คมู่ อื ครู รายวชิ าพนื้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 4 | การบวก ลบ คูณ หารจ�ำนวนนับ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4 เล่ม 1 2. เตรยี มความพรอ้ มเป็นการตรวจสอบความรพู้ ื้นฐาน ท่จี ำ�เป็นสาหรบั การเรียนบทน้ี ถ้าพบว่านกั เรียนยังมี ความรพู้ ้ืนฐานไมเ่ พยี งพอ ควรทบทวนก่อน แลว้ ให้ ท�ำ แบบฝึกหดั 4.1 เป็นรายบุคคล 50526 205 168420 72 561400 780346 180 180 296 0 126984 172 64 = 4,128 กลอง 122 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครู รายวิชาพืน้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 4 | การบวก ลบ คูณ หารจ�ำนวนนบั ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 4 เลม่ 1 4.1 การบวก ลบ คณู หารระคนที่มีวงเล็บ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ นกั เรยี นสามารถหาผลลัพธจ์ ากโจทยก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคน ท่ีเนน้ ล�ำ ดับขั้นการค�ำ นวณท่มี วี งเลบ็ พรอ้ มทง้ั ตระหนักถึงความสมเหตุสมผลของคำ�ตอบ ส่อื การเรยี นรู้ - แนวการจดั การเรียนรู้ 1. การสอนการหาผลลัพธ์ของโจทย์การบวก ลบ คูณ หารระคนท่ีมวี งเลบ็ ครูอาจจดั กิจกรรมโดยให้นกั เรยี น พิจารณาการหาผลลพั ธท์ ้งั แนวตง้ั และแนวนอนจากโจทย์ หน้า 165 ถึง 167 ทั้งนี้ครูควรเน้นให้นักเรยี นตระหนกั ถงึ ความสมเหตุสมผลของค�ำ ตอบ ซ่ึงนักเรยี นแตล่ ะคน อาจมวี ธิ กี ารพจิ ารณาความสมเหตสุ มผลแตกตา่ งกัน เชน่ หนา้ 165 อาจประมาณ 28,250 + 12,092 เป็น 40,000 ดงั นนั้ 21× 40,000 = 840,000 จะได้ 21 × (28,250 + 12,092) ประมาณ 840,000 แสดงวา่ 847,182 เป็นผลลพั ธท์ ีส่ มเหตสุ มผล จากนน้ั รว่ มกันท�ำ กิจกรรมหน้า 167-168 และ ให้ทำ�แบบฝึกหัด 4.2 เปน็ รายบคุ คล สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 123
คู่มอื ครู รายวชิ าพ้นื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 4 | การบวก ลบ คณู หารจ�ำนวนนบั ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4 เล่ม 1 528,381 + (21,340 18) 528,381 384,120 144,261 144,261 ๑๔๔,๒๖๑ 31,560 16 20,131 19,891 3 1 5 60 20 13 1 16 19 89 1 1 89 36 0 24 0 3 15 60 0 5 04 96 0 504,960 240 2 10 4 240 504960 480 24 9 24 0 96 0 96 0 0 2,104 ๒,๑๐๔ 124 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ ือครู รายวชิ าพืน้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 4 | การบวก ลบ คณู หารจำ� นวนนบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 เลม่ 1 2. เพื่อตรวจสอบความเข้าใจและสรปุ ความร้ทู ีไ่ ด้ ใหน้ ักเรยี น ท�ำ กจิ กรรมหน้า 169 – 170 เปน็ รายบคุ คล หาผลลพั ธของ 215,280 85,630 5,186 หาผลลพั ธข อง 29,650 25 215280 5186 85630 25 129650 129650 125 ๕,๑๘๖ 46 25 215 200 150 150 0 256 430 113,950 113,950 ๑๑๓,๙๕๐ หาผลลพั ธข อง 103,172 + 321,590 หาผลลพั ธของ 2,192 142 215280 2192 85630 142 424762 4384 87680 หาผลลพั ธของ 424,762 311,264 219200 311264 424762 311264 113,498 113498 ๑๑๓,๔๙๘ ขั้นท่ี 1 คํานวณในวงเลบ็ ขั้นที่ 2 320 56 = 17,920 ดงั น้นั 25,314 17,920 = 7,394 25,314 (320 56) = 7,394 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 125
คู่มือครู รายวชิ าพ้นื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 4 | การบวก ลบ คณู หารจำ� นวนนบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 เลม่ 1 85 4 10 40 4.2 การบวก ลบ คูณ หารระคนท่ีไมม่ วี งเล็บ 40 40 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ 42 16 2 2 2 8 นกั เรียนสามารถหาผลลัพธจ์ ากโจทย์การบวก ลบ คูณ หารระคนทเ่ี นน้ ล�ำ ดบั ขน้ั การค�ำ นวณที่ไมม่ ีวงเลบ็ พรอ้ มทัง้ ซา ย ขวา ตระหนกั ถึงความสมเหตสุ มผลของค�ำ ตอบ สื่อการเรยี นรู้ เครอ่ื งคิดเลขวิทยาศาสตร์ แนวการจดั การเรยี นรู้ 1. การสอนการบวก ลบ คูณ หารระคนท่ีไม่มวี งเลบ็ นกั เรยี นตอ้ งเขา้ ใจล�ำ ดับขั้นการคำ�นวณ ซงึ่ ครอู าจให้ นักเรยี นเรยี นรู้ดว้ ยตนเองจากกการปฏบิ ตั ิกจิ กรรม หน้า 171 - 174 แล้วรว่ มกนั พจิ ารณาผลทีไ่ ด้ เพือ่ นำ�ไป สู่ข้อสงั เกต 1 - 7 จากน้ันน�ำ ขอ้ สังเกตทง้ั หมดมารว่ มกนั อภิปรายเพ่ือน�ำ ไปส่ขู ้อตกลงเกี่ยวกบั ล�ำ ดับข้นั การค�ำ นวณ ที่มากกว่า 1 ขนั้ ตอน และไม่มีวงเล็บ ดงั น้ี ขน้ั ที่ 1 คูณ หรือ หาร โดยค�ำ นวณจากซ้ายไปขวา ขัน้ ท่ี 2 บวก หรือ ลบ โดยค�ำ นวณจากซา้ ยไปขวา จากน้นั รว่ มกนั ทำ�กิจกรรมหน้า 175 และให้ทำ� แบบฝึกหัด 4.3 เป็นรายบุคคล หมายเหตุ โดยทวั่ ไป เราจะพบเครอื่ งคิดเลขทมี่ ขี ้นั ตอน การค�ำ นวณตามข้อตกลงทางคณิตศาสตร์ กบั เครอื่ งคิดเลข ที่มขี ัน้ ตอนการคำ�นวณตามการกดปุม่ วธิ ีตรวจสอบเครอื่ ง คิดเลขวา่ มีขนั้ ตอนการคำ�นวณแบบใด ใหท้ ดลองค�ำ นวณ เชน่ 2 + 3 × 4 ถา้ ได้ค�ำ ตอบ 14 แสดงวา่ เปน็ เคร่อื งคิดเลข วทิ ยาศาสตร์หรือเคร่ืองคิดเลขท่ีมขี ้ันตอนการค�ำ นวณ ตามข้อตกลงทางคณิตศาสตร์ ถา้ ไดค้ �ำ ตอบ 20 แสดงวา่ เป็นเครอ่ื งคดิ เลขทวั่ ไปหรือเครื่องคิดเลขทีม่ ขี ัน้ ตอนการ คำ�นวณตามการกดปมุ่ เครื่องคดิ เลขทใ่ี ช้ในบทนีเ้ ปน็ เครอื่ งคดิ เลขวทิ ยาศาสตร์ ทม่ี ีข้ันตอนการค�ำ นวณตามข้อตกลงทางคณิตศาสตร์ ซง่ึ ในการจัดกจิ กรรมครูควรเตรยี มเคร่อื งคดิ เลขใหเ้ พยี งพอ ถา้ มีเคร่ืองคดิ เลขไมเ่ พยี งพอ ครูอาจเป็นผู้ด�ำ เนนิ กิจกรรม แลว้ ใหน้ ักเรยี นสงั เกตและบันทึกผลลัพธ์ท่ไี ด้ 126 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครู รายวชิ าพนื้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 4 | การบวก ลบ คูณ หารจ�ำนวนนบั ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 เล่ม 1 61 83 7 67 12 + 5 17 7 5 42 17 ซา ย ขวา คณู บวก 42 12 6 8 42 20 3 17 8 2 8 17 ซา ย ขวา คูณ ลบ 15 5 5+2 7 3 7 หาร บวก 12 2 32 1 6 1 หาร ลบ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 127
คู่มือครู รายวชิ าพื้นฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 4 | การบวก ลบ คูณ หารจำ� นวนนบั ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4 เลม่ 1 2. ในการหาผลลัพธข์ องโจทยห์ น้า 176 ครูอาจใช้คำ�ถาม ประกอบการอธบิ ายเพอ่ื แสดงล�ำ ดับขั้นการค�ำ นวณ และ ให้นกั เรยี นตรวจสอบความถกู ตอ้ งโดยใชเ้ ครอ่ื งคิดเลข จากน้นั ใหพ้ จิ ารณาตวั อยา่ งหน้า 177 โดยควรเร่ิมจาก การใหน้ ักเรียนช่วยกันระบลุ �ำ ดับขั้นการคำ�นวณและ การประมาณผลลพั ธ์ แลว้ จงึ แสดงวธิ ีทำ� และตรวจสอบ ความถกู ตอ้ งโดยใชเ้ คร่อื งคิดเลข ให้นกั เรียนร่วมกนั ทำ�กิจกรรมหนา้ 178 จากนัน้ ให้ ท�ำ แบบฝกึ หัด 4.4 เป็นรายบคุ คล หมายเหตุ กิจกรรมหนา้ 178 และแบบฝกึ หดั 4.4. ครคู วร เนน้ ย�้ำ ให้นักเรยี นระบุลำ�ดบั ขัน้ การค�ำ นวณและการประมาณ ผลลัพธ์กอ่ นแสดงวิธีท�ำ แต่ไมจ่ ำ�เป็นตอ้ งเขียนแสดงให้เห็น 2549 28 20392 50980 71372 164,708 + 71,372 164708 71372 236080 ๒๓๖,๐๘๐ 236,080 ๒๙๗,๘๔๘ 300,157 2,309 297,848 297,848 128 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครู รายวชิ าพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 4 | การบวก ลบ คูณ หารจำ� นวนนบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 เลม่ 1 3. การสอนการหาผลลัพธข์ องโจทย์ทีม่ ีลำ�ดับขนั้ การคำ�นวณ มากกวา่ 2 ขั้นตอนในแนวต้งั ในหนา้ 179-180 ให้จดั กิจกรรม ทำ�นองเดยี วกบั การหาผลลัพธ์ของโจทย์ทม่ี ีล�ำ ดบั ขนั้ การคำ�นวณ 2 ขัน้ ตอนในแนวตง้ั จากน้ันให้ร่วมกัน ท�ำ กิจกรรมหน้า 181 เนือ่ งจาก 156 217 ใกลเคยี ง 160 200 = 32,000 และ 283,691 + 32,000 ใกลเคยี ง 284,000 + 32,000 = 316,000 และ 316,000 185,429 ใกลเ คียง 316,000 185,000 = 131,000 ดังนัน้ 283,691 + 156 217 185,429 ใกลเ คยี ง 131,000 หาผลลัพธข อง 156 217 หาผลลพั ธข อง 283,691 + 33,852 156 217 283691+ 33852 1092 1560 317543 31200 33852 หาผลลัพธของ 317,543 185,429 317543 185429 132114 132,114 ๑๓๒,๑๑๔ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 129
คมู่ อื ครู รายวชิ าพนื้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 4 | การบวก ลบ คณู หารจำ� นวนนบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 เลม่ 1 4. การสอนการหาผลลพั ธข์ องโจทยท์ ี่มีล�ำ ดับขน้ั การค�ำ นวณ มากกว่า 2 ขน้ั ตอนในแนวนอน หนา้ 182 ให้จดั กจิ กรรม ท�ำ นองเดียวกบั การหาผลลัพธ์ของโจทย์ทมี่ ีลำ�ดบั ขนั้ การ ค�ำ นวณ 2 ขน้ั ตอนในแนวนอน จากนน้ั ใหร้ ว่ มกนั ท�ำ กจิ กรรม หนา้ 183 และให้ทำ�แบบฝึกหดั 4.5 เปน็ รายบุคคล 501,092 + 499,380 230 149 = 501,092 + 2,460 149 = 501,092 + 366,540 = 867,632 867,632 ๘๖๗,๖๓๒ = 879,106 225,368 + 206,450 = 653,738 + 206,450 = 860,188 860,188 ๘๖๐,๑๘๘ 130 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครู รายวิชาพนื้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 4 | การบวก ลบ คณู หารจ�ำนวนนบั ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 เลม่ 1 5. เพื่อตรวจสอบความเข้าใจและสรุปความรู้ท่ีได้ ใหน้ ักเรยี นท�ำ กจิ กรรมหน้า 184 เป็นรายบคุ คล 301,721 410,856 204 56 = 301,721 2,014 56 = 301,721 112,784 = 188,937 ๑๘๘,๙๓๗ ขนั้ ท่ี 1 = 7,800 ขั้นที่ 2 7,800 100 = 78 ขั้นที่ 3 4,098 + 78 = 4,176 ดงั นน้ั = 4,176 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 131
คู่มอื ครู รายวชิ าพืน้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 4 | การบวก ลบ คูณ หารจำ� นวนนับ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 เลม่ 1 4.3 การบวก ลบ คูณ หารระคนทม่ี ีและไม่มวี งเล็บ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ นักเรยี นสามารถหาผลลัพธจ์ ากโจทย์การบวก ลบ คูณ หารระคน ทเ่ี นน้ ล�ำ ดบั ขน้ั การค�ำ นวณทม่ี วี งเลบ็ และไมม่ วี งเลบ็ พรอ้ มทัง้ ตระหนกั ถงึ ความสมเหตสุ มผลของคำ�ตอบ สอ่ื การเรียนรู้ เครื่องคิดเลขวทิ ยาศาสตร์ แนวการจดั การเรยี นรู้ 1. การสอนการบวก ลบ คูณ หารระคนทม่ี ีวงเลบ็ และไม่มี วงเลบ็ ครูอาจใชค้ ำ�ถามประกอบการอธิบาย โดยเช่ือมโยง ความร้จู ากหวั ข้อ 4.1 และ 4.2 เพือ่ นำ�ไปสูล่ �ำ ดับขั้นการ ค�ำ นวณทมี่ ากกวา่ 1 ขั้นตอน ทีม่ วี งเล็บและไมม่ วี งเล็บ ซ่ึงสรุปได้ว่า ขน้ั ท่ี 1 ค�ำ นวณใน วงเล็บ (ถ้าม)ี ขั้นที่ 2 คณู หรอื หาร โดยค�ำ นวณจากซา้ ยไปขวา ข้นั ท่ี 3 บวก หรือ ลบ โดยค�ำ นวณจากซ้ายไปขวา ในการหาผลลพั ธข์ องโจทย์หน้า 185 - 186 ให้จัดกจิ กรรม ท�ำ นองเดยี วกับการหาผลลัพธข์ องโจทยท์ ี่มลี �ำ ดับข้นั การค�ำ นวณมากกว่า 2 ข้ันตอนในแนวตั้งและในแนวนอน แลว้ ให้นกั เรยี นตรวจสอบความถูกตอ้ งโดยใชเ้ ครอื่ งคดิ เลข จากน้นั ให้พจิ ารณาตวั อยา่ งหน้า 187 โดยครูใช้ค�ำ ถาม ประกอบการอธบิ าย แลว้ ใหร้ ่วมกนั ทำ�กจิ กรรมหนา้ 188 และใหท้ ำ�แบบฝึกหดั 4.6 เปน็ รายบุคคล 132 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครู รายวชิ าพ้นื ฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 4 | การบวก ลบ คณู หารจำ� นวนนบั ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 เลม่ 1 381,668 317 1,204 1,204 ๑,๒๐๔ 14,704 397,008 134,242 134,242 ๑๓๔,๒๔๒ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 133
คูม่ ือครู รายวชิ าพื้นฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 4 | การบวก ลบ คูณ หารจ�ำนวนนับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 เล่ม 1 = 80,140 334,515 145 2. เพื่อตรวจสอบความเข้าใจและสรปุ ความรทู้ ไี่ ด้ = 80,140 2,307 ใหน้ ักเรยี นท�ำ กิจกรรมหนา้ 189-190 เปน็ รายบคุ คล = 77,833 ในส่วนของคณติ คิดทา้ ทาย ครูอาจจัดกจิ กรรมแขง่ ขนั นักเรยี นคนใดหาผลลัพธ์ถกู ต้องและใชเ้ วลานอ้ ยที่สุด เปน็ ผู้ชนะ ถา้ นักเรียนไมส่ ามารถหาค�ำ ตอบทีถ่ ูกต้องได้ ครคู วรใหน้ กั เรยี นร่วมกันอภิปรายเกยี่ วกับวธิ ีคดิ เพอื่ ให้ได้ ผลลัพธ์ท่ถี ูกตอ้ ง ๗๗,๘๓๓ = 457,875 3,214 116 ๘๕,๐๕๑ = 457,875 372,824 = 85,051 ข้นั ที่ 1 คาํ นวณในวงเลบ็ ข้ันท่ี 2 604 578 = 26 ข้ันท่ี 3 3,718 26 = 143 ดงั น้นั 143 254 = 36,322 = 36,322 2 341 13 1 3 214 หรอื 2 3 1 4 134 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครู รายวิชาพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 4 | การบวก ลบ คณู หารจำ� นวนนับ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เลม่ 1 4.4 โจทย์ปญั หา จุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรยี นสามารถวเิ คราะหแ์ ละแสดงวิธีหาคำ�ตอบของ โจทย์ปัญหาการบวก ลบ คณู หารระคน 2 ขั้นตอน พร้อมทัง้ ตระหนกั ถงึ ความสมเหตสุ มผลของคำ�ตอบ ส่ือการเรยี นรู้ เคร่ืองคดิ เลข แนวการจัดการเรียนรู้ 1. ครูใช้สถานการณ์จากโจทย์ปญั หา หน้า 191 น�ำ สนทนา เกย่ี วกบั วิธีการหาค�ำ ตอบ โดยครูควรอธิบายถึงขน้ั ตอน การแกโ้ จทยป์ ัญหาว่ามี 4 ขนั้ ตอน ดงั นี้ 1) ท�ำ ความเข้าใจปัญหา 2) วางแผนแก้ปัญหา 3) ด�ำ เนนิ การตามแผน 4) ตรวจสอบ จากนน้ั ครใู ชก้ ารถาม – ตอบ เพือ่ ฝึกให้นกั เรียนคิดอย่าง เปน็ ระบบตามขนั้ ตอนการแก้โจทยป์ ญั หา โดยครอู าจใช้ สื่อประกอบการอธบิ ายหรือเขยี นภาพเพือ่ ชว่ ยใน การวางแผนแกป้ ญั หา สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 135
คูม่ อื ครู รายวิชาพืน้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 4 | การบวก ลบ คูณ หารจำ� นวนนับ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 เล่ม 1 2. หนา้ 192 เป็นการแกโ้ จทยป์ ัญหาท่เี นน้ การเขยี นแสดง วธิ คี ิดและการหาคำ�ตอบ ซ่ึงครคู วรเน้นการเขียนภาพ ประกอบ พรอ้ มทัง้ ใช้ค�ำ ถามเพือ่ ฝกึ ใหน้ กั เรยี นคิดวางแผน แกป้ ญั หาอย่างเปน็ ระบบ จากน้ันใหร้ ่วมกันท�ำ กจิ กรรม หน้า 193 แลว้ ให้ท�ำ แบบฝึกหดั 4.7 เป็นรายบคุ คล หมายเหตุ การตรวจสอบความถูกตอ้ งของค�ำ ตอบจากโจทย์ ปัญหา ควรน�ำ คำ�ตอบทีไ่ ดต้ รวจสอบกบั โจทย์ปญั หานั้น ถ้าสอดคลอ้ งกบั โจทยป์ ัญหาแสดงวา่ เป็นค�ำ ตอบทีถ่ กู ตอ้ ง 25,600 8,900 (25,600 8,900) 2 (25,600 8,900) 2 = (25,600 8,900) 2 = 16,700 2 = 8,350 8,350 ๘,๓๕๐ 136 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครู รายวิชาพืน้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 4 | การบวก ลบ คูณ หารจ�ำนวนนับ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4 เล่ม 1 3. หน้า 194-196 เป็นการแกโ้ จทยป์ ญั หาทีเ่ น้น การเขยี นแสดงวิธีท�ำ ซ่งึ ครูควรให้นักเรียนเขยี นแสดง วิธีท�ำ โดยใชภ้ าษาของตนเอง เพ่อื ฝกึ การส่อื สารและ สอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ จากนน้ั ให้นกั เรียนรว่ มกัน ทำ�กิจกรรม หน้า 197 แล้วใหท้ �ำ แบบฝึกหดั 4.8 เป็นรายบุคคล สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 137
คู่มอื ครู รายวชิ าพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 4 | การบวก ลบ คูณ หารจ�ำนวนนับ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 4 เลม่ 1 4. เพื่อตรวจสอบความเขา้ ใจและสรุปความรู้ท่ไี ด้ ใหน้ กั เรียนท�ำ กิจกรรมหนา้ 198 เป็นรายบุคคล ตนมะนาวทั้งหมด 46 แถว แถวละ 24 ตน โคน ทง้ิ 149 ตน ตนมะนาวทีเ่ หลือ 46 24 46 24 = 1,104 149 1,104 149 = 955 ๙๕๕ ตน ลกู อมสแี ดง 1,152 เม็ด ลูกอมสเี ขียว 3,840 เม็ด คละใสถ งุ ถงุ ละ 24 เมด็ ลูกอมสแี ดง 1,152 เมด็ ลูกอมสเี ขยี ว 3,840 เมด็ รวมมีลูกอม 1,152 + 3,840 = 4,992 เม็ด จัดใสถ ุง ถงุ ละ เม็ด จะได 24 ถุง ๒๐๘ ถุง 4,992 24 = 208 ใชเกา อี้ 1,056 ตัว เกาอี้ท่เี พ่มิ เกา อี้ 38 แถว แถวละ 26 ตวั มเี กาอ้ี 38 แถว ตัว แถวละ 26 ตัว ตวั มเี กา อท้ี ้งั หมด 38 26 = 988 ตวั มีผูปกครอง 1,056 คน ใชเกาอ้ี 1,056 ตองเพม่ิ เกา อีอ้ ีก 1,056 988 = 68 ๖๘ ตัว ระยะทาง 4,000 เมตร วิ่งแลว 1,200 เมตร ที่เหลือว่ิงรอบสนาม รอบละ 400 เมตร ขั้นท่ี 1 หาระยะทางทเี่ หลอื โดย 4,000 1,200 = 2,800 เมตร ขั้นท่ี 2 หาจาํ นวนรอบทีว่ งิ่ โดย 2,800 400 = 7 รอบ 138 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครู รายวิชาพ้นื ฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 4 | การบวก ลบ คณู หารจำ� นวนนบั ชั้นประถมศึกษาปที ่ี 4 เลม่ 1 จอม ขายขนมได 100 บาท ซอ้ื สมุด 50 บาท 4.5 การสรา้ งโจทย์ปัญหา จะเหลือเงนิ ก่ีบาท ไดรางวัลจากครู 100 บาท จอม จุดประสงค์การเรยี นรู้ นกั เรียนสามารถสรา้ งโจทยป์ ัญหาการบวก ลบ คณู หารระคน 2 ข้ันตอน สือ่ การเรยี นรู้ เครอื่ งคิดเลข แนวการจัดการเรยี นรู้ 1. การสรา้ งโจทย์ปญั หาในชน้ั น้ี เปน็ การสร้างจากประโยค สญั ลกั ษณแ์ ละจากภาพ ซึ่งจะต้องคำ�นึงถึงความเปน็ ไปได้ ความเหมาะสมและความสมเหตสุ มผลของโจทย์ปัญหา ทส่ี รา้ งข้ึน กจิ กรรมหน้า 199 เปน็ การฝกึ ใหน้ กั เรียนเหน็ โครงสร้างของโจทย์ปัญหา และสรา้ งโจทยป์ ญั หาโดยเลือก ข้อความท่ีก�ำ หนดใหม้ คี วามสอดคลอ้ งกนั ท้ังนคี้ รอู าจ สร้างขอ้ ความอน่ื เพิ่มเตมิ เพื่อให้เกิดความหลากหลาย (100 50) + 100 = 150 บาท สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 139
คู่มอื ครู รายวชิ าพนื้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 4 | การบวก ลบ คณู หารจำ� นวนนบั ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 เล่ม 1 สถานการณกับจาํ นวนที่ใชม คี วามเปนไปได 2. กิจกรรมหน้า 200 เปน็ การฝกึ ให้นกั เรยี นพจิ ารณาความ สถานการณก ับจํานวนที่ใชมีความเปน ไปได เหมาะสม ความเปน็ ไปได้ และความสมเหตุสมผลของโจทย์ สถานการณไ มเ หมาะสมกับจาํ นวน ปญั หาท่ีกำ�หนด ซึ่งค�ำ ตอบของนักเรยี นแตล่ ะคนอาจมี สถานการณไมสอดคลองกับประโยคสัญลักษณ ความแตกตา่ งกนั ครคู วรนำ�มาเป็นประเดน็ อภปิ รายร่วมกนั จากนนั้ ให้ร่วมกนั ทำ�กิจกรรมหนา้ 201 แลว้ ให้ท�ำ แบบฝึกหดั 4.9 เป็นรายบคุ คล ตัวอยา ง พอ คา มีขาวสาร 900 กิโลกรมั ซ้ือขาวสารเพมิ่ อีก 700 กโิ ลกรมั แลวนาํ ขาวสารท้งั หมดแบง ใสถงุ ถงุ ละ 5 กิโลกรมั ไดก่ีถุง ๓๒๐ ถงุ อยใู นดุลยพนิ ิจของครผู ูสอน 140 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครู รายวิชาพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 4 | การบวก ลบ คณู หารจ�ำนวนนับ ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 เล่ม 1 3. การสร้างโจทยป์ ญั หาจากภาพหนา้ 202 ครคู วรให้ นักเรยี นพิจารณาภาพที่กำ�หนด แล้วเช่อื มโยงใหเ้ ป็นเร่ืองราว โดยอาจเพ่มิ ขอ้ ความหรือจำ�นวนไดต้ ามความเหมาะสม ครูอาจน�ำ สนทนาเก่ียวกับคำ�หรือขอ้ ความทแี่ สดงถึงการ ด�ำ เนินการตา่ ง ๆ จากนน้ั ครูก�ำ หนดการดำ�เนินการ 2 การดำ�เนินการหลาย ๆ ลกั ษณะ เช่น บวก กบั ลบ บวก กับ คูณ หาร กับ คูณ ใหน้ กั เรียนช่วยกนั สรา้ งโจทย์ ปญั หาจากภาพ แล้วน�ำ มาร่วมกันอภปิ รายถึงความเปน็ ไปได้ ความเหมาะสม และความสมเหตุสมผลของโจทย์ ปญั หาท่สี ร้าง ให้นกั เรียนรว่ มกันทำ�กิจกรรมหน้า 203 แล้วใหท้ �ำ แบบฝกึ หดั 4.10 เปน็ รายบคุ คล 15,600 + (125 590) = หรือ 15,600 + 125 590 = 89,350 บาท (135 12) 4 = หรือ 135 12 4 = 405 ถุง อยูในดลุ ยพินิจของครูผสู อน อยูในดุลยพนิ ิจของครผู ูส อน สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 141
ค่มู อื ครู รายวชิ าพ้นื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 4 | การบวก ลบ คูณ หารจ�ำนวนนบั ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 เล่ม 1 4. เพื่อตรวจสอบความเขา้ ใจและสรปุ ความรู้ที่ได้ ใหน้ กั เรียนทำ�กิจกรรมหนา้ 204-205 เป็นรายบคุ คล อยูในดุลยพนิ ิจของครผู สู อน อยูใ นดลุ ยพนิ ิจของครผู ูสอน อยูใ นดลุ ยพินิจของครผู ูสอน อยูในดลุ ยพนิ จิ ของครผู ูสอน สง่ิ ทต่ี องคาํ นึงถึง ไดแก สถานการณท ก่ี ําหนด จํานวน และคําหรอื ขอ ความท่ีสอดคลอง กบั วธิ ีดําเนินการ ตองมีความเหมาะสม และมีความเปนไปได 142 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครู รายวชิ าพ้นื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 4 | การบวก ลบ คณู หารจ�ำนวนนับ ชนั้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 เล่ม 1 ขุน ใบบวั และ ออมสิน 4.6 คา่ เฉล่ยี แกว ตา และ เพชร จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ นักเรยี นสามารถแกโ้ จทย์ปัญหาเกยี่ วกับค่าเฉลยี่ สอ่ื การเรียนรู้ เคร่ืองคดิ เลข แนวการจดั การเรียนรู้ 1. ใชส้ ถานการณเ์ ก่ยี วกบั ความสูงหนา้ 206 นำ�สนทนา เพ่ือเชอ่ื มโยงไปสกู่ ารหาคา่ เฉลย่ี แลว้ ชว่ ยกนั ตอบคำ�ถาม พรอ้ มแนะน�ำ ให้นกั เรยี นสังเกตความสูงเฉลีย่ กับความสูง ของเด็กแตล่ ะคน แล้วให้รว่ มกันท�ำ กจิ กรรมหน้า 207 ให้นกั เรียนสังเกตปรมิ าณการใช้ไฟฟา้ เฉลยี่ กบั ปริมาณ การใชไ้ ฟฟา้ แต่ละเดือน จากนั้นให้น�ำ ขอ้ สงั เกตทไี่ ดจ้ าก หน้า 206 และ 207มารว่ มกนั อภิปรายเพือ่ หาความสมั พันธ์ ระหว่างค่าเฉล่ีย จ�ำ นวนทน่ี อ้ ยทสี่ ุด และจำ�นวนทม่ี ากทส่ี ดุ ของข้อมลู ชุดหน่ึง จากนน้ั ให้นกั เรยี นร่วมกันท�ำ กจิ กรรม หน้า 208-209 แล้วใหท้ �ำ แบบฝกึ หดั 4.12 เป็นรายบคุ คล 145 246 188 ม.ค. ก.พ. พ.ค. ม.ิ ย. ม.ี ค. เม.ย. คาเฉล่ยี ของขอมลู ชุดหนึง่ จะมากกวา จาํ นวนทีน่ อ ยทส่ี ุด แตนอยกวาจํานวนทมี่ ากทส่ี ุด ของขอ มลู ชดุ นัน้ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 143
คู่มือครู รายวิชาพน้ื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 4 | การบวก ลบ คณู หารจ�ำนวนนบั ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 4 เลม่ 1 เวลารวมท้ังหมด 32 + 40 + 28 + 30 + 35 = 165 นาที วัน เพชรเดนิ ทาง 5 นาที โดยเฉล่ียเพชรใชเวลาเดินทางวันละ 165 5 = 33 ๓๓ นาที ความสงู รวมทัง้ หมด 137 + 138 + 140 + 145 = 560 เซนตเิ มตร คน มเี ด็กท้ังหมด 4 เซนติเมตร เด็กกลุม นมี้ ีความสงู เฉล่ีย 560 4 = 140 ๑๔๐ เซนติเมตร 8 + 9 + 11 + 11 + 12 + 15 66 ระยะทาง 72 กิโลเมตร 6 พอ ใชเ วลาปนจกั รยาน 3 ช่วั โมง 66 6 11 พอ ปนจกั รยานไดระยะทางเฉลยี่ ช่ัวโมงละ 72 3 = 24 กิโลเมตร ๑๑ ๒๔ กิโลเมตร 144 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครู รายวิชาพืน้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 4 | การบวก ลบ คณู หารจ�ำนวนนบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 4 เล่ม 1 2. การสอนการแกโ้ จทยป์ ญั หาเกย่ี วกบั คา่ เฉลย่ี หนา้ 210-211 ครอู าจแนะน�ำ ให้นกั เรยี นใช้ความสัมพันธ์ระหวา่ งการคณู กบั การหาร แล้วจัดกิจกรรมทำ�นองเดยี วกบั การสอน การแกโ้ จทย์ปัญหา จากนนั้ ใหร้ ว่ มกนั ท�ำ กิจกรรมหนา้ 212 แลว้ ใหท้ �ำ แบบฝึกหัด 4.12 เปน็ รายบคุ คล 2,064 24 2,064 24 = 86 ๘๖ 4 15 4 15 = 60 6 14 6 14 = 84 60 + 84 = 144 4 + 6 = 10 144 10 = 14.4 ๑๔.๔ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 145
ค่มู อื ครู รายวชิ าพ้นื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 4 | การบวก ลบ คูณ หารจำ� นวนนับ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 เล่ม 1 3. เพื่อตรวจสอบความเขา้ ใจและสรปุ ความรู้ที่ได้ ใหน้ กั เรียนทำ�กิจกรรมหนา้ 213-214 เป็นรายบคุ คล จาํ นวนไขไกทีเ่ กบ็ ไดรวมกัน 253 + 314 + 263 + 270 = 1,100 ฟอง สัปดาห ใชเ วลาเกบ็ ไขไ ก 4 ฟอง แจว เก็บไขไกเฉลย่ี สปั ดาหละ 1,100 4 = 275 ๒๗๕ ฟอง ความสงู ของคนในครอบครัวปนรวมกนั 790 เซนติเมตร เซนติเมตร ความสงู เฉล่ีย 158 คน ครอบครัวปน มสี มาชิก 790 158 = 5 ๕ คน พอ กับแมม รี ายไดเ ฉล่ยี 18,200 บาท คน พอ กบั แม 2 บาท พอกบั แมจ อมมรี ายไดรวมกัน 2 18,200 = 36,400 ๓๖,๔๐๐ บาท ตอ งรผู ลรวมของขอมลู ท้ังหมดและจาํ นวนขอมลู ท้ังหมด หาคา เฉลีย่ ไดโ ดย นําผลรวมของขอมลู ทงั้ หมดหารดว ยจาํ นวนขอมูลทัง้ หมด ตองรคู า เฉลย่ี และจาํ นวนขอ มูลท้ังหมด หาผลรวมของขอ มลู ทั้งหมดไดโ ดย นําคา เฉลย่ี คณู กับจํานวนขอมลู ท้ังหมด ตองรคู า เฉล่ียและผลรวมของขอ มลู ทง้ั หมด หาจาํ นวนขอ มูลทั้งหมดไดโดย นาํ ผลรวมของขอ มูลท้งั หมดหารดวยคาเฉล่ยี 146 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มือครู รายวชิ าพืน้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 4 | การบวก ลบ คูณ หารจำ� นวนนบั ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4 เลม่ 1 58 ร่วมคิดรว่ มทำ� 5 12 ร่วมคิดร่วมท�ำ เป็นกิจกรรมท่ใี หน้ ักเรียนนำ�ความร้ทู ี่ได้ 1 จากการเรียนในบทเรียนนม้ี าช่วยกนั แกป้ ัญหา 38 เคร่อื งคิดเลขของตน กลา เปน แบบคาํ นวณตามลําดบั การกดปุม เพราะ 2 + 3 = 5 และ 5 4 = 20 สว นเครื่องคดิ เลขของแกว ตาเปนแบบคาํ นวณตามลาํ ดับขนั้ การคํานวณทางคณติ ศาสตร เพราะ ตอ งคณู กอ นบวก ดังนน้ั 3 4 = 12 และ 2 + 12 = 14 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 147
คู่มอื ครู รายวชิ าพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 4 | การบวก ลบ คูณ หารจำ� นวนนับ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 4 เลม่ 1 ตัวอย่างข้อสอบ บทท่ี 4 การบวก ลบ คูณ หารระคน จุดประสงค์การเรียนรทู้ ี่ 1 นกั เรียนสามารถหาผลลพั ธจ์ ากโจทยก์ ารบวก ลบ คณู หารระคน ทีเ่ นน้ ลำ�ดับขน้ั การคำ�นวณทม่ี ีวงเล็บและไมม่ ีวงเลบ็ พร้อมทั้งตระหนักถึงความสมเหตุสมผลของคำ�ตอบ การหาผลลพั ธต์ อ่ ไปนี้ถูกหรอื ผดิ ถา้ ผดิ ให้แกไ้ ขให้ถกู ต้อง 1. 106,735 - 5,750 ÷ 46 × 218 = 79,485 2. 2,191 + 4,037 × 21 - 71,042 = 59,746 3. (35,640 + 198,042) - 4,930 × 35 = 8,006,320 148 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครู รายวชิ าพื้นฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 4 | การบวก ลบ คณู หารจ�ำนวนนบั ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 4 เลม่ 1 จดุ ประสงค์การเรียนรู้ที่ 2 นกั เรยี นสามารถวเิ คราะหแ์ ละแสดงวธิ ีหาค�ำ ตอบของโจทย์ปญั หาการบวก ลบ คณู หาร ระคน 2 ขนั้ ตอน พร้อมท้งั ตระหนกั ถงึ ความสมเหตุสมผล แสดงวิธหี าคำ�ตอบ 1. เดือนนี้แมค่ า้ ขายไข่ไกไ่ ด้ 2,120 แผง แผงละ 30 ฟอง ซง่ึ ขายไดม้ ากกวา่ เดือนทแี่ ลว้ 146 แผง เดือนที่แลว้ แม่ค้าขายไข่ไกไ่ ด้กฟ่ี อง 2. ในหอ้ งประชุมมเี กา้ อ้ี 640 ตัว ยกมาเพม่ิ อกี 192 ตวั ถา้ จดั เกา้ อี้ในหอ้ งประชุมน้เี ป็นแถว แถวละ 32 ตัว จะจัดไดท้ ัง้ หมดกีแ่ ถว สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 149
คมู่ ือครู รายวชิ าพนื้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 4 | การบวก ลบ คูณ หารจ�ำนวนนับ ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4 เล่ม 1 จดุ ประสงคก์ ารเรียนรทู้ ่ี 4 นกั เรยี นสามารถแกโ้ จทย์ปญั หาเกยี่ วกบั ค่าเฉล่ีย แสดงวิธีหาคำ�ตอบ 1. ตลอดสปั ดาห์ทผ่ี ่านมา แพรวใชเ้ วลานง่ั สมาธแิ ตล่ ะวัน ดังน้ี 25 32 40 28 34 30 และ 35 นาที แพรวใช้เวลานั่งสมาธิโดยเฉล่ียวันละก่นี าที 2. ความสงู ของนกั เรยี นกลมุ่ หน่ึงรวมกันได้ 768 เซนตเิ มตร และมีความสงู เฉลย่ี 96 เซนติเมตร ถ้านักเรียนกลุ่มนี้ มนี ำ�้ หนักรวมกันได้ 184 กโิ ลกรมั จะมนี �ำ้ หนกั เฉลีย่ กี่กิโลกรมั หมายเหตุ การตระหนกั ถงึ ความสมเหตุสมผลของคำ�ตอบและการสร้างโจทย์ปญั หาไมค่ วรประเมินดว้ ยขอ้ สอบ แต่ควรประเมนิ ด้วยวิธีอ่ืน 150 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ ือครู รายวิชาพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 4 | การบวก ลบ คณู หารจำ� นวนนบั ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 4 เลม่ 1 เฉลยตวั อย่างข้อสอบ บทท่ี 4 การบวก ลบ คณู หารระคน จดุ ประสงค์การเรยี นรทู้ ่ี 1 1. ถูก 2. ผดิ ค�ำ ตอบท่ีถูกตอ้ งคือ 2,191 + 4,037 × 21 – 71,042 = 15,926 3. ผดิ ค�ำ ตอบทถ่ี กู ตอ้ งคือ (35,640 + 198,042) – 4,930 × 35 = 61,132 จุดประสงค์การเรียนรทู้ ี่ 2 1. 59,220 ฟอง 2. 26 แถว จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ท่ี 4 1. 32 นาที 2. 23 กโิ ลกรัม สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 151
คู่มอื ครู รายวชิ าพ้นื ฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 5 | เวลา ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 4 เล่ม 1 บ5ทท่ี เวลา จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ และสาระส�ำ คัญ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระส�ำ คัญ นกั เรยี นสามารถ ∙∙การบอกเวลาเป็นนาฬกิ าและนาที ใช้มหพั ภาค (.) หรือ 1. บอกระยะเวลา ทวภิ าค (:) ∙∙ระยะเวลา หมายถึง ช่วงเวลาท่ีตอ่ เนอื่ งจากเวลาหนึ่งถงึ อกี 2. เปรียบเทยี บระยะเวลา เวลาหนึ่ง เคร่อื งหมายวรรคตอนที่ใชค้ ือ ทวิภาค (:) 3. อา่ นตารางเวลา ∙∙60 วินาที เทา่ กบั 1 นาที 4. แกโ้ จทย์ปญั หาเกี่ยวกับเวลา ระยะเวลา การเปรยี บเทยี บระยะเวลา อาจเปล่ียนให้เป็นหนว่ ยเดยี วกัน โดยใชค้ วามสัมพนั ธ์ของหน่วยเวลา การอ่านตารางเวลาตอ้ งพิจารณาจากความสัมพันธ์ระหวา่ ง ชอ่ งแสดงรายการในแนวตั้งกับแนวนอน การแก้โจทยป์ ัญหาเก่ยี วกับเวลา อาจใชค้ วามสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง หนว่ ยเวลา 152 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครู รายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | เวลา ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 เลม่ 1 ตารางวเิ คราะหเ์ น้อื หากบั ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ และเวลาทีใ่ ชใ้ นการจดั กจิ กรรม หวั ข้อ เน้อื หา เวลา ทักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ เตรยี มความพร้อม (ชั่วโมง) j k l m n 5.1 การบอกระยะเวลา 1 ----- • การบอกระยะเวลาเปน็ นาที วนิ าที 3 -- - - • การบอกระยะเวลาเปน็ นาที ชวั่ โมง วัน • การบอกระยะเวลาเป็นวนิ าที นาที ช่วั โมง วัน 2 -- - - สปั ดาห์ เดอื น ปี 5.2 การเปรยี บเทียบระยะเวลา 2 - - - 5.3 การอา่ นตารางเวลา 3 - - 5.4 โจทยป์ ญั หา 1 - - รว่ มคดิ รว่ มทำ� ทกั ษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ j การแกป้ ัญหา k การสือ่ สารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์ l การเชื่อมโยง m การใหเ้ หตผุ ล n การคดิ สร้างสรรค์ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 153
คู่มอื ครู รายวชิ าพืน้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 5 | เวลา ช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เล่ม 1 คำ�ใหม่ ระยะเวลา วินาที ตารางเวลา ความรหู้ รือทักษะพ้ืนฐาน ความสมั พนั ธข์ องหน่วยเวลา นาที ชัว่ โมง วนั สัปดาห์ เดอื น ปี สอ่ื การเรียนรู้ 1. แถบประโยคแสดงเวลา 2. นาฬกิ าจรงิ 3. ก�ำ หนการตา่ ง ๆ เช่น ตารางเรียน ตารางการแขง่ ขนั ตารางการเดนิ รถ แหล่งเรยี นรู้ 1. หนงั สอื เรียนหน้า 216-253 2. แบบฝกึ หดั หน้า 96-113 เวลาท่ใี ชจ้ ัดการเรยี นรู้ 12 ชั่วโมง 154 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครู รายวิชาพ้ืนฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | เวลา ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เล่ม 1 แนวการจดั การเรียนรู้ การเตรียมความพร้อม 1. ครูน�ำ สนทนาเก่ยี วกบั การวง่ิ มาราธอน โดยใชข้ ้อมลู หนา้ เปิดบท เพอ่ื เชอื่ มโยงไปยังการอ่านและการเขยี นบอกระยะเวลา เปน็ ชว่ั โมง นาที วินาที โดยใช้จุด และการแกโ้ จทย์ปัญหาเก่ยี วกบั เวลา จากน้ันใหน้ ักเรียนช่วยกันตอบค�ำ ถามหนา้ 217 ซงึ่ นกั เรยี นอาจยงั ตอบไม่ได้ และครูไมจ่ ำ�เป็นตอ้ งเฉลย แต่ควรใหน้ กั เรยี นเป็นผ้หู าคำ�ตอบดว้ ยตนเองหลงั จากเรยี นโจทย์ ปญั หาแล้ว สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 155
คมู่ ือครู รายวชิ าพืน้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | เวลา ช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เล่ม 1 2. เตรียมความพร้อมเปน็ การตรวจสอบความรพู้ ื้นฐานที่ จำ�เปน็ ส�ำ หรบั การเรยี นบทน้ี โดยมีสว่ นท่เี ป็นเน้อื หาและ ส่วนท่เี ปน็ การน�ำ ความร้ไู ปใช้ หรือคณิตคิดท้าทาย ถา้ นักเรียนมคี วามรู้พน้ื ฐานยังไมเ่ พียงพอ ครคู วรทบทวน โดยอาจใชน้ าฬกิ าจริงประกอบการอธิบาย จากนน้ั ให้ นกั เรยี นท�ำ แบบฝกึ หดั 5.1 เปน็ รายบคุ คล 8.15 น. หรอื 8 : 15 19.06 น. หรอื 19 : 06 21.32 น. หรอื 21 : 32 น. 14.41 น. 14.42 น. 14.43 น. หรอื 14.44 น. 156 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู ือครู รายวิชาพืน้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | เวลา ช้นั ประถมศึกษาปีที่ 4 เลม่ 1 5.1 การบอกระยะเวลา จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ นักเรียนสามารถบอกระยะเวลา ส่ือการเรียนรู้ 1. แถบประโยคแสดงเวลา 2. นาฬกิ าจริง แนวการจดั การเรียนรู้ 1. การสอนการบอกระยะเวลา นักเรียนต้องเข้าใจเกี่ยวกับ การบอกเวลาก่อน ซึง่ ครคู วรแนะนำ�การใช้เครอื่ งหมาย วรรคตอนเพ่อื บอกเวลาและบอกระยะเวลา โดยใช้ขอ้ มูล หน้า 219 และควรยกตวั อย่างเพม่ิ เติม ซ่ึงอาจใช้ แถบประโยคแสดงเวลาให้นกั เรียนอ่าน เช่น พ่อเขา้ นอนเวลา 22:43 น. เพชรแขง่ ว่ายน�ำ้ 400 ม. ใช้เวลา 3:20 แจนรบั ประทานอาหารเช้าเวลา 7.26 น. ภาพยนตร์เร่ืองหนึ่งมคี วามยาว 1:58:02 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 157
คมู่ อื ครู รายวชิ าพน้ื ฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 5 | เวลา ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เลม่ 1 2. การสอนการบอกระยะเวลาเป็นนาที วนิ าที นักเรียน ต้องเข้าใจความสัมพันธข์ องหน่วยเวลาระหวา่ ง นาที กบั วินาทกี ่อน ครอู าจแนะน�ำ ใหน้ ักเรียนรจู้ กั หนว่ ยวินาที โดย ใหน้ ักเรยี นพิจารณาขอ้ มลู หนา้ 220 ซง่ึ ครูควรนำ�นาฬกิ า ที่มเี ขม็ วนิ าทีมาใช้ประกอบการอธบิ าย และให้นักเรยี น สงั เกตการเดนิ ของเขม็ ยาวกับเข็มวินาที ซง่ึ จะได้ว่า เมอื่ เขม็ วินาทเี ดนิ ครบ 1 รอบ (60 ช่องเล็ก) เข็มยาว จะเดินไป 1 ช่องเล็ก (1 นาท)ี ขอ้ ตกลง เข็มวินาทเี ดนิ 1 ชอ่ งเล็ก เทา่ กับ 1 วนิ าที ดังนน้ั เขม็ วินาทเี ดนิ 60 ชอ่ งเลก็ เท่ากับ 60 วนิ าที แสดงวา่ 60 วนิ าที เท่ากบั 1 นาที ครอู าจจดั กจิ กรรมเพิ่มเตมิ เพือ่ ใหน้ ักเรยี นคุ้นเคยกับ ระยะเวลาเปน็ วินาที โดยครกู ดกรงิ่ นาน 10 วินาที แลว้ ให้ คาดคะเนวา่ ตนเองสามารถเปลง่ เสียง “ต”่ี ตลอดช่วง การหายใจเพยี งครง้ั เดียวไดน้ านกว่ี ินาที จากนน้ั ให้นักเรยี น ปฏบิ ตั ิ โดยครเู ป็นผูจ้ ับเวลา 3. ครูใช้การถาม–ตอบประกอบการอธิบายตัวอย่าง การเปลย่ี นหน่วยเวลาจากนาทเี ป็นวินาที และจากวินาทเี ป็น นาทีหนา้ 220–221 โดยใชก้ ารเขยี นภาพประกอบวธิ ีคิด จากนน้ั รว่ มกันทำ�กจิ กรรมหน้า 222 และให้ทำ�แบบฝกึ หดั 5.2 เปน็ รายบคุ คล ท้ังนีน้ กั เรยี นอาจเลือกใช้วิธคี ดิ ใดก็ได้ หมายเหตุ ครคู วรเนน้ ย้�ำ ถึงความสมเหตสุ มผลของการเขยี น ภาพประกอบวธิ ีคดิ ตัวอยาง 1 นาที 1 นาที 1 นาที 1 นาที 1 นาที เนอ่ื งจาก 60 วนิ าที 60 วินาที 60 วินาที 60 วินาที 60 วนิ าที จะได ดงั นนั้ 1 นาที เทากับ 60 วินาที 5 นาที คดิ เปน 5 60 = 300 วนิ าที 5 นาที คิดเปน 300 วินาที ๓๐๐ วนิ าที ตัวอยาง 1 นาที 1 นาที 1 นาที 1 นาที 1 นาที 1 นาที 1 นาที 1 นาที 25 วนิ าที เน่ืองจาก 60 วนิ าที 60 วนิ าที 60 วินาที 60 วินาที 60 วนิ าที 60 วินาที 60 วินาที 60 วนิ าที จะได ดงั นัน้ 1 นาที เทากบั 60 วนิ าที 8 นาที คดิ เปน 8 60 = 480 วินาที 8 นาที 25 วนิ าที คิดเปน 480 + 25 = 505 วินาที ๕๐๕ วินาที (ตัวอยางคาํ ตอบ) ตัวอยา ง 340 วนิ าที 60 วนิ าที 60 วินาที 60 วนิ าที 60 วนิ าที 60 วนิ าที 40 วนิ าที (1 นาท)ี (1 นาที) (1 นาที) (1 นาท)ี (1 นาที) เนือ่ งจาก 60 วินาที เทา กับ 1 นาที และ 340 = 60 + 60 + 60 + 60 + 60 + 40 จะได 340 วนิ าที คดิ เปน 5 นาที 40 วินาที ดังนั้น น้าํ ผงึ้ ใชเวลาเดนิ 5 นาที 40 วินาที ๕ นาที ๔๐ วนิ าที 158 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครู รายวชิ าพ้นื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | เวลา ชัน้ ประถมศึกษาปที ี่ 4 เล่ม 1 4. ครูใช้การซักถามเพ่อื ทบทวนความสมั พนั ธข์ องหนว่ ยเวลา ระหว่างนาที ช่วั โมง วนั จากนนั้ ใช้การถาม–ตอบประกอบ การอธิบายเกยี่ วกบั การบอกระยะเวลาเปน็ นาที ชว่ั โมง วัน โดยใชต้ วั อยา่ งหนา้ 223–224 แลว้ รว่ มกนั ท�ำ กิจกรรม หนา้ 224 และครูควรซกั ถามถึงวิธีคิดของนักเรียนแต่ละคน จากนนั้ ให้ท�ำ แบบฝึกหดั 5.3 เป็นรายบคุ คล ทงั้ น้ีนกั เรยี น อาจเลอื กใชว้ ิธีคดิ ใดกไ็ ด้ 84 48 5 3 40 98 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 159
คมู่ ือครู รายวชิ าพื้นฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | เวลา ชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 4 เล่ม 1 132 12 7 6 2 5. การสอนการบอกระยะเวลาเปน็ วนิ าที นาที ชั่วโมง วนั สปั ดาห์ เดอื น ปี จดั กจิ กรรมท�ำ นองเดยี วกนั กบั ขอ้ 4. โดยใช้ตัวอย่างจากหน้า 225–226 แล้วรว่ มกันท�ำ กิจกรรมหนา้ 226 และครคู วรซกั ถามถึงวธิ คี ิดของนกั เรยี นแต่ละคน จากน้ันให้ท�ำ แบบฝกึ หัด 5.4 เปน็ รายบุคคล ความรเู้ สรมิ พุทธศกั ราช และครสิ ตศ์ ักราช พทุ ธศกั ราช อักษรย่อ พ.ศ. เรมิ่ นบั พ.ศ. 1 หลังจากพระพุทธเจ้าเสด็จดบั ขันธ์ปรนิ พิ พาน ครสิ ตศ์ กั ราช อักษรยอ่ ค.ศ. เร่มิ นับ ค.ศ. 1 เม่ือพระเยซคู ริสตป์ ระสตู ิ โดย ค.ศ. 1 จะตรงกบั พ.ศ. 544 ซึง่ มรี ะยะเวลาหา่ งกัน 543 ปี ดงั นน้ั ถ้าเปลีย่ นจาก ค.ศ. เป็น พ.ศ. ให้เพ่มิ อกี 543 ปี เช่น ค.ศ. 2015 ตรงกบั พ.ศ. 2558 และ ถ้าเปลี่ยนจาก พ.ศ. เป็น ค.ศ. ใหล้ ดลง 543 ปี เช่น พ.ศ. 2556 ตรงกบั ค.ศ. 2013 160 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู ือครู รายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | เวลา ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เลม่ 1 6. เพื่อตรวจสอบความเข้าใจและสรุปความร้ทู ี่ได้ ใหน้ ักเรยี นท�ำ กจิ กรรมหน้า 227–228 เป็นรายบคุ คล 22 2 45 14 การเปล่ยี นหนวยเวลาจากหนว ยใหญเปน หนว ยยอ ยใชการคูณ เชน เปลีย่ น 2 นาที เปนวินาที จะได 2 นาที คิดเปน 2 60 = 120 วินาที การเปลย่ี นหนวยเวลาจากหนว ยยอยเปน หนวยใหญใ ชก ารหาร เชน เปลย่ี น 180 นาที เปนช่ัวโมง จะได 180 นาที คิดเปน 180 60 = 3 ชั่วโมง สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 161
คมู่ ือครู รายวิชาพนื้ ฐาน คณติ ศาสตร์ บทท่ี 5 | เวลา ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 4 เลม่ 1 5.2 การเปรียบเทยี บระยะเวลา จุดประสงค์การเรยี นรู้ นักเรียนสามารถเปรยี บเทียบระยะเวลา สื่อการเรยี นรู้ - แนวการจัดการเรียนรู้ 1. การเปรยี บเทียบระยะเวลา นักเรียนต้องมคี วามเข้าใจว่า การเปรยี บเทียบระยะเวลาท่ีมีหนว่ ยต่างกัน ท�ำ ไดโ้ ดย เปลี่ยนหนว่ ยเวลาใหเ้ ปน็ หนว่ ยเดยี วกันกอ่ น แลว้ จงึ เปรียบเทยี บ ในการสอนการเปรยี บเทียบระยะเวลา จึงควรทบทวนความสมั พนั ธข์ องหนว่ ยเวลากอ่ น โดยอาจจดั กิจกรรม “เรยี งหนว่ ยเวลา” และกิจกรรม “ความสัมพนั ธ์ของหนว่ ยเวลา” 162 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครู รายวชิ าพ้นื ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | เวลา ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 เล่ม 1 กิจกรรมเรยี งหนว่ ยเวลา เลือกหนว่ ยเวลาทก่ี ำ�หนดให้ เติมลงในช่องส่ีเหลย่ี มจากหน่วยใหญ่ไปหนว่ ยย่อย กิจกรรมความสมั พนั ธ์ของหน่วยเวลา จดั กลุม่ บตั รคำ�ทีแ่ สดงเวลาทเี่ ทา่ กนั 1 นาที 60 วนิ าที 1 ชั่วโมง 60 นาที 1 วัน 24 ชว่ั โมง 1 สัปดาห์ 12 เดอื น 7 วัน 1 เดอื น 30 วัน 52 สัปดาห์ 365 วัน 1 ปี 28 วนั จากนน้ั ครูและนักเรยี นร่วมกันพจิ ารณาการเปรยี บเทียบระยะเวลาในหนา้ 229–230 ซงึ่ ครูควรเนน้ ย�้ำ ถงึ วิธีคิดทีต่ ่างกนั และครอู าจจดั กิจกรรมเพม่ิ เตมิ โดยแบง่ นักเรียนเปน็ กล่มุ แลว้ ให้เปรียบเทยี บระยะเวลาตามโจทยท์ แ่ี ต่ละกล่มุ ไดร้ บั เชน่ เปรยี บเทยี บ 2 นาที 17 วนิ าที กบั 140 วินาที เปรยี บเทยี บ 4 ชั่วโมง 30 นาที กบั 260 นาที เปรยี บเทียบ 2 สปั ดาห์ 5 วนั กับ 16 วนั เปรยี บเทยี บ 100 วนั กบั 3 เดือน 20 วัน เปรยี บเทียบ 1 ปี 2 เดือน กบั 15 เดอื น สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 163
คู่มอื ครู รายวิชาพืน้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | เวลา ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เลม่ 1 2. ครูใช้การถาม–ตอบประกอบการอธิบายตวั อย่าง หนา้ 231 และอาจให้นักเรยี นชว่ ยกนั แสดงวธิ ีคิดอกี วธิ หี นึ่ง ที่แนะน�ำ ไว้ จากนน้ั ร่วมกันท�ำ กจิ กรรมหนา้ 232 แล้วให้ ท�ำ แบบฝกึ หดั 5.5 เป็นรายบคุ คล เปลย่ี นนาทีใหเปน วินาที วนิ าที เน่อื งจาก 1 นาที เทากบั 60 วินาที แสดงวา 1 นาที 48 วินาที คิดเปน 60 + 48 = 108 ซ่งึ 108 วนิ าที นอยกวา 118 วินาที แสดงวา 1 นาที 48 วนิ าที นอยกวา 118 วินาที ดงั น้นั บอสวา ยน้ําเรว็ กวา นิค (หรืออาจเปรยี บเทียบโดยเปล่ียนวินาทีเปนนาที) บอสวายน้าํ เรว็ กวา แหวนทํางานเปน เวลา 1 เดอื น 3 วัน อรทํางานเปนเวลา 4 สปั ดาห 5 วัน เปล่ยี นเดอื นใหเ ปน วัน เปลย่ี นสปั ดาหใ หเ ปนวนั เนอ่ื งจาก 1 เดือน เทากับ 30 วัน เนือ่ งจาก 1 สปั ดาห เทา กบั 7 วัน แสดงวา 1 เดือน 3 วนั ซึง่ 4 สปั ดาห คดิ เปน 4 7 = 28 วัน คิดเปน 30 + 3 = 33 วนั แสดงวา แหวนทาํ งานเปน เวลา 33 วนั แสดงวา 4 สปั ดาห 5 วัน คดิ เปน 28 + 5 = 33 วัน แหวนและอรทาํ งานเปนเวลานานเทา กนั แสดงวาอรทํางานเปน เวลา 33 วัน แหวนและอรทาํ งานเปน เวลานานเทากัน 164 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
ค่มู ือครู รายวิชาพื้นฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 5 | เวลา ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 4 เลม่ 1 3. เพื่อตรวจสอบความเข้าใจและสรุปความร้ทู ี่ได้ ใหน้ ักเรยี นท�ำ กจิ กรรมหน้า 233–234 เป็นรายบคุ คล ตัวอยา ง เปลีย่ นนาทีใหเ ปนวนิ าที เนือ่ งจาก 1 นาที เทา กับ 60 วนิ าที จะได 2 นาที คิดเปน 2 60 = 120 วินาที แสดงวา 2 นาที 15 วินาที คิดเปน 120 + 15 = 135 วนิ าที ซึ่ง 130 วินาที นอยกวา 135 วนิ าที แสดงวา 130 วินาที นอยกวา 2 นาที 15 วนิ าที ดังนน้ั สรุ ชัยวิง่ เร็วกวา พพิ ฒั น สรุ ชยั วงิ่ เรว็ กวา ตัวอยา ง 33 นาที 45 นาที 15.27 น. 16.00 น. 16.45 น. ดงั น้นั เจ๊ียบใชเ วลาเลนเทนนิส 33 + 45 = 78 นาที เปล่ยี นนาทีใหเ ปนชวั่ โมงและนาที เนือ่ งจาก 60 นาที เทากับ 1 ชวั่ โมง จะได 78 60 ได 1 เศษ 18 แสดงวา 78 นาที คดิ เปน 1 ช่ัวโมง 18 นาที ซงึ่ 1 ชัว่ โมง 18 นาที นอยกวา 1 ช่วั โมง 23 นาที ดงั น้นั เจีย๊ บใชเ วลาเลน เทนนสิ นอ ยกวาจอย จอยใชเ วลาเลน เทนนสิ มากกวา แกะสลักไมช้นิ ที่ 1 ใชเวลา 2 เดอื น 23 วัน แกะสลกั ไมช้ินที่ 2 ใชเ วลา 10 สัปดาห 5 วนั เปล่ียนเดือนใหเปนวนั เปลี่ยนสัปดาหใ หเ ปน วัน เนอ่ื งจาก 1 เดือน เทากับ 30 วัน เนอื่ งจาก 1 สปั ดาห เทากบั 7 วัน จะได 2 เดือน คดิ เปน 2 30 = 60 วนั จะได 10 สปั ดาห คดิ เปน 10 7 = 70 วัน แสดงวา 2 เดือน 23 วนั แสดงวา 10 สัปดาห 5 วัน คิดเปน 60 + 23 = 83 วนั คิดเปน 70 + 5 = 75 วนั แสดงวาพฒั นแ กะสลักไมชิ้นที่ 1 ใชเ วลา 83 วัน แสดงวา พัฒนแกะสลักไมช นิ้ ท่ี 2 ใชเวลา 75 วัน ดงั นั้น พัฒนใ ชเวลาแกะสลกั ไมชน้ิ ที่ 2 นอ ยกวา ชน้ิ ท่ี 1 ชิ้นที่ ๒ การเปรยี บเทยี บระยะเวลาที่มหี นว ยเหมอื นกนั สามารถบอกผลการเปรียบเทียบไดท ันที แตการเปรียบเทียบระยะเวลาทม่ี หี นวยตา งกัน ควรทําใหเ ปน หนว ยเดียวกนั กอ น แลว จงึ เปรยี บเทยี บ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 165
ค่มู ือครู รายวชิ าพื้นฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | เวลา ชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 เลม่ 1 5.3 การอ่านตารางเวลา จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ นกั เรียนสามารถอ่านตารางเวลา ส่ือการเรยี นรู้ ก�ำ หนดการต่าง ๆ เชน่ ตารางเรยี น ตารางการแข่งขัน ตารางการเดนิ รถ แนวการจัดการเรยี นรู้ 1. การสอนการอา่ นตารางเวลา ครคู วรนำ�สนทนาเกย่ี วกบั ตารางเวลาทน่ี กั เรยี นพบไดใ้ นชวี ติ จริง และอาจจดั กจิ กรรม โดยใหน้ กั เรียนอ่านตารางเรียนหนา้ 235 แลว้ รว่ มกัน อภปิ รายถงึ วิธอี ่านตารางเรยี น ซง่ึ จะได้ว่า ช่องแสดง รายการในแนวนอน (ชอ่ื วัน) ตดั กับชอ่ งแสดงรายการ ในแนวตั้ง (เวลา) จะบอกใหท้ ราบวา่ ในวันนน้ั เวลานนั้ เรยี นวิชาใด 166 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คมู่ อื ครู รายวิชาพ้นื ฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 5 | เวลา ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เลม่ 1 2. ครูและนกั เรียนรว่ มกันพิจารณาตารางเวลา หน้า 236-237 ใหน้ กั เรยี นฝกึ การอา่ นตารางเวลาโดยครคู วรตง้ั ค�ำ ถามเพม่ิ เตมิ ใหน้ กั เรยี นตอบโดยใช้ขอ้ มลู จากตารางเวลา แลว้ รว่ มกนั อภิปรายเพอ่ื นำ�ไปสูข่ อ้ สรปุ เก่ยี วกับการอ่านตารางเวลาวา่ การอา่ นตารางเวลาตอ้ งพิจารณาจากความสัมพันธ์ ระหวา่ งชอ่ งแสดงรายการในแนวต้งั กับแนวนอน จากนน้ั รว่ มกันทำ�กจิ กรรมหน้า 238 แล้วใหท้ ำ�แบบฝกึ หดั 5.6 เปน็ รายบุคคล 06 : 30 3 238 14 : 00 จอม 03 : 00 สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 167
คูม่ อื ครู รายวิชาพ้ืนฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | เวลา ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4 เลม่ 1 ความรูเ้ สริม กฬี า กาบัดด้ี กาบัดดี้ เป็นกฬี าพนื้ บ้านในแถบเอเซยี ในการเล่นจะแบ่งผ้เู ลน่ เปน็ 2 ฝา่ ย ผลดั กันเปน็ ฝา่ ยรุกและ ฝา่ ยรับ โดยผูร้ กุ 1 คน จะเขา้ ไปยังแดนฝ่ายรับ พรอ้ มเปลง่ เสยี ง “กาบัดด้ี ๆ ๆ ๆ ...” ติดตอ่ กนั ในชว่ งการหายใจ เพียงคร้งั เดียว และใชอ้ วยั วะสว่ นตา่ งๆ สัมผสั ผเู้ ลน่ ของฝ่ายรับภายในเวลา 30 วินาที โดยฝ่ายรบั จะต้องหลบ หลีกจากการถูกสมั ผสั และจับผรู้ ุกไม่ใหก้ ลบั ไปยังแดนของตนเอง กฬี ากาบดั ดค้ี ล้ายกบั การเลน่ “ตีจ่ ับ” ของไทย ทเ่ี ปลง่ เสยี ง “ตี่” ตลอดช่วงการหายใจเพียงคร้ังเดยี ว เรยี บเรยี งจาก https://sites.google.com/site/krumodcom/services 168 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คู่มอื ครู รายวิชาพนื้ ฐาน คณิตศาสตร์ บทท่ี 5 | เวลา ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4 เล่ม 1 3. เพื่อตรวจสอบความเข้าใจและสรุปความร้ทู ่ีได้ ใหน้ ักเรยี นท�ำ กจิ กรรมหน้า 239 เปน็ รายบคุ คล 12.00 น. นครนายก สมุทรสงคราม 9 ก.พ. 2560 12.00 13.30 น. 2 จันทบุรี สมุทรปราการ และ ชลบรุ ี ระยอง 4 6 ชั่วโมง พจิ ารณาจากชอ งแสดงรายการในแนวนอนกบั แนวต้ังที่ตดั กนั สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 169
คู่มอื ครู รายวิชาพ้นื ฐาน คณิตศาสตร์ บทที่ 5 | เวลา ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 4 เลม่ 1 5.4 โจทยป์ ญั หา จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้ นกั เรยี นสามารถแกโ้ จทยป์ ญั หาเกี่ยวกับเวลา ระยะเวลา ส่อื การเรยี นรู้ - แนวการจัดการเรียนรู้ 1. การแกโ้ จทยป์ ัญหา นกั เรยี นอาจใช้ความรูเ้ ก่ยี วกับ ความสมั พนั ธ์ของหน่วยเวลา ระยะเวลา การเปรยี บเทียบ ระยะเวลาครูจงึ ควรทบทวนโดยใชก้ ารถาม–ตอบ เก่ียวกบั ความสมั พันธ์ของหนว่ ยเวลาก่อน จากน้ันให้ร่วมกันพิจาณา การจัดกจิ กรรมลูกเสอื เนตรนารี พรอ้ มตอบค�ำ ถามหน้า 240 170 | สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
คูม่ ือครู รายวชิ าพ้นื ฐาน คณติ ศาสตร์ บทที่ 5 | เวลา ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 4 เลม่ 1 2. ครูใช้การถาม–ตอบ ประกอบการอธบิ ายตวั อย่าง หน้า 241 โดยเนน้ การเขยี นภาพประกอบวธิ ีคิด ครูควร กระตนุ้ ใหน้ ักเรยี นคดิ วิธีอนื่ ทแ่ี ตกตา่ งออกไป แล้วน�ำ มา เป็นประเด็นในการอภปิ รายเพอ่ื เรียนร้รู ่วมกนั จากนัน้ รว่ มกันทำ�กิจกรรมหน้า 242 และให้ทำ�แบบฝึกหดั 5.7 เปน็ รายบุคคล ตวั อยาง 10 นาที 1 ชว่ั โมง 1 ชัว่ โมง 20 นาที 12.50 น. 13.00 น. 14.00 น. 15.00 น. 15.20 น. กอยเริ่มดภู าพยนตรเวลา ๑๒.๕๐ น. ตัวอยา ง 3 วัน 11 วนั 29 ม.ค. 31 ม.ค. 11 ก.พ. ลงุ เก็บผักขายไดอ ยางเร็วทีส่ ุด วนั ที่ ๑๑ ก.พ. ตัวอยาง 1 ป 7 เดอื น 3 เดือน 1 ป 9 เดอื น 2 ป 3 ป 3 ป 7 เดอื น ถนนสายนี้เหลือเวลาสรา งอีก ๑ ป ๑๐ เดอื น จึงจะครบกาํ หนดแลว เสรจ็ สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี | 171
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342