โอบรบั ความทกุ ข์ ความสขุ เบง่ บาน สว่ นใหญไ่ ปกบั อปุ กรณอ์ เิ ลก็ ทรอนกิ สซ์ ง่ึ ท�ำ ใหร้ า่ งกายและจติ ใจของพวกเขา เหนื่อยล้ามาก โครงการน้ีทำ�ให้พวกเขามีโอกาสพักและสัมผัสกับหัวใจของ ตนเอง “ในชว่ งเวลานน้ั ไมม่ ีการสอน ไมม่ อี ุปกรณ์ในเชิงความคดิ นกั เรยี น เป็นอุปกรณ์ในการสอนของตัวเอง พวกเราช่วยให้นักเรียนตระหนักรู้ ลมหายใจ รา่ งกาย การก้าวเดิน ค�ำ พูด และอารมณข์ องตวั เอง จากนน้ั เรา เปดิ พนื้ ทใ่ี หพ้ วกเขารบั รวู้ า่ ความผอ่ นคลายคอื อะไร ผอ่ นคลายและสงบ การ เปลี่ยนแปลงมาจากการตระหนักรู้ในตัวเอง นักเรียนจำ�นวนมากบอกว่า หลังจากเข้าร่วมโครงการน้ี พวกเขาได้เรียนรู้ว่าพวกเขาต้องกลับไปนอน เรว็ ขนึ้ และตนื่ เชา้ ขน้ึ รวู้ า่ จะผอ่ นคลายตวั เองไดอ้ ยา่ งไร และรวู้ า่ จะลดค�ำ พดู ในแง่ลบลง “ระหวา่ งชว่ งแรก“การผอ่ นคลายและลดความกดดนั ”นกั เรยี น120คน สามารถสงบลงและผอ่ นคลายไดด้ ว้ ยความชว่ ยเหลอื จากครู พวกเขาแนะน�ำ ว่าโรงเรียนควรจัดช่วงเวลาแบบน้ีบ่อยขึ้น เราจะเห็นได้ถึงความปรารถนาท่ี จะอย่อู ยา่ งมคี วามหมายจากบันทกึ ของนกั เรยี นทเี่ ขียนขน้ึ ในโครงการน้ี” . 201 .
10 ห้องเรยี นแหง่ รกั : การเยียวยาความยากลำ�บาก วันหน่ึงพระพุทธเจ้าเข้าไปในป่าเพ่ือเดินสมาธิ ขากลับพระองค์เก็บใบ ประดู่ลาย มาจำ�นวนหนง่ึ เมอ่ื มาถึงปากทาง พระองคพ์ บกบั พระภิกษสุ งฆ์ กลุ่มหน่ึง พระองค์ยิ้มหยิบใบไม้ออกมาแล้วถามว่า “เพื่อนรัก ระหว่างใบ ประดู่ลายที่อยู่ในป่ากับใบไม้ที่อยู่ในมือของฉัน อะไรมีมากกว่ากัน” พระ ภกิ ษสุ งฆ์ตอบว่า “พระอาจารย์ทรี่ กั ใบไม้ 1 กำ�ในมอื ของท่านเม่ือเทยี บกับ ใบไม้ท้ังป่าช่างน้อยนิดเหลือเกิน” พระพุทธเจ้าตอบว่า “เพื่อนรัก ส่ิงท่ีฉัน รู้น้ันกว้างใหญ่ไพศาล แต่ฉันเลือกสอนเธอเพียงบางสิ่ง ซ่ึงจำ�กัดมาก ฉัน ไม่สอนเธอท้ังหมดท่ีฉันรู้ เพราะฉันคิดว่าส่ิงเหล่าน้ันไม่มีประโยชน์สำ�หรับ การแปรเปลย่ี น เยยี วยา รวมทงั้ ไมม่ ผี ลตอ่ ความสขุ ของเธอดว้ ย ฉนั สอนเธอ เฉพาะสงิ่ ทจ่ี �ำ เปน็ ต่อเธอจริงๆ” เชน่ เดยี วกนั เราควรมอบสง่ิ ทพี่ วกเขาตอ้ งการอยา่ งแทจ้ รงิ เปน็ ล�ำ ดบั แรกสดุ และหาก วา่ มเี วลาเหลอื เราจงึ มอบความรชู้ นดิ อน่ื ใหก้ บั พวกเขา ฉนั หวังว่าผู้นำ�ในสาขาการศึกษา รวมท้ังกระทรวงศึกษาธิการจะคำ�นึงถึงเรื่อง น้ี พวกเขาต้องรู้ว่าครูรู้สึกว่าตนเองไม่มีเวลา เพราะหลักสูตรที่เรียกร้องกับ พวกเขามากเกนิ ไป เดก็ ๆ มคี วามทกุ ขท์ ล่ี กึ ซงึ้ จากความรนุ แรง ความสนิ้ หวงั ความโกรธ และขาดความรัก จึงยากท่ีจะเรียนรู้ นักการศึกษาต้องพูดถึง ประเด็นพืน้ ฐานนี้ . 203 .
เลน่ เป็น เด็ก เรารู้ว่าแต่ละคนมีความต้องการที่ลึกลงไป ความต้องการที่ลึกที่สุด ของทุกคนคือ ตอ้ งการท่ีจะรักและเป็นท่รี ัก จะต้องมหี นทางใดหนทางหนงึ่ ในการสมั ผสั กบั เมลด็ พนั ธ์แุ หง่ ความรักทอี่ ยภู่ ายในตัวของเดก็ ๆ การรักเปน็ ศิลปะอยา่ งหน่งึ หากนักการศกึ ษารูว้ ิธีท่จี ะรกั เธอจะชว่ ยเดก็ ๆ ให้เรียนรู้วิธี มอบและรับความรกั ความต้องการท่ีลึกลงไปลำ�ดับที่สอง คือ ความต้องการที่จะเข้าใจ หากเรามีความสงสัยใคร่รู้มาก เราก็อยากจะเรียนรู้ หากเราสัมผัสได้ถึง เมล็ดพันธ์ุเหล่าน้ีในตัวนักเรียน พวกเขาก็อยากเรียนรู้ เราไม่ต้องบังคับ พวกเขา แล้วการเรยี นการสอนกจ็ ะกลายเป็นความเบกิ บาน นี่เป็นสิ่งท่ีเป็นไปได้สำ�หรับเราด้วย ไม่ใช่แค่นักเรียนเท่านั้น เพราะ ว่าครูก็ต้องการท่ีจะรัก ได้รับความรัก และได้รับความเข้าใจเช่นเดียวกัน เราต้องการความเข้าใจไม่เพียงจากนักเรียนของเราเท่าน้ัน แต่รวมถึง คณะกรรมการบริหารโรงเรียน เพ่ือนร่วมงาน เจ้าหน้าท่ี และกระทรวง ศกึ ษาธกิ าร หากเราไมร่ สู้ กึ วา่ ไดร้ บั ความเขา้ ใจ เรากไ็ มม่ คี วามสขุ และท�ำ งาน ได้ไม่ดี คนที่ทำ�งานด้านการศึกษาต้องรู้วิธีฟังซ่ึงกันและกัน และรู้วิธีปฏิบัติ วาจาแหง่ รักอยา่ งอ่อนโยนเพ่ือชว่ ยผอู้ น่ื ใหเ้ ขา้ ใจ เหน็ ความยากลำ�บากและ ความทุกข์ของเรา ระบบโรงเรียนสามารถสร้างสังฆะได้ซ่ึงเป็นสังฆะของ นักการศึกษา เรามาอยดู่ ้วยกัน บอกเล่าส่ิงทีเ่ ราใหค้ วามส�ำ คญั และปญั ญา ของเรา รวมทัง้ ช่วยใหผ้ อู้ ่นื ตระหนกั ถงึ ความยากล�ำ บากของเราดว้ ย พวกเราหลายคนมีความสามารถมากเพียงพอท่ีจะจัดช่วงเวลาของ การฟังอย่างลึกซง้ึ ในแวดวงการศึกษา เราเลอื กสมาชกิ บางคนในชมุ ชนของ เราเพ่ือเป็นเสียงให้กับสิ่งที่เราให้ความสำ�คัญ เราต้องขอให้คนที่รับผิดชอบ งานด้านการศึกษา ท้ังผู้ออกกฏหมายและเจ้าหน้าที่ของรัฐมาพบและรับ ฟังเรา นคี่ อื การปฏบิ ตั ริ ่วมกันของขอ้ ฝกึ อบรมสติข้อท่ี 4 การฟังอยา่ งลกึ ซง้ึ และวาจาแห่งรักเราอาจเชิญผู้รอบรู้ในประเทศของเรา ซึ่งรู้วิธีท่ีจะฟัง เช่น นักวิชาการ นกั หนังสอื พมิ พ์ นักเขยี น กวีหรือนกั การเมือง เช้อื เชญิ ให้พวก เขามาปฏิบัติและรับฟังเรา มีบางส่วนที่รับฟังการแบ่งปันความทุกข์ของ . 204 .
หอ้ งเรียนแห่งรัก: การเยียวยาความยากลำ�บาก เราในฐานะนักการศึกษาได้และบอกเล่าความทุกข์ของนักเรียนของเราได้ เราอาจจะถา่ ยทอดกิจกรรมทัง้ หมดนผ้ี ่านโทรทัศน์เพื่อใหผ้ คู้ นตดิ ตาม แลกเปล่ียน ครแู ลกเปล่ียนความทกุ ข์ของเธอ จากชว่ งการฟงั อยา่ งลกึ ซ้งึ ในงานภาวนาของทา่ นติช นัท ฮันห์ ฉนั อย่ทู ่บี รคุ ลนิ นิวยอรค์ และเป็นครูสอนช้นั ประถมสามและส่ี ฉนั กังวลกบั นักเรียนของฉันมาก พวกเขาสับสนและมีส่ิงต่างๆในหัวมากมาย ทางออก จากความกลัวและความวติ กกงั วลของพวกเขามีไมม่ ากนัก บางครงั้ ถา้ ในหอ้ งเรยี นปน่ั ปว่ น ฉนั จะหยดุ ทกุ อยา่ งแลว้ บอกวา่ “เรา ตอ้ งหยุดสกั 1 นาที” ฉนั ปิดไฟแลว้ ถามวา่ “เกิดอะไรขึน้ ทำ�ไมพลังจงึ ได้ มากมายนักทำ�ไมทุกคนจึงเป็นบ้ากันไปหมดเลย” แล้วเด็กๆ ก็จะตอบว่า “เมื่อคืนหนูนอนน้อย” “ตึกท่ีอยู่มีเสียงดังมาก” “ผมรอแม่กลับมาบ้าน แม่ ไม่เลิกงานจนกว่าจะเที่ยงคืน” “ผมไม่ได้กินอาหารเช้า” เราคุยกันในเร่ือง พวกนี้ มันช่วยได้มาก แล้วเราก็กลับมาอยู่ในร่องในรอยอีกคร้ัง ฉันพบว่า หากฉันไม่รับรู้ถึงความวิตกกังวลของพวกเขา หรือเอาแต่พูดว่า “ฉันต้อง ผ่านช่ัวโมงคณิตศาสตร์น้ีไปให้ได้”จากนั้นบทเรียนก็จะหายไป เช่นเดียวกับ โอกาสในการย่ืนมือไปหาเดก็ ๆ คุณพ่อคุณแม่ และท่านผู้ปกครองคะ ฉันคาดว่าคุณจะใช้เวลากับ ลูกๆ ของคุณได้มากกว่าน้ี จากมุมมองของครูอย่างฉันแล้ว ฉันคิดว่าสิ่งท่ี ใหญ่ท่ีสุดซึ่งช่วยนักเรียนได้มาก คือการฟังอย่างลึกซ้ึงว่ามีอะไรเกิดขึ้นกับ ลูกๆ ของคุณบา้ งพวกเขากงั วลเกี่ยวกบั พวกคุณมาก และกงั วลเก่ียวกับตวั เองดว้ ย เราต้องใหภ้ าษาสำ�หรบั แสดงออกถึงความรู้สึกของพวกเขาออกมา เราต้องให้ทางออกแก่ลูกๆ ซง่ึ ก็คือการฟังอยา่ งมีสติ . 205 .
เลน่ เป็น เดก็ หอ้ งเรียนคอื ครอบครวั เราไม่อาจปฏิบัติสมาธิตามลำ�พังได้อีกต่อไป เราต้องปฏิบัติเป็นสังฆะหรือ ชุมชน เราต้องปฏิบัติข้อฝึกอบรมสติ 5 ประการร่วมกันทั้งประเทศ ใน ห้องเรียนควรจะมีช่วงเวลาที่ครูจะรับฟังความทุกข์และความยากลำ�บาก ของนักเรยี น วิธีการน้จี ะช่วยให้พวกเขาผอ่ นคลาย และปล่อยให้พวกเขาได้ เรยี นรู้และรบั เอาสิ่งทพี่ วกเราต้องการส่งมอบให้ นกั เรียนควรจะมีโอกาสได้ เรียนรู้ความทกุ ข์และความยากลำ�บากของครู ครูแบง่ ปนั ความทุกขแ์ ละแรง บนั ดาลใจของตนเอง ครสู กั คนหนงึ่ หรอื นกั เรยี นชน้ั ปที สี่ งู กวา่ เปน็ ผปู้ ระสาน งานเพ่ือทำ�ให้เกิดวงสนทนาและแบ่งปันได้ ด้วยวิธีการนี้ เราแปรเปลี่ยน ห้องเรยี นไปสู่สังฆะ ชุมชน ครอบครวั ครูและนักเรียนอาจจะจัดช่วงเวลาให้พวกเขาได้เล่น เบิกบาน กับดนตรี เดินและหายใจด้วยกัน ด้วยวิธีการนี้ เราจะกลายเป็นครอบครัว เราจดั ชว่ งเวลานใี้ หเ้ กดิ ขน้ึ เพอ่ื ทเี่ ราจะไดแ้ ปรเปลย่ี นหอ้ งเรยี นของเราไปเปน็ ครอบครัวซ่ึงมีการสื่อสาร ความเข้าใจซ่ึงกันและกัน และการบรรเทาความ ทุกข์เป็นไปได้ น่ีจะช่วยให้การเรียนและการสอนง่ายขึ้น แล้วการศึกษาจะ กลายเปน็ ความสนุกสนาน แม้วา่ ครจู ะไมม่ ีรายไดม้ ากนัก แต่เรามีความเบกิ บานมากมายในการงานแหง่ การส่งทอดปญั ญาและความรกั เราต้องทำ�ให้ได้เพื่อให้ห้องเรียนเป็นสถานที่แห่งความสุขสำ�หรับ นักเรียนและครู น่ีคือโกอัน หัวข้อของการทำ�สมาธิของเรา เราจะช่วยให้ เดก็ ๆ มคี วามสขุ เมอื่ คดิ ถงึ โรงเรยี นและหอ้ งเรยี นไดอ้ ยา่ งไร ครจู ะรสู้ กึ ตน่ื เตน้ เมื่อนึกถึงห้องเรียนได้อย่างไร ครูใช้ไหวพริบและจินตนาการของตัวเองให้ เป็นประโยชน์ได้ และผสานเขา้ กบั ไหวพรบิ และจนิ ตนาการของนกั เรียนเพื่อ ทจี่ ะท�ำ ใหห้ อ้ งเรยี นกลายเปน็ สถานทแี่ สนวเิ ศษซง่ึ เราไดอ้ ยรู่ ว่ มกนั สงิ่ เหลา่ นี้ เป็นไปได้ . 206 .
ห้องเรียนแห่งรัก: การเยยี วยาความยากลำ�บาก กลุ่มเกอ้ื กูลดว้ ยความรกั หากมีความทุกข์ในห้องเรียน ครูช่วยเด็กๆ สร้างกลุ่มเกื้อกูลแห่งรักเพ่ือที่ จะเข้าใจ และแปรเปล่ียนความทุกข์ของพวกเขาได้ นักเรียนและครูอาจจะ ตั้งกลุ่มโดยเลือกเด็กๆ 2-5 คนข้ึนมา เป้าหมายของกลุ่มเก้ือกูลด้วยความ รักคือการเร่ิมต้นปฏิบัติสันติภาพในห้องเรียนเพ่ือนำ�ความสุขมายังครูและ เด็กๆ ทุกคนหลังจากกลุ่มก่อตั้งมีประสบการณ์ของการฟังอย่างลึกซึ้งแล้ว เด็กคนอ่ืนๆ สับเปล่ียนมาอยู่ในเกื้อกูลด้วยความรักได้ และเรียนรู้การ ปฏบิ ตั ิการฟงั อยา่ งลกึ ซึ้ง ความทุกขม์ ากมายจากประสบการณข์ องนักเรยี น มาจากการสอื่ สารทผ่ี ดิ พลาด บอ่ ยครง้ั ทเี่ ดก็ ๆ รสู้ กึ วา่ เสยี งของตนเองไมเ่ คย ถูกได้ยิน หรือไม่เคยได้รับความเข้าใจ ด้วยการฝึกปฏิบัติการฟังอย่าง ลกึ ซงึ้ และการมองอยา่ งลกึ ซง้ึ หนทางออกจากความทกุ ขจ์ ะเผยตวั ขน้ึ มาให้ เราเอง การปฏิบัติการฟังอย่างลึกซ้ึงและมองอย่างลึกซ้ึงลงไปในความทุกข์ ของเรานำ�ไปสู่ห้องเรยี นท่ีมคี วามสุขและกลมเกลยี วสมานฉันท์ได้ การแปรเปลี่ยนความทุกข์ในห้องเรียนของเธอ กลุ่มเก้ือกูลด้วย ความรักอาจจะเสนอให้จัดช่วงเวลาของการฟังอย่างลึกซ้ึงด้วยความกรุณา ได้ “คณุ ครทู รี่ กั พวกเราตอ้ งการชว่ งเวลาทเี่ ราสามารถบอกความยากล�ำ บาก และความทุกข์ของเราท้ังหมดได้ พวกเราหลายคนเป็นทุกข์จากครอบครัว และห้องเรียน เราอยากจะให้ครูรับรู้ความทุกข์ของเรา” น่ีเป็นการร้องขอ ที่ถกู ต้องตามหลกั เกณฑม์ าก และจากการฟังนกั เรียน เธอก็ได้เรม่ิ ต้นปฏิบตั ิ คำ�สอนของพระพุทธเจ้าแล้ว น่ันคือ การฟังอย่างลึกซ้ึงลงไปในความทุกข์ ของเธอ ฝ่ายบริหารจัดการของโรงเรียนควรจะอนุญาตให้เราจัดช่วงเวลาท่ี ครูมาน่ังและฟงั ความทกุ ขแ์ ละความยากลำ�บากของนักเรยี นอย่างลกึ ซึ้ง ในฤดรู อ้ นครงั้ หนงึ่ ทห่ี มบู่ า้ นพลมั มเี ดก็ ผหู้ ญงิ อายปุ ระมาณ 7-8 ขวบ คนหน่ึงร้องไห้แล้วร้องไห้อีก เธอเป็นทุกข์มาก เธอไม่รู้ว่าทำ�ไมครูของเธอ ทำ�ให้เธอทุกข์อย่างลึกซึ้งมากข้ึนทุกวัน ทำ�ไมครูจึงพุ่งเป้ามาท่ีเธอ เธอไม่รู้ วิธีหยุดมันการไปโรงเรียนเป็นส่ิงท่ียากมาก แต่เธอก็ต้องไปโรงเรียนทุกวัน เมื่อสังฆะทงั้ หมดได้ฟงั เธอ พวกเราหลายคนรวมทั้งผใู้ หญ่รอ้ งไห้ หลายคน . 207 .
เล่น เป็น เดก็ ประสบกับความทุกข์แบบเดียวกัน หากว่าเธอมีกลุ่มเกื้อกูลด้วยความรักในห้องเรียน เด็กคนน้ีจะมาที่ กลมุ่ และไดแ้ บง่ ปนั ความทกุ ขข์ องเธอ “ฉนั เปน็ ทกุ ข์ โปรดชว่ ยเหลอื ฉนั ดว้ ย” จากนั้นทั้งกลุ่มก็จะนั่งลงแล้วพูดว่า “เราพร้อมที่จะฟังเธอ บอกเล่าความ ทุกขข์ องเธอเถิด”ทกุ คนฟงั เรื่องราวของเธอ กลุ่มเกื้อกูลด้วยความรักจะหาทางช่วยบรรเทาความทุกข์ของเธอได้ พวกเขาอาจจะเลือกเด็กสักคนหนึ่งหรือสองคนไปบอกความทุกข์ของเพื่อน ให้ครฟู ัง “ครูท่รี กั หนูไม่รู้วา่ ท�ำ ไมเดก็ คนน้นั ร้องไหท้ กุ วัน แตเ่ ธอบอกว่าเธอ เปน็ ทกุ ข์เพราะครู เธอเป็นทุกข์มากจริงๆ เธอไม่ต้องการตำ�หนิครู เพยี งแค่ อยากจะหยดุ ความทกุ ข์ โปรดบอกพวกเราวา่ เราจะชว่ ยไมใ่ หเ้ ธอเปน็ ทกุ ขอ์ กี ต่อไปได้อย่างไร” เมื่อกลุ่มมาหาและพูดคุยกับครูในลักษณะน้ี และร้องขอ ความช่วยเหลือฉันคิดว่าครูจะพยายามทำ�บางอย่างเพื่อช่วยเปล่ียนแปลง สถานการณ์ แน่นอนว่าหากเด็กๆ เข้มแข็งมากพอ พวกเขาอาจจะพูดกับครู โดยตรง “ครคู ะ หนูไม่รู้ว่าท�ำ ไมครเู ลือกตำ�หนหิ นูทกุ วัน และท�ำ ใหห้ นทู ุกข์ หนไู ม่รวู้ า่ หนูท�ำ อะไรลงไป โปรดบอกส่ิงท่ีทำ�ให้ร�ำ คาญใจในตวั หนู และหนู จะพยายามใหด้ ที ่สี ดุ เพ่ือเปลยี่ นแปลงมนั ” เธอใชภ้ าษาแห่งรัก แตถ่ ้าเด็กคน นน้ั ไม่มีความมัน่ ใจมากพอ เขาร้องขอกับกล่มุ เก้อื กูลด้วยความรักใหช้ ว่ ยได้ นเี่ ปน็ วธิ ีการทีม่ ีสนั ติมากในการมองสง่ิ ตา่ งๆ ครคู วรจะบอกเดก็ ๆ ดว้ ยเชน่ กนั วา่ พวกเขามคี วามทกุ ขใ์ นครอบครวั ดว้ ย และจะทกุ ขท์ วคี ณู หากมคี วามทกุ ขใ์ นหอ้ งเรยี นอกี ถา้ มกี ลมุ่ เกอื้ กลู ดว้ ย ความรักแล้ว เด็กๆ ส่งเสริมให้ครูกล่าวถึงความทุกข์ของตนเองออกมาได้ หลงั จากเดก็ ๆ เข้าใจความทกุ ขข์ องครแู ล้ว พวกเขาจะนา่ รกั มากขน้ึ พวกเขา จะรวู้ ธิ ีสนับสนุนครู และร่วมมอื กับครู หากปราศจากการสือ่ สารระหวา่ งครู และนักเรียน ความสุขเป็นไปไม่ได้เลย ครูจะไม่มีแรงบันดาลใจในการสอน และนกั เรยี นจะไมม่ แี รงบันดาลใจในการเรยี น . 208 .
ห้องเรยี นแห่งรกั : การเยียวยาความยากลำ�บาก บทบาทสมมตเิ ร่อื งความขัดแย้ง ให้เด็กๆ เล่าเร่ืองตอนที่ตัวเองตกอยู่ในความขัดแย้ง หากเป็นไปได้ ขอให้ เดก็ ๆ ลองแสดงตวั อยา่ งเหตกุ ารณว์ า่ เปน็ อยา่ งไร จากนน้ั ชว่ ยกนั หาทางคดิ วา่ จะรบั มอื กบั สถานการณ์อย่างมสี ติและมีสนั ติไดอ้ ย่างไร เตือนเด็กๆ ให้กลับมาหายใจ และตระหนักรู้ถึงอารมณ์ของตัวเอง กระตุ้นใหพ้ วกเขาออกจากสถานการณ์ทขี่ ัดแยง้ โดยทันทที ่เี ปน็ ไปได้ กอ่ นที่ พวกเขาจะระเบิดอารมณ์ออกมา หรือเม่ือใดก็ตามท่ีพวกเขารู้สึกว่าตนเอง อยูใ่ นอันตราย เมื่อพวกเขาสงบมากพอทจี่ ะพูดถึงความยากลำ�บากของเขา กับคนอื่นๆ สอนใหพ้ วกเขาใชป้ ระโยคทีข่ ้นึ ต้นดว้ ย “ฉัน” ทีช่ ัดเจน และรับ ผิดชอบกับอารมณ์ของตัวเอง หลีกเล่ียงท่ีจะใช้ภาษาท่ีเป็นการตำ�หนิหรือ ตัดสินผู้อื่น ส่งเสริมให้พวกเขาบรรยายการกระทำ�เฉพาะเจาะจงหรือคำ�พูด ท่ีท�ำ ให้เขาโกรธ ตวั อย่างเชน่ ฉันรสู้ กึ เจบ็ ปวดและโกรธเมือ่ เธอพดู วา่ เธอจะ แบ่งของเลน่ หนังสอื ขนม แตเ่ ธอก็ไม่ไดท้ �ำ ตามน้นั (ดีกวา่ ทีจ่ ะบอกว่า เธอ เปน็ คนชอบโกหกและไมเ่ คยทำ�ตามสัญญาเลย!) จากนนั้ ใหเ้ ดก็ ๆ แสดงสถานการณค์ วามขดั แยง้ อกี ครง้ั โดยใชว้ ธิ กี าร ทเ่ี ธอเพง่ิ ระดมความคดิ เหน็ หากเธอมภี าพเขยี นเลก็ ๆ ทด่ี หี ลายชนิ้ เธออาจ จะร้อยมันไวด้ ว้ ยกันแลว้ ใชป้ ระกอบการแสดง การแสดงบทบาทสมมติมีประโยชน์มากสำ�หรับเด็กๆ และพ่อแม่ หรือครูและนักเรียนได้ทำ�ร่วมกัน การแสดงสถานการณ์ที่ยากลำ�บาก (เช่น การปลุกเด็กๆ ตอนเช้าเพื่อไปโรงเรียน หรือการเรียกร้องความสนใจจาก นักเรยี นท่พี ูดคุยกันตลอดเวลา) จากน้ันแสดงซำ�้ อกี ครง้ั โดยใชว้ ธิ ที แ่ี ตกต่าง ออกไปซึ่งความต้องการของพ่อแม่กับลูก หรือครูกับนักเรียนมาพบกันได้ บางครั้งมนั ช่วยได้ เมอื่ ใหค้ นอ่ืนมาแสดงความยากลำ�บากของเรา . 209 .
เล่น เปน็ เด็ก การฟังอย่างลกึ ซึ้งเป็นคู่ การฟังเป็นสงิ่ ทีส่ �ำ คญั มากทง้ั สำ�หรบั เธอและคนอน่ื เพียงแค่เราฟังตวั เอง ได้จริงๆ เราก็จะฟงั คนอ่ืนได้ การฟังเสยี งตัวเองสำ�คญั อย่างไร [ฟงั เสียงรา่ งกาย และเข้านอนเมื่อเราเหนือ่ ย ไม่ผลักดันตัวเองมาก เกนิ ไป เคารพข้อจ�ำ กัดของเรา] การฟังคนอื่นอย่างลึกซึ้งเป็นของขวัญท่ีแท้จริงท่ีจะช่วยเยียวยา อย่างลกึ ซง้ึ ได้ เธอจำ�เวลาทมี่ ใี ครสกั คนฟงั เธอไดไ้ หม ความรู้สกึ ตอนนนั้ เปน็ อย่างไร เธอจะบอกใหค้ นอื่น ฟงั เธอจริงๆ ได้อยา่ งไร เขาคนนั้นจะ แสดงการเปดิ กวา้ งและยอมรบั ไดอ้ ย่างไร เธอเขียนข้อดีที่เด็กๆ พูดถึงเม่ือพูดถึงการฟังอย่างลึกซ้ึง หากพวก เขาไม่ได้พูดถึงมัน ลองยกความสำ�คัญของการไม่พูดแทรกคนอื่น หรือฟัง จากหัวใจ โดยปราศจากการตัดสินหรือเปรียบเทียบอยู่ในใจต่อส่ิงที่บุคคล อื่นพูด เพื่อที่เราจะได้เป็นกระจกที่ชัดเจนสำ�หรับพวกเขา สะท้อนสิ่งท่ีเรา ได้ยิน เตือนพวกเขาวา่ ในการฟังอยา่ งลึกซง้ึ เราฟงั โดยมเี ป้าหมายเพื่อชว่ ย เหลือผูอ้ น่ื ให้รู้สกึ วา่ ไดร้ ับการไดย้ นิ และการยอมรบั ในการช่วยเด็กๆ ปฏิบัติการฟังอย่างลึกซ้ึง ให้พวกเขาทำ�เป็นคู่ ตกลงกันว่าใครจะพูดก่อน เธอเขยี นหวั ขอ้ ไวบ้ นกระดานสกั 3 หวั ข้อ แล้ว ให้พวกเขาเลือกมา 1 หัวข้อ ตัวอย่างเช่น พวกเขาอาจพูดเก่ียวกับความ ยากลำ�บากท่ีเพิ่งพบเจอมา ส่ิงที่รอคอย หรือความรู้สึกของพวกเขาตอนน้ี แนะนำ�วา่ ตอนนเ้ี ราจะพดู จากหวั ใจใหม้ ากทส่ี ดุ เทา่ ทจ่ี ะท�ำ ไดโ้ ดยไมป่ ดิ กนั้ ตวั เอง เพยี งแค่แลกเปลย่ี นส่ิงทผ่ี ุดขนึ้ มาในความคิดเกี่ยวกบั หวั ข้อทเ่ี ลือก แตล่ ะคนจะใช้เวลาประมาณ 2-3 นาที ระหว่างท่คี นแรกพูด อีกคนฟงั จากหวั ใจ วางความคดิ หรอื ความคิดเห็นทง้ั หมดไว้ เพยี งแตอ่ ยู่กบั ปัจจุบัน ขณะอย่างแท้จริงแก่อีกคนหน่ึง เริ่มตน้ ตอนไดย้ ินเสยี งระฆงั แล้วสลับกัน หลงั จากไดย้ นิ เสยี งระฆงั อีกคร้ัง หลงั จากทง้ั คูไ่ ด้แบง่ ปนั กันแลว้ ชวนเด็กๆ กลับเข้ากลุม่ แลว้ แบ่งปนั ประสบการณ์ของการฟังและแบ่งปัน มันยากหรือง่าย รู้สึกว่าตัวเองฟัง จรงิ ๆ ไหมถา้ ใช่ รู้สึกอย่างไรตอ่ รา่ งกายและจิตใจบา้ ง . 210 .
หอ้ งเรยี นแห่งรัก: การเยยี วยาความยากลำ�บาก เยยี วยาสภาพแวดลอ้ มของห้องเรียน เราต้องจัดช่วงเวลาแห่งการฟังไปสู่ระดับท่ีกว้างขวางข้ึน ไม่เพียงแค่ ห้องเรียนของเรา ครูฟังนักเรียนของพวกเขา และหากคร้ังเดียวไม่พอ เรา จดั ครงั้ ทสี่ อง หรอื ครงั้ ทส่ี ามเพอ่ื ใหไ้ ดย้ นิ สงิ่ ทเ่ี ดก็ ๆ อยากจะบอกเราทงั้ หมด ครูเชิญครูคนอื่นมาเข้าร่วมและปฏิบัติศิลปะแห่งการฟังนักเรียนอย่างลึกซึ้ง เรายงั ชวนครใู หญม่ าฟังเด็กๆ ร่วมกับเราได้ดว้ ย เดก็ ๆ ตอ้ งเตรยี มตวั อยา่ งระมดั ระวงั เพอ่ื แสดงตวั เองใหช้ ดั เจน พวก เขาควรจะรู้สึกปลอดภัยมากพอที่จะบอกเล่าความทุกข์ของพวกเขา ความ ทุกข์จากครอบครัวและความทุกข์จากโรงเรียน ถ้าเด็กๆ รู้สึกว่าพวกเขามี การบา้ นมากเกินไป พวกเขาควรบอกครู และคนที่นงั่ ฟงั อยู่ เป้าหมายของ การศกึ ษาไมค่ วรเปน็ การเสยี สละปจั จบุ นั เพอื่ บรรลเุ ปา้ หมายทอี่ ยใู่ นอนาคต แตค่ วรจะสามารถเบกิ บานกบั ปจั จบุ นั ขณะไดใ้ นตอนน้ี หากวา่ ปจั จบุ นั ขณะ เปน็ ความเศรา้ โศก อนาคตกไ็ มอ่ าจน�ำ ความสขุ มาใหไ้ ด้ หนา้ ทคี่ อื ของครคู อื การเข้าใจความยากลำ�บาก ความทุกข์ และแรงบันดาลใจของนักเรียน ครู อาจจะต้องใช้เวลาหลายคร้ังเพื่อที่จะเข้าใจนักเรียน ฝ่ายบริหารจัดการใน โรงเรียนควรจะใหเ้ วลาแก่พวกเขา นคี่ ือจรยิ ธรรมแหง่ การสอนทแี่ ท้ เด็กๆ ควรจะแสดงความต้งั ใจของตนเอง และความปรารถนาท่จี ะ ฟังครูของพวกเขาดว้ ย เพราะวา่ ครูก็มีความทกุ ข์เชน่ เดียวกัน ทงั้ ที่โรงเรยี น และท่ีบ้าน ครูบางคนร้องไห้เพราะความโหดร้ายของนักเรียน เด็กบางคน มีความรุนแรงอยู่ในตัวเองมากมาย และพวกเขาสร้างความบันเทิงให้กับ ตัวเองด้วยการทำ�ให้เด็กคนอื่นเป็นทุกข์ บางคร้ังพวกเขาก็ทำ�แบบเดียวกัน น้กี บั ครู พวกเขาเห็นจดุ ออ่ นของครู และใช้โอกาสนี้ทำ�ใหค้ รเู ปน็ ทกุ ข์ นีค่ ือ เหตผุ ลท่วี า่ ท�ำ ไมจึงตอ้ งมีช่วงเวลาของการฟงั อย่างลกึ ซึง้ หลายครง้ั เพอ่ื ฟัง ความทกุ ขข์ องทง้ั ครูและนักเรยี น . 211 .
เลน่ เป็น เดก็ แลกเปล่ียน สรา้ งความปลอดภยั และความเป็นเจ้าของในหอ้ งเรยี น โดยบอนนี สปาร์ลงิ และอรู ี เวธิ เซล (Bonnie Sparling and Uti Wurtzel) โรงเรียนไพเดีย (Paideia School) ประเทศสหรฐั อเมริกา ในหอ้ งเรียนชัน้ มัธยมปที ่ี 1 และ 2 ของเรา เราใชเ้ วลา 3-4 ชัว่ โมงต่อวนั กับเด็กๆ 30 คน ปรชั ญาของเราคือ ทกุ หลักสูตรควรเรมิ่ ตน้ ด้วยเด็กๆ เอง จากน้ันจึงค่อยกำ�หนดประเด็นและหัวข้อท่ีจะช่วยให้พวกเขามีความรู้มาก ขนึ้ ดว้ ยตวั เอง ไมว่ า่ จะเปน็ วชิ าอะไรกต็ าม วรรณกรรม สงั คมศกึ ษา จรยิ ธรรม หรือการเขียน เราต้องทำ�ให้มนั เปน็ สิง่ ทม่ี คี วามหมายส�ำ หรบั พวกเขา นักเรียนหาความหมายของสิ่งเหล่านั้นขณะที่พวกเขานำ�การ อภิปราย และซักถามระหว่างกันท้ังการวิพากษ์วิจารณ์และคำ�ถามส่วนตัว พวกเขาเปิดกว้างในการพูดถึงประเด็นท่ีได้รับความนิยม โดยเฉพาะอย่าง ยิง่ มองไปยงั คนที่มอี ำ�นาจท่ีจะท�ำ ให้คนอ่ืนกลัวเขา และพวกเขายังอภปิ ราย เกย่ี วกับวิธีการทมี่ ีจรยิ ธรรมในการตอบโต้ ครอบครัว ชวี ิตทางสังคม และอัตลักษณ์เปน็ ใจกลางของสงิ่ ท่วี ยั รุ่น คำ�นงึ ถงึ ดงั นน้ั นักเรียนทำ�หวั ขอ้ เหลา่ นี้เปน็ แกนกลางของหลักสตู ร หลายปี ท่ีผ่านมา พวกเขาพัฒนาโครงการการเขียนและระบบศาลที่ช่วยให้พวกเขา ทำ�ให้มุมมองต่อชีวิตของพวกเขาชัดเจนข้ึน และสามารถหาทางออกให้กับ ความขัดแย้งทชี่ ่วยใหพ้ วกเขามีความสุขข้นึ ได้ โครงการการเขียนเน้นไปที่เรื่องราวสำ�คัญในชีวิตส่วนตัวของเด็ก แตล่ ะคน และเรยี กรอ้ งความซือ่ สตั ยท์ างอารมณแ์ ละความตงั้ ใจทจี่ ะเตบิ โต พวกเขาเขียนเรื่องราวเกี่ยวกับชีวิตของตนเองและแสดงให้ผู้อ่ืนเห็นว่าเขา คือใคร เนื่องจากความทุกข์และความขัดแย้งมักเป็นเมล็ดพันธ์ุแห่งการ เติบโตและนำ�ไปสู่การตระหนักรู้ พวกเขาจึงจัดการประชุมกับครูหรือคนที่ ไว้ใจเพอื่ ที่จะแสดงอารมณอ์ ยา่ งเปิดกว้างได้ หน้ากากที่ปกปิดตนเองเรม่ิ ลด ลง ความโกรธเปดิ เผยความเจ็บปวด และความเจ็บปวดเปลีย่ นเปน็ ความรัก การประชุมหลายคร้ังเหล่าน้ีช่วยให้นักเรียนได้รับมุมมองและความเข้าใจท่ี . 212 .
ห้องเรียนแห่งรัก: การเยยี วยาความยากลำ�บาก แจม่ แจ้งตอ่ สิ่งที่เกดิ ข้ึนกอ่ นหน้านี้ที่ถูกฝังไวด้ ว้ ยกองอารมณ์เหล่านี้ นอกจากน้ี เพ่อื ใหส้ มบูรณม์ ากขึน้ มีการจดั การอา่ นเรอื่ งต่างๆ ให้ เพอ่ื นในหอ้ งเรยี นฟงั ดว้ ยความชนื่ ชมทยี่ ง่ิ ใหญ่ นกั เรยี นจะอภปิ รายถงึ เรอ่ื งน้ี และช่วงเวลานี้ตรงกับชีวิตจริงของพวกเขาอย่างไร กระบวนการนี้สร้าง ชมุ ชน ความไว้วางใจ และการตระหนักถึงความอ่ิมเอมของการเดินทางของ มนุษย์ ในการที่จะทำ�ให้นักเรียนรู้สึกปลอดภัยกับเพ่ือนของเขาจนสามารถ เปิดใจอยา่ งเต็มท่ี พวกเขาต้องสรา้ งความไวว้ างใจ พวกเขาได้พฒั นาระบบ ศาลและระเบียบปฏิบัติที่ให้พวกเขาดูแลซ่ึงกันและกันไม่ให้ละเมิดความไว้ วางใจ พวกเขาสนับสนุนซึ่งกันและกันท่ีจะเข้าใจแรงกระตุ้นที่อยู่เบ้ืองหลัง การกระทำ�เหลา่ นน้ั จากนั้นทำ�งานและหาทางแก้ปญั หาร่วมกนั ระบบศาล มบี ทบาทเป็นเครื่องมือท่ีทรงพลงั มากในการสรา้ งความปลอดภยั และความ ยุติธรรมและเป็นเครื่องวัดระดับฐานะและความนิยม เช่น กระแสอำ�นาจ ทางสังคมและแหลง่ ท่มี าของความวิตกกงั วลมากมายในโรงเรียนมัธยมต้น ไม่แสดงอารมณ์ออกมาในห้องเรียน ไม่พูดสิ่งท่ีทำ�ให้คนอื่นเจ็บ ปวด และไมฝ่ า่ ฝืนขอ้ ตกลงในการรกั ษาความลับคือกฎ 3 ข้อจากทัง้ หมด 20 ข้อ ท่ีนักเรียนกำ�หนดข้ึน และใช้อย่างจริงจังมาก พวกเขาทำ�งานหนักเพ่ือ รกั ษาระบบ และปกปอ้ งผู้คนจากการกระท�ำ ใดๆ ท่ที ำ�ให้เพอ่ื นรว่ มชน้ั เรยี น ะสูญเสียความรู้สึกปลอดภัย ปกป้องความเสี่ยงในห้องเรียน และปกป้อง การแบง่ ปนั ความยากล�ำ บากสว่ นตวั กบั คนอน่ื ๆ เมอื่ มใี ครสกั คนถกู กลา่ วหา วา่ กระท�ำ ผดิ พวกเขาอาจตอ่ สู้คดีว่าเขาบรสิ ทุ ธิ์หรอื รบั ผิดกไ็ ด้ จากนัน้ ผรู้ ้อง ทกุ ขแ์ ละผถู้ กู กลา่ วหาจะใหก้ ารในศาลนกั เรยี นซง่ึ ทง้ั หอ้ งจะนงั่ ฟงั การไตส่ วน เหตุการณ์ทีเ่ กดิ ขนึ้ และถามคำ�ถามเพ่อื ชว่ ยให้เห็นแรงผลักดันและรากของ ความขัดแย้งได้ชัดเจนขึ้น ส่วนใหญ่แล้วความจริงของความขัดแย้งซับซ้อน มากกวา่ สงิ่ ทป่ี รากฏในคราวแรกบางทเี ดก็ หญงิ แยกตวั ออกจากวชิ าพชี คณติ เป็นเพราะเธอตระหนักว่าตนเองเป็นนักเรียนที่ไม่เก่งคณิตศาสตร์ หรือเด็ก ชายท่ีชอบดูถกู คนอ่นื มาจากประสบการณ์ทถ่ี ูกกดี กันจากโรงเรยี นประถม . 213 .
เล่น เปน็ เดก็ เนื่องจากสมาชิกในห้องเรียนมีประสบการณ์ท่ีปลอดภัย มีความ ไวว้ างใจ และระบบน้ีได้สรา้ งโอกาสให้เกดิ ขน้ึ มา พวกเขาไม่ได้มองวา่ ระบบ น้ีเป็นการลงโทษหรือการบังคับจากภายนอกอีกแล้ว แต่เป็นเคร่ืองมือที่ จะรักษาการเปิดกว้าง ความสบายใจ และความใกล้ชิด เป็นส่ิงวิเศษมากที่ เฝ้ามองสำ�นึกของชุมชน อิสระภาพที่แท้ โอกาสที่จะเบิกบานกับคนอ่ืนๆ และพลงั ของความเหน็ อกเห็นใจท่นี ักเรยี นได้รบั ในช่วงเวลานี้ วยั รนุ่ เปน็ ค�ำ เดียวกบั ความวนุ่ วาย ส�ำ หรับเด็กส่วนใหญ่ แต่เพราะ นกั เรยี นของเราสรา้ งหลกั สตู รขน้ึ มาดว้ ยตวั เอง ปญั หาหลายอยา่ งทเี่ กยี่ วกบั วัยได้รับการแก้ไข ส่ิงนี้เป็นข้อพิสูจน์ท่ีชัดเจนแล้วว่าสิ่งท่ีพวกเขาต้องการ จริงๆ คือ การพัฒนาความซ่ือสัตย์ ความรับผิดชอบ วิธีการแก้ไขความ ขัดแยง้ การแบ่งปนั และการเปน็ เจ้าของ ความคดิ ทแี่ หลมคมและชา่ งสงสยั และวนิ ยั ของการท�ำ งานท่เี คร่งครัดแตเ่ ปน็ ธรรมชาติ เม่ือนักเรียนของเราสอบเข้าเรียนต่อในโรงเรียนมัธยมปลายได้ เรา ภมู ใิ จและยนิ ดกี บั พวกเขา พวกเขาน�ำ พาความมน่ั คงในตวั เอง ความสามารถ ท่ีจะรักและความหนักแน่น ผ่อนคลายกับความเปราะบางและมีความ เชื่อมโยงทม่ี ีสตแิ ละลกึ ซ้งึ กับเพ่อื นคนอนื่ ๆ แลกเปล่ียน ความรักและความกรณุ าในห้องเรยี น โดยซูซานน่า บาร์คาตาคิ (Susanna Barkataki) โรงเรยี นซิควอยาห์ (Sequoyah School) ประเทศสหรัฐอเมรกิ า น่ีคือวิธีที่ฉันเร่ิมต้นวันในการสอนนักเรียนชั้นประถมห้าและหก ฉันกลับมา ตามหายใจ และนกึ ถงึ ตวั เองทเ่ี ปน็ ตน้ ไมซ้ งึ่ มรี ากมนั่ คงและหยง่ั ลกึ อยา่ งสงบ ลงไปในดิน ศีรษะจรดกับท้องฟ้าท่ีไม่มีจุดส้ินสุด รับพลังงานแห่งความรัก . 214 .
ห้องเรยี นแหง่ รัก: การเยียวยาความยากลำ�บาก จากจักรวาล ฉันรูส้ กึ สงบ มีอสิ ระ ขอบคุณ และมีความสุข จากน้ันฉนั ส่งต่อ พลังงานน้ีไปยังเด็กๆ ฉันมองไปท่ีเด็กๆ พูดช่ือเขาในใจ และส่งถ้อยคำ� แห่งความเมตตากรุณาไปสู่พวกเขา ฉันใช้วลีท่ีแสดงความเมตตากรุณา แบบดั้งเดิมที่เรียนรู้มาซึ่งบางคร้ังก็ปรับให้เข้ากับสถานการณ์ “ขอให้มิโร มีความสุข ขอให้เขาสบายดี ขอให้เขามีความมั่นใจ ขอให้เขาสนุกกับ บาสเก็ตบอลในบ่ายน้ี” ฉันให้ความสนใจที่เด็กแต่ละคน “ขอให้ลาทิกามี ความสุข ขอใหเ้ ธอเป็นอิสระจากความทกุ ข์ ขอให้เธอพบสันตสิ ขุ ” เมอื่ ฉนั ท�ำ แบบนใ้ี นหอ้ งเรยี นกบั เดก็ ๆทอี่ ยตู่ รงหนา้ ฉนั ยมิ้ อยา่ งออ่ น โยนไปทพี่ วกเขาทีละคน พวกเขาดูเหมอื นจะรู้สกึ ถึงพลังงานน้ี และยม้ิ ตอบ แม้ว่าฉันจะพูดอยู่ในใจก็ตาม ที่บ้าน ฉันอดไม่ได้ท่ีจะฉีกยิ้มด้วยความ เบกิ บานขณะทค่ี ดิ ถงึ หนา้ ของเดก็ แตล่ ะคน ฉนั รอคอยทจ่ี ะเรม่ิ ตน้ วนั ท�ำ งาน กบั พวกเขา บางครั้งหากว่าฉนั รูส้ ึกเครียดหรือเศร้า การฝกึ ปฏบิ ตั ิเพอ่ื คนอื่น เชน่ นเี้ ปน็ สง่ิ ทย่ี ากขนึ้ ฉนั จะน�ำ พลงั แหง่ ความรกั มาสตู่ วั เองเปน็ อยา่ งแรก ฉนั มคี วามเบิกบานไดไ้ ม่เกินหนึง่ หรือสองวนั ฉันร้วู ่าดที ่ีไดพ้ กั และดูแลตวั เอง การปฏิบัติส่งพลังแห่งรักไปยังนักเรียนของฉันช่วยให้ฉันระลึกถึง หัวใจสำ�คัญของการเป็นครู และนำ�ความกรุณาและความเอาใจใส่ลงไปใน แต่ละวัน นกั เรียนมอบความรักและความกรุณาไดเ้ ชน่ กนั ฉนั เฝ้าดนู ักเรียน ท่ีสดใสและแข็งแรงขณะที่พวกเขาแบ่งปันจิตวิญญาณแห่งความรัก ของตัวเอง เราทุกคนนำ�ความรักและความเบิกบานน้ีเข้าไปในหัวใจของเรา แบง่ ปันกบั คนอนื่ และเปดิ รบั มัน . 215 .
เล่น เป็น เด็ก แลกเปล่ียน โอบกอดนกั เรียนที่ท้าทาย โดย แองเกล เบริ ก์ มานน์ (Angele Bergmann) ประเทศเยอรมนี มนี กั เรยี นทที่ า้ ทายอยใู่ นทกุ ชน้ั เรยี น และคณุ มกั จะตอ้ งหาวธิ กี ารของตวั เอง ในการทำ�งานกบั พวกเขา ฉนั พบวิธีการ 2 วธิ ที ี่ใช้ไดผ้ ลส�ำ หรับฉัน วิธีแรก ฉันพยายามหาส่ิงท่ีฉันชอบในตัวของนักเรียนคนน้ัน บาง อย่างทเี่ ขาท�ำ ได้ดี หรือบางอยา่ งท่เี รามเี หมอื นกนั หรอื อะไรก็ได้ทส่ี ามารถ เชื่อมโยงกับเขา ฉันพบว่า หากฉันทำ�ได้เช่นนี้ ฉันก็จะสร้างความสัมพันธ์ กับเขาได้ ฉนั พยายามน�ำ ความสมั พันธ์เข้าไปในการสอน ตวั อย่างเชน่ ฉนั มี นักเรยี นคนหนึ่งท่มี รี สนยิ มทางดนตรเี หมอื นกบั ฉนั ดงั นั้นฉันสง่ เสรมิ ให้เขา น�ำ เพลงบางเพลง (ทฉ่ี นั อนญุ าตใหเ้ ปดิ ในโรงเรยี นได)้ เพอื่ ชว่ ยใหเ้ ราสนกุ กบั ชัว่ โมงกฬี า วิธีที่สอง ฉันพบเจ้าหน้าที่คนหน่ึงที่ชอบนักเรียนคนน้ีมาก และฉัน พดู คยุ กบั เขาเกย่ี วกบั นกั เรยี นคนนเี้ พอื่ หาขอ้ ดขี องเขา หากวา่ เจา้ หนา้ ทค่ี นน้ี ยินดี ฉันเชิญเธอเข้าไปทำ�งานร่วมกันในห้องเรียน วิธีการน้ีอาจจะเปลี่ยน ความรู้สึกของการอยู่ในห้องเรียนของนักเรียนได้ นักเรียนบอกได้ว่าเม่ือใด ทฉ่ี นั มชี ว่ งเวลาทยี่ ากล�ำ บากกบั พวกเขา และสรา้ งความเครยี ดใหก้ บั เราทง้ั คู่ การท่ีมีใครสักคนที่ชอบเด็กคนนี้มาอยู่ในห้องเรียน มีส่วนร่วมกับพวกเรา ได้ให้วิธีการใหม่ในการทำ�งานร่วมกนั . 216 .
หอ้ งเรยี นแหง่ รัก: การเยียวยาความยากลำ�บาก แลกเปลยี่ น เมอ่ื อยใู่ นสถานการณท์ ี่ยากลำ�บาก โดย ทเิ นกะ สปรตุ ยเ์ ทน็ เบริ ก์ (Tineke Spruytenburg) ประเทศเนเธอรแ์ ลนด์ ใครทีท่ ำ�งานกับเดก็ ๆ มักจะจดจำ�เดก็ ทย่ี ากๆ ไดด้ ี นีเ่ ป็นข้อเสนอท่อี าจจะ ช่วยได้ รักษาความกรุณา : เด็กที่สอนยากไม่มีอยู่ มีแต่เด็กที่อยู่ใน สถานการณ์ท่ียากลำ�บาก ประวัติส่วนตัวของพวกเขาหรือสถานการณ์ ปจั จบุ ันอาจจะทำ�ให้พวกเขาเครยี ดและวิตกกงั วล ซง่ึ ท�ำ ใหพ้ วกเขายากท่ีจะ ฟังและมีส่วนร่วม สร้างความเป็นกลุ่มเดียวกัน : บ่อยครั้งท่ีการเชื้อเชิญเด็กๆ ให้ มาอยู่ใกล้เธอระหว่างท่ีเธอวางมือลงบนไหล่หรือหลังของเขาก็มากพอที่จะ สร้างบรรยากาศแห่งความปลอดภัยได้ การหายใจอย่างมีสติของเธอและ คำ�พูดท่ีสนับสนุนเด็กๆ เด็กที่เป็นทุกข์มักจะต้องการเป็นส่วนหน่ึงในที่ใดท่ี หนึง่ ให้เด็กๆ ท�ำ งานเฉพาะอยา่ ง เชน่ การเชิญระฆังเพ่อื ใหพ้ วกเขาร้สู กึ วา่ มคี ณุ ค่า มปี ระโยชน์ และไดร้ ับการยอมรบั ไมใ่ ช้คำ�ว่า ‘ไม’่ : บอ่ ยครง้ั เรามักขอให้เดก็ ๆ ‘ไม่’ ทำ�สงิ่ ต่างๆ และ ในหลายกรณพี วกเขาไมท่ �ำ ตาม นอี่ าจจะเปน็ เพราะวา่ มนั ไมช่ ดั เจนวา่ อยาก ใหพ้ วกเขาท�ำ อะไร ดงั น้นั แทนทจ่ี ะขอใหเ้ ขาไม่ปีนก�ำ แพง เธอขอใหพ้ วกเขา ยนื บนพนื้ ใหไ้ ด้ ตอ้ งใชก้ ารฝกึ ฝนในการใชภ้ าษาลกั ษณะนบ้ี า้ ง แตผ่ ลของมนั คมุ้ คา่ ตำ�หนิในท่ีส่วนตัว ชมเชยในที่สาธารณะ: เม่ือเราตำ�หนิเด็ก พยายามเปน็ กลางและใหพ้ นื้ ท่ีแกเ่ ขาอธิบายว่าเกิดอะไรข้นึ เดก็ ๆ มักแก้ไข ตวั เองได้ รดน�ำ้ เมลด็ พนั ธใ์ุ นแงบ่ วกในตวั เดก็ ดว้ ยการชมเชยพวกเขาทร่ี บั ผดิ ชอบตอ่ พฤตกิ รรมของตวั เอง และชว่ ยใหเ้ ขาหาวธิ คี นื ดกี บั คนทเี่ ขาอาจจะไป ท�ำ ให้เจ็บปวด . 217 .
เล่น เป็น เด็ก ในกลุ่มท่ีมีเด็กซึ่งมักจะแสดงพฤติกรรมที่รบกวน แสดงการรับรู้ถึง ความอึดอัดของพวกเขา และชวนให้พวกเขาช่วยกันทำ�ให้สถานการณ์ดีขึ้น เธออาจขอให้พวกเขาคิดหากจิ กรรมอื่นๆ ทพี่ วกเขาจะสนุกรว่ มกนั ได้ ฉันจำ�ได้ว่ามีเด็กหญิงกลุ่มหน่ึงของโครงการเด็ก ที่หมู่บ้านพลัม เมอื่ หลายปกี อ่ น ในวนั แรก พวกเขานงั่ ด้วยกันท่ีมมุ ห้องเดก็ คุยกัน และใช้ ข้าวของต่างๆ โดยไม่ขออนุญาต เล่นผมกัน ฯลฯ พวกเขาไม่ตอบคำ�ถาม ไมร่ ่วมร้องเพลงหรือแบ่งปัน และดเู หมอื นไมส่ นใจกจิ กรรมเลย อาสาสมคั ร ไม่รู้ว่าจะผลักดันเด็กหญิงกลุ่มนี้ได้อย่างไร และเด็กๆ กลุ่มน้ีก็อาจจะรู้สึก อึดอัดหลังจากผ่านไป 2 วัน ภิกษุณีท่ีช่วยโครงการนี้ไปที่ห้องเด็กระหว่าง ชว่ งพกั ตอนบา่ ย โดยรวู้ า่ เดก็ ผหู้ ญงิ จะวาดรปู และคยุ กนั ทน่ี น่ั ภกิ ษณุ แี บง่ ปนั ความรู้สึกของท่าน และชวนให้เด็กกลุ่มนี้แสดงความรู้สึกต่อโครงการนี้ ระหว่างท่ีน่ังด้วยกันบนเบาะและทำ�เคร่ืองประดับ กิจกรรมกลุ่มท่ีเกิดขึ้น ฉบั พลันนี้ชว่ ยใหเ้ ด็กหญงิ กลมุ่ น้ีเขา้ รว่ มกจิ กรรมอื่นๆ ท่เี หลอื ได้ และกลาย เปน็ จดุ เรม่ิ ตน้ ของการแสดงในเทศกาลวนั ไหวพ้ ระจนั ทรอ์ นั งดงามของเดก็ ๆ ทั้งหมดรวมทงั้ เดก็ หญิงกลมุ่ นี้ด้วย . 218 .
11 ทุกส่งิ ลว้ นเชือ่ มโยงกัน ทกุ ส่งิ ดำ�เนนิ ต่อไป เมอ่ื เรามองไปทกี่ ระดาษซงึ่ เราก�ำ ลงั อา่ นอยู่ เธออาจจะคดิ วา่ กอ่ นหนา้ ทจี่ ะ อยใู่ นโรงงานท�ำ กระดาษ มันไมเ่ คยมีอยู่ แตก่ ระดาษอยูต่ รงน้นั มานานแลว้ ในรูปแบบที่หลากหลาย มีก้อนเมฆลอยอยู่ในแผ่นกระดาษ หากไม่มีก้อน เมฆ กค็ งไมม่ ฝี น และไมม่ ตี ้นไมซ้ ึ่งเจริญเตบิ โตขนึ้ มา จนให้เรามาทำ�เปน็ ก ระดาษ หากเธอน�ำ กอ้ นเมฆออกจากกระดาษ กระดาษกจ็ ะสลาย มองอยา่ ง ลกึ ซง้ึ ลงไปในกระดาษ และสมั ผสั มนั อยา่ งลกึ ซงึ้ เธอจะสมั ผสั กบั กอ้ นเมฆได้ กระดาษมีอยู่ก่อนท่ีมันจะเกิดขึ้นไหม มันไม่ได้มาจากอะไรเลย หรอื ไม่ ไม่หรอก ไม่มีสง่ิ ใดท่ีปรากฏข้นึ จากการไมม่ ีอะไรเลย แผน่ กระดาษ มาจากแสงแดด สายฝน ผืนดนิ โรงงานกระดาษ คนงานในโรงงาน อาหาร ท่ีคนงานกินทุกวัน ธรรมชาติของกระดาษคือการเป็นด่ังกันและกัน หาก เธอสัมผสั กระดาษ เธอสมั ผสั ทกุ ส่ิงในจักรวาล กอ่ นทม่ี ันจะถือกำ�เนดิ ข้นึ ใน โรงงาน กระดาษคอื แสงแดด ตน้ ไม้ ส่งิ ท่เี รียกวา่ วนั เกดิ ของกระดาษคอื วนั สืบเน่ืองของกระดาษเท่าน้ัน เราไม่ควรจะถูกหลอกด้วยรูปลักษณ์ภายนอก ของมัน เรารู้ว่าแผน่ กระดาษไมเ่ คยเกดิ ขน้ึ จริงๆ มันอยู่ตรงน้ันมาก่อนแลว้ เพราะวา่ แผน่ กระดาษไมไ่ ดม้ าจากการไมม่ อี ะไรเลย เราจะกลายเปน็ สงิ่ หนง่ึ จากการไม่มีอะไรเลยได้อย่างไร เราจะกลายเป็นคนคนหนึ่งทันทีจากการที่ ไมม่ ีอะไรเลยได้อย่างไร เป็นไปไม่ได้ . 221 .
เลน่ เปน็ เด็ก เธออาจจะคิดว่าตอนที่เธอเกิด เธอกลายเป็นใครสักคนหน่ึงทันที และก่อนหน้าที่เธอจะเกิด เธอไม่ได้เป็นอะไรเลย ไม่ได้มาจากใครเลย แล้วเธอก็กลายเป็นใครสักคนโดยทันที อันท่ีจริงแล้ว ชั่วขณะที่เธอเกิดท่ี โรงพยาบาลหรือท่ีบ้าน เป็นเพียงช่ัวขณะของการสืบเนื่อง เพราะวา่ เธออยู่ ในตัวของแม่มา 9 เดือนแล้ว นั่นหมายความว่าวันเกิดของเธอบนสูติบัตร ไมถ่ ูกตอ้ ง เธอตอ้ งย้อนกลับไปเมื่อ 9 เดอื นกอ่ นหน้าน้นั บางทีตอนน้ีเธอเชื่อว่าชั่วขณะที่มีการปฏิสนธิคือช่ัวขณะท่ีเธอ เร่ิมดำ�รงอยู่ แต่ถ้าเรามองอย่างลึกซึ้งต่อไป เราจะเห็นว่าคร่ึงหนึ่งของเธอ อยทู่ พ่ี อ่ และอีกครงึ่ หนง่ึ อยทู่ แี่ ม่ นคี่ อื เหตุผลวา่ ท�ำ ไมแมแ้ ต่ชวั่ ขณะของการ ปฏิสนธิก็เปน็ ชัว่ ขณะของการสืบเนอ่ื ง การฝึกปฏบิ ตั ิสมาธิคือการมองอยา่ ง ลึกซ้ึงลงไปในตัวของเราเองเพ่ือให้เห็นธรรมชาติที่แท้ ธรรมชาติแห่งการ ไมเ่ กดิ ไมต่ าย ลองจนิ ตนาการถงึ มหาสมทุ รทมี่ คี ลน่ื มากมาย คลน่ื ลว้ นแตกตา่ งกนั บางลูกใหญ่ บางลูกเล็ก บางลูกสวยกว่าอีกลูกหน่ึง เธอบรรยายถึงคลื่นได้ หลายแบบแต่เม่ือเธอสัมผสั คลื่น เธอสมั ผัสสิ่งอ่นื ดว้ ยเสมอ ส่งิ น้นั คือนำ�้ ลองนึกภาพตัวเองเป็นคล่ืนในมหาสมุทร เฝ้าดูการเกิดขึ้นของเธอ เธอโผล่ขน้ึ มายังผิวน�ำ้ ด�ำ รงอย่สู น้ั ๆ จากนนั้ กก็ ลับลงไปหามหาสมุทร เธอ รวู้ า่ ในจดุ หนง่ึ เธอก�ำ ลงั ไปสจู่ ดุ จบ แตห่ ากเธอรวู้ ธิ สี มั ผสั รากฐานของสงิ่ ทเ่ี ธอ เป็น ซึ่งก็คือน้ำ� ความกลัวท้ังหมดจะมลายหายไป เธอจะเห็นว่าเม่ือเป็น คลน่ื เธอแบ่งปันชวี ิตของน�ำ้ กับคลื่นลูกอ่ืนๆ นคี่ อื ธรรมชาตขิ องการเป็นด่งั กันและกัน เมื่อเรามีชีวิตเป็นเพียงคลื่นลูกหนึ่ง และไม่สามารถอยู่กับชีวิต ของน�้ำ ได้ เธอจะเปน็ ทกุ ขอ์ ยา่ งยงิ่ ความเปน็ จรงิ คอื การทที่ กุ ขณะคอื ชวั่ ขณะ ของการสบื เน่ือง เธอสบื ต่อชวี ติ ในรูปแบบใหม่ เพียงเทา่ นัน้ เมอื่ กอ้ นเมฆตอ้ งกลายเปน็ ฝน มนั ไมก่ ลวั เพราะวา่ แมม้ นั จะรวู้ า่ การ เป็นก้อนเมฆท่ีลอยอยู่ในท้องฟ้าเป็นส่ิงวิเศษ แต่การเป็นสายฝนท่ีตกลง มายังท้องทุ่งและมหาสมุทรก็วิเศษเช่นกัน น่ีคือเหตุผลท่ีว่าทำ�ไมชั่วขณะ . 222 .
เล่น เปน็ เดก็ ทก่ี อ้ นเมฆกลายเปน็ สายฝนจงึ ไมใ่ ชช่ วั่ ขณะแหง่ การตาย แตเ่ ปน็ ชวั่ ขณะของ การสบื เนอ่ื ง มีคนมากมายทีค่ ดิ ว่าพวกเขาสามารถลดทอนส่งิ ตา่ งๆ ไปสู่การไม่มี อะไรเลย พวกเขาคดิ วา่ ตนเองสามารถก�ำ จัดคนอย่าง จอหน์ เอฟ. เคนเนดี มารต์ นิ ลเู ธอร์ คงิ จเู นยี ร์ หรอื มหาตมะ คานธี ดว้ ยความหวงั วา่ คนเหลา่ นนั้ จะหายไปตลอดกาลได้ แตค่ วามจรงิ กค็ อื เมอื่ คณุ ฆา่ ใครสกั คน บคุ คลนน้ั จะ แข็งแรงข้ึนกวา่ เดิม แมแ้ ตแ่ ผ่นกระดาษกไ็ มอ่ าจถกู ท�ำ ใหไ้ มเ่ ป็นอะไรเลย เธอเหน็ แลว้ วา่ เกดิ อะไรขนึ้ เมอ่ื เธอจดุ ไฟทกี่ ระดาษ มนั ไมไ่ ดส้ ญู หายไปแตย่ งั คงสบื เนอื่ งอยู่ ในรูปของความร้อน ขี้เถ้า และควัน ส่วนหนึ่งของกระดาษกลายเป็นควัน และรวมกับก้อนเมฆ เราอาจจะเห็นมันอีกคร้ังในวันพรุ่งนี้ในรูปแบบของ หยาดฝน นี่คือธรรมชาติของแผ่นกระดาษ เป็นเรื่องยากมากสำ�หรับเราที่ จะไล่จับการมาและการไปของกระดาษ เรารับรู้ว่าส่วนหนึ่งของกระดาษยัง คงอย่ทู นี่ ัน่ ทใ่ี ดท่หี น่งึ ในท้องฟ้าในรปู ของก้อนเมฆเลก็ ๆ ดงั นน้ั เราจงึ กลา่ ว ได้ว่า “พบกนั ใหม่วันพรุ่งน”้ี อายแุ ละความตาย Q คำ�ถามของเดก็ ๆ: ท่านอายเุ ท่าไร หลวงป่:ู แลว้ เธอละ่ อายเุ ทา่ ไร & เด็ก: หนอู ายุ 6 ขวบเกอื บจะ 7 ขวบแล้ว หลวงปู่: ฟังนะ ฉันก�ำ ลังจะให้ค�ำ ตอบดๆี แก่เธอ ฉนั เปน็ การสืบ A เน่อื งของพระพทุ ธเจา้ ดงั น้ันฉันอายุ 2,600 ปีแล้ว เดก็ : โอ!้ หลวงปู่: ฉันยังเป็นการสืบเน่ืองของพ่อ ดังน้ันฉันอายุ 110 ปี ฉันร้วู า่ เธอ คอื การสืบเน่อื งของฉัน และฉันรู้สกึ วา่ ตวั ฉันอยใู่ นตวั . 224 .
ทุกส่ิงลว้ นเช่ือมโยงกนั ทกุ สิง่ ดำ�เนนิ ตอ่ ไป เธอ ดังนน้ั ในขณะเดยี วกนั ฉันกอ็ ายุ 6 ขวบดว้ ย นัน่ เป็นเรือ่ งจรงิ เพราะวา่ ฉนั เกิดใหม่เป็นเด็ก เขานำ�พาฉนั ไปยังอนาคต ดงั นัน้ ฉันยงั เดก็ มาก ฉนั อายุ 6 ขวบ หากเธอมองไปรอบๆ เธอจะเหน็ ฉันตัวเลก็ ๆ ในทกุ ท่ี ฉนั มีอายทุ ี่ แตกต่างกนั ตกลงไหม การกา้ วพน้ ความตาย ค�ำ ถามของเด็กๆ: ท�ำ ไมคนเราต้องตายลงสกั วัน Q หลวงปู่: ลองจินตนาการว่ามีแต่การเกิด ไม่มีการตาย วันหน่ึง คงหาท่ียืนบนโลกได้ยากมาก การตายหมายถึงการออกจากพ้ืนที่ & เพื่อลูกหลานของเรา ใครคือลูกหลานของเรา ลูกหลานของเราก็ A คือตัวเราเอง ลูกของเราคือการปรากฏขึ้นใหม่ของเรา ลูกชายคือ การสืบเน่ืองของพ่อพ่อมองไปท่ีลูกชายจะมีความรู้สึกว่าเขาจะไม่ ตาย เพราะวา่ ลกู ชายของเขาอยู่ท่นี ั่นเพื่อสบื เนือ่ งตวั เขา การมอง เหมือนกับว่าเธอรู้ว่าเธอไม่ได้กำ�ลังจะตาย เธอเป็นกำ�ลังสืบเนื่องตัวเองใน ตัวของลกู ชาย และลูกชายของเธอกไ็ ม่ตาย เขาสืบเนื่องอยใู่ นหลานของเขา และคนอื่นๆ ตอ่ เนอื่ งไป การท�ำ สมาธิทางพทุ ธศาสนาช่วยใหเ้ รามองอย่าง ลึกซ้ึงเพื่อให้เห็นว่าไม่มีการตายที่แท้จริง มีเพียงแค่การสืบเน่ืองในรูปแบบ ทแ่ี ตกต่างกนั มองไปท่กี ้อนเมฆในท้องฟ้า กอ้ นเมฆอาจจะกลวั การตาย แตม่ ชี ว่ ง เวลาหน่ึงที่ก้อนเมฆต้องกลายเป็นฝน มันไม่ได้ตายจริง แต่คือการเปลี่ยน รปู ก้อนเมฆเปลยี่ นไปเปน็ ฝน และก้อนเมฆสบื เน่ืองอยใู่ นฝน หากเธอมอง อยา่ งลกึ ซง้ึ เธอจะเหน็ กอ้ นเมฆ ไมม่ กี ารตายทแี่ ทจ้ รงิ เธอสบื ตอ่ การด�ำ รงอยู่ ของเธอในรูปแบบต่างๆมากมาย ก้อนเมฆสืบเนื่องอยู่ในรูปแบบของหิมะ ฝน แม่นำ้� หรอื น�ำ้ แขง็ ได้ วันหนงึ่ กอ้ นเมฆกลายเป็นไอศกรมี หากกอ้ นเมฆ ไม่แปรเปลย่ี นเราจะกนิ ไอศกรีมได้อยา่ งไร . 225 .
เลน่ เปน็ เด็ก ฉนั ไมก่ ลวั ความตายเพราะฉนั เหน็ ตวั เองในลกู ศษิ ยข์ องฉนั ในตวั เธอ เธอมาเรียนกับฉันและมีตัวฉันอยู่ในตัวเธอมากมาย ฉันมอบตัวเองให้กับ เธอ ถ้าเธอได้รับความเข้าใจ ความกรุณา และการต่ืนรู้จากฉัน ดังนั้นฉัน สบื เนอื่ งอยใู่ นตัวเธอ ตอ่ ไป หากมใี ครต้องการพบฉัน พวกเขาแค่มาหาเธอ แลว้ กจ็ ะเหน็ ฉนั ฉันไมไ่ ด้อยู่เพียงแค่ท่ีนี่ (ชี้มาทต่ี ัวเอง) ฉันยังอยู่ทนี่ ด่ี ว้ ย (ช้ี ไปท่ีเด็กๆ) น่ีคือส่ิงท่ีฉันชอบท่ีสุดในการทำ�สมาธิทางพุทธศาสนา การทำ� สมาธทิ างพุทธศาสนาชว่ ยใหเ้ ราก้าวพ้นความตาย เธอรู้ว่าการตายสำ�คัญต่อการเกิดและการสืบเน่ืองของเรามาก ใน ร่างกายของเรามีเซลล์จำ�นวนมากตายลงไปทุกนาทีเพื่อที่จะให้มีพื้นท่ี สำ�หรับเซลล์ใหม่เกิดข้ึน การเกิดและการตายเกิดขึ้นในทุกนาทีในร่างกาย ของเรา หากไม่มีการตาย ก็เป็นไปไม่ได้ที่เราจะสืบเน่ืองในร่างกายของเรา นี่คือเหตุท่ีว่าทำ�ไมการเกิดและการตายเช่ือมโยงกันและกัน การเกิดทำ�ให้ การตายเติบโตขึ้น และความตายทำ�ให้การเกิดเติบโตข้ึน หากเราร้องไห้ ทกุ ครงั้ ท่ีเซลล์ของเราตาย เราคงไม่มีนำ้�ตาหลงเหลอื พอ หากทกุ คร้ังท่ีเซลล์ ของเราตาย เราตอ้ งจดั งานศพ เราคงใชเ้ วลาทง้ั วนั ไปกบั การจดั งานศพ นคี่ อื เหตุผลท่ีว่าทำ�ไมเราต้องมองเห็นว่าการเกิดและการตายเกิดข้ึนอยู่ทุกขณะ ในตัวเรา นี่คือเหตุผลท่ีว่าทำ�ไมการตายจึงมีบทบาทสำ�คัญมาก น่ีคือคำ� ตอบแรก แต่คำ�ตอบทีส่ องดีกว่า มองอยา่ งลกึ ซงึ้ แล้วเธอจะไม่เห็นการเกิด และการตาย เธอจะเห็นการสืบเน่ือง หากเธอศึกษาลึกซึ้งมากข้ึน เธอจะ เห็นลกึ ซ้งึ มากย่ิงขน้ึ . 226 .
ทกุ สิง่ ลว้ นเชือ่ มโยงกนั ทกุ ส่ิงดำ�เนินตอ่ ไป ไม่มีกอ่ นน้ี ไมม่ วี นั หนา้ ค�ำ ถามของเด็กๆ: อะไรมากอ่ นกัน ไกห่ รือไข่ Q หลวงปู่: ไก่มาก่อนไข่ หรือไข่มาก่อนไก่ นี่คือคำ�ถามท่ีน่า สนใจมาก แตเ่ พราะเธอเปน็ นักปฏิบัติ เธอตอ้ งระมดั ระวงั ทจี่ ะ & ไมต่ อบค�ำ ถามเร็วเกินไป เธอเห็นไหม เธอต้องมองอย่างลึกซ้ึง A มากเพื่อท่จี ะเหน็ คำ�ตอบ บางช่วงเวลาของปี เมอ่ื เธอมองไปที่ ตน้ มะนาว เธอจะเหน็ แตก่ ง่ิ กา้ นและใบไมเ้ ทา่ นน้ั เธอจะไมเ่ หน็ ดอกหรือผลของมะนาว เลยน่ันคือตอนท่ีเธอไม่ได้ฝึกปฏิบัติสมาธิ หากว่า เธอมองอย่างลึกซึ้งหรือเป็นนักปฏิบัติท่ีดี เมื่อเธอมองไปที่ต้นมะนาว แม้ ดอกมะนาว จะเบง่ บานหรอื ผลมะนาว ไมอ่ ยทู่ นี่ นั่ เธอเหน็ ดอกมะนาว และ ผลมะนาว แล้ว พวกมนั ไม่ได้ปรากฏข้ึนเพราะว่าต้องการเงอื่ นไขมากกว่าน้ี อีกสกั นดิ ผลมะนาว อยู่ทนี่ ่นั แตซ่ ่อนตัวอยู่ ตน้ มะนาว และก่ิงก้าน ใบไม้ ดอก และผลมะนาว อยู่ด้วยกันตรงน้ันในเวลาเดียวกัน เธอบอกไม่ได้ว่า อะไรมากอ่ น ชว่ งเวลาของการปรากฏขน้ึ แตกตา่ งกนั แตม่ นั อยตู่ รงนน้ั เสมอ เขา้ ใจไหม เมื่อเธอมองลงไปในดอกไม้น้ี เธอเห็นเพียงแค่ดอกไม้ แต่ขยะก็อยู่ ตรงนน้ั ดว้ ย ขยะและดอกไมอ้ ยดู่ ว้ ยกนั เสมอ หากวา่ เธอปลอ่ ยดอกไมไ้ วโ้ ดย ไม่รดนำ้� ในเวลาไม่ก่ีวันดอกไม้ก็จะกลายเป็นขยะชิ้นหนึ่ง หากเธอเป็นนัก ปฏบิ ตั ทิ ดี่ ี เธอจะเหน็ ขยะอยกู่ บั ดอกไม้ มนั ไมจ่ รงิ ทจ่ี ะพดู วา่ ไมม่ ขี ยะ มนั อยู่ ภายใน มันต้องการเพียงแค่หน่ึงหรือสองเงื่อนไขเพื่อที่จะปรากฏขึ้น และ หากเธอมองอย่างลึกซ้ึงลงไปในขยะ เธอจะเห็นดอกไม้รอท่ีจะปรากฏข้ึน อีกครงั้ หน่งึ ดังนน้ั คำ�ตอบทางพทุ ธศาสนาต่อค�ำ ถามน่ีคอื ไข่อยู่ในตวั ไก่ และไก่ กอ็ ยู่ในไข่ด้วย ไม่มีกอ่ นนี้ ไมม่ หี ลงั จากน้ี . 227 .
เลน่ เป็น เด็ก การเป็นดั่งกนั และกนั สิ่งที่ตอ้ งเตรียม: พาเด็กๆ ไปท่ีคอกสตั ว์ หากเปน็ ได้เปน็ สถานที่ที่ให้ ผ้เู ขา้ ชมเลีย้ งลูกสนุ ัขหรือลูกแมว หรือจัดใหส้ นุ ขั มาในหอ้ งเรยี น มนั จะมปี ระโยชนเ์ ช่นเดยี วกันถ้าใหเ้ ด็กๆ พิจารณารูปภาพของตวั เอง ตอนทเี่ ปน็ ทารก หรอื เธออาจใชเ้ มลด็ พนั ธพุ์ ชื และประยกุ ตก์ ารอภปิ ราย เรากำ�ลงั จะเล้ียงลูกสุนขั หรอื ลูกแมว แต่ก่อนอ่ืน เธออยากจะไหวม้ นั ไหม [อยาก] ทำ�ไม [เพื่อแสดงให้มันเห็นว่าเรารู้ว่ามันมีธรรมชาติแห่งพุทธะ เพ่ือแสดง ความรกั และเคารพมัน] ขอให้เด็กๆ สังเกตว่าลูกสุนัขหรือลูกแมวส่งเสียงอะไรบ้าง เด็กๆของ เราตดั สนิ ใจว่าเสียงเหมยี วๆ ของแมว หรอื เสยี งเห่าของสุนขั คือระฆังแห่งสติ อธิบายวิธีที่ดีท่ีสุดในการเลี้ยงสัตว์ ไหว้มัน และอุ้มมันอย่างอ่อนโยนด้วยมือ ข้างหนึ่งของเรา สอดใต้ตัวของมัน เชิญให้เด็กๆ ไหว้มันด้วย และค่อยๆ ให้ อาหารลกู แมวหรอื ลกู สนุ ขั ปลอ่ ยใหเ้ ดก็ ๆ มเี วลาสนกุ กบั การอมุ้ ใหอ้ าหาร และ พูดคยุ กับสัตว์ จากน้นั น�ำ สตั วต์ วั นน้ั ใสล่ งในตะกร้า หรือทพ่ี กั ผ่อนของมัน ลูกหมามาจากไหน [แม่ของมัน] ลกู หมาเกดิ ข้ึนมาหรือ [ใช่] มันเพิง่ เกิดข้นึ ตอนทีม่ นั ออกมาจากทอ้ งของแมห่ รือ [ใช]่ ฉันไม่คิดว่าจะเป็นแบบน้ันนะ! การเกิดหมายความว่าจากการไม่เป็น อะไรเลย เรากลายมาเป็นใครคนหนึ่ง ลูกหมาไม่ได้เป็นอะไรเลยหรือก่อนท่ี จะออกมาจากทอ้ งแม่ . 228 .
ทกุ สงิ่ ล้วนเชื่อมโยงกนั ทุกสิ่งดำ�เนนิ ตอ่ ไป [ไม่ มันมีชีวิตอยูใ่ นตัวของแมม่ นั ] เราค้นพบแล้วว่ามันไม่ถูกต้องนักท่ีจะพูดว่าลูกหมาเกิดตอนที่มัน ออกมาจากทอ้ งแม่ เพราะเรารวู้ ่ามันมชี วี ิตอยู่ในท้องของแมแ่ ลว้ เราพดู ได้ไหมว่าลูกหมามีชวี ติ กอ่ นท่จี ะมันอยู่ในท้องแม่ [ได้] เราพูดได้ไหมว่ามันมีชีวิตอยู่ได้จากบางส่วนของแม่และบางส่วน ของพอ่ [ได้] เธอคดิ ไหมวา่ ในคนกเ็ ปน็ แบบนด้ี ว้ ย ลองดตู วั เองสิ ขอใหเ้ ดก็ ๆ ดรู ปู ตัวเองตอนทีย่ งั เป็นเดก็ วนั เกดิ ของเธอคอื เมอื่ ไร ใหเ้ วลาเดก็ ๆ ตอบ ท�ำ ไมเรยี กวนั นั้นว่าวนั เกิด [เพราะว่าเปน็ วนั ที่หนอู อกมาจากท้องแม]่ ถา้ เธอพดู วา่ เราเกดิ ในวนั ทเ่ี ราออกมาจากทอ้ งแม่ มนั เหมอื นกบั เรา บอกว่าลูกหมาเกดิ ในวันที่มนั ออกมาจากท้องแม่ แต่เรารแู้ ลว้ ว่ามนั ไม่จริง เธอไม่ได้เปน็ อะไรเลยหรือกอ่ นทจี่ ะออกมาจากท้องแม่ [ไม่ หนูมชี ีวติ อย่ตู อนทีอ่ ย่ใู นทอ้ งแม่ แมบ่ อกวา่ ได้ยนิ เสียงหนู และ รสู้ กึ ว่าหนเู คลอื่ นไหวตอนทหี่ นูอยู่ในทอ้ ง] เธอเป็นอะไรก่อนท่ีเธอจะมาอยู่ในท้องแม่ เธอไม่ได้เป็นอะไรเลย หรือไม่ [ไม่ใช่ หนูเริ่มคิดอะไรออกแล้ว หนูเป็นไข่เล็กๆ หนูไม่เคยไม่เป็น อะไรเลย] ดังนน้ั เธออยูท่ ่ไี หนกอ่ นที่จะอยใู่ นทอ้ งแม่ [สว่ นหนงึ่ ของหนอู ยใู่ นตวั แม่ และอกี สว่ นหนง่ึ อยใู่ นตวั พอ่ ฉนั อยใู่ น ปูย่ า่ ตายาย เฮ้...นีเ่ ราย้อนกลบั ไปไดไ้ ม่ส้ินสุดนะ] เราเหน็ แลว้ วา่ เธอไมเ่ คยไมเ่ ปน็ อะไรเลย เพราะการเกดิ หมายความ ว่าจากไม่มีอะไรเลยมาเป็นอะไรสักอย่างหนึ่ง มองอย่างลึกซ้ึง เราอาจ กลา่ วไดว้ ่า เหมอื นกับลูกหมา เราไมเ่ คยเกดิ หรือบางทีเราอาจจะพูดได้ . 229 .
เล่น เปน็ เดก็ วา่ เราเกิดตลอดเวลา เราเป็นอะไรสกั อยา่ งตลอดเวลา เราไม่เคยไม่เปน็ อะไรเลย บางครง้ั เราเปน็ ความคดิ บางครัง้ เราเปน็ ส่วนหนง่ึ ของผคู้ น บาง ครง้ั เราเป็นเราตอนนี้ หรอื บางทีเราอาจจะเคยเป็นกอ้ นเมฆ ดอกไมห้ รอื แม่น�ำ ้ ครูของเราหลวงปู่ติช นทั ฮันหก์ ล่าวว่า วันที่เราเรียกวา่ วนั เกิดอาจ จะดีกวา่ ถ้าเรียกว่าวนั สืบเนอ่ื ง เราคิดว่าท�ำ ไมท่านถ่ายทอดความคดิ นแี้ ก่ เรา [เพ่ือเตือนให้เราจำ�ได้ว่า เราไม่เคยเกิด เรามักจะมาจากอะไร บางอย่าง เราก�ำ ลังสืบเนอ่ื งส่งิ ทบ่ี รรพบรุ ุษของเราสบื เนื่องอย]ู่ ครัง้ ต่อไปทเี่ ธอจัดงานวนั เกดิ เธออาจจะตอ้ งเชญิ เพอ่ื นๆ มารอ้ ง เพลงสุขสันต์วันสืบเนื่อง เด็กๆ อาจจะอยากร้องเพลงท่ีดัดแปลงมาจากเพลง Happy Birthday หากว่าเธอไม่เคยเกิด แลว้ เธอตายได้ไหม [ไม่ได้! ] แล้วเธอมชี วี ติ อยอู่ ย่างไร มนั เปน็ ไปไดอ้ ย่างไรท่ีเธอไมเ่ คยตาย [เพราะว่าเธอรู้จักฉัน ฉันเป็นความคิดที่อยู่ในตัวเธอ ตราบเท่าท่ี เธอมีชีวิต ฉันก็มีชีวิตด้วยเช่นเดียวกัน ดังน้ันฉันจะมีชีวิตอยู่ในตัวทุกคนท่ี ฉันรจู้ กั เม่อื ฉนั มีลูก ฉนั จะเปน็ ส่วนหนึ่งของพวกเขา ฉันมีชวี ติ อยใู่ นทุกสงิ่ เลยใช่ไหม ฉันคดิ วา่ ใช่นะ เฮ.้ ..นีม่ ันไปข้างหน้าไม่สิ้นสดุ ] ทำ�ไมการรู้วา่ เราไมเ่ คยเกดิ และไมเ่ คยตายจงึ เป็นสิง่ สำ�คัญ [เพราะวา่ หากเธอปว่ ยแลว้ ไปทโี่ รงพยาบาล และพวกเขาบอกวา่ เธอ กำ�ลังจะตาย เธอพูดได้ว่า “ฉันไม่เคยตาย” และเมื่อครอบครัวของเธอมา เยยี่ ม และเศรา้ โศก เธอบอกกับเขาได้วา่ “อยา่ เศรา้ ไปเลย ฉันไมเ่ คยตาย” หากใครบอกกับเธอว่าเธอกำ�ลังจะตาย เธอไม่ต้องกลัว เพราะว่าเธอรู้แล้ว วา่ มนั ไม่จรงิ เพราะเมือ่ เราร้วู า่ เรามชี วี ิตอยู่ในคนอื่นๆ แลว้ เราจะดแู ลพวก เขาให้ดีขึ้น และเราต้องดูแลตัวเองด้วย เพราะว่าเพื่อนของเราอยู่ในตัวเรา จากนั้นเม่อื ฉันดูแล้วตวั เอง ฉนั ก็ก�ำ ลงั ดแู ลเธอคนนนั้ ดว้ ย] ดังนั้นการรู้ว่าเราไม่เคยเกิดและเราไม่เคยตายทำ�ให้เราไม่เศร้า . 230 .
ทกุ สิง่ ล้วนเชอ่ื มโยงกัน ทุกส่งิ ดำ�เนินต่อไป ไม่กลัว และทำ�ให้เรามีวิธีทำ�ให้เพ่ือนและครอบครัวของเราสบายใจ และ เตือนให้เราดแู ลคนอื่นๆ เพราะวา่ เราอยู่ในตัวเขา และเตอื นให้เราดแู ลตัว เอง เพราะคนอื่นๆ มชี วี ิตอย่ใู นตวั เรา การรู้วา่ เราไมเ่ คยเกิดและเราจะ ไมต่ าย ชว่ ยใหเ้ รามคี วามสุข และชว่ ยใหเ้ ราท�ำ ให้ผู้อ่นื มคี วามสุข มารอ้ ง เพลง “No Coming, No Going” (ไมม่ มี า ไม่มไี ป) ด้วยกนั เถิด เพลงท่ี 29 No Coming, No Going (ไมม่ มี า ไมม่ ีไป) . 231 .
แหล่งขอ้ มูล เธอจะตดั กระดาษหรอื ถ่ายส�ำ เนา การภาวนากบั กอ้ นกรวดจากหนา้ ถดั ไปกไ็ ด้
วิธีการใช้การ์ดภาวนา • หาท่เี งยี บๆ • นงั่ ในท่าทีส่ บาย • น่งั หลงั ตรง ไหลท่ ้ังสองข้างผ่อนคลาย • สังเกตลมหายใจเขา้ และออกของเธอ • หยบิ การด์ ข้ึนมา • อา่ นช้าๆ เพ่ือใหภ้ าพซมึ เขา้ ไปในความคดิ • หลับตา • พูดคำ�สำ�คัญของภาวนา ในแต่ละลมหายใจเขา้ และออก • เบกิ บานกบั ความรสู้ ึกและยมิ้ • ใช้เวลา 10 นาที ตอ่ การด์ 1 ใบ
หายใจเข้า ฉนั เห็นตวั เองเปน็ ดอกไม้ ดอกไมข้ องมนุษยชาติ หายใจออก ฉนั งดงาม ดังท่ฉี นั เป็น และฉันร้สู กึ สดชน่ื มาก ลมหายใจเข้า ดอกไม ้ ลมหายใจออก สดชนื่ หายใจเข้า ฉนั เหน็ ตัวฉนั เปน็ ดั่งภเู ขา หายใจออก ฉนั รู้สกึ มั่นคง ไมม่ อี ะไรมาเคลอ่ื นย้าย หรือ เบ่ียงเบนความสนใจของฉนั ได้ ลมหายใจเขา้ ภเู ขา ลมหายใจออก ม่ันคง
หายใจเขา้ ฉทนั่มี ีนเหำ�้็นนต่งิ วัใสเองแเปลน็ ะสทงะเบลสาบ หายใจออก ฉนั สะทอ้ นสง่ิ ต่างๆ ดงั ที่มันเป็น ทั้งภายในและรอบๆ ตวั ฉนั ลมหายใจเข้า น�ำ ้ น่งิ ลมหายใจออก สะทอ้ น หายใจเข้า ฉนั เหน็ ตวั เองเปน็ ท้องฟ้าสีครามกวา้ งใหญ่ และมที ี่ว่างอย่ภู ายในและรอบตวั ฉัน หายใจออก ฉนั รู้สึกเปน็ อิสระและผ่อนคลาย ลมหายใจเข้า ท่ีวา่ ง ลมหายใจออก เป็นอสิ ระ
ตวั อยา่ งแหลง่ ข้อมลู เก่ียวกับสติ การหาวิธีการท่ีมีความหมายในการเริ่มต้นและส้ินสุดแต่ละกิจกรรมที่เด็กๆ จะ จดจำ�และสนกุ เป็นสง่ิ ที่มปี ระโยชน์ การตระหนกั รถู้ งึ ลมหายใจขณะทพี่ วกเขาฟงั เสียงระฆังเป็นการปฏิบัติที่ดี เตือนให้พวกเขารู้ว่าพวกเขาสามารถกลับมาสู่ลม หายใจของตวั เองไดไ้ มว่ า่ เมอื่ ใดก็ตามทพี่ วกเขาตอ้ งการแกน่ ใหย้ ึดถอื เมอื่ เดก็ ๆ เรียนรูก้ ารเชญิ ระฆงั ให้พวกเขาเรม่ิ ต้นและปิดกิจกรรมโดยการเชญิ ระฆงั น่เี ปน็ ตวั อยา่ งบทเรยี น 45 นาทถี ึง 1 ชัว่ โมงสำ�หรับเด็กอายุ 6-12 ปี (ค้นควา้ เพิม่ เติม ไดท้ ่ีเว็บไซต์ Planting Seeds) บทที่ 1: หายใจกับเสียงระฆงั เพื่อใหจ้ ิตใจสงบ สิง่ ทีต่ ้องเตรยี ม: ระฆงั แจกนั แกว้ น�ำ้ ทรายสี 1 แนะน�ำ ความหมายของระฆงั (หน้า 67) และนบั ลมหายใจกบั เสียงระฆงั (หน้า 71) 10 นาที 2 เรยี นวิธกี ารเชิญระฆัง (หนา้ 73) 10 นาที 3 จิตในโถแก้ว (หน้า 16) 20 นาที การบา้ น: เลือกเสียงหรือของ 1 อยา่ งท่ีจะเป็นระฆังแหง่ สติสำ�หรบั นกั เรยี นของ เธอกอ่ นทจี่ ะถงึ คาบเรยี นตอ่ ไป เมอื่ นกั เรยี นไดย้ นิ เสยี งนนั้ แลว้ พวกเขาหยดุ และ กลับมาท่ีลมหายใจของตัวเอง พวกเขาอาจตระหนักรู้ในการกระทำ�อย่างหนึ่งที่ ตัวเองทำ�ตลอดทั้งวันได้ เช่น การสะพายกระเป๋า การเปิดหนังสือ การด่ืมนำ้� หรือการไปห้องน้ำ� ในคาบเรียนต่อไปเด็กๆ แบ่งปันต่อกันได้ว่าพวกเขาทำ� กิจกรรมนีอ้ ย่างมีสตอิ ยา่ งไร . 239 .
เลน่ เป็น เด็ก บทท่ี 2: สดชน่ื มัน่ คง สงบ เป็นอิสระ ส่งิ ท่ตี ้องเตรียม: สำ�เนากระดาษแบบฝกึ หัดการภาวนากบั กอ้ นกรวด ส�ำ หรบั เด็กแต่ละคน (หรือใหก้ ระดาษเปลา่ เพอ่ื ใหเ้ ด็กๆ วาดรปู เอง) 1 สอนเพลง “ลมหายใจ” (หนา้ 86) 5 นาที 2 ภาวนากับกอ้ นกรวด (หน้า 81) รวมเวลาแลกเปล่ยี นและสะท้อนบทเรียน 15 นาที 3 ทำ�แบบฝึกหัดภาวนากับก้อนกรวดในกระดาษ (หน้า 90) 15 นาที การบา้ น: หาพน้ื ที่ในบ้านที่เธอจะสงบได้ วางกอ้ นกรวดไวท้ ่ีนั่น ใส่ของอนื่ ๆ ท่ีท�ำ ให้ เปน็ พนื้ ทห่ี ายใจทีพ่ เิ ศษ มคี วามสวยงามและน่าอยู่ มาเล่าให้พวกเราฟงั ในคราวต่อ ไปทีพ่ บกนั บทที่ 3 การเปน็ ดัง่ กันและกัน สง่ิ ที่ต้องเตรยี ม: ลูกเกดตามจำ�นวนเดก็ กระดาษ อปุ กรณว์ าดเขยี น 1 ภาวนากบั ลกู เกด (หนา้ 157) 10 นาที หรอื ความพงึ พอใจ (หนา้ 187) 10 นาที 2 วาดรูปการเป็นดั่งกนั และกัน (หนา้ 161) 20 นาที 3 กลิง้ ลกู แก้ว (หน้า 166) น่ังบนเขา่ หรอื เกมเง่ือนมนษุ ย์ (ดูในเว็บไซต์เพ่อื หาวธิ ีการเลน่ เกม) 10 นาที การบา้ น: ทำ�และเสิร์ฟอาหารวา่ งที่บ้านให้กบั ครอบครัวของเธอ แบง่ ปนั ว่า อาหารวา่ งนเี้ ชื่อมโยงสัมพนั ธก์ ับสง่ิ อนื่ ๆ อย่างไร . 240 .
บทท่ี 4 ความเข้าใจและความกรุณา สิ่งทต่ี อ้ งเตรียม: ส�ำ เนาค�ำ สัญญา 2 ข้อตามจำ�นวนเด็ก 1 เพลงค�ำ สัญญา 2 ข้อ (หนา้ 144) 5 นาที 2 แลกเปลย่ี นเกย่ี วกับสัญญา 2 ข้อ (หน้า 144) 20 นาที 3 กระดาษแบบฝกึ หัดสญั ญา 2 ข้อ (หนา้ 148-149) 10 นาที 4 การไหว้ (หน้า 121) 5 นาที การบ้าน: เรียนเพลง “สัญญา 2 ข้อ” คิดท่าเคลื่อนไหวของตัวเองหรือของกลุ่ม สอนให้พวกเราทำ�ตามเม่ือเราพบกันอีกคร้ัง หรือฝึกปฏิบัติความเข้าใจและความ กรณุ ากับใครสกั คนหรือกบั ของบางอย่าง และแลกเปลย่ี นกนั เม่ือพบกนั คราวต่อไป บทท่ี 5 กราบสัมผสั พนื้ ดิน 1 เล่าเรื่องพระพุทธเจ้ากับพญามาร (หนา้ 131) 10 นาที 2 ฝกึ ปฏบิ ัติการกราบสมั ผัสพ้นื ดนิ (หนา้ 127) 10 นาที 3 ฉนั ประกอบดว้ ยอะไรบ้าง (หนา้ 136) 30 นาที การบ้าน: ใช้เวลากับธรรมชาติ (ในสวนสาธารณะ สวน ใกล้ต้นไม้ หรือกับพืช) พจิ ารณาวา่ เราเชอื่ มโยงกบั ธรรมชาตอิ ยา่ งไร ฝกึ ปฏบิ ตั กิ ารขออนญุ าตจากธรรมชาติ (หนา้ 173) . 241 .
เลน่ เปน็ เดก็ ตัวอย่างตารางกิจกรรมตอนเช้าสำ�หรับวัยรุน่ คณะนักบวชได้รับคำ�เชิญใหไ้ ปน�ำ เสนอเร่อื งสติในช่วงเช้า ที่โรงเรยี นมัธยมปลาย ในเมอื งวาลดเ์ บรอล์ (Waldbrol) ประเทศเยอรมนี นค่ี ือตารางกิจกรรม 1 ตระหนกั รลู้ มหายใจ (ตระหนกั ร้ถู ึงความส้ัน-ยาวของลมหายใจเข้าและออก (หนา้ 70) 5 นาที 2 แนะนำ� แบ่งปนั เปา้ หมายของกจิ กรรมในเช้าวนั นี้ 20 นาที 3 สอนประโยชน์ของสติ และการนำ�ไปใชใ้ นชีวิตประจำ�วนั 20 นาที 4 การเคล่อื นไหวอยา่ งมสี ติ 10 ท่า 10 นาที 5 การผอ่ นคลายอย่างลกึ (หน้า 94) 30 นาที (เธอจะเรมิ่ ด้วยการแลกเปลีย่ นเกีย่ วกับสง่ิ ท่ีเราทำ�เวลาทเี่ ราเครียดก็ได้) 6 ภาวนากบั ผลสม้ และน�้ำ ชา (เหมอื นกบั ภาวนากบั ลกู เกด) (หนา้ 153,157) 30 นาที 7 พัก 20 นาที 8 สอนการฟังอยา่ งลกึ ซ้งึ และวาจาแหง่ รกั 10 นาที 9 ฝกึ การฟังอย่างลึกซงึ้ เป็นคู่ (หน้า 210) 30 นาที 10 ปดิ งาน: คำ�สะท้อนจากนกั เรยี น สงิ่ ท่พี วกเขาชอบ ไม่ชอบ และส่งิ ที่ได้ เรยี นรู้ 30 นาที . 242 .
ตวั อยา่ งตารางกิจกรรมสำ�หรับวนั ครอบครวั แห่งสติ เธอจดั วันครอบครัวแห่งสติทพ่ี ่อแม่และลูกๆ มาอยู่ดว้ ยกันท้ังวันได้ กจิ กรรมขา้ งล่าง นปี้ ระสบความสำ�เรจ็ มากอ่ น 9.30 น. คำ�แนะน�ำ ส�ำ หรบั กิจกรรมวันนี้ 10.00 น. ผจญภัยแบบธรรมะ! แบ่งเป็น 5 กล่มุ ทม่ี สี มาชิก 5-10 คน ซงึ่ มที งั้ เด็กและผู้ใหญ่ แตล่ ะกลมุ่ ไปเยยี่ มเยียนฐานตา่ งๆ ของการปฏิบัติ ทั้งภาวนากับก้อนกรวด (หน้า 81) การทำ�งานศิลปะหรือภาพ มันดาลา (หนา้ 177) เลน่ เกมเช่ือมความสัมพนั ธ์ (เลอื กทช่ี อบจาก บทท่ี 8) ท�ำ และกินขนม (หน้า 153) หรอื เลน่ บทบาทสมมตเิ ก่ยี ว กบั ชีวิตครอบครวั (หนา้ 209) ทุก 30 นาทีเปลีย่ นกล่มุ เพือ่ ท่ีจะได้ เขา้ ร่วมท้ัง 5 กจิ กรรม ผปู้ ระสานงานซงึ่ เตรียมกจิ กรรมก่อนหนา้ นี้ อยู่ประจำ�กลุ่มตัวเอง และแนะนำ�กลุ่มใหม่ทำ�กิจกรรมเหมือนกัน (ปรับเปล่ียนจำ�นวนกิจกรรมและเน้ือหาที่เหมาะสมกับกลุ่มของ เธอไดอ้ ย่างอสิ ระ) 12.30 น. อาหารกลางวัน 14.00 น. ผ่อนคลายอย่างลึกสำ�หรับคนหนุ่มสาว (หน้า 94) นำ�โดยเด็กๆ แล้วตามด้วยกราบสัมผัสพ้ืนดินสำ�หรับคนหนุ่มสาว (หน้า 127) (อาจจะให้เดก็ ๆ เปน็ คนอา่ น) 15.00 น. เดก็ ๆ และพ่อแมฝ่ กึ ปฏิบัตกิ ารเร่ิมตน้ ใหม่ (หน้า 62) (เดก็ ๆ ไมต่ อ้ งท�ำ การด์ พวกเขาแบง่ ปนั ความรสู้ กึ ขอบคณุ แกพ่ อ่ แม่ พ่อแมห่ าของจากธรรมชาติมอบใหล้ ูกๆ) 16.00 น. อ�ำ ลา . 243 .
เลน่ เปน็ เด็ก บทเพลง 1 I FOLLOW MY BREATH 2:57 7 DEEP RELAXATION FOR Jerusha (Harriet Korim Arnoldi) YOUNG PEOPLE 16:36 from her 2011 CD, The Stars Are read by Sister Jewel Out All Day 8 IN, OUT, DEEP, SLOW :37 2 GATHA FOR LISTENING TO (เวลาอันประเสริฐ) THE BELL :25 lyrics by Thich Nhat Hanh traditional gatha music by Chan Hoa Lam 3 THE ISLAND WITHIN :50 9 LULLABY 1:50 (เกาะของฉนั ) Sr.True Vow lyrics by Thich Nhat Hanh music by Joseph Emet 10 PEACEFULLY FREE 1:25 Sr. Morning Light 4 LISTEN, LISTEN 4:46 lyrics by Thich Nhat Hanh 11 KINDNESS 1:44 music by David & Tamara Hauze Jamie Rusek, from their 2011 CD, I Have Arrived from her2007 CD, Cultivate Joy 5 PEBBLE MEDITATION 7:36 read by Sister Jewel 12 WALK IN THE LIGHT 1:08 traditional 6 BREATHING IN, BREATHING OUT 1:43 (ลมหายใจ) 13 END OF DEEP RELAXATION :46 lyrics by Thich Nhat Hanh 14 WALKING MEDITATION 1:25 music by Betsy Rose 15 MAY THE DAY BE WELL 1:26 (ขอให้เป็นวันดี) {fun version} Deborah Barbe . 244 .
16 WATERING SEEDS OF JOY 3:01 23 MANY HANDS 3:04 lyrics by Thich Nhat Hanh Rev.Jody Kessler, from her 2003 music by Sr. True Vow CD, Bare Bones 17 TOUCHING THE EARTH FOR 24 LITTLE TOMATO 3:08 YOUNG PEOPLE 7:38 Joe Reilly, from his 2009 CD, read by SisterJewel Touch the Earth 18 GATHA FOR PLANTING 25 STANDING LIKE A TREE :26 A TREE 1:41 (ยืนยงดังต้นไม)้ (ตน้ ไม้กับพน้ื ดิน) lyrics and music by Betsy Rose, lyrics by Thich Nhat Hanh adapted by Plum Village music adapted by Joseph Emet from a Gao MingTemple chant 26 HAPPINESS IS HERE AND NOW :58 19 THERE’S OL’ BUDDHA 2:09 (ณ ตรงนที้ ี่ใจฉันสุข) Rev.Patricia Dai-En Bennage 2007 CD, Cultivate J oy 1:44 Eveline Beumkes :58 20 THE TWO PROMISES 1:39 (สัญญาสองข้อ) 27 GREAT BIG SMILE 2:16 lyrics by Plum Village (ยิ้มยงิ่ ใหญ)่ music by Betsy Rose Gregg Hill & Jamie Rusek 21 I LOVE NATURE 3:30 28 FEELINGS GATHA 1:21 Joe Reilly, from his 2007 CD, traditional gatha Children of the Earth, 29 NO COMING, NO GOING 1:00 22 CONTEMPLATIONS AT (ไม่มมี า ไม่มไี ป) MEALTIME 1:09 Sr. True Virtue . 245 .
เนอื้ เพลง เล่น เป็น เดก็ เรียงตามลำ�ดับตัวอกั ษร 6 ลมหายใจ ภาษาองั กฤษ หายใจเขา้ หายใจออก (๒ ครั้ง) เปรยี บดอกไม้ ที่แยม้ บาน สดช่ืนเหมือน นำ้�ค้างพร่างพราย หนกั แน่นเหมือน ภผู ากวา้ งใหญ่ ม่ันคงคล้าย ดังผนื ดิน ฉันปลอ่ ยวาง หายใจเข้า หายใจออก (๒ ครงั้ ) ด่ังผนื น�ำ้ สะท้อนเงา ความถูกตอ้ งและความจริง เปรียบเสมอื นความว่างเปล่า อยู่ในใจของฉันเอง ฉันสงบ ฉันสบาย ฉันปล่อยวาง . 246 .
18 ต้นไมก้ บั ผืนดนิ ขอมอบใจ และกาย น้อมถวาย ดว้ ยยินดี บนแผน่ พื้นดนิ แมธ่ รณี กม็ อบกาย ฉันเชน่ กัน ขอมอบใจ และกาย นอ้ มถวาย พระพุทธองค์ ด้วยธรรมะ อนั มัน่ คง พระองค์ วางใจฉนั เชน่ กัน 27 ย้มิ ย่ิงใหญ่ เราคอื นกน้อย นกตวั งาม คืออาทติ ย์ แสงอำ�ไพ คอื ลมพัด แสนเย็นใจ เป็นทั้งนก และอาทิตย์ หนึ่งเดียวกนั อยใู่ นโลกทง่ี ดงาม เราคอื เมลด็ เล็กนดิ เดียว คอื สายฝน แสนชุม่ ฉำ�่ คอื ธารน�้ำ ไหลเออ่ื ยๆ เป็นเมลด็ ไดร้ บั นำ้� ก็เติบโต อยูใ่ นโลกท่งี ดงาม เราคอื ตวั โนต้ รอ้ งงา่ ยๆ คือบทเพลง เพ่ือศานติ คอื เดก็ น้อย ยิม้ ยงิ่ ใหญ่ เปน็ ทั้งโน้ต และบทเพลง รว่ มขบั ขาน อยู่ในโลกที่งดงาม . 247 .
เลน่ เป็น เดก็ 26 ณ ตรงน้ี ทใ่ี จฉนั สุข ณ ตรงน้ี ทใ่ี จฉันสขุ สุขเมือ่ ปลอ่ ยวางความกังวล ไมไ่ ปทไ่ี หน ไม่ทำ�เรอื่ งใด เราจึงไม่ต้องรบี เรง่ ณ ตรงน้ี ที่ใจฉันสขุ สขุ เมื่อปลอ่ ยวางความกงั วล จะไปท่ีไหน จะท�ำ เร่ืองใด แต่เรากไ็ ม่ต้องเรง่ รีบ . 248 .
8 เวลาอนั ประเสรฐิ ผ่อน คลาย ลมหายใจ น่งิ สบาย ยม้ิ ปลอ่ ยวาง ปัจจบุ นั ฉัน อยู่ ในเวลา อนั ประเสริ ฐ . 249 .
เลน่ เป็น เดก็ 3 เกาะของฉัน หายใจเขา้ ฉนั กลับคืน เขา้ ไปในเกาะของฉนั เอง มแี มกไม้หลากพนั ธุง์ าม และลำ�ธารใส สดชนื่ ใจ กาย ดว้ ยเสียงนกรอ้ งมากมาย ไออนุ่ จากแสงแดด หายใจออก ฉันม่นั ใจ ไดส้ ขุ ใจภายในเกาะของฉนั เอง . 250 .
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256