แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏิบัติกจิ กรรม ท่ี พฤตกิ รรม ความสนใจ การแสดง การตอบ การยอมรบั ฟัง การท�ำ งาน หมาย ชอ่ื ความคิดเหน็ คำ�ถาม ความคดิ เห็น ท่ีไดร้ ับ เหตุ มอบหมาย ๔๓๒๑๔๓ ๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ (ลงชอ่ื )..........................................................ผปู้ ระเมนิ (.....................................................) .............../................./.................... เกณฑ์การวดั ผล ใหค้ ะแนนระดับคุณภาพของแตล่ ะกลมุ่ ดงั น้ี ดเี ยยี่ ม เทา่ กบั ๔ คะแนนคิดเปน็ ร้อยละ ๙๐ - ๑๐๐ ด ี เท่ากับ ๓ คะแนนคดิ เปน็ รอ้ ยละ ๗๐ - ๘๙ ปานกลาง เท่ากับ ๒ คะแนนคิดเปน็ ร้อยละ ๕๐ - ๖๙ ปรับปรงุ เทา่ กบั ๑ คะแนนคดิ เปน็ ร้อยละ ๕๐ 96 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวชิ าเพิม่ เตมิ การปอ้ งกนั การทุจรติ ”
แผนการจดั การเรยี นรู้ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ เวลา ๒ ชั่วโมง หน่วยที่ ๓ ชอื่ หน่วย STRONG : จิตพอเพียงต้านทจุ ริต แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี ๓ เรอ่ื ง การเสยี ภาษที ส่ี อดคล้องกบั STRONG : จติ พอเพียงต้านทจุ ริต ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกบั STRONG : จติ พอเพียงต้านทจุ ริต ๑.๒ ปฏิบตั ติ นเป็นผู้ท่ี STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทจุ ริต ๑.๓ ตระหนักและเห็นความส�ำคัญของการต่อตา้ นและปอ้ งกนั การทุจรติ ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๒.๑ นักเรยี นสามารถบอกการเสยี ภาษที ส่ี อดคล้องกับ STRONG ได้ ๒.๒ นกั เรยี นตระหนักและเห็นความสำ� คญั ของการต่อตา้ นและปอ้ งกนั การทจุ ริตในเรื่องการเสียภาษี ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) ภาษี หมายถึง เงินท่ีรัฐ หรือท้องถ่ินบังคับเก็บจากราษฎรเพื่อใช้จ่ายในการบริหารประเทศ หรอื ท้องถ่ินใหเ้ กิดประโยชนแ์ ก่สว่ นรวม เชน่ ภาษเี งินได้ ภาษบี ำ� รุงท้องท่ี ภาษที ดี่ ิน ฯลฯ ๒) การเลี่ยงภาษี คือการหลบหลีกเพ่ือให้เสียภาษีน้อยลง ซึ่งไม่ควรท�ำเพราะเป็นการกระท�ำ ทผ่ี ิดกฎหมาย ๓.๒ สมรรถนะส�ำคัญของผเู้ รยี น ๑) ความสามารถในการส่ือสาร ๒) ความสามารถในการคิด ๓.๓ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ความซอ่ื สตั ย์ ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขน้ั ตอนการเรียนรู้ ช่วั โมงท่ี ๑ ๑) ทบทวนเรื่อง การทุจริตเป็นอย่างไร ภาษี การเสี่ยงภาษี ท�ำไมบุคคลที่มีรายได้จึงต้อง เสียภาษี นกั เรียนตอ้ งเสียภาษหี รอื ไม่ อย่างไร รฐั เอาเงินภาษไี ปท�ำอะไร ดหี รือไมอ่ ยา่ งไร ๒) ทบทวน STRONG Model S,T,R,O,N,G มาจากคำ� ว่าอะไร และหมายถงึ อยา่ งไร ระดับชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ 97
ชว่ั โมงที่ ๒ ๑) นักเรียนช่วยกันบอกเรอ่ื งภาษวี ่าในประเทศมีภาษีอะไรบ้าง ตวั อย่างเชน่ - ภาษเี งนิ ได้ - ภาษกี ารค้า - ภาษรี ถยนต์ - ภาษที ี่ดิน - ภาษมี ลู ค่าเพิม่ - ภาษขี ายของผา่ นระบบออนไลน์ ฯลฯ ๒) ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๖ เขียนแผนผังความคิดการเสียภาษีที่สอดคล้องกับ STRONG : จิตพอเพียงตา้ นทุจรติ ในใบงานทแ่ี จก ๓) ใหแ้ ต่ละกลุ่มส่งตวั แทนนำ� เสนอผลงาน ๔.๒ สื่อการเรียนรู้/แหล่งเรียนรู้ ใบงานแผนผงั ความคดิ การเสียภาษีทีส่ อดคล้องกับ STRONG ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๕.๑ วิธกี ารประเมิน ๑) สงั เกตพฤติกรรมกล่มุ ๒) ตรวจผลงานแผนผังความคดิ การเสยี ภาษีทสี่ อดคลอ้ งกับ STRONG :จิตพอเพยี งตา้ นทจุ รติ ๕.๒ เคร่อื งมือท่ใี ช้ในการประเมนิ ๑) แบบสงั เกตพฤติกรรมกล่มุ ๒) แบบประเมนิ ผลงาน ๕.๓ เกณฑก์ ารตัดสิน นกั เรียนผ่านเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ ๘๐ ๖. บนั ทกึ หลงั การจดั การเรยี นรู้ ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ลงช่ือ........................................ครผู ู้สอน (.......................................) 98 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวชิ าเพม่ิ เตมิ การป้องกนั การทจุ ริต”
๗. ภาคผนวก ใบความรู้ ภำษ ี หมำยถงึ เงนิ ทร่ี ฐั หรอื ทอ้ งถน่ิ บงั คบั เกบ็ จำกรำษฎรเพอ่ื ใชจ้ ำ่ ยในกำรบรหิ ำรประเทศ หรือท้องถน่ิ ใหเ้ กิดประโยชนแ์ กส่ ่วนรวม เช่น ภำษีเงนิ ได้ ภำษีบ�ำรุงทอ้ งท่ ี ภำษที ด่ี นิ ฯลฯ กำรเลยี่ งภำษ ี คอื กำรหลบหลกี เพอ่ื ใหเ้ สยี ภำษนี อ้ ยลง ซงึ่ ไมค่ วรทำ� เพรำะเปน็ กำรกระทำ� ทผี่ ิดกฎหมำย ระดบั ช้ันประถมศึกษำปที ี่ ๖ 99
แผนผังความคดิ การเสียภาษีทีส่ อดคลอ้ งกับ โมเดล STRONG : จติ พอเพียงต้านทุจรติ S TR การเสยี ภาษี ทส่ี อดคล้องกับโมเดล STRONG : จติ พอเพียงตา้ นทจุ รติ ON G กลุม่ ที่......................รายชอื่ ............................................................................................................... 100 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวิชาเพมิ่ เตมิ การป้องกันการทจุ รติ ”
แบบประเมนิ พฤติกรรมการท�ำงานกลมุ่ กลมุ่ .......................................................................................................... สมาชกิ ในกลมุ่ ๑................................................................. ๒................................................................. ๓................................................................. ๔................................................................. ๕................................................................. ๖................................................................. ๗................................................................. ๘................................................................. ๙................................................................. ๑๐............................................................... ค�ำช้แี จง ทำ� เครื่องหมาย ลงในช่องทีต่ รงกบั ความเปน็ จริง พฤติกรรมที่สังเกต คะแนน ๓๒๑ ๑. มีสว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เห็น ๒. มคี วามกระตือรอื ร้นในการทำ� งาน ๓. มีความรบั ผิดชอบในงานท่ีได้รบั มอบหมาย ๔. มขี ้ันตอนในการทำ� งานอยา่ งเป็นระบบ ๕. ใช้เวลาในการทำ� งานอย่างเหมาะสม รวม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน พฤติกรรมที่ท�ำเปน็ ประจำ� ให้ ๓ คะแนน พฤตกิ รรมท่ที ำ� เปน็ บางครัง้ ให้ ๒ คะแนน พฤตกิ รรมท่ที �ำน้อยครง้ั ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดับ ดเี ยีย่ ม คะแนน ๑๓ - ๑๕ ระดบั ดี คะแนน ๘ - ๑๒ ระดบั พอใช้ คะแนน ๕ - ๗ ระดับ ปรับปรงุ คะแนนตา่ํ กว่า ๕ ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ 101
แบบประเมนิ ผลงาน ท่ี พฤติกรรม ตรงจดุ ประสงค์ ผลงานมี การน�ำ เสนอ เสร็จทันเวลาท่ี รวม ชอ่ื ท่กี �ำหนด ความถกู ตอ้ ง ผลงาน กำ�หนด ๑๖ สมบูรณ์ ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ (ลงชอ่ื )..........................................................ผ้ปู ระเมนิ (.....................................................) .............../................./.................... เกณฑก์ ารวดั ผล ใหค้ ะแนนระดับคุณภาพของแต่ละกล่มุ ดังนี้ ดเี ยยี่ ม เท่ากับ ๔ คะแนนคิดเปน็ ร้อยละ ๙๐ - ๑๐๐ ดี เทา่ กบั ๓ คะแนนคดิ เปน็ รอ้ ยละ ๗๐ - ๘๙ ปานกลาง เท่ากับ ๒ คะแนนคดิ เปน็ รอ้ ยละ ๕๐ - ๖๙ ปรับปรงุ เทา่ กับ ๑ คะแนนคิดเปน็ ร้อยละ ๕๐ 102 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวิชาเพ่ิมเตมิ การปอ้ งกันการทุจริต”
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั ิกจิ กรรม ท่ี พฤติกรรม ความสนใจ การแสดง การตอบ การยอมรับฟัง การท�ำ งาน หมาย ช่อื ความคดิ เหน็ ค�ำ ถาม ความคดิ เหน็ ทไ่ี ดร้ ับ เหตุ มอบหมาย ๔๓๒๑๔๓ ๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ (ลงชื่อ)..........................................................ผู้ประเมิน (.....................................................) .............../................./.................... เกณฑก์ ารวดั ผล ให้คะแนนระดับคณุ ภาพของแต่ละกลุ่ม ดงั นี้ ดีเยีย่ ม เทา่ กบั ๔ คะแนนคิดเป็นรอ้ ยละ ๙๐ - ๑๐๐ ดี เท่ากับ ๓ คะแนนคิดเป็นร้อยละ ๗๐ - ๘๙ ปานกลาง เท่ากบั ๒ คะแนนคดิ เปน็ รอ้ ยละ ๕๐ - ๖๙ ปรับปรุง เท่ากบั ๑ คะแนนคิดเป็นรอ้ ยละ ๕๐ ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ 103
แผนการจัดการเรียนรู้ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ เวลา ๒ ชว่ั โมง หน่วยท่ี ๓ ชื่อหน่วย STRONG : จติ พอเพียงตา้ นทจุ ริต แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๔ เรือ่ ง การเลือกตงั้ ที่สอดคลอ้ งกับ STRONG : จติ พอเพียงตา้ นทุจรติ ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกับ STRONG : จติ พอเพยี งต้านทจุ รติ ๑.๒ ปฏิบตั ติ นเป็นผู้ที่ STRONG :จิตพอเพยี งตา้ นทจุ ริต ๑.๓ ตระหนกั และเห็นความสำ� คญั ของการต่อต้านและปอ้ งกนั การทจุ ริต ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ นกั เรยี นสามารถบอกการเลือกตงั้ ที่สอดคล้องกับ STRONG ได้ ๒.๒ นักเรยี นตระหนกั และเห็นความส�ำคัญของการตอ่ ตา้ นและป้องกันการทุจรติ ในเรอ่ื งการเลอื กต้งั ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ความหมายของการเลือกตงั้ การเลอื กตง้ั หมายถึง การทร่ี าษฎรใช้สิทธขิ องตนเองลงคะแนนเสยี งเลือกตวั แทน เพื่อทําหนา้ ท่ี แทนตนในการปกครองแตล่ ะระดับของประเทศ เช่น การเลอื กตง้ั สมาชกิ สภาผแู้ ทนราษฎร การเลอื กตัง้ สมาชกิ สภาจงั หวัด เปน็ ต้น ๓.๒ สมรรถนะส�ำคัญของผู้เรยี น ๑) ความสามารถในการสอ่ื สาร ๒) ความสามารถในการคดิ ๓.๓ คุณลกั ษณะทพี่ งึ ประสงค์ ความซ่ือสัตย์ ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ข้ันตอนการเรียนรู้ ชั่วโมงท่ี ๑ ๑) ทบทวนความหมายของการทุจริต ความหมายของการต้านทุจริต ความหมายของค�ำว่า STRONG ๒) นักเรียนศกึ ษาใบความรู้ เรอ่ื ง การเลือกต้ังหมายถึง ๓) ครูและนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ เรื่องของ - การเลอื กตงั้ - เลือกต้งั ได้อะไรบ้าง - ทำ� ไมต้องเลอื กตง้ั - ถ้าไมเ่ ลือกตัง้ จะเปน็ อะไรไหม 104 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพ่มิ เตมิ การป้องกันการทุจริต”
- ในฐานะท่เี ปน็ นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ นักเรยี นเลอื กตง้ั อะไรไดบ้ ้าง - ในอนาคตนักเรียนมีสิทธิเลอื กตั้ง นกั เรยี นจะไปใช้สิทธิไหม เพราะอะไร ช่วั โมงที่ ๒ ๑) ใหน้ ักเรยี นช่วยกันบอกประโยชน์ของการเลอื กตั้งวา่ มีอะไรบ้าง เชน่ - สง่ เสรมิ คุ้มครองสทิ ธิเสรีภาพของประชาชน - ใหป้ ระชาชนมีสว่ นรวมทางการเมือง - มีการตรวจสอบการใชอ้ �ำนาจรัฐ - ประชาชนมีโอกาสตัดสินใจกำ� หนดปญั หาและความต้องการของตนเองอยา่ งแทจ้ ริง - ด�ำรงไว้ซึ่งความนา่ เชื่อถือและความชอบธรรม ๒) แบ่งกลุ่มนักเรียน ๖ กลุ่ม เขียนแผนผังความคิดการเลือกตั้งที่สอดคล้องกับ STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทุจริตใหน้ ักเรียนออกแบบแผนผังความคดิ ของกลุ่มตนเอง ๓) แตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนนำ� เสนอการเลอื กตั้งที่สอดคล้องกบั STRONG :จิตพอเพียงต้านทจุ ริต ๔.๒ ส่อื การเรยี นรู้ ๑) ใบงาน เรือ่ งความหมายของการเลอื กตงั้ ๒) ใบงานแผนผงั ความคดิ การเลอื กตง้ั ท่ีสอดคลอ้ งกับ STRONG :จิตพอเพยี งต้านทจุ รติ ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๕.๑ วิธกี ารประเมิน ๑) สงั เกตพฤตกิ รรม ๒) ตรวจผลงานแผนผงั ความคดิ การเลอื กตั้งทสี่ อดคลอ้ งกับ STRONG :จิตพอเพยี งตา้ นทจุ ริต ๕.๒ เคร่ืองมอื ท่ใี ช้ในการประเมิน ๑) แบบสังเกตพฤตกิ รรมกลุ่ม ๒) แบบประเมนิ ผลงาน ๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สนิ นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ ขึ้นไป ๖. บนั ทกึ หลังการจัดการเรียนรู้ ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ลงชอ่ื ........................................ครผู ู้สอน (.......................................) ระดับชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ 105
๗. ภาคผนวก ใบความรู้ กำรเลือกตั้ง หมำยถึง กำรท่ีรำษฎรใช้สิทธิของตนเองลงคะแนนเสียงเลือกตัวแทน เพ่ือ ท�ำหน้ำท่ีแทนตนในกำรปกครองแต่ละระดับของประเทศ เช่น กำรเลือกต้ังสมำชิกสภำผู้แทน รำษฎรกำรเลอื กต้งั สมำชกิ สภำจังหวัด เป็นตน้ 106 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพ่มิ เตมิ การป้องกนั การทุจริต”
แผนผงั ความคิด การเลอื กตง้ั ทสี่ อดคล้องกบั โมเดล STRONG : จิตพอเพียงตา้ นทุจรติ S TR การเลือกต้ัง ทส่ี อดคลอ้ งกับโมเดล STRONG : จติ พอเพยี งต้านทจุ ริต ON G กลุ่มที่......................รายชื่อ............................................................................................................... ระดับชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ ๖ 107
แบบประเมินพฤติกรรมการท�ำงานกลุ่ม กล่มุ .......................................................................................................... สมาชิกในกลมุ่ ๑................................................................. ๒................................................................. ๓................................................................. ๔................................................................. ๕................................................................. ๖................................................................. ๗................................................................. ๘................................................................. ๙................................................................. ๑๐............................................................... ค�ำช้ีแจง ทำ� เครื่องหมาย ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ความเปน็ จริง พฤติกรรมทส่ี งั เกต คะแนน ๓๒๑ ๑. มีส่วนรว่ มในการแสดงความคดิ เห็น ๒. มีความกระตือรือร้นในการท�ำงาน ๓. มีความรบั ผดิ ชอบในงานทไ่ี ด้รับมอบหมาย ๔. มขี ัน้ ตอนในการทำ� งานอย่างเป็นระบบ ๕. ใชเ้ วลาในการทำ� งานอย่างเหมาะสม รวม เกณฑก์ ารให้คะแนน พฤตกิ รรมท่ีทำ� เปน็ ประจำ� ให้ ๓ คะแนน พฤติกรรมทท่ี ำ� เปน็ บางครั้ง ให้ ๒ คะแนน พฤตกิ รรมทีท่ ำ� นอ้ ยครง้ั ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดับ ดเี ย่ียม คะแนน ๑๓ - ๑๕ ระดบั ดี คะแนน ๘ - ๑๒ ระดับ พอใช้ คะแนน ๕ - ๗ ระดับ ปรบั ปรงุ คะแนนตํา่ กว่า ๕ 108 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพม่ิ เตมิ การป้องกันการทจุ ริต”
แบบประเมนิ ผลงาน ที่ พฤติกรรม ตรงจดุ ประสงค์ ผลงานมี การนำ�เสนอ เสรจ็ ทนั เวลาท่ี รวม ช่อื ทีก่ �ำหนด ความถูกตอ้ ง ผลงาน ก�ำ หนด ๑๖ สมบูรณ์ ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ (ลงช่อื )..........................................................ผปู้ ระเมนิ (.....................................................) .............../................./.................... เกณฑ์การวัดผล ใหค้ ะแนนระดับคุณภาพของแต่ละกลมุ่ ดงั นี้ ดีเยยี่ ม เทา่ กบั ๔ คะแนนคดิ เปน็ ร้อยละ ๙๐ - ๑๐๐ ดี เทา่ กับ ๓ คะแนนคิดเปน็ ร้อยละ ๗๐ - ๘๙ ปานกลาง เทา่ กับ ๒ คะแนนคิดเป็นร้อยละ ๕๐ - ๖๙ ปรับปรงุ เท่ากบั ๑ คะแนนคดิ เปน็ ร้อยละ ๕๐ ระดบั ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖ 109
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏิบัติกจิ กรรม ที่ พฤตกิ รรม ความสนใจ การแสดง การตอบ การยอมรบั ฟัง การท�ำ งาน หมาย ช่ือ ความคิดเหน็ คำ�ถาม ความคดิ เห็น ท่ีไดร้ ับ เหตุ มอบหมาย ๔๓๒๑๔๓ ๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ (ลงชอ่ื )..........................................................ผปู้ ระเมนิ (.....................................................) .............../................./.................... เกณฑ์การวดั ผล ใหค้ ะแนนระดบั คุณภาพของแตล่ ะกลมุ่ ดงั น้ี ดเี ย่ยี ม เทา่ กับ ๔ คะแนนคิดเปน็ ร้อยละ ๙๐ - ๑๐๐ ด ี เท่ากับ ๓ คะแนนคดิ เปน็ รอ้ ยละ ๗๐ - ๘๙ ปานกลาง เท่ากับ ๒ คะแนนคิดเปน็ ร้อยละ ๕๐ - ๖๙ ปรับปรงุ เท่ากับ ๑ คะแนนคดิ เปน็ ร้อยละ ๕๐ 110 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพิม่ เตมิ การปอ้ งกนั การทุจรติ ”
แผนการจดั การเรียนรู้ ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ เวลา ๒ ชวั่ โมง หนว่ ยท่ี ๓ ชือ่ หนว่ ย STRONG : จติ พอเพียงต้านทจุ ริต แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๕ เรือ่ ง พนื้ ทส่ี าธารณะทส่ี อดคล้องกับ STRONG : จติ พอเพียงตา้ นทุจริต ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทุจรติ ๑.๒ ปฏิบัติตนเปน็ ผทู้ ่ี STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต ๑.๓ ตระหนักและเห็นความส�ำคญั ของการต่อต้านและป้องกันการทจุ ริต ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๒.๑ นกั เรียนสามารถบอกการใชพ้ ื้นท่สี าธารณะทสี่ อดคล้องกับSTRONG:จติ พอเพยี งตา้ นทจุ รติ ๒.๒ นักเรียนตระหนักและเห็นความส�ำคัญของการต่อต้านและป้องกันการทุจริตในเรื่องการใช้พื้นที่ สาธารณะ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ความหมายของค�ำว่าพ้ืนท่ีสาธารณะ หมายถึงพื้นท่ีที่อยู่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน คือ พื้นที่ที่ต้อง ‘ปลอด’ จาก ‘อ�ำนาจ’ ของสถาบันใหญ่ในสังคม ถึงจะเรียกได้ว่าเป็นพื้นที่สาธารณะอย่างแท้จริง อ�ำนาจใหญ่ๆ ท่ีว่ามีอาทิอ�ำนาจรัฐกับอ�ำนาจทุน แต่ถ้าเราทอดตาดูสวนสาธารณะในไทย เราจะพบว่า แทบทั้งหมดถูกก�ำกับส่ังการโดยอ�ำนาจรัฐแทบทั้งสิ้น หรือในบางพ้ืนท่ีก็อยู่ในอ�ำนาจทุน แต่เราไม่เคยมี ‘จัตุรัสกลางเมือง’ หรือ ‘สวนสาธารณะ’ (หรือสาธารณูปโภคทางปัญญาอ่ืนๆ) ท่ีเป็นของคนทั่วไป ที่สร้าง ‘กลไก’ ให้คนท่ัวไปสามารถมีสิทธิก�ำหนดได้ว่าอยากให้พ้ืนท่ีน้ันๆ เป็นอย่างไร-เลย ท่ีเป็นอย่างน้ันก็เพราะว่า รัฐไทยไม่เคยมี ‘ส�ำนึกสาธารณะ’ ในอันที่จะให้ประชาชนคนทั่วไปที่เป็นคนธรรมดาสามัญสามารถสร้างพ้ืนท่ี อะไรข้ึนมาได้ ๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ (สมรรถนะทีเ่ กิด) ๑) ความสามารถในการสื่อสาร ๒) ความสามารถในการคิด ๓.๓ คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์/คา่ นยิ ม ความซ่ือสัตย์ ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขนั้ ตอนการเรยี นรู้ ชัว่ โมงที่ ๑ ๑) นกั เรียนทบทวนความหมายของการทจุ ริต ความหมายของการตา้ นทุจริต ๒) นักเรียนอ่านใบความรู้เรื่องความหมายของพื้นท่ีสาธารณะชน ประโยชน์ของพื้นที่สาธารณะ และรว่ มกันแสดงความคิดเหน็ ๓) ครแู ละนกั เรยี นชว่ ยกนั สรุป ระดับช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ 111
ช่ัวโมงที่ ๒ ๑) นักเรยี นดูวดี ิทัศน์ เร่ืองที่ ๑ จาก https://www.youtube.com/watch?v=W๐NUsmXg5qw เรือ่ งวางของก๊กั ทีจ่ อดรถโทษสูงสุดปรับ ๑ หมื่นบาท เรื่องที่ ๒ จาก https://www.youtube.com/watch?v=zKfBPqU๓oSM เรอ่ื งมารยาทในทส่ี าธารณะ ๒) เมอ่ื นกั เรยี นดจู บแลว้ ให้นักเรยี นรว่ มกันตอบคำ� ถามดังนี้ - ในเร่อื งเป็นเรอ่ื งอะไร - ในเรือ่ งนถ้ี อื วา่ เป็นการใชพ้ ้นื ท่ีสาธารณะเผ่อื ตวั เองหรือไม่ - วธิ ีการท่ีแกป้ ัญหาจะท�ำอยา่ งไร - บอกมารยาทในการใช้สวนสาธารณะ ๓) ให้นักเรียนแต่ละคนเขียนแผนผังความคิดการใช้พื้นท่ีสาธารณะท่ีสอดคล้องกับ STRONG : จติ พอเพียงตา้ นทุจริต ในกระดาษฟลิปชาร์ทท่คี รแู จกให้ เมื่อท�ำเสรจ็ แลว้ ครูสมุ่ เลขท่นี ักเรยี นนำ� เสนอหน้าชนั้ ๔) ครูและนักเรียนช่วยกันสรุปการใช้พ้ืนท่ีสาธารณะที่สอดคล้องกับ STRONG : จิตพอเพียง ตา้ นทจุ ริต ๔.๒ ส่อื การเรียนรู้/แหล่งการเรยี นรู้ ๑) วีดิทศั น์เร่ือง วางของก๊ักทีจ่ อดรถโทษสูงสุดปรับ ๑ หมื่นบาท ใช้เวลา ๔.๑๘ นาที ๒) วดี ิทศั น์เรอ่ื ง มารยาทในท่สี าธารณะ ใชเ้ วลา ๕.๒๑ นาที ๓) ใบงานเรื่องแผนผังความคิดการใช้พ้ืนท่ีสาธารณะที่สอดคล้องกับ STRONG : จิตพอเพียง ต้านทจุ รติ ๔) กระดาฟลิปชารท์ ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วิธกี ารประเมิน ๑) สงั เกตพฤติกรรมท�ำงานกล่มุ ๒) ตรวจใบงานเรอ่ื งแผนผงั ความคดิ การใชพ้ นื้ ทส่ี าธารณะทส่ี อดคลอ้ งกบั STRONG : จติ พอเพยี ง ตา้ นทจุ รติ ๕.๒ เครือ่ งมือท่ีใชใ้ นการประเมิน ๑) แบบสังเกตพฤตกิ รรมท�ำงานกล่มุ ๒) ใบงานเรื่องแผนผังความคิดการใช้พื้นท่ีสาธารณะท่ีสอดคล้องกับ STRONG : จิตพอเพียง ตา้ นทจุ ริต ๕.๓ เกณฑ์การตัดสนิ นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๘๐ ขนึ้ ไปถอื วา่ ผา่ น 112 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวิชาเพม่ิ เติม การป้องกันการทจุ รติ ”
๖. บนั ทึกหลังการจัดการเรียนรู้ ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ลงชอื่ ........................................ครผู ู้สอน (.......................................) ๗. ภาคผนวก ใบความรู้ ควำมหมำยของค�ำว่ำพื้นท่ีสำธำรณะ หมำยถึงพื้นที่ที่อยู่ใช้ประโยชน์ร่วมกัน คือ พ้ืนท่ี ที่ต้อง ‘ปลอด’ จำก ‘อ�ำนำจ’ ของสถำบันใหญ่ในสังคมนะครับ ถึงจะเรียกได้ว่ำเป็นพ้ืนที่ สำธำรณะอย่ำงแท้จริง อ�ำนำจใหญ่ๆ ที่ว่ำมีอำทิอ�ำนำจรัฐกับอ�ำนำจทุน แต่ถ้ำเรำทอดตำดู สวนสำธำรณะในไทย เรำจะพบว่ำแทบท้ังหมดถูกก�ำกับสั่งกำรโดยอ�ำนำจรัฐแทบท้ังสิ้น หรือ ในบำงพื้นท่ีก็อยู่ในอ�ำนำจทุน แต่เรำไม่เคยมี ‘จัตุรัสกลำงเมือง’ หรือ ‘สวนสำธำรณะ’ (หรือ สำธำรณปู โภคทำงปญั ญำอนื่ ๆ) ท่ีเป็นของคนท่ัวไป ที่สร้ำง ‘กลไก’ ให้คนทว่ั ไปสำมำรถมสี ทิ ธิ กำ� หนดไดว้ ำ่ อยำกใหพ้ น้ื ทนี่ นั้ ๆ เปน็ อยำ่ งไร-เลย ทเี่ ปน็ อยำ่ งนน้ั กเ็ พรำะวำ่ รฐั ไทยไมเ่ คยม ี ‘สำ� นกึ สำธำรณะ’ ในอันท่ีจะให้ประชำชนคนท่ัวไปท่ีเป็นคนธรรมดำสำมัญสำมำรถสร้ำงพื้นท่ีอะไร ขึ้นมำได้ ระดับช้นั ประถมศึกษำปที ่ ี ๖ 113
ใบงาน เรือ่ งแผนผังความคิดการใชพ้ ้นื ทสี่ าธารณะท่ีสอดคลอ้ งกับ STRONG : จิตพอเพยี งต้านทุจริต รายช่ือ.....................................................................................................ชน้ั .................เลขท.ี่ ............... 114 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพม่ิ เติม การปอ้ งกันการทุจรติ ”
แผนผงั ความคิด พนื้ ทสี่ าธารณะทสี่ อดคลอ้ งกบั โมเดล STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทจุ ริต S TR พน้ื ทส่ี าธารณะ ที่สอดคล้องกบั โมเดล STRONG : จิตพอเพยี งต้านทุจริต ON G กลุ่มที่......................รายช่อื ............................................................................................................... ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ 115
แบบประเมินพฤติกรรมการท�ำงานกลุ่ม กล่มุ .......................................................................................................... สมาชิกในกลมุ่ ๑................................................................. ๒................................................................. ๓................................................................. ๔................................................................. ๕................................................................. ๖................................................................. ๗................................................................. ๘................................................................. ๙................................................................. ๑๐............................................................... ค�ำช้ีแจง ทำ� เครื่องหมาย ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ความเปน็ จริง พฤติกรรมทส่ี งั เกต คะแนน ๓๒๑ ๑. มีส่วนรว่ มในการแสดงความคดิ เห็น ๒. มีความกระตือรือร้นในการท�ำงาน ๓. มีความรบั ผดิ ชอบในงานทไ่ี ด้รับมอบหมาย ๔. มขี ัน้ ตอนในการทำ� งานอย่างเป็นระบบ ๕. ใชเ้ วลาในการทำ� งานอย่างเหมาะสม รวม เกณฑก์ ารให้คะแนน พฤตกิ รรมท่ีทำ� เปน็ ประจำ� ให้ ๓ คะแนน พฤติกรรมทท่ี ำ� เปน็ บางครั้ง ให้ ๒ คะแนน พฤตกิ รรมทีท่ ำ� นอ้ ยครง้ั ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดับ ดเี ย่ียม คะแนน ๑๓ - ๑๕ ระดบั ดี คะแนน ๘ - ๑๒ ระดับ พอใช้ คะแนน ๕ - ๗ ระดับ ปรบั ปรงุ คะแนนตํา่ กว่า ๕ 116 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพม่ิ เตมิ การป้องกันการทจุ ริต”
แบบประเมนิ ผลงาน ที่ พฤติกรรม ตรงจดุ ประสงค์ ผลงานมี การนำ�เสนอ เสรจ็ ทนั เวลาท่ี รวม ช่อื ทีก่ �ำหนด ความถูกตอ้ ง ผลงาน ก�ำ หนด ๑๖ สมบูรณ์ ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ (ลงช่อื )..........................................................ผปู้ ระเมนิ (.....................................................) .............../................./.................... เกณฑ์การวัดผล ใหค้ ะแนนระดับคุณภาพของแต่ละกลมุ่ ดงั นี้ ดีเยยี่ ม เทา่ กบั ๔ คะแนนคดิ เปน็ ร้อยละ ๙๐ - ๑๐๐ ดี เทา่ กับ ๓ คะแนนคิดเปน็ ร้อยละ ๗๐ - ๘๙ ปานกลาง เทา่ กับ ๒ คะแนนคิดเป็นร้อยละ ๕๐ - ๖๙ ปรับปรงุ เท่ากบั ๑ คะแนนคดิ เปน็ ร้อยละ ๕๐ ระดบั ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖ 117
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการปฏิบัติกจิ กรรม ที่ พฤตกิ รรม ความสนใจ การแสดง การตอบ การยอมรบั ฟัง การท�ำ งาน หมาย ช่ือ ความคิดเหน็ คำ�ถาม ความคดิ เห็น ท่ีไดร้ ับ เหตุ มอบหมาย ๔๓๒๑๔๓ ๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ (ลงชอ่ื )..........................................................ผปู้ ระเมนิ (.....................................................) .............../................./.................... เกณฑ์การวดั ผล ใหค้ ะแนนระดบั คุณภาพของแตล่ ะกลมุ่ ดงั น้ี ดเี ย่ยี ม เทา่ กับ ๔ คะแนนคิดเปน็ ร้อยละ ๙๐ - ๑๐๐ ด ี เท่ากับ ๓ คะแนนคดิ เปน็ รอ้ ยละ ๗๐ - ๘๙ ปานกลาง เท่ากับ ๒ คะแนนคิดเปน็ ร้อยละ ๕๐ - ๖๙ ปรับปรงุ เท่ากับ ๑ คะแนนคดิ เปน็ ร้อยละ ๕๐ 118 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพิม่ เตมิ การปอ้ งกนั การทุจรติ ”
หนว่ ยท่ี ๔ พลเมืองกับความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม แผนการจัดการเรยี นรู้ ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ เวลา ๒ ชั่วโมง หน่วยท่ี ๔ ช่อื หน่วย พลเมอื งกับความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ ๑ เรอ่ื ง ความหมายของค�ำวา่ พลเมอื งและทีม่ าของคำ� วา่ พลเมือง ประชากร ประชาชน ราษฎร ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับเก่ยี วกบั พลเมืองและมีความรับผิดชอบต่อสงั คม ๑.๒ ปฏบิ ตั ิตนตามหนา้ ทแี่ ละมีความรับผิดชอบตอ่ สงั คม ๒. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ ๒.๑ นักเรยี นบอกความหมายของค�ำวา่ พลเมือง ประชาชน ประชากร ราษฎร ๒.๒ นักเรียนสามารถบอกความเหมอื นและความแตกต่างของพลเมือง ประชาชน ประชากร ราษฎร ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) พลเมือง หมายถึง คนท่ีมีสิทธิ หน้าที่ ในฐานะประชาชนที่อยู่ภายใต้ผู้ปกครองเดียวกัน วัฒนธรรมเดียวกนั ๒) ประชาชน หมายถึงคนที่เกิดและอาศัยอยู่ในประเทศใดประเทศหน่ึงถือว่าเป็นเจ้าของ หรือสมาชิกของประเทศนน้ั ๆ คำ� วา่ ประชาชนมักใช้ในความหมายพหพู จนค์ ือคนจำ� นวนมาก ๓) ประชากร หมายถงึ กลมุ่ สง่ิ มชี วี ติ ทอี่ าศยั อยใู่ นพน้ื ทหี่ นง่ึ ๆ คำ� วา่ ประชากรจะใชก้ บั สงิ่ มชี วี ติ ใดๆ ก็ได้ เชน่ ประชากรนก ประชากรเสอื แตใ่ นท่นี ้หี มายถึงประชากรมนษุ ย์ ราษฎร หมายถงึ ประชาชน ๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ ( สมรรถนะท่เี กิด ) ๑) นักเรยี นมีทกั ษะการส่อื สาร ๒) นักเรยี นมีทกั ษะการคดิ ๓) นกั เรียนมีความสามารถในการใช้เทคโนโลยี ๓.๓ คุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์/คา่ นิยม ความซอ่ื สัตย์และสจุ รติ ๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขน้ั ตอนการเรียนรู้ ช่วั โมงท่ี ๑ ๑) ใหน้ ักเรียนอ่านใบความรู้ ความหมายของค�ำวา่ พลเมอื ง ประชาชน ประชากร ราษฎร ๒) ใหน้ กั เรียนแบง่ กล่มุ เพื่อศกึ ษาใบความรู้ เรอ่ื งความหมายของคำ� เหลา่ น้ี ๓) ส่งตัวแทนแต่ละกลมุ่ มาน�ำเสนอหนา้ ช้ันเรียน ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ 119
ชวั่ โมงท่ี ๒ ๑) นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ ๕ กลมุ่ สบื ค้นจากหัวข้อต่อไปนี้ - ลักษณะของพลเมอื งทดี่ ีเปน็ อย่างไร - หน้าทีข่ องพลเมืองทีด่ ีมอี ะไรบา้ ง - การเปน็ พลเมอื งทดี่ กี ่อให้เกดิ ประโยชนอ์ ะไรบ้าง - พลเมอื งดตี ามหลักเศรษฐกจิ พอเพียงเป็นอยา่ งไร - ผลเสยี จากการไม่เป็นพลเมอื งดมี ีอะไรบ้าง ๒) เมอื่ สืบคน้ ไดแ้ ลว้ ใหน้ กั เรียนแต่ละกล่มุ เขยี นตอบลงในใบงานตามหัวข้อ ๓) ให้นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ น�ำเสนอผลงานหนา้ ชั้นเรยี น ๔.๒ ส่ือการเรยี นรู้/แหลง่ การเรียนรู้ ๑) เว็บไซต์ http//sites.google.com ๒) ใบความรู้เรอ่ื ง ความหมายของพลเมอื ง ประชาชน ประชากร และราษฎร ๕. การประเมินผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมิน ๑) แบบสังเกตพฤตกิ รรมการท�ำงานกลุ่ม ๒) ตรวจใบงานหวั ขอ้ ต่างๆ ๕.๒ เครอื่ งมอื ทีใ่ ช้ในการประเมิน ๑) แบบสงั เกตพฤติกรรมกลมุ่ ๒) แบบประเมินผลงานกล่มุ ๕.๓ เกณฑก์ ารตัดสนิ นกั เรยี นผา่ นเกณฑก์ ารประเมินร้อยละ ๘๐ ขึน้ ไป ๖. บนั ทกึ หลังการจัดการเรียนรู้ ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ลงชือ่ ........................................ครผู สู้ อน (.......................................) 120 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวิชาเพม่ิ เตมิ การปอ้ งกนั การทุจรติ ”
๗. ภาคผนวก ใบความรู้ พลเมือง หมำยถงึ คนท่ีมีสิทธ ิ หน้ำที่ ในฐำนะประชำชนทอ่ี ยภู่ ำยใตผ้ ู้ปกครองเดยี วกัน วัฒนธรรมเดยี วกัน ประชาชน หมำยถึง คนที่เกิดและอำศัยอยู่ในประเทศใดประเทศหน่ึงถือว่ำเป็นเจ้ำของ หรือสมำชกิ ของประเทศนน้ั ๆ คำ� ว่ำประชำชนมักใชใ้ นควำมหมำยพหพู จนค์ อื คนจำ� นวนมำก ประชากร หมำยถึง กลุ่มส่ิงมีชีวิตท่ีอำศัยอยู่ในพื้นท่ีหน่ึงๆ ค�ำว่ำประชำกรจะใช้กับ สิง่ มีชวี ติ ใดๆก็ได้ เชน่ ประชำกรนก ประชำกรเสือ แต่ในท่ีนีห้ มำยถงึ ประชำกรมนษุ ย ์ ราษฎร หมำยถึง ประชำชน ระดับช้ันประถมศกึ ษำปที ่ ี ๖ 121
ใบงาน ในหัวข้อ ลกั ษณะของพลเมอื งทด่ี เี ปน็ อยา่ งไร กลุ่มท.่ี .....................รายชอื่ ............................................................................................................... 122 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวชิ าเพิ่มเตมิ การปอ้ งกนั การทจุ รติ ”
ใบงาน ในหวั ขอ้ หน้าที่ของพลเมอื งท่ดี มี ีอะไรบ้าง กลุ่มท่.ี .....................รายชือ่ ............................................................................................................... ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ 123
ใบงาน ในหวั ข้อ การเป็นพลเมืองทดี่ กี อ่ ใหเ้ กิดประโยชนอ์ ะไรบา้ ง กลุ่มที.่ .....................รายชือ่ ............................................................................................................... 124 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพิ่มเติม การปอ้ งกันการทจุ รติ ”
ใบงาน ในหวั ขอ้ พลเมืองดตี ามหลักเศรษฐกิจพอเพยี งเป็นอยา่ งไร กล่มุ ที่......................รายชื่อ............................................................................................................... ระดับชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๖ 125
ใบงาน ในหัวข้อ ผลเสยี จากการไมเ่ ป็นพลเมืองดีมอี ะไรบ้าง กลมุ่ ที.่ .....................รายชื่อ............................................................................................................... 126 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวิชาเพม่ิ เตมิ การปอ้ งกนั การทุจรติ ”
แบบประเมนิ พฤติกรรมการท�ำงานกลมุ่ กลุ่ม .......................................................................................................... สมาชิกในกลุ่ม ๑................................................................. ๒................................................................. ๓................................................................. ๔................................................................. ๕................................................................. ๖................................................................. ๗................................................................. ๘................................................................. ๙................................................................. ๑๐............................................................... ค�ำช้ีแจง ทำ� เครื่องหมาย ลงในช่องทตี่ รงกับความเป็นจรงิ พฤติกรรมทสี่ งั เกต คะแนน ๓๒๑ ๑. มสี ่วนร่วมในการแสดงความคดิ เหน็ ๒. มีความกระตือรือร้นในการท�ำงาน ๓. มคี วามรับผิดชอบในงานทีไ่ ด้รับมอบหมาย ๔. มขี นั้ ตอนในการทำ� งานอยา่ งเป็นระบบ ๕. ใชเ้ วลาในการท�ำงานอยา่ งเหมาะสม รวม เกณฑ์การใหค้ ะแนน พฤตกิ รรมทท่ี ำ� เป็นประจ�ำ ให้ ๓ คะแนน พฤตกิ รรมทีท่ �ำเป็นบางครั้ง ให้ ๒ คะแนน พฤติกรรมทท่ี �ำน้อยครัง้ ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดับ ดเี ย่ยี ม คะแนน ๑๓ - ๑๕ ระดบั ดี คะแนน ๘ - ๑๒ ระดบั พอใช้ คะแนน ๕ - ๗ ระดับ ปรับปรุง คะแนนตํา่ กวา่ ๕ ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ 127
แบบประเมนิ ผลงาน ท่ี พฤติกรรม ตรงจดุ ประสงค์ ผลงานมี การน�ำ เสนอ เสร็จทันเวลาท่ี รวม ชอ่ื ท่กี �ำหนด ความถกู ตอ้ ง ผลงาน กำ�หนด ๑๖ สมบูรณ์ ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ (ลงชอ่ื )..........................................................ผ้ปู ระเมนิ (.....................................................) .............../................./.................... เกณฑก์ ารวดั ผล ใหค้ ะแนนระดับคุณภาพของแต่ละกล่มุ ดังนี้ ดเี ยยี่ ม เท่ากับ ๔ คะแนนคิดเปน็ ร้อยละ ๙๐ - ๑๐๐ ดี เทา่ กบั ๓ คะแนนคดิ เปน็ รอ้ ยละ ๗๐ - ๘๙ ปานกลาง เท่ากับ ๒ คะแนนคดิ เปน็ รอ้ ยละ ๕๐ - ๖๙ ปรับปรงุ เทา่ กับ ๑ คะแนนคิดเปน็ ร้อยละ ๕๐ 128 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวิชาเพ่ิมเตมิ การปอ้ งกันการทุจริต”
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการปฏิบตั ิกจิ กรรม ท่ี พฤติกรรม ความสนใจ การแสดง การตอบ การยอมรับฟัง การท�ำ งาน หมาย ช่อื ความคดิ เหน็ ค�ำ ถาม ความคดิ เหน็ ทไ่ี ดร้ ับ เหตุ มอบหมาย ๔๓๒๑๔๓ ๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ (ลงชื่อ)..........................................................ผู้ประเมนิ (.....................................................) .............../................./.................... เกณฑก์ ารวดั ผล ให้คะแนนระดับคณุ ภาพของแต่ละกลุ่ม ดงั นี้ ดีเยีย่ ม เทา่ กบั ๔ คะแนนคิดเป็นรอ้ ยละ ๙๐ - ๑๐๐ ดี เท่ากับ ๓ คะแนนคิดเป็นร้อยละ ๗๐ - ๘๙ ปานกลาง เท่ากบั ๒ คะแนนคดิ เปน็ รอ้ ยละ ๕๐ - ๖๙ ปรับปรุง เท่ากบั ๑ คะแนนคิดเป็นรอ้ ยละ ๕๐ ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ 129
แผนการจัดการเรยี นรู้ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ เวลา ๒ ช่ัวโมง หน่วยท่ี ๔ ชอ่ื หน่วย พลเมอื งกบั ความรับผดิ ชอบต่อสงั คม แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ ๒ เรื่อง การเปรยี บเทียบความแตกตา่ งระหว่าง ราษฎรกบั พลเมอื ง ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกบั พลเมืองและมคี วามรับผดิ ชอบต่อสงั คม ๑.๒ ปฏบิ ัตติ นตามหน้าทีพ่ ลเมอื งและมคี วามรับผิดชอบตอ่ สังคม ๒. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ นกั เรียนสามารถ ๒.๑ บอกความหมายของคำ� วา่ พลเมอื งได้ ๒.๒ บอกความหมายของคำ� ว่าราษฎรได้ ๒.๓ บอกความหมายของการเป็นพลเมอื งที่ดไี ด้ ๒.๔ ยกตัวอยา่ งการปฏิบัติใหเ้ ปน็ พลเมอื งท่ีดีได้ ๒.๕ บอกผลเสียทเี่ กดิ จากการไมป่ ฏบิ ัติตนตามหนา้ ทขี่ องพลเมืองท่ีดีได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) ราษฎร หมายถงึ ประชาชน ๒) พลเมือง หมายถึงคนท่ีมีสิทธิและหน้าท่ีในฐานะประชาชนที่อยู่ภายใต้ผู้ปกครองเดียวกัน มวี ฒั นธรรมเดยี วกัน ความแตกต่างระหว่างราษฎรและพลเมืองคือสทิ ธิ และหนา้ ท่ี ๓) พลเมอื งดี หมายถึง ผูท้ ่ปี ฏบิ ตั หิ นา้ ทพ่ี ลเมอื งได้ครบถ้วน ทั้งกจิ ทีต่ อ้ งทำ� และกจิ ท่คี วรทำ� ๔) หน้าท่ี หมายถึง กิจที่ต้องท�ำ หรือควรท�ำ เป็นส่ิงท่ีก�ำหนดให้ท�ำ หรือห้ามมิให้กระท�ำ ถ้าท�ำก็จะก่อให้เกิดผลดี เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ครอบครัว หรือสังคมส่วนรวมแล้วแต่กรณี ถ้าไม่ท�ำหรือ ไม่ละเว้นการกระท�ำตามท่ีก�ำหนดจะได้รับผลเสียโดยตรง คือ ได้รับโทษ หรือถูกบังคับ เช่น ปรับ จ�ำ คุก หรือประหารชวี ติ เป็นต้น โดยทั่วไปส่งิ ท่ีระบกุ ิจท่ตี อ้ งทำ� ได้แก่ กฎหมาย เป็นต้น ๓.๒ ทักษะ/กระบวนการ (สมรรถนะทีเ่ กิด) ๑) ความสามารถในการคดิ ๒) ความสามารถในการส่ือสาร ๓.๓ คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์/ค่านยิ ม คำ� นงึ ถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวม และของชาติมากกวา่ ผลประโยชนข์ องตนเอง 130 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวิชาเพิม่ เตมิ การปอ้ งกนั การทจุ รติ ”
๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขั้นตอนการเรยี นรู้ ชวั่ โมงที่ ๑ ๑) นกั เรยี นดูวีดทิ ศั น์ เรอื่ งหักเหล่ียมคอรร์ ัปชนั เริ่มท่ีคุณ...จบที่คณุ นักเรยี นช่วยกนั วเิ คราะห์ว่า ตัวละครในเร่ืองดังกลา่ วมีการกระท�ำใดท่ีแสดงออกถึงการเป็นพลเมืองดี การกระท�ำใดที่แสดงวา่ เป็นพลเมือง ไมด่ ี และการเปน็ พลเมืองไมด่ ี มีผลกระทบตอ่ สังคมอยา่ งไร ๒) นกั เรยี นดูภาพกิจกรรมตา่ งๆ ทีแ่ สดงถึงการมีสว่ นรว่ มในสงั คม เช่น ๒.๑ ภาพการปลกู ปา่ ๒.๒ ภาพการเลอื กตั้ง ๒.๓ ภาพการตัดไม้ แลว้ ใหน้ ักเรียนเขียนแสดงความคดิ เห็นตามประเด็นทก่ี �ำหนดในใบงานเร่อื ง เขาท�ำอะไร ? ๓) ครแู ละนกั เรียนรว่ มกันสรุปความหมายของพลเมืองท่ีดี หมายถึง “ ผู้ที่ปฏิบตั ิหน้าท่ีพลเมอื ง ได้ครบถ้วน ทั้งกิจท่ีต้องท�ำ และกิจที่ควรท�ำหนา้ ที่ หมายถึง กิจที่ต้องท�ำ หรือควรท�ำ เป็นสิ่งท่ีก�ำหนดให้ท�ำ หรอื หา้ มมใิ หก้ ระทำ� ถา้ ทำ� กจ็ ะกอ่ ใหเ้ กดิ ผลดี เกดิ ประโยชนต์ อ่ ตนเอง ครอบครวั หรอื สงั คมสว่ นรวมแลว้ แตก่ รณี ถ้าไม่ท�ำหรอื ไม่ละเว้นการกระทำ� ตามทีก่ �ำหนดจะได้รบั ผลเสียโดยตรง คอื ไดร้ บั โทษ หรอื ถกู บงั คบั เช่น ปรับ จำ� คุก หรอื ประหารชีวิต เป็นตน้ โดยท่ัวไปสิง่ ทรี่ ะบกุ จิ ท่ีต้องทำ� ได้แก่ กฎหมาย เปน็ ตน้ ” ชวั่ โมงที่ ๒ ๑) ใหน้ กั เรยี นแบ่งกลมุ่ ๕ - ๗ คน ศึกษาใบงานเรอ่ื ง บทบาทหน้าทพี่ ลเมืองที่ดี ๒) ให้นักเรียนยกตัวอย่างการปฏิบัติตนให้เป็นพลเมืองท่ีดีต้องปฏิบัติอย่างไรบ้างโดยให้นักเรียน คน้ ควา้ จากแหลง่ เรยี นรูต้ ่างๆ ๓) ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเขียนภาพการกระท�ำของพลเมืองดีแล้วอธิบายถึงผลดีจากการปฏิบัติ และผลเสียท่ีเกิดจากการไม่ปฏิบัติตามหน้าท่ีพลเมืองดี ในกระดาษโปสเตอร์เป็นป้ายนิเทศเพื่อแสดงผลงาน ของกลุ่ม ๔) ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันน�ำเสนอผลงานกลุ่มในช้ันเรียนโดยครูช่วยแนะน�ำแนวทาง การปฏิบัตติ นตามบทบาทหน้าท่ผี ลเมอื งทดี่ ี ๕) ครแู ละนกั เรียนรว่ มกนั สรปุ การปฏบิ ตั ิตนใหเ้ ป็นพลเมอื งดี ๖) ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ ความแตกตา่ งระหวา่ งราษฎรกับพลเมอื ง ชวั่ โมงท่ี ๓ ๑) ครูให้นักเรียนเขียนเรียงความเรื่อง “พลเมืองท่ีดี”โดยให้นักเรียนแต่ละกลุ่มเขียนภาพการ กระท�ำของพลเมืองดีแล้วอธิบายถึงผลดีจากการปฏิบัติและผลเสียที่เกิดจากการไม่ปฏิบัติตามหน้าที่พลเมืองดี ในกระดาษโปสเตอรเ์ ปน็ ปา้ ยนิเทศเพ่อื แสดงผลงานของกล่มุ ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ 131
๒) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปความเป็นพลเมืองดีว่า “บุคคลจะเป็นพลเมืองดีของสังคมน้ัน ตอ้ งตระหนกั ถงึ บทบาทหนา้ ที่ ทจ่ี ะตอ้ งปฏบิ ตั ิ และมงุ่ มน่ั เพอื่ ใหบ้ รรลเุ ปา้ หมาย ดว้ ยความรบั ผดิ ชอบอยา่ งเตม็ ที่ สอดคล้องกับหลักธรรม วัฒนธรรมประเพณี และรัฐธรรมนูญที่ก�ำหนดไว้ รวมทั้งบทบาททางสังคมท่ีตน ด�ำรงอยู่ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และได้ประสิทธิผลทั้งในส่วนตนและสังคม เม่ือสามารถปฏิบัติหน้าที่ ได้อย่างถูกต้องสมบูรณ์ย่อมเกิดความภาคภูมิใจและเกิดผลดีทั้งต่อตนเองและสังคม ด้วยการเป็นพลเมืองดี ท่ีเคารพกฎหมาย เคารพสิทธิเสรีภาพของผู้อ่ืน มีความกระตือรือร้นท่จี ะเขา้ มามีส่วนร่วมในการแก้ปัญหาของ ชุมชนและสังคม มีคณุ ธรรมและจรยิ ธรรมเป็นหลกั ในการด�ำเนนิ ชีวติ อยา่ งผาสุก” ๔.๒ ส่อื การเรยี นรู/้ แหลง่ การเรียนรู้ ๑) วดี ที ศั น์ เร่อื งหักเหลยี่ มคอร์รัปชัน เริม่ ที่คุณ...จบทีค่ ณุ https://www.youtube.com/watch?v=ihrlY๖zniZw ๒) ภาพกจิ กรรมการมีสว่ นรม่ ในสังคม ๓) ใบงานเรือ่ ง เขาท�ำอะไร ? ๔) ใบงานเรื่อง บทบาทหนา้ ท่พี ลเมืองดี ๕) เรยี งความ เร่อื ง พลเมืองดี ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ กี ารประเมิน ๑) ตรวจใบงานเรือ่ ง เขาทำ� อะไร ? ๒) ตรวจใบงานเรอื่ ง บทบาทหน้าท่พี ลเมอื งดี ๓) ตรวจเรียงความ เรอื่ ง พลเมอื งดี ๕.๒ เครื่องมือทใ่ี ช้ในการประเมิน ๑) ใบงานเรอ่ื ง เขาท�ำอะไร ? ๒) ใบงานเรอ่ื ง บทบาทหนา้ ทพ่ี ลเมืองดี ๓) เรียงความ เร่ือง พลเมอื งดี ๕.๓ เกณฑ์การตดั สนิ นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ๘๐ ข้ึนไป ๖. บนั ทึกหลงั การจัดการเรียนรู้ ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ลงชื่อ........................................ครูผู้สอน (.......................................) 132 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวิชาเพ่ิมเตมิ การปอ้ งกนั การทุจรติ ”
๗. ภาคผนวก ใบงาน เรอ่ื ง เขาท�ำอะไร ? ชื่อ-สกลุ ...............................................................................................ชั้น..............เลขท่.ี ................ ค�ำชี้แจง ให้นักเรยี นเขยี นแสดงความคดิ เห็นใต้ภาพและเขียนบรรยายผลกระทบท่เี กิดขน้ึ ตอ่ สงั คมอย่างไร ภาพที่ ๑ กจิ กรรมในภาพเปน็ การกระทำ� ใด.................................. ...................................................................................... บคุ ลในภาพเป็นคนอยา่ งไร………………………………..…… การกระท�ำดงั กล่าวส่งผลต่อสงั คมและประเทศชาติ อยา่ งไร............................................................................. ....................................................................................... ...................................................................................... ภาพท่ี ๒ กจิ กรรมในภาพเปน็ การกระทำ� ใด.................................. ...................................................................................... บุคลในภาพเปน็ คนอยา่ งไร………………………………..…… การกระท�ำดงั กล่าวสง่ ผลต่อสังคมและประเทศชาติ อยา่ งไร............................................................................. ....................................................................................... ...................................................................................... ภาพที่ ๓ กจิ กรรมในภาพเปน็ การกระทำ� ใด.................................. ...................................................................................... บคุ ลในภาพเป็นคนอย่างไร………………………………..…… การกระท�ำดงั กลา่ วสง่ ผลต่อสังคมและประเทศชาติ อยา่ งไร............................................................................. ....................................................................................... ...................................................................................... ระดับช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ 133
ใบงาน เร่ือง บทบาทหน้าท่ีพลเมอื งดี ค�ำชี้แจง ใหน้ ักเรียนเขียนผงั มโนทัศนแ์ สดงถึงบทบาทหน้าท่ีพลเมอื งดตี อ่ สังคมและประเทศชาติ บทบาทหน้าท่ี พลเมอื งดตี อ่ สงั คม และประเทศชาติ 134 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวิชาเพ่มิ เติม การป้องกนั การทจุ ริต”
ใบงาน เรยี งความ เรื่องพลเมืองดี ค�ำชี้แจง ใหน้ ักเรียนเขียนเรยี งความ เร่อื งพลเมืองดี ตัวบรรจงครงึ่ บรรทดั ความยาว ๒๐ - ๒๕ บรรทัด ระดบั ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ 135
แบบตรวจใบงานการเขียนเรยี งความ ตรง เขียน วเิ คราะห์ ใชภ้ าษา ละเอยี ด สรปุ จดุ ประสงค์ เรยี งล�ำ ดับ ข้อมลู และ ถูกตอ้ ง เรียบรอ้ ย ที่ ชือ่ -สกุล ขัน้ ตอน มีความคิด (๓) รวม ๑๕ ไม่ (๓) สร้างสรรค์ (๓) คะแนน ผ่าน (๓) ผ่าน (๓) เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดับคะแนน ๓ ตรงจุดประสงค์ เขียนเรียงล�ำดับข้ันตอนครบถ้วน คิดวิเคราะห์ และมีความคิดสร้างสรรค์ ใชภ้ าษาถกู ตอ้ งเหมาะสม ผลงานมีความละเอียดเรียบร้อย ระดบั คะแนน ๒ ตรงจุดประสงค์ เขียนเรยี งล�ำดับขัน้ ตอน ใช้ภาษาถูกตอ้ ง ผลงานมคี วามเรียบร้อย ระดบั คะแนน ๑ ตรงจุดประสงค์ ใชภ้ าษาถกู ตอ้ ง เกณฑก์ ารประเมิน คะแนน ๑๓ - ๑๕ ระดับ ดีเย่ยี ม คะแนน ๑๑ - ๑๒ ระดับ ดี คะแนน ๘ - ๑๐ ระดับ พอใช้ คะแนนตํา่ กวา่ ๘ ระดบั ปรบั ปรงุ เกณฑ์การตดั สิน นักเรียนได้คะแนนระดับดีข้ึนไปถือวา่ ผา่ น 136 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพมิ่ เติม การป้องกนั การทุจริต”
แผนการจัดการเรียนรู้ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖ หน่วยที่ ๔ ชอื่ หน่วย พลเมอื งกบั ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม แผนการจัดการเรียนรูท้ ่ี ๓ เรื่อง การเสียภาษีและการปฏบิ ตั ติ นตามกฎหมาย เวลา ๒ ช่วั โมง กฎหมายสง่ิ แวดล้อม การรักษาความสะอาดตามกฎหมาย ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกบั ผลเมอื งและมคี วามรับผดิ ชอบตอ่ สงั คม ๑.๒ ปฏิบัติตนตามหนา้ ที่พลเมอื งและมีความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๒.๑ นกั เรียนสามารถอธบิ ายค�ำว่าภาษี การเสียภาษี กฎหมาย การปฏบิ ัตติ นตามกฎหมายได้ ๒.๒ นักเรียนมีความร้เู ร่อื งกฎหมายสง่ิ แวดล้อม การรักษาความสะอาดตามกฎหมายได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) ภาษี หมายถึง เงินที่รัฐหรือท้องถ่ินเรียกเก็บจากบุคคลเพื่อใช้จ่ายในการบริหารประเทศ หรือทอ้ งถน่ิ เชน่ ภาษีเงนิ ได้ ภาษบี ำ� รุงท้องที่ ภาษโี รงเรอื น ภาษที ่ดี ิน ฯลฯ ๒) การเสียภาษี หมายถึง เงินที่รัฐเรียกเก็บจากประชาชนท่ีมีรายได้เพ่ือน�ำไปพัฒนาประเทศ ภาษีมี ๒ แบบ คอื ภาษีทางตรง หมายถึง ภาษที ี่เก็บจากคนทีม่ รี ายได้จากการทำ� งาน ภาษีทางอ้อมหมายถึง ภาษีทีเ่ รียกเก็บจาการที่เราซอ้ื สินคา้ หรอื บริการตา่ งๆท่เี ราเรียกว่าภาษมี ลู คา่ เพ่ิม ๓) กฎหมาย หมายถึง ค�ำสั่งหรือข้อบังคับ ความประพฤติของมนุษย์ซ่ึงผู้มีอ�ำนาจสูงสุดเป็น ผบู้ ัญญตั ิข้ึน ผใู้ ดฝ่าฝืนมีอ�ำนาจบังคับ ๓.๒ ทักษะ/กระบวนการ (สมรรถนะทเ่ี กดิ ) ๑) ความสามารถในการคิด ๒) ความสามารถในการการส่ือสาร ๓) ความสามารถในการมใช้เทคโนโลยี ๓.๓ คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์/คา่ นิยม ความซอ่ื สัตย์สจุ ริต ๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขั้นตอนการเรียนรู้ ชั่วโมงที่ ๑ ๑) ให้นักเรยี นอ่านใบความรู้ความหมายของค�ำว่าภาษี การเสียภาษี ๒) นักเรียนและครรู ่วมกนั สรุปความหมายของค�ำดังกลา่ วใหเ้ ขา้ ใจตรงกัน ๓) ใหน้ ักเรยี นแบ่งกลมุ่ สืบคน้ หาความรู้โดยการจับฉลาก ๒ หวั ขอ้ คือ ๓.๑ ภาษีทม่ี ใี นประเทศไทยมภี าษีอะไรบ้าง ๓.๒ กฎหมายท่ีมีในประเทศไทยมีกฎหมายอะไรบา้ งใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ส่งตวั แทนนำ� เสนอความรู้ เร่ืองภาษีและกฎหมาย ระดบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖ 137
ช่วั โมงที่ ๒ ๑) แบ่งนกั เรยี น ๔ กลุม่ สืบค้นหมาความรเู้ รือ่ งตา่ งๆดงั น้ี - กฎหมายสิ่งแวดลอ้ มคืออะไร - สาระสำ� คญั ของกฎหมายสิ่งแวดลอ้ มมีอะไรบ้าง - จดุ ม่งุ หมายของการมกี ฎหมายส่งิ แวดลอ้ มคืออะไร - ผลเสยี ของการไม่ปฏิบตั ิตามกฎหมายสิง่ แวดลอ้ ม ๒) ใหน้ กั เรียนแตล่ ะกลุม่ สง่ ตัวแทนออกมานำ� เสนอความรู้ทไี่ ด้ค้นคว้ามา ๓) ใหน้ ักเรยี นแตล่ ะคนบอกวิธีการรักษาส่ิงแวดล้อม คนละ ๑๐ ขอ้ โดยเขียนลงในใบงาน ๔) ครูตรวจใบงานวิธีการรักษาส่ิงแวดล้อมจากนั้นครูสุ่มเลขที่ของนักเรียนจ�ำนวน ๕ คน น�ำเสนอผลงาน ๔.๒ สื่อการเรยี นรู้/แหลง่ การเรียนรู้ ๑) ความร้เู รอื่ งภาษแี ละกฎหมายจากอินเทอรเ์ นต็ ๒) ใบความรูเ้ รื่องภาษี การเสยี ภาษีกฎหมาย ๓) ใบงานวิธกี ารรกั ษาสิง่ แวดลอ้ ม ๕.การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๕.๑ วิธีการประเมิน ๑) สงั เกตพฤตกิ รรมกล่มุ ๒) ตรวจผลงานเรอ่ื งวธิ กี ารรักษาสิ่งแวดลอ้ ม ๕.๒ เคร่ืองมอื ท่ใี ชใ้ นการประเมนิ ๑) แบบสังเกตพฤตกิ รรมกลุ่ม ๒) แบบตรวจผลงานนักเรียน ๕.๓ เกณฑก์ ารตัดสิน นกั เรียนผ่านเกณฑ์การประเมินระดบั ดขี ึน้ ไป ๖. บนั ทึกหลงั การจัดการเรยี นรู้ ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ลงชอื่ ........................................ครผู ู้สอน (.......................................) 138 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพ่ิมเตมิ การป้องกนั การทุจรติ ”
๗. ภาคผนวก ใบความรู้ ภำษ ี หมำยถงึ เงนิ ทร่ี ฐั หรอื ทอ้ งถน่ิ เรยี กเกบ็ จำกบคุ คลเพอื่ ใชจ้ ำ่ ยในกำรบรหิ ำรประเทศ หรอื ท้องถิน่ เชน่ ภำษเี งินได ้ ภำษีบ�ำรงุ ท้องท่ี ภำษีโรงเรอื น ภำษที ี่ดิน ฯลฯ กำรเสียภำษี หมำยถึง เงินที่รัฐเรียกเก็บจำกประชำชนที่มีรำยได้เพ่ือน�ำไปพัฒนำ ประเทศ ภำษีม ี ๒ แบบ คือ ภำษีทำงตรง หมำยถึง ภำษีทเ่ี กบ็ จำกคนท่ีมีรำยไดจ้ ำกกำรทำ� งำน ภำษีทำงอ้อมหมำยถึง ภำษีที่เรียกเก็บจำกำรท่ีเรำซ้ือสินค้ำหรือบริกำรต่ำงๆท่ีเรำเรียกว่ำภำษี มูลคำ่ เพ่ิม กฎหมำย หมำยถึง ค�ำสั่งหรือข้อบังคับ ควำมประพฤติของมนุษย์ซึ่งผู้มีอ�ำนำจสูงสุด เป็นผ้บู ญั ญัติข้ึน ผใู้ ดฝำ่ ฝนื มอี ำ� นำจบังคับ ระดับชั้นประถมศึกษำปีท่ ี ๖ 139
ใบงาน เรอื่ ง วิธกี ารรักษาสง่ิ แวดลอ้ ม รายชื่อ.....................................................................................................ชนั้ .................เลขท.่ี ............... 140 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพมิ่ เตมิ การปอ้ งกนั การทจุ ริต”
แบบประเมนิ พฤติกรรมการท�ำงานกลมุ่ กลมุ่ .......................................................................................................... สมาชกิ ในกลมุ่ ๑................................................................. ๒................................................................. ๓................................................................. ๔................................................................. ๕................................................................. ๖................................................................. ๗................................................................. ๘................................................................. ๙................................................................. ๑๐............................................................... ค�ำช้แี จง ทำ� เครื่องหมาย ลงในช่องทีต่ รงกบั ความเปน็ จริง พฤติกรรมที่สังเกต คะแนน ๓๒๑ ๑. มีสว่ นร่วมในการแสดงความคดิ เห็น ๒. มคี วามกระตือรอื ร้นในการทำ� งาน ๓. มีความรบั ผิดชอบในงานท่ีได้รบั มอบหมาย ๔. มขี ้ันตอนในการทำ� งานอยา่ งเป็นระบบ ๕. ใช้เวลาในการทำ� งานอย่างเหมาะสม รวม เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน พฤติกรรมที่ท�ำเปน็ ประจำ� ให้ ๓ คะแนน พฤตกิ รรมท่ที ำ� เปน็ บางครัง้ ให้ ๒ คะแนน พฤตกิ รรมทที่ �ำน้อยครง้ั ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ระดับ ดเี ยีย่ ม คะแนน ๑๓ - ๑๕ ระดบั ดี คะแนน ๘ - ๑๒ ระดบั พอใช้ คะแนน ๕ - ๗ ระดับ ปรับปรงุ คะแนนตา่ํ กว่า ๕ ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ 141
แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการท�ำงาน ช้ัน....................กลุ่มท่ี................... ท่ี พฤตกิ รรม เนอ้ื หาทต่ี อบ ปฎบิ ัติตาม ความ เสร็จทันเวลา รวม ชอื่ ถกู ต้อง ข้อตกลง รบั ผดิ ชอบ ทก่ี ำ�หนด ๑๖ ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ (ลงชอื่ )..........................................................ผปู้ ระเมิน (.....................................................) .............../................./.................... เกณฑก์ ารประเมนิ ใหค้ ะแนนระดับคุณภาพของแต่ละพฤตกิ รรม ดังน้ี ดเี ยี่ยม เทา่ กับ ๔ คะแนน คดิ เป็นร้อยละ ๙๐ - ๑๐๐ ด ี เท่ากับ ๓ คะแนน คิดเป็นร้อยละ ๗๐ - ๘๙ ปานกลาง เท่ากบั ๒ คะแนน คิดเป็นร้อยละ ๕๐ - ๖๙ ปรบั ปรงุ เทา่ กับ ๑ คะแนน คิดเปน็ ร้อยละ ๕๐ หรอื ไมป่ ฏบิ ัติเลย 142 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวิชาเพ่ิมเติม การปอ้ งกันการทจุ ริต”
แผนการจัดการเรียนรู้ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ ๖ เวลา ๒ ชวั่ โมง หน่วยท่ี ๔ ชือ่ หนว่ ย พลเมืองกบั ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี ๔ เรอื่ ง สิทธแิ ละหน้าที่การเลือกตงั้ ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั เก่ียวกบั พลเมอื งและมีความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม ๑.๒ ปฏบิ ตั ติ นตามหนา้ ทแี่ ละมคี วามรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๒.๑ นักเรยี นบอกแนวปฏิบัตใิ นการเคารพสิทธิหนา้ ท่ีต่อตนเองและผอู้ ืน่ ทมี่ ีต่อประเทศชาตไิ ด้ ๒.๒ นกั เรียนอธิบายผลทไี่ ดร้ บั จากการเคารพสทิ ธหิ น้าท่ตี ่อตนเองและผู้อืน่ ท่ีมีตอ่ ประเทศชาติได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ การเคารพสทิ ธขิ องตนเองและผอู้ ื่นทม่ี ีต่อประเทศชาตไิ ดแ้ ก่ ๑) สิทธิในการมีส่วนร่วม ใน ที่น้ี หมายถึง สิทธิการมีส่วนร่วมในกระบวนการพิจารณาของ เจ้าหนา้ ที่รฐั เกยี่ วกับการปฏบิ ัติ ราชการดา้ นการปกครอง อันมีผลกระทบตอ่ สทิ ธแิ ละเสรีภาพของคนในสงั คม โดยตรง ๒) สิทธิที่จะฟ้องร้องหน่วยราชการ หน่วยงานของรัฐ รัฐวิสาหกิจ ราชการส่วนท้องถ่ิน เช่น เทศบาล องค์การบริหารสว่ นต�ำบล องคก์ ารบริหารส่วนจังหวัด หรอื องคก์ รของรัฐท่ีเปน็ นติ ิบุคคล ประชาชน มสี ิทธิท่จี ะฟ้องรอ้ งหน่วยงานตา่ ง ๆเหลา่ นใ้ี ห้รับผดิ ชอบ หากการกระท�ำใด ๆหรือการละเว้นการกระท�ำใด ๆ ของข้าราชการ พนักงาน หรือลูกจ้างของหน่วยงานน้ัน ส่งผลกระทบต่อการด�ำเนินชีวิตของประชาชนต่อ ศาลปกครอง ๓) สิทธิท่ีจะต่อตา้ นโดยสันติวิธี การกระท�ำใดจะที่เป็นไปเพื่อให้ได้มาซึ่งอ�ำนาจในการปกครอง ประเทศ โดยวธิ กี ารซง่ึ มไิ ดเ้ ปน็ ไปตามวถิ ที างทบี่ ญั ญตั ไิ ดใ้ นรฐั ธรรมนญู เชน่ การตอ่ ตา้ นการทำ� ปฏวิ ตั ริ ฐั ประหาร เป็นสิง่ ท่ีประชาชนมสี ิทธิทจี่ ะออกมาต่อตา้ น แตต่ ้องเป็นไปโดยสนั ติวธิ ี ๔) การสรา้ งสำ� นกึ พลเมอื ง คอื การเขา้ ใจ สิทธิ หน้าที่ บทบาทตามกฎหมาย ๓.๒ ทักษะ/กระบวนการ (สมรรถนะที่เกิด) ๑) นักเรยี นมีทกั ษะการสอ่ื สาร ๒) นักเรียนมที กั ษะการคดิ ๓) นักเรยี นมีความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี ๔) นกั เรยี นมคี วามสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต ๓.๓ คณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค/์ ค่านยิ ม ๑) ใฝเ่ รยี นรู้ ๒) มงุ่ มัน่ ในการท�ำงาน ๓) รักความเป็นไทย ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ 143
๔. กจิ กรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขน้ั ตอนการเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ ๑ ๑) ให้นักเรียนดภู าพการเลอื กตงั้ สมาชกิ สภาผูแ้ ทนราษฎร ๒) ใหน้ กั เรียนรว่ มกนั ตอบคำ� ถามตอ่ ไปน้ี - นักเรยี นเคยเข้าคหู าเลอื กต้ังหรอื ไม่ เลือกต้งั ใคร ทไ่ี หน - ในภาพน้เี ปน็ การเลอื กต้ังอะไร - บุคคลทีไ่ ดร้ ับการเลอื กตัง้ มีหน้าทอ่ี ยา่ งไร ๓) นกั เรียนอา่ นใบความรู้ เรื่องการเคารพสิทธขิ องตนเองและผ้อู นื่ ที่มตี อ่ ประเทศชาติครูอธบิ าย เพิม่ เติมแลว้ สมุ่ ถามนกั เรยี น ๔) นกั เรยี นจบั คอู่ ภปิ รายแสดงความคดิ เหน็ สบื คน้ ขอ้ มูลตามหัวข้อในใบงาน เร่อื งการเคารพสิทธิ หน้าทตี่ อ่ ตนเองและผู้อ่นื ท่ีมีต่อประเทศชาติ ข้อ ๑ แนวปฏิบตั ิการเคารพสิทธหิ น้าท่ตี อ่ ตนเองและผอู้ ่นื ที่มีต่อประเทศชาติ ขอ้ ๒ ผลท่ไี ดร้ ับจากการเคารพสิทธหิ น้าทข่ี องตนเองและผ้อู ื่นที่มีตอ่ ประเทศชาติ ช่ัวโมงที่ ๒ ๑) นักเรียนน�ำใบงานติดที่ป้ายนิเทศ หรือกระดานด�ำหน้าห้อง เพ่ือให้เพ่ือนได้ศึกษาและ แลกเปล่ยี นเรียนรู้ ๒) นักเรียนน�ำความรู้ท้ังสองหัวข้อที่แลกเปล่ียนเรียนรู้มาสรุปเป็น Mind Mapping ลงในสมุด และครอู ธิบายเพมิ่ เตมิ ใหส้ มบรู ณ์ ๓) ร่วมกันร้องเพลง หน้าท่ีพลเมืองดี จากวีดิทศั น์ ชัว่ โมงที่ ๓ ๑) ให้นักเรยี นอา่ นกรอบแนวคดิ แนวทางการดำ� เนินกิจกรรม การสรา้ งสำ� นึกพลเมอื ง ๒) ครูและนกั เรยี นร่วมกันอภปิ รายถงึ การสร้างส�ำนึกพลเมืองต่อชมุ ชน ๓) ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๕ กลุ่ม ท�ำโครงงานการสร้างส�ำนึกพลเมืองในเร่ืองต่างในชุมชน โดย ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ตงั้ ชอ่ื เร่ืองโครงงาน ๔) เม่ือท�ำเสร็จแลว้ ใหแ้ ต่ละกลุ่มน�ำเสนอผลงาน ๕) ครูและนกั เรยี นร่วมกนั อภิปรายถงึ การสร้างส�ำนกึ ความเปน็ พลเมอื งที่ดี ๔.๒ สอ่ื การเรียนรู/้ แหลง่ การเรียนรู้ ๑) ภาพการเลอื กตงั้ สมาชกิ สภาผู้แทนราษฎร ๒) ใบความรู้เร่อื ง การเคารพสทิ ธิของตนเองและผอู้ ื่นทีม่ ตี อ่ ประเทศชาติ ๓) ใบงานที่ ๑ การเคารพสิทธิหน้าท่ีตอ่ ตนเองและผอู้ ื่นท่มี ตี อ่ ประเทศชาติ ๔) เพลง หนา้ ทีพ่ ลเมอื งดี จาก https : //m.youtube.com ๕) กรอบแนวคิด แนวทางการด�ำเนินกิจกรรม การสรา้ งสำ� นึกพลเมือง 144 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวิชาเพ่ิมเติม การป้องกันการทจุ รติ ”
๕. การประเมินผลการเรียนรู้ ๕.๑ วิธกี ารประเมนิ ๑) แบบสังเกตพฤตกิ รรมการท�ำงาน ๒) แบบประเมนิ การทำ� โครงงาน ๕.๒ เคร่ืองมอื ท่ใี ช้ในการประเมิน ๑) แบบสังเกตพฤตกิ รรม ๒) แบบตรวจผลงานการทำ� โครงงาน ๕.๓ เกณฑ์การตดั สิน นกั เรียนผา่ นเกณฑ์การประเมินร้อยละ ๘๐ ขึน้ ไป ๖. บันทกึ หลังการจดั การเรียนรู้ ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ลงชื่อ........................................ครูผู้สอน (.......................................) ระดับชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๖ 145
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160