วิชา ตร. (PT) ๒๑๗๐๓ ยทุ ธวิธตี ํารวจ
ตาํ ÃÒàÃÂÕ ¹ ËÅÑ¡ÊÙμà ¹¡Ñ àÃÕ¹¹ÒÂÊÔºμíÒÃǨ ÇªÔ Ò μÃ. (PT) òñ÷ðó ÂØ·¸ÇÔ¸ตÕ าํ ÃǨ เอกสารนี้ “໹š ¤ÇÒÁÅѺ¢Í§·Ò§ÃÒª¡ÒÔ หา มมิใหผหู น่งึ ผูใดเผยแพร คัดลอก ถอดความ หรอื แปลสว นหนงึ่ สว นใด หรอื ทง้ั หมดของเอกสารนเ้ี พอื่ การอยา งอน่ื นอกจาก “à¾Íè× ¡ÒÃÈ¡Ö ÉÒͺÃÁ” ของขาราชการตํารวจเทาน้ัน การเปดเผยขอความแกบุคคลอ่ืนที่ไมมีอํานาจหนาที่จะมีความผิดตาม ประมวลกฎหมายอาญา ¡Í§ºÑÞªÒ¡ÒÃÈÖ¡ÉÒ สํา¹¡Ñ §Ò¹ตาํ ÃǨá˧‹ ªÒμÔ ¾.È.òõöó
1
คาํ นาํ หลักสูตรนักเรียนนายสิบตํารวจ (นสต.) เปนหลักสูตรการศึกษาอบรมท่ีมีเปาหมาย เพื่อเสริมสรางใหบุคคลภายนอกผูมีวุฒิประกาศนียบัตรมัธยมศึกษาตอนปลาย (ม.๖) หรือ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) หรือเทียบเทา ท่ีเขารับการฝกอบรมมีความรู ความสามารถ และ ทักษะวิชาชีพตํารวจ รวมถึงพัฒนาบุคลิกภาพรางกายใหเหมาะสมสําหรับการปฏิบัติงานตํารวจ ในกลุมสายงานปองกันปราบปราม ตลอดจนเตรียมความพรอมทางดานจิตใจและวุฒิภาวะใหมี จติ สํานึกในการใหบ ริการเพื่อบําบัดทกุ ขบ าํ รุงสขุ ของประชาชนเปน สาํ คัญ กองบัญชาการศึกษา ไดรวมกับ ครู อาจารย และครูฝก ในสังกัดกองบังคับการ ฝก อบรมตาํ รวจกลาง และกลมุ งานอาจารย กองบญั ชาการศกึ ษา ศนู ยฝ ก อบรมตาํ รวจภธู รภาค ๑ - ๙ และกองบัญชาการตํารวจตระเวนชายแดน ตลอดจนผูทรงคุณวุฒิจากภายนอก จัดทําตําราเรียน หลกั สตู รนกั เรยี นนายสบิ ตาํ รวจชดุ นี้ ซงึ่ ประกอบดว ยองคค วามรตู า งๆ ทจี่ าํ เปน ตอ การพฒั นาศกั ยภาพ ของนกั เรยี นนายสบิ ตาํ รวจใหเ ปน ขา ราชการตาํ รวจทพ่ี งึ ประสงคข องประชาชน เพอ่ื ใชส าํ หรบั ประกอบ การเรียนการสอนนักเรียนนายสิบตํารวจใหมีความพรอมทั้งดานความรู ความสามารถ กําลังกาย และจติ ใจ จนสามารถเปน ขา ราชการตาํ รวจทป่ี ฏบิ ตั งิ านใหบ รกิ ารสงั คมและประชาชนไดอ ยา งตรงตาม ความตอ งการอยา งแทจรงิ และมคี วามพรอมในการเขา สปู ระชาคมอาเซยี น ขอขอบคุณครู อาจารย ครูฝก และผูทรงคุณวุฒิทุกทาน ที่ไดรวมกันระดมความคิด ใหคําปรึกษา คําแนะนํา ประสบการณท่ีเปนประโยชน รวมถึงการถายทอดองคความรู ท่ีเปนประโยชน จนทําใหการจัดทําตําราเรียนหลักสูตรนักเรียนนายสิบตํารวจสําเร็จลุลวงไดดวยดี ซึ่งกองบัญชาการศึกษาหวังเปนอยางย่ิงวาตําราเรียนชุดนี้คงเปนประโยชนตอการจัดการเรียน การสอนและการจดั การฝกอบรมของครู อาจารย และครฝู ก รวมตลอดถึงใชเปนคูมือการปฏบิ ัตงิ าน ของขาราชการตํารวจ อันจะสงผลทําใหสํานักงานตํารวจแหงชาติสามารถสรางความเชื่อม่ัน ศรัทธา และความผาสุกใหแกประชาชนไดอ ยา งแทจ รงิ พลตํารวจโท ( อภิรตั นยิ มการ ) ผูบ ัญชาการศกึ ษา
1
ÊÒúÑÞ Ë¹ŒÒ ÇªÔ Ò ÂØ·¸Ç¸Ô Õตาํ ÃǨ º··èÕ ñ ÂØ·¸Ç¸Ô Õ¡ÒÃÃÍ´¾Œ¹Í¹Ñ μÃÒ¢ͧà¨ÒŒ ˹ŒÒ·Õè Officer Safety and Survival (O.S.S.) ๑ หวั ขอ ท่ี ๑ การเตรียมรางกาย จิตใจ และความพรอ มในการปฏิบตั หิ นา ที่ ๑ หวั ขอ ท่ี ๒ ระดบั การใชกาํ ลัง ๕ หัวขอ ที่ ๓ อุปกรณข องเจาหนาที่ตํารวจในการปฏิบัติหนา ท่ี ๗ หวั ขอ ที่ ๔ การยืนเผชญิ เหตุ และการเผชญิ หนา - คมุ กนั (CONTACT - COVER) ๘ หัวขอ ท่ี ๕ การตรวจคนบคุ คล และการใสกญุ แจมือ ๑๐ หวั ขอท่ี ๖ ยทุ ธวิธใี นการจบั กุมคนราย ๑๕ หัวขอ ที่ ๗ การปองกนั ตวั ดวยอาวุธทไ่ี มถ งึ ตาย ๑๙ หวั ขอ ท่ี ๘ การปองกันเม่อื ถูกคนรายจ้ดี ว ยอาวุธปน ๒๒ หัวขอ ท่ี ๙ การปองกันกรณีคนรายแยง อาวธุ ปนจากซองพกทเ่ี อว ๒๕ หัวขอท่ี ๑๐ การปองกนั กรณคี นรายใชอาวธุ มดี ส้นั ๒๗ º··Õè ò ¡ÒÃà¢ÒŒ μÃǨ¤Œ¹áÅСÒû¯ÔºÑμÔ¡ÒÃã¹ÍÒ¤Òà Building Entry & óñ Close Quarter Battle (C.Q.B.) ๓๑ หวั ขอท่ี ๑ การใชอ าวุธปนทางยุทธวิธี ๓๓ หัวขอ ที่ ๒ การเปด มมุ มองโดยการแบงพ้นื ที่เปน สว นๆ ๓๖ (slice the pie) การแอบดเู รว็ (quick peak) ๔๔ หัวขอ ท่ี ๓ การเขา ตรวจคนอาคารของเจา หนา ท่ี ๒ นาย และมากกวา ๒ นาย ๕๐ หวั ขอที่ ๔ การตรวจคน จับกุมตามหมายในเคหสถาน ๕๓ หวั ขอท่ี ๕ เทคนิคการใชโ ลก ันกระสุน หัวขอ ท่ี ๖ การเขา เผชญิ เหตุเม่อื เกดิ ภยั คุกคามขั้นสูง º··èÕ ó ¡ÒÃËÂØ´ÂÒ¹¾Ò˹РáÅСÒäǺ¤ÁØ ¼ŒÙ¢ºÑ ¢èÕ ¼ŒÙâ´ÂÊÒà õ÷ Vehicle Stop and Occupants Control (V.S.O.C) ๕๗ หวั ขอ ที่ ๑ หลักการเบอื้ งตน ๖๔ หวั ขอ ที่ ๒ การหยุดยานพาหนะกรณีท่วั ไป ๖๙ หวั ขอที่ ๓ ยานพาหนะทม่ี คี วามเสยี่ ง ๗๓ หัวขอท่ี ๔ การตง้ั จุดตรวจ หรือจุดสกดั
º··Õè ô º·ºÒ·¢Í§¼»ŒÙ ÃÐʺàËμØ¤¹áá First Responder ˹ŒÒ ๑. การปฏบิ ัตมิ าตรฐานสาํ หรับเจาหนา ท่ีตาํ รวจผเู ผชิญเหตุคนแรก øõ ๒. ขัน้ ตอนการปฏิบัติของเจาหนา ท่ีตาํ รวจผูเผชญิ เหตุคนแรก ๘๕ ๓. แนวทางการปฏบิ ตั ิทจ่ี ําเปนสําหรบั เจาหนาท่ีตาํ รวจผเู ผชญิ เหตุ ๘๕ ๙๐ หรอื ไปถงึ ทเี่ กิดเหตุคนแรก ù÷ ๙๗ º··èÕ õ ÂØ·¸Ç¸Ô Õ¡ÒÃÃÑ¡ÉÒ¤ÇÒÁ»ÅÍ´ÀѺؤ¤Åสาํ ¤ÑÞ ๙๙ - การรักษาความปลอดภัยบคุ คลสําคัญ ññö - การรกั ษาความปลอดภยั ในขณะเดนิ ทางดวยเทา ºÃóҹ¡Ø ÃÁ
๑ º··Õè ñ Â·Ø ¸ÇÔ¸¡Õ ÒÃÃÍ´¾Œ¹Í¹Ñ μÃÒ¢ͧ਌Ò˹Ҍ ·èÕ Officer Safety and Survival (O.S.S.) ËÇÑ ¢ÍŒ ·èÕ ñ ¡ÒÃàμÃÂÕ ÁÃÒ‹ §¡Ò ¨μÔ ã¨ áÅФÇÒÁ¾ÃÍŒ Á㹡Òû¯ºÔ μÑ Ô˹Ҍ ·èÕ ñ. ͧ¤» ÃСͺ¡ÒÃÃÍ´¾¹Œ Í¹Ñ μÃÒ¢ͧà¨ÒŒ ˹Ҍ ·èÕ ñ.ñ ¤ÇÒÁÊÁºÃÙ ³¢ ͧÃÒ‹ §¡Ò (Physical Fitness) - พละกาํ ลงั และความเขมแขง็ (ไมตอ งการออกซิเจน/Anaerobic) - ความทนทาน (ตองการออกซเิ จน/Aerobic) ñ.ò ÂØ·¸Ç¸Ô Õ (Tactics) - ตอ งฝก ทักษะตางๆ ทางกายภาพ (Skill) - การทาํ งานประสานกัน (Team) - ฝก แกไขสถานการณต างๆ (Scenario) ñ.ó ÍØ»¡Ã³ (Equipment) - มกี ารฝกการใชอปุ กรณท ่ีนําไปใชในการปฏบิ ตั ิหนา ที่ - อปุ กรณทใี่ ชต อ งพรอมในการใชงาน - มคี วามคุนเคยกับอปุ กรณนน้ั ๆ - จะตองดูแลบาํ รุงรักษาและใชงานไดเปน อยา งดี ñ.ô ·¡Ñ ÉÐ㹡ÒÃ㪌ÍÒÇØ¸»„¹ (Firearm Skills) - ยึดหลกั กฎแหงความปลอดภยั ทกุ คร้ังเมอื่ ใชอ าวุธปน - ศกึ ษาระบบปฏบิ ตั กิ าร และแกไขเหตุขดั ของของปนทใ่ี ช - ฝก ฝนใหเ กดิ ความคุนเคย และเกิดความแมน ยําในการยิงอยเู สมอ - ฝก ทักษะในการยิงปน แบบตา งๆ ñ.õ ¡ÒÃ»ÃºÑ ÊÀÒ¾¨Ôμ㨠(Mental Conditioning) - จะตองเตรียมความพรอม ตระหนักรูวาการถูกทํารายในขณะปฏิบัติ หนา ท่ีน้ัน สามารถเกดิ ไดกับเจา หนาที่ทุกคนรวมท้ังตัวเราดวย ควรตระหนักรแู ละระมัดระวังอยเู สมอ ไมว า คนรา ยจะเปน ใคร - สรางมโนภาพถึงสถานการณที่อาจจะเกิดข้ึนกับเรา หมายถึง การคิด เหตกุ ารณล ว งหนา ไวก อ น และวธิ กี ารแกไ ขเมอ่ื เกดิ เหตกุ ารณน น้ั ขนึ้ เชน ถา พบเหน็ เหตกุ ารณค นทาํ รา ย รางกายซ่งึ กนั และกัน ตํารวจจะเขาไประงบั เหตอุ ยางไร - ความเชื่อที่มีผลตอพฤติกรรมแบบ “ชนะ” และ “อยูรอด” จะตองนึก อยูเ สมอวาในการออกไปปฏบิ ตั หิ นาท่ีทกุ ครง้ั จะตอ งอยูรอดและกลับบา นอยางปลอดภยั
๒ ò. ¤ÇÒÁ¼´Ô ¾ÅÒ´ ñð »ÃСÒ÷ÕèÁռŶ֧ªÇÕ Ôμ¢Í§à¨ÒŒ ˹ŒÒ·èตÕ ําÃǨ เหตุการณที่เจาหนาท่ีตํารวจเสียชีวิตในการปฏิบัติหนาที่หลายเหตุการณ เปนอุทาหรณและกระตุนใหทุกฝายที่เก่ียวของตองหันมาพิจารณาทบทวนถึงการปฏิบัติหนาท่ีของ เจา หนา ทต่ี าํ รวจ จงึ ขอนาํ เอาสาเหตกุ ารเสยี ชวี ติ และบาดเจบ็ ของเจา หนา ทต่ี าํ รวจทไ่ี ดจ ากการรวบรวม ของสาํ นกั งานสอบสวนกลาง ประเทศสหรฐั อเมรกิ า (เอฟ.บ.ี ไอ.) มาประยกุ ตเ พอื่ ใหอ ตั ราการบาดเจบ็ และสญู เสียชวี ิตของเจาหนา ที่ตํารวจลดนอ ยลง ความผดิ พลาด ๑๐ ประการท่เี ปนตนเหตทุ ที่ ําใหเ จาหนา ท่ตี าํ รวจตองเสียชีวิต ดงั น้ี ò.ñ ¨μÔ ã¨·èàÕ »š¹¡Ñ§ÇÅ ในการออกปฏบิ ตั หิ นา ทที่ กุ ครง้ั ควรตอ งตดั ความกงั วลออกไปจากจติ ใจใหห มด ไมว า จะเปนปญหาทางเศรษฐกิจ ปญ หาทางครอบครวั และปญ หาอืน่ ๆ ถา อยากมชี วี ติ อยูต อ งละท้ิง ปญ หาไวท บ่ี า นอยา พกมนั ใสส มองออกไปปฏบิ ตั หิ นา ทด่ี ว ยเดด็ ขาด เนอ่ื งจากความวติ กกงั วลหรอื ความ หมกมนุ ครนุ คดิ แตป ญ หา จะบน่ั ทอนประสทิ ธภิ าพในการปฏบิ ตั หิ นา ที่ และสญั ชาตญาณในการระวงั ภยั ใหล ดลง ไมมีการตนื่ ตวั หรอื สงผลใหการเตรยี มพรอ มลดลง ò.ò à¡´Ô ¤ÇÒÁàºè×Í˹ҋ Â㹡Òû¯ºÔ μÑ ËÔ ¹ÒŒ ·Õè จากสถติ พิ บวา กวา ๗๐ เปอรเ ซน็ ตท เ่ี จา หนา ทอ่ี อกปฏบิ ตั หิ นา ทใ่ี นสภาวะปกติ แลวพบเหตุการณที่ไมคาดคิดเกิดขึ้น ซึ่งทําใหเจาหนาที่ตํารวจตองใชอาวุธปนในการตอสูกับคนราย เจาหนาท่ีไมไดมีการเตรียมตัวมากอน ดังนั้นความกระตือรือรนในการปฏิบัติหนาที่จะชวยใหมีการ เตรยี มความพรอ มและตนื่ ตัวอยูต ลอดเวลา นอกจากน้ีผลจากการสํารวจยังพบอีกดวยวา เจาหนาท่ีตํารวจที่มาใหมๆ เรมิ่ ทาํ งานในปแ รกๆ แมจะยังไมมที กั ษะในการปฏบิ ตั หิ นา ทด่ี เี พยี งพอ แตมกั จะไดร ับความปลอดภัย มากกวาเจาหนาท่ีตํารวจท่ีคร่ําหวอดมานาน โดยเฉพาะเจาหนาที่ที่ปฏิบัติหนาที่มานานกวา ๕ ปขึ้นไป เปนชวงระยะเวลาที่มีโอกาสไดรับอันตราย อันเปนผลมาจากความเบ่ือหนาย ขาดการ ฝกอบรมเทคนคิ ใหมๆ และไมมคี วามกระตือรอื รนในการปฏบิ ัตหิ นา ท่นี ัน่ เอง ò.ó ¾Ñ¡¼Í‹ ¹äÁà‹ ¾ÂÕ §¾Í ในการออกปฏบิ ตั หิ นาทต่ี องยึดบัญญตั ิ ๓ ขอ คอื อยใู นทอี่ บอุน , ไมเ ปยกชน้ื และอยา ใหท อ งวาง (Stay Warm, Stay Dry and Stay Fed) บญั ญัติท้งั สามขอนจ้ี ะชวยใหประสาท และรา งกายตืน่ ตัวอยตู ลอดเวลา เพมิ่ ประสทิ ธภิ าพในการปฏิบัตหิ นา ทใี่ หส ูงข้ึน ความออ นเพลียจากการทํางานหนกั หรอื พักผอ นไมเ พียงพอ มผี ลตอ รางกาย และอารมณ สรางความกดดันใหแกเจาหนาที่จนกระท่ังละเลยตอกฎเกณฑท่ีเก่ียวกับความปลอดภัย ดังนั้นเม่ือรูสึกเหน่ือยลาจงหยุดพักจะชวยใหรูสึกดีขึ้น เมื่อรูสึกหิวก็หาอาหารรับประทาน แตตอง ไมอ่ิมจนเกินไป เพราะนั่นจะทําใหเกิดอาการงวงนอนติดตามมา หากปฏิบัติไดดังน้ีเม่ือเผชิญกับ ปญ หากส็ ามารถรบั มอื ไดอ ยา งมปี ระสทิ ธภิ าพ จงจาํ ไวว า .... การเปน “ÁÍ× ÍÒª¾Õ ” μÍŒ §Ã¢ŒÙ ´Õ ¤ÇÒÁÊÒÁÒö ¢Í§μÇÑ àͧáÅÐμŒÍ§ÊÒÁÒö»ÃºÑ μÇÑ àͧãËàŒ ¢ÒŒ ¡ºÑ ʶҹ¡ÒÃ³ä ´ÍŒ ‹ҧ¶Ù¡μŒÍ§àËÁÒÐÊÁ
๓ ò.ô ¡ÒÃàÅÍ× ¡ãªŒ·Õกè าํ º§Ñ จากสถติ พิ บวา ในการยงิ ตอ สกู บั คนรา ยของเจา หนา ทต่ี าํ รวจถงึ ๖๓ เปอรเ ซน็ ต ไมน ยิ มใชท กี่ าํ บงั อาจจะดกู ลา หาญดแี ตถ อื วา เปน การปฏบิ ตั ทิ ไี่ มฉ ลาดเอาเสยี เลย เมอ่ื มกี ารยงิ กนั เกดิ ขน้ึ อยา อยูในท่ีเปด โลง และอยา อยูร วมกลมุ กัน โดยเฉพาะประตูหรอื ทางเดิน อยา หนั หลังใหผ ูตองสงสยั อยาโผลข้ึนดูคนรายจากดานบนของท่ีกําบัง แตจงมองดูจากดานขางแทน ในการเคล่ือนตัวเขาหา คนรายจะตองเขาทางดานไมถนัดของคนราย จะชวยใหเรามีเวลาในการตอบโตเนื่องจากคนราย จะตอ งใชเ วลามากขนึ้ ในการเอยี้ วตวั มายงิ ในดา นทตี่ นเองไมถ นดั ในการเขา จบั กมุ จะตอ งมองดทู มี่ อื และ อาวุธของคนรา ยตลอดเวลา ตองเขา ทางดา นหลัง หากเปนการดกั ซมุ จะตอ งปลอ ยใหคนรายเดนิ ผา น ไปเสยี กอน จึงจโู จมเขา ทางดา นหลงั ò.õ ¤ÇÒÁ¡ÅÒŒ áººâ§æ‹ ถาคุณมีความกระหายอยากที่จะเขาจูโจมจับคนรายอยางแรงกลาเพื่อสราง วีรกรรมใหเปนเกียรติแกวงศตระกูล แตยังไมอยากตองคลุมดวยธงชาติก็จงระงับความกระหายน้ัน เอาไวกอน หยุดดู ฟง ทบทวน ใหรอบคอบ จะชวยใหมีลมหายใจตอไปไดยืนยาวขึ้น จริงอยู การเสียสละและความกลาหาญถือเปนคุณสมบัติสําคัญของเจาหนาท่ีตํารวจทุกนาย แตตองเปน ความกลา หาญทีส่ มเหตุสมผลและผา นการไตรตรองอยา งรอบคอบแลว ò.ö ¢Ò´ÊÞÑ ªÒμÞÒ³¡ÒÃÃѺÃÙÍŒ ¹Ñ μÃÒ จากสถติ ขิ อง เอฟ.บ.ี ไอ. พบวา เจา หนา ทีต่ ํารวจท่เี สยี ชีวิตกวา ๖๐ เปอรเซ็นต ถกู คนรา ยยงิ โดยทไี่ มม โี อกาสชกั ปน ออกจากซอง เปน การถกู ยงิ โดยไมร ตู วั หรอื กวา จะรตู วั กส็ ายเกนิ ไป อนั เปน ผลมาจากการขาดสญั ชาตญาณรับรูอนั ตราย ในสถานการณที่ดูเหมือนเงียบสงบน้ัน อาจเปนอันตรายซอนเรนอยู เพ่ือความปลอดภัยจําเปนตองเรียนรูถึงการใชประสาทสัมผัสที่หกหรือลางสังหรณตลอดไปจนถึง ไหวพรบิ การสังเกตส่งิ แวดลอ มรอบตัว พฤตกิ รรมท่ีผดิ ไปจากปกตกิ เ็ ปนสง่ิ ที่ตอ งสังเกต เชน ชายเสอ้ื ทดี่ ึงลงมาปด เอวขางใดขา งหนึ่งหรอื ปลอยชายลงมาคลุมอยางมิดชดิ การใสเ สอ้ื คลมุ ทั้งทีอ่ ากาศรอ น การเอามือแตะบริเวณเอว ตลอดจนถึงการจองมองอยางผดิ ปกติ ò.÷ ¡ÒÃÅÐàÅÂ㹡ÒÃ椄 à¡μ´ÙÁÍ× ¢Í§¤¹ÃŒÒ หากมองไมเห็นมือของคนรายไดอยางชัดเจนท้ังสองขาง ขอใหสันนิษฐาน ไวกอนวาคนรายมีอาวุธอยูในมือ ตองปฏิบัติเชนเดียวกับคนรายท่ีมีอาวุธ ดวยการสั่งใหเอามือออก จากทซ่ี อ นชา ๆ กรณที อี่ ยใู นระยะประชดิ ใหจ อ งมองตาของคนรา ยเอาไว แววตาจะบง บอกสงิ่ ผดิ ปกติ ไดเปนอยา งดี ขณะเดยี วกนั กต็ อ งระวงั ดว ยวา คนรายอาจจะมีอาวธุ ทีส่ ามารถจะใชส งั หารคณุ ไดทันที ò.ø Å´¤ÇÒÁÃÐÁÑ´ÃÐÇ§Ñ àÃÇç à¡¹Ô ä» อีกสาเหตุหน่ึงท่ีทําใหเจาหนาท่ีตํารวจเสียชีวิต คือ ความชะลาใจลดความ ระมดั ระวงั เรว็ เกนิ ไป เปด ชอ งวา งใหค นรา ยจโู จมไดโ ดยไมอ าจจะปอ งกนั ตวั เองหรอื ตอบโตไ ดท นั ในการ
๔ ตอ สู แมว า จะยงิ คนรา ยลม ลงไปแลว กจ็ งอยา ประมาท หรอื ขาดความระมดั ระวงั ในการเคลอื่ นทเี่ ขา หา มีไมนอยที่เจาหนาที่ตองเสียชีวิต เพราะถูกคนรายท่ีตนยิงจนลมลงฉวยโอกาสในตอนที่เจาหนาที่ เคลือ่ นทเี่ ขาหายิงสวนออกมา ตองเตือนสติตัวเองอยูเสมอวาคนรายท่ีแมจะถูกยิงลมลงไปแลวอาจจะ ตอบโตไดเสมอ ในขณะเดียวกัน ก็อยายอมใหคนรายพูดหรือเคลื่อนไหวรางกายสวนใดสวนหนึ่ง จะสง่ั คนรา ยใหห นั หนา ไปทางอนื่ ในทศิ ทางตรงขา มกบั ทเี่ ราเคลอื่ นท่ี จงอยา เชอื่ ใจคนรา ยทย่ี อมจาํ นน และวางอาวุธปน เพราะคนรายอาจทําใหตายใจและฉวยโอกาส ในขณะท่ีเราลดความระมัดระวังลง ใชอ าวธุ สาํ รองทซ่ี กุ ซอ นไวม าทาํ รา ย นอกจากนี้ ยงั มคี นรา ยระดบั มสี มองเปน จาํ นวนไมน อ ยมกั มกี ารวาง “ผชู วย” เอาไว หากเจาหนา ทีต่ ํารวจชะลาใจ กจ็ ะเปนเปา ถกู ซุมยิงเสยี ชีวิตไดโดยงา ย ò.ù ¡ÒÃμÃǨ¤¹Œ áÅÐ㪡Œ ÞØ á¨ÁÍ× äÁ‹¶¡Ù μŒÍ§ ในการจบั กมุ ตรวจคน ผตู อ งสงสยั ของเจา หนา ที่ จาํ เปน ตอ งใชค วามระมดั ระวงั เปน พเิ ศษ อยา ชะลา ใจวา เมอ่ื เปน เจา หนา ทแี่ ลว คนรา ยจะยอมจาํ นนงา ยๆ อนั จะนาํ ไปสคู วามผดิ พลาด ท่ีกอใหเกิดการสญู เสยี ขึน้ ซ่งึ มีตัวอยา งใหเ หน็ เปนอทุ าหรณเกดิ ขึ้นอยูเ สมอ เม่ือทําใหผูตองสงสัยหรือคนรายยอมจํานนแลว จงรีบใสกุญแจมือทันที แลวจึงทําการตรวจคนตัวอยางละเอียด ซ่ึงเปนกฎเหล็กท่ีตองปฏิบัติอยางเขมงวดและเครงครัด โดยเฉพาะอยา งยงิ่ ในระหวา งการปฏบิ ตั หิ นา ทตี่ ามลาํ พงั ไมม เี พอื่ นรว มทมี สงิ่ ทป่ี ฏบิ ตั แิ ละจดจาํ ใหข น้ึ ใจ คอื ระหวา งเขา ประชดิ ตวั คนรา ยหรอื ผตู อ งสงสยั ตอ งถอื ปน เอาไวแ นบชดิ ลาํ ตวั เพอื่ ปอ งกนั การถกู คนรา ย ฮึดสูเขาแยงอาวุธปนมาทําราย ตองยึดม่ันและดําเนินการตรวจคนตามระเบียบปฏิบัติอยางเครงครัด ทกุ ขัน้ ตอนจนเปน นสิ ัย เพอ่ื ลดอัตราการเสย่ี งใหนอยทส่ี ุด การตรวจคน อาวธุ ตอ งตรวจทกุ จดุ ทอี่ าจมกี ารซกุ ซอ นเอาไว ไมว า จะเปน ทเี่ อว ทง้ั ดา นหนา ดา นหลงั ดา นขา ง โคนขา ขอ เทา ในรองเทา บทู ในกระเปา เสอื้ ในชดุ ชน้ั ในและกระเปา ถอื สาํ หรับคนรา ยหรือผูต อ งสงสยั ท่ีเปนสตรี ขอ พึงระวังอกี ประการคอื อยาตายใจลดความระมดั ระวัง กรณีทคี่ นรายหรอื ผูตองสงสัยแสดงอาการยอมจํานนใหตรวจคนแตโดยดี เพราะคนรายบางคนอาจหลอกลอใหเกิด ความตายใจ ลดความระมดั ระวงั ลง เพอื่ รอจงั หวะและโอกาสทจี่ ะตอ สขู ดั ขนื คนรา ยบางคนจะพยายาม หาคําพูดมากลาวอางเบ่ียงเบนไมใหถูกตรวจคนในจุดท่ีตนเองซุกซอนอาวุธเอาไว เชน กลาวอางวา เจา หนา ทพ่ี ยายามลว งเกนิ ทางเพศ เพอื่ ใหเ จา หนา ทเี่ กดิ ความอบั อายและอยา ละเลยไมท าํ การตรวจคน จุดที่เรนลับ เชน ท่ีโคนขา ไมวาจะเกิดอะไรข้ึนจะตองตรวจคนอยางละเอียด อยาละเลยเด็ดขาด อยางไรก็ตาม หากตรวจคนพบอาวุธชิ้นแรกแลว อยาดวนสรุปวาคนรายมีอาวุธเพียงแคน้ัน จงตรวจคนตอไปทุกจุดที่คาดวาจะมีอาวุธ เพราะคนรายจํานวนไมนอยท่ีมักจะมีอาวุธซุกซอนสํารอง เอาไวอีก
๕ ò.ñð äÁ‹ÁÕ¡ÒôÙáÅàÍÒã¨ãÊบ‹ ําÃ§Ø ÃÑ¡ÉÒÍÒÇØ¸»¹„ »ÃÐจํา¡Ò มีเจาหนาท่ีตํารวจไมนอยที่ลืมบรรจุกระสุนเตรียมพรอมเอาไวในตัวปน ใชกระสุนปนที่เส่ือมคุณภาพเนื่องจากเก็บรักษาไวไมถูกตองและเกาเก็บ ความผิดพลาดท่ีเกิดข้ึนใน ลกั ษณะเชนนี้ มีเจาหนาทต่ี าํ รวจตองเสียชวี ติ สงู ถงึ ๑๕ เปอรเ ซน็ ต เจา หนา ทีต่ าํ รวจซ่งึ ตองเสีย่ งชีวิต อยูต ลอดเวลา ไมรวู า จะตองเผชิญหนากับเหตรุ ายเมอ่ื ไหร เพ่อื ความปลอดภยั ของตนเอง จึงจําเปน ตองดูแลเอาใจใสในอาวุธประจํากาย เคร่ืองกระสุนและอุปกรณตางๆ ใหอยูในสภาพที่สมบูรณ พรอมใชงานไดต ลอดเวลา ความผิดพลาดทั้ง ๑๐ ประการ อันเปนสาเหตุใหเจาหนาท่ีตํารวจตองเสีย ชีวิตน้ีอาจจะไมใชเร่ืองใหมอะไร แตบางทีเจาหนาท่ีหลายนายอาจจะหลงลืมหรือละเลยไมเครงครัด ซ่ึงเปนความเจ็บปวดและเปนเรื่องเศราเสียใจเปนอยางยิ่งทุกคร้ังที่ไดยินขาวที่เจาหนาท่ีตํารวจ ที่ตองพลชี พี ในการตอสูก ับคนรายทีเ่ กดิ ข้นึ ครัง้ แลวคร้ังเลา ËÇÑ ¢ÍŒ ·èÕ ò ÃдѺ¡ÒÃãªกŒ าํ Å§Ñ เจาหนาที่ตํารวจในฐานะผูบังคับใชกฎหมาย ซึ่งสามารถใชกําลังและอาวุธในการเขา ระงับเหตุหรือคล่ีคลายสถานการณตางๆ ท่ีเกิดขึ้นใหยุติลงโดยเร็ว แตก็ไมใชวาจะใชไดตามอําเภอใจ จะตองรูตัวเองวาจะใชไดเม่ือใด มีความจําเปน และอยูภายใตกรอบของกฎหมายหรือไม ดังน้ัน เพื่อใหการใชกําลังของเจาหนาท่ีตํารวจอยูภายใตกรอบของกฎหมายและหลักมนุษยธรรม จึงตองมี แนวทางเปน หลกั ในกระบวนการตดั สนิ ใจ เพอื่ เรยี งลาํ ดบั ขนั้ ตอนความคดิ ใหถ ถี่ ว นกอ นตดั สนิ ใจใชก าํ ลงั กอนจะพลาดพล้ังถูกดําเนินคดีอาญาหรือสอบสวนทางวินัย ซึ่งแนวทางการใชกําลังท่ีวานั้นจะตอง งายแกการเขาใจ เปนไปตามหลักเหตุผล เมื่อฝกปฏิบัติจนเคยชินก็จะชวยใหการปฏิบัติเปนไป โดยสัญชาตญาณ เพราะแนวทางการปฏิบัติดังกลาวไดถูกเขียนข้ึนจากสามัญสํานึกของมนุษย เมอ่ื เผชญิ เหตกุ ารณค บั ขนั เพอื่ บงั คบั การตดั สนิ ใจ “คดิ กอ นทาํ ” เนอื่ งจากเกย่ี วกบั ความเปน ความตาย และสามารถขยายผลใหเ หตุการณนั้นรุนแรงข้ึนได ñ. ¤ÇÒÁËÁÒ ระดับการใชกําลัง หมายถึง แนวความคิดหรือกรอบปฏิบัติเก่ียวกับขั้นตอนและ วิธีการใชกําลังและอาวุธของเจาหนาท่ีตํารวจ เพื่อใชเปนแนวทางในการริเร่ิมใชกําลังหรืออาวุธใหมี ความเหมาะสมกบั สถานการณ กรอบของกฎหมาย และผลสมั ฤทธ์ใิ นการควบคุมเหตุการณ ระดับการใชกําลังมีลักษณะเปนหลักเกณฑการปฏิบัติท่ีมีความยืดหยุน และปรบั เปลี่ยนไปไดตามสถานการณ ò. ¤ÇÒÁสาํ ¤ÞÑ ๒.๑ เจา หนา ทต่ี าํ รวจมคี วามจาํ เปน ในการใชก าํ ลงั หรอื อาวธุ ใหพ อสมควรแกเ หตุ ภายใตก รอบของกฎหมายไมใ หร นุ แรงเกนิ กวา เหตุ เพราะอาจถกู ดาํ เนนิ คดที งั้ ทางแพง อาญา และวนิ ยั ตลอดจนทาํ ใหเสยี ภาพพจนเกิดเปน เงอ่ื นไข ใหป ระชาชนเกลียดชงั ตาํ รวจ
๖ ๒.๒ การใชก าํ ลงั ของเจา หนา ทตี่ าํ รวจ หากไมถ กู ตอ งตามแนวคดิ ในการแกไ ขปญ หา อาจทาํ ใหเ กดิ เหตกุ ารณร นุ แรง ทาํ ใหเ จา หนา ทต่ี าํ รวจ เหยอื่ หรอื ประชาชนเสยี ชวี ติ บาดเจบ็ โดยไมจ าํ เปน ๒.๓ การเขา จดั การกบั เหตกุ ารณค บั ขนั ตา งๆ เชน คนรา ยจต้ี วั ประกนั เพอ่ื หลบหนนี นั้ หากเจา หนา ทต่ี าํ รวจรเิ ริ่มใชก าํ ลงั รุนแรงทันที เชน ใชอ าวธุ ปน ยิงทันทอี าจทาํ ใหก ารแกป ญหายากขึ้น ó. ËÅÑ¡¾×¹é °Ò¹ เจาหนาท่ีตํารวจตองแสดงตนกอนการใชอาวุธ และตองแจงเตือนใหทราบ ลวงหนาวาจะมีการใชอาวุธ เวนแตการดําเนินการดังกลาวอาจทําใหเจาหนาที่ตํารวจหรือบุคคลอื่น เสี่ยงท่ีจะไดรับอันตรายแกชีวิตหรือแกรางกายหรือเปนที่ชัดเจนวาไมมีความเหมาะสมหรือจําเปน ทตี่ อ งดาํ เนินการดังกลา วในสถานการณเ ชนนั้น ô. ÃдѺ¢Í§¡ÒÃãªกŒ ําÅѧ¢Í§à¨ŒÒ˹Ҍ ·ตèÕ ําÃǨ การใชก าํ ลงั หรอื อาวธุ ของเจา หนา ทต่ี าํ รวจใหเ ปน ไปตามสถานการณแ ละพฤตกิ ารณ ของคนรา ย และสภาพแวดลอ มจากเบาไปหาหนกั ซงึ่ สามารถแบง ขน้ั ตอนการตดั สนิ ใจไวใ นการใชก าํ ลงั เปน ๖ ระดับ ดงั นี้ ÃдѺ·èÕ ñ ¡ÒûÃÒ¡¯μÇÑ ¢Í§ตาํ ÃǨ เมอ่ื ตาํ รวจไปถงึ ทเี่ กดิ เหตผุ ทู จ่ี ะกระทาํ ผดิ บางราย ก็อาจจะลมเลิกการทําผิด หรืออาจใหความรวมมือดวยดีโดยไมตองออกคําส่ัง เชน การจอดรถในท่ี หามจอด การลกั ลอบเรย่ี ไร การทะเลาะววิ าท ถา คนรายยังไมห ยดุ ใหตํารวจใชกาํ ลงั ระดับตอ ไป ÃдѺ·Õè ò ¡ÒÃãªคŒ าํ ʧÑè ´ÇŒ ÂÇÒ¨Ò ตาํ รวจใชค าํ พดู สง่ั คนรา ยใหย อมเลกิ การกระทาํ ที่ เปนความผิด หรือการทําราย หากยอมปฏิบัติตามคําส่ังตองไมใชกําลัง ถาไมยอมปฏิบัติตามคําสั่ง ใหใ ชก ําลงั ในระดบั เหมาะสม ÃдѺ·èÕ ó ¡ÒÃ㪌෤¹Ô¤¡ÒäǺ¤ØÁ´ŒÇ¡ÒÂÀÒ¾ เมื่อคนรายไมปฏิบัติตามคําสั่ง ดวยวาจาแตแรก ตํารวจอาจใชเทคนิคการควบคุมตัวดวยมือเปลา หรือการกดจุด ถาหากขัดขืน ไมย ินยอมใหใ ชก ําลังในระดับท่ีเหมาะสมตอ ไป ÃдѺ·èÕ ô ¡ÒÃ㪌෤¹Ô¤μͺâμŒÍÂ‹Ò§ÃØ¹áç คนรายไมปฏิบัติตามคําส่ังและ เขาโจมตีทํารายตํารวจแตไมใชอาวุธ ใหปองกันตนเองไดโดยไมใชอาวุธเชนกัน คือ การชก การเตะ การทุม การทําใหห มดสติ หรือการใชส ารทําใหเ กดิ อาการระคายเคือง ÃдѺ·Õè õ ¡ÒÃãªÍŒ ÒÇ¸Ø ·äÕè Á¶‹ §Ö μÒ คนรา ยใชอ าวธุ และอาจทาํ อนั ตรายขนั้ บาดเจบ็ หรือเสียชีวิต และไมหยุดการกระทําหลังจากถูกแจงเตือน ใหเจาหนาท่ีตํารวจพิจารณาตอบโตได ทง้ั ไมใ ชอ าวธุ และใชอ าวธุ ทไ่ี มถ งึ ตาย ไดแ ก การใชก ระบอง เครอื่ งชอ็ ตไฟฟา กระสนุ ยาง ปน ยงิ ตาขา ย หากพิจารณาแลวเห็นวา ไมสามารถหยดุ หรอื ควบคุมคนรายไดใหใ ชกาํ ลงั ขัน้ ตอ ไป ÃдѺ·èÕ ö ¡ÒÃãªกŒ าํ Åѧ¢é¹Ñ à´´ç ¢Ò´ËÃ×Í¡ÒÃ㪌ÍÒÇØ¸»„¹ คนรา ยใชอาวธุ ทาํ อันตราย เจา หนา ทตี่ าํ รวจหรอื บคุ คลอนื่ ทเี่ สย่ี งตอ การไดร บั อนั ตรายแกร า งกายหรอื เสยี ชวี ติ และไมห ยดุ การกระทาํ หลังจากถูกแจงเตือน เจาหนาท่ีตํารวจไมสามารถแกไขไดดวยวิธีอื่นเพื่อหยุดยั้งภยันตรายที่กําลัง จะเกิดขน้ึ ภายในเวลาอันจาํ กัดใหใ ชอ าวุธปน ยงิ เพือ่ หยุดย้งั การกระทาํ ของคนรา ย
๗ สง่ิ จําเปนท่ีควรคาํ นึงถึงวา ระดับการใชกําลังของเจา หนาทต่ี ํารวจนนั้ ยดึ หลักกฎหมาย เรื่องการปองกัน เปนเหตุผลในการตัดสินใจ เน่ืองจากเปนการปองกันตัวเจาหนาท่ีผูปฏิบัติเอง หรือ ผูอ่ืนใหพนจากภยันตรายซ่ึงเกิดจากการกระทําท่ีฝาฝนกฎหมาย และภยันตรายน้ันใกลจะถึง และได กระทําไปพอสมควรแกเหตุ ซึ่งในการตัดสินใจจะตองพิจารณาถึง ความรุนแรงของอาวุธ, ปฏิกิริยา และจํานวนคนราย และสิ่งที่สําคัญคํานึงถึงอาวุธของเจาหนาที่ตํารวจที่มีใชอยูในขณะนั้นดวย เปนเครอ่ื งบง ชช้ี ดั วาจะใชกําลงั ในระดบั ใด และตอ งไมเกินกวา เหตุดวย โดยมิตอ งเริม่ ตน ในระดับที่ ๑ เสมอไป อาจจะเร่ิมท่รี ะดับใดกไ็ ด แลวแตในสถานการณท ่กี ลาวมาขางตน คอื อาวธุ ปฏกิ ริ ิยา จาํ นวน คนราย และอาวุธของเจาหนาที่ที่มีใชอยูในขณะนั้น และในทางกลับกันระดับการใชกําลังอาจลดลง ตามลกั ษณะของความรนุ แรงของคนรา ยในเรอื่ งอาวธุ ปฏกิ ริ ยิ า จาํ นวนคนรา ย และอาวธุ ของเจา หนา ท่ี ËÇÑ ¢ŒÍ·èÕ ó ÍØ»¡Ã³¢ ͧà¨ÒŒ ˹ŒÒ·èÕตาํ ÃǨ㹡Òû¯ÔºÑμÔ˹ŒÒ·Õè ñ. à¢çÁ¢Ñ´ÂØ·¸Ç¸Ô Õ ประกอบอุปกรณดงั ตอไปน้ี - ทางดานมอื ถนัดของเจาหนา ที่ ไดแ ก กญุ แจมือ, ซองปน และอาวธุ ปน - ทางดานซายมือของเจาหนาท่ี ไดแก ไฟฉาย, ซองแม็กกาซีน, ซองกระบอง และกระบองยืดขยาย, วิทยุ, สเปรยพ รกิ ไทย รายละเอียดตามรปู ท่ี ๓.๑ - ๓.๕ รูป ๓.๑ รปู ๓.๒ รูป ๓.๓ รูป ๓.๔ รูป ๓.๕
๘ - อุปกรณตางๆ ที่อยูบนเข็มขัดยุทธวิธี สามารถเปลี่ยนแปลงตําแหนงไดตาม ความเหมาะสมแลวแตค วามถนดั ของแตละบุคคล แตใหสามารถรวู าอปุ กรณอ ยตู รงบริเวณไหน - ใหจดจําตําแหนงของอุปกรณตางๆ วาอยูตรงไหน เพื่อสามารถหยิบใชได โดยอัตโนมตั ิ โดยไมตองละสายตามาดูที่อุปกรณ ¢ÍŒ ¤ÇÃÃÐÇ§Ñ ดา นหลงั ของเขม็ ขดั ยทุ ธวธิ ี ไมค วรใสอ ปุ กรณใ ดๆ ไว เนอ่ื งจากบรเิ วณ ดานหลังของคนเราจะตรงกับกระดูกสันหลัง ถาใสอุปกรณไวดานหลังเมื่อเกิดอุบัติเหตุลมลง อาจทาํ ใหกระดกู สนั หลังไดร ับบาดเจ็บได ËÑǢ͌ ·èÕ ô ¡ÒÃÂ¹× à¼ªÞÔ àËμØ áÅСÒÃ༪ÞÔ Ë¹ÒŒ -¤ÁŒØ ¡¹Ñ (CONTACT - COVER) ñ. ¡ÒÃÂ׹༪ÔÞàËμØ (Ready Stance) เปนการยืนในลักษณะทาเตรียมพรอม เมื่อตํารวจตองเผชิญหนาอยูกับบุคคลตองสงสัยในสถานการณตางๆ ในเบ้ืองตนเรายังไมทราบวา บุคคลตองสงสัยดังกลาวน้ัน เปนคนดีหรือคนราย ดังน้ัน เพื่อความปลอดภัยตํารวจจะตองเตรียม พรอมรับมือกับเหตุการณที่จะเกิดข้ึน และไมประมาทโดยเด็ดขาด เพราะบุคคลตองสงสัยอาจจะ กลายเปนคนราย ตอสูขัดขวางการปฏิบัติหนาท่ีหรือว่ิงหลบหนี เราจึงตองพรอมที่จะตอสู ปองกันตัวหรือว่ิงไลติดตามจับกุมคนราย การยืนทาเตรียมพรอม จึงเปนทาพ้ืนฐานท่ีสําคัญ ของทาตางๆ ในยุทธวิธีการตรวจคนจับกุม และในยุทธวิธีการตอสูปองกันตัวดวย โดยมีหลักปฏิบัติ ดังน้ี ๑.๑ ยนื ในลกั ษณะลําตวั ตรง เทาท้งั สองขางหางกันประมาณ ๑ ชวงไหล ยอเขา ทั้งสองขางเลก็ นอย เพื่อเตรยี มพรอมในการเคลื่อนไหวตวั อยา งคลองแคลว ๑.๒ มือท้ังสองขางอยูดานหนาโดยวางไวที่บริเวณแนวเข็มขัด มือทั้งสองขางจะ ประสานกันหรือไมก็ได ท้ังน้ี เพ่ือสําหรับการใชมือและแขนไดอยางรวดเร็ว ในการตอสูปองกันตัว การจับกุม หรือการใชอาวธุ ปนท่พี กอยูบริเวณเอว หรอื การหยิบใชอ ปุ กรณต า งๆ ตามความเหมาะสม และจาํ เปน ๑.๓ ยืนหันหนาเขาหาบุคคลตองสงสัย ในระยะหางประมาณสองชวงแขน เพอ่ื ใหมรี ะยะหางเพยี งพอท่ีจะหลบหลกี ปองกนั ตัวจากการจูโจมของบุคคลตอ งสงสัย หรือเขา ทาํ การ จับกุมเมื่อบุคคลตองสงสัยพยายามหลบหนี ๑.๔ สายตาจบั จอ งอยทู บี่ คุ คลตอ งสงสยั ตลอดเวลาเพอื่ สงั เกตมอื ของผตู อ งสงสยั สีหนา แววตา อากัปกิริยา ทา ที และการโตตอบวา จะมปี ฏกิ ิริยาตอบสนองตอคาํ สัง่ และการปฏิบัติ หนาที่ของตํารวจอยางไร ท้ังนี้ เพื่อจะไดเตรียมพรอมรับมือกับสถานการณน้ันอยางเหมาะสม รายละเอยี ด ตามรูป ๔.๑ - ๔.๖
๙ รูป ๔.๑ รปู ๔.๒ รูป ๔.๓ รูป ๔.๔ รปู ๔.๕ รูป ๔.๖ ò. ¡ÒÃ༪ÞÔ Ë¹ŒÒ - ¤ÁŒØ ¡¹Ñ (CONTACT - COVER) หมายถงึ หลกั การทาง ยุทธวิธีตํารวจท่ีกําหนดบทบาท และหนาท่ีของตํารวจ ๒ ฝายหรือ ๒ คน ท่ีเปนคูตรวจ ในการเขา เผชญิ หนากับคนราย โดยแยกหนา ทไี่ ดดังตอไปนี้ ก. ตํารวจผูเ ผชญิ หนา (CONTACT OFFICER) คอื ตํารวจผทู รี่ ับผิดชอบใน การเขาไปเผชิญหนากับคนรายเพื่อปฏิบัติหนาที่ตางๆ เชน การสอบถาม การตรวจคนจับกุม และ เปนผูอ อกคาํ สง่ั บงั คับหรอื ส่ังใหค นรา ยทาํ ตาม ข. ตาํ รวจผคู มุ กนั (COVER OFFICER) คอื ตาํ รวจผซู ง่ึ รบั ผดิ ชอบในการรกั ษา ความปลอดภัยใหแกตํารวจผูเผชิญหนา โดยจะคอยเฝาดูอาการกิริยาของคนรายหรือผูตองสงสัย ตลอดเวลา เฝาฟงวิทยุ การพูดวิทยุ เฝาดูเก่ียวกับพยานวัตถุตางๆ ในตัวผูตองสงสัย และมีหนาท่ี ในการปอ งกนั ยบั ยงั้ การหลบหนหี รอื การโจมตขี องคนรา ย และการสงั เกตพนื้ ทโ่ี ดยรอบตนเองในระยะ ๓๖๐ องศา ò.ñ ¤ÇÒÁสํา¤ÞÑ เปนหลักการปฏิบัติเพื่อความปลอดภัยของเจาหนาท่ีตํารวจ ในขณะเขา เผชญิ หนากับผูตองสงสัยหรอื คนรา ยในรปู แบบตา งๆ โดยสว นมากใชกับตํารวจท่เี ปนคูตรวจ จํานวน ๒ คน ò.ò ËÅ¡Ñ ¡Òþ×é¹°Ò¹ - เมอ่ื ตาํ รวจจะเขา เผชญิ หนา กบั คนรา ยหรอื ผตู อ งสงสยั ใหต าํ รวจเรม่ิ ตกลง กนั วา ใครจะเปน ผเู ผชิญหนา และใครจะเปน ผคู มุ กัน - ในการเขา เผชญิ หนา กบั ผตู อ งสงสยั ใหต าํ รวจผเู ผชญิ หนา เปน ผอู อกคาํ สง่ั ใหผูตองสงสัยหยุดและเริ่มปฏิบัติตามภารกิจ เชน การสอบถาม โดยตํารวจผูเผชิญเหตุตองยืนอยู หา งจากผตู อ งสงสยั ประมาณ ๒ ชว งแขน โดยยนื เยอื้ งกบั ผตู อ งสงสยั ทางดา นซา ยหรอื ดา นขวาเลก็ นอ ย (รปู ๔.๗) - ตํารวจผูคุมกันตองยืนระยะหางเพียงพอที่ผูตองสงสัยจะไมสามารถเขา แยงปนได โดยระยะหา งแบบหลักการระยะปลอดภยั และยนื ทาํ มุมในลักษณะตัววี แตไมเ กินตวั แอล
๑๐ (หา มยนื ในลกั ษณะตวั ไอเดด็ ขาด) กบั ตาํ รวจผเู ผชญิ หนา หากเปน คนรา ยสาํ คญั ตาํ รวจผคู มุ กนั อาจตอ ง ยกปนข้ึนเล็งไปทางคนราย สวนตํารวจผูเผชิญหนาไมตองชักอาวุธปนออกจากซองแตอยางใด สว นการเขา หาคนรา ยนน้ั ใหเ ดนิ เยอื้ งกบั คนรา ย โดยอยา หนั ดา นทพี่ กอาวธุ ปน เขา ใกลค นรา ย (รปู ๔.๘) - ในกรณีที่คนรายหรือผูตองสงสัยขัดขืนตอสู ตํารวจผูเผชิญหนาจะตอง ถอยหลังหรือเคล่ือนที่ออกใหหางจากตัวผูตองสงสัยหรือคนรายทันที โดยถอยหลังมาตามทิศทาง ท่ีเขาไป เพอ่ื จะไดไมข วางแนววถิ ีกระสนุ หรือขัดขวางการใชอาวุธปนของตาํ รวจผคู มุ กนั (รปู ๔.๙) รูป ๔.๗ รูป ๔.๘ รูป ๔.๙ ËÁÒÂàËμØ - เม่ือตํารวจผูเผชิญหนาเขาไปปฏิบัติหนาที่และเปลี่ยนมุมไป เชน เขาคนทาง ขวาแลวเปลี่ยนมาคนทางซายใหผูคุมกันยืนหาตําแหนงใหมที่เหมาะสมตามหลักแนวการยิงเพื่อมิให อยูในแนววถิ ีกระสนุ - สําหรับตําแหนงตํารวจผูเผชิญหนา และผูคุมกัน สามารถสับเปลี่ยน ตําแหนงระหวางกันไดตามความเหมาะสม เชน ตํารวจผูทําหนาท่ีผูเผชิญหนามาทําหนาท่ีผูคุมกัน สวนตํารวจทีท่ ําหนา ที่ผูค มุ กนั มาทําหนา ทผ่ี ูเผชิญหนา ก็ได ท้งั นตี้ ามความเหมาะสมและสถานการณ ท่เี กดิ ข้นึ ËÇÑ ¢ŒÍ·Õè õ ¡ÒÃμÃǨ¤¹Œ ºØ¤¤Å áÅСÒÃãÊ‹¡ØÞá¨Á×Í ñ. ¡ÒÃμÃǨ¤Œ¹º¤Ø ¤Å ·‹Ò·èÕ ñ ¡ÒÃμÃǨ¤¹Œ ºØ¤¤Åã¹·Ò‹ Â¹× ขัน้ ตอนที่ ๑ ใหตํารวจผูทําหนาท่ีผูเผชิญหนาเปนผูตรวจคน สวน ตํารวจผูคุมกันยืนอยูเฉียงไปทางดานหลัง ทํามุมเปนรูปตัววีแตไมเกินตัวแอล กับตํารวจผูเผชิญหนา จากนั้นตํารวจผูเผชิญหนาออกคําส่ังใหผูตองสงสัยหยุดแลวชูมือท้ังสองขางไวเหนือศีรษะ หมุนตัว หันไปดานหลังอยางชาๆ แลวนํามือประสานกันไวเหนือศีรษะหันฝามือหงายข้ึนดานบน แลวเอา หลงั มอื วางไวบ นศรี ษะ กางขาออกกวา งๆ (รปู ๕.๑) ขนั้ ตอนท่ี ๒ เจาหนาที่ตํารวจผูเผชิญหนา เดินเขาหาผูตองสงสัยทาง ดานหลัง กรณีตํารวจผูเผชิญหนา อยูเย้ืองไปทางดานขวาของผูตองสงสัย ใหเดินเขาทางดานขวา
๑๑ ของผูตองสงสัย ใชเทาซายเก่ียวเทาขวาของผูตองสงสัยไว แลวใชมือซายจับมือทั้งสองขางของ ผูตองสงสัยไว แขนเหยียดตรง จากน้ันใชมือขวาคนตัวตั้งแตระดับเอวถึงศีรษะ เมื่อจะคนชวงลาง ออกคําส่ังใหผูตองสงสัยยอตัวลง แลวใชมือขวาคนต้ังแตเอวลงไปจนถึงปลายเทาของผูตองสงสัย (รูป ๕.๒) ขั้นตอนท่ี ๓ กรณีตองการคนอีกดานของผูตองสงสัย ใหผูตรวจคน ทําสลับขางมือและเทากับอีกดานหนึ่ง สวนตํารวจผูคุมกันก็เปล่ียนตําแหนงไปยืนคุมกันอีกดานหน่ึง โดยทาํ มุมเปนรูปตัววีแตไมเ กินตัวแอล เชน กนั (รปู ๕.๓) รปู ๕.๑ รปู ๕.๒ รปู ๕.๓ ËÁÒÂàËμØ - ในการตรวจคนบุคคลในทายืนนั้น ไมควรใหผูตองสงสัยยืนหันหนายันกําแพง ในลักษณะท่ีไมเสียการทรงตัว เพราะทําใหผูตองสงสัยมีหลัก และอาจหันกลับมาใชศอกทําราย ผตู รวจคนได ·Ò‹ ·Õè ò ¡ÒÃμÃǨ¤¹Œ º¤Ø ¤Åã¹·‹Ò¤¡Ø ࢋÒÁÍ× »ÃÐÊÒ¹·ÈÕè ÃÕ ÉÐ ข้นั ตอนที่ ๑ ใหต าํ รวจผทู าํ หนา ทผี่ เู ผชญิ หนา เปน ผตู รวจคน สว นตาํ รวจ ผูคุมกันยนื อยูเ ฉียงไปทางดา นหลัง ทาํ มุมเปน รปู ตวั วีแตไ มเ กนิ ตัวแอล กับตาํ รวจผเู ผชิญหนา ตาํ รวจ ผเู ผชิญหนา ออกคําส่ังใหผตู องสงสยั ชมู ือท้ังสองขางข้นึ เหนอื ศรี ษะ หมุนตัวหนั ไปดานหลงั ชาๆ แลว นง่ั คกุ เขา ลง นาํ มือทง้ั สองขา งประสานกนั ไว หนั ฝา มอื หงายข้นึ ดา นบน นาํ หลังมือมาวางไวบนศีรษะ จากน้นั ส่งั ใหน ําเทา ไขวทบั กันไว (รปู ๕.๔) ข้นั ตอนที่ ๒ เจาหนาที่ตํารวจผูเผชิญหนา เดินเขาหาผูตองสงสัย ทางดา นหลงั กรณตี ํารวจผเู ผชิญหนา อยูเยื้องไปทางดา นขวาของผตู อ งสงสยั ใหเ ดินเขา ทางดา นขวา ของผูตองสงสัย ใชมือซายจับมือท้ังสองขางของผูตองสงสัยไว แขนเหยียดตรง จากนั้นใชมือขวาคน บริเวณลาํ ตวั ต้ังแตร ะดับเอวถงึ ศีรษะ และจากเอวไปถงึ ปลายเทา (รปู ๕.๕) ข้นั ตอนท่ี ๓ กรณีตองการคนอีกดานของผูตองสงสัย ใหผูตรวจคน เปล่ียนมือสลับขางกัน สวนตํารวจผูคุมกันก็เปล่ียนตําแหนงไปยืนคุมกันอีกดานหน่ึง โดยทํามุมเปน รปู ตัววี แตไมเ กินตัวแอลเชนกนั (รปู ๕.๖)
๑๒ รูป ๕.๔ รูป ๕.๕ รูป ๕.๖ ·Ò‹ ·èÕ ó ¡ÒÃμÃǨ¤Œ¹ºØ¤¤Åã¹·Ò‹ ¹Í¹ควํ่า˹Ҍ ขัน้ ตอนท่ี ๑ ใหต าํ รวจผทู าํ หนา ทเี่ ผชญิ หนา เปน ผตู รวจคน สว นตาํ รวจผคู มุ กนั ยืนอยูเฉียงไปทางดา นหลัง ทํามมุ เปนรูปตวั วแี ตไมเ กินตัวแอล กบั ตํารวจผูเ ผชญิ หนา จากนนั้ ตํารวจ ผูเผชิญหนาออกคําส่ังใหผูตองสงสัยนอนคว่ําหนาลงกับพ้ืน กางแขน กางเทาออกใหกวาง นํามือ ทงั้ สองขา งเหยยี ดตรงไปดา นบนเหนอื ศรี ษะแลว เอามอื ประสานกนั หนั ฝา มอื ออกไปดา นหนา (รปู ๕.๗) ขัน้ ตอนท่ี ๒ เจา หนา ทต่ี าํ รวจผเู ผชญิ หนา เดนิ เขา หาผตู อ งสงสยั ทางดา นหลงั กรณตี าํ รวจผเู ผชญิ หนา อยเู ยอ้ื งไปทางดา นขวาของผตู อ งสงสยั ออกคาํ สงั่ ใหผ ตู อ งสงสยั พลกิ ตวั ดา นซา ย เจาหนา ทผ่ี ตู รวจคน ยอ ตวั ลงโดยใหเ ขาวางทบั ที่บริเวณเอวของผูตองสงสัย ใชม อื ขวากดบรเิ วณไหลไว แลวใชมือซายตรวจคนบริเวณลําตัวครึ่งซีกบนโดยเร่ิมต้ังแตเอวถึงศีรษะ สวนการตรวจคนขาชวงลาง และรองเทา สั่งใหผูตองสงสัยคอยๆ งอเขาพับมาดานหลังแลวทําการคน แทนการกมลงไปใกลเทา ของผูต อ งสงสยั เพอื่ ความปลอดภยั (รูป ๕.๘) เม่ือจะตรวจคนลําตัวอีกดานหนึ่งใหผูตรวจคนเดินออมทางปลายเทา และ ปฏิบัติในลักษณะเดียวกันแตสลับขางกัน ตํารวจผูคุมกัน ก็เปล่ียนตําแหนงไปยืนคุมกันอีกดานหนึ่ง (รูป ๕.๙) รูป ๕.๗ รปู ๕.๘ รูป ๕.๙
๑๓ ò. ¡ÒÃãÊ¡‹ ØÞá¨Á×ͺؤ¤ÅμÍŒ §Ê§ÊÑ ò.ñ ¡ÒèѺ¡ÞØ á¨Á×Í - กรณีถือกุญแจมือดวยมือขวา ใหโซหรือบานพับกุญแจมืออยูบริเวณ ฝามือขวาใหหนาเดี่ยวของกุญแจมือ ท้ังดานบนและดานลางหันออกนอกตัว สวนหนาคูของ กุญแจมือหนั เขา หาตวั (รูป ๕.๑๐) - กรณีถือกุญแจมือดวยมือซาย ใหโซหรือบานพับกุญแจมืออยูบริเวณ ฝามือซายใหหนาเดี่ยวของกุญแจมือ ท้ังดานบนและดานลางหันออกนอกตัว สวนหนาคูของ กญุ แจมือหันเขา หาตวั (รูป ๕.๑๑) รูป ๕.๑๐ รูป ๕.๑๑ ò.ò ¡ÒÃãÊ‹¡ÞØ á¨ÁÍ× áºº·Õè ñ Ë¹Ñ ËÅѧÁÍ× ª¹¡¹Ñ ขั้นตอนท่ี ๑ ตาํ รวจผตู รวจคน ถอื กญุ แจมอื ดว ยมอื ขวา ออกคาํ สงั่ ใหผ ตู อ ง สงสัยนํามอื ทั้งสองขา งมาไวด านหลงั โดยใหห ันหลังมอื ชนกัน นว้ิ หัวแมม อื ตั้งขน้ึ ดา นบน (รปู ๕.๑๒) ข้นั ตอนที่ ๒ ตาํ รวจผตู รวจคน เคลอื่ นทเ่ี ขา ไปหา ใชม อื ซา ยกาํ รวบนวิ้ หวั แมม อื ท้ังสองขางของผูตองสงสัย (รูป ๕.๑๓) ขน้ั ตอนที่ ๓ ใชกุญแจมือที่ถือดวยมือขวา ใสเขาท่ีบริเวณขอมือซายและ ขวาของผูตองสงสยั พรอมกัน (รูป ๕.๑๔) ข้ันตอนท่ี ๔ ตรวจสอบการล็อกของกุญแจมือ วากระชับแนนพอดีกับ ขอมือของผูตองสงสัยและอยูในสภาพเรียบรอยปลอดภัยดีหรือไม และกดดับเบ้ิลล็อกท่ีกุญแจดวย เพือ่ ปอ งกนั ไมใหก ุญแจเลอื่ นเขาออกได รปู ๕.๑๒ รูป ๕.๑๓ รูป ๕.๑๔ รูป ๕.๑๕
๑๔ ¢ÍŒ á¹Ðนาํ - อปุ กรณก ญุ แจมอื จะตอ งดแู ลรกั ษาไมใ หเ กดิ สนมิ ไมฝ ด เพอ่ื สะดวกในการใชง าน - เม่ือใสก ุญแจมอื ผูตองหาหรือผูตองสงสยั แลว ในการควบคุมตวั ตองระมัดระวัง อยาเผลอ เพราะผูที่ถูกควบคุมอาจหาโอกาสหลบหนี โดยอาจทํารายเจาหนาที่ หรือว่ิงหนีขามถนน ซ่งึ อาจถูกรถยนตเ ฉีย่ วชนไดรบั อันตรายหรือเสียชวี ติ ได Ẻ·Õè ò Ëѹ˹Ҍ Á×ÍࢌÒËҡѹ ข้นั ตอนท่ี ๑ ตํารวจผูตรวจคนถือกุญแจมือดวยมือขวา ออกคําส่ังใหผูตองสงสัย นํามือทั้งสองขางมาไวดานหลัง มือเหยียดตรงหันฝามือเขาหากัน หางกันประมาณหน่ึงชวงไหลของ ผตู องสงสยั ใหนว้ิ หัวแมมือช้ลี งพืน้ (รปู ๕.๑๖) ข้ันตอนที่ ๒ ตาํ รวจผตู รวจคน เคลอ่ื นทเ่ี ขา หา ใชม อื ซา ยจบั ทฝี่ า มอื ขวาของผตู อ งสงสยั พรอมกับนํากุญแจมือที่ถือดวยมือขวา สับใสท่ีขอมือขวาของผูตองสงสัยดวยกุญแจมือที่อยูดานบน โดยใชน ว้ิ ชม้ี อื ซา ยชว ยประคองใหห นา เดยี่ วของกญุ แจมือเขาลอ็ กใหเ รียบรอ ย ใชมือขวาจับกุญแจมือ บิดงัดข้ึนดานบน เปนการลอ็ กมือของผูตอ งสงสัยไปในตวั อีกสวนหนง่ึ ดว ย (รูป ๕.๑๗) ขัน้ ตอนท่ี ๓ ใชมือซายจับมือซายผูตองสงสัย แลวสับใสกุญแจมืออีกขางหนึ่ง บริเวณขอมือซายของผูตองสงสัย โดยใชนิ้วช้ีมือซายชวยประคองใหหนาเดี่ยวของกุญแจมือเขาล็อก ใหเรยี บรอ ย (รูป ๕.๑๗) กรณีจะเขา ใสก ุญแจมือทางดา นซา ย ใหต าํ รวจผตู รวจคนถือกญุ แจมอื ดวยมอื ซาย แลว ทําสลับขา งกนั เชน เดยี วกับการใสกญุ แจมอื ดวยมือขวา รปู ๕.๑๖ รปู ๕.๑๗ รูป ๕.๑๘ ดงั กลา วขางตน ËÁÒÂàËμØ ถาตํารวจผูตรวจคนถนัดซาย ก็ใหถือกุญแจมือดวยมือซาย แลวทําตามข้ันตอน
๑๕ ËÇÑ ¢ÍŒ ·Õè ö ÂØ·¸Ç¸Ô Õ㹡ÒèºÑ ¡ÁØ ¤¹ÃŒÒ การจับ หมายถึง การท่ีเจาหนาที่ฝายปกครองหรือตํารวจ หรือราษฎร ใชอํานาจตาม กฎหมายจับผกู ระทําผดิ หรอื สงสยั วากระทาํ ผดิ ทางอาญา หรือจับตามหมายจบั เพือ่ นําตัวผูถูกจบั ไป จดั การตามกฎหมาย ñ. ËÅ¡Ñ ¾é¹× °Ò¹¢Í§¡ÒèѺ ๑.๑ เปนการปองกันมิใหผูกระทําความผิดหลบหนี หรือตอสูขัดขวางการจับกุม ของตํารวจ ๑.๒ เปนมาตรการหน่ึงในการปองกันและรักษาความปลอดภัยในชีวิต และทรัพยส นิ ของประชาชนทัว่ ไป ๑.๓ เจาหนาท่ีตํารวจผูจับกุมตองรูขอมูลพ้ืนฐาน และพฤติกรรมของคนราย ท่กี ระทาํ ความผิดใหม ากทส่ี ุด ๑.๔ ในการดําเนินการจับกุม เจาพนักงานตํารวจจะตองแจงแกผูที่จะถูกจับน้ัน ใหทราบวาเขาจะตองถูกจับ และส่ังใหผูถูกจับไปยังท่ีทําการของพนักงานสอบสวนแหงทองท่ีที่ถูกจับ พรอ มดว ยผูจ ับ เวน แตส ามารถนาํ ไปท่ีทาํ การของพนักงานสอบสวนผูรับผิดชอบไดในขณะนนั้ ò. Â·Ø ¸Ç¸Ô Õ㹡ÒèºÑ ¡ÁØ ·‹Ò·èÕ ñ ·‹ÒË¡Ñ ¢ÍŒ ÁÍ× ËÃÍ× ½†ÒÁ×Í˧ÒÂ¡ÅºÑ ขนั้ ตอนที่ ๑ เขา ประชดิ ตวั ผถู กู จบั ทางดา นหนา หรอื ดา นขวาของผถู กู จบั แลวมือขวาจับมือขวาของผูถูกจับ โดยใหน้ิวหัวแมมือทาบหลังนิ้วชี้ผูถูกจับ ใหเทาขวาอยูขางหนา (รูป ๖.๑) ขั้นตอนท่ี ๒ กาวเทาซายประชิดตัวผูถูกจับ หมุนตัวไปทางขวาพรอม บิดฝามือของผูถูกจับหงายไปทางดานหลัง ใชแขนซายหรือฝามือซายกดบริเวณแขนขวาทอนบนของ ผูถ กู จบั (รูป ๖.๒) ขน้ั ตอนท่ี ๓ ออกแรงบังคับใหผูถูกจับนอนคว่ําหนาลงบนพื้น ถาไม สามารถนําผูถูกจับลงกับพ้ืนได ใหใชวิธีการหมุนตัวมาทางขวาเพ่ือใหผูถูกจับเสียหลักแลวกดลงพื้น ใหแขนของผูถูกจับอยูระหวางเขาทั้งสองขางของผูจับ โดยใชเขาขวากดท่ีไหลหรือตนคอของผูถูกจับ เขา ซายกดที่หลงั ของผูถกู จับ บงั คบั แขนของผูถ ูกจับใหตึงและตง้ั ฉากขึ้นพรอ มบดิ ขอมือของผถู กู จบั ไป ทางศีรษะ (รปู ๖.๓)
๑๖ รปู ๖.๑ รปู ๖.๒ รูป ๖.๓ ËÁÒÂàËμØ ในขน้ั ตอนที่ ๓ ถา กดผถู กู จบั ลงพน้ื ไดแ ลว ใหแ ขนของผถู กู จบั อยรู ะหวา งเขา ทงั้ สองขา ง ของผูจับ โดยใชเขาขวากดบริเวณไหลหรือตนคอของผูถูกจับ เขาซายตั้งฉากกับพื้นชิดกับรักแร ของผูถูกจับ บังคับแขนของผูถูกจับใหตึงและต้ังฉากขึ้น พรอมบิดขอมือของผูถูกจับไปทางศีรษะ เพอื่ บงั คบั ไมใ หผ ถู กู จบั ดน้ิ หรอื ขดั ขนื จากนน้ั ทาํ การใสก ญุ แจมอื โดยใหใ สท มี่ อื ขวากอ น แลว จงึ ใสม อื ซา ย พลิกใหผูถูกจับหงายขึ้นแลวนั่งและชวยพยุงใหลุกขึ้นยืน ควบคุมตัวไปอยางใกลชิดและระมัดระวัง ดงั ปรากฏตามภาพ ·Ò‹ ·èÕ ò ·‹ÒËÑ¡¢ŒÍÁ×Í˧Ò ข้ันตอนท่ี ๑ ใชม อื ซา ยจบั ทม่ี อื ขวาของผถู กู จบั เทา ซา ยอยขู า งหนา โดยใช น้ิวหัวแมมือกดระหวางน้ิวนางกับน้ิวกอยของผูถูกจับ หมุนฝามือผูถูกจับไปทางซาย โดยใชมือขวา ชว ยกดทห่ี ลังมอื ผถู ูกจบั กดในลกั ษณะหมนุ ตัวชวยไปทางซา ย (รูป ๖.๔) ขั้นตอนท่ี ๒ กาวเทาซายไปดานหลัง จากน้ันออกแรงกดที่หลังมือของ ผถู ูกจับเพ่ือบังคบั ใหผถู ูกจบั ลมลงนอนหงายลงพนื้ (รปู ๖.๕) ขัน้ ตอนที่ ๓ เดนิ ออ มไปทางศรี ษะผถู กู จบั เพอ่ื บงั คบั ใหผ ถู กู จบั ควา่ํ หนา ลง โดยจับมือขวาของผูถูกจับอยูและดึงแขนของผูถูกจับใหตึง ใชเขาทั้งสองขางกดหลังของผูถูกจับไว สว นแขนขวาของผูถ ูกจับบงั คบั ใหต ึงแลว ตั้งฉากขน้ึ พรอมบิดขอ มอื ของผูถ ูกจับ (รูป ๖.๖ และ ๖.๗) รูป ๖.๔ รปู ๖.๕ รูป ๖.๖
๑๗ ËÁÒÂàËμØ - การจบั ในทา หกั ขอ มอื หงาย ใหพ ลกิ มอื ในวงแคบ เพอ่ื ใหค นรา ยเจบ็ และบงั คบั ลงไดโ ดยงา ย ซงึ่ หากยกขน้ึ สงู ผถู กู จบั อาจหมุนตัวลอดใตแขน แลวใชมืออีกขางหน่ึงตอบโต ทําใหไม สามารถบังคับผถู ูกจับลงพื้นได - ระหวางการเดินออมศีรษะเพ่ือบังคับใหผูถูกจับ ควํ่าหนาลงพื้น ผูถูกจับกุมอาจขัดขืนและพยายามจะลุกข้ึน ให ผูจับกุมใชมือซายกดบังคับท่ีหลังมือขวา และนํามือขวามาจับ ทศี่ อกของผูถูกจับแลวกดใหแขนเหยยี ดตรง (รปู ๖.๗) ·Ò‹ ·Õè ó ·Ò‹ ÊÍ´¤ÅÍŒ §á¢¹ ขัน้ ตอนท่ี ๑ ขณะเดินสวนกัน ใชมือซายจับท่ีมือขวาของผูถูกจับ โดยบิด ใหฝามือหันไปทางดานหลัง น้ิวหัวแมมือของผูจับกุมกดท่ีโคนน้ิวหัวแมมือของผูถูกจับ เทาซาย อยูขางหนา (รูป ๖.๘) ข้ันตอนที่ ๒ กาวเทาขวาไปขางหนาพรอมกับสอดแขนขวาเขารักแรขวา ของผูถกู จบั หมนุ ตัวไปทางขวาพลกิ ขอมือขวาล็อกที่หัวไหลขวาของผูถกู จับ (รปู ๖.๙) ขัน้ ตอนที่ ๓ ออกแรงกดบังคับผูถูกจับลงท่ีพ้ืน พับแขนไวบนหลังแลว ใสกุญแจมือ (รปู ๖.๑๐) รปู ๖.๘ รูป ๖.๙ รปู ๖.๑๐ ËÁÒÂàËμØ - ในทา นส้ี ามารถทใี่ ชจ บั ลอ็ กและควบคมุ ผถู กู จบั ไปยงั ทต่ี า งๆ ได ถา หากผถู กู จบั ขดั ขนื ผจู ับใชว ธิ ีหมนุ ตวั ไปทางขวาออกแรงกดผถู ูกจับลงกับพ้นื - ในสวนการฝกทานี้ไมแนะนาํ ใหก ดลงบนพ้ืน เพราะอาจทําใหไดร บั บาดเจบ็ ได
๑๘ ·Ò‹ ·èÕ ô ·Ò‹ Ë¡Ñ ¢ŒÍÁÍ× ควาํ่ ขั้นตอนที่ ๑ ผจู บั กมุ ใชม อื ขวาจบั ทขี่ อ มอื ขวาของผถู กู จบั จากทางดา นหลงั ดงึ มาทางดา นขวา ใหเทาขวาอยขู า งหนา (รูป ๖.๑๑) ขน้ั ตอนที่ ๒ กา วเทา ซา ยไปอยแู นวเดยี วกบั เทา ขวาของผถู กู จบั พรอ มกบั สอดแขนซา ยเขา ทรี่ กั แรข วาของผถู กู จบั กดศอกชดิ ขา งลาํ ตวั ใชม อื ขวากดขอ มอื ขวาของผถู กู จบั ใหค วาํ่ ลง (รูป ๖.๑๒) ข้นั ตอนท่ี ๓ นํามือซายไปชวยกดบังคับท่ีหลังมือขวาของผูถูกจับ โดยให ขอศอกขวาของผูถูกจับแนบชิดติดลําตัวของผูจับกุม โดยใหทอนแขนของผูถูกจับตั้งข้ึน ออกแรงกดที่ หลงั มอื แลวพาผูถูกจบั เคล่ือนทีไ่ ปตามทต่ี องการ (รูป ๖.๑๓) รูป ๖.๑๑ รปู ๖.๑๒ รปู ๖.๑๓ ¢ÍŒ á¹Ðนํา - ถา มีเจาหนา ท่ีตาํ รวจ ๒ นาย อาจเขาจับกมุ ผถู ูกจับทัง้ มือซา ยและขวากไ็ ด เพ่ือความ สะดวกและความปลอดภยั ในการพาเคล่อื นทีไ่ ป - กรณีท่ีมีผูประทวงหรือน่ังกีดขวางการจราจร ส่ังใหลุกไมยอมลุก เจาหนาท่ีตํารวจ สามารถใชการจบั ทาหกั ขอ มอื คว่ําพาออกจากพนื้ ที่ดงั กลาวได ·‹Ò·èÕ õ ·‹ÒÅÍç ¡á¢¹¡Ñºลาํ μÑÇ ข้ันตอนท่ี ๑ ผจู บั กมุ เดนิ เขา ทางดา นหลงั เยอื้ งทางขวาของผถู กู จบั ใหเ ทา ขวา อยูขางหนา แลว ใชม ือขวาจบั ขอมือขวาของผถู กู จับบดิ ใหฝามอื หันไปขา งหลงั ขัน้ ตอนท่ี ๒ กา วเทา ซา ยไปอยแู นวเดยี วกบั เทา ขวาของผถู กู จบั ดงึ แขนขวา ของผถู กู จบั ใหต ึง และใหข อ ศอกของผูถูกจับอยบู ริเวณหนา อกของผูจบั กุม (รปู ๖.๑๔)
๑๙ ข้นั ตอนที่ ๓ หักขอมือของผูถูกจับเขาหาตัวผูจับกุม พรอมกับใชแขนซาย สอดเขาไปใตรักแรของผูถูกจับ แลวล็อกหัวไหลใหแนน บังคับพาผูถูกจับใหเดินไปตามที่ตองการ (รูป ๖.๑๕) รปู ๖.๑๔ รปู ๖.๑๕ ËÁÒÂàËμØ - ถาผูถูกจับขัดขืน ใหผูจับกุม หมุนตัวไปทางขวาแลวท้ิงน้ําหนักตัวลงเพื่อบังคับให ผถู ูกจับลงบนพนื้ - ถากรณีมีเจาหนาท่ีตํารวจ ๒ นาย อาจเขาจับล็อกแขนอีกขางหน่ึงของผูถูกจับก็ได แลว ชว ยกนั บังคบั พาไป - ในการฝก ควรฝกปฏบิ ตั เิ ขาจับกมุ ทั้งทางดา นขวาและทางดา นซาย ËÑÇ¢ŒÍ·Õè ÷ ¡Òû‡Í§¡¹Ñ μÇÑ ´ŒÇÂÍÒÇ¸Ø ·äÕè Á‹¶Ö§μÒ ñ. ¡ÒÃ㪌¡Ãкͧ ñ.ñ »ÃÐàÀ·¢Í§¡Ãкͧ - กระบองยาว ๒๔ นิ้ว ทําจากไมเนื้อแข็ง ลักษณะเปนทอนกลม ตลอดดามจรดปลาย - กระบองยืดขยาย ผลิตจากเหล็กที่มีคุณภาพสูงความยาวระหวาง ๖ - ๑๐ น้วิ นํา้ หนกั อยทู ีป่ ระมาณ ๔ - ๑๖ ออนซ แตเมอื่ ขยายจนสดุ แลวจะวดั ได ๑๖ - ๒๔ นวิ้ ตามขนาดความยาวของกระบอง ñ.ò Â·Ø ¸ÇÔ¸Õ¡ÒÃ㪡Œ Ãкͧ - การใชกระบองตอสูปองกันตัว ควรใชกระบองในลักษณะการปองกัน มากกวาการตที าํ รา ยเพ่อื ภาพพจนท่ดี ขี องตาํ รวจ - หากจําเปนตองใชกระบองตีคนราย ควรมุงจุดตีท่ีอวัยวะสวนของ รางกายเฉพาะท่ีใชในการตอสูขัดขวางการจับกุมเทาน้ัน เชน มือ แขน ขา เปนตน โดยหลีกเล่ียงที่
๒๐ จะตอี วัยวะสว นของรา งกายทีแ่ ตกมีบาดแผลและเลือดออกไดงา ย เชน ศีรษะ ใบหนา ลําคอ กระดูก สนั หลงั ซง่ึ จะเปน เหมือนกบั การทาํ รายคน - หากจาํ เปน ตอ งตปี อ งกนั ตวั ควรตเี พอ่ื ใหห ยดุ การเคลอ่ื นไหวทบี่ รเิ วณขา ทําใหคนรายทรุดตัวลง หรือตีท่ีทอนแขนทํารายกลามเน้ือท่ีจะใชตอสู หรือบริเวณมือหรือขอมือ ซึง่ คนรา ยไมส ามารถใชมือในการตอสูได ·Ò‹ àμÃÕÂÁ¾ÃŒÍÁ ใหผูปฏิบัติยืนในทาเผชิญเหตุ (Ready Stance) ใชมือถนัดจับกระบอง นําออกมาถือไวในระดับไหล ปลายกระบองช้ีไปทางดานหลงั สว นมอื ขางทไ่ี มไ ดถ ือกระบองใหยกข้ึน ในลักษณะตงั้ การด และใหตํารวจออกคําส่งั ดวยวาจา “อยา เขา มา จะใชกระบอง” (รูป ๗.๑ - ๗.๒) รปู ๗.๑ รปู ๗.๒ ลักษณะการตี มี ๒ ลกั ษณะ คอื การตบี น และตีลา ง - การตบี น เปนการตีในลักษณะเฉยี งลงจากบนลงลา ง ๔๕ องศา ทง้ั ดา นซายและขวา (รปู ๗.๓ - ๗.๔) รูป ๗.๓ รปู ๗.๔ รูป ๗.๕
๒๑ - การตลี า ง เปน การตใี นลกั ษณะเชน เดยี วกนั กบั การตบี น แตเ นน ไปทที่ อ นขาของคนรา ย (รูป ๗.๖ - ๗.๗) รูป ๗.๖ รปู ๗.๗ ò. ¡ÒÃ㪌Êà»ÃÂ¾Ã¡Ô ä·Â ๒.๑ สถานการณหรอื ขอบเขตการใช ระดบั การใชก าํ ลงั ของตาํ รวจในการจบั กมุ คนรา ย หรอื ควบคมุ สถานการณน นั้ ตาํ รวจตองใชเพื่อการควบคุมเหตกุ ารณ หรอื เพือ่ การจับกุมคนรา ยเทาทจ่ี ําเปน มิใชใชเ พอื่ การลงโทษ ทาํ โทษ แกแคน หรอื ทาํ รา ยคนหรือประชาชน โดยไมมีเหตอุ ันสมควร ๒.๒ ขัน้ ตอนการใช ข้ันตอนที่ ๑ ตํารวจท่ีแตงเครื่องแบบ ใหพกซองพรอมใสกระปองบรรจุ สเปรยพริกไทยไวใ นเขม็ ขัดขา งเอวดา นมอื ทีไ่ มถนัด ขน้ั ตอนที่ ๒ เม่ือพบเหตุจะใช ใหตํารวจตะโกนใหคําส่ังบอกกอน หรือ บอกวา ถาไมหยุด จะใชสเปรยพริกไทย “หยุด ถาไมหยุดจะใชสเปรยพริกไทย” พรอมกับชูกระปอง สเปรยพ รกิ ไทยไปทค่ี นราย เพ่ือบอกคนรา ยและประชาชนขา งเคยี งใหทราบ ขน้ั ตอนที่ ๓ ใหต าํ รวจผฉู ดี ใชม อื ขา งทไ่ี มถ นดั ถอื สเปรยพ รกิ ไทย หา งจาก คนรา ยประมาณ ๓ - ๕ ฟตุ เหนี่ยวไกกระปอ งสเปรยพ ริกไทยใหสุดเพอ่ื ฉดี ประมาณครึง่ วินาที หรอื จนกวาคนรา ยจะยอมจาํ นน (ควรฉดี โดยเหนยี่ วไก แลวฉดี คร้งั ท่ี ๒ หรอื ๓ ในทันที ครงั้ ละครึ่งวนิ าที) โดยฉดี ไปทต่ี า ถาคนรา ยสวมแวน ใหฉดี ท่ีหนา ผาก ขนั้ ตอนที่ ๔ เม่ือผูถูกฉีดยอมแลว หรือลมลง หรือหยุดวิวาททําราย หา มฉดี ใสซ ํ้า ใหรบี จบั กมุ และปฐมพยาบาลตอ ไป ó. ¡Òû°Á¾ÂÒºÒÅ ËÃÍ× ¡Òû¯ºÔ ÑμÔËÅ§Ñ ¡ÒÃ㪌 เม่ือคนรายยอมใหจบั ใหน ําตัวคนรา ยมายงั ทโี่ ลง เพ่ือใหอากาศพดั ผานใหส เปรย พรกิ ไทยบรรเทาอาการแสบรอนแกคนราย แลวใหคนรา ยใชน ้าํ เยน็ ลา งหนา ตา จมกู ทันที และเรียก หนว ยปฐมพยาบาล หรือนําสงโรงพยาบาล
๒๒ ¢ÍŒ á¹Ðนํา - ในการใชกระบองยืดขยาย นักเรียนตองตรวจดูอุปกรณวายังอยูในสภาพท่ีใชงาน ไดหรอื ไม - ในการใชสเปรยพริกไทยควรใชในที่โลงแจง ไมสงผลกระทบตอประชาชนทั่วไป ผูฉีดตอ งดูทศิ ทางลมดวย ควรฉีดอยูเหนอื ลม - หามฉีดสเปรยพริกไทยใสไฟ หลอดไฟฟา หรือตะเกียง เพราะบางรุนอาจติดไฟได ถาฉดี เขาไฟโดยตรง - ใหถือวา สเปรยพริกไทย เสมือนอาวุธปน ตองเก็บใหพนมือเด็ก ไมนําออกมาขู จี้ หรือฉีดโดยไมม ีเหตุอนั สมควร ËÑÇ¢ŒÍ·Õè ø ¡Òû͇ §¡¹Ñ àÁèÍ× ¶¡Ù ¤¹ÃŒÒ¨é´Õ ŒÇÂÍÒÇ¸Ø »¹„ ñ. ¤ÇÒÁËÁÒ การแกป ญหาเมอื่ ถกู คนรายจีด้ วยอาวุธปน คือ วธิ ีการที่เจา หนา ทีต่ าํ รวจใชใ นการ แกไขปญ หาเพ่อื ปอ งกันตนเอง เมือ่ ถูกคนรายใชอ าวธุ ปนจี้ในระยะประชิด ò. ËÅ¡Ñ ¾×é¹°Ò¹¡ÒÃá¡»Œ ˜ÞËÒàÁèÍ× ¶¡Ù ¤¹ÃŒÒ¨Õé´ÇŒ ÂÍÒÇ¸Ø »„¹ ๒.๑ วิธีการแกปญหาเมื่อถูกคนรายจ้ีดวยอาวุธปนนี้ใหใชเฉพาะสถานการณท่ี จําเปนเทาน้ัน เชน เม่ือถูกคนรายจ้ี หรือจะยิงในระยะประชิด โดยสถานการณขณะน้ัน บงชี้วา ในทนั ทที นั ใดนนั้ คนรา ยจะยงิ เจา หนา ทท่ี ถี่ กู จอ้ี ยา งแนน อน จงึ ใหใ ชย ทุ ธวธิ นี ี้ แตถ า หากสามารถตอ รอง หรือยืดระยะเวลา หรอื มีวิธีการแกไขปญ หาวิธอี ่ืน กใ็ หใ ชวิธีการเจรจาตอรองนัน้ กอ น ๒.๒ กอนท่ีใชยุทธวิธีน้ี ควรพูดจาตอรอง หรือถามคําถามเพ่ือใหคนรายไดใช ความคิดและเปนการทําลายสมาธิของคนรายในขณะท่ีจะล่ันไกปน ซึ่งจะทําใหการตอบสนองตอ เหตกุ ารณข องคนรายชาลง และมผี ลใหต ัดสินใจลนั่ ไกปน ชาลงตามไปดว ย ๒.๓ ในการฝกปฏิบัติ หากมีการใชอาวุธปนจริง กอนฝกใหตรวจอาวุธปน เชน เดียวกับการฝก ปองกันคนรา ยแยง อาวุธปน ó. ÂØ·¸Ç¸Ô ÕตําÃǨ㹡ÒÃᡌ»˜ÞËÒàÁ×Íè ¶Ù¡¤¹ÃŒÒÂ¨Õ´é ŒÇÂÍÒÇ¸Ø »„¹ ·Ò‹ ·èÕ ñ ¤¹ÃÒŒ ÂãªÍŒ ÒÇ¸Ø »¹„ ¨´éÕ ŒÒ¹Ë¹ŒÒã¹ÃÐÂлÃЪ´Ô μÑÇã¹ÃдºÑ àÍÇËÃÍ× Ë¹ÒŒ Í¡ ขั้นตอนที่ ๑ เมื่อถูกคนรายจ้ดี วยอาวุธปน ทางดานหนา ไมว าจะอยใู น ระดับเอวหรือหนาอก โดยใชมือเดียวหรือสองมือก็ตาม ใหตํารวจยกมือขึ้นในลักษณะยอมแพ อยูระดบั ท่ใี กลเคียงกบั แนวปน ยืนแยกเทาหางกนั ในระยะหวั ไหล ยอ เขาเลก็ นอ ย (รูป ๘.๑) ข้นั ตอนที่ ๒ ใชมือซายตบจับท่ีโครงปนดานบน ดันปากกระบอกปน เฉียงออกแนวลําตัว พรอมกับถอยเทาขวามาดานหลัง เพื่อใหพนวิถีกระสุน แขนเหยียดตึงกดให แนวลาํ กลอ งปน ลงพ้ืน (๘.๒)
๒๓ ขั้นตอนท่ี ๓ ใชมือขวาตบจับใตลํากลองปน บิดใหลํากลองปนเขาหา คนราย (๘.๓) ขัน้ ตอนท่ี ๔ บังคับลํากลองปนใหผานตัวคนรายมาทางดานซายของ ตาํ รวจ กา วเทา ซา ยถอยมาดา นหลงั แลว ปลดปน จากมอื คนรา ย พรอ มกบั ถอยหลงั ออกใหห า งจากคนรา ย ชักอาวุธปน ประจํากายออกมาจากซอง ออกคําสัง่ ใหคนรา ยนอนคว่าํ หนาลงพ้นื (รูป ๘.๔) รูป ๘.๑ รปู ๘.๒ รูป ๘.๓ รูป ๘.๔ ·Ò‹ ·èÕ ò ¤¹ÃŒÒÂãªÍŒ ÒÇØ¸»¹„ ¨éÕ´ŒÒ¹Ë¹ÒŒ ã¹ÃÐÂлÃЪ´Ô μÑÇã¹ÃдºÑ ÈÃÕ ÉÐ ขั้นตอนที่ ๑ เมอ่ื ถกู คนรา ยจดี้ ว ยอาวธุ ปน ทางดา นหนา ในระดบั ศรี ษะ โดยใชม อื เดยี วหรอื สองมอื กต็ าม ใหต าํ รวจยกมอื ขน้ึ ในลกั ษณะยอมแพอ ยใู นระดบั ใกลเ คยี งกบั แนวปน ยนื แยกเทาหางกนั ในระยะหัวไหล ยอเขา เล็กนอย (รปู ๘.๕) ข้ันตอนที่ ๒ ยอตัวลง พรอมกับใชมือท้ังสองขางจับท่ีตัวปน โดยให มือซายจับท่ีทายปนเพ่ือมิใหคนรายดึงปนถอยกลับไปได หงายมือขวาจับใตแนวลํากลองปน ดนั ปากกระบอกปน ช้ีไปทางดานบนแลว บดิ ใหลาํ กลอ งหนั ไปทางขวา แขนเหยียดตึง (รปู ๘.๖)
๒๔ รูป ๘.๕ รปู ๘.๖ รูป ๘.๗ ขั้นตอนที่ ๓ ใชมือซายกด สวนทายของปนลง มือขวาผลักลํากลองปนผานหนา คนราย กาวเทาซายถอยมาดานหลัง แลวปลดปนออก จากมอื คนราย พรอมกบั ถอยหลังออกใหห างจากคนรา ย ชักอาวุธปนประจํากายออกมาจากซอง ออกคําสั่งให คนรา ยนอนควํ่าหนา ลงพ้นื (รปู ๘.๗ - ๘.๘) รูป ๘.๘ ·‹Ò·Õè ó ¤¹ÃŒÒÂãªÍŒ ÒÇ¸Ø »¹„ ¨Õé·Ò§´ÒŒ ¹ËÅѧã¹ÃдºÑ àÍÇ Ë¹ŒÒÍ¡ ËÃ×ÍÈÃÕ ÉÐ ขนั้ ตอนท่ี ๑ พยายามตรวจสอบวา คนรา ยใชป น จอ้ี ยใู นระดบั ใด อาจจะ สงั เกตจากกระจกเงาทสี่ ะทอ นภาพมา(ถา ม)ี หรอื พยายามถอยหลงั ไปใหร วู า กระบอกปน สมั ผสั อยทู ใี่ ด หรือการชําเลืองดูดานหลัง เมื่อถูกคนรายจ้ีดวยอาวุธปนทางดานหลัง ดวยมือเดียวหรือสองมือ ใหต าํ รวจยกมอื ขนึ้ ในลกั ษณะและใหอ ยใู นระดบั ใกลเ คยี งกบั แนวปน ยนื แยกเทา หา งกนั ในระยะหวั ไหล ยอ เขาเลก็ นอ ย (รปู ๘.๙) ขั้นตอนที่ ๒ ใชเ ทา ขวาเปน หลกั และจดุ หมนุ เบย่ี งตวั หนั กลบั หลงั โดยการสบื เทา ซา ยเขา หาตวั คนรา ยพรอ มกบั ใชท อ นแขนขวาปด ทอ นแขนของคนรา ย เพอ่ื ใหพ น จากแนววถิ กี ระสนุ ใชม อื ซา ยจบั ทโ่ี ครงปน ดา นบนใหแ นน แขนเหยยี ดตงึ หงายมอื ขวาจบั โครงปน ดา นลา ง ใหล าํ กลอ งปน ชีล้ งพน้ื (รูป ๘.๑๐) ข้ันตอนที่ ๓ กา วเทา ซา ยถอยมาดา นหลงั พรอ มบงั คบั ลาํ กลอ งปน ใหผ า นตวั คนรายมาทางดานซายของตํารวจ แลวปลดปนออกจากมือคนราย พรอมกับถอยหลังออกใหหาง จากคนรา ย ชกั อาวธุ ปน ประจาํ กายออกมาจากซอง ออกคาํ สง่ั ใหค นรา ยนอนควา่ํ หนา ลงพน้ื (รปู ๘.๑๑)
๒๕ รูป ๘.๙ รูป ๘.๑๐ รปู ๘.๑๑ ËÑǢ͌ ·èÕ ù ¡Òû‡Í§¡Ñ¹¡Ã³¤Õ ¹ÃÒŒ Âá‹§ÍÒÇØ¸»„¹¨Ò¡«Í§¾¡·èÕàÍÇ เจาหนาท่ีตํารวจจําเปนตองพกอาวุธปนประจํากายอยูตลอดเวลาที่ปฏิบัติหนาท่ี โดยตํารวจในเคร่ืองแบบจะพกอาวุธปนไวในซองติดไวกับเข็มขัดที่บริเวณเอวดานขวา เน่ืองจาก ถนัดขวาเปนสวนใหญ ในการปฏิบัติงานของเจาหนาที่ตํารวจไมวาจะเปนการตรวจคนผูตองสงสัย การจูโจมเขาจับคนราย หรือแมกระทั่งการเดินตรวจตรา ทามกลางประชาชนในสถานการณตางๆ เหลาน้ีเจาหนาท่ีตํารวจมีโอกาสท่ีจะเผลอ หรือไมทันระวังตัวและอาจถูกแยงปนออกจากซองปนได ซึ่งเปนอันตรายอยางย่ิงหากคนรายไดนําปนนั้นกลับมาทําราย หรือฆาตํารวจ หรือนําปนไปกอเหตุ รายแรงอ่ืนๆ คนรายสามารถเขาแยงปนจากซองท่ีพกอยูท่ีเอวของเจาหนาท่ีตํารวจ ทั้งจากดานหนา ดานหลัง และดานขา ง ซึ่งมียทุ ธวิธใี นการปอ งกันการแยง ปน จากดา นตางๆ ดงั น้ี ñ. àÁÍè× ¤¹ÃÒŒ Âá§‹ ÍÒÇØ¸»¹„ ¨Ò¡´ŒÒ¹Ë¹ÒŒ ËÃÍ× ´ŒÒ¹¢ÒŒ § ขน้ั ตอนท่ี ๑ ทันทีที่รูตัว ตํารวจตองรีบใชมือท้ังสองขางกดทับลงไปบนมือของ คนรายอยา งเรว็ ทันที เพอ่ื มใิ หคนรา ยดงึ ดามปน ออกไปจากซองได พรอมกบั ยอเขาท้งั สองลงโดยยนื ปกหลกั ใหเ ต็มฝา เทา ทงั้ สองขา ง เพื่อใหย ืนไดมัน่ คง และทําใหแ ขนและศอกของคนรายตึง (รปู ๙.๑) ขั้นตอนที่ ๒ ใชเ ทา ซา ยเปน หลกั มัน่ กาวเทาขวาถอยหลัง ใชศอกขวาตี หรือกด เขาไปท่ีศอกของคนราย แลวสะบัดสะโพกหมุนไปทางดานหลังอยางแรงและเร็ว โดยสะบัดหมุนไป ใหม ากทส่ี ดุ เทาทีจ่ ะทาํ ได (รูป ๙.๒) ข้นั ตอนท่ี ๓ กา วเทา ซา ยถอยหลงั สะบดั สะโพกหมนุ ไปทางซา ยอยา งแรงและเรว็ เพื่อใหคนรา ยปลอยอาวุธปนจากมอื (รปู ๙.๓)
๒๖ รูป ๙.๑ รปู ๙.๒ รูป ๙.๓ ò. àÁÍ×è ¤¹ÃŒÒÂá§‹ ÍÒÇØ¸»„¹¨Ò¡´ŒÒ¹ËÅ§Ñ ขัน้ ตอนท่ี ๑ เมือ่ คนรา ยเขาแยงปนจากดานหลงั ตํารวจใชม ือท้ังสองขา งกดทับ ลงไปบนมือของคนรายอยางเร็วทันที เพ่ือมิใหคนรายดึงดามปนออกไปจากซองได พรอมกับยอเขา ทั้งสองลงโดยยนื ปก หลักใหเ ตม็ ฝาเทาท้งั สองขา ง เพอ่ื ใหย นื ไดม น่ั คง (รปู ๙.๔) ขนั้ ตอนที่ ๒ ใชเทาซายเปนหลักมั่น ใชศอกขวาตีไปท่ีขอศอกของคนรายแลว สะบัดสะโพกหมุนไปทางดานหนาอยางแรงและเร็ว โดยสะบัดหมุนไปใหมากที่สุดเทาท่ีจะทําได เพ่ือใหค นรายเสยี หลกั (รปู ๙.๕) ขัน้ ตอนท่ี ๓ กาวเทาซา ยไปดานหนา สะบดั สะโพกหมนุ ตวั ไปทางขวาอยางแรง และเรว็ โดยใชศอกขวา ตไี ปท่ีศอกขวาของคนราย เพือ่ ใหคนรายปลอ ยมอื จากอาวุธปน (รูป ๙.๖) รูป ๙.๔ รูป ๙.๕ รูป ๙.๖
๒๗ ËÇÑ ¢ÍŒ ·Õè ñð ¡Òû‡Í§¡Ñ¹¡Ã³¤Õ ¹ÃÒŒ ÂãªÍŒ ÒÇ¸Ø ÁÕ´ÊÑé¹ เมื่อเจาหนาท่ีตํารวจตกอยูในสถานการณท่ีคนรายมีอาวุธมีดส้ันเปนอาวุธ มุงหวังท่ีจะ ทํารายตํารวจ หรือเพ่ือใหหลุดพนจากการจับกุม ในสถานการณเชนนี้มีความเส่ียงอันตรายและหาก พลาดพล้ังถูกอาวุธมีดของคนรายในท่ีสําคัญของรางกาย ก็อาจมีอันตรายถึงแกชีวิตได ตํารวจตอง เรียนรแู ละใชยุทธวิธใี นการปอ งกันตวั จากคนรายใชอาวธุ มดี สัน้ ดงั ตอไปนี้ ñ. ¡Ã³¤Õ ¹ÃÒŒ Â㪌ÁÍ× ¢ÇÒ¶Í× ÁÕ´¿¹˜ à©ÂÕ §¨Ò¡º¹¢ÇÒŧÁÒŋҧ«ŒÒ ขนั้ ตอนที่ ๑ กา วเทา ซา ยประชดิ คนรา ย ใชแ ขนซา ยทอ นลา งรบั ปะทะกบั แขนซา ย ทอ นลา งของคนราย (รูป ๑๐.๑) ข้ันตอนท่ี ๒ ใชแขนขวาทอนลางสอดใตแขนซายทอนลางของคนราย แลวผลัก แขนคนรา ยไปทางดานขวา (รูป ๑๐.๒) ขน้ั ตอนท่ี ๓ ใชมือซายจับที่หัวไหล มือขวาจับท่ีแขนขวาทอนลางของคนราย กา วเทาขวามาดา นหนา พรอมออกแรงผลักคนรายอยา งแรง (รูป ๑๐.๓) รปู ๑๐.๑ รปู ๑๐.๒ รูป ๑๐.๓ ò. ¡Ã³Õ¤¹ÃÒŒ ÂãªÁŒ Í× ¢ÇÒ¶Í× ÁÕ´¿˜¹à©ÂÕ § ¨Ò¡º¹«ÒŒ ÂŧÁÒŋҧ¢ÇÒ ข้ันตอนที่ ๑ กาวเทาขวาประชิดคนรายพรอมกับใชแขนขวาทอนลางยกข้ึนรับ ปะทะแขนทอ นลา งขวาของคนรา ยไว (รปู ๑๐.๔) ขนั้ ตอนที่ ๒ กดแขนขวาทอนลางของคนรายใหต่ําลง พรอมกับใชมือซายจับ บริเวณหัวไหลขวาของคนรา ย (รปู ๑๐.๕) ขน้ั ตอนท่ี ๓ กาวเทาซา ยไปดา นหนา ออกแรงผลกั คนรา ยอยางแรง (รูป ๑๐.๖)
๒๘ รูป ๑๐.๔ รูป ๑๐.๕ รูป ๑๐.๖ ó. ¡Ã³¤Õ ¹ÃŒÒÂ㪌ÁÍ× ¢ÇÒ¶×ÍÁ´Õ ¿¹˜ ÃдѺàÍÇ ¨Ò¡´ŒÒ¹¢ÇÒ仫Ҍ  ขน้ั ตอนที่ ๑ กาวเทาซายพรอมกับใชแขนซายทอนลางรับปะทะที่แขนขวาทอนลาง ของคนราย (รปู ๑๐.๗) ขน้ั ตอนท่ี ๒ ใชสน มือขวากระแทกทีป่ ลายคางของคนรา ย (รปู ๑๐.๘) ขั้นตอนที่ ๓ กา วเทา ขวาไปดา นหนา ออกแรงผลักคนรา ยอยา งแรง (รูป ๑๐.๙) รปู ๑๐.๗ รูป ๑๐.๘ รปู ๑๐.๙
๒๙ ô. ¡Ã³¤Õ ¹ÃŒÒÂ㪌Á×Í¢ÇÒ¶Í× ÁÕ´ ¿¹˜ ÃдºÑ àÍÇ ¨Ò¡´ŒÒ¹«ŒÒÂ仢ÇÒ ข้ันตอนท่ี ๑ กาวเทาขวาประชิดคนราย พรอมกับใชแขนขวาทอนลางรับปะทะ ท่แี ขนขวาทอ นลางของคนราย (รูป ๑๐.๑๐) ข้นั ตอนท่ี ๒ ใชม อื ซา ย ผลกั ดันคนรายตรงหวั ไหลขวา (รปู ๑๐.๑๑) ขนั้ ตอนที่ ๓ กาวเทาซายไปดานหนาพรอมออกแรงผลักคนรายอยางแรง (รูป ๑๐.๑๒) รปู ๑๐.๑๐ รูป ๑๐.๑๑ รูป ๑๐.๑๒ õ. ¡Ã³¤Õ ¹ÃÒŒ Â㪌Á×Í¢ÇÒ¶Í× ÁÕ´á·§μç·ÅÕè íÒμÇÑ ´ÒŒ ¹Ë¹ŒÒ ขน้ั ตอนท่ี ๑ กาวเทาซายไปทางดานซายพรอมกับใชแขนซายทอนลางปดแขน ของคนรายออกมาทางดานขวา (รูป ๑๐.๑๓) ขั้นตอนท่ี ๒ ใชม อื ท้งั สองขา งผลักท่ีหัวไหลของคนราย (รปู ๑๐.๑๔) ขน้ั ตอนท่ี ๓ กาวเทา ซายไปขางหนาออกแรงผลักคนรายอยา งแรง (รูป ๑๐.๑๕) รูป ๑๐.๑๓ รูป ๑๐.๑๔ รปู ๑๐.๑๕
๓๐ ö. ¡Ã³Õ¤¹ÃÒŒ Â㪌Á×Í¢ÇÒกาํ Á´Õ ¨ŒÇ§á·§¨Ò¡º¹Å§Å‹Ò§ ขั้นตอนท่ี ๑ กา วเทา ซา ยเขา หาคนรา ยพรอ มกบั ยกแขนทง้ั สองขา งไขวข น้ึ รบั ปะทะ แขนลา งขวาของคนรายไว พรอ มกับยอ ตวั ลง (รปู ๑๐.๑๖) ขัน้ ตอนท่ี ๒ ใชแขนขวาทอนลางปดแขนของคนรายออกมาทางดานขางขวา ของเจา หนาที่แลว ใชม ือซา ยจบั ที่หัวไหลของคนราย (รปู ๑๐.๑๗) ข้ันตอนที่ ๓ กาวเทาซายมาดานหนาพรอมออกแรงผลักคนรายอยางแรง (รปู ๑๐.๑๘) รูป ๑๐.๑๖ รปู ๑๐.๑๗ รูป ๑๐.๑๘ ยทุ ธวธิ กี ารปอ งกนั ตวั กรณคี นรา ยใชอ าวธุ มดี ดงั กลา วมาแลว ขา งตน เปน ปอ งกนั ตวั ในระยะประชิด ในลักษณะจวนตัวเทาน้ัน ไมมีวัตถุประสงคในการตอสูเพ่ือแยงมีดจากคนราย เพราะในทางปฏิบัติแลวเจาหนาที่ตํารวจไมมีความจําเปนท่ีจะตองเขาไปเสี่ยง หากปองกันการจูโจม จากคนรายไดแลว ตํารวจหลบหนีออกหางก็ปลอดภัยแลว หรืออาจจะหาอาวุธอ่ืน เชน กระบอง ทอนไม ทอนเหล็ก หรือสิ่งของอื่นคลายกัน ตีปองกันตัวไดโดยงาย หรืออาจจะใชอาวุธปนขูบังคับ คนรายก็ได ตามแตส ถานการณแ ละความรนุ แรงทเ่ี กดิ ขึน้
๓๑ º··èÕ ò ¡ÒÃࢌÒμÃǨ¤¹Œ áÅСÒû¯ÔºμÑ ¡Ô ÒÃã¹ÍÒ¤Òà Building Entry & Close Quarter Battle (C.Q.B.) เปนหลักยุทธวิธีของการปฏิบัติการในอาคารท่ีปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงของ เจาหนา ท่ีตํารวจ ËÑǢ͌ ·èÕ ñ ¡ÒÃ㪌ÍÒÇ¸Ø »„¹·Ò§ÂØ·¸ÇÔ¸Õ เปนรูปแบบการฝกเพื่อใชในการตรวจคนภายในอาคารโดยเฉพาะ เพื่อใหเกิดความ ปลอดภัยกบั เจา หนา ทีใ่ นชุดปฏิบัตกิ าร เม่ือมกี ารเคลื่อนท่ใี นทศิ ทางตางๆ ๑. ทาเตรียมใชปน เปนการถือปนพรอมใชโดยถือปนดานหนาสองมือ ระดับเข็มขัด ปากกระบอกเฉียงลงพื้น ทา เตรียมใชปน ทา เตรียมใชปน ๒. ทา พกั ปน เปน การจบั ปน ดว ยมือถนดั ดงึ ปนไวช ดิ ลําตัวทรี่ ะดบั หนาอก ขอ ศอกชดิ ลาํ ตวั ทงั้ สองขา ง หกั ขอ มอื ทถ่ี อื ปน ลง โดยแบนปน วางไวห ลงั มอื ทไี่ มถ นดั ปากกระบอกเฉยี งลงพน้ื ดา นขา ง ทาพกั ปน ทา พักปน
๓๒ ๓. ทา ใชป น เปน ทา ตรวจการและควบคมุ พนื้ ทโี่ ดยพงุ ปน ไปดา นหนา ปากกระบอกปน ชี้ไปทเ่ี ปาหมาย ศูนยปนอยรู ะดบั คางและมองดว ยตาท้งั สองขาง ทาใชปน ทา ใชป น ๔. ทาดึงปน เปนการถือปน จับปนสองมือ ดึงปนชิดลําตัวระดับหนาอก ศอกแนบ ลาํ ตวั ทั้งสองขา ง โดยปนช้ีไปยังเปาหมาย ทาดึงปนชดิ ตัว ทาดงึ ปน ชิดตัว
๓๓ ËÑǢ͌ ·Õè ò ¡ÒÃà»´ ÁÁØ Áͧâ´Â¡ÒÃầ‹ ¾¹é× ·àèÕ »¹š ÊÇ‹ ¹æ (slice the pie) ¡ÒÃáͺ´àÙ ÃÇç (quick peak) ò.ñ ¾×é¹·èàÕ ÊÕÂè §Í¹Ñ μÃÒ พน้ื ทเ่ี สย่ี งอนั ตรายคือ พนื้ ที่ทเ่ี สี่ยงตอการถกู ยิง เชน พ้นื ท่อี ันตราย ๒.๑.๑ ท่เี ปด โลง ๒.๑.๒ ประตูทางเขา ๒.๑.๓ ทางเดนิ ภายในอาคาร ๒.๑.๔ หนาตา ง (ชองบนกาํ แพงหรอื ประตู) ๒.๑.๕ ปลองบนั ได ËÅÑ¡»¯ºÔ μÑ Ô ๑) หลีกเลย่ี งการ หยดุ ชะงัก หรือ รีรอ ในพนื้ ท่ีอันตราย ๒) เคล่อื นท่ีผานพืน้ ที่อนั ตรายอยางรวดเร็วแตราบร่ืน
๓๔ ò.ò ¡ÒÃầ‹ ¾é¹× ·àÕè »¹š ʋǹæ (Slice the Pie) ภาพแสดงการทาํ Slice the pie ๒.๒.๑ การตรวจคนตามมมุ ๒.๒.๒ หากชกั อาวุธออกมาแลว ใหเ ลง็ ไปทีภ่ ยั คุกคาม ๒.๒.๓ สถานการณจะเปนตัวกําหนดความเร็วในการตรวจคน ๒.๒.๔ ขยายระยะหา งจากจดุ ปลายสดุ หรอื มมุ ใหม ากที่สุด ๒.๒.๕ ควรใชสายตาตรวจดูจากบนลงลาง จากใกลไ ปหาไกล ¢ŒÍ¾Ô¨ÒÃ³Ò·Ò§ÂØ·¸ÇÔ¸Õ ๑) อยา ใชศ นู ยเ ลง็ ของปน การหลบั ตาลงหน่งึ ขา งจะลดทัศนวสิ ยั ลง ๕๐% ๒) เบย่ี งตัวและอาวธุ ของทา น เพ่อื ใหต ัวทานกลายเปน เปาเลก็ ๆ ๓) แทนทจ่ี ะถอื ปน ไวใ นระดบั ตา ซงึ่ จะทาํ ใหบ งั พนื้ ทตี่ รวจการ ใหถ อื ปน อยใู นระดบั คาง เพอื่ เปดทัศนวิสัยการตรวจการใหกวางไว ๔) นําการตรวจคนดวยปากกระบอกปนและสายตา ๕) สายตา Áͧä»ã¹·ÈÔ ·Ò§ã´ ¡ãç ËàŒ Å§ç »Ò¡¡Ãк͡»¹„ ä»ã¹·ÈÔ ·Ò§¹¹Ñé àÊÁÍ ๖) หลกี เลี่ยงการทําตัวเองใหเปนท่ีสนใจ ใหใ ชอ าวธุ นาํ หนาเสมอ ๗) มองหาส่ิงบง ชี้ถงึ เปา หมาย ๘) เสยี ง กลน่ิ และเงา ๙) รองเทา หรือ อวยั วะใดๆ
๓๕ ò.ó ¡ÒÃáͺ´âÙ ´ÂàÃÇç (Quick Peek) การแอบดโู ดยเรว็ (Quick Peek) คอื การตรวจสอบโดยการเขา ตรวจการณด ว ยความรวดเรว็ โดยทีค่ นรายไมร ูต วั หรือไมไ ดต ัง้ ตัว เพื่อใหท ราบถงึ ภัยคุกคามท่อี ยใู นมุมท่ีเปนปญ หา ๒.๓.๑ ใชส าํ หรับการระบุภยั คุกคามตา งๆ และในการเคลยี รม มุ ทเ่ี ปน ปญหา ๒.๓.๒ การตรวจดอู ยา งรวดเรว็ ดว ยสายตา (เปรยี บเทยี บกบั การถา ยภาพอยา งรวดเรว็ ) ไมใชก ารตรวจดอู ยางละเอียด (เปรียบเทยี บกับภาพยนตร) ๒.๓.๓ จาํ กัดเวลาท่ีจะตองอยใู นกรวยแหงความตาย ๒.๓.๔ ตองระวงั อยาเผยตัวมากเกินไป ๒.๓.๕ ความตอ เนอ่ื ง รวดเร็ว และราบรนื่ ๒.๓.๖ การลงมือกอน มกั มีชัยเหนือการโตต อบรับมอื เสมอ ๒.๓.๗ บุคคลที่ไมผานการฝกฝน สามารถยกปนท่ีอยูขางลําตัวข้ึนยิงไดภายใน ๐.๔๓ วินาที ๒.๓.๘ เวลาในการตอบโต (อยางนอ ยท่ีสดุ ) -๐.๕ ถงึ ๑.๕ วินาที ò.ô ¡ÒÃà¼ÂμÇÑ ÍÂÒ‹ §จํา¡Ñ´ (ãËŒ¹ŒÍ·ÊèÕ ´Ø )(Limited Exposure) ๒.๔.๑ การใชทก่ี ําบงั อยางเหมาะสม Proper use of cover ๒.๔.๒ ยงิ จากรอบๆ ทก่ี ําบัง ไมใ ชจ ากเหนือทกี่ ําบงั ๒.๔.๓ อยูน อกทีก่ าํ บัง อยาถกู ดดู เขาไปในทก่ี าํ บงั ๒.๔.๔ อยา สละท่กี ําบัง เพื่อใหย งิ ไดถนดั ò.õ ËÅ¡Ñ ¡ÒÃNjҴŒÇ¡ÒÃÅ´¢¹Ò´áÅСÒâÂÒ¢¹Ò´ ๒.๕.๑ การลดขนาด การเผยรา งกายของทา นตอ ผทู เ่ี ปน ภยั คกุ คามใหน อ ยทส่ี ดุ โดยใช ทกี่ ําบงั หรือ การยอ ตัว ลดเปาหมาย ๒.๕.๒ การขยายขนาด รักษาระยะหางจากภัยคกุ คามใหอ ยใู นระยะปลอดภยั
๓๖ ò.ö áÊ´§μÇÑ ÇÒ‹ ໹š ਌Ò˹Ҍ ·ตèÕ าํ ÃǨ! ๒.๖.๑ ควบคุมผตู องหา โดยใชการออกคําสัง่ ท่ีชัดเจนและกระชบั ๒.๖.๒ หลีกเลี่ยงการใชคําวา ขวา ซาย แรงๆ หรือ คอยๆ เชน คอยๆ หมอบลง แตใหระบุใหชัดเจน เชน คุกเขาลง หมอบลง กางแขนออก แยกขาออก หงายฝามอื ขึ้น ฯลฯ ๑) ออกคําส่ังให เจา หนาทีม่ องเหน็ มอื สองขา ง ๒) ออกคําส่งั ให “ขยบั / เดนิ ออกมาในพนื้ ที่ ทสี่ ามารถมองเหน็ ” ¤ÍÂà½Ò‡ ÃÐÇ§Ñ /¤Çº¤ÁØ Á×Íทงั้ สองขา งของผูตองหาไวเ สมอ! ò.÷ ¡ÒäǺ¤ÁØ μÇÑ ¼μŒÙ ŒÍ§ËÒ ๒.๗.๑ เคล่อื นยา ยผตู อ งหาไปในบรเิ วณทเี่ จา หนา ท่สี ามารถคงการมองเห็นไวไ ด ๒.๗.๒ ย่ิงภัยคุกคามมีสูงเทาใด ย่ิงตองใหผูตองหาอยูตํ่าลงไปมากเทาน้ัน ทําใหภยั ทีค่ ุกคามน้ัน ราบลงไปกับพ้ืน ๒.๗.๓ สภาพแวดลอมจะเปนตัวกําหนดวาเจาหนาท่ีควรจะเคลื่อนยายผูตองหา ไปท่ใี ด ๒.๗.๔ เจา หนา ทจ่ี ะตอ งเคลอ่ื นยา ยผตู อ งหา อยา ปลอ ยใหผ ตู อ งหาเปน ฝา ยเคลอื่ นยา ย เจา หนา ท่ี ËÑÇ¢ŒÍ·èÕ ó ¡ÒÃà¢ÒŒ μÃǨ¤Œ¹ÍÒ¤Òâͧ਌Ò˹Ҍ ·èÕ ò ¹ÒÂáÅÐÁÒ¡¡ÇÒ‹ ò ¹Ò ó.ñ ËÅ¡Ñ ¡Òþ¨Ô ÒóһÃÐμ·Ù Ò§à¢ŒÒ ๑. ประตูกําลังเปด อยู ๒. ประตูปด กรณปี ระตูเปด ประตปู ด อันตรายมากกวา (หากไมมองไมรูเมื่อมีคน อันตรายนอยกวา (รูเมื่อมีคนออกมา, จะมี ออกมา, จะไมม ีเสียง เสยี งเมอื่ เปดประตู) เขาเคลียรก อ น เขา เคลยี รท หี่ ลัง เคลอื่ นทผ่ี า นตอ งมกี ารตรวจการ (slice the pie) เคลื่อนท่ีผานตองควบคุมไวตลอดเวลา (เอาปน จอ), ระวังสงั เกตเร่อื งอ่นื ๆ ดว ย (เสยี ง แสง เงา ฯลฯ)
๓๗ ¡Ã³»Õ ÃÐμàÙ »´ การเขา มี ๓ แบบดังน้ี ๑. แบบไขว crisscross ๒. แบบตะขอ button hook
๓๘ ๓. แบบผสม mix ó.ò ËÅÑ¡¡ÒÃࢌÒËÍŒ § ó.ò.ñ ¡Ã³»Õ ÃÐμÙ»´ ÇÔ¸Õà»´ »ÃÐμÙ ๑) ประตูเปดเขา - เจา หนาท่ีอยูใ กลลูกบดิ เปน ผูเ ปด - Slice the pie เพอ่ื ตรวจสอบ (จะทาํ หรอื ไมก ไ็ ด แลว แตส ถานการณ หรอื หวั หนา ชดุ ) ๒) ประตูเปดออก - ประตเู ปดออกดานไหน ใหเจา หนาทดี่ า นนัน้ เปน ผเู ปด - Slice the pie เพอ่ื ตรวจสอบ (จะทาํ หรอื ไมก ไ็ ด แลว แตส ถานการณ หรอื หวั หนา ชดุ ) ó.ò.ñ ¡ÒÃà¤Åè×͹·Õáè ººÊͧ¤¹ ๑) การส่อื สารคอื หัวใจ ๒) ดว ยคําพูด หรือ ดว ยทา ทางหรอื สญั ญาณ (ทไ่ี มใ ชคําพูด) ๓) เนนการใชอ าวธุ ปน โดยแนวปน ใหป ลอดภยั ๔) ไวใจในคูห ูของทาน ๕) จํา กฎของแสงเลเซอร (laser rule) ไว จินตนาการวา.... - มีลําแสงเลเซอรออกจากปากกระบอกปนของทานอยูตลอดเวลา - เลเซอรจะทําลายทกุ สง่ิ ท่ลี าํ แสงสัมผัส - เลเซอรจ ากกระบอกปนของทานกําลงั เล็งไปทไ่ี หน?
๓๙ ๖) ยังสามารถใชท ้ังสามเทคนิคในการเคล่อื นที่ของทีมไดอ ยู ๗) การเคลื่อนแบบพลวตั (ไมห ยุดน่งิ ) ๘) ใชเ ทคนคิ การทาํ Slice the pie การทาํ Quick peak การเผยตวั อยา งจาํ กดั (Limited Exposure) เปน อีกทางเลอื กทจ่ี ะชวยใหเ จา หนา ที่ปลอดภัยขนึ้ กอ นเขาตรวจคน ภายในหอ ง à¨ÒŒ ˹ŒÒ·èÕËÁÒÂàŢ˹§èÖ นํา˹ŒÒ ਌Ò˹Ҍ ·ÕËè ÁÒÂàÅ¢Êͧä»Â§Ñ ·ÔÈ·Ò§μç¢ÒŒ Áâ´Âμ‹Íà¹Íè× §¡¹Ñ à¨ÒŒ ˹Ҍ ·áèÕ μ‹ÅйÒÂà½Ò‡ ÃÐÇ§Ñ ¾¹é× ·èÕÃºÑ ¼´Ô ªÍº¢Í§μ¹ แบบ หนา กระดาน แบบ มมุ หอ ง
๔๐ ๙) เคลยี รพ น้ื ทร่ี บั ผดิ ชอบสว นของทา นแมว า เพอ่ื นของทา นจะเผชญิ กบั ภยั ทค่ี กุ คามกต็ าม ตอ งทาํ ใหผูตองหาอยูในสถานะที่ “ไมมที างชนะ” ๑๐) ไมป ลอ ยใหผ ตู อ งหามเี วลาไดค ิดหรอื โตต อบ ๑๑) ใหใชห ลกั การลงมอื กับการโตตอบ ใหเ ปน ประโยชนกับตวั ทานเอง ๑๒) เขา ไปใหลึกเพียงเทา ทจี่ ําเปนสาํ หรบั การเคลยี รหองเทานนั้ ๑๓) ทจี่ าํ เปน อยา งทสี่ ดุ คอื เจา หนา ทตี่ อ งเขา สหู อ งพรอ มๆ กนั จรงิ ๆ โดยไมม ชี อ งวา ง ระหวา งตวั เจาหนาทที่ งั้ สอง หรือมีนอ ยทีส่ ุด ๑๔) ทําใหเจา หนาทีส่ ามารถคอยคุมกัน สวนของรา งกายของคูหูท่หี นั ไปทางพ้ืนท่อี นั ตรายได ó.ò.ó ʧèÔ สาํ ¤ÑÞ·èÕ¤ÇÃμÃÐ˹¡Ñ ๑) การสอื่ สารทางวาจาของเจา หนาที่ ๒) เทคนคิ การเขาสูหอง ๓) กอ นเขา ประตูคนแรกยนื หา งจากขอบประตปู ระมาณ๑ฟตุ คนตอ ไปเรยี งเปน แถวตอน ๔) ไวใจคหู ขู องทาน ๕) วนิ ัยในการใชอาวธุ (นวิ้ ไมเ ขา โกรง ไกปน , แนวปน ไมห ันหาเพอ่ื น) ๖) à¨ÒŒ ˹Ҍ ·ËèÕ ÁÒÂàÅ¢Êͧ¨ÐμŒÍ§μÒÁμÔ´¤ÙË‹ àÙ ¢ŒÒä»ã¹ËŒÍ§ (á·º¨Ð¢èÕËÅ§Ñ à¢ÒŒ ä») ระหวางที่ตรวจคนภายในหอง เจาหนาท่ีทั้งสองนายจะคงอยูในตําแหนงท่ีคูขนานกัน โดยตลอดโดยใหร ะวงั การยิงใสก นั เองไวเสมอ มองกวาดสายตาภายในหองอยางรวดเร็ว แลวรีบตรวจคนมุมหอง (hard corner) ท่ีตัวเองรบั ผิดชอบ ทยี่ งั มองไมเ หน็ แลว จงึ ตรวจคนภายในหองไปจนสุดหอ ง รปู แสดงการตรวจคนหอ งแบบเจา หนาท่ี ๒ นาย
๔๑ ¢ÍŒ ¤Ô´àμÍ× ¹ã¨ การเขาตรวจคนอาคารโดยใชเจาหนาที่ ๒ นาย ไมไดมีรูปแบบที่ตายตัว ข้ึนอยูกับ สภาพของส่ิงปลูกสราง แตการเขาตรวจคนแตละคร้ังจะตองมีความระมัดระวังอยางสูงอยูตลอดเวลา ที่สําคัญคือไมประมาท คิดในสิ่งท่ีมันจะเกิดขึ้นจะตองเลวรายท่ีสุดไวกอน เพื่อจะไดมีการระวัง ปอ งกันที่ดีทีส่ ดุ อยูเสมอ ó.ó à·¤¹¤Ô ¡ÒÃà¤ÅÕÂÃÅ¿Ô μ ๑) เจา หนา ทไ่ี มค วรยนื ตรงหนาประตูลิฟต ควรยนื ดา นขา งใดขา งหนงึ่ ๒) ถา ลฟิ ตเ ปด ดา นเดยี วจากดา นขา ง ประตลู ฟิ ตเ ปด ไปทางดา นไหนใหไ ปเตรยี มพรอ ม ทางดานนนั้ ๓) ถา ประตลู ฟิ ตเ ปด จากตรงกลาง ใหไ ปเตรยี มพรอ มทางดา นขา งใดขา งหนง่ึ (ปอ งกนั การยงิ กันเอง cross fire) ๔) เมอ่ื ลฟิ ตเปดควรมกี าร Slice the pie กอ นเขาลฟิ ต ๕) เมอ่ื เขา ลิฟตแลว อยา ลืมดดู านบนเพดานของลิฟต รปู การตรวจคน ลฟิ ต
๔๒ ó.ô à·¤¹Ô¤¡Òâֹé ŧºÑ¹ä´ ó.ô.ñ ¡Òâ¹éÖ Å§º¹Ñ ä´â´Â਌Ò˹ŒÒ·èÕ ò ¹Ò การปฏบิ ตั กิ ารโดยใชเ จา หนา ที่ ๒ นาย ใหส ลบั กนั ทาํ Slice the pie เปด มมุ แลว หยดุ ควบคมุ พื้นทีเ่ ปนระยะ ข้นึ ลง จนกวาจะถึงพื้นท่เี ปา หมาย ó.ô.ò ¡ÒâéֹŧºÑ¹ä´â´Â਌Ò˹Ҍ ·èÕ ÁÒ¡¡ÇÒ‹ ò ¹Ò การปฏิบตั กิ ารโดยใชเจา หนา ท่ีมากกวา ๒ นาย ใหท ํา Slice the pie เปด มมุ ทลี ะคน แลวหยุดควบคุมพ้ืนท่ีเปนระยะ เชนเดียวกับแบบใชเจาหนาที่ ๒ นาย แตลําดับการเปดมุมเปน ดงั นี้ เมื่อคนแรกทํา Slice the pie แลวหยุดควบคุมพื้นที่ ใหคนท่ีอยูตําแหนงสุดทายของ ชดุ ปฏิบตั กิ าร ทํา Slice the pie ตอ เนอ่ื งจากคนแรกแลว วนไปเรอ่ื ยๆ จนกวาจะถึงพ้นื ทีเ่ ปา หมาย ดังแผนภาพ รปู ท่ี ๑ รูปที่ ๒ รูปที่ ๓ รปู ที่ ๔
๔๓ ó.õ ¡ÒÃà´Ô¹¼Ò‹ ¹·Ò§à´Ô¹ã¹ÍÒ¤Òà ใหเจาหนา ท่เี คลื่อนทไ่ี ปพรอมกัน โดยเดนิ ไหลชิดกันไปดานหนา และเจาหนาท่คี นหนง่ึ หันหนา กลับไปตรวจการดา นหลงั เปนครัง้ คราว หากทางเดนิ คบั แคบ ใหเดินลกั ษณะซอ นกนั กรณที ตี่ อ งเคลื่อนท่ผี านพ้นื ทีอ่ ันตรายใหเ จา หนา ทด่ี านนัน้ เปนผรู ะวงั ปอ งกัน รูปท่ี ๑ คตู รวจปกติ รูปท่ี ๒ คตู รวจระวงั ดานขวา รูปที่ ๓ กรณที างเดินคบั แคบ รปู ท่ี ๔ กรณรี ะวังดานหลงั
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126