ใหแ้ น่ อยา่ คดิ วา่ เปน็ แคง่ านกระจอก งานนไ้ี มใ่ ชใ่ ครกท็ า� ได้ มนั ตอ้ งมฝี มี อื และจิตส�านึกด้วย อาจมีล�าบากใจบ้างก็ตอนท่ี...” แบเลาะพูดไม่ทันจบ ประโยคกเ็ งยี บไป ผมน่ิงฟังและพยายามคิดตามถึงประโยคสุดท้ายที่แกเอ่ย ไมท่ นั จบ เมื่อลองค�านวณค่าตอบแทนตามค�าแนะน�า ส�าหรับคนฐานะ ยากจนทมี่ วี ฒุ กิ ารศกึ ษาจบเพยี ง ม.3 อยา่ งผม รายไดม้ นั ชา่ งนา่ เยา้ ยวนใจ ผมจงึ ตอบรบั เขา้ ทา� งานทน่ี อ่ี ยา่ งงา่ ยดาย ครั้งแรกท่ีผมเห็นโรงงาน ภาพตึกหลังใหญ่สีเขียวพาสเทลดู กลมกลนื กบั ปา่ โปรง่ สเี ขยี วออ่ นรอบตกึ แบเลาะเลา่ วา่ คณุ อา� นวยหวั หนา้ ของพวกเราเลือกสีนี้เพราะได้แรงบันดาลใจจากภาพวาดสีน�้าของลูกสาว ตกึ แหง่ นต้ี งั้ อยชู่ านเมอื งบรเิ วณตา� บลบางปู รอยตอ่ ระหวา่ งอา� เภอยะหรงิ่ กับพ้ืนท่ีอ�าเภอเมืองในจังหวัดปัตตานี ตึกสร้างด้วยก�าแพงอิฐบล็อกสูง เจด็ ชน้ั แตล่ ะชนั้ มหี นา้ ตา่ งบานเลก็ ๆ เปดิ รบั ลมและแสงแดดเพยี งเลก็ นอ้ ย สอ่ งเขา้ สตู่ วั อาคาร ผมเดินขึ้นบันไดส�ารวจสถานที่ท�างานทีละช้ัน สองตาของผม สงั เกตเหน็ กลอ้ งวงจรปดิ และระบบเตอื นภยั จา� นวนมากตดิ ตงั้ ไวแ้ ทบทกุ ที่ ภายในตกึ คอ่ นขา้ งมดื ผมจงึ เปลย่ี นมาใชห้ ฟู งั เสยี งรอ้ งและเสยี งกระพอื ปกี ของนกบา้ ง มนั ดงั ระงมไปทว่ั ตกึ ทา� ใหบ้ างขณะกม็ จี งั หวะทข่ี นแขนของผม ลกุ ชชู นั ขน้ึ มาอยา่ งไรเ้ หตผุ ล ยงิ่ สงู ยง่ิ หนาว ผมเหน็ ดว้ ยทสี่ ดุ ผมเดนิ ขน้ึ บนั ไดมาเรอ่ื ยๆ จน มาหยดุ ทชี่ นั้ หก ทนี่ อ่ี ณุ หภมู แิ ตกตา่ งกบั ภายนอกตกึ ชดั เจน ผมคดิ เดาไป ตา่ งๆ นานาวา่ อากาศทเี่ ยน็ จดั นา่ จะสมั พนั ธก์ บั ปรมิ าณความชน้ื ภายในตกึ จนแอบคดิ ในใจวา่ ถา้ มอี ะไรจโู่ จมผมระหวา่ งทา� งาน กลอ้ งวงจรปดิ พวกนี้ คงชว่ ยเกบ็ ภาพเปน็ หลกั ฐานใหผ้ มไดบ้ า้ ง และแล้วก็เดินมาถึงชั้นบนสุดของตึก ผมหยุดชะงักตรงมุม 250
หน้าต่างบานหน่ึงของชั้นเจ็ด ในต�าแหน่งท่ีสูงเช่นน้ีมองออกไปเห็นรั้ว ลวดหนามกน้ั รอบตกึ ตลอดแนว ดา้ นหลงั ของตกึ มสี วนกวา้ ง เมอื่ เทยี บกบั บา้ นสองชน้ั สองหลงั ทอ่ี ยู่หา่ งออกไปจากตกึ ราวสามร้อยเมตร ทา� ให้บ้าน แต่ละหลงั น้ันดเู ลก็ กะทัดรัดไปถนัดตา ซา�้ บ้านสองหลงั นีย้ ังโดดเดยี่ วจาก กลมุ่ บา้ นหลงั อน่ื เหมอื นครู่ กั ทค่ี บกนั แลว้ แยกตวั ออกจากเพอื่ นกลมุ่ ใหญ่ จากความมงุ่ มนั่ ทจ่ี ะเกบ็ เงนิ ใหโ้ ตะ๊ จซู อ่ มหลงั คาบา้ น ผมทา� งาน หนกั เกบ็ รงั นกแทบทกุ วนั โตะ๊ จแู ละใครๆ เรยี กตกึ ทผี่ มทา� งานวา่ บา้ นใหญ่ ทา่ นมกั พดู ตดั พอ้ วา่ ผมชอบอยบู่ า้ นใหญม่ ากกวา่ บา้ นตวั เอง นอกจากผมกบั แบเลาะกม็ เี พอ่ื นรว่ มงานคนอนื่ ๆ อกี สค่ี น แตผ่ ม สนทิ กบั แบเลาะทสี่ ดุ เพราะเราเกบ็ รงั นกโซนเดยี วกนั เขาชว่ ยเหลอื ผมเสมอ ผมจงึ รกั และเคารพแบเลาะทง้ั ในฐานะเพอื่ นรว่ มงานและญาตผิ ใู้ หญค่ นหนงึ่ ของผม “เชา้ นใี้ ครมาบา้ นใหญเ่ หรอแบ คนเยอะแยะ” ฟารุกถามแบเลาะ พลางกวาดตาดูจ�านวนรถที่แน่นขนัดเต็ม ลานจอด “เมอ่ื คนื มหี วั ขโมยขนึ้ บา้ นใหญ่ หวั หนา้ พาตา� รวจมาเกบ็ หลกั ฐาน เผอื่ หวั ขโมยมนั ทง้ิ รอ่ งรอยอะไรไวบ้ า้ งหลงั จากแจง้ ความเมอื่ เชา้ น”้ี แบเลาะ ตอบ ผมอง้ึ ตกใจชวั่ ครู่ ผมคงตกขา่ วจรงิ ๆ เพราะหลายเดอื นทผี่ า่ นมา แทบไมม่ วี แี่ ววขา่ วเรอ่ื งขโมยมากอ่ น หรอื ชว่ งนขี้ า้ วยากหมากแพงเศรษฐกจิ ตกตา่� ใครอยากไดเ้ งนิ ทางลดั เลยตอ้ งผนั ตวั มาเปน็ ขโมย “แตม่ นั นา่ แปลกนะครบั ” ผมเผลออทุ านออกไป “แปลกอะไรของเอง็ ” แบเลาะพดู พรอ้ มหลดุ ขา� “ขโมยขน้ึ บา้ นมนั แปลกตรงไหน หวั ขโมยมนั มที กุ ทอ่ี ยทู่ วี่ า่ มนั จะออกขโมยเมอ่ื ไหร”่ “มนั กจ็ รงิ ” ผมยมิ้ เจอื่ นๆ ตอบเหน็ ดว้ ยกบั แกไป 251
ความแปลกทผี่ มคดิ สงสยั ในใจคอื คนทจ่ี ะขโมยรงั นกได้ อนั ดบั แรกตอ้ งรวู้ ธิ เี กบ็ รงั นก รวู้ า่ ตอ้ งทา� ความสะอาดรงั นกอยา่ งไรและควรนา� ไป ขายทไ่ี หน เหน็ วา่ หวั ขโมยเลอื กเกบ็ รงั นกเฉพาะตรงมมุ อบั เพราะเปน็ บรเิ วณ ที่มืด กล้องวงจรปิดจึงจับภาพได้ยากหรือไม่ก็ใช้วิธีท�าลายกล้อง ซ่ึงถ้า เปน็ โจรทว่ั ไปผมเชอ่ื วา่ คงไมม่ ที างรแู้ นว่ า่ กลอ้ งซอ่ นไวบ้ รเิ วณใดบา้ ง ยง่ิ เปน็ ตอนกลางคืนย่ิงแล้วใหญ่ ภายในตึกมีหลอดไฟน้อยมากเพราะหัวหน้า ไม่ต้องการให้มีแสงไฟรบกวนนกเวลาพวกมันสร้างรัง มีเพียงแสงจันทร์ เทา่ นนั้ ทส่ี อ่ งผา่ นหนา้ ตา่ งบานเลก็ ๆ ในยามคา่� คนื หากคนื ไหนมเี มฆมาบดบงั แสงจนั ทรต์ กึ จะมดื สนทิ ถา้ ไมช่ า� นาญจรงิ อาจหกลม้ กลงิ้ ตกบนั ไดไดง้ า่ ย ๆ หวั ขโมยคนนค้ี งไมใ่ ชโ่ จรกระจอกอยา่ งทใ่ี ครๆ สงสยั กนั แตก่ ลบั เป็นโจรฝีมือดีท่ีเช่ียวชาญการเก็บรังนก อย่างน้อยถ้าสมมติฐานของผม มแี นวโนม้ ทจ่ี ะเปน็ ไปได้ ผมคดิ วา่ โจรทข่ี น้ึ บา้ นใหญน่ า่ จะเปน็ คนในและอาจ ทา� งานประเภทเดยี วกนั กบั ผม หนง่ึ ในหา้ คนทที่ า� งานดว้ ยกนั ใครคอื หวั ขโมยตวั จรงิ จๆู่ ความคดิ นกี้ แ็ ลน่ เขา้ มาในหวั ผม “แบเลาะ ฟารุก มาหาผมหน่อย” หัวหน้าอ�านวยเรียกผมกับ แบเลาะไปพบ “รขู้ า่ วขโมยขนึ้ บา้ นใหญแ่ ลว้ ใชม่ ยั้ ” หวั หนา้ ถาม “ผมคยุ กบั ผกู้ องแลว้ ชว่ งนคี้ งตอ้ งขอความรว่ มมอื พวกเราทกุ คน ชว่ ยกวดขันเดนิ ตรวจตราสถานทแ่ี หง่ นที้ กุ คืนตลอดหน่งึ สปั ดาหน์ บั จากนี้ ส่วนเรื่องเงินผมมีโอทีเป็นค่าแรงเพ่ิมให้ทุกคนท่ีช่วยผลัดเวรกันเฝ้ายาม โรงงานเรา” “ครบั หวั หนา้ ” พวกเราตอบรบั หวั หนา้ อยา่ งแขง็ ขนั “คดีน้ีโจรมันทิ้งร่องรอยอะไรไว้บ้างม้ัยครับผู้กอง” แบเลาะ ยอ้ นถามดว้ ยทา่ ทกี ระตอื รอื รน้ ถงึ สถานการณค์ วามเสยี หายทเี่ กดิ ขนึ้ ผกู้ องสา่ ยหนา้ “โจรแทบไมท่ งิ้ รอ่ งรอยอะไรไวเ้ ลย เหมอื นมนั 252
รจู้ กั เสน้ ทางและพนื้ ทแ่ี หง่ นเ้ี ปน็ อยา่ งดี เหตกุ ารณท์ เ่ี กดิ ขน้ึ ถา้ ไมใ่ ชโ่ จรกรรม ธรรมดา กอ็ าจเปน็ ผลพวงจากความขดั แยง้ ของคคู่ า้ ทางธรุ กจิ แตเ่ ทา่ ทค่ี ยุ กบั คณุ อา� นวย เขายนื ยนั วา่ ไมเ่ คยมศี ตั รทู ไ่ี หน” “คดนี ้ีคงตอ้ งสบื กนั พักใหญก่ ว่าจะได้หลกั ฐานเพิม่ ” ผมแอบเหน็ แบเลาะถอนหายใจ หลงั ฟงั คา� ตอบของผกู้ องกอ่ น เดนิ จากไป ภาพท่ีเห็นเมื่อครู่ท�าให้ผมอดนึกสงสัยในตัวแบเลาะไม่ได้ ผม สบั สนจนเรมิ่ รสู้ กึ ไมไ่ วใ้ จคนใกลต้ วั ผมตอ้ งสบื เรอื่ งนเี้ พอ่ื รคู้ วามจรงิ กอ่ น ความหวาดระแวงจะครอบงา� ตวั ผม ผลพวงจากความโลภของหวั ขโมยรายนนั้ ทา� ใหร้ งั นกนางแอน่ ในตกึ ดพู รอ่ งไปเหน็ ไดช้ ดั เชา้ นที้ กุ คนงว่ นอยกู่ บั การประเมนิ มลู คา่ ความ เสียหายทัง้ หมดทเี่ กดิ ขึ้นกบั โรงงาน คนงานทกุ คนเดนิ สา� รวจรงั นกทกุ ทใี่ นทกุ โซน พบวา่ มรี งั นกหายไป กวา่ 2 กโิ ลกรมั “รงั นกในโรงงานเรามที ง้ั เกรดเอ บี และซี คละกนั ไป ปกตริ งั นก ช้ันดีหากถอนขนจากรังและท�าความสะอาดจนพร้อมปรุง ราคาตกอยู่ท่ี กโิ ลกรมั ละสห่ี มน่ื บาท ตอนนร้ี งั นกถกู ขโมยไปเกอื บสองกโิ ล กเ็ ทา่ กบั วา่ โรงงานขาดทุนไปกว่าแปดหม่ืนบาท” หัวหน้าอธิบายภาพรวมให้ทุกคน ในทมี ฟงั “โอโ้ ฮ! เงนิ หายเกอื บแสน” “ต้องใช้รังนกมากเท่าไรครับถึงจะช่ังครบหนึ่งกิโลกรัม” ผม หลดุ ปากถามดว้ ยความสงสยั “รังนกประมาณ 100 รังรวมกันถึงจะชั่งได้ครบหน่ึงกิโลกรัม ขนึ้ อยกู่ บั ขนาดของรงั นกดว้ ย สว่ นใหญเ่ ราจะคดั เกรดกอ่ นชง่ั ขาย ครง้ั นี้ ถูกขโมยไปสองกิโล คิดเป็นจ�านวนรังนกก็ตกอยู่ท่ีสองร้อยกว่ารัง รังนก 253
หายไปมากขนาดนี้ นกนางแอน่ คงบนิ วอ่ นสรา้ งรงั ใหมท่ ง้ั วนั ทง้ั คนื แนๆ่ ” พเ่ี ก๋ เลขาหวั หนา้ อา� นวยกลา่ วเสรมิ “วา้ …นา่ สงสาร นกมนั คงเหนอ่ื ยแยต่ อ้ งส�ารอกนา�้ ลายสรา้ งรงั อกี ครงั้ แลว้ ครงั้ เลา่ รอบนผ้ี มวา่ มนั คงหมดนา้� ลายไปเปน็ ลติ ร” ผมกระซบิ ชวนแบเลาะคยุ “เอง็ รอู้ ะไรมยั้ ฟารกุ วา่ ตกึ นม้ี พี นื้ ทเ่ี ทา่ ไร” แบเลาะถามกลบั ดว้ ย สหี นา้ เปน็ กงั วล “ไมร่ คู้ รบั รแู้ คว่ า่ มี 7 ชนั้ ” ผมตอบพรอ้ มกบั นง่ั ตวั ตรงฟงั อยา่ ง ตง้ั ใจ “พนื้ ทที่ กุ ๆ หนง่ึ ตารางเมตร โดยเฉลยี่ นกจะสามารถสรา้ งรงั ได้ 10 รงั ถา้ แตล่ ะชน้ั มพี น้ื ท่ี 200 ตารางเมตร นนั่ หมายถงึ ในชน้ั หนง่ึ ๆ จะมี รงั นกกวา่ 2,000 รงั และถา้ นา� จา� นวนทงั้ 7 ชน้ั ของตกึ นม้ี าคณู เขา้ ไป เอง็ คดิ ออกมยั้ วา่ จะไดจ้ า� นวนเทา่ ไร” ฟารุกรีบกดเคร่อื งคิดเลขจากโทรศัพทใ์ นมืออย่างรวดเรว็ “เจง๋ ไปเลย หมนื่ กวา่ รงั นม่ี นั อาณาจกั รนกนางแอน่ ชดั ๆ” ผม ตอบเสยี งดงั คา� พดู ขาดสตขิ องผม ลกึ ๆ มนั ทา� ใหใ้ จผมรสู้ กึ ผดิ ทบี่ งั อาจไปแยง่ รงั รกั จากเจา้ ของตวั จรงิ มาอยา่ งดอ้ื ๆ การสา� รวจคราวนท้ี า� ใหร้ วู้ า่ หวั ขโมยมนั เกบ็ รงั นกไปแบบไมย่ งั้ มอื แถมยงั เกบ็ ไมเ่ ลอื ก บางรงั ทยี่ งั มลี กู นกตวั แดงอาศยั อยขู่ า้ งในกถ็ กู มนั เกบ็ ไป ด้วย คนงานทุกคนจ�าได้ดีว่าโซนที่ดูแลอยู่มีรังท่ีมีลูกนกตรงจุดไหนบ้าง ดเู หมอื นคราบความสลดหดหใู่ จจะเปน็ เพยี งสง่ิ เดยี วทห่ี วั ขโมยจงใจทง้ิ ไว้ สงสารก็แต่แม่นก เวลาน้ีมันยังคงบินว่อนวนเวียนหาการ หายตัวไปของลูกนกตัวน้อยอันเป็นท่ีรัก ส่วนฝั่งลูกนกคงมีชะตากรรม ไมต่ า่ งกนั โศกนาฏกรรมทเี่ กดิ จากการพลดั พรากมกั สรา้ งความเจบ็ ปวดใจ ให้ผู้พบเห็นเสมอ ยังโชคดีที่โรงงานเรามีนโยบายไม่เก็บรังนกนางแอ่นท่ีมี 254
ลูกนกอาศัยอยู่ไปขาย ท�าให้ตอนนี้โรงงานมีจ�านวนนกนางแอ่นเพิ่มขึ้น จากเดิมมาก หวังว่าหัวหน้าจะคลายความกังวลเร่ืองส่งของให้ลูกค้า รายใหญจ่ ากจนี และไตห้ วนั ไดใ้ นเรว็ วนั หลังหัวขโมยขึ้นบ้านใหญ่คราวนั้น คนงานชายทุกคนยังคง รับหน้าท่ีเฝ้าเวรยามกันทุกคืน แม้คืนน้ีนับเป็นคืนท่ีสิบแล้วแต่ก็ยังไม่มี วี่แววของหัวขโมยรายเดิม ผมจึงปรึกษาหัวหน้าเพ่ือออกอุบายดักจับ เจ้าหัวขโมยตีนผี ด้วยการหลอกให้มันตายใจว่าจะไม่มีการผลัดกันเข้าเวร เฝา้ ยามใดๆ กนั อกี ตอ่ ไป “เอาละ่ ทกุ คน เหนอ่ื ยกนั มามากแลว้ คนื นกี้ ลบั ไปนอนเอาแรง บา้ นตวั เองได้ ผมคดิ วา่ หวั ขโมยคนนน้ั คงไมก่ ลา้ ขนึ้ บา้ นใหญห่ รอก ตา� รวจ เขากค็ มุ เขม้ ” หวั หนา้ อา� นวยบอกพวกเรา ทกุ คนแยกยา้ ยกนั กลบั บา้ นใครบา้ นมนั ยกเวน้ ผมกบั หวั หนา้ ผมรบเร้าหัวหน้าขออยู่เฝ้ายามต่ออีกสักพักในฐานะคนเฝ้า สังเกตการณ์อยู่ห่างๆ อย่างห่วงๆ รออีกสักสองหรือสามคืน ผมเชื่อว่า หวั ขโมยรายเดมิ มนั ตอ้ งยอ้ นกลบั มาอกี หน รงั นกราคาดขี นาดนี้ ถา้ ผมเดา ไมผ่ ิด มนั ต้องกลับมาขโมยซ้า� อกี เปน็ คร้ังทส่ี องแน่ และเม่อื ถงึ เวลานน้ั ผม จะเปน็ คนจบั หวั ขโมยรายนใี้ หไ้ ดด้ ว้ ยมอื ผมเอง เหมอื นลางสงั หรณบ์ อกผม วา่ จะไดเ้ จอกบั มนั อกี ครง้ั ผมอดทนรอดว้ ยใจทแี่ นว่ แนเ่ พราะมนั เปน็ วธิ เี ดยี ว ทจี่ ะพสิ จู นค์ วามจรงิ และชว่ ยลดความหวาดระแวงคนกนั เองในยามน้ี “คอยดเู ถอะ กูจะกระชากหนา้ กากไอห้ วั ขโมยให้ไดห้ ายสงสัย กอ่ นใครเพอื่ น” บางทกี ารบน่ พมึ พา� กท็ า� ใหผ้ มหายเหงาไดบ้ า้ งเวลาอยคู่ นเดยี ว นับเป็นคืนที่สามของการแอบซุ่มเฝ้าสังเกตการณ์ของผม ไม่มี อะไรคบื หนา้ เหมอื นเคย ยงั ดที บ่ี า้ นหวั หนา้ และโรงพกั อยหู่ า่ งไปไมไ่ กลจาก ทนี่ ี่ มนั ชว่ ยใหผ้ มอนุ่ ใจหากเกดิ เหตฉุ กุ เฉนิ ตบุ้ ! ตบุ้ ! เสยี งดงั มาทางหลงั บา้ น 255
หรอื จะใช…่ ลางสงั หรณส์ ะกดิ ใจผม ดูเหมือนหัวขโมยจะก�าลังเหวี่ยงตะขอเชือกพาดไปบนหลังคา บา้ นใหญแ่ ลว้ ปนี กา� แพงเพอื่ ขน้ึ ไปยงั ชน้ั เจด็ ของตกึ อาจเปน็ เพราะหนา้ ตา่ ง ชนั้ ลา่ งบานเลก็ เกนิ ไปหวั ขโมยจงึ เลอื กใชว้ ธิ นี ี้ จากนน้ั เดาไดไ้ มย่ ากวา่ มนั คง พงั กญุ แจหรอื ทบุ กระจกหนา้ ตา่ งเพอื่ เขา้ ไปในตกึ ตามระเบยี บ เห็นท่าไม่ดี ผมรีบโทรหาหัวหน้าและติดต่อผู้กองทันที ท่าน ตอบรับและส่งก�าลังเสริมรุดหน้ามายังที่เกิดเหตุหลังจากนั้นไม่นาน ผม ยมิ้ ฟนั ขาวทา่ มกลางความมดื พรอ้ มพดู ปลกุ ใจตวั เองเบาๆ “ถงึ เวลาจบั ขโมยแลว้ ฉนั เชอื่ ฟารกุ … นายทา� ได้ ลยุ !” โอ้ย! โคตรเท่ ผมนึกหลงตัวเอง น่ีแหละโมเมนต์ที่ผมใฝ่ฝัน อยากทา� มาตงั้ แตเ่ ดก็ ผมวง่ิ ตดั สนามไปยงั สวนหลงั บา้ นมงุ่ ไปทางประตใู หญด่ า้ นหนา้ เพราะผมมกี ญุ แจ สว่ นตา� รวจกเ็ คลอื่ นพลไลห่ ลงั ตามผมมาตดิ ๆ ผมเลือกข้ึนบันไดหนีไฟด้วยท่าทางที่ก่ึงว่ิงกึ่งเดินเร่ือยมาจน มาหยุดตรงมุมตึกช้ัน 7 ผมพยายามเร้นกายภายใต้เงามืด แหงนหนา้ ขน้ึ มองกลอ้ งวงจรปดิ ปรากฏวา่ หลอดไฟจวิ๋ ซงึ่ แสดงการทา� งานของเครอ่ื งดบั อยู่ หวั ขโมยคงตงั้ ใจทา� ลายมนั ไปกอ่ นหนา้ น้ี ผมคอ่ ยๆ ยอ่ งเบาเลยี นแบบ ทา่ ทโี จร หวงั จะถา่ ยภาพหวั ขโมยขณะเกบ็ รงั นกเพอ่ื เปน็ หลกั ฐานประกอบ การสอบสวนใหม้ นั ดน้ิ ไมห่ ลดุ “หมวดวา่ ไงครบั พรอ้ มจบั มนั เลยมยั้ ” ดูเหมือนหัวขโมยจะตะบี้ตะบันเก็บรังนกให้ได้มากท่ีสุด นั่นก็ เกือบเต็มถุงแล้ว มืดสนิทอย่างนี้ห่วงเหลือเกินว่ามันจะหยิบเอารังนกท่ีมี ลกู นกเพงิ่ ฟกั ไปดว้ ย “หยดุ นะ! นเ่ี จา้ หนา้ ทต่ี า� รวจ” เสยี งประโยคคลาสสกิ ดงั มาจาก ตา� รวจทา่ นหนงึ่ หัวขโมยรู้ตัว มันรีบคว้าถุงใส่รังนกแล้วว่ิงไปยังหน้าต่างบาน 256
ทใ่ี กลท้ สี่ ดุ เพอื่ เตรยี มหนี “ซวยจริง งานเข้าแล้วกู” ผมได้ยินเสียงหัวขโมยบ่นพึมพ�า ขณะทว่ี ง่ิ ไปดกั ทางดา้ นหนา้ “แกหนีไม่รอดหรอก เราวางก�าลังสกัดไว้หมดทุกจุดแล้ว มอบตวั ซะ” ตา� รวจพดู ยา้� โจรชดุ ดา� ชกั มดี ขน้ึ มา รอบนม้ี ที ที า่ เตรยี มตอ่ สมู้ ากกวา่ จะวง่ิ หนี ทันทีท่ีผู้กองเห็นมีดก็เบี่ยงตัวใช้ศอกงัดประชิดตัวหัวขโมยเพื่อชิงมีด มวย คนู่ ดี้ ยู งั ไงกไ็ มส่ สู สี ดั สว่ นของโจรนนั้ ซบู ผอมผดิ กบั หนุ่ บกึ บนึ ของตา� รวจ ทงั้ คู่ ต่อสู้ล้มลุกคลุกคลานกันพัลวัน คล้ายฉากในละครบู๊สักเร่ืองแต่ไม่สมจริง เทา่ ตอนนี้ ตอนทผี่ มไดเ้ หน็ กบั ตาตวั เอง ฉวบ! เสยี งมดี เฉอื นเฉยี ดแขนผกู้ องไปนดิ เดยี ว คนรา้ ยพลาดทา่ เสยี ทถี กู ตา� รวจจบั กมุ ตวั ไดใ้ นทสี่ ดุ ถึงเวลาสอบสวน คนร้ายถูกจับให้นั่งคุกเข่าในมุมหนึ่งของสวน หลังตึก หัวขโมยรายน้ีสวมเส้ือและกางเกงรัดรูปสีดา� บนศีรษะโพกด้วยผ้า สนี า�้ ตาลเขม้ ปดิ หนา้ ปดิ ตา ทนั ทที ผี่ า้ ปดิ หนา้ ถกู ตา� รวจกระชากออก เมอ่ื ผา้ สนี า้� ตาลเขม้ ผนื ยาวหลดุ ลอยลงไปกองกบั พน้ื เผยใหเ้ หน็ ใบหนา้ ผรู้ า้ ยตวั จรงิ ผมถงึ กบั อา้ งปากคา้ ง “น่ี นี่ น่ี มนั … ฮาซนั ทา� ไมแกทา� อยา่ งน”ี้ นถ่ี อื เปน็ เรอื่ งประหลาดหนงึ่ ทที่ า� ใหผ้ มลมื การเอาผดิ กบั คนรา้ ย ตามทค่ี ดิ ไวแ้ ตแ่ รก คนร้ายตัวจริงคือฮาซันลูกชายคนเดียวของแบเลาะ เขาอายุ รนุ่ ราวคราวเดยี วกบั ผม ระยะหลงั เขาเรมิ่ ตดิ เพอื่ นสว่ นใหญเ่ ปน็ เดก็ เสเพล ออกไปมวั่ สมุ รวมกลมุ่ เดก็ แวน๊ มอเตอรไ์ ซคเ์ ปน็ ประจา� ทกุ คนื จนรา่ งกายเรมิ่ ผ่ายผอมผิดสังเกต แมผ้ ูเ้ ปน็ พ่อจะคอยตักเตือนเขาบอ่ ยคร้ัง แต่ดว้ ยวัย คกึ คะนองเขาจึงไมเ่ คยสนใจฟงั ไม่หางานท�าขอเงินพ่อแม่ใช้จ่ายอยรู่ า่� ไป 257
สงสารกแ็ ตแ่ บเลาะทหี่ ลดุ ปากปรบั ทกุ ขเ์ รอื่ งลกู ชายกบั ผม บอ่ ย ครงั้ ทเ่ี ขาดอุ าอข์ อพรจากพระเจา้ ใหล้ กู ชายเลกิ ขอ้ งเกย่ี วกบั ยาเสพตดิ กลับมา เป็นคนดีคนเดิมท่ชี ว่ ยเหลอื งานพอ่ แม่ แตค่ งสายไป… เมอ่ื เดอื นทแ่ี ลว้ จๆู่ รา่ งกายฮาซนั ดทู รดุ โทรมกวา่ ทเี่ คย แถมยงั มเี งนิ ซอ้ื ของฟมุ่ เฟอื ยเขา้ บา้ น ผมคดิ วา่ แบเลาะคงเรม่ิ สงสยั ลกู ชายตวั เองตงั้ แตน่ น้ั เขาจงึ มที า่ ทพี ริ ธุ เหมอื นปดิ บงั อะไรบางอยา่ ง ใครจะ รจู้ กั ลกู ตวั เองดเี ทา่ กบั คนเปน็ พอ่ สว่ นทกั ษะการเกบ็ รงั นกเขาเองทเ่ี ปน็ คน สอนใหล้ กู เรยี นรู้ เพอื่ หวงั ใหม้ สี กั วนั ทล่ี กู คดิ ไดก้ ลบั ตวั กลบั ใจมาชว่ ยงาน พอ่ กับแม่ ภายหลังการจบั กุมฮาซันยอมรบั สารภาพทกุ ข้อกล่าวหา “ทางเราคงตอ้ งปลอ่ ยใหเ้ ปน็ หนา้ ทข่ี องตา� รวจดา� เนนิ คดกี บั คน ท�าผิดต่อไป” “เสยี ใจดว้ ยนะแบเลาะ” ประโยคสดุ ทา้ ยทหี่ วั หนา้ อ�านวยพดู กบั เขาในวนั นน้ั ฟังแล้วจุกในอก เหมือนความเศร้าเสียใจและคับข้องใจมัน ประเดประดงั เขา้ มาในใจแบเลาะพรอ้ มๆ กนั วนั นเ้ี ขาเขา้ ใจแลว้ วา่ การพยายามปกปอ้ งสง่ิ ทรี่ กั แตร่ กั ษาเอาไว้ ไมไ่ ดม้ นั เปน็ อยา่ งไร ความล�าบากใจเกิดขึ้นทุกคร้ังเม่ือเห็นรังนกสีแดง แบเลาะ ยอมรบั วา่ เรยี นมานอ้ ย จงึ ไมแ่ นใ่ จวา่ สงิ่ นนั้ คอื เลอื ดทอี่ อกมาพรอ้ มนา้� ลายนก หรอื ไม่ ยง่ิ หากรวู้ า่ มกี ารเกบ็ รงั นกทม่ี ลี กู นกอาศยั อยยู่ ง่ิ รสู้ กึ สะเทอื นใจ ภาพท่ี นกนางแอน่ ส�ารอกน้�าลายเพื่อสร้างรังซ้�าแล้วซ�้าเลา่ มันสะทอ้ นวา่ นกคง แปลกใจวา่ ทา� ไมฉนั ขยนั สรา้ งรงั ไปเทา่ ไร สกั กร่ี อ้ ยกพี่ นั ครง้ั บา้ นเดมิ กพ็ ลนั หายไปอยา่ งไร้รอ่ งรอยทุกที “กมู นั กไ็ มต่ า่ งจากลกู ชายหรอก ทา� อาชพี นีก้ ็เหมอื นขโมยเขา กนิ ” “ลูกขโมยของคนอ่ืน ส่วนพ่อมันก็หน้าทนขโมยของของนก 258
มาไดเ้ ปน็ ปๆี นถี่ า้ นกมนั พดู ได้ มนั กค็ งอยากแจง้ ความจบั กเู หมอื นกนั ทา� ไม กเู ป็นคนแบบน”้ี แบเลาะนา�้ ตาซมึ เขาเรม่ิ พดู จาไมเ่ ปน็ ภาษา และพยายามโทษ ตัวเองว่าน่ีคงเป็นผลจากการกระท�าของเขา หลายปีท่ีท�างานในโรงงาน แหง่ นที้ า� ใหเ้ ขาคอยเฝา้ สงั เกตพฤตกิ รรมของนกทกุ ตวั การสรา้ งรงั ใหมข่ อง นกในทกุ ๆ วัน สร้างบาดแผลเล็กๆ แตบ่ าดลึกในใจเขาเร่ือยมา เขาไม่อยากรู้สึกผิดไปมากกว่านี้ จึงขอหัวหน้าลาออกในเย็น วนั นน้ั โลกสเี ทาดวงนยี้ งั คงหมนุ อยู่ ธรุ กจิ สเี ทายงั คงดา� เนนิ ตอ่ ไปอยา่ ง หลากหลาย ผมต้องขอบคุณแบเลาะทีส่ อนให้เข้าใจความหมายของบา้ นใน รปู แบบใหม่ บา้ นทพ่ี รอ้ มจะถูกท�าลายอยรู่ ่า� ไป แม้จะถกู สรา้ งเพิ่มขึ้นนบั พนั หลงั สดุ ทา้ ยกเ็ ปน็ เพยี งหมบู่ า้ นทเี่ จา้ บา้ นตอ้ งยอมจา� นนวา่ ตอ่ ใหพ้ ยายาม สรา้ งรากฐานใหม้ นั่ คงแขง็ แรงเพยี งใด อยา่ งไรกไ็ มส่ ามารถสรา้ งมนั ใหส้ า� เรจ็ เสร็จได้ ตราบใดท่ีมนุษย์ไม่พยายามเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และยังมี ความตอ้ งการมากมายไมม่ ีทส่ี ้ินสดุ ตราบนั้นเจ้านกนางแอ่นน้อยก็คงยังไม่มีหนทางคิดจะปกป้อง การสร้างรงั ของมนั ใหเ้ สรจ็ สมบูรณไ์ ด้เช่นกนั ฉนั ใดก็ฉันนนั้ 259
ทน่ี ่ี (ไม)่ มีตัวประหลำด อัษฎาวธุ ไชยวรรณ ดาวเคราะห์สีน�้าเงิน เกือบชั่วโมง มอเตอร์ไซค์มุ่งหน้าบนถนนกาญจนวนิชหลัง ราชภัฏสงขลา ฉันบิดด้วยความเร็วแปดสิบให้ไปถึงวัดกาญจนาวาสข้าง สถานีรถไฟจะนะเร็วที่สุด ข่าวเศร้าเคล่ือนความรู้สึกผ่านปลายสาย ฉัน เพ่ิงทราบเมื่อเช้านี้เองตอนผักกาดโทรมา เธอคงเก็บความเศร้าไม่อยู่ มึนงงพร้อมเจ็บปวด ฉันรับรู้เออออ รีบสวมเส้ือยืดสีด�ากับเดฟด�าเข้ากับ รปู ร่างสมส่วน ใส่ผ้าใบสนี า้� เงินเข้มบึ่งออกจากตวั เมืองสงขลา ไม่ใช่คร้ังแรกส�าหรับการมาที่นี่ บรรยากาศหม่นหมอง แทนท่ีย่ิงบิดรถจะเร็วข้ึนแต่เหมือนกลับ ย่งิ ชา้ ฉนั ไมร่ ูต้ น้ สายปลายเหตุ หัวใจกระวนกระวาย สมองขบคิดระหวา่ ง ทาง เธอบอกสน้ั ๆ วา่ “พอ่ ตายแลว้ ” ฉนั ไมอ่ ยากเซ้าซี้ เธอคงชอ็ ก ความ สูญเสียจู่โจมไม่ทันระวังตัว ความทรงจ�าก�าลังปะติดปะต่อเร่ืองราวคล้าย คอลลาจ ภาพชายรูปร่างสมบูรณ์ ผิวเข้ม เสียงหัวเราะและรอยยิ้มยังชัด ในดวงตาฉนั ผ่านด่านตรวจควนมีด อีกระยะถึงแยกจะนะ ตรงไปจะเป็น ปัตตานี ฉันเล้ียวขวาเข้าสู่ตัวตลาดอ�าเภอจะนะ ฉันต้องผ่านสถานีรถไฟ ก่อนถึงวัด เห็นซากปรักหักพังก้อนอิฐกระจายเกล่ือน เจ้าหน้าท่ีทหาร 260
ต�ารวจยืนรอบพ้ืนที่ ชาวบ้านละแวกนั้นเงียบงัน บรรยากาศตลาด เงียบเหงาผิดปกติ ฉันคาดเดาเหตุการณ์ไม่ถูก เพียงแต่มีลางสังหรณ์ถึง กลน่ิ อายของความโหดรา้ ย ฉันขี่จนถึงศาลาวัด ชาวบ้านก�าลังกุลีกุจอช่วยกันท�างาน คนละไม้คนละมือ เหลือบไปเห็นชายคนหน่ึง แวบแรกฉันจ�าได้ไม่เคยลืม ‘โส้ะ’ นั่นเอง ถือถุงพลาสติกสีด�าเดินเก็บขยะอยู่ ด้วยกิริยาท่าทาง แต่งกายชุดเดิมๆ นับตั้งแต่ครั้งโน้นท่ีฉันเคยมาอยู่พร้อมแรงดึงดูดเร้นลับ ชวนมอง ขณะเดียวกับท่ีเธอเดินออกมาจากศาลา หญิงสาวผิวสีแทน ผมสน้ั หนา้ มา้ เต่อกับเสื้อยดื สดี า� กางเกงยนี ส์สซี ดี ขาดเป็นร้ิวบรเิ วณหวั เขา่ สไตล์แบบน้ีเห็นแต่ไกล ผักกาดมุ่งหน้ามาหาฉันที่ลานจอดรถ สีหน้า อิดโรย ดวงตายังคงแดงกา่� ฉันยืนมอง ก่อนเธอเอ่ยชวนเข้าไปหาอะไรกิน ดา้ นใน ปล่อยความเงยี บสื่อสารระหวา่ งฉันกับเธออกี คร้ัง ท่ีนี่ไม่เคยเป็นดาวดวงอ่ืน แต่เป็นดาวเคราะห์สีน้�าเงินของโส้ะ เช่นกัน หลุดวงโคจร ฉันเคยเป็นครูอัตราจ้าง เน่ืองจากไม่ได้เรียนสายวิชาชีพครู โดยตรง ฉันเพียงแต่น�าวรรณกรรมเยาวชนมาสอนในคาบเรียน ‘บรัดเล่ย์ เด็กเกเรหลังห้องเรียน’ ของหลุยส์ ซัคเกอร์ เล่มแรกที่ฉันหยิบเป็นส่ือ การสอน ดใี จฐานะคนเปน็ ครู เลม่ น้เี ปิดเปลอื ยความร้สู ึกของเด็กหลงั ห้อง จนหมดเปลือก ฉันสอนสนุกเกินไปถึงขั้นถูกประณามว่า เล่าเรื่องราว ไร้สาระให้เด็กฟัง ค�าดูถูกถากถางเจ็บปวดลึก ฉันกลายเป็นดาวพลูโต ถึง แม้เพ่ือนครูในโรงเรียนรับรู้การมีอยู่ของฉัน กลับเหมือนยิ่งห่างไกลหลุด จากวงโคจรสมั พนั ธ์ ฉนั ไม่เพยี งแตน่ �าวรรณกรรมมาเท่าน้นั บางครั้งก็ฉาย ภาพยนตรใ์ หเ้ ด็กดู ‘เจา้ ชายน้อย’ ฉบับการต์ นู แตน่ ั่นแหละทกุ อย่างท่ีท�า กลับผลักไสฉันให้อยู่ตัวคนเดียว นอกคอก ไร้ความเป็นมืออาชีพ น้�าเสียง 261
เหยียดหยามยังกึกก้อง โดดเด่ียวท่ามกลางบรรยากาศเกลียดชัง กระท่ัง แรงบีบอัดจากระบบโรงเรียนกระทบอย่างจัง จนในที่สุดฉันพ่ายแพ้และ ไรก้ ารจดจา� เช่นเดยี วกบั ดวงดาวที่ไมเ่ คยถกู นบั ‘จะนะ’ ฉันอยากกลับไปเลียบาดแผลที่น่ันอีกครั้ง เหมือนช่วง ปิดเทอมก่อนจบการศึกษาปีสุดท้ายของป.ตรี ฉันเคยไปอยู่บ้านผักกาด ฉันเรียนทางด้านภาษาไทย ก่อนเรียนจบต้องมีสารนิพนธ์ ฉันเลือก วิเคราะห์เก่ียวกับความเป็นมนุษย์ในวรรณกรรมเร่ือง ‘ผีเสื้อและดอกไม้’ ของนพิ พาน ประทับใจมุมเล็กๆ ของฉากปุนจาซึง่ เปน็ พ่อของตัวละครเอก มาขอสร้างกระต๊อบอยู่อาศัยท่ีดินของวัดเพียงเล็กน้อย ด้วยความยากไร้ ถึงขีดสดุ จงึ เปน็ จุดเรมิ่ ตน้ ในการท�าวจิ ัย ดวงดาวถูกคน้ พบ เมื่อหลุดวงโคจรจากโรงเรียน ฉันกางปีกโบยบินตามหาเส้น ขอบฟ้า ตะลุยอ่านวรรณกรรมหลากหลาย โลกในเร่ืองเล่ายิ่งท�าให้ฉัน เข้าใจผู้คนในโลกความเป็นจริงมากขึ้น สถานะคนตกงานท่ีใครๆ ไม่อยาก เฉียดใกล้ ฉันเรียกขานมันว่า ‘ภาวะหลุดวงโคจร’ ไม่ถึงกับเศร้าที่สุด แต่ ไม่เคยเสียดายโอกาส เจ็บปวดกับบางค�าถามของคนข้างบ้าน ฉันเงียบ ไม่มีค�าโต้แย้ง เพียงแต่ก้มหน้าอ่าน อ่าน อ่าน แล้วก็อ่านวรรณกรรม ประวัติศาสตร์ ปรัชญา งานวิชาการ สลับกับเพ่งดูซีรีส์หรือภาพยนตร์ใน เน็ตฟลิกซ์ที่เคยลิสต์รายชื่อเมื่อตอนท�างานแต่ไม่มีเวลาดู โทรหาเพื่อน นัดจิบกาแฟกับบางคนท่ีไม่ค่อยเจอกัน นานแค่ไหนที่ห่างไกล คุยจิปาถะ ถึงเรื่องส่วนตัว ชีวิตหลังเรียนจบ กลับไม่มีค�าถามเกี่ยวกับการลาออก ของฉัน ต่างรับรู้และเข้าใจความสัมพันธ์ ฉันออกเดินทาง อาจดูแปลก เพราะการเดินทางของฉันไม่ได้ออกทริปต่างจังหวัด เที่ยวป่าเขา น�้าตก หรือทะเล แต่ฉันก�าลังเดินทางสู่โลกภายในอันลึกสุดหย่ังถึงต่างหาก แค่ขี่ มอเตอร์ไซค์ เฝ้ามองดูชีวิตคนตัวเล็กๆ ผ่านไป พ่อค้าขายไข่ปิ้งริมหาด 262
สมหิ ลา ฉันจอดรถแล้วส่งั ซ้ือยสี่ บิ พร้อมถามไถ่ “ขายดไี หมลุง ขายมานาน หรือยัง” ยิงค�าถามไม่ใช่สัมภาษณ์ คุยเหมือนญาติผู้ใหญ่ รปภ.หน้า ธนาคาร รอยยิ้มส่งทักทาย ลุงคนเก็บขยะ แม่บ้านหรือพนักงานเซเว่น ฉันฟังถึงเร่ืองราวชีวิตเหล่านี้ บางน้�าเสียงขมข่ืนเสียจนฉันรู้สึกผิดกับ คา� ถามจป้ี ม จนฉันได้เจอกับ ‘โลกของคนไร้บ้าน’ ของบุญเลิศ วิเศษปรีชา งานวิชาการเล่มนี้ดึงฉันเข้าสู่ดาวดวงอ่ืนที่ไม่ใช่ดาวเคราะห์สีน�้าเงิน เออว่ะ เท่ฉิบหายเลยว่ะ คนเขียนปลอมตัวเป็นคนไร้บ้านเหมือนนักสืบ ความลับราชการ แต่น่ีเป็นนักสืบตามหาความเป็นมนุษย์ท่ีถูกหลงลืม ฉัน อยากท�าแบบนี้บ้าง มันพังทลายความตะขิดตะขวงใจบางอย่างท่ีเคยมอง คนไร้บา้ น แตค่ รง้ั นดี้ วงตาคเู่ ดมิ กลับเปลีย่ นไป ดวงดาวแหง่ ฝันถูกค้นพบอีกครั้ง ใบหนา้ ของโสะ้ ลอยมาแตไ่ กล… ตวั ประหลาด ตลาดหน้าสถานีรถไฟจะนะพลุกพล่านด้วยพ่อค้าแม่ค้า เสียง โหวกเหวกระหว่างการต่อรองสินค้าหรือไม่ก็เสียงเด็กขนผัก ตอนฉันมา อยู่ใหม่ๆ แทบทุกวันจะออกจากหมู่บ้านน้�าเค็มมาซื้อหมูย่างสามไม้ ข้าวเหนียวห้าบาทกับชาเย็นหนึ่งถุง โส้ะท�าให้ฉันมาอยู่ท่ีน่ี เฝ้ามองชีวิต เขา แต่นั่นไม่ใช่เรื่องง่ายดาย เมื่อท�าแล้วจะไม่มีพิรุธ โส้ะเป็นมุสลิมสติ ไม่ค่อยสมประกอบ แต่อาศัยนอนอยู่บนศาลาวัด ผ้าห่มผืนเก่าคลาย เหนบ็ หนาวยามค่�าคืน ทุกครง้ั ชว่ งสายๆ เขามักขจี่ ักรยานคันเก่าเวียนรอบ ตลาด ไม่ว่าใครใช้ท�าอะไร ค�าปฏิเสธไม่เคยมี โส้ะเป็นชื่อใหม่ท่ีชาวบ้าน ตั้ง ชื่อจริงๆ ถูกลบเลือนนานแล้ว เขาพูดเสียงดัง ฟังไม่ค่อยเข้าใจ แต่รู้ รางๆ ว่าเป็นภาษามลายูเพราะเขาเป็นคนมุสลิม บทสนทนาแบบเฉพาะ ถ้าตั้งใจก็พอเดาออก ฉันแอบท่ึงพ่อผักกาดที่สามารถคุยกับเขาได้อย่าง 263
สนุก ถึงแม้ฉันฟังไม่ออกสักค�า ส่งภาษามือและออกเสียงอู้อี้ แต่ทั้งสอง กลับเข้าใจกัน เมื่อฉันมาอยู่ที่น่ีพ่อของผักกาดเรียกแทนตัวเองว่า พ่อ เพราะรู้สึกผูกพันและเอ็นดูต่อฉัน ฉันสงสัยเลยถามพ่อว่า “พ่อคุยกับเขา เขา้ ใจเหรอครับ” พอ่ แคพ่ ยักหน้าเบาๆ แลว้ อมย้มิ เรือ่ งเลา่ ของโสะ้ ฉนั เคยฟังจากผกั กาดก่อนจบป.ตรีดว้ ยซ�า้ แต่ ไม่คิดอะไร แค่ฟังสนุก ฉันมาอยู่จะนะอีกครั้ง หลังจากโดนไล่ออกจาก โรงเรียน เพราะตอนเรียนป.ตรีมาอยู่ไม่นานไม่ทันรู้จักใครๆ อย่างจริงจัง แต่คร้ังน้ีต่างออกไปเหมือนมาเก็บตัวหลีกหนีโลกวุ่นวาย แบกกระเป๋า ใบใหญ่พร้อมหนังสือหลากหลาย อาศัยบ้านผักกาดเหมือนเดิม พ่อกางมุ้ง แบ่งท่นี อนหน้าทวี ใี ห้ฉนั ได้มีมุมส่วนตวั เวลาขีดเขยี นบันทึก บา้ นท่ามกลาง เสียงป่าระงม สีเขียวแต้มอยู่รอบข้าง กล่ินอายของชาวสวนยาง ฉันจ�าได้ ตอนดกึ ดื่นยังไม่นอนพร้อมเปดิ โคมไฟอา่ นหนังสือ มกั เหน็ พอ่ ลกุ ขึน้ เตรียม ชุดประจ�าการเส้ือแขนยาวกับกางเกงขายาวมอซอ พร้อมคาดตะเกียง แบตเตอรี่ เตรียมออกลุยท่ามกลางความเปล่ียวเปล่า เสียงทักทายดังข้ึน “ยังไม่นอนอกี เหรอลกู ” ตามด้วยบทสนทนาสน้ั ๆ แทรกด้วยเสียงหวั เราะ อารมณ์ดีของพ่อ พอฉันต่ืนนอนท้ังช่วยถากหญ้า พรวนดิน เตรียมปลูก ผักบุ้ง ผักคะน้า กระเจี๊ยบ หรือแม้แต่เก็บน�้ายางท่ามกลางความสงบ จนได้ยินเสียงแมลงร้องเป็นระยะ ฉันบอกใครๆ แถวน้ันว่าเป็นฟรีแลนซ์ เวลาฉนั มาเดินตลาดช่วงสายๆ ทุกคร้งั มักได้ยนิ เพลงจากนักรอ้ งเสยี งเพี้ยน จากโส้ะดังรอบบริเวณ พร้อมเห็นเขาช่วยเก็บขยะที่สถานีรถไฟ จักรยาน คนั เกา่ กับรปู รา่ งทว้ มๆ ผวิ คล�า้ เสอ้ื ยืดขาดๆ ยีนส์ขาสน้ั รองเท้าเเตะสจี าง ฉันหยุดมองทุกคร้ัง ตอนเขาข่ีผ่าน เห็นแม่ค้ามุสลิมเรียกให้เขาไปหยิบ ข้าวมันไก่มากนิ หรอื ไมป่ า้ นชุ ร้านขายน�้าชาเยน็ เรียกใหม้ ากนิ ฟรี ฉันไม่รู้ด้วยซ้�าว่านักมานุษยวิทยาเป็นอย่างไรจนเพิ่งพบ ความหมายเม่ือไม่นานจากหนังสือ โลกของคนไร้บ้าน ตอนนั้นเพียงรู้สึก วา่ มอี ารมณ์ตดิ คา้ งในใจ ‘ทา� ไม’ กลายเป็นคา� ถามเร่มิ ตน้ จนตอ้ งพาตวั เอง 264
มาหาคา� ตอบ ผักกาดมักหัวเราะเสมอเมื่อนึกถึงตอนเด็กๆ ท่ีเธอเคยว่ิงหนี โส้ะเพราะเขาข่ีจักรยานว่ิงไล่จับ เช่นเดียวกับฉันที่ยังจดจ�าได้ดีตอนพบปะ กับโส้ะคร้ังแรก สีหน้าเริ่มหวาดหวั่นจนมืออยู่ไม่นิ่งต้องหาอะไรหยิบจับ ก้มหน้ามองพ้ืนบ่อยครั้ง ฉันเห็นเขาจอดรถจักรยานบนลานทราย แล้ว รีบว่ิงไปนั่งท่ีชานชาลา บรรยากาศเงียบๆ ผู้คนในสถานีรถไฟไม่มากนัก เห็นอาคารซีเมนต์เก่าๆ หลังหน่ึงไว้ส�าหรับขายตั๋วและเป็นห้องพัก พนักงาน เขาเดินก้มหยิบถุงพลาสติกบนพ้ืน หรือไม่ก็ช่วยขนดินกอง พะเนินใส่บุ้งกี๋มาไว้ด้านหลังอาคารแล้วน�ามากลบหลุมท่ีเห็นประปราย บนถนนลูกรัง ความเงียบถูกท�าลายด้วยเสียงหวูดรถไฟ เขามองต้ังแต่ หัวรถไฟแล่นมาจอดจนกระทั่งมันออกจากสถานี ฉันเองก็ชอบหนอนยักษ์ โบราณท่คี ่อยๆ เคลอื่ นตามรางเช่ืองชา้ ชานชาลาไมเ้ ก่าๆ บรเิ วณโดยรอบ เปิดกว้าง ชาวบ้านเดินเข้ามาใช้บริการอย่างสะดวก เสียงหวูดดังข้ึน ฉัน ชอบมองผู้โดยสารนั่งริมหน้าต่าง พวกเขาคงมาจากชายเเดนใต้ อาจไม่มี ใครโบกมือทกั ทายเเต่อยา่ งนอ้ ยก็หนั มาพรอ้ มรอยยิม้ นักเดินทาง ทนี่ ่ไี ม่มีใครไมร่ จู้ กั โส้ะ อกุ กาบาต ผักกาดเล่าว่า เสียงระเบิดพังทลายชานชาลา ม้านั่งกระจัด กระจาย ร่างพ่อกระเด็น เหตุการณ์ไม่ได้รุนแรงทุกวัน นานๆ ถึงจะ เกิดขึ้นสักคร้ัง ฉันไปอยู่เกือบสามปีตอนภาวะหลุดวงโคจร ยังไม่เคยมี เหตุการณ์ จนกระท่งั อุกกาบาตพ่งุ ชนดาวดวงนจ้ี นได้ ใช่ ฉันลืมบอก พ่อเป็นอาสาสมัครชุมชน ต้องขี่มอเตอร์ไซค์ คันเก่าตรวจตรารักษาความปลอดภัย ประจ�าการอยู่ในป้อมท่ีมีกระสอบ กั้นพร้อมบังเกอร์อยู่ด้านหน้า ซ่ึงอยู่ห่างจากสถานีรถไฟไม่ถึงสองกิโล ก่อนทางเข้าหมู่บ้านสวนมะพร้าว ความตายมาพรากพ่อในเส้ียวนาทีขณะ 265
เข้าตรวจตราในสถานีรถไฟ ภาพจ�าสีจางๆ ของฉันผดุ ข้นึ ชว่ งทีพ่ ักอยู่บ้าน ผักกาดพ่อมักชวนฉันติดรถไปด้วย ไปหาโต๊ะอิหม่าม ท่านต้อนรับด้วย น�้าเสียงเป็นมิตร นั่งถามไถ่สารทุกสุกดิบตามประสา ระหว่างทางเมื่อข่ีรถ ผ่านตรงไหนที่เคยเกิดเหตุการณ์รุนแรง พ่อจะชี้นิ้วให้ฉันดูราวมัคคุเทศก์ น�าทาง “หัวสะพานน้ีแหละ เคยโดนระเบิดตอนผักกาดตัวเล็กๆ” หรือ “ป้อมนี้พ่อเคยโดนยิงถล่มเม่ือประมาณห้าปีท่ีแล้ว” และตามด้วยเสียง หวั เราะเช่นเคย ผักกาดแทบไม่เช่ือสายตาตัวเอง หรือมันเป็นชะตาที่พ่อ หลีกเลี่ยงไม่ได้ เธอยืนมองรูปถ่ายหน้าศพที่ประดับด้วยดอกไม้และ พวงหรีดจากเจ้าหน้าที่ต�ารวจทหาร เธอโทรหาฉันหลังเกิดเร่ืองหนึ่งวัน ฉันเข้าใจภาวะแบบนี้ บางคร้ังสติหลุดช่ัวขณะ ตอบสนองช้าลง ทรงจ�า บางอย่างยังฝงั หวั ระหว่างหว้ งเวลาแหง่ ความสุขกับเสียงหัวเราะเหลา่ นั้น แหลกสลายทุกอณูความรู้สึก ร้องไห้แทบสติหลุดต่อความ สญู เสยี …ฉนั กเ็ คยผ่านมา งานศพจัดในศาลาเยื้องกับเมรุ ชาวบ้านทยอยมา ทั้งชาวบ้าน สวนมะพร้าว บ้านน�้าเค็ม กะ๊ หลายคนยนื นง่ิ บงั บางคนเข้าไปพูดคยุ กับแม่ ของผักกาด ฉันตักน�้าแข็งพร้อมเสิร์ฟน้�าเปล่า น�้าหวาน พอดีเห็นโส้ะเดิน เก็บจานข้าวถ้วยแกงบนโต๊ะท่ีเหลือเศษลงกะละมังอย่างว่องไว เสร็จ จากน้ันไปหยิบกระสอบมาเก็บขวดน้า� ตอ่ รอยย้ิมส่งมาแทนค�าทักทาย ชาวบ้านช่วยจัดเตรียมงานที่เหลือ เวลาวัดมีงานโส้ะมักเข้าไป ของานท�าเป็นประจ�า ฉันเห็นเขาถือถุงพลาสติกด�าเดินเก็บขยะ เขาต้ังใจ ท�างานไม่เคยรู้สึกเกียจคร้านสักคร้ัง เวลาหิวก็ตักข้าวแล้วเดินไปด้านหลัง ครวั นง่ั กินคนเดียว พออิม่ ก็เอาจานไปเก็บจึงมาลยุ งานตอ่ คืนหนง่ึ ฉนั แอบ มองอยู่ข้างลังน�้าแข็งกับหลานชายของผักกาด รอเอาน้�าแข็งไปเสิร์ฟท่ีโต๊ะ แขก เขาก็เก็บขยะเร่ือยๆ หรือไม่ก็ยกจานอาหารที่แขกกินเสร็จไปให้ แม่ครัวล้าง หลานคนน้ันพูดโพล่งขึ้นมาว่า “กลัวคนบ้าคนน้ัน” พี่ชาย 266
คนหนึ่งยนื รอเสิรฟ์ นา้� แข็งเหมอื นกัน เขาวา่ “นอ้ งไมต่ ้องกลัวโส้ะ ดแู ต่งตวั แบบน้ันก็เถอะแต่ท�างานเก่งนะ” เขาเดินมาเก็บจานพอดีแล้วชี้มือไปที่ ผ้าเช็ดเท้าวางอยู่หน้าลังน้�าแข็ง เขาท�าท่าทางประกอบเหมือนหกล้ม แล้วพูดอะไรก็ไม่รู้ฉันฟังไม่เข้าใจ พี่ที่ยืนข้างๆ บอกต่อ “เอ่อ โส้ะบอกว่า เด็กเดินดๆี ระวงั ลม้ เพราะผ้ามนั ลื่น” ฉนั พยกั หน้าเข้าใจแล้วอมยมิ้ คืนท่ีฝนตกหนัก ฉันเห็นเขาเอาถุงด�าใบใหญ่มาท�าเป็นเส้ือ กันฝนแล้วก็ตั้งใจท�างานเหมือนเดิม ถุงด�าใบนั้นเป็นเส้ือกันฝนที่น่ารักมาก ในสายตาของฉัน ทีน่ ่ี (ไม่) มตี ัวประหลาด ฉันอาจเป็นดาวพลูโตของระบบโรงเรียน แต่ท่ีน่ี ฉันกลายเป็น คนมีความสุขท่ีสุดกับการเฝ้ามองจังหวะชีวิตเคล่ือนไหวของชาวบ้าน ฉันยังจดจ�าปุนจาและลูกๆ ได้ดีทีเดียว ย่อหน้าสองในวรรณกรรมเร่ือง ผเี สื้อและดอกไม้ของนพิ พาน สะเทือนใจกบั ชะตากรรมของปุนจาที่จา� เปน็ ต้องสร้างกระต๊อบบนพ้ืนที่ของวัด แต่ส�าหรับฉันนี่ไม่ใช่เหรอ เป็นความ งดงามแห่งชีวิต แรกทีเดียวใครๆ ก็พูดถึงความไม่ถูกต้องไม่ดีงามในข้อน้ี ข้อที่พ่อของเขาไปสร้างบ้านหลังเล็กๆ อยู่ในที่ดินของวัด แต่ถ้าคน เหล่านั้นหยิบเหตุผลแห่งความจริงมาวางไว้ตรงหน้าและพิจารณาอย่าง ละเอียดถ่ีถ้วน เหมือนกับท่ีพวกเขาเลือกซ้ือปลาในตลาดหลังสถานีรถไฟ ก็คงรู้ว่าแต่ละตัวถึงจะมาจากทะเลเหมือนกัน ติดร่างแหอวนมาพร้อมๆ กัน แต่ชีวิตมันไม่เหมือนกันเลย เช่นเดียวกับโส้ะ ชายมุสลิมผู้อาศัย ศาลาวดั เป็นบา้ น ความรู้สกึ คงไม่ต่างกนั ทางเจ้าภาพก�าลังเคลื่อนย้ายศพมาประกอบพิธีกรรมสุดท้าย บนเมรุก่อนท่ีจะเผา ฉันเหลือบไปเห็นโส้ะก�าลังช่วยเก็บเก้าอ้ีซ้อนกัน เป็นแถวอย่างขมีขมัน ขณะทุกคนทยอยลุกตามขบวนออกมา พร้อม รอยย้ิมน้อยๆ แย้มออกมา ท่ามกลางเสียงชุลมุนวุ่นวาย ฉันจึงค่อย 267
แทรกตัวเข้าไปหาผักกาดด้านหน้าขบวน ถือเป็นโอกาสสุดท้ายที่ฉันจะได้ ส่งลาพ่อ เม่ือหันมองโลงศพกับรูปถ่ายของพ่ออีกคร้ัง จู่ๆ น�้าตาที่อัดอ้ัน มานานกค็ ่อยๆ ไหล ขณะควันด�าพวยพุ่งจากปล่องเมรุขึ้นสู่ฟ้า โส้ะคว้าจักรยาน คันเก่าแล้วข่ีช้าๆ ออกทางประตูวัดท่ีฉันเข้ามา โส้ะขี่ผ่านสายตาชาวบ้าน ทีก่ า� ลังเหมอ่ ลอย เขาคงไปท่ีไหนสกั แห่งบนดาวเคราะหส์ นี �้าเงินดวงน้ี 268
ตุ๊กตำ จรรยา สุวรรณ์ (1) ผมเผลอต่ืนจากฝนั ช่วงดกึ ของคนื หนึง่ ในฝันผมเห็นลกู สาวเดิน อุ้มตุ๊กตาไปบนถนนพร้อมกับหญิงมุสลิมสองคน คนหนึ่งอยู่ในวัยกลางคน อีกคนในวัยสูงอายุ ส่วนชายมีเคราเต็มใบหน้าก�าลังจูงมือข้างหนึ่งของลูก ท่าทางการเดินของพวกเขาเป็นท่าเดินแบบปกติไม่เร่งรีบ ไม่นับว่าเป็น การวิง่ หนี ผมตะโกนเรียกลกู แต่เหมือนไมม่ ใี ครไดย้ นิ ผมพยายามว่งิ ตาม แต่เหมือนยิ่งวิ่ง ขาของผมย่งิ ขยับได้ช้าลงเร่อื ยๆ ผมต่ืนมานั่งมองความมืดสลัวในอาการมึนงง มองไปรอบตัว บนเตียง - ลูกสาวยังคงนอนหลับ ข้างตัวมีตุ๊กตาหมีนอนอยู่ข้างๆ ส่วน ภรรยานอนตะแคงโอบกอดลูกสาวไว้ ผมรู้สึกดีข้ึนเล็กน้อย แต่พอนึก ถึงฝันท่ีผ่านไปเม่ือครู่ ท�าให้คิดกังวลถึงคนข้างบ้านท่ีเพ่ิงย้ายมาอยู่ คล้าย ว่าความกลวั บางอย่างยังคงเกาะกินผมอยู่ มนั ยากทจี่ ะสลัดออกไปได้ (2) เคยมีคนบอกว่าสะบ้าย้อยเป็นเมืองปิด หรือเป็นแค่เมือง ทางผ่าน ผมไม่ได้รู้สึกอะไรกับค�าพูดพวกน้ีอีกแล้ว หลายสิ่งด�ารงอยู่และ เป็นไปแบบที่มนั เปน็ เหตกุ ารณ์เลวรา้ ยผ่านไป และมันอาจกลับมาอกี ไม่รู้ 269
เม่ือไหร่ ชีวิตของผู้คนท่ีน่ีเหมือนข้องเก่ียวอยู่กับค�าว่าชะตากรรมตลอด เวลา ผมเกิดและโตท่ีนี่ อ�าเภอสะบ้าย้อย เมืองที่ส้มแขกเติบโตและ ออกผลได้ดีกว่าท่ีอื่นๆ ส�าหรับผมแล้วที่น่ียังคงเป็นบ้าน เพราะมันมี เร่ืองราวของบรรพบุรุษซุกซ่อนอยู่ และคล้ายว่าเรื่องเล่าเหล่านั้นเป็น ต�านานท่ีฝังตัวมันเองอยู่ในแทบทุกตารางนิ้วของผืนแผ่นดิน หลายปีก่อน ฝ่ายความมั่นคงจัดให้สะบ้าย้อยเป็นพื้นที่สีแดง เนื่องจากมีเหตุการณ์ ความไม่สงบอยู่บ่อยครั้ง ครั้งรุนแรงที่สุดคือ 28 เมษายน พ.ศ. 2547 เกิดเหตุคนร้ายบุกท�าร้ายเจ้าหน้าท่ีต�ารวจท่ีหน่วยบริการประชาชน บริเวณห้าแยกทางเข้าตลาดสะบ้าย้อย ส่งผลให้เจ้าหน้าท่ีต�ารวจสังหาร คนร้ายทั้งหมด 19 ราย เหตุการณ์ครั้งนั้นท�าให้การด�ารงชีวิตปกติของ คนที่น่ีเปลี่ยนไป แต่ยังไม่ส่งผลต่อสภาพจิตใจของครอบครัวเรามากเท่า ตอนที่น้องชายผมซ่ึงรับราชการต�ารวจประจ�าการอยู่ท่ีนี่ เขาถูกยิงขณะ กลับจากตรวจลาดตระเวนความเรียบร้อยในตัวตลาด จนถึงวันน้ีก็ยัง ไมส่ ามารถหาคนร้ายมาลงโทษตามกฎหมายได้ แม่ในวัยเจ็ดสิบเร่ิมป่วยหนักหลังจากนั้น ทุกคนในครอบครัว ต่างเสียขวัญและหวาดกลัว เราเร่ิมรู้สึกถึงความน่ากลัวของเหตุการณ์ ความรุนแรงเม่ือต้องมาประสบกับตัวเอง มุมมองต่อส่ิงต่างๆ รวมถึงผู้คน ท่ีเดินสวนไปมากับเราทกุ เมื่อเชือ่ วนั กเ็ รมิ่ เปลี่ยนไป ท�าไมคนมุสลิมถึงชอบสร้างความรุนแรง ท�าไมเขาถึงต้อง ท�าร้ายคนต่างศาสนา น่ีคือค�าถามที่เกิดข้ึนในความรู้สึกของเรา แม้เรา จะมีเพื่อนบางคนเป็นมุสลิม แต่ข้อสงสัยเหล่านี้กลับไม่เคยคล่ีคลายไปสู่ ความเข้าใจของเรา เราจึงมองคนมุสลิมแปลกหน้าเป็นเหมือนตัวแทนของ ความหวาดระแวง เราอยู่ร่วมได้แต่กับคนท่ีเคยรู้จัก แต่พอมีใครสักคน ทีไ่ มเ่ คยพบเจอหนา้ ตามาก่อน เราจึงไมอ่ ยากปฏสิ มั พันธด์ ว้ ย เร่ืองทั้งหมดเร่ิมต้นข้ึนในท�านองน้ี และมันด�าเนินไปอย่าง 270
ไม่รู้จบสิ้น เส้นแบ่งของการรู้จักถูกค่ันด้วยการท�าเป็นมองไม่เห็น เหมือน เราตาบอดไปข้างหนง่ึ เพียงเพราะเรากลัว! (3) อาคารพาณิชย์ที่เป็นบ้านของผมมีอยู่ห้าหลัง นับจากหัวมุม ถนนบ้านของผมเป็นหลังที่สอง หลังแรกเป็นร้านของช�า ถัดไปก็เป็นร้าน เสริมสวย ร้านขายปุ๋ย และส�านักงานบริษัทประกัน เรียกว่าเป็นย่าน การคา้ ทม่ี ีคนพลุกพลา่ นพอสมควรเลยทเี ดียว แต่แลว้ ไมก่ ว่ี ันก่อน จๆู่ บ้านหลังหวั มุมถนนที่อย่ตู ดิ กบั บา้ นผม ก็ย้ายออก สองสามีภรรยาอดีตข้าราชการในวัยหกสิบกว่าซึ่งเป็นเจ้าของ บ้านที่สนิทกันดีเล่ากับผมว่า แต่เดิมลูกๆ สนับสนุนให้เปิดร้านของช�า มี งานท�าจะได้ไม่เบื่อกับชีวิตในวัยหลังเกษียณ แต่พอญาติๆ ท่ีมีอยู่ท่ีน่ีเริ่ม ล้มหายตายจากไปทีละคนสองคน และลูกๆ ต่างก็ไปท�างานตั้งรกรากอยู่ ต่างจังหวัดกันหมด ท้ังเร่ืองของสถานการณ์ความไม่สงบที่ยังไม่อาจ ไวว้ างใจได้ ลูกๆ ก็เลยตดั สินใจให้ยา้ ยไปอยู่กับพวกเขาทีต่ า่ งจงั หวัด บ้าน หลงั น้ีถา้ ขายไมไ่ ดก้ ็จะให้เขาเชา่ ต่อไปสกั ระยะ ว่าไปแล้วการย้ายบ้านไปอยู่ท่ีอื่นของคนที่น่ีไม่ใช่เกิดข้ึนเป็น รายแรก เพียงแต่ผมเพิ่งประสบกับคนใกล้ตัวเลยรู้สึกเหมือนก�าลังถูกทิ้ง เหมือนเป็นการทิ้งเราไว้ในบ้านตัวเอง ที่ๆ เราคุ้นเคยดี แต่เรากลับต้อง หันมองไปรอบๆ อย่างไม่ไวว้ างใจ (4) ช่วงอากาศร้อนในบ่ายวันหน่ึง ผมนั่งอยู่ในบ้าน ได้ยินเสียงรถ มาจอด และเสยี งประตูเหลก็ เลื่อนออก และมีเสียงคนคุยกัน “ชว่ ยหนอ่ ยๆ เร็ว ๆ” เสยี งของผู้ชายเหมอื นก�าลงั รีบๆ ผมเดินออกไปดู พบว่ามีรถหกล้อมาจอดตรงหน้าบ้านหัวมุม 271
ถนน มีคนย้ายเข้ามาและพวกเขาก�าลังขนของกันยกใหญ่ เด็กหนุ่มกับ ชายวัยกลางคนหนวดเคราเต็มใบหน้า นุ่งโสร่งสวมกะปิเยาะห์สีขาวก�าลัง ย้ายจักรเย็บผ้าลงจากรถอย่างทุลักทุเล และมีหญิงมุสลิมสองคนก�าลัง ยกลังกระดาษใบใหญ่เข้าไปในบ้าน คนหนึ่งน่าจะวัยสามสิบปลายๆ ส่วน อีกคนเดาว่าคงเป็นแม่อายุน่าจะเจ็ดสิบปลายๆ ฝ่ายผู้ชายหันมาทางผม พยักหน้าเบาๆ ส่งย้ิมอย่างเป็นมิตร ผมพยักหน้ายิ้มรับอย่างเล่ียงไม่ได้ หันมองไปบนรถยังมีข้าวของอีกหลายชนิดเต็มคันรถ แล้วก็หันหลังเดิน กลับเขา้ บา้ น ผมรู้สึกแปลกใจ ที่จู่ๆ ก็มีคนมุสลิมย้ายมาอยู่บ้านหลังน้ัน ท�าไมพวกเขาไม่ไปอยู่ย่านมุสลิมที่อยู่ถัดออกไปในตัวตลาด ความรู้สึก ไม่คุ้นเคย อึดอัด และไม่ไว้วางใจเร่ิมเข้าครองความรู้สึกผมจนเต็มพื้นท่ี พวกเขามาจากไหน ท�าไมถึงไม่คุ้นหน้าคุ้นตาเอาเสียเลย นานนับช่ัวโมงท่ี ภาพของชายไว้เคราคนน้ันติดตรึงในความรู้สึกผม และนึกย้อนไปถึงวันที่ สูญเสียน้องชาย มันยากที่จะห้ามไม่ให้รู้สึกว่าคนร้ายท่ียิงน้องชายผม ไม่ใช่คนมุสลิม เพราะทกุ ครั้งท่ีมเี หตุการณแ์ ล้วจับคนรา้ ยได้ผูต้ อ้ งหากล็ ว้ น เป็นคนมุสลิม อีกทั้งภาพจากโปสเตอร์ผู้ที่ถูกหมายจับในเหตุการณ์ไม่สงบ ที่ด่านทหารตรงถนนใหญ่ก็เป็นคนมุสลิม ทุกอย่างเหมือนมันชี้น�าความ รู้สึกและถูกตัดสินให้เป็นไปทิศทางนั้น โดยท่ีเราไม่เคยพูดถึงหลักฐานหรือ ข้อเท็จจริงเชิงประจักษ์ ทั้งที่คนมุสลิมส่วนใหญ่ก็เป็นคนดี แต่ความรู้สึก ระหว่างคนดีกับคนไม่ดีมันต่อสู้กันในส�านึกท่ีบกพร่องของผม และผมแพ้ ให้กับตัวเองทุกคร้ังเม่ือนึกย้อนไปถึงการสูญเสียน้องชาย ไม่แปลกอะไร เลยที่ผมจะรู้สึกไม่สะดวกใจที่จะคุยกับมุสลิมแปลกหน้า ซ�้าร้ายตอนน้ี พวกเขายังย้ายมาอยู่บ้านตดิ กับผม ราวกบั มีใครกล่ันแกลง้ ให้ตอ้ งเจออะไร แบบนี้ก็ไม่ผิด “มคี นยา้ ยมาอยแู่ ลว้ เหรอคะ”ภรรยาถามผมทนั ทเี มอ่ื กลบั มาถงึ บ้าน เธอคงยังไม่เห็นตอนเดินเข้าบ้าน คงเพราะพวกเขาวุ่นๆ อยู่กับการ 272
จัดของในบ้าน แต่ผมยังไม่ทันได้ตอบลูกสาวก็พูดขึ้นอีกคน “ใครมาอยู่ เหรอคะพ่อ” “นอ้ งอยา่ รูเ้ ลยนะครับ” ผมบอกลกู “ลูกอยู่ปอห้าแล้วนะคุณ เขาต้องรู้จักคุยกับคนอ่ืนแล้วนะ จะให้อยู่ไม่คบใครเหมือนคุณได้ไง” ภรรยาเดินมาประชิดตัวผมแล้วพูด หน้าตาเชงิ ตา� หนิ “ก็ไดๆ้ ” ผมพยกั หนา้ มองสองแม่ลกู “พ่อก็ไม่รู้หรอก เท่าทเ่ี หน็ พวกเขามากันสามคน เปน็ คนมสุ ลิม” ภรรยาผมนิ่งไปครู่หนึ่ง ก่อนพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย “ก็ดีน่ีคะ แถวน้มี แี ตค่ นจีน มมี สุ ลมิ บ้างกด็ ี” “คุณแน่ใจเหรอ” “แล้วเราควรท�าไง...ฉันรู้ว่าคุณคิดอะไร กลัวอะไร แต่มัน ไม่เก่ียวกับพวกเขา คุณไปตัดสินคนอ่ืนด้วยการมองพวกเขาในแง่ร้าย ดูๆ กนั ไปก่อนดีกวา่ มัย้ คะวา่ เขามาท�าอะไร ทา� ไมถึงยา้ ยมาอยทู่ ีน่ ่ี แลว้ เรา ค่อยมาคุยกัน ไม่ต้องเครียดไปก่อน” ภรรยาผมพูดถอนใจ มองหน้าผม จริงจงั กอ่ นเอามอื ไปลูบหัวลูกสาวเบาๆ “มันก็ควรเป็นอย่างง้ัน” ผมพยักหน้าย้ิมจืดๆ ในใจยังกังวล หวาดระแวงไปตา่ งๆ นานา ร่งุ ข้ึนอีกวนั ผมไดแ้ ตแ่ อบทา� เมียงๆ มองๆ อยหู่ า่ งๆ ถ้าพวกเขา ออกมาหน้าบ้าน ผมก็จะหลบเข้าไปในบ้าน พอพวกเขาเดินเข้าบ้านผม ถึงจะท�าทีออกมาเดินดูต้นไม้ในกระถางบ้าง สามวันหลังจากนั้น บ้าน คนมุสลิมก็เอาโต๊ะยาวมาวางหน้าบ้าน ถัดจากนั้นเพียงสองวัน พวกเขา สองคนผวั เมยี กเ็ ปดิ ร้านขายข้าวยา� มปี า้ ยแขวนหน้าโต๊ะไว้วา่ ข้าวยา� ใบยอ ปัตตานี ถัดจากน้ันอีกวันก็เอาโต๊ะอีกตัวมาวาง พร้อมเตาแก๊สและกระทะ ใบใหญ่ พรอ้ มป้ายแขวนหน้าโต๊ะ ปาทอ่ งโกบ๋ งั อี สรุปแล้วพวกเขาย้ายมาอยู่บ้านหลังน้ันด้วยจุดประสงค์ของ 273
การท�ามาหากิน ไม่มีความผิดปกติใดๆ แต่ผมก็ยังกังวลใจอยู่ดี พวกเขา มาจากไหน ท�าไมต้องมาอยู่ท่ีนี่ นี่คือค�าถามที่ผุดข้ึนในใจผมอย่างไม่เลือน หายไปโดยง่าย และผมควรวางตัวอย่างไร ทักทายพวกเขาในฐานะคน บ้านใกล้เรือนเคียง หรือท�าเมินเฉยต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะแน่ใจในอะไร บางอยา่ งเสียก่อน (5) ถนนท่ีตัดผ่านหน้าบ้านผม ฝั่งทางขวาสุดทางท่ีเส้นหลักมุ่งตรง ไปยังยะลาและเทพา ฝั่งซ้ายตรงไปยังตัวตลาด และทุกวันอังคารจะมี ตลาดนดั ใหญ่ประจ�าสัปดาห์ ผมชอบออกไปเดินตลาดอยู่บ่อย แต่นานๆ ครั้งถึงจะมีโอกาส ได้ไปพร้อมกับลูกและภรรยา “ไปกันไหมคุณ นานๆ คุณกับลูกจะได้หยุดพร้อมกัน” สบ โอกาสผมก็ชวนภรรยาไปเดินเล่นท่ีตลาด เราคุ้นเคยกับพ่อค้าแม่ค้าทุกคน เฉพาะพวกขายผ้ามือสอง ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นคนมุสลิมพวกหน้าเดิมๆ ที่มาจากท่ีอื่นไม่รู้จักชื่อ แต่เจอหน้าก็ยิ้มให้กัน ไม่ถึงกับต้องไปสนทนา หาความอะไรด้วย “พ่อคะ ดูสคิ ะ ตุ๊กตาเต็มเลย” ลูกสาวช้ไี ม้ชี้มอื ไปยงั กองตุ๊กตา ท่ีวางอยู่ข้างถนน มันเป็นพวกตุ๊กตาที่สภาพดูเก่าๆ มีหลากหลายชนิดให้ เลือกซอื้ รือ้ ค้นได้ตามใจ “น้องอยากไดห้ รอื คะ” ภรรยาผมถามลูก “ค่ะ น้องอยากได้ตุ๊กตาหมีค่ะ ตุ๊กตาโลมาท่ีมีอยู่มันเก่าแล้ว” ลูกสาวบอก “งน้ั ไปดูกอ่ น” ผมบอก พลางจูงมอื ลกู เดินไปท่ีกองต๊กุ ตา “น่ันไงคะ ตุ๊กตาหมี น้องเอาตัวนั้น” ลูกสาวบอกพลางก้ม ลงไปหยิบขึน้ มากอด 274
คนขายหน้าคุ้นเคยยิ้มกว้างแล้วบอก “ตัวนั้นสวยเลยครับ ถ้าเอาผมลดใหเ้ ลยครบั ” ภรรยาผมฉวยตุ๊กตาจากมือลูกมาส�ารวจ “น้องจะเอาตัวนี้ หรือคะ ดสู ิ ตามนั มีขา้ งเดยี วน่าสงสารจัง” “อย่าเอาเลยลูก พอ่ ว่าลองหาตวั อนื่ ดูม้ัย” ผมบอกลกู “ไม่ค่ะ น้องจะเอา เราค่อยหาตามันมาใส่เข้าไปได้ม้ัย มัน น่าสงสาร” ลกู สาวยังไม่ยอม “ใช่ครับ น่าสงสาร ผมพามันไปหลายท่ีไม่มีเด็กคนไหนสงสาร มันเลย เอางี้นะครับ ผมให้ยี่สิบบาทพอ” คนขายเป็นเด็กหนุ่มมุสลิม ทา่ ทางใจดพี ดู ส่งยิม้ เหมอื นเคย “งัน้ กเ็ อาเหอะ เริ่มรอ้ นแล้ว เดี๋ยวแมต่ อ้ งไปซอื้ กบั ข้าวอกี ” ผม พดู เชงิ ขอร้อง ภรรยาย้มิ พยกั หน้า ล้วงเงินจากกระเป๋ายน่ื ใหค้ นขาย “ขอบคณุ คะ่ ” ลกู สาวย้ิมร่าเรงิ ถือตุก๊ ตาไว้ในมอื จนแน่น “แม่ อยา่ ลืมหาตามาใส่ใหม้ ันนะคะ มันจะไดม้ องเหน็ เหมือนตวั อน่ื ๆ” “ได้จะ้ แล้วแม่จะลองหาดนู ะคะ” เราเดินตลาดอีกพักใหญ่ๆ ตลาดท่ีนี่มีสีสันของความเป็นพ้ืนถ่ิน อยู่มาก ยิ่งช่วงนี้เป็นฤดูผลไม้และใกล้ถึงช่วงรายอด้วย ในตลาดจึงคึกคัก เป็นพิเศษ ว่ากันว่าทุเรียนท่ีนี่เนื้อดีและราคาถูกกว่าท่ีอื่นๆ สะตอก็ล้วน มาจากป่าท่ีสมบูรณ์ทั้งเม็ดใหญ่และฝักใหญ่ยาว ไม่ต้องพูดถึงลองกอง เงาะ มังคุดที่มีขายเต็มสองข้างทางตลอดฤดูกาล ส่วนส้มแขกผลไม้ขึ้นชื่อ ของท่ีน่ีนอกจากชนิดตากแห้งท่ีมีอยู่ในทุกครัวเรือนแล้ว ส้มแขกยังผลิต เป็นสนิ คา้ โอท็อปหลากหลายชนดิ อีกด้วย แตค่ วามสมบรู ณข์ องผืนแผ่นดนิ ที่นี่กลับถูกปกคลุมด้วยความกลัวอยู่หลายปี จึงเป็นท้ังดินแดนลึกลับและ สมรภูมิในสายตาคนภายนอก หากแต่ส�าหรับคนท่ีน่ีมันคือบ้าน และคือ พื้นที่แห่งการด�ารงอยู่ แม้ในความหลากหลายเหล่าน้ันจะซ่อนอะไร บางอย่างเอาไวม้ ากมายกต็ าม 275
กลับจากตลาด ผมต้ังใจว่าจะไม่พูดทักทายมุสลิมบ้านติดกัน เหมือนทุกวัน แต่เหตุการณ์มันไม่เป็นแบบนั้น ผมจอดรถเก๋ง ส่วนภรรยา เดนิ ออกไปเปิดประตบู ้าน ผมเปิดกระจกมองหลงั ขณะถอยรถ “ไปไหนกันมาคะ” เสียงหญิงมุสลิมขายข้าวย�าทักทายภรรยา ผมดว้ ยเสยี งราบเรียบ “อ้อ ไปตลาดมาค่ะ” ภรรยาผมย้ิมตอบ ขณะจูงมือลูกก�าลัง จะเดนิ เขา้ บา้ น “โอ้ ตุ๊กตาสวยมากเลย แล้วตาข้างหน่ึงของมันหายไปไหนจ๊ะ หลาน” คราวนี้หญงิ มสุ ลิมวยั ชราเดนิ ย้ิมทกั ทาย “ไหนใหค้ ุณยายอุ้มหน่อย สิคะ” ภรรยาผมหยุดยืนอยตู่ รงน้นั ขณะผมถอยรถเขา้ จอด ลงจากรถ แล้วรีบเดินออกมา ภาพท่ีเห็นคือหญิงชราก�าลังอุ้มตุ๊กตาหมีอยู่ ส่วน หญิงคนที่ขายข้าวย�ายืนอยู่ข้างชายมีเครา พวกเขาทั้งหมดย้ิมให้กับผม ผมยิม้ ตอบตามมารยาท “กลับเข้าบ้านกันไหมครับ อากาศร้อนมาก” ผมบอกลูกกับ ภรรยา แล้วรบี จูงมือท้งั คกู่ ลับเข้าบ้าน “คุณเป็นอะไรของคุณเน่ีย เขาก็คุยกับเราดีๆ นะคะ ไม่เอานะ แบบน้ี ยงั ไงก็อยบู่ า้ นใกล้กัน จะหลบหนา้ ไม่คุยกันคงไมไ่ ด้หรอก” ภรรยา พูดกระซิบกับผมทันทีท่ีเราเดินไปอยู่ในครัว “อย่าท�าให้ลูกเรากลัวไปด้วย นะคะ เดก็ มันไม่ได้รูเ้ รื่องอะไรด้วย” ผมพยักหน้ายอมรับ ส่งยิ้มให้ภรรยาอย่างรู้สึกเข้าใจแล้ว เดนิ ไปหาลกู น่ังลงขา้ งๆ แล้วพูด “นอ้ งจะตง้ั ชอื่ ลูกหมีตัวนีว้ า่ อะไรครับ” “ยังนึกไมอ่ อกเลยคะ่ พอ่ หรอื ว่าชอื่ อาบัง ดีไหมคะ” ผมอ้ึงไป ครหู่ นง่ึ กับความคดิ ของลกู “ชื่อนี้ก็ดีนะ แต่ว่าน้องแน่ใจแล้วเหรอ” ผมถามอย่างคิดอะไร ไมอ่ อก 276
“แน่ใจค่ะ น้องว่าอาบังคนข้างบ้านท่าทางใจดี ก็เลยตั้งชื่อให้ น้องหมีแบบนี้ได้ไหมคะ” ลูกสาวพูดเสียงเบา พลางเอามือลูบหัวลูกหมี ตาเดียวอย่างท่าทางเอ็นดู ผมมองหน้าลูก ใจหนึ่งไม่อยากให้ลูกหมีชื่อ อาบัง แต่อีกใจไม่อยากขัดใจลูก อีกอย่างผมไม่อยากให้ภรรยาบ่นเร่ืองน้ี อีก (6) เหตุการณ์ทุกอย่างด�าเนินไปเป็นปกติ ร้านข้าวย�ามีคนแวะมา ซื้อมากขึ้น ปาท่องโก๋บังอีก็ขายจนเกลี้ยงทุกวัน ส่วนหญิงชราง่วนอยู่กับ งานเย็บผ้าอะไรสักอย่าง เหมือนจะไม่ได้เปิดรับงานแบบช่างเย็บผ้าทั่วไป เพราะดูๆ แลว้ นางแคน่ งั่ อยู่ตรงน้นั กบั ผ้าไมก่ ช่ี นิ้ เท่านน้ั เอง หลายวันต่อมา ขณะผมเปิดประตูบ้าน ถอยรถออกจะไปส่ง ลูกสาวกบั ภรรยา หญงิ ชรากเ็ ดนิ มาหาผมพรอ้ มของในมอื “นี่ค่ะ คุณผู้ชาย ของกินท่ีเราท�าขาย อยากให้คุณลองชิมดู เผ่ือวันไหนอยากกินก็ไม่ต้องเกรงใจนะ” หญิงชราย่ืนของในมือให้ ผมยืน ละล้าละลังเพียงอึดใจกย็ ื่นมือไปรบั ไว้อย่างเสียไม่ได้ “ขอบคุณครับยาย” ผมพูดพลางหันไปมองสองสามีภรรยาท่ี ก�าลังยงุ่ อยกู่ บั งานของตวั เอง จังหวะนน้ั บังผมู้ ีเคราเต็มหน้ากบ็ ังเอญิ หันมา พอดี เขาย้ิมพยักหนา้ ให้ ผมกพ็ ยักหนา้ ตอบแลว้ รบี หลบตา “ฉันไปก่อนนะ พอดีต้องรีบเย็บผ้าชุดใหม่ให้พวกเขาใส่รายอ ที่จะถงึ ” หญิงชราบอกพลางหนั ไปมองสองสามภี รรยา ผมเดินข้ึนรถ รีบปิดประตู ทันทีน้ันภรรยาที่นั่งอยู่ในรถก็ถาม ขน้ึ “อะไรหรือคะในถงุ นะ่ ” “ออ๋ กค็ ณุ ยายเขาให้ปาทอ่ งโก๋แล้วก็ขา้ วย�า” ผมบอก “แล้วคุณขอบคุณเขารึยังคะ” ภรรยาถาม ผมอึกอักจะตอบ แต่กไ็ ด้พยักหนา้ ทา� ทวี ่า ใช่ ผมขอบคุณแล้ว ทัง้ ที่ความจริงคือไม่ 277
“น้องอยากกนิ ปาทอ่ งโก๋คะ่ ไดไ้ หมคะ” ลกู สาวพดู ขึ้นก่อน “เรากินข้าวกันแล้ว ต้องรีบไป วันน้ีให้คุณพ่อกินคนเดียว ไปกอ่ นนะคะ” ภรรยาบอกลูก กลับมาจากส่งลูกกับภรรยา ผมออกไปทา� ธุระเร่อื งเปดิ ร้านขาย อะไหล่กว่าจะกลับมาก็เท่ียง มาถึงก็เห็นบ้านข้างๆ ปิดร้านเงียบไปแล้ว มองไปในบ้านหญิงชราก�าลังน่ังง่วนอยู่ตรงหน้าจักรเย็บผ้า ผมละล้าละลัง จะไปขอบคุณเร่ืองของกิน แต่ก็ตัดสินใจเดินกลับเข้าบ้าน แล้วงีบหลับไป ตืน่ มาชว่ งบ่ายแก่ๆ ผมเดนิ เข้าครัว แตน่ กึ ขึน้ ได้วา่ ไม่มีกับขา้ วเหลอื อยู่เลย หันมองไปบนโต๊ะมีแต่ข้าวย�ากับปาท่องโก๋ มันคงจืดชืดไปแล้ว แต่เพราะ ข้ีเกียจออกไปข้างนอก น่ังลงที่โต๊ะกินข้าว แกะห่อข้าวย�าเทใส่จาน ลอง ชิมปาท่องโก๋ไปชิ้นหน่ึงก่อน เน้ือขนมเหนียวหนึบเพราะมันเลยเวลากิน ไปแล้ว ถ้ากินตอนร้อนๆ คงอร่อย ส่วนข้าวย�าผมกินจนหมดจาน ไม่รู้ เพราะหิวหรอื อะไรกันแน่ แต่ผมรู้สกึ ว่ามนั อรอ่ ยกว่าทุกหนทเี่ คยกนิ กินอ่ิมแล้วน่ังนึกคิดไปต่างๆ นานา ความรู้สึกแปลกหน้า ไม่ไว้ใจต่อคนข้างบ้านเหมือนคลายลง ไม่แน่ใจว่าก่อนนี้ความคิดผมผูกติด อยู่กับอะไร ใช่เพราะน้องชายท่ีตายลงจากเหตุการณ์ความไม่สงบและ คนร้ายที่ผมคิดไปว่าต้องเป็นฝีมือคนมุสลิม ซึ่งอาจจะใช่... แต่ท�าไมผมถึง ต้องรังเกียจและไม่ไว้ใจมุสลิมแปลกหน้า เพียงเพราะไม่รู้จักอย่างเดียว หรือเพราะอะไรกันแน่ ผมคิดสับสน และอย่างไม่มีอะไรท�าจู่ๆ ผมก็นึกถึง ตุ๊กตาหมีของลูก นึกถึงดวงตาท่ีมันหายไปข้างหนึ่ง ดวงตาท่ีหากมันมีชีวิต จริงๆ คงมองเห็นได้ล�าบาก แต่ผมมีชีวิต มีดวงตามองเห็นท้ังสองข้าง ท�าไมก่อนน้ีถึงมองโลกได้ด้านเดียว คิดไปแล้วไม่รู้ว่าผมควรสงสาร ตุก๊ ตาหมีตวั น้ัน หรอื สงสารตวั เองกันแน่ ผมคิดวกวนก่อนเดินไปหยิบตุ๊กตาหมีข้ึนมาอุ้ม ขนมันนุ่ม สภาพมันยังดูสวย แต่มีกล่ินฝุ่นฉุนเข้าจมูก และขนบางจุดดูสกปรก ผม คิดได้ว่าควรเอามันไปซักให้สะอาด ลูกสาวกลับมาเขาจะได้กอดมัน 278
สนิทใจ ครตู่ อ่ มา ตุ๊กตาหมีดูสะอาดขึน้ มา ถา้ ตากแดดจนแห้งมันต้องหอม แน่ๆ ผมจึงเล่ือนราวตากออกไปหน้าบ้าน พาดตากตุ๊กตาหมีไว้บนราว แล้วเดินกลับเข้าบ้าน มองส�ารวจทุกอย่างในบ้านแล้วค่อยๆ จัดการ งานบา้ นตามปกติท่ีเคยท�าทกุ วัน เสร็จงานในบ้าน ผมเดินออกไปเก็บตุ๊กตาหมี คล�าๆ ดูว่ามัน แหง้ หรอื ยัง “คณุ ผชู้ ายคะ ฉันว่านี่คงใชไ้ ดน้ ะ” เสยี งดงั ข้ึนมาจากขา้ งหลัง ผมตกใจหันไปมอง หญิงชราข้างบ้านนั่นเอง “โทษทีค่ะ ไม่นึกว่าคุณจะ ขต้ี กใจ” หญิงชราพดู ยมิ้ กอ่ นย่นื กระดุมเสื้อสีด�าให้ผมดู ผมนกึ งงๆ อยู่ว่า มันคอื อะไร “เอาตกุ๊ ตามาสคิ ะ เดยี๋ วฉันเยบ็ ตาข้างหน่งึ ให้” หญงิ ชราบอก “กระดมุ นหี่ รอื ครบั ” “ใชค่ ะ่ มันก็พอจะแทนได้นะคะ ดกี วา่ ตาบอด” ค�าพูดของนาง ท�าผมกลืนน้�าลายลงคออย่างยากล�าบาก “มานั่งรอในบ้านไหมคะ แป๊บเดยี วเอง” หญิงชราเชิญชวน ไม่รู้เพราะอะไรผมเดินตามอย่างว่าง่าย ความแปลกหน้าสลาย หายไปเม่ือไหร่ ความกลัวของผมหายไปตอนไหน ผมไม่รู้ตัวเลย ทุกอย่าง เกิดข้นึ ราวถูกสะกดด้วยเวทมนตร์ ผมน่ังอยู่ในบ้านของคนท่ีผมเคยรู้สึกแปลกหน้า คนท่ีน่าจะ ช่ือว่าบงั อี ก�าลงั ก้มละหมาดอยตู่ รงมมุ ห้องด้านใน ส่วนภรรยาของเขาเดิน ถอื ขวดน�้าเย็นกับแก้วมาวางบนโตะ๊ ข้างผม “กินนา้� ก่อนคะ่ ” ผมจิบน�้าในแก้ว พลางมองหญิงชราที่ก�าลังสอดเส้นด้ายเพื่อ ร้อยดวงตาให้กับตุ๊กตาหมี ท่วงท่าน้ันเนิบช้าประณีตกับงานท่ีดูไม่เป็นงาน ดูเหมือนนางจะมีความตั้งใจสูง เพราะกว่าจะสอดเส้นด้ายก็เล็งแล้ว เล็งอีกเพอื่ ใหไ้ มใ่ หด้ วงตาข้างใดข้างหนง่ึ เอียง “เรียกผมว่าบังอีก็ได้ พวกเรามาจากปัตตานี อยู่ท่ีโน่นเราก็ ค้าขายพวกของกินนี่แหละ แต่พอมีเหตุระเบิดตรงร้านท่ีอยู่ติดกัน แม่เรา 279
ก็กลัวที่จะอยู่ท่ีน่ัน เรามีญาติอยู่ที่น่ีคนหนึ่ง เขาเลยหาที่ทางให้มาอยู่ คิดว่าจะอยู่ไปสักพักนึง วันหนึ่งถ้าแม่เลิกกลัวเราก็คงกลับไปอยู่ปัตตานี เหมือนเดิม” บังอีเดินมานั่งข้างผมแล้วพูดแนะน�าตัวเองและครอบครัว ยาวเหยยี ด ผมน่ิงฟังอย่างเขินๆ เป็นการแนะน�าตวั อยา่ งรวบรัดไดใ้ จความ จริงๆ “แล้วพวกคุณไม่มีลูกเหรอครับ” ผมถามบังอี บังอีหันไปมอง ภรรยา “ค่ะ ลูกเราเสียไปสองปีแล้ว เกิดความเข้าใจผิดกันกับ เจ้าหน้าท่ีในช่วงเกิดเหตุรุนแรงที่ตากใบน่ะค่ะ ตอนนั้นเขายังเรียนมหาลัย อยู่เลย” ภรรยาของบงั อพี ดู เล่าดว้ ยน้�าเสยี งเศรา้ ๆ “เอ่ิม” ผมพูดอะไรไมอ่ อก “เสยี ใจด้วยจรงิ ๆ ครับ” บรรยากาศ ชวนอึดอัดขึ้นมาทันที แต่เป็นไปในช่ัวไม่ถึงนาทีหญิงชราก็พูดข้ึนท�าลาย ความเงยี บ พลางเดนิ มาหาผม ย่ืนตกุ๊ ตาหมีให้ “เสร็จแล้ว มนั ก็พอดไู ด้นะ ลูกสาวคณุ ต้องชอบมันแนๆ่ เชือ่ ยายเลย” ผมยิ้มยื่นมือรับตุ๊กตาหมีไว้ในมือ ส�ารวจมันด้วยสายตา มันดู ใหม่ข้ึนและดูสมบูรณ์ท่ีสุดเท่าท่ีจะเป็นไปได้ “ขอบคุณจริงๆ ครับ” ผม หนั ไปทางพวกเขาทีละคนแล้วกล่าวขอบคุณซ�า้ ๆ “ครับ ไว้ว่างๆ มาคุยกันบ้างนะครับ พวกเรายังไม่ค่อยรู้จักคน ทน่ี ีส่ กั เท่าไหร”่ บังอพี ดู ขนึ้ ขณะผมเดินพ้นประตบู ้านออกไป (7) แต่แล้วจู่ๆ วันหน่ึงเหตุการณ์ไม่ปกติก็เกิดข้ึน เช้าวันน้ันหน้า บ้านของบังอีเงียบ ประตูบ้านก็ปิดเงียบ พวกเขาหายไปไหน ผมนึกสงสัย ว่าพวกเขาหายไปช่วงไหน คงเพราะผมวุ่นๆ อยู่กับการจัดของในร้านที่ ใกล้จะเปดิ ในอกี ไม่ก่ีวนั เลยไม่ทนั สงั เกต “คุณร้มู ั้ย บา้ นขา้ งๆ เขาหายไปไหนกันหมด” ผมถามภรรยา 280
“อ้าว ก็เมื่อวานอิสลามเขารายอกันแล้วน่ีคะ คุณไม่รู้เหรอ คงกลับไปปัตตานีกันม้งั คะ พวกเขาไม่ได้บอกคุณหรอกเหรอ” “ไม่นะ ไม่ไดบ้ อก” ผมพดู ทา� หน้างง ๆ “ฉันก็นึกว่าคุณรู้แล้วเสียอีก พวกเขาบอกฉันเมื่อสองวันก่อน ตอนฉนั พาลูกไปขอบคุณคุณยายเรื่องท่แี กติดลกู ตาใหน้ อ้ งหมีของลูกนะ่ ” “อ้อ เหรอ ผมคงยุ่งๆ จนลืมพวกเขาไปเองแหละ” ผมเกาหัว อยา่ งไม่เขา้ ใจตัวเอง “แล้วพวกเขาจะกลับมาไหม คุณยายจะกลับมาไหมคะแม่” ลูกสาวอุ้มตกุ๊ ตาหมีเดินมาถาม ลูกคงไดย้ นิ เราคุยกัน “คงกลับมาแหละลูก เขายังไม่ได้ย้ายออกไปเสียหน่อย” ผม บอกลูก “ถ้าไมไ่ ดค้ ุณยาย ต๊กุ ตาอาบังของนอ้ งคงตาบอดข้างหนงึ่ ดูสิคะ มันสวยขึ้นเหมือนมนั มีชวี ติ จรงิ ๆ เลยค่ะ” ลกู สาวพูดขึน้ อกี ภรรยาผมเขา้ ไปโอบกอดลูก ลูบหัวเธอเบาๆ “คะ่ ลกู ไว้พวกเขา กลบั มาแล้วเราคอ่ ยไปหาคุณยายกันอีกนะคะ” “ค่ะ แม”่ ลูกสาวรับค�าแล้วกอดแม่จนแน่น หา้ วนั ผา่ นไปครอบครวั บังอยี ังคงไมก่ ลับมา สองวันหลังจากนน้ั มีข่าวเกิดเหตุระเบิดหลายจุดในตัวเมืองปัตตานี ข่าวรายงานว่าเป็นการ สร้างสถานการณ์ ไมม่ ผี ู้เสยี ชวี ิตหรือบาดเจบ็ เป็นครั้งแรกที่ผมรู้สึกกังวลกับข่าวเหตุการณ์ความรุนแรง มากกวา่ ปกติ ท้งั ทก่ี อ่ นน้จี ะรู้สกึ ชินชาทา� นองวา่ เกดิ ขึน้ อีกแลว้ เหรอ แลว้ ทุกอย่างก็ผ่านไป เป็นเหมือนทุกครั้งที่เคยเป็นมา แต่ครั้งน้ีกลับไม่เป็น อย่างนั้น ผมนึกถึงครอบครัวบังอี นึกเป็นห่วงอยู่ว่าเกิดอะไรกับพวกเขา หรือเปล่า พวกเขาจะกลับมาสะบ้าย้อยอีกเมื่อไหร่ หรือจะไม่กลับมา อีกแล้ว การรอคอยกลายเป็นเรื่องปกติของครอบครัวเราหลังจากน้ัน เรา ได้แต่ถามกันเองว่าเม่ือไหร่พวกเขาจะกลับมา ถามไปท้ังที่ไม่มีใครให้ 281
ค�าตอบกับใครได้ และเหมือนเป็นการถามเพ่ือให้รู้สึกว่าสบายใจที่ได้พูด ค�าน้ันออกไป เรามีดวงตาอยู่ครบ ตุ๊กตาหมีก็มีดวงตาครบสองข้าง แต่ เหมือนไมม่ ีใครมองเหน็ พวกเขาอีกแล้ว สิบวันหลังจากน้ันพระเจ้าก็ส่งพวกเขากลับมา พวกเขากลับมา พร้อมของฝากหลายอย่าง แต่เราไม่ดีใจเท่าที่ได้เห็นรอยยิ้มของพวกเขา อีกคร้ัง ในรู้สึกของผมขณะน้ันเหมือนว่าสะบ้าย้อยคือบ้านของพวกเขา พวกเขาไม่ใช่แขกหรือคนแปลกหน้าอีกต่อไปแล้ว เหมือนพระเจ้าส่ง พวกเขามาสลายภูเขาท่ีทับอกผมออกไป และทดแทนมันด้วยความรู้สึก ใหม่อยา่ งที่ผมไมเ่ คยสมั ผสั มากอ่ น เกี่ยวกับครอบครัวของบังอี ผมไม่รู้จะเรียกส่ิงท่ีเจอน้ีว่าอะไร แต่ทุกขณะที่นึกอยู่น้ันภาพปรากฏในหัวผมทุกคร้ังคือภาพของกระดุมเส้ือ ที่มาแทนดวงตาตุ๊กตาหมีของลูก คล้ายว่ามันเป็นเหมือนภาพจ�าของอะไร บางอยา่ งที่ชดั เจนจนไมร่ จู้ ะหาถ้อยคา� ใดมาอธบิ ายไดอ้ ีกแลว้ 282
กวนี ิพนธ์
ในวนั ท่ีสำยลมแหง่ ภูเขำโบรำณ นำ� ทำงเรำไป กนั ญา เมฆทะมึนแผ่ขยายเหนอื ชายฝั่ง ทะเลคลงั่ โหมคลน่ื ในคืนฝน เสียงจอมยกั ษ์ทะเลใต้เปา่ รา่ ยมนตร์ ลมจกั รกรดหมุนวนถ่ังทน้ แรง หัตถ์แหง่ ยกั ษ์หอบน้า� เค็มขึน้ เต็มท่ี ราวภูตผีพรายด�าฤทธ์ิก�าแหง ตะวนั ออกหนาวสั่นหวน่ั ระแวง หนิ เกาะแกง่ โอดสะอน้ื นกคืนรงั ช่ัวเสียงลมหวีดรอ้ งกึกกอ้ งฟา้ พายุเคลื่อนเขา้ มากระทบฝั่ง ในหว้ งมืด แววตาพะว้าพะวงั ทุกดวงใจไดแ้ ตห่ วงั ภาวนา “แว่วเรือ่ งเล่าโบราณผา่ นศตวรรษ ผกู รอ้ ยรดั การรบั รูข้ องปู่ย่า หินพันปเี หนือปากน�า้ ข้ามเวลา ผ่านเมืองท่าจารีต-อดตี กาล 285
ทะเลสาบ-คาบสมทุ ร จดุ ก�าเนดิ เทพมาเปดิ นคราปาฏิหารยิ ์ เสียงพระสวด พทุ ธ ไทยจีน ศีลบันดาล มุสลมิ ซึง้ อาซานศัพทย์ าวี เงือ้ มเงาภแู ผ่คุ้มคนลมุ่ น้�า เฝ้าปกปกั เรือทุกล�าในวถิ ี ค�าบนบาน เสยี งประทดั ธูปบตั รพลี หลอ่ เลีย้ งใจในพ้ืนทม่ี าชา้ นาน ยามพายลุ กู ร้ายใกลช้ ายฝั่ง เกลียวคลน่ื คล่งั กลืนฟ้ามหาศาล อัศจรรย์ชั่วบัดดลคา� บนบาน ผนื แผน่ ดินแผ้วผ่านมฤตยู เลา่ ลอื ถงึ คืนลมดุมจั จรุ าช ร่างบรุ ษุ ผุดผาดผงาดสู้ แสงประกายวาวเรอ่ื เหนือยอดภู โบกธงชบู ญั ชา เมฆ ฟ้า ลม ปลุกโลกกลับคืนการณร์ ูปศานติ ขอบฟ้าผลิแสงอรณุ ไออุ่นห่ม สังคตี สน ทราย คลน่ื เห่รื่นรมย์ แผว่ เพลงนกพล้วิ พรมภเู ขาชรา” เมฆทะมึนแผข่ ยายเหนอื ชายฝงั่ เร่อื งราวแต่หลังยงั ไหลบา่ ในหว้ งยามพายใุ หญใ่ กลเ้ ข้ามา มเี รอ่ื งเลา่ ของป่ยู า่ เปน็ แรงใจ 286
ธาตุอดีตฉายชัดอัตลักษณ์ ส่งพลงั แน่นหนกั ต่อยุคสมยั พุทธ พราหมณ์ ผี แฝงแกน่ ธรรมทอดโยงใย โลกข้างในหลอมชาติพนั ธ์บุ รรพชน ท่วงตา� นานไหวเวียนการเปลีย่ นผ่าน ขับเคลือ่ นโลก จักรวาล ผา่ นกศุ ล ต่อเตมิ ลมหายใจชีพไหลวน ฝ่าขา้ มพ้นหลมุ พราง-น�าทางเรา. 287
หน้ำรำ้ นเซเวน่ อเิ ลเวน่ – ปตั ตำนี ซคั วาน อับดุลเราะห์มาน ฉนั เตร็ดเตร่แรมรอน กิน-นอนท่ีนี่ ปัตตานยี งั สโุ ขสโมสร โรงแรมเก่า ค่�าน้ี - ไมอ่ ยากนอน มาชมบทละคร – รมิ สะพาน รูปนาม “สามจงั หวดั ” ทรี่ ู้สึก ลกึ ลับ หดหอู่ ยู่ทุกย่าน แขวนป้าย “อันตรายมาก” นานนบั นาน เผยแพร่สารรายงานข่าว – กลา่ วเกนิ จรงิ ! สะพานเดชานุชิต ฉันเดนิ ย�่า ชมแม่น้า� ยามค่า� สวยอยา่ งยิ่ง ไมย่ กั อนั ตรายเหมือนใครติง ฉนั น่ังนิ่งเช่นน้นั ยันเท่ียงคืน คนยงั คงตกปลาริมสะพาน ยวดยานยังขวักไขวใ่ นดกึ ดนื่ อยูไ่ หนหนอความตาย กลน่ิ ควนั ปนื บรรยากาศขมขืน่ คลา้ ยหา่ งไกล แลว้ ความหวิ กเ็ รียกหา - อาหาร คลา้ ยวา่ ร้านเซเวน่ อยู่ใกล้ใกล้ ฉันเลี้ยวขวาจากสะพานแยกถัดไป พลันระเบดิ ดังก้องไกล ในบดั ดล! 288
ฉนั ตระหนกยืนนง่ิ อยทู่ ่ีนน่ั พวยควนั ไฟพุง่ คลงุ้ เทาหม่น ค่อยทยอยเข้ามาคอื ผู้คน อึงอลค�าถาม – กีค่ วามตาย? ได้ค�าตอบโลง่ ใจ – ไม่มี ตู้กดเงินป่นป้แี หลกสลาย ชาวเมอื งกลับเข้าบา้ น คล้ายผอ่ นคลาย? ขณะฉันเล้ยี วซ้ายกลับโรงแรม รงุ่ เช้าขา่ วระเบดิ ขา้ งเซเว่น กลายเป็นเพยี งเรอ่ื งเล่า ข่าวกับแกล้ม เซเว่นตอ้ นรับเชา้ อยา่ งยิ้มแยม้ พบรอ่ งรอยการซ่อมแซมเพยี งเล็กนอ้ ย ฉันยืนนิ่งมองคราบเป้อื นก�าแพง ยังคงความเคลอื บแคลงอยนู่ ิดหน่อย คนยงั คงจบั จา่ ย เปน็ สบิ -รอ้ ย ปลอ่ ยคราบเป้อื นก�าแพง ไมแ่ คลงใจ ท่นี ่ปี ัตตานี ปัตตานี! คล้ายชนิ ชาต่อนาทีท่หี วาดไหว เมอ่ื ความตายไม่ได้มาพาใครไป ปตั ตานกี ย็ ้มิ ไดใ้ นทันท!ี ปล่อยคราบเป้อื นกา� แพง ไมแ่ คลงใจ ปตั ตานพี รอ้ มยมิ้ ให้ในทนั ท!ี 289
แค่ฝนั ร้ำย... อัฟดลั สะอิ เชา้ นฉี้ นั ไม่ไดย้ นิ เสียงนกเขาชวา ฉนั ลืมตาข้นึ มาไม่เจอใคร ความเงยี บสง่ เสียงดังไปท่วั บา้ น หมอกควนั หนาปกคลุมหมูบ่ ้าน และเทอื กเขาตะเว แมน่ า�้ สายบุรีขุ่นแดง ปลากือเลาะห์ลอยข้นึ มาตายบนผวิ น�้า เสียงธรณีคา� รามราวกับมัจจุราชทห่ี มายมาเอาชีวิต เสยี งรอ้ งไหร้ ะงมสอดแทรกผ่านสายลม และสายฝนมาหลอกหลอน นกเขาชวาของพ่อหายไป... เหลอื เพยี งเศษขนทีเ่ ปอ้ื นเลอื ด ฉันเดินไปท่ัวหม่บู ้าน... ฉนั เห็นปศี าจร้ายลงมาหากิน ตวั มนั มสี ดี �า แววตาแดงก่า� เขี้ยวสขี าวขุน่ และกรงเลบ็ อนั แหลมคมมีเลือดเปอ้ื นอยู่ จีวรของหลวงพอ่ มรี ่องรอยกรงเลบ็ ฉกี จนขาดยยุ่ ผ้าสะระบน่ั สขี าวปลิวไปตดิ ที่พุ่มไม้ ฝากรอยเลือดและคมเข้ียวไวข้ ่มขวัญ เดก็ น้อยในเปลลืมตาดูโลกอนั โหดรา้ ย 290
เชา้ นไ้ี รซ้ งึ่ เสยี งร�ามะนา เสียงป่ีชวากลบั กลายเปน็ เสยี งกรดี ร้อง เสียงเพลงกลอ่ มเด็กถกู แทนทดี่ ว้ ยเสียงเหา่ หอน เสียงอาซานตอนเช้ามดื และเสยี งระฆังหายไป ฉันยกมอื ขอพรต่อพระผู้เป็นเจ้า น้า� ตาทีไ่ หลอาบแก้ม หยดลงบนผนื ดนิ ปลายดา้ มขวานทอง ฉนั แหงนมองฟา้ ...เห็นฟา้ ก�าลังรอ้ งไห้ไหลลงมาเปน็ เลอื ด ดวงตะวนั ก็เศร้าหมอง ใบไม้สที องปลิววอ่ นไรจ้ ดุ หมาย ฉนั หลับตา และนอนราบไปกับผืนดิน... นซิ มะห์!1 นซิ มะห์! ตนื่ ไดแ้ ลว้ ลกู ลลิตา2มารอนานแล้ว ฉนั ปาดน้�าตาพร้อมกับโผเขา้ กอดแม่ “ลูกฝนั รา้ ย” น�า้ ตาแหง่ ความกลัว และโล่งใจไหลออกมา มันเป็นเพียงแคฝ่ ันรา้ ย แคฝ่ ันร้าย แคฝ่ ันร้าย... ฉันสลาม (จบั มือ) พร้อมกับจูบมือท่านทง้ั สอง ฉนั กบั เพือ่ นปั่นจักรยาน สะพายความหวงั และความฝนั อนั สวยงามไปโรงเรียน ฉนั เหน็ โตะ๊ อหิ ม่ามโบกมอื ทักทายหลวงพอ่ ท่กี �าลงั บิณฑบาตอย่างกลั ยาณมิตร ร้านนา้� ชายงั คงอบอวลไปด้วยเสียงหัวเราะ นกเขาชวา และนกกรงหัวจกุ บรรเลงบทเพลงเพ่ือสันตภิ าพ เชา้ วันนีอ้ ากาศบริสทุ ธิ์ ดวงตะวนั ทอแสง (แรก) นมุ่ นวลทเี่ กาะยาว ต้นยางออกดอกผลิใบ ต้นขา้ วออกรวงสที องสดใสตอ้ นรบั แสงตะวัน ทะเลหมอกอัยเยอรเ์ วงหม่ ผนื ปา่ ด้วยความรัก 1 ฟา้ หลังฝน 2 ผู้มคี วามงดงามน่ารัก 291
ตลาดเช้าวนั นี้คกึ คกั ดงั เชน่ วนั วาน ข้าวยา� และข้าวเกรียบบางนรายังคงอร่อยถูกปาก เรอื กอและโลดแล่นอวดลวดลายกลางทะเลบางนรา ลองกองตันหยงมัสกล่นิ หอมหวาน ก�าลงั รอข้ึนรถไฟทชี่ านชาลา กริชรามนั หย์ ังมมี นตข์ ลัง และเก็บรกั ษาอัตลกั ษณ์เร่อื งราวไวใ้ หช้ นรุ่นหลงั มัสยิดกรอื เซะ วดั ช้างให้ และศาลเจ้าแมล่ ้ิมกอเหนีย่ ว ยงั มีชีวิต ผคู้ นต่างหลั่งไหล ศรทั ธายังไมเ่ ส่อื มหาย พุทธ มสุ ลมิ จีน คอื ความหลากหลายท่สี วยงาม อ้อมกอดเทือกตะเวยังอบอุน่ ขุนเขาสคุ ริ นิ บโู ด – สไุ หงปาดี และบาลา – ฮาลา ยงั อุดมสมบูรณ์ สายธารบางนรา สายบรุ ี ปัตตานี คอยหลอ่ เลยี้ งชีวติ วา่ ววงเดอื น (วาบแู ล) ทอ่ งสายลมทักทายทอ้ งฟ้าสคี ราม ดอกบานบุรีหนา้ โรงเรยี นก�าลงั บานสะพร่ัง “สวัสดีคะ่ คุณครูสุนยี ์” “อสั สลามอุ ะลัยกมุ ค่ะ คณุ ครอู าดมั ” ดอกชบาสีชมพูยิม้ ตอ้ นรบั เช้าวนั ใหม่ ฉนั ให้เกยี รติเมอ่ื เพือ่ นกลา่ วสวดมนต์ เพือ่ นสงบน่ิงเมื่อฉันกล่าวดอุ าอ์ เรายังคงร่วมร้องเพลงชาตไิ ทยด้วยกนั “ประเทศไทยรวมเลือดเนอื้ ชาตเิ ช้อื ไทย” ธงไตรรงค์ขึ้นสู่ยอดเสาโบกพัดปลวิ ไสว ฝันร้ายไดผ้ ่านพ้นไป เหลอื ไว้แตค่ วามเป็นจรงิ ท่งี ดงาม ปลายดา้ มขวานทองยังนา่ อยู่ พวกเรายังรกั กัน... ขอความสนั ตจิ งประสบแด่ทุกคน 292
บรรทุกบญุ สกล ผดุงวงศ์ รงั สีรงุ่ ปรุงปรายประกายฟ้า ฉาบทาบทาเมฆทิวเปน็ รวิ้ ร่อง สลบั สลวั มวั มมุ ตะคุ่มมอง ไอละอองแสงสางสวา่ งเรอื ง ตึกรามเหย้าเงาทึบทึมในคร้ึมหมอก แจ้วกระจอกจกิ๊ จั๊กทกั ฟ้าเฟ่อื ง พริ าบหมู่พรูพรายบินย้ายเย้อื ง เกาะคขู นั กลอ่ มเมืองละมนุ ละไม เกดิ ภาพงามนยิ ามบญุ อรุณเร่มิ จ�ารสั เจมิ โลกลออลอ้ ไถง พระชราบนสามลอ้ เล่อื นครรไล บิณฑบาตมาดมุง่ ไปประจา� วนั จีวรเหลืองเรอื งทองผอ่ งถนน กะปิเยาะห์ขาวหมน่ หมวกคนปั่น บนความต่างทางศรทั ธามาผกู พนั บนความตา่ งทส่ี รา้ งสรรคธ์ รรมครรลอง คนสามล้อจติ สะอาดละหมาดเช้า เสร็จงานเหย้าเบาตัวหัวใจผอ่ ง ออกรถไม่เร่งรบี ถบี ประคอง ถงึ อารามยามแสงทองทาบฟา้ พราย คอยรับรองประคองขืนพระขึน้ น่ัง ดึงเบาะจดั ระมัดระวงั วบู เอนหงาย จัดจีวรซ้อนปรบั ทบทบั ชาย จึงเคลอ่ื นกรายรถมาจากอาราม ปน่ั พาพระลดั ล่องท้องตลาด ของตกั บาตรจากผคู้ นมากลน้ หลาม ข้าวขนมส้มสูกลกู งามงาม น้า� มะขามนา้� ส้มกลอ่ งกองพะเนิน 293
ช่วยจบั จัดมัดวางบ้างแขวนคลอ้ ง สหี นา้ ผ่องแววตาใสไร้ขัดเขิน ผูค้ นรักทกั ถามยามผ่านเดิน ไมม่ องเมินแตน่ ้อยตอบมอบยมิ้ เยน็ เกนิ แรงนอ่ งท่องบกุ บรรทุกหนัก จ�าแย่ยกั ลงยนั ดนั คู้เขน็ แขนตงึ ล้าขาเขย่งเกร็งเส้นเอ็น นอ่ งปูดเปน็ เส้นขอดขดไม่ทดท้อ เขา้ สู่วยั ใกล้เจ็ดสบิ แรงริบหรี่ ไมค่ ่อยดีมีเจ็บเร้าตามเขา่ ข้อ เอยี้ วเอวบดิ มตี ดิ รงั้ ร้าวหลังคอ พงึ่ มดหมอบีบเคล้นเปน็ คร้ังคราว รถเอ๊ยี ดอ๊าดแอดออดเสียงลอดร้อง คเู่ จา้ ของกรา� งานผา่ นรอ้ นหนาว อายุคอ่ นศตวรรษหยัดยืนยาว เหลก็ กรอ่ นรา้ วครา่ วโครงโคง้ แอน่ เอยี ง โคมไฟไร้หลอดดวงหนา้ กลวงโบ๋ หวายพนกั หักโหวแ่ กนโย้เบ่ยี ง ยังขืนขับขยบั ยา่ งอยู่ข้างเคยี ง แต่สุม่ เส่ียงทรดุ หนกั พักสญั จร คนตักบาตรบา้ งช่วยยดุ ฉดุ รถเคลื่อน พอลอ้ เลอ่ื นหนกั บรรเทาเบาแรงผอ่ น ตระเวนรบั สง่ิ บุญรมิ ทางจร จวบสายแดดแผดรอ้ นเร่กลบั มา ถงึ กฏุ ชิ ว่ ยขนถ่ายย้ายขา้ วของ เปน็ กลมุ่ กองวางเรียงระเบยี งหนา้ เสรจ็ ภาระอนั ค้นุ เคยเอ่ยอ�าลา เริ่มอกี คราอรณุ พรุง่ จรงุ เมือง ต่างเพศตา่ งศาสนาชราภาพ แตห่ น้าอาบอิ่มบุญหนุนน�าเนอื่ ง การกอ่ เกือ้ เออื้ น้�าใจใช่เปลา่ เปลอื ง เปรยี บฟนั เฟืองขบดึงพงึ่ พากนั มิตรจติ มิตรใจใหฉ้ นั ทม์ ิตร เอกสิทธ์บิ นทิศทางทสี่ รา้ งสรรค์ ส่งิ เลอเลศิ เจิดจรสั อัศจรรย์ อาจแปรฝนั อนั เลวรา้ ยคลายพริบตา เปน็ ภาพผุดสะดดุ ตายามฟา้ รงุ่ เหนือขอบคุ้งแม่ตานีศรีสง่า งามระยับจบั ใจใสศรัทธา สงิ่ ประเสริฐบรรเจดิ จ้ารบั ฟา้ เรือง 294
ขำ้ วเหนียวของเมำะในบำตรพระ ธนันทร์ แดงดิษครี ี กลน่ิ หอมกรนุ่ จากหมอ้ น่ึงบนเตาถา่ น มือเหี่ยวกรา้ นคอ่ ยคอ่ ยตักลงถาดใหญ่ มือหยิบพดั ปดั ไอรอ้ นผ่อนจางไป จึงได้เหนยี วรว่ นดา� ก�าลังดี และมือน้ันโรยมะพร้าวคลกุ ข้าวเหนยี ว อย่างชา้ ช้าตามแรงเร่ยี วเตม็ หนา้ ที่ ใสใ่ บตอง “เหนียวซาวพร้าวปลาเคม็ จี” ไม่รอรกี ลดั เปน็ ห่อ รอลูกค้า “เอาไหมจ๊ะ นาซิปโู ละ” เสยี งเมาะกลา่ ว เจ้าเปยี ยาวสะกิดยายทีเ่ ดนิ หน้า พร้อมขอเงินสิบบาทจ่ายราคา หยบิ หน่ึงห่อลงตะกรา้ ยม้ิ ละไม อกี ฟากฝง่ั ของร้านเมาะ เดินเลาะข้าม เจา้ เปียงามหยบิ หนง่ึ หอ่ ย่ืนลงใส่ แล้วนอ้ มนงั่ รบั ฟงั พรอย่างต้ังใจ แววตาซ่ือคือสุกใสส่องประกาย 295
วถิ ยี ังเปน็ เช่นนีท้ กุ วีว่ นั เมาะยังหม่นั หงุ เหนียวด�าทา� มาขาย เจ้าเปียงามยังใสบ่ าตรพร้อมคุณยาย ภาพสุขปลง่ั ยังฉายในทุกครา วถิ ีชนทา่ มถนิ่ พหุศาสน์ ยังรอยยม้ิ พริ้มดงั วาดแต้มใบหน้า อมิ่ เอมสขุ สะท้อนใสในแววตา ต่างศรทั ธาร่วมอยู่ได้ ณ ชายแดน 296
หลังปิดเทอมใหญ่ วิศิษฐ์ ปรยี านนท์ -1- พวกเขายงั วิ่งออกไปดเู ฮลิคอปเตอร์ไหม ถ้ามันผา่ นมาแบบหนกอ่ น คราวนี้จะไปกันทั้งห้องหรอื แคบ่ างคน ครูฝึกสอนจะเหน่อื ยเพราะจัดการให้เด็กๆ กลบั เข้าหอ้ งอีกไหม ครูหอ้ งขา้ งๆ คงไม่ทันมาดา่ เสยี งเดก็ ๆ กเ็ งยี บไปก่อน ไม่ใชข่ อ้ อ้างหาเรื่องไม่ตั้งใจเรียนหรอก แคเ่ ด็กๆ ชา่ งจินตนาการ เปิดเทอม เดก็ ม.สองจะไดข้ นึ้ ม.สาม นกั ศกึ ษาฝกึ สอนรอรับปรญิ ญา การจากลาท�าให้คิดถงึ พวกเขาคงจา� คณุ ครูของเขาได้ ครคู นทีค่ อยตามเด็กๆ กลบั เข้าหอ้ งตอนเฮลิคอปเตอรบ์ ินผา่ น ครูคนท่ีเด็กๆ บอกไมม่ ตี งั คก์ ินขา้ ว ครูโชคร้าย ท่ีเดก็ ๆ ตะโกนเรยี กให้เลย้ี งไอติม 297
-2- นกกระดาษบินหนี วันนม้ี ีคนถกู ฆ่า เมอ่ื วานมีคนโดนซุ่มยงิ นา้� ตาและกองเลือด ควันปนื และเสยี งระเบิด ปลิดรอยยม้ิ หล่นหายจากใบหน้า ความเงียบสงบชา่ งน่ากลัว ด่านตรวจจงึ ไมต่ รวจ ตอ่ เม่ือมเี หตุระเบดิ ดา่ นตรวจนบั พนั จึงตรวจเขม้ ขึ้นบ้าง -3- เฮลิคอปเตอร์บนิ ผ่าน ท่ีสนามเด็กเล่น ร่าเรงิ ! หลังธงชาติขึ้นสยู่ อดเสา กอ่ นอาซานแว่ว เงยี บเสียงหวั เราะ ห้องเรยี นลุกไหม้ ควันด�าลอยข้นึ ฟา้ ตา� รวจยังมาไมถ่ ึง 298
รอยเลอื ดหมาดใหม่ หลงั เสยี งระเบดิ เฮลคิ อปเตอร์ยังบนิ ผา่ น -4- ครูฝกึ สอนเตรยี มสอบบรรจุ ระหวา่ งรอรบั ปริญญา พวกเขายังว่ิงออกไปดูเฮลิคอปเตอรไ์ หม ถ้ามันบนิ ผ่านมาแบบหนกอ่ น... 299
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309