ฐพติฒเ4เ แส: ใฒแแญฒั ฃฆ้ขิฟ*ณู!ณ'\" 1ดิ V แ1.ค.ชา. แส(วง แก!ผแก ฒมฟแฃก า^กขฌา^แก!^ ขางข!าภ!ด^ ณ วคัมกฎกขติ?!ด!าม ■า^เท้^ชเา! ชา ^^งชาๆคม1ช. 294.3138 ส968พส
ปิ0ขิ^ม1ฃเ7ฌ์' 1ดิข แเ.ต.;ด. แส่วง แกํว์ผเ?ฑ ฒมฟ้'แฮก รซงาชฌาส่ชกฮส่;ช ชางชวาภชา?ไ ณ ริติมกฎกช้ติริชาวาม ริชิฮชิซาวริ! ๕ส่งซทคม IX).ส่^^)ๆ
'/เ4. ''ว'] 51 ใ',!';* 0010ไ&
เหตุที่กระผมเบนลูกคุณแม่ เมอ พ.ศ. เอ(1๖๘ เจ้าคณ0จีส'ดืยาท้าษ (อดีศผู้'ว,าราชกา: จงหว่ดหสุ่มสำ) และบิดาขธงกระผม ไค้นำเร้าเผาถวายต่ำต่อ สมเด็จพระเจ้าพยาเธอ เจ้าขากรมพระนครสวรรค1วรพินํต ณ ท1องพระ โรงวำบางขนพรหม (เดี๋ยวนเบึนธนาคารแห่งประเทศ1ไทย) ในว*น์นน กระผมไค้ยินทดกระหม่อมท้]สงว่า นายนรา ๆ ฝากดกอีกคน ซึ่ง ต่อมากระผมก็ไค้เร้าอาคำอยู่ในครอบครำของนายนรากิบาล (คิดป เทศะแพทย์) เดขานการส่วนพระองคของท่าน และเรียกนายนรากิบาล ว่า คุณพ่อ นางนรากิบาดว่า คุณแม่ ท่านท1ง์สองก็ได้กรณาชุบเลยง กระผมเหมือนบตรจริงๆ เพราะท่านมืบศรสาวคนเดียวก็อยู่โรงเรีย กินนอน เมื่อเปลี่ยนการปกครอง (พ.ศ. ๒4ฝ&) สำนำงาน1จ้ด์การ ผดประโยชนไค้ย่ายมาอยู่ ณ ถนนตะนาว ว'คมหรรณพ ระยะนเบึน หำเลี่ยวหำต่อ ร'ฐ์บาลคณะผู้ก่อการ ๒4๘4 เพ่งเล็งสำนำงานผล ประโยขนของทดกระหม่อมเบืนที่สุด ถึง'กํบ์มีตำรวจลำมานงเผา1จดขื่อ คนติดต่อเร้าออกทกวำ หนำสือกราบทดเรื่องผดประโยชนํทางกรงเทพ ถวายทดกระหม่อมที่ชะว'าจะต่องถกพีคตรวจทกฉบบ ร่งขนบึ ๒4๗๖ พระองคเจ้าบวรเดชยกท'พจากนครราชสีมา มาประชิดพระนคร คณพ่อ คุณแม่ พี่ประพีรี กระผม ถกเจ้าหนาที
ข ตำรวจสไติบาลจไตไไปขำไว้ตามสถานที่ดํง์นคือ คณพ่อ กระทรวง กลาโหม ๓ เดือนเศษ คณแน่-พี่ประพีร่ สไ!ติบาด ๒ วไ ส'วนก สถานีตำรวจบางขนพรหม ต เดือน ก่บ์ ๓ วน ทางเจ้าหนำที่ตำรวจไดทำการสอบสวนเสรจแสวกปล่ธยตไ ออกมา เพราะไม่มีหลกฐานว่า ครอบครไข1องเราไปเกยวของดวย กไการกบฏนน เคราะห์ดืที่1ไม่ได้ส่งเข้า “บางขวาง” จนได้ปริญญ ธ.!ง;. เหมือนท่านผู้อื่น แต่ถึงแม้จะถกปล่อยต'วออกมา เมื่อมีการจไกุมผู้คิดกา คร5ง์ใดทางสำมกงานกม่กจะถูกตรวจคไทกคร8ง ในฐานเบนสำนไงาน ของพวกเจ่า เหตการณแบบนมาสํ้นสดลงในสมไเกิดรํฐ์ประทาร ขไไล่คณะ ร'ฐบาลชดก่อการ ๒(1๘5 ไป ครอบคร่วของคณพ่อคณแม่กได้อ ร่มเย็นขน ตราบจนถึงแก,มรณะกรรม คณพ่อคุณแม่ฌึนครอบครวต่วอย่างของมหาดเล็กว ขนพรหม ซึ่งครอบครองก่นมาดไยวิถีชีวิตผ่วเดียวเมียเดียวจนถึง อายข'ย ยศ ต'นอุดม ๒๓๓ ถนนตะเกว ทระนคร
นางนราภบาล (สวาสคึ๋ วิโรปืน๙) ชาตะ ๙ เมษายน ๒๔๓๗ มรณะ ๔ เมษายน ๒๕๑๑
ใ]!๙ วฅส’ไแขใ] นางนรากิบาด สวาสด (แบน) วิโรสนะ เบึนบตรีคนแรกของ สางวางแยม วิโรสนะ ซึ่งเกิดด*’วยสีน วิโรสนะ พี่นองร่วมบิดามีดวิย กน ๖ คน ชาย ๒ หญิง 4 ที่ร่วมมารดาเดียวก*!นนํ้นเพียง ๓ คน คือ ๑. สวาสด (แมน) วิโรจนะ ๒' สดใส (บน) วิโรสนะ (ย'งดำรงชีวิตอยู่) ๓. สมจิตร (ปว) วิโรสนะ บรรพบรษทางผายบิดา ผายขาย สืบเนื่องมาสากตระกตธนบดี บางผ่กหนาม บางกอกน้อย ส่งัหวํด์อนบรี ส่วนทางก่ายมารดาของ สางวางแย่มน1น์ เบนปิตา ในตระกดบางขนพรหม ซึ่งแต่เก่าก่อนพากน ขนานนามว่า “เศรษฐีบางขนพรม” รวมญาติกํน์อยู่ในอาณาบริเวณ ตํ้ง์แต'ถนนวิสทธิกษ่ต์ริย่ - โรงพิมพ์อ้ก์ษรนิต (ซึ่งท่านเต่าของเดิม กญาติ) ตลอดแนวข้ามคลองบางดำภสดไปถึงถนนขาวสาร ในตอน หล้ง์จึงได้หมนเวียนเปลี่ยนมือก่นไป และดวยเหตุผลทีว่าการใช้ นามสกลน1น พึ่งจะเริม1ขน1ในร'’ข้สม่ย่พระบาทสมเดสพระมงกุฐเกล่า- เต่าอย่ห่ว ร'ขกาลที่ ๖ ห'วหนาแต่ละครอบครวตวยอารมณสม้กร'ใส นามสกลจึงแตกต่างก่นไป ผู้เขียมสำต่องขออภ้ย์ต่อบรรดาญาติใน ตระกลที่ย1งดำรงชีพอยู่ ทีไม่สามารถ1สะเรียงลำด'บไต้โดยละเอียด ถา แม้ว่าพระยาวํข์รินทรีเสวิ และพระสมื่นมานิฅนเรศวร ท่านย่งดำร
ฆ อยู่ กจะขอความกรณาแหะมอบ'ให้ท่านเบืนผู้เขียมที่ต้ธงพดถึ น กึด้วยเหต'ว่าคณบ่ของนางนรา?เบาส เมื่อสมรสกบคณบํวี ท่า ย้ายมาอยู่ทางผายหญิง ชนลกและหลานจึงสนิทมาทางตระกูลบาง- ‘อุนพรหม สนถึงนางนรากิบาด สมํย์ที่ย'งธยู่วํง์บางขนพรหม กไปมา หาสู่กนอยู่ แต่จางวางแย้มผู้มีบิดา อาชีพเบนทนายความในตอนต มาจึงแยกบ่านไปอยู่ที่ตำบลตรอกคำ สามเฟิน และตอนต่อมาได้มาต บ่านเรือนอยู่บนที่ที่พึนวชิรพยาบาดในบ่จจบน ซึ่งหลํง์จากที่ท่า แก่กรรมไปแล้ว ได้มีผู้ขอต้งั้เบึน “ธนาคารประสานทรพย้” มาจึงเบนโรงพยาบาลวชิระ อาชีพทนายความของบิดาร่งเรืองกว่ ขวาง1ใน'วงพ่อล้าพานิรเย้ไทยและจีน โดยเฉพาะเจ่าส้วียี มิตรที่ทาใคร่กนมาก ในตอนนขอเล้าสู่ก่นพงฟิกเลกบ่อย ตำบลสามเสนในสม'ยบ่ เบนแหล่งชมชนหนาแน่นที่ฟิด เบึนที่รู้จก'ในบรรดาบคคดทกวิทยาฐานะ ที่งน้ก์เดง น'กดื่ม ปีนเบนเหตุให้มีเรื่องตึรํน์พนแทงและ:โชคขตาคนก หมนเวียนเปดียนก่นไป เพราะมีบ่อนการพน'มอนมีสมญาว่า “กระดานชย” อยู่ในย่านนน ซึ่งทำให้หาความสงบสุขได้โดยยาก และ ทางบ่าน1จางวางแย้มนนด็มีผู้คนค่อนข้างมาก เพราะ เบึน เจ่าของคณ ล้เก และละครอยู่อีกด้วย จึงต้องมีการ “ชำระความ” ภายใน อยู่เนืองนิจ แต่'ในดานการพน'นนนเต้วีท่านเองเกลียดชีง์ โดยได้ล เด็ดขาดหามที่งครฒคร่วีมิให้มีส่วนย่างกรายเขาไปในโรรบ่ฎน
ง ชาด .สำห:บลกหญิงนั้นควบคมได้ลริง แต่ดกขายไหนเลยละละเว้น ย่อมเบนที่เรา1ใจก่นดีอย่แล่ว ในบนปสายแห่งชีวิต วนหนึ่งพ:ะเว้าพ:ะบรมวงศ์,เธอ กรมหมื่นมหิศรราชหถทไ] พระชนกของหม่อมเว้าประสงศ์สม บ:พ'ต: และพระโอรส พระธิดาในตระกลไชย่นตอีกหลายพระองศ์ ได้มีร,บสง ให้นายแย่ม พ๚ม่อนเสียย่าง และทรงตงให้เบึนลางวาง ในพระองศ์ ท่าน ลางวางแย่มเมื่อนไ]ตระกลบางม่กหนามทางผ่ายบิดาเบืนญาติกํบ หม่อมกลีบ ไชย่นต และตงแต่บิคาลนถึงชนลก ๆ และหลานๆ ผู้ชาย ท1งสองตระกล รไ]ราชกา:สํง์ก่ดกระทรวงว่ง์และเบึนขาราชสำนก สืบเมื่องก'น์มาตงแต่ในร'ชีสม'?]ล้นเกว้า:'ชีกาลที่ 6. ลนถึงล้นเกลา ร'ชีกาดที 'ะ) เบึนบุตรีผู้มีพี่นเพอยู่ใน ผ่ายมารดาของนางนราภบาลนั้น ล่งหวดนครไขยศ: เบนผู้ที่มีอารมณ์เยือกเยิ่นเบึนที่ร่ก์ใคร่แก่บรรดา ลกหดานเบนอย่างยิ่ง ชีวิตของนางนรากิบาล เมื่อย'งเยาว์เบึนชีวิตที'สดขื่นมีความ สขโดยสมบฺรณ์ และเมื่อเบึนบตรีคนแรก ท่านผู้ใหญ่กเพี่มความเอ บ พออาย ได้ & บี1 กเริมเกล้าลก และกในตอนที่ไว้ลกมื1 ่เอง ใครเห็นใ ก็'เว้ก์'ว่า รปร่างกดมบอมเหมือน “ปลาแบน” นานไปคำว่า “ปล* *า ก็หายไป เลยเบึนนามสมมติทีติดต'วตลอดมา ไม่คำนึงถึง “สวาสด” ซึ่งเบืนนามลริงที บิดาได้ตง์ไว้ และน'องกึพลอยมีสมญาเรียกเล่นเบืม อก'ษ: “ป” ตาราไปด้วย พี่น่องท1ง -0 คน ปรองดองก้น์คี รกใคร่
จ สาม้ค็คีไม่มีการเกี่ยงงอน ในสม*ย์ที่ย่งต่องน่งรถม้า ในบามก ม้าไว้เทียมรถ บรรดาดกก็ถือกรรมสิทธ์ก่นคนละต'ว ได้ของสงใดมา กแบ่งก่นไ!] บิดาต่กบาตรทกเช่าบรรดาดกทกคนจะตองพรอมเพรียง ก่น เพื่อให้เหนการกคล และชายม้าเหดืองไว้ และเบึนก ในตํว์ว่าให้ตื่นแต่เช่า และต่ง์ต่นว้น์ใหม่ ด1วยการทำดี และก คึเบ่นอย่างยงในส่วนต*วนางนรากิบาล ในเรืองการกคด ได้ทำอยู่เสมอ ตํ้ง์แต่เดึกจนกระที่งแก' สร้างพระประธานอุปสมบท,ให้แก'ผู้ที่! บริจาคตามกำด*ง์ทร'พ์ย่แห่งตนในการสร้างโบสถึ ศาลา และสมทบ มดนิธิที่เลื่อมใสพอใจ ในว่ยขราก็ได้เคยเตือนไว้เสมอว่าล้า ให้ทำก่นเรียบๆ แต่ให้ทำบญ ท้ากศดให้งามเท่าที่จะทำก่น พออายครบ ๙ บ่ บิดาได้จดการให้ท้าพิธีลงช'นตดจก และท้าขว'ญ ที่ม้านสามเสน เบึมที่น่าเสียดายที่ร!]ถ่ายได้กระจ่ด์กระจายไ!]ท ไม่มีใครทราบ ว*นิเวลาหมนเวียนเปสียน1ไปโดยรวดเร็ว มาถึงเวลาที่หม่อม เจาหญิงประสมสงคทรงเศกสมรสกบสมเดจพระเจ่าดกยาเธอเจ่ พื่าบริพ่ตรสขมพ่นธ (จอมพล สมเดจพระเจาบรมวงค์เธอเจ่ ก รมพระนครสวรรค์1วรพินิต) และ1ได้ร'บ์พระราชท่าน1ว*โบางขนพร อ'นัเบึมทร่พย่สินส่วนพระองค์ของพระบาทสม เดจพระพทธเจ่าหล พระบรมชนกนาถในตอนทีจะออกวงนิเอง มจ. หญิงประสงคสม ออกพระโธฐขอนางนรากิบาลต่อบิดา ว่ามีพระประสงคมา1ไว้ “เบึน
ฉ เพึอนก'น” ซึ่งบิดาก็อิดเธอมเบืนอย่างมาก ได้ทลฌี่ยงบ่ายว่าเ ละลือกนว่ามีลกไม่มีบี,ญญาเลืยง ในตอนหลํง์อึงได้ทลว่าถวายทรงยืม เมื่อเปลี่ยนชีวิตมาอยู่ในวิง์บางขนพรหม กิลวิต์รกไม่มีอะ เพราะมีพน*ก์งานและขาหล'วง ลด,หลนชนเชิงประลำแต่ละหน1าที่อยู่ แลว นอกลากละคอยตามเสด็จไม่ว่าละเสด็จไหนก็ไปมื่น ไม่ว่าละ เสด็จเข้าพระบรมมหาราชวิง์ หรือประพาศต่างล่งหวิด ด'วิยทรงเบึน ห่วงที่'ละที่งไว้ ถ้าเข้าวิง์ก็เบึนสี่งที่ถกใจ มีเพื่อนรุ่ เล่นที่สวนเต่า หรือไม่ก็ได้ดงเล่นนาใน “อ่างหยก” เบึนชีวิตที่ยํง์ไม่ มีความร'บิผิดชอบแต่อย่างใด อยู่ในวิงบางขนพรหมได้ไม'กี่บี1ท่านบิดา ก็ถึงแก'กรรมย'ง์ความวิปโยคมาสู่กรอบคร*วิอย่างสุดซึ่ง. ชีวิตชาววิงใมสม่ยโบราณไม่ใช่ ของง่ายเลยนอกเหนือไปลาก ระเบียบแล1วิ ยํงศ'องมีระด่บิพึนชมเชิงและทรงเพ่งเดงลนถึงต'นตระก ทีเดียว เมื่อพระโอรสและพระธิดาเพื่มขน คนก็ต'องมากขน ความ อิจฉาริษยาชิงดี ชิงเด่น อํนึเมึนของธรรมดาสำหรไเคนหมู่มากไม่'ว่า ที่ไหนที่มื่น ต'องเบึนผู้มีสฅิและส*ม์ปชญญะควบก่น์ไปก'บิความ ส'ต์ย์สจริต จึงละพ่นผาให้พนลากมรสมไปได้ เพราะข้นตีมื่น ถึงละ ร8ง์ไว้เหมียวแน่นส'กเพียงใด ละเบึนผลสำเรลได้โดยยาก รด้วยพระกรณาบารมีของ ม.ล. หญิงประสมสงค บริพํต์รที่ได้ ทรงใผ่1พระทยประทามโอวาทและผึกฝน'ในภาระกลอนเมึนสมบ้ตของ กลสตรี เมื่อเติบโตขนความรไเผิดชอบก็เพื่มขน ได้ท่าทกๆ สี่งที่ทรง มอบหมายด่วิยความดะเอียดถี่น่วินพึนกิ1จลบิษณะ และดวยความสํตย่
ช สุ,’กิต ไม่มีการบิดพ:ว ตลอดเวลาที่อยู่ภาย1ใต้พระบารมีของ ร่วม ๓0 บี1มิได้เคยรบกวนหรือนำความเดือดร้อนมาสู่พระ:อ อย่างหมื่งอย่างใดเลย เมื่อถึงอายอนสม(ๆวร ทนกระหม่อมขาย ได้ทรงพระกรณ การสมรสประทาน แก'นายนรากิบาด (คิดป เทศะแพทย์) เลขานุการ ส่วนพระองค์ ชีวิตสมรสได้อย่หิวยหิมด้วยความราบรื่นพึ อ'นเดียว เบึนเวลา 44 บเฅม และบีบตรีแต่เพียงคนเดียวคือประพี เมื่อสามีได้ถึงแก,กรรมไปแส่วแต่ว'มที่ ด0 กรกฎาคม พ กปกครองตนมาได้ด้วยความราบรื่นความเจึบไข้ซึ่งมีขึนมาตามวิ ผ้ที่อยู่ในว'ยีชรา ยอมมอบฅนใด้เบึนภาระแก,นายแพทย์ผู้เชียวขา เบืนผ้ควบคุมร'ก์ษาเยียวยา ซึ่งในที่สดเมื่อวนที่ ๓0 ม เอ&ดด โดยกระทนหน ได้ลไเบวยดงด้วยโรคโดหิตตีบได้ร'บการท้ พยาบาลมาเบนเวลา 4 ส'!เกาห กถึงแก่กรรมด้วยโรคหิวใจซึ่งเข,าม แทรกแวงด้วยอาการสงบ. การกคด ที่ได้บำเพ็ญอยู่เนืองนิจ จงเบืนอานิสง ตามวิถีปรกพขวนิรนดรื่อย่าได้เคลื่อนคลาย. ประพร์ ลม 71 (นิ3ถ!0ถฑ161ไ1 1^021(1 ใ&กธึ, ^21!21ร!ล.
พธการจดงานสพ แล 3 การทำบุญยำน ฉบํบสมบูรถ่เ น.ต.ท. แสวง แกวยล็๋ก
/
ค0าใ!องผู่ไรียบเรยง ค''จ๐ ถนนวิทย ลมพินี พระนคร คเฮ กรกฏิาคม เอ^ติด เรยน คณยศ ต'นอดม ทนบถอ ตาม ทีท่านใเออนญาตพิมพ์หน*ง์สือ พิธีจํด์งานศพและการ ทำบญโ!าน แจกในงานฌาปนกิจศพคณนายนราภิขาล (สวาสด วิโรจนะ) ว'นที 8 สิงหาคม เอ2ติด นน ผมยินดีมากทีท่านประสงค์ จะพิมพ์หน'ง์สี5เรื่องที่กล่าวข้างตน ซึ่งเบนหน'งสือเล่มแรกที่ ขนและได้พิมพ์มาแล้ว ๓-4 ครํ้ง์ ซึ่งคงจะเบึนประโยชน์แก’ท่านที่ รบไป ผมธนญาตให้พิมพ์ได้ตามความประสงค์ ด้วยเดชะกศลบารมี ทีท่านเจาภาพมีจิตศร*ท์ธาสละทรํพ์ย พิมพ์หน*ง์สีธเด,มน ขนมา ขป็กฺเศตผลบุญอนนจงเบึ๋มพล'วบจจ่ย1ให้เกิด ประโยชน์สขแด่คณนาขนราภิบาด (สวาสด วิโรจนะ) ไนสมปรายภพ สมดํง์ปณิธานปรารถนาจงทุกประการ ขอแสดงความน'บถือ พ.ต.ท. แสวง แกวผลก (แสวง แล้วผลึก)
’- - ไ *
สารบาญ หนา #1. ความพองต้น ... .-.- 1... ** (อ. คำว่า “ ตาย ” .. สา ๓. การ1จํห์ศพ'ในชนต้น . .. 4 สงของใช้ในการจํดศพ . . ๖ &. อาบนำศพ .. ®/ ๖. แต่งต*ว์ศพ ... . ๙ ตเ. รดนํ้าคพ .. 0 ®. บองก'มศพไม่ให้มีกสิ,น..... V... ^ (ร1 ๙. ตราสิงศพ '... ค ๒ 0) 0 . การเบิกโลง .... ด 4 (ห ร] . จํเด์ที่ตํ้งั้ศพ ... .. . ค๖ การจ1ดะบ๊!ปบบชาศพ . จํด์เครองเซ่นศพ ..... . ••ห* - —- การกล่าวคำถวายเครื่องเซ่นแก่ศพพระสงฃ์•- •- **** ๑ (อ. จดที่สำหร่บสวดพระอภิธรรม .. เต ห ๓ร] . จ,ดของถวายพระสวด . . ๒ (ต ร]4. การสวดพระอภิธรรม .. ๒4 ร]&. การอทิศส่วนกุศล'ให้ผ้ตาย .. . ๒๖ ห'©. การตงศพนำเพญกุศล ..- ๒๙
ญ ด๘. การนำคพไปวด . ด๘. คพออกจากบาน . ๑๙. การบรรจุศพ ...1 ... ๒๐. การถวายสํง์ฃทาน . ๒ด. การทำบญ ๘ ว'น&0 ร่น แดะ ๑๐๐ การถวายเครื่องไทยธรรม ..- ๒๒'. กำหนดว*ม์ฌาปนกิจศพ . ๒๓. สี่งของใช้ในงานฌาปนกิจศพ .... ๒4. กระท้าการฌาปนกิจศพ . การจํด์ภ้ต์ตาหารถวายพระ ..1. การนิมนต์พระร่นภ้ต์ตาหาร .... ๒&. การมีพระธรรมเทศนา . การจดเทียนประจำธรรมมาสนํ ๒๖. เครื่องก*ณๆนํทคนํ . การสวดมาติกา และบํง์สุกล [ซิต). เคลื่อนศพไปสู่เมรุ . ๒๘. การทอดผ้าบํง์สุกุล . การเขิญแขกขนทอดผ่า . การจํด์ดอกไม้ธปเทียนเผาศพ
หนา ๒๙. การขอพระราชทานนาศพ . 'ะ’๒ ขอพระราชทานหีบศพ . ขอพระราชทานโกศศพ . .... . ขอพระราชทานหีบและโกศสงร์เทรงสมณศ*ก์ด์ . ต๐. การขอพระราชทานเพลิงศพ .. ตเ ๒ ในจ้ง์หว'ดพระนคร-ธนบุรี .... . ในศํง์หว*ด์ส่วนภูมิภาค . :... ค่าใช้จ่ายในการร*บพระราชทานโกศศพ ...1 โ... ต๑. ก่อนจุดไฟเผาศพ . (๘๐ ใช้นามะพร้าวตางหนำศพ . ๑๒. การจุดไฟเผาศพ . .--. (๘^ ๑๓. อานิสงส์ของการเผาศพ . (๘๒ ๑(1. การบวชหนำไฟ .. ..... (๘๓ ๑๕. การทำบุญสามหาม .-, .®1& ๑'ะ). เครื่องใช้ในการทำบุญสามหาม . .... .... ๘& ๑๘. การเกบอ่ฐิ ..... (๘^ ก่อนที่จฺะเกึบอ้ฐิ . การนำอ*ฐมาย'งนำน . ..- . ๓(๘. การบรรจุธ*ฐ .- . (๘ อ ๓ (๘. การทำบุญนำน' . ^ ดา
1*1จ อ 111* หนำ าเ 1114.0. การนิมนตพระเจริญพทธมนต . 4*1. การตบแต่งสถานที่ . .. 11114๒. การ1จ'ดอาสนะสำหริ!)พระสงฃ .. ๙๖ 4๓. จํด์ที่ตงพระพุทโ]ธรป แดะเครื่โ]องบชา .. ^๗ 44. ตง็บาตร์นํ้ามนต์ .. ^®/ เทียนสำ'หรไเทำนามนต์ . . 44. เครื่องใส่ในบาตรนามนต์ ..- .. (ร) ๐ ๐ ๙'0. การจไ]ด้ายสายสิญจน์ ..6!0ด วิธี-วงดายสาปีสิญจน์ .. . .. .... คาถาวงด้ายสายสิญจน์., .... คาถาต่อด้ายสายสิญจน์..---- ..-.*-'-' 4๘. จํด์ของถวายพระ .....ร, .ดอต 4๘. ต้อนร'บพระ . '. .(ร! ๐4. 4๘. การจดธปบชาพระ. .(ร! ๐ & คาถาบชาพระ . . &๐. การอาราธนาศีล . ..ด๐®! 4*1. การรบคล ..... .-.. (ร! 5! ๐ 4๒. จํดอาหารบชาพระพทธ และส่งเวขพระภม 1.....®! *! 1ช คาถาบชาข่าวพระพุทธ . ■1..*. ....
1 หนำ คาถาส่งเวยพระภมิ . คาถาลาขาวพระพุทธ และ พระภูมิ &เอ. จดที่สำห:11พระฉํนภ้ตตาทาร ,..1 61*1(1 การประเคนขธงถวายพร: 44. การปฏิบ้ตพระ'ในเวลานํม • - - * 1* 1. *191& 44. ถวายเครื่องไทยธรรม .. 1. 6161๖ 4๖. การกรวดนา . . 1. ดค®/ 4๘. การประพรมมํ้าพระพุทธมนต .1. ค®!^ 4๘. ส่งพระกลิบว'ด . . .. ด เอ0 4๘. คำบชา คำถวาย คำอาราธนา พรอมดวยคำแปล 1. ค ๒๐ ๖0. คาถากรวดนา และกำแปล . 1. 91๒(1 ๖ค. คำปวารณา .:.' . . 1. ค ๒ ต/ ๖๒. สรปหํวข้อการทำศพ และ ทำบุญบ้าน .1. *1๒๘ ๖๓ แบบต่วอย่างบ้ตรเชิญในงานศพฺ ... ดต&
พิธีการจิด'กนสพ ความเบองตน ทีเราเรียกก้นว่าศพ กึหมายถึงร่างกายของคนที่ปราศจาก วิญญาณ ซึ่งได้แก่คนที่ตายแส่วิ และก่อนที่คนจะตายตามปกติกมี อาการบวยเกิดขน และเมื่อได้บํวยหน*ก์จมแน่ช*ค์ว่า ผู้บํวยจะต้องถึง แก่ความตายแน่แล1วิ ผู้ที่อยู่ดแลคนบํวยกควรจ'ด์การนิมนต์พระสงข์ หรือนำพระพุทธรปมาต1งไว้ให้คนบํวยได้แลเหน และจ*ดดอกไม้ธป. เทียนใส่กรวยใบตองให้ผู้มวยน1นประณมมือถือไว้ แลใวิกึบอกผู้ม ระลึกถึงคณพระร'ตนตรํยื และบอกหนทางให้แก่ผู้บํวยว่า“พระอรห*ง์” ให้ผ้มวยน8นได้ยินเมื่อผู้มวยได้สนใจตงแส่วิ จะได้ไปเกิดในทาง ที่ชอบได้แก่ทางที่มีความสุข เมื่อได้มีการตายเกิดขนในสถานที่ใด ผู้เมึนห้วิหน่ากรอบกร่ หรือผ้เมึนทายาทของสถานที่นํ้น กต้องรีบจํด์การเกี่ยวก*บ์คพของผู้ต ใม..หา.ะต้ง.แเ.บ!ศึคม1^รไปงต!.บา!มราข.ณมบกธาลรรมเนียมประเพณีได้ถึอปสิบ'ต และเคยกระทำก้น การจ่ดศพผ้ถึงแก่กรรม เมึนพิธีการ'ย่นหนึ่งซึ่งจะต้องจ'ดให้เมึน ไปตามขนมธรรมเนียม ให้เมึนไปตามระเบียบที่ดีงามตามคตินิยมที่ ประชาขมที่วิไปถือ1ว่าเมึนการกระทำที่ตีและถูกต้อง เข่น มีการแสดง ความเคารพศพ อาบนํ้าคพ รดนาศพ ตลอดจนการบำเพ็ญกคล
|ฐ0 และการกระทำฌาปนกจคพ ชึงไค้กระทำกไอยู่ทุกวนนกโดยที่ถอ กไว่า ผทถึงแก่กรรมน8นํเบึนก่บรีสทธหลดพ้นตากการต่อส้ของวิถีชี สํ้นเวรสนกรรมที่ตะตองเผชิญกไโชคซาตาในอนาคตชองโลกมนุษยอีก ต่อไป และการที่ไค้ล่วงพ้นจากโลกนไปแล้,ว ถึเบึนการ1ไปอย่ วไกลไ ด้วยเหตนเอง ผ้ทํ'อย่ตึงตำตองแสดงคารวะเบึนการไว้อาล*ย และเบึนการ ล่งเสริม วิญญาณของผู้ตาย1ให้ไป สู่สคติในทาง ทีดี ที่ช ชงการกระทำเหล่ามน ตะตองจํดการให้เบึนไปโดยถกตองตามว อรรมและเบึนระเบียบเรียบร้อย เบืนที่ปรากฏอยู่โดยที่วิไปว่า เมื่อมีผู้ถึงแก'กร ครอบครไถึดี ทายาทของครอบครไถึดี ต่างไม่เช่าใจว่าจะจ'ด์การแก คพนนสถานใด เพราะบุคคลโดยที่วิไปไม่มีหนำที่เกี่ยวแก'การจ'ดึ ถึงแม้บางท่านตะเคยไค้จ*ดการมาบไง แต่กี่เมีมบางคร5งบางกราวเท่า นั้น เมื่อถึงเวลาเช่าอีกถึงงงไ!ไปหมด บางคมถึงกไไม่ทร อย่างไร ต่อเมื่อพอตะนึกไค้ หรือมีผู้แนะนำ1ให้กี่เบ ให้เสียเวลาและดำเนินการไป1ไค้โดยขลุกขลไ การจไศพของผู้ตายเบึนเรื่องตำเบึนที่จะตองรีบจ*ด์โดยต่วน นเพราะคนเราเมื่อตายกลายเบึนศพไปแล้ว ถึเบึนคนละพวกก*!เค ข*ง์มีชีวิตอยู่ เมื่อเบึนเช่นนกเบึนธรรมดาอยู่เองที่1จะปล่อย'ให นานโดยไม่รีบตํด์การนั้นไม่ไค้ เพราะเบนที่พึงเวชใจแก่ผ และเบึนที่หวาดกดไแก'บุคคลที่วิไป ยิงเบึนเวลาพลบคาด้วยแล้ เพื่มความหวาดกล'วิ'ให้แก'เพื่อนนำนที่ธย่1ใกล้เคียงยี่
๓ จึง1จำIย้นที่ผู้เย้นเ'จาบานจะฅ์ธงรีบจ่ค์การโดยรึบด่วน เช่น รีบไปหา ซอหีบที่'จะบรรจุศพพร'อมด’'ว่ขเครื่องประกอบ ฃอเครึ'องตราส่งศพ, ไป แช่งแพทย์มาทำการช้ณศตรศพ และแช่งเทศบาลธอก,ใบมรณะบำร จำการอาบน่าคพ ไปติดต่อกไเว่ดและสไ]เหร่อให้มาทำตราส่ง เพื่อ บรรลุศพลงหีบ และนิมนต์พระสงฆ์มาสวดพระอภิธรรม ๆลๆ เหล่าม เบนต้น เมื่อได้ทราบหส่กเกณ'ฑ และหำข่อที่จะศ่ป็งจำการเช่นน่น แส่วก็จะจำการไปได้โดยสะดวก คำว่า “ตาย,, คำ'ว่า-.“ตาย”ตามพจนานกรมฉบํบราชม*ณ*หิตขสถานหมาย ถึง “สนใจ ไม่เบนอย่ต่อไป” ในทางพระพุทธคาสนาหมายถึง “การจติ, ดิบจิต, ทำลายขํนธ. ที่งกเหวร่างไว้. และขาดชีวิตินทรีย ของสรรพสำว้” คำว่าตาย ใช้ต่างกำหามฐานะของบุคคล ดิงต่อไปน” ต. พระเจาแม่นดิน พระมเหสี พระราขชนนี สมเดจหน่อ พระพทธเช่า และพระอนุชาธิราช ใช้ว่า “สวรรคต” ๒. กรมพระราชว้ง์บวร และเช่าเมืองที่เนื่องในพระราชวง ให้ว่า “ห้วงคต” ๓ . พระองคเช่าและสมเดึจพระสิง'ชราช ใช้ว่า “สั้นพระ- ชนม ? ๆ
๔ 4. หม่อมเจ่า ไข้ว่า “สนชีพต'ไก์ษํย หรือ สํ้นชีพิต*ก์ษ'ย” &, เจาประเทศราช สมเด็จเจ้าพระยา และเจ่าคุณราชินิก ใช้ว่า “ถึงพิราด*ย” 'ะ). เจ้าพระยาและเจ่าจอมมารดา ใช้ว่า “ถึงอาส*ญกรรม” ๘. เจ้าจอม หรือพระขา หรือผู้ที่ได้ร่บืตราท.จ อนิจกรรม ” ๘. หม่อมราชวงศ และผู้มีบรรดาศ*'กดต*งแต่ขั้นพระยาลงม ถึงพลเรือน ใช้ว่า “ถึงแก่กรรม” ๙. พระสงซ, สามเณร ใช้ว่า “ถึงแก่มรณะภาพ” ๑0. ประชาชนที่'วไป ใช้ว่า “ตาย” ๑๑. ส*'ตว่ใหญ่ที่งหลาย เช่นชิางเบนตน ใช้ว่า “ล้ม”' การจดศพใน'ชนตน เมื่อมีผู้ถึงแก่กรรมเกิดชน นู้เบึนเจ้าภาพควรจะได้จ*ดการแก ศพตามลำด*บ์ดํง์ต่อไปน ๑. ใช้ผาคดมศพด้งแต่ศีรษะตลอดเท้า ๒. จ'ดกระถางธป เชิงเทียน จุดธูปเทียนกระทำส''กการะศพ และจดตะเกียง หรือจุดเทียนตั้งไว้ทางศีรษะของผ้ตาย ๑ ดวง ๓. นิมนตพระสงช์ดรป มาบ*ง์สุกุดศพของผ้ตาย โดยมีจ่า ทอดไว้ที่ศพ๑ผืน จะเป็นผาสบง หรือจ่าอาบก็ได้ การนิมนต์พระสงรํเ ก็ควรนิมนตพระภิกษที่มีอาวโส เพื ท่านจะได้ช่วยแนะนำเกียวแก่การจ*ด์ศพให้ด้วย
* ๕ 4. ไปติดต่อเจ่าอาวาสหรือเจ่าหนำที่ของวิดที่ห้องการจะนำ ศพไป1จ่ดึการที่วิดนน และนิมนต์พระสงร์]1ไปสวดพระอภิธรรม กไ] ให้สไ]เหร่อมาจ'ดการตราสํง์ศพ และบรรจุศพลงหีบ 4. แห้งนายแพทย์แผนบัดจุบ'น์ ขอให้มาทำการชณศตรศพ และจดบโ]ทึกรไ]รองการถึงแก่กรรม เพธนำ1ใบร'ไ]รองนน็ไปแห้งต่อ เจ่าหนำที่เทศบาลท้องถี่น ขํป็นึ่หมายถึงการตายตามปกติ เช่นเบนไข้ตาย หรือตายห้วย โรคชรา แต่ถาเบึนเรื่องฃ่าต้วตาย หรือถกผู้อื่นทำให้ตาย ก่อนจะจ'ด การอย่างหนึ่งอย่างใด เจ่าบานจะห้องแห้งสถานีตำรวจท้อง เพื่อตำรวจจะได้แห้งให้นายแพทย์ของโรงพยาบาลตำรวจ หรือนาย- แพทย์สขศาลามาทำการชํณศูตรศพตามระเบียบ ๖. แจงเทศบาลท้องกิ'น โดยนำใบรไ]รองของนายแพทย์ โป ติดต่อขอ1ให้นายทะเบียนท้องกิ'นออก1ใบมรณะบิตรให้ เพื่อนำใบ มรณะบิตรมอบเจ่าหนาทึชองวดทึจะนำศพโป1จดการ ใบมรณะบํตรนน ถ้าผู้ตายเบึนขำราชการจะห้องใช้ใบมรณะ นํตรหลาย1ใบ เพราะจะตองใช้เกี่ยวก'บการเบิกเงินหลายอย่าง เช่น เงินเดือน,เงินสะสม, เงินฌาปนกิจ และเงินบำเหน็จบำนาญ หากได้ ประก่นชีวิตไว้ หรือมีเงินฝากออมสิน หรือฝากธนาคาร หรือมีอาวธ. บนส่วนต*ว กห้องใช้ใบมรณะบํตรเกียวการขธรไ]เงินน1น ๆ และเพื่อ จ้ดการเกี่ยวก'บีเรื่องอาวุธบึนนํ้น:ห้วย หรือถ้าผู้ตายไม่ใช่ขำราช แห้เบึนผ้เอาประกนชีวิตได้ต่ธบรืบํทํๆ หรือเบนสมาชิกฌาปนกิจแห่ง
# *๖ ใดแห่งหนึ่ง หรือบีหุ้นส่วนอยู่ในบรืษ'ทใดบรืษ'ทหนึ่ ธนาคารกจะห*องขอสำพา'ใบมรณะบ''ตรมาไว้หลาข ๆ ใบ เพื่อ'ใช้ ปร กอบ เรืองราวที่'จะขอร*บเงินนั้น ๆ ด้วย โดยเชิพาะผู้ที่เอาประกํน์ชีวิตไว้ จะเบืนข้าราชการหรือไม่ก ตาม ผู้ที่เบึ นทายาทจะต้องรีบแจ้งไปย'ง์บริษ*ท่ที่เอาประก*น์ชีวิต ทราบในว*น์แรกของว''นที่ถึงแก'กรรม เพื่อทางบรืษ้ท์จะได้จ'ดเจ้าห มาเยี่ยมคพตามระเบียบ การแจ้งต่อนายทะเบียนท่องนึ่นนึ่น ต่องแจ้งภายใน๒4.ช-ว- โมง เบึนหน้าที่ของเจ้าบาน หรือผู้ที่ได้ขบเห็นการตายเ เมื่อ1ได้1จ้ด์การตามที่กล่าวข้างตนนึ่นแส่'วิ ห็จำเ จ้ด์เตรียมสิ,งของที่จะต้องใช้ในการจ'ด์ศพต่อไป สงขธงใช้ในการจ้ดศพ การจ'ด้คพในขนต้น จะตองจ''ดหาสิงของเครื่องใช้ต่าง ฯ ด้ง ต่อไปน ด. หีบไม้ส*ก หรือไม้ยาง ตามแต่จะใช้ ด หีบ ๒. กระดาษฟางสำหร*บีปรองก*’นิหีบ และกรุข้างฝาหีบ 4. พ'บ ๓. ด้ายดิบส่าหร้ปม'ดตราส่งศพ ๑ เขด (1. ฟ้าขาวสำหร'บ์ห่อคพ ๑ ผืน (ใช้น้าแบีงชนิดหน้ากว้ ขนาดขาว ๒.00 เมตร) &. เสือน้าสำหร'บแต่งต้ว์คพ ด ขด
/ ๖. ดอกบ*'ว (ก คอก ธป ๓ ดอก เทียน ต เด่น สำหรืบ์ใส่ใน มือศพ ๘. เยบถงเสกๆใส่เงินเหรียญบาท หรีธของทีค่าใส่ในปาก ศพ ( จะใช้เงินเหรียญใส่ในปากศพโดยไม่ตองใส่ถุงกิได้) ของที่ใส่ในปากคพน เบื่อถึงคราวจะปลงศพ ส''ปเหร่อจะแจ้ ให้เจ้าภาพถ่ายของน้นคืมไป เจ้าภาพจะใช้ธนบ้ฅ์รถ่ายคืนส'กเทำ ก เด0*14 ^ นอกจากที่กล่าวช่างตน บางรายใช้แผ่นทอง หรือช่ผ้งบีดทอง หรือขผงจ้วน ๆ ทำแม่นมีดหน้าศพด้วย การใช้แม่นทองหรือแม่นขผง บีดหนาศพกิเพราะศพบางรายหนาตาน่ากล้ว จึงทำแม่นทองหรือขผง บีดหน้า เพื่อไม่'ให้แลเห็น'ใบหนำของศพนน ในบจจุบํนึนไม่มีผู้ใด ทำก่นแจ้ว โดยเฉพาะเรื่องทีบบรรจศพ และเครืองตราสํง์ก้ปขาฉีดศพมน ในจ้ง์หว'คพระนคร ตามสถานฌาปนกิจของว'ด หรือเจ้าหน้าที่ดำเน้น การฌาปนกิจตามว่ดต่าง ๆ รีบ1จ้ด์หีบบรรจุศพพรือมทงเครื่องตราสํง์ และมายาสำหรืบกีดศพให้ต่วย หากต่องการจะให้ทางว*ด้จ้ด์หาเครื่อง เหด่านน ทางว*ด์กิจะจ*ดให้ตามความประสงคื โดยสโ]เหร่อของว*ด์ จะนำหีบและเครื่องตราจ้งิที่ต่อรการใช้ ไปจ้ดการให้ยํง์ฟิถานที่ตงศพ หรือ'จะนำไป'จ้ด์การที่:ว้ด์กีแจ้วแห่1จะตกลงก้น์ เจ้าของศพหรือเจ้ ที่1ไม่มีคนวี่งเฟ้ม หรือมีเวลาน้อยกิต่ดต่อขอให้ทางว*ด์จํด์หา แต่ถ เวลาหรือมืผุ้'ช่วยเหลึป็พอาะจ้ด์การ1เ'ธงได้ กจํค์หาชอเอาเองตาม
๘ ชอบใจ เพราะหีบบรรจุศพมีล'กษณะต่าง ๆ ก'นิ เช่นเบึนหีบไม้ยาง อย่างหนึ่ง ไม้ส'?'เอย่างหนึ่ง แต่ละอย่างมีความหนาเ กล่า1วคืป็ ชนิดหนึ่งเนึ่อไม้หนา ๖ หุน อีกชนิดหนึ่งหนา ๑ ขายก็แตกต่างก'นิตานชนิดและเนอ1ไม้ เมือต่องการจะใช้หีบไม หรือไม้สใาชนิดหนาบางอย่างไร สดแต่ฐานะชองผู้ตาย เจาภาพค พิจารณาจํดีซึ่อใช้ให้เหมาะสม แต่ถ้าจะให้ทางว้ดจ\"ดีหา ก็ต่ เรื่องราคาสิ'งของให้เบนที่ตกลงก”นิก่อน จะได้ไม่ต่องพดกนมากใน ภายหด'ง อาบนำศพ การอาบนำศพ เบึนงานภายในเกี่ยวก'บ์ครอบคร้วและเครือ ญาติที่สนิทไม่มีการเชิญแชก ถ้าเบนศพที่ตายผิดปกติ ซึ่งเรียกว่า ตายโหง เช่น ฆ่าต''วตาย หรือถกทำรำยตาย ศพเหล่านึ่ไม่มีการ อาบนึ่า เบึนแต่ชำระล่างบาดแผล หรือโลหิตที่เปรธะเปอนให้สะอาด เรียบร่อยเท่าน1น แต่ถ้าเบึนการตายตามปกติ เช่น ตายด้วยโรคช หรือห'วใจวาย ศพน1นก็ต่องได้รไ]การอาบนาตามประเพณี ก่ อาบนึ่าคข จะต่องจ'ดีเตรียมสิงต่างๆ ดำต่อ1ไปนึ่ ๑. ตมนำไว้อาบศพ นำที่จะต1ม้ให้เก็บใบไม้สดใส่ลงต สุดแต่จะเบึนใบไม้อะไรก็ได้ เมื่อตไนำเดือดแล่วตํ้ นำเยนพป็ให้อาบได้ อาบนำศพควยนำรือีนก่อน แล่ว,จึงอา นำเยน ฟอกสบู่ชำระล่างสี่งโสโครกให้สะอาดทว้ร่างศพ
๙ เชดตว เขดตามร่างกายของศพให้แห้ง (หากไม่สะดวกที่จะต้มนาก ใช้นาธรรมดาอาบให้) ๒. ใช้ขมนช้น์สดหรืธขมื่นชํมผง กํบ์ผิวมะกรดสด ตำคั้นเอา แต่นาใส่ ถวยหรือชามไว้ทาศพในเมื่ออาบม8าศขเสร็จแลว ก็จํด์การ ทาตามร่างกายของศพ'ให้ที่ว้ต่ง์แต่หห้าลงไปตลอดที่งผิามือ และผ้าเห ถำผ้ตายเบึนบดำมารดา หรืออาจารย์ที่เคารพ กควร'ใช้ผ่าขาว ขนาดเท่าผ้าเชึดหนาผืนเลกๆซํบทหนา ผิามือ ผาเทา ถอนเอา รอยรปแจกให้แก่ลกหลาน หรือศิษย์เพื่อ๓บไว้เบืนที่เคารพส่กการะ ต่อไป แต่งต*วศพ เมื่อไต้อาบนาเสร็จแลว์ กึจํดการแต่งฅ์ว์ให้แก่ศพ ไดขนำ เครื่องแต่งกายที่จํค์เตรียมไว้ ได้แก่เสอ ผ้านุ่ง หรือกางเกง ถุงเต่ รองเต่า ซึ่งเบึนของที่ผ้ตายชอบ1ใช้และเคยแต่งฅ์73เช่นนมมาก่อน มา จํดืการแต่งกาย,ให้แก่ศพเสร็จแล้'วใช้นำอบ'ไทย หรืชินาหอมประพรม ให้แก่ศพ (ถาผ้ตายไม่มีเสอผ้าใหม่ๆไว้ใช้ ก่อนที่จะอาบนาให้ควร ไปจํดซีอเสีธผ้า1ใหม่ ๆ มาเตรียมไว้ก่อน) เมื่อได้จ้ด์การแ แก่ศพเบืมที่เรียบร่อยแล1ว กจํดการรดน8าศพต่อไป
\\ ๑๐ รดน0าศพ การรดนาคพจะตองจืดเตรียมสี่งต่าง ๆ ดิงืต่อไปมื่ ต. จืดเตียงสำหริบวางศพ มีที่นธน ผาปทีนอน หมอนหนุน ศีรษะ ๒. ข่มนๆพานรอง สำหรไรองริบนาจากมือศพ ๓. นํ้าอบไทยใส่ขวดแก่วิ พรห้อมด้วยโตะและผ่าปโตีะสำห วางขวดนํ้าปีบ 4. เชิญแขกซึ่งเบึมผู้มีเกียรติ และเป็นผู้คุ้นเคยนํม์ถึ ให้มาร!ๆนาศพ เพื่อเบึนเกียรติแก'ผู้ที่ล่วงดไไปแส่วิ การรดมาศพน5น เวตารดควรนึกขอขมาโทษผ้ตาย โดยกล่าว ในใจว่า ธิทํง์ มะตะ สะรีริง อุทะก่ง วิยะ อโหสิก้มมํง แปลว่ รดลงสู่สรีระร่างกายของผู้ตายน จงเบึนอโหสิกรรม ถ้ามีการริบนาพระราชทานแก่ศพ เมื่อรดมาพระราขทานแ ผ้ธื่นเบึมอนงดไม'ตองรดอีก ก่อนจะใข้นๆพระราชทาน ผู้เบึนประธาน'ในพิธี'จะต้องกระ การถวายคำน\"บ โดยห้น์หถ้าไปทางทัพระบาทสมเดึจพระเจ่าธข ประทไ! แล่วิจึงจะใข้นาพระราชทานแก่ศพ เมื่อได้จืดการรดนาศพเสรจเรียบร่อยแส่วิ ก่อนที่ ตราส่งศพ กควรจะตองกระทำการบองกนไม่ให้ศพมีกสินเหม ใข้นํ้ายาหรือเครืองอุปกรณ์บางอย่าง ดิงต่อไปน
6)0 บองกนศพไม่ให้มีกล็่น เพื่อบ๊องก่น1ไม่'ให้ศพมีกลิ่นเบึนที่ร่งเกียจแก่ผู้ที่เกี่ยวของ จึง ควรใช้ยาฉีดบองกไ)ไว้ ยาสำห:*บฉีดศพ เพื่อบ๊องกไเไม่ให้มีกลิ่น ใช้ยาช่อ ฟอรืเมอรตีน (บ0ใ1า1.4บ1.\\) การ1ใช้ยาฟอรเมธร่ลีน'ฉีดศพ ถาเบึนศพร่าง,ใหญ่ ร่างกาย สมบรณ ควรใช้ยา1ฉีดฟิก 4 ปอนด (ปอนด่ลฺะ ๑ ขวด) น่าเบ๊นศพ ขนาดธรรมดากึใช้เพียง ๓ ปอนด น่าเบ๊มศพร่างเด็ก คะใช้ยาเพียง ๒ ปอนด่กึได้ ยานมีชายตามร่านขายยาต่างประเทศ ไม่ควรหาซอ คากรานขายยาเบ๊ดเตลด เพราะไม่มีขาย หรือหากมีกอาจเบึนยาที่ ไม่มีคณภาพตามที่ต่องการ การฉีดยาเช้าในร่างก่ายของศพถาคะค*ด์การเอง พ้องใช้เข็ม ขนาดใหญ่ที่สดทำการฉีด โดยฉีดยาเช้าไปในส่วนทีสำค้ญ ซึงจะก่อ ให้เกิดเน่า และมีกลิ่น เช่น ในทรวงอกด่านขวาและด้านช้ายที่หน่า น่องทงช้างขวาและช้างช้าย ท1งน่เพื่อให้น่ายาเช้าไปร*ดส่วนต่าง ภายในร่างกายของศพให้แพ้ง จะได้ไม่เน่าและไม่มีกลิ่น การฉีดยาตามที่กล่าวช้างพ้น หากศพอยู่ที่โรงพยาบาล จะ ขอ1ให้ทางโรงพยาบาลจ'ดการ1ฉีดยาให้ก*ได้ โดยเฉพาะโรงพยาบาล ตำรวจคิดค่าบริการเบึนเงิน ๒00 บาท ใช้นำยาฉดให้ 4 ปอนด น่า ศพป็ย่ที่น่านกเบึนหนำที่ของเช้าภาพคะพ้องคิดการเ1อง หรือไหว้วาน กนอื่นช่วย1าต์การให้ หากไม่มีเข็มฉีดขากึค*ดทำโดย1วิธี'ง่ายๆ กล่าวคือ
เอานำยา'ในขวดเทกรอกเข้าไป1ในปากศพ โดยใช้สาขยางขมาดเดก ยาวพอประมาณ เอาสายขางข้างหนึ่งขอนเข้าไปในปากศพ แ กรวยขนาดย่อม ๆ เอาเชิงกรวยเสียบลงในสายยางอีกข้างหนึ่ง สงพอสมควร แส่วใช้นายาเทกรอกลงไปให้มากที่สุดที่จะมาทได้ ยาเหลืออยู่เท่าใดก็ใช้ลาดสง1ไปบนร่างของศพตอนหนำอก หนำท่องกไเตอนต้นขาของศพ แต่การใช้ยาลาดศพจะส่องทำภายห ในตอนที่นำศพลงบรรจุหีบ ‘ การระง'บกลิ'นศพ มางรายใช้ส่าพลาสติกเยึบเบึนถุงข ใหญ่ใช้ใส่ศพที่ตราสำเสร็จแส่ว โดยใช้เชือกผกปากถุงให้แ นำศพใส่ลงในหีบ เข้าใจว่าคงจะบองกํน์ไม่ให้มีกลี่นออกมาได้ ระยะชำเคราว ส่าเก็บไว้นานๆคงจะบองก่น์ไม่ได้ เพราะนานว*มเข้ ผำพลาสติกอาจถกนำเหลืองของศพทำให้ผและขาดได้ ตามขนบทบางแห่ง'ใช้ปรอททีชอจากรำนขายยาเอาปรอทเหเ- ก รอกลง'ไป,ในปากศพ ปรอทนนฃอตามนำหนำประมาณ \\ฐ สลึงหร็ชิ ๒ บาท. เมื่อกรอกลงในปากศพ ให้ปรอทไหลลงไปในส่อง จะบปึ ไม่ให้ศพเน่าทำให้คพแหำเหลือแต่หนำหุมกระดกไม่มีกลี่นห ตราส้งศพ เมื่อได้จำการรดนาศพ และทำการบป็งส่นไม่ให้ศ เสร็จแส่ว ก่อนทีจะทำการตราสำศพ ในตอนนึ่ก็จะส่องมีการแต่ร ให้แก่ศพอีกปีนหนึ่ง คราวนจะ'ใช้ส่าขาว เ9 ชด เบึนส่าน่
ห่ม ๒ ผืน นุ่งเอาขายพกไว้ช่างหลไ และห่มเฉลียงบ่าไ!]ข้างหลง แลวนุ่งห่มทไ]นธกอีก ด ขุด ชุดหลไนึ่เชิาชายพกไว้ช่างหนำ ห เฉลียงบ่าไว้ ช่างหนำ เสร็จแลไว้กหวีผม'ให้แก่ศพ วิธีหวี แบ่งผมหวี กล'บมาช่างหนำครึ่งหนึ่ง หวีภดไเไปช่างหดไครึ่งหนึ่ง เมื แล1วีให้หกหวีออกเบน ๒ ท่อนที่งลงไว้ในหีบศพ ผ้ที่'จะหวีผมตธงเบน ผู้มีอายุสงกว่าผู้ตาย หรือมีบรรดาศ้ก์ดั้สูงก'ว่า บางทีกให้บต:ชาย คมห'วีมืเบึนผู้หวีให้ การแต่งกายให้แก่ศพ คํง์ที่กล่าวมาน เบึนพิธี โบราณ แต่ในสม'ย์นึ่มิยมแต่งกายให้แก่ศพตามอาชีพ หรืชิตามความ เบึ๋นป็ย่ขยึงผ้ตาย ด้ง์เช่นที่กล่าวไว้ในตอนอาบนำศพเท่าน1น การตราสไ]ศพ หรือเรืขกก'นว่ามิดศพนํน สไแหร่อจะใช้ดายดิบ ที่เช่าภาพช่ด์หามาให้ จ”ดท่าเบนบ่วงสวมคอศพ กล่าวคาถาในตอน นึ่ว่า ปตโต คีเว แปลว่า ห่วงลูกผกคอ แล่วโยงด้ายดิบไป:'ดหํวแม่ เท่าและช่อเท่าที่ง ๒ ช่างให้ติดก่น กล่าวคาถาว่า ธนไ ปาเท แปดว่า ห่วงทร'พยผกเท่า แล่วีโยงมาร'คหํวีแม่มือ และช่อมือที่งสองช่าง'ให้ ติดก่นประณมไว้ที่หนำอก กล่าวคาถาว่า ภริยา ทํตเถ แปลว่าห่วง ภร:ยาผกช่อมือ และในขณะทผูกขอมือม1น สไ]เหร่อก่เอาดอกไม้ ป็ปเทียนที่ช่ตไว้ใส่ในมือศพ ให้ถือไปเพิอจะได้ไหว้พระจพามณี เมื่ ได้ช่ดการเข่นนนเสร็จแล่วี อึงใช้ฟ้าขาวห่อศพ บนศีรษะของศพใช้ ฟ้าขาวห่อนนขมวดเย้นก่นหอยแล่ว้มํด์ด้วยด้ายดิบอีกครึ่งหนึ่ง มิด1มื่นตอนๆ โดยมิดตรงหน,าขาตอนหนึ่ง 'ทีลำต'วอกตอนหนึ่ง ร''ด ให้แม่นเพี่อก'น์ไม่ให้ศพเบ่งขยายต้วีเมื่อ^สาขน แล่วีเอาด้าย
๑๔ รํด์กไผาที่ขมวดเบืนก1นหอยบนศีรษะเหลือชายเล่นดำยวที่ม่ดป เบึมสายยาวออกมานอกโลงหรืธนอกหีบศพ เพื่อต่อฒัดายสายสิญ หรือผ่าภษาโยง การเบิกโลง ก่อนที่ดะทำการบรรจุศพลงหีบ จะตองท้าพิธีเบิกโลงเส การเบิกโลงน1ม สไเหร่อผู้จํดการจะต'องมีแๆรี่'องเบิกโลงดำต่อไปน ด. ไม้ไผ่ยาว ๑ วา (เย เมตร) ด ท่อน ๒. ใบตองสด ชนิดใบไม่แตก ๓ ยอด ๓. กระทงเลึก สำหรไใส่เครื่องเช่น ๘ กระทง ะ!. เทียนขผงเล่มเดก ๘ เล่ม &. ขไ)นา สำหรไ)ทำนามนต์ ด ช่น 'ะ). ดอกไม้ธปเทียน ก'บเงิน ๖ สลึง หรือ 'ะ) บาท วิธีเบิกโตง สไแหร่อผู้เบึนห้วิหนา1จะเรี่มท้านามนต์ก่อน ใช้นำมนต์ประพรมที่หีบศพ แสะใช้เหียนหง ๘ เล่มจุดบิกตามปากหีบ ศพกไ)ใช้เครื่องเช่นที่ใส่กระทงท1ง ๘ กระทง วางไว้ในหีบศพตรงกไ เทียนที่จดไว้ แล่วิใช้มีดหมอสไลงทีปากหีบศพแต่เพียงเบา ‘จุ ถามว่า โลงนเบนของใคร เจาภาพหรือผู้ที่ธยู่ในที่นน จะเต่องบอ ธอกชื่อว่าเบึมของผู้ตาย แล่วิสไเหร่อกเลื่อนที่ล่บ์ต ชํ้าเช่นนํ้นอีก ผู้บอกตองบอกช่าอีกครบ ๓ หน แล่วิสไเหร่อก็ เครื่องเช่นโยนที่งไป เบึนอไเสรจพีธีเบิกโลงแต่เพียงเท่า
9 เมื่อเสร็จพิธีการเบิกโลงแล่ว ก่อนที่จะบรรจุศพลงในโลงหรือ หีบ ล่าศพนนไม่1ไ ด้ฉีดขาบองกํน์จะล่อง,ใช้ปนขาว หรืป็ขเสื่อย'ใส่ดง ไว้ที่พนขอ งหีบหรือโลงศพ สำหรไ]ร”'บนำเหลือง เสร็จแล่วจึงใช้ฟาก หรือเผือกวางไว้ช5’นบน แล่วใช้,ใบตอง ๓ ยอดปล่มดงอีก1นหนึ่ง แล่ว ใช้เสื่อหรือที่นอนของศพปลงบนใบตอง แล่วจึงยกศพวางดงบนที่นอน ล่น เสร็จแล่วกึฒึกฝาหีบโดยใช้ตะปตอก และขาควยข้นผสมนำ ม”นยาง (ใช้ล่าม”'นกาสผสมแทนล่าม‘นยางกได้) เสร็จแล่วกทำบํน์ได เล็ก ๆใช้1ไม้1ไผ่ผกทำเย้นขนๆวางไว้บนหล”งโลงหรือหีบศพล่นล่ การใช้ฟากหรือเผือกและใบตองตลอดถึงการทำบ'น์ไดไว้บนฝาหีบศพ นั้น ส่วนมากใช้ก่นตามชนบทต่างๆเท่าน1น และล่าศพล่นได้ใช้นำยา บิองก'น์ไม่ให้ศพเน่าเบี่อยล่งได้กล่าวไว้ในตอนล่นล่นแล่ ใช้ปนขาว หรือขเดือยใส่ในโลงหรือหบศพ การเบิกโลงตามที่กล่าวล่าง•ล่นล่น ใน1ล่งหว่ดพระนคร-ธนบรื ส่วนมากไม่ได้ทำพิธีเบิกโลง การทีไม่ได้ท้าพิธีเบิกโลงได้ความ หีบศพที่ซอมาจากรานขาย ไม่ใช่โลงศพจึงไม่ล่องทำพิธีเบิก เรียกว่าโลงล่น ใช้ไม้กระดานต่อทำขนเอง จึงเรียกว่าโลงเมื่อเบน- โลงกล่องทำพิธีเบิก การที่จะทำพิธีเบิกโลงหรือไม่ เบินหล่าที่ของพีโ]เห สไ]เหร่ชิล่องการทำพิธีเบิกโลง และจะล่องใช้ของในการล่ เล่าภาพกควรล่ดหาให้
๑๖ จํดทึต็งั้ศพ การว้ด์ที่สำทรํบ์ตํ้ง์ศพนํม้ เมื่อศพอยู่ที่บ้านใด ตามธรรม ว้ด์ทต8งศพขนที่บ้านนน และจะตองว้ด์เค่รื่องตํ้ง์ศพ ด้ ๑. ตงโต็ะหม่ ดะเบนไตะมก หรือโตะลายทอง ก็แลวแต่ จะหาได้ ๒. แจก*น์บ้กดอกไม้ สำหรํบต1ง์บนโตะหม่ โตะละ ๒ แจกไ! ๓. กระถางธป และเชิงเทียนสำหรไตงหน้าศพ 1. เครื่องทองบ้อย มีพุ่มดอกไม้เล็กๆ ๓พุ่ม ๑ ที่ &. ภาชนะสำหรไใส่ธปเทียนที่จะจุดบชาศพ '3. กระโถนสำหร้บ์ใส่กไนไม้ขีดไฟ ฟ. ตะเกียงเล็กๆ สำหร่บจุดธปไหว้ศพ ๑ ดวง ๘. ขาหขงสำหรไเตงกรอบ่รปฃองผู้ตาย จ'คพวงดอกไม้ ผกประด้บ์ที่กรอบรูปของศพ ๘. เครื่องเซ่นสำหรํบ์ศพ มีอาหารคาว—หวาน และนา ๑ ที่ เครื่องนอยนน ถา1ว้ด์เมีน.๓ พุ่ม ก็ตํ้ง์เบึนรปสามเหลี่ยมมี เชิงเทียน ๑ คู่ ใช้มกเทียนซ่างหนึ่ง อีกซ่างหนึ่งบ้กธป ระกำ) ตงหลํงพุ่มดอกไม้ ตงเชิงเทียนที่บ้กธปไว้ซ่ ด้านดอกไม้ออก รวมใส่พานตงไว้หน1าศพ ตที่ อีก ๑ ที่ต5งไว้สำห:'1) เว้าภาพว้ฒชาพระธรรม
9 ด®) การบูชาศพ ให้หินด้านดอกไม้เข้าหาศพ ถาจะให้ศพบช พระต้งหินต้านคยิกไม้ออกหาพระ การ'จุดเครื่องทธงนอย หรื เครื่องหำ เพี่อบูชาศพ ให้จุดธ!]ก่อน แล้วจึงจุดเทียม ส่วนกา เครื่องมชาพระจดเทียนก่อนแล้วจดธป การจํดตงที่คพ มีโตะหม่และเครื่องประกอบดงได้กล่าวมาน8น ตามปกติสิ'งเหด่านจะต้องติดต่อขอยืมมาจากว'ด พร'อมดวขหีบกรอบ ทองรองนอกมาประกอบเขากํบหีบศพ การต8ง์หีบศพจะต้องให้ศีรษะ ของศพหินไปส่ทางทิศตะวํน์ตก ชึ่งเมึนทิศของผ้ตาย หากจะต8งให้ตรง ทิศตะวโ]ตกโดยตรงไม่ได้ก็ควรต1ง์ให้เฉียงไปทางตะว'มตกให้มากที่สด แต่ถาสถานที่ไม่อำนวยให้ทำเช่นน1นได้ แต่ต้องฌืนการตงไว้ชวกราว หาก1จะต8งไว้นานจะต้องจํด้ต้งให้ตรงตามทิศของคนตาย จึงจะมไ]ว ถกต้องและหีบศพนนจะตองมีโต้ะรอง'ให้สงขนตามสมควร เมือได้ยก หีบศพให้สงจากพี่นแล้ว จึงจะใช้โตะหบู่ประกอบเขาไป หากไม่มี โต้ะรองหีบศพให้สงจากพี่น หรือสกานทีไม่อำนวยทีจะจ้ด้เข่นมน ได้ ก็คง'ใช้แต้ฐานหีบประกอบกํบกรอบทองรองนอก ชงยืมมาจาก ว'ดตํ้งรองริบหีบศพนนบนพี่นเรือน มีพรมหรือเสื่อปไว้ทีหล้าหีบศพ มี โต้ะตงเครื่องบชาตามสมศวรนต้ล้ามีโต้ะรองหีบเ1!พให้สู-ง'ชน การจ่คที่ สำหรํบึพระสง'สสวดพระอภิธรรมกต'รง มีโต้ะให้ท่านนงสงจากพี่นให้ เหมาะสมก่นด้วย การจ*ดที่ต้งคพดไกล่าวล้างต้นนน ถาหากผู้ตายเบึนล้าราชการ ชํ้มสญญาบํตร ก็ย่อมจะ1ได้รบพระราชทานเครื่องราชฒรืยยคซึ่ง1ได้แก่
ด๘ เครื่องหมายช1นยคหรือเหรียญตราในทางราชการ หากเบึนนายทหาร หรือนายตำรวจชนส่ญญาบ้ต: นอกจากจะได้ริบพระราชทานเคร ราชอิสรืขาภ:ณ์แลํว ย'งได้:ไ]พระราชทานกระบีไว้ประจำต่วอิเก สงเหด่านนเบึนเกียรติยศของผู้1ได้ริบพระราชทาน และนู้นนได้ถึง กรรมลง เจ่าภาพกึควรจ่ด์เครื่องยศพรอมดวยเครืองราชอิสริยาภรณ เว้กไเกระบี่ใส่พานตํ้ง์วาง' ทางดำนศีรษะเบองV)น้าของหีบศ รปถ่ายเครื่องอิสริยาภรณ์ที่ได้ริบพระราชทาน น8น เมื่อเส ฌาปนกิจศพแลว้เจ่าภาพต่องนำส่งคืนต่นสไเกิดเดิมที่นู ราชการครํ้งสุดท้าย ถ้าส่งคืน1ไม่1ได้ทายาทของนู้ถึงแก่กรร เงินใช้แทนตามราคาของหลวง เครื่องราชอิสริยาภรณ์ที่1จะตอิงส่งคืน'ได้แก่ เหรียญเง ไทย เหรียญเงินช้างเผือก เหรียญทองช้างเผือก กไ]ตราต่างๆ ตงแต่ เบญจมาภรณ์มงกุฎไทยชนไปจนถึงปีนสงสุด ซึ่งเบึนเหรียญและต ตามลำดํบช้นของทางราชการ ส่วนเหรียญอย่างอื่นที่1ได้ริบ์นอกเหนื จากที่กล่าวแล่ว เช่นเหรียญช่วยราชการภายใน เหรียญช'ยสมรภมิ เหล่านไม่ต่องส่งคืน รวมทงกระมื่นายตำรวจท,ได้รบจ่ายป กไม่ต่องส่งคืน เวนแต่ช้าราชการผู้ได้รไ]เครื่องราชอ น1ม ต่องถกออกจากราชการโดยมีความผิด ทางราชการจะต่องเรียก คืมทกๆอย่าง เหรยญตราทจะตองส่งคนนั้น บางรายต,องการเอาไว้เบนทระลกสำหริบวงส่- ตระกล เช่นข5าราชการผู้ใหญ่ชั้นสง ย่อมจะไดริบพระราชทานเคร้องราชอิสริยาภรญ่ . หลายอย่าง และได้ริบสงขนไปตามลำดิบ เมอท,านผู้นันถงแก,กรรบลง เจ้าภา
๑6 หายไทต*องการเอาเก็บไวเพอเบนเกยรติแก่ตระกลของตน โดยไม่ส,งคน ก็มอย่ทาง เดยว กลาวคอ ตองแจ*,งเร้องเบนลายลักษณ์กิกษร'ว่า เหรยญตราเหล่านั้นได้สญหายไป และยอมล่งใช้เงินตามราคาของหลวง เมอทางราชการแจ9,งราคาให้ทราบก็ส่งเงินใช้ไป หากเบนตราชั้นสงและหลายชนิดควยกินอาจตองส่งเงินตงแต่ ๘๐๐ บาทกง ©,๒๐0 บาท ถาไม่มเหตุผลทจะอางอิงได้ ก็ต่,องนำเหรยญตราเหล่านั้นคนจนครบถ้วน การแจ9งว่าหายและขอมใช้เงินไม่เบนความผิดแต่อย่างใด หากภายหกิงปรากฎ ว่า เครองราชอิสริยาภรณ์นั้นย่งอย่ก็เบนการก9นพบในภายหล8ง เมอได้ส่งเงินใช้เต็ม ราคาของหลวงแล9,ว ทางราชการก็่คงไม่ติดโจทจะเริยกคน หากจะเริยกคนก็ ต่องจ่าย เงินคน เชอว่าคงจะไม่มเร้องเช่นนเกิดขน เมื่อได้ทิด์พ็งที่พ็งคพเสรึจแล'ว กึนำเครื่องเซ่น1ไปตง-วาง1ไว ขางหีบศพแล'วจุดธูปเทียนไว้ที่เครื่องเซ่น บอกผู้ตา!]'ให้รํบประทาน อาหาร เครื่องเซ่นน1นควร1ทิตเปลืยนให้ทุกๆเวลา การ1ทิดเครื่องเซ่น'ให้แก่ผู้ตายด้งได้กลาวแล'ว เบึนเรื่องของ เซ่นศพตามธรรมดาโดยทิวไป เมือ1ทิดเครืองเซ่นมาด้งแล้ว้กึจด ธป เทียนบอกเชอเชิญอย่างบคคลธรรมดา แต่ถ'าเบึนศพพระภิกษสงร็เผ้ ทรงสมณะศ*กด สะกล่าวคำเชอเชิญอย่างไร ข่าพเจาได้ขอคิดเรื่องน เมื่อคราวบำเพึญกศดถวายแด่พระคุณเล่าพระราชธรรม1จริยา1จารย เบึนเส้าอาวาสรปก่อนของว'ดยานนาวา ทีได้ถึงแก่มรณะภาพครบ ๗ ว'น ๕๐ ว\"น ด 0๐ ว'น และครบ ๑ บี' โดยคณะกรรมการ ของว'ด ยานนาวาได้ทิดการบำเพ็ญกุศลถวาย - ซ่าพ เจาได้ไปร่วมในการ บำเพ็ญกศลน1นด่ว้ย กุก ‘''เ คร่งของการบำเพ็ญกุศลดงกล่าว แด'ว ประธานคณะกรรมการของว'ดยานนาวาได้มธมไม้ ซ่าพเล่าเบึนผู้ บชา ขาวพระพุทธ และให้ถวายข่าวแด่พระคุณเล่าพระราชธรรมจริยา-
๒๐ ‘'ท:ยนั้นเด1'วย การบชาข้าวพระพทธ ก็ว่าไปตามแบบทมีธยู ส่วนการถวายอาหารแด'พระคณเข้า พระราชธรรมจริยาจารขนั้นไม่ แบบ จะกล่าวคำถวายตามแบบที่บชาข้าวพระพทธ:าไม่ไค้ เพ พระราชธรรมจริยาจารข์ท่าน1ไม่1ใช่พระพทธเข้า คร1นจะกล่าวคำถว อย่างบุคคลธรรมดาก็จะเบึนการไม่เหมาะ เพราะท่านเบึนพระสงฃ ผู้ทรงสมณะคำดชนสง เมื่อเบนเช่นนจะกล่าวถวายอย่างไรจ เหมาะสม และจำท่องติดสินใจกระทำให้เสร็จไปในระยะนั้น ก็คิดขนว่า ควรจะกล่าวคำเรียนแบบการบชาข้าวพระพทธ เมื ได้เช่นน5น และได้เรี่มจดธปจคเทียนเสร็จ โดยมีอาหารคาวหวานและ นำครบบรีบรณแล่ว ข้าพเข้ากเริ่มกล่าวคำถวาย ติงต่อไปน “ข้าแต่พระคุณเข้าพระราชธรรมจรียาจารย่ ข้น์นเบนข ๘ ข้น (&0 ข้นื ด00 ข้น ด บ) แห่งข้นมรณะภาพของพระคุณเข้า พวกกระผมท่งหลายจึงได้มาร่วมติน์จำการบำเพ็ญกคลถวายแด คณเข้า ม่ดมื่ได้จำอาหารมีข้าวและติบชื่งเบํนแกงและผำพข ขนมต่าง ฯ และกลไม้ และนาอํน์ประเสริฐเหล่าน นำมาถวาย แด่พระคณเข้าข้วยความเคารพ ขอพระคุณเจาได้โปรดริบของ เหล่าน เพื่อประโยชนํ เพื่อความสุขของพวกกระผมนั้งห เมื่อได้กล่าวคำถวายเช่นนั้นแดว และได้มีโอกาสข้ด์พิมพ็ ทนงสือเล่มนั้อีก จึง1ได้จดคำถวายนั้นมาลง'ไม้1ในที่นํ หากผ้ใค สมควรนำไปใช้ ก็ควรใช้ข้อยคำแต่เพียงย่อ ๆ คำต่อไปน
I 1ชิ)6) “กระผมทงหลาย ขอนอมนำอาการมาถวายแด่พระคุณเ'จำ (ออกชีอท่าน) อาหารทีนำนาถวายน มี ข้าว แกง ต'น และผ่ด ก่น ขนม ผลไม้ และนา ขอขระคณเจำได้โปรดริบของถวายเหล่าน เพี่ ประโยขน เพี่อความสุขของพวกกระผมทงหลายดว!]1'เถิด” เมือ1ได้'ให้คำกล่าวถวายอาหารแด่พระฟิงฃ็ผู้ทรงสมณะคำดเมึน ตำอย่างไว้แล้ว ก็ควรนำคำกล่าวสำหริบเซ่นผีที่เมึน พ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ไว้เมึนตำอย่างดํงน “บิดน ฟิก หลาน ได้นำเครื่องกระยาบวชมาสำเวยต่อคณพ่อ ( ออกชื่อ ) ขอคุณพ่อ1ได้โปรดริบฟิง์เวขเครื่องกระยาบวช'ซึ่งได้จ่ดมา พรำมแล้ว เพี่อประโยชนํ เพี่อความสุขแก่ฟิกและหลานดำฃเถิด” ถ็าผ้ตายเมึน ปู่ ย่า หรือ ตา ยาย ก็เรียก1ไปตามตำแหน่งนํ้นๆ พรำมท5งออกชื่อผู้ตายดำย การอดธปบชาคพ'ปู่น ท่านให้สุด ๒ ดอก ธป ๒ คอกนเมึน บัญหาธรรมว่า “บญและบาป” หมายความว่า ผู้ที่เกิดมาและได้ถึง แก่กรรมไปนย่อมมีที่งบญแดะบาป แต่บางท่านก็สุดธูปเพียงดอกเดียว ชึ่งเมึนความหมายอีกธย่างหนึ่ง1ว่า ตำงการเคารพบูชาพระคุณของ ท่านผ้หี่ถึงแก’กรรม เช่น ผู้ถึงแก่กรรมเมึนบิดา มารดา หรือคร อาจารย์ เพี่อบชาพระคณของท่านโดยตรงจึงสุดธูป ค ดอก แต่ถ ผัตายไม่ยึย่,ในฐานะเช่น1ว่านโดยเบึนผู้มีฐานะตำกว่าเจาภาพหรือผู้1สุด ธปไม่ร้จ่กก*บ์ผ้ตายแต่ไปเคารพคพในฐานะเบนแ,ขกของเจาภาพกควร จดธป ๒ ดอก เมึนการเคารพศพตามปญหาธรรม คำที่กล่าวขำง
เฐจเสุฮ ตน และล้าผ้ตาขเบึนบดาหรือมารดาของท่านผู้มเกียรติสูง แม้ว่าผู ในงานน1นจะไม่ร้จ\"กกไ]ท่านผ้ตาย การจดธปบขาคพกตธง1จุดเพยง ค ดอก เพื่อเบึนการแสดงความเคารพอย่างสูง ให้สมเกียรติของท เจาภาพนนด้ว่ข * ดอกไม้สำหรไ]ใช้ในการบขาศพ ที่'ใช้บกแจกนตง■หนาศพ และ ดอกไม้ประดไ]บนหด*งหีบศพน1น ตามปกติทวไปกใช้ดอกไม้ธรรมคา ที่'ใช้ก่นที่ว้ๆไป ได้แก่ดอกซ่อนกสิ'น ก'บดอกเยียร์เบร่าสีต่างๆบา รายกึใช้เฉพาะดอกเยียร์เบร่าอย่างเดียว ใช้ประดไ]แจกไ]ต1งหนา ศพ และบชาพระพทธ บชาพระธรรม ส่วนบนหล*ง์หีบศพกใช้ดอกเบญ- มาศ คอกเขียร่เบร่ากบดอกร”กประกอบก\"น ใช้กาบกล้วยวางประกบ ไว้บนหล*ง์หีบศพสำหร'บบักดอกไม้เหล่าน1นประกอบก่นให้สวยงาม ล้าเบึนคพผ้มีเกียรติสง ก็ไม่ใช้ดอกไม้ที่กล่าวข1างต่น โดยใช้ดอกไม้ ฝรง และดอกกล้วยไม้จ*ดีใส่แจก่นเบืนเครื่องบูชาศพ บูชาพระพท และพระธรรม ตลอดจนใช้ประดไ]ตกแต่งบนหลํงหีบศพดํวย การใช้ ดอกไม้ฝรื่งและดอกกล้วยไม้ จ\"ดีว่าเบืนดอกไม้ชนสูง ราคา เกียรติค'กด์ของเล้าภาพนนศวย การจ\"ดีดอกไม้บชาศพ และประคไ]บนหล้ง์หีบศพตลอดถึงกา บชาพระพทธ พระธรรมนน สถานฌาปนกิจหรือเล้าหน้าที่ของว*ดีใ กรงเทพๆรไเจ'ดีการให้ต่วย เมือต่องการเช่นนํ้นกติดต่อให้ ที่ของ'วํด์น้นทราบล่วงหน้า การใช้คนไปติดต่อจะต่องหาคนที เขาใจ หรือซ'อมความเขาใจกนก่อนว่า จะขอให้ทางว'ดีจ*ดีดอกไม้
1®9๓ ให้ท้งหมดตามทีกล่าวข่างตน หรือจะให้จ้ด้แต่เพียงส่วนใดหรือเจ้า ภาพจะจ้ด์หาไปเองโดยตลอด ก็ควรแจ้งให้ทางว้ดร่บทราบไว้ และ ขอให้จ้ด้แจก่นไว้ให้ตามที่จ้องการ การติดต่อเรื่องดอกไม้ โดยเฉพา ดอกไม้ที่ใช้ป ระด'บบนหล่งหีบ จ้องบอกล่วงหนาก่อนอย่างฟ้อข ๖ ข,วโมง ทากแจ้งให้ทราบล่าชาก็จะเกิดการชลกขลก และกว่าจ เต'ร้จก็จ้องล่วงเลยเวลา1ไปมาก จ้ดภิส0าหร้บสวดพระอภิธรรม การจ้ด์ที่สำหริบพระสงฃสวดพระอภิธรรม จะ สิ'งต่าง ๆ ดํง์น ด. โต่ะสำหรไเจ้งตพระธรรม ด โต่ะ ๒. ตู้พระธรรม (ม้พระธรรมบรรจุอยู่ในตู้) ด ตู้ ๓. เครื่องบชา ได้แก่แจก้น์ เชิงเทียน และกระถางธูป พรอม ด้วยดอกไม้ธูปเทียน ด ชุด 4. พรม หรือฟ้าอาสนะ สำหร้บพระสงฃมง 4 ผืน 4. หมอนอิง สำหริบพระสงฃ์ 4 ใบ จ'ดของถวายพระสวด นอกจากนยํง์จ้องจ้ค์ของสำหริบพระสวด 1ช่น หมากพล บุหรื นาชา กาแฟ มาอ*!'ดลมและ'จ้ด์เครื่อง'ไทยธรรมสำหริ!]ถวายพระอีก 4
I ขุด แต่ละชดมีดอกไม้ธปเทียนพร้อมด้วยสี่งของบางอย่าง เช่นบุ ไม้ขีดไฟ ใบชา ฟ้าสบงหรือผ่าอาบ หรือฟ้าเช็ดต*'ว กไ]'ใบปวารณา บอกจำนวนเงินที่ถวายใส่ชอง ๆ ละ ๑ ใบ รวมใส่ถาดด้ดเตรียมไว้ เพือถวายเมื่อสวดพระอภิธรรมจบลง การด้ด์ที่สำหรไเสวดพระอภิธรรมน5ม ฟ้าผู้ตายถึง แก โรงพยาบาล การด้ด์ที่ต่งศพกตํธงนำไปจํด์ต่งที่วํด์ เพราะถึ ไม่ควรนำศพเข้าบาน และได้ถือปฏิบัติเช่นมื่น'โดยที่ว1ไป ได้นำศพจากโรงพยาบาลมาต่งสวดพระอภิธรรมที่บานกมีบ็างเหมีอน ก‘น์ แต่ส่วนมากมกนำ1ไปจไ)การที่ว'ด เมื่อ1ได้ติดต่อทาง'วํด์แล ไปถึงวไแเลว ก่เบืนหน่ไทีของทาง1วไเจะตํ้งศพตลอดจนทีสวดพระอภ ธรรม ด’วย เจ่าภาพไม่ตองเกียวข้องแก่การจด์ด่ง์กล่าวนนแต่อย่าง'ใ การสวดพระอภิธรรม ตามปกติ1จะเรี่มแต่เวลา ๒๐.๐0 น. และจะจบลงในเวลาประ- มาณ ๒๒.0๐ น. พระสงร็]ทีสวดพระอภิธรรมมีชุดละ 4 รป ตาม ปกติกสวดก”นเพียงชุดเดียว แต่ฟ้าเบนงานใหญ่ ๆ จะนิมนต์พระ มาสวดเบึม ๒ ชุดกึได้ บางรายกึหาแม่ขีมาสวดสลไเกไ]พระสง‘ค์ด้ ฟ้าการตงศพมีกำหนดหลายวไ] และฟ้าเจ่าภาพป.ระสงค์จะ การสวดได้จบลงก่อนเวลา ๒๒.0๐ น. กนิมนต์พระสวดเรี่มแต่เวลา ๑๘.๐๐ หรือ ๑๘.๓๐ น. ฟ้าต่องการเช่นน1นกึแด้งให้ทางวไเทราบ เมื่ I
ไ50๕ พระสวด1ไต้ทราบความประสงคแล้ว ท่านก็จะมาถึงตามเวลาทีกำหนด และจะสวดจบลงภายในเวลา ๒๑.0๐ หรืธ ๒๑.๓0 น. ก่อนที่จะมีการสวดพระอภิธรรม เก่าภาพจะท่องเบึนผู้จุดเทียน และ1จุดธูปบขาพระร*ตนศรํย์ก่บิน เส'ร็จแด้วก็'จุดเทียนและธปบขาพระ ธรรม ชื่งบรรจุอยู่ภายในตู้ที่ตงอยู่เบธงหน้าของพระสวด เสร็จแล้ จึงจดธปบชาศพหรืชิไหว้ศพ ในการจดธปบชาศพน8น ผ้เบืมเก่าภาพ ซร'ง!1จ.ะเบ*น. เจ’า-ข’อ'1งศพหรอเบนผู่อ่นรบเบนเจาภาพกตาม จ.บะตอ'.ง.บ.อ'\"ก ข้ตาย,ในขณฺะที่1ไหว้ศพนน้ว่า วํน์นข์าพเก่าหรือผม1ได้มาบำเพ เพื่ออทีคให้แก่....(ออกชื่อผู้ตาย) มีการรืบ์ศีสและสวดพระ (ก่ามีเท่ศน้ก็1ว่ามีเทศน์) ขอ.'...1จง1ได้อนุโมทนาและร\"บส่วนกุศลนึ ถาหากเบนบคคลในครอบศร”ว เช่นเบึนภรรยาก็เรียกตํว์เองว่าดิฉํน์ เบึมสามีกึเรืยกต้ว์เอง1ว่า'น้น์' เบึมลูกกว่าลูก ดํง์นเบืนตน เสร็จแล้ว จึงก่ด์การอาราธนาคล การอาราธนาศลน้น์หากติงสวดทีวด จะมี เก่าหน้าที่ของว่ดเบึนผ้เกล่าวคำอาราธนา แต่น้าตงสวดทีน้านทางผาย เก่าภาพก็อาราธนาเอง กเพอจะให้ผู้พงได้ชำระจิตใจให้ การรํบ์ศีลก่อนพงพระสวด สะอาดหมดจด กระท่าใจใหสคใสแลวจงพงพระสาด แฟิวดาเนนการ บำเพ็ญกุศลต่อไป ในขณะที่กล่าวคำอาราธนาศีล เจาภาพหรือ คนหนึ่งคมใดจะต้อง,ใช้มือเคาะทีหีบศพ แต่เพียงเบา ๆ บอกว่ารโ]ศีล การร'บศีลนนตามปกติก็ร่11ก่นแเศ'เพียงพีด & เท่าน\"น เมออาราธนา จบลง พระสงร์เผ้อาวโสก็ให้ศีล ผ้รไ]จะตองออกเลียงร่บ ไห้เสียง
0 ๒๖ ของตนออกจากปากพอสมควร เพื่อพระท่านจะได้ย้น และทราบ ผู้ที่อยู่,ในที่น5น1ได้มีการร'บศีลตามที่ขอ เมื่อพระให้ศีลเสรีจแล้ว ณ สวดพระอภิธรรม เจาภาพและผู้พงกประณมมือพงด้วยความเคารพ กล่าวคือ สำรวมกิริยาให้สงบเสงี่ยมเรียบร่อยตลอดจนจบ เมื่อพระสวดครบ & จบแล้ว เล้าภาพจะต้ธงประเคน -สิ ญ'จนแด่พระสงขเพื่อสวดบ่ง์สกล แต่ล้าเล้าภาพได้1จ่ด บ่งสกลไว้ ก็นำ{ร่าพร่ธมด้วย1ใบปวารณา'วางดงบนดำยสายสิญ หรือล้าภษาโยงที่เล้าหนำที่ของว่ด์จะจํดให้ หากไม ทอดจะใช้ใบปวารณาที่ใส่ซองไว้วางแทนก็ได้ การทอดล้ ใบปวารณากดี ให้'วางลงตรงหนาของพระสงซแต้ละรป โดยไม่ต้อ ประเคน เมื่อวางเสร็จเรียบร่อยแล้ว พระสงฃจะซโ]บํง์สกุล แล้วเล้าภาพก็ประเคนเครื่องไทยธรรมที่ล้ดไว้สำหรโ]ถวาย เมื่อ ของเสรจแลว พระสงฃผู้อาวโสกจะกล่าวคำ ยถา วารีวห เจ่าภาพก็ล้ค์การกรวดนาปีทิศส่วนกุศล'ไห้แก่ผู้ตา การอุทิศสวนกศ®ให้ผู้ตาย การกรวดนำในการบำเพึญกุศลต่าง ๆ น1น ผักรวดนาจะ ร้หดโ]ของการกรวด ว่าจะเริมลงมือกรวดเวลาใด และจะจบกา กรวดเวลาใด ผู้กรวดน่ำควรรู้หลโ]พองต้นไว้ต้ง์น ต. ให้เริมลงมือกรวดนา เมอเวลาพระท่านว่า ยถาว หา ฯลฯ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174