� นวยความสะดวกทางการทอ่ งเที่ยว (Amenity) เปน็ สง่ิ ทรี่ องรบั ในการเดนิ ทางทอ่ งเทยี่ วของนกั ทอ่ งเทย่ี วเพอื่ ใหก้ ารเดนิ ทางทอ่ งเทยี่ ว เป็นไปด้วยความสะดวกและปลอดภัย โดยสิ่งอ�ำนวยความสะดวกทาง การทอ่ งเทยี่ วแบ่งออกไดเ้ ป็น 2 ประเภท คอื 4.1 สงิ่ อำ� นวยความสะดวกทางการทอ่ งเทย่ี วโดยตรง หมายถงึ สงิ่ อำ� นวยความสะดวกทางการทอ่ งเทย่ี วทเี่ กดิ ขนึ้ เพอื่ รองรบั การเดนิ ทาง เขา้ มาทอ่ งเทย่ี วของนกั ทอ่ งเทย่ี วโดยเฉพาะ ไดแ้ กก่ ารอำ� นวยความสะดวก ในการเดนิ ทางเขา้ ออกประเทศ เชน่ การตรวจหนงั สอื เดนิ ทาง การตอ่ วซี า่ และการใหบ้ รกิ ารต่างๆทก่ี ่อใหเ้ กิดความสะดวกระหวา่ งการเดินทางทอ่ ง เท่ียว เชน่ บริการน�ำเท่ียว บรกิ ารขนส่ง เปน็ ตน้ 4.2 สง่ิ อำ� นวยความสะดวกทางการทอ่ งเทยี่ วโดยออ้ ม หมายถงึ สาธารณูปโภคพื้นฐาน ที่มีอยู่ในประเทศแล้ว แม้จะไม่มีการท่องเที่ยว รัฐบาลก็ต้องมีส่ิงอ�ำนวยความสะดวกเหล่าน้ีแก่ประชาชน ส่วนการให้ บรกิ ารนกั ทอ่ งเทย่ี วกถ็ อื เปน็ ผลพลอยได้เชน่ การสอื่ สารการไฟฟา้ การประปา การคมนาคม การรกั ษาความปลอดภัย และการรกั ษาพยาบาล เป็นต้น 12

5) ทพี่ ักแรม (Accommodation) หมายถึงทพี่ ักแรมเพือ่ รองรับ นกั ทอ่ งเท่ยี ว ที่ต้องการคา้ งคนื ได้แก่ ท่ีพกั ประเภทต่าง ๆ เช่น โรงแรม รีสอร์ท เกสต์เฮ้าส์ โฮมสเตย์โดยที่พักแรมดังกล่าวจะมีส่ิงอ�ำนวย ความสะดวกในระดับต่างกนั ซง่ึ มผี ลตอ่ ราคาและบริการ ได้แก่ ภัตตาคาร สระวา่ ยนำ้� บาร์ ฟิตเนส สปา และสง่ิ อำ� นวยความสะดวกอืน่ ๆ เปน็ ต้น 6) การให้บริการเสริมในแหล่งท่องเท่ียว (Ancillary Service) ไดแ้ ก่ บรกิ ารตา่ งๆ ทม่ี ใี หน้ กั ท่องเท่ียว เช่นการให้บริการด้านร้านอาหาร โรงพยาบาล ไปรษณยี ์ สถานบี รกิ ารนำ้� มนั รา้ นคา้ และรา้ นขายสนิ คา้ ของ ที่ระลกึ เปน็ ต้น 7) การบรหิ ารจดั การแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว (Administration) หมายถงึ การวางแผนการท่องเท่ียวและการด�ำาเนินการให้เป็นไปตามแผนโดยมี การจัดการบรหิ ารงาน บุคคล การอำ� นวยการและควบคุมอยา่ งเหมาะสม เพอื่ ใหเ้ ปน็ ไปตามแผนทไ่ี ดว้ างไว้ รวมทงั้ มกี าร ประเมนิ ผลแผนการดำ� เนนิ การด้านการทอ่ งเทย่ี วดว้ ย 1.6 แนวคิดสว่ นประสมทางการตลาดบริการ สว่ นประสมทางการตลาดบรกิ าร หมายถงึ เครอื่ งมอื ทางการตลาด ท่ีใชใ้ นการสรา้ ง ความต้องการซือ้ หรือ ความตอ้ งการใชบ้ ริการ ประกอบ ดว้ ย ผลติ ภณั ฑ์ (Product) ราคา (Price) ชอ่ งทางการจดั จำ� หนา่ ย ( Place) การส่งเสริมการตลาด ( Promotion) บคุ คล ( People) ภาพลกั ษณแ์ ละ การน�ำเสนอ (Physical Evidence and Presentation) และด้าน กระบวนการให้บริการ (Process) (Philip Kotler,1997) โดยมี รายละเอยี ดดังนี้ 13

1) ดา้ นผลติ ภัณฑ์ (Product) เปน็ สิง่ ซงึ่ สนองความจ�ำเป็นและ ความต้องการของมนุษย์ได้คือส่ิงที่ผู้ขายต้องมอบ ให้แก่ลูกค้าและลูกค้า จะได้รับผลประโยชน์และคุณค่าของผลิตภัณฑ์น้ันๆ โดยท่ัวไปแล้ว ผลิตภัณฑ์แบ่งเป็น 2 ลักษณะ คือ ผลิตภัณฑ์ที่จับต้องได้ (Tangible Products) และ ผลติ ภณั ฑท์ ่จี บั ตอ้ งไมไ่ ด้ (Intangible Products) 2) ดา้ นราคา (Price) หมายถงึ คณุ คา่ ผลติ ภณั ฑใ์ นรปู ตวั เงนิ ลกู คา้ จะเปรยี บเทยี บระหว่างคณุ ค่า (Value) ของ บรกิ ารกบั ราคา (Price) ของ บรกิ ารนัน้ ถา้ คณุ คา่ สงู กว่าราคาลกู คา้ จะตดั สนิ ใจซือ้ ดงั นัน้ การกำ� หนด ราคา การใหบ้ รกิ ารควรมคี วามเหมาะสมกบั ระดบั การใหบ้ รกิ าร ความชดั เจน และงา่ ยตอ่ การจ�ำแนกระดบั บริการที่แตกตา่ งกัน 3) ดา้ นชอ่ งทางการจดั จำ� หนา่ ย (Place) เปน็ กจิ กรรมทเี่ กย่ี วขอ้ ง กับบรรยากาศส่ิงแวดล้อมในการน�ำเสนอ บริการให้แก่ลูกค้าซึ่งมีผลต่อ การรับรู้ของลูกค้าในคุณค่าและคุณประโยชน์ของบริการท่ีน�ำเสนอซ่ึงจะ ต้องพิจารณาในด้านท�ำเลท่ีตั้ง (Location) และช่องทางในการน�ำเสนอ บรกิ าร (Channels) 4) ด้านการสง่ เสริมการตลาด (Promotions) เป็นเคร่ืองมือหนง่ึ ทมี่ คี วามสำ� คญั ในการตดิ ตอ่ สอื่ สารกบั ผใู้ ชบ้ รกิ าร โดยมี วตั ถปุ ระสงคเ์ พอื่ แจง้ ขา่ วสารหรอื ชกั จงู ใหเ้ กดิ ทศั นคตแิ ละพฤตกิ รรม การใชบ้ รกิ ารและเปน็ กุญแจส�ำคญั ของการตลาดสายสัมพันธ์ 5) ด้านบุคคล (People) หรือพนักงาน (Employee) ซ่ึงต้อง อาศยั การคดั เลอื ก การฝกึ อบรม การจงู ใจ เพอ่ื ใหส้ ามารถสรา้ งความพงึ พอใจ แกล่ กู ค้าได้แตกต่างเหนอื คแู่ ข่งขัน เปน็ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งเจ้าหน้าที่ผู้ ใหบ้ ริการและผู้ใช้บรกิ ารต่างๆ ขององค์กร เจา้ หน้าที่ต้องมคี วามสามารถ มที ศั นคตทิ สี่ ามารถตอบสนองตอ่ ผใู้ ชบ้ รกิ าร มคี วามคดิ รเิ รมิ่ สรา้ งสรรค์ มคี วามสามารถในการแกไ้ ขปญั หาและ สามารถสรา้ งคา่ นยิ มใหก้ บั องคก์ ร 14

6) ดา้ นกายภาพและการนำ� เสนอ (Physical Evidence) แสดงให้ เหน็ ถึงลักษณะทางกายภาพและการน�ำเสนอให้กับลูกค้าให้เห็นเป็นรูป ธรรม โดยการสรา้ งคณุ ภาพโดยรวม ทงั้ ทางดา้ ยกายภาพและรปู แบบการ ให้บริการเพ่ือสร้างคุณค่าให้กับลูกค้าได้แก่ด้านการแต่งกายสะอาด เรียบร้อย การเจรจาต้องสุภาพอ่อนโยน และการให้บริการท่ีรวดเร็ว เป็นต้น 7) ด้านกระบวนการ (Process) หมายถงึ กจิ กรรมท่เี กี่ยวขอ้ งกับ ระเบยี บวธิ กี ารและงานปฏบิ ตั ใิ นดา้ นการบรกิ าร ทน่ี ำ� เสนอแกผ่ ใู้ ชบ้ รกิ าร เพอื่ มอบการใหบ้ รกิ ารอยา่ งถกู ตอ้ งรวดเรว็ และทำ� ใหผ้ ใู้ ชบ้ รกิ ารเกดิ ความ ประทับใจสูงสดุ จากข้อมลู ข้างต้น แผนภมู ิที่ 1 แสดงการบรู ณาการแนวคิดสว่ น ประสมทางการตลาดบรกิ ารและองคป์ ระกอบของแหลง่ ทอ่ งเทยี่ ว เพอื่ ใชเ้ ปน็ กรอบการสรา้ งคณุ คา่ และมลู คา่ เพมิ่ การทอ่ งเทย่ี วเชงิ สขุ ภาพวถิ นี ำ�้ พรุ อ้ นดงั นี้ 7A’s กรอบการสรา้ งคณุ คา่ และมลู คา่ เพม่ิ 7P’s การทอ่ งเทยี่ วเชงิ สขุ ภาพวถิ นี ำ้� พรุ อ้ น องค์ประกอบ สว่ นผสมทางการตลาดบริการ ของแหลง่ ท่องเทย่ี ว 1. คณุ คา่ สนิ คา้ และอตั ลกั ษณ์ Service Marketing Mix 1. สง่ิ ดงึ ดดู ใจทางการทอ่ งเทยี่ ว Attraction & Product Attraction 1. ดา้ นผลิตภณั ฑ์ 2. กจิ กรรมการท่องเทย่ี ว 2. การนำ� เสนอกจิ กรรมสรา้ งสรรค์ Product Activity Activity & Place 3. การเข้าถึงแหล่งท่องเทย่ี ว 2. ชอ่ งทางการจดั จำ� หนา่ ย Accessibility 3. การสื่อสารเพือ่ การเข้าถึง Place 4. ส่งิ อ�ำนวยความสะดวก แหลง่ ท่องเทย่ี ว ทางการทอ่ งเทยี่ ว 3. ด้านการส่งเสรมิ การขาย Amenity Accessibility & Promotions Promotions 5. ท่พี กั แรม 4. การสร้างมูลคา่ ด้วยราคา Accommodation 4. ด้านราคา 6. การให้บริการเสรมิ ใน Amenity & Price Price แหล่งท่องเทีย่ ว 5. การสรา้ งคุณภาพกายภาพ Ancillary Service 5. ดา้ นกายภาพและการนำ� เสนอ 7. การบริหารจดั การ Accommodation & Physical Evidence แหล่งทอ่ งเทย่ี ว Physical Evidence Administration 6. กระบวนการให้บรกิ าร 6. ด้านกระบวนการ Process Ancillary Service & Process 7. ด้านบคุ คล 7. โครงสรา้ งการทำ� งานบคุ ลากร People Administration & People 15

จากแผนภูมิที่ 1 แสดงการบูรณาการแนวคิดส่วนประสมทางการตลาด บรกิ ารและองคป์ ระกอบของแหลง่ ทอ่ งเทยี่ วเพอื่ สรา้ งคณุ คา่ และมลู คา่ เพม่ิ การท่องเทย่ี วเชิงสขุ ภาพวิถนี �ำ้ พุร้อน อธิบายไดด้ งั น้ี 1) คณุ คา่ สนิ คา้ และอตั ลกั ษณ์ (Attraction & Product) หมายถงึ การแสดงถึงอัตลักษณ์และคุณค่าทางภูมิปัญญาท้องถ่ินเพื่อสร้างสินค้า และบริการที่ตอบสนองความต้องการของนักท่องเที่ยวโดยใช้ภูมิปัญญา ท้องถ่ินพฒั นาความสามารถในการดึงดดู นกั ท่องเทยี่ ว 2) การนำ� เสนอกจิ กรรมสรา้ งสรรค์ (Activity & Place) หมายถงึ การนำ� เสนอกจิ กรรมสรา้ งสรรคท์ เี่ กยี่ วขอ้ งกบั สงิ่ แวดลอ้ มและบรรยากาศ ให้สอดคล้องกับบริบทและทรัพยากรในแหล่งท่องเท่ียวและนำ� เสนอรูป แบบบรกิ ารแกน่ กั ทอ่ งเทยี่ วทส่ี รา้ งการรบั รใู้ นคณุ คา่ และคณุ ประโยชนข์ อง สนิ คา้ และบริการ 3) การสื่อสารเพอื่ การเข้าถงึ แหล่งทอ่ งเทยี่ ว (Accessibility & Promotions) เป็นเครื่องมือในการสื่อสารเพื่อให้นักท่องเที่ยวตัดสินใจ เดินทางเข้าไปยังแหล่งท่องเท่ียวโดยใช้ช่องทางส่ือสารท้ังทางออนไลน์ (On line) และการสื่อสารแบบออฟไลน์ (Off line) การส่อื สารเพือ่ ชักจูง ความสนใจของนักท่องเท่ียวควรให้ความส�ำคัญต่อการสร้างเรื่องราว (Content) ทแี่ ตกต่างและน่าสนใจ ควบคู่กบั การจัดกิจกรรมและการส่ง เสริมการขายต่างๆ รวมท้ังการให้บริการการเข้าถึงข้อมูลข่าวสารต้ังแต่ กอ่ นการเดนิ ทาง และระหว่างการเดนิ ทางทอ่ งเทย่ี ว เชน่ แผนท่ี พกิ ดั ที่ ตั้งของแหล่งท่องเท่ียว ปา้ ยสัญลกั ษณ์ ปา้ ยบอกเส้นทางที่ชัดเจน บนเส้น ทางท่ปี ลอดภัยต่อการเดนิ ทางของนกั ท่องเที่ยว 4) การสร้างมูลค่าด้วยราคา (Amenity & Price) หมายถึง การสรา้ งทางเลอื กทห่ี ลากหลายแกน่ กั ทอ่ งเทย่ี วผมู้ าเยอื น สรา้ งมาตรฐาน 16

การบริการในแตล่ ะระดับ เพ่ือตอบสนองความตอ้ งการของนกั ทอ่ งเทยี่ ว ด้วยคุณค่า ซึ่งนกั ท่องเทยี่ วมกั จะเปรยี บเทยี บคณุ ค่าของบริการกบั ราคา ดังนั้นควรก�ำหนดราคาให้เหมาะสมกับระดับการให้บริการให้ชัดเจนและ ง่ายต่อการแบ่งระดับบริการท่ีแตกต่างกัน และการสร้างสิ่งอ�ำนวย ความสะดวกที่แตกตา่ งกนั ตามมูลค่าราคาทนี่ �ำเสนอ เป็นตน้ 5) การสร้างคุณภาพด้านกายภาพ (Accommodation & Physical Evidence) เป็นการแสดงให้เห็นถึงลักษณะทางกายภาพและ บรรยากาศสงิ่ แวดลอ้ มเพอื่ สรา้ งความประทบั ใจแกน่ กั ทอ่ งเทยี่ ว นำ� เสนอ ให้เห็นเป็นรูปธรรมพร้อมท้ังการสร้างคุณภาพโดยรวมด้วยการน�ำเสนอ บรรยากาศพน้ื ถ่นิ วถิ ชี วี ิตการกนิ อยู่ การแต่งกาย กริยามารยาทที่สภุ าพ และออ่ นโยน รวมถึงการให้บริการทร่ี วดเรว็ เปน็ ตน้ 6) กระบวนการให้บริการ (Ancillary Service & Process) หมายถงึ การสรา้ งบรกิ ารทหี่ ลากหลายตอ่ การตอ้ นรบั นกั ทอ่ งเทยี่ วทกุ เพศ ทุกวัย มีมาตรฐานในการให้บริการ ให้ความส�ำคัญต่อความสะอาดและ ปลอดภัยของนักท่องเท่ียว รวมถึงการออกแบบการบริการ (Service Design) ท่ีตอบสนองความต้องการของนักท่องเท่ียวได้อย่างรวดเร็ว แมน่ ยำ� เพือ่ สร้างความประทบั ใจแกน่ ักทอ่ งเท่ียว 7) โครงสรา้ งการทำ� งานดา้ นบคุ ลากร (Administration & People) หมายถงึ การกำ� หนดโครงสรา้ งการทำ� งาน จดั ทำ� แผนการทำ� งานทงั้ ระยะสน้ั และระยะยาว การพฒั นาศกั ยภาพของบคุ ลากรดา้ นการจดั การทอ่ งเทยี่ ว ให้มีความรู้ ความสามารถ และมีทัศนคติที่สามารถตอบสนอง ความต้องการของนักท่องเที่ยวได้ มีความคิดริเริ่มสร้างสรรค์ มีความ สามารถในการแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหนา้ และสรา้ งความเขม้ แขง็ ขององคก์ ร เปน็ ตน้ 17

18

2 การสรา้ งคุณคา่ และมูลคา่ เพิ่ม การท่องเทยี่ วเชงิ สขุ ภาพวิถนี ำ้� พุรอ้ น การสรา้ งคุณค่าและมลู คา่ เพิ่ม คอื กระบวนการเพ่มิ คณุ ค่า ให้แก่ผลิตภัณฑ์ ทางการท่องเที่ยวทั้งทางธรรมชาติ ศลิ ปวฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญา วถิ ถี น่ิ รวมทง้ั การ ออกแบบ ประสบการณ์และการบริการในเส้นทางการท่องเท่ียวใน พื้นที่น้�ำพุร้อนเช่ือมโยงกับแหล่งท่องเท่ียวใกล้เคียง เพ่ือ สร้างมูลค่าเพ่ิมทางเศรษฐกิจ มูลค่าทางการศึกษา มูลค่า ทางการใชง้ าน และมลู คา่ ทางประสบการณแ์ กน่ กั ทอ่ งเทย่ี ว เป็นต้น ในหน่วยนี้ผู้เขียนน�ำเสนอองค์ความรู้และกรณี ศึกษาที่ผู้อ่านสามารถน�ำไปประยุกต์ใช้ส�ำหรับการสร้าง คุณค่าและมูลค่าเพิ่มแก่แหล่งท่องเท่ียว คือ การสร้าง คุณค่าและมูลค่าเพิม่ แก่ผลิตภัณฑท์ างการท่องเท่ียว และ บริการ การออกแบบบริการ การออกแบบประสบการณ์ แนวทางปฏบิ ตั สิ ำ� หรบั สถานบรกิ ารดา้ นสขุ ภาพตามฐานวถิ ี ชวี ิตใหม่ และ กรณีศกึ ษา : เสน้ ทางเชื่อมโยงการท่องเทย่ี ว เชิงส่งเสริมสุขภาพวิถีน้ำ� พุร้อน โดยมรี ายละเอียดดังน้ี

2.1 การสร้างคณุ คา่ และมลู ค่าเพม่ิ แกผ่ ลิตภัณฑท์ างการท่องเทยี่ ว และบรกิ าร ประกอบดว้ ย 3 แนวทาง ดังน้ี 1) แนวทางการนำ� เสนอผลติ ภัณฑ์ บริการใหมแ่ ละแนวทางการ ปฏิบัติใหม่ๆ เพื่อสนับสนุนสินค้าหรือบริการบริการใหม่ ได้แก่ การน�ำ เสนออัตลักษณ์ของแหล่งท่องเท่ียวท่ีมีความโดดเด่น และแตกต่างจาก แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วอนื่ ทส่ี รา้ งคณุ คา่ เชงิ ประสบการณแ์ กน่ กั ทอ่ งเทยี่ ว เชน่ การ ทดลองแต่งกายด้วยเสื้อผ้า ท่ีแสดงถึงวัฒนธรรมพ้ืนถิ่นเม่ือใช้บริการ กิจกรรมการท่องเที่ยว การเพ่ิมเมนูอาหารและเคร่ืองดื่มตามภูมิปัญญา พื้นถิ่น และการจัดตกแต่งจานอาหารด้วยวัสดุธรรมชาติให้สอดรับกับ บรบิ ทในพน้ื ท่ี รวมทงั้ การแนะนำ� สว่ นประกอบและสรรพคณุ ของสมนุ ไพร ที่ใช้ในการปรุงอาหารพ้ืนถิ่นและการสาธิตการประกอบอาหาร เป็นต้น 2) การปรับปรงุ ผลติ ภัณฑแ์ ละบรกิ ารใหม่ เพือ่ สรา้ งมลู คา่ ทางการ ศกึ ษา ไดแ้ ก่ การปรบั ปรงุ ขนั้ ตอนการตอ้ นรบั นกั ทอ่ งเทยี่ ว การแนะนำ� วธิ ี การใชน้ ำ้� พรุ อ้ นทถ่ี กู ตอ้ ง การเตรยี มความพรอ้ มดา้ นรา่ งกายและการแตง่ กาย โดยจัดให้มีผู้ส่ือความหมายหรือมัคคุเทศก์ให้ข้อมูล และแนะน�ำ ประวัติหมู่บ้านและข้อมูลพ้ืนฐานของพื้นที่โดยย่อและการต้อนรับด้วย เคร่ืองดมื่ สมนุ ไพรพ้ืนถนิ่ เป็นตน้ 3) การสรา้ งความหลากหลายของผลติ ภณั ฑ์และบริการ เชน่ ใน แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วหนงึ่ อาจมกี ารจดั กจิ กรรมการทอ่ งเทย่ี วทห่ี ลากหลายประเภท ได้แก่ การประกวดแข่งขันภาพถ่าย การสร้างแบรนด์และบรรจุภัณฑ์ การสรา้ งสรรคส์ ตู รอาหารพนื้ ถนิ่ เพอื่ สรา้ งความแตกตา่ งและประสบการณ์ ใหแ้ กน่ กั ทอ่ งเทยี่ ว การสรา้ งเสน้ ทางการทอ่ งเทย่ี วนำ้� พรุ อ้ นทเ่ี ชอ่ื มโยงกบั แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วประเภทตา่ งๆ ในพน้ื ทใี่ กลเ้ คยี ง เพอ่ื สรา้ งความหลากหลาย ของเส้นทาง การให้ความรู้ด้านความปลอดภัยในการท�ำกิจกรรม 20

การทอ่ งเทย่ี วแตล่ ะรปู แบบและการเปดิ โอกาสใหน้ กั ทอ่ งเทยี่ วไดเ้ รยี นรวู้ ถิ ี วฒั นธรรมพ้นื บา้ น เชน่ การเรียนรกู้ ารทำ� ลกู ประคบจากสมุนไพรพน้ื บ้าน การถักสร้อยข้อมือลวดลายตามวิถีชาติพันธุ์อาข่า และการเพิ่มการให้ บริการนวดวถิ อี าข่าแกน่ ักท่องเที่ยวทสี่ นใจ ท้ังน้ีในการขับเคลื่อน การสร้างคุณค่าและมูลค่าเพิ่มให้ประสบ ความส�ำเร็จนนั้ ประกอบกอบด้วยปัจจัยดา้ น คน (People) ทีม่ ศี ักยภาพ ความรู้ ความสามารถและความคดิ สรา้ งสรรค์ ทส่ี ามารถเพม่ิ กระบวนการ (Process) หรอื ขนั้ ตอนการผลติ และการบรกิ ารเพอ่ื เพมิ่ ขดี ความสามารถ ในการแข่งขันและโอกาสทางธุรกิจ เกิดการสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์หรือ บริการใหม่ๆ (Product) เพอ่ื ให้เกิดประโยชน์ (Profit) ต่อองคก์ รเองและ สามารถตอบสนองตามความตอ้ งการของผใู้ ชบ้ รกิ ารมากทสี่ ดุ โดยมปี จั จยั ทเี่ ปน็ แรงขบั เคลอื่ นทำ� ใหเ้ กดิ การสรา้ งคณุ คา่ และมลู คา่ เพม่ิ หรอื นวตั กรรม ดงั น้ี 21

1) นวตั กรรมบคุ ลากร (People Innovation) หมายถงึ หมายถึงการพัฒนาศักยภาพของพนักงานหรือผู้ให้ บริการ โดยเริ่มจากการพัฒนาพนักงานให้มีทักษะ การคดิ เชงิ นวตั กรรม เพอ่ื ใหส้ ามารถพฒั นาตวั เอง แลว้ น�ำความสามารถไปพัฒนากระบวนการหรือวิธีการท�ำงานให้รวดเร็ว มปี ระสทิ ธภิ าพทด่ี ขี นึ้ เพมิ่ ผลผลติ หรอื ลดตน้ ทนุ ไดม้ ากขนึ้ ซงึ่ มกี ระบวนการ ในการพฒั นา ดงั น้ี 1.1 การพฒั นาทกั ษะความคดิ สรา้ งสรรคแ์ ละความคดิ วเิ คราะห์ และคดิ เชงิ ระบบ โดยใหพ้ นกั งานมคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ สามารถคดิ สง่ิ ใหมๆ่ ได้ สามารถคิดวิธีการแก้ปัญหาและป้องกันใหม่ๆ ได้ด้วยตัวเอง โดยไม่ จำ� เปน็ ต้องรอค�ำส่งั ของหัวหนา้ งานเท่าน้นั เป็นต้น 1.2 การสนับสนุนเครื่องมือ วิธีการและเทคนิคต่างๆ ใน การระดมความคิดในการพัฒนานวัตกรรม การแลกเปล่ียนและ การท�ำงานเป็นทีมเพอื่ ใหเ้ หน็ แงม่ มุ ตา่ งๆ ของการดำ� เนนิ งานทกุ ดา้ นกอ่ น น�ำมาพัฒนาประสิทธิภาพการท�ำงานหรือกระบวนการท�ำงานให้ประสบ ความส�ำเร็จตามตัวชี้วัดขององค์กร ท้ังนี้ นวัตกรรมจะเกิดขึ้นได้น้ัน ตอ้ งประกอบดว้ ย 3 ส่วน คือ 22

ส่วนท่ี 1 สว่ นที่ 2 ส่วนท่ี 3 สร้างคณุ ค่ากับผใู้ ช้ สามารถขยายผลหรือ สามารถเปน็ ไปได้ งานหรอื กลมุ่ เปา้ หมาย สรา้ งมลู คา่ ทางธรุ กจิ ได้ ทางเทคนคิ (User Desirability) (Business Viability) (Technical Feasibility) การพัฒนานวัตกรรม การพัฒนานวัตกรรม นวัตกรรมที่เกี่ยวข้อง ขน้ึ มานนั้ จะตอ้ งคำ� นงึ สามารถสร้างมูลค่า กับเทคโนโลยี เช่น ถึงคุณค่าท่ีจะเกิด หรือผลตอบแทนแก่ การพัฒนาระบบ ประโยชน์ต่อผู้ใช้งาน องค์กร โดยพัฒนา การจองให้ทันสมัยขึ้น หรือกลุ่มเป้าหมาย สินค้าและบริการให้ หรือระบบการเก็บ ของธรุ กิจ ซ่งึ การท่ีจะ ต อ บ โ จ ท ย ์ ค ว า ม ข้อมูลของผู้ใช้บริการ ได้มาซึ่งกระบวนการ ตอ้ งการและความคาด เ พื่ อ ค ว า ม ส ะ ด ว ก พัฒนานี้ต้องเริ่มจาก หวังของผู้ใช้บริการ ร ว ด เร็ ว ใ น ก า ร ห า การสังเกต การฟัง กลุม่ เป้าหมาย ซ่ึงผใู้ ห้ ประวัติ และความ หรือการสวมบทบาท บ ริ ก า ร มี บ ท บ า ท ต ้ อ ง ก า ร ข อ ง ผู ้ ใช ้ ของผู้ใช้บริการว่าเขา ส�ำคัญมากท่ีสุด บริการเพ่ือน�ำไปเป็น ต้องการอะไร เพื่อน�ำ ข้อมูลในการปรับปรุง ไปพัฒนาสร้างสรรค์ การบริการได้ เ ป ็ น น วั ต ก ร ร ม แ ก ้ ปัญหา ให้เป็นที่ ยอมรับและเชื่อถือใน การบริการ 23

ดังน้ันเพ่ือให้บรรลุเป้าหมายของการสร้างคุณค่าและมูลค่าเพ่ิม ของการท่องเท่ียวน้�ำพุร้อนที่มีประสิทธิภาพ จึงควรส่งเสริมการสร้าง นวตั กรรมบคุ ลากรโดยการพฒั นาศกั ยภาพของผใู้ หบ้ รกิ ารในแหลง่ ทอ่ งเทย่ี ว นำ้� พรุ อ้ น ดา้ นการสอื่ ความหมาย การออกแบบบรกิ ารในเสน้ ทางผบู้ รโิ ภค และคณุ ภาพการใหบ้ รกิ าร (Service Quality) ทงั้ 5 ดา้ น ไดแ้ ก่ ความเปน็ รูปธรรมของการบริการ (Tangibility) ความน่าเช่ือถือ (Reliability) การตอบสนองตอ่ ผใู้ ชบ้ รกิ าร (Responsiveness) การเอาใจใส่ (Empathy) และความไวว้ างใจ (Assurance) เปน็ ตน้ 2) นวัตกรรมกระบวนการ (Process Innovation) หมายถงึ การประยกุ ตใ์ ชแ้ นวคดิ วธิ กี าร หรอื กระบวนการ ใหมๆ่ ท่ีส่งผลใหก้ ระบวนการผลติ และการท�ำงานโดย รวมใหม้ ปี ระสทิ ธภิ าพ และประสทิ ธผิ ลสงู ขน้ึ อยา่ งเหน็ ได้ชัด เช่น การใช้คอมพิวเตอร์ ในการออกแบบกระบวนการผลิตใหม่ เปน็ ตน้ (รกั ษ์ วรกจิ โภคาทร : 2547) นอกจากนนั้ นวตั กรรมกระบวนการ รวมถึง การเปลี่ยนแปลงกระบวนการผลิตสินค้าและหรือบริการเดิมท่ีมี อยู่แล้วให้มีประโยชน์ขึ้น หรือการออกแบบกระบวนการผลิตสินค้า บริการใหม่ ซง่ึ ส่วนใหญ่จะใช้เทคโนโลยมี าประกอบ รวมถงึ กระบวนการ ส่งมอบสินคา้ และหรือบริการใหม่แก่ผู้ใช้บริการ นวตั กรรมกระบวนการ เปน็ เร่อื งของการเปลีย่ นแปลงในองค์กร ไม่ว่าจะเป็นเครื่องมือ กรรมวิธีการผลิต การจัดจ�ำหน่าย หรือรูปแบบ การจัดการองค์กร ท้ังน้ีโดยมีเป้าหมายที่จะน�ำไปสู่การพัฒนานวัตกรรม ผลิตภัณฑ์ ให้ไปถึงมือผู้บริโภคหรือผู้ใช้ได้อย่างมีประสิทธิภาพและ ประสิทธิผล รวดเร็ว ลดขั้นตอนซับซ้อน ท่ีเป็นประโยชน์ต่อองค์กร มากที่สดุ (สมนกึ และคณะ 2553) 24

ความสามารถทางนวตั กรรมกระบวนการถกู จดั เปน็ สว่ นหนงึ่ ของ ความสามารถทางนวตั กรรมเทคโนโลยี (Technological Innovativeness) เพราะนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเป็นส่วนท่ีมีความสัมพันธ์กับการใช้ เครื่องจักร และวิธีการผลิต ถือเป็นส่วนส�ำคัญของกระบวนการผลิตตัว นวัตกรรม (Avlonitis et al., 1994 ) ดงั น้นั ความสามารถทางนวตั กรรม เทคโนโลยี เป็นสว่ นทแ่ี ฝงอยใู่ นความสามารถทางนวัตกรรมกระบวนการ เชน่ เปน็ เรอ่ื งเกย่ี วกบั วธิ แี ละขนั้ ตอนการผลติ และระบบการบรหิ าร ซง่ึ ถกู พฒั นาขน้ึ ใหเ้ ปน็ นวตั กรรมดว้ ยเทคโนโลยใี หม่ (Wang & Ahmed, 2004) ความสามารถทางนวัตกรรมกระบวนการ จึงเป็นประเด็นที่พิจารณาถึง ความสามารถในการปรับใช้เทคโนโลยีใหม่ และการเปล่ียนแปลง เทคโนโลยีที่ถูกน�ำมาใช้ในกระบวนการผลิต และสร้างผลิตภัณฑ์หรือ บรกิ ารใหม่ของธรุ กิจ (สมนกึ และคณะ 2553) จากขอ้ มลู ขา้ งตน้ สรปุ ไดว้ า่ นวตั กรรมกระบวนการของการสรา้ ง คุณค่าและมูลค่าเพ่ิมของการท่องเที่ยวน�้ำพุร้อน คือการพัฒนาต่อยอด และการออกแบบระบบบริการหรือกระบวนการในการให้บริการใน แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วนำ�้ พรุ อ้ นตามเสน้ ทางของผบู้ รโิ ภค (Customer Journey) ต้ังแต่การเริ่มเข้ารับบริการจนสิ้นสุดการรับบริการ มุ่งเน้นการสร้าง ประสบการณแ์ กล่ ูกค้าหรือผูร้ บั บริการ ท้ัง 5 ประสาทสัมผัส คือ รปู รส กลน่ิ เสยี ง และสัมผัส เพอ่ื เพิม่ คุณคา่ ให้เกิดสขุ ภาวะองค์รวม 7 มติ ิ คือ กาย อารมณ์ จิตใจ จิตวญิ ญาณ สังคม สิง่ แวดลอ้ ม และเศรษฐกิจ 25

3) นวัตกรรมผลติ ภณั ฑ์ ( Product Innovation) หมายถึง การพัฒนาและน�ำเสนอผลิตภัณฑ์ใหม่ท้ัง ด้านเทคโนโลยี หรือวิธีการใช้ รวมถึงการปรับปรุง ผลติ ภัณฑเ์ ดมิ ที่มีอยู่ให้มคี ุณภาพและประสิทธภิ าพ ดยี งิ่ ขึ้น (รกั ษ์ วรกิจโภคาทร, 2547) นอกจากนัน้ ยงั หมายถึงการเปล่ียนแปลงสินค้าที่มีอยู่แล้วต่อยอดให้มีประโยชน์มากขึ้น หรือ อาจมีการสร้างสินค้าใหม่ เช่น การออกแบบ การวิจัยและพัฒนา ตอ่ ยอดเป็นการพฒั นาผลติ ภัณฑ์ใหม่ ซึง่ ถือเป็นผลิตผล (Outputs) ของ ธรุ กจิ โดยอาจอยใู่ นรปู ของตวั สนิ คา้ (Goods) หรอื การบรกิ าร (Services) (Schilling, 2008) นวตั กรรมผลติ ภณั ฑน์ น้ั ไดร้ บั แรงผลกั ดนั จากความกา้ วหนา้ ของเทคโนโลยแี ละความตอ้ งการของลกู คา้ หรอื ผรู้ บั บรกิ ารทเ่ี ปลย่ี นแปลง ไปอยา่ งรวดเรว็ ดงั นน้ั องคก์ รจงึ ควรมคี วามสมั พนั ธท์ ด่ี รี ะหวา่ งลกู คา้ หรอื ผรู้ บั บรกิ ารและคคู่ า้ ปจั จยั ทมี่ อี ทิ ธพิ ลตอ่ ความสำ� เรจ็ หรอื ความลม้ เหลวของนวตั กรรม ผลติ ภณั ฑ์ประกอบดว้ ย 8 ประการดงั นี้ (1) ความไดเ้ ปรยี บของผลติ ภณั ฑ์ ( Product Advantage) หมาย ถึงความได้เปรียบของผลิตภัณฑ์ในสายตาของผู้ใช้บริการท่ีก่อให้เกิดผล ส�ำเร็จของนวัตกรรม ได้แก่ การที่ผลิตภัณฑ์หน่ึงมีความเป็นเลิศกว่า ผลิตภัณฑ์หนึ่งในสายตาของผู้ใช้บริการ แสดงความได้เปรียบท่ีแตกต่าง จากผลติ ภัณฑอ์ นื่ อย่างเห็นไดช้ ดั เจน (2) ความรู้ทางการตลาด (Market Knowledge) หมายถึง การวิเคราะห์ การตลาดส�ำหรับนวัตกรรมเพื่อเตรียมการพัฒนา เช่น การประเมินตลาดเบื้องต้น การประเมินด้านเทคนิคการตลาดในราย ละเอียด การวเิ คราะหธ์ รุ กิจและการเงนิ การประเมินความต้องการของ ลูกคา้ หรือผรู้ บั บริการ และการวิเคราะหส์ ภาพการแข่งขัน 26

(3) ความชดั เจนของนยิ ามผลติ ภณั ฑ์ (Clear Product Definition) ประกอบดว้ ย การระบตุ ลาดเปา้ หมายทชี่ ดั เจน และแนวคดิ ของผลติ ภณั ฑ์ และประโยชนท์ ีช่ ัดเจน (4) การวิเคราะหค์ วามเสีย่ ง (Risk Assessment) ประกอบด้วย การวเิ คราะหค์ วามเสย่ี งในดา้ นตลาด เทคโนโลยี การผลติ และการออกแบบ (5) การจดั การโครงการ (Project Organization) ได้แก่ การจัด ทมี งานขา้ มหนว่ ยงานรบั ผดิ ชอบโครงการตง้ั แตเ่ รม่ิ ตน้ จนจบกระบวนการ ของโครงการ (6) ทรพั ยากรของโครงการ (Project Resource) ไดแ้ ก่ ทรพั ยากร ทางการเงิน และวัตถุดิบที่เพียงพอ ทรัพยากรมนุษย์ท่ีมีทักษะ องค์กร ธรุ กจิ ควรมที กั ษะดา้ นเทคโนโลยใี นการพฒั นาและออกแบบผลติ ภณั ฑใ์ หม่ (7) ประสทิ ธภิ าพของการดำ� เนนิ งาน (Proficiency of Execution) ไดแ้ ก่ คณุ ภาพของผลติ ภณั ฑเ์ ทคโนโลยแี ละการผลติ การทดสอบการตลาด การศกึ ษาการตลาด ในรายละเอยี ดทส่ี นบั สนนุ ความสำ� เรจ็ ของผลติ ภณั ฑใ์ หม่ (8) การสนับสนนุ จากผูบ้ ริหาร (Top Management Support) หมายถึงการสร้างบรรยากาศของความไว้วางใจ การประสานงาน การควบคุมกระบวนการพัฒนานวัตกรรมตั้งแต่ต้นจนจบกระบวนการ จากขอ้ มูลขา้ งต้น นวัตกรรมผลิตภัณฑ์การทอ่ งเท่ียวเชงิ สขุ ภาพ วิถีน้�ำพุร้อน หมายถึง การพัฒนาต่อยอดกิจกรรมและบริการทาง การท่องเท่ียวที่เช่ือมโยงกับน�้ำพุร้อนที่มีอยู่แล้วหรือสร้างขึ้นใหม่ โดย บรู ณาการระหวา่ งภมู ปิ ญั ญาทอ้ งถน่ิ อตั ลกั ษณท์ อ้ งถน่ิ และความตอ้ งการ ของนักท่องเที่ยวหรือผู้ใช้บริการ เพื่อสร้างประโยชน์และคุณค่าแก่ พนั ธมิตร และเพมิ่ รายไดแ้ กค่ น ในชมุ ชน 27

2.2 การออกแบบบริการ (Service Design) การออกแบบบริการ หมายถึงการน�ำเอาข้อมูลของผู้ใช้บริการ มาจัดกลุ่ม และออกแบบบริการให้ผู้ใช้บริการได้รับประสบการณ์ (Experiential Design) ทส่ี อดคลอ้ งตามความตอ้ งการและความคาดหวงั ผลลัพธ์ท่ีได้จากการออกแบบบริการคือ มาตรฐานบริการ (Service Standard) ทอ่ี งคก์ รกำ� หนดใชเ้ ปน็ มาตรฐานในการใหพ้ นกั งานปฏบิ ตั ติ าม เพื่อส่งมอบบริการให้แก่ผู้ใช้บริการ เป็นแนวคิดท่ีผสมผสานแนวคิด การออกแบบอยา่ งมสี ว่ นรว่ ม การออกแบบโดยใหผ้ ใู้ ชเ้ ปน็ ศนู ยก์ ลาง และ เช่อื มโยงศาสตรก์ ารออกแบบเข้าด้วยกนั “ผลติ ภัณฑ”์ (Product) “สภาพแวดลอ้ ม” (Environment) “ประสบการณ์” (Experience) “ปฏสิ ัมพันธ์” (Interaction) การออกแบบเพอ่ื สรา้ งประสบการณท์ ด่ี ใี หก้ บั ผใู้ ชบ้ รกิ ารนบั ตง้ั แต่ วินาทีแรกท่ีสินค้าและบริการถูกน�ำเสนอจากฝ่ายผลิตไปจนถึงวินาที ท่ีสินค้าและบริการอยู่ในมือผู้ใช้บริการภายใต้วิธีคิดของการออกแบบ บรกิ าร คอื สนิ คา้ และบรกิ ารจะไมถ่ กู มองแยกออกจากกนั ทกุ สงิ่ ทนี่ ำ� เสนอ จะถูกมองเป็นส่วนหน่ึงของ “ระบบบริการ”ที่สามารถสร้างคุณค่าและ มูลค่าเพิ่มแก่ตัวสินค้าและบริการน้ันๆ นอกจากน้ันการออกแบบบริการ มมี มุ มองตอ่ คำ� วา่ “ผใู้ ช้ (User)” วา่ หมายรวมถงึ บคุ คลทเ่ี กยี่ วขอ้ งทง้ั หมด ในเส้นทาง ระบบบริการ ไม่ใช่เฉพาะแค่ตัวผู้ใช้บริการเพียงอย่างเดียว ท่ีส�ำคัญท่ีสุด การออกแบบบริการ คืองานออกแบบที่ต้องการ “สร้าง ความร่วมมือ” กับผู้ที่เกี่ยวข้องท้ังหมด (All Stakeholders) โดยมีจุด มงุ่ หมายใหเ้ กิดการสอ่ื สารแลกเปลยี่ นข้อมูลความรู้ระหว่างกนั อันจะน�ำ ไปสู่การพฒั นาการบริการทีม่ คี ุณค่าได้อย่างสูงสดุ 28

ตัวอยา่ งแผนผงั การออกแบบบริการ (Service Blueprint) ทีม่ า จาก http://www.thaispaassociation.com/about.php ตัวอยา่ งแผนผัง การออกแบบบริการของ DZen Onsen and Spa ที่มา จาก https://www.facebook.com/dzenonsenandspa/ 29

2.3 การออกแบบประสบการณ์ (Experiential Design) การออกแบบประสบการณ์ หมายถึง การสร้างบรรยากาศและ ความรสู้ กึ ใหล้ กู คา้ หรอื ผรู้ บั บรกิ ารเกดิ ความประทบั ใจในตวั ตราสนิ คา้ และ ตวั สนิ ค้า ตง้ั แตข่ ณะซอื้ ระหวา่ งการใช้งาน รวมถงึ หลงั การใชส้ นิ ค้าหรือ บริการนั้นๆ นักออกแบบและนักการตลาดในปัจจุบันต่างพยายาม ออกแบบ “ประสบการณ์ดีดี” ผ่านเคร่ืองมือทางการตลาดหลากหลาย รปู แบบ โดยมเี ปา้ หมายเพอื่ สรา้ งความผกู พนั ใหเ้ กดิ ขนึ้ ระหวา่ งตราสนิ คา้ หรอื แบรนดก์ บั ผบู้ รโิ ภคในระยะยาว โดยนำ� ศาสตรข์ องประสาทสมั ผสั ทงั้ ห้าของมนุษย์ คือ รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส มาเป็นตัวแปรใน การสรา้ งสรรคป์ ระสบการณท์ ดี่ ี เพอื่ มดั ใจผใู้ ชบ้ รกิ าร โดยออกแบบใหต้ อบ โจทย์ของผ้ใู ช้บรกิ ารกลุ่มเปา้ หมายที่องค์กรต้งั ไว้ เช่นวิถีชวี ิต ความชอบ รสนิยม และพฤติกรรม เป็นต้น เพื่อน�ำไปใช้เป็นกรอบในการออกแบบ บริการ เช่น ร้านสปาต่างๆ น�ำศาสตร์เร่ืองประสาทสัมผัสทั้งห้ามาใช้ใน การให้บริการแบบครบถ้วน ได้แก่ 30

“รูป” การตกแต่งสถานที่และบรรยากาศที่ให้ บรกิ าร งานสถาปตั ยกรรม งานออกแบบภายในและ รายละเอยี ดของผลิตภัณฑ์ตา่ งๆ “รส” รสชาตขิ องชาหรือนำ้� สมนุ ไพรทเ่ี สิร์ฟใหก้ บั ผ้ใู ชบ้ ริการทง้ั ก่อนและหลงั การนวด “กลิ่น” ไอระเหยของผลิตภัณฑ์เคร่ืองหอมช่วย สรา้ งบรรยากาศให้ผ่อนคลายมากยงิ่ ข้ึน “เสียง” ดนตรีขับกล่อมภายในร้านท่ีท�ำให้ผู้ใช้ บรกิ ารรสู้ กึ ผอ่ นคลายเพลดิ เพลนิ ตลอดการรบั บรกิ าร “สัมผัส” การนวดทีร่ ้านสปาแต่ละแห่งทมี่ ีรปู แบบ การนวดท่ีแตกต่างกันตามสไตล์ท่ีคิดค้นข้ึน ทั้งน้ี เพื่อใช้เปน็ จุดขายสร้างความแตกตา่ ง เป็นต้น หรือ ธุรกิจสปาท่ีห้องนวดมีไฟที่สามารถปรับความมืด ความสว่างได้ มีการจัดเตรียมห้องอาบน�้ำส่วนตัว ทำ� ใหล้ กู คา้ หรอื ผรู้ บั บรกิ ารรสู้ กึ สบายใจทจี่ ะใชเ้ วลา ในน้ัน หรือแม้กระท่ังการออกแบบเตียงนอนที่มี ช่องว่างอยู่ตรงบริเวณศรีษะช่วยให้ผู้ใช้บริการ ที่นอนคว�่ำสามารถหายใจได้อย่างสะดวก เป็นต้น รายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เหล่าน้ีมีส่วนสร้าง “ความร้สู ึกพิเศษ” แกผ่ ใู้ ชบ้ รกิ าร 31

กรณศี กึ ษา แหลง่ ทอ่ งเท่ยี วน้ำ� พรุ อ้ น บ่อนำ้� รอ้ นสวนสาธารณะรักษะวาริน จังหวัดระนอง เป็นบ่อน�้ำร้อนซ่ึงเกิดขึ้นเองตามธรรมชาติน้ีมีอยู่ 3 บ่อ คือ บ่อพ่อ บ่อแม่ และบ่อลูก ท้ัง 3 บ่อ มีอุณหภูมิสูงประมาณ 65 องศา เซลเซียส น�้ำพุร้อนแหง่ น้ีไดร้ ับการวเิ คราะหจ์ ากกรมวทิ ยาศาสตรบ์ ริการ วา่ ประกอบดว้ ยแรธ่ าตุ ทส่ี ำ� คญั และเปน็ แหลง่ เดยี วในประเทศไทยทไี่ มม่ ี สารก�ำมะถันเจือปนอยู่เลย จึงท�ำให้ไม่มีกลิ่นของก�ำมะถันและมีความ บริสุทธิ์ สามารถด่ืมได้จากแหล่งก�ำเนิด โดยไม่ต้องผ่านการกลั่นกรอง ซงึ่ มอี ยเู่ พยี งไมก่ แี่ หง่ ในโลก นอกจากนยี้ งั ถอื เปน็ นำ้� บรสิ ทุ ธ์ิ ภายในบรเิ วณ บ่อน้�ำร้อนมีบริการอาบน�้ำแร่บ�ำบัดรักษาสุขภาพ ผ่อนคลายความเมื่อย ล้า รวมถึงบริการแช่เท้าฟรีเพื่อผ่อนคลาย นอกจากนี้บริเวณใกล้บ่อน้�ำ รอ้ นไดจ้ ดั เปน็ สวนสาธารณะ “รกั ษะวารนิ ” มศี าลาทพ่ี กั และหอ้ งอาบนำ�้ รอ้ นไว้บริการ ที่มา จาก https://www.facebook.com/บ่อน้�ำร้อน-รักษะวาริน

อาบน�้ำแร่ แชอ่ อนเซน็ สไตลไ์ ทยแลนด์ สวนสาธารณะรกั ษะวารนิ 09.00-21.00 น. ต.บางริน้ อ�ำเภอเมือง จังหวดั ระนอง 85000 บอ่ นำ้� ร้อน รักษะวารนิ 07 7813 5514 บอ่ แชเ่ ท้า บ่อนำ� แร่ส�ำหรบั แช่เท้าให้ บรกิ ารฟรี ท่ามกลางธรรมชาติ บ่อแชต่ ัว บ่อนำ� แรส่ ำ� หรับแช่ตัวเพ่ือ การผ่อนคลายความเมื่อยล้า ของรา่ งกาย เพอื่ การพกั ผ่อน หยอ่ นใจเป็นบอ่ น�ำ้ พุรอ้ นทไ่ี ม่มี สารก�ำมะถันเจือปน ทม่ี า จาก https://www.facebook.com/บ่อน้�ำร้อน-รักษะวารนิ 33

บอ่ นำ�้ พุรอ้ น พอ่ แม่ ลูก บ่อน�้ำพรุ อ้ นทเ่ี กดิ ขึ้นเอง ตามธรรมชาตใิ นสวนสาธารณะ รกั ษะวาริน ศาลาพักรอ้ น ศาลาพักท่ีพื้นระอุด้วย ค ว า ม ร ้ อ น จ า ก พื้ น ดิ น เหมาะแก่การท�ำกิจกรรม บ�ำบดั สขุ ภาพ ไข่ออนเซ็น เมนูไข่ท่ีใช้วิธีการปรุง ให้สุกจากความร้อน ของน�ำ้ พรุ ้อน ทมี่ า จาก https://www.facebook.com/บ่อน�้ำร้อน-รักษะวารนิ 34

กรณีศกึ ษา แหลง่ ทอ่ งเทย่ี วน้ำ� พุร้อน อาริมะ ออนเซ็น ประเทศญ่ปี นุ่ อารมิ ะ ออนเซน็ : Arima Onsen เปน็ แหลง่ นำ�้ พรุ อ้ นชอื่ ดงั ของภูมภิ าคคันไซ คอื หนง่ึ ในยา่ นออนเซน็ เกา่ แกท่ สี่ ดุ ในญป่ี นุ่ ตั้งอยู่บนภูเขาที่มีความสูงจากระดับน้�ำ ทะเลถึง 300-350 เมตร บรเิ วณด้านเหนอื ของภเู ขา Rokko ออนเซ็นแหง่ นเ้ี ปน็ ท่ีร้จู ัก คร้ังแรกในปีค.ศ.631 เน่ืองจากจักรพรรด์ิ ทมี่ า จาก https://www.pantip.com/ เท่ียวเมอื งอาริมะออนเซน็ องคห์ นง่ึ ของญปี่ ่นุ ปนุ่ ได้มาลงแช่ที่ ออนเซ็นแห่งน้ีจนช่ือเสียงของออนเซ็น เล่ืองลือ น�้ำแร่ในบ่อออนเซ็นแห่งนี้มี คณุ ภาพดแี ละมเี อกลกั ษณ์ ตดิ อนั ดบั 1 ใน 3 ของออนเซน็ ทเี่ กา่ แกแ่ ละมชี อื่ เสยี งมาก ที่สุดในญี่ปุ่น เนื่องจากอุดมไปด้วย ท่ีมา จาก https://www.pantip.com/ เทีย่ วเมืองอาริมะออนเซ็น แรธ่ าตคุ ณุ ภาพดใี นนำ้� แรถ่ งึ 7 ชนดิ ในบอ่ เดยี ว ซงึ่ แรธ่ าตเุ หลา่ นมี้ สี ว่ นชว่ ย ในการรกั ษาโรค โดยทีม่ าของนำ�้ แร่ในบอ่ ออนเซ็นแห่งนม้ี าจากนำ�้ ทะเลท่ี อยู่ลึกลงไปใต้ดินถึง 60 กิโลเมตร ซ่ึงเป็นออนเซ็นที่มีน้�ำแร่เป็นน�้ำทะเล ต่างจากออนเซ็นแบบทั่วไปที่มักจะเป็นน้�ำบาดาลกับน�้ำฝนท่ีได้รับความ รอ้ นจากภเู ขาไฟแลว้ จงึ กลายเปน็ นำ�้ แร่ จดุ เดน่ ทท่ี ำ� ใหอ้ อนเซน็ แหง่ นแ้ี ตก ต่างจากท่ีอ่ืน คือมีบ่อน้�ำร้อนให้เลือกแช่ถึง 3 แบบด้วยกนั คอื Kinsen ‘บอ่ นำ้� พรุ อ้ นสที อง’ 1 แบบ และ Ginsen ‘บ่อน้�ำพุร้อนสเี งนิ ’ 2 แบบ ซงึ่ มคี ณุ สมบตั แิ ตกตา่ งกนั 35

ทีม่ า จาก https://www.pantip.com/ เท่ยี วเมอื งอาริมะออนเซน็ บ่อนำ้� พุรอ้ นสีทอง : Kinsen บอ่ น�้ำพุร้อนสีเงนิ : Ginse เป็นออนเซ็นท่ีมีลักษณะพิเศษ บ่อน้�ำพุร้อนสีเงินแบ่งออกเป็นสอง โดดเด่นคือมีน้�ำแร่เป็นสีทองออก ประเภท คอื 1) มีก๊าซคาร์บอนได นำ�้ ตาลแดง ทำ� ใหถ้ กู เรยี กวา่ Kin ใน ออกไซคผ์ สมอยู่มาก และถูกเรียก ภาษาญี่ปุ่น ซึ่งน�้ำแร่สีทองน้ีมีแร่ อีกช่ือว่าน้�ำแร่โซดา อันมีสรรพคุณ ธาตุเหล็กและเกลือผสมอยู่ โดย ช่วยบรรเทาโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ คณุ สมบตั พิ เิ ศษของแรธ่ าตสุ องชนดิ เพิ่มการไหลเวียนโลหิต รักษา น้ีมีสรรพคุณช่วยรักษาอาการเจ็บ อาการผิดปกติของระบบทางเดิน ป่วยหลายอย่างไม่ว่าจะเป็นปวด อาหาร 2) บ่อน�้ำพุร้อนสีเงินท่ีมี เมอ่ื ยกลา้ มเนอ้ื และขอ้ ต่อ บรรเทา เรเดียมอ่อน ๆ ผสมอยู่ ซง่ึ จะช่วย อาการไขข้ออักเสบ บำ� รงุ ผิวพรรณ ในการกระตุ้นเซลล์ เสริมสร้าง ใหช้ มุ่ ชน้ื ชว่ ยในเรอื่ งของระบบไหล ระบบภมู คิ ุม้ กนั ให้ร่างกาย บรรเทา เวียนโลหิต บรรเทาอาการภูมิแพ้ อากาศปวดเม่ือยและความเหน่ือย ผ่ืนคัน และรักษารอยแผลเปน็ หรอื ลา้ หรอื เพยี งแคส่ ดู ดมไอของน�้ำแร่ รอยน้ำ� รอ้ นลวกได้ ก็สามารถช่วยบรรเทาอาการของ โรคที่เกี่ยวกับโรคหลอดลม 36

ออนเซ็น : Onsen คอื นำ้� รอ้ นทผ่ี ดุ ขน้ึ มาจากใตด้ นิ โดยคำ� นห้ี มายความรวมถงึ สถาน ท่ีให้เข้าอาบน�้ำร้อนด้วยซ่ึงประเทศญี่ปุ่นมีภูเขาไฟมากมายท่ียังไม่ดับอยู่ หลายลกู ทำ� ใหน้ ำ�้ รอ้ นทผี่ ดุ ขน้ึ สว่ นใหญม่ าจากภเู ขาไฟนนั้ เองนำ้� รอ้ นเหลา่ นน้ั จงึ มคี ณุ สมบตั พิ เิ ศษหลายประการทง้ั ชว่ ยบรรเทารกั ษาโรครวมทงั้ คณุ ประโยชน์ในด้านความงามแก่ผิวพรรณท�ำให้ชาวญี่ปุ่นมีธรรมเนียมไปแช่ ออนเซน็ มาเปน็ ระยะเวลายาวนาน ในปจั จบุ นั ทว่ั ประเทศญป่ี นุ่ มกี ารพฒั นา ออนเซน็ เพอ่ื สรา้ งความเจรญิ ใหก้ บั ทอ้ งถน่ิ และเปน็ แหลง่ ทอ่ งเทยี่ วพกั ผอ่ น หยอ่ นใจโดยการเปิดให้บริการแบบเรยี วคังทม่ี ีออนเซ็น ประเภทของแหลง่ ใหบ้ รกิ ารออนเซน็ ขนึ้ อยกู่ บั ความแตกตา่ งของแรธ่ าตใุ นนำ�้ ทใี่ หค้ ณุ สมบตั ใิ นการรกั ษา ตา่ งกนั รวมถงึ สแี ละกลน่ิ สว่ นมากนำ้� พรุ อ้ นจะมธี าตกุ มั มะถนั บอ่ นำ้� พรุ อ้ น มีท้ังในร่มและกลางแจ้ง แต่ละท่ีมีขนาดเล็ก หรือใหญ่แตกต่างกันตาม สภาพพนื้ ท่ี บอ่ กลางแจง้ บางแหง่ ตงั้ อยรู่ ะหวา่ งภเู ขา หบุ เขา หรอื เลยี บฝง่ั แม่น�้ำ มีท้ังการให้บริการบ่ออาบน้�ำพุร้อนที่แยกชายหญิงชัดเจนและ การให้บริการบ่ออาบน้�ำพุร้อนแบบรวม บ่ออาบน้�ำประเภทอื่นๆ เช่น บอ่ ทราย ซึง่ ผู้อาบจะถูกกลบด้วยทรายร้อน บอ่ โคลน และหอ้ งอบไอน�้ำ นอกจากน้ียงั มี “อะชิย”ุ (Ashi yu) เปน็ บอ่ น้ำ� ร้อนตื้นๆ ส�ำหรับแช่เทา้ พบไดต้ ามทางเดินและสามารถแชไ่ ดโ้ ดยไมเ่ สยี ค่าใช้จ่าย ท่มี า จาก https://www.pantip.co3m7/ เทย่ี วเมืองอารมิ ะออนเซ็น

การเตรยี มตวั ลงแชอ่ อนเซน็ 1. สวมชดุ ยูกะตะทีเ่ ตรียมไวใ้ ห้ เตรียมผ้าขนหนูใสต่ ะกร้าท่จี ดั ให้ 2. เมอื่ ไปถงึ หอ้ งอาบนำ้� เกบ็ ของสำ� คญั ไวใ้ นลอ็ คเกอรห์ ากเปน็ ไปไดไ้ มค่ วร น�ำของมคี า่ ตดิ ตวั 3.ถอดชุดยูกะตะไว้ในกระบะที่จัดไว้ให้ในห้องเปล่ียนเส้ือผ้าแล้วเดิน เปลอื ยเปลา่ เข้าไปบ่ออาบน�้ำ ไม่นุง่ ผ้าเช็ดตัวเขา้ มาในห้องอาบน้�ำ 4. บอ่ อาบนำ้� รวมสว่ นใหญแ่ ยกเป็นสัดสว่ นระหว่างชาย-หญิง บางแหง่ ใช้ วธิ กี ำ� หนด เวลาเปน็ รอบสลบั กนั ระหวา่ งชายหญงิ ควรสงั เกตปุ า้ ยใหด้ กี อ่ น เข้าใชบ้ ริการ 5. เมื่อเข้าถึงบริเวณอาบน้�ำให้ช�ำระล้างร่างกายก่อนท�ำความสะอาด ร่างกาย โดยการน่ังบนม้านั่งใช้ผ้าขนหนูผืนเล็กขัดถูท�ำความสะอาด ร่างกายจนสะอาดก่อน ค่อยลงไปแชใ่ นบ่อน�ำ้ ร้อน 6. บอ่ น�ำ้ รอ้ นที่อณุ หภมู ไิ มต่ ่�ำกวา่ 40 องศาเซลเซียส ให้เอาขาลงไปก่อน แล้วน่ังแช่ โดยนั่งให้ตัวอยู่บนขอบอ่างแล้วแช่เฉพาะขาเพื่อให้ร่างกาย ค่อยๆ ปรับตัวแล้วค่อยๆ หย่อนตัวลงใน�้ำ เม่ือรู้สึกชินแล้วจึงลงไปนั่ง กบั พน้ื อ่าง 7. หลังอาบเสรจ็ กอ่ นเข้าหอ้ งแตง่ ตวั ควรใชผ้ ้าเช็ดตัวผนื เลก็ เช็ดตัวให้ หมาดก่อน เขา้ แลว้ ค่อยเดินเข้าสู่ ห้องแตง่ ตวั 8. สวมยูกะตะ สว่ นผา้ เช็ดตัวทีเ่ ปยี กและไมต่ ้องการใชแ้ ล้วใหท้ งิ้ ลงถังใน หอ้ งแต่งตวั ได้เลย 38