โรงเรยี นพระปรยิ ัติธรรมทห่ี ลวงพ่อดีสรา้ งใหมไ่ ว้รอให ้ เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ทรงกลับมาสอน การบรรพชาของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ จึงมีท่ีมาด้วยเหตุในเบ้ืองแรก คือการแก้บน หรือจะเป็นด้วยว่า...น่ีคือเหตุปัจจัยแห่งชีวิตท่ีได้ลิขิตมา... ชีวิตพรหมจรรย์เป็นทางแห่งความเจริญพระองค์ผู้มีพระนามว่า “เจริญ” ไมม่ ีเส้นทางอน่ื ให้เลอื กเดนิ … ด้วยเลือกมาแล้วจากการต้ังสัจอธิษฐานบารมีในชาติแล้วชาติเล่า หากมีการเกิดไม่ว่าครั้งใดก็ขอให้เป็นไปเพ่ือการค้นหาและเข้าถึงความ จริงแห่งพุทธะ ให้ได้ก้าวพ้นจากอำนาจแห่งกิเลสไปสู่ดินแดนท่ีองค์พระ สัมมาสัมพทุ ธเจา้ ไดล้ ว่ งไปถึงแลว้ หลวงพ่อดี ครบู าอาจารยค์ นสำคัญ วัดเหนือเป็นวัดที่ได้ชื่อว่ามีพระสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบมาต้ังแต่ 50 พระผเู้ จริญพรอ้ ม Buddha-Chapter 2.indd 50-51
ครั้งโบราณ เป็นท่ีรับรู้ถึงพระเนตรพระกรรณ และได้รับพระบรมราชา นุเคราะห์มาโดยตลอด โดยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เคยเสด็จประพาสวัดเหนอื ถึง ๓ คร้งั และมบี นั ทกึ ไวต้ อนหน่งึ ว่า ...แวะเข้าไปดูวัดนี้ สมภารเธอรักษาดีจรงิ ๆ เตยี นตลอดรอบบรเิ วณ มีตน้ ไมเ้ ล็กน้อยเหมอื นกับสวนฝรัง่ ขีม่ า้ ไปโดยรอบโบสถ์ เห็นโบสถช์ ำรุด มาก ไดส้ ง่ั ใหพ้ ระยากาญจนบุรเี อาส่วยในเมอื งกาญจนบุรีซอ่ มแซม...” วัดเหนือได้รับโอกาสเสมอ ในการต้อนรับพระมหากษัตริย์และ พระบรมวงศานวุ งศ์ และพระราชวงศ์ชนั้ สงู ในคร้ังหน่ึง สมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส ยังได้เคยเสด็จออกมาตรวจการคณะสงฆ์ จังหวัดกาญจนบุรี พระองค์ได้ ดูการปฏิบัติของพระท่ีวัดเหนือ โดยสมัยน้ันมีหลวงพ่อดีเป็นเจ้าอาวาส สมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ ทรงเห็นข้อวัตรของพระสงฆ์ท่ีน่ีปฏิบัติด ี จนถงึ กับมีพระดำรัสว่า “อยากเห็นพระดีให้มาดูท่วี ดั เหนอื ” และเม่ือสมเด็จพระมหาสมณเจ้าฯ เสด็จไปยังวัดอื่น จังหวัดอ่ืน พระองคก์ ็ได้ตรัสแนะนำให้ไปดวู ดั เทวสังฆารามเปน็ ตัวอย่าง “...วัดเทวสังฆาราม ที่เสด็จทอดพระเนตรวันนี้ คนพ้ืนเมืองเรียกว่า วัดเหนือ... มีลานกว้างมีต้นไม้ร่มรื่น พื้นรักษาเตียนดี มีของก่อสร้าง เป็นส่ิงเป็นอันรักษาสะอาดเอี่ยม มีพระสงฆ์ ๒๙ รูป เป็นมหานิกาย แผลงปฏิบัติเคร่งครัด พระอธิการดีเป็นเจ้าอาวาส เป็นผู้คล่องแคล่ว เอาการเอางาน...” หลวงพอ่ ดี เจา้ อาวาส เปน็ พระสงฆ์ที่บรรพชิตและชาวบ้านเคารพรัก ศรทั ธากนั มาก อยา่ งไรก็ดีในสายตาของชาวบา้ นก็พูดเป็นเสยี งเดียวกนั ว่า หลวงพ่อดี พระผ้เู จริญพร้อม 51 11/6/09 10:31:52 AM
ดุและเข้มงวด มีเร่ืองเล่าว่า ขนาดพระสงฆ์ยังโดนท่านตีขาถ้าพระสงฆ์ รูปนัน้ ปฏิบัติตนไม่ถกู ไม่ควร หากใครผ่านไปแถววัดเหนือในเวลากลางวัน ไม่มีหรอกที่จะได้เห็น ชายจีวรสีเหลืองเดินไปเดินมา เพราะภิกษุสามเณรทุกรูปต้องเข้าเรียน เข้าปฏิบัติกันหมดท้ังวัด ตามแนวทางของวัดเหนือที่กำหนดไว้ต้ังแต่โบร่ำ โบราณ คือ ภิกษุสามเณรต้องได้รับการเรียนการสอน ทำวัตรสวดมนต์ และปฏิบัติวปิ ัสสนากรรมฐานทกุ วัน... ถ้าช่วงไหนมีเทศกาลงานวัด มีหนังกลางแปลงมาฉาย มีวงดนตรีมา เล่น ภิกษุสามเณรต้องอยู่ในกุฏิปิดห้องเงียบ ห้ามออกมาเดินข้างนอก เลย เวลาตอ้ งการออกนอกเขตวดั กต็ อ้ งบอกลาหลวงพอ่ ดที กุ ครง้ั แต่ถึงใครจะว่าหลวงพ่อดีเป็นพระดุ แต่เด็กๆ ส่วนใหญ่มักไม่มีใคร กลัว มีเร่ืองเล่าว่า มีเด็กผู้หญิงวัยกำลังซนแก่นแก้วคนหนึ่งช่วยย่าขาย ขนมห่อ อยากขายขนมให้หมดเร็วๆ แอบคิดแผนการไปขายหลวงพ่อวัด เหนือ ใจกล้าไม่กลัวใครถึงกับไปหาท่านถึงกุฏิขณะท่ีท่านกำลังฉันเพล ใช้อุบายขอให้ทา่ นซ้ือขนม ...บอกว่ามคี นไปเรียกมาให้หา เชื่อว่าหลวงพ่อ กร็ ู้ แต่คงด้วยความเอ็นดู ทา่ นจงึ ใหค้ นรับซ้อื ขนมไว้ทัง้ หมด ขณะทีเ่ จา้ พระคณุ สมเด็จฯ ทรงเปน็ สามเณรในพรรษาแรก หลวงพอ่ ดี มีอายไุ ด้ ๕๓ ปี เปน็ พระสงฆ์ผู้เคร่งครัดในธรรมวนิ ยั มคี วามรูค้ วามสามารถ ในการฝึกสอนผู้อยู่ในปกครองให้เป็นพระภิกษุสามเณรที่ดีตามพระธรรม วินัยและระเบียบแบบแผนของคณะสงฆ์ อีกท้ังยังมีจิตใจเอื้อเฟื้อเป็น แบบอยา่ งอันดขี องภิกษุสามเณร ทสี่ ำคญั ท่านเปน็ พระนักปฏบิ ตั ิ มคี วาม สนใจในวปิ สั สนาธุระเปน็ อยา่ งยิ่ง เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ทรงมีพระอปุ ชั ฌาย์อาจารย์ผปู้ ฏบิ ัติดพี รอ้ มแลว้ เป็นผู้นำทาง 52 พระผู้เจรญิ พร้อม Buddha-Chapter 2.indd 52-53
หลวงพ่อดีนับเป็นครูบาอาจารย์ท่ีสำคัญท่ีสุดองค์หนึ่งของเจ้าพระคุณ สมเด็จฯ เป็นดั่งบิดาทางธรรมก็ว่าได้ เป็นพระผู้สนับสนุนทุกอย่างให้ พระองค์ก้าวหน้าอย่างถึงท่ีสุด ช้ีทางให้เห็นซ่ึงความจริงอันเป็นธรรมดา ของชีวิต มุ่งให้มีพระธรรมคุ้มครองรักษา สอนสั่งให้เป็นคนเต็มคน ผู้มคี วามสงบเยน็ อยู่ในจติ ใจเปน็ นจิ สามเณร เหลา่ กอของสมณะ ในพระพุทธกาล แรกเริ่มมีแต่ภิกษุ คือชายท่ีมีอายุ ๒๐ ปีข้ึนไป ต่อมาพระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้เด็กชายที่มีอายุไม่ถึงเกณฑ์ สามารถ บวชได้ เรียกวา่ สามเณร สำหรบั พระพทุ ธองค์แล้วทรงมพี ระเมตตาตอ่ เด็ก ทรงถอื วา่ สามเณร น้นั คอื เหลา่ กอแห่งสมณะ หรอื “ลูกพระ” เมื่อพระพุทธเจ้าทรงอนุญาตให้มีสามเณร ก็ได้ทรงลดหย่อน ขอ้ ปฏิบตั ิทางวินัยลงมาใหพ้ อเหมาะกบั ภาวะของเด็ก ศีล ๑๐ ข้อ จึงเป็นศีลท่ีสามเณรน้อยต้องปฏิบัติรักษาไม่ให้ขาด ไม่ใหถ้ กู ทำลาย ในช่วงแรกขณะที่เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ยังทรงเป็นสามเณรใหม่ พระองค์ต้องปรับตัวอยู่มาก เนื่องจากต้องละท้ิงชีวิตเดิม หากแต่ พระองค์ก็ทรงเร่ิมพรรษาแรกแห่งชีวิตพรหมจรรย์ด้วยความตั้งใจอย่าง เคร่งครดั พยายามรกั ษาศลี ทั้งสบิ ข้อไม่ให้ขาด ...ท่องสามเณรสิกขา สมาทานสิกขาบทในวันพระหรือวันอุโบสถ ทำวัตรเช้า ทำวัตรเย็น ฝึกออกเสียงสวดมนต์บทต่างๆ ให้ชัดเจนและ ทอ่ งจำให้ขน้ึ ใจ… เจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ทรงรักการศึกษา มีปญั ญาแตกฉาน ขะมกั เขม้น พระผ้เู จรญิ พร้อม 53 11/6/09 10:31:52 AM
พระธรรมวราภรณ์ ทรงฉายพระรูปบริเวณหน้าโรงเรยี น ปรยิ ัติธรรม (หลังเดมิ ) วดั เทวสงั ฆา ราม ขณะเป็นสามเณร สมยั เปน็ พระมหาเจริญ สุวฑฺฒโน ทรงฉายพระรูปรว่ มกบั คณะครพู ระปริยัตธิ รรม สำนกั เรยี นวดั บวรนิเวศฯ 54 พระผเู้ จริญพร้อม Buddha-Chapter 2.indd 54-55
ทำทุกอย่างในข้อวัตรท่ีสามเณรผู้เป็นเหล่ากอของสมณะท่ีดีพึงกระทำ ระวังไม่ให้ขาดตกบกพร่อง แต่ด้วยพระองค์ทรงมีความเมตตาอยู่ใน พื้นจิตอยู่แล้ว การรักษาศีลจึงเปน็ สงิ่ ท่ีปฏบิ ตั ไิ ด้โดยง่ายเป็นปกตินิสัย หลวงพ่อดี อุปัชฌาย์ของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ เห็นแววสามเณรใหม่ ผู้น้ีอย่างชัดแจ้ง ท่านเฝ้าคอยดูแลเอาใจใส่ ตักเตือนและติดตามความ เป็นอยู่ของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ อยู่เสมอ เหมือนด่ังพ่อผู้คอยดูแลลูก หากเห็นสิ่งใดที่เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทำไม่ถูกก็คอยแนะนำส่ังสอน ให้ ระวังในบาป ไม่ทำส่ิงที่เป็นอกุศล ฝึกการเจริญกุศลไว้ให้เป็นปกตินิสัย และเฝ้าอบรมสั่งสอนใหม้ ีจติ ตงั้ ม่นั อยู่ในธรรมทค่ี วรศึกษา อีกส่ิงที่เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ฝึกปฏิบัติเป็นประจำ นั่นคือการทำ อุปชั ฌายวัตร ในพระไตรปิฎกได้มีข้อปฏิบัติในข้อวัตรอุปัชฌายะไว้อย่างละเอียด โดยรวมแบบพน้ื ๆ คอื ถ้าอปุ ัชฌายป์ ระสงคส์ ิ่งใดกถ็ วายสิง่ นัน้ เปน็ ตน้ ว่า ลูกศษิ ย์ควรตนื่ แต่เช้าตรู่ เพ่ือเตรียมถวายน้ำล้างหน้า ปูอาสนะไว้ ถวาย เคร่ืองดื่มตอนเช้า ดูแลกุฏิและเคร่ืองใช้ทุกอย่างให้สะอาดเรียบร้อย เก็บพับเก็บจีวรโดยมิให้มีรอยพับ ตกกลางคืนช่วงหัวค่ำเข้าไปนวดให้ อปุ ัชฌาย์ผ่อนคลาย... หลวงพ่อดีเริ่มสอนเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ในช่วงกลางคืน ท่านได้ต่อ คำเทศน์กัณฑอ์ รยิ ทรพั ย์ ๗ ประการให้ โดยใช้วธิ ีสอนแบบโบราณ หลวง พ่อจะอ่านกณั ฑ์อริยทรัพยน์ ำใหฟ้ งั ก่อน แล้วให้เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทอ่ ง ตามทีละวรรค คนื ละตอน พระองค์ทรงต้งั ใจฟงั อย่างลกึ ซงึ้ ด้วยสติตัง้ ม่นั จำจดไว้ทกุ วรรคทุกตอน หลวงพ่อดีสอนเช่นนี้ติดต่อกันทุกคืน จนเจ้าพระคุณสมเด็จฯ จดจำ กัณฑอ์ ริยทรัพย์ ๗ ประการได้ทั้งกัณฑ์ พระผูเ้ จรญิ พร้อม 55 11/6/09 10:31:54 AM
...คำเทศน์กัณฑ์อริยทรัพย์ได้รับการคัดลอกทุกคำเก็บไว้ในสมุด ดว้ ยตวั อักษรคัดลายมอื ตวั บรรจง… ในคนื วันพระคนื หนงึ่ ในพรรษาแรก หลวงพ่อดีให้โอกาสสามเณรใหม่ได้ขึ้นเทศน์ปากเปล่าให้เหล่า อุบาสกอบุ าสกิ าฟัง ...เจ้าพระคณุ สมเด็จฯ ทรงเตรียมพระองคเ์ ปน็ อย่างดี กอ่ นข้นึ เทศน์ ทรงท่องทบทวน รวมทั้งทำความเขา้ ใจความหมายในบทธรรมอยา่ งลึกซงึ้ แม่นยำ ในคืนวันพระน้ัน สามเณรน้อยนั่งขัดสมาธิตัวตรงสงบสำรวมอยู่บน ธรรมาสน์ เทศน์กัณฑ์อริยทรัพย์ ๗ ประการได้อย่างไม่ติดขัด เสียงดัง ฟงั ชดั ทกุ ถ้อยคำเตม็ พลังความหมาย ตั้งแตต่ น้ ตลอดไปจนจบ แมเ้ ป็นเพียง สามเณรใหม่แต่เทศน์ได้ยอดเย่ียมเกินพรรษา ผู้ได้ยินได้ฟังธรรมจาก พระโอษฐ์ของพระพุทธองค์ผ่านสามเณรน้อยในคืนน้ัน ต่างปลื้มปีต ิ อิ่มเอมใจ พระชนนีกับป้าเฮ้งนั่งฟังเงียบสงบอยู่ตรงมุมหนึ่งภายในอุโบสถ ชนื่ ใจยงิ่ นักทีล่ ูกเณรมีความก้าวหน้าในธรรมอนั งาม .... ชวี ิต “ลูกพระ” ในพรรษาดำเนินไป... เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงมีพระทัยใฝ่ศึกษาบากบั่นพากเพียรท่องจำ บทสวดมนตบ์ ทต่างๆ ไดช้ ดั เจนขึน้ ใจ บางคร้งั มญี าติโยมนิมนต์ไปสวดมนต์ ในงานพิธีกรรมและงานประเพณีต่างๆ แม้เป็นสามเณรใหม่ หลวงพ่อดี ทา่ นกอ็ นญุ าตให้เจ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ ไดต้ ิดตามคณะพระสงฆ์ไปดว้ ย มีครั้งหนึ่งที่เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงมีกิจนิมนต์ และประสบกับ 56 พระผเู้ จริญพร้อม Buddha-Chapter 2.indd 56-57
“อรยิ ทรัพย”์ เทศนากณั ฑแ์ รกลายพระหตั ถ์ พระผู้เจริญพร้อม 57 11/6/09 10:31:55 AM
ฉายพระรปู กับหลวงพ่อด ี พระสาสนโสภณ ณ วัดเทวสังฆาราม สมเด็จพระสงั ฆราช ๓ พระองคค์ อื องคซ์ ้าย สมเดจ็ พระสังฆราช (อยู่ าโณทยมหาเถร) องคข์ วา สมเด็จพระสังฆราช (วาสน์ วาสนมหาเถร) องค์กลาง เจ้าพระคณุ สมเดจ็ ฯ ในพธิ ีเททองหลอ่ พระรปู สมเด็จพระสังฆราชเจา้ กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ วดั บวรนิเวศฯ พ.ศ. ๒๕๐๗ 58 พระผเู้ จรญิ พรอ้ ม Buddha-Chapter 2.indd 58-59
เหตุการณ์ชีวิตที่ทรงจดจำได้ไม่ลืม ด้วยว่าพระองค์ทรงมีจิตใจอ่อนโยน เมตตาต่อทุกชีวิต ปรารถนาอย่างจริงใจให้ผู้อื่นเป็นสุข เห็นคนท ่ี นา่ สงสารกเ็ หน็ ใจในทกุ ขเวทนาท่ีเขาได้รับ “...มีอยู่ครั้งหนึ่ง ที่น่ี ได้รับนิมนต์ไปสวดโพชฌงค์ให้แก่ผู้ป่วย ตามคตินิยมในสมัยน้ัน ตอนน้ันยังเป็นเณรเล็กๆ น่ังอยู่ท้ายแถว ขณะกำลังสวดอยู่เห็นทุกขเวทนาอย่างมากของผู้ป่วย ไม่สามารถทนดู ทกุ ขเวทนาของผปู้ ว่ ยได้ จนเปน็ ลมหมดสติไป และทำใหเ้ จ้าภาพซง่ึ ขณะน้ัน กำลงั ดูแลผู้ปว่ ยอยู่ ตอ้ งเปน็ ภาระเพม่ิ เพราะเณรเป็นลม…” ไปเรยี นบาลี ภาษาหอ่ ธรรมะของพระพทุ ธองค์ ...พระธรรมงามในเบ้อื งตน้ งามในทา่ มกลาง งามในทส่ี ุด ใจต้องถึง พระธรรม เมื่อใจถึงพระธรรมจะไม่เบ่ือท่ีจะฟังธรรม ไม่เบ่ือท่ีจะปฏิบัติ ธรรม ธรรมจะเป็นส่ิงท่ีงดงามที่ไพเราะ อยากท่ีจะฟัง อยากที่จะอ่าน ได้ฟังธรรม ได้อ่านธรรมแล้ว มีความเพลิดเพลิน มีความสุข น่ีแปลว่า ใจถึง เห็นความงามในพระธรรม งามในเบ้ืองต้น งามในท่ามกลาง งามในทีส่ ุด และพอใจท่ปี ฏิบัติธรรม เหน็ ความงามในการปฏิบัติธรรม... ฤดูฝนสิ้นสุด ครบพรรษาแล้ว ท่านเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ไม่ได้คิด เรื่องลาสิกขา พระองค์ยังทรงเพลิดเพลินในธรรม ดำรงตนให้อยู่ในวิถี แห่งการตน่ื รู้ ด้วยศรัทธาทถ่ี กู ต้อง เม่ือหลวงพ่อดีเห็นแววของสามเณร จึงเอ่ยปากชักชวนให้เจ้าพระ คณุ สมเดจ็ ฯ เรยี นภาษาบาลี ซึง่ ภาษาบาลนี ั้นเป็นความจำเปน็ สำหรบั ผู้ที่ ต้องการเข้าถึงคำสอนของพระพุทธองค์อย่างลึกซึ้ง จนกล่าวได้ว่าภาษา บาลีเป็นภาษาท่ีห่อพระธรรมคำสอนของพระพุทธองค์ไว้ ให้สืบทอด พระผู้เจรญิ พร้อม 59 11/6/09 10:31:57 AM
ยาวนานมากว่าสองพนั ป ี เน่ืองจากทรงมีใจใฝ่รู้ในธรรม เม่ือหลวงพ่อดีให้โอกาสได้เล่าเรียน ภาษาของพระพุทธองค์ จึงไม่ทรงลังเลสงสัยในการศึกษาท่ีเป็นไปเพ่ือ การเขา้ ใจคำสอนของพระผมู้ ีพระภาคเจ้าใหซ้ าบซง้ึ พระองค์ทรงตอบรับหลวงพ่อดี และบอกกล่าวพระชนนีและป้าเฮ้ง พระชนนีและปา้ เฮ้งไมค่ ดั ค้าน แต่ในคร้ังน้ันการเรียนภาษาบาลีในจังหวัดกาญจนบุรียังขาดแคลนครู หลวงพ่อดีจึงต้องส่งเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ไปเรียนท่ีวัดเสนหา ตำบล พระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวดั นครปฐม เจ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ จากถน่ิ เกดิ พรอ้ มนำความตัง้ ใจของหลวงพ่อดี ไปด้วย ที่ให้มุ่งมั่นหม่ันศึกษาจนแตกฉานดี จะได้กลับบ้านมาสอน กลับ มาเป็นพระอาจารย์สอนภิกษุสามเณรที่วัดเทวสังฆาราม หลวงพ่อจะสร้าง โรงเรียนไว้คอยท่า... จากถิน่ เกดิ สนู่ ครปฐม เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ขึ้นรถไฟท่ีสถานีรถไฟกาญจนบุรี มุ่งหน้าไปยัง จงั หวดั นครปฐม ซ่ึงอย่หู ่างจงั หวัดกาญจนบรุ ปี ระมาณ 70 กโิ ลเมตร นครปฐมเป็นอีกหนึ่งเมืองเก่าแก่ที่มีประวัติศาสตร์ทางพระพุทธ- ศาสนาท่นี า่ สนใจ เมอื งน้เี คยเจรญิ มาตง้ั แต่เมือ่ ครั้งพระเจา้ อโศกมหาราช แห่งอินเดีย พระเจ้าอโศกได้ทรงส่งสมณทูตเป็นเถระสองรูปเดินทางมา เผยแผ่พระพทุ ธศาสนา และไดม้ ีการสร้างพระปฐมเจดีย์ขนึ้ พระปฐมเจดีย์นี้มีประวัติศาสตร์ท่ีสำคัญ มีบันทึกว่า นับย้อนข้ึนไป เกินกว่า ๑๑๐ ปี ในคราวนั้นมีภิกษุเดินธุดงค์มากั้นกลดพักอยู่ ณ บรเิ วณมหาเจดยี ์ ซ่ึงขณะนนั้ ยงั เป็นปา่ และองคพ์ ระเจดีย์ก็ชำรดุ ทรุดโทรม 60 พระผู้เจรญิ พรอ้ ม Buddha-Chapter 2.indd 60-61
พระภิกษุองค์นั้น คือ พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ขณะทรง ผนวช ได้เสด็จฯ ไปทรงนมัสการหลายคร้ัง ทรงสันนิษฐานว่า เป็น พระเจดีย์เก่าแก่ท่ีพังลง และมีการปฏิสังขรณ์ขึ้นใหม่หลายคร้ังหลาย คราว องค์พระเจดีย์ขณะนั้นวัดได้ถึง ๔๐ วา ๒ ศอก ซึ่งสูงใหญ่กว่า พระเจดีย์ทั้งปวงในประเทศไทย ราษฎรเรียกว่า พระปทม หากแต่ที่ถูก ควรเป็นพระปฐมเจดีย์ วดั เสนหาอยูห่ ่างองค์พระปฐมเจดีย์แค่ประมาณ ๑ กิโลเมตรเท่าน้นั นับว่าวัดเสนหาซึ่งเป็นพระอารามหลวง และเป็นถ่ินฐานท่ีเรียนของ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ นั้นตั้งอยู่ในดนิ แดนท่ีพระพทุ ธศาสนาไดป้ ระดิษฐาน อยูอ่ ย่างมัน่ คงมาเนิ่นนานแลว้ หลวงพ่อดีนำสามเณรเจริญไปฝากไว้กับพระครูสังวรวินัย (อาจ ชุตินฺธโร) เจา้ อาวาสวดั เสนหา เมอ่ื วันที่ ๒๐ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๔๗๐ และ ได้เริ่มเรียนบาลีไวยากรณ์ท่ีวัดเสนหาพร้อมเพ่ือนสามเณรที่เรียน อยู่ด้วยกันร่วม ๑๐ รูป มีพระอาจารย์ผู้สอนเป็นพระเปรียญมาจาก วัดมกฏุ กษตั รยิ าราม ชื่อพระมหาภักดิ์ ศักด์เิ ฉลมิ เมอื่ เรียนไประยะหนง่ึ พระอาจารยเ์ หน็ วา่ เจ้าพระคณุ สมเด็จฯ ทรงมี ความเจริญก้าวหน้าในการเรียน จึงชักชวนให้ไปอยู่ที่วัดมกุฏกษัตริยาราม พร้อมติดต่อฝากทางวัดมกุฏฯ มีการจัดเตรียมกุฏิและแจ้งว่ามีโยม อุปัฏฐากดว้ ย เจ้าพระคุณสมเด็จฯ จึงได้กลับวัดมาหารือเรื่องน้ีกับหลวงพ่อดี หลวงพ่อดีไม่เห็นด้วย เน่ืองจากหลวงพ่อคิดไว้แล้วว่า เม่ือเจ้าพระคุณ สมเด็จฯ เรียนที่วัดเสนหาจบ หลวงพ่อดีจะนำไปฝากให้เรียนต่อท่ีวัด บวรนิเวศวหิ ารอยู่แลว้ หลวงพ่อดีเคยจำพรรษาอยู่ที่วัดรังษีสุทธาวาสติดกับวัดบวรนิเวศ พระผู้เจริญพร้อม 61 11/6/09 10:31:57 AM
วิหาร (ภายหลังต่อมาได้รวมเข้ากับวัดบวรนิเวศวิหาร) และคุ้นเคยกับ สมเด็จพระสังฆราชเจ้า จึงได้ติดต่อฝากกับสมเด็จพระสังฆราชเจ้าซ่ึงใน ขณะนน้ั ทรงเป็นสมเดจ็ พระราชาคณะทีส่ มเด็จพระวชริ ญาณวงศ์ไวแ้ ลว้ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ จึงเป็นอันงดไม่ได้ไปอยู่วัดมกุฏกษัตริยาราม และได้จำพรรษาต่ออยู่ที่วัดเสนหา เรียนแปลธรรมบทปี พ.ศ. ๒๔๗๒ อกี พรรษาหนงึ่ ระหว่างน้ัน ท่านพระครูสังวรวินัย (อาจ ชตุ ินฺธโร) อาพาธเป็นวัณโรค ถึงแก่มรณภาพ ทางวัดเสนหาได้จัดงานพระราชทานเพลิงศพ ในงาน พระราชทานเพลิงศพ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ มีโอกาสได้พบสมเด็จ พระวชริ ญาณวงศ์ (พระยศในขณะนั้น) เป็นคร้ังแรก และคร้ังน้ีเป็นคร้ังที่สองในชีวิตของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ท่ีได้พบ บุคคลสำคัญในชวี ติ ของพระองค ์ จากวันที่ทรงเป็นเด็กน้อย ทรงได้เข้าเฝ้าพร้อมกับพระชนก กราบนมัสการสมเดจ็ พระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชริ ญาณวโรรส และในวันที่ทรงเป็นสามเณรก็ได้เข้าเฝ้าสมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ นับเป็นสองเหตุการณ์ท่ีน่าสังเกตว่า พระผู้เกิดมาเป็นสังฆราชา ๓ พระองค์ และเป็น ๓ ผู้ครองวัดบวรนิเวศวิหาร ท้ังสามพระองค์ได้ อุทิศพระองค์เพื่อพระพุทธศาสนาอย่างถวายชีวิตทุ่มเท และเจ้าพระคุณ สมเด็จฯ กไ็ ดม้ โี อกาสพบทั้งสองพระองค์ในวันท่พี ระองคย์ งั เยาว์วัย ... ในการเข้าเฝ้าสมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ในครั้งน้ัน หลวงพ่อดีกราบ ขอโอกาสให้สามเณรน้อยได้ร่ำเรียนอยู่ที่วัดบวรนิเวศวิหาร เพ่ือศึกษา วิชาทางธรรม อบรมจิตและบ่มเพาะปัญญาให้ก้าวหน้าถูกต้องตามทาง แห่งพระพุทธองค์ 62 พระผ้เู จริญพรอ้ ม Buddha-Chapter 2.indd 62-63
หลวงพ่อดเี ป็นพระอุปชั ฌาย์ผ้มู องการณ์ไกล ท่านไมเ่ หน็ ท่ีใดเหมาะ สมเท่าวัดบวรนิเวศวิหาร เป็นสถานท่ีท่ีมีความพร้อมท่ีสุดในการเล่าเรียน พระปรยิ ัติธรรม สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ทรงพระเมตตารับสามเณรเจริญไว้ในพระ อปุ การะ ส่วู ดั บวรนิเวศวหิ าร เจ้าพระคุณสมเด็จฯ เดินทางเข้ากรุงเทพฯ มุ่งสู่วัดบวรนิเวศวิหาร เม่ือวันที่ ๙ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๔๗๒ วัดบวรนิเวศฯ สร้างข้ึนในสมัยพระบาทสมเด็จพระนั่งเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลท่ี ๓ เป็นวัดที่ส่งเสริมการเรียนการสอนพระปริยัติธรรมรวมท้ัง ภาษาบาลี ระเบียบการสอนของวัดขึ้นชื่อว่าเข้มงวดนัก ผู้เรียนจบ หลักสูตรล้วนเป็นผู้มีความรู้ทางธรรมแตกฉาน สามารถแต่งตำรา วรรณกรรม รวมทง้ั สนทนาภาษาบาลีไดอ้ ย่างถูกต้องไพเราะ วัดบวรนิเวศ วิหารยังเป็นที่ต้ังของมหาวิทยาลัยมหามกุฏราชวิทยาลัย สถานศึกษา พุทธศาสนาชน้ั สงู ของพระสงฆ ์ สามเณรน้อยเข้าสเู่ สน้ ทางธรรมแลว้ เมื่อมาถึงวัดบวรนิเวศวิหาร สมเด็จพระวชิรญาณวงศ์ทรงฝากให้ พระมหาเฉลมิ ซึง่ ดำรงสมณศกั ด์ิที่พระครพู ุทธมนตป์ รชี า เปน็ ผดู้ ูแล สามเณรนอ้ ยปฏบิ ัติทุกอย่างตามกฎกติกาของวัดบวรนเิ วศวหิ าร เชน่ ซ้อมสวดมนต์ได้จบหลกั สตู รของวัดในปแี รกทม่ี าอยวู่ ัดบวรนเิ วศวิหาร ไดศ้ ึกษาพระปริยตั ิธรรม สอบไดต้ ามลำดบั ดงั น้ ี พ.ศ. ๒๔๗๒ พระชันษา ๑๗ ปี สอบได้นักธรรมตรี พ.ศ. ๒๔๗๓ พระชันษา ๑๘ ปี สอบได้นักธรรมโท และเปรียญ พระผเู้ จริญพรอ้ ม 63 11/6/09 10:31:57 AM
ธรรม ๓ ประโยค ในปเี ดียวกัน พ.ศ. ๒๔๗๕ สอบได้นักธรรมชนั้ เอกและเปรียญธรรม ๔ ประโยค ตามกฎของวัดบวรฯ หากสามเณรยงั สอบไม่ผ่านเปรียญ ๓ จะต้อง มพี ระอาจารย์ผู้ใดผ้หู นง่ึ เป็นผู้ดูแล เม่ือเจ้าพระคณุ สมเดจ็ ฯ ทรงสอบเปรียญธรรม ๓ ได้แล้ว เปน็ การ แสดงใหเ้ หน็ วา่ สามเณรผูน้ ัน้ มีวุฒภิ าวะในระดบั หน่ึงแล้ว จึงได้สิทธ์มิ ีหอ้ ง เปน็ ของตนเอง เจ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ ได้ย้ายไปอยคู่ ณะเขียวบวร มหี ้องของพระองค์ เอง และเมื่ออย่ทู ีน่ ่คี รงั้ หน่ึง พระองคท์ รงพลัดตกจากกุฏิ ทรงเล่าว่า “คร้ังน้ันมีเพื่อนสามเณรอยู่รูปหน่ึงน่ังคุยกัน โดยสามเณรรูปน้ันน่ัง อยู่ขอบหน้าต่าง ความที่ยังเป็นเด็ก ไม่ทันระวังตัว ก็ไปหยอกเล่นกับ สามเณรท่ีน่ังอยู่ขอบหน้าต่าง โดยไปจับไหล่เขย่าเหมือนจะผลักให้ตกลง ไป และความที่สามเณรผู้น้ันก็มิได้ต้ังสติ จึงตกใจและทำท่าจะตกไป จริงๆ ด้วยความตกใจ จึงคว้าสามเณรน้ันไว้ไม่ให้ตก แต่ไม่ทันการณ์ เลยตกลงไปทงั้ สองรูป” เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงตกจากกุฏิ หลังกระแทกพื้นโดยเพ่ือน สามเณรทับอยู่ด้านบน แต่ด้วยความเป็นเด็กอยู่จึงทรงสามารถลุกขึ้นมา ทันใดและขึ้นกุฏิไปโดยไม่รู้สึกเจ็บปวดใดๆ ประมาณหน่ึงชั่วโมงให้หลัง เกิดปวดจนทนไม่ได้และลุกเดินไม่ได้ แต่ก็ไม่ได้ไปหาหมอ ทรงทายา นวดตามทีม่ ีรักษาจนคลายปวด ชีวิตสามเณรดำเนินไปใต้ร่มเงาของวัดบวรนิเวศฯ วัดเก่าแก่ท่ีรักษา ขนบธรรมเนียมประเพณที างพระพุทธศาสนาไว้อยา่ งครบถ้วน โดยเฉพาะ ในงานพระราชพิธีทอดกฐินหลวง... กฐินหลวง เป็นผ้าพระกฐินท่ีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จ 64 พระผู้เจรญิ พร้อม Buddha-Chapter 2.indd 64-65
ในพระราชพธิ ีบำเพญ็ พระราชกุศลพระชนมายุเสมอสมเด็จพระราชบดิ า ณ พระอุโบสถวดั บวรนเิ วศวหิ าร ๒๙ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๐๘ พระราชดำเนินไปถวายด้วยพระองค์เอง หรือทรงโปรดเกล้าฯ ให้พระ บรมวงศานุวงศ์ช้ันผู้ใหญ่เสด็จแทนพระองค์ไปพระราชทานแทน กฐิน หลวงนี้จัดเครื่องกฐินด้วยพระราชทรัพย์ส่วนพระองค์ และบางครั้งมีการ จัดพิธีแห่เคร่ืองพระกฐินอย่างใหญ่ โดยกระบวนพยุหยาตราชลมารค หรือกระบวนพยหุ ยาตราทางสถลมารค แล้วแต่พระราชประสงค์ ในปี พ.ศ.๒๔๗๔ พระบาทสมเด็จพระปกเกล้าเจ้าอย่หู วั รัชกาลที่ ๗ ได้เสด็จพระราชดำเนินถวายผ้าพระกฐินท่ีวัดบวรนิเวศวิหาร ขณะน้ันมี การพระราชทานผ้าไตรแด่พระภิกษุสามเณรเปรียญท้ังวัด เจ้าพระคุณ สมเดจ็ ฯ ทรงเปน็ สามเณรเปรยี ญรปู เดยี วในศกนน้ั ที่ไดเ้ ขา้ รบั พระราชทาน ผา้ ไตรจากพระหตั ถ ์ อัจฉราวดี สต็อคมนั น์ : เรือ่ ง พระผเู้ จริญพรอ้ ม 65 11/6/09 10:31:58 AM
ฉายาบัตร สมเด็จพระมหาสมณเจา้ กรมพระยาวชิรญาณวโรรส 66 พระผู้เจรญิ พรอ้ ม พระรัตนธชั มุนี (จู อิสสฺ ราโณ) (พระเทพเมธี พระกรรมวาจาจารย์ วดั บวรนเิ วศวหิ าร) พระครพู ทุ ธมนต์ปรีชา (เฉลมิ ปญฺ าวโุ ธ) Buddha-Chapter 2.indd 66-67
พระธรรมวราภรณ ์ สมเดจ็ พระสงั ฆราชเจา้ กรมหลวงวชริ ญาณวงศ ์ มอบพระรปู พร้อมลายพระหตั ถ์แด่เจ้าพระคณุ สมเด็จฯ ไวเ้ ปน็ ทร่ี ะลกึ พระอุโบสถคณะรงั ษี วดั บวรนเิ วศฯ ก่อนบรู ณะ พระผเู้ จริญพร้อม 67 11/6/09 10:32:04 AM
“เมือ่ มนั่ ใจในความดำรงอย ู่ อย่างย่ังยนื นิรันดร แหง่ พระพทุ ธบารมี หรือคณุ ธรรมของพระพุทธองค์ และของครอู าจารย์สำคญั ทงั้ หลาย ทีท่ ่านไกลแล้วจากกิเลสเคร่อื งเศร้าหมอง พุทธศาสนกิ ทัง้ หลาย ผมู้ สี ัมมาปญั ญา สมั มาทฐิ ิ ก็ควรเรง่ ปฏิบตั ิพระพุทธศาสนา ให้ได้เปน็ คนดตี ามลำดับไป” ผมู้ ีสมั มาปญั ญา ควรเรง่ ปฏิบตั ิพระพุทธศาสนา 68 พระผ้เู จรญิ พร้อม Buddha-Chapter 3.indd 68-69
พระผู้รักการศกึ ษา “ท่านวา่ การศึกษาทำใหเ้ ราเปน็ มนษุ ยท์ ส่ี มบรู ณ์” “ทรงย้ำเรื่องการศึกษา ให้กำลังใจ ตรัสว่าไม่ให้หยุด ให้สอบ เปรยี ญธรรมจนได้ประโยค ๙“ “ทรงรูล้ ึกซ้งึ ในธรรมะ ลูกศิษย์ท่ีไม่เข้าใจถามขอ้ ธรรมได้ตลอดเวลา ทรงเปน็ พระอุปัชฌาย์ในดวงใจ” คำถ่ายทอดความรู้สึกท่ีพรั่งพรูจากเหล่าพระลูกศิษย์วัดบวรฯ แสดง ความชื่นชมและซาบซ้ึงในพระเมตตา ท้ังยังบอกนัยถึงพระทัยที่ทรงเห็น ความสำคัญของการศึกษาอยา่ งยงิ่ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงประสบความสำเร็จในการเรียนเปรียญ ธรรมด้วยความมุมานะ อดทน ไม่ยอ่ ทอ้ ตอ่ อปุ สรรคใด ชีวิตในสมณเพศของพระองค์ท่ีวัดบวรฯ มีการศึกษาเป็นหลักนำ แม้ในเบ้ืองตน้ จะมุ่งหมายเปรยี ญธรรม ๙ ประโยค แตท่ ้ายสุด เปรียญธรรม ยงั ไม่ใช่ท่ีสุดแหง่ การศกึ ษาสำหรับพระองค์… พระผเู้ จริญพรอ้ ม 69 11/6/09 10:33:13 AM
หัวใจพองโตกับผลการเรียน จากสามเณรบ้านนอก เข้ากรุงมาศึกษาที่วัดบวรฯ ปีแรกก็สอบได้ นกั ธรรมตรี ปถี ดั มาไดน้ ักธรรมชั้นโท และเปรียญธรรม ๓ ประโยค ...นบั ว่าไมธ่ รรมดาเลย ทรงบรรยายว่า “ไม่มีปีใดที่ให้ความสุขกายสุขใจมากเท่ากับคราวท่ี สอบเปรียญธรรม ๓ ได้” ความปตี ินีเ้ กิดข้ึนไดเ้ พราะปจั จยั แวดลอ้ มและปจั จัยภายในประกอบกนั ปัจจัยแวดล้อมรวมถึงการที่ทรงได้พระอาจารย์และผู้ปกครองที่ด ี ซ่ึงก็คือสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ และพระคร ู พุทธมนตป์ รีชา ทรงกล่าวถึงทัง้ สองท่านไวว้ ่า สมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ นั้นทรงพระเมตตาอย่างย่ิงในการฝึกหัด และอบรมสั่งสอน โดยทรงเป็นผู้มีเทคนิควิธีสอนท่ีกระตุ้นให้เป็นคนช่าง คิด ช่างสังเกตและจดจำ ส่วนพระครูพุทธมนต์ปรีชาเป็นผู้อ่อนโยนอ่อนหวาน แต่ก็มีความ เด็ดขาดในตัว มีไหวพริบดี รู้ถงึ การควรไม่ควร และสามารถจัดการงาน ให้สำเรจ็ ด้วยดี โดยเฉพาะในเรือ่ งปกครองดแู ลศษิ ย์ เมื่อเล็งเห็นว่าส่ิงใด ควรแล้วจึงมอบหมายให้ทำ ถ้าเป็นส่ิงท่ีไม่แน่ใจก็จะไม่มอบความรับผิด ชอบให้ เพื่อไม่ให้เกิดความเสียหายกับศิษย์ และหากศิษย์ทำได้ดีก็จะ ยกยอ่ งชมเชยให้กำลงั ใจ เจ้าพระคณุ สมเด็จฯ ทรงกล่าวถึงครูบาอาจารย์ ด้วยความเคารพยกย่อง ชื่นชม และทรงนำมาเป็นแบบอย่างในการ ประพฤติปฏิบัติตนของพระองค์ตลอดมา พระองค์ทรงตระหนักถึง พระคุณของผู้เป็นครูบาอาจารย์อยู่เสมอว่า ทรงมีครูบาอาจารย์ท่ีดีคอย อบรมช้ีแนะ 70 พระผเู้ จรญิ พรอ้ ม Buddha-Chapter 3.indd 70-71
คตธิ รรมลายพระหัตถ ์ ปัญหาพระพลานามัยไม่ไดบ้ ่ันทอนความ บรรพชาสามเณร ใฝ่ศึกษาของพระองค์ พระราชาคณะช้นั เทพ ในราชทนิ นามเดมิ ปี พ.ศ. ๒๔๙๙ พระผู้เจริญพรอ้ ม 71 11/6/09 10:33:14 AM
ด้านปัจจัยภายใน เจ้าพระคุณสมเด็จฯ เองก็มีพระทัยมุ่งมั่นท่ีจะ ฝึกฝนพระองค์ในเรือ่ งต่างๆ พระทัยใฝ่รู้นี้ดำรงมาโดยตลอดแม้เม่ือทรงเป็นพระมหาเถระแล้ว ก็ไม่เคยจืดจาง ทรงแสวงหาความรู้อยู่เสมอด้วยการอ่านหนังสือหลาก หลายประเภท พระทัยใฝ่รู้นี้เช่นกันท่ีเป็นประโยชน์ต่อการเผยแผ่พระพุทธศาสนา ทรงได้ใช้ความรู้รอบด้านในการถ่ายทอดหลักธรรม อธิบายเร่ืองยากให้ ง่าย อธิบายเรื่องลึกซึ้งให้กระจ่าง อธิบายคำสอนของพระพุทธองค์ให้ ฆราวาสนำไปใช้ในชีวิตประจำวนั ได ้ แตก่ ารจะผ่านพน้ ไปถึงเปรียญธรรม ๙ ได้ ยังตอ้ งอาศยั ความอดทน บากบน่ั ฟนั ฝ่าอุปสรรคโดยเฉพาะในเรอ่ื งของพระพลานามยั “....ขนาดนยี้ งั สอบตก” “เรยี นดหี รือไม่ดีไม่วา่ ทา่ นรับสั่งว่าสนามยงั อยู่ กม็ สี ทิ ธิส์ อบไปเร่ือย เด๋ียวได้เอง ทา่ นกย็ งั ทรงเคยตกเลย ท่านรับสัง่ อยา่ งนัน้ ” แทบไม่น่าเชื่อ เพราะเราเห็นพระองค์มีพระปรีชาสามารถมากมาย แตค่ ำบอกเล่าให้กำลงั ใจศษิ ย์วัดบวรฯ ดังขา้ งตน้ เป็นเรือ่ งจริง! “ความจำของท่านดีมาก อย่างพระไตรปิฎก ทรงบอกเล่มบอกหน้าได้ ทรงเปิดเพ่ือตรวจทานเท่านั้นเอง” อีกคำร่ำลือถึงพระปรีชาจากพระ ลูกศษิ ย์วัดบวรฯ แต่ความเป็นผู้ท่ีมีความจำดีเรียนดีกลับไม่ได้ช่วยให้พระองค์รอดพ้น จากการสอบตก พ.ศ. ๒๔๗๔ ทรงต้งั ใจเรยี นประโยค ๔ ดว้ ยความมงุ่ หวงั ทรงเตรยี ม ประโยคเก็งหรือเก็งข้อสอบอย่างมั่นใจ แต่...ข้อสอบไม่ได้ออกประโยค 72 พระผูเ้ จรญิ พร้อม Buddha-Chapter 3.indd 72-73
เก็งหรือประโยคยากๆ ท่ีทรงเตรียมไว้ กลับออกประโยคง่ายๆ ท่ีไม่ได้ สนใจเตรียม แม้จะทรงรู้สึกว่าข้อสอบง่ายมาก แต่ผลสอบออกมา ก็ปรากฏวา่ “สอบตก!” เสียใจ...ท้อแท้ใจ...ย่อมเกิดแก่ผู้ผิดหวัง ทรงคิดว่า ...หมดวาสนา ในทางพระศาสนาเสียแล้ว มานะพยายามถึงขนาดนีย้ ังสอบตก... แต่เมื่อทรงคิดไตร่ตรองถึงสาเหตุ ก็ทราบด้วยพระองค์เองว่า ทรง หย่งิ ทะนงในความรขู้ องตนเองมากเกนิ ไป ไมพ่ ิจารณาใหร้ อบคอบ คิดว่า รู้ดแี ล้ว จึงทำขอ้ สอบผดิ พลาดมาก อีกประการคือ ทรงประมาท ไมด่ ตู ำราให้ท่ัวถงึ มุ่งดแู ตเ่ ฉพาะทีเ่ ห็น ว่ายาก และเก็งว่าจะออกเป็นข้อสอบ แล้วทรงได้ข้อสรุปว่า การเก็ง ขอ้ สอบไม่ใช่การเรียนท่ถี กู ต้อง เพราะไม่ทำใหเ้ กดิ ความรู้อยา่ งแท้จริง พ.ศ. ๒๔๗๕ จึงทรงเรียนซ้ำประโยค ๔ พร้อมกับทรงเตรียมสอบ นักธรรมชั้นเอกด้วย ปีนี้ทรงเรียนแบบสม่ำเสมอและท่ัวถึง เลิกวิธีเรียน แบบเก็งข้อสอบ ผลการเรียนจึงปรากฏว่า ทรงสอบได้ท้ังประโยค ๔ และนักธรรมเอก อดทนเพอ่ื การศกึ ษา ขนั ติ คือ ความอดทนนัน้ ไม่ได้ปรากฏแต่ในพระนพิ นธ์ทีเ่ จา้ พระคุณ สมเด็จฯ ทรงอรรถาธิบายให้เรายึดถือปฏิบัติ หากแต่เห็นได้ชัดเจนเป็น แบบอยา่ งในพระองค์ท่านเอง เจ้าพระคุณสมเด็จฯ มีพระพลานามัยอ่อนแอไม่แข็งแรงมาตั้งแต่ เยาว์วัย และมผี ลสืบเน่อื งมาจนเมอื่ ทรงบรรพชาเป็นสามเณร คุณหมอถนอมชัย คู่ทวีธรรม ซึ่งดูแลพระองค์ต้ังแต่ยังทรงดำรง สมณศกั ด์ิท่พี ระสาสนโสภณ กล่าวถึงเรื่องพระพลานามัยของพระองคว์ า่ พระผเู้ จรญิ พร้อม 73 11/6/09 10:33:14 AM
“คร้ังแรกที่ผมไปดูแลพระองค์ท่าน ทรงเล่าให้ฟังว่า เม่ือตอนเป็น เณร ทรงปรนนิบัติพระอาจารย์ (พระอุปัชฌาย์) ที่วัดเหนือ เมือง กาญจนบรุ ี อยา่ งใกล้ชดิ พระอาจารยเ์ ปน็ วัณโรค พระองคต์ ้องทรงลงไป หิ้วน้ำในคลองเต็มถังสองมือ ไปเช็ดตัวปรนนิบัติครูบาอาจารย์ของ พระองค์ท่านจนกระทั่งทรงตดิ เช้อื วณั โรคท่ปี อด” “ตอนท่ปี ระชวรเป็นวัณโรคนี่ ทรงจำพรรษาที่วดั บวรฯ แล้ว สมเด็จ พระสังฆราชเจา้ (ชืน่ นภวงค์) เสดจ็ มาเยยี่ มทา่ นตอนเย็นๆ ตรสั ว่า จะ ตายก็ตายเสยี นะ แต่ถ้าไมต่ าย รอดไปไดจ้ ะไดเ้ ป็นสังฆราช“ “ทรงไปรักษาท่ีศิริราช และเรียกว่าเป็นบุญของท่านก็ว่าได้ พอถึง ตอนเทศกาลบวชเข้าพรรษา จะมีหมอมาบวช หมอก็เอาสเตรปโตมัยซิน มาฉีดถวายท่าน ใครมาบวชทีก็ฉีด พระองค์ทรงผอมมาก มีแต่หนังหุ้ม กระดูกก็ทำอาหารถวาย จนกระทง่ั ทรงอว้ นขน้ึ มา กระท่งั แข็งแรง” พระพลานามัยท่ีอ่อนแอเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการศึกษาเล่าเรียน พระองคท์ รงตอ้ งใชค้ วามอดทนอย่างมากจึงสามารถผ่านพน้ มาได ้ ตามคำบอกเล่าของลูกศิษย์ในวัดบวรฯ “ทรงเล่าว่า บางคร้ังเมื่อถึง เวลาสอบ ตอ้ งทรงใช้ผา้ สักหลาดพนั รอบพระอุระหลายช้ัน เพอ่ื ไม่ใหเ้ กดิ อาการหนาวสนั่ ในเวลานั่งสอบ” แต่สิ่งเหล่าน้ีแทนที่จะทำให้กำลังพระทัยลดน้อยลง กลับทรงรู้สึกว่า จะต้องมีความอดทนมากขนึ้ เพื่อไปถงึ เส้นชยั ท่เี ปรียญธรรม ๙ ประโยค ให้ได้ดังท่มี ุ่งหมายไว ้ กลับมาตามสญั ญา หลวงพ่อดี วัดเหนือ ให้สามเณรเจริญเรียนบาลีท่ีวัดเสนหา ตำบล พระประโทน จงั หวดั นครปฐม แลว้ ไปฝากไว้ทีว่ ัดบวรฯ เพอื่ ว่าจะไดก้ ลับ 74 พระผู้เจริญพรอ้ ม Buddha-Chapter 3.indd 74-75
ฉายพระรูปกบั นวกภกิ ษ ุ วัดบวรนิเวศฯ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ ทรงทำหน้าทพ่ี ระอปุ ัชฌาย ์ มหาวทิ ยาลัยมหาสารคามถวายปริญญาดษุ ฎีบณั ฑิตกติ ตมิ ศักด์ิ พระผู้เจริญพร้อม 75 11/6/09 10:33:16 AM
มาสอนพระปริยัตทิ ี่วดั เหนอื หลวงพ่อทำตามสัญญานั้นจริงๆ สร้างโรงเรียนรวิเทวานุกูล เป็น ตกึ คอนกรตี สองชนั้ เตรยี มไว้ตง้ั แตป่ ี พ.ศ. ๒๔๗๓ และสามเณรก็กลับยังวัดเหนือ เม่ือทรงมีพระชันษาครบอุปสมบท เปน็ พระภกิ ษุ ในปี พ.ศ.๒๔๗๖ เหมือนเช่นทุกคร้ังท่ีเสด็จมาวัดเหนือ จะแวะมาบ้านรุ่งสว่างเสมอ ทุกคนในบ้านรุ่งสว่างดีใจมาก มาชุมนุมกันทำอาหารคาวหวานที่เจ้าพระ คุณสมเด็จฯ โปรดไว้รอท่า เช่น ทอฟฟ่ีอย่างที่พระชนนีมักจะทำถวาย ตอนเป็นเดก็ แกงปา่ แกงส้ม หรอื ข้าวยำ เก้าอ้ีโยกตัวโปรดที่มีผ้าปิดคลุมไว้ยามเจ้าของอยู่ไกล ก็เปิดเผยตัว รอรบั เสดจ็ ด้วย เด็กในบ้านรื่นรมย์ยินดีท่ีหลวงพ่ีกลับบ้าน จนบางครั้งถึงขนาดรำวง รอ้ งเพลงกันร่ืนเริง “โอ้เจ้าช่อมาลี คนดีของพี่ก็มา…” เสียงเพลงครื้นเครงจากใบหน้า ปลาบปลมื้ ดีใจ เปน็ ความอบอุ่นทีเ่ จ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงยิม้ ได้เม่ือกลบั บา้ น ทรงอุปสมบทที่วัดเหนือหรือวัดเทวสังฆาราม ทรงจำพรรษาช่วย หลวงพ่อสอนพระปริยัติธรรม ๑ พรรษา แล้วกลับมาอยู่วัดบวรนิเวศ วิหารตามเดิม โดยทรงทำทัฬหีกรรม คืออุปสมบทซ้ำเป็นธรรมยุตท่ีวัด บวรฯ อกี ครงั้ เพ่ือศึกษาพระปรยิ ตั ิธรรมต่อ ปีเดยี วกนั น้ี ทรงสอบไดเ้ ปรียญธรรม ๕ ประโยค เปน็ พระมหาเจริญทีท่ รงรบั ภาระหน้าท่มี ากขนึ้ ทรงเวยี นไปสอนพระปริยตั ิธรรมทีว่ ัดเทวสงั ฆาราม จังหวัดกาญจนบรุ ี สนองพระคุณหลวงพ่อต่อเน่ืองกันมาอีก ๒ ปี และยังเป็นครูสอนแผนก นกั ธรรมและแผนกบาลที ่สี ำนักเรยี นวดั บวรฯ 76 พระผเู้ จริญพร้อม Buddha-Chapter 3.indd 76-77
พร้อมกับการเรียนพระปริยัติท่ีทรงก้าวหน้าไปตามลำดับ จนสำเร็จ เปรียญธรรม ๙ ประโยคในปี พ.ศ. ๒๔๘๔ พระชันษา ๒๘ ป ี เรยี นสันสกฤต กบั สวามี สตั ยานนั ทปุรี ราวปี พ.ศ. ๒๔๗๕ สวามี สัตยานันทปรุ ี เวทานตประทปี นักปราชญ์ ชาวอินเดียผู้มีช่ือเสียง เข้ามาเผยแพร่แนวความคิดแบบฮินดู ความ เช่ียวชาญด้านศาสนาและปรัชญาของท่านสวามีส่งผลให้คนไทยตื่นตัว ทางด้านวชิ าปรชั ญากนั มาก จากบนั ทึกการสนทนาของท่านพทุ ธทาส เล่าถึงนกั ปราชญผ์ ู้น้วี า่ “เมื่อสมัยที่สวามี สัตยานันทปุรีเข้ามาเผยแพร่ความรู้หรือลัทธิของ เขาทก่ี รุงเทพฯ ยังจำไดว้ า่ เปน็ สมัยพระปกเกล้าฯ ที่สวามี สตั ยานนั ทปรุ ี เขา้ มา และกแ็ สดงปาฐกถาท่จี ฬุ าฯ สมเดจ็ พระปกเกล้าฯ เสดจ็ ฯ ไปฟงั ดว้ ย” “มีคนไปศึกษากันมาก รวมทั้งนาคะประทีปด้วย ผมเคยพบนาคะ ประทีปที่สำนักสวามีหลายหน มีช่วงหนึ่งนาคะประทีปไปขอให้สวามี อธิบายอภธิ รรม นดั เปน็ นัดๆ ไปเลย ๓ วนั ครัง้ ๕ วนั ครง้ั ” “ต่อมาผมก็ไม่ค่อยได้ติดตามไป อ่านหนังสือท่ีแกเขียนสะดวกกว่า นึกออกแล้ว แกออกหนังสือชื่อ Voice of the East ออกอยู่หลายเล่ม เปน็ รายเดอื น มที ง้ั ภาษาไทย และภาษาอังกฤษ” แม้ปรัชญาของฮินดูจะต่างจากพระพุทธศาสนา แต่การเข้ามาของ สวามี สัตยานันทปุรีก็มีส่วนกระตุ้นให้เกิดการทำความเข้าใจแนวความ คดิ น้ี รวมถึงการวเิ คราะห์เปรียบเทียบพระพทุ ธศาสนานกิ ายต่างๆ ภาษาที่ใช้บันทึกพระธรรมวินยั ยคุ แรกๆ ไม่ไดม้ เี พียงภาษาบาลอี ยา่ งท่ี แพร่หลายในประเทศไทยและเพ่ือนบ้านใกล้เคียง แต่ยังมีการบันทึก คำสอนของพระพุทธเจ้าด้วยภาษาสันสกฤตเช่นกัน คือ พระพุทธศาสนา พระผ้เู จรญิ พร้อม 77 11/6/09 10:33:17 AM
นิกายสรวาสติวาท ซงึ่ แพร่หลายในอินเดยี เอเชียกลาง และจีน เม่อื ทา่ นสวามตี งั้ ธรรมาศรมขนึ้ ณ ตึกหอสมดุ มหามกุฏราชวิทยาลัย ทถี่ นนพระสุเมรุ หน้าวัดบวรนเิ วศวหิ าร นอกจากการสนทนาธรรม ยังมี การสอนภาษาสนั สกฤตและภาษาองั กฤษแก่ภกิ ษุสามเณรและผ้สู นใจดว้ ย พระมหาเจริญเปรยี ญ ๖-๘ ประโยค (ปี พ.ศ. ๒๔๗๗-๒๔๗๘) จึง อาศัยเวลาว่างไปเรียนภาษากับท่าน เพ่ือนเรียนภาษาในตอนนั้นมี อาจารย์สุชพี ปุญญานภุ าพ สมเดจ็ พระมหาวีรวงศ์ (ทมิ ) พันโทประสาน ทองภักดี พระพรหมมุนี (วิชมัย) นาวาโทโปร่ง ชื่นใจ สมเด็จพระมหา วรี วงศ์ (วนิ ) เปน็ ต้น ช่วงนัน้ ทรงมภี าระสอนนักธรรมและบาลี การเรียนภาษาองั กฤษและ ภาษาสนั สกฤตของพระองคจ์ ึงไมร่ าบรน่ื นัก ทรงเรียนไดร้ าว ๒ ปกี ็ต้อง หยุดไปเพราะภารกิจดา้ นต่างๆ เพม่ิ มากขน้ึ ถึงกระนั้นก็ทรงใฝ่พระทัยในการเรียนอย่างดี สมุดบันทึกการเรียน ไวยากรณ์ภาษาสันสกฤตเล่มบางของพระองค์มีตัวอักขระเรียงเป็น ระเบียบเรียบร้อยตามหลักการอันเข้มงวด ยังเก็บรักษาไว้เป็นตำรา อ้างอิงได้ถึงทุกวันน้ี และยังทรงใช้ความรู้ท้ังภาษาสันสกฤตและบาลีใน การตัง้ ช่ือตามท่ีบคุ คลต่างๆ ขอประทาน ช่อื ของคนไทยจำนวนไม่นอ้ ยจึง เปน็ ช่อื ประทานจากเจ้าพระคณุ สมเดจ็ ฯ ตอ่ ยอดความรู้ภาษาองั กฤษเอง การเรียนการสอนภาษาอังกฤษเมื่อราว ๘๐ ปีก่อนส่วนใหญ่อยู่แต่ ในโรงเรยี นของคริสตชน ไม่ได้แพร่หลายดาษด่นื เชน่ ปัจจบุ ัน การท่สี วามี สตั ยานันทบุรี มาเปิดสำนกั ใกล้กับวดั บวรฯ จึงเป็นโอกาสเหมาะ เจ้าพระคณุ สมเดจ็ ฯ ทรงศึกษาภาษาองั กฤษอย่างจรงิ จัง ทรงฝึกปรอื 78 พระผเู้ จรญิ พร้อม Buddha-Chapter 3.indd 78-79
อยู่เสมอ ทั้งฟัง พูด อ่าน และเขียน แม้จะทรงมีเวลาเรียนภาษากับ ท่านสวามีไม่มาก แต่ก็เป็นพ้ืนฐานให้ทรงเรียนด้วยพระองค์เองต่อ จนสามารถใช้ภาษาน้ที กุ ทกั ษะได้คล่องแคลว่ ฟัง... ทรงติดตามสถานวี ิทยบุ ีบซี ภี าคภาษาอังกฤษเป็นประจำ พูด... ทรงฝึกสนทนาภาษาอังกฤษกับพระชาวต่างประเทศท่ีมาบวช และร่ำเรียนพระพุทธศาสนาที่วัดบวรฯ และต่อมาทรงสอนธรรมะเป็น ภาษาอังกฤษแกช่ าวตา่ งชาติ โดยจัดเป็นช้นั เรยี นเรยี กวา่ “ธรรมะคลาส” อ่าน... โปรดการอ่านหนังสืออยู่แล้ว ท้ังหนังสือธรรมะ หนังสือ ท่ัวไป และหนังสือพิมพ์ เช่น หนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ นิตยสาร Reader’s Digest หนังสือเล่มไหนทรงเห็นว่ามีประโยชน์ หรือ “เรื่องน้ี เขาเขียนดี น่าอ่าน” จะทรงเมตตาแนะนำให้ผู้ใกล้ชิดอ่านด้วย เช่น Casuality: The Central Philosophy of Buddhism ของ David J. Kalupahana นอกจากนี้ยังทรงส่งเสริมให้พระสงฆ์และเณรในวัดฝึกฝนภาษา อังกฤษ เช่นที่พระ ดร. อนิล ธมฺมสากิโย ลูกศิษย์ผู้ใกล้ชิดเล่าให้ฟังถึง ตอนทมี่ าอยูว่ ัดบวรฯ ใหม่ๆ วา่ “ทรงเร่ิมให้อ่านบางกอกโพสต์ อ่านตะกุกตะกัก ถ้าอ่านไม่ออก ไมต่ รง ท่านกท็ รงออกเสยี งให้ฟัง จนอ่านคลอ่ ง พอเร่ิมอ่านคล่องทา่ นก็ รับส่ังถามว่าคำน้ีแปลว่าอะไร ทำให้ต้องหาหนังสือพิมพ์เพ่ือเปิดหา พจนานุกรมก่อน พอรับสั่งถามก็แปลถวายได้ ต่อมาทรงเริ่มถามปัญหา ทกุ วันๆ จนคุน้ เคยกับภาษาอังกฤษ” เขียน... ทรงเขียนจดหมายสนทนาธรรมกับนางโจเซฟิน สแตนตัน ภริยาเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกา ประจำประเทศไทย ซ่ึงเคยมาเรียน ธรรมะคลาสกับพระองคช์ ่วงทย่ี งั อยู่ในเมืองไทย พระผเู้ จริญพร้อม 79 11/6/09 10:33:17 AM
ทรงรับภัตตาหารจาก พระอาจารยฝ์ นั้ อาจาโร ทรงถวายน้ำสรง หลวงปดู่ ลู ย์ อตโุ ล ฉายพระรูปรว่ มกบั สวามีสตั ยานนั ทปรุ ี มชี าวตา่ งชาตมิ าศกึ ษาพระพทุ ธศาสนาที่วดั บวรนิเวศฯ อยเู่ นืองๆ ซ่ืงเอ้ือตอ่ การฝึกฝนภาษาต่างประเทศของพระองค ์ 80 พระผเู้ จรญิ พร้อม Buddha-Chapter 3.indd 80-81
พระทัยใฝ่รู้ในด้านการศึกษาภาษาต่างประเทศยังขยายต่อไปถึง ภาษาอนื่ ๆ ครภู าษาจีน คือนายศริ ิ ศรสงคราม ที่มาบวชเรยี นทว่ี ดั บวรฯ ในภายหลังลาสิกขาไปก็ยังมาถวายการสอน จนกระทั่งถึงแก่กรรม ในเวลาตอ่ มา ส่วนภาษาฝร่ังเศสและภาษาเยอรมัน ทรงเรียนกับครูไทย หลวง แพทย์สุทธ์ิ พิสุจน์ ท่ีทรงรู้จักมักคุ้น โดยครูมาถวายการสอนที่กุฏิของ พระองค์ในเวลาค่ำบ้าง กลางคืนบ้าง วันละชั่วโมงสองช่ัวโมง ตามแต่ โอกาสจะอำนวย และเลิกราไปเม่ือตา่ งมีภารกิจเพ่มิ ข้นึ ความรู้ท้ังหลายท่ีทรงศึกษา มีประโยชน์ต่อการปฏิบัติภารกิจของ พระองค์ในเวลาต่อมาเปน็ อยา่ งมาก ปฏบิ ตั กิ รรมฐานเพ่ือศึกษาและอบรมจติ ในช่วงท่ีทรงมุ่งมั่นกับการศึกษาเปรียญธรรมต่างๆ ทรงทุ่มเท พระวรกายอย่างเตม็ ท่ี จนสมเด็จพระสังฆราชเจ้า กรมหลวงวชริ ญาณวงศ์ พระอปุ ัชฌาย์ของเจ้าพระคุณสมเดจ็ ฯ ทรงเตือนสต ิ “กำลังเรยี นใหญห่ รือ อยา่ บ้าเรียนมากนกั หดั ทำกรรมฐานเสยี บ้าง” วัดบวรนเิ วศวหิ ารเป็นวดั ธรรมยตุ มกี ารปฏิบัติกรรมฐานเปน็ ประเพณี นิยมที่สืบเนื่องมาต้ังแต่ครั้งพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ยังทรงผนวชอยู่ รับสงั่ ของสมเดจ็ พระสังฆราชเจา้ ฯ จึงถือเป็นพระบญั ชา ท่ีเจา้ พระคุณสมเด็จฯ ทรงนอ้ มรบั เพอ่ื สืบทอดประเพณนี ยิ มน้ีต่อไป และสมเด็จพระสังฆราชเจ้าฯ ก็ทรงเป็นครูบาอาจารย์ด้านกรรมฐาน ของพระองค์เป็นพระองค์แรก โดยทรงยึดถือเอาพระปฏิปทาของสมเด็จ พระสงั ฆราชเจ้าฯ เป็นแบบอย่างในการประพฤตปิ ฏิบตั ิ หลกั ของพระพุทธศาสนาฝ่ายธรรมยตุ นนั้ นอกจากพระภกิ ษุสามเณร พระผ้เู จรญิ พรอ้ ม 81 11/6/09 10:33:19 AM
จะมีหน้าท่ีเรียนรู้พระธรรมวินัย ซ่ึงเป็นคำสั่งสอนของพระพุทธเจ้า เพ่ือเป็นแบบแผนการประพฤติปฏิบัติตน และแนะนำส่ังสอนผู้อ่ืนต่อไป ยังมีอีกหน้าท่ีที่มีความสำคัญ นั่นคือ การอบรมจิตใจตามหลักสมถะและ วิปสั สนา เพอ่ื ให้รแู้ จง้ ในธรรมและกำจัดกเิ ลสออกจากจิตใจ ชว่ งเขา้ พรรษา พระสงฆธ์ รรมยุตจะอยู่ศึกษาพระธรรมวนิ ยั ในสำนกั ของตน เม่ือออกพรรษาแล้วก็จาริกธุดงค์ไปตามป่าเขาเพื่อหาท่ีวิเวก ศกึ ษาวปิ สั สนากรรมฐาน เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงปฏิบัติกรรมฐานตามหลักคำสอนของ พระพุทธเจา้ ท่วี ่า “แม้จะอยู่ในบ้านในเมอื ง กใ็ ห้ทำสัญญา คือทำความรสู้ ึก กำหนดหมายในใจว่าอยู่ในป่า อยู่ในที่ว่าง อยู่ในท่ีสงบ ก็สามารถทำ จติ ใจให้ว่างใหส้ งบได้” น่ันคือ ทรงปฏิบัติพระองค์แบบพระกรรมฐานในเมือง และเม่ือทรง มโี อกาส กจ็ ะเสด็จจารกิ ไปประทบั ตามสำนักวัดป่าตา่ งๆ พระป่าในเมอื งผพู้ ากเพียรประพฤตปิ ฏิบตั ิ “ท่านทรงเน้นสติปัฏฐานแนวพระป่าสายพระอาจารย์ม่ัน ทรงสอนหลาก หลาย แตพ่ ระองคท์ า่ นเองใช้พุทโธ” คุณสิทธโิ ชค ศรสี คุ นธ์ ลกู ศิษยข์ องเจา้ พระคุณสมเด็จฯ เล่าให้ฟงั “ท่านทรงปฏิบัติอย่างเคร่งครัด เช่น ยามบ่ายโยมเอาน้ำมาถวาย รับสั่งถามว่าน้ำอะไร เพราะทรงกลัวผิดพระวินัย อย่างน้ำปานะ ถ้าเป็น มหาผล ฉันไม่ได้ น้ำแตงโม น้ำสับปะรดก็ไม่ได้ น้ำฝรั่งได้ ถ้าปั่นรวม เน้ือกต็ อ้ งกรอง ผดิ พระวนิ ัยจะไม่ฉันเลย” ผู้ใกล้ชิดต่างทราบดีว่า น้ำพระทัยแน่วแน่ของพระองค์น้ันถึงกับทรง ยอมสละชีวิตเพอ่ื รกั ษาพระวนิ ยั 82 พระผ้เู จรญิ พรอ้ ม Buddha-Chapter 3.indd 82-83
เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงแสดงความเคารพและอ่อนน้อมต่อ พระเถระเสมอ ทุกครัง้ ทพ่ี บพระผู้ใหญท่ ีพ่ รรษามากกว่า พระองค์จะทรง กราบนมัสการและจะไม่ประทับอาสนะท่ีสูงกว่า ดังข้อวัตรที่สงฆ ์ ฝ่ายอรัญวาสียึดถือปฏิบัติ แม้ว่าพระองค์จะทรงมีสมณศักด์ิสูงกว่า และ แม้เมอ่ื เป็นสมเด็จพระสงั ฆราชแลว้ ก็ตาม นอกจากจะทรงสำรวมเครง่ ครดั ในพระธรรมวินยั แลว้ ยงั เอาพระทัย ใส่ในการศึกษาวจิ ัยธรรม และการปฏบิ ตั สิ มาธกิ รรมฐานอยู่เปน็ กจิ วัตร เจ้าพระคณุ สมเดจ็ ฯ ทรงสวดมนต์ทำวัตรทุกวนั ไม่เวน้ หลงั จากทรง ตื่นจากบรรทมตอนตสี ่ี ทำธุระสว่ นตวั จดุ ธปู เทยี นบูชาพระพทุ ธรปู ทรง สวดมนต์ แล้วนงั่ กรรมฐานจนสว่าง จากนนั้ จงึ เสด็จไปบณิ ฑบาต แม้ว่าจะมีพระกรณียกิจมากมายเพียงใด ตอนค่ำก็ยังทรงต้องน่ัง กรรมฐาน หากยังไม่ไดน้ ่งั กรรมฐาน จะรับส่ังวา่ “ยังทำไม่ครบ” เรื่องความสำคัญของการศึกษาและฝึกฝนจิตด้วยวิปัสสนากรรมฐานน้ี ปรากฏในพระนิพนธ์ของพระองค์เสมอ ดังเช่นพระนิพนธ์เรื่อง “การให้ ธรรม ชนะการใหท้ ้งั ปวง” ตอนหนึ่งวา่ “...การประพฤติปฏิบัติธรรมด้วยตนเองอย่างสม่ำเสมอจนธรรมนั้น เป็นอันหน่ึงอันเดียวกับกายกับใจ นั่นแหละเป็นการแสดงธรรมให้ปรากฏ แก่ผู้รู้ผู้เห็นทั้งหลายทั้งปวง และจะต้องได้ผลมากกว่าการให้ธรรมท่ีเป็น ขอ้ เขยี นในหนา้ หนังสอื …” แน่แล้วท่ีว่า...สายพระโลหิตธรรมยุตอยู่ในพระวรกายของเจ้าพระคุณ สมเด็จฯ อย่างเต็มเปีย่ ม กราบนมสั การพระอาจารยฝ์ ่ายอรญั วาสี ด้วยเป็นพระอารามหลวงฝ่ายธรรมยุต วัดบวรฯ จึงมีโอกาสได้ พระผู้เจรญิ พร้อม 83 11/6/09 10:33:19 AM
เสดจ็ วดั ถำ้ ขาม จังหวัดสกลนคร ทรงทำกิจวตั รเช่นเดียวกบั พระปา่ รปู อ่นื ๆ เม่ือเสดจ็ วัดป่าบา้ นตาด ทรงออกบิณฑบาตร่วมกับพระสงฆใ์ นวัดน้นั เสด็จวดั ปา่ บ้านตาด จงั หวดั อดุ รธานี เพอ่ื สนทนา ธรรมกบั หลวงตามหาบัวบ่อยคร้งั ท่ีถำ้ สุกรขาตา เขาคิชฌกูฏ ประเทศอินเดยี 84 พระผเู้ จรญิ พร้อม Buddha-Chapter 3.indd 84-85
ต้อนรับพระเถรานุเถระท้ังหลายท่ีมาเย่ียมเยียนหรือมาพำนักยามมีกิจ นมิ นตท์ ี่กรุงเทพฯ อยู่เสมอ เจ้าพระคุณสมเด็จฯ จงึ ทรงไดพ้ บปะสนทนา ธรรมกับพระอาจารย์ฝ่ายอรัญวาสีต่างๆ เพื่อพัฒนาการปฏิบัติวิปัสสนา กรรมฐานของพระองค์ เชน่ หลวงตามหาบัว าณสมฺปนฺโน วัดป่าบ้านตาด จังหวัดอุดรธานี เมือ่ คร้งั ทยี่ ังไม่สร้าง “สวนแสงธรรม” ที่พทุ ธมณฑลสาย ๓ หากมกี ิจท่ี กรงุ เทพฯ จะมาพำนกั ทีว่ ดั บวรฯ เปน็ ประจำ ด้วยความท่ีอายุและพรรษา ใกลเ้ คยี งกัน จึงนับถือเปน็ สหธรรมกิ ทีส่ นทิ สนมและหว่ งใยกัน หลวงปู่เจี๊ยะ จุนฺโท วัดป่าภูริทัตตปฏิปทาราม อำเภอสามโคก จงั หวัดปทมุ ธานี ลูกศษิ ยห์ ลวงปมู่ ่นั นน้ั สนิทสนมกับสมเดจ็ พระสงั ฆราชเจา้ (ช่ืน นภวงศ์) และเม่ือมาวัดบวรฯ บ่อยๆ จึงมักคุ้นกับเจ้าพระคุณ สมเด็จฯ ดว้ ย หลวงปยู่ ังรับนิมนตเ์ ปน็ เจ้าอาวาสวัดญาณสงั วรารามท่ีทรง สรา้ งขน้ึ ท่ีจงั หวัดชลบรุ ีอยหู่ ลายป ี หลวงป่ฝู ้นั อาจาโร เคยมาพกั วดั บวรฯ บ่อยครัง้ ในสมัยสมเดจ็ พระ สังฆราชเจ้า กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ แต่ต่อมาด้วยอายุและสังขารที่ไม่ อำนวยตอ่ การเดนิ ทางไกล จึงไมม่ จี งั หวะรับนมิ นตจ์ ากเจา้ พระคณุ สมเดจ็ ฯ ใหม้ าพกั ที่วดั บวรฯ หลวงปู่โต๊ะ (พระราชสังวราภิมณฑ์) วัดประดู่ฉิมพลี เจ้าพระคุณ สมเด็จฯ ทรงพบปะสนทนาธรรมกับหลวงปู่ต้ังแต่ยังดำรงสมณศักดิ์ท่ี พระสาสนโสภณ และยังทรงอาราธนาให้หลวงปู่ไปสอนกรรมฐาน บรรยายธรรมเปน็ ประจำทวี่ ัดบวรนเิ วศวหิ าร หลวงปู่ดูลย์ อตุโล วัดบูรพาราม จังหวัดสุรินทร์ เม่ืออายุ ๙๐ ปี (พ.ศ. ๒๕๔๓) ก็มาพักท่ีพระตำหนักทรงพรต และสนทนาธรรมเกี่ยวกับ เรอื่ งพุทโธกบั การภาวนาให้จิตเกิด พระผเู้ จริญพรอ้ ม 85 11/6/09 10:33:22 AM
ส่วนหลวงปู่ชอบ ฐานสโม แห่งวัดป่าโคกมน จังหวัดเลย ...มีเรื่อง เล่าว่าในปี พ.ศ. ๒๕๓๖ หลวงปู่มาเป็นประธานในพิธีเททองหล่อ พระพุทธรูป ท่ีวัดบวรฯ และพักที่วัดด้วย หลังจากที่เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงสนทนาธรรมกับหลวงปู่เสร็จและจะเสด็จกลับตำหนัก พระอุปัฏฐาก หลวงปู่ถือย่ามของพระองค์เดินตามหลังจะส่งเสด็จ พระองค์รับสั่งด้วย เสียงออ่ นโยนวา่ ใหโ้ ยมอปุ ฏั ฐากของพระองคถ์ ือไปส่งเถิด ให้พระรูปน้นั กลับไปดูแลหลวงป่ดู ีกว่า พระอุปัฏฐากของหลวงปรู่ ูส้ ึกประทับใจในความ ไมถ่ อื พระองคเ์ ป็นอยา่ งย่ิง หลวงปู่ชอบเองก็ยังเคยกล่าวชื่นชมต่อเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ว่า “พระสังฆราชองค์น้ดี ที สี่ ดุ ” ฝึกเข้มทุกป ี จากคำบอกเล่าของผู้ใกล้ชิดเจ้าพระคุณสมเด็จฯ นั้น “เรื่องปฏิบัติ ทรงทำใหด้ ู ช่วงวา่ งจากพระกรณียกจิ จะเสด็จไปสำนักของครบู าอาจารย”์ วัตรปฏิบัติของเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ในช่วงที่สังขารยังอำนวย เมื่อ ทรงทราบว่ามีพระสงฆ์ทรงภูมิธรรมอยู่แห่งหนตำบลใด จะทรงหาโอกาส เสด็จไปสนทนาธรรมด้วย แม้เมื่อได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ สถาปนาเป็นสมเด็จพระสังฆราชแลว้ วัตรปฏบิ ตั นิ ี้กย็ งั ดำเนนิ อยู่เช่นเดิม ในราวเดือนธันวาคมถึงมกราคมของทุกปี เจ้าพระคุณสมเด็จฯ จะเสด็จไปวัดป่าอย่างนอ้ ยปลี ะครั้ง โดยสว่ นใหญ่เปน็ ครูบาอาจารยท์ างสาย อสี าน เชน่ เสดจ็ ไปศึกษาและปฏบิ ตั ิภาวนากับหลวงปู่ขาว อนาลโย ถ้ำกลองเพล จังหวัดหนองบัวลำภู เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงกล่าวถึงหลวงปู่ขาวไว้ใน คำสดุดเี น่ืองในพิธีพระราชทานเพลิงศพหลวงปู่ขาวว่า 86 พระผูเ้ จริญพร้อม Buddha-Chapter 3.indd 86-87
หลวงปู่ชานำเจ้าพระคณุ สมเด็จฯ สวู่ ดั ถำ้ แสงเพชร อำนาจเจริญ วนั ที่ ๕ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๑๖ หลวงพอ่ พุธ านิโย เขา้ เฝ้าถวายสักการะ เสดจ็ เยีย่ มหลวงปู่เทสก ์ ณ วดั หินหมากเป้ง จงั หวัดหนองคาย พระผเู้ จริญพรอ้ ม 87 11/6/09 10:33:24 AM
“เมอ่ื ระลกึ ถงึ หลวงปขู่ าว อนาลโย กอ็ ดไม่ไดท้ จี่ ะระลกึ ถงึ พระสงั ฆคณุ วา่ สุปฏิปันโน ภควโต สาวกสงั โฆ อชุ ุปฏปิ นั โน สามจี ิปฏปิ ันโน พระสงฆ์ สาวกของพระผมู้ พี ระภาคเจ้า ปฏิบตั ิดแี ลว้ ปฏบิ ตั ติ รงแล้ว ปฏิบัติถกู ต้อง แล้ว ปฏิบัติชอบ เหมาะแล้ว จึงเกิดความเลื่อมใสเคารพ ในสุปฏิบัติ อุชุปฏิบัติ ญายปฏิบัติ สามีจิปฏิบัติของท่าน ต้ังแต่ได้ไปกราบนมัสการ ทา่ นเป็นคร้งั แรก ไดเ้ ห็นได้เข้าไปน่งั ใกล้ ได้ฟงั ธรรมจากถ้อยคำของทา่ น พร้อมกับด้วยรู้สึกสัมผัสจิตใจของท่านอันเปี่ยมด้วยเมตตากรุณาจาก สายตาสีหน้ากายวาจาท่ีต้อนรับด้วยธรรมปฏิสันถารอันบริสุทธิ์ เป็นที่ ประทับใจให้ระลึกถึงและไปกราบนมัสการ ได้เห็นได้สดับรับธรรมรส จากท่านอกี โดยลำดับมา แม้ขนั ธ์ของทา่ นจะแตกดับไป ตามธรรมดาของ สังขาร คุณของทา่ นอนั พึงกลา่ วได้ว่า อนาลโย คโุ ณ ยอ่ มดำรงอยูเ่ ป็นที่ ระลึกถึงและเคารพกราบไหว้ตลอดไป” อีกแห่งท่ีเสด็จบ่อยๆ ก็คือ วัดถ้ำขาม (วัดป่าอุดมสมพร) จังหวัด สกลนคร ของหลวงปู่ฝ้ัน อาจาโร ซึ่งพระเถระรูปหน่ึงเล่าให้ฟังคร้ังที่ เสดจ็ ในช่วงก่อนเข้าพรรษาปี พ.ศ. ๒๕๑๙ ว่า “วัดน้ีอยู่บนยอดเขา เวลาบิณฑบาต ต้องเดินลงเขามาที่ศาลา รับบิณฑบาตซ่ึงอยู่ข้างล่าง ทางเดินเป็นหินที่ค่อนข้างชันและลำบาก พระเณรจึงกราบทูลพระองค์ว่า ไม่ต้องเสด็จลงไปรับบิณฑบาตข้างล่าง พระเณรจะรบั บิณฑบาตมาถวายเอง แต่พระองค์ไม่ยินยอม ด้วยทรงเคร่งครัดในพระวินัยและข้อวัตร จึงเสด็จลงเขาไปรับบิณฑบาตจากชาวบ้านร่วมกับพระเณรอ่ืนด้วย พระองค์เองทุกวนั นอกจากน้ียังทรงให้ความเมตตาและเป็นกันเองกับพระเณรในวัด เสวยในบาตร เสวยมื้อเดียว ร่วมกับพระเณรในศาลา ทรงร่วมทำวัตร 88 พระผู้เจรญิ พรอ้ ม Buddha-Chapter 3.indd 88-89
น่งั ภาวนา เหมือนพระเณรในวัดทกุ รปู ” เช่นเดียวกับท่ีวัดหินหมากเป้ง จังหวัดหนองคายที่เสด็จบ่อยคร้ัง เพ่ือศึกษาและปฏิบัติภาวนากับหลวงปู่เทสก์ เทสฺรํสี หนึ่งในศิษย ์ ผนู้ ่าเลือ่ มใสของหลวงปู่ม่ัน และเช่นเดียวกับท่ีวัดป่าบ้านตาดของหลวงตามหาบัว ซึ่งเจ้าพระคุณ สมเด็จฯ เคยเสดจ็ ไปหลายคร้งั หลวงตาให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์โพสต์ทูเดย์ เมื่อคราวมาเยี่ยม เจา้ พระคุณสมเดจ็ ฯ ซึ่งประชวรอยู่ในโรงพยาบาลจุฬาฯ ปี พ.ศ. ๒๕๔๘ วา่ “เราสนทิ กบั ท่านมานานเทา่ ไหรแ่ ล้ว อยวู่ ดั บวรฯ มาด้วยกนั ท่านเคย ไปเป็นพระภาวนาอยู่ท่ีวัดป่าบ้านตาดหลายครั้ง ครั้งละเป็นอาทิตย์ แต่ เวลาก็ผ่านมานานแล้ว และตั้งแต่ท่านเป็นสมเด็จพระสังฆราชฯ แล้ว เราก็ไม่ค่อยได้มาเข้าเฝ้าท่าน เพราะรู้สึกว่าท่านทรงมีภาระหนักมาก เป็นพเิ ศษ เราจึงไม่กล้ามารบกวนทา่ น วันน้ีเมอ่ื ไดม้ า ท่านกท็ รงไมอ่ ยาก ให้กลับ ชี้ให้เราน่ังที่เก้าอ้ี คือเม่ือเรากราบท่ีตักท่านและจะกลับท่านยัง ทรงชี้ใหน้ งั่ ท่เี กา้ อี้เสียก่อน” เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ยังเคยเสด็จไปวัดป่าสาละวนั จังหวดั นครราชสมี า และสนทนาธรรมกับหลวงพ่อพุธ ฐานิโย ซึ่งสมัยท่ีเป็นเณร ศึกษาการ ปฏิบตั ิธรรมกบั พระอาจารยเ์ สาร์ กันตสีโล ทางเหนือ พระองค์เสด็จไปกราบนมัสการหลวงปู่แหวน สุจิณฺโณ ท่ีวดั ดอยแม่ป๋ัง จังหวดั เชยี งใหม่ ทางใต้ เสด็จไปสนทนาธรรมกับทา่ นพุทธทาสทว่ี ัดสวนโมกขพลาราม อำเภอไชยา จงั หวัดสรุ าษฎรธ์ าน ี เหล่านี้เป็นเหตุให้พระเถระฝ่ายอรัญวาสี มักเอ่ยชื่นชมและยกย่อง ถึงพระองคอ์ ยเู่ สมอ เชน่ หลวงป่แู หวน สจุ ณิ โฺ ณ และหลวงปู่ฝ้ัน อาจาโร พระผเู้ จริญพรอ้ ม 89 11/6/09 10:33:24 AM
เสดจ็ เยอื นสวนโมกข์ ถวายสักการะท่านพุทธทาส มักจะบอกกับชาวกรุงเทพฯ ที่ไปกราบนมัสการท่านท่ีวัดว่า ไม่จำเป็น ต้องมากราบท่านถึงที่วัดก็ได้ เพราะหนทางไกลและลำบาก ถ้าอยาก กราบพระดี ให้ไปกราบสมเดจ็ ฯ วัดบวรฯ กไ็ ด้ ทรงภมู ิ หรือเป็น “สมาธธิ รรมดาๆ” เจา้ พระคณุ สมเด็จฯ ทรงสนพระทยั เรอ่ื งการปฏิบัตมิ ากกว่าปาฏิหาริย์ ไม่ได้ทรงสอนให้ยึดติดวัตถุมงคล แต่มีผู้นิมนต์ให้เสด็จเป็นประธานงาน อธิษฐานจิตตา่ งๆ อยู่เสมอ ซึ่งทรงกรณุ ารบั ไวเ้ พอ่ื สนองศรัทธา เมอื่ มีผู้ใดเลา่ เรื่องทแ่ี สดงถึงปาฏหิ ารยิ ข์ องพระองค์ จะรบั ส่ังเสมอวา่ เป็นเพราะพระธรรมของพระพุทธเจ้า มีคร้ังหน่ึงรับส่ังว่า “แค่น่ังสมาธิ ธรรมดาๆ เหมอื นพระสงฆท์ ั่วไป” กระน้ันก็ยังมีเร่ืองเล่าถึงภูมิธรรมของพระองค์ท่ีผู้อ่านนำไปพิจารณา ได้ดงั นี ้ 90 พระผเู้ จรญิ พร้อม Buddha-Chapter 3.indd 90-91
เรื่องเล่าทห่ี นึง่ อำนาจสมาธิและอทิ ธิบาท ๔ ครั้งหน่ึงเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ประชวรหนักมาก ทรงเตรียมใจท่ีจะ ละสังขารอยู่แล้ว พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเสด็จพระราชดำเนิน พร้อมด้วยสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ มายังท่ีประทับรักษา พระองค์ และทรงพระดำเนินเข้าไปตรัสถึงเตยี งทีบ่ รรทมวา่ พระอาจารย์ ต้องช่วยพระองค์เองแล้ว (ทรงจัดหาแพทย์และยาอย่างดีมาถวายแล้วก็ ยังไมด่ ีข้ึน) เจา้ พระคณุ สมเด็จฯ ทรงพยกั หนา้ รบั คำอาราธนา ทรงเล่าว่า เมื่อได้ยินพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวตรัสเช่นน้ัน ก็ทรงระลกึ ถึงคำสอนเร่ืองอทิ ธบิ าท ๔ จงึ ทรงเขา้ สมาธิ ดำรงพระจิตอยู่ ในวิหารธรรมท่ีมีช่ือว่าอิทธิบาทตามคำสอนของพระบรมศาสดา ไม่นาน พระอาการก็ทเุ ลา ว่ากันว่าพระอริยเจ้าในอดีตกาลสามารถเจริญอิทธิบาท ๔ กำหนด อายุสังขารได้ เพราะเป็นธรรมโอสถท่ีเมื่อเจริญแล้วสามารถดำรง พระชนม์ให้ยืนยาว เร่ืองเล่าทส่ี อง เร่ือง “โทรจิต” จาก พล.ท. อมรรตั น์ จนิ ตกานนท ์ สมัยหน่ึง พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมีกระแสพระราชดำรัสให้ พล.ท. อมรรัตน์ จนิ ตกานนท์ นิมนต์พระสงฆ์ทรงภูมิธรรมในภาคอีสาน มารับพระราชทานฉันท่ีกรุงเทพฯ แต่พระสงฆ์เหล่าน้ันออกธุดงค์ไปก่อน แล้ว ไม่สามารถตดิ ต่อได ้ จึงมีกระแสพระราชดำรัสให้ไปกราบนมัสการเจ้าพระคุณสมเด็จฯ ซ่งึ ขณะน้นั ดำรงสมณศกั ดิ์ที่ พระสาสนโสภณ ให้ชว่ ยนิมนต์แทน พระผูเ้ จริญพร้อม 91 11/6/09 10:33:25 AM
เจา้ พระคณุ สมเด็จฯ ทรงขอเวลาชว่ั ยามหนง่ึ แลว้ พล.ท. อมรรตั น์ กไ็ ด้รับคำตอบวา่ ... นิมนต์เรียบร้อยแล้ว ให้นำรถไปรับที่จุดนัดหมายตามวันเวลาท่ี กำหนด นา่ ประหลาดใจวา่ ตดิ ต่อกันทางใด มีผู้อธิบายว่า เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงนั่งสมาธิติดต่อทางจิตหรือ “โทรจติ ” กบั พระสงฆ์ทรงภูมิธรรมเหล่าน้ัน ... สำหรับเจ้าพระคุณสมเด็จฯ เองแล้ว ทรงตอบคำถามเก่ียวกับข้อ สงสัยเรื่องภมู ธิ รรมของพระผ้ปู ฏบิ ัติดวี ่า “มนั ไม่เปน็ ประโยชน์ ร้แู ล้วเปน็ อย่างไร เพราะฉะนั้นเรากราบเราเคารพท่านในฐานะท่านเป็นพระท่ี ปฏบิ ตั ดิ ปี ฏิบัตชิ อบด่ังพระวจนะของพระพทุ ธเจา้ ” และสาระในพระนพิ นธข์ องพระองคก์ ช็ ่วยอธิบายเสริมได้วา่ เพราะ “ชีวติ น้นี ้อยนกั แตม่ ีความสำคญั นักดว้ ยเหมอื นกัน ถ้าชีวติ นี้ไม่ว่ิงหนี กรรมไม่ดีในอดีต ชีวิตน้ีก็จะรับผลกรรมไม่ดี” ฉะน้ันเราควรใส่ใจ กับ “การใช้ปัญญาอบรมเพ่ิมเติมปัญญาให้ส่องสว่างย่ิงขึ้นโดยลำดับ” จะดีกว่า ชุลีพร วริ ิยะวงศช์ ัย : เรอ่ื ง 92 พระผเู้ จรญิ พร้อม Buddha-Chapter 3.indd 92-93
ทรงใฝร่ ้ใู ฝศ่ ึกษาอยเู่ สมอ จงึ ทรงมีความรรู้ อบดา้ น และมหาวิทยาลยั หลายแห่ง ถวายปรญิ ญาดษุ ฎบี ัณฑิตกติ ตมิ ศกั ดิ์แด่พระองค ์ พระผเู้ จรญิ พรอ้ ม 93 11/6/09 10:33:27 AM
“…พระพุทธเจา้ ได้ตรสั สอนให้ทกุ คนมศี ีลและจิตใจงาม เพราะจะมีความสขุ และอยู่ดว้ ยกันเปน็ สขุ จรงิ ๆ ทุกๆ คนตอ้ งการสุขดว้ ยกนั ทง้ั นนั้ ไมม่ ีใครปฏเิ สธ แต่ทำไมไม่เดินในทางของความสุข ...เพราะใจของคนยงั มดื มิด จึงเดนิ เข้าไปหากองไฟดว้ ยอาการทีร่ ่าเรงิ เบิกบาน เหมือนแมลงเมา่ บนิ เข้าหากองไฟ …พระพทุ ธเจา้ ได้ทรงแสดงธรรมเปน็ ดวงประทีป สอ่ งให้มองเหน็ ทางที่ถูกต้อง สำหรับคนทมี่ ีจกั ษุไดม้ องเหน็ และเดนิ ถกู ทาง” นิตยสาร ธรรมจักษุ ปที ี่ ๗๘ ฉบับท่ี ๒ ประจำเดอื นมถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๓๗ 94 พระผ้เู จรญิ พรอ้ ม Buddha-Chapter 4.indd 94-95
พระวริ ิยะเพอ่ื พระศาสนา เจ้าพระคณุ สมเดจ็ ฯ เปน็ ผตู้ ั้งใจเรยี นรู้ในวชิ าพระพทุ ธศาสนา ดว้ ยทรง รู้จรงิ วา่ พระพุทธเจ้าทรงเปน็ ครผู ู้มีวิชาท่ยี ่งิ ใหญเ่ พยี งใด การปฏิบตั ติ าม ข้อธรรมของพระพทุ ธองค์จักไดร้ บั ประโยชน์จรงิ เพยี งน้ัน พระวิริยะของพระองค์เพื่อพระศาสนาจึงมีจุดเริ่มต้นท่ีพระองค์เองก่อน แล้วจึงทรงนำรอยทางพระพุทธองค์มาเป็นแนวทางแก่พุทธบริษัทและ พุทธศาสนิกชน ทั้งชาวไทยและชาวต่างประเทศ ให้ก้าวไปในเส้นทาง ธรรมอย่างถกู ต้องและมั่นคงสบื ไป ...ด้วยพระเมตตาต่อเพ่ือนมนุษย์ และพระกตัญญุตาต่อองค์พระ- สัมมาสัมพทุ ธเจ้า ทรงเรมิ่ ต้นที่พระองค์เองก่อน เจ้าพระคุณสมเด็จฯ ทรงขวนขวายหาความรู้ในข้อธรรม ทั้งจาก พระวินัย พระพุทธบัญญัติ พระพุทธประวัติ และจากการพิจารณากลับ เข้ามาดูตนเองด้วยวิธีปฏิบัติวิปัสสนากรรมฐาน จนได้รู้ถึงผลของการ ปฏิบัติ ซึ่งเจ้าพระคุณสมเด็จฯ รับส่ังว่า ใจความในพระพุทธศาสนานั้น คอื การได้รูถ้ งึ ความจริง ความดี ความงาม พระผู้เจริญพรอ้ ม 95 11/6/09 10:34:34 AM
ทรงบชู าพระพุทธชนิ สหี ใ์ นพระอุโบสถวัดบวรนิเวศวิหาร 96 พระผูเ้ จรญิ พรอ้ ม Buddha-Chapter 4.indd 96-97
“ความจริง… เรียนรู้ความจริงดังคำสอนของพระพุทธเจ้า เพ่ือจะได้ พบความจริงตามเหตุและผล ซ่ึงล้วนแต่เป็นเหตุผลในด้านชีวิต ในด้าน พฤตกิ รรม ตลอดจนความจรงิ ตามเหตแุ ละผลของจิตใจ ของเจตนา ของ กรรม และในด้านอ่ืนๆ เมื่อรวมเข้าโดยเหตุผลในทางกรรมของตนท่ี พระพุทธเจ้าได้ตรัสสั่งสอน เพื่อให้ศึกษาจนเข้าใจอันจะนำไปสู่ความจริง ท่ีเป็นอริยสัจ เส้นทางปฏิบตั ิสคู่ วามส้ินทุกข ์ “ความดี... เรียนรูว้ า่ อะไรเป็นความดจี รงิ เป็นความช่วั จริง ด้วยการ ทำความเข้าใจในความดีว่า ความดีคือคุณที่เกื้อกูลตนเองและผู้อื่นให้ เป็นสขุ ต่างๆ ให้ไดร้ บั สุขประโยชน์ตา่ งๆ ความชัว่ กค็ ือโทษทท่ี ำใหต้ นเอง และผู้อ่ืนได้รับทุกข์โทษต่างๆ ความชั่วเป็นข้อควรละ ความดีเป็นข้อท่ี ควรกระทำ “ความงาม... การเข้าถึงความงามของพระพุทธศาสนาได้นั้นต้อง ศึกษาธรรมจนมีใจน้อมจึงจะเข้าถึงความงามในธรรมได้ ถ้าใจถึงแล้วก็ เหน็ พระพทุ ธเจา้ งาม พระธรรมงาม พระสงฆง์ าม ความงามทเ่ี ห็นได้นจ้ี ะ หมายถึงความมีศรัทธา ความเช่ือ ความเล่ือมใส ตลอดถึงปัญญาใน พระพุทธคุณ พระธรรมคุณ พระสังฆคุณที่ซาบซ้ึง จนถึงมีความนิยม ชมชอบในพระรัตนตรัยอย่างสูงสุด พระรัตนตรัยเป็นความงามที่เป็นที่ ยกยอ่ งวา่ เป็นของสุดงาม” ด้วยการตระหนักรู้ในความรู้จริงท่ีมีคุณอนันต์เช่นน้ี เจ้าพระคุณ สมเด็จฯ จงึ มคี วามกตญั ญูกตเวทิตาตอ่ พระพทุ ธเจา้ ยิง่ นัก “พระพทุ ธเจ้า ทรงมพี ระคณุ พระคุณของพระพุทธเจา้ ยิง่ ใหญ่เพยี งไร พระพทุ ธองค์ได้ ทรงมอบไว้ในพระพทุ ธศาสนาหมดสิน้ แลว้ ...” ด้วยเหตุน้ี การใดๆ ที่เป็นไปเพ่ือความเจริญในพระพุทธศาสนา เจา้ พระคุณสมเด็จฯ จึงมีพระวริ ิยะในการปฏบิ ตั งิ านยง่ิ ทรงทุ่มเทกบั งาน พระผ้เู จรญิ พร้อม 97 11/6/09 10:34:37 AM
พระศาสนาท้ังงานทางด้านวิชาการ ด้านการศึกษา ด้านการปฏิบัติ การ ปกครอง การส่ังสอนเผยแผ่ การก่อสร้างปฏิสังขรณ์ และด้านการ สาธารณสงเคราะห ์ เน้ืองานที่พระองค์ทรงปฏิบัติ ล้วนมุ่งหมายให้เหล่าพุทธศาสนิกชน มีปัญญามองเห็นธรรม สามารถนำธรรมกลับมาใช้สร้างความเจริญและ ความสุขสบื เนอ่ื งต่อกนั ไป พระกรณียกิจต่างๆ ที่พระองค์ทรงปฏิบัติ ล้วนเป่ียมด้วยความ เมตตาที่ทรงตั้งใจส่งถึงผู้คนในทุกวาระโอกาส ด้วยความเอ้ือเฟื้อเก้ือกูล ให้ประชาชนได้รับประโยชน์จากการเป็นคนดีมีธรรมะ เพราะการมีธรรม อยู่ในหัวใจนัน้ เทา่ กับเปน็ ผู้มพี ระพุทธเจา้ เป็นมิตร เจ้าพระคุณสมเด็จฯ เคยรับสั่งว่า...พระพุทธเจ้าทรงเป็นกัลยาณมิตร ทรงเป็นมิตรแทข้ องเรา การมีพระพทุ ธเจ้าเป็นมิตรแท้ มิตรแท้จะชว่ ยได้ ทนั ท่วงที ไม่ให้ตกอยู่ในความชวั่ หรอื ในทชี่ ว่ั ... ครูผู้สอนธรรม ภายในพระอุโบสถ วัดบวรนิเวศวิหาร พระพุทธรูปลักษณะงดงาม 98 พระผู้เจรญิ พรอ้ ม Buddha-Chapter 4.indd 98-99
ประดิษฐานอยู่บนฐานชุกชีทอง ในซุ้มสาหร่าย มีตราพระมหามงกุฎอยู่ ตรงกลางซุ้มเบื้องบน พระพุทธรูปปฏิมานี้ คือ พระพุทธชินสีห์ อันเป็น พระพุทธรูปที่สร้างคู่กันกับพระพุทธชินราช ถัดไปด้านหลังเป็นพระพุทธรูป ใหญม่ าก เรียกกนั วา่ พระโต หรือพระพุทธสวุ รรณเขต เบ้ืองหน้าพระพุทธชินสีห์มีพระรูปหล่อสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาวชิรญาณวโรรส พระรูปหล่อสมเด็จพระมหาสมณเจ้า กรมพระยาปวเรศวริยาลงกรณ์ และพระรูปหล่อสมเด็จพระสังฆราช กรมหลวงวชิรญาณวงศ์ เรียงจากขวาไปซ้าย ถัดลงมาเป็นโต๊ะหมู่บูชา ตงั้ อยบู่ นที่รับฐาน ศูนย์รวมในพระอุโบสถคือพระประธาน ซ่ึงเปรียบเสมือนพระพุทธ องคเ์ สด็จมาประทับ ณ ทนี่ ี้ พระอุโบสถจึงเป็นสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ เป็นท่ีรวมของพระสงฆ์ พร้อม ด้วยอุบาสกอุบาสกิ ามาประชมุ กันเพอื่ เขา้ เฝา้ พระพุทธเจ้า หนึ่งในงานประชุมท่ีสำคัญน้ันคือ การประกอบกิจวัตรสงฆ์ และ ทำวัตรเช้า-เย็น ท้ังยังเป็นท่ีบำเพ็ญพระศาสนกิจทำวัตรเช้า-เย็นของ พระมหากษัตริยท์ ่ีเสด็จออกทรงผนวชทกุ พระองค์ คือ พระผเู้ จริญพร้อม 99 11/6/09 10:34:39 AM
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273