หลกั สตู รสถานศึกษาปฐมวัยโรงเรยี นอนบุ าลกระสัง พุทธศักราช 2565 ตามหลักสูตรการศึกษาปฐมวยั พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ สำนักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาบุรรี ัมย์ เขต ๒ สำนกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ ก หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนอนบุ าลกระสงั สพป.บุรรี มั ย์ เขต ๒
ประกาศโรงเรยี นอนุบาลกระสัง เรอื่ ง ให้ใชห้ ลักสูตรสถานศกึ ษาปฐมวยั พุทธศักราช 2565 ตามหลักสตู รการศึกษาปฐมวยั พทุ ธศกั ราช ๒๕๖๐ (ปรบั ปรุง พทุ ธศกั ราช 2565) หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลกระสัง ระดับปฐมวัย (ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2565) ปรับปรุงจากหลักสูตรสถานศึกษา ระดับปฐมวัย พุทธศักราช 2560 โดยบูรณาการสาระการเรียนรู้ตาม หลักสูตร มีจุดหมายให้ผู้เรียนมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคม และสติปัญญาที่เหมาะสมกับวยั ความสามารถและความแตกต่างระหว่างบคุ คล หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลกระสัง ระดับปฐมวยั (ฉบับปรับปรงุ พุทธศักราช 2565) ฉบับน้ี จัดทำขึ้นเพื่อให้สอดคล้องกับอัตลักษณ์ของโรงเรียนที่มีการเปลี่ยนแปลง รวมถึงสาระการเรียนรู้รายปี ท่ี เพ่ิมเติมเรื่องหลกั สูตรต้านทุจรติ ตามนโยบายของสำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน เป็นการเตรียม ความพร้อมที่จะเรียนรู้และสร้างรากฐานชีวิตให้พัฒนาเด็กปฐมวัยไปสู่ความเป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ เป็นคนดี มี วนิ ยั ภมู ใิ จชาตแิ ละมีความรับผิดชอบตอ่ ตนเอง ครอบครวั ชมุ ชน สงั คม และประเทศชาติ ตามเจตนารมณ์ของ รฐั ธรรมนญู แหง่ ราชอาณาจกั รไทย พุทธศกั ราช ๒๕๖๐ มาตรา๕๔ ทั้งนี้ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลกระสัง ระดับปฐมวัย(ฉบับปรับปรุงพุทธศักราช 2565) ได้รบั ความเหน็ ชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษาขัน้ พ้ืนฐานโรงเรียนอนุบาลกระสัง เมื่อวันที่ 17 พฤษภาคม ๒๕๖๕ จงึ ประกาศใหใ้ ชห้ ลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลกระสัง ระดบั ปฐมวยั ทง้ั น้ี ต้ังแตป่ ีการศึกษา ๒๕๖๕ เปน็ ต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๑9 พฤษภาคม พ.ศ.๒๕๖๕ ( นายอภิชาติ เรืองจินดาวลัย ) ประธานคณะกรรมการสถานศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน ( นายสมชาย ไกรศทุ ธกิ านต์ ) ผู้อำนวยการโรงเรียนอนบุ าลกระสัง หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒
ข คำนำ กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศให้สถานศึกษาหรือสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยทุกสังกัด ใช้หลักสูตร การศึกษาปฐมวัย ตามคำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สพฐ. ๑๒๒๓/๒๕๖๐ ลงวันที่ ๓ สิงหาคม ๒๕๖๐ เร่ือง ให้ใชห้ ลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พทุ ธศักราช ๒๕๖๐ โดยนำหลักสูตรนีไ้ ปใช้ และปรับปรงุ ใหเ้ หมาะสมกับ เด็กและสภาพทอ้ งถ่นิ โรงเรียนอนุบาลกระสัง จึงได้จัดทำหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖5 ตามหลักสูตร การศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ โดยใช้หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ เป็นแกนหลัก เพื่อกำหนดการจัดทำโครงสร้างและสาระหลักสูตรสถานศึกษาให้สอดคล้องกับบริบทของสถานศึกษา และ สอดคล้องกับสภาพการเปลี่ยนแปลงในปัจจุบัน ซึ่งในการจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาครั้งนี้ เป็นการสร้าง หลกั สตู รทีอ่ าศยั การมสี ว่ นรว่ มของนักเรียน คณะครู ผูป้ กครองและชุมชน ทง้ั นีเ้ พ่ือใหส้ ามารถขับเคลื่อนไปสู่ การจัดการประสบการณ์ ที่ส่งผลให้ผู้เรียนมีคณุ ภาพครบทกุ ด้าน เพื่อสร้างรากฐานคุณภาพชีวิตให้เด็กปฐมวยั พฒั นาไปส่คู วามเป็นมนษุ ยท์ ่ีสมบูรณ์ เกิดคุณคา่ ตอ่ ตนเอง ครอบครัว ชมุ ชน สงั คมและประเทศชาตสิ บื ไป ขอขอบคุณ ผมู้ ีสว่ นเกย่ี วขอ้ งทกุ ภาคส่วนทใ่ี ห้ความร่วมมอื และมสี ว่ นร่วมในการพัฒนาหลักสูตรฉบับ นีใ้ หม้ ีความสมบรู ณแ์ ละเหมาะสมตามบรบิ ทต่อการจัดการศกึ ษาในโรงเรียนอนบุ าลกระสงั ตั้งแต่ ภาคเรยี นท่ี ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖5 เป็นตน้ ไป คณะผจู้ ดั ทำ โรงเรยี นอนบุ าลกระสงั หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนุบาลกระสงั สพป.บุรรี ัมย์ เขต ๒
ค สารบัญ เรอ่ื ง หนา้ ประกาศโรงเรียนอนบุ าลกระสงั ............................................................................................................ก คำนำ....................................................................................................................... ..............................ข สารบญั ..................................................................................................................... .............................ค สารบญั (ตอ่ ) ..................................................................................................................... .....................ง ความนำ..................................................................................................................... ............................1 ปรัชญาการศึกษาปฐมวัย....................................................................................................................... 2 หลักการ............................................................................................................................. ....................2 วสิ ยั ทัศน์ ...............................................................................................................................................3 พันธกจิ ............................................................................................................................. ......................3 เปา้ หมาย................................................................................................................................................3 จดุ หมาย............................................................................................................................. .....................4 พัฒนาการเด็ก............................................................................................................................. ............4 มาตรฐานคุณลักษณะท่ีพ่งึ ประสงค์.........................................................................................................5 สภาพท่ีพึ่งประสงค.์ .................................................................................................................................8 ระยะเวลาเรยี น........................................................................................................................................8 โครงสร้างของหลักสตู รการศึกษาปฐมวยั .................................................................................................9 การวเิ คราะห์สภาพที่พ่ึงประสงค์..............................................................................................................10 ตารางวิเคราะห์สาระการเรยี นรูร้ ายปี ชว่ งอายุ ๓ – ๔ ปี........................................................................21 ตารางวิเคราะห์สาระการเรียนรรู้ ายปี ช่วงอายุ ๔ – ๕ ปี.......................................................................๓๔ ตารางวิเคราะห์สาระการเรียนรู้รายปี ช่วงอายุ ๕ – ๖ ปี......................................................................๔5 สาระการเรยี นรู้........................................................................................................................................56 สาระทีค่ วรเรยี นรู้............................................................................................................................. ........๖1 การจัดประสบการณ์........................................................................................................ .........................๖2 การจดั สภาพแวดลอ้ ม สอ่ื และแหล่งเรียนรู้...............................................................................................64 รูปแบบการจัดกิจกรรมประจำวนั .............................................................................................................67 ตารางกิจกรรมประจำวัน............................................................................................ ..............................67 แนวทางการจดั กจิ กรรมประจำวนั ............................................................................................................68 แนวทางการจดั กจิ กรรมเสริมประสบการณ์..............................................................................................69 การสรา้ งบรรยากาศการเรยี นรู้.................................................................................................................71 การประเมินการใช้ส่อื ............................................................................................................................. ...71 หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนุบาลกระสัง สพป.บุรรี มั ย์ เขต ๒
ง สารบัญ (ต่อ) เรือ่ ง หนา้ การพัฒนาสื่อ..................................................................................................................... ..................79 แหลง่ การเรียนรู้...................................................................................................................................๘0 การประเมินพัฒนาการ ........................................................................................................................๘0 ประเภทของการประเมินพัฒนาการ.................................................................................... ..................๘1 ขอบเขตของการประเมินพัฒนาการ.................................................................................... ..................๘4 การรายงานผลการประเมินพัฒนาการ.................................................................................................. ๙๑ ภารกิจของผู้สอนในการประเมินพัฒนาการ..........................................................................................๙3 การบรหิ ารจดั การหลกั สตู ร...................................................................................................................96 การจดั การศึกษาระดับปฐมวยั ( เดก็ อายุ ๓ – ๖ ปี )สำหรบั กลุ่มเปา้ หมายเฉพาะ.............................99 การสรา้ งรอยเชือ่ มต่อของการศกึ ษาระดับปฐมวัยกับระดับประถมศึกษาปีท่ี ๑....................................๑๐0 การกำกบั ตดิ ตาม ประเมิน และรายงาน..............................................................................................๑๐2 ปฏิทินการจดั ประสบการณ์...................................................................................................................๑๐3 ภาคผนวก ............................................................................................................................................๑05 หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนุบาลกระสงั สพป.บรุ รี มั ย์ เขต ๒
๑ ความนำ สภาพการเปลยี่ นแปลงด้านเศรษฐกจิ สังคม และความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยสี ารสนเทศประกอบกับรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจกั รไทย พุทธศักราช ๒๕๖๐ รวมทั้งกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ ๒๐ ปี (พ.ศ.2560-2579) แผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ (พ.ศ.2560-2564) แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ.2552-2561) แผนยุทธศาสตร์ชาติด้านเด็กปฐมวัย (พ.ศ.2560-2564)นำไปสู่การกำหนดทักษะสำคัญสำหรับเด็กในศตวรรษที่ ๒๑ ที่มีความสำคญั ในการกำหนดเปา้ หมายในการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มีความสอดคลอ้ งและทันต่อการเปล่ยี นแปลงทุกดา้ น กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายให้มีการพัฒนาการศึกษาปฐมวัยอย่างจริงจังและต่อเนื่องโดยได้แต่งตั้ง คณะทำงานพิจารณาหลักสูตรปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ เป็นหลักสูตรสถานศึกษา สถาบันพัฒนาเด็กปฐมวัยและ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำไปใช้เป็นกรอบและทิศทางในการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพและได้ มาตรฐานตามจุดหมายหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช ๒๕๖๐ ที่กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้มี พัฒนาการด้านรา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สังคมและสติปัญญา ครอบครัว ชมุ ชน สังคม และประเทศชาติในอนาคต โรงเรียนอนุบาลกระสังเป็นหน่วยปฏิบัติ จึงจัดทำหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัยฉบับนี้ขึ้น เพื่อจัดประสบการณ์ ให้กบั เดก็ ๓-๖ ปี ใหม้ คี ุณภาพตามความม่งุ หมายของกระทรวงศกึ ษาธกิ าร (นายอภชิ าต เรอื งจนิ ดาวลยั ) ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาข้นั พนื้ ฐาน โรงเรยี นอนบุ าลกระสัง หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นอนุบาลกระสัง สพป.บรุ รี มั ย์ เขต ๒
๒ ปรชั ญาการศึกษาปฐมวยั โรงเรยี นอนุบาลกระสัง โรงเรยี นอนุบาลกระสัง มงุ่ พฒั นาเด็กปฐมวยั ตง้ั แต่อายุ ๓ – ๖ ปี บนพ้นื ฐานการอบรมเล้ยี งดูและการส่งเสริม กระบวนการเรยี นรู้ท่ีสนองต่อธรรมชาตแิ ละพัฒนาการของเด็กแตล่ ะคน เต็มตามศกั ยภาพ เดก็ ได้เรียนรกู้ ิจกรรมผ่านการ เล่นโดยลงมอื ปฏิบตั จิ ริงและจัดกิจกรรมการเรยี นรทู้ ี่ยดึ ผู้เรียนเปน็ สำคัญ ภายใต้บรบิ ทสังคมและท้องถ่นิ ที่เดก็ อาศัยอยู่ ดว้ ยความรัก ความเอ้ืออาทร และความเข้าใจของทุกคนเพอ่ื สรา้ งรากฐานคุณภาพชวี ติ ให้เด็กพฒั นาไปสู่ความเป็นมนุษย์ ทสี่ มบรู ณ์ เกดิ คุณคา่ ตอ่ ตนเอง ครอบครวั สงั คมและประเทศชาติ หลกั การ เด็กทุกคนมีสิทธิท์ ี่จะได้รับการอบรมเลีย้ งดูและสง่ เสริมพัฒนาการตามอนุสัญญาว่าด้วยสิทธิเด็ก ตลอดจน ได้รับการจัดประสบการณ์การเรียนรู้อย่างเหมาะสมด้วยปฏิสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเด็กกับพ่อแม่ เด็กกับผู้สอน เด็กกับผู้ เลี้ยงดูหรือผู้ที่เกี่ยวข้องในการอบรมเลี้ยงดู การพัฒนาและให้การศึกษาแก่เด็กปฐมวัย เพื่อให้เด็กมีโอกาสพัฒนาตนเอง ตามลำดบั ขัน้ ของพัฒนาการทกุ ด้าน อย่างเปน็ องค์รวม มีคุณภาพ และเต็มตามศักยภาพโดยมหี ลกั การดังนี้ ๑. สง่ เสริมกระบวนการเรียนรูแ้ ละพัฒนาการท่ีครอบคลุมเดก็ ปฐมวัยทกุ คน ๒. ยึดหลักการอบรมเลีย้ งดูและใหก้ ารศกึ ษาทเี่ น้นเด็กเปน็ สำคัญ โดยคำนงึ ถึงความแตกตา่ งระหว่างบคุ คลและ วิถีชวี ติ ของเดก็ ตามบรบิ ทของชุมชน สงั คม และวัฒนธรรมไทย ๓. ยดึ พฒั นาการและการพฒั นาเดก็ โดยองค์รวมผา่ นการเล่นอยา่ งมีความหมายและ มกี ิจกรรมที่ หลากหลาย ไดล้ งมือกระทำในสภาพแวดล้อมทเ่ี อ้ือตอ่ การเรยี นรู้ เหมาะสมกับวัย และมีการพักผอ่ นท่เี พยี งพอ ๔. จัดประสบการณก์ ารเรียนรู้ให้เด็กมีทักษะชีวติ และสามารถปฏิบัตติ นตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง เป็นคนดี มวี นิ ัย และมีความสุข ๕. สรา้ งความรู้ ความเขา้ ใจและประสานความร่วมมือในการพัฒนาเดก็ ระหว่างสถานศึกษากับพ่อแม่ ครอบครัว ชมุ ชนและทกุ ฝา่ ยทเ่ี กย่ี วข้องกบั การพฒั นาเด็กปฐมวยั หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนอนุบาลกระสัง สพป.บรุ ีรัมย์ เขต ๒
๓ วิสยั ทศั นก์ ารศึกษาระดับปฐมวัย โรงเรียนอนบุ าลกระสัง ภายในปี ๒๕๖๓ โรงเรียนอนบุ าลกระสัง มุ่งพฒั นาเด็กอายุ ๓ – ๖ ปี ทกุ คนให้ไดร้ ับการพัฒนาด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สงั คม สตปิ ัญญา เหมาะสมกบั วัย เน้นใหเ้ ด็กเรยี นรผู้ ่านการเล่น และลงมือปฏบิ ัติ น้อมนำหลักปรชั ญาของ เศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้อย่างเหมาะสมกบั วัยและบริบทของตน ผู้ปกครอง ชมุ ชนมีส่วนร่วมในการพฒั นาเด็กใหม้ ี พฒั นาการรอบดา้ นอยา่ งสมดุล เตม็ ตามศักยภาพ มเี จตคติทีด่ ตี ่อท้องถิ่น สนใจ ใฝร่ ู้ คู่คุณธรรมและเรียนรู้อยา่ งมี ความสุข สู่ความเป็นมนุษย์ท่ีสมบรู ณ์ พนั ธกจิ ๑. พฒั นาเด็กปฐมวัยให้มพี ฒั นาการท้งั ๔ ด้าน อยา่ งสมดุล และเต็มศักยภาพ มีเจตคตทิ ่ีดี ต่อท้องถิน่ สนใจใฝร่ ู้ และเรียนรู้อย่างมีความสขุ ๒. พฒั นาครแู ละบุคลากรด้านการจดั ประสบการณ์การเรยี นรู้ผ่านการเลน่ และการลงมือ ปฏบิ ตั ิทหี่ ลากหลาย สอดคล้องกับพัฒนาการเด็ก ๓. น้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งมาใชอ้ ยา่ งเหมาะสมกบั วยั และบริบท ของสถานศึกษา ๔. นำส่อื เทคโนโลยี และภูปัญญาท้องถ่ิน มาพฒั นาเดก็ ปฐมวัย ๕. ให้ผปู้ กครองและชมุ ชนมสี ว่ นรว่ มพฒั นาเดก็ ปฐมวัย เปา้ หมาย ๑. เดก็ ปฐมวยั ทุกคน มพี ัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ-์ จติ ใจ สงั คม อยา่ งสมดลุ และ และเตม็ ตามศักยภาพ มีเจตคติทีด่ ีตอ่ ทอ้ งถ่นิ สนใจใฝ่รู้ และเรียนร้อู ย่างมีความสุข ๒. ครมู ีความรู้ ความเขา้ ใจ และสามารถจัดประสบการณ์การเรียนรู้ผา่ นการเลน่ และลงมือปฏิบตั ิสอดคล้องกับพัฒนาการเด็ก ๓. ครนู ้อมนำหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งมาใช้ในการจัดประสบการณ์ปฐมวัยอย่าง เหมาะสมกับวยั และบรบิ ทของสถานศึกษา ๔. สถานศึกษามสี ภาพแวดลอ้ ม ส่อื เทคโนโลยี และแหลง่ เรียนร้ทู ่ีเหมาะกับพฒั นาการเด็ก ๕. มเี ครือข่ายพ่อแม่ ผปู้ กครอง และชมุ ชนให้ความรว่ มมือในการพฒั นาคณุ ภาพเด็กปฐมวัย ด้วยวิธีการทีห่ ลากหลายและมคี วามต่อเนื่องในทิศทางเดยี วกบั สถานศกึ ษา อัตลกั ษณ์ ซอ่ื สัตย์ มวี นิ ยั ใฝ่เรยี นรู้ เอกลักษณ์ เสริมสร้างวนิ ยั ใฝ่คณุ ธรรม นอ้ มนำศาสตร์พระราชา หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนอนบุ าลกระสัง สพป.บรุ ีรัมย์ เขต ๒
๔ จุดหมาย หลกั สตู รการศึกษาปฐมวยั มุ่งใหเ้ ดก็ มีพัฒนาการตามวยั เต็มตามศักยภาพ และเม่ือมีความพรอ้ มในการเรียนรู้ ต่อไป จงึ กำหนดจดุ หมายเพ่ือใหเ้ กดิ กับเดก็ เม่ือเด็กจบการศึกษาระดับปฐมวยั ดงั น้ี ๑. มรี า่ งกายเจริญเตบิ โตตามวัย แขง็ แรง และมีสขุ นิสยั ที่ดี ๒. มสี ขุ ภาพจิตดี มสี ุนทรยี ภาพ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมและจิตใจที่ดีงาม ๓. มที ักษะชวี ติ และปฏบิ ัติตนตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียง มีวนิ ัย และอย่รู ่วมกับผู้อน่ื ได้อยา่ งมี ความสุขมที ักษะการคิด การใชภ้ าษาสือ่ สาร และการแสวงหาความรูไ้ ด้เหมาะสม พัฒนาการเดก็ ปฐมวยั พัฒนาการของเด็กปฐมวัยด้านร่างกาย อารมณ์ จิตใจ สังคมและสติปัญญาแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลง ท่ี เกดิ ขึน้ ตามวุฒิภาวะและสภาพแวดล้อมทเ่ี ด็กไดร้ บั พัฒนาการเด็กในแตล่ ะชว่ งวยั อาจเร็วหรือช้าแตกต่างกันไปในเด็ก แต่ ละคน มรี ายละเอียด ดงั นี้ ๑. พัฒนาการด้านรา่ งกาย เป็นพัฒนาการทเ่ี ปน็ ผลมาจากการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขน้ึ ของร่างกายในด้าน โครงสรา้ งของร่างกาย ดา้ นความสามารถในการเคล่ือนไหว และดา้ นการมีสขุ ภาพอนามัยท่ดี ี รวมถึงการใช้สัมผัสรับรู้ การใชต้ าและมือประสานกันในการทำกจิ กรรมต่างๆ เดก็ อายุ ๓-๕ ปี มีการเจริญเตบิ โตรวดเร็วโดยเฉพาะในเร่ืองนำ้ หนัก และส่วนสงู กลา้ มเนอ้ื ใหญ่จะมคี วามก้าวหนา้ มากกวา่ กล้ามเนอื้ เล็ก สามารถบังคบั การเคลื่อนไหวของรา่ งกายไดด้ ี มี ความคลอ่ งแคลว่ วอ่ งไวในการเดนิ สามารถวิง่ กระโดด ควบคมุ และบังคับการทรงตัวได้ดี จึงชอบเคล่ือนไหว ไมห่ ยุดน่ิง พร้อมทจ่ี ะออกกำลังและเคลื่อนไหวในลกั ษณะตา่ ง ๆ ส่วนกล้ามเนอ้ื เล็กและความสมั พันธ์ระหวา่ งตาและมือยงั ไมส่ มบูรณ์ การสมั ผัสหรอื การใช้มอื มีความละเอยี ดขึน้ ใชม้ ือหยบิ จับสิ่งของต่าง ๆ ไดม้ ากข้นึ ถ้าเด็กไมเ่ ครียดหรือกงั วลจะสามารถทำ กจิ กรรมท่ีพัฒนากลา้ มเนื้อเลก็ ไดด้ ีและนานข้ึน ๒. พฒั นาการด้านอารมณ์ จิตใจ เป็นความสามารถในการรู้สกึ และแสดงความรู้สกึ ของเด็ก เช่นพอใจ ไม่พอใจ รัก ชอบ สนใจ เกลียด ฯลฯ โดยท่ีเด็กรู้จกั ควบคุมการแสดงออกอย่างเหมาะสมกบั วัยและสถานการณ์ เผชิญกับ เหตุการณ์ต่าง ๆ ตลอดจนการสรา้ งความรสู้ ึกที่ดีและการนับถือตนเองเด็กอายุ ๓-๕ ปจี ะแสดงความรู้สึกอย่างเต็มท่ี ไม่ ปดิ บงั ช่อนเร้น เชน่ ดใี จ เสยี ใจ โกรธแตจ่ ะเกดิ เพียงชวั่ ครู่แลว้ หายไป การทเี่ ด็กเปลีย่ นแปลงอารมณ์ง่ายเพราะมชี ่วง ความสนใจระยะสั้น เม่อื มสี ิ่งใดน่าสนใจก็จะเปลีย่ นความสนใจไปตามสิง่ นนั้ เด็กวนั น้ีมกั หวาดกลัวสงิ่ ต่างๆ เช่น ความมืด หรือสัตว์ตา่ งๆ ความกลวั ของเด็กเกดิ จากจินตนาการ ซงึ่ เดก็ วา่ เปน็ เรอื่ งจรงิ สำหรับตน เพราะยังสับสนระหว่างเรื่องปรุง แต่งและเรื่องจริง ความสามารถแสดงอารมณ์ไดส้ อดคล้องกบั สถานการณ์อย่างเหมาะสมกบั วัย รวมถงึ ช่ืนชม ความสามารถและผลงานของตนเองและผอู้ ่ืน เพราะยึดตัวเองเปน็ ศูนย์กลางน้อยลงและต้องการความสนใจจากผู้อ่ืน มาก ขน้ึ ๓. พฒั นาการดา้ นสงั คม เป็นความสามารถในการสรา้ งความสัมพนั ธ์ทางสงั คมครั้งแรกในครอบครัว โดยมี ปฏสิ มั พันธก์ บั พ่อแมแ่ ละพ่นี อ้ ง เมื่อโตขนึ้ ต้องไปสถานศึกษา เดก็ เร่ิมเรยี นร้กู ารติดต่อและการมีสัมพันธ์กบั บุคคลนอก ครอบครัว โดยเฉพาะอย่างย่ิงเด็กในวยั เดียวกัน เดก็ ไดเ้ รยี นรกู้ ารปรบั ตัวให้เข้าสงั คมกับเด็กอืน่ พร้อมๆกับรจู้ ักรว่ มมอื ใน การเลน่ กบั กลุ่มเพื่อน เจตคติและพฤตกิ รรมทางสงั คมของเดก็ จะกอ่ ขึ้นในวยั นแ้ี ละจะฝังแนน่ ยากทีจ่ ะเปลี่ยนแปลงในวัย หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนอนบุ าลกระสัง สพป.บุรรี มั ย์ เขต ๒
๕ ตอ่ มา ดังนนั้ จึงอาจกลา่ วไดว้ ่าพฤติกรรมทางสงั คมของเด็กวัยนี้ มี ๒ ลักษณะ คือลักษณะแรกนน้ั เป็นความสมั พนั ธก์ ับ ผ้ใู หญแ่ ละลักษณะท่สี องเป็นความสมั พนั ธ์กับเดก็ ในวัยใกล้เคียงกัน ๔. ดา้ นสติปญั ญา ความคิดของเด็กวยั นมี้ ลี ักษณะยดึ ตนเองเปน็ ศนู ย์กลาง ยงั ไมส่ ามารถเข้าใจความรสู้ ึกของคน อ่นื เดก็ มีความคิดเพยี งแตว่ า่ ทกุ คนมองสิ่งต่างๆรอบตวั และรู้สึกต่อสง่ิ ตา่ งๆ เหมือนตนเอง ความคิดของตนเองเปน็ ใหญ่ ท่ีสุด เม่อื อายุ ๔-๕ ปี เด็กสามารถโต้ตอบหรือมปี ฏสิ มั พนั ธ์กบั วัตถุส่งิ ของที่อยรู่ อบตวั ได้ สามารถจำสงิ่ ตา่ งๆ ทีไ่ ด้กระทำ ซ้ำกันบอ่ ยๆ ได้ดี เรียนรสู้ ง่ิ ต่างๆ ได้ดีข้นึ แต่ยังอาศยั การรับรเู้ ปน็ ส่วนใหญ่ แกป้ ัญหาการลองผดิ ลองถูกจากการรับรู้ มากกวา่ การใชเ้ หตุผลความคิดรวบยอดเก่ยี วกบั สง่ิ ต่างๆ ท่ีอยรู่ อบตวั พฒั นาอยา่ งรวดเร็วตามอายุที่เพิ่มขึ้น ในสว่ นของ พฒั นาการทางภาษาเด็กวัยนีเ้ ปน็ ระยะเวลาของการพฒั นาภาษาอย่างรวดเรว็ โดยมีการฝกึ ฝนการใช้ภาษาจากการทำ กิจกรรมต่าง ๆ ในรูปของการพดู คุย การตอบคำถาม การเลา่ เรือ่ ง การเล่านิทานและการทำกจิ กรรมต่าง ๆ ทเ่ี กยี่ วข้องกบั การใชภ้ าษาในสถานศึกษา เด็กปฐมวัยสามารถ ใชภ้ าษาแทนความคิดของตนและใช้ภาษาในการตดิ ต่อสัมพันธก์ บั คนอ่ืน ได้คำพดู ของเด็กวยั น้ี อาจจะทำให้ผู้ใหญ่บางคนเข้าใจวา่ เด็กร้มู ากแล้วแตท่ จ่ี รงิ เด็กยงั ไม่เข้าใจความหมายของคำและ เรือ่ งราวลึกซึง้ นัก มาตรฐานคณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ หลักสูตรการศึกษาปฐมวัยกำหนดมาตรฐานคุณลักษณะที่พึงประสงคจ์ ำนวน ๑๒ มาตรฐาน ประกอบด้วย มาตรฐานคณุ ลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ ตัวบง่ ชี้ และสภาพท่พี ึงประสงค์ ดงั นี้ ๑.พัฒนาการดา้ นร่างกาย ประกอบด้วย ๒ มาตรฐานคือ มาตรฐานที่ ๑ รา่ งกายเจรญิ เตบิ โตตามวัยและมีสขุ นิสยั ทีด่ ี ตัวบง่ ชี้ท่ี ๑.๑ นำ้ หนักและสว่ นสูงตามเกณฑ์ ตัวบง่ ชท้ี ่ี ๑.๒ มีสขุ ภาพอนามัย สขุ นสิ ัยทดี่ ี ตวั บง่ ชี้ที่ ๑.๓ รกั ษาความปลอดภัยของตนเองและผู้อน่ื มาตรฐานที่ ๒ กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเน้ือเล็กแขง็ แรงใชไ้ ด้อยา่ งคล่องแคลว่ และประสาน สัมพันธก์ ัน ตัวบง่ ชี้ท่ี ๒.๑ เคล่อื นไหวร่างกายอยา่ งคลอ่ งแคลว่ ประสานสัมพันธแ์ ละทรงตัวได้ ตัวบง่ ช้ที ี่ ๒.๒ ใช้มือ-ตาประสานสมั พนั ธ์กัน ๒.พฒั นาการด้านอารมณ์ จิตใจ ประกอบด้วย ๓ มาตรฐานคือ มาตรฐานที่ ๓ มสี ุขภาพจิตดีและมคี วามสุข ตัวบ่งชี้ท่ี ๓.๑ แสดงออกทางอารมณ์ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ตวั บง่ ชีท้ ี่ ๓.๒ มคี วามรู้สกึ ท่ดี ีตอ่ ตนเองและผู้อน่ื มาตรฐานที่ ๔ ชน่ื ชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการเคล่อื นไหว ตัวบง่ ชท้ี ่ี ๔.๑ สนใจ มีความสขุ และแสดงออกผา่ นงานศิลปะ ดนตรี และการเคลอื่ นไหว มาตรฐานท่ี ๕ มีคณุ ธรรม จริยธรรม และมจี ติ ใจทดี่ ีงาม ตัวบ่งชที้ ี่ ๕.๑ ซ่อื สตั ยส์ จุ ริต ตวั บ่งช้ีท่ี ๕.๒ มีความเมตตากรณุ า มีนำ้ ใจและช่วยเหลอื แบ่งปนั ตวั บง่ ชท้ี ่ี ๕.๓ มีความเห็นอกเหน็ ใจผู้อน่ื ตวั บ่งชที้ ่ี ๕.๕ มคี วามรับผิดชอบ หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สพป.บรุ รี ัมย์ เขต ๒
๖ ๓.พัฒนาการดา้ นสังคม ประกอบด้วย ๓ มาตรฐานคอื มาตรฐานท่ี ๖ มีทกั ษะชีวิตและปฏิบัติตนตามหลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ตัวบ่งชท้ี ่ี ๖.๑ช่วยเหลือตนเองในการปฏิบตั กิ ิจวตั รประจำวัน ตวั บ่งชี้ที่ ๖.๒ มีวินัยในตนเอง ตัวบ่งชท้ี ี่ ๖.๓ ประหยัดและพอเพียง มาตรฐานที่ ๗ รักธรรมชาติ ส่งิ แวดล้อม วฒั นธรรม และความเป็นไทย ตวั บง่ ชท้ี ่ี ๗.๑ ดแู ลรักษาธรรมชาตแิ ละสงิ่ แวดลอ้ ม ตวั บง่ ชี้ท่ี ๗.๒ มมี ารยาทตามวฒั นธรรมไทย และรักความเป็นไทย มาตรฐานท่ี ๘ อยู่ร่วมกับผู้อื่นไดอ้ ยา่ งมีความสุขและปฏิบัติตนเป็นสมาชิกท่ีดีของสังคมใน ระบอบประชาธปิ ไตย อนั มีพระมหากษตั รยิ ์ทรงเป็นประมุข ตวั บ่งชี้ที่ ๘.๑ ยอมรบั ความเหมือนและความแตกต่างระหว่างบุคคล ตวั บ่งชท้ี ี่ ๘.๒ มปี ฏสิ มั พันธท์ ีด่ กี บั ผู้อนื่ ตัวบง่ ชท้ี ี่ ๘.๓ ปฏิบตั ติ นเบือ้ งต้นในการเป็นสมาชิกทดี่ ขี องสงั คม ๔.พฒั นาการด้านสติปัญญา ประกอบด้วย ๔ มาตรฐานคือ มาตรฐานที่ ๙ ใช้ภาษาสื่อสารไดเ้ หมาะสมกบั วยั ตวั บ่งช้ที ี่ ๙.๑ สนทนาโต้ตอบและเลา่ เรอื่ งใหผ้ อู้ น่ื เข้าใจ ตัวบง่ ชี้ที่ ๙.๒ อ่าน เขียนภาพและสัญลกั ษณไ์ ด้ มาตรฐานท่ี ๑๐ มีความสามารถในการคิดท่เี ป็นพน้ื ฐานการเรยี นรู้ ตัวบง่ ชี้ท่ี ๑๐.๑ มีความสามารถในการคิดรวบยอด ตัวบ่งช้ีท่ี ๑๐.๒ มีความสามารถในการคิดเชงิ เหตุผล ตัวบง่ ชที้ ่ี ๑๐.๓ มคี วามสามารถในการคิดแก้ปัญหาและตัดสินใจ มาตรฐานท่ี ๑๑ มีจินตนาการและความคดิ สรา้ งสรรค์ ตัวบ่งชีท้ ี่ ๑๑.๑ ทำงานศลิ ปะตามจินตนาการและความคิดสร้างสรรค์ ตวั บ่งชี้ท่ี ๑๑.๒ แสดงท่าทางเคลื่อนไหวตามจินตนาการอย่างสรา้ งสรรค์ มาตรฐานท่ี ๑๒ มเี จตคติที่ดตี ่อการเรียนรูแ้ ละมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ไดเ้ หมาะสมกบั วัย ตัวบง่ ช้ที ่ี ๑๒.๑ มีเจตคติทด่ี ีต่อการเรยี นรู้ ตวั บง่ ชี้ที่ ๑๒.๒ มีความสามารถในการแสวงหาความรู้ หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นอนุบาลกระสงั สพป.บรุ รี ัมย์ เขต ๒
๗ ตวั บง่ ช้ี ตัวบง่ ชี้ เป็นเป้าหมายในการพฒั นาเด็กท่มี คี วามสัมพนั ธ์สอดคล้องกับมาตรฐานคุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ สภาพท่ีพึงประสงค์ สภาพที่พึงประสงค์ เป็นพฤติกรรมหรือความสามารถตามวัยที่คาดหวังให้เด็กเกิด บนพื้นฐานพัฒนาการตามวัย หรือความสามารถตามธรรมชาติในแต่ละระดับอายุเพื่อนำไปใช้ในการกำหนดสาระเรียนรู้ในการจัดประสบการณ์ กิจกรรมและประเมินพัฒนาการเด็ก ระยะเวลาเรียน โรงเรียนอนุบาลกระสงั กำหนดกรอบโครงสร้างเวลาในการจดั ประสบการณใ์ หก้ ับเด็ก ๒ ปีการศกึ ษา โดยมีเวลา เรยี นไมน่ อ้ ยกว่า ๑๘๐ วนั ต่อปกี ารศกึ ษา แต่ละวันต้องใชเ้ วลาไมน่ อ้ ยกวา่ ๕ ช่วั โมง หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สพป.บุรีรัมย์ เขต ๒
๘ โครงสร้างของหลกั สตู รการศึกษาปฐมวัย เพอื่ ใหก้ ารจดั การศึกษาเป็นไปตามหลกั การ จุดหมายที่กำหนดไวใ้ ห้สถานศึกษา และผู้เกีย่ วขอ้ งกบั การเลีย้ งดู เดก็ ปฏิบตั ิ ในการจัดทำหลกั สตู รสถานศกึ ษาจึงกำหนดโครงสร้างของหลักสตู รการศึกษาปฐมวัยของโรงเรียนอนุบาล กระสงั ดังน้ี โครงสรา้ งหลกั สตู รการศึกษาปฐมวยั พุทธศักราช ๒๕๖๐ ช่วงอายุ อายุ ๓ - ๖ ปี ประสบการณ์สำคัญ สาระท่ีควรเรยี นรู้ - ดา้ นรา่ งกาย - เรอื่ งราวเก่ียวกับตวั เดก็ สาระการเรยี นรู้ - ด้านอารมณ์ จติ ใจ - เรอื่ งราวเก่ียวกบั บุคคลและสถานท่ี - ด้านสังคม แวดล้อมเดก็ - ด้านสตปิ ัญญา - ธรรมชาติรอบตัว - สิ่งต่างๆรอบตัวเด็ก จดั การศึกษา ๒ ภาคเรยี น : ๑ ปกี ารศึกษา ช้ันอนุบาลปที ่ี ๑ อายุระหว่าง ๓-๔ ปี ระยะเวลาเรียน ชัน้ อนบุ าลปที ่ี ๒ อายุระหวา่ ง ๔-๕ ปี ชัน้ อนบุ าลปที ่ี ๓ อายุระหว่าง ๕-๖ ปี ไม่นอ้ ยกวา่ ๑๘๐ วนั : ๑ ปี ใช้เวลา ๕-๖ ชัว่ โมง : ๑ วนั ๒๕-๓๐ ชว่ั โมง/สัปดาห์ หมายเหตุ ๓-๔ ปี มคี วามสนใจ ๘ - ๑๒ นาที ๔-๕ ปี มคี วามสนใจ ๑๒ - ๑๕ นาที ๕-๖ ปี มคี วามสนใจ ๑๕ - ๒๐ นาที * กจิ กรรมทตี่ ้องใช้ความคิดในกล่มุ เลก็ และกลุ่มใหญ่ ไม่ควรใชเ้ วลาตอ่ เนอื่ งนานเกินกว่า ๒๐ นาที * กจิ กรรมทีเ่ ด็กมีอิสระเลือกเล่นเสรี เชน่ การเล่นตามมุม การเลน่ กลางแจง้ ใช้เวลา ๔๐ – ๖๐ นาที หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นอนุบาลกระสัง สพป.บุรรี มั ย์ เขต ๒
๙ การวเิ คราะห์สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ตามมาตรฐานคุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ มาตรฐานที่ ๑ ร่างกายเจรญิ เตบิ โตตามวยั เดก็ มีสขุ นิสัยท่ดี ี ตัวบง่ ชท้ี ี่ ๑.๑ มีน้ำหนักและสว่ นสงู ตามเกณฑ์ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -นำ้ หนกั และสว่ นสงู ตามเกณฑ์ -นำ้ หนกั และสว่ นสูงตามเกณฑ์ -นำ้ หนักและสว่ นสูงตามเกณฑ์ ของกรมอนามัย ของกรมอนามยั ของกรมอนามยั ตัวบง่ ชี้ท่ี ๑.๒ มสี ุขภาพอนามยั สุขนิสยั ท่ีดี สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -ยอมรับประทานอาหารที่มี -รบั ประทานอาหารท่มี ปี ระโยชน์ -รับประทานอาหารท่มี ี ประโยชน์และด่มื น้ำทีส่ ะอาดเม่อื และดม่ื นำ้ สะอาดดว้ ยตนเอง ประโยชน์ได้หลายชนิดและ มผี ู้ชีแ้ นะ ดืม่ นำ้ สะอาดได้ด้วยตนเอง -ลา้ งมือก่อนรบั ประทานอาหาร -ล้างมอื ก่อนรบั ประทานอาหาร -ลา้ งมือก่อนรบั ประทาน และหลังจากใช้ห้องน้ำห้องส้วม และหลังจากใชห้ ้องน้ำห้องสว้ ม อาหารและหลงั จากใช้ห้องน้ำ เมื่อมผี ูช้ แี้ นะ ด้วยตนเอง ห้องสว้ มด้วยตนเอง - ลา้ งหน้าและแปรงฟันหลัง -ล้างหนา้ และแปรงฟันถูกวิธหี ลงั -ลา้ งหนา้ และแปรงฟันถูกวิธี รับประทานอาหารเม่ือมผี ชู้ ีแ้ นะ รบั ประทานอาหาร หลงั รบั ประทานอาหารดว้ ย ตนเอง -นอนพักผ่อนเป็นเวลา -นอนพักผ่อนเป็นเวลา -นอนพักผ่อนเปน็ เวลา -ออกกำลังกายเป็นเวลา -ออกกำลงั กายเปน็ เวลา -ออกกำลังกายเปน็ เวลา หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒
๑๐ ตัวบง่ ชี้ที่ ๑.๓ รักษาความปลอดภัยของตนเองและผอู้ ่ืน สภาพทพ่ี ึงประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -เล่นและทำกิจกรรมอยา่ งปลอดภยั -เลน่ และทำกิจกรรมอย่างปลอดภยั -เล่นและทำกจิ กรรมรว่ มกบั ผู้อ่นื ดว้ ย ความระมัดระวังอยา่ งปลอดภยั เม่ือมีผชู้ แ้ี นะ ด้วยตนเอง มาตรฐานที่ ๒ กลา้ มเนือ้ ใหญแ่ ละกลา้ มเนอ้ื เล็กแข็งแรงใชไ้ ด้อย่างคลอ่ งแคล่วและประสานสมั พนั ธก์ นั ตัวบง่ ช้ีท่ี ๒.๑ เคลอื่ นไหวรา่ งกายอย่างคลอ่ งแคล่วประสานสมั พนั ธ์และทรงตัวได้ สภาพที่พงึ ประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -เดินตามแนวที่กำหนดได้ -เดินต่อเท้าไปข้างหน้าเป็น -เดินต่อเท้าถอยหลังเป็นเส้นตรง เส้นตรงได้โดยไม่ตอ้ งกางแขน ไดอ้ ยา่ งคล่องแคลว่ -กระโดดสองขา ขึน้ ลงอยู่กับทไี่ ด้ -กระโดดขาเดยี วอย่กู บั ที่ได้โดยไม่ -กระโดดขาเดียว ไปข้างหน้าได้ เสียการทรงตัว อย่างต่อเนื่องโดยไม่เสียการทรง ตวั -วง่ิ แล้วหยุดได้ -วง่ิ หลบหลีกสิง่ กีดขวางได้ -วง่ิ หลบหลีกส่งิ กีดขวางได้อย่าง คล่องแคล่ว -โยนรับลูกบอลโดยใช้มือและลำตัว -โยนรับลูกบอลได้ด้วยมือทั้งสอง -โยนรับลูกบอลที่กระดอนข้ึนจาก ช่วย ขา้ ง พน้ื โดยใช้มอื ทงั้ ๒ ข้างได้ หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒
๑๑ ตัวบ่งชท้ี ี่ ๒.๒ ใช้มอื -ตาประสานสมั พันธก์ นั สภาพท่ีพึงประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี - ใช้กรรไกรตัดกระดาษขาดจากกัน -ใช้กรรไกรตัดกระดาษตามแนว -ใช้กรรไกรตัดกระดาษตาม ไดโ้ ดยใชม้ อื เดียว เส้นตรงได้ แนวเส้นโคง้ ได้ - เขยี นรปู วงกลมตามแบบได้ -เขียนรูปสี่เหลี่ยมตามแบบได้ -เขียนรูปสามเหลี่ยมตาม อยา่ งมีมุมชดั เจน แบบได้อย่างมมี มุ ชัดเจน -ร้อยวัสดุที่มีรูขนาดเส้นผ่าน -ร้อยวสั ดุทมี่ รี ขู นาดเส้นผ่านศูนย์ -ร้อยวัสดทุ ่มี รี ขู นาดเส้นผ่าน ศูนยก์ ลาง ๑ ซม.ได้ กลาง ๐.๕ ซม.ได้ ศูนย์กลาง๐.๒๕ ซม.ได้ ๒.พัฒนาการดา้ นอารมณ์ จิตใจ มาตรฐานที่ ๓ มีสุขภาพจิตดีและมคี วามสุข ตัวบง่ ชท้ี ี่ ๓.๑ แสดงออกทางอารมณ์อยา่ งเหมาะสม สภาพที่พงึ ประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -แสดงอารมณ์ความรสู้ กึ ได้ -แสดงอารมณ์ ความรู้สึกได้ -แสดงอารมณ์ ความรู้สึกได้ เหมาะสมกบั บางสถานการณ์ ตามสถานการณ์ สอดคล้องกับสถานการณ์อย่าง เหมาะสม ตัวบง่ ช้ที ี่ ๓.๒ มีความรูส้ กึ ทด่ี ตี ่อตนเองและผู้อื่น สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -กล้าพูดกลา้ แสดงออก -กล้าพูดกล้าแสดงออกอย่าง -กล้าพูดกล้าแสดงออกอย่าง -แสดงความพอใจในผลงานตนเอง เหมาะสมบางสถานการณ์ เหมาะสมตามสถานการณ์ -แสดงความพอใจในผลงาน -แสดงความพอใจในผลงานและ และความสามารถของตนเอง ความสามารถของตนเองและ ผอู้ ่ืน หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ รี ัมย์ เขต ๒
๑๒ มาตรฐานที่ ๔ ชนื่ ชมและแสดงออกทางศิลปะ ดนตรี และการเคล่ือนไหว ตวั บง่ ชที้ ี่ ๔.๑ สนใจและมีความสุขและแสดงออกผ่านงานศลิ ปะ ดนตรแี ละการเคลื่อนไหว สภาพที่พึงประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -สนใจและมีความสุขและ -สนใจและมีความสุขและ -สนใจและมีความสุขและ แสดงออกผ่านงานศิลปะ แสดงออกผ่านงานศลิ ปะ แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะ -สนใจ มีความสุขและแสดงออก -สนใจ มีความสุขและแสดงออก -สนใจ มีความสุขและแสดงออก ผ่านเสียงเพลง ดนตรี ผา่ นเสียงเพลง ดนตรี ผา่ นเสียงเพลง ดนตรี -สนใจ มีความสุขและแสดง -สนใจ มีความสุขและแสดง -สนใจ มีความสุขและแสดง ท่าทาง/เคลื่อนไหวประกอบเพลง ท่าทาง/เคลื่อนไหวประกอบ ท่าทาง/เคลื่อนไหวประกอบ จังหวะและ ดนตรี เพลง จงั หวะและ ดนตรี เพลง จงั หวะและ ดนตรี มาตรฐานท่ี ๕ มีคุณธรรม จริยธรรมและมีจิตใจท่ีดีงาม ตวั บ่งชท้ี ี่ ๕.๑ ซือ่ สตั ย์ สุจริต สภาพทีพ่ ึงประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -บอกหรือชี้ได้ว่าสิ่งใดเป็นของ - ขออนุญาตหรือรอคอยเมื่อ - ขออนุญาตหรือรอคอยเม่ือ ตนเองและสิง่ ใดเปน็ ของผอู้ นื่ ต้องการสิ่งของของผู้อื่นเมื่อมีผู้ ต้องการสิ่งของของผู้อื่นด้วย ชแ้ี นะ ตนเอง ตัวบ่งช้ที ี่ ๕.๒ มคี วามเมตตา กรณุ า มนี ้ำใจและชว่ ยเหลือแบ่งปนั สภาพท่ีพงึ ประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -แสดงความรักเพื่อนและมีเมตตา -แสดงความรักเพื่อนและมี -แสดงความรักเพื่อนและมีเมตตา สตั ว์เลยี้ ง เมตตาสตั วเ์ ลี้ยง สตั ว์เลย้ี ง หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สพป.บุรีรมั ย์ เขต ๒
๑๓ ตัวบง่ ชท้ี ่ี ๕.๒ มีความเมตตา กรุณา มีนำ้ ใจและชว่ ยเหลอื แบ่งปนั สภาพทพ่ี ึงประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -แบ่งปันสิ่งของให้ผู้อื่นได้เมื่อมีผู้ -ช่วยเหลือและแบ่งปันผู้อื่นได้ -ช่วยเหลือและแบ่งปันผู้อื่นได้ ชแ้ี นะ เมอ่ื มีผชู้ ้ีแนะ ด้วยตนเอง ตัวบ่งชท้ี ี่ ๕.๓ มคี วามเหน็ อกเหน็ ใจผู้อืน่ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -แสดงสีหน้าหรือท่าทางรับรู้ -แสดงสีหน้าหรือท่าทางรับรู้ -แสดงสีหน้าหรือท่าทางรับรู้ ความรู้สึกผู้อ่ืน ความรสู้ กึ ผอู้ ่ืน ความรสู้ ึกผ้อู ื่นอย่างสอดคล้องกบ สถานการณ์ ตัวบ่งชีท้ ี่ ๕.๔ มคี วามรบั ผิดชอบ สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ อายุ ๕ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๓ ปี -ทำงานที่ไดร้ ับมอบหมายจนสำเร็จ -ทำงานที่ได้รับมอบหมายจน -ทำงานที่ได้รับมอบหมายจนสำเรจ็ เม่อื มีผชู้ ่วยเหลอื สำเรจ็ เมื่อมผี ู้ชแ้ี นะ ด้วยตนเอง ๓.พฒั นาการดา้ นสงั คม มาตรฐานท่ี ๖ มีทักษะชีวติ และปฏิบัตติ นตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ตวั บง่ ชีท้ ี่ ๖.๑ ช่วยเหลือตนเองในการปฏบิ ัตกิ ิจวตั รประจำวนั สภาพที่พงึ ประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี - แตง่ ตวั โดยมีผู้ช่วยเหลอื - แตง่ ตัวด้วยตนเอง - แต่งตัวด้วยตนเองได้อย่าง คล่องแคล่ว หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลกระสัง สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒
๑๔ ตัวบง่ ช้ที ่ี ๖.๑ มีวนิ ยั ในตนเอง สภาพทพี่ งึ ประสงค์ อายุ ๕ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๓ ปี - รับประทานอาหารดว้ ยตนเอง -รบั ประทานอาหารดว้ ยตนเอง - รับประทานอาหารด้วยตนเอง - ใชห้ ้องน้ำห้องส้วมด้วยตนเอง อย่างถกู วิธี -ใช้ห้องน้ำห้องส้วมโ ดยมีผู้ - ใช้และทำความสะอาดหลังใช้ ชว่ ยเหลือ ห้องนำ้ หอ้ งส้วมดว้ ยตนเอง ตัวบ่งชที้ ี่ ๖.๒ มีวนิ ัยในตนอง สภาพทีพ่ ึงประสงค์ อายุ ๕ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๓ ปี -เก็บของเล่นของใช้เข้าที่เมื่อมีผู้ -เก็บของเล่นของใช้เข้าที่ด้วย -เก็บของเล่นของใช้เข้าที่อย่าง ชแ้ี นะ ตนเอง เรยี บรอ้ ยดว้ ยตนเอง -เข้าแถวตามลำดับก่อนหลังได้เม่ือ -เข้าแถวตามลำดับก่อนหลังได้ -เข้าแถวตามลำดับก่อนหลังได้ มีผูช้ ีแ้ นะ ดว้ ยตนเอง ดว้ ยตนเอง ตวั บง่ ชท้ี ่ี ๖.๓ ประหยดั และพอเพยี ง สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -ใช้สิ่งของเครื่องใช้อย่างประหยัด -ใช้สิ่งของเครื่องใช้อย่าง -ใช้สิ่งของเครื่องใช้อย่างประหยัด และพอเพียงเมอื่ มผี ู้ชี้แนะ ประหยัดและพอเพียงเมื่อมีผู้ และพอเพยี งด้วยตนเอง ชแี้ นะ หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรยี นอนุบาลกระสัง สพป.บุรรี มั ย์ เขต ๒
๑๕ มาตรฐานท่ี ๗ รกั ธรรมชาติ ส่ิงแวดล้อม วัฒนธรรม และความเป็นไทย ตวั บง่ ชีท้ ี่ ๗.๑ ดูแลรักษาธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดลอ้ ม อายุ ๓ ปี สภาพทพี่ ึงประสงค์ อายุ ๕ ปี อายุ ๔ ปี -มีส่วนร่วมในการดูแลรักษา -มีส่วนร่วมในการดูแลรักษา -มีส่วนร่วมในการดูแลรักษา ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเมื่อมีผู้ ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเมื่อมี ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมด้วย ชีแ้ นะ ผ้ชู ้ีแนะ ตนเอง -ทิง้ ขยะได้ถูกที่ -ทง้ิ ขยะได้ถูกท่ี -ทงิ้ ขยะไดถ้ กู ที่ ตวั บง่ ชที้ ี่ ๗.๒ มมี ารยาทตามวัฒนธรรมไทยและรกั ความเปน็ ไทย สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -ปฏิบัติตนตามมารยาทไทยได้ เม่ือ -ปฏิบัติตนตามมารยาทไทยได้ -ปฏิบัติตนตามมารยาทไทยได้ มผี ้ชู ี้แนะ ดว้ ยตนเอง ตามกาลเทศะ -กล่าวคำขอบคุณและขอโทษเมือ่ มี -กล่าวคำขอบคุณและขอโทษ -กล่าวคำขอบคุณและขอโทษ ผู้ช้แี นะ ดว้ ยตนเอง ดว้ ยตนเอง -หยุดเมื่อได้ยินเพลงชาติไทยและ -หยุดเมื่อได้ยินเพลงชาติไทย -ยืนตรงและร่วมร้องเพลงชาติ เพลงสรรเสรญิ พระบารมี และเพลงสรรเสริญพระบารมี ไทยและเพลงสรรเสริญพระ บารมี หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนุบาลกระสงั สพป.บุรรี ัมย์ เขต ๒
๑๖ มาตรฐานท่ี ๘ อย่รู ว่ มกบั ผอู้ ่นื ได้อยา่ งมีความสขุ และปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของสงั คมใน ระบอบประชาธปิ ไตยอันมพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมขุ ตัวบง่ ชี้ท่ี ๘.๑ ยอมรับความเหมือนและความแตกตา่ งระหว่างบุคคล สภาพทพ่ี ึงประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -เล่นและทำกิจกรรมร่วมกับเด็กที่ -เล่นและทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่ม -เล่นและทำกิจกรรมร่วมกับ แตกตา่ งไปจากตน เดก็ ที่แตกตา่ งไปจากตน เด็กที่แตกตา่ งไปจากตน ตวั บง่ ชท้ี ่ี ๘.๒ มีปฏิสัมพนั ธท์ ี่ดีกับผู้อืน่ สภาพที่พงึ ประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -เล่นรว่ มกับเพ่อื น -เล่นหรือทำงานร่วมกับเพื่อน -เล่นหรือทำงานร่วมกับเพื่อน เปน็ กลมุ่ อยา่ งมเี ป้าหมาย -ยิ้มหรือทักทายผู้ใหญ่และบุคคลที่ -ยิ้มหรือทักทายหรือพูดคุยกับ -ยิ้มหรือทักทายหรือพูดคุยกับ คุน้ เคยเมือ่ มีผู้ชีแ้ นะ ผู้ใหญ่และบุคคลที่คุ้นเคยได้ ผู้ใหญ่และบุคคลที่คุ้นเคยได้ ด้วยตนเอง เหมาะสมกบั สถานการณ์ ตวั บง่ ช้ีที่ ๘.๓ ปฏิบัตติ นเบ้ืองตน้ ในการเปน็ สมาชกิ ท่ีดขี องสงั คม สภาพที่พงึ ประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลงเมอ่ื มผี ชู้ ีแ้ นะ -มีส่วนร่วมสร้างข้อตกลงและ -มีส่วนร่วมสร้างข้อตกลงและ ปฏิบัตติ ามขอ้ ตกลงเม่อื มผี ชู้ ีแ้ นะ ปฏิบัตติ ามข้อตกลงดว้ ยตนเอง -ปฏิบัตติ นเป็นผู้นำและผู้ตามเม่ือมี -ปฏิบัติตนเป็นผู้นำและผู้ตามที่ดี -ปฏิบตั ติ นเปน็ ผู้นำและผู้ตามได้ ผชู้ แี้ นะ ไดด้ ้วยตนเอง เหมาะสมกบั สถานการณ์ -ยอมรับการประนีประนอมแก้ไข -ประนีประนอมแก้ไขปัญหาโดย -ประนปี ระนอมแก้ไขปัญหาโดย ปญั หาเม่อื มผี ู้ชแี้ นะ ปราศจากการใช้ความรุนแรงเม่ือ ปราศจากการใช้ความรุนแรง มผี ้ชู แ้ี นะ ด้วยตนเอง หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลกระสัง สพป.บุรีรัมย์ เขต ๒
๑๗ ๔. ด้านสติปัญญา มาตรฐานที่ ๙ ใชภ้ าษาสื่อสารไดเ้ หมาะสมกบั วัย ตัวบ่งชี้ที่ ๙.๑ สนทนาโต้ตอบและเลา่ เรอื่ งใหผ้ อู้ น่ื เขา้ ใจ สภาพท่พี งึ ประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -ฟังผู้อื่นพูดจนจบและโต้ตอบ -ฟังผู้อื่นพูดจนจบและสนทนา -ฟังผู้อื่นพูดจนจบและสนทนา เกี่ยวกับเร่อื งท่ฟี ัง โตต้ อบสอดคล้องกับเรอ่ื งที่ฟงั โต้ตอบอย่างต่อเนื่องเชื่อมโยง กับเร่อื งทฟ่ี ัง -เลา่ เรอ่ื งด้วยประโยคสน้ั ๆ -เล่าเรื่องเป็นประโยคอย่าง -เลา่ เปน็ เร่อื งราวตอ่ เนอื่ งได้ ตอ่ เน่อื ง ตัวบ่งชท้ี ่ี ๙.๒ อ่าน เขียนภาพ และสัญลกั ษณ์ได้ สภาพที่พงึ ประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -อา่ นภาพ และพดู ข้อความด้วย -อ่านภาพ สญั ลักษณ์ คำ พร้อมท้ัง -อ่านภาพ สัญลักษณ์ คำ ด้วย ภาษาของตน ชี้ หรือกวาดตามองข้อความตาม การชี้ หรือกวาดตามองจุดเริ่มต้น บรรทัด และจุดจบของข้อความ -เขยี นขดี เขี่ย อย่างมที ิศทาง -เขียนคลา้ ยตัวอกั ษร -เขียนชอื่ ของตนเอง ตามแบบ เขียนข้อความด้วยวิธที ี่คิดขน้ึ เอง มาตรฐานท่ี ๑๐ มคี วามสามารถในการคิดท่เี ป็นพื้นฐานในการเรยี นรู้ ตัวบ่งช้ีที่ ๑๐.๑ มคี วามสามารถในการคิดรวบยอด สภาพที่พงึ ประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -บอกลักษณะของสิ่งของต่างๆจาก -บอกลักษณะและส่วนประกอบ -บอกลักษณะ ส่วนประกอบ การ การสังเกตโดยใช้ประสาทสัมผัส ของสิ่งของต่างๆจากการสังเกต เปลี่ยนแปลง หรือความสัมพันธ์ โดยใชป้ ระสาทสมั ผัส ของสิ่งของต่างๆจากการสังเกต โดยใช้ประสาทสมั ผัส หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนุบาลกระสัง สพป.บุรรี มั ย์ เขต ๒
๑๘ อายุ ๓ ปี สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ อายุ ๕ ปี อายุ ๔ ปี -จับคู่หรือเปรียบเทียบสิ่งต่างๆโดย -จับคู่และเปรียบเทียบความ -จับคู่และเปรียบเทียบความ ใช้ลักษณะหรือหน้าที่การงานเพียง แตกต่างหรือความเหมือนของ แตกต่างหรือความเหมือนของส่ิง ลักษณะเดยี ว สิ่งต่างๆโดยใช้ลักษณะที่สังเกต ต่างๆโดยใช้ลักษณะที่สังเกตพบ พบเพยี งลกั ษณะเดียว สองลกั ษณะขึ้นไป -คัดแยกสิ่งต่างๆตามลักษณะหรือ -จำแนกและจัดกลุ่มสิ่งต่างๆ -จำแนกและจัดกลุ่มสิ่งต่างๆโดย หนา้ ทกี่ ารใช้งาน โดยใช้อย่างน้อยหนึ่งลักษณะ ใช้ตั้งแต่สองลักษณะขึ้นไปเป็น เปน็ เกณฑ์ เกณฑ์ -เรียงลำดับสิ่งของหรือเหตุการณ์ - เ ร ี ย ง ล ำ ด ั บ ส ิ ่ ง ข อ ง ห รื อ -เรียงลำดับสิ่งของหรือเหตุการณ์ อยา่ งน้อย ๓ ลำดับ เหตกุ ารณอ์ ย่างนอ้ ย ๔ ลำดับ อย่างน้อย ๕ ลำดับ ตัวบง่ ช้ีที่ ๑๐.๒ มคี วามสามารถในการคิดเชิงเหตุผล สภาพท่พี ึงประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -ระบุผลที่เกิดขนึ้ ในเหตุการณ์หรอื -ระบุสาเหตุหรอื ผลทเ่ี กิดขน้ึ ใน -อธิบายเชอื่ มโยงสาเหตแุ ละผลที่ การกระทำเม่ือมผี ชู้ แี้ นะ เหตุการณ์หรือ การกระทำเม่ือมีผู้ เกดิ ขึน้ ในเหตุการณห์ รือการ ช้ีแนะ กระทำดว้ ยตนเอง -คาดเดา หรอื คาดคะเนส่งิ ท่ีอาจ -คาดเดา หรอื คาดคะเนสิ่งที่ -คาดคะเนสิง่ ท่อี าจจะเกิดขน้ึ เกดิ ข้ึน อาจจะเกิดข้ึน หรือมีส่วนรว่ มใน และมีส่วนรว่ มในการลงความเหน็ การลงความเห็นจากข้อมลู จากข้อมูลอย่างมีเหตผุ ล ตัวบง่ ชที้ ่ี ๑๐.๓ มีความสามารถในการคิดแกป้ ญั หาและตดั สินใจ สภาพทพี่ ึงประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -ตัดสินใจในเร่อื งง่ายๆ -ตัดสินใจในเรื่องง่ายๆและเริ่ม -ตัดสินใจในเรื่องง่ายๆและ -แก้ปญั หาโดยลองผดิ ลองถกู เรียนรผู้ ลทเ่ี กิดข้นึ ยอมรบั ผลทเ่ี กดิ ขึ้น -ระบุปัญหา และแก้ปัญหาโดย -ระบุปัญหาสร้างทางเลือกและ ลองผิดลองถูก เลือกวธิ ีแกป้ ญั หา หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ รี มั ย์ เขต ๒
๑๙ มาตรฐานท่ี ๑๑ มีจินตนาการและความคิดสรา้ งสรรค์ ตัวบ่งชที้ ่ี ๑๑.๑ เลน่ /ทำงานศลิ ปะตามจนิ ตนาการและความคดิ สรา้ งสรรค์ สภาพทพ่ี ึงประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -สรา้ งผลงานศลิ ปะเพ่ือส่อื สาร -สรา้ งผลงานศลิ ปะเพื่อสื่อสารความคดิ -สร้างผลงานศลิ ปะเพื่อ ความคิด ความรู้สึกของตนเอง ความรู้สึกของตนเองโดยมีการ สอื่ สารความคดิ ความรูส้ ึก ดดั แปลงและแปลกใหมจ่ ากเดมิ หรือมี ของตนเองโดยมีการ รายละเอยี ดเพ่มิ ขนึ้ ดัดแปลงและแปลกใหม่จาก เดมิ และมรี ายละเอยี ด เพม่ิ ข้นึ ตวั บง่ ชท้ี ี่ ๑๑.๒ แสดงทา่ ทาง/เคล่ือนไหวตามจนิ ตนาการอยา่ งสรา้ งสรรค์ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -เคลื่อนไหวท่าทางเพื่อสื่อสาร -เคลื่อนไหวท่าทางเพื่อสื่อสารความคิด -เคลื่อนไหวท่าทางเพ่ือ ความคดิ ความรู้สึกของตนเอง ความรูส้ กึ ของตนเอง สื่อสารความคิด ความรู้สึก อยา่ งหลากหลายหรือแปลกใหม่ ของตนเองอยา่ งหลากหลาย และแปลกใหม่ มาตรฐานท๑่ี ๒ มเี จตคตทิ ดี่ ตี ่อการเรียนร้แู ละมคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ไดเ้ หมาะสมกับวัย ตวั บง่ ชท้ี ี่ ๑๒.๑ มีเจตคตทิ ่ีดตี อ่ การเรียนรู้ สภาพทีพ่ ึงประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -สนใจฟังหรืออา่ นหนังสือดว้ ย -สนใจซักถามเกี่ยวกับสัญลักษณ์ -หยิบหนังสือมาอ่านและเขียนสื่อ ตนเอง หรอื ตวั หนังสอื ท่ีพบเหน็ ความคิดด้วยตนเองเป็นประจำ -กระตือรือรน้ ในการเขา้ ร่วม กจิ กรรม อย่างต่อเนอื่ ง -กระตือรือร้นในการเข้าร่วม -กระตือรือร้นในการร่วมกิจกรรม กิจกรรม ตั้งแตต่ ้นจนจบ หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บุรรี ัมย์ เขต ๒
๒๐ ตวั บง่ ชท้ี ี่ ๑๒.๒ มคี วามสามารถในการแสวงหาความรู้ สภาพทีพ่ ึงประสงค์ อายุ ๓ ปี อายุ ๔ ปี อายุ ๕ ปี -ค้นหาคำตอบของข้อสงสัยต่างๆ -ค้นหาคำตอบของข้อสงสัยต่างๆ -ค้นหาคำตอบของข้อสงสัยต่างๆ ตามวธิ ีการทมี่ ผี ูช้ ้ีแนะ ตามวิธีการของตนเอง ตามวิธีการที่หลากหลายด้วย ตนเอง -เชื่อมโยงคำถา “อะไร” ในการ -ใชป้ ระโยคคำถามวา่ “ที่ไหน” -ใช้ประโยคคำถามว่า “เมื่อไร” คน้ หาคำตอบ “ทำไม” ในการคน้ หาคำตอบ อยา่ งไร” ในการคน้ หาคำตอบ หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนุบาลกระสงั สพป.บรุ รี มั ย์ เขต ๒
๒๑ ตารางวเิ คราะหส์ าระการเรียนรรู้ ายปี ช่วงอายุ ๓ – ๔ ปี ๑.พัฒนาการดา้ นร่างกาย มาตรฐานท่ี ๑ ร่างกายเจริญเติบโตตามวยั และมสี ขุ นิสัยที่ดี ตวั บง่ ชี้ สภาพที่พงึ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี ๑.๑ มนี ำ้ หนกั และส่วนสูง ชน้ั อนบุ าลปที ่ี ๑ (๓ – ๔ ปี) ประสบการณส์ ำคญั สาระทีค่ วรเรยี นรู้ ตามเกณฑ์ -น้ำหนักและส่วนสงู ตามเกณฑ์ของ ๑.การปฏิบตั ิตนตามสขุ อนามยั สขุ นสิ ยั ตวั เด็ก ๑.๒ มีสุขภาพอนามยั สขุ กรมอนามัย ท่ดี ีในกจิ วตั รประจำวัน ๑. การรับประทานท่ีมีประโยชน์ นิสัยทดี่ ี -ยอมรบั ประทานอาหารที่มปี ระโยชน์ ๒. การชัง่ น้ำหนกั และวัดสว่ นสูง และดมื่ น้ำทีส่ ะอาดเมอ่ื มผี ู้ชี้แนะ ๑.การปฏบิ ัตติ นตามสขุ อนามยั สขุ นิสยั ๓. การวดั เส้นรอบศีรษะ ทดี่ ใี นกจิ วัตรประจำวัน ตวั เด็ก -ล้างมือกอ่ นรบั ประทานอาหารและ ๒. การประกอบอาหารไทย ๑. การปฏิบัติตนตามสุขอนามยั หลงั จากใชห้ อ้ งน้ำห้องสว้ มเมอ่ื มผี ู้ - การรบั ประทานอาหาร ช้แี นะ ๑.การปฏบิ ตั ิตนตามสขุ อนามยั สุขนสิ ยั อาหารหลกั ๕ หมู่ ที่ดีในกิจวตั รประจำวนั ๒. อาหารที่มีประโยชนแ์ ละไม่มี - ลา้ งหนา้ และแปรงฟันหลัง ๒. การปฏิบัติตนใหป้ ลอดภยั ประโยชน์ รับประทานอาหารเม่อื มีผู้ช้ีแนะ ในกิจวตั รประจำวนั ตวั เดก็ ๓. การฟังนทิ าน เร่อื งราว เหตกุ ารณ์ ๑. การปฏิบัติตนตามสขุ อนามยั -นอนพักผอ่ นเปน็ เวลา เกี่ยวกบั การปอ้ งกัน และรกั ษาความ - การทำความสะอาดร่างกาย ปลอดภัย ๔.การช่วยเหลอื ตนเองในกจิ วตั ร ตวั เด็ก ประจำวัน ๑. การปฏบิ ัติตนตามสขุ อนามัย ๑.การปฏิบัติตนตามสขุ อนามยั สขุ นิสยั ๒. การทำความสะอาดร่างกาย ทดี่ ใี นกจิ วตั รประจำวนั ๒. การปฏบิ ตั ติ นใหป้ ลอดภยั ในกจิ วตั ร ตัวเดก็ ประจำวนั -การพกั ผ่อน ๓.การฟงั นิทาน เร่อื งราว เหตุการณ์ เก่ียวกบั การปอ้ งกัน และรักษาความ ปลอดภยั ๔. การช่วยเหลอื ตนเองในกิจวตั ร ประจำวัน ๑. การปฏบิ ัติตนตามสุขอนามยั สขุ นสิ ัยทด่ี ใี นกจิ วัตรประจำวัน -ออกกำลงั กายเปน็ เวลา ๑. การเคล่ือนไหวขา้ มสงิ่ กีดขวาง ตวั เด็ก ๒. การเลน่ เคร่ืองเลน่ อย่างปลอดภยั ๑. การออกกำลังกาย ๓. การเลน่ เครอ่ื งเลน่ สนามอย่างอสิ ระ ๒. การเล่นเคร่อื งเล่นสนาม ๔. การเลน่ อิสระ ๓.การละเลน่ พืน้ บา้ นของไทย ๕. การเล่นนอกหอ้ งเรียน หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บุรรี มั ย์ เขต ๒
๒๒ ๖. การละเลน่ พน้ื บา้ นของไทย ตัวบง่ ชท้ี ี่ ๑.๓ รกั ษาความ -เล่นและทำกจิ กรรมอยา่ งปลอดภยั ๑.การปฏิบัตติ นให้ปลอดภยั ใน กิจวัตร ตวั เด็ก ปลอดภัยของตนเองและ เมอ่ื มผี ู้ชแ้ี นะ ประจำวนั ๑. ความปลอดภยั ในการปฏบิ ัติ ผอู้ ่นื ๒. การฟงั นทิ าน เรือ่ งราวเหตกุ ารณ์ กิจวตั รประจำวนั เก่ียวกบั การปอ้ งกันและรักษาความ ปลอดภัย ๓. การเลน่ บทบาทสมมตเิ หตกุ ารณ์ ตา่ งๆ ๔. การเลน่ เคร่อื งเล่นอยา่ งปลอดภยั ๕.การเลน่ และทำงานร่วมกับผูอ้ น่ื ๖.การ พูดกับผอู้ ่ืนเกย่ี วกบั ประสบการณ์ของ ตนเองหรอื พดู เรือ่ งราวเก่ยี วกับตนเอง หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ รี ัมย์ เขต ๒
๒๓ มาตรฐานที่ ๒ กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรงใช้ได้อย่างคล่องแคล่วและประสาน สมั พนั ธ์กัน ตวั บง่ ชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี ตวั บง่ ชีท้ ี่ ๒.๑ เคลื่อนไหว ร่างกายอยา่ งคล่องแคล่ว ชั้นอนุบาลปีที่ ๑ (๓ – ๔ ปี) ประสบการณ์สำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ประสานสัมพันธแ์ ละทรงตัว -เดินตามแนวท่กี ำหนดได้ ๑. การเคลือ่ นไหวอย่กู ับที่ ตัวเดก็ ได้ -กระโดดสองขา ขน้ึ ลงอยู่กบั ท่ีได้ ๒. การเคลื่อนไหวเคลือ่ นท่ี ๑. การเคลื่อนไหวร่างกายใน -วงิ่ แลว้ หยดุ ได้ ๓. การเคลอื่ นไหวพร้อมอุปกรณ์ ลักษณะต่างๆ ตวั บ่งชี้ท่ี ๒.๒ ใช้มอื -ตา -โยนรบั ลกู บอลโดยใช้มือและลำตัวชว่ ย ๔. การเคลื่อนไหวท่ีใช้การประสานสมั พนั ธ์ ประสานสัมพันธก์ ัน ของกล้ามเน้ือใหญ่ในการขว้าง การจบั การ ตวั เด็ก - ใช้กรรไกรตัดกระดาษขาดจากกันได้ โยน การเตะ ๑. การใชม้ อื ทำสิ่งต่างๆ โดยใช้มือเดยี ว ๕. การเลน่ เคร่ืองเลน่ สนามอยา่ งอิสระ ๒. การใช้กรรไกรท่ถี ูกวธิ ี - เขยี นรปู วงกลมตามแบบได้ ๖. การเคลื่อนไหวโดยควบคุมตนเองไปใน ๓. การทำงานศลิ ปะ -ร้อยวัสดุที่มีรูขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง ทศิ ทาง ระดบั และพนื้ ท่ี ๑ ซม.ได้ ๗.การเคลอ่ื นไหวขา้ มสิ่งกีดขวาง ๑. การเลน่ เคร่อื งเล่นสัมผัส และ การ สร้างสง่ิ ตา่ งๆจากแทง่ ไม้บล็อก ๒.การเขียนภาพและการเลน่ กบั สี ๓. การประดษิ ฐ์สงิ่ ต่างๆดว้ ยเศษวัสดุ ๔. การหยิบจับ การใช้กรรไกร การฉีก การ ตัด การปะ การรอ้ ยวัสดุ หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บุรรี ัมย์ เขต ๒
๒๔ ๒.พัฒนาการด้านอารมณ์ จติ ใจ มาตรฐานที่ ๓ มีสุขภาพจติ ดแี ละมคี วามสขุ ตัวบ่งช้ี สภาพที่พึงประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี ๓.๑ แสดงออกทาง ชน้ั อนุบาลปที ่ี ๑ (๓ – ๔ ปี) ประสบการณ์สำคญั สาระท่ีควรเรียนรู้ อารมณอ์ ย่างเหมาะสม -แสดงอารมณ์ความร้สู กึ ไดเ้ หมาะสม ๑. การพูดสะทอ้ นความรูส้ ึกของ ตัวเด็ก กับบางสถานการณ์ ตนเองและผู้อน่ื ๑. อารมณ์ ความรู้สกึ ความต้องการ- อารมณ์ ๓.๒ มคี วามรู้สึกที่ดตี ่อ ๒. การเลน่ บทบาทสมมตุ ิ ต่างๆ ตนเองและผอู้ ื่น -กล้าพูดกลา้ แสดงออก ๓. การเคล่อื นไหวตามเสียงเพลง - การแสดงออกทางอารมณ์ที่เหมาะสมกบั บาง -แสดงความพอใจในผลงานตนเอง ดนตรี สถานการณ์ ๔. การร้องเพลง - ความตอ้ งการทางร่างกาย และการตอบสนอง ๕. การทำงานศิลปะ ๑. การแสดงออกอยา่ งม่นั ใจ ๑. การแสดงความภาคภมู ใิ จในสิ่งท่ีตนเองทำ แลว้ ประสบความสำเรจ็ มาตรฐานที่ ๔ ชน่ื ชมและแสดงออกทางศลิ ปะ ดนตรี และการเคล่อื นไหว ตวั บง่ ช้ี สภาพท่ีพึงประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี ชนั้ อนบุ าลปที ่ี ๑ (๓ – ๔ ป)ี ๔.๑ สนใจและมีความสขุ และ -สนใจและมีความสขุ และแสดงออก ประสบการณส์ ำคญั สาระท่ีควรเรยี นรู้ แสดงออกผา่ นงานศลิ ปะ ดนตรแี ละ ผ่านงานศลิ ปะ การเคลื่อนไหว ๑. การทำกจิ กรรมศิลปะต่างๆ - การทำกจิ กรรมศลิ ปะสร้างสรรค์ -สนใจ มีความสขุ และแสดงออก ผ่านเสยี งเพลง ดนตรี ๒. การสร้างสรรคส์ ง่ิ สวยงาม -สนใจ มคี วามสขุ และแสดงท่าทาง/ ๓. การรบั รู้และแสดงความคดิ เคลอ่ื นไหวประกอบเพลง จังหวะ และ ดนตรี ความรูส้ ึกผา่ นสอื่ วสั ดุ ของเล่น และชิน้ งาน ๔. การปฏบิ ัติกิจกรรมตา่ งๆ ตาม ความสามารถของตนเอง ๑. การฟังเพลง การร้องเพลง และ - การฟัง ดนตรี การร้องเพลง การแสดงปฏิกิรยิ าโต้ตอบ เสยี งดนตรี ๒. การเลน่ เครอื่ งดนตรีประกอบ จงั หวะ ๔. การปฏบิ ัตกิ ิจกรรมตา่ งๆ ตาม ความสามารถของตนเอง ๑. การฟงั เพลง การรอ้ งเพลง และ - การแสดงทา่ ทางเคลือ่ นไหว การแสดงปฏกิ ิรยิ าโต้ตอบ ประกอบเพลง จังหวะและดนตรี เสียงดนตรี ๒. การเคล่ือนไหวตามเสยี งเพลง ดนตรี ๔. การปฏิบัติกจิ กรรมต่างๆ ตาม ความสามารถของตนเอง หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ รี มั ย์ เขต ๒
๒๕ ตัวบง่ ช้ี สภาพท่ีพงึ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี ช้ันอนุบาลปีท่ี ๑ (๓ – ๔ ปี) ประสบการณ์สำคญั สาระทค่ี วรเรียนรู้ ๕. การเล่นเครื่องดนตรีประกอบ จงั หวะ มาตรฐานท่ี ๕ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมและมจี ติ ใจท่ีดีงาม ตัวบง่ ชี้ สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี ๕.๑ ซอ่ื สัตย์ สจุ ริต ช้ันอนุบาลปที ี่ ๑ (๓ – ๔ ป)ี -บอกหรือชี้ได้ว่าสิ่งใดเป็นของ ประสบการณ์สำคญั สาระท่ีควรเรียนรู้ ตนเองและสิ่งใดเปน็ ของผูอ้ ่นื ๑. ปฏบิ ัติตนเปน็ สมาชกิ ท่ีดีของ บคุ คลและสถานทแ่ี วดลอ้ มเด็ก ห้องเรยี น ๑. คุณธรรมจริยธรรม ๒. การฟังนทิ านเกย่ี วกับคุณธรรม - ความซ่อื สตั ย์ สุจรติ จรยิ ธรรม - ความเกรงใจ ๓. การร่วมสนทนาและแลกเปลีย่ น ๒. การเคารพสิทธิของตนเองและ ความคดิ เหน็ เชงิ จริยธรรม ผูอ้ ืน่ ๔. เลน่ บทบาทสมมุติ ๕. การเล่นและทำงานรว่ มกบั ผู้อนื่ ๖. การปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ศาสนาที่ นับถอื ๕.๒ มีความเมตตา กรุณา มีน้ำใจ -แสดงความรักเพื่อนและมีเมตตา ๑. การฟังนทิ านเกย่ี วกับคุณธรรม ๑. คุณธรรมจรยิ ธรรม และชว่ ยเหลอื แบ่งปัน สตั วเ์ ลีย้ ง จรยิ ธรรม - ความเมตตากรณุ า ๒. เลน่ บทบาทสมมตุ ิ - ความเออ้ื เฟื้อเผ่ือแผ่ ๓. การเลย้ี งสัตว์ ๕.๓ มีความเหน็ อกเห็นใจผอู้ น่ื -แบ่งปันสิ่งของให้ผู้อื่นได้เมื่อมีผู้ ๑. การฟงั นทิ านเกยี่ วกับคุณธรรม ๑. คุณธรรมจริยธรรม ชแี้ นะ จรยิ ธรรม - ความมีน้ำใจ ชว่ ยเหลือแบ่งปัน ๒. เลน่ บทบาทสมมตุ ิ - แ ส ด ง ส ี ห น ้ า ห ร ื อ ท ่ า ท า ง ร ั บ รู้ ๓. ปฏบิ ัตติ นเปน็ สมาชกิ ทีด่ ีของ ๑. คุณธรรมจรยิ ธรรม ความรสู้ กึ ผู้อ่นื ห้องเรียน - ความเหน็ อกเห็นใจผ้อู ่ืน ๔. การเล่นรายบคุ คล กล่มุ ยอ่ ย และกล่มุ ใหญ่ ๕. การเล่นตามมุมประสบการณ์/ มมุ เล่นต่างๆ ๑. การเลน่ และทำงานรว่ มกับผอู้ นื่ ๒. การเลน่ บทบาทสมมตุ ิ ๓. การแสดงความยินดีเมื่อผู้อื่นมี ความสุข เห็นใจเมื่อผู้อื่นเศร้าหรือ เสียใจและการช่วยเหลือปลอบโยน เม่ือผู้อืน่ ได้รบั บาดเจ็บ หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บุรีรมั ย์ เขต ๒
๒๖ ตวั บ่งช้ี สภาพที่พึงประสงค์ สาระการเรยี นร้รู ายปี ๕.๔ มีความรับผิดชอบ ชั้นอนบุ าลปีท่ี ๑ (๓ – ๔ ป)ี -ทำงานที่ได้รับมอบหมายจนสำเรจ็ ประสบการณส์ ำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ เมื่อมีผ้ชู ว่ ยเหลือ ๑. การทำกจิ กรรมศิลปะต่างๆ ๑. คณุ ธรรมจริยธรรม ๒. การดแู ลห้องเรยี นร่วมกนั - ความรับผิดชอบ ๓. การมีส่วนรว่ มรบั ผดิ ชอบ ดแู ล - ระเบยี บวนิ ยั รักษาสง่ิ แวดลอ้ มท้งั ภายในและ ภายนอกหอ้ งเรียน ๔. การร่วมกำหนดข้อตกลงของ หอ้ งเรียน ๓.พัฒนาการดา้ นสังคม มาตรฐานท่ี ๖ มที กั ษะชีวติ และปฏิบัติตนตามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง ตวั บง่ ช้ี สภาพที่พึงประสงค์ สาระการเรยี นรูร้ ายปี ๖.๑ ชว่ ยเหลอื ตนเองในการ ชนั้ อนุบาลปที ี่ ๑ (๓ – ๔ ป)ี ปฏบิ ตั กิ จิ วัตรประจำวัน - แต่งตัวโดยมผี ชู้ ว่ ยเหลือ ประสบการณส์ ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ - รบั ประทานอาหารด้วยตนเอง ๖.๒ มีวนิ ยั ในตนอง ๑. การชว่ ยเหลอื ตนเองในกิจวัตร ๑. การปฏบิ ตั กิ ิจวัตรประจำวัน -ใชห้ อ้ งน้ำห้องสว้ มโดยมผี ู้ ๖.๓ ประหยดั และพอเพยี ง ชว่ ยเหลือ ประจำวนั - การแต่งกาย -เก็บของเล่นของใชเ้ ข้าท่เี มื่อมผี ู้ ๒. การให้ความรว่ มมอื ในการปฏิบัติ - การรบั ประทานอาหาร ชีแ้ นะ กจิ กรรมตา่ งๆ - การใชห้ ้องนำ้ หอ้ งส้วม -เข้าแถวตามลำดับกอ่ นหลังได้เมื่อ มีผู้ชแ้ี นะ ๓. การปฏบิ ตั กิ จิ กรรมตา่ งๆตาม -ใชส้ ง่ิ ของเครอ่ื งใชอ้ ย่างประหยดั ความสามารถของตนเอง และพอเพยี งเมอื่ มีผชู้ ี้แนะ ๑. การรว่ มกำหนดขอ้ ตกลงของ ๑. การเล่น ห้องเรียน ๒. ระเบียบวนิ ยั ๒. การปฏบิ ัตติ นเปน็ สมาชิกท่ดี ีของ ๓. ความรบั ผิดชอบ หอ้ งเรียน ๑. การรอคอยตามลำดบั ก่อนหลัง ๓. การให้ความรว่ มมือในการปฏิบัติ ๒. การเข้าแถว กจิ กรรมต่างๆ ๔. การดแู ลหอ้ งเรียนรว่ มกนั ๑. การปฏิบัติตนตามแนวทางหลัก ๑. การปฏบิ ตั ิกิจวตั รประจำวนั ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ๒. การใชข้ องใช้อยา่ งถูกวธิ ี ๒. การใช้วสั ดุและสิ่ง ๓. การเห็นคณุ ค่าของสิง่ ของเครอ่ื งใช้ ของเครอื่ งใชอ้ ยา่ งคุ้มค่า มาตรฐานท่ี ๗ รกั ธรรมชาติ สิง่ แวดลอ้ ม วัฒนธรรม และความเปน็ ไทย หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนอนบุ าลกระสัง สพป.บรุ ีรัมย์ เขต ๒
๒๗ ตัวบ่งชี้ สภาพท่พี ึงประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี ๗.๑ ดแู ลรกั ษาธรรมชาตแิ ละ ชัน้ อนบุ าลปที ่ี ๑ (๓ – ๔ ป)ี ส่งิ แวดล้อม -มีส่วนรว่ มในการดูแลรกั ษา ประสบการณ์สำคญั สาระทค่ี วรเรียนรู้ ธรรมชาตแิ ละส่งิ แวดล้อมเมื่อมผี ู้ ๗.๒ มมี ารยาทตามวฒั นธรรมไทย ชแี้ นะ ๑. การมีส่วนรว่ มในการดูแลรักษา บุคคลและสถานท่ีแวดล้อมเด็ก และรกั ความเปน็ ไทย -ทงิ้ ขยะไดถ้ ูกที่ สิ่งแวดล้อมทงั้ ภายในและภายนอก ๑. สิ่งแวดล้อมในโรงเรียนและการ -ปฏิบตั ติ นตามมารยาทไทยได้ เม่ือมี หอ้ งเรียน ดแู ลรักษา ผชู้ ี้แนะ ๒.การสนทนาข่าวและเหตุการณ์ท่ี - ส่งิ มชี ีวติ ส่งิ ไมม่ ีชวี ิต เกี่ยวกับธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมใน - ธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมรอบตัว ชีวติ ประจำวนั ๒. การมีระเบยี บวินยั ๓. การเพาะปลกู และดแู ลต้นไม้ ๔. การอธิบายเชื่อมโยงสาเหตุและผลท่ี เกิดขน้ึ ในเหตุการณ์หรอื การกระทำ ๕. การตัดสนิ ใจและมีสว่ นร่วมใน กระบวนการแกป้ ญั หา ๑. การคัดแยก การจัดกลุ่มและจำแนก ๑. การดแู ลรักษาส่งิ แวดลอ้ ม ส่งิ ต่างๆตามลกั ษณะและรูปร่าง รูปทรง ๒. การมีระเบียบวินัย ๒. การใช้วัสดุและสิ่งของเครื่องใชอ้ ย่าง ค้มุ ค่า ๓. การทำงานศิลปะท่ีนำวสั ดุหรอื สิง่ ของ เครื่องใช้ที่ใช้แล้วมาใช้ซ้ำหรือแปรรูป แลว้ นำกลับมาใช้ใหม่ ๔. การสร้างสรรค์ช้ินงานโดยใชร้ ปู รา่ ง รปู ทรงจากวสั ดุท่หี ลากหลาย ๕. การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของ หอ้ งเรยี น ๑. การปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมทอ้ ง ๑. การปฏิบัติตนตามมารยาทและ ถนิ่ ทอี่ าศยั และประเพณไี ทย วฒั นธรรมไทย ๒. การเล่นบทบาทสมมุติการปฏบิ ตั ติ น - การแสดงความเคารพ ในความเปน็ คนไทย -กล่าวคำขอบคุณและขอโทษเมอื่ มผี ู้ ๑. การปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมท้อง ๑. การปฏิบัติตนตามมารยาทและ ชแ้ี นะ ถนิ่ ที่อาศยั และประเพณไี ทย วัฒนธรรมไทย ๒. การเล่นบทบาทสมมตุ กิ ารปฏบิ ตั ติ น - การกลา่ วคำขอบคุณและขอโทษ -หยุดเมื่อได้ยินเพลงชาติไทยและ ในความเปน็ ไทย เพลงสรรเสรญิ พระบารมี ๓. การพูดสะท้อนความรู้สึกของตนเอง ส่งิ ต่างๆอบตัว และผูอ้ ่ืน ๑. วันสำคัญของชาติ ศาสนา ๑. การปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมท้อง พระมหากษัตริย์ ถ่ินทอ่ี าศยั และประเพณไี ทย ๒. สญั ลักษณ์สำคัญของชาติไทย ๒. การเลน่ บทบาทสมมตุ ิการปฏบิ ัตติ น ในความเปน็ ไทย ๓. การรว่ มกิจกรรมวันสำคญั หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ ีรัมย์ เขต ๒
๒๘ มาตรฐานที่ ๘ อยู่ร่วมกบั ผอู้ ื่นได้อย่างมีความสุขและปฏบิ ัติตนเป็นสมาชกิ ทีด่ ขี องสงั คม ในระบอบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษัตริย์ทรงเปน็ ประมขุ ตวั บ่งชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ สาระการเรยี นรูร้ ายปี ๘.๑ ยอมรับความเหมือนและ ชั้นอนบุ าลปีท่ี ๑ (๓ – ๔ ปี) ความแตกตา่ งระหว่างบุคคล -เล่นและทำกิจกรรมร่วมกับเด็กที่ ประสบการณ์สำคญั สาระท่ีควรเรียนรู้ ๘.๒ มีปฏสิ ัมพนั ธท์ ีด่ ีกบั ผู้อ่นื แตกต่างไปจากตน -เลน่ ร่วมกับเพ่อื น ๑.การเลน่ และทำงานร่วมกบั ผอู้ น่ื ส่งิ ตา่ งๆรอบตัว ๘.๓ ปฏิบัติตนเบื้องต้นในการเป็น สมาชกิ ท่ีดขี องสังคม -ยิ้มหรือทักทายผู้ใหญ่และบุคคลที่ ๒. การเลน่ พืน้ บ้านของไทย ๑. การเลน่ และการทำกจิ กรรม คนุ้ เคยเม่ือมผี ู้ช้ีแนะ ๓. การศกึ ษานอกสถานท่ี -ปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลงเม่ือมผี ชู้ แ้ี นะ ๔. การเล่นและทำกิจกรรมร่วมกับ รว่ มกบั ผูอ้ ืน่ -ปฏิบัติตนเป็นผู้นำและผู้ตามเมือ่ มผี ู้ กลุ่มเพ่ือน ๒. การแสดงความเคารพ ช้แี นะ ๕. การทำศิลปะแบบรว่ มมอื -ยอมรับการประนีประนอมแก้ไข ๖. การร่วมสนทนาและแลกเปลย่ี น ปัญหาเมอื่ มผี ู้ชแี้ นะ ความคิดเหน็ ๗. การเล่นรายบุคคล กล่มุ ยอ่ ยและ กลุม่ ใหญ่ ๑. การรว่ มกำหนดขอ้ ตกลงของ ๑. การปฏบิ ัตติ ามกฎระเบยี บและ หอ้ งเรียน ขอ้ ตกลง ๒.การปฏบิ ตั ิตนเป็นสมาชกิ ท่ีดขี อง ๒. ผนู้ ำผ้ตู าม หอ้ งเรียน ๓. การเลน่ รว่ มกับผอู้ ่ืน ๓. การใหค้ วามรว่ มมอื ในการปฏบิ ัติ กจิ กรรมตา่ งๆ ๔. การรว่ มกิจกรรมวันสำคัญ ๕. การมีส่วนรว่ มในการเลอื ก วธิ กี ารแกป้ ญั หา ๖. การมสี ว่ นรว่ มในการแก้ปัญหา ความขัดแย้ง ๔. ดา้ นสตปิ ญั ญา มาตรฐานที่ ๙ ใช้ภาษาสื่อสารไดเ้ หมาะสมกบั วัย ตัวบง่ ชี้ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ สาระการเรยี นรรู้ ายปี ชนั้ อนบุ าลปีท่ี ๑ (๓ – ๔ ปี) ๙.๑ สนทนาโต้ตอบและเล่าเรื่อง -ฟังผู้อื่นพูดจนจบและโต้ตอบ ประสบการณ์สำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ ให้ผู้อืน่ เขา้ ใจ เกย่ี วกับเร่อื งทีฟ่ งั ๑. การฟังเสียงต่างๆในส่ิงแวดลอ้ ม สิ่งตา่ งๆรอบตัว -เลา่ เรื่องด้วยประโยคส้นั ๆ ๒. การฟังและปฏิบัตติ ามคำแนะนำ การสอื่ สาร ๓. การฟังเพลง นิทาน คำคล้องจอง บทร้อย - มารยาทในการฟัง กรอง หรอื เรือ่ งราวต่างๆ - การสนทนา ๔. การเล่นเกมทางภาษา ๑. การพูดแสดงความคิด ความรู้สึก และ ๑. การใชภ้ าษาในการสื่อ ความต้องการ - การเล่าเร่อื ง ๒. การพูดเกี่ยวกับประสบการณ์ของตนเอง หรือพูดเร่อื งราวเกีย่ วกับตนเอง หลกั สตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนุบาลกระสงั สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒
๒๙ ตวั บง่ ช้ี สภาพท่พี งึ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี ช้ันอนบุ าลปที ่ี ๑ (๓ – ๔ ปี) ประสบการณส์ ำคญั สาระที่ควรเรียนรู้ ๓. การพูดอธิบายเกี่ยวกับสิ่งของ เหตุการณ์ และความสมั พนั ธข์ องสงิ่ ตา่ งๆ ๔. การพูดอย่างสร้างสรรค์ในการเล่นและ การกระทำตา่ งๆ ๕. การรอจังหวะทเ่ี หมาะสมในการพูด ๖. การพูดเรียงลำดับเพ่ือใชใ้ นการสอ่ื สาร ๗. การเลน่ เกมทางภาษา ๙.๒ อ่าน เขียนภาพ และ -อา่ นภาพ และพูดขอ้ ความดว้ ย ๑. การอา่ นหนงั สือภาพ นทิ านหลากหลาย ๑. การใช้ภาษาในการส่อื สัญลักษณ์ได้ ภาษาของตน ประเภท/รูปแบบ - การอา่ นภาพ สัญลกั ษณ์ ๒. การอา่ นอยา่ งอสิ ระตามลำพัง การอา่ น นิทาน ร่วมกนั การอ่านโดยมผี ชู้ ีแ้ นะ ๓. การเหน็ แบบอยา่ งของการอา่ นทถ่ี ูกต้อง ๔. การสงั เกตทิศทางการอ่านตวั อกั ษร คำ และขอ้ ความ ๕. การอ่านและชี้ข้อความ โดยกวาดสายตา ตามบรรทัดจากซ้ายไปขวา จากบนลงล่าง ๖. การสังเกตตัวอักษรในชื่อของตน หรือคำ คุ้นเคย ๗. การสังเกตตัวอกั ษรทป่ี ระกอบเป็นคำผ่าน การอา่ นหรอื เขียนของผูใ้ หญ่ ๘. การคาดเดาคำ วลี หรือประโยคที่มี โครงสร้างซ้ำๆกันจากนิทาน เพลง คำคล้อง จอง ๙. การเล่นเกมทางภาษา ๑๐. การเห็นแบบอย่างของการเขียนที่ ถูกตอ้ ง -เขยี นขีด เขย่ี อยา่ งมีทิศทาง ๑. การเขียนร่วมกันตามโอกาส และการ ๑. การใช้ภาษาในการ เขยี นอิสระ สอ่ื สาร ๒. การเขียนคำที่มีความหมายกับตัวเด็ก/คำ - การเขยี นภาพ สญั ลกั ษณ์ คนุ้ เคย ๓. การคิดสะกดคำและเขียนเพื่อส่ือ ความหมายดว้ ยตนเองอยา่ งอิสระ ๔. การเล่นเกมทางภาษา มาตรฐานที่ ๑๐ มีความสามารถในการคิดท่ีเปน็ พ้นื ฐานในการเรยี นรู้ ตวั บง่ ช้ี สภาพท่ีพงึ ประสงค์ สาระการเรยี นรูร้ ายปี ๑๐.๑ มีความสามารถในการคิดรวบ ชั้นอนบุ าลปีท่ี ๑ (๓ – ๔ ป)ี ประสบการณส์ ำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ ยอด -บอกลักษณะของส่งิ ของต่างๆจาก ๑. การสังเกตลกั ษณะ สว่ นประกอบ สิง่ ต่างๆรอบตัว การสงั เกตโดยใชป้ ระสาทสัมผสั การเปลีย่ นแปลง และความสมั พนั ธ์ ๑. การคิด - ประสาทสมั ผัส หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บุรีรัมย์ เขต ๒
๓๐ ตัวบ่งช้ี สภาพท่ีพงึ ประสงค์ สาระการเรยี นร้รู ายปี ชัน้ อนบุ าลปที ่ี ๑ (๓ – ๔ ปี) ประสบการณส์ ำคญั สาระทค่ี วรเรียนรู้ -จบั คู่หรอื เปรยี บเทยี บสิ่งตา่ งๆโดย ใช้ลักษณะหรอื หนา้ ทกี่ ารใชง้ าน ของสง่ิ ตา่ งๆโดยใชป้ ระสาทสมั ผัส - การสังเกต เพยี งลักษณะเดยี ว อยา่ งเหมาะสม -คัดแยกสิ่งต่างๆตามลักษณะหรอื หน้าทก่ี ารใช้งาน ๒. การสงั เกตสิง่ ต่างๆแลละสถานที่ -เรียงลำดับสิ่งของหรือเหตุการณ์ จากมุมมองที่ต่างกนั อยา่ งน้อย ๓ ลำดบั ๓. การเล่นกบั สอ่ื ตา่ งๆท่เี ปน็ ทรงกลม ทรงสี่เหล่ยี มมุมฉาก ทรงกระบอก ทรงกรวย ๔. การใช้ภาษาทางคณติ ศาสตรก์ บั เหตุการณใ์ นชวี ติ ประจำวัน ๑. การคัดแยก การจัดกลุ่ม และการ ๑. การคิด จำแนกสิ่งต่างๆตามลักษณะและ - การจบั คู่ รูปร่าง รูปทรง - การเปรยี บเทยี บ ๒. การต่อของชิ้นเล็กเติมในชิ้นใหญ่ ให้สมบูรณ์ และการแยกช้นิ ส่วน ๓. การจับคู่ การเปรียบเทยี บและการ เรยี งลำดับส่งิ ต่างๆตามลักษณะความ ยาว/ความสงู นำ้ หนกั ปรมิ าตร ๔. การใช้ภาษาทางคณิตศาสตรก์ ับ เหตกุ ารณ์ในชวี ิตประจำวนั ๑. การคัดแยก การจัดกลุ่ม และการ ๑. การคดิ จำแนกสิ่งต่างๆตามลักษณะและ - การจำแนก รปู รา่ ง รปู ทรง - การจดั กลุม่ ๒. การทำซ้ำ การต่อเติม และการ สรา้ งแบบรูป ๓. การรวมและการแยกสง่ิ ตา่ งๆ ๔. การใช้ภาษาทางคณิตศาสตร์กับ เหตุการณ์ในชวี ติ ประจำวนั ๑. การนับและแสดงจำนวนของส่ิง สิ่งตา่ งๆรอบตวั เด็ก ต่างๆในชวี ิตประจำวนั ๑. การคิด ๒. การเปรียบเทียบและเรยี งลำดับ - การเรียงลำดับ จำนวนของสง่ิ ตา่ ง ๆ - จำนวนและตัวเลข ๓. การบอกและแสดงอนั ดับที่ของสง่ิ ตา่ ง ๆ ๔. การบอกและเรยี งลำดบั กจิ กรรม หรอื เหตกุ ารณต์ ามช่วงหรือเวลา ๕. การใชภ้ าษาทางคณติ ศาสตร์กับ เหตกุ ารณ์ในชีวติ ประจำวัน ๖. การบอกและแสดงตำแหน่ง ทศิ ทาง และระยะทางของสง่ิ ต่างดว้ ย การกระทำ ภาพวาด ภาพถ่าย และ รูปภาพ หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บุรีรมั ย์ เขต ๒
๓๑ ตวั บง่ ช้ี สภาพท่พี งึ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี ช้นั อนุบาลปที ี่ ๑ (๓ – ๔ ป)ี ประสบการณ์สำคญั สาระท่ีควรเรียนรู้ ๑๐.๒ มีความสามารถในการคิดเชิง -ระบุผลที่เกดิ ข้นึ ในเหตุการณ์หรือ ๑. การช่ัง ตวง วดั สิ่งต่างๆโดยใช้ ๑. การแสดงความคิดเหน็ เหตผุ ล การกระทำเม่อื มผี ูช้ แี้ นะ เคร่ืองมือและหนว่ ยที่ไม่ใชห่ นว่ ย - การชั่ง มาตรฐาน - การตวง ๑๐.๓ มีความสามารถในการคิด -คาดเดา หรือ คาดคะเนสิ่งที่อาจ ๒. การอธิบายเชื่อมโยง สาเหตุและ - การวัด แกป้ ญั หาและตดั สนิ ใจ เกิดข้นึ ผลที่เกิดขึ้นในเหตุการณ์หรือการ -ตัดสินใจในเรอื่ งงา่ ยๆ กระทำ -การหาความสมั พนั ธ์ -แกป้ ัญหาโดยลองผิดลองถูก ๑. การคาดเดาหรือการคาดคะเนส่ิงที่ ๑. การตัดสนิ ใจ อาจจะเกดิ ขึ้นอยา่ งมเี หตผุ ล - การเล่นหรือทำสิ่งต่างๆด้วย ๒. การมีส่วนร่วมในการลงความเห็น ตนเองคนเดยี วหรือกับผูอ้ ่นื จากขอ้ มูลอยา่ งมเี หตผุ ล ๑. การแก้ปัญหา ๑. การตดั สินใจและมสี ว่ นร่วมใน - การเรยี นรู้ในการทำส่ิงตา่ งๆ กระบวนการแกป้ ัญหา ๒. การอธบิ ายเชอ่ื มโยง สาเหตุและ ผลที่เกดิ ขน้ึ ในเหตกุ ารณห์ รอื การ กระทำ ๑. การตัดสินใจและมีสว่ นร่วมใน กระบวนการแกป้ ัญหา ๒. การคาดเดาหรือการคาดคะเนสง่ิ ที่ อาจจะเกิดขึน้ อย่างมเี หตผุ ล ๓. การมสี ่วนรว่ มในการลงความเห็น จากขอ้ มูลอยา่ งมีเหตุผล มาตรฐานท่ี ๑๑ มีจนิ ตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ ตัวบ่งชี้ สภาพทีพ่ ึงประสงค์ สาระการเรยี นรูร้ ายปี ๑๑.๑ เล่น/ทำงานศลิ ปะตาม ช้ันอนุบาลปีท่ี ๑ (๓ – ๔ ปี) ประสบการณส์ ำคญั สาระท่คี วรเรียนรู้ จินตนาการและความคิด สรา้ งสรรค์ -สร้างผลงานศิลปะเพื่อสือ่ สาร ๑. การแสดงความคดิ สร้างสรรค์ ๑. การทำงานศิลปะ ความคิด ความรสู้ ึกของตนเอง ผา่ นภาษา ทา่ ทาง การเคลอ่ื นไหว และศิลปะ ๒. การเขยี นภาพและการเลน่ กับสี ๓. การปัน้ ๔. การประดิษฐ์สิ่งต่างๆด้วยเศษ วสั ดุ ๕. การทำงานศิลปะที่นำวัสดุหรือ สิ่งของเครื่องใช้ที่ใช้แล้วมาใช้ซ้ำ หรือแปรรปู แล้วนำกลับมาใช้ใหม่ หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนอนบุ าลกระสงั สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒
๓๒ ตัวบง่ ช้ี สภาพทพี่ งึ ประสงค์ สาระการเรยี นรรู้ ายปี ชนั้ อนบุ าลปีท่ี ๑ (๓ – ๔ ปี) ๑๑.๒ แสดงท่าทาง/เคล่ือนไหว ประสบการณ์สำคญั สาระที่ควรเรยี นรู้ ตามจินตนาการอยา่ งสรา้ งสรรค์ -เคลื่อนไหวท่าทางเพื่อสื่อสาร ความคิด ความรสู้ ึกของตนเอง ๖. การหยิบจับ การใช้กรรไกร การ ฉกี การตดั การปะและการรอ้ ยวสั ดุ ๗.การแสดงความคิดสร้างสรรค์ ผา่ นภาษา ทา่ ทาง การเคลอื่ นไหว และศิลปะ ๘. การทำงานศลิ ปะ ๙. การสร้างสรรค์ชิ้นงานโดยใช้ ร ู ป ร ่ า ง ร ู ป ท ร ง จ า ก ว ั ส ดุที่ หลากหลาย ๑๐. การรับร้แู ละแสดงความคดิ ความรสู้ ึกผา่ นส่อื วสั ดุ ของเลน่ และชิ้นงาน ๑. การเคลื่อนไหวอยกู่ บั ท่ี - การแสดงท่าทางต่างๆตาม ๒. การเคลอื่ นไหวเคลอ่ื นที่ ความคดิ ของตนเอง ๓. การเคลื่อนไหวพร้อมวัสดุ อุปกรณ์ ๔. การแสดงความคดิ สรา้ งสรรค์ ผ่านภาษา ทา่ ทาง การเคลื่อนไหว และศลิ ปะ ๕. การเคลื่อนไหวโดยควบคุม ตนเองไปในทิศทาง ระดบั และพื้นท่ี ๖. การเคลือ่ นไหวตามเสยี งเพลง/ ดนตรี ๗. การฟังเพลง การร้องเพลงและ การแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบ เสียงดนตรี มาตรฐานที่ ๑๒ มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ ได้เหมาะสมกับวยั ตวั บ่งช้ี สภาพทีพ่ งึ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี ๑๒.๑ มีเจตคติทด่ี ีตอ่ การเรียนรู้ ชัน้ อนุบาลปีที่ ๑ (๓ – ๔ ปี) - สนใจฟังหรอื อา่ นหนงั สือดว้ ย ประสบการณส์ ำคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้ ตนเอง ๑. การสำรวจสิ่งต่างๆ และแหล่ง ๑. การทำกิจกรรม เล่นเกม -กระตอื รือร้นในการเขา้ รว่ ม กจิ กรรม เรยี นร้รู อบตวั การละเล่นต่างๆ ๒. การตั้งคำถามในเร่อื งทส่ี นใจ ๒. การอา่ นหนงั สือภาพ ๑. การให้ความร่วมมือในการ ๑. การแสดงออกทางอารมณ์และ ปฏบิ ัติกิจกรรมต่างๆ ความรสู้ ึก ๒. การตง้ั คำถามในเรอื่ งทีส่ นใจ ๒. ความสนใจในการทำกิจกรรม ๓. การมีส่วนร่วมในการรวบรวม ข้อมูลและนำเสนอข้อมูลจากการ หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลกระสัง สพป.บรุ ีรัมย์ เขต ๒
๓๓ ตัวบ่งช้ี สภาพท่พี ึงประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี ชัน้ อนบุ าลปีที่ ๑ (๓ – ๔ ปี) ๑๒.๒ มคี วามสามารถในการ -ค้นหาคำตอบของข้อสงสัยต่างๆ ประสบการณ์สำคญั สาระท่ีควรเรยี นรู้ แสวงหาความรู้ ตามวธิ กี ารท่มี ผี ชู้ แ้ี นะ สืบเสาะหาความรู้ในรูปแบบต่างๆ -เชื่อมโยงคำถาม “อะไร” ในการ ค้นหาคำตอบ และแผนภูมอิ ยา่ งง่าย ๑. การสำรวจสิ่งต่างๆ และแหล่ง - การเรียนรู้ที่จะเล่นและทำสิ่ง เรยี นรู้รอบตัว ต่างๆ ๒. การตง้ั คำถามในเรื่องที่สนใจ ๓. การสืบเสาะหาความรู้เพ่ือ ค้นหาคำตอบของข้อสงสัยต่างๆ ๔. การมีส่วนร่วมในการรวบรวม ข้อมูลและนำเสนอข้อมูลจากการ สืบเสาะหาความรู้ในรูปแบบต่างๆ และแผนภูมิอย่างงา่ ย ๑. การตง้ั คำถามในเรอ่ื งท่ีสนใจ - การสนใจซักถามในสิง่ ที่ตนอยาก ๒. การสืบเสาะหาความรู้เพื่อ รู้ คน้ หาคำตอบของข้อสงสัยต่างๆ หลกั สูตรสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บรุ รี ัมย์ เขต ๒
๓๔ ตารางวิเคราะหส์ าระการเรยี นรู้รายปี ชว่ งอายุ ๔ – ๕ ปี ๑.พัฒนาการดา้ นร่างกาย มาตรฐานที่ ๑ ร่างกายเจริญเติบโตตามวยั เดก็ มีสุขนสิ ยั ทีด่ ี ตวั บง่ ช้ี สภาพที่พึงประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี ช้ันอนุบาลปที ี่ ๒ (๔ – ๕ ปี) ประสบการณส์ ำคญั สาระทคี่ วรเรียนรู้ ๑.๑ มีนำ้ หนักและ -น้ำหนักและสว่ นสูงตามเกณฑ์ของ ๑.การปฏบิ ัติตนตามสขุ อนามยั สขุ นิสัย ๑. การปฏิบตั กิ ิจวตั รประจำวัน สว่ นสูงตามเกณฑ์ กรมอนามยั ท่ดี ใี นกิจวัตรประจำวัน - การเปลีย่ นแปลงของร่างกาย ๑.๒ มีสขุ ภาพ -รบั ประทานอาหารทีม่ ีประโยชน์ ๑.การปฏบิ ตั ิตนตามสขุ อนามยั สุขนสิ ยั ส่งิ ต่างๆรอบตัว อนามยั สขุ นสิ ัยทดี่ ี และด่ืมนำ้ สะอาดดว้ ยตนเอง ท่ีดใี นกิจวตั รประจำวนั ๑. การปฏบิ ัติกิจวตั รประจำวัน -ล้างมอื กอ่ นรับประทานอาหารและ ๒. การประกอบอาหารไทย - สุขนิสัยท่ดี ใี นการรบั ประทานอาหาร หลงั จากใช้ห้องน้ำห้องสว้ มดว้ ย ๑. การปฏบิ ัตกิ จิ วัตรประจำวนั ตนเอง ๑.การปฏิบัตติ นตามสขุ อนามยั สขุ นสิ ยั - การทำความสะอาดรา่ งกาย ที่ดีในกจิ วตั รประจำวนั -ล้างหน้าและแปรงฟันถกู วธิ หี ลงั ๒. การช่วยเหลอื ตนเองในการปฏบิ ตั กิ จิ ก ๑. การปฏบิ ตั กิ จิ วตั รประจำวัน รับประทานอาหาร - การทำความสะอาดรา่ งกาย วตั รประจำวัน -นอนพกั ผอ่ นเป็นเวลา - การพักผอ่ น ๓. การปฏบิ ัตติ นใหป้ ลอดภยั ในกจิ วตั ร ประจำวัน ๔. การฟงั นิทาน เรื่องราว เหตกุ ารณเ์ กย่ี วกบั การปอ้ งกัน และรกั ษาความปลอดภยั ๑.การปฏบิ ตั ิตนตามสขุ อนามยั สุขนิสัย ที่ดีในกจิ วัตรประจำวัน ๒. การช่วยเหลอื ตนเองในการปฏบิ ัติกจิ วตั ร ประจำวนั ๓. การปฏบิ ตั ิตนให้ปลอดภยั ในกจิ วัตร ประจำวนั ๔. การฟังนิทาน เรื่องราว เหตุการณ์เกย่ี วกบั การป้องกัน และรักษาความปลอดภยั - การปฏิบตั ิตนตามสุขอนามยั สขุ นสิ ัย ท่ีดใี นกจิ วัตรประจำวัน -ออกกำลังกายเปน็ เวลา ๑. การเล่นอสิ ระ - การออกกำลงั กาย ๒. การเคลอื่ นไหวข้ามสงิ่ กีดขวาง - การเล่นในหอ้ งเรียนและนอก ๓. การเล่นเครอื่ งเล่นอย่างปลอดภยั ห้องเรียน ๔. การละเล่นพ้ืนบา้ นไทย ๕. การเล่นนอกหอ้ งเรียน ๖. การเล่นเครอื่ งเลน่ สนามอยา่ งอิสระ หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนุบาลกระสัง สพป.บรุ รี ัมย์ เขต ๒
๓๕ ตัวบง่ ชี้ สภาพท่ีพงึ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี ๑.๓ รักษาความ ชัน้ อนุบาลปีที่ ๒ (๔ – ๕ ปี) ประสบการณส์ ำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ปลอดภยั ของ ตนเองและผู้อน่ื -เลน่ และทำกจิ กรรมอยา่ งปลอดภยั ๑.การปฏิบตั ติ นใหป้ ลอดภยั ใน กิจวัตร - การเลน่ และทำงานด้วยตนเอง ด้วยตนเอง ประจำวัน ๒. การฟังนทิ าน เรื่องราวเหตุการณเ์ กย่ี วกับ การป้องกนั และรกั ษาความปลอดภยั ๓. การเล่นบทบาทสมมุติเหตกุ ารณต์ า่ งๆ ๔. การพดู กบั ผู้อน่ื เกี่ยวกบั ประสบการณ์ของ ตนเองหรอื พดู เรื่องราวเกย่ี วกบั ตนเอง ๕. การเลน่ เคร่อื งเล่นอย่างปลอดภยั ๖. การเล่นและทำงานรว่ มกับผู้อนื่ มาตรฐานที่ ๒ กล้ามเนื้อใหญ่และกล้ามเนื้อเล็กแข็งแรงใช้ได้อย่างคล่องแคล่วและประสาน สมั พันธ์กนั ตัวบ่งชี้ สภาพทพ่ี ึงประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี ตัวบ่งชี้ที่ ๒.๑ เคลื่อนไหว ช้ันอนุบาลปีที่ ๒ (๔ – ๕ ปี) ประสบการณส์ ำคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้ ร ่า ง กา ย อย ่า ง คล่อง แ ค ล่ ว -เดินต่อเท้าไปข้างหน้าเป็นเส้นตรง ๑. การเคลอ่ื นไหวอยูก่ ับท่ี ๑. การเคลื่อนไหวร่างกาย ประสานสมั พนั ธ์และทรงตวั ได้ ได้โดยไมต่ อ้ งกางแขน ๒. การเคลื่อนไหวเคลื่อนท่ี ในลักษณะตา่ ง ๆ -กระโดดขาเดียวอยู่กับที่ได้โดยไม่ ๓. การเคลือ่ นไหวพรอ้ มอุปกรณ์ ๒. การใช้มอื ทำสง่ิ ต่าง ๆ ตัวบง่ ช้ีที่ ๒.๒ ใชม้ อื -ตาประสาน เสียการทรงตัว ๔. การเคล่ือนไหวทีใ่ ชก้ ารประสาน สมั พนั ธก์ นั สมั พันธ์ของกลา้ มเน้ือใหญใ่ นการ - การใช้มอื ทำส่งิ ตา่ ง ๆ -วิง่ หลบหลีกส่งิ กดี ขวางได้ ขว้าง การจบั การโยน การเตะ -โยนรบั ลูกบอลไดด้ ว้ ยมอื ทง้ั สองข้าง ๕. การเล่นเครื่องเล่นสนามอย่าง อสิ ระ -ใช้กรรไกรตัดกระดาษตามแนว ๖. การเคลื่อนไหวขา้ มส่งิ กีดขวาง เส้นตรงได้ ๗. การเคลื่อนไหวโดยควบคุม -เขยี นรปู ส่ีเหลยี่ มตามแบบไดอ้ ย่างมี ตนเองไปในทิศทางระดับและพ้ืนท่ี มุมชัดเจน -ร้อยวัสดุที่มีรูขนาดเส้นผ่านศูนย์ ๑. การเล่นเคร่ืองเลน่ สัมผสั และ กลาง ๐.๕ ซม.ได้ การสร้างสง่ิ ตา่ งๆจากแท่งไม้บลอ็ ก ๒.การเขยี นภาพและการเล่นกับสี ๓. การประดิษฐ์สิ่งต่างๆด้วยเศษ วัสดุ ๔. การหยิบจับ การใชก้ รรไกร การ ฉกี การตัด การปะ การรอ้ ยวัสดุ หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลกระสงั สพป.บุรรี ัมย์ เขต ๒
๓๖ ๒.พฒั นาการด้านอารมณ์ จติ ใจ มาตรฐานท่ี ๓ มสี ขุ ภาพจติ ดีและมีความสขุ ตัวบ่งชี้ สภาพที่พงึ ประสงค์ สาระการเรยี นรรู้ ายปี ๓.๑ แสดงออกทางอารมณอ์ ย่าง ชนั้ อนุบาลปีท่ี ๒ (๔ – ๕ ปี) ประสบการณ์สำคญั สาระท่คี วรเรยี นรู้ เหมาะสม -แสดงอารมณ์ ความรสู้ กึ ไดต้ าม ๑. การพูดสะทอ้ นความรสู้ กึ ของ ๑. อารมณแ์ ละความรู้สกึ สถานการณ์ ตนเองและผู้อืน่ - การแสดงออกทางอารมณ์ท่ี ๒. การเล่นบทบาทสมมตุ ิ เหมาะสมกับสถานการณต์ า่ ง ๆ ๓. การเคลอ่ื นไหวตามเสยี งเพลง - ความตอ้ งการทางร่างกายและการ ดนตรี ตอบสนอง ๔. การรอ้ งเพลง - ความตอ้ งการทางจิตใจและการ ๕. การทำงานศลิ ปะ ตอบสนอง - การพดู แสดงความคิดเห็น ๓.๒ มคี วามรู้สึกทด่ี ตี อ่ ตนเองและ -กล้าพดู กล้าแสดงออกอยา่ งเหมาะสม ผู้อืน่ บางสถานการณ์ -แสดงความพอใจในผลงานและ ความสามารถของตนเอง - การประสบความสำเร็จใน สิ่ง ต่างๆ ท่ีทำ มาตรฐานท่ี ๔ ชืน่ ชมและแสดงออกทางศลิ ปะ ดนตรี และการเคลื่อนไหว ตัวบง่ ช้ี สภาพท่พี ึงประสงค์ สาระการเรยี นรรู้ ายปี ชั้นอนบุ าลปีท่ี ๒ ๔.๑ สนใจและมีความสขุ และ -สนใจและมคี วามสขุ และแสดงออกผา่ น ประสบการณ์สำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ แสดงออกผ่านงานศลิ ปะ ดนตรี งานศลิ ปะ และการเคลือ่ นไหว ๑. การทำกิจกรรมศลิ ปะตา่ งๆ - การทำกจิ กรรมศิลปะสรา้ งสรรค์ -สนใจ มีความสขุ และแสดงออกผ่าน เสยี งเพลง ดนตรี ๒. การสร้างสรรคส์ ง่ิ สวยงาม -สนใจ มคี วามสุขและแสดงท่าทาง/ ๓. การรับรูแ้ ละแสดงความคดิ เคล่ือนไหวประกอบเพลง จงั หวะและ ดนตรี ความร้สู กึ ผา่ นสื่อ วัสดุ ของเล่น และชนิ้ งาน ๔. การปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ งๆ ตาม ความสามารถของตนเอง ๑. การฟงั เพลง การร้องเพลง และ - การฟัง การรอ้ งเพลง การแสดงปฏิกริ ยิ าโต้ตอบ เสยี งดนตรี ๒. การเล่นเครอื่ งดนตรีประกอบ จังหวะ ๔. การปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ ตาม ความสามารถของตนเอง ๑. การฟงั เพลง การร้องเพลง และ - การแสดงท่าทางเคล่ือนไหว การแสดงปฏกิ ริ ยิ าโต้ตอบ ประกอบเพลง จังหวะและดนตรี เสยี งดนตรี ๒. การเคลอ่ื นไหวตามเสยี งเพลง ดนตรี หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนอนบุ าลกระสงั สพป.บุรรี มั ย์ เขต ๒
๓๗ ตัวบง่ ช้ี สภาพท่พี ึงประสงค์ สาระการเรยี นรูร้ ายปี ชัน้ อนุบาลปีท่ี ๒ ประสบการณ์สำคญั สาระที่ควรเรียนรู้ ๔. การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมต่างๆ ตาม ความสามารถของตนเอง ๕. การเลน่ เคร่อื งดนตรีประกอบ จังหวะ มาตรฐานที่ ๕ มคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรมและมีจติ ใจท่ีดีงาม ตวั บง่ ช้ี สภาพท่พี งึ ประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี ๕.๑ ซอ่ื สัตย์ สจุ ริต ชัน้ อนุบาลปที ี่ ๒ - ขออนุญาตหรือรอคอยเมื่อต้องการ ประสบการณส์ ำคญั สาระทคี่ วรเรียนรู้ ๕.๒ มคี วามเมตตา กรณุ า ส่ิงของของผ้อู น่ื เมือ่ มผี ู้ช้แี นะ ม ี น ้ ำ ใ จ แ ล ะ ช ่ ว ย เ ห ลื อ ๑. ปฏบิ ัติตนเปน็ สมาชกิ ทดี่ ขี องหอ้ งเรยี น สิ่งต่างๆรอบตวั เดก็ แบง่ ปนั -แสดงความรักเพื่อนและมีเมตตาสัตว์ เลี้ยง ๒. การฟังนทิ านเกย่ี วกบั คุณธรรม ๑. คุณธรรมจรยิ ธรรม จริยธรรม - ความซื่อสัตย์ สจุ รติ ๓. การรว่ มสนทนาและแลกเปลยี่ นความ - ความเกรงใจ คิดเหน็ เชงิ จรยิ ธรรม ๒. การเคารพสิทธิของตนเองและผู้อืน่ ๔. เลน่ บทบาทสมมตุ ิ ๕. การเล่นและทำงานรว่ มกบั ผู้อนื่ ๖. การปฏบิ ตั ติ นตามหลักศาสนาท่ีนับถอื ๑. การฟงั นทิ านเกยี่ วกบั คุณธรรม ๑. คณุ ธรรมจริยธรรม จริยธรรม - ความเมตตากรุณา ๒. เลน่ บทบาทสมมุติ ๓. การเล้ียงสัตว์ -ช่วยเหลือและแบ่งปันผู้อื่นได้เมื่อมีผู้ ๑. การฟงั นิทานเกยี่ วกับคณุ ธรรม ๑. คุณธรรมจริยธรรม ช้แี นะ จริยธรรม - ความมนี ำ้ ใจ ช่วยเหลือแบ่งปนั ๒. เลน่ บทบาทสมมุติ - ความกตญั ญู ๓. ปฏบิ ัตติ นเป็นสมาชกิ ท่ีดีของห้องเรยี น ๔. การเล่นรายบุคคล กลุ่มยอ่ ย และกลมุ่ ใหญ่ ๕. การเล่นตามมมุ ประสบการณ์/มุมเลน่ ต่างๆ ๕.๓ มีความเห็นอกเห็น -แสดงสีหน้าหรือท่าทางรับรู้ความรู้สึก ๑. การเล่นและทำงานรว่ มกบั ผอู้ ่นื ๑. คุณธรรมจรยิ ธรรม ใจผอู้ ่นื ผู้อนื่ ๒. การเลน่ บทบาทสมมุติ - ความเหน็ อกเห็นใจผ้อู ื่น ๓. การแสดงความยินดีเมื่อผู้อื่นมีความสุข เห็นใจเมื่อผู้อื่นเศร้าหรือเสียใจและการ ช่วยเหลอื ปลอบโยนเมอ่ื ผอู้ ่ืนไดร้ บั บาดเจ็บ ๕.๔ มคี วามรบั ผิดชอบ -ทำงานทีไ่ ด้รบั มอบหมายจนสำเรจ็ เมอื่ ๑. การทำกจิ กรรมศลิ ปะต่างๆ ๑. คุณธรรมจริยธรรม มผี ชู้ ีแ้ นะ ๒. การดแู ลห้องเรยี นร่วมกนั - ความรบั ผิดชอบ ๓. การมีส่วนรว่ มรบั ผดิ ชอบ ดแู ลรกั ษา - ความอดทน มุ่งม่ัน ส่ิงแวดล้อมทั้งภายในและภายนอก - ความเพียร หอ้ งเรียน ๔. การรว่ มกำหนดขอ้ ตกลงของห้องเรยี น ๓.พัฒนาการดา้ นสงั คม หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนอนบุ าลกระสัง สพป.บรุ รี ัมย์ เขต ๒
๓๘ มาตรฐานที่ ๖ มที กั ษะชวี ติ และปฏิบตั ิตนตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ตัวบง่ ช้ี สภาพท่พี งึ ประสงค์ สาระการเรยี นรรู้ ายปี ๖.๑ ชว่ ยเหลอื ตนเองในการ ชั้นอนุบาลปที ่ี ๒ ปฏบิ ตั กิ จิ วัตรประจำวนั - แต่งตัวดว้ ยตนเอง ประสบการณส์ ำคญั สาระท่ีควรเรียนรู้ -รับประทานอาหารดว้ ยตนเอง ๖.๒ มวี ินยั ในตนอง ๑. การช่วยเหลือตนเองในกจิ วตั ร ๑. การช่วยเหลอื ตนเอง - ใช้หอ้ งน้ำหอ้ งสว้ มดว้ ยตนเอง ๖.๓ ประหยดั และพอเพยี ง ประจำวนั ๒. มารยาทในการรบั ประทานอาหาร -เกบ็ ของเล่นของใช้เขา้ ที่ด้วยตนเอง -เข้าแถวตามลำดับก่อนหลังได้ด้วย ๒. การใหค้ วามรว่ มมือในการปฏบิ ัติ ตนเอง กิจกรรมตา่ งๆ -ใชส้ ่ิงของเคร่อื งใชอ้ ยา่ งประหยัด และพอเพยี งเมอ่ื มีผู้ชแี้ นะ ๓. การปฏิบัติกิจกรรมต่างๆตาม ความสามารถของตนเอง ๑. การร่วมกำหนดขอ้ ตกลงของ ๑. การเล่นและการเก็บสิง่ ของ หอ้ งเรียน ๑. การรอคอยตามลำดับกอ่ นหลงั ๒. การปฏิบัตติ นเปน็ สมาชกิ ทด่ี ีของ ๒. การเขา้ แถว หอ้ งเรยี น ๓. การใหค้ วามร่วมมือในการปฏบิ ัติ กจิ กรรมตา่ งๆ ๔. การดแู ลหอ้ งเรียนรว่ มกนั ๑. การปฏิบัติตนตามแนวทางหลัก ๑. การเลือกใช้สิ่งของเครื่องใช้อย่าง ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียง ประหยดั ๒. การใช้วัสดแุ ละส่ิง ของเครื่องใชอ้ ยา่ งคมุ้ คา่ มาตรฐานท่ี ๗ รักธรรมชาติ สง่ิ แวดล้อม วฒั นธรรม และความเป็นไทย ตวั บ่งชี้ สภาพท่ีพึงประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี ชน้ั อนุบาลปที ่ี ๒ ๗.๑ ดแู ลรกั ษาธรรมชาตแิ ละ -มีส่วนร่วมในการดูแลรักษา ประสบการณส์ ำคญั สาระทคี่ วรเรียนรู้ ส่ิงแวดลอ้ ม ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมอื่ มผี ูช้ แี้ นะ ๑. การมีส่วนรว่ มในการดแู ลรักษา ๑. สิ่งแวดล้อมในโรงเรียนและการ -ทงิ้ ขยะไดถ้ ูกที่ สงิ่ แวดลอ้ มทง้ั ภายในและภายนอก ดแู ลรักษา ห้องเรยี น ๒. สิ่งแวดล้อมตามธรรมชาติและการ ๒.การสนทนาข่าวและเหตุการณ์ที่เก่ียวกับ อนรุ กั ษ์ส่งิ แวดล้อม ธรรมชาติและสิ่งแวดลอ้ มในชีวติ ประจำวัน ๓. การรักษาสาธารณสมบัติใน ๓. การเพาะปลกู และดแู ลตน้ ไม้ หอ้ งเรยี น ๔. การอธิบายเชื่อมโยงสาเหตุและผลท่ี เกดิ ข้ึนในเหตกุ ารณ์หรือการกระทำ ๕. การตดั สินใจและมสี ว่ นร่วมใน กระบวนการแกป้ ัญหา ๑. การคัดแยก การจัดกลุ่มและจำแนกสิ่ง ๑. ขยะและการคัดแยกขยะ ต่างๆตามลักษณะและรูปร่าง รปู ทรง ๒. การดูแลรกั ษาสงิ่ แวดล้อม ๒. การใช้วัสดุและสิ่งของเครื่องใช้อย่าง คมุ้ คา่ ๓. การทำงานศิลปะที่นำวัสดุหรือสิ่งของ เครื่องใช้ที่ใช้แล้วมาใช้ซ้ำหรือแปรรูปแล้ว นำกลบั มาใช้ใหม่ หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรยี นอนบุ าลกระสงั สพป.บุรรี มั ย์ เขต ๒
๓๙ ตวั บง่ ช้ี สภาพท่ีพึงประสงค์ สาระการเรยี นรรู้ ายปี ช้นั อนบุ าลปีท่ี ๒ ประสบการณ์สำคญั สาระทคี่ วรเรยี นรู้ ๔. การสร้างสรรคช์ ้ินงานโดยใชร้ ปู รา่ ง รูปทรงจากวสั ดุท่ีหลากหลาย ๕. การปฏิบัติตนเป็นสมาชิกที่ดีของ ห้องเรียน ๗.๒ มมี ารยาทตามวฒั นธรรมไทย -ปฏบิ ตั ติ นตามมารยาทไทย ๑. การปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมท้อง ๑. การปฏิบัติตนตามมารยาทและ และรกั ความเปน็ ไทย ได้ดว้ ยตนเอง ถิน่ ทอ่ี าศัยและประเพณไี ทย วัฒนธรรมไทย ๒. การเลน่ บทบาทสมมุตกิ ารปฏบิ ัติตนใน - การแสดงความเคารพ ความเปน็ คนไทย -กล่าวคำขอบคุณและขอ ๑. การปฏบิ ตั ิตนตามวัฒนธรรมท้อง ๑. การปฏบิ ัติตนตามมารยาทและ โทษด้วยตนเอง ถิน่ ท่ีอาศยั และประเพณีไทย วฒั นธรรมไทย ๒. การเลน่ บทบาทสมมตุ กิ ารปฏบิ ตั ิตนใน - การพดู สุภาพ -หยดุ เม่ือไดย้ ินเพลงชาติไทย ความเปน็ ไทย - การกล่าวคำขอบคุณและขอโทษ และเพลงสรรเสริญพระ ๓. การพูดสะท้อนความรู้สึกของตนเอง บารมี และผู้อื่น - การแสดงออกที่เหมาะสมกับ ๑. การปฏิบัติตนตามวฒั นธรรมทอ้ ง สถานการณ์ ถ่ินที่อาศยั และประเพณีไทย ๒. การเล่นบทบาทสมมตุ กิ ารปฏบิ ัตติ นใน ความเป็นไทย ๓. การร่วมกจิ กรรมวนั สำคัญ มาตรฐานที่ ๘ อยรู่ ่วมกับผ้อู น่ื ได้อย่างมคี วามสขุ และปฏบิ ตั ิตนเปน็ สมาชิกที่ดีของสงั คม ในระบอบประชาธปิ ไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ตัวบง่ ชี้ สภาพทพี่ งึ ประสงค์ สาระการเรยี นรูร้ ายปี ๘.๑ ยอมรบั ความเหมอื นและ ช้ันอนุบาลปที ี่ ๒ ความแตกต่างระหว่างบคุ คล -เล่นและทำกิจกรรมร่วมกับกลุ่ม ประสบการณ์สำคญั สาระท่ีควรเรียนรู้ เด็กทแี่ ตกตา่ งไปจากตน ๘.๒ มปี ฏสิ มั พันธท์ ่ดี ีกับผอู้ นื่ ๑.การเลน่ และทำงานร่วมกบั - การเล่นและการทำกจิ กรรม -เล่นหรือทำงานร่วมกับเพื่อนเป็น กลุ่ม ผู้อื่น รว่ มกบั ผู้อ่นื -ย้มิ หรอื ทกั ทายหรอื พดู คุยกับผู้ใหญ่ ๒. การเล่นพืน้ บ้านของไทย - การเลน่ และทำกจิ กรรมกลุ่ม และบคุ คลทค่ี นุ้ เคยได้ด้วยตนเอง ๓. การศึกษานอกสถานท่ี ๔. การเล่นและทำกิจกรรม ใหญ่ รว่ มกบั กลมุ่ เพือ่ น ๕. การทำศลิ ปะแบบร่วมมือ ๖. การร่วมสนทนาและ - การปฏบิ ตั ติ ามวัฒนธรรม แลกเปลยี่ นความคดิ เห็น ท้องถ่นิ และความเป็นไทย ๗. การเลน่ รายบคุ คล กลมุ่ ย่อย และกลุ่มใหญ่ หลกั สูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนอนบุ าลกระสัง สพป.บรุ รี มั ย์ เขต ๒
๔๐ ๘.๓ ปฏิบัติตนเบื้องต้นในการเป็น -มสี ่วนร่วมสรา้ งขอ้ ตกลงและปฏิบัติ ๑. การรว่ มกำหนดขอ้ ตกลงของ - การปฏิบัตติ ามกฎระเบยี บและ สมาชกิ ทด่ี ีของสงั คม ตามข้อตกลงเมือ่ มผี ชู้ ีแ้ นะ หอ้ งเรียน ข้อตกลง ๒.การปฏบิ ัติตนเป็นสมาชกิ ท่ดี ี -ปฏิบัติตนเป็นผู้นำและผู้ตามท่ีดีได้ ของหอ้ งเรียน - ผู้นำผตู้ าม ด้วยตนเอง ๓. การให้ความร่วมมือในการ ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมต่างๆ - การแสดงออกทางอารมณ์และ -ประนีประนอมแก้ไขปัญหาโดย ๔. การร่วมกิจกรรมวนั สำคัญ ความร้สู กึ อยา่ งเหมาะสม ปราศจากการใช้ความรุนแรงเมื่อมีผู้ ๕. การมีสว่ นรว่ มในการเลือก ชี้แนะ วธิ ีการแกป้ ญั หา ๖. การมีสว่ นรว่ มในการ แกป้ ญั หาความขดั แย้ง ๔. ดา้ นสติปญั ญา มาตรฐานที่ ๙ ใชภ้ าษาสื่อสารไดเ้ หมาะสมกบั วยั ตัวบ่งช้ี สภาพที่พึงประสงค์ สาระการเรยี นรูร้ ายปี ชน้ั อนุบาลปที ่ี ๒ ๙.๑ สนทนาโต้ตอบและเล่าเรื่อง -ฟงั ผอู้ น่ื พูดจนจบและ ประสบการณ์สำคญั สาระทค่ี วรเรยี นรู้ ใหผ้ อู้ ่นื เข้าใจ สนทนาโต้ตอบ สอดคล้องกับเรอ่ื งทีฟ่ งั ๑. การฟังเสียงตา่ งๆในสง่ิ แวดลอ้ ม มารยาทในการฟัง ๒. การฟงั และปฏบิ ตั ิตามคำแนะนำ - การรับฟงั ๓. การฟังเพลง นิทาน คำคล้องจอง บทร้อย กรอง หรือเร่อื งราวตา่ งๆ ๔. การเลน่ เกมทางภาษา -เลา่ เรื่องเปน็ ประโยค ๑. การพูดแสดงความคดิ ความร้สู กึ และความ - การเล่าเรือ่ งราวหรอื นิทาน อย่างตอ่ เน่อื ง ตอ้ งการ ๒. การพดู เกย่ี วกับประสบการณ์ของตนเอง หรือพูดเรอ่ื งราวเก่ียวกบั ตนเอง ๓. การพดู อธบิ ายเกยี่ วกบั สิ่งของ เหตกุ ารณ์ และความสัมพนั ธข์ องส่งิ ต่างๆ ๔. การพดู อย่างสรา้ งสรรคใ์ นการเล่นและการ กระทำตา่ งๆ ๕. การรอจงั หวะท่ีเหมาะสมในการพดู ๖. การพดู เรยี งลำดบั เพ่อื ใช้ในการส่อื สาร ๗. การเลน่ เกมทางภาษา ๙.๒ อ่าน เขียนภาพ และ -อา่ นภาพ สญั ลักษณ์ ๑. การอา่ นหนงั สือภาพ นิทานหลากหลาย - การอา่ นภาพ สญั ลักษณ์ นทิ าน สัญลักษณไ์ ด้ คำ พร้อมทงั้ ชี้ หรอื ประเภท/รูปแบบ กวาดตามองข้อความ ๒. การอา่ นอยา่ งอสิ ระตามลำพัง การอา่ น ตามบรรทดั รว่ มกนั การอ่านโดยมีผ้ชู ีแ้ นะ ๓. การเหน็ แบบอยา่ งของการอา่ นท่ีถกู ต้อง ๔. การสังเกตทศิ ทางการอา่ นตวั อกั ษร คำ และ ขอ้ ความ หลักสตู รสถานศึกษาโรงเรียนอนบุ าลกระสัง สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒
๔๑ ตวั บง่ ชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ สาระการเรยี นรูร้ ายปี ชน้ั อนบุ าลปที ่ี ๒ ประสบการณ์สำคญั สาระที่ควรเรียนรู้ -เขยี นคลา้ ยตวั อกั ษร ๕. การอ่านและชี้ข้อความ โดยกวาดสายตา ตามบรรทัดจากซา้ ยไปขวา จากบนลงล่าง ๖. การสังเกตตัวอักษรในชื่อของตน หรือคำ คุ้นเคย ๗. การสังเกตตัวอักษรที่ประกอบเป็นคำผ่าน การอา่ นหรอื เขยี นของผ้ใู หญ่ ๘. การคาดเดาคำ วลี หรือประโยคที่มี โครงสร้างซ้ำๆกนั จากนทิ าน เพลง คำคล้องจอง ๙. การเล่นเกมทางภาษา ๑๐. การเหน็ แบบอย่างของการเขยี นทถ่ี กู ตอ้ ง ๑. การเขียนร่วมกันตามโอกาส และการเขียน - การใช้มือทำสงิ่ ต่าง ๆ อสิ ระ - การเขยี นภาพ สญั ลักษณ์ ตัวอกั ษร ๒. การเขียนคำที่มีความหมายกับตัวเด็ก/คำ คุ้นเคย ๓. การคิดสะกดคำและเขยี นเพือ่ สือ่ ความหมาย ด้วยตนเองอยา่ งอิสระ ๔. การเล่นเกมทางภาษา มาตรฐานที่ ๑๐ มีความสามารถในการคดิ ทเ่ี ป็นพนื้ ฐานในการเรยี นรู้ ตัวบง่ ชี้ สภาพทพ่ี งึ ประสงค์ สาระการเรยี นรรู้ ายปี ๑๐.๑ มคี วามสามารถในการคิดรวบ ชั้นอนุบาลปีที่ ๒ ประสบการณส์ ำคญั สาระทีค่ วรเรียนรู้ ยอด -บอกลกั ษณะและ ๑. การสงั เกตลักษณะ สว่ นประกอบ การ ๑. การคดิ สว่ นประกอบของสิง่ ของ เปล่ยี นแปลง และความสมั พนั ธข์ องส่งิ ตา่ งๆ - ประสาทสมั ผัส ตา่ งๆจากการสังเกตโดยใช้ โดยใชป้ ระสาทสมั ผสั อยา่ งเหมาะสม - การสงั เกต ประสาทสมั ผสั ๒. การสงั เกตส่ิงตา่ งๆแลละสถานทจี่ ากมุมมอง ๒. การเปลี่ยนแปลงและ ทีต่ า่ งกัน ความสัมพันธ์ของสิ่งต่างๆ -จับคู่และเปรียบเทียบความ ๓. การเลน่ กบั สื่อตา่ งๆท่ีเปน็ ทรงกลม ทรง รอบตวั แตกต่างหรือความเหมือน สเี่ หล่ียมมมุ ฉาก ทรงกระบอก กรวย ของสิ่งต่างๆโดยใช้ลกั ษณะที่ ๔. การใช้ภาษาทางคณิตศาสตรก์ บั เหตุการณ์ ๑. การคิด สงั เกตพบเพียงลักษณะเดียว ในชวี ิตประจำวัน - การจบั คู่ ๑. การคัดแยก การจัดกลุ่ม และการจำแนกสงิ่ - การเปรียบเทียบความเหมือน ตา่ งๆตามลักษณะและรูปรา่ ง รูปทรง ความตา่ ง ๒. การต่อของชิน้ เลก็ เติมในชิน้ ใหญ่ใหส้ มบูรณ์ และการแยกช้ินสว่ น ๓. การจบั คู่ การเปรยี บเทยี บและการ เรยี งลำดับสงิ่ ตา่ งๆตามลักษณะความยาว/ ความสงู นำ้ หนกั ปรมิ าตร หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สพป.บุรีรมั ย์ เขต ๒
๔๒ ๑๐.๒ มีความสามารถในการคิดเชิง -จำแนกและจัดกลุ่มสิ่งต่างๆ ๔. การใชภ้ าษาทางคณิตศาสตร์กับเหตกุ ารณ์ ๑. การคิด เหตุผล โดยใชอ้ ย่างน้อยหน่งึ ลกั ษณะ ในชีวติ ประจำวัน - การจำแนก เปน็ เกณฑ์ ๑. การคัดแยก การจัดกลุ่ม และการจำแนกส่งิ - การจัดกลุ่ม สิ่งของหน่ึง ตา่ งๆตามลักษณะและรูปร่าง รูปทรง ลักษณะ - เ ร ี ย ง ล ำ ด ั บ ส ิ ่ ง ข อ ง ห รื อ ๒. การทำซำ้ การต่อเติม และการสรา้ งแบบรปู เหตุการณ์อย่างน้อย ๔ ๓. การรวมและการแยกส่ิงตา่ งๆ ๑. การคิด ลำดบั ๔. การใช้ภาษาทางคณิตศาสตร์กับเหตุการณ์ - การเรียงลำดับเหตุการณ์ ๔ ในชวี ิตประจำวัน ลำดับ -ระบุสาเหตุหรือผลที่เกิดข้ึน - จำนวนและตวั เลข ในเหตกุ ารณ์หรือ การกระทำ ๑. การนบั และแสดงจำนวนของสิง่ ต่างๆใน เมื่อมผี ู้ช้แี นะ ชีวิตประจำวนั ๑. การแสดงความคิดเหน็ ๒. การเปรียบเทยี บและเรียงลำดบั จำนวนของ - การชัง่ ส่งิ ต่าง ๆ - การตวง ๓. การบอกและแสดงอันดับทีข่ องสิ่งต่าง ๆ - การวดั ๔. การบอกและเรียงลำดบั กจิ กรรมหรือ เหตุการณต์ ามช่วงหรอื เวลา ๕. การใชภ้ าษาทางคณติ ศาสตร์กับเหตกุ ารณ์ ในชีวติ ประจำวัน ๖. การบอกและแสดงตำแหนง่ ทศิ ทาง และ ระยะทางของสิง่ ต่างด้วยการกระทำ ภาพวาด ภาพถา่ ย และรปู ภาพ ๑. การชงั่ ตวง วัดส่งิ ตา่ งๆโดยใชเ้ คร่อื งมอื และ หนว่ ยทไ่ี มใ่ ชห่ น่วยมาตรฐาน ๒. การอธิบายเช่อื มโยง สาเหตแุ ละผลที่เกิดข้ึน ในเหตกุ ารณห์ รอื การกระทำ ๑๐.๓ มีความสามารถในการคิด - คาดเดา หรือคาดคะเนส่ิงที่ ๑. การคาดเดาหรือการคาดคะเนสิ่งที่อาจจะ -การหาความสมั พันธ์ และแสดง แกป้ ญั หาและตดั สนิ ใจ อาจจะเกิดขึ้น หรือมีส่วน เกิดขน้ึ อย่างมเี หตุผล ความคิดเห็น ร่วมในการลงความเห็นจาก ๒. การมสี ่วนรว่ มในการลงความเห็นจากข้อมูล ข้อมูล อยา่ งมเี หตุผล ๑. การตัดสินใจสิ่งต่างๆด้วย -ตัดสินใจในเรื่องง่ายๆและ ๑. การตัดสนิ ใจและมีสว่ นรว่ มในกระบวนการ ตนเอง เริม่ เรยี นรู้ผลท่เี กดิ ขนึ้ แกป้ ัญหา ๒. การอธิบายเชือ่ มโยง สาเหตแุ ละผลทเี่ กิดขึ้น ๑. การแก้ปญั หาดว้ ยตนเอง -ระบุปัญหา และแกป้ ญั หา ในเหตุการณห์ รือการกระทำ โดยลองผิดลองถกู ๑. การตัดสนิ ใจและมสี ว่ นร่วมในกระบวนการ แก้ปญั หา ๒. การคาดเดาหรอื การคาดคะเนสง่ิ ทีอ่ าจจะ เกดิ ข้นึ อย่างมีเหตผุ ล ๓. การมสี ว่ นรว่ มในการลงความเห็นจากขอ้ มลู อย่างมเี หตุผล หลักสูตรสถานศึกษาโรงเรยี นอนุบาลกระสัง สพป.บรุ ีรมั ย์ เขต ๒
๔๓ มาตรฐานที่ ๑๑ มจี ินตนาการและความคดิ สร้างสรรค์ ตวั บง่ ชี้ สภาพทีพ่ ึงประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี ๑๑.๑ เลน่ /ทำงานศลิ ปะตาม ชั้นอนบุ าลปีท่ี ๒ จนิ ตนาการและความคดิ -สร้างผลงานศิลปะเพือ่ สื่อสารความคดิ ประสบการณส์ ำคญั สาระท่ีควรเรียนรู้ สรา้ งสรรค์ ความรู้สกึ ของตนเองโดยมกี ารดดั แปลง และแปลกใหมจ่ ากเดิมหรอื มีรายละเอยี ด ๑. การสังเกตลกั ษณะ การทำงานศลิ ปะ ๑๑.๒ แสดงท่าทาง/เคลอื่ นไหว เพิ่มขน้ึ ตามจนิ ตนาการอย่างสรา้ งสรรค์ ส่วนประกอบ การเปลีย่ นแปลง - วธิ กี ารใช้เครอ่ื งมอื เครือ่ งใชใ้ น -เคลื่อนไหวท่าทางเพื่อสื่อสารความคิด ความรู้สกึ ของตนเอง และความสมั พันธข์ องส่งิ ตา่ งๆโดย การทำงานศลิ ปะอย่างถูกวธิ แี ละ อย่างหลากหลายหรอื แปลกใหม่ ใช้ประสาทสมั ผสั อยา่ งเหมาะสม ปลอดภยั ๒. การสังเกตส่ิงตา่ งๆแลละสถานที่ จากมุมมองที่ต่างกัน ๓. การเลน่ กับสอ่ื ตา่ งๆที่เป็นทรง กลม ทรงสเ่ี หลยี่ มมมุ ฉาก ทรงกระบอก ทรงกรวย ๔. การใชภ้ าษาทางคณติ ศาสตร์กบั เหตุการณใ์ นชวี ติ ประจำวัน ๑. การเคลือ่ นไหวอยู่กบั ท่ี ๑. การเคลื่อนไหวร่างกายใน ๒. การเคลือ่ นไหวเคล่ือนท่ี ทิศทางระดบั และพ้นื ที่ตา่ งๆ ๓. การเคลื่อนไหวพร้อมวัสดุ ๒. การแสดงทา่ ทางอยา่ งอิสระ อปุ กรณ์ ๔. การแสดงความคดิ สร้างสรรค์ ผา่ นภาษา ทา่ ทาง การเคลอื่ นไหว และศลิ ปะ ๕. การเคลื่อนไหวโดยควบคุม ตนเองไปในทศิ ทาง ระดบั และพื้นที่ ๖. การเคลือ่ นไหวตามเสยี งเพลง/ ดนตรี ๗. การฟังเพลง การร้องเพลงและ การแสดงปฏิกิริยาโต้ตอบ เสียงดนตรี หลักสตู รสถานศกึ ษาโรงเรียนอนุบาลกระสัง สพป.บรุ รี มั ย์ เขต ๒
๔๔ มาตรฐานที่ ๑๒ มีเจตคติที่ดีต่อการเรียนรู้ และมีความสามารถในการแสวงหาความรู้ได้ เหมาะสมกับวัย ตวั บ่งช้ี สภาพที่พงึ ประสงค์ สาระการเรยี นรูร้ ายปี ช้นั อนุบาลปีท่ี ๒ ๑๒.๑ มีเจตคติที่ดีต่อการ -สนใจซกั ถามเกีย่ วกบั ประสบการณ์สำคญั สาระท่คี วรเรียนรู้ เรียนรู้ สญั ลักษณห์ รอื ตัวหนังสือท่ีพบ เห็น ๑. การสำรวจส่ิงตา่ งๆ และแหลง่ เรียนรู้ - ความรู้พ้นื ฐานเก่ียวกับการใชห้ นังสือและ รอบตัว ตัวหนงั สือ ๒. การต้งั คำถามในเรื่องทส่ี นใจ ๑๒.๒ มคี วามสามารถในการ -กระตือรือร้นในการเข้าร่วม ๑. การให้ความร่วมมือในการปฏิบัติ ๑.การแสดงออกทางอารมณ์และความรู้สึก แสวงหาความรู้ กิจกรรม กิจกรรมตา่ งๆ อย่างเหมาะสม ๒. การตัง้ คำถามในเรอื่ งทส่ี นใจ ๒. ความสนใจในการทำกจิ กรรม -ค้นหาคำตอบของข้อสงสัยต่างๆ ๓. การมีส่วนร่วมในการรวบรวมข้อมูล ตามวธิ ีการของตนเอง และนำเสนอข้อมูลจากการสืบเสาะหา - การเรยี นรู้ท่จี ะเล่นและทำส่งิ ต่างๆ ความรู้ในรูปแบบต่างๆและแผนภูมิ -ใช้ประโยคคำถามว่า “ที่ไหน” อย่างง่าย - การสนใจซกั ถามคำถามเพ่อื ค้นหาคำตอบ “ทำไม” ในการค้นหาคำตอบ ๑. การสำรวจสิง่ ต่างๆ และแหล่งเรียนรู้ รอบตวั ๒. การตัง้ คำถามในเรอื่ งท่ีสนใจ ๓. การสืบเสาะหาความรู้เพื่อค้นหา คำตอบของข้อสงสัยต่างๆ ๔. การมีส่วนร่วมในการรวบรวมข้อมูล และนำเสนอข้อมูลจากการสืบเสาะหา ความรู้ในรูปแบบต่างๆและแผนภูมิ อย่างง่าย ๑. การตั้งคำถามในเร่ืองที่สนใจ ๒. การสืบเสาะหาความรู้เพื่อค้นหา คำตอบของขอ้ สงสัยต่างๆ หลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรียนอนุบาลกระสัง สพป.บุรรี ัมย์ เขต ๒
๔๕ ตารางวิเคราะหส์ าระการเรียนรูร้ ายปี ช่วงอายุ ๕ – ๖ ปี ๑.พฒั นาการดา้ นร่างกาย มาตรฐานท่ี ๑ รา่ งกายเจรญิ เตบิ โตตามวยั เดก็ มีสขุ นิสยั ที่ดี ตัวบ่งชี้ สภาพท่ีพึงประสงค์ สาระการเรยี นรู้รายปี ช้ันอนุบาลปีท่ี ๓ (๕-๖ปี) ประสบการณ์สำคญั สาระท่ีควรเรยี นรู้ ๑.๑ มีน้ำหนักและ -น้ำหนกั และสว่ นสูงตามเกณฑ์ ๑.การปฏิบัติตนตามสขุ อนามยั การปฏบิ ตั กิ จิ วัตรประจำวัน - การเจรญิ เติบโตของรา่ งกาย ส่วนสูงตามเกณฑ์ ของกรมอนามัย สขุ นสิ ยั ท่ีดีในกจิ วัตรประจำวนั ๑.๒ มสี ขุ ภาพ -รบั ประทานอาหารที่มีประโยชน์ ๑.การปฏิบัตติ นตามสขุ อนามยั การปฏบิ ัตกิ จิ วตั รประจำวัน อนามยั สุขนิสยั ที่ ๑. อาหารทีม่ ีประโยชน์และไมม่ ี ดี ได้หลายชนดิ และดืม่ นำ้ สะอาดได้ สขุ นสิ ยั ทด่ี ีในกจิ วตั รประจำวนั ประโยชน์ ๒. การประกอบอาหารไทย ๒. อาหารหลกั ๕ หมู่ ด้วยตนเอง ๓. การมีเจตคติท่ดี ีต่อการรับประทาน อาหารท่มี ปี ระโยชน์ -ล้างมอื ก่อนรับประทานอาหาร ๑.การปฏิบัติตนตามสขุ อนามยั การปฏบิ ตั กิ จิ วัตรประจำวนั และหลงั จากใช้หอ้ งนำ้ ห้องส้วม สุขนสิ ัยท่ีดีในกจิ วัตรประจำวัน ๑. อวยั วะตา่ งๆของรา่ งกายและการ ด้วยตนเอง ๒. การชว่ ยเหลอื ตนเองในการปฏิบตั กิ ิจก รกั ษาความปลอดภยั วตั รประจำวัน ๒. วธิ ีรักษาร่างกายให้สะอาดและมี -ล้างหน้าและแปรงฟันถูกวิธหี ลงั ๓. การปฏบิ ตั ิตนให้ปลอดภยั ในกจิ วตั ร สขุ อนามยั ที่ดี รับประทานอาหารดว้ ยตนเอง ประจำวัน ๔. การฟังนิทาน เรอื่ งราว เหตกุ ารณเ์ กี่ยวกบั การปฏิบตั กิ จิ วัตรประจำวัน -นอนพกั ผอ่ นเปน็ เวลา การป้องกนั และรกั ษาความปลอดภยั ๑. อวยั วะตา่ งๆของร่างกายและการ -ออกกำลังกายเป็นเวลา รักษาความปลอดภยั ๑.การปฏิบัตติ นตามสขุ อนามยั ๒. วธิ รี ักษารา่ งกายใหส้ ะอาดและมี สุขนิสัยทดี่ ใี นกจิ วตั รประจำวัน สขุ อนามยั ท่ีดี ๒. การชว่ ยเหลอื ตนเองในการปฏิบตั ิกจิ วตั ร ประจำวนั -ประโยชนข์ องการนอนหลบั พกั ผอ่ น ๓. การปฏบิ ตั ิตนใหป้ ลอดภยั ในกจิ วตั ร ๑. ประโยชนข์ องการออกกำลงั กาย ประจำวัน ๒. การเล่นเครอ่ื งเลน่ สนามอย่างถกู ๔. การฟงั นทิ าน เรือ่ งราว เหตุการณ์เกี่ยวกบั วธิ ี การป้องกัน และรกั ษาความปลอดภยั - การปฏิบัติตนตามสุขอนามยั สขุ นสิ ยั ท่ีดีในกจิ วัตรประจำวัน ๑. การเลน่ อสิ ระ ๒. การเคลื่อนไหวข้ามสงิ่ กดี ขวาง ๓. การเล่นเครอ่ื งเลน่ อยา่ งปลอดภยั ๔. การละเลน่ พ้ืนบา้ นไทย ๕. การเลน่ นอกหอ้ งเรยี น ๖. การเลน่ เครอ่ื งเลน่ สนามอย่างอิสระ หลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรยี นอนบุ าลกระสัง สพป.บุรีรัมย์ เขต ๒
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133