Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore วิทยาการคำนวณ

วิทยาการคำนวณ

Published by karndoremon, 2019-05-07 22:25:35

Description: วิทยาการคำนวณ

Search

Read the Text Version

ปการศึกษา 2562 เอกสารแนวทางการจดั การเรยี นการสอน ตามมาตรฐานการเรยี นรแู้ ละตวั ชว้ี ดั กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์ ( ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560 ) ตามหลกั สตู รแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ACT สรปุ หลกั สตู ร LEIAVRENING คำอธบิ ายรายวชิ า โครงสรา้ งรายวชิ า ตวั อยา่ งหนงั สอื เรยี น แผนการจดั การเรยี นรู้ โครงสรา้ งแผน ฯ ตวั อยา่ งแผน ฯ คโคมู่ รอืงสครรา้ ูงคมู่ อื ครู ตวั อยา่ งคมู่ อื ครู ตวั อยา่ งแบบฝกึ หดั ตวั อยา่ ง PowerPoint หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูใอนารจะหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแกิจาไขรณา ยกระดบั ผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี น รยี มความพรอ้ มเต ไทย ใชข้ น้ั ตอนการสอน นำ-สอน-สรปุ -ประเมนิ 4.0Thailand สรา้ งทกั ษะแหง่ ศตวรรษท่ี 21 สร้างนักเรียน สง่ เสรมิ แนวคดิ เชงิ คำนวณ (Computational Thinking) สง่ เสรมิ การเรยี นรแู้ บบ Active Learning

































ภาพที่ 4.4 ตัวอย่างการใชโ ปรแกรมสนทนา เจอกันประมาณสัก 9 โมงนะ 13.22 PM เสารน์ ี้ เราวา่ ง อ่านแล้ว สวัสดีปู ตÑÇอÂา‹ ง การ㪌âปรáกรมÊน·นา 2) โปรแกรมสนทนา (Chat) เปน็ การสนทนาออนไลนผ์ า่ น 13.21 PM 13.20 PM 13.17 PM เครอื ขา่ ยอนิ เทอรเ์ นต็ โดยใชโ้ ปรแกรมสนทนาตา่ ง ๆ เชน่ Line, Facebook Messenger, Skype เป็นต้น วทิ ยาศาสตร์ทบ่ี ้านเราเราจะนดั โปม าทา� รายงาน อา่ นแลว้ โป  ^_^ 13.19 PM อา่ นแล้ว วนั เสารน์ ว้ี า่ งไหม อา่ นแลว้ 13.20 PM 13.15 PM สวสั ดีโป 15 หนังเนสื้อือหเลามอนาี้อจมยีกูในารระปหรวับางปสรงุงตแกรไวขจพิจารณา81 สถานการณ ์ : ปูต้องการ นัดหมายกับโปให้มาท�ารายงาน วิชาวิทยาศาสตร์ที่บ้านของตน ปจู งึ นดั หมายกบั โปผ า่ นโปรแกรม สนทนาไลน์ เพื่อความสะดวก สบาย

3) บ ็ลอก (Blog) เป็นการเ ีขยนเว็บไซต์ ูรปแบบห ่ึนง สามารถท�าไ ้ด ่งาย ้ดวยตนเองและไ ่มเสีย ่คาใ ้ช ่จาย เ ้นนการน�าเสนอ ้ขอ ูมลเฉพาะ ้ดานตามความสนใจ หรือความ ้ตองการของ ้ผูเขียน โดย ูผ้อ่านและ ูผ้เ ีขยนสามารถแสดงความคิดเห็นแลกเป ี่ลยน กันได้ เช่น บ ็ลอกการท่องเ ่ีทยว บ ็ลอกขาย ิสนค้า บ ็ลอก �ทา อาหาร บ ็ลอกการ ึศกษา เป็นต้น ัตวอย่างเว็บไซ ์ตท่ีใ ้หบ ิรการ บล็อก เช่น www.blogger.com, www.bloggang.com, www. medium.com, storylog.co เ ็ปนต้น ภาพที่ 4.5 ตัวอ ่ยางบ ็ลอก ุมม Com Sci ู้ผ ่ีท ีมความช�านาญในการเ ีขยนบล็อก ห ืรอ ้ผู ีท่เ ีขยนบ ็ลอกเ ็ปนอา ีชพ เราจะเรียก ่วา “บ ็ลอกเกอ ์ร (Blogger)” 82 16 หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา

ตÇÑ อ‹าง การใช้ºÅ็อก สถานการณ ์ : คณุ ครูต้องการสรา้ งสอื่ การเรียนร้วู ิชาเทคโนโลย ี (วทิ ยาการคา� นวณ) สา� หรบั นกั เรยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปท ี่ 5 โดยตอ้ งการ ใหน้ กั เรยี นสามารถเขา้ ไปแสดงความคดิ เหน็ หรอื สอบถามขอ้ สงสยั ได้ คณุ ครจู ึงเขยี นบล็อกข้ึนเพ่อื ใช้เปน็ สอ่ื กลางการเรียนรู้ ภาพที่ 4.6 ตวั อย่างการใชบลอ็ ก ¤Ó¶ÒÁ·ŒÒ·Ò¡Òä´Ô ¢¹éÑ Ê§Ù นอกจากการสรา้ งส่อื การเรียนการสอน นกั เรยี นคิดว่า บล็อก สามารถนา� มาใช้ประโยชน์ในด้านการเรียนการสอนไดอ้ ยา่ งไรบ้าง 83 17 หนังเนสื้อือหเลามอนาี้อจมยีกูในารระปหรวับางปสรงุงตแกรไวขจพิจารณา

Sci ใ ้หนักเรียนพิจารณาค�าถามต่อไปนี้ แล้ว ูพด ุคยแลกเป ่ีลยนความ ับน ึทกลงในส ุมด โปรแกรมสนทนา 84 ิคดเ ็หน ักบเ ่ืพอนในห้องเรียน โดยให้ ับนทึกลงในส ุมด บ ็ลอก Com 18 1. อ ิธบายลักษณะของการ ิตดต่อ ่ืสอสาร ่ผานอินเทอ ์รเน็ต ¡Ô¨¡ÃÃÁ แ ่ตละประเภท ีอเมล ƒ½¡ Ñ·¡ÉÐ หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา

ทักษะการเรียนรใู้ นศตวรรษท ี่ 21 3. บอกข้อดขี องการตดิ ต่อ 2. อธบิ ายลา� ดับข้ันตอน 1. ทกั ษะการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ สอ่ื สารดว้ ยโปรแกรมสนทนา การเขา้ ใชง้ านอเี มล 3. ทกั ษะการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ บันทกึ ลงในสมุด 19 4. ยกตัวอยา่ งการนา� รูปแบบการติดตอ่ ส่อื สารผา่ น อินเทอร์เน็ตมาใช้ในการเรยี นการสอน 2. ทกั ษะการสือ่ สาร 85หนังเนสื้อือหเลามอนาี้อจมยีกูในารระปหรวับางปสรงุงตแกรไวขจพิจารณา

2. Íาªญา¡รรÁ·า§ Ô͹à·Í รà ç¹µ 1. 3.การá¾ ่รภา¾อนา¨าร·างออนäÅ ์น ·างการà Ôงน ภาพที่ 4.7 ประเภทของอาชญากรรมทาง ิอนเทอ รเ ็นต อาชญากรรมทางอินเทอ ์รเ ็นต ืคอ การ การก่ออาªÞากรรม 4. การก่ออาªÞากรรม ใช้คอม ิพวเตอร์และเครือข่ายคอม ิพวเตอร์เป็น ภายãนâรงà Õรยน เค ่รือง ืมอในการกระท�าความผิด เ ื่พอให้ผู้อ่ืน 20 เ ิกดความเ ีสยหายหรือเสื่อมเ ีสยชื่อเ ีสยง โดย 2. อาชญากรรมทาง ิอนเทอร์เ ็นตท่ีเกิด ้ขึนบ่อย ๆ แ ่บงออกได้เป็น 6 ประเภท ดังนี้ การลÐà Ôมด Ôล¢ ÔÊ· ìÔ¸ ันกเ ีรยนมี ิว ีธ ÍÒªÞÒ¡ÃÃÁ 6. ปองกันการเ ิกด ·า§ Ô͹à·Í รà ç¹µ อาชญากรรม การก่อการ Œราย ทางอินเทอรเน็ต ทาง¤อÁ¾ิÇเตอ ์ร ีท่อาจเกิด ึ้ขน ักบ ตนเองอ ยางไร 5. การà¨าÐรÐบบ 86 หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา

ผลประโยชน์เปน็ การแลกเปลีย่ น ไปใชป้ ระโยชน์ หรอื นา� มาขม่ ขูเ่ พ่อื เรียกร้องเปน็ การเจาะระบบคอมพวิ เตอร์แล้วนา� ข้อมลู อินเทอร์เน็ต ระบบคอมพวิ เตอร ์ หรอื นา� ขอ้ มลู ทอี่ ยใู่ นระบบ5. การเจาะระบบ เป็นการใช้โปรแกรมคอมพิวเตอร์ในการท�าลายเกิดความเดือดรอ้ นของผู้อน่ื ไปใช้ประโยชนโ์ ดยไมไ่ ด้รับอนญุ าต แล้วทา� ใหผ้ ู้เป็นเจ้าของ4. การก่ออาชญากรรมทางการเงิน เป็นการน�าข้อมูลทางการเงินอนิ เทอรเ์ นต็การเผยแพร่ภาพนิ่งหรือวิดีโอภาพเคลื่อนไหวลามกอนาจารลงบน3. การแพร่ภาพอนาจารทางออนไลน์ เป็นการใช้คอมพิวเตอร์ในรบั อนุญาตลขิ สทิ ธไิ์ ปใชป้ ระโยชน ์ โดยอาจจะนา� ไปจา� หนา่ ยหรอื เผยแพรโ่ ดยไมไ่ ด้2. การละเมิดลิขสิทธิ์ เปน็ การคดั ลอก และนา� ผลงานของผอู้ ่นื ท่ีมีโดยไมไ่ ด้รบั อนุญาต เป็นตน้โทรศพั ทม์ อื ถอื ถา่ ยรปู เพอื่ น แลว้ สง่ ตอ่ ไปยงั บคุ คลอนื่ ผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ในทางท่ีไม่เหมาะสมของนักเรียนโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ เช่น การใช้1. การก่ออาชญากรรมภายในโรงเรียน เป็นการใช้อินเทอร์เน็ต คอมพวิ เตอรข์ องผ้อู ืน่ ออกมาใช้ 21 6. การก่อการร้ายทางคอมพวิ เตอร์ หนังเนสื้อือหเลามอนาี้อจมยีกูในารระปหรวับางปสรงุงตแกรไวขจพิจารณา87 ÁÕǸิ ÕอÐäรº้าง¤รѺ ·¨èÕ Ðª่Çยปอ‡ งกันการàกดÔ อาªÞากรรม·าง

ใน ปจจุบัน ปญหาอาชญากรรมทาง ิอนเทอ ์รเน็ต ีม �จานวนเพิ่ม การ ปองกันอาชญากรรมทางอินเทอรเน็ต 22 มากข้ึน และเ ื่พอเ ็ปนการ ปองกันตนเองจาก ปญหาดังก ่ลาว เราจึง ควรปฏิบั ิตตนตามแนวทางปอง ักนการเกิดปญหาอาชญากรรม หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา88 ทางอินเทอ ์รเ ็นต ดังน้ี 1. ัตดการเ ืช่อมต่ออินเทอร์เน็ต ุทกค ้ัรงห ัลงเลิกใ ้ชงาน 2. การดาว ์นโหลดข้อมูล ไฟล์ ห ืรอเอกสารต่าง ๆ จากอินเทอ ์รเน็ต ควรดาว ์นโหลดจากเ ็วบไซ ์ต ี่ทเ ื่ชอถือไ ้ดเ ่ทา ้ันน 3. ติดต้ังโปรแกรมสแกนไวรัส อ ่ยาง ้นอย 1 โปรแกรม ลงบน เครื่องคอมพิวเตอ ์ร 4. ไ ่มเ ปดเผย ้ขอ ูมล ่สวน ัตวลงบนเว็บไซ ์ต ่ตาง ๆ ห ืรอ ้ถาจ�าเ ็ปน ้ตองเ ปดเผยควรเ ปดเผยเ ่ทาท่ี �จาเ ็ปนเ ่ทา ัน้น 5. ัต้งรหัส ่ผานในการเข้าสู่เค ื่รอง- คอม ิพวเตอร์ใ ้หคาดเดาไ ้ดยาก และไม่บอก ร ัหสในการเข้าเค ่รืองคอม ิพวเตอ ์รให้ ักบ ู้ผอ่ืน รวม ั้ทงเป ่ีลยนรหัส ่ผาน ุทก ๆ 2 - 3 เดือน ¤Ó¶ÒÁ·ŒÒ·Ò¡ÒäԴ é¢Ñ¹ÊÙ§ ันกเ ีรยน ิคด ่วา อะไรเ ็ปนสาเหตุ ี่ทท�าให้เกิดปญหาอาชญากรรม ทางอินเทอร์เ ็นต

ทักษะการเรยี นรใู้ นศตวรรษที่ 21 ความสะดวกในการใช้งานคร้ังตอ่ ไป ต้องตัดการเชื่อมตอ่ อินเทอร์เน็ตเพื่อ ......................... 6. เมอ่ื ไม่ใช้งานอนิ เทอรเ์ นต็ แลว้ ไมจ่ า� เป็น ......................... 5. ดาวนโ์ หลดข้อมลู จากแหลง่ ข้อมูลทเี่ ช่อื ถอื ได้ แลว้ ส่งใหเ้ พ่อื น ......................... 4. ถ่ายภาพจา� นวนเงนิ ในบญั ชีของตนเอง 3 . บ..นั....ท....ึก....ล...ง...ใ..น...สมดุ......................... 2. ใช้งานคอมพิวเตอรโ์ ดยไมต่ ดิ ตงั้ โปรแกรม ต้องต้งั รหสั ผา่ นเขา้ เครอ่ื งเพื่อความสะดวก ......................... 1. ในการใชง้ านเครอื่ งคอมพวิ เตอรส์ ว่ นตวั ไมจ่ า� เปน็ ให้เรียนท�าเคร่ืองหมายถูก ✓หน้าข้อที่เปนการปองกันการเกิด ¡¨Ô ¡ÃÃÁ 1. ทักษะการคิดอย่างมีวิจารณญาณ 2. ทกั ษะการใช้เทคโนโลยสี ารสนเทศ อาชญากรรมทางอนิ เทอร์เน็ต และท�าเคร่ืองหมายผิด ✗ หน้าข้อทไ่ี ม่ใช่ ½¡ƒ ·Ñ¡ÉÐ สแกนไวรสั การปอ งกนั การเกดิ อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ โดยใหบ้ นั ทกึ ลงในสมดุ เผยแพรท่ ่อี ย่ขู องตนเองลงบนเว็บไซต์ Com 23 Sci หนังเนสื้อือหเลามอนาี้อจมยีกูในารระปหรวับางปสรงุงตแกรไวขจพิจารณา89

3. ÁารÂา·ã¹¡าร Ôµ´ ‹µÍ ×สèÍสาร ปจจุบันการ ิตด ่ตอ ่สือสาร ่ผานอินเทอ ์รเ ็นตสื่อสารกันได้ท่ัวโลก ซึ่งการติดต่อส่ือสารผ่านอินเทอ ์รเน็ตอ ่ยางมีมารยาท สามารถท�าไ ้ด เ ่ชน 1. ไ ่ม ่สง ่ตอข้อมูลส่วนตัวของ ้ผูอื่น ¤Ó¶ÒÁ·ŒÒ·Ò¡ÒäԴ é¢Ñ¹ÊÙ§ 24 ได้ ัรบความ ินยมเป็นอย่างมาก สามารถ ิตดต่อ 2. ใช้ภาษา ุสภาพ และใช้ �คาใ ้หถูก ้ตองตามห ัลกไวยากร ์ณ หลีกเ ่ลียง ‹¼า¹ Ô͹à·Í รà¹çµ ถ้า ุทกคนบนโลกไม่เข้าใจเ ื่รองมารยาทในการใช้อินเทอร์เ ็นต การใช้ภาษาท่ีดูถูกเห ียยดหยาม ู้ผ ื่อน จะเป็นอ ่ยางไร การติดตอ ิอนเทอรเน็ต ่สือสารผาน ควร ํทาอยางไร 3. ใ ้ชข้อความ ีท่ ้ัสน กะ ัทดรัด และเ ้ขาใจง่าย 90 4. ไ ่ม ูพด ุคยหรือนินทา ู้ผ ่ือนใ ้หไ ้ด ัรบความเ ีสยหายห ืรอเ ืส่อมเสีย ืช่อเสียง หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา 5. ตรวจสอบข้อมูลใ ้ห ูถก ้ตอง ่กอน ่สง ่ตอให้กับ ู้ผอ่ืน 6. ในการส่งข้อ ูมลให้ ักบผู้ ือ่น ควรตรวจสอบ ่ชือผู้รับ ให้ถูกต้องก่อนส่ง ้ขอมูล 7. ไ ่มเผยแพร่ข้อความ ภาพ ่ีทผิดกฎหมาย หรือขัด ักบศีลธรรม ัอน ีดงามของ ัสงคมไทย

ตÑÇอÂา‹ ง ÁารÂาทในการติ´ตอ‹ Ê×อè Êาร ¼า‹ นเ¤ร×อ¢‹าÂอนิ เทอร์เน็ต สถานการณ ์ : โปแ ละปตู อ้ งการนา� เสนอขอ้ มลู เกย่ี วกบั การสบื พนั ธุ์ แบบอาศยั เพศของพชื มดี อกลงบนบลอ็ กสว่ นตวั ของตนเอง โปก บั ปจู งึ ตอ้ งศกึ ษาหาขอ้ มลู ของเรอ่ื งทตี่ อ้ งการนา� เสนอ โดยการรวบรวมขอ้ มลู จากเอกสาร หนงั สอื เรยี น ต�ารา ขอ้ มูลจากอนิ เทอร์เน็ต และท�าการ สังเกตการสืบพนั ธข์ุ องพืชดอกดว้ ยตนเอง การสบื พันธุ แบบอาศยั เพศ ของพชื มดี อก จากสถานการณข์ า้ งตน้ โปแ ละปไู ดท้ า� การศกึ ษาคน้ ควา้ หาขอ้ มลู จากแหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพ่อื ให้ได้ข้อมูลทถี่ กู ตอ้ งและเป็นประโยชนก์ ับ ผู้อ่ืน ดังน้ัน จึงแสดงใหเ้ หน็ ได้ว่า โปและปนู ้ันมีมารยาทในการติดตอ่ สื่อสารผ่านอนิ เทอร์เนต็ 91 25 หนังเนสื้อือหเลามอนาี้อจมยีกูในารระปหรวับางปสรงุงตแกรไวขจพิจารณา

ใ ้หนักเ ีรยนส ้ราง ัผงความคิด (Mind map) เ ่กียวกับมารยาทในการติด ่ตอ 2. ัทกษะ ้ดานความคิดส ้รางสรรค์ ่สือสารผ่านอินเทอร์เน็ต โดยใ ้ห ับน ึทกลงในสมุด Sci ับน ึทกลงในสมุด 26 Com ัทกษะการเ ีรยนรู้ในศตวรรษ ่ที 21 1. ัทกษะการสื่อสาร ¡Ô¨¡ÃÃÁ ½ƒ¡·Ñ¡ÉÐ 3. ทักษะการใช้เทคโนโล ียสารสนเทศ หนังสือเลมเนนื้อี้อหยาูในอราะจหมวีกาางรสปงรตับรปวรจุงพแิจกาไรขณา92

แผนการจดั การเรยี นรู 01 02 รายวชิ าพน้ื ฐาน 06 03 เทคโนโลยี 05 04 (วทิ ยาการคาํ นวณ) ป.5ตามมาตรฐานการเรียนรแู้ ละตัวชี้วดั หลักตสัวตู อรยปา่ รงับปรงุ ’60 กลุ่มสาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์ (ฉบบั ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2560) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช 2551 แผนการจดั การเรยี นรู้ หปลรกั ับสปูตรรุง'60 รายวิชาพื้นฐาน ป.5ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 5 เทคโนโลยี วทิ ยาการคำนวณ 2560ตามมาตรฐานการเรยี นรแู ละตัวช้ีวดั ) กลมุ สาระการเรียนรวู ทิ ยาศาสตร (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551 27









หน่วยการเรยี นรู้ แผนการจดั การเรยี นรู้ วิธสี อน/วธิ กี ารจัด ทักษะที่ได้ การประเมิน เวลา กจิ กรรมการเรยี นรู้ - ทักษะการคดิ อยา่ งมวี ิจารณญาณ (ชัว่ โมง) 4. การใชเ้ ทคโนโลยี แผนที่ 5 ตวั อยา่ งการทาแบบ อนิ เทอร์เนต็ อย่างปลอดภยั สารสนเทศอย่าง สารวจความคิดเหน็ ออนไลน์ - ตรวจกิจกรรมฝึกทกั ษะ ปลอดภัย (ต่อ) (ต่อ) - สงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล - สงั เกตพฤติกรรมการทางานกลมุ่ - ประเมนิ คณุ ลักษณะการพงึ ประสงค์ 32

หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 4 การใชอ้ นิ เทอรเ์ นต็ อย่างปลอดภัย เวลา 6 ชวั่ โมง 1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ัด ว 4.2 เข้าใจและใช้แนวคิดเชิงคานวณในการแก้ปัญหาท่ีพบในชีวิตจริงอย่างเป็นข้ันตอนและเป็นระบบ ใช้เทคโนโลยี สารสนเทศและการสื่อสารในการเรียนรู้ การทางาน และการแกป้ ญั หาได้อย่างมีประสิทธิภาพ รเู้ ทา่ ทนั และมีจริยธรรม ว 4.2 ป.5/3 ใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตคน้ หาข้อมูล ติดต่อสอ่ื สาร และทางานร่วมกนั ประเมนิ ความน่าเชือ่ ถือของข้อมูล ว 4.2 ป.5/4 รวบรวม ประเมิน นาเสนอข้อมูลและสารสนเทศ ตามวัตถุประสงค์โดยใช้ซอฟต์แวร์หรือบริการบน อนิ เทอร์เนต็ ท่ีหลากหลาย เพอ่ื แกป้ ญั หาในชวี ติ ประจาวนั ว 4.2 ป.5/5 ใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศอย่างปลอดภัย มมี ารยาท เขา้ ใจสิทธแิ ละหนา้ ทขี่ องตน เคารพสทิ ธขิ องผอู้ ืน่ แจง้ ผเู้ กีย่ วข้องเม่ือพบข้อมูลหรอื บุคคลท่ีไม่เหมาะสม 2. สาระการเรยี นรู้ 2.1 สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง 1) การค้นหาขอ้ มูลในอินเทอร์เน็ต และการพิจารณาผลการค้นหา 2) การติดต่อสอ่ื สารผา่ นอินเทอร์เน็ต เช่น อีเมล บล็อก โปรแกรมสนทนา 3) การเขยี นจดหมาย (บรู ณาการกบั วิชาภาษาไทย) 4) การใชอ้ นิ เทอร์เน็ตในการติดต่อสื่อสารและทางานร่วมกัน เช่น ใช้นัดหมายในการประชุมกลุ่ม ประชาสัมพันธ์กิจกรรม ในหอ้ งเรียน การแลกเปลี่ยนความรู้ ความคดิ เหน็ ในการเรยี น ภายใตก้ ารดแู ลของครู 5) การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล เช่น เปรียบเทียบความสอดคล้อง สมบูรณ์ของข้อมูลจากหลายแหล่ง แหล่งต้นตอ ของขอ้ มูล ผู้เขยี น วันท่เี ผยแพรข่ อ้ มลู 6) การรวบรวมข้อมูล ประมวลผล สร้างทางเลือก ประเมินผล จะทาให้ได้สารสนเทศเพื่อใช้ในการแก้ปัญหาหรือการ ตดั สินใจได้อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ 7) การใช้ซอฟต์แวรห์ รอื บรกิ ารอินเทอร์เน็ตที่หลากหลายในการรวบรวม ประมวลผล สร้างทางเลือก ประเมินผล นาเสนอ จะชว่ ยให้การแกป้ ัญหาทาได้อย่างรวดเร็ว ถกู ตอ้ ง และแม่นยา 8) ตัวอยา่ งปัญหา เช่น ถ่ายภาพ และสารวจแผนที่ในท้องถ่ินเพื่อนาเสนอแนวทางในการจัดการพื้นท่ีว่างให้เกิดประโยชน์ ทาแบบสารวจความคิดเห็นออนไลน์ และวิเคราะหข์ อ้ มูล นาเสนอข้อมลู โดยการใช้ blog หรอื web page 2.2 สาระการเรยี นรูท้ ้องถน่ิ (พจิ ารณาตามหลักสูตรสถานศึกษา) 3. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด ในปจั จบุ นั การตดิ ตอ่ ส่อื สารผ่านอินเทอรเ์ น็ตทาได้หลากหลายและช่วยตอบสนองความต้องการของมนุษย์ ให้มีความสะดวกสบาย มากยิ่งข้ึน ดังนั้น จึงมีผู้ท่ีใช้คอมพิวเตอร์ และเครือข่ายคอมพิวเตอร์เพ่ือเป็นเครื่องมือในการกระทาความผิด เพื่อให้ผู้อื่นเสียหายหรือ ท่ีเรียกว่า อาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต ดังน้ัน ผู้ใช้คอมพิวเตอร์ท่ีดีจะต้องมีแนวทางป้องกันการเกิดอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต รวมถึงการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างมีมารยาท เพราะนอกจากการติดต่อส่ือสารแล้ว ยังใช้อินเทอร์เน็ตเพ่ือวิเคราะห์ข้อมูล รวบรวมข้อมูล ประมวลผลข้อมูล เพ่ือพิจารณาทางเลือกที่เปน็ ไปได้และเหมาะสมที่สุด 33

4. สมรรถนะสาคัญของผูเ้ รียนและคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผู้เรยี น คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการส่อื สาร 1. มวี ินยั 2. ความสามารถในการคดิ 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3. มงุ่ มน่ั ในการทางาน 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. ทกั ษะการแกป้ ัญหา 7. ทกั ษะการสอื่ สาร 8. ทักษะการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ 9. ทักษะการทางานรว่ มกัน 10. ทกั ษะการสังเกต 11. ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยี 12. ทักษะความคิดสรา้ งสรรค์ 13. ทักษะการประยกุ ตใ์ ช้ความรู้ 5. ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) - ชิน้ งาน/ภาระงาน (รวบยอด) เรอ่ื ง การใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตอย่างปลอดภัย 6. การวัดและการประเมนิ ผล วธิ ีวดั เคร่ืองมือ เกณฑก์ ารประเมนิ - แบบประเมนิ ช้ินงาน/ ระดับคุณภาพ 2 รายการวดั ภาระงาน (รวบยอด) ผ่านเกณฑ์ 6.1 การประเมนิ ช้นิ งาน/ภาระงาน - ตรวจชิน้ งาน/ภาระ - แบบทดสอบก่อนเรยี น ประเมนิ ตามสภาพจริง (รวบยอด) งาน (รวบยอด) เรอ่ื ง การใชอ้ นิ เทอร์เนต็ อย่าง - ใบงานที่ 4.1.1 รอ้ ยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ ปลอดภยั - ใบงานท่ี 4.2.1 ร้อยละ 60 ผา่ นเกณฑ์ - กิจกรรมฝึกทักษะ ระดับคุณภาพ 2 6.2 การประเมนิ กอ่ นเรียน - ตรวจแบบทดสอบ การตดิ ตอ่ ส่ือสารผ่าน ผ่านเกณฑ์ - แบบทดสอบก่อนเรยี น กอ่ นเรียน อินเทอร์เน็ต หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 เรื่อง การใช้อนิ เทอรเ์ น็ตอย่าง ปลอดภยั 6.3 ประเมินระหว่างการจัดกิจกรรม การเรยี นรู้ 1) การสนทนาโดยใช้อนิ เทอร์เนต็ - ตรวจใบงานท่ี 4.1.1 2) การป้องกนั การเกิดปัญหา - ตรวจใบงานท่ี 4.2.1 อาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ 3) กิจกรรมฝึกทักษะ - ตรวจสมดุ ประจาตัว การตดิ ตอ่ ส่ือสารผ่าน อินเทอรเ์ นต็ 34

รายการวดั วธิ วี ัด เคร่อื งมือ เกณฑก์ ารประเมิน 4) กิจกรรมฝึกทักษะ - ตรวจสมุดประจาตวั - กจิ กรรมฝกึ ทักษะ ระดบั คุณภาพ 2 อาชญากรรมทาง ผ่านเกณฑ์ อาชญากรรมทางอินเทอร์เนต็ อนิ เทอร์เนต็ - กจิ กรรมฝึกทักษะ ระดบั คุณภาพ 2 5) กิจกรรมฝึกทักษะ - ตรวจสมุดประจาตวั มารยาทในการติดตอ่ ผ่านเกณฑ์ มารยาทในการตดิ ต่อสือ่ สาร สอ่ื สารผ่านอนิ เทอรเ์ น็ต ผา่ นอินเทอรเ์ นต็ - กิจกรรมฝึกทักษะ ระดับคุณภาพ 2 การใช้ซอฟตแ์ วร์ ผา่ นเกณฑ์ 6) กิจกรรมฝึกทักษะ - ตรวจสมุดประจาตวั กระดานคานวณ การใช้ซอฟตแ์ วรก์ ระดาน - กจิ กรรมฝกึ ทักษะ ระดับคุณภาพ 2 คานวณ Google Form ผา่ นเกณฑ์ - ผลงานที่นาเสนอ ระดับคุณภาพ 2 7) กิจกรรมฝึกทักษะ - ตรวจสมดุ ประจาตวั ผา่ นเกณฑ์ Google Form - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดบั คุณภาพ 2 การทางานรายบุคคล ผา่ นเกณฑ์ 8) การนาเสนอผลงาน - ประเมนิ การนาเสนอ - แบบสงั เกตพฤตกิ รรม ระดับคุณภาพ 2 ผลงาน การทางานกลุ่ม ผ่านเกณฑ์ - แบบประเมินคุณลกั ษณะ ระดับคุณภาพ 2 9) พฤติกรรมการทางานรายบุคคล - สงั เกตพฤติกรรม อนั พึงประสงค์ ผา่ นเกณฑ์ การทางานรายบุคคล 10) พฤติกรรมการทางานกลุม่ - สังเกตพฤติกรรม การทางานกลุ่ม 11) คณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ - สังเกตความมีวินยั ใฝ่เรียนรู้ และมุ่งมนั่ ในการทางาน 6.4 การประเมนิ หลังเรียน - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรยี น ประเมินตามสภาพจริง 1) แบบทดสอบหลงั เรยี น หลังเรยี น หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 การใช้อนิ เทอร์เน็ตอย่าง ปลอดภัย 2) กจิ กรรมเสริมสรา้ งการเรยี นรู้ - ประเมินการปฏิบัติ - กจิ กรรมเสรมิ สรา้ ง ระดบั คุณภาพ 2 กจิ กรรมเสรมิ สรา้ ง การเรียนรู้ ผ่านเกณฑ์ การเรยี นรู้ 35

7. กิจกรรมการเรยี นรู้  เรอ่ื งท่ี 1 : การตดิ ตอ่ ส่อื สารผ่านอินเทอร์เน็ต เวลา 2 ชัว่ โมง วธิ กี ารสอนโดยเนน้ รูปแบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)  เรอ่ื งที่ 2 : อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ เวลา 1 ช่วั โมง วธิ กี ารสอนโดยเน้นการจัดการเรยี นรู้แบบใช้ปญั หาเปน็ ฐาน (problem-based learning)  เรื่องที่ 3 : มารยาทในการติดต่อส่อื สารผ่านอินเทอรเ์ นต็ เวลา 1 ชั่วโมง วธิ ีการสอนโดยเน้นรปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)  เรื่องท่ี 4 : ขอ้ มลู เพ่อื การตัดสินใจ เวลา 1 ชั่วโมง วธิ ีการสอนโดยเนน้ รปู แบบการสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)  เร่อื งท่ี 5 : ตัวอยา่ งการทาแบบสารวจความคิดเห็นออนไลน์ เวลา 1 ชั่วโมง วธิ กี ารสอนโดยเน้นการจดั การเรยี นรู้แบบใช้ปญั หาเปน็ ฐาน (problem-based learning) รวม 6 ช่วั โมง 8. สอ่ื /แหล่งการเรียนรู้ 8.1 สื่อการเรยี นรู้ 1) หนงั สือเรยี น เทคโนโลยี (วทิ ยาการคานวณ) ป.5 หนว่ ยการเรียนรูท้ ่ี 4 เรื่อง การใชอ้ นิ เทอร์เน็ตอยา่ งปลอดภัย 2) ใบงานท่ี 4.1.1 เร่อื ง การสนทนาโดยใชอ้ ินเทอรเ์ น็ต 3) ใบงานที่ 4.2.1 เรอื่ ง การป้องกันการเกดิ ปัญหาอาชญากรรมทางอินเทอร์เน็ต 4) สมดุ ประจาตวั 5) บตั รภาพโปรแกรมสนทนา 6) บตั รภาพซอฟตแ์ วร์กระดานคานวณ 7) QR Code เรื่อง การแทรกข้อมลู ในอเี มล 8) QR Code เรอ่ื ง การปอ้ งกันอาชญากรรมทางอนิ เตอร์เนต็ 8.2 แหล่งการเรียนรู้ อินเทอรเ์ นต็ 36

แบบทดสอบก่อนเรยี น หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 4 คาชี้แจง : ใหน้ กั เรียนเลือกคาตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพียงข้อเดียว 1. ขอ้ ใดหมายถึงไปรษณยี ์อเิ ล็กทรอนกิ ส์ 6. ข้อใดคอื การปอ้ งกันตนเองจากปัญหาอาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ ก. E-commerce ก. ปิดไฟทกุ คร้งั หลังเลิกใชง้ าน ข. E-mail ข. พมิ พเ์ ลขบัตรประชาชนลงใน Facebook ค. E-learning ค. ติดตัง้ โปรแกรมสแกนไวรสั ง. E-money ง. ต้งั รหสั ผ่านเขา้ สู่คอมพวิ เตอร์ 2. ขอ้ ใดไม่ใช่ขนั้ ตอนการเขียนอีเมลเบื้องต้น 7. บคุ คลใดเปน็ อาชญากรรมทางอนิ เทอรเ์ นต็ ก. พมิ พ์ที่อยอู่ เี มลของผู้รบั ก. นโี นเ่ ผยแพรว่ ิดีโอการทาอาหารลงอินเทอรเ์ นต็ ข. พิมพช์ อื่ เรอื่ ง ข. แนนถา่ ยรปู เพื่อนแลว้ ส่งตอ่ ไปยังคนอ่ืนโดยไดร้ ับอนุญาต ค. พิมพ์เบอร์โทรศัพทข์ องผู้รับ ค. นัทใช้คอมพิวเตอร์ของเพอื่ นเพ่อื สบื คน้ ขอ้ มูลในอนิ เทอรเ์ น็ต ง. คลิกส่ง ง. นมิ่ คัดลอกผลงานของเพ่อื นและนาไปสง่ ครู 3. ข้อใดไม่ใช่การเขียนช่ือเรือ่ งอเี มลทถ่ี กู ตอ้ ง 8. บคุ คลใดไม่มมี ารยาทในการตดิ ตอ่ สอื่ สารผา่ นอนิ เทอร์เน็ต ก. ใช้ขอ้ ความท่กี ระชับได้ใจความ ก. กบตรวจสอบข้อมูลให้ถูกตอ้ งก่อนสง่ ให้ผอู้ ่ืน ข. เข้าใจง่าย ข. กล้าใช้ศัพท์สแลงในการสือ่ สาร ค. เหมาะสมกับเนื้อหา ค. แกว้ ไม่เผยแพรข่ อ้ มลู สว่ นตวั ของผ้อู ื่น ง. ใชศ้ ัพท์สแลงเพ่ือให้เขา้ ใจมากย่งิ ข้นึ ง. ก๊ิกใช้ข้อความทีส่ นั้ กะทดั รดั และเข้าใจงา่ ย 4. ขอ้ ใดไมใ่ ช่โปรแกรมสนทนา 9. ซอฟต์แวร์ใดทนี่ ยิ มใช้เพ่ือรวบรวม ประมวลผล และตดั สนิ ใจ ก. Line ก. ซอฟต์แวรก์ ระดานคานวณ ข. Joox ข. ซอฟต์แวรป์ ระมวลคา ค. Skype ค. ซอฟต์แวรน์ าเสนอ ง. Messenger ง. ซอฟตแ์ วรส์ ่ือสารขอ้ มูล 5. ผทู้ ่ที าอาชีพเขยี นบลอ็ กเรียกวา่ อะไร 10. บริการของ Google ในขอ้ ใดใช้สรา้ งแบบสารวจความคดิ เห็นออนไลน์ ก. บลอ็ กเกอร์ ก. Google Drive ข. กูเกลิ บล็อก ข. Google Chrome ค. บล็อกกี ค. Google Play ง. สตอรีบลอ็ ก ง. Google Form เฉลย 1. ข. 2. ค. 3. ง. 4. ข. 5. ก. 6. ค. 7. ง. 8. ข. 9. ก. 10. ง. 37

แบบทดสอบหลังเรยี น หน่วยการเรยี นรู้ที่ 4 คาช้ีแจง : ให้นกั เรียนเลือกคาตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. บรกิ ารของ Google ในขอ้ ใดใช้สร้างแบบสารวจ 6. ซอฟตแ์ วรใ์ ดทน่ี ิยมใชเ้ พ่ือรวบรวม ประมวลผล และตดั สนิ ใจ ความคดิ เหน็ ออนไลน์ ก. ซอฟต์แวรก์ ระดานคานวณ ก. Google Drive ข. ซอฟต์แวรป์ ระมวลคา ข. Google Chrome ค. ซอฟต์แวรน์ าเสนอ ค. Google Play ง. ซอฟต์แวร์สอ่ื สารขอ้ มลู ง. Google Form 7. ขอ้ ใดไมใ่ ช่การเขียนชอื่ เรือ่ งอีเมลทีถ่ กู ต้อง 2. ผทู้ ที่ าอาชพี เขยี นบล็อกเรยี กวา่ อะไร ก. ใชข้ อ้ ความทก่ี ระชับได้ใจความ ก. บล็อกเกอร์ ข. เขา้ ใจงา่ ย ข. กเู กิลบลอ็ ก ค. เหมาะสมกับเนือ้ หา ค. บล็อกกี ง. ใช้ศัพท์สแลงเพอื่ ใหเ้ ข้าใจมากยงิ่ ขึ้น ง. สตอรีบลอ็ ก 8. บคุ คลใดเปน็ อาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ 3. ขอ้ ใดไม่ใช่โปรแกรมสนทนา ก. นโี น่เผยแพรว่ ิดโี อการทาอาหารลงอินเทอรเ์ น็ต ก. Line ข. แนนถ่ายรูปเพอ่ื นแล้วสง่ ต่อไปยงั คนอื่นโดยไดร้ บั อนุญาต ข. Joox ค. นทั ใช้คอมพิวเตอรข์ องเพอ่ื นเพอื่ สบื ค้นขอ้ มูลในอินเทอรเ์ นต็ ค. Skype ง. นิม่ คัดลอกผลงานของเพ่ือนและนาไปส่งครู ง. Messenger 9. ขอ้ ใดคอื การปอ้ งกนั ตนเองจากปญั หาอาชญากรรมทางอินเทอรเ์ นต็ 4. บคุ คลใดไม่มีมารยาทในการตดิ ตอ่ สื่อสารผา่ นอินเทอร์เน็ต ก. ปดิ ไฟทกุ คร้งั หลงั เลิกใช้งาน ก. กบตรวจสอบข้อมลู ใหถ้ กู ตอ้ งก่อนสง่ ให้ผอู้ ื่น ข. พมิ พ์เลขบตั รประชาชนลงใน Facebook ข. กลา้ ใชศ้ ัพท์สแลงในการสอ่ื สาร ค. ตดิ ต้งั โปรแกรมสแกนไวรสั ค. แกว้ ไมเ่ ผยแพรข่ ้อมลู ส่วนตวั ของผ้อู ืน่ ง. ตั้งรหสั ผ่านเข้าส่คู อมพวิ เตอร์ ง. ก๊ิกใช้ข้อความทส่ี ั้น กะทดั รดั และเข้าใจง่าย 10. ข้อใดไม่ใช่ขั้นตอนการเขยี นอีเมลเบอื้ งต้น 5. ขอ้ ใดหมายถึงไปรษณยี อ์ เิ ล็กทรอนิกส์ ก. พมิ พท์ ี่อยู่อเี มลของผู้รบั ก. E-commerce ข. พิมพช์ ่อื เร่อื ง ข. E-mail ค. พมิ พ์เบอร์โทรศพั ทข์ องผรู้ บั ค. E-learning ง. คลิกส่ง ง. E-money เฉลย 1. ข. 2. ค. 3. ง. 4. ข. 5. ก. 6. ค. 7. ง. 8. ข. 9. ก. 10. ง. 38

การประเมนิ ชิ้นงาน/ภาระงาน (รวบยอด) แผนฯ ท่ี 5 แบบประเมินผลงานการใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภยั ลาดับท่ี รายการประเมนิ 4 ระดับคณุ ภาพ 1 (ดีมาก) 32 (ปรับปรุง) 1 ไปรษณียอ์ ิเลก็ ทรอนกิ ส์ (ดี) (พอใช)้ 2 อาชญากรรมอินเทอรเ์ น็ต   3 มารยาทในการตดิ ต่อสอ่ื สารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็  4 หาผลรวมและเขยี นฟงั ก์ชนั ในการตัดสินใจ   5 ความสมบรู ณ์ของผลงาน  6 ส่งงานตรงเวลา    รวม    ระดับคณุ ภาพ ดี ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมนิ .........../.................../................. ดีมาก พอใช้ ปรบั ปรงุ 39

เกณฑ์การประเมนิ ผลงานการใช้อินเทอร์เนต็ อย่างปลอดภัย (แผนฯ ท่ี 5) รายการ เกณฑ์การประเมิน (ระดบั คุณภาพ) ประเมิน ดีมาก (4) ดี (3) พอใช้ (2) ปรับปรงุ (1) 1. ไปรษณียอ์ เิ ล็กทรอนกิ ส์ บอกความหมายของ บอกความหมายของ บอกความหมายของ ไม่สามารถบอก 2. อาชญากรรมอนิ เทอรเ์ น็ต ไปรษณียอ์ ิเล็กทรอนกิ ส์ ความหมายของไปรษณยี ์ ได้ดมี าก ไปรษณยี ์อิเล็กทรอนิกส์ ไปรษณีย์อเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ อิเลก็ ทรอนกิ สไ์ ด้ 3. มารยาทในการตดิ ต่อ ส่ือสารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ บอกความหมาย ไดด้ ี ไดค้ ่อนข้างดี ไม่สามารถบอก ของอาชญากรรม ความหมายของ 4. หาผลรวมและเขยี น อนิ เทอรเ์ นต็ ไดด้ มี าก บอกความหมาย บอกความหมาย อาชญากรรมอนิ เทอร์เน็ต ฟงั กช์ นั ในการตดั สนิ ใจ ได้ บอกมารยาทในการ ของอาชญากรรม ของอาชญากรรม ไม่สามารถบอกมารยาท 5. ความสมบรู ณ์ของผลงาน ตดิ ตอ่ สือ่ สารผา่ น ในการติดตอ่ สื่อสารผ่าน อินเทอร์เน็ตได้ 3 ขอ้ อินเทอร์เนต็ ไดด้ ี อนิ เทอร์เน็ตได้ค่อนข้างดี อินเทอร์เนต็ ได้ 6. สง่ งานตรงเวลา หาผลรวมและเขยี น ไม่สามารถหาผลรวมและ ฟงั ก์ชนั ในการตัดสินใจได้ บอกมารยาทในการ บอกมารยาทในการ เขยี นฟงั ก์ชนั ในการ ดมี าก ตัดสนิ ใจได้ ผลงานมีความครบถว้ น ติดตอ่ ส่อื สารผ่าน ติดต่อส่ือสารผ่าน ผลงานมคี วามครบถว้ น สมบูรณ์ดมี าก สมบรู ณ์น้อย อนิ เทอรเ์ น็ตได้ 2 ขอ้ อินเทอรเ์ น็ตได้ 1 ขอ้ ส่งภาระงานภายในเวลา ส่งภาระงานชา้ กวา่ ทก่ี าหนด หาผลรวมและเขียน หาผลรวมและเขียน กาหนดเกิน 3 วนั ขึน้ ไป ฟังก์ชันในการตัดสินใจไดด้ ี ฟงั กช์ นั ในการตดั สินใจได้ คอ่ นขา้ งดี ผลงานมคี วามครบถว้ น ผลงานมคี วามครบถว้ น สมบูรณ์คอ่ นขา้ งดี สมบรู ณ์ดเี ปน็ บางส่วน สง่ ภาระงานช้ากวา่ ส่งภาระงานชา้ กว่า กาหนด 1 วัน กาหนด 2 วัน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 20-24 ดีมาก 15-19 ดี 9-14 พอใช้ 1-8 ปรับปรงุ 40

แบบประเมินการนาเสนอผลงาน คาชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในชอ่ งที่ตรงกบั ระดับคะแนน ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน 1 32 1 ความถูกต้องของเนือ้ หา  2 ความคิดสรา้ งสรรค์   3 วิธีการนาเสนอผลงาน  4 การนาไปใช้ประโยชน์   5 การตรงต่อเวลา     รวม เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงชื่อ ................................................... ผ้ปู ระเมนิ ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบรู ณช์ ดั เจน ............./................./................ ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 3 คะแนน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ บางสว่ น ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรงุ 41

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล คาชแ้ี จง : ใหผ้ ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ลงในชอ่ งทต่ี รงกับระดับคะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน 1 32 1 การแสดงความคิดเห็น  2 การยอมรับฟังความคดิ เห็นของผ้อู ืน่   3 การทางานตามหน้าท่ีท่ีไดร้ บั มอบหมาย  4 ความมนี ้าใจ   5 การตรงต่อเวลา     รวม เกณฑ์การใหค้ ะแนน ลงช่ือ ................................................... ผปู้ ระเมนิ ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ .............../................./............... ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครง้ั ให้ 3 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบางคร้ัง ให้ 2 คะแนน ให้ 1 คะแนน เกณฑ์การตดั สินคณุ ภาพ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 14–15 ดีมาก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ 42

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานกลุ่ม คาชีแ้ จง : ใหผ้ ้สู อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในชอ่ งทต่ี รงกบั ระดับคะแนน ลาดบั ที่ ชื่อ–สกุล การแสดง การยอมรบั ฟงั การทางาน ความมนี า้ ใจ การมี รวม ของนกั เรียน ความคดิ เหน็ คนอืน่ ตามที่ไดร้ ับ 321 สว่ นร่วมใน 15 มอบหมาย การปรบั ปรงุ คะแนน 321 321 ผลงานกลุม่ 321 321 ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมนิ .............../................./............... เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ปฏิบัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบ่อยคร้ัง ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางคร้งั เกณฑก์ ารตดั สนิ คุณภาพ ช่วงคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 14–15 ดมี าก 11–13 ดี 8–10 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ 43

แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ คาชแ้ี จง : ใหผ้ ูส้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในช่องท่ตี รงกบั ระดับคะแนน คณุ ลกั ษณะ รายการประเมิน ระดบั คะแนน อนั พึงประสงค์ดา้ น 32 1 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติและรอ้ งเพลงชาตไิ ด้ 1. รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 1.2 เข้ารว่ มกจิ กรรมทีส่ ร้างความสามัคคีปรองดองและเปน็ ประโยชนต์ อ่ โรงเรียน 1.3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาท่ีตนนับถือ ปฏิบตั ิตามหลกั ศาสนา 2. ซือ่ สัตย์ สจุ รติ 1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมท่เี ก่ียวกบั สถาบนั พระมหากษัตริยต์ ามทีโ่ รงเรยี นจดั ขึน้ 3. มวี ินยั รบั ผดิ ชอบ 2.1 ใหข้ ้อมลู ทีถ่ กู ต้องและเปน็ จรงิ 4. ใฝ่เรียนรู้ 2.2 ปฏิบตั ิในสงิ่ ท่ถี กู ตอ้ ง 3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คับของครอบครัว 5. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรมตา่ งๆ ในชีวิตประจาวนั 6. มงุ่ มั่นในการทางาน 4.1 รู้จกั ใช้เวลาวา่ งให้เป็นประโยชน์และนาไปปฏิบัติได้ 7. รักความเปน็ ไทย 4.2 รจู้ ักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม 8. มจี ิตสาธารณะ 4.3 เช่อื ฟงั คาสั่งสอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ย้ง 4.4 ต้งั ใจเรียน 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและสงิ่ ของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอย่างประหยัดและรู้คุณคา่ 5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทางานที่ได้รบั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพ่ือให้งานสาเรจ็ 7.1 มีจิตสานกึ ในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ัญญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ ักช่วยพอ่ แม่ ผู้ปกครอง และครทู างาน 8.2 รู้จักการดแู ลรักษาทรัพย์สมบัตแิ ละสิ่งแวดลอ้ มของหอ้ งเรียนและโรงเรียน ลงช่อื ................................................... ผูป้ ระเมนิ .............../................./............... เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ พฤติกรรมทีป่ ฏิบตั ชิ ดั เจนและสมา่ เสมอ ให้ 3 คะแนน ชว่ งคะแนน ระดับคณุ ภาพ 51–60 ดีมาก พฤติกรรมทีป่ ฏิบตั ชิ ดั เจนและบอ่ ยครัง้ ให้ 2 คะแนน 41–50 ดี พฤติกรรมที่ปฏบิ ตั บิ างครง้ั ให้ 1 คะแนน 30–40 พอใช้ ตา่ กวา่ 30 ปรบั ปรงุ 44

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 1 การตดิ ตอ่ สอื่ สารผา่ นอนิ เทอร์เน็ต เวลา 2 ชวั่ โมง 1. มาตรฐาน/ตัวช้ีวดั ว 4.2 ป.5/3 ใชอ้ นิ เทอรเ์ น็ตคน้ หาข้อมลู ติดต่อส่ือสาร และทางานรว่ มกัน ประเมนิ ความนา่ เชื่อถือของขอ้ มูล 2. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 1. อธิบายการติดต่อสอื่ สารผ่านอนิ เทอรเ์ น็ตได้ (K) 2. เขยี นอีเมลเบอื้ งต้นได้ (P) 3. สบื ค้นข้อมูลโปรแกรมสนทนาและบล็อกได้ (P) 4. เล็งเห็นถึงความสาคัญของการตดิ ต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต (A) 3. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่นิ - การค้นหาข้อมูลในอินเทอร์เน็ต และการพิจารณาผลการ พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา คน้ หา - การติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ต เช่น อีเมล บล็อก โปรแกรมสนทนา - การเขยี นจดหมาย (บรู ณาการกับวิชาภาษาไทย) - การใช้อินเทอร์เน็ตในการติดต่อสื่อสารและทางานร่วมกัน เช่น ใช้นัดหมายในการประชุมกลุ่ม ประชาสัมพันธ์ กิจกรรมในห้องเรียน การแลกเปล่ียนความรู้ ความคิดเห็น ในการเรียน ภายใต้การดแู ลของครู - การประเมินความน่าเชื่อถือของข้อมูล เช่น เปรียบเทียบ ความสอดคล้อง สมบูรณ์ของข้อมูลจากหลายแหล่ง แหล่งต้นตอ ของขอ้ มลู ผเู้ ขียน วนั ทีเ่ ผยแพรข่ ้อมลู 4. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด ในปัจจุบันการติดต่อส่ือสารผ่านอินเทอร์เน็ต เป็นบริการที่ช่วยตอบสนองความต้องการในการสื่อสารของมนุษย์ให้มีความ สะดวกสบายมากย่ิงข้ึน โดยการติดต่อสื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตในปัจจุบันสามารถทาได้หลากหลายรูปแบบ เช่น การส่ือสารผ่าน ไปรษณีย์อเิ ล็กทรอนิกส์ โปรแกรมสนทนา บล็อก 45

5. สมรรถนะสาคัญของผู้เรียนและคุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน คุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 1. ความสามารถในการส่ือสาร 1. มวี นิ ัย 2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝเ่ รียนรู้ 3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน 4. ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ิต 5. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี 6. ทักษะการคิดอย่างมวี จิ ารณญาณ 7. ทักษะการสื่อสาร 8. ทกั ษะการใชเ้ ทคโนโลยี 9. ทกั ษะการสงั เกต 6. กจิ กรรมการเรยี นรู้  วิธีการสอนโดยเนน้ รปู แบบการสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model) ชั่วโมงที่ 1 ขน้ั นา ขั้นท่ี 1 กระตุ้นความสนใจ (Engagement) 1. ครูให้นักเรียนทาแบบทดสอบก่อนเรียนหน่วยการเรียนรู้ที่ 4 การใช้อินเทอร์เน็ตอย่างปลอดภัย เพ่ือวัดความรู้เดิม ของนักเรียนกอ่ นเขา้ ส่กู ิจกรรม 2. ครูถามคาถามประจาหน่วยการเรียนรู้ว่า “นักเรยี นมีวิธีการใช้งานอินเทอร์เน็ตอยา่ งไรให้ปลอดภยั ” (แนวตอบ : คาตอบขึน้ อยู่กับดุลยพินิจของนักเรียน) 3. ครถู ามคาถามประจาหวั ขอ้ ว่า “นกั เรียนคดิ ว่า การนาอินเทอร์เน็ตเขา้ มาใชใ้ นการตดิ ตอ่ สื่อสารมีประโยชน์อยา่ งไร” (แนวตอบ : การตดิ ตอ่ ส่ือสารผา่ นอนิ เทอรเ์ นต็ เปน็ บรกิ ารท่ีช่วยตอบสนองความตอ้ งการในการส่ือสารของมนุษย์ให้ มคี วามสะดวกสบายยง่ิ ขน้ึ ) ขัน้ สอน ข้ันท่ี 2 สารวจค้นหา (Exploration) ครูถามคาถามกระตุ้นความสนใจของนักเรยี นวา่ “นกั เรยี นรจู้ ักการติดต่อส่อื สารผา่ นอินเทอร์เน็ตแบบใดบา้ ง” (แนวตอบ : คาตอบขนึ้ อยู่กบั ดลุ ยพนิ จิ ของนกั เรียน) ขั้นที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 1. ครูอธิบายความหมายของไปรษณีย์อิเล็กทรอนิกส์ว่า “เป็นบริการการรับ-ส่งจดหมายผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต จากบคุ คลหนึง่ ไปยงั บคุ คลอ่ืน ๆ ซ่งึ สามารถส่งไดท้ ั้งขอ้ ความ เสียง รูปภาพ วิดีโอ ไฟลต์ า่ ง ๆ” 46

2. ครูใหน้ ักเรยี นเขา้ ส่เู ว็บไซต์ www.gmail.com เพื่อทาการสร้างบัญชีผู้ใช้ โดยมีข้ันตอนการปฏิบัติตาม หนังสือเรียน เทคโนโลยี (วิทยาการคานวณ) ป.5 หน้า 77-78 ดงั นี้ 1) เข้าสู่เว็บไซต์ทใ่ี หบ้ ริการอเี มล คอื www.gmail.com 2) คลิกเลือกสรา้ งบัญชเี พ่อื ทาการสรา้ งบญั ชีใหม่ 3) กรอกข้อมลู ผ้ใู ชง้ าน 4) คลกิ เลอื กถัดไป 5) กรอกข้อมลู ผู้ใช้งานเพมิ่ เติม 6) คลิกเลอื กถัดไป 3. เม่ือนักเรียนมีบัญชีผู้ใช้แล้ว ครูให้นักเรียนเข้าใช้งานอีเมลด้วยการกรอกช่ือผู้ใช้และรหัสผ่านท่ีหน้าต่างลงชื่อเข้าใช้ งาน เพ่อื ไปใช้งานไปรษณยี ์อเิ ลก็ ทรอนิกสข์ องตนเอง 4. ครูให้นักเรียนศึกษาขั้นตอนการเขียนอีเมลเบ้ืองต้นจากหนังสือเรียน หน้า 79 หรือให้นักเรียนสแกน QR Code เร่ือง การแทรกขอ้ มลู ในอีเมล เพอื่ ประกอบในการเรยี นการสอน 5. ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า “การเขียนช่ือเร่ืองในการส่งอีเมล ควรใช้ข้อความท่ีกระชับได้ใจความเข้าใจง่าย และใช้ถ้อยคาท่ี สภุ าพ” 6. จากนัน้ ครใู หน้ ักเรยี นศึกษาตัวอยา่ งการเขียนอเี มลจากสถานการณ์ในหนังสือเรยี น หน้า 80 7. ครถู ามคาถามนกั เรียนว่า “การเขยี นอีเมลต้องพิมพ์ส่วนใดบา้ ง” (แนวตอบ : พิมพ์ท่อี ยู่อเี มลของผูร้ ับ พมิ พช์ ่อื เรอ่ื ง พิมพร์ ายละเอยี ดเนอ้ื หา) 8. ครูมอบหมายใหน้ ักเรียนเขยี นอีเมลในหวั ขอ้ เร่ือง การแนะนาตนเอง แลว้ ส่งมายงั อีเมลของครู ช่วั โมงที่ 2 ขัน้ สอน ข้ันที่ 3 อธิบายความรู้ (Explanation) 1. ครทู บทวนความรเู้ ดิมจากการเรยี นเมื่อชัว่ โมงทแ่ี ล้ว 2. ครูถามคาถามนักเรยี นว่า “นกั เรียนร้จู ักการตดิ ต่อสือ่ สารแบบใดอีกบา้ ง” (แนวตอบ : LINE Facebook วดิ โี อคอล) 3. ครนู าบัตรภาพสัญลกั ษณ์ของโปรแกรมสนทนาต่าง ๆ มาให้นักเรยี นสงั เกต 4. ครูใหน้ ักเรยี นศึกษาตัวอย่างการใชโ้ ปรแกรมสนทนาจากสถานการณ์ท่กี าหนดในหนงั สือเรยี น หน้า 81 5. ครูให้นักเรียนศึกษาเก่ียวกับบล็อก (Blog) จากหนังสือเรียน หน้า 82 โดยอธิบายว่า “บล็อก คือ เว็บไซต์รูปแบบ หน่ึงท่ีสามารถทาได้ง่ายโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย เป็นการนาเสนอข้อมูลเฉพาะด้านตามความสนใจ หรือความต้องการ ของผเู้ ขยี น” 6. ครยู กตัวอย่างเวบ็ ไซตท์ ี่ให้บริการบลอ็ ก เพ่ือให้นกั เรยี นเขา้ ใจมากยิง่ ขน้ึ 7. ครูอธิบายเพิ่มเติมว่า “ผู้ท่ีมีความชานาญในการเขียนบล็อก หรือผู้ท่ีเขียนบล็อกเป็นอาชีพ เราจะเรียกคนเหล่านี้ว่า บลอ็ กเกอร์” 47


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook