Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore บททำวัตร สวดมนต์(แปล) อักษรไทยบาลี

บททำวัตร สวดมนต์(แปล) อักษรไทยบาลี

Description: บททำวัตร สวดมนต์(แปล) อักษรไทยบาลี

Search

Read the Text Version

๒๕๕๓] บทสวดมนตภาวนาพิเศษทายทำวัตร 37 ๕. ทวตั ตงิ สาการปาฐะ (บทสวดพจิ ารณาอาการ ๓๒ ในรา งกาย) (นำ) หนฺท มยํ ทฺวตฺตึสาการปาฐํ ภณาม เส. อตฺถิ อิมสฺมึ กาเย ในรา งกายนม้ี ี :- เกสา ผมทง้ั หลาย, โลมา ขนทงั้ หลาย, นขา เลบ็ ทง้ั หลาย, ทนฺตา ฟน ทงั้ หลาย, ตโจ หนงั , มํสํ เนอื้ , นฺหารู เอน็ ทง้ั หลาย, อฏฐี กระดกู ทง้ั หลาย, อฏฐิมิฺชํ เยอื่ ในกระดกู , วกฺกํ ไต, หทยํ หวั ใจ, ยกนํ ตบั , กิโลมกํ พงั ผดื , ปหกํ มา ม, ปปฺผาสํ ปอด, อนฺตํ ลำไส, อนฺตคุณํ ลำไสส ดุ , อุทริยํ อาหารในกะเพาะ, กรีสํ อจุ จาระ, ปตฺตํ น้ำด,ี เสมฺหํ เสลด, ปุพฺโพ หนอง, โลหิตํ เลอื ด, เสโท เหงอ่ื , เมโท มนั , อสฺสุ นำ้ ตา, วสา นำ้ เหลือง, เขโฬ นำ้ ลาย, สิงฺฆานิกา นำ้ เมือก, ลสิกา นำ้ ลน่ื หลอ ขอ , มุตฺตํ นำ้ มตู ร, มตฺถเก มตฺถลุงฺคํ เยอ่ื มนั สมองในกระโหลกศรี ษะ, อิติ ดงั นแี้ ล. ๖. เขมาเขมสรณทปี ก คาถา (บทสวดแสดงลักษณะสรณะที่เกษมและไมเกษม) (นำ) หนฺท มยํ เขมาเขมสรณทีปกคาถาโย ภณาม เส. พหุํ เว สรณํ ยนฺติ ปพฺพตานิ วนานิ จ อารามรุกฺขเจตฺยานิ* มนุสฺสา ภยตชฺชิตา. มนษุ ยเ ปน อนั มาก เมอ่ื เกดิ มภี ยั คกุ คามแลว กค็ อื เอาภเู ขาบา ง ปา ไมบ า ง อารามและรกุ ขเจดยี บ า ง เปน สรณะ เนตํ โข สรณํ เขมํ เนตํ สรณมุตตมํ เนตํ สรณมาคมฺม สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจติ. * ...เจตยฺ านิ เปน คำควบกลำ้ อา นวา ...เจ ตะยา นิ โดยออกเสยี ง ตยฺ า ควบกนั

38 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. นนั่ มใิ ชส รณะอนั เกษมเลย นนั่ มใิ ชส รณะอนั สงู สดุ เขาอาศยั สรณะนน่ั แลว ยอ มไมพ น จากทกุ ขท งั้ ปวงได โย จ พุทธฺจ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ สรณํ คโต จตฺตาริ อริยสจฺจานิ สมฺมปฺปฺญาย ปสฺสติ. สว นผใู ดถอื เอาพระพทุ ธ พระธรรม พระสงฆ เปน สรณะแลว เหน็ อรยิ สจั คอื ความจรงิ อนั ประเสรฐิ สี่ ดว ยปญ ญาอนั ชอบ ทุกฺขํ ทุกฺขสมุปฺปาทํ ทุกฺขสฺส จ อติกฺกมํ อริยฺจฏฐงฺคิกํ มคฺคํ ทุกฺขูปสมคามินํ. คอื เหน็ ความทกุ ข เหตใุ หเ กดิ ทกุ ข ความกา วลว งทกุ ขเ สยี ได และหนทาง มอี งค ๘ อนั ประเสรฐิ เครอ่ื งถงึ ความระงบั ทกุ ข เอตํ โข สรณํ เขมํ เอตํ สรณมุตตมํ เอตํ สรณมาคมฺม สพฺพทุกฺขา ปมุจฺจติ. นนั่ แหละเปน สรณะอนั เกษม นนั่ เปน สรณะอนั สงู สดุ เขาอาศยั สรณะนน่ั แลว ยอ มพน จากทกุ ขท ง้ั ปวงได อตฺตนา ว กตํ ปาปํ อตฺตนา สงฺกิลิสฺสติ อตฺตนา อกตํ ปาปํ อตฺตนา ว วิสุชฺฌติ สุทฺธิ อสุทฺธิ ปจฺจตฺตํ นาฺโญ อฺญํ วิโสธเย. ตนเองทำบาปเอง ตนเองเศรา หมองเอง ตนไมท ำบาป ตนกบ็ รสิ ทุ ธเิ์ อง ความบรสิ ทุ ธหิ์ รอื ไมบ รสิ ทุ ธเิ์ ปน เฉพาะตน คนอน่ื จะใหค นอนื่ บรสิ ทุ ธแ์ิ ทนไมไ ด ๗. อรยิ ธนคาถา (บทสวดแสดงอริยทรัพยเปนคุณสมบัติของคนที่ไมยากจน) (นำ) หนฺท มยํ อริยธนคาถาโย ภณาม เส. ยสฺส สทฺธา ตถาคเต อจลา สุปติฏฐิตา, ศรทั ธาในพระตถาคตของผใู ด ตงั้ มนั่ อยา งดี ไมห วนั่ ไหว สีลฺจ ยสฺส กลฺยาณํ อริยกนฺตํ ปสํสิตํ. และศลี ของผใู ดงดงาม เปน ทสี่ รรเสรญิ พอใจของพระอรยิ เจา

๒๕๕๓] บทสวดมนตภาวนาพิเศษทายทำวัตร 39 สงฺเฆ ปสาโท ยสฺสตฺถิ อุชุภูตฺจ ทสฺสนํ, ความเลอื่ มใสของผใู ดมใี นพระสงฆ และความเหน็ ของผใู ดตรง อทลิทฺโทติ ตํ อาหุ อโมฆนฺตสฺส ชีวิตํ. บณั ฑติ กลา วเรยี กเขาผนู น้ั วา คนไมจ น ชวี ติ ของเขาไมเ ปน หมนั ตสฺมา สทฺธฺจ สีลฺจ ปสาทํ ธมฺมทสฺสนํ, อนุยุฺเชถ เมธาวี สรํ พุทฺธาน สาสนํ. เพราะฉะนน้ั เมอื่ ระลกึ ไดถ งึ คำสอนของพระพทุ ธเจา อยู ผมู ปี ญ ญาควร กอ สรา งศรทั ธา ศลี ความเลอ่ื มใส และเหน็ ธรรมใหเ นอื งๆ. ๘. ตลิ กั ขณาทคิ าถา (บทสวดพิจารณาไตรลักษณเปนตน) (นำ) หนฺท มยํ ติลกฺขณาทิคาถาโย ภณาม เส. สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจาติ ยทา ปฺญาย ปสฺสติ, เมอื่ ใด บคุ คลเหน็ ดว ยปญ ญาวา สงั ขารทง้ั ปวงไมเ ทย่ี ง อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา. เมอื่ นน้ั ยอ มเหนอื่ ยหนา ยในสง่ิ ทเ่ี ปน ทกุ ข( ทตี่ นหลง) นนั่ แหละ เปน ทางแหง พระนพิ พาน อนั เปน ธรรมหมดจด สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขาติ ยทา ปฺญาย ปสฺสติ, เมอ่ื ใด บคุ คลเหน็ ดว ยปญ ญาวา สงั ขารทงั้ ปวงเปน ทกุ ข อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา. เมอื่ นนั้ ยอ มเหนอื่ ยหนา ยในสงิ่ ทเี่ ปน ทกุ ข( ทต่ี นหลง) นนั่ แหละ เปน ทางแหง พระนพิ พาน อนั เปน ธรรมหมดจด สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตาติ ยทา ปฺญาย ปสฺสติ, เมอื่ ใด บคุ คลเหน็ ดว ยปญ ญาวา ธรรมทงั้ ปวงเปน อนตั ตา อถ นิพฺพินฺทติ ทุกฺเข เอส มคฺโค วิสุทฺธิยา. เมอ่ื นนั้ ยอ มเหนอื่ ยหนา ยในสง่ิ ทเ่ี ปน ทกุ ข( ทตี่ นหลง) นน่ั แหละ เปน ทางแหง พระนพิ พาน อนั เปน ธรรมหมดจด

40 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. อปฺปกา เต มนุสฺเสสุ เย ชนา ปารคามิโน, ในหมมู นษุ ยท ง้ั หลาย ผทู ถ่ี งึ ฝง แหง พระนพิ พานมนี อ ยนกั อถายํ อิตรา ปชา ตีรเมวานุธาวติ. หมมู นษุ ยน อกนนั้ ยอ มวง่ิ เลาะอยตู ามฝง ในนเ่ี อง เย จ โข สมฺมทกฺขาเต ธมฺเม ธมฺมานุวตฺติโน, กช็ นเหลา ใดประพฤตสิ มควรแกธ รรม ในธรรมทต่ี รสั ไวช อบแลว เต ชนา ปารเมสฺสนฺติ มจฺจุเธยฺยํ สุทุตฺตรํ. ชนเหลา นนั้ จกั ถงึ ฝง แหง พระนพิ พาน ขา มพน บว งแหง มจั จทุ ทข่ี า มไดย ากนกั กณฺหํ ธมฺมํ วิปฺปหาย สุกฺกํ ภาเวถ ปณฺฑิโต, จงเปน บณั ฑติ ละธรรมดำเสยี แลว เจรญิ ธรรมขาว โอกา อโนกมาคมฺม วิเวเก ยตฺถ ทูรมํ, ตตฺราภิรติมิจฺเฉยฺย หิตฺวา กาเม อกิฺจโน. จงมาถงึ ทไี่ มม นี ้ำ จากทมี่ นี ำ้ จงละกามเสยี เปน ผไู มม คี วามกงั วล จงยนิ ดเี ฉพาะตอ พระนพิ พานอนั เปน ทส่ี งดั ซง่ึ สตั วย นิ ดไี ดโ ดยยาก. ๙. ภารสตุ ตคาถา (บทสวดพิจารณาเบญจขันธเปนภาระหนัก) (นำ) หนฺท มยํ ภารสุตฺตคาถาโย ภณาม เส. ภารา หเว ปฺจกฺขนฺธา. ขนั ธท งั้ หา เปน ภาระหนกั เนอ ภารหาโร จ ปุคฺคโล. บคุ คลแหละเปน ผแู บกภาระหนกั พาไป ภาราทานํ ทุกฺขํ โลเก. การแบกถอื ภาระหนกั เปน ความทกุ ขใ นโลก ภารนิกฺเขปนํ สุขํ. การสลดั ของภาระหนกั ทง้ิ ลงเสยี เปน ความสขุ นิกฺขิปตฺวา ครุํ ภารํ, พระอรยิ เจา สลดั ทงิ้ ภาระหนกั ลงเสยี แลว อฺญํ ภารํ อนาทิย, ทง้ั ไมห ยบิ ฉวยเอาภาระหนกั อนั อน่ื ขนึ้ มาอกี สมูลํ ตณฺหํ อพฺพุยฺห, กเ็ ปน ผถู อนตณั หาขน้ึ ไดก ระทงั่ ราก นิจฺฉาโต ปรินิพฺพุโต. เปน ผหู มดสง่ิ ปรารถนา ดบั สนทิ (ปรนิ พิ พาน)ไมม สี ว นเหลอื .

๒๕๕๓] บทสวดมนตภาวนาพิเศษทายทำวัตร 41 ๑๐. ภทั เทกรตั ตคาถา (บทสวดเพ่ือไมประมาทตามแบบอยางผูใชราตรีเดียวอยางคุมคา) (นำ) หนฺท มยํ ภทฺเทกรตฺตคาถาโย ภณาม เส. อตีตํ นานฺวาคเมยฺย นปฺปฏิกงฺเข อนาคตํ ยทตีตมฺปหีนนฺตํ อปฺปตฺตฺจ อนาคตํ. บุคคลไมควรตามคิดถึงสิ่งที่ลวงไปแลว ดวยอาลัย และไมพึงพะวงถึง สง่ิ ทยี่ งั ไมม าถงึ สง่ิ ทเ่ี ปน อดตี กล็ ะไปแลว สงิ่ ทเี่ ปน อนาคตกย็ งั ไมม า ปจฺจุปนฺนฺจ โย ธมฺมํ ตตฺถ ตตฺถ วิปสฺสติ อสํหิรํ อสงฺกุปฺปํ ตํ วิทฺธา มนุพฺรูหเย. ผูใดเห็นธรรมอันเกิดข้ึนเฉพาะหนา (ปจจุบัน) ในท่ีน้ันๆ อยางแจมแจง ไมง อ นแงน ไมค ลอนแคลน ผนู น้ั ควรพอกพนู ลกั ษณาการเชน นนั้ ไว อชฺเชว กิจฺจมาตปฺปํ โก ชฺญา มรณํ สุเว น หิ โน สงฺครนฺเตน มหาเสเนน มจฺจุนา. ความเพยี รเปน กจิ ตอ งทำวนั นี้ ใครเลา จะรถู งึ ความตายแมว นั พรงุ นี้ เพราะ เปน ไปไมไ ดเ ลยทเี่ ราทง้ั หลายจะผดั เพยี้ นตอ มจั จรุ าชทมี่ เี สนามาก เอวํวิหาริมาตาป อโหรตฺตมตนฺทิตํ ตํ เว ภทฺเทกรตฺโตติ สนฺโต อาจิกฺขเต มุนิ. มุนีผูสงบยอมกลาวเรียกผูมีความเพียรอยูเชนน้ัน ไมเกียจครานท้ัง กลางวนั และกลางคนื วา ผเู ปน อยเู พยี งราตรเี ดยี วกค็ มุ คา นา ชน่ื ชม. ๑๑. ธมั มคารวาทคิ าถา (บทสวดแสดงผเู คารพในพระธรรมเปน ตน ) (นำ) หนฺท มยํ ธมฺมคารวาทิคาถาโย ภณาม เส. เย จ อตีตา สมฺพุทฺธา เย จ พุทฺธา อนาคตา โย เจตรหิ สมฺพุทฺโธ พหุนฺนํ โสกนาสโน. พระพุทธเจาบรรดาที่ลวงไปแลวดวย ที่ยังไมมาตรัสรูดวย และพระพุทธเจา ผขู จดั โศกของมหาชนในกาลบดั นดี้ ว ย

42 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. สพฺเพ สทฺธมฺมครุโน วิหรึสุ วิหาติ จ อถาป วิหริสฺสนฺติ เอสา พุทฺธาน ธมฺมตา. พระพุทธเจาทั้งปวงน้ัน ทุกพระองคเคารพพระธรรม ไดเปนมาแลว กำลังเปนอยูดวย และจักเปนดวย เพราะธรรมดาของพระพุทธเจาทั้งหลาย เปน เชน นนั้ เอง ตสฺมา หิ อตฺตกาเมน มหตฺตมภิกงฺขตา สทฺธมฺโม ครุกาตพฺโพ สรํ พุทฺธาน สาสนํ. เพราะฉะนนั้ บคุ คลผรู กั ตน หวงั อยเู ฉพาะคณุ เบอ้ื งสงู เมอ่ื ระลกึ ไดถ งึ คำสงั่ สอนของพระพทุ ธเจา อยู จงทำความเคารพพระธรรม น หิ ธมฺโม อธมฺโม จ อุโภ สมวิปากิโน อธมฺโม นิรยํ เนติ ธมฺโม ปาเปติ สุคตึ. ธรรม และอธรรม จะมผี ลเหมอื นกนั ทงั้ สองอยา ง หามไิ ด อธรรมยอ ม นำไปนรก ธรรมยอ มนำใหถ งึ สคุ ติ ธมฺโม หเว รกฺขติ ธมฺมจารึ. ธรรมแลยอ มรกั ษาผปู ระพฤตธิ รรมเปน นติ ย ธมฺโม สุจิณฺโณ สุขมาวหาติ. ธรรมทป่ี ระพฤตดิ แี ลว ยอ มนำสขุ มาใหต น เอสานิสํโส ธมฺเม สุจิณฺเณ. นเี่ ปน อานสิ งสใ นธรรมทต่ี นประพฤตดิ แี ลว . ๑๒. โอวาทปาตโิ มกขคาถา (บทสวดรำลึกถึงพระโอวาทปาติโมกข) (นำ) หนฺท มยํ โอวาทปาติโมกฺขคาถาโย ภณาม เส. สพฺพปาปสฺส อกรณํ การไมทำบาปทั้งปวง กุสลสฺสูปสมฺปทา การทำกศุ ลใหถ งึ พรอ ม สจิตฺตปริโยทปนํ การชำระจติ ของตนใหใ สสะอาด เอตํ พุทฺธาน สาสนํ. ทง้ั สามอยา งนเี้ ปน คำสง่ั สอนของพระพทุ ธเจา ทงั้ หลาย

๒๕๕๓] บทสวดมนตภาวนาพิเศษทายทำวัตร 43 ขนฺตี ปรมํ ตโป ตีติกฺขา ขนั ติ คอื ความอดกลนั้ เปน ธรรมเครอื่ งเผากเิ ลสอยา งยงิ่ นิพฺพานํ ปรมํ วทนฺติ พุทฺธา ผรู ทู ง้ั หลายกลา วพระนพิ พานวา เปน ธรรมอนั ยงิ่ น หิ ปพฺพชิโต ปรูปฆาตี ผกู ำจดั สตั วอ นื่ อยู ไมช อื่ วา เปน บรรพชติ เลย สมโณ โหติ ปรํ วิเหฐยนฺโต. ผทู ำสตั วอ นื่ ใหล ำบากอยู กไ็ มช อ่ื วา เปน สมณะ อนูปวาโท อนูปฆาโต ปาติโมกฺเข จ สํวโร การไมก ลา วรา ย ๑ การไมท ำรา ย ๑ การสำรวมในปาตโิ มกข ๑ มตฺตฺุตา จ ภตฺตสฺมึ ปนฺตฺจ สยนาสนํ ความเปน ผรู ปู ระมาณในการบรโิ ภค ๑ การนอนการนงั่ ในทอ่ี นั สงดั ๑ อธิจิตฺเต จ อาโยโค เอตํ พุทฺธาน สาสนํ. ความหมนั่ ประกอบในการทำจติ ใหย ง่ิ (อธจิ ติ ) ๑ ทง้ั หกประการน้ี เปน คำสงั่ สอนของพระพทุ ธเจา ทง้ั หลาย. ๑๓. ปฐมพทุ ธภาสติ คาถา (บทสวดระลึกถึงปฐมพุทธพจน) (นำ) หนฺท มยํ ปฐมพุทฺธภาสิตคาถาโย ภณาม เส. อเนกชาติสํสารํ สนฺธาวิสฺสํ อนิพฺพิสํ เมอื่ เรายงั ไมพ บญาณ ไดแ ลน ทอ งเทย่ี วไปในสงั สารวฏั เปน อเนกชาติ คหการํ คเวสนฺโต ทุกฺขา ชาติ ปุนปฺปุนํ. แสวงหาอยซู งึ่ นายชา งปลกู เรอื น คอื ตณั หาผสู รา งภพ การเกดิ ครงั้ แลว ครั้งเลา เปน ทกุ ขร่ำไป คหการก ทิฏโฐสิ ปุน เคหํ น กาหสิ นแี่ นะ นายชา งปลกู เรอื น เรารจู กั เจา เสยี แลว เจา จะทำเรอื นใหเ ราไมไ ด อกี ตอ ไป

44 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. สพฺพา เต ผาสุกา ภคฺคา คหกูฏํ วิสงฺขตํ โครงเรอื นทงั้ หมดของเจา เราหกั เสยี แลว ยอดเรอื นเรากร็ อ้ื เสยี แลว วิสงฺขารคตํ จิตฺตํ ตณฺหานํ ขยมชฺฌคา. จติ ของเราถงึ แลว ซง่ึ สภาพทอี่ ะไรปรงุ แตง ไมไ ดอ กี ตอ ไป มนั ไดถ งึ แลว ซงึ่ ความสน้ิ ไปแหง ตณั หา (คอื ถงึ นพิ พาน). ๑๔. ปจ ฉมิ พทุ โธวาทปาฐะ (บทสวดระลึกถึงปจฉิมพุทโธวาท) (นำ) หนฺท มยํ ปจฺฉิมพุทฺโธวาทปาฐํ ภณาม เส. หนฺททานิ ภิกฺขเว อามนฺตยามิ โว, ดกู อ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย เอาละ บดั นี้ เราขอเตอื นทา นทง้ั หลายวา วยธมฺมา สงฺขารา, สงั ขารทงั้ หลายมคี วามเสอ่ื มไปเปน ธรรมดา อปฺปมาเทน สมฺปาเทถ, ทา นทง้ั หลายจงทำความไมป ระมาทใหถ งึ พรอ มเถดิ อยํ ตถาคตสฺส ปจฺฉิมา วาจา. นเ้ี ปน พระวาจา(พทุ โธวาท)ครง้ั สดุ ทา ยของพระตถาคตพทุ ธเจา . ๑๕. บทพจิ ารณาสงั ขาร (สวดไดท ง้ั เวลาเยน็ หรอื เขา นอน) สพฺเพ สงฺขารา อนิจฺจา. สงั ขารคอื รา งกายจติ ใจ แลรปู ธรรม นามธรรม ทง้ั หมดทง้ั สนิ้ มนั ไมเ ทยี่ ง เกดิ ขน้ึ แลว ดบั ไป มแี ลว หายไป สพฺเพ สงฺขารา ทุกฺขา. สงั ขารคอื รา งกายจติ ใจ แลรปู ธรรม นามธรรม ทง้ั หมดทง้ั สนิ้ มนั เปน ทกุ ขท นยาก เพราะเกดิ ขนึ้ แลว แก เจบ็ ตายไป

๒๕๕๓] บทสวดมนตภาวนาพิเศษทายทำวัตร 45 สพฺเพ ธมฺมา อนตฺตา. สง่ิ ทงั้ หลายทง้ั ปวง ทง้ั ทเ่ี ปน สงั ขาร แลมใิ ชส งั ขาร ทงั้ หมดทงั้ สน้ิ ไมใ ชต วั ไมใ ชต น ไมค วรถอื วา เรา วา ของเรา วา ตวั ตนของเรา อธุวํ ชีวิตํ. ชวี ติ เปน ของไมย ง่ั ยนื ธุวํ มรณํ. ความตายเปนของยั่งยืน อวสฺสํ มยา มริตพฺพํ. อนั เราจะพงึ ตายเปน แนแ ท มรณปริโยสานํ เม ชีวิตํ. ชวี ติ ของเรามคี วามตายเปน ทส่ี น้ิ สดุ ชีวิตํ เม อนิยตํ. ชีวิตของเราเปนของไมเท่ียง มรณํ เม นิยตํ. ความตายของเราเปนของเท่ียง วต ควรท่ีจะสังเวช อยํ กาโย รา งกายนี้ อจิรํ มไิ ดต งั้ อยนู าน อเปตวิฺญาโณ ครนั้ ปราศจากวญิ ญาณ ฉุฑฺโฑ อนั เขาทง้ิ เสยี แลว อธิเสสฺสติ จกั นอนทบั ปฐวึ ซง่ึ แผน ดนิ กลิงครํ อิว ประดจุ ดงั วา ทอ นไมแ ละทอ นฟน นิรตฺถํ. หาประโยชนม ไิ ด. ๑๖. อทุ ทสิ สนาธฏิ ฐานคาถา (บทสวดอธิษฐานอุทิศสวนบุญกุศลแบบอิมินา) (นำ) หนฺท มยํ อุทฺทิสสนาธิฏฐานคาถาโย ภณาม เส. อิมินา ปุฺญกมฺเมน ดว ยบญุ นอ้ี ทุ ศิ ให อุปชฺฌายา คุณุตฺตรา อปุ ช ฌายผ เู ลศิ คณุ อาจริยูปการา จ และอาจารยผ เู กอ้ื หนนุ มาตาปตา จ ญาตกา ทง้ั พอ แม แลปวงญาติ สุริโย จนฺทิมา ราชา สรู ยจ นั ทรแ ลราชา

46 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. คุณวนฺตา นราป จ ผทู รงคณุ หรอื สงู ชาติ พระหม มาร และอนิ ทราช พฺรหฺมมารา จ อินฺทา จ ท้ังทวยเทพและโลกบาล โลกปาลา จ เทวตา ยมราช มนษุ ย มติ ร ยโม มิตฺตา มนุสฺสา จ ผเู ปน กลาง ผจู อ งผลาญ ขอใหเ ปน สขุ ศานตทิ์ กุ ทวั่ หนา อยา ทกุ ขท น มชฺฌตฺตา เวริกาป จ บญุ ผองทข่ี า ทำ จงชว ยอำนวยศภุ ผล สพฺเพ สตฺตา สุขี โหนฺตุ ใหส ขุ สามอยา งลน ปุฺญานิ ปกตานิ เม ใหล ถุ งึ นพิ พานพลนั . สุขํ จ ติวิธํ เทนฺตุ ขิปฺปํ ปาเปถ โว มตํ. อิมินา ปุฺญกมฺเมน ดว ยบญุ นท้ี เี่ ราทำ อิมินา อุทฺทิเสน จ แลอทุ ศิ ใหป วงสตั ว ขิปฺปาหํ สุลเภ เจว เราพลนั ไดซ ง่ึ การตดั ตณฺหุปาทานเฉทนํ ตวั ตณั หา อปุ าทาน เย สนฺตาเน หินา ธมฺมา สง่ิ ชว่ั ในดวงใจ ยาว นิพพานโต มมํ กวา เราจะถงึ นพิ พาน นสฺสนฺตุ สพฺพทาเยว มลายสน้ิ จากสนั ดาน ยตฺถ ชาโต ภเว ภเว ทกุ ๆ ภพทเ่ี ราเกดิ อุชุจิตฺตํ สติปฺญา มจี ติ ตรงและสติ ทงั้ ปญญาอนั ประเสรฐิ สลฺเลโข วิริยมฺหินา พรอ มทงั้ ความเพยี รเลศิ เปน เครอื่ งขดุ กเิ ลสหาย มารา ลภนฺตุ โนกาสํ โอกาสอยา งพงึ มแี กห มมู ารสน้ิ ทงั้ หลาย กาตุฺจ วิริเยสุ เม เปน ชอ งประทษุ รา ย ทำลายลา งความเพยี รจม พุทฺธาทิปวโร นาโถ พระพทุ ธผบู วรนาถ ธมฺโม นาโถ วรุตฺตโม พระธรรมทพ่ี งึ่ อดุ ม นาโถ ปจฺเจกพุทฺโธ จ พระปจ เจกพทุ ธะ สงฺโฆ นาโถตฺตโร มมํ สมทบพระสงฆท พ่ี งึ่ ผยอง เตโสตฺตมานุภาเวน ดว ยอานภุ าพนน้ั มาโรกาสํ ลภนฺตุ มา ขอหมมู ารอยา ไดช อ ง ทสปุฺญานุภาเวน ดวยเดชบุญทั้งสิบปอง มาโรกาสํ ลภนฺตุ มา. อยา เปด โอกาสแกม าร (เทอญ)

๒๕๕๓] บทสวดมนตภาวนาพิเศษทายทำวัตร 47 เย เกจิ ขุทฺทกา ปาณา สตั วเ ลก็ ทง้ั หลายใด มหนฺตาป มยา หตา ทงั้ สตั วใ หญ เราห้ำหน่ั มใิ ชน อ ย เพราะเผลอผลนั เย จาเนเก ปมาเทน ทางกาย วาจา จติ กายวาจามเนเหว จงอนโุ มทนากศุ ล ปุฺญํ เม อนุโมทนฺตุ ถอื เอาผลออนั อกุ ฤษฏ คณฺหนฺตุ ผลมุตฺตมํ ถา มเี วร จงเปลอ้ื งปลดิ เวรา โน เจ ปมุฺจนฺตุ อดโทษขา ทว่ั หนา เทอญ. สพฺพโทสํ ขมนฺตุ เม. ๑๗. ยงั กญิ จตี อิ าทกิ ปต ตทิ านคาถา (บทอุทิศสวนกุศลแบบยังกิญจิ) (นำ) หนฺท มยํ ยงฺกิฺจีติอาทิกปตฺติทานคาถาโย ภณาม เส. ยงฺกิฺจิ กุสลํ กมฺมํ กศุ ลกรรมอยา งใดอยา งหนงึ่ เปน กจิ ซง่ึ ควรฝก ใฝ กตฺตพฺพํ กิริยํ มม ดว ยกาย วาจา ใจ กาเยน วาจามนสา เราทำแลว เพอ่ื ไปสวรรค ติทเส สุคตํ กตํ. เย สตฺตา สฺญิโน อตฺถิ สตั วเ หลา ใดมสี ญั ญา เย จ สตฺตา อสฺญิโน หรอื หาไม เปน อสญ ญ กตํ ปุฺญผลํ มยฺหํ ผลบญุ ขา ทำนนั้ สพฺเพ ภาคี ภวนฺตุ เต. ทกุ ๆ สตั วจ งมสี ว น เย ตํ กตํ สุวิทิตํ สตั วใ ดรกู เ็ ปน อนั ทินฺนํ ปุฺญผลํ มยา วา ขา ใหแ ลว ตามควร เย จ ตตฺถ น ชานนฺติ สตั วใ ดมริ ถู ว น เทวา คนฺตฺวา นิเวทยํุ. ขอเทพเจา จงเลา ขาน สพฺเพ โลกมฺหิ เย สตฺตา ปวงสตั วใ นโลกยี  ชีวนฺตาหารเหตุกา มีชีวิตดวยอาหาร จงไดโ ภชนส ำราญ มนุฺญํ โภชนํ สพฺเพ ตามเจตนาของขา พเจา เทอญ. ลภนฺตุ มม เจตสา.

48 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. ๑๘. บทอทุ ศิ สว นกศุ ล (กรวดนำ้ อกี แบบหนง่ึ ) ยนฺทานิ เม กตํ ปุฺญํ. ดว ยใจผอ งแผว ในกาลบดั นี้ บญุ ใดทเี่ ราไดก ระทำแลว มบี ดิ ามารดา ปยู า ตายาย ขออทุ ศิ พลแี กญ าตทิ ง้ั หลาย ทั้งหญิงชายผูละโลกไป เมอื่ ทราบพลนั ไมว า อยไู หน การใหส ว นบญุ ของขา พเจา นนั้ แลว กจ็ ะไดร บั สว นผลบญุ อนโุ มทนาเรว็ ไว ของขา พเจา นท้ี ท่ี ำแลว หนา อิทํ สุทฺธิ เม ทานํ. พระคณุ บดิ ามารดา ยา ปู ดว ยทานอนั บรสิ ทุ ธด์ิ ี ทตี่ อ งทำตนเปน คนกตญั ู ขอยกนอ มนำทำเปน เครอื่ งบชู า บำเพญ็ กตญั คู วรทำแทแ ล. อนั เปน หนา ทข่ี องลกู ทกุ คน เราเปน ชาวพทุ ธเปน พวกผรู ู บทกรวดน้ำยอ อิทํ เม ญาตีนํ โหตุ, สุขิตา โหนฺตุ ญาตโย. ขอสวนบุญนี้จงสำเร็จแกญาติท้ังหลายของขาพเจา ขอใหญาติทั้งหลายของขาพเจา จงมคี วามสขุ เถดิ . ๑๙. บทแผเ มตตาแกส รรพสตั ว สพฺเพ สตฺตา สตั วท ง้ั หลายทเี่ ปน เพอื่ นทกุ ข เกดิ แก เจบ็ ตายดว ยกนั ทงั้ หมดทงั้ สนิ้ อเวรา โหนฺตุ จงเปน สขุ เปน สขุ เถดิ อยา ไดม เี วรซงึ่ กนั และกนั เลย อพฺยาปชฺฌา โหนฺตุ จงเปน สขุ เปน สขุ เถดิ อยา ไดพ ยาบาทเบยี ดเบยี นซง่ึ กนั และกนั เลย อนีฆา โหนฺตุ จงเปน สขุ เปน สขุ เถดิ อยา ไดม คี วามทกุ ขก ายทกุ ขใ จเลย

๒๕๕๓] บทสวดมนตภาวนาพิเศษทายทำวัตร 49 สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตุ จงมคี วามสขุ กายสขุ ใจ รกั ษาตนใหพ น จากทกุ ขภ ยั ดว ยกนั ทง้ั หมดทง้ั สน้ิ เทอญ. บทแผเ มตตาแกส รรพสตั ว (อกี สำนวนหนง่ึ ) สพฺเพ สตฺตา สตั วโ ลกทงั้ หลายทง้ั ปวง ทเ่ี ปน เพอ่ื นทกุ ข เกดิ แก เจบ็ ตายดว ยกนั ทง้ั หมดทง้ั สน้ิ อเวรา จงเปน สขุ เปน สขุ เถดิ อยา ไดม เี วรแกก นั และกนั เลย อพฺยาปชฺฌา จงเปน สขุ เปน สขุ เถดิ อยา ไดเ บยี ดเบยี นซง่ึ กนั และกนั เลย อนีฆา จงเปน สขุ เปน สขุ เถดิ อยา ไดม คี วามทกุ ขก ายทกุ ขใ จเลย สุขี อตฺตานํ ปริหรนฺตุ. จงมคี วามสขุ กายสขุ ใจ รกั ษาตนใหพ น จากทกุ ขภยั ดว ยกนั ทง้ั หมดทงั้ สน้ิ เทอญ.

50 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ.

๒๕๕๓] บททำวัตรเชา 51 สว นที่ ๒ : พทุ ธมนตพ ธิ ี ประมวลบทพระปรติ ร เจ็ดตำนานและสิบสองตำนาน ในพธิ เี จรญิ พระพทุ ธมนต

52 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ.

๒๕๕๓] บททำวัตรเชา 53 องคค วามรเู กย่ี วกบั พระปรติ ร* ความหมายและความสำคัญของพระปริตร การสวดมนตภาวนา หรอื การเจรญิ พระพทุ ธมนต เปน ประเพณที ส่ี บื เนอื่ งกนั มาชานานของพุทธบริษัทหรือพุทธศาสนิกชนในหลายประเทศ โดยมีจุดมุงหมายเพ่ือรำลึก ถงึ คณุ ของพระรตั นตรยั และเจรญิ เมตตา จดั ไดว า เปน พนื้ ฐานของการเจรญิ วปิ ส สนา อนั เปน แกน สารของพระพทุ ธศาสนาตอ ไป ดงั คำพงั เพยวา สวดมนตเ ปน ยาทา ภาวนาเปน ยากนิ คนไทยในสมยั กอ นนยิ มสวดมนตด ว ยบทสวดมนตท เี่ รยี กวา เจด็ ตำนาน และสบิ สองตำนาน ในปจ จบุ นั นยิ มสวดมนตท ำวตั รเชา -เยน็ ซงึ่ เปน ราชนพิ นธใ นพระบาทสมเดจ็ พระจอมเกลา - เจา อยหู วั รชั กาลท่ี ๔ ดว ย บทสวดมนตภ าวนาเจด็ ตำนานและสบิ สองตำนานเรยี กในภาษาเดมิ วา “ปรติ ร” โดย ยกยอ งเปน ของสงู จงึ เพม่ิ คำวา “พระ” อนั มคี วามหมายวา ดี เลศิ ประเสรฐิ นำหนา เปน “พระปรติ ร” ซงึ่ เปน ทน่ี ยิ มสวดสาธยายของชาวพทุ ธมาตงั้ แตส มยั พทุ ธกาลจวบจนถงึ ปจ จบุ นั เพอ่ื ความมสี ริ มิ งคลและเพม่ิ พนู ภาวนาบารมี คำวา ปรติ ร แปลวา “เครอื่ งคมุ ครอง” หมายถงึ เปน เครอ่ื งปอ งกนั อนั ตรายทงั้ ภายใน และภายนอก ปอ งกนั อนั ตรายภายใน เชน ปอ งกนั ไมใ หเ กดิ โรคภยั ไขเ จบ็ เปน ตน ปอ งกนั อนั ตรายภายนอก เชน ปอ งกนั ไมใ หถ กู โจรหรอื สตั วเ ดรจั ฉานเปน ตน เบยี ดเบยี นทำรา ยเอา ซึ่งคุณสมบัติคือการปองกันอันตรายทั้งจากอันตรายภายในและภายนอกดังกลาวน้ี จัดเปน อานสิ งสท ไี่ ดร บั จากการสวดพระปรติ ร บงั เกดิ จากอานภุ าพของพระรตั นตรยั และเปน ผลของ การเจรญิ เมตตา เพราะพระปรติ รกลา วถงึ คณุ ของพระรตั นตรยั และการเจรญิ เมตตาเปน หลกั ดงั นนั้ ผหู มน่ั สาธยายพระปรติ รจงึ ไดผ ลานสิ งสต า งๆ เชน ประสบความสวสั ดี ความเจรญิ รงุ เรอื ง ไดร บั ชยั ชนะ แคลว คลาดจากอปุ สรรคอนั ตราย มสี ขุ ภาพอนามยั ดี และมอี ายยุ นื ดงั พระพทุ ธดำรสั ตรสั ไวใ นคมั ภรี อ ปาทาน พระไตรปฎ กเลม ท่ี ๓๒ วา “เธอจงเจรญิ พทุ ธานสุ สตภิ าวนาทย่ี อดเยยี่ มในภาวนาธรรม เพระาะผเู จรญิ ภาวนานจี้ ะ สมหวงั ดงั มโนรถ” * เกบ็ ความและขยายความเพมิ่ เตมิ จากบทรจนาของ พระคนั ธสาราภวิ งศ (สมลกั ษณ คนธฺ สาโร ธรรมาจรยิ ะ, อภวิ งั สะ วัดทา มะโอ จังหวัดลำปาง) ในหนังสอื “พระปรติ รธรรม พระคนั ธสาราภวิ งศ แปล” (พมิ พค รงั้ ที่ ๑๕, กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พอ กั ษรสมั พนั ธ, ๒๕๔๙.)

54 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. และทตี่ รสั ไวใ นคมั ภรี ส งั ยตุ ตนกิ าย นทิ านวรรค พระไตรปฎ กเลม ที่ ๑๖ วา “อมนษุ ยท ต่ี อ งการจะทำรา ยผเู จรญิ เมตตา ยอ มประสบภยั พบิ ตั เิ องเหมอื นคนทใ่ี ชม อื จบั หอกคม ยอ มไดร บั อนั ตรายจากการจบั หอกนนั้ ” แทท จ่ี รงิ พระปรติ รนนั้ คอื พระพทุ ธมนตอ นั ประมวลจากพระดำรสั ตรสั สอนพทุ ธบรษิ ทั ของ องคพ ระบรมศาสดาสมั มาสมั พทุ ธเจา ดงั นนั้ จงึ มพี ลานภุ าพและความมหศั จรรยเ ปน อยา งมาก โดยสามารถคมุ ครองปอ งกนั ผสู วดหรอื ผหู มนั่ สาธยายได เชน การสวดโมรปรติ ร ยอ ม มพี ลานภุ าพสามารถปอ งกนั ภยั จากผคู ดิ รา ย ดงั ปรากฏเปน เรอื่ งเลา ในคมั ภรี อ รรถกถาชาดก ซึ่งพระอรรถกถาจารย (พระผูรจนาคัมภีรอธิบายขยายความพระพุทธพจนในพระไตรปฎก) ไดกลาวประวัติความเปนมาของพระปริตรน้ีวา ในครั้งอดีตกาล เมื่อพระบรมโพธิสัตว เสวยพระชาติเปนนกยูงทอง ไดหม่ันสาธยายโมรปริตรท่ีกลาวถึงคุณของพระพุทธเจา ทำใหแ คลว คลาดจากบว งทน่ี ายพรานดกั ไวท กุ ครงั้ และ การสวดเมตตปรติ ร ทำใหไ ดร บั อานิสงสในทางเมตตามหานิยม หลับ-ต่ืนเปนสุข ไมฝนราย เปนท่ีรักของมนุษยและ สรรพสัตวเปนตน ซ่ึงปรากฏเปนเรื่องเลาในคัมภีรอรรถกถาธรรมบทวา ในสมัยพุทธกาล มภี กิ ษสุ งฆจ ำนวน ๕๐๐ รปู ไปบำเพญ็ จติ ตภาวนาในปา ไดถ กู รกุ ขเทวดารบกวนจนกระทงั่ ปฏบิ ตั ธิ รรมไมไ ด ตอ งเดนิ ทางกลบั ไปเฝา พระพทุ ธองค ณ พระวหิ ารเชตวนั เขตกรงุ สาวตั ถี กราบทลู ใหท รงทราบถงึ อปุ สรรคขดั ขวางตอ การบำเพญ็ สมณธรรมในปา นนั้ พระพทุ ธองคจ งึ ตรัสสอนใหสาธยายเมตตปริตรที่กลาวถึงการเจริญเมตตา คร้ันภิกษุเหลาน้ันหมั่นเจริญ เมตตาภาวนาสาธยายเมตตปรติ รตามทพ่ี ระพทุ ธดำรสั ตรสั สอน กไ็ ดร บั ผลเปน ทนี่ า อศั จรรย คอื รกุ ขเทวดาทงั้ หลายตา งมจี ติ ไมตรตี อบและชว ยพทิ กั ษค มุ ครองใหภ กิ ษเุ หลา นน้ั ปฏบิ ตั ธิ รรม โดยสะดวกสามารถสำเรจ็ เปน พระอรหนั ตไ ดใ นทสี่ ดุ มใิ ชแ ตเ พยี งมอี านภุ าพคมุ ครองปอ งกนั ผสู วดเทา นน้ั พระปรติ รยงั มอี านภุ าพคมุ ครอง ผูหม่ันฟงการสวดหรือผูตั้งใจฟงการสาธยายไดอีกดวย ดังเชน การสาธยายรัตนปริตร ของพระอานนทเถระในครงั้ พทุ ธกาลใหป ระชาชนชาวพระนครเวสาลฟี ง ซง่ึ มเี รอื่ งเลา ไวใ นคมั ภรี  อรรถกถาขทุ ทกปาฐะวา ครง้ั หนง่ึ พระนครเวสาลปี ระสบภยั ๓ อยา ง คอื ภยั จากความ อดอยากแรน แคน ภยั จากการเบยี ดเบยี นทำรา ยของพวกอนษุ ย และภยั จากการแพรร ะบาด ของอหวิ าตกโรค เปน เหตใุ หป ระชาชนทว่ั ทง้ั พระนครไดร บั ความเดอื ดรอ นทกุ ขท รมานแสน สาหสั พระพทุ ธองคจ งึ เสดจ็ ไปโปรดตามคำกราบทลู นมิ นต แลว รบั สงั่ ใหพ ระอานนทส าธยาย รตั นปรติ ร ทก่ี ลา วถงึ คณุ ของพระรตั นตรยั เปน สจั วาจา ในทา มกลางทป่ี ระชมุ ประชาชนชาว พระนครเวสาลี สง ผลใหภ ยั ดงั กลา วในพระนครเวสาลนี นั้ ไดส งบลงโดยลำดบั

๒๕๕๓] องคความรูเก่ียวกับพระปริตร 55 ในครง้ั พทุ ธกาล พระพทุ ธเจา ไดต รสั สอนใหภ กิ ษพุ ทุ ธบรษิ ทั เจรญิ เมตตาจติ แกส ตั วท กุ ชนดิ เพอื่ ใหค มุ ครองจากภยั ตา งๆ ดงั มหี ลกั ฐานปรากฏในพระวนิ ยั ปฎ ก จลุ วรรค ทตุ ยิ ภาค พระไตรปฎ กเลม ที่ ๗ และในองั คตุ ตรนกิ าย จตกุ กนบิ าต พระสตุ ตนั ตปฎ ก พระไตรปฎ กเลม ท่ี ๒๑ ความวา “ดกู อ นภกิ ษทุ ง้ั หลาย เราตถาคตอนญุ าตการแผเ มตตาแกพ ญางทู ง้ั สต่ี ระกลู เพอื่ คมุ ครองตน เพอ่ื รกั ษาตน เพอื่ กระทำการปอ งกนั ตน” ในอาฏานาฏยิ สตู ร ทฆี นกิ าย ปาฏกิ วรรค พระไตรปฎ กเลม ท่ี ๑๑ พระพทุ ธเจา ได ตรสั แนะนำใหพ ทุ ธบรษิ ทั สวดพระปรติ รเพอ่ื คมุ ครองตน ดงั พระพทุ ธดำรสั วา “ภกิ ษทุ ง้ั หลาย พวกเธอจงเรยี นมนตค มุ ครองคอื อาฏานาฏยิ ปรติ ร จงศกึ ษามนตค มุ ครองคอื อาฏานาฏยิ ปรติ ร จงทรงจำมนตค มุ ครองคอื อาฏานาฏยิ ปรติ ร ภกิ ษทุ งั้ หลาย มนตค มุ ครองคอื อาฏานาฏยิ ปรติ ร ประกอบดว ยประโยชน ยอ มเปน ไปเพอ่ื คมุ ครอง เพอื่ รกั ษา เพอ่ื ความไมเ บยี ดเบยี น เพอื่ ความอยเู ปน สขุ ของภกิ ษุ ภกิ ษณุ ี อบุ าสก และอบุ าสกิ า” นอกจากนี้ ยงั มเี รอื่ งเลา ไวใ นคมั ภรี อ รรถกถาธรรมบทวา ในสมยั พทุ ธกาล เดก็ คนหนงึ่ กำลังจะถูกยักษจับไปกินเปนอาหารภายในเจ็ดวัน พระพุทธองคทรงทราบจึงตรัสแนะนำ ใหภ กิ ษสุ งฆส วดพระปรติ รตลอดเจด็ คนื และพระองคไ ดเ สดจ็ ไปดว ยพระองคเ องในคนื ทแ่ี ปด ดว ยอานภุ าพของพระปรติ รทพ่ี ระสงฆส าธยายนนั้ กพ็ ลนั เกดิ เหตอุ ศั จรรย เดก็ คนนน้ั สามารถ รอดพนจากภัยพิบัติของอมนุษยน้ันได และมีอายุยืน ๑๒๐ ป บิดามารดาจึงตั้งชื่อเด็กวา อายวุ ฑั ฒนกมุ าร แปลวา “เดก็ ผมู อี ายยุ นื ” เพราะรอดพน จากอนั ตรายดงั กลา ว ในคมั ภรี ส มุ งั คลวลิ าสนิ ี ภาค ๓ (อรรถกถาทฆี นกิ าย ปาฏกิ วรรรค) พระพทุ ธโฆสาจารย ผเู ปน พระอรรถกถาจารยน ามอโุ ฆษและอคั รปราชญข องพระพทุ ธศาสนาไดพ รรณนาอานภุ าพ พระปริตรไววา “ผูสวดพระปริตร กลาวผิดอรรถบาง ผิดบาลีบาง หรือวาสวดไมคลอง พระปริตรก็ไมมีเดช ถึงแมผูที่เลาเรียนพระปริตรแลว สวดเพราะเห็นแกลาภสักการะ พระปรติ รกห็ าอำนวยประโยชนไ ม ทา นผใู ดตงั้ ใจจะชว ยใหพ น ทกุ ข มเี มตตาจติ เปน เบอ้ื งหนา พระปรติ รยอ มอำนวยอรรถประโยชน” ในคัมภีรมิลินทปญหา พระนาคเสนเถระ ไดอธิบายอานุภาพพระปริตรถวายแด พระเจา มลิ นิ ทว า “คนทส่ี วดพระปรติ ร งทู ม่ี งุ จะกดั กไ็ มก ดั ปากงทู อี่ า กห็ บุ ลง แมโ จรรา ยทยี่ ก กอ นหนิ จะทมุ กไ็ มท มุ กลบั ทมุ กอ นหนิ ลงดนิ เปลยี่ นใจมารกั มเี มตตา ชา งทตี่ กมนั ดรุ า ย ครนั้ วงิ่ มาถงึ กห็ มอบลงแทบเทา กองอคั คมี หมึ าทล่ี กุ โชตชิ ว ง ครนั้ ไหมล ามมาใกล กด็ บั ลงไป ยาพษิ แมร า ยแรงทดี่ ม่ื กก็ ลายเปน สงิ่ ไรพ ษิ ฆาตกรทมี่ งุ มาดจะฆา ครน้ั เขา มาใกล กจ็ งรกั ภกั ดยี อมเปน ทาส แมแ ตบ ว งดกั สตั วท เี่ ขาดกั ไว เหยยี บลงไปกไ็ มร ดู รดั เทา ”

56 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. จากหลักฐานที่กลาวมาน้ี สรุปไดวา พระปริตรน้ันมีอานุภาพทั้งปองกันสรรพทุกข สรรพโศก สรรพโรค สรรพภยั เสนยี ดจญั ไรทง้ั ปวง ทง้ั คมุ ครองรกั ษาใหม คี วามเกษมพน ภยั ใหม ชี ยั ชนะ มเี ดช มพี ละกำลงั มสี ริ มิ งคล มคี วามสขุ สวสั ดี เปน ตน ประเภทและจำนวนพระปริตร ทา นพระโบราณจารยไ ดจ ำแนกพระปรติ รออกเปน ๒ ประเภท คอื ก. จลุ ราชปรติ ร (เจด็ ตำนาน) มจี ำนวน ๗ ปรติ ร ประกอบดว ย ๑. มงั คลปริตร ๒. รตั นปรติ ร ๓. เมตตปริตร ๔. ขนั ธปรติ ร ๕. โมรปริตร ๖. ธชคั คปรติ ร ๗. อาฏานาฏิยปริตร ข. มหาราชปรติ ร (สบิ สองตำนาน) มจี ำนวน ๑๒ ปรติ ร ประกอบดว ย ๑. มงั คลปริตร ๒. รตั นปรติ ร ๓. เมตตปริตร ๔. ขนั ธปรติ ร ๕. โมรปริตร ๖. วฏั ฏกปรติ ร ๗. ธชัคคปริตร ๘. อาฏานาฏยิ ปรติ ร ๙. องั คลุ มิ าลปรติ ร ๑๐. โพชฌงั คปรติ ร ๑๑. อภยปริตร ๑๒. ชยั ปรติ ร วา โดยทจี่ รงิ มหาราชปรติ ร หรอื สบิ สองตำนาน กค็ อื จลุ ราชปรติ ร หรอื เจด็ ตำนาน ทข่ี ยายเพมิ่ ขน้ึ อกี ๕ ปรติ ร คอื (๑) วฏั ฏกปรติ ร (๒) องั คลุ มิ าลปรติ ร (๓) โพชฌงั คปรติ ร (๔) อภยปรติ ร (๕) ชยั ปรติ ร โดยแทรก วฏั ฏกปรติ ร เปน ลำดบั ท่ี ๖ ในการสวด เลอ่ื น ธชคั คปรติ ร อาฏานาฏยิ ปรติ ร เปน ลำดบั ท่ี ๗ และ ๘ แหลงที่มาของพระปริตร พระปรติ รทงั้ สองประเภทนน้ั ปรากฏอยใู นพระไตรปฎ ก จำนวน ๑๐ พระปรติ รแรก โดย นยิ มเรยี กวา สตู ร และพระไตรปฎ กเลม ที่ ๒๕ คอื เหลง ทม่ี าของพระปรติ รมากทส่ี ดุ ดงั นี้ ๑. มงั คลปรติ ร ในพระไตรปฎ กเรยี กวา มงั คลสตู ร หรอื มงคลสตู ร ปรากฏใน คมั ภรี ข ทุ ทกปาฐะและสุตตนบิ าต ขทุ ทกนกิ าย พระสตุ ตนั ตปฎ ก พระไตรปฎ กเลม ที่ ๒๕

๒๕๕๓] องคความรูเกี่ยวกับพระปริตร 57 ๒. รตั นปรติ ร ในพระไตรปฎ กเรยี กวา รตั นสตู ร หรอื เขยี นวา รตนสตู ร ปรากฏใน คมั ภรี ข ทุ ทกปาฐะและสตุ ตนบิ าต ขทุ ทกนกิ าย พระสตุ ตนั ตปฎ ก พระไตรปฎ กเลม ท่ี ๒๕ ๓. เมตตปรติ ร ในพระไตรปฎ กเรยี กวา เมตตสตู ร ปรากฏในคมั ภรี ข ทุ ทกปาฐะ และสตุ ตนบิ าต ขทุ ทกนกิ าย พระสตุ ตนั ตปฎ ก พระไตรปฎ กเลม ท่ี ๒๕ ๔. ขันธปริตร ปรากฏในพระไตรปฎก ๓ เลม คือ (๑) พระไตรปฎกเลมที่ ๗ (พระวนิ ยั ปฎ ก จลุ วรรค ทตุ ยิ ภาค) ตอนพระพทุ ธานญุ าตใหภ กิ ษแุ ผเ มตตาจติ แกพ ญางสู ี่ ตระกลู (๒) พระไตรปฎ กเลม ท่ี ๒๑ (องั คตุ ตรนกิ าย จตกุ กนบิ าต พระสตุ ตนั ตปฎ ก) เรยี กวา อหริ าชสตู ร และ (๓) พระไตรปฎ กเลม ท่ี ๒๗ (ทกุ นบิ าต ชาดก ขทุ ทกนกิ าย พระสตุ ตนั ต- ปฎ ก) เรยี กวา ขนั ธปรติ ตชาดก ๕. โมรปรติ ร ในพระไตรปฎ กเรยี กวา โมรชาดก ปรากฏในคมั ภรี ช าดก ทกุ นบิ าต ขทุ ทกนกิ าย พระสตุ ตนั ตปฎ ก พระไตรปฎ กเลม ท่ี ๒๗ ๖. วฏั ฏกปรติ ร ปรากฏในพระไตรปฎ ก ๒ เลม คอื (๑) พระไตรปฎ กเลม ที่ ๒๗ (เอกกนบิ าต ชาดก ขทุ ทกนกิ าย พระสตุ ตนั ตปฎ ก) เรยี กวา วฏั ฏกชาดก (๒) พระไตรปฎ ก เลม ที่ ๓๓ (จรยิ าปฎ ก ขทุ ทกนกิ าย พระสตุ ตนั ตปฎ ก) เรยี กวา วฏั ฏกโปตกจรยิ า ๗. ธชคั คปรติ ร ในพระไตรปฎ กเรยี กวา ธชคั คสตู ร ปรากฏในสกั กสงั ยตุ แหง คมั ภรี ส งั ยตุ ตนกิ าย สคาถวรรค พระสตุ ตนั ตปฎ ก พระไตรปฎ กเลม ท่ี ๑๕ ๘. อาฏานาฏยิ ปรติ ร ในพระไตรปฎ กเรยี กวา อาฏานาฏยิ สตู ร ปรากฏในคมั ภรี  ทฆี นกิ าย ปาฏกิ วรรค พระสตุ ตนั ตปฎ ก พระไตรปฎ กเลม ท่ี ๑๑ ๙. อังคุลิมาลปริตร ในพระไตรปฎกเรียกวา อังคุลิมาลสูตร ปรากฏในคัมภีร มชั ฌมิ นกิ าย มชั ฌมิ ปณ ณาสก พระสตุ ตนั ตปฎ ก พระไตรปฎ กเลม ที่ ๑๓ ๑๐. โพชฌงั คปรติ ร ในพระไตรปฎ กเรยี กวา ปฐม-ทตุ ยิ -ตตยิ คลิ านสตู ร ปรากฏใน โพชฌงั คสงั ยตุ แหง คมั ภรี ส งั ยตุ ตนกิ าย มหาวรรค พระสตุ ตนั ตปฎ ก พระไตรปฎ กเลม ท่ี ๑๙ สวนพระปริตรที่ ๑๑ คือ อภยปรติ ร ไมปรากฏในพระไตรปฎก เปนพระปริตรที่ ทา นโบราณาจารยข องไทยรจนาประพนั ธข นึ้ โดยอา งคณุ พระรตั นตรยั มาพทิ กั ษใ หม คี วามสวสั ดี สนั นษิ ฐานวา รจนาโดยพระเถระชาวเชยี งใหม สำหรบั พระปรติ รท่ี ๑๒ คอื ชยั ปรติ ร ซง่ึ เปน พระปรติ รทป่ี ระพนั ธเ ปน คำรอ ยกรอง หรอื ทเ่ี รยี กวา คาถา ในภาษาบาลี จำนวน ๕ คาถาครงึ่ นน้ั ปรากฏในพระไตรปฎ กเฉพาะ ๒ คาถาครงึ่ สดุ ทา ย ทเ่ี ปน พระพทุ ธพจน ซง่ึ นำมาจากสปุ พุ พณั หสตู ร องั คตุ ตรนกิ าย ตกิ นบิ าต พระไตรปฎ กเลม ท่ี ๒๐ โดย ๓ คาถาแรก ทา นโบราณาจารยแ ตง เสรมิ ขน้ึ ในภายหลงั

58 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. บทขัดพระปริตร บทขัดพระปริตร หมายถึง บทที่เขามาคั่นการสวดพระปริตร คือ เมื่อประสงค จะสาธยายพระปรติ รใด กค็ วรสวดบทขดั พระปรติ รนน้ั กอ นทจี่ ะสาธยายพระปรติ รทตี่ อ งการ ที่ประเทศศรีลังกาพระเถระที่นำสวดมนตจะสาธยายบทขัดพระปริตรกอน หลังจากน้ัน ผูรวมสวดจึงสาธยายพระปริตรพรอมกัน ประเพณีนี้ไดสืบทอดมายังประเทศไทยจวบจน ปจ จบุ นั แตถ า เวลาในการสวดมนตม ไี มม าก กไ็ มจ ำเปน ตอ งสวดบทขดั พระปรติ ร พระโบราณาจารยไ ดเ รยี กบทขดั นอ้ี กี ชอื่ หนงึ่ วา บทขดั ตำนาน คำวา ตำนาน มาจาก ศพั ทภ าษาบาลวี า ตาณา ทแี่ ปลวา “เครอื่ งปอ งกนั ” หรอื พระปรติ ร นน่ั เอง บทขดั บางบท เชน บทขดั มงั คลปรติ ร บทขดั ธรรมจกั ร แตกตา งกนั ในฉบบั พมา และฉบบั ไทย ประวตั ขิ องผปู ระพนั ธห รอื แตง บทขดั พระปรติ รไมม หี ลกั ฐานแนช ดั ในการนี้ ทา นอาจารย ธมั มานนั ทมหาเถระ อคั รมหาบณั ฑติ สนั นษิ ฐานวา คงเปน โบราณาจารยช าวสงิ หล (ศรลี งั กา) ประพนั ธข น้ึ หลงั พทุ ธศกั ราช ๙๐๐ เพราะเปน การนำเอาขอ ความจากคมั ภรี อ รรถกถาทรี่ จนา โดยพระพทุ ธโฆสาจารยม าแตง เปน บทขดั และประพนั ธข น้ึ กอ นพทุ ธศกั ราช ๒๑๕๓ เพราะ ปรากฏในปรติ ตฎกี า ซงึ่ รจนาทปี่ ระเทศสหภาพพมา ในสมยั นน้ั พระปริตรที่ควรเจริญ/สวดประจำ สำหรบั ผมู เี วลานอ ย ควรสวดพระปรติ รทสี่ นั้ และสำคญั ดงั นน้ั จงึ ควรสวดพระปรติ ร ๔ ปริตรแรก คือ เมตตปริตร ขันธปริตร โมรปริตร และอาฏานาฏยิ ปรติ ร ท้ังน้ี เพราะเมตตปรติ รและขนั ธปรติ ร เนน การเจรญิ เมตตาภาวนา โมรปรติ รและอาฏานาฏยิ ปรติ ร เนน การเจรญิ พระพทุ ธคณุ ผทู ม่ี สี ขุ ภาพไมส มบรู ณค วรสวดโพชฌงั คปรติ รเพม่ิ อกี บท นอกจากพระปริตรเหลานี้แลว ก็ควรสวดคาถาที่กลาวถึงพระพุทธคุณอื่นๆ อาทิ สพั พมงั คลคาถา คาถาชนิ บญั ชร และ พทุ ธชยั มงคลคาถา ดว ย โดยอาจสวดคาถาเหลา น้ี สลบั กบั พระปรติ รในแตล ะวนั อนง่ึ กอ นจะสวดพระปรติ รทกุ ครง้ั สำหรบั คตนิ ยิ มของชาวพทุ ธไทย นยิ มสวดบท ปพุ พนมการ หรอื บทมหานมสั การ คอื นโม ๓ จบ อนั เปน คำแสดงความนอบนอ มพระคณุ ทง้ั ๓ ของพระพทุ ธเจา คอื พระกรณุ าคณุ พระวสิ ทุ ธคิ ณุ และพระปญ ญาคณุ แลว สวดบท ไตรสรณคมน คอื พทุ ธฺ ํ สรณํ คจฉฺ ามิ .... หรอื สวดบทระลกึ ถงึ พระพทุ ธคณุ ธรรมคณุ และสงั ฆคณุ (อติ ปิ  โส ภควา...) แลว จงึ สวดพระปรติ รหรอื คาถาอนื่ ๆ ตอ ไป

๒๕๕๓] องคความรูเก่ียวกับพระปริตร 59 นอกจากนี้ ชาวพทุ ธยงั นยิ มสวดบทธรรมจกั รทกุ วนั พระ เพราะเปน พระธรรมเทศนา แรกที่กลาวถึงอริยสัจ ๔ จึงเปนบทที่เทวดาเคารพบูชายิ่งนัก คนไทยในสมัยกอนเช่ือวา บคุ คลทสี่ วดบทธรรมจกั รทกุ วนั พระ แลว อธษิ ฐานใหค รอบครวั หรอื ญาตพิ นี่ อ งมคี วามสขุ จะมี ผลานสิ งสท ำใหผ สู วดและผทู ต่ี นแผไ ปถงึ มคี วามสวสั ดแี คลว คลาดจากอบุ ตั เิ หตทุ กุ อยา งได อานิสงสการสวดพระปริตร พระโบราณจารยไ ดร วบรวมอานสิ งสข องการสวดพระปรติ รไวโ ดยลำดบั ดงั น้ี มงั คลปรติ ร ทำใหเ กดิ สริ มิ งคลและปราศจากอนั ตราย รตั นปรติ ร ทำใหไ ดร บั ความสวสั ดี และพน จากอปุ สรรคอนั ตราย เมตตปรติ ร ทำใหห ลบั เปน สขุ ตน่ื เปน สขุ ไมฝ น รา ย เปน ทรี่ กั ของมนษุ ย และอมนษุ ยท ง้ั หลาย เทพพทิ กั ษร กั ษา ไมม ภี ยนั ตราย จติ เกดิ สมาธงิ า ย ใบหนา ผอ งใส มสี ริ มิ งคล ไมห ลงสตใิ นเวลาเสยี ชวี ติ ขนั ธปรติ ร ปอ งกนั ภยั จากอสรพษิ และสตั วร า ยอน่ื ๆ โมรปรติ ร ปอ งกนั ภยั จากผคู ดิ รา ย วฏั ฏกปรติ ร ทำใหพ น จากอคั คภี ยั ธชคั คปรติ ร ทำใหพ น จากอปุ สรรคอนั ตราย และการตกจากทสี่ งู อาฏานาฏยิ ปรติ ร ปอ งกนั ภยั จากอมนษุ ย ทำใหม สี ขุ ภาพดแี ละมคี วามสขุ องั คลมิ าลปรติ ร ทำใหค ลอดบตุ รงา ย และปอ งกนั อปุ สรรคอนั ตราย โพชฌงั คปรติ ร ทำใหม สี ขุ ภาพดี มอี ายยุ นื และพน จากอปุ สรรคทงั้ ปวง อภยปรติ ร ทำใหพ น จากภยั พบิ ตั ิ และไมฝ น รา ย ชยั ปรติ ร ทำใหป ระสบชยั ชนะ และมคี วามสขุ สวสั ดี อยา งไรกต็ าม พระปรติ รจะมอี านภุ าพมาก มคี ณุ านสิ งสม ากดงั กลา ว กต็ อ เมอ่ื ผสู วด พระปรติ รเพยี บพรอ มดว ยองคห รอื คณุ สมบตั ิ ๓ ประการ คอื มเี มตตาจติ มงุ ประโยชนแ กผ ฟู ง สวดถกู อกั ษร ไมม บี ทพยญั ชนะทผ่ี ดิ พลาด และรคู วามหมายของบทสวด แมผ ฟู ง พระปรติ ร กต็ อ งมอี งคห รอื คณุ สมบตั ิ ๓ ประการ เชน กนั คอื ไมเ คยทำอนนั ตรยิ กรรม ๕ (ฆา มารดา ฆา บดิ า ฆา พระอรหนั ต ทำรา ยพระพทุ ธเจา จนถงึ ยงั พระโลหติ ใหห อ ขนึ้ ไป และทำสงั ฆเภท) ไมมีมิจฉาทิฏฐิท่ีเห็นผิดวากรรมและผลกรรมไมมี และเช่ือม่ันอานุภาพพระปริตรวามีจริง สามารถคมุ ครองผฟู ง ได

60 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. บทเริ่มตนกอนเจริญ/สวดพระปริตร บทชุมนุมเทวดา ๑สรชฺชํ สเสนํ สพนฺธุํ นรินฺทํ ปริตฺตานุภาโว สทา รกฺขตูติ. ผริตฺวาน เมตฺตํ สเมตฺตา ภทนฺตา อวิกฺขิตฺตจิตฺตา ปริตฺตํ ภณนฺตุ. [สมนฺตา จกฺกวาเฬสุ อตฺราคจฺฉนฺตุ เทวตา สทฺธมฺมํ มุนิราชสฺส สุณนฺตุ สคฺคโมกฺขทํ.] สคฺเค กาเม จ รูเป คิริสิขรตเฏ จนฺตลิกฺเข วิมาเน, ทีเป รฏเฐ จ คาเม ตรุวนคหเน เคหวตฺถุมฺหิ เขตฺเต, ภุมฺมา จายนฺตุ เทวา ชลถลวิสเม ยกฺขคนฺธพฺพนาคา, ติฏฐนฺตา สนฺติเก ยํ มุนิวรวจนํ สาธโว เม สุณนฺตุ. ธมฺมสฺสวนกาโล อยมฺภทนฺตา, ธมฺมสฺสวนกาโล อยมฺภทนฺตา, ธมฺมสฺสวนกาโล อยมฺภทนฺตา. ๒คำแปล : ทา นผเู จรญิ ทงั้ หลาย ผมู เี มตตาจงแผไ มตรจี ติ ดว ยคดิ วา ขออานภุ าพ พระปริตรจงรักษาพระราชาผูเปนเจาแหงนรชน พรอมดวยราชสมบัติ พรอมดวยราชวงศ พรอ มดว ยเสนามาตย แลว อยา มจี ติ ฟงุ ซา น ตง้ั ใจสวดพระปรติ ร [ขออัญเชิญเทวดาในจักรวาลท้ังหลายโดยรอบมาสูสถานท่ีนี้ ฟงพระสัทธรรมของ พระจอมมนุ ี ซง่ึ ชท้ี างสวรรคแ ละนพิ พาน] ขอเชิญเหลาเทพเจาซ่ึงสถิตอยูในสวรรคช้ันกามภพก็ดี รูปภพก็ดี และภุมมเทวดา ซง่ึ สถติ อยใู นวมิ านหรอื ยอดภเู ขา และหบุ ผา ในอากาศ ในเกาะ ในแวน แควน ในตน พฤกษา ๑ ในการเจรญิ พระพทุ ธมนตพ ธิ ที ำบญุ งานมงคล จะตอ งมกี ารอาราธนาพระปรติ รโดยฝา ยเจา ภาพ จากนนั้ พระภกิ ษทุ นี่ ง่ั ลำดับที่ ๓ จะต้งั พดั กลา วบทชมุ นมุ เทวดา ถา เปนงานราชพิธีขน้ึ ตน วา สรชชฺ .ํ .. ถา เปน งานทวั่ ไป นยิ มขนึ้ ตน วา ๒ ผริตฺวาน.... ไปจนจบ โดยขา มขอ ความในวงเลบ็ [สมนฺตา... สคคฺ โมกขฺ ท]ํ ซงึ่ ใชในกรณีสวดสบิ สองตำนาน คำแปลภาษาไทยในการสวดพระปรติ รทง้ั เจด็ ตำนานและสบิ สองตำนานน้ี มงุ ใหร คู วามหมายของแตล ะบทสวด จงึ พมิ พ แยกไวตางหากจากบทสวดภาษาบาลี ไมใชมุงใหสวดคำแปล เหมือนอยางในบททำวัตรเชา-เย็น ซึ่งพิมพกำกับคูกับ บทสวดภาษาบาลใี นแตล ะประโยคหรอื แตล ะบท

๒๕๕๓] บทเริ่มตนกอนเจริญ/สวดพระปริตร 61 และปาชัฏ ในเรือนและในไรนาก็ดี และยักษ คนธรรพ นาคซ่ึงสถิตอยูในนำ้ บนบก และทอ่ี นั ไมเ รยี บราบกด็ ี อยใู นทใี่ กลเ คยี ง จงมาประชมุ พรอ มกนั ในทน่ี ี้ คำใดเปน ของพระมนุ ี ทา นสาธชุ นทงั้ หลายจงสดบั คำของขา พเจา นนั้ ดูกอนทานผูเจริญทั้งหลาย กาลน้ีเปนกาลฟงธรรม ดูกอนทานผูเจริญทั้งหลาย กาลนเ้ี ปน กาลฟง ธรรม ดกู อ นทา นผเู จรญิ ทง้ั หลาย กาลนเี้ ปน กาลฟง ธรรม. ปุพพภาคนมการ นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. นโม ตสฺส ภควโต อรหโต สมฺมาสมฺพุทฺธสฺส. ขอนอบนอมแดพระผูมีพระภาคเจา ผูไกลจากกิเลส ตรัสรูชอบดวยพระองคเอง พระองคน น้ั . (สามจบ) ไตรสรณคมน พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ. ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ. สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ. ทุติยมฺป พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ. ทุติยมฺป ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ. ทุติยมฺป สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ. ตติยมฺป พุทฺธํ สรณํ คจฺฉามิ. ตติยมฺป ธมฺมํ สรณํ คจฺฉามิ. ตติยมฺป สงฺฆํ สรณํ คจฺฉามิ. ขา พเจาขอถึงพระพุทธเจา เปน สรณะ ขาพเจา ขอถงึ พระธรรมเปน สรณะ ขาพเจาขอ ถงึ พระสงฆเ ปน สรณะ แมค รง้ั ทส่ี อง ขา พเจา ขอถงึ พระพทุ ธเจา เปน สรณะ แมค รง้ั ทสี่ อง ขา พเจา ขอถงึ พระธรรม เปน สรณะ แมค รง้ั ทสี่ อง ขา พเจา ขอถงึ พระสงฆเ ปน สรณะ แมคร้ังที่สาม ขาพเจาขอถึงพระพุทธเจาเปนสรณะ แมคร้ังท่ีสาม ขาพเจาขอถึง พระธรรมเปน สรณะ แมค รงั้ ทสี่ าม ขา พเจา ขอถงึ พระสงฆเ ปน สรณะ.

62 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. นมการสทิ ธคิ าถา* สมฺพุทฺเธ อฏฐวีสฺจ ทฺวาทสฺจ สหสฺสเก ปฺจสตสหสฺสานิ นมามิ สิรสา อหํ เตสํ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ อาทเรน นมามิหํ นมการานุภาเวน หนฺตฺวา สพฺเพ อุปทฺทเว อเนกา อนฺตรายาป วินสฺสนฺตุ อเสสโต. สมฺพุทฺเธ ปฺจปฺญาสฺจ จตุวีสติสหสฺสเก ทสสตสหสฺสานิ นมามิ สิรสา อหํ เตสํ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ อาทเรน นมามิหํ นมการานุภาเวน หนฺตฺวา สพฺเพ อุปทฺทเว อเนกา อนฺตรายาป วินสฺสนฺตุ อเสสโต. สมฺพุทฺเธ นวุตฺตรสเต อฏฐจตฺตาฬีสสหสฺสเก วีสติสตสหสฺสานิ นมามิ สิรสา อหํ เตสํ ธมฺมฺจ สงฺฆฺจ นมการานุภาเวน อาทเรน นมามิหํ อเนกา อนฺตรายาป หนฺตฺวา สพฺเพ อุปทฺทเว วินสฺสนฺตุ อเสสโต. คำแปล : ขา พเจา ขอนอบนอ มพระสมั พทุ ธเจา ๕๑๒,๐๒๘ พระองคด ว ยเศยี รเกลา ขอนอบนอ มพระธรรมดว ย พระสงฆด ว ย ของพระสมั พทุ ธเจา เหลา นนั้ ดว ยความเคารพ ดวยอานุภาพแหงการกระทำความนอบนอม จงขจัดเสียซึ่งสิ่งอันไมเปนมงคลท้ังปวง แม อนั ตรายทง้ั หลาย เปน อเนก จงพนิ าศสนิ้ ไป ขาพเจาขอนอบนอมพระสัมพุทธเจา ๑,๐๒๔,๐๕๕ พระองคดวยเศียรเกลา ขอ นอบนอมพระธรรมดวย พระสงฆดวย ของพระสัมพุทธเจาเหลานั้น ดวยความเคารพ ดวยอานุภาพแหงการกระทำความนอบนอม จงขจัดเสียซ่ึงสิ่งอันไมเปนมงคลทั้งปวง แมอ นั ตรายทง้ั หลาย เปน อเนก จงพนิ าศไปสนิ้ * บทนมสั การพระพทุ ธเจา ทงั้ หลายในอดตี เพอื่ ใหส ำเรจ็ ในสงิ่ ทปี่ รารถนา เปน บทนมสั การเกา ทพ่ี ระสงฆน ยิ มเจรญิ /สวดมา ตั้งแตสมยั กรุงศรีอยุธยา เรยี กกนั วา บทสมั พทุ เธ

๒๕๕๓] บทเริ่มตนกอนเจริญ/สวดพระปริตร 63 ขาพเจาขอนอบนอมพระสัมพุทธเจา ๒,๐๔๘,๓๐๙ พระองคดวยเศียรเกลา ขอ นอบนอ มพระธรรมดว ย พระสงฆด ว ย ของพระสมั พทุ ธเจา เหลา นนั้ ดว ยความเคารพ ดว ย อานภุ าพแหง การกระทำความนอบนอ ม จงขจดั เสยี ซง่ึ สง่ิ อนั ไมเ ปน มงคลทงั้ ปวง แมอ นั ตราย ทง้ั หลาย เปน อเนก จงพนิ าศไปสนิ้ เทอญ. นมการสทิ ธคิ าถา* โย จกฺขุมา โมหมลาปกฏโฐ สามํ ว พุทฺโธ สุคโต วิมุตฺโต มารสฺส ปาสา วินิโมจยนฺโต ปาเปสิ เขมํ ชนตํ วิเนยฺยํ. พุทฺธํ วรนฺตํ สิรสา นมามิ โลกสฺส นาถฺจ วินายกฺจ ตนฺเตชสา เต ชยสิทฺธิ โหตุ สพฺพนฺตรายา จ วินาสเมนฺตุ. ธมฺโม ธโช โย วิย ตสฺส สตฺถุ ทสฺเสสิ โลกสฺส วิสุทฺธิมคฺคํ นิยฺยานิโก ธมฺมธรสฺส ธารี สาตาวโห สนฺติกโร สุจิณฺโณ. ธมฺมํ วรนฺตํ สิรสา นมามิ โมหปฺปทาลํ อุปสนฺตทาหํ ตนฺเตชสา เต ชยสิทฺธิ โหตุ สพฺพนฺตรายา จ วินาสเมนฺตุ. สทฺธมฺมเสนา สุคตานุโค โย โลกสฺส ปาปูปกิเลสเชตา สนฺโต สยํ สนฺตินิโยชโก จ สฺวากฺขาตธมฺมํ วิทิตํ กโรติ. * เปน บทนมการสิทธคิ าถา อีกบทหน่ึง ซึ่งเปน สำนวนนพิ นธของ สมเดจ็ พระมหาสมณเจา กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส เรยี กกนั วา บทโยจักขมุ า

64 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. สงฺฆํ วรนฺตํ สิรสา นมามิ พุทฺธานุพุทฺธํ สมสีลทิฏฐึ ตนฺเตชสา เต ชยสิทฺธิ โหตุ สพฺพนฺตรายา จ วินาสเมนฺตุ. คำแปล : พระพทุ ธเจา พระองคใ ด มพี ระปญ ญาจกั ษุ ขจดั มลทนิ คอื โมหะไดแ ลว ตรสั รเู ปน พระพทุ ธเจา โดยพระองคเ อง เสดจ็ ไปดี หลดุ พน อยา งประเสรฐิ แลว ทรงเปลอื้ ง หมชู นทส่ี ามารถแนะนำไดใ หพ น จากบว งมาร นำมาใหถ งึ ความเกษมดว ย ขาพเจาขอนอมนมัสการพระพุทธเจาผูประเสริฐพระองคนั้น ผูเปนที่พ่ึง และเปนผู นำชาวโลก ดวยเดชพระพุทธเจาพระองคน้ัน ขอทานจงประสบชัยชนะ และขออันตราย ทงั้ ปวงจงพนิ าศไป พระธรรมใด เปน ประหนง่ึ ธงชยั ของพระศาสดาพระองคน นั้ ชที้ างแหง ความบรสิ ทุ ธ์ิ แกโ ลก นำหมสู ตั วก า วขา มยคุ เขญ็ คมุ ครองชนผปู ระพฤตธิ รรม ผปู ระพฤตดิ แี ลว ยอ ม นำความสงบสขุ มาให ขา พเจา ขอนอ มนมสั การพระธรรมอนั ประเสรฐิ นน้ั อนั ทำลายเสยี ซง่ึ โมหะ ระงบั ความเรา รอ นลงเสยี ได ดว ยเดชพระธรรมนน้ั ขอทา นจงประสบชยั ชนะ และขอ อนั ตรายทงั้ ปวงจงพนิ าศไป พระสงฆใ ด เปน กำลงั ประกาศพระสทั ธรรม ดำเนนิ ชวี ติ ตามแบบอยา งพระบรมศาสดา ผเู สดจ็ ไปดแี ลว ผจญเสยี ซง่ึ อปุ กเิ ลสอนั ลามกของโลก เปน ผสู งบเองดว ย ทง้ั ยงั สามารถ แนะนำผอู นื่ ใหเ ขา ถงึ ความสงบไดด ว ย เผยแผพ ระธรรมทพี่ ระบรมศาสดาประกาศดแี ลว ใหม ี ผรู ตู าม ขา พเจา ขอนอ มนมสั การพระสงฆผ ปู ระเสรฐิ นนั้ ผตู รสั รตู ามพระพทุ ธเจา ผมู ศี ลี และ ทฏิ ฐเิ สมอกนั ดว ยเดชพระสงฆน น้ั ขอทา นจงประสบชยั ชนะ และขออนั ตรายทงั้ ปวงจงพนิ าศ ไปเทอญ. นโมการอฏั ฐกคาถา* นโม อรหโต สมฺมา- สมฺพุทฺธสฺส มเหสิโน นโม อุตฺตมธมฺมสฺส สฺวากฺขาตสฺเสว เตนิธ. * บทนอบนอมพระรัตนตรัย เพื่อใหเกิดเดชานุภาพในการเจริญพระพุทธมนต เปนพระราชนิพนธใน พระบาทสมเด็จ พระจอมเกลา เจาอยหู ัว รัชกาลท่ี ๔ ขณะทรงผนวช

๒๕๕๓] บทเริ่มตนกอนเจริญ/สวดพระปริตร 65 นโม มหาสงฺฆสฺสาป วิสุทฺธสีลทิฏฐิโน นโม โอมาตฺยารทฺธสฺส รตนตฺตยสฺส สาธุกํ. นโม โอมกาตีตสฺส ตสฺส วตฺถุตฺตยสฺสป นโมการปฺปภาเวน วิคจฺฉนฺตุ อุปทฺทวา. นโมการานุภาเวน สุวตฺถิ โหตุ สพฺพทา นโมการสฺส เตเชน วิธิมฺหิ โหมิ เตชวา. คำแปล : ขอนอบนอมแดพระผูมีพระภาคอรหันตสัมมาสัมพุทธเจาผูแสวงหา ประโยชนอ นั ยงิ่ ใหญ ขอนอบนอ มแดพ ระธรรมอนั สงู สดุ ในพระศาสนานี้ ทพ่ี ระผมู พี ระภาคเจา ตรสั ไวด แี ลว ขอนอบนอ มแดพ ระสงฆห มใู หญ ผมู ศี ลี และทฏิ ฐอิ นั บรสิ ทุ ธิ์ การนอบนอ มแดพ ระรตั นตรยั ทเ่ี รม่ิ ตน ดว ยคำวา โอม ขอจงสำเรจ็ ประโยชน ขอนอบนอ มแมพระรตั นตรยั อนั ลวงพน โทษต่ำชา นน้ั ดวยการประกาศการกระทำ ความนอบนอ ม ขอสงิ่ ทอี่ บุ าทวท ง้ั หลายจงบำราศไป ดว ยอานภุ าพแหง การกระทำความนอบนอ ม ขอความสขุ สวสั ดจิ์ งมที กุ เมอื่ ดว ยเดช แหง การกระทำความนอบนอ ม ขอขา พเจา จงเปน ผมู เี ดชในการประกอบมงคลพธิ เี ถดิ . บทขัดตำนาน (ชุมนุมเทวดาอีกสำนวนหนึ่ง) เย สนฺตา สนฺตจิตฺตา, ติสรณสรณา, เอตฺถ โลกนฺตเร วา ภุมฺมาภุมฺมา จ เทวา, คุณคณคหณพฺยาวฏา สพฺพกาลํ เอเต อายนฺตุ เทวา, วรกนกมเย เมรุราเช วสนฺโต สนฺโต สเหตุํ มุนิวรวจนํ, โสตุมฺมคฺคํ สมคฺคํ. สมนฺตา จกฺกวาเฬสุ อตฺราคจฺฉนฺตุ เทวตา สทฺธมฺมํ มุนิราชสฺส สุณนฺตุ สคฺคโมกฺขทํ. ธมฺมสฺสวนกาโล อยมฺภทนฺตา, ธมฺมสฺสวนกาโล อยมฺภทนฺตา, ธมฺมสฺสวนกาโล อยมฺภทนฺตา.

66 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. สพฺเพสุ จกฺกวาเฬสุ ยกฺขา เทวา จ พฺรหฺมุโน ยํ อมฺเหหิ กตํ ปุฺญํ สพฺพสมฺปตฺติสาธกํ. สพฺเพ ตํ อนุโมทิตฺวา สมคฺคา สาสเน รตา ปมาทรหิตา โหนฺตุ อารกฺขาสุ วิเสสโต. สาสนสฺส จ โลกสฺส วุฑฺฒี ภวตุ สพฺพทา สาสนมฺป จ โลกฺจ เทวา รกฺขนฺตุ สพฺพทา. สทฺธึ โหนฺตุ สุขี สพฺเพ ปริวาเรหิ อตฺตโน อนีฆา สุมนา โหนฺตุ สห สพฺเพหิ ญาติภิ. ราชโต วา โจรโต วา มนุสฺสโต วา อมนุสฺสโต วา อคฺคิโต วา อุทกโต วา ปสาจโต วา ขาณุกโต วา กณฺฏกโต วา นกฺขตฺตโต วา ชนปทโรคโต วา อสทฺธมฺมโต วา อสทฺทิฏฐิโต วา อสปฺปุริสโต วา จณฺฑ หตฺถิ อสฺส มิค โคณ- กุกฺกุร อหิ วิจฺฉิก มณิสปฺป ทีป อจฺฉ ตรจฺฉ สูกร มหึส ยกฺข รกฺขสาทีหิ นานาภยโต วา นานาโรคโต วา นานาอุปทฺทวโต วา อารกฺขํ คณฺหนฺตุ. คำแปล : ทวยเทพเหลา ใดในโลกนหี้ รอื โลกอนื่ ผอู าศยั อยใู นปฐพแี ละอากาศ ผเู ปน สตั บรุ ษุ มจี ติ สงบ มพี ระไตรรตั นเ ปน ทพ่ี งึ่ ผขู วนขวายในการบรรลคุ ณุ ธรรมทงั้ หลายตลอดกาล ทกุ เมอ่ื ขออญั เชญิ เทวดาเหลา นน้ั พรอ มทงั้ พระอนิ ทร ผเู ปน สตั บรุ ษุ ประทบั อยเู หนอื เขา พระสเุ มรอุ นั ประดบั ดว ยทองคำงามสงา โปรดมาฟง คำสอนอนั ประเสรฐิ ของพระจอมมนุ โี ดย พรอ มเพรยี งกนั ขออัญเชิญเทวดาในจักรวาลท้ังหลายโดยรอบมาสูสถานที่นี้ ฟงพระสัทธรรมของ พระจอมมนุ ี ซงึ่ ชที้ างสวรรคแ ละนพิ พาน ทา นผูเจรญิ ทงั้ หลาย กาลนเี้ ปน กาลฟงธรรม ทา นผเู จริญท้งั หลาย กาลน้เี ปนกาล ฟง ธรรม ทา นผเู จรญิ ทง้ั หลาย กาลนเี้ ปน กาลฟง ธรรม ขออญั เชญิ ยกั ษ เทวดา พรหมทวั่ ทกุ จกั รวาล รว มอนโุ มทนาบญุ ทเ่ี ราไดก ระทำ ที่ สามารถยังสิ่งท้ังปวงใหสำเร็จได ขอทานเหลานั้นจงเปนผูสมานฉันทยินดีในพระศาสนา และเปน ผไู มป ระมาท ตง้ั ใจปกปก รกั ษา(ชาวโลก)เถดิ ขอความเจริญจงมีแกพระศาสนาและชาวโลกเสมอ ขอเทวดาจงรักษาพระศาสนา และชาวโลกเสมอเถดิ

๒๕๕๓] บทเริ่มตนกอนเจริญ/สวดพระปริตร 67 ขอทานทั้งปวงเหลาน้ันพรอมหมูญาติทั้งหมดและบริวารของตนจงเปนผูมีความสุข ปราศจากทกุ ข และมใี จเบกิ บานเถดิ ขอชาวโลกจงไดร บั การคมุ ครองจากอนั ตรายทเี่ กดิ จากผปู กครองประเทศ โจร มนษุ ย อมนษุ ย ไฟ นำ้ ปศ าจ ตอไม หนาม เคราะหร า ย โรคระบาดในถน่ิ มนษุ ย ความ ประพฤติของคนทราม ความเห็นผิด คนราย ภยันตราย โรค และอุปทวะตางๆ อัน เกดิ จากชา ง มา กวาง ววั สนุ ขั งู แมงปอ ง งเู ขยี ว เสอื ดาว หมี หมาปา หมู กระบอื ยกั ษ รากษสเปน ตน ทดี่ รุ า ย.

68 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. 11111111112222222222ใ3333333333น44444444445555555555เ6666666666จ7777777777ด็ 88888888889999999999ตล0000000000ำำ1111111111ดน22222222223333333333ับา4444444444น5555555555บ6666666666แท7777777777ล8888888888พ9999999999ะ0000000000รส1111111111ะ2222222222บิ 3333333333ป4444444444สร5555555555อ6666666666ิต7777777777งร8888888888ต9999999999ำ00000000001111111111น2222222222า1111111111น2222222222333333333344444444441111111111111111111111111122222222222222222222222222333333333333333333333333334444444444444444444444444455555555555555555555555555666666666666666666666666667777777777777777777777777788888888888888888888888888999999999999999999999999990000000000000000000000000011111111111111111111111111222222222222222222222222223333333333333333333333333344444444444444444444444444555555555555555555555555556666666666666666666666666677777777777777777777777777888888888888888888888888889999999999999999999999999900000000000000000000000000111111111111111111111111112222222222222222222222222233333333333333333333333333444444444444444444444444445555555555555555555555555566666666666666666666666666777777777777777777777777778888888888888888888888888899999999999999999999999999000000000000000000000000001111111111111111111111111122222222222222222222222222111111111111111111111111112222222222222222222222222233333333333333333333333333444444444444444444444444445555555555555555555555555566666666666666666666666666777777777777777777777777778888888888888888888888888899999999999999999999999999000000000000000000000000001111111111111111111111111122222222222222222222222222333333333333333333333333334444444444444444444444444455555555555555555555555555666666666666666666666666667777777777777777777777777788888888888888888888888888999999999999999999999999990000000000000000000000000011111111111111111111111111222222222222222222222222223333333333333333333333333344444444444444444444444444555555555555555555555555556666666666666666666666666677777777777777777777777777888888888888888888888888889999999999999999999999999900000000000000000000000000111111111111111111111111112222222222222222222222222211111111111111111111111111222222222222222222222222223333333333333333333333333344444444444444444444444444555555555555555555555555556666666666666666666666666677777777777777777777777777888888888888888888888888889999999999999999999999999900000000000000000000000000111111111111111111111111112222222222222222222222222233333333333333333333333333444444444444444444444444445555555555555555555555555566666666666666666666666666777777777777777777777777778888888888888888888888888899999999999999999999999999000000000000000000000000001111111111111111111111111122222222222222222222222222333333333333333333333333334444444444444444444444444455555555555555555555555555666666666666666666666666667777777777777777777777777788888888888888888888888888999999999999999999999999990000000000000000000000000011111111111111111111111111222222222222222222222222221111111111111111111111111122222222222222222222222222333333333333333333333333334444444444444444444444444455555555555555555555555555666666666666666666666666667777777777777777777777777788888888888888888888888888999999999999999999999999990000000000000000000000000011111111111111111111111111222222222222222222222222223333333333333333333333333344444444444444444444444444555555555555555555555555556666666666666666666666666677777777777777777777777777888888888888888888888888889999999999999999999999999900000000000000000000000000111111111111111111111111112222222222222222222222222233333333333333333333333333 ๑. มงั คลปรติ ร (มงคลสตู ร) ประวัติตำนาน มงั คลปรติ ร คอื ปรติ รทกี่ ลา วถงึ มงคล ๓๘ ประการ มปี ระวตั ติ ำนานความเปน มา วา ในกาลกอ นทพ่ี ระพทุ ธเจา จะตรสั มงคลน้ี ไดเ กดิ ปญ หาถกเถยี งกนั ในมนษุ ยโลกวา อะไร เปน มงคล บางคนกลา ววา รปู ทเ่ี หน็ ดเี ปน มงคล บางคนกลา ววา เสยี งทไ่ี ดย นิ เปน มงคล บางคน กลา ววา กลน่ิ รส สมั ผสั ทด่ี เี ปน มงคล ตา งฝา ยตา งกย็ นื ยนั ความเหน็ ของตน แตไ มส ามารถ อธบิ ายใหฝ า ยอน่ื ยอมรบั ได ปญ หานไ้ี ดแ พรไ ปถงึ เทวโลกและพรหมโลก จนเทวดาและพรหม ไดแ บง แยกเปน สามฝา ยเหมอื นมนษุ ย และปญ หานนั้ หาขอ ยตุ ไิ มไ ดเ ปน เวลาถงึ ๑๒ ป ตอ มา ในปท ่ี ๑๒ เหลา เทวดาชน้ั ดาวดงึ สไ ดท ลู ถามปญ หานกี้ บั พระอนิ ทร ทา วเธอจงึ มอบใหเ ทพบตุ ร ตนหนง่ึ ทลู ถามปญ หานก้ี ะพระพทุ ธเจา แลว เสดจ็ มาเฝา พรอ มกบั เหลา เทวดาเพอ่ื สดบั มงคล ดวยเหตุน้ี พระพุทธองคจึงตรัสพระปริตรอันแสดงมงคล ๓๘ ประการ เร่ิมตนดวยการ ไมค บคนพาล การคบแตบ ณั ฑติ การบชู าผคู วรบชู า เปน ตน เปน มงคลอนั สงู สดุ การเจรญิ /สวดมงั คลปรติ ร กเ็ พอ่ื เนน ใหร จู กั จดจำและทำความเขา ใจสง่ิ ทเ่ี ปน มงคลตา งๆ ตามทพี่ ระพทุ ธองคต รสั ไวใ นพระสตู รแลว นำมาลงมอื ปฏบิ ตั ใิ หเ กดิ ประโยชนใ นการดำรงชวี ติ ประจำวนั ซงึ่ เรยี กวา เกดิ มงคลชวี ติ แกต นเอง ในงานทำบญุ โดยทว่ั ไป พระสงฆท เ่ี จรญิ พระพทุ ธมนตจะขน้ึ บทมงคลปรติ ร พรอ มกบั การทเ่ี จา ภาพจดุ เทยี นมงคล อนั แสดงถงึ ความสอ งสวา ง รงุ เรอื ง เปน มงคลแหง ชวี ติ การนยิ มเจรญิ /สวดมงั คลปรติ รกอ นพระปรติ รอน่ื ทงั้ หมด เปน การแนะนำผฟู ง วา ผทู ี่ ดำเนนิ ชวี ติ ตามหลกั มงคลทงั้ ๓๘ ประการ ตามทพี่ ระพทุ ธองคท รงสงั่ สอนนนั้ เปน ชวี ติ ทม่ี มี งคล ชีวิตเชนนี้ไมจำเปนตองไปแสวงหามงคลภายนอกหรือจากที่ไหน เพราะเปนชีวิตท่ีมีมงคล อยใู นตวั แลว และหากทำไดก จ็ ะปราศจากทกุ ข โศก โรค ภยั ในการดำเนนิ ชวี ติ และถงึ ความพน ทกุ ขไ ดใ นทสี่ ดุ

๒๕๕๓] ลำดับบทพระปริตรในเจ็ดตำนานและสิบสองตำนาน 69 ผทู ที่ อ งจำจนขนึ้ ใจและสวดอยเู ปน ประจำแลว แลว จะเกดิ เปน สริ มิ งคลแกต นเองเปน ทร่ี กั ของเทวดาและมนุษย นอกจากน้ี มังคลปริตร ยังมีอานุภาพในการปองกันภัยอันตราย อนั จะเกดิ จากความไมเ ทย่ี งธรรมของเหลา คนพาลสนั ดานหยาบทง้ั หลายอกี ดว ย บทขดั (ชกั นำเชญิ ชวนสาธยาย) ยฺจ ทฺวาทส วสฺสานิ จินฺตยึสุ สเทวกา จิรสฺสํ จินฺตยนฺตาป เนว ชานึสุ มงฺคลํ. จกฺกวาฬสหสฺเสสุ ทสสุ เยน ตตฺตกํ กาลํ โกลาหลํ ชาตํ ยาว พฺรหฺมนิเวสนา. ยํ โลกนาโถ เทเสสิ สพฺพปาปนิวาสนํ ยํ สุตฺวา สพฺพทุกฺเขหิ มุจฺจนฺตาสงฺขิยา นรา มงฺคลนฺตมฺภณาม เห. เอวมาทิคุณูเปตํ คำแปล : มนษุ ยแ ละเทวดาทงั้ หลายคดิ หาสง่ิ ทเ่ี ปน มงคลอยถู งึ ๑๒ ป แมว า จะคดิ ผา นไปเปน เวลานาน กห็ ารสู งิ่ ทเี่ ปน มงคลนนั้ ไม ความต่ืนเตนโกลาหลเรื่องมงคลไดเกิดขึ้นถึงพรหมโลกตลอดหมื่นจักรวาลเปนเวลา ถงึ ๑๒ ปน น้ั ดว ย พระโลกนาถพทุ ธเจา ทรงแสดงสงิ่ ทเี่ ปน มงคล อนั สามารถขจดั บาปทงั้ ปวงได เมอ่ื นรชนนบั ประมาณมไิ ดส ดบั แลว ยอ มหลดุ พน จากทกุ ขท ง้ั ปวง ขอเราทงั้ หลายจงรว มกนั สวด มงคลปรติ รนน้ั ซงึ่ ประกอบดว ยคณุ อยา งนเี้ ปน ตน เถดิ บทสวด (เตม็ สตู ร) เอวมฺเม สุตํ. เอกํ สมยํ ภควา สาวตฺถิยํ วิหรติ เชตวเน อนาถปณฑิกสฺส อาราเม. อถโข อฺญตรา เทวตา อภิกฺกนฺตาย รตฺติยา, อภิกฺกนฺตวณฺณา เกวลกปฺปํ เชตวนํ โอภาเสตฺวา, เยน ภควา, เตนุปสงฺกมิ. อุปสงฺกมิตวา ภควนฺตํ อภิวาเทตวา เอกนฺตํ อฏฐาสิ. เอกมนฺตํ ฐิตา โข สา เทวตา ภควนฺตํ คาถาย อชฺฌภาสิ. พหู เทวา มนุสฺสา จ มงฺคลานิ อจินฺตยํุ อากงฺขมานา โสตฺถานํ พฺรูหิ มงฺคลมุตตมํ.

70 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. *อเสวนา จ พาลานํ ปณฺฑิตานฺจ เสวนา ปูชา จ ปูชนียานํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ. ปฏิรูปเทสวาโส จ ปุพฺเพ จ กตปุฺญตา อตฺตสมฺมาปณิธิ จ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ. พาหุสจฺจฺจ สิปฺปฺจ วินโย จ สุสิกฺขิโต สุภาสิตา จ ยา วาจา เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ. มาตาปตุอุปฏฐานํ ปุตฺตทารสฺส สงฺคโห อนากุลา จ กมฺมนฺตา เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ. ทานฺจ ธมฺมจริยา จ ญาตกานฺจ สงฺคโห อนวชฺชานิ กมฺมานิ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ. อารตี วิรตี ปาปา มชฺชปานา จ สฺญโม อปฺปมาโท จ ธมฺเมสุ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ. คารโว จ นิวาโต จ สนฺตุฏฐี จ กตฺุตา กาเลน ธมฺมสฺสวนํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ. ขนฺตี จ โสวจสฺสตา สมณานฺจ ทสฺสนํ กาเลน ธมฺมสากจฺฉา เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ. ตโป จ พฺรหฺมจริยฺจ อริยสจฺจาน ทสฺสนํ นิพฺพานสจฺฉิกิริยา จ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ. ผุฏฐสฺส โลกธมฺเมหิ จิตฺตํ ยสฺส น กมฺปติ อโสกํ วิรชํ เขมํ เอตมฺมงฺคลมุตฺตมํ. เอตาทิสานิ กตฺวาน สพฺพตฺถมปราชิตา สพฺพตฺถ โสตฺถึ คจฺฉนฺติ ตนฺเตสํ มงฺคลมุตตมนฺติ. คำแปล : ขา พเจา (พระอานนทเถระ พทุ ธอปุ ฏ ฐาก) ไดส ดบั มาแลว อยา งนี้ สมยั หนง่ึ พระผมู พี ระภาคเจา ประทบั อยู ณ เชตวนั มหาวหิ าร อารามของอนาถบณิ ฑกิ คฤหบดี เขตเมืองสาวัตถี คร้ังน้ันแล เทพดาตนหน่ึง เมื่อราตรีปฐมยามลวงไปแลว * นยิ มสวดยอ เฉพาะท่ีเปนบทมงคล ๓๘ ประการ ซึง่ หัวหนาสงฆนำสวดขน้ึ ตน ตรงน้ี

๒๕๕๓] ลำดับบทพระปริตรในเจ็ดตำนานและสิบสองตำนาน 71 มรี ศั มอี นั งามยงิ่ นกั ทำเชตวนั ใหส วา งไสวไปทวั่ เขา ไปเฝา พระผมู พี ระภาคเจา ถงึ ทปี่ ระทบั ครน้ั แลว จงึ ถวายอภวิ าทพระผมู พี ระภาคเจา ยนื เฝา อยู ณ ทสี่ มควรแหง หนงึ่ ครนั้ แลว เทวดา ไดก ราบทลู ถามพระผมุ พี ระภาคเจา ดว ยคาถา (คำรอ ยกรอง) วา เทวดาและมนุษยเปนอันมาก ตางก็หวังความสวัสดี จึงไดพากันคิด เร่ืองมงคล คือเหตุใหถึงความเจริญท้ังหลาย ขอพระองคโปรดตรัสมงคลอัน สงู สดุ เถดิ (พระผมู พี ระภาคเจา ไดต รสั บญั ญตั สิ ง่ิ ทเ่ี ปน มงคล ๓๘ ประการวา ) การไมค บคนพาลทง้ั หลาย การคบบณั ฑติ ทงั้ หลาย และการบชู าผทู ค่ี วร บชู า ทงั้ ๓ ประการนเี้ ปน มงคลสงู สดุ การอยใู นถน่ิ ทเ่ี หมาะสม การไดบ ำเพญ็ บญุ มากอ น และการตง้ั ตนไวช อบ ทงั้ ๓ ประการนเี้ ปน มงคลสงู สดุ ความเปน ผมู กี ารศกึ ษาเลา เรยี นมามาก ความเปน ผมู ศี ลิ ปวทิ ยา ความ เปน ผมู รี ะเบยี บวนิ ยั ทไ่ี ดร บั การอบรมมาดี และการพดู จาปราศยั ดี ทง้ั ๔ ประการ นเี้ ปน มงคลสงู สดุ การเลย้ี งดบู ดิ ามารดา การสงเคราะหบ ตุ ร การสงเคราะหภ รรยา และ การทำงานไมค งั่ คา ง ทง้ั ๔ ประการนเ้ี ปน มงคลสงู สดุ การใหทาน การประพฤติธรรม การสงเคราะหญาติท้ังหลาย และ การทำงานทปี่ ราศจากโทษ ทง้ั ๔ ประการนเ้ี ปน มงคลสงู สดุ การงดเวนจากความช่ัว การบังคับตนจากการด่ืมนำ้ เมา และความไม ประมาทในธรรมทงั้ หลาย ทงั้ ๓ ประการนเ้ี ปน มงคลสงู สดุ การมีความเคารพ การมีความออนนอมถอมตน การมีความสันโดษ การมคี วามกตญั ู และการฟง ธรรมตามกาล ทง้ั ๕ ประการนเี้ ปน มงคลสงู สดุ ความอดทน ความเปน ผวู า งา ย การพบเหน็ สมณะ และการสนทนาธรรม ตามกาล ทงั้ ๔ ประการนเี้ ปน มงคลสงู สดุ . การมีความเพียรเปนเคร่ืองแผดเผากิเลส การประพฤติพรหมจรรย การเหน็ อรยิ สจั ทง้ั หลาย และการทำพระนพิ พานใหแ จง ทงั้ ๔ ประการนเ้ี ปน มงคลสงู สดุ

72 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. ผูที่มีจิตถูกโลกธรรมกระทบแลวไมหวั่นไหว จิตไมมีความโศกเศรา จติ หมดธลุ คี อื กเิ ลส และจติ ถงึ ความปลอดโปรง คอื ปลอดจากกเิ ลสทงั้ ปวง ทงั้ ๔ ประการนเี้ ปน มงคลสงู สดุ เทวดาและมนษุ ยท ง้ั หลายพากนั ปฏบิ ตั ติ ามมงคลอนั เปน เหตนุ ำไปสคู วาม เจรญิ นแ้ี ลว จะเปน ผไู มพ า ยแพข า ศกึ ทกุ หมเู หลา ยอ มถงึ ความสขุ สวสั ดใี นที่ ทกุ สถาน นเี้ ปน มงคลสงู สดุ ของเทวดาและมนษุ ยท งั้ หลาย ๒. รตั นปรติ ร (รตั นสตู ร) ประวัติตำนาน รตั นปรติ ร คอื ปรติ รทก่ี ลา วถงึ คณุ ของพระรตั นตรยั แลว อา งคณุ นน้ั มาพทิ กั ษค มุ ครอง ใหม คี วามสวสั ดี มปี ระวตั ติ ำนานความเปน มาวา ในครงั้ พทุ ธกาล พระนครเวสาลี เปน นคร ทอี่ ดุ มสมบรู ณม ง่ั คง่ั ดว ยทรพั ยส นิ นานปั การ มปี ระชาชนอยหู นาแนน มกี ษตั รยิ ถ งึ ๗,๗๐๗ พระองค ตอ มาไดเ กดิ ภยั ตา งๆ ขน้ึ ฝนไมต กตอ งตามฤดกู าล ขา วกลา ในทอ งนาเหยี่ วแหง ตายหมด ประชาชนประสบกบั ความอดยากและลม ตายเปน จำนวนมาก ไปทางไหนมแี ตศ พ คนตายเกลอ่ื นไปหมด สง กลน่ิ เหมน็ ตลบไปทว่ั พระนคร อหวิ าตกโรคไดร ะบาดอยา งหนกั และยงั เกดิ โรคระบาดอน่ื ๆ อกี ดว ย ทำใหเ มอื งเวสาลปี ระสบภยั ๓ อยา ง ไดแ ก ทพุ ภกิ ขภยั คอื ขา วยากหมากแพง อมนสุ สภยั คอื อมนษุ ยเ บยี ดเบนี และโรคภยั คอื โรคระบาด ในขณะน้ัน ชาวเมืองปรึกษากันวา เมืองน้ีไมเคยเกิดภัยพิบัติเชนนี้ถึง ๗ รัชสมัย จงึ กราบทลู เจา ลจิ ฉวผี คู รองนครวา ภยั นอี้ าจเกดิ จากการทพี่ ระองคม ไิ ดท รงธรรม เจา ผคู รอง นครจึงรับส่ังใหชาวเมืองประชุมกันพิจารณาหาความผิดของพระองค แตชาวเมืองไมอาจ หาพบได ทง้ั หมดจงึ ปรกึ ษากนั วา ควรนมิ นตศ าสดาองคห นง่ึ มาดบั ทกุ ขภ ยั น้ี บางคนเสนอวา ควรนมิ นตเ จา ลทั ธเิ ดยี รถยี  บางคนกลา ววา ควรนมิ นตพ ระพทุ ธเจา ในทสี่ ดุ ทกุ ฝา ยมคี วามเหน็ ตรงกนั วา ควรนมิ นตพ ระพทุ ธเจา ใหเ สดจ็ มาโปรด ดงั นน้ั จงึ ไดส ง เจา ลจิ ฉวสี องพระองคไป กราบทลู นมิ นตพ ระพทุ ธเจา เพอื่ พระกรณุ าเสดจ็ มาระงบั ภยั พบิ ตั นิ นั้ เมอ่ื พระพทุ ธองคเ สดจ็ ถงึ เมอื งเวสาลี พระอนิ ทรห รอื ทา วสกั กะจอมเทพ พรอ มดว ย เทพบรวิ ารเปน อนั มาก ไดม าเขา เฝา ในสถานทนี่ น้ั ทำใหพ วกอมนษุ ยต อ งหลบหนอี อกจากเมอื ง หลงั จากนนั้ พระพทุ ธองคไ ดต รสั สอนพระปรติ รนแี้ กพ ระอานนท และรบั สง่ั ใหท า นสาธยาย รอบเมอื งทมี่ กี ำแพงสามชนั้ ตลอดสามยาม พวกอมนษุ ยท ย่ี งั เหลอื อยไู ดห ลบนไ้ี ปหมด เพราะ กลวั อนภุ าพพระปรติ ร

๒๕๕๓] ลำดับบทพระปริตรในเจ็ดตำนานและสิบสองตำนาน 73 ครน้ั อมนษุ ยห นไี ปและโรคระบาดสงบลงแลว ชาวเมอื งไดม าประชมุ กนั ทศ่ี าลากลางเมอื ง และพรอมกันกราบทูลนิมนตพระพุทธองคเสด็จมาแสดงธรรมโปรด พระพุทธองคจึงได ตรัสรัตนปริตรนี้แกประชาชนพุทธบริษัทท่ีมาประชุมกันในท่ีน้ัน แลวรับสั่งใหพระอานนท ทำนำ้ พระพทุ ธมนต และสวดบทรตั นปรติ ร พรอ มทงั้ ประพรมนำ้ พระพทุ ธมนต เปน เหตใุ ห พวกอมนษุ ยภ ตู ผปี ศ าจทง้ั หลายพากนั หนเี ตลดิ ออกไปคนละทศิ ละทาง โรคภยั ไขเ จบ็ ตา งๆ กส็ งบลง ประชาชนพลเมอื งของพระนครเวสาลกี ม็ คี วามสขุ ความเจรญิ เหมอื นเชน กาลกอ น สำหรบั อานสิ งสข องการสวดพระปรติ รบทน้ี ตามคตโิ บราณนยิ มถอื วา ถา ผใู ดสวดบท รตั นปรติ รนเี้ ปน ประจำแลว จะไดร บั อานสิ งสค อื สามารถทจี่ ะขจดั โรคภยั ตา งๆ โดยภตู ผปี ศ าจ ไมม ารบกวน มแี ตค วามรม เยน็ เปน สขุ ไดร บั ความเจรญิ รงุ เรอื งในอาชพี ตลอดไป บทขดั (ชกั นำเชญิ ชวนสาธยาย) ปณิธานโต ปฏฐาย ตถาคตสฺส ทส ปารมิโย ทส อุปปารมิโย ทส ปรปรมตฺถปารมิโย ปฺจ มหาปริจฺจาเค ติสฺโส จริยาโย ปจฺฉิมภเว คพฺภโวกฺกนฺตึ ชาตึ อภินิกฺขมนํ ปธานจริยํ โพธิปลฺลงฺเก มารวิชยํ สพฺพฺุตฺญาณปฺปฏิเวธํ นว โลกุตฺตรธมฺเมติ สพฺเพปเม พุทฺธคุเณ อาวชฺเชตฺวา เวสาลิยา ตีสุ ปาการนฺตเรสุ ติยามรตฺตึ ปริตฺตํ กโรนฺโต อายสฺมา อานนฺทตฺเถโร วิย การุฺญจิตฺตํ อุปฏฐเปตฺวา โกฏิสตสหสฺเสสุ จกฺกวาเฬสุ เทวตา ยสฺสาณมฺปฏิคฺคณฺหนฺติ ยฺจ เวสาลิยมฺปุเร. โรคามนุสฺสทุพฺภิกฺข- สมฺภูตนฺติวิธมฺภยํ ขิปฺปมนฺตรธาเปสิ ปริตฺตนฺตมฺภณาม เห. คำแปล : เหลาเทวดาในแสนโกฏิจักรวาลยอมรับอำนาจของพระปริตรท่ีสามารถ ขจดั ภยั ๓ ประการ คอื ความเจบ็ ปว ย อมนษุ ย และขา วยากหมากแพงใหห มดไปโดยพลนั ขอเราทง้ั หลายจงตง้ั อยใู นการณุ ยจติ รว มกนั สวดพระปรติ รอนั นนั้ อปุ มาเหมอื นพระอานนทเถระ เจรญิ พระพทุ ธคณุ ทพี่ ระตถาคตพทุ ธเจา ทรงบำเพญ็ นบั แตท รงตงั้ ปณธิ านทงั้ ปวงเหลา น้ี คอื บารมี ๑๐ อุปบารมี ๑๐ ปรมัตถบารมี ๑๐ มหาบริจาค ๕ จริยา ๓ การเสด็จลงสู พระครรโภทรในภพสดุ ทา ย การประสตู ิ การเสดจ็ ออกมหาภเิ นษกรมณ การบำเพญ็ เพยี ร การพชิ ติ พญามาร ณ โพธบิ ลั ลงั ก การตรสั รพู ระสพั พญั ตุ ญาณ และโลกตุ รธรรม ๙ ประการ เม่ือพระอานนทเถระเจริญพระพุทธคุณดังนี้แลว ไดสาธยายพระปริตรภายในกำแพงทั้ง ๓ ชน้ั ของเมอื งเวสาลตี ลอดยามทง้ั ยามแหง ราตรี

74 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. บทสวด ยานีธ ภูตานิ สมาคตานิ ภุมฺมานิ วา ยานิว อนฺตลิกฺเข สพฺเพ ว ภูตา สุมนา ภวนฺตุ อโถป สกฺกจฺจ สุณนฺตุ ภาสิตํ. (๑) ตสฺมา หิ ภูตา นิสาเมถ สพฺเพ เมตตํ กโรถ มานุสิยา ปชาย ทิวา จ รตฺโต จ หรนฺติ เย พลึ ตสฺมา หิ เน รกฺขถ อปฺปมตฺตา. (๒) *ยงฺกิฺจิ วิตฺตํ อิธ วา หุรํ วา สคฺเคสุ วา ยํ รตนํ ปณีตํ น โน สมํ อตฺถิ ตถาคเตน อิทมฺป พุทฺเธ รตนํ ปณีตํ เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ. (๓) *ขยํ วิราคํ อมตํ ปณีตํ ยทชฺฌคา สกฺยมุนี สมาหิโต น เตน ธมฺเมน สมตฺถิ กิฺจิ อิทมฺป ธมฺเม รตนํ ปณีตํ เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ. (๔) *ยมฺพุทฺธเสฏโฐ ปริวณฺณยี สุจึ สมาธิมานนฺตริกฺญมาหุ สมาธินา เตน สโม น วิชฺชติ อิทมฺป ธมฺเม รตนํ ปณีตํ เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ. (๕) *เย ปุคฺคลา อฏฐ สตํ ปสฏฐา จตฺตาริ เอตานิ ยุคานิ โหนฺติ เต ทกฺขิเณยฺยา สุคตสฺส สาวกา * นยิ มสวดยอ เฉพาะบทคาถาท่มี ีเครือ่ งหมายดอกจนั ทร * ตัวเลขในวงเล็บ เพื่อเทียบกับคำแปลแตละบทคาถา

๒๕๕๓] ลำดับบทพระปริตรในเจ็ดตำนานและสิบสองตำนาน 75 เอเตสุ ทินฺนานิ มหปฺผลานิ อิทมฺป สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ. (๖) *เย สุปฺปยุตฺตา มนสา ทฬฺเหน นิกฺกามิโน โคตมสาสนมฺหิ เต ปตฺติปตฺตา อมตํ วิคยฺห ลทฺธา มุธา นิพฺพุตึ ภุฺชมานา อิทมฺป สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ. (๗) ยถินฺทขีโล ปฐวึ สิโต สิยา จตุพฺภิ วาเตป อสมฺปกมฺปโย ตถูปมํ สปฺปุริสํ วทามิ โย อริยสจฺจานิ อเวจฺจ ปสฺสติ อิทมฺป สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ. (๘) เย อริยสจฺจานิ วิภาวยนฺติ คมฺภีรปฺเญน สุเทสิตานิ กิฺจาป เต โหนฺติ ภุสปฺปมตฺตา น เต ภวํ อฏฐมมาทิยนฺติ อิทมฺป สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ. (๙) สหาวสฺส ทสฺสนสมฺปทาย ตยสฺสุ ธมฺมา ชหิตา ภวนฺติ สกฺกายทิฏฐิ วิจิกิจฺฉิตฺจ สีลพฺพตํ วาป ยทตฺถิ กิฺจิ. (๑๐) จตูหปาเยหิ จ วิปฺปมุตฺโต ฉ จาภิฐานานิ อภพฺโพ กาตํุ อิทมฺป สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ. (๑๑)

76 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. กิฺจาป โส กมฺมํ กโรติ ปาปกํ กาเยน วาจายุท เจตสา วา อภพฺโพ โส ตสฺส ปฏิจฺฉทาย อภพฺพตา ทิฏฐปทสฺส วุตฺตา อิทมฺป สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ. (๑๒) วนปฺปคุมฺเพ ยถา ผุสฺสิตคฺเค คิมฺหานมาเส ปฐมสฺมึ คิมฺเห ตถูปมํ ธมฺมวรํ อเทสยิ นิพฺพานคามึ ปรมํ หิตาย อิทมฺป พุทฺเธ รตนํ ปณีตํ เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ. (๑๓) วโร วรฺู วรโท วราหโร อนุตฺตโร ธมฺมวรํ อเทสยิ อิทมฺป พุทฺเธ รตนํ ปณีตํ เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ. (๑๔) *ขีณํ ปุราณํ นวํ นตฺถิ สมฺภวํ วิรตฺตจิตฺตายติเก ภวสฺมึ เต ขีณพีชา อวิรุฬฺหิฉนฺทา นิพฺพนฺติ ธีรา ยถายมฺปทีโป อิทมฺป สงฺเฆ รตนํ ปณีตํ เอเตน สจฺเจน สุวตฺถิ โหตุ. (๑๕) ยานีธ ภูตานิ สมาคตานิ ภุมมานิ วา ยานิว อนฺตลิกฺเข ตถาคตํ เทวมนุสฺสปูชิตํ พุทฺธํ นมสฺสาม สุวตฺถิ โหตุ. (๑๖) ยานีธ ภูตานิ สมาคตานิ ภุมมานิ วา ยานิว อนฺตลิกฺเข ตถาคตํ เทวมนุสฺสปูชิตํ ธมฺมํ นมสฺสาม สุวตฺถิ โหตุ. (๑๗)

๒๕๕๓] ลำดับบทพระปริตรในเจ็ดตำนานและสิบสองตำนาน 77 ยานีธ ภูตานิ สมาคตานิ ภุมมานิ วา ยานิว อนฺตลิกฺเข ตถาคตํ เทวมนุสสปูชิตํ สงฺฆํ นมสฺสาม สุวตฺถิ โหตุ. (๑๘) คำแปล : ขอเทวดาบนพนื้ ดนิ และในอากาศทง้ั หลาย ผมู าประชมุ กนั อยใู นทนี่ ที้ ง้ั หมด จงเปน ผเู บกิ บานใจ รบั ฟง ถอ ยคำดว ยความเคารพเถดิ (๑) ดงั นนั้ ขอเทวดาทง้ั ปวงจงฟง ขา พเจา จงมเี มตตาจติ ในหมมู นษุ ย เพราะ เขาเซน พลกี รรม ทง้ั กลางวนั และกลางคนื ทา นจงอยา ประมาทคมุ ครองพวกเขา ดว ยเถดิ (๒) ทรัพยอยางใดอยางหนึ่งในโลกนี้หรือโลกอ่ืน หรือรัตนะอันสูงคาใน สรวงสวรรค บรรดามี ทรพั ยห รอื รตั นะนน้ั ทจี่ ะมคี า เสมอดว ยพระตถาคตเจา นน้ั ไมม เี ลย ขอ นเี้ ปน พระรตั นคณุ อยา งสงู ในพระพทุ ธเจา ประการหนง่ึ ดว ยสจั วาจานี้ ขอจงมคี วามสวสั ดี (๓) พระศากยมุนีเจาผูมีพระฤทัยตั้งมั่น ทรงบรรลุธรรมอันเปนที่ส้ินกิเลส ปราศจากราคะ เปน อมตะ และประณตี นนั้ แลว สงิ่ ใดจะเสมอดว ยพระธรรมนน้ั ไมมเี ลย แมข อน้ี กเ็ ปน พระรัตนคุณอยา งสงู ในพระธรรมประการหนึง่ ดว ย สจั วาจานี้ ขอจงมคี วามสวสั ดี (๔) สมาธิอื่นใด จะเสมอดวยสมาธิท่ีพระพุทธเจาผูประเสริฐทรงสรรเสริญ ไวว า เปน ธรรมสะอาดหมดจด และทบี่ ณั ฑติ ทงั้ หลายยอมรบั วา สามารถใหผ ล ตอ เนอ่ื งไดโ ดยลำดบั นนั้ ไมม ี แมข อ นกี้ เ็ ปน พระรตั นคณุ อยา งสงู ในพระธรรม ประการหนง่ึ ดว ยสจั วาจานี้ ขอจงมคี วามสวสั ดี (๕) พระสาวกของพระสคุ ตพทุ ธเจา ผเู ปน พระอรยิ บคุ คล ๘ จำพวก อนั แบงเปน ๔ คู ซึ่งสัตบุรุษทั้งหลายสรรเสริญแลว ทานเหลาน้ันเปนผูควรแก ทักษิณาทาน ทานท่ีถวายแกพระอริยสาวกเหลานั้นยอมมีผลมาก แมขอนี้ก็ เปน พระรตั นคณุ อยา งสงู ในพระสงฆป ระการหนง่ึ ดว ยสจั วาจานี้ ขอจงมคี วาม สวสั ดี (๖)

78 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. ในพระศาสนาของพระโคดมพทุ ธเจา ยอ มมพี ระอรยิ บคุ คลผมู งุ บำเพญ็ เพยี ร ดว ยจติ อนั เขม แขง็ เปน ผปู ราศจากกเิ ลส บรรลอุ รหตั ตผล เขา สอู มตนพิ พาน ไดรับผลแหงความดับกิเลสสนิทเสวยวิมุตติสุขอยู แมขอนี้ก็เปนพระรัตนคุณ อยา งสงู ในพระสงฆป ระการหนงึ่ ดว ยสจั วาจาน้ี ขอจงมคี วามสวสั ดี (๗) เสาใหญท ป่ี ก ลงดนิ ไมไ หวตงิ เพราะแรงลมทง้ั สดี่ า น ฉนั ใด เราตถาคต ก็เรียกพระอริยบุคคลผูเปนสัตบุรุษรูแจงเห็นจริงอริยสัจวามีอุปมาฉันนั้น แมข อ นก้ี เ็ ปน พระรตั นคณุ อยา งสงู ในพระสงฆป ระการหนง่ึ ดว ยสจั วาจาน้ี ขอจง มคี วามสวสั ดี (๘) บคุ คลเหลา ใด (อรยิ บคุ คลชน้ั โสดาบนั ) เจรญิ อรยิ สจั ๔ ทพ่ี ระพทุ ธเจา ผทู รง พระปญ ญาอนั ลกึ ซงึ้ ตรสั ไวด แี ลว แมว า ทา นเหลา นน้ั ยงั เปน ผปู ระมาทหลงเพลนิ อยา งมากอยู แตท า นเหลา นน้ั กจ็ ะไมเ กดิ ในชาตทิ ่ี ๘ (คอื เกดิ อกี อยา งมาก ไมเ กนิ ๗ ชาติ กป็ รนิ พิ พาน) แมข อ นกี้ เ็ ปน พระรตั นคณุ อยา งสงู ในพระสงฆป ระการหนงึ่ ดว ยสจั วาจานี้ ขอจงมคี วามสวสั ดี (๙) ทา นเหลา นนั้ คอื พระโสดาบนั ผลู ะสงั โยชน ๓ ประการ ไดแ ก สกั กายทฏิ ฐิ วจิ กิ จิ ฉา และสลี พั พตปรามาส พรอ มทงั้ ละกเิ ลสอน่ื ๆ ไดข ณะทเ่ี หน็ ธรรม (๑๐) ทา นเหลา นนั้ เปน ผพู น แลว จากอบายทงั้ ๔ ไมอ าจทจี่ ะกระทำกรรมอนั ไม สมควร ๖ ประการ (อภฐิ าน ๖ คอื อนนั ตรยิ กรรม ๕ และการนบั ถอื ศาสดาอน่ื ) แมข อ นก้ี เ็ ปน พระรตั นคณุ อยา งสงู ในพระสงฆป ระการหนง่ึ ดว ยสจั วาจานี้ ขอจง มคี วามสวสั ดี (๑๑) แมทานเหลาน้ันยังทำความผิดดวยกาย วาจา หรือใจอยูบางก็ตาม แตทานก็ไมปกปดความผิดน้ัน พระพุทธเจาตรัสวาผูเห็นพระนิพพาน เปน ผไู มป กปด ความผดิ แมข อ นก้ี เ็ ปน พระรตั นคณุ อยา งสงู ในพระสงฆป ระการหนง่ึ ดว ยสจั วาจานี้ ขอจงมคี วามสวสั ดี (๑๒) พมุ ไมใ นปา ทแ่ี ตกยอดออ นในเดอื นตน แหง คมิ หนั ตฤดู มคี วามงาม ฉนั ใด พระพทุ ธเจา ทรงแสดงพระธรรมใหถ งึ พระนพิ พานเพอ่ื ประโยชนส งู สดุ มคี วามงาม ฉนั ใด แมข อ นก้ี เ็ ปน พระรตั นคณุ อยา งสงู ในพระสงฆป ระการหนงึ่ ดว ยสจั วาจาน้ี ขอจงมคี วามสวสั ดี (๑๓)

๒๕๕๓] ลำดับบทพระปริตรในเจ็ดตำนานและสิบสองตำนาน 79 พระพทุ ธเจา ผปู ระเสรฐิ ทรงรแู จง พระนพิ พานอนั เลศิ ทรงประทานธรรม อนั เยย่ี ม ทรงแนะนำขอ ปฏบิ ตั ทิ ด่ี ี พระองคผ ไู มม ใี ครยง่ิ กวา ทรงแสดงธรรม อันสูงสุดแลว แมขอนี้ก็เปนพระรัตนคุณอยางสูงในพระพุทธเจาประการหนึ่ง ดว ยสจั วาจานี้ ขอจงมคี วามสวสั ดี (๑๔) พระอรยิ บคุ คลผมู กี รรมเกา หมดสน้ิ แลว กรรมอนั เปน เหตใุ หเ กดิ ในภพใหม กไ็ มม ี ทา นเหลา นน้ั มจี ติ เบอ่ื หนา ยในอนั ทจ่ี ะเกดิ ในภพตอ ไป ขจดั พชื คอื กเิ ลส ใหส นิ้ ไปแลว ปราศจากความพอใจในกามอนั จะทำใหเ กดิ อกี มปี ญ ญาแหลมคม ยอ มดบั กเิ ลสเหมอื นประทปี ดวงนด้ี บั ไป แมข อ นี้ กเ็ ปน พระรตั นคณุ อยา งสงู ใน พระสงฆป ระการหนงึ่ ดว ยสจั วาจานี้ ขอจงมคี วามสวสั ดี (๑๕) ขอเทวดาบนพนื้ ดนิ และในอากาศทง้ั หลาย ผมู าประชมุ กนั อยใู นทนี่ ้ี จงรว ม กนั กบั เราทง้ั หลายนมสั การพระพทุ ธเจา ผเู สดจ็ ไปอยา งงาม อนั เทวดาและมนษุ ย ทง้ั หลายบชู าแลว ขอจงมคี วามสวสั ดี (๑๖) ขอเทวดาบนพนื้ ดนิ และในอากาศทงั้ หลาย ผมู าประชมุ กนั อยใู นทน่ี ้ี จงรว ม กนั กบั เราทง้ั หลายนมสั การพระธรรมอนั เปน ไปอยา งงาม อนั เทวดาและมนษุ ย ทง้ั หลายบชู าแลว ขอจงมคี วามสวสั ดี (๑๗) ขอเทวดาบนพนื้ ดนิ และในอากาศทงั้ หลาย ผมู าประชมุ กนั อยใู นทน่ี ้ี จงรว ม กนั กบั เราทง้ั หลายนมสั การพระสงฆผ ดู ำเนนิ ไปอยา งงาม อนั เทวดาและมนษุ ย ทงั้ หลายบชู าแลว ขอจงมคี วามสวสั ดี (๑๘) ๓. เมตตปรติ ร (เมตตสตู ร) ประวัติตำนาน เมตตปรติ ร คอื ปรติ รทก่ี ลา วถงึ การเจรญิ เมตตา มปี ระวตั ติ ำนานความเปน มาวา สมยั หนงึ่ เมอ่ื พระพทุ ธเจา ประทบั อยทู พ่ี ระเชตวนั มหาวหิ าร เขตกรงุ สาวตั ถี แควน โกศล มพี ระภกิ ษุ ๕๐๐ รปู เรยี นสมถวปิ ส สนากรรมฐานจากพระพทุ ธองคแ ลว เดนิ ทางไปแสวงหา สถานทปี่ ฏบิ ตั ธิ รรม พวกทา นไดม าถงึ ไพรสณฑแ หง หนงึ่ ปรกึ ษากนั วา สถานทน่ี เี้ หมาะสมแก การเจรญิ สมณธรรม จงึ ตกลงใจอยจู ำพรรษาทนี่ นั้ ชาวบา นกม็ จี ติ ศรทั ธาสรา งกฏุ ถิ วายใหพ ำนกั รปู ละหนงึ่ หลงั และอปุ ฏ ฐากดว ยปจ จยั มใิ หข าดแคลน

80 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. เมอื่ ฝนตก พระภกิ ษเุ หลา นนั้ จะเจรญิ กรรมฐานทกี่ ฏุ ิ ครน้ั ฝนไมต กกจ็ ะมาปฏบิ ตั ทิ โี่ คนไม รกุ ขเทวดาผสู งิ สถติ อยทู ตี่ น ไมไ มอ าจอยใู นวมิ านได เพราะผทู รงศลี มาอยใู ตว มิ านของตน จงึ ตอ งพาบตุ รธดิ าลงมาอยบู นพน้ื เบอ้ื งแรกคดิ วา พวกภกิ ษคุ งจะอยชู วั่ คราว กท็ นรอดอู ยรู ะยะ หนง่ึ แตเ มอ่ื รวู า มาจำพรรษาตลอดไตรมาส จงึ เกดิ ความไมพ อใจ คดิ จะขบั ไลใ หก ลบั ไปใน ระหวา งพรรษา ฉะนนั้ จงึ พยายามหลอกหลอนดว ยวธิ ตี า งๆ เชน สำแดงรปู รา งทนี่ า กลวั รอ งเสยี งโหยหวน ทำใหไ ดร บั กลน่ิ เหมน็ ตา งๆ เปน ตน ฝา ยพวกภกิ ษเุ พราะยงั เปน ปถุ ชุ น จงึ พากนั หวาดหวน่ั ตกใจตอ อารมณท นี่ า กลวั เหลา นนั้ ไมส ามารถจะปฏบิ ตั ธิ รรมไดโ ดยสะดวก ไดป รกึ ษากนั วา “พวกเราไมค วรจะอยใู นสถานทน่ี ้ี แตค วรจะกลบั ไปจำพรรษาหลงั ในสถานทอี่ น่ื ” และไดเ ดนิ ทางกลบั โดยไมบ อกลาชาวบา น เมอื่ มาถงึ พระเชตวนั มหาวหิ าร ไดเ ขา เฝา พระพทุ ธเจา แลว กราบทลู เรอ่ื งนี้ แตพ ระพทุ ธองคท รง เลง็ เหน็ วา สถานทเ่ี ดมิ เหมาะสมกบั ภกิ ษเุ หลา นมี้ ากกวา ทอ่ี นื่ จงึ ทรงแนะนำใหภ กิ ษเุ หลา นน้ั กลบั ไปสถานทนี่ น้ั พรอ มกบั ตรสั สอนเมตตปรติ รเพอ่ื เจรญิ เมตตาแกร กุ ขเทวดา ภกิ ษเุ หลา นนั้ จงึ เดนิ ทางกลบั ไปยงั สถานทเ่ี ดมิ กอ นจะเขา สรู าวปา พวกทา นไดเ จรญิ เมตตาภาวนาโดยสาธยายพระปริตรนี้ อานุภาพแหงเมตตาทำใหรุกขเทวดามีจิตออนโยน มไี มตรจี ติ ตอบ จงึ ไมเ บยี ดเบยี นเหมอื นกอ น ทงั้ ยงั ชว ยปรนนบิ ตั แิ ละคมุ ครองภยั อนื่ ๆ อกี ดว ย ภกิ ษเุ หลา นน้ั ไดพ ากเพยี รเจรญิ เมตตากรรมฐาน แลว เจรญิ วปิ ส สนาภาวนาตอ มา โดยใชเ มตตา เปน บาทแหง วปิ ส สนา จนบรรลอุ รหตั ตผลสำเรจ็ เปน พระอรหนั ตท กุ รปู ภายในพรรษานนั้ สำหรบั อานสิ งสข องการสวดพระปรติ รนเ้ี ปน ประจำ ทเ่ี ดน ชดั คอื พวกภตู ผปี ศ าจจะไม รบกวนเบียดเบียน และเนื่องจากความหมายในบทสวดเปนการแผเมตตาใหแกสรรพสัตว ทวั่ ไป จงึ มอี านสิ งสเ ชน เดยี วกบั อานสิ งสข องการเจรญิ เมตตา ๑๑ ประการ มหี ลบั -ตน่ื เปน สขุ ไมฝ น รา ย เปน ทรี่ กั ของเทวดา มนษุ ย และอมนษุ ย เปน ตน บทขัด (ชักนำเชิญชวนสาธยาย) เนว ทสฺเสนฺติ ภึสนํ รตฺตินฺทิวมตนฺทิโต. ยสฺสานุภาวโต ยกฺขา ยมฺหิ เจวานุยุฺชนฺโต ปาปํ กิฺจิ น ปสฺสติ ปริตฺตนฺตมฺภณาม เห. สุขํ สุปติ สุตฺโต จ เอวมาทิคุณูเปตํ คำแปล :

๒๕๕๓] ลำดับบทพระปริตรในเจ็ดตำนานและสิบสองตำนาน 81 ยักษและเทวดาท้ังหลายยอมไมแสดงส่ิงท่ีนากลัว เพราะอานุภาพของ พระปรติ รใด อนง่ึ บคุ คลผไู มเ กยี จครา นเจรญิ พระปรติ รใดทงั้ กลางวนั และกลาง คนื ยอ มหลบั สบาย เมอ่ื หลบั ยอ มไมฝ น รา ย ขอเราทงั้ หลายจงสวดพระปรติ รนน้ั อนั ประกอบดว ยคณุ อยา งนเี้ ปน ตน เถดิ . บทสวดเต็มสูตร กรณียมตฺถกุสเลน ยนฺตํ สนฺตํ ปทํ อภิสเมจฺจ สกฺโก อุชู จ สุหุชู จ สุวโจ จสฺส มุทุ อนติมานี. สนฺตุสฺสโก จ สุภโร จ อปฺปกิจฺโจ จ สลฺลหุกวุตฺติ สนฺตินฺทฺริโย จ นิปโก จ อปฺปคพฺโภ กุเลสุ อนนุคิทฺโธ. น จ ขุททํ สมาจเร กิฺจิ เยน วิฺู ปเร อุปวเทยยุํ สุขิโน วา เขมิโน โหตุ สพฺเพ สตฺตา ภวนฺตุ สุขิตตฺตา. เย เกจิ ปาณภูตตฺถิ ตสา วา ถาวรา วา อนวเสสา ทีฆา วา เย มหนฺตา วา มชฺฌิมา รสฺสกา อณุกถูลา. ทิฏฐา วา เย จ อทิฏฐา เย จ ทูเร วสนฺติ อวิทูเร ภูตา วา สมฺภเวสี วา สพฺเพ สตฺตา ภวนฺตุ สุขิตตฺตา. น ปโร ปรํ นิกุพฺเพถ นาติมฺเญถ กตฺถจิ นํ กิฺจิ พฺยาโรสนา ปฏีฆสฺญา นาฺญมฺญสฺส ทุกฺขมิจฺเฉยฺย. มาตา ยถา นิยํ ปุตฺตํ อายุสา เอกปุตฺตมนุรกฺเข เอวมฺป สพฺพภูเตสุ มานสมฺภาวเย อปริมาณํ. *เมตฺตฺจ สพฺพโลกสฺมึ มานสมฺภาวเย อปริมาณํ อุทฺธํ อโธ จ ติริยฺจ อสมฺพาธํ อเวรํ อสปตฺตํ. ติฏฐฺจรํ นิสินฺโน วา สยาโน วา ยาวตสฺส วิคิตมิทฺโธ เอตํ สตึ อธิฏเฐยฺย พฺรหฺมเมตํ วิหารํ อิธมาหุ. ทิฏฐิฺจ อนุปคมฺม สีลวา ทสฺสเนน สมฺปนฺโน กาเมสุ วิเนยฺย เคธํ น หิ ชาตุ คพฺภเสยฺยํ ปุนเรตีติ. * ในกรณีที่สวดยอ หัวหนาสงฆน ำขนึ้ ตน ตรงนี้

82 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. คำแปล : ภกิ ษผุ ฉู ลาดในสงิ่ ทเี่ ปน ประโยชน ประสงคจ ะบรรลแุ ดนสงบ พงึ อบรม สิกขา ๓ ภิกษุนั้นพึงเปนผูอาจหาญ ซื่อตรงดี แนวแน วางาย ออนโยน หมดความยดึ ถอื ตวั (ไมม อี ตมิ านะ) อนง่ึ พงึ เปน ผสู นั โดษ เลยี้ งงา ย มกี จิ ธรุ ะนอ ย ดำเนนิ ชวี ติ เรยี บงา ย มี อินทรียสงบ มีปญญาพาตัวรอด ไมคะนองกายวาจา ไมพัวพันกับตระกูล ทง้ั หลาย (ไมป ระจบเอาใจพวกคฤหสั ถท ร่ี ำ่ รวยมอี ำนาจ) ไมพ งึ ประพฤตสิ งิ่ เลก็ นอ ยอะไรๆ ทจ่ี ะเปน เหตใุ หผ รู ตู ำหนิ (พงึ แผเ มตตาจติ ไปในสรรพสตั วว า ) ขอสตั วท งั้ ปวงจงเปน ผมู คี วามสขุ กาย สขุ ใจ ปลอดจากภยั ท้ังปวงเถิด สตั วม ชี วี ติ ทง้ั หลาย ทง้ั ทเ่ี ปน ผหู วาดสะดงุ (มกี เิ ลส) ทง้ั ทมี่ น่ั คง (หมดกเิ ลส) บรรดามที งั้ หมด ทงั้ ทมี่ กี ายยาว ใหญ ปานกลาง สนั้ ละเอยี ด หรอื หยาบ ทั้งท่ีเคยเห็นหรือไมเคยเห็น อยูไกลหรือใกล ท่ีเกิดแลว หรือท่ีกำลัง แสวงหาทเ่ี กดิ สตั วท งั้ ปวงเหลา นน้ั จงมคี วามสขุ กาย สขุ ใจเถดิ บคุ คลไมพ งึ หลอกลวงกนั ไมพ งึ ดหู มนิ่ ใครในทไี่ หนๆ ไมพ งึ ปรารถนาทกุ ข แกก นั และกนั ดว ยการเบยี ดเบยี นหรอื ดว ยใจมงุ รา ย มารดาถนอบตุ รคนเดยี วของตนดว ยชวี ติ ฉนั ใด บคุ คลพงึ เจรญิ เมตตาจติ ไมม ปี ระมาณในสตั วท ง้ั ปวง ฉนั นน้ั บคุ คลพงึ เจรญิ เมตตาจติ อนั ไมม ปี ระมาณ ไมม ขี อบเขต ไมม เี วร ไมม ศี ตั รู ในสตั วโ ลกทง้ั หมด ทงั้ ในอรปู ภมู เิ บอื้ งบน รปู ภมู เิ บอ้ื งกลาง และกามาวจรภมู ิ เบอ้ื งต่ำ ผเู จรญิ เมตตาจติ เชน นน้ี นั้ ไมว า จะอยใู นอริ ยิ าบถใด จะยนื เดนิ นงั่ หรอื นอนอยกู ต็ าม จะเปน ผปู ราศจากความทอ แทเ หนอื่ ยหนา ย จะตงั้ สตไิ วไ ดน าน ตราบเทา ทต่ี อ งการ พระพทุ ธเจา ทงั้ หลายตรสั การอยดู ว ยเมตตาเชน นวี้ า เปน ความประพฤตทิ ปี่ ระเสรฐิ ในพระศาสนาน้ี บคุ คลผแู ผเ มตตาจติ นนั้ จะไมก ล้ำกรายความเหน็ ผดิ เปน ผบู รบิ รู ณด ว ยศลี ถงึ พรอ มดว ยความเหน็ ชอบ เมอื่ ขจดั ความยนิ ดใี นกามทงั้ หลายไดแ ลว ยอ มไม กลบั มาสกู ารเกดิ ในครรภอ กี ครงั้ แนน อน.

๒๕๕๓] ลำดับบทพระปริตรในเจ็ดตำนานและสิบสองตำนาน 83 ๔. ขนั ธปรติ ร ประวัติตำนาน ขนั ธปรติ ร คอื พระปรติ รทก่ี ลา วถงึ การเจรญิ เมตตาแกพ ญางทู งั้ ๔ ตระกลู และเจรญิ เมตตาแกส รรพสตั ว มปี ระวตั ติ ำนานคความเปน มาวา ครงั้ หนงึ่ เมอ่ื พระพทุ ธเจา ประทบั อยทู ี่ พระเชตวันมหาวิหาร เขตกรุงสาวัตถี พระภิกษุรูปหนึ่งลงไปเก็บฟนขางพระวิหารเชตวัน มีงูตัวหนึ่งเลื้อยออกมาจากโคนตนไมผุ ไดกัดน้ิวเทาของพระภิกษุรูปน้ัน เปนเหตุใหทาน มรณภาพทนั ที เนอ่ื งจากทนพษิ ไมไ หว ภกิ ษทุ งั้ หลายจงึ ไดก ราบทลู ความนแี้ ดพ ระพทุ ธองค พระพทุ ธองคต รสั วา “ภกิ ษนุ น้ั ถกู งกู ดั เหน็ จะเปน เพราะไมไ ดแ ผเ มตตาแกพ ญางทู ง้ั ๔ ตระกลู ผูแผเมตตาแกพญางูเหลาน้ันจะไมถูกงูกัด” แลวตรัสเปนพุทธานุญาตใหภิกษุทั้งหลายแผ เมตตาแกพ ญางทู งั้ ๔ ตระกลู มพี วกงตู ระกลู วริ ปู ก ษ เปน ตน ในอรรถกถาขนั ธปรติ ตชาดก กลา วถงึ ประวตั ทิ พี่ ระพทุ ธองคต รสั พระปรติ รนว้ี า เมอื่ ภกิ ษรุ ปู หนงึ่ ถกู งกู ดั จนมรณภาพ พระพทุ ธเจา ตรสั วา “เราเคยสอนขนั ธปรติ รในขณะทย่ี งั เปน พระโพธสิ ตั วอ ยู คอื ครง้ั เมอื่ เราเกดิ เปน ฤๅษที ป่ี า หมิ พานต ไดพ ำนกั อยรู ว มกบั ฤๅษจี ำนวนมาก ในขณะนนั้ มฤี ๅษตี นหนงึ่ ถกู งกู ดั เสยี ชวี ติ เราจงึ สอนขนั ธปรติ รแกพ วกฤๅษเี พอื่ ปกปอ งคมุ ภยั จากอสรพษิ รา ย” ดังน้ัน พระปริตรบทน้ีจึงมีอานิสงสสามารถปองกันผูท่ีสวดประจำใหรอดพนจากการ ทำอันตรายดวยการขบกัดเปนตนของพวกงูพิษตางๆ ตลอดจนตะขาบ แมลงปอง และ สตั วท มี่ เี ขยี้ วงาทกุ ชนดิ ไดเ ปน อยา งดี บทขัด (ชักนำเชิญชวนสาธยาย) สพฺพาสีวิสชาตีนํ ทิพฺพมนฺตาคทํ วิย ยนฺนาเสติ วิสํ โฆรํ เสสฺจาป ปริสฺสยํ. อาณกฺเขตฺตมฺหิ สพฺพตฺถ สพฺพทา สพฺพปาณีนํ สพฺพโสป นิวาเรติ ปริตฺตนฺตมฺภณาม เห. พระปริตรใดยอมปองกันพิษและอันตรายอ่ืนๆ ของสัตวท้ังปวงไดตลอด เขตแหงอำนาจทุกแหงเสมอ เหมือนทิพยมนตและโอสถทิพยท่ีขจัดพิษราย ของอสรพษิ ทงั้ ปวง ขอเราทง้ั หลายจงรว มกนั สวดพระปรติ รนนั้ เถดิ .

84 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. บทสวด วิรูปกฺเขหิ เม เมตฺตํ เมตฺตํ เอราปเถหิ เม ฉพฺยาปุตฺเตหิ เม เมตฺตํ เมตฺตํ กณฺหาโคตมเกหิ จ. อปาทเกหิ เม เมตฺตํ เมตฺตํ ทิปาทเกหิ เม จตุปฺปเทหิ เม เมตฺตํ เมตฺตํ พหุปฺปเทหิ เม. มา มํ อปาทโก หึสิ มา มํ หึสิ ทิปาทโก มา มํ จตุปฺปโท หึสิ มา มํ หึสิ พหุปฺปโท. สพฺเพ สตฺตา สพฺเพ ปาณา สพฺเพ ภูตา จ เกวลา สพฺเพ ภทฺรานิ ปสฺสนฺตุ มา กิฺจิ ปาปมาคมา. อปฺปมาโณ พุทฺโธ อปฺปมาโณ ธมฺโม อปฺปมาโณ สงฺโฆ, ปมาณวนฺตานิ สิรึสปานิ อหิวิจฺฉิกา สตปที อุณฺณนาภี สรพู มูสิกา, กตา เม รกฺขา, กตา เม ปริตตา, ปฏิกฺกมนฺตุ ภูตานิ, โสหํ นโม ภควโต, นโม สตฺตนฺนํ สมฺมาสมฺพุทธานํ. คำแปล : ขาพเจาขอมีไมตรีจิตกับพวกงูตระกูลวิรูปกษ ขาพเจาขอมีไมตรีจิตกับ พวกงตู ระกลู เอราบถ ขา พเจา ขอมไี มตรจี ติ กบั พวกงตู ระกลู ฉพั ยาบตุ ร ขา พเจา ขอมไี มตรจี ติ กบั พวกงตู ระกลู กณั หาโคดม ขา พเจา ขอมไี มตรจี ติ กบั พวกสตั วไ มม เี ทา ขา พเจา ขอมไี มตรจี ติ กบั พวก สัตวสองเทา ขาพเจาขอมีไมตรีจิตกับพวกสัตวส่ีเทา ขาพเจาขอมีไมตรีจิต กบั พวกสตั วท ม่ี เี ทา มาก สตั วท ไี่ มม เี ทา อยา ไดเ บยี ดเบยี นขา พเจา สตั วท ม่ี สี องเทา อยา ไดเ บยี ดเบยี น ขา พเจา สตั วท มี่ สี เ่ี ทา อยา ไดเ บยี ดเบยี นขา พเจา และสตั วท ม่ี เี ทา มากอยา ได เบียดเบียนขาพเจา ขอสัตวท้ังปวง ปราณชาติทั้งปวง สัตวท่ีเกิดแลวท้ังปวง ทั้งหมดจง ประสบความเจรญิ ทกุ ผู ขอบาปทกุ ขร อ นอยา ไดเ ขา ถงึ ใครๆ เลย พระพุทธเจาทรงพระคุณสุดที่จะประมาณได พระธรรมมีพระคุณสุดที่จะประมาณได พระสงฆก ม็ พี ระคณุ สดุ ทจ่ี ะประมาณได แตส ตั วเ ลอ้ื ยคลานทง้ั หลาย คอื งู แมงปอ ง ตะขาบ แมงมมุ ตกุ แก และหนู เปน สตั วท ปี่ ระมาณ(กำหนดนบั )ได

๒๕๕๓] ลำดับบทพระปริตรในเจ็ดตำนานและสิบสองตำนาน 85 ขา พเจา ไดค มุ ครองตนแลว ขา พเจา ไดป อ งกนั ตนแลว ขอสตั วท งั้ หลายจงหลกี ไปเสยี เถดิ เพราะขา พเจา นน้ั ไดก ระทำความนอบนอ มแดพ ระผมู พี ระภาคเจา ไดก ระทำความนอบนอ มแด พระสมั มาสมั พทุ ธเจา ทงั้ ๗ พระองค. ๕. โมรปรติ ร ประวัติตำนาน โมรปรติ ร คอื ปรติ รของนกยงู เปน พระปรติ รบทหนง่ึ ทก่ี ลา วถงึ คณุ ของพระพทุ ธเจา แลวนอมพระพุทธคุณมาพิทักษคุมครองใหมีความสวัสดี มีประวัติตำนานความเปนมาวา สมยั หนง่ึ ครงั้ พระบรมศาสดาเสวยพระชาตเิ ปน นกยงู ทองโพธสิ ตั ว อาศยั อยบู นเขา ใกล ปา หมิ พานต ในครงั้ นนั้ กอ นจะบนิ ไปหาอาหารในตอนเชา นกยงู ทองพระโพธสิ ตั วจ ะบนิ ขนึ้ ไปจบั บนยอดภเู ขามองดพู ระอาทติ ยท ก่ี ำลงั ขน้ึ แลว สาธยายพระปรติ รนมสั การพระอาทติ ย โดยรายมนตสาธยายสองคาถาแรกวา อุเทตยฺจกฺขุมา เปนตน และนอบนอมบูชา พระพทุ ธเจา ทง้ั หลายทเ่ี สดจ็ ดบั ขนั ธปรนิ พิ พานแลว พรอ มทงั้ ระลกึ ถงึ พระคณุ ของพระพทุ ธเจา เหลา นนั้ ดว ย แลว จงึ บนิ ออกไปหาอาหาร ในเวลาเยน็ หลงั จากกลบั มาทรี่ งั นกยงู ทองพระโพธสิ ตั วน น้ั กจ็ ะบนิ ขนึ้ สบู นยอดเขา มองดูพระอาทิตยตกดิน แลวก็สวดพระปริตรนมัสการพระอาทิตย โดยรายมนตสาธยาย สองคาถาหลงั วา อเปตยจฺ กขฺ มา เปน ตน นอบนอ มบชู าพระพทุ ธเจา ทง้ั หลาย และระลกึ ถงึ พระคณุ ของพระพทุ ธเจา ทงั้ หลายทเ่ี สดจ็ ดบั ขนั ธปรนิ พิ พานไปแลว จงึ บนิ กลบั เขา รงั นกยูงทองจึงแคลวคลาดจากอันตรายทุกอยางดวยมนตบทนี้ วันหนี่งพรานปาจาก หมบู า นแหง หนง่ึ เขตเมอื งพาราณสี ไดพ บนกยงู ทองโดยบงั เอญิ จงึ บอกความนนั้ แกบ ตุ ร ของตน ในขณะน้ัน พระนางเขมาเทวี มเหสีของพระเจาพาราณสี ทรงพระสุบินเห็น นกยงู ทองแสดงธรรมอยู จงึ กราบทลู พระสวามถี งึ ความประสงคท จี่ ะฟง ธรรมของนกยงู ทอง ทา วเธอจงึ รบั สงั่ ใหพ รานปา สบื หา พรานปา ทเ่ี คยไดย นิ คำบอกเลา ของบดิ าไดม ากราบทลู วา นกยงู ทองมอี ยจู รงิ ทเ่ี ขาทณั ฑกหริ ญั บรรพต ทา วเธอจงึ รบั สงั่ ใหเ ขาจบั นกยงู ทองมาถวาย พรานปาคนน้ันไดเดินทางไปในปาหิมพานต แลววางบวงดักนกยูงทองไวทุกแหงที่ นกยงู ทองหาอาหาร แมเ วลาผา นไปถงึ ๗ ปเ ขากย็ งั จบั ไมไ ด เพราะนกยงู ทองแคลว คลาดบา ง บว งไมแ ลน บา ง จนในทสี่ ดุ พรานปา ไดเ สยี ชวี ติ อยใู นปา นน้ั ฝา ยพระนางเขมาเทวกี ป็ ระชวร ส้ินพระชนม เพราะเสียพระทัยที่ไมสมประสงค พระเจาพาราณสีจึงพิโรธแลวไดรับส่ัง

86 บททำวัตร-สวดมนต (แปล) [ฉบบั พศ. ใหจ ารกึ อกั ษรลงในแผน ทองวา “ผกู นิ เนอ้ื นกยงู ทองทเี่ ขาทณั ฑกหริ ญั บรรพต จะไมแ ก ไมต าย” ตอมาภายหลังไมนานพระองคก็สิ้นพระชนม พระราชาองคอื่นที่ครองราชยสืบตอมาไดพบ ขอ ความนน้ั จงึ สง พรานปา ไปจบั นกยงู ทอง แตไ มม ใี ครสามารถจบั ได กาลเวลาไดล ว งเลยไป จนเปลยี่ นรชั สมยั แหง พระราชาถงึ ๖ พระองค ครนั้ ถงึ รชั สมยั แหง พระราชาองคท ่ี ๗ พระองคก ร็ บั สงั่ ใหพ รานปา ไปจบั นกยงู ทองนน้ั อกี พรานคนนฉี้ ลาดหลกั แหลม เฝา สงั เกตการณอ ยหู ลายวนั กร็ วู า นกยงู ทองไมต ดิ บว งเพราะ มมี นตข ลงั กอ นออกหาอาหารจะทำพธิ รี า ยมนต จงึ ไมม ใี ครสามารถจบั ได เขาคดิ วา จะตอ งจบั นกยงู ทองกอ นทจี่ ะรา ยมนต จงึ ไดน ำนกยงู ทองเพศเมยี ตวั หนง่ึ มาเลย้ี งใหเ ชอ่ื ง แลว นำไป ปลอ ยไวท เ่ี ชงิ เขา โดยดกั บว งอยใู กลๆ จากนน้ั ไดท ำสญั ญาณใหน างนกยงู รำแพนสง เสยี งรอ ง นกยงู ทองโพธสิ ตั วเ มอ่ื ไดย นิ เสยี งนางนกยงู กล็ มื สาธยายมนตค มุ ครองตน เผลอตวั บนิ ไปหา นางนกยูงโดยเร็วจึงติดบวงที่ดักไว ครั้นแลว พรานปาไดนำนกยูงทองโพธิสัตวนั้นไป ถวายพระเจา พาราณสี เม่ือนกยูงทองโพธิสัตวเขาเฝาพระเจาพาราณสีแลว ไดทูลถามวา “เพราะเหตุไร พระองคจ งึ จบั หมอ มฉนั มา” ทา วเธอตรสั วา “เพราะมจี ารกึ วา ผกู นิ เนอ้ื นกยงู ทอง จะไมแ ก ไมต าย” นกยงู ทองโพธสิ ตั วท ลู วา “ผกู นิ เนอ้ื หมอ มฉนั จะไมต าย แตห มอ มฉนั จะตอ งตายมใิ ชห รอื ” ทา วเธอตรสั วา “ถกู แลว เจา จะตอ งตาย” นกยงู ทองโพธสิ ตั วท ลู วา “เมอื่ หมอ มฉนั จะตอ งตาย แลว ผกู นิ เนอื้ หมอ มฉนั จะไมต าย ไดอ ยา งไร” ทา วเธอตรสั วา “เพราะเจา มขี นสที อง จงึ ทำใหผ กู นิ เนอ้ื เจา ไมต าย” นกยูงทองโพธิสัตวทูลวา “หมอมฉันมีขนสีทองก็เพราะภพกอนเคยเกิดเปนพระเจา จกั รพรรดใิ นพระนครพาราณสนี ้ี ไดร กั ษาเบญจศลี เปน นติ ยแ ละชกั ชวนใหร าษฎรรกั ษา” หลงั จากนน้ั นกยงู ทองโพธสิ ตั วไ ดท ลู เรอ่ื งทพี่ ระองคเ คยฝง ราชรถทปี่ ระทบั ของพระเจา จักรพรรดิไวท่ีสระมงคลโบกขรณี พระเจาพาราณสีไดรับส่ังใหไขนำ้ ออกจากสระแลวกู ราชรถขนึ้ มา จงึ ทรงเชอื่ คำของนกยงู ทองโพธสิ ตั ว หลงั จากนน้ั นกยงู ทองโพธสิ ตั วไ ดถ วาย โอวาทพระราชาใหต ง้ั อยใู นความไมป ระมาท แลว กลบั ไปยงั ปา หมิ พานตต ามเดมิ ดงั นนั้ พระปรติ รบทนจี้ งึ มอี านสิ งสส ำหรบั ผสู วดสาธยายเปน ประจำทกุ วนั โดยจะทำ ใหแ คลว คลาดจากอนั ตรายทกุ ประการ