Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ✍️ คำอธิบายจารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

✍️ คำอธิบายจารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

Description: ✍️ คำอธิบายจารึกตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร

Search

Read the Text Version

288  คำ�อธิบายจารึกต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร คำ� อ่านจารกึ แผน่ ที่ ๔๕ การรักษาโดยใช้ปลิง เพ่ือปล่อยหรือวางทางด้านหลังของร่างกาย เรียกว่า แผนปลงิ คว�่ำ มกี ารปล่อยหรอื วางปลิงตามตำ� แหน่งต่าง ๆ เพ่อื รกั ษาโรค ดงั น้ี ๑. แก้ปวดศรี ษะปะกงั ใหว้ างปลิงบรเิ วณท้ายทอย ๒. แกล้ มใหป้ ากเบย้ี วและแก้ปวดศีรษะ ให้วางปลงิ ท่ตี �ำแหนง่ ขากรรไกร ๓. แกป้ ัตคาดแขนตาย วางทห่ี วั ไหลด่ า้ นซ้าย ๔. แกล้ มเสียดคาง วางท่ีบ่าดา้ นขวา ๕. แกภ้ าหุนะวาตที่สุด วางท่แี ขนดา้ นซา้ ยเหนือขอ้ ศอกเลก็ น้อย ๖. แกส้ ลกั ที่ค้าง ใหว้ างปลิงที่ ใต้สะบักด้านซา้ ย ๗. แก้รากเสลด ใหว้ างปลงิ ท่กี ระดกู สันหลัง ๘. แก้กษัยดาน ให้วางปลิงท่ี แขน ๒ จดุ ใกล้ศอก ๙. บอกใหร้ ทู้ ีต่ าย ให้วางปลิงท่ีตำ� แหนง่ ตรงกลางเอว ๑๐. แกป้ ตั คาด ใหว้ างปลิง ๒ จดุ เหนอื เชิงกราน ๑๑. แกโ้ รหิณีข้ึนต้นขา และแกโ้ รหณิ ีขึ้นถึงคอ ให้วางท่ีกลางตน้ ขาซา้ ยขวา ๑๒. แก้ราก ให้วางปลงิ ทข่ี อ้ พับของขาด้านขวา ๑๓. แปดแสนแก้กล่อน ใหว้ างปลงิ ทีน่ ่องดา้ นขวา ๑๔. แก้รอ้ นเหนบ็ สะโพก ให้วางปลงิ ท่ี เหนือตาตมุ่ และฝา่ เทา้ ด้านขวา Book-7.indd 288 2/11/20 15:59

ชดุ ตำราภมู ปิ ญญาการแพทยแผนไทย ฉบบั อนรุ กั ษ ภาพจารกึ แผนที่ 46 คำจารกึ แผน ที่ 46 กองค้มุ ครองภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทยและพืน้ บ้านไทย ๑. ๏ สทิ ธกิ ารยิ ะ ๒. ยาผายเลอิ ดเอารากขก้ี าแดง ๑ ๓. เบญขเ้ี หลก ใบมดั กา ใบมขาม ใบซมปอย ๔. หญา ไซ ลกู คัดคา วตม ใหงวดแลวตรองเอาน้ำขะยำใสลง 1 กนิ ประจุเลอื ดรา ยทงั ปวงแกไ ข 136 ย๕. อกี เขีย้ วใหข นปรงุ ยาดำ 1 1 ดเี กลือ ้านไท๖. สนั นิบาต ฝด าดดวย ๚ ยาผายเลือดเหนาทังปวง เอาใบมะขาม ใบซม ปอยตำเอาสิง่ ลทะ ะพืน้ บ๗. นาน เกลือ 1 เขี้ยวใหขนเม่ือจะกินเอามะฃามเปยกลาย จึ่งปรุงยาดำ 1 ดีเกลือ 1 แลกนิ ประจุ นไทยเหนา ย์แผ๘. เลอื ด ตกสน้ิ แล ๚ ยาบำรุงเลือด เอาแกน แสมทะเล ๑ เปลอื กมะซาง กานพลู กะสารซม าการแพทราย ดินประสวิ ขาว ญั ญ๙. เทียนดำ เอาเสมอภาคตำผงลายเลากนิ ไดทำแลว เลอื ดตกสิ้นดีแล ๚ รองภูมปิอน่งึ เอา หัศคณุ เทศ แกนแสมทะเล หญา ยองไฟ ขะมน่ิ ออย ค๑๐. บดลายเลากินใหขับเลือดดีแล ๚ ยากินอยูไฟมิไดเอาสานซม เกลือ เทียนดำสิ่งละ 1 กองคุม้ตำเปนผงกินก็ไดลายน้ำรอ นกไ็ ด ๑๑. ถาจะทำเปนลูกกอน เอามะนาว ๑๐ ลูก เอาแตน้ำไสกะทะตั้งไฟข้ึน เอายานั้นใสลงกวนไปให ปนเปนกอนกินแกอยู ๑๒. ไฟไมไดดีแล ฯ ถา เลือดตกหมลู ขังอยทู ี่ไนทอ งนอย ก็ดี ใหเ จบทอ งหนกั เอาสารสมสะตุแลว ๑๓. หนกั 2 พรกิ ไทบด 2 แชเลากลั่น ๒ ทนาน ผนึกฝงเขา เปลอื ก ๗ วัน เม่อื จะ ๑๔. ฝงเศกดวยมนนี้ ๚ โอมพศิ ๆ มหาพิศๆ กูจะเกดกานพศิ นาๆ ๑๕. โอมตรพี ยันตุภุนชันตุสวาหะ ผกี ินเถีด ๑๖. หายปวดมวนในทอ งดีวเิ ศศ ๑๗. นกั แล ๚๛ Book-7.indd 289 2/11/20 15:59

290  คำ�อธบิ ายจารึกต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวหิ าร ค�ำอ่านจารกึ แผน่ ที่ ๔๖ ชือ่ ต้นฉบบั : จารึกแผ่นท่ี ๔๖ ลำ� ดับท่ขี องตำ� รับในตำ� รา: ๑๏๖๖ ชอ่ื โรค: เลอื ด สรรพคณุ ของตำ� รับ: ประจเุ ลือดร้ายทง้ั ปวง แกไ้ ขส้ นั นบิ าต แก้ฝดี าษ ช่ือต�ำรบั : ยาผายเลอื ด ส่วนประกอบของต�ำรับ: รากขี้กาแดง ๑ เบญจข้ีเหล็ก ใบมะกา ใบมะขาม ใบส้มป่อย หญา้ ไซ ลูกคดั เคา้ วิธีปรุงยา: ต้มให้งวดแล้วกรอง เอาน�้ำขย�ำใส่ลงอีกเค่ียวให้ข้น ปรุงยาด�ำ ๑ สลึง ดีเกลือ ๑ บาท รปู แบบยา: ยาต้ม วธิ ใี ช้: กิน รายละเอยี ดของตัวยา/สมนุ ไพรในตำ� รบั ลำ� ดับ ตวั ยา/สมุนไพร สว่ นท่ีใช้ ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ปรมิ าณท่ใี ช้ ๑ รากขีก้ าแดง ราก Trichosanthes tricuspidata Cucurbitaceae ๑ สว่ น Lour. ๒ เบญจข้ีเหลก็ ราก ตน้ ใบ Senna siamea (Lam.) H. S. Fabaceae ๑ ส่วน *ขีเ้ หลก็ ท้งั ห้า ดอก ฝกั Irwin & Barneby ใบ ๓ ใบมะกา ใบ Bridelia ovate Decne Phyllanthaceae ๑ ส่วน ๔ ใบมะขาม ใบ ๕ ใบสม้ ป่อย *ทั้งต้น Tamarindus indica L. Fabaceae ๑ ส่วน ๖ หญ้าไซ ผล ๗ ลกู คัดเค้า Acacia concinna (Willd.) DC. Fabaceae ๑ สว่ น Leersia hexandra Sw. Poaceae ๑ สว่ น Oxyceros bispinosus (Griff.) Rubiaceae ๑ สว่ น Tirveng. ๘ เกลือ *ผงเกลือ Sea salt ๑ บาท *เกลอื สมทุ ร หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่สี รปุ มาจากส่วนของสมุนไพรชนดิ นนั้  ๆ ท่นี ำ� มาใชเ้ ปน็ ยากันโดยท่วั ไป Book-7.indd 290 3/26/20 13:52

การวเิ คราะหต์ ำ�รับยาสมนุ ไพรในจารกึ ตำ�รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวหิ าร  291 ล�ำดับที่ของตำ� รับในต�ำรา: ๑๏๖๗ ๒บทที่ ช่อื โรค: เลือด สรรพคณุ ของตำ� รบั : ประจุเลือดเน่าร้ายให้ตกส้นิ ชื่อตำ� รับ: ยาผายเลือดเนา่ ทง้ั ปวง ส่วนประกอบของตำ� รบั : ใบมะขาม ใบสม้ ปอ่ ย ตำ� เอาสิ่งละทะนาน เกลอื ๑ บาท วิธีปรุงยา: เคี่ยวให้ข้น เม่ือจะกินให้เอามะขามเปียกละลาย ปรุงกับยาด�ำ ๑ สลึง ดีเกลือ ๑ บาท รปู แบบยา: ยาเคีย่ ว กระสายยา: มะขามเปยี ก วธิ ใี ช้: กิน รายละเอียดของตัวยา/สมุนไพรในตำ� รบั ล�ำดบั ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้ ชอ่ื วิทยาศาสตร์ ชอ่ื วงศ์ ปริมาณทีใ่ ช้ ๑ ทะนาน ๑ ใบมะขาม ใบ Tamarindus indica L. Fabaceae ๑ ทะนาน ๒ ใบสม้ ป่อย ใบ Acacia concinna (Willd.) DC. Fabaceae ๑ บาท ๓ เกลอื *ผงเกลอื Sea salt *เกลอื สมุทร ล�ำดับที่ของตำ� รบั ในต�ำรา: ๑๏๖๘ ชอ่ื โรค: เลือด สรรพคณุ ของต�ำรับ: ทำ� ให้เลอื ดตกส้ิน ชือ่ ต�ำรบั : ยาบำ� รุงเลือด สว่ นประกอบของตำ� รบั : แกน่ แสมทะเล ๑ เปลอื กมะทราง กานพลู กะสารสม้ ดนิ ประสวิ ขาว เทยี นด�ำ เอาเสมอภาค วธิ ีปรุงยา: บดให้เปน็ ผง ละลายกบั นำ�้ สุรา รูปแบบยา: ยาผง หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่ีสรปุ มาจากสว่ นของสมนุ ไพรชนดิ นัน้  ๆ ทน่ี ำ� มาใช้เป็นยากนั โดยทว่ั ไป Book-7.indd 291 3/26/20 13:52

292  ค�ำ อธิบายจารกึ ต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร กระสายยา: น�ำ้ สุรา วธิ ใี ช้: กนิ รายละเอียดของตัวยา/สมนุ ไพรในตำ� รบั ลำ� ดับ ตวั ยา/สมุนไพร สว่ นท่ีใช้ ชอื่ วิทยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปรมิ าณท่ใี ช้ ๑ สว่ น ๑ แกน่ แสมทะเล แก่น Avicennia marina (Forssk.) Vierh. Acanthaceae ๑ สว่ น ๒ เปลือกมะทราง เปลอื กต้น Madhuca pierrei (F.N.Williams) H. Sapotaceae ๑ สว่ น J. Lam ๑ ส่วน ๓ กานพลู *ดอกตูม Syzygium aromaticum (L.) Merr. & Myrtaceae L. M. Perry ๔ สารส้ม *ผลึกสารส้ม Hydrated potassium aluminium (สะต)ุ sulphate ๕ ดนิ ประสิวขาว *ผลึก Potassium nitrate processed ๑ ส่วน ดนิ ประสิว Nigella sativa L. Ranunculaceae ๑ สว่ น ๖ เทียนดำ� *เมลด็ ล�ำดับทข่ี องต�ำรบั ในตำ� รา: ๑๏๖๙ ชอ่ื โรค: เลอื ด สรรพคุณของตำ� รบั : ขับเลอื ด ส่วนประกอบของต�ำรบั : หัสคุณเทศ แกน่ แสมทะเล หญ้ายองไฟ ขม้นิ อ้อย วธิ ปี รงุ ยา: บดละลายน้ำ� สุรา รปู แบบยา: ยาผง กระสายยา: น้�ำสรุ า วิธีใช:้ กิน รายละเอียดของตวั ยา/สมนุ ไพรในตำ� รับ หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่สี รุปมาจากส่วนของสมนุ ไพรชนดิ นน้ั  ๆ ทนี่ ำ� มาใชเ้ ปน็ ยากนั โดยทั่วไป Book-7.indd 292 2/11/20 15:59

การวเิ คราะหต์ ำ�รบั ยาสมนุ ไพรในจารกึ ตำ�รายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร  293 ลำ� ดบั ตัวยา/สมุนไพร ส่วนทีใ่ ช้ ช่ือวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ปรมิ าณที่ใช้ ๑ หัสคณุ เทศ *เน้ือไม้ Clausena excavata Burm. f. Rutaceae ๑ สว่ น ๒ แก่นแสมทะเล แกน่ Avicennia marina (Forssk.) Acanthaceae ๑ สว่ น Vierh. ๓ หญ้ายองไฟ# *ธาตวุ ัตถุ ยงั ไมส่ ามารถระบุได้ ๑ ส่วน ๔ ขมนิ้ ออ้ ย *เหง้า Curcuma zedoaria (Christm.) Zingiberaceae ๑ สว่ น ๒บทที่ Roscoe # หญา้ ยองไฟ ได้มาจาก ๒ แหลง่ คือ ๑. เขม่าไฟที่เกิดจากการประกอบอาหารท่ีจับอยู่ในเส้นใยแมงมุมซ่ึงภาษาโบราณเรียกว่า หญ้ายองไฟ หรือ หญา้ ยอนไฟ ๒. เปน็ หญา้ ทมี่ กี ารน�ำไปเผาแล้วอัดเปน็ แทง่ นำ� เข้าจากประเทศจนี ลำ� ดับท่ขี องต�ำรับในตำ� รา: ๑๏๗๐ ช่อื โรค: เลือด สรรพคุณของตำ� รับ: แกอ้ ยไู่ ฟไมไ่ ด้ ส่วนประกอบของต�ำรบั : สารส้ม เกลือ เทยี นดำ� ส่งิ ละ ๑ บาท วิธปี รุงยา: บดใหเ้ ป็นผงละลายน้ำ� รอ้ น ถา้ จะทำ� เปน็ ลกู กลอน เอามะนาว ๑๐ ผล ใสก่ ระทะ ตัง้ ไฟ เอายานั้นใสล่ งกวนเป็นกอ้ น รูปแบบยา: ยาลกู กลอน กระสายยา: ถา้ บดผงละลายน�ำ้ ร้อน ถา้ ทำ� ลกู กลอนละลายน้ำ� มะนาว วิธใี ช้: กนิ รายละเอียดของตัวยา/สมุนไพรในต�ำรบั หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทสี่ รปุ มาจากส่วนของสมุนไพรชนิดน้ัน ๆ ที่น�ำมาใช้เป็นยากันโดยทว่ั ไป Book-7.indd 293 3/25/20 22:12

294  คำ�อธบิ ายจารึกตำ�รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวหิ าร ลำ� ดับ ตัวยา/สมนุ ไพร สว่ นทีใ่ ช้ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ ช่อื วงศ์ ปริมาณที่ใช้ ๑ สารส้ม *ผลึกสารส้ม Hydrated potassium aluminium ๑ บาท (สะตุ) sulphate ๒ เกลอื *ผงเกลอื Sea salt ๑ บาท *เกลือสมทุ ร *เมล็ด Nigella sativa L. Ranunculaceae ๑ บาท ๓ เทยี นดำ� ล�ำดบั ทขี่ องต�ำรับในตำ� รา: ๑๏๗๑ ช่อื โรค: เลอื ด สรรพคุณของต�ำรบั : แก้เลือดตกขังอยูใ่ นท้องน้อย แกเ้ จบ็ ทอ้ ง หายปวดมวนท้อง สว่ นประกอบของต�ำรบั : สารสม้ สะตุแล้วหนัก ๒ ต�ำลงึ พริกไทยบด ๒ ตำ� ลงึ วิธปี รุงยา: แช่เหล้ากลนั่ ๒ ทะนาน ฝังไว้ในขา้ วเปลือก ๗ วัน รูปแบบยา: ยาดอง วิธใี ช:้ กิน พธิ ีกรรม: เมอ่ื จะฝงั ให้เสกดว้ ยคาถา โอม พิษ ๆ มหาพษิ  ๆ กูจะเสกการพิษนา ๆ โอม ตรพี ยนั ตุ ภุนชันตุ สวาหะ ผกี ินเถดิ รายละเอียดของตวั ยา/สมุนไพรในต�ำรบั ลำ� ดบั ตวั ยา/สมนุ ไพร ส่วนทใี่ ช้ ช่อื วทิ ยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ปรมิ าณท่ใี ช้ ๑ สารส้ม ๒ ต�ำลงึ *ผลึกสารส้ม Hydrated potassium aluminium ๒ พรกิ ไทย (สะต)ุ sulphate Piperaceae ๒ ต�ำลึง *ผล Piper nigrum L. หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทีส่ รปุ มาจากส่วนของสมุนไพรชนดิ นน้ั  ๆ ท่ีน�ำมาใช้เป็นยากันโดยทัว่ ไป Book-7.indd 294 3/26/20 13:53

จารกึ ตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร ภาพจารกึ แผน ที่ 47 คำจารกึ แผน ที่ 47 กองคมุ้ ครองภูมิปญั ญาการแพทยแ์ ผนไทยและพืน้ บา้ นไทย ๑. ๏ สิทธกิ ารยิ ะ ๒. ลกั ษณปวง หีวน้นั กระทำ ๓. ให ลง ใหตัวเยนเปนเหนบ็ แลว ใหเห่อื ราก ๔. ตกเชดไมขาดมือ ใหสวงิ สวายในใจดง่ั บทุ คลมา ๕. ควักเอาหัวใจไปกเ็ หมิอนกนั ถาแกมตี อ ง ๓ วัน มรณะ ฯ ถา จะแกเ อา ไทย๖. นำ้ ตานกรวด นำ้ ตานทราย นำ้ ตานโตนด สิ่งละสว น ใบบวั หลวง ใบขนนุ ละมุด ลูกมกอก า้ นลง 139 ะพ้นื บ๗. เผาใหไ หมเอาสิง่ ละ ๔ สว น บดลายนำ้ เขา เชดใหก นิ แก ทังปวงหาย ๚ แลราก ไทยขนานหน่งึ เอาชาด ์แผน๘. กอน 1 ถ่ัวเขียวข้ัวเราะเปลือกเสีย 2 ขีง ๗ ช้ิน พริกไท ๗ เมด ดีปลี ๗ ดอก บดลาย ทยน้ำถั่วเขยี วตมใหกิน าการแพลง ๙. แก แกตัวเยนใหอุนข้ึนแกพิศมวิเสศนัก ๚ ขนานหน่ึง เอาดอกผักบุง ดอกมฃาม ญั ญราก รองภูมปิดอกผักปอด รยอ ม ไครเครือ ลง แกพิศการ กองคมุ้ ค๑๐. ส่งิ ละสว น ดอกมะเฟอ ง ๒ สวน ตำเปนจุล บดลายนำ้ รากยอใหกนิ แกพศิ ม ราก ทงั ปวงหาย ๑๑. ขนานหนง่ึ เอา บันลังสลิ ลา บันลงั สี บันลังคา รยอ ม มหาสดำ ดอกมเฟอ ง ะ ราก ๑๒. ทำเปนจลุ บดลายน้ำถัวเขยี วตม กไ็ ด น้ำดอกไมก ไ็ ด ใหก นิ แก ลง ๑๓. เพือ่ พศิ มทงั ปวงหาย ถาจะแกล งละลายนำ้ เปลอื กมะเดือตม ๑๔. แกรากลายน้ำยอทังหา ตม กนิ แกลงรากเพื่อพิศทัง ๑๕. ปวงหาย ฯ อน่ึงเอาดอกพกิ ุน ดอกมเฟอ ง ๑๖. รยอม ไครเครือ ตม กนิ แก ๑๗. ลงรากหาย Book-7.indd 295 2/11/20 15:59

296  ค�ำ อธิบายจารึกต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวหิ าร ค�ำอา่ นจารกึ แผน่ ที่ ๔๗ ชือ่ ต้นฉบับ: จารึกแผน่ ท่ี ๔๗ ล�ำดับทข่ี องต�ำรบั ในตำ� รา: ๑๏๗๒ ชือ่ โรค: ปว่ งหวิ อาการ: มีอาการท้องเสีย อาเจียน ตัวเย็น เป็นเหน็บ เหงื่อออกมาก ต้องเช็ดบ่อย ๆ ใจหวิว ใจสน่ั ถา้ รกั ษาไม่ถกู วิธี จะตายภายใน ๓ วัน สรรพคุณของตำ� รบั : แก้ท้องเสีย และอาเจยี น ส่วนประกอบของต�ำรับ: น�้ำตาลกรวด น้�ำตาลทราย น�้ำตาลโตนด สิ่งละส่วน ใบบัวหลวง ใบขนุนละมุด ลูกมะกอกเผาให้ไหม้ เอาสิ่งละ ๔ ส่วน วธิ ปี รุงยา: บดละลายน�้ำข้าวเชด็ รปู แบบยา: ยาผง กระสายยา: น�ำ้ ข้าวเชด็ วิธใี ช้: กิน รายละเอียดของตัวยา/สมุนไพรในต�ำรับ ล�ำดบั ตวั ยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้ ชื่อวทิ ยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปรมิ าณทใ่ี ช้ ๑ น้�ำตาลกรวด ผลึกน้ำ� ตาล Saccharum officinarum L. ๑ ส่วน *นำ้� ตาลจากอ้อย Poaceae ๒ นำ้� ตาลทราย Poaceae ๑ สว่ น *น�ำ้ ตาลจากออ้ ย ผลกึ น้ำ� ตาล Saccharum officinarum L. ๓ น�ำ้ ตาลโตนด *นำ้� ตาลท่ีได้ Licuala spinosa Wurmb Arecaceae ๑ ส่วน *น้�ำตาลที่ไดจ้ าก จากช่อดอก ต้นโตนด ๔ ใบบัวหลวง ใบ Nelumbo nucifera Gaertn. Nelumbonaceae ๔ ส่วน ๕ ใบขนนุ ละมดุ ใบ Artocarpus heterophyllus Lam. Moraceae ๔ สว่ น ๖ ลกู มะกอก ผล Spondias pinnata (L. f.) Kurz Anacardiaceae ๔ สว่ น หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ที่สรปุ มาจากส่วนของสมนุ ไพรชนดิ น้นั  ๆ ทนี่ �ำมาใชเ้ ปน็ ยากนั โดยท่ัวไป Book-7.indd 296 2/11/20 15:59

การวิเคราะหต์ ำ�รบั ยาสมนุ ไพรในจารึกตำ�รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร  297 ล�ำดบั ท่ขี องตำ� รับในตำ� รา: ๑๏๗๓ ๒บทท่ี ชอ่ื โรค: ปว่ งหิว อาการ: มอี าการท้องเสยี อาเจียน ตัวเยน็ เปน็ เหนบ็ เหง่อื ออกมาก ตอ้ งเช็ดบอ่ ย ๆ ใจหววิ ใจสนั่ ถา้ รักษาไม่ถกู วิธี จะตายภายใน ๓ วนั สรรพคุณของตำ� รับ: แกท้ ้องเสีย และอาเจียน แก้ตวั เยน็ ใหอ้ ุ่นข้ึน ส่วนประกอบของตำ� รับ: ชาดกอ้ น ๑ บาท ถัว่ เขยี วค่ัวเลาะเปลอื กเสยี ๒ ตำ� ลงึ ขงิ ๗ ช้ิน พรกิ ไทย ๗ เม็ด ดปี ลี ๗ ดอก วธิ ปี รุงยา: บดละลายน�้ำถ่ัวเขยี ว รูปแบบยา: ยาผง กระสายยา: น�้ำถวั่ เขยี ว วิธใี ช้: กนิ รายละเอียดของตวั ยา/สมนุ ไพรในต�ำรบั ลำ� ดบั ตวั ยา/สมุนไพร ส่วนทใ่ี ช้ ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ ชอ่ื วงศ์ ปรมิ าณที่ใช้ ยังไมส่ ามารถระบุได้ ๑ บาท ๑ ชาดก้อน *ผง Fabaceae ๒ ตำ� ลึง Vigna radiata (L.) R.Wilczek Zingiberaceae ๗ ชิ้น ๒ ถว่ั เขียว *เมล็ด Zingiber officinale Roscoe Piperaceae ๗ เมด็ Piper nigrum L. Piperaceae ๗ ดอก ๓ ขิง *เหงา้ Piper retrofractum Vahl ๔ พรกิ ไทย *ผล ๕ ดปี ลี *ชอ่ ผล หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ที่สรุปมาจากส่วนของสมุนไพรชนิดนั้น ๆ ทีน่ ำ� มาใชเ้ ปน็ ยากนั โดยทั่วไป Book-7.indd 297 3/27/20 09:48

298  ค�ำ อธิบายจารึกต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ลำ� ดบั ท่ีของต�ำรบั ในต�ำรา: ๑๏๗๔ ชอื่ โรค: ปว่ งหวิ อาการ: มีอาการทอ้ งเสีย อาเจยี น ตวั เย็น เป็นเหน็บ เหงอ่ื ออกมาก ต้องเช็ดบ่อย ๆ ใจหววิ ใจสน่ั ถา้ รักษาไม่ถกู วธิ ี จะตายภายใน ๓ วนั สรรพคุณของต�ำรับ: แก้ทอ้ งเสีย และอาเจียน แกพ้ ิษกาฬทั้งปวง สว่ นประกอบของตำ� รบั : ดอกผักบ้งุ ดอกมะขาม ดอกผักปอด ระย่อม ไครเ้ ครือ สงิ่ ละสว่ น ดอกมะเฟอื ง ๒ สว่ น วิธปี รงุ ยา: บดให้เป็นผงละเอียด ละลายน้ำ� รากยอ รปู แบบยา: ยาผง กระสายยา: น้ำ� รากยอ วธิ ใี ช้: กนิ รายละเอยี ดของตวั ยา/สมนุ ไพรในตำ� รบั ลำ� ดับ ตวั ยา/สมนุ ไพร ส่วนทใ่ี ช้ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปรมิ าณทีใ่ ช้ ๑ ดอกผักบงุ้ ดอก Ipomoea aquatica Forssk. Convolvulaceae ๑ ส่วน ๒ ดอกมะขาม ดอก Tamarindus indica L. Fabaceae ๑ สว่ น ๓ ดอกผักปอด ดอก Sphenoclea zeylanica Gaertn. Sphenocleaceae ๑ สว่ น ๔ ระย่อม *ราก Rauvolfia serpentina (L.) Apocynaceae ๑ ส่วน Benth. ex Kurz ๕ ไครเ้ ครอื *ราก Aristolochia spp. Aristolochiaceae ๑ สว่ น ๖ ดอกมะเฟอื ง ดอก Averrhoa carambola L. Oxalidaceae ๒ ส่วน หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทีส่ รปุ มาจากสว่ นของสมุนไพรชนิดน้นั  ๆ ที่นำ� มาใช้เป็นยากันโดยทั่วไป Book-7.indd 298 3/25/20 22:14

การวิเคราะห์ต�ำ รับยาสมุนไพรในจารกึ ตำ�รายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร  299 ลำ� ดับที่ของตำ� รับในตำ� รา: ๑๏๗๕ ๒บทที่ ชอ่ื โรค: ปว่ งหวิ อาการ: มีอาการท้องเสยี อาเจียน ตวั เยน็ เปน็ เหน็บ เหง่อื ออกมาก ต้องเชด็ บอ่ ย ๆ ใจหววิ ใจสน่ั ถา้ รักษาไมถ่ ูกวิธี จะตายภายใน ๓ วัน สรรพคุณของตำ� รับ: แก้อาเจยี น แกท้ ้องเสีย ส่วนประกอบของตำ� รับ: บัลลงั กศ์ ิลา บลั ลงั ก์สี บัลลงั ก์คา ระยอ่ ม มหาสดำ� ดอกมะเฟือง วิธีปรุงยา: บดให้เป็นผงละเอียด ละลายกับน้�ำถั่วเขียวต้ม น้�ำดอกไม้ น้�ำเปลือกมะเดื่อต้ม น�ำ้ ยอทัง้ หา้ ต้มกไ็ ด้ รปู แบบยา: ยาผง กระสายยา: น้�ำถั่วเขียวต้ม หรือน้�ำดอกไม้ นิยมใช้ดอกมะลิ หรือดอกกระดังงา น้�ำเปลือก มะเดอื่ ตม้ น้ำ� ยอท้งั ห้าต้มกไ็ ด้ตามอาการ วธิ ใี ช:้ ๑. ละลายน้�ำถั่วเขียวต้ม หรือน�้ำดอกไม้ ให้กินแก้ราก แกล้ งเพอ่ื พษิ ทัง้ ปวงหาย ๒. ถา้ จะแก้ลงละลายน�ำ้ เปลือกมะเดื่อตม้ ๓. แกร้ ากละลายนำ�้ ยอท้งั หา้ ตม้ กิน แก้ลงรากเพอื่ พิษทง้ั ปวงหาย รายละเอยี ดของตวั ยา/สมนุ ไพรในตำ� รับ ลำ� ดบั ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ปริมาณทีใ่ ช้ Malvaceae ๑ สว่ น ๑ บลั ลงั ก์ศลิ า *ชน้ิ สว่ นปะการงั หนิ ออ่ นจนี ๑ สว่ น ๒ บลั ลงั กส์ ี *ทง้ั ตน้ สว่ นที่ Abutilon indicum (L.) Sweet *ครอบฟันสี เหนือดนิ ๓ บัลลังก์คา *หวั Cyperus iria L. Cyperaceae ๑ สว่ น *หญา้ ลงั กา Apocynaceae ๑ สว่ น ๔ ระย่อม *ราก Rauvolfia serpentina (L.) Cyatheaceae ๑ ส่วน Benth. ex Kurz Oxalidaceae ๑ ส่วน ๕ มหาสด�ำ *เนอ้ื ไม้ Cyathea latebrosa (Wall. ex Hook.) Copel. ๖ ดอกมะเฟอื ง ดอก Averrhoa carambola L. หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ที่สรปุ มาจากส่วนของสมนุ ไพรชนิดน้นั  ๆ ทน่ี �ำมาใช้เป็นยากันโดยท่ัวไป Book-7.indd 299 3/5/20 10:35

300  ค�ำ อธิบายจารกึ ต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ล�ำดับท่ขี องต�ำรับในตำ� รา: ๑๏๗๖ ช่ือโรค: ปว่ งหวิ อาการ: มีอาการท้องเสีย อาเจียน ตวั เย็น เป็นเหน็บ เหง่อื ออกมาก ต้องเช็ดบอ่ ย ๆ ใจหวิว ใจสัน่ ถ้ารักษาไม่ถกู วธิ ี จะตายภายใน ๓ วนั สรรพคณุ ของต�ำรบั : แก้ท้องเสยี แกอ้ าเจียน สว่ นประกอบของต�ำรบั : ดอกพกิ ลุ ดอกมะเฟือง ระย่อม ไครเ้ ครอื วธิ ปี รงุ ยา: ต้ม รูปแบบยา: ยาต้ม วิธใี ช้: กนิ รายละเอยี ดของตวั ยา/สมุนไพรในตำ� รับ ล�ำดับ ตวั ยา/สมุนไพร สว่ นทใี่ ช้ ชอื่ วิทยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปรมิ าณที่ใช้ Sapotaceae ๑ สว่ น ๑ ดอกพกิ ลุ ดอก Mimusops elengi L. Oxalidaceae ๑ สว่ น ๒ ดอกมะเฟอื ง ดอก Averrhoa carambola L. Apocynaceae ๑ สว่ น ๓ ระยอ่ ม *ราก Rauvolfia serpentina (L.) Benth. ex Kurz ๔ ไคร้เครือ *ราก Aristolochia spp. Aristolochiaceae ๑ สว่ น หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่ีสรปุ มาจากสว่ นของสมนุ ไพรชนดิ นัน้  ๆ ทน่ี �ำมาใช้เป็นยากันโดยทว่ั ไป Book-7.indd 300 3/25/20 22:15

ชุดตำราภูมปิ ญ ญาการแพทยแผนไทย ฉบับอนุรักษ ภาพจารึกแผนที่ 48 คำจารกึ แผนที่ 48 กองคมุ้ ครองภมู ปิ ัญญาการแพทย์แผนไทยและพน้ื บ้านไทย ๑. ๏ สทิ ธิการยิ ะ ๒. จะกลา วดวยดานทักขิณคณุ นนั้ ๓. ตง้ั เอายอดอกเปนดานลงไปแขงดงั แผน ๔. สนิ ลา ถาลามลงไปถงึ ทองนอยแลวเม่ือใด จะกระทำใหร อ ง ๕. อยูทังกลางวนั กลางคนื ถูกเยนเขา มิได ถูกรอนสงบลงนอยหนึง่ แลว ไทย๖. กลับปวดมาเลาใหจ กุ เสยี ดใหแ นนอกบรโิ ภกอาหารมิได ถาล14ง2ถึงหัวเหนาแลวเม่ือ บา้ นสม เสี้ยว ะพื้น๗. ใดตายเมอื่ นัน้ ฯ ถา จะแกเ อา สมเชา สลัดใด รากมตาดเครือ เจตมูล ฃิงแหง ยแลสม สนั ดาน นไทสิง่ ละ 1 ย์แผ๘. หัศคุนเทด 3 หวั เบญปด มดยอบ ขมนิ้ เครือ พังอาด เทยี รดำ เทียรขาว แกนปรู แกนมหาด าการแพทสง่ิ ละ 2 พริกลอน 2 2 เชา ญ๙. แชสุรา ๕ ทนาน ฝง เขาเปลอื กไว ๓ วนั ใหพลจี งดีกิน จอกชาหน่ึง กินใหได ๗ วนั แลว จง่ึ ปิ ญั เยน รองภมูใหกินอยาประจตุ อ ไป ฯ อยาประจดุ าน ค๑๐. ทักขิณคณุ เอาเปลอื กสทอน เปลอื กราชพฤก เปลือกสน น้ำมนาว ตำเอาน้ำส่ิงละทนาน มพรา ว กองคุ้มไฟใบ ๑ ขูดค้นั เปนกะทิ ๑๑. ใหคนคุลิการกันเขาหุงใหคงแตน้ำมัน สลอด ๑๐๘ เมด เอาเมดละซีก บดทอดลงในน้ำมัน ใหเกรยี ม ๑๒. กินแตช อ นหนึง่ ลงส้ินเชงิ แลว ๗ วนั กินวัน ๑ จงึ ใหกินอยานีต้ อ ไป ฯ อยาชือ ณรายพงั คา ย ๑๓. เอาหิง ๑ ลำพนั ๒ เจตมลู ๓ ผกั ชีลอม ๔ สคา น ๕ โกดสอ ๖ พริกไท ๗ มตูม ๑๔. ออน ๘ ลกู ชา พลู ๙ ฃิงแหง ๑๐ สมอเทด ๑๑ เทียรดำ ๑๒ แกน ๑๕. บุนนาก ๑๓ เปลานอ ย ๑๔ ทนดี ๑๕ ทำเปนจุนลาย ๑๖. นำ้ รอ นกิน หนกั 1 แกดานทขณิ ๑๗. คณุ แล ดานตะ คุณ ๚ ประวาตะ Book-7.indd 301 2/11/20 15:59

302  คำ�อธิบายจารกึ ตำ�รายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ค�ำอา่ นจารกึ แผ่นท่ี ๔๘ ช่ือตน้ ฉบับ: จารึกแผ่นที่ ๔๘ ล�ำดับท่ขี องต�ำรับในต�ำรา: ๑๏๗๗ ชื่อโรค: ดานทกั ขณิ คุณ อาการ: ต้ังอยู่(เกิด) บริเวณยอดอก แข็งเป็นดานเหมือนแผ่นหิน ถ้าลามลงไปถึงท้องน้อย จะทำ� ใหเ้ จบ็ ปวดมาก รอ้ งทงั้ วนั ทงั้ คนื ถกู อากาศหรอื ของเยน็ ไมไ่ ด้ แตถ่ า้ ถกู ของรอ้ นจะทำ� ให้ อาการเจ็บปวดทุเลาลงพักหนึ่ง แล้วกลับมาปวดอีก จุกเสียดแน่นหน้าอก กินอาหารไม่ได้ ถา้ ลงถึงหวั หนา่ วเมอ่ื ใด ตายเมอื่ น้นั สรรพคุณของต�ำรบั : แกด้ านทกั ขิณคณุ ส่วนประกอบของต�ำรับ: ส้มเสี้ยว ส้มสันดาน ส้มเช้า สลัดได รากมะตาดเครือ เจตมูล ขิงแห้ง ส่ิงละ ๑ ต�ำลึง หัสคุณเทศ ๓ ต�ำลึง หัวเบญบัตร มดยอบ ขมิ้นเครือ พังอาด เทยี นดำ� เทียนขาว แก่นปรู แก่นมะหาด ส่งิ ละ ๒ บาท พรกิ ลอ่ น ๒ ตำ� ลึง ๒ บาท วธิ ีปรงุ ยา: แช่ในสรุ า ๕ ทะนาน ฝังขา้ วเปลือกไว้ ๓ วัน รปู แบบยา: ยาดอง กระสายยา: สรุ า วิธใี ช้: กินเช้าและเยน็ ครงั้ ละ ๑ จอกชา กิน ๗ วัน แล้วจงึ กินยาประจตุ ่อไป (ยาประจเุ ป็น ยาท่ีมฤี ทธิถ์ า่ ย ใช้ขับพิษ ถา่ ยพิษ เชน่ ยาประจุโลหิต) รายละเอียดของตวั ยา/สมุนไพรในต�ำรับ ล�ำดบั ตวั ยา/สมุนไพร สว่ นทีใ่ ช้ ชื่อวทิ ยาศาสตร์ ช่อื วงศ์ ปริมาณท่ใี ช้ ๑ ตำ� ลงึ ๑ ส้มเส้ยี ว *เปลือกต้น Bauhinia malabarica Roxb. Fabaceae ๑ ต�ำลึง ๑ ตำ� ลึง ๒ สม้ สนั ดาน *เปลือกต้น Cissus hastata Miq. Vitaceae ๑ ต�ำลงึ ๑ ตำ� ลึง ๓ ส้มเช้า *ตน้ Euphorbia neriifolia L. Euphorbiaceae ๔ สลดั ได *ยาง Euphorbia antiquorum L. Euphorbiaceae ๕ รากมะตาดเครอื ราก Tetracera loureiri (Finet & Dilleniaceae Gagnep.) Pierre ex W. G. Craib หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่ีสรุปมาจากส่วนของสมนุ ไพรชนิดน้นั  ๆ ทน่ี �ำมาใชเ้ ปน็ ยากันโดยทว่ั ไป Book-7.indd 302 2/11/20 15:59

การวิเคราะหต์ �ำ รบั ยาสมุนไพรในจารกึ ต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร  303 ล�ำดบั ตัวยา/สมนุ ไพร ส่วนทใ่ี ช้ ชอ่ื วิทยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปริมาณทีใ่ ช้ ๖ เจตมูล Plumbago indica L. ๑ ตำ� ลงึ *เจตมูลเพลิงแดง *ราก Plumbaginaceae ๗ ขิงแห้ง *เหง้า Zingiber ligulatum Roxb. หรอื ๑ ตำ� ลงึ Zingiber longiligulatum Zingiberaceae ๘ หสั คณุ เทศ S.Q.Tong ๙ หัวเบญปัด *เนื้อไม้ Clausena excavata Burm. f. Rutaceae ๒๓ ต�ำลงึ บทท่ี ๑๐ มดยอบ หัว ยงั ไม่สามารถระบุได้ *ยาง Commiphora myrrha (Nees) Burseraceae ๒ บาท ๒ บาท Engl. ๑๑ ขมิน้ เครือ *เถา Arcangelisia flava (L.) Merr. Menispermaceae ๒ บาท ๑๒ รากพังอาด ราก Strychnos lucida R. Br. Strychnaceae ๒ บาท *กระพังอาด/ พญามือเหลก็ ๑๓ เทยี นดำ� *เมล็ด Nigella sativa L. Ranunculaceae ๒ บาท ๑๔ เทียนขาว *เมลด็ Cuminum cyminum L. Apiaceae ๒ บาท (Umbelliferae) ๑๕ แกน่ ปรู แก่น Alangium salviifolium (L.f.) Cornaceae ๒ บาท Wangerin ๑๖ แกน่ มะหาด แก่น Artocarpus lacucha Buch. Moraceae ๒ บาท -Ham. ๑๗ พรกิ ล่อน *ผล Piper nigrum L. Piperaceae ๒ ต�ำลึง *พรกิ ไทยขาว ๒ บาท หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่สี รุปมาจากส่วนของสมุนไพรชนดิ น้ัน ๆ ทน่ี �ำมาใช้เปน็ ยากนั โดยท่วั ไป Book-7.indd 303 3/26/20 13:54

304  ค�ำ อธิบายจารึกตำ�รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร ลำ� ดับท่ีของตำ� รบั ในตำ� รา: ๑๏๗๘ ชื่อโรค: ดานทกั ขิณคุณ อาการ: ต้ังอยู่บริเวณยอดอก แข็งเป็นดานเหมือนแผ่นหิน ถ้าลามลงไปถึงท้องน้อย จะทำ� ใหเ้ จบ็ ปวดมาก รอ้ งทง้ั วนั ทงั้ คนื ถกู อากาศหรอื ของเยน็ ไมไ่ ด้ แตถ่ า้ ถกู ของรอ้ นจะทำ� ให้ อาการเจ็บปวดทุเลาลงพักหน่ึง แล้วกลับมาปวดอีก จุกเสียดแน่นหน้าอก กินอาหารไม่ได้ ถ้าลงถงึ หัวหนา่ วเม่ือใด ตายเมอ่ื นน้ั สรรพคณุ ของต�ำรับ: ประจุดานทักขิณคณุ ช่อื ตำ� รบั : ยาประจุดานทกั ขณิ คุณ สว่ นประกอบของต�ำรบั : เปลือกสะทอ้ น เปลอื กราชพฤกษ์ เปลือกสน นำ�้ มะนาว ตำ� เอาน�ำ้ ส่ิงละทะนาน มะพร้าวไฟใบ ๑ ค้นั เอาแตก่ ะทิ ใหข้ น้ วิธปี รุงยา: คนใหเ้ ข้ากนั หงุ ให้เหลอื แต่น�ำ้ มัน เอาสลอด ๑๐๘ เมด็ เอาเม็ดละซีกทอดลงใน นำ้� มนั ให้เกรียม รปู แบบยา: ยาทอดลงในน�้ำมัน วิธีใช้: กินครัง้ ละ ๑ ชอ้ น กนิ ๗ วัน รายละเอียดของตวั ยา/สมุนไพรในตำ� รบั ลำ� ดับ ตวั ยา/สมนุ ไพร ส่วนที่ใช้ ช่ือวทิ ยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปรมิ าณทใ่ี ช้ ๑ เปลือกสะท้อน เปลอื กตน้ Sandoricum koetjape (Burm. f.) Meliaceae ๑ ทะนาน *กระท้อน Merr. ๒ เปลือกราชพฤกษ์ เปลอื กตน้ Cassia fistula L. Fabaceae ๑ ทะนาน ๓ เปลือกสน เปลือกตน้ Pinus kesiya Royle ex Gordon Pinaceae ๑ ทะนาน ๔ น้�ำมะนาว น้�ำจากผล Citrus aurantiifolia (Christm.) Rutaceae ๑ ทะนาน Swingle ๕ มะพร้าวไฟ *กระทิ Cocos nucifera L. Arecaceae ๑ ใบ ๖ สลอด *เมล็ด Croton tiglium L. Euphorbiaceae ๑๐๘ เมด็ หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทีส่ รุปมาจากส่วนของสมนุ ไพรชนิดนัน้  ๆ ทน่ี �ำมาใช้เปน็ ยากันโดยทั่วไป Book-7.indd 304 2/11/20 15:59

การวิเคราะห์ตำ�รับยาสมนุ ไพรในจารกึ ตำ�รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร  305 ล�ำดบั ท่ขี องต�ำรับในต�ำรา: ๑๏๗๙ ๒บทท่ี ชอ่ื โรค: ดานทกั ขิณคณุ อาการ: ตั้งอยู่(เกิด) บริเวณยอดอก แข็งเป็นดานเหมือนแผ่นหิน ถ้าลามลงไปถึงท้องน้อย จะทำ� ใหเ้ จบ็ ปวดมาก รอ้ งทงั้ วนั ทง้ั คนื ถกู อากาศหรอื ของเยน็ ไมไ่ ด้ แตถ่ า้ ถกู ของรอ้ นจะทำ� ให้ อาการเจ็บปวดทุเลาลงพักหนึ่ง แล้วกลับมาปวดอีก จุกเสียดแน่นหน้าอก กินอาหารไม่ได้ ถ้าลงถงึ หัวหนา่ วเม่อื ใด ตายเมอื่ นนั้ สรรพคุณของตำ� รบั : แกด้ านทักขิณคณุ ดานตะคุณ ประวาตะคุณ ชือ่ ตำ� รบั : นารายณพ์ งั ค่าย ส่วนประกอบของต�ำรบั : หงิ ค์ุ ๑ ลำ� พัน ๒ เจตมลู ๓ ผักชีล้อม ๔ สะคา้ น ๕ โกฐสอ ๖ พริกไทย ๗ มะตูมอ่อน ๘ ลูกช้าพลู ๙ ขิงแห้ง ๑๐ สมอเทศ ๑๑ เทียนด�ำ ๑๒ แก่นบนุ นาค ๑๓ เปล้านอ้ ย ๑๔ ทนดี ๑๕ วิธปี รงุ ยา: บดเป็นผงละเอยี ด ละลายน�้ำรอ้ น รปู แบบยา: ยาผง กระสายยา: น้�ำรอ้ น วิธใี ช้: กินครง้ั ละ ๑ สลึง รายละเอียดของตวั ยา/สมนุ ไพรในตำ� รบั ล�ำดับ ตัวยา/สมนุ ไพร สว่ นที่ใช้ ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ ช่ือวงศ์ ปริมาณท่ใี ช้ ๑ หงิ คุ์ *ชนั นำ�้ มัน Ferula assa-foetida L. Apiaceae ๑ ส่วน (oleogumresin) (Umbelliferae) จากรากและ ลำ� ต้นใตด้ ิน ๒ ลำ� พนั *เหงา้ Enhalus acoroides (L.f.) Hydrocharitaceae ๑ ส่วน *ล�ำพันแดง Royle ๑ ส่วน ๓ เจตมูล Plumbago indica L. Plumbaginaceae *เจตมูลเพลิงแดง *ราก หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทีส่ รุปมาจากสว่ นของสมนุ ไพรชนิดนั้น ๆ ที่นำ� มาใชเ้ ปน็ ยากนั โดยท่ัวไป Book-7.indd 305 2/11/20 15:59

306  คำ�อธิบายจารกึ ตำ�รายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร ล�ำดบั ตัวยา/สมนุ ไพร ส่วนทใ่ี ช้ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปริมาณท่ใี ช้ ๔ ผักชลี ้อม *ผล Oenanthe javanica Apiaceae ๑ สว่ น (Blume) DC. (Umbelliferae) ๕ สะค้าน *เถา Piper wallichii (Miq.) Piperaceae ๑ สว่ น Hand.-Mazz. ๖ โกฐสอ *ราก Angelica dahurica Apiaceae ๑ ส่วน (Hoffm.) Benth. & Hook. f. (Umbelliferae) ex Franch. & Sav. var. dahurica ๗ พรกิ ไทย *ผล Piper nigrum L. Piperaceae ๑ สว่ น ๘ มะตูมอ่อน *ผล Aegle marmelos (L.) Rutaceae ๑ สว่ น ๙ ลกู ช้าพลู *ชอ่ ผล Corrêa ๑๐ ขงิ แหง้ *เหงา้ Piper sarmentosum Roxb. Piperaceae ๑ ส่วน Zingiber ligulatum Roxb. ๑ ส่วน หรอื Zingiber Zingiberaceae longiligulatum S.Q.Tong ๑๑ สมอเทศ *ผล Terminalia arjuna Combretaceae ๑ ส่วน (Roxb. ex DC.) Wight & Arn. ๑๒ เทยี นด�ำ *เมลด็ Nigella sativa L. Ranunculaceae ๑ ส่วน ๑๓ แก่นบนุ นาค แกน่ ๑๔ เปล้าน้อย *ใบ Mesua ferrea L. Clusiaceae ๑ ส่วน ๑๕ ทนดี *ราก Croton stellatopilosus H. Euphorbiaceae ๑ ส่วน Ohba Baliospermum Euphorbiaceae ๑ สว่ น solanifolium (Burm.) Suresh หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่ีสรปุ มาจากส่วนของสมุนไพรชนิดน้นั  ๆ ท่นี �ำมาใชเ้ ปน็ ยากันโดยทวั่ ไป Book-7.indd 306 2/11/20 15:59

จารกึ ตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร ภาพจารกึ แผน ท่ี 49 คำจารึกแผนที่ 49 กองคุ้มครองภูมปิ ัญญาการแพทย์แผนไทยและพื้นบ้านไทย ๑. ๏ สทิ ธิการิยะ ๒. รตั ตปตตะ โฆ นน้ั คือ โลหติ ๓. มานกับดวยดกี ำเรบิ แลแผไ ปในประเทษ ๔. เบื้องตำ่ แลวนั้น บังเกดิ เพอื่ เสมหะมศี รแี ดง เจือชาวมาก ย๕. ขาวนอยกด็ ี เปนมวกเปนยางก็ดี เปนยาปะยะดารจะรกั ษาหายโดยงา ย 145 ้านไท๖. ๏ ถา จะแกเอาออยแดง รากสัตบุด เกสรบงั หลวง ยางงาว ชะเอม หวั บัวแดง รากไพรออน ะพนื้ บ๗. ลูกองุน ซองแมวใหญ เอาเสมอพากทำเปนจุลลายน้ำดอกไมแทรก น้ำตานกรวดใหกิน แลแกร ัดตะปด ตะ นไทย๘. เสมหะโรคหาย ฯ ขนานหน่ึงเอาแฝกหอม จันเทพ เสนียด ชะเอม ดีปลี เอาเสมอพาก ตมสาม ยแ์ ผเอาหน่ึงแทรกนำ้ ผงึ้ ให าการแพท๙. กิน แกรัตตะปตเสมหะโรคหาย ฯ ขนานหน่ึงเอา ขีงแหง กะเทียมเอาเสมอพาก ทำเปนจุล บดลายนำ้ ออ ยสดใหกิน แกตรีโทษรัตตะ ญั ญ๑๐. ปดตเสมหะโรคหาย ฯ ขนานหน่ึงเอาจันขาว ประยง เปลือกโลด ขิงแหง เอา เสมอภาค รองภูมิปบดลายนำ้ ใบ ค๑๑. เสนยี ดใหกนิ แกรัตตะปด ตะเสมหะโรคหาย ๚ ขนานหนง่ึ ทานใหเอา ขดั มอน กองคุ้ม๑๒. บรเพช รากสามสิบ ขงิ แหง ชเอม ดปี ลี เปลือกอบเชย ลกู พลิ ังกาสา ราก ๑๓. อบเชย เอาเสมอพาก ทำเปนจนุ บดลลาย นำ้ กระสายอันควรแกโรคให ๑๔. กินแกร ัตตะปด ตะเสมหะโรคหาย ฯ ขนานหนึง่ เอา เสนียด ชเอม ๑๕. ดีปลี บกลายนำ้ ตานกรวด ใหก นิ แกรตั ตะ ๑๖. ปด ตะเสมหะโรคหาย วเิ สศ ๑๗. ดีนักแล ๚ะ Book-7.indd 307 2/11/20 15:59

308  คำ�อธบิ ายจารกึ ตำ�รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร คำ� อา่ นจารึกแผน่ ที่ ๔๙ ช่ือตน้ ฉบบั : จารึกแผน่ ท่ี ๔๙ ลำ� ดบั ท่ีของต�ำรับในต�ำรา: ๑๏๘๐ ช่ือโรค: รตั ตะปติ ตะโรค อาการ: โลหิตระคนกับดีก�ำเริบ แผ่ลงเบื้องต่�ำ เกิดเพ่ือเสมหะ ท�ำให้มีสีแดงปนขาว หรือเปน็ เมอื กเปน็ ยาง รกั ษาหายได้ สรรพคุณของตำ� รบั : แกร้ ัตตะปิตตะเสมหะโรค สว่ นประกอบของตำ� รบั : ออ้ ยแดง รากสัตตบุษย์ เกสรบัวหลวง ยางง้าว ชะเอม หวั บัวแดง รากไพลอ่อน ลกู องุ่น ซ้องแมวใหญ่ เอาเสมอภาค วธิ ปี รงุ ยา: บดใหเ้ ป็นผงละเอียด ละลายน้ำ� ดอกไมแ้ ทรกด้วยนำ้� ตาลกรวด รูปแบบยา: ยาผง กระสายยา: น้�ำดอกไม้ นิยมใชด้ อกมะลิ หรอื ดอกกระดงั งา วธิ ีใช้: ละลายนำ้� ดอกไมแ้ ทรกน้ำ� ตาลกรวดให้กนิ รายละเอยี ดของตวั ยา/สมนุ ไพรในตำ� รับ ลำ� ดบั ตวั ยา/สมนุ ไพร สว่ นที่ใช้ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ ชอ่ื วงศ์ ปรมิ าณท่ใี ช้ ๑ ออ้ ยแดง *ลำ� ต้น Saccharum officinarum L. Poaceae ๑ สว่ น ๒ รากสัตตบษุ ย์ ราก Nelumbo nucifera Gaertn. Nelumbonaceae ๑ ส่วน *บวั หลวง ๓ เกสรบัวหลวง เกสร Nelumbo nucifera Gaertn. Nelumbonaceae ๑ ส่วน Malvaceae ๑ ส่วน ๔ ยางง้าว ยาง Bombax anceps Pierre Fabaceae ๑ สว่ น ๕ ชะเอม *ราก Glycyrrhiza glabra L. *ชะเอมเทศ ๖ หวั บวั แดง หัว Nymphaea rubra Roxb. ex Nymphaeaceae ๑ สว่ น Andrews หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทีส่ รปุ มาจากสว่ นของสมนุ ไพรชนดิ นั้น ๆ ท่นี ำ� มาใชเ้ ป็นยากันโดยทวั่ ไป Book-7.indd 308 2/11/20 15:59

การวเิ คราะห์ต�ำ รับยาสมุนไพรในจารึกตำ�รายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร  309 ล�ำดับ ตัวยา/สมุนไพร สว่ นท่ีใช้ ชอื่ วิทยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปรมิ าณท่ีใช้ ๑ สว่ น ๗ รากไพลอ่อน ราก Zingiber montanum (J. Köenig) Zingiberaceae Link ex A. Dietr. ๑ สว่ น ๑ ส่วน ๘ ลูกองนุ่ ผล Vitis vinifera L. Vitaceae ๙ ซอ้ งแมวใหญ่ *ล�ำตน้ Gmelina philippensis Cham. Lamiaceae ลำ� ดับท่ขี องตำ� รบั ในตำ� รา: ๑๏๘๑ ๒บทท่ี ชอื่ โรค: รตั ตะปิตตะโรค อาการ: โลหิตระคนกับดีก�ำเริบ แผ่ลงเบื้องต่�ำ เกิดเพื่อเสมหะ ท�ำให้มีสีแดงปนขาว หรือ เปน็ เมือกเป็นยาง รักษาหายได้ สรรพคณุ ของตำ� รบั : แกร้ ัตตะปิตตะเสมหะโรค ส่วนประกอบของตำ� รบั : แฝกหอม จันทนเ์ ทศ เสนยี ด ชะเอม ดีปลี เอาเสมอภาค วธิ ีปรงุ ยา: ตม้ กับน้ำ� ๓ ส่วน เคี่ยวให้เหลอื ๑ ส่วน แทรกดว้ ยนำ้� ผ้ึง รูปแบบยา: ยาต้ม กระสายยา: นำ�้ ผ้งึ วิธใี ช้: กิน รายละเอยี ดของตวั ยา/สมนุ ไพรในตำ� รบั ลำ� ดับ ตวั ยา/สมนุ ไพร สว่ นทใ่ี ช้ ช่อื วทิ ยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ปริมาณทใ่ี ช้ Poaceae ๑ ส่วน ๑ รากแฝกหอม ราก Chrysopogon zizanioides (L.) Roberty ๒ จนั ทนเ์ ทศ *แกน่ Myristica fragrans Houtt. Myristicaceae ๑ ส่วน Acanthaceae ๑ สว่ น ๓ เสนียด *ท้ังต้นและ Justicia adhatoda L. ราก ๔ ชะเอม *ราก Glycyrrhiza glabra L. Fabaceae ๑ ส่วน *ชะเอมเทศ ๕ ดปี ลี *ช่อผล Piper retrofractum Vahl Piperaceae ๑ สว่ น หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทส่ี รปุ มาจากสว่ นของสมนุ ไพรชนดิ น้นั  ๆ ที่นำ� มาใช้เปน็ ยากันโดยท่วั ไป Book-7.indd 309 2/11/20 15:59

310  คำ�อธบิ ายจารกึ ต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร ลำ� ดบั ทขี่ องต�ำรบั ในตำ� รา: ๑๏๘๒ ชอ่ื โรค: รัตตะปติ ตะโรค อาการ: โลหิตระคนกับดีก�ำเริบ แผ่ลงเบ้ืองต�่ำ เกิดเพ่ือเสมหะ ท�ำให้มีสีแดงปนขาว หรือ เปน็ เมอื กเป็นยาง รกั ษาหายได้ สรรพคณุ ของตำ� รับ: แก้ตรโี ทษรตั ตะปิตตะเสมหะ ส่วนประกอบของต�ำรบั : ขิงแห้ง กระเทียม เอาเสมอภาค วธิ ีปรงุ ยา: บดให้เปน็ ผงละเอยี ด ละลายนำ้� อ้อยสด รปู แบบยา: ยาผง กระสายยา: นำ้� อ้อยสด วธิ ีใช้: กนิ รายละเอยี ดของตวั ยา/สมุนไพรในต�ำรับ ล�ำดบั ตวั ยา/สมุนไพร สว่ นท่ีใช้ ชื่อวทิ ยาศาสตร์ ช่ือวงศ์ ปริมาณท่ใี ช้ ๑ ขงิ แหง้ *เหง้า Zingiber ligulatum Roxb. หรือ ๑ สว่ น Zingiber longiligulatum Zingiberaceae S.Q.Tong ๒ กระเทยี ม *หัว Allium sativum L. Amaryllidaceae ๑ ส่วน ลำ� ดบั ทข่ี องตำ� รบั ในตำ� รา: ๑๏๘๓ ชื่อโรค: รัตตะปติ ตะโรค อาการ: โลหิตระคนกับดีก�ำเริบ แผ่ลงเบื้องต�่ำ เกิดเพ่ือเสมหะ ท�ำให้มีสีแดงปนขาว หรือ เป็นเมือกเปน็ ยาง รักษาหายได้ สรรพคณุ ของตำ� รบั : แก้รตั ตะปิตตะเสมหะโรค สว่ นประกอบของตำ� รบั : จันทน์ขาว ประยงค์ เปลอื กโลด ขงิ แหง้ เอาเสมอภาค วธิ ีปรงุ ยา: บดให้เป็นผงละลายนำ�้ ใบเสนยี ด หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทสี่ รปุ มาจากสว่ นของสมนุ ไพรชนดิ นน้ั  ๆ ท่ีน�ำมาใชเ้ ป็นยากันโดยทัว่ ไป Book-7.indd 310 2/12/20 09:08

การวิเคราะห์ต�ำ รบั ยาสมนุ ไพรในจารกึ ต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร  311 รปู แบบยา: ยาผง กระสายยา: นำ�้ ใบเสนยี ด วิธีใช้: กนิ รายละเอยี ดของตวั ยา/สมนุ ไพรในต�ำรับ ลำ� ดบั ตัวยา/สมุนไพร ส่วนทใ่ี ช้ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ ช่ือวงศ์ ๒ปรมิ าณทีใ่ ช้ Santalaceae ๑ ส่วน บทท่ี ๑ จนั ทนข์ าว *แก่น Santalum album L. ๑ ส่วน Meliaceae ๑ ส่วน ๒ ประยงค์ *ราก Aglaia odorata Lour. ๓ เปลอื กโลด Trigonostemon reidioides Euphorbiaceae *โลดแดง เปลือกต้น (Kurz) Craib หรอื *โลดขาว Trigonostemon albiflorus Airy Shaw ๔ ขิงแห้ง *เหง้า Zingiber ligulatum Roxb. หรือ ๑ สว่ น Zingiber longiligulatum Zingiberaceae S.Q.Tong ล�ำดบั ทข่ี องตำ� รบั ในต�ำรา: ๑๏๘๔ ชื่อโรค: รัตตะปติ ตะโรค อาการ: โลหิตระคนกับดีก�ำเริบ แผ่ลงเบ้ืองต่�ำ เกิดเพ่ือเสมหะ ท�ำให้มีสีแดงปนขาว หรือ เปน็ เมอื กเปน็ ยาง รกั ษาหายได้ สรรพคณุ ของตำ� รับ: แก้รตั ตะปติ ตะเสมหะโรค สว่ นประกอบของต�ำรับ: ขดั มอน บอระเพด็ รากสามสบิ ขงิ แห้ง ชะเอม ดปี ลี เปลือกอบเชย ลูกพิลังกาสา รากอบเชย เอาเสมอภาค วธิ ปี รุงยา: บดใหเ้ ป็นผงละเอียด ละลายน้�ำกระสายอันควรแกโ่ รค รปู แบบยา: ยาผง กระสายยา: นำ้� กระสายอนั ควรแกโ่ รค หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่สี รุปมาจากส่วนของสมุนไพรชนดิ นั้น ๆ ทน่ี �ำมาใชเ้ ป็นยากนั โดยทัว่ ไป Book-7.indd 311 2/11/20 15:59

312  ค�ำ อธบิ ายจารึกต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร วิธีใช:้ กิน รายละเอียดของตวั ยา/สมุนไพรในตำ� รับ ล�ำดบั ตวั ยา/สมุนไพร สว่ นท่ใี ช้ ชอื่ วิทยาศาสตร์ ชอื่ วงศ์ ปรมิ าณทใ่ี ช้ ๑ ขดั มอน *ราก Sida rhombifolia L. Malvaceae ๑ ส่วน ๒ บอระเพด็ *เถา Tinospora crispa (L.) Hook. f. Menispermaceae ๑ ส่วน & Thomson ๓ รากสามสบิ ราก Asparagus racemosus Willd. Asparagaceae ๑ ส่วน ๔ ขิงแห้ง *เหง้า Zingiber ligulatum Roxb. หรือ ๑ ส่วน Zingiber longiligulatum Zingiberaceae S.Q.Tong ๕ ชะเอม *ราก Glycyrrhiza glabra L. Fabaceae ๑ สว่ น *ชะเอมเทศ ๖ ดปี ลี *ช่อผล Piper retrofractum Vahl Piperaceae ๑ ส่วน ๗ เปลอื กอบเชย เปลอื กชัน้ ใน Cinnamomum verum J. Presl ๑ ส่วน *อบเชยเทศ หรือ Cinnamomum burmanni Lauraceae (Nees & T. Nees) Blume ๘ ลกู พลิ งั กาสา *ผล Ardisia polycephala Wall. ex Primulaceae ๑ ส่วน A. DC. ๙ รากอบเชย ราก Cinnamomum verum J. Presl ๑ ส่วน *อบเชยเทศ หรอื Cinnamomum burmanni Lauraceae (Nees & T. Nees) Blume ลำ� ดับทขี่ องต�ำรับในต�ำรา: ๑๏๘๕ ชื่อโรค: รตั ตะปิตตะโรค อาการ: โลหิตระคนกับดีก�ำเริบ แผ่ลงเบื้องต่�ำ เกิดเพื่อเสมหะ ท�ำให้มีสีแดงปนขาว หรือ เปน็ เมือกเป็นยาง รกั ษาหายได้ สรรพคณุ ของตำ� รบั : แกร้ ตั ตะปติ ตะเสมหะโรค สว่ นประกอบของต�ำรบั : เสนียด ชะเอม ดปี ลี หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทสี่ รปุ มาจากสว่ นของสมุนไพรชนิดนน้ั  ๆ ที่น�ำมาใชเ้ ป็นยากันโดยทั่วไป Book-7.indd 312 2/11/20 15:59

การวิเคราะหต์ �ำ รบั ยาสมนุ ไพรในจารึกต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร  313 วิธีปรงุ ยา: บดให้เปน็ ผง ละลายน�ำ้ ตาลกรวด ๒บทที่ รูปแบบยา: ยาผง กระสายยา: นำ�้ ตาลกรวด วธิ ีใช:้ ละลายนำ้� ตาลกรวดกนิ รายละเอยี ดของตัวยา/สมุนไพรในตำ� รับ ล�ำดับ ตวั ยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้ ช่ือวทิ ยาศาสตร์ ชอื่ วงศ์ ปรมิ าณทใ่ี ช้ ๑ สว่ น ๑ เสนียด *ท้ังต้น Justicia adhatoda L. Acanthaceae และราก ๑ ส่วน ๒ ชะเอม *ราก Glycyrrhiza glabra L. Fabaceae ๑ ส่วน *ชะเอมเทศ ๓ ดปี ลี *ช่อผล Piper retrofractum Vahl Piperaceae หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่สี รปุ มาจากส่วนของสมุนไพรชนดิ นั้น ๆ ท่นี �ำมาใช้เปน็ ยากันโดยทว่ั ไป Book-7.indd 313 2/11/20 15:59

ชุดตำราภูมิปญ ญาการแพทยแผนไทย ฉบบั อนรุ กั ษ ภาพจารึกแผน ท่ี 50 คำจารกึ แผนที่ 50 กองคุม้ ครองภูมปิ ัญญาการแพทยแ์ ผนไทยและพนื้ บา้ นไทย ๑. ๏ สทิ ธกิ ารยิ ะ ๒. อยาชอื่ บรมศุชวี เิ รจะณะเอา ๓. สัตบุษ ๑ ลกู จนั ๑ ดอกจัน ๑ การพลู ๑ เทยี ร ๔. แดง ๑ ลูกกราย ๑ เอาสง่ิ 1 ขงิ แหง ๑ บกุ ๑ กลอย ๑ กะดาษ ย๕. ทงั สอง ๑ อุตพศิ ๑ สมลู แวง ๑ เอาสงิ ละ 2 แกน แสมท148ะเล ๑ จงิ จอ ๑ พริก ๑ ้านไท๖. หอม ๑ น้ำประสานทอง ๑ เอาสิ่งละ 1 รากตองแตก 1 เจตมูล 12 สหัสคุณ ๑ ื้นบรากข้ีหนอน ๑ และพ๗. รากขี้กาแดง ๑ สมอเทศ ๑ มะขามปอม ๑ สมอพิเภก ๑ เอาส่ิงละ 2 พริกหอม 1 ไทยมะหาหงิ 1 อยาดำ 1 2 ย์แผน๘. บดดวยน้ำผ้ึงแกฤษดวงลมจุกเสียด แกลมเปนกอนเปนเถาในทองแล บวมทังตัว แลทองมาร าการแพทดวยแลว ๚ะ๛ ๙. ๏ อยาชือ่ มหาอะนันตคุณ เอาลูกผกั ชีทงั สอง ๑ เทียนทัง ๕ เอาสิ่งละ 2 โกฎสอ ๑ โกฎเขมา ญ๑ โกฎกานพรา ว ๑ โกฎพงุ ปลา ๑ โกฎตัก รองภมู ปิ ญั๑๐. กะรา ๑ โกฎกระดกู ๑ บุกรอ ๑ อตุ พศิ ๑ กะดาษทงั สอง ๑ ดนิ ประสวิ ขาว ๑ ผิวมะกรูด ๑ เอา ส่ิงละ 1 กองคุ้มค๑๑. ดองดงึ ๑ สมูลแวง ๑ ลำพนั ๑ เอาสิง่ ละ 1 ขงิ แหง 12 ดีปลี 21 เจตมูล ๑ สคา น ๑ ชา พลู ๑ แกน แสม ๑๒. ทงั สอง ๑ เปลาทังสอง ๑ รากสม กงุ ๑ จ่ิงจอ ๑ สหศั คณุ เทศ ๑ การะบูน ๑ ๑๓. สานสม ๑ ตองแตก ๑ มะรมุ ๑ กุมทังสอง ๑ กะทอื ๑ ๑๔. ไพล ๑ ขา ๑ กะชาย ๑ ทรัพะอยาทงั ปวงน้ี เอา ๑๕. สง่ิ ละ 2 พริกหลอน 1 แกจุกเสยี ด แก ๑๖. ฤษดวงสำหรับอยเู พลิงมไิ ด ๑๗. ดีนกั แล ๚ะ๛ Book-7.indd 314 2/11/20 15:59

การวเิ คราะหต์ ำ�รับยาสมนุ ไพรในจารกึ ต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวหิ าร  315 คำ� อา่ นจารึกแผน่ ที่ ๕๐ ๒บทท่ี ช่ือต้นฉบับ: จารึกแผ่นที่ ๕๐ ล�ำดับทขี่ องตำ� รบั ในต�ำรา: ๑๏๘๖ ชอื่ โรค: ริดสีดวง แกล้ มจุกเสียด สรรพคณุ ของตำ� รบั : แกร้ ดิ สดี วง แกล้ มจกุ เสยี ด แกล้ มเปน็ กอ้ น เปน็ เถาในทอ้ ง แกบ้ วมทง้ั ตวั แกท้ อ้ งมาน ช่ือต�ำรบั : บรมสุขีวิเรจะณะ ส่วนประกอบของตำ� รบั : สัตตบุษย์ ๑ ลูกจันทน์ ๑ ดอกจันทน์ ๑ กานพลู ๑ เทยี นแดง ๑ ลูกกราย ๑ เอาส่ิง ๑ สลึง ขิงแห้ง ๑ บุก ๑ กลอย ๑ กระดาดทั้งสอง ๑ อุตพิด ๑ สมลุ แวง้ ๑ เอาสง่ิ ละ ๒ สลงึ แกน่ แสมทะเล ๑ จงิ จอ้ ๑ พรกิ ๑ หอม ๑ นำ�้ ประสารทอง ๑ เอาส่ิงละ ๑ บาท รากตองแตก ๑ สลึง เจตมูล ๑ บาท ๒ สลึง สหัสคุณ ๑ รากขห้ี นอน ๑ รากขก้ี าแดง ๑ สมอเทศ ๑ มะขามป้อม ๑ สมอพิเภก ๑ เอาสงิ่ ละ ๒ บาท พรกิ หอม ๑ ตำ� ลงึ มหาหิงคุ์ ๑ บาท ยาด�ำ ๑ ตำ� ลึง ๒ บาท วิธปี รงุ ยา: บดผสมกบั นำ�้ ผ้ึง รูปแบบยา: ยาผง กระสายยา: นำ�้ ผง้ึ วิธีใช:้ กิน รายละเอยี ดของตวั ยา/สมนุ ไพรในต�ำรบั ลำ� ดับ ตัวยา/สมนุ ไพร ส่วนท่ีใช้ ชื่อวทิ ยาศาสตร์ ชอ่ื วงศ์ ปรมิ าณทีใ่ ช้ ๑ สลึง ๑ สตั ตบษุ ย์ *เมล็ด Pimpinella anisum L. Apiaceae *เทียนสตั ตบษุ ย์ (Umbelliferae) ๑ สลึง ๑ สลงึ ๒ ลูกจันทน์ *เมลด็ Myristica fragrans Houtt. Myristicaceae ๑ สลึง ๓ ดอกจนั ทน์ *เย่ือหุ้มเมล็ด Myristica fragrans Houtt. Myristicaceae ๔ กานพลู *ดอกตมู Syzygium aromaticum (L.) Myrtaceae Merr. & L. M. Perry หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ที่สรุปมาจากส่วนของสมนุ ไพรชนิดนั้น ๆ ทน่ี ำ� มาใชเ้ ป็นยากนั โดยท่วั ไป Book-7.indd 315 2/11/20 15:59

316  คำ�อธิบายจารกึ ตำ�รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวหิ าร ลำ� ดบั ตวั ยา/สมุนไพร ส่วนทีใ่ ช้ ชื่อวทิ ยาศาสตร์ ชอื่ วงศ์ ปริมาณท่ใี ช้ ๕ เทียนแดง *เมล็ด Lepidium sativum L. Brassicaceae ๑ สลึง (Cruciferae) ๖ ลูกกราย ผล Terminalia nigrovenulosa Combretaceae ๑ สลึง Pierre ๗ ขิงแหง้ *เหงา้ Zingiber ligulatum Roxb. ๒ สลงึ หรอื Zingiber longiligulatum Zingiberaceae S.Q.Tong ๘ หวั บกุ Amorphophallus ๒ สลึง *บุกคางคก paeoniifolius (Dennst.) *บกุ รอ หวั Nicolson Araceae Amorphophallus saraburiensis Gagnep. ๙ กลอย *หวั Dioscorea hispida Dennst. Dioscoreaceae ๒ สลงึ ๑๐ กระดาดท้ังสอง *หัว Alocasia macrorrhizos (L.) Araceae อยา่ งละ -*กระดาดแดง *หวั Alocasia indica Schott ๒ สลึง -*กระดาดขาว ๑๑ อตุ พิด Typhonium trilobatum (L.) Araceae ๒ สลงึ Schott. ๑๒ สมลุ แว้ง *เปลือกตน้ Cinnamomum bejolghota Lauraceae ๒ สลึง (Buch.-Ham.) Sweet ๑๓ แสมทะเล แกน่ Avicennia marina (Forsk.) Acanthaceae ๑ บาท Vierh. ๑๔ จิงจอ้ *ผล Aniseia martinicensis Convolvulaceae ๑ บาท (Jacq.) Choisy. ๑๕ พริก *ผล Piper nigrum L. Piperaceae ๑ บาท *พริกไทย ๑๖ หอม *หัว Allium ascalonicum L. Amaryllidaceae ๑ บาท ๑๗ น้ำ� ประสารทอง *ผงน�ำ้ Sodium borate (borax) ๑ บาท *น้�ำประสานทอง ประสานทอง หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่สี รปุ มาจากสว่ นของสมุนไพรชนิดนนั้  ๆ ท่ีน�ำมาใช้เปน็ ยากันโดยทัว่ ไป Book-7.indd 316 2/11/20 15:59

การวเิ คราะหต์ ำ�รบั ยาสมุนไพรในจารกึ ต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร  317 ล�ำดับ ตัวยา/สมนุ ไพร ส่วนท่ใี ช้ ช่ือวิทยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ปรมิ าณท่ใี ช้ ๑๘ รากตองแตก *ราก Baliospermum solanifolium Euphorbiaceae ๑ สลึง (Burm.) Suresh ๑๙ เจตมลู Plumbago indica L. ๑ บาท *เจตมูลเพลงิ แดง *ราก Plumbaginaceae ๒ สลงึ ๒๐ สหสั คุณ *เนอ้ื ไม้ Micromelum minutum ๒๒ บาท *หัสคุณไทย ราก (Forst. f.) Wright & Arn. Rutaceae บทที่ Clausena excavata Burm. f. ๒ บาท *หัสคณุ เทศ ๒๑ รากขี้หนอน Zollingeria dongnaiensis Sapindaceae Pierre หรือ Fabaceae Clitoria macrophylla Benth. ๒๒ รากขี้กาแดง ราก Trichosanthes tricuspidata Cucurbitaceae ๒ บาท Lour. ๒๓ สมอเทศ *ผล Terminalia arjuna (Roxb. Combretaceae ๒ บาท ex DC.) Wight & Arn. ๒๔ มะขามปอ้ ม *ผล Phyllanthus emblica L. Euphorbiaceae ๒ บาท ๒๕ สมอพิเภก *ผล Terminalia bellirica Combretaceae ๒ บาท (Gaertn.) Roxb. ๒๖ พริกหอม *เมล็ด Zanthoxylum Bungeanum Rutaceae ๑ ตำ� ลงึ Maxim. ๒๗ มหาหงิ ค์ุ *ยาง ชันน้ำ� มัน Ferula assa-foetida L. Apiaceae ๑ บาท (oleogumresin) (Umbelliferae) จากรากและ ลำ� ต้นใต้ดิน ๒๘ ยาดำ� *ยางทีแ่ ข็งเป็น Aloe vera (L.) Burm. f. Aloeaceae ๑ ต�ำลงึ ก้อนจากใบวา่ น ๒ บาท หางจระเข้ หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ที่สรปุ มาจากส่วนของสมุนไพรชนิดน้นั  ๆ ทนี่ ำ� มาใชเ้ ป็นยากันโดยทว่ั ไป Book-7.indd 317 3/25/20 22:16

318  คำ�อธิบายจารกึ ตำ�รายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ลำ� ดบั ที่ของต�ำรบั ในต�ำรา: ๑๏๘๗ ชือ่ โรค: ริดสดี วง แกล้ มจุกเสียด สรรพคณุ ของต�ำรับ: แกจ้ กุ เสยี ด แกร้ ดิ สีดวง แกอ้ ยู่ไฟไมไ่ ด้ ชื่อตำ� รับ: มหาอนันตคณุ ส่วนประกอบของต�ำรับ: ลูกผักชีทั้งสอง ๑ เทียนท้ังห้า เอาสิ่งละ ๒ สลึง โกฐสอ ๑ โกฐเขมา ๑ โกฐก้านพร้าว ๑ โกฐพุงปลา ๑ โกฐกรักกรา ๑ โกฐกระดูก ๑ บุกรอ ๑ อุตพดิ ๑ กระดาดท้ังสอง ๑ ดินประสิวขาว ๑ ผวิ มะกรดู ๑ เอาส่งิ ละ ๑ บาท ดองดึง ๑ สมุลแวง้ ๑ ลำ� พนั ๑ เอาสงิ่ ละ ๑ สลึง ขงิ แหง้ ๑ บาท ๒ สลงึ ดีปลี ๑ บาท ๒ สลงึ เจตมลู ๑ สะค้าน ๑ ช้าพลู ๑ แก่นแสมทั้งสอง ๑ เปลา้ ทงั้ สอง ๑ รากส้มกุ้ง ๑ จงิ จอ้ ๑ สหัสคุณเทศ ๑ การบูร ๑ สารส้ม ๑ ตองแตก ๑ มะรุม ๑ กุ่มท้ังสอง ๑ กระทือ ๑ ไพล ๑ ขา่ ๑ กระชาย ๑ สรรพยาทงั้ ปวงนี้เอาสิง่ ละ ๒ บาท พรกิ ลอ่ น ๑ ตำ� ลึง วธิ ใี ช้: กนิ รายละเอียดของตวั ยา/สมุนไพรในตำ� รับ ล�ำดบั ตวั ยา/สมนุ ไพร ส่วนท่ใี ช้ ชื่อวทิ ยาศาสตร์ ช่อื วงศ์ ปรมิ าณที่ใช้ ๑ ลกู ผักชที ้ัง ๒ *ผล อยา่ งละ -*ผักชลี อ้ ม Oenanthe javanica Apiaceae ๒ สลงึ (Blume) DC. (Umbelliferae) อย่างละ -*ผกั ชลี า Coriandrum sativum L. ๒ สลงึ ๒ เทียนทงั้ หา้ Nigella sativa L. Ranunculaceae ๑ บาท -*เทยี นดำ� Lepidium sativam L. Brassicaceae -*เทยี นแดง (Cruciferae) -*เทยี นขาว *เมล็ด Cuminum cyminum L. Apiaceae -*เทยี นข้าวเปลือก Foeniculum vulgare Mill. (Umbelliferae) -*เทียนตาตก๊ั แตน Anethum graveolens L. ๓ โกฐสอ *ราก Angelica dahurica Apiaceae (Hoffm.) Benth. & Hook. f. (Umbelliferae) ex Franch. & Sav. var. dahurica หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทส่ี รุปมาจากส่วนของสมุนไพรชนิดน้ัน ๆ ท่ีน�ำมาใชเ้ ปน็ ยากนั โดยทั่วไป Book-7.indd 318 2/11/20 15:59

การวเิ คราะหต์ ำ�รับยาสมุนไพรในจารกึ ตำ�รายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร  319 ลำ� ดบั ตวั ยา/สมุนไพร สว่ นทีใ่ ช้ ชื่อวทิ ยาศาสตร์ ช่ือวงศ์ ปริมาณทใี่ ช้ ๔ โกฐเขมา *ราก Atractylodes lancea Asteraceae ๑ บาท (Thunb.) DC. (Compositae) ๕ โกฐก้านพรา้ ว *ราก Neopicrorhiza Plantaginaceae ๑ บาท scrophulariiflora Pennell ๖ โกฐพุงปลา ปุม่ หดู (gall) Terminalia chebula Retz. Combretaceae ๒๑ บาท ๗ โกฐกรกั กรา จากใบหรอื บทท่ี ก่ิงออ่ น ๑ บาท *ราก Pistachia chinensis Bunge Pistachiaceae subsp. integerrima (Stewart ex Brandis) Rech. f. ๘ โกฐกระดกู *ราก Saussurea lappa Decne Asteraceae ๑ บาท (Compositae) ๙ บุกรอ *หัว Amorphophallus Araceae ๑ บาท saraburiensis Gagnep. ๑๐ อุตพดิ *หวั Typhonium trilobatum Araceae ๑ บาท (L.) Schott ๑๑ กระดาดทั้งสอง *หัว Alocasia macrorrhizos (L.) Araceae อย่างละ -*กระดาดแดง Alocasia indica Schott ๑ บาท -*กระดาดขาว ๑๒ ดนิ ประสวิ ขาว *ผลกึ Potassium nitrate ๑ บาท ดินประสิว processed ๑๓ ผิวมะกรูด ผวิ ผล Citrus hystrix DC. Rutaceae ๑ บาท ๑๔ หัวดองดึง หัว Gloriosa superba L. Colchicaceae ๑ สลึง ๑๕ สมุลแวง้ *เปลือกต้น Cinnamomum bejolghota Lauraceae ๑ สลงึ (Buch. -Ham.) Sweet ๑๖ ลำ� พัน *เหงา้ Enhalus acoroides (L.f.) Hydrocharitaceae ๑ สลงึ *ลำ� พันแดง Royle ๑๗ ขิงแหง้ *เหงา้ Zingiber ligulatum Roxb. ๑ บาท หรือ Zingiber Zingiberaceae ๒ สลึง longiligulatum S.Q.Tong หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่ีสรปุ มาจากส่วนของสมุนไพรชนดิ นั้น ๆ ที่นำ� มาใช้เปน็ ยากนั โดยทั่วไป Book-7.indd 319 3/5/20 10:35

320  คำ�อธบิ ายจารกึ ตำ�รายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ลำ� ดับ ตัวยา/สมนุ ไพร ส่วนทใ่ี ช้ ชื่อวทิ ยาศาสตร์ ชอื่ วงศ์ ปรมิ าณทใี่ ช้ ๑๘ ดปี ลี *ช่อผล Piper retrofractum Vahl Piperaceae ๑ บาท ๒ สลึง ๑๙ เจตมลู Plumbago indica L. ๒ บาท -*เจตมูลเพลงิ แดง *ราก Plumbaginaceae ๒๐ สะค้าน *เถา Piper wallichii (Miq.) Piperaceae ๒ บาท Hand.-Mazz. ๒๑ ชา้ พลู *รากและไหล Piper sarmentosum Roxb. Piperaceae ๒ บาท ๒๒ แกน่ แสมทัง้ สอง แกน่ Senna garrettiana (Craib) Fabaceae อยา่ งละ -*แสมสาร H. S. Irwin & Barneby ๒ บาท -*แสมทะเล Avicennia marina (Forssk.) Avicenniaceae Vierh. ๒๓ เปล้าทง้ั สอง Croton stellatopilosus H. อย่างละ -*เปลา้ น้อย ๒ บาท -*เปลา้ ใหญ่ *ลำ� ต้น Ohba Euphorbiaceae Croton persimilis Müll. Arg. ๒๔ รากส้มกุ้ง ราก Embelia ribes Burm. f. Primulaceae ๒ บาท ๒๕ จิงจอ้ *ผล Aniseia martinicensis Convolvulaceae ๒ บาท (Jacq.) Choisy. ๒๖ สหัสคณุ เทศ *เนอื้ ไม้ Clausena excavata Burm. Rutaceae ๒ บาท f. ๒๗ การบูร *ส่ิงสกดั จาก Cinnamomum camphora Lauraceae ๒ บาท เปลือกต้น (L.) J. Presl เน้อื ไมแ้ ละใบ ๒๘ สารสม้ *ผลึกสารสม้ Hydrated potassium ๒ บาท (สะตุ) aluminium sulphate ๒๙ ตองแตก *ราก Baliospermum solanifolium Euphorbiaceae ๒ บาท ๓๐ มะรุม (Burm.) Suresh ๒ บาท *เปลือกต้น Moringa oleifera Lam. Moringaceae หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทีส่ รปุ มาจากสว่ นของสมนุ ไพรชนดิ น้ัน ๆ ทนี่ ำ� มาใชเ้ ปน็ ยากันโดยทัว่ ไป Book-7.indd 320 2/11/20 15:59

การวิเคราะหต์ �ำ รับยาสมนุ ไพรในจารกึ ต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร  321 ลำ� ดบั ตวั ยา/สมนุ ไพร สว่ นท่ใี ช้ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ ช่อื วงศ์ ปรมิ าณทใี่ ช้ อย่างละ ๓๑ ก่มุ ทงั้ สอง *เปลอื กตน้ Crateva religiosa G. Forst. Capparaceae ๒ บาท -*กมุ่ น้�ำ Crateva adansonii DC. -*ก่มุ บก ๒ บาท ๓๒ กะทอื *เหงา้ Zingiber zerumbet (L.) Zingiberaceae ๒๒ บาท Roscoe ex Sm. บทท่ี ๒ บาท ๓๓ ไพล *เหง้า Zingiber montanum (J. Zingiberaceae ๒ บาท Köenig) Link ex A. Dietr. ๑ ตำ� ลึง ๓๔ ข่า *เหงา้ Alpinia galanga (L.) Willd. Zingiberaceae ๓๕ กระชาย *เหง้า Boesenbergia rotunda (L.) Zingiberaceae Mansf. ๔๐ พรกิ ลอ่ น *ผล Piper nigrum L. Piperaceae *พรกิ ไทยขาว หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทส่ี รุปมาจากส่วนของสมนุ ไพรชนดิ นั้น ๆ ทน่ี �ำมาใช้เปน็ ยากนั โดยทัว่ ไป Book-7.indd 321 2/11/20 15:59

จารกึ ตำรายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร ภาพจารึกแผน ท่ี 51 คำจารึกแผนที่ 51 กองคุม้ ครองภูมปิ ัญญาการแพทย์แผนไทยและพืน้ บ้านไทย ๑. ๏ สิทธิการิยะ ๒. ถา บุทคลผูใ ดเปนไขเ พอื เสม ๓. หะ ปต ะ สมถุ านกด็ ี ทำใหห ิวโหยหาแรงมิได วาตะ ๔. ใหระหวยไป ใหใจขุนหมองมไี ดช น่ื ใหส วงิ สวายหากำลังมีได า้ นไทย๕. ถาจะแกเ อายาน้ีแก ยาชื่อมหาสมมติ รเอา โกดทังหา เทียรทังหา ตรผี ลา จัน 151 ะพื้นบ๖. ทังสอง ลูกจัน ดอกจัน กระวาน การพูล ขิงแหง ดีปลี แหวหมู ไครเครือ เกษรบัวหลวง แลเกษรสารภี นไทย๗. เกษรบัวเผ่ือน เกษรบัวขม ดอกคำ ดอกผักตบ ดอกพิกุน เกษรบุนนาก ดอกสลิด สักขี ชลูด แ์ ผอบเชย ชเอม กฤษนา าการแพทย๘. ชมดเชียง พิมเสน เอาเสมอภาคทำเปนจุณ เอาดีงูเหลือมแชน้ำดอกไมเปนกระสาย บดทำแทงไว ละลายน้ำดอกไมก ไ็ ด นำ้ ตาลทราย ญั ญ เชอื่ ม มู ิป๙. กไ็ ด นำ้ แรมคืนก็ได กินแกรสำ่ รสายแลดับพศิ ไขทงั ปวงทำใหค ลั่งใหเพอ ให แกลิน้ รองภ มัว ุ้มคกระดา งคางแขง แลชกู ำลังยีงนักฯ ยาชื่อหอม กองค๑๐. แทงทองเอาจันชมด จันเทษ จันแดง กฤษนา กระลำภัก ชะลูด ขอนดอก อบเชย สมุลแวง โกดเชียง โกดกระดูก โกดหัวบัว เทยี รดำ ๑๑. เทียรฃาว ดอกพิกุน เกสรบุนนาก เกสรสาระภี เกสรบัวหลวง สิ่งละ 1 พิมเสน 2 ขมดเชียง 1 ๑๒. ชมดสด 1 อำพัน 1 ยา ฝรนั่ 1 ทองคำเปลว ๔๐ แผน ทำเปนจุณบทดวยน้ำ ๑๓. นำ้ ดอกไม ทำแทงไวปด ทองทกุ แทง ถา แกลมมีพิศใหเ อาโกดกดูก ๑๔. กับขิงมาตมดวยกันเอาน้ำลายยากิน แกเ ลอื ดมีพศิ น้ำ ๑๕. เทียรดำขงิ ตมดวยกนั แกเสมหะมพิ ศิ นำ้ มกลำ่ ๑๖. เครอื ชเอมตมดว ยกัน ใหกินชูกำ ๑๗. ลังย่งิ นกั แล ๚๛ Book-7.indd 322 2/11/20 15:59

การวเิ คราะห์ตำ�รบั ยาสมุนไพรในจารึกตำ�รายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร  323 คำ� อา่ นจารกึ แผน่ ท่ี ๕๑ ๒บทที่ ช่ือต้นฉบับ: จารึกแผ่นท่ี ๕๑ ลำ� ดับที่ของตำ� รบั ในต�ำรา: ๑๏๘๘ ชือ่ โรค: ไข้เพอ่ื เสมหะ ปติ ตะ วาตะ อาการ: ตัวร้อน ระส�่ำระสาย หิวโหย ไม่มีแรง มีอาการสวิงสวายคล้ายจะเป็นลม ให้คลั่ง เพอ้ เซื่องซมึ มืดหนา้ มวั ตา ล้ินกระด้างคางแข็ง สรรพคณุ ของตำ� รบั : แกร้ ะสำ่� ระสาย ดบั พษิ ไขท้ ง้ั ปวง ใหค้ ลงั่ เพอ้ เซอื่ งซมึ ลนิ้ กระดา้ งคางแขง็ และเปน็ ยาชูกำ� ลงั ช่อื ต�ำรบั : มหาสมมิตร สว่ นประกอบของต�ำรบั : โกฐทั้งห้า เทียนทัง้ ห้า ตรีผลา จนั ทน์ทง้ั สอง ลูกจันทน์ ดอกจันทน์ กระวาน กานพลู ขิงแห้ง ดีปลี แห้วหมู ไครเ้ ครอื เกสรบวั หลวง เกสรสารภี เกสรบัวเผอื่ น เกสรบัวขม ดอกค�ำ ดอกผกั ตบ ดอกพิกลุ เกสรบุนนาค ดอกสลิด สกั ขี ชะลดู อบเชย ชะเอม กฤษณา ชะมดเชยี ง พมิ เสน เอาเสมอภาค วิธีปรุงยา: ท�ำให้เป็นผงละเอียด เอาดีงูเหลือมแช่น้�ำดอกไม้เป็นกระสาย บดท�ำแท่งไว้ เมอื่ จะใช้ใหเ้ อามาละลายนำ้� ดอกไม้ หรอื นำ้� ตาลทราย หรอื น�้ำแรมคืน (น้�ำค้าง) ก็ได้ รูปแบบยา: ยาป้นั แท่ง กระสายยา: ดีงูเหลือม น�้ำดอกไม้ นิยมใช้ดอกมะลิ หรือดอกกระดังงา หรือน้�ำตาลทราย หรือน�้ำแรมคนื (น้�ำคา้ ง) วธิ ีใช้: ละลายน�ำ้ ดอกไม้ หรอื นำ�้ ตาลทราย หรอื นำ้� แรมคนื (น้�ำคา้ ง) กิน รายละเอียดของตวั ยา/สมนุ ไพรในต�ำรับ หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทสี่ รุปมาจากสว่ นของสมนุ ไพรชนิดน้ัน ๆ ท่นี �ำมาใชเ้ ป็นยากนั โดยท่ัวไป Book-7.indd 323 3/27/20 09:48

324  คำ�อธบิ ายจารึกตำ�รายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ลำ� ดับ ตวั ยา/สมนุ ไพร สว่ นท่ใี ช้ ช่ือวิทยาศาสตร์ ชอื่ วงศ์ ปริมาณท่ใี ช้ ๑ โกฐท้ังหา้ Angelica dahurica (Hoffm.) Apiaceae อย่างละ -*โกฐสอ ๑ ส่วน Benth. & Hook. f. ex Franch. (Umbelliferae) & Sav. var. dahurica -*โกฐเขมา Atractylodes lancea Asteraceae *ราก (Thunb.) DC. (Compositae) -*โกฐหัวบวั Ligusticum sinense Oliv. cv. chuanxiong Apiaceae -*โกฐเชยี ง Angelica sinensis (Oliv.) (Umbelliferae) Diels -*โกฐจุฬาลัมพา *ส่วนเหนอื ดิน Artemisia annua L. Asteraceae (Compositae) ๒ เทยี นทั้งห้า Nigella sativa L. Ranunculaceae อยา่ งละ -*เทยี นดำ� Lepidium sativam L. Brassicaceae ๑ สว่ น -*เทียนแดง (Cruciferae) -*เทยี นขาว *เมลด็ Cuminum cyminum L. Foeniculum vulgare Mill. Apiaceae -*เทียนข้าวเปลอื ก Anethum graveolens L. (Umbelliferae) -*เทยี นตาต๊ักแตน ๓ ตรีผลา Terminalia chebula Retz. อยา่ งละ -*สมอไทย Terminalia bellirica Combretaceae ๑ ส่วน -*สมอพเิ ภก -*มะขามปอ้ ม *ผล (Gaertn.) Roxb. Phyllanthus emblica L. Euphorbiaceae ๔ จนั ทน์ทง้ั สอง Pterocarpus santalinus L. f. Fabaceae อย่างละ -*จันทน์แดง Santalum album L. Santalaceae ๑ สว่ น -*จันทนข์ าว *แก่น ๕ ลูกจันทน์ *เมล็ด Myristica fragrans Houtt. Myristicaceae ๑ สว่ น ๖ ดอกจันทน์ *เยอื่ ห้มุ เมล็ด Myristica fragrans Houtt. Myristicaceae ๑ สว่ น ๗ กระวาน *ผล Amomum testaceum Ridl. Zingiberaceae ๑ ส่วน ๘ กานพลู *ดอกตมู Syzygium aromaticum (L.) Myrtaceae ๑ ส่วน Merr. & L. M. Perry หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทส่ี รปุ มาจากส่วนของสมนุ ไพรชนิดนัน้  ๆ ทน่ี �ำมาใชเ้ ป็นยากันโดยทว่ั ไป Book-7.indd 324 2/11/20 15:59

การวิเคราะห์ตำ�รบั ยาสมุนไพรในจารึกตำ�รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวหิ าร  325 ล�ำดับ ตวั ยา/สมุนไพร ส่วนทใี่ ช้ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ ชื่อวงศ์ ปริมาณท่ีใช้ ๙ ขิงแหง้ *เหงา้ Zingiber ligulatum Roxb. ๑ สว่ น หรอื Zingiber Zingiberaceae longiligulatum S.Q.Tong ๑๐ ดีปลี *ช่อผล Piper retrofractum Vahl Piperaceae ๑ สว่ น ๑๑ แห้วหมู *หวั ใต้ดิน Cyperus rotundus L. Cyperaceae ๒๑ ส่วน ๑๒ รากไครเ้ ครือ ๑๓ เกสรบัวหลวง ราก Aristolochia spp. Aristolochiaceae ๑ ส่วน บทท่ี ๑๔ เกสรสารภี ๑ สว่ น เกสร Nelumbo nucifera Gaertn. Nelumbonaceae เกสร Mammea siamensis T. Calophyllaceae ๑ ส่วน *ปัจจบุ ันใช้ทั้ง Anderson ดอก ๑๕ เกสรบัวเผือ่ น เกสร Nymphaea nouchali Nymphaeaceae ๑ สว่ น *ปัจจุบนั ใช้ทง้ั Burm. f. ดอก ๑๖ เกสรบัวขม เกสร Nymphaea pubescens Nymphaeaceae ๑ สว่ น *ปัจจบุ ันใช้ทัง้ Willd. ดอก ๑๗ ดอกคำ� ๑ สว่ น *ค�ำฝอย ดอก Carthamus tinctorius L. Asteraceae (Compositae) ๑๘ ดอกผักตบ ดอก Monochoria hastata (L.) Pontederiaceae ๑ ส่วน Solms ๑๙ ดอกพิกลุ ดอก Mimusops elengi L. Sapotaceae ๑ ส่วน ๒๐ เกสรบนุ นาค เกสร Mesua ferrea L. Clusiaceae ๑ สว่ น *ปัจจุบนั ใช้ทัง้ ดอก ๒๑ ดอกสลิด ดอก Telosma cordata (Burm. Apocynaceae ๑ ส่วน f.) Merr. ๒๒ สกั ขี *แกน่ Dalbergia candenatensis Fabaceae ๑ สว่ น (Dennst.) Prain ๒๓ ชะลดู *เปลือกเถา Alyxia reinwadtii Blume Apocynaceae ๑ ส่วน ชน้ั ใน หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทส่ี รุปมาจากส่วนของสมนุ ไพรชนิดน้ัน ๆ ทนี่ ำ� มาใช้เปน็ ยากนั โดยทวั่ ไป Book-7.indd 325 3/25/20 22:17

326  คำ�อธิบายจารึกต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวิหาร ลำ� ดบั ตวั ยา/สมุนไพร สว่ นทใี่ ช้ ช่ือวทิ ยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปริมาณท่ใี ช้ ๒๔ อบเชย *เปลือกชนั้ ใน Cinnamomum verum J. ๑ ส่วน *อบเชยเทศ Presl หรอื Cinnamomum burmanni Lauraceae (Nees & T. Nees) Blume ๒๕ ชะเอม *ราก Glycyrrhiza glabra L. Fabaceae ๑ สว่ น *ชะเอมเทศ ๒๖ กฤษณา *เนือ้ ไมท้ มี่ ชี นั Aquilaria crassna Pierre ex ๑ สว่ น สีด�ำและมี Lecomte หรือ กลนิ่ หอม Aquilaria malaccensis Thymelaeaceae Lam. ๒๗ ชะมดเชียง *ไขมนั ในตอ่ ม Moschus moschiferus Moschidae ๑ ส่วน (สัตว์ตระกูลกวาง) กล่นิ ของชะมด (Linnaeus, 1758) มีเฉพาะในตวั ผู้ ๒๘ พมิ เสน *สงิ่ สกดั จาก Dryobalanops aromatic C. Dipterocarpaceae ๑ สว่ น เปลือกต้น F. Gaertn. ลำ� ดับท่ีของตำ� รับในตำ� รา: ๑๏๘๙ ช่อื โรค: ไขเ้ พือ่ เสมหะ ปติ ตะ วาตะ อาการ: ตัวร้อน ระส�่ำระสาย หิวโหย ไม่มีแรง มีอาการสวิงสวายคล้ายจะเป็นลม ให้คลั่ง เพอ้ เซ่อื งซึม มดื หน้ามัวตา ลิ้นกระด้างคางแขง็ สรรพคุณของต�ำรับ: แก้ลมมีพษิ แก้เลอื ดมพี ษิ แกเ้ สมหะมีพิษ ช่อื ต�ำรบั : หอมแท่งทอง ส่วนประกอบของต�ำรับ: จันทน์ชะมด จันทน์เทศ จันทน์แดง กฤษณา กระล�ำพัก ชะลูด ขอนดอก อบเชย สมลุ แว้ง โกฐเชยี ง โกฐกระดกู โกฐหัวบัว เทยี นด�ำ เทยี นขาว ดอกพิกลุ เกสรบนุ นาค เกสรสารภี เกสรบัวหลวง สิง่ ละ ๑ บาท พมิ เสน ๒ สลงึ ชะมดเชยี ง ๑ สลึง ชะมดสด ๑ เฟอื้ ง อำ� พนั ๑ เฟ้ือง หญ้าฝร่ัน ๑ เฟื้อง ทองคำ� เปลว ๔๐ แผ่น วิธีปรุงยา: บดให้เป็นผงละเอียด บดด้วยน�้ำดอกไม้ ปั้นเป็นแท่งไว้ ปิดทองทุกแท่ง ถ้าแก้ลมมีพิษให้เอาโกฐกระดูกกับขิงมาต้มด้วยกัน เอาน้�ำละลายยากิน แก้เลือดมีพิษ หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่สี รปุ มาจากส่วนของสมนุ ไพรชนดิ นั้น ๆ ทีน่ �ำมาใชเ้ ปน็ ยากันโดยท่ัวไป Book-7.indd 326 3/27/20 09:56

การวิเคราะห์ต�ำ รบั ยาสมนุ ไพรในจารึกต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร  327 ให้เอาน้�ำเทียนด�ำ ขิง ต้มด้วยกัน แก้เสมหะมีพิษ เอาน�้ำมะกล่�ำเครือชะเอม ต้มด้วยกัน ๒บทท่ี ใหก้ ินชกู ำ� ลัง รูปแบบยา: ยาป้นั แทง่ กระสายยา: ๑. โกฐกระดกู กบั ขิงมาตม้ ด้วยกัน ๒. นำ้� เทยี นด�ำ ขิง ต้มดว้ ยกนั ๓. น�้ำมะกลำ�่ เครอื ชะเอม ต้มดว้ ยกัน วธิ ใี ช:้ กนิ รายละเอียดของตัวยา/สมุนไพรในต�ำรับ ล�ำดับ ตัวยา/สมุนไพร สว่ นทใ่ี ช้ ชื่อวิทยาศาสตร์ ชอ่ื วงศ์ ปริมาณท่ใี ช้ ๑ จนั ทน์ชะมด *แกน่ Mansonia gagei J. R. Malvaceae ๑ บาท Drumm. ๒ จันทนเ์ ทศ *แกน่ Myristica fragrans Houtt. Myristicaceae ๑ บาท ๓ จนั ทน์แดง *แกน่ Pterocarpus santalinus Fabaceae ๑ บาท L. f. ๔ กฤษณา *เนอ้ื ไม้ที่มีชัน Aquilaria crassna Pierre ๑ บาท สีดำ� และมกี ลนิ่ ex Lecomte หรือ Thymelaeaceae หอม Aquilaria malaccensis Lam. ๕ กะล�ำพัก *เน้ือไม้ Euphorbia antiquorum L. ๑ บาท *สลดั ได ทีม่ รี าลง Excoecaria agallocha L. *ตาตุม่ ทะเล Euphorbiaceae ๖ ชะลูด *เปลือกเถา Alyxia reinwadtii Blume Apocynaceae ๑ บาท ชัน้ ใน ๗ ขอนดอก ๑ บาท *ต้นพิกุล *เน้ือไม้แห้ง Mimusops elengi L. Sapotaceae *ตน้ ตะแบก ท่ีมรี าลง Lagerstroemia calyculata Lythraceae ๘ อบเชย Kurz ๑ บาท *อบเชยเทศ *เปลอื กชน้ั ใน Cinnamomum verum J. Presl หรือ Lauraceae Cinnamomum burmanni (Nees & T. Nees) Blume หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทส่ี รปุ มาจากสว่ นของสมุนไพรชนิดน้ัน ๆ ท่นี ำ� มาใช้เป็นยากันโดยทั่วไป Book-7.indd 327 3/27/20 09:56

328  คำ�อธิบายจารึกต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร ล�ำดบั ตวั ยา/สมุนไพร ส่วนทใ่ี ช้ ชอื่ วิทยาศาสตร์ ชอื่ วงศ์ ปรมิ าณทีใ่ ช้ ๙ สมุลแว้ง *เปลอื กต้น Cinnamomum bejolghota Lauraceae ๑ บาท (Buch. -Ham.) Sweet ๑๐ โกฐเชยี ง *ราก Angelica sinensis (Oliv.) Apiaceae ๑ บาท Diels (Umbelliferae) ๑๑ โกฐกระดูก *ราก Saussurea lappa Decne Asteraceae ๑ บาท (Compositae) ๑๒ โกฐหวั บัว *ราก Ligusticum sinense Oliv. Apiaceae ๑ บาท cv. chuanxiong (Umbelliferae) ๑๓ เทยี นดำ� *เมลด็ Nigella sativa L. Ranunculaceae ๑ บาท ๑๔ เทียนขาว *เมล็ด Cuminum cyminum L. Apiaceae ๑ บาท (Umbelliferae) ๑๕ ดอกพกิ ลุ ดอก Mimusops elengi L. Sapotaceae ๑ บาท ๑๖ เกสรบนุ นาค เกสร Mesua ferrea L. Clusiaceae ๑ บาท *ปัจจบุ นั ใช้ ท้งั ดอก ๑๗ เกสรสารภี เกสร Mammea siamensis T. Calophyllaceae ๑ บาท *ปัจจบุ นั ใช้ Anderson ทงั้ ดอก ๑๘ เกสรบัวหลวง เกสร Nelumbo nucifera Gaertn. Nelumbonaceae ๑ บาท ๑๙ พิมเสน *ส่งิ สกัดจาก Dryobalanops aromatic C. Dipterocarpaceae ๒ สลึง เปลอื กตน้ F. Gaertn. ๒๐ ชะมดเชียง *ไขมันในตอ่ ม Moschus moschiferus Moschidae ๑ สลึง (สตั ว์ตระกลู กวาง) กล่นิ ของชะมด (Linnaeus, 1758) มีเฉพาะในตัวผู้ ๒๑ ชะมดสด *ไขจาก Viverricula indica Viverridae ๑ เฟื้อง *ชะมดเชด็ ตอ่ มกลนิ่ (Desmarest, 1804) (สตั วต์ ระกลู อเี ห็น) ๒๒ อ�ำพนั ๑ เฟ้ือง *อำ� พันทอง *นำ้� กามของ Megaptera novaeangliae Balaenopteridae วาฬ (Gray, 1864) ๒๓ หญ้าฝรั่น *เกสร Crocus sativus L. Iridaceae ๑ เฟื้อง ๒๔ ทองค�ำเปลว *ธาตวุ ัตถุ ยงั ไมส่ ามารถระบไุ ด้ ๔๐ แผ่น หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ที่สรปุ มาจากสว่ นของสมุนไพรชนดิ น้ัน ๆ ทน่ี ำ� มาใชเ้ ปน็ ยากนั โดยท่วั ไป Book-7.indd 328 3/27/20 09:57

ชุดตำราภูมปิ ญ ญาการแพทยแผนไทย ฉบับอนุรกั ษ ภาพจารึกแผน ท่ี 52 คำจารกึ แผน ท่ี 52 กองคุ้มครองภูมิปญั ญาการแพทยแ์ ผนไทยและพ้ืนบ้านไทย ๑. ๏ สทิ ธกิ าริยะ ๒. ยาไขส นั นิบาตใหห นาวนกั ๓. เอาโลด ๑ หัศคณุ ไท ๑ จนั ขาว ๑ ฝนดว ย ๔. น้ำชะโลมแกหนาว ฯ ถา รอ นนกั เอาผักบงุ เทศ ๑ ผกั บุง ย๕. ไท ๑ ใบบัวหลวง ๑ ใบชงิ ชี่ ๑ ตำใหล ะเอยี ด ดินสอพองใสส ะนอย ลาย ไท154 ้าน๖. น้ำซาวเขา ชะโลมแกร อน ฯ ถาแลคลงั่ เอาขมิ้นออย หวา นกบี แรด ๑ หวา นรอ นทอง ๑ ะพ้ืนบ๗. จันแดง ๑ จนั ฃาว ๑ แกนมหาด ๑ แกน ประดู ๑ ทังน้เี อาเทา กัน บดใหล ะเอียดลายน้ำดอกไม ยแล๘. ทังกินทังทาแกคลั่ง ถากินเขามิไดเอาใบสเดา ๑ บรเพช ๑ ขม้ินออย ๑ ตำเปนผงเอา นไทน้ำตานทรายรำหดั เอา ทย์แผ๙. น้ำขิงเปนกระสาย ปนเปนแทงเทาปลายกอย ฝนดวยน้ำตานทรายกินแตแทงหนึ่ง กินเชาค่ำ าการแพทุกวันแกส นั นิบาตดำ ๑๐. แดง อันกินเขามิได แลจับทังปวงคร้ันกินยานี้ก็ถอยแล ฯ ถาจะทำยาน้ีใหตั้งมนทน ๓ ช้ัน ญั ญเอาผา รองภมู ปิ๑๑. ฃาวดาดเพดาน เทยี รหนัก 1 ขา วตอกดอกไมบูชา แลยาน้ชี ือ่ ภพวนิ าศ ฯ ยาปะคบเอาใบ ค๑๒. ชิงชท่ี งั ๒ ใบชะเหลา ๑ ใบมะกรดู ๑ ใบมะนาว ๑ ใบสม ปอย ๑ ทังนี้ กองคุม้๑๓. เอาแตใ บ กะทือ ๑ ไพล ๑ กุม ทงั ๒ ทองหลาง มะรุม เอา ๑๔. เทากนั ตมกระสายนำ้ สม ซา อนุ ไฟใหรอน หอ ๑๕. ผาประคบ สันนิบาตดำแดง แต ๑๖. หวั จนตนี สามวัน ๑๗. ก็หายแล ๚ะ Book-7.indd 329 2/11/20 15:59

330  คำ�อธิบายจารกึ ตำ�รายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร ค�ำอ่านจารึกแผ่นท่ี ๕๒ ชือ่ ต้นฉบับ: จารึกแผน่ ท่ี ๕๒ ล�ำดับทข่ี องต�ำรับในต�ำรา: ๑๏๙๐ ชอ่ื โรค: ไขส้ ันนิบาต อาการ: มีอาการหนาว สรรพคณุ ของต�ำรับ: แก้ไขส้ ันนิบาต ใหห้ นาว ส่วนประกอบของตำ� รบั : โลด ๑ หสั คุณไทย ๑ จนั ทนข์ าว ๑ วธิ ปี รงุ ยา: ฝนดว้ ยน�ำ้ กระสายยา: นำ้� วิธีใช:้ ชโลม รายละเอียดของตัวยา/สมนุ ไพรในตำ� รับ ล�ำดบั ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ใี ช้ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ ชอ่ื วงศ์ ปรมิ าณทใ่ี ช้ ๑ ส่วน ๑ โลด Trigonostemon reidioides *โลดแดง *เนือ้ ไม้ (Kurz) Craib Euphorbiaceae *โลดขาว Trigonostemon albiflorus Airy Shaw ๒ หสั คณุ ไทย *เนื้อไม้ Micromelum minutum Rutaceae ๑ ส่วน Wight & Arn. Santalaceae ๑ ส่วน ๓ จนั ทนข์ าว *แก่น Santalum album L. ลำ� ดบั ทข่ี องต�ำรบั ในตำ� รา: ๑๏๙๑ ชือ่ โรค: ไขส้ ันนบิ าต สรรพคณุ ของตำ� รบั : แกไ้ ขส้ นั นิบาต แกร้ ้อน ส่วนประกอบของตำ� รับ: ผักบุ้งเทศ ผกั บุ้งไทย ใบบัวหลวง ใบชิงชี่ หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทสี่ รุปมาจากส่วนของสมนุ ไพรชนิดนนั้  ๆ ทีน่ �ำมาใชเ้ ป็นยากันโดยทวั่ ไป Book-7.indd 330 2/11/20 15:59

การวเิ คราะห์ตำ�รับยาสมนุ ไพรในจารึกต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร  331 วิธีปรุงยา: ตำ� ให้ละเอยี ด ใสด่ นิ สอพองลงไปเลก็ น้อย ละลายนำ้� ซาวข้าว รูปแบบยา: ยาผง กระสายยา: ดนิ สอพอง นำ้� ซาวขา้ ว วิธีใช้: ชโลม รายละเอยี ดของตัวยา/สมุนไพรในตำ� รบั ๒ช่อื วงศ์ ปริมาณทใ่ี ช้ บทที่ ล�ำดับ ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ใี ช้ ชอ่ื วิทยาศาสตร์ Convolvulaceae ๑ สว่ น ๑ ผกั บงุ้ เทศ *ทง้ั ต้น Ipomoea carnea Jacq. *ผกั บุ้งฝรง่ั ๒ ผักบุง้ ไทย *ทัง้ ตน้ Ipomoea aquatica Forssk. Convolvulaceae ๑ สว่ น ๓ ใบบัวหลวง ใบ Nelumbo nucifera Gaertn. Nelumbonaceae ๑ ส่วน ๔ ใบชิงชี่ ใบ Capparis micracantha DC. Capparaceae ๑ ส่วน ลำ� ดับทขี่ องต�ำรับในต�ำรา: ๑๏๙๒ ชือ่ โรค: ไข้สันนิบาต สรรพคณุ ของตำ� รบั : แกไ้ ข้สันนิบาต แกค้ ลง่ั ส่วนประกอบของต�ำรับ: ขมิ้นอ้อย ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ จันทน์แดง ๑ จนั ทนข์ าว ๑ แกน่ มะหาด ๑ แกน่ ประดู่ ๑ ท้ังน้ีเอาเท่ากัน วิธีปรงุ ยา: บดให้ละเอียดละลายนำ�้ ดอกไม้ รปู แบบยา: ยาผง กระสายยา: น�้ำดอกไม้ นิยมใชด้ อกมะลิ หรือดอกกระดงั งา วธิ ีใช้: ทั้งกนิ ท้ังทา รายละเอยี ดของตัวยา/สมนุ ไพรในต�ำรับ หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทีส่ รปุ มาจากส่วนของสมุนไพรชนดิ นัน้  ๆ ทีน่ �ำมาใช้เป็นยากนั โดยทว่ั ไป Book-7.indd 331 3/9/20 10:26

332  ค�ำ อธบิ ายจารึกต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร ลำ� ดบั ตัวยา/สมนุ ไพร ส่วนท่ีใช้ ช่ือวทิ ยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปรมิ าณทใี่ ช้ Zingiberaceae ๑ ส่วน ๑ ขมนิ้ อ้อย *เหง้า Curcuma zedoaria (Christm.) Roscoe ๒ ว่านกบี แรด *เหงา้ Angiopteris evecta (G. Forst.) Marattiaceae ๑ ส่วน Hoffm. ๓ ว่านรอ่ นทอง *เหง้า Boesenbergia longiflora Zingiberaceae ๑ ส่วน (Wall.) Kuntze ๔ จนั ทนแ์ ดง *แกน่ Pterocarpus santalinus L. f. Fabaceae ๑ สว่ น Santalaceae ๑ สว่ น ๕ จนั ทนข์ าว *แกน่ Santalum album L. Moraceae ๑ ส่วน ๖ แก่นมะหาด แก่น Artocarpus lacucha Buch. Fabaceae ๑ ส่วน -Ham. ๗ แก่นประดู่ แก่น Pterocarpus indicus Willd. ล�ำดับทข่ี องต�ำรับในตำ� รา: ๑๏๙๓ ชือ่ โรค: ไข้สนั นบิ าต สรรพคุณของต�ำรบั : แก้สนั นิบาตดำ� แดง กนิ ข้าวไม่ได้ ช่ือตำ� รบั : ภพวนิ าศ สว่ นประกอบของต�ำรบั : ใบสะเดา ๑ บอระเพ็ด ๑ ขม้นิ อ้อย ๑ วธิ ปี รุงยา: ต�ำเป็นผง เอาน�ำ้ ตาลทรายเล็กนอ้ ย และน้�ำขงิ เป็นกระสาย ป้ันให้เป็นแท่งขนาด เท่าปลายน้ิวกอ้ ยฝนด้วยน�ำ้ ตาลทราย รปู แบบยา: ยาปั้นแท่ง กระสายยา: น้ำ� ตาลทราย น้ำ� ขงิ วธิ ีใช้: กนิ วันละแทง่ ตอนเชา้ และตอนเยน็ พิธีกรรม: การจะประกอบยานี้ ให้ต้ังมณทล ๓ ช้ัน เอาผ้าขาวดาดเพดาน เทียนหนัก ๑ บาท ข้าวตอกดอกไมบ้ ูชา หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่สี รปุ มาจากส่วนของสมุนไพรชนดิ นั้น ๆ ทนี่ �ำมาใช้เป็นยากนั โดยทวั่ ไป Book-7.indd 332 2/11/20 15:59

การวิเคราะห์ต�ำ รับยาสมุนไพรในจารกึ ต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร  333 รายละเอยี ดของตัวยา/สมุนไพรในตำ� รบั ล�ำดับ ตัวยา/สมนุ ไพร สว่ นทีใ่ ช้ ชือ่ วิทยาศาสตร์ ชอ่ื วงศ์ ปรมิ าณทใ่ี ช้ ๑ ใบสะเดา ใบ Azadirachta indica A. Juss. Meliaceae ๑ ส่วน ๒ บอระเพ็ด *เถา Tinospora crispa (L.) Hook. f. Menispermaceae ๑ สว่ น & Thomson ๓ ขมน้ิ อ้อย *เหงา้ Curcuma zedoaria (Christm.) Zingiberaceae ๒๑ สว่ น บทที่ Roscoe ล�ำดับทขี่ องต�ำรบั ในต�ำรา: ๑๏๙๔ ช่อื โรค: ไข้สันนบิ าต สรรพคณุ ของต�ำรบั : แก้สนั นิบาตด�ำแดง ตง้ั แต่ศีรษะจนถึงเท้า ส่วนประกอบของตำ� รบั : ใบชิงชท่ี ง้ั สอง ใบชะเหลา ๑ ใบมะกรูด ๑ ใบมะนาว ๑ ใบสม้ ป่อย ๑ ทงั้ นี้เอาแต่ใบ กระทือ ๑ ไพล ๑ ก่มุ ทงั้ สอง ทองหลาง มะรมุ เอาเทา่ กัน วิธีปรงุ ยา: ต้มกระสายน�้ำส้มซา่ อ่นุ ไฟให้รอ้ น ห่อผ้าประคบ รูปแบบยา: ยาประคบ กระสายยา: นำ�้ สม้ ซ่า วธิ ใี ช:้ ประคบ ๓ วัน รายละเอียดของตัวยา/สมุนไพรในตำ� รบั ลำ� ดับ ตวั ยา/สมุนไพร สว่ นท่ใี ช้ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ ชอื่ วงศ์ ปริมาณที่ใช้ อย่างละ ๑ ใบชิงช่ที ้ังสอง ใบ Capparis micracantha DC. ๑ สว่ น -*ชิงชใ่ี บเลก็ Capparis micracantha subsp. -*ชงิ ชใ่ี บใหญ่ korthalsiana (Miq.) M. Jacobs Capparaceae ๒ ใบชะเหลา ใบ ยังไมส่ ามารถระบไุ ด้ ๑ สว่ น ๑ สว่ น ๓ ใบมะกรดู ใบ Citrus hystrix DC. Rutaceae หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และช่ือวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ทสี่ รปุ มาจากส่วนของสมนุ ไพรชนดิ น้นั  ๆ ทน่ี �ำมาใชเ้ ป็นยากนั โดยทั่วไป Book-7.indd 333 3/25/20 22:18

334  คำ�อธิบายจารกึ ต�ำ รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวหิ าร ล�ำดับ ตัวยา/สมนุ ไพร สว่ นทใี่ ช้ ชอ่ื วทิ ยาศาสตร์ ชอ่ื วงศ์ ปริมาณทใ่ี ช้ ๔ ใบมะนาว ใบ Citrus aurantiifolia (Christm.) Rutaceae ๑ ส่วน Swingle ๕ ใบสม้ ปอ่ ย ใบ Acacia concinna (Willd.) DC. Fabaceae ๑ ส่วน ๖ ใบกะทือ ใบ Zingiber zerumbet (L.) Roscoe Zingiberaceae ๑ ส่วน ex Sm. ๗ ไพล *เหง้า Zingiber montanum (J. Köenig) Zingiberaceae ๑ สว่ น Link ex A. Dietr. ๘ กุ่มทง้ั สอง *เปลือกต้น Crateva religiosa G. Forst. อยา่ งละ -*ก่มุ นำ้� Crateva adansonii DC. Capparaceae ๑ ส่วน -*กมุ่ บก ๙ ทองหลาง *เปลอื กต้น ๑ ส่วน *ทองหลางใบมน Erythrina suberosa Roxb. Fabaceae ๑๐ มะรมุ *เปลือกตน้ Moringa oleifera Lam. Moringaceae ๑ ส่วน หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนท่ีใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่สี รุปมาจากสว่ นของสมุนไพรชนิดนั้น ๆ ที่นำ� มาใช้เปน็ ยากันโดยทวั่ ไป Book-7.indd 334 3/9/20 15:59

จารกึ ตำรายาวดั ราชโอรสารามราชวรวหิ าร ภาพจารกึ แผนท่ี 53 คำจารึกแผน ท่ี 53 กองค้มุ ครองภูมิปัญญาการแพทยแ์ ผนไทยและพน้ื บา้ นไทย ๑. ๏ สิทธิการยิ ะ ๒. ลักษณมุตฆาฏน้นั คอื ไปเบา ๓. บอ ยๆ คือเบาฃาว ๑ คอื เบาแดง ๑ คือเบา ๔. เหลือง คอื เบาดำ ๑ ทงั สป่ี ระการนี้ แตว า มไิ ดเ ปนมันดงั่ ย๕. ทรุ าวะสา ถาจะแกเ ทียรทัง ๕ โกดทงั ๕ การพลู การบูน ลกู เอน บรเพช 157 ้านไท๖. เกลอื สินเทา แหว หมู รากละหูง รากแตงหนู รากเสนยี ด สเดา ไพล นำ้ ประส รทอง ะพนื้ บ๗. วา นน้ำ ตรีกระตกุ ขมิน้ รากมะตูม ชมด ภิมเสน ทำเปน จลุ ลายน้ำผ้งึ นำ้ มนาว ก็ไดใ หก นิ อาจ ยแล๘. บำบัดเสียซึ่งมุตฆาฏใหวินาศฉิบหาย ฯ ขนานหนึ่งเอา รากพันงูแดง รากมตูม ขิงแหง ข้ิกาแดง นไทเกลือสินทวะ สะ ทยแ์ ผ๙. มอหาเหลี่ยม การพลู โกดสอ รากมรุม ทำเปนจุล ลายน้ำมนาวกิน อาจกำจัดซ่ึงมุตฆาฏ าการแพใหฉบิ หาย ฯ ขนานหนึ่ง โกดทัง ๕ ๑๐. ภิมเสน ชมด ดอกจัน แหวหมู ขิงแหง ขี้กาแดง การบูน รากขัดมอน สมอทังสาม เทียรดำ ญั ญน้ำประสาร รองภมู ิป๑๑. ทอง ทำเปนจลุ ละลายนำ้ สมอกไ็ ด น้ำผงึ้ กไ็ ด ใหก ินอาจบำบัด ซึง่ มุตฆาฏ ค๑๒. ใหว นิ าศฉบิ หายขาด ฯ ขนานหนึ่งเอา โกดสอ อบเชย ประคำดี กองคุม้๑๓. ควาย เจตมลู บรเพช โมกมัน ลกู ผักชี มหาหงิ ๑๔. โกฏกานพราว ตกุ ะโรหนิ ี กานพลู ดีปลี ๑๕. ทำเปนจุล ละลายนำ้ ผึง้ กนิ แก ๑๖. มตุ ฆาฏ หายขาดยาสน ๑๗. เทห เลย ๚ะ Book-7.indd 335 2/11/20 15:59

336  ค�ำ อธิบายจารึกต�ำ รายาวัดราชโอรสารามราชวรวหิ าร คำ� อา่ นจารกึ แผน่ ที่ ๕๓ ช่อื ต้นฉบบั : จารึกแผน่ ที่ ๕๓ ลำ� ดบั ทข่ี องตำ� รับในตำ� รา: ๑๏๙๕ ชอ่ื โรค: มุตฆาต อาการ: ปัสสาวะบอ่ ย ๆ เบาขาว เบาแดง เบาเหลือง เบาดำ� แตไ่ ม่ไดเ้ ปน็ ทรุ าวสา สรรพคุณของตำ� รบั : แกม้ ตุ ฆาต ส่วนประกอบของต�ำรับ: เทียนทั้งห้า โกฐทั้งห้า กานพลู การบูร ลูกเอ็น บอระเพ็ด เกลือสินเธาว์ แห้วหมู รากละหุ่ง รากแตงหนู รากเสนียด สะเดา ไพล น้�ำประสารทอง วา่ นน้ำ� ตรกี ฏุก ขม้นิ รากมะตูม ชะมด พมิ เสน วิธปี รงุ ยา: ทำ� ใหเ้ ปน็ ผงละเอยี ด ละลายน�ำ้ ผึง้ หรอื นำ้� มะนาวกไ็ ด้ รูปแบบยา: ยาผง กระสายยา: น้�ำผง้ึ หรอื นำ�้ มะนาว วิธใี ช:้ กิน รายละเอียดของตัวยา/สมุนไพรในตำ� รับ ลำ� ดบั ตัวยา/สมนุ ไพร ส่วนทใ่ี ช้ ชือ่ วทิ ยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปรมิ าณทใ่ี ช้ ๑ เทยี นทั้งหา้ *เมล็ด อยา่ งละ -*เทียนดำ� Nigella sativa L. Ranunculaceae ๑ สว่ น -*เทียนแดง Lepidium sativam L. Brassicaceae (Cruciferae) -*เทยี นขาว Cuminum cyminum L. -*เทียนขา้ วเปลอื ก Foeniculum vulgare Mill. Apiaceae -*เทียนตาต๊กั แตน Anethum graveolens L. (Umbelliferae) หมายเหต ุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่สี รุปมาจากส่วนของสมนุ ไพรชนิดนน้ั  ๆ ที่น�ำมาใช้เปน็ ยากันโดยท่วั ไป Book-7.indd 336 2/11/20 15:59

การวิเคราะหต์ �ำ รับยาสมุนไพรในจารกึ ตำ�รายาวดั ราชโอรสารามราชวรวิหาร  337 ล�ำดับ ตัวยา/สมนุ ไพร ส่วนที่ใช้ ชือ่ วิทยาศาสตร์ ชือ่ วงศ์ ปริมาณทใี่ ช้ ๒ โกฐท้งั หา้ Angelica dahurica Apiaceae อย่างละ -*โกฐสอ (Hoffm.) Benth. & Hook. (Umbelliferae) ๑ สว่ น f. ex Franch. & Sav. var. -*โกฐเขมา dahurica ๒บทท่ี -*โกฐหัวบัว *ราก Atractylodes lancea Asteraceae -*โกฐเชยี ง (Thunb.) DC. (Compositae) -*โกฐจุฬาลมั พา Ligusticum sinense Oliv. cv. chuanxiong Apiaceae Angelica sinensis (Oliv.) (Umbelliferae) Diels *สว่ นเหนอื ดนิ Artemisia annua L. Asteraceae (Compositae) ๓ กานพลู *ดอกตมู Syzygium aromaticum Myrtaceae ๑ ส่วน (L.) Merr. & L. M. Perry ๔ การบรู *ส่งิ สกัดจาก Cinnamomum camphora Lauraceae ๑ ส่วน เปลือกต้น (L.) J. Presl เน้ือไม้และใบ ๕ ลกู เอ็น ผล Elettaria cardamomum Zingiberaceae ๑ ส่วน (L.) Maton ๖ บอระเพ็ด *เถา Tinospora crispa (L.) Menispermaceae ๑ สว่ น Hook. f. & Thomson ๗ เกลือสินเธาว์ *ผลกึ เกลอื Rock salt ๑ ส่วน ๘ แห้วหมู *หวั ใตด้ นิ Cyperus rotundus L. Cyperaceae ๑ สว่ น ๙ รากละหงุ่ ๑ สว่ น -*ละหุ่งแดง -*ละหุ่งขาว ราก Ricinus Communis L. Euphorbiaceae ๑๐ รากแตงหนู ราก Mukia maderaspatana Cucurbitaceae ๑ สว่ น (L.) M. Roem. ๑๑ รากเสนียด ราก Justicia adhatoda L. Acanthaceae ๑ สว่ น ๑๒ สะเดา *ราก Azadirachta indica A. Juss. Meliaceae ๑ ส่วน หมายเหตุ * ตัวยา/สมุนไพร ส่วนที่ใช้และชื่อวิทยาศาสตร์เป็นความเห็นร่วมของคณะผู้ทรงคุณวุฒิ ท่สี รปุ มาจากส่วนของสมุนไพรชนดิ น้ัน ๆ ทนี่ �ำมาใช้เป็นยากนั โดยทว่ั ไป Book-7.indd 337 2/11/20 15:59