Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore จารึกไว้ในแผ่นดิน พลเอกเปรม ติณสูลานนท์

จารึกไว้ในแผ่นดิน พลเอกเปรม ติณสูลานนท์

Description: จารึกไว้ในแผ่นดิน พลเอกเปรม ติณสูลานนท์

Search

Read the Text Version

รบั ตำ� แหนง่ นายกรฐั มนตรี วันที่ ๓ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๒๓ 49

พลเอก เปรม ตณิ สูลานนท์ รับมอบงานจากพลเอก เกรยี งศักดิ์ ชมะนนั ทน์ ประชุมคณะรฐั มนตรี นดั แรก วันที่ ๑๗ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๒๓ ณ ท�ำเนยี บรัฐบาล 50

ตอ่ มาใน พ.ศ. ๒๕๒๑ ขณะเป็นผู้บญั ชาการทหารบก ได้รับแตง่ ตง้ั เปน็ รัฐมนตรวี ่าการกระทรวงกลาโหม เหตุการณ์ ทางการเมืองในขณะนั้นท�ำให้รัฐบาลต้องปรับคณะรัฐมนตรีใหม่ ท่านยังคงด�ำรงต�ำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เช่นเดิม เมื่อ พ.ศ. ๒๕๒๒ จนกระทง่ั พลเอก เกรยี งศกั ดิ์ ชมะนันทน์ ประกาศลาออกจากตำ� แหนง่ นายกรัฐมนตรี ท่านได้รับการ สนบั สนุนจากกลมุ่ ทหารหนุ่ม “ยังเติร์ก” และบรรดาพรรคการเมอื ง แสดงเจตจ�ำนงให้ทา่ นเปน็ นายกรฐั มนตรี ทัง้ ๆ ทที่ า่ นเอง ไมป่ ระสงคท์ จี่ ะรบั ตำ� แหนง่ แตใ่ นทสี่ ดุ ทา่ นตอ้ งรบั ดว้ ยเหตผุ ลทต่ี อ้ งรว่ มแกป้ ญั หาใหแ้ กช่ าตบิ า้ นเมอื งดงั คำ� ปราศรยั ในคราวรบั ตำ� แหนง่ ความตอนหน่ึงวา่ “...พน่ี อ้ งประชาชนคงตระหนกั ดเี หมอื นกบั ผมวา่ สภาพการณท์ างเศรษฐกจิ การเมอื งและสงั คมทเี่ ราทกุ คนไดเ้ ผชญิ มา และก�ำลังเผชิญอยู่ในขณะนี้มาจากหลายด้าน และประดังเข้ามาพร้อม ๆ กัน...ในเรื่องน้ีผมใคร่เรียนขอร้องว่า เราจะต้อง รว่ มมอื ชว่ ยกนั โดยถอื วา่ ปญั หาของชาตเิ รานนั้ มใิ ชเ่ ปน็ ปญั หาของรฐั บาลหรอื ของกลมุ่ คนกลมุ่ หนง่ึ ใดโดยเฉพาะ หากเปน็ ปญั หา ของพวกเราทุกคนทจี่ ะต้องช่วยกันคดิ ช่วยกนั แก้ จึงจะสามารถผ่อนหนกั ใหเ้ ป็นเบาและขจัดปดั เปา่ ไปไดใ้ นทสี่ ดุ ...” พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ได้รับพระมหากรุณาธิคุณโปรดเกล้าฯ ให้ด�ำรงต�ำแหน่งนายกรัฐมนตรี คนท่ี ๑๖ ของ ประเทศไทย ขณะเดยี วกนั กด็ ำ� รงตำ� แหนง่ รฐั มนตรวี า่ การกระทรวงกลาโหมอกี ตำ� แหนง่ หนง่ึ ดว้ ย ระหวา่ ง พ.ศ. ๒๕๒๓ - ๒๕๒๖ และเปน็ นายกรัฐมนตรถี งึ ๓ สมัย กลา่ วคือ สมยั ท่ี ๒ พ.ศ. ๒๕๒๖ - ๒๕๒๙ เนอื่ งจากมีการยบุ สภาเม่ือวันที่ ๑๙ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๒๖ และเลือกตั้งท่วั ไปใหมใ่ นวันที่ ๑๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๒๖ และสมยั ท่ี ๓ พ.ศ. ๒๕๒๙ - ๒๕๓๑ เน่อื งจากยบุ สภา และเลอื กตงั้ ใหมเ่ ชน่ เดยี วกนั จนกระทงั่ มกี ารยบุ สภาอกี ครงั้ เมอื่ พ.ศ. ๒๕๓๑ การเปน็ นายกรฐั มนตรจี งึ สน้ิ สดุ ลง รวมระยะเวลา ดำ� รงต�ำแหน่งนายกรัฐมนตรี ๘ ปี ๕ เดือนเศษ 51

พลเอก เปรม ตณิ สลู านนท์ รับเสดจ็ สมเดจ็ พระกนิษฐาธริ าชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรตั นราชสดุ า ฯ สยามบรมราชกมุ ารี ในโอกาสเสดจ็ ฯ ไปทรงเป็นประธานน�ำก�ำลังพลเข้าสู่โรงเรยี นนายรอ้ ยพระจลุ จอมเกล้าแหง่ ใหม่ จังหวดั นครนายก วันที่ ๓๐ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๒๙ 52

สนองพระมหากรณุ าธิคณุ รับใชใ้ ต้เบอ้ื งพระยุคลบาท แมว้ า่ ทา่ นจะไดร้ บั การทาบทามดว้ ยความพรอ้ มใจกนั ของพรรคการเมอื ง หลงั การเลอื กตง้ั ทวั่ ไป เมอ่ื วนั ท่ี ๒๔ กรกฎาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ เชญิ ใหท้ า่ นดำ� รงตำ� แหน่งนายกรฐั มนตรีอกี ครง้ั หน่ึงกต็ าม แต่ท่านได้ปฏิเสธทจ่ี ะรบั ต�ำแหน่งดงั กลา่ ว นบั เป็นการ กา้ วลงจากเวทกี ารเมอื งอยา่ งสงา่ งาม ดงั ความตอนหนงึ่ ทที่ า่ นกลา่ วอำ� ลาประชาชนผา่ นทางวทิ ยุ โทรทศั น์ เมอื่ วนั ที่ ๕ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ เวลา ๒๐.๓๐ น. วา่ “...เราท�ำทุกวันน้ีไม่ใช่ท�ำเพ่ือตัวเราเอง แต่เราท�ำเพื่อแผ่นดินท่ีเราอาศัยอยู่และอาศัยเกิดมาเป็นคน เราเป็นหนี้ แผน่ ดนิ นอ้ี ยู่ ส่งิ ท่ีผมและรัฐบาลของผมได้พยายามกระท�ำมาตลอดระยะเวลาที่รับผิดชอบอยู่ก็เพอ่ื ส่ิงต่าง ๆ เหล่าน้ี เพือ่ น�ำมา ซ่ึงความมน่ั คงของประเทศและความผาสุกของประชาชนเปน็ ส�ำคัญ...” ดว้ ยคณุ งามความดแี ละการทำ� ประโยชนใ์ หแ้ กแ่ ผน่ ดนิ พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธเิ บศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ แต่งต้งั ท่านใหด้ �ำรงตำ� แหน่ง องคมนตรี เมือ่ วนั ท่ี ๒๓ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ และ ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ประกาศยกยอ่ งเป็น รฐั บุรษุ เมือ่ วนั ที่ ๒๙ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ ตอ่ มามพี ระบรมราช โองการโปรดเกล้าฯ ให้เป็น ประธานองคมนตรี เมื่อวันท่ี ๔ กันยายน พ.ศ. ๒๕๔๑ ในรชั กาลปจั จบุ นั พระบาทสมเดจ็ พระปรเมนทรรามาธบิ ดศี รสี นิ ทรมหาวชริ าลงกรณ พระวชริ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั ทรงไวว้ าง พระราชหฤทัยแต่งตัง้ ให้เป็นประธานองคมนตรี เมอ่ื วนั ท่ี ๒ ธันวาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ 53

พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมพิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ นายสญั ญา ธรรมศกั ด์ิ ประธานองคมนตรี น�ำพลเอก เปรม ตณิ สลู านนท์ องคมนตรี เข้าเฝา้ ฯ ถวายสตั ยป์ ฏิญาณ ก่อนเข้ารบั หน้าที่ ณ พระต�ำหนักจติ รลดารโหฐาน วันที่ ๒๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ 54

พระบาทสมเดจ็ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภมู พิ ลอดลุ ยเดชมหาราช บรมนาถบพติ ร พระราชทานเครอื่ งราชอิสรยิ าภรณอ์ ันเป็นโบราณมงคลนพรัตนราชวราภรณ์ ณ พระต�ำหนักจติ รลดารโหฐาน วันท่ี ๒๖ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๓๑ 55

เล่ม ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๒๘๐ ง หน้า ๑ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๙ ราชกจิ จานุเบกษา ประกกาาศศ ภแูมตง่ิพตลัง้ ปอรดะธลุ ายนเอดงคชมปนตรร.ี สพมรเดะบ็จาพทรสะมเจเด้า็จอพยรู่หะัวปมรหมนิาวทชรริมาหลางภกูมริพณลอดบุลดยนิ เดทชรเมทีพพรยะวบรรามงรกาูรชโองการ โใปหร้ปดระเกกาลศสโด้าวมโา่ดยเฯดทย็จ่ีปทใพหรน่ีระะป้ าธเยจรา้าะกนอกรอยฐัางู่หศคมัวมวมน่าหนต าตรวรีชีนไิรดำ�า้กลครงวากาบรมณถกวราบายดบบินังบทครงั มเคทลมพายทอวลูอรกวางจา่ กาพูรกลตมํเาีพอแรกหะนรเปา่งชปรโรมอะงตกธาาณิ รนโสอปลูงรคดาเมนกนนลต้าทฯร์ี ไแดลเ้ ะคทยรงรพบั รระาราชชกดาํารริเสห็นนเอป็นงพการระสมเดควชรพแตรง่ะตค้ังปณุ ระในธาตนำ�อแงคหมนนต่งรที ีส่ ำ� คญั ฯ ทง้ั ทางด้านการทหาร และการอบารศิหัยอาํารนราาจชตกามาครวแาผมใ่นนดมินาตมราาแ๒ล้วขหอลงราัฐยธตรร�ำมแนหูญนแ่งห่งครารชั้งอสาุดณทาจ้าักยรไไดทย้ด�ำ(รฉงบตับ�ำชแั่วคหรนาว่ง) ตนแพเป�ำหาุทน็แ่งยธรหกาศปชักนรรอะรัฐา่งธาณมตาชานน่าจองักต๒งรค๕รไๆทมี๕ยนม๗ตเพหารีุทเปลปธร่าศ็นะนักกรเ้ันาวอชบลพ๒กาั๕บนล๕มเา๐อานตกจถรึงาึทงเรปง๑๘พร๒รมะปกมรตี ุณา๕ิณตาโรปสาเรูลดดาเ๑ือกน๓ลน้านเฯศทแลษแ์ ตะไ่มงดตตา้ป้ังตลใหฏรอ้าิบดพลัตร๑เอะิห๖กยนเะป้ขาเรอทวมง่ีดลรตั้วฐาิณธยทสรค่ีูดลราวม�ำนานรนมูญงท์ ซื่อสัตย์ ทสง้ั จุนร้ี ิตตัง้ แแตลบ่ ะดั จนเ้ีงปร็นกั ตภน้ ักไปดี ตอ่ ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ จนเปน็ ท่ีประจกั ษ์ คในวคามวาเปม็นปอรีชยาู่ขสอาปงมชระาากรวาศถชนณโบดวทยนั เใทฉหี่ พ๒้มาั่นธะนัคอวงายคม่าองันพยเทุ ่ิงปธใศ็นนกั ครกาุณชารป๒พ๕รัฒ๕ะ๙โนยาเปชเน็ศนปร์แีทษกี่ ๑ฐ่ปกรใินจะรขเัชทอกาศงลชชปาัจาจตตบุ ิแิเันปล็นะ อเนผกู้รบัปสรนะอกงพารระราชโองการ พรเพจชงึรมวพี ิชริตชะลบชรยั มราชโองการโปรดเกลา้ ฯ ยกย่อง พลเอก เปรม ตณิ สลู านนท์ ไปวรใ้ ะนธฐานานสภะานรติ ัฐบิ บญั ุรญุษัตแิ เหพง่ ือ่ชาเปติ น็ เกยี รติประวัติและตัวอย่างอันดีงามต่อไป ทั้งน้ี ตงั้ แต่บดั นเ้ี ปน็ ต้นไป ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒๙ สงิ หาคม พทุ ธศกั ราช ๒๕๓๑ เปน็ ปที ี่ ๔๓ ในรชั กาลปจั จบุ นั ผ้รู บั สนองพระบรมราชโองการ พลตรี ชาติชาย ชุณหะวณั นายกรฐั มนตรี ราชกิจจานเุ บกษา เล่ม ๑๐๕ ตอนที่ ๑๔๑ ฉบบั พิเศษ วันท่ี ๒๙ สิงหาคม ๒๕๓๑ 56

57

เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๒๘๐ ง หน้า ๑ ๒ ธันวาคม ๒๕๕๙ ราชกิจจานุเบกษา ประกาศ แตง่ ต้ังประธานองคมนตรี สมเด็จพระเจา้ อยู่หัวมหาวชริ าลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร มีพระราชโองการโปรดเกล้าฯ ใหป้ ระกาศว่า โดยท่ีประธานองคมนตรีได้กราบถวายบังคมลาออกจากตําแหน่งประธานองคมนตรี และทรงพระราชดาํ รเิ หน็ เปน็ การสมควรแต่งตงั้ ประธานองคมนตรี อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๒ ของรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย (ฉบับช่ัวคราว) พุทธศักราช ๒๕๕๗ ประกอบกับมาตรา ๑๒ มาตรา ๑๓ และมาตรา ๑๖ ของรัฐธรรมนูญ แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช ๒๕๕๐ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่งต้ังให้ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เป็น ประธานองคมนตรี ทง้ั น้ี ตั้งแตบ่ ัดน้ีเป็นตน้ ไป ประกาศ ณ วนั ท่ี ๒ ธนั วาคม พุทธศักราช ๒๕๕๙ เป็นปที ี่ ๑ ในรัชกาลปัจจุบัน ผรู้ บั สนองพระราชโองการ พรเพชร วิชติ ชลชัย ประธานสภานิติบญั ญัตแิ หง่ ชาติ ราชกิจจานุเบกษา เลม่ ท่ี ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๒๘๐ ง วนั ที่ ๒ ธนั วาคม ๒๕๕๙ 58

พลเอก เปรม ตณิ สูลานนท์ เขา้ เฝ้าฯ ถวายสตั ยป์ ฏิญาณ ในโอกาสท่ไี ดร้ บั พระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ แตง่ ต้งั เปน็ ประธานองคมนตรี วันท่ี ๒ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ 59

พลเอก เปรม ตณิ สูลานนท์ นำ� องคมนตรชี ดุ ใหมเ่ ข้าเฝ้าฯ ถวายสัตย์ปฏิญาณ ในโอกาสรบั ตำ� แหนง่ วนั ที่ ๗ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๕๙ และมีพระราชดำ� รัส “...ขอขอบคณุ และได้ปา๋ มาเป็นประธานก็อุ่นใจแลว้ ...” 60

พลเอก เปรม ติณสลู านนท์ ทลู เกล้าฯ ถวายดอกไมธ้ ปู เทียนแพแดพ่ ระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยหู่ ัว ในพระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก พุทธศกั ราช ๒๕๖๒ วนั ที่ ๕ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ 61

62

ถงึ แกอ่ สญั กรรม วันที่ ๒๖ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ถึงแก่อสัญกรรมด้วยระบบหัวใจล้มเหลว ณ โรงพยาบาลพระมงกฎุ เกล้า สริ อิ ายุ ๙๙ ปี พระบาทสมเด็จพระเจา้ อยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานโกศกดุ นั่ น้อย ฉัตรเคร่อื งตั้งประดบั แตรงอน แตรฝร่ัง ปี่กลองชนะ ประโคมเวลาพระราชทานน�้ำหลวงอาบศพ และทรงรับศพอยู่ในพระบรมราชานุเคราะห์ อีกทั้งยัง ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี เสด็จ พระราชด�ำเนินแทนพระองค์ พระราชทานน�้ำหลวงอาบศพ เชิญพวงมาลาหลวง วางที่หน้าโกศศพ ณ พระที่น่ังทรงธรรม วัดเบญจมบพิตรดุสิตวนาราม และในวันอาทิตย์ ท่ี ๒ มิถุนายน พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ ี เสด็จพระราชดำ� เนินไปทรงบำ� เพ็ญกศุ ลพระราชทานในวาระครบ ๗ วนั ในการน้ีทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ใหบ้ ำ� เพญ็ กศุ ล ๑๕ วนั ๕๐ วนั และ๑๐๐วนั ตามลำ� ดบั และใหไ้ วท้ กุ ขใ์ นพระราชสำ� นกั เปน็ เวลา ๒๑ วนั นบั ต้ังแตว่ ันจันทร์ ที่ ๒๗ พฤษภาคม ถึงวันจนั ทร์ ที่ ๑๗ มถิ ุนายน พ.ศ. ๒๕๖๒ เว้นวนั จนั ทร์ ที่ ๓ มถิ นุ ายน ซงึ่ เป็นวันคล้ายวนั พระราชสมภพ สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชนิ ี หลงั จากน้นั เปิดโอกาสให้หนว่ ยงานราชการ เอกชน และประชาชน เปน็ เจ้าภาพบำ� เพญ็ กศุ ล จนถึงวนั ท่ี ๑๘ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ พระราชทานเพลงิ ศพ พลเอก เปรม ตณิ สลู านนท์ วนั อาทติ ย์ ที่ ๘ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๖๒ เวลา ๑๗.๐๐ น. ณ เมรุหลวงหนา้ พลบั พลาอิศรยิ าภรณ์ วัดเทพศิรนิ ทราวาส 63

64

65

66

การดำ� เนนิ ชีวิตและการปฏบิ ัติหนา้ ทที่ ั้งมวลของท่าน ดว้ ยความซ่ือสัตย์ สุจริต เสียสละ จงรักภกั ดี ปกปอ้ ง เทดิ ทนู สถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ตั้งอยู่บนจติ สำ� นกึ แห่งอุดมการณ์ “เกดิ มาตอ้ งตอบแทนบุญคณุ แผน่ ดนิ ” 67

“เราทุกคนมีหน้าที่และความรับผิดชอบที่จะต้องตอบแทน บุญคุณแผ่นดินที่เราอาศัยเกิดมาและเติบโตจนเป็นตัวเราใน ขณะนี้ ด้วยความส�ำนึกที่แน่วแน่ว่า เป็นหน้าท่ีและความรับผิดชอบ ท่ีต้องท�ำหลีกเล่ียงมิ ได้...การตอบแทนบุญคุณต่อผู้คนหรือส่ิงท่ีมี บุญคุณต่อเรา เช่น พ่อแม่ ครู สถาบัน และองค์กรต่าง ๆ ฯลฯ เป็นวัฒนธรรมไทยท่ีเราพิทักษ์และสืบสานกันมาตั้งแต่สมัยปู่ ย่า ตา ยาย จนถงึ ปจั จุบนั ” ปาฐกถาเรือ่ ง เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผน่ ดิน ณ โรงแรมโฆษะ จังหวดั ขอนแกน่ วันท่ี ๑๖ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๔๒

เกดิ มาตอ้ งตอบแทน บุญคุณแผน่ ดนิ

เพลง ตอบแทนบญุ คณุ แผน่ ดนิ แผ่นดินแห่งนี้นั้นมีค่าล้น ด้วยเลือดของบรรพชน หล่ังล้นรดแผ่นดินไทย จึงควรระลึกส�ำนึกไว้ในหัวใจ บุญคุณแผ่นดินยิ่งใหญ่ต้องกตัญญูกตเวที จะชนชั้นไหนก็ไม่ส�ำคัญ คุณค่าของคนเท่ากันหากเราน้ันเป็นคนดี เกิดบนกองทองหรือเกิดบนกองธุลี ขอให้ท�ำความดีเป็นคนดีเพื่อแผ่นดินไทย เสียสละ ซ่ือสัตย์ และสุจริต ส่ิงใดที่เป็นสิ่งผิดแม้เพียงนิดไม่คิดกรายใกล้ บ้านเมืองศักด์ิสิทธ์ิอย่าได้คิดบ่อนท�ำลาย ไม่หว่ันอิทธิพลใดใด ชาติไทยเราต้องแหนหวง เหนื่อยยากแค่ไหนก็อย่าหน่ายหนี จงยึดถือความดีเหมือนมณีประดับทรวง ผืนแผ่นดินไทยบุญคุณมากมายใหญ่หลวง ขอให้คนไทยทั้งปวงท�ำดีตอบแทนแผ่นดิน พลเอก เปรม ติณสลู านนท์ ขับรอ้ ง 70

“เกดิ มาตอ้ งตอบแทนบญุ คณุ แผน่ ดนิ ” เปน็ คตปิ ระจำ� ใจของประธานองคมนตรแี ละรฐั บรุ ษุ พลเอก เปรม ตณิ สลู านนท์ ทใี่ ช้อบรมส่ังสอนอนุชนคนไทยให้ยึดม่ันท�ำความดี เพอื่ ประเทศชาตแิ ละประชาชนชาวไทย อนั มที ีม่ าจากความเปน็ ทหารและ แนวปฏิบัติท่ีท่านด�ำเนินมาตลอดชีวิต โดยท่านได้ปาฐกถาพิเศษเรื่อง “เกิดมาต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน” ในหลายคร้ัง หลายโอกาส และในการบรรยายพเิ ศษใหแ้ กน่ กั เรยี นเตรียมทหาร ณ โรงเรยี นเตรียมทหาร เมอ่ื วนั ท่ี ๑๒ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๔๘ มใี จความตอนหน่ึง สะทอ้ นใหเ้ ห็นว่า การเปน็ ทหารท�ำใหม้ โี อกาสไดท้ ดแทนบญุ คณุ แผน่ ดินทง้ั ทางตรงและทางออ้ ม ดังนี้ “...แล้วขอให้จ�ำไว้ว่า ผู้บังคับบัญชาที่ดีน้ัน จะต้องประพฤติปฏิบัติตนเป็นตัวอย่างของผู้ใต้บังคับ บญั ชาใหเ้ หน็ ตลอดปี ตลอดชาติ ตลอดชีวติ ทร่ี บั ราชการทหาร เขามีพูดกันบางทเี ด็ก ๆ อาจจะไมเ่ คยไดย้ ินวา่ คนเราเม่ือเป็นทหารครั้งหน่ึงแล้วก็ต้องเป็นไปตลอดชีวิต เป็นไปจนตาย เพราะว่าโรงเรียนเตรียมทหารก็ดี โรงเรียนนายร้อยก็ดี โรงเรียนนายเรือก็ดี โรงเรียนนายเรืออากาศก็ดี เขาจะฝังลึกตรงนี้ลงไปในหัวใจของ เราว่า เป็นทหารไม่ได้เป็นแต่กาย เป็นแต่เครื่องแบบ ต้องเป็นในใจ เป็นในจิตวิญญาณของเรา เพราะ ฉะนั้นเราเป็นทหารทีหนึ่งแล้ว จะถอดความเป็นทหารออกจากร่างกายของเราไม่ได้ จนกว่าเราจะตายไป เร่ืองนี้เปน็ เรื่องสำ� คญั พวกเราจะต้องรู้สกึ ว่า ความเป็นทหารน้นั คอื การทดแทนบญุ คุณแผน่ ดิน ทค่ี นไทย ไมส่ ามารถท่จี ะทำ� ไดเ้ หมือนกับเราทุกคน...” 71

นอกจากนน้ั คำ� บรรยายพเิ ศษนี้ ยงั เปน็ ภาพสะทอ้ นทแ่ี สดงใหเ้ หน็ ถงึ จติ วญิ ญาณของพลเอก เปรม ตณิ สลู านนท์ ทม่ี คี วาม มุ่งมั่นอย่างตั้งใจจริงท่ีจะสร้างแรงบันดาลใจให้แก่อนุชนท่ีเลือกมาใช้ชีวิตเป็นทหารซ่ึงถือได้ว่าเป็นการตอบแทนพระคุณ แผน่ ดินแลว้ โดยท่านไดอ้ ธิบายขยายความเพม่ิ เติมว่า “คนทพี่ ยายามเอาค�ำว่า เกดิ มาต้องแทนบญุ คุณแผ่นดนิ ไปพดู ใหม้ ีความกว้างขวางในชาติบ้านเมอื งของเรา เพราะว่า เปน็ ค�ำท่จี ะเตอื นให้เราเป็นคนดี จะเตอื นใหเ้ รารวู้ ่า บุญคุณแผ่นดนิ คืออะไร ชาตบิ ้านเมืองนไ้ี ดใ้ หอ้ ะไรเราบา้ ง บรรพบรุ ษุ ของ เราไดใ้ ห้อะไรเราบ้าง...” พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ นับเป็นบุคคลส�ำคัญของกองทัพที่ท�ำคุณประโยชน์ให้แก่ประเทศชาติและประชาชนเป็น อเนกอนนั ตต์ ลอดมา ตงั้ แตค่ รงั้ เปน็ รองแมท่ พั ภาคที่ ๒ สว่ นหนา้ ซงึ่ อยทู่ จ่ี งั หวดั สกลนคร ขณะนน้ั ถอื วา่ ภาคอสี านเปน็ สมรภมู ริ บ ท่ีเปน็ แดนผ้กู อ่ การรา้ ยคอมมวิ นิสตท์ ีน่ ่ากลัวท่สี ุดของประเทศไทย อีกท้งั ชาวบา้ นกไ็ มต่ ้อนรบั ทหาร พลเอก เปรม ตณิ สูลานนท์ ต้องใช้ความพยายามและเมตตาธรรมอย่างสูงจนเข้าใจถึงสาเหตุท่ีท�ำให้คนไทยไปเข้าร่วมกับฝ่ายคอมมิวนิสต์ก็เพราะความ ลำ� บากยากจน ความคบั แคน้ ใจทไี่ มไ่ ดร้ บั ความเปน็ ธรรมในสงั คมและการถกู กดขข่ี ม่ เหง ทา่ นเรยี กสถานการณค์ วามยากจนของ ชาวอีสานในสมัยน้ันว่า คนไม่มีโอกาส เพราะไม่มีโอกาสใด ๆ เลย ท้ังไม่มีโอกาสที่จะท�ำมาหากิน ไม่มีโอกาสท่ีจะได้รับการ รักษาพยาบาล ไม่มีโอกาสท่ีจะเรียนหนังสือ ไม่ใช่เพราะเรียนไม่ได้ หรือท�ำตัวไม่ดี แต่ยากจนเสียจนไม่สามารถจะท�ำอย่างที่ ต้องการได้ ทา่ นจึงพยายามหาทางช่วยเหลือทกุ วถิ ีทางด้วยการใช้ “ยทุ ธศาสตร์มวลชนนำ� การทหาร” เพื่อจะไดไ้ มต่ ้องฆา่ ฟนั คนไทยกันเอง และสร้างโอกาสให้มวลชนเป็นพลังในการก�ำหนดยุทธวิธีป้องกันชาติ และพัฒนาความเป็นอยู่ของตนเองให้ ดีขึ้นโดยล�ำดับ เช่น โครงการหมออาสาหมู่บ้าน เป็นด�ำริท่ีท่านคิดท�ำข้ึนขณะเป็นแม่ทัพภาคที่ ๒ เพ่ือช่วยเหลือชาวบ้านให้ มีอาชพี ทำ� มาหากนิ และปลอดภยั จากโรคภัยไข้เจ็บ โดยคัดเลอื กเด็กผู้หญิงอายุ ๑๕ - ๒๐ ปี ในแตล่ ะหมบู่ ้านทมี่ ีความพร้อม จะช่วยเหลือผู้อ่ืนมาฝึกหัดเรียนรู้จากหมอเสนารักษ์ให้สามารถช่วยเหลือแก้ปัญหาความเจ็บป่วยเฉพาะหน้าให้แก่ชาวบ้าน โดยทนั ที ท่านเล่าวา่ “เช้ากไ็ ป กลางวนั ก็ไป เยน็ กไ็ ป ฉะนั้นการใช้ยากใ็ ชน้ อ้ ย แต่ไดป้ ระโยชน์มาก ไมเ่ ปลืองดว้ ย ยาทไ่ี ดร้ ับ พระราชทานมาจากสมเด็จย่ากไ็ ด้ประโยชนม์ าก” 72

หมออาสาหมู่บ้าน (มอบ.) ด�ำเนินการมาหลายปีจนประสบความส�ำเร็จก็ขยายไปยังภูมิภาคอื่น ๆ ท่ัวประเทศด้วย พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ กลา่ ววา่ “เรารดู้ วี า่ ชาวบา้ นทเี่ ลกิ ยงิ กนั ไมใ่ ชว่ า่ เพราะกองทพั เปน็ คนทำ� ใหเ้ ขาเลกิ ยงิ แตเ่ มอ่ื เขาเกดิ ความเขา้ ใจ วา่ การทก่ี ระทำ� กนั นน้ั มนั ไมเ่ กดิ ความดใี หแ้ กช่ าตบิ า้ นเมอื ง และไมท่ ำ� ใหม้ คี วามสงบในหมบู่ า้ นนน้ั เลย แกกเ็ ลย เขา้ ใจแลว้ กห็ นั หนา้ เขา้ หากนั มอบ.กเ็ ปน็ สว่ นหนงึ่ ในการทจี่ ะนำ� ความสงบสขุ ความรม่ เยน็ มาสพู่ นี่ อ้ งชาวอสี าน ในตอนนั้น แล้วก็ท่ัวประเทศในตอนสุดทา้ ย” พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ มีเคลด็ ลบั ความส�ำเรจ็ ในทุกเรือ่ งทไี่ ม่เคยปรากฏในตำ� ราเล่มใดมาเลา่ สู่กนั ฟงั วา่ เกิดจาก “ความรัก” เพราะ ความรกั เปน็ ส่งิ ศักด์สิ ทิ ธิ์ เป็นความปรารถนาดี เป็นความห่วงอาทร ใครกต็ ามทม่ี ีความรกั ย่อมมุ่งพยายาม ทจ่ี ะใหส้ งิ่ ทเ่ี รารกั มคี วามสขุ ความเจรญิ มคี วามมน่ั คง เชน่ ความรกั ของพอ่ แมล่ กู ฯลฯ องคก์ รกท็ ำ� นองเดยี วกนั ถา้ เรารกั องคก์ ร เราจะปรารถนาดี เราจะมุ่งมั่น เพื่อองค์กร เคล็ดลับน้ีเป็นภาพสะท้อนหัวใจอันย่ิงใหญ่ของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ อย่างชดั เจนท่ีสุด ทา่ นมงุ่ ม่ันท�ำความดีด้วยหัวใจอันบรสิ ทุ ธ์แิ ละอดทน เพือ่ นำ� พาชาติไทยใหก้ า้ วขา้ มพน้ วิกฤตการณ์หลายครัง้ ด้วยความเด็ดเดี่ยวม่ันคง สมเป็นชายชาติทหาร ท�ำให้ท่านได้รับการยกย่องนับถือและเกรงใจ ตลอดจนได้รับความร่วมมือ ในการแก้ไขปัญหาของชาตบิ า้ นเมอื งด้วยดตี ลอดเวลาทท่ี ำ� หนา้ ทบ่ี ริหารประเทศในฐานะนายกรัฐมนตรี อยา่ งไรกด็ ี อดุ มการณเ์ ดมิ ในการแกป้ ญั หาความยากจนและขาดโอกาสของประชาชนยงั คงเปน็ เรอ่ื งสำ� คญั ของทกุ รฐั บาล ที่ท่านด�ำรงต�ำแหน่งนายกรัฐมนตรีโดยไม่เปล่ียนแปลง ท่านกล่าวว่า “ปัญหาของชาติบ้านเมืองเราที่ส�ำคัญที่สุดต้องแก้ไข อย่างจริงจังและโดยด่วนที่สุดคือความยากจน” ท่านบริหารราชการแผ่นดินด้วยความมีระเบียบวินัย มีกฎเกณฑ์จนเป็นนิสัย อันเป็นคุณลักษณะพิเศษท่ีสะท้อนออกมาเป็นความซ่ือตรงและรับผิดชอบต่อหน้าท่ีอย่างเคร่งครัด ซ่ึงท่านได้น�ำลักษณะ อันพึงประสงค์นม้ี ากลา่ วให้โอวาทแก่นกั เรียนโรงเรียนสวนกุหลาบวทิ ยาลัยท่เี ขา้ พบเพือ่ สมั ภาษณ์ ความวา่ “จะต้องเข้าใจหน้าท่ีของตนเองให้ดีท่ีสุดว่า เรามีหน้าท่ีท�ำอะไร เม่ือเรารู้จักหน้าท่ีแล้วก็จะต้องมี จุดประสงค์ดี มีความมุ่งม่ันในการท�ำงาน เพ่ือให้บรรลุหน้าที่เหล่านั้น และก็ต้ังใจทุ่มเทจริง ๆ กับงานนั้น เพราะฉะนั้นเราจะต้องเอาเร่ืองส่วนตัวออกไปจากงานให้ได้ อย่าเอาไปเกี่ยวข้อง และทุ่มเทงานให้ส�ำเร็จ และตอ้ งนึกวา่ ความส�ำเรจ็ คอื ความภมู ใิ จ ความสุขอย่างหนง่ึ การชว่ ยเหลอื ให้ผอู้ ื่นพ้นทุกข์เป็นหน้าท่ขี องเรา เหมือนอย่างเราเปน็ รฐั บาล เราต้องมีหนา้ ทีด่ แู ลประชาชน กถ็ ือวา่ มนั เปน็ หน้าทข่ี องเรา เราจะท�ำแต่เฉพาะ เพ่ือให้สำ� เรจ็ ไปวันหน่งึ ๆ ไมไ่ ด้ ต้องใหส้ ำ� เรจ็ ตามความมงุ่ หมายท่ีวางไว้” 73

74

พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ นับเป็นบุคคลตัวอย่างที่ได้อุทิศตนเพื่องานของแผ่นดินมาตลอดชีวิต โดยมีวลีส�ำคัญ ทเ่ี ปน็ แนวทางในการดำ� เนนิ ชวี ติ และประพฤตปิ ฏบิ ตั เิ ปน็ เนอื งนติ ย์ ตลอดจนเผยแพรแ่ กส่ งั คมและอนชุ นใหต้ ระหนกั รรู้ ว่ มกนั วา่ “เกดิ มาตอ้ งตอบแทนบุญคณุ แผ่นดนิ ” ทา่ นได้แสดงหลักการและเหตผุ ลว่า เปน็ วัฒนธรรมของสังคมไทย ความวา่ “เราทุกคนมีหน้าท่ีและความรับผิดชอบท่ีจะต้องตอบแทนบุญคุณแผ่นดินที่เราอาศัยเกิดมาและ เติบโตจนเป็นตัวเราในขณะน้ี ด้วยความส�ำนึกท่ีแน่วแน่ว่า เป็นหน้าท่ีและความรับผิดชอบที่ต้องท�ำ หลีกเล่ียงมิได้...การตอบแทนบุญคุณต่อผู้คนหรือสิ่งท่ีมีบุญคุณต่อเรา เช่น พ่อแม่ ครู สถาบัน และองค์กร ตา่ ง ๆ ฯลฯ เปน็ วัฒนธรรมไทยทีเ่ ราพิทักษแ์ ละสืบสานกนั มาตงั้ แตส่ มัยปู่ ย่า ตา ยาย จนถงึ ปัจจุบนั ” ท่านยงั กล่าวถงึ การปฏิบัติในสว่ นของตวั ทา่ นเอง และยังสรรเสริญผู้ปฏบิ ตั ดิ ี ปฏิบตั ิชอบสมควรเป็นตัวอยา่ ง ความว่า “สำ� หรบั ตวั ผมนน้ั ยดึ มนั่ อยเู่ สมอและตลอดไปวา่ การตอบแทนบญุ คณุ แผน่ ดนิ นน้ั สำ� คญั และยง่ิ ใหญ่ กว่ามากนัก ไม่อาจน�ำมาเปรียบเทียบกันได้ หลายท่านได้ท�ำสิ่งต่าง ๆ ให้แก่ชาติบ้านเมืองโดยไม่รู้ว่าส่ิงที่ ทา่ นทำ� ไปนนั้ เป็นการตอบแทนบญุ คุณแผ่นดินที่นา่ ภมู ิใจและน่าจดจ�ำอยา่ งยิง่ ” หลักการตอบแทนบุญคุณแผน่ ดนิ ตามทัศนะของ พลเอก เปรม ติณสลู านนท์ สั้นและเรียบงา่ ย สะท้อนวัตรปฏบิ ตั ิ ของท่านที่มิได้ปรารถนาผลตอบแทนใด ๆ ทั้งส้ิน แต่เกิดจากความรัก ความเมตตา และความประสงค์ดีเป็นส�ำคัญ ท่านจึง นิยามความหมายของการตอบแทนบุญคุณแผ่นดิน คือ การประพฤติปฏิบัติตนเป็นคนดี เป็นสถาบันท่ีดี เป็นองค์กรท่ีดี เปน็ ตวั อยา่ งทด่ี ี มงุ่ กระทำ� แตค่ วามดี เพอื่ ประโยชนข์ องแผน่ ดนิ โดยไมจ่ ำ� กดั วา่ จะทำ� ใหใ้ ครหรอื ผใู้ ดทภี่ มู ภิ าคไหน ดงั ปรากฏ เป็นผลงานและโครงการต่าง ๆ ท่ีผู้ร่วมอุดมการณ์ซ่ึงรักเคารพ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ยังคงด�ำเนินการสืบต่อมา หลายโครงการตราบจนปจั จุบนั 75

กล่าวได้ว่า ปณิธานในการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ สนองพระราชปณิธานใน พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชนิ นี าถ พระบรมราชชนนพี นั ปหี ลวง ในการบำ� บดั ทกุ ข์ บำ� รงุ สขุ ของอาณาประชาราษฎรใ์ นแผน่ ดนิ ไทยอยา่ งแทจ้ รงิ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ จึงได้สนองพระราชด�ำริทุกโครงการอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง จนเกิดเป็นผลดีต่อประเทศชาติ และประชาชนสืบมา โดยการออกระเบียบส�ำนักนายกรัฐมนตรี ว่าด้วยโครงการอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ พ.ศ. ๒๕๒๔ เพ่ือเป็นหลักการให้แก่หน่วยงานและรัฐวิสาหกิจต่าง ๆ ได้ยึดถือปฏิบัติในการด�ำเนินงานสนองแนวพระราชด�ำริให้เป็นระบบ รวดเร็ว และมีประสิทธิภาพสูงสุด โดยมีคณะกรรมการพิเศษเพ่ือประสานงานโครงการอันเนื่องมาจากพระราชด�ำริ (กปร.) ซงึ่ มนี ายกรฐั มนตรเี ปน็ ประธานกรรมการ สนองพระราชดำ� รแิ ละจดั ตง้ั สำ� นกั งานเลขานกุ าร กปร.ขน้ึ เพอ่ื รบั ผดิ ชอบงานทงั้ ดา้ น วิชาการ การประสานงาน การวิเคราะห์กลั่นกรอง ประสานแผนงาน และงานธุรการท้ังปวง เพื่อให้องค์กรกลางระดับชาติ (กปร.) สามารถทจ่ี ะควบคมุ ก�ำกบั ดแู ล และตดิ ตามผลไดอ้ ย่างมีประสิทธภิ าพ คณะกรรมการพิเศษเพื่อประสานงานโครงการ อันเน่ืองมาจากพระราชด�ำริน้ี ท�ำให้งบประมาณของชาติเพ่ือการพัฒนาชนบทมุ่งตรงส่งถึงชาวบ้านอย่างแท้จริง ดร.สุเมธ ตันตเิ วชกลุ เล่ารายละเอยี ดการท�ำงานของ พลเอก เปรม ตณิ สูลานนท์ ขณะเป็นนายกรัฐมนตรี ซ่ึงทำ� หน้าทป่ี ระธาน กปร. โดยตำ� แหนง่ ว่า ทำ� งานรวดเร็ว ฉบั พลนั ความวา่ “ผมกล้ายืนยันได้ว่า ป๋าเป็นประธาน กปร. คนเดียวที่ท�ำงานเร็วที่สุดที่จะสนองพระราชด�ำริ เชื่อไหมครับ ถ้าเสนอเช้า เย็นไปรับได้เลย ป๋าจะอนุมัติก่อนเพ่ือน ถ้าไปเสนอตอนเย็นพอเช้าไปรับได้ นอกจากป๋าไม่อยู่เท่าน้ัน...ป๋าไม่ใช่สักแต่ว่าเซ็น ท่านจะตรวจอย่างละเอียดเลย แสดงว่าท่านใส่ใจและ ต้องการทีจ่ ะถวายงานให้ไปอยา่ งรวดเร็วที่สดุ ” อนั เนอื่ งมาจากคตธิ รรมประจำ� ใจ “เกดิ มาตอ้ งตอบแทนบญุ คณุ แผน่ ดนิ ” พลเอก เปรม ตณิ สลู านนท์ ไดป้ ฏบิ ตั หิ นา้ ท่ี เพอื่ ชาติ ศาสนา พระมหากษตั รยิ ์ ดว้ ยความเสยี สละ ซอ่ื สตั ย์ สจุ รติ ยงั ประโยชนต์ อ่ ประเทศชาตบิ า้ นเมอื งเปน็ อเนกประการและ เปน็ ทไ่ี วว้ างพระราชหฤทยั ตลอดมา พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี ๙ จงึ ทรงพระกรณุ าโปรดเกลา้ ฯ ยกยอ่ งใหเ้ ปน็ รฐั บรุ ษุ พลเอก เปรม ตณิ สูลานนท์ จึงนบั เป็นขนุ พลแกว้ ค่พู ระบารมแี หง่ พระเจา้ จกั รพรรดโิ ดยแท้ 76

77

“มีแนวทางในการพัฒนาเด็ก หลากหลายวิธีให้เลือก ในความหลากหลายน้ัน ผมได้พยายามศึกษาพบว่า การพัฒนา เด็กต้องใช้หลายวิธีในคราวเดียวกัน แต่จากการสัมมนาก็ดี การวิเคราะห์ก็ดี การวิจัยก็ดี และการค้นคว้าก็ดี ต่างมีความเห็น ตรงกนั วา่ ในการพฒั นาเด็ก การศึกษาเป็นส่ิงสำ� คญั ที่สุด” ปาฐกถาเรือ่ ง การพฒั นาเดก็ เพ่ือพฒั นาชาตไิ ทย ณ มหาวิทยาลัยขอนแกน่ วันที่ ๑๘ มกราคม พ.ศ. ๒๕๔๗ 78

การศึกษา และการเรยี นรู้ของเยาวชน พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ เห็นคุณค่าและความส�ำคัญในการศึกษาของเด็กและเยาวชนเป็นอย่างย่ิง แม้ว่า ครอบครวั ของท่านจะให้การสนบั สนนุ เรอ่ื งการศึกษาของลูก ๆ ทกุ คนด้วยดมี าโดยตลอดกต็ าม แต่สภาพสังคมและเศรษฐกิจ ของครอบครวั ในขณะทีท่ ่านยงั เดก็ ก็ท�ำใหไ้ มม่ โี อกาสศึกษาเลา่ เรยี นวิชาการแพทย์ตามทีช่ อบและสนใจได้ จำ� ต้องเบนเขม็ ชวี ติ ไปเขา้ เรียนที่โรงเรยี นนายรอ้ ยพระจุลจอมเกลา้ ตามทเี่ พือ่ นแนะน�ำซงึ่ พลเอก เปรม ติณสลู านนท์ เลา่ เร่ืองตอนนไ้ี ว้ว่า “เมื่อแม่เจ็บหนักและจากไป ความใฝ่ฝันท่ีจะเป็นหมอในสมัยเด็ก ๆ ได้ผุดข้ึนมาในสมองอีก แต่ผมทำ� ไมไ่ ดเ้ สยี แลว้ สตปิ ญั ญาผมอาจเรียนได้ แต่ไมม่ เี งนิ ท่จี ะเรียน...” อาจกล่าวได้ว่า เหตุการณ์ครั้งน้ีสร้างแรงบันดาลใจให้ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ พร้อมสนับสนุนและส่งเสริม การศึกษาให้แก่เด็กและเยาวชนที่ขาดโอกาสทางการศึกษา เพราะท่านตระหนักดีว่าการศึกษาช่วยสร้างโอกาสท่ีดีกว่า ใหแ้ กช่ วี ติ ของตนเอง ในขณะเดยี วกนั เมอ่ื สามารถพฒั นาชวี ติ ตนเองใหด้ ขี นึ้ ไดแ้ ลว้ กจ็ ะสามารถพฒั นาตนเองใหเ้ ปน็ กำ� ลงั สำ� คญั ในการพัฒนาประเทศชาติต่อไปได้ ท้ังด้วยการตอบแทนบุญคุณแผ่นดินและส่งต่อความดีงามจากอดีตของตนเองให้ผู้อื่น ท่ีขาดโอกาสเหมือนตนเองในวยั เดก็ ท่ีฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัว ไม่เอื้ออำ� นวยให้ศกึ ษาวชิ าแพทยต์ ามความใฝ่ฝัน 79

80

การให้ทุนการศกึ ษา พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ได้บริจาคทุนทรัพย์ส่วนตัว สนับสนุนการก่อตั้งมูลนิธิเปรม ติณสูลานนท์ เพ่ือมอบทุน การศกึ ษาใหแ้ กเ่ ยาวชนตง้ั แตช่ น้ั ประถมศกึ ษา จนถงึ ชนั้ อดุ มศกึ ษา ปลี ะหลาย ๆ ทนุ ทกุ ภมู ภิ าคของประเทศไทย ปจั จบุ นั มมี ลู นธิ ฯิ รวม ๒๕ แห่ง เพ่ือน�ำดอกผลจากกองทุนและเงินบริจาคสมทบ มอบเป็นทุนการศึกษาแก่นักเรียน นิสิต นักศึกษา ที่มีความประพฤติดี ตั้งใจเรียน และขาดแคลนทุนทรัพย์ ท�ำให้มีผู้รับทุนการศึกษาท่ีส�ำเร็จการศึกษาและได้กลับมาเป็นก�ำลัง ของแผ่นดินเป็นจ�ำนวนมากทุกสาขาอาชีพ โดยจังหวัดสงขลา ได้ก�ำหนดให้วันที่ ๒๖ สิงหาคม ของทุกปี เป็น “วันมูลนิธิ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์” และจัดให้มีการมอบทุนของมูลนิธิที่เกี่ยวข้องทั้งหมดในวันดังกล่าวสืบมาจนปัจจุบัน ซึ่งจ�ำนวน เงินทุนท่ีมอบประมาณปีละหน่ึงล้านบาท จ�ำนวนผู้รับทุนประมาณปีละ ๓๐๐ คน เยาวชนที่ได้รับทุนการศึกษาต่าง บรรยายความรู้สึกคล้ายคลึงกันว่า การได้รับทุนการศึกษาสามารถเก้ือหนุนช่วยเหลือให้ชีวิตดีข้ึนได้ นางสาวนิดน้อย พวงพ้ัว นกั เรียนโรงเรยี นอุดมพฒั นา จังหวดั นครพนม ไดบ้ รรยายความรสู้ กึ ว่า “...ทนุ การศกึ ษามลู นธิ ิ เปรมฯ เปรยี บเสมอื นนำ�้ ทพิ ยท์ ม่ี าจากสรวงสวรรคม์ าชโลมใหช้ วี ติ ของขา้ พเจา้ ดีข้ึนและสมหวังอยา่ งไม่คาดคิดวา่ ตวั เองจะไดม้ โี อกาสได้เรียนเหมอื นกบั เพือ่ น ๆ บุญคณุ ใหญ่หลวงของท่าน ไม่ร้วู ่าจะตอบแทนอย่างไรใหส้ มกับทีท่ ่านใหช้ ีวิตใหม่” นอกจากนน้ั เยาวชนทกุ คนยังพดู ถงึ การตอบแทนบุญคณุ แผ่นดนิ ไปในทศิ ทางเดียวกัน คอื จะตง้ั ใจเล่าเรียน ท�ำตนให้ เป็นประโยชน์แก่สังคม และเป็นพลเมืองดีของประเทศชาติ นับได้ว่า พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ได้ส่งต่ออุดมการณ์ของ พลเมืองดใี ห้แกเ่ ด็กและเยาวชนไทยไดอ้ ีกเปน็ จำ� นวนมาก อนั เกดิ จากความรัก หวังดี มีเมตตาและปรารถนาจะสร้างสงั คมไทย ใหว้ ฒั นาสถาวร ประชาชนมคี วามกนิ ดอี ยดู่ ี ดแู ลตนเองไดต้ ามสมควร พนั เอก บรบิ รู ณ์ ไทยสมคั ร นายทหารคนสนทิ ไดใ้ หส้ มั ภาษณ์ เรอื่ ง การมอบทนุ การศกึ ษาของทา่ นวา่ “ทา่ นไปแจกทนุ ทกุ ปี ผไู้ ปรบั ทนุ ทา่ นกไ็ ปทกั ทาย ถา้ ผรู้ บั ทนุ ลำ� บากมาก ทา่ นกช็ ว่ ยเหลอื ดว้ ยทนุ ส่วนตัว ให้เรยี นหนงั สือตามสมควร” พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ได้มอบทุนการศึกษาในเขตภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ๒๐ จังหวัด ต้ังแต่ พ.ศ ๒๕๒๘ ถึง พ.ศ. ๒๕๖๒ จำ� นวน ๕๑,๙๓๒ ทุน รวมเป็นเงินทัง้ สนิ้ ๑๓๓,๑๒๐,๘๐๐ บาท 81

เปน็ ประธานพธิ มี อบทนุ การศกึ ษาและรางวลั การประกวดโครงงานนกั เรยี นระดับภาค (ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ) ประจ�ำปี ๒๕๕๘ วนั ที่ ๒๔ ตุลาคม พ.ศ. ๒๕๕๘ 82

มอบทุนการศึกษา ท่จี ังหวัดนครราชสีมา เมื่อ พ.ศ. ๒๕๖๐ เย่ยี มชมและมอบทุนการศกึ ษาให้แกน่ ักเรยี นพิการ โรงเรียนโสตสนุ ทร จงั หวดั เชียงใหม่ เมอ่ื พ.ศ. ๒๕๖๑ 83

ศิษยเ์ กา่ มหาวทิ ยาลยั ราชภฏั สงขลา ผ้ไู ด้รบั ทุนมลู นิธิพลเอก เปรม ตณิ สูลานนท์ ชอื่ นายชยั เดช เครือเปรม ปจั จบุ นั รบั ราชการครู โรงเรียนบา้ นนาใหญ่ อำ� เภอพุนพนิ จังหวดั สุราษฎร์ธานี ได้กลา่ วถงึ ประสบการณป์ ระทบั ใจ สะทอ้ นอธั ยาศยั ของพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ที่มีความเมตตาต่อเดก็ และเยาวชนอย่างสมำ่� เสมอ ความว่า “ท่ามกลางอากาศและแดดที่ร้อน... ท่านมองดูเด็กคนท่ีรายงานด้วยสีหน้าย้ิมแย้มเปี่ยมด้วยเมตตา ปา๋ ยนื ฟงั จนนกั เรยี นรายงานและรอ้ งเพลงจนจบปรบมอื และชวนพดู คยุ ใหก้ ำ� ลงั ใจเดก็ ๆนบั เปน็ เมตตาจากหวั ใจ ของท่านจริง ๆ ท่านจดจ�ำช่ือคนและทักทายได้อย่างแม่นย�ำ และมักสอบถามความเป็นอยู่ของคนเหล่าน้ัน อย่างใสใ่ จทุกรายละเอยี ด...” นายชัยเดช เครือเปรม เล่าอีกว่าได้รับเมตตาจากป๋าให้เรียกท่านว่า “ปู่” ซ่ึงคงเปรียบเสมือนรุ่นหลาน ๆ ของท่าน และท่านยังมีส�ำนึกรักบ้านเกิด สังเกตได้จาก เม่ือปู่สนทนากับคนใต้ ปู่ก็จะใช้ภาษาใต้ ถ้ามีคนต่างภูมิล�ำเนามาท�ำงานอยู่ ในภาคใต้ ใช้ภาษากลางพูดกับปู่ ท่านจะถามเป็นภาษาใต้ทันทีว่า “แหลงใต้ได้หม้าย” บางครั้งปู่แซวผู้ใหญ่ที่มาต้อนรับว่า “มาอยู่ใตใ้ ห้หัดแหลง่ ใต้นะ” นอกจากน้ัน พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ยังเป็นแบบอย่างที่ดีที่สร้างความประทับใจให้แก่เยาวชนเสมอ กล่าวคือ “ปู่จะยกมือไหว้และรับไหว้เสมอ” ก่อนข้ึนรถกลับ ท่านจะหันมาไหว้ทุกคนท่ีมายืนรอส่งท่าน และบอกว่า “เรากลับก่อนนะ ขอบใจทุกคน” ท�ำให้ทุกคนรีบไหว้กลับอย่างนอบน้อมทันที นับเป็นความน่ารักของท่านท่ีตราตรึงอยู่ในความรู้สึกของทุกคน ท่ไี ด้ใกล้ชดิ ท่าน พลเอก เปรม ตณิ สลู านนท์ นอกจากจะมเี มตตามอบทนุ การศกึ ษา เพอ่ื สรา้ งโอกาสแกเ่ ยาวชนในเบอ้ื งตน้ แลว้ ยงั เมตตา สนับสนุนการศึกษาเพ่ิมเติมในระดับท่ีสูงขึ้นด้วย ท�ำให้เยาวชนบางคนต้ังใจท�ำดีตอบแทนบุญคุณเสมอเป็นบิดามารดา เช่น อุปสมบทให้ ท่านก็เมตตามอบไตรจีวรในการอุปสมบท และหากเป็นคนดีเดินตามรอยคุณธรรมความดีที่ท่านสอนไว้ก็จะ ไดร้ ับโอกาสดีกวา่ นน้ั เพราะพลเอก เปรม ตณิ สลู านนท์ จะเมตตาตง้ั นามสกลุ ทีม่ ีนามของท่านประกอบอยใู่ ห้ เชน่ นายชยั เดช ได้รบั นามสกุล “เครือเปรม” เมอ่ื วันท่ี ๖ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๙ ซ่งึ ท่านใหค้ วามหมายว่าเป็น “เช้ือสายสกลุ ของพลเอก เปรม” นอกจากนย้ี งั มนี ามสกุลทีท่ า่ นตง้ั ใหอ้ กี หลายสกลุ เชน่ เปรมเกอ้ื กูล เปรมลขิ ติ เปรมยกย่อง เปรมอุดม ฯลฯ 84

การส่งเสรมิ การศึกษาและการสร้างสรรค์ศิลปะ ผลพวงอันเกิดจากความดีงามในหัวใจของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ได้ส่งต่อไปยังเยาวชนและคณะกรรมการ ด�ำเนินงานกองทุนส่งเสริมการศึกษาการสร้างสรรค์ศิลปะ มูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ในการจัดหาทุน โดยทา่ นไดม้ อบผลงานจำ� นวน ๑๒ ผลงานใหแ้ กศ่ าสตรเมธี นนทวิ รรธน์ จนั ทนะผะลนิ คณุ ไพฑรู ย์ วโิ รจนโ์ ภคา และอาจารยว์ รี เดช พนมวัน ณ อยุธยา ไปจ�ำหน่ายเพอ่ื หาทนุ ชว่ ยนิสิต นักศึกษาทีม่ ีความยากล�ำบาก เม่ือ พ.ศ. ๒๕๔๓ แตอ่ าจารย์ทั้ง ๓ ทา่ น ได้มาหารือกับพลเอก เปรม ติณสูลานนท์ว่าขอเปิดการประมูลเพ่ือหาทุนจะได้เงินมากกว่า โดยกราบเรียนเชิญพลเอก เปรม ตณิ สลู านนท์ เปน็ ประธานการประมลู มผี ใู้ หค้ วามรว่ มมอื เปน็ จำ� นวนมาก เมอ่ื วนั ท่ี ๑๙ สงิ หาคม พ.ศ. ๒๕๔๓ ไดร้ บั เงนิ ประมลู มากถงึ ๕.๖ ลา้ นบาท นบั เปน็ โครงการเพอื่ วนั เกดิ ครบรอบ ๘๐ ปี ของพลเอก เปรม ตณิ สลู านนท์ ซง่ึ ในปตี อ่ มาพลเอก เปรม ตณิ สลู านนท์ ไดเ้ ปน็ ประธานมอบทนุ ใหแ้ ก่ นสิ ติ นกั ศกึ ษา ดว้ ยตนเองเปน็ ครง้ั แรก การประมลู จงึ เปน็ ทมี่ าของการจดั หาทนุ และมอบทนุ ใหแ้ ก่ นสิ ิต นักศกึ ษา ปสี ดุ ทา้ ยที่มผี ลการเรยี นดี มีความประพฤติดี และยากจน ในการจดั คา่ ยศิลปะ (Art Camp) ซึ่งมีวัตถปุ ระสงค์ เพ่ือส่งเสริมการสร้างสรรค์ผลงานร่วมกัน พร้อมมอบผลงานให้กองทุนฯ น�ำไปหารายได้เพ่ือกลับมาช่วยรุ่นน้อง และ คนร่นุ หลังต่อไป โดยมีพธิ ีมอบทุนและประมลู จัดหาทุนสืบมาจนปจั จบุ ันเกือบ ๒๐ ปแี ล้ว มีผูไ้ ด้รับทุนทางด้านศลิ ปะในสถาบัน อุดมศึกษาทุกภูมิภาคของประเทศไทยเป็นจ�ำนวนมากกว่า ๑,๐๐๐ คน ประธานมูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท ์ (พลเอก สุรยุทธ์ จุลานนท์) ได้เขียนสารแสดงความยินดีและสนับสนุนการด�ำเนินงานของกองทุนฯ เพื่อให้นิสิต นักศึกษาที่ ได้รับทุนมีแนวคิดที่กล้าแข็งในการด�ำเนินงานให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ประเทศชาติ และวงการศิลปะให้ยั่งยืนสืบไปตาม ปณธิ านและอุดมการณเ์ กิดมาตอ้ งตอบแทนบุญคุณแผ่นดนิ ของ พลเอก เปรม ติณสลู านนท์ อย่างเปน็ รูปธรรม 85

86

เปน็ ประธานพิธมี อบทนุ และประมูลจดั หาทนุ ฯ 87

หอสมุดแหง่ ชาติเฉลมิ พระเกยี รติ ร.๙ นครราชสมี า การสร้างแหลง่ เรียนรทู้ ว่ั ประเทศ นอกจากส่งเสริมการศึกษาด้วยการมอบทุนให้เด็กและเยาวชนได้เล่าเรียนวิชาเพื่อพัฒนาตนเองแล้ว พลเอก เปรม ตณิ สลู านนท์ยงั เลง็ เหน็ ความสำ� คญั ของการสรา้ งแหลง่ เรยี นรใู้ หแ้ กค่ นไทยอกี ดว้ ยเพราะการเรยี นรเู้ ปน็ แนวทางในการพฒั นาตนเอง ให้เท่าทันพฒั นาการของโลก ดว้ ยวิธีการศกึ ษาตามอัธยาศัย จึงมกี ารสรา้ งหอสมุดแห่งชาตสิ าขาในภูมิภาคอีกหลายแห่ง พ.ศ. ๒๕๒๒ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ มีความประสงค์จะสร้างสิ่งอันเป็นสาธารณกุศล เพ่ือเป็นอนุสรณ์ แกว่ งศต์ ระกลู “ตณิ สลู านนท”์ ณ ทดี่ นิ ใกลว้ ดั ดอนรกั ซงึ่ เดมิ เปน็ ทด่ี นิ ของทา่ นแตไ่ ดข้ ายไปแลว้ พระภทั รธรรมธาดา เจา้ อาวาส วัดดอนรัก จึงได้แนะน�ำให้สร้างหอสมุดขึ้นในบริเวณวัดดอนรักแทน เพราะวัดน้ียังคงเป็นสถานที่เก็บอัฐิตระกูลติณสูลานนท์ สืบมาด้วย เบ้ืองต้นก�ำหนดสร้างขึ้นชั้นเดียว ตามวงเงินที่มีอยู่เพียงหนึ่งแสนบาท แต่พระภัทรธรรมธาดา เสนอแนะให้สร้าง เป็นอาคาร ๒ ช้ัน จึงมีข้าราชการ พ่อคา้ ประชาชนชาวสงขลารว่ มสมทบทนุ กอ่ สร้างอกี ๗ แสนบาท และมอบให้กรมศลิ ปากร ใชเ้ ปน็ อาคารหอสมดุ แหง่ ชาตสิ าขาวดั ดอนรกั สงขลา เปดิ ใหบ้ รกิ ารเมอ่ื วนั เสาร์ ที่ ๒๕ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๒๕ ตอ่ มามลู นธิ ริ ฐั บรุ ษุ พลเอก เปรม ตณิ สลู านนท์ ได้บรจิ าคเงนิ ๔๐ ล้าน ๑ แสนบาท ใหห้ อสมดุ แหง่ ชาติ จดั ต้งั หอสมุดแหง่ ชาติกาญจนาภิเษก สงขลา ขึ้นในบริเวณท่ีดินติดกับบ้านศรัทธา และยังมีหอสมุดแห่งชาติสาขาที่จัดสร้างขึ้นในภูมิภาคต่าง ๆ ของประเทศไทย มักจัดสร้างข้ึนเน่ืองในโอกาสพระราชพิธีส�ำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์ อันเนื่องมาจากพระราชด�ำรัสในพระบาทสมเด็จ พระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ต้องพระราชประสงค์ให้สร้างถาวรวัตถุ ท่ีเกิดประโยชน์ แกส่ าธารณชนโดยสว่ นรวม พลเอก เปรม ตณิ สูลานนท์ รับสนองพระราชด�ำรสั มาจัดสร้างหอสมุดแหง่ ชาติ ดงั น้ี พ.ศ. ๒๕๓๐ เปดิ ให้บริการหอสมดุ แหง่ ชาตเิ ฉลมิ พระเกยี รติ ร.๙ นครราชสมี า พ.ศ. ๒๕๓๑ เปดิ ใหบ้ รกิ ารหอสมดุ แหง่ ชาตริ ชั มงั คลาภเิ ษก เชยี งใหม่ พ.ศ. ๒๕๓๓ เปดิ ใหบ้ ริการหอสมดุ แห่งชาติรชั มงั คลาภิเษก จันทบรุ ี พ.ศ. ๒๕๓๙ เปดิ ให้บริการหอสมุดแห่งชาติรชั มังคลาภเิ ษก กาญจนบรุ ี พ.ศ. ๒๕๔๐ เปดิ ใหบ้ รกิ ารหอสมุดแหง่ ชาติกาญจนาภเิ ษก สงขลา 88

หอสมดุ แห่งชาติรัชมังคลาภิเษก เชยี งใหม่ หอสมดุ แหง่ ชาตริ ัชมงั คลาภเิ ษก จันทบรุ ี หอสมดุ แหง่ ชาติรชั มังคลาภิเษก กาญจนบุรี 89

วางศลิ าฤกษห์ อจดหมายเหตุนายกรัฐมนตรี พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ จังหวดั นครศรธี รรมราช พ.ศ. ๒๕๒๙ มอบเงนิ ๔๐,๑๐๐,๐๐๐ บาท แก่อธิบดกี รมศิลปากร (นายสมคิด โชติกวณชิ ย์) ในการกอ่ สร้างหอสมดุ แหง่ ชาติกาญจนาภิเษก สงขลา พ.ศ. ๒๕๓๙ 90

เปน็ ประธานพธิ ีเปดิ หอสมดุ แห่งชาติกาญจนาภิเษก สงขลา 91

หอ้ งสมุดประชาชน ภายในค่ายเปรมติณสูลานนท์ กองพลทหารมา้ ท่ี ๓ จงั หวดั ขอนแก่น นอกจากนั้นท่านยังสนับสนุน และส่งเสริมให้จัดตั้งห้องสมุดในสถานศึกษาอ่ืน ๆ อีกหลายแห่ง และในค่ายทหาร ตลอดจนหอ้ งบ�ำรงุ ความรู้ สวนประวตั ิศาสตร์ พลเอก เปรม ตณิ สลู านนท์ สงขลา เพื่อให้เป็นแหลง่ เรยี นรู้ของคนไทยโดยทั่วไป กล่าวไดว้ า่ พลเอก เปรม ติณสลู านนท์ มีแนวคดิ สมบรู ณพ์ ร้อมด้วยคณุ ความดี มีความรัก มเี มตตาปรารถนาให้อนชุ น ของชาตริ ้จู กั ทำ� ความดตี อบแทนบุญคณุ แผ่นดนิ จงึ ได้ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างท่ีดใี นทุกโอกาสที่ทำ� หน้าท่ีด้วยความตง้ั ใจมงุ่ ม่นั จงึ ไดร้ บั ความไวว้ างใจ และความรว่ มมอื จากคนไทยโดยพรอ้ มเพรยี งกนั ในทกุ โครงการ สงิ่ สาธารณประโยชนท์ ท่ี า่ นสรา้ งเหลา่ น้ี เป็นประจักษ์พยานแห่งความรักและความเมตตาที่มีต่ออนุชนไทย โดยมิได้หวังผลตอบแทนใด ๆ นอกจากประสงค์จะสร้าง ความสุขและสร้างโอกาสให้เด็กและเยาวชนสามารถพัฒนาตนเองได้ทัดเทียมกัน จะได้พออยู่พอกินอย่างสุขสบายตามก�ำลัง ความสามารถของตนเอง 92

ตรวจเยีย่ มห้องบ�ำรุงความรู้ ตรวจเยย่ี มการก่อสร้างหอสมุดติณสลู านนท์ สวนประวัตศิ าสตร์พลเอก เปรม ติณสลู านนท์ สงขลา โรงเรียนมหาวชิราวุธ จงั หวัดสงขลา ในการนไ้ี ด้มอบเงนิ จ�ำนวน ๕๐๐,๐๐๐ บาท ใหแ้ กห่ ้องสมุดโรงเรยี น ในนามของสกลุ ติณสลู านนท์ 93

โครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” โครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ เป็นโครงการท่ีเกิดจากด�ำริของ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ประธานองคมนตรีและ รัฐบุรุษ โดยมูลนิธิรัฐบุรุษ พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ร่วมกับมูลนิธิรักเมืองไทย มูลนิธิพิทักษ์อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร กระทรวงมหาดไทย ศนู ยอ์ ำ� นวยการบรหิ ารจงั หวดั ชายแดนภาคใต้ องคก์ ารพพิ ธิ ภณั ฑว์ ทิ ยาศาสตรแ์ หง่ ชาติ และหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง นับต้ังแต่ พ.ศ. ๒๕๔๘ ได้จัดกิจกรรมน�ำเยาวชนมุสลิมในพ้ืนที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ๕ จังหวัด ได้แก่ จังหวัดยะลา ปัตตานี นราธิวาส สตูล และสงขลา เฉพาะอ�ำเภอนาทวี เทพา จะนะ และสะบ้าย้อย เพ่ือน�ำเยาวชน เหลา่ นน้ั มาสรา้ งโอกาสในการเรยี นรู้ ประสบการณ์ และเพม่ิ พนู ทกั ษะในการรว่ มกจิ กรรมดว้ ยการทศั นศกึ ษาและพำ� นกั อาศยั กบั ครอบครัวอุปถัมภ์ เพ่ือให้เกิดการเรียนรู้ในการปรับทัศนคติต่อตนเอง ครอบครัว และชุมชน อันจะน�ำไปสู่ความสมานฉันท์ ในสังคมต่อไป พลเอก เปรม ติณสูลานนท์ ไดก้ ลา่ วไว้ในพธิ เี ปดิ โครงการสานใจไทย สูใ่ จใต้ รุ่นที่ ๒ เมอ่ื วันท่ี ๓ ตลุ าคม พ.ศ. ๒๕๔๘ มีขอ้ ความลกึ ซึ้งกินใจ แสดงความมงุ่ มั่นต้ังใจโดยมิได้หวงั ผลตอบแทนใด นอกจากความรักและปรารถนาดแี ก่เดก็ ๆ ความว่า “ผมขอเรยี นตรงๆวา่ ผมทำ� พวกเราทำ� เพราะวา่ ผมรกั เดก็ ๆอยากใหเ้ ดก็ มคี วามสขุ อยากใหเ้ ดก็ มคี วามรู้ อยากใหเ้ ดก็ รตู้ วั วา่ เปน็ คนไทย และตอ้ งชว่ ยกนั ดแู ลประเทศไทย เราทำ� เราไมต่ อ้ งการชอ่ื เสยี ง ไมต่ อ้ งการความดงั ความเดน่ นน่ั ไมใ่ ชส่ งิ่ ปรารถนาของเรา เราทำ� เราไมต่ อ้ งการสง่ิ ใดตอบแทนและสงิ่ ทเ่ี ราอยากไดม้ ากทสี่ ดุ และ จะเปน็ ความภาคภมู ใิ จมากทส่ี ดุ ของพวกเรากค็ อื เดก็ ไดม้ คี วามสขุ เดก็ ไดม้ คี วามรู้ เดก็ ไดม้ คี วามเขา้ ใจ เดก็ ได้ มคี วามภมู ิใจในความเป็นไทย สิ่งนี้คือ สิง่ ท่เี ราท�ำ คือ ความม่งุ หมายท่ีเราอยากท�ำ” โครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ เริ่มด�ำเนินการต้ังแต่ พ.ศ. ๒๕๔๘ จนถึงปัจจุบัน เปิดรับสมัครเยาวชนเข้าร่วม โครงการเปน็ ร่นุ ที่ ๓๖ มเี ยาวชนเข้ารว่ มโครงการแล้วเกือบ ๑๐,๐๐๐ คน มคี รอบครวั อปุ ถัมภ์เกือบ ๔,๐๐๐ ครอบครัว 94

พลเอก เปรม ติณสลู านนท์ เปดิ งานสานใจไทย สใู่ จใต้ พเิ ศษ รุน่ ที่ ๑ กจิ กรรมสง่ เสริมเยาวชน ในโครงการสานใจไทย สใู่ จใต้ รนุ่ ที่ ๓๐ กลบั สู่ภมู ิล�ำเนา วันที่ ๒๘ เมษายน พ.ศ. ๒๕๖๐ 95

โครงการนี้ประสบผลสำ� เร็จเปน็ ทน่ี า่ พอใจ พ.ศ. ๒๕๕๙ คณะกรรมการด�ำเนินงานโครงการฯ จงึ ไดเ้ พ่มิ กลุ่มเปา้ หมาย โดยนำ� เยาวชนทกุ ศาสนาเขา้ รว่ มกจิ กรรม โดยมเี ปา้ หมายใหเ้ ยาวชนเรยี นรกู้ ารอยรู่ ว่ มกนั ในสงั คมพหวุ ฒั นธรรมอยา่ งเออื้ อาทร และเป็นมติ รไมตรี โครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ ยังได้ด�ำเนินโครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ รุ่นพิเศษ ตามมาอีก เป็นโครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ พเิ ศษ รนุ่ ท่ี ๑ หลกั สตู รสงั คมพหวุ ฒั นธรรม น�ำสนั ติสุขส่แู ดนใต้ โดยให้ทุนการศกึ ษาแก่เยาวชนทีน่ บั ถือศาสนาอิสลาม และพุทธศาสนาใน ๔ จังหวัดชายแดนใต้ท่ีกำ� พร้า ขาดโอกาสการศึกษา แตม่ ีผลการเรยี นดี เปน็ ตน้ โครงการสานใจไทย สู่ใจใต้ มีหลักสูตรและกิจกรรมเสริมสร้างความรู้และประสบการณ์ให้แก่เด็ก ๆ ตลอดจนมี แนวทางปฏิบัติของจังหวัดและอ�ำเภอ รวมถึงเยาวชน ครอบครัวอุปถัมภ์ และครูพี่เลี้ยง นอกจากนั้นยังมีสมุดบันทึกแสดง ตารางกิจกรรมในแต่ละวัน และท่วี า่ งส�ำหรบั ใหเ้ ยาวชนบันทึกความรู้ ประสบการณ์และความรูส้ กึ ในแตล่ ะแหล่งเรยี นร้ไู ว้เป็น ความทรงจำ� ทด่ี ีที่สามารถแบง่ ปนั แลกเปล่ียนความรคู้ วามเข้าใจตอ่ กนั ได้ดว้ ย 96

97

“วัฒนธรรมไทยเป็นสมบัติอันล�้ำค่าของชาติเรา เป็นสมบัติ เก่าแก่ท่ีบรรพบุรุษได้คิดสร้างสรรค์ ด�ำรงรักษาและสืบสานต่อกัน มาจนถึงยุคสมัยของเรา วัฒนธรรมของเราจึงมีความส�ำคัญ อย่างย่ิงต่อพวกเรา เป็นส่วนหน่ึงของชีวิตของเรา ชาติของเรา และจะด�ำรงลักษณะไทยไว้ไม่ได้ ถ้าเราไม่มีวัฒนธรรมและ ไม่ด�ำรงรักษาไว้ เพราะฉะน้ันจึงเป็นหน้าท่ีส�ำคัญยิ่งของคนไทย ทุกคน ไม่ว่าจะนับถือศาสนาใด ที่จะต้องช่วยกันร่วมมือกัน มีความส�ำนึกในคุณค่าของวัฒนธรรมของเรา รักและหวงแหน วัฒนธรรมของเราและรู้แจ้งประจักษ์ชัดว่า การรักษาวัฒนธรรม อันเป็นสมบัติล้�ำค่าของเราน้ัน คือ การรักษาชาตินั่นเอง” ปาฐกถาเรือ่ ง วัฒนธรรมไทย สมบัตไิ ทย ณ ธนาคารกรุงเทพ จ�ำกดั (มหาชน) วันท่ี ๒๖ ธนั วาคม พ.ศ. ๒๕๓๗ 98