Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore หนังสือรวมกลอนลำทางยาว (พ.ศ. 2513-2560)

หนังสือรวมกลอนลำทางยาว (พ.ศ. 2513-2560)

Description: หนังสือรวมกลอนลำทางยาว (พ.ศ. 2513-2560)

Keywords: หนังสือรวมกลอนลำทางยาว,กลอนลำทางยาว,ลำทางยาว

Search

Read the Text Version

144 (บทที่ 7) ความโบราณเพน่ิ วาํ … ความดีนีแ้ มนํ ตกน้าํ กะบไํ หล ตกไฟกะบํไหม๎ ตกฟากลากดินไป ไสกะยอํ มมี แนวซํอย คณุ ความดสี หิ ํอย ตดิ โตเจ๎าดัง่ เงา (บทท่ี 8) ขอวงิ วอนฝากบทกลอนลาํ เว๎า ให๎เจา๎ คิดตรกึ ตรอง ขน้ึ ทส่ี ูงแล๎วเหลยี วมอง ๆ สอํ งลงมาทางใต๎ จั่งสิเหลียวเหน็ ได๎มองไปถึงท่วั คนั มัวแตํขาขึน้ หํางนอนเทิง้ อยเํู ปงิ (บทท่ี 9) นบั แตมํ ื้อสิเว้ิงเหินหํางทางเดิน ผูล๎ าํ้ รวยทั้งเงินทอง และลาภยศสรรเสริญ ซํา่ วาํ เดิน อยํูเทงิ ฟูา ผท๎ู ุกข๑จนกะก๎มหน๎า อยตํู ามแบบอนาถา หาเชา๎ กินคา่ํ พผ่ี ูร๎ วย เบิง่ เพ่ินกนิ มาํ ๆ ฮอดบํคําเบ่งิ ทอ๎ ง ของน๎อง ผท๎ู ุกข๑จน (บทท่ี 10) อยากขอใหเ๎ ริ่มต๎น มองเบง่ิ ให๎เถงิ กนั ปน๓ สายธารนํา้ ใจ ให๎หลงั่ ไหลหลอมเล้ยี ง แบงํ เอาเพียงเศษเซี่ยวขอนัดเดียวป๓นสวํ น ของทงั มวลท่คี ดิ วาํ สิถม่ิ เซาใชบ๎ เํ อา (บทที่ 11) ขอใหพ๎ วกหมํเู จ๎า บําเพ็ญประโยชน๑การกศุ ล ผูย๎ ากจนยังรอรบั อยูมํ ากมายหลายล๎น บุญกศุ ลกะสไิ ด๎ สิ่งของเฮาบํสนู เปลํา สวํ นผด๎ู ๎อยโอกาส กะอยําเห็นแตํเอา (บทที่ 12) รบั ธารนํ้าใจท่ีเพ่ินให๎ ตอํ ไปหนา๎ ใหซ๎ อํ ยสาน อยําสิมัวแตํเกียจคร๎าน ฟาู วมนั่ ขยันเฮ็ด ให๎สาํ เร็จในการงานๆ ผาํ น เปูาหมายใหม๎ ันได๎ และยึดหลักหปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งไว๎ คาํ พระราชดําริองค๑ในหลวงตรัส ให๎เปน็ แนวทางก๎าวยาํ ง เดินทางสายกลางพอประมาณเข๎าไวส๎ ําเร็จไดด๎ ๎วยเหตุผล (บทท่ี 13) เปน็ ภมู ิคุ๎มกันตนในทางดีเอาไว๎ และอยูใํ นเงื่อนไขความรอบคอบรอบรซ๎ู ่ือสัตย๑ สจุ ริต ขยนั และอดทน ใสํตนเป็นทุนไว๎ สวํ นผร๎ู วยกะใหเ๎ อื้ออาทร 144 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

145 แบํงป๓นผท๎ู ุกข๑ไฮ๎อาศัยโซ๎นเพงิ่ เย็น (บทที่ 14) บ๎านเมืองเฮาสไิ ด๎ปราศจากเว๎นความทุกขอ๑ กุ ใจ ฮํวมกันสรา๎ งสงั คมไทยแบบบริสทุ ธ๑สดใสและยึดคุณธรรมไว๎ ในโครงการคนขอนแกํนบทํ อดถิ่มกนั นี้เปน็ นิมติ หมายอันดี ของพี่น๎องซาว ขอนแกนํ เฮ็ดให๎คนขอนแกนํ ได๎มีหลักยดึ ม่ัน ผูกพันธไ๑ วส๎ ํวนใจ (บทท่ี 15) โครงการน้เี กิดได๎ โดยนายกเทศมนตรี นายพรี ะพล พฒั นพรี ะเดช หอื วํานายกตอ๎ ง เปน็ ผมู๎ ีวิสยั ทัศน๑กวา๎ งไกลใผกะฮ๎ู และนายเรืองชยั ตราชู ประธานสภาเทศบาล ตมุ๎ โฮมกันเบิ่งแงงบํเคยแลง๎ นาํ้ ใจมุํงหวังใหเ๎ ฮาฮักฮํอ ความมุํงหวงั เทศบาลนครขอนแกนํ เฮานอ อยากใหค๎ นขอนแกํน ผกู สมัครฮักใครํ แมนํ สริ วยหือจนกะฮักกนั เขา๎ ไว๎ ให๎โฮมตุม๎ ฮุมํ ฮักแพงคนจังหวัดขอนแกนํ อยําทอดถิ่มกนั เด๎อ... (กลอนลง) ละนา๎ ...... หนงั สือรวมกลอนลำทำงยำว 145 ศูนย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

146 กลอน เสาเข็มชวี ิต 8 ต้น ทานอง ลาทางยาว ประพนั ธ์โดย แม่ครู ราตรี ศรวี ไิ ล ปี พ.ศ. 2550 มอบให้ ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแกน่ นาไปเผยแพร่ “คนขอนแก่น ต้องมี แกน่ ชวี ติ ” (กลอนขึน้ ) โอํย…. ฟูาเอ๎ยฟูาฮ๎องขํวม อยําลืมความหมอลําสงั่ ทํานผู๎วําราชการเมอื งขอนแกํนเพิน่ หวังใหพ๎ น่ี อ๎ งชาวขอนแกํนมีแกนํ ชวี ติ แท๎ โดยใหแ๎ วํมาทางเสาเขม็ งาม 8 ตน๎ ทุกคนสิพอ๎ แตํส่ิงดบี ญุ ผลาเฮามี…ละนา๎ … (เนอ้ื ในกลอน) (บทที่ 1) มาบดั น้ี ฟ๓งขาํ วสารด๎านความฮ๎ยู ู๎เข๎าใสํแกนํ ชีวติ ทาํ นผว๎ู ําปานชยั บวรรัตนปราน เพ่นิ คดิ หํวงใยนําชาวบ๎าน ฐานชีวติ คนเฮานีต้ อ๎ งอยํดู ีกินดมี คี วามสุขทกุ อยาํ ง จ่งั ฟูาวหาแนวทาง ตง้ั เสาเขม็ ชวี ิตให๎ เฮาได๎ซํอยสาน (บทท่ี 2) เสาที่ 1 รักษาความสะอาด ทั้งกายใจของเฮาและบรเิ วณเขตบ๎าน โดยมองอาํ นการณ๑ไกล สะอาดตาเจรญิ ใจสะอาดกายเจรญิ วยั ให๎ใสํใจเอาไว๎ เสาท่ี 2 คอื การออกกําลงั กายมีคาํ หลายข๎อนี้เป็นผลดแี ละเฮ็ดงําย ฮาํ ลางเท่อื มีเงนิ แสนเงินลา๎ นกะบมํ ีความหมาย (บทที่ 3) คนั รํางกายเจบ็ ปวุ ยไข๎ เงินอาจซอื้ ภายนอกได๎ ภายในนน้ั อาจบํหาย การออกกําลังกาย เปน็ ยาวเิ ศษเฮด็ ใหส๎ ุขภาพแข็งแรง มแี ฮงท้งั กายใจโรคภัยบมํ าใกล๎ (บทท่ี 4) แบํงเวลาให๎ตนเองเอาไว๎ มาออกกาํ ลังกายม้ือละเลก็ ละหนํอย สิซํอยชวี ติ ใหเ๎ ฮาไดอ๎ ยํูสบาย (บทที่ 5) เสาที่ 3 ฟูาวขนขวายหาความร๎ู อยําบไ๐ู ปทางบํแมํน แกนํ ชวี ิตอันเลศิ ลํ้า สินาํ ใหซ๎ ึ่งหมากผล (บทท่ี 6) มีวชิ าดกี วํามที รัพยส๑ นิ อนั มากลน๎ เพราะเป็นทรัพยอ๑ ยํูในตน สิเป็นผลนําพาใหก๎ า๎ วหาความสุขได๎ เสาที่ 4 ส๎ูกับชวี ติ ไว๎ อยาํ อํอนไหวใจวอกแวก ตอ๎ งจาํ แนกออกให๎ไดใ๎ นเรอื่ งสวํ นตน 146 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

147 (บทท่ี 7) ชีวติ คนเปรียบคือมืดและแจง๎ เป็นคํูของกัน ตะวันกบั ดวงดาวคํกู ันหันปน้ี ตราบชีวิตบํสนิ้ ต๎องหากนิ ให๎พน๎ ผําน ชวี ติ เราและทํานกะคือดา๎ มดัง่ กัน (บทที่ 8) เพราะฉะน้ันตอ๎ งตํอส๎ูกบั ทุกเร่อื งในชีวิต สง่ิ ใดผ๐ ิดถอื เป็นครใู ห๎ฮ๎หู าทางแก๎ อยาํ หลงแวํไปซา้ํ ทําผิดหลายเหลํา ยึดเอาคาํ พระพุทธเจา๎ เฮาไดส๎ ง่ั สอน (บทท่ี 9) คันมคี วามทกุ ขฮ๑ ๎อนใหด๎ ับดวํ นด๎วยความเย็น แล๎วสเิ หน็ ความสขุ แลํนเข๎ามาแทนท่ี ชีวิตคนเฮาน้มี ีความหมายอันล้ําคํา เกิดมาแลว๎ ตอ๎ งสู๎ให๎ถงึ เปาู ชีวิตเฮา (บทท่ี 10) ตอํ ไปเสาท่ี 5 คือพิชิตอบายมุข ภัยมหนั ต๑นาํ ทุกขใ๑ หส๎ ํูคนท่ไี ปใกล๎ ภยั จบิ หายตัวนีบ้ ํมีหยังสเิ ทําทอํ ขอใหห๎ ลกี เลีย่ งไว๎ อยําไปใกล๎ อยําทดลอง (บทท่ี 11) คันหลงผดิ แล๎วกะต๎องหาทางออกหนไี กล ลดละเลกิ ให๎เร็วไวขํมใจให๎มนั ได๎ เสาท่ี 6 สขุ กับความพอดีไว๎เดินตามทางสายกลาง แลว๎ สิพน๎ ภัยสอูํ ยาํ ง มัชฌิมะ ปฏปิ ะทา ประมาณตนให๎ได๎ใจมนั่ บํหวัน่ ไหว (บทที่ 12) ยนื อยํบู นพ้นื ฐานเศรษฐกจิ พอเพียงไวเ๎ สาใหญขํ องชวี ติ ยึดตดิ ความพอดีสร๎างความฮกั สามัคคี เป็นคนมีเหตผุ ล สิเป็นภูมิค๎ุมกนั ตน ไปสูทํ างดไี ด๎ ระมดั ระวงั รอบคอบไว๎ เฮ็ดแนวใดอยาํ ประมาท ใหใ๎ ช๎ความฉลาดในทางดถี กื ต๎อง ความหมองเศร๎าสิบมํ ี (บทท่ี 13) ความซ่อื สตั ยส๑ ุจรติ ขยันและอดทน สง่ิ เหลํานค้ี ือเสาใหญํในชวี ติ ใช๎สตปิ ญ๓ ญาคดิ แตํสิ่งดงี ามไว๎ คณุ ธรรมจรยิ ธรรมรวมทั้งศลี ธรรม เปน็ เครอ่ื งชี้บํงให๎ในความเป็นชาติ คันขาดสิ่งเหลาํ น้คี วามสขุ น้นั สิบํมี หนงั สือรวมกลอนลำทำงยำว 147 ศูนย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

148 (บทที่ 14) เสาที่ 7 ให๎เปรมปรีด์ิ ฮกั ระบอบประชาธิปไตยไว๎ เอาใจใสตํ ามตดิ ในวิถชี ีวิตของปวงชนชาวไทย ตอ๎ งอาศัย รฐั ธรรมนูญ ระบอบประชาธปิ ไตยเกอื้ กลู หนนุ ไว๎มสี ถาบันชาติศาสนาพระมหากษัตรยิ ๑ เป็นประมขุ และศูนย๑รวมใจใหช๎ าวไทยทั้งชาติ (บทท่ี 15) เสาท่ี 8 อยาํ ขาดสร๎างวินัยขึ้นไวเ๎ ปน็ มงคลให๎แกํตน บนพื้นฐานของศลี หา๎ สินําพากา๎ วยํางสรา๎ งความดีมวี ินยั พาใหช๎ ีวติ กา๎ วถึงเปาู บํอนหมาย กฎระเบยี บต๎องมไี ว๎ในชีวิตของตน สิเปน็ ผลนาํ พาสคูํ วามสําเร็จได๎ แปดเสาหลักฝากมาให๎ ด๎วยรักและหํวงใยจากทํานผวู๎ ําเมอื งขอนแกนํ คน ขอนแกํน ต๎องมแี กํนชวี ติ โดยยึดเอาแนวความคิด เสาเขม็ ชีวติ แปดต๎น เปน็ หลักแนนํ แกํนสาร (บทที่ 16) ทาํ นผว๎ู ําราชการนาย ปานชัย บวรรัตนปราณ ฝากความปรารถนาดีมาให๎ ฉนั ราตรี ศรีวิไล ผ๎ูลาํ ร๎องบอกขําว ชาวขอนแกนํ เฮด็ ได๎ ในเสาเข็มชวี ติ แปดต๎นความจนสิหํางไกล (กลอนลง) ความสขุ สไิ ด๎หล่งั โฮม…ละน๎า… 148 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

149 กลอน ความหมายของภาษาถ่ินไทยอีสาน ทานอง ลาทางยาว ประพันธโ์ ดย แม่ครู ราตรี ศรีวิไล ปี พ.ศ. 2550 ใช้ในโครงการภาษาถิ่นกภ็ าษาไทย (กลอนขึ้น) โอ๎โอํย...ละนอ... ภาษาเอ๎ยภาษาไทยเฮาน้ีมกี ระจายหลากหลายถ่ิน ยามยลยนิ เสียงอิน่ อ๎อยมโนซ๎อยแมํนซน่ื ซมสมความลือ... ละน๎า (เนอื้ ในกลอน) (บทที่ 1) นลี้ ะพํอแมํเอย... ประเทศไทยเฮาน้ี แบํงเป็นสว่ี ัฒนธรรม ตามสําเนียงภาษา และประเพณีบา๎ น ปฏบิ ตั ยิ นื หมัน่ ตามครรลองพํอแมํ ตามแตํภมู ิภาคพนื้ ธรรมชาตทิ ต่ี ํางกัน (บทท่ี 2) สาํ เนียงเวา๎ จานน้ั แตกตาํ งตามปจ๓ จัย ที่หลอํ หลอมสําเนียงไทย ใหต๎ ํางไปเทงิ คาํ เว๎า ลางเทอ่ื ยืมคําเขาเจา๎ เทิงจนี แกวแขกฝรง่ั ฟง๓ สบั สนกะพอํ งนัน้ มีแตมํ ้อื สเิ ปลีย่ นไป (บทท่ี 3) แตมํ อื้ นฉี้ นั ราตรสี ิขอเวา๎ ภาษาถิน่ ไทยอีสาน ท่สี มั พนั ธ๑กับไทยกลาง เทงิ ถอ๎ ยคําสําเนียงเวา๎ แตตํ อนกกสหิ ันเข๎า เร่ืองถอ๎ ยคํานี้สากํอน ตอนหลังจง่ั สเิ วา๎ สาํ เนยี งซน้ั ตา่ํ สูง (บทที่ 4) คาํ วํา “ลุง” ทางภาคกลางนัน้ ออกเสยี งสัน้ อสี านออกเสยี งยาว คําวํา “ลาว” ทางอีสาน หมายถงึ คนผอ๎ู าวุโสหรือผูท๎ ่เี ฮาเคารพนบั ถือเทดิ ทูลเทินไว๎ คาํ วาํ “ไปไส” นนั้ คอื “ไปไหน” เด๎อทําน คนแมํมาน แปลวาํ คนมีทอ๎ ง เด๎อพี่นอ๎ งให๎จื่อจํา (บทที่ 5) อันวาํ “คําแพง” นน้ั คือของ “มีคํา” คณานับ คาํ วํา “มบั หมา” แปลวาํ ตายแอแล บมํ ที างฟน้ื คําวาํ “มนื ตา” น้ันหมายถึง “ลมื ตา” ขน้ึ เหลยี วเหน็ แจง๎ คกั แนํ คําวาํ “แจ” นน้ั นา๎ หมายแทว๎ ํา “มมุ ” (บทที่ 6) คาํ วํา “หยุม” นัน้ แปลวาํ “ขดี ขํวน”คอื ความหมาย คาํ วํา “ยาย” นน้ั หมายถงึ “จดั เรยี งให๎เป็นแถวแนวไว๎ หนงั สือรวมกลอนลำทำงยำว 149 ศูนย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

150 คําวํา “ตาไซ” นนั้ คือ“ตาขวาง” เด๎อทาํ น คําวํา “ฟาน” นนั้ หมายถงึ “อเี กง๎ ” กวางนอ๎ ย อํอยฮํอยเหลือง (บทที่ 7) คําวํา “เตอ้ื ง” หมายความวํา “เตรยี มตัว” คาํ วาํ ป๓ว หมายถึง “บวั ระบตั ิ” หือวาํ “ปรนนิบัติ”รักษาคนไข๎ คําวํา “ไค” คือ “ดขี นึ้ ” จากสภาพเดมิ เคยเปน็ อยํู “ตุหลุ” แปลวาํ ตึง “อ๎วนตุย๎ ”หอื ตุย๎ นย๎ุ หํุนงาม (บทที่ 8) คาํ วาํ “หยําม” วาํ นนั้ หมายความวาํ “เคยตัว” คาํ วาํ “นัว” คอื กลมกลํอมกันดี แซบอหี ลนี อนี้ “เฮด็ หนาํ่ นี” แปลวํา “ทาํ หลายครั้ง”วนเวียนหลายเหลาํ คําวํา “เซา” แปลวาํ “หยดุ อยยูํ ง้ั ”วางไว๎บกํ ระทํา (บทท่ี 9) คําวาํ “ผาํ้ ” เป็นคําเลิ๊กลงไป แปลวาํ “แผลเนาํ ใน”เปุงบวมในเนอ้ื คําวาํ “เฟอื ” น้ันแปลวํา “คลอเคล๎า” บหํ นีไกลไลหําง คําวาํ “ฮ๎าง” แปลวาํ “ใชบ๎ ํได๎” คือของฮา๎ งผาํ ยพัง (บทท่ี 10) คําวํา “ก้งั โกบ” นั้นแปลวํา เอามือก้ังโกบสอํ งบังแสง พาใหแ๎ ยงยลเห็น ได๎ชัดเจนในแนวจอ๎ ง คําวาํ “คองคอยถ๎า” แปลวํา“คอยตั้งตอํ ” “เครือกอฮอ” แปลวํา “บอระเพด็ ”นัน้ กินได๎แตํหากขม (บทท่ี 11) “กระโปะลม” วาํ นั้นแปลวํา “เกงํ แตํคุยโว” อนั คําวํา “พาโล” คอื “แกล๎งเป็นคนพาล”บฟํ ง๓ ความต๎าน คาํ วํา “ฮาน” แปลวาํ “ตดั สินถิ่ม” หรือ “ตดั รอ” ทา๎ ตอํ “คนตาลอ” แปลวาํ “ตาบอดเบื้อง” ขา๎ งเดียวนน้ั สํองบเํ หน็ (บทท่ี 12) คําวาํ “หมอเอ็น” นน้ั คือ “หมอนวดแผนโบราณ” คําวํา “ย๎าน” แปลวาํ “กลวั ” บํอาจหาญเสง็ สํู คําวาํ “ซลํู ํู” น้นั คอื “ลวํ งเอาของผอู๎ ่นื ” อนั คาํ วํา “ลืน่ ” นั้น คอื เกนิ หนา๎ ผ๎อู ืน่ เขา (บทท่ี 13) เฮาเอ้ินวาํ “ก๎อนเสาํ ” คือ “ดินกอ๎ นสามฐาน” ตั้งประสานเป็นสามขา ถ๎ากํอไฟหงุ ตม๎ ควันฮมเอ๎าจฟุ ืนเขา๎ ใสํ ไฟลกุ กมุ๎ อาหารพรอ๎ มได๎อยูํกิน.. (บทลง)ออนซอนภาษาถนิ่ ไทยอสี านเฮาเด๎...ละน๎า 150 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

151 กลอน เกิดเปน็ ไทยให้รักกนั ตอนที่ 1 ทานอง ลาทางยาว ประพนั ธโ์ ดย แมค่ รู ราตรี ศรวี ิไล ปี พ.ศ. 2550 (กลอนข้ึน) โอ๎โอํโอํย… ฟูาเอยํ ฟูาฮอ๎ งโหยนํ อยาํ สมิ วั สับสน มาเร่ิมตน๎ กันใหมํขอเชิญชวนพนี่ อ๎ งเผาํ ชาวไทย มาตุม๎ โฮมฮอ๎ ยดวงใจเปน็ หนง่ึ เดยี วเข๎าไว๎ แลว๎ เฮาสไิ ด๎อยํูเยน็ สเิ หน็ ความงาม..ละนา๎ ... (เนอ้ื ในกลอน) (บทท่ี 1) มาบดั นี้ ถงึ เวลาเฮาควรได๎ ฮอ๎ ยดวงใจใหเ๎ ปน็ หนงึ่ สร๎างความฮักอนั ซาบซงึ้ ให๎ฝง๓ แนํนแกํนสาร (บทท่ี 2) อดตี กาลผาํ นแล๎ว ใหถ๎ ือวําเป็นความฝน๓ ปจ๓ จบุ นั คือไทยเฮา ตอ๎ งฮักแพงกนั ไว๎ ฮํวมแก๎ไขปญ๓ หา ในภาวะวกิ ฤตของเมืองบ๎าน ประสานใจให๎เต็มท่ี มาสํงเสริมความฮัก สมคั รสมานสามคั คี สรา๎ งความดซี อํ ยให๎ เมืองบา๎ นฮุํ งเฮือง (บทที่ 3) เฮด็ จ่งั ใด๐ประเทศชาติ เฮาสิเฟ่ืองเฮอื งฮํงุ ถงึ สขุ ฮบี ฟาู วพากนั ลกุ อยําหํวงนอนฝน๓ เพ๎อ อยาํ เผอเรอแตนํ ําเลนํ เปลอื งเวลาให๎สญู คํา อยาํ ปลํอยโอกาสและเวลา อันเฮาควรสไิ ด๎ เสยี ถมิ่ เปลําดาย (บทที่ 4) สมานฉันทก๑ นั ไว๎ อยใํู นบนพื้นฐานคุณธรรมคา้ํ จุนชาติ อยําขาดเด๎อพนี่ ๎อง ปลูกฝง๓ ไวเ๎ รอ่ื งฮักแพง หนภี ัยมดื มาอยํูแจ๎ง สิไดส๎ ํองเห็นทาง วางพืน้ ฐานชีวิตตํอไปภายหน๎า ยดึ หลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพียงไว๎ใหเ๎ อาใจต้ังตอํ เอาเพือ่ เทิดไท๎ถวายใหอ๎ งค๑สมเด็จพอํ ในวาระปีมหามงคลอีกพรอ๎ มนอ๎ มนาํ ให๎ สิ่งดี (บทท่ี 5) เศรษฐกิจพอเพียงนค้ี ือรากฐานใหญขํ องชีวติ ควรยึดตดิ ประจําตนแลว๎ ทกุ คนซเิ พยี งพรอ๎ ม นอ๎ มนาํ คณุ ธรรมไวเ๎ ดนิ สายกลางยาํ งให๎สื่อ ถือเอาความมัชฌิมาพอประมาณใหไ๎ ด๎สาํ รวมไวด๎ ๎วยเหตุผล หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว 151 ศูนย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

152 (บทที่ 6) สร๎างภมู ิค๎มุ กันที่ดใี หแ๎ กตํ น และรอบคอบรอบร๎อู ยูํในความบปํ ระมาท สิง่ ที่ขาดบไํ ด๎คือใจนั้นตอ๎ งเที่ยงธรรม ยดึ เอาความซื่อสัตย๑สุจรติ เที่ยงมัน่ ขยนั และอดทน ใช๎สติปญ๓ ญาไปในทางเกิดผลเข๎าสูํตนเองไว๎ การเป็นคนดมี นี า้ํ ใจคอื เอกลักษณไ๑ ทยแท๎ เปน็ มาแตพํ ํอแมํ ประเพณีเกาํ แกแํ ตปํ ยูุ าํ เฒาํ ปฐมเคา๎ ฮตี คอง (บทท่ี 7) ฮกั กันคืออ๎ายน๎องเด๎อผองเผาํ ชาวไทย ใจตํอใจประสานกัน และฮํวมสานฝ๓นไว๎ สิเป็นภมู คิ ุ๎มกนั ใหส๎ ังคมไทยเฮาแขง็ แกรํง สามคั คีฮกั แพงผูกกลั ยาณมติ รมั่น บผํ ันป้นี เปลี่ยนแปร (บทท่ี 8) ฮักด๎วยใจแกนํ แท๎ เสมอื นปลาฮักนํา้ น้าํ กะฮกั ฝูงปลา เปรยี บคอื ยารักษาใจหาซอื้ ใสบมํ ีได๎ ทางภาคเหนอื ภาคกลาง ภาคอีสานภาคใต๎ เป็นเลือดเน้ือเชือ้ ไขไทยคอื กันฮักหมัน่ แกํน แหลมทองของไทยแลนด๑ๆคอื สมบัติคําลน๎ คนไทยตอ๎ งฮวํ มรกั ษา (บทท่ี 9) เพอื่ ลูกหลานในอนาคตภายภาคหน๎า เฮามาซํอยกันสาน บนพื้นฐานคณุ ธรรม จรยิ ธรรม บวกศีลธรรม สินําพาชวี ิตสํูทิศทางดีได๎ ซํอยกันสรา๎ งสังคมแบบบริสทุ ธ์ิสดใสเติมพลงั ใจให๎ปน๓ สายธารนํา้ ใจ อยาํ เฮด็ ใหเ๎ ขนิ ขาด มาตุม๎ โฮมฮกั กนั และฮกั สถาบนั ชาติศาสนาพระมหากษตั รยิ ๑ และ รฐั ธรรมนูญอกี พรอ๎ ม ถนอมไว๎ให๎คํูไทยสิไดใ๎ สเริงๆ… (กลอนลง) ละนา๎ 152 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

153 กลอน เกิดเป็นไทยให้รกั กัน ตอนที่ 2 ทานอง ลาทางยาว ประพันธโ์ ดย แม่ครู ราตรี ศรวี ไิ ล ปี พ.ศ. 2550 (กลอนขึ้น) โอ๎โอํโอํย… ฟาู เอยํ ฟาู ฮ๎องโหยนํ อยาํ สมิ วั สบั สนมาเรม่ิ ต๎นกนั ใหมํ ขอเชิญชวนพ่นี ๎องเผําชาวไทยมาตมุ๎ โฮมฮ๎อยดวงใจเปน็ หนงึ่ เดียวเข๎าไว๎แล๎วเฮา สไิ ด๎อยูํเย็น สเิ ห็นความงาม…ละนา๎ … (เนอ้ื ในกลอน) (บทที่ 1) มาบัดนี้ ถึงเวลาเฮาควรได๎ ฮ๎อยดวงใจให๎เป็นหนง่ึ สรา๎ งความฮักอนั ซาบซึ้ง ให๎ฝ๓งแนนํ แกํนสาร (บทท่ี 2) อดตี กาลผํานแลว๎ ให๎ถือวาํ เป็นความฝ๓น ปจ๓ จบุ ันคอื ไทยเฮา ต๎องฮกั แพงกันไว๎ ฮวํ มแก๎ไขป๓ญหา ในภาวะวิกฤตของเมอื งบ๎าน ประสานใจให๎เต็มท่ี มาสํงเสริมความฮกั สมัครสมานสามคั คี สร๎างความดซี อํ ยให๎ เมืองบา๎ นฮุงํ เฮือง (บทท่ี 3) เฮด็ จ่งั ใดประเทศชาติ เฮาสิเฟ่อื งเฮืองฮุํงถงึ สขุ ฮีบฟูาวพากันลุก อยาํ หวํ งนอนฝ๓นเพอ๎ อยําเผอเรอแตนํ ําเลํน เปลอื งเวลาให๎สญู คํา อยาํ ปลอํ ยโอกาสและเวลา อันเฮาควรสไิ ด๎ เสียถิม่ เปลาํ ดาย (บทท่ี 4) สมานฉนั ท๑กนั ไว๎ อยํใู นบนพนื้ ฐาน คุณธรรมคาํ้ จุนชาติ อยาํ ขาดเดอ๎ พี่นอ๎ ง ปลูกฝง๓ ไว๎เรือ่ งฮักแพง หนภี ัยมดื มาอยแูํ จ๎ง สิได๎สํองเหน็ ทาง วางพ้ืนฐานชวี ติ ตอํ ไปภายหน๎า ยึดหลักปรัชญา เศรษฐกิจพอเพยี งไว๎ ให๎เอาใจตง้ั ตํอเอา เพ่อื เทดิ ไท๎ถวายให๎องคส๑ มเด็จพอํ ในวาระปมี หามงคลอีกพรอ๎ ม น๎อมนําใหส๎ ่ิงดี (บทที่ 5) เศรษฐกจิ พอเพยี งน้ี คอื รากฐานใหญํของชีวติ ควรยดึ ตดิ ประจําตน แล๎วทกุ คนซิเพียงพรอ๎ ม น๎อมนําคณุ ธรรมไว๎ เดินสายกลางยํางใหส๎ ่อื ถอื เอาความมัชฌิมา พอประมาณใหไ๎ ด๎ สํารวมไวด๎ ว๎ ยเหตผุ ล หนงั สือรวมกลอนลำทำงยำว 153 ศูนย์กำรเรียนภูมิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

154 (บทที่ 6) สร๎างภูมิค๎ุมกันท่ีดีใหแ๎ กํตน และรอบคอบรอบรู๎ อยูใํ นความบปํ ระมาท สิง่ ที่ ขาดบํได๎ คอื ใจนัน้ ต๎องเทย่ี งธรรม ยึดเอาความซือ่ สัตย๑สุจรติ เทย่ี งมนั่ ขยนั และอดทน ใชส๎ ตปิ ญ๓ ญาไปในทาง เกดิ ผลเข๎าสูํตนเองไว๎ การเปน็ คนดีมนี ้าํ ใจคอื เอกลกั ษณไ๑ ทยแท๎ เป็นมาแตํพอํ แมํ ประเพณเี กาํ แกแํ ตํปยุู ําเฒําปฐมเคา๎ ฮีตคองฮกั กนั คืออ๎ายนอ๎ ง เดอ๎ ผองเผาํ ชาวไทย (บทที่ 7) ใจตํอใจประสานกนั และฮวํ มสานฝ๓นไว๎ สเิ ปน็ ภูมิคมุ๎ กนั ให๎สงั คมไทยเฮาแขง็ แกรงํ สามัคคฮี ักแพงผกู กลั ยาณมิตรมน่ั บํผนั ป้ีนเปล่ยี นแปร (บทที่ 8) ฮักดว๎ ยใจแกนํ แท๎ เสมือนปลาฮกั นํ้า น้ํากะฮักฝูงปลา เปรยี บคอื ยารกั ษาใจหาซอ้ื ใสบมํ ไี ด๎ ทางภาคเหนือภาคกลางภาคอีสานภาคใต๎ เป็นเลือดเนอ้ื เชอื้ ไขไทยคือกนั ฮักหม่ันแกํน แหลมทองของไทยแลนดๆ๑ คอื สมบัติคาํ ลน๎ คนไทยตอ๎ งฮวํ มรักษา (บทท่ี 9) เพอ่ื ลูกหลานในอนาคตภายภาคหน๎า เฮามาซอํ ยกนั สาน บนพ้นื ฐานคณุ ธรรม จรยิ ธรรม บวกศลี ธรรม สนิ ําพาชวี ติ สูํทศิ ทางดีได๎ ซอํ ยกันสร๎างสังคม แบบบริสุทธิ์สดใสเตมิ พลังใจให๎ ปน๓ สายธารนาํ้ ใจอยําเฮด็ ให๎เขินขาด มาต๎ุมโฮมฮักกนั และฮักสถาบนั ชาติศาสนาพระมหากษตั รยิ ๑ และ รัฐธรรมนูญอกี พร๎อม ถนอมไว๎ใหค๎ ไํู ทย สิไดใ๎ สเริงๆ….. (กลอนลง) ละนา๎ 154 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

155 กลอน เชิญร่วมลงประชามติรัฐธรรมนญู ทานอง ลาทางยาว ประพนั ธโ์ ดย แมค่ รู ราตรี ศรีวไิ ล ปี พ.ศ. 2550 ใชม้ อบใหส้ านักประชาสัมพนั ธ์ เขต 1 เพอ่ื เผยแพร่ (กลอนขน้ึ ) โอํโอย… โค๎งเอย๎ โคง๎ สดุ ท๎ายไทยเฮาโชคดีหลายได๎ฤกษง๑ ามยามแมํน เชิญพี่น๎องทวั่ แดนทําหนา๎ ทคี่ นไทยใหส๎ มบูรณ๑ถูกต๎องโดยไปรํวมลงประชามติ รัฐธรรมนญู เดอ๎ พี่นอ๎ ง อยาํ มองข๎ามใหซ๎ อํ ยกัน ฮํวมสรา๎ งสรรค๑ความงาม…ละนา๎ (เนอ้ื ในกลอน) (บทท่ี 1) หนั มาฟง๓ ทางนี้ หมอลาํ มขี ําวดี มาบอกทาํ นเรงํ ดํวน ชวนกนั ทําสง่ิ ถกู ตอ๎ ง อยาํ บกพรํองหน๎าที่มี (บทที่ 2) รัฐธรรมนูญดบี มํ ขี ายมีซือ้ ถอื ความเห็นของทกุ ฝุาย ความหลากหลายรํวมดว๎ ย สรรค๑สรา๎ งชํวยไทย (บทที่ 3) ตอนผาํ นมาเฮาไดร๎ วํ มกันราํ ง รฐั ธรรมนญู ฉบบั สมบูรณ๑แบบ แจบกระใจวาดไว๎ทุกคนได๎ซอํ ยกนั (บทท่ี 4) บัดน้ถี งึ บํอนบ้ัน สิกรองกลน่ั เอาแนวดี เพ่อื ศกั ด์ิศรีของคนไทย ได๎ฮงุํ เฮอื งเมอื งบา๎ น โดยสิมผี ูป๎ ระสาน ขอ๎ มูลไปใหท๎ กุ ครัวเฮือนได๎รบั เรอ่ื ง เกยี่ วกบั การเรอ่ื งรํางรัฐธรรมนูญที่สมบรู ณถ๑ กู ต๎องใหเ๎ รียนร๎ทู ว่ั กนั (บทท่ี 5) ภายในเดอื น กรกฎาคม ปีนนี้ ั้น ได๎รบั ทกุ ทวั่ ครัวเฮือนไทย ฟาู วพากันใสใํ จอํานดศู ึกษาฮ๎ู และอยําลืมไปตรวจดู สถานที่ทเ่ี คยไปเลอื กตง้ั ครั้งสดุ ท๎ายคหู าเดิมให๎ไปเบ่งิ ถึงเวลาฮอดม้ือวนั ท่ี 19 เดอื นสงิ หาคม ปี 2550 ใหฟ๎ ูาวเรว็ จา๎ วดํวนไป (บทที่ 6) อยําลืมเดอ๎ อยําลมื บตั รประชาชนพกตดิ โตเอาไว๎ ฮอดมอื้ ทาํ นแสดงตน ขอ๎ สาํ คัญอยาํ ไปฟ๓งคําคน ให๎ยดึ ตนเองไว๎ ไผมาเชิญชวนชี้ ไปทางใด๐อยาํ ไดเ๎ ชอื่ ให๎ฮูเ๎ มือ่ ตลอดเดอ๎ อยาํ มวั เซํอหวํ งนอน และอยาํ ซวนแนะช้ีให๎คนอนื่ เอานํา (บทที่ 7) คนั ไปนาํ คําเขาซวน หือซวนเขานาํ เอาเฮา ถือวาํ มีความผิด อยาํ คดิ ทําเด๎อทาํ น หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว 155 ศูนย์กำรเรียนภมู ิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

156 รัฐบาลเพนิ่ เปิดปุองทางให๎ ผองปวงชนชาวไทย มีสิทธใิ ซเ๎ ตม็ ท่ี ฮ๎ายหือดใี ห๎พีน่ อ๎ ง ตรองถํวนฮา่ํ ฮอน (บทท่ี 8) บา๎ นเมอื งเฮาสบิ ใํ ด๎เดือดฮอ๎ น อยอูํ ยํางส่ําบายใจ พากันไปลงประชามติ รัฐธรรมนญู ใหแ๎ จบใจของเจา๎ เอาบํเอากะเชญิ ไปกาไว๎ เข๎าคหู าเป็นหนา๎ ท่ี หรือรับแล๎วกะยังมี กรณีกฎหมายรองรับให๎ แก๎ไขได๎เทอื่ หลงั (บทท่ี 9) โดยวธิ ที ี่ตงั้ ข้นึ ใหมกํ รรมการ รํวมประสานลงลายมอื หา๎ หม่ืนคนแกไ๎ ขได๎ หมอลําส่อื สารให๎ ขอพ่นี ๎องชาวไทยนําไปใชใ๎ หถ๎ ูกท่ี ในวนั ที่ 19 สงิ หาคม ปี2550 ขอเชิญชวนเขขา๎ คหู า ลงประชามติ รัฐธรรมนูญเดอ๎ พน่ี อ๎ ง หมอลาํ ขอร๎อง ให๎ฮวํ มใจ (กลอนลง) ชํวยกนั เดอ๎ ชาวไทย…ละน๎า 156 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภูมิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

157 กลอน กล่าวขอบคณุ จากพรรคเพอื่ แผน่ ดนิ ทานอง ลาทางยาว ประพันธโ์ ดย แมค่ รู ราตรี ศรีวิไล ปี พ.ศ. 2550 (กลอนขึ้น) โอํย... ฟาู เอย๎ ฟาู ฮอ๎ งต้มึ ผูแ๎ ทนพรรคเพือ่ แผนํ ดิน บํเคยลมื พวกพ่ีน๎อง ชาวขอนแกนํ ถึงแมํนวําสอบบํผาํ นผ๎ูแทน หรือได๎รับเลือกต้ัง กระยังคดิ ฮอดพนี่ ๎อง ฝากลาํ รอ๎ งเปน็ สือ่ แทน ทุกคะแนน ทุกนา้ํ ใจ บไํ ลลืม...ละนา๎ (เนอ้ื ในกลอน) (บทท่ี 1) มาบัดนี้ การเลอื กตงั้ สดุ สิน้ แตํวาํ พรรคเพือ่ แผํนดนิ ยงั คิดฮอดพวกทาํ น ถงึ แมนํ สอบบผํ ําน กะขอบพระคุณ พี่น๎องฝากลําร๎อง สงํ มา (บทที่ 2) จากใจจรงิ นายสวุ ทิ ย๑ คณุ กิตเิ บอร๑ 1 เด๎อเปน็ หวั หนา๎ บอกวํา บเํ สยี ใจ เพราะวาํ ไดฮ๎ อด 97845 คะแนน จงั่ แมํนแสน สุดปล้ืม นางมดุ ดา พงชสมบตั ิ เบอร๑ 2 กะบอกวํา บลํ ืมบุญคณุ ของพ่นี ๎อง ประครอง ย๎ซู ํอย คะแนนรวมได๎ฮอด 87168 คะแนน กะถือวาํ บหํ นอํ ย เป็นบญุ ล๎น ลนื่ หลาย (บทท่ี 3) นางประทุมรัตน๑ คุนเงนิ ผู๎สมัครเบอร๑ 3 กะฝากขอบคุณ นอ๎ งอา๎ ย ทซ่ี ๎อยโปรด กาคะแนน ถงึ สบิ ํฮอดแสน กะยงั ได๎ ถึง 86047 คะแนน ถือวาํ ได๎รบั เกยี รติ อยํางสุด แสนจากใบ บุญทาํ น พวกลูกหลาน สิขอจดจาํ ไว๎ ทุกคะแนนทกุ นา้ํ ใจ ทํานเทให๎ อยํางล๎นองั่ ถึงวําพรรคเพ่ือแผนํ ดนิ สบิ ไํ ดร๎ บั เลือกต้ัง กะหวงั ไว๎ วาํ บํลมื (บทที่ 4) ทง้ิ เบอร๑ 1-2-3 ใจสุดแสนปราบปลมื้ ที่ได๎รับ คะแนนหลาย ขอพีน่ ๎อง อยาํ ไดม๎ องข๎ามกลาย พรรคลูกหลาน เฮาเดอ๎ อยาํ ลมื เด๎อ พวกพอํ แมพํ ่นี อ๎ ง คนั มปี ญ๓ หา ขัดข๎อง คับแคน๎ ใจ ใหเ๎ อิน้ ใสํ ให๎คิดวาํ ลกู หลานนย้ี งั อยูํใกล๎ ๆ ถงึ แมํนตัว สไิ กล ใจยงั อยแํู นบข๎าง ตัวเจา๎ สูํยาม (บทท่ี 5) มีเร่ืองหยัง อยาํ สขิ ๎าม บอกได๎ ทุกเวลา ลกู หลานขออาสา ซํอยประสาน ให๎งานคลอํ ง อยําสถิ ม่ิ สิป๋า พวกลูกหลาน เด๎อพน่ี ๎อง เขต 3 ขอนแกนํ เฮา ทเี่ คยเอา ใจใสํ หนงั สือรวมกลอนลำทำงยำว 157 ศูนย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

158 แฮงนํา้ ใจ ชาวอําเภอหนองเรอื บ๎านฝาง-พระยนื -อุบลรตั น๑-นํ้าพอง กระนวน-เขาสวนกวาง-ซาํ สงู พวกพอํ ลงุ แมํปูา ทัง้ ปุตู า ยําเฒํา น้าํ ใจเจ๎า จัง่ แมนํ ดี (บทท่ี 6) ถอื วําบุญลกู หลาน บํทนั ฮอดเทอื่ น้ี ขอโซ๎นเผ่งิ บัดดาลไกล ฮาํ ได๎ลงสมคั รอกี เทือ่ หน๎าตอํ ไป ฝากไวใ๎ น นาํ้ ใจทําน ขอฝากชื่อ ลูกหลาน นายสวุ ทิ ย๑ คุณกติ ิ นางมุกดา พงษ๑สมบัติ และนางประทมุ รัตน๑ คณุ เงิน ไว๎ในใจพีน่ อ๎ งซํอยประครองยตูํ อํ ขอสานฝน๓ สานฮักไวอ๎ ยาํ เฮด๎ ให๎อ๎างวา๎ งวางถมิ่ ปลํอยปา๋ (บทที่ 7) ขอบพระคุณลํวงหน๎าไว๎ ไวอ๎ อกจากหัวใจ และขออาํ นาจคุณพระศรีรัตนตรยั ให๎เลื่อมงาํ กวมตมํุ ซุมลกู หลานสส.พรรคเพ่อื แผนํ ดิน ขอฝากเป็นส.ค.ส.ให๎อวยพรชัยวนั ปใี หมํ ในปนี ้พี ร๎อมทง้ั ปีตํอไปให๎โชคดมี ชี ัยสขุ สดใสซาบซํานมารฮ๎ายใหผ๎ าํ ยหนี ดว๎ ยความปรารถนาดจี ากผูแ๎ ทนพรรคเพอื่ แผํนดนิ (กลอนลง) เฮาเด๎อ...ละน๎า 158 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

159 กลอน รณรงคเ์ ชิญชวนประชาชนร่างรัฐธรรมนูญ ทานอง ลาทางยาว ประพันธ์โดย แมค่ รู ราตรี ศรีวไิ ล ปี พ.ศ. 2550 (กลอนขึน้ ) โอํย… ฟาู เอ๎ยฟูาฮอ๎ งต้ํา ฟ๓งหมอลําสบิ อกขําว บัดนี้ตกถงึ คราวเฮาคนไทยยุคใหมํ มาฮวํ มใจกนั ราํ งรัฐธรรมนญู เทอ่ื นี้ ต๎องดีแท๎กวําสูอนั มาสร๎างสรรคค๑ วามงาม…ละนา๎ … (เนอ้ื ในกลอน) (บทที่ 1) ขอเชญิ ชวนพี่นอ๎ งทุกภาคสํวนมาโฮมกัน มาสรา๎ งสรรคค๑ วามดงี ามๆฮวํ มกนั ในงานนี้ รัฐธรรมนญู ดีบมํ ีขายบํมีซ้อื ถอื ความคดิ เหน็ ของทุกฝาุ ย อาศยั ความหลากหลาย ของทุกคนทุกพน้ื ทีใ่ นไทยน้ีซอํ ยกัน (บทที่ 2) สมานฉันท๑กนั ไว๎ เดอ๎ คนไทยทวั่ ทกุ ยาํ น คณะกรรมาธกิ ารวสิ ามัญรบั ฟ๓งความคิดเหน็ ของประชาชนทั่วภาคอสี าน แตงํ ตั้งไวร๎ อให๎ทํานยน่ื เสนอ (บทท่ี 3) อยาํ ลมื เดอ๎ พนี่ อ๎ งทกุ ๆ ทาํ นให๎สนใจ ไลํมาตราสาระสปํู ระเด็นให๎เห็นแจ๎ง เชนํ แสดงความคิดเหน็ ในรปู แบบ การไดม๎ าของนายกรัฐมนตรี ท่ีพ่นี อ๎ งเฮาต๎องการอยูเํ ดียวนมี้ ีความเห็นจ่ังใดแ๐ นํใหเ๎ ขา๎ มาซํอยแก๎ปรบั โครง ราํ งฮวํ มกัน (บทท่ี 4) เฮด็ จง่ั ใด๐รฐั ธรรมนญู ฉบบั ใหมํเฮาน้นั สิคลอดแบบสมบูรณ๑ เฮามาฮวมกนั สนบั สนุน และซํอยพากนั รําง ใหเ๎ สนอผาํ น ทางเวทรี บั ฟ๓งความคิดเหน็ (บทที่ 5) ทกุ ระดบั ใกล๎บ๎านทํานทีห่ นวํ ยงานจดั ขนึ้ ให๎ เร็วไวฟาู วเข๎าฮํวม การมสี ํวนรํวมทกุ เพศทกุ วัยทกุ อาชีพทุกสาขาฮํานี้ต๎องดแี ทแ๎ นนํ อน (บทที่ 6) บา๎ นเมอื งเฮาสิบไํ ดเ๎ ดือดฮอ๎ นทกุ ข๑ยากภายหลงั บํมหี ยงั เหลือให๎ เฮาเสียใจได๎แกไ๎ ขภายหน๎า ประชาธปิ ไตยของแท๎ต๎องแก๎ไขแตํต๎นเหตตุ รงตามเจตนารมณ๑ ของคนไทย ทกุ ๆ ทาํ น มาฮํวมคิด ฮํวมสรา๎ ง ฮวํ มราํ งรัฐธรรมนูญหนนุ ประเทศใหก๎ า๎ วหน๎า บมํ หี ลาํ ตา่ํ ไผ หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว 159 ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

160 (บทที่ 7) รฐั ธรรมนูญคือกฎหมายสูงสุด ของประเทศบอกไว๎ให๎ เฮาฮวํ มสนบั สนนุ สรา๎ งรัฐธรรมนญู ฉบับของประชาชน โดยประชาชน เพื่อประชาชนใหท๎ ุกคน มารวมราํ ง และกําหนดทิศทางกติกาบ๎านเมือง โดยตนเองนาํ พรอ๎ ม มาฮํุมหอมฮกั หอํ ถึงเวลาไทยเฮาน๎อสไิ ดฮ๎ วํ มกันรํางรัฐธรรมนูญ แบบประชาธิปไตยใชํสทิ ธเิ สรี ทําหน๎าที่คนไทยให๎สมบรู ณถ๑ ูกต๎อง เดอ๎ พ่นี อ๎ งใหฮ๎ ํวมใจ (บทท่ี 8) ตํอไปหนเ่ี มอื งไทยเฮา สไิ ด๎อยํูอยํางสขุ ดี ว๎ ยความปรารถนาดี จากพลตํารวจโทธรรมนิตย๑ ปติ ะนีละบตุ ร ประธานคณะกรรมาธกิ าร ผ๎ปู ระสานงานน้ี ในเขตพนื้ ที่ทัว่ ภาคอีสานทาํ นได๎ๆ ป๓นนา้ํ ใจมาซอํ ย ให๎คนไทยใหญํนอ๎ ย มสี ุขลน๎ ขสํู ํคู น ขอให๎มีอายุ วรรณะ สขุ ะ พละ (กลอนลง) สูคํ นเด๎อ..ละนาํ … 160 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภูมิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

161 กลอน สายสัมพนั ธ์ไทย-ลาว ทานอง ลาทางยาว ประพันธ์โดย แม่ครู ราตรี ศรีวไิ ล ปี พ.ศ. 2550 (กลอนขน้ึ ) ฟูาเอย๎ ฟูาฮ๎องหา๎ ว สายสมั พันธ๑ไทยลาว มมี าตั้งแตํพอํ แมํ ได๎มมี าตง้ั แตํปุสู งั ไคสา ยําสงั ใคสีประเพณีฮีตเค๎า ไทยลาวน้นั บํตํางกนั สายสมั พนั ธไ๑ ทยลาว...ละนา๎ (กลอนเนอื้ ใน) (บทท่ี 1) มาบัดน้เี หมดิ แตลํ ําทางส้ัน หนั ทางยาวแล๎วผัดยําว สายสมั พันธ๑ไทยลาวมีมาตงั้ แตํเค๎าคองเฒําแตํประถม (บทท่ี 2) มมี าตงั้ แตํพูน๎ ตง้ั แตํปสุู ังไคสา ต้ังแตํยาํ สงั ไคสี มนี า้ํ โขงขวางทางระหวํางลาวไทยนั้น มนี าํ้ โขงขวงกั้นคือกนั กบั สายเลือด น้ําโขงไหลคดเคยี้ วเหนียวแนนํ แกํนดี (บทที่ 3) แตํอดีตกอํ นกี้ จนถงึ ทปี ๓จจุบนั แมนํ า้ํ โขงหรือวาํ แมนํ า้ํ ของไหลผํานสองประเทศลาวไทย ลอํ งไหลลงใต๎ นบั ต้งั แตํเชียงราย ไปสํูจังหวัดเลย หนองคาย นครพนม มุกดาหาร อบุ ลราชธานี พูน๎ สมบรู ณ๑แมนํ ํา้ ใหญํ ไปเล้ียงชีพเลี้ยงชวี ิตลาวไทย ทง้ั เกษตรกรรม ทาํ ประมงแมนํ าํ้ เรอื ขา๎ มลอํ งไหล (บทท่ี 4) ไทยกบั ลาวน้ีได๎ มีความฮักสามคั คี แมนํ สิมีภูเขาแมนํ า้ํ โขงขวงทาง ระหวํางโขงขวงก้ัน แตวํ ําลาวไทยนัน้ สานสมั พันธห๑ มัน้ แกนํ สองสายแนนพีน่ ๎อง ปองสรา๎ งซํอยกนั (บทที่ 5) โดยเฉพาะผ๎นู าํ สองประเทศน้นั กะเทียวทํองไปมา แมนํ ไปทางพ๎นุ กะได๎กินปลา มาพก้ี ะซิได๎กนิ ขา๎ ว ความสมั พันธท๑ ม่ี มี าแตํเค๎า ยนื ยาวหม้ันคักแนํ ไผซิมายุแยํให๎ลาวไทยแตกมา๎ ง ทางเจ๎ากะอยาํ ฝ๓น (บทที่ 6) ความจริงใจไทยลาวน้นั เคารพรักฮกั กนั หลาย แมแํ ตคํ วามจรงิ ใจ ระหวาํ งไทยลาวแท๎ หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว 161 ศนู ย์กำรเรียนภูมิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

162 บมํ ีแปรเปล่ียนปี้น ถอื ศีลและสัตย๑ชอื่ ถือความปฏิบัติดี ปฏิบัตชิ อบ รอบร๎ู เหนียวแนนํ เป็นแกนํ สาร (บทที่ 7) ฮกั กนั ฮอดกอดหม้นั ชัว่ ฟาู ปิน่ ดนิ สลาย ตายไหนกะตายกนั สายสมั พันธ๑ไทยลาว ไทยลาว ไดย๎ ืดยาวมาปานนี้ สามคั คีดีแท๎ ไทยลาวหมัน้ แกํน สองพรมแดนไทยฝง๓่ ขวาลาวฝง่๓ ชา๎ ย หมายมุงํ แมํนฮํุงเฮือง ..... (กลอนลง) ละน๎า 162 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

163 กลอน สทิ ธิผู้บริโภค 5 ประการ ทานอง ลาทางยาว ประพนั ธโ์ ดย แม่ครู ราตรี ศรวี ิไล ปี พ.ศ. 2550 (กลอนข้ึน) โอํย… หันเอย๎ หนั มาฟง๓ ทางนีม้ ีขําวดีมาบอกทําน หลกั เกณฑก๑ ารดําเนนิ คดีแทนผูบ๎ ริโภคนั้นสําคัญแท๎อีหลี (เนอ้ื ในกลอน) (บทท่ี 1) ข๎อใหญํๆ ข๎อที่หน่ึงเมือ่ ผูป๎ ระกอบธุรกจิ ระเมิดสทิ ธิผูบ๎ รโิ ภคสทิ ธมิ ีห๎าประการดั่งนใ้ี หจ๎ ดจื่อจําเอา (บทที่ 2) สิทธขิ ๎อ 1 ตอ๎ งได๎รับขําวสาร รวมท้งั คาํ พรรณาคณุ ภาพที่ถูกตอ๎ งเพียงพอเก่ียวกบั สินคา๎ สิทธิขอ๎ 2 มีอิสระในการเลอื กหาสินค๎า หรือบริการตาํ ง ๆ สทิ ธิขอ๎ 3 ได๎รบั ความปลอดภยั จากการใชส๎ ินค๎าสํอู ยํางสทิ ธิข๎อ 4 ไดร๎ ับความเป็นธรรม ในการทําสัญญาอีกพร๎อมยอมความใหถ๎ ูกวิธี (บทท่ี 3) สิทธิข๎อท่ี 5 น้ี ตอ๎ งได๎รบั พิจารณา และชดเชยความเสยี หายฝาุ ยดําเนนิ คดีได๎ ข๎อทสี่ องข๎อใหญผํ ๎ูรอ๎ งขอตอ๎ งเป็นผ๎ูบรโิ ภค ตามประราชบญั ญตั คิ ุ๎มครองให๎ นนั้ คือผ๎ูบริโภคคอื ผซู๎ ้ือหรอื ได๎รับบริการ จากผ๎ปู ระกอบธุรกจิ หรอื ผช๎ู ักชวนใหใ๎ ช๎ เอาผิดได๎ด่งั กนั (บทท่ี 4) ขอ๎ ใหญขํ อ๎ ทีส่ ามตํอไปผบ๎ู ริโภคร๎องขอให๎ สํานักงานคณะกรรมการ คม๎ุ ครองผ๎บู รโิ ภคฟอู งรอ๎ งดนิ เนนิ คดีแทนได๎ ตามกฎหมายวาํ ถืกแมํน ข๎อทส่ี ี่ การร๎องขอ ใหฟ๎ อู งร๎องดําเนนิ คดีแทน นั้นต๎องเป็นประโยชน๑แกํผบู๎ ริโภคโดยสํวนรวม (บทที่ 5) ฮวํ มกนั เฮด็ ข้ึนไว๎ ต๎องสานให๎ซอกคดี สํวนประโยชน๑ตํอผบู๎ ริโภคน้ี ฟ๓งตอํ ขอ๎ สาํ คญั การดําเนนิ คดีกับธรุ กิจ ทีมีผล เสยี หายตํอผ๎ูบรโิ ภค ถงึ แมนํ วําสิรายเดียวแตอํ าจทาํ ให๎ผ๎บู ริโภคอน่ื เสยี หายนาํ กะดาํ เนินคดไี ด๎ สสิ งํ ผลถึงผบ๎ู ริโภครายอน่ื พรอ๎ มในกรณีเดยี วกันทีร่ อ๎ งเรยี นเพม่ิ ตม่ื อยาํ ลืมเด๎อสทิ ธิควรสิได๎อยําวางถิม่ ปลอํ ยหนี (บทที่ 6) ข๎อที่ หา๎ ในการดาํ เนินคดแี ทนผูบ๎ รโิ ภคนต้ี ๎องมีผ๎ูดําเนนิ งาน หนงั สือรวมกลอนลำทำงยำว 163 ศูนย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

164 คือคณะกรรมการสแิ ตํงต้งั พนกั งานอยั การหรอื ข๎าราชการอยูใํ นสํานกั งาน คณะกรรมการคุ๎มครองผบ๎ู ริโภค ตามท่เี หน็ สมควรให๎ดําเนินคดใี นศาลตอํ ขอ๎ ที่หก เจ๎าหน๎าท่ีค๎ุมครองผบู๎ ริโภคมอี ํานาจเรียกร๎องแทนให๎ไดส๎ ํอู นั (บทท่ี 7) ขอ๎ ท่ี เจ็ด ในการฟอู งรอ๎ งดําเนนิ คดแี ทนผ๎ูบริโภคนั้นเป็นทีน่ ําพอใจ สวํ น ผ๎บู รโิ ภคบํตอ๎ งเสยี คาํ ใช๎จาํ ย ใด ๆ ให๎เพนิ่ ดําเนนิ การให๎และไวว๎ างใจใด๎ ในหลักเกณฑ๑การดาํ เนินคดีแทนผบู๎ รโิ ภค จงั่ แมนํ โชคแท๎ ๆ มีคนแก๎ซํอยคดี บญุ ผลาเฮาม.ี .. (กลอนลง) ละนา๎ ..... 164 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

165 กลอน สาเนยี งภาษาถน่ิ ไทยอสี าน ทานอง ลาทางยาว ประพันธโ์ ดย แมค่ รู ราตรี ศรวี ไิ ล ปี พ.ศ. 2550 ใชใ้ นโครงการภาษาถิ่นก็ภาษาไทย (กลอนข้ึน) โอยํ ละน๎อ... มาบดั นจ้ี ักขอผนิ ไปกํ้า เวา๎ เรื่องสําเนียงอีสาน หากอํอนหวานมํวนยิน แจบกระใจจริงแจง๎ บํวําแลงคํ่าคลอ๎ ยเสยี งยินออยอ๎อยอิน่ เทพพระอินทร๑อยํูฟูาได๎ยนิ แลว๎ ก็ชนื่ ชม (บทที่ 1) อันคารมเสียงเวา๎ เปน็ หกเสียงสูงต่ํา สามญั เอก โท ตรี เลิศลํ้าจตั วาซาํ้ อยปํู ลาย (บทท่ี 2) ฝาุ ยเสยี งตรีวํานน้ั แบํงได๎สวํ นเปน็ สองระดับ สบั เปน็ สน้ั และยาว ตาํ งกนั คนกา้ํ หมอลาํ ขอยกตวั อยาํ งมาให๎ เห็นจรงิ แจ๎งแจบ ความเลกิ แลบสํวนนี้ ได๎เฮยี นฮูค๎ ูซํ คู น (บทท่ี 3) ถา๎ ผใ๎ู ด๐ซอกค๎น สเิ หน็ ฮํอมซอมเสยี ง เป็นสาํ เนียงสาํ คัญ เอกโทตรี จตั วาพรอ๎ ม ฮอมอยใูํ นพยางค๑เดยี วกนั นน้ั ผันไปไดค๎ บอยาํ ง คาํ วาํ ซาํ ง สร๎าง ซา๎ ง สาง สรา๎ ง สราํ ง ซาง (บทท่ี 4) เสยี ง ท่ี 1 คาํ วํา “ซําง”วาํ น้นั ออกเปน็ สวํ น “เสยี งสามญั ” แปลวาํ “คนมีความชํานาญ” ในเวียกงานการสรา๎ ง เสยี งท่ี 2 คําวาํ “ซาง” วาํ น้ี เปน็ เสยี งตรี สูง เดอ๎ พํอใหญํ ก็หากเปน็ ช่อื ไม๎ หรือเด็กน๎อยปวุ ยโซ (บทที่ 5) เสยี งที่ 3 คําวาํ “ซา๎ ง” เสียงโท นนั้ ใหญํพาโลแตวํ าํ เสียงตรีต่ํา เสียงที่ 4 “สวาํ งสําง” ลากโสไ๎ ป เสยี งตรีตาํ่ เด๎อ ซุมเซอ้ื เสยี งท่ี 5 “สร๎าง” คือกํอเกอื้ หรอื ขดุ เป็นนา้ํ บอํ เสียงท่ี 6 อันวาํ “สาง” นน้ั หนอแปลวําเลา๎ ขาวใหญกํ ะได๎ หรือฝีฮา๎ ยกะแมํนนํา (บทท่ี 6) คําอีสานมหี ลายล๎น จนป๓ญญาสิวาํ ต่ืม อยําสพิ ากันลืมภาษาถ่ินกะคอื ภาษาไทยแตํละถ่ินเฮายดึ ไว๎ ภาษาใซท๎ ๎องถิ่นตนอยาํ สบั สนเดอ๎ คนไทย.... หนงั สือรวมกลอนลำทำงยำว 165 ศนู ย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

166 กลอน กตัญญตู ่อชาติศาสนาพระมหากษัตรยิ ์ ตอนที่ 1 ทานอง ลาทางยาว ประพันธโ์ ดย แม่ครู ราตรี ศรีวไิ ล ปี พ.ศ. 2551 (กลอนข้นึ ) โอ๎โอํย ละนอ ยึดเอาชาติศาสนาเป็นท่ีตัง้ พระมหากษัตริย๑เปน็ ที่เพ่งิ บญุ สมภารค๎ุมครองเถงิ ผองไทยเฮาเท๎าซํูม้อื เตม็ ตอ้ื ไดอ๎ ยํูเย็น คืนเว็น...ละนา๎ (บทท่ี 1) พอํ แมํพี่นอ๎ งเอย ชาติไทยเฮาวําน้ี ซั่วซเิ ปน็ จั่งป๓จจบุ ัน ไดฝ๎ าุ ฝน๓ อุปสรรค ยากเยน็ เข็ญฮา๎ ย ท่ลี ม๎ ตายก๎ะหลายแท๎ เพ่ือชวํ งชิงเอาดนิ ดําน เลีย้ งลกู หลานสบื สร๎าง เมอื งบา๎ นแตํงแปลง (บทที่ 2) ลางเท่ือเหมิดแฮงส๎ู ตอ๎ งอพยพหนีตาย เพื่อสบื สายพงศ๑พนั ธ๑ุ เผาํ ไทยเฮาไว๎ หนีจากเหนอื ลงใต๎ สโุ ขทยั ต้งั ถิ่น อยุธยากรุงเทพเทา๎ ยาวเย้นิ ลวดประมาณ (บทที่ 3) พอเถงิ กาลสงบได๎ ประชาไพรํเปน็ สุข บทํ ันดนความทุกข๑ ก๎ะพอํ งพานตามตอ๎ ง มสี งครามมาข๎อง พลดั เฮือนซานบา๎ นถ่นิ สน้ิ ชีวิตก๎ะพํองนนั้ ครอบครวั ม๎างมํุนมี (บทที่ 4) เคยอยดูํ ีกนิ ได๎ อบอนุํ ในเฮือนซาน สุขสําราญวันคนื ลกู เมยี เคลียเคล๎า ยามสงครามมาเขา๎ ครอบครวั เฮาแตกเป็นเส่ียง เคยมีเสยี งหยอกเวา๎ แลงเซ๎ากะ๎ เปลําแปน (บทที่ 5) มแี ตคํ วามยากแค๎น มาพาดพานผจญ ตาํ งกท็ นทวงทุกข๑ สงํ บเํ หน็ วนั เอื้อน อนั เดอื นดาวก๎ะหมองเศรา๎ กายใจเฮาก๎ะหมองหมํน ชีวิตคนเปล่ยี นป้ิน ดินฟาู กะ๎ ฟ่๓งเฟอื น (บทที่ 6) เหลียวเบ่ิงเฮอื นซานบ๎าน ฮ๎างหาํ งคนครอง นํา้ ตานองทนกลนื คาํ่ คืนบมํ เี อือ้ น 166 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

167 สะเทอื นกายใจแท๎ ยามบ๎านเมืองแตกสาแหรก แยกเปน็ กก๏ เป็นเหง๎า หลายเจ๎าตํางครอง (บทท่ี 7) ลางกก๏ ซอ๎ ง สุมหมูํมาโฮม ปลน๎ สะดมประชาชน ราษฎรสยองยา๎ น ลางเท่ือมนั น้นั ขํมขนื ฆาํ ฟ๓นแทงยาดแยงํ ลูกเลก็ เด็กแดงกะ๎ บเํ วน๎ ตายเต๎นสํงเวร เป็นกรรมขอ๎ ง จอํ งใสเํ วร แสนราํ เข็ญ (กลอนลง) ละน๎า หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว 167 ศูนย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

168 กลอน กตญั ญูต่อชาตศิ าสนาพระมหากษัตริย์ ตอนท่ี 2 ทานอง ลาทางยาว ประพนั ธโ์ ดย แมค่ รู ราตรี ศรวี ไิ ล ปี พ.ศ. 2551 (บทที่ 1) นี้ก็เปน็ เหตุดว๎ ย ไทยเฮาขาดสามคั คี ทังผ๎ูนํา นัน้ บํมีธรรมะ บรหิ ารเมอื งบ๎าน การจลาจลเข๎า เผาเมอื งฮอ๎ นเฮงํ หมนํู ักเลงครอบบา๎ น ผลาญเกล้ยี งคซํู ํูแนว (บทที่ 2) เหตกุ ารณ๑เหลาํ นี้แหล๎ว เป็นตวั อยํางอุทาหรณ๑ สอนใจไทยทงั หลาย ใหใ๎ สํใจในเมอื งบา๎ น กตญั ๒ูทกุ ทําน ทาํ คุณแกํประเทศชาติ อยํามวั แตยํ าดแยงํ ได๎ ซิงไว๎ใหแ๎ กํตน (บทที่ 3) ใหถ๎ อื คติเบอื้ งต๎น ยดึ ประโยชนข๑ องสวํ นรวม ถอื เอาความสุจรติ เป็นธรรม ใสํใจจําไว๎ แนวใด ๆ สละได๎ เพ่ือความมั่นคงประเทศชาติ ใหฉ๎ ลาดซุกยู๎ ดหุ มัน้ หม่ันหมาย (บทท่ี 4) แมํนตวั ตายซาตคิ งไว๎ ไปตลอดยนื ยาว ลูกหลานเฮาได๎อาศัย อยูํกินสมสร๎าง อยทูํ ํางแปลงเมอื งบ๎าน เจรญิ นานโยยิ่ง ส่ิงใดชาติซิหล๎ม จมพ้ืนอยํากระทาํ (บทท่ี 5) ผน๎ู ําพาเมอื งบา๎ น โบราณสบื มมี า คือองคพ๑ ระมหากษัตรยิ ๑ เทิดทนู เทินไว๎ เพนิ่ นั้นมพี ระคุณได๎ คาํ ประมาณยาวยําน นาํ พาชาติผํานพน๎ เมืองบ๎านฮํงุ เฮือง (บทที่ 6) บไํ ดเ๎ คืองหยงั แท๎ ประชาไทยสขุ ยงิ่ อิงตอํ บุญบารมี แหงํ พระองคซ๑ คู ้าํ พระองคน๑ าํ ไทยให๎ เทียมทนั อารยะประเทศ บญุ เพิ่นปกเกศเกลา๎ ใหเ๎ ฮาซน๎ เพงิ่ พา (บทท่ี 7) ให๎กตญั ๒ตุ าทําน องคเ๑ อกราชา สนองคณุ พระบดิ า แหํงชาตไิ ทยเพรยี งพร๎อม ยอมตนซํอยกันสรา๎ ง เมืองไทยให๎เฮืองฮงํุ 168 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภูมิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

169 พวกหมํลู งุ และปาู บูชาไทป๎ ิน่ ไทย (บทที่ 8) พุทธศาสนานนั้ ก็ได๎ เป็นแสงสอํ งนาํ ทาง ให๎เฮาหวางสวาใจ ฮ๎ูทางดีฮา๎ ย เฮาได๎นําไปใช๎ ประคองตนพน๎ ทางซวั่ อบายมุขเฮาบํม้วั พาเฮาใหอ๎ ยูเํ ย็น (บทท่ี 9) แลงคนื เวน็ คํ่าเซา๎ ระลกึ แตพํ ระไตรรัตน๑ นําสวัสดมิ งคล สูํเฮาทังคา๎ ย พาให๎กายใจพรอ๎ ม สุโขโยยิ่ง บํมสี ่ิงเดือดฮอ๎ น มาตอ๎ งตอํ แย (บทท่ี 10) ให๎ตงั้ จิตเทย่ี งแท๎ ตง้ั ตํอในทางดี สร๎างเสริมบญุ บารมี ประพฤตติ นอยําเมามว้ั ใหเ๎ อาตวั ตนตง้ั ในธรรมพระองคก๑ ลําว ครอบครัวเฮากะ๎ ซิก๎าว เจริญแทน๎ ั้นแนนํ อน (กลอนลง) ละนา๎ หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว 169 ศูนย์กำรเรียนภูมิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

170 กลอน คนไทยห่างไกลคอรร์ บั ช่ัน ตอนที่ 1 ทานอง ลาทางยาว ประพนั ธโ์ ดย แมค่ รู ราตรี ศรีวไิ ล ปี พ.ศ. 2551 (กลอนขน้ึ ) โอํย.. หนั เอย๎ หันมาฟง๓ เอาไว๎เดอ๎ คนไทยทั่วทุกถนิ่ คันฮกั ชาติ ฮักแผนํ ดินบมํ กี ารโกงกินบํมคี อรร๑ ับช่นั มาสรรค๑สร๎างแตํสวํ นดเี พื่อศักดิ์ศรีความเป็นไทย...ละนา๎ (เน้ือในกลอน) (บทท่ี 1) มาบัดนีห้ ันมาฟ๓งลาํ รอ๎ งสําเนียงลอํ งลาํ อสี าน ในรูปการขอเชิญชวนสร๎างสรรคเ๑ มืองบา๎ น การโกงกนิ คอรับช่ันถอื เป็นสิง่ สาํ คญั จดั อยํูในระดบั ชาติ ภยั อุบาทลกึ ลํา้ นาํ เมืองบา๎ นใหโ๎ ลํมโจม (บทท่ี 2) ชมุ ผจ๎ู อบถ๎าปล๎นคอยคดโกงกนิ บถํ อื ศลิ ถอื ธรรมหยึดประจาํ ใจไว๎ โลภหลงใหลใฝุหาเพิม่ เสรมิ ความรวยแกตํ นเองบํเลงเห็นใจผูอ๎ ่นื ฝืนความจริงชีวิตแทแ๎ ลจอํ งแตํปุองเอา (บทที่ 3) เฮ็ดเปน็ คนโงเํ ขลาเบาปญ๓ ญาทาํ บฮํ ๎ูบซํ ้ปี านกุดจฟ่ี ง๓ ธรรม บํคิดนาํ ความตายฮา๎ ยกวาํ โตสหิ นพ้ี ๎น ยามเปน็ คนโกงกนิ ไดบ๎ ัดฮอดยามตายไปเอาไปนาํ ไดบ๎ ํ ขอ๎ ควรคิดลึกซงึ่ ถึงเหงําแกํนพระธรรม (บทที่ 4) คําพระสอนสงั่ ไว๎บอกวําสงั ขารสังขาราสังขารงั อนจิ งั ทุกข๑ขัง เที่ยงจริงอยํานอนนงิ่ เอกะนามจรงิ คอื ความตายจรงิ แทบ๎ ฝํ ๓นแปรเปน็ แนวใหมํ ฮอดยามเจ็บปวุ ยไขจ๎ งั่ นอนไหฮ๎ ํวนฮน (บทที่ 5) ลาภยศสรรเสรญิ นน้ั เปน็ ของบํจีรงั สร๎างความดนี ั้นละคือที่หวังส่งิ ท่ีเอาไปนําได๎ ยามเฮาไลลาราํ งวางสังขารปลดปลํอย คุณความดซี อํ ยได๎เคยี งข๎างอยดํู ่งั เงา (บทที่ 6) ขอเชญิ ชวนหมูํเจา๎ ผห๎ู ลงใฝุไปทางผิด ให๎ทบทวนหวลคิดบวกลบคูณหารไว๎ 170 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

171 โดยมองไปทางหนา๎ อนาคตลกู หลานไทยผ๎เู ขาสิได๎สานตอํ คันฮจู๎ กั วาํ แมพํ ํอรวยย๎อนคอรร๑ ับช่นั ปน๓ มลู ให๎แกํเขา (บทที่ 7) ถงึ แมํนรวยกะอยแูํ บบเศรา๎ ๆรญั ทดสลดใจ เพราะทางในเปน็ หนอนกรอํ นกินใจเจ๎า คันได๎ยินเสียงลกู เวา๎ วําพํอแมํจา๐ ลูกอายเขาถา๎ ครอบครวั ของเฮารวยย๎อนโกง กินบ๎านเจ๎าสสิ ุขสาํ ราญภาคภูมิใจอยํูฮือบํ ฮกั ลกู หลานให๎ฟูาวกํอสานสายใยผกู ม่ันสรรคไ๑ ว๎แตบํ ํอนดี (บทท่ี 8) ความดเี ปน็ หน๎าที่ของพํอแมํผพู๎ าทํา ลูกหลานเฮาสเิ ดินนํายํางตามฮอยเจ๎า ความซอื่ สตั ยส๑ ุจริตมารวมเขา๎ บงํ บอกถงึ ความฮักชาติ ฮักศาสนา พระมหากษตั รยิ ๑ฮักองคก๑ รหนํวยงานมอี ดุ มการณ๑ (บทท่ี 9) บโํ กงกินคอรร๑ ับชนั่ สรรคส๑ รา๎ งแตํสง่ิ งาม ปชู นยี สถานทรัพยากรสิ่งแวดลอ๎ มถนอมฮักสมคั รใจ ซอํ ยแกไ๎ ขป๓ญหาปราบปรามการทุจรติ รับผดิ ชอบการทํางานเป็นการสอน ลกู หลานให๎เฮ็ดดงี ามได๎ ยกยอํ งคนดไี วส๎ งํ เสริมใหก๎ าํ ลงั ใจเอาไว๎เปน็ แบบอยําง สร๎างวินัยใฝุคุณธรรมนําความดีสํงย๎ฟู ูฟื้นซอํ ยไทย (กลอนลง) ขอให๎ใสฮองฮอง ละน๎า หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว 171 ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

172 กลอน คนไทยหา่ งไกลคอร์รับช่ัน ตอนที่2 ทานอง ลาทางยาว ประพันธ์โดย แม่ครู ราตรี ศรีวไิ ล ปี พ.ศ. 2551 (บทท่ี 1) ปราบคนทุจรติ ผลิตคนซือ่ สัตยไ๑ ว๎โลกสฮิ งุ เฮอื งใส ให๎ยดึ ใจเปน็ หลักตระหนกั ในคุณธรรมจรยิ ธรรม และศลี ธรรมไว๎ มนุษย๑คนในโลกใตป๎ ระเสรฐิ กวําสรรพสัตวใ๑ ด ๆอยํูในปฐพโี ลกใบที่กวา๎ งใหญํ คันเฮ็ดใจตํ่าต๎อยสัตวส๑ ิเย๎ยอะเฮํยหวั (บทที่ 2) ใหเ๎ กรงกลวั ละอายตํอบาปไว๎ใจอยําหวน่ั แวไหว เฮด็ ให๎ใจเป็นนายสํวนกายให๎เป็นแหลํงผกู ฮกั แพงกนั ไว๎ ผู๎ขนึ้ ไปถึงจดุ สูงสดุ แล๎วใหเ๎ หลียวลงมาต่ํา เหน็ คนทกุ ข๑เจ๎าอยําซ้าํ ซํอยป๓นใหแ๎ บํงใจ (บทท่ี 3) ยกโตอยาํ งเงนิ ภาษรี ายได๎สํวนหนึง่ จากคนจน ถกื คนรวยมาโกงกินบํฮน่ิ ตรองครองเคา๎ ผ๎มู อื ยาวกะสาวได๎สาวเอา โกงกนิ เขาเป็นวําเลํนกนิ มุมมาํ จนท๎องไขํ ตํางกันไกลกบั คนกลํมุ รากหญา๎ หายาไสเ๎ กือบบํมี (บทท่ี 4) สาเหตุเป็นจ่งั ซ้ีให๎ฟูาวตนื่ มืนตา ลุกขึน้ ซํอยกันฝุาฟน๓ ให๎มนั มม๎ ชมเชยคนดีไว๎กําจดั ไปผูท๎ าํ ช่วั อยํามวั เหน็ แกํได๎สนิ จา๎ งแคนํ ดิ เดียว (บทท่ี 5) หลทางเทียวไปหน๎ามนั ยังหนาแสนยาํ น บ๎านสิหลบุ เมืองสโิ หลมํ คนั หนีบํมม๎ คอรับชนั่ คงถงึ ข้นั ตอ๎ งวนุํ วาย (บทท่ี 6) ขอวอนทุกเขตคาํ ยน๎อยใหญชํ าวไทย มาฮํวมใจอยาํ งจริงจังอยาํ นดั วันประกนั ม้อื ถือบ๎านเมืองเป็นที่ตั้งหวงั ความดีเปน็ ที่เพง่ิ เฮด็ ใหส๎ ดุ ขุดให๎เถิงรวมพลงั ตงั้ ม่ันซํอยกันปราบคอรร๑ ับช่ันใหศ๎ ูนยส๑ ้ินจากถ่นิ ไทย (บทท่ี 7) ผเ๎ู คยเหน็ แกํไดใ๎ ห๎คิดใหมํปรับปรงุ พยงุ เอาจิตใจใฝุคุณธรรมเพมิ่ เตมิ ความดีเมตตาให๎สานสายใยผกู ฮกั ฮํอ ตํอผท๎ู กุ ข๑ยากไฮใ๎ ห๎เขาไดอ๎ ยูกํ ิน 172 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

173 (บทที่ 8) ชวี ติ ยังบํสิ้นให๎ดนิ้ ยํางไปทางดี เกียรติประวตั แิ ละศกั ด์ศิ รสี ิคอยมีมาเพิ่ม เติมพลังใจให๎สร๎างสาํ นกึ ความเป็นไทยบ๎านเมอื งสิได๎เฮอื งฮุํง อนาคตชาตสิ พิ ร๎งุ คันเฮามุํงฮวํ มกัน (บทที่ 9) ข๎อสาํ คญั อยําเหน็ ด๎วยซมุ ฉอ๎ ราษฎรบ๑ ังหลวง ให๎ทวงสทิ ธิของตนโดยเปน็ พลเมอื งดเี กียรติศักดก์ิ ระหลายลน๎ คนั เหน็ คนโกงกินบา๎ นให๎ทาํ การแจ๎งไปทาง ปปช.หรอื วําสํานักงาน คณะกรรมการปอู งกันและปราบปรามทจุ ริตแหํงชาติ สิเปน็ ผลประกาศถึงความดีช่ัวฮ๎ายใหเ๎ หน็ ฮู๎แตํละคน (บทท่ี 10) พีน่ ๎องเอ๎ยมาพากนั เริม่ ต๎นคดิ ใหมํใฝุทางดี เพื่อกอบกเ๎ู กยี รตศิ ักดศ์ิ รแี หํงความเปน็ ไทยไว๎ ทํองจาํ ใหข๎ ึน้ ใจทจุ ริตคอร๑รับชัน่ คอื มหนั ตภยั ทําลายชาตอิ ยํางยิ่งใหญํ รักชาติฮกั แผํนดนิ บํโกงกนิ สซิ ํอยให๎ เมืองไทยได๎ฮุํงเจรญิ ขอสรรเสริญความดีงาม... (กลอนลง) ละนา๎ หนงั สือรวมกลอนลำทำงยำว 173 ศนู ย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

174 กลอน มุทติ าจติ ผ้อู านวยการอุรดุ า สดุ มี ตอนที่ 1 ทานอง ลาทางยาว ประพันธ์โดย แม่ครู ราตรี ศรวี ไิ ล ปี พ.ศ. 2551 (กลอนข้นึ ) โอํย… เสียงเอย เสยี งคร่ําครวญหวนไห๎ แสนอาลยั คิดฮอดทาํ น ทาํ นผอู๎ ํานวยการอรุ ุดา สุดมเี กษยี ณอายุราชการเทือ่ น้ี โลดเป็นท่ฮี กั หํวงหา อาลยั นํา..ละน๎า... (เนอื้ ในกลอน) (บทท่ี 1) ขอกราบเรียนพนี่ ๎อง ผมู๎ เี กยี รตทิ ังหลาย ฉนั ราตรศี รวี ิไล ไดร๎ ับเกยี รตลิ าํ บรรยาย มทุ ิตาจิตนอ๎ ม ดว๎ ยความยนิ ดพี ร๎อม เจ๎าภาพเชิญเข๎ามาฮวํ ม ขอเว๎ารวมประวัตเิ พียงยํอ ๆ พอได๎ฮู๎ทั่วกัน (บทท่ี 2) ทํานผู๎อํานวยการอุรดุ า สดุ มีนนั้ เกดิ เม่ือวันท่ี 19 กันยายน พ.ศ. 2493 ที่ตาํ บลโพธงิ์ าม อําเภอสรรค๑บรุ ี จงั หวัดชยั นาท เขตภาคกลางให๎จาํ ไว๎ ในครอบครวั ของทาํ น นนั้ รบั ราชการครู ทงั คุณพอํ และคุณแมํ และบรรดาพ่นี อ๎ ง กะคือดา๎ มดง่ั กนั (บทท่ี 3) ยดึ อาชพี หลักม่นั เป็นครอู ยํางภาคภูมิใจไดเ๎ จรญิ รอยตาม คุณบิดามารดาทําน แตวํ ยั เดก็ ผูอ๎ ํานวยการ อุรดุ านน้ั ได๎ ตดิ ตามพํอแมไํ ป โรงเรียนบเํ ว๎นวาํ ง เกํงทางเรียนหนังสอื ตงั้ แตนํ ๎อย เขา๎ เรียนฮกู๎ อํ นเกณฑ๑ (บทท่ี 4) เปน็ ทฮ่ี ักของเพอื่ นพอ๎ ง ท้งั พํอแมํและครสู อน ตอนตอํ มา เข๎าศึกษาจบระดบั ปริญญาตรี และทํางานเปน็ ครพู รอ๎ ม ยอมอทุ ศิ ตน เป็นกําลงั ใจ ใหแ๎ กเํ ดก็ พิการพรอ๎ ม ทังหาศึกษาตื่ม นาํ สะออนปลาบปลม้ึ ขยันตง้ั พรํา่ เพยี ร (บทท่ี 5) ตํอมาเรยี นสาขา การศึกษาพเิ ศษ นน้ั ข้ันสูงสํงมหาบณั ฑติ ทม่ี หาวทิ ยาลยั ศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมติ ร เขต กทม.นน้ั สมดัง่ ความหมายหมั้น สําเรจ็ การศกึ ษา ระดบั ปรญิ ญาโทตามตัง้ ตํอ พํองอบรมสมั มนาน้นั นอ พัฒนาตัวเองอยูํเรอ่ื ย ๆ หาความฮใ๎ู สํตน (บทที่ 6) เปน็ นิสติ คนแรกต๎น ท่ีใชร๎ ถ เขน็ น่งั ไปเรยี น พากเพยี รพยายาม จนสําเร็จจนได๎ แม๎นฮอดวัยเกษยี ณแล๎ว บํไลลาศึกษาตอํ 174 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

175 ศกึ ษาปริญญาเอกยากกะด๎อ บเํ คยท๎อทอํ ใย (บทท่ี 7) ทมี่ หาวิทยาลัยราชภัฎสวนดุสิตต้งั แตํปี 2551พน๎ุ จนฮอดป๓จจบุ นั ขอหันยอ๎ นคนื หลงั อดตี กาลตอนตน๎ รับราชการดนนานแล๎ว ตงั้ แตปํ ี. สองพนั ห๎าร๎อยสบิ สี่ อยํโู รงเรยี นสตรีสิริเกษสองปไี ด๎ผาํ นไป (บทที่ 8) ปี พ.ศ.2516 น้นั ได๎ ย๎ายไปฝาุ ยปฏิบตั ิการ อยูํกองการศึกษาพิเศษ กรมสามญั ศกึ ษา ตําแหนงํ ครู ตอนนน้ั ทโี่ รงเรียนศรสี ังวาลย๑ ของมูลนธิ ิ อนเุ คราะหค๑ นพกิ ารขององคส๑ มเดจ็ ยาํ ชุบชวี ติ ของผูอ๎ ํานวยการอุรดุ า ใหก๎ ลับเต็มเปีย่ มลน๎ ในการไดอ๎ ทุ ศิ ตน (บทที่ 9) ด๎วยบญุ บารมีอันลน๎ พ๎นของ บรมราชชนนีทาํ นผ๎ูอํานวยการอรุ ดุ า สุดมี ได๎ยนื หยัดตํอตนเอง และครอบครัว อยาํ งมีคณุ คํา คนนับถือลือหน๎า ในสงั คม ฮอื ฮาซอซอ๎ งฮักฮอํ ดว๎ ย สร๎างคณุ ความดีตํอ เด็กพกิ ารรํุนตํอรุํน มีคุณคํานบั อนนั ต๑ (บทท่ี 10) ดว๎ ยอดุ มคตใิ นการทํางานนั้น มั่นแกนํ ถือประจาํ ทําคุณงามความดีด๎วยซ่อื สัตย๑ ผู๎บังคับบัญชายอย๎อง ลกู ศษิ ย๑พิการทีบ่ กพรํอง ทางราํ งกายคอื กับทําน มีความรกั และศรทั ธาตํอทําน บชู าไหวร๎ ะลึกหา สาธนุ าํ (กลอนลง) ละนา หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว 175 ศูนย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

176 กลอน มทุ ิตาจติ ผู้อานวยการอุรดุ า สดุ มี ตอนท่ี 2 ทานอง ลาทางยาว ประพันธ์โดย แม่ครู ราตรี ศรีวิไล ปี พ.ศ. 2551 (บทที่ 1) จนกระทง่ั คุณครูอรุ ดุ า ได๎รับการแตงํ ต้ัง ให๎ทําหนา๎ ที่ผู๎บริหาร เป็นอาจารย๑ใหญํ โรงเรยี นศรีสงั วาล ของมูลนธิ อิ นเุ คราะห๑คนพกิ ารฯ ในปี พ.ศ. 2542 ณ โรงเรยี นศรีสงั วาลยท๑ ่ีนนทบรุ ีน้ี ใช๎ระยะเวลาเกอื บ 30 ปี ที่คลุกคลีและอทุ ศิ ตนให๎ เด็กพิการมาตลอด จนมาฮอด ปีพศ.2544 ทางโรงเรียนศกึ ษาพเิ ศษ เมอื งขอนแกํนแหงํ น้ี มบี ญุ ลน๎ ล่ืนประมาณ (บทท่ี 2) มโี อกาสตอ๎ นรับ ทําน ผอู๎ ํานวยการ คนเกํงกลา๎ เขา๎ มาฮวํ มทํางาน ผ๎ูท่ีมีอุดมการณ๑ตํอตัง้ “พรอ๎ มทจ่ี ะชวํ ยเขา... เพื่อใหเ๎ ขาชวํ ยเหลือตัวเองได๎” จกั แมนํ สมใจแท๎ ทางโรงเรยี นศกึ ษาพเิ ศษ เมืองขอนแกนํ แหงํ น้ี มีผู๎บรหิ ารดีเลิศล๎นคํา คอื ผอ. อรุ ุดา สุดมี ผ๎ซู งึ่ มคี วามสามารถเกงํ กลา๎ อาสาส๎ซู อํ ยงาน (บทที่ 3) ระดมทรพั ยากรในทุกดา๎ น จากภาครัฐและ เอกชน ทังองคก๑ รการกุศล รวมทงั ดา๎ นวิชาการ และงบประมาณ ประสานชวํ ย อํานวยความสะดวกให๎ ทเ่ี อ้อื ตํอเดก็ พกิ าร ดา๎ นฟน้ื ฟูคํซู ุอยาํ ง และ ดา๎ นอปุ กรณ๑ รวมทงั้ การรกั ษาพยาบาลตําง ๆ การสงํ เสรมิ ให๎เรยี นรู๎ เตม็ ศักยภาพทุกด๎าน หาความรส๎ู นูํ กั เรยี น (บทที่ 4) ดว๎ ยวิสัยทัศนท๑ ี่ไกลกว๎าง ใจประเสริฐเสยี สละ ความอดทนบํไลละ บํหว่ันไหวใจทอ๎ อยํตู ํอมาเลยได๎ เป็นโรงเรยี นดเี ดํน เห็นประจกั ษ๑ คักแจง๎ ในการรวํ มฮวํ มใจ (บทท่ี 5) รางวลั ชวี ไิ ด๎ คร้งั ยิ่งใหญํหลายโครงการ สรา๎ ง พระราชานุสาวรยี ๑สมเดจ็ พระศรีนครินทราบรมราชชนนีประดษิ ฐาน เป็นศรีสงงํ ามแกโํ รงเรียนน้ี มโี อกาสรบั เสดจ็ สมเด็จพระเทพรตั นฯกุมารีทรงเยย่ี มผํอ เม่ือปลายปี 2551 นน้ั นอ ทรงเสด็จเปดิ พระราชานุสาวรีย๑ ทุกคนซ๎องซน่ื ซม 176 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

177 (บทที่ 6) ทกุ คนราํ ลึกถงึ พระมหากรุณาธคิ ุณทํานไท๎ ที่มีตอํ คนพกิ าร ได๎รับพระราชทานชอื่ ใหมํ วําโรงเรยี นศรีสังวาลย๑ ขอนแกนํ เฮาเดยี วนี้ ส่ิงท่ีเป็นมงคลชวี ติ สําหรบั บคุ คลท่ี ทําคุณงามความดีควรมีเปน็ ตวั อยําง ชีวิตราชการเชํนผอ๎ู ํานวยการอุรุดา ผู๎เกํงกล๎าลกู หลานหลา๎ ไดไ๎ ตํตาม (บทท่ี 7) ลุลํวงขา๎ ม จนมาฮอดป๓จจบุ นั “ เปน็ เวลายาวนานไคถ๎ งึ 38 ปีปลาย ได๎คลุกคลีกับงานการศึกษา ผ๎ูท่มี คี วามบกพรอํ งทางรํางกาย โดยตัง้ ปณิธานไว๎ ได๎ยึดม่นั กตัญ๒วู าํ ยากปานใดซิขอส๎ู เดินตามรอย “สมเด็จยํา ชํวยเหลือพฒั นา คุณภาพชีวติ แกเํ ดก็ พกิ ารถว๎ นหนา๎ หาทางให๎เพ่ิงตน (บทที่ 8) เกียรตปิ ระเลิศลน๎ รางวลั ชวี ิตความดีงาม เชํนรางวัลบคุ คลพกิ ารตัวอยาํ ง ของสภาสงั คมสงเคราะห๑ แหงํ ประเทศไทย ยอให๎ เขม็ เชิดชูเกยี รตก์ิ ะพอํ งนนั้ ของครุ สุ ภาจังหวดั ขอนแกํน และ เขม็ เชิดชูเกยี รติ คนดศี รีแผนํ ดนิ พรํา่ พรอ๎ ม ยอมอบทาํ นผ๎เู ดียว (บทที่ 9) นับเป็นเกบี นติอนั สูงยิง่ แกํทาํ นอุดา ย๎อนคณุ ความดีสรา๎ งสมมา จ่ังสํงผลเถิงตัวทาํ น ขอสือ่ สารเป็นโตแทนของพีน่ ๎อง ในทํานองลาํ ลํอง แสดงความมุทิตาจิตแทนพวกญาตพิ น่ี อ๎ ง เปน็ เสยี งร๎องโอํลาํ (บทที่ 10) วาํ โอนอ..ทาํ นผูอ๎ าํ นวยการอรุ ดุ าสุดมีเอย... คุณความดีในทุกก้ํา ทาํ นสร๎างกอํ กการกุศล ให๎เปน็ ผลนาํ ซู อยํูประจําตวั ไว๎ ขออํานาจคุณพระศรรี ัตนตรัย พร๎อมพระบารมี องคเ๑ หนือหัวไท๎ และองค๑ราชนี ี รวมทงั องค๑สมเด็จยํา นาํ รกั ษาป่ินปอู ง ผองภยั ฮ๎ายใหพ๎ ํายหนี (บทท่ี 11) ศลิ ปนิ ราตรศี รวี ิไลพรอ๎ มคณะบคุ ลากร และลูกหลานนกั เรียนทุกถ๎วนหน๎า ขอกลาํ วมุทติ าจิต ในชวี ิตการเกษียณอายุของทํานผู๎อํานวยการ ผํานไปให๎สขุ ล๎น ขอให๎มีอายุวรรณะสุขะพละล๎น เกนิ คนในโลก ความทุกโศกอยาํ ได๎พ๎อ ขอให๎ได๎แตสํ ่ิงด.ี .. เดอทาํ นผู๎อาํ นวยการอรุ ดุ าสุดมเี อย...ละนา๎ ... หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว 177 ศูนย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

178 กลอน เฉลิมพระเกยี รติ ถวายอาลยั สมเดจ็ พ่นี างเธอเจา้ ฟา้ กลั ยาณิวฒั นา กรมหลวงนราธวิ าสราชนครินทร์ ทานอง ลาทางยาว ประพนั ธ์โดย แมค่ รู ราตรี ศรวี ิไล ปี พ.ศ. 2551 (กลอนขึ้น) โอํย...บุญเอ๐ยบุญเคยสร๎าง ขอให๎เป็นหนทางนํายู๎ซูใสํ ใหไ๎ ด๎สมพระราชประสงค๑ ขององค๑สมเด็จพระพี่นางเธอ ปรารถนานึกไวพ๎ ระทัยทํานขสูํ อํู นั ขอพระองคจ๑ งทรงเสดจ็ สสูํ รวงสวรรคช๑ ัน้ คาไล.เดอ. (บทที่ 1) ละวาํ โอน๏อ...อกสเนํหาฝ๓น่ ไกลกนั บกํ ลบั ตําว คดิ ถึงคราวทพ่ี ระองค๑ทาํ นได๎แปรงสรา๎ งบ๎านในทกุ เรื่องทุกดา๎ นพระองค๑ทํานใสํ พระทยั (บทที่ 2) ภารกิจนบั บํได๎หลายเกนิ กวาํ เหลือแสน สมกับเป็นตัวแทนๆไพรปํ ระชาชาวบา๎ น พระปรชี าในทกุ เรื่องทกุ ดา๎ นมองการณ๑ไกลก๎าวใหญํ วิสยั ทัศนก๑ วา๎ งไกลเหลือคณานับได๎ใจกวา๎ งหํวงประชา (บทที่ 3) ความสามารถเกํงกล๎าดเี ดํนเห็นประจักษ๑ พระปรีชาสามารถมองเดํนชัดมากมายหลายดา๎ น นับมาจากด๎านโบราณคดีทัง้ เคมีฝร่ังเศสน่นั กะคลํอง รวมอกี ภาษาศาสตร๑ทรงเปน็ ปราชญใ๑ นทุกดา๎ นการเรยี นร๎ูครบครนั (บทที่ 4) ด๎านดนตรวี าํ นน้ั พระองค๑ทาํ นสนพระทัย ซงึ้ ในเสยี งดนตรี และการฟอู นรําขบั รอ๎ ง ทรงหํวงใยพ่ีน๎องประชาชนทกุ หมํูเหลาํ เอาความรใ๎ู นทุกด๎านสานสรา๎ งซอํ ยไทย (บทที่ 5) คณานับบไํ ด๎กว๎างใหญํไพศาล ด๎านสาธารณสุขซอํ ยผูด๎ อ๎ ยโอกาส เด็กป๓ญญาอํอนหรือคนพกิ ารทํานพระองค๑ทรงเทียวเย่ียม โครงการแขนขาเทียมพระองคท๑ รงประทานให๎ด๎วยนาํ้ พระทัยอันเตม็ เป่ียม เสด็จเยย่ี มไพรํฟาู บํเคยล๎าวาํ สิถอย (บทท่ี 6) หยาดเหงือ่ ไคลไหลย๎อยเตม็ พระวรกาย เป็นนําออนซอนหลายนํา้ พระทัยอนั เหลอื ล๎น คนในโลกากวา๎ ง ปวงประชาไดซ๎ มซ่ืน เป็นจุดยืนในทุกด๎านประทานให๎ขํูสูอํ นั 178 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

179 (บทท่ี 7) ทางด๎านศาสตรน๑ ้นั กะซูซอํ ยอุปถัมภ๑ ด๎านการศึกษากะหลาํ่ นํา ทว่ั ถงึ เสมอหนา๎ เสด็จหายามเยยี่ มถงึ บนดอยแม๎วกะเหร่ยี ง เขตกนั ดารขดั เคอื งทํานบเํ คยหลีกเล่ยี งอาสาสซู๎ อํ ยประชา (บทท่ี 8) ดา๎ นวฒั นธรรมประเพณกี ะนบั ม้อื กา๎ วหน๎าพระองค๑อาํ นการณไ๑ กล ใตเ๎ หนือกลางอีสานทํานพระองค๑ทรงชํวย โชคอาํ นวยบญุ นํายปู๎ ระเทศไทยเฮาเฟอ่ื งฟูๆ ย๎อนองคท๑ ํานประทานซอํ ยมาบดั น้สี ิไดเ๎ ห็นแตํฮอยๆ..... (บทที่ 9) คณุ ความดีเพิน่ ฝากไวใ๎ หเ๎ ฮาน้ันไดเ๎ บง่ิ แทน ขอพสกนกิ รชาวไทยทุกทว่ั แควน๎ มาต๎ุมฮวํ มโฮมใจ รํวมถวายพระพรชัยมารอ๎ ยดวงใจฮํวมกนั เด๎อ........ (บทท่ี 10) ให๎แกํองคส๑ มเด็จพระเจา๎ พี่นางเธอ เจ๎าฟาู กลั ยาณวิ ัฒนา กรมหลวงนราธวิ าสราชนครินทร๑ ทท่ี รงส้นิ พระชนม๑จากชาวไทยไปแล๎ว แนวคณุ งามความดเี หลอื ไวแ๎ ทนท่ี ขอปวงชนชาวไทยสบื สานตอํ ในพระปณิธาณท่ีทรงมี (บทที่ 11) อันลน๎ พ๎นล๎นเกลา๎ เฮาควรไดร๎ ะลกึ หา พระเมตตาจารกึ ไวใ๎ นดวงใจของคนไทยทุกหยอํ มหญ๎า มาโฮมซอํ ยกนั สานตอํ พระราชปณธิ าณทที่ ํานไดท๎ รงทาํ ไว๎ นอ๎ มรําลึกถงึ พระมหากรณุ าธิคุณ โดยทําความดีให๎ ถวายกลอนขอพรสงํ สมพระประสงคค๑ ิดไวใ๎ ห๎บญุ ย๎ซู อํ ยซู (บทท่ี 12) ขออาราธนาสิง่ ศกั ด์สิ ิทธ์ิ ในสากลโลกใหซ๎ อํ ยยซู๎ ูขึน้ สสูํ รวงสวรรค๑ มคี วามสุขนับอนนั ต๑ อยใูํ นชั้นสงู สดุ ของสัปปายภพ ประสบความสุขสําราญ เบิกบานพระทัยลน๎ ประชาชนชาวไทยพรอ๎ มสาธุการซอ๎ งซอํ …… ดว๎ ยเกล๎าดว๎ ยกระหมอํ มขอเดชะข๎าพระพทุ ธเจ๎าศิลปนิ พนื้ บา๎ น หมอลําราตรี ศรวี ิไลเปน็ ตวั แทนผองปวงชนชาวไทย ขออันเชญิ ดวงพระวญิ ญาณองค๑สมเดจ็ พระเจา๎ พีน่ างเธอ เจ๎าฟูากัลยาณวิ ฒั นากรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร๑ จงได๎ไปสถติ ย๑อยํูสวรรคช๑ ั้นคาไล หนงั สือรวมกลอนลำทำงยำว 179 ศนู ย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

180 บญุ กศุ ลสวํ นสร๎างไว๎ให๎นาํ ยสู๎ สํู วรรค.๑ ..ซน่ั ดอกหนา..... เดอสมเด็จพระพนี่ างเธอ (กลอนลง) เอย.....ละนา 180 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

181 กลอน ยาสมุนไพร – ใจธรรม ตอนที่ 1 ทานอง ลาทางยาว ประพนั ธโ์ ดย แมค่ รู ราตรี ศรีวไิ ล ปี พ.ศ. 2552 (กลอนเกรน่ิ ) โอ.ํ ..ฟูาเอย๎ ฟูาฮ๎องโยนํ เบ่ิงสงั ขารของตนแล๎วสงั วรใหถ๎ ํวนถ่ี ชวี ติ คนอยบูํ ํพอรอ๎ ยปรี ๎อยสร๎างความดเี ข๎าไว๎ บุญผลาสิสํงใหน๎ ํายู๎สูนํ พิ าน...ละนา๎ (เนอื้ ในกลอน) (บทท่ี 1) พ่นี ๎องเอยโลกของเฮาใบนม้ี ีสงิ่ เปลี่ยนไปหลาย มนั สับสนวุํนวายจากเหตุการณ๑เรว็ ร๎าย หลายประการในชวี ติ เฮาพ๎อหือแมนํ ฮอดแล๎วบอ๎ หวํางบา๎ นสขิ ํอนเมืองสโิ หลํม จากพิษภัยทางสงั คม กบั การอยรํู วํ มกบั ทางธรรมชาติ (บทที่ 2) ย๎อนวําคนประมาทดงึ เอาธรรมชาติ เขา๎ ชวี ติ บํได๎จั่งทาํ ใหว๎ ุน๎ วุยํ วาย หลงงมงายแกงํ แยงํ ซงิ เดนํ ซงิ ดี ยอ๎ นเมอื งพอบมํ ี จัง่ หลีกบวํ งหนบี ํมีม๎ม วนเวยี นนําแตํความโลภโลภาหาตมื่ เฮด็ ให๎หลงให๎ลืมสัจธรรมเที่ยงแท๎ จักแปรไวอ๎ ยบูํ ํอนใด๐ (บทที่ 3) สํานึกดีมีชาตพิ บ คนเฮาหาบํได๎คือสง่ิ ใหญใํ นชวี ิต พีน่ อ๎ งเอย๎ ให๎ฟูาวปรบั ความคดิ ให๎เที่ยงตรงคงไว๎ ผท๎ู ี่คิดและปฏบิ ัตไิ ดต๎ อ๎ งมีใจเป๕นใหญํ และเปิดใจเบง่ิ สภาพสิง่ แวดล๎อมถือเปน๕ เพอื่ นคํใู จ (บทท่ี 4) ทกุ ส่งิ อยํางเกิดขึน้ ไดใ๎ นบนโลกโลกา ให๎ประมวลเอามาเป๕นเพือ่ นตนจนได๎ ต๎องเฮด็ ใหท๎ ราบซึ้งพึงพอใจกบั สํอู ยาํ ง วางโตใหเ๎ ป๕นกลางอุเบกขาวําไว๎ใจน้นั อยาํ หวนั่ แว (บทท่ี 5) เพ่ือนน้ันคอื ตัวอยาํ งกัลยาณมติ รแทก๎ ําหนดแหงํ ชะตากรรม เฮ็ดให๎เห็นฮอํ มธรรมและลาภยศสรรเสรญิ ช้ที างวางไว๎ เรอ่ื งอาหารการกินกะถอื เป๕นป๓ญหาได๎สําคญั อีกปุอง สํวนมากมวลมนษุ ย๑มีแตํกินมาํ ๆบบํเคยคลาํ เบ่งิ ทอ๎ ง วํามันอ๎วนใหญํสาํ่ ใด๐ (บทที่ 6) หลักธรรมคือเส๎นทางคน๎ หาความสขุ ได๎ หลกั ประกนั ใหญยํ นื ยนั นัน้ คอื สจั ธรรมพลังมวลชน เปรียบคอื ธรรมคา้ํ จนู โลก อยํไู ดฉ๎ ันใด๐คนไทยเฮากะอยูํเย็นเปน๕ สุขได๎ด๎วยสขุ ภาพดีวิถีไทยด่งั เดียวฉนั นัน้ หนงั สือรวมกลอนลำทำงยำว 181 ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

182 แตํต๎องหนั มองกํ้าตัวตนเจ๎าของกํอน สวํ นใดเ๐ ย็นและฮ๎อนเฮาฮู๎อยูแํ กํใจ (บทที่ 7) ต๎องคน๎ หาต๎นหลกั ธรรมไห๎ได๎ และมาบวกเขา๎ ไว๎กับวฒั นธรรมไทย ความทุกข๑สขุ ทงั กายใจตอ๎ งมีความสมั พันธ๑สอดกันประสานคลอํ ง ข๎อสาํ คัญเร่อื งโภชนะอาหารกินเขา๎ ปากแล๎วลงท๎อง กะเป๕นวัตถอุ ีกสวํ นหนง่ึ แตํถ๎ามองลึกซึง้ ไปถึงช้นั สํวนใน (บทท่ี 8) อาหารใจน้ันเปน๕ สํวนซอํ ยใหพ๎ ลงั ใหญํสูงสุด คันขาดใจเฮาต๎องมดุ มอดชีวาเมี้ยน เฮยี นให๎สดุ ขุดให๎มันเถิงหมํองแล๎วตรึกตรองให๎ถํวนถ่ี ธรรมะเปน๕ ของดสี อนให๎คนรอบรู๎ของค้ําคําคาร (บทที่ 9) สรรพสตั ว๑ล๎วนทกุ อยาํ งเกิดตามกรรม วิถนี ํากรรมลขิ ิตชวี ติ คนเฮานี้ มีใจเป๕นทต่ี ัง่ คือสจั ธรรมความสตั ยซ๑ ือ่ ธรรมนนั้ คือธรรมดา บํหวอื หวากระโดดเตน๎ เพราะเห็นฮแู๎ หํงธรรม (บทที่ 10) ฉนั ใด๐กะฉันน้ันธรรมคอื ธรรมชาติ ปราชญ๑ผเู๎ พิ่นรอบรู๎เขียนไวใ๎ สํตาํ รา ภมู ปญ๓ ญาชาวบ๎านบคํ วรละลืมไล ตวั อยาํ งยาสมุนไพรเคยรกั ษา ปิน๖ ป๓วคนสําเร็จผลมาหลายล๎น แตวํ าํ คนมักมองขา๎ มความสําคญั อนั ยงิ่ ใหญํ ถอื วําเป๕นบุญคุณที่หมอแพทย๑แผนไทย ซํอยชวี ติ คนไทย (บทที่ 11) โดยแก๎ป๓ญหาเจ็บปวุ ยไข๎ซอํ ยคนไว๎ตลอดมา กลํุมพลังมวลชน ชมรมสุขภาพวิถีไทย รวมพลงั สร๎างศรทั ธาอนั แกํกลา๎ สานตํอเพื่อคนไทย กราบวงิ วอนผู๎สนใจ ในสัจธรรมพลังมวลชนขอให๎ทกุ คนเขา๎ มารวํ ม รวมใจพรอ๎ มเพยี งหน๎ากนิ อาหารเป๕นยา แลว๎ สซิ ํอยรักษา สขุ ภาพราํ งกายและจิตใจ ใหเ๎ บิกบานสดชื่น ทกุ วันคืนถ๎วนถัว่ ลดละเลกิ อบายมุขของพาทุกข๑มืดม้ัวตัวเจา๎ สิผํองใส (บทที่ 12) และน๎อมใจยดึ หมัน่ ถือธรรมะเป๕นหลัก กอํ นภยั พิบตั ิสมิ าเถงิ แลนํ ตาํ โตเจ๎า เอาพลงั แหํงความรกั และศรัทธาธรรมชาตดิ ๎วยแนวทางสขุ ภาพ เปน๕ ของดซี าบลาบ ประครองแสงสวํางให๎ เห็นแจ๎งแหงํ ธรรม 182 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

183 (บทท่ี 13) การคนไทยรวมพลงั ซํอยตนเองนําได๎ และซอํ ยลดภาระของสงั คมไทย ไดอ๎ กี ระดับหน่งึ . เพ่ิงตนเองเทิงได๎ซอํ ยชาติพรอ๎ ม ยอ๎ นใจน๎อมไฝุธรรม (บทที่ 14) ความฉลาดลึกลํ้าต๎องยกให๎คนไทย โดยเฉพาะยาสมุนไพรทไี่ ทยเฮาควรปร้มึ อยาํ ซลุ ืมไลถ่มิ มรดกมูลมงั ตัง้ แตํครง้ั ปยูุ ํา ผู๎สนใจขอเชิญมาศกึ ษานาํ คณะศษิ ยธ๑ รรมชาติ กลํมุ พลงั มวลชนเครอื ขาํ ยนาคราช ชมรมสขุ ภาพดวี ถิ ไี ทย ภาคประชาชนเด๎อพน่ี อ๎ ง เพนิ่ เตรยี มถ๎าซอํ ยเหลือชอํ ยเกอ้ื กนู อดุ หนุนไทย... (กลอนลง) ละน๎า... หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว 183 ศูนย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

184 กลอน ยาสมุนไพร – ใจธรรม ตอนท่ี 2 ทานอง ลาทางยาว ประพนั ธ์โดย แมค่ รู ราตรี ศรีวิไล ปี พ.ศ. 2552 (บทที่ 1) สรรพสตั ว๑ล๎วนทกุ อยาํ งเกดิ ตามกรรม วถิ นี าํ กรรมลขิ ิตชวี ิตคนเฮาน้ี มีใจเป๕นที่ตง่ั คือสัจธรรมความสัตย๑ซ่อื ธรรมนนั้ คือธรรมดา บํหวือหวากระโดดเตน๎ เพราะเห็นฮ๎ูแหงํ ธรรม (บทที่ 2) ฉนั ใดก๐ ะฉันนน้ั ธรรมคอื ธรรมชาติ ปราชญ๑ผเ๎ู พน่ิ รอบร๎เู ขียนไวใ๎ สตํ าํ รา ภมู ปญ๓ ญาชาวบ๎านบคํ วรละลมื ไลตวั อยํางยาสมุนไพรเคยรักษา ปน๖ิ ป๓วคน สําเร็จผลมาหลายลน๎ แตํวําคนมกั มองขา๎ มความสําคัญอนั ยง่ิ ใหญํ ถือวําเป๕นบญุ คุณท่ีหมอแพทยแ๑ ผนไทย ซํอยชีวติ คนไทยโดยแก๎ปญ๓ หา เจ็บปุวยไข๎ซอํ ยคนไวต๎ ลอดมา (บทท่ี 3) กลุํมพลังมวลชน ชมรมสุขภาพวถิ ไี ทย รวมพลังสร๎างศรัทธาอันแกกํ ลา๎ สานตํอเพอ่ื คนไทย กราบวิงวอนผส๎ู นใจ ในสัจธรรมพลงั มวลชนขอให๎ทกุ คนเข๎ามารํวม รวมใจพรอ๎ มเพียงหนา๎ กนิ อาหารเป๕นยา แลว๎ สิซอํ ยรกั ษาสุขภาพราํ งกายและ จติ ใจ ให๎เบกิ บานสดชืน่ ทกุ วนั คนื ถว๎ นถั่วลดละเลิกอบายมุขของพาทุกข๑มืดมัว้ ตวั เจา๎ สผิ ํองใส (บทท่ี 4) และน๎อมใจยดึ หมนั่ ถือธรรมะเปน๕ หลัก กํอนภยั พบิ ัตสิ มิ าเถงิ แลํนตําโตเจา๎ เอาพลงั แหํงความรกั และศรัทธาธรรมชาติด๎วยแนวทางสขุ ภาพ เปน๕ ของดีซาบลาบ ประครองแสงสวํางให๎ เห็นแจ๎งแหํงธรรม (บทที่ 5) การคนไทยรวมพลัง ซํอยตนเองนําได๎ และซอํ ยลดภาระของสังคมไทยไดอ๎ ีกระดับหนง่ึ เพงิ่ ตนเองเทิงได๎ซอํ ยชาตพิ ร๎อม ย๎อนใจนอ๎ มไฝุธรรม (บทที่ 6) ความฉลาดลึกลา้ํ ต๎องยกให๎คนไทย โดยเฉพาะยาสมุนไพรท่ีไทยเฮาควรปลืม้ อยําซุลืมไลถมิ่ มรดกมูลมงั ตงั้ แตํคร้ังปยูุ ํา ผส๎ู นใจขอเชิญมาศึกษานําคณะศษิ ยธ๑ รรมชาตกิ ลุํมพลังมวลชนเครือขํายนาคราช ชมรมสุขภาพดีวิถไี ทย ภาคประชาชนเด๎อพี่น๎อง เพ่นิ เตรยี มถา๎ ซอํ ยเหลือชอํ ยเกือ้ กูนอุดหนุนไทย... (กลอนลง)ละน๎า... 184 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

185 กลอน ขอบคุณฟูาเบอื้ งบน 185 ทานอง ลาทางยาว ประพนั ธโ์ ดย แม่ครู ราตรี ศรวี ิไล ปี พ.ศ. 2552 ใช้มอบใหญ้ าติธรรม (กลอนขึ้น) โอํย... ฟูาเอ๎ยฮ๎องโยํน ศษิ ยจ๑ ากฟาู เบือ้ งบน แมํนเจ๎าได๎ยนิ บํ นบั ไดก๎ วาํ หกหม่ืนปแี ลว๎ นอ๎ สําบายดี บอ๎ พวกหมเูํ ฮา...ละน๎า (บทที่ 1) ขอถามขําวพ่นี ๎อง วาํ สขุ สบายดีบ๎อ พระองค๑ธรรม เฮาคอยอยบูํ นแดนฟาู เพิน่ อาลัยอาวรณ๑ ลุน๎ นํา้ ตานองจติ หมองหมํน แสนทุกขท๑ นโศกเศรา๎ คอยเจ๎าสติ ําวคนื (บทท่ี 2) แมเํ ฮาสะอืน่ ยนื ผํอรอทาง ลูกหํางเหนิ สาลับ อยํซู ันๆบพอนน้ั มาเจอกนั บัดคราวนี้ ยุคที่สามตามตอํ เวลามน่ิ หมํอไกล ไหไ๎ ด๎ฮําฮอน (บทท่ี 3) ตกเถิงคราวเดอื นฮอ๎ น ฮอดการยี คุ คนสิอคุ หวั ใจ ด่งั ไฟเผาไหม๎ เพราะวาํ ภัยพิบัติ กลา๎ สิเผาผลาญเหมิดโลก ความวิปโยคสิเกดิ ขนึ้ กาลฮ๎อนฮวํ งฮน (บทที่ 4) คนสติ ายเสยี เสี่ยง บํเหลอื หยงั ค๎างอยํู ประตูนรกเปดิ ให๎ ผฮี า๎ ยออกวุนํ วาย (บทท่ี 5) จกั ไผดีซวั่ ฮา๎ ย บฮํ ฮ๎ู ํอมชอมกลุ สลวนวุนํ วาย สร๎างกรรมทําซั่ว ไผผู๎มัวตัณหา โกรธโลภหลงไห๎ปลงกอํ น หม๎อนาฮกฮ๎อนๆบ สิดึกเจ๎าตําวคนื (บทท่ี 6) เฮามาฟูาวฟฟู นื๗ ยอยกระดบั จติ สิ่งสพิ าชีวิต ไห๎ปลํอยไปหลุดพน๎ ฟาู เบ้อื งบนเพิ่นสงํ เฮอื มาไหเ๎ ฮาขี่ไปไหม๎ ม๎ ฝ๖ง๓ คันเฮายังพะวงหลังหวํ งหน๎า สิวนบ๎าปวุ งบเํ ซา หนงั สือรวมกลอนลำทำงยำว ศูนย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

186 (บทท่ี 7) พระองค๑การฟูาเพ่นิ บอกเว๎าพร่ําสอนส่ังความดีงาม สังสายทองมาตาม ใหต๎ ําวคืนทาง หวนคนื เฮอื นคืนเยา๎ มาตภุ ูมคิ ืนถ่ิน โลกมนุษย๑ดัน้ ดิ้น บํจบสน้ิ ฉากละคร (บทท่ี 8) แตลํ ะตอนจดั แตํงไว๎ บทบาทมายา มัวสญู เสยี เวลา ยํางเดนิ เพลนิ เลนํ ความสัตว๑จริงของคนนั้น คอื จิตวิญญาณลํ้าคํา ศิษยจ๑ งเข๎าศกึ ษาครองชวี ติ ใช๎พ๎น กลบั คนื บ๎านสํูเบือ้ งบน (บทท่ี 9) อยํามวั วนถึกบ๎วง เหวลกึ วงวน จติ รสบั สนด๎วยคน๎ หา สิมืดมนวนบ๎า ตนั หาฮักลกู เชือกผูกคอค๎นหาฮักผัวฮกั เมีย คอื ข๎อผกู ศอก ค๎นหาฮกั ข๎าวของเงินทอง คือปลอกสุบตนี คันได๎ยนิ เสยี งลําเอน้ิ เอินนาํ ไหร๎ บี ตน่ื หวลกลบั คืนสํูห๎อง แดนกวา๎ งฝาุ ยนิพพาน (บทที่ 10) อยาํ มัวแตํเกลยี ดคร๎าน นอ๎ มจติ ใสใํ นธรรม จิตบาํ เพญ็ เปน๕ ประจาํ สซิ ๎อยนาํ ให๎หลดุ พ๎น อยํามวั สลวน ยุํงลงุ คือฮากไผํ คันบฟํ าู วหนไี ปภยั พบิ ัติ สิเกิดขึ้นตายเสียงนนั้ บํหลอํ อยาํ รรี อใหม๎ ันซา๎ เดยี๋ วนี้พระอาจารย๑ ฟาู เบ้ืองบน (บทที่ 11) เพ่ินย่นื เซอื กทองคาํ มาให๎ เฮายื้อดึงจอํ ง สายธรรมมเดอ๎ พ่ีน๎อง สดิ งึ ข้นึ สํูนพิ าน (กลอนลง) องค๑การฟูาเพน่ิ ซอํ ยเฮา ละนา๎ ๆบ 186 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

187 กลอน โรคทุพโภชนาการ-ขาดสารอาหาร ทานอง ลาทางยาว ประพันธโ์ ดย แม่ครู ราตรี ศรีวิไล ปี พ.ศ. 2552 (กลอนข้นึ ) โอ๎..โอํย..โอํยละนอ ฟูาเอ๎ยฟาู ฮอ๎ งตงึ้ ๆบ ดงึ หัวใจไวใ๎ หอ๎ ยํู หันมาฟ๓งในเรอ่ื งอาหารหลักห๎าหมํู แลว๎ กนิ ให๎ครบคูํเด๎อหมูเํ จา๎ พน่ี ๎อง หมอลําขอร๎องบอกขาํ วสาร ให๎ กินของฮ๎อน ใช๎ช๎อนกลาง หมั่นล๎างมอื นําเดอ๎ ...ละนา๎ (บทที่ 1) อันนลี้ ะพํอแมํเอย- หันมาฟ๓งเด๎อทาํ น เรอ่ื งอาหารเทิงหา๎ หมํู ให๎ฮ๎ูจกั คกั ไว๎ แล๎วไปเว๎าตอํ กนั (บทที่ 2) หมทูํ ี่1 จาํ พวกเน้อื -นมไขํ น้ัน เมด็ ถั่วเทงิ งา พาเตบิ โตแขง็ แรงเทงิ ซอํ มแซม-เพรียงพรอ๎ ม หมํูท่ี2 จําพวกข๎าวเผอื กแปงู พลงั งานเกิดกํอ หมูํที่3 อนั พชื ผักน้ันละก๎อพาคงี ใหไ๎ ด๎อยูดํ ี (บทที่ 3) หมูํที่ 4 ซุมพวก-ผลไม๎น้มี ปี ระโยชนค๑ อื กบั ผกั หมทํู ี่ 5 นีก้ ะคักสาํ มะคญั คคี อ๎ ย ไขมันจากพชื และสัตว๑-เพียงเลก็ นอ๎ ย ให๎พลังงานความอบอนํุ คา้ํ จุนกายอยูํได๎ พลังนน้ั เกดิ อยใํู น (บทที่ 4) เข๎าใจนอลงุ ปูาในหา๎ หมํูอาหาร กนิ ให๎ครบตามหลกั การประโยชนซ๑ มิ มี าเต๎า ผองโรคาบํมาเข๎า หนีไกลความเจบ็ ปวุ ย กายใจสวยผอํ งแผ๎วแนวมัวเมา๎ นน้ั หํางหาย (บทท่ี 5) ในอาหารเหลําน้ี มปี ระโยชน๑เม่ือเฮากนิ พวกโปรตนี คาร๑โบไฮเดรด-และ ไขมนั --แรธํ าตุวิตามินพรอ๎ ม โฮมตอ๎ มกนั อยูํในห้นั ล๎วนแนวดีมีประโยชน๑ โภชนังเกา๎ ประการ เพิน่ บัญญตั ขิ ้นื ไว๎-ให๎ความฮ๎ูหมเํู ฮา (บทที่ 6) สรปุ ท่ี เพิน่ เว๎าถือเอาขา๎ วเปน๕ หลกั กินผลไม๎และพืชผกั พร๎อมเทิงปลาอยาํ ลืมเด๎อ เญอกันไปทังไขนํ นั้ ถ่ัวกบั งาอยาํ ไดข๎ าด นมนาํ้ ทส่ี ะอาดควรดืม่ ไว๎-บํารงุ ให๎กระดูกดี หนงั สือรวมกลอนลำทำงยำว 187 ศนู ย์กำรเรียนภูมิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

188 (บทที่ 7) สํวนวําไขมันนี้กนิ แตพํ อประมาณ ถา๎ กนิ หลายมันซิพาน เกดิ โรคความดนั แท๎ เทงิ ควรแวหลีกเว๎น อาหารรสจดั คซํู ุอยาํ ง มนั ซพิ าผําม๎าง กายเฮาฮา๎ ง-ปุวยโซ (บทท่ี 8) เบาหวานพาโลขนึ้ กระทบตํอหวั ใจ การไหลเวียนของโลหติ กะตบี ตนั คาคา๎ ง ทางความดันกะสงู ขนึ้ อ๎วนพงุ โลโอโ๎ ย๎ใหญํ โปรดระวังเขา๎ ไว๎ ภยั มืดซนิ ํา่ คอ (บทท่ี 9) ขอ๎ อาหารวําน้นั สะอาดปราศสารพิษ พวกสกุ ๆบ ดิบ ๆบ กะบํดีเดอเจา๎ อันวาํ สุราเหล๎าแอลกอฮอรค๑ ซูํ อุ ยําง วาง ลดละเลิกลา๎ ง เสยี ถิ้มอยําคนิง (บทท่ี 10) สิ่งเหลาํ นี้ ซิพาให๎เกดิ ตบั แข็ง ซิลงแดงเทงิ มะเร็ง ซกุ ซมุ แนวฮ๎าย ทํานทงั หลายตระหนกั ไว๎โรคภัยมีสบูํ าทยําง กนิ ของฮอ๎ น-ใช๎ชอ๎ นกลาง หม่ันลา๎ งมอื ซิ ชอํ ยให๎-ปูองกนั ไดอ๎ ยาํ งดี (บทที่ 11) ภาษติ มวี าํ ไว๎ ให๎ฮอนฮํา่ คนิงหา วาํ อโรคยาปรมลาภา นั้นแมํนจริงจาํ ไว๎ คนบมํ ีโรคภยั -เปน๕ ลาภอนั ประเสรฐิ แท๎ – สุขโขโยยิ่ง บํวาํ ชายหรอื หญงิ ให๎ตระหนกั เข๎าไว๎ - สขุ ใสล๎นล่ืนประมาณ... (บทลง) ปานสวรรค๑เมอื งคน...ละนา๎ 188 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภูมิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

189 กลอน ดอกเบ้ียเงินกู้สหกรณ์ ทานอง ลาทางยาว ประพันธ์โดย แมค่ รู ราตรี ศรีวไิ ล ปี พ.ศ. 2552 (บทที่ 1) ผู๎ใดมีเงินน๎อยอยํายืมหลายเด๎อเงินดอกบัดบํมีใช๎หน้ีมันสิยํุง ผู๎ยืมคันไมํมีเงินแล๎วอยําจํายหลายเด๎อเงินคอกบัดถามคืนบํได๎มันสิยํุงผู๎ จํายเงิน (บทท่ี 2) เพ่ินวําเงินคํานี้ไกลเจ๎ามันคือเขาวัวปุา คันถามดีเพิ่นกะให๎คันถามฮ๎ายสิไลํชน (บทที่ 3) เห็นคนมาถามหนี้พอปานเห็นผีปอบ บัดเจ๎าของเห็นลูกหนี้นําอ๎อมปานไลํฟาน (บทที่ 4) เว๎าเร่ืองน้ีมีอยูํทุกหมูํบ๎านวําตั้งแตํมีคน แมํนคนจนคนรวยกะด่ังกันทั้งคําย ผ๎ูมีหลายกะหน้ีหลายผู๎มีหนํอยกะหน้ีหนํอย คนจนๆบได๎เป๕นหน้ีหนํอยๆบไปยืมใสกะได๎แตํหนํอยๆบเพราะเขาย๎านบํ สํงคืน (บทที่ 5) ลางคนคิดมื้อต้ืนเลยเกิดตํอยตีกัน สัมปะปี๋สัมปะพันพํองพนันกันไว๎ คันเฮาบํมีให๎โดนไปกะออกดอก ออกนอกเฮือนกะบํได๎เจ๎าของหน้ีกะไลํถาม (บทท่ี 6) พํองหน้ีเข๎าพํองหนี้มาเลําเป๕นบนๆบ ผ๎ูลางคนเขายึดได๎หํางนาหนีบ๎าน จั่งวําการเป๕นหน้ีบํจําเป๕นอยําหาเหตุพระเพิ่นเทศน๑บอกไว๎ให๎เฮาได๎ ฮ่ินตรอง… (บทที่ 7) อีกอันหนึ่งพ่ีน๎องพํอแมํเฮา ตํอมาคุณครูบาผ๎ูบอกสอนความร๎ู นอกจากครูยังเพ่ือนสหายผ๎ูเป๕นเสี่ยว เทียวไปยามหลอกล๎อรอให๎ใสํกัน (บทท่ี 8) เว๎าเรื่องหนี้นั้นมีอยํูทุกหมูํบ๎านท่ัวหัวมนุษย๑ ผู๎ลางคนมีหน้ีหลายเอาหัวมุดอยูํเฮือนหมกหมุํน หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว 189 ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

190 แล๎วแตํบุญหลายน๎อยผ๎ูได๐มีกะใคแหนํ เงินบํมีได๎แตํแยํจักแนว (บทท่ี 9) ให๎อยํูใสคันบํยืมกะบํได๎เพราะวําบํมีกิน ดินกะอาศัยเบาข๎างกะหาเงินซ้ือ ลูกเกิดมานาํ สูํม้ือความกินกะอึดอยาก นอกจากปากและท๎องพร๎อมยังเครื่องนํุงถือ (บทท่ี 10) มีแตํแนวซื้อๆบสาเหตุกํอเฮาสิทุก ผู๎พํออุกหาเงินลูกเมียผัดมาไข๎ ม้ือได๐หาเงินไคกะใจใสเว๎านาํ หมูํ มื้อได๐หาบไํ ด๎อยากงมุ หน๎าใสขํ ี่ดิน….ละน๎า... (บทลง) ผลานสิ งส๑ กะมีไว๎จง่ั ซี้ละ ทานน๎อยไดจ๎ ่ังได๎ ทานหลายไดจ๎ ั่งได๐… 190 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

191 กลอน ผู้ชายหลกั ตอกควาย ตอนที่ 1 ทานอง ลาทางยาว ประพนั ธโ์ ดย แมค่ รู ราตรี ศรีวิไล ปี พ.ศ. 2553 (กลอนขนึ้ ) โอยละนอ..ฟูาเอย๎ ฟูามนั ฮ๎องสกั กะหลา ฟูาเอ๎ยฟูามันฮ๎องสกั กะหลาํ ย ซาํ งบผํ ําหวั ผ๎ซู ายผู๎เพนิ่ มักจอบหลอย ลกั ตอกควายตอกม๎า โลดเปน๕ บา๎ ปุวงละเมอ นอนฝ๓นเพอ๎ ปุวงซคูํ ืน.. หละน๎า (บทที่ 1) น้ีละพํอแมํเอย ฟ๓งซพิ รรณาเรอื่ งชายตณั หาบ๎าละฮาํ่ หน๎าตาคือบําวหมอลํา ฮปู ฮํางคล๎ายจ่ังเจา๎ ตามเว๎าขําวลอื (บทที่ 2) ซื่อกะคือซือ่ เจา๎ (ชื่อหมอลําชาย) เว๎าซํามาดน ซําวาํ คนลักตอกงัว-ตอกควาย ทางบา๎ นหมอลําผ๎ูชายนนั้ เกดิ เปน๕ มอ้ื เป๕นวันยามกินขา๎ วแลงแลว๎ เพ่ินหายไปวบั แวบ เป๕นลกึ ลับลึกแลบ หายแว๏บไปสูมํ ้อื กินแลงแลว๎ โสดบํเหน็ (บทท่ี 3) อาการเปน๕ จั่งซี้ ประมาณวําได๎สามเดอื น มื้อใดบ๐ ลํ งไดล๎ งเฮือน เพนิ่ ฮวํ นฮนวนบา๎ ม้อื หนงึ่ นน้ั เมียเลยหากลล๎อ ออกอุบายเว๎าตํอวาํ พอํ อี่นาง ๆบ ม้อื นี้ ผใ๎ู หญํบ๎านตขี อลอ ขํอยสิไปฟ๓งเพิ่นเวา๎ ..ขอให๎เจ๎าเฝูาเบิง่ เฮือน (บทที่ 4) ไปกบั พวกเพ่ือนบา๎ น ฟง๓ เพน่ิ ประชุมกนั จบรายการจงั่ สหิ นั อํวยคืนมาหาเจ๎า ผวั กะเลยจาเว๎า วาํ เออ ๆบ ขํอยบวํ าํ (บทที่ 5) ซเิ ฝาู เฮอื นอยถํู า๎ เดอ๎ เจ๎าแมอํ ี่นาง ผัวบไํ ด๎สลําง แปลกตํางในหัวใจ เมียทาํ ทําฟูาวลงเฮอื นเร็วไว ไปจอบซอมอยคูํ ันฮว้ั ทางผูผ๎ ัววําเมียไปหวิดแล๎ว เลยเตรียมตัวต้งั ทํา ฟูาวลงเฮือนไปหา-ควายแมํนางโตมดั ไว๎ คอกทางใตต๎ ะลาํ งเฮือน (บทท่ี 6) งวกซ๎ายขวา-แลว๎ จ่งั ขํอย ๆบ เคล่อื น ขายาํ งยองเบา ฮอดคอกควายกะเลยเซา งวกหน๎าหลังย๎านคนพอ๎ แจบใจนอคาวนี้ บมํ ีใผเหน็ คักแหนํ ควายแมํนาง-กะยืนเบดิ แทแ๎ ล๎ คอยถ๎าโสดบํติง (บทที่ 7) เห็นควายสาวยนื นิง่ บรรยากาศเป๕นใจ มือซาวไปคลําหวั หลบุ ทัว่ ตัวเรือนรําง มอื หน่ึงจบั หางง๎าง มอื หน่ึงลูปใต๎กกหาง ฟ๓งเสียงเว๎าออดออํ ย หนงั สือรวมกลอนลำทำงยำว 191 ศนู ย์กำรเรียนภมู ิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

192 เวา๎ ขํอย ๆบ สํ่าใสหูนอ๎ ย ๆบ เทิงลาํ เต๎ยเจยํ ผญา ความลําเตย๎ เพิน่ ผัดวาํ (ลาเต้ย) โอยกะละวํานอนาง เจา๎ ผู๎ท๎ายหลาบหลําย บัดยามยาํ งนวยนาย หางปกท๎ายลากหวั เขํา อา๎ ยน้ีหลงมกั เจ๎า อยากเอาซ๎อนขูํซูํคนื เจ๎าอยําตนื่ อยาํ ท๎วง อยําซิหํวงแนวใด๐ อา๎ ยเต็มใจเป๕นผวั คเูํ คียงเฮยี งน๎อง ให๎ ขํอยเยาะ ๆบ ขอํ ยยํอง ขาหลงั ยอง เยาะลง ตาํ่ ๆบ ตํ่า ๆบเต้ยี ลง ตาํ่ ๆบ เงิงหางให๎อ๎ายข้ึนลา้ํ จาํ แลว๎ จัง่ ซิเซา แล๎วอ๎ายสิเอา หญา๎ งามอํอน ๆบ มาต๎อนมาแวมํ าแวสงํ สํวย เด๎ออีห่ ล๎าผสู๎ วย ใหอ๎ า๎ ย ตอกแหนํ ๆบๆบๆบ มอ้ื อื่นซแิ วํ เกยี่ วหญ๎ามาฝากเจา๎ อยําหมองเศร๎าให๎พชี่ ม ก๎มดมแก๎มกอํ น แลว๎ ซอนขาขึน้ หนาํ่ คาํ ม้ํา-คาํ มาํ จนแอวซ๎ง ๆบ 192 หนังสือรวมกลอนลำทำงยำว ศนู ย์กำรเรียนภูมิปัญญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร

193 กลอน ผู้ชายหลกั ตอกควาย ตอนท่ี 2 ทานอง ลาทางยาว ประพันธ์โดย แมค่ รู ราตรี ศรวี ไิ ล ปี พ.ศ. 2553 (บทที่ 1) มาบดั น้ี พอแตลํ ําจบแลว๎ มอื เพ่ินต๎าวใสํแอว-ซาวข๎างควายอยูํ ไว๎ ไหวํ ๆบ ใสํจังหวะทาํ เต๎ย จนจบถ๎วนครบขบวน (บทที่ 2) สํวนผ๎เู มียฮูแ๎ จบแจ๎ง เห็นคกั ประจกั รตา แตบํ ํจากบั ใผ อกุ อยใํู นใจสะท๎าน ฟาู วยาํ งไป-ข้นื เทงิ เฮอื นผู๎ใหญบํ ๎าน อยปูํ ลายซาน น่งั มอํ ๆบ ทาํ ทาํ ฟ๓งประชุมตอํ เฮด็ บฮํ ูบ๎ ํซ้ี แตํสหี นา๎ บซํ ืน่ บาน (บทที่ 3) หนํอยบนํ าน-ผวั นาํ มาน่งั เฮยี งข๎าง ถามขอํ ย ๆบ วําเฒาํ ๆบ มือ้ น้เี ผ่ินประชมุ หยงั (บทที่ 4) ทางผ๎ูเมียเลยวาํ เผน่ิ ซงั คนจังไฮ ลักตอกงวั ตอกควาย ประกาศจับในคนื นี้ ตามรปู แบบคดี-บํมีการละเว๎น ตอ๎ งจับเปน๕ คักแหนํ พอได๎ยนี เมียวาํ ฟาู วลกุ ข้นื แกงํ แก๎ ทางแปูนผัดเด่ยี งลง (บทที่ 5) แปูนซานเดย่ี งดีดฟูง หวั สักกน่ิ ลงขีด่ ิน พวกชาวบา๎ นไดย๎ ิน ฮ๎องวําคน ตกเฮือน ๆบ สิซํอยกันมาโซมอ๎มุ เหน็ คนลมุ มาหมํุ เพ่นิ ตกใจ เครยี ดบกั ใหญํ กําก่ําปน๓๗ จอ๎ ไว๎ เตรียมต้ังทาํ ซกมวย (บทที่ 6) ฮ๎องขึ้นวํา ควายกะควายกูตัว้ บไํ ด๎ตอกควายใผ ตอกกะตอกควายกู สูสมิ าใสใํ จ เอาเรอ่ื งกอู ห่ี ยงั วาํ กูบํยอมดอกน๎า สิมาจบั กนั งาํ ย ๆบ ใผอยากตายมือ้ น้ี ใหเ๎ ฮียงหน๎ายาํ งเข๎ามา (บทท่ี 7) เมียอับอายขายหน๎า บจํ กั ซิวาํ แนวใด๐ ผัวอัปปรจี งั ไฮ คนใสํใยเบิดบ๎าน เฮด็ ประจานขายหนา๎ พาใหใ๎ จเมียฮดฮํู ลกั ตอกงวั ตอกควาย-ซาวบา๎ นเพนิ่ บํฮู๎ ยงั มาเว๎าสํูเพ่ินฟง๓ (บทลง 8) โอยมาซังผช๎ู ายเด๎ ของผูห๎ ญงิ มโี จโ๎ กเ๎ ผ่ินผดั บสํ ะออน ไปหาลกั หาหลอน ตอกของงวั ของควายนอ.. หนงั สือรวมกลอนลำทำงยำว 193 ศนู ย์กำรเรียนภูมิปญั ญำไทย แม่ครู ดร. รำตรีศรวี ิไล บงสิทธิพร