หนว่ ยที่ ๒ ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทุจรติ แผนการจดั การเรยี นรู้ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๖ เวลา ๒ ชั่วโมง หนว่ ยท่ี ๒ ช่ือหน่วย ความละอายและความไม่ทนต่อการทจุ รติ แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี ๑ เรอื่ ง ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ รติ ในระดับประเทศ ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจ เก่ียวกับความไมท่ นและความละอายตอ่ การทจุ ริต ๑.๒ ปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้ไมท่ นและละอายตอ่ การทุจริตในระดับประเทศทกุ รูปแบบ ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ นกั เรียนสามารถอธิบายความหมายของค�ำวา่ ละอาย ความไม่ทน และการทุจริตได้ ๒.๒ นกั เรยี นสามารถปฏิบัตติ นเปน็ ผไู้ ม่ทนและละอายต่อการทุจรติ ทกุ รปู แบบ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) ความละอายเป็นความละอายและความเกรงกลัวต่อส่ิงที่ไม่ดี ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม เพราะเห็นถึงโทษหรือผลกระทบท่ีจะได้รับจากการกระท�ำนั้น จึงไม่กลัวที่จะกระท�ำท�ำให้ตนเองไม่หลงท�ำ ในสง่ิ ทผ่ี ดิ ๒) ความไม่ทนต่อการทุจริต บุคคลจะมีความไม่ทนต่อการทุจริตมากน้อยเพียงใด ข้ึนอยู่กับ จิตส�ำนึกของแต่ละบุคคล และผลกระทบที่เกิดข้ึนจากการกระท�ำนั้นๆ แล้วมีพฤติกรรมที่แสดงออกมาซึ่ง การแสดงกรยิ าหรอื การกระทำ� จะมหี ลายระดับ ๓) การอยู่ร่วมกันในสังคมจ�ำเป็นอย่างยิ่งที่เราต้องรู้จักมีความรับผิดชอบ รู้หน้าท่ีของตนเอง แยกแยะระหว่างผลประโยชน์ส่วนตนและผลประโยชน์ส่วนรวม มีความรับผิดชอบต่อสังคม รักษาสมบัติ สว่ นตนและส่วนรวม ๓.๒ สมรรถนะส�ำคญั ของผ้เู รยี น ๑) ความสามารถในการแก้ปญั หา ๒) ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ ๓.๓ คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค/์ คา่ นยิ ม ๑) ซอ่ื สตั ย์สุจรติ ๒) มจี ติ สาธารณะ ๓) มงุ่ มนั่ ในการทำ� งาน 46 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวิชาเพ่มิ เตมิ การปอ้ งกนั การทุจริต”
๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ขน้ั การเรียนรู้ ชว่ั โมงท่ี ๑ ๑) ให้นกั เรียนอา่ นใบความรู้เร่อื งความละอายความไมท่ นตอ่ การทจุ รติ การอย่รู ว่ มกันในสงั คม ๒) ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม จำ� นวน ๖ กลุม่ ให้แต่ละกล่มุ จบั ฉลาก โดย กลมุ่ ที่ ๑ และ กลมุ่ ที่ ๒ อธิบายเรื่องความละอาย กลมุ่ ที่ ๓ และ กลุ่มท่ี ๔ อธบิ ายเร่อื งความไมท่ นตอ่ การทจุ รติ กลุ่ม ๕ และกลุ่ม ๖ อธิบายเรื่องการอยู่ร่วมกนั ในสังคม ๓) ครูและนักเรียนช่วยกันอธบิ ายถงึ การทุจรติ ท่เี กิดขึ้นในระดบั ประเทศวา่ มีเรื่องอะไรบา้ ง ชว่ั โมงที่ ๒ ๑) ครูหาภาพท่ีเกี่ยวกับการทุจริตและไม่ทุจริตต่างๆจ�ำนวน ๖ ภาพ ให้นักเรียนวิเคราะห์โดย แจกใหน้ ักเรยี นกล่มุ ละภาพ ๒) ให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ ๖ กลุม่ แต่ละกลุม่ ชว่ ยกันวเิ คราะห์ในหวั ข้อต่อไปนี้ - ภาพท่ีได้เปน็ ภาพทุจริตหรอื ไมท่ จุ รติ - ถ้าเปน็ ภาพทุจรติ ทจุ ริตเร่อื งใด - ท�ำไมจงึ ต้องทุจริต ๓) ครูให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ น�ำเสนอภาพทไี่ ดร้ ่วมกันวิเคราะห์ ๔) ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ในหวั ขอ้ ดงั กลา่ ว และมีวธิ ีการแก้ปญั หาอย่างไร ๔.๒ ส่อื การเรยี นรู้ ๑) ใบงานความรเู้ รอ่ื งความละอายความไม่ทนต่อการทุจริต ๒) ภาพตา่ งๆ ๕. การประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๕.๑ วิธกี ารประเมนิ สงั เกตการพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการทำ� กจิ กรรมกลมุ่ ๕.๒ เครอ่ื งมือในการประเมนิ แบบสังเกตการพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการทำ� กจิ กรรมกลุ่ม ๖. บนั ทกึ หลังการจดั การเรยี นรู้ ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ลงชือ่ ........................................ครูผู้สอน (.......................................) ระดับชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ 47
๗. ภาคผนวก แบบสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในการท�ำกิจกรรมกล่มุ เรอ่ื ง ……………………………………. ขอ้ รายการประเมิน ระดบั คะแนนแต่ละกลุ่ม กลุ่ม ๑ กลุ่ม ๒ กล่มุ ๓ กลุ่ม ๔ กล่มุ ๕ กลมุ่ ๖ กลมุ่ ๗ กล่มุ ๘ กล่มุ ๙ ๑ สงั เกตจากการตอบค�ำถาม ๒ สังเกตจาการกล้าออกมาสรุป ๓ สังเกตจากการท�ำกิจกรรมร่วมกัน ๔ สังเกตจากความสนใจเรียน ๕ อภิปรายเรือ่ งไดถ้ กู ตอ้ งตรงประเดน็ รวม ผลการประเมินแต่ละกลุ่ม ๑. เกณฑ์การประเมิน ระดับ ๔ หมายถงึ ดเี ยี่ยม ระดบั ๓ หมายถึง ดี ระดับ ๒ หมายถงึ พอใช้ ระดบั ๑ หมายถึง ต้องปรบั ปรุง ๒. การสรปุ ผลการประเมนิ ใหเ้ ปน็ ระดับคณุ ภาพ ๔, ๓, ๒, ๑ ก�ำหนดเกณฑ์ได้ตามความ เหมาะสมหรอื อาจใช้ เกณฑ์ดงั น้ี ๑๖ - ๒๐ คะแนน = ๔ (ดีเยย่ี ม) ๑๑ - ๑๕ คะแนน = ๓ (ดี) ๖ - ๑๐ คะแนน = ๒ (พอใช้) ต่ํากวา่ ๖ คะแนน = ๑ (ควรปรับปรุง) 48 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวชิ าเพิ่มเติม การปอ้ งกันการทจุ รติ ”
ใบความรู้ ควำมละอำยเป็นควำมละอำยและควำมเกรงกลัวต่อสิ่งท่ีไม่ดี ไม่ถูกต้อง ไม่เหมำะสม เพรำะเห็นถึงโทษหรือผลกระทบทจ่ี ะไดร้ ับจำกกำรกระทำ� นน้ั จงึ ไม่กลัวท่ีจะกระทำ� ทำ� ใหต้ นเอง ไมห่ ลงท�ำในส่ิงทีผ่ ิด ควำมไมท่ นต่อกำรทจุ ริต บคุ คลจะมีควำมไม่ทนต่อกำรทุจรติ มำกน้อยเพียงใด ข้ึนอยู่กับ จิตส�ำนึกของแต่ละบุคคล และผลกระทบท่ีเกิดข้ึนจำกกำรกระท�ำน้ันๆ แล้วมีพฤติกรรม ทแี่ สดงออกมำซ่ึงกำรแสดงกริยำหรือกำรกระทำ� จะมีหลำยระดบั กำรอยู่รว่ มกนั ในสงั คมจำ� เปน็ อย่ำงยง่ิ ทเี่ รำตอ้ งรจู้ ักมีควำมรับผดิ ชอบ รหู้ นำ้ ท่ีของตนเอง แยกแยะระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวม มีควำมรับผิดชอบต่อสังคม รักษำสมบัติสว่ นตนและสว่ นรวม ภำพท ี่ ๑ ระดับชั้นประถมศกึ ษำปีที่ ๖ 49
ภำพที่ ๒ ภำพท ี่ ๓ 50 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวิชาเพ่มิ เติม การปอ้ งกนั การทจุ ริต”
ภำพท ่ี ๔ ภำพท่ ี ๕ ภำพที ่ ๖ ระดบั ช้นั ประถมศกึ ษำปที ่ี ๖ 51
แผนการจดั การเรยี นรู้ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ เวลา ๒ ชว่ั โมง หนว่ ยท่ี ๒ ช่อื หน่วย ความละอายและความไมท่ นต่อการทุจรติ แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี ๒ เร่อื ง กิจกรรมทปี่ ฏบิ ัตแิ ละสง่ ผลให้เกิดความละอาย และความไม่ทนต่อการทจุ ริตในระดบั ประเทศ ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ความเขา้ ใจ เกีย่ วกับความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ รติ ๑.๒ ปฏิบัติตนเป็นผมู้ ีความละอายและไม่ทนตอ่ การทจุ ริตทนทกุ รปู แบบ ๑.๓ ตระหนักและเหน็ ความสำ� คญั ของการตอ่ ตา้ นและการป้องกนั การทจุ ริต ๒. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ นักเรียนสามารถอธิบายความหมายของคำ� วา่ ละอาย ความไม่ทน และการทุจรติ ได้ ๒.๒ นักเรียนสามารถบอกกิจกรรมท่ีปฏิบัติและส่งผลให้เกิดความละอายและความไมท่ นต่อการทุจริต ในระดับประเทศได้ ๓. สาระการเรียนรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) ความละอายเป็นความละอายและความเกรงกลัวต่อสิ่งท่ีไม่ดี ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม เพราะเห็นถึงโทษหรือผลกระทบที่จะได้รับจากการกระท�ำนั้น จึงไม่กลัวที่จะกระท�ำท�ำให้ตนเองไม่หลงท�ำ ในสิง่ ทีผ่ ดิ ๒) ความไม่ทนต่อการทุจริต บุคคลจะมีความไม่ทนต่อการทุจริตมากน้อยเพียงใด ขึ้นอยู่กับ จิตส�ำนึกของแต่ละบุคคล และผลกระทบที่เกิดข้ึนจากการกระท�ำนั้นๆ แล้วมีพฤติกรรมที่แสดงออกมาซึ่ง การแสดงกรยิ าหรอื การกระทำ� จะมหี ลายระดบั ๓.๒ สมรรถนะส�ำคัญของผเู้ รียน ๑) สมรรถนะในการส่อื สาร ๒) ความสามารถในการคิด ๓.๓ คุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค/์ คา่ นยิ ม ซื่อสตั ย์สุจริต ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ข้ันการเรยี นรู้ ชว่ั โมงท่ี ๑ ๑) ครูทบทวนคำ� วา่ ความละอายความไม่ทนต่อการทุจรติ ๒) นกั เรียนอา่ นขา่ วต่างๆท่ีเกีย่ วกับการทุจรติ ระดบั ประเทศ - ขา่ วการทุจรติ การเลือกตั้ง - ข่าวทุจริตเงนิ ทอนวดั - ข่าวทจุ รติ เงนิ คนจน - ข่าวทจุ ริตอาหารกลางวันเดก็ นักเรียน 52 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพ่มิ เติม การป้องกันการทุจรติ ”
- ขา่ วทจุ รติ เล่ยี งภาษี - ขา่ วทุจรติ จำ� นำ� ขา้ ว ๓) นกั เรียนและครรู ่วมกนั สรปุ สาเหตขุ องการทจุ รติ ช่วั โมงที่ ๒ ๑) ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๕ กลุ่มอ่านข่าวสวนดุสิตโพล์ เร่ือง มองรัฐแก้ปัญหาทุจริตในปัจจุบัน ไม่ได้ ๒) ให้แต่นักเรียนแต่ละกลุ่มร่วมกันวิเคราะห์กิจกรรมที่ส่งผลให้เกิดความละอายและไม่ทนต่อ การทจุ รติ โดยสง่ ตัวแทนออกมานำ� เสนอ ๓) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปกิจกรรมท่ีส่งผลให้เกิดความละอายและไม่ทนต่อการทุจริตใน ระดับประเทศพร้อมทง้ั เขียนใส่ใบงานกิจกรรมท่สี ง่ ผลให้เกดิ ความละอายและไม่ทนตอ่ การทุจรติ ๔.๒ สอื่ การเรยี นรู้ ๑) ขา่ วต่างๆ ๒) ข่าวสวนดสุ ิตโพล์ เรือ่ ง มองรฐั แก้ปญั หาทจุ รติ ในปจั จบุ นั ไมไ่ ด้ ๓) ใบงานกิจกรรมที่ส่งผลใหเ้ กิดความละอายและไมท่ นตอ่ การทจุ รติ ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมิน ๑) สังเกตการพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในการทำ� กิจกรรมกลุม่ ๒) ตรวจผลงานการท�ำใบงานกจิ กรรมท่สี ่งผลใหเ้ กดิ ความละอายและไม่ทนตอ่ การทุจรติ ๕.๒ เครอ่ื งมอื ในการประเมิน ๑) แบบสงั เกตการพฤตกิ รรมของนักเรียนในการทำ� กิจกรรมกลมุ่ ๒) แบบให้คะแนนการตรวจผลงานใบงานกิจกรรมท่ีส่งผลให้เกิดความละอายและไม่ทนต่อ การทุจรติ ๖. บนั ทกึ หลังการจดั การเรียนรู้ ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ลงช่ือ........................................ครูผ้สู อน (.......................................) ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ 53
๗. ภาคผนวก แบบสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในการท�ำกิจกรรมกลุ่ม เรอ่ื ง ……………………………………. ขอ้ รายการประเมิน ระดับคะแนนแตล่ ะกลมุ่ กลุ่ม ๑ กลุ่ม ๒ กลุม่ ๓ กลุ่ม ๔ กลุ่ม ๕ กล่มุ ๖ กล่มุ ๗ กลุ่ม ๘ กล่มุ ๙ ๑ สงั เกตจากการตอบค�ำถาม ๒ สังเกตจาการกลา้ ออกมาสรุป ๓ สังเกตจากการทำ� กิจกรรมร่วมกัน ๔ สังเกตจากความสนใจเรียน ๕ อภิปรายเรือ่ งได้ถกู ตอ้ งตรงประเดน็ รวม ผลการประเมินแตล่ ะกลุ่ม ๑. เกณฑ์การประเมิน ระดับ ๔ หมายถงึ ดเี ยี่ยม ระดบั ๓ หมายถึง ดี ระดับ ๒ หมายถงึ พอใช้ ระดบั ๑ หมายถึง ต้องปรบั ปรุง ๒. การสรปุ ผลการประเมินใหเ้ ปน็ ระดับคณุ ภาพ ๔, ๓, ๒, ๑ กำ� หนดเกณฑ์ไดต้ ามความ เหมาะสมหรืออาจใช้ เกณฑ์ดงั น้ี ๑๖ - ๒๐ คะแนน = ๔ (ดีเยย่ี ม) ๑๑ - ๑๕ คะแนน = ๓ (ดี) ๖ - ๑๐ คะแนน = ๒ (พอใช้) ต่ํากวา่ ๖ คะแนน = ๑ (ควรปรับปรุง) 54 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวชิ าเพิ่มเติม การปอ้ งกันการทุจริต”
ขา่ วท่ี ๑ ศาลอทุ ธรณ์คกุ ๓ปี เบญจา อดตี รมช.คลงั ช่วย “พานทองแท-้ พนิ ทองทา” เลีย่ งภาษี ศาลอทุ ธรณพ์ พิ ากษายนื จาำ คกุ ๓ ปี “เบญจา” อดตี รมช.คลงั ชว่ ย “พานทองแท-้ พนิ ทองทา” เลีย่ งภาษหี ุน้ ชินฯ ศำลอำญำคดที จุ ริตและประพฤตมิ ิชอบกลำง ศำลอ่ำนค�ำพพิ ำกษำศำลอทุ ธรณ ์ ในคดที ่ี ป.ป.ช. เป็นโจทก ์ ย่ืนฟ้องนำงเบญจำ หลยุ เจรญิ อดีต รมช.คลัง สมัยรฐั บำล น.ส.ยิง่ ลักษณ์ ชินวตั ร ขำ้ รำชกำร กระทรวงกำรคลงั ๓ คน และ น.ส.ปรำณี เวชพฤกษ์พทิ กั ษ ์ คนใกลช้ ดิ เลขำนกุ ำรสว่ นตัวของคุณหญิง พจมำน ณ ปอ้ มเพชร อดีตภริยำนำยทกั ษณิ เป็นจ�ำเลยท่ี ๑-๕ ตอ่ แผนกคดีทุจริตและประพฤตมิ ชิ อบ ของเจำ้ หน้ำท่ีรัฐในศำลอำญำ ในควำมผิดฐำนรว่ มกันเป็นเจ้ำพนักงำนปฏิบัติหน้ำที ่ โดยมิชอบ เพือ่ ให้ เกิดควำมเสยี หำยแก่รำชกำร จำกกรณีที่ จ�ำเลยที่ ๑-๔ ซึ่งเป็นเจ้ำพนักงำนของกรมสรรพำกร ปฏิบัติหน้ำท่ีโดยมิชอบ เพ่ือ ไมใ่ หน้ ำยพำนทองแท ้ และน.ส.พนิ ทองทำ ชินวตั ร บุตรของนำยทกั ษิณ ตอ้ งเสยี ภำษอี ำกรหรอื เสียภำษี น้อยกว่ำที่จะต้องเสีย และได้รับประโยชน์ท่ีมิควรได้โดยชอบด้วยกฎหมำย จำกกำรที่นำยพำนทองแท้ และ น.ส.พนิ ทองทำ ซื้อหุ้นบรษิ ทั ชนิ คอรป์ อเรช่ัน จำ� กัด เมื่อป ี ๒๕๔๙ ศำลอุทธรณ์ พิพำกษำยืนตำมศำลชั้นต้น ส่ังจ�ำคุกเบญจำกับข้ำรำชกำร ๓ คนคนละ ๓ ปี ไม่รอลงอำญำ ส่วน น.ส.ปรำณี ศำลส่งั จำ� คุก ๒ ป ี เป็นผสู้ นับสนนุ เจ้ำพนกั งำนปฏิบัตหิ น้ำท่ีมชิ อบ ระดับช้ันประถมศึกษำปที ่ี ๖ 55
ขา่ วท่ี ๒ บุญจง วงศ์ไตรรตั น์ กกต.ให้ใบแดง ทจุ รติ เลอื กต้ัง กกต.มีมติให้ใบแดง บุญจง วงศ์ไตรรัตน์ ส.ส.นครรำชสีมำ พรรคภูมิใจไทย กรณีถูกร้องเรียน เรือ่ งจัดเลีย้ งช่วงเลือกต้งั ซ่อมท่ผี ำ่ นมำ ทงั้ น ี้ นำยสมชัย จงึ ประเสรฐิ กกต.ฝำ่ ยสืบสวนสอบสวน เปดเผยว่ำ ที่ประชมุ กกต. มีมติ ๓ ต่อ ๒ ให้ใบแดง นำยบุญจง กรณีถกู รอ้ งเรียนว่ำมีสว่ นร่วมในกำรจดั เลยี้ งก�ำนันผใู้ หญ่บ้ำนในกำรเลือกต้ังซอ่ ม เมื่อครัง้ ทผ่ี ำ่ นมำ ซ่งึ ไมใ่ ช่กำรเลอื กตง้ั ใหญ่วันที่ ๓ กรกฎำคม ๒๕๕๔ โดยใหเ้ หตุผลทเ่ี พ่งิ มกี ำรวินิจฉยั ว่ำ เน่ืองจำกเป็นไปตำมวำระของกำรสอบสวน ไม่ได้เป็นกำรกลั่นแกล้งทำงกำรเมือง เบื้องต้นเตรียม ส่งศำลฎีกำแผนกคดีเลือกต้ังพิจำรณำ หำกศำลเห็นตำมมติ กกต. ก็จะมีผลต่อสถำนภำพ ส.ส. ของ นำยบญุ จง . - ส�ำนักข่ำวไทย ประวตั ิตำ� แหนง่ ทำงกำรเมอื ง ในรฐั บำลของ นำยอภสิ ิทธ ิ์ เวชชำชวี ะ นำยกรฐั มนตรแี ละหัวหน้ำ พรรคประชำธปิ ัตย ์ นำยบุญจง ไดร้ บั ตำ� แหน่งรัฐมนตรีชว่ ยว่ำกำรกระทรวงมหำดไทย และในวันที่ ๑๔ กุมภำพันธ ์ พ.ศ. ๒๕๕๒ พรรคภมู ใิ จไทยได้มมี ตใิ หน้ ำยบญุ จงดำ� รงต�ำแหน่งรองหัวหน้ำพรรค คนท่ี ๑ ต่อมำในเดือนพฤศจิกำยน พ.ศ. ๒๕๕๓ นำยบุญจง วงศ์ไตรรตั น ์ ไดล้ ำออกจำกต�ำแหนง่ รฐั มนตร ี เพ่ือลงสมัครรับเลือกตั้งซ่อม หลังจำกที่ตุลำกำรศำลรัฐธรรมนูญมีมติ ๗ ต่อ ๑ ให้หมดสมำชิกภำพ เนอ่ื งจำกถอื หนุ้ ในกจิ กำรตอ้ งหำ้ มตำมรฐั ธรรมนญู มำตรำ ๒๖๕ และมำตรำ ๔๘ รวมทงั้ ไดห้ นุ้ มำหลงั จำก ได้รบั เลือกต้ังเป็น ส.ส. ตอ่ จำกนน้ั ได้รับกำรโปรดเกล้ำฯ ให้ด�ำรงต�ำแหนง่ รฐั มนตรีชว่ ยวำ่ กำรกระทรวง มหำดไทยอีกครง้ั เมื่อวนั ท ่ี ๑๔ มกรำคม ๒๕๕๔ จนถึง ๘ สงิ หำคม ๒๕๕๔ 56 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพม่ิ เตมิ การป้องกันการทจุ รติ ”
ขา่ วที่ ๓ เปด รูปแบบทุจรติ “เงินทอนวัด” เปดช่องโหว่รูปแบบทุจริตเงินทอนวัด คนในพศ.เดินสายพูดคุยกับทางวัด สัญญาช่วย ของบประมาณทงั้ ในรปู แบบการบรู ณปฎสิ งั ขรณว์ ดั และใชเ้ พอื่ การศกึ ษาสงฆ์ แตข่ อบวกเพม่ิ ๗๕% “เงินทอน” ส่วนวัดรับแค่ ๒๕% ส�ำนักงำนพระพุทธศำสนำแห่งชำติ หรือพศ.มีหน้ำที่ในกำรท�ำนุบ�ำรุงพระพุทธศำสนำ โดย ได้จัดสรรงบประมำณที่เรียกว่ำ เงินอุดหนุนให้กับวัดต่ำง โดยมีหลักส�ำคัญ ๓ ด้ำนคือ ๑. เพ่ือปฏิบัติ ๒.เพ่ือกำรศึกษำพระปริญัติธรรม ๓.เพื่อกำรเผยแผ่และบ�ำรุงศำสนำท้ังนี้วัดที่จะขอเงินอุดหนุน บูรณปฏิสังขรณ์วัด ต้องมีคุณลักษณะคือ เป็นวัดท่ีได้รับอนุญำตให้ตั้งเป็นวัดตำมกฎหมำย มีช่ือใน ทะเบียนวัด ของส�ำนักงำนพระพุทธศำสนำแห่งชำติ เจ้ำอำวำสปกครองวัดให้เป็นไปตำมกฎหมำย พระสงฆแ์ ละประชำชนที่ขน้ึ กับวดั เอำใจใส่ในกำรพัฒนำวดั และวดั มีเงินทุนในกำรบรู ณะที่จะขอรับเงิน อุดหนุนบรู ณปฏสิ งั ขรณ์วัด หรือจดั หำวัสดุก่อสร้ำง หรือกอ่ สรำ้ งไปแลว้ ๑ ใน ๓ ของงำนก่อสร้ำง และ เจ้ำอำวำสหรือรักษำกำรเจ้ำอำวำสได้รับกำรแต่งตั้งถูกต้องตำมกฎหมำย“กำรทุจริตเงินทอนวัดเกิดขึ้น ก่อนป ี ๒๕๕๘ เน่อื งจำกกฎหมำยมชี ่องโหว ่ รูปแบบของกำรทุจรติ เงนิ ทอนวดั เจำ้ หนำ้ ท ี่ พศ. จะเขำ้ ไป พุดคุยกับวัด โดยระบุว่ำสำมำรถช่วยให้วัดได้รับเงินงบประมำณซ่อมแซมวัด โดยให้วัดเขียนโครงกำร เพ่ือเสนอของบ และบวกเพิ่มให้เจ้ำหน้ำที่ ส�ำนักงำนพระพุทธศำสนำแห่งชำติ (พศ.) โดยคิดเพ่ิม ในอัตรำส่วน ๓ ใน ๔ หรือวัดรับไปร้อยละ ๒๕ จำกนั้นจะส่งงบไปให้ ส�ำนักงำนพระพุทธศำสนำ แห่งชำติ (พศ.) พิจำรณำ เมื่องบได้รับกำรอนุมัติ วัดต้องเบิกเงินร้อยละ ๗๕ ให้เจ้ำหน้ำท่ี ส�ำนักงำน พระพทุ ธศำสนำแหง่ ชำต ิ (พศ.) หรอื ทเี่ รยี กวำ่ “เงนิ ทอน” “กอ่ นหนำ้ นว้ี ดั สำมำรถทำ� เรอ่ื งของงบโดยตรง ไปยงั สำ� นกั พระพทุ ธศำสนำแหง่ ชำต ิ โดยมเี จำ้ หนำ้ ทใี่ หค้ วำมชว่ ยเหลอื และทอนเงนิ เขำ้ บญั ชวี ดั โดยตรง โดยไม่ผำ่ นกำรตรวจสอบ แตต่ ่อมำสำ� นักงำนตรวจเงนิ แผ่นดิน ได้เสนอแนะเพ่อื ให้ตรวจสอบไดง้ ำ่ ยขน้ึ โดยวดั ต้องสง่ ค�ำของบประมำณไปยัง ส�ำนักงำนพระพทุ ธศำสนำแหง่ ชำติ (พศ.) จังหวดั จำกน้นั สง่ ไปยัง สำ� นักงำนพระพทุ ธศำสนำแห่งชำติ (พศ.) ส่วนกลำงพิจำรณำ และงบทีไ่ ดร้ บั กำรอนุมัติจะถูกโอนไปยัง สำ� นกั งำนพระพทุ ธศำสนำแห่งชำติ (พศ.) จงั หวดั ระดบั ชนั้ ประถมศึกษำปีท่ี ๖ 57
ข่าวที่ ๔ อึ้ง!!! “โกงเงินคนจน” สดุ โจง คร่มึ ! มเี จ้าหน้ารฐั ฯ เขา้ ข่ายทจุ รติ เกือบ ๒๐๐ คน! บอร์ด ปปท. เคำะต้ังอนุไต่สวนข้อเท็จจริงคดีทุจริตเงินคนไร้ที่พึ่ง ๓๓ จว. มีผู้ถูกกล่ำวหำ ๑๕๘ รำย ระดับ ผอ.ศูนย ์ ๓๕ รำย ๖ เมษำยน ผู้สื่อข่ำวรำยงำนว่ำ เมื่อวันท่ี ๕ เมษำยน ท่ีผ่ำนมำ คณะกรรมกำรป้องกันและ ปรำบปรำมกำรทุจริตในภำครัฐ(ป.ป.ท.)ได้ประชุมพิจำรณำส�ำนวนกำรตรวจสอบข้อเท็จริงกำรทุจริต เบิกจ่ำยเงินสงเครำะห์ของศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พ่ึงพร้อมแผนประทุษกรรมท่ีตรวจสอบพบ ซึ่ง ป.ป.ท. เสนอใหค้ ณะกรรมกำร ป.ป.ท.พจิ ำรณำเพอื่ ลงมตแิ ตง่ ตงั้ คณะอนกุ รรมกำรไตส่ วนควำมผดิ ทำงอำญำกบั ผอู้ ำ� นวยกำรศนู ย ์ และเจำ้ หนำ้ ทข่ี องรฐั ทมี่ สี ว่ นเกย่ี วขอ้ งกบั กำรทจุ รติ โดยทปี่ ระชมุ มมี ตติ ง้ั อนกุ รรมกำร ไตส่ ่วน ๑๖ จงั หวัด ประกอบด้วย ๑. จงั หวัดปตั ตำนี ๒. จังหวัดสตูล ๓. จังหวัดสงขลำ ๔. จังหวดั ชุมพร ๕. จังหวัดภูเก็ต ๖. จังหวัดระนอง ๗. จังหวัดแม่ฮ่องสอน ๘. จังหวัดล�ำปำง ๙. จังหวัดพิษณุโลก ๑๐. จงั หวัดพิจติ ร ๑๑.จงั หวดั กำ� แพงเพชร ๑๒. จงั หวัดจนั ทบุร ี ๑๓. จงั หวดั สระบรุ ี ๑๔. จังหวัดลพบุร ี ๑๕. จังหวัดสมุทรสงครำม ๑๖. จังหวัดศรีสะเกษ นอกจำกนี้ยังมี นิคมสร้ำงตนเองฯ ๑ แห่ง คือ นิคมสร้ำงตนเองเชียงพิณ และศูนย์ประสำนงำนหมู่บ้ำนสหกรณ์ฯ ๑ แห่ง คือ ศูนย์ประสำนงำน โครงกำรหมบู่ ำ้ นสหกรณ์สันกำ� แพง จังหวดั เชยี งใหม่ ทง้ั นร้ี วมสรปุ ผลทป่ี ระชมุ มมี ตแิ ตง่ ตงั้ คณะอนกุ รรมกำรไตส่ วนขอ้ เทจ็ จรงิ ศนู ยค์ มุ้ ครองคนไรท้ พี่ ง่ึ แล้ว จ�ำนวน ๓๓ จงั หวัด ซ่งึ จะมีผู้ถกู กลำ่ วหำทัง้ สิ้น ๑๕๘ คน ประกอบด้วย ต�ำแหนง่ ผอ.ศูนย์คุ้มครอง คนไรท้ พ่ี ่งึ จ�ำนวน ๓๕ คน ตำ� แหนง่ ผอ.นคิ มสร้ำงตนเอง ๑ คน ตำ� แหนง่ ผอ.ศนู ย์ประสำนงำน ๑ คน และระดบั เจ้ำหน้ำทแ่ี ละผู้สนบั สนนุ ฯ ๑๒๑ คน 58 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวชิ าเพ่ิมเติม การป้องกนั การทุจรติ ”
ขา่ วที่ ๕ กรณที ุจริตอาหารกลางวันเด็กนกั เรยี น ไมไ่ ด้เกดิ ขนึ้ เฉพาะโรงเรยี นบา้ นท่าใหม่ จงั หวดั สุราษฎรธ์ านี เท่าน้ัน แต่ยงั มีพื้นท่ีอืน่ ๆ ทีม่ ีปญั หาในลักษณะเดียวกนั หำกเปรียบเทียบกรณที ุจรติ อำหำรกลำงวนั เดก็ นกั เรยี น ท่ีถกู แฉไมเ่ วน้ แต่ละวนั เปน็ ด่ังสภุ ำษติ “น้�ำลดตอผุด”ในยุคโซเชียลมีเดีย แบ่งบำน ก็คงไม่ผิดนัก เพรำะยิ่งขุด ก็ย่ิงเจอแทบทุกพ้ืนที่ ไล่เรียง มำต้ังแต่กรณี ฉำวโฉ่ของอดีตผู้อ�ำนวยกำรโรงเรียนบ้ำนท่ำใหม่ อ�ำเภอท่ำชนะ จังหวัดสุรำษฎร์ธำน ี ท่ีโกงงบประมำณอำหำรกลำงวัน เหลือให้นักเรียนช้ันอนุบำล ทำนแค่เส้นขนมจีนคลุกน้�ำปลำ หรือ น�้ำซุปวิญญำณเนื้อสัตว์ ไม่ต่ำงจำกโรงเรียนแห่งหนึ่งในจังหวัดลพบุรี ท่ีแฟนเพจ “แหม่มโพธ์ิด�ำ” แฉภำพปริมำณอำหำรกลำงวัน อันน้อยนิดของเด็กนักเรียน ไม่สมกับงบประมำณที่ได้ปีละเกือบ ๒ แสนบำท จนมำถึงกรณีของโรงเรียนในอ�ำเภอตะพำนหิน จังหวัดพิจิตร ที่วัตถุดิบท�ำอำหำรกลำงวัน ล่องหนหำยไปหลำยรำยกำร รวมหลำยสบิ กิโลกรัม เม่ือสำวลึกลงไป จะพบพฤติกรรมทุจริตตั้งแต่กำรจัดซื้อวัตถุดิบจำกตลำดในรำคำปกติ แต่ ขอเบกิ จำ่ ยเกนิ รำคำ หรอื จดั สง่ ไมค่ รบถว้ นตำมใบสงั่ ซอ้ื แตล่ งนำมเบกิ คำ่ วตั ถดุ บิ ครบเตม็ จำ� นวน อยำ่ งไร กต็ ำม เมือ่ “ตอ้ ตอ” ถกู แฉ กลบั มกี ำรลงโทษแค่ยำ้ ยออกนอกพื้นที่ หรือเด้งเข้ำกรสุ �ำนกั งำนเขตพ้ืนท่ี กำรศึกษำของจังหวัดน้ันๆ และตั้งคณะกรรมกำรสอบ แต่กลับไม่มีกำรเอำผิดทำงอำญำ หรือให้ชดใช้ ค่ำเสียหำย ก่อนลงเอยด้วยเรื่องเงียบหำยขณะที่ล่ำสุด นำยสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมส่งเสริม กำรปกครองทอ้ งถน่ิ ไดค้ ลอด ๓ มำตรกำร เพือ่ แก้ปัญหำโกงอำหำรกลำงวันเด็ก ไดแ้ ก ่ ใหผ้ วู้ ำ่ รำชกำร ทุกจังหวัด ตั้งคณะท�ำงำนออกสุ่มตรวจ ขอควำมร่วมมือผู้ปกครอง ดูแลเรื่องเมนูอำหำร โดยให้ทำง โรงเรียนท�ำเมนูล่วงหน้ำ ๑-๒ สัปดำห์ พร้อมประชำสัมพันธ์สร้ำงจิตส�ำนึก มำตรกำรท้ังหมดน้ี อำจช่วยแก้ปัญหำได้เพียงเบื้องต้น แต่หำกผู้เกี่ยวข้องโดยตรง ยังไม่มีจิตส�ำนึกในเรื่องทุจริต ก็ยำก ทจี่ ะแกป้ ญั หำไดใ้ นระยะยำว และเด็กๆ กค็ งต้องรับกรรมตอ่ ไป ระดับชน้ั ประถมศึกษำปีที ่ ๖ 59
ข่าวที่ ๖ “พงศ์อนิ ทร์ อินทรขาว” มือปราบดีเอสไอ เปดกระบวนการทุจริตจาำ นำาขา้ ว โกงไดท้ ุกข้ันตอน ระบสุ าวไม่ถึงตน้ ตอ ลำ่ สดุ เกดิ กำรทจุ รติ ในโครงกำรรบั จำ� นำ� ขำ้ วในฤดกู ำรผลติ ๒๕๕๔/๒๕๕๕ ของรฐั บำล “ยง่ิ ลกั ษณ ์ ชนิ วตั ร” ทนี่ ำ� ระบบรบั จำ� นำ� กลบั มำใชอ้ กี ครงั้ หลงั จำกยกเลกิ ไปชว่ งหนง่ึ ในรฐั บำล “อภสิ ทิ ธ ิ์ เวชชำชวี ะ” ซึง่ หนั ไปใชน้ โยบำยประกันรำยได้เกษตรกรแทน โครงกำรรบั จ�ำนำ� ของรฐั บำลชดุ นกี้ ำรันตวี ่ำจะควบคมุ ดูแลไม่ให้มีกำรทุจริต โดยแต่งต้ังคณะกรรมกำรหลำยๆ ชุดข้ึนมำก�ำกับตรวจสอบ แต่ประวัติศำสตร์ กซ็ ำ�้ รอย พบกำรทจุ รติ จำ� นำ� ขำ้ วเกดิ ขนึ้ จนได ้ โดยครงั้ นเ้ี ปน็ ครงั้ แรกทก่ี ระทรวงพำณชิ ยส์ ง่ เรอื่ งคดที จุ รติ จ�ำน�ำข้ำวเป็น “คดีพิเศษ” ให้กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) กระทรวงยุติธรรม รับไปด�ำเนินกำร ๒ คดี คือ คดกี ำรทจุ รติ โครงกำรจ�ำนำ� ขำ้ วจังหวดั กำญจนบุรแี ละจงั หวัดนครนำยก ซึง่ อำจมพี นื้ ท่อี น่ื เพม่ิ เตมิ เข้ำมำอีก เช่น ในพื้นทจ่ี งั หวัดบุรรี ัมย์ เปน็ ต้น 60 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวชิ าเพม่ิ เตมิ การปอ้ งกนั การทจุ ริต”
กำรทจุ รติ ทงั้ สองคด ี พบพฤตกิ รรมของผกู้ ระทำ� ควำมผดิ คอื มกี ำรสวมสทิ ธแ์ิ ทนเกษตรกรตวั จรงิ โดยผูท้ เ่ี ขำ้ สวมสิทธิไ์ ม่ไดเ้ ปน็ เกษตรกร เพอ่ื เขำ้ รว่ มโครงกำรรบั จำ� นำ� ขำ้ วเปลือกจำ� นวนหลำยรำย ซึ่งจะ ท�ำใหร้ ัฐเกิดควำมเสียหำย ทั้งน้ี คดีทุจริตจ�ำน�ำข้ำวที่ยกระดับเป็นคดีพิเศษ อยู่ภำยใต้ควำมรับผิดชอบของส�ำนักคดีควำม มั่นคงของดีเอสไอ มีมือปรำบที่ดูแลในเร่ืองน้ีคือ “พ.ต.ท. พงศ์อินทร์ อินทรขำว” ผู้บัญชำกำรส�ำนัก คดีควำมมั่นคง ซ่ึงได้กล่ำวถึงกำรท�ำคดีทุจริตจ�ำน�ำข้ำวว่ำ “ไม่ง่ำยเลยที่จะท�ำคดีเก่ียวกับกำรทุจริต โครงกำรรับจำ� นำ� ข้ำว เพรำะแต่ละกระบวนกำรที่เก่ยี วข้องมีผลประโยชนเ์ ยอะมำก” โดยสำ� นวนเกยี่ วกบั โครงกำรรบั จำ� นำ� จำ� นำ� พชื ผลเกษตร รวมถงึ จำ� นำ� ขำ้ วจะมหี ลกั เกณฑท์ ส่ี ำ� คญั แบง่ เปน็ ๓ ส่วน ๑. เกษตรกรทีน่ ำ� พชื ผลหรอื ข้ำวเปลือกไปจำ� นำ� ๒. คนกลำง เพรำะรัฐไม่มีท่ีรับจ�ำน�ำหน้ำงำน ไม่มีไซโล ส่วนใหญ่ถ้ำจ�ำน�ำมันส�ำปะหลัง กไ็ ปโรงมนั โรงแปง้ ถำ้ เปน็ ขำ้ วกไ็ ปโรงส ี สว่ นลำ� ไยกเ็ ปน็ โรงอบ แลว้ แตก่ รณ ี จะมคี นกลำงเขำ้ มำเกย่ี วขอ้ ง ๓. เม่อื รบั จ�ำนำ� เสร็จก็ตอ้ งเอำไปเขำ้ คลงั สินคำ้ กลำง จำกนนั้ ก็ไปสโู่ ครงกำรระบำยสินคำ้ นีค่ อื กระบวนกำรท้งั หมดของกำรจำ� น�ำขำ้ วทงั้ ระบบ พ.ต.ท.พงศ์อินทร์ กล่ำวว่ำ โครงกำรรับจ�ำน�ำพืชผลเกษตรทุกอย่ำงจะมีเกษตรกร หลังจำกนั้น จะมีเรื่องของคนกลำง กรณจี ำ� นำ� ข้ำวคอื โรงสี จำกโรงสีไปคลังสนิ ค้ำกลำง จำกนนั้ ก็ขั้นตอนสุดท้ำยคือ กำรระบำยข้ำว ระดับช้นั ประถมศึกษำปีท ี่ ๖ 61
ขา่ วสวนดสุ ิตโพล์ เรื่อง มองรฐั แก้ปัญหาทุจรติ ในปัจจบุ ันไม่ได้ ข่าว ดสุ ติ โพลเผยคน ๔๗.๕๐% มองรัฐแกป้ ญั หาทจุ รติ ในปจั จบุ นั ไมไ่ ด้ สวนดสุ ติ โพล เผยผลสาำ รวจกลมุ่ ตวั อยา่ งพบประชาชนรอ้ ยละ ๔๗.๕๐ คดิ วา่ รฐั บาลไมส่ ามารถ แกป้ ญั หาการทุจรติ ได้ เนอื่ งจากเกิดขนึ้ มานานและมีอยทู่ กุ วงการ ขณะท่ขี ่าวการทจุ รติ ท่ปี ระชาชน สนใจมากสุดคือ อาหารกลางวันเดก็ นกั เรียน รองลงมาคือ เงนิ ทอนวัด “สวนดสุ ติ โพล” มหำวทิ ยำลัยสวนดุสติ ส�ำรวจควำมคิดเห็นของประชำชนทว่ั ประเทศ จำกกรณี ขำ่ วกำรทจุ รติ ในชว่ งนมี้ หี ลำยคดที อี่ ยใู่ นควำมสนใจของประชำชน ไมว่ ำ่ จะเปน็ กำรทจุ รติ ในแวดวงรำชกำร หรอื วงกำรสงฆ ์ ต่ำงชีใ้ หเ้ ห็นถึงปัญหำส�ำคัญที่ฝังรำกลึกในสังคมไทยมำนำน และยงั คงมใี หเ้ หน็ อยเู่ สมอ ซ่ึงผลสำ� รวจสรุปไดด้ งั น้ี “๕ อันดับ” ขา่ วการทุจรติ ทีป่ ระชาชนสนใจมากทส่ี ดุ อันดับ ๑ อำหำรกลำงวันเด็กนกั เรียนร้อยละ ๔๒.๐๓ อนั ดบั ๒ เงนิ ทอนวดั รอ้ ยละ ๔๐ อันดับ ๓ เงินคนจน เบยี้ ผสู้ ูงอำย ุ ศนู ยค์ ุม้ ครองคนไรท้ ่ีพึง่ ร้อยละ ๓๗ อันดับ ๔ กำรใชง้ บประมำณแผน่ ดินของรัฐบำล งบโครงกำรต่ำง ๆ ร้อยละ ๒๑.๐๖ อันดับ ๕ กำรทุจริตต่ำง ๆ ในกระทรวงศึกษำธิกำร เช่น คุรุภัณฑ์ นมโรงเรียน กองทุนเสมำ รอ้ ยละ ๒๐.๖๘ 62 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวิชาเพมิ่ เติม การป้องกนั การทุจริต”
ประชาชนคิดว่า “สาเหตุการทจุ ริต” คอื อนั ดบั ๑ กิเลส โลภ ละโมบ ควำมเหน็ แกต่ ัวร้อยละ ๖๘.๓๕ อันดบั ๒ ระบบกำรตรวจสอบมชี อ่ งโหว่ ไม่รัดกมุ เจ้ำหน้ำทีร่ ้เู หน็ เปน็ ใจรอ้ ยละ ๒๘.๔๒ อันดบั ๓ ไมเ่ กรงกลัวกฎหมำย บทลงโทษไมร่ นุ แรงร้อยละ ๑๙.๓๐ อันดับ ๔ สงั คมเปลี่ยนแปลง มสี งิ่ ยัว่ ยุมำกข้ึน ค่ำนิยมผดิ ๆ รอ้ ยละ ๑๗.๑๑ อนั ดบั ๕ เงินเดอื นน้อย เศรษฐกิจไม่ดี เงินไม่พอใชร้ อ้ ยละ ๑๔.๘๓ ประชาชนคิดวา่ ควรจะมี “วธิ ีการปอ้ งกนั การทจุ ริต” คอื อันดบั ๑ ปลูกฝงั คำ่ นิยม เนน้ ควำมซอื่ สตั ย ์ จิตส�ำนึกท่ดี ีรอ้ ยละ ๔๕.๗๙ อันดับ ๒ กฎหมำยตอ้ งใช้ได้จริง ไม่สองมำตรฐำน บทลงโทษรนุ แรงรอ้ ยละ ๓๘.๘๑ อันดับ ๓ มีมำตรกำรปอ้ งกันและระบบกำรตรวจสอบทร่ี ัดกุมร้อยละ ๓๑.๒๑ อนั ดับ ๔ ทกุ คนทกุ ฝำ่ ยตอ้ งช่วยกัน สอดสอ่ งดแู ล เป็นหูเปน็ ตำร้อยละ ๒๑.๗๗ อันดบั ๕ นักกำรเมือง ขำ้ รำชกำร ผใู้ หญ่ต้องเปน็ แบบอยำ่ งท่ีดีใหก้ บั เด็กรอ้ ยละ ๑๓.๒๔ ประชาชนคดิ ว่ารฐั บาลจะสามารถแก้ปญั หาทจุ รติ ในปจั จบุ ันไดห้ รือไม?่ อนั ดับ ๑ แก้ไขไม่ได้ร้อยละ ๔๗.๕๐ เพรำะกำรทุจริตเกิดข้ึนมำนำนและมีอยู่ทุกวงกำร แก้ไข ได้ยำก สังคมเส่ือมโทรม คนมีค่ำนิยมในทำงที่ผิด มีตัวอย่ำงท่ีไม่ดีให้เห็น ผู้มีอ�ำนำจมีอิทธิพลเข้ำมำ เก่ียวขอ้ ง ดำ� เนินคดไี ดย้ ำก ฯลฯ อันดับ ๒ ไม่แน่ใจร้อยละ ๓๒.๕๔ เพรำะ ปัญหำกำรทุจริตมีทุกท่ี มีทั้งท่ีแก้ไขได้และไม่ได ้ อำจดูแลไม่ทั่วถึง ต้องใชเ้ วลำนำน รอติดตำมกำรทำ� งำนตอ่ ไป ฯลฯ อนั ดับ ๓ แกไ้ ขได้รอ้ ยละ ๑๙.๙๖ เพรำะรฐั บำลมีอำ� นำจเด็ดขำด หำกตงั้ ใจจริงก็สำมำรถท�ำได้ ที่ผ่ำนมำมีผลงำนกำรปรำบปรำมกำรทุจริตให้เห็น ถ้ำมีมำตรกำรเด็ดขำดกวำดล้ำงอย่ำงจริงจังน่ำจะ ท�ำให้กำรทุจรติ ลดลงได้ ฯลฯ ประชาชนได้ “บทเรยี น” อะไร? จากขา่ วทุจริต ณ วันนี้ อนั ดบั ๑ เป็นปัญหำสำ� คัญของสงั คมไทย ฝงั รำกลกึ แกไ้ ขไดย้ ำก ๕๑.๘๗% อันดับ ๒ กำรบงั คับใช้กฎหมำยยงั ออ่ นแอ ไมร่ ุนแรงรอ้ ยละ ๓๓.๓๘ อนั ดับ ๓ กำรทุจริตเกิดข้ึนได้ทุกวงกำร ทุกฝ่ำยต้องหันมำช่วยกันแก้ไขร้อยละ ๒๗.๐๗ อนั ดบั ๔ ทำ� ใหภ้ ำพลกั ษณว์ งกำรรำชกำรเส่อื มเสีย ถดถอยรอ้ ยละ ๒๐.๕๓ อนั ดับ ๕ คนขำดคุณธรรมจรยิ ธรรม ตอ้ งเรง่ สร้ำงจติ สำ� นกึ รอ้ ยละ ๑๗.๘๗ ระดับชนั้ ประถมศึกษำปีที ่ ๖ 63
ใบงาน กจิ กรรมท่สี ง่ ผลใหเ้ กิดความละอายและไม่ทนตอ่ การทจุ ริต 64 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวชิ าเพมิ่ เติม การปอ้ งกันการทุจรติ ”
แบบประเมินผลงานนักเรยี น ช่ือ-นามสกุล ...................................................................ชน้ั ............... หน่วยการเรยี นรูท้ .่ี ........กจิ กรรม............................................................. ค�ำช้ีแจง ให้ผปู้ ระเมนิ ใส่เคร่ืองหมาย ลงในช่องที่ตรงกบั ระดับคะแนน ผู้ประเมิน ประเด็นท่ปี ระเมิน ตนเอง เพ่อื น ครู ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ ๑. ตรงจดุ ประสงคท์ ก่ี �ำหนด ๒. มีความถูกตอ้ ง ๓. มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ ๔. มีความเปน็ ระเบยี บ รวม รวมทกุ รายการเฉลยี่ ลงชื่อผู้ประเมิน................................................(ตนเอง) ลงช่ือผปู้ ระเมิน................................................(เพ่ือน) ลงชอื่ ผู้ประเมิน................................................(ครู) ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ 65
เกณฑ์การให้คะแนนผลงาน รายการประเมิน ๔ (ดีมาก) คำ�อธบิ ายระดบั คุณภาพ ๑ (ปรับปรุง) ๓ (ดี) ๒ (พอใช)้ ผลงานไม่สอดคล้อง ๑. ผลงานตรงกบั ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคล้อง กบั จดุ ประสงค์ จดุ ประสงคท์ กี่ ำ�หนด จุดประสงค์ กับจดุ ประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ เน้ือหาสาระของ ผลงานไมถ่ ูกต้อง ทกุ ประเดน็ เป็นส่วนใหญ่ บางประเดน็ เปน็ ส่วนใหญ่ ผลงานไม่แสดง ๒. ผลงานมคี วาม เน้อื หาสาระของ เน้อื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ แนวคดิ ใหม่ ถูกต้องสมบรู ณ์ ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานถกู ต้อง ผลงานถกู ตอ้ ง ผลงานส่วนใหญ่ ไมเ่ ป็นระเบยี บ ครบถว้ น เป็นส่วนใหญ่ เปน็ บางประเด็น และมขี ้อบกพร่อง ๓. ผลงานมีความคิด ผลงานแสดงออก ผลงานมแี นวคิด ผลงานมาความ สร้างสรรค์ ถงึ ความคิด แปลกใหม่ นา่ สนใจ แตย่ ังไมม่ ี สร้างสรรค์แปลกใหม่ แตย่ งั ไมเ่ ป็นระบบ แนวคิดแปลกใหม่ และเป็นระบบ ๔. ผลงานมีความ ผลงานมีความ ผลงานสว่ นใหญ่ ผลงานมีความ เปน็ ระเบยี บ เป็นระเบียบ มีความเป็นระเบียบ เป็นระเบยี บ แสดงออกถึง แต่ยงั มขี อ้ บกพรอ่ ง แตม่ ีขอ้ บกพร่อง ความประณีต บางสว่ น เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ นกั เรียนได้ระดับดีข้นึ ไป ถือว่าผ่าน 66 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพม่ิ เติม การป้องกันการทจุ ริต”
แผนการจัดการเรยี นรู้ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ เวลา ๒ ช่ัวโมง หนว่ ยท่ี ๒ ชื่อหน่วย ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ รติ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี ๓ เรือ่ ง แนวทางการปฏิบัติตนเปน็ ผ้มู ีความละอาย และความไม่ทนต่อการทุจริตในระดับประเทศ ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มีความร้คู วามเข้าใจ เกยี่ วกับความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ ริต ๑.๒ ปฏิบตั ติ นเป็นผมู้ ีความละอายและไมท่ นตอ่ การทุจรติ ทนทุกรูปแบบ ๑.๓ ตระหนกั และเหน็ ความสำ� คญั ของการต่อต้านและการปอ้ งกนั การทุจรติ ๒. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ ๒.๑ นกั เรยี นสามารถอธิบายความหมายของคำ� วา่ ละอาย ความไมท่ น และการทุจริตได้ ๒.๒ นักเรียนสามารถบอกแนวทางการปฏิบัติตนเป็นผู้มีความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต ในระดบั ประเทศได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) ความละอายเป็นความละอายและความเกรงกลัวต่อส่ิงท่ีไม่ดี ไม่ถูกต้อง ไม่เหมาะสม เพราะเห็นถึงโทษหรือผลกระทบท่ีจะได้รับจากการกระท�ำน้ัน จึงไม่กลัวที่จะกระท�ำท�ำให้ตนเองไม่หลงท�ำ ในสง่ิ ทีผ่ ิด ๒) ความไม่ทนต่อการทุจริต บคุ คลจะมีความไม่ทนต่อการทจุ ริตมากนอ้ ยเพียงใด ข้นึ อยกู่ ับจิตส�ำนกึ ของแตล่ ะบคุ คล และผลกระทบทเี่ กดิ ขน้ึ จากการกระทำ� นน้ั ๆ แลว้ มพี ฤตกิ รรมทแี่ สดงออกมาซง่ึ การแสดงกรยิ า หรอื การกระทำ� จะมหี ลายระดบั ๓.๒ สมรรถนะส�ำคัญของผเู้ รยี น ๑) ความสามารถในการคิด ๒) ความสามารถในการสอื่ สาร ๓.๓ คณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์/ค่านิยม ซอ่ื สตั ย์สจุ รติ ๔. กจิ กรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ข้ันการเรยี นรู้ ชั่วโมงท่ี ๑ ๑) ครทู บทวนค�ำว่าความละอายความไม่ทนต่อการทจุ ริต ๒) ใหน้ กั เรียนอา่ นข่าวหนว่ ยงานต่างๆมีแนวทางในการป้องกันการทจุ รติ - ข่าวหนว่ ยงานส�ำนักงานคณะกรรมการป้องกนั และปราบปรามการทจุ ริตแหง่ ชาติ (ป.ป.ช.) - ข่าวหน่วยงานจงั หวัดนครราชสีมา - ข่าวหน่วยงานบรษิ ัท เอสซีจี ระดับชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ 67
- ขา่ วหน่วยงานศูนยป์ ฏิบตั กิ ารต่อตา้ นการทุจริต กระทรวงยตุ ธิ รรม - ข่าวหนว่ ยงานบรษิ ทั อสมท จ�ำกดั (มหาชน) - ขา่ วหนว่ ยงานบริษัท สหกล จ�ำกัด (มหาชน) ช่ัวโมงที่ ๒ ๑) ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม ๕ กลุ่มให้แต่ละกลุ่มสรุปแนวทางการปฏิบัติตนเป็นผู้มีความละอาย และความไม่ทนตอ่ การทจุ ริตในระดบั ประเทศจากขา่ วทีไ่ ดอ้ า่ นไปแลว้ นำ� เสนอหน้าชัน้ ๒) ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสรุปแนวทางการปฏิบัติตนเป็นผู้มีความละอายและความไม่ทน ต่อการทุจริตในระดับประเทศพร้อมทั้งเขียนใส่ใบงานสรุปแนวทางการปฏิบัติตนเป็นผู้มีความละอายและ ความไมท่ นต่อการทจุ ริตในระดบั ประเทศ ๔.๒ สือ่ การเรยี นรู้ ๑) ขา่ วหนว่ ยงานตา่ งๆมแี นวทางในการปอ้ งกนั การทุจริต ๒) ใบงานแนวทางการปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผมู้ คี วามละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ รติ ในระดบั ประเทศ ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ กี ารประเมนิ ๑) สงั เกตการพฤตกิ รรมของนกั เรียนในการท�ำกิจกรรมกลมุ่ ๒) ตรวจผลงานการท�ำใบงานสรุปแนวทางการปฏิบัติตนเป็นผู้มีความละอายและความไม่ทน ต่อการทุจรติ ในระดับประเทศ ๕.๒ เครอ่ื งมอื ในการประเมิน ๑) แบบสังเกตการพฤตกิ รรมของนักเรียนในการท�ำกจิ กรรมกลุ่ม ๒) แบบให้คะแนนการตรวจผลงานใบงานสรุปแนวทางการปฏิบัติตนเป็นผู้มีความละอายและ ความไม่ทนต่อการทุจรติ ในระดับประเทศ ๖. บันทกึ หลังการจัดการเรยี นรู้ ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ลงชื่อ........................................ครูผ้สู อน (.......................................) 68 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวิชาเพิม่ เตมิ การปอ้ งกนั การทุจริต”
๗. ภาคผนวก หนว่ ยงานที่ ๑ สาำ นักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทจุ ริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) (Office of the National Anti-Corruption Commission) เป็นส�ำนักงำนเลขำนุกำรของคณะกรรมกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริตแห่งชำติ เป็น หน่วยงำนท่ีเป็นอิสระ มีฐำนะเทียบเท่ำกรมตำมกฎหมำยว่ำด้วยระเบียบบริหำรรำชกำรแผ่นดิน มีเลขำธิกำรคณะกรรมกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริตแห่งชำติเป็นผู้บังคับบัญชำขึ้นตรงต่อ ประธำนกรรมกำรปอ้ งกนั และปรำบปรำมกำรทุจริตแห่งชำตมิ ีหนำ้ ท่ี ๑. ก�ำหนดแนวทำงและส่งเสริมในกำรน�ำมำตรกำรป้องกันกำรทุจริต ไปสู่กำรปฏิบัติเพื่อให้มี กำรปรับปรุงกำรปฏิบัติรำชกำร หรือวำงแผนงำนโครงกำรของส่วนรำชกำร รัฐวิสำหกิจหรือหน่วยงำน ของรัฐเพ่ือป้องกันหรือปรำบปรำมกำรทุจริตต่อหน้ำที่ กำรกระท�ำควำมผิดต่อต�ำแหน่งหน้ำที่หรือ กำรกระทำ� ควำมผิดต่อตำ� แหน่งหนำ้ ทใี่ นกำรยตุ ิธรรมในกล่มุ เปำ้ หมำยภำครฐั วสิ ำหกิจและธรุ กจิ เอกชน ๒. ศึกษำวิเครำะห์สืบค้นสภำวะขององค์กร หรือสภำวกำรณ์กรณีเกิดกำรทุจริตในหน่วยงำน เพือ่ น�ำเสนอแนวทำงกำรปอ้ งกนั กำรทจุ รติ ตอ่ สำ� นกั มำตรกำรป้องกนั กำรทุจริต ๓. ด�ำเนินกำรแผนงำน โครงกำร และกิจกรรมเพ่ือเสริมสร้ำงทัศนคติ ค่ำนิยมในควำมซ่ือสัตย์ สุจริตและกำรมีส่วนร่วมในกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริตในกลุ่มเป้ำหมำยภำครัฐวิสำหกิจและ ธรุ กจิ เอกชน ๔. ด�ำเนินกำรประสำน เผยแพร่และสนับสนุนส่งเสริมให้มีกำรเสริมสร้ำงคุณธรรมจริยธรรม ทัศนคติค่ำนิยมในควำมซื่อสัตย์สุจริตภำยในองค์กรและบุคลำกรในกลุ่มเป้ำหมำยภำครัฐวิสำหกิจและ ธรุ กจิ เอกชน ๕. ด�ำเนินกำรสนับสนนุ ส่งเสรมิ พัฒนำและรณรงค์ให้กลมุ่ เปำ้ หมำยภำครฐั วิสำหกจิ และธุรกิจ เอกชนเข้ำมำมสี ่วนร่วมในกำรปอ้ งกนั และปรำบปรำมกำรทจุ รติ ๖. ตรวจสอบข้อเท็จจริง เฝ้ำระวัง ตั้งข้อสังเกตหรือศึกษำกระบวนกำรท�ำงำนของเร่ืองที่มี กำรรอ้ งเรยี นกลมุ่ เปำ้ หมำยภำครฐั วสิ ำหกจิ และธรุ กจิ เอกชนเพอื่ วเิ ครำะหข์ อ้ บกพรอ่ งในกำรปฏบิ ตั แิ ละ จดั ทำ� รำยงำนผลเสนอแนะแนวทำงปอ้ งกนั กำรทจุ ริตและแก้ไขปัญหำ ๗. ประสำนงำนและปฏบิ ตั งิ ำนรว่ มกบั หรอื สนบั สนนุ กำรปฏบิ ตั งิ ำนของสำ� นกั งำน ป.ป.ช.จงั หวดั เขตพนื้ ท่ี และหน่วยงำนอืน่ ท่ีเก่ียวข้อง ๘. ส่งเสรมิ กำรปอ้ งกันและปรำบปรำมกำรทจุ รติ ตำมที่ได้รบั มอบหมำย ๙. ปฏบิ ตั ิงำนอ่ืนตำมท่ีได้รบั มอบหมำย ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษำปีท่ ี ๖ 69
หนว่ ยงานท่ี ๒ ทัว่ ไทยร่วมแสดงพลงั ‘วันตอ่ ต้านคอรร์ ัปชนั สากล’ ปลกุ สงั คมต้านทจุ ริต เวลำ ๐๙.๓๐ น. นำยมรุ ธำธีย ์ รักชำติเจริญ รองผวู้ ำ่ รำชกำรจงั หวดั นครรำชสมี ำ ไดเ้ ปน็ ประธำน เปดโครงกำรกำรจัดงำนวันต่อต้ำนคอร์รัปชันสำกลประเทศไทย (จังหวัดนครรำชสีมำ) ภำยใต้แนวคิด “สจุ รติ ตำมรอยพ่อ ขอท�ำดเี พื่อแผ่นดนิ ” ทหี่ อ้ งประชุมตะโกรำย ๒ (อำคำร ๓๕) ภำยในมหำวทิ ยำลัย เทคโนโลยีรำชมงคลอีสำน อ�ำเภอเมือง จังหวัดนครรำชสีมำ ขณะท่ีบริเวณหน้ำอำคำรห้องประชุม ได้มีคณำจำรย์และนักศึกษำมหำวิทยำลัยรำชภัฏนครรำชสีมำกว่ำ ๓๐๐ คน น�ำโดยอำจำรย์สำมำรถ จับโจร ผู้ช่วยอธิกำรบดี ได้น�ำนักศึกษำแสดงพลังด้วยกำรแสดงสัญลักษณ์ โดยใช้แขนสองข้ำงท�ำเป็น รูปกำกบำท พร้อมกับจับมือชูข้ึน ประกำศเจตนำรมณ์กำรแสดงออกถึงควำมรู้สึกกำรให้ควำมส�ำคัญ กบั ปญั หำกำรคอรร์ ปั ชนั รว่ มกนั ในกำรรณรงคก์ ำรตอ่ ตำ้ นคอรร์ ปั ชนั ทกุ รปู แบบไปตำมถนนสรุ นำรำยณ์ ไปยังห้องประชมุ จนได้รับควำมสนใจเป็นอย่ำงมำก อยำ่ งไรก็ตำม ไดม้ ีกจิ กรรมประกวดวำดภำพและสนุ ทรพจน์หัวข้อ “สุจรติ ตำมรอยพอ่ ขอทำ� ดี เพื่อแผ่นดิน” กำรจัดคร้ังน้ีมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อกระตุ้นเตือนให้สังคมและทุกภำคส่วนได้ตระหนัก ในผลเสียหำยร้ำยแรงที่เกิดขึ้นจำกกำรทุจริตคอร์รัปชัน และเป็นกำรประสำนควำมร่วมมือระหว่ำง องคก์ รภำคเี ครอื ขำ่ ยทกุ ภำคสว่ นรว่ มมอื กนั ในกำรตอ่ ตำ้ นกำรทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั รวมทงั้ เปน็ กำรสรำ้ งกลมุ่ เครือข่ำยป้องกันกำรทุจริตที่ย่ังยืน ซ่ึงในเวลำต่อมำ พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชำ นำยกรัฐมนตรี ได้วิดีโอคอนเฟอเรนซ์รำยกำรสดมำยังห้องประชุมตะโกรำย มหำวิทยำลัยเทคโนโลยีรำชมงคลอีสำน จังหวัดนครรำชสีมำ โดยบรรยำกำศทุกคนนง่ั เงียบรบั ฟังอยำ่ งต้ังอกต้ังใจฟังดว้ ยควำมแนว่ แน ่ ซง่ึ ถอื วำ่ เป็นวันท่ีมีควำมส�ำคัญมำกของประชำชนคนไทย ท่ีต้องตระหนักรู้และต่อสู้ให้ได้กับปัญหำคอร์รัปชัน แมว้ ่ำจะยำกเย็น แต่ถ้ำทุกคนทำ� ได้ ไมช่ ำ้ กเ็ รว็ สำ� เร็จไดแ้ นน่ อน 70 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวชิ าเพมิ่ เตมิ การปอ้ งกันการทจุ รติ ”
หนว่ ยงานท่ี ๓ ประกาศ บรษิ ัท เอสซจี ี เรอื่ ง นโยบายต่อต้านคอรร์ ัปชัน นโยบายต่อต้านคอร์รัปชัน (Anti-corruption Policy) เอสซีจี มีอุดมกำรณ์ในกำรด�ำเนิน ธุรกิจอย่ำงมีคุณธรรมโดยยึดม่ันในควำมรับผิดชอบต่อสังคมและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มตำมหลัก บรรษัทภบิ ำลที่ดี และจรรยำบรรณเอสซีจ ี ตลอดจนนโยบำยและแนวปฏบิ ัตติ ่อผู้มสี ว่ นได้เสยี กลุ่มตำ่ งๆ ของเอสซีจี ในปี ๒๕๕๕ เอสซีจี ได้เข้ำร่วมใน “แนวร่วมปฏิบัติของภำคเอกชนไทย ในกำรต่อต้ำน กำรทจุ ริต” เพ่อื แสดงเจตนำรมณแ์ ละควำมมงุ่ มั่นในกำรตอ่ ต้ำนคอรร์ ัปชนั ในทุกรูปแบบเพือ่ ใหม้ ่นั ใจวำ่ เอสซีจ ี มีนโยบำยกำรก�ำหนดควำมรับผดิ ชอบ แนวปฏิบัติ และขอ้ ก�ำหนดในกำรดำ� เนนิ กำรทเี่ หมำะสม เพื่อป้องกันคอร์รัปชันกับทุกกิจกรรมทำงธุรกิจของเอสซีจี และเพ่ือให้กำรตัดสินใจและกำรด�ำเนินกำร ทำงธรุ กจิ ทอี่ ำจมคี วำมเสย่ี งดำ้ นกำรทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั ไดร้ บั กำรพจิ ำรณำและปฏบิ ตั อิ ยำ่ งรอบคอบ เอสซจี ี จงึ ไดจ้ ดั ท�ำ “นโยบำยตอ่ ต้ำนคอรร์ ัปชัน” เป็นลำยลกั ษณ์อักษรขน้ึ เพื่อเปน็ แนวทำงกำรปฏิบัตทิ ีช่ ัดเจน ในกำรดำ� เนินธรุ กจิ และพัฒนำสู่องค์กรแหง่ ควำมย่ังยืน คำานิยามตามนโยบายต่อต้านคอร์รัปชันคอร์รัปชัน (Corruption) หมำยถึง กำรติดสินบน ไม่ว่ำจะอยู่ในรูปแบบใดๆ โดยกำรเสนอให้ สัญญำว่ำจะให้มอบให้ให้ค�ำมั่นว่ำจะให้เรียกร้อง หรือรับ ซง่ึ เงนิ ทรัพยส์ ิน หรือประโยชนอ์ ืน่ ใดซง่ึ ไม่เหมำะสม กบั เจ้ำหนำ้ ทีข่ องรัฐ หน่วยงำนของรัฐ หน่วยงำน ของเอกชน หรือผู้มีหน้ำท่ีไม่ว่ำจะโดยทำงตรงหรือทำงอ้อม เพื่อให้บุคคลดังกล่ำวปฏิบัติหรือละเว้น กำรปฏิบัติหน้ำท่ีอันเป็นกำรให้ได้มำหรือรักษำไว้ซ่ึงธุรกิจ หรือน�ำธุรกิจให้กับบริษัทโดยเฉพำะ หรือ เพ่ือให้ได้มำหรือรักษำไว้ ซ่ึงผลประโยชน์อื่นใดท่ีไม่เหมำะสมทำงธุรกิจ เว้นแต่เป็นกรณีที่กฎหมำย ระเบยี บ ประกำศ ขอ้ บังคับขนบธรรมเนียมประเพณีของทอ้ งถิน่ หรือจำรีตทำงกำรคำ้ ใหก้ ระทำ� ได้ นโยบายต่อต้านคอร์รัปชัน ห้ำมกรรมกำร ผู้บริหำร และพนักงำนของเอสซีจีด�ำเนินกำรหรือ ยอมรับกำรคอร์รัปชันในทุกรูปแบบท้ังทำงตรงหรือทำงอ้อม โดยครอบคลุมถึงทุกธุรกิจในทุกประเทศ และทุกหน่วยงำนท่ีเกี่ยวข้อง และให้มีกำรสอบทำนกำรปฏิบัติตำมนโยบำยต่อต้ำนคอร์รัปชันนี้ อย่ำงสม่�ำเสมอ ตลอดจนทบทวนแนวทำงกำรปฏบิ ัติ และขอ้ ก�ำหนดในกำรดำ� เนินกำรเพ่อื ให้สอดคลอ้ ง กับกำรเปลยี่ นแปลงของธุรกจิ ระเบียบ ข้อบังคับ และขอ้ ก�ำหนดของกฎหมำย แนวทางการปฏิบตั ิ ๑. กรรมกำรบรษิ ทั ผบู้ รหิ ำร พนกั งำนเอสซจี ที กุ ระดบั ตอ้ งปฏบิ ตั ติ ำมนโยบำยตอ่ ตำ้ นคอรร์ ปั ชนั และจรรยำบรรณเอสซจี โี ดยต้องไม่เขำ้ ไปเกีย่ วข้องกบั เรอ่ื งคอร์รปั ชนั ไม่ว่ำโดยทำงตรงหรอื ทำงอ้อม ๒. พนักงำนเอสซีจี ไม่พึงละเลยหรือเพิกเฉย เมื่อพบเห็นกำรกระท�ำที่เข้ำข่ำยคอร์รัปชัน ท่ีเก่ียวข้องกับเอสซีจีต้องแจ้งให้ผู้บังคับบัญชำ หรือบุคคลท่ีรับผิดชอบทรำบ และให้ควำมร่วมมือ ในกำรตรวจสอบขอ้ เท็จจรงิ ต่ำงๆ หำกมีขอ้ สงสัยหรอื ข้อซกั ถำมใหป้ รกึ ษำกับผู้บังคับบัญชำ หรือบคุ คล ที่ก�ำหนดให้ท�ำหน้ำที่รับผิดชอบเกี่ยวกับกำรติดตำมกำรปฏิบัติตำมจรรยำบรรณเอสซีจีผ่ำนช่องทำง ต่ำงๆ ท่กี �ำหนดไว้ ระดบั ชนั้ ประถมศึกษำปีท ี่ ๖ 71
๓. เอสซจี จี ะใหค้ วำมเปน็ ธรรมและคมุ้ ครองพนกั งำนทป่ี ฏเิ สธหรอื แจง้ เรอ่ื งคอรร์ ปั ชนั ทเี่ กย่ี วขอ้ ง กบั เอสซจี โี ดยใชม้ ำตรกำรคมุ้ ครองผรู้ อ้ งเรยี น หรอื ผทู้ ใี่ หค้ วำมรว่ มมอื ในกำรรำยงำนกำรทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั ตำมท่ีเอสซีจีกำ� หนดไวใ้ น Whistleblower Policy ๔. ผู้ที่กระท�ำคอร์รัปชัน เป็นกำรกระท�ำผิดจรรยำบรรณเอสซีจี ซ่ึงจะต้องได้รับกำรพิจำรณำ ทำงวินัยตำมระเบียบท่ีเอสซีจีก�ำหนดไว้ นอกจำกน้ีอำจจะได้รับโทษตำมกฎหมำย หำกกำรกระท�ำนั้น ผดิ กฎหมำย ๕. เอสซีจีตระหนักถึงควำมส�ำคัญในกำรเผยแพร่ ให้ควำมรู้และท�ำควำมเข้ำใจกับบุคคลอื่น ท่ีต้องปฏิบัติหน้ำท่ีท่ีเก่ียวข้องกับเอสซีจี หรืออำจเกิดผลกระทบต่อเอสซีจี ในเรื่องท่ีต้องปฏิบัติให้เป็น ไปตำมนโยบำยต่อต้ำนคอร์รปั ชนั นี้ ๖. เอสซีจี มุ่งม่ันที่จะสร้ำงและรักษำวัฒนธรรมองค์กรที่ยึดมั่นว่ำคอร์รัปชันเป็นส่ิงที่ยอมรับ ไมไ่ ดท้ งั้ กำรท�ำธุรกรรมกับภำครฐั และภำคเอกชน ขอ้ กำาหนดในการดำาเนินการ ๑. นโยบำยตอ่ ตำ้ นคอรร์ ปั ชนั นใ้ี หค้ รอบคลมุ ไปถงึ กระบวนกำรบรหิ ำรงำนบคุ คล ตง้ั แตก่ ำรสรรหำ หรือกำรคัดเลือกบุคคลำกร กำรเลื่อนต�ำแหน่ง กำรฝกอบรม กำรประเมินผลกำรปฏิบัติงำนพนักงำน และกำรใหผ้ ลตอบแทน โดยก�ำหนดให้ผ้บู ังคับบัญชำทกุ ระดบั สื่อสำรท�ำควำมเข้ำใจ กับพนักงำนเพอ่ื ใช้ ในกิจกรรมทำงธุรกจิ ที่อยู่ในควำมรบั ผดิ ชอบและควบคุมดูแลกำรปฏิบตั ิให้เปน็ ไปอย่ำงมปี ระสทิ ธิภำพ ๒. กำรด�ำเนินกำรใดๆ ตำมนโยบำยต่อต้ำนคอร์รัปชันให้ใช้แนวปฏิบัติตำมท่ีก�ำหนดไว้ในคู่มือ จรรยำบรรณเอสซจี คี มู่ อื บรรษทั ภบิ ำล นโยบำยและแนวปฏบิ ตั ติ อ่ ผมู้ สี ว่ นไดเ้ สยี กลมุ่ ตำ่ งๆ รวมทง้ั ระเบยี บ และคมู่ ือปฏิบัตงิ ำนของเอสซจี ที ีเ่ กย่ี วข้อง ตลอดจนแนวทำงปฏิบัติอน่ื ใดทเี่ อสซจี จี ะก ำหนดขน้ึ ต่อไป ๓. เพื่อควำมชัดเจนในกำรด�ำเนินกำรในเรื่องท่ีมีควำมเส่ียงสูงกับกำรเกิดคอร์รัปชัน กรรมกำร บรษิ ทั ผ้บู ริหำรและพนักงำนเอสซีจที กุ ระดับตอ้ งปฏิบตั ิด้วยควำมระมัดระวงั ในเรอื่ งดังต่อไปน้ี ๓.๑ ของกำ� นลั กำรเลยี้ งรบั รองและคำ่ ใชจ้ ำ่ ยกำรให ้ มอบ หรอื รบั ของกำ� นลั กำรเลย้ี งรบั รอง ให้เปน็ ไปตำมท่ีกำ� หนดในจรรยำบรรณเอสซีจี ๓.๒ เงินบริจำคเพอ่ื กำรกุศล หรอื เงนิ สนบั สนนุ กำรใหห้ รือรบั เงนิ บรจิ ำค หรือเงนิ สนบั สนุน ต้องเป็นไปอย่ำงโปร่งใสและถูกต้องตำมกฎหมำย โดยต้องม่ันใจว่ำเงินบริจำค หรือเงินสนับสนุนไม่ได้ ถกู นำ� ไปใช้เพอ่ื เปน็ ข้ออำ้ งในกำรติดสินบน ๓.๓ ควำมสัมพันธ์ทำงธุรกิจและกำรจัดซ้ือจัดจ้ำงกับภำครัฐห้ำมให้หรือรับสินบนในกำร ดำ� เนนิ ธรุ กจิ ทกุ ชนดิ กำรดำ� เนนิ งำนของเอสซจี ี และกำรตดิ ตอ่ งำนกบั ภำครฐั จะตอ้ งเปน็ ไปอยำ่ งโปรง่ ใส ซอื่ สัตย์ และตอ้ งดำ� เนินกำรให้เป็นไปตำมกฎหมำยทเ่ี กีย่ วขอ้ ง 72 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวิชาเพ่ิมเตมิ การปอ้ งกันการทุจริต”
หน่วยงานที่ ๔ ศนู ยป์ ฏบิ ตั กิ ารตอ่ ตา้ นการทุจริต กระทรวงยตุ ิธรรม ควำมเป็นมำ จำกปัญหำกำรทุจริตที่ผ่ำนมำ มีควำมรุนแรงอย่ำงต่อเน่ือง คณะรักษำควำมสงบ แห่งชำติได้มีค�ำสั่งท่ี ๖๙/๒๕๕๗ เรื่องมำตรกำรป้องกันและแก้ไขปัญหำกำรทุจริตประพฤติมิชอบ ลงวันท่ี ๑๘ มิถุนำยน ๒๕๕๗ ให้ทุกส่วนรำชกำรและหน่วยงำนของรัฐก�ำหนดมำตรกำรหรือแนวทำง กำรป้องกนั และแกไ้ ขปัญหำกำรทุจรติ ประพฤตมิ ชิ อบในหน่วยงำน โดยมุง่ กำรสรำ้ งธรรมำภิบำลในกำร บริหำรงำน และส่งเสริมกำรมีส่วนร่วมจำกทุกภำคส่วนในกำรตรวจสอบ เฝ้ำระวังเพื่อสกัดกั้นมิให้เกิด กำรทุจริตประพฤติมิชอบ รัฐบำลได้เห็นถึงควำมส�ำคัญของกำรแก้ไขปัญหำกำรทุจริต ซึ่งได้ก�ำหนด เปน็ วำระแหง่ ชำติ อาำ นาจหน้าท่ีของศนู ยป์ ฏบิ ตั ิการตอ่ ต้านการทุจริต ศูนย์ปฏิบัติกำรต่อต้ำนกำรทุจริต (ศปท.) เป็นหน่วยงำนในส่วนรำชกำรตำมกฎกระทรวงแบ่ง สว่ นรำชกำร สำ� นักงำนปลัดกระทรวงยตุ ธิ รรม กระทรวงยุตธิ รรม(ฉบบั ท่ ี ๔) พ.ศ. ๒๕๕๖ ทำ� หน้ำทีห่ ลกั ในกำรบรู ณำกำรขบั เคลอื่ นแผนปอ้ งกนั และปรำบปรำมกำรทจุ รติ และกำรสง่ เสรมิ และคมุ้ ครองจรยิ ธรรม ในกระทรวง โดยได้ก�ำหนดอ�ำนำจหน้ำท่ีและกรอบอัตรำก�ำลังศูนย์ปฏิบัติกำรต่อต้ำนกำรทุจริต เป็น ๒ กลมุ่ งำน ดงั น้ี ๑. กลุ่มงำนป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริตและประพฤติมิชอบมีหน้ำท่ีในกำรให้ค�ำปรึกษำ ประสำนส่วนรำชกำรในสังกัด เพ่ือจัดท�ำแผนปฏิบัติรำชกำรฯ ประสำนเร่งรัดและก�ำกับให้หน่วยงำน ในสงั กดั ดำ� เนนิ กำรตำมแผนประสำนและตดิ ตำมหนว่ ยงำนทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั กำรจดั กำรเรอ่ื งรอ้ งเรยี นกรณี กำรทุจริตฯ ติดตำมผล และจัดท�ำรำยงำนกำรป้องกันและปรำบปรำมกำรทุจริตฯ ของกระทรวงทุก ๒ เดือน ฯลฯ ๒. กลุ่มงำนส่งเสริมและคุ้มครองจริยธรรมมีหน้ำท่ีคุ้มครองจริยธรรมตำมประมวลจริยธรรม ข้ำรำชกำรพลเรือน ประสำนงำนเก่ียวกับกำรคุ้มครองจริยธรรมกับหน่วยงำนท่ีเก่ียวข้อง ติดตำม ประเมินผล และจัดท�ำรำยงำนกำรคุ้มครองจริยธรรมเสนอต่อปลัดกระทรวงยุติธรรมและหน่วยงำน ทเ่ี ก่ียวขอ้ ง ระดบั ชนั้ ประถมศึกษำปที ี่ ๖ 73
หนว่ ยงานที่ ๕ ประกาศ บรษิ ทั อสมท จาำ กดั (มหาชน) ท.ี่ ๑๗๘/๒๕๕๗ เรอื่ ง นโยบายตอ่ ตา้ นคอรร์ ปั ชนั บรษิ ัท อสมท จ�ำกัด (มหำชน) (บมจ. อสมท) ยึดมั่นที่จะด�ำเนินธุรกจิ ด้วยควำมซ่ือสัตย ์ โปร่งใส มีคุณธรรมและตรวจสอบได้ มีควำมรับผิดชอบต่อสังคมและผู้มีส่วนได้เสีย ตำมหลักกำรก�ำกับดูแล กิจกำรท่ีดีอีกทท้ังได้ตระหนักดีว่ำกำรให้สินบนและกำรคอร์รัปชันเป็นภัยร้ำยแรง ก่อให้เกิดควำม เสียหำยต่อกำรพัฒนำ เศรษฐกิจและสังคม บมจ. อสมท จึงได้เข้ำร่วมใน “แนวร่วมปฏิบัติของภำค เอกชนไทยในกำรต่อต้ำนกำรทุจรติ ” เพือ่ แสดงเจตนำรมณ์และควำมมงุ่ ม่ันในกำรตอ่ ตำ้ นคอรร์ ปั ช่ันใน ทุกรูปแบบ เพื่อสร้ำงมำตรฐำนกำรประกอบธุรกิจที่ใสสะอำด และประกำศใช้ “นโยบำยต่อต้ำน คอร์รัปชั่น” เป็นแนวทำงกำรปฏิบัติที่ชัดเจนในกำรด�ำเนินธุรกิจ และจะด�ำเนินกำรสอบทำนขั้นตอน กำรปฏิบัติงำนของบริษัทอย่ำงสม่�ำเสมอเพื่อให้สอดคล้องกับกำรเปล่ียนแปลงของกฎหมำย ธุรกิจ และรักษำชื่อเสียงของบริษัท โดยกรรมกำรผู้บริหำร พนักงำนและลูกจ้ำงหรือบุคคลอื่นใดที่เก่ียวข้อง ต้องปฏิบตั ิตำมโนบำยอยำ่ งทว่ั กนั คณะกรรมกำร บมจ. อสมท ในกำรประชุมคร้ังท่ ี ๒๘/๒๕๕๗ วันท่ ี ๒๓ ธนั วำคม ๒๕๕๗ จึง เหน็ ชอบให้ออกประกำศไว้ดงั ตอ่ ไปนี้ ๑. ประกำศนี้เรียกวำ่ “ประกำศ บรษิ ัท อสมท จำ� กัด (มหำชน) เรื่องนโยบำยตอ่ ต้ำนคอรร์ ปั ชัน ๒. ประกำศนใ้ี หใ้ ชบ้ งั คับต้งั แต่วนั ท ี่ ๒๔ ธันวำคม ๒๕๕๗ เปน็ ต้นไป ๓. ในประกำศนี้ “นโยบาย” หมำยควำม นโยบำยต่อต้ำนคอร์รปั ช่นั “คอรร์ ปั ชนั ” (Corruption) หมำยถงึ กำรตดิ สนิ บนไมว่ ำ่ จะอยใู่ นรปู แบบใดๆ โดยกำรเสนอ ให้สัญญำมอบให้ ให้ค�ำมั่น เรียกร้อง หรือรับ ซ่ึงเงิน ทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดซ่ึงไม่เหมำะสม กับเจ้ำหน้ำที่ของรัฐ หน่วยงำนของรัฐ หน่วยงำนของเอกชน หรือผู้มีหน้ำท่ี ไม่ว่ำจะโดยทำงตรงหรือ ทำงอ้อมเพื่อให้บุคคลดังกล่ำวกระท�ำหรือละเว้นกำรปฏิบัติหน้ำที่ อันเป็นกำรให้ได้มำหรือรักษำไว้ ซึ่งธุรกิจ หรือแนะน�ำธุรกิจให้กับบริษัทโดยเฉพำะ หรือเพ่ือให้ได้มำหรือรักษำไว้ซ่ึงผลประโยช์อ่ืนใด ทไ่ี มเ่ หมำะสมทำงธรุ กจิ เวน้ แตเ่ ปน็ กรณที ก่ี ฎหมำย ระเบยี บ ประกำศ ขอ้ บงั คบั ขนบธรรมเนยี ม ประเพณี ของท้องถน่ิ หรอื จำรีตทำงกำรค้ำให้กระท�ำได้ “บุคคลของ บมจ. อสมท” หมำยควำมว่ำ กรรมกำร ผู้บริหำร พนักงำนและลูกจ้ำงของ บมจ. อสมท ๔. บมจ. อสมท ก�ำหนดนโยบำยตำมประกำศนี้ข้ึน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อแสดงให้ปรำกฎ ถึงควำมโปร่งใส (Transparency) และภำระรบั ผิดชอบ (Accountability) ของ บมจ. อสมท และเพื่อ ให้ตระหนักถึงภัยอันร้ำยแรงของกำรคอร์รัปชัน ท่ีบั่นทอนผลประกอบกำร ช่ือเสียงของ บมจ. อสมท และควำมเชอื่ มัน่ ของผูม้ สี ่วนไดเ้ สยี และสงั คมโดยรวมทีม่ ตี ่อ บมจ. อสมท 74 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวชิ าเพิ่มเติม การป้องกนั การทุจรติ ”
๕. บมจ. อสมท มีนโยบำยต่อต้ำนคอร์รัปชันทุกรูปแบบ (Zero Tolerance) ไม่ว่ำจะเป็น กำรกระทำ� ของบคุ ลำกรของ บมจ. อสมท หรอื บคุ คลทเี่ กยี่ วขอ้ งกบั กจิ กำรของ บมจ. อสมท ดงั นนั้ บมจ. อสมท จะดำ� เนินกำรเพอื่ ให้นโยบำยเป็นผลในทำงปฏิบตั ดิ ังตอ่ ไปน้ี ๕.๑ ก�ำหนดมำตรกำรท่ีเข้มงวด เพ่ือป้องกันกำรคอร์รัปชันไม่ให้เกิดข้ึนในกำรท�ำธุรกรรม ทุกประเภทของ บมจ. อสมท ซึ่งครอบคลุมถึงกำรกระท�ำของบุคลำกรของ บมจ. อสมท และคู่ค้ำ ของ บมจ. อสมท โดย บมจ. อสมท จะตอ้ งจดั ให้มี กำรท�ำงำนทม่ี กี ำรตรวจสอบถ่วงดลุ ( Check and Balance) กำรออกกฎเกณฑท์ ่ชี ดั เจนเก่ยี วกบั จัดหำพสั ดุและกำรใชจ้ ำ่ ยเงินของ บมจ. อสมท ๕.๒ ไม่ท�ำธุรกรรมกับบุคคล บริษัท หรือหน่วยงำนใดที่ บมจ. อสมท ตรวจสอบว่ำมี กำรกระท�ำที่เป็นกำรคอร์รัปชนั ๕.๓ สง่ เสรมิ และสนับสนนุ ให้บคุ ลำกรของ บมจ. อสมท ยึดมน่ั ในกำรปฏิบตั ิ ดว้ ยมำตรฐำน สุงสุดและมจี ติ ส�ำนึกต่อต้ำนกำรคอร์รัปชันในกำรปฏบิ ัติงำน ๖. บมจ. อสมท จดั ให้มีมำตรกำรใดๆ โดยครอบคลุมถึง ๖.๑ กำรประเมินควำมเสี่ยงด้ำนกำรคอร์รัปชันภำยในหน่วยงำน รวมท้ังกำรติดตำมและ ตรวจสอบผลกำรบริหำรควำมเสี่ยงดงั กล่ำวอยำ่ งเขม้ งวดและสม�ำ่ เสมอ ๖.๒ กำรประเมนิ ประสทิ ธภิ ำพและประสทิ ธผิ ลของกำรควบคมุ ภำยในอยำ่ งเขม้ งวดสมำ่� เสมอ ๖.๓ กำรเกบ็ รักษำข้อมลู กำรท�ำธุรกรรม เพอื่ ให้พร้อมส�ำหรบั กำรตรวจสอบ ๖.๔ กำรจัดฝกอบรมท่ตี อ่ เนื่องให้แก่บคุ ลำกรของ บมจ. อสมท ๖.๕ กำรด�ำเนนิ กำรอนื่ ใดท่ีนอกเหนอื จำกข้อ (๒) - ข้อ (๔) ที่อำจจะมีข้ึนอีกในกำรป้องกนั และปรำบปรำมคอรร์ ปั ชนั ๗. บมจ. อสมท จะจัดให้มีกำรตรวจสอบใดๆ ท่ีมีประสิทธิภำพจำกภำยนอก โดยส�ำนักงำน กำรตรวจเงินแผ่นดินและหรอื หนว่ ยงำนตรวจสอบอ่นื ใดทเ่ี หมำะสมตำมหลกั เกณฑท์ ่กี ฎหมำยก�ำหนด ๘. ผู้อ�ำนวยกำรใหญ่/กรรมกำรผู้อ�ำนวยกำรใหญ่ บมจ. อสมท และฝ่ำยบริหำรที่เก่ียวข้อง เปน็ ผกู้ ำ� กบั ดแู ลและมอบหมำยใหม้ กี ำรปฏบิ ตั ติ ำมนโยบำยน ้ี โดยมคี ณะกรรมกำรตรวจสอบเปน็ ผกู้ ำ� กบั ดูแลและตรวจสอบระบบและมำตรกำรต่ำงๆ ท่ีบมจ. อสมท น�ำมำใช้ในกำรต่อต้ำนคอร์รัปชันว่ำ มีควำมเหมำะสมและเพยี งพอหรือไม่ ๙. บคุ ลำกรของ บมจ. อสมท จะตอ้ งใหค้ วำมรว่ มมอื ในกำรปฏบิ ตั ติ ำมนโยบำย โดยจะตอ้ งปฏบิ ตั ิ ดังตอ่ ไปนี้ ๙.๑ ปฏบิ ตั ิตำมนโยบำย ระเบียบ ขอ้ บงั คบั ประกำศ และคำ� สั่งของ บมจ. อสมท ซ่ึงกำ� หนด เก่ียวกบั วินัยและจรรยำบรรณของบคุ ลำกรของ บมจ. อสมท อย่ำงเคร่งครดั และเป็นไปตำมมำตรฐำน สงู สุด ๙.๒ ไมเ่ ขำ้ ไปมสี ว่ นรว่ ม สง่ เสรมิ หรือสนบั สนุนกำรคอรร์ ปั ชันอยำ่ งเดด็ ขำด ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษำปีท ่ี ๖ 75
๙.๓ ละเว้นเข้ำร่วมกำรกระท�ำใดที่อำจก่อให้เกิดควำมขัดแย้งทำงผลประโยชน์ที่มิควรได้ โดยชอบดว้ ยกฎหมำยส�ำหรบั ตวั เองหรอื บุคคลอ่ืน ๙.๔ ใชค้ วำมระมดั ระวังในกำรปฏิบัตงิ ำน โดยปฏิบตั ิตำมมำตรกำรท่ใี ชเ้ ก่ียวกบั กำรควบคุม ภำยในและกำรบริหำรควำมเสีย่ ง ที่ใชส้ �ำหรับกำรป้องกนั กำรคอรร์ ัปชันอยำ่ งเครง่ ครดั ๙.๕ ใช้ทรัพยำกรและทรัพย์สินของ บมจ. อสมท ให้เป็นไปเพ่ือประโยชน์แก่กิจกำรของ บมจ. อสมท และหลกี เล่ียงกำรใชท้ รพั ยำกรและทรพั ยส์ ินใดของ บมจ. อสมท ทีข่ ดั แย้งกบั นโยบำย ๙.๖ ป้องกัน สอดส่องดูแล และรำยงำนหรือแจ้งเบำะแสกำรกระท�ำหรือกำรพยำยำม กระทำ� กำรใดทเ่ี ปน็ กำรคอร์รัปชัน ตำมหลักเกณฑ์และวธิ ีกำรท่ ี บมจ. อสมท กำ� หนดโดยเรว็ ในกรณีที่บุคลกรของ บมจ. อสมท คนใดกระท�ำหรือละเว้นกำรกระท�ำตำมที่ก�ำหนดไว้ ในประกำศน้ี หรือมีส่วนสนับสนุนกำรกระท�ำใดท่ีขัดกับข้อก�ำหนดตำมประกำศน้ี บมจ. อสมท จะ ดำ� เนนิ กำร ทำงกฎหมำยตอ่ บุคลำกรดงั กล่ำงอย่ำงเคร่งครัด ๑๐. บมจ. อสมท ได้จดั ใหม้ ีชอ่ งทำงกำรแจ้งเบำะเเส และกำ� หนดกระบวนกำรสอบสวนลงโทษ ส�ำหรบั กำรกระทำ� ของบุคลำกรของ บมจ. อสมท ที่เก่ยี วข้องกับกำรคอร์รปั ชันไว้แลว้ และ บมจ. อสมท. จะด�ำเนินกำรสอบสวนลงโทษบุคลำกรของ บมจ. อสมท ที่เกี่ยวข้องกับกำรคอร์รัปชันตำมระเบียบ ที่เกีย่ วขอ้ งอย่ำงเคร่งครดั ๑๑. ในกรณีท่ีมีกำรคอร์รัปชันของบุคลำกรของ บมจ. อสมท และบุคคลใดท่ีเป็นกำรกระท�ำ ควำมผิดอำญำตำมกฎหมำยต่อ บมจ. อสมท จะด�ำเนินกำรร้องทุกข์ กล่ำวโทษ หรือส่งเร่ืองไปยัง สว่ นงำนทมี่ อี ำ� นำจหนำ้ ทด่ี ำ� เนนิ คดตี ำมกฎหมำยในกรณที ก่ี ำรคอรร์ ปั ชนั ของบคุ ลำกรของ บมจ. อสมท. และบุคคลใดก่อให้เกิดควำมเสียหำยแก่ บมจ. อสมท ไม่ว่ำจะเป็นควำมเสียหำยที่เกิดแก่ทรัพย์สิน หรือชื่อเสียงเกยี รตคิ ณุ บมจ. อสมท จะใชส้ ิทธเิ รยี กร้องค่ำเสยี หำยจำกผุ้นัน้ ๑๒. บมจ. อสมท จะร่วมและให้กำรสนับสนุนบุคคลและองค์กรใดๆ ท่ีมีวัตถุประสงค์ในกำร ต่อต้ำนคอร์รปั ชัน เพ่ือสรำ้ งสังคมและสภำพแวดล้อมทปี่ รำศจำกคอรร์ ัปชันอยำ่ งย่งั ยืนตอ่ ไป 76 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพม่ิ เติม การปอ้ งกันการทุจริต”
หน่วยงานที่ ๖ ประกาศ บรษิ ัท สหกล จาำ กดั (มหาชน) เรือ่ ง นโยบายต่อต้านคอรร์ ปั ชนั การตอ่ ตา้ นการทุจรติ คอร์รัปชนั บริษัทฯ มีกำรบริหำรกิจกำรบนพ้ืนฐำนควำมโปร่งใส มีจริยธรรม ยึดมั่นในหลักกำรกำรก�ำกับ ดูแลกิจกำร และปฏิบัติตำมกฎหมำยท่ีเก่ียวข้องกับกำรป้องกันและต่อต้ำนกำรทุจริตคอร์รัปชัน กำรให้หรือรับสินบนกับเจ้ำหน้ำท่ีของรัฐหรือภำคเอกชน โดยบริษัทฯ ได้ก�ำหนดโครงสร้ำงองค์กรให้มี กำรแบ่งหน้ำท่ีควำมรับผิดชอบ กระบวนกำรท�ำงำน และสำยกำรบังคับบัญชำในแต่ละหน่วยงำนให้มี ควำมชัดเจน เพ่ือให้มีกำรถ่วงดุลอ�ำนำจและมีควำมรัดกุมในกำรตรวจสอบระหว่ำงกันอย่ำงเหมำะสม นอกจำกนี ้ บรษิ ัทฯ ยงั ได้กำ� หนดแนวทำงกำรปฏิบตั ใิ หแ้ กก่ รรมกำร ผบู้ ริหำร และพนักงำนของบรษิ ทั ฯ และบรษิ ัทยอ่ ย ดังนี้ ๑. ห้ำมมิให้กรรมกำร ผู้บริหำรและพนักงำนของบริษัทฯ ด�ำเนินกำรหรือยอมรับกำรทุจริต คอร์รัปชั่นในทุกรูปแบบท้ังทำงตรงหรือทำงอ้อม โดยครอบคลุมถึงทุกหน่วยงำนที่เกี่ยวข้อง และให้มี กำรสอบทำนกำรปฏบิ ตั ติ ำมนโยบำยตอ่ ต้ำนกำรทุจริตคอรร์ ปั ชนั น้ีอยำ่ งสม่ำ� เสมอ ๒. กรรมกำร ผู้บริหำรและพนักงำนของบริษัทฯ มีหน้ำที่ต้องรำยงำนให้บริษัทฯ ทรำบถึง กำรกระท�ำที่เข้ำข่ำยกำรทุจริตคอร์รัปชันท่ีเกี่ยวข้องกับบริษัทฯ โดยแจ้งต่อผู้บังคับบัญชำ หรือบุคคล ท่ีรับผดิ ชอบ และใหค้ วำมร่วมมอื ในกำรตรวจสอบขอ้ เท็จจริงตำ่ ง ๆ ๓. บรษิ ัทฯ จะใหค้ วำมเปน็ ธรรมและคมุ้ ครองผู้รอ้ งเรียนที่แจง้ เร่อื งกำรทุจรติ คอรร์ ปั ชัน รวมทั้ง บุคคลท่ใี หค้ วำมร่วมมอื ในกำรรำยงำนและในกระบวนกำรสอบสวนกำรทุจริตคอรร์ ปั ชนั่ ระดบั ชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี ๖ 77
๔. คณะกรรมกำรบริษัท คณะกรรมกำรบริหำร และฝ่ำยจัดกำรต้องปฏิบัติตนเป็นแบบอย่ำง ในกำรต่อต้ำนกำรทุจริตคอร์รัปชัน และมีหน้ำท่ีในกำรให้กำรส่งเสริมและสนับสนุนนโยบำยต่อต้ำน กำรทุจริตคอร์รปั ชัน เพ่อื สื่อสำรไปยงั พนักงำนและผู้ทเ่ี กย่ี วข้องทกุ ฝำ่ ย รวมทัง้ ทบทวนควำมเหมำะสม ของนโยบำยและมำตรกำรตำ่ งๆ เพอื่ ใหเ้ หมำะสมกบั กำรเปลยี่ นแปลงของสภำพธรุ กจิ ระเบยี บ ขอ้ บงั คบั และข้อก�ำหนดของกฎหมำย ๕. ผู้ทก่ี ระท�ำกำรทจุ รติ คอร์รปั ชนั จะต้องได้รบั กำรพิจำรณำโทษทำงวินยั ตำมระเบยี บทบ่ี รษิ ทั ฯ ก�ำหนดไว ้ และอำจได้รบั โทษตำมกฎหมำย หำกกำร กระท�ำนนั้ ผิดกฎหมำย ๖. บริษทั ฯ จัดให้มกี ำรฝกอบรมและกำรเผยแพร่ควำมรูใ้ ห้แก่กรรมกำร ผู้บรหิ ำรและพนกั งำน ของบริษัทฯ ให้มีควำมเข้ำใจในกำรปฏิบัติตำมนโยบำยกำรต่อต้ำนกำรทุจริตคอร์รัปชัน และส่งเสริม ดำ้ นคุณธรรม ควำมซ่อื สัตย์ควำมรบั ผดิ ชอบ และภำระหน้ำทข่ี องตน ๗. บริษัทฯสนับสนุนให้คู่สัญญำ คู่ค้ำ หรือบุคคลอ่ืนท่ีต้องปฏิบัติหน้ำท่ีที่เก่ียวข้องกับบริษัทฯ รำยงำนกำรละเมิดนโยบำยตอ่ ตำ้ นกำรทจุ ริต คอร์รปั ชันของบริษทั ๘. บรษิ ัทฯ มนี โยบำยในกำรสรรหำหรือกำรคดั เลือกบุคลำกร กำรเล่อื นตำ� แหน่ง กำรฝก อบรม กำรประเมินผลกำรปฏิบัติงำน และกำรก�ำหนดค่ำตอบแทนของพนักงำนและลูกจ้ำงของบริษัทฯ อยำ่ งเปน็ ธรรมและเพยี งพอ เพอ่ื ปอ้ งกนั กำรทจุ รติ คอรร์ ปั ชนั ภำยในองคก์ ร และเปน็ กำรสรำ้ งหลกั ประกนั ใหแ้ กพ่ นักงำนและลกู จ้ำงของบรษิ ทั ฯ ๙. เพื่อควำมชัดเจนในกำรด�ำเนินกำรในเรื่องที่มีควำมเส่ียงสูงกับกำรเกิดกำรทุจริต คอร์รัปชัน ในเร่ืองดังต่อไปนี้ ให้กรรมกำร ผู้บริหำรและพนักงำนของบริษัทฯ ต้องปฏิบัติด้วยควำมระมัดระวัง และตรวจสอบใหแ้ น่ชัด ๙.๑ กำรให้ มอบหรือรบั ของก�ำนัล และกำรเลยี้ งรับรองจะต้องเป็นไปอย่ำงโปรง่ ใส ถูกต้อง ตำมกฎหมำย เปน็ ตำมธรรมเนยี มทำงกำรคำ้ ปกติหรือประเพณีนิยมในมลู ค่ำทเี่ หมำะสม ๙.๒ กำรให้หรือรับเงินบริจำค หรือเงินสนับสนุนต้องเป็นไปอย่ำงโปร่งใส และถูกต้อง ตำมกฎหมำย โดยตอ้ งมนั่ ใจวำ่ กำรใหห้ รอื รบั เงนิ บรจิ ำค หรอื เงนิ สนบั สนนุ ดงั กลำ่ วไมไ่ ดเ้ ปน็ กำรอำ� พรำง กำรติดสนิ บน ๙.๓ ในกำรด�ำเนินกิจกำร กำรติดต่อกำรเจรจำ กำรประมูลและกำรด�ำเนินกำรอื่นๆ กับ หนว่ ยงำนภำครฐั หรือเอกชนจะต้องเป็นไปอย่ำงโปร่งใส และถูกต้องตำมกฎหมำย นอกจำกน้ ี กรรมกำร บริษัท ผู้บริหำร พนักงำน และลูกจ้ำงของบริษัทฯ จะต้องไม่ให้หรือรับสินบนในทุกขั้นตอนของ กำรด�ำเนนิ กจิ กำร 78 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพิ่มเตมิ การป้องกันการทุจรติ ”
แบบสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในการท�ำกิจกรรมกลมุ่ เรอ่ื ง ……………………………………. ข้อ รายการประเมนิ ระดับคะแนนแตล่ ะกลมุ่ กลุ่ม ๑ กลุม่ ๒ กลุ่ม ๓ กลุม่ ๔ กล่มุ ๕ กลมุ่ ๖ กลุม่ ๗ กลุ่ม ๘ กลุ่ม ๙ ๑ สงั เกตจากการตอบค�ำถาม ๒ สังเกตจาการกล้าออกมาสรุป ๓ สังเกตจากการท�ำกจิ กรรมร่วมกนั ๔ สงั เกตจากความสนใจเรยี น ๕ อภิปรายเรือ่ งได้ถูกต้องตรงประเด็น รวม ผลการประเมินแต่ละกลมุ่ ๑. เกณฑก์ ารประเมนิ ระดับ ๔ หมายถึง ดีเย่ยี ม ระดับ ๓ หมายถึง ดี ระดบั ๒ หมายถึง พอใช้ ระดับ ๑ หมายถงึ ต้องปรบั ปรุง ๒. การสรุปผลการประเมินใหเ้ ปน็ ระดับคณุ ภาพ ๔, ๓, ๒, ๑ ก�ำหนดเกณฑ์ไดต้ ามความ เหมาะสมหรอื อาจใช้ เกณฑด์ ังน้ี ๑๖ - ๒๐ คะแนน = ๔ (ดเี ย่ียม) ๑๑ - ๑๕ คะแนน = ๓ (ด)ี ๖ - ๑๐ คะแนน = ๒ (พอใช้) ตาํ่ กว่า ๖ คะแนน = ๑ (ควรปรบั ปรุง) ระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี ๖ 79
ใบงาน สรปุ แนวทางการปฏบิ ตั ติ นเป็นผู้มีความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจรติ ในระดับประเทศ 80 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวิชาเพมิ่ เตมิ การป้องกันการทุจรติ ”
แบบประเมินผลงานนักเรยี น ช่ือ-นามสกุล ...................................................................ชน้ั ............... หน่วยการเรยี นรูท้ .่ี ........กจิ กรรม............................................................. ค�ำช้ีแจง ให้ผปู้ ระเมนิ ใส่เคร่ืองหมาย ลงในช่องที่ตรงกบั ระดับคะแนน ผู้ประเมิน ประเด็นท่ปี ระเมิน ตนเอง เพ่อื น ครู ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ ๑. ตรงจดุ ประสงคท์ ก่ี �ำหนด ๒. มีความถูกตอ้ ง ๓. มคี วามคดิ สรา้ งสรรค์ ๔. มีความเปน็ ระเบยี บ รวม รวมทกุ รายการเฉลยี่ ลงชื่อผู้ประเมิน................................................(ตนเอง) ลงช่ือผปู้ ระเมิน................................................(เพ่ือน) ลงชอื่ ผู้ประเมิน................................................(ครู) ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ 81
เกณฑ์การให้คะแนนผลงาน รายการประเมิน ๔ (ดีมาก) คำ�อธบิ ายระดบั คุณภาพ ๑ (ปรับปรุง) ๓ (ดี) ๒ (พอใช)้ ผลงานไม่สอดคล้อง ๑. ผลงานตรงกบั ผลงานสอดคล้อง ผลงานสอดคลอ้ ง ผลงานสอดคล้อง กบั จดุ ประสงค์ จดุ ประสงคท์ กี่ ำ�หนด จุดประสงค์ กับจดุ ประสงค์ กบั จดุ ประสงค์ เน้ือหาสาระของ ผลงานไมถ่ ูกต้อง ทกุ ประเดน็ เป็นส่วนใหญ่ บางประเดน็ เปน็ ส่วนใหญ่ ผลงานไม่แสดง ๒. ผลงานมคี วาม เน้อื หาสาระของ เน้อื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ แนวคดิ ใหม่ ถูกต้องสมบรู ณ์ ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานถกู ต้อง ผลงานถกู ตอ้ ง ผลงานส่วนใหญ่ ไมเ่ ป็นระเบยี บ ครบถว้ น เป็นส่วนใหญ่ เปน็ บางประเด็น และมขี ้อบกพร่อง ๓. ผลงานมีความคิด ผลงานแสดงออก ผลงานมแี นวคิด ผลงานมาความ สร้างสรรค์ ถงึ ความคิด แปลกใหม่ นา่ สนใจ แตย่ ังไมม่ ี สร้างสรรค์แปลกใหม่ แตย่ งั ไมเ่ ป็นระบบ แนวคิดแปลกใหม่ และเป็นระบบ ๔. ผลงานมีความ ผลงานมีความ ผลงานสว่ นใหญ่ ผลงานมีความ เปน็ ระเบยี บ เป็นระเบียบ มีความเป็นระเบียบ เป็นระเบยี บ แสดงออกถึง แต่ยงั มขี อ้ บกพรอ่ ง แตม่ ีขอ้ บกพร่อง ความประณีต บางสว่ น เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพ นกั เรียนได้ระดับดีข้นึ ไป ถือว่าผ่าน 82 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพม่ิ เติม การป้องกันการทจุ ริต”
หน่วยท่ี ๓ STRONG : จิตพอเพยี งต้านทจุ รติ แผนการจดั การเรียนรู้ ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี ๖ หนว่ ยท่ี ๓ ช่ือหน่วย STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทุจริต แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี ๑ เรอื่ ง การอนุรกั ษส์ ่งิ แวดล้อมทส่ี อดคล้องกบั STRONG : เวลา ๒ ชว่ั โมง จติ พอเพยี งต้านทจุ ริต ๑. ผลการเรยี นรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกับ STRONG : จิตพอเพยี งตา้ นทจุ รติ ๑.๒ ปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้ท่ี STRONG : จิตพอเพยี งตา้ นทุจริต ๑.๓ ตระหนักและเห็นความส�ำคญั ของการต่อต้านและปอ้ งกันการทจุ รติ ๒. จุดประสงค์การเรยี นรู้ ๒.๑ นักเรียนสามารถบอกความหมายของคำ� วา่ ทุจรติ ได้ ๒.๒ นกั เรยี นสามารถบอกผลเสยี ของการทุจรติ ได้ ๒.๓ นักเรยี นสามารถบอกการกระทำ� ที่เปน็ การตอ่ ต้านการทุจริตในเรอ่ื งการอนรุ กั ษส์ งิ่ แวดลอ้ มได้ ๒.๔ นักเรียนตระหนักและเห็นความส�ำคัญของการต่อต้านและป้องกันการทุจริตในเรื่องการอนุรักษ์ สงิ่ แวดล้อมได้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) การต่อต้านการทุจริต หมายถึงการไม่สนับสนุนกิจการของกลุ่มหรือบุคคลที่กระท�ำการ โดยมชิ อบในการแสวงหาผลประโยชน์ ๒) การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม หมายถึงการใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างฉลาด คือ ใชน้ อ้ ยเพอื่ ใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สดุ โดยคำ� นงึ ถงึ ระยะเวลาในการใชใ้ หย้ าวนานและกอ่ ใหเ้ กดิ ผลเสยี หายนอ้ ยทส่ี ดุ ๓) STRONG หมายถึง ความแข็งแรงซ่ึงมาจาก STRONG Model :จิตพอเพยี งตา้ นทจุ รติ ๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนการ ( สมรรถนะทเ่ี กดิ ) ๑) นกั เรียนมที กั ษะการสอื่ สาร ๒) นกั เรียนมที กั ษะการคิด ๓.๓ คณุ ลักษณะที่พึงประสงค์/คา่ นิยม ความซอ่ื สตั ยส์ จุ ริต ระดับชั้นประถมศึกษาปที ี่ ๖ 83
๔. กิจกรรมการเรยี นรู้ ๔.๑ ขน้ั ตอนการเรยี นรู้ ชัว่ โมงที่ ๑ ๑) นักเรียนช่วยกันบอกความหมายและท�ำความเข้าใจ เรื่องการทุจริต การต่อต้านทุจริต การอนรุ ักษ์ส่งิ แวดล้อม ๒) นักเรียนอ่านใบความรู้ STRONG Model : จิตพอเพยี งต้านทจุ ริต ๓) นักเรียนและครูร่วมกันระดมความคิดเรื่อง STRONG Model : จิตพอเพียงต้านทุจริต ให้ตรงกัน ชว่ั โมงท่ี ๒ ๑) นักเรียนช่วยกันบอกเร่ืองการอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อมในเร่ืองต่างๆว่าเราควรอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม เรือ่ งอะไรบา้ ง เช่น - อนรุ ักษส์ ิ่งแวดล้อมป่าไม้ - อนุรักษส์ ่ิงแวดลอ้ มนาํ้ - อนรุ ักษส์ ิ่งแวดล้อมสตั ว์ป่า - อนรุ ักษ์สิ่งแวดลอ้ มแรธ่ าตุ ๒) แบ่งนักเรียนเป็น ๕ กลุ่ม แล้วช่วยกันใช้ STRONG Model :จิตพอเพียงต้านทุจริตเร่ือง การอนุรกั ษส์ ่งิ แวดลอ้ มทีส่ อดคล้องกับ STRONG : จิตพอเพียงตา้ นทุจรติ ๓) ให้นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ สง่ ตวั แทนนำ� เสนอหน้าช้นั เรียน ๔.๒ สอ่ื การเรยี นร/ู้ แหล่งการเรยี นรู้ ๑) ใบความรเู้ รอ่ื ง STRONG Model : จติ พอเพยี งต้านทจุ ริต ๒) ใบงานแผนผังความคิดเรื่องการอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อมที่สอดคล้องกับ STRONG : จิตพอเพียง ตา้ นทุจริต ๕. การประเมนิ ผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมิน ๑) สงั เกตพฤตกิ รรมกลุ่ม ๒) ตรวจใบงานแผนผังความคิดเร่ืองการอนุรักษ์ส่ิงแวดล้อมที่สอดคล้องกับ STRONG : จติ พอเพียงตา้ นทจุ ริต ๕.๒ เครอ่ื งมือทใ่ี ชใ้ นการประเมนิ ๑) แบบสังเกตพฤตกิ รรมกลุม่ ๒) แบบประเมนิ พฤติกรรมกลมุ่ ๕.๓ เกณฑก์ ารตดั สิน นักเรียนผา่ นเกณฑ์การประเมนิ รอ้ ยละ ๘๐ 84 แผนการจดั การเรียนรู้ “รายวชิ าเพิ่มเติม การปอ้ งกันการทจุ รติ ”
๖. บนั ทึกหลังการจัดการเรียนรู้ ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ลงช่ือ........................................ครูผู้สอน (.......................................) ระดบั ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ 85
๗. ภาคผนวก ใบความรู้ STRONG Model : จิตพอเพียงตา้ นทจุ รติ 86 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวิชาเพ่ิมเติม การปอ้ งกนั การทุจริต”
การประยุกตห์ ลักความพอเพียงดว้ ยโมเดล STRONG-จิตพอเพียงต้านทจุ ริต ดว้ ยยทุ ธศำสตรช์ ำตวิ ำ่ ดว้ ยกำรปอ้ งกนั และปรำบปรำมกำรทจุ รติ ระยะท ่ี ๓ (พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔) ไดม้ กี ำรวเิ ครำะหภ์ ำพอนำคตของประชำชนและสงั คมไทยในระยะ ๕ ปขี ำ้ งหนำ้ ไวว้ ำ่ หำกยทุ ธศำสตรช์ ำตฯิ ได้รับควำมร่วมมือร่วมใจจำกทุกภำคส่วนของสังคมไทยในกำรน�ำไปปฏิบัติจริง ประชำชนไทยจะมี ควำมตน่ื ตวั ตอ่ กำรทจุ รติ มำกขน้ึ มกี ำรใหค้ วำมสนใจตอ่ ขำ่ วสำรและตระหนกั ถงึ ผลกระทบของกำรทจุ รติ ที่มีต่อประเทศมำกข้ึน มีกำรแสดงออกซ่ึงกำรต่อต้ำนกำรทุจริตทั้งในชีวิตประจ�ำวันและกำรแสดงออก ผ่ำนสื่อสำธำรณะและส่ือสังคมออนไลน์ต่ำงๆ ประชำชนในแต่ละช่วงวัยได้รับกระบวนกำรกล่อมเกลำ ทำงสงั คมวำ่ กำรทจุ รติ ถอื เปน็ พฤตกิ รรมทนี่ อกจำกจะผดิ กฎหมำยและทำ� ใหเ้ กดิ ควำมเสยี หำยตอ่ ประเทศ แล้ว ยังเป็นพฤติกรรมที่ผิดจริยธรรม ไม่ได้รับกำรยอมรับจำกสังคม ประชำชนจะเร่ิมเรียนรู้กำรปรับ เปล่ียนฐำนควำมคิดท่ีท�ำให้สำมำรถแยกแยะระหว่ำงผลประโยชน์ส่วนตนกับผลประโยชน์ส่วนรวมได ้ วฒั นธรรมทำงสงั คมทม่ี ฐี ำนอยบู่ นหลกั ปรชั ญำของเศรษฐกจิ พอเพยี งจะหลอ่ หลอมใหป้ ระชำชนไมก่ ระทำ� กำรทุจริตเนื่องจำกมีพื้นฐำนจิตท่ีพอเพียง มีควำมละอำยต่อกำรทุจริตประพฤติมิชอบ และไม่ยอมให้ ผอู้ ืน่ กระท�ำกำรทุจรติ อนั สง่ ผลใหเ้ กดิ ควำมเสียหำยตอ่ สงั คมส่วนรวม ดังน้ัน เพ่ือให้ภำพอนำคตดังกล่ำวสำมำรถบรรลุผลได้จริง ภำคประชำชนต้องให้ควำมส�ำคัญ อย่ำงแท้จริงกับกำรปรับประยุกต์หลักปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงมำใช้ประกอบกับหลักกำรต่อต้ำน กำรทุจริตอื่นๆเพื่อสร้ำงฐำนคิดจิตพอเพียงต่อต้ำนกำรทุจริตให้เกิดขึ้นเป็นพื้นฐำนควำมคิด ของปัจเจกบุคคล โดยประยุกต์หลักบูรณำกำร “STRONG” (รศ.ดร.มำณี ไชยธีรำนุวัฒศิริ, ๒๕๖๐) เป็นแนวทำงในกำรพัฒนำวฒั นธรรมชุมชน ประกอบด้วย ๑) S (sufficient) บุคคลและชุมชนน้อมน�ำปรัชญำของเศรษฐกิจพอเพียงมำปรับประยุกต์ใช้ เป็นหลักในกำรท�ำงำนและกำรด�ำรงชีวิต รวมถึงเป็นตัวอย่ำงในกำรเผยแพร่แนวคิดกำรน�ำปรัชญำ ของเศรษฐกิจพอเพียงมำเป็นเครอื่ งมอื ในกำรปอ้ งกนั กำรทุจริต ๒) T (transparent) บคุ คลและชมุ ชนปฏบิ ตั งิ ำนบนฐำนของควำมโปรง่ ใสตรวจสอบไดเ้ ปน็ ทต่ี ง้ั ๓) R (realise) บุคคลและชุมชนมีควำมเข้ำใจและตระหนักรู้ถึงรำกเหง้ำของปัญหำกำรทุจริต ประพฤติมิชอบภำยในชุมชนและประเทศ สำมำรถวิเครำะห์และระบุถึงควำมเสี่ยงต่อกำรทุจริต เข้ำใจ ถ่องแท้เก่ียวกับกำรแยกแยะผลประโยชน์ส่วนตัวและผลประโยชน์ส่วนรวม พร้อมแนวทำงกำรแก้ไข ปญั หำดังกลำ่ วได ้ ๔) O (onward) บุคคลและชุมชนมีแนวคิดมุ่งพัฒนำชุมชนให้เกิดควำมโปร่งใสและร่วมสร้ำง วัฒนธรรมไม่ทนต่อกำรทุจริตให้เกิดข้ึน และไม่ย่อท้อต่อกำรแก้ไขปัญหำกำรทุจริตประพฤติมิชอบ ให้สำ� เรจ็ ลุลว่ งได้ตำมเปำ้ หมำยทก่ี �ำหนดร่วมกนั ๕) N (knowledge) บุคคลและชุมชนมีกำรพัฒนำองค์ควำมรู้อย่ำงสม่�ำเสมอเพ่ือให้เท่ำทัน ตอ่ สถำนกำรณ์กำรทุจรติ ของชมุ ชนและของประเทศ ๖) G (generosity) บุคคลและชุมชนร่วมพัฒนำชุมชนให้มีควำมเอ้ืออำทรบนพื้นฐำนของ จริยธรรมและจิตพอเพยี ง ระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษำปที ่ี ๖ 87
แผนผังความคดิ การอนรุ กั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ มท่สี อดคลอ้ งกบั โมเดล STRONG : จติ พอเพียงต้านทจุ รติ S TR การอนุรักษส์ ง่ิ แวดล้อม ท่ีสอดคล้องกบั โมเดล STRONG : จติ พอเพียงต้านทจุ ริต ON G กลุม่ ที่......................รายชือ่ ............................................................................................................... 88 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวชิ าเพมิ่ เติม การปอ้ งกนั การทุจริต”
แบบประเมินพฤตกิ รรมการท�ำงานกลุ่ม กลมุ่ .......................................................................................................... สมาชิกในกลมุ่ ๑................................................................. ๒................................................................. ๓................................................................. ๔................................................................. ๕................................................................. ๖................................................................. ๗................................................................. ๘................................................................. ๙................................................................. ๑๐............................................................... ค�ำชี้แจง ท�ำเครื่องหมาย ลงในช่องที่ตรงกับความเป็นจริง พฤติกรรมท่ีสงั เกต คะแนน ๓๒๑ ๑. มสี ว่ นรว่ มในการแสดงความคิดเหน็ ๒. มคี วามกระตือรือรน้ ในการทำ� งาน ๓. มีความรับผิดชอบในงานที่ได้รบั มอบหมาย ๔. มีข้ันตอนในการทำ� งานอยา่ งเปน็ ระบบ ๕. ใช้เวลาในการทำ� งานอยา่ งเหมาะสม รวม เกณฑ์การใหค้ ะแนน พฤติกรรมที่ทำ� เปน็ ประจ�ำ ให้ ๓ คะแนน พฤตกิ รรมที่ทำ� เปน็ บางครั้ง ให้ ๒ คะแนน พฤตกิ รรมทท่ี �ำนอ้ ยครงั้ ให้ ๑ คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน ระดบั ดเี ยีย่ ม คะแนน ๑๓ - ๑๕ ระดบั ดี คะแนน ๘ - ๑๒ ระดบั พอใช้ คะแนน ๕ - ๗ ระดับ ปรับปรงุ คะแนนตาํ่ กวา่ ๕ ระดับชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ 89
แผนการจัดการเรยี นรู้ ช้ันประถมศึกษาปีท่ี ๖ เวลา ๒ ชวั่ โมง หน่วยที่ ๓ ชอ่ื หนว่ ย STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต แผนการจัดการเรียนรทู้ ี่ ๒ เร่อื ง การอนุรกั ษแ์ หลง่ น้าํ ที่สอดคลอ้ งกบั STRONG : จิตพอเพียงต้านทจุ รติ ๑. ผลการเรียนรู้ ๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั STRONG : จิตพอเพียงต้านทุจริต ๑.๒ ปฏิบตั ติ นเปน็ ผู้ที่ STRONG : จิตพอเพียงตา้ นทจุ ริต ๑.๓ ตระหนักและเหน็ ความสำ� คัญของการต่อตา้ นและปอ้ งกนั การทุจรติ ๒. จุดประสงค์การเรียนรู้ ๒.๑ นกั เรยี นสามารถบอกการอนรุ กั ษ์แหล่งน้ําที่สอดคล้องกับ STRONG : จติ พอเพียงต้านทจุ รติ ได้ ๒.๒ นักเรียนตระหนักและเห็นความส�ำคัญของการต่อต้านและป้องกันการทุจริตในเรื่องการอนุรักษ์ แหลง่ นํา้ ๓. สาระการเรยี นรู้ ๓.๑ ความรู้ ๑) แหล่งน้ํา หมายถึง บริเวณที่มีนํ้าสะสมของนํ้าบนพื้นผิวโลกหรือบนผิวดาวเคราะห์ เช่น มหาสมุทร ทะเล แม่น้าํ และคลอง แหลง่ น้ําแบ่งได้ ๒ ประเภท คอื ๑. แหลง่ นา้ํ ทเ่ี กิดข้ึนตามธรรมชาติ เช่น ห้วย หนอง คลอง บึง ทะเล มหาสมุทร ๒. แหลง่ นาํ้ ท่ีมนษุ ย์สรา้ งขึ้น เชน่ อ่างเก็บนํ้า คลอง ๒) การอนุรักษ์ หมายถึง การใช้ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอย่างฉลาดโดยใช้ให้น้อย เพ่ือให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยค�ำนึงถึงระยะเวลาในการใช้ให้ยาวนาน และก่อให้เกิดผลเสียหายต่อสิ่งแวดล้อม น้อยท่ีสุดรวมทั้งต้องมีการกระจายการใช้ทรัพยากรอย่างท่ัวถึง อย่างไรก็ตามในสภาพปัจจุบันทรัพยากรและ สงิ่ แวดลอ้ มมคี วามเสอื่ มโทรมมากขนึ้ ดงั นนั้ การอนรุ กั ษท์ รพั ยากรและสง่ิ แวดลอ้ มจงึ มคี วามหมายถงึ การพฒั นา ส่ิงแวดล้อมดว้ ย ๓.๒ ทักษะ/กระบวนการ ( สมรรถนะท่เี กดิ ) ๑) ความสามารถในการสือ่ สาร ๒) ความสามารถในการคดิ ๓.๓ คณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์/คา่ นยิ ม ความซ่อื สตั ย์ ๔. กิจกรรมการเรียนรู้ ๔.๑ ข้นั ตอนการเรยี นรู้ ชั่วโมงที่ ๑ ๑) ครูและนักเรยี นชว่ ยกันทบทวน เร่ืองการทุจรติ การอนรุ ักษ์หมายถงึ อะไร แหลง่ นํ้าหมายถึง อะไร 90 แผนการจัดการเรยี นรู้ “รายวิชาเพิ่มเติม การป้องกันการทจุ รติ ”
๒) นกั เรียนแต่ละคนเขยี นประโยชน์ของแหล่งนํา้ ว่ามีอะไรบา้ งประมาณ ๑๐ ขอ้ เช่น - ใชอ้ ปุ โภค บรโิ ภค - ใช้ในการเกษตรกรรม - แหลง่ ท่องเทีย่ ว - รักษาระบบนเิ วศ - ใชเ้ ป็นเส้นทางคมนาคม - เป็นท่ีอยู่อาศัยของสัตวน์ ํา้ ๓) ครูจบั ฉลากเลขทข่ี องนักเรยี น ออกมาน�ำเสนอหนา้ ชน้ั เรียน ๔) ครูและนกั เรียนช่วยกันสรปุ ประโยชนแ์ หล่งน้ํา ชั่วโมงที่ ๒ ๑) นกั เรียนรว่ มกนั อภิปรายถึงเรือ่ งแหล่งน้าํ ในประเทศไทยไดแ้ กอ้ ะไรบ้าง เช่น - บงึ - บ่อน้ํา - อ่างเก็บนา้ํ - เขือ่ น - แมน่ ้าํ ๒) แบ่งกลุ่มนักเรียน ๕ กลุ่ม เขียนแผนผังความคิด เร่ืองการอนุรักษ์แหล่งนํ้า ที่สอดคล้องกับ STRONG : จิตพอเพยี งตา้ นทจุ ริต และเขียนลงในใบงานการอนรุ ักษแ์ หล่งน้าํ ท่สี อดคลอ้ งกับ STRONG ๓) ครูให้นักเรียนจับฉลากล�ำดับการน�ำเสนอแผนผังความคิด เรื่องการอนุรักษ์แหล่งน้ําที่ สอดคล้องกบั STRONG : จติ พอเพียงต้านทุจริต ๔.๒ สอ่ื การเรยี นรู/้ แหล่งการเรยี นรู้ ใบความร้เู รื่องแหลง่ น้ําและการอนุรกั ษแ์ หลง่ นํ้า ๕. การประเมินผลการเรียนรู้ ๕.๑ วธิ ีการประเมิน ๑) สงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียน ๒) ตรวจแผนผังความคิดเร่ืองการอนุรักษ์แหล่งน้ําที่สอดคล้องกับ STRONG : จิตพอเพียง ต้านทจุ ริต ๕.๒ เครื่องมอื ทใี่ ชใ้ นการประเมิน ๑) แบบสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียน ๒) แบบประเมินพฤติกรรมกลุม่ ๕.๓ เกณฑ์การตดั สนิ นักเรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมินรอ้ ยละ ๘๐ ๖. บันทึกหลงั การจัดการเรียนรู้ ....................................................................................................................................................... ....................................................................................................................................................... ...................................................................................................................................................... ลงชือ่ ........................................ครผู ู้สอน (.......................................) ระดับชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ 91
๗. ภาคผนวก ใบความรู้ เรือ่ ง แหลง่ นำา้ ๑) แหล่งน้�ำ หมำยถึง บริเวณที่มีน�้ำสะสมของน้�ำบนพื้นผิวโลกหรือบนผิวดำวเครำะห ์ เช่น มหำสมทุ ร ทะเล แม่น�้ำ และคลอง แหล่งน้ำ� แบ่งได ้ ๒ ประเภท คอื ๑.๑ แหลง่ นำ้� ทีเ่ กิดข้นึ ตำมธรรมชำต ิ เชน่ ห้วย หนอง คลอง บงึ ทะเล มหำสมทุ ร ๑.๒ แหล่งนำ�้ ที่มนุษย์สรำ้ งข้นึ เช่น อำ่ งเก็บน้ำ� คลอง ๒) กำรอนุรักษ์ หมำยถึง กำรใช้ทรัพยำกรธรรมชำติและส่ิงแวดล้อมอย่ำงฉลำดโดย ใช้ให้น้อยเพื่อให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยค�ำนึงถึงระยะเวลำในกำรใช้ให้ยำวนำน และก่อให้เกิด ผลเสียหำยต่อสิ่งแวดล้อมน้อยท่ีสุดรวมท้ังต้องมีกำรกระจำยกำรใช้ทรัพยำกรอย่ำงท่ัวถึง อย่ำงไรก็ตำมในสภำพปัจจุบันทรัพยำกรและส่ิงแวดล้อมมีควำมเสื่อมโทรมมำกขึ้น ดังน้ัน กำรอนรุ กั ษท์ รัพยำกรและส่ิงแวดล้อมจึงมคี วำมหมำยถงึ กำรพฒั นำสงิ่ แวดลอ้ มด้วย 92 แผนการจดั การเรยี นรู้ “รายวชิ าเพ่ิมเตมิ การป้องกนั การทุจรติ ”
แผนผงั ความคิด การอนุรกั ษแ์ หล่งนา้ํ ทส่ี อดคล้องกบั โมเดล STRONG : จติ พอเพยี งต้านทจุ รติ S TR การอนุรักษแ์ หลง่ น้าํ ทสี่ อดคลอ้ งกับโมเดล STRONG : จติ พอเพียงต้านทจุ รติ ON G กลุ่มที่......................รายช่อื ............................................................................................................... ระดบั ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ 93
แบบประเมนิ พฤติกรรมการท�ำงานกลุ่ม กลมุ่ .......................................................................................................... สมาชิกในกลุ่ม ๑................................................................. ๒................................................................. ๓................................................................. ๔................................................................. ๕................................................................. ๖................................................................. ๗................................................................. ๘................................................................. ๙................................................................. ๑๐............................................................... ค�ำชแ้ี จง ทำ� เคร่ืองหมาย ลงในชอ่ งท่ตี รงกบั ความเปน็ จริง พฤตกิ รรมท่ีสังเกต คะแนน ๓๒๑ ๑. มีส่วนร่วมในการแสดงความคดิ เหน็ ๒. มคี วามกระตือรือร้นในการท�ำงาน ๓. มคี วามรบั ผิดชอบในงานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย ๔. มีขั้นตอนในการท�ำงานอยา่ งเป็นระบบ ๕. ใชเ้ วลาในการท�ำงานอย่างเหมาะสม รวม เกณฑ์การให้คะแนน พฤติกรรมท่ที �ำเปน็ ประจำ� ให้ ๓ คะแนน พฤตกิ รรมทท่ี �ำเปน็ บางคร้งั ให้ ๒ คะแนน พฤตกิ รรมทท่ี �ำนอ้ ยครั้ง ให้ ๑ คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ระดับ ดีเยี่ยม คะแนน ๑๓ - ๑๕ ระดับ ดี คะแนน ๘ - ๑๒ ระดบั พอใช้ คะแนน ๕ - ๗ ระดับ ปรับปรุง คะแนนตํา่ กวา่ ๕ 94 แผนการจัดการเรียนรู้ “รายวิชาเพ่มิ เติม การป้องกันการทจุ ริต”
แบบประเมินผลงาน ท่ี พฤตกิ รรม ตรงจดุ ประสงค์ ผลงานมี การนำ�เสนอ เสรจ็ ทันเวลาท่ี รวม ช่ือ ที่ก�ำหนด ความถูกต้อง ผลงาน กำ�หนด ๑๖ สมบูรณ์ ๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑๔๓๒๑ (ลงช่ือ)..........................................................ผปู้ ระเมิน (.....................................................) .............../................./.................... เกณฑ์การวดั ผล ใหค้ ะแนนระดับคุณภาพของแตล่ ะกลุม่ ดังน้ี ดเี ยย่ี ม เทา่ กบั ๔ คะแนนคดิ เป็นร้อยละ ๙๐ - ๑๐๐ ด ี เทา่ กบั ๓ คะแนนคดิ เปน็ ร้อยละ ๗๐ - ๘๙ ปานกลาง เทา่ กับ ๒ คะแนนคดิ เป็นรอ้ ยละ ๕๐ - ๖๙ ปรับปรุง เทา่ กับ ๑ คะแนนคดิ เป็นรอ้ ยละ ๕๐ ระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ ๖ 95
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160