คำนำ แผนการจัดการเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ลูกเสือ และเนตรนารี หลักสูตรลูกเสือเอก ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๖ ในแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้ มีส่วนประกอบ ได้แก่ สาระสาคัญ สาระการเรียนรู้ จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ กิจกรรมการเรียนรู้ ส่อื การเรียน การประเมินผลการเรียนรู้ บันทึกผลหลังสอน ใน การจัดทาข้าพเจ้าได้ศึกษาหลักสูตรลูกเสือเอก คาอธิบายรายวิชา วิเคราะห์หลักสูตร กาหนดการสอนวิชา ลกู เสอื เอก ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ การจัดทาแผนการจัดการเรียนรู้เล่มน้ี ได้รับคาแนะนาและคาปรึกษา จากผู้เชี่ยวชาญ ตลอดจน ได้รบั ความรว่ มมอื จากผู้อานวยการ คณะครู และนกั เรยี นโรงเรยี นบา้ นปายอ จึงขอขอบพระคุณเป็นอย่างสงู นายดนยา กาเจร์ ครูโรงเรยี นบ้านปายอ
สำรบญั หนำ้ เร่อื ง ก ข คานา ๑ สารบญั ๑ หลกั สตู รลกู เสอื เอก ๑ ๒ การพึง่ ตนเอง ๒ การบรกิ าร ๓ การผจญภัย ๔ วชิ าการของลูกเสอื ๖ ระเบียบแถว ๑๑ คาอธิบายรายวชิ า ๖๑ การวเิ คราะหห์ ลักสูตร กาหนดการสอนวชิ าลูกเสอื ระดับลกู เสอื สามัญ ๖๓ กรอบการประเมินผลการจัดกจิ กรรม ๖๙ ภาคผนวก พิธเี ปดิ ประชมุ กอง พธิ ีปิดประชมุ กอง
หลักสูตรลกู เสือเอก ๑. กำรพึง่ ตนเอง ๑.๑ นับแตเ่ ขา้ เป็นลูกเสอื สามญั ไดอ้ ยู่คา่ ยพักแรมแล้วเป็นเวลาไมน่ ้อยกว่า ๑๒ คืน ๑.๒ วา่ ยน้าไดร้ ะยะทาง ๔๕ เมตร (ผู้อานวยการกอง กองลูกเสอื ผอู้ านวยการลกู เสือจังหวดั หรอื ผู้อานวยการลูกเสอื อาเภอ แลว้ แตก่ รณี อาจอนุมัตใิ ห้สอบวชิ าอยา่ งอ่นื แทนได้) ๑.๓ เขา้ ใจถึงการรักษาตวั ซึ่งจาเปน็ ต้องกระทารวมทงั้ ความร้เู กย่ี วกับการที่ต้องตรากตรา จาก การเปลยี่ นแปลงของสภาวะอากาศ สาเหตขุ องการป่วยเจ็บ การปอ้ งกันอาการ และการรกั ษาอย่าง ทันทที ันใด ก่อนที่จะเริ่มประกอบกิจกรรม ซ่งึ มกี ารผจญภัย เช่น การแล่นเรือใบ การเดินขา้ มเนินเขา และการสารวจถ้า เปน็ ต้น ๑.๔ รจู้ กั ใช้ ดแู ลรักษา และระมัดระวังอนั ตราย อันเน่ืองจากการนาสงิ่ ต่อไปนไี้ ปใช้ ๑.๔.๑ ตะเกียงและเตาสมัยใหม่ ๑.๔.๒ ตะเกยี งและเตาทีใ่ ชส้ บู เชน่ ตะเกยี งเจ้าพายุ และเตาฟู่ ๑.๔.๓ การใช้ไฟฟ้าหรอื เคร่ืองมอื ที่ตอ้ งใช้ไฟฟ้าในชีวติ ประจาวัน เช่น พดั ลม เตารีด เตาไฟฟ้า ต้เู ยน็ วิทยุ โทรทัศน์ เปน็ ต้น ๑.๕ ทาเรื่องต่อไปน้ีอยา่ งใดอย่างหนง่ึ ใหส้ าเร็จ ๑.๕.๑ รวู้ ธิ ีพิจารณา ในเม่ือจะเลือกสถานทีต่ ัง้ ค่ายพักแรมและทารายการอาหาร (รวมทั้ง ปริมาณ) สาหรบั การอยูค่ ่ายพักแรมสองคน ในวันหยุดปลายสัปดาห์ ๑.๕.๒ ปรงุ อาหาร ๒ อยา่ ง สาหรับ คน ๒ คน ๒. กำรบรกิ ำร ๒.๑ สามารถให้คาชี้แจงอย่างชัดเจนและส้ัน ในเม่ือติดต่อขอความช่วยเหลือจากรถพยาบาล ตารวจหรือสถานีดับเพลิง กับรู้จักว่าควรปฏิบัติอย่างไรในกรณีที่เกิดอุบัติเหตุ หรือเหตุฉุกเฉินอย่างอ่ืน รวมทัง้ การช่วยเหลือเนื่องจากไฟไหม้ การจมน้า การถูกไฟฟ้าช็อต และแก๊สรัว่ ๒.๒ รู้จักการปฐมพยาบาล สาหรับกรณีเลือกออกภายนอกและอาการช็อค รู้วิธีที่ถูกต้อในการ ช่วยให้คนหายใจ และรถู้ ึงอันตรายต่าง ๆ อันเกี่ยวข้องกบั การเคล่ือนย้ายคนเจ็บ ตลอดจนร้จู ักการนาผ้ปู ่วย เจ็บส่งโรงพยาบาล ๒.๓ ให้บริการบางอย่าง ภายในหรือนอกวงการลูกเสือ ด้วยความสมัครใจ โดยทางานที่มีคุณค่า อย่างนอ้ ยเป็นเวลา ๓ ชั่วโมง หรอื โดยการให้บริการอยา่ งสมา่ เสมอรวมเปน็ เวลา ๓ ชว่ั โมง ๓. กำรผจญภัย
๓.๑ เดินทางไกลด้วยเท้าหรือโดยทางเรือด้วยความสามารถของตนเอง เป็นระยะทาง ๒๐ กม. หรือโดยรถจักรยาน เป็นระยะทาง ๘๐ กม. และไปอยู่ค่ายพักแรมค้างคืนกับลูกเสือสามัญคนหนึ่ง ที่มีอายุ รุ่นราวคราวเดยี วกนั แลว้ บนั ทึกรายงานการเดินทางโดยย่อ และกลา่ วถึงสิง่ ทีน่ า่ สนใจ ๓.๒ ใช้เขม็ ทิศในที่กลางแจ้ง เพือ่ ทาแบบฝกึ หัดงา่ ยๆเกี่ยวกบั การหาทศิ ๓.๓ อธิบายระบบเส้นช้ันความสูง (Contour System) กับสามารถแจ้งและหาตาแหน่งที่ต้ัง โดย อาศัย ระบบพิกดั กริด (Grid Reference) ในแผนทขี่ องกรมแผนทีท่ หารได้ ๓.๔ เลอื กทางานตอ่ ไปนี้ใหส้ าเร็จ ๒ อยา่ ง ก. เข้าร่วมกับหมหู่ รอื กองลูกเสอื ของตนในกิจกรรมกลางแจ้ง โดยรว่ มกับลูกเสือหมู่หนงึ่ จากกองอืน่ เช่น การอยู่คา่ ยพกั แรมการเดินทางไกล การเล่นในท่กี วา้ ง หรอื การเดินทางสารวจ ข. เดนิ ทางตามลาพงั หรือกับเพอื่ นคนหนึ่งที่มีอายุรุ่นราวคราวเดียวกนั ไปยงั สถานท่ี น่าสนใจหรือ เดินทางไกลระยะทางไม่น้อยกว่า ๔๐ กม. และรายงานด้วยวาจาโดยย่อเกี่ยวกับเหตุการณ์ท่ี เกดิ ข้ึนในวนั นน้ั ค. พายเรอื นงั่ คนเดียว เปน็ ระยะทาง ๑,๖๐๐ เมตร หรอื ทาการแลน่ เรอื ใบขนาดเลก็ รอบ ระยะทางรูปสามเหลี่ยม หรอื มีความเข้าใจในระบบการผูกเชือกพันหลักให้แน่น (the belay system) และ ไตล่ งตามเส้นเชอื กจากท่สี ูง (abseil) ระยะ ๙ เมตร โดยถูกต้องตามวิธี ง. ในขณะทีไ่ ปอยคู่ ่ายพักแรมในต่างประเทศใหใ้ ช้เวลา ๑ วนั กับหมู่ของตนหรอื กบั ลูกเสืออีกคนหน่ึง จากกองลูกเสือของตน หรือกองลูกเสือในท้องถ่ิน เพ่ือสารวจตาบลหรือหมู่บ้านใน ท้องถ่ิน เมื่อกลับมาแล้วให้รายงานด้วยวาจาว่าได้ทาอะไร เห็นอะไร พบกับใคร และมีอะไรบ้างท่ีได้ เรียนรเู้ กยี่ วกับชีวิตในทอ้ งถิน่ ๔. วิชำกำรของลูกเสือ ๔.๑ ทาโครงการบุกเบกิ ๑ โครงการใหส้ าเรจ็ โดยใชก้ ารผูกแน่น (Lashings) ทีแ่ ตกตา่ งกนั อยา่ ง น้อยท่ีสุด ๒ วิธี และ/หรือ ใช้รอกประกอบเชือก (blocks and tackle) เร่ืองโดยปกติควรจะทาเป็นโครงการ ของหมู่ ๔.๒ แสดงวิธีผูกเงื่อนต่าง ๆ ๓ อย่าง ที่มีประโยชน์สาหรับช่วยเหลือผู้ที่ตกอยู่ในอันตราย เช่น เง่ือนบว่ งสายธนู เงอ่ื นบ่วงสายธนูสองชนั้ เง่ือนบว่ งสายธนูสามชนั้ เง่ือนเก้าอี้ และวธิ ีผูกเชอื กพนั หลกั ให้ แนน่ (belay procedure ) ทถี่ กู ตอ้ ง ๔.๓ ปรุงอาหารแบบชาวป่า และกนิ อาหารนัน้ กบี ทาทพ่ี ักแรมชั่วคราว และนอนคา้ งคืนในที่พัก แรมน้ัน ๔.๔ รจู้ ักกฎแหง่ ความปลอดภัยของการใชข้ วาน และร้จู ักวธิ เี กบ็ รกั ษาเลื่อยและขวาน กบั ใชเ้ ลอื่ ย และขวานสาหรบั โค่นต้นไม้ รดิ กง่ิ ไม้ หรอื ตดั ไม้เนื้ออ่อน
๔.๕ เลอื กทางานตอ่ ไปน้ีให้สาเรจ็ ๒ อย่าง ก. จัดทาอนุทินธรรมชาติ เก่ียวกับนกหรือสตั วเ์ ล้ียง หรือทาการสะสมตวั อย่างใบไม้และ ดอกไม้ เป็นเวลาอยา่ งน้อย ๑ เดอื น ข. จดั ทาสถติ ิกาลอากาศประจาวันอยา่ งง่ายๆเป็นเวลา ๑ เดือน หรือจัดทาสมดุ หมายเหตุ รายวนั ของหมู่ลูกเสอื เป็นเวลา ๒ เดอื น ค. ไปเยอื นอาคารหรือสถานทีส่ าคญั แหง่ หนึง่ ของท้องถนิ่ และเขยี นรายงานสังเขป บรรยายถงึ ประวตั ิและวตั ถุประสงคข์ องอาคาร หรอื สถานท่นี ้ัน หรอื สารวจบริเวณเล็ก ๆ แหง่ หนงึ่ ใน ละแวกบา้ นของตน เชน่ บริเวณสองฝง่ั แม่น้าหรือลาคลองระยะทาง ๘๐๐ เมตรและทาแผนผังขนาดใหญ่ แสดงส่ิงต่าง ๆ ในบรเิ วณน้ัน ง. ได้รบั เครอื่ งหมายวชิ าพเิ ศษลกู เสือสามัญอยา่ งนอ้ ย ๒ เครอื่ งหมาย จ. แสดงว่า ตระหนักในความจาเปน็ ของการอนุรกั ษ์ธรรมชาตโิ ดยมสี ่วนร่วมในโครงการ อนรุ ักษ์ธรรมชาติ ๑ โครงการ อย่างจรงิ จัง ๔.๖ อภิปรายกบั ผู้กากับลกู เสอื ของตนในเรือ่ งต่อไปน้ี ก. ความเขา้ ใจของตน เก่ยี วกบั คาปฏิญาณและกฎของลูกเสอื ข. การฝกึ อบรมวิชาลกู เสือของตนในอนาคตและการสมัครเข้าเป็นลูกเสือสามัญร่นุ ใหญ่ ค. ความหมายในทางปฏบิ ตั ิของความเป็นพน่ี อ้ งของลูกเสอื ทว่ั โลก ๕. ระเบียบแถว ๕.๑ ทบทวนทา่ ฝึกต่าง ๆ ที่กาหนดไว้ในหลักสูตรวิชาลกู เสอื ตรี โท ๕.๒ การเดินสวนสนาม
คำอธบิ ำยรำยวิชำ สำระกิจกรรมพฒั นำผเู้ รียน วชิ ำลูกเสือสำมญั ระดับลูกเสือเอก ระดบั ชัน้ ประถมศึกษำปีที่ ๖ เวลำ ๔๐ ชัว่ โมง ศึกษา ค้นคว้า บอก และทาความเข้าใจเกี่ยวกับ จุดประสงค์ เนื้อหา เวลาเรียน กฎระเบียบ และ วิธีการวัดผลประเมินผลการเรียนท่ีกาหนดในหลักสูตรลูกเสือเอก ตลอดถึงวิธีการใช้ตะเกียง สร้างเต า และเครื่องใช้ ไฟฟ้าแบบต่าง ๆ รวมทั้งวิธีการปรุงอาหารและเคร่ืองด่ืมร้อนแบบง่าย ๆ การปฐมพยาบาล ผู้ป่วยท่ีมีเลือดออก บอกวิธีปฐมพยาบาลผู้ป่วยท่ีมีอาการช็อค การขอความช่วยเหลือจากตารวจและ รถพยาบาล ตลอดถึงรู้และเข้าใจ อธิบายถึงวิธีการใช้แผนท่ี รู้ทิศทางความสูงต่า การอ่านค่าตัวเลขและ เส้นทางจากแผนท่ี และรวมถึงรู้วิธีการใช้และใช้เข็มทิศ การหาทิศทางและใช้เดินทาง รวมทั้งการ คาดคะเนและการสะกดรอย รวมทั้งเรื่องที่เกี่ยวกับคาปฏิญาณและกฎของลูกเสือสามัญ การปรุงอาหาร แบบชาวป่า การผูกแน่น การทาหุ่นจาลองของโครงการบุกเบิกและการนาไปใช้ประโยชน์ และการ รายงานการสารวจและเยอื นสถานทต่ี ่าง ๆ รวมท้ังมารยาทที่ดี การรูจ้ ักจาแนกความรู้เก่ยี วกับพืช สัตว์ และ ลักษณะทางธรรมชาติ ตลอดถึงฤดูกาล ทิศทางลม ลักษณะอากาศ และรู้วิธีการอนุรักษ์ธรรมชาติ รวมถึงเข้าใจสัญญาณมือ การเข้าแถวแบบต่าง ๆ เช่น ท่าพัก ท่าตรง ท่าหันอยู่กับที่ การเข้าแถวหน้า กระดานแถวเดียว แถวตอนหมู่ แถวหน้ากระดานหมู่ปิดระยะ/เปิดระยะ แถวสี่เหล่ียมเปิดด้านหน่ึง และ แถวรูปรัศมี และข้ันตอนการสวนสนาม และท่าทางปฏิบัติที่กาหนดในการสวนสนาม โดยใช้ทักษะ กระบวนการอธิบาย การปฏิบัติ การสาธิต การศึกษาค้นคว้า และการแก้ปัญหาท่ีเน้นกระบวนการที่ เก่ียวกับทักษะการปฏิบัติ และสาธิตในการเรียนรู้ เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจ สามารถใช้ทักษะเพ่ือการ ปฏิบัติและแสดงวิธีการ เกิดเจตคติที่ดี และมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ รวมท้ังเกิดมิติทางสังคมพิสัยที่ สามารถนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้อยา่ งเหมาะสม
คำอธบิ ำยรำยวิชำกิจกรรมพัฒนำผู้เรียน กจิ กรรมพฒั นำผู้เรยี น (กิจกรรมลกู เสือ) กจิ กรรมลกู เสือสำมัญ (ลกู เสอื เอก) ช้นั ประถมศึกษำปีที่ ๖ เวลำ ๔๐ ชวั่ โมง/ปี เปิดประชุมกองดาเนินการตามกระบวนการของลูกเสือ และจัดกิจกรรมโดยให้ศึกษา วิเคราะห์ วางแผนปฏิบัติกิจกรรมตามฐานการเรียนรู้ โดยเน้นระบบหมู่ และปฏิบัติตามคาปฏิญาณ คติพจน์ และกฎ ของลูกเสือสามัญ วิชาการของลูกเสือ ระเบียบแถว การพ่ึงตนเอง การผจญภัย การใช้สัญลักษณ์ สมาชิก ลูกเสือสามัญ ทีม่ ีความเป็นเอกลกั ษณ์ร่วมกับลูกเสอื รจู้ ากการคิดและปฏิบัตจิ ริง ศึกษาธรรมชาติ วัฒนธรรม ประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่นด้วยความสนใจ ใฝ่รู้ และประยุกต์ใช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ในการ ปฏิบัติกิจกรรมเพ่ือการอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและลดภาวะโลกร้อน เพื่อให้มีความรู้ ความเข้าใจใน กจิ กรรมลูกเสือสามัญสามารถปฏิบตั ิตามคาปฏิญาณ กฎ และคติพจนข์ องลูกเสอื สามัญ มีนสิ ัยในการสังเกต จดจา เช่ือฟัง และพึ่งตนเอง มีความซ่ือสัตย์ สุจริต มีระเบียบวินัย และเห็นอกเห็นใจผู้อ่ืน บาเพ็ญตนเพ่ือ สังคมและสาธารณประโยชน์ ทาการฝีมือและฝึกฝนการทากิจกรรมต่าง ๆ ตามความเหมาะสม ความถนัด และความสนใจ รักษาและส่งเสริมจารีตประเพณี วัฒนธรรมและความม่ันคง ประโยชน์และสามารถ ประยุกตใ์ ช้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ผลกำรเรียนรู้ ๑. มนี ิสัยในการสังเกต จดจา เชอื่ ฟงั และพง่ึ ตนเองได้ ๒. มีความซ่ือสตั ยส์ ุจรติ มีระเบียบ วินัยและเหน็ อกเห็นใจผ้อู ่นื ๓. บาเพญ็ ตนเพื่อส่งเสรมิ และสาธารณะประโยชน์ ๔. ทาการฝมี อื และฝกึ ฝนทากจิ กรรมตา่ ง ๆ ตามความถนัดและความสนใจ ๕. รักษาและส่งเสริมจารตี ประเพณี วฒั นธรรม ภูมิปัญญาทอ้ งถิน่ และความม่ัน คงของชาติ ๖. อนรุ ักษท์ รัพยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม ลดภาวะโลกร้อน ๗. สามารถประยุกตใ์ ชป้ รชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง รวม ๗ ผลกำรเรียนรู้
กำรวเิ ครำะห์หลกั สตู ร ตำรำงวิเครำะห์ตัวชี้วดั และจุดประสงค์กำรเรียนรู้ จุดประสงค์หลกั สูตร จุดประสงค์กำรเรียนรู้ หน่วยที่ ๑ ปฐมนเิ ทศ และกำรพึ่งตนเอง ๑. รู้และเข้าใจจดุ ประสงค์ เนอื้ หา เวลาเรียน ๑. รู้และเข้าใจจุดประสงค์ เนอ้ื หา เวลาเรยี น กฎระเบยี บและ กฎ ระเบยี บ และวิธีการวัดผล ประเมินผล การตดั สินผลการเรียน การเรียนทกี่ าหนดในหลักสตู รลูกเสือเอก ๒. เขา้ ร่วมกิจกรรมตามหมคู่ ณะของกองลกู เสอื ได้ ๓. ปฏบิ ตั ติ ามข้ันตอนของการเรียนร้ใู นวชิ าลกู เสอื ได้ ๒. รู้วธิ กี ารและสามารถใช้ตะเกียงสร้างเตา ๑. บอกวิธีใช้ และเก็บรกั ษาตะเกียง เตา และเครอื่ งใช้ ไฟฟ้า ใช้เตาแบบตา่ งๆ รวมถึงกอ่ ไฟเพือ่ การปรุง ตา่ งๆได้ อาหาร และการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้า ๒. สามารถใช้ และเกบ็ รกั ษาตะเกียง เตา และเคร่ืองใช้ ไฟฟา้ ตา่ งๆได้อย่างถกู ต้อง ๓. รู้วธิ ีการจัดเตรยี มและสามารถปรุงอาหาร ๓. สามารถก่อไฟเพ่ือปรงุ อาหารได้ เคร่ืองด่ืมร้อนอย่างง่าย ๑. อธบิ ายข้ันตอนการจัดเตรียมการปรุงเคร่อื งดมื่ ร้อนและอาหาร อย่างงา่ ยได้ ๔. มีเจตคตติ ่อการพึง่ ตนเองทด่ี ี ๒. สามารถปรุงเคร่ืองด่ืมรอ้ นและอาหารถกู ต้องตามข้ันตอนได้ ๕. รู้และเขา้ ใจ ลักษณะของกระบวนการ ๑. มเี จตคตทิ ่ดี ีต่อการพ่งึ ตนเอง Active Learning ๒. รู้และเข้าใจ บอกลักษณะของกระบวนการ Active Learning ๖. แสดงออกถึงลกั ษณะ Active Learning ได้ ๓. แสดงออกถงึ ลักษณะ Active Learning ได้ ๗. นากระบวนการ Active Learning ๖. นากระบวนการ Active Learning ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้ ไปประยกุ ต์ใชไ้ ด้ อยา่ งมีความสุข
จุดประสงคห์ ลกั สตู ร จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ หน่วยท่ี ๒ กำรบริกำร ๑. รูแ้ ละเขา้ ใจวธิ กี ารปฐมพยาบาลผปู้ ่วยที่มี ๑. อธบิ ายขัน้ ตอนการปฐมพยาบาลผูป้ ว่ ยท่มี ีเลือดออกภายนอก เลือดออกภายนอก และผปู้ ่วยที่มอี าการชอ็ ค และผู้ป่วยท่มี ีอาการช็อคได้ รวมถงึ กระบวนการชว่ ยฟื้นคืนชีพได้ (CPR) ท่ี ๒. แสดงวธิ ีปฐมพยาบาลผู้ปว่ ยท่มี ีเลอื ดออกภายนอกและผู้ป่วย ถูกตอ้ ง ทีม่ อี าการชอ็ ค ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง ๒. บอกวธิ ีขอความชว่ ยเหลือจากตารวจและ ๓. เข้าใจกระบวนการช่วยฟ้ืนคืนชพี ได้ (CPR) ได้อยา่ งถูกวธิ ี รถพยาบาลได้ และปลอดภัย ๓. ผ้เู รยี นมีเจตคติทดี่ ีในการช่วยเหลอื ผู้อ่ืน ๔. สามารถขอความช่วยเหลอื จากตารวจและรถพยาบาลในกรณี ๔. ปฏบิ ตั ิกิจกรรมด้านบรกิ ารร่วมกบั ผู้อน่ื และ ทเ่ี กิดเหตฉุ กุ เฉนิ ได้ ร้จู กั แกป้ ญั หา ๕. ผูเ้ รียนมเี จตคติท่ีดใี นการช่วยเหลือผู้อนื่ ๕. รแู้ ละเข้าใจ ลักษณะของกระบวนการ ๖. ผู้เรยี นปฏิบตั ิกิจกรรมด้านบริการรว่ มกบั ผู้อื่น รู้จกั แก้ปญั หา Active Learning อย่างมีสติ ๖. แสดงออกถงึ ลักษณะ Active Learning ได้ ๗. ร้แู ละเขา้ ใจ บอกลักษณะของกระบวนการ Active Learning ๗. นากระบวนการ Active Learning ไป ๘. แสดงออกถึงลักษณะ Active Learning ได้ ประยกุ ต์ใช้ ๙. นากระบวนการ Active Learning ไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ได้ อย่างมคี วามสุข หน่วยที่ ๓ กำรผจญภัย ๑.รู้และใชเ้ ขม็ ทิศและแผนท่ีบอกทิศทาง ๑. อธบิ ายวิธกี ารใช้เขม็ ทศิ ได้อยา่ งถูกต้อง ความสูงต่า การอา่ นค่าตวั เลข และเสน้ ทางจาก ๒. อธิบายการใชแ้ ผนท่ีได้อย่างถกู ต้อง แผนท่ีอย่างถูกต้อง ๓. บอกทิศทางความสงู ตา่ การอ่านคา่ ตัวเลขและเสน้ ทางจากแผน ทอ่ี ยา่ งถูกต้อง ๒. รู้และปฏิบัตกิ ารคาดคะเนและการสะกดรอย ๑. บอกวิธีการคาดคะเนและการสะกดรอยไดถ้ ูกต้อง ๒. สามารถคาดคะเนระยะทางและความสงู ได้ ๓. รแู้ ละปฏบิ ตั ิในการเดนิ ทางไกลเบอ้ื งตน้ ๑. อธิบายการเตรยี มตัวสาหรับการเดินทางไกลได้ ๔. แสดงออกถึงความรว่ มมือ และมนี า้ ใจใน ๒. บอกวิธีการแกป้ ญั หาทค่ี าดว่าจะเกดิ ขึ้นระหวา่ งเดินทางไกล การทางานเป็นหมคู่ ณะ ได้ ๓. แสดงออกถงึ ความมีนา้ ใจและให้ความร่วมมือกับหมคู่ ณะ ๕. ปฏบิ ัตติ นตามหลกั การเยือนสถานที่ ๑. บอกชอ่ื สถานทที่ ีน่ า่ สนใจ และควรไปเยือนในทอ้ งถิ่นได้ ที่ถกู ตอ้ ง และมคี ณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๒. วางแผนการไปเยือนสถานที่ท่นี า่ สนใจได้
จุดประสงค์หลักสตู ร จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ ที่เหมาะสม ๓. มีพฤติกรรมท่เี หมาะสมในการไปเยือนสถานท่ีตา่ ง ๆ ๖. ปฏิบัติการผกู เชือกพันหลัก ในการไตต่ าม ๑. สามารถผูกเชอื กพนั หลักไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง สถานทีต่ ่าง ๆ ๒. ผเู้ รียนมีเจตคติทีด่ ีต่อการเรยี นรเู้ รื่องการผจญภยั ๗.ผู้เรยี นมเี จตคตทิ ่ีดีในการผจญภัย ๓. รแู้ ละเขา้ ใจ บอกลักษณะของกระบวนการ Active Learning ๘. รแู้ ละเขา้ ใจ ลกั ษณะของกระบวนการ ๔. แสดงออกถึงลักษณะ Active Learning ได้ Active Learning ๕. นากระบวนการ Active Learning ไปใชใ้ นชวี ิตประจาวันได้ ๙. แสดงออกถงึ ลักษณะ Active Learning ได้ อยา่ งมคี วามสขุ ๑๐. นากระบวนการ Active Learning ไป ประยกุ ตใ์ ช้ ๑. ท่องคาปฏญิ าณ และกฎของลูกเสอื สามญั ไดป้ ฏบิ ตั ิตามคา หน่วยที่ ๔. วชิ ำกำรลูกเสือ ปฏิญาณ และกฎของลูกเสือสามญั ได้ ๑. รู้และเข้าใจความหมายของคาปฏญิ าณ และ ๒. ปฏิบัติตามคาปฏญิ าณ และกฎของลูกเสอื สามัญได้ กฎของลูกเสอื สามัญ ๑. บอกประโยชนข์ องเงื่อนบ่วงสายธนูและบว่ งสายธนู ๒ ชนั้ ได้ ๒. แสดงวิธีผูกเง่อื นบ่วงสายธนู ๒ ชั้นและบว่ งสายธนู ๓ ช้ันได้ ๒. สามารถผูกเงือ่ นบ่วงสายธนู และบอก ๑. สามารถผูกแน่นแบบประกบไดถ้ กู ตอ้ งและมั่นคง ประโยชนไ์ ด้ ๒. สามารถผกู แน่นแบบกากบาทได้ถูกตอ้ งและม่นั คง ๓. สามารถใช้เง่อื นผกู แน่นแบบตา่ ง ๆได้ ๓.สามารถผกู แนน่ แบบทแยงได้ถูกต้องและมนั่ คง (ประกบ , กากบาท , ทแยง ) ๑. สามารถนาเงอื่ นผูกแน่นไปผูกตอม่อสะพานได้ ๒. สามารถใชเ้ ง่ือนผกู แน่นทาเสาธงลอยได้ ๔. สามารถใชเ้ ง่อื นผูกแน่นผกู ตอม่อสะพาน ๑. ปรุงอาหารแบบชาวป่าได้อย่างนอ้ ย ๑ ชนิด และเสาธงลอยได้ ๕.รแู้ ละปฏิบัตวิ ิธีปรงุ อาหารแบบชาวปา่ ที่ ๑. วางแผนทาโครงการบกุ เบิก ๑ โครงการ โดยใชก้ ารผูกแน่น เหมาะสมถูกวิธี ไดอ้ ยา่ งน้อย ๒ วธิ ี ๖. เรยี นรู้วิธกี าร และปฏิบัติการทาห่นุ จาลอง ๒. สามารถปฏบิ ตั ทิ าหุ่นจาลอง โครงการบุกเบิกและนาไปใช้ โครงการบกุ เบกิ และสามารถนาไปใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ อยา่ งน้อย ๒ วิธี ประโยชนไ์ ด้ถกู ต้อง ๑. สามารถทาโครงการบุกเบกิ ๑ โครงการ โดยใชก้ ารผูกแนน่ ได้อยา่ งน้อย ๒ วธิ ี ๗. เรียนรวู้ ิธกี าร และปฏบิ ตั กิ ารผกู แนน่ ๒ วิธีได้
จุดประสงค์หลักสตู ร จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ ๘. สามารถเขียนรายงานการสารวจ และเยอื น ๑. บอกชือ่ สถานที่ทส่ี าคัญในทอ้ งถิ่นได้ สถานที่ต่าง ๆในทอ้ งถน่ิ อยา่ งถกู ตอ้ ง มีระเบียบ ๒. แนะนาสถานทตี่ ่าง ๆที่สาคัญในทอ้ งถน่ิ ได้ รอบคอบ และมมี ารยาททดี่ ีต่อผู้เกย่ี วขอ้ ง ๙. รู้จักรวบรวม และจาแนกความรู้เก่ยี วกบั พชื ๑. บอกประโยชน์และโทษของพชื และสัตวท์ ่เี คยพบเห็นหรือ และสัตว์รวมถงึ ลักษณะต่าง ๆทางธรรมชาติ สนใจได้ ๒. จัดทาอนุทินเกี่ยวกบั พืชและสตั วไ์ ด้ ๑ เร่ือง ๑๐. บอกฤดกู าล ทศิ ทางลม ประจาฤดตู ่าง ๆ ๑. บอกฤดูกาลตา่ ง ๆในประเทศไทยได้ และลกั ษณะอากาศตามฤดกู าลในประเทศไทย ๒. บอกทศิ ทางลมและลมประจาฤดกู าลท่พี ัดผ่านประเทศไทยได้ ได้ ๓. บอกลักษณะอากาศตามฤดูกาลในประเทศไทยได้ ๑๑. มีเจตคติที่ดใี นการรู้จักทางานอดิเรกที่ ๑. สามารถบอกถงึ ความสนใจของตนเองได้ ตนเองสนใจในยามว่าง และมีประโยชนต์ ่อ ๒. มีส่วนรว่ มในการปฏิบัติกิจกรรมร่วมกับลูกเสอื อ่ืนที่มคี วาม สังคม สนใจเหมือนกนั ได้ ๑๒. มีความตระหนักในการรู้จักอนุรักษ์ ๑. บอกความสาคญั ของการอนรุ กั ษ์ธรรมชาติได้ ธรรมชาติ ๒. ปฏิบัตติ ามโครงการอนุรักษ์ธรรมชาตไิ ด้ ๑๓. มีเจตคติในทางท่ีดีและช่นื ชอบในงานวิชา ๓. มเี จตคตใิ นทางท่ีดีและชื่นชอบในงานวิชาช่างลูกเสือ ช่างลกู เสือ ๔. รแู้ ละเข้าใจ บอกลกั ษณะของกระบวนการ Active Learning ๑๔. รูแ้ ละเข้าใจ ลักษณะของกระบวนการ ๕. แสดงออกถึงลักษณะ Active Learning ได้ Active Learning ๖. นากระบวนการ Active Learning ไปใช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้ ๑๕. แสดงออกถงึ ลกั ษณะ Active Learning ได้ อย่างมคี วามสขุ ๑๖. นากระบวนการ Active Learning ไปประยกุ ต์ใช้ หนว่ ยท่ี ๕ ระเบยี บแถว ๑. ปฏิบตั ทิ กั ษะระเบียบแถวลูกเสอื ตรี ๑. ปฏบิ ัติตนตามระเบียบแถวในทา่ มอื เปล่าได้ ลกู เสือโท ๒. รู้และปฏบิ ตั ิตามสญั ญาณมอื การเขา้ แถว ๑. รแู้ ละปฏบิ ตั ติ นอยใู่ นระเบียบแถว ทา่ ตรง ทา่ พัก และทา่ หัน แบบต่าง ๆ คอื ทา่ ตรง ทา่ พัก ทา่ หนั อยู่กบั ท่ี อยู่กับท่ี แถวหนา้ กระดานแถวเดยี วและแถวตอนหมู่ ๒. รแู้ ละปฏิบตั ติ ามสัญญาณมือรปู แถวหน้ากระดานแถวเดยี ว หนา้ กระดานหมปู่ ิดระยะ/เปิดระยะ แถว และแถวตอนหมู่ได้ถูกตอ้ ง สเ่ี หลีย่ มเปิดหนา้ หน่ึง และแถวรปู รัศมีได้ ๓. รู้และปฏบิ ตั ติ ามสญั ญาณมือรูปแถวหน้ากระดานปิดระยะ/ เปิดระยะได้ถูกตอ้ ง
จุดประสงคห์ ลกั สูตร จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ ๔. รูแ้ ละปฏิบัตติ ามสัญญาณมือรูปแถวส่เี หล่ยี มเปิดด้านหนง่ึ และแถวรูปรัศมีได้ถูกต้อง ๓. รู้และปฏิบัตติ ามสัญญาณมอื การเข้าแถวรูป ๑. รแู้ ละปฏิบตั ิตามสญั ญาณมอื รูปแถวคร่ึงวงกลมและวงกลมได้ แถวครึ่งวงกลมและวงกลม ถูกตอ้ ง ๔. ปฏิบตั ติ ามสัญญาณนกหวดี ท่กี าหนดอย่าง ๑. ปฏบิ ัตติ ามสัญญาณนกหวีดได้ถูกตอ้ ง เข้าใจ ๒. บอกความหมายของสญั ญาณนกหวีดได้ถกู ตอ้ ง ๕. ร้แู ละเข้าใจ ถงึ ข้นั ตอนการสวนสนาม และ ๑. สามารถเข้าแถวรปู ขบวนการสวนสนามได้ถกู ต้อง ปฏบิ ตั ิทา่ ทางที่กาหนด ในการปฏบิ ัติการสวน ๒. สามารถทาความเคารพอยกู่ ับท่ีได้ สนาม ๓. สามารถปฏิบัตติ ามคาสัง่ ในการเดินสวนสนามได้ ๖. มีเจตคติท่ีดีในเร่ืองระเบยี บแถวและมีความ ๔. สามารถเดินแถวหนา้ กระดานหมไู่ ดถ้ ูกต้อง พร้อมในการปฏบิ ัติ สามารถเดินเลีย้ วหันได้ถกู ต้อง ๗. การปฏิบัตกิ ิจกรรมในเร่ืองระเบยี บแถว ๕. สามารถเดินเลีย้ วหันได้ถูกตอ้ ง ผู้เรยี นเกิดวินยั ทเ่ี ข็มแข็งและการยอมรับ ๖. สามารถทาความเคารพขณะเดนิ สวนสนามได้ถกู ต้อง กฎระเบยี บและการอยูร่ วมกัน ๗. สามารถเดินสวนสนามได้ถกู ตอ้ ง และพร้อมเพรียง ๘. ร้แู ละเขา้ ใจ ลักษณะของกระบวนการ ๘. ใหค้ วามร่วมมือในการเรียนรู้เรอ่ื งระเบยี บแถว สามารถทางาน Active Learning ร่วมกับหมู่คณะได้ ๙. แสดงออกถงึ ลกั ษณะ Active Learning ได้ ๙. มเี จตคติท่ีดใี นเร่อื งระเบยี บแถวและมีความพรอ้ มในการปฏบิ ตั ิ ๑๐. นากระบวนการ Active Learning กิจกรรม ไปประยกุ ตใ์ ช้ ๑๐. ร้แู ละเขา้ ใจ บอกลักษณะของกระบวนการ Active Learning ๑๑. แสดงออกถงึ ลักษณะ Active Learning ได้ ๑๒. นากระบวนการ Active Learning ไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้อย่างมคี วามสุข
กำหนดกำรสอนวชิ ำลกู เสือ ระดบั ลกู เสอื สำมัญ หลักสตู รลูกเสอื เอก (เรียนตำมโครงสรำ้ ง ๒๐ ชวั่ โมง) เนอื้ หำที่ สำระ/เนื้อหำ จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้ เวลำเรยี น หมำยเหตุ หลักสตู รกำหนด (ชงั่ โมง) ๑. รแู้ ละเขา้ ใจจดุ ประสงค์ เนอ้ื หา หน่วยที่ ๑ ๑.๑ ปฐมนิเทศ เวลาเรยี น กฎ ระเบยี บ และวธิ ีการ ๑ วัดผล ประเมนิ ผลการเรียนที่กาหนด กำรพ่ึงตนเอง ในหลักสตู รลูกเสือเอก ๑ ๒. รู้วิธีการ และสามารถปฏิบัตกิ ารใช้ ๓ ชั่งโมง ตะเกียงสรา้ งเตา ใช้เตาแบบต่าง ๆ ๑ และการใชเ้ ครื่องใช้ไฟฟ้า ๑.๒ การรู้จักใชด้ แู ลรักษา ๓. รูว้ ิธกี ารก่อไฟเพ่ือปรงุ อาหาร เครื่องใช้ ตะเกียง เตาและ ๔. รู้วธิ ีการจัดเตรียมและสามารถปรงุ เคร่ืองใช้ไฟฟ้า อาหารและเครื่องด่มื ร้อนอยา่ งง่าย ๑.๓ การก่อกองไฟ การ ๔. มีเจตคติที่ดีต่อการพง่ึ ตนเอง ปรงุ เครือ่ งดมื่ ร้อน และปรุง ๕. รู้และเขา้ ใจ บอกลักษณะของ อาหารอยา่ งงา่ ย กระบวนการ Active Learning ๖. แสดงออกถงึ ลักษณะ Active Learning ได้ ๗. นากระบวนการ Active Learning ไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั ได้ อย่างมีความสุข
เน้อื หำท่ี สำระ/เนอ้ื หำ จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ เวลำเรยี น หมำยเหตุ หลกั สูตรกำหนด (ชง่ั โมง) ๑. รแู้ ละเขา้ ใจวธิ ีการปฐมพยาบาล หนว่ ยท่ี ๒ ๒.๑ การปฐมพยาบาล ผ้ปู ่วยท่ีมีเลอื ดออกภายนอก และผู้ปว่ ย ๑ ทมี่ ีอาการช็อค รวมถึงวธิ ีการเคลือ่ นย้าย ๑ กำรบริกำร ผู้ป่วยทีม่ เี ลือดออกภายนอก ผูป้ ่วยทถี่ กู ต้อง ๒. บอกวิธขี อความชว่ ยเหลือจาก ๑ ๒ ชง่ั โมง และผปู้ ่วยท่มี อี าการช็อค ตารวจและรถพยาบาลได้ ๑ ๓. ผู้เรยี นมีเจตคตทิ ่ดี ใี นการชว่ ยเหลือ ๑ รวมถึงการเคล่ือนยา้ ยผปู้ ว่ ย ผ้อู ่นื ๔. ผู้เรียนปฏบิ ัติกจิ กรรมด้านบรกิ าร ๒.๒การขอความช่วยเหลือ ร่วมกบั ผอู้ ื่น รู้จักแก้ปัญหาอยา่ งมีสติ ๕. ร้แู ละเข้าใจ บอกลักษณะของ จากตารวจและรถพยาบาล กระบวนการ Active Learning ๖. แสดงออกถงึ ลกั ษณะ Active หนว่ ยท่ี ๓ ๓.๑ การใชแ้ ผนที่ และ Learning ได้ กำรผจญภยั เขม็ ทิศ ๗. นากระบวนการ Active ๓ ช่ังโมง Learning ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวันได้ ๓.๒ การคาดคะเนและการ อยา่ งมคี วามสขุ สะกดรอย ๑. ร้แู ละใช้เข็มทศิ แผนท่ี บอกถงึ ๓.๓ การเดินทางไกล ทศิ ทางความสงู ตา่ การอ่านค่าตวั เลข และเสน้ ทางจากแผนทีอ่ ยา่ งถกู ตอ้ ง ๒. รู้และปฏิบตั กิ ารการคาดคะเนและ การสะกดรอยไดถ้ ูกตอ้ ง ๓. ร้แู ละปฏบิ ัตใิ นการเดนิ ทางไกล เบ้ืองต้น
เนื้อหำท่ี สำระ/เนอ้ื หำ จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ เวลำเรียน หมำยเหตุ หลกั สตู รกำหนด (ชั่งโมง) ๔. แสดงออกถึงความรว่ มมือ และมี ๓.๔ การเยือนสถานท่ี นา้ ใจในการทางานเปน็ หม่คู ณะ ๑ ๕. ปฏบิ ัติตนตามหลกั การเยือน ๓.๕ การไต่เชอื กทผ่ี กู พนั สถานทท่ี ่ถี กู ตอ้ ง และมีคณุ ลกั ษณะอนั ๑ หลัก พงึ ประสงคท์ ่เี หมาะสม ๑ ๖. ปฏิบัตกิ ารผูกเชือกพนั หลกั ในการ ๑ หนว่ ยท่ี ๔ ๔.๑ คาปฏิญาณ และกฎ ไต่ตามสถานท่ตี า่ ง ๆ ๑ วชิ ำกำร ของลกู เสือสามัญ ๗. รูแ้ ละเขา้ ใจ บอกลักษณะของ ๑ ของลูกเสอื ๔.๒ การผกู เง่อื นบว่ งสาย กระบวนการ Active Learning ๕ ชั่งโมง ธนู ๘. แสดงออกถงึ ลกั ษณะ Active ๔.๓ การใชเ้ ง่อื นผกู แน่น Learning ได้ แบบตา่ ง ๆ ๙. นากระบวนการ Active ๔.๔ การใชเ้ ง่ือนผูกแนน่ Learning ไปใชใ้ นชวี ิตประจาวนั ได้ ผกู ตอมอ่ สะพานและเสาธง อย่างมคี วามสุข ลอยได้ ๑. ร้แู ละเข้าใจ ความหมายของคา ๔.๕ การปรุงอาหารแบบ ปฏญิ าณ และกฎของลูกเสือสามัญ ชาวป่า ๒. สามารถผกู เง่อื นบว่ งสายธนแู ละ บอกถึงประโยชนไ์ ด้ ๓. สามารถใชเ้ ง่อื นผูกแนน่ แบบต่าง ๆ ได(้ ผกู ประกบ ผูกกากบาท ผกู ทแยง) ๔. สามารถใชเ้ งื่อนผกู แน่น ผูกตอมอ่ สะพานและเสาธงลอยได้ ๕. รูแ้ ละปฏิบตั กิ ารปรุงอาหารแบบ ชาวปา่ ที่เหมาะสมและถูกวธิ ี
เนอ้ื หำท่ี สำระ/เนือ้ หำ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ เวลำเรยี น หมำยเหตุ หลักสูตรกำหนด (ช่ังโมง) ๖. เรยี นรวู้ ิธีการ และปฏิบัติการทา ๔.๖ โครงการบุกเบกิ ๑ ห่นุ จาลอง โครงการบกุ เบิกและ ๑ สามารถนาไปใช้ประโยชนไ์ ดถ้ กู ต้อง ๑ ๔.๗ โครงการบกุ เบกิ ๒ ๗. เรียนรู้วธิ ีการ และปฏิบัตกิ ารผกู ๑ ๔.๘ การสารวจ แน่น ๒ วธิ ีไดไ้ ด้ ๘. สามารถเขียนรายงานการสารวจ ๔.๙ การจดั ทาอนทุ นิ และเยอื นสถานที่ต่าง ๆ ในท้องถน่ิ ธรรมชาติ อยา่ งถกู ต้อง มีระเบยี บ รอบคอบและ มมี ารยาททีด่ ตี ่อผูเ้ กี่ยวข้อง ๔.๑๐ กาลอากาศ ๙. รูจ้ ักรวบรวมและจาแนกความรู้ เกย่ี วกับพชื สัตว์ และลักษณะตา่ ง ๆ ๔.๑๑ งานอดิเรก และเร่ือง ทางธรรมชาติ ทสี่ นใจ ๑๐. บอกฤดูกาล ทิศทางลมประจา ฤดูกาลต่าง ๆ และลกั ษณะอากาศตาม ๔.๑๒ การอนุรักษ์ ฤดูกาลในประเทศไทยได้ ธรรมชาติ ๑๑. มีเจตคติท่ีดีในการทางานอดิเรกท่ี ตนเองสนใจในยามว่างและมีประโยชน์ ตอ่ สงั คม ๑๒. มีความตระหนักในการรูจ้ กั อนุรกั ษธ์ รรมชาติ ๑๓. มีเจตคตใิ นทางท่ดี ีและชน่ื ชอบใน งานวิชาช่างลกู เสือ ๑๔. รแู้ ละเขา้ ใจ บอกลักษณะของ กระบวนการ Active Learning ๑๕. แสดงออกถงึ ลกั ษณะ Active Learning ได้
เนื้อหำที่ สำระ/เนอ้ื หำ จุดประสงค์กำรเรียนรู้ เวลำเรยี น หมำยเหตุ หลกั สตู รกำหนด (ช่งั โมง) ๑๖. นากระบวนการ Active ๑ ๔ Learning ไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันได้ ๑ อย่างมคี วามสุข ๑ หนว่ ยท่ี ๕ ๕.๑ ทบทวนระเบยี บแถว ๑. ปฏบิ ตั ทิ ักษะระเบียบแถวลูกเสอื ตรี ระเบียบแถว ลูกเสือตรแี ละลกู เสอื โท และลกู เสือโทได้ ๗ ชั่วโมง ๕.๒ ระเบียบแถวท่าตรง ๒. รูแ้ ละปฏิบตั ิตามสัญญาณมือการ ทา่ พกั ท่าหนั อยู่กับที่ เข้าแถวแบบต่าง ๆ คือ ทา่ ตรง ท่าพัก สญั ญาณมือการเข้าแถวแถว ทา่ หนั อยู่กับท่ี แถวหนา้ กระดานแถว หน้ากระดานแถวเดยี วและ เดยี วแถวตอนหมู่ แถวหน้ากระดาน แถวตอนหมู่ หน้ากระดาน หมปู่ ดิ ระยะ/เปิดระยะ แถวสีเ่ หลี่ยม หมู่ปดิ ระยะ/เปิดระยะ แถว เปดิ ดา้ นหนึ่ง และแถวรปู รศั มีได้ สเ่ี หลีย่ มเปิดหน้าหนึง่ และ แถวรูปรศั มี ๕.๓สญั ญาณมือการเข้าแถว ๓. รแู้ ละปฏิบัตติ ามสญั ญาณมือการเขา้ รูปแถวครงึ่ วงกลมและ แถวรปู แถวครงึ่ วงกลมและวงกลม วงกลม ๕.๔สญั ญาณนกหวีด ๔. ปฏิบัตติ ามสญั ญาณนกหวีดที่ กาหนดออยา่ งเข้าใจ ถกู ต้อง ๕. สร้างความสามัคคีในการทางาน ร่วมกัน และการแสดงความเป็นผ้นู า ผู้ตามที่ดี ๖. มเี จตคติท่ดี ใี นเรื่องระเบียบแถวและ มคี วามพรอ้ มในการปฏบิ ัตกิ ิจกรรม ๗. แสดงออกถึงความร่วมมือในการ เรียนรเู้ รือ่ งระเบยี บแถวในหมคู่ ณะ ๘. แสดงออกถึงความม่งุ มนั่ และ ตัง้ ใจปฏบิ ตั กิ จิ กรรมเรอื่ งระเบยี บแถว และมคี วามสามัคคี
เนื้อหำท่ี สำระ/เนื้อหำ จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ เวลำเรยี น หมำยเหตุ หลกั สูตรกำหนด (ชงั่ โมง) ๙. รู้และเข้าใจ บอกลกั ษณะของ กระบวนการ Active Learning ๑๐. แสดงออกถงึ ลกั ษณะ Active Learning ได้ ๑๑. นากระบวนการ Active Learning ไปใช้ในชวี ิตประจาวันได้ อย่างมคี วามสุข
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กจิ กรรมพฒั นำผู้เรียน ลูกเสือ เนตรนำรี หลกั สูตรลกู เสอื เอก ช้นั ประถมศึกษำปีท่ี ๖ โรงเรยี นบำ้ นปำยอ หน่วยที่ ๑ สำระกำรเรียนรู้ กำรพึง่ ตนเอง เวลำ ๓ ชว่ั โมง แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๑ เร่ือง กำรปฐมนเิ ทศ เวลำ ๑ ชั่วโมง ๑. สำระสำคญั การปฐมนิเทศคือการแนะนาเพอ่ื เตรยี มตวั ในการเรียนรู้วิธกี าร สาระสาคัญ และเป้าหมายของการ เรียนรู้วชิ าลกู เสือ ๒. สำระกำรเรยี นรู้ เขา้ ใจพิธีเปดิ – ปดิ กองในการเรียนประจาวนั การแบ่งหมู่ และหน้าที่ของสมาชกิ ในหมู่ สาระของ หลกั สตู รลกู เสือเอก การวางกติกา และข้อตกลง กฎระเบียบในการเรยี นวชิ าลกู เสือ ๓. จุดประสงค์กำรเรียนรู้ ๒.๑ ข้ันการเกิดความรู้ รแู้ ละเข้าใจพธิ เี ปิด – ปดิ กองในการเรียนประจาวัน การแบ่งหมู่ และหน้าทขี่ องสมาชิกใน หมู่ สาระของหลกั สตู รลูกเสือเอก การวางกตกิ า ขอ้ ตกลงและกฎระเบยี บในการเรยี นวชิ าลูกเสือได้ ๒.๒ ขนั้ การเกิดเจตคติ ผู้เรยี นมีเจตคตทิ ด่ี ีต่อการเรยี นลูกเสือ ๒.๓ ขัน้ สมรรถนะ ผเู้ รยี นมีสมรรถนะที่ดีตามหลักสูตร ๒.๔ ขั้นคุณลักษณะ ผเู้ รยี นมคี ุณลกั ษณะอันพงึ ประสงคใ์ นการเรยี นลกู เสอื ตามหลกั สตู ร ๔. กจิ กรรมกำรเรียนรู้ ข้ันท่ี ๑ พธิ เี ปิดประชุมกอง (ใชเ้ วลำ ๑๐ นำท)ี ๔.๑ พิธีเปิดประชุมกอง ทบทวนขัน้ ตอน และวธิ กี ารเปดิ ประชมุ กอง ธง , ดอุ าร์, ตรวจ , ชี้แจง , แยก ผูก้ ากบั แนะนา รปู แบบของการปฏบิ ตั ขิ น้ั ตอนของการเปิดประชมุ กองตามลาดับคือ ๔.๑.๑ ผู้กากับยนื หนา้ เสาธงหา่ งประมาณ ๓ กา้ ว ผูก้ ากบั เรียกแถวแสดงสัญลักษณม์ ือรูป แถวคร่งึ วงกลมลกู เสอื เนตรนารเี ข้าแถวครึ่งวงกลมเพื่อเปิดประชมุ กองกอง นายหมๆู่ แรกอยู่ทางซ้ายมือของ
ผู้กากับ นายหมู่ยกข้อศอกซา้ ยจัดแถวระหว่างคนระยะ ๑ ศอก ระหวา่ งหมู่ ๑ ช่วงแขน รองนายหมขู่ อง หมสู่ ดุ ทา้ ย อยูต่ รงขวามอื ของผู้กากับ ๔.๑.๒ รองผู้กากับเข้าแถวดา้ นหลังเสาธง ๔.๑.๓ ผู้กากบั นดั หมายหมบู่ รกิ าร ทาหน้าทเี่ ชิญธงชาติ ๒ คน นารอ้ งเพลงชาติ ๑ คน นาดุอาร์,สวดมนต์ ๑ คน (กรณมี ีผนู้ ับถือศาสนาเดียวกนั ท้ังหมด) ลกู เสอื อยใู่ นทา่ ตามระเบียบพกั ให้ดงึ ไม้ กลบั ใหอ้ ยใู่ นทา่ ตรง ฝากไม้พลองที่แขนซ้ายในท่าฝากไม้พลอง และยกมอื ขวา ๔.๑.๔ ผกู้ ากับเชิญตวั แทนหมูบ่ ริการ ตัวแทนหม่บู รกิ ารสองคนฝากอาวุธแล้ววงิ่ ออกมาหน้า เสาธงหา่ งประมาณ ๓ กา้ ว ทาความเคารพดว้ ยท่าวนั ทยหตั ถ์ คนทางขวามือกา้ วไปข้างหน้าสองเก้า ยนื เท้าชิดแกะเชือกจากเสาธงแล้วถอยหลงั สองเก้า ส่งเชอื กให้ตวั แทนหมู่บริการชักธงชาติทยี่ นื ทางซา้ ยมือ ๔.๑.๕ ผู้กากบั ส่ัง“กองตรง”“วนั ทยาวุธ” ลูกเสอื อยู่ในท่าวันทยาวุธ ตัวแทนหม่บู ริการนา รอ้ งเพลงชาติ เม่ือเพลงชาตจิ บ ตัวแทนหมูบ่ รกิ ารชักธงชาตทิ างขวามอื ผูกเชอื กท่ีเสาธงแล้วถอยหลงั กลับมายนื ทเ่ี ดมิ ตัวแทนชักธงชาตทิ าความเคารพด้วยท่าวันทยหตั ถ์พร้อมกนั ทาขวาหนั ว่งิ กลบั เข้าสู่ แถวรับอาวุธแลว้ ยนื ในท่าวันทยาวุธ ๔.๑.๖ ผ้กู ากับสง่ั “เรยี บอาวุธ” ลูกเสอื ยกไม้พลองมาวางระหว่างเท้าทั้งสองฝากพลองท่แี ขน ซา้ ย ๔.๑.๗ ผู้กากับส่ัง “ถอดหมวก” ตัวแทนหมู่บรกิ ารนาสวดมนต์ ๔.๑.๗ ผ้กู ากับสง่ั สงบนงิ่ ลกู เสอื อยูใ่ นท่าสงบน่ิงประมาณ ๑ นาที ๔.๑.๘ ผู้กากับส่ัง “สวมหมวก” ลูกเสอื สวมหมวกแลว้ ยกพลองกลับมายืนในท่าตรง ๔.๑.๙ ผูก้ ากบั สั่งตามระเบียบพกั ๔.๑.๑๐ แนะนาใหม้ ีการตรวจร่างกายกอ่ นเรียนตามวิธีการตรวจที่ถกู ต้อง โดยรองผกู้ ากบั ๔.๑.๑๑ นัดหมายเพอื่ แยกสอนตามเนื้อเรื่องทก่ี าหนด คอื จดุ ประสงค์ เน้ือหา เวลาเรียน กฎระเบียบและการตัดสนิ ผลการเรยี นกิจกรรมตามหมู่คณะของกองลูกเสือข้นั ตอนของการเรยี นร้ใู นวชิ า ลกู เสือและคณุ ธรรมเบ้ืองต้น ขัน้ ท่ี ๒ เพลงในหมู่ลูกเสือ (ใช้เวลำ ๕ นำท)ี ขั้นท่ี ๓ ข้นั การสอนตามเน้ือหา โดยเอกสารประกอบการเรียนรู้ (ใชเ้ วลำ ๓๐ นำที) กิจกรรมลกู เสอื เอกโดยกระบวนการ Active Learning
ฐำนที่ ๑ เรอื่ ง กำรปฐมนิเทศ (ใชเ้ วลำ ๓๐ นำที) ขน้ั การอธบิ ายและขนั้ สาธติ ผกู้ ากบั อธิบายถึงเรอ่ื งตา่ ง ๆ ดงั น้ี ๑. ลกู เสือทาแบบทดสอบกอ่ นเรยี น ๒. อธบิ ายถงึ วธิ ีการแบง่ หมู่ และหน้าที่ของสมาชกิ ในหมู่ ตามท่ีกาหนดในระบบหมู่ ๓. อธิบายถงึ รปู แบบของการแตง่ กายทถ่ี กู ต้องของลูกเสือสามญั โดยใชส้ ่ือเป็นรูปภาพการ แต่งกายทถี่ ูกตอ้ งผู้กากับอธิบายถึงหลักสตู ร รายละเอยี ดของลกู เสอื เอก ๔. ผ้กู ากับอธิบายตาแหน่งและหน้าทภี่ ายในหมู่ ข้นั การฝกึ ปฏบิ ตั ิโดยกระบวนการ Active Learning ๕. เลือกนายหมแู่ ละตาแหน่งตา่ ง ๆ ภายในหมู่ ๖. ผกู้ ากบั อธิบายเกณฑ์การตดั สนิ ผลการเรยี น ขน้ั ปฏิบัติได้ด้วยตนเองและข้ันแนะนาผู้อ่ืนโดยกระบวนการ Active Learning ๗. ลูกเสอื ศึกษาข้อตกลงในการเรียนและเกณฑก์ ารตัดสินผลการเรยี นจากเอกสาร ๘. ลกู เสอื ศกึ ษาความรูเ้ รอ่ื ง ความสาคัญActive Learning (การเรยี นรู้แบบลงมือปฏิบตั ิ) ๙. ผ้กู ากับและลูกเสอื ร่วมกันสรุปสาระสาคญั ขน้ั ที่ ๔ ผ้กู ากับให้สญั ญาณหมดเวลา ลกู เสือรวม ผู้กากับเล่าเรื่องส้ัน (ใช้เวลำ ๕ นำที) เรื่องเทพารักษ์กับคนตดั ไม้ ข้นั ท่ี ๕ ปิดประชมุ กอง ผู้กากับให้สัญญาณรวมกองเพ่ือปดิ ประชุมกองตาม (ใชเ้ วลำ ๑๐ นำที) ขนั้ ตอนคือ นดั หมาย ตรวจเครอื่ งแต่งกาย ธงลง และสั่งกองเลกิ ๑. ผู้กากับส่งั “กอง” พร้อมแสดงสญั ลกั ษณ์มอื รปู ครึ่งวงกลม ลกู เสือเขา้ แถวรูปคร่ึง วงกลมเหมือนตอนเปดิ ประชุมกอง ๒. ลกู เสอื รบั การตรวจการแต่งกายจากรองผกู้ ากับ ๓. ผกู้ ากบั นดั หมายการเปิดประชุมกองในคร้งั ตอ่ ไป ๔. ผกู้ ากบั เชิญตัวแทนหมูบ่ รกิ ารชกั ธงลง ตวั แทนหมู่บริการฝากพลองแลว้ วิง่ มาหน้าเสา ธง ทาความเคารพด้วยท่าวันทยหตั ถ์ คนทางขวาก้าวไปข้างหนา้ ๒ กา้ ว แกะเชือก แลว้ ถอยหลงั กลับ ทเ่ี ดิมสง่ เชือกให้คนทางซ้ายมอื
๕. ผกู้ ากับสั่งกองตรง วันทยาวุธ ตัวแทนหม่บู รกิ ารชักธงลง เสร็จแลว้ คนทางขวากา้ ว ไปขา้ งหน้า ๒ กา้ ว ผกู เชือกทเ่ี สาธงแลว้ ถอยกลับมายืนทเี่ ดิม ทาความเคารพด้วยทา่ วันทยหตั ถ์ พรอ้ มกนั ขวาหนั วงิ่ กลับเข้าสแู่ ถว ๖. ผู้กากับสงั่ “กองตรง”“ กองเลกิ ” ๕. สือ่ กำรเรยี น ๕.๑ เพลงในหมู่ลกู เสือ ๕.๒ เอกสารประกอบการเรียนร้กู จิ กรรมลกู เสือเอก ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ หนว่ ยที่ ๑ เร่ือง การพง่ึ ตนเอง ๕.๓ เร่ืองสน้ั เรื่องเทพารักษ์กับคนตดั ไม้ ๕.๔ เกณฑก์ ารตดั สินผลการเรยี น ๖. กำรประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ ๖.๑ แบบทดสอบปรนัยกอ่ นเรยี น ๖.๓ สังเกตพฤตกิ รรมด้านเจตคติ ๖.๔ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ นสมรรถนะ ๖.๕ สงั เกตคุณลักษณะอันพึงประสงค์
๗. บนั ทกึ ผลหลังสอน/และข้อเสนอแนะ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ลงช่อื ........................................................ (นำยดนยำ กำเจร์) ครูโรงเรียนบ้ำนปำยอ ๘. ควำมคดิ เหน็ ผบู้ ริหำร ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ลงช่ือ............................................................ (นำยมูฮำมัด ลอเด็ง) ผูอ้ ำนวยกำรโรงเรียนบำ้ นปำยอ วันที.่ .........เดือน....................................พ.ศ..................
“เพลงในหมลู่ กู เสือ” ในหมลู่ ูกเสอื เม่ือรวมเราอยู่ ตา่ งคนตา่ งรกู้ ันดี ว่าหนา้ ที่ทุกอยา่ ง ตอ้ งชว่ ยกนั ทา ทาไมเ่ ว้นว่าง งานทกุ อยา่ ง งานทุกอย่าง จะเสร็จโดยงา่ ยดาย “เรอื่ ง เทพำรกั ษ์กับคนตัดไม้” คนตัดไม้คนหน่ึงนั่งร้องไห้อยู่รมิ ลาธาร เพราะทาขวานของตนเองตกลงไปในน้า เทพารักษ์สงสาร จึงปรากฏกายช่วยเหลือ โดยคร้ังแรกงมขวานทองคา คร้ังท่ีสองงมขวานเงินข้ึนมาให้ คนตัดไม้น้ันเป็นคน ซ่อื สัตย์จึงปฏิเสธวา่ ไมใ่ ช่ขวานของตน จนเทพารกั ษง์ มขวานเหลก็ ข้ึนมา เขาจึงยอมรับ เทพารักษ์ตอบแทน ความซื่อสตั ยด์ ว้ ยการมอบขวานทองคาและเงินใหด้ ว้ ย เพอ่ื นบ้านคนหนงึ่ ทราบเรื่อง เกิดความละโมบ จึงไป ท่ีลาธารและทาขวานหลน่ แต่ดว้ ยความไมซ่ ื่อสตั ย์ ทาใหเ้ ขาไมไ่ ด้ขวานคืนแมก้ ระทัง่ ขวานของตนเอง คุณธรรม จรยิ ธรรมที่ได้รบั คอื ความซอื่ สัตย์ ข้อคิด จงซ่อื สตั ย์และจงพอใจในสงิ่ ทเ่ี ปน็ ของตน ไม่โลภมาก
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กิจกรรมพฒั นำผเู้ รียน ลูกเสือ และเนตรนำรี หลกั สตู รลกู เสือเอก ช้นั ประถมศกึ ษำปีท่ี ๖ โรงเรยี นบำ้ นปำยอ หนว่ ยที่ ๑ สำระกำรเรียนรู้ กำรพงึ่ ตนเอง เวลำ ๓ ช่ัวโมง แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี ๒ เร่อื ง กำรรู้จกั ใช้ ดแู ลรักษำเครือ่ งใช้ ตะเกยี ง เตำ เวลำ ๑ ชว่ั โมง และเครอื่ งใชไ้ ฟฟ้ำ ๑. สำระสำคัญ การใช้ตะเกียง เตา และเคร่ืองใช้ไฟฟา้ เป็นทกั ษะทจ่ี าเปน็ ตอ้ งใชใ้ นการไปอยู่ค่ายพักแรมการใช้ อปุ กรณท์ ้งั สามแบบจาเปน็ ต้องมีทักษะการใช้งาน การดูแลรกั ษาทถี่ ูกตอ้ งจะทาให้ยืดอายขุ องอุปกรณแ์ ละ กอ่ ให้เกิดความปลอดภยั จากการใชอ้ ุปกรณ์ ๒. สำระกำรเรียนรู้ เขา้ ใจวธิ ีการใช้ วธิ กี ารเก็บรักษาตะเกียง เตาและเคร่ืองใช้ไฟฟ้าตา่ ง ๆ ๓. จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้ ๓.๑ ข้ันการเกดิ ความรู้ รแู้ ละเขา้ ใจบอกวิธกี ารใช้ วธิ ีการเก็บรักษาตะเกียง เตาและเคร่ืองใชไ้ ฟฟา้ ได้ ๓.๒ ข้ันการเกดิ ทกั ษะ ปฏบิ ตั ทิ ักษะการใช้ การเก็บรักษาตะเกียง เตาและเคร่ืองใช้ไฟฟ้าได้ ๓.๓ ขั้นการเกิดเจตคติ ผู้เรียนมีเจตคตทิ ่ดี ีตอ่ การเรียนลูกเสอื ๓.๔ ขั้นสมรรถนะ ผู้เรียนมีสมรรถนะที่ดีตอ่ การเรยี นลูกเสอื ๓.๕ ขัน้ คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ ผูเ้ รียนแสดงออกถงึ คุณลกั ษณะอันพึงประสงคต์ ามทก่ี าหนด ๔. กิจกรรมกำรเรียนรู้ ใช้เวลา ๑๐ นาที ขน้ั ที่ ๑ พิธีเปิดประชมุ กอง ใช้เวลา ๕ นาที ขั้นท่ี ๒ เพลงทิศ
ขนั้ ท่ี ๓ ขนั้ การสอนตามเนื้อหา ใช้เวลา ๓๐ นาที โดยใช้เอกสารประกอบการเรยี นลูกเสอื โดย กระบวนการ Active Learning ฐำนท่ี ๑ เร่ือง กำรใชแ้ ละรักษำตะเกยี ง (ใชเ้ วลำ ๑๐ นำที) ขั้นอธบิ าย ผู้กากบั อธิบายเร่ืองการใชแ้ ละรักษาตะเกยี งให้ลูกเสอื ฟังถึงประโยชน/์ ประสทิ ธภิ าพ,จุดมงุ่ หมาย และวธิ ีการใชอ้ ย่างปลอดภัย ขนั้ การสาธิต ผู้กากับแบง่ กลุม่ เป็นรปู วงกลม สาธิตการใช้และรกั ษาตะเกยี งให้ลกู เสอื ดู ขน้ั การฝกึ ปฏิบตั ิโดยกระบวนการ Active Learning ลกู เสอื ฝกึ การใช้และรกั ษาตะเกยี งโดยมผี ู้กากับแนะนา ขน้ั ปฏิบตั ิไดด้ ้วยตนเองโดยกระบวนการ Active Learning ลกู เสือฝึกการใชแ้ ละรกั ษาตะเกียงเป็นรายบคุ คล ขั้นแนะนาผู้อน่ื โดยกระบวนการ Active Learning ลกู เสือแนะนาวิธกี ารใช้และรักษาตะเกียงให้เพื่อนในหมู่และหมู่อ่ืน ๆ โดยวิธกี ารเพื่อนสอนเพ่ือน เปน็ รายบคุ คล หรอื เปน็ กลุม่ ฐำนที่ ๒ เรอื่ ง กำรใช้และเก็บรกั ษำเตำ (ใชเ้ วลำ ๑๐ นำท)ี ขั้นอธิบาย ผกู้ ากับอธิบายเร่อื งการใชแ้ ละเก็บรกั ษาเตาให้ลกู เสือฟงั ถึงประโยชน/์ ประสทิ ธิภาพ,จุดมงุ่ หมาย และวิธีการใชอ้ ยา่ งปลอดภัย ขัน้ การสาธิต ผู้กากบั แบง่ กลมุ่ เป็นรูปวงกลม สาธติ การใชแ้ ละเก็บรักษาเตาให้ลูกเสือดู ขั้นการฝกึ ปฏิบัตโิ ดยกระบวนการ Active Learning ลกู เสือฝกึ การใช้และเกบ็ รกั ษาเตาโดยมีผ้กู ากับแนะนา ขั้นปฏบิ ัติได้ดว้ ยตนเองโดยกระบวนการ Active Learning ลูกเสอื ฝึกการใช้และเก็บรักษาเตาเป็นรายบคุ คล ขั้นแนะนาผู้อ่นื โดยกระบวนการ Active Learning ลกู เสือแนะนาการใช้และเกบ็ รักษาเตาให้เพอื่ นในหมแู่ ละหมู่อ่ืน ๆ โดยวิธกี ารเพื่อนสอนเพอื่ นเป็น รายบคุ คล หรือเป็นกลุ่ม
ฐำนที่ ๓ เรื่อง กำรใช้และดแู ลรักษำเคร่ืองใชไ้ ฟฟ้ำ (ใช้เวลำ ๑๐ นำท)ี ข้ันอธบิ าย ผ้กู ากับอธบิ ายเรื่องการใชแ้ ละดูแลรักษาเครื่องใชไ้ ฟฟ้าให้ลกู เสอื ฟงั ขน้ั การสาธิต ผ้กู ากับสาธิตการใชแ้ ละดแู ลรกั ษาเครื่องใชไ้ ฟฟา้ ใหล้ กู เสอื ดู ขั้นการฝกึ ปฏิบตั โิ ดยกระบวนการ Active Learning ลกู เสอื ฝึกการใชแ้ ละดูแลรกั ษาเครื่องใชไ้ ฟฟ้าโดยมีผกู้ ากับแนะนา ข้ันปฏิบตั ิไดด้ ้วยตนเองโดยกระบวนการ Active Learning ลกู เสอื ฝกึ การใชแ้ ละดูแลรกั ษาเครอื่ งใช้ไฟฟา้ ดว้ ยตนเอง ขน้ั แนะนาผู้อื่นโดยกระบวนการ Active Learning ลูกเสอื แนะนาการใช้และดูแลรักษาเครอื่ งใชไ้ ฟฟา้ ให้เพ่ือนในหมูแ่ ละหมู่อ่ืน ๆ ขนั้ ท่ี ๔ ผูก้ ากบั ใหส้ ัญญาณหมดเวลา ลูกเสอื รวม ผกู้ ากับเลา่ เรื่องส้ัน (ใชเ้ วลำ ๕ นำที) เร่ือง ลูกหมีเรยี นรู้ ข้นั ที่ ๕ ปดิ ประชมุ กอง ผู้กากับให้สัญญาณรวมกองเพ่ือปิดประชมุ กองตาม (ใช้เวลำ ๑๐ นำที) ขน้ั ตอนคอื นัดหมาย ตรวจเครอ่ื งแต่งกาย ธงลง และสัง่ กองเลกิ ๕. สอ่ื กำรเรยี น ๕.๑ เพลงทิศ ๕.๒ เอกสารประกอบการเรียนรกู้ ิจกรรมลกู เสอื เอก ช้ันประถมศึกษาปีที่ ๖ หน่วยที่ ๑ เรื่อง การพ่งึ ตนเอง ๕.๓ เรื่องส้ัน เรื่องลกู หมีเรียนรู้ ๖. กำรประเมินผลกำรเรยี นรู้ ๖.๑ สงั เกตพฤติกรรมด้านทักษะ เรื่อง การใช้และดแู ลรักษาตะเกียง เตาและเครื่องใช้ไฟฟา้ ๖.๒ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ นเจตคติ ๖.๓ สังเกตพฤตกิ รรมด้านสมรรถนะ ๖.๔ สงั เกตคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
๗. บันทึกผลหลังสอน/และข้อเสนอแนะ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ลงช่อื ........................................................ (นำยดนยำ กำเจร์) ครูโรงเรียนบ้ำนปำยอ ๘. ควำมคดิ เห็นผ้บู ริหำร ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ลงช่อื ............................................................ (นำยมูฮำมดั ลอเด็ง) ผู้อำนวยกำรโรงเรียนบ้ำนปำยอ วนั ที.่ .........เดือน....................................พ.ศ..................
“เพลงทศิ ” ทิศทงั้ แปดทิศ ขอจงคิด จาให้เคยชิน อดุ ร ตรงขา้ มทกั ษิณ บูรพา ประจมิ จาไว้ อิสาน ตรง หรดี ทอ่ งอีกที จาให้ขึน้ ใจ พายพั นน้ั อยูท่ างไหน ตรงขา้ มไปคือ อาคเนย์ (ซ้า) เร่ือง ลกู หมเี รยี นรู้ ลกู หมเี ข้ามาในเมอื ง เห็นหลายสง่ิ หลายอย่างไมม่ ีท่บี ้าน จึงอยากร้วู า่ สงิ่ นั้น สง่ิ นี้มีไว้ทาไม เช่น ทาง มา้ ลายมไี ว้ทาไม สะพานลอยมีไว้ทาไม แม่จึงบอกลูกหมีว่าทางม้าลายมีไว้ใช้ในการเดินข้ามถนน การข้าม ถนนต้องมองซ้าย มองขาวให้ดี ถ้าไม่ระวังอาจเกิดอุบัติเหตุได้และลูกหมีต้องเข้าแถวเพื่อไม่ให้เดินชนกัน ส่วนสะพานลอยปลอดภัยกว่าทางม้าลาย ลูกหมีได้เห็นเหล็กข้ันรางรถไฟท่ีมีกีดขวางอยู่ตรงกลางถนนก็ ถามแม่ แมก่ ็บอกวา่ เป็นสญั ญาณเตือนให้รถหยุดช่วยใหป้ ลอดภัย แม่หมปี ลกู ฝังให้ลูกหมเี ป็นคนดีมรี ะเบยี บ วินัย คณุ ธรรมจริยธรรมทีไ่ ด้รับ คอื ความมวี ินยั ขอ้ คิด การมีวินยั ต้องสร้างตง้ั แต่วยั เดก็
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กจิ กรรมพัฒนำผูเ้ รียน ลกู เสือ และเนตรนำรี หลกั สูตรลกู เสือเอก ช้นั ประถมศกึ ษำปีท่ี ๖ โรงเรียนบำ้ นปำยอ หนว่ ยที่ ๑ สำระกำรเรียนรู้ กำรพ่ึงตนเอง เวลำ ๓ ชว่ั โมง แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๓ เร่อื ง กำรกอ่ กองไฟ กำรปรุงเคร่อื งด่ืมร้อน เวลำ ๑ ชั่วโมง และกำรปรุงอำหำรอยำ่ งง่ำย ๑. สำระสำคญั : การปรงุ อาหารเป็นทักษะท่ีจาเป็นต้องใช้เมอ่ื ลูกเสอื ไปอยคู่ า่ ยพกั แรม การปรุงอาหารและ เคร่ืองด่มื ร้อนอย่างงา่ ยทาใหป้ ระหยดั เวลาและเหมาะสมกับการอยูค่ า่ ยพกั แรม ๒. สำระกำรเรยี นรู้ : การปรุงเครื่องดื่มร้อนและการปรงุ อาหารอยา่ งง่ายสาหรับตนเองและหมูใ่ นการพกั แรมคนื ๓. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ ๓.๑ ขั้นการเกดิ ความรู้ ร้แู ละเข้าใจบอกวธิ ีการปรุงเครื่องดม่ื ร้อนและการปรุงอาหารอยา่ งง่ายได้ ๓.๒ การเกิดทักษะ ปฏบิ ตั ิการปรุงเคร่ืองด่มื ร้อนและการปรงุ อาหารอย่างงา่ ยได้ ๓.๓ ข้ันการเกิดเจตคติ ผเู้ รียนมีเจตคติทีด่ ีตอ่ การเรยี นลูกเสอื ๓.๔ ขัน้ สมรรถนะ ผเู้ รียนมสี มรรถนะทด่ี ีตามหลกั สตู ร ๓.๕ ขน้ั คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ ผเู้ รยี นมคี ณุ ลักษณะอันพึงประสงคใ์ นการเรียนลูกเสอื ตามหลกั สตู ร ๔. กิจกรรมกำรเรียนรู้ (ใชเ้ วลำ ๑๐ นำท)ี ขน้ั ที่ ๑ พธิ เี ปดิ ประชุมกอง (ใช้เวลำ ๕ นำท)ี ขน้ั ที่ ๒ เกมรถไฟดว่ น (ใชเ้ วลำ ๓๐ นำท)ี ขน้ั ท่ี ๓ ข้นั การสอนตามเนื้อหา โดยเอกสารประกอบการเรยี นรู้ กิจกรรมลูกเสอื เอกโดยกระบวนการ Active Learning
ฐำนที่ ๑ เรือ่ ง กำรปรุงอำหำรอยำ่ งง่ำย (ใชเ้ วลำ ๑๕ นำท)ี ขน้ั อธบิ าย ผูก้ ากบั อธบิ ายเร่อื งการปรุงอาหารอยา่ งง่ายประโยชน/์ ประสทิ ธิภาพ,จุดมุง่ หมาย และวิธกี ารปรุง อาหารอยา่ งปลอดภัย ข้ันการสาธิต ผกู้ ากบั จัดกลมุ่ ลูกเสือเป็นรูปครงึ่ วงกลม สาธิตการปรุงอาหารอยา่ งงา่ ยให้ลกู เสือ ขั้นการฝึกปฏิบัติโดยกระบวนการ Active Learning ลูกเสอื ร่วมฝึกการปรุงอาหารอย่างงา่ ยโดยมีผูก้ ากับแนะนา ขน้ั ปฏบิ ัติได้ด้วยตนเองโดยกระบวนการ Active Learning ลูกเสอื ฝึกการปรุงอาหารอย่างง่ายดว้ ยตนเอง ข้ันแนะนาผู้อน่ื โดยกระบวนการ Active Learning ลูกเสือแนะนาการปรุงอาหารอยา่ งงา่ ยใหเ้ พือ่ นกลุ่มอื่น ๆ โดยวิธกี ารเพื่อนสอนเพ่ือนเป็นรายบคุ คล หรือเป็นกลุ่ม ฐำนที่ ๒ เร่ือง กำรปรงุ เคร่ืองดม่ื ร้อน (ใชเ้ วลำ ๑๕ นำท)ี ขั้นอธบิ าย ผกู้ ากับอธบิ ายเร่อื งการปรงุ เคร่ืองดื่มร้อนประโยชน์/ประสิทธภิ าพ,จดุ มุ่งหมาย และวิธีการปรุง เคร่ืองดมื่ ร้อนอยา่ งปลอดภยั ขนั้ การสาธติ ผ้กู ากบั แบง่ กล่มุ เป็นรปู วงกลม สาธิตการปรุงเคร่ืองดืม่ ร้อนให้ลกู เสอื ขัน้ การฝึกปฏบิ ัติโดยกระบวนการ Active Learning ลกู เสือรว่ มฝึกการปรุงเครือ่ งด่มื รอ้ นโดยมผี ู้กากับแนะนา ขั้นปฏิบตั ิได้ด้วยตนเองโดยกระบวนการ Active Learning ลกู เสอื ฝึกการปรงุ เครื่องด่มื ร้อนด้วยตนเอง ขั้นแนะนาผู้อื่นโดยกระบวนการ Active Learning ลูกเสือแนะนาการปรงุ อาหารอย่างงา่ ยใหเ้ พอ่ื นกลมุ่ อื่น ๆ โดยวิธีการเพื่อนสอนเพอ่ื นเปน็ รายบคุ คล หรอื เปน็ กลุม่ ข้นั ท่ี ๔ ผู้กากับให้สัญญาณหมดเวลา ลูกเสอื รวม ผู้กากับเลา่ เรื่องสั้น (ใช้เวลำ ๕ นำที) เรื่องหมูบ่ ้านไม่เป็นไร ทาแบบทดสอบปรนยั หลังเรียน
ข้ันท่ี ๕ ปดิ ประชมุ กอง ผกู้ ากับใหส้ ัญญาณรวมกองเพื่อปดิ ประชุมกองตาม (ใชเ้ วลำ ๑๐ นำท)ี ข้ันตอนคอื นัดหมาย ตรวจเคร่อื งแตง่ กาย ธงลง และสัง่ กองเลิก ๕. ส่อื กำรเรยี น ๕.๑ เกมรถไฟดว่ น ๕.๒ เอกสารประกอบการเรียนรูก้ ิจกรรมลกู เสอื เอก ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ หน่วยท่ี ๑ เรอ่ื ง การพ่งึ ตนเอง ๕.๓ เรื่องสัน้ เร่ืองหมู่บา้ นไมเ่ ปน็ ไร ๖. กำรประเมินผลกำรเรยี นรู้ ๖.๑ สังเกตพฤติกรรมดา้ นทักษะ เรอ่ื ง ปรงุ เคร่อื งด่ืมร้อนและอาหารอย่างงา่ ย ๖.๒ สังเกตพฤตกิ รรมด้านเจตคติ ๖.๓ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ นสมรรถนะ ๖.๔ สังเกตคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ ๖.๕ แบบทดสอบปรนยั หลังเรยี น
๗. บันทึกผลหลงั สอน/และข้อเสนอแนะ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ลงชื่อ........................................................ (นำยดนยำ กำเจร์) ครูโรงเรียนบ้ำนปำยอ ๘. ควำมคิดเหน็ ผู้บริหำร ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ลงชื่อ............................................................ (นำยมฮู ำมดั ลอเด็ง) ผอู้ ำนวยกำรโรงเรียนบำ้ นปำยอ วันท.่ี .........เดือน....................................พ.ศ..................
ชอื่ เกม “รถไฟด่วน” วิธเี ลน่ แบง่ ลูกเสอื เปน็ หมู่ ใหแ้ ต่ละหมู่เขา้ แถวตอนเรยี งหน่งึ มอื แตะบ่าลูกเสือคนขา้ งหน้าเริ่มเล่นใหท้ กุ คนว่งิ ไปขา้ งหนา้ ในลักษณะแถวตอนเรยี งหนง่ึ โดยมือต้องไม่หลุดจากบา่ คนข้างหน้า วง่ิ ไปจนคนสุดทา้ ย ผา่ นเส้นชยั กำรตัดสนิ หม่ใู ดผา่ นเสน้ ชัยกอ่ นเป็นผูช้ นะ เรอื่ งสั้น “หมบู่ ำ้ นไมเ่ ป็นไร” ท่ีชานเมืองแห่งหนึง่ มีหมู่บา้ นชอ่ื “หมบู่ ้านไมเ่ ป็นไร”ทกุ คนในหม่บู า้ นมนี สิ ัยมักงา่ ยและไร้ระเบยี บวินยั ทา ให้ทกุ หนทุกแหง่ ในหมบู่ ้านเต็มไปด้วยขยะและส่งิ ปฏิกลู เพราะทกุ คนคิดวา่ เป็นเรื่องไมเ่ ปน็ ไร ขอเพยี งใน บ้านสะอาดก็พอแล้ว แม้ว่าจะมีคนได้รบั บาดเจ็บและปว่ ยไขเ้ พราะความไม่มีระเบยี บก็ยงั ไม่มีใครสานึกใน ความผิด ต่อมาเมื่อฝนตกลงมาและไมส่ ามารถระบายน้าได้ ทาให้ทุกบ้านถูกนา้ ท่วมขงั ถงึ คร่งึ เดือนทาให้ เสยี หายหนกั หลังจากนั้นจึงไม่มีใครมกั ง่ายท้ิงขยะไมเ่ ป็นที่เป็นทางอีกเลย คณุ ธรรม จริยธรรมทีไ่ ดร้ บั คือ ความมวี ินยั ข้อคดิ การมวี ินัยไม่สูญเสยี ทรพั ย์
แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ กจิ กรรมพัฒนำผเู้ รียน ลูกเสือ และเนตรนำรี หลกั สูตรลกู เสือเอก ชน้ั ประถมศึกษำปีที่ ๖ โรงเรยี นบำ้ นปำยอ หน่วยท่ี ๒ สำระกำรเรียนรู้ กำรบรกิ ำร เวลำ ๒ ชั่วโมง แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ท่ี ๔ เรอื่ ง กำรปฐมพยำบำลผู้ป่วย เวลำ ๑ ชว่ั โมง ๑. สำระสำคญั : การปฐมพยาบาลผู้ป่วยที่มเี ลอื ดออกภายใน และผปู้ ว่ ยที่มีอาการช็อค การปฐมพยาบาล เปน็ ทักษะทล่ี กู เสือต้องใช้เม่ือเกิดการบาดเจ็บท่อี าจเกิดขึ้นไดก้ บั ลกู เสอื ในขณะที่ฝึกหรือการปฏบิ ัติกิจกรรม ทั้งการบาดเจบ็ ทมี่ ีเลือดออกภายนอกเกิดการฟกชา้ และการช็อคเป็นลมหมดสติ นน้ั การปฐมพยาบาลจึงเป็น ทักษะที่จาเป็นในการดแู ลรักษาเบอ้ื งต้นกอ่ นสง่ ถงึ มือแพทย์ ๒. สำระกำรเรยี นรู้ : การปฐมพยาบาลผปู้ ่วยท่มี เี ลอื ดออกภายนอก และการปฐมพยาบาลผปู้ ว่ ยท่ีมีอาการ ชอ็ ค ๓. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้ ๓.๑ ขนั้ การเกิดความรู้ รแู้ ละเขา้ ใจบอกวธิ ีการปฐมพยาบาลผู้ปว่ ยที่มีเลอื ดออกภายนอก การปฐมพยาบาลผปู้ ่วยที่ แขนหัก, ขาหัก และวิธีที่เคล่ือนยา้ ยผปู้ ว่ ย ๓.๒ ขั้นการเกดิ ทักษะ ปฏบิ ัติทักษะการปฐมพยาบาลผู้ป่วยท่มี เี ลือดออกภายนอกการปฐมพยาบาลผู้ป่วยที่ แขนหัก, ขาหัก และวธิ ที ีเ่ คลื่อนย้ายผ้ปู ่วยได้ ๓.๓ ขนั้ การเกิดเจตคติ ผเู้ รียนมีเจตคตทิ ดี่ ีตอ่ การเรยี นลูกเสือ ๓.๔ ขนั้ สมรรถนะ ผูเ้ รียนมีสมรรถนะท่ีดีตามหลักสตู ร ๓.๕ ขน้ั คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ ผู้เรยี นมีคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ในการเรยี นลกู เสือตามหลกั สูตร
๔. กจิ กรรมกำรเรียนรู้ (ใช้เวลำ ๑๐ นำท)ี ข้ันท่ี ๑ พธิ ีเปดิ ประชุมกอง (ใชเ้ วลำ ๕ นำท)ี ข้ันท่ี ๒ แบบทดสอบปรนัยกอ่ นเรยี น เพลงสวัสดี ข้นั ท่ี ๓ ข้ันการสอนตามเน้ือหา โดยใช้เอกสารประกอบการเรยี นรู้ (ใช้เวลำ ๓๐ นำท)ี กิจกรรมลกู เสอื เอกโดยกระบวนการ Active Learning ฐำนท่ี ๑ เร่อื ง กำรปฐมพยำบำลผปู้ ่วยมีเลอื ดออกภำยนอก (ใชเ้ วลำ ๑๕ นำท)ี ข้นั อธบิ าย ผูก้ ากบั อธบิ ายเรือ่ งการปฐมพยาบาลผู้ป่วยมเี ลือดออกภายนอกให้ลกู เสอื ฟงั ประโยชน/์ ประสทิ ธภิ าพ,จุดม่งุ หมาย และวิธกี ารใชอ้ ย่างปลอดภัย ข้ันการสาธติ ผู้กากับแบ่งกลมุ่ เปน็ รปู วงกลม สาธิตการปฐมพยาบาลผูป้ ่วยมีเลือดออกภายนอกให้ลกู เสือ ข้ันการฝกึ ปฏบิ ัตโิ ดยกระบวนการ Active Learning ลกู เสอื รว่ มฝกึ การปฐมพยาบาลผู้ป่วยมเี ลือดออกภายนอกโดยมผี กู้ ากบั แนะนา ขน้ั ปฏบิ ัตไิ ดด้ ว้ ยตนเองโดยกระบวนการ Active Learning ลูกเสอื ฝึกการปฐมพยาบาลผปู้ ่วยมีเลอื ดออกภายนอกดว้ ยตนเอง ขั้นแนะนาผู้อื่นโดยกระบวนการ Active Learning ลกู เสอื แนะนาการปฐมพยาบาลผู้ป่วยมเี ลอื ดออกภายนอกใหเ้ พอื่ นในหมแู่ ละหมู่อื่น ๆ โดยวธิ กี าร เพ่อื นสอนเพื่อนเป็นรายบุคคล หรือเปน็ กลุ่ม ฐำนท่ี ๒ เรอ่ื ง กำรปฐมพยำบำลผู้ปว่ ยที่แขนหัก, ขำหัก (ใช้เวลำ ๑๕ นำท)ี และวธิ ที เ่ี คล่ือนยำ้ ยผู้ป่วย ขั้นอธิบาย ผู้กากบั อธบิ ายเร่ืองการปฐมพยาบาลผ้ปู ่วยที่แขนหัก, ขาหัก และวิธีทเ่ี คลอ่ื นยา้ ยผู้ป่วย ใหล้ กู เสือฟงั ประโยชน/์ ประสทิ ธภิ าพ,จดุ มุ่งหมาย และวธิ ีการปฐมพยาบาลอย่างปลอดภยั ข้ันการสาธิต ผกู้ ากับแบง่ กลมุ่ เป็นรูปวงกลม สาธติ การปฐมพยาบาลผปู้ ว่ ยท่แี ขนหกั , ขาหกั และวธิ ที ่ีเคลื่อนยา้ ย ผปู้ ว่ ย ขั้นการฝึกปฏิบตั โิ ดยกระบวนการ Active Learning ลกู เสือรว่ มฝึกการปฐมพยาบาลผปู้ ่วยที่แขนหกั , ขาหักและวธิ ีท่เี คลื่อนยา้ ยผ้ปู ว่ ยโดยมีผกู้ ากับ แนะนา ขั้นปฏิบัตไิ ด้ดว้ ยตนเองโดยกระบวนการ Active Learning
ลูกเสอื ฝกึ การปฐมพยาบาลผูป้ ว่ ยที่แขนหัก, ขาหักและวิธีท่เี คลอ่ื นย้ายผ้ปู ่วยดว้ ยตนเอง ขั้นแนะนาผู้อน่ื โดยกระบวนการ Active Learning ลูกเสือแนะนาการปฐมพยาบาลผปู้ ่วยทีแ่ ขนหกั , ขาหกั และวิธีทเ่ี คล่อื นยา้ ยผปู้ ่วยใหเ้ พอ่ื นในหมู่ และหมู่อน่ื ๆ โดยวธิ ีการเพอ่ื นสอนเพ่ือนเป็นรายบุคคล หรือเป็นกลุ่ม ข้นั ท่ี ๔ ผูก้ ากบั ให้สญั ญาณหมดเวลา ลกู เสือรวม ผู้กากับเล่าเร่ืองสั้น (ใชเ้ วลำ ๕ นำที) เร่ืองลิงแขง่ เรอื ขั้นท่ี ๕ ปิดประชมุ กอง ผกู้ ากบั ให้สัญญาณรวมกองเพ่ือปิดประชุมกองตาม (ใช้เวลำ ๑๐ นำท)ี ขั้นตอนคอื นัดหมาย ตรวจเคร่ืองแตง่ กาย ธงลง และสั่งกองเลิก ๕. สื่อกำรเรียน ๕.๑ เพลงสวัสดี ๕.๒ เอกสารประกอบการเรียนรูก้ จิ กรรมลูกเสอื เอก ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ หนว่ ยที่ ๒ เรื่อง การบริการ ๕.๓ เรื่องสั้น เรื่องลิงแข่งเรือ ๖. กำรประเมินผลกำรเรียนรู้ ๖.๑ แบบทดสอบปรนยั ก่อนเรยี น ๖.๒ ทดสอบปฏิบัติการปฐมพยาบาลผู้ป่วย ๖.๓ สังเกตพฤตกิ รรมด้านเจตคติ ๖.๔ สังเกตพฤตกิ รรมด้านสมรรถนะ ๖.๔ สงั เกตคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
๗. บันทกึ ผลหลังสอน/และข้อเสนอแนะ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ลงชือ่ ........................................................ (นำยดนยำ กำเจร์) ครูโรงเรียนบำ้ นปำยอ ๘. ควำมคดิ เหน็ ผบู้ ริหำร ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ลงชื่อ............................................................ (นำยมฮู ัมมัด ลอเด็ง) ผ้อู ำนวยกำรโรงเรียนบำ้ นปำยอ วนั ท.่ี .........เดือน....................................พ.ศ..................
เพลง “สวัสด”ี เมอื่ เจอกัน เราพบกัน สวัสดี สวสั ดคี ่ะ เม่อื ผดิ พล้ัง ขออภยั ขอโทษที ขอโทษทีค่ะ เม่ือจากไปยกมือไหว้ สวัสดี สวสั ดีคะ่ เมอ่ื เธอมมี ิตรไมตรีขอขอบคุณ ขอบคุณค่ะ เรื่อง “ลิงแข่งเรือ” ณ ป่าแห่งหน่ึงแบง่ เป็นป่าเหนือป่าใต้ มีลาธารใสเย็นไหลผ่าน และมีฝูงลิงอาศัยเล่นน้าอย่างสาราญ ลิงมักจะไปท้าทายให้สัตว์ต่าง ๆ ในป่ามาแข่งพายเรือกับพวกตน จนสัตว์ป่าพากันระอา เม่ือสิงโตรู้ข่าวจึง รับคาท้าของลิง ได้รวบรวมสัตว์ป่าเหนือฝึกฝนพายเรือโดยมีช้างอยู่ท้าย ควายอยู่หน้าและตรงกลางคือหมู ป่า แต่ทางฝ่ายลิงนั้นกับคิดว่าเป็นเรื่องน่าขันที่พวกสัตว์ซ้อมพายเรือกัน ในขณะที่พวกลิงไม่ฝึกซ้อม วันๆ เอาแต่ทะเลาะกนั เมื่อเวลาแข่งขันมาถึง สัตวป์ ่าทางเหนือสามัคคพี ายเรือพร้อมเพรียงกันเปน็ จังหวะ ส่วนลิง นน้ั ขาดความพร้อมเพรยี ง จนเรือคว่าลม้ เหลวสรา้ งความอับอายเพราะไม่สามัคคกี ัน คุณธรรม จรยิ ธรรมที่ไดร้ บั คือ ความสามัคคี ข้อคิด ความสามัคคีทาให้ประสบผลสาเร็จ
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนำผู้เรียน ลกู เสือ และเนตรนำรี หลักสูตรลกู เสอื เอก ชน้ั ประถมศกึ ษำปีท่ี ๖ โรงเรียนบ้ำนปำยอ หนว่ ยที่ ๒ สำระกำรเรียนรู้ กำรบริกำร เวลำ ๒ ช่วั โมง แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๕ เรอ่ื ง กำรช่วยฟืน้ คืนชพี (CPR) เวลำ ๑ ชัว่ โมง ๑. สำระสำคัญ การชว่ ยฟน้ื คืนชีพ (CPR : Cardiopulmonary resuscitation) หรือ การกชู้ ีวิต หรอื การกู้ชีพ หมายถงึ การปฏบิ ัตกิ ารเพื่อชว่ ยฟนื้ การทางานของระบบไหลเวียนเลือด ทีห่ ยดุ ทางานอยา่ งกระทนั หนั เพื่อให้หัวใจ กลับมาเต้นเองไดต้ ามปกติ โดยไมเ่ กดิ ความพิการของสมอง ๒. สำระกำรเรยี นรู้ การช่วยฟื้นคนื ชีพ (CPR : Cardiopulmonary resuscitation) ปฏบิ ตั กิ ารเพ่อื ช่วยฟน้ื การทางานของ ระบบไหลเวยี นเลอื ด ๓. จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้ ๓.๑ ข้ันการเกดิ ความรู้ รู้และเขา้ ใจบอกวธิ ีการช่วยฟน้ื คนื ชีพ ได้ ๓.๒ ขั้นการเกิดทักษะ ปฏิบัตทิ กั ษะการชว่ ยฟน้ื คนื ชีพได้ ๓.๓ ขั้นการเกิดเจตคติ ผเู้ รียนมีเจตคติทดี่ ีต่อการเรยี นลกู เสือ ๓.๔ ข้นั สมรรถนะ ผูเ้ รียนมีสมรรถนะท่ีดีตามหลักสตู ร ๓.๕ ข้ันคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ผู้เรยี นมีคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ในการเรยี นลกู เสือตามหลักสูตร ๔. กิจกรรมกำรเรียนรู้ (ใช้เวลำ ๑๐ นำท)ี ขน้ั ท่ี ๑ พิธเี ปิดประชมุ กอง (ใช้เวลำ ๕ นำท)ี ขนั้ ที่ ๒ เกมวิง่ อลวน (ใชเ้ วลำ ๓๐ นำที) ขน้ั ท่ี ๓ ข้ันการสอนตามเน้ือหา โดยเอกสารประกอบการเรยี นรู้ กิจกรรมลกู เสอื เอกโดยกระบวนการ Active Learning
ฐำนที่ ๑ เรอื่ ง การช่วยฟืน้ คืนชีพได้ (CPR) (ใชเ้ วลำ ๑๕ นำที) ขั้นอธิบาย ผู้กากบั อธบิ ายเรื่องการช่วยฟ้ืนคนื ชีพได้ (CPR)ใหล้ กู เสอื ฟังประโยชน/์ ประสทิ ธิภาพ,จุดมุ่งหมาย และวธิ ีการใช้อยา่ งปลอดภยั ข้ันการสาธิต ผกู้ ากบั แบ่งกลมุ่ เปน็ รปู วงกลม สาธติ การช่วยฟืน้ คืนชีพได้ (CPR)ใหล้ ูกเสอื ข้นั การฝึกปฏบิ ัติโดยกระบวนการ Active Learning ลูกเสอื รว่ มฝกึ การช่วยฟ้ืนคืนชีพได้ (CPR)โดยมีผู้กากับแนะนา ขั้นปฏบิ ัตไิ ด้ด้วยตนเองโดยกระบวนการ Active Learning ลูกเสือฝกึ การช่วยฟืน้ คืนชพี ได้ (CPR)ดว้ ยตนเอง ขั้นแนะนาผู้อ่ืนโดยกระบวนการ Active Learning ลูกเสือแนะนาการช่วยฟนื้ คืนชพี ได้ (CPR)ให้เพ่อื นในหมู่และหมู่อื่น ๆ โดยวธิ ีการเพ่อื นสอนเพื่อน เป็นรายบุคคล หรือเป็นกลมุ่ ฐำนท่ี ๒ เรื่อง กำรนวดหวั ใจและกำรชว่ ยกำรหำยใจ (ใช้เวลำ ๑๕ นำท)ี ขน้ั อธิบาย ผกู้ ากับอธบิ ายเรอื่ งการนวดหวั ใจและการชว่ ยการหายใจลูกเสอื ฟังประโยชน/์ ประสทิ ธิภาพ ,จดุ มงุ่ หมาย และวิธีการใช้อย่างปลอดภัย ข้ันการสาธติ ผกู้ ากับแบ่งกลมุ่ เปน็ รปู วงกลม สาธติ การนวดหัวใจและการช่วยการหายใจใหล้ กู เสือ ขั้นการฝกึ ปฏบิ ัติโดยกระบวนการ Active Learning ลูกเสอื ร่วมฝึกการนวดหัวใจและการช่วยการหายใจโดยมีผู้กากบั แนะนา ขน้ั ปฏบิ ัตไิ ด้ด้วยตนเองโดยกระบวนการ Active Learning ลูกเสอื ฝึกการนวดหวั ใจและการช่วยการหายใจดว้ ยตนเอง ขั้นแนะนาผู้อนื่ โดยกระบวนการ Active Learning ลูกเสอื แนะนาการนวดหัวใจและการช่วยการหายใจให้เพื่อนในหมู่และหมูอ่ น่ื ๆ โดยวิธกี ารเพือ่ น สอนเพอื่ นเปน็ รายบุคคล หรือเปน็ กลมุ่ ขั้นท่ี ๔ ผูก้ ากบั ใหส้ ญั ญาณหมดเวลา ลกู เสือรวม ผู้กากับเล่าเร่ืองส้ัน (ใช้เวลำ ๕ นำที) เรื่องหา้ พ่นี ้องกับของเล่นชิ้นใหม่ ทาแบบทดสอบปรนยั หลังเรียน ข้นั ท่ี ๕ ปดิ ประชมุ กอง ผกู้ ากบั ให้สัญญาณรวมกองเพื่อปดิ ประชุมกองตาม (ใช้เวลำ ๑๐ นำที) ข้ันตอนคอื นดั หมาย ตรวจเครอ่ื งแต่งกาย ธงลง และสั่งกองเลิก
๕. สือ่ กำรเรียน ๕.๑ เกมว่ิงอลวน ๕.๒ เอกสารประกอบการเรียนรู้กิจกรรมลกู เสอื เอก ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ หน่วยที่ ๒ เร่ือง การบริการ ๕.๓ เรื่องส้ัน เรื่องหา้ พี่น้องกับของเล่นช้นิ ใหม่ ๖. กำรประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ ๖.๑ แบบทดสอบปรนยั หลังเรยี น ๖.๒ ทดสอบปฏิบตั ิการชว่ ยฟื้นคืนชีพได้ (CPR) ๖.๓ สงั เกตพฤตกิ รรมด้านเจตคติ ๖.๔ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ นสมรรถนะ ๖.๔ สงั เกตคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์
๗. บนั ทึกผลหลังสอน/และข้อเสนอแนะ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ลงช่อื ........................................................ (นำยดนยำ กำเจร์) ครูโรงเรียนบำ้ นปำยอ ๘. ควำมคิดเห็นผู้บริหำร ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ลงชื่อ............................................................ (นำยมูฮมั มัด ลอเดง็ ) ผูอ้ ำนวยกำรโรงเรียนบ้ำนปำยอ วนั ท่.ี .........เดือน....................................พ.ศ..................
เกม “วง่ิ อลวน” วธิ เี ล่น ลูกเสือทกุ คนน่งั เป็นวงกลมมือกอดอก แต่ละคนห่างกนั ๑ ชว่ งแขน เลือกลกู เสือออกมาสองคน คน หนึ่งเป็นคนไล่ อีกคนหน่งึ เป็นคนหนี เรมิ่ การเล่น คนไล่ต้องวง่ิ จับคนหนีให้ได้ การหนีจะอยู่ภายในวงกลม หรือวิ่งหลบหลีกในระหว่างผู้ท่ีน่ังอยู่ เมื่อไม่ต้องการหนีให้วิ่งไปข้างหน้าผู้ที่น่ังอยู่รอบวงกลมคนใดคน หนึง่ ผทู้ ่ถี กู คนหนนี ั่งขา้ งหน้าจะกลายเปน็ ผไู้ ลท่ นั ที คนไลเ่ ดมิ จะกลายเป็นคนหนีตอ่ ไป กำรตัดสิน ลูกเสือที่เป็นหนีคนใดถูกจับได้ต้องออกจากการแข่งขัน เลือกลูกเสือคนใหม่ข้ึนมาแทนคนหนี ตอ่ ไป เร่ืองส้นั “ห้ำพ่ีนอ้ งกบั ของเลน่ ช้ินใหม่” พ่อจระเข้เป็นช่างไม้ฝีมือดี ตู้ โต๊ะ เก้าอ้ี พ่อจระเข้ทาเองทุกช้ินเพราะที่น่ีเป็นท้ังบ้านและร้านขาย ของ พ่อจระเข้ได้ชวนลูกๆมาทากระปกุ ออมสินเพอ่ื ใหล้ ูกๆไดห้ ยอดเงนิ เพ่ือเก็บไว้ใชใ้ นคราวจาเป็น ทุกคน ตา่ งตกลงกนั ว่าจะเก็บเงินหนึ่งเดือนแลว้ ซ้อื ของเล่นพร้อมกัน ทุกคนต่างได้ซ้อื ของเล่นกันหมดเว้นแตล่ ูกตัว ท่ี 4 ท่ีของเล่นได้ขายไปแล้ว จึงได้กลับมาบอกพ่อจระเข้ พ่อจระเข้ก็ได้หากิจกรรมมาให้ลูกๆทากันอย่าง สนุกสนาน คณุ ธรรม จรยิ ธรรมทไี่ ด้รบั คือ เร่ืองความประหยดั ข้อคิด อดออมเพื่อได้สิง่ ท่ตี ้องการ
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนำผูเ้ รียน ลกู เสือ และเนตรนำรี หลกั สูตรลูกเสอื เอก ชน้ั ประถมศกึ ษำปีท่ี ๖ โรงเรยี นบ้ำนปำยอ หน่วยที่ ๓ สำระกำรเรียนรู้ กำรผจญภยั เวลำ ๓ ช่วั โมง แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ที่ ๖ เร่ือง กำรใชแ้ ผนทีแ่ ละเขม็ ทิศ เวลำ ๑ ชวั่ โมง ๑. สำระสำคญั การศกึ ษาแผนทีแ่ ละเข็มทศิ ให้ชดั เจนสามารถนามาประยกุ ต์ในชีวิต สามารถนาไปใช้ประโยชน์ใน การจดั การเรยี นการสอนและเดนิ ทางไกลได้ ๒. สำระกำรเรยี นรู้ แผนท่แี บบตา่ ง ๆ การใชแ้ ผนที่ เข็มทศิ และการใชเ้ ข็มทิศ ๓. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้ ๓.๑ ขนั้ การเกิดความรู้ รู้และเขา้ ใจบอกลกั ษณะของแผนทีแ่ ละเขม็ ทศิ ได้ ๓.๒ ขั้นการเกิดทกั ษะ ปฏบิ ตั ิการใช้แผนที่และเข็มทิศได้ ๓.๓ ขั้นการเกดิ เจตคติ ผ้เู รยี นมีเจตคติทด่ี ีตอ่ การเรียนลกู เสือเรื่องแผนที่และเข็มทิศ ๓.๔ ขั้นสมรรถนะ ผเู้ รยี นมสี มรรถนะทด่ี ีตามหลกั สูตร ๓.๔ ขน้ั คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ผู้เรียนมคี ณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ในการเรียนลกู เสอื ตามหลกั สตู ร ๔. กจิ กรรมกำรเรียนรู้ (ใช้เวลำ ๑๐ นำท)ี ข้ันที่ ๑ พธิ เี ปิดประชุมกอง (ใช้เวลำ ๕ นำที) ขนั้ ท่ี ๒ แบบทดสอบปรนัยก่อนเรยี น เพลงลงิ กับเสอื (ใช้เวลำ ๓๐ นำท)ี ข้นั ที่ ๓ ข้ันการสอนตามเน้ือหา โดยเอกสารประกอบการเรียนรู้ กจิ กรรมลูกเสือเอกโดยกระบวนการ Active Learning
ฐำนที่ ๑ เร่ือง แผนท่ีแบบต่ำง ๆ และกำรใชแ้ ผนที่ (ใชเ้ วลำ ๑๕ นำที) ขน้ั อธบิ าย ผู้กากบั อธิบายเรื่องแผนทีแ่ บบต่าง ๆ และการใชแ้ ผนที่ให้ลกู เสือประโยชน์/ประสิทธภิ าพ, จดุ มุ่งหมาย และวธิ กี ารใช้อย่างปลอดภัย ขน้ั การสาธติ ผูก้ ากับแบ่งกลุ่มเปน็ รูปครง่ึ วงกลม สาธติ การใชแ้ ผนที่ใหล้ กู เสือ ข้นั การฝกึ ปฏบิ ตั ิโดยกระบวนการ Active Learning ลกู เสือร่วมฝกึ ปฏิบัตกิ ารใช้แผนท่ีโดยมผี กู้ ากับแนะนา ขั้นปฏบิ ตั ิไดด้ ว้ ยตนเองโดยกระบวนการ Active Learning ลูกเสอื ฝึกปฏบิ ัติการใช้แผนท่ีดว้ ยตนเอง ข้ันแนะนาผู้อน่ื โดยกระบวนการ Active Learning ลกู เสือแนะนาวธิ กี ารการใช้แผนที่ใหเ้ พื่อนในหมแู่ ละหมู่อื่น ๆ โดยวิธีการเพื่อนสอนเพ่ือนเป็น รายบคุ คล หรือเปน็ กลุม่ ฐำนที่ ๒ เรอื่ ง เขม็ ทิศและวิธีกำรใชเ้ ขม็ ทิศ (ใชเ้ วลำ ๑๕ นำที) ขน้ั อธิบาย ผู้กากบั อธบิ ายเรอ่ื งเขม็ ทศิ และวธิ กี ารใช้เขม็ ทิศใหล้ กู เสอื ประโยชน/์ ประสทิ ธิภาพ, จดุ มุ่งหมาย และวธิ กี ารใชอ้ ยา่ งปลอดภัย ขน้ั การสาธติ ผกู้ ากับสาธิตการใช้เข็มทิศใหล้ ูกเสอื ดู ขน้ั การฝึกปฏิบัตโิ ดยกระบวนการ Active Learning ลูกเสือรว่ มฝึกปฏบิ ตั กิ ารใช้เข็มทศิ โดยมีผู้กากับแนะนา ขน้ั ปฏิบตั ไิ ดด้ ้วยตนเองโดยกระบวนการ Active Learning ลูกเสือฝกึ ปฏิบตั ิการใช้เข็มทิศด้วยตนเอง ขั้นแนะนาผู้อ่นื โดยกระบวนการ Active Learning ลกู เสือแนะนาวธิ กี ารใชเ้ ขม็ ทิศใหเ้ พอื่ นในหมแู่ ละหมู่อื่น ๆ โดยวิธกี ารเพ่อื นสอนเพื่อนเป็น รายบคุ คล หรือเปน็ กลมุ่ ข้ันที่ ๔ ผู้กากบั ใหส้ ัญญาณหมดเวลา ลกู เสือรวม ผูก้ ากับเล่านทิ าน (ใชเ้ วลำ ๕ นำท)ี เรื่องอทุ ัยเทวี
ขน้ั ที่ ๕ ปิดประชุมกอง ผกู้ ากบั ให้สัญญาณรวมกองเพื่อปดิ ประชมุ กอง (ใชเ้ วลำ ๑๐ นำที) ตามขั้นตอนคือ นัดหมาย ตรวจเคร่ืองแตง่ กาย ธงลง และส่ังกองเลิก ๕. สือ่ กำรเรียน ๕.๑ เพลงลงิ กับเสอื ๕.๒ เอกสารประกอบการเรียนรกู้ ิจกรรมลกู เสือเอก ช้ันประถมศึกษาปที ี่ ๖ หน่วยท่ี ๓ เร่อื ง การผจญภัย ๕.๓ เรื่องสน้ั เร่ืองอทุ ัยเทวี ๖. กำรประเมนิ ผลกำรเรียนรู้ ๖.๑ แบบทดสอบปรนัยกอ่ นเรยี น ๖.๒ สงั เกตการปฏิบตั ทิ กั ษะ ๖.๓ สงั เกตพฤติกรรมด้านเจตคติ ๖.๔ สังเกตพฤติกรรมดา้ นสมรรถนะ ๖.๔ สังเกตคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์
๗. บันทกึ ผลหลังสอน/และข้อเสนอแนะ ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ลงช่อื ........................................................ (นำยดนยำ กำเจร)์ ครโู รงเรยี นบ้ำนปำยอ ๘. ควำมคิดเหน็ ผู้บริหำร ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ......................................................................................................................................................................... ลงชื่อ............................................................ (นำยมูฮัมมดั ลอเด็ง) ผ้อู ำนวยกำรโรงเรียนบ้ำนปำยอ วันท่.ี .........เดอื น....................................พ.ศ..................
เพลง “ลิงกับเสือ” ลงิ กจ็ ับมอื เสือ เสือกจ็ บั มือลงิ จบั กันไม่เบ่อื ลิงก็จบั มือเสอื เสอื ก็จับมอื ลงิ ลงิ กจ็ ับขาเสอื เสือก็จบั ขาลิง จบั กันไม่เบื่อ ลิงกจ็ ับขาเสือ เสอื ก็จับขาลิง เรอ่ื งส้ัน “อุทยั เทวี” ธิดาพญานาคหนีมาเท่ียวเมืองมนุษย์และพบรักกับรุกขเทวดา ต่อมาธิดาพญานาคตั้งครรภ์และ คลอดออกมาเป็นไข่ฟองหนึ่ง จงใช้สไบห่อไข่และพ่นพิษคุ้มครองไว้ก่อนกลับลงเมืองบาดาล บังเอิญมี คางคกมากินไข่และตายดว้ ยพิษพญานาค พอดีกบั ท่ีไขฟ่ ักเปน็ เด็กหญงิ ซึง่ คดิ วา่ คางคกเป็นแม่ จึงอาศัยอยูใ่ น ซากคางคก ตายายใจดีช่วยเลี้ยงดูจนโต ต้ังช่ือให้ว่าอุทัยเทวี และได้แต่งงานกับเจ้าชาย แต่เจ้าชายต้องไป แต่งงานกับเจ้าหญิงฉันทนาตามสัญญา เจ้าหญิงฉันทนาคิดกาจัดอุทัยเทวี แต่ในที่สุด อุทัยเทวีก็ปลอดภัย และไดค้ รองรกั กบั เจา้ ชายอย่างมีความสุข คุณธรรม จริยธรรมทีไ่ ดร้ บั คือ ความสะอาด ขอ้ คิด คนดีใจสะอาดบริสุทธิ์ ยอ่ มชนะทกุ สง่ิ
แผนกำรจดั กำรเรียนรู้ กิจกรรมพัฒนำผูเ้ รียน ลกู เสือ และเนตรนำรี หลักสูตรลูกเสอื เอก ชัน้ ประถมศกึ ษำปีท่ี ๖ โรงเรยี นบ้ำนปำยอ หน่วยท่ี ๓ สำระกำรเรียนรู้ กำรผจญภัย เวลำ ๓ ชั่วโมง แผนกำรจัดกำรเรียนรู้ที่ ๗ เร่อื ง กำรคำดคะเนและสะกดรอย เวลำ ๑ ชัว่ โมง ๑. สำระสำคญั การคาดคะเนและการสะกดรอยเปน็ ทักษะท่ีจาเปน็ ตอ้ งใช้ในการเดินทางไกล การเยือนสถานที่ ลกู เสอื ตอ้ งนาทักษะมาใชใ้ นการคาดคะเนระยะทางทเี่ ดิน การเดนิ ตามสญั ลักษณห์ รือเครอ่ื งหมายทก่ี าหนด หากลูกเสอื มที ักษะทีถ่ กู ต้องการคาดคะเนและการสะกดรอยจะช่วยให้ลกู เสือเดินทางไกลได้ถกู ตอ้ งและถึง เป้าหมายตามเวลาท่กี าหนด ๒. สำระกำรเรียนรู้ การคาดคะเนระยะทาง คาดคะเนความสูงด้วยวิธีตา่ ง ๆ และการสะกดรอย ๓. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้ ๓.๑ ขน้ั การเกิดความรู้ รู้และเข้าใจบอกวธิ ีการคาดคะเน บอกสัญลักษณ์ในการสะกดรอยได้ ๓.๒ ขั้นการเกิดทกั ษะ ปฏบิ ตั กิ ารคาดคะเนระยะทาง ความสูง บอกสญั ลักษณใ์ นการสะกดรอยได้ ๓.๓ ขน้ั การเกิดเจตคติ ผเู้ รยี นมีเจตคติทด่ี ีต่อการเรยี นลกู เสือ ๓.๔ ข้นั สมรรถนะ ผูเ้ รยี นมสี มรรถนะท่ีดีตามหลักสตู ร ๓.๕ ข้ันคณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ ผู้เรยี นมคี ุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ในการเรียนลกู เสือตามหลักสตู ร ๔. กิจกรรมกำรเรียนรู้ (ใชเ้ วลำ ๑๐ นำท)ี ขน้ั ที่ ๑ พธิ ีเปดิ ประชมุ กอง (ใชเ้ วลำ ๕ นำท)ี ขนั้ ท่ี ๒ เพลงตรงต่อเวลา (ใชเ้ วลำ ๓๐ นำท)ี ขั้นที่ ๓ ข้นั การสอนตามเนื้อหา โดยเอกสารประกอบการเรียนรู้ กจิ กรรมลูกเสือเอกโดยกระบวนการ Active Learning
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138