วชิ า บร. (PA) ๒๑๓๐๔ งานสารบรรณ
ตาํ ÃÒàÃÂÕ ¹ ËÅ¡Ñ ÊÙμà ¹¡Ñ àÃÕ¹¹ÒÂÊºÔ ตําÃǨ ÇÔªÒ ºÃ. (PA) òñóðô §Ò¹ÊÒúÃó เอกสารนี้ “໹š ¤ÇÒÁÅºÑ ¢Í§·Ò§ÃÒª¡ÒÔ หา มมใิ หผหู นงึ่ ผใู ดเผยแพร คัดลอก ถอดความ หรอื แปลสว นหนง่ึ สว นใด หรอื ทง้ั หมดของเอกสารนเี้ พอื่ การอยา งอน่ื นอกจาก “à¾Í×è ¡ÒÃÈ¡Ö ÉÒͺÃÁ” ของขาราชการตํารวจเทาน้ัน การเปดเผยขอความแกบุคคลอื่นที่ไมมีอํานาจหนาที่จะมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา ¡Í§ºÞÑ ªÒ¡ÒÃÈ¡Ö ÉÒ สาํ ¹¡Ñ §Ò¹ตํา¾ÃÇ.Ȩá.òËõ‹§ªöÒóμÔ
1
คาํ นาํ หลักสูตรนักเรียนนายสิบตํารวจ (นสต.) เปนหลักสูตรการศึกษาอบรมท่ีมีเปาหมาย เพื่อเสริมสรางใหบุคคลภายนอกผูมีวุฒิประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.๖) หรือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเทา ท่ีเขารับการฝกอบรมมีความรู ความสามารถ และ ทักษะวิชาชีพตํารวจ รวมถึงพัฒนาบุคลิกภาพรางกายใหเหมาะสมสําหรับการปฏิบัติงานตํารวจ ในกลุมสายงานปองกันปราบปราม ตลอดจนเตรียมความพรอมทางดานจิตใจและวุฒิภาวะใหมี จติ สํานึกในการใหบ ริการเพื่อบําบัดทกุ ขบ าํ รุงสขุ ของประชาชนเปน สาํ คัญ กองบัญชาการศึกษา ไดรวมกับ ครู อาจารย และครูฝก ในสังกัดกองบังคับการ ฝก อบรมตาํ รวจกลาง และกลมุ งานอาจารย กองบญั ชาการศกึ ษา ศนู ยฝ ก อบรมตาํ รวจภธู รภาค ๑ - ๙ และกองบัญชาการตํารวจตระเวนชายแดน ตลอดจนผูทรงคุณวุฒิจากภายนอก จัดทําตําราเรียน หลกั สตู รนกั เรยี นนายสบิ ตาํ รวจชดุ นี้ ซงึ่ ประกอบดว ยองคค วามรตู า งๆ ทจี่ าํ เปน ตอ การพฒั นาศกั ยภาพ ของนกั เรยี นนายสบิ ตาํ รวจใหเ ปน ขา ราชการตาํ รวจทพ่ี งึ ประสงคข องประชาชน เพอ่ื ใชส าํ หรบั ประกอบ การเรียนการสอนนักเรียนนายสิบตํารวจใหมีความพรอมทั้งดานความรู ความสามารถ กําลังกาย และจติ ใจ จนสามารถเปน ขา ราชการตาํ รวจทป่ี ฏบิ ตั งิ านใหบ รกิ ารสงั คมและประชาชนไดอ ยา งตรงตาม ความตอ งการอยา งแทจรงิ และมคี วามพรอมในการเขา สปู ระชาคมอาเซยี น ขอขอบคุณครู อาจารย ครูฝก และผูทรงคุณวุฒิทุกทาน ที่ไดรวมกันระดมความคิด ใหคําปรึกษา คําแนะนํา ประสบการณท่ีเปนประโยชน รวมถึงการถายทอดองคความรู ท่ีเปนประโยชน จนทําใหการจัดทําตําราเรียนหลักสูตรนักเรียนนายสิบตํารวจสําเร็จลุลวงไดดวยดี ซึ่งกองบัญชาการศึกษาหวังเปนอยางย่ิงวาตําราเรียนชุดนี้คงเปนประโยชนตอการจัดการเรียน การสอนและการจดั การฝกอบรมของครู อาจารย และครฝู ก รวมตลอดถึงใชเปนคูมือการปฏบิ ัตงิ าน ของขาราชการตํารวจ อันจะสงผลทําใหสํานักงานตํารวจแหงชาติสามารถสรางความเชื่อม่ัน ศรัทธา และความผาสุกใหแกประชาชนไดอ ยา งแทจ รงิ พลตํารวจโท ( อภิรตั นยิ มการ ) ผูบ ัญชาการศกึ ษา
1
ÊÒúÞÑ ÇªÔ Ò §Ò¹ÊÒúÃó ˹ŒÒ º··Õè ๑ »ÃÐÇμÑ Ô ¤ÇÒÁ໚¹ÁҢͧ§Ò¹ÊÒúÃó ñ - ประวตั ิระเบียบงานสารบรรณ ๑ - ความหมายของงานสารบรรณ ๒ - ความสาํ คัญของงานสารบรรณ ๒ - ประโยชนของงานสารบรรณ ๓ õ º··èÕ ò ÃÐàºÂÕ ºสํา¹Ñ¡¹ÒÂ¡Ã°Ñ Á¹μÃÕ ÇÒ‹ ´ŒÇ§ҹÊÒúÃó ๕ - ชนดิ ของหนงั สอื ๖ - หนังสอื ภายนอก ๙ - หนงั สือภายใน ๑๑ - หนังสือประทับตรา ๑๓ - หนงั สอื สงั่ การ ๑๙ - หนงั สอื ประชาสมั พนั ธ ๒๕ - หนังสือทีเ่ จาหนา ที่ทําขนึ้ หรือรับไวเปน หลกั ฐานในราชการ ๒๙ - บทเบ็ดเตลด็ ๓๐ - การจดั ทาํ สําเนาหนังสือ ๓๐ - การจดั ทาํ หนงั สอื เวียน ๓๐ - การรับและสง หนงั สือ ๓๔ - บัตรตรวจคน ๓๔ - การเก็บรักษา ๓๕ - วธิ ีการเกบ็ หนงั สือ ๓๖ - อายกุ ารเกบ็ หนังสือ ๓๗ - การสงมอบหนงั สอื ๓๙ - การยืมหนังสือ ๔๐ - การทาํ ลายหนงั สอื ๔๒ - มาตรฐานตรา แบบพิมพ และซอง ๔๓ - ระบบสารบรรณอเิ ล็กทรอนิกส ôõ Ẻ·ÒŒ ÂÃÐàºÂÕ º
ÀÒ¤¼¹Ç¡ ˹ŒÒ ภาคผนวก ๑ การกาํ หนดเลขทห่ี นังสอื ออก ภาคผนวก ๒ คาํ ขึ้นตน สรรพนาม คําลงทายฯ ๖๙ ๗๕ º··èÕ ó ÊÒúÃóตําÃǨ ÷ù - งานสารบรรณตาํ รวจ ๗๙ - การใชบนั ทกึ ขอ ความ ๘๑ - การจัดทาํ หนงั สือ ๘๒ - การเสนองาน ๘๓ - การรบั และการสง หนังสอื ๘๔ - การคัดสาํ เนา และการลงชอ่ื ตรวจ ๘๕ - การกาํ หนดเลขประจาํ หนวยงานภายในสาํ นักงานตํารวจแหงชาติ ๘๕ - การใชค าํ ยอ ในราชการตํารวจ ๘๙ - ไปรษณยี ส นามของตาํ รวจชายแดน ๑๐๒ º··èÕ ô ¡ÒúÑÞÞμÑ ÈÔ Ñ¾·À ÒÉÒÍѧ¡ÄɪèÍ× Ë¹Ç‹ §ҹ ÂÈ áÅÐตาํ á˹‹§ ñð÷ ã¹สํา¹Ñ¡§Ò¹ตําÃǨáË‹§ªÒμÔ ññù º··Õè õ ˹§Ñ ÊÍ× ÃÒª¡ÒÃÅºÑ ๑๑๙ - หนังสือราชการลบั ๑๒๑ - การปฏิบัติเกย่ี วกบั เอกสารลับ ñòó ๑๒๓ º··èÕ ö ¡ÒÃÃÒ‹ §áÅСÒÃà¢Õ¹˹§Ñ ÊÍ× ÃÒª¡Òà ๑๓๕ - การเขยี นหนงั สอื ราชการ ñó÷ - บันทกึ ฝา ยอาํ นวยการ ๑๓๗ ๑๔๐ º··Õè ÷ ¡ÒþÁÔ ¾Ë¹§Ñ ÊÍ× ÃÒª¡Òà ๑๔๓ - การพมิ พหนงั สอื ราชการ - การพิมพหนังสือราชการภาษาไทยดว ยโปรแกรมการพิมพ ในเครื่องคอมพวิ เตอร - ตัวอยา งการพิมพหนังสือราชการ
๑ º··Õè ñ »ÃÐÇÑμÔ ¤ÇÒÁ໹š ÁҢͧ§Ò¹ÊÒúÃó ÇÑμ¶»Ø ÃÐʧ¤ ๑. เพื่อใหผูเรียนมีความรู ความเขาใจและสามารถอธิบายประวัติ ความเปนมา ความสําคัญและประโยชนของงานสารบรรณไดอ ยา งถูกตอง ๒. เพอ่ื ใหผ เู รยี นมคี วามรคู วามเขา ใจ และสามารถอธบิ ายความหมายของงานสารบรรณ ไดอยางถูกตอ ง ¡Å‹ÒÇนาํ งานสารบรรณ เปนการส่ือสารที่เปนลายลักษณอักษรที่สวนราชการตองถือปฏิบัติและ จดั ทําตามรูปแบบท่กี ําหนดของการจัดทําเอกสารราชการ เชน หนงั สือราชการ บันทึกขอ ความ คําสั่ง ประกาศ ขา ว หนังสือรบั รอง เปน ตน »ÃÐÇμÑ ÔÃÐàºÕº§Ò¹ÊÒúÃó กอนป ๒๔๙๗ ยังไมมีการกําหนดระเบียบงานสารบรรณขึ้นมาโดยเฉพาะ แตละ สวนราชการ ตางมีระเบียบเกี่ยวกับการรางหนังสือ การเก็บรักษาเอกสารตาง ๆ ของตนโดยเฉพาะ ตางคนตางทําไมมีหลักการที่แนนอน และในป ๒๔๙๖ รัฐบาลจึงไดจัดต้ังคณะกรรมการรางระเบียบ งานสารบรรณ ตอมาในป ๒๕๐๒ ก็ไดมีการพิจารณาปรับปรุงระเบียบงานสารบรรณอีกครั้งหนึ่ง โดยไดนําเอาขอเสนอแนะและปญหาตาง ๆ จากการใชระเบียบงานสารบรรณ พ.ศ.๒๔๙๗ และ ๒๔๙๘ มาปรับปรุงใหเหมาะสมยิ่งขึ้น เมื่อไดพิจารณาปรับปรุงระเบียบงานสารบรรณเรียบรอยแลว ก็ไดเสนอใหคณะรฐั มนตรีพิจารณา คณะรัฐมนตรีไดมีมติเหน็ ชอบเมอื่ วนั ที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๐๖ และ เรยี กระเบยี บน้ีวา ระเบยี บสาํ นกั นายกรฐั มนตรีวา ดว ยงานสารบรรณ พ.ศ.๒๕๐๖ โดยใหม ีผลบงั คบั ใช ตั้งแตวนั ที่ ๑ มกราคม ๒๕๐๗ เปนตนไป แตร ะเบยี บงานสารบรรณ พ.ศ.๒๕๐๖ ไมครอบคลุมถึงงานสารบรรณท่ปี ฏิบัติอยทู ั้งหมด ประกอบกบั มสี ว นราชการตา ง ๆ ไดห ารอื แนวทางปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั งานสารบรรณมายงั สาํ นกั นายกรฐั มนตรี อยูเสมอ สํานักนายกรัฐมนตรีก็ไดพิจารณาแลวเห็นวา ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีที่ออกใชบังคับ และเปน หลกั ในการปฏบิ ตั งิ านนน้ั มอี ยหู ลายระเบยี บดว ยกนั บางระเบยี บไดอ อกมาใชบ งั คบั เปน เวลานาน ทําใหว ิธีปฏบิ ตั บิ างตอน บางเร่อื งลาสมยั ระเบียบตา ง ๆ กระจัดกระจายอยใู นท่ตี าง ๆ มิไดป ระมวล เขาเปนระเบียบปฏิบัติในเรื่องเดียวกัน ทําใหเปนอุปสรรคกับการปฏิบัติงาน ระเบียบบางฉบับไมได
๒ กาํ หนดใหส ว นราชการใดเปน ผรู กั ษาระเบยี บรบั ผดิ ชอบโดยเฉพาะ ทาํ ใหเ กดิ ปญ หาไมม ผี วู นิ จิ ฉยั ตคี วาม และติดตามการปฏิบัติตามระเบียบ สํานักนายกรัฐมนตรีจึงไดเสนอใหรัฐบาลพิจารณาและแตงต้ัง คณะกรรมการพจิ ารณาปรบั ปรงุ และพฒั นาระเบยี บสาํ นกั นายกรฐั มนตรโี ดยมปี ลดั สาํ นกั นายกรฐั มนตรี เปนประธานกรรมการในป ๒๕๑๘ คณะกรรมการพิจารณาปรับปรุงและพัฒนาระเบียบสํานักนายก รฐั มนตรี ไดแ ตง ตง้ั คณะกรรมการวชิ าการขน้ึ เพอื่ ปรบั ปรงุ ระเบยี บงานสารบรรณโดยเฉพาะในปเ ดยี วกนั ตอ มาคณะกรรมการวชิ าการไดเ ปลย่ี นชอื่ เปน คณะอนกุ รรมการปรบั ปรงุ ระเบยี บงานสารบรรณ พ.ศ.๒๕๐๖ และไดเสนอรางระเบียบงานสารบรรณข้ึนมาใหม ใหคณะกรรมการพิจารณาปรับปรุง และพัฒนาระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรีพิจารณา คณะกรรมการไดนํารางระเบียบสารบรรณเสนอให คณะรัฐมนตรีพิจารณาเม่ือเดือนเมษายน ๒๕๒๖ ซึ่งคณะรัฐมนตรีก็ไดมีมติเห็นชอบและใหมีผลใช บังคบั ตั้งแต ๑ มิถุนายน ๒๕๒๖ เปน ตน ไป ตอมา เพ่ือใหเหมาะสมกับสภาวการณในปจจุบันท่ีมีการปฏิบัติงานสารบรรณดวยระบบ สารบรรณอเิ ลก็ ทรอนกิ สแ ละเปน การสอดคลอ งกบั การบรหิ ารราชการแนวทางใหมท มี่ งุ เนน ผลสมั ฤทธิ์ ความคมุ คา และลดขน้ั ตอนในการปฏบิ ตั งิ านและเพอ่ื ใหร ะบบงานสารบรรณมคี วามรวดเรว็ มปี ระสทิ ธภิ าพ จงึ วางระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี วาดว ยงานสารบรรณ (ฉบับที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๘ มีผลบงั คบั ใชต้งั แต วันท่ี ๒๔ กนั ยายน ๒๕๔๘ เปน ตนไป ¤ÇÒÁËÁÒ¢ͧ§Ò¹ÊÒúÃó “งานสารบรรณ” หมายถึง “งานที่เกี่ยวกับการบริหารงานเอกสารเร่ิมตั้งแตการจัดทํา การรบั การสง การเก็บรักษา การยมื จนถงึ การทาํ ลาย” ซง่ึ เปน การกาํ หนดขนั้ ตอนและขอบขายของ งานสารบรรณวา เกยี่ วขอ งกบั เรอ่ื งอะไรบา ง แตใ นทางปฏบิ ตั กิ ารบรหิ ารงานเอกสารทง้ั ปวง จะเรม่ิ ตง้ั แต การคดิ อา น รา ง เขยี น แตง พมิ พ จด จาํ ทาํ สาํ เนา สง หรือสอ่ื ขอความ รบั บันทกึ จดรายงานการ ประชุม สรุป ยอเรอื่ ง เสนอ ส่ังการ ตอบ ทํารหัส เก็บเขา ที่ คนหา ติดตามและทําลาย ท้ังนี้ ตองเปน ระบบท่ใี หค วามสะดวก รวดเร็ว ถูกตอง และมปี ระสทิ ธภิ าพเพอื่ ประหยัดเวลา แรงงาน และคา ใชจา ย ผทู จ่ี ะทาํ งานสารบรรณไดด จี าํ เปน ตอ งรงู านธรุ การดว ย เชน การตดิ ตอ โตต อบ และประสานงาน รจู กั ความควรหรอื ไมค วร มคี วามคลอ งแคลว วอ งไว นอกจากนน้ั ตอ งมคี วามรทู างดา นภาษาเปน อยา งดี โดยเฉพาะอยา งยง่ิ ภาษาไทย และควรรรู ะบบขา วสารทง้ั ปวง สามารถพมิ พด ดี ได เมอ่ื มคี วามจาํ เปน จะ ตองกระทาํ การปฏิบตั ิงานสารบรรณ หากมีสว นเกย่ี วของงานทางเทคนคิ ควรติดตอ ประสานกับผูที่มี ความรทู างเทคนคิ นนั้ ๆ โดยตรงดว ย ผทู ท่ี าํ งานสารบรรณทเ่ี กยี่ วกบั การประชมุ จะตอ งมคี วามสามารถ ในการจดรายงานการประชมุ และสามารถถอดความคดิ เหน็ ของทปี่ ระชมุ ออกมาไดถ กู ตอ งและเขา ใจไดด ี ¤ÇÒÁสํา¤ÞÑ ¢Í§§Ò¹ÊÒúÃó ๑. ใชเปน เคร่ืองมอื ในการบริหารงาน ๒. ใชใหเปน สอื่ ในการติดตอ ทาํ ความเขา ใจระหวา งหนวยงาน
๓ ๓. ใชเปนหลักฐานอางอิงในการติดตอหรือทําความตกลง ๔. เอกสารทําขนึ้ เปนเสมอื นเครื่องเตอื นความจาํ ของหนว ยงาน ๕. เอกสารท่ที าํ ข้นึ เปนสิ่งทมี่ คี ณุ คา ในการศกึ ษาคน ควาในอนาคต »ÃÐ⪹¢ ͧ§Ò¹ÊÒúÃó ๑. ทําใหก ารปฏบิ ัติงานเปนระบบและมคี วามเปนระเบยี บ ๒. เกิดการประหยดั ๓. เกิดความสะดวกในการอางองิ และคน หา ๔. เกดิ ความตอเนือ่ งในการทํางาน ๕. ทาํ ใหระบบการทํางานมปี ระสิทธิภาพ º·ÊÃ»Ø งานสารบรรณนบั เปน หวั ใจสาํ คญั ในการปฏบิ ตั งิ านดา นหนงั สอื เพราะตอ งใชใ นการตดิ ตอ สอ่ื สารและประสานงานระหวา งสว นราชการ หนว ยงาน หรอื บคุ คล การทจี่ ะปฏบิ ตั งิ านราชการเกย่ี วกบั หนงั สือไดด ีนั้นจะตอ งรูแ ละเขา ใจระเบยี บกอน แลวจงึ นาํ ไปสูก ารปฏบิ ัตใิ หถ ูกตองและมีประสิทธภิ าพ ¡¨Ô ¡ÃÃÁ แบงกลุมรวมทํากิจกรรมเกี่ยวกับเน้ือหาท่ีเรียนไดอยางเหมาะสมตามจุดประสงค ในการเรยี นการสอน
๔
๕ º··èÕ ò ÃÐàºÂÕ ºสาํ ¹¡Ñ ¹Ò¡ÃѰÁ¹μÃÕ ÇÒ‹ ´ÇŒ §ҹÊÒúÃó ÇμÑ ¶»Ø ÃÐʧ¤ ๑. เพื่อใหผเู รยี นมีความรู ความเขา ใจ และสามารถอธบิ ายหนังสือราชการทง้ั ๖ ชนิด และสามารถบอกความแตกตา งไดอ ยางถกู ตอง ๒. เพอื่ ใหผูเรยี นมีความรู ความเขาใจ และสามารถอธบิ ายระดับชั้นความเรว็ การจดั ทาํ ทําสําเนา และหนังสอื เวียน ไดอ ยางถูกตอง ๓. เพือ่ ใหผูเรียนมีความรู ความเขาใจ และสามารถอธิบายการจดั ทําการรับและการสง หนงั สอื ราชการดวยระบบแบบปกติและดว ยระบบอเิ ล็กทรอนิกสไดอ ยางถกู ตอง ๔. เพอ่ื ใหผ เู รยี นมคี วามรู ความเขา ใจ และสามารถอธบิ ายวธิ กี ารปฏบิ ตั เิ กยี่ วกบั การเกบ็ รักษา การยมื และการทาํ ลายหนงั สอื ไดอยา งถกู ตอ ง ๕. เพื่อใหผูเรียนมีความรู ความเขาใจ และสามารถอธิบายมาตรฐานตรา แบบพิมพ และซอง ไดอยางถกู ตอง ʋǹนํา ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี วาดวยงานสารบรรณ ๒๕๒๖ เปนระเบียบที่เก่ียวของใน การจดั ทาํ หนงั สอื ราชการแตล ะชนดิ จะมรี ปู แบบของหนงั สอื ทแี่ ตกตา งกนั และ ฉบบั ท่ี ๒ พ.ศ. ๒๕๔๘ ไดมีแกไขเพ่ิมนยิ ามคําวา “อิเลก็ ทรอนิกส” และคําวา “ระบบสารบรรณอเิ ลก็ ทรอนกิ ส” ระหวางนิยาม คาํ วา “หนงั สือ” และ “สวนราชการ” ª¹´Ô ¢Í§Ë¹Ñ§Ê×Í ¢ŒÍ ù หนงั สอื ราชการ คอื หนงั สอื ราชการทีเ่ ปน หลกั ฐานของทางราชการ ไดแ ก ๙.๑ หนังสือทีม่ ีไปมาระหวางสวนราชการ ๙.๒ หนงั สือทสี่ ว นราชการมีไปถงึ หนว ยงานอ่ืนใดซึ่งมิใชส ว นราชการ หรือท่ีมี ไปถงึ บุคคลภายนอก ๙.๓ หนังสอื ท่หี นว ยงานอ่ืนใดซึง่ มิใชสว นราชการ หรอื บคุ คลภายนอกมมี าถึง สวนราชการ ๙.๔ เอกสารที่ทางราชการจดั ทาํ ข้ึนเพื่อเปนหลักฐานในราชการ ๙.๕ เอกสารท่ีทางราชการจดั ทาํ ข้ึนตามกฎหมาย ระเบียบ หรอื ขอบงั คับ ๙.๖ ขอมูลขา วสารหรือหนงั สอื ทไ่ี ดรบั จากระบบสารบรรณอเิ ล็กทรอนกิ ส
๖ (ความในขอ ๙ แกไขโดย ระเบยี บสํานกั นายกรัฐมนตรี วา ดวยงานสารบรรณ (ฉบับท่ี ๒) พ.ศ. ๒๕๔๘ ลงวันท่ี ๒๑ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๔๘) ¢ÍŒ ñð หนงั สอื มี ๖ ชนิด คอื ๑๐.๑ หนงั สอื ภายนอก ๑๐.๒ หนงั สือภายใน ๑๐.๓ หนงั สอื ประทบั ตรา ๑๐.๔ หนงั สือส่งั การ ๑๐.๕ หนงั สือประชาสมั พันธ ๑๐.๖ หนังสือท่ีเจาหนา ทท่ี ําข้นึ หรือรับไวเปน หลกั ฐานในราชการ ˹§Ñ ÊÍ× ÀÒ¹͡ ¢ŒÍ ññ ˹ѧÊ×ÍÀÒ¹͡ คือ หนังสือติดตอราชการที่เปนแบบพิธีโดยใชกระดาษ ตราครฑุ เปน หนงั สอื ตดิ ตอ ระหวา งสว นราชการ หรอื สว นราชการมถี งึ หนว ยงานอนื่ ใดซง่ึ มใิ ชส ว นราชการ หรอื ท่มี ีถงึ บคุ คลภายนอก ใหจ ัดทาํ ตามแบบท่ี ๑ ทายระเบียบ โดยกรอกรายละเอยี ดดังนี้ ๑๑.๑ ที่ ใหล งรหสั ตวั พยญั ชนะและเลขประจาํ ของเจา ของเรอื่ ง ตามทก่ี าํ หนด ไวในภาคผนวก ๑ ทับเลขทะเบียนหนังสือสง สําหรับหนังสือของคณะกรรมการใหกําหนดรหัสตัว พยัญชนะเพม่ิ ขึน้ ไดต ามความจาํ เปน ๑๑.๒ สว นราชการเจา ของหนงั สอื ใหล งชอื่ สว นราชการ สถานทร่ี าชการ หรอื คณะกรรมการ ซงึ่ เปนเจาของหนงั สอื น้ัน และโดยปกตใิ หลงทต่ี ัง้ ไวดวย ๑๑.๓ วัน เดือน ป ใหลงตัวเลขของวันท่ี ช่ือเต็มของเดือน และตัวเลขป พทุ ธศักราชที่ออกหนงั สือ ๑๑.๔ เรอื่ ง ใหล งเรอื่ งยอ ทเ่ี ปน ใจความสนั้ ที่สุดของหนงั สอื ฉบบั นน้ั ในกรณี ทเี่ ปนหนังสอื ตอเนอื่ ง โดยปกตใิ หล งเร่อื งของหนังสือฉบับเดมิ ๑๑.๕ คําขึ้นตน ใหใชคําขึ้นตนตามฐานะของผูรับหนังสือตามตารางการใช คาํ ขึ้นตนสรรพนามและคําลงทา ย ท่กี ําหนดไวใ นภาคผนวก ๒ แลวลงตาํ แหนงของผทู ่หี นงั สอื น้นั มถี ึง หรือช่ือบุคคลในกรณที มี่ ีถึงตัวบุคคลไมเก่ยี วกบั ตาํ แหนงหนา ที่ ๑๑.๖ อางถึง (ถามี) ใหอางถึงหนังสือท่ีเคยมีติดตอกันเฉพาะหนังสือท่ีสวน ราชการผูรับหนังสือไดรับมากอนแลว จะจากสวนราชการใดก็ตาม โดยใหลงช่ือสวนราชการเจาของ หนงั สอื และเลขท่หี นังสือวนั ที่ เดอื น ปพุทธศักราช ของหนงั สือนัน้ การอางถึง ใหอางถึงหนังสือฉบับสุดทายท่ีติดตอกันเพียงฉบับเดียว เวนแตมีเร่ืองอ่ืนที่เปนสาระสําคัญตองนํามาพิจารณา จึงอางถึงหนังสือฉบับอ่ืน ๆ ท่ีเก่ียวกับเร่ืองนี้ โดยเฉพาะใหทราบดวย
๗ ๑๑.๗ ส่งิ ที่สง มาดว ย (ถาม)ี ใหลงช่ือสง่ิ ของ เอกสาร หรอื บรรณสารทีส่ งไป พรอ มกับหนงั สือนน้ั ในกรณที ไ่ี มส ามารถสง ไปในซองเดียวกนั ได ใหแจง ดว ยวา สงไปโดยทางใด ๑๑.๘ ขอความ ใหลงสาระสําคัญของเรื่องใหชัดเจนและเขาใจงาย หากมี ความประสงคห ลายประการใหแ ยกเปน ขอ ๆ ๑๑.๙ คาํ ลงทาย ใหใ ชค าํ ลงทายตามฐานะของผูรับหนังสือตามตารางการใช คาํ ขึ้นตน สรรพนามและคําลงทาย ทก่ี ําหนดไวใ นภาคผนวก ๒ ๑๑.๑๐ ลงช่อื ใหล งลายมือชือ่ เจา ของหนังสือ และใหพิมพช่อื เต็มของเจาของ ลายมอื ช่อื ไวใตลายมือชือ่ ๑๑.๑๑ ตําแหนง ใหลงตําแหนงของเจา ของหนงั สอื ๑๑.๑๒ สวนราชการเจาของเรื่อง ใหลงชื่อสวนราชการเจาของเรื่อง หรือ หนวยงานท่ีออกหนังสือ ถาสวนราชการที่ออกหนังสืออยูในระดับกระทรวง หรือทบวง ใหลงชื่อ สวนราชการเจาของเรื่อง ท้ังระดับกรมและกอง ถาสวนราชการที่ออกหนังสืออยูในระดับกรมลงมา ใหลงชอ่ื สว นราชการเจาของเรือ่ งเพยี งระดบั กองหรอื หนวยงานท่ีรบั ผดิ ชอบ ๑๑.๑๓ โทร. ใหล งหมายเลขโทรศพั ทข องสว นราชการเจา ของเรอ่ื ง หรอื หนว ยงาน ทอี่ อกหนงั สอื และหมายเลขภายในตูสาขา (ถา มี) ไวด วย *โทรสาร ใหล งหมายเลขโทรสารของสว นราชการเจา ของเรอ่ื งหรอื หนว ยงาน ทอ่ี อกหนงั สอื ตอ จากหมายเลขโทรศพั ท (*เพมิ่ เตมิ ตามหนงั สอื สาํ นกั นายกรฐั มนตรี ที่ นร ๑๐๐๒/ว ๑๗ ลงวนั ที่ ๓๑ กรกฎาคม ๒๕๓๔) ๑๑.๑๔ สําเนาสง (ถามี) ในกรณีที่ผูสงจัดทําสําเนาสงไปใหสวนราชการ หรือ บุคคลอ่นื ทราบและประสงคจ ะใหผ ูรับทราบวา ไดม สี ําเนาสง ไปใหผูใดแลว ใหพิมพชือ่ เต็ม หรอื ชือ่ ยอ ของสวนราชการหรือชื่อบุคคลที่สงสําเนาไปให เพื่อใหเปนที่เขาใจระหวางผูสงและผูรับ ถาหากมี รายช่ือที่สงมากใหพ มิ พวา สง ไปตามรายช่ือทีแ่ นบ และแนบรายช่อื ไปดวย
๘
๙ ˹ѧÊ×ÍÀÒÂã¹ ¢ŒÍ ñò ˹§Ñ ÊÍ× ÀÒÂã¹ คอื หนงั สอื ตดิ ตอ ราชการทเี่ ปน แบบพธิ นี อ ยกวา หนงั สอื ภายนอก เปนหนงั สือตดิ ตอภายในกระทรวง ทบวง กรม หรือจงั หวัดเดียวกนั ใชกระดาษบนั ทกึ ขอ ความ และให จดั ทาํ ตามแบบที่ ๒ ทายระเบยี บ โดยกรอกรายละเอียดดังนี้ ๑๒.๑ สวนราชการ ใหลงชื่อสวนราชการเจาของเร่ือง หรือหนวยงานที่ออก หนังสือ โดยมีรายละเอียดพอสมควร โดยปกติถาสวนราชการที่ออกหนังสืออยูในระดับกรมข้ึนไป ใหลงช่ือสวนราชการเจาของเร่ืองท้ังระดับกรมและกอง ถาสวนราชการท่ีออกหนังสืออยูในระดับ ตํ่ากวากรมลงมา ใหลงช่ือสวนราชการเจาของเรื่องเพียงระดับกอง หรือสวนราชการเจาของเรื่อง พรอมทั้งหมายเลขโทรศัพท (ถา มี) ๑๒.๒ ที่ ใหล งรหสั ตวั พยญั ชนะและเลขประจาํ ของเจา ของเรอ่ื ง ตามทกี่ าํ หนดไวใ น ภาคผนวก ๑ ทบั เลขทะเบยี นหนงั สอื สง สาํ หรบั หนงั สอื ของคณะกรรมการใหก าํ หนดรหสั ตวั พยญั ชนะ เพิ่มขึน้ ไดตามความจาํ เปน ๑๒.๓ วนั ท่ี ใหล งตวั เลขของวนั ท่ี ชอื่ เตม็ ของเดอื น และตวั เลขของปพ ทุ ธศกั ราช ท่ีออกหนังสือ ๑๒.๔ เร่ือง ใหลงเร่ืองยอท่ีเปนใจความส้ันท่ีสุดของหนังสือฉบับน้ัน ในกรณี ทเ่ี ปนหนังสอื ตอ เนอ่ื ง โดยปกตใิ หล งเร่อื งของหนงั สอื ฉบบั เดิม ๑๒.๕ คําขึ้นตน ใหใชคําขึ้นตนตามฐานะของผูรับหนังสือตามตารางการใช คาํ ขึน้ ตนสรรพนามและคําลงทาย ทีก่ ําหนดไวในภาคผนวก ๒ แลว ลงตาํ แหนงของผูทีห่ นังสอื น้ันมีถงึ หรือช่ือบุคคลในกรณที ่มี ถี ึงตวั บุคคลไมเ กีย่ วกับตําแหนง หนาท่ี ๑๒.๖ ขอความ ใหลงสาระสําคัญของเร่ืองใหชัดเจนและเขาใจงาย หากมี ความประสงคหลายประการ ใหแยกเปนขอ ๆ ในกรณีท่ีมีการอางถึงหนังสือท่ีเคยมีติดตอกัน หรือมสี ิง่ ทสี่ งมาดว ย ใหร ะบไุ วใ นขอนี้ ๑๒.๗ ลงชอื่ และตาํ แหนง ใหป ฏบิ ตั ติ ามขอ ๑๑.๑๐ และขอ ๑๑.๑๑ โดยอนโุ ลม ในกรณีท่กี ระทรวง ทบวง กรม หรือจังหวดั ใดประสงคจ ะกําหนดแบบการเขยี น โดยเฉพาะ เพื่อใชตามความเหมาะสมก็ใหก ระทาํ ได
๑๐
๑๑ ˹§Ñ ÊÍ× »ÃзºÑ μÃÒ ¢ŒÍ ñó ˹ѧÊ×Í»ÃзѺμÃÒ คือ หนังสือท่ีใชประทับตราแทนการลงช่ือของหัวหนา สว นราชการระดบั กรมขน้ึ ไป โดยใหห วั หนา สว นราชการระดบั กอง หรอื ผทู ไ่ี ดร บั มอบหมายจากหวั หนา สว นราชการระดับกรมขน้ึ ไป เปน ผรู บั ผดิ ชอบลงช่อื ยอ กาํ กบั ตรา หนงั สอื ประทบั ตราใหใ ชไ ดท ง้ั ระหวา งสว นราชการกบั สว นราชการ และระหวา งสว นราชการ กบั บุคคลภายนอก เฉพาะกรณที ่ไี มใชเ รือ่ งสําคญั ไดแก ๑๓.๑ การขอรายละเอียดเพ่มิ เตมิ ๑๓.๒ การสง สาํ เนาหนังสอื ส่ิงของ เอกสาร หรือบรรณสาร ๑๓.๓ การตอบรบั ทราบทีไ่ มเกยี่ วกบั ราชการสาํ คัญ หรอื การเงิน ๑๓.๔ การแจง ผลงานทไ่ี ดด ําเนนิ การไปแลว ใหสวนราชการท่เี กย่ี วขอ งทราบ ๑๓.๕ การเตอื นเร่ืองท่ีคา ง ๑๓.๖ เรื่องซึ่งหัวหนาสวนราชการระดับกรมขึ้นไปกําหนดโดยทําเปนคําสั่ง ใหใ ชหนงั สือประทับตรา ¢ÍŒ ñô ˹§Ñ ÊÍ× »ÃзºÑ μÃÒ ใชก ระดาษตราครฑุ และใหจ ดั ทาํ ตามแบบท่ี ๓ ทา ยระเบยี บ โดยกรอกรายละเอียดดงั น้ี ๑๔.๑ ที่ ใหล งรหสั ตวั พยญั ชนะและเลขประจาํ ของเจา ของเรอ่ื ง ตามทกี่ าํ หนด ไวในภาคผนวก ๑ ทับเลขทะเบยี นหนงั สือสง ๑๔.๒ ถงึ ใหลงชอ่ื สวนราชการ หนว ยงาน หรอื บุคคลท่ีหนังสือนัน้ มถี ึง ๑๔.๓ ขอ ความ ใหลงสาระสําคญั ของเรือ่ งใหช ัดเจนและเขาใจงา ย ๑๔.๔ ชอ่ื สว นราชการทสี่ ง หนงั สอื ออก ใหล งชอื่ สว นราชการทสี่ ง หนงั สอื ออก ๑๔.๕ ตราชอ่ื สว นราชการ ใหป ระทบั ตราชอื่ สว นราชการตามขอ ๗๒ ดว ยหมกึ แดง และใหผรู ับผิดชอบลงลายมือชอ่ื ยอ กาํ กบั ตรา ๑๔.๖ วัน เดือน ป ใหลงตัวเลขของวันที่ ช่ือเต็มของเดือนและตัวเลขของป พุทธศักราชทอ่ี อกหนังสือ ๑๔.๗ สว นราชการเจา ของเรอื่ ง ใหล งชอ่ื สว นราชการเจา ของเรอ่ื ง หรอื หนว ยงาน ท่ีออกหนงั สอื ๑๔.๘ โทร. หรือที่ตั้ง ใหลงหมายเลขโทรศัพทของสวนราชการเจาของเรื่อง และหมายเลขภายในตสู าขา (ถา ม)ี ดว ย ในกรณที ไี่ มม โี ทรศพั ท ใหล งทต่ี ง้ั ของสว นราชการเจา ของเรอื่ ง โดยใหลงตําบลที่อยูตามความจําเปน และแขวงไปรษณีย (ถามี) และใหลงหมายเลขโทรสารของ สวนราชการเจาของเร่ืองตอ จากหมายเลขโทรศพั ท ทาํ นองเดียวกับหนงั สือภายนอก
๑๒
๑๓ ˹ѧÊÍ× Ê§èÑ ¡Òà ¢ÍŒ ñõ ˹ѧÊ×ÍÊÑè§¡Òà ใหใชตามแบบท่ีกําหนดไวในระเบียบน้ี เวนแตจะมีกฎหมาย กําหนดแบบไวโดยเฉพาะ หนังสอื สั่งการมี ๓ ชนดิ ไดแ ก คาํ สัง่ ระเบยี บ และขอ บงั คบั ¢ÍŒ ñö คาํ ʧÑè คอื บรรดาขอ ความทผ่ี บู งั คบั บญั ชาสงั่ การใหป ฏบิ ตั โิ ดยชอบดว ยกฎหมาย ใชกระดาษตราครุฑ และใหจ ัดทาํ ตามแบบท่ี ๔ ทายระเบยี บ โดยกรอกรายละเอียดดงั น้ี ๑๖.๑ คําสงั่ ใหล งชื่อสว นราชการ หรอื ตําแหนงของผูมีอํานาจทอ่ี อกคาํ ส่ัง ๑๖.๒ ที่ ใหล งเลขทที่ อี่ อกคาํ สง่ั โดยเรม่ิ ฉบบั แรกจากเลข ๑ เรยี งเปน ลาํ ดบั ไป จนสน้ิ ปป ฏทิ ิน ทบั เลขปพ ุทธศักราชท่อี อกคําส่ัง ๑๖.๓ เรอ่ื ง ใหล งชือ่ เร่ืองทอ่ี อกคําส่ัง ๑๖.๔ ขอ ความ ใหอ า งเหตทุ อ่ี อกคาํ สง่ั และอา งถงึ อาํ นาจทใี่ หอ อกคาํ สง่ั (ถา ม)ี ไวดว ยแลวจงึ ลงขอความที่สง่ั และวันใชบังคบั ๑๖.๕ สง่ั ณ วนั ที่ ใหลงตวั เลขของวันท่ี ชอื่ เต็มของเดือน และตัวเลขของป พุทธศักราชทีอ่ อกคาํ สง่ั ๑๖.๖ ลงช่ือ ใหลงลายมือช่ือผูออกคําส่ัง และพิมพช่ือเต็มของเจาของ ลายมอื ชอ่ื ไวใตล ายมอื ช่ือ ๑๖.๗ ตําแหนง ใหลงตาํ แหนงของผอู อกคําสัง่
๑๔ ·∫∫∑Ë’ Ù ·∫∫§” ßË— (μ“¡√–‡∫¬’ ∫¢Õâ Òˆ) §” Ë—ß (™ËÕ◊ «à π√“™°“√À√◊Õμ”·ÀπàߢÕߺ¡Ÿâ Õ’ ”π“®∑Õ’Ë Õ°§” —ßË ) ∑.Ë’ ........................./ (‡≈¢ªïæÿ∑∏»—°√“™∑ËÕ’ Õ°§” —ßË ) ‡√◊ÕË ß................................................................................. (¢âÕ§«“¡)........................................................................................................................ .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ∑—Èßπ’È μ—ßÈ ·μ.à ....................................................................................................................... —Ëß ≥ «π— ∑.’Ë ...............................æ.». ............... (≈ß™ËÕ◊ ) (æ‘¡æ™å Õ◊Ë ‡μÁ¡) (μ”·Àπàß)
๑๕ ¢ÍŒ ñ÷ ÃÐàºÕº คือ บรรดาขอความท่ีผูมีอํานาจหนาท่ีไดวางไว โดยจะอาศัยอํานาจ ของกฎหมายหรือไมก็ได เพ่ือถือเปนหลักปฏิบัติงานเปนการประจํา ใชกระดาษตราครุฑ และให จัดทาํ ตามแบบ ท่ี ๕ ทา ยระเบยี บ โดยกรอกรายละเอียดดังนี้ ๑๗.๑ ระเบียบ ใหล งช่อื สว นราชการทอ่ี อกระเบียบ ๑๗.๒ วา ดว ย ใหล งชื่อของระเบยี บ ๑๗.๓ ฉบับท่ี ถาเปนระเบียบท่ีกลาวถึงเปนคร้ังแรกในเรื่องน้ัน ไมตองลงวา เปน ฉบบั ที่เทา ใด แตถาเปน ระเบียบเรื่องเดยี วกันที่มกี ารแกไขเพ่ิมเติมใหลงเปน ฉบับที่ ๒ และที่ถดั ๆ ไปตามลําดับ ๑๗.๔ พ.ศ. ใหล งตัวเลขของปพุทธศกั ราชท่อี อกระเบียบ ๑๗.๕ ขอความ ใหอา งเหตุผลโดยยอ เพอื่ แสดงถงึ ความมงุ หมายท่ตี องออก ระเบียบและอา งถึงกฎหมายท่ใี หอ าํ นาจออกระเบยี บ (ถา มี) ๑๗.๖ ขอ ใหเ รยี งขอความทีจ่ ะใชเปน ระเบียบเปน ขอ ๆ โดยใหข อ ๑ เปนชื่อ ระเบียบ ขอ ๒ เปนวนั ใชบังคับกําหนดวา ใหใ ชบ งั คบั ตง้ั แตเ มอื่ ใด และขอ สดุ ทาย เปน ขอ ผรู ักษาการ ระเบยี บใดถา มมี ากขอ หรอื หลายเรอื่ ง จะแบง เปน หมวดกไ็ ด โดยใหย า ยขอ ผรู กั ษาการไปเปน ขอ สดุ ทา ย กอ นท่จี ะขนึ้ หมวด ๑ ๑๗.๗ ประกาศ ณ วนั ที่ ใหล งตวั เลขของวันท่ี ชื่อเต็มของเดอื น และตวั เลข ของปพ ทุ ธศกั ราชที่ออกระเบยี บ ๑๗.๘ ลงช่ือ ใหลงลายมือช่ือผูออกระเบียบ และพิมพช่ือเต็มของเจาของ ลายมอื ช่ือไวใ ตล ายมอื ช่ือ ๑๗.๙ ตําแหนง ใหล งตําแหนง ของผูออกระเบียบ
๑๖ ·∫∫∑’Ë ı ·∫∫√–‡∫¬’ ∫ (μ“¡√–‡∫¬’ ∫¢Õâ Ò˜) √–‡∫¬’ ∫ (™◊ÕË «à π√“™°“√∑ÕË’ Õ°√–‡∫¬’ ∫) «à“¥â«¬................................................................................. (©∫—∫∑.Ë’ ................∂“â ¡‡’ √Ë◊Õ߇¥’¬«°π— ‡°π‘ °«“à Ò ©∫∫— ) æ.». .................... (¢âÕ§«“¡) „ÀâÕâ“߇Àμÿº≈‚¥¬¬àÕ‡æË◊Õ· ¥ß∂÷ß§«“¡¡àÿßÀ¡“¬∑’ËμâÕßÕÕ°√–‡∫’¬∫ ·≈–Õ“â ß∂÷ß°ÆÀ¡“¬∑Ë’„ÀâÕ”π“®ÕÕ°√–‡∫¬’ ∫ (∂“â ¡’) ¢Õâ Ò √–‡∫¬’ ∫π‡’È √¬’ °«“à ç√–‡∫¬’ ∫......................................................æ.». .....................é ¢Õâ Ú √–‡∫¬’ ∫π„È’ À„â ™∫â ß— §∫— μßÈ— ·μ.à .....................................................................‡ªπì μπâ ‰ª .......................................................................................................................................................................... .................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ¢Õâ ( ¥ÿ ∑⓬) ºŸâ√°— …“°“√μ“¡√–‡∫¬’ ∫ (∂â“¡°’ “√·∫ßà ‡ªπì À¡«¥„Àπâ ”¢âÕ¡Ÿ≈º√Ÿâ °— …“°“√ μ“¡√–‡∫¬’ ∫‰ª°”À𥇪πì ¢Õâ ¥ÿ ∑“â ¬°Õà π∑®Ë’ –¢πÈ÷ À¡«¥ Ò).................................................................. ....................................................................................................................................................................... ª√–°“» ≥ «π— ∑.’Ë ......................................................æ.». ......................... (≈ß™Ë◊Õ) (æ‘¡æ™å ◊ÕË ‡μ¡Á ) (μ”·Àπßà )
๑๗ ¢ÍŒ ñø ¢ÍŒ º§Ñ ¤Ñº คือ บรรดาขอความท่ผี มู ีอํานาจหนาที่กาํ หนดใหใชโ ดยอาศยั อาํ นาจ ของกฎหมายท่ีบัญญัติใหกระทําได ใชกระดาษตราครุฑ และใหจัดทําตามแบบท่ี ๖ ทายระเบียบ โดยกรอกรายละเอียดดังน้ี ๑๘.๑ ขอบังคบั ใหลงชื่อสวนราชการที่ออกขอ บงั คบั ๑๘.๒ วา ดวย ใหลงชื่อของขอบังคับ ๑๘.๓ ฉบบั ที่ ถา เปน ขอ บงั คบั ทก่ี ลา วถงึ เปน ครงั้ แรกในเรอื่ งนน้ั ไมต อ งลงวา เปน ฉบับท่เี ทา ใด แตถ า เปน ขอ บงั คับเรอ่ื งเดยี วกนั ทม่ี กี ารแกไขเพ่ิมเตมิ ใหล งเปนฉบบั ที่ ๒ และท่ีถัด ๆ ไป ตามลาํ ดับ ๑๘.๔ พ.ศ. ใหลงตวั เลขของปพุทธศักราชท่อี อกขอ บงั คับ ๑๘.๕ ขอความ ใหอางเหตุผลโดยยอเพื่อแสดงถึงความมุงหมายที่ตองออก ขอ บังคับและอางถงึ กฎหมายท่ีใหอํานาจออกขอ บงั คับ ๑๘.๖ ขอ ใหเ รยี งขอ ความทจี่ ะใชบ งั คบั เปน ขอ ๆ โดยให ขอ ๑ เปน ชอ่ื ขอ บงั คบั ขอ ๒ เปน วนั ทใ่ี ชบ งั คบั กาํ หนดวา ใหใ ชบ งั คบั ตง้ั แตเ มอื่ ใด และขอ สดุ ทา ยเปน ขอ ผรู กั ษาการ ขอ บงั คบั ใด ถามีมากขอหรือหลายเร่ืองจะแบงเปนหมวดก็ได โดยใหยายขอผูรักษาการไปเปนขอสุดทายกอนที่ จะขน้ึ หมวด ๑ ๑๘.๗ ประกาศ ณ วันท่ี ใหลงตวั เลขของวันท่ี ชอ่ื เต็มของเดือน และตวั เลข ของปพ ทุ ธศกั ราชทอี่ อกขอบงั คบั ๑๘.๘ ลงชื่อ ใหลงลายมือช่ือผูออกขอบังคับ และพิมพช่ือเต็มของเจาของ ลายมอื ชอื่ ไวใตลายมือช่อื ๑๘.๙ ตาํ แหนง ใหล งตาํ แหนง ของผอู อกขอ บงั คับ
๑๘ ·∫∫∑Ë’ ˆ ·∫∫¢Õâ ∫ß— §∫— (μ“¡√–‡∫¬’ ∫¢âÕ Ò¯) ¢Õâ ∫ß— §∫— (™ËÕ◊ à«π√“™°“√∑’ËÕÕ°¢Õâ ∫ß— §∫— ) «à“¥«â ¬................................................................................. (©∫—∫∑.’Ë ................∂â“¡‡’ √◊ËÕ߇¥¬’ «°π— ‡°‘π°«“à Ò ©∫—∫) æ.». .................... (¢âÕ§«“¡) „ÀâÕâ“߇Àμÿº≈‚¥¬¬àÕ‡æ◊ËÕ· ¥ß∂÷ß§«“¡¡àÿßÀ¡“¬∑Ë’μâÕßÕÕ°¢âÕ∫—ß§—∫ ·≈– Õâ“ß∂÷ß°ÆÀ¡“¬∑’Ë„ÀâÕ”π“®ÕÕ°¢âÕ∫—ß§—∫ ¢Õâ Ò ¢Õâ ∫ß— §∫— π‡È’ √¬’ °«“à ç¢Õâ ∫ß— §∫— ....................................................æ.». .....................é ¢âÕ Ú ¢Õâ ∫ß— §∫— π„’È À„â ™∫â ß— §∫— μßÈ— ·μ.à .....................................................................‡ªπì μπâ ‰ª ......................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................. .................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ¢Õâ ( ¥ÿ ∑“â ¬) º√⟠°— …“°“√μ“¡¢Õâ ∫ß— §∫— (∂“â ¡°’ “√·∫ßà ‡ªπì À¡«¥„Àπâ ”¢Õâ º√Ÿâ °— …“°“√ ‰ª°”À𥇪πì ¢Õâ ¥ÿ ∑“â ¬°Õà π∑®’Ë –¢π÷È À¡«¥ Ò)......................................................................................... ...................................................................................................................................................................... ª√–°“» ≥ «—π∑’Ë........................................................æ.». ....................... (≈ß™Ë◊Õ) (æ¡‘ æ™å ÕË◊ ‡μ¡Á ) (μ”·Àπßà )
๑๙ ÊÇ‹ ¹·Õè õ ˹§Ñ ÊÍ× »ÃЪÒÊÁÑ ¾Ñ¹¸ ¢ÍŒ ñù ˹ѧÊ×Í»ÃЪÒÊÑÁ¾Ñ¹¸ ใหใชตามแบบที่กําหนดไวในระเบียบนี้ เวนแตจะมี กฎหมายกําหนดแบบไวโดยเฉพาะ หนังสือประชาสมั พันธม ี ๓ ชนดิ ไดแก ประกาศ แถลงการณ และขาว ¢ÍŒ òð »ÃСÒÈ คือ บรรดาขอความที่ทางราชการประกาศหรือชี้แจงใหทราบ หรือ แนะแนวทางปฏิบัติ ใชกระดาษครฑุ และใหจ ัดทาํ ตามแบบท่ี ๗ ทายระเบยี บ โดยกรอกรายละเอยี ด ดงั นี้ ๒๐.๑ ประกาศ ใหล งชอ่ื สวนราชการท่อี อกประกาศ ๒๐.๒ เรอ่ื ง ใหลงช่อื เรอ่ื งทปี่ ระกาศ ๒๐.๓ ขอ ความ ใหอ า งเหตผุ ลที่ตอ งออกประกาศและขอ ความท่ปี ระกาศ ๒๐.๔ ประกาศ ณ วันท่ี ใหลงตัวเลขของวันท่ี ชื่อเต็มของเดือน และตัวเลข ของปพทุ ธศกั ราชที่ออกประกาศ ๒๐.๕ ลงช่ือ ใหลงลายมือช่ือผูออกประกาศ และพิมพช่ือเต็มของเจาของ ลายมือช่ือไวใตลายมือชอื่ ๒๐.๖ ตาํ แหนง ใหลงตาํ แหนง ของผอู อกประกาศ ในกรณีที่กฎหมายกําหนดใหทําเปนแจงความ ใหเปลี่ยนคําวาประกาศ เปน แจง ความ
๒๐ ·∫∫∑’Ë ˜ ·∫∫ª√–°“» (μ“¡√–‡∫¬’ ∫¢Õâ Ú) ª√–°“» (™Ë◊Õ «à π√“™°“√∑’ËÕÕ°ª√–°“») ‡√◊ËÕß................................................................................. (¢Õâ §«“¡)........................................................................................................................ ....................................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ ª√–°“» ≥ «π— ∑.’Ë ....................................................æ.». ......................... (≈ß™◊ÕË ) (æ‘¡æå™◊ËÕ‡μ¡Á ) (μ”·Àπàß)
๒๑ ¢ŒÍ òñ á¶Å§¡Òó คอื บรรดาขอ ความทที่ างราชการแถลงเพอื่ ทาํ ความเขา ใจในกจิ การ ของทางราชการ หรอื เหตุการณ หรือกรณใี ด ๆ ใหท ราบชัดเจนโดยทัว่ กัน ใชกระดาษตราครฑุ และ ใหจ ัดทําตามแบบท่ี ๘ ทา ยระเบียบ โดยกรอกรายละเอยี ดดงั นี้ ๒๑.๑ แถลงการณ ใหล งชอื่ สวนราชการที่ออกแถลงการณ ๒๑.๒ เรือ่ ง ใหล งชอื่ เรื่องที่ออกแถลงการณ ๒๑.๓ ฉบับท่ี ใชในกรณีที่จะตองออกแถลงการณหลายฉบับในเร่ืองเดียว ทตี่ อเน่ืองกนั ใหลงฉบบั ท่เี รียงตามลําดบั ไวดวย ๒๑.๔ ขอ ความ ใหอ า งเหตผุ ลทตี่ อ งออกแถลงการณแ ละขอ ความทแ่ี ถลงการณ ๒๑.๕ สว นราชการทอ่ี อกแถลงการณ ใหล งชอื่ สว นราชการทอี่ อกแถลงการณ ๒๑.๖ วัน เดือน ป ใหลงตัวเลขของวันท่ี ช่ือเต็มของเดือน และตัวเลขของ ปพ ทุ ธศักราชที่ออกแถลงการณ
๒๒ ·∫∫∑’Ë ¯ ·∫∫·∂≈ß°“√≥å (μ“¡√–‡∫’¬∫¢Õâ ÚÒ) ·∂≈ß°“√≥å (™◊ÕË «à π√“™°“√∑ËÕ’ Õ°·∂≈ß°“√≥)å ‡√ËÕ◊ ß................................................................................. ©∫—∫∑.Ë’ .....................(∂â“¡)’ (¢Õâ §«“¡)........................................................................................................................ ......................................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................. ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ( «à π√“™°“√∑’ËÕÕ°·∂≈ß°“√≥å) («—𠇥Õ◊ π ª)ï
๒๓ ¢ŒÍ òò ¢‹ÒÇ คือ บรรดาขอความท่ีทางราชการเห็นสมควรเผยแพรใหทราบ ใหจัดทํา ตามแบบที่ ๙ ทา ยระเบียบ โดยกรอกรายละเอยี ดดังนี้ ๒๒.๑ ขา ว ใหล งช่ือสวนราชการทอ่ี อกขาว ๒๒.๒ เรอ่ื ง ใหลงชื่อเรอ่ื งทอี่ อกขาว ๒๒.๓ ฉบบั ท่ี ใชใ นกรณที จี่ ะตอ งออกขา วหลายฉบบั ในเรอื่ งเดยี วทตี่ อ เนอื่ งกนั ใหล งฉบบั ที่เรียงตามลําดับไวดว ย ๒๒.๔ ขอ ความ ใหล งรายละเอยี ดเก่ยี วกบั เร่อื งของขาว ๒๒.๕ สว นราชการทีอ่ อกขาว ใหล งช่ือสว นราชการท่อี อกขา ว ๒๒.๖ วนั เดือน ป ใหลงตวั เลขของวันที่ ชื่อเต็มของเดือน และตวั เลขของ ปพ ทุ ธศักราชทีอ่ อกขา ว
๒๔ ·∫∫∑’Ë ˘ ·∫∫¢“à « (μ“¡√–‡∫’¬∫¢âÕ ÚÚ) ¢à“« (™Ë◊Õ à«π√“™°“√∑Ë’ÕÕ°¢à“«) ‡√◊ÕË ß................................................................................. ©∫∫— ∑.’Ë .......................(∂â“¡)’ (¢Õâ §«“¡)....................................................................................................................... ........................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ................................................................................................................................................................ ................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................... ( «à π√“™°“√∑’ËÕÕ°¢à“«) («—𠇥Õ◊ π ª)ï
๒๕ ʋǹ·èÕ ö ˹§Ñ ÊÍ× ·àèÕ ¨ÒŒ ˹Ҍ ·Õทè าํ ¢Öé¹ËÃ×ÍÃѺänj໚¹ËÅÑ¡°Ò¹ã¹ÃÒª¡Òà ¢ÍŒ òó ˹§Ñ ÊÍ× ·àèÕ ¨ÒŒ ˹Ҍ ·ทÕè าํ ¢¹éÖ ËÃÍ× ÃºÑ äÇàŒ »¹š ËÅ¡Ñ °Ò¹ã¹ÃÒª¡Òà คอื หนงั สอื ทที่ าง ราชการทําขึ้นนอกจากที่กลาวมาแลวขางตน หรือหนังสือที่หนวยงานอ่ืนใดซ่ึงมิใชสวนราชการ หรือ บุคคลภายนอกมมี าถึงสว นราชการ และสว นราชการรับไวเปนหลักฐานของทางราชการ มี ๔ ชนิด คือ หนังสือรับรองรายงานการประชมุ บนั ทกึ และหนงั สอื อนื่ ¢ŒÍ òô ˹§Ñ ÊÍ× ÃºÑ Ãͧ คอื หนงั สอื ทส่ี ว นราชการออกใหเ พอ่ื รบั รองแก บคุ คล นติ บิ คุ คล หรือหนวยงาน เพ่ือวัตถุประสงคอยางหน่ึงอยางใดใหปรากฏแกบุคคลโดยท่ัวไปไมจําเพาะเจาะจง ใชกระดาษตราครฑุ และใหจดั ทาํ ตามแบบท่ี ๑๐ ทา ยระเบยี บ โดยกรอกรายละเอยี ดดังนี้ ๒๔.๑ เลขท่ี ใหล งเลขทขี่ องหนงั สอื รบั รองโดยเฉพาะ เรมิ่ ตงั้ แตเ ลข ๑ เรยี งเปน ลําดับไปจนถึงสิ้นปปฏิทิน ทับเลขปพุทธศักราชที่ออกหนังสือรับรอง หรือลงเลขที่ของหนังสือทั่วไป ตามแบบหนงั สอื ภายนอกอยา งหนง่ึ อยา งใด ๒๔.๒ สว นราชการเจา ของหนงั สอื ใหลงชือ่ ของสวนราชการซึง่ เปนเจาของ หนงั สอื นน้ั และจะลงสถานที่ตัง้ ของสวนราชการเจา ของหนังสือดวยก็ได ๒๔.๓ ขอความ ใหลงขอความข้ึนตนวา ˹ѧÊ×Í©ºÑº¹éÕãËŒäÇŒà¾è×ÍÃѺÃÍ§Ç‹Ò แลว ตอ ดว ยชอื่ บคุ คล นติ บิ คุ คล หรอื หนว ยงานทที่ างราชการรบั รอง ในกรณเี ปน บคุ คลใหพ มิ พช อ่ื เตม็ โดยมี คํานําหนานาม ชื่อ นามสกุล ตําแหนงหนาที่ และสังกัดหนวยงานท่ีผูนั้นทํางานอยูอยางชัดแจง แลว จงึ ลงขอ ความทีร่ ับรอง ๒๔.๔ ใหไ ว ณ วันท่ี ใหล งตัวเลขของวันท่ี ชอื่ เต็มของเดอื น และตัวเลขของ ปพทุ ธศักราชท่อี อกหนังสอื รับรอง ๒๔.๕ ลงชอื่ ใหล งลายมอื ชอ่ื หวั หนา สว นราชการผอู อกหนงั สอื หรอื ผทู ไ่ี ดร บั มอบหมายและพิมพชื่อเตม็ ของเจา ของลายมอื ชือ่ ไวใ ตลายมือชอ่ื ๒๔.๖ ตาํ แหนง ใหลงตําแหนงของผลู งลายมือช่ือในหนังสอื ๒๔.๗ รปู ถา ยและลายมอื ชอื่ ผไู ดร บั การรบั รอง ในกรณที ก่ี ารรบั รองเปน เรอื่ งสาํ คญั ทอ่ี อกใหแ กบ คุ คล ใหต ดิ รปู ถา ยของผทู ไ่ี ดร บั การรบั รอง ขนาด ๔ x ๖ เซนตเิ มตร หนา ตรงไมส วมหมวก ประทับตราช่ือสวนราชการท่ีออกหนังสือบนขอบลางดานขวาของรูปถายคาบตอลงบนแผนกระดาษ และใหผ ูนน้ั ลงลายมือชอ่ื ไวใ ตรปู ถายพรอมทง้ั พมิ พชอ่ื เตม็ ของเจาของลายมอื ช่ือไวใตล ายมอื ชื่อดว ย
๒๖
๒๗ ¢ÍŒ òõ ÃÒ§ҹ¡ÒûÃЪÁØ คอื การบนั ทกึ ความคดิ เหน็ ของผมู าประชมุ ผเู ขา รว มประชมุ และมตขิ องทป่ี ระชุมไวเ ปนหลักฐาน ใหจ ัดทําตามแบบที่ ๑๑ ทายระเบียบ โดยกรอกรายละเอียดดงั นี้ ๒๕.๑ รายงานการประชุม ใหลงชอื่ คณะทป่ี ระชุม หรือชอ่ื การประชมุ น้นั ๒๕.๒ คร้ังท่ี ใหล งครัง้ ทีป่ ระชุม ๒๕.๓ เมือ่ ใหล งวัน เดอื น ปท่ปี ระชมุ ๒๕.๔ ณ ใหลงสถานที่ทีป่ ระชมุ ๒๕.๕ ผมู าประชมุ ใหล งชอ่ื และหรอื ตาํ แหนง ของผไู ดร บั แตง ตงั้ เปน คณะทป่ี ระชมุ ซงึ่ มาประชมุ ในกรณที ม่ี ผี มู าประชมุ แทนใหล งชอื่ ผมู าประชมุ แทน และลงวา มาประชมุ แทนผใู ดหรอื ตาํ แหนง ใด ๒๕.๖ ผไู มม าประชมุ ใหล งชอ่ื และหรอื ตาํ แหนง ของผทู ไ่ี ดร บั การแตง ตงั้ เปน คณะทป่ี ระชุม ซ่ึงมิไดม าประชุมพรอมทงั้ เหตผุ ล (ถาม)ี ๒๕.๗ ผเู ขา รว มประชุม ใหล งชื่อและหรือตําแหนง ของผทู มี่ ไิ ดรับการแตง ตงั้ เปนคณะที่ประชุมซึ่งไดเขารว มประชมุ (ถา ม)ี ๒๕.๘ เรม่ิ ประชุมเวลา ใหลงเวลาที่เริ่มประชมุ ๒๕.๙ ขอความ ใหบันทกึ ขอ ความท่ปี ระชุม โดยปกติใหเ ริม่ ตนดวยประธาน กลา วเปด ประชมุ และเรอื่ งที่ประชุมกับมติหรอื ขอ สรปุ ของทปี่ ระชุมในแตละเรื่องตามลําดับ ๒๕.๑๐ เลิกประชมุ เวลา ใหล งเวลาท่เี ลกิ ประชุม ๒๕.๑๑ ผูจดรายงานการประชุม ใหล งชื่อผจู ดรายงานการประชมุ ครั้งน้นั
๒๘
๒๙ ¢ŒÍ òö º¹Ñ ·¡Ö คอื ขอ ความซง่ึ ผใู ตบ งั คบั บญั ชาเสนอตอ ผบู งั คบั บญั ชา หรอื ผบู งั คบั บญั ชา สง่ั การแกผ ใู ตบ งั คบั บญั ชา หรอื ขอ ความทเ่ี จา หนา ที่ หรอื หนว ยงานระดบั ตา่ํ กวา สว นราชการระดบั กรม ตดิ ตอ กนั ในการปฏบิ ตั ิราชการ โดยปกติใหใชกระดาษบันทกึ ขอความ และใหม ีหัวขอดงั ตอไปน้ี ๒๖.๑ ชอื่ หรอื ตาํ แหนง ทบ่ี นั ทกึ ถงึ โดยใชค าํ ขนึ้ ตน ตามทก่ี าํ หนดไวภ าคผนวก ๒ ๒๖.๒ สาระสําคัญของเร่ือง ใหลงใจความของเรื่องท่ีบันทึก ถามีเอกสาร ประกอบกใ็ หระบุไวด วย ๒๖.๓ ชอื่ และตาํ แหนง ใหล งลายมอื ชอื่ และตาํ แหนง ของผบู นั ทกึ และในกรณี ท่ีไมใชก ระดาษบันทกึ ขอความ ใหลงวนั เดอื น ปท่ีบนั ทึกไวด วย การบนั ทกึ ตอ เนอื่ ง โดยปกตใิ หผ บู นั ทกึ ระบคุ าํ ขนึ้ ตน ใจความบนั ทกึ และลงชอ่ื เชน เดยี วกบั ทีไ่ ดกลาวไวขา งตน และใหลงวนั เดือน ป กาํ กับใตล ายมอื ชื่อผบู นั ทึก หากไมมีความเห็นใดเพ่มิ เตมิ ใหล งช่ือและวัน เดือน ป กาํ กับเทา นัน้ ¢ÍŒ ò÷ ˹§Ñ ÊÍ× Í¹×è คอื หนงั สอื หรอื เอกสารอน่ื ใดทเี่ กดิ ขน้ึ เนอื่ งจากการปฏบิ ตั งิ านของ เจา หนา ท่เี พอ่ื เปนหลกั ฐานในราชการ ซ่ึงรวมถงึ ภาพถาย ฟล ม แถบบนั ทกึ เสียง แถบบนั ทึกภาพ และ สอ่ื กลางบันทกึ ขอ มูลดว ย หรอื หนงั สือของบคุ คลภายนอก ท่ีย่นื ตอเจา หนา ท่ี และเจาหนา ทไ่ี ดร บั เขา ทะเบียนรับหนังสือของทางราชการแลว มีรูปแบบตามที่กระทรวง ทบวง กรม จะกําหนดข้ึนใชตาม ความเหมาะสม เวนแตมีแบบตามกฎหมายเฉพาะเรอ่ื งใหทาํ ตามแบบ เชน โฉนด แผนที่ แบบ แผนผัง สญั ญา หลักฐานการสืบสวนและสอบสวน และคํารอง เปนตน ส่อื กลางบนั ทกึ ขอมลู ตามวรรคหน่ึง หมายความถงึ สอ่ื ใด ๆ ทีอ่ าจใชบ นั ทกึ ขอมูลไดด ว ย อปุ กรณท างอเิ ลก็ ทรอนกิ ส เชน แผน บนั ทกึ ขอ มลู เทปแมเ หลก็ จานแมเ หลก็ แผน ซดี ี – อา นอยา งเดยี ว หรือแผน ดจิ ิทลั อเนกประสงค เปน ตน (ความในขอ ๒๗ แกไขโดย ระเบียบสํานักนายกรัฐมนตรี วาดวยงานสารบรรณ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๘ ลงวันท่ี ๒๑ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๔๘) º·àºç´àμÅç´ หนงั สอื ทตี่ อ งปฏบิ ตั ใิ หเ รว็ กวา ปกติ เปน หนงั สอื ทตี่ อ งจดั สง และดาํ เนนิ การทางสารบรรณ ดว ยความรวดเร็วเปน พเิ ศษ แบงเปน ๓ ประเภท คือ ๑. ดวนทส่ี ดุ ใหเ จาหนา ที่ปฏบิ ัตใิ นทันทีทไี่ ดรบั หนังสือนน้ั ๒. ดว นมาก ใหเ จาหนา ที่ปฏบิ ัตโิ ดยเร็ว ๓. ดว น ใหเ จา หนาทีป่ ฏิบัติเรว็ กวาปกติ เทาท่จี ะทาํ ได ใหระบุชั้นความเร็วดวยตัวอักษรสีแดงขนาดไมเล็กกวาตัวพิมพโปง ๓๒ พอยท ใหเห็น ไดชดั บนหนังสอื และบนซอง โดยใหระบคุ ําวา ดว นที่สุด ดว นมาก หรอื ดวน แลวแตก รณี
๓๐ ในกรณีท่ีตองการใหหนังสือสงถึงผูรับภายในเวลาท่ีกําหนด ใหระบุคําวา ดวนภายใน แลวลงวัน เดือน ป และกําหนดเวลาที่ตองการใหหนังสือนั้นไปถึงผูรับ กับใหเจาหนาท่ีสงถึงผูรับ ซ่งึ ระบบุ นหนาซองภายในเวลาทก่ี าํ หนด ¡Òè´Ñ ทําสาํ à¹Ò˹ѧÊÍ× หนงั สือที่จดั ทําข้ึนโดยปกติใหม ีสาํ เนาคูฉบบั เก็บไวท ี่ตนเร่ือง ๑ ฉบับ และใหม สี ําเนาเกบ็ ไวทห่ี นวยงานสารบรรณกลาง ๑ ฉบับ สําเนาคฉู บบั ใหผ ูลงชอ่ื ลงลายมือช่อื หรอื ลายมอื ชื่อยอ และใหผรู า ง ผูพมิ พ และผตู รวจ ลงลายมอื ช่ือหรือลายมอื ชอ่ื ยอ ไวท ่ขี า งทา ยขอบลางดานขวาของหนงั สอื หนงั สอื ทเ่ี จา ของหนงั สอื เหน็ วา มสี ว นราชการอน่ื ทเ่ี กยี่ วขอ งควรไดร บั ทราบดว ย โดยปกติ ใหส ง สาํ เนาไปใหท ราบโดยทําเปนหนงั สอื ประทับตรา สําเนาหนังสือน้ีใหมีคํารับรองวา สําเนาถูกตอง โดยใหเจาหนาท่ีต้ังแตระดับ ๒ หรือเทียบเทาข้ึนไปซึ่งเปนเจาของเรื่องลงลายมือชื่อรับรอง พรอมทั้งลงชื่อตัวบรรจง และตําแหนง ทข่ี อบลา งของหนังสือ ¡ÒèѴทํา˹§Ñ ÊÍ× àÇÕ¹ หนงั สือเวยี น คือ หนงั สือทม่ี ถี งึ ผูรบั เปน จํานวนมาก มีใจความอยางเดยี วกนั ใหเพ่ิมรหัส ตวั พยญั ชนะ ว หนา เลขทะเบยี นหนงั สอื สง ซงึ่ กาํ หนดเปน เลขทหี่ นงั สอื เวยี นโดยเฉพาะ เรมิ่ ตงั้ แตเ ลข ๑ เรียงเปนลําดับไปจนถึงสิ้นปปฏิทิน หรือใชเลขท่ีของหนังสือทั่วไปตามแบบหนังสือภายนอก อยา งหน่ึงอยา งใด เมื่อผูรับไดรับหนังสือเวียนแลวเห็นวาเรื่องนั้นจะตองใหหนวยงาน หรือบุคคลใน บังคับบัญชาในระดับตาง ๆ ไดรับทราบดวย ก็ใหมีหนาที่จัดทําสําเนา หรือจัดสงใหหนวยงาน หรอื บุคคลเหลา นนั้ โดยเรว็ ¡ÒÃÃѺáÅÐʧ‹ ˹ѧÊ×Í ñ. ¡ÒÃÃѺ˹ѧÊÍ× หนงั สอื รบั คอื หนงั สอื ทไ่ี ดร บั เขา มาจากภายนอก ใหเ จา หนา ทข่ี องหนว ยงานสารบรรณ กลางปฏิบตั ิ ดงั น้ี ๑.๑ การรับหนังสือท่ีมีช้ันความลับ ในชั้นลับหรือลับมาก ดวยระบบสารบรรณ อเิ ลก็ ทรอนกิ ส ใหผูใ ชง านหรือผปู ฏบิ ัติงานทีไ่ ดรบั การแตง ตงั้ ใหเขา ถงึ เอกสารลบั แตล ะระดับ เปน ผูร ับ ผา นระบบการรกั ษาความปลอดภยั โดยใหเ ปน ไปตามระเบยี บวา ดว ยการรกั ษาความลบั ของทางราชการ
๓๑ ๑.๒ จัดลําดับความสําคัญและความเรงดวนของหนังสือเพื่อดําเนินการกอนหลัง และใหผ ูเ ปด ซองตรวจเอกสาร หากไมถ กู ตอ งใหต ิดตอ สว นราชการเจา ของเรือ่ ง หรือหนวยงานทอ่ี อก หนังสือ เพื่อดําเนินการใหถูกตองหรือบันทึกขอบกพรองไวเปนหลักฐาน แลวจึงดําเนินการเรื่องนั้น ตอไป ประทบั ตรารบั หนงั สอื ทมี่ มุ บนดา นขวาของหนงั สอื เพอ่ื ลงเลขทะเบยี นรบั หนงั สอื ตามแบบท่ี ๑๒ ทายระเบียบ มลี ักษณะเปนรปู สเี่ หลีย่ มผืนผา ขนาด ๒.๕ เซนติเมตร x ๕ เซนติเมตร มชี ่อื สวนราชการอยูตอนบนรายละเอียดดังนี้ ๑.๒.๑ เลขรบั ใหลงเลขทีร่ บั ตามเลขทร่ี บั ในทะเบียน ๑.๒.๒ วนั ท่ใี หลงวนั เดอื น ปท ี่รับหนงั สอื ๑.๒.๓ เวลาใหล งเวลาทร่ี ับหนังสือ ๑.๓ ลงทะเบยี นรบั หนงั สอื ในทะเบยี นหนงั สอื รบั ใชส าํ หรบั ลงรายการหนงั สอื ทไี่ ดร บั เขาเปน ประจําวันโดยเรียงลาํ ดับลงมาตามเวลาท่ไี ดร บั หนังสอื มขี นาดเอ ๔ พิมพส องหนา มสี องชนดิ คอื ชนดิ เปน เลมและชนดิ เปน แผน รายละเอยี ดดังน้ี ๑.๓.๑ ทะเบยี นหนังสือรับ วนั ที่ เดือน พ.ศ. ใหลงวนั เดอื น ปท ล่ี งทะเบียน ๑.๓.๒ เลขทะเบยี นรบั ใหล งเลขลาํ ดบั ของทะเบยี นหนงั สอื รบั รองลาํ ดบั ตดิ ตอ กันไปตลอดปป ฏิทนิ เลขทะเบยี นของหนังสือรบั จะตองตรงกบั เลขท่ใี นตรารับหนงั สอื ๑.๓.๓ ที่ใหล งเลขท่ีของหนงั สอื ท่ีรับเขามา ๑.๓.๔ ลงวนั ท่ี ใหล งวัน เดือน ปข องหนงั สอื ทร่ี ับเขามา ๑.๓.๕ จาก ใหล งตาํ แหนง เจา ของหนงั สอื หรอื ชอื่ สว นราชการ หรอื ชอื่ บคุ คล ในกรณที ีไ่ มมตี ําแหนง ๑.๓.๖ ถึง ใหลงตําแหนงของผูท่ีหนังสือนั้นมีถึง หรือช่ือสวนราชการ หรือ ชอ่ื บคุ คลในกรณที ไี่ มม ตี าํ แหนง ๑.๓.๗ เรื่อง ใหลงชื่อเรื่องของหนังสือฉบับน้ัน ในกรณีท่ีไมมีชื่อเร่ืองใหลง สรุปเรอ่ื งยอ ๑.๓.๘ การปฏิบตั ิ ใหบ นั ทึกการปฏบิ ัตเิ กยี่ วกบั หนงั สือฉบบั นน้ั ๑.๓.๙ หมายเหตุ ใหบ ันทกึ ขอ ความอ่นื ใด (ถาม)ี ๑.๔ จัดแยกหนังสือท่ีลงทะเบียนรับแลวสงใหสวนราชการท่ีเก่ียวของดําเนินการ โดยใหลงช่ือหนวยงานที่รับหนังสือนั้นในชอง การปฏิบัติ ถามีชื่อบุคคล หรือตําแหนงท่ีเก่ียวของกับ การรบั หนงั สือ ใหล งชอ่ื หรอื ตําแหนงไวด ว ย การสงหนังสือท่ีลงทะเบียนรับแลวไปใหสวนราชการท่ีเกี่ยวของดําเนินการ ตามวรรคหน่ึง จะสง โดยสมดุ สงหนงั สอื หรือใหผรู บั หนังสือลงชือ่ และวัน เดือน ปท่ีรบั หนังสือไวเ ปน หลักฐานในทะเบียนรับหนงั สือกไ็ ด
๓๒ การดําเนินการตามขั้นตอนนี้ จะเสนอผานผูบังคับบัญชาผูใดหรือไม ใหเปน ไปตามท่หี ัวหนาสวนราชการกําหนด ถา หนงั สอื รบั นน้ั จะตอ งดาํ เนนิ เรอ่ื งในหนว ยงานนน้ั เองจนถงึ ขน้ั ไดต อบหนงั สอื ไปแลว ใหล งทะเบียนวาไดส ง ออกไปโดยหนังสือท่ีเทา ใด วนั เดือน ปใด ๑.๕ การรับหนังสือภายในสวนราชการเดียวกัน เมื่อผูรับไดรับหนังสือจาก หนวยงานสารบรรณกลางแลวใหปฏบิ ตั ติ ามวธิ ีการทีก่ ลา วขางตน โดยอนโุ ลม ò. ¡ÒÃʧ‹ ˹§Ñ Ê×Í หนงั สือสง คอื หนงั สอื ที่สงออกไปภายนอก ใหปฏิบตั ิดังนี้ การสง หนงั สอื ทมี่ ชี น้ั ความลบั ในชนั้ ลบั หรอื ลบั มาก ดว ยระบบสารบรรณอเิ ลก็ ทรอนกิ ส ใหผ ใู ชง านหรอื ผปู ฏบิ ตั งิ านไดร บั การแตง ตง้ั ใหเ ขา ถงึ เอกสารลบั แตล ะระดบั เปน ผสู ง ผา นระบบการรกั ษา ความปลอดภยั โดยใหเปนไปตามระเบยี บวา ดว ยการรกั ษาความลับของทางราชการ ๒.๑ ใหเจาของเรื่องตรวจความเรียบรอยของหนังสือ รวมทั้งสิ่งท่ีจะสงไปดวย ใหครบถวน ๒.๒.๑ ลงทะเบยี นหนงั สอื ในทะเบยี นหนงั สอื สง ทะเบยี นหนงั สอื สง ใชส าํ หรบั ลงรายการหนงั สอื ทไ่ี ดส ง ออกเปน ประจาํ วนั โดยเรยี งลาํ ดบั ลงมาตามเวลาทไ่ี ดส ง หนงั สอื มขี นาดเอ ๔ พิมพส องหนา มีสองชนดิ คอื ชนิดเปนเลม และชนิดเปน แผน ตามแบบท่ี ๑๔ ทายระเบยี บ ๑) ทะเบียนหนังสือสง วันท่ี เดือน พ.ศ.ใหลงวัน เดือน ป ท่ีลง ทะเบยี น ๒) เลขทะเบยี นสง ใหล งเลขลาํ ดบั ของทะเบยี นหนงั สอื สง เรยี งลาํ ดบั ติดตอกันไปตลอดปป ฏิทิน ๓) ท่ี ใชลงรหัสตัวพยัญชนะ และเลขประจําของสวนราชการ เจาของเร่อื งในหนงั สอื ท่จี ะสง ออก ถา ไมม ีทดี่ ังกลาว ชอ งนจ้ี ะวาง ๔) ลงวันท่ี ใหล งวัน เดือน ปท จี่ ะสง หนังสอื นั้นออก ๕) จาก ใหล งตาํ แหนงเจา ของหนงั สอื หรอื ชอ่ื สวนราชการ หรือชอื่ บคุ คลในกรณที ่ไี มม ีตําแหนง ๖) ถึง ใหลงตําแหนงของผูท่ีหนังสือน้ันมีถึง หรือช่ือสวนราชการ หรอื ชื่อบคุ คลในกรณที ไี่ มมีตาํ แหนง ๗) เร่ือง ใหลงชื่อเร่ืองของหนังสือฉบับน้ัน ในกรณีที่ไมมีชื่อเร่ือง ใหล งสรุปเรอ่ื งยอ ๘) การปฏิบัติ ใหบ ันทึกการปฏบิ ตั เิ กีย่ วกับหนังสอื ฉบบั นน้ั ๙) หมายเหตุ ใหบ นั ทกึ ขอ ความอื่นใด (ถาม)ี
๓๓ ๒.๒.๒ ลงเลขที่ และวัน เดือน ปในหนังสือท่ีจะสงออกท้ังในตนฉบับ และสาํ เนาคูฉ บบั ใหตรงกบั เลขทะเบยี นสง และวัน เดอื น ปใ นทะเบยี นหนงั สือสง ๒.๓ กอ นบรรจขุ อง ใหเ จา หนา ทข่ี องหนว ยงานสารบรรณกลางตรวจความเรยี บรอ ย ของหนงั สือตลอดจนสิ่งทีส่ ง ไปดว ยอกี ครง้ั หนง่ึ แลวปดผนกึ หนงั สอื ทไี่ มม คี วามสาํ คญั มากนกั อาจสง ไปโดยวธิ พี บั ยดั ตดิ ดว ยแถวกาว กาว เย็บดวยลวดหรอื วธิ ีอื่นแทนการบรรจซุ อง ๒.๔ การจา หนา ซอง ใหป ฏบิ ัติตามระเบียบ สําหรบั หนงั สือทต่ี องปฏบิ ตั ิใหเ รว็ กวา ปกติ ใหป ฏบิ ัติตามท่ีกําหนด ในกรณีทไี่ มใชส มดุ สงหนังสอื ใหม ีใบรบั หนงั สอื แนบติดซองไปดว ย ๒.๕ การสงหนังสือโดยทางไปรษณีย ใหถือปฏิบัติตามระเบียบ หรือวิธีการท่ี การสอ่ื สารแหง ประเทศไทยกําหนด การสงหนังสือซ่ึงมิใชเปนการสงโดยทางไปรษณีย เมื่อสงหนังสือใหผูรับแลว ผสู ง ตองใหผูรับลงชือ่ รบั ในสมุดสงหนังสือ หรือใบรบั แลวแตกรณี ถาเปน ใบรับใหนาํ ไปรับนนั้ มาผนกึ ตดิ ไวทสี่ าํ เนาคูฉบบั ๒.๖ หนังสือท่ีไดลงทะเบียนสง ในกรณีท่ีเปนการตอบหนังสือซึ่งรับเขามาให ลงทะเบียนวาหนงั สอื น้ันไดต อบตามหนังสือรับทเี่ ทา ใด วนั เดือน ปใด ๒.๗ สมุดสงหนังสือและใบรบั หนังสอื ใชส ําหรบั ลงรายการละเอยี ดเกีย่ วกบั การสง หนังสือ โดยใหผ ูนําสงถือกาํ กับไปกบั หนังสอื เพ่ือใหผูรบั เซน็ รบั แลว รับกลับคนื มา สมุดสงหนังสือ เปนสมุดสําหรับใชลงรายการหนังสือ มีขนาดเอ ๕ พิมพ สองหนา รายละเอียดดังนี้ ๑.๗.๑ เลขทะเบียน ใหล งเลขทะเบียนหนงั สือสง ๑.๗.๒ จาก ใหลงตาํ แหนง หรือชอ่ื สว นราชการ หรอื ชอื่ บุคคลทีเ่ ปน เจาของ หนงั สอื ๑.๗.๓ ถึง ใหลงตําแหนงของผูท่ีหนังสือนั้นมีถึง หรือช่ือสวนราชการ หรือ ช่อื บคุ คลในกรณีทไ่ี มม ีตาํ แหนง ๑.๗.๔ หนวยรับ ใหลงชือ่ สวนราชการที่รับหนงั สอื ๑.๗.๕ ผูรับ ใหผ รู ับหนังสอื ลงชอื่ ท่ีสามารถอานออกได ๑.๗.๖ วันและเวลา ใหผรู ับหนงั สือลงวนั เดือน ปและเวลาทรี่ ับหนงั สอื ๑.๗.๗ หมายเหตุ ใหบนั ทึกขอความอนื่ ใด (ถา ม)ี ๒.๘ ใบรบั หนงั สอื ใชส าํ หรบั กาํ กบั ไปกบั หนงั สอื ทน่ี าํ สง โดยใหผ รู บั เซน็ ชอื่ รบั แลว รบั กลบั คืนมา โดยนาํ ใบรบั หนังสอื น้ันมาตดิ ผนึกกับสําเนาคฉู บับมีขนาด เอ ๘ พมิ พหนาเดียว ตามแบบ ที่ ๑๗ ทายระเบียบ ๒.๘.๑ ที่ ใหลงเลขทีข่ องหนังสอื ฉบบั นั้น
๓๔ ๒.๘.๒ ถึง ใหลงตําแหนงของผูที่หนังสือนั้นมีถึง หรือชื่อสวนราชการ หรอื ช่อื บุคคลในกรณที ี่ไมม ตี ําแหนง ๒.๘.๓ เร่ือง ใหลงช่ือเรื่องของหนังสือฉบับน้ัน ในกรณีที่ไมมีช่ือเรื่องใหลง สรปุ เร่อื งยอ ๒.๘.๔ รับวนั ท่ี ใหผูรับหนังสือลงวนั เดอื น ปท ่ีรบั หนังสอื ๒.๘.๕ เวลา ใหผูรับหนงั สือลงเวลาทรี่ บั หนงั สอื ๒.๘.๖ ผูรบั ใหผ ูรบั หนงั สือลงชอื่ ท่สี ามารถอา นออกได ºμÑ ÃμÃǨ¤¹Œ เพื่อใหการรับและการสงหนังสือดําเนินไปโดยสะดวกเรียบรอยและรวดเร็ว สวนราชการ จะกําหนดหนาท่ีของผูปฏิบัติตลอดจนแนวทางปฏิบัตินั้นไวดวยก็ได ทั้งนี้ ใหมีการสํารวจทะเบียน หนงั สือรับเปน ประจาํ วาหนงั สือตามระเบียบรบั นนั้ ไดม กี ารปฏิบัตไิ ปแลว เพยี งใด และใหมกี ารตดิ ตาม เร่ืองดวย ในการน้ีสวนราชการใดเห็นสมควรจะจัดใหมีบัตรตรวจคนสําหรับหนังสือรับและหนังสือสง เพ่ือความสะดวกในการคนหาก็ไดต ามความเหมาะสม บัตรตรวจคนเปนบัตรกํากับหนังสือและรายการเพ่ือใหทราบวาหนังสือน้ัน ๆ ไดมีการ ดําเนินการตามลําดับ ขั้นตอนอยางไร จนกระทั่งเสร็จส้ิน บัตรน้ีเก็บเรียงลําดับกันเปนชุดในท่ีเก็บ โดยมีกระดาษติดเปนบัตรดรรชนี ซ่ึงแบงออกเปนตอน ๆ เพื่อสะดวกแกการตรวจคน มีขนาดเอ ๕ พมิ พส องหนา รายละเอยี ดดงั น้ี ๑. เรื่อง รหัส ใหล งเร่อื งและรหัสตามหมวดหมูของหนังสือ ๒. เลขทะเบียนรบั ใหล งเลขทะเบยี นตามทีป่ รากฏในทะเบียนหนงั สอื รับ ๓. ท่ี ใหลงเลขทีข่ องหนงั สอื ๔. ลงวนั ที่ ใหล งวนั เดอื น ปข องหนงั สอื ๕. รายการ ใหลงเร่อื งยอ ของหนงั สือเพ่ือใหทราบวา หนงั สือนั้นมาจากท่ใี ด เร่อื งอะไร ๖. การปฏิบตั ิ ใหบันทกึ การปฏิบัตเิ กีย่ วกบั หนงั สือนั้นเพอื่ ใหท ราบวาสงไปทใี่ ด เมือ่ ใด ¡ÒÃà¡çºÃÑ¡ÉÒ การเก็บหนังสือแบงออกเปน การเก็บระหวางปฏิบัติ การเก็บเม่ือปฏิบัติเสร็จแลว และการเกบ็ ไวเพ่ือใชใ นการตรวจสอบ ๑.๑ การเก็บระหวางปฏิบัติ คือ การเก็บหนังสือท่ีปฏิบัติยังไมเสร็จใหอยูใน ความรบั ผดิ ชอบของเจา ของเรอ่ื งโดยใหก าํ หนดวธิ กี ารเกบ็ ใหเ หมาะสมตามขน้ั ตอนของการปฏบิ ตั งิ าน ๑.๒ การเก็บเม่ือปฏิบัติเสร็จแลว คือ การเก็บหนังสือท่ีปฏิบัติเสร็จเรียบรอยแลว และไมมีอะไรท่จี ะตอ งปฏิบัติตอ ไปอีก ใหเจา หนา ที่ของเจาของเร่ืองปฏบิ ตั ดิ งั น้ี
๓๕ ๑.๒.๑ จัดทําบัญชีหนังสือสงเก็บอยางนอยใหมีตนฉบับและสําเนาคูฉบับ สําหรบั เจาของเรือ่ งและหนว ยเกบ็ เก็บไวอ ยา งละฉบบั รายละเอยี ดดงั น้ี ๑) ลาํ ดบั ที่ ใหลงเลขลาํ ดับเรื่องของหนงั สอื ท่เี กบ็ ๒) ท่ี ใหลงเลขที่ของหนงั สอื แตละฉบบั ๓) ลงวันที่ ใหล งวันท่ี เดือน ป ของหนงั สือแตล ะฉบับ ๔) เรื่อง ใหล งช่อื เร่อื งของหนังสือแตล ะฉบบั ในกรณที ไี่ มม ีชอื่ เรอื่ ง ใหลงสรปุ ยอเรื่อง ๕) อายกุ ารเกบ็ หนงั สอื ใหล งวนั เดอื น ปท จี่ ะเกบ็ ถงึ ในกรณใี หเ กบ็ ไวต ลอดไป ใหลงคาํ วา หามทาํ ลาย ๖) หมายเหตุ ใหบนั ทึกขอ ความอนื่ ใด (ถาม)ี ๑.๒.๒ สงหนงั สอื และเรอ่ื งปฏิบัตทิ ง้ั ปวงทีเ่ กย่ี วขอ งกับหนังสือนั้น พรอ มทง้ั บัญชหี นังสือสงเกบ็ ไปใหหนวยเกบ็ ทส่ี วนราชการนน้ั ๆ กาํ หนด ๑.๓ การเกบ็ ไวเ พอื่ ใชใ นการตรวจสอบ คอื การเกบ็ หนงั สอื ทป่ี ฏบิ ตั เิ สรจ็ เรยี บรอ ยแลว แตจ าํ เปน จะตอ งใชใ นการตรวจสอบเปน ประจาํ ไมส ะดวกในการสง ไปเกบ็ ยงั หนว ยเกบ็ ของสว นราชการ ใหเ จาของเรือ่ งเก็บเปน เอกเทศ โดยแตงตงั้ เจาหนา ทข่ี ้นึ รบั ผิดชอบกไ็ ด เม่ือหมดความจาํ เปนท่จี ะตอ ง ใชในการตรวจสอบแลว ใหจัดสงหนังสือนั้นไปยังหนวยเก็บของสวนราชการโดยใหถือปฏิบัติตาม เชน เดยี วกับการเก็บเมือ่ ปฏิบตั เิ สรจ็ แลว Ç¸Ô Õ¡ÒÃࡺç ˹ѧÊ×Í เมอื่ ไดร บั เรอ่ื งจากเจา ของเรอื่ งแลว ใหเ จา หนา ทผ่ี รู บั ผดิ ชอบในการเกบ็ หนงั สอื ปฏบิ ตั ดิ งั น้ี ๑) ประทบั ตรากาํ หนดเกบ็ หนงั สอื ไวท ม่ี มุ ลา งดา นขวาของกระดาษแผน แรกของหนงั สอื ฉบบั น้ัน และลงลายมอื ชอื่ ยอกํากบั ตรา ๑.๑ หนังสือท่ีตอ งเกบ็ ไวต ลอดไป ใหประทบั ตราคําวา หา มทาํ ลายดวยหมกึ สีแดง ๑.๒ หนงั สอื ที่เกบ็ โดยมีกําหนดเวลา ใหป ระทบั ตราคาํ วา เกบ็ ถงึ พ.ศ.... ดว ยหมึก สนี าํ้ เงนิ และลงเลขของปพุทธศักราชท่ีใหเกบ็ ถงึ ๑.๒.๓ ลงทะเบยี นหนงั สือเกบ็ ไวเ ปน หลกั ฐานรายละเอียดดงั น้ี ๑) ลาํ ดับท่ี ใหล งเลขลาํ ดับเร่ืองของหนงั สอื ทีเ่ ก็บ ๒) วันเก็บ ใหลงวัน เดอื น ปทน่ี ําหนงั สือนน้ั เขาทะเบียนเก็บ ๓) เลขทะเบียนรับ ใหล งเลขทะเบียนรับของหนงั สือแตล ะฉบับ ๔) ที่ ใหล งเลขที่ของหนังสือแตล ะฉบบั ๕) เร่อื ง ใหลงชอื่ เร่อื งของหนังสือแตล ะฉบบั ในกรณที ่ไี มมีชอ่ื เรอ่ื ง ใหล งสรปุ เรื่องยอ
๓๖ กําหนดเกบ็ หนังสือ ๖) รหัสแฟม ใหล งหมายเลขลําดบั หมูข องการจดั แฟม เก็บหนังสือ ๗) กําหนดเวลาเก็บ ใหลงระยะเวลาการเก็บตามที่กําหนดในตรา ๘) หมายเหตุ ใหบนั ทึกขอ ความอืน่ ใด (ถาม)ี ÍÒÂØ¡ÒÃà¡çºË¹§Ñ Ê×Í ๑. อายกุ ารเกบ็ หนังสอื โดยปกติใหเ กบ็ ไวไ มน อ ยกวา ๑๐ ป เวนแตหนังสือดังตอ ไปนี้ ๑.๑ หนงั สอื ทตี่ องสงวนเปนความลบั ใหปฏิบตั ิตามกฎหมาย ระเบียบวา ดวยการ รักษาความปลอดภยั แหงชาติ หรือระเบยี บวา ดว ยการรักษาความลบั ทางราชการ ๑.๒ หนงั สอื ทเี่ ปน หลกั ฐานทางอรรถคดี สาํ นวนของศาลหรอื ของพนกั งานสอบสวน หรอื หนงั สอื อนื่ ใดทไี่ ดม กี ฎหมายหรอื ระเบยี บแบบแผนกาํ หนดไวเ ปน พเิ ศษแลว การเกบ็ ใหเ ปน ไปตาม กฎหมายและระเบยี บแบบแผนวา ดว ยการน้นั ๑.๓ หนงั สอื ทม่ี คี ณุ คา ทางประวตั ศิ าสตรท กุ สาขาวชิ าและมคี ณุ คา ตอ การศกึ ษาคน ควา วจิ ยั ใหเ กบ็ ไวเ ปน หลกั ฐานสาํ คญั ทางประวตั ศิ าสตรข องชาตติ ลอดไป หรอื ตามทส่ี าํ นกั หอจดหมายเหตุ แหงชาติ กรมศิลปากร กําหนด ๑.๔ หนังสือที่ไดปฏิบัติงานเสร็จสิ้นแลว และเปนคูสําเนาท่ีมีตนเร่ืองจะคนไดจาก ท่อี ่ืนใหเ กบ็ ไวไ มน อยกวา ๕ ป ๑.๕ หนังสือที่เปนเร่ืองธรรมดาสามัญซึ่งไมมีความสําคัญ และเปนเรื่องท่ีเกิดขึ้น เปน ประจาํ เมือ่ ดําเนนิ การแลว เสร็จใหเ ก็บไวไ มนอยกวา ๑ ป ๒. หนงั สอื หรอื เอกสารทเี่ กย่ี วกบั การรบั เงนิ การจา ยเงนิ หรอื การกอ หนผ้ี กู พนั ทางการเงนิ ทไี่ มเปนหลักฐานแหง การกอ เปลีย่ นแปลง โอน สงวน หรอื ระงับซงึ่ สิทธิในทางการเงิน รวมถึงหนงั สอื หรือเอกสารเก่ียวกับการรับเงิน การจายเงิน หรือการกอหน้ีผูกพันทางการเงินท่ีหมดความจําเปน ในการใชเปนหลักฐานแหงการกอ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือระงับซึ่งสิทธิในทางการเงิน เพราะ ไดมีหนังสือหรือเอกสารอ่ืนท่ีสามารถนํามาใชอางอิงหรือทดแทนหนังสือหรือเอกสารดังกลาวแลว เมอ่ื สาํ นกั งานการตรวจเงนิ แผน ดนิ ตรวจสอบแลว ไมม ปี ญ หา และไมม คี วามจาํ เปน ตอ งใชป ระกอบการตรวจ หรือเพอื่ การใด ๆ อีก ใหเ กบ็ ไวไ มนอ ยกวา ๕ ป หนังสอื เกย่ี วกับการเงนิ ซง่ึ เห็นวา ไมจําเปน ตอ งเก็บไวถงึ ๑๐ ป หรือ ๕ ป แลว แตกรณี ใหทาํ ความตกลงกบั กระทรวงการคลงั
๓๗ ¡ÒÃÊ‹§Áͺ˹§Ñ Ê×Í ๑. ทกุ ปป ฏทิ นิ ใหสว นราชการจัดสง หนังสอื ทม่ี อี ายคุ รบ ๒๐ ป นับจากวนั ท่ีไดจ ัดทําขน้ึ ทเี่ กบ็ ไว ณ สว นราชการใด พรอ มทง้ั บญั ชสี ง มอบหนงั สอื ครบ ๒๐ ป ใหส าํ นกั หอจดหมายเหตแุ หง ชาติ กรมศลิ ปากร ภายในวันที่ ๓๑ มกราคม ของปถัดไป เวนแตห นงั สือดังตอ ไปนี้ ๑.๑ หนังสือท่ีตองสงวนเปนความลับใหปฏิบัติตามกฎหมาย ระเบียบวาดวยการ รักษาความปลอดภยั แหงชาติ หรือระเบียบวา ดว ยการรกั ษาความลับของทางราชการ ๑.๒ หนังสือท่ีมีกฎหมาย ขอบังคับ หรือระเบียบท่ีออกใชเปนการทั่วไปกําหนดไว เปนอยา งอ่ืน ๑.๓ หนงั สอื ทส่ี ว นราชการมคี วามจาํ เปน ตอ งเกบ็ ไวท ส่ี ว นราชการนน้ั ใหจ ดั ทาํ บญั ชี หนงั สือครบ ๒๐ ป ที่ขอเกบ็ เอง สง มอบใหส าํ นกั หอจดหมายเหตแุ หงชาติ กรมศิลปากร ๒. บญั ชสี ง มอบหนงั สอื ครบ ๒๐ ป และบญั ชหี นงั สอื ครบ ๒๐ ปท ขี่ อเกบ็ เอง อยา งนอ ย ใหมีตนฉบับและสําเนาคูฉบับ เพื่อใหสวนราชการผูมอบและสํานักหอจดหมายเหตุแหงชาติ กรมศลิ ปากรผรู ับมอบยึดถอื ไวเ ปนหลักฐานฝายละฉบบั ๒.๑ บัญชีสงมอบหนงั สอื ครบ ๒๐ ป รายละเอียดดงั นี้ ๒.๑.๑ ช่ือบัญชีสงมอบหนังสือครบ ๒๐ ป ประจําป ใหลงตัวเลขของป พุทธศักราชทจ่ี ัดทาํ บญั ชี ๒.๑.๒ กระทรวง ทบวง กรม กอง ใหล งช่อื สว นราชการที่จัดทาํ บญั ชี ๒.๑.๓ วันท่ี ใหลงวัน เดอื น ปท จ่ี ัดทาํ บัญชี ๒.๑.๔ แผน ท่ี ใหลงเลขลาํ ดบั ของแผนบัญชี ๒.๑.๕ ลาํ ดับท่ี ใหลงเลขลําดบั เรอ่ื งของหนังสอื ท่สี งมอบ ๒.๑.๖ รหสั แฟม ใหลงหมายเลขลาํ ดับหมูของการจัดแฟม เกบ็ หนงั สอื ๒.๑.๗ ที่ ใหลงเลขทีข่ องหนังสือแตล ะฉบบั ๒.๑.๘ ลงวันท่ี ใหลงวัน เดอื น ปข องหนังสือแตล ะฉบบั ๒.๑.๙ เลขทะเบยี นรับ ใหล งเลขทะเบียนรับของหนงั สอื แตละฉบับ ๒.๑.๑๐ เรื่อง ใหลงชื่อเรื่องของหนังสือแตละฉบับ ในกรณีที่ไมมีชื่อเรื่อง ใหล งสรุปเร่อื งยอ ๒.๑.๑๑ หมายเหตุ ใหบ ันทึกขอ ความอื่นใด (ถา มี) ๒.๑.๑๒ ลงช่ือผูมอบ ใหผูมอบลงลายมือช่ือและวงเล็บช่ือและนามสกุล ดวยตัวบรรจงพรอมท้ังลงตาํ แหนงของผูมอบ ๒.๑.๑๓ ลงชอื่ ผรู บั มอบ ใหผ รู บั มอบลงลายมอื ชอื่ และวงเลบ็ ชอ่ื และนามสกลุ ดวยตวั บรรจงพรอ มทัง้ ลงตาํ แหนง ของผูรับมอบ
๓๘ ๒.๒ บัญชีหนังสือครบ ๒๐ ปท ีข่ อเกบ็ เอง รายละเอียดดงั น้ี ๒.๒.๑ ชอื่ บญั ชหี นังสอื ครบ ๒๐ ป ทีข่ อเกบ็ เองประจําป ใหลงตวั เลขของป พุทธศักราชที่จดทาํ บญั ชี ๒.๒.๒ กระทรวง ทบวง กรม กอง ใหลงช่อื สว นราชการท่ีจดั ทําบญั ชี ๒.๒.๓ วันท่ี ใหล งวัน เดือน ปทีจ่ ดั ทําบัญชี ๒.๒.๔ แผน ท่ี ใหล งเลขลําดับของแผน บัญชี ๒.๒.๕ ลําดับท่ี ใหลงเลขลาํ ดับเร่ืองของหนงั สือขอเกบ็ เอง ๒.๒.๖ รหสั แฟม ใหล งหมายเลขลําดบั หมขู องการจดั แฟมเก็บหนงั สือ ๒.๒.๗ ท่ี ใหล งเลขที่ของหนงั สอื แตล ะฉบบั ๒.๒.๘ ลงวันท่ี ใหล งวนั เดือน ปข องหนังสอื แตละฉบับ ๒.๒.๙ เรื่อง ใหลงชื่อเรื่องของหนังสือแตละฉบับ ในกรณีท่ีไมมีชื่อเร่ือง ใหล งสรุปเร่ืองยอ ๒.๒.๑๐ หมายเหตุ ใหบนั ทกึ ขอความอ่ืนใด (ถาม)ี ๓. หนังสือที่ยังไมถึงกําหนดทําลาย ซึ่งสวนราชการเห็นวาเปนหนังสือท่ีมีความสําคัญ และประสงคจะฝากใหส ํานักจดหมายเหตแุ หงชาติ กรมศิลปากร เกบ็ ไว ใหปฏิบตั ดิ ังน้ี ๓.๑ จัดทําบัญชีฝากหนังสืออยางนอยใหมีตนฉบับและสําเนาคูฉบับ โดยกรอก รายละเอยี ดดังนี้ ๓.๑.๑ ช่ือบัญชีฝากหนังสือประจําป ใหลงตัวเลขของปพุทธศักราช ที่จดทาํ บัญชี ๓.๑.๒ กระทรวง ทบวง กรม กอง ใหล งชือ่ สวนราชการทีจ่ ดั ทาํ บญั ชี ๓.๑.๓ วันท่ี ใหลงวนั เดือน ปที่จัดทาํ บญั ชี ๓.๑.๔ แผนท่ี ใหลงเลขลําดับของแผน บญั ชี ๓.๑.๕ ลาํ ดบั ที่ ใหล งเลขลําดับเรอื่ งของหนงั สอื ๓.๑.๖ รหสั แฟม ใหล งหมายเลขลําดบั หมูของการจดั แฟมเก็บหนงั สอื ๓.๑.๗ ที่ ใหล งเลขทีข่ องหนังสือแตละฉบบั ๓.๑.๘ ลงวันที่ ใหลงวัน เดอื น ปข องหนงั สือแตล ะฉบบั ๓.๑.๙ เลขทะเบยี นรบั ใหลงเลขทะเบยี นรับของหนงั สือแตล ะฉบบั ๓.๑.๑๐ เรื่อง ใหลงช่ือเร่ืองของหนังสือแตละฉบับ ในกรณีที่ไมมีชื่อเร่ือง ใหล งสรุปเร่อื งยอ ๓.๑.๑๑ หมายเหตุ ใหบ นั ทกึ ขอความอื่นใด (ถามี) ๓.๑.๑๒ ลงชอื่ ผฝู าก ใหผ มู อบลงลายมอื ชอ่ื และวงเลบ็ ชอ่ื และนามสกลุ ดว ยตวั บรรจงพรอมท้ังลงตาํ แหนงของผูฝาก
๓๙ ๓.๑.๑๓ ลงช่ือผูรับฝาก ใหผูรับฝากลงลายมือช่ือและวงเล็บช่ือและนามสกุล ดวยตัวบรรจงพรอมทัง้ ลงตาํ แหนงของผูรบั ฝาก ๓.๒ สง ตน ฉบบั และสาํ เนาคฉู บบั บญั ชฝี ากหนงั สอื พรอ มกบั หนงั สอื ทจ่ี ะฝากใหส าํ นกั หอจดหมายเหตุแหง ชาติ กรมศลิ ปากร ๓.๓ เมื่อกองจดหมายเหตุแหงชาติ กรมศลิ ปากร ตรวจหนังสือและรบั ฝากหนงั สือ แลวใหลงนามในบัญชีฝากหนังสอื แลวคนื ตนฉบับใหสว นราชการผูฝากเกบ็ ไวเปน หลกั ฐาน หนังสือท่ีฝากเก็บไวท่ีสํานักหอจดหมายเหตุแหงชาติ กรมศิลปากร ใหถือวา เปนหนังสือของสวนราชการผูฝาก หากสวนราชการผูฝากตองการใชหนังสือหรือขอคืน ใหทําได โดยจดั ทาํ หลักฐานตอ กันไวใ หช ดั เจน เมื่อถึงกําหนดการทาํ ลายแลว ใหสว นราชการผูฝ ากดําเนนิ การทาํ ลายหนังสือ ๔. การรกั ษาหนงั สอื ใหเ จา หนา ทร่ี ะมดั ระวงั รกั ษาหนงั สอื ใหอ ยใู นสภาพใชร าชการไดท กุ โอกาส หากชาํ รดุ เสียหาย ตองรบี ซอมใหใชราชการไดเหมือนเดิม หากสญู หายตองหาสาํ เนามาแทน ถาชํารุดเสียหายจนไมสามารถซอมแซมใหคงสภาพเดิมได ใหรายงานผูบังคับบัญชาทราบและให หมายเหตไุ วในทะเบียนเกบ็ ถา หนงั สอื ทส่ี ญู หายเปน เอกสารสทิ ธติ ามกฎหมายหรอื หนงั สอื สาํ คญั ทเ่ี ปน การแสดง เอกสารสทิ ธิกใ็ หดาํ เนินการแจงความตอพนักงานสอบสวน การยืมหนังสอื ๑. การยืมหนงั สอื ท่ีสง เก็บแลว ใหป ฏบิ ัตดิ ังน้ี ๑.๑ ผยู ืมจะตองแจง ใหทราบวา เร่ืองทยี่ มื นนั้ จะนําไปใชในราชการใด ๑.๒ ผูยืมจะตองมอบหลักฐานการยืมใหเจาหนาที่เก็บ แลวลงช่ือรับเรื่องที่ยืมไว ในบัตรยมื หนงั สอื และใหเจาหนา ทเ่ี ก็บรวบรวมหลักฐานการยมื เรยี งลาํ ดบั วัน เดือน ปไวเ พอ่ื ตดิ ตาม ทวงถาม สวนบตั รยมื หนงั สือน้ันใหเกบ็ ไวแ ทนท่หี นังสอื ทีถ่ ูกยืมไป ๑.๓ การยมื หนงั สือระหวางสว นราชการ ผยู มื และผอู นุญาตใหย มื ตอ งเปนหัวหนา สว นราชการระดบั กองข้ึนไป หรอื ผทู ไ่ี ดร บั มอบหมาย ๑.๔ การยืมหนังสือภายในสวนราชการเดียวกัน ผูยืมและผูอนุญาตใหยืมตองเปน หวั หนา สวนราชการระดบั แผนกข้นึ ไป หรอื ผูท ไี่ ดร ับมอบหมาย ๒. บัตรยืมหนังสอื รายละเอียดดงั นี้ ๒.๑ รายการ ใหลงช่ือเรือ่ งหนงั สอื ที่ขอยมื ไปพรอ มดว ยรหัสของหนงั สือนน้ั ๒.๒ ผยู มื ใหล งช่ือบคุ คล ตําแหนง หรอื สว นราชการทยี่ มื หนงั สือนนั้ ๒.๓ ผูรับใหผูรับหนังสือนั้นลงลายมือชื่อ และวงเล็บช่ือกํากับพรอมดวยตําแหนง ในบรรทดั ถดั ไป
๔๐ ๒.๔ วันยืม ใหลงวนั เดอื น ปทย่ี ืมหนังสอื น้นั ๒.๕ กําหนดสง คนื ใหล งวัน เดอื นป ท่จี ะสงหนงั สอื นนั้ คนื ๒.๖ ผสู งคนื ใหผ สู ง คนื ลงลายมือช่ือ ๒.๗ วนั สงคนื ใหลงวนั เดือน ปท ่ีสง หนงั สือคนื ๓. การยมื หนงั สือท่ปี ฏิบตั ิยังไมเ สร็จหรือหนังสอื ทเี่ ก็บไวเ พื่อใชในการตรวจสอบ ใหถ อื ปฏบิ ัตติ ามการยมื หนงั สอื ทส่ี ง เก็บโดยอนโุ ลม ๔. การใหบุคคลภายนอกยืมหนังสือจะกระทํามิได เวนแตจะใหดูหรือคัดลอกหนังสือ ท้งั นีจ้ ะตองไดร ับอนุญาตจากหัวหนาสวนราชการระดบั กองขน้ึ ไป หรือผูท ่ไี ดร บั มอบหมายกอ น การทําลายหนงั สอื ๑. การทาํ ลายหนงั สอื ใหด าํ เนนิ การภายใน ๖๐ วนั หลงั จากวนั สนิ้ ปป ฏทิ นิ ใหเ จา หนา ท่ี ผูรับผิดชอบในการเก็บหนังสือสํารวจหนังสือท่ีครบกําหนดอายุการเก็บในปน้ัน ไมวาจะเปนหนังสือ ที่เก็บไวเองหรือที่ฝากเก็บไวท่ีสํานักหอจดหมายเหตุแหงชาติ กรมศิลปากร แลวจัดทําบัญชีหนังสือ ขอทําลายเสนอหวั หนาสวนราชการระดับกรมเพอ่ื พจิ ารณาแตง ต้งั คณะกรรมการทาํ ลายหนงั สอื บญั ชหี นังสอื ขอทําลายอยางนอ ยใหมีตนฉบับและสําเนาคฉู บับรายละเอยี ดดังนี้ ๑.๑ ชอื่ บญั ชหี นงั สอื ขอทาํ ลาย ประจาํ ป ใหล งตวั เลขของปพ ทุ ธศกั ราชทจ่ี ดทาํ บญั ชี ๑.๒ กระทรวง ทบวง กรม กอง ใหลงชือ่ สว นราชการทจี่ ัดทาํ บญั ชี ๑.๓ วันท่ี ใหลงวนั เดอื น ปทจ่ี ัดทําบญั ชี ๑.๔ แผน ท่ี ใหลงเลขลาํ ดบั ของแผนบัญชี ๑.๕ ลําดับท่ี ใหล งเลขลําดับเร่อื งของหนังสอื ๑.๖ รหสั แฟม ใหลงหมายเลขลําดับหมูของการจัดแฟมเก็บหนังสือ ๑.๗ ท่ี ใหล งเลขท่ขี องหนังสอื แตละฉบบั ๑.๘ ลงวันท่ี ใหลงวัน เดอื น ปข องหนงั สือแตละฉบบั ๑.๙ เลขทะเบยี นรับ ใหลงเลขทะเบยี นรบั ของหนงั สือแตล ะฉบบั ๑.๑๐ เรอ่ื ง ใหล งชอื่ เรอื่ งของหนงั สอื แตล ะฉบบั ในกรณที ไ่ี มม ชี อ่ื เรอื่ งใหล งสรปุ เรอ่ื งยอ ๑.๑๑ การพิจารณา ใหค ณะกรรมการทําลายหนังสือเปนผูกรอก ๑.๑๒ หมายเหตุ ใหบ นั ทกึ ขอ ความอ่ืนใด (ถาม)ี ๒. ใหหัวหนาสวนราชการแตงต้ังคณะกรรมการทําลายหนังสือประกอบดวยประธาน กรรมการและกรรมการอีกอยางนอยสองคน โดยปกติใหแตงต้ังจากขาราชการตั้งแตระดับ ๓ เทียบเทาข้นึ ไป ถาประธานกรรมการไมสามารถปฏิบัติหนาที่ไดใหกรรมการที่มาประชุมเลือกกรรมการ คนหนงึ่ ทาํ หนา ท่ีประธาน มติของคณะกรรมการใหถือเสียงขางมาก ถากรรมการผูใดไมเห็นดวยใหทําบันทึก ความเหน็ แยง ไว
๔๑ ๓. คณะกรรมการทําลายหนังสอื มหี นาที่ดงั น้ี ๓.๑ พจิ ารณาหนังสือท่ีจะขอทําลายตามบัญชหี นังสอื ขอทาํ ลาย ๓.๒ ในกรณีท่ีคณะกรรมการมีความเห็นวาหนังสือฉบับใดไมควรทําลาย และควร จะขยายเวลาการเก็บไว ใหลงความเห็นวาจะขยายเวลาการเก็บไวถึงเม่ือใด ในชอง การพิจารณา ตามขอ ๑.๑๑ ของบญั ชีหนังสอื ขอทําลาย แลว ใหแกไ ขอายุการเกบ็ หนังสือในตรากาํ หนดเกบ็ หนงั สอื โดยใหป ระธานกรรมการทาํ ลายหนงั สอื ลงลายมือชือ่ กาํ กบั การแกไข ๓.๓ ในกรณีที่คณะกรรมการมีความเห็นวาหนังสือเรื่องใดควรใหทําลาย ใหกรอก เครื่องหมายกากบาท (X) ลงในชอ งการพิจารณาของบัญชหี นังสอื ขอทําลาย ๓.๔ เสนอรายงานผลการพจิ ารณาพรอ มทงั้ บนั ทกึ ความเหน็ แยง ของคณะกรรมการ (ถา มี) ตอ หัวหนา สวนราชการระดบั กรมเพอื่ พิจารณาสงั่ การ ๓.๕ ควบคมุ การทาํ ลายหนงั สอื ซง่ึ ผมู อี าํ นาจอนมุ ตั ใิ หท าํ ลายไดแ ลว โดยการเผาหรอื วธิ อี นื่ ใดทจี่ ะไมใ หห นงั สอื นนั้ อา นเปน เรอ่ื งได และเมอื่ ทาํ ลายเรยี บรอ ยแลว ใหท าํ บนั ทกึ ลงนามรว มกนั เสนอผูม ีอํานาจอนมุ ัติทราบ ๔. เม่อื หัวหนา สวนราชการไดร บั รายงานแลว ใหพ จิ ารณาส่งั การ ดงั น้ี ๔.๑ ถา เห็นวา หนงั สอื เรอื่ งใดยังไมควรทําลาย ใหสั่งการใหเ กบ็ หนงั สือนนั้ ไวจนถึง เวลาการทําลายงวดตอไป ๔.๒ ถาเห็นวาหนังสือเรื่องใดควรทําลาย ใหสงบัญชีหนังสือขอทําลายให กองจดหมายเหตแุ หง ชาติ กรมศิลปากร พิจารณากอ น เวน แตหนงั สือประเภทที่สว นราชการนน้ั ไดขอ ทําความตกลงกับกรมศลิ ปากรแลว ไมต อ งสง ไปใหพ จิ ารณา ๕. ใหสํานักหอจดหมายเหตุแหงชาติ กรมศิลปากร พิจารณารายการในบัญชีหนังสือ ขอทาํ ลายแลวแจงใหสวนราชการที่สงบัญชีหนงั สือขอทาํ ลายทราบดังน้ี ๕.๑ ถาสํานักหอจดหมายเหตุแหงชาติ กรมศิลปากร เห็นชอบดวย ใหแจงให สวนราชการน้ันดําเนินการทําลายหนังสือตอไปได หากสํานักหอจดหมายแหงชาติ กรมศิลปากร ไมแจงใหทราบอยางใดภายในกําหนดเวลา ๖๐ วัน นับแตวันที่สวนราชการนั้นไดสงเร่ืองให สํานักหอจดหมายเหตุแหงชาติ กรมศิลปากร ใหถือวาสํานักหอจดหมายเหตุแหงชาติ กรมศิลปากร ไดใ หความเหน็ ชอบแลว และใหส ว นราชการทําลายหนงั สอื ได ๕.๒ ถาสํานักหอจดหมายเหตุแหง ชาติ กรมศลิ ปากร เหน็ วาหนงั สือฉบบั ใดควรจะ ขยายเวลาการเกบ็ ไวอ ยา งใดหรอื ใหเ กบ็ ไวต ลอดไป ใหแ จง ใหส ว นราชการนนั้ ทราบ และใหส ว นราชการ น้ันๆ ทําการแกไขตามที่สํานักหอจดหมายเหตุแหงชาติ กรมศิลปากร แจงมา หากหนังสือใด สํานักหอจดหมายเหตุแหงชาติ กรมศิลปากร เห็นควรใหส ง ไปเกบ็ ไวท ส่ี ํานักหอจดหมายเหตแุ หงชาติ กรมศลิ ปากร กใ็ หสวนราชการนัน้ ๆ ปฏบิ ตั ิตาม เพอื่ ประโยชนใ นการนส้ี าํ นกั หอจดหมายเหตแุ หง ชาติ กรมศลิ ปากร จะสง เจา หนา ทมี่ ารว ม ตรวจสอบหนังสือของสว นราชการนัน้ ก็ได
๔๒ ÁÒμðҹμÃÒ áºº¾ÔÁ¾ áÅЫͧ ¢ŒÍ ÷ñ μÃÒ¤ÃØ±ÊíÒËÃѺẺ¾ÔÁ¾ มี ๒ ขนาด คอื ๗๑.๑ ขนาดตวั ครุฑสงู ๓ เซนติเมตร ๗๑.๒ ขนาดตัวครุฑสงู ๑.๕ เซนตเิ มตร ¢ŒÍ ÷ò μÃÒª×èÍʋǹÃÒª¡Òà มีลักษณะเปนรูปวงกลมสองวงซอนกันเสนผา ศูนยกลางวงนอก ๔.๕ เซนติเมตร วงใน ๓.๕ เซนติเมตร ลอมครุฑตามขอ ๗๑.๑ ระหวางวงนอก และวงในมีอักษรไทยชื่อกระทรวง ทบวง กรม หรือสวนราชการที่เรียกชื่ออยางอื่นท่ีมีฐานะเปนกรม หรือจงั หวัดอยูข อบลา งของตรา สวนราชการใดท่ีมีการติดตอกับตางประเทศ จะใหมีชื่อภาษาตางประเทศ เพมิ่ ขน้ึ ดวยก็ได โดยใหอักษรไทยอยขู อบบนและอกั ษรโรมนั อยูข อบลางของตรา ¢ÍŒ ÷ó μÃÒ¡Òí ˹´à¡ºç ˹§Ñ ÊÍ× คอื ตราทใี่ ชป ระทบั บนหนงั สอื เกบ็ เพอ่ื ใหท ราบกาํ หนด ระยะเวลาการเกบ็ หนงั สือนน้ั มีคําวา เก็บถงึ พ.ศ. ... หรือคําวา หา มทําลาย ขนาดไมเล็กกวาตัวพิมพ ๒๔ พอยท ¢ÍŒ ÷ô ÁÒμðҹ¡ÃдÒÉáÅЫͧ ๗๔.๑ มาตรฐานกระดาษโดยปกตใิ หใ ชก ระดาษปอนดข าว นา้ํ หนกั ๖๐ กรมั ตอ ตารางเมตร มี ๓ ขนาด คอื ๗๔.๑.๑ ขนาด เอ ๔ หมายความวา ขนาด ๒๑๐ มิลลิเมตร x ๒๙๗ มิลลเิ มตร ๗๔.๑.๒ ขนาด เอ ๕ หมายความวา ขนาด ๑๔๘ มิลลิเมตร x ๒๑๐ มิลลเิ มตร ๗๔.๑.๓ ขนาด เอ ๘ หมายความวา ขนาด ๕๒ มลิ ลเิ มตร x ๗๔ มิลลเิ มตร ๗๔.๒ มาตรฐานซอง โดยปกติใหใชกระดาษสีขาวหรือสีน้ําตาล น้ําหนัก ๘๐ กรมั ตอตารางเมตร เวน แตซองของขนาด ซี ๔ ใหใ ชก ระดาษนํา้ หนกั ๑๒๐ กรมั ตอตารางเมตร มี ๔ ขนาด คอื ๗๔.๒.๑ ขนาดซี ๔ หมายหมายวา ขนาด ๒๒๙ มิลลิเมตร x ๓๒๔ มิลลเิ มตร ๗๔.๒.๒ ขนาดซี ๕ หมายหมายวา ขนาด ๑๖๒ มิลลิเมตร x ๒๒๙ มิลลิเมตร ๗๔.๒.๓ ขนาดซี ๖ หมายหมายวา ขนาด ๑๑๔ มิลลิเมตร x ๑๖๒ มิลลเิ มตร ๗๔.๒.๔ ขนาดดีแอล หมายหมายวา ขนาด ๑๑๐ มิลลิเมตร x ๒๒๐ มลิ ลิเมตร
๔๓ ¢ŒÍ ÷õ ¡ÃдÒÉ¤ÃØ± ใหใชกระดาษขนาดเอ ๔ พิมพครุฑดวยหมึกสีดํา หรือทําเปน ครุฑดนุ ทีก่ ่งึ กลางสวนบนของกระดาษ ¢ÍŒ ÷ö ¡ÃдÒɺѹ·¡Ö ¢ÍŒ ¤ÇÒÁ ใหใชก ระดาษขนาด เอ ๔ หรือ ขนาด เอ ๕ พิมพครฑุ ดว ยหมึกสีดาํ ท่ีมุมบนดานซาย ตามแบบที่ ๒๙ ทายระเบียบ ¢ŒÍ ÷÷ «Í§Ë¹Ñ§ÊÍ× ใหพ มิ พค รุฑดวยหมกึ สดี ําทมี่ มุ บนดา นซายของซอง ๗๗.๑ ขนาดซี ๔ ใชสําหรับบรรจุหนังสือกระดาษตราครุฑ โดยไมตองพับ มชี นดิ ธรรมดาและขยายขา ง ๗๗.๒ ขนาดซี ๕ ใชสําหรับบรรจุหนงั สือกระดาษตราครุฑพับ ๒ ๗๗.๓ ขนาดซี ๖ ใชสําหรบั บรรจุหนงั สือกระดาษตราครฑุ พบั ๔ ๗๗.๔ ขนาดดแี อล ใชส าํ หรับบรรจหุ นังสอื กระดาษตราครุฑพบั ๓ สว นราชการใดมคี วามจาํ เปน ตอ งใชซ องสาํ หรบั สง ทางไปรษณยี อ ากาศโดยเฉพาะ อาจใชของพิเศษสําหรับสงทางไปรษณียอากาศและพิมพตราครุฑตามที่กลาวขางตนไดโดยอนุโลม ดวยโลกในปจจุบนั อาจเรยี กไดวา เปน โลกแหง ยคุ ดิจิทลั หรือโลกไรพ รมแดน อันเปน ผลสืบเนอื่ งจาก การพัฒนาเทคโนโลยีทางดานการส่ือสาร โดยเฉพาะเทคโนโลยีทางดานสารสนเทศ (Information Technology : IT) ท่สี ําคัญและมีการนํามาใชกันอยางแพรหลายทัว่ ทกุ หนแหงบนโลก ทเ่ี รารจู กั กันดี ไดแ ก อนิ เทอรเ นต็ โทรศพั ทม อื ถอื จาน-ดาวเทยี ม เปน ตน โดยเฉพาะอยา งยง่ิ เทคโนโลยอี นิ เทอรเ นต็ อาจกลา วไดว า เปน เทคโนโลยที สี่ าํ คญั แหง ยคุ และเปน พนื้ ฐานสาํ หรบั การพฒั นาดา นตา ง ๆ ของประเทศ ดงั นนั้ จะเนน ถงึ การใชเ ทคโนโลยพี นื้ ฐานทางดา นอนิ เทอรเ นต็ ในสว นทเ่ี กยี่ วขอ ง กบั การปฏบิ ตั §ิ Ò¹ÊÒúÃó วา มสี ว นประกอบพนื้ ฐานอะไรบา งทตี่ อ งปฏบิ ตั งิ านสารบรรณในยคุ ปจ จบุ นั ควรรูเ พอื่ เปน แนวทางสาํ หรับการพฒั นาตนเอง มคี วามรูความเขาใจถงึ ความสาํ คัญ และความจําเปน ของระบบงานสารบรรณเพอ่ื ใชเ ปน แหลง อา งองิ และเปน เครอ่ื งมอื พน้ื ฐานสาํ หรบั การเรยี นรดู ว ยตนเอง ในการพัฒนาทักษะการปฏิบัติงานสารบรรณที่เกี่ยวของกับงานสารบรรณอิเล็กทรอนิกสไดอยางมี ประสทิ ธภิ าพและประสิทธผิ ล ÃкºÊÒúÃóÍàÔ Å¡ç ·ÃÍ¹Ô¡Ê การตดิ ตอ ราชการนอกจากการจะดาํ เนนิ การโดยหนงั สอื ทเี่ ปน เอกสารสามารถดาํ เนนิ การ ดว ยระบบสารบรรณอเิ ลก็ ทรอนกิ สไ ด ในกรณีท่ีติดตอราชการดวยระบบสารบรรณอิเล็กทรอนิกส ใหผูสงตรวจสอบผลการสง ทุกคร้ังและใหผูร บั แจง ตอบรบั เพอื่ ยืนยนั วาหนงั สือไดจัดสง ไปยังผรู ับเรียบรอยแลว และสว นราชการ ผสู งไมต องจัดสง หนงั สือเปน เอกสาร เวน แตกรณเี ปนเร่ืองสําคญั จําเปน ตองยนื ยันเปนเอกสาร ใหทาํ เอกสารยนื ยนั ตามใบทนั ที
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156