Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ลีลาภาษาฉันท์ โดย พระมหาสองสูน ธมฺมรโต ป.ธ.๙

ลีลาภาษาฉันท์ โดย พระมหาสองสูน ธมฺมรโต ป.ธ.๙

Description: ✍️

Search

Read the Text Version

[๔๔] ยอความ -พหุปฺปยตา ความเปนที่รักของชนเปนอันมาก ฯ ผลน้ี ยอ มเปนไปเพื่อประโยชนแ กชนทั่วกันไป -ผูนอ ยเปนท่ีรักของทานผูใหญ จะไดรับความอุปถัมภคาํ้ ชู ชนผู เสมอกัน ตา งจะไดอาศัยกัน ทา นผูใหญเลา ไดผ ูนอยไวเปน กําลัง -เมื่อกิจเกิดข้ึนก็จะตั้งใจทําใหสําเร็จดวยความภักดีสามัคคี เพราะความรักใครใ นกันเปนที่ตั้ง -พหุปฺปยตา เกิดข้ึนในหมูใดก็ยงั ความเจริญให เปนไปในหมูน้ัน ผูใดเปน ท่ีรักของชนเปนอันมาก ผูนนั้ ยอมหวังความเจริญได คง ไมม ีความเสื่อมทราม -กุลบุตรผูใดผูหนึ่ง มีพระมหากษตั ริยเจาเปนตน สักการะเก้ือกลู มารดาบิดา อันโตชน มีบุตรภรรยา พาหิรชนมี ชาวนา เปนตน เทวดา หรือ สมณพราหมณ ดวยโภคทรัพยท ่ีไดมาโดยชอบธรรม เปน ผลแหงความหมั่น -เทวดามนุษย ๕ จาํ พวกนัน้ ไดรับสักการะเก้ือกูลแลว ก็ยอ ม อนุเคราะหดวยไมตรีจิต กุลบุตรนัน้ เปนอนั หวังวุฒิได ไมพึงมี ความเส่ือมทรามเลยฯ พระมงคลวิเสสกถาหนา ๔๐ ลลี าภาษาฉนั ท โดย พระมหาสองสูน ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๔๕] พหปุ ฺปย ตา ปฐ ยาวัตร ยา พหปุ ปฺ ยตา โลเก สมพฺ ทุ ฺเธน สุเทสิตา สา ชนานํ หิตตถฺ าย สวํ ตฺตติ อโนธิโส โย ชโน นจี ชจโฺ จตฺถิ อิสสฺ รสฺส ปโยตถฺ ิ โส อิสฺสโร มุทโุ ก ตสสฺ กโรติ อุปถมภฺ นํ สมาโน อฺมฺสฺส กจิ เฺ จสุป อวสฺสโย นีจชจฺจํ สกิจฺเจสุ พลํ กโรติ อิสฺสโร ภตตฺ ิสามคฺคิยา เตสํ สพพฺ กิจฺจานิ อิชฌฺ เร อยํ ยสมฺ ึ คณปู ฺปชฺชิ เอตสมฺ ึ วฑุ ฒฺ ิ วตฺตติ โย พหุนนฺ ํ ปโย โหติ ปาฏิกงขฺ าสฺส วุฑฒฺ ิ จ โน จสสฺ ปาฏกิ งฺขาธ ปริหานิ กทุ าจนํ โลเก อมิ สฺมิ เย มาตา- ปต โร กสิกาทโย ปุตตฺ ทาราทโย วาตถฺ ิ เทวา สมณพฺราหฺมณา โภเคหิ ธมมฺ ลทเฺ ธหิ วิริยาธิคเตหิ จ ขตฺติยาทีหิ เต โหนฺติ อุปฏ ตา จ สกฺกตา ตาทเิ ส เมตฺติจิตฺเตน อนกุ มฺปนตฺ ิ สพฺพโส ปาฏิกงขฺ า อเิ มสํ จ วฑุ ฺฒ,ิ โน ปริหานิ จาติ ฯ แตง เฉลย โดยพระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ. ๙ ลีลาภาษาฉันท โดย พระมหาสองสนู ธมฺมรโต ป.ธ.๙

[๔๖] ยอความ -สมเด็จพระเจา แผนดินมีพระกรุณากวางขวางฉะนี้ จึงเปน ที่นบั ถือ ควรไดรับอภัยและรับความยกยอ ง -ทรงปรากฏแกชนทั้งหลายราวกับเทวดาในหมูมนุษย จัดวาเปน สมมติเทวราช เปนผูควรแกสวนกุศลท่ีมหาชนบําเพ็ญแลวและจะ พงึ อุทศิ ถวาย -ในฝายศาสนจักร สมเด็จพระพุทธเจาไดเปน สรณะทพ่ี ํานกั นบั ถือ ของพุทธศาสนิกบริษัท -ตรัสรูแลวก็คงอยูในพระกรุณาคุณ เสด็จเที่ยวเทศนาโปรดเวไนย นิกร ในนครคามนคิ มชนบทนั้น ๆ ใหไดบรรลุโลกิยสมบัติ และโลกุตรมบัติตามอุปนิสัย ตราบเทาถึงอวสาน -ทรงพระอาพาธหนัก จะเสด็จดับขันธปรินิพพาน ทรงเทศนา โปรดสุภัททปริพาชก ใหส าํ เร็จพระอรหัตเปนปจฉิมสาวก -ขอความท่ีนาํ มาสาธกนี้ แสดงใหเห็นพระกรุณาของสมเด็จพระผู มีพระภาคเจา -เพราะเหตุนี้ พระองคจึงไดเปน อดุ มสรณะที่ระลึกนับถืออันสูงสุด ของพทุ ธศาสนิก ตลอดมาจนทุกวันนี้ ฯ พระมงคลวิเสสกถาหนา ๔๔ ลีลาภาษาฉันท โดย พระมหาสองสูน ธมฺมรโต ป.ธ.๙

[๔๗] การุ ฺ คาถา ปฐ ยาวตั ร กรณุ าปรมิ าณาสฺส รฺโ ชเนสุ วตฺตติ ตสมฺ า การุณิโก ภโู ป ปชู ิโต มานิโต สทา โส จ สมมฺ ตเิ ทโวติ มนุสสฺ านํ สุวสิ สฺ โุ ต ยํ ยํ กุสลมทุ ทฺ ิสสฺ กตํ ตรํ หตี ส ตํ มหาการณุ ิโก พุทฺโธ สพพฺ โลกานกุ มฺปโก คามาทีสุ ปกาเสตุ ธมมฺ ํ คนตฺ ฺวาน ปาณินํ ปาเปสิ โลกยิ เฺ จว โลกุตตฺ รฺจ สมปฺ ทํ ปรินพิ ฺพานมฺเจ หิ อาพาธโิ ก นิปนนฺ โก มหามุนิ สภุ ททฺ สฺส เทเสตวฺ า ธมมฺ มตุ ฺตมํ อฺ ปาเปสิ, ปจฉฺ า โส อหุ ปจฉฺ ิมสาวโก สตฺเตสุ ภาวิตา เอตฺถ กรณุ า เตน ทสสฺ ิตา พุทโฺ ธ สาสนิกานํธ โหเต สรณมุตฺตมนฺติ ฯ เฉลยโดย พระมหาสองสนู ธมฺมรโต ป.ธ. ๙ ลีลาภาษาฉันท โดย พระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๔๘] -ยอ ความ -การปฏิสันถารน้ี เปนประเพณีที่นิยมสืบมาของโบราณบัณฑิต -ความขอน้ี พึงสาธกดวยพระเวสสันดร ทรงทําปฏิสันถารแก พราหมณชูชกผูมาทูลขอ ๒ พระกุมาร และแดทาวมัฆวาน เทวราช ผจู าํ แลงเพศเปนพราหมณมาขอพระมัทรี -พระองค ตรัส เชญิ ใหบริโภคผลาผลมธุรส และด่ืมวารีใสเย็น -ครั้นมาถึงพุทธุปบาทสมัย สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจา ก็ตรัส ปฏิสนั ถารไวเหมือนกัน -แมฝายบรรพชิตก็ยังไมพนจากตองทํา เมื่ออาคันตุกะมาถึง สาํ นัก ก็เปน หนาที่ของเจาอาวาสจะตอ งตอนรับ ฯ -ถึงมีขอหามไมใหทําอของที่เขาถวายดวยศรัทธาใหตกไป และมี ขอ หามมิใหทํายารักษาผูอื่น -ภิกษุจะสงเคราะหเขาดวยโภชนาหารและสิ่งอ่ืน หรือเขาเจ็บไข จะประกอบยาให ก็ไมมีโทษ แตตองมีเมตตาจติ เปนที่ตั้ง ไม หวงั จะไดลาภผลเปนของตน ฯ -แมสมเด็จพระบรมศาสดาจารยเอง ยงั ตองทรงเปนกิจวัตร เปน ธรรมเนียม แกพระภิกษุบริษัทผูอาคนั ตุกะมาเฝาจากทิศนั้น ๆ - แมแ ตเ หลาเดียรถียก็ยังไดรับพุทธปฏิสันถารไมยกเวน ฯ พระมงคลวิเสสกถาหนา ๕๒ ลลี าภาษาฉันท โดย พระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๔๙] ปฏสิ นถฺ ารคาถา ปฐยาวตั ร โย โลเก ปฏสิ นฺถาโร ปาณีนํ พทุ ธฺ เทสิโต โปราณปณฑฺ ติ านํ โส อาจิณฺโณ โหติ สพฺพโส เวสฺสนฺตรสฺส วตเฺ ถวตถฺ กเมน โหติ สาธกํ อตปิ ปฺ เย อุโภ ปตุ เฺ ต สมาคตสฺส ยาจติ ุ ชชู กสฺส จ มทฺทปึ  อาคตสฺส จ ยาจิตุ สกกฺ สสฺ ปฏิสนฺถาโร เวสสฺ นตฺ เรน สุกฺกโต ผลาผลานิ โภเชสิ สีตํ ปาเยสิ ปานยิ ํ โส พุทฺธปุ ฺปาทกาลสฺมึ ภกิ ฺขูนํ พุทธฺ ทสสฺ ิโต ยตหี าคนฺตุกานํ โส กโต สยิ า ยถารหํ สทธฺ าเทยฺยวนิ ปิ าตนํ ปณฺฑปาเต จ ทินนฺ เก ปฏกิ ขฺ ิตฺตํ จ เภสชฺชํ เตสํ โทโส น โหติธ นามสิ ํ เมตตฺ จิ ิตฺเตน กงฺขมานา กเรยยฺ ุ ตํ ปพุ เฺ พ ตํ ปฏสิ นถฺ ารํ ชโิ น อกา ปเวณิยา จาตุทฺทสิ าน ภกิ ขฺ ูนํ สมาคตาน สนฺติกํ ธมฺเมน ปฏิสนถฺ ารํ อามเิ สน อกาสิ จ ชเิ นน ปฏิสนถฺ าโร ติตฺถยิ านํ กโต สทาติ ฯ เฉลยโดย พระมหาสองสนู ธมฺมรโต ป.ธ. ๙ ลลี าภาษาฉันท โดย พระมหาสองสูน ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๕๐] ยอความ -กาลญั ุตา บุคคลควรปรารถนา ในกจิ ทั้งหลาย ฯ -ถาบุคคลไมเปนกาลัญู เม่ือถงึ คราวท่ีควรทํา ก็หาทําไม เมื่อ เปนเชนนี้ ก็จะคลาดจากประโยชนที่จะควรไดควรถึง ประโยชน ซ่งึ ไดอ ยูแลว ก็กลับจะเสื่อมเสียไป ภัยอนั ตรายจะเกิดมี ฯ -ขอน้ีพึงสาธกดวยทีฆาวุชาดก คร้ังพระเจาพรหมทัตผูครอง แควน กาสี เสด็จกรีธาพล เพ่อื จะไปตีโกศลรัฐ ฯ -พระเจา ทีฆตี ิผูผานสมบัติในอาณาจกั รน้นั พระองคมีอาณา เขตนอย ทั้งขัดสนมีพระราชทรัพยร้ีพลพาหนะก็นอ ยคลังศัสตรวุธ ยุทธภัณฑ และฉางอันเปนที่ราบรวมเสบียงอาหารก็บกพรอง -ทรงกลัวที่จะตอยุทธกับพระเจา พรหมทัตผูมีกําลังใหญ ท้ิงพระ นครเสีย ปลอมพระองคพาพระมเหสีหนีไป -พระเจา พรหมทัตก็ไดโกศลรัฐโดยงายดาย ไมพักตองรบ ซาํ้ ยัง จับพระเจาทีฆีติกับพระมเหสีไดในภายหลังอกี ดวย ฯ -ถาพระเจาทีฆีติโกศล พึงตระเตรียมรี้พลพาหนะ สั่งสมทรัพย พัสดุศัสตราวุธยุทธภัณฑและเสบียงอาหาร จัดการปองกันรักษา และทาํ นุบํารุงใหสมบูรณ กจ็ ะไมมีความวิบัติเลย ฯ พระมงคลวเิ สสกถา หนา ๕๗ ลีลาภาษาฉันท โดย พระมหาสองสูน ธมฺมรโต ป.ธ.๙

[๕๑] กาลฺ ตุ า ปฐ ยาวตั ร กาลฺตุ า มนุสฺเสหิ กิจฺเจสุ อิจฺฉิตา สิยา อกาลฺู นโร ยุตฺตํ กิจฺจํ กาตุ น สกฺกติ ลทฺเธหิ ลภิตพฺเพหิ สฺวาตฺเถหิ ปริหายติ อกาลฺุสฺส อปุ ฺปนฺนา สิยุ ภยอปุ ทฺทวา ทีฆาวุชาตกํ เหตฺถ อนุปุพฺเพน สาธกํ อตีเต หิ อกาลฺู พาโล ทีฆตี ิ โย อหุ ตสฺส รโฺ ปฺปกํ รฏ พลกาโย จ อปฺปโก รกฺเ สตฺถาวุธํ อูนํ ปาเถยยฺ ํ จูนกํ อหุ พฺรหฺมทตฺโต ยทา ราชา สเสโน วสเอสิโก กาตุ สมาคโต ยทุ ฺธํ ตทา ภีโต ปลายิ โส ตสฺมา โกสลรฏส ชาตํ หตฺถคตํ ตทา ปจฺฉา โส พฺรหฺมทตฺโต ตํ คณฺหาเปสิ สราชินึ สเจ ทีฆตี ิ กาลฺู สชฺเชยยฺ อาวุธาทินิ สชฺเชยยฺ พลกายํ จ รฏเ จาวรณํ สทา สพฺพํ จ สุกฺกตํ เอตฺถ วิปตฺติ น สิยาตฺตโนติ ฯ เฉลยโดย พระมหาสองสนู ธมฺมรโต ป.ธ. ๙ ลลี าภาษาฉันท โดย พระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๕๒] ยอ ความ -แมพระเจาแผนดินในครั้งพุทธกาลเชนพระเจาพิมพิสารมคธราช แมทรงนับถือในพระพุทธศาสนาม่ันคง ในฝายราชกิจ ก็ยงั ทรง จดั การรกั ษาคุมครองโดยราชธรรม -ดังมแี จง ในคัมภีรมหาวรรคพระวินัย ตอนบรรพชาขันธกะ -คราวหน่ึงปจจันตชนบทปลาย ของพระเจาพิมพิสาร แควนมคธ เกิดจลาจลกาํ เริบข้ึน -พวกโยธี ผูไมปรารถนาไปลบกับศัตรู พากันหลบหนีไปบวชใน สํานกั พระภกิ ษุท้ังหลายเปนอนั มาก -พระเจาพิมพิสาร ทรงทราบ ตรัสถามโวหาริกอมาตยท้ังหลาย ถงึ โทษผูรับบวชคนหลวงเชนน้ี -อมาตยเหลาน้ันวางบทถึงประหารชีวิต พระองคทรงยกความขอ นเี้ ปนเหตุ ทูลขอสมเด็จพระผูมีพระภาคเจา เพื่อทรงหามไมให ภกิ ษุท้ังหลายรับบวชราชภัฏบุรุษ -สมเด็จพระบรมศาสดาจารยก็ทรงอนมุ ัติ และทรงตั้งพระพุทธ บัญญัติหามไว โดยความเปนทุกกฏาบัติแกภิกษุผูละเมิด ฯ -แตนนั้ มา ในเวลาสงบ พระเจาแผนดินผูเปนศาสนูปถัมภก ก็ ไดพระราชทานพระราชานญุ าตใหพนจากความเปนราชภัฏ แก ราชเสวกผูศรัทธาจะบวชในพระศาสนา เปนพระราชประเพณี สืบมา ฯ พระมงคลวิเสสกถา หนา ๖๖ ลลี าภาษาฉันท โดย พระมหาสองสนู ธมฺมรโต ป.ธ.๙

[๕๓] ปสาสนอปุ ายโกสลลฺ คาถา ปฐ ยาวตั ร พิมฺพิสาราทโย ภูปา ปสนฺนา พุทฺธสาสเน กิจเฺ จ ธมฺมิกมารกฺข- คุตฺตึ อกสํ ุ สพฺพทา ปพฺพชฺชาขนธฺ เก วตฺถุ มหาวคคฺ สฺมิ สาธกํ เอกทา พมิ พฺ ิสารสฺส ปจฺจนฺโต กุปโ ต อหุ เย โยธา กรติ ุ ยุทธฺ ํ เนว อจิ ฉฺ นตฺ ิ สตฺตหุ ิ เต สนตฺ ิเก ยตนี ํป ปลายนตฺ า อปพพฺ ชุ ตํ สตุ วฺ า พมิ พฺ สิ าโร โส ปุจฉฺ ิ โทสํธการเณ ตทา มรณโทโสส โวหารเิ กหิ วุจจฺ ติ โส ตํ ปฏจิ จฺ สมฺพทุ ฺธํ “ภกิ ขฺ ู ราชภตํ อิธ น ปพฺพาเชยฺยุมิจฺเจวํ ปพพฺ ชฺชํ ยาจิ ธมฺมกิ ํ พทุ ฺโธ จ อนุชานิตฺวา กถาย ตสสฺ ราชิโน เปสิ พุทฺธปฺตฺตึ อธิ ทุกกฺ ฎภาวโต สงคฺ าเม วูปสนฺเตตฺถิ โย สาสนปู ถมฺภโก ชนา ปพพฺ ชิตุ สทฺธา อิจฺฉนตฺ ิ พุทฺธสาสเน ภุชสิ สฺ านํ อนุ ฺาสิ โส ปพฺพชชฺ ูปสมฺปทํ ตโต ปฏาย ยาวสฺส อชชฺ ตตฺ นา ปเวณิ สาติ ฯ เฉลยโดย พระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ. ๙ ลีลาภาษาฉนั ท โดย พระมหาสองสนู ธมฺมรโต ป.ธ.๙

[๕๔] ยอ ความ -โลกัตถจริยานั้น คือความประพฤติใหเปนประโยชนแกโลก อัน ทา นผูมุงประโยชนบําเพ็ญมาแลว -คุณขอน้ี เปนปฏิปทาเคร่ืองหมายของทานผูเปนบุรุษรัตน ยอม เปน ไปเพ่ือประโยชนเกอื้ กูลแกสัตวทั้งปวง ฯ -สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจา มีพระมหากรุณา จําเดิมแตไดตรัส รูก็ไดทรงบําเพ็ญพุทธกิจอันใหญ พระองคแผพระญาณ ทอดพระเนตรโลก ณ เวลาปจจุสมัยใกลรุงและสายัณหสมัย ตอนพลบคํา่ เมื่อมีพุทธเวไนยปรากฏในพระญาณ โดยอาการที่ มอี ปุ นสิ ัยจะไดตรัสรูมรรคผล ก็เสด็จไปโปรด -ตรัสประถมเทศนาโปรดพระภิกษปุ ญจวัคคีย พอมีพระสาวกข้ึน บาง กส็ ง จาริกไปในทิศานุทิศ เพอื่ ประกาศพระศาสนา -สัตวทั้งหลายท่ีมีสัญชาติเปนผูมีธุลีในจักษุนอย กลาวคอื มีกิเลส เบาบางมีอยู เพราะไมเคยไดยนิ ไดฟง ยอมเสื่อมจากธรรม ผู จะรูทั่วถึงซงึ่ ธรรมจักมี -แมเราตถาคตก็จักไปอุรุเวลาประเทศเสนานคิ ม เพ่ือแสดงธรรม เหมือนกัน ฯ พระมงคลวิเสสกถา หนา ๗๓ ลลี าภาษาฉันท โดย พระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๕๕] โลกตถฺ จรยิ า ปฐยาวตั ร โลกตถฺ จรยิ า นาม อตถฺ กาเมหิ ภาวติ า ปรุ ิสรตนสฺเสว โหตี ปฏิปทา อยํ เตน สตตฺ านมตฺถาย หิตาย จ ปวตตฺ ิตา มหาการณุ ิโก พทุ ฺโธ ปตฺวาน โพธิมุตฺตมํ ปจฺจูสสมเย เจว สายณหฺ สมเย อถ าณชาลํ ผรติ วฺ าน โวโลเกนฺโต ปชํ อธิ ยูปนสิ ฺสยสมปฺ นนฺ า พุทธฺ เวเนยยฺ ชนฺตโว มหาการุณิโก ธมฺมํ อุปคนฺตฺวา ปกาสิ เต โส ปจฺ วคคฺ ยิ านปํ  เทเสสิ ธมฺมมตุ ตฺ มํ อปุ ปฺ นฺเน สาวเก ธมฺมํ ตํ เปเสสิ ปกาสติ ุ ธมมฺ  อสตุ ฺว หายนฺติ อปปฺ รชกขฺ ชาติกา สทธฺ มมฺ สฺส ภวิสสฺ นตฺ ิ อฺ าตาโรธ ชนฺตโว โส เสนานคิ มํ สามํ อรุ ุเวลํ คโต ชโิ น เทเสตฺวา ปาณิน ธมมฺ ํ ปตฏิ าปยิ สาสนนฺติ ฯ แตง เฉลย โดยพระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ. ๙ ลีลาภาษาฉนั ท โดย พระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๕๖] ยอ ความ -ครั้งทาวเธอ (พระเจา อชาตศัตรู) ยังเปนพระราชกุมาร คบหา กับพระเทวทัตผูเปนภิกษุใจบาปหยาบชา เชื่อคํายุยงของพระ เทวทัต ไดทําปตุฆาตอนั เปนครุกรรม ไดเสวยผลอนั เผด็ รอน ท้ัง ในโลกนี้และโลกหนาทั้งตัดอุปนสิ ัยแหงพระโสดาปตติผล -แมทาวเธอเปนพระราชครองแผนดิน มีพระเดชานุภาพลวง กฎหมายไมมีบุคคลจะลงกรรมกรณ ก็ยังตองเสวยวิปฏิสารได ความเดือดรอนพระราชหฤทัย -ทาวเธอ ทําความเสียไวในพระราชวงศ ในขัตติยมณฑลท่ัวไป ดว ย ถกู ตดั ขาดจากความสมาคม นยิ มนับถือของโลก -พระเจาอชาตศัตรูไดเสวยวิบากอันเผ็ดรอนเชนน้ี ก็เพราะ สมาคมกับพระเทวทัตผูเปนปาปมิตร ฯ -ในศุกลปกษ พึงสาธกดวยเร่ืองในปญจภีรุกชาดกเอกนิบาต พระราชโอรสพระเจา พาราณสี เสด็จจะไปครองเมืองตักกสิลา อันเปนทางไกลกันดาร รอดพนจากอาํ นาจนางยักขินผี ูมาประโลม ลอในระหวางทางและไปถึงโดยเกษมสวัสดี ตั้งม่ันไมละเมิด โอวาทของพระปจเจกพุทธะ ฯ พระมงคลวิเสสกถา หนา ๗๙-๘๐ ลลี าภาษาฉันท โดย พระมหาสองสนู ธมฺมรโต ป.ธ.๙

[๕๗] มิตตฺ เสวนา ปฐ ยาวัตร อชาตสตฺตุราชา หิ ปุพฺเพ กุมารโก อหุ เสวนฺโต เทวทตฺตํ โส ทุพฺพินโี ต อวิฺโุ ก คณฺหิตฺวา วจนํ ตสฺส อกาสิ ปตุฆาตกํ วิปากํ กฏกํ ปตฺโต อสฺมึ โลเก ปรมฺหิ จ โสตาปตฺติผลสฺเสว ฉินฺโน จ อปุ นสิ ฺสโย กิจฺ าป โส มหาราชา อาณาติกกฺ มิ เตชสี อถโข วิปปฺ ฏสิ ารํ วนิ ฺทเต มนสติ ฺตนา ราชวํเส วินาสํ จ อกา ขตตฺ ยิ มณฺฑเล อตฺตโน สพพฺ าเนสุ อุปจฺฉนิ ฺทิ สมาคมํ สกุ ฺเก หิ วตถฺ ุ วตตฺ พฺพํ ปจฺ ภีรุกชาตเก ราชา พาราณสีรฺโ อตเี ต อหุ โอรโส โส กนฺตาเรน มคฺเคน คโต ตกฺกสิลํ สยํ เอกโก อนฺตรามคฺเค โส ยกฺขินิปโลภิโต พฺยตฺโต ปจเฺ จกพุทฺธสฺส โอวาเท สุปติฏโต วสา ยกฺขินยิ า มุตฺโต นิพฺภโย นิรุปทฺทโว ปจฺฉา ตกฺกสิลํ ธานึ อนุปฺปตฺโตสิ โสตฺถินาติ ฯ พระมหาสองสนู ธมฺมรโต ป.ธ. ๙ เฉลยเปน แนวทาง ลีลาภาษาฉันท โดย พระมหาสองสนู ธมฺมรโต ป.ธ.๙

[๕๘] ยอความ -กัตตุกัมยตาฉันทะนี้ ยอ มยงั ความประสงคใหสําเร็จ แมจะเปน กิจยากสักปานไร ขอนี้พึงสาธกแมดวยเร่ืองในตติยสังคีติกถา ฯ -พระโมคคัลลีบุตรเกิดในตระกูลพราหมณมิจฉาทิฏฐิ พระสิคควะ ไปเพียรเกลี้ยกลอมอยูถึง ๗ ปจงึ เอามาบวชในพระศาสนาได ฯ -ไดเลาเรียนแตกฉานในพุทธวจนะ และบรรลุโลกุตตรธรรมเปน พระอรหันตเจา ภายหลังไดเปนอธิบดีสงฆในชมพูทวีปครั้งอโศก รัชสมัย กําจัดเสี้ยนพระพุทธศาสนา ไดเปนประธานแหงภิกษุ สงฆผูประชุมทําสังคายนาพระธรรมวินยั ฯ -ทีฆาวุกุมารพระราชโอรสของพระเจาทีฆีติผูครองโกศลรัฐ ประสูติเม่ือพระชนกเสียราชสมบัติแกพระเจาพรหมทัตผูครอง แควนกาสีแลว ใครจะฆาพระเจาพรหมทัต เพียรหาชองเขา ใกลพระเจาพรหมทัตจน ไดเ ปนนายสารถีคนโปรด -กุมาร นึกถึงพระโอวาทท่ีพระราชบิดาใหไว จึงถวายพระชนม แดพระเจาพรหมทัตแลว ไดราชสมบัติคืนพรอมท้ังพระราชธิดา ภายหลังยังไดครองแควนกาสีอีกดวย ฯ พระมงคลวเิ สสกถา หนา ๙๕-๙๖ ลีลาภาษาฉันท โดย พระมหาสองสูน ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๕๙] กตตฺ กุ มฺยตาฉนโฺ ท ปฐ ยาวตั ร โย กตตฺ กุ มฺยตาฉนโฺ ท พทุ ฺธาทีหิ สเุ ทสิโต โส โลเก สพฺพสตตฺ านํ อตฺถํ สาเธติ สพพฺ ทา วตถฺ ุ โข ตตยิ าเยตถฺ สงฺคีติยํ นิทสฺสนํ มจิ ฉฺ าทฏิ กุเล ชาโต โมคคฺ ลลฺ ปี ตุ ตฺ มาณโว อินทรวเิ ชยี ร โส สิคฺคโว นามิธ สงฺฆเถโร โมคฺคลฺลิปุตฺตํ ว สมาทเปตฺวา เอตํ อปพฺพาชยิ สาสนสฺมึ โมคฺคลฺลิปุตฺโต ปริยตฺติเมธี ปตฺโต จ โลกุตฺตรธมฺมเสฏ ปจฉฺ าธ เถโร วรสงฆฺ เชฏโ สทฺธึ อโสเกน มหินทฺ รฺา โส อพฺพุทํ ธํสยิ สาสนสฺมึ สงฺคีติยํ โข ตติยาย เถโร สงฆฺ สฺส เชฏโ อหุ ชมฺพุทีเป ปฐ ยาวัตร ทีฆาวุ โกสเล รฏเ ทีฆีติโนหุ โอรโส อจฺฉินเฺ น พฺรหฺมทตเฺ ตน โส รชเฺ ช ปตุสนฺตเก ลีลาภาษาฉันท โดย พระมหาสองสูน ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๖๐] ชาโต ตํ พรฺ หฺมทตตฺ ปํ  มาเรตกุ ามโก อหุ ปโย สารถิ หุตฺวาสฺส โอกาสํ หนติ ุ ลภิ ปตุนา ทินนฺ โอวาทํ สรํ อทาสฺส ชีวิตํ ปจฺฉา รชฺชํ ลภิตฺวาน เอตสฺส สห ธีตุยา กตฺวาน เอกโต รฏ รชฺชํ กาเรสิ ธมฺมโตติ ฯ เฉลยโดย พระมหาสองสนู ธมฺมรโต ป.ธ. ๙ ยอ ความ -สหกรณเปนกิจอันจําตองปรารถนาดุจเดียวกัน ฯ การประพฤติ สจุ ริต หากไมครบไตรทวาร ยอ มไมส ําเร็จประโยชน -ตอพรอมทั้งไตรทวารจึงจะสําเร็จประโยชนดวยดี ฯ แมผู ประพฤติธรรมก็จําตองปรารถนาสหกรณ ไมอยางนั้นก็ยากที่จะ ทําไดตลอด ยิง่ หรือหยอนไปไมสมกัน ความเปนอันหนึ่งอันเดียว จกั ไมม ี -สมเด็จพระบรมศาสดาจึงทรงบัญญัติสิกขาบทตามสมควรแกเหตุ เพ่ือเปนบรรทัดแหงความประพฤติของภิกษุท้ังหลาย ดวยทรงมุง หมายจะใหตั้งอยูสีลสามัญญตาความสมํ่าเสมอกันโดยศีล -สมเด็จพระบรมศาสดากับพระสาวกรวมฉันทะชวยกันประกาศ พระศาสนา นํามหาชนออกจากอธรรม ใหตั้งอยูในธรรม เปนอัน ลลี าภาษาฉนั ท โดย พระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๖๑] บําบัดเสียซ่ึงวิบัติ นําเขาไปสูสวัสดี จาริกไปถึงไหน ยังประโยชน ใหเกดิ ไปถึงนั้น -จงึ มคี ําสรรเสริญเรียกพระศาสดาวา พระธรรมราชา -เรยี กพระสารีบุตรวา พระธรรมเสนาบดี -เรยี กพระสงฆวา ธรรมเสนา ฯ พระมงคลวิเสสกถา หนา ๑๐๗-๑๐๘ ปฐยาวตั ร ชเนหิ สหกรณํ ธมมฺ โต อจิ ฺฉิตํ สยิ า สเจ สุจริตํ โหติ จริยา น ติทวฺ าริกา เอวํ หิตํ น สาเธติ ปเรสํ อตฺตโน จ สา สเจ สุจรติ ํ โลเก จรยิ าตฺถิ ติทฺวาริกา เอวํ สาเธติ สา อตถฺ ํ ปเรสํ อตฺตโน อถ ธมฺมจารี ตมิจฺเฉยฺย น เจ เอว,ํ น โสตถฺ ินา สทธฺ มมฺ ํ จริตุ สกฺกา อนู ํ ตํ อธิกสํ มํ เอวํ สติ กโุ ตฺสฺส เอกภี าโว ภวิสฺสติ อนิ ทรวเิ ชยี ร พทุ ฺโธ หิ โย มารชิ ทีฆทสฺสี โส สีลสามฺตมิจฺฉมาโน ลลี าภาษาฉนั ท โดย พระมหาสองสูน ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๖๒] ภิกฺขนู สมมฺ า จรยิ านุรูป สิกฺขาปทํ อคฺคมปฺเปสิ โส เอกฉนโฺ ท สห สาวเกหิ โลเก ปกาสํ วรสาสนํป พาลํ ปชํ นีหรตี อธมมฺ า ธมฺเม ปตฏิ าปยเต ปชํ จ ธํเสติ สตตฺ าน สทา วปิ ตตฺ ึ ปาเปติ โสตถฺ ึ ชนตํ จ สพพฺ ํ โส จาริกํ ยตถฺ ชิโน จรนฺโต อตฺถํ อปุ าเทติ สขุ ํ จ ตตฺถ ปฐ ยาวตั ร พุทฺโธ หิ ธมมฺ ราชาติ มนุสฺเสหิ ปสสํ โิ ต สารีปุตฺโต มหาเถโร ธมมฺ เสนาปตีติ จ สงโฺ ฆ อธิ าริโย ธมมฺ - เสนาติ จ ปสสํ ิโตติ ฯ เฉลยโดย พระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ. ๙ ลลี าภาษาฉนั ท โดย พระมหาสองสูน ธมฺมรโต ป.ธ.๙

[๖๓] ยอ ความ -ขนั ตเิ ปนธรรมเคร่ืองทําใหงาม คูก บั โสรัจจะ -ผูมีขันติความอดทน และมีโสรัจจะความเสง่ียมนั้น เปนผูงาม ธรรมสําคัญสองประการนี้เปนท่ีปรากฏเดนชัดในสมเด็จบรม บพติ รพระราชสมภารเจาตลอดมา -ความชุลมุนวุนวายหวาดกลัว หลายคนไมก ลาเผชิญชีวิตตอไป -สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจา พระผูทรงพระคุณอัน ประเสริฐแทจริง ทรงสงบนง่ิ ดวยพระขันติและพระโสรัจจ -พระเกียติคุณ ของพระองคประจักษแกชน ในที่ทั้งปวง -ขนั ติเปนประธาน เปน เหตุนําใหเกิด ศลี และสมาธิ -ศลี ก็ตาม สมาธกิ ็ตาม ไมเกิดแกผูไมอดทน แตจ ะเกิดแกผูมีขันติ -คนมีขันติ ทําใหมีเมตตา ไมเบียดเบียนตนและคนอื่น พระมงคลวิเสสกถา หนา ๑๑๙-๑๒๐ ขนตฺ โิ สรจจฺ คาถา ปฐ ยาวัตร โย ธมโฺ ม พุทฺธเทสิโต ขนตฺ ิโสรจฺจสงฺขาโต โหติ โสภณการโก โส โลเก ยุคนทฺธมฺโม โส โลเก โหติ โสภโณ อโุ ภ ยสฺสตฺถิ มจฺเจสุ โดย พระมหาสองสนู ธมฺมรโต ป.ธ.๙ ลลี าภาษาฉนั ท

[๖๔] อินทรวเิ ชยี ร อปุ ฺปชฺชเร เย ภยอนฺตรายา ทยฺยาน ราชา อภุ เยน ยตุ ฺโต สกฺโกติ ภิยฺโย อปเนตุเมเต โส ขนตฺ ิโก โสภติ สพฺพาเน ชาเต มนสุ ฺสาน ภยปู สคฺเค ทยฺยาสฺส ภายนฺติ ตสนฺติ รฏเ ราชา หิ สูโร อจโลตฺถิ ตาทิ สกฺโกติ โส วูปสเมตุเมเต โย กิตฺติสทฺโทส ปสํสิตพฺโพ โส ตสฺส สพฺพตฺถ สุปากโฏตฺถิ ปฐยาวตั ร ธมฺมานํ ปมุขา จตฺถิ สีลาทิชนิกา จ สา สา น ยสฺสตฺถิ, เนวสฺส สีลํ สมาธิ ชายติ ขนฺติกสฺส ตุ สีลํ จ สมาธิ จ อุปชฺชติ น เมตฺตี ขนฺติโกตฺตานํ ปรํ จ พาธตี สทาติ ฯ เฉลยโดย พระมหาสองสูน ธมฺมรโต ป.ธ. ๙ ลีลาภาษาฉนั ท โดย พระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๖๕] ยอความ อันคําวา อรหันตน้ัน โดยตรงทานหมายถึงทานผูไกลกิเลส แลวส้ินเชิง แตทานยกทานผูเปนมารดาบิดาวา เปนพระอรหันต ของบตุ รธิดา เพราะมารดาบิดาไมเปนโทษไมเปนภัยแกบุตรธิดา -มารดาบิดาเปนพระอรหันตของบุตรธิดาท้ังหลาย เปนที่รื่นรมย สําหรบั ของบุตรธิดาทั้งหลายท่ีอยูดวย -สมเด็จบรมบพิตรพระราชสมภารเจา ไมทรงอาศัยความโลภ เปนตน มีพระมหากรุณาเปนที่ตั้ง ประกอบประโยชนเพื่อปวงชน -ทรงเปนพระอรหันต ของพระราชโอรสพระราชธิดา และยังทรง เปนพระอรหันตข องพสกนิกรขาแผนดินส้ินท้ังปวง -เสด็จพระราชดําเนินถึงที่ใด ไมวาบานก็ตาม ปาก็ตาม ที่ลุมก็ ตาม ทด่ี อนก็ตาม ทรงยังความรื่นรมยใ หเกิดขึ้นได -ทรงประกอบดวยคุณวิเศษแหงพระอรหันต จึงทรงปกครอง ประชาชนและประเทศโดยธรรม ประเทศไทยจึงมเย็นเปนสุข ยง่ิ กวา ทุกอาณาเขตในโลกน้ี ฯ พระมงคลวิเสสกถา หนา ๑๒๗ ลีลาภาษาฉนั ท โดย พระมหาสองสูน ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๖๖] อรหนฺตตถฺ คาถา อนิ ทรวเิ ชยี ร ยนตฺ ํ อิธตฺเถ อรหาติ วตุ ตฺ ํ เอตํ กิเลเสหิ ต ํ วทิ ูเร สนฺธาย ขณี าสวเมตฺถ วตุ ฺตํ มาตา ปตา เย อภยา อโทสา ปุตตฺ านมิจฺฉนตฺ ิ หติ ํ สขุ ํ จ ปตุ ตฺ านเมเต อรหาติ วุตฺตา เอเตหิ ปตุ ตฺ า สหวาสิโนตฺถิ ตํ สพฺพานํ รมณยี ภูตํ โส ทยยฺ ราชา ชนตานุกมฺป อตฺถํ อโลภาทิยุโต ปยุชฺ ิ ปุตตฺ าน ราชา อรหาตฺถิ เสฏโ  รฏเ  ชนานํ อรหา จ โหติ ปฐยาวตั ร โส คาเม วา อรเฺ  วา นินเฺ น วา ยทิ วา ถเล ยตถฺ คจฉฺ ติ ภปู าโล ตํ ภมู ริ ามเณยฺยกํ เตน ยุตโฺ ต ส ธมเฺ มน รฏ ปชํ จ รกขฺ ติ อาณาจกฺกํ ปฏจิ เฺ จตํ อตุ ตฺ รึ อฺรฏโต วฑุ ฒฺ ึ เจว วิรุฬหฺ ึ จ เวปุลลฺ ํ จุปคจฺฉตีติ ฯ เฉลยโดย พระมหาสองสูน ธมฺมรโต ป.ธ. ๙ ลลี าภาษาฉันท โดย พระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๖๗] ยอ ความ พระมหาชนกพระโอรสแหงพระเจากรุงมิถิลา ตองพลัดถิ่นไป ประทบั ในตางประเทศต้ังแตทรงอยูในพระครรภของพระมารดา -มีจิตใจกลาหาญ มีความเพียรแรงกลา ไดข้ึนเรือ ขามมหาสมุทร เพื่อไปสูสวรรณภูมิ -เรือไดถูกคลื่นลมรายแรง อับปางลงในทามกลางมหาสมุทร พระ มหาชนกไดวายนํ้ามุงกรุงกรุงมิถิลาโดยไมยอทอ -เทพธิดารักษามหาสมุทรช่ือมณีเมขลาไดพบ จึงไดตั้งปญหาถาม วา เพียรวา ยน้ําไปเพื่อประโยชนอะไร ผลสําเร็จคือความตาย -พระมหาชนกไดกลาวเหตุแกนางเทพธิดา -คนเมื่อเพียรทํากิจของบุรุษก็ชื่อวาไมเปนหนี้ญาติ ไมเปนหน้ี เทวดา ไมเ ปน หนี้บิดามารดา ไมต อ งเดือดรอนในภายหลัง -เทพธิดาไดฟงถอยคําของพระมหาชนก มีใจยินดี จึงไดชวยนํา พระมหาชนกไปสงถึงมิถิลา ฯ พระมงคลวิเสสกถา หนา ๒๓๓ ปฐ ยาวตั ร รโฺ Ÿ มถิ ิลาโยรโส วิเทสสฺมึ วสี อยํ อตีเต มหาชนโก มาตคุ พภฺ คตกฺกาเล นาวภํ ิรุยฺห ภณฑฺ กํ โส ทฬฺหวีรโิ ย วโี ร ลีลาภาษาฉันท โดย พระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๖๘] สมทุ ฺทเมว ปกขฺ นทฺ ิ มุโข สุวณฺณภมู ยิ า นาวาย อมู เิ วเคน ปหฏาย ยถากฺกมํ สยํ ตริ สมุทฺทนฺตํ โส หตุ ฺวา มิถลิ ามุโข อเุ ปนทรวิเชยี ร สมุทฺทรกขฺ ี มณเิ มขลาป ปวตฺตนํ อทฺทส เทวธีตา “กโรสิ กสมฺ า ตริตุ– ปธานํ ภวิสฺสเต เต มรณนฺติ” ปจุ ฉฺ ิ ส โพธสิ ตฺโต วทิ เหตมุ สฺสา นโร กโรเต ปรุ ิสสฺส กิจฺจํ น ตปฺปตี โส กรเณน ปจฉฺ า สาตนิ ํ โส อนโณ จ โหติ น เทวตานํ จ กเมน โหติ สทา น มาตาปตนุ ํ จ โหติ อินทรวเิ ชยี ร สา เทวธีตา สุตวาน เอตํ ตํ โพธสิ ตตฺ ํ สมุ นุกขฺ ปิ ตวฺ า พาหาหิ ปคคฺ ยฺห อุโภหิ เนตวฺ า ปาเปสิ ขิปปฺ  มถิ ลิ ํ มนาปนฺติ ฯ พระมหาสองสูน ธมฺมรโต ป.ธ. ๙ เฉลยเปนแนวทาง ลลี าภาษาฉนั ท โดย พระมหาสองสนู ธมฺมรโต ป.ธ.๙

[๖๙] สทธฺ าสมปฺ ทา ปฐ ยาวตั ร วิฺูเหตถฺ ปวุจฺจติ สทธฺ าสมปฺ ทา นาม กมมฺ สทฺธา จ ยา เอสา ยา วิปากสทธฺ า อโถ ยา กมมฺ สฺสกตาสทธฺ า ตถาคตโพธสิ ทฺธา อิติ สทธฺ า จตสโฺ สว ปชาย อตถสาธิกา ยํ อโลภาทิมลู ํ, ตํ กมมฺ ํ กสุ ลสมฺมตํ กมฺมํ โลภาทมิ ลู ํ ยํ ตํ โหตกี ุสลํ อธิ กุสลํ หิ อโลภาท-ิ มลู านุรปู โต อิทํ อิฏ กนฺตํ มนาป จ วิปากํ เทติ สพฺพโส ตพฺพปี รตี มฺŸ– ตุ เทตี อกุสลํ สทา อยมปฺ  “กมฺมสทธฺ าติ” สทฺธา วิฺูหิ วุจจฺ ติ อินทรวิเชียร ยํ กมฺมชํ ปกฺกผลธํ โหติ ตํ วุจจฺ เต วิ ฺุหิ เส วปิ าโก กมมฺ พฺพปิ าโก ปน ทพุ ฺพิโธตถฺ ิ อิฏโ จ กนโฺ ต จ มนาปโก โย โส โข วปิ าโก กสุ ลสสฺ โหติ ลลี าภาษาฉนั ท โดย พระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๗๐] ตพฺพีปรีโตกสุ ลพฺพปิ าโก สทฺธา อยํ โหติ วิปากสทธฺ า สตฺตา หิ ยํ กมฺมมกสํ ุ โลเก เอเต ลภนเฺ ตสฺส วปิ ากมทฺธา กลยฺ าณการี จ ปาปการี ปตฺตา อห–ุ หนี ปณตี ภาวํ สทฺธธี กมฺมสสฺ กตาติ วุตฺตา วสันตดลิ ก “พุทฺโธ หิ โย อธคิ โต วรโพธิŸาณํ เมตฺตาทิโก ส ชนตาย ปกาสิ ธมฺมํ สนทฺ ิฏŒ โก ภควตา จ สวุ ตุ ฺตธมโฺ ม สงโฺ ฆ ชนิ สสฺ อถ สปุ ปฺ ฏิปนนฺ โกติ ” เอวํ นโร ติรตนสฺมิ นิวฏิ Œสทฺโธ สา โหติ ตสฺสิธ ตถาคตโพธิสทฺธาติ ฯ พระมงคลวิเสสกถา หนา ๒๒-๒๓ แตงโดย พระมหาสองสูน ธมมฺ รโต ป.ธ. ๙ ลลี าภาษาฉันท โดย พระมหาสองสูน ธมฺมรโต ป.ธ.๙

[๗๑] พาหุสจจฺ คาถา วสนั ตดิลก ยํ พาหสุ จฺจมิทมตถฺ ิ สเุ ทสติ คฺคํ ตํ อิจฉฺ ติ ํ จ ชนตาย สมุ านิตํ จ มจจฺ สฺส ยสสฺ ภวเต อิธ พาหสุ จจฺ ํ มจฺโจ ส วจุ จฺ ติ มุนีหิ “พหุสฺสโุ ตติ ปฐยาวัตร ปุพฺเพ สุทสฺสโน ราชา สุตฺวา สิกขฺ าย วณฺณนํ มหาสเํ วคปตโฺ ต ว อนสุ ฺสริ ปโยรเส ปตฺเถสิ นิติสตฺถมฺหิ สิกฺขาเปตุ สโอรเส สมตฺถํ สพฺพกิจเฺ จสุ ธีรํ อุจฺจินิ พฺราหฺมณํ ปุโรหิเตสุ โย เอโก ปณฺฑิโตหุ วิสารโท วงั สัฏฐะ ตทา ส สิกฺขาปยิ ราชโอรเส สุสาสิตา เต ครุนา สุเมธสา อกํสุ กิจจฺ ํ ปตุโน ยถิจฺฉิตํ สุวณฺณิตํ ตํ อธิ พุทฺธสาสเน พหุสฺสุโต โยป นโรตฺถิ นทิ ฺธโน ถิรํ อโมฆํ หิตมสฺส ชีวิตํ วสันตดิลก โส ยฺเทว ปริสํ อุปสงฺกมิตฺวา ลีลาภาษาฉันท โดย พระมหาสองสูน ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๗๒] นิจฺจฺจ โวหรติ เอตฺถ อมงฺกุภูโต ธมฺมานธุ มฺมปฏิปตฺติสมาคตตฺโต ธมฺมฺุโก จ อิธ สปฺปุริโส จ โหติ อตฺถฺจุปาทยติ อฺชนานมคฺคํ ตํ พาหุสจฺจมปสํสิ วรํ มุนินฺโทติ ฯ มงคลหนา ๒๙-๓๐ เฉลยโดยพระมหาสองสูน ธมฺมรโต ป.ธ.๙ การุ ฺ คาถา ปฐยาวตั ร การุฺตา หิ นาเมสา ทุกฺขา มุจฺ ติ ุกามตา อตฺถโต จติ ตฺ สนฺตาโส ฉมภฺ ิตตตฺ จฺ ทุกฺขินํ ยสสฺ ายํ ภาวติ า นิจฺจํ อติ ฺถยิ า ปุรสิ สฺส วา พลวนฺตํ ปฏิจฺเจตํ วเิ หสาย ตารกํ สุมโน การุณี เสฏโ ปเรสํป น ทสุ ฺสติ ยํ ยํ กลุ ํ ภเชยฺเยโส ตตถฺ ตตฺเถว ปชู ิโต อินทรวเิ ชยี ร ราชา นรนิ โฺ ท กรุณาวเสน มาตาว ปตุ ฺตธํ ปชํ ปยายํ ทุกขฺ าปเนตาป สขุ ปุ เนตา กิตฺตฺยาทโิ ก โสภติ กายมชฺเฌ อตถฺ าภิวิ ฺ ู อคตยฺ าทยิ ตุ ฺโต ลลี าภาษาฉันท โดย พระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๗๓] กาเรติ ธมฺเมน สเมน รชฺชํ ตสมฺ า สุเมธี นรเชฏวีโร สตตฺ ุมปฺ  มาเรติ หติ าย สมฺมา ปฐ ยาวตั ร โย โส จ ขตตฺ โิ ย ภโู ป หโิ รตตฺ ปปฺ สมปปฺ โ ต ทสธมฺเม น โกเปติ อริฏชนโก ยถา โส เทวตูปโม โลเก รฏ กิจจฺ คฺคนายโก มานิโต สกกฺ โต โหติ เปจฺจ สคเฺ ค ปโมทติ วงั สฏั ฐะ มหามนุ ี เชฏ นโร หิเตสโิ ก สทา มหาการณุ โิ ก สุขาวโห อรฺคามํ นคิ มํ คโต ทิสํ ทมํ วิเนนโฺ ต สุกรํ ทมารหํ นปิ นฺนภโู ต สุคโตป มฺจเก สภุ ททฺ วุฑฒฺ สสฺ อภินทฺ ิ สสํ ยํ ตเมว นิจฺจํ ปรนิ ิพพฺ ุตํ วรํ สสาวกา มานติ ปูชตี ปชาติ ฯ พระมงคลวเิ สสกถา หนา ๔๓-๔๔ แตง โดยพระมหาสําเร็จ ปทุมสิริ (บัวศรี) ป.ธ. ๙ ลีลาภาษาฉันท โดย พระมหาสองสนู ธมฺมรโต ป.ธ.๙

[๗๔] เมตตฺ า ปฐยาวตั ร เมตฺตา หิ สพฺพสตเฺ ตหิ ภาเวตพฺพา วเิ สสโต โอทสิ ฺส ผรณา เมตตฺ า อโนทสิ ฺส อโถ อติ ิ เอวํ ปวุจจฺ มานา สา วิฺูหิ โหติ ทพุ ฺพธิ า ผรณา ยา อโนทสิ ฺส เมตฺตา พฺยาปาทธํสิกา สา โข “เจโตวมิ ตุ ตฺ ีติ” อปปฺ มฺา ปวุจฺจติ อินทรวเิ ชยี ร โลกสมฺ ิ มาตาปต โร ทยาลู เมตตฺ ายมานา ปย สตฺตเุ ปกขฺ า ปุตฺเต มนาเป จ อตปิ ฺปเ ย จ โอทิสฺส เมตตฺ าย ผรนฺติ นจิ จฺ ํ เมตฺตานภุ าเวน อิเธว ปุตตฺ า เต คารเวเนว อปุ ฏ หนฺติ อินทรวงศ โลเก หิ ราชา ทสธมฺมโิ ก สธุ ี เมตตฺ าภยิ ตุ โฺ ต หติ อตฺถกามโก ปสสฺ ํ ปชํ สพฺพธิ ทุกขฺ ปตตฺ กํ โหเต ปชาทกุ ฺขสุขํ อุเปกขฺ โก ทกุ ขฺ าปเนตา ส สขุ านทุ ายโก ลลี าภาษาฉนั ท โดย พระมหาสองสูน ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๗๕] เมตฺตาย สพฺพํ ผรตี อโนธิโส ปฐยาวตั ร โลเก สปฺปรุ ิโส ทนฺโต เมตตฺ าทโิ ก วิจกขฺ โณ “ยถาหํ สุขกาโมมหฺ ิ ทุกเฺ ข ชคิ จุ ฉฺ โก อถ เอวํ สตตฺ าติ” อตตฺ านํ สกฺขึ กโรติ สพพฺ ธิ ตสมฺ า สตฺเต ส เมตฺตาย ผรตี เมตตฺ เจตสา เมตฺตา พฺรหฺมวหิ าโรตถฺ ิ พรฺ หมฺ า ปตาตฺถิ ปาณนิ ํ มาตา ปตา จ ปุตฺตานํ พรฺ หฺมาติ วุจฺจตี อิธ ราชา สมมฺ ติเทโวติ รฏเ ชนาน วจุ จฺ ตีติ ฯ แตง โดย พระมหาสองสูน ธมมฺ รโต ป.ธ. ๙ พระมงคลวิเสสกถา หนา ๔๘-๔๙ ออกสนามหลวงป ๒๕๕๖ อนิ ทรวเิ ชียร เมตตฺ าคาถา เมตฺตา หิ พทุ ฺเธน ชนาน วตุ ตฺ า สาเธติ สพเฺ พสมยํ หิตตฺถํ โย โข ชโน ตาย สมาคโตตฺถิ โส เสติ สพพฺ ตถฺ สขุ ํ นิทุกโฺ ข เมตฺตาวเสเนส ปโย ชนานํ สมมฺ านิโต โหติ นิรนฺตราโย ลีลาภาษาฉนั ท โดย พระมหาสองสูน ธมฺมรโต ป.ธ.๙

[๗๖] ปฐ ยาวตั ร สา เยน ภาวติ า ตสสฺ า อานิสํสํ ส วินทฺ ติ อานสิ ํโส หิ เมตตฺ าย ทพุ พฺ ิโธตฺถิ ปเภทโต โอทสิ ฺส ผรณา เมตตฺ า ทพุ พฺ ลา โหติ านโส ผรณา จ อโนทสิ สฺ อปฺปมฺา มหพพฺ ลา ทยฺยานํ หิ มหาราชา เมตฺตี ปชาตถฺ กามโก เย ราชวสํ กิ ามจฺจา ปเทเส จตฺถิ เสวกา เต รโฺ  สพพฺ มุปปฺ นฺนํ กจิ ฺจํ กโรนตฺ ิ ภตตฺ ิกา ราชา เอเต อโนทิสสฺ เมตตฺ าย ผรตี สทา โส จานิสฺสริเก ทาเส โมเจสิ ทาสภาวโต วสนั ตดลิ ก สิปปฺ  สุสิกขฺ ติ ุ ชนา อภปิ ตถฺ เร เย เตสํ ธนํ สกมทาสิ กริตฺว มลู ํ กตวฺ า วเิ ทสิกชนาธ วณชิ ฺชกมฺมํ เมตตฺ าย ตสฺส อภยาตถฺ ิ สุขา อเวรา รฏสมฺ ิ สขํ ริตุ ชณิ ฺณวิหารมฺ  สามํ ธนํ อจชิ พาหิรสาสนสฺส หตถฺ าทโย จ ทพุ ลา สกสามกิ านํ โน สกฺกเร กรติ ุ สพพฺ มปุ นนฺ กมมฺ ํ กิจฺเจสุ เต ส อปโยชิตุ สามิกานํ ลลี าภาษาฉันท โดย พระมหาสองสูน ธมฺมรโต ป.ธ.๙

[๗๗] รกฺขานิวารณนิตึ ปวรํ เปสิ ฯ พระมงคลวเิ สสกถา หนา ๕๐-๕๑ แตง เฉลยโดย พระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ. ๙ วสันตดลิ ก กาลฺุตา อนิ ทรวิเชยี ร กาลฺตุ า หิ ชนตาย พหูปการา นจิ ฺจํ สกิจฺจกรณสฺมิ อภิจฺฉิตพฺพา สา เจ น ยสฺส อธิ อตฺถิ นรสฺส โลเก สกฺโกติ สุฏุ กริตุ น ส ยตุ ฺตกิจจฺ ํ โส อตฺตนา น ลภเต ลภิตพฺพอตฺถํ ลทฺธาตฺตนา อนุกมํ ปริหายเรตฺถา หีนา ตุ โหนตฺ ิ พหโว ภยปุ ทฺทวา เย สพฺเพ อกาลชุ นสฺส ภเวยยฺ ุมทฺธา ทีฆีติราชา หิ กตาภิเสโก อปฺปาวุโธ อปฺปพโล จ หุตฺวา กาสีนมินฺเทน มหพฺพเลน ยุทฺธํ สยํ กาตุมสกฺกุณนฺโต อฺาตกเวเสน ตทา สเทวี นิกฺขมฺม ขิปฺป นครา ปลายิ ลีลาภาษาฉันท โดย พระมหาสองสูน ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๗๘] ปฐยาวตั ร ปจฉฺ า โส พฺรหฺมทตฺโต ตํ คณหฺ าเปสิ สราชินึ สเจ ทีฆตี ิ กาลฺู อปฺปมตฺโต วิสารโท สชฺเชตฺวา อาวุธํ โยธํ เสนํ จ จตุรงคฺ ินึ อตฺตโน เอกรชฺชํ ตํ รกฺขิตุ สกฺกุณิสฺสติ ปมตฺโต ตุ อกาลฺู ปปฺโปสิ ภยปุ ทฺทวํ อชาตสตฺตุราชา หิ อกาลฺู มหพฺพโล ลิจฉฺ วีหิ สมคเฺ คหิ ยทุ ฺธํ กรํ ยถาพลํ ปตฺโต ปราชยํ, ปจฺฉา สามคคฺ ึ เตส ภินทฺ ิตุ วสฺสการํป เปเสตฺวา เตหิ ยุทฺเธ ชยํ ลภีติ ฯ พระมงคลวิเสสกถา หนา ๕๗-๕๘ แตงเฉลยโดย พระมหาสองสูน ธมฺมรโต ป.ธ. ๙ โลกตฺถจริยา ปฐ ยาวตั ร โลกตถฺ จรยิ า นาม พทุ ฺเธน ปูรติ า สมํ สพฺพทา สพฺพโลกานํ หติ าวหา สุขาวหา ปรุ สิ รตนสเฺ สว โหตี ปฏปิ ทา อยํ เตน ปาณีนมตฺถาย หติ าย ปรปิ รู ติ า ลีลาภาษาฉันท โดย พระมหาสองสูน ธมฺมรโต ป.ธ.๙

[๗๙] อุเปนทรวเิ ชยี ร ชโิ น สสุ ทุ ฺโธ กรณุ าภยิ ุตโฺ ต สเมน ปตฺโต วรโพธิ าณํ ยตีน ปฺจนฺน กเถสิ ธมมฺ ํ อเหสุ สพเฺ พ อรหนฺตภตู า ตโต ส สตฺตาน ปกาสิตุ ตํ กเมน เปเสสิ ตหึ ตหึ เต กตาธิการา หิ ตมสสฺ ณุ นฺตา ผลํธ มคคฺ ํ จ น ปาปุณนฺติ หรอื ( วิเสสโตทธฺ า ปรหิ ายเรธ ) อินทรวเิ ชยี ร เอเต จ ธมมฺ ํ อมตํ สุณติ ฺวา ขิปปฺ  ตทา สจฉฺ กิ โรนฺติ อฺ ปจฉฺ า สยํ มารชิ โลกนาโถ คนฺตฺวาน เสนานิคมรู ุเวลํ ธมฺมํป ปาณีน ปกาสยติ ฺวา โลเก ปตฏิ  าปยิ สาสนคฺคนตฺ ิ ฯ พระมงคลวิเสสกถา หนา ๗๓ แตง เฉลย โดยพระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ. ๙ ลลี าภาษาฉันท โดย พระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๘๐] โลกตถฺ จรยิ า อินทรวเิ ชยี ร ทยฺยาน ราชา วริ ยิ าภิยุตโฺ ต ภิกฺขูนปุ ตฺถมภฺ นการโกธ กาเรติ ธมฺเมน สเมน รชชฺ ํ ทุกขฺ าปเนตา จ สุขานุทายี กจิ เฺ จ มหุสฺสาหมกาสิ เอโส ตสฺมา นรินฺโท ครโุ ก คิลาโน โรคํ สเมตุ สุคโต ยุโรป เอโก อนาโถ ส กิลนตฺ กาโย อตถฺ ํ หิตํ กาตุ ชนานมิจฺฉํ สมฺมา พลํ รกฺขติ ชวี ิตํ จ ปฐยาวัตร สมโฺ พธึ หิ ชโิ น ปตฺโต มหาการณุ โิ ก วโร โวโลเกนฺโต ว าเณน เวเนยฺยานุปนสิ ฺสยํ “ยาว ภกิ ฺขฺวาทโย ธมมฺ ํ ปรสิ า นาธคิ จฉฺ เร ธมมฺ านจุ ารินี ธมฺมํ น สกฺโกนฺติ ปกาสติ ุ ยาว มยฺหํ นทิ ํ ผาตึ วิรฬุ ฺหึ สาสนํ คตํ พหชุ ฺชนานมตถฺ าย หติ าย วตตฺ เต สทา ตาวปุ ฺปนฺโน มมาพาโธ อิทธฺ ิปาเทน ตํ อหํ ลลี าภาษาฉนั ท โดย พระมหาสองสูน ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๘๑] ขปิ ฺป วูปสเมตฺวาน รกฺขสิ ฺสามิ สชีวิตํ” อจิ ฺเจวํ อายุสงฺขารา- ธฏิ านํ อตฺตโน อกา อนิ ทรวงศ โลเกรหนฺตา ปน เยตถฺ ิ, เตส โน กายาลโย อตฺถิ สเก จ ชวี ิเต (กาเย อาลโย) พทุ โฺ ธยสุ งขฺ ารมธฏิ หติ วฺ โส พุทธฺ สสฺ กิจจฺ ํ ปริปรู ยํ ยถา สาเธติ นจิ ฺจตถฺ หติ ธํ ปาณินํ เอวํ ส สาเธติ หติ ํ นราธิโปติ ฯ พระมงคลวเิ สสกถา หนา ๗๕-๗๖ เฉลยโดย พระมหาสองสูน ธมฺมรโต ป.ธ. ๙ ปคุ คฺ ลฺ ุตา วสันตดิลก โย สวฺ ารหํ วรชโิ น ภควาภพิ ุทฺโธ สทุ ฺธาภิ าณกรณุ าหิ สมาคตตโฺ ต พชุ ฺฌติ วฺ สุฎ ปุ  สยํ ส สโุ พธิาณํ เวเนยยฺ เก ว อนุโพธยิ ปฺ ยตุ ฺเต(ปฺวนเฺ ต) ตสมฺ า วโร ปมเทสนมตุ ตฺ มํ โส เทเสสิ ปจฺ ยตนิ ํ มิคทายนาเม สมฺพุทธฺ สาสนจิรฏติกามภูโต โส จูรุเวลชฏิลาทนิ มคฺคธมฺมํ ลลี าภาษาฉันท โดย พระมหาสองสนู ธมฺมรโต ป.ธ.๙

[๘๒] อนิ ทรวิเชียร เอโส หิ พุทโฺ ธ อตทิ ีฆทสสฺ ี โหเต จ เจโตปรยิ านุยุตโฺ ต เย เต ชนา กิจฺจสมตถฺ ภูตา ตกกฺ าราเนสุ อิเม เปสิ โส โน มุโขโลกนภาวคามี สตฺตานุกมฺโป จ หติ านุเปกฺโข อคฺเค อุโภ สาวกภิกฺขโวธ อคคฺ สฺมิ านสมฺ ิ ปตฏิ เปสิ อุเปนทรวเิ ชยี ร วจิ กขฺ โณ ปณฺฑติ ภูตราชา ชเน สปฺเ กรณยี เกสุ สมตถฺ ิเย ตกฺกรเณสุ เจว สกจิ ฺจาเนสุ กเรนุรปู นตฺ ิ ฯ มงคลหนา ๙๘ เฉลย โดยพระมหาพรพิทกั ษ วรทกฺโข ป.ธ.๙ กลยฺ าณมิตตฺ ตา ปฐ ยาวัตร กลฺยาณมิตฺตตาธมฺโม พุทฺธาทีหิ สุเทสิโต มิตฺโต หิ เอตฺถ “กลฺยาโณ ปาโป จ อติ ิ ทุพฺพิโธ ลลี าภาษาฉนั ท โดย พระมหาสองสูน ธมฺมรโต ป.ธ.๙

[๘๓] หิตตฺถเปกฺขโก เจว กลฺยาโณ โย สหายโก ปรสงคฺ หการี โส กลฺยาโณติ ปวุจฺจติ ตพฺพีปรีตมิตฺโต ตุ ปาปโกติ ปวุจฺจติ อนิ ทรวิเชียร มิตฺตสฺส ยฺวาตฺถํ หิตมิจฉฺ มาโน มิจฉฺ า จรนฺตํ อสตํ ปมตฺตํ ทิสฺวา วิเนโตวทตี จ มิตฺตํ อุปฺปชฺชิตพฺพํส ภยํ อนตฺถํ ธํเสติ, กิจจฺ ํส กโรติ สพฺพํ ปุพฺเพ อสมฺภตฺตอทิฏโก โย กลฺยาณจติ ฺโต จ โตติทูเร “กลฺยาณมิตฺโตติ ปวุจฺจเต โส กลฺยาณมิตฺโต สุลโภ น อตฺถิ นเฺ ส สาธารณมตฺถิ เจโส อเุ ปนทรวิเชยี ร สตา จ ปฺา ภริยาปตี เย กโรนฺติ อตฺถํ จ หิตํ จ สมฺมา ภวนฺติ กลฺยาณสหายกา เต ตถา จ มาตาปตราทโยฺเ อยํ หิ วา เยน นเรน ลทฺโธ ลลี าภาษาฉนั ท โดย พระมหาสองสูน ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๘๔] สุหชฺชกลฺยาณชโนตฺถิ มิตฺโต น เสวิโต เตน น อิจฺฉิโต โส ปฏิจจฺ ตํ โส ลภเต น อตฺถนฺติ ฯ พระมงคลวิเสสกถา หนา ๑๓๙-๑๔๐ เฉลยโดย พระมหาสองสูน ธมฺมรโต ป.ธ. ๙ เมตตฺ าปารมี วสันตดลิ ก เมตฺตา หิ โหติ อิธ พฺรหฺมวิหารธมฺโม เมตฺตาย โยป ปวราย สมาหิตตฺโต พยฺ าปาทโกธวคิ โต มทุ ุตาทิยุตโฺ ต อฺเสมตถฺ หิตมจิ ฺฉติ สพพฺ กาลํ วณฺโณ มุขสสฺ วิปสีทติ ตสฺส ภิยโฺ ย เอโส สุขํ สุปติ โหติ ปโย ปเรสํ วงั สฏั ฐะ สวุ ณฺณสามสฺสธิ วตถฺ ุ สาธกํ อโหสิ สาโม อสิ ินํ กุมารโก สเมน มาตาปตโรนฺธจกฺขเุ ก สคารโวปฏหิ โส กตฺโุ ก ตโย จ เมตตฺ าย ผเรยฺยุ เต ปชํ ปฏจิ จฺ เมตฺตํ ผรณํ อโนธิโส ลีลาภาษาฉนั ท โดย พระมหาสองสนู ธมฺมรโต ป.ธ.๙

[๘๕] ปชา อเวรา อภยา มหาวเน ตทา หิ พาราณสิเยกขตตฺ ิโย คโต อรฺ มิคมํสโลภโก สวุ ณณฺ สามํ ว สเรน วชิ ฌฺ ิ ตํ อนิ ทรวงศ เอเตน วิทโฺ ธ วิสปต เกน โส สาโม ชนํ ตํ ปรเิ ยสมานโก วาจํ อภาสี มุทุกํ อโกธโน ราชา สณุ ิตฺวา มทุ โุ ก สวุ ตุ ตฺ กํ สามสฺส คนฺตฺวาน กเมน สนตฺ กิ ํ สเํ วคปตโฺ ต สตุ วา ปวตตฺ นํ โปเสสิ มาตาปตโรส สาธุนา เมตตฺ า มนุสฺเสหิ สิยา สุภาวิตาติ ฯ พระมงคลวเิ สสกถา หนา ๑๘๙-๑๙๐ แตงเฉลย โดย พระมหาสองสูน ธมฺมรโต ป.ธ. ๙ ราชปุ ฺกรณคาถา ปฐยาวัตร ยํ ปุ ฺกรณํ รฺา ทยฺยานํ อนชุ านติ ํ ตํ ปูเรนโฺ ต นรินฺโท โส กตฺูกตเวทิโก ลลี าภาษาฉนั ท โดย พระมหาสองสูน ธมฺมรโต ป.ธ.๙

[๘๖] สรนฺโต ปพุ ฺพการนี ํ คุณํ จเฺ ส ราชุนํ เต ทานํทาสิ อทุ ทฺ สิ ฺส ตถา ปจฺ มขตฺติยํ โส สาสนสฺมิ มชฺฌตโฺ ต ตลุ าภโู ต จ ขตตฺ ิโย รฏเ  กโรติ สพพฺ สฺส สาสนสสฺ ูปถมฺภนํ อนิ ทรวเิ ชยี ร เอโส มเต วาสนสงฺฆรฺเ ทตฺวา ฉวสสฺ สสฺ วรํ นิธานํ เปเสติ สงฺฆํ ภณิตุภธิ มมฺ ํ อาสิ ฺจตี เจว ฉวํ อุเทน โส สตตฺ ปฺ าสสเต ทิเน จ กจิ ฺเจสุ เทตี วรทกฺขณิ ํส รโฺ  หิ สมปฺ ตตฺ ปสูตกิ าเล เย กจิ จฺ การี ยตโยธ พฺยตฺตา เมตตฺ ี นรินฺโท อิทิเส ทเิ น เต านนฺตรสฺมึ จ เปสิ สมฺมา อุเปนทรวิเชยี ร ตโต หิ เอวํ ยตโย ปสฏ า ชินสสฺ ธมมฺ ํ อนจุ ารโิ น เต สเมน ธาเรนฺติ ชินสาสนคคฺ ํ ลลี าภาษาฉนั ท โดย พระมหาสองสูน ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๘๗] กเมน ปาเปนฺติ วิรฬุ ฺหิวุฑฒฺ ึ ปเร ตุ ภิกฺขู อธิ สามเณรา ลภุ กตํ เตน อนคุ ฺคหปํ  ปเวณติ นตฺ ึ อนรุ กขฺ ิตุ โส กโรติ กจิ ฺจํ ชินสาสนสมฺ ินฺติ ฯ พระมงคลวิเสสกถา หนา ๑๙๙ พระมหาสองสนู ธมฺมรโต ป.ธ. ๙ แตงเฉลย ขนตฺ ิคาถา ปฐ ยาวัตร ขนตฺ ิ ยสฺส นรสฺสตฺถิ โส สนฺโต สุสมาหิโต สีตอุณหฺ ปปาสาทีหิ ปฬโิ ต โส นโร ยทา ชเนหกฺโกสิโตเฺ หิ โหติ วา ปริภาสโิ ต ตทา จ นิพฺพิกาโร โส สินทิ ฺโธ วจนกฺขโม ตาทิภูโตปสนโฺ ตตฺถิ อกุทฺโธ ตํสมงฺคิโก อินทรวงศ ยา ขนตฺ ิ โสรจจฺ สมาคตา สิยา สา ปาณินํ โหติ สทา สุขาวหา อารมฺมณ ยํ ภวเต อนิฏกํ ปุพฺเพ จ ภิยโฺ ย ขมนํส ทกุ ฺกรํ ลีลาภาษาฉนั ท โดย พระมหาสองสูน ธมฺมรโต ป.ธ.๙

[๘๘] ตํ ปูรยนฺโตธ ปุนปฺปุนํ นโร อารมมณานํ ขมเต อกิจฺฉโต อุเปนทรวเิ ชียร อยํ จ ธีรสฺส วิภูสิภูตา สมงฺคิโก โย ภวเต อมิ าย ส สนฺตจิตฺโต สุสมาหิตตฺโต น กมฺปเต เกนจิ การเณน อยํ จ ยุตฺโต อธิวาสเนน สทา ชินาตีธ ภยูปสคฺเค อนิ ทรวงศ เยฺยํ อิทํ จนฺทกุมารชาตกํ ราโชรโส จนฺทกุมารนามโก ธมฺมฏโต โหติ วินจิ ฺฉเย สุธี ลจฺ ํ คหิตฺวาน ปุโรหิโต ตทา อฏเฏ อธมฺเมน วินิจฺฉยํ อกา จณฺโฑ คเหตฺวา หนติ ุ กุมารกํ สชฺเชสิ อทธฺ มฺมิกยฺปูชนํ จนฺโท อธมฺมํ จรเต น ขนฺติโก ตฺวา ชนา ตสฺมิ ปสนนฺ มานสา โมเจสุเมตํ มรณา กุมารกนตฺ ิ ฯ พระมงคลวิเสสกถา หนา ๒๓๔-๒๓๕ พระมหาสองสูน ธมฺมรโต ป.ธ. ๙ แตงเฉลย ลลี าภาษาฉนั ท โดย พระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๘๙] อุปายโกสลลฺ ํ ปฐยาวตั ร ยํ โข อุปายโกสลลฺ ํ อายาปายสมปปฺ ต ํ ตํ ยสสฺ ปุคคฺ ลสฺสตถฺ ิ วุฑฒฺ ิ ตสสฺ ตถฺ ิ สพฺพทา โสตตฺ ทตฺถํ ปรตฺถฺจ นิปฺผาเทติ วิเสสโต นิพภฺ โย โสธ นทิ ฺทุกฺโข โสตถฺ ึ สขุ จฺ วนิ ทฺ ติ มหาปรินพิ ฺพานสุตเฺ ต อิทฺเจตฺถ นิทสฺสนํ อนิ ทรวงศ อมหฺ ากมคเฺ ค ปรนิ พิ ฺพุเต ชเิ น พุทธฺ ปฺปสนฺนา ปน มลลฺ ขตตฺ ิยา ฌาเปสุ สมพฺ ทุ ฺธสรีรเมกโต สุตวฺ าน ตํ สตตฺ นริสฺสรา ตทา อายาจิตุ ตา ชนิ ธาตุโย วรา ทูตานุทูเต ปหณิ สึ ุ อตตฺ โน มลฺลา หิ พยฺ ตตฺ า วรทฆี ทสสฺ ิโน กิจฺจานุกิจฺจาน กเมน โกวิทา อปุ ปฺ ชชฺ ิตพฺพานิ ภยานิ อตตฺ โน ทสิ ฺวา เปสุ วรโทณพรฺ าหฺมณํ อนิ ทรวเิ ชยี ร พฺยตฺโต จ โส โทณทโิ ช สมตโฺ ถ สมมฺ านโิ ต สพพฺ ชเนหิ รฏเ  ลลี าภาษาฉันท โดย พระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๙๐] สมโฺ มทนยี ํ วจนํ กเถตวฺ า พทุ ธฺ สฺส ธาตู วภิ ชติ ถฺ เตสํ ปจฺฉาคตา โมริยขตตฺ ิยาเฺ  สตุ วฺ า ตมายาจติ ุมคคฺ ธาตู ทตู านทุ ูเต ปหณิ ิตฺว ตตถฺ องคฺ ารมตฺตํส ลภึสุ อคคฺ นฺติ ฯ พระมงคลวเิ สสกถา หนา ๒๖๒-๒๖๓ แตง เฉลยโดย พระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ. ๙ อตถฺ กามตา ปฐ ยาวตั ร ยา อตฺถกามตา โลเก วตฺตติตฺถาย ปาณินํ สา สพฺภิ อตฺถกาเมหิ ภาวิตา พหุลีกตา โย โลเก สพฺพสตฺตานํ หิตายตฺถาย วตฺตติ เตสํ ปยาปโย โหติ โส มนาปามนาปโก ตํ มหาปุริโส สพฺโพ กโรติทฺธา หิตกฺกโร อินทรวงศ โย พิมฺพิสารสฺส กุมารโกภโย ทุปฺปฺวาโหสิ นิคนถฺ สาวโก เอโส คมิตฺวาน ชินสฺส สนฺติกํ ลลี าภาษาฉันท โดย พระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ.๙

[๙๑] วาเทน ตํ นิคคฺ หิตุ มหามุนึ ปฺหํ นิคนฺเถหิ อปุจฉฺ ิ โยชิตํ พุทฺโธส อาจกิ ฺขิ ปรตฺถกามตํ วาจา ปยา เจว ปชาย จปฺปยา สา เจ มนสุ ฺสาน ภเวตฺถสหฺ ิตา ตสฺสา ส เวยยฺ ากรณาย เจตสา กาลฺโุ กโหสิ ชิโน หิตกฺกโร วสนั ตดิลก พุทโฺ ธ หิ สพฺพชนตาย หติ ตถฺ กาโม สพฺพํ ตทา กรติ ุ ปคฺคหนิคฺคหาทึ สงฆฺ สฺส ธมมฺ กิ วสํ ว อทาสิ สมฺมา ปาราชกิ า อิธ กุทิฏกวชฺชิปุตฺตา ยาจสึ ุ ตํ ปุน ชินํ อุปสมปฺ ทํ เต โน เตหิ ยาจิตกถาย ชโิ นนชุ านิ สิกฺขาปทํ สหติ อตฺถมปฺเปสิ วชชฺ ยี ตีน จ ปฏิจจฺ อภททฺ ทิฏ ปฺตฺตกํ น วจเนน สมูหเนยฺย เตเนว สาสนวรํ สุปติฏตํ ตนตฺ ิ ฯ พระมงคลวเิ สสกถา หนา ๒๙๘-๒๙๙ แตง เฉลยโดย พระมหาสองสนู ธมมฺ รโต ป.ธ. ๙ ลีลาภาษาฉันท โดย พระมหาสองสนู ธมฺมรโต ป.ธ.๙

[๙๒] พหปุ ฺปย ตาคาถา ปฐยาวตั ร ยา พหุปปฺ ยตา นาม โลกสมฺ ึ สาธสุ มฺมตา สา สพพฺ ตถฺ มนุสเฺ สหิ อจิ ฺฉติ พพฺ า วิเสสโต าตี านานุรเู ปน ธมมฺ ํ จรนตฺ ิ าตสิ ุ กุเล เชฏ าปจายี เย เต มาเนนฺติ กนิฏ กา โย ยสาทีหิ เชฏโ, โส นาวมฺเยฺย าตโย อินทรวิเชียร มติ ฺเตสุ ธมมฺ ํ สุจรนตฺ ิ มติ ฺตา อปุ ฺปนฺนภตู สฺมิ กทาจิ กิจเฺ จ านานรุ ูเปน ยถารหํ เต เตสํ สยิ ุ สงคฺ หการิโนทธฺ า เอเต จ มาเนนตฺ ิ ยถา สาตี วจุ จฺ นฺติ เอเต ปฏิรูปการี โลเก นรนิ ฺโท ปฏิรูปการี อตตฺ านเมตเฺ ถว ปตฏิ เปติ ปตฺตาภเิ สโกป ปชานุกมฺป เชฏ าปจายี ภวตธี นจิ จฺ ํ อินทรวงศ ทฏ พพฺ เมตเฺ ถว อิทมฺป สาธกํ เชฏ าปจายี ว กเุ ล นริสสฺ โร ลลี าภาษาฉนั ท โดย พระมหาสองสนู ธมฺมรโต ป.ธ.๙

[๙๓] ทยฺเยหิ รฏมหฺ ิ ปสสํ ิโต สทา โส ราชวํสสมฺ ิ กนฏิ  าตนิ ํ านนตฺ รํ เทติ วรํ ยถารหํ านานุรเู ปน กลุ สมฺ ิ าตนิ ํ กนฺตํ กโรเต ส กทาจิ ปคฺคหํ ตํ วจุ ฺจเต ปคฺคหกจิ ฺจมตุ ฺตมํ ปฐ ยาวัตร เย หิสฺส ราชวํสสมฺ ึ มิจฉฺ า จรนฺติ ธมฺมโต โส เต นคิ คฺ หปุ าเยน นิคคฺ ณหฺ าติ สุยุตตฺ โิ ต รโฺ  นคิ คฺ หกจิ จฺ นตฺ ิ อิทํ นาเมน วุจจฺ ตตี ิ ฯ พระมงคลวิเสสกถา หนา ๓๐๒-๓๐๓ แตง เฉลยโดย พระมหาสองสูน ธมมฺ รโต ป.ธ. ๙ พหปุ ฺปยตา อเุ ปนทรวเิ ชยี ร ชนานมนิ โฺ ท รตนตฺตยมฺหิ นวิ ฏิ สทโฺ ธ จ นวิ ิฏเปโม สยมฺป ธมฺมํ ปฏิปชฺชมาโน กเมน มาตาปต โร จ อฺเ ตถา นโิ ยเชติ สวุ ตุ ตฺ ธมเฺ ม วสิ าขปุณณฺ มฺมทิ ิเนนุปตเฺ ต ลีลาภาษาฉันท โดย พระมหาสองสูน ธมมฺ รโต ป.ธ.๙