Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore โครงสร้าง-วิชาเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น

โครงสร้าง-วิชาเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น

Published by patthama.noom, 2018-09-11 08:52:33

Description: โครงสร้าง-วิชาเศรษฐศาสตร์เบื้องต้น

Search

Read the Text Version

การจดั ทาโครงสร้างรายวชิ า รายวิชาเศรษฐศาสตร์เบื้องตน้ รหสั วิชา 2200-1001 ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 5 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ การงานอาชีพและเทคโนโลยี จัดทาโดย นางสาว ปทั มา ปลง่ั เปล่อื ง ตาแหน่ง ครผู ชู้ ่วย โรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ 31ตาบลชา่ งเคง่ิ อาเภอแมแ่ จม่ จงั หวดั เชียงใหม่ สานกั บริหารงานการศึกษาพิเศษสานกั งานการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ

รายวชิ า รายวิชาเศรษฐศาสตรเ์ บื้องตน้ รหสั วิชา 2200-1001 ระดบั ช้ัน มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเรียนที่ 1/2561 จานวน 60 ชวั่ โมง จานวน 1.5 หน่วยกิตคาอธบิ ายรายวชิ า ศกึ ษาเกย่ี วกับความรพู้ ื้นฐานทางเศรษฐศาสตร์ อุปสงค์ อุปทาน และการกาหนดราคาดุลยภาค ความยืดหยุ่นของอุปสงค์และอุปทานทฤษฏีพฤติกรรมผู้บริโภค ทฤษฏีการผลิต ตลาดในระบบเศรษฐกิจรายได้ประชาชาติ เงินฟ้อเงินฝืดและเงินตึงตัว วัดจักรเศรษฐกิจดุลการชาระเงิน และการพัฒนาเศรษฐกิจ โครงสร้างและปัญหาเศรษฐกิจของประเทศและแนวทางแก้ไขผลการเรียนรู้ 1. บอกความหมาย ความเปน็ มา และความสาคัญของเศรษฐศาสตร์ได้ 2. บอกประเภทของวชิ าเศรษฐศาสตรไ์ ด้ 3. อธบิ ายลักษณะของหนว่ ยเศรษฐกิจและสรุปปญั หาพนื้ ฐานทางเศรษฐกิจได้ 4. บอกความแตกต่างระหวา่ งเศรษฐศาสตรก์ บั บริหารธรุ กจิ ได้ 5. อธิบายประโยชน์ของวิชาเศรษฐศาสตรไ์ ด้ 6. บอกความหมายของอุปสงคแ์ ละอปุ ทานได้ 7. สรปุ ประเภทของอุปสงค์และอุปทานได้ 8. บอกลักษณะของเสน้ อุปสงคแ์ ละอปุ ทานได้ 9. วิเคราะห์การเปล่ยี นแปลงของเสน้ อปุ สงค์และอุปทานได้ 10. เขา้ ใจการเกดิ ดุลยภาพของการตลาด 11. บอกความหมายของการยดื หยนุ่ ได้ 12. บอกความยดื หย่นุ ของอปุ สงค์ได้ 13. ระบุค่าความยืดหย่นุ ของอุปสงคต์ ่อราคา และลกั ษณะของเสน้ อุปสงค์ได้ 14. ระบุปจั จยั ที่กาหนดค่าความยืดหยุ่นของอุปสงคต์ ่อราคาได้ 15. บอกความยดื หยุ่นของอปุ ทานได้ 16. ระบคุ า่ ความยืดหยนุ่ ของอปุ ทาน และลักษณะของเสน้ อปุ ทานได้ 17. ระบปุ จั จัยทีก่ าหนดค่าความยดื หย่นุ ของอุปทานได้ 18. บอกประโยชน์จากการศึกษาเรื่องความยืดหยนุ่ ของอุปสงค์และอุปทานได้ 19. อธบิ ายความหมายและลักษณะการผลติ ได้ 20. บอกประเภทปัจจยั การผลิตที่ใชใ้ นกระบวนการผลิตได้ 21. อธบิ ายทฤษฎีการผลติ ในระยะยาวได้ 22. อธบิ ายดลุ ยภาพการผลติ ได้ 23. บอกความหมายและความสาคัญของการบรโิ ภคได้

24. อธบิ ายลกั ษณะท่ัวไปของผบู้ รโิ ภคได้ 25 อธิบายปจั จยั ทมี่ ีผลต่อการบรโิ ภคและผลของการบรโิ ภคได้ 26. อธิบายทฤษฎพี ฤติกรรมผู้บริโภคได้ 27. บอกความหมายและความสาคญั ของตลาดได้ 28. บอกประเภทของคนกลางและองคป์ ระกอบของตลาดได้ 29. บอกประเภทของตลาดได้ 30. บอกขนาดและหน้าท่ขี องตลาดได้ 31. อธบิ ายลักษณะของตลาดในระบบเศรษฐกิจได้ 32. อธิบายผลดแี ละผลเสยี ของการแขง่ ขนั และการผูกขาดได้ 33. อธบิ ายความสาคัญของการกาหนดราคาได้ 34. อธิบายราคาดุลยภาพและการปรบั ตัวของระดับราคาได้ 35. อธบิ ายการกาหนดราคาในตลาดสนิ ค้าต่าง ๆ ได้ 36. อธิบายการกาหนดราคาเพ่อื เสถียรภาพทางเศรษฐกิจได้ 37. บอกความหมาย ความสาคญั และความเป็นมาของเงนิ ได้ 38. สรุปหน้าท่ีและอธิบายมาตรฐานของเงนิ แบบตา่ ง ๆ ได้ 39. วิเคราะห์ภาวะเงินเฟ้อและเงินฝดื รวมทงั้ วัฎจกั รเศรษฐกิจได้ 40. เข้าใจลักษณะโดยท่วั ไปของตลาดการเงนิ 41. มคี วามรู้ในเร่ืองการใชน้ โยบายการเงนิ เพอื่ แก้ไขปญั หาทางเศรษฐกิจ 42. สรุปความหมายและความสาคญั ของการคลงั ได้ 43. บอกลักษณะและการจดั ทางบประมาณแผน่ ดนิ ได้ 44. เขา้ ใจความหมายและลักษณะของหนสี้ าธารณะ 45. เขา้ ใจการแกป้ ญั หาโดยใชน้ โยบายด้านการคลัง 46. ทราบถงึ การใชน้ โยบายการคลังในประเทศไทย 47. บอกความหมายและความสาคัญของรายได้ประชาชาติได้ 48. อธบิ ายประเภทของรายได้ประชาชาติ และคานวณรายได้ประชาชาตทิ ี่แท้จรงิ รวมท้ังรายได้เฉลีย่ ต่อบคุ คลได้ 49. อธบิ ายวธิ ีการคานวณรายได้ประชาชาติได้ 50. อธบิ ายโครงสร้างรายได้ประชาชาตขิ องประเทศไทยได้ 51. บอกปัญหาการคานวณและการใช้ข้อมูลรายไดป้ ระชาชาตไิ ด้ 52. ทราบถงึ ความสาคญั ของการคา้ ระหว่างประเทศ 53. ทราบถงึ นโยบายการคา้ ระหว่างประเทศ 54. เขา้ ใจความหมายและองค์ประกอบของดุลการชาระเงิน 55. อธบิ ายลกั ษณะดลุ การค้าและดุลการชาระเงินของประเทศไทยได้ 56. ทราบถึงแนวทางการแก้ไขปญั หาการขาดดลุ การค้าและดลุ การชาระเงิน

57. บอกความหมายและสรุปลกั ษณะของระบบเศรษฐกิจแต่ละรปู แบบได้ 58. บอกความหมายและความสาคัญของการพฒั นาเศรษฐกจิ ได้ 59. เขา้ ใจระดบั และปจั จยั การพฒั นาเศรษฐกจิ โดยทว่ั ไป 60. เขา้ ใจลักษณะท่ัวไปของการวางแผนเพอื่ พัฒนาเศรษฐกิจ 61. เข้าใจลักษณะทวั่ ไปของการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศไทย 62. อธบิ ายโครงสรา้ งทางเศรษฐกจิ ของประเทศไทยได้ 63. อธิบายผลของการพัฒนาเศรษฐกจิ ในประเทศไทยได้ 64. อธิบายปัญหาเศรษฐกิจของประเทศไทยได้ 65. บอกแนวทางแก้ไขปัญหาเศรษฐกจิ ของประเทศไทยได้ 66. บอกแนวคิดเศรษฐกจิ พอเพยี งได้รวมทั้งหมด.............66...............ผลการเรียนรู้

ผังมโนรายวิชา รายวชิ าเศรษฐศาสตรเ์ บื้องตน้ รหัสวชิ า 2200-1001ชอื่ หน่วยท่ี 1 ความรพู้ ้นื ฐานทาง ชอื่ หน่วยที่ 2 อุปสงค์ ชอ่ื หน่วยที่ 3 ค เศรษฐศาสตร์ และอปุ ทาน ของอุปสงค์แ จานวน 3 จานวน 5 ชั่วโมง : 5 คะแนน จานวน 2 ชั่วโมง : 3 คะแ 2 คะแนนสอบปลายภาค 20 คะแนน สอบกลางภาค 20 คะแนน รายวิชาเศรษ เบ้อื งตชือ่ หน่วยที่ โครงสร้าง ปญั หาและแนว ทางแก้ไขปญั หาเศรษฐกจิ ไทย ชั้นมัธยมศกึ จานวน 5 ช่ัวโมง : 5 คะแนน จานวน 60ชือ่ หน่วยท่ี 12 ระบบเศรษฐกจิ และการ พัฒนาเศรษฐกจิ ช่อื หน่วยที่ 11 ดุลการค้า ช่ือ และดุลการชาระเงิน จ จานวน 5 ชั่วโมง : 5 คะแนน จานวน 5 ช่ัวโมง : 5 คะแนน

นทศั น์ ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2561ความยืดหยนุ่ ชือ่ หน่วยที่ 4 การผลติ ชื่อหน่วยที่ 5 การบรโิ ภคและทฤษฎีและอุปทาน และทฤษฎีการผลติ พฤตกิ รรมผบู้ ริโภค3 ช่ัวโมง : จานวน 5 ช่ัวโมง :แนน จานวน 5 ช่ัวโมง : 5 คะแนน 5 คะแนนษฐศาสตร์ ช่อื หน่วยที่ 6 ตลาดในระบบตน้ เศรษฐกิจกษาปที ่ี 5 จานวน 5 ช่ัวโมง : 5 คะแนน ชว่ั โมง ช่อื หน่วยท่ี 7 การกาหนดราคา จานวน 3 ชั่วโมง : 5 คะแนน ช่อื หน่วยที่ 8 การเงนิ นโยบายการเงนิ และวัฎ จกั รเศรษฐกจิ จานวน 5 ชั่วโมง : 5 คะแนนอหน่วยท่ี 10 รายได้ ชือ่ หน่วยที่ 9 การคลงั และ ประชาชาติ นโยบายการคลัง จานวน 5 ชั่วโมง :จานวน 5 ชั่วโมง : 10 คะแนน 5 คะแนน

โครงสร้างรายวชิ า รายวชิ าเศรษฐศาสตร์เบื้องตน้ รหัสวชิ า 2200-1001 ชื่อหน่วยการเ ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 5 ภาคเท่ี ชือ่ หน่วย รหสั มฐ.ตัวชี้วัด/ผลการเรยี นรู้1. ความรู้พ้ืนฐาน 1.บอกความหมาย ความเป็นมา และ ความหมายของเศท า ง เ ศ ร ษ ฐ - ความสาคัญของเศรษฐศาสตร์ได้ เศรษฐศาสตร์ เศาสตร์ 2. อธิบายลักษณะของหน่วยเศรษฐกิจ เศรษฐกิจของมน และสรปุ ปัญหาพ้ืนฐานทางเศรษฐกจิ ได้ แลกเปลี่ยนสินค 4.บ อ ก ค ว า ม แ ต ก ต่ า ง ร ะ ห ว่ า ง ทรัพยากร ท่เี ป็นป เศรษฐศาสตรก์ บั บรหิ ารธรุ กิจได้ ตอบสนองความตอ้ 5.อ ธิ บ า ย ป ร ะ โ ย ช น์ ข อ ง วิ ช า ความเปน็ มาของว เศรษฐศาสตร์ได้ แนวคิดทางเศรษฐ นั ก ป ร า ช ญ์ ส มั แนวความคิดและก ในหลักปรัชญา ศา ความคิดเหล่าน้ียัง เช่น แนวคิดเรอ่ื งก แนวคิดเร่ืองความ

งรายวิชาเรียนรูท้ ่ี 1 เรอื่ ง ผู้มีหน้าทเ่ี สยี ภาษเี งินไดบ้ คุ คลธรรมดา และเงินได้พงึ ประเมนิเรยี นที่ 2 ปีการศึกษา 2560 เวลา น้าหนักคะแนน คะแนนสาระสาคัญ (ช.ม.) K P A รวม พุทธิพิสยั ทักษะ เจตพิสัย (ความรู้) พสิ ยั (เจตคต)ิ (ทักษะ)ศรษฐศาสตร์เ ป็ น วิ ช า ที่ ศึ ก ษ า ถึ ง กิ จ ก ร ร ม ท า งนุษย์ เพ่ือผลิต บริโภค กระจายค้าและบริการ โดยการจัดสรรปจั จัยการผลิตอันมีอยู่อย่างจากัดเพ่ือองการของมนษุ ย์ท่ีมีอย่างไมจ่ ากัดวชิ าเศรษฐศาสตร์ 5 2 2 1 5ฐศาสตร์มีมาตั้งแต่สมัยโบราณแล้วยโบราณพยายามสอดแทรกกฎเกณฑ์ทางเศรษฐศาสตร์ปะปนอยู่าสนา ศีลธรรมและหลักปกครอง แต่งไม่ถือเป็นทฤษฎีทางเศรษฐศาสตร์การแบ่งงานกันทาของเพลโต (Plato)มม่ังคั่ง ของอริสโตเติล (Aristotle)

เปน็ ตน้ในคริสต์ศตวรรษอังกฤษบุคคลแรกอาดัม สมิธ (Adaเศรษฐศาสตร์เล่มแ“An Inquiry intoWealth of NWealth Nationsแรกเมื่อ ค.ศ.1776มาบริหารประเทการค้าใหน้ ้อยที่สุดเอกชน ทั้งน้ีเป็นกนิยมหรือส่งเสริมระความสาคญั ของเศวิชาเศรษฐศาสตรตัดสนิ ใจเกย่ี วกบั กระเบียบ รู้จักใชทรัพยากรให้เกิดผตามเป้าหมายที่กประสิทธิภาพน้ันมเศรษฐกจิ ต่างระดับระดับผู้บริหารปร

ษท่ี 18 ได้มีนักเศรษฐศาสตร์ชาวกท่ีวางรากฐานวิชาเศรษฐศาสตร์ คือam Smith) ได้เขียนตาราทาง แรกของโลก ซ่ึงมีช่ือค่อนข้างยาวว่าo the Nature and Causes of theNations” หรือเรียกสั้นๆว่า “Thes” (ความม่ังค่ังแห่งชาติ) ตีพิมพ์คร้ัง6 โดยเสนอความคิดว่า รัฐบาลที่เข้าทศควรเข้าแทรกแซงการผลิตและด โดยยินยอมให้เป็นภาระหน้าท่ีของการสะท้อนถึงแนวความคิดแบบเสรี ะบบเศรษฐกจิ แบบเสรีศรษฐศาสตร์ร์ ช่วยให้มนุษย์เข้าใจหรือสามารถกจิ กรรมต่าง ๆ อย่างเป็นระบบและมีช้ประโยชน์ในการบริหารจัดการผลอย่างมีประสิทธิภาพและเป็นไปกาหนด การใช้ทรัพยากรอย่างมีมีเป้าหมายต่างกันอันเน่ืองจากหน่วยบกันระเทศ ใช้วิชาเศรษฐศาสตร์ในการ

พิจารณาถึงการจอย่างจากัดน้ัน ใหความต้องการพื้นฐเป็นธรรมหนว่ ยทางเศรษฐก หน่วยเศรษต่าง ๆ ซึ่งเป็นผู้ปกิจกรรมอื่น ๆ ทเศรษฐกิจ หน่วยเศๆ แต่ละหน่วยมีอแตกต่างกนั ดงั น้ี1. หน่วยครัวเรอื น ห น่ ว ย ค รั ว เ รื อประกอบด้วยบุคคในการใช้ทรัพยาการเงนิ เพื่อให้ได้ปหนว่ ยครัวเรือนปร 1) เจ้าของปชนิดต่าง ๆ ได้แประกอบการ ซึ่งอตาม เจ้าของปัจจผู้ผลิตเพื่อไปผลิต

จัดสรรทรัพยากรของประเทศ ท่ีมีห้เกิดประโยชน์สูงสุด เพ่ือตอบสนองฐานของประชาชนได้อย่างท่ัวถึงและกจิ ษฐกิจ หมายถึง บุคคลหรือองค์กรประกอบกิจกรรมทางเศรษฐกิจและที่เกี่ยวข้องกับการดาเนินชีวิตทาง ศรษฐกิจประกอบด้วย 3 กลุ่ม ใหญ่องค์ประกอบ หน้าท่ี และเป้าหมายน อน หมายถึง หน่วยเศรษฐกิจที่คลต้ังแต่หน่ึงคนขึ้นไป มีการตัดสินใจากรธรรมชาติหรือปัจจัยทางด้านประโยชน์แก่ตนหรือกลุ่มตนมากที่สุดระกอบด้วยปัจจัยการผลิต คือ ผู้มีปัจจัยการผลิตแก่ ที่ดิน แรงงาน ทุน และการอาจมีเพียงชนิดเดียวหรือหลายชนิดก็จัยจะนาปัจจัยการผลิตที่ตนมีอยู่ให้ตเป็นสินค้าและบริการ โดยได้รับ

ค่าตอบแทนในรูปเป้าหมายของเจ้าสูงสุด 2) ผู้บริโภบริการเพ่ือตอบสนผู้บริโภค คือ ควครัวเรือนอาจทาหเป็นผู้บริโภคไปพรหน่วยครัวเรือนจะจับจ่ายใช้สอย ส่ลกั ษณะของกจิ กรร2. หน่วยธรุ กจิ หน่วยธุรกิจหน้าท่ีเอาปัจจัยกาสินค้าหรือบริการแธุรกิจประกอบด้วและผขู้ าย ซึ่งหน่วและผู้ขาย หรือทของผู้ผลิต คือ แสการตลาดมากท่ีสุดท่ียอมรบั หรือธรุ กสงู ข้นึ เรือ่ ย ๆ เปน็

ปคาเช่า ค่าจ้าง ดอกเบี้ยหรือกาไราของปัจจัยการผลิต คือรายได้สุทธิภค คือ ผู้ใช้ประโยชน์จากสินค้าและนองความต้องการของเป้าหมายของวามพึงพอใจสูงสุด ชิกของหน่วยหน้าที่ทั้งเจ้าของปัจจัยการผลิต และร้อม ๆ กัน อย่างไรก็ตามหน้าท่ีของะต้องพยายามหารายได้มาไว้สาหรับ วนแหล่งท่ีมาของรายได้ขึ้นอยู่กับ รม หมายถึง บุคคลหรือกลุ่มบุคคลท่ีทาารผลิตต่าง ๆ มาผสมผสานผลิตเป็น แล้วนาไปขายให้แก่ผู้บริโภค หน่วยวยสมาชิก 2 กลุ่มใหญ่ ๆ คือ ผู้ผลิต ยธุรกิจบางหน่วย ทาหน้าที่ทั้งผู้ผลิตทาหน้าที่เพียงอย่างเดียว เป้าหมาย สวงหากาไรสูงสุด หรือมีส่วนแบ่งดในธุรกิจนั้น หรือการมีช่ือเสียงเป็นกิจมอี ัตราการเจริญเติบโตอยู่ในอัตรานตน้

3. หน่วยรฐั บาล หน่วยรัฐบาส่วนราชการต่าง ๆมีหน้าท่ีเชื่อมควาเศรษฐกิจ ซึ่งบทบมีมากน้อยเพียงใระบบเศรษฐกิจแบรฐั บาลโดยเฉพาะทแต่ถ้าเป็นระบบเคอมมิวนิสต์ รัฐบาก็ตามบทบาทหน้า 1) เป็นท้งั ผ้ผูผลติ ในระบบเศรษ 2) อานวยควบริการด้านสาธารโทรศัพท์ ฯลฯ) แบารุงถนน ฯลฯ) ให 3) จัดหาราเพอื่ ไวใ้ ชจ้ ่ายในกา 4) รักษาควาและตัดสินขอ้ พพิ าปัญหาพื้นฐานท

าล หมายถึง หน่วยงานของรัฐ หรือๆ ท่ีจัดตั้งเพื่อดาเนินการของรัฐบาลามสัมพันธ์กับหน่วยอ่ืน ๆ ในระบบบาท หน้าที่ ความสัมพันธ์ดังกล่าวจะ ดข้ึนอยู่กับระบบเศรษฐกิจถ้าเป็นบบทุนนิยม บทบาทหน้าที่ของหน่วยทางดา้ นเศรษฐกิจจะมีค่อนข้างจากัดเศรษฐกิจแบบสังคมนิยมหรือแบบาลจะมีบทบาทค่อนข้างมาก อย่างไราท่ขี องหน่วยรฐั บาล พอสรปุ ไดด้ งั นี้ผลติ ผู้บรโิ ภค และเจ้าของปัจจัยการษฐกจิวามสะดวกในดา้ นปัจจยั พน้ื ฐาน เช่นรณูปโภค (บริการไฟฟ้า น้าประปาและสาธารณูปการ (การซ่อม สร้าง หแ้ กป่ ระชาชนายได้โดยการเก็บภาษีจากประชาชนารบรหิ ารและพฒั นาประเทศามสงบเรียบร้อยของบ้านเมือง ระงับาทและป้องกนั ประเทศทางเศรษฐกิจ เกิดขึ้นจากการท่ี

ทรัพยากรเศรษฐต้องการของมนุษสังคมประสบปัญหออกไดเ้ ปน็ 3 ปัญ จะเลือกผลิตอ ผลิตอย่างไร ผลิตเพอ่ื ใด (ความแตกตา่ งระหการศึกษาด้านเศความเช่ือมโยงเกี่ยกั บ กิ จ ก ร ร ม ท า งประสิทธิภาพ อบริหารธุรกิจยังมหลกั การและการน1. ลกั ษณะสาคญั แความรู้ที่ว่าดว้ ยเรอ่ืเกิดประโยชนส์ ูงสดุเป็นองค์ความรู้ที่วบรหิ าร เพอ่ื ใหห้ น่ว2. การตีมูลค่า การเศรษฐกิจหน่งึ ๆ ขอตา่ งกันดังนี้

ฐกิจมีจากัด เมื่อเทียบกับความษย์ที่มีอยู่อย่างไม่จากัด ทาให้ทุกหาพ้ืนฐานทางเศรษฐกิจ ซ่ึงจาแนกญหา คืออะไร (What to produce)ฃ (How to produce)(For Whom to produce)หวา่ งเศรษฐศาสตรก์ ับบริหารธุรกิจ รษฐศาสตร์กับบริหารธุกิจมักจะมียวพันกัน เพราะเป็นเร่ืองที่เกี่ยวข้องงเศรษฐกิจ และการบริหารให้มีอย่างไรก็ตาม เศรษฐศาสตร์และมีความแตกต่างกันท้ังในแง่แนวคิดนาไปใช้ประโยชน์ พอสรุปได้ดงั นี้และเป้าหมาย เศรษฐศาสตร์เป็นองค์องการจดั สรรทรัพยากรให้คุ้มค่าและดแก่สงั คมโดยรวม ส่วนบริหารธุรกิจ ว่าด้วยเรื่องการจัดองค์กรและการวยธรุ กจิ มผี ลกาไรสูงสดุรคิดรายรับรายจ่ายของกิจกรรมทางองบรหิ ารธุรกิจและเศรษฐศาสตร์จะ

2.1 ผลประโยชน์หคิดท้ังรายรับหรือจากกิจกรรมทางเศการสร้างเข่ือนผประเทศไทย (กฟผจ า ก ค่ า ไ ฟ แ ล้ ว ยชลประทานเพื่อเกเ ป็ น ผ ล ป ร ะ โ ย ชบริหารธุรกิจจะคขนึ้ กับองคก์ รธรุ กิจ2.2 ค่าใช้จ่ายขอเศรษฐกิจจะคิดครวมทั้งคา่ ใช้จา่ ยท่จีค่าก่อสร้างเขื่อน แหมู่บ้านออกนอกพ2.3 ทางเศรษฐศโครงสร้างทางเศนอกจากมีต้นทุนผลกระทบภายนอกอ่ สร้าง2.4 การตีค่าผลตอโอกาสหรือผลผลิต

หรือรายรับในทางเศรษฐศาสตร์จะอผลประโยชน์ท่ีเกิดขึ้นโดยตรงอ้อมศรษฐกิจที่ทาที่เกิดขึ้นกับสังคม เช่นผ ลิ ต ไ ฟ ฟ้ า ข อ ง ก า ร ไ ฟ ฟ้ า ผ ลิ ต แ ห่ งผ.) นอกจากรายรับหรือผลประโยชน์ยั ง จ ะ มี ผ ล ป ร ะ โ ย ช น์ ใ น ด้ า น ก า รกษตร เปน็ สถานท่พี กั ผอ่ นหย่อนใจซึ่ง น์ กฟผ. ไม่ได้รับโดยตรง ส่วนคิดถึงผลประโยชน์หรือรายได้ที่เกิดจเทา่ นน้ัองกิจกรรมทางเศรษฐกิจ ในทางค่าใช้จ่ายทางตรงและทางอ้อม ซึ่ง จับตอ้ งได้ค่าใช้จ่ายท่ีมองไม่เห็น เช่นและ ค่าชดเชยการย้ายชาวบ้านและพ้ืนที่เข่ือนมีคา่ ใชจ้ า่ ยทางอ้อมศาสตร์คิดถึงผลกระทบภายนอกศรษฐกิจ เช่น การสร้างสนามบิน การก่อสร้างที่เกิดข้ึนยังจะต้องคิดอก เช่น เสียงดัง และมลพิษจากการ อบแทนหรือค่าใช้จ่ายจะคิดค่าเสียตภาพของการใช้ปัจจัยการผลิตนั้นๆ

และอุปสงค์อุปทเงินเดือนทางเศรษหรือผลิตสว่ นเพ่ิม2.5 ผลประโยชนห์ประเภททางเศรษค่าใช้จ่าย เช่น รกาไรจากการซือ้ ขาราคา เปน็ ตน้3. เศรษฐศาสตเศรษฐกจิ ขนาดใหจานวนมากโดยเฉพด้านเศรษฐศาสตการคา้ ลุงทุนระหว4. เศรษฐศาสตร์มเป้าหมายเชิงนโยทางเศรษฐกิจท่ีตเจริญและรายได้ดุลการชาระเงิน5. เศรษฐศาสตร์จเศรษฐกิจและกิจพฤติกรรมผู้บริโกาหนดราคา และร

ทานในตลาด เช่น การจ่ายค่าจ้าง ษฐศาสตร์จะคิดจากมูลค่าส่วนเพ่ิม ท่ีแรงงานสรา้ งขน้ึหรือรายรบั แลคา่ ใชจ้ า่ ยทางธุรกิจบางษฐศาสตร์ไม่ถือว่าเป็นรายวันหรือ ายรับจากการถูกรางวัลสอตเตอรีายห้นุ หรอื การจ่ายด้านภาษี ค่าเสื่อม ตร์เป็นวิชาที่ศึกษาถึงกิจกรรมทางหญ่ที่มีผลกระทบหรือเกี่ยวข้องกับคน พาะการศึกษาทางด้านการศึกษาทาตร์มหภาค เช่นรายได้ประชาชาติวา่ งประเทศมหภาคมีเป้าหมายทางเศรษฐกิจหรือยบายแห่งรัฐที่การสร้างเสเถียรภาพต้องการสร้างรายได้ กระจายความ ลดปัญหาการขาดดุลการค้า และจุลภาค เน้นการศึกษาในระดับสาขา การ เช่น การศึกษาด้าน การผลิต ภคอุปสงค์อุปทานในตลาด การ ระบบตลาดมีความความใกล้ชิดและ

เก่ยี วกับความรู้ทางประโยชนข์ องวชิ าวิชาเศรษฐศาสตประโยชน์ในชีวิตปวิชาน้จี งึ มักเป็นวิชต่างๆ ประโยชน์ขอดังน้ี1. ประโยชน์ทเข้าใจหลักทฤษฎเศรษฐกิจและการเให้ปรับตัวเข้ากับเหสามารถดารงชวี ิตป2. ประโยชนตัดสินใจเลือกบรความพอใจสูงสุดภใช้ทรัพยากรอย่างมากท่ีสุด นอกจเปลี่ยนแปลงของสต่อสถานการณ์การ้จู กั การออม แสว3. ประโยชน์ในเลือกใช้ทรัพยาก

งการบรหิ ารธุรกจิาเศรษฐศาสตร์ ร์เป็นวิชาท่ีมีความสาคัญและเป็นประจาวันของทุกคนในสังคม ดังนั้นชาพื้นฐานของการศึกษาในแขวนวิชาองวิชาเศรษฐศาสตร์สามารถสรุปได้ท่ีเกิดกับผู้ศึกษาโดยตรง ผู้ศึกษาจะฎีทางเศรษฐศาสตร์ เข้าใจภาวะเปล่ียนแปลงของภาวะเศรษฐกิจ ทาหตุการณ์การเปล่ียนแปลงได้อย่างดีประจาวนั ได้อยา่ งมีหลักเกณฑ์น์ในฐานะผู้บริโภค ทาให้ผู้บริโภคริโภคสินค้าและบริการท่ี ตนได้รับภายใต้ระดับรายได้ที่มีอยู่ เป็นการงประหยัดคุ้มค่าและเกิดประโยชน์จ า ก น้ี ช่ ว ย ใ ห้ ผู้ บ ริ โ ภ ค เ ข้ า ใ จ ก า รสภาวะเศรษฐกิจ และปรับตัวให้ทันารเปลี่ยนแปลงที่เกิดข้ึน ตลอดจนวงหารายได้ และรายจ่ายอย่างคมุ้ ค่านฐานะผู้ผลิต ทาให้ผู้ผลิตตัดสินใจกรที่มีอยู่อย่างจากัดไปในการผลิต

สนิ คา้ และบริการอการผลิต ทาให้ธช่วยให้ผู้ผลิตเข้าใเศรษฐกิจ และปเกิดขึ้น สามารถตไดอ้ ยา่ งเหมาะสมก4. ประโยชน์ในลักษณะโครงสรา้ งวิเคราะห์ถึงสาเหแนวทางแก้ไข โนโยบายทางเศรษให้เกิดประสิทธิภประเทศ5. ประโยชน์ในฐานปญั หาเศรษฐกิจที่เ6.ในแง่ผู้บริหารหรด้านเศรษฐศาสตรปัญหาและวางแทางการพฒั นาเศรและมปี ระสิทธิภาพ

อย่างคุ้มค่า ประหยัด ช่วยลดต้นทุนธุรกิจได้รับกาไรเพ่ิมข้ึน นอกจากนี้ใจการเปลี่ยนแปลงของสภาวะทางปรับตัวให้ทันต่อสถานการณ์การท่ีตัดสินใจเลือกลงทุนหรือดาเนินธุรกิจกับสถานการณ์นนั้ ๆนฐานะรัฐบาล ทาให้ผู้บริหารเข้าใจงทางเศรษฐกิจของประเทศ สามารถหตุของปัญหาทางเศรษฐกิจและหาโ ด ย ก า ห น ด อ อ ก ม า เ ป็ น แ ผ น แ ล ะษฐกิจท่ีจะนาไปใช้ในการแก้ปัญหา ภาพและเกิดประโยชน์สูงสุดแก่ นะพลเมืองของประเทศ ทาให้เข้าใจเกิดขึ้นในบา้ นเมือง เขา้ ใจบทบาท รือรัฐบาล หากมีความรู้ความเข้าใจร์เป็นอย่างดีจะทาให้สามารถจักดารแนวทางแก้ไข รวมทั้งกาหนดทิศรษฐกจิ ของประเทศได้อย่างเหมาะสมพ

โครงสรา้ ง รายวิชา ภาษีเงนิ ได้บคุ คลธรรมดากบั การบญั ชี ช ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 ภาคเท่ี ชื่อหน่วย รหัส มฐ.ตัวชว้ี ัด/ผลการเรยี นรู้2. อุ ป ส ง ค์ แ ล ะ 6. บอกความหมายของอปุ สงคแ์ ละอปุ ทานได้ อุปสงค์ (Demanอปุ ทาน 7. สรปุ ประเภทของอุปสงค์และอปุ ทานได้ หรือบริการชนิดใ 8. บอกลกั ษณะของเสน้ อุปสงค์และอุปทานได้ เวลาหน่ึง โดยมีอ 9. วิเคราะห์การเปล่ยี นแปลงของเสน้ อปุ สงค์ ตอบสนองความตอ้ และอปุ ทานได้ อุปทาน (supply 10. เขา้ ใจการเกิดดลุ ยภาพของการตลาด เสนอขายสินคา้ หร ผ้ปู ระกอบการมคี ว จัดหามาขายหรือ ระดบั ราคาตา่ งๆท ประเภทของอปุ สง 1. อุปสงค์ต่อรา ปริมาณของสินค้า ระดับราคาต่าง ๆ ระยะเวลาท่ีกาหน ตอ่ พฤตกิ รรมการบ

งรายวชิ าชื่อหน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 เร่ือง อุปสงคแ์ ละอปุ ทานเรยี นท่ี 1 ปีการศึกษา 2561สาระสาคญั เวลา นา้ หนกั คะแนน คะแน (ช.ม.) นรวม KPA พทุ ธิพิสยั ทกั ษะพสิ ัย เจตพสิ ยั (ความรู้) (ทักษะ) (เจตคต)ิnd) หมายถึง ความต้องการซ้ือสินค้า 2 1 0.5 0.5 2ใดชนิดหน่ึงของผู้บริโภค ณ เวลาใดอานาจซื้อหรือมีความสามารถในการองการน้นั ๆy) หมายถึง ปริมาณความต้องการรือบรกิ ารชนิดใดชนดิ หน่ึง ทผ่ี ู้ผลิตหรือวามเต็มใจท่ีจะเสนอขาย และสามารถอให้บริการได้ในขณะใดขณะหนึ่ง ณท่ีตลาดกาหนดมาให้งค์าคา (price demand) หมายถึงาและบริการท่ีมีผู้บริโภคต้องการซื้อ ณๆ ของสินค้าและบริการชนิดนั้น ๆ ในนด โดยสมมติ กาหนดให้ปัจจัยที่มีผลบรโิ ภคอื่น ๆ คงที่ เชน่

- หากตอ้ งกน้ัน ก็จะพิจารณาสินค้า ก. อย่างเดของผบู้ รโิ ภคอย่างไเช่น รายได้ของผู้บทเ่ี กย่ี วขอ้ งไม่เปลย่ี 2. อุปสงค์ต่อรายปริมาณของสินค้าระดับรายได้ต่างสมมติ กาหนดให้ปอื่น ๆ คงท่ี เชน่ - หากต้องกที่มีต่อสินค้าชนิดใเปล่ียนแปลงไปในผลกระทบต่อความที่สมมติ กาหนดใหน้ัน ราคาสินค้าชนเปน็ ต้นอปุ ทานประกอบด1. ความเต(willingness) กกาหนดมาให้ ผู้ผล

การศกึ ษาอุปสงค์ต่อราคาของสินค้า ก.าเฉพาะการเปลี่ยนแปลงไปในราคาดียว ว่ามีผลกระทบต่อความต้องการไร โดยที่สมมติ กาหนดให้ปัจจัยอื่น ๆบริโภค ราคาสินค้าชนิดอื่น (สินค้า ข.)ยนแปลง เป็นต้นยได้ (income demand) หมายถึงาและบริการท่ีมีผู้บริโภคต้องการซื้อ ณ ๆ กัน ในระยะเวลาท่ีกาหนด โดยปัจจัยท่ีมีผลต่อพฤติกรรมการบริโภคารศึกษาอุปสงค์ต่อรายได้ของนาย ก.ใดชนิดหนึ่ง ก็จะพิจารณาเฉพาะการนรายได้ของนาย ก. อย่างเดียว ว่ามีมต้องการในสินค้านั้น ๆ อย่างไร โดยหป้ จั จัยอน่ื ๆ เชน่ ราคาของสินค้าชนิดนิดอื่น ๆ ที่เก่ียวข้องไม่เปล่ียนแปลงด้วย 2 สว่ นสาคญั คอืต็มใจที่จะเสนอขายหรือให้บริการกล่าวคือ ณ ระดับราคาต่างๆ ที่ตลาดลิตหรือผู้ประกอบการมีความยินดีหรือ

เต็มใจท่ีจะเสนอตอ้ งการซ้ือของผบู้2. ความสามารถใน(ability to sell)จะต้องจัดหาให้มตอบสนองความต้อของตลาดในขณะนได)้กฎของอุปสงค์ คือต้องการสินค้าแลระดับราคาของสินถ้าราคาสินค้าแลผบู้ รโิ ภคมคี วามตอ้สินคา้ และบรกิ ารลซ้ือสนิ คา้ และบริกากฎของอุปทาน คือผู้ขายก็จะนาสินค้าสินคา้ ทเ่ี สนอขายนปริมาณลดลงลักษณะการเปลย่ีกฎอุปสงค์และกระหว่างราคาและ

ขายสินค้าหรือให้บริการตามความบรโิ ภคนการจัดหามาเสนอขายหรือให้บริการ ) กล่าวคือ ผู้ผลิต หรือผู้ประกอบการมีสินค้าหรือบริการอย่างเพียงพอที่จะ องการซ้ือของผู้บริโภค ณ ระดับราคานัน้ ๆ (สามารถเสนอขายหรือให้บริการอ ความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณความละบริการของผู้บริโภคแปรผกผันกับนค้าและบริการชนิดนั้นเสมอ กล่าวคือ ะบริการมีระดับราคาสูงข้ึนจะทาให้องการซอ้ื สินคา้ ลดลง แต่ถา้ ระดับราคาลดลง จะทาใหผ้ บู้ รโิ ภคมีความต้องการารเพ่มิ ขนึ้อ เมื่อราคาสินค้าที่เสนอขายน้ันสูงขึ้นาออกขายในปริมาณมาก แต่เมื่อราคานั้นลดลงผ้ขู ายก็จะนาสนิ คา้ ออกขายในยนแปลงของเสน้ อุปทานกฎอุปทาน อธิบายถึงความสัมพันธ์ะปริมาณสินค้า เม่ือปัจจัยอื่นๆ คงท่ี

ห า ก ปั จ จั ย อื่ น เ กเปลีย่ นแปลงอุปสงปริมาณอุปทานจราคา แสดงในแผนเส้นอปุ สงค์หรอื อุปปัจจัยกาหนดอุปสราคาของสินค้าอ่ืนจานวนผูซ้ ื้อ ในขณต้นทุนปัจจัยการผจานวนผู้ขาย

กิดความเปลี่ยนแปลง จะเกิดการงคห์ รอื อปุ ทาน คือปริมาณอุปสงค์หรือจะมีการเพิ่มข้ึนหรือลดลงท่ีทุกระดับ นภูมิในลักษณะของการเปลี่ยนแปลงปทานสงค์สาคัญที่มักกล่าวถึงได้แก่ รายได้นท่ีเกี่ยวข้อง รสนิยม ความคาดหวังณะทปี่ ัจจยั ท่ีกาหนดอปุ ทานมักกล่าวถึงผลิต เทคโนโลยี ความคาดหวัง และ

โครงสรา้ ง รายวิชา รายวชิ าเศรษฐศาสตร์เบ้อื งตน้ รหัสวิชา 2200-1001 ช่ือ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 5 ภาคเท่ี ชอื่ หน่วย รหสั มฐ.ตัวชี้วดั /ผลการเรยี นรู้3. ความยืดหยุ่น 11. บอกความหมายของการยดื หยุ่นได้ ความยืดหยุ่นของอุปสงค์และ 12. บอกความยืดหยุ่นของอปุ สงค์ได้ ความมากนอ้ ยอุปทาน 13. ระบุคา่ ความยดื หยุน่ ของอปุ สงคต์ ่อราคา การเปล่ียนแป และลกั ษณะของเสน้ อปุ สงค์ได้ ยืดหยุ่นพิจาร 14. ระบปุ จั จยั ทก่ี าหนดคา่ ความยืดหยุ่นของ ม า ก แ ส ด ง อปุ สงค์ต่อราคาได้ เปลี่ยนแปลง 15. บอกความยืดหยนุ่ ของอปุ ทานได้ เครื่องหมาย 16. ระบคุ ่าความยืดหย่นุ ของอปุ ทาน และ เปล่ียนแปล ลักษณะของเสน้ อุปทานได้ เคร่ืองหมาย 17. ระบปุ ัจจยั ท่กี าหนดคา่ ความยดื หย่นุ ของ เดียวกัน เคร อปุ ทานได้ ทศิ ทางตรงขา้ 18. บอกประโยชน์จากการศึกษาเร่ืองความ ความยดื หยนุ่ ยืดหยุน่ ของอุปสงคแ์ ละอปุ ทานได้ ความยืดหยุ่น ปริมาณเสนอ

งรายวิชาอหน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 เรอื่ ง ความยดื หยุ่นของอปุ สงคแ์ ละอุปทานเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2561สาระสาคญั เวลา นา้ หนักคะแนน คะแน (ช.ม.) KPA นรวมน (Elasticity) หมายถึง เป็นค่าท่ีใช้วัด 3 พุทธิพสิ ัย ทกั ษะพิสยั เจตพิสัย 3 ยของการเปลยี่ นแปลงของตัวแปรตามต่อ (ความรู)้ (ทักษะ) (เจตคติ) ปลงของตัวแปรนาการพิจารณาค่าความรณาจากตัวเลข โดยการเปลี่ยนแปลงมีค่า 111ง ว่ า มี ค ว า ม ยื ด ห ยุ่ น ม า ก แ ล ะ ก า รงมีค่าน้อย แสดงว่ามีความยืดหยุ่นน้อยยของความยืดหยุ่น แสดงถึงทิศทางการลงของตัวแปรนาและตัวแปรตาม โดย + แสดงถึงการเปล่ียนแปลงในทิศทางร่ืองหมาย – แสดงถึงการเปล่ียนแปลงในามกันนของอุปสงค์นเป็นค่าท่ีช้ีให้เห็นว่าปริมาณเสนอซ้ือหรืออขายมคี วามเปล่ยี นแปลงมากน้อยพียงใด

เมื่อมีการเปอุปทาน ถ้ามยืดหยุ่นมากความยืดหยุ่นความยดื หยนุ่ความยืดหยุ่นเปล่ียนแปลงเม่ือตัวแปรอเปลย่ี นแปลงไคือความยดื หยุน่ความยืดหยุ่นความยดื หยุน่คา่ ความยืดหยโมเดลของอแนวโน้มที่จะเอุปสงค์และปภาวะดุลยภาภาวะนี้ว่า ปมากกว่าปริมราคาดุลยภาสินค้า หรือเ

ล่ียนแปลงปัจจัยท่ีกาหนดอุปสงค์หรือมีความเปล่ียนแปลงมากเรียกว่ามีความก ถ้ามีความเปล่ียนแปลงน้อยเรียกว่ามี นน้อย ถ้าไม่เปล่ียนแปลงแสดงว่าไม่มีนเลยนของอุปสงค์ หมายถึง เปอร์เซ็นต์การงของปริมาณเสนอซ้ือในขณะใดขณะหนึ่งอื่นๆที่เป็นตัวกาหนดปริมาณเสนอซื้อนั้น ไป 1 เปอรเ์ ซ็นต์ ซึ่งเราจะศึกษากัน 3 ตัวนของอุปสงค์ตอ่ ราคานของอปุ สงคต์ อ่ รายได้นของอปุ สงคต์ ่อราคาสินค้าชนิดอื่น ยุน่ ของอุปทานอุปสงค์และอุปทาน อธิบายว่า ตลาดมี เข้าสดู่ ุลยภาพ (equilibrium) ซึ่งปริมาณปริมาณอุปทานจะเท่ากัน เรียกราคาท่ีาพว่า ราคาดุลยภาพ และปริมาณสินค้าท่ีปริมาณดุลยภาพ หากปริมาณอุปสงค์มาณอุปทาน ซึ่งเกิดเม่ือราคาสินค้าต่ากว่าาพของสินค้านั้น จะเกิดการขาดแคลน รียกว่ามีอุปสงค์ส่วนเกิน ในขณะท่ีเม่ือ

ปริมาณอุปทสินค้าสูงกว่าหรืออปุ ทานสผู้ขายในตลาดภาพต่อเน่ืองอุปสงคแ์ ละอทฤษฏีของอุปการเปลี่ยนแปัจจัยท่ีกาหนยืดหยุ่นท่ีมักนซึ่งเป็นการเอุปทานทเี่ กิดปจั จัยทก่ี าหนอุปทานของสขาย ขึ้นกบั ปัจเปล่ียนแปลตัวอย่างปัจจยัสภาพดินฟ้าอปริมาณผลผอากาศเอื้ออมาก นอกจากออกเป็นฤดูก

ทานมากกว่าปริมาณอุปสงค์ คือเม่ือราคาาราคาดุลยภาพ จะเกิดสินค้าล้นตลาดสว่ นเกิน โดยเมื่อเกิดกรณเี หลา่ นี้ ผู้ซื้อและ ดจะตอบสนองจนกระท่ังตลาดเข้าสู่ดุลยงกันสิ่งท่ีสาคัญอย่างหน่ึงในหลักการของอปุ ทานไดแ้ กค่ วามยืดหยุ่น (elasticity) ในปสงค์และอปุ ทาน ความยืดหยุ่นคือการวัดแปลงของปริมาณอุปสงค์หรืออุปทานต่อ นดอุปสงค์หรืออุปทาน การศึกษาความ นามาพิจารณาคือความยืดหยุ่นต่อราคาเปล่ียนแปลงของปริมาณอุปสงค์หรือดจากความเปลยี่ นแปลงของราคานดคา่ ความยืดหยนุ่ ของอุปทานสินค้าเกษตรหรือปริมาณความต้องการ จจัยหลายประการ ทั้งน้ีหากปัจจัยเหล่าน้ี งไปจะส่งผลให้อุปทานเปล่ียนไปด้วยยสาคัญท่ี กาหนดอุปทาน เช่นอากาศและฤดูกาล สภาพอากาศมีผลต่อผลิตของสินค้าเกษตร เช่น หาก สภาพอานวย ผลผลิตการเกษตรท่ีออกมาจะมีกนี้ สินค้าเกษตรหลายชนิดกาล (Seasonality) ซ่ึงจะมีผลต่ออุปทาน

สินค้าเกษตรออกมามากในจานวนพื้นที่เส่งผลต่อปริม(Yield) ความพชื ช่วยให้สาพื้นท่ีเท่าเดิมการเปลี่ยนแปต่อปริมาณผลได้ เช่น หากเกษตรกร ท่ีปยางพาราแทขณะที่ผลผลกล่าวมาแล้วต้องการขายกาหนดให้ปัจมาพิจารณา จหรือปริมาณอบริการนั้นแตอ่ืนๆซึง่ ไดแ้ ก่- ต้นทุนกาความตอ้ งการ

รในช่วงน้ันๆ เช่น ผลผลิตข้าวนาปี จะนชว่ งปลายปี เป็นตน้เพาะปลูก การเพ่ิม/ลดพ้ืนท่ีเพาะปลูกจะมาณผลผลิตเพิ่มข้ึน/ลดลงผลผลิตต่อไร่มกา้ วหน้าของเทคโนโลยกี ารปรับปรุงพันธุ์ามารถผลิต สินคา้ เกษตรได้เพิ่มข้ึน โดยใช้ม หรือมีต้นทุนต่าลงราคาผลผลิตชนิดอ่ืนปลงราคาสินค้าชนิดหน่ึงอาจมีผลกระทบลผลิต หรืออุปทานของสินค้าอีกชนิดหนึ่งกราคายางพาราสูงขึ้นมาก อาจจูงใจให้ปลูกสินค้าอ่ืน เช่น ข้าวโพด หันมาปลูกทน ส่งผลให้ผลผลิตยางพาราเพ่ิมข้ึนลิตข้าวโพดลดลง เป็นต้นเส้นอุปทานท่ีวเป็นความสัมพันธ์ระหว่างปริมาณความยกับราคาของสินค้าหรือบริการนั้น โดยจจัยอื่นๆคงที่ หากเรานาปัจจัยตัวอื่นเข้าจะเห็นว่าปริมาณความต้องการขายสินค้าอุปทานมิได้ข้ึนอยู่กับราคาของสินค้าหรือต่เพียงอย่างเดียว แต่ยังข้ึนอยู่กับปัจจัยตัวารผลิต เป็นที่ยอมรับกันทั่วไปว่าปริมาณรเสนอขายหรืออุปทานจะเปล่ียนแปลงไป

ในทิศทางกลสนิ ค้าหรอื บรระดับหนึ่งถ้าบริการสูงข้ึนอุปทานจะมหน่วยลดลงป- ราคาปัจจเป็นตวั กาหนดการเปลี่ยนแปการผลติ เปลี่ยแรงงานสูงขึ้นสูงข้ึน ส่งผลอุปทานลดลตรงกนั ข้าม- ราคาสินค้าชชนิดหน่ึงอาจเสนอขายหรราคาส้มลดลงให้ปริมาณควเพิม่ ข้ึน เนื่องกาไรเพมิ่ ขน้ึ จ- เทคโนโลย

ลับกันกับต้นทุนการผลิตของผลผลิตหรือรกิ ารน้นั ๆ กล่าวคอื ภายใต้ต้นทุนการผลิตาต้นทุนการผลิตต่อหน่วยของสินค้าหรือน ความสามารถในการเสนอขายหรือมีปริมาณน้อยลง ถ้าต้นทุนการผลิตต่อปรมิ าณอุปทานจะมีมากข้ึนจัยการผลิต เน่ืองจากราคาปัจจัยการผลิต ดตน้ ทุนการผลิตของสินคา้ หรอื บริการ ซึ่ง ปลงของราคาปัจจัยการผลิตทาให้ต้นทุนยนแปลงในทิศทางเดยี วกัน เชน่ ถ้าค่าจ้างนจะทาให้ต้นทุนการผลิตสินค้าโดยท่ัวไปลให้ปริมาณความต้องการเสนอขายหรือลงได้ และถ้ากลับกันก็จะให้ผลในทาง ชนิดอื่น การเปล่ียนแปลงของราคาสินค้าจมีผลกระทบต่อปริมาณความต้องการรืออุปทานของสินค้าชนิดหน่ึงได้ เช่น ถ้าง ชาวสวนอาจหันไปปลูกมะนาวแทน ทาวามต้องการขายส้มลดลง ส่วนของมะนาวงจากผู้ผลิตรายดังกล่าวคาดว่าตนจะได้รับจากการปลูกมะนาวแทนสม้ยีการผลิต ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีมี

ผลทาให้ตน้ ทการผลิตจานปริมาณมากขหรอื อุปทานข- ภาษี จานวและบริการเปผลิตของสินคสูงจะทาให้ตลดลง แต่ถา้ รการผลิตสินค- การคาดคาดการณ์ว่าชะลอปรมิ าณรอขายในอนคาดการณ์ว่าเพิ่มปริมาณกเพิ่มข้นึ )- สภาพดินฟ้าทางการเกษตจะมมี ากและอดีปรมิ าณผลผกลา่ วโดยสรปุ

ทนุ การผลติ ต่อหนว่ ยลดลง เนื่องจากปัจจัยนวนเท่าเดิมผู้ผลิตสามารถผลิตสินค้าได้ขึ้น นั่นคือ ความสามารถในการเสนอขายของสินค้าของผผู้ ลติ มเี พิ่มขนึ้วนภาษีที่รัฐบาลจัดเก็บจากการขายสินค้าป็นปัจจัยหน่ึงที่เป็นตัวกาหนดต้นทุนการค้าและบริการ ถ้ารัฐบาลเก็บภาษีในอัตราต้นทุนการผลิตสินค้าสูงข้ึน ทาให้อุปทานรฐั บาลเก็บภาษใี นอัตราลดลง ทาให้ต้นทุนคา้ ลดลง และอุปทานจะเพม่ิ ข้นึดการณ์ราคาสินค้าในอนาคต ถ้าผู้ผลิตาราคาสินค้าในอนาคตจะสูง ข้ึน ผู้ผลิตจะณการเสนอขายในปจั จบุ นั ลง เพื่อจะเก็บไว้นาคต (อุปทานลดลง) ในทางกลับกัน ถ้าาราคาสินค้าในอนาคตจะลดลง ผู้ผลิตจะการเสนอขายในปัจจุบันมากข้ึน (อุปทาน าอากาศ ส่วนใหญ่จะมีอิทธิพลต่อผลผลิตตร ถ้าฝนฟ้าตกต้องตามฤดูกาลผลผลิตก็ อุดมสมบรู ณ์ แต่ถ้าสภาพดินฟ้าอากาศไม่ผลติ ก็จะมนี ้อยป จะเห็นไดว้ ่ามปี จั จัยต่างๆมากมายท่ีเป็น

ตวั กาหนดหรขายหรืออุปทจะขอกลา่ วแตประโยชน์ขอยื ด ห ยุ่ น นั บเศรษฐศาสเศรษฐกิจต่าความยืดหยุ่นสาคัญและมีป(price elastปัญหาเศรษฐ1. ในการวภาระภาษี เชภายในประเทแบบ elasticลดการซื้อสินรายรับรวมขภาษีได้น้อย กผู้ขาย ตรงกันหยุ่นต่า (inelผ้บู ริโภค เพรการเก็บภาษีจ

รอื มอี ทิ ธิพลต่อปรมิ าณความต้องการเสนอทานของสินค้าและบริการต่างๆ ซ่ึงในท่ีนี้ต่เพียงเทา่ นี้องความยืดหยุ่นความรู้เกี่ยวกับความบเป็นหัว ใจสาคัญในการศึกษาหลัก ตร์ ผู้ที่จะสามารถเข้าใจปัญหาทางางๆ ได้ จาเป็นต้องมีความรู้ในเร่ืองของ นเป็นอย่างดี ชนิดของความยืดหยุ่นท่ีประโยชน์มากก็คือ ความยืดหยุ่นต่อราคาticity) ความยืดหยุ่นต่อราคาใช้วิเคราะห์ฐกิจต่างๆ ดังตัวอย่างตอ่ ไปนี้วิเคราะห์ปัญหาการเก็บภาษีและการผลักช่น การเก็บภาษีการค้าจากสินค้าท่ีผลิตทศ ซึ่งมีค่าความยืดหยุ่นของอุปสงค์เป็นc ผลของราคาสินค้าที่สูงข้ึนอาจทาให้ผู้ซื้อ นค้าสินค้าชนิดน้ันลงอย่างมาก ทาให้ของผู้ขายลดลงขณะเดียวกันรัฐบาลเก็บกรณเี ช่นนภ้ี าระภาษีส่วนใหญ่จะตกอยู่กับนข้ามถ้าอุปสงค์ของสินค้ามีค่าความยืน lastic) ภาระภาษีส่วนใหญ่จะตกอยู่กับราะในกรณนี ้รี าคาสินคา้ ท่ีเพิ่มขึ้นเน่ืองจากจะไมม่ ีผลมากนักในการลดจานวนซ้ือของ

ผู้บริโภค การทุกประเทศ เได้ และภาษีบ2. ในการประเทศ ควาอย่างมากในกเงินท่ีมีต่อสินดลุ การชาระเ3. ในการวเิ คสูง เช่น การอัตราดอกเบมาตรการเหลข อ ง อุ ป ส ง คประกาศใช้มาเปน็ ผลเสียมา4. ในการวิเคต่า ตัวอย่างพืชผลทางเกรัฐบาลจะมาเส้นอุปสงค์ นการนัดหยุดงให้สูงขึ้นเราต

รวิเคราะห์ดังกล่าวใช้ได้กับการเก็บภาษีเช่น ภาษีขาเขา้ ภาษีสรรพสามิต ภาษีเงินบริษทั ธรุ กจิรวิเคราะห์ปัญหาเกี่ยวกับการค้าระหว่างามยืดหยุ่นของอุปสงค์ และอุปทานจาเป็นการศึกษาผลของการเพิ่มหรือลดค่าของนค้าเข้า สินค้าออก อัตราการค้า และเงินคราะห์ปญั หาเก่ียวกับการกาหนดราคาข้ันรกาหนดอัตราค่าเช่าขั้นสูง การกาหนดบี้ยขั้นสูง เป็นต้น ก่อนจะตัดสินใจใช้ล่าน้ี รัฐบาลจะต้องศึกษาความยืดหยุ่นค์และอุปทานต่อราคา มิฉะน้ันการาตรการเหล่านี้อาจไม่บังเกิดผลหรืออาจากกว่าผลดีคราะห์ปัญหาเก่ียวกับการประกันราคาข้ัน ได้แก่ การประกันราคาข้ันต่าสาหรับกษตร ภาระการประกันราคาข้ันต่าของากหรือน้อย ขึ้นอยู่กับความยืดหยุ่นของนอกจากนี้ยังใช้วิเคราะห์เกี่ยวกับปัญหางาน (strike) เพ่ือเรียกร้องค่าจ้างแรงงานต้องคานึงถึงผลสืบเน่ือง ค่าจ้างแรงงานท่ี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook