Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เฮือนพื้นถิ่นอีสาน วิถีชีวิต และคติความเชื่อในใบลาน สมชาย นิลอาธิ,ราชันย์ นิลวรรณาภา,ณรงค์ศักดิ์ ราวะรินทร์

เฮือนพื้นถิ่นอีสาน วิถีชีวิต และคติความเชื่อในใบลาน สมชาย นิลอาธิ,ราชันย์ นิลวรรณาภา,ณรงค์ศักดิ์ ราวะรินทร์

Description: ✍️

Search

Read the Text Version

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานมอื ผทู้ รงคพั ภ์น้นั แล บ่ควรซื้อบ่ควรขายอันใดแลกบ็ ค่ วรซ้อื ข้าชา้ งม้าเมอ่ื คพั ภ์ยงั มเี ฮือนนั้นแล กบ็ ่ควรสรา้ งแปง ดรงกุฎวี ิหารแล อนั ๑ ในเมื่อจกั สร้างโฮงกด็ ี ภิกขแุ ลสามเณรแลกระโยมกด็ ี หากได้ไปมีช้แู ลทรงคพั ภไ์ ปสัน นั้นก็บ่ควรจักสร้างแปงยังโฮงแล เจดีย์ วิหาร ยามนั้นแล เหตุนั้นเม่ือจักแต่งแปงนั้นคนผู้เป็นศรัทธา ก็บริสทุ ธิแ์ ลเจ้าวัดกบ็ รสิ ทุ ธ์ิ ทั้ง ๒ ฝ่าย จิงบค่ วรสร้างแปงยังโฮงแล ครั้นสรา้ งแปงดงั นั้นก็จิบหายแล ๒) ประการ ๑ อันว่าปู่ย่าเอาหลานผู้หญิงผู้ชายมาเล้ียงไว้สันน้ัน ในเม่ือเถิงกาลเม่ือกระทำมังคล กรรม มีผัวมเี มียนั้น ปู่ยา่ ผูเ้ ลย้ี งเอามือขาทงั้ สองซ้อนกนั แลว้ ดังน้นั ในเม่อื ลูกเมอ่ื หลานเลี้ยงนน้ั เสีย้ งอายแุ ลจตุ ติ ไปนั้นก็ควรกระทำโกฏิมังคละ ๓ น้ันคือว่า มัดมือ แลอาบน้ำอุ่น น้ันแล ป้อนข้าวกุมน้ันใน ๓ ประการน้ีให้ ผอ่ นเสีย อัน ๑ บ่ใช่แท้น้ันแล คร้ันบ่ผ่อนเสียอัน ๑ พอยให้พร้อมท้ัง ๓ สันนั้นก็มักฉิบหายน้ันแล อนั นีก้ ลา่ วดว้ ยลูกเลย้ี งหลานเล้ยี งนั้นแล อัน ๑ คนเฮือนเดยี วแลเปน็ พยาธิหนกั พรอ้ มกันท้งั ๒ นน้ั ผหู้ น่งึ พอยตายไปกบ็ ค่ วรรบั ของ อนั ทา่ นมาคำ้ ชูกบ็ ค่ วรไวแ้ ฮมคืนก็บค่ วรทานข้าวสงั สง่ สะกานด้วยไฟแล คนผใู้ ดมีอายบุ พ่ อสบิ ปีแลตาย นั้นก็บ่ควรไว้แฮมคืน บ่ควรเอาลงก้ำวันออกเฮือน บ่ควรส่งสะกานด้วยไฟ บ่ควรเอาพระเจ้านำหน้า บ่ควรรับของทานท่านอันมาค้ำชูเท่ายังดินแล บุคคลละผู้ ๑ บ่ขับตามฮีตคองหนโลกไปน้ันก็มักได้ ต้องโทษท้ังหลายนั้นแล เภยยะก็มักมาเถิงแล (จะแปงเฮอื นอยู่ แลเฮอื นซ่ายซักคืน อยู่นีห้ นาแล) ๓) ประการ ๑ คนตายไวแ้ ฮมคนื สนั นนั้ อนั วา่ คนอนั จกั ใสล่ ่วงสูดไปนนั้ ก็บค่ วรสร้างแปงในวนั อันตาย น้ันเทิน กรรมควรกระทำกรรมกนั น้นั คอื ว่า สอดไม้คาน ๑ กองหลัว ๑ กา่ ยขน้ั ได ๑ ไพร่น้อยควรกา่ ยตายแล ในกรรม ๓ ประการ น้ีควรกระทำพร้อมกันในวันอันตายนั้นแล คันบ่กระทำพร้อมกันสันน้ันเฮือนก็มักจิบหาย แลสว่ นว่าจักไวค้ นตายน้ันบ่ควรไขอ้ ยา่ บนหวั ใวค้ ร้นั จกั ปงเมื่อใดกค็ วรไขเมอ่ื นั้นแล ๔) ประการ ๑ เฮือนผู้ใดไม้เสาบ่ดีจักถ่ายเสียเอาไม้ใหม่มาใส่น้ันให้เอาไม้แทกให้เถิงท่ีอันเข้าในดิน น้ันแล ให้สุดปลายดวด แล้วเผ่ียนเทิน ในเม่ือถอนไม้เก่าเหล้มบ่ดีน้ันออก ให้ว่าดังน้ี โทษเภยยะ อันบ่ดีน้ัน จงภายหนีไปกับไม้เหล้มนี้ท้ังมวลเทิน จงว่าปรารถนาดังนี้แล้วเอาไปทอดไหลน้ำเสียเทินอัน ๑ ยามเม่ือ แปงเฮอื นแปน้ ตกลงมาแล เสาฟดั ถกื กันก็ดี ก็ควรแทกเอาเหล้มใหมถ่ า่ ยเสยี เทนิ อนั ๑ ในวันสร้างแปงน้ันครั้นว่านกก็ดี กาก็ดี หากมาจับไม้เหล้มใดน้ันก็ควรถอนเหล้มน้ัน เสยี เทนิ ครั้นว่าบถ่ อนกจ็ บิ หายโทษก็มาตงั้ ต้นแล อัน ๑ เฮือนซ่ายเซือนไปสันนั้นก็จักซักหาลากคืนให้ซื่อสันนั้น ก็ควรกระทำให้แม่นวันอัน แปงแต่ก่อนนั้นเทิน เดือนก็ดีแฮมก็ดีหัวน้ันก็ดีแลแฮมค่ำ ๑ หรือ ๒ ค่ำนั้นจักให้ฮู้อัน ๑ เมือจักแปง เฮอื นนน้ั ใหน้ ับเอาอายผุ ัวเมอื เจ้าเฮอื นบม่ เี ทา่ ใดให้ถอนเสียแล ๘ แล ๘ น้ันเหลอื บพ่ อ ๘ นัน้ มีเทา่ ใด ให้ทวายตามน้ันเทิน ครั้นว่า เศษ ๑ เฮือนสควาย เศษ ๒ เศรษฐี เศษ ๓ ว่าเสาด้ังต้ังเศษ ๔ ตัวนั้นเฮอื นขั้นไดแก้ว เศษ ๕ วา่ เฮอื นปราสาท เศษ ๖ ว่ากาจับ บ่ดีแล เศษ ๗ ตวั น้นั วา่ เฮือนบงั ตน คนบ่ดี แปงแล ครั้นว่าบ่เหลือจักตัวน้ันสูญเสียว่าเฮือนพลิก ขว้าม บ่ควรแปงบ่ดีแลจิบหายตายไป ตาบทอ่ ต่อเท่าเซ่นลกู เซน่ หลานเซ่นเหลนแล 101

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสาน อัน ๑ เฮือนผู้ใดแปงบ่ทันแล้วเท่ือ ดังน้ันพอยมีหมาขึ้นมาอวนแล้วต่าวลงก้ำวันออกหนใต้ ก็ดกี ค็ วรปนั้ อาหารแกม่ ันข้าวน้ำคำกินให้แก่มนั ใหอ้ ิ่มแลว้ ก็ควรไปอาบนำ้ ดำหวั เสีย เป็นชยั มงั คละแล เฮือนหลังใดแปงบ่ทันแล้วเท่ือ ไก่พอยขึ้นมาไข่ก็ดี พาลูกข้ึนมาก็ดีเจ้าเฮือนอยู่วุฒิจำเริญหาภัยบ่ได้แล เฮือนหลังใด(นก)ฮุ้งก็ดี นกสีทุดก็ดี นกยางก็ดีมาจับเฮือนน้ัน ไฟมักไหม้มักจิบหายแล ควรหลีก เคาะเสยี ดีแล ๕) ประการ ๑ ยามเม่ือจักกระทำมังคละปลูกแปงเอาผัวเอาเมียน้ันแผ่นดินไหวตงเฮือนลั่น สันนี้ก็ดี คนตายกด็ ี ก็เป็นนมิ ติ อนั บ่ดแี ล อัน ๑ ในเฮอื นนนั้ ผลี งพอถว้ น ๓ เท่ือนัน้ ก็บ่ควรกระทำมงั คละแกล่ ูกหลานสักอันแล ๖) ประการ ๑ หมู่ฝูงจักไปกระทำมังคลกรรมน้ัน ชื่อว่าเคืองคนอันจักนำไปกระทำมังคละนั้นเป็น ต้นว่าให้นำแลสุทาซิฝูงน้ันเท่าควรให้คนฝูงเป็นญาติพ่ีน้องชาติเชื้อน้ันไปแล คร้ันว่าทงคัพภ์นั้นก็บ่ควรให้เอาไป แล ๗) ประการ ๑ ส่วนว่าคนผู้จักกระทำมังคลกรรมนั้นคนผู้ชายมีพ่อแม่ หญิงบ่มีพ่อแม่ดังนั้นก็บ่ควร เอามอื แห่งขาทงั้ ๒ นั้นซอ้ นมอื กับดว้ ยแห่งกนั แลเท่าควรปลกู แปงตามบุราณน้นั แล ผู้หญงิ หากมีพ่อแมพ่ ร้อมกนั ผู้ชายบ่มีพ่อแม่สันนั้นก็บ่ควรเอามือซ้อนกันนั้นแล เท่าควรปลูกแปงตามบูฮานน้ัน ครั้นว่าบุคคละท้ัง ๒ หากมี พอ่ แมพ่ ร้อมกันทั้ง ๒ ฝ่ายเสมอกันนน้ั กค็ วรเอามือขาท้ัง ๒ ซ้อนกนั แล ๘) ประการ ๑ ลูกหลานเกิดยังเฮือนที่ ๑ ปู่ย่าอยู่ยังเฮือนอีกที่ ๑ ไปเจียเอามาเป็นเลี้ยงดังนั้น เถงิ กาลเมือ่ อันควรเปน็ เฮือนดงั นน้ั กบ็ ่ควรจกั กระทำมงั คลกรรมเฮอื นปยู่ า่ แล ควรแปงตบู แปงเฮือนท่ี ๑ พอเขา้ แลว้ ควรปลูกแปงยังท่ีน้นั แล ๙) ประการ ๑ ปู่ย่าหากปงวางเฮือนใหส้ ูเป็นเจ้าเฮือนหลังน้เี ทนิ ให้เป็นเจ้าแกส่ มบัติทีน่ ี้เทิน วา่ อัน ก็ควรกระทำปลูกแปงในเฮอื นปยู่ ่าท่ีน้นั แล ครัน้ วา่ ผใู้ ดบ่กับบข่ ับตามฮตี คองอนั นี้ให้ผิดแผกจากบฮู าน ไปก็จบิ หายผ่อนวายไปตาบต่อเทา่ เถิงชวา่ (ช่วั )ลูกหลานสืบ ๆ ไปแล หญงิ ผูใ้ ดไปหลน้ิ ชู้ด้วยสมัครกับดว้ ยกันมปี ฏสิ นธิ แล้วสนั น้ันก็บ่ควรกระทำมังคลกรรมแล ครน้ั กระทำสนั นั้นมักจบิ หายบ่ดแี ล หญิงผใู้ ดผัวตายเสียก็ดี ฮ้างจาก กันเสียกด็ ี ก็บ่ควรกระทำมงั คลกรรมแล แม่นผูช้ ายก็สันเดียวกนั นั้นแล อนั นี้กลา่ วด้วยกระทำมังคลกรรม ปลกู แปงเอาผวั เอาเมียให้เปน็ มังคลแล อัน ๑ ในเฮอื นนน้ั หากมผี ทู้ งคพั ภอ์ ยสู่ นั นนั้ บค่ วรกระทำมงั คละจกั อนั แล กระทำกม็ กั จบิ หาย ผ่อนไปซู่อันแล บุคคละผู้ใดตายแลบ่ทันไปฮอดป่าช้าเทื่อนั้นกลองหลวงหากคานไปก็ดีหลักอันจักแต่งน้ัน หักเสยี สันนัน้ กม็ กั จิบหายไปเซ่นลกู เซ่นหลานแลแม่นข้ามก็ถอื ทณั ฑะกรรมแล สว่ นวา่ เฮือนผใู้ ดพอยวา่ เต่าก็ดี แลนก็ดี แลมาขึ้นสู่บนเฮือนมีดังน้ันก็มักจิบหายแล ควรอาบน้ำเสียเคราะห์ร้ายท้ังมวลฝูงนั้น ก็จงกับหายไปดว้ ยเต่าแลแลนนนั้ เทนิ ๑๐) ประการ ๑ ผู้ใดผู้ ๑ หากตายเสีย หญิงพลอยประสูติลูกยามน้ันเม่ือขอนซากยังมีในเฮือนน้ัน ในเม่อื ลกู ตายไปก็พอยว่าแมป่ ระสูตลิ กู ยามนน้ั กด็ ีกอ็ าบนำ้ เสยี เคราะห์ดว้ ยฮบี อยา่ ใหท้ ันกลาย ๗ วันนั้นแล 102

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสาน ๑๑) ประการ ๑ เผิ้งกด็ ี มิม้ ก็ดี มาจบั ที่หัวเฮือนก็ดี ท้ายเฮือนกด็ ี มาจับยังแอกก็ดี มสี ันนน้ั ก็ควรแตง่ สกั การบชู าแล้วนำไปส่งเสียทปี่ า่ ก้ำตะวนั ออกน้ันแลว้ ควรอาบน้ำดำหัวเสยี เคราะหด์ ังนั้นแล ๑๒) ประการ ๑ เสาเฮือนหลังนั้นคนหากต้านพอถ้วน ๓ คนแล้วบ่ควรอยู่แล ครั้นหากมักได้อยู่แล อยู่ไปแถมมืนนานดังนั้นให้อาบน้ำดำหัวเอาทิพมนตร์อันควรหายราชภัยนั้นมามนตร์ยังทั้งแจงแจเฮือนน้ันแล้ว กระทำเชยยะมังคละเสยี แลว้ จิงควรอยไู่ ปแถมแล ๑๓) ประการ ๑ บุคคลผู้ไปซ้ือข้าหญิงข้าชายก็ดี ในวันอันเอาข้าขึ้นมาสู่เฮือนน้ันข้าผู้นั้นหากเอา ถา่ นไฟก็ดี หลัวก็ดี ข้ึนเฮอื นมากด็ ี กิ้วผมขน้ึ มากด็ ี ถือเครอ่ื งอาวุธ หอก ดาบ ข้ึนมากด็ ี มสี นั นน้ั เจา้ เฮอื นผอู้ ัน ช่ือน้ันมักมีอุบาทว์แก่เจ้าเฮือนแลข้าผู้น้ันก็พลัดพรากจากกันแล ผิว่าอาบน้ำขึ้นมาเฮือนก็ดี ชื่นบานหัวแย้ม ข้ึนมาก็ดี ก็เป็นอวุฒิท้ังเจ้าแลข้าน้ันแล เหตุดังนั้นอันจักซ้ือข้าหญิงข้าชายอันน้ันก็กระทำตามนิมิตอันน้ีในวัน จักเอาข้าข้นึ สเู่ ฮือนนั้น ก็ควรให้ลูกทดั ดอกไมข้ ้ึนมาก็ดี แต่หนวนั ออกชวายเหนอื มาขน้ึ จิงดี อัน ๑ ส่วนว่าผู้ ๑ ยามเมื่อมาต้านมาจาต่อกัน เม่ือหัวทีน้ันผู้จักมาเป็นข้าน้ันป่ินหน้าเข้าสู่ ห้องเฮือนแห่งเจ้าเฮือนน้ันก็ดี แลมาเหยียดแข้งเหยียดขาอยู่ก็ดี อ่วายหน้าต่อเจ้าเฮือนอยู่สันนั้นอันว่า เจ้าเฮือนแลข้าผู้น้ันก็บ่เป็นกิจจประโยชน์สังจักอันแล ข้อยผู้น้ันมักถีบมักฝันเจ้าเฮือนแลผู้ก็บ่มาพา ข้าเฮือนหนีไปสู่ไปเป็นกับด้วยกันไปสู่ท่ีอื่นมีคัพภ์เจ้าเฮือนไปตามหาได้มาสันน้ันบ่ควรเอาขึ้นมาสู่เฮือน เทิน ให้แปงตูบให้อยู่ที่ ๑ ก่อน ตราบต่อเท่าประสูติลูกแล้วพ้นเดือนก่อนจิงดี เอาข้ึนมาสู่เฮือนก่อน จิงดี เอาขนึ้ มาสเู่ ฮือนแล ครัน้ ว่าผใู้ ดบข่ ับตามฮตี คองก็อนั น้กี จ็ ิบหายแล ๑๔) ประการ ๑ เฮือนก็ดีวัดก็ดีโรงอันคนหากลักตายบ่ฮู้เม่ือจิตแล บ่ฮู้เม่ือเห็นสันน้ันบ่ควรจักอยู่ยัง เฮือนแลวัด โฮงอันนั้นแลควรโสเสีย ครั้นอยู่ไปก็บ่วุฒิจิบหายแล ท่ีนี้จักกล่าวห้วงคนทั้งหลายก็สร้างแปงเฮือน อยูก่ ่อนแล บุคคลผใู้ ดอนั ลงจากเฮือนพ่อแม่หวั ทีน้นั กค็ วรแปงเฮอื นเสาดัง้ จำดนิ ก่อนแล แปงวัดกด็ ี โรงกด็ ี เฮือน กด็ ี คร้ันผหู้ ญงิ ยงั ทรงคพั ภนัน้ มาอยู่เหยยี บยำ่ ยงั ไม้เสากด็ ี ขื่อก็ดี แป กอนไม้เครอ่ื งภายบนท้งั มวลนัน้ บ่ดี มักถกู ภยั อุบาทวค์ วรโสเสียแล เอาไมเ้ หลม้ ใหมม่ าใสด่ แี ล อัน ๑ ครบู าก็ดี ศษิ ย์ยมกด็ ีแล ตราบดงั นั้นอนั วา่ ตงกด็ ี ขางแหง่ ก็ดี หากหกั ตกแม่นหอเรอื น ก็ดี ก็บ่ควรจกั อย่สู ืบแล ๒ ไปแลควรสระเสยี แล ส่วนว่าคนตายวันเดือนดับนัน้ บค่ วรไว้ขา้ มคืน บ่ควรให้ ข้ามเดอื นก็ควรสง่ เสียวนั นน้ั แล คร้ันข้ามแลว้ จิงควรทานเข้าสงั แล หยาดนำ้ ไปหาแล อัน ๑ ว่าภิกขุแลสามเณรหากไปเส้ียงอายุสังขยารเสียในบ้าน ในเฮือนพ่อแม่มันนั้นอันว่า ฆ้องกลองก็บ่ควรให้เข้าไปตีในบ้านนั้นแลเครื่องครัวอันแต่งส่งสะกานน้ันควรแต่งตามภิกขุแลสามเณร น้ันสู่ประการแล ยามเมื่อจับสร้างฆ้องกลองก็ควรตีส่วนว่าภิกขุแลควรทรงหิบ่มียังคือว่าปราสาทหลัง เพียงน้นั แล ส่วนว่าฆ้องกลองนั้นควรใหอ้ ยหู่ นทางกวนหนา้ นน้ั แลตีไปแลบ่ควรตยี งั ทอ่ี อกไปนน้ั แล อัน ๑ บุคคลผู้เป็นเจ้าเชิญหากเอาข้อยมาใช้ตางตีนตางมือสันน้ัน เมื่อภายลุนพอยไปขูดหัว บวชเปน็ สมณเ์ สยี น้นั ผ้เู ป็นเจา้ ขา้ วของซอื้ เอาน้นั กเ็ ทย่ี งว่าวนิ าศ จิบหายไปเสี้ยงแล อัน ๑ พ่อออกผู้เป็นเจ้าสร้างโรงน้ันปัตติฆัฏฏนาวิวาท ผิดเถียงกัน ครูบาตนนั้นหากโรง หนีจากท่ีน้ันไปพอยไปได้โรงภายหน้า พอยย่ิงกว่าโรงภายหลังนั้นส่วนว่าพ่อออกแม่ออกโฮงเก่าน้ันก็บ่ วุฒิมักพวน(พร)จากข้าวของแลพอน(พร)จากอายุแล ครั้นใคร่พ้นจากทาโพยภัยดังอันก็ให้ไปตามให้ 103

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสาน ท่านเป็นดังน้ันบ่ให้พรเสียสันนั้นจิงวุฒิจำเริญแล ครั้นฮำเพิงว่าท่านหากละโรงกูเสียแล้วแลว่าอันบ่ได้ ตามให้ทานคืนมาอยู่เสียดังอันก็เป็นโทษโพยภัยภายลุนนั้นจิงควรแปงเฮือน มัดยังขื่อแลแปลุนดังนั้น จิงควรแปงสาสขื่อแลแปลุนนั้นมาจักแปงสันใดก็ตามใจมักเทิน บุคคละผู้ใดอันแปงเฮือนสำคัญยกให้ ใหญ่แล้วเมื่อลุนพอยซ้ำมาแปงเฮือนเสาด้ังจำดินเล่าก็บ่ควรแล ส่วนอันว่าเสาด้ังฝังดินน้ัน ควรอยู่ ๓ ปนี นั้ แล อัน ๑ ครน้ั ว่าคนตายแล หมไู่ ปสปู่ า่ ชา้ นนั้ คนอันอย่ปู า่ ช้ามาต้อนรบั เอากบ็ ่ดี อนั ๑ คนขึ้นอยู่บนกองหลัวนั้นรับเอาก็บ่ควรแลจิบหายตายต่อเท่าเซ่นลูกเซ่นหลานแล อันว่าเสาหลักสาก่อนน้ันน้ำหากย้อยตกก็ดี กองหลัวหากดคนคลานไปก็ดี มักจิบหายตายต่อเท่าเซ่น ลูกเซ่นหลานแล ส่วนว่าหมากเหม้ียงยาก็บ่ควรห่อทานของท่านก็บ่ควรให้เหลือเมือเฮือนสักอันเทิน คนผู้ใดตายคัพภ์มีในท้องบ่ควรไว้ข้ามคืนแล บ่ควรรับของท่านมาค้ำชู คร้ันบ่กระทำสันน้ันเจ้าก็จิบ หายวายวอดแล อัน ๑ ลูกอ่อนคร้ันบ่พอ ๑ ปีแลตายนั้นก็บ่ควรไว้ข้ามคืนผิว่าตายเม่ือเกือบแจ้งก็บ่ควรให้ ฮอดแจ้งแล บ่ควรรับของท่านอันมาค้ำชู บ่คุณส่งสะกานด้วยไฟ บ่กระทำตามคองอันนี้ก็มักจิบหาย วายวอดไปแลคนท้ังหลายจักสร้างแปงโฮงก็ดี วัดก็ดี เรือนก็ดีแล ไปไม้ในป่าสันน้ันไม้ต้นอันฟันนั้น ทวา่ ใบบ่ฮอดบ่แจบดินลงคา้ งเสยี ยงั ตน้ ไม้ก็ดี เครือเขากด็ ี ไมต้ ้นน้นั ก็บค่ วรเอา ครัน้ หากดน้ เอา ดงั นน้ั อันวา่ เจา้ เฮอื นอันนน้ั ก็บ่วุฒิ ก็บ่ยนื แล ๑๕) ประการ ๑ ผู้ทรงคัพภะนั้นก็บ่ควรผูกมือถือขวัญแก่บุคคละผู้กระทำมังคลกรรมน้ันแล แม้นว่า หากเปน็ แม่ นาย ป้า อา ก็ดี กบ็ ค่ วรกันกระทำสนั นั้นก็จบิ หาย ขา้ วของสมบตั ตกิ ็ผอ่ นไปแล ๑๖) ประการ ๑ จักสร้างเต็มมากหนักแล อนั ๑ ส่วนว่าวัดแลกระฎี อันมียังซื่อน้ัน แต่น้ันยังมีเศรษฐีผู้ ๑ อันได้กินแก้วที่น้ัน ในเม่ือ เศรษฐีผู้นั้นหากมาตายยังนอกบ้านท่ี ๑ เขาพอยเอาซากขอนเศรษฐีผู้นั้นเข้ามาในบ้านท่ีน้ันแล้วก็เอา ออกไปก้ำวันตก บ้านท่ีนั้นก็ส่งสะกานยังซากผีเศรษฐีผู้น้ันยังป่าช้าที่นั้นแล บ่นานเท่าใดพยาธิโรคา ก็มีมาบังเกิดแก่ชาวบ้านที่นั้นก็ฉิบหายมากนัก ไฟไหม้บ้านอันนั้นหลายค่ายมากนัก ก็ลวดจิบหายไป เส้ยี งแล เหตดุ ังนั้นกบ็ ค่ วรเอาคนตายเขา้ มาในบ้านเพ่ืออนั แล อัน ๑ อันว่าวันสังขารล่องน้ันก็ดี วันเนาก็ดี วันปีใหม่ วันเดือนดับก็ดี ในวันทั้งหลายฝูงน้ี มนุษย์มรณังอนั คนหากตายน้ัน นะกะโรนติ กบ็ ่ควรไปข้ามคนื แล ๑๗) ประการ ๑ คนฝูงมาค้ำชูคนตายนั้น บ่ควรนอนแฮมแล คร้ันว่านอนให้นอนถ้วน ๗ วัน ครั้นว่า วันหัวทีบ่ได้นอน วันลุนจิงมานอนดังนั้นบ่ควรแล ครั้นว่าปลงขอนผีเถิงป่าช้าแล้วหาไฟบ่ได้สันนั้นบ่ควรคืนมาเอา ไฟในบ้านแล แพบ้ ้านเข็ดแล เม่อื บ่ทนั ปลงซากผตี ายเท่อื นน้ั ใหเ้ อาไฟมาสุมไว้ฟอนกอ่ นแล ๑๘) ประการ ๑ วันเดียวนั้นแปงเฮือนพร้อมกัน ๒ หลังน้ัน หลังอันปลูกเสาก่อนน้ันแล้วก่อนแล ค รั้นหลังปลูกเสากอ่ นแล้วลุนดงั น้นั บ่วุฒิ อัน ๑ แปลงเฮือนดีใหญ่แล้วแลปลูกเสาเฮือนพอยพากันทว่าไปดังน้ันเข็ดนักแล ควรให้เอา เสาก่อนน้ันมาสุมกันฮวมที่เดียวท่ีแปงเฮือนห้ัน แล้วให้ราธนาเอาพระสังฆเจ้ามาสูดมังคลธรรมที่น้ัน 104

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสาน แล้วให้ทานแล้วเอาน้ำปริตตมังคละน้ันผายไปใส่ไม้แลดินที่จักแปงน้ันแล้วจิงสร้างแปงท่ีนั้นเทิน อยู่ดี มีสุขวุฒิสวัสสดี อันว่าเครือหมากน้ำน้ันก็บ่ควรปลูก(ใน)เรือน หน้าเฮือน วันออกนั้นข้าวของมักผ่อน บกบางแล อนั ๑ ไปสาวอนั แทกผิ(ผ)ี นนั้ บ่ควรข้ามหวั ถกึ ทณั ฑะอนั ใหญน่ น้ั แล อัน ๑ ยามวันเท่ียงก็ดี ตาวันออกก็ดี ตาวันตกก็ดี บ่ควรปลงยังขอนผีแล เป็นอันเข็ดแก่ บ้านนกั แล ๑๙) ประการ ๑ เมือ่ ทา่ นเข้าสงั แกค่ นตายนนั้ อนั ว่าหงุ ให้ใสน่ ้ำปรติ ตงั มังคละบา้ นท่ใี ดที่ ๑ กด็ เี มอื งใด เมือง ๑ ก็ดี ก็บ่ควรย้ายมาแปงยังท่ี ๑ เมือง ๑ แล ผิว่าหากเอามาแปงสันนั้นส่วนว่าชาวบ้านอันเป็นเค้ามูล กอ่ นนัน้ ก็จบิ หายแล ไฟมักไหม้ หลายเท่ือหลายทีแลเปลา่ สูญไปแล ทน่ี จ้ี กั กล่าวหอ้ งบคุ คลทง้ั หลายก่อแฮกสร้าง ขาวาสยา้ วเฮือนใหม่น้ันกอ่ นแล คร้นั จักซ้อื สตั ว์ ๒ ตีน มาเล้ยี งให้ซอื้ ตัวแมก่ ่อนจึงควรซือ้ ตัวผู้เม่ือลนุ แล จักซอื้ ข้าซอ้ื คนน้ันใหซ้ ้ือผชู้ ายกอ่ นแลว้ จงิ ควรซ้อื ผหู้ ญงิ ลุนจิงดีแล คนผใู้ ดบ่กระทำตามน้ันมักจิบหายแล ๒๐) ประการ ๑ บุคคลผู้ใดซ้ือช้างซ้ือควายพอยกู้เอาของผู้อื่นไปซ้ือเม่ือลุนจิงเอาไปให้เขาน้ันก็มัก จบิ หายบห่ ม้นั ยืนแล ๒๑) ประการ ๑ บุคคละผู้ใดตายแลบ่ทันปลงเท่ือสันน้ันแผ่นดินไหวดังอันขอนผีอันน้ันจงให้รีบปลง แม้ว่าสงั ฆบ่ทนั เท่อื ยังถา้ ก่อนวา่ อนั กบ็ ค่ วรถ้าแล ครัน้ วา่ ฮอดกองหลวั แล้วจิงควรจาแล คร้นั วา่ ไว้ขอนผีช้าไปน้ัน กม็ ักแพ้บา้ นภัยกม็ ักมาบงั เกดิ ในบา้ นอนั นน้ั แล อนั ๑ ขา้ ใช้ต่างเฮอื นตายดังนัน้ กค็ วรไวท้ ี่แทบปลายตีนแล้วปิ่นหวั ไปวนั ออกจิงดีแล เมอื่ ปลงน้ันกใ็ หก้ ำ้ ปลายตีนแลว้ ใหผ้ ดั ไปเหนือกอ่ นแล ของท่านมาคำ้ ชกู ร็ บั ว่าซ่อยกนั ส่งสะกาน เอาเหตุ อันนนั้ ก่อน แม้นเจ้าเฮือนควรเอาวตั ถใุ นเฮอื นออกสง่ สะกานแล ควรทานข้าวจังหนั น้นั แล อนั น้ี กล่าวด้วยขา้ เกิดกลางเฮือน อนั ข้าวภาชน์เดียว กนิ แกงกฮ็ ว่ มถวายเจา้ เฮอื นนน้ั แล อนั ๑ ขา้ เฮอื นซอ้ื ม้าสืบใช้ตวั มันนั้นควรใหต้ ายภายนอกเฮอื นท่ตี บู ทซ่ี ุ้มภายลมุ่ นน้ั ของ ทา่ นมาคำ้ ชู ก็บ่ควรรบั ก็ควรทานขา้ วดบิ แล เม่อื สง่ สะกานนน้ั เท่าควรทานของอันชำเพาะเซงิ่ อัน เปน็ ผละไปภายนั้นเทนิ ๒๒) ประการ ๑ คนอันตายภายนอกบ้านบ่ควรเอาเข้ามาในบ้าน ครั้นเอามาในบ้านสันนั้นมักจิบ หายแลภยั พยาธิก็มักบงั เกิดแลไฟก็มักไหม้บ้านทน่ี ้ันหลายคา่ ยนักแล อตเิ ตกาเล ในกาลก่อนวันน้นั ยงั มบี า้ น อัน ๑ มงั คละนั้นบ่ควรใส่ดอกไมใ้ บไมแ้ ล ครนั้ ใส่สนั นน้ั เหี่ยวแห้งไปนน้ั เจา้ เฮอื นก็บว่ ฒุ แิ ล อนั ๑ คนทั้งหลายบ่ควรกินน้ันข้าวแห้งแม่หม้าย ๑ ข้าวแห้งแม่หมัน ๑ บ่ควรแล ผู้ใดกิน ก็ผ่อนลกั ษณะท้งั มวลแล ๒๓) ประการ ๑ ข้าวอันทำผิดข้าวบูชาพระเจ้าก็บ่ควรกินแล บ่ควรจะนอนมีที่นั้นดังนี้คือว่า วัดรก หนา ๑ ศาลาร้าง ๑ หนทางควาย ๑ มณฑปรา้ ง ๑ เฮอื นแมห่ มา้ ย ๑ เฮือนแม่คำฮ้าง ๑ ทที่ ้งั หลายฝูงนบ้ี ่ควร นอนแล บคุ คละหญิงชายอนั เกดิ มาบพ่ อ ๗ ปี บค่ วรบูชาแล คนทั้งหลายอนั ตายดว้ ยพยาธิอันเป็นกับดว้ ยกาบ คือว่าเป็นคองไข้ฮ้อนไหม้ก็ดีแล ตายดังน้ันก็เป็นพยาธิอันด้วยกันแล คร้ันตายผู้ซ้ำตายถ้วน ๒ แล ผู้ถ้วน ๓ 105

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานบ่ควรส่งสะกานด้วยไฟแล ล้ำกว่านั้นไปก็ควรฝังดินแล บ่ควรไว้แฮมคืน ควรส่งด้วยฮีบ บ่ควรทานข้าวสารดิบ น้ันแลบ่ควรคั่วจืน เหตุเป็นกายะพยาธิมักแพร่ผายไปแล ฝูงอันอยู่เฮือนใกล้นั้นให้เอาเถ้าผายแวดเฮือนไว้ให้ว่า ดังนี้ พยาธิฮ้ายอย่าล่วงล้ำเข้ามาจงหลีกผีกหนีไปไกลเทินว่าสันนี้แลอันคนผู้อยู่เฮือนเดียวกันนั้นบ่ควรเอาผัว เอาเมยี พรอ้ มกันในปนี น้ั แล ครั้นว่าเอากบ็ ่หมนั้ มักพรากจากกนั แล อนั ๑ ลูกพ่ีลูกน้องเอากันเป็นผัวเป็นเมียกันนั้น ครั้นว่าลูกน้องเป็นผู้หญิงลูกพ่ีเป็นผู้ชาย ดังนั้นจิงควรจิงวุฒิดีแล บ่ขับตามฮีตคองให้ผิดแผกไปนั้นบ่วุฒิสักอันแล พ่อแม่เดียวกันนั้นไพร่น้อยบ่ ควรเอากันให้จิบหายวายวอดแล บ่ให้อยู่ฮ่วมบ้านท่านท้ังหลายแล หญิงผู้ใดอันตายคัพภะน้ันบ่ควร เอาไปส่งสกานฮ่วมป่าช้าชาวบ้านแล เท่าควรฝังเสียที ๑ แลให้ว่าดังน้ี ลูกมึงก็หากได้มานี้แล้วว่า ดังนี้แล้วถ้วน ๓ ที แลว้ เอาเขม็ ก็ดี เหลก็ มีคมก้มิ ขดิ ยงั แม่ตีน ๑ ที แม่มอื ที ๑ อี ๓ ที แล้วให้ไขว้ตา แหลวปกหน้าไว้แล้วเอาพริกน้อย เทียม พลู เลยหอกับกันไว้แอ้มข้างหั้นแล้วให้กล่าวว่า ผ้าท้ังมวล กูกใ็ ห้ปันมงึ ไปเสี้ยงแล้ว ว่าดงั น้ี ๓ ทเี ทิน เมอ่ื จักปลงนน้ั ใหแ้ ทกเอาตัวมันน้นั แล ให้แปงขนั ๓ ขนั กด็ ี ๒ ขัน กด็ ี แลว้ เอาเส้นฝา้ ย ๓ เสน้ กด็ ี ผูกกับข้นั ไดนนั้ แล้ว เมอ่ื ปลงขอนผีน้ันให้เอาขน้ั ไดพลิกเค้าเปน็ ปลายแล้วเอาขั้นไดออกผูกฝ้ายกับบ้ันก่ายแล้วปลงขอนแล้วลงพ้นเฮือนแล้วให้ปลดขั้นไดอันผู้ย้ายกับ นน้ั เสียใหข้ าดเทิน อันวา่ เคร่อื งครวั ท้งั หลายฝงู อันว่าน้ีใหห้ า่ งเอาแปงไวก้ อ่ นนนั้ เทิน เม่อื เอาผีน้นั ไปให้ ชายผู้เป็นผัวนั้นให้แบกดาบแล้วให้ก้ิวผมชักเม่ือภายหลังแล้วนุ่งผ้าอันขาดน้ันไปฮอดป่าช้าก่อนถ่ายซัด เสียยังปา่ ช้าท่นี ้ันแลก็ควรลอ้ มด้วยหนามแล ชายผู้เป็นผัวนนั้ ให้กล่าววา่ ลูกมึงกไ็ ด้มานี้แล้วคัวนุ่งคัวไป มึงก็หากได้มากับตัวมึงเสี้ยงแล้ว บัดนี้มึงกับกูก็หากละหากอย่ากันเสียแล้วมึงอย่าได้มาขออันใดเซิ่ง กูสกั อนั อย่าไดม้ าปะ มาหยอกกูสักอันเนอ วา่ ดังน้ีแล้วจึงใหถ้ ือเอายังผ้าเกล้าอันนี้อยา่ มงึ แลว่าดังนแี้ ล ครั้นปา่ ชา้ ไกลบ้านใหเ้ อาฝ้าย ๕ เส้น ครัน้ ใกลบ้ า้ นให้เอาฝา้ ย ๗ เสน้ ขวางหนทางกอ่ นแล คนฝงู ไปสง่ สะกานน้ันคืนมาอย่าเหลียวหลังให้ตัดหนามทับทางเสีย ๓ ทีเทิน ส่วนอันว่าผู้มาตกแต่งยังคองอันน้ี ก็ควรให้วัตถุอันสมควรแก่มันเทิน อริยะเจ้าท้ังหลายก็หากแต่งไว้คนทั้งหลายได้กับตามในห้องส่งสะกาน อนั ออกในคัมภรี ์ เปตกา อนั ว่าคมั ภรี ์เพอื่ ใหว้ ฒุ แิ ก่คนทง้ั หลายแล ๒๔) ประการ ๑ หญิงผู้ใดอันหนีจากเฮือนพ่อแม่แล้วแลพาคัพภะมาตายยังเฮือนพ่อแม่นั้นก็ควรเอา ลงมาทางข้นั ไดแล ผวิ า่ เอาลงมาทางบนหัวนน้ั เข็ดนกั แล ๒๕) ประการ ๑ บ้านเดียวกันตายพร้อมกัน ๒ คน วันเดียวกันนั้นบ่ควรไว้ข้ามคืนแล คร้ันไว้ข้ามคืน ดังนั้นกม็ กั จบิ หายตายมากนักแล อนั ๑ เสาหลักสะกอน ปักแล้วว่าบ่ดี ย้ายแถมที่ใหม่ก็บ่ดี แม้นว่าขุดขุมก็ดี ก็บ่ควรย้าย ไปขดุ ท่ใี หม่ แถมแล ๒๖) ประการ ๑ คนตายดว้ ยไมห้ ักถืกก็ดี ตายดว้ ยควายชน ม้าดีด บค่ วรส่งสะกานด้วยไฟแล ก็บ่ควร มดั ตนี มดั มอื บ่ควรไวแ้ ฮมคืนแล บ่ควรรบั ของอันท่านมาค้ำชูแล บคุ คลอันตายด้วยภยั นัน้ ตายทใ่ี ดก็ควรฝงั ท่ีน้ัน บค่ วรยา้ ยไปทอี่ ่ืนนนั้ ก็จิบหายแล อัน ๑ บ้านใดเฮือนใดก็ดีวันเดียวตาย ๒ คน ดังนั้นให้ปงผู้ตายลุนนั้นก่อนปลงผู้ตายก่อน นัน้ ลนุ ของอนั ท่านมาค้ำชูน้นั ผู้ตายก่อนควรฮบั ผ้ตู ายลุนบ่ควรฮบั แล 106

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสาน อัน ๑ เฮอื นเดยี วน้นั ผู้ ๑ ตายไปแลว้ บท่ ัน ๗ วนั ผู้ ๑ พลอยตายแลเล่า บค่ วรฮับของอนั ท่าน มาคำ้ ชนู ้นั แล ขา้ วสงั กบ็ ค่ วรทานแล ตามแต่ไดท้ านน้นั แล อัน ๑ คนตายในวันเดือนออกใหม่ค่ำ ๑ แฮม ค่ำ ๑ ก็ดี บ่ควรไว้ข้ามคืนแล คร้ันว่าไว้ แฮมคืนดังนั้นก็มักเป็นพยาธิโรคาแล มักจิบหายแลตายวันน้ันแลก็ฝังวันน้ันแล ก็ฝังวันน้ันแล ตาย ในวันเดือนเพ็งส่งสะกานในวันแรมค่ำ ๑ ก็บ่ควร ภัยก็มาบังเกิดในบ้านในเฮือนอันน้ันแล กล่าวจา ห้องสงั ขยาอันควรแลแล บค่ วรก็แล้วเปน็ ห้องเท่านี้กอ่ นแล ฯฯ อนั บค่ วรเอามาแปงไม้สีฟัน ทนี่ ีจ้ กั กล่าวอันบ่ควรเอามาแปงไมส้ ีฟนั น้นั มี ไม้งิ้ว ๑ ไมข้ าม ๑ ไมแ้ พง ๑ ไมฝ้ า้ ย ๑ ไมก้ ุม่ ๑ ไมพ้ ้าว ๑ ไมอ้ ฮี มู ๑ ไมฝ้ งู นบี้ ่ควรเอาแล มกั เป็นพยาธิโรคานน้ั แล อนั ๑ ผู้ใดได้สีฟันอ่วายหน้าไปวันออกมีอายุยืนแล อ่วายหน้าไปหนใต้มีข้าวของมั่งมูลแล อว่ ายหน้าไปทางวันตกมกี ลั ยากมุ ารแี ล ผู้ใดหนั หนา้ ไปหนเหนอื บด่ มี ักเป็นพยาธโิ รคาบม่ ีแล อัน ๑ ผิจักไปทางไกลใคร่ฮู้นิมิตอันฮ้ายอันดีดังนั้นให้ห่อข้าวเป็น ๓ ห่อ ข้าวเปลือก ห่อ ๑ ให้ใส่หมากถ่ัว ห่อ ๑ ให้ใส่ถ่านไฟดำแล้วให้อธิษฐานเอาไปไว้ให้กากิน ครั้นว่ากากินจับห่อเข้าเปลือก นน้ั ดีนักแล ครั้นวา่ กาจบั หอ่ หมากถัว่ นนั้ พอประมาณ ครนั้ ว่ากาจับห่อถา่ นไฟน้นั บ่ดแี ลฯฯ ๒๗) ประการ ๑ ครนั้ วา่ จักไปตอ่ สงครามนนั้ ให้ปน้ั ข้าว ๓ ป้ัน ป้นั ๑ ใหป้ ้นั รูปราชสหี ์ ปัน้ ๑ ป้ันรปู ช้าง ป้นั ๑ ป้ันรูปม้า แล้วอธิษฐานใหไ้ ปไว้ให้กากิน คร้ันกากินจบั รูปราชสีหน์ นั้ ดแี ก่ทา่ นแล ครนั้ กา กนิ รูปชา้ งรูปม้านนั้ บด่ ี ครน้ั ทา่ นอาจารย์เจ้ากส็ งั ขยาอนั น้ีไว้เพอื่ ไว้ใหค้ นท้งั หลายไดก้ บั ตามอนั จักกระทำมงั คล กรรมฝงู น้นั แล กรรมอนั เป็นมงั คละน้นั พลอยเอาอวมังคละนนั้ พลอยเอาอวมงั คละน้นั มาสูรกบ็ ด่ ี กรรมอนั เปน็ อวมงั คละนั้นพลอยเอาไชยยะมาสรู ก็บ่ดี ครนั้ กระทำผิดจากฮตี คองสนั นั้นกบ็ เ่ ป็นเหตุใหจ้ บิ หายแล คร้นั ตามฮตี คองสนั นนั้ ก็วุฒจิ ำเรญิ แกบ่ ้านเมืองสบื ๆ ไป ภายหนา้ ผู้มีพละกอ่ นเปรียบเทยี บยงั คมั ภรี เ์ กยยะ อันนไ้ี วเ้ ทนิ กรยิ ากล่าวจา หอ้ งโลกวถานาสงั ขยาอนั ยอ่ แคบกแ็ ล้วเทา่ น้กี ่อนแล ฯ ๒๙) ไชยะตุวัง นิ ยายะทำนวายแหง่ โบราณจารยเ์ จ้าทั้งหลายอนั กฎหมายไวใ้ ห้เหน็ ในใบลานด้วย นิทานแห่งคนทง้ั หลายกเ็ กดิ มาใน ๗ วัน เราเพิงรู้ดงั น้เี ทนิ บุคคละหญงิ ชายผู้เกิดมาในวันอาทติ ยน์ น้ั มักจุตติจากบพุ พวิเทหาทพิ ย์ ไดม้ าเกดิ ในเมืองกะลิงกราช แล เมืองราชคฤกหา ในชมพูทวีปน้ี ทัวระเทียวไปมาด้วยในวันอาทิตย์นั้นมันมานะ กล้าแข็ง ก็มีศาสตร์นั้นแล ประโยชนะด้วยซ้ีนปลาแห้งเป็นอาหารแล เกิดมาพ้นท้องแม่ได้ ๖ ปี นั้นก็จิงมักได้เจ็บยังท่ีตีนแลมือนั้นแล 107

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานเม่อื อายุได้ ๒๒ ปี น้นั กม็ กั ไดก้ ระทำมิจฉาจาร กับดว้ ยเมียท่าน เม่อื ได้ ๔๖ ปีน้นั กม็ กั ได้ถืกตอ้ งยงั ภัยท้งั หลาย ตา่ งๆ ได้ ๕๒ ปกี ็จงิ บรบวรด้วยข้าวของสมบัตแิ ลสัตว์ ๔ ตนี นั้นแล คร้นั อายุได้ ๖๖ ปี หัน้ จกั ม้างจากอายขุ นั ธ์ เสย้ี งแล ครน้ั ล้ำนั้นไปได้ ๘๓ ปีนนั้ กจ็ ุตตติ ายแล บุคคละผู้ใดเกิดวันจันทร์ มันมาแต่ชมพูทวีปอันเป็นที่พระเจ้าเกิดมา ๕ ตนนี้ก็มีปัสสาทาสมากนัก ประสงค์ศาสตรศิลป์ ศลิ ปส์ ิปป์คณุ ปาสสามลมืนทนื บม่ มี านะกลา้ แขง็ คำเคยี ดเทียรยอ่ มกล่าวคำอนั เป็นคุรภุ วะ มีใจประสงค์ด้วยกองบุญแล มันเกิดมาได้ ๔ ปี นั้นมันได้ไข้พยาธิแล ได้ ๑๖ ปีนั้นก็จักได้ข้าวของสมบัติแล ได้ ๒๓ ปีน้นั มกั ไดถ้ กื ต้องอนั ท่านผกู มดั แลจงใหเ้ จียมเทนิ ตั้งแตอ่ ายไุ ปเถิง ๔๐ ปนี ั้นก็จกั ได้สมบัติชะแลตง้ั แต่ อายุ ๔๒ ปี ไปเถงิ ๕๐ ปี น้ันจิงให้เจียมดหี ลเี ทิน ตง้ั แตอ่ ายุ ๕๒ ปี ไปเถิง ๖๖ ปีน้นั ก็จกั ได้ขา้ วของสมบัติชะแล อายุได้ ๗๐ ปนี ัน้ ขนั ธ์จักเส้ียงห้นั แล ลำ้ น้นั ไปเถงิ ๗๒ ปี ตาย บุคคละผู้ใดเกิดมาในวันอังคารน้ัน จุตติจากอมรโคยาทวีปแล้วแล ได้เมือเกิดช้ันฟ้าจาตูมมหาราชิกา ตายแล้วก็ได้ลงมาเกิดในชุมพูทวีป เฮาน้ีก็มีคำโลภด้วยคำกินมากนักแล เหตุว่ามันได้เสวยของทิพย์แต่ภว ภายหลังน้ันมากแล กล้าแลแข็งมักมีประโยชนะด้วยข้าวของมากผู้หญิงก็มีผัวผู้เดียว แม้นผู้ชายก็มีเมียผู้เดียว นั้นกบ็ ่ถกื ใจแลเกิดพน้ ทอ้ งแมไ่ ด้ ๓ ปี นั้นก็ซางไข้ตนี มือกม็ ักซนั สา่ ยแล ต้งั อายไุ ด้ ๑๕ ปี ไปเถงิ ๕ ปีข้าวของ เทีย่ งว่าได้น้ันมาต้ังแต่ ๒๖ ปี ไปไปเถิง ๓๐ ปี คำอิดพู ่อแลแม่ แตอ่ ายุได้ ๓๕ ปีนั้นจักประกอบสมบตั เิ ที่ยงแท้ แลมันมักเสียกับด้วยมิตรผู้ถ่อยฮ้ายแล อายุได้ ๖๖ ได้ปีน้ันขันธ์จักม้างเสียห้ันแล ว่าล้ำนั้นก็จักอยู่ ๗ ปี หมด หัน้ แล บุคคละผใู้ ดเกดิ มาในวนั ๔ (พุธ) น้ันจากอดุ รมาแล อายุได้ ๖๖ ปี ขันธจากมาเสี้ยงหั้นแลครนั้ ล้ำนน้ั ไปก็จกั เส้ียง ๗๘ ปี ห้ันแล บคุ คละผูใ้ ดเกิดมาได้วนั ๕ นน้ั อายยุ นื ได้ ๖๗ ปี จกั เส้ยี งหมดหนั้ แล ผู้ใดเกิดมาได้วัน ๖ นั้นจุตติจากอุดร คุรุทวีปพุ้น มาเกิดเมื่อได้ ๗๖ ปีน้ันก็จักเส้ียงอายุขันธ์หั้นแล ครน้ั วา่ ล้ำนนั้ ไปหนา้ กจ็ กั ไดอ้ ยดู่ ้วยแถมอายุได้ ๙๖ นั้นหมดห้นั แล บุคคละผู้ใดมันเกิดมาในวันเสาร์นั้น มันจุติจากบุพพวิเทห์ทิพย์ก้ำวันออก มาเกิดในชมพูทวีปน้ีแล อายยุ นื ได้ ๘๐ ปหี มดห้นั แล สัมปัทธัสสะ สวัสสะดี นิฏฐิต กล่าวพรรณนาจาด้วยมูลขึดอันเป็นคำส่ังสอนคนท้ังหลายให้ฮู้ตามคำ ปฏิบัติฮีตคองฆารวาสเหย้าเฮือนอย่างใดอย่างหนึ่ง คือ กระทำการวิวาหา วิวาโห คือการส่งบ่าวแลสาวแล สาวตามอันควรแล บ่ควรแล การซ้ือช้างงัวควายแลซื้อม้าใช้สอยตามแต่อันควรแลบ่ควรก็ดีแล การสอนเป็น มังคละแลอวมังคละกด็ ีแล กจิ การอย่างใดอยา่ งหนึ่งคอื อันควรแลบค่ วรไวส้ ั่งสอนคนทัง้ หลายก็จงพากนั จำจอ่ื ไว้ เพื่อจักปฏิบัติตามสืบไปภายหน้าก็เสด็จบรบวรควรแล้วเท่านี้ก่อนแล อาตมาภาพขอจงมีความดีแลความงาม แกอ่ าตมาผู้มศี รัทธาเลอ่ื มใสได้ลงมอื ขดี เขียนไว้ ขอให้ได้ดงั คำมักคำประสงค์สูป่ ระการเทิน ทุวงั ทวุ งั นพั พานิ บรบวร สกุ ขัง โหตุ 108

คำสอน : เรือนอสี าน ณรงค์ศกั ด์ิ ราวะรินทร์ สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานการขุดถมก่อสรา้ งเฮือนตา่ งๆ  อันหนงึ่ น้ำบอ่ แกว้ ทัง้ หม่ฮู ูเลา กด็ ี คันว่าใผไปถมสร้างเฮือนกวมไว้ ก็จะจบิ หายแท้ บม่ นิ านจติ ายจมุ่ ไปแลว้ อนั นธี้ รรมกลา่ วหา้ ม ก็อย่าไดล้ ่วงคองแทด้ าย  อนั หน่งึ คนั มีไม้เป็นตอลำใหญ่ ขดุ ถิม้ แปงแล้วฮาบงาม แลว้ เล่าปลกู เฮือนตงั้ กวม ขุดตอใหญข่ วางขนาดแท้ จบิ หายเสย้ี งซอู่ นั แลว้  อนั ว่าจอมปลวกน้นั ขุดกน่ หนีเสยี ก็ดี แล้วเลา่ ปลกู เฮือนกวมบด่ ี ขวางฮา้ ย  อันหนึ่งสระหนองนนั้ มีมาแต่เซน่ เก่า ถมใหง้ ามฮาบเกลยี้ งปลกู เฮอื นสรา้ งก็บ่ดี  อนั หนง่ึ เฮอื นสองหลงั แลว้ เอามาเปน็ หลงั หนงึ่ กด็ ี ก็หากขวางขนาดแท้ คำไฮบ้ เ่ หือดเฮอื นน้ันแล้ว อนั หนึ่งเปน็ เฮอื นแล้ว พอยเลวลงมาแปงตูบสันนน้ั แมน้ ว่าจะซอ้ื ม้าควายช้างกบ็ ่ดแี ทด้ าย ชาติทิโทหลวงแสงใสเฮืองฮุง่ บ่ห่อนแปพลกิ ปน้ิ เปน็ แก้วหน่วยดาวนัน้ ดาย 109

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานขอ้ หา้ มของหญงิ มีครรภ์ เฮือนใดมหี ญิงผ้ถู ือพาคัพภวกี บค่ วรตกแต่งสร้างบุญกวา้ งบวชเณร สร้างกฐินพรอ้ มสร้างศาลาอัฒจนั ทรใ์ หญ่กด็ ี พระธรรมห้ามไว้กอ็ ย่าไดส้ ร้างแปงแท้ดาย อันหนึง่ สร้างขวั พรอ้ มให้ลูกบวชเป็นเณรกด็ ี กห็ ากในธรรมสอนวา่ บ่เปน็ นาเจา้ อนั หนง่ึ สร้างกระฎีพร้อมอารามพระธาตุใหญก่ ด็ ีนนั้ กับทัง้ สรา้ งพระพทุ ธรปู เจ้าฝงู นีว้ ่าบ่เป็นแท้แล้ว กบั ทง้ั เอาเขาให้เปน็ ผวั เมียสมสู่กันนัน้ ว่าจะเสยี ปยู่ า่ พรอ้ มตานายพ่อแมข่ านนั้ ดาย อนั หนึ่งอย่าได้ซื้อชา้ งม้าฝูงหมู่งวั ควาย ทั้งหญิงชายอย่าใหเ้ อามาแท้ ฝงู นี้ในธรรมหา้ มจะจิบหายทกุ สิ่งจงิ ดาย ใหพ้ ากันจอ่ื ไว้เว้าซ่เู มืองน้ันเนอ อันว่าคำปากพระพทุ ธเจ้านีห้ นักเกิ่งธรณแี ท้ดาย ใหค้ อยพากันฟงั จอื่ จงิ จำหมัน้ ข้อห้ามของผูอ้ ายุนอ้ ย อันหนง่ึ ใผผยู้ งั บญุ นอ้ ยบค่ วรสรา้ งทุงดอกคำเจา้ เอย กบั ทัง้ ฝูงเจดยี บ์ ค่ วรกระทำสร้าง อนั หนง่ึ ขุดวดิ พรอ้ มสร้างหีบใหเ้ ป็นทานก็ดี บแ่ ม่นแนวคนฮามสรา้ งแปงจงิ แท้ ก็จะมรณาลม้ ตายไปบห่ มดชาติ อายยุ ังหนุ่มน้อยพระธรรมห้ามอยา่ สร้างแปงแทด้ าย ใผผยู้ งั ดน้ สรา้ งก็ผดิ ธรรมสอนโลกจงิ ดาย เป็นคองครุ ฮุ า้ ยหนกั แท้เกงิ่ สะเมรนุ ้ันแล้ว ชาตทิ เี่ ดินไกลหลางนำทางให้ถามตอ่ ไปดาย อย่าไดว้ ดั ชื่อแท้สิคาปา่ หนั่ เจ้าเฮย (ธรรมดาสอนโลก วดั สระทอง บา้ นทนั ) ลกั ษณะไมอ้ ปั มงคล อันหนงึ่ เฮาจะฌานตัง้ อยู่สนั นั้น เฮาจะเวา้ ใหแ้ จง้ พระธรรมเจ้าปานแปล อนั วา่ ไปหาไม้ปลกู เฮือนคองวา่ ง่ายนนั้ ลือ 110

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานไม้บเ่ ป็นประโยชน์แท้ก็ขวางฮ้ายเกิดโพยแท้แล้ว อันหนึ่งคนั เอาไมก้ ลางวสั สาฝนท่อง มาสร้างหอ้ งเฮอื นเหยา้ อยูบ่ ่ดแี ทด้ าย น้นั จะจบิ หายเสย้ี งของเฮอื นทกุ ส่ิงจงิ แล้ว หากคอยถอ่ ยต่ำคล้อยลงแทก้ ็บ่เห็นนั้นดาย อันหนง่ึ ไมเ้ กดิ ตั้งจมู ปลวกเทิงจอมก็ดี ใผผู้เอาแปงเฮยี นกบ็ ่ดจี ิงแท้ อนั หนง่ึ ลกุ โขไม้จมดนิ ฝังอยู่กด็ ี ใผหากเอามาสรา้ งเหยา้ ก็ขวางแท้เที่ยงจริง อันหนึ่งลุกโขไม้นอนคอนล้มทา่ ว ใผเอามาสร้างเหยา้ จิบหายเสย้ี งสงิ่ ของแท้แลว้ อันหนึง่ ลุกโขไมอ้ ยู่น้ำก็ขวางยิ่งหนักหนา มันจะเปน็ ลำงามก็อย่าเอามาสร้าง อนั วา่ ไม้ฟา้ ผ่านนั้ กข็ วางยิ่งแสนถนดั แท้แลว้ อย่าไดเ้ อามาเปน็ เครอ่ื งเฮอื นกระทำสร้าง อันหนง่ึ ลกุ โขไม้ตายยนื ต้งั อย่กู ด็ ี ก็หากขวางยิ่งลำ้ คำไฮ้บเ่ หอื ดคีงนั้นแล้ว อนั หนึ่งไม้ตายแลว้ ลม้ อยู่เปน็ ขอนกด็ ี อยา่ ได้เอามาแปงสรา้ งเฮยี นกระทำเหยา้ อนั หน่ึงลุกโขไมเ้ ปน็ โกนก็ขวางยง่ิ จิงดาย ธรรมหากไขกลา่ วห้ามกอ็ ยา่ ได้ลว่ งคองนน้ั เนอ อันหน่งึ ลุกโขไม้เปน็ ง่ามหางปลาน้ันนา กบั ท้งั สุริโยผันผา่ ไปก็ขวางแท้ กับทง้ั ลกุ โขไมเ้ ครือเขาเก้ียวกอดดงั นั้น ก็บเ่ ป็นทจี่ ั้งเอาแท้สร้างเฮือน อันหนงึ่ ลุกโขไม้ใกลเ้ สอื้ หลกั เมือง ก็บ่ควรไปถางถากฟนั เพม้าง เอามาสร้างเฮอื นชานแปงอยู่ มนั หากขวางขนาดล้ำคำไข้บเ่ หอื ดคีงแทด้ าย อันหนึ่งลกุ โขไม้ใกลห้ อไฮห่ อนากด็ ี ก็บค่ วรเอามาสร้างเฮอื นแปงเหยา้ 111

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสาน อันหนง่ึ ลกุ โขไม้สกี นั ดังอยูก่ ็ดี (ธรรมดาสอนโลก วัดสระทอง บา้ นทนั ) จะมาทำเครอ่ื งเหยา้ อนั ใดแทก้ ็บเ่ ปน็ เจ้าเฮย แม้นว่าฝงู หมูไ่ มอ้ ันเฮากลา่ วไขมาดงั นี้ จะเอามาทำการอนั ใดกบ็ ่เป็นจงิ แท้ จะเอาทำกระฎีสรา้ งอารามหลวงแลผาม(ปะรำ)ใหญก่ ็ดี กจ็ ะแพผ้ ใู้ หญแ่ ทค้ ดู่ า้ นผู้อยู่ทรง คันจะแปงขัวให้คนทั้งหลายเทียวไตก่ ็ดี มันจแิ พพ้ อ่ บ้านจถิ อ่ ยหลุย่ ตำ่ ลงแทด้ าย ฟังเอาท้อนทั้งหลายเอยจำจือ่ เอาเทิน ฝงู น้ธี รรมหากหา้ มเสยี แล้วอยา่ ด้นแท้ดาย อันว่าไม้สง่ิ อืน่ นนั้ กค็ วรอย่พู อประสมแท้ดาย ไม้หากเอาแปงเฮือนกห็ ากพอดีฮ้าย อนั นี้มชั ฌมิ าแท้พออยูป่ านกลางน้นั ดาย อันใหเ้ ถิงมหาอุตมก์ ็บเ่ ป็นนาเจ้า ลกั ษณะไมม้ งคล อันวา่ เคหงั ห้องอุตมังประเสรฐิ ย่งิ จงิ แลว้ เฮาจะสอนสัง่ ให้ท้ังหลายแจง้ จอื่ เอานั้นเนอ ลำใดตง้ั เหนอื ดินเพยี งฮาบดังน้นั บส่ ูงบ่ต่ำคลอ้ ยไปแทฝ้ า่ ยใด ใบมนั น้ันบ่คงุ เคืองตน้ อ่ืน ลำปลอดเกลย้ี งงามดั้วดงั งา ชุมหลิงดูแทค้ ือสมก้งั ฮม่ ก็บ่มหี ง่าก้านตายคา้ งอย่แู กม ใหม้ มี ดส้มพรอ้ มดำแดงทกุ สิ่ง มาอยเู่ ฮอื้ ลำนนั้ อเนกนอง มีทงั้ นกพร่ำพร้อมมาอยูน่ อนคอน ลำน้เี ปน็ มุงคนุ ประเสริฐดเี สาแก้ว ลำน้ีควรท่ีเอามาให้เปน็ แฮงดี ขนาดแทเ้ ฮือนแก้วเศรษฐีนนั้ แล้ว อนั ว่าเสาขวญั ให้หาลำอันหน่งึ ลำนี้ยากยง่ิ แท้นาเจา้ ให้คอยเพยี รนนั้ เทิน ลำใดต้งั ดินสูงพอสนอ่ ยดินน้ัน คอยซกู ำ้ สูงแท้ท่ีกลางสูง 112

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสาน บอ่ นตน้ ไมอ้ ยพู่ อประสม บ่มีลำใดซนุ หง่าใบพอต้อง เป็นลำดั้วสูงไปพน้ เพนิ่ บ่มใี บก่งิ ก้านตายแท้ชมุ่ เย็น พอเมอื่ ลมสงดั แล้วเฮาคอยเยี่ยมเบงิ่ อย่นู ้ัน ๑๑๓ ใบหน่ึงติงอยบู่ ่แลว้ ลำน้ันประเสริฐดีมากแล้ว ควรท่ีเอามาใหเ้ ปน็ เสาขวัญซาซงั กนั ดาย อนั วา่ เสาหมู่นน้ั ตามท้อนแตซ่ ่างเอาหั่นท้อน อันน้ีอตุ ตะมงั แท้เป็นเฮือนเศรษฐใี หญ่จิงแล้ว แสนจะทกุ ข์ขนาดไฮก้ ็เลยลำ้ มงั มูนแทด้ าย อนั ใดนนั้ โดยตนดชี อบใหท้ ำเที่ยงแทต้ ามเจ้าเทศนาเนอ บัดนย้ี ตุ กิ าไว้จกั จาบัน้ ใหม่กอ่ นแล้วพระยาทง้ั หลายใหจ้ อ่ื แจ้งจำหม้ันอยา่ ลมื แท้ดาย (ธรรมดาสอนโลก วัดสระทอง บา้ นทัน) วถิ ีการเลือกค่สู ูเ่ หย้าเฮือน อันวา่ สัปปรุ สิ าเชอ้ื แนวคนเมอื งลมุ่ เฮานี้ จะใหเ้ ขาเป็นคู่แก้วกันให้หลำ่ ดูแทด้ าย คันว่าปติ าแก้วมาดาพอ่ แม่ขานั้น ยงั พรำ่ พร้อมทัง้ สองข้างก็ควรแท้ แต่งคองแทแ้ ล้ว ฮตี หากมสี นั ใดให้กระทำตามทุกส่งิ อยา่ ไดไ้ ลละมา้ งคองด้ำฮตี ผแี ท้ดาย อยา่ ไดเ้ หน็ แก่หนา้ อิดูตนลง่ึ แก่นนน้ั ดาย ให้แม่นใจแมด่ ำ้ ผีเฮือนน้ันก็จงิ ดีแท้แลว้ คันวา่ เฮ็ดรปู ลวงมักงา่ ยคองผดี งั นน้ั บ่ได้มาวาจาต่อเฮาคำแจง้ มนั จะขวางขาแทผ้ วั เมยี สมสู่กนั ดาย บต่ ายก็เล่าฮา้ งทำสร้างกบ็ ่เฮืองนัน้ แลว้ บ่ดังนน้ั จะขวางหมูง่ ัวควาย ทงั้ ปิตามาดาบ่หมัน้ ยืนเถิงเฒา่ หากซา่ งเป็นการฮอ้ นหนาวเยน็ เจ็บปวดไปแล้ว เพิ่นว่าบ่ทำชอบดำ้ ผเี ฮอื นนั้นหากซ่างเป็นแท้ดาย ควรให้เอาตามเฒ่าบูฮานต้ังแต่งมาดาย คันว่าจะโผดเสีย้ งพายท้ายจิงคอยขึ้นหั้นทอ้ น อนั หน่ึงหญงิ ชายนน้ั เปน็ กำพอยเสยี พรากกนั น้ัน 113

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานพ่อแม่ขามง่ิ เมีย้ นตายแท้ดังกนั อนั นบี้ ค่ วรให้เอากันเปน็ คพู่ ระยาเอย (ธรรมดาสอนโลก วัดสระทอง บา้ นทนั ) ซคู่ นซ่เู ปน็ กำพรา้ ก็ขวางแท้บ่ดแี ทด้ าย คนั ว่าขาหากยงั ลื่นถ้อยจะเอากนั บอ่ ย่าสนั น้นั ให้ลงปลูกตบู ตั้งกลางบา้ นจิงสู่ขวญั น้ันเทนิ แลว้ ใหส้ มมาเจ้าวงศาเฒา่ แก่ ให้พร้อมมังคละแล้วจงิ เขา้ ข้ึนเฮือนน้นั เนอ คนั วา่ ทำขวญั ให้ในเฮอื นกข็ วางย่ิงจิงแลว้ มนั จะฮ้อนเผาเชอ้ื งัวควายมิ่งมรณ์ขาน้นั คันบ่เป็นหน่วยแท้กฮ็ า้ งเปล่าหนีกนั นัน้ ดาย ขาจะทำการใดบฮ่ ุ่งใสเฮอื งได้ อันหนึ่งทางซ้ายน้ันปติ าตายจาก หญิงผูน้ ้นั ปิตาเฒ่าก็เล่าตาย ขานกี้ ็บ่ควรสมสรา้ งดอมกนั เป็นคู่ จะเดือดร้อนพงศ์เชอ้ื ลกู หลาน ฝูงหม่ชู าวเมืองพรอ้ มงวั ควายสัตว์ส่ิงกด็ ี ฮอ้ นเดือดไหม้ซู่อนั แท้ก็เพื่อขาน้นั แลว้ อันหน่งึ ทางชายนน้ั ตายเสียตนพอ่ หญิงผ้นู น้ั มาดาแกว้ ก็เล่าตายดังนน้ั ขาหากเอากนั แทค้ ันบ่ตายก็ฮ้างเปลา่ จิงแล้ว ก็บ่ชอบทหี่ อ้ งพระธรรมเจ้ากลา่ วมา เกรงจะเสียบุตรนี อ้ ยหญิงชายลกู อ่อน ขานั้นอนั จะทำสืบสร้างเมืองเหย้ากบ็ เ่ ฮอื ง ซู่คนซ่ทู ุกขไ์ ฮเ้ อากันนับม้ือชวั่ ไปดาย เบอื้ งหน่งึ มีเบือ้ งหนึง่ ไฮป้ านนั้นกจ็ ิงแคลน อนั นี้ในธรรมเจา้ ธรรมดาสอนโลกจงิ ดาย พระยาจงจำจือ่ ไว้เอาทอ้ นอย่าหลง การเฮือน การซาน - ผัวใหม้ เี มียเปน็ คูก่ ันเนอ อย่าไดป้ ะไปฮ้างชาวบา้ นเพิ่นสิเตียน มีเกใหม้ ีกาเป็นคูก่ นั นั้น เกลอื บม่ ีคา้ งเหย้า ใหส้ มสเิ ปลา่ เฮือน อันนี้ฮีตหากต้ังมาแต่บพุ เพ 114

คนิงภายหลังกอ่ เฮือนแปงเหยา้ มีเหลก็ ให้หาหนิ ไวฮ้ องดนี ้ัน มีปากฟนั บ่พรอ้ ม แสนสิหยำ่ กบ็ ่ยัง มีเฮอื นแลว้ เคหงั แปนเปลา่ เฮอื นบ่มพี ่อเหย้าใผสิสร้างสืบมูล สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสาน (ปสู่ อนหลาน วดั สระทอง บ้านทัน) - หญิงใดบริสุทธแิ์ ท้ แพงตัวเสมอหญงิ (ป่สู อนหลาน วัดสระทอง บา้ นทัน) บไ่ ด้ฟูมซากฮา้ ยเชงิ ชู้เสพสม (ปสู่ อนหลาน วดั สระทอง บา้ นทัน) หากอยู่หากสร้าง ตกแตง่ การเฮือน บ่ได้โทเลค่ัวเทยี วเฮกลางบ้าน (ปสู่ อนหลาน วดั สระทอง บา้ นทนั ) คนั วา่ มันจาตา้ นหวานหมู มี ว่ น ฝูงหม่คู นผู้ฮู้เขายอ้ งว่าดี ชาติทอี่ าจารยเ์ จา้ พลอยหาผ้ปู ระเสรฐิ ดีดาย บไ่ ดเ้ ปน็ ดงั ชายผฮู้ า้ ยบายไดห้ ม่อมือเจ้าเฮย - หญงิ ใดเนาสถานหอ้ งเฮือนตนมีวาดดงั นั้น มนั บ่ไปเทียวบ้านแผนหนา้ ฮอใผ หญิงน้ันเป็นดังหมอ้ นิลบาง ทางใกล้เซ็งซาจงิ แล้ว ใผผูไ้ ดอ้ ยู่ซ้อนบม่ ไี ฮ้เยอื้ งใด หากจักขนขวายได้ เป็นดีทกุ เยื่อง นับมื้อใสสง่ิ แกว้ บม่ ีเศรา้ ดงั ทอง - หญงิ ใดทำกระบวนไว้ พอสะงาวห่อนคลอ่ งคอื น้นั มนั บเ่ ฮ็ดลืน่ ดา้ มเหลือล้นแพงพิมพ์ กท็ ่อจติ ต่อต้งั หาเวียกการเฮอื น บห่ อ่ นไปราวีแก่ใผเฟอื นฟื้น มนั บโ่ กรธาเค่ยี วผวั ขวัญป้อยดา่ หญิงน้นั เทเวศเจ้าเทงิ ฟา้ ซ่อยชู คนั ว่าชายใดได้อย่าไลปะปล่อย หญงิ นัน้ เป็นดงั ฝนหา่ แกว้ ลงลา้ งสว่ ยเลงิ เจ้าเฮย 115

- หญงิ ใดจงใจเมย้ี นสนิทดแี วนแจบ ของใดควรประเสรฐิ แทถ้ นอมไวท้ ่ีดี มอี นั ใดไวแ้ วนดีปดั กวาดที่น่งั ไวแ้ วนเกลยี้ งเปลา่ แปน หญิงน้นั เทวดาเฝ้าแสนองคป์ อ้ งปลูก ก็จกั มีมากล้นลือไฮฮ้ งั่ มี ชายใดไดเ้ ทียมขวัญแขนขอด กจ็ ักยูอ้ ยสู่ ร้างเฮอื นเหย้าชมุ่ เย็นเจา้ เฮย สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสาน (สอนหญงิ วดั สระทอง บา้ นทนั ) - ชายใดใจบญุ สร้างมหาทานทกุ สง่ิ (สอนชาย วัดสระทอง บ้านทัน) ศลี ๕ คา้ งในเน้อื ซวู่ นั (สอนชาย วดั สระทอง บ้านทัน) แม้นวา่ จกั ทำการสร้างเฮอื นกนิ พอชวั่ ฝูงหมูฮ่ ้ฮู ีตน้อยชาวบ้านฮ่ำเฮยี น (สอนชาย วัดสระทอง บ้านทนั ) วนั ยามฮคู้ องดีอยู่แต่ง (สอนชาย วัดสระทอง บ้านทนั ) บใ่ ห้เคืองเหตุฮ้อนคำแค้นเย่อื งใด - ใหน้ ้องเลือกหมู่ไมล้ ำดั้วจงิ ดี อันนี้พกี่ ็บอกใหฮ้ ู้ยังฮอ่ มคำคดึ ชาตทิ ีเ่ ป็นแนวคนบห่ ่อนเยื้อนหาฮา้ ย - ชายใดฮตู้ ้งั แตง่ ข้าวา่ การเฮือน มนั กระทำเพียรสานตา่ เซอบุงซ้า หลาไนพร้อมกวักเปอื สัพพะสง่ิ แหแลซอ้ นไซซอ่ นซดู ซวง สัพพะสรรค์พร้อมลงิ ลาย สัพพะสร้างตา่ งๆ นน้ั กระทำสร้างถ่ินสวน ชายนี้มใี จสงวนสร้าง การเฮือนเถงิ ขนาด หญงิ ใดอย่ซู ้อนคำไฮบ้ ่ห่อนมี - ชายใดโถงกนิ เหล้าเมาเฮฮ้องโฮ่ เพง้ เพง้ ฮ้ายเสียงเวา้ ฮืดฮือ การเฮอื นครา้ นเฮนอนบ่หาเมือ่ ฮงุ่ คำ่ เชา้ เฮเล่นแต่สาว 116

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสาน ตำราสร้างเรือนอีสาน ฉบับวดั บ้านดอนยม ณรงค์ศกั ด์ิ ราวะรนิ ทร์ การทำกระได ถา้ จะทำกระไดขนึ้ เรือน ถา้ กระไดยาวเท่ากันมดิ ี ยาวนว้ิ หนึ่ง จะตาย ๒ นิว้ จะมลี ูกหลาย ๓ นว้ิ จะมงี วั ควายมาก ๔ น้วิ จะมีเงนิ ทองมาก ๕ นิ้ว จะมีสมบัติมาก ๖ นวิ้ จะจิบหาย ยาวกวา่ น้ันมดิ เี ลยฯ การขดุ เสาแฮก ถ้าผใู้ ดขดุ เสาแฮกเปน็ ๓ เหลยี่ มจะไดโ้ ภชนะอาหารทรพั ยจ์ ะเกิดทรัพย์สินเงนิ ทอง ถา้ ขุดเสาเปน็ ๔ เหล่ยี มแลกลมมิดี ถ้าขดุ เสาแฮกพบเงินตกกด็ ี ท่านฝงั ไวก้ ด็ ี จะเกิดสมบัตดิ นี กั ถ้าพบตะกว่ั จะมขี ้าคน ถ้าพบมีดพร้าถาดทองจะเกดิ ทรพั ยข์ า้ วของท้าวพระยา จะใหล้ าภ ถ้าพบแฮ่ทรายอยู่เย็นใจ ทองแดงจะเกิดถอ้ ยความ ถา้ พบถ่านไฟจะไข้เจ็บ ถา้ พบหลักตอตาไม้จะจากเจ้าเรือน มดิ แี ล การดแู ผ่นดินสูง-ต่ำ สำหรับสรา้ งเรอื น จักต้ังบา้ นท่ใี ดกด็ ี ผแิ ผน่ ดินทใี่ ดสูงหนใต้ ต่ำหนเหนอื ที่นน้ั ชอ่ื วา่ ไชยยะเตชะดีฯ ผิสูงหนวันตก ต่ำหนวันออก ที่นั้นชือ่ วา่ ยัสสะมารณาแลฯ ผิสงู พายัพ ต่ำทกั ขนิ ท่ีนัน้ ชื่อว่าสงั ขาแลฯ ผสิ งู บวั รัพพา ต่ำปัสสมิ ทีน่ ัน้ ช่ือว่าอายุรัสสมารณาแลฯ ผสิ งู อสี าน ต่ำหรดี ชอื่ ว่ายสั สนี อ้ี ย่บู ด่ แี ล ผิสงู อาคเนย์ ตำ่ พายัพ ชื่อว่าเตโชบ้านเมืองนนั้ บด่ ี จักเป็นพยาธฮิ อ้ นใจ ไฟจกั ไหม้แล้วฯ 117

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานทิศของสระนำ้ ผบิ า้ นมนี ำ้ บน่ ้ำสระ อยกู่ ำ้ วนั อาคเนย์ บ้านน้นั ย่อมผดิ กนั แมนว่าคนเรอื นเดียวก็ผดิ กนั บ่ดีแล อยกู่ ้ำทกั ขนิ แลหรดยี ่อม มสี ุขสำราญเป็นดงั ได้กนิ น้ำอากาศนน้ั แลฯ อยูก่ ำ้ ปสั สมิ คนจักเจ็บบ่ดแี ลฯอยู่หนเหนอื เลย้ี งสตั ว์ ๔ ตนี ๒ ตีนบ่ดีแลฯ ลักษณะจอมปลวก ผิว่าจอมปลวกใกลบ้ ้านใกลเ้ รือนกด็ ี อยหู่ นอาคเนย์ ไฟจักไหมบ้ ด่ แี ลฯ อยู่ก้ำทักขนิ จักเสียของท่านจักผตู้ ิบ่ดแี ลฯ อยู่ก้ำเบ้อื งหรดี มักเปน็ ความแลฯ อยู่ปัสสิม ลกู หลานหลายดีแลฯ อยู่พายัพ ดแี ลฯ อยู่อุดร ทา่ นมักให้ของบ่ขาดแลฯ อยู่อีสาน ท้าวพระยาจักใหเ้ ปน็ ใหญด่ แี ลฯ อยบู่ ัวรัพพา มีอายหุ มนั้ ยืน มีเตชะอานภุ าพดนี ักแลฯ ผิว่าไว้เรือนก้ำวันออกหลายมีเตชะอานุภาพแลฯ ไว้หนวันตกหลายมีอายุยืนแลฯ ไว้ก้ำเหนือหลายมี ข้าวของมากแลฯไว้ก้ำใต้ หลายมีอายุสั้นแลฯ ลกั ษณะแอก ๕ ประการ (การไมเ่ ปน็ มงคล) อันวา่ แอกนั้นมี ๕ ประการแลฯ ไมต้ ้นใดใกล้บ้านใกล้เรอื นเป็น ฮปู คน ฮูปราหู ฮูปจีแข้ ฮปู นาค ฮูปวอก บด่ ีแล ฯ 118

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานลักษณะกระแส ๙ ประการ (การไม่เปน็ มงคล) อนั ว่ากระแสนัน้ มี ๙ ประการ คือว่า แปงเรอื นที่สุดบา้ นบ่ดีแลฯ หนทางหลวงผ่ากลางบา้ นบ่ดีแลฯ บ้านเดียวเรอื น ๒ หลงั มายกันบด่ แี ลฯ เรอื นหลงั ใหญใ่ หเ้ ปน็ เรือนหลังน้อยบด่ ีแลฯ เรอื นสงู ตัดใหต้ ่ำบด่ ีแลฯ ต่าวปลายขอื่ ปลายแปบด่ แี ลฯ ขื่อใหญก่ ว่าเสาบด่ ีแลฯ เอาปลายเสาลงลมุ่ บ่ดแี ลฯ สัพพกำ้ ถันมาฮอมน้นั คือวา่ อยทู่ ี่น้ำไหลมาน้นั ๑ สายน้ำให้ถ่งั เพียงเรือนนน้ั ๑ ฯ แปวหว้ ยกดุ สายฮอ่ ง ไหลถง่ั เรอื นบด่ แี ล ลักษณะการแปงทวาร (แปงประต)ู (การไมเ่ ป็นมงคล) แปงทวารนัน้ มี ๔ ประการ แปงปักตูเรอื นใหญ่ ๑ แล ปกั ตบู ้านแล ปกั ตูเรือนเพยี งกันบด่ แี ล นอนเพยี งคีไฟบ่ดีแล ตน้ ไมร้ ปู บง้ิ อยหู่ อ้ งเรอื นบด่ ีแลฯ ลักษณะลาภมนตร์ ๒ ประการ (การไมเ่ ป็นมงคล) ลาภมนตรน์ น้ั มี ๒ ประการคือวา่ เรอื นหาว เรอื นดอกเอาไมค้ ้ำบ่ดีแลฯ ปลำ้ ไม้ทบั เรอื นบ่ดแี ลฯ ลักษณะถมสมุทร ๓ ประการ (การไมเ่ ปน็ มงคล) ถมสมุทรม๓ี ประการคือว่า ถมหว้ ยถมฮ่อง ถมส้าง ถมน้ำสระนำ้ บ่อแลว้ จงิ ปลูกเรือนกอมบ่ดีแลฯ เหตวุ ่าอยใู่ กล้แก้วท้ัง ๓ ดีแลฯ อยทู่ ่เี ทวดาบด่ ีแล 119

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานลกั ษณะขุดธรณี ๑ ประการ (การไม่เป็นมงคล) อนั วา่ ขุดธรณนี ้นั มี ๑ ประการคอื ว่า ขดุ คนั นาปลูกเรอื นบด่ แี ล ฯ ลักษณะตโิ ภ ๒ ประการ (การไมเ่ ปน็ มงคล) ตโิ ภนั้นมี ๒ ประการคอื ว่า ผกู โคมในบา้ นแขวนในบ้านบด่ ีแลฯ กัตโกทมุ มานน้ั ไม่ใหแ้ ปงธงุ แขวนใกล้เรอื นบ่ดแี ลฯ ลกั ษณะลาลักลำ (การไม่เป็นมงคล) อันวา่ ลาลกั ลำนัน้ เอาเรือนดีแลกกันบด่ แี ลฯ อันวา่ ปเทวาเถโรน้ัน เรอื นเกา่ แปงเกยออกใหมเ่ อาบด่ แี ลฯ ลกั ษณะสัพพะของเก่ามาโฮม อันว่าสัพพของเก่ามาโฮมนัน้ คือวา่ เรือนหลายหลงั มาเฮ็ดเดยี วบ่ดีแล อันว่าวนั ตาแรกลำนั้นคอื วา่ เรอื นหลัง ๑ อยูห่ วั บ้านก้ำหนงึ่ หลงั หนึ่งอยบู่ ้านก้ำหน่งึ แลกกนั บ่ดีแลฯ การพิจารณาเลอื กเสาขวญั ผิวา่ จกั เอาเสาขวัญใหพ้ จิ ารณาดูไม้ตน้ ใดเปน็ ฮปู วอก ฮปู แขนกนั แล ฮูปอาวธุ ทง้ั หลาย ฮปู หนทาง อยา่ เอา บ่ดีแล ผิไม้ตน้ ใดเป็น ฮปู หงส์ ฮปู เดอื น ฮปู งวั ดนี ักแลฯ 120

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานการพจิ ารณาเลือกเสาแฮก ผิจกั เอาเสาแฮก ใหเ้ อาลำงามส้วยปลาย ไมต้ ้นนนั้ ช่อื วา่ ไชยยะวฒุ แิ ล ลำใดกกใหญป่ ลายใหญ่ ทำกลางนอ้ ย อย่าเอา บด่ ีแลฯ ลำใดกกน้อยปลายน้อย ทำกลางใหญ่ ชือ่ วา่ กาลกิณี ไม้บ่ดฯี จักเอาให้เอาลำงามมียอด ทำกลางดีนกั แลฯ การตดั เสาแฮก ลกั ษณะตาไม้ ถ้าจักตดั เสาแฮกให้เอาเผียกแทก ทำแต่กกเท่าปลาย จิงมาหีกเป็น ๑๐ ส่วนเทิน ส่วนหน่ึงทา้ วพญามกั แล ส่วนถ้วน ๒ มตี าดปี ระกอบด้วยมติ รสหายแล ส่วนถ้วน ๓ มีตาจักได้โภชนะอาหารมากนกั แลฯ สว่ นถ้วน ๔ มตี าจักไขเ้ จ็บบ่ดีแลฯ สว่ นถ้วน ๕ มีตาฟ้าจกั ผ่าบ่ดีแลฯ สว่ นถ้วน ๖ มตี าจกั ได้งัวควายชา้ งม้าแลฯ สว่ นถ้วน ๗ มตี าท้าวพระยาจกั ฮักแลฯ สว่ นถว้ น ๘ มีตาจกั เสียขา้ วของบ่ดีฯ ส่วนถว้ น ๙ มีตาจกั ได้พรากจากท่ฮี ักบด่ ีแลฯ ส่วนถว้ น ๑๐ มตี าจักได้ไฮน่ าฮั้วสวนแลฯ ลกั ษณะตาไมอ้ กี นัยหน่ึง นัย ๑ ว่าเสาแฮกมตี า ๑๒ ตา ๓ ตา ๖ ตา ๙ ตา ๑๐ ตา ดี มากกว่า ๑๐ ตาแล ๕ ตา ๗ ตา ๘ ตา บ่ดีฯ การคำนวณความยาวเสา นยั หน่งึ ใหไ้ ดล้ ว่ งปิงขนึ้ ลว่ งกกเสาดีแล ผิว่าจักปกั ดวดแล สปิ นี แทกแตต่ ีนเสาไดค้ ่า ไดจ้ งิ ไดเ้ อาดา้ นนัน้ แทกกกเสาตามโสกอันนีว้ ่า “สุกโข โจโร สทิ ธิลาโภ มัจจ”ุ ฯ ดงั น้ีเทา่ สูตรจิงส่วิ ปงิ ปกั ดวดเทินฯ ผวิ า่ ปักดวดได้ สกุ โข สทิ ธลิ าโภ ดี ได้ โจโร มจั จุ บด่ ี แลฯ ผวิ ่าเรอื นทา้ วพญาแต่ตนี เสาข้นึ จปุ ิงยาวคา่ ใดไวด้ วดยาวศอก ๑ ดแี ลฯ ผิว่าเรอื นชาวเมอื งลุ่มยาวกว่าดวดคบื ๑ ดแี ล 121

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานลกั ษณะขื่อ แป ผวิ า่ ลกั ขณะขื่อแป ข่อื ๗ ศอก แป ๑๒ ศอก ช่อื ว่าพระหุทโญแล ขอื่ ๘ ศอก แป ๑๓ ศอกดแี ล ขือ่ ๑๒ ศอก แป ๓๗ ศอกกด็ ี ๔๐ ศอกชื่อวา่ สีหรกั ขาทา้ วพระยาอยดู่ ี มีไชสำนกั แล ขอื่ ๒ วา แป ๔ วาศอก บ่ดีแลฯ ข่อื ๓ ศอก แป ๙ ศอก ชอื่ ว่าสหี ารักแลฯ ข่ือ ๒ วาศอก แป ๔ วา ๓ ศอก ชอื่ ว่าคชรกั ษ์ดีแลฯ ขื่อ ๒ วาคืบ แป ๕ วาคืบ ชอื่ วา่ อสุ สะภรกั ษพ์ ่อค้าพ่อนา อยดู่ แี ลฯ ขอ่ื ๒ วา แป ๖ วา ๓ ศอก ขอื่ ๓ วาคืบ แลฯ ขอ่ื ๗ วา ๓ ศอกคืบ ชอ่ื วา่ คชรกั ษ์ สมณพราหมณ์ อยูด่ ีแลฯ คาถาทำน้ำมนตร์รดเสา “วะระขานะพทุ โธโสภะคะวา” ดงั น้ีคาถามนตรน์ ้ำหดเสาเรอื นแลฯ การขนครัวขึ้นเรือน เดอื นเจียง ออก ๒ คำ่ แรม ๒ ค่ำ วันใดก็ดี อยา่ ขนครัวข้นึ เรือนบ่ดีแลฯ เดอื น ย่ี ออก ๓ ค่ำ แรม ๓ ค่ำ อยา่ ขน้ึ ครวั ขึ้นเฮือนจกั ตายบ่ดีฯ เดอื น ๓ ออก ๘ ค่ำ แรม ๘ คำ่ อยา่ ขนครัวข้นึ เรอื นเพ็งจักตายแลฯ เดอื น ๔ ออก ๖ ค่ำ แรม ๖ ค่ำ บ่ดีจักตายแลฯ เดือน ๕ ออก ๔ ค่ำ แรม ๔ คำ่ บด่ จี กั ตายแลฯ เดือน ๖ ออก ๔ คำ่ แรม ๔ ค่ำ อย่าขนครัวข้ึนเรือน จักเปน็ พยาธไิ ข้ปว่ ยแลฯฯ เดือน ๔ ออก ๕ คำ่ แรม ๕ คำ่ อย่าขน้ึ เรอื น ดีกอ่ นฮา้ ยลุนเถิง ๒ ปีจักตายแลฯ เดือน ๘ ออก ๘ ค่ำ แรม ๘ คำ่ บ่ควรเอาครัวขึน้ เรือน ขึน้ เถิง ๓ ปีปว่ ยไข้ ๓ คนตายผู้ ๑ แลฯ เดือน ๘ ออก ๒ ค่ำ แรม ๒ คำ่ ขึ้นเรอื นจักตายผู้ ๑ แล ฯ เดือน ๑๐ แรม ๒ ค่ำ ขึ้นเรือนจักตายผู้ ๑ บด่ ีแลฯ เดอื น ๑๑ ออก ๒ คำ่ แรม ๒ คำ่ ขน้ึ เรอื นตาย ๒ คน ทกุ ขบ์ ม่ ้ัวแลฯ เดือน ๑๒ ออก ๑๒ คำ่ แรม ๑๒ คำ่ อย่าขนครัวข้ึนเรือน จักเป็นโพยภัยอันตรายน้ำตาบ่เหือดหน้า แล ลักษณะการปลูกเรอื นทีเ่ ปน็ มงคล สิทธกิ ารยิ ะจักกล่าวลกั ขณะแหง่ ปลูกเรือนอันจกั ให้เป็นมงุ คลุ แลวุฒไิ วใ้ ห้ฮู้ตายใผจกั กระทำนำได้แลฯ 122

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานเดอื นท่ีเหมาะ ไม่เหมาะ ตัดไมท้ ำเรือน ผิวา่ จกั หาเอาไมเ้ รอื นให้ดใี ห้เอาแตใ่ นเดือนเจยี ง เดือนยี่ เดอื น ๓ เดอื น ๔ เทนิ ฯ ต้ังแต่เดอื น ๕ เดอื น ๖ เดอื น ๗ เดือน ๘ เดอื น ๙ เดือน ๑๐ เดอื น ๑๑ เดอื น ๑๒ แต่ ๘ เดือนนี้ไม้ ทงั้ หลายปว่ ยเสีย บด่ แี ลฯ ทิศทเี่ หมาะ ไม่เหมาะ ตัดไม้ทำเรอื น ผวิ ่าเอาไม้เบอื้ ง บัวรพั พา(บรู พา) อยดู่ ี เบอื้ งอาคเนย์ ได้สตั ว์ ๔ ตนี ทกั ขนิ จกั ได้กินอาหาร หรดี โจรจกั ลกั ของ บ่ดี ปสั สมิ (ปัจฉมิ ) จกั ได้นาง พายยัพ(พายัพ) จักไดข้ องดี อุดร จกั ไดง้ ัวควายดี อสี าน พระยาย้องยอดีแลฯ เดือนทเ่ี หมาะ ไมเ่ หมาะ เอาเสาแฮกเสาขวญั ถ้าจักเอาเสาแฮกเสาขวัญให้เปน็ มงุ คุนอยู่ดมี สี ขุ ให้ในเดอื นเจียง เดอื นยี่ ออกใหม่นนั้ เทิน อยู่ดีมี ลาภซะการแล เดือนแรมอย่าเอาไม้เรือนเทนิ บ่ดแี ลฯ ลักษณะไม้ทีท่ ำเสาแฮกเสาขวญั ไม้ต้นใดเป็นหง่าดก ใบหนาปลอดดี จิงเอาเป็นเสาแรกเสาขวัญเทิน วุฒิสวัสดีแลฯ เมื่อจักปัก(ตัด) ไมห้ ัวทีนน้ั ให้แต่งขันข้าวตอกดอกไม้ขาว ขัน ๕ บชู าเทวดา ไตเ้ ทียนแล้วอว่ ายหน้าเมื่อตาวันออก แล้วจิงอา่ น คาถาอนั นี้ ๓ ที ว่าดงั นี้ “โฮมไม้โซนเปลือกหนา จักเมือฟ้าเรือนท้าวตื่น จักปลูกเรือนหมื่นห้องแลแสนเสาซู่ห้องซู่ซีนอน ซู่ห้องคนเฝ้ากกมันจักเฮ็ดคอกควายปลายมันจักเฮ็ดคอกไก่ทำกลางมันจักไวไว้เฮ็ดไท้คำดีเยือกว่าดังน้ี แล้ว” จิงว่าดังนี้ “โอน้อไม้ลำนี้สังมางามยอดยิ่งเดน้อ หง่าหน่ึงนั้นคือดังฮังกา หง่าตากนั้นคือดังฮังหงส์ หงา่ เนงิ นนั้ ถงเงินคำเพนิ่ แลนมาหอ้ ย หง่าซันนัน้ เพิ่นขายข้อยแลนมาโฮม คือซอิ ยู่วฒุ ิเดนอ้ ” ให้เอาขวานสับคาไว้ ออกมาทักว่า “โอน้อไม้นี้สังมางามยอดยิ่งเดน้อ กูอยากได้ไปเฮ็ดเสาเรือน พระนางนอ้ งนอนชมหมื่นห้อง พระนางนอ้ งคอื สินอนอยู่วุฒิสวัสดี มฤี ทธียืนยาวหมั้นแกน่ เดนอ้ ” ว่าดังนแ้ี ล้วจิงบักใหห้ กั เทินปลายไม้ 123

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสาน เมือ่ หกั ให้ป่นิ ไปเบอ้ื งตาวนั ออกดแี ล ลม้ ไปเบอ้ื งอาคเนย์จักเสยี ของ สตั ว์ ๔ ตีน ๒ ตนี แล ล้มไปเบอ้ื งทักขินจกั ได้กนิ อาหารดีแล ล้มไปหรดบี ด่ แี ล ลม้ ไปปัสสิมบด่ แี ล ล้มไปพายพั บด่ แี ล ล้มไปอุดรแลอีสานเพ่ินชังแล ลกั ษณะดวด แป ผิว่าดวดจมลงในขอ่ื บด่ ี ผอิ อกพ้นแปนิ้วมือ ๑ ลูกจกั ตายออก พน้ แป ๒ น้ิว มีชา้ งมา้ งวั ควายแพ้ดี ๔ นวิ้ คำจำเรญิ สมบัติข้าวของ พน้ ๕ น้ิว สทิ ธิดี นักแล ลักษณะดวด แป (ฉบับ ๑) เอาข่อื แทกแปไปได้ ๓ ชัว่ กำมือพอ่ ค้าอยูด่ ี ๒ กำมอื คนขออยู่ดี ปลาย ๓ กำมอื ทา้ วพญาอยู่ดี ปลาย ๔ กำมือนายพรานอยดู่ ี ปลาย ๕ กำมอื ไพรน่ ายเศรษฐอี ยดู่ ี ปลาย ๖ กำมอื อามาตย์อยดู่ ี ปลาย ๗ กำมือเสนาอยดู่ ี ปลาย ๘ กำมือบ่ควรอยู่จักคนล้ำกวา่ นั้นดีแลฯ ลกั ษณะการเร่มิ ปลูกบา้ น ผิวา่ จกั หาบอ่ น อย่าปลูกทางคบกนั ๑ อย่าปลกู กอม(กวม)กนั อยา่ ขดุ ลง ๑ อยา่ กอมตอไม้ใหญ่ ๑ อย่าใหไ้ ม้ใหญห่ นีบ ๑ อยา่ แลอยา่ ปลูกค่อมบอ่ นสัตว์ตาย ๑ 124

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานการเขิง(การใชเ้ ชอื กขึง)เรือน นัยยะ ๑ ให้ดูลักขณะเทิน ถ้าเขิงเรือนในท่ีใดให้บัดแผ้วแต่งขันข้าวตอกดอกไม้ไว้ทางกลางแล้วจิงเขิง เรือนเทนิ ผิเขิงเรอื นเอาเชือกเขียวเขิงเจ้าเรอื นตาย เชือกขาวจกั อยูด่ ี เชือกแดงไฟจักไหม้ เครอื เขาเขงิ เจ้าเรือนอยู่จกั ตาย บ่ดแี ลฯ เดือนสำหรบั ปลกู เรือน เดือนเจยี ง นาคนอนหลบั ปลูกเรอื นอยู่จักตายแลฯ เดอื น ย่ ี นาคนอนต่นื แลว้ ปลูกเรอื นอยดู่ ีมีลาภภาสขุ ตอ่ เทา้ แล เดอื น ๓ นาคคนื มาอยแู่ ลว้ ปลกู เรอื นอยู่ฮอ้ นใจ ไฟจกั ไหม้แล เดือน ๔ นาคคืนมาอยแู่ ลว้ ปลกู เรือนอยดู่ เี ปน็ มงคละแลฯ เดือน ๕ นาคตายหนีครุฑ ปลกู เรอื นอยฮู่ ้อนใจบด่ ีแล เดอื น ๖ นาคตายกายหนีครุฑบ่ดีแล เดือนนาคก็ตายหนี ปลูกเรือนอยู่บ่ดีจักพรากจากเสียของบ่ฮู้ แล้วแล เดือน ๙ นาคประดับตน ปลูกเรือนมีข้าวของกนิ บฮ่ ู้หมดแล เดือน ๑๐ นาคถอดเครอื่ งประดบั เสยี ปลูกเรือนอย่เู ข็ญใจเสียคนเรือนแลฯ เดือนใดก็ดีแล เดือนสำหรับปลกู เรือน (อกี ฉบบั ) ปลกู เรือนเดอื น ๕ ฮ้อนใจ ฯ ปลูกเรอื นเดือน ๖ อย่ดู ีแลฯ เดอื น ๗ จักตายแลฯ เดือน ๘ จกั เสยี ของแลฯ เดอื น ๙ จักเป็นดแี ลฯ เดือน ๑๐ จกั เปน็ พยาธแิ ลฯ เดอื น ๑๑ จักผดิ เถยี งกนั แลฯ เดอื น ๑๒ จักเปน็ ดีมีสุขแลฯ เดือน เจียง อยู่กินดแี ลฯ เดือน ย่ี อยู่สขุ ดีแลฯ เดือน ๓ จกั เสียของแลฯ เดอื น ๔ ดีแลฯ 125

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานขา้ งข้ึน-ข้างแรมสำหรับปลกู เรอื น ออก ค่ำ ๑ แรม ๑ คำ่ ปลูกเรือนมขี ้าวของเพิงใจ ออก ๒ ค่ำ แรม ๒ คำ่ ปลกู เรอื นทกุ ข์โศกบ่ดี ออก ๓ ค่ำ แรม ๓ ค่ำ มลี าภ ออก ๔ ค่ำ แรม ๔ คำ่ ปลูกเรือนมีสุกแล ออก ๕ ค่ำ แรม ๕ ค่ำ ปลกู เรอื นเป็นทุกขโ์ ศกเพราะย่งิ ออก ๖ ค่ำ แรม ๖ ค่ำ ปลกู เรอื นอยูเ่ ย็นใจดี ออก ๗ ค่ำ แรม ๗ คำ่ ปลกู เรอื นดีมีลาภ ออก ๘ ค่ำ แรม ๘ คำ่ ปลูกเรอื นทกุ ข์โศกแล ฯ ออก ๙ ค่ำ แรม ๙ ค่ำ ปลูกเรอื นอยดู่ มี ีลาภ ออก ๑๐ แรม ๑๐ คำ่ ปลกู เรือนจกั เป็นอนตายบ่ดีแลฯ ออก ๑๑ ค่ำ แรม ๑๑ ค่ำ ถอ่ ยสมบตั ิ ออก ๑๒ ค่ำ แรม ๑๒ คำ่ ปลูกเรือนดีมีลาภ ออก ๑๓ ค่ำ แรม ๑๓ ค่ำ ปลูกเรือนอยู่ดีสันเพิงใจแลฯ ออก ๑๔ ค่ำ แรม ๑๔ คำ่ ปลกู เรอื นอยู่บ่ดีแลฯ ออก ๑๕ ค่ำ แรม ๑๕ ค่ำ ปลูกเรอื นอยูบ่ ่ดี ฟ้าจกั ผ่า ไฟจักไหม้แล วนั สำหรับปลูกเรือน ปลกู วนั ๑ จบิ หายไฟจักไหม้แลฯ ปลูกวัน ๒ ฮอ้ นใจไขห้ นาว ปลกู วนั ๓ ไฟจกั ไหมแ้ ลฯ ปลูกเรือนวัน ๔ จักฮ้อนใจแลฯ ปลูกวัน ๕ อยูเ่ ยน็ ใจมสี ขุ แลฯ ปลกู วัน ๖ อยู่เย็นใจนาก(นกั )แล ปลูกวัน ๗ ยอ่ มได้ข้าวของนกั แล วนั สำหรับปลูกเรือน (อีกฉบบั ) ปลกู วนั ๑ ท่านทำรา้ ยบด่ ี ปลกู วัน ๒ ได้ ๒ เดอื นจักเปน็ ทกุ ข์ ภายลุนจกั ได้ของดฯี วนั ๓ เพง็ ไฟไหม้ อย่ไู ด้ ๓ เดอื นจกั ไดข้ า้ วของมากฯ ปลกู วนั ๔ อยขู่ ินใจ ได้ ๔ เดอื นจกั ปว่ ายไข้เจ็บบด่ ฯี วนั ๕ อยไู่ ด้เดือน ๑ จกั ไดข้ องเพิงใจดี วนั ๖ อยดู่ มี สี ขุ แลฯ วัน ๗ อยู่ได้ยนื สำบายแลฯ 126

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานพธิ ีกรรมสำหรบั ปลกู เรือน จกั ปลกู เรอื นทใ่ี ดกด็ ใี หแ้ ตง่ เขา้ นำ้ โภชนะทง้ั หลาย หมาก ๓ เลยี น เทยี น ๓ เหลม้ ขา้ วตอกดอกไมบ้ ชู าแกว้ ทั้ง ๓ คือว่าพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์เจ้า แล้วเล่าให้แต่งบูชาภิสสนุกัน(พระวิษณุกรรม, พระวิสุกรรม) แลเทวดาแลอันแลฯ ขันขา้ วน้ำโภชนะอาหาร ก้วาย ออ้ ยหมากพลทู กุ ประการหมาก ๑๒ เลียนเทียน ๑๒ เหลม้ น้ำเตา้ หน่วย ๑ ถว้ ยใบ ๑ ไหน้ำอนั หน่ึง เอากองใบคูน ยอ หดกกเสาซ่อู ัน แลว้ ให้เอาฝา้ ยขาวเวียน แลว้ สตู ร มงคลมงุ คุนแลว้ จิงอา่ นมนตร์อันนวี้ ่า “นะโม พทุ ธสั สะ นะโม ธมั มัสสะ สงั ฆัสสะ สัพพะสทิ ธิการสั สะ อทิ ะถาเนสะระหะคะณะ ปะรวิ ารา พะญาอะคัจฉันตุ อิมัง บูชาะสระการัง ปะฏิคันหาตุ อิมัง อาชะนาหะรัง ปะริกุญญันตุ สุวัณณังมะโน หะเลนิขิปปะยันตุ นะโม พุทธัสสะ นะโม ธัมมัสสะ นะโม สังฆัสสะ เสยยะถิทัง หุลุๆ สะวาหายะ เตสัง บชุ านภุ าเวนะ มะเตเชนะ กาเรนะ จะ สัพเพ สัตตุพะยัง โลโค วินาสสนั ตุ ภาเสสะ โตโยเภยยะ อะภเิ สภัยยะ อะนาคตา ปจั จปุ นั นา ภยั ยะวนิ าสนั ตุ อะภะเสสะโต สุปปญั จะนา สัมปนั โน สาลีนงั โภชนงั วะลงั สคุ ันธสั สะ สมั ปันนงั สมั พุทธัสสะ ทะทามิหา สปุ ปะพะญะนัง สาลนี ัง โภชนะนัง เอกาทัสสะนะราชัสสะ ภสิ สะนสุ สะ ทะทาหัง”ฯ อ่านอาคมอันน้ีบูชาปลูกเรือนทั้งหลายแลฯ “เย ปุคคะลา เย สุปปะยุตตา มะนัสสะทะหิ”ฯ อนั นมี้ นตรน์ ำ้ ใสก่ กเสาดแี ลฯ วันและทิศในการขดุ เสา ผิวา่ ปลกู เรอื น วนั ๑ จักขดุ เสาใหข้ ดุ เสาปัสสมิ กอ่ น ปลกู วัน ๒ ให้ขดุ เสาอดุ รกอ่ น ปลกู วนั ๓ ให้ขดุ เสาบัวระพาก่อน ปลูกวนั ๔ ใหข้ ุดเสาหรดีก่อน ปลกู วัน ๕ ใหข้ ดุ เสาทกั ขนิ กอ่ น ปลกู วนั ๖ ให้ขุดเสาอสี านก่อน ปลกู วนั ๗ ใหข้ ดุ เสาอาคเนยก์ อ่ น ดีแลฯ ความลกึ ของหลุมเสา เมอื่ ขุดเสาเลกิ ๒ ศอก ปลายน้ิวมอื ขวางก็ดี ปลาย ๔ นิว้ กด็ ี อยดู่ ี เรือนท้าวพญา เลิกเพยี งปาก เรอื นไฟน้อยเพียงทอ้ งนอ้ ยดีแลฯ เพยี งสายบอื เจ้าเรือนอยดู่ ี เลกิ กว่าน้ันจักเสียของ ตนื้ กวา่ นนั้ จกั เสียของบด่ แี ล 127

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานลางบอกเหตชุ ่วงขดุ หลมุ เสา เม่อื จักขดุ เสานั้น เห็นท่านเอาเงือกมากลาย เจ้าเรือนจกั ไดเ้ งินคำดี ผิวา่ เหน็ ทา่ นฝงู อื่นเอาไฟกลายมานนั้ เจา้ เรอื นจักเจบ็ ไขบ้ ด่ ี ผิว่าเห็นบ่าวมาหาเรากลายไปก็ดี ได้ยินเสียงขับก็ดี เสียงเป่าป่ีเสียก็ดี เจ้าเรือนจักอยู่ดีมีสุขลูกหลาน หลายมสี ุกขาสวสั ดที ุกเมอื่ ทุกยามแลฯ แฮกขดุ เสาปลูกก็ดี เมอื่ ข้ึนก็ดี หากไดย้ ินเสียงปแ่ี คนนัน้ ดีนักแลฯ ผวิ ่าเห็นท่านน่งุ เสอ้ื ผ้าแดงแล ถอื ดอกไม้แดงมากลายนั้นไฟจักไหม้ เจา้ เรอื นจกั ตายบด่ ฯี ผิว่าเหน็ ทา่ นอาบนำ้ มากลายฯ ผิว่าเหน็ ทา่ นเอาหมากดงั ลูกไมห้ วั มันมาหา เจ้าเรือนดนี กั ฯ ผวิ ่าเหน็ ท่านเอาเตา่ แลนมาหานัน้ จกั ไดข้ อ้ ยหญงิ ชายดแี ลฯ คาถาสำหรับยอเสา จกั ปลกู เรือนเปน็ มงคล เมื่อยอเสาใหส้ ูตรคาถาว่า “อุฏฐาหิ เทวะตา พรหมา อนตั ตา นุนรายิ เทวะ ลังกาละสา นริ ันตะรงั สพั พะ ลาพงั ภะวิสสะเร”ฯ ดงั นี้ มนตร์ ๓ ทีแล้วยอเสาแฮกค่อยวางลงให้ปลายเสาแฮกซายก้ำอีสานก็ดีทักขินก็ดีวางไว้แล้วปลูกเสา ขึ้นเทิน๚๛ ทิศปลายเสา ปลกู เรอื นให้ป่ินปลายเสาไปเบ้ืองเหนอื ดีมีลาภแลฯ ปิ่นปลายไปอีสานจกั ได้ขา้ วของมากนกั แลฯ ดูความสูงของเสา ผิวา่ ปลูกขน้ึ แลว้ ผิวา่ เสาแรกสูงกว่าเพ่นิ ใหย้ อเสาอื่นหาแวนดี ผวิ า่ ตำ่ กวา่ เพนิ่ ได้ยอข้นึ หา บซ่ ู่ดี ผวิ า่ ใหด้ ีแท้อยา่ ยอเสาแฮกขึ้นแวนดแี ลฯคนปลกู แลว้ ให้ขนึ้ ดเู สาก้ำทกั ขนิ ยงั สูงดฯี ผิว่าขึ้นเรอื นให้กลองกลางเสียนแวนดีจำสมบตั ตขิ ้าวของแลฯ ผวิ ่าต่ำใต้ สงู เหนือฮ้อนใจ เป็นความฯ สูงกำ้ ตาวนั ออกตำ่ ตาวนั ตก จักไดพ้ น่ี ้องภายลุนจิบหาย ตำ่ เหนอื สงู ใตบ้ ่ดแี ลฯ 128

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานดูความเอียงของเสา ผวิ ่าปลกู เสาแฮกให้ดเู สา ซ้าย(ซา่ ย, เอยี ง) เม่ือตาวนั ตก เจา้ เรอื นจักตาย ซา้ ยเมอ่ื วนั ออก แมเ่ รือนจกั ตาย ซา้ ยเมอ่ื อุดร คนในเรอื นจักผิดกันบ่ดี ซา้ ยเมื่ออีสาน ท้าวพญาจกั ใหล้ าภกนุ า(กรณุ า) เจ้าเรอื นแลฯ ซ้ายเมอ่ื กำ้ ทักขิน อยู่ดมี ีไชยชนะแพข้ า้ เศกิ ศตั รแู ลฯ การทำประตูเรือน ผวิ า่ จกั แปงปักตูเรอื นกว้าง ๓ ฝาตีน ปลาย ๒ น้ิว อยูส่ วัสสดีแลฯ ปกั ตกู ะดี(กุฎ)ี วิหาร ๕ ฝาตีน ดีนักแลฯ ปกั ตูท้าวพญา ๖ ฝาตีน แพข้ า้ เศกิ แลฯ การพาดบนั ได ผวิ า่ ก่ายคนั ไดหนวันออก ให้เอาไพรเ่ จ้าขึน้ ก่อนดฯี ก่ายหนอสี าน เอาอันขาวข้นึ กอ่ น คอื วา่ เงิน ข้าวสาร ผา้ ขาวขน้ึ ก่อนดีแลฯ ใหเ้ อาเหลก็ งาชา้ ง แลหญา้ แพด รองภายนอกดีนกั แมนวา่ ทุกข์ก็สขุ แลฯ การนอนเรือนใหม่ ผิว่าเมื่อนอนเรือนใหม่ให้ป่ินหน้าไปก้ำวันออกดี ผู้ชายให้นอนก้ำขวาดี แม่เรือนให้นอนก้ำซ้ายดี เม่ือ กนิ ข้าวให้หน้าเมื่อวันออกมอี ายุหม้นั ยืนแลฯ ผวิ ่าอ่วยหน้าไปหนใตม้ ีข้าวของมากแลฯ ผวิ ่าอ่วยหน้าไปหนตาวันตกมียศศักดิ์แลฯ อว่ ยหนา้ ไปเหนือบด่ ีแลฯ ผิวา่ นอนปน่ิ หวั ไปบวั รัพพามีผลาแล ปิ่นหัวไปทักขนิ ดมี อี ายุยืนแลว้ นอนป่ินหัวไปหนปสั สมิ บด่ ีแลฯ ปนิ่ หวั ไปอุดรบ่ดีแลฯ การคดั เลอื กไมส้ ำหรบั ทำแม่คไี ฟ ผิว่าจกั เอาไม้คีไฟให้เอาไม้ด(ู่ ประดู่)เป็นแมค่ ีไฟ น่งึ ขา้ วกนิ อยูด่ แี ลฯ ไมเ้ ปอื ยเปน็ ไมค้ ไี ฟ มกั ตอ้ งถืกไขน้ ึง่ ข้าวบูชาผีแล ไมจ้ ิกไมฮ้ ัง(รงั ) แก่นหมน้ั น่ึงขา้ วเพือ่ คนหลาย ไม้ทงั้ มวลฝูงน้ีดแี ลฯ อนั อื่นครัวไมท้ ั้งหลายอนั ว่ามานีบ้ ค่ วรเอาสกั อันแลฯ 129

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานทิศในการตั้งประตูบ้าน ผวิ า่ จกั แปงปกั ตบู า้ น กำ้ บวั รัพพามชี ยั ชำนะศตั รู กำ้ อาคเนยไ์ ฟจักไหมบ้ ด่ ี แปงกำ้ ทกั ขินไดข้ า้ วของมากนักแลฯ ก้ำหรดจี กั มีโภยภยั อนตายบด่ ี กำ้ ปัสสมิ จกั มลี าภขา้ วของมากดีแลฯ ก้ำพายยพั เจา้ ขนุ จักขม่ เหงบ่ดี กำ้ อดุ รอีสานดีขนุ นางฮักจกั ใหล้ าภขา้ วของเพิงใจแลฯ การแปงเลา้ เยยี ขา้ ว แปงเรอื น ผิวา่ จักแปงเลา้ เยยี ขา้ วให้แปง กำ้ ปัสสิมดนี ักแลฯ ผวิ ่าจกั แปงเรอื นครัวใหเ้ อา กำ้ อาคเนยด์ นี ักแลฯ การวัดโสกเรือนและเครอื่ งเรือนต่างๆ ผิวา่ โสกเสาเรือนให้เอาศอกเจา้ เรอื นแทกไปว่าดังนีฯ้ “หักหัวก่ายงง้ ๆ เพ่นิ ตฆี อ้ งมาเฝา้ เคา้ เมา้ หนา้ ไคคงิ ทมุ กาเฝา้ เป่าฮัก”ฯ ว่าดงั น้ตี ามแต่มกั ส้นั ยาวทอ่ ใดให้ดจี งิ เอาฯ ผวิ ่าจกั โสกกอดทอดใหเ้ อาวาเจา้ เรอื นแทกไปว่าดังนี้ “สนมลู คนื มาเคา้ สองเฒ่านง่ั ทรงทกุ ข์ นอนสุกกนิ เทา่ ชว่ั กน้ ถงฮั่วเป็นฮู สามชมชชู้ งิ ฮัก พักป่วาย ไขเ้ สีย คายมีของหลายกระเหลือทไี่ ว้ ข้ไี ฮเ้ กดิ เปน็ ดี เศรษฐีพลอยเป็นไฮ้ นอนต่ืนได้ถงคำ”ฯ ว่าตาม มกั แล ผวิ ่าโสกกลอนเฮอื นให้นบั คไู่ ปวา่ ฯ “ต่อนคำฟู คำฮอมหอมสิน ใดไฮ้ต่อตาย วายพลัดพราก ยากฮ้ายเพียงแก่งบ่อน นอนหลาย ตนี ตากแดด ไดน้ างเอ้ือยนางอม่ี าเรอื น”ฯ วา่ ตามแต่มักแลฯ ผิว่าโสกครกให้บนุ หนหวายไปวา่ “ครกมอง ท้องชา้ ง อา่ งคำ” ดังน้ีแลฯ ผวิ ่าโสกแมม่ องให้เอาช่วั ตีนแทกให้ว่าดังน้ี “ไฮ้ต่อเท้า บ่ฝากข้าวแสนปี เป็นดีกว่าท่าน บ้านก้นลานซู่ปี เป็นดีบ่ฮู้ไฮ้ ท่านไฮ้กูมี เป็นดีบ่ฮู้ เส้ียง” วา่ ดงั นแี้ ลฯ 130

คาถาเขยี นใส่เสา โอมสกิ ะสวาหะ คาถาอันนย้ี ายก้ำอาคเนยแ์ ลฯ โอมสสี วาหะ ก้ำหรดแี ลฯ โอมเชยยะสวาหะ กำ้ อีสาน คาถาทง้ั มวลดีใหเ้ ขียนใส่เสาเรอื นทัง้ ๔ ทศิ แลฯ สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสาน คาถาขึ้นเรือนใหม่ ยงั ยงั ยสั สะฯ คาถาอันนีจ้ ำ้ ๓ ท่เี รอื นขนึ้ เรือนใหม่ดนี กั แลฯ คาโวตัสสะปชั ชายนั ตะเขตเตวุตตังวิรุฬหาสันตนังผลมสั สมา คาถาอันน้ีจำเริญขึน้ เรือนใหมด่ ีแลฯ ลักษณะกฏุ ิ วดั พระสมเด็จเจ้ามี มณ(ฑล) ๕๐ วาแล กระดีแลห้องแล ๕ ศอกเสาหนา้ ต่าง ๗ กำ (มือ) ดวด ๘ ศอก พื้น ๓ ศอกจิงสมควรแลฯ วัดหวั ครสู งั ฆราช มณฑล ๒ เส้น กระดี ๗ ห้องดวด ๗ ศอกเสาหนา้ ต่าง ๔ กำ พนื้ ๔ ศอกแลฯฯ วัดหัวซาพระพี่น้อง มณฑล ๔๐ วากระดี ๕ ห้องแลฯห้องแล ๕ ศอกเสาหน้าต่างกำดวด ๖ ศอก พ้ืน ๓ ศอก จิงสมควรแลฯ พระเจา้ ต้ังไว้แลเจ้าเอยฯ หมดลกั ขณะวดั แตเ่ ท่าน้แี ลฯ ตาบ้านตาวัดตาเมอื งทั้งมวลแลฯ ปริวาร อายุ เตชะ นาม ๑ ให้ตั้งปริวารอสี าน อะ อา อิ อี อุ อู กลากณิ ี นาม ๑ ศรี โอวุทธนามมะนามอาทติ ยก์ ำลังเส้นเผียก ๖ วา มุนตรี อุสสะหะ มลุ ล เส้นนามวรดุ แลถา้ ถืกนาม ๑ ให้ตงั้ ตามกำลัง เทินตกทใี่ ดให้ฮู้แลฯฯ กลากณิ ี บริวาร อายุ นาม ๒ ใหต้ ้งั ปริวาน บวั รพพา กะ ขะ คะ ฆะ งะ มนตรี นาม ๒ เตชะ พยัคฆะนาม-มมะนาม ๒ กำลังเผยี ก ๑๕ วา อสุ สหะ มุลละ ศรี เป็นนาม ๒ ให้ดูตามกำลังเป็นนามเสอื แลฯ 131

มนตรีสถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานกาลกณิ ีปรวิ ารนาม ๓ ตั้งปรวิ ารอาคเนย์ จะ ฉะ ชะ ฌะ ญะ อุสสหะ นาม ๓ อายุ สหะนามมมะนาม ๓ ราชสหี ์กำลงั ๘ วา มุลละ เตชะ เป็นเสน้ เชือกเผียก ๑ ให้ไปตามทิศทั้ง ๘ นน้ั เทินแลฯ ศรี นาม ๔ ต้ังปรวิ ารทกั ขนิ ฏะ ฐะ ฑะ ฒะ ณะ อสุ สหะ กลากณิ ี สนุ กั ขานามมมะ นาม ๔ กำลัง ๑๗ มุลละ มนตรี ปรวิ าร วาเป็นนามหมาแลฯฯ ศรี นาม ๔ อายุ นาม ๕ ตง้ั ปรวิ ารปัสสิม ปะ ผะ พะ ภะ มะ เตชะ มสุ กิ นามมะนาม ๕ กำลงั มี ๑๙ วาเป็นนามหนู ศรี อุสสหะ ใหด้ ตู ามนามอนั น้ีแลว้ ถืกนามใหต้ งั้ ตามกำลงั วนั เตชะ มูลละ มนตรี น้ันเทิน อายุ นาม ๕ กลากณิ ี ปริวาร อายุ เตชะ ศรี นาม ๖ ตง้ั ปริวารอุดร สะ หะ ฬะ อํ ปรวิ าร นาม ๖ มุลละ เอรกะนะนาม ๖ กำลงั มี ๒๑ วาเส้นเผียก กลากณิ ี มนตรี อสุ สหะ เป็นนามแบแ้ ลฯฯฯ มุลละ อุสสหะ มนตรี นาม ๗ ให้ต้ังปรวิ ารหรดี ตะ ถะ ทะ ธะ นะ ศรี นาม ๗ กลากิณี นาคะนามนามนาคกำลัง ๑๐ วาเปน็ เสน้ เผียก เตชะ อายุ ปรวิ าร ใหเ้ วยี นไปตามทิสสนั้นเทินฯฯ เตชะ มนตรี มุลละ นาม ๘ ตัง้ ปรวิ ารพายยพั ยะ ระ ละ วะ อายุ นาม ๘ อุสสหะ หตั ถนี ามมะนาม ๘ กำลงั มีกำลงั ๑๒ วาเป็นเสน้ ปริวาร กาลกณิ ี มนตรี เผียกเปน็ นามชา้ งแลฯฯ 132

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานการตั้งชือ่ ผวิ า่ ช่ือผู้หญิง ชอ่ื บา้ น ช่อื เมอื ง ช่อื วดั ท้งั มวลนี้เอาตัวปลาย ช่อื ผู้ชายเอาตัวต้นนามอันใดให้ตามหลัง (หนัง)สือน้บี ผ่ ดิ แล จักสำรทิ ธีซป่ ู ระการแลเจ้าเอยฯ เรอื นสมณะพราหมณ์ดีแล พระยาศรีสนไชยดีแล เรือนผีเสอ้ื บด่ ีแลฯ เรือนพ่อค้าดนี ักแล เรือนคนท้งั หลายดแี ลฯ ทกั ขนิ ไฟไหม้บ่ดแี ล เรือนพระยาศรสี ุโธดีแลฯ เรอื นอามาตย์ดแี ล เรือนพอ่ ครวั พ่อบา้ นดีแล อุดร เรอื นชายทกุ ขไ์ ฮ้บ่ดีแล เรอื นผียักษผ์ เี สือ้ บ่ดีแล เรือนโจรบด่ แี ล เรอื นเศรษฐีดแี ล เรือนสัปปุรสิ สะดแี ล เรอื นพระยาเวสสนั ดรดีแลฯ นาม ๗ ใหต้ งั้ ปริวารหรดี ตะ ถะ ทะ ธะ นะ นาคะนามนามนาคกำลงั ๑๐ วา เป็นเส้นเผยี ก ใหเ้ วยี นไปตามทสิ สนั้นเทินฯฯ นาม ๘ ตง้ั ปริวารพายยัพ ยะ ระ ละ วะ หตั ถนี ามมะนาม ๘ กำลงั มีกำลงั ๑๒ วา เป็นเส้น เผยี กเป็นนามชา้ งแลฯฯ เรอื นช้างลา้ นบ่ดีแลฯ เรอื นผียกั ษ์บด่ ีแล เรอื นนางสดี านัง่ ไห้ วันตก เรือนหมอยามบด่ ีแล เรอื นนางวสิ าขาบด่ ีแลฯ 133

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสาน ตาวันออก เรอื นเสนาอยู่ดีแล เรอื นเจา้ มโหสถ เรอื นนายพรานป่าอยู่ดนี ัก เรอื นตาบอดบ่ดี เรอื นคนท้ังหลายอยู่ดนี กั แลฯ เรอื นพระยาสุโธอยดู่ แี ล เรอื นทรุ เสนาเมียเล่นซูบ้ ่ดี เรือนโชอกุ กเศรษฐี เรือนเศษฐีดนี ักแล เรอื นพระยาเวสสันดรดนี ักแล เรอื นพระยาสนไชยดีนักแล เรอื นไฟไหม้บ่ดแี ล เรือนนางสีดาน่ังไหบ้ ่ดีแล เรือนชชู กพราหมณบ์ ด่ ีแล เรอื นนางวสิ าขาบ่ดแี ล ใต.้ .. ตาวันตกแล เรือนโจรบ่ดแี ล เรือนผที ักกินบด่ แี ล เรือนอสั สะมกู ขบี ด่ แี ล เรือนพรานเน้อื บด่ แี ล เรือนมหาอนาถปณิ ฑิดแี ลฯฯ เรือนผีเสอ้ื บด่ แี ล เรือนซากซ้นิ บ่ดีแล เรือนพ่อค้าอย่ดู ี เรอื นศัตรปู องฆา่ บ่ดแี ล เรอื นกาลกิณบี ่ดีแล เขยี นบ่งามแล้วฯ ทกั ษา การต้ังบา้ นเมือง ผิว่านักปราชญ์เจ้าทั้งหลายจักต้ังบ้านต้ังเมืองท่ีใดจักให้เป็นวุฒิสวัสดี ให้ตั้งตามตาบ้านตาเมืองตาวัด อนั นเ้ี ทินฯ จกั ตัง้ เรือนก็ดใี ห้นบั ไปว่าดังนี้ฯฯ ปริวาร ฯ อายุ ฯ เตชะ ฯ ศรี ฯ มุลละ ฯ อุสสหะ ฯ มุนตรี ฯ กาลกิณี ฯ ดงั นเ้ี วยี นไปนำทิศทัง้ ๘ นนั้ เทิน ฯ ผวิ า่ จักหาชอื่ บา้ น ชอ่ื เมือง ชอื่ ลกู หลาน ช่ือขา้ คน ช้าง ม้า งวั ควาย เอาลกู เมยี ก็ดี ให้ดอู นั เปน็ มติ ร แกก่ นั ให้เอาชือ่ แต่นอ้ ยจักหาใหม่บ่เอาฯ 134

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสาน ผิว่าจักตั้งบ้านใหม่ วัดใหม่ ให้หาชื่ออันเป็นมิตรแก่เราจำเริญนักแล จักกระทำคนดอมขุนท้าวพระยา กด็ ี ให้ดูชื่ออนั เปน็ มิตรแก่กันเทนิ ฯ จักอย่วู ดั เพน่ิ บ้านเพิ่นกด็ ใี หอ้ ยู่หนเตชะแล ศรีจกั จำเริญกวา่ เจา้ ทีม่ าก นักแลฯ ผิว่าอยกู่ ้ำกาลกิณีจักจบิ หายบ่ดแี ลฯ จักเขา้ บ้านใหมแ่ ล เขา้ เศิกกด็ ี ให้เขา้ กำ้ ศรีแล เตชะแพ้เพิน่ แลฯ เข้าก้ำกณิ ี (กาลกณิ )ี เพ่ินแพเ้ ราแล ฯ จักตง้ั เรอื นอยกู่ ็ดีใหต้ ามนามผ้เู จ้าเรอื นเทนิ ฯ จักต้ังบ้าน เมืองที่ใดให้เอานามออกมาต้ังแล้วจิงเอาเผียก อันว่าค่านาม อันน้ันมาแทกแต่สะดือ บ้านเมืองอันนั้นออกเม่ือบัวรัพพาให้ไปชั่วเผียกอันหมายไว้หั่นก่อนแล้ว จิงเวียนไปให้รอดหนอีสานฯ ผิศรีตก ท่ใี ดใหไ้ วแ้ กว้ แหวนเงินคำหอพระเจ้าแลหอนอน กำ้ เตชะไว้หออาวธุ ทงั้ มวล ก้ำอายุไวเ้ รือนพ่อแม่ผเู้ ฒา่ ผแู้ ก่อยู่ กำ้ ปรวิ ารไวบ้ า้ นเพ่นิ อยู่กำ้ กลากณิ ไี วว้ ดิ เสยี อนั ร้าย ก้ำมุนตรไี ว้ลูกหลานเหลน่ อยู่ฯ กำ้ อสุ สาหะให้ไวโ้ รงทำกางเป็นต้นว่าโรงไฟเรอื นครวั เยยี ข้าวอยู่ กำ้ มูลละไว้ศาลาชุมนมุ กวานสวานความอยูแ่ ลฯ จักไปเสิก ว่าความไปทใี่ ดก็ดีใหอ้ อก ก้ำเตชะก้ำศรีจำเรญิ นกั ฯ ผจิ กั อย่อู ยา่ ฮือ้ เพิน่ อยู่กำ้ เตชะ ก้ำศรเี พิ่นจักแพเ้ ราเอาชัยไดห้ ลายประการนกั ฯ ถา้ จกั ใครฮ่ ู้จกั ชื่ออนั เปน็ มิตรแกก่ นั ดงั นี้ฯ หมาแลนาคเปน็ มิตรแกก่ นั นามแบ้แลหนเู ปน็ มติ รแก่กนั ฯ ครฑุ แลนาคเป็นศตั รกู ัน เสอื แลหมาแลแบ้เป็นตรัตรกู ันฯ ราชาสีหแ์ ลชา้ งศตั รูกนั แล นามอนั เปน็ ศัตรูกันอยู่ดว้ ยกันจักผดิ เถยี งกนั ฯ นามอันเปน็ มิตรกันอยดู่ อมกันจิงดแี ลฯ ผิจักตั้งบ้านเก่าให้เอานามบ้านอันน้ัน อันว่าเป็นเผียกตามซู่อัน จิงเอามาแทกสะดือบ้านอันน้ันก็สำ รทิ ธีซปู่ ระการแลฯ จบลกั ขณะตาบ้านตาวัดท้งั หลายแล้วแตเ่ ทา่ นีแ้ ลฯท่านเอยฯ 135

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานการต้งั ชอื่ ตามความสูงจากดวดถึงพน้ื ผิพื้นดวดสูง ชอื่ ศรหี ารกั ษ์ดฯี พนื้ แลดวดสูงทอ่ กัน ชือ่ อุสสุภรกั ษว์ า่ มานแ้ี ลฯ พน้ื สูงดวดต่ำ ชอื่ วัชชรกั ษบ์ ่ดีเลยฯ ทศิ และลกั ษณะการขุดเสา ลักขณะขุดเสา ขุดเสาหนวนั ออกแลอีสานแลอาคเนยน์ ใี้ หฮ้ มู นแล หนปัสสิมแลพายยพั นีเ้ ดอื นฮบู างแลฯ ทักขิน ๓ แจงแลฯ อตุ ร ๔ แจงแลฯ แล้วเลกิ ประมาณ ๒ ศอกปลาย ๔ น้วิ มือ ดีแลฯ กว่าน้นั บด่ แี ลฯ ทศิ ของไม้ทลี่ ้มขณะตัดทำเสา ถ้าจกั ไปตัดไมเ้ สาแฮก ลม้ ไปหนบวั รัพพา อยสู่ ำราญแลฯ ลม้ ไปปสั สิม มีเงนิ คำฯ ลม้ ไปพายยัพ จักมีเงินคำฯ ลม้ ไปอุดร ไดล้ าภดฯี ล้มไปอีสาน จักไดย้ ศศกั ดิด์ ีนักฯ วันสำหรบั การลากเสา เมื่อจักลากเสามาเจาะให้เอาวนั ดีกอ่ นฯ วนั ๑ ให้เอาปลายไปอาคเนยจ์ งิ เจาะ วัน ๒ ปลายเสาไปทักขนิ มีไชยชนะ วนั ๓ ปลายไปปสั สิมดี วนั ๔ เอาปลายเสาไปทักขินดี วัน ๕ เอาปลายเสาไปอดุ รดี วัน ๖ เอาปลายเสาไปหนอดุ รดี วนั ๗ เอาปลายเสาไปอาคเนยแ์ ลทกั ขนิ ดี อยา่ ใหถ้ ืกเกลด็ นาคจงิ เจาะเทนิ อยู่ดมี ไี ชยชนะแล 136

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานการเจาะเสา จกั เจาะเสาให้วดั หกั เอาแต่ตีนเสาทอดจงิ ดี บน้ั เป็นส่วน จงิ วา่ โสกดงั นี้ “ชัยยะ ยกั ขณี ี สุกขะ มรณะ” ดังนี้ ถา้ เจาะได้สว่ นชัยยะดีแลฯ ได้ส่วนยักขณิ ีอยา่ เจาะบ่ดีนักแล ได้สว่ นมรณะบ่ดีจกั ตายอย่าเจาะเทิน การดเู กลด็ นาคก่อนปลูกเสา อัน ๑ เมื่อจกั ปลกู เสาใหด้ ทู ่ีควรอยา่ ถืกเกลด็ นาคบ่ดี ถ้าจักปลูกหนอีสาน จักเปน็ ทุกข์แล ปลกู หนบวั รัพพา ผัวจักตายก่อนฯ ปลูกหนปัสสิม บ่ดีฯ ปลูกหนอาคเนย์ หรดี จักได้ลาภมากหนักหนาแลฯ ปลกู หนพายยพั จกั ไดล้ าภเงินคำแลฯ พธิ กี รรมและวนั สำหรับเจาะเสา เม่ือจักเจาะปลูกเสาให้ได้วันดี จิงเลือกเอาเสาอันงามมาเฮียงไว้ จิงเขียนชื่อพราหมจารี ๑ โกสตรี ๑ ชอ่ื เพชชะ ๑ สุดทอ้ ง ๑ แลว้ ใหต้ กพราหมจารีเอาวางทีเ่ สา คน้ั วางเสาได้กอ่ นใหเ้ อาเสาน้นั เป็นเสาเอก ถ้าไดพ้ รหมจารกี ่อนใหเ้ อาผ้าเก้ียวเสานน้ั ถ้าไดโ้ กสตรใี หเ้ อาเหลอื งเก้ียวเสานน้ั ถา้ ไดเ้ พชชะให้เอาผา้ แดงเก้ียวเสาน้ันเทิน ถา้ ไดเ้ สาสุดท้องได้เอาผา้ ดำเกย้ี วเสานนั้ เทินฯ จักขุดขุมเสาให้เอาไม้ทองหลางเป็นด้ามเสียมขุดเสาแฮกเทินฯ ให้เอาคน ผู้ช่ือว่าจันน้ันขุดเสาขวัญผู้ ชื่อว่าแก้วน้ันให้ขุดเสาแฮกน้ันเทินฯ เม่ือขุดขุมเสาแฮกน้ันถ้าได้ถ่านไฟบ่ดี ให้นิมนต์พระสงฆ์มาขุด(สูด)มนตร์ แล้วจิงเอาน้ำหดขุมกอ่ นจงิ อยดู่ แี ลฯ ถ้าไดด้ กู ให้เอานำ้ มนั แลใบบวั หลวงแลหญ้าแฝกมาใส่กน้ ขุมจงิ ดมี ลี าภมากแลฯ ถ้าขดุ เสาเรือนจกั ให้ดี ให้ขุดทักขนิ ๓ มุม หนปสั สมิ เปน็ วงเดือน หนอุดร ๔ มุม หนบัวรัพพาแลอาคเนย์หรดี ๓ มมุ หนพายัพดุจจดังเดือนเพ็ง หนอีสาน ๔ มุมดนี กั แลฯ 137

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานการดขู ้ขี วายสำหรับหลมุ เสา ผูใ้ ดจกั ปลกู เรือนจกั ขดุ เสาแฮกเสาขวญั เอาขวายไปเบอื้ งหัวนาคจักแพพ้ อ่ เรือนแมเ่ รอื น เอาขี้ขวายเม่อื เบอ้ื งหางนาคแพ้ลูกหลานข้อยคนบ่ดี ขีข้ วายเมื่อทอ้ งนาคจกั มคี ำสขุ กะเสิมวุฒจิ ำเรญิ ใจทา่ นจักใหล้ าภขา้ วของเพิงใจแลฯ ให้ดแี ทใ้ ห้เอาข้ขี วายเมื่อหนา้ ท้องนาคซา้ ยมอื หางจิงดีแลฯ ทศิ ในการหนั ปลายเสา เมื่อแรกยกเสาอว่ ายปลายเสาไปหนอีสานจกั เป็นทุกข์ ถ้าปลายเสาไปหนอาคเนย์มีลาภ ปลายไปหนหรดีจกั อยูด่ ีกินดี ถา้ อ่วายปลายไปพายัพจักมีชัยชนะ ปลายไปหนปัสสิมไฟจักไหม้ ปลายไปหนอุดรผัวเมียเถียงกนั ปลายไปหนทกั ขนิ จักอย่ดู กี ินดมี ลี าภมากนักแล ท่ตี ำ่ สูงสำหรับปลูกเสา ถา้ จักปลกู เรอื นให้พิจารณาดูทอ่ี นั จักปลกู นนั้ ถา้ ตำ่ สงู หนอาคเนย์แลฯ ทักขนิ แลปัสสมิ จกั มลี าภมากนกั หนาเกิดยศศะดี ต่ำหนหรดี อยูย่ นื ไปจักถอยลงแล ต่ำหนอุดรแลทักขนิ แลอีสาน บด่ จี ักเสียตวั บด่ ีจักตายแลฯ อัน ๑ ใหด้ ทู เี่ รือนกอ่ นจิงดีฯ ถา้ สูงหนอีสานจกั ตาย สงู หนอดุ รจกั มีขา้ วของเงินคำ สูงหนบวั รพั พาแลอาคเนยม์ ไี ชยะจกั ได้ข้าคนเงนิ คำ สูงหนทกั ขินอยู่เยน็ ใจ สงู หนหรดีซามตาย สูงปสั สมิ อย่ดู กี ินดี สงู บวั รัพพาดีนักแล เดอื นสำหรับปลกู เรือน ปลกู เรอื นเดือน ๕ จกั เกดิ โภยภัยอนั รา้ ยมากนกั ปลกู เรือนเดอื น ๖ จกั เกดิ ทรพั ย์มากนกั แล 138

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสาน ปลูกเรอื น(เดือน) ๗ จักจิบหายแล ปลูกเรือนเดอื น ๘ โจรจักโคบชิง ปลูกเรือนเดือน ๙ สิ่งสินทกุ สถานจกั ถอ่ ย เดือน ๑๐ จกั ตายบ่ดี เดอื น ๑๑ จักเกดิ ถอ้ ยความ เดอื น ๑๒ จกั ไดเ้ งินคำชา้ งม้าข้าหญิงชาย งวั ควายมากหลาย เดือน ๑ จักมที รัพย์มากอยสู่ ขุ สำราญ เดือน ๒ จกั เกิดทุกข์มาก เดอื น ๓ ไฟจกั ไหม้จกั เกดิ อันรา้ ยฯ เดือน ๔ จักไดช้ า้ งมา้ ขา้ หญงิ ชายมากมาย การดูหัวนาคหางนาค เดอื น ๔ ๕ ๖ นาคเอาหัวไปหรดี หางไปบวั รัพพา ทอ้ งไปทักขินขนึ้ กอ่ นมลี าภเงนิ คำ เดือน ๗ ๘ ๙ นาคเอาหัวไปพายัพ หางไปทักขิน ท้องไปปัสสิม หลังไปอีสาน ให้ยกเสาขวางปัสสิม ก่อนจกั ได้ผา้ ผ่อนเงินคำ เดือน ๑๐ ๑๑ ๑๒ นาคเอาหัวไปอุดร หางไปปัสสิม ท้องไปพายยัพ หลังไปอาคเนย์ ให้ยกเสาหน พายพั ข้ึนกอ่ น อยู่เย็นใจ เดือน ๑ ๒ ๓ นาคเอาหัวไปบวั รพั พา หางไปอดุ ร ทอ้ งไปอีสาน หลังไปปสั สิม ใหย้ กเสาแรกหนอีสาน มากอ่ น จงิ มลี าภาข้าวของเงนิ คำข้าหญิงชาย มากหลายแล ปลูกเรือนเมื่อยกแฮกยกเสาขึ้นอย่าให้ถูกหลังนาคแลหางบ่ดี ลูกเมียจักเป็นเหตุ ถ้ายกเสาขึ้นท้อง นาคอยกู่ ินดีแล ลกั ษณะวันและคนทีจ่ ะยกเสาแรก ปลกู เรือนวัน ๑ ให้เอาคนขาวยกเสาแฮก จิงยกเสาทง้ั นัน้ ตาม ถา้ วัน ๒ คนขาวยกก่อน วนั ๓ คนดำยกกอ่ น วนั ๔ เป็นทดิ (บณั ฑิต) ยกกอ่ น วนั ๕ วัน ๖ คนมีกระกลุ บรรดาศักดก์ิ อ่ น วัน ๗ ผเู้ ฒา่ ยกก่อนดีแลฯปลูกเรือนจักเกิดโรคาอยูเ่ ถงิ ปี ลกั ษณะวนั และคนท่ีจะยกเสาแรก (ตำรา ๒) วัน ๑ จักไข้เจบ็ กวา่ คนทั้งหลายแล วัน ๒ จักไดส้ มบัติคบั ค่ัง อยู่เถงิ ๒ เดอื นจกั ไดล้ าภกวา่ คนทั้งหลาย วัน ๓ ปลกู ไฟจกั ไหม้ อยู่เถิง ๗ เดือนจกั เกิดพยาธิมาก 139

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสาน วนั ๔ อยู่สขุ กับทกุ ข์ทอ่ กันแล วัน ๕ ปลูกจกั ไดล้ าภ อยูเ่ ถิง ๕ เดือนจักได้ลาภมากแล วนั ๖ ปลกู เรือนสุขกบั ทุกขท์ อ่ กัน วัน ๗ ปลูกเรือนจกั เกิดพยาธิ คนั เถงิ เดือน ๑ จักไข้เจบ็ นักแลฯ ลักษณะโครงสร้างบา้ นทเ่ี ป็นมงคล ข่ือ ถา้ ปลูกให้เปน็ มงคลเอา ขื่อ ๖ ศอก ตง ๑๐ ศอกคืบปาย ๑๑ น้ิว แต่พื้นเถิงขาง ๖ ศอก แต่หลังขางเถิงดวด ๙ น้ิว โดยยาว ๓ วา ๕ น้วิ ได้สพั พะลกั แลฯ ลักขะนะเรือนใหญ่แต่ดินข้ึนเถิงรอดปิง ๖ ศอก แต่บ่ารอดเถิงข่ือ ๕ ศอก ๖ ศอก ตง ๙ ศอก ๑๕ นวิ้ แมน้ มื้อเป็นมงุ คุนเสรจ็ ซอ่ื สัพพะลกั แลฯ ข่อื ๓ วา แป ๙ วาศอก ขื่อ ๒ แป ๔ วาศอก ข่อื ๓ วาศอก แป ๑๐ วา ข่อื ๕ วาศอก แป ๒๕ วา ขอื่ ๓ วา แป ๒๐ วา ๕ หลงั นี้ช่ือวา่ สหี าลกั ทา้ วพญาอยู่ดีมเี ตชะแลฯ ข่ือ ๓ วาศอก แป ๓ วา กกข่ือ ๒ วาศอก แป ๓ วา อกขอ่ื ๒ วาศอก แป ๔ วา ๓ ศอก ขื่อ ๒ วาคืบ แป ๕ วาคืบ ข่อื วา อกแป ๒๐ วาศอก ขอื่ ๒ วา แป ๓ วาศอก ขอื่ ๓ วาศอก แป ๕ วา ๔ หลังน้ี ชอ่ื วา่ ๗ สพั พะลกั ซาวคา้ แลเศรษฐอี ยูด่ ี แป แป ๕ วา ขอ่ื ๒ วานน้ั ชอื่ วา่ สพั พะลกั จกั มขี า้ วของมากนักแล แป ๖ วา ข่ือ ๓ วา ชือ่ วา่ สาหาระมีเตชะมากนักแล แป ๘ วา ข่ือ ๓ วา ชอื่ ว่าปะถะระสะดนี กั แป ๑๓ วา ขื่อ ๕ วา ชื่อว่าสีหาลกั มีเตชะดี แป ๒๔ ศอก ขอื่ ๙ ศอก กด็ ีนกั แล แป ๑๕ ศอก ขือ่ ๕ ศอก ชอ่ื ว่าสีหาลกั ดีนกั แป ๒๓ ศอก ขอ่ื ๙ ศอก กด็ นี ักแล แป ๒๐ ศอก ดีนักแล ข่ือ ๑๐ ศอกดีนักแลฯ แป ๒๐ ศอก ขือ่ ๑๐ ศอกดนี ักแล แป ๒๐ ศอก ข่อื ๗ ศอกปลายนวิ้ มอื ก็ดี ๒ ฉบับ นี้ชอื่ ว่าคัดชะรักษ์อตุ ตะมะรักษ์ดนี ักแลฯ ปกั ตเู ผียกแทกกอดทอดท่ีทางขวางทางยาว สิทธกิ ารจกั กลา่ วเชยยะภมุ ใิ หด้ ฮู ูเดือนต่อไป เบอื้ งตาวนั ออก อาจารย์บอกวา่ บ่ดีอยูไ่ ด้เถิง ๓ ปจี ักตายบด่ ี ตำ่ เม่ือเบื้องอาคเนย์ อาจารยว์ ่าแพ้เมีย 140

ต่ำเบ้ืองใต้ มีลูกอ่อนจักตาย มีข้าวของจกั จบิ หาย ต่ำเบอื้ งหรดี พยาธปิ ักขคี าบดอกบวั อยู่ดี เพราะตัวเอง ตำ่ เบ้ืองตาวันตก อยหู่ วา่ งอกพญามาร ไฟจกั ใหม้ผงผา่ นเกง็ มว้ ยมรณา ต่ำเบือ้ งพายยพั เกรงจักดบั ชีวติ มรณาส คนปลูกแลว้ ให้เลกิ เสยี ต่ำเบอ้ื งอุดร เทพยดาโอยพรทั้งเวลามลี ูกหญงิ ลกู ชายจกั มียศฐา ตำ่ เบื้องอสี าน จกั ไดเ้ ปน็ มหาเศรษฐมี ลี กู หญงิ จักไดน้ างเทวี แล้วทบ ๑๒ ส่วนจิงเจาะปักตูถ้วน๓หั่นอย่ากลายน้ันปักตูท้าวพญาได้๙ ฝ่าตีนขวาดีปักตูเสนา ๗ ฝ่า ตีนขวา ๑ ดีปกั ตคู นทุกข์ข่อื ท้ังหลาย ๓ ฝาตนี ๖ ฝาตนี ขวากด็ ปี ักตอู ย่าแปงกระดีไฟแลแฝงสำแลเคร่ืองเรือนบ่ ดีแลฯ ยันต์ลูกน้แี คล้วแล แต้มถือแคลว้ แล ยันต์ลูกนี้ใสเ่ สาแล ยนั ต์นี้ใส่ปลายเสาแล สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสาน ส น ติ ป ก ข อา ป สันติปักขะอาปตั ตะนา ต ตา จ นิ ก ข น ทา ต ต สนั ติปาทาอะวัญจะนา ปิ ม ม มาตาปิตตาจะนิกขันทา ชา นา ชาติเวทะปตั ตกิ ัมมะ ตา ก ติ ส มา ต ติ ป นา ญ จ ว ท เว น ติ อ ทา ปา ยันตร์นกขุ่มน้ีติดหัวเสาทุกเสาเสก ๗ ที กันไฟดี จักลูบไฟเหยียบไฟก็ดี ลงตะกั่วใส่ฝ่ามือเสก ๙ คาบ ใส่สาย คาเรือน ๙ คาบเหน็บหลังคาไฟไหม้มาให้เอายันตร์แช่น้ำไว้แล้วจิงเอามาสาดกันไฟได้เลยแก่เจ้าเรือนแล้ว เทา่ น้ี 141

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานลูกนใี้ สก่ อดทอดแลฯฯลกู นี้ใสข่ ื่อแล ลกู นี้ใสป่ ลายดั้งแล ลูกน้ตี ดิ ปากนอกแล ณวริ ะกะโรมะสิ ลกู นี้กนั หนูแล ตยิ ลิ าปาโก ลูกนตี้ อกข่อื แล ลูกนี้เขยี นใสผ่ ้าอ้อมเดก็ นอ้ ย เขียนใสต่ ะกว่ั อา่ งนำ้ ใหเ้ ดก็ อาบ ลูกนีเ้ ขยี นตบหวั เด็กน้อยดีนักแล รปู แบบแปลงที่ดนิ ทีเ่ ป็นมงคลและไมเ่ ป็นมงคล 142

ยันต์ใส่ขอ่ื ยนั ตใ์ สด่ ้ังเฮอื นแล ปดิ ปกั ตเู ฮอื นแล สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานยันต์ตดิ ปลายเสาท้งั สองแล อนั นใ้ี ส่เสาแฮก ใสเ่ สาขวัญคู่กัน ใสเ่ สาฮา้ ยดใี สเ่ สาหอ้ งแล โสกเฮือน จักดทู ีอ่ ยทู่ ี่กนิ เรอื นใผดบี ่ดใี หฮ้ ู้ขีดตาหมื่นดงั ตาหมากหาบนี้ใหไ้ ว้เรือนแมน่ าตากก แถวเทิงใหน้ ับดูเรอื นฮ้าย เพ่ิงฮู้ฯเรือนผใู้ ดสมควรทไ่ี ดไว้ทีน่ น้ั เทินฯ เรือนสหเศรษฐี เรือนมโหสถดี เรือนคนหนีจากบ่ดี เรือนพราย เรอื นคนผทู้ ุกขบ์ ด่ ีแล เรือนพญาสินสนไชยดี เรือนคนภาโลหลน่ิ ชูเ้ มียหลนิ่ บ่ดี เรอื นซาดกเศรษฐดี ี เรือนสหเศรษฐดี ี เรือนพระยาเวสสนั ดรดี เรือนพระยาศรีสุโทดี เรือนไฟไหม้บ่ดี เรือนนางสดี านงั่ ไห้บด่ ี 143

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานเรอื นชูชะกะพราหมณ์บ่ดี เรอื นนางวิสาขาดแี ล เรอื นพญาโจรบ่ดี เรอื นผียักษก์ นิ คนบด่ ี เรือนอสั สมกู ขบี ่ดี เรือนนายนักการดีแลฯ เรือนอนาถปณิ ฑกิ ะเศรษฐีดีแลเจา้ เฮย เรอื นผเี ส้ือกนิ คนบ่ดี เรอื นชา้ งหลบุ โรงบด่ ี เรอื นตานีโชพอ่ ค้าดี เรอื นศตั รูบงั เบยี ดบด่ ี เรือนกาลกณิ บี ่ดีแล เรือนแม่นา* เรือนพญาศรีสนไชย* เรอื นพญาศรสี ุทโธ* เรือนโจร* เรือนผีเสื้อมหาสด* เรอื นพรานแห* เรอื นขนิ ใจ* เรอื นผกี ินคน* เรอื นชา้ งสาร* เรือนเทวทัต* เรือนนางสีดา บอื บ้านอยู่หั้น เรือนเศรษฐี เรือนพอ่ ค้า* เรอื นเศรษฐี* เรอื นยาจก* เรอื นพราน* เรือนเศรษฐี* เรือนขินใจ* ๔*เรอื นคนทัง้ หลาย* เรือนพญาสวุ รรณ* เรอื นนางสักขาคะ* เรือนเศรษฐี* เรอื นคนตาบอด* นาม ๓๒ ว่านาม ๑ จบตำราปลูกเรือนแตเ่ ท่านแ้ี ล เขยี นบ่เปน็ แลอาจารย์เอย รจิ นาแลว้ ยามค่ำ 144

สถาบนั วิจยั ศลิ ปะและวฒั นธรรมอสี าน ภาคผนวก 145

146 สถาบนั วิจยั ศลิ ปะและวฒั นธรรมอสี าน

ตำราปลูกเฮอื น ต้นฉบบั ใบลานวดั บ้านดอนยม บ้านดอนยม ตำบลทา่ ขอนยาง อำเภอกนั ทรวิชยั จังหวดั มหาสารคาม ปรวิ รรตโดย ณรงคศ์ ักด์ิ ราวะรินทร์ สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสาน กะไดขึ้นเฮือนขดุ เสาแฮกแล - เดอื น ๓ จะตาย ผัวจะตายแลฯ ขอเมยี จะทำชู้ ถ้ามทิ ำชจู้ ะตายจากกันแลฯฯถา้ กะไดขึ้นเฮือน - ถา้ ๑ ไดย้ าวเท่ากันมดิ แี ลฯยาวนิ้วหนึ่งจะตายจากกนั ยาวสองนิว้ จักมลี กู หลาย สามน้ิวจะมีงวั ควายมาก สน่ี ิ้ว จะมีเงนิ ทองมาก - หา้ นิ้วจะมีสมบัติมาก หกน้วิ จะจบิ หาย ยาวกวา่ นัน้ มิดีเลยฯฯถา้ ผ้ใู ดขุดเสาแฮกเป็นสามเหลี่ยมจะได้โภ- - ชนะอาหารทรัพยจ์ ะเกิดทรพั ย์สนิ เงนิ ทองฯ ถา้ ขุดเปน็ ส่เี หล่ียมแลคมมิดี ถา้ ขุดเสาแฮกพบเงินตกกด็ ี - ท่านฝงั ไวก้ ด็ จี ะเกดิ สมบตั ดิ ีนักฯฯ ถ้าพบตะกัว่ จะมขี ้าคน ถา้ พบมีดพร้าถาดทองจะเกดิ ทรพั ย์ขา้ วของทา้ วพระยาจะ- จักตัง้ บ้านเมืองทีส่ ูงทตี่ ำ่ แล (๒) - ใหล้ าภ ถา้ พบแฮ่ทรายอยเู่ ยน็ ใจ ถา้ พบทองแดงจะเกิดถอ้ ยความ ถ้าพบถ่านไฟจะไขเ้ จบ็ ถา้ พบหลกั ตอตาไม้ - จะจากเจา้ เฮือนมิดแี ลฯ จักตง้ั บา้ นเมืองทใี่ ดก็ดี ผแิ ผ่นดนิ ทใี่ ดสงู หนใต้ตำ่ หนเหนอื ท่ีนนั้ ชื่อวา่ ไชยฺยเต- - ชดีฯฯ ผิสงู หนวนั ตกต่ำหนวนั ออกท่นี น้ั ชือ่ วา่ ยสสฺ มรณาแลฯฯ ผสิ งู พายยัพต่ำทักขิน - ทน่ี นั้ ชือ่ วา่ สงฺขารแลฯฯ ผิต่ำปัสสมิ สูงบวั รัพพาท่นี ัน้ ช่อื ว่าอายรุ ัสสะมรณาแลฯฯ ผิต่ำหรดีสูงอีสานชอื่ วา่ ยสสฺ - - สินีอยู่บ่ดีแลฯ ผติ ่ำพายยพั สงู อาคเนยช์ อ่ื ว่าเตเชานน้ั บด่ ี บ้านเมอื งจักเป็นพยาธิฮอ้ นใจไฟจกั ไหมแ้ ลฯฯฯฯ 147

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานจอมปลวกอย่ใู กลบ้ า้ นใกล้เมือง - ผบิ ้านใดมนี ำ้ บ่อน้ำสระกด็ ีอยู่กำ้ วนั ออกดแี ลฯ อยกู่ ้ำอาคเนยบ์ า้ นนน้ั ยอ่ มผดิ กนั แม้นว่าคนเฮอื นเดยี วกผ็ ดิ กนั บด่ ฯี ฯ อยู่ก้ำทักขนิ แล - หรดีย่อมมีสุขสำราญเป็นดังได้กินน้ำอากาศนั้นแลฯฯ อยู่ปัสสิมคนจักเจ็บบ่ดีแลฯฯ อยู่หนเหนือเลี้ยงสัตว์ สี่ตีนสอง ตนี - จกั ตายบด่ ีแลฯ ผิวา่ จอมปลวกอยู่ใกล้บา้ นใกลเ้ ฮือนกด็ ี อยู่หนอาคเนย์ไฟจกั ไหม้บ่ดีแลฯ อยูท่ ะขนี จกั เสยี ของทา่ น - จักผูกตบี ่ดีแลฯ อย่เู บือ้ งหรดีมกั เป็นความแลฯ อยปู่ ัสสมิ ลูกหลายดีแล อยู่พายยพั ดีแลฯ อยอู่ ดุ ร - ทา่ นมักใหข้ องบข่ าดแลฯ อยอู่ ีสานทา้ วพระยาจักใหเ้ ปน็ ใหญด่ แี ลฯ อยู่บัวรัพพามีอายหุ มั้นยืนมเี ตชะอานุภาพนักแล ไม้ใกลบ้ ้านใกลเ้ ฮือนเฮือนใหญเ่ ฮ็ดเฮือนนอ้ ย (๓) - ผิว่าไว้เฮือนก้ำวันออกหลายมีเตชะอานุภาพแลฯฯ ไว้หนวันตกหลายมีอายุยืนแลฯ ไว้ก้ำเหนือหลายมีข้าวของมาก แล - ไว้กำ้ ใตห้ ลายบ่ดีอายุสั้นแลฯ อนั วา่ แอกนน้ั มหี า้ ประการแลฯ ผวิ ่าไม้ตน้ ใดใกล้บ้านใกลเ้ ฮือนเป็นรูปคนรูปราหรู ูป - จีแ่ ขร้ ูปนาครูปวอกบ่ดีแลฯ อนั ว่ากระแสน้ันมี ๙ ประการคือวา่ แปงเฮอื นท่สี ดุ บ้านบด่ ฯี หนทางหลวงผา่ กลาง - บ้านก็ดบี ด่ ีแลฯ บา้ นเดยี วเฮอื น ๒ หลงั มายกันบ่ดีแลฯ เฮอื นหลงั ใหญ่ให้เป็นหลงั น้อยบด่ ีแลฯ เฮอื นสูง - ตดั ใหต้ ำ่ บ่ดีต่าวปลายขอ่ื ปลายแปบ่ดฯี ข่ือใหญก่ ว่าเสาบ่ดฯี เอาปลายเสาลงลุม่ บด่ แี ลฯ สพั พะกำถันมาฮอม 148

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานปกั ตูถมสมทุ รนำ้ บอ่ นำ้ ส่างอย่นู ้ี - นัน้ คือวา่ อยเู่ ฮือนทน่ี ำ้ ไหลมานน้ั ๑ ฯ สายน้ำไหลท่ังเพยี งเฮือน ๑ แปวหว้ายกุดสายฮ่องไหลถง่ั เฮอื นบด่ ีแลฯ แปง ทวารน้ันมี ๔ ประ- - การแปงปกั ตูเฮือนใหญ่ ๑ บด่ ฯี ปักตูบ้านปกั ตูเฮอื นเพยี งกันบ่ดฯี นอนเพียงคไี ฟบ่ดีฯต้นไม้เป็นรูปบง้ิ อยฮู่ ่องเฮือนบ่ ดีแล - ฯ ลาภมนตร์นน้ั มี ๒ ประการ คอื ว่าเฮอื นหาวเฮือนดอกเอาไมค้ ำ้ บ่ดฯี ปล้ำไมท้ บั เฮอื นบ่ดีฯถมสมุทรมี ๓ ประการ คือว่าห้วย - ถมฮ่องถมสา่ ง ถมนำ้ สระนำ้ บ่อแล้วจงึ ปลกู เฮอื นกวมบ่ดีแลฯฯ เหตวุ ่าอย่ทู ่แี ก้วท้ัง ๓ บด่ ี อยทู่ ่เี ทวดาบด่ ี - ฯ อนั วา่ ขดุ ธรณีน้ันมี ๒ ประการ คอื วา่ ขุดคันนาปลูกเฮือนบด่ แี ลฯฯ ติโอนัน้ มี ๒ ประการ คอื ว่าปลูกโคมในบา้ น แขวนบา้ นบด่ ีฯ กะ- เอาเขาแฮกเสาขวัญ (๔) - โตกทุมมานั้นไม่ให้แปงทุง (ธง)แขวนใกล้เฮือนบ่ดีฯฯอันว่าลาฮักลำนั้นเอาเฮือนแลกกันบ่ดีฯอันว่าปเภทาแถเรานั้น เฮือนเกา่ - แปงเกยไอ่วออกใหม่เอาบ่ดีฯอันว่าสพฺพของเก่ามาโฮมน้ันคือว่าเฮือนหลายหลังมาเฮ็ดหลังเดียวบ่ดีแลฯอันว่าป- - ริวนฺตาแฮกลำน้ันคือว่าเฮือนหลังหนึ่งอยู่หัวบ้านก้ำ ๑ หลัง ๑ อยู่หลังบ้านก้ำหน่ึงแลกกันบ่ดีแลฯฯผิว่าจักเอาเสา- - ขวัญใหพ้ ิจารณาดูไม้ตน้ ใดเปน็ รปู วอกรปู แขนคนแลรปู อาวุธรปู หนทางอยา่ เอาบ่ดฯี ผิไม้ต้นใดเป็นรปู - - หงส์รูปเดือนรปู ชา้ งรูปงวั ดนี กั แลฯผจิ กั เอาเสาแฮกให้เอาลำงามสว้ ยปลายไมต้ ้นนัน้ ชอ่ื ว่าไชยยฺ วฒุ ีแลฯลำใดฯ 149

สถาบัน ิว ัจย ิศลปะและ ัวฒนธรรม ีอสานตดั เสาแฮก - กกใหญป่ ลายใหญท่ ำ่ กลางนอ้ ยอยา่ เอาบ่ดีลำใดกกน้อยปลายน้อยทำ่ กลางใหญช่ ือ่ ว่ากาลกิณีไมบ้ ่ดแี ลจกั เอาใหเ้ อาลำงาม - มียอดทำ่ กลางดีนกั แลฯฯถา้ จักตัดเสาแฮกให้เอาเผยี กแทกแต่กกเทา่ ปลายจิงมาจึงมาหักบ้นั เปน็ ๑๐ สว่ น - เทญิ ฯสว่ น ๑ ทา้ วพระยาฮกั แลส่วนถ้วน ๒ มตี าดปี ระกอบดว้ ยมิตรสหาย แลฯสว่ นถว้ น ๓ - มตี าจกั ได้โภหาร(อาหาร)มากนักแลฯฯ สว่ นถ้วน ๔ มีตาจกั ไขเ้ จ็บบด่ ฯี ฯสว่ นถ้วน ๕ มีตาฟ้าผา่ จิบด่ ีฯฯ ส่วน- - ถว้ น ๖ มีตาจกั ไดง้ ัวควายชา้ งม้าสว่ นถว้ น ๗ มีตาท้าวพระยาจักฮักฯฯสว่ นถ้วน ๘ มตี าจกั เสยี ของสว่ นถ้วน ๙ มตี า- บักดวดสวิ่ ปงิ (๕) - จักไดพ้ รากจากทฮี่ ักบด่ ีสว่ นถว้ น ๑๐ มีตาจักได้ไฮ่นาฮั้วสวนแลฯนยั ยะหนึ่งว่าเสาแฮกมตี า ๑, ๒ ตา ๓ ตา - ๖ ตา ๙ ตา ๑๐ ตา ดมี ากกว่า ๑๐ ตาแล ๕ ตา ๗ ตา ๘ บด่ นี ยั ยะ ๑ ใหไ้ ดล้ ว่ งปิงแลข้ึนลว่ งกกเสาดีแลผิวา่ - จกั ปักดวดแลส่วิ ปิงแทกแตต่ ีนเสาได้ค่าใดจงึ เอาดา้ มนั้นแทกกกเสาตามโสกอันนว้ี า่ สกุ ฺเขาเจาเลาส-ิ - ทธฺ ิลาเภามจฺจุดังนี้เทา่ สดุ จิงส่วิ ปิงปักดวดเทญิ ฯฯผิวา่ ปกั ดวดได้สุกฺเขาสิทธฺ ลิ าเภาดไี ดเ้ จาเลา- - มจฺจุบ่ดแี ล ฯฯ ผวิ ่าเฮือนท้าวพระยาแตต่ ีนเสาขนึ้ จปุ ิงยาวคา่ ใดไว้ดวดยาวศอก ๑ ดีแลฯฯผิวา่ เฮือนซาวเมืองลมุ่ 150