Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore Mahapali Basic Pali 2013

Mahapali Basic Pali 2013

Published by VISALPUNYAPIRAT, 2019-12-22 23:41:09

Description: Mahapali Basic Pali 2013 (1)

Search

Read the Text Version

39 นาม วา่ ดว้ ยบทที่ประกอบวิภัตตนิ าม วิธีเปลย่ี นวิภตั ติ ๑. เพราะ สิ วิภัตติ แปลงท่ีสุดของ สตฺถุ, ปิตุ, มาตุ, ภาตุ, ธีตุ และ กตฺตุ ศัพท์ เป็นต้น เป็น อา และลบ สิ วภิ ตั ติ ๒. เพราะวิภัตติอื่นจาก สิ วิภัตติ แปลงท่ีสุดของ สตฺถุ และ ปิตุ ศัพท์เป็นต้น เป็น อาร ๓. หลังจาก อารอาเทศ แปลง โย วิภตั ติ เปน็ โอ ๔. หลังจาก อารอาเทศ แปลง นา วภิ ตั ติ เปน็ อา ๕. เพราะ ส วิภตั ติ แปลงที่สุดของ สตถฺ ุ และ ปิตุ ศพั ท์ เป็นต้น เป็น อุ และลบ ส วภิ ตั ติ ๖. เพราะ นํ วิภัตติ แปลงท่สี ดุ ของ สตฺถุ และ ปติ ุ ศพั ท์ เปน็ ตน้ เป็น อ ๗. หลังจากอารอาเทศ แปลง สฺมึ วิภตั ติ เปน็ อ.ิ ๘. เพราะ อิวภิ ัตยาเทศ รสั สะ อารอาเทศ เปน็ อร วภิ ตั ติ กตตฺ ุสททฺ ปทมาลา (ผูก้ ระท�ำ) ปฐมา. เอกวจนะ พหวุ จนะ อาลปนะ. กตฺตา กตตฺ าโร ทตุ ิยา. โภ กตฺต กตตฺ า ภวนฺโต กตฺตาโร ตตยิ า. กตตฺ ารํ กตฺตาเร กตฺตาโร จตตุ ถี. กตฺตารา กตตฺ าเรหิ กตตฺ าเรภิ ปญั จมี. กตตฺ ุ กตตฺ โุ น กตตฺ สุ สฺ กตตฺ ารานํ กตตฺ านํ กตตฺ นู ํ กตตฺ นุ ํ ฉฏั ฐ.ี กตตฺ ารา กตตฺ าเรหิ กตตฺ าเรภิ สตั ตมี. กตฺตุ กตฺตุโน กตตฺ ุสฺส กตตฺ ารานํ กตตฺ านํ กตตฺ นู ํ กตตฺ นุ ํ กตตฺ ริ กตตฺ าเรสุ กตตฺ สู ุ กตฺตุสุ ศัพทแ์ จกตาม กตฺตศุ พั ท์ มดี ังนี้ ภตฺตุ ผู้เลี้ยง, สามี วตฺตุ ผู้กล่าว เนตุ ผนู้ ำ� ไป โสตุ ผฟู้ ัง ญาตุ ผู้รู้ เชตุ ผู้ชนะ เฉตตฺ ุ ผู้ตดั เภตฺตุ ผผู้ า่ , ผู้ทำ� ลาย ทาตุ ผู้ให้ ธาตุ ผู้ทรงไว้ นตฺตุ หลาน โพทธฺ ุ ผรู้ ู้ วญิ ฺญาเปตุ ผใู้ ห้รู้ กาเรตุ ผใู้ ห้ท�ำ สาเวตุ ผ้ใู หฟ้ ัง

40 ไวยากรณ์บาลเี บ้อื งตน้ วิภัตติ ปติ สุ ทฺทปทมาลา (บดิ า) ปฐมา. อาลปนะ. เอกวจนะ พหวุ จนะ ทตุ ยิ า. ปิตา ปติ โร ตติยา. โภ ปติ ปติ า ภวนโฺ ต ปติ โร จตตุ ถี. ปิตรํ ปติ เร ปติ โร ปญั จมี. ปติ รา ปติ นุ า ปิตเรหิ - ภิ, ปิตหู ิ - ภิ, ปิตหุ ิ - ภิ ฉัฏฐี. ปิตุ ปิตโุ น ปิตุสฺส ปติ รานํ ปติ านํ ปติ ูนํ ปิตุนํ สตั ตมี. ปติ รา ปิตเรหิ - ภิ, ปิตหู ิ - ภิ, ปติ ุหิ - ภิ ปติ ุ ปติ ุโน ปิตุสสฺ ปิตรานํ ปติ านํ ปติ ูนํ ปติ นุ ํ ปติ ริ ปิตเรสุ ปติ สู ุ ปติ สุ ุ วิธีเปลยี่ นวิภตั ติ ๑. รสั สะ อารอาเทศของ ปติ ,ุ มาต,ุ ภาตุ ศพั ท์เปน็ ตน้ เปน็ อร ๒. รูปที่เหลอื มีวิธที �ำตวั รปู และแจกปทมาลาเหมอื น กตฺตุ ศพั ท์ทุกประการ อู การนั ต์ ปงุ ลิงค์ อภภิ สู ทฺทปทมาลา (ผเู้ ป็นใหญ่) วิภัตติ เอกวจนะ พหวุ จนะ ปฐมา. อภภิ ู อภิภู อภิภโุ ว อาลปนะ. โภ อภภิ ุ ภวนโฺ ต อภภิ ู อภภิ ุโว ทตุ ยิ า. อภิภํุ อภภิ ู อภิภโุ ว ตตยิ า. อภิภุนา อภิภหู ิ อภิภภู ิ จตุตถี. อภิภุโน อภภิ ุสสฺ อภภิ นู ํ ปญั จม.ี อภิภนุ า อภิภมุ หฺ า อภภิ สุ ฺมา อภภิ หู ิ อภภิ ภู ิ ฉฏั ฐี. อภิภโุ น อภภิ ุสฺส อภิภนู ํ สตั ตม.ี อภิภุมหฺ ิ อภิภุสฺม ึ อภิภสู ุ วธิ เี ปลย่ี นวิภัตติ ๑. ลบ โย วภิ ัตติ, แปลง โย เปน็ โว และรัสสะ อู เปน็ อุ ๒. รัสสะ อู เป็น อุ และแปลง ส วิภัตติ เปน็ โน ๓. แปลง สฺมา วภิ ัตติ เป็น นา

41 นาม ว่าดว้ ยบทท่ปี ระกอบวิภัตตนิ าม ศพั ทแ์ จกตาม อภิภู มีดังน้ี สยมฺภู ผเู้ ป็นเอง, พระพุทธเจ้า เวสสฺ ภู พระเวสสภพู ุทธเจา้ ปราภิภู ผปู้ กครองบุคคลอ่นื สหภู ธรรมอนั เปน็ ไปด้วยกนั (เฉพาะ สหภู ศัพท์ แปลง โย วภิ ตั ติ เป็น โว และ โน) สพฺพญญฺ ูสททฺ ปทมาลา (พระสพั พญั ญูพุทธเจา้ ) วิภัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐมา. สพพฺ ญญฺ ู สพพฺ ญญฺ ู สพพฺ ญฺญโุ น อาลปนะ. โภ สพพฺ ญฺญุ โภนฺโต สพพฺ ญฺญู สพพฺ ญฺญโุ น ทตุ ิยา. สพพฺ ญฺญํุ สพฺพญญฺ ู สพพฺ ญฺญโุ น ตตยิ า. สพฺพญญฺ นุ า สพพฺ ญญฺ ูหิ สพพฺ ญญฺ ภู ิ จตตุ ถี. สพพฺ ญญฺ ุโน สพฺพญญฺ ุสฺส สพพฺ ญฺญูนํ ปัญจมี. สพพฺ ญฺญุนา สพฺพญญฺ ุมฺหา สพพฺ ญญฺ สุ มฺ า สพพฺ ญฺญูหิ สพฺพญฺญภู ิ ฉัฏฐี. สพพฺ ญญฺ โุ น สพฺพญฺญุสฺส สพฺพญฺญนู ํ สัตตมี. สพฺพญฺญุมหฺ ิ สพฺพญฺญุสมฺ ึ สพพฺ ญญฺ ูสุ ศพั ทแ์ จกตาม สพพฺ ญญฺ ู มดี ังน้ี มคฺคญฺญู ผูร้ ู้มรรค, ผู้รู้หนทาง ธมฺมญญฺ ู ผ้รู ธู้ รรม, ผูร้ ูเ้ หตุ อตถฺ ญฺญู ผรู้ ู้อรรถ, ผรู้ ผู้ ล กาลญญฺ ู ผู้รู้กาลอนั สมควร รตตฺ ญญฺ ู ผรู้ ู้ราตรี (ผ้มู อี ายมุ าก) มตฺตญฺญู ผูร้ ้ปู ระมาณ กตญฺญู ผู้รูค้ ุณท่ีผู้อืน่ ทำ� แล้ว ตถญญฺ ู ผรู้ ้คู วามจรงิ วญิ ฺญู ผรู้ แู้ จ้ง, ผู้ร้เู ดียงสา วิทู ผ้รู ,ู้ บัณฑติ เวทคู ผถู้ งึ ฝง่ั แห่งพระเวท ปารคู ผู้ถงึ ฝง่ั (ผูเ้ ชย่ี วชาญ) วิภัตต ิ โอ การันต์ ปุงลงิ ค์ โคสททฺ ปทมาลา (ววั ) พหวุ จนะ ปฐมา. เอกวจนะ คาโว คโว อาลปนะ. โค เห คาโว คโว ทตุ ิยา. เห โค คาโว คโว ตตยิ า. คาวํุ คาวํ ควํ โคหิ โคภิ จตุตถี. คาเวน คเวน ควํ คนุ ฺนํ โคนํ ปญั จม.ี คาวสฺส ควสสฺ โคหิ โคภิ ฉฏั ฐี. คาวา คาวมฺหา คาวสมฺ า ควา ควมหฺ า ควสฺมา ควํ คุนนฺ ํ โคนํ สัตตมี. คาวสฺส ควสสฺ คาเวสุ คเวสุ โคสุ คาเว คาวมฺหิ คาวสฺมึ คเว ควมฺหิ ควสฺมึ

42 ไวยากรณ์บาลเี บอื้ งตน้ วธิ ีเปล่ยี นวิภัตติ ๑. เพราะ โย วิภตั ติ แปลง โอ ของ โค เป็น อาว และแปลง โย เปน็ โอ ๒. เพราะ อํ วิภัตติ และ ส วภิ ัตติ แปลง โอ ของ โค เป็น อาว และ อว ๓. เพราะ โย, นา, ส, สฺมา, สมฺ ึ และ สุ วิภัตติ แปลง โอ ของ โค เป็น อว ๔. เพราะ อํ วิภัตติ แปลง อ ของ อาว ท่แี ปลงมาจาก โอ ของ โค เป็น อุ บา้ ง ปุริโส คณุ วา ราชา ปุลลิงคสงั คหคาถา สาคฺคิ ทณฺฑี จ ภิกฺขุ จ สตฺถาภภิ ู จ สพฺพญญฺ ู โคติ ปุลลฺ ิงคฺ สงฺคโห ๓.๒ อติ ถีลิงคนาม อาการันต์ อติ ถลี ิงค์ กญฺญาสทฺทปทมาลา (สาวนอ้ ย) วภิ ัตต ิ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐมา. กญญฺ า กญญฺ า กญญฺ าโย อาลปนะ. โภติ กญเฺ ญ โภตโิ ย กญญฺ า กญญฺ าโย ทตุ ยิ า. กญญฺ ํ กญญฺ า กญญฺ าโย ตตยิ า. กญฺญาย กญฺญาห ิ กญฺญาภิ จตุตถ.ี กญฺญาย กญฺญานํ ปัญจมี. กญฺญาย กญฺญาห ิ กญฺญาภิ ฉัฏฐ.ี กญฺญาย กญฺญานํ สัตตม.ี กญฺญาย กญฺญาย ํ กญฺญาสุ วธิ เี ปลย่ี นวภิ ัตติ ๑. แปลง สิ อาลปนะ (ค) เปน็ เอ ๒. หลังจาก อา การันต์ในอิตถีลิงค์ แปลงวิภัตติฝ่ายเอกวจนะ ตั้งแต่ นา ตติยา ถึง สฺมึ สัตตมี (นา, ส, สมฺ า, ส, สฺมึ) เปน็ อาย ๓. หลังจากการันต์ทง้ั ปวงในอิตถีลงิ ค์ แปลง สฺมึ เปน็ ยํ บ้าง ศัพทแ์ จกตาม กญฺญา มดี งั นี้ สทธฺ า ความเช่ือ เมธา ปญั ญา ปญญฺ า ปญั ญา วิชชฺ า ความรู้ จนิ ฺตา ความคิด มนตฺ า ความรู้ วณี า พิณ ตณหฺ า ตณั หา อิจฺฉา ความตอ้ งการ มุจฺฉา ความหลง เอชา ตณั หา มายา มารยา

43 นาม ว่าด้วยบทที่ประกอบวิภตั ตนิ าม เมตตฺ า เมตตา มตตฺ า ประมาณ สกิ ฺขา ขอ้ ทีค่ วรศึกษา ภกิ ขฺ า อาหาร ชงฆฺ า แขง้ ควี า คอ ชิวหฺ า ลนิ้ วาจา คำ� พดู ฉายา เงา อาสา ความหวงั , ตณั หา คงฺคา แมน่ �้ำคงคา นาวา เรือ คาถา คาถา, รอ้ ยกรอง เสนา กองทพั เลขา รอยขดี เขยี น สาลา ศาลา มาลา พวงมาลัย เวลา เวลา ปชู า การบูชา ขฑิ ฑฺ า การเลน่ ปปิ าสา ความกระหาย เวทนา การเสวยอารมณ์ สญญฺ า ความจำ� , ชอ่ื เจตนา ความจงใจ ตสนิ า ตณั หา ปชา หม่สู ตั ว์ เทวตา เทวดา วฏฏฺ กา นกคมุ้ โคธา เหย้ี , ตะกวด พลากา นกยาง ปริสา บริษัท สภา สภา, ทป่ี ระชมุ วาลกิ า ทราย สขิ า ยอด, หงอน วิสาขา ดาววสิ าขา วสิ ิขา ถนน สาขา กง่ิ ไม้ วจา ว่านนำ�้ วญฌฺ า หญงิ หมนั ชฏา ชฎา ฆฏา หม้อ เชฏฐฺ า ดาวชา้ งใหญ่ โสณฺฑา งวงชา้ ง วาสนา วาสนา กรณุ า ความสงสาร วนิตา หญงิ สาว ลตา เถาวัลย์ กถา คำ� พูด นิทฺทา ความหลบั สุธา อาหารทพิ ย์, ปนู ขาว นาสา จมูก ทิสา ทิศ สสึ ปา ตน้ ประดู่ลาย ปปา น�้ำประปา, บ่อนำ้� ปภา รศั มี สีมา สมี า, เขตแดน ขมา ความอดทน ชายา ภรรยา ขตตฺ ิยา นางกษตั ริย์ สกฺขรา กอ้ นกรวด สุรา สุรา, เหลา้ โทลา ชงิ ชา้ ตุลา ตราชัง่ สลิ า ศิลา, หิน ลลี า การเยอื้ งกราย ลาลา น้�ำลาย เอลา นำ้� ลาย วสธุ า แผน่ ดนิ , พสธุ า กลา สว่ น วฬวา มา้ ตัวเมยี มสู า เบ้า คหุ า ถ้ำ�

44 ไวยากรณบ์ าลเี บ้อื งตน้ อิ การนั ต์ อติ ถลี ิงค์ รตตฺ ิสทฺทปทมาลา (ราตรี, กลางคนื ) วภิ ัตต ิ เอกวจนะ พหวุ จนะ ปฐมา. รตฺติ รตฺตี รตฺตโิ ย รโตฺย อาลปนะ. เห รตตฺ ิ เห รตฺตี รตฺตโิ ย ทุตยิ า. รตตฺ ึ รตตฺ ี รตฺติโย ตตยิ า. รตตฺ ิยา รตฺตีหิ รตตฺ ีภิ รตฺติหิ รตตฺ ภิ ิ จตตุ ถ.ี รตตฺ ิยา รตฺตนี ํ รตตฺ นิ ํ ปญั จม.ี รตฺตยิ า รตยฺ า รตตฺ ีหิ รตฺตีภิ รตตฺ ิหิ รตตฺ ิภิ ฉัฏฐี. รตฺตยิ า รตตฺ นี ํ รตตฺ นิ ํ สตั ตมี. รตตฺ ยิ า รตยฺ า รตฺยํ รตตฺ ึ รตฺโต รตตฺ ยิ ํ รตฺตสี ุ รตฺติสุ วธิ เี ปลย่ี นวภิ ตั ติ ๑. หลัง อิ วัณณะ และ อุ วัณณะในอติ ถลี งิ ค์ แปลงวภิ ตั ติฝ่ายเอกวจนะ ตง้ั แต่ นา ตติยา ถึง สฺมึ สตั ตมี (นา, ส, สมฺ า, ส, สมฺ )ึ เปน็ ยา ๒. แปลง สฺมา เป็น อา และแปลง สฺมึ เปน็ อํ บา้ ง ๓. เพราะสระทแี่ ปลงมาจากวภิ ัตติ แปลง อิ เป็น ย ๔. แปลง สมฺ ึ วภิ ัตติ เปน็ โอ บา้ ง ศัพทแ์ จกตาม รตฺติ มีดังนี้ ปตฺติ ส่วนบุญ ยุตตฺ ิ ความสมควร วุตตฺ ิ คำ� อธบิ ายสตู ร กิตฺติ ช่อื เสยี ง มตุ ตฺ ิ ความหลุดพน้ ตติ ตฺ ิ ความอมิ่ ขนฺติ ความอดทน กนตฺ ิ ความชอบใจ สนตฺ ิ พระนพิ พาน ตนตฺ ิ แบบแผน สิทธฺ ิ ความส�ำเร็จ สทุ ธฺ ิ ความบรสิ ุทธิ์ อิทฺธิ ความส�ำเรจ็ , ฤทธิ์ วทุ ฺธิ ความเจรญิ พุทฺธิ ความรู้ โพธิ โพธญิ าณ ภมู ิ แผ่นดนิ ชาติ การเกดิ ปีติ ปตี ,ิ ความอิ่มใจ สตู ิ การเกดิ นนฺทิ ความเพลดิ เพลิน สนธฺ ิ การปฏิสนธิ สาณิ ผ้าม่าน โกฏิ โกฎิ, ปลาย ทิฏฺิ ความเห็น วฑุ ฒฺ ิ ความเจรญิ ตฏุ ฺ ิ ความยนิ ดี ยฏฺิ ไม้เทา้ ปาฬิ ล�ำดบั , แถว อาฬิ ฝ่ังนำ้� นาฬิ ทะนาน เกฬิ การเล่น สติ ความระลกึ ได้ มติ ความรู้ คติ การไป จตุ ิ ตาย, เคลอ่ื น ธติ ิ ความเพียร ยุวติ หญิงสาว วกิ ติ การเปลี่ยนแปลง รติ ความยนิ ดี รจุ ิ ควมชอบใจ, รศั มี อสนิ สายฟา้

45 นาม ว่าด้วยบททปี่ ระกอบวิภตั ตินาม วสนิ ผ้า โอสธิ ดาวประจำ� ร่งุ องคฺ ลุ ิ นวิ้ มือ ธลุ ิ ธุล,ี ฝนุ่ ละออง ทนุ ฺทภุ ิ กลองใหญ่ โทณิ รางไม้ อฏวิ ปา่ ดง ฉวิ ผิวหนงั หมายเหตุ :- ศพั ทแ์ จกตาม รตตฺ ิ ศพั ท์ เว้นปฐมาวภิ ัตติ รปู ว่า “รโตยฺ ” ปญั จมวี ิภตั ติ รูปวา่ “รตยฺ า” และสัตตมวี ิภตั ติ รูปว่า “รตฺยา, รตยฺ ,ํ รตตฺ ึ, รตโฺ ต” ท่เี หลอื แจกเหมอื น รตฺติ ศัพท์ ทกุ ประการ อี การนั ต์ อิตถลี ิงค์ อิตฺถีสททฺ ปทมาลา (หญิง) วภิ ัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐมา. อิตฺถี อิตถฺ ี อติ ถฺ โิ ย อาลปนะ. โภติ อติ ฺถิ โภติโย อติ ฺถี อิตฺถโิ ย ทุติยา. อิตฺถยิ ํ อิตถฺ ึ อิตถฺ ี อติ ฺถโิ ย ตตยิ า. อติ ถฺ ยิ า อติ ถฺ หี ิ อติ ถฺ ภี ิ จตุตถ.ี อิตถฺ ยิ า อติ ฺถีนํ ปัญจม.ี อิตฺถยิ า อติ ถฺ ีหิ อติ ฺถภี ิ ฉัฏฐี. อิตถฺ ิยา อิตฺถีนํ สตั ตม.ี อติ ถฺ ิยา อิตฺถิยํ อิตถฺ ีสุ มหี แผ่นดนิ ศัพทแ์ จกตาม อิตฺถี มดี ังนี้ ปาฏลี ตน้ แคฝอย เวตรณี แม่นำ้� เวตรณี วาปี บงึ นารี ผ้หู ญงิ กทลี ตน้ กล้วย ฆฏี หมอ้ นำ้� วารุณี แมม่ ด กมุ ารี เดก็ หญงิ ตรุณี หญงิ สาว คนฺธพพฺ ี หญิงคนธรรพ์ พรฺ าหมฺ ณี พราหมณี สขี เพ่อื นหญิง เทวี พระราชินี กนิ ฺนรี นางกนิ นรี นาคี นางนาค มิคี แม่เนอื้ ยกขฺ ี นางยกั ษ์ อชี แม่แพะ กุกฺกุฏี แมไ่ ก่ วานรี นางลงิ สกู รี แม่หมู หสํ ี นางหงส์ กากี แม่กา

46 ไวยากรณ์บาลีเบอื้ งตน้ วิภตั ติ คุณวตีสทฺทปทมาลา (หญิงผู้มีคณุ ) ปฐมา. อาลปนะ. เอกวจนะ พหวุ จนะ ทตุ ิยา. คุณวตี คณุ วตี คณุ วตโิ ย ตติยา. โภติ คณุ วติ โภติโย คณุ วตี คณุ วติโย จตุตถี. คุณวตยิ ํ คุณวตึ คณุ วตี คุณวติโย ปัญจม.ี คณุ วติยา คุณวตหี ิ คุณวตภี ิ ฉัฏฐ.ี คุณวตยิ า คณุ วตีนํ สัตตม.ี คณุ วติยา คณุ วตหี ิ คณุ วตีภิ วภิ ัตต ิ คุณวติยา คณุ วตนี ํ ปฐมา. คุณวตยิ า คณุ วตยิ ํ คณุ วตีสุ อาลปนะ. ทตุ ิยา. คณุ วนตฺ ีสททฺ ปทมาลา (หญิงผ้มู คี ณุ ) ตติยา. จตตุ ถ.ี เอกวจนะ พหวุ จนะ ปญั จม.ี คุณวนฺต ี คณุ วนตฺ ี คณุ วนฺติโย ฉฏั ฐี. โภติ คณุ วนตฺ ิ โภตโิ ย คุณวนตฺ ี คุณวนตฺ ิโย สตั ตมี. คุณวนตฺ ิยํ คณุ วนฺต ึ คุณวนฺตี คุณวนตฺ โิ ย วิภัตติ คณุ วนตฺ ิยา คุณวนตฺ หี ิ คณุ วนฺตีภิ ปฐมา. คุณวนตฺ ิยา คณุ วนตฺ ีนํ อาลปนะ. คุณวนฺตยิ า คณุ วนตฺ หี ิ คุณวนตฺ ภี ิ ทตุ ิยา. คุณวนตฺ ิยา คุณวนฺตีนํ ตติยา. คณุ วนฺตยิ า คุณวนตฺ ิยํ คณุ วนฺตีสุ จตุตถี. ปญั จมี. ภิกขฺ นุ สี ททฺ ปทมาลา (ภิกษณุ ี) ฉัฏฐี. สัตตม.ี เอกวจนะ พหวุ จนะ ภิกขฺ นุ ี ภิกขฺ ุนี ภกิ ฺขุนิโย โภติ ภิกฺขนุ ิ โภตโิ ย ภิกขฺ นุ ี ภิกขฺ ุนิโย ภกิ ขฺ ุนึ ภิกฺขนุ ี ภิกฺขนุ โิ ย ภิกขฺ ุนยิ า ภิกฺขนุ หี ิ ภกิ ฺขุนีภิ ภกิ ขฺ นุ ิยา ภิกฺขนุ ีนํ ภกิ ขฺ ุนยิ า ภกิ ขฺ ุนหี ิ ภิกขฺ นุ ีภิ ภิกขฺ ุนยิ า ภิกขฺ นุ นี ํ ภกิ ขฺ นุ ิยา ภกิ ฺขนุ ยิ ํ ภิกฺขุนสี ุ

47 นาม วา่ ด้วยบทท่ีประกอบวภิ ตั ตินาม อุ การนั ต์ อิตถีลงิ ค์ ยาคุสททฺ ปทมาลา (ขา้ วตม้ ) วภิ ตั ต ิ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐมา. ยาค ุ ยาคู ยาคุโย อาลปนะ. เห ยาค ุ เห ยาคู ยาคุโย ทตุ ยิ า. ยาคุํ ยาคู ยาคุโย ตตยิ า. ยาคุยา ยาคูหิ ยาคภู ิ ยาคุหิ ยาคุภิ จตุตถี. ยาคุยา ยาคนู ํ ยาคนุ ํ ปัญจม.ี ยาคุยา ยาคูหิ ยาคภู ิ ยาคุหิ ยาคุภิ ฉัฏฐี. ยาคยุ า ยาคนู ํ ยาคุนํ สัตตมี. ยาคุยา ยาคยุ ํ ยาคสู ุ ยาคสุ ุ ศพั ทแ์ จกตาม ยาคุ มีดงั นี้ ธาตุ ธาตุ เธนุ แม่โคนม กาสุ หลุม ททฺทุ โรคกลาก กจฉฺ ุ โรคหิด กณฑฺ ุ โรคเกล้ือน รชชฺ ุ เชอื ก กเรณุ ชา้ งพัง ปิยงคฺ ุ ตน้ ประยงค์ สสสฺ ุ แมย่ าย แมผ่ ัว มาตสุ ททฺ ปทมาลา (มารดา) วิภตั ติ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐมา. มาตา มาตโร อาลปนะ. โภติ มาต มาตา โภติโย มาตโร ทตุ ิยา. มาตรํ มาตเร มาตโร ตตยิ า. มาตรา มาตุยา มตฺยา มาตเรหิ - ภ,ิ มาตหู ิ - ภิ, มาตุหิ - ภิ จตตุ ถ.ี มาตุ มาตุสสฺ มาตยุ า มาตรานํ มาตานํ มาตูนํ มาตนุ ํ ปญั จม.ี มาตรา มาตยุ า มาตเรหิ - ภ,ิ มาตหู ิ - ภิ, มาตหุ ิ - ภิ ฉฏั ฐ.ี มาตุ มาตสุ สฺ มาตุยา มาตรานํ มาตานํ มาตนู ํ มาตุนํ สตั ตมี. มาตริ มาตเรสุ มาตสู ุ มาตุสุ ศัพท์แจกตาม มาตุ มีดงั น้ี ธีตุ ลกู สาว, ธิดา ทุหติ ุ ลูกสาว, ธิดา

48 ไวยากรณบ์ าลีเบอื้ งต้น วิภัตติ อกู ารันต์ อิตถลี ิงค์ ชมฺพูสททฺ ปทมาลา (ตน้ หวา้ ) ปฐมา. อาลปนะ. เอกวจนะ พหุวจนะ ทตุ ยิ า. ชมฺพู ชมพฺ ู ชมพฺ โุ ย ตติยา. เห ชมพฺ ุ เห ชมฺพู ชมฺพโุ ย จตุตถ.ี ชมพฺ ุํ ชมฺพู ชมพฺ โุ ย ปัญจม.ี ชมฺพยุ า ชมพฺ ูหิ ชมฺพูภิ ฉัฏฐี. ชมพฺ ุยา ชมพฺ ูนํ สัตตม.ี ชมพฺ ุยา ชมฺพูหิ ชมฺพภู ิ ชมฺพุยา ชมพฺ ูนํ ชมพฺ ุยา ชมฺพยุ ํ ชมฺพสู ุ วธิ ีเปลีย่ นวิภัตติ ๑. เพราะเอกวจนะวิภัตติ เวน้ สวิ ภิ ตั ติ รสั สะ อู เป็น อุ ๒. เพราะเอกวจนะวภิ ตั ติ ตั้งแต่ตตยิ าวภิ ัตติ ถึงสตั ตมีวภิ ัตติ แปลงวิภตั ติ เป็น ยา ๓. แปลง สมฺ ึ วภิ ัตติ เป็น ยํ บ้าง วธู หญิงสาว,สะใภ้ ศพั ทแ์ จกตาม ชมฺพู มดี งั นี้ สรภู แมน่ �้ำสรภู สรพู ต๊กุ แก, จงิ้ จก สุตนู หญงิ ผู้มรี า่ งกายงดงาม จม ู กองทพั วามรู ู หญงิ ผมู้ ีขาออ่ นงาม โอ การนั ต์ อติ ถีลิงค์ โคสทฺทปทมาลา (วัวตวั เมยี ) วิภัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐมา. โค คาโว คโว อาลปนะ. เห โค เห คาโว คโว ทุตยิ า. คาวํุ คาวํ ควํ คาโว คโว ตตยิ า. คาเวน คเวน โคหิ โคภิ จตตุ ถ.ี คาวสสฺ ควสสฺ ควํ คนุ ฺนํ โคนํ ปัญจมี. คาวา คาวมฺหา คาวสมฺ า ควา ควมหฺ า ควสฺมา โคหิ โคภิ ฉัฏฐ.ี คาวสสฺ ควสสฺ ควํ คุนนฺ ํ โคนํ สัตตมี. คาเว คาวมฺหิ คาวสมฺ ึ คเว ควมหฺ ิ ควสมฺ ึ คาเวสุ คเวสุ โคสุ หมายเหตุ :- โค ศัพท์ เป็น โอ การันต์ อิตถีลิงค์ มีวิธีท�ำตัวรูปและแจกปทมาลา เหมือน โค ศพั ท์ ในปุงลิงค์ทุกประการ

49 นาม วา่ ด้วยบททปี่ ระกอบวิภตั ตนิ าม อติ ถีลงิ คสงั คหคาถา กญฺา รตฺติ นที อิตถฺ ี มาตุลานี จ ภกิ ขฺ ุนี ทณฑฺ นิ ี ยาคุ มาตา จ ชมฺพู โคตติ ถฺ ิสงฺคโห ๓.๓ นปุงสกลงิ คนาม อ การันต์ นปุงสกลิงค์ จติ ฺตสทฺทปทมาลา (จติ ) วภิ ตั ต ิ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐมา. จติ ตฺ ํ จติ ตฺ า จติ ตฺ านิ อาลปนะ. เห จิตตฺ เห จิตฺตา จติ ฺตานิ ทตุ ิยา. จิตฺตํ จติ ฺเต จิตตฺ านิ ตตยิ า. จิตเฺ ตน จิตเฺ ตหิ จิตเฺ ตภิ จตุตถ.ี จติ ฺตสฺส จติ ฺตานํ ปญั จม.ี จิตตฺ า จติ ตฺ มหฺ า จติ ฺตสฺมา จิตฺเตหิ จิตเฺ ตภิ ฉฏั ฐ.ี จิตตฺ สสฺ จติ ตฺ านํ สัตตม.ี จติ ฺเต จิตฺตมฺหิ จิตฺตสมฺ ึ จติ ฺเตสุ วิธเี ปลยี่ นวภิ ัตติ ๑. หลังจาก อ การนั ต์ในนปุงสกลงิ ค์ แปลง สิ ปฐมาวิภตั ติ เปน็ อํ ๒. แปลง โย วภิ ัตติ เปน็ นิ และแปลง นิ ปฐมา เป็น อา, แปลง นิ ทุตยิ า เปน็ เอ บา้ ง ๓. เพราะ โย วภิ ตั ตทิ ี่แปลงเปน็ นิ แล้ว ทีฆะ อ เปน็ อา ๔. รูปต้ังแตต่ ตยิ าวภิ ตั ติจนถงึ สัตตมีวิภตั ติ เหมือนใน อ การนั ต์ ปงุ ลงิ ค์ทกุ ประการ ศัพท์แจกตาม จติ ตฺ มดี ังนี้ ปุญฺ บุญ ปาป บาป ผล ผล รปู รูป สาธน ความสำ� เรจ็ โสต ห ู ฆาน จมูก สุข สุข ทกุ ขฺ ทกุ ข์ การณ เหตุ ทาน ทาน สีล ศีล ธน ทรัพย์ โลจน ดวงตา มูล มูล, ราก, มลู ค่า กูล ฝั่งน�้ำ พล กำ� ลัง ชาล ข่าย มงฺคล มงคล นฬิน ดอกบัว ลิงคฺ ลิงค์, เพศ มขุ ปาก, หน้า องฺค ส่วน, อวัยวะ ชล น�ำ้ อมฺพชุ ดอกบวั ปุลิน ทราย ธญฺญ ขา้ วเปลือก หิรญฺญ เงิน ปท บท, เหต,ุ เท้า อมต พระนพิ พาน ปทุม ดอกบวั แดง ปณณฺ ใบไม,้ หนงั สอื สสุ าน ป่าชา้

50 ไวยากรณบ์ าลีเบอื้ งต้น วน ปา่ , น้ำ� อายธุ อาวธุ หทย หวั ใจ จวี ร จวี ร วตฺถ ผ้า กลุ ตระกลู อนิ ฺทรฺ ยิ อินทรีย์ นยน ดวงตา วทน ปาก ยาน ยาน อุทาน ค�ำอุทาน โสปาน บันได ปาน นำ้� ดื่ม ภวน บา้ น ภุวน โลก โลห เหล็ก อลาต ดุ้นไฟ ตุณฺฑ จะงอยปาก อณฑฺ ไข ่ ปี ตั่ง กรณ เคร่ืองมอื มรณ ความตาย าณ ญาณ, ปญั ญา อารมฺมณ อารมณ์ อรญฺ ป่า ตาณ พระนิพพาน จรณ การประพฤติ นคร เมือง ตรี ฝง่ั น้�ำ ฉตตฺ รม่ ฉทิ ฺท รู, ช่อง, โพรง กมฺมสทฺทปทมาลา (กรรม, การงาน, การกระท�ำ) วภิ ัตต ิ เอกวจนะ พหวุ จนะ ปฐมา. กมฺมํ กมมฺ า กมฺมานิ อาลปนะ. เห กมมฺ เห กมมฺ า กมฺมานิ ทตุ ิยา. กมมฺ ํ กมเฺ ม กมฺมานิ ตตยิ า. กมมฺ ุนา กมฺมนา กมฺเมน กมฺเมหิ กมฺเมภิ จตตุ ถี. กมฺมุโน กมฺมสสฺ กมฺมานํ ปญั จม.ี กมฺมุนา กมฺมา กมมฺ มหฺ า กมมฺ สฺมา กมฺเมหิ กมฺเมภิ ฉฏั ฐี. กมฺมุโน กมมฺ สฺส กมฺมานํ สตั ตม.ี กมฺมนิ กมฺเม กมมฺ มฺหิ กมมฺ สฺมึ กมฺเมสุ คณุ วนตฺ ุสทฺทปทมาลา (ผู้มีคุณ) (นปงุ สกลิงค)์ วภิ ตั ต ิ เอกวจนะ พหวุ จนะ ปฐมา. คุณวํ คุณวนฺติ คุณวนฺตานิ อาลปนะ. โภ คุณวํ คณุ ว คุณวา ภวนโฺ ต คณุ วนตฺ ิ คณุ วนตฺ านิ ทตุ ยิ า. คณุ วนฺตํ คุณวนเฺ ต คณุ วนฺตานิ ตติยา. คณุ วตา คุณวนเฺ ตน คุณวนเฺ ตหิ คุณวนเฺ ตภิ จตตุ ถ.ี คุณวโต คณุ วนตฺ สสฺ คณุ วตํ คุณวนฺตานํ ปญั จมี. คุณวตา คุณวนฺตา คุณวนฺตมหฺ า คณุ วนฺตสฺมา คณุ วนฺเตหิ คณุ วนเฺ ตภิ ฉัฏฐี. คณุ วโต คุณวนตฺ สฺส คุณวตํ คุณวนฺตานํ สัตตม.ี คุณวติ คณุ วนเฺ ต คุณวนฺตมหฺ ิ คณุ วนฺตสมฺ ึ คณุ วนฺเตสุ

51 นาม วา่ ด้วยบททป่ี ระกอบวภิ ัตตินาม คจฉฺ นตฺ สทฺทปทมาลา (ผไู้ ปอย)ู่ วิภัตต ิ เอกวจนะ พหวุ จนะ ปฐมา. คจฉฺ ํ คจฺฉนฺตํ คจฺฉนตฺ า คจฺฉนฺตานิ อาลปน. เห คจฉฺ นฺต เห คจฉฺ นตฺ า คจฺฉนฺตานิ ทุตยิ า. คจฺฉนฺตํ คจฺฉนเฺ ต คจฺฉนตฺ านิ ตติยา. คจฉฺ ตา คจฺฉนฺเตน คจฉฺ นเฺ ตหิ คจฺฉนฺเตภิ จตุตถี. คจฺฉโต คจฺฉนตฺ สสฺ คจฺฉตํ คจฺฉนตฺ านํ ปญั จม.ี คจฉฺ ตา คจฉฺ นตฺ า คจฉฺ นฺตมฺหา คจฺฉนตฺ สมฺ า คจฺฉนเฺ ตหิ คจฉฺ นเฺ ตภิ ฉัฏฐี. คจฺฉโต คจฺฉนฺตสฺส คจฺฉตํ คจฉฺ นฺตานํ สตั ตมี. คจฺฉติ คจฉฺ นฺเต คจฺฉนตฺ มฺหิ คจฉฺ นฺตสมฺ ึ คจฺฉนฺเตสุ อา การันต์ นปงุ สกลิงค์ อสฺสทธฺ าสทฺทปทมาลา (ผไู้ มม่ ศี รัทธา) วภิ ัตต ิ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐมา. อสฺสทธฺ ํ อสสฺ ทธฺ า อสฺสทธฺ านิ อาลปนะ. เห อสสฺ ทฺธ อสสฺ ทฺธา เห อสฺสทธฺ า อสสฺ ทธฺ านิ ทตุ ิยา. อสสฺ ทฺธํ อสสฺ ทฺเธ อสสฺ ทฺธานิ ตติยา. อสฺสทเฺ ธน อสฺสทฺเธหิ อสสฺ ทเฺ ธภิ จตตุ ถี. อสฺสทธฺ สฺส อสสฺ ทฺธานํ ปัญจม.ี อสสฺ ทฺธา อสสฺ ทฺธมฺหา อสฺสทธฺ สฺมา อสสฺ ทเฺ ธหิ อสสฺ ทเฺ ธภิ ฉัฏฐ.ี อสฺสทฺธสฺส อสฺสทฺธานํ สัตตมี. อสสฺ ทเฺ ธ อสฺสทธฺ มหฺ ิ อสสฺ ทฺธสมฺ ึ อสฺสทเฺ ธสุ วธิ เี ปลีย่ นวิภัตติ ๑. ใหร้ ัสสะ อา เป็น อ ทุกวิภัตติ ๒. เมือ่ รสั สะแลว้ มีวิธที �ำตวั รูปและแจกปทมาลาเหมือน จติ ตฺ ศพั ท์ทุกประการ

52 ไวยากรณบ์ าลเี บ้อื งตน้ วภิ ัตต ิ อิ การนั ต์ นปุงสกลิงค์ อฏฺ สิ ททฺ ปทมาลา (กระดูก) ปฐมา. อาลปนะ. เอกวจนะ พหวุ จนะ ทุติยา. อฏฺฐ ิ อฏฺฐ ี อฏฺฐนี ิ ตติยา. เห อฏฺฐ ิ เห อฏฺฐ ี อฏฺฐนี ิ จตตุ ถ.ี อฏฺฐ ึ อฏฺฐ ี อฏฺฐนี ิ ปญั จม.ี อฏฺฐนิ า อฏฺฐหี ิ อฏฺฐภี ิ อฏฺฐหิ ิ อฏฺฐภิ ิ ฉฏั ฐ.ี อฏฺฐโิ น อฏฺฐสิ ฺส อฏฺฐนี ํ อฏฺฐนิ ํ สตั ตมี. อฏฺฐนิ า อฏฺฐมิ ฺหา อฏฺฐสิ ฺมา อฏฺฐหี ิ อฏฺฐภี ิ อฏฺฐหิ ิ อฏฺฐภิ ิ อฏฺฐโิ น อฏฺฐสิ ฺส อฏฺฐนี ํ อฏฺฐนิ ํ อฏฺฐมิ ฺห ิ อฏฺฐสิ ฺม ึ อฏฺฐสี ุ อฏฺฐสิ ุ วธิ ีเปลย่ี นวภิ ัตติ ๑. ลบ โย วิภัตติ แล้วทีฆะ อิ เปน็ อ,ี แปลง โย เปน็ นิ แลว้ ทีฆะ อิ เปน็ อี ๒. ต้ังแต่ตตยิ าวภิ ัตติ จนถงึ สัตตมีวิภตั ติ ฝา่ ยพหุวจนะ จะมไี ด้ ๒ รปู คือ รูปรสั สะ และรูปทีฆะ ศพั ท์แจกตาม อฏฐฺ ิ มดี ังนี้ สตฺถ ิ ขาออ่ น ทธิ นมสม้ วาริ นำ�้ อกขฺ ิ นยั น์ตา อจฉฺ ิ นยั น์ตา อจจฺ ิ เปลวไฟ อี การนั ต์ นปงุ สกลงิ ค์ สขุ การสี ททฺ ปทมาลา (อนั กระท�ำซง่ึ ความสขุ โดยปกต)ิ วภิ ัตต ิ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐมา. สขุ การ ิ สขุ การี สุขการนี ิ อาลปนะ. เห สุขการิ เห สขุ การี สุขการนี ิ ทตุ ยิ า. สขุ การินํ สุขการ ึ สุขการี สุขการีนิ ตติยา. สุขการนิ า สขุ การีหิ สขุ การีภิ จตุตถี. สุขการโิ น สขุ การิสฺส สขุ การนี ํ ปญั จม.ี สขุ การินา สขุ การิมฺหา สุขการิสมฺ า สุขการีหิ สขุ การีภิ ฉัฏฐ.ี สขุ การโิ น สขุ การิสสฺ สขุ การีนํ สตั ตมี. สุขการนิ ิ สุขการมิ หฺ ิ สขุ การสิ ฺมึ สุขการีสุ

53 นาม วา่ ด้วยบททีป่ ระกอบวิภัตตินาม อุ การนั ต์ นปุงสกลงิ ค์ อายุสทฺทปทมาลา (อาย,ุ ชีวติ ) วภิ ัตติ เอกวจนะ พหวุ จนะ ปฐมา. อายุ อายู อายนู ิ อาลปนะ. เห อายุ เห อายู อายนู ิ ทตุ ยิ า. อายํุ อายู อายนู ิ ตตยิ า. อายสุ า อายนุ า อายหู ิ อายูภิ อายุหิ อายุภิ จตตุ ถ.ี อายุโน อายุสฺส อายนู ํ อายุนํ ปญั จม.ี อายนุ า อายมุ หฺ า อายุสฺมา อายูหิ อายภู ิ อายหุ ิ อายภุ ิ ฉฏั ฐ.ี อายโุ น อายุสฺส อายนู ํ อายุนํ สตั ตม.ี อายมุ ฺหิ อายุสมฺ ึ อายูสุ อายสุ ุ ศัพทแ์ จกตาม อายุ มดี ังน้ี ธนุ ธนู จกขฺ ุ นัยน์ตา วส ุ ทรพั ย์ ทารุ ไม้, ฟนื ติป ุ แร่ดีบกุ มธ ุ น้�ำผ้ึง หงิ ฺค ุ มหาหงิ คุ ์ สิคคฺ ุ ต้นมะรมุ วตถฺ ุ เรื่อง, สิ่งของ ชต ุ ครง่ั อมพฺ ุ น้ำ� อสสฺ ุ น้ำ� ตา อู การันต์ นปงุ สกลิงค์ โคตฺรภูสทฺทปทมาลา (โคตรภจู ิต) วภิ ัตต ิ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐมา. โคตฺรภุ โคตรฺ ภู โคตรฺ ภูนิ อาลปนะ. เห โคตฺรภุ เห โคตฺรภู โคตฺรภนู ิ ทุตยิ า. โคตฺรภํุ โคตฺรภู โคตฺรภนู ิ ตตยิ า. โคตรฺ ภุนา โคตฺรภหู ิ โคตรฺ ภูภิ จตุตถ.ี โคตฺรภโุ น โคตรฺ ภสุ ฺส โคตฺรภูนํ ปัญจมี. โคตรฺ ภนุ า โคตฺรภมุ ฺหา โคตฺรภสุ มฺ า โคตรฺ ภหู ิ โคตรฺ ภูภิ ฉฏั ฐี. โคตฺรภุโน โคตฺรภุสฺส โคตฺรภนู ํ สตั ตมี. โคตรฺ ภุมฺหิ โคตรฺ ภสุ มฺ ึ โคตรฺ ภูสุ วธิ ีเปลีย่ นวิภตั ติ ๑. วิภตั ติฝ่ายเอกวจนะ ใหร้ สั สะทกุ วภิ ตั ติ ๒. ลบ โย วิภัตติ, แปลง โย วภิ ตั ติ เปน็ นิ บา้ ง ศัพท์แจกตาม โคตฺรภู มดี ังน้ี อภิภ ู (จิต) ผเู้ ป็นใหญ ่ สยมฺภู (จิต) ผ้รู เู้ อง ธมฺมญญฺ ู (จิต) ผู้รู้ธรรม

54 ไวยากรณบ์ าลีเบอ้ื งตน้ วภิ ตั ติ โอ การนั ต์ นปสุ กลิงค์ จติ ฺตโคสทฺทปทมาลา (วัวดา่ ง) ปฐมา. อาลปนะ. เอกวจนะ พหวุ จนะ ทตุ ิยา. จติ ฺตคุ จติ ฺตคู จิตฺตคนู ิ ตติยา. เห จิตตฺ คุ เห จิตฺตคู จิตตฺ คนู ิ จตุตถ.ี จติ ตฺ คํุ จติ ฺตคู จิตตฺ คูน ิ ปญั จมี. จติ ตฺ คุนา จติ ฺตคูหิ จติ ตฺ คูภิ จติ ตฺ คุหิ จติ ฺตคภุ ิ ฉัฏฐี. จิตตฺ คโุ น จติ ฺตคสุ สฺ จติ ฺตคูนํ จติ ฺตคนุ ํ สัตตม.ี จิตตฺ คุนา จิตตฺ คุมหฺ า จิตฺตคุสมฺ า จิตตฺ คูหิ จติ ฺตคภู ิ จติ ฺตคหุ ิ จิตฺตคภุ ิ จิตฺตคุโน จติ ฺตคสุ ฺส จติ ฺตคนู ํ จิตตฺ คุนํ จิตตฺ คมุ ฺหิ จิตฺตคุสมฺ ึ จติ ตฺ คสู ุ จิตฺตคุสุ วิธีเปลี่ยนวภิ ตั ติ ๑. ให้รัสสะ โอ เป็น อุ ทุกวภิ ัตติ ๒. เม่ือรัสสะแล้ว ให้ท�ำตัวรูปและแจกปทมาลาเหมือน อุ การันต์ในนปุงสกลิงค์ ทุกประการ นปงุ สกลงิ คสังคหคาถา จิตฺตํ กมมฺ ญฺจ อสฺสทธฺ - มถฏฐฺ ิ สขุ การิ จ อายุ โคตฺรภุ ธมฺมญญฺ ุ จิตฺตคตู ิ นปสุํ เก R ฉนทฺ วโต กึ นาม กมฺมํ น สิชฺฌติ วรี ยิ วโต กึ นาม กมฺมํ น สชิ ฺฌติ จิตตฺ วโต กึ นาม กมมฺ ํ น สชิ ฺฌติ ปญฺวโต กึ นาม กมมฺ ํ น สิชฌฺ ติ ไม่มีส่ิงใด ท่ีผมู้ ฉี นั ทะ จะท�ำ ไม่ส�ำ เรจ็ ไมม่ สี ิ่งใด ที่ผ้มู ีความเพียร จะทำ�ไม่สำ�เรจ็ ไมม่ สี ิ่งใด ทผ่ี ้มู ีความใส่ใจ จะทำ�ไมส่ �ำ เรจ็ ไมม่ สี ่งิ ใด ท่ผี ู้มปี ญั ญา จะท�ำ ไม่สำ�เรจ็ (พระอาจารยภ์ ัททันตะ ธัมมานนั ทะมหาเถระ (อู))

55 นาม ว่าดว้ ยบทท่ีประกอบวภิ ัตตินาม ๓.๔ สัพพนาม ค�ำว่า “สัพพนาม” หมายความว่า นามท่ีใช้แทนนามนามท่ีกล่าวมาแล้วทั้งสามลิงค์ มวี เิ คราะหว์ า่ “สพเฺ พสํ อติ ถฺ ปิ มุ นปสํุ กานํ นามานิ สพพฺ นามานิ แปลวา่ “อ.ชอ่ื ท. ของอติ ถลี งิ ค์ ปุงลงิ ค์ และนปุงสกลิงค์ ท. ทงั้ ปวง ชอื่ วา่ สพั พนาม. สัพพนามน้นั มีท้งั หมด ๒๗ ตวั คอื สพพฺ , กตร, กตม, อภุ ย, อิตร, อญฺญ, อญฺญตร, อญฺญตม, ปุพพฺ , ปร, อปร, ทกขฺ ิณ, อตุ ฺตร, อธร, ย, ต, เอต, อมิ , อม,ุ ก,ึ เอก, อภุ , ทฺวิ, ติ, จตุ, ตุมฺห และ อมฺห ศพั ท์ สพั พนามนแี้ บ่งออกเปน็ ๒ ประเภท คอื ปรุ สิ สัพพนาม และวเิ สสนสพั พนาม ดังน้ี (๑) ปุริสสัพพนาม ได้แก่ สัพพนามท่ีใช้แทนช่ือบุคคล ใช้เป็นประธานในประโยคได้ มี ๓ ตวั คอื ต, ตุมหฺ และ อมฺห ศพั ท์ แบ่งออกเปน็ ๓ บรุ ุษ ดงั น้ี ๑. ปฐมบรุ ษุ หมายถงึ บุคคลทีเ่ รากลา่ วถึง ได้แก่ ต ศพั ท์ (เขา, นัน้ ) ๒. มชั ฌิมบรุ ุษ หมายถึง บคุ คลทเ่ี ราพดู ด้วย ได้แก่ ตุมฺห ศพั ท์ (ท่าน, เธอ, คุณ) ๓. อตุ ตมบุรษุ หมายถงึ ตัวเราเอง ได้แก่ อมหฺ ศัพท์ (ข้าพเจ้า, ผม, ดฉิ นั ) (๒) วเิ สสนสพั พนาม ไดแ้ ก่ สพั พนามทใ่ี ชแ้ ทนคำ� พดู ทกี่ ลา่ วมาแลว้ หรอื ใชเ้ ปน็ ตวั ขยาย สทุ ธนามใหพ้ ิเศษขน้ึ ไมส่ ามารถเป็นประธานได้ ต้องประกอบด้วยสุทธนามเสมอ มี ๒๕ ตัว คอื สพพฺ = ทัง้ ปวง กตร = ไหน กตม = ไหน อภุ ย = ทัง้ สอง อติ ร = นอกนี ้ อญฺญ = อื่น อญฺญตร = อย่างใดอยา่ งหน่ึง อญฺญตม = อย่างใดอยา่ งหนึ่ง ปุพฺพ = กอ่ น,ขา้ งหน้า ปร = อ่นื , หลงั อปร = อื่นอีก ทกขฺ ิณ = ใต,้ ขวา อุตฺตร = เหนือ, บน อธร = ภายใต,้ เบอ้ื งลา่ ง ย = ใด ต = นั้น เอต = นน่ั (น้ี) อิม = น้ ี อมุ = โนน้ กึ = อะไร, ใคร, ไหน เอก = หนึ่ง อุภ = ทงั้ สอง ทวฺ ิ = สอง ติ = สาม จตุ = ส่ี หมายเหตุ :- เฉพาะ ต ศัพท์ เป็นได้ท้ังปุรสิ สพั พนามและวิเสสนสพั พนาม และ กึ ศัพท์ มใี ชเ้ ปน็ ประธานในประโยคได้

56 ไวยากรณ์บาลีเบอื้ งต้น วิธีแจกปรุ สิ สัพพนาม (อลงิ คนาม) ตุมหฺ สทฺทปทมาลา (ทา่ น, เธอ, คุณ) วภิ ตั ต ิ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐมา. ตฺวํ ตุวํ ตมุ ฺเห โว ทุติยา. ตวํ ตํ ตวฺ ํ ตุวํ ตมุ ฺหากํ ตมุ เฺ ห โว ตติยา. ตยา ตวฺ ยา เต ตมุ ฺเหหิ ตมุ ฺเหภิ โว จตุตถี. ตมุ ฺหํ ตว ตุยฺหํ เต ตุมฺหํ ตุมฺหากํ โว ปัญจม.ี ตยา ตมุ ฺเหหิ ตมุ เฺ หภิ ฉฏั ฐี. ตมุ หฺ ํ ตว ตยุ ฺหํ เต ตมุ ฺหํ ตุมฺหากํ โว สตั ตม.ี ตยิ ตฺวยิ ตมุ ฺเหสุ วิธีเปล่ียนวภิ ตั ติ ๑. ตมุ หฺ ศพั ท์ เมอื่ ลงวภิ ตั ตแิ ลว้ ผดิ ไปจากรปู เดมิ พงึ แปลง ตมุ หฺ กบั วภิ ตั ตนิ นั้ เปน็ อยา่ งนนั้ ๆ ๒. หลงั จาก ตมุ ฺห และ อมหฺ แปลง โย ทตุ ิยา เป็น อากํ บา้ ง ๓. แปลง ต ของ ตยา และ ตยิ เปน็ ตวฺ บา้ ง ๔. แปลง ส วิภัตติ เป็น อํ บา้ ง ๕. หลงั ตุมหฺ และ อมฺห ให้แปลง นํ เปน็ อํ และ อากํ ๖. เต, โว เม่อื มีบทอื่นน�ำหน้า จึงใชเ้ รยี งในประโยคได้ อมหฺ สทฺทปทมาลา (ข้าพเจ้า, ผม, ดฉิ ัน) วิภัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐมา. อหํ มยํ อมฺเห โน ทตุ ิยา. มํ มมํ อมหฺ ากํ อมฺเห โน ตติยา. มยา เม อมฺเหหิ อมฺเหภิ โน จตตุ ถี. อมฺหํ มม มยฺหํ มมํ เม อมหฺ ํ อมฺหากํ อสมฺ ากํ โน ปัญจมี. มยา อมฺเหหิ อมฺเหภิ ฉัฏฐ.ี อมฺหํ มม มยฺหํ มมํ เม อมหฺ ํ อมฺหากํ อสมฺ ากํ โน สตั ตม.ี มยิ อมฺเหสุ วิธเี ปลย่ี นวิภัตติ ๑. แปลง อมฺห กบั วภิ ัตตินัน้ เป็นรปู นั้นๆ ๒. เม, โน เมอื่ มบี ทอ่นื นำ� หนา้ จึงเรยี งไว้ได้ ๓. แปลง อมหฺ เป็น อสฺม และแปลง นํ เป็น อากํ

นาม ว่าด้วยบททีป่ ระกอบวภิ ตั ตนิ าม 57 วิภัตต ิ วเิ สสนสพั พนาม ปฐมา. อาลปนะ. สพฺพสทฺทปทมาลา (ทงั้ ปวง) ปงุ ลิงค์ ทุติยา. ตติยา. เอกวจนะ พหวุ จนะ จตุตถ.ี สพฺโพ สพเฺ พ ปัญจมี. เห สพฺพ สพพฺ า เห สพฺเพ ฉฏั ฐี. สพพฺ ํ สพเฺ พ สตั ตมี. สพฺเพน สพฺเพหิ สพเฺ พภิ วภิ ัตต ิ สพฺพสฺส สพเฺ พสํ สพฺเพสานํ ปฐมา. สพพฺ มฺหา สพพฺ สฺมา สพเฺ พหิ สพฺเพภิ อาลปนะ. สพฺพสฺส สพฺเพสํ สพฺเพสานํ ทุติยา. สพพฺ มฺหิ สพฺพสฺม ึ สพฺเพส.ุ ตติยา. จตุตถี. สพพฺ าสททฺ ปทมาลา (ทง้ั ปวง) อติ ถลี ิงค์ ปญั จมี. ฉัฏฐี. เอกวจนะ พหวุ จนะ สตั ตม.ี สพฺพา สพฺพา สพพฺ าโย วภิ ัตต ิ เห สพเฺ พ เห สพฺพา สพฺพาโย ปฐมา. สพฺพํ สพฺพา สพพฺ าโย อาลปนะ. สพฺพาย สพพฺ าหิ สพฺพาภิ ทุติยา. สพฺพสสฺ า สพฺพาย สพฺพาสํ สพพฺ าสานํ ตตยิ า. สพฺพาย สพฺพาหิ สพพฺ าภิ จตตุ ถ.ี สพพฺ สฺสา สพพฺ าย สพฺพาสํ สพพฺ าสานํ ปัญจม.ี สพพฺ สฺสํ สพฺพายํ สพฺพาสุ ฉฏั ฐี. สัตตมี. สพฺพสทฺทปทมาลา (ทั้งปวง) นปงุ สกลงิ ค์ เอกวจนะ พหวุ จนะ สพฺพํ สพพฺ านิ เห สพพฺ เห สพฺพานิ สพฺพํ สพฺพานิ สพฺเพน สพฺเพหิ สพเฺ พภิ สพฺพสสฺ สพฺเพสํ สพเฺ พสานํ สพพฺ มหฺ า สพฺพสมฺ า สพฺเพหิ สพเฺ พภิ สพฺพสฺส สพเฺ พสํ สพฺเพสานํ สพฺพมฺหิ สพพฺ สมฺ ึ สพเฺ พสุ

58 ไวยากรณ์บาลีเบื้องต้น ศพั ท์แจกตาม สพฺพ ศพั ทท์ ัง้ สามลงิ ค์ มีดงั นี้ กตร ไหน กตม ไหน อุภย ท้งั สอง อิตร นอกน้ ี อญฺญ อนื่ อญฺญตร อยา่ งใดอยา่ งหน่งึ อญฺญตม อยา่ งใดอย่างหน่ึง ปพุ ฺพสทฺทปทมาลา (ขา้ งหน้า, กอ่ น) ปุงลงิ ค์ วภิ ตั ต ิ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐมา. ปุพโฺ พ ปพุ ฺเพ ปุพฺพา อาลปนะ. เห ปพุ ฺพ เห ปพุ ฺเพ ปุพพฺ า ทุติยา. ปพุ ฺพํ ปพุ เฺ พ ตติยา. ปพุ เฺ พน ปุพเฺ พหิ ปพุ ฺเพภิ จตตุ ถ.ี ปุพฺพสสฺ ปพุ ฺเพสํ ปุพฺเพสานํ ปญั จมี. ปุพฺพา ปพุ พฺ มหฺ า ปุพพฺ สฺมา ปพุ ฺเพหิ ปพุ ฺเพภิ ฉฏั ฐี. ปพุ ฺพสฺส ปพุ เฺ พสํ ปพุ เฺ พสานํ สตั ตมี. ปุพฺเพ ปุพพฺ มหฺ ิ ปพุ พฺ สฺม ึ ปพุ เฺ พสุ ปุพฺพาสททฺ ปทมาลา (ข้างหน้า, ก่อน) อติ ถีลงิ ค์ วภิ ัตติ เอกวจนะ พหวุ จนะ ปฐมา. ปพุ พฺ า ปุพพฺ า ปุพพฺ าโย อาลปนะ. เห ปพุ ฺเพ เห ปพุ ฺพา ปุพฺพาโย ทุตยิ า. ปุพฺพํ ปุพฺพา ปุพพฺ าโย ตติยา. ปุพพฺ าย ปุพพฺ าหิ ปพุ ฺพาภิ จตตุ ถ.ี ปพุ พฺ สสฺ า ปพุ พฺ าย ปุพฺพาสํ ปพุ ฺพาสานํ ปญั จม.ี ปพุ พฺ าย ปุพพฺ าหิ ปพุ ฺพาภิ ฉัฏฐี. ปพุ ฺพสสฺ า ปพุ ฺพาย ปุพฺพาสํ ปุพพฺ าสานํ สตั ตมี. ปุพฺพสสฺ ํ ปพุ พฺ ายํ ปพุ ฺพาสุ

59 นาม วา่ ด้วยบททป่ี ระกอบวิภตั ตินาม ปุพพฺ สทฺทปทมาลา (ขา้ งหน้า, ก่อน) นปุงสกลิงค์ วภิ ัตต ิ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐมา. ปพุ พฺ ํ ปุพพฺ านิ อาลปนะ. เห ปุพฺพ เห ปพุ พฺ านิ ทุตยิ า. ปุพพฺ ํ ปพุ พฺ านิ ตติยา. ปพุ ฺเพน ปุพฺเพหิ ปุพเฺ พภิ จตุตถ.ี ปุพฺพสสฺ ปพุ ฺเพสํ ปพุ เฺ พสานํ ปญั จมี. ปุพฺพา ปพุ ฺพมฺหา ปพุ ฺพสฺมา ปุพเฺ พหิ ปุพฺเพภิ ฉฏั ฐี. ปุพฺพสสฺ ปพุ เฺ พสํ ปพุ เฺ พสานํ สตั ตม.ี ปุพฺเพ ปุพพฺ มฺหิ ปุพฺพสฺม ึ ปพุ ฺเพสุ ปร อ่ืน,หลัง ศพั ทแ์ จกตาม ปุพฺพ ศพั ท์ท้ังสามลิงค์ มีดังน้ี อปร อน่ื อีก ทกขฺ ิณ ใต้, ขวา อุตตฺ ร เหนือ, บน อธร ภายใต,้ เบ้ืองลา่ ง หมายเหตุ : ศัพท์ต้งั แต่ ปพุ พฺ - อธร เป็นศพั ท์กล่าวเกี่ยวกับกาลเวลา ทิศ และสถานท่ี ยสทฺทปทมาลา (ใด) ปุงลิงค์ วิภัตต ิ เอกวจนะ พหวุ จนะ ปฐมา. โย เย ทุติยา. ยํ เย ตติยา. เยน เยหิ เยภิ จตุตถ.ี ยสฺส เยสํ เยสานํ ปญั จม.ี ยมฺหา ยสมฺ า เยหิ เยภิ ฉัฏฐ.ี ยสสฺ เยสํ เยสานํ สตั ตม.ี ยมฺหิ ยสฺม ึ เยสุ

60 ไวยากรณบ์ าลีเบือ้ งต้น ยาสทฺทปทมาลา (ใด) อิตถลี ิงค์ วิภตั ติ เอกวจนะ พหวุ จนะ ปฐมา. ยา ยา ยาโย ทตุ ิยา. ยํ ยา ยาโย ตติยา. ยาย ยาหิ ยาภิ จตุตถี. ยสสฺ า ยาย ยาสํ ยาสานํ ปัญจมี. ยาย ยาหิ ยาภิ ฉฏั ฐ.ี ยสสฺ า ยาย ยาสํ ยาสานํ สตั ตม.ี ยสฺสํ ยายํ ยาสุ ยสททฺ ปทมาลา (ใด) นปุงสกลิงค์ วภิ ตั ติ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐมา. ยํ ยานิ ทตุ ยิ า. ยํ ยานิ ตติยา. เยน เยหิ เยภิ จตตุ ถี. ยสสฺ เยสํ เยสานํ ปญั จม.ี ยมฺหา ยสมฺ า เยหิ เยภิ ฉัฏฐี. ยสสฺ เยสํ เยสานํ สตั ตมี. ยมฺหิ ยสมฺ ึ เยสุ ตสททฺ ปทมาลา (น้นั ) ปงุ ลิงค์ วิภตั ติ เอกวจนะ พหวุ จนะ ปฐมา. โส เน เต ทตุ ยิ า. นํ ตํ เน เต ตตยิ า. เนน เตน เนหิ เนภิ เตหิ เตภิ จตตุ ถ.ี อสสฺ นสฺส ตสสฺ เนสํ เนสานํ เตสํ เตสานํ ปัญจม.ี อสฺมา นสฺมา ตสมฺ า นมฺหา ตมฺหา เนหิ เนภิ เตหิ เตภิ ฉัฏฐี. อสสฺ นสสฺ ตสสฺ เนสํ เนสานํ เตสํ เตสานํ สัตตมี. อสฺมึ นสฺมึ ตสฺมึ นมหฺ ิ ตมหฺ ิ เนสุ เตสุ วธิ ีเปลี่ยนวิภัตติ ๑. เพราะ สิ วภิ ตั ติ แปลง ต ของ ต ศพั ทแ์ ละ เอต ศพั ท์ ในปงุ ลคิ แ์ ละอติ ถลี งิ ค์ เปน็ ส ๒. แปลง ต เป็น น บ้าง

61 นาม วา่ ด้วยบทท่ปี ระกอบวภิ ตั ตินาม ๓. เพราะ ส, สฺมา, สฺมึ, ส(ํ สมฺ )ึ , สา(สฺมา) แปลง ต เป็น อ ๔. หลงั จากสพั พนาม แปลง นํ เป็น สํ และ สานํ และแปลง อ เป็น เอ ตาสทฺทปทมาลา (นั้น) อิตถีลงิ ค์ วิภตั ต ิ เอกวจนะ พหวุ จนะ ปฐมา. สา นา ตา นาโย ตาโย ทตุ ยิ า. นํ ตํ นา ตา นาโย ตาโย ตติยา. นาย ตาย นาหิ นาภิ ตาหิ ตาภิ จตุตถี. ติสฺสาย ตสสฺ าย อสฺสาย นสสฺ าย ติสสฺ า ตสสฺ า อสสฺ า นสสฺ า นาย ตาย นาสํ นาสานํ ตาสํ ตาสานํ ปัญจม.ี นาย ตาย นาหิ นาภิ ตาหิ ตาภิ ฉัฏฐี. ติสสฺ าย ตสฺสาย อสฺสาย นสฺสาย ติสสฺ า ตสฺสา อสสฺ า นสสฺ า นาย ตาย นาสํ นาสานํ ตาสํ ตาสานํ สตั ตม.ี ติสฺสํ ตสสฺ ํ อสฺสํ นสฺสํ นายํ ตายํ นาสุ ตาสุ วธิ ีเปลย่ี นวิภตั ติ ๑. แปลง ส วภิ ตั ติ เปน็ สสฺ าย และ สา พรอ้ มกับลง สฺ อาคม ๒. เพราะ ส วิภัตติที่แปลงเป็น สา และ สฺมึ วิภัตติที่แปลงเป็น สํ แปลงที่สุดของ ตา ศพั ท์ เปน็ อิ ๓. เพราะ ส วิภัตติท่ีแปลงเป็น สา และ สฺมึ วิภัตติท่ีแปลงเป็น สํ รัสสะท่ีสุดของ ตา ศัพท์ เป็น อ บ้าง วภิ ัตติ ตสททฺ ปทมาลา (นั้น) นปงุ สกลงิ ค์ ปฐมา. เอกวจนะ พหุวจนะ ทตุ ยิ า. นํ ตํ นานิ ตานิ ตตยิ า. นํ ตํ นานิ ตานิ จตตุ ถี. เนน เตน เนหิ เนภิ เตหิ เตภิ ปัญจมี. อสฺส นสสฺ ตสฺส เนสํ เนสานํ เตสํ เตสานํ ฉฏั ฐ.ี อสมฺ า นสฺมา ตสฺมา นมฺหา ตมหฺ า เนหิ เนภิ เตหิ เตภิ สัตตม.ี อสฺส นสสฺ ตสสฺ เนสํ เนสานํ เตสํ เตสานํ อสมฺ ึ นสมฺ ึ ตสมฺ ึ นมหฺ ิ ตมหฺ ิ เนสุ เตสุ

62 ไวยากรณ์บาลเี บอื้ งต้น วภิ ัตต ิ เอตสททฺ ปทมาลา (น่นั ) ปุงลงิ ค์ ปฐมา. ทตุ ยิ า. เอกวจนะ พหวุ จนะ ตติยา. เอโส เอเต จตตุ ถี. เอตํ เอเต ปัญจมี. เอเตน เอเตหิ เอเตภิ ฉัฏฐ.ี เอตสฺส เอเตสํ เอเตสานํ สัตตม.ี เอตมฺหา เอตสฺมา เอเตหิ เอเตภิ วภิ ัตติ เอตสฺส เอเตสํ เอเตสานํ ปฐมา. เอตมหฺ ิ เอตสฺมึ เอเตสุ ทตุ ยิ า. ตตยิ า. เอตาสทฺทปทมาลา (นั่น) อติ ถลี ิงค์ จตุตถี. ปญั จมี. เอกวจนะ พหวุ จนะ ฉฏั ฐี. เอสา เอตา เอตาโย สัตตมี. เอตํ เอตา เอตาโย วภิ ตั ต ิ เอตาย เอตาหิ เอตาภิ ปฐมา. เอติสสฺ าย เอติสสฺ า เอตาย เอตาสํ เอตาสานํ ทุติยา. เอตาย เอตาหิ เอตาภิ ตตยิ า. เอติสฺสาย เอติสฺสา เอตาย เอตาสํ เอตาสานํ จตุตถ.ี เอติสสฺ ํ เอตาย เอตาสุ ปญั จม.ี ฉัฏฐ.ี เอตสททฺ ปทมาลา (น่นั ) นปงุ สกลิงค์ สัตตม.ี เอกวจนะ พหวุ จนะ เอตํ เอตานิ เอตํ เอตานิ เอเตน เอเตหิ เอเตภิ เอตสสฺ เอเตสํ เอเตสานํ เอตมหฺ า เอตสฺมา เอเตหิ เอเตภิ เอตสสฺ เอเตสํ เอเตสานํ เอตมฺหิ เอตสฺมึ เอเตสุ

นาม วา่ ด้วยบททปี่ ระกอบวภิ ตั ตินาม 63 วิภัตต ิ ปฐมา. อมิ สททฺ ปทมาลา (น)้ี ปงุ ลิงค์ ทตุ ยิ า. ตตยิ า. เอกวจนะ พหุวจนะ จตตุ ถี. อยํ อิเม ปัญจม.ี อมิ ํ อเิ ม ฉัฏฐี. อเนน อมิ ินา เอหิ เอภิ อเิ มหิ อเิ มภิ สัตตมี. อสฺส อิมสสฺ เอสํ เอสานํ อเิ มสํ อิเมสานํ วภิ ตั ต ิ อสมฺ า อิมสมฺ า อิมมฺหา เอหิ เอภิ อเิ มหิ อิเมภิ ปฐมา. อสสฺ อมิ สสฺ เอสํ เอสานํ อเิ มสํ อิเมสานํ ทตุ ิยา. อสฺมึ อิมสฺมึ อมิ มฺห เอสุ อิเมสุ ตติยา. จตตุ ถ.ี อิมาสทฺทปทมาลา (นี)้ อติ ถีลงิ ค์ ปัญจมี. ฉัฏฐี. เอกวจนะ พหุวจนะ สตั ตมี. อยํ อมิ า อมิ าโย วิภัตติ อมิ ํ อิมา อมิ าโย ปฐมา. อมิ าย อมิ าหิ อิมาภิ ทตุ ยิ า. อสสฺ าย อิมิสสฺ าย อสฺสา อิมิสสฺ า อิมาย อิมาสํ อิมาสานํ ตติยา. อมิ าย อมิ าหิ อมิ าภิ จตุตถ.ี อสฺสาย อิมิสสฺ าย อสฺสา อมิ สิ สฺ า อิมาย อมิ าสํ อมิ าสานํ ปญั จมี. อสฺสํ อมิ ิสฺสํ อมิ ิสสฺ า อมิ ายํ อมิ าสุ ฉัฏฐ.ี สัตตมี. อิมสททฺ ปทมาลา (น)้ี นปุงสกลิงค์ เอกวจนะ พหวุ จนะ อทิ ํ อิมํ อิมานิ อิทํ อิมํ อมิ านิ อเนน อมิ นิ า เอหิ เอภิ อิเมหิ อิเมภิ อสฺส อมิ สฺส เอสํ เอสานํ อเิ มสํ อิเมสานํ อสมฺ า อิมสฺมา อมิ มหฺ า เอหิ เอภิ อิเมหิ อิเมภิ อสสฺ อิมสสฺ เอสํ เอสานํ อิเมสํ อเิ มสานํ อสฺมึ อมิ สมฺ ึ อิมมหฺ ิ เอสุ อิเมสุ

64 ไวยากรณ์บาลเี บ้อื งต้น วิธเี ปลย่ี นวภิ ัตติ ๑. เพราะ สิ ปฐมาวิภัตติ (ปงุ ลงิ คแ์ ละอติ ถีลิงค์) แปลง อิม เปน็ อยํ และลบ สิ วิภตั ติ ๒. เพราะ สิ ปฐมาและ อํ ทุติยาวภิ ตั ติ (นปงุ สกลิงค์) แปลง อมิ กับวิภตั ติ เป็น อิทํ ๓. เพราะ นา ตตยิ าวิภตั ติ (ปงุ ลิงค์และนปงุ สกลงิ ค)์ แปลง อิม เป็น อน และ อมิ ิ ๔. เพราะ สุ, นํ และ หิ วิภัตติ (ปงุ ลงิ ค์และนปุงสกลิงค์) แปลง อมิ เปน็ เอ ๕. เพราะ ส, สมฺ า, สมฺ ึ, สํ และ สา วภิ ตั ติ แปลง อมิ เปน็ อ อสุกสททฺ ปทมาลา (โน้น) ปงุ ลิงค์ วิภัตติ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐมา. อสโุ ก อสกุ า ทตุ ิยา. อสุกํ อสเุ ก ตตยิ า. อสเุ กน อสุเกหิ อสุเกภิ จตตุ ถ.ี อสกุ สสฺ อสกุ านํ ปัญจม.ี อสกุ า อสุกมหฺ า อสุกสมฺ า อสเุ กหิ อสเุ กภิ ฉัฏฐี. อสกุ สสฺ อสกุ านํ สัตตม.ี อสเุ ก อสกุ มหฺ ิ อสุกสมฺ ึ อสุเกสุ วิภัตต ิ ปฐมา. อสุกาสททฺ ปทมาลา (โนน้ ) อติ ถีลงิ ค์ ทตุ ิยา. ตตยิ า. เอกวจนะ พหวุ จนะ ตตุ ถ.ี อสุกา อสุกา อสกุ าโย ปญั จม.ี อสกุ ํ อสกุ า อสุกาโย ฉฏั ฐี. อสุกาย อสุกาหิ อสกุ าภิ สตั ตมี. อสกุ าย อสุกานํ อสกุ าย อสุกาหิ อสกุ าภิ อสกุ าย อสกุ านํ อสุกายํ อสกุ าสุ

นาม วา่ ดว้ ยบทท่ปี ระกอบวภิ ตั ตินาม 65 วภิ ตั ต ิ ปฐมา. อสุกสททฺ ปทมาลา (โน้น) นปุงสกลิงค์ ทตุ ยิ า. ตตยิ า. เอกวจนะ พหุวจนะ จตุตถี. อสกุ ํ อสุกา อสุกานิ ปญั จมี. อสุกํ อสุเก อสกุ านิ ฉฏั ฐ.ี อสุเกน อสเุ กหิ อสุเกภิ สัตตมี. อสกุ สสฺ อสุกานํ วภิ ตั ติ อสุกา อสุกมหฺ า อสุกสมฺ า อสุเกหิ อสุเกภิ ปฐมา. อสกุ สสฺ อสกุ านํ ทุติยา. อสุเก อสกุ มฺหิ อสกุ สมฺ ึ อสุเกสุ ตติยา. จตุตถี. อมสุ ทฺทปทมาลา (โนน้ ) ปุงลงิ ค์ ปัญจม.ี ฉัฏฐี. เอกวจนะ พหวุ จนะ สตั ตม.ี อสุ อมู วิภตั ติ อมุํ อม ู ปฐมา. อมนุ า อมหู ิ อมูภิ อมุหิ อมภุ ิ ทุติยา. อมุสสฺ อทุสสฺ อมูสํ อมสู านํ อมสุ ํ อมุสานํ ตตยิ า. อมมุ ฺหา อมุสฺมา อมหู ิ อมูภิ อมุหิ อมุภิ จตุตถี. อมสุ ฺส อทสุ ฺส อมูสํ อมสู านํ อมสุ ํ อมสุ านํ ปญั จม.ี อมมุ หฺ ิ อมุสมฺ ึ อมูสุ อมสุ ุ ฉฏั ฐี. สัตตม.ี อมุสททฺ ปทมาลา (โน้น) อติ ถีลิงค์ เอกวจนะ พหวุ จนะ อสุ อมู อมโุ ย อมุํ อมู อมโุ ย อมยุ า อมูหิ อมภู ิ อมสุ สฺ า อมุยา อมสู ํ อมูสานํ อมยุ า อมูหิ อมภู ิ อมสุ สฺ า อมยุ า อมสู ํ อมสู านํ อมสุ สฺ ํ อมยุ ํ อมยุ า อมูสุ

66 ไวยากรณ์บาลเี บอื้ งต้น วิภตั ต ิ อมสุ ทฺทปทมาลา (โนน้ ) นปงุ สกลงิ ค์ ปฐมา. ทตุ ยิ า. เอกวจนะ พหุวจนะ ตติยา. อทํุ อมู อมูนิ จตตุ ถี. อทํุ อมู อมูนิ ปญั จมี. อมุนา อมูหิ อมภู ิ อมหุ ิ อมภุ ิ ฉัฏฐ.ี อมุสสฺ อทุสสฺ อมสู ํ อมสู านํ อมสุ ํ อมสุ านํ สัตตม.ี อมุมหฺ า อมุสฺมา อมูหิ อมูภิ อมุหิ อมภุ ิ วิภตั ติ อมสุ สฺ อทสุ ฺส อมูสํ อมูสานํ อมุสํ อมุสานํ ปฐมา. อมมุ หฺ ิ อมุสมฺ ึ อมูสุ อมุสุ ทุตยิ า. ตตยิ า. กึสททฺ ปทมาลา (ใคร, อะไร, ไหน) ปงุ ลิงค์ จตุตถี. ปัญจม.ี เอกวจนะ พหุวจนะ ฉฏั ฐี. โก เก สัตตม.ี กํ เก วภิ ตั ต ิ เกน เกหิ เกภิ ปฐมา. กสสฺ กิสสฺ เกสํ เกสานํ ทุตยิ า. กมฺหา กสฺมา เกหิ เกภิ ตตยิ า. กสฺส กิสฺส เกสํ เกสานํ จตตุ ถี. กมฺหิ กมิ ฺหิ กสมฺ ึ กิสฺม ึ เกสุ ปัญจมี. ฉัฏฐ.ี กาสททฺ ปทมาลา (ใคร, อะไร, ไหน) อติ ถีลงิ ค์ สตั ตม.ี เอกวจนะ พหวุ จนะ กา กา กาโย กํ กา กาโย กาย กาหิ กาภิ กสฺสา กาย กาสํ กาสานํ กาย กาหิ กาภิ กสฺสา กาย กาสํ กาสานํ กสฺสํ กายํ กาสุ

นาม วา่ ดว้ ยบททีป่ ระกอบวิภตั ตนิ าม 67 วิภตั ต ิ ปฐมา. กสึ ทฺทปทมาลา (อะไร, ไหน) นปงุ สกลงิ ค์ ทตุ ยิ า. ตตยิ า. เอกวจนะ พหุวจนะ จตตุ ถ.ี กึ กานิ ปญั จม.ี กึ กานิ ฉัฏฐี. เกน เกหิ เกภิ สตั ตม.ี กสสฺ กสิ สฺ เกสํ เกสานํ กมหฺ า กสมฺ า เกหิ เกภิ กสฺส กิสฺส เกสํ เกสานํ กมหฺ ิ กิมหฺ ิ กสมฺ ึ กิสมฺ ึ เกสุ กึ + จิ สทฺทปทมาลา (ปงุ ลิงค์) วภิ ตั ติ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐมา. โกจ ิ เกจิ ทตุ ิยา. กญจฺ ิ เกจิ ตตยิ า. เกนจ ิ เกหจิ ิ จตุตถ.ี กสฺสจิ เกสญจฺ ิ ปญั จมี. กสฺมาจิ เกหจิ ิ ฉัฏฐ.ี กสสฺ จิ เกสญจฺ ิ สัตตมี. กสฺมิญจฺ ิ กสิ มฺ ิจ ิ เกสจุ ิ กา + จิ สทฺทปทมาลา (อิตถีลงิ ค)์ วภิ ตั ติ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐมา. กาจิ กาจิ ทตุ ยิ า. กญจฺ ิ กาจิ ตตยิ า. กายจิ กาหิจิ จตตุ ถี. กายจิ กสฺสาจ ิ กาสญจฺ ิ ปญั จมี. กายจิ กาหิจิ ฉัฏฐี. กายจิ กสสฺ าจิ กาสญฺจิ สัตตม.ี กายจ ิ กาสุจิ

68 ไวยากรณบ์ าลีเบอ้ื งตน้ วิภัตต ิ กึ + จิ สททฺ ปทมาลา (นปงุ สกลิงค์) ปฐมา. ทตุ ยิ า. เอกวจนะ พหุวจนะ ตติยา. กิญจฺ ิ กานจิ ิ จตตุ ถ.ี กญิ ฺจ ิ กานจิ ิ ปัญจม.ี เกนจิ เกหจิ ิ ฉัฏฐี. กสสฺ จิ เกสญจฺ ิ สตั ตมี. กสมฺ าจ ิ เกหจิ ิ วภิ ตั ติ กสสฺ จิ เกสญฺจิ ปฐมา. กสฺมญิ จฺ ิ กิสฺมิจ ิ เกสุจิ ทตุ ยิ า. ตตยิ า. ย + กึ + จิ สททฺ ปทมาลา (ปุงลิงค)์ จตตุ ถ.ี ปญั จมี. เอกวจนะ พหวุ จนะ ฉัฏฐี. โย โกจ ิ เย เกจิ สัตตมี. ยํ กญฺจ ิ เย เกจิ วิภัตติ เยน เกนจิ เยหิ เกหจิ ิ ปฐมา. ยสฺส กสสฺ จิ เยสํ เกสญฺจิ ทตุ ิยา. ยสมฺ า กสมฺ าจ ิ เยหิ เกหจิ ิ ตตยิ า. ยสฺส กสฺสจ ิ เยสํ เกสญฺจิ จตุตถี. ยสมฺ ึ กสฺมญิ ฺจิ เยสุ เกสจุ ิ ปัญจมี. ฉฏั ฐ.ี ยา + กึ + จิ สทฺทปทมาลา (อติ ถีลงิ ค์) สตั ตม.ี เอกวจนะ พหุวจนะ ยา กาจ ิ ยา กาจิ ยํ กญจฺ ิ ยา กาจิ ยาย กายจิ ยาหิ กาหจิ ิ ยาย กายจ ิ ยาสํ กาสญจฺ ิ ยาย กายจิ ยาหิ กาหจิ ิ ยาย กายจ ิ ยาสํ กาสญฺจิ ยาย กายจิ ยาสุ กาสจุ ิ

69 นาม ว่าด้วยบททป่ี ระกอบวภิ ัตตินาม ย + กึ + จิ สทฺทปทมาลา (นปงุ สกลิงค)์ วภิ ตั ต ิ เอกวจนะ พหุวจนะ ปฐมา. ยํ กิญจฺ ิ ยานิ กานิจิ ทุตยิ า. ยํ กญิ ฺจ ิ ยานิ กานจิ ิ ตติยา. เยน เกนจิ เยหิ เกหจิ ิ จตตุ ถี. ยสสฺ กสสฺ จิ เยสํ เกสญจฺ ิ ปญั จมี. ยสมฺ า กสฺมาจ ิ เยหิ เกหจิ ิ ฉัฏฐี. ยสฺส กสฺสจิ เยสํ เกสญฺจิ สัตตมี. ยสมฺ ึ กสฺมิญฺจิ เยสุ เกสุจิ ข้อควรจ�ำเก่ียวกับ กึ ศพั ท์ (๑) กึ ศพั ท์ท่ีมี จิ ต่อท้าย มอี รรถ อปปฺ = นอ้ ย แปลวา่ อะไร ๆ, ใคร ๆ เชน่ อตฺถิ โกจิ อาปุจฺฉิตพฺพยตุ ฺตโก แปลวา่ อ.ญาติไร ๆ เปน็ ผอู้ ันท่านควรอ�ำลา มีอยหู่ รือ? (๒) กึ ศพั ทท์ ม่ี ี ย นำ� หนา้ จิ ตอ่ ทา้ ย มอี รรถ สกล = ทง้ั หมด แปลวา่ อยา่ งใดอยา่ งหนงึ่ , เหล่าใดเหลา่ หนึ่ง, ทง้ั ปวง เช่น เย เกจิ กุสลา ธมฺมา แปลวา่ อ.ธรรม ท. อันเปน็ กศุ ล เหล่าใด เหลา่ หนึ่ง (๓) กึ ศัพท์ล้วน ๆ มีอรรถ ปุจฺฉา = การถาม แปลว่า ใคร, อะไร, ไหน เช่น โก นินทฺ ติ มุ รหติ แปลวา่ อ.ใคร ย่อมควร เพ่ืออันตเิ ตียน สังขยาคณุ นาม สงั ขยา คอื ค�ำสำ� หรบั นับนามนาม แบง่ ออกเปน็ ๒ อยา่ ง คอื (๑) ปกติสงั ขยา นับตาม ปกติ (๒) ปูรณสงั ขยา นับจ�ำนวนทเี่ ตม็ หรอื นับตามล�ำดับ วธิ นี ับปกติสงั ขยา มดี งั น้ี เอก ๑ ทฺวิ ๒ ติ ๓ จตุ ๔ ปญจฺ ๕ ฉ ๖ สตตฺ ๗ อฏฐฺ ๘ นว ๙ ทส ๑๐ เอกาทส ๑๑ ทฺวาทส, พารส ๑๒ เตรส ๑๓ จตทุ ทฺ ส, จุททฺ ส, โจทฺทส ๑๔ ปญจฺ ทส, ปณณฺ รส, ปนนฺ รส ๑๕ โสฬส ๑๖ สตตฺ รส ๑๗ อฏฐฺ ารส ๑๘ เอกนู วสี ติ, อูนวสี ๑๙ วีส, วีสติ ๒๐ เอกวสี ติ ๒๑ ทวฺ าวสี ต,ิ พาวสี ติ ๒๒ เตวีสติ ๒๓ จตวุ ีสต ิ ๒๔ ปญจฺ วีสติ ๒๕ ฉพพฺ สี ติ ๒๖ สตฺตวสี ติ ๒๗

70 ไวยากรณบ์ าลเี บ้อื งต้น อฏฺ วสี ติ ๒๘ เอกนู ตสึ , อูนตสึ ๒๙ ตึส, ตสึ ติ ๓๐ เอกตฺตสึ ๓๑ ทวฺ ตตฺ สึ , พาตฺตสึ ๓๒ เตตฺตึส ๓๓ จตตุ ฺตสึ ๓๔ ปญฺจตฺตสึ ๓๕ ฉตฺตสึ ๓๖ สตฺตตตฺ สึ ๓๗ อฏฺตตฺ ึส ๓๘ เอกูนจตฺตาฬีส, อนู จตฺตาฬีส ๓๙ จตฺตาฬสี , ตาลสี ๔๐ เอกจตฺตาฬสี ๔๑ เทวฺ จตตฺ าฬีส ๔๒ เตจตตฺ าฬีส ๔๓ จตุจตฺตาฬีส ๔๔ ปญฺจจตฺตาฬสี ๔๕ ฉจตตฺ าฬีส ๔๖ สตฺตจตฺตาฬสี ๔๗ อฏฺจตฺตาฬีส ๔๘ เอกนู ปญฺ าส, อนู ปฺ าส ๔๙ ปฺาส, ปณณฺ าส ๕๐ สฏฺ ิ ๖๐ สตตฺ ติ ๗๐ อสีต ิ ๘๐ นวุติ ๙๐ สตํ ๑๐๐ สหสสฺ ํ ๑,๐๐๐ ทสสหสสฺ ํ ๑๐,๐๐๐ สตสหสสฺ ,ํ ลกขฺ ํ ๑๐๐,๐๐๐ ทสสตสหสฺสํ ๑,๐๐๐,๐๐๐ โกฏิ โกฏิ ขอ้ ควรจ�ำ ๑. ปกติสังขยา จดั ลงในนาม ลงิ ค์ และวจนะ ได้ดังน้ี ๑.๑ จดั ปกตสิ งั ขยาลงในนาม ๓ ดังนี้ ตั้งแต่ เอก ถงึ จตุ เป็นสัพพนาม ต้ังแต่ ปญฺจ ถงึ อฏฐฺ นวุติ เปน็ คณุ นาม ตงั้ แต่ เอกนู สตํ (๙๙) ขน้ึ ไป เปน็ นามนาม แปลออกสำ� เนยี งอายตนบิ าตแหง่ วภิ ตั ตไิ ด้ ส่วน ตัง้ แต่ เอก ถึง อฏฺฐนวตุ ิ (๙๘) เปน็ คุณนามและสัพพนามนน้ั แปลออก สำ� เนยี งอายตนิบาตแหง่ วิภัตติไม่ได้ ๑.๒ จดั ปกติสงั ขยาลงในลงิ คท์ ้ัง ๓ ดังนี้ ตง้ั แต่ เอก ถงึ อฏฐฺ ารส เป็นได้ ๓ ลงิ ค์ ตง้ั แต่ เอกนู วสี ติ ถึง อฏฺฐนวุติ เปน็ อิตถีลิงคอ์ ยา่ งเดียว ตง้ั แต่ เอกนู สตํ ขนึ้ ไป เป็นนปุงสกลงิ คอ์ ยา่ งเดียว เฉพาะ โกฏิ เปน็ อติ ถลี ิงค์ ๑.๓ จดั ปกติสงั ขยาลงในวจนะ ๒ ดังนี้ เอกสังขยา เป็นเอกวจนะอยา่ งเดียว ตง้ั แต่ ทฺวิ ถึง อฏฺฐารส เป็นพหุวจนะอยา่ งเดยี ว ตง้ั แต่ เอกนู วีสติ ถงึ อฏฺฐนวตุ ิ เปน็ เอกวจนะอย่างเดียว ตง้ั แต่ เอกูนสตํ ขึน้ ไป เปน็ ได้ ๒ วจนะ ๒. ปูรณสังขยาทั้งปวง เป็นคุณนาม เป็นได้ท้ัง ๓ ลิงค์ แต่เป็นเอกวจนะ อยา่ งเดียว

นาม วา่ ดว้ ยบทท่ีประกอบวภิ ัตตนิ าม 71 คาถาแสดงการจ�ำแนกสังขยาโดยลิงค์และวจนะ ทวฺ าทโย อฏฐฺ ารสนตฺ า ตลิ ิงฺเค พหุวาจกา วีสตฺยาที นวตุ ยฺ นตฺ า อิตฺถิลิงฺเคกวาจกา สตาที อสงเฺ ขยฺ ยยฺ นตฺ า นปุํสกา ทวฺ วิ าจกา โกฏิตตฺ ยมกโฺ ขภณิ ี อติ ถฺ ลิ งิ ฺคา ทฺววิ าจกา ตงั้ แต่ ทฺวิ (๒) ถงึ อฏฐฺ ารส (๑๘) เป็น ๓ ลงิ ค์ พหวุ จนะ ตง้ั แต่ เอกนู วสี ติ (๑๙) ถึง อฏฐฺ นวุติ (๙๘) เป็นอิตถลี ิงค์ เอกวจนะ ตั้งแต่ เอกูนสตํ (๙๙) ถึง อสงเฺ ขยฺ ยฺย เปน็ นปงุ สกลิงค์ ๒ วจนะ โกฏ,ิ ปโกฏิ, โกฏปิ ฺปโกฏิ, อกโฺ ขภิณี เปน็ อติ ถลี งิ ค์ ๒ วจนะ เอกสททฺ ปทมาลา (หน่งึ ) ลิงค ์ ปุงลงิ ค์ อิตถีลงิ ค ์ นปงุ สกลงิ ค์ วิภัตต ิ เอกวจนะ ปฐมา. เอกวจนะ เอกวจนะ เอกํ ทตุ ิยา. เอโก เอกา เอกํ ตติยา. เอกํ เอกํ เอเกน จตตุ ถ.ี เอเกน เอกาย เอกสสฺ ปญั จมี. เอกสสฺ เอกสิ ฺสา เอกาย เอกมหฺ า เอกสมฺ า ฉัฏฐี. เอกมหฺ า เอกสมฺ า เอกาย เอกสฺส สตั ตมี. เอกสสฺ เอกสิ สฺ า เอกาย เอกมหฺ ิ เอกสฺมึ เอกมฺหิ เอกสมฺ ึ เอกิสฺสํ เอกายํ วิภัตติ อุภสทฺทปทมาลา (ท้ังสอง) สามลิงค์ ปฐมา. พหวุ จนะ ทุตยิ า. อโุ ภ อุเภ ตติยา. อุโภ อเุ ภ จตตุ ถี. อุโภหิ อโุ ภภิ อเุ ภหิ อุเภภิ ปัญจม.ี อุภนิ ฺนํ ฉฏั ฐ.ี อุโภหิ อโุ ภภิ อุเภหิ อุเภภิ สัตตมี. อุภินนฺ ํ อุโภสุ อเุ ภสุ

72 ไวยากรณ์บาลีเบ้ืองตน้ วิธเี ปล่ยี นวภิ ตั ติ ๑. แปลง โย เป็น โอ และ เอ บา้ ง ๒. เพราะ หิ วิภัตตแิ ละ สุ วภิ ตั ติ แปลง อ เปน็ เอ แลว้ แปลง เอ เปน็ โอ บา้ ง ๓. หลงั อภุ ศพั ทเ์ ปน็ ตน้ แปลง นํ วิภตั ติ เป็น อินฺนํ วิภตั ต ิ ทฺวิสทฺทปทมาลา (สอง) ท้ัง ๓ ลิงค์ พหวุ จนะ ปฐมา. เทฺว ทุเว ทตุ ยิ า. เทวฺ ทเุ ว ตตยิ า. ทวฺ หี ิ ทวฺ ภี ิ จตุตถ.ี ทฺวินนฺ ํ ทุวนิ นฺ ํ ปัญจม.ี ทวฺ หี ิ ทวฺ ภี ิ ฉฏั ฐี. ทวฺ ินนฺ ํ ทวุ นิ ฺนํ สตั ตม.ี ทวฺ ีสุ วิธีเปลย่ี นวิภัตติ ๑. แปลง ทวฺ ิ กบั โย เปน็ เทวฺ และ ทเุ ว ๒. เพราะ นํ วิภัตติ ลง นฺ อาคม, เพราะ นํ วิภตั ติ แปลง ทฺวิ เป็น ทุวิ บา้ ง ติสททฺ ปทมาลา (สาม) พหวุ จนะ วภิ ัตต ิ ปงุ ลิงค ์ อิตถลี งิ ค์ นปงุ สกลงิ ค์ ปฐมา. ตโย ติสโฺ ส ตีณิ ทตุ ิยา. ตโย ติสฺโส ตีณิ ตติยา. ตหี ิ ตีภ ิ ตหี ิ ตภี ิ ตีหิ ตีภิ จตุตถ.ี ติณณฺ ํ ตณิ ฺณนฺนํ ติสฺสนนฺ ํ ติณฺณํ ตณิ ฺณนฺนํ ปญั จมี. ตหี ิ ตีภิ ตหี ิ ตีภ ิ ตีหิ ตภี ิ ฉัฏฐ.ี ตณิ ณฺ ํ ติณณฺ นนฺ ํ ติสฺสนฺนํ ติณณฺ ํ ติณฺณนนฺ ํ สตั ตม.ี ตีส ุ ตีส ุ ตสี ุ

73 นาม วา่ ด้วยบทท่ปี ระกอบวภิ ตั ตินาม จตสุ ทฺทปทมาลา (ส่)ี พหวุ จนะ วภิ ตั ติ ปุงลิงค์ อติ ถลี ิงค ์ นปงุ สกลิงค์ ปฐมา. จตฺตาโร จตโุ ร จตสฺโส จตตฺ าริ ทุติยา. จตฺตาโร จตุโร จตสฺโส จตตฺ าริ ตติยา. จตหู ิ จตภู ิ จตุพภฺ ิ จตหู ิ จตภู ิ จตุพภฺ ิ จตหู ิ จตภู ิ จตพุ ภฺ ิ จตตุ ถี. จตนุ นฺ ํ จตสฺสนนฺ ํ จตุนนฺ ํ ปัญจมี. จตูหิ จตูภิ จตุพฺภิ จตูหิ จตูภิ จตุพฺภิ จตูหิ จตูภิ จตพุ ภฺ ิ ฉัฏฐี. จตนุ นฺ ํ จตสฺสนฺนํ จตุนนฺ ํ สัตตมี. จตูสุ จตูสุ จตูสุ ปูรณสังขยา ปูรณสังขยา คือ ปกติสงั ขยาท่ีประกอบด้วยปัจจยั ในปูรณตทั ธิต ๕ ตัว คอื ติย, , ถ, ม และ อี ปจั จัย สำ� เร็จแล้วเรยี กวา่ ปูรณสงั ขยา เป็นการนับจ�ำนวนเตม็ หรือนบั ตามลำ� ดับแปลว่า “ท.่ี ..” เป็นคุณนามลว้ น เป็นได้ ๓ ลงิ ค์ มเี ฉพาะฝ่ายเอกวจนะอยา่ งเดยี ว ดงั น้ี ปุงลิงค ์ อติ ถลี งิ ค์ นปุงสกลิงค ์ ค�ำแปล ปฐโม ปฐมา ปฐมํ ท่ี ๑ ทุติโย ทตุ ิยา ทตุ ิยํ ที่ ๒ ตติโย ตตยิ า ตตยิ ํ ท่ี ๓ จตุตโฺ ถ จตุตฺถา, จตุตถฺ ี จตตุ ถฺ ํ ท่ี ๔ ปญจฺ โม ปญจฺ มา, ปญจฺ ม ี ปญฺจมํ ที่ ๕ ฉฏฺโฐ ฉฏฐฺ า, ฉฏฐฺ ี ฉฏฺฐ ํ ท่ี ๖ สตตฺ โม สตฺตมา, สตตฺ มี สตตฺ มํ ท่ี ๗ อฏฐฺ โม อฏฺฐมา, อฏฺฐม ี อฏฺฐม ํ ที่ ๘ นวโม นวมา, นวมี นวมํ ท่ี ๙ ทสโม ทสมา, ทสมี ทสมํ ที่ ๑๐ เอกาทสโม เอกาทสมา, เอกาทส ี เอกาทสมํ ท่ี ๑๑ ทฺวาทสโม, พารสโม ทฺวาทส,ี พารสี ทฺวาทสมํ, พารสมํ ที่ ๑๒ เตรสโม เตรสี เตรสมํ ท่ี ๑๓ จตุททฺ สโม จตทุ ทฺ สมา, จตุทฺทสี จตุทฺทสมํ ท่ี ๑๔ ปณฺณรสโม ปณฺณรสมา, ปณณฺ รสี ปณฺณรสมํ ท่ี ๑๕ โสฬสโม โสฬส ี โสฬสมํ ที่ ๑๖ สตตฺ รสโม สตฺตรสี สตตฺ รสมํ ท่ี ๑๗

74 ไวยากรณ์บาลเี บ้ืองต้น อฏฺฐารสโม อฏฺฐารส ี อฏฺฐารสม ํ ที่ ๑๘ เอกูนวสี ติโม เอกนู วีสติมา เอกูนวสี ตมิ ํ ท่ี ๑๙ วสี ติโม วีสติมา วสี ติมํ ที่ ๒๐ ตสึ ติโม ตึสตมิ า ตสึ ตมิ ํ ท่ี ๓๐ จตฺตาฬสี ตโิ ม จตตฺ าฬีสตมิ า จตฺตาฬสี ติมํ ท่ี ๔๐ ปญฺญาสโม ปญฺญาสมา ปญฺญาสม ํ ท่ี ๕๐ ข้อควรทราบ ๑. ลง ตยิ ปจั จยั หลงั ทวฺ ิ และ ติ สงั ขยา แลว้ ใหแ้ ปลง ทวฺ ิ เปน็ ทุ และแปลง ติ เปน็ ต ๒. ลง  ปัจจัย หลงั ฉ สังขยาศพั ทเ์ ดยี ว แล้วซ้อน ฏฺ ๓. ลง ถ ปจั จัย หลงั จตุ สังขยาศัพท์เดยี ว แล้วซอ้ น ตฺ ๔. ลง ม ปัจจัย หลังสังขยาศัพทท์ ่ีเหลือ ๕. ลง อี ปัจจยั หลงั สงั ขยาศัพท์จ�ำนวน ๑๑, ๑๒, ๑๓, ๑๔, ๑๕, ๑๖, ๑๗ และ ๑๘ เทา่ นั้น รูปสำ� เร็จเป็นอิตถีลิงค์อยา่ งเดียว สังขยาศัพท์จำ� นวนตัง้ แต่ ๑๓ ถงึ ๑๘ ถ้าเป็นลิงค์อน่ื จากอิตถีลงิ ค์ ให้ลง ม ปจั จยั ๖. ถ้าประสงค์จะท�ำสังขยาศัพท์ให้เป็นอิตถีลิงค์ ให้ลงอิตถีลิงคโชตกปัจจัย ๓ ตัว คือ อา, อี หรือ อินี ตัวใดตวั หนง่ึ ตามทม่ี ีใชใ้ นพระบาลี R โย นิรตุ ตฺ ึ น สกิ ฺเขยฺย สกิ ฺขนโฺ ต ปิฏกตฺตยํ ปเท ปเท วกิ งเฺ ขยฺย วเน อนฺธคโช ยถา (โมคคลั ลานปัญจิกาฎกี า) บุคคลใดศึกษาพระไตรปฎิ ก แตไ่ ม่เรียนรไู้ วยากรณ์ (บาล)ี เขาพงึ สงสัยในทกุ บทๆ เหมอื นชา้ งตาบอดเทย่ี วไปในป่า

75 นาม วา่ ด้วยบททปี่ ระกอบวิภตั ตนิ าม ๓.๕ อัพยยศัพท์ อพั ยยศพั ท์ คือศพั ทท์ แี่ จกด้วยวิภตั ติเหมอื นนามนามไมไ่ ด้ คงรูปอยอู่ ย่างเดมิ แบง่ เป็น ๓ พวก คอื (๑) ปจั จยั (๒) อปุ สัค และ (๓) นบิ าต ๓.๕.๑ วิภตั ติปัจจยวิธาน วภิ ตั ตปิ จั จยวธิ าน คอื วธิ ขี องปจั จยั ทล่ี งทา้ ยนามศพั ท์ เปน็ เครอื่ งหมายวภิ ตั ติ มี ๑๕ ตวั คือ โต, ตฺร, ถ, ห, ธ, ธิ, หึ, หํ, หิญฺจนํ, ว, ทา, ทานิ, รหิ, ธุนา และ ทาจนํ มีวิธีการใช้ ดังนี้ โต ปัจจยั ลงหลังจากนามนามบ้าง หลงั สัพพนามบา้ ง (๑) เป็นเครอ่ื งหมายตติยาวิภตั ติ แปลว่า “ขา้ ง..., โดย...” (๒) เปน็ เครอื่ งหมายปญั จมีวภิ ตั ติ แปลวา่ “แต.่ .., จาก...., กวา่ ...” (๓) เป็นเคร่ืองหมายสัตตมีวิภัตติ แปลว่า “ใน..., บน...”เป็นต้น ถ้าหลังนามนาม แปลออกส�ำเนียงอายตนิบาตของวิภัตติได้เลย ส่วนลงหลังวิเสสนสัพพนาม เวลาแปล ต้องโยค สุทธนามเข้ามาก่อน จึงจะแปลได้ ดังนี้ อนิจจฺ โต = อนิจจฺ + โต โดยความเป็นของไม่เทย่ี ง ทุกขฺ โต = ทกุ ฺข + โต โดยความเป็นทกุ ข์ โรคโต = โรค + โต โดยความเปน็ โรค คณฺฑโต = คณฑฺ + โต โดยความเป็นฝี สพฺพโต = สพฺพ + โต แต่...ท้งั ปวง อญฺโต = อฺ + โต แต่...อ่ืน อฺตรโต = อฺ ตร + โต แต.่ ..อนั ใดอนั หน่งึ อติ รโต = อติ ร + โต แต.่ ..นอกนี้ ปุริสโต = ปุรสิ + โต แตบ่ รุ ษุ ราชโต = ราช + โต แตพ่ ระราชา โจรโต = โจร + โต จากโจร อิตถฺ โิ ต = อิตฺถี + โต จากหญงิ (รัสสะ อี เปน็ อิ) เอกโต = เอก + โต ขา้ งเดยี ว, โดยความเปน็ อนั เดียวกัน อุภโต = อภุ + โต สองขา้ ง ปรโต = ปร + โต ขา้ งอน่ื ปุรโต = ปรุ + โต ขา้ งหนา้ ตโต = ต + โต แต.่ ..นน้ั เอตโฺ ต, อโต = เอต + โต แต่...นน่ั (แปลง เอต เป็น เอ และ อ)

76 ไวยากรณบ์ าลเี บือ้ งตน้ อโิ ต = อิม + โต แต.่ ..นี้ (แปลง อมิ เป็น อิ) อปรโต = อปร + โต ข้างอ่ืนอีก ปจฺฉโต = ปจฉฺ า + โต ขา้ งหลัง (รสั สะ อา เปน็ อ) ทกขฺ ณิ โต = ทกขฺ ิณ + โต ขา้ งขวา, แต่ทศิ ใต้ วามโต = วาม + โต ขา้ งซา้ ย อุตตฺ รโต = อตุ ตฺ ร + โต ข้างบน, แตท่ ศิ เหนือ ยโต = ย + โต แต่...ใด กุโต = กึ + โต แต.่ ..ไหน (แปลง กึ เป็น กุ) อาทิโต = อาทิ + โต ในเบ้อื งตน้ มชฺฌโต = มชฌฺ + โต ในทา่ มกลาง สีสโต = สีส + โต บนศีรษะ ปัจจัย ๙ ตัวเหลา่ น้ี คือ ตรฺ , ถ, ห, ธ, ธ,ิ ห,ึ หํ, หญิ ฺจนํ และ ว ปัจจยั ลงหลังสัพพนาม เป็นเคร่ืองหมายสตั ตมีวิภัตติ ดงั นี้ สพฺพตรฺ = สพพฺ + ตฺร ใน...ทั้งปวง สพฺพตฺถ = สพฺพ + ถ ใน...ทั้งปวง สพฺพธ ิ = สพฺพ + ธ ิ ใน...ทงั้ ปวง อญฺญตรฺ = อญฺ + ตรฺ ใน...อื่น อฺตฺถ = อฺ + ถ ใน...อ่ืน ยตรฺ = ย + ตรฺ ใน...ใด ยตฺถ = ย + ถ ใน...ใด ยห ึ = ย + ห ึ ใน...ใด ยห ํ = ย + หํ ใน...ใด ตตรฺ = ต + ตรฺ ใน...นน้ั ตตถฺ = ต + ถ ใน...นน้ั ตห ึ = ต + หึ ใน...นน้ั ตห ํ = ต + หํ ใน...นัน้ กตรฺ = กึ + ตฺร ใน...ไหน กตฺถ = กึ + ถ ใน...ไหน กหุ ึ = กึ + ห ึ ใน...ไหน กุหํ = กึ + หํ ใน...ไหน กหํ = กึ + หํ ใน...ไหน กหุ ญิ จฺ นํ = กึ + หญิ จฺ นํ ใน...ไหน กวฺ = กึ + ว ใน...ไหน อตรฺ = เอต + ตรฺ ใน...น่ัน อตถฺ = เอต + ถ ใน...นนั่ เอตฺถ = เอต + ถ ใน...นน่ั (น้ี) อธิ = อิม + ธ ใน...น้ี อิห = อิม + ห ใน...น ี้ อุภยตถฺ = อุภย + ถ ใน...ท้งั สอง ปัจจยั ๕ ตัวเหลา่ นี้ คอื ทา, ทาน,ิ รห,ิ ธุนา และ ทาจนํ ปจั จัย ลงหลังสพั พนาม เป็น เครอื่ งหมายสัตตมีวภิ ัตติ ในอรรถกาล (กาลสตั ตม)ี ดงั น้ี สพพฺ ทา = สพพฺ + ทา ในกาลทง้ั ปวง สทา = สพพฺ + ทา ในกาลทกุ เมื่อ เอกทา = เอก + ทา ในกาลหนงึ่ ยทา = ย + ทา ในกาลใด ตทา = ต +ทา ในกาลน้ัน กทา = กึ + ทา ในกาลไร กทาจิ = กึ + ทา + จิ ในกาลบางคราว อิทานิ = อมิ + ทานิ ในกาลนี้

77 นาม วา่ ด้วยบทที่ประกอบวิภตั ตินาม เอตรห ิ = อิม + รหิ ในกาลนี้ อธนุ า = อมิ + ธนุ า ในกาลนี้, เมอื่ กี้ กุทาจนํ = กึ + ทาจนํ ในกาลไหน ๓.๕.๒ อปุ สคั บท ค�ำว่า “อุปสัค” แปลว่าเข้าไปจัดแจงอรรถของธาตุ มีวิเคราะห์ว่า “อุเปจฺจ อตฺถํ สชฺชนฺตีติ อุปสคฺคา, ปาทโย” เข้าไปอยู่ข้างหน้าธาตุแล้ว ย่อมจัดแจงอรรถของธาตุ เพราะเหตนุ ้ัน ช่ือวา่ อปุ สัค ไดแ้ ก่ ป เปน็ ตน้ (อุป + สชชฺ + ณ), “อุปสคฺคเมว โอปสคคฺ ิกํ” อุป สคั นนั่ แหละ ชอื่ วา่ โอปสคั คกิ ะ (อปุ สคคฺ + ณกิ ) หมายความวา่ อปุ สคั เกอื บจะทง้ั หมด จะประกอบ อยู่ข้างหน้าธาตุ ยกเว้น อปิ อุปสัค ตัวเดียว ที่อยู่ข้างหน้าธาตุก็มี อยู่ข้างหลังธาตุก็มี และ อุปสัคบางตัวอยู่ตัวเดียวโดดๆ ก็มีบ้าง ส่วนมากอยู่หน้าธาตุ ท่ีได้ชื่อว่าเข้าไปจัดแจงอรรถของ ธาตุ เพราะอปุ สคั นนั้ มอี รรถมาก ธาตุตวั เดียว เมือ่ มอี ปุ สคั ตัวต่างๆ ไปอย่ขู า้ งหน้า ความหมาย กจ็ ะเปล่ียนไป เชน่ ธา ธาตุ มอี รรถว่า “ทรงไว”้ แตถ่ า้ มี นิ อปุ สัคเปน็ บทหน้า มอี รรถว่า “ฝังไว”้ มีรปู เป็น “นธิ ยี ต”ิ ยอ่ มถกู ฝงั ไว้ มี วิ อปุ สคั เปน็ บทหนา้ มอี รรถวา่ “กระท�ำ” มรี ปู เปน็ “วธิ ยี ต”ิ ยอ่ มถกู กระท�ำ, มี สํ อปุ สคั เปน็ บทหนา้ มอี รรถวา่ “ตง้ั ไว”้ มรี ปู วา่ “สมาหโิ ต” ตง้ั มน่ั แลว้ , มี อภิ อปุ สคั เปน็ บทหนา้ มี อรรถวา่ “กลา่ ว” มรี ปู เปน็ “อภหิ ติ ”ํ ถกู กลา่ วแลว้ , มี ปริ อปุ สคั เปน็ บทหนา้ มอี รรถวา่ “นงุ่ หม่ ” มรี ปู เปน็ “ปริทหติ” ย่อมนุ่งห่ม, มี อปิ อุปสัคเป็นบทหน้า มีอรรถว่า “ปิด” มีรูปเป็น “ปิทหติ” ย่อมปิด เป็นต้น อุปสัค มี ๒๐ ตัว คือ ป, ปรา, นิ, นี, อุ, ทุ, สํ, ว,ิ อว, อนุ, ปริ, อธิ, อภิ, ปติ, ส,ุ อา, อต,ิ อป,ิ อป, อุป บาลี (ส�ำหรบั ทอ่ ง) : ป, ปรา, นิ, น,ี อ,ุ ทุ, ส,ํ วิ, อว, อน,ุ ปร,ิ อธิ, อภ,ิ ปต,ิ สุ, อา, อต,ิ อปิ, อป, อุป อิติ วีสติ อุปสคคฺ า อุปสคั มอี รรถ ๓ อย่าง (๑) ธาตฺวตฺถพาธก เบียดเบียนอรรถของธาตุ เช่น คจฺฉติ แปลว่า ย่อมไป ใส่ อา อุปสัค เข้าไปข้างหน้าธาตุ มีรูปว่า อาคจฺฉติ แปลว่า ย่อมมา, ชยติ แปลว่า ย่อมชนะ ใส่ ปรา อุปสัคเขา้ ไป ขา้ งหน้าธาตุ มรี ูปวา่ ปราชยติ แปลวา่ ยอ่ มพ่ายแพ้ (๒) ธาตวฺ ตฺถานุวตตฺ ก คลอ้ ยตามอรรถของธาตุ เชน่ จรติ แปลวา่ ย่อมประพฤติ ใส่ อา อปุ สคั เขา้ ไปขา้ งหน้าธาตุ มรี ปู วา่ อาจรติ แปลวา่ ยอ่ มประพฤติ มีความหมายเหมอื นอรรถ ของธาตุ

78 ไวยากรณบ์ าลีเบ้อื งตน้ (๓) ธาตฺวตถฺ วิเสสก ท�ำอรรถของธาตใุ หพ้ เิ ศษขึน้ เช่น ภวติ แปลวา่ ยอ่ มม,ี ยอ่ มเป็น ใส่ อนุ อปุ สคั เข้าไปขา้ งหนา้ ธาตุ มีรปู ว่า อนุภวติ แปลว่า ย่อมเสวย คาถาสรปุ อรรถของอุปสัค ๓ อย่าง ธาตวฺ ตฺถํ พาธเต โกจ ิ โกจิ ตมนวุ ตตฺ เต ตเมวญโฺ  วเิ สเสติ อุปสคคฺ คตี ติธา อุปสัค มีอรรถ ๓ อย่าง คอื อปุ สคั บางตัว ยอ่ มเบียดเบยี นอรรถของธาตุ อปุ สคั บางตัว ยอ่ มคลอ้ ยตามอรรถของธาตุ และอุปสัคบางตัวยอ่ มยงั อรรถของธาตุให้พเิ ศษขึ้น อุปสคั ๒๐ ตวั และอรรถของอุปสคั (๑) ป ทั่ว, ข้างหนา้ , ก่อน, ออก, ประการ, แยก, ใส, ปรารถนา - ปการ ประการ, ตา่ งๆ เช่น ปฺา ความรู้โดยประการตา่ งๆ (ป+า+อ) - อาทิกมมฺ เบ้ืองต้น เชน่ วปิ ปฺ กตํ การงานอนั ถกู ระทำ� เบอ้ื งแรกยงั ไมส่ ำ� เรจ็ (ว+ิ ป+กร+ต) - ปธาน ประธาน เชน่ ปณตี ํ ความประณีต (ป+น+ี ต) - อิสฺสริย ความเปน็ ใหญ่ เช่น ปภู อยํ เทสสสฺ อ.ผูน้ ี้ เป็นใหญ่ แห่งสถานท่ี (ป + ภู) - อนฺโตภาว ความเปน็ ภายใน เชน่ ปกฺขติ ตฺ ํ ถูกใส่แล้ว (ป+ขปิ +ต) - วิโยค การแยกกนั เชน่ ปวาสี ผู้จากไปอยตู่ ่างถน่ิ , ผพู้ ลดั พราก (ป + วส + ณี) - ตปฺปร ประเสรฐิ กวา่ น้นั เช่น ปาจรโิ ย อาจารย์ของอาจารย์ (ป + อาจริย) - ภุสตฺถ อรรถยิ่ง เช่น ปวทุ ธฺ กาโย ผู้มกี ายใหญ่ยง่ิ (ป + วทุ ฺธกาย) - สมฺภว การเกดิ เบอื้ งแรก เชน่ หิมวตา คงฺคา ปภวติ (ป + ภู + อ+ ต)ิ อ.แมน่ ำ้� คงคายอ่ มเกดิ ขน้ึ เบอื้ งแรกจากภเู ขาหมิ พานต์ - ติตตฺ ิ เต็มหรืออิม่ เชน่ ปหตู มนนฺ ํ อ.ขา้ ว อันเพยี งพอ (ป + หู + ต) - อนาวลิ ไม่ขนุ่ มัว เช่น ปสนนฺ มุทกํ อ.นำ้� อนั ใส (ป + สท + ต) - ปตฺถน ความปรารถนา เชน่ ปณิหิตํ ปรารถนาแลว้ (ป + นิ + ธา + ต) (๒) ปรา กลับความ, ที่อยู่, ความพยายาม, จบั ต้อง - ปรหิ านิ ความเสือ่ ม เชน่ ปราภโว ความเส่ือม (ปรา + ภว) - ปราชย พา่ ยแพ้ เชน่ ปราชโิ ต พา่ ยแพแ้ ลว้ (ปรา + ชิ + ต) - คต ิ ท่ีอย,ู่ ที่ไป เชน่ ปรายนํ ท่อี ยู่อาศยั , ท่ไี ป (ปรา + อย + ย)ุ - วิกฺกม ความพยายาม เชน่ ปรกกฺ มติ ยอ่ มบากบั่น (ปรา + กมุ + อ + ต)ิ - อามสน การจับต้อง เชน่ องคฺ สสฺ ปรามสนํ อ.การลบู คลำ� ซ่ึงอวัยวะ (ปรา+อา+มส+ย)ุ

79 นาม วา่ ดว้ ยบทที่ประกอบวภิ ตั ตนิ าม (๓) นิ เขา้ , ลง, ไมม่ ,ี ออก, หา้ ม, ตัดสนิ , เปรยี บเทียบ, จบ, ละเอยี ด - นิสเฺ สส ไมม่ เี หลือ เช่น นริ ุตฺติ การกล่าวโดยไม่มีเหลอื (น+ิ วจ+ติ) - นคิ คฺ ต การออก เช่น นกิ กฺ เิ ลโส ผู้มีกเิ ลสออกแล้ว, ผู้ปราศจากกเิ ลส (น+ิ กเิ ลส) นิยฺยาติ ย่อมออกไป (นิ + ยา + อ + ต)ิ - นหิ รณ การนำ� ออก เช่น นิทฺธารณํ การถอนออก (นิ + ธร + ยุ) - อนโฺ ตปเวส การใส่เข้าขา้ งใน เช่น นิขาโต ฝงั แล้ว (นิ + ขนุ + ต) - อภาว ความไมม่ ี เชน่ นมิ มฺ กฺขิกํ ไม่มแี มลงวัน (นิ + มกขฺ กิ า) - นเิ สธ การห้าม เช่น นวิ าเรติ ยอ่ มห้าม (นิ + วร + เณ + ติ) - นกิ ฺขนฺต การพน้ เช่น นิพพฺ โน ผพู้ น้ จากดงกิเลส (นิ + วน) นิพพฺ านํ สภาพหลุดพน้ จากตัณหา (นิ + วาน) - ปาตภุ าว ความมปี รากฏ เชน่ นมิ ฺมิตํ ถูกเนรมิตแลว้ , ถกู สรา้ งแลว้ (นิ + มา + ต) - อวธารณ การตัดสนิ เช่น นิจฺฉโย การตัดสนิ (นิ + จิ + อ) - วิภชน การจำ� แนก เช่น นทิ เฺ ทโส การแสดงโดยพิสดาร (นิ + ทสิ ี + อ) - อปุ มา การเปรยี บเทยี บ เช่น นิทสสฺ นํ ตวั อย่างเป็นเครื่องแสดง (นิ + ทสิ + ย)ุ - อวสาน การจบ เชน่ นิฏฺิตํ จบแล้ว (นิ + ฐา + ต) - เฉก ฉลาด เชน่ นิปโุ ณ ผ้ฉู ลาด (นิ + ปณุ + อ) (๔) นี ออก, หา้ ม เชน่ นีหรติ ย่อมน�ำออก (นี + หร + อ + ต)ิ - นีหรณ การนำ� ออก เช่น นวี รณํ ธรรมอันกนั้ (นี + วร + ย)ุ - อาวรณ การห้าม (๕) อุ ขน้ึ , นอก, ประเสรฐิ , พลดั พราก, เกดิ ขน้ึ , ความสามารถ, การกลา่ วโดยสรปุ - อุคฺคต การขนึ้ เช่น อุคฺคจฉฺ ติ ยอ่ มขึ้นไป (อุ + คมุ + อ + ต)ิ - อทุ ฺธกมมฺ กระทำ� ข้างบน เชน่ อาสนา อฏุ ฺิโต ลุกขึน้ แลว้ จากอาสนะ (อุ + ฐา + ต) อุกเฺ ขโป การยกขึน้ (อุ + ขิป + อ) - ปธาน ความประเสรฐิ เช่น อุตฺตโม ผปู้ ระเสรฐิ สูงสดุ (อุ + ตม) โลกุตตฺ โร ธรรมอันเหนือโลก (โลก + อตุ ฺตร) - วโิ ยค การแยกจากกัน เช่น อุพพฺ าสิโต ผู้ถกู ให้แยกจากกนั (อุ + วส + เณ + ต) - สมฺภว การเกิดข้นึ เช่น อพุ ภฺ ูโต เกดิ ขึ้นแล้ว (อุ + ภู + ต) - อตฺถลาภ การไดซ้ ึง่ สภาพ เช่น อปุ ปฺ นนฺ ํ าณํ อ.ญาณ อันเกดิ ข้นึ แล้ว (อุ + ปท + ต) - สตฺติ ความสามารถ เช่น อสุ ฺสหติ คนตฺ ํุ ย่อมสามารถ เพื่ออนั ไป (อุ+สห+อ+ต)ิ - สรูปกถน การกลา่ วโดยสรุป เช่น อุททฺ ิสติ สุตตฺ ํ ย่อมสวด ซ่งึ พระสูตร (อุ+ทิส+อ+ติ) (๖) ทุ ชัว่ , ยาก, ไม่ม,ี นา่ เกลียด, ผิดปกติ - อโสภน ความไมง่ าม เชน่ ทคุ คฺ นโฺ ธ กลิ่นเหม็น (ทุ + คนฺธ)

80 ไวยากรณบ์ าลเี บอื้ งตน้ - อภาว ความไม่มี เชน่ ทพุ ฺภกิ ขฺ ํ ความขาดแคลนอาหาร (ทุ + ภกิ ขฺ า) - กุจฉฺ ติ ความนา่ เกลียด เช่น ทกุ ฺกฏํ กรรมอนั กระทำ� โดยน่าเกลียด (ทุ + กร + ต) - อสมิทธฺ ิ ความไม่บริบูรณ ์ เชน่ ทุสฺสสฺสํ ข้าวกลา้ อนั ไม่บริบรู ณ์ (ทุ + สสสฺ ) - กิจฉฺ ความยากล�ำบาก เชน่ ทกุ ฺกรํ กรรมอนั กระท�ำได้โดยยาก (ทุ + กร + ข) - วิรูปตา ความมีรปู ผิดปกต ิ เชน่ ทุพฺพณโฺ ณ ผูม้ ผี ิวพรรณไม่งาม (ทุ + วณณฺ ) ทุมมฺ ุโข ผู้มีใบหน้าไม่งาม (ทุ + มุข) (๗) สํ ด,ี งาม, ง่าย, การตอ่ , การย่อ, เสมอกนั , ร่วมกนั , เบอื้ งแรก, รวบรวม, ปดิ - สโมธาน การรวม เช่น สนฺธิ การต่อ (สํ + ธา + อิ) - สมมฺ า ดว้ ยดี เช่น สมาธิ ความต้ังไว้ดว้ ยดีในอารมณ์ (สํ + อา + ธา + อ)ิ - สม เสมอกัน เช่น สมปฺ ยุตโฺ ต ประกอบโดยเสมอกนั (สํ + ป + ยุช + ต) - สมนฺตภาว ความเปน็ โดยรอบ เช ่ สกํ ณิ ฺณา เกลอื่ นกลน่ แล้ว (สํ + กริ + ต) สมลุ ลฺ ปนา การพูดเลียบเคียง (สํ + อุ + ลป + ย)ุ - สงฺคต การรว่ ม เชน่ สงฺคโม การรว่ มกนั , สงั คม (สํ + คมุ + อ) - สงเฺ ขป การย่อ เชน่ สมาโส การยอ่ (สํ + อสุ + ณ) - ภสุ ตถฺ แรง เชน่ สารตฺโต ก�ำหนัดอย่างแรง (สํ + รนชฺ + ต) - สหตฺถ อรรถ สห ศพั ท ์ เชน่ สํวาโส การอย่ดู ้วยกัน (สํ + วส + อ) - อปปฺ ตถฺ อรรถน้อย เช่น สมคโฺ ฆ มรี าคาถกู (สํ + อคฆฺ ) - ปภว การเกิดเบ้ืองแรก เชน่ สมภฺ โว ท่ีเกิดเบอ้ื งแรก, เหตุ (สํ + ภู + อ) - อภิมุขภาว ความเปน็ เฉพาะหนา้ เช่น สมมฺ ขุ ํ เฉพาะหน้า (สํ + มุข) - สงฺคห การรวบรวม เช่น สงฺคณฺหาติ ยอ่ มรวบรวม (สํ + คห + ณหฺ า + ต)ิ - ปิธาน การปดิ เชน่ สํวตุ ํ การปดิ (สํ + วร + ต) - ปนุ ปปฺ ุนกรณ กระท�ำบ่อยๆ เชน่ สนฺธาวติ ย่อมแลน่ ไปบอ่ ยๆ (สํ + ธาวุ + อ + ติ) - สมิทธฺ ิ บริบูรณ์ เชน่ สมฺปนโฺ น สมบรู ณ์แล้ว, ถงึ พร้อมแล้ว (สํ + ปท + ต) (๘) วิ วเิ ศษ, แจง้ , ต่าง, ตรงกันข้าม, ปราศจาก, แยกจากกนั , ผดิ ปกต ิ - วิเสส พิเศษ เชน่ วิมตุ ฺติ การพน้ โดยพเิ ศษ (วิ + มจุ + ติ) วิสิฏฺโ พเิ ศษ (วิ + เสส + ต) - วิวธิ ประการตา่ งๆ เช่น วมิ ติ ความรโู้ ดยอย่างต่างๆ, ความสงสยั (วิ+มน+ติ) วจิ ติ ฺรํ วจิ ติ ร (วิ + จินตฺ + ตรณฺ) - วริ ุทฺธ ตรงกันขา้ ม เช่น ววิ าโท การทะเลาะกนั (วิ + วท + อ) - วคิ ต ปราศจาก เชน่ วมิ ลํ ปราศจากมลทิน (วิ + มล + อ) - วโิ ยค แยกจากกัน เช่น วปิ ฺปยุตฺโต ไมป่ ระกอบ (วิ + ป+ ยชุ + ต) - วริ ูปตา ความมีรปู ผดิ ปกติ เช่น วริ ูโป ผูม้ ีรปู ผดิ แปลก (วิ + รูป)

81 นาม วา่ ดว้ ยบททป่ี ระกอบวภิ ัตตินาม (๙) อว (โอ) ลง, แยกจากกนั , ร,ู้ บรสิ ทุ ธ์,ิ ตดั สนิ , สถานท่,ี การลกั ขโมย - อโธภาค สว่ นภายใต้ เช่น อวกฺขิตฺตจกฺขุ ผมู้ ตี าอนั ทอดลง (อว + ขปิ + ต + จกฺข)ุ - วโิ ยค การแยกจากกนั เชน่ โอมกุ กฺ อุปาหโน ผมู้ รี องเทา้ อนั ถอดออกแลว้ (อว+มุจ+ต), อวโกกิลํ วนํ อ.ป่า อันนกดุเหว่า ทอดทงิ้ แลว้ (อว + โกกิล) - ปรภิ ว การดหู ม่นิ เชน่ อวชานนํ การดหู ม่ิน (อว + า + ย)ุ อวมฺ ติ ยอ่ มดหู มิ่น (อว + มน + ย + ต)ิ - ชานน การรู้ เชน่ อวคจฺฉติ ย่อมรู้ (อว + คมุ + อ + ติ) อวคมนํ การรู้ (อว + คมุ + ย)ุ - สทุ ฺธิ ความบริสุทธิ ์ เชน่ โวทานํ ความหมดจด (วิ + อว + ทา + ย)ุ - นิจฉฺ ย การตัดสิน เชน่ อวธารณํ การก�ำหนด (อว + ธร + ยุ) - เทส สถานที ่ เช่น อวกาโส สถานท่ี (อว + กาส + อ) - เถยฺย การขโมย เช่น อวหาโร การลักขโมย (อว + หร + อ) (๑๐) อนุ น้อย, ภายหลัง, ตาม, ไมข่ าดสาย, แรง, เหมือนกนั , ส่วน, กลา่ วซ�ำ้ - อนุคต การไปตาม เชน่ อเนวฺ ติ ยอ่ มไปตาม (อนุ + อิ + อ + ต)ิ - อนุปจฉฺ นิ ฺน ความไมข่ าด เชน่ อนสุ โย กเิ ลสอนั นอนเนอื่ งอยใู่ นสนั ดาน (อนุ + สิ + อ) - ปจฺฉาสททฺ ตถฺ อรรถ ปจฺฉา ศัพท ์ เชน่ อนุรถํ ภายหลงั รถ (อนุ + รถ) - ภุสตถฺ อรรถแรง เชน่ อนรุ ตโฺ ต กำ� หนดั อยา่ งแรง (อนุ + รนฺช + ต) - สาทิสสฺ เหมอื นกนั เชน่ อนรุ ปู ํ สมควร (อนุ + รูป) - หนี ตำ�่ ตอ้ ย เชน่ อนุ สารปิ ตุ ฺตํ ปฺวนฺโต อ.ผู้มีปัญญา ท. ด้อยกวา่ พระสารบี ตุ ร - ตตยิ ตถฺ อรรถ ตติยาวิภตั ต ิ เช่น นทมิ นฺววสติ า เสนา อ.กองทพั อย่ตู ดิ เนอ่ื งแล้ว กบั ด้วยแม่นำ�้ - ลกฺขณ ลกั ขณะ เช่น รกุ ขฺ ํ อนุ วชิ ฺโชตเต วชิ ชฺ ุ อ.สายฟา้ ย่อมส่องแสง กระทบตน้ ไม้ - อติ ถฺ มภฺ ตู กขฺ าน กลา่ วความพเิ ศษ เช่น สาธุ เทวทตโฺ ต มาตรํ อนุ อ.เทวทัต ปฏิบัตดิ ี ในมารดา - ภาค ส่วน เช่น ยเทตฺถ มํ อนุ สิยา, ตํ ทียตุ ในทรพั ย์ ท.เหลา่ นหี้ นา อ.ทรพั ยใ์ ด เปน็ ส่วนของเรา พึงม,ี อ.ทรพั ยน้นั อนั ทา่ น จงให้ -วิจฉฺ า กลา่ วซ้ำ� เชน่ รกุ ฺขํ รุกขฺ ํ อนุ วชิ โฺ ชตเต จนโฺ ท อ.พระจันทร์ ย่อมส่องแสง ทีต่ น้ ไมท้ ุกตน้

82 ไวยากรณ์บาลเี บอ้ื งต้น (๑๑) ปริ รอบ, ก�ำหนด, เวน้ , กอด, นุ่ง, บูชา, การให้บรโิ ภค, ดูหม่ิน, กลา่ วโทษ - สมนตฺ โตภาว ความเปน็ โดยรอบ เช่น ปริวุโต ถกู แวดล้อมแล้ว (ปริ + วร + ต) - ปริจฺเฉท การก�ำหนด เช่น ปรญิ ฺเยฺยํ ธรรมอันควรก�ำหนดรู้ (ปริ + า + ณย)ฺ - วชิ ชฺ น การเวน้ เช่น ปริหรติ ย่อมเว้น ย่อมหลกี (ปริ + หร + อ + ติ) - อาลงิ ฺคน การกอด เช่น ปริสสฺ ชติ ยอ่ มกอด (ปริ + สช + อ + ต)ิ - นิวาสน การนงุ่ เช่น วตถฺ ํ ปรธิ สสฺ ติ จักนุ่ง ซ่งึ ผ้า (ปริ + ธา + สสฺ ต)ิ - ปชู า การบชู า เช่น ปารจิ ริยา การรบั ใช้ (ปริ + จร + ณยฺ ) - โภชน การให้บริโภค เช่น ภกิ ขฺ ํุ ปรวิ สิ ติ ยอ่ มองั คาส ซงึ่ ภกิ ษุ (ปริ + วสิ + อ + ต)ิ - อวชานน การดหู มิ่น เช่น ปริภวติ ยอ่ มดูหมนิ่ (ปริ + ภู + อ + ต)ิ - โทสกฺขาน การกลา่ วโทษ เช่น ปรภิ าสติ ยอ่ มกลา่ วโทษ ยอ่ มดา่ (ปริ + ภาส + อ + ต)ิ - ลกขฺ ณ ลกั ขณะ เช่น รกุ ฺขํ ปริ วิชฺโชตเต วชิ ชฺ ุ อ.สายฟ้า ยอ่ มส่องแสง กระทบตน้ ไม้ (๑๒) อธิ ย่งิ , ใหญ,่ ทบั , ข้างบน, ครอบง�ำ, สวด, อธษิ ฐาน, ตัดสนิ , ถึง - อธกิ ย่ิง เช่น อธิสลี ํ ศีลอันยิ่ง (อธิ + สลี ) - อิสสฺ ร เปน็ ใหญ่ เชน่ อธปิ ติ ผเู้ ปน็ ใหญ่ อธิบดี (อธิ + ปต)ิ - อุปริภาว ความเป็นขา้ งบน เช่น อธิโรหติ ยอ่ มขึ้นข้างบน (อธิ + รุห + อ + ติ) ปถวึ อธเิ สสสฺ ติ จกั นอนทบั บนแผน่ ดนิ (อธิ + สิ + สสฺ ต)ิ - อธิภวน อรรถครอบง�ำ เชน่ อธภิ วติ ย่อมครอบงำ� (อธิ + ภู + อ + ต)ิ - อชฺฌายน อรรถการสวด เชน่ พฺยากรณมธเี ต ย่อมสวด ซง่ึ คมั ภรี ์ไวยากรณ์ (อธิ+อิ+เต) - อธฏิ ฐฺ าน การอธิษฐาน เช่น ภมู กิ มปฺ าทึ อธฏิ ฺ าติ (อธิ + า + อ + ต)ิ ยอ่ มอธษิ ฐาน ซ่งึ วิธมี ีการหวั่นไหว แหง่ แผน่ ดินเป็นต้น - นิจฉฺ ย การตดั สนิ เช่น อธิโมกโฺ ข การตัดสิน (อธิ + มจุ + อ) - ปาปุณน การถงึ หรอื ได้ เช่น โภคกขฺ นฺธํ อธคิ จฉฺ ติ ย่อมได้ ซง่ึ กองแหง่ โภคะ (อธ+ิ คมุ+อ+ติ) (๑๓) อภิ ยิง่ , ใหญ,่ จ�ำเพาะ, ข้างหนา้ , พิเศษ, เหมาะสม, กราบไหว้ - อภิมขุ ภาว ความเปน็ เฉพาะหนา้ เช่น อภมิ ุโข ผอู้ ยู่เฉพาะหนา้ (อภิ + มุข) อภกิ กฺ มติ ยอ่ มกา้ วไปขา้ งหนา้ (อภิ + กมุ + อ + ต)ิ - วสิ ิฏฺฐ พิเศษ เชน่ อภิธมฺโม ธรรมอันพิเศษกวา่ พระสตู รคอื อภิธรรม (อภ+ิ ธมมฺ ) - อธิก ยิ่ง เช่น อภิวสสฺ ติ ย่อมตกหนัก (อภิ + วสฺส + อ + ต)ิ - อุทฺธกมฺม กระท�ำข้างบน เช่น อภริ ุหติ ยอ่ มขึน้ (อภิ + รหุ + อ + ต)ิ

83 นาม ว่าดว้ ยบททป่ี ระกอบวิภัตตินาม - กลุ ตระกลู เชน่ อภชิ าโต ผู้เกิดมาในตระกลู ดี (อภิ + ชน + ต) - สารุปปฺ มสี ภาพเหมาะสม เชน่ อภิรโู ป ผ้มู ีรูปงาม (อภิ + รปู ) - วนทฺ น การกราบไหว ้ เช่น อภวิ าเทติ ยอ่ มกราบไหว้ (อภิ + วท + เณ + ต)ิ (๑๔) ปติ (ปฏ)ิ เฉพาะ, ตอบ, ทวน, กลับ, เหมอื นกัน, ถอื เอา, รู้ตลอด, อาศัย - ปติคต การอาศยั เชน่ ปจจฺ กขฺ ํ อารมณ์อนั อาศัยอินทรีย์ ๕ (ปติ + อกขฺ ) - ปฏโิ ลม ทวนกลบั เช่น ปฏิโสตํ ทวนกระแส (ปติ + โสต) - ปตนิ ิธิ เหมือน, ตวั แทน เชน่ อาจรยิ โต ปติ สสิ โฺ ส อ.ศิษย์ เหมอื นกบั อาจารย์ - ปติทาน การให้แทน เช่น เตลตถฺ ิกสฺส ฆตํ ปติ ททาติ ยอ่ มให้แทน ซึง่ เนยใส แกบ่ คุ คล ผ้ตู อ้ งการน้�ำมนั - นิเสธ การหา้ ม เช่น ปฏเิ สธนํ การปฏิเสธ (ปติ + เสธ + ย)ุ - นวิ ตฺตน การกลับ เชน่ ปฏิกกฺ มติ ย่อมก้าวกลับ ยอ่ มถอยหลัง (ปติ + กมุ + อ + ติ) - สาทสิ สฺ ความเหมือนกัน เชน่ ปติรปู กํ ของเทยี ม (ปติ + รปู ก) - ปตกิ รณ การเยยี วยา เชน่ ปตกิ าโร การเยียวยา (ปติ + กร + ณ) - อาทาน การถอื เอา เชน่ ปตคิ คฺ ณหฺ าติยอ่ มถอื เอายอ่ มรบั (ปต+ิ คห+ณหฺ า+ต)ิ - ปตโิ พธ การรตู้ ลอด เช่น ปฏเิ วโธ การแทงตลอด ปฏิเวธ (ปติ + วิธ + อ) - ปฏจิ ฺจ การอาศัย เชน่ ปจจฺ โย อาศัยแล้วเปน็ ไป ปจั จัย (ปติ + อิ + อ) (๑๕) สุ ด,ี งาม, งา่ ย, ดว้ ยด,ี บริบรู ณ์ - โสภน งาม เช่น สคุ นฺโธ กลนิ่ หอม (สุ + คนธฺ ) - สุฏฐฺ ุ ดี เชน่ สฏุ ฐฺ ุ คโต สคุ โต เสดจ็ ไปแลว้ ดว้ ยดี (เพราะเหตนุ น้ั ) ชื่อว่าสคุ ต ผูเ้ สดจ็ ไปดว้ ยดี (สุ + คต) - สมฺมา ดว้ ยด ี เช่น สมฺมา คโตติปิ สุคโต เสด็จไปแล้ว โดยชอบ แม้เพราะเหตุนนั้ ชื่อว่าสุคต ผเู้ สด็จไปโดยชอบ (สุ + คมุ + ต) - สมิทฺธิ บริบูรณ ์ เช่น สภุ ิกขฺ ํ ความบรบิ ูรณ์แหง่ อาหาร (สุ + ภกิ ฺขา) - สขุ ตถฺ ความงา่ ย เชน่ สกุ โร การงานอนั บคุ คลกระทำ� ไดโ้ ดยงา่ ย (ส+ุ กร+ข) (๑๖) อา ทัว่ , ยิง่ , กลับความ, เขตแดน, ถงึ , เริม่ ต้น, กอด, ถอื เอา, ใกล้, เรยี ก - อภิมุขภาว ความเปน็ เฉพาะหนา้ เชน่ อาคจฺฉติ ยอ่ มมา (อา + คมุ + อ + ติ) - อุทฺธกมมฺ กระท�ำขา้ งบน เชน่ อาโรหติ ย่อมขึ้น (อา + รหุ + อ + ต)ิ - มริยาท เขตแดน เชน่ อาปพฺพตา เขตฺตํ อ.นา ถึงภเู ขา - อภิวิธ ิ การแผไ่ ป เชน่ อากมุ ารํ ยโส กจจฺ ายนสฺส อ.ชื่อเสียง ของพระกัจจายนเถระ ถงึ เดก็ น้อย

84 ไวยากรณบ์ าลีเบอ้ื งตน้ - ปตฺต ิ การถึง เชน่ อาปตตฺ ึ อาปนโฺ น ตอ้ งแลว้ ซง่ึ อาบตั ิ (อา + ปท + ต) - อจิ ฺฉา ความปรารถนา เชน่ อากงขฺ า ความหวงั (อา + กขิ + อ + อา) - ปริสฺสชน การกอด เชน่ อาลงิ คฺ นํ การกอด (อา + ลคิ + ย)ุ - อาทิกมมฺ กระท�ำเบ้อื งแรก เชน่ อารมโฺ ภ การเรม่ิ ตน้ (อา + รภ + อ) - คหณ การถอื เอา เชน่ อาทยี ติ ย่อมถกู ถอื เอา (อา + ทา + ย + เต) อาลมฺพติ ย่อมหิ้ว (อา + ลพิ + อ + ต)ิ - นวิ าส การอยู่ เชน่ อาวสโถ ท่ีอยู่อาศยั (อา + วส + ถ) - สมีป ใกล้ เชน่ อาสนนฺ ํ ใกล้ (อา + สท + ต) - อวหฺ าน การเรียก เชน่ อามนเฺ ตสิ เรียกแลว้ (อา + มนตฺ + เณ + สฺ + อ)ี (๑๗) อติ ยิง่ , เกิน, ล่วง, แรง - อตกิ กฺ มน การลว่ งเลย เช่น อติโรจติ อมฺเหหิ ย่อมรุ่งโรจน์กว่า กว่าเรา ท. (อติ +รจุ + อ + ต)ิ อตโี ต กาลอนั ลว่ งไปแลว้ (อติ + อิ + ต) - อตกิ ฺกนตฺ เกนิ ไป เชน่ อจจฺ นตฺ ํ เกนิ ซ่ึงขอบเขต, โทษ (อติ + อนฺต) - อตสิ ย ยง่ิ เช่น อติกุสโล ฉลาดยงิ่ (อติ + กสุ ล) - ภสุ ตฺถ อรรถแรง เช่น อตกิ ฺโกโธ โกรธอย่างแรง, โกรธจัด (อติ + โกธ) อตวิ ทุ ธฺ ิ เจรญิ มาก (อติ + วุทฺธิ) (๑๘) อปิ ใกล,้ บน, มองหา, รวบรวม, ตเิ ตยี น, ค�ำถาม (มกี ารลบ อ ของ อปิ อปุ สคั บา้ ง) - สมฺภาวนา การสรรเสรญิ เชน่ อปิ ทิพฺเพสุ กาเมสุ แม้ในกาม ท. อันเปน็ ทิพย์ เมรุมฺปิ วินิวิชฺฌิตฺวา คจฺเฉยฺย เจาะแล้ว แม้ซ่ึง ภูเขาสิเนรุ พงึ ไป - อเปกขฺ า การมองหา เชน่ อยมปฺ ิ ธมฺโม อนิยโต แม้ อ.อาบัติน้ี ก็ไม่แน่นอน - สมุจฺจย การรวบรวม เชน่ อติ ปิ ิ อรหํ แมเ้ พราะเหตนุ ี้ ทรงเปน็ พระอรหันต์ อนตฺ มปฺ ิ อนตฺ คณุ มปฺ ิ อาทาย ถอื เอาแลว้ ซงึ่ ใสใ้ หญ ่ ดว้ ย ซงึ่ ใสน้ อ้ ยดว้ ย - ครห การตเิ ตยี น เช่น อปิ อมหฺ ากํ ปณฺฑิตก แน่ะบัณฑิตผู้น่าเกลียดของ เรา ท. - ปณหฺ ค�ำถาม เช่น อปิ ภนฺเต ภิกขฺ ํ ลภิตฺถ ขา้ แต่ทา่ นผู้เจรญิ อ.ทา่ น ไดแ้ ล้ว ซ่งึ อาหาร บ้างหรอื ? (๑๙) อป ปราศ, หลีก, ตเิ ตียน, บูชา, ประทุษร้าย - อปคต ปราศจาก เช่น อปมาโน ผมู้ ีมานะไปปราศแล้ว (อป + มาน) อเปโต ไปปราศแลว้ (อป + อิ + ต)

85 นาม ว่าดว้ ยบทท่ปี ระกอบวภิ ตั ตินาม - ครห การติเตียน เช่น อปคพฺโภ ผูม้ ีครรภอ์ ันเลว (อป + คพภฺ ) - วชฺชน การเวน้ เช่น อปสาลาย อายนฺติ วาณิชา อ.พอ่ ค้า ท. หลีกเวน้ จากศาลา ย่อมมา - ปชู า การบูชา เชน่ วทุ ธฺ าปจายี ผมู้ ีปกตอิ ่อนน้อมต่อผู้ใหญ่ (วุทธฺ + อป + จิ + ณี) - ปทสุ สฺ น การประทษุ รา้ ย เช่น อปรชฌฺ ติ ย่อมประพฤตผิ ดิ (อป+ราธ+ย+ต)ิ (๒๐) อุป เข้าไป, ใกล้, มนั่ , กลา่ วโทษ, ชอ่ื , กระท�ำข้างหน้า, การบชู า - อปุ คมน เขา้ ไปใกล ้ เชน่ นิสินฺนํ วา อปุ นิสีเทยฺย พงึ เข้าไปนง่ั ใกล้ ซง่ึ บคุ คล ผ้นู ่งั แล้ว กด็ ี (อปุ + นิ + สท + เอยฺย) - สมีป ใกล ้ เชน่ อปุ นครํ ใกลแ้ หง่ เมือง (อปุ + นคร) - อปุ ปตตฺ ิ การเข้าถึง เชน่ สคฺคํ โลกํ อปุ ปชฺชติ ยอ่ มเข้าถึง ซ่ึงโลกสวรรค์ (อุป + ปท + ย + ติ) หรอื แปลว่า สมควร เช่น อปุ ปตตฺ โิ ต อกิ ขฺ ตตี ิ อเุ ปกขฺ า ยอ่ มดู โดยความสมควร เพราะเหตนุ นั้ ชอ่ื วา่ อเุ ปกขฺ า (อปุ + อกิ ขฺ + อ + อา) - สาทิสสฺ ความเหมือนกัน เช่น อปุ มานํ อปุ มา อ.การเปรยี บเทยี บ ชอ่ื วา่ อปุ มา (อปุ +มา) - อธกิ ยง่ิ เช่น อปุ ขาริยํ โทโณ อ.ทะนาน ยง่ิ เกนิ กว่าขารี - อปุ ริภาว ความเปน็ ขา้ งบน เช่น อปุ สมฺปนฺโน ผูถ้ งึ ความเป็นภิกษอุ ันสูง (อปุ +ส+ํ ปท+ต) - อนสน การไมก่ ินอาหาร เชน่ อุปวาโส การอยูโ่ ดยไมก่ นิ อาหาร (อปุ + วส + ณ) - โทสกฺขาน การกลา่ วโทษ เช่น ปรํอปุ วทติ ยอ่ มวา่ รา้ ยซง่ึ บคุ คลอน่ื (อปุ +วท+อ+ต)ิ - สฺ า ชอื่ เช่น อปุ ธา ชอื่ ว่าอุปธา (อุป + ธา) อปุ สคโฺ ค อปุ สคั บท (อปุ + สชฺช + ณ) - ปุพพฺ กมมฺ กระทำ� ขา้ งหน้า เชน่ อุปกฺกโม การก้าวไปขา้ งหนา้ , ความบากบน่ั (อปุ + กมุ + อ) อุปกาโร กระท�ำคุณกอ่ น, อปุ การะ (อปุ + กร + ณ) - ปชู า การบูชา เชน่ พทุ ธฺ ปุ ฏฺาโก ผ้อู ปุ ฏั ฐากพระพุทธเจ้า (พุทธฺ + อุปฏฺาก) มาตุปฏฺ านํ การบ�ำรงุ มารดา (มาตุ + อุปฏฺ าน) - คยหฺ าการ อาการอนั ควรถอื เอา เช่น โสเจยฺยปฺปจจฺ ปุ ฏฺานํ ความปรากฏโดยความเปน็ บคุ คล ผู้สะอาด (โสเจยฺย + ปติ + อปุ ฏฺ าน) - ภุสตฺถ อรรถแรง เชน่ อปุ าทานํ การยึดมน่ั (อปุ + อา + ทา + ย)ุ อุปายาโส ความลำ� บากอยา่ งหนัก (อปุ + อายาส) อุปนสิ ฺสโย ท่ีอาศยั ใหญ่ (อปุ + นิ + สิ + อ)

86 ไวยากรณบ์ าลเี บ้อื งต้น ๓.๕.๓ นิบาตบท คำ� วา่ “นบิ าต” แปลวา่ ศพั ทท์ ต่ี กไป คอื ถกู วางไวข้ า้ งหนา้ บา้ ง ทา่ มกลางบา้ ง หรอื ทส่ี ดุ ของบทบ้าง มีวิเคราะห์ว่า “ปทานํ อาทิมชฺฌนฺเตสุ นิปตนฺตีติ นิปาตา” ย่อมตกไป ในเบ้ืองต้นท่ามกลาง และที่สุดของบททั้งหลาย เพราะเหตุน้ัน ชื่อว่านิบาต (นิ+ปต+อ), นปิ าตเมว เนปาติกํ นบิ าตนน่ั แหละ ชือ่ ว่าเนปาติกะ (นปิ าต + ณกิ ) นบิ าตนเ้ี ป็นบท ๆ หนึง่ ในบท ๔ คอื นามบท อปุ สคั บท นบิ าตบท และอาขยาตบท สำ� หรบั นบิ าตนเี้ ปน็ บททไ่ี มเ่ ปลย่ี นแปลง ในเรื่องของวภิ ัตติ หมายความวา่ จะลงวภิ ัตตนิ ามอะไรมากต็ าม จะตอ้ งถูกลบท้งิ ท้ังหมด นิบาตเป็นศัพท์โดด ๆ ก็มี เป็นศัพท์ท่ีส�ำเร็จมาจากนามโดยลงปัจจัยในอรรถของ วิภัตติก็มี เป็นศัพท์ท่ีส�ำเร็จมาจากตัทธิตที่เป็นอัพยยตัทธิตก็มี และเป็นศัพท์กิริยากิตก์ (ตเวตนุ าทปิ จั จยนั ตนัย) ท่ีสำ� เร็จมาจากธาตุปัจจัยโดยเฉพาะท่มี ี ตเว, ต,ํุ ตนุ , ตฺวาน และ ตวฺ า ปัจจยั เปน็ ทีส่ ุดก็มี รูปสำ� เร็จเปน็ นบิ าต เรยี กว่าอัพยยศพั ทท์ ง้ั หมด ดังนี้ (๑) นบิ าตแท้ๆ เป็นค�ำศพั ทโ์ ดดๆ ไม่สามารถแยกศพั ท์ได้ เช่น หิ, จ, ปน, ตุ เปน็ ต้น (๒) นิบาตที่ส�ำเร็จมาจากนามหรือสัพพนาม โดยการลงปัจจัยในอรรถของวิภัตติ สามารถแยกศัพท์ได้ เช่น เอตฺถ มาจาก “เอต + ถ ปัจจัย” เปน็ ต้น (๓) นิบาตท่ีส�ำเร็จมาจากอัพยยตัทธิต สามารถแยกศัพท์ได้ เช่น เอกธา มาจาก “เอก + ธา ปัจจยั ” เปน็ ต้น (๔) นบิ าตทส่ี ำ� เรจ็ มาจากกติ ก์ สามารถแยกศพั ทไ์ ด้ เชน่ กตวฺ า มาจาก “กร ธาตุ + ตวฺ า ปัจจยั ” เป็นต้น การจัดประเภทของนิบาต สามารถจัดได้ตามหน้าที่ของนิบาตน้ันๆ เช่น นิบาต ตน้ ข้อความ นิบาตบอกอาลปนะ นิบาตบอกความปรกิ ัปป์ และนิบาตท่ีเป็นกาลสตั ตมี เป็นตน้ ๑. นบิ าตบอกอาลปนะ (ค�ำร้องเรยี ก) อาวุโส ดกู อ่ นท่านผู้มีอายุ เช่น น ตํ ภายามิ อาวุโส ดกู ่อนทา่ นผมู้ อี ายุ อ.เรา ยอ่ มไม่กลวั ซงึ่ ทา่ น อมโฺ ภ แน่ะท่านผู้เจริญ เช่น อมโฺ ภ ปรุ ิส กึ ตุยฺหมิ ินา ปาปเกน ทุชฺชวี เิ ตน แนะ่ บุรษุ ผู ้เจริญ อ.ประโยชนอ์ ะไร ด้วยชีวิตท่ไี ม่ดี อันเลวทรามน้ี แกท่ า่ น หมโฺ ภ แน่ะท่านผู้เจรญิ เช่น หมฺโภ ปพุ ฺเพ ฉ สตถฺ าโร มยํ อรหนตฺ ามหฺ าติ วิจรสึ ุ แนะ่ ท่านผู้เจริญ อ.ครู ท. หก ในกาลก่อน กล่าวแลว้ ว่า อ.เรา ท. เป็นพระอรหันต์ ย่อมเป็น ดังนี้ เท่ียวไปแลว้ เร เฮย้ , เวย้ เช่น วกิ กฺ ม เร มหามคิ า แนะ่ กวางใหญเ่ อย๋ อ.ทา่ น จงขวนขวายเถดิ

87 นาม ว่าด้วยบททีป่ ระกอบวภิ ัตตินาม อเร เฮย้ , เวย้ เชน่ อเร ทฏุ ฐฺ โจรา เฮย้ โจรผชู้ ่ัวช้า ท. หเร เฮ้ย, เวย้ เชน่ หเร สขา กิสสฺ นุ มํ ชหาสิ เฮย้ เพอื่ น อ.ท่าน ย่อมท้ิง ซ่งึ เรา เพราะเหตอุ ะไรหนอ? เช แนะ่ แม่สาวใช้ เชน่ สเจ เช ตวฺ ํ สจฺจํ ภณสิ แน่ะแมส่ าวใช้ ถ้าวา่ อ.เธอ ยอ่ มพดู ซึ่งความจรงิ ไซร้ ๒. นบิ าตบอกกาล (กาลสตั ตม)ี สมฺปต ิ บดั เด๋ียวน,ี้ ในกาลน้ี เช่น สมปฺ ติ ชาตสฺส โพธสิ ตตฺ สสฺ เทวา ฉตฺตํ ธารยึสุ อ.เทวดา ท. กั้นแลว้ ซึง่ รม่ แก่พระโพธสิ ัตว์ ผ้เู กิดแลว้ ในบัดเด๋ยี วนี้ อายต ิ ในกาลตอ่ ไป เชน่ อายตึ โทสํ นาฺาย โย กาเม ปฏิเสวติ อ.บคุ คลใด ย่อมเสพ ซง่ึ กาม ท. เพราะไมร่ ู้ ซ่ึงโทษ ในกาลต่อไป อชชฺ ในวนั น ้ี เชน่ ตยฺ ชฺช ปตุ ฺเต น ปสฺสามิ อ.เรา ย่อมไม่เหน็ ซ่ึงบุตร ท. เหลา่ น้นั ในวนั นี้ อปรชชฺ ุ ในวนั อ่ืนอีก เชน่ มม กสิผลํ ภญุ ชฺ ติ วฺ า อปรชชฺ ุ เอว ฉาโต โหติ อ.บคุ คล บรโิ ภคแลว้ ซง่ึ ผลของการหวา่ นไถ ของเรา เปน็ ผหู้ วิ แลว้ ในวันอ่นื อกี น่นั เทยี ว ยอ่ มเปน็ สุเว ในวันพร่งุ นี้ เชน่ โก ชญฺ า มรณํ สเุ ว อ.ใคร พงึ รู้ ซง่ึ ความตาย ในวนั พรงุ่ น้ี เสวฺ ในวันพรุ่งน้ี เช่น ภนฺเต เสฺว อมฺหากํ ภกิ ฺขํ คณหฺ ถ ขา้ แตพ่ ระองคผ์ ู้เจรญิ อ.พระองค์ ขอจงรบั ซ่ึงภิกษา ของขา้ พระองค์ ท. ในวนั พรงุ่ น้ี ปรสเุ ว ในวันมะรนื น ี้ เชน่ สเุ ว วา ปรสุเว วา มรณํ วา ชวี ิตํ วา โก ชาเนยยฺ อ.ใคร พงึ รู้ ซ่ึงความตาย หรือ หรือว่าซ่ึงชวี ติ ในวนั พรงุ่ นี้ หรอื หรอื ว่า ในวนั มะรนื นี้ หยิ ฺโย ในวนั วาน เชน่ หิยโฺ ยปิ ปเรปิ ตยาเวตํ านํ สมฺมชฺชติ ํ อ.ทีน่ ั่น อนั เธอ น่ันเทยี ว กวาดแล้ว แม้ในวนั วาน แม้ในวันอื่นหรือ? ปเร ในวนั อน่ื เชน่ หิยฺโยปิ ปเรปิ ตยาเวตํ ฐานํ สมฺมชชฺ ติ ํ อ.ที่นน่ั อนั เธอ น่ันเทียว กวาดแล้ว แม้ในวนั วาน แมใ้ นวนั อืน่ หรือ? สชฺชุ ในวนั มอี ยู,่ ในวนั นี ้ เชน่ สชฺชุ ปาณหรํ มมเฺ ม ตาฬนํ อ.การนำ� ไปซ่งึ สัตว์ เปน็ การชก ในจดุ ที่สำ� คัญของเรา ในวนั นี้ สายํ ในเวลาเยน็ เช่น สายํ นโิ ครฺ ธปุ าคมึ อ.เรา ไดเ้ ขา้ ไปแลว้ สตู่ น้ ไทร ในเวลาเยน็

88 ไวยากรณ์บาลีเบ้ืองตน้ ปาโต ในเวลาเช้า เชน่ ปาโต ปณิ ฺฑาย จรนฺติ อ.ภิกษุ ท. ยอ่ มเท่ยี วไป เพื่อบิณฑบาต ในเวลาเช้า กาลํ ในเวลารุง่ สาง เช่น นายํ กาลํ อกาลํ วา อภชิ านาติ กกุ กฺ โุ ฏ อ.ไกน่ ้ี ยอ่ มไมร่ วู้ า่ เวลารงุ่ สาง หรือไม่ใชเ่ วลารงุ่ สาง กลลฺ ํ ในความสมควร เช่น อกลฺลํ มํ พฺราหฺมณา อ.พราหมณ์ ท. ยอ่ มถาม ซึ่งเรา ในสง่ิ ทไี่ ม่สมควร ทวิ า ในเวลากลางวนั เชน่ ทิวา วา รตฺโต วา หรนตฺ ิ เย พลึ อ.ชน ท.เหลา่ ใด ยอ่ มน�ำไป ซึง่ พลกี รรม ในเวลากลางวัน หรือ หรือว่า ในเวลากลางคนื นตตฺ ํ ในเวลากลางคนื เช่น นตตฺ ํ รตตฺ ิยํ มาลา ยสสฺ าติ นตฺตมาโล อ.ระเบียบ ของตน้ ไม้ใด มีอยู่ ในเวลากลางคืน เพราะเหตนุ ัน้ อ.ตน้ ไม้นนั้ ชอ่ื วา่ นตฺตมาล (ต้นกุ่ม, ไม้กะเช้า) นจิ จฺ ํ แนน่ อน, เป็นนิจ เช่น ธมเฺ มสุ นิจจฺ ํ อนุธมฺมจาร.ี อ.บุคคลผูม้ ปี กติประพฤติ ตามซึง่ ธรรม ในธรรม ท. เป็นนิจ สตตํ แนน่ อน, เปน็ ประจำ� เช่น สตตนฺติ นิรนตฺ รํ บทวา่ สตตํ ได้แก่ ตลอดไป อภิณฺหํ เนอื งๆ เชน่ อภณิ หฺ ํ ปจฺจเวกขฺ ติ พพฺ ํ อันภกิ ษุ พงึ พจิ ารณา เนอื งๆ อภกิ ฺขณํ เนืองๆ เชน่ อภิกฺขณํ ปรชชฺ ติ ย่อมยินดี เนอื งๆ มหุ ุํ เนืองๆ, บอ่ ยๆ เช่น กึ มํ มหุ ุํ เปกฺขสิ หฏฺ โลโม อ.ท่าน เป็นผูม้ ขี นอันลกุ แลว้ เป็น ย่อมมองดู ซ่งึ เรา เนอื งๆ เพราะอะไร? มหุ ตุ ตฺ ํ เพยี งชวั่ ครู่ เช่น มหุ ุตตฺ มปิ เจ วิญญฺ ,ู ปณฑฺ ติ ํ ปยิรุปาสติ หากว่า อ.ผรู้ ู้ ย่อมเขา้ ไปนง่ั ใกล้ ซ่ึงบัณฑติ แมเ้ พยี งชว่ั ครู่ ภูตปุพพฺ ํ ในอดตี กาล เช่น ภตู ปพุ พฺ ํ ภกิ ขฺ เว ดกู อ่ นภกิ ษุ ท. ในอดตี กาล (เคยมมี าแลว้ ) ปุรา ในกาลกอ่ น เช่น ทนเฺ ต อเิ ม ฉนิ ทฺ ีติ ปุรา มรามิ อ.นายพราน ตัดแลว้ ซงึ่ งา ท.เหลา่ นี้ เพราะเหตนุ นั้ อ.เรา ยอ่ มตาย ในกาลกอ่ น ยทา ในกาลใด เชน่ ยทา เต วิวทิสฺสนฺติ อ.ชน ท.เหลา่ นนั้ จกั ทะเลาะกนั ในกาลใด ตทา ในกาลน้ัน เช่น ตทา ปณณฺ รสโุ ปสโถ อโหสิ อ.วนั นนั้ เปน็ วนั อโุ บสถ ๑๕ คำ�่ ได้เป็นแล้ว ในกาลนั้น กทา ในกาลไหน เชน่ กทา อาคโตสิ อ.ท่าน เปน็ ผูม้ าแล้ว ในกาลไหน ย่อมเปน็


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook