Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือครู-สังคมศึกษาฯ-ป1

คู่มือครู-สังคมศึกษาฯ-ป1

Description: คู่มือครู-สังคมศึกษาฯ-ป1 หนังสือเรียนรายวิชาพื้นฐานสังคมศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม หน้าที่พลเมือง วัฒนธรรม และการดำเนินชีวิตในสังคม เศรษฐศาสตร์

Search

Read the Text Version

นํา สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน ๓. บทบาท หน้าท่ี และสทิ ธขิ องสมาชกิ ในครอบครัว ๑) บทบาท หนา้ ท่ี ของสมาชกิ ในครอบครวั ขยายความเขา ใจ สมาชกิ ทกุ คนในครอบครวั จะมบี ทบาทและหนา้ ที่ แตกตา่ งกนั ไป เชน่ 11. นักเรยี นแตล ะคนนาํ ความรทู ไ่ี ดมาทาํ ใบงานที่ 1.2 เรือ่ ง ครอบครวั ของฉัน ปยู่ ่า ตายาย มีบทบาทหน้าท่ี พอ่ แม่ มบี ทบาทหนา้ ท่ี เสร็จแลว ตรวจสอบความถูกตอ ง คอยอบรมส�ังสอนและให้ เล้ยี งลูก คอยส�งั สอนลกู ใหเ้ ปน็ ค�าแนะน�าแก่ลกู หลาน คนด ี และดูแลปยู่ ่า ตายาย 12. นักเรียนตอบคาํ ถามกระตุนความคดิ • นักเรียนมวี ธิ ีทจ่ี ะอยรู ว มกบั สมาชกิ ใน ลูก ตอ้ งเชือ่ ฟังพ่อแม่ หลาน ใหค้ วามเคารพรัก ครอบครัวท่มี ีบทบาทตางกันอยา งไร และต้ังใจเรยี นหนงั สอื ตอ่ ปยู่ า่ ตายาย ลุงปา้ นา้ อา (แนวตอบ : พิจารณาตามคําตอบของ นักเรียน โดยใหอยูในดุลยพินิจของครู ทุกคนในครอบครัวต่างมี เพราะเหตุใด ผสู อน เชน เราควรปฏบิ ตั ติ ามบทบาทหนา ที่ หนา้ ทแี่ ละความสมั พนั ธซ์ งึ่ กนั และกนั เราจึงมีบทบาท ของตนเองใหถูกตองสมบูรณ เชน เราเปน หน้ำทีแ่ µกµำ่ งกัน ลูกมีหนาที่เรียนหนังสือ ชวยทํางานบาน เช่ือฟงพอแม เราตองทําหนาที่ตนเองให เราจึงควรปฏิบัติตามบทบาทหน้าท่ี ถูกตองสมบูรณเพ่ือใหครอบครัวของเรามี ของตนเองให้ถกู ตอ้ งสมบรู ณ ์ เพ่อื ให้ ความสขุ ) ครอบครัวของเรามคี วามสุข • นกั เรยี นคดิ วา สมาชกิ แตล ะคนในครอบครวั มสี ทิ ธทิ จ่ี ะทาํ กจิ กรรมตา งๆ ตามทต่ี นสนใจ ไดหรือไม เพราะเหตใุ ด (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน สมาชิกแตละคนในครอบครัวมีสิทธิท่ีจะทํา กิจกรรมตางๆ ตามท่ีตนสนใจได แตตอง ไมส รางความเดอื ดรอ นใหกับผอู ่นื ) 13. ครใู หนกั เรยี นจดั ทําโครงสรา งของครอบครัว ตนเอง โดยติดภาพและเขียนชอื่ กาํ กับ และ บอกความสมั พันธข องสมาชิกในครอบครัว ลงในแบบฝก ปฏบิ ตั ฯิ หนา 12 (ครูควรบอก ลวงหนาใหนกั เรียนเตรียมภาพถา ยสมาชกิ ในครอบครัวของตนกอ นทํากิจกรรม) 46 เกร็ดแนะครู าผภู มสะามหเมาตดาขนอขมสิ�พอเอรืบหดเนล น การคดิ ครูนําบัตรคําเก่ียวกับสมาชิกในครอบครัวมาใหนักเรียนจับอีกคร้ัง แลวให ขอใดไมใ ชห นา ที่ของพอแม นักเรียนบอกหนาที่ของสมาชิกในบัตรคําท่ีตนจับได เชน จับไดบัตรคําวา พอ 1. ปกปองคมุ ครองลกู ใหบ อกหนา ทข่ี องพอ เชน พอ มหี นา ทเี่ ลยี้ งดลู กู ทาํ งานหาเงนิ มาใชจ า ยในครอบครวั 2. อบรมสงั่ สอนลูก เปน ตน 3. ตามใจลูก (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 3. พอ แมม หี นา ทมี่ ากมาย เชน ทาํ งานหาเงนิ มาใชจายในครอบครัว ดูแลครอบครัว ปกปองคุมครองสมาชิก ในครอบครัว อบรมสง่ั สอนเล้ยี งดลู ูกๆ เปน ตน แตการตามใจลกู แมลูกจะทําในสิ่งท่ีไมดี เปนสิ่งท่ีไมถูกตอง เพราะอาจทําใหลูก เขา ใจผดิ คดิ วา สงิ่ ทไี่ มด นี นั้ ไมใ ชส ง่ิ ทผ่ี ดิ และยงั เปน การสรา งนสิ ยั ทีไ่ มดีใหก ับลกู อีกดวย) T50

นาํ สอน สรปุ ประเมิน ๒) สทิ ธขิ องสมาชกิ ในครอบครวั ขนั้ สอน สมาชกิ ทกุ คนในครอบครวั ตา่ งมสี ทิ ธิในเรอ่ื งตา่ ง ๆ เชน่ มีสทิ ธิในทรพั ย์สนิ ของตน มสี ิทธิในชีวิตและร่างกายของ ตรวจสอบ ตน มีสิทธิในการแสดงความคิดเห็น มีสิทธิในการกระท�า สงิ่ ตา่ ง ๆ ที่ไมท่ า� ให้ผู้อืน่ เดือดร้อน ไม่ผดิ กฎหมาย ไม่ขดั ต่อ 14. ครสู ุมตวั แทนนักเรยี นออกมานาํ เสนอผลงาน ข้อตกลงในครอบครวั หรือกฎระเบียบในสังคม ในใบงานท่ี 1.2 โดยครูเปน ผูตรวจสอบความ ถกู ตอ ง ▲▲ เรามสี ทิ ธทิ ี่จะท�าสง่ิ ตา่ ง ๆ ได ้ แต่ตอ้ งไม่ท�าใหผ้ อู้ ืน่ เดอื ดร้อน 15. ครตู รวจสอบผลงานการจดั ทําโครงสรา ง ครอบครัวของนกั เรียนและใหค าํ แนะนํา เมอ่ื อยู่ในครอบครวั เราควรเคารพสทิ ธขิ องสมาชกิ เพมิ่ เติมเพ่อื ใหผลงานมคี วามถกู ตอ งและ ในครอบครวั เชน่ ไมร่ อื้ คน้ สง่ิ ของของผอู้ นื่ ไมน่ า� สง่ิ ของของผอู้ นื่ สมบูรณย ่ิงขึ้น มาใช ้ ถา้ ตอ้ งการใชส้ งิ่ ของของผอู้ น่ื ตอ้ งขออนญุ าตเจา้ ของกอ่ น การเคารพสทิ ธขิ องผอู้ น่ื จะทา� ใหอ้ ยรู่ ว่ มกนั ไดอ้ ยา่ ง ขนั้ สรปุ มีความสุข ไมเ่ กดิ การทะเลาะวิวาท หรือขดั แยง้ กัน 1. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมพัฒนาการเรียนรูใน 47 หนังสือเรียน หนา 48 2. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูที่ไดจาก การเรียนเร่ืองความสัมพันธของสมาชิกใน ครอบครวั ในประเดน็ ทีส่ ําคัญ เชน - โครงสรางของครอบครวั (ครอบครัวประกอบดวยสมาชิกท่ีมีความ สัมพันธก นั สมาชิกบางครอบครัวมเี พยี งพอ แมแ ละลกู แตส มาชกิ บางครอบครวั อาจมพี อ แม ลูก ปู ยา ตา และยาย) - ความสัมพนั ธของสมาชิกในครอบครัว (สมาชกิ ในครอบครัวมคี วามสมั พนั ธ เกยี่ วของกนั เชน ปู คอื พอ ของพอ ยา คือ แมของพอ ตา คอื พอของแม ยาย คอื แมของแม ลงุ คือ พ่ีชายของพอหรือแม ปา คือ พส่ี าวของพอหรือแม อา คือ นองของพอ นา คอื นองของแม) ขอสอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู ขอใดถือเปนการละเมิดสทิ ธขิ องผอู น่ื ครูเขียนเนื้อเพลงความเกรงใจ บนกระดาน แลวสอนนักเรียนรอง 1. เลอื กรับประทานอาหารที่ตนเองชอบ 2-3 เที่ยว จากนนั้ อธบิ ายใหนักเรียนเขา ใจวา เราควรมีความเกรงใจผูอนื่ เคารพ 2. นาํ ของเลนของตนมาเลนกบั เพือ่ นๆ ในสทิ ธขิ องผอู น่ื เชน ไมร อ้ื คน สงิ่ ของของผอู นื่ ถา เราไมม คี วามเกรงใจหรอื ละเมดิ 3. นาํ ส่งิ ของของเพ่อื นมาใชโ ดยไมบ อก สิทธิของผูอนื่ ก็จะเปนคนไรมารยาท และเปนที่นารงั เกียจของผอู น่ื (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 3. เมอ่ื เราอยรู ว มกบั ผอู นื่ เราควรเคารพสทิ ธิ เพลงความเกรงใจ ของผูอ่นื และไมละเมดิ สิทธิของผอู น่ื ดวยการร้ือคน หรอื นําส่ิงของ ความเกรงใจเปนสมบัติของผูดี ตรองดซู ิทุกคนก็มีหวั ใจ ของคนอ่นื มาใชโดยไมขออนญุ าต) เกดิ เปนคนถาหากไมเกรงใจใคร คนนน้ั ไซรไ รค ุณธรรมประจาํ ตน กรมพลศกึ ษา T51

นํา สอน สรุป ประเมนิ ขน้ั สรปุ ๔. การใชอ้ า� นาจในครอบครัวตามบทบาทหนา้ ท่ีและสทิ ธิ พ่อแม่มีอ�านาจหน้าท่ีในการอบรมสั่งสอนลูกให้เป็น - บทบาท หนาที่และสทิ ธขิ องสมาชกิ ใน คนด ี ใหป้ ฏบิ ตั ิในสง่ิ ทดี่ งี าม และมสี ทิ ธทิ จ่ี ะมอบหมายงานใหล้ กู ครอบครวั ช่วยท�า เชน่ ใหล้ า้ งจาน ถบู ้าน มสี ิทธิทีจ่ ะต้งั กฎกตกิ าใหล้ กู ๆ (สมาชิกทุกคนในครอบครัวตางมีบทบาท ปฏบิ ตั ติ าม เชน่ หา้ มเลน่ เกมเปน็ เวลานาน ๆ หา้ มลกู ดูโทรทศั น์ หนา ท่ี และสทิ ธิ เชน พอ และแมม หี นา ทหี่ าเงนิ จนดึก หา้ มเท่ียวเล่นนอกบ้านในเวลากลางคนื เป็นต้น และเล้ียงดูอบรมสั่งสอนลูก พอและแมมี ถา้ ลกู ๆ ไมป่ ฏบิ ตั ติ าม สทิ ธอิ อกคาํ สง่ั ใหล กู ปฏบิ ตั ติ นเปน คนดี ลกู มี กฎ พ่อแม่มีสิทธิท่ีจะลงโทษ หนเู ข้าใจแล้วคะ่ ว่า ดีแล้วลกู หนาทีเ่ รียนหนังสอื และชว ยเหลอื งานบานใน ลกู ไดต้ ามความเหมาะสม เชน่ การเล่นเกมจนดกึ ครอบครัว ลูกมีสิทธิทํากิจกรรมที่ชอบโดย ไม่ใหด้ ูโทรทศั น ์ ลดเงนิ คา่ ขนม ท�าให้นอนตื่นสาย ไมขดั กับกฎระเบยี บในครอบครัวได) และไปโรงเรยี นไม่ทัน - การใชอ าํ นาจในครอบครวั ตามบทบาทหนา ท่ี หนูจะไม่ทา� อกี แลว้ คะ่ และสิทธิ (สมาชิกทุกคนในครอบครัวตองปฏิบัติตาม ไม่ใหเ้ ลน่ เกม วา่ กลา่ วตกั เตอื น บทบาท หนาที่ของตน เพื่อใหอยูรวมกันได ลกู พรอ้ มกบั บอกผลเสยี ทอ่ี าจ อยางมีความสุขและปฏิบัติตามสิทธิของตน เกดิ ขึน้ เพื่อใหล้ ูกเขา้ ใจ โดยไมท ําใหผอู นื่ เดอื ดรอน) 3. นักเรียนบนั ทกึ ความรลู งในสมุด กจิ กรรมพฒั นาการเรียนร้ทู ่ี ๑ ขนั้ ประเมนิ ๑. จัดท�าโครงสร้างของครอบครัวตนเอง โดยติดภาพและเขียนช่ือ กา� กบั และบอกความสมั พันธ์ของสมาชกิ ในครอบครวั จากนนั้ 1. ครปู ระเมินใบงานและการตอบคาํ ถามของ น�าเสนอผลงานหนา้ ช้ัน นักเรียน ๒. ยกตัวอย่างหนา้ ท่ขี องสมาชกิ ในครอบครัวของตนมาคนละ ๒ ตัวอย่าง แลว้ นา� เสนอผลงานหนา้ ชน้ั 2. ครูคัดเลือกผลงานที่มีคุณภาพตามเกณฑที่ ๓. บอกประโยชนข์ องการปฏบิ ตั ติ นตามบทบาทหนา้ ทขี่ องสมาชิก กําหนดตดิ ปา ยนเิ ทศท่ีหนา ชั้นเรียน ในครอบครัว 48 แนวทางการวัดและประเมินผลสําหรับครู กิจกรรม สรางเสรมิ ครูศึกษาแนวทางการวัดและประเมินผลเพ่ือประเมินช้ินงานของนักเรียน ครใู หน กั เรยี นนาํ รปู ถา ยตนเองและสมาชกิ ในครอบครวั มาตดิ จากใบประเมินชน้ิ งานที่แนบทายแผนการสอน ลงในโครงสรา งความสมั พนั ธของครอบครวั แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ กจิ กรรม ทา ทาย คาชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด  ลงในช่องที่ คาชแ้ี จง : ใหผ้ ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด  ลงในช่องท่ี คำช้แี จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในช่องท่ี ครใู หน กั เรยี นวาดภาพตนเองและสมาชกิ ในครอบครวั พรอ ม ตรงกับระดับคะแนน ตรงกับระดบั คะแนน ตรงกบั ระดบั คะแนน ท้ังระบุช่ือ นามสกุล อายุ ความสัมพันธลงในโครงสรางความ สมั พันธข องสมาชกิ ในครอบครวั ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ลาดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รำยกำรประเมิน ระดับคะแนน 1 เนอ้ื หาละเอียดชัดเจน 321 1 การแสดงความคิดเห็น 321 อนั พึงประสงค์ดำ้ น 321 2 ความถูกต้องของเนอื้ หา 2 การยอมรับฟังความคดิ เห็นของผูอ้ น่ื 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้ 3 ภาษาทีใ่ ชเ้ ข้าใจงา่ ย 3 การทางานตามหนา้ ทีท่ ีไ่ ด้รับมอบหมาย กษตั ริย์ 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมทีส่ รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ 4 ประโยชน์ที่ได้จากการนาเสนอ 4 ความมนี าใจ 5 วิธีการนาเสนอผลงาน 5 การตรงต่อเวลา 2. ซ่ือสตั ย์ สุจริต ตอ่ โรงเรียน 3. มีวินัย รบั ผดิ ชอบ 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถอื ปฏิบัติตามหลกั ศาสนา รวม รวม 4. ใฝเ่ รียนรู้ 1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมท่เี ก่ียวกับสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ตามทโ่ี รงเรยี นจัดข้นึ 2.1 ให้ข้อมลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมิน ลงชอื่ ...................................................ผูป้ ระเมิน 5. อยู่อย่างพอเพียง 2.2 ปฏบิ ัตใิ นส่งิ ท่ีถูกตอ้ ง ............../.................../................ ............../.................../................ 3.1 ปฏิบัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคับของครอบครวั 6. มุง่ ม่ันในการ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ทางาน มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรมตา่ งๆ ในชีวิตประจาวัน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน 4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ัตไิ ด้ ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครัง ให้ 1 คะแนน 7. รักความเปน็ ไทย 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางส่วน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครัง 8. มจี ิตสาธารณะ 4.3 เช่ือฟงั คาสั่งสอนของบิดา-มารดา โดยไม่โต้แยง้ 4.4 ต้งั ใจเรยี น เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ 5.1 ใช้ทรพั ยส์ นิ และสิ่งของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 5.2 ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรียนอยา่ งประหยดั และรู้คณุ คา่ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 12 - 15 ดี 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยดั และมกี ารเก็บออมเงิน 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 6.1 มคี วามตัง้ ใจและพยายามในการทางานท่ีได้รบั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพ่ือให้งานสาเรจ็ 7.1 มีจิตสานึกในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ ักชว่ ยพอ่ แม่ ผ้ปู กครอง และครทู างาน 8.2 รู้จักการดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบัติและส่งิ แวดลอ้ มของห้องเรียน โรงเรียน 8 - 11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรุง ............../.................../................ เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ตั ิชัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมท่ีปฏิบัตชิ ัดเจนและบอ่ ยครัง้ ให้ 1 คะแนน พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ตั บิ างครั้ง ภมู ิศาสตร์ ป.1 15 ภมู ศิ าสตร์ ป.1 16 ภูมิศาสตร์ ป.1 18 T52

นํา นํา สอน สรุป ประเมิน ๒ ความสัมพนั ธข์ องสมาชกิ ในโรงเรียน1 ขนั้ นาํ โรงเรยี น หมายถงึ สถานศึกษา เป็นแหลง่ เรียนรู้ ช่วยให้ ครูใหนักเรียนดูภาพกิจกรรมในโรงเรียน เราอ่านออก เขียนได้ ทา� ได้ และน�าความรู้ไปใช้ จากบตั รภาพ แลว ใหน กั เรยี นชวยกันแสดงความ เราเปน็ สมาชิกคนหนึง่ ของโรงเรียน ซึง่ ในโรงเรียนของเรา คิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธของสมาชิกใน มีผบู้ รหิ ารโรงเรยี น คร ู นักเรยี นจ�านวนมากมายหลายชนั้ เรยี น โรงเรียน และบางโรงเรียนอาจมีภารโรง แม่ครัว และบุคคลอื่น ๆ รวม อยดู่ ว้ ย ซงึ่ บคุ คลตา่ ง ๆ เหลา่ น ้ี ถอื วา่ เปน็ สมาชกิ ของโรงเรยี น • สมาชิกในโรงเรยี นมีใครบาง และมคี วามสมั พนั ธ์ระหว่างกัน (แนวตอบ : พจิ ารณาคาํ ตอบของนกั เรยี นตาม ๑. โครงสร้างของโรงเรยี น ความเปน จรงิ เชน มผี ูอ ํานวยการโรงเรียน โรงเรียนต่าง ๆ อาจมีสมาชกิ มากน้อยแตกตา่ งกนั จึงมี ครปู ระจาํ ชนั้ นักเรยี น ภารโรง) โครงสรา้ งตา่ งกนั แตโ่ ดยท่ัวไปจะมโี ครงสรา้ งท่คี ล้ายกนั ดงั นี้ • สมาชกิ เหลา นั้นมีบทบาทหนาทีอ่ ยางไรบา ง ผ้อู า� นวยการ/ผู้บริหารโรงเรยี น (แนวตอบ : พจิ ารณาคาํ ตอบของนกั เรยี นตาม รองผอู้ า� นวยการ/รองผู้บรหิ ารโรงเรยี น ความเปนจริง เชน ผูอํานวยการโรงเรียน มีบทบาทหนาที่ในการบริหารโรงเรียน ครูประจา� ช้นั ครูประจําชั้นมีบทบาทหนาที่ในการสอน นักเรยี น หนังสือใหกับนักเรียน นักเรียนมีบทบาท ภารโรง หนา ท่ใี นการเรียนหนังสือ เปน ตน) แมค่ รัว ขน้ั สอน 49 กระตนุ ความสนใจ 1. ครูใหนักเรียนชวยกันยกตัวอยางกิจกรรมใน โรงเรียนวา ในโรงเรียนของเรามีกิจกรรมใดที่ สมาชกิ ในโรงเรยี นทาํ รว มกนั บา ง เชน ทาํ ความ สะอาดหอ งเรยี น จดั งานแขง ขนั กฬี าสี เขา แถว เคารพธงชาติ เปนตน ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู บุคคลใดตอ ไปนี้ไมมีในโครงสรา งของโรงเรียน ครสู อนนักเรียนรอ งเพลงโรงเรียนของเรา ซง่ึ มีเนอ้ื เพลง ดังนี้ 1. แมคา 2. นกั เรยี น เพลงโรงเรยี นของเรา 3. ครูประจําช้ัน โรงเรยี นของเรานา อยู คุณครใู จดที ุกคน เด็ก เดก็ ก็ไมซ ุกซน พวกเราทกุ คนชอบมาโรงเรียน ç(วิเคราะหคําตอบ ขอ 1. โครงสรางของโรงเรียนโดยท่ัวไปจะมี ชอบมา ชอบมาโรงเรียน ชอบมา ชอบมาโรงเรียน บุคคลตางๆ เชน ผูอํานวยการ รองผูอํานวยการ ครูประจําช้ัน นกั เรียน ภารโรง เปนตน แตไ มมแี มค า ) นักเรียนควรรู 1 โรงเรียน แหงแรกสําหรบั ประชาชนทม่ี ีขนึ้ ในประเทศไทย คือ โรงเรยี น วัดมหรรณพาราม ตงั้ ขน้ึ เมื่อป พ.ศ. 2427 และโรงเรยี นกรุงเทพคริสเตยี น วทิ ยาลัยเปนโรงเรยี นเอกชนแหง แรกในประเทศไทย ตัง้ ขึ้นเมือ่ ป พ.ศ. 2395 T53

นาํ สอน สรุป ประเมิน ขน้ั สอน (ตอ) ๒. บทบาทหนา้ ทขี่ องสมาชิกในโรงเรยี น สมาชิกทุกคนในโรงเรยี นจะมีบทบาทหน้าท่ีแตกต่างกัน กระตนุ ความสนใจ เชน่ ผู้บริหารโรงเรียนหรือผู้อ�านวยการโรงเรียน มีหน้าท ี่ 2. ครูอธิบายความรูเพ่ิมเติมใหนักเรียนเขาใจ บรหิ ารโรงเรยี น ใหน้ กั เรยี นเปน็ คนดมี คี ณุ ภาพ โดยรว่ มมอื กบั ครู เกี่ยวกับความสัมพันธของสมาชิกในโรงเรียน คร ู มีหนา้ ท่สี อนนักเรียนใหม้ คี วามรู้ความสามารถ และ เชน โรงเรียนโดยทั่วไปจะมีบุคคลตางๆ เชน อบรมให้นกั เรยี นเป็นคนดี ผูอํานวยการโรงเรียนหรือครูใหญมีหนาท่ี นักเรยี น มหี น้าท่ีต้ังใจเรียนหนังสือ เชอ่ื ฟงั ค�าสอนของ บริหารโรงเรียนใหมีคุณภาพ มีครูประจํา ครู และปฏิบตั ติ ามกฎระเบยี บของโรงเรียน ชั้นที่สอนหนังสือใหกับนักเรียนในแตละชั้น ภารโรง มหี น้าที่ดแู ลความสะอาดภายในโรงเรียน มีนักเรียนที่มีหนาท่ีเรียนหนังสือ มีภารโรง แมค่ รัว มหี น้าที่ท�าอาหารให้กับทุกคนในโรงเรยี น คอยดูแลเรื่องความสะอาดภายในโรงเรียน มีแมครัวที่ทําอาหารใหกับทุกคนในโรงเรียน สวสั ดคี ะ่ เพ่ือน ๆ ฉันชือ่ ดวงพร เปน ตน ฉนั เปน็ นกั เรียน จะต้ังใจเรียนหนงั สอื สาํ รวจคน หา และรักเพ่อื น ๆ ทุกคนค่ะ 3. ครูใหนักเรียนกลุมเดิมจับคูกันเปน 4 คู ให แตละคูรวมกันศึกษาความรู เร่ือง ความ สัมพันธของสมาชิกในโรงเรียน จากหนังสือ เรียน หนา 49-55 ตามประเด็นทก่ี ําหนด ดังนี้ - คทู ่ี 1 ศึกษาเรอื่ ง โครงสรา งของโรงเรียน - คทู ี่ 2 ศึกษาเรื่อง บทบาทหนาที่ของสมาชิก ในโรงเรยี น - คทู ่ี 3 ศกึ ษาเรอ่ื ง สทิ ธขิ องสมาชกิ ในโรงเรยี น - คูที่ 4 ศึกษาเร่อื ง การใชอ าํ นาจในโรงเรยี น ตามบทบาทหนา ทแ่ี ละสทิ ธิ ▲▲ การปฏบิ ัติตามบทบาทหนา้ ท่ขี องสมาชกิ ท่ีดีในโรงเรยี นเป็นสิง่ ที่นักเรียนควรปฏบิ ัติ 50 เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ ครูเขียนบัตรคําเกย่ี วกบั สมาชกิ ในโรงเรียน ขอใดไมใชห นา ทข่ี องการเปน นักเรยี น ผอู าํ นวยการโรงเรียน ครูประจําช้นั นักเรียน ภารโรง แมค รัว 1. ชว ยทาํ การบา นใหเ พ่ือน แลวใหนักเรียนผลัดกันออกมาจับบัตรคําคนละ 1 ใบ แลวใหนักเรียนบอก 2. เช่อื ฟงคาํ สั่งสอนของครู หนาท่ีของสมาชิกในโรงเรียนตามบตั รคาํ ท่ีตนจบั ไดใหถ ูกตอ ง 3. ต้ังใจเรยี นหนงั สอื (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 1. เราเปน นกั เรยี นมหี นา ทใี่ นการเรยี นหนงั สอื จึงควรตั้งใจเรียน เชอ่ื ฟง คําสงั่ สอนของครูอาจารย และชวยเหลอื เพื่อนตามความเหมาะสม เชน สอนการบานเพื่อน แตไมควร ทาํ การบานใหเ พือ่ น เปนตน) T54

นาํ สอน สรปุ ประเมิน ๓. สทิ ธิของสมาชกิ ในโรงเรยี น ขน้ั สอน สมาชกิ ในโรงเรยี น มสี ทิ ธทิ จี่ ะทา� สงิ่ ตา่ ง ๆ โดยไมล่ ะเมดิ สิทธิของผู้อ่ืนและข้อบังคับของโรงเรียน ถ้าทุกคนท�าตามสิทธิ อธิบายความรู ของตน และเคารพในสทิ ธิของผู้อน่ื โรงเรยี นกจ็ ะนา่ อยนู่ ่าเรยี น และสมาชกิ ในโรงเรียนกจ็ ะอยรู่ ่วมกันอย่างสงบสขุ 4. สมาชิกแตละคูในกลุมนําความรูที่คูของตนได ศกึ ษามาผลดั กนั อภปิ รายความรู พรอ มท้งั ซกั ถามจนมีความเขา ใจตรงกัน 5. ครูสุมตัวแทนนักเรียน 2-3 กลุม ออกมา อภิปรายผลการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ ของสมาชิกในโรงเรียนท่ีหนาช้ันเรียน หากมี ขอ สงสยั ใหซ กั ถามจนมคี วามเขา ใจตรงกนั (ครู อาจสมุ ตวั แทนกลมุ ออกมาอภปิ รายหวั ขอ ละ 1 กลมุ ก็ได ตามความเหมาะสม) ตวั อยางการสรุปผลการอภปิ ราย เชน ในโรงเรียนจะมีสมาชิก เชน ผูอํานวยการ โรงเรยี น ครปู ระจาํ ชนั้ นกั เรยี น ภารโรง แมค รวั เปน ตน ซงึ่ สมาชกิ แตล ะคนจะมบี ทบาทหนา ที่ แตกตา งกนั ไป 6. นกั เรียนรวมกนั ตอบคาํ ถามกระตุน ความคิด เชน • นกั เรียนมวี ิธที จี่ ะอยูรว มกับสมาชิกใน โรงเรยี นที่มบี ทบาทตางกนั อยางไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ปฏิบัติตามบทบาทและหนาท่ีของตนเองให สมบรู ณ เราเปน นกั เรยี นมหี นา ทเี่ รยี นหนงั สอื ตองต้ังใจเรียน ปฏิบัติตามกฎระเบียบของ โรงเรียนอยางเครงครัด และเชื่อฟงในส่ิงที่ ครูสอน) ▲▲ นักเรยี นมีสทิ ธทิ ่ีจะเล่นในเวลาพักกลางวัน แตต่ ้องไมท่ ะเลาะกบั เพ่อื น ๆ 51 ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู ขอ ใดเปน การปฏิบัตติ นทถ่ี กู ตองเมือ่ อยใู นหอ งเรยี น ครอู ธิบายเพ่มิ เติมวา ทุกคนมีสิทธทิ ีจ่ ะทาํ ในสิ่งตา งๆ ได แตสิทธินน้ั จะตอง 1. นาํ ของเลนของเพ่ือนไปเลน ไมรบกวนหรือทํารายผูอื่น เชน นักเรียนอยากเลนไมล่ืนท่ีเพ่ือนกําลังเลนอยู 2. รื้อคนสงิ่ ของเครอ่ื งใชส วนตัวของคนอื่น กไ็ มค วรผลกั เพอ่ื นออกไปจากไมลื่น แตค วรขอเพื่อนเลนดว ยอยางสุภาพ สว น 3. เมื่อจะใชส ง่ิ ของของเพ่อื นตอ งขออนุญาตกอ น เพ่ือนก็ควรแบงใหเพื่อนคนอื่นเลนดวย เพราะทุกคนมีสิทธิเลนเทาเทียมกัน (ç วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 3. เมอื่ เราอยรู ว มกบั ผอู น่ื เราตอ งรจู กั เคารพ เปน ตน สิทธิของผอู น่ื เชน ไมร อ้ื คน สง่ิ ของเครอ่ื งใชข องคนอนื่ ไมห ยบิ เอา สิ่งของของคนอื่นไปเลน ไมทะเลาะชกตอยกับเพื่อนที่มาแกลง แตควรบอกครู เมื่อจะใชสิ่งของของเพ่ือนก็ตองขออนุญาตกอน ทกุ ครง้ั ) T55

นํา สอน สรุป ประเมนิ ขน้ั สอน (ตอ) สมาชิกในโรงเรียนมีสิทธิท่ีจะกระท�าสิ่งต่าง ๆ ได้ตาม บทบาทหนา้ ทข่ี องตน เช่น อธบิ ายความรู ผู้บริหารโรงเรียน ผู้บริหารโรงเรียนมีสิทธิท่ีจะออกกฎ ระเบ ียบ●เ พหื่อา้ ใมหน้สกั มเารชียนกิ ใแนตโ่งรกงาเรยยี1ผนดิ ปรฏะเบิ บัตียิตบาขมอ งเโชร่นงเรยี น • นักเรียนคิดวา เพ่ือนๆ มีสิทธิที่จะทําส่ิง ● หา้ มสมาชกิ ในโรงเรยี นเกยี่ วขอ้ งกบั ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ ตา งๆ ทตี่ า งจากเราไดห รอื ไม เพราะเหตใุ ด ● ห้ามสมาชกิ ในโรงเรยี นเลน่ การพนัน (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น คร ู ครมู ีสทิ ธทิ จี่ ะแนะน�าสง่ั สอนให้นักเรยี นเป็นคนด ี โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน มคี วามร ู้ โดยให้นักเรียนทา� สงิ่ ต่าง ๆ เชน่ ได เพราะเพื่อนๆ แตละคนมีความชอบท่ี ● ให้นักเรียนท�าการบ้านสง่ ครู ตางกัน บางคนชอบเลนกฬี าในชว งเวลาพัก ● ให้นกั เรยี นร่วมกันรักษาความสะอาดของหอ้ งเรยี น บางคนชอบอานหนังสือ บางคนชอบเลน ● ใหน้ กั เรยี นรว่ มทา� กจิ กรรมตา่ ง ๆ ทที่ างโรงเรยี นจดั ขนึ้ ดนตรี บางคนชอบวาดรูป บางคนชอบทํา กิจกรรมอยางอื่นซ่ึงอาจตางจากเรา และ พรุง่ น้ีใหน้ กั เรียน เปนสิทธทิ ่เี พื่อนๆ สามารถทําได เพราะไม น�าการบา้ นมาส่งครูนะคะ สรา งความเดอื ดรอนใหก บั คนอ่นื ) • ถานกั เรียนบงั คบั ใหเ พอ่ื นทาํ ในสงิ่ ท่ตี น ตองการเทานน้ั ผลจะเปน อยา งไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน เพอื่ นอาจไมช อบใจ อดึ อดั ใจ และเบอ่ื หนา ย ในการเอาแตใ จของเรา และอาจเปน สาเหตุ ทาํ ใหเพือ่ นเลกิ คบหาและไมพดู ดว ย) ทะหเลา้ มาะนวักวิ เารทียกนนั ทนุกะคคนรบั ▲▲ ผบู้ รหิ ารมีสทิ ธอิ อกกฎระเบยี บตา่ ง ๆ ได้ ▲▲ ครมู ีสทิ ธิใหน้ กั เรยี นทา� การบา้ นได้ 52 เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ ครเู ชญิ ผบู รหิ ารโรงเรยี นมาพดู คยุ กบั นกั เรยี นเกยี่ วกบั บทบาทหนา ทแ่ี ละสทิ ธิ ผบู ริหารโรงเรยี นไมมสี ทิ ธิออกกฎระเบยี บขอ ใด ของผูบริหารโรงเรียน เพอื่ ใหน ักเรยี นเกิดความเขา ใจมากขน้ึ 1. หา มนกั เรยี นแตง กายผิดระเบยี บ 2. หามนักเรียนเลนการพนัน นักเรียนควรรู 3. หา มนกั เรยี นพูดคยุ กัน 1 แตง กาย ชดุ นกั เรยี นของไทยเรม่ิ มขี นึ้ ครงั้ แรกในสมยั รชั กาลท่ี 5 ประมาณ (วิเคราะหคําตอบ ขอ 3. ผูบริหารโรงเรียนมีสิทธิท่ีจะออก พ.ศ. 2428 เปนเส้ือราชปะแตนสีขาว กางเกงไทย ถุงเทาขาว รองเทาดํา กฎระเบียบตางๆ เพ่ือใหสมาชิกในโรงเรียนอยูดวยกันอยางมี หมวกฟาง ในปจ จบุ นั ชดุ นกั เรยี นไทยในแตล ะโรงเรยี นอาจมคี วามแตกตา งกนั ความสุข แตไ มม สี ทิ ธิทจ่ี ะหามนักเรียนพูดคุยกัน) เล็กนอยทั้งในโรงเรียนของรัฐบาลและเอกชน เชน นักเรียนชาย ใสเสื้อเช้ิต สีขาว แขนสั้น กางเกงสีกากี สีนํ้าเงินเขม หรอื สดี าํ รองเทาผา ใบสีดาํ สว น นักเรียนหญงิ ใสเ สอ้ื สขี าวและผูกโบทค่ี อเสอื้ กระโปรงยาวเทา หวั เขา สีน้ําเงนิ เขมหรือสีดํา เปนตน T56

นาํ สอน สรุป ประเมิน นักเรียน นักเรียนมสี ทิ ธทิ จี่ ะทา� สิง่ ตา่ ง ๆ ตามสทิ ธิของตน ขน้ั สอน เช่น ถา้ เพอื่ นเล่นเครื่องเล่นอยู่ ● มีสิทธทิ ี่จะใช้หอ้ งสมุด แลว้ นักเรียนอยำกเล่นด้วย ขยายความเขา ใจ ● มสี ิทธทิ ่ีจะเล่นอปุ กรณก์ ีฬา ควรทา� อย่างไรครับ 7. นกั เรยี นแตล ะคนนาํ ความรทู ไ่ี ดม าทาํ ใบงานท่ี ● มีสิทธิที่จะเลอื กหวั หนา้ ห้องหรือ 1.3 เรอ่ื ง ความสมั พนั ธข องสมาชกิ ในโรงเรยี น ประธานนักเรยี น เสร็จแลวตรวจสอบความถกู ตอง ● มีสทิ ธิทจ่ี ะใชโ้ ตะ๊ เกา้ อ้ีในโรงเรยี น 8. นักเรยี นตอบคาํ ถามกระตนุ ความคิด าผูภ • ถาสมาชิกในโรงเรยี นไมป ฏิบัติตามบทบาท หนาทแี่ ละสิทธิของตนอยางถูกตอ ง มสะามหเมาตดานขมพ�ิ เอรื หดล เหมาะสม จะเกิดผลเสียอยางไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน อาจทําใหเกิดความวุนวายขึ้นในโรงเรียน เกิดการทะเลาะวิวาทขัดแยงกัน สงผลให สมาชิกในโรงเรียนอยูดวยกันอยางไมมี ความสุข) • ถานักเรียนกําลังเลนเคร่ืองเลนอยู แลว เพอื่ นมาขอเลน บาง นกั เรยี นควรทาํ อยางไร เพราะเหตุใด (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน แบงใหเ พ่ือนเลน ดวย เพราะเพ่ือนกม็ สี ทิ ธิที่ จะเลนไดเหมือนกัน) ▲▲ นกั เรียนมสี ิทธิทจ่ี ะท�าส่งิ ตา่ ง ๆ ในโรงเรียนได้โดยตอ้ งไม่ท�าให้คนอื่นเดือดร้อน การที่ทุกคนในโรงเรียนปฏิบัติตนตามสิทธิของตนเอง ไม่ทา� ให้คนอ่นื เดือดรอ้ น จะท�าใหท้ �างานและอยู่รว่ มกนั อย่างมี ความสขุ 53 ขอ สอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู นักเรียนควรปฏิบัตติ นอยา งไรเมือ่ อยใู นหองเรียน ครูพานักเรียนไปที่หองสมุด แลวแนะนําใหนักเรียนรูจักครูบรรณารักษ ซึ่ง 1. ท้งิ เศษขยะไวในล้นิ ชกั โตะ มีหนาที่ดูแลรับผิดชอบหองสมุด โดยครูบรรณารักษจะชวยใหผูท่ีมาใชบริการ 2. เขยี นชือ่ ตนเองท่ีโตะ เรยี น ทราบขอเทจ็ จริง จัดหาหรือใหค ําแนะนําหนงั สือหรือสง่ิ ตางๆ ที่อยใู นหองสมดุ 3. โตแ ยง กบั เพือ่ นเรอื่ งรายงาน จัดการหรอื จัดซือ้ สิ่งตางๆ ทผ่ี ใู ชต อ งการ ç(วเิ คราะหคําตอบ ขอ 3. เมอื่ อยูใ นหอ งเรียน นักเรียนควรรักษา จากนั้นใหครูบรรณารักษมาใหความรูเก่ียวกับกฎระเบียบในการใชหองสมุด ความสะอาดของหองเรียน และไมสรางความเดือดรอนใหกับ เพอ่ื ใหนักเรียนเกิดความเขาใจและปฏิบัตติ นในการใชหอ งสมุดไดอ ยางถกู ตอ ง คนอนื่ เชน ตะโกนสง เสยี งดงั แตส ามารถโตแ ยง กนั ในเรอื่ งทศ่ี กึ ษา เรยี นรไู ด) T57

นํา สอน สรปุ ประเมิน ขน้ั สอน ๔. การใช้อา� นาจในโรงเรียนตามบทบาทหนา้ ทแ่ี ละสิทธิ การอยรู่ ว่ มกนั ในโรงเรยี นซงึ่ มสี มาชกิ จา� นวนมาก จา� เปน็ ตรวจสอบผล ตอ้ งมกี ฎระเบยี บและขอ้ บงั คบั เพอ่ื ใหท้ กุ คนปฏบิ ตั ติ าม เมอื่ มคี น กระทา� ผดิ กฎระเบยี บและขอ้ บงั คบั ของโรงเรยี น จะตอ้ งถกู ลงโทษ 9. ครูสมุ ตวั แทนนกั เรียนออกมานาํ เสนอผลงาน เช่น นักเรียนทะเลาะวิวาท ชกต่อยกนั ทา� สมบตั ิของโรงเรยี น ในใบงานที่ 1.3 โดยครูเปนผูตรวจสอบความ ใหไ้ ดร้ บั ความเสยี หาย เปน็ ตน้ ครมู อี า� นาจหนา้ ทวี่ า่ กลา่ วตกั เตอื น ถกู ตอง หรือลงโทษตามความเหมาะสม เช่น ให้ท�าความสะอาดบริเวณ ห้องเรียนหรอื ใหเ้ กบ็ ขยะบรเิ วณโรงเรียน เปน็ ตน้ 10. ครูมอบหมายใหนักเรียนแตละคนเขียน แผนผังความคิด เร่ือง โครงสราง บทบาท ๑ หนา ทขี่ องสมาชกิ ในโรงเรยี น เสรจ็ แลว ผลดั กนั นําเสนอผลงานที่หนาชั้นเรยี น ๒ ใน°านะทเี่ ธอสองคน ตัวอยา งแผนผงั ความคดิ ทา� ให้ห้องเรยี นสกปรก ครูจะให้ พวกเธอทา� ความสะอาดหอ้ งเรียน โครงสรางบทบาท หนา ทข่ี องสมาชิกในโรงเรียน เป็นเวลา ñ สปั ดาห ครบั ผูอํานวยการโรงเรยี น บริหารโรงเรยี น ▲▲ ครมู ีสิทธิทจ่ี ะตกั เตือนและลงโทษนกั เรียนท่ที �าความผิดไดต้ ามความเหมาะสม และต้องไม่ใชค้ วามรุนแรง ครูประจําช้นั ใสหอกนับหนนักังเรสียอื น นักเรียน ตหั้งในจังเสรียือน 54 ภารโรง แมครัว ดภูแาลยคใวนาโมรงสเะรอยี านด ททกุ ําคอนาใหนาโรรใงหเรกยี บั น 11. ครใู หน กั เรยี นทาํ แบบฝก ปฏบิ ตั ทิ กั ษะรวบยอด เร่ือง ความสัมพันธของสมาชิกในโรงเรียน จากแบบฝกปฏิบัติทักษะรวบยอด สังคม ศึกษาฯ ป.1 หนา 14 เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ ครใู หน กั เรยี นรว มกนั คดิ วา ถา นกั เรยี นทาํ ผดิ กฎระเบยี บและขอ บงั คบั ของ ถานักเรียนชกตอยกัน ครูมีสิทธิที่จะลงโทษนักเรียนไดหรือไม โรงเรยี น นกั เรยี นควรไดรับการลงโทษอยา งไร เชน ถกู ตักเตือน ถกู ตัดคะแนน เพราะอะไร ใหท าํ ความสะอาดหอ งเรยี น ถกู ตี เปน ตน เพอื่ ครจู ะไดน าํ ไปใชเ ปน แนวทางและ ขอ ตกลงในการลงโทษนกั เรยี นที่ทําผดิ 1. ได เพราะครไู มชอบการชกตอยกนั 2. ได เพราะเปน กฎระเบยี บทีใ่ หครลู งโทษได 3. ได เพราะนักเรยี นตองปฏบิ ัติตามกฎระเบยี บของโรงเรยี น เพอ่ื ไมใหเกิดความวุนวายข้ึนในโรงเรียน (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 3. ได เพราะครมู บี ทบาทอาํ นาจหนา ทแ่ี ละสทิ ธิ ในการลงโทษนักเรียนท่ีทําผิด เชน ทะเลาะชกตอยกัน เปนตน เพื่อใหนักเรียนปฏิบัติตามกฎระเบียบ และขอบังคับของโรงเรียน เพื่อใหส มาชิกในโรงเรียนอยูดวยกันอยา งมีความสขุ ) T58

นํา สอน สรุป ประเมิน กิจกรรมพัฒนาการเรยี นรู้ท่ี ๒ ขนั้ สรปุ ๑. บอกบทบาทหนา้ ทข่ี องบุคคลต่างๆ ในโรงเรยี นทกี่ า� หนดให้ 1. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมพัฒนาการเรียนรูใน (ผ้บู ริหารโรงเรยี น ครู นักเรียน ภารโรง แม่ครวั ) แลว้ บนั ทกึ หนังสอื เรียน หนา 55 ข้อมูล จากนั้นเสนอผลงานหน้าช้ัน ๒. ร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นว่า ถ้าสมาชิกในโรงเรียนไม่ 2. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมรวบยอดในหนังสือ ปฏิบัติตามบทบาทหน้าท่ีและสิทธิของตนอย่างถูกต้องเหมาะสม เรยี น หนา 55 จะเกิดผลเสียอย่างไร แล้วสรุปผลการอภปิ รายและบันทึกข้อมูล ๓. ด ูภาพที่ก�าหนดให้ แล้วร่วมกันแสดง 3. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูที่ไดจาก การเรียนเรื่อง ความสัมพันธของสมาชิกใน ความคดิ เหน็ วา่ เปน็ การกระทา� ทถี่ กู ตอ้ ง โรงเรยี น หรือไม่ และควรถูกครูลงโทษหรือไม ่ เพราะเหตใุ ด 4. นักเรยี นบันทกึ ความรูลงในสมุด กจิ กรรมรวบยอด ขนั้ ประเมนิ 1. ครสู งั เกตความเขา ใจของนกั เรยี นผา นการตอบ คาํ ถามและการรว มอภปิ ราย 2. ครปู ระเมนิ ผลการทาํ ใบงานท่ี 1.3 ของนกั เรยี น แตล ะคน 3. ครตู รวจแบบฝกปฏิบตั ทิ ักษะรวบยอด 4. ครูตรวจสอบการเขียนแผนผังความคิดเรื่อง โครงสรา งบทบาทหนา ทข่ี องสมาชกิ ในโรงเรยี น 5. ครตู รวจสอบการทาํ กจิ กรรมพฒั นาการเรยี นรู และกจิ กรรมรวบยอดของนักเรียนแตล ะคน ๑. วาดภาพการกระท�าของสมาชกิ ในครอบครัวทท่ี �าใหค้ รอบครวั มีความสขุ มา ๒ ตัวอย่าง พรอ้ มทง้ั เขยี นอธิบายสั้น ๆ ๒. เขียนโครงสรา้ งสมาชกิ ในโรงเรียนของตน พร้อมบอกบทบาท หนา้ ทข่ี องสมาชกิ ในโรงเรยี นใหถ้ ูกต้อง ๓. ร่วมกันคดิ วเิ คราะห ์ และหาคา� ตอบจากคา� ถามตอ่ ไปน้ี ๑) เมอื่ นกั เรยี นและเพอ่ื นมคี วามคดิ เหน็ ขดั แยง้ กนั ในการทา� งาน นักเรยี นควรแก้ไขปญั หาน้อี ยา่ งไร ๒) ถา้ เรารจู้ กั ปรองดองกนั และปฏบิ ตั ติ ามบทบาท หนา้ ท ่ี และสทิ ธิ ของตนเองอยา่ งเหมาะสม ทง้ั ทบี่ า้ นและโรงเรยี น จะสง่ ผลด ี อย่างไร 55 ขอสอบเนน การคดิ แนวทางการวัดและประเมินผล ถา นกั เรยี นทะเลาะชกตอ ยกนั ครคู วรลงโทษนกั เรยี นดว ยวธิ ใี ด ครูศึกษาแนวทางการวัดและประเมินผลเพ่ือประเมินชิ้นงานของนักเรียน จงึ จะเหมาะสมท่ีสุด จากใบประเมินชิน้ งานทแี่ นบทายแผนการสอน 1. ใหยืนคาบไมบ รรทัดท่หี นาเสาธงตอนเที่ยง แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 2. ใหเ ก็บขยะบริเวณโรงเรียนคนละ 1 สัปดาห 3. ใหว่ิงรอบสนามฟตุ บอล 10 รอบ พรอ มกบั ตะโกนบอก คาช้ีแจง : ใหผ้ ้สู อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี  ลงในชอ่ งที่ คาช้แี จง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี  ลงในชอ่ งที่ คำชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดับคะแนน ตรงกับระดับคะแนน ตรงกบั ระดบั คะแนน ความผิดท่ตี นไดทําลงไป (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 2. เม่ือนักเรยี นทะเลาะชกตอยกนั ควรถกู ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน ลาดับที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน คุณลักษณะ รำยกำรประเมนิ ระดับคะแนน ตักเตือนและลงโทษตามความเหมาะสม เชน ใหเก็บขยะบริเวณ 1 เน้ือหาละเอียดชัดเจน 321 1 การแสดงความคิดเหน็ 321 อันพึงประสงค์ด้ำน 321 โรงเรียน ใหทําความสะอาดโรงเรียน แตไมควรลงโทษดวย 2 ความถกู ต้องของเน้อื หา 2 การยอมรบั ฟังความคิดเหน็ ของผู้อน่ื 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติได้ ความรนุ แรงหรอื ใหอ บั อายโดยการประจาน) 3 ภาษาทใี่ ช้เข้าใจงา่ ย 3 การทางานตามหน้าที่ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย กษตั ริย์ 1.2 เขา้ รว่ มกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ 4 ประโยชน์ทีไ่ ด้จากการนาเสนอ 4 ความมนี าใจ 5 วิธีการนาเสนอผลงาน 5 การตรงตอ่ เวลา 2. ซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต ต่อโรงเรียน 3. มวี ินยั รับผดิ ชอบ 1.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ตี นนับถอื ปฏบิ ัติตามหลกั ศาสนา รวม รวม 4. ใฝ่เรยี นรู้ 1.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมทเ่ี กี่ยวกบั สถาบันพระมหากษัตรยิ ต์ ามทโี่ รงเรยี นจัดขึน้ 2.1 ให้ขอ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมิน ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน 5. อยู่อยา่ งพอเพียง 2.2 ปฏิบตั ใิ นสิ่งท่ีถูกตอ้ ง ............../.................../................ ............../.................../................ 3.1 ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คับของครอบครัว 6. มุ่งม่ันในการ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ทางาน มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติกจิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาวนั ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมินสมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 4.1 รจู้ กั ใช้เวลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏิบัตไิ ด้ ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ เปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครงั ให้ 1 คะแนน 7. รกั ความเปน็ ไทย 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครงั 8. มจี ิตสาธารณะ 4.3 เช่อื ฟังคาสง่ั สอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ต้แย้ง 4.4 ตัง้ ใจเรียน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ 5.1 ใช้ทรพั ย์สินและสิ่งของของโรงเรยี นอย่างประหยัด ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 5.2 ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยดั และรคู้ ณุ ค่า ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 12 - 15 ดี 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงนิ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 6.1 มีความตง้ั ใจและพยายามในการทางานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แท้ตอ่ อุปสรรคเพ่อื ให้งานสาเร็จ 7.1 มีจติ สานึกในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภูมิปญั ญาไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 ร้จู ักชว่ ยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทางาน 8.2 รู้จกั การดูแล รกั ษาทรัพยส์ มบัตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของห้องเรียน โรงเรียน 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรงุ ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ ต่ากว่า 8 ปรับปรงุ ............../.................../................ เกณฑก์ ำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัตชิ ัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมท่ีปฏิบตั ชิ ัดเจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน พฤตกิ รรมท่ีปฏิบตั บิ างคร้งั ภมู ศิ าสตร์ ป.1 15 ภูมศิ าสตร์ ป.1 16 ภูมศิ าสตร์ ป.1 18 T59

นาํ นํา สอน สรุป ประเมิน ขนั้ นาํ òº··Õè ÊÁÒª¡Ô ·´Õè ¢Õ Í§¤Ãͺ¤ÃÇÑ áÅÐâçàÃÂÕ ¹ กิจกรรมนําสกู ารเรยี น นาํ เขาสูบทเรยี น เพือ่ น ๆ คิดวา ครูใหนกั เรียนดูภาพจากหนงั สอื เรยี น หนา 56 การกระทําของเดก็ ในภาพน้ี และชวยกนั ตอบคาํ ถาม ทาํ ใหเ กิดผลดอี ยา งไร • การกระทาํ ของเดก็ ในภาพเปน แบบอยา งทด่ี ี หรือไม เพราะเหตใุ ด แนวคิดสาํ คัญ (แนวตอบ : เปนแบบอยางที่ดี เพราะการ ไหวค รถู อื เปน การแสดงความกตญั กู ตเวที ¡ÒÃ໚¹ÊÁÒªÔ¡·èմբͧ¤Ãͺ¤ÃÑÇáÅÐâçàÃÕ¹ ตอครูอาจารยที่ไดอบรมสั่งสอนใหเราเปน ໚¹ÊèÔ§·ÕèàÃÒ¤Çû¯ÔºÑµÔ à¾è×ÍãËŒÊÒÁÒöÍÂًËÇÁ¡Ñº¤¹Í×è¹ คนดีมีความรู ดังนั้น นักเรียนจึงควรตั้งใจ 㹤Ãͺ¤ÃÑÇáÅÐâçàÃÕ¹䴌Í‹ҧÁÕ¤ÇÒÁÊØ¢ ทาํ ดว ยความเคารพนอบนอ ม) 56 ขน้ั สอน จดั การเรยี นรู 1. ครูใหนกั เรยี นแบง กลุม กลมุ ละ 8 คน แลว ให นกั เรยี นแตล ะกลมุ เลา เกยี่ วกบั วธิ กี ารปฏบิ ตั ติ น เปน สมาชกิ ทดี่ ขี องครอบครวั และวธิ กี ารปฏบิ ตั ติ น เปนสมาชิกท่ีดีของโรงเรียน โดยผลัดกันเลา ทลี ะคน แลวสรุปเปนวิธปี ฏิบัติตนของกลุม 2. ครสู มุ ตวั แทนกลมุ 2-3 กลมุ ออกมาเลา การเปน สมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครวั และการเปน สมาชกิ ที่ ดีของโรงเรียนวาควรปฏิบตั ติ นอยางไร 3. ครูเสนอแนะเพิ่มเติมเพื่อใหนักเรียนมีความ เขา ใจเกย่ี วกบั การเปน สมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครวั และโรงเรยี น เชน ตอ งปฏบิ ัติตามกฎระเบียบ ขอตกลงอยา งเครง ครัด มนี า้ํ ใจชวยเหลือผูอน่ื มีสมั มาคารวะ 4. ครูอธิบายเชื่อมโยงใหนักเรียนเขาใจวา การ เปนสมาชกิ ท่ดี ีของครอบครวั และโรงเรียนเปน สิ่งที่เราควรปฏิบัติเพ่ือใหสมาชิกสามารถอยู รวมกับผูอื่นในครอบครัวและโรงเรียนไดอยาง มคี วามสุข 5. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันศึกษาความรู เร่ือง ความสําคัญของการเปนสมาชิกใน ครอบครัวและโรงเรียนจากหนังสือเรียน และ ชว ยกนั สรปุ สาระสาํ คญั เกร็ดแนะครู ครจู ดั กระบวนการเรยี นรูโดยการใหนกั เรียนปฏิบตั ิ ดงั น้ี • สบื คน ขอ มลู เกย่ี วกบั การเปนสมาชกิ ท่ีดขี องครอบครวั และโรงเรียน • อภปิ รายวธิ กี ารปฏิบัตติ นเปนสมาชกิ ท่ีดขี องครอบครัวและโรงเรยี น • ยกตวั อยา งประโยชนข องการเปน สมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครัวและโรงเรยี น จนเกิดเปนความรูความเขา ใจวา การปฏิบัติตนเปน สมาชิกท่ีดขี องครอบครวั และโรงเรียน ทาํ ใหอ ยรู วมกันอยางมีความสุข T60

นาํ สอน สรุป ประเมิน ๑ ความส�าคญั ของการเป็นสมาชิกทดี่ ขี องครอบครัว ขนั้ สอน (ตอ) และโรงเรยี น จดั การเรียนรู ตัวเราถือเป็นสมาชิกคนหน่ึงของครอบครัวและโรงเรียน ซ่ึงในครอบครัวและโรงเรียนมีคนอยู่ร่วมกันหลายคน และ 6. นักเรียนแตละกลุมรวมกันแสดงความคิดเห็น หลายความคิด จ�าเป็นตอ้ งมีการช่วยเหลอื กนั ท�าตามข้อตกลง ในประเด็นตอไปน้ี และกติกาท่ีก�าหนดไว้ มีสัมมาคารวะ เช่ือฟังค�าส่ังสอนของ • การเปนสมาชิกทีด่ ีของครอบครัวมคี วาม พอ่ แมแ่ ละคร ู เพอ่ื ใหเ้ ราทา� งานและอยรู่ ว่ มกบั สมาชกิ ในครอบครวั สําคัญอยา งไร และโรงเรยี นได้อย่างมีความสขุ (แนวตอบ : ทําใหครอบครวั อบอนุ ตัวอย่างเช่น เมื่อพบผู้ใหญ่ต้องสวัสดี เม่ือวิ่งชนเพื่อน สมาชกิ อยูรว มกันอยางมีความสุข) ต้องขอโทษ เม่ือผ้ใู หญ่ใหส้ ่ิงของต้องขอบคณุ มาโรงเรียนกอ่ น • การเปน สมาชิกท่ดี ขี องโรงเรยี นมีความ เขา้ เรยี น ชว่ ยทา� ความสะอาดบา้ นและโรงเรยี น รว่ มแสดงความ สาํ คัญอยา งไร คิดเห็น ยอมรับข้อตกลงของคนส่วนใหญ่ เป็นต้น เราก็จะมี (แนวตอบ : ทําใหสมาชิกในโรงเรียนอยู เพ่ือนมากและเป็นท่ีรกั ของคนทกุ คน รว มกนั อยางมีความสขุ ) จากน้ันใหแตละกลุมสรุปคําตอบตามมติของ ถา้ เพอ่ื น ๆ ไมป่ ฏบิ ัติตาม กลุม แลวสงตัวแทนกลุม ออกมานําเสนอ ข้อตกลงหรื อกติกาของ ผลสรปุ ทห่ี นาช้นั เรยี น ครอบครวั และโรงเรียน จะสง่ ผลอยา่ งไรครบั ขน้ั สรปุ สรปุ และนําหลักการไปประยกุ ตใช 1. สมาชิกในแตละกลุมชวยกันสรุปความรูเกี่ยว กับความสําคัญของการเปนสมาชิกท่ีดีของ ครอบครวั และโรงเรยี น 2. นักเรียนแตละคนในกลุมนําความรูที่ไดจาก การศึกษามาทําใบงานท่ี 2.1 เร่ือง สมาชิก ที่ดีของครอบครัวและโรงเรียน เสร็จแลว ตรวจสอบความถกู ตอ ง ▲▲ การเป็นสมาชิกท่ีดีของครอบครัวและโรงเรียนเปน็ สิง่ ทน่ี กั เรยี นต้องปฏบิ ัติ ขน้ั ประเมนิ วดั และประเมนิ ผล 1. ตัวแทนนักเรียนแตละกลุมผลัดกันออกมานํา เสนอผลงานในใบงานท่ีหนาชั้นเรียน โดยครู เปนผูต รวจสอบความถกู ตอง 2. ครูประเมินใบงานและการตอบคําถามของ 57 นักเรียน าผูภ มสะามหเมาตดานขมพิ� เอืรหดล การคดิ แนวทางการวัดและประเมินผล ขอ สอบเนน ครูศึกษาแนวทางการวัดและประเมินผลเพ่ือประเมินชิ้นงานของนักเรียน นักเรยี นคดิ วา การเปนสมาชกิ ทดี่ ีของครอบครวั มีความสาํ คัญ จากใบประเมนิ ช้ินงานท่ีแนบทายแผนการสอน อยางไร แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ทําใหส มาชกิ ในครอบครวั อยูร วมกันอยางมีความสขุ 2. ทําใหสมาชิกของครอบครัวอ่ืนไมพอใจ คาชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี  ลงในช่องท่ี คาชแ้ี จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี  ลงในช่องที่ คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด  ลงในชอ่ งท่ี 3. ทาํ ใหสมาชิกในครอบครวั มีรายไดเ พม่ิ ขึ้น ตรงกับระดับคะแนน ตรงกับระดบั คะแนน ตรงกบั ระดับคะแนน (วิเคราะหคําตอบ ขอ 1. ทําใหอยูรวมกันอยางมีความสุข ทําให รูสึกภาคภูมิใจ ไดรับคําชมจากผูอื่น และเปนท่ีรักใครของทุกๆ คน ลาดบั ที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมนิ ระดบั คะแนน สง ผลใหส มาชกิ ในครอบครวั อยรู วมกนั อยา งเปน ปกติสุข) 1 เนื้อหาละเอียดชัดเจน 321 1 การแสดงความคิดเห็น 321 อนั พึงประสงคด์ ้ำน 321 2 ความถกู ต้องของเน้อื หา 2 การยอมรับฟังความคดิ เห็นของผอู้ ืน่ 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ 3 ภาษาท่ีใชเ้ ข้าใจงา่ ย 3 การทางานตามหนา้ ทีท่ ไี่ ดร้ บั มอบหมาย กษัตริย์ 1.2 เขา้ รว่ มกิจกรรมทีส่ ร้างความสามัคคี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ 4 ประโยชนท์ ไี่ ด้จากการนาเสนอ 4 ความมนี าใจ 5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน 5 การตรงต่อเวลา 2. ซ่ือสัตย์ สจุ ริต ต่อโรงเรียน 3. มีวนิ ยั รบั ผิดชอบ 1.3 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ปฏบิ ัตติ ามหลักศาสนา รวม รวม 4. ใฝ่เรียนรู้ 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมทีเ่ ก่ียวกับสถาบันพระมหากษตั ริยต์ ามทโ่ี รงเรยี นจัดขน้ึ 2.1 ให้ขอ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเปน็ จริง ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมนิ ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมนิ 5. อยู่อย่างพอเพียง 2.2 ปฏบิ ตั ิในสง่ิ ทถี่ กู ต้อง ............../.................../................ ............../.................../................ 3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของครอบครวั 6. ม่งุ ม่ันในการ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ทางาน มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ งๆ ในชีวิตประจาวนั ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมินสมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 4.1 ร้จู ักใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏบิ ัตไิ ด้ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ เป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง ให้ 1 คะแนน 7. รักความเปน็ ไทย 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมินบางสว่ น ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางครัง 8. มจี ิตสาธารณะ 4.3 เชือ่ ฟงั คาส่งั สอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ยง้ 4.4 ต้งั ใจเรียน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ 5.1 ใชท้ รัพย์สนิ และสิง่ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและรู้คุณคา่ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 12 - 15 ดี 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยดั และมกี ารเก็บออมเงิน 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทางานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพ่อื ให้งานสาเรจ็ 7.1 มจี ิตสานกึ ในการอนุรกั ษ์วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 รจู้ ักการดูแล รักษาทรัพยส์ มบัตแิ ละสิง่ แวดล้อมของห้องเรยี น โรงเรยี น 8 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรุง ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง ............../.................../................ เกณฑ์กำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบตั ชิ ัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ัติชัดเจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน พฤตกิ รรมท่ีปฏิบตั บิ างครง้ั ภมู ิศาสตร์ ป.1 15 ภูมศิ าสตร์ ป.1 16 ภูมศิ าสตร์ ป.1 18 T61

นาํ นํา สอน สรปุ ประเมิน ขน้ั นาํ ๒ แนวทางการปฏบิ ัตติ นเป็นสมาชกิ ท่ีดขี อง ครอบครัวและโรงเรยี น ครูนําภาพสมาชิกท่ีดีของครอบครัวและ โรงเรียนมาใหนักเรียนดู แลวใหนักเรียนแสดง การอยู่ร่วมกันในครอบครัวและโรงเรียนได้อย่างมีความสุข ความคดิ เหน็ ในประเดน็ ตางๆ เชน จ�าเป็นอย่างย่ิงที่จะต้องค�านึงถึงใจเขาใจเรา คือ รู้ว่าเราชอบ ตวั อยางภาพ อะไร ตอ้ งการให้เขาท�าอยา่ งไร เราก็ควรทา� อยา่ งน้นั กบั คนอ่นื การปฏบิ ตั ติ นเปน็ สมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครวั และโรงเรยี นนนั้ • นักเรียนคิดวา เด็กในภาพแรกปฏิบัติตน มแี นวทางการปฏบิ ตั ิ ดังน้ี เปนสมาชกิ ท่ีดขี องครอบครวั หรอื ไม เพราะ ๑. มีความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่ ครูอาจารย์ และญาติ เหตใุ ด ผู้ใหญ่ (แนวตอบ : เปนสมาชิกท่ีดีของครอบครัว ความกตญั ญูกตเวที คือ การรู้จักบุญคณุ และตอบแทน เพราะรูจักชวยงานบานพอแม ทําใหบาน ผู้ทีม่ บี ญุ คณุ แก่เรา เชน่ พอ่ แมเ่ ป็นผูใ้ หก้ า� เนิด ส่ังสอน อบรม สะอาดนาอยู ทําใหงานบานเสร็จเร็ว และเล้ยี งดเู รา ครอู าจารย์เป็นผู้ส่งั สอนให้เราอ่านออกเขยี นได้ ทุกคนในครอบครัวมีความสามคั คกี นั ) มคี วามรู้ ญาตผิ ใู้ หญช่ ว่ ยสัง่ สอน อบรม ใหเ้ ราเปน็ คนดี เป็นตน้ ไ มไ่ ด ร้ บั ทก่าานรเอหปุ ลถ่ามันภีม้ 1เ์ีพลรยี้ ะงคดุณ ู ไมต่อม่ เคี รวาาอมยร่า ู้งแมลาะกเป นถ็ ้าผไขู้ มาม่ ดทีค่าณุ นธเรรรามก ็ • นักเรียนคิดวา เด็กในภาพที่สองปฏิบัติ เราจงึ ต้องตอบแทนบญุ คณุ ของท่านเหลา่ นัน้ ดงั น้ี ตนเปนสมาชิกที่ดีของโรงเรียนหรือไม ๑) ตอบแทนบญุ คุณพอ่ แม ่ เช่น เชื่อฟังค�าส่งั สอนของ เพราะเหตุใด พ่อแม่ ช่วยพ่อแม่ท�าความสะอาดบ้าน ช่วยล้างจาน ชาม (แนวตอบ : เปนสมาชิกท่ีดีของโรงเรียน แก้วน�้า ช่วยรดน้�าต้นไม้ ช่วยจัดเก็บของเล่นของใช้ให้เป็นที่ เพราะเดก็ ในภาพมคี วามกตญั แู ละมสี มั มา ช่วยป้อนอาหาร ป้อนยา เมอ่ื ท่านเจ็บป่วย เป็นตน้ คารวะตอครูโดยการแสดงความเคารพครู ดว ยการไหวเม่อื พบครทู ่ีหนา โรงเรียน) 58 • นักเรียนเคยปฏิบัติตนเปนสมาชิกที่ดีของ ครอบครวั และโรงเรยี นอยา งไรบา ง (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ชวยพอแมท าํ งานบา น ชวยครถู อื ของ) เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ ครแู นะนาํ นกั เรยี นวา การตอบแทนพระคณุ ของพอ แม ครอู าจารย และญาต-ิ นกั เรียนจะแสดงความกตัญูกตเวทตี อ พอแมไดอยา งไรบาง ผใู หญ ควรทําใหเ หมาะสมกบั วัย เชน ในวยั ของนักเรยี นขณะน้ี ควรตอบแทน 1. ชวนพอ แมไ ปซ้ือของในหางสรรพสนิ คา ทานดว ยการเปน เด็กดี เชือ่ ฟง คําสง่ั สอนของทา น ชว ยเหลอื งานทานเทา ทีท่ าํ ได 2. ชว ยพอแมท าํ งานบานเพ่ือแบงเบาภาระใหกับทา น เปนตน 3. ชวนเพอื่ นๆ มาเลน ที่บานและแนะนําใหพ อ แมร จู กั นักเรียนควรรู (ç วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 1. นกั เรยี นสามารถแสดงความกตญั กู ตเวที ตอพอแมไดหลายวิธี เชน เช่ือฟงคําส่ังสอนของพอแม ชวยพอแม 1 อปุ ถัมภ หมายถึง การค้ําชู การสนบั สนุน การเล้ยี งดู ทาํ งานบา น เพอ่ื แบง เบาภาระใหก บั ทา น เชน กวาดบา น ถบู า น รดนา้ํ ตน ไม จัดเก็บของเลนใหเขาท่ี ชวยเล้ียงนอง เปนตน ตามความสามารถ ทต่ี นเองทําได) T62

นาํ สอน สรุป ประเมนิ ๒) ตอบแทนบญุ คณุ ครู ขนั้ สอน อาจารย ์ เชน่ ตง้ั ใจเรยี นเวลา ครูสอน ปฏิบัติตามค�าสอน กระตุนความสนใจ ของครู ท�าความเคารพคุณครู พูดจาไพเราะกับคุณครู ช่วย 1. ครูอธิบายเชื่อมโยงใหนักเรียนเขาใจวา การ ครูถือหนังสือ ช่วยจัดและท�า อยูรวมกันในครอบครัวและโรงเรียนไดอยางมี ความสะอาดโต๊ะครู เป็นตน้ ▲▲ เมื่อพบคณุ ครูต้องยกมอื ไหว้ เพอื่ แสดง ความสุขน้ันจําเปนอยางย่ิงที่จะตองนึกถึงใจ ความเคารพทา่ น เขาใจเรา คอื ไมว า เราจะทาํ อะไร ตอ งคาํ นงึ ถงึ วา เราละเมิดสิทธิคนอื่นหรือไม เราทําอะไร ๓) ตอบแทนบุญคุณญาติผู้ใหญ่ เช่น ช่วยญาติผู้ใหญ่ ท่ีผูอื่นไมชอบและเดือดรอนหรือไม แลวเรา ถือของ ช่วยบีบนวด ช่วยหาน้�าหาอาหารให้ท่านรับประทาน ตองไมทําสิ่งเหลานั้น เพื่อจะไดอยูรวมกันใน เปน็ ต้น ครอบครัวและโรงเรยี นไดอ ยางมีความสขุ ผลจากการปฏิบตั ติ อ่ ผ้มู ีบุญคณุ การทเ่ี ราท�าความดตี ่อผมู้ พี ระคณุ จะส่งผล ดังน้ี 2. ครูถามคําถามกระตุนความคิด ใหนักเรียน ●▲ ผลต่อตนเอง ท�าให้เรามีความสุข เป็นที่รักใคร่ของ ชวยกันตอบ เชน พ่อแม่ ครอู าจารย์ ญาติผู้ใหญ ่ และคนทพ่ี บเห็นทว่ั ไป • นักเรยี นเปนสมาชกิ ท่ดี ขี องครอบครัว ●▲ ผลต่อครอบครัว สมาชิกภายในครอบครัวมีความรัก หรือไม จงอธบิ ายเหตุผลประกอบ เมตตาช่วยเหลือกนั และอย่รู ว่ มกนั อย่างมีความสขุ (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น ●▲▲ ผลต่อโรงเรียน ผู้คนชน่ื ชมสมาชิกในโรงเรียน ท�าให้ โดยใหอยูในดุลยพินิจ ของครูผูสอน เชน เกิดความรกั ความอบอุ่น และเกิดความสามคั คีในหมสู่ มาชิก เปน สมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครวั เพราะชว ยพอ จากการปฏิบัติต่อผู้มีบุญคุณ ส่งผลดีทั้งต่อตนเองและ แมท าํ งานบา น รดนาํ้ ตน ไม เลน ของเลน แลว ผู้อื่น ได้แก่ ครอบครัว และโรงเรียน ช่วยให้เกิดความรัก เกบ็ เขาท่ี มคี วามรักใครส ามัคคีกบั พน่ี อ ง) ทควี่พาบมเอหบ็นอ นุ่ เ อรยาจรู่ ว่ึงมคกวนัรปอยฏา่ ิบงัตมิตคี วนาเมปส็นขุ ค แนลมะีคเปวน็าทมช่ีกน่ืตชัญมญขูอกงตผเค้วู ทน1 ี • นักเรียนเปนสมาชิกท่ีดีของโรงเรียนหรือไม จงอธิบายเหตผุ ลประกอบ (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอ ยใู นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู อน เชน เปน สมาชิกท่ีดีของโรงเรียน เพราะมีนํ้าใจกับ เพอื่ นๆ ชว ยเพอื่ นทาํ ความสะอาดหอ งเรยี น ป ฏิ บั ติ ต า ม ก ฎ ร ะ เ บี ย บ ข อ ง โ ร ง เ รี ย น มีสัมมาคารวะตอคุณครู พูดจาไพเราะกับ ทุกคน) ต่อผมู้ ีบญุ คณุ อยา่ งตอ่ เน่อื ง 59 ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู ใครมีความกตญั ตู อพอแม 1 ความกตญั ูกตเวที หมายถึง การรูส ึกสํานกึ ในบญุ คณุ หรอื ความดขี อง 1. โกถูบา นในตอนเยน็ ผูอนื่ เชน รคู ณุ ของพอ แม รูคุณของครอู าจารย เปนตน ความกตัญเู ปน 2. แกว ไปโรงเรียนทกุ วนั มงคลขอ ที่ 15 ในมงคล 38 ประการ ผทู ี่มคี วามกตญั ูจะเปนผูท มี่ ีความสุข 3. เกงชวนเพอื่ นมาเลน ทีบ่ าน ความเจรญิ ในชวี ติ ç(วิเคราะหคําตอบ ขอ 1. การชวยทํางานบาน เชน กวาดบาน ถบู า น เปน การแบง เบาภาระใหก บั พอ แมแ ละเปน การแสดงออกถงึ ความกตัญูตอพอ แมดวย) T63

นาํ สอน สรุป ประเมนิ ขน้ั สอน ๒. เช่ือฟังค�าส่ังสอนของพ่อแม่ ครูอาจารย์ ญาติผู้ใหญ่ และผู้มพี ระคุณ สาํ รวจคน หา พอ่ แม่ ครูอาจารย์ ญาตผิ ใู้ หญ ่ และผมู้ ีพระคุณทกุ ท่าน มีบุญคุณต่อเรา ต้องการให้เราเป็นคนดี ท่านจึงสั่งสอนเรา 3. ครูใหนักเรียนกลุมเดิมจับคูกันเปน 4 คู ให ในส่ิงที่ดี เช่น สอนให้เราตั้งใจเรียนหนังสือ พูดจาไพเราะ แตละครู วมกนั ศึกษาความรเู รือ่ ง แนวทางการ คบเพือ่ นทดี่ ี รู้จักอดทน มรี ะเบยี บวนิ ัย เปน็ ตน้ ปฏิบัติตนเปนสมาชิกที่ดีของครอบครัวและ โรงเรยี น จากหนงั สอื เรยี น หนา 58-69 ตาม ค่ะพอ่ หนูจะเล่นท่ี อย่าไปเลน่ ไกลนะลูก ประเดน็ ทกี่ ําหนด ดังนี้ สนามหน้าบ้านนีค่ ่ะ ลกู เราเปน็ เดก็ ดี - คทู ่ี 1 ศึกษาเร่ือง มคี วามกตัญูกตเวทตี อ พอแม ครูอาจารย และญาติผูใหญ และ ทใ่าหท้ผางมจเะลสน่ นดุก้วมยานกะเคลรยบันะ เรอื่ ง เชอ่ื ฟง คาํ สงั่ สอนของพอ แม ครอู าจารย ญาตผิ ูใหญ และผูมีพระคุณ ▲▲ การเชอื่ ฟงั คา� ส่ังสอนของพอ่ แม ่ ท�าใหพ้ ่อแม่ภาคภมู ิใจ - คูท่ี 2 ศึกษาเร่ือง รูจักกลาวคําขอบคุณ ขอโทษ และเรอ่ื ง มีสัมมาคารวะ ผลของการเชือ่ ฟังคา� สั่งสอน - คทู ่ี 3 ศกึ ษาเรอื่ ง ปฏบิ ตั ติ ามขอ ตกลง กตกิ า การเชอื่ ฟงั คา� สง่ั สอนของพอ่ แม ่ ครอู าจารย ์ ญาตผิ ใู้ หญ่ กฎระเบยี บของครอบครัวและโรงเรียน และ และผ้มู ีพระคุณ มผี ลต่อตัวเราเอง คอื ท�าให้เราไม่ทา� อะไรทผี่ ดิ เรือ่ ง มรี ะเบยี บวินยั เป็นท่ีรักของทุกคน และมีความสุข ซ่ึงมีผลต่อครอบครัวและ - คูท่ี 4 ศึกษาเร่ือง มีเหตุผลและยอมรับ โรงเรยี นของเรา เชน่ ทา� ใหค้ รอบครวั อบอนุ่ มคี วามสขุ โรงเรยี น ฟงความคิดเห็นของผูอ่ืน เรื่อง มีน้ําใจ มชี ือ่ เสยี ง สมาชกิ ในโรงเรยี นอยดู่ ้วยกันอยา่ งสงบสุข และเรื่อง การมีสวนรวมในกิจกรรมของ ครอบครัวและโรงเรียน 60 เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคดิ ครูใหนักเรียนแบงกลุมเปน 2 กลุม กลุมละเทาๆ กัน แลวใหนักเรียน ถาพอแมสอนใหเรามีระเบียบวินัย นักเรียนจะปฏิบัติตามได แตละกลุมแสดงบทบาทสมมุติเกี่ยวกับการเช่ือฟงคําส่ังสอนของพอแม ครู อยางไร อาจารย ญาติผใู หญ และผูม ีพระคณุ แลวเกดิ ผลดี และการไมเ ชื่อฟง แลว เกิด ผลเสีย จากน้ันใหนักเรียนเปรียบเทียบวา ควรปฏิบัติตามแบบใด พรอมท้ังให 1. รับประทานอาหารเสรจ็ แลวบอกใหแ มเก็บ เหตผุ ลประกอบ 2. เลนของเลนเสรจ็ แลว เกบ็ เขา ทใี่ หเ รยี บรอย 3. เมือ่ ตื่นนอนแลวไมยอมลกุ จนกวาแมจะบอก ç(วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 2. ปฏิบัตไิ ดห ลายแบบ เชน ต่นื นอนตอนเชา ดวยตนเอง แตงกายใหเรียบรอย จัดเก็บส่ิงของใหเขาท่ี เปนตน ซึ่งจะทําใหเ ราอยรู วมกับผูอ่ืนอยา งมคี วามสุข และเปน ทรี่ ักของทกุ คน) T64

นาํ สอน สรุป ประเมนิ ๓. รจู้ กั กล่าวคา� ขอบคณุ ขอโทษ ขนั้ สอน ขอบคณุ ค�าว่า “ขอบคุณ” เป็นค�าท่ีใช้พูดเพื่อตอบแทนความมี อธบิ ายความรู นา้� ใจของผู้ใหท้ มี่ อี ายุมากกวา่ เรา เช่น ●▲▲▲พอ่ แมใ่ หเ้ งนิ มาโรงเรยี น เราตอ้ งไหวแ้ ละพดู “ขอบคณุ ” 4. สมาชิกแตละคูในกลุมผลัดกันอธิบายผลการ ●▲▲▲ครูใหร้ างวัล เราตอ้ งไหวแ้ ละพดู “ขอบคณุ ” ศึกษาเรื่อง แนวทางการปฏบิ ัตติ นเปนสมาชกิ ●▲▲▲ป้าใหข้ นม เราต้องไหว้และพดู “ขอบคุณ” ท่ีดีของครอบครัวและโรงเรียน พรอมท้ังผลัด ●▲▲▲ปซู่ อื้ หนงั สอื การต์ นู ให ้ เราตอ้ งไหวแ้ ละพดู “ขอบคณุ ” กันซักถามจนมีความเขา ใจตรงกนั ●▲▲▲เพ่ือนให้ยืมสง่ิ ของ เช่น ดนิ สอ ยางลบ เราตอ้ งพดู ตัวอยางผลการศกึ ษา “ขอบใจ” เพราะอายุใกล้เคียงกบั เรา แนวทางการปฏิบัติตนเปนสมาชิกท่ีดีของ การไหว้และกล่าวค�า “ขอบคุณ” จึงเป็นค�าท่ีช่วยให้ ครอบครัวและโรงเรียนสามารถปฏิบัติได เกิดความรกั ใคร่เอ็นดจู ากผู้ใหญ ่ และไดร้ ับความรักเป็นกนั เอง หลายวิธี เชน ตองมีความกตัญูกตเวที จากเพอ่ื น ซึง่ ส่งผลดีท้งั ตอ่ ตนเอง ครอบครัว และโรงเรียน ตอพอแม ครูอาจารย และญาติผูใหญ เชื่อฟงคําส่ังสอนของพอแม ครูอาจารย ครูให้เธอนะ ขอบใจนะ ฉันใหย้ มื ยางลบ ญาติผใู หญ และผมู ีพระคณุ รจู ักกลาวคาํ ขอบคณุ ครับ ขอบคุณ ขอโทษ มีสมั มาคารวะ ปฏิบตั ิ ตามขอตกลง กติกา กฎระเบียบของ ครอบครัวและโรงเรียน มีระเบียบวินัย มี เหตุผลและยอมรับฟงความคิดเห็นของ ผอู นื่ มนี า้ํ ใจ และมสี ว นรว มในกจิ กรรมของ ครอบครวั และโรงเรียน 5. นักเรียนแตละกลุมนําความรูที่ไดจากการ ศกึ ษามาทาํ ใบงานท่ี 2.2 เร่ือง การปฏบิ ัตติ น เปนสมาชิกที่ดีของครอบครัวและโรงเรียน เสร็จแลวตรวจสอบความถูกตอง ▲▲ การกล่าวขอบคุณและขอบใจ เราต้องรูจ้ ักพูดให้เหมาะสม 61 ขอสอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู เราควรกลาวคาํ ขอบคณุ เมื่อใด ครูเนนยํ้าใหนักเรียนรูจักกลาวขอบคุณหรือขอบใจ เม่ือผูอ่ืนชวยเหลือเรา 1. เม่อื เราทาํ การบา นเสร็จ หรือเม่ือผูอ ืน่ ทําสิ่งใดสิง่ หนงึ่ ใหกบั เรา หรอื แสดงความมีนา้ํ ใจตอ เรา เชน 2. เมื่อเราวิง่ ไปชนกบั เพื่อน เมื่อเพื่อนหยิบของสงใหเรา เราก็ควรพูด “ขอบใจ” เปน ตน 3. เมอ่ื เราไดร ับสง่ิ ของจากผูใหญ ç(วิเคราะหคําตอบ ขอ 3. การกลาวคําวา ขอบคุณและขอบใจ ในขณะท่ีกลาวคําวา “ขอบคุณ” เราควรมีกิริยาทาทางที่เหมาะสมดวย เพ่ือแสดงถึงความจริงใจ และซาบซ้ึงในนา้ํ ใจของผใู ห เชน เมื่อกลา ว “ขอบคุณ” เปนคําท่ีใชพูดเพ่ือตอบแทนความมีนํ้าใจของผูอ่ืนที่ชวยเหลือเรา เราควรมกี ริ ิยาทาทางนอบนอ ม มีสีหนาท่ียินดี ย้ิมแยม แจม ใส เปนตน หรือใหสงิ่ ตางๆ กับเรา) T65

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน (ตอ) ขอโทษ คา� ว่า “ขอโทษ” เปน็ ค�าที่ใช้พดู เมอื่ เราท�าผดิ ตอ่ ผอู้ ่ืน เช่น อธบิ ายความรู ●▲ วิ่งเลน่ แลว้ ชนคุณคร ู ตอ้ งยกมือไหวแ้ ล้วพูดวา่ “ขอโทษ คะ่ ” “ขอโทษครับ” เพราะทา� ให้ครเู จ็บ 6. นักเรยี นรวมกันตอบคาํ ถามกระตนุ ความคิด ●▲▲เตะลูกบอลไปโดนเพ่ือนที่เดินอยู่ ต้องพูดว่า “ขอโทษ” • ประโยชนข องการเปนสมาชกิ ที่ดขี อง เพราะทา� ใหเ้ พ่อื นเจ็บ ครอบครัวและโรงเรียนคอื อะไร ●▲ ยมื หนงั สอื เพอื่ นอา่ น แลว้ ท�าหนังสือเพื่อนขาด ตอ้ งพดู (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น “ขอโทษ” เพราะท�าให้หนงั สือของเพือ่ นเสียหาย โดยใหอยใู นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู อน เชน ค�าวา่ “ขอโทษ” จึงเปน็ คา� ทต่ี ้องฝึกพูดบอ่ ย ๆ ซึง่ จะมีผลดี • ทาํ ใหส มาชกิ ในครอบครวั หรอื โรงเรยี นอยู ต่อตัวเรา คือ ผู้ท่ีเรากล่าวขอโทษให้อภัยและยกโทษให้เรา รวมกันอยางสงบสุข ทา� ใหเ้ กิดความรกั ความหว่ งใยกัน • ทําใหสมาชิกในครอบครัวหรือโรงเรียน มีความรักใครสามัคคีกัน) ขอโทÉนะ ฉันลน่ื ลงมา ขอโทÉนะทฉี่ นั • การมสี วนรวมในกิจกรรมของครอบครวั โดยท่ียังไม่ทันตง้ั ตัว วงิ่ ชนนายลม้ และโรงเรียนมีอะไรบา ง (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น ไม่เปน็ ไรครบั โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน รวมกันทํางานบาน รวมกันไปทําบุญที่วัด ▲▲ การกลา่ วค�าขอโทษ เปน็ คา� ท่เี ราต้องพูดดว้ ยความจรงิ ใจ รวมกันแขงกีฬาสี รวมกันทํากิจกรรมหอง สมดุ รว มกันทําความสะอาดโรงเรยี น) 62 • นักเรียนสามารถแสดงความกตญั ูตอใคร ไดบาง และมวี ิธีปฏบิ ตั อิ ยา งไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน กตัญูตอพอแม เชน ชวยพอแมทํางาน บาน กตัญูตอครูอาจารย เชน ชวยครู ถอื ของ เชอื่ ฟง ครู กตญั ตู อ ญาตผิ ใู หญ เชน ชว ยบบี นวด หานํ้าใหด มื่ ) • ถานักเรียนเชอ่ื ฟงคาํ สง่ั สอนของพอ แม ครู อาจารย ญาตผิ ใู หญ และผูมีพระคุณจะ เกดิ ผลดีอยางไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ทาํ ใหเ ปน คนดี มคี นรกั ใครเมตตา) เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิด ครูเนนย้ําใหนักเรียนเห็นความสําคัญของการกลาวขอโทษ เม่ือเราทําผิด เม่อื เพอื่ นทําผิดตอเราโดยไมไดต งั้ ใจ และกลาวขอโทษเราแลว ตอ ผูอ ื่น ไมว าจะเปน ความผดิ เล็กนอ ยเพียงใด และขณะขอโทษ เราควรทําดว ย เราควรปฏบิ ตั ิอยางไร ความตง้ั ใจและกลา วอยา งจรงิ จงั เพอ่ื ใหผ ทู ไ่ี ดร บั คาํ ขอโทษรสู กึ วา เราขอโทษดว ย ความจริงใจ 1. ทําเฉยๆ 2. ใหอ ภยั เมอื่ เพอื่ นพดู ขอโทษเรา เราอาจพดู วา “ไมเ ปน ไร” เพอื่ แสดงวา เรายกโทษ 3. ดดุ า รุนแรง ใหเ พอื่ น (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 2. การกลาวขอโทษ เปน การแสดงออกวา ผทู กี่ ลา วขอโทษสาํ นกึ ในความผดิ ของตนแลว จงึ ไดก ลา วคาํ ขอโทษ และเมื่อเพือ่ นขอโทษเราแลว เราควรใหอ ภยั และยกโทษใหเ พื่อน) T66

นํา สอน สรปุ ประเมิน ๔. มีสัมมาคารวะ ขน้ั สอน คนไทยมีลักษณะการท�าความเคารพที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะการไหว้ ชาวตา่ งชาตสิ นใจฝกึ ไหวแ้ บบไทย เราเปน็ ขยายความเขาใจ คนไทยจึงต้องรักษาไว้ การไหว้เป็นการแสดงความเคารพ โดยเฉพาะไหว้พ่อแม่ผู้ให้ก�าเนิดเรา ไหว้ครู ไหว้ญาติผู้ใหญ ่ 7. นักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนออกมาอภิปราย และผมู้ บี ุญคุณ ที่สั่งสอนอบรมให้เรามีความรู้และเปน็ คนดี ความรูที่กลุมของตนไดศึกษา พรอมทั้ง การมสี มั มาคารวะ เราสามารถท�าได้ ดงั น้ ี อภิปรายคําตอบของใบงานที่ 2.2 ที่หนา เมอ่ื พบผใู้ หญ ่ เชน่ พอ่ แม ่ คร ู ญาตผิ ใู้ หญค่ นทม่ี อี ายุ ชน้ั เรยี น โดยมคี รเู ปน ผตู รวจสอบความถกู ตอ ง มากกวา่ เราตอ้ งทกั ทายด้วยการไหวแ้ ละกลา่ วคา� วา่ “สวัสดคี ะ่ ” ตวั อยางการอภิปรายคําตอบของใบงาน “สวัสดีครับ” ซ่ึงเป็นมารยาทไทย แสดงถึงการมีสัมมาคารวะ • การชวยกันทํางานบาน ทําใหเกิดผลดี รู้จักท�าความเคารพผู้ที่มีอายุ คือ ทําใหบานสะอาดนาอยูและกอให มากกว่า เกิดความสามัคคใี นครอบครัว การไหว้ผู้ใหญ่มีผลดี สวัสดคี ่ะ • การแสดงความเคารพตอครูอาจารย ทาํ ใหเกดิ ผลดี คอื ทาํ ใหครูอาจารยรัก คือ ท�าให้ผู้ใหญ่เกิดความรัก เอน็ ดู และชนื่ ชม ความเอ็นดูต่อเรา ชื่นชมเรา • นักเรียนต้ังใจเรียนขณะครูสอน ทําให รวมถงึ ครอบครัวของเรา และ เกดิ ผลดี คือ ทําใหเ ขาใจเรื่องท่ีครสู อน สวัสดคี รับ ไดเ ปน อยางดี โรงเรยี นของเรา 8. นักเรยี นตอบคําถามกระตุนความคดิ • นกั เรยี นมแี นวทางการปฏบิ ตั ติ นเปน สมาชกิ ทดี่ ีอยางไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ไมละเมิดสิทธิของผูอื่น พูดจาไพเราะกับ ทุกคน มนี ้ําใจชวยเหลือผูอ่ืน) ▲▲ การมีสัมมาคารวะเป็นส่ิงท่ีนักเรียนต้องปฏิบัติ ใหเ้ ปน็ นสิ ัย ประเทศไทยของเรามวี ัฒนธรรมประเพณี 63 ที่ดงี ามมากมายท่กี อ่ ให้เกดิ ความภาคภูมิใจ ซึ่งเราต้องช่วยกนั สบื ทอดนะครับ ดี นสแมสะามหเมาตดานขมพิ� เอืรหดล ขอสอบเนน การคิด บูรณาการอาเซียน การปฏบิ ัตใิ นขอ ใดถอื วา ไมมีสัมมาคารวะ ครูอธิบายเพิ่มเติมวา ประเทศสมาชิกในกลุมอาเซียน มีคําท่ีใชทักทาย 1. ยกมอื ไหวเ ม่ือพบคุณครู เมอ่ื พบกัน ดังนี้ 2. คอ มตัวเมอื่ เดินผา นผใู หญ 3. แตง กายเลียนแบบพระสงฆ ประเทศ คาํ ทกั ทาย ประเทศ คาํ ทกั ทาย (ç วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 3. การมสี มั มาคารวะ คอื การปฏบิ ตั ติ นดว ย บรูไน ซาลามตั ดาตงั เวียดนาม ซนิ จา ว ความเคารพนอบนอมตอผูอ่ืน และไมปฏิบัติตนที่เปนการลบหลู หรือไมใ หเกยี รตผิ ูอ ่นื เชน แตง กายเลียนแบบพระสงฆ) กมั พูชา ซวั ซะไดย เมยี นมาร มงิ กลาบา อนิ โดนีเชีย ซาลามัต เซยี ง ฟลิปปนส กมู ุสตา ลาว สะบายดี สงิ คโปร หนีหาว มาเลเซยี ซาลามัต ดาตัง ไทย สวัสดี T67

นาํ สอน สรปุ ประเมิน ขน้ั สอน (ตอ) ๕. ปฏิบัติตามข้อตกลง กติกา กฎระเบียบของครอบครัว และโรงเรยี น ขยายความเขา ใจ ในครอบครวั และโรงเรียน มีสมาชกิ อยู่รวมกนั หลายคน หลายประเภท มีทั้งผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก ผู้ใหญ่ ซ่ึงแต่ละคน • การกลา วขอบคณุ และขอโทษมผี ลดอี ยา งไร มีความคิดและลักษณะที่แตกต่างกัน จึงท�าให้มีการปฏิบัติตน (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น ทตี่ า่ งกนั ไป ดงั นนั้ จงึ จา� เปน็ จะตอ้ งมขี อ้ ตกลง กตกิ า กฎระเบยี บ โดยใหอยูใ นดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู อน เชน ของครอบครัวและโรงเรียน ให้ทุกคนร่วมกันปฏิบัติตาม เพื่อ • ถา มีคนอื่นใหชว ยเหลือเรา เราควรกลา ว ความปลอดภยั และความสขุ ของสมาชกิ ในบ้านและโรงเรียน คําขอบคุณเพื่อตอบแทนความมีน้ําใจ การปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กตกิ า กฎระเบยี บของครอบครวั ของผทู ใ่ี หค วามชว ยเหลอื ซง่ึ จะทาํ ใหเ กดิ เราเป็นสมาชิกคนหน่ึงในครอบครัว ต้องปฏบิ ัติ ดังนี้ ความรักเปนกันเองกบั ทั้งสองฝาย ● เชอื่ ฟงั คา� สอนของพอ่ แม ่ และญาตผิ ใู้ หญ ่ เชน่ พนี่ อ้ ง • เม่อื เราทาํ ผดิ ตอผูอน่ื เชน เตะลูกบอลไป ต้องรักและช่วยเหลือกัน ซื้อของกินท่ีมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดนเพือ่ นทเ่ี ดนิ อยู ซงึ่ เราไมไ ดต งั้ ใจ เรา ต ง้ั ใจ เรยี ●น ร ับไมปค่รบะทเพานอื่ นอาทห่เี กาเรรใ หไม้ตร่หงนเเีวรลยี าน1 แเปลน็ะเตมน้ ่ือรับประทาน ควรกลาวคําขอโทษเพื่อน เม่ือเรากลาว เสรจ็ แลว้ ต้องลา้ งจาน ชาม ขอโทษแลว เพ่อื นจะใหอ ภัยเรา ทาํ ใหเ กิด ● เลิกเรียนแล้วต้องรีบ ความรักความหว งใยตอ กนั ) กลับบ้าน เพ่ือมาช่วยพ่อแม่ ท�างานบา้ น • การปฏบิ ตั ติ นอยางไร จึงจะเรยี กวา ● หลงั จากตนื่ นอนแลว้ มสี มั มาคารวะ ตอ้ งเกบ็ ทน่ี อนใหเ้ รยี บรอ้ ย (แนวตอบ : พิจารณาตามคําตอบของ นักเรียน โดยใหอยูในดุลยพินิจของครู ▲▲ เราเปน็ เด็กต้องรู้จักช่วยพ่อแม่ท�างานบ้าน ผสู อน เชน เมอ่ื พบญาตผิ ใู หญต อ งยกมอื ไหว เมื่อพบคุณครูตองแสดงความเคารพดวย 64 การไหว) • การไมม ีสมั มาคารวะ จะสงผลเสียอยา งไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ทําใหไมมีใครรักใครเมตตา และอาจทําให คนอืน่ รงั เกียจได) นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคดิ 1 รับประทานอาหารใหตรงเวลา การรับประทานอาหารใหตรงเวลาในแต ขอใดเปนสง่ิ ท่ีนักเรียนไมค วรปฏิบตั ิ ละมอื้ จะทาํ ใหไ มเ ปน โfi รคกระเพาะอาหาร เพราะเมอ่ื ถงึ เวลารบั ประทานอาหาร 1. ทําการบานทโี่ รงเรียน รา งกายจะหลงั่ กรดออกมาเพอ่ื ยอ ยอาหารทก่ี นิ เขา ไป แตถ า ไมม อี าหารใหย อ ย 2. นําอาหารมากนิ ในหอ งสมดุ กรดทหี่ ลง่ั ออกมานนั้ กจ็ ะไปทาํ ลายเยอื่ บกุ ระเพาะอาหารแทน ทาํ ใหเ กดิ แผลใน 3. พดู คยุ กับเพื่อนตอนพกั เทีย่ ง กระเพาะอาหารและเกิดการอักเสบ ปวดทองได ดงั น้ัน ในบางครอบครัว พอแมจ ึงกาํ หนดขอ ตกลงเพือ่ ใหล ูกๆ รบั ประทาน (วิเคราะหค ําตอบ ขอ 2. ไมว าเราจะอยูทีบ่ า นหรือโรงเรยี น เรา อาหารใหต รงเวลา เพ่ือใหเกิดผลดีตอสุขภาพของลูกๆ นนั่ เอง ตอ งปฏิบัติตามขอ ตกลง กติกา กฎระเบยี บอยา งเครงครดั เชน ไม นาํ อาหารเขา มากินในหอ งสมดุ เพราะอาจทาํ ใหส กปรกได) T68

นํา สอน สรุป ประเมิน การปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กตกิ า กฎระเบยี บของโรงเรยี น ขน้ั สอน (ตอ) ขยายความเขาใจ เ●ร ไาปเปถ็นึงโสรมงเารชยี กิ นคกนอ่ หนนเขง่ึ ขา้ แอถงโวรเงคเารรียพนธ งตชอ้ างตป1ิ ฏบิ ัติ ดงั น้ี 10. ครูใหนักเรียนแบงกลุมเปน 5 กลุม กลุมละ เทาๆ กัน จากนั้นใหตัวแทนกลุมออกมาจับ ● แต่งกายให้เรียบร้อย เช่น ตัดผมสั้น สวมถุงเท้า สลากที่ครูเตรียมไว แลวใหแตละกลุมออก รองเท้า แต่งกายถูกตอ้ งตามระเบยี บของ มาแสดงบทบาทสมมตุ ใิ หเ พื่อนๆ ดทู ีห่ นาช้ัน โรงเรียน ตามหัวขอ ทีก่ ลมุ จับสลากได ● ตัง้ ใจเรียน เขา้ เรยี นทุกชั่วโมง • สลากหมายเลข 1 ใหแ สดงบทบาทสมมุติ ● กอ่ นออกนอกห้องเรยี นหรือ เรอ่ื ง การกลาวคาํ ขอบคณุ ขอโทษ โรงเรียนตอ้ งขออนญุ าตครู • สลากหมายเลข 2 ใหแ สดงบทบาทสมมตุ ิ ● ชว่ ยกนั รกั ษาสงิ่ ของของโรงเรยี น เร่อื ง การมีสัมมาคารวะ ไมท่ า� ลายให้เกิดความเสยี หาย เชน่ • สลากหมายเลข 3 ใหแ สดงบทบาทสมมตุ ิ ไมข่ ดี เขยี นโตะ๊ เก้าอ้ี ปดกอ๊ กน�้า เร่อื ง การมีระเบยี บวนิ ัย ใหส้ นิทเม่ือเลกิ ใช ้ • สลากหมายเลข 4 ใหแสดงบทบาทสมมุติ เป็นต้น เรอื่ ง การมีเหตุผลและยอมรับฟงความคิด เห็นของคนอ่นื • สลากหมายเลข 5 ใหแ สดงบทบาทสมมตุ ิ เร่อื ง การมีนํ้าใจ 11. เม่ือนักเรียนแตละกลุมแสดงจบครบแลว ครู และนักเรียนรวมกันบอกผลดีของการปฏิบัติ และผลเสยี ของการไมป ฏบิ ตั ิ จากนน้ั นกั เรยี น จดบันทกึ ความรไู วใ นสมดุ ของตนเอง ▲▲ เราตอ้ งรีบมาเข้าแถวเพื่อเคารพธงชาติในตอนเชา้ ใหท้ ันตามเวลาที่โรงเรยี นกา� หนด 65 นักเรียนควรรู 1 ธงชาติ ธงชาติไทยในปจจบุ นั เรียกอีกอยา งหน่งึ วา ธงไตรรงค ประกาศใชเมอื่ วันท่ี 28 กนั ยายน พ.ศ. 2460 ธงชาตไิ ทยมี 3 สี สแี ตละสี หมายถงึ สถาบันหลกั ของชาตไิ ทย ไดแก สแี ดง หมายถงึ สถาบนั ชาติ สีขาว หมายถึง สถาบันศาสนา และสนี าํ้ เงิน หมายถงึ สถาบนั พระมหากษตั รยิ  ซงึ่ เปนส่ิงทคี่ นไทยใหความสําคัญและเคารพนบั ถือ ดังน้ัน จงึ ไมมีการนําแถบสขี องธงชาตไิ ปใชใ นการออกแบบเปน สินคาอ่นื ๆ เชน เสอ้ื กางเกง กระโปรง เพราะเปน สงิ่ ท่ีไมเ หมาะสม บูรณาการอาเซียน ครนู าํ ภาพธงชาตขิ องประเทศในกลมุ อาเซยี นทนี่ อกเหนอื จากประเทศไทยมาใหน กั เรยี นดแู ละเปรยี บเทยี บกบั ธงชาตไิ ทย ธงชาตบิ รไู น ธงชาติกมั พูชา ธงชาตอิ นิ โดนเี ซีย ธงชาติลาว ธงชาติมาเลเซีย ธงชาตเิ มียนมา ธงชาตฟิ ล ปิ ปนส ธงชาตสิ ิงคโปร ธงชาติเวียดนาม T69

นํา สอน สรุป ประเมิน ขนั้ สอน (ตอ) ๖. มรี ะเบียบวินัย ขยายความเขา ใจ 12. ครสู นทนาพดู คยุ กบั นกั เรยี นวา การอยรู ว มกนั ในฐานะทเ่ี ราเปน็ สมาชกิ ของครอบครวั และของโรงเรยี น ในครอบครัว จําเปนตองมีขอตกลง กติกา เราต้องประพฤตติ นใหม้ ีระเบยี บวินัย เพอ่ื ใหค้ รอบครวั ของเรา กฎระเบียบของครอบครัว เพื่อใหสมาชิก และโรงเรยี นของเรามีความสขุ ซงึ่ สามารถท�าได้ ดงั น้ี ปฏบิ ัตติ าม ๑) ระเบยี บวนิ ัยในครอบครัว เชน่ ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง ในครอบครัวอยา่ งเคร่งครดั เช่น ตื่นนอนแต่เช้าโดยไมต่ ้องให้ 13. ใหนักเรียนยกตัวอยางการปฏิบัติตามขอ ใครปลุก เม่ือต่ืนนอนแล้วเก็บที่นอนให้เรียบร้อย ช่วยพ่อแม่ ตกลง กติกา กฎระเบียบของครอบครัวของ ทา� งานบา้ น อาบน้า� เองและแตง่ กายเองใหเ้ รียบรอ้ ย เป็นต้น ตนเอง คนละ 1 ขอ แลว ผลดั กนั พดู ใหเ พอ่ื นๆ ๒) ระเบียบวนิ ยั ในโรงเรยี น เชน่ ปฏบิ ัติตามกฎระเบียบ ฟง จากนั้นใหนักเรียนรวมกันอภิปรายวา ของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด ขอตกลง กติกา กฎระเบียบของครอบครัว เช่น มาโรงเรียนให้ทันเวลา แตล ะครอบครัวเหมอื นกันหรอื แตกตา งกัน เขา้ เรยี นตรงเวลา ทา� การบา้ น ส่งครูตรงเวลา แต่งกายให ้ 14. ครตู งั้ ประเดน็ คาํ ถามใหน กั เรยี นรว มกนั แสดง ถูกต้องตามกฎระเบยี บ ความคิดเหน็ เชน ผลของการมีระเบียบ • ถาเราไมปฏิบัติตามขอตกลง กติกา กฎ วินัย ท�าให้เราเป็นคนตรง ระเบียบของครอบครัวจะเกดิ ผลอยา งไร ต่อเวลา เป็นที่รักใคร่ของคน ▲▲ นักเรียนต้องแต่งกายให้ถูกต้องตามกฎระเบียบ (แนวตอบ : อาจทาํ ใหส มาชกิ ในครอบครวั เกดิ ของโรงเรียน การทะเลาะเบาะแวงกัน และทําใหสมาชิก อยูร วมกันอยางไมมีความสขุ ) ทว่ั ไป • ขอตกลง กติกา กฎระเบียบของครอบครัว มีไวเพอ่ื อะไร (แนวตอบ : เพื่อใหสมาชิกปฏิบัติตาม แลว สง ผลใหส มาชกิ ยรู ว มกนั ไดอ ยา งมคี วามสขุ ) 15. ครูเนนย้ําใหนักเรียนปฏิบัติตามขอตกลง กติกา กฎระเบียบของครอบครัวอยาง เครง ครัด เราเป็นคนไทยตอ้ งมีระเบยี บวินัย มนี �้าใจ เคารพกฎหมาย และร้จู กั รับผิดชอบต่อตนเองและสงั คมนะครับ แสนดี66 ลดหรือเพิม� ขนาดตามเหมาะสม เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ ครูใหนักเรียนท่ีมีระเบียบวินัยออกมาเลาพฤติกรรมของตนเองท่ีแสดงถึง พฤติกรรมในขอ ใดไมเก่ยี วของกับการมีระเบยี บวนิ ัย ความมีระเบียบวินัยที่หนาชั้น จากนั้นใหเพ่ือนๆ รวมกันซักถามถึงการปฏิบัติ 1. มาโรงเรยี นทนั เวลาเขา เรยี น ใหม รี ะเบียบวนิ ัยวา ทาํ ไดยากหรืองาย เพือ่ ใหน ักเรยี นเหน็ วา การมีระเบียบวินัย 2. แตงกายเรียบรอ ยมาโรงเรียน เปนส่งิ ทป่ี ฏิบตั ไิ ดไ มยาก ทกุ คนสามารถปฏิบตั ไิ ด 3. ชวยพอ แมรดนา้ํ ตนไมหลังเลิกเรียน (วิเคราะหคําตอบ ขอ 3. การมีระเบียบวินัย คือ การประพฤติ ปฏบิ ตั ติ ามขอ ตกลง กฎระเบยี บอยา งเครง ครัด เชน มาโรงเรยี น ทันเวลา สงการบานตามกําหนด แตงกายเรียบรอย เปนตน สวนการชวยงานพอแมถือเปนการแสดงความกตัญูกตเวทีตอ พอแม) T70

นาํ สอน สรปุ ประเมิน ๗. มีเหตผุ ลและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ขน้ั สอน (ตอ) ขยายความเขา ใจ ในการท�างานหรือการอยู่ร่วมกัน เราต้องช่วยกันคิด 16. ครูสนทนาพูดคุยกับนักเรียนวา ในโรงเรียน ชว่ ยกนั ทา� และชว่ ยกนั แกไ้ ขปญั หา ยอมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของ มีบุคคลตา งๆ มากมายมาอยูร วมกัน ดังนน้ั หลาย ๆ คน เพอ่ื ใหก้ ารทา� งานมคี วามรอบคอบ ถกู ตอ้ ง และเสรจ็ จึงจําเปนตองมีขอตกลง กติกา กฎระเบียบ ทันเวลาทีก่ า� หนด ทกุ คนได้มี ของโรงเรียน เพ่ือใหบุคคลตางๆ ในโรงเรยี น สว่ นรว่ มในการตดั สนิ ใจ ทา� ให้ ปฏบิ ตั ติ าม เพือ่ ใหก ารปฏบิ ัติงานในโรงเรียน เกิดความภาคภูมิใจในผลงาน เปน ไปอยา งมรี ะเบยี บเรยี บรอ ย การทน่ี กั เรยี น นอกจากนี้ ยงั ท�าใหเ้ กดิ ความ ปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียนจึงเปน เข้าใจระหว่างเพื่อนในกลุ่มได้ สิ่งสําคญั ดยี ง่ิ ขน้ึ ▲▲ การร่วมกันแสดงความคิดเห็นในการท�างาน จะท�าให้งานเสรจ็ เรว็ และมคี วามสมบรู ณ์ 17. ใหน กั เรยี นยกตวั อยา งการปฏบิ ตั ติ ามขอ ตกลง กติกา กฎระเบียบของโรงเรียนและผลที่เกิด ๘. มีนา�้ ใจ จากการปฏบิ ัตินั้นๆ การมนี า�้ ใจ คอื การรจู้ กั ชว่ ยเหลอื และแบง่ ปนั ใหแ้ กก่ นั เมอื่ เราอยู่ในครอบครัวและโรงเรยี น เราควรมีน�้าใจต่อสมาชิก 18. ครตู ง้ั ประเดน็ คาํ ถามใหน กั เรยี นรว มกนั แสดง ในบา้ นและโรงเรียน ดงั นี้ ความคิดเหน็ เชน ๑) มีน�้าใจต่อสมาชิกในครอบครัว เช่น • ถาเราปฏิบัติตามขอตกลง กติกา กฎ ●▲▲ชว่ ยน้องท�าการบ้าน ระเบยี บของโรงเรียนจะเกดิ ผลอยา งไร ถา้ ใครชว่ ยเราท�างาน (แนวตอบ : ทําใหไมถูกครูลงโทษ อยูรวม เราควรช่วยเหลอื เขา กับสมาชิกในโรงเรียนอยางมีความสุข ไม ●▲▲เมื่อพ่ีปลกู ตน้ ไม้ นอ้ งชว่ ยรดน้า� เปน็ การตอบแทนนะ ทะเลาะเบาะแวงกนั เกิดความเปน ระเบยี บ ●▲▲เม่ือพอ่ เหนอ่ื ยจากการทา� งาน เรียบรอ ยภายในโรงเรยี น) ช่วยหาน้�าให้ท่านด่ืม • ถา เพอื่ นของนกั เรยี นไมป ฏบิ ตั ติ ามขอ ตกลง ●▲▲เมื่อแม่ท�าอาหาร ช่วยเกบ็ จานชาม กติกา กฎระเบียบของโรงเรียน นักเรียน จะแนะนําเพื่อนอยางไร (แนวตอบ : อธิบายใหเ พื่อนเห็นผลเสียท่จี ะ เกิดขึ้นจากการไมปฏิบัติตามกฎระเบียบ ของโรงเรียน และบอกผลดีของการปฏิบัติ ตามกฎระเบยี บของโรงเรยี น) 19. ครูเนนย้ําใหนักเรียนปฏิบัติตามกฎระเบียบ ของโรงเรยี นอยางเครงครดั ท่ีใชแ้ ลว้ ไปล้าง 67 ขอสอบเนน การคดิลดหรือเพิม� ขภนาูผดตาามเหมาะเสกม ร็ดแนะครู การเปน คนไมม เี หตผุ ลและไมย อมรบั ฟง ความคดิ เหน็ ของผอู น่ื ครูใหนกั เรียนรว มกันคดิ วา ในการทํางานกลมุ ถา นกั เรียนมคี วามคดิ เหน็ อาจเกิดผลในขอ ใด ไมต รงกบั เพอื่ นในกลมุ นกั เรยี นจะแกไ ขปญ หาอยา งไร โดยครใู หน กั เรยี นทกุ คน ไดนําเสนอวิธีแกปญหาของตน จากน้ันครูและนักเรียนรวมกันสรุปแนวทาง 1. เพือ่ นๆ ทกุ คนใหการยอมรบั ในการแกป ญหาความขัดแยง ในกลุมทเ่ี หมาะสม 2. เกิดการทะเลาะแตกแยกกัน 3. ไดรบั คาํ ชมจากผอู นื่ (วิเคราะหคําตอบ ขอ 2. อาจทําใหเกิดการทะเลาะแตกแยกกนั เพราะมคี วามคดิ เหน็ ตา งกนั และไมส ามารถรว มกนั ทาํ งานอยา งใด อยา งหนึง่ ใหส าํ เรจ็ ได เปน ตน) T71

นํา สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน (ตอ) ๒) มนี �้าใจต่อสมาชกิ ในโรงเรยี น เชน่ ●▲▲ ชว่ ยเพ่ือนท�าความสะอาดหอ้ งเรียน ขยายความเขา ใจ 20. ครูสนทนากบั นกั เรยี นวา การทํากจิ กรรมรว ม ถ้าเพื่อนแบ่ง กันในครอบครัวและโรงเรียนเปนสิ่งที่สมาชิก ของเลน่ ใหเ้ รา ทุกคนตองรวมกันทําและใหความสําคัญ เราควรท�า ●▲▲ แบง่ ของเลน่ ใหเ้ พ่ือนเลน่ ด้วย อยำ่ งไรนะ 21. ครตู ง้ั ประเดน็ คาํ ถามใหน กั เรยี นรว มกนั แสดง ความคดิ เหน็ เชน ●▲▲ แบ่งขนมให้เพือ่ นกินด้วย • เพราะเหตุใดสมาชิกในครอบครัวควรมี ●▲▲ ช่วยครูหรอื เพื่อนถือของ สวนรว มในกจิ กรรมของครอบครัว (แนวตอบ : เพราะการทํากิจกรรมรวมกัน รถของฉนั แจ๋วไหม โอโ้ ห! เยีย่ มมาก ทาํ ใหส มาชกิ ในครอบครวั ไดใ กลช ดิ กนั เกดิ ความรกั ใครส ามคั คกี นั มากยง่ิ ขน้ึ และทาํ ให าผภู เกิดความอบอุนในครอบครัว) • ถานักเรียนไมใหความสําคัญในการมี มสะามหเมาตดานขมพ�ิ เอืรหดล สวนรวมในกิจกรรมของโรงเรียน จะเกิด ผลเสยี อยา งไร ▲▲ เมื่อเรามขี องเลน่ ควรแบง่ ให้เพือ่ นเล่นบา้ ง เพื่อแสดงความมีน�้าใจต่อเพื่อน (แนวตอบ : อาจทําใหกิจกรรมของโรงเรียน ไมป ระสบผลสาํ เรจ็ และนกั เรยี นไมม โี อกาส การมีน้�าใจรู้จักแบ่งปันและช่วยเหลือกัน จะท�าให้เรา ในการแสดงความสามารถ ทําใหไมไดรับ ครอบครวั ของเรา และโรงเรียนของเรามีความสขุ การยอมรับจากเพื่อนๆ และขาดโอกาส ๙. มสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมของครอบครวั และโรงเรียน ในการสรางความสามัคคี) ครอบครวั และโรงเรยี นมสี มาชกิ หลายคน มกี จิ กรรมทจ่ี ะ ท�าร่วมกันหลายอย่าง เราเป็นสมาชิกคนหน่ึงจึงต้องมีสว่ นร่วม 22. ครเู นน ยา้ํ ใหน กั เรยี นรจู กั มสี ว นรว มในกจิ กรรม ในกจิ กรรม รว่ มกันคิดรว่ มกันวางแผนวา่ จะทา� อะไร ทา� เมอ่ื ไร ของครอบครัว และโรงเรียนอยูเสมอเมื่อมี ท�าอย่างไร เพราะอะไร เป็นต้น เพือ่ ใหก้ ิจกรรมที่จะทา� มีความ โอกาส ถกู ตอ้ งสมบรู ณ์ 68 เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคิด ครูใหนักเรียนรวมกันคัดเลือกเพ่ือนท่ีมีนํ้าใจจากสมาชิกในหอง พรอมท้ัง เราควรปฏบิ ตั ิตอ เพ่ือนอยา งไร บอกเหตุผลประกอบ จากน้นั ครแู ละเพอ่ื นรว มกันกลาวชมเชยนกั เรยี นท่มี ีนาํ้ ใจ 1. ชวยสอนการบานเพื่อน 2. ชวนเพอ่ื นคุยขณะเรียน ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ วา การแสดงความมนี า้ํ ใจเปน การกระทาํ ทเี่ กดิ ผลดที ง้ั ตอ 3. ชวนเพอ่ื นวง่ิ เลนในหอ งเรยี น ผใู หและผรู บั เชน ชว ยเพ่อื นเก็บอปุ กรณก ารเรยี น ชวยนอ งทํางานบา น เปนตน สวนการแสดงความมีนํ้าใจท่ีทําใหเกิดผลเสียตอตนเองและผูอ่ืน เชน ชวยทํา (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 1. เราควรมนี า้ํ ใจตอ เพอื่ น รจู กั ชว ยเหลอื เพอื่ น การบา นใหน อ ง ชว ยเพอ่ื นปกปด ครวู า ไมไ ดท าํ ของเสยี หาย ชว ยเพอ่ื นหนโี รงเรยี น ในโอกาสตา งๆ เชน เมอื่ เพอื่ นไมเ ขา ใจการบา นกช็ ว ยสอนการบา น เปน ตน เปนส่งิ ทไ่ี มควรทํา และไมใ ชการแสดงความมนี ้ําใจ ใหเ พอื่ น ชว ยเพอ่ื นทาํ กจิ กรรมตา งๆ อยา งเหมาะสม และไมช กั ชวน เพ่อื นทําผดิ กฎระเบียบของโรงเรียน เชน ชวนเพื่อนคยุ ขณะเรียน ไมน ําขนมมากินในขณะครูสอน เปน ตน) T72

นํา สอน สรุป ประเมิน การมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมของครอบครวั เชน่ ร่วมกัน ขน้ั สอน ท�างานบ้าน ร่วมกันไปท�าบุญที่วัด ร่วมแสดงความคิดเห็นว่า ครอบครัวของเราจะไปเที่ยวไหนในวันหยุดนี้ เป็นต้น เพ่ือให้ ตรวจสอบผล สมาชกิ ในครอบครวั ไดม้ ีสว่ นร่วมในการท�ากิจกรรมตา่ ง ๆ การมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมของโรงเรียน เชน่ รว่ มกนั 23. ครสู มุ ตวั แทนนกั เรยี น 4-5 คน ออกมานาํ เสนอ แขง่ กฬี าสี รว่ มกนั ท�ากจิ กรรมหอ้ งสมดุ รว่ มกนั ท�าความสะอาด ผลงานในใบงานท่ี 2.2 ที่หนา ช้ันเรยี น โดยมี โรงเรยี น ร่วมกันปลกู ตน้ ไม้ในโรงเรยี น เปน็ ตน้ เพอ่ื ให้สมาชกิ ครูเปน ผูต รวจสอบความถูกตอ ง ในโรงเรียนไดท้ �างานรว่ มกันอยา่ งพร้อมเพรยี ง การท�ากิจกรรมร่วมกันในครอบครัวและในโรงเรียน ขน้ั สรปุ จะทา� ใหส้ มาชกิ ทกุ คนไดแ้ สดงความสามารถและเกดิ การยอมรบั เข้าใจกัน เกิดความสมัครสมานสามัคคีกัน ท�าให้อยู่ร่วมกัน 1. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรทู ไ่ี ดจ ากการ ในครอบครัวและโรงเรียนอย่างมคี วามสุข เรยี นเรอื่ ง แนวทางการปฏบิ ตั ติ นเปน สมาชกิ ที่ ดีของครอบครัวและโรงเรยี น 2. นกั เรียนบันทึกขอมูลลงในสมดุ ขน้ั ประเมนิ 1. ครตู รวจสอบความเขา ใจของนกั เรยี นผา นการ สังเกตการตอบคําถาม การอภิปรายความรู และการนาํ เสนอผลงาน 2. ครปู ระเมนิ ผลการทาํ ใบงานท่ี 2.2 ของนกั เรยี น แตละกลุม เสร็จแลวคัดเลือกผลงานท่ีมี คณุ ภาพติดปายนิเทศท่ีหนา ชั้นเรยี น ▲▲ การมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมของครอบครัวและโรงเรยี น จะท�าให้ทกุ คนมีความสุข 69 ขอ สอบเนน การคดิ แนวทางการวัดและประเมินผล ขอใดไมจัดเปนการมีสวนรวมในกิจกรรมของโรงเรียน ครูศึกษาแนวทางการวัดและประเมินผลเพ่ือประเมินชิ้นงานของนักเรียน 1. ลงสมัครเลอื กตัง้ เปน ประธานนักเรียน จากใบประเมนิ ชิ้นงานทแี่ นบทายแผนการสอน 2. เขา แขง ขนั กฬี าสีทโ่ี รงเรียนจัดขึน้ 3. เขารวมประทวงครูประจาํ ชน้ั แบบประเมินการนาเสนอผลงาน แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ç(วิเคราะหคําตอบ ขอ 3. กิจกรรมของโรงเรียนท่ีจัดขึ้นจะเปน คาช้แี จง : ให้ผูส้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด  ลงในชอ่ งท่ี คาชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี  ลงในช่องท่ี คำชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งที่ กิจกรรมที่สรางสรรค มีประโยชน ไมใชกิจกรรมที่สรางความ ตรงกบั ระดับคะแนน ตรงกับระดับคะแนน ตรงกับระดับคะแนน เดือดรอ นใหก ับผูอ่นื เชน การเขา รวมประทวงครปู ระจาํ ชั้น) ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน คุณลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดับคะแนน 1 เนือ้ หาละเอยี ดชัดเจน 321 1 การแสดงความคิดเห็น 321 อันพงึ ประสงคด์ ้ำน 321 2 ความถกู ต้องของเน้ือหา 2 การยอมรับฟังความคิดเหน็ ของผู้อื่น 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ 3 ภาษาที่ใชเ้ ข้าใจงา่ ย 3 การทางานตามหน้าที่ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย กษัตริย์ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมท่ีสร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ 4 ประโยชน์ที่ได้จากการนาเสนอ 4 ความมีนาใจ 5 วธิ ีการนาเสนอผลงาน 5 การตรงต่อเวลา 2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต ต่อโรงเรียน 3. มวี นิ ัย รบั ผิดชอบ 1.3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาท่ตี นนับถือ ปฏิบัตติ ามหลกั ศาสนา รวม รวม 4. ใฝ่เรียนรู้ 1.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมทเี่ กี่ยวกับสถาบนั พระมหากษตั ริย์ตามทโ่ี รงเรียนจัดขนึ้ 2.1 ให้ข้อมลู ทถ่ี กู ต้อง และเป็นจรงิ ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมิน ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน 5. อยู่อยา่ งพอเพียง 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นส่ิงท่ีถูกตอ้ ง ............../.................../................ ............../.................../................ 3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ของครอบครวั 6. มงุ่ ม่ันในการ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ทางาน มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ งๆ ในชีวิตประจาวนั ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครัง ให้ 1 คะแนน 7. รกั ความเป็นไทย 4.2 รจู้ ักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมินบางสว่ น ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางครงั 8. มจี ติ สาธารณะ 4.3 เช่อื ฟงั คาส่งั สอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้ 4.4 ตง้ั ใจเรยี น เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและรคู้ ุณคา่ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 5.3 ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงนิ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 6.1 มคี วามตั้งใจและพยายามในการทางานท่ไี ด้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพื่อให้งานสาเรจ็ 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รู้จกั ช่วยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครูทางาน 8.2 รู้จักการดแู ล รักษาทรพั ย์สมบัติและสิง่ แวดล้อมของห้องเรียน โรงเรยี น 8 - 11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรับปรงุ ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมนิ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรุง ............../.................../................ เกณฑก์ ำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิชัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมท่ีปฏิบตั ิชัดเจนและบอ่ ยคร้งั ให้ 1 คะแนน พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ัตบิ างครงั้ ภูมิศาสตร์ ป.1 15 ภมู ิศาสตร์ ป.1 16 ภูมิศาสตร์ ป.1 18 T73

นํา นํา สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ นาํ ๓ ประโยชน์ของการปฏบิ ัตติ นเป็นสมาชกิ ท่ีดีของ ครอบครวั และโรงเรยี น ครูใหนักเรียนดูคลิปวิดีโอท่ีเก่ียวของกับการ เปนสมาชิกที่ดีของครอบครัวและโรงเรียน จาก การปฏบิ ัติตนเปน็ สมาชิกทดี่ มี ีประโยชน์ ดังน้ี https://www.youtube.com/watch?v=v7Ic_ ▲ ●▲▲ การช่วยกนั ทา� งาน ▲ ▲ท�าใหง้ านเสร็จเรว็ PjXAM4 และ https://www.youtube/watch?v ▲ ●▲▲ การช่วยกนั ประหยดั ▲ ▲ท�าใหล้ ดคา่ ใช้จา่ ย =owxekXVX1Zo แลวถามนักเรยี นวา การปฏบิ ตั ิ ▲ ●▲▲ การมรี ะเบียบวนิ ัย ▲ ▲ท�าใหเ้ กดิ ความสงบเรียบรอ้ ย ตนเปนสมาชิกท่ีดีของครอบครัวและโรงเรียนมี ▲ ●▲▲ การชว่ ยกันท�า ▲ ▲ทา� ใหบ้ า้ นและโรงเรียน ผลดีอยางไร แลวใหนักเรียนตอบตามความคิด ความสะอาด สะอาดนา่ อย่ ู ของตน ●▲▲ การมีน้�าใจต่อกนั ▲ ▲ทา� ให้เกิดความรู้สึกทด่ี ีต่อกัน ▲ ▲▲ ▲ ▲ ▲ ▲ชว่ ยลดความเดอื ดรอ้ นของผอู้ นื่ ขนั้ สอน ขอโทÉครบั สวสั ดคี รับ สวสั ดีค่ะ สควณุัสดคคีระู่ สงั เกต ไมเ่ ปน็ ไรครบั 1. ครใู หน กั เรยี นชว ยกนั ยกตวั อยา งการมสี ว นรว ม ในกจิ กรรมของครอบครวั และโรงเรยี น แลว ครู ▲▲ การปฏบิ ัติตนเปน็ สมาชิกทดี่ ขี องโรงเรียน ท�าให้อยรู่ ่วมกนั ในโรงเรยี นอย่างมีความสุข บันทึกบนกระดาน เชน ชว ยทาํ งานบาน ชวย ทําความสะอาดหองเรียน ชวยสอนการบาน 70 นอง 2. ครูใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยว กับกจิ กรรมตางๆ ของครอบครวั และโรงเรียน ที่นักเรียนชวยกันยกตัวอยางวา ทําใหเกิด ประโยชนตอ ใคร อยางไรบา ง (ตวั อยา งเชน การชว ยพอ แมท าํ งานบา น ทาํ ให บา นสะอาดนา อยู เปน การชว ยแบง เบาภาระให กับพอแม และทาํ ใหพ อ แมป ลืม้ ใจ) วเิ คราะหว จิ ารณ 3. ครใู หน กั เรยี นกลมุ เดมิ จบั คกู นั แลว ใหน กั เรยี น แตละคูรวมกันศึกษาความรูเรื่อง ประโยชน ของการปฏบิ ตั ติ นเปน สมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครวั และโรงเรยี น จากหนังสอื เรยี น หนา 70 4. สมาชกิ แตล ะคใู นกลมุ ผลดั กนั อภปิ รายความรู และประเด็นสําคัญท่ีไดจากการศึกษา เชน การปฏิบัติตนเปนสมาชิกที่ดีของครอบครัว และโรงเรียนมีประโยชนอยางไร แลวผลัดกัน ซกั ถามจนมคี วามเขาใจชัดเจน เกร็ดแนะครู กิจกรรม ทา ทาย ครูใหนักเรียนสังเกตการปฏิบัติตนของสมาชิกในบานและโรงเรียนวา ครูใหนักเรียนจัดทําสมุดบันทึกหนูเปนเด็กดี โดยประดิษฐ ใครปฏิบัติตนเปนสมาชิกที่ดีของครอบครัวและโรงเรียนอยางไรบาง และ จากเศษกระดาษหรือสมุดที่ไมไดใชแลว จากน้ันใหนักเรียน การปฏบิ ัตินั้นมีผลดีอยา งไรบา ง แลว ออกมาเลา ท่ีหนาชนั้ บันทึกการเปนสมาชิกที่ดีของครอบครัวและโรงเรียนท่ีตนเองได ทําในแตละวัน แลว ใหผ ปู กครองเซน็ ชอ่ื รับรอง เม่ือครบ 1 เดือน ครูใหนักเรียนนําสมุดบันทึกมาแสดง แลวบอกความรูสึกท่ีไดจากการเปนสมาชิกท่ีดี จากนั้นครูและ เพอ่ื นกลา วชมเชย เพอ่ื ใหน กั เรยี นเกดิ ความภมู ใิ จในการทาํ ความดี T74

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ ขนั้ สอน (ตอ) ๑. เขยี นเลา่ ประสบการณก์ ารมีสว่ นร่วมในกิจกรรมของครอบครวั วเิ คราะหวิจารณ และโรงเรียนของตนเอง แลว้ นา� เสนอผลงานหนา้ ชนั้ ๒. ยกตวั อย่างเพื่อนในชัน้ เรียนทมี่ ีคุณธรรม คือ มรี ะเบียบวนิ ัย 5. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันวิเคราะห มีน้า� ใจต่อผ้อู ืน่ และกล่าวช่นื ชมเพ่อื นตามความรู้สกึ ของตนเอง เก่ียวกับการปฏิบัติตนเปนสมาชิกที่ดีของ ๓. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั บอกประโยชนข์ องการปฏบิ ตั ติ นเปน็ สมาชกิ ครอบครวั และโรงเรียนวา ทาํ ใหเ กิดประโยชน ทีด่ ขี องครอบครัวและโรงเรียน อยา งไรบา ง ตวั อยาง กจิ กรรมรวบยอด - การชว ยกนั ทํางาน ทาํ ใหง านเสร็จเร็ว - การมีระเบียบวินัย ทําใหเกิดความสงบ ๑. วาดภาพการปฏิบัติตนดตี ่อครอบครัวและโรงเรยี น และเขียน เรยี บรอ ย บรรยายใต้ภาพ จากนน้ั นา� เสนอผลงานหนา้ ช้นั ๒. บันทกึ ผลการปฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชกิ ท่ีดขี องครอบครัว 6. สมาชกิ แตล ะกลมุ รว มกนั ทาํ ใบงานที่ 2.3 เรอ่ื ง และโรงเรยี น เปน็ เวลา ๑ สัปดาห์ แล้วใหผ้ ้ปู กครองและครู ประโยชนข องการปฏบิ ตั ติ นเปน สมาชกิ ทด่ี ขี อง ลงช่ือรับทราบ ครอบครัวและโรงเรียน เสร็จแลวตรวจสอบ ๓. ดภู าพ และร่วมกนั วเิ คราะห์ประโยชน์ของการปฏบิ ัติตนเป็น ความถกู ตอง สมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครวั และโรงเรยี น แลว้ นา� เสนอผลงานหนา้ ชนั้ 7. ครแู ละนกั เรยี นชวยกนั เฉลยคําตอบใน ใบงานท่ี 2.3 ขนั้ สรปุ สรุป 1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเรื่อง ประโยชนของการปฏิบัติตนเปนสมาชิกที่ดี ของครอบครวั และโรงเรียน 2. นกั เรียนบันทึกความรูล งในสมุด 3. นักเรียนทํากิจกรรมรวบยอดในหนังสือเรียน หนา 71 ขนั้ ประเมนิ 1. ครูประเมินใบงานและการตอบคําถามของ นกั เรยี น 2. ครูตรวจสอบการทาํ กิจกรรมรวบยอด 71 ขอสอบเนน การคดิ แนวทางการวัดและประเมินผล การปฏิบัติตนเปนสมาชิกท่ีดีของครอบครัวและโรงเรียนมีผลดี ครูศึกษาแนวทางการวัดและประเมินผลเพื่อประเมินช้ินงานของนักเรียน อยา งไร จากใบประเมนิ ชิน้ งานท่ีแนบทายแผนการสอน 1. ทาํ ใหค รอบครัวและโรงเรียนมีความสงบสุข แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 2. ทาํ ใหครอบครวั และโรงเรียนมชี ือ่ เสียงโดงดัง 3. ทําใหค รอบครัวและโรงเรยี นไดรบั รางวัลดีเดน คาชี้แจง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในชอ่ งท่ี คาช้แี จง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด  ลงในช่องท่ี คำชี้แจง : ใหผ้ ูส้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด  ลงในชอ่ งที่ ç(วิเคราะหคาํ ตอบ ขอ 1. ทาํ ใหสมาชกิ ในครอบครวั และโรงเรยี น ตรงกับระดับคะแนน ตรงกับระดบั คะแนน ตรงกบั ระดบั คะแนน มีความรักใครสามัคคีกัน ไมขัดแยงกัน และอยูรวมกันอยางมี ความสขุ ) ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน คณุ ลักษณะ รำยกำรประเมนิ ระดบั คะแนน 1 เนอื้ หาละเอียดชัดเจน 321 1 การแสดงความคิดเห็น 321 อันพงึ ประสงคด์ ำ้ น 321 2 ความถกู ต้องของเน้อื หา 2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อ่นื 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ 3 ภาษาทใ่ี ช้เข้าใจง่าย 3 การทางานตามหน้าท่ที ี่ไดร้ บั มอบหมาย กษัตริย์ 1.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมท่สี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ 4 ประโยชน์ท่ไี ด้จากการนาเสนอ 4 ความมีนาใจ 5 วิธีการนาเสนอผลงาน 5 การตรงตอ่ เวลา 2. ซือ่ สัตย์ สุจริต ตอ่ โรงเรียน 3. มีวินัย รบั ผดิ ชอบ 1.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ตี นนบั ถอื ปฏิบัติตามหลักศาสนา รวม รวม 4. ใฝ่เรยี นรู้ 1.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมท่ีเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริยต์ ามท่โี รงเรียนจัดขึ้น 2.1 ใหข้ ้อมูลทถี่ ูกต้อง และเป็นจริง ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 2.2 ปฏบิ ตั ิในสิ่งท่ถี กู ต้อง ............../.................../................ ............../.................../................ 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คับของครอบครวั 6. ม่งุ มนั่ ในการ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ทางาน มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบตั กิ ิจกรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวัน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 4.1 รูจ้ ักใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้ ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมินเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั ให้ 1 คะแนน 7. รักความเปน็ ไทย 4.2 รจู้ กั จัดสรรเวลาให้เหมาะสม ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางสว่ น ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั 8. มีจติ สาธารณะ 4.3 เชื่อฟังคาสง่ั สอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ย้ง 4.4 ตง้ั ใจเรยี น เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ 5.1 ใช้ทรพั ย์สนิ และส่ิงของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 5.2 ใช้อปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและรูค้ ณุ คา่ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 12 - 15 ดี 5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงิน 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 6.1 มีความต้งั ใจและพยายามในการทางานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพ่ือให้งานสาเร็จ 7.1 มจี ิตสานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครทู างาน 8.2 รู้จักการดูแล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสง่ิ แวดล้อมของห้องเรียน โรงเรียน 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรงุ ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ ............../.................../................ เกณฑ์กำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบัติชัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ัติชัดเจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิบางครง้ั ภูมิศาสตร์ ป.1 15 ภมู ศิ าสตร์ ป.1 16 ภูมศิ าสตร์ ป.1 18 T75

นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั นาํ óº··Õè ¡Ò÷Òí ¤ÇÒÁ´Õ กิจกรรมนาํ สูการเรียน 1. ครทู กั ทายนกั เรยี นและถามนกั เรยี นวา ใครเคย ปอและป›นเกบ็ สร้อยทองได้ ทาํ ความดอี ะไรบา ง จากนนั้ ใหน กั เรยี นผลดั กนั และส่งคืนใหก้ ับเจา้ ของ ออกมาเลาใหเพ่อื นๆ ฟง ครขู อใหเ้ ราปรบมือให้กบั คนดี เพอื่ นของเราดว้ ยคะ่ 2. ใหนักเรียนดูภาพ จากหนังสือเรียน หนา 72 แลวชวยกนั บอกวา เพือ่ น ๆ คดิ วา • เดก็ ในภาพนี้ทําความดีหรือไม เพราะอะไร การกระทําของปอและปน (แนวตอบ : เดก็ ในภาพนที้ าํ ความดี เพราะ เปนแบบอยางทด่ี ีหรอื ไม การนําส่ิงของท่ีเก็บไดสงคืนเจาของ ถือ เปนการชวยเหลือผูอ่ืนใหหายทุกขใจได เพราะอะไร เพราะผูที่ทําของหลนหายมักจะมีความ ทุกขใจ ย่ิงถาของที่หลนหายมีมูลคามาก แนวคิดสําคญั กย็ ่ิงทําใหม คี วามทกุ ขใจมากไปดวย) • ถานักเรียนพบกระเปาสตางคของคนอ่ืน ¡Ò÷íÒ¤ÇÒÁ´Õ ໚¹ÊèÔ§·èÕàÃÒ¤Ç÷íÒ à¾ÃÒмŢͧ ตกอยู นกั เรยี นควรทาํ อยา งไร ¡Ò÷Òí ¤ÇÒÁ´·Õ íÒãËŒàÃÒÁ¤Õ ÇÒÁ梯 áÅзíÒãËÊŒ §Ñ ¤ÁʧºÊØ¢ (แนวตอบ : ควรเกบ็ เอาไปใหคณุ ครปู ระกาศ หาเจา ของ เพ่ือสง คืนใหกบั เจา ของตอไป) 72 ขน้ั สอน กระตนุ ความสนใจ 1. ครถู ามคําถามใหนกั เรยี นชวยกันตอบ เชน • การทําความดจี ะทําใหเกิดผลอยา งไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ทําใหเกิดความสงบสุขในการอยูรวมกัน ทาํ ใหเ กิดความรักใครสามัคคกี ัน) เกร็ดแนะครู ครูจัดกระบวนการเรียนรโู ดยการใหน กั เรียนปฏบิ ัติ ดงั นี้ • สืบคนขอมูลเก่ียวกบั การทําความดแี ละผลของการทาํ ความดี • อภปิ รายเกยี่ วกับการทําความดีและผลของการทาํ ความดี • วเิ คราะหจ ากประเดน็ คาํ ถามและภาพเกย่ี วกับการทาํ ความดีและผลของการทําความดี จนเกดิ เปน ความรคู วามเขาใจวา การทาํ ความดเี ปนสิง่ ที่ควรทาํ เพราะจะทาํ ใหเ ราเกดิ ความภาคภมู ใิ จและมีความสุข เพราะการทาํ ความดเี ปนการทาํ สงิ่ ที่ไมท ําใหต ัวเราและผอู น่ื เดือดรอน ซงึ่ มสี ว นชวยใหสงั คมเกิดความสงบสขุ T76

นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๑ ลกั ษณะความสามารถและความดขี องบุคคล ขนั้ สอน (ตอ) ลักษณะความสามารถของบุคคล กระตุนความสนใจ คนเราทุกคนมีความสามารถแตกต่างกันไป เช่น บางคน เรลอ้ น่ งกเพฬี ลา1งเกไพง่ เเรปาน็ะ ตบน้ า งคควนามเรสยี านมเากร่งถ เบหาลงา่ คนนเี้ วปาน็ ดสรงิ่ ปู ทสเ่ี วรายฝ กึบฝางนคไนด้ 2. ครูใหนักเรียนดูภาพความสามารถของบุคคล ทั้งจากเพื่อน คุณครู และพอ่ แม่ เชน เด็กเลนกีฬา เด็กวาดรูป เด็กเลนดนตรี เปน ตน ตัวอยา งภาพ ▲▲ เด็กบางคนเลน่ กีฬาเก่ง ▲▲ เด็กบางคนวาดรปู สวย ▲▲ เด็กบางคนเล่นดนตรเี กง่ แลวใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหแสดงความ คดิ เหน็ เกยี่ วกบั ความสามารถของแตล ะบคุ คล ลักษณะความดขี องบคุ คล เชน นอกจากความสามารถแล้ว แต่ละคนยังมีความดีแตกต่าง - เดก็ แตล ะคนมคี วามสามารถเหมอื นกนั หรอื กันไป เช่น ๑) ความมีระเบียบวินัย หมายถึง การท�าตามข้อตกลง ตางกัน กติกา กฎระเบียบ เช่น แต่งกายเรียบร้อย เข้าแถวเคารพ - ความสามารถของเด็กแตล ะคนเกิดข้ึนได ธงชาติตรงเวลา ไม่คุยหรือเล่นกันในเวลาเรียน ซ่ึงมีผลท�าให้ เพราะเหตใุ ด เปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย สวยงาม ทุกคนมคี วามสุข 3. ครใู หน กั เรยี นชว ยกนั ยกตวั อยา งความสามารถ ของนกั เรยี น จากนนั้ ครเู ขยี นบนั ทกึ บนกระดาน ถา้ เราเข้าแถวซอื้ อาหาร 73 4. ครูสอบถามนักเรียนวา เพื่อนๆ ของนักเรียน แลว้ มคี นมาแทรกแถว มีความสามารถเหมือนกัน หรือแตกตางกัน เราควรทา� อย่างไรดีนะ เพราะเหตุใดจึงเปนเชน น้ี โดยใหน กั เรยี นตอบ ตามความเหน็ ของตน 5. ครูอธิบายเช่ือมโยงใหนักเรียนเขาใจวา คน เราทุกคนมีความสามารถแตกตางกันออกไป ซึ่งความสามารถเปนสิ่งที่เราฝกฝนได เชน การเรยี นเกง ถา เราตง้ั ใจเรยี น หมนั่ ฝก ฝนตงั้ ใจ เรยี นอยูเ สมอ กจ็ ะทาํ ใหเ ราเรยี นเกง ขน้ึ ได ขาอผสูภอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู บุคค1.ลใจดุมตมอนี ไ้ําปในจ้ีจชดัว ยอเยหใู ลนือลมเสกั พะษอ่ืาณมนหๆะเขมอาตงดผาูทนีม่ ขคีมว�พิ าเอมรื สหาดมลารถ 1 กีฬา ภาษาองั กฤษเขยี นวา sport เปน กจิ กรรมหรอื เปนการใชทกั ษะทาง 2. จอ ยวาดภาพไดส วยงามมาก กายภาพเพื่อการแขงขนั โดยมีกตกิ าเปนตวั กํากับ โดยมีจุดมุงหมาย 3. จว๋ิ พดู จาไพเราะและมเี หตผุ ลตลอด เพ่อื การพักผอ น เพอื่ ความเพลิดเพลิน เพื่อการพัฒนาของทักษะ เพ่อื การแขง ขนั (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 2. การมนี า้ํ ใจชว ยเหลอื ผอู นื่ และการพดู จา หรือหลายสง่ิ รวมกัน ชนิดของกฬี าอาจแบงออกไดเปน 4 กลมุ หลักๆ คอื ไพเราะมีเหตุผลเปนลักษณะของความดี สวนการวาดภาพสวย 1. ประเภทการแขง ขันความเรว็ เชน วง่ิ วายนาํ้ พายเรอื เปนลักษณะของความสามารถ ซึ่งอาจเกิดจากทักษะหรือ 2. ประเภทการแขงขนั เปนคแู ขง ขัน เชน มวย เทนนสิ วอลเลยบอล การฝก ฝน) 3. ประเภทการบรรลุผล เชน ยงิ ปน ยงิ ธนู ยมิ นาสตกิ 4. ประเภทอืน่ ๆ เชน กระบ่-ี กระบอง เพนตบอล T77

นํา สอน สรุป ประเมิน ขนั้ สอน ๒) ความกตัญญูกตเวที หมายถึง การรู้จักบุญคุณผู้อ่ืน และตอบแทนพระคณุ ของทา่ น ผทู้ มี่ บี ญุ คณุ ตอ่ เรา เชน่ พอ่ แม ่ สาํ รวจคน หา คร ู ญาตผิ ใู้ หญ่ เพ่ือน เป็นต้น ▲ ▲ ●▲ ตอบแทนบญุ คณุ พอ่ แม ่ เชน่ ชว่ ยดแู ลเมอ่ื ทา่ นเจบ็ ปว่ ย 6. ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุมละ 8 คน ช่วยทา� งานบ้านเพอื่ เป็นการแบง่ เบาภาระของท่าน คละกันตามความสามารถ คอื เกง ปานกลาง ▲ ▲ ●▲ ตอบแทนบุญคุณ คอ นขา งเกง ปานกลางคอนขางออ น และออน ของคร ู เช่น ช่วยครูถือของ ช่วยท�าความสะอาดโต๊ะให้ครู 7. นกั เรยี นแตล ะกลมุ จบั คกู นั เปน 4 คู ใหแ ตล ะคู เม่ือพบครูต้องยกมือไหว้ ชว ยกนั ศกึ ษาความรเู รอื่ ง ลกั ษณะความสามารถ ●▲ ตอบแทนบุญคุณ และความดขี องบุคคล จากหนงั สอื เรียน หนา ญาติผู้ใหญ่หรือเพื่อน เช่น 73-77 ตามประเดน็ ที่กําหนด ดังนี้ ชว่ ยญาตผิ ใู้ หญถ่ อื สง่ิ ของ ชว่ ย ▲▲ เด็กดตี อ้ งรู้จกั บญุ คุณของครู •คูท่ี 1 ศกึ ษาเร่ือง ความมรี ะเบยี บวนิ ยั นวดให้ท่าน หรือช่วยเพื่อนยกของท่ีหนัก ช่วยเพื่อนท�าความ และความกตญั ูกตเวที สะอาดหอ้ งเรยี น ช่วยสอนการบา้ นใหเ้ พอ่ื น เปน็ ต้น - คูที่ 2 ศกึ ษาเร่ือง ความรับผิดชอบ ผลจากการมีความกตัญญูกตเวที ท�าให้ตนเองมีความ - คูที่ 3 ศึกษาเร่ือง ความขยัน และความ สุขใจที่ได้ดูแลช่วยเหลือตอบแทนผู้มีพระคุณ และผู้ท่ีได้รับ เออื้ เฟอเผือ่ แผผูอน่ื และชวยเหลือผูอน่ื การตอบแทนบุญคุณกม็ คี วามสขุ - คทู ่ี 4 ศกึ ษาเร่อื ง ความซื่อสตั ย และความ เมตตากรณุ า กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ ๑ อธบิ ายความรู ๑. ใหน้ กั เรียนบอกผลดขี องความมรี ะเบยี บวนิ ัยมาพอเขา้ ใจ ๒. ยกตวั อย่างความกตญั ญกู ตเวทีทีต่ นเคยปฏิบตั ิ และบอกผลด ี 8. นักเรียนแตละคูนําความรูที่ไดจากการศึกษา ทเ่ี กดิ ข้ึนกับตนเองให้เพ่อื น ๆ ฟัง มาผลัดกนั อธิบายความรู พรอมทง้ั ซักถามจน มีความเขาใจตรงกัน 74 9. สมาชิกในแตละกลุมรวมกันสรุปความรูเร่ือง ลกั ษณะความสามารถและความดีของบุคคล เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคิด ครูเนนยํ้าใหนักเรียนมีความกตัญูกตเวทีตอพอแมและผูมีพระคุณ รูจัก นักเรียนมีความคิดเห็นอยางไรกับคําพูดท่ีวา ความกตัญู ทําความดตี อบแทนทาน เชน เชอื่ ฟงพอ แม ญาติผูใหญ ชวยพอ แมท าํ งานบา น กตเวทีเปนเคร่ืองหมายของคนดี เพอ่ื แบง เบาภาระใหก บั ทา นเทา ทที่ าํ ได เมอ่ื พบญาตผิ ใู หญห รอื คณุ ครกู ย็ กมอื ไหว ดวยความนอบนอม 1. เหน็ ดว ย เพราะคนดมี กั มีความกตญั กู ตเวที 2. เหน็ ดว ย เพราะคนทมี่ คี วามกตญั กู ตเวที จะไมท าํ ความชวั่ 3. ไมเ หน็ ดวย เพราะความกตญั กู ตเวทีไมเ กย่ี วขอ งกับ ความดี (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 1. คนทม่ี คี วามกตญั กู ตเวที จะเปน คนทรี่ จู กั บญุ คณุ ผอู น่ื และตอบแทนบญุ คณุ ของผอู น่ื เมอื่ มโี อกาส ซงึ่ คนทมี่ ลี กั ษณะ อยางนถี้ อื วา เปน คนดที ค่ี วรยกยอ ง) T78

นํา สอน สรุป ประเมนิ ๓) ความรับผิดชอบ หมายถงึ การทา� งานตามหน้าท่ีของ ขนั้ สอน (ตอ) ตนให้สมบูรณ์ หรือท�างานท่ีตนเองได้รับมอบหมายด้วยความ ตั้งใจ และท�าให้เสรจ็ ตามเวลาท่ีกา� หนดให ้ เชน่ อธิบายความรู ● เราเปน็ ลกู มีหนา้ ท่ีเชื่อฟงั ค�าสั่งสอนของพ่อและแม่ เราตอ้ งเชอ่ื ฟังค�าสัง่ สอนของทา่ น เพราะท่านจะสอนให้เราเป็น 10. นักเรียนรวมกันตอบคําถามกระตุนความคิด คนดีเสมอ เชน ● เมื่อพ่อและแม่ได้ • นกั เรยี นมคี วามเมตตากรณุ าในเรอื่ งใดบา ง มอบหมายให้เราท�างานอะไร จงอธบิ าย ก็ตาม เช่น ถูบ้าน ล้างจาน (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น เราตอ้ งตงั้ ใจทา� ดว้ ยความเตม็ ใจ โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ● เรายังเป็นนักเรียน ▲▲ ผูม้ คี วามรับผดิ ชอบจะท�างานด้วยความตัง้ ใจ เมตตาตอสัตวโดยการใหอาหารสัตว ไม มหี นา้ ท่ีในการเรยี นหนงั สอื ต้องตงั้ ใจเรยี น เพือ่ ใหเ้ รามคี วามร ู้ รังแกสัตว เมตตาตอเพื่อนโดยชวยอธิบาย อ่านออก เขยี นได้ และน�าความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจ�าวัน การบา นใหเพื่อนเขาใจจนทําได) ● เม่ือคุณครูมอบหมายให้เราท�าการบ้าน เราต้องมี • ถานักเรียนไมมีความรับผิดชอบ จะสงผล ความรบั ผิดชอบ ท�าการบา้ นใหเ้ สรจ็ ทันสง่ ตามกา� หนดเวลา อยางไร นอกจากน ี้ การยอมรบั ผดิ เชน่ เราเผลอทา� หนงั สอื ขาด (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น หรือท�าส่ิงของหล่นแตก แล้วยอมรับผิดว่า ตนเองเป็นคนท�า โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน แลว้ ชดใชข้ องทเ่ี สยี หายคนื กถ็ อื วา่ เปน็ ความรบั ผดิ ชอบเชน่ กนั ทําใหงานท่ีไดรับมอบหมายทําไมเสร็จ ความรับผิดชอบเป็นคุณธรรมที่เราต้องปฏิบัติเป็น และอาจถกู ทาํ โทษหรือถูกตําหน)ิ ประจ�าและปฏิบตั ดิ ว้ ยความต้ังใจ เพราะจะทา� ให้เรา ครอบครัว • ถา นกั เรยี นมคี วามเออื้ เฟอ เผอื่ แผผ อู นื่ จะสง ของเรา และสงั คมของเรามคี วามสุข ผลดีอยา งไร จงอธิบาย (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น 75 โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ทําใหเ ปนท่รี กั ของทุกคน) • การปฏิบัติตัวเปนคนดีมีประโยชนตอตัว นกั เรยี นอยางไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ทําใหคนอ่ืนยอมรับและเห็นคุณคาของเรา และทาํ ใหคนรอบขา งรักใคร) ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู การปฏบิ ตั ติ นอยางไรทคี่ วรไดรบั คาํ ชมจากผอู ืน่ ครูหานิทานหรือขาวที่แสดงถึงคุณธรรมความรับผิดชอบมาเลาใหนักเรียน 1. ชว ยพอแมทาํ งานบาน ฟง แลว ใหน กั เรยี นรว มกนั บอกผลดขี องการมคี วามรบั ผดิ ชอบของบคุ คลในนทิ าน 2. นําสนุ ัขท่เี ล้ียงไวไ ปปลอ ยทว่ี ดั หรอื ขาว เพ่ือใหนกั เรียนเห็นความสําคัญของการมีความรบั ผดิ ชอบ 3. ขอใหน องชวยทํางานบา นแทน (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 1. ผทู ค่ี วรไดร บั คาํ ชมคอื ผทู ป่ี ระพฤตปิ ฏบิ ตั ิ ดีตามบทบาทหนาท่ีของตน เชน เราเปนลูกควรรูจักชวยพอแม ทาํ งานบาน เพือ่ แบง เบาภาระของทา น ไมส รา งภาระใหก บั ทา น) T79

นํา สอน สรปุ ประเมิน ขนั้ สอน ๔) ความขยัน หมายถึง ความต้ังใจท�างานอย่างต่อเนื่อง อดทนอดกลนั้ ไมย่ อ่ ทอ้ ไมย่ อมแพต้ อ่ ความยากลา� บาก เพอื่ ให้ ขยายความเขา ใจ งานเสร็จ คนทม่ี ีความขยัน อดทนอดกลัน้ ตอ่ ความยากลา� บาก จะท�าให้ประสบกับความส�าเร็จในหน้าท่ีการงานและมีความสุข 11. นักเรียนแตละกลุมนําความรูที่ไดจากการ เราสามารถขยันท�าสง่ิ ต่าง ๆ ได้หลายอยา่ ง เช่น ขยันท�างาน ศึกษามาเปนพ้ืนฐานในการทําใบงานที่ 3.1 ขยนั เรียนหนงั สือ ขยนั อา่ นหนงั สือ เปน็ ตน้ เร่ือง ความดี ๕) ความเอือ้ เฟอื้ เผือ่ แผ่ผ้อู น่ื และช่วยเหลอื ผอู้ นื่ หมายถงึ การแบง่ ปนั เงิน ส่งิ ของ แรงกาย เพอื่ ช่วยเหลือผู้อน่ื 12. นกั เรยี นตอบคาํ ถามกระตุนความคิด การมีความเอ้ือเฟื้อเผ่ือแผ่และช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน • นักเรียนมีแนวทางการในการทําความดี จะช่วยให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เช่น ให้เพื่อนยืม อยา งไร ดินสอ ยางลบ ช่วยครูถือของ บริจาคเงินหรือส่ิงของช่วยคน (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น ทุกขย์ าก ใหห้ นงั สือเรียน เส้อื ผ้านกั เรยี นกับรุ่นนอ้ ง แบง่ ขนม โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ใหเ้ พ่อื นรบั ประทาน ชว่ ยเพือ่ นทา� ความสะอาดห้องเรยี น ช่วย ตอ งมรี ะเบยี บวนิ ยั ในตนเอง มคี วามกตญั -ู เกบ็ กวาดใบไม้ในบริเวณวดั ช่วยปลูกตน้ ไม ้ ช่วยปลูกปา่ เปน็ ต้น กตเวทีตอผูมีพระคุณ มีความรับผิดชอบ ตอหนาท่ี มีความขยันในการเรียน มี ความเอ้ือเฟอเผื่อแผและชวยเหลือผูอ่ืน มีความซ่ือสัตยไมคดโกง มีความเมตตา กรุณา และรจู ักใหอภัย) ตรวจสอบผล 13. นักเรียนแตละกลุมนําความรูท่ีไดจากการ ศึกษามาเปนพ้ืนฐานในการทําใบงานท่ี 3.1 เรือ่ ง ความดี เมอ่ื ทาํ เสรจ็ แลว นักเรยี นแตละ กลมุ รว มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ งของใบงาน 14. ครใู หน กั เรยี นทาํ แบบฝก ปฏบิ ตั ทิ กั ษะรวบยอด เรื่อง การทําความดีในครอบครัว และเรื่อง การทําความดใี นโรงเรียน จากแบบฝกปฏบิ ตั ิ ทักษะรวบยอด สงั คมศึกษาฯ หนา 13, 15 ▲▲ การอ่านหนังสอื ทา� ใหม้ คี วามรู้ ▲▲ การแบง่ ปันความรู้ ท�าใหเ้ รามคี วามสุข 76 เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ ครูเขียนเนื้อเพลงความซ่ือสัตยบนกระดาน แลวนํานักเรียนรอง 2-3 รอบ ใครปฏบิ ตั ติ นในการแสดงความเอื้อเฟอเผอื่ แผไ ดอ ยางเหมาะสม กอนนาํ เขา สขู ้ันตอนการอธบิ ายความรเู รือ่ ง ความซอื่ สัตย 1. แนนใหเพื่อนยมื ดินสอสี เพราะเพือ่ นลมื นาํ มา 2. ปอ มใหเพอ่ื นลอกขอสอบเพราะเพื่อนทําไมได เพลงความซอ่ื สตั ย 3. กิง่ แบงขนมท่ตี กพนื้ ใหเ พอื่ น เพราะเพ่อื นไมมีเงนิ ซอ้ื ขนม ความซือ่ สัตยเ ปนสมบตั ิของคนดี หากวาใครไมมชี าตนิ ีเ้ อาดไี มได มีความรูท ว มหัวเอาตวั ไมร อดถมไป คดโกงแลว ใครจะรบั ไวเ ขา รว มการงาน (วิเคราะหคําตอบ ขอ 1. เพราะการเอ้ือเฟอเผื่อแผตองเปนการ กระทาํ ทีเ่ หมาะสม ไมเ กิดโทษทั้งตอผูใ หและผรู ับ ซงึ่ การใหเพ่อื น กรมพลศกึ ษา ลอกขอสอบ ทําใหเพ่ือนไมมีความรู และการนําขนมที่ตกพ้ืนให เพอ่ื น ทําใหเ พื่อนเจบ็ ปว ย) T80

นํา สอน สรปุ ประเมิน ๖) ความซือ่ สตั ย์ หมายถงึ การพดู และการท�าตามความ ขนั้ สรปุ เป็นจริง ไม่เอาของของคนอ่ืนมาเป็นของตน ถ้าคนในสังคม มคี วามซอื่ สัตย์ สังคมของเราก็จะมีแตค่ วามสขุ 1. ครแู ละนักเรียนรวมกันสรปุ ความรเู ร่ือง การเป็นคนซอ่ื สตั ย์ เชน่ เมอื่ ทา� ของแตกไมพ่ ดู ปฏเิ สธ ลักษณะความสามารถและความดีของบุคคล วา่ ตนไมไ่ ดท้ า� แตก เพราะกลวั ถูกตี ถา้ พอ่ แม่รภู้ ายหลงั จะถูกตี มากกว่า เมื่ออยากเลน่ เกมของเพ่อื นก็ขอเพื่อนเล่น ไมเ่ อามา 2. นักเรียนบนั ทึกความรลู งในสมดุ เปน็ ของตน เมอ่ื แมค่ า้ ทอนเงนิ เกนิ กน็ า� เงนิ ไปคนื แมค่ า้ ไมล่ อก ขอ้ สอบหรอื การบา้ นเพ่อื น ตอ้ งพยายามท�าดว้ ยตนเอง รกั ษา ขนั้ ประเมนิ คา� พูด เช่น บอกวา่ จะส่งงานวนั ไหน ตอ้ งรีบทา� ใหเ้ สร็จและสง่ 1. ครตู รวจสอบความเขา ใจของนกั เรยี นผา นการ สังเกตการตอบคําถาม การอธิบายความรูให เพอื่ นๆ ฟง 2. ครปู ระเมนิ ผลการทาํ ใบงานที่ 3.1 ของนกั เรยี น แตล ะกลมุ 3. ครูตรวจแบบฝก ปฏบิ ัตทิ ักษะรวบยอด 4. ครูและนักเรียนชวยกันคัดเลือกผลงานท่ีมี คุณภาพติดปา ยนิเทศที่หนา ชนั้ เรียน มฉิ ะนนั้ คนจะไม่เชอื่ คา� พดู ของเรา ผมขอท�าการบา้ นส่งคณุ ครูพร่งุ นี้ ถงÖ เวลาเข้านอน ใหเ้ สร็จก่อนนะครบั อกี นิดเดียว แลว้ นะจ๊ะ ▲▲ คนเราตอ้ งมคี วามซ่อื สัตย์และจรงิ ใจต่อตนเองและผู้อ่นื อยเู่ สมอ ๗) ความเมตตากรณุ า เปน็ การชว่ ยเหลอื ผอู้ น่ื ที่ไดร้ บั ความ เดือดร้อน อยากเห็นผู้อ่ืนมีความสุข เราสามารถแสดงความ เมตตากรณุ าไดห้ ลายวธิ ี เชน่ ใหอ้ าหารสตั ว ์ บรจิ าคสงิ่ ของใหก้ บั คนยากไร้หรือผู้ประสบภัยต่าง ๆ เป็นต้น คนที่มีความเมตตา กรุณาจะท�าใหส้ ังคมมคี วามสขุ 77 ขอ สอบเนน การคดิ แนวทางการวัดและประเมินผล ขอใดไมใชผ ลของการทําความดี ครูศึกษาแนวทางการวัดและประเมินผลเพ่ือประเมินชิ้นงานของนักเรียน 1. ผคู นยกยอง จากใบประเมนิ ช้นิ งานทีแ่ นบทา ยแผนการสอน 2. เกิดความภาคภมู ใิ จ 3. เพ่อื นๆ พากนั อิจฉารษิ ยา แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (วเิ คราะหคาํ ตอบ ขอ 3. ผทู ที่ ําความดีมกั จะมผี ูคนยกยองช่ืนชม คาชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งท่ี คาชแ้ี จง : ใหผ้ ูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งท่ี คำชแ้ี จง : ใหผ้ ้สู อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด  ลงในช่องท่ี เปน ทร่ี ักใครข องผอู น่ื จงึ ทําใหเ กิดความภาคภมู ใิ จและมคี วามสุข ตรงกับระดับคะแนน ตรงกบั ระดับคะแนน ตรงกับระดับคะแนน ในการดาํ เนนิ ชวี ิต สวนการถูกเพอ่ื นๆ พากนั อจิ ฉารษิ ยาไมใชผล ของการทาํ ความดี) ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน 1 เนอ้ื หาละเอียดชดั เจน 321 1 การแสดงความคิดเห็น 321 อันพึงประสงค์ดำ้ น 321 2 ความถกู ต้องของเนือ้ หา 2 การยอมรับฟงั ความคิดเห็นของผอู้ ่ืน 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติได้ 3 ภาษาท่ีใช้เข้าใจงา่ ย 3 การทางานตามหน้าทท่ี ี่ได้รับมอบหมาย กษัตริย์ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ 4 ประโยชน์ทไี่ ดจ้ ากการนาเสนอ 4 ความมีนาใจ 5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน 5 การตรงต่อเวลา 2. ซ่ือสัตย์ สุจริต ตอ่ โรงเรียน 3. มีวินยั รับผิดชอบ 1.3 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถือ ปฏิบัตติ ามหลกั ศาสนา รวม รวม 4. ใฝเ่ รียนรู้ 1.4 เข้าร่วมกจิ กรรมที่เกี่ยวกับสถาบนั พระมหากษัตรยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นจัดขึ้น 2.1 ใหข้ ้อมลู ทถี่ ูกตอ้ ง และเปน็ จรงิ ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ 5. อยอู่ ย่างพอเพียง 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นส่ิงท่ีถูกต้อง ............../.................../................ ............../.................../................ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คับของครอบครัว 6. มุ่งมนั่ ในการ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ทางาน มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวัน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน 4.1 รู้จักใช้เวลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏิบัติได้ ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครัง ให้ 1 คะแนน 7. รักความเป็นไทย 4.2 รู้จกั จัดสรรเวลาให้เหมาะสม ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางสว่ น ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั 8. มีจติ สาธารณะ 4.3 เช่ือฟงั คาสัง่ สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โต้แยง้ 4.4 ต้งั ใจเรียน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ 5.1 ใช้ทรัพยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรคู้ ณุ คา่ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 12 - 15 ดี 5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยัดและมกี ารเก็บออมเงนิ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 6.1 มีความต้ังใจและพยายามในการทางานท่ีไดร้ บั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแท้ตอ่ อุปสรรคเพอื่ ใหง้ านสาเรจ็ 7.1 มจี ิตสานึกในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครูทางาน 8.2 ร้จู ักการดูแล รกั ษาทรัพย์สมบัตแิ ละสิง่ แวดล้อมของห้องเรยี น โรงเรยี น 8 - 11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรับปรุง ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมิน ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ ............../.................../................ เกณฑ์กำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ัติชัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ัดเจนและบอ่ ยครัง้ ให้ 1 คะแนน พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ตั ิบางครั้ง ภูมศิ าสตร์ ป.1 15 ภูมศิ าสตร์ ป.1 16 ภมู ิศาสตร์ ป.1 18 T81

นาํ นาํ สอน สรุป ประเมิน ขน้ั นาํ ๒ ผลของการท�าความด ี ค รู ส น ท น า ซั ก ถ า ม นั ก เ รี ย น เ กี่ ย ว กั บ ก า ร ความดเี ป็นสิง่ ท่ีเราทกุ คนควรทา� เพราะเมอ่ื ท�าความดีแล้ว ทาํ ความดี เชน ใครเคยทาํ ความดอี ะไรบา ง จากนน้ั จะทา� ใหเ้ รารสู้ กึ ภมู ิใจ มคี วามสขุ และไดร้ บั ความชนื่ ชมยกยอ่ ง ใหนกั เรยี น 2-3 คน ผลดั กนั เลา ใหเพ่อื นๆ ฟง จากผอู้ นื่ รวมทง้ั เปน็ ทร่ี กั ใครข่ องคณุ พอ่ คณุ แม ่ คณุ คร ู เพอื่ น ๆ และผู้พบเห็นอกี ด้วย ขน้ั สอน กจิ กรรมพัฒนาการเรียนรทู้ ่ี ๒ 1. ครูใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับการทําความดีที่เพื่อนเคยทําใน ๑. หาข่าวจากหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการท�าความดีและข่าวเกี่ยวกับ ประเดน็ ตางๆ เชน การทา� ความไมด่ ขี องคนในสงั คมมาตดิ ลงในสมดุ แลว้ ปฏบิ ตั ิ ดงั นี้ • การทาํ ความดีเหลานั้นเกดิ ผลดอี ยา งไร - บอกว่าขา่ วใดเป็นการทา� ความด ี ผลท่ีเกดิ ขึ้นเป็นอย่างไร • นักเรียนสามารถทาํ ไดหรือไม เพราะอะไร - บอกวา่ ข่าวใดเป็นการทา� ความไม่ด ี ผลทเ่ี กดิ ขึน้ เป็นอย่างไร - ในฐานะทเ่ี ราเปน็ พลเมอื งด ี เราควรปฏบิ ตั ติ ามขา่ วใด และไมค่ วร 2. ครูใหนักเรียนแตละกลุมหาขาวเก่ียวกับการ ปฏบิ ัตติ ามขา่ วใด เพราะอะไร ทาํ ความดีของคนในสังคม มากลมุ ละ 1 ขา ว ๒. ให้นักเรียนยกตัวอย่างความสามารถและความดีของตนเอง (ครมู อบหมายใหน กั เรยี นเตรยี มมาลว งหนา )แลว โดยออกมาเลา่ ใหเ้ พอ่ื นฟงั แล้วให้เพือ่ น ๆ รว่ มกนั ปรบมือแสดง ใหน กั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั อภปิ รายเกย่ี วกบั ขา ว ความช่ืนชม ดงั กลา ว โดยครเู ปน ผสู งั เกตการณแ ละกระตนุ ให นกั เรยี นทกุ คนมสี ว นรว มในการแสดงความคดิ กิจกรรมรวบยอด เหน็ จากนน้ั ใหแ ตล ะกลมุ ออกมานาํ เสนอผลการ อภปิ รายที่หนาชั้น ๑. บอกวธิ ีปฏบิ ัตติ นเปน็ สมาชิกท่ดี ีของครอบครัวและโรงเรียน มาอยา่ งละ ๓ ขอ้ พร้อมบอกประโยชน์ของการปฏิบัตติ น 3. นกั เรยี นแตล ะกลมุ ชว ยกนั ทาํ ใบงานท่ี 3.2 เรอ่ื ง เปน็ สมาชกิ ท่ดี ี ผลของการทําความดี เม่ือทาํ เสรจ็ แลวชวยกนั ๒. แบ่งกลมุ่ แต่งนทิ านสนั้ ๆ เก่ยี วกับคณุ ธรรมที่ไดเ้ รยี นมา ตรวจสอบและนําสงครู ๑ เรื่อง แลว้ แสดงบทบาทสมมตุ ิ จากนน้ั อภปิ รายรว่ มกนั ในชน้ั เรยี น ขน้ั สรปุ 78 ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรเู รอ่ื ง ผลของ การทําความดี จากน้ันครูอธิบายใหนักเรียนเห็น ความสาํ คญั ของการทาํ ความดี ขนั้ ประเมนิ ครแู ละนกั เรยี นชว ยกนั คดั เลอื กผลงานทดี่ ที สี่ ดุ 3 อันดบั เพื่อนํามาจดั ปา ยนเิ ทศแสดงผลงานของ นกั เรยี น แนวทางการวัดและประเมินผลสําหรับครู กจิ กรรม ทาทาย ครูศึกษาแนวทางการวัดและประเมินผลเพื่อประเมินช้ินงานของนักเรียน ครใู หน กั เรยี นเลอื กบคุ คลทนี่ กั เรยี นชนื่ ชอบและเปน แบบอยา ง จากใบประเมินชิ้นงานทีแ่ นบทายแผนการสอน ในการใชชีวิตมา 1 คน จากน้ันติดภาพบุคคลนั้นลงในกระดาษ และเขียนชื่นชม แลวนําผลงานออกมาเสนอทหี่ นา ชนั้ เรียน แบบประเมินการนาเสนอผลงาน แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ คาช้ีแจง : ใหผ้ ้สู อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด  ลงในชอ่ งท่ี คาช้ีแจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลงในช่องท่ี คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในช่องท่ี ตรงกับระดับคะแนน ตรงกบั ระดบั คะแนน ตรงกับระดบั คะแนน ลาดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน ลาดับที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน 1 เน้อื หาละเอยี ดชัดเจน 321 1 การแสดงความคิดเห็น 321 อนั พึงประสงคด์ ำ้ น 321 2 ความถูกต้องของเน้อื หา 2 การยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ ืน่ 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ 3 ภาษาที่ใชเ้ ข้าใจงา่ ย 3 การทางานตามหนา้ ที่ที่ไดร้ ับมอบหมาย กษัตริย์ 1.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทส่ี ร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ 4 ประโยชนท์ ีไ่ ดจ้ ากการนาเสนอ 4 ความมนี าใจ 5 วิธีการนาเสนอผลงาน 5 การตรงต่อเวลา 2. ซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต ตอ่ โรงเรียน 3. มวี ินัย รับผิดชอบ 1.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถือ ปฏบิ ัตติ ามหลักศาสนา รวม รวม 4. ใฝ่เรยี นรู้ 1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมที่เก่ียวกับสถาบันพระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นจัดข้นึ 2.1 ให้ข้อมลู ทถี่ ูกต้อง และเป็นจรงิ ลงชื่อ...................................................ผูป้ ระเมิน ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมนิ 5. อย่อู ย่างพอเพียง 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ที่ถกู ตอ้ ง ............../.................../................ ............../.................../................ 3.1 ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับของครอบครัว 6. มุ่งม่นั ในการ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ทางาน มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจาวนั ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน 4.1 ร้จู กั ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏิบตั ิได้ ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครงั ให้ 1 คะแนน 7. รักความเป็นไทย 4.2 รู้จักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมินบางสว่ น ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครงั 8. มีจิตสาธารณะ 4.3 เชอื่ ฟังคาส่ังสอนของบิดา-มารดา โดยไม่โตแ้ ย้ง 4.4 ตง้ั ใจเรยี น เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรียนอยา่ งประหยัด ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 5.2 ใช้อุปกรณก์ ารเรียนอยา่ งประหยดั และรคู้ ณุ ค่า ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงิน 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทางานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออปุ สรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็ 7.1 มีจิตสานกึ ในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย 7.2 เห็นคณุ คา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รู้จกั ช่วยพ่อแม่ ผูป้ กครอง และครูทางาน 8.2 ร้จู ักการดแู ล รกั ษาทรัพยส์ มบัตแิ ละสิง่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรียน โรงเรยี น 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรุง ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง ............../.................../................ เกณฑ์กำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมทีป่ ฏิบัตชิ ัดเจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ิบางครั้ง ภูมศิ าสตร์ ป.1 15 ภมู ศิ าสตร์ ป.1 16 ภูมศิ าสตร์ ป.1 18 T82

นาํ นํา สอน สรปุ ประเมิน ôº··Õè »ÃЪҸ»Ô äµÂ㹤Ãͺ¤ÃÑÇ ขน้ั นาํ áÅÐâçàÃÂÕ ¹ กจิ กรรมนาํ สกู ารเรยี น 1. ครใู หน กั เรยี นชวยกนั เลอื กตวั แทนหอ งไว เปนตัวแทนคุยกบั ครู แลวใหน ักเรียนชวย เธอคิดว่าจะเลือกใคร กันบอกเหตุผลวา ทาํ ไมจงึ เลอื กเพ่ือนคนนน้ั มาเป็นหวั หน้าช้ัน หลังจากน้นั ครสู รุปโยงเขา เรือ่ งประชาธปิ ไตย ในครอบครัวและโรงเรียน เ¸Íละ่ ฉนั จะเลือก ฉนั จะเลอื ก คนทีเ่ รยี นเก่ง คนท่ฉี ันชอบ 2. ครูนําตวั อยา งขา วเกีย่ วกับกจิ กรรมท่แี สดง ถึงประชาธิปไตยมาเลาใหนกั เรียนฟง และ ฉนั จะเลือกคนท่ี ใหน กั เรียนชว ยกันแสดงความคิดเหน็ ถึง มีความรบั ผิดชอบ ประชาธปิ ไตยวาหมายถงึ อะไร เพอ่ื น ๆ เหน็ ดวยกบั การเลือก 3. ครอู ธิบายเชือ่ มโยงใหน กั เรียนเขาใจถงึ หัวหนา ชัน้ ของเด็กคนใดในภาพนี้ ประชาธปิ ไตยท่ีเปน กระบวนการทีถ่ อื เสียงขา งมากในการตดั สินใจ และนําเสยี ง เพราะอะไร สวนนอ ยมาประกอบการพิจารณา แนวคดิ สําคญั ขนั้ สอน »ÃЪҸԻäµÂ㹤Ãͺ¤ÃÑÇáÅÐâçàÃÕ¹໹š 1. ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุมละ 4 คน ¡Ãкǹ¡Ò÷èÕ¶×ÍàÊÕ§¢ŒÒ§Áҡ㹡ÒõѴÊÔ¹ã¨áÅзíÒ¡Ô¨¡ÃÃÁ คละกนั ตามความสามารถ คอื เกง ปานกลาง 㹤Ãͺ¤ÃÇÑ áÅÐâçàÃÂÕ ¹ â´Âầ‹ ˹Ҍ ·ÃÕè ºÑ ¼´Ô ªÍº áÅÐÃÇ‹ ÁáÊ´§ คอนขางเกง ปานกลางคอ นขา งออ น และออ น ¤ÇÒÁ¤Ô´àËç¹Í‹ҧÁÕà˵ØáÅмŠÂÍÁÃѺàÊÕ§¢ŒÒ§ÁÒ¡ áÅÐãËŒ¤ÇÒÁ ÃÇ‹ ÁÁÍ× ã¹¡Ò÷íÒ¡¨Ô ¡ÃÃÁ 2. นักเรียนแตละกลุมจับคูกันเปน 2 คู ให แตละคูรวมกันศึกษาความรูเรื่อง กิจกรรม ประชาธปิ ไตย จากหนังสือเรียน หนา 80 3. สมาชิกแตล ะคใู นกลุม นําความรทู ่ีไดจ ากการ ศกึ ษามาผลัดกนั อธบิ ายความรู พรอ มทง้ั ผลดั กันซักถามจนมคี วามเขาใจตรงกัน 79 เกร็ดแนะครู ครูจัดกระบวนการเรียนรูโดยการใหน กั เรยี นปฏบิ ตั ิ ดังน้ี • อภปิ รายเกย่ี วกบั การทาํ กจิ กรรมในครอบครวั และโรงเรยี นตามกระบวนการประชาธิปไตย • แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั หลักประชาธิปไตยในครอบครวั และโรงเรียน • วเิ คราะหจากประเดน็ คําถามและภาพเกี่ยวกบั กิจกรรมประชาธปิ ไตย จนเกิดเปน ความรคู วามเขา ใจวา การมีสวนรวมในการทาํ กจิ กรรมในครอบครัวและโรงเรียนตามระบอบประชาธปิ ไตยทําใหเกดิ ความสงบสุข T83

นํา สอน สรุป ประเมิน ขนั้ สอน ๑ กจิ กรรมประชาธปิ ไตย 4. สมาชิกแตละคูรวมกันทําใบงานท่ี 4.1 เรื่อง เราเป็นสมาชิกคนหน่ึงของครอบครัวและโรงเรียน ทุกคน กิจกรรมประชาธิปไตย เสร็จแลวตรวจสอบ ต้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและท�ากิจกรรม โดยยึดถือเสียง ความถกู ตอง ขา้ งมาก มกี ารแบง่ หนา้ ทร่ี บั ผดิ ชอบ รว่ มแสดงความคดิ เหน็ อยา่ ง มีเหตุผล ยอมรับเสียงข้างมากที่มีเหตุผลถูกต้อง และรับฟัง 5. สมาชิกในแตละกลุมรวมกันอภิปรายคําตอบ เหตผุ ลของเสยี งสว่ นนอ้ ย และใหค้ วามรว่ มมอื ในการทา� กจิ กรรม ในใบงานที่ 4.1 และใหเ พม่ิ เตมิ เปน ผลงานของ เพอ่ื ใหค้ นสว่ นใหญไ่ ดร้ ว่ มคดิ รว่ มตดั สนิ ใจ และรว่ มทา� กจิ กรรม กลมุ ตามความคดิ ของสมาชกิ ในกลมุ สว นใหญ ซ่ึงจะท�าใหไ้ ด้งานท่ดี ี ตัวอย่างเช่น การท�างานกลุ่ม ทุกคนต้องร่วมกันเลือก 6. นกั เรยี นตอบคาํ ถามกระตุนความคดิ หวั หน้ากลุ่ม ชว่ ยกันแสดงความคดิ เหน็ อย่างมีเหตผุ ลวา่ จะท�า • กจิ กรรมประชาธปิ ไตยมีลกั ษณะอยางไร อะไร อยา่ งไร ตามงานท่ีได้รบั มอบหมายจากคร ู แล้วร่วมกัน (แนวตอบ : เชน กิจกรรมที่ทุกคนตองมี ตัดสินใจ โดยฟังเสียงข้างมาก และร่วมมือแบ่งงานกันท�า สวนรวมในการตัดสินใจและทํากิจกรรม จนงานสา� เรจ็ ซึ่งเป็นกิจกรรมประชาธิปไตย โดยยึดถือเสียงขางมาก และรับฟงความ คดิ เหน็ ของเสียงสว นนอ ยดวย เปนตน) พวกเราจะไปสอบถาม ถา้ อย่างน้ัน เรากแ็ ยกยา้ ยกัน ข้อมลู จากคนในชมุ ชนนะ ไปทา� งานเลยนะ ขนั้ สรปุ 1. ครแู ละนักเรียนรวมกันสรุปความรูเรื่อง กิจกรรมประชาธิปไตย 2. นกั เรียนบันทึกความรลู งในสมดุ ขนั้ ประเมนิ ครูตรวจสอบนักเรียนวาสามารถบอกกิจกรรม ที่แสดงถึงประชาธิปไตยไดผานใบงานที่ 4.1 การอภปิ รายและการตอบคําถาม ส่วนพวกเราจะค้นหาข้อมลู ในห้องสมุดนะ ▲▲ การรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ และทา� กจิ กรรมตามเสียงข้างมาก จะท�าให้งานมคี วามถูกต้องมากขึ้น 80 แนวทางการวัดและประเมินผล ขอ สอบเนน การคิด ครูศึกษาแนวทางการวัดและประเมินผลเพื่อประเมินช้ินงานของนักเรียน ขอใดไมใชลักษณะของกิจกรรมประชาธิปไตย จากใบประเมินช้นิ งานทแ่ี นบทา ยแผนการสอน 1. ยอมรบั เสยี งขา งมาก 2. ใชเ หตผุ ลในการแกป ญหา แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 3. ไมเขา รวมกจิ กรรมกับผูทม่ี ีความคิดเหน็ ตางจากตน คาชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี  ลงในชอ่ งท่ี คาชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด  ลงในชอ่ งท่ี คำช้แี จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด  ลงในชอ่ งที่ (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 3. กจิ กรรมประชาธปิ ไตยเนน การมสี ว นรว ม ตรงกับระดบั คะแนน ตรงกบั ระดบั คะแนน ตรงกบั ระดบั คะแนน ในดานตางๆ เชน การพูด การทํา การคิด การแสดงออก ดังน้ัน แมจะมีความคิดเหน็ แตกตางกัน แตก ็ควรรบั ฟงความคิดเห็นของ ลาดบั ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน คุณลักษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน ผูอ ื่น) 1 เนือ้ หาละเอียดชัดเจน 321 1 การแสดงความคิดเหน็ 321 อันพึงประสงคด์ ำ้ น 321 2 ความถกู ต้องของเนื้อหา 2 การยอมรบั ฟังความคดิ เห็นของผอู้ น่ื 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ 3 ภาษาที่ใชเ้ ข้าใจง่าย 3 การทางานตามหนา้ ทีท่ ่ีไดร้ ับมอบหมาย กษตั ริย์ 1.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทีส่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ 4 ประโยชนท์ ่ไี ด้จากการนาเสนอ 4 ความมีนาใจ 5 วิธกี ารนาเสนอผลงาน 5 การตรงตอ่ เวลา 2. ซอื่ สัตย์ สจุ ริต ตอ่ โรงเรียน 3. มีวนิ ยั รับผดิ ชอบ 1.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถือ ปฏิบตั ติ ามหลักศาสนา รวม รวม 4. ใฝ่เรียนรู้ 1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ีเกี่ยวกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามท่โี รงเรยี นจัดขน้ึ 2.1 ให้ขอ้ มลู ทถี่ กู ต้อง และเป็นจริง ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมิน 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 2.2 ปฏบิ ตั ิในส่งิ ทถ่ี ูกต้อง ............../.................../................ ............../.................../................ 3.1 ปฏิบตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของครอบครัว 6. ม่งุ มน่ั ในการ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ทางาน มีความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ิตประจาวัน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 4.1 รจู้ ักใชเ้ วลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏิบัตไิ ด้ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครัง ให้ 1 คะแนน 7. รกั ความเปน็ ไทย 4.2 รจู้ ักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางสว่ น ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครัง 8. มีจิตสาธารณะ 4.3 เชือ่ ฟังคาสัง่ สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โต้แยง้ 4.4 ตั้งใจเรียน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ 5.1 ใช้ทรพั ย์สินและสง่ิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและร้คู ณุ คา่ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 12 - 15 ดี 5.3 ใช้จา่ ยอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 6.1 มีความตง้ั ใจและพยายามในการทางานท่ีได้รบั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ตอ่ อปุ สรรคเพ่ือให้งานสาเรจ็ 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย 7.2 เห็นคณุ ค่าและปฏบิ ัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ ักช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 ร้จู ักการดแู ล รกั ษาทรัพยส์ มบตั แิ ละส่ิงแวดล้อมของห้องเรยี น โรงเรียน 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรบั ปรุง ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมนิ ต่ากว่า 8 ปรับปรุง ............../.................../................ เกณฑก์ ำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ชิ ัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ชิ ัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิบางคร้ัง ภูมิศาสตร์ ป.1 15 ภูมิศาสตร์ ป.1 16 ภมู ศิ าสตร์ ป.1 18 T84

นํา นํา สอน สรปุ ประเมนิ ๒ ลกั ษณะของผู้ทีม่ คี วามเปน็ ประชาธปิ ไตย ขนั้ นาํ การทา� งานหรอื กจิ กรรมตอ้ งพง่ึ พาอาศยั กนั และกนั และคน ทจี่ ะทา� งานรว่ มกบั คนอน่ื ไดด้ ี ตอ้ งมลี กั ษณะทเี่ ปน็ ประชาธปิ ไตย 1. ครูทบทวนความรูเดิมเก่ียวกับกิจกรรม ได้แก่ ประชาธิปไตยวามีลักษณะอยางไร พรอมทั้ง ●▲ ยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของคนอ่ืน ใ ห  นั ก เ รี ย น ช  ว ย กั น ย ก ตั ว อ ย  า ง กิ จ ก ร ร ม ●▲ ใหส้ มาชิกทกุ คนมสี ว่ นร่วมคิด ร่วมตัดสนิ ใจ และรว่ มท�า ประชาธปิ ไตยที่นกั เรยี นเคยเขารว มกจิ กรรม กิจกรรม ●▲ ตัดสินใจและท�ากิจกรรม ฉันว่าเราไปคน้ ควา้ เพ่มิ เตมิ 2. ครูอธิบายใหนักเรียนเขาใจวา ในการทํางาน จากทอี่ ืน่ ดว้ ยดไี หม ดีจ้ะ หรอื กจิ กรรมตา งๆ จะตอ งพง่ึ พาอาศยั กนั และ กนั และคนทจ่ี ะทาํ งานรว มกบั คนอน่ื ๆ ไดด ี จะ โดยยดึ ถอื ตามเสยี งข้างมาก ตองเปนคนท่ีมลี ักษณะเปน ประชาธปิ ไตย ●▲ ยอมรบั ข้อตกลงของ คนสว่ นใหญ่ ขนั้ สอน ●▲ แบ่งหน้าที่รับผดิ ชอบ ●▲ ร่วมแสดงความคดิ เห็น 1. นกั เรยี นรว มกนั ศกึ ษาความรเู รอ่ื ง ลกั ษณะของ อย่างมเี หตุผล ผทู ม่ี คี วามเปน ประชาธปิ ไตย จากหนงั สอื เรยี น หนา 81 ▲▲ การรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื และรจู้ กั ชว่ ยกนั ท�างานตามหน้าท่ี เป็นลักษณะของผู้ที่มีความ 2. นักเรียนนําความรูท่ีไดจากการศึกษามา เปน็ ประชาธปิ ไตย ผลัดกันอธิบายเก่ียวกับลักษณะของผูที่มี ความเปนประชาธิปไตย วามีลักษณะอยางไร เราเปน็ คนไทยต้องสามคั คปี รองดองกัน บาง ทีละคนแบบเลาเรื่องรอบวง พรอมท้ัง มีเหตุมีผล และมีความเปน็ ประชาธปิ ไตยนะครบั ผลัดกันซักถามจนมีความเขาใจตรงกันวา ลักษณะของผูที่มีความเปนประชาธิปไตยตอง ยอมรบั ฟง ความคดิ เหน็ ของผอู นื่ ตดั สนิ ใจและ ทํากิจกรรมโดยยึดเสียงขางมาก รวมแสดง ความคดิ เห็นอยางมเี หตผุ ล 3. นกั เรยี นทกุ คนทาํ ใบงานที่ 4.2 เรอ่ื ง ลักษณะ ของผูที่มีความเปนประชาธิปไตย เสร็จแลว ตรวจสอบความถูกตอง ขน้ั สรปุ ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรเู รอื่ ง ลกั ษณะ ของผทู ม่ี คี วามเปน ประชาธปิ ไตย จากนนั้ นกั เรยี น บนั ทกึ ความรูลงในสมุด แสนดี ลดหรือเพ�มิ ขนาดตามเหมาะสม81 ขน้ั ประเมนิ ครูตรวจสอบนักเรียนวาสามารถบอกกิจกรรม ท่ีแสดงถึงประชาธิปไตยไดผานใบงานท่ี 4.2 และการเลา เรื่อง ขอสอบเนน การคดิ แนวทางการวัดและประเมินผล เราใชห ลักประชาธิปไตยในโรงเรียนเพื่ออะไร ครูศึกษาแนวทางการวัดและประเมินผลเพื่อประเมินชิ้นงานของนักเรียน 1. เพื่อใหมีความเหน็ ตา งกนั จากใบประเมินชิ้นงานทแ่ี นบทา ยแผนการสอน 2. เพ่ือใหส มาชกิ ในโรงเรยี นอยรู ว มกันอยา งมีความสุข 3. เพอื่ ใหเหน็ ความแตกตางของคนทม่ี ีความคิดตา งกัน แบบประเมินการนาเสนอผลงาน แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 2. เหตผุ ลสาํ คญั ในการใชห ลกั ประชาธปิ ไตย คาชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในช่องที่ คาช้แี จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี  ลงในช่องที่ คำชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด  ลงในช่องท่ี ในโรงเรียน กเ็ พอ่ื ใหส มาชกิ ในโรงเรยี นอยดู ว ยกนั อยา งมคี วามสขุ ตรงกับระดับคะแนน ตรงกบั ระดับคะแนน ตรงกับระดบั คะแนน เพราะทกุ คนตา งมคี วามคดิ เหน็ ทห่ี ลากหลาย ถา ทกุ คนทาํ สง่ิ ตา งๆ โดยยดึ ความคดิ ของตนเปน หลกั และไมร บั ฟง ความคดิ เหน็ ของผอู น่ื ลาดับที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน คุณลกั ษณะ รำยกำรประเมนิ ระดับคะแนน ก็จะเกิดความวุนวาย แตถาทุกคนทําตามเสียงสวนใหญ เลือก 1 เน้ือหาละเอยี ดชดั เจน 321 1 การแสดงความคิดเห็น 321 อันพึงประสงคด์ ำ้ น 321 สง่ิ ท่ีดีที่สุดมาใช โรงเรยี นก็จะสงบสขุ ) 2 ความถกู ตอ้ งของเนื้อหา 2 การยอมรับฟงั ความคดิ เห็นของผ้อู ื่น 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติได้ 3 ภาษาทีใ่ ช้เข้าใจงา่ ย 3 การทางานตามหนา้ ท่ีทีไ่ ด้รับมอบหมาย กษตั ริย์ 1.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมท่สี รา้ งความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ 4 ประโยชนท์ ่ไี ด้จากการนาเสนอ 4 ความมนี าใจ 5 วธิ ีการนาเสนอผลงาน 5 การตรงตอ่ เวลา 2. ซื่อสตั ย์ สจุ ริต ต่อโรงเรียน 3. มีวนิ ยั รับผดิ ชอบ 1.3 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ปฏบิ ัตติ ามหลักศาสนา รวม รวม 4. ใฝ่เรยี นรู้ 1.4 เข้าร่วมกจิ กรรมทเ่ี กี่ยวกบั สถาบันพระมหากษัตริยต์ ามที่โรงเรยี นจัดข้นึ 2.1 ให้ข้อมลู ทถี่ กู ตอ้ ง และเปน็ จริง ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 2.2 ปฏบิ ตั ิในส่งิ ทถี่ ูกตอ้ ง ............../.................../................ ............../.................../................ 3.1 ปฏิบัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับของครอบครัว 6. มงุ่ ม่ันในการ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ทางาน มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวนั ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมินสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 4.1 รู้จกั ใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครงั ให้ 1 คะแนน 7. รักความเปน็ ไทย 4.2 ร้จู ักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางสว่ น ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครงั 8. มีจติ สาธารณะ 4.3 เช่ือฟงั คาสง่ั สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โตแ้ ย้ง 4.4 ต้ังใจเรยี น เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ 5.1 ใชท้ รพั ย์สนิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 5.2 ใช้อุปกรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยัดและรูค้ ณุ คา่ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 5.3 ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงนิ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 6.1 มีความตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แท้ต่ออุปสรรคเพอ่ื ให้งานสาเร็จ 7.1 มีจิตสานึกในการอนุรกั ษ์วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏบิ ตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผ้ปู กครอง และครูทางาน 8.2 ร้จู กั การดูแล รกั ษาทรัพย์สมบัตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของห้องเรยี น โรงเรียน 8 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรุง ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ตา่ กว่า 8 ปรบั ปรงุ ............../.................../................ เกณฑก์ ำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ัดเจนและบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัติบางครง้ั ภมู ิศาสตร์ ป.1 15 ภูมศิ าสตร์ ป.1 16 ภมู ศิ าสตร์ ป.1 18 T85

นํา สอน สรุป ประเมิน ขน้ั นาํ ๓ ลักษณะสงั คมทีเ่ ปน็ ประชาธปิ ไตย ครูอานเรื่องตอไปน้ีใหนักเรียนฟง แลวถาม ครอบครัวและโรงเรียน เป็นสังคมที่ใกล้และเกี่ยวข้องกับ คาํ ถามใหนักเรียนชวยกันตอบ ตวั เรามากทสี่ ุด สงั คมทจ่ี ะอยรู่ ว่ มกนั อยา่ งมีความสขุ ต้องเปน็ สงั คมท่ีเป็นประชาธปิ ไตย ซ่งึ มลี ักษณะดังน้ี พอ มีลกู อยสู ิบคน วันหนึ่ง ไมม ีขา วสารหงุ ๑. ครอบครัวท่เี ปน็ ประชาธิปไตย ขา วกนิ ไมม เี งนิ พอ เลยถามลกู ๆ ทง้ั หมดวา ครอบครัวเป็นสังคมท่ีใกล้ตัวเรามากที่สุด ครอบครัวที่ เราจะทําอยางไรกันดี เราจึงจะมีขาวกิน เปน็ ประชาธปิ ไตย มกี ารแบง่ หนา้ ท ี่ แสดงความคดิ เหน็ ยอมรบั เยน็ น้ี ลูกสองคนบอกใหไปขุดเผือกขุดมัน ฟังความคิดเห็น และร่วมมือกันท�ากิจกรรม จะท�าให้ทุกคน กนิ แกห วิ ไปกอ น สว นอกี แปดคนบอกวา เรา เกิดความภูมิใจและมคี วามสุข ก็ไปขโมยหรือไปปลนเอาจากบา นขางๆ สิ การปฏิบัติตนตามกิจกรรมประชาธปิ ไตยในครอบครวั งายดี ประชาธิปไตยดวย มีมติ แปดตอ ทกุ ครอบครวั สามารถรว่ มมอื กนั ทา� กจิ กรรมตา่ ง ๆ ได ้ ดงั น้ี สองเสียง แตพอ ไมเห็นดว ยกบั ลูกแปดคน ● แบ่งหน้าท่ีความรบั ผิดชอบในครอบครัว เชน่ แมท่ �า สั่งใหลูกแปดคน ไปชวยกับอีกสองคนขุด อาหาร พ่อท�าสวนปลกู ผัก พีช่ ว่ ยพ่อรดน้า� ผกั นอ้ งกวาดถูบา้ น เผือกขุดมันมากินกัน ลูกแปดคนไมพอใจ เป็นตน้ หาวา พอ เปน เผด็จการ ไมฟ ง เสียงขา งมาก ● รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและแสดงความคิดเห็น ทําการประทวง ทบุ ทําลายขา วของในบาน อยา่ งมเี หตผุ ล พอ่ แมต่ อ้ งรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของลกู และลกู กต็ อ้ ง ตัวเอง จับนองสาวตัวเองเปนตัวประกัน รับฟังความคิดเห็นของพ่อแม่ เช่น การเลือกรายการอาหาร ใหพ อ ยอมในสิง่ ทีพ่ วกเขาอยากทาํ คือ ไป การเลือกดูรายการโทรทศั น ์ การเลือกสถานที่ไปเที่ยว เป็นตน้ ขโมยหรอื ปลนเขามา ● ยอมรับเสียงขา้ งมาก เช่น สมาชิกสว่ นใหญเ่ ลอื กไป • นักเรียนคิดวา การท่ีลูกแปดคนอางความ เทย่ี วทะเล พ่อแมต่ ้องตดั สินใจไปเทย่ี วทะเล เพราะลกู ๆ ชอบ และจะท�าให้ครอบครวั มีความสขุ เปนประชาธิปไตยในเรื่องนี้ถูกตองหรือไม เพราะเหตใุ ด 82 (แนวตอบ : ไมถูกตอง เพราะเปนการใช เสยี งขา งมากในการทาํ สง่ิ ทผ่ี ดิ แตต ามหลกั ประชาธิปไตยแลว นอกจากจะมีเสียงขาง มากแลว จะตอ งตงั้ อยบู นพน้ื ฐานของเหตผุ ล และความถกู ตอ งดว ย) ความรูบูรณาการอาเซียน ขอสอบเนน การคดิ ครูสืบคนขอมูลวามีประเทศใดบางในอาเซียนที่ปกครองโดยระบอบ ถาในวันหยุดพอแมและพี่ตองการไปสวนสัตว แตนักเรียน ประชาธิปไตย โดยสืบคนจาก www.mfa.go.th/asean ซ่ึงเปนเว็บไซต ตองการไปสวนสนุก นักเรียนควรทําอยา งไร ของกระทรวงการตางประเทศ เปน ตน แลว นาํ มาเลาใหน ักเรยี นฟง 1. หยดุ อยูบ า นคนเดยี ว ประเทศสมาชิกอาเซียนที่มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย ไดแก 2. ขอรอ งใหปา พาไปแทน กัมพูชา อนิ โดนีเซยี มาเลเซยี ฟลิปปนส สิงคโปร เมียนมา และไทย 3. ไปเท่ียวสวนสัตวก บั ครอบครวั (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 3. เมอื่ สมาชกิ ในครอบครวั สว นใหญต อ งการ ไปสวนสัตว เราก็ควรทําตามเสียงสวนใหญ โดยไปสวนสัตวดวย เพือ่ ใหเกิดความสขุ ในครอบครัว) T86

นํา สอน สรุป ประเมนิ ● มสี ว่ นรว่ มในการทา� กจิ กรรมของครอบครวั เช่น เม่ือ ขนั้ สอน ตกลงไปเท่ียวทะเล ทุกคนต้องช่วยกันเตรียมเสื้อผ้าไปเล่นน�้า เตรียมอาหารไปรับประทาน เตรียมกล้องถ่ายรูป สอบถาม กระตนุ ความสนใจ เสน้ ทางท่ีจะไป โดยแบง่ หน้าทกี่ นั ทา� 1. ครูนําตัวอยางขาวเกี่ยวกับสังคมท่ีเปน ๒. โรงเรยี นที่เปน็ ประชาธิปไตย ประชาธิปไตยมาเลาใหนักเรียนฟง พรอมทั้ง โรงเรียน เป็นสถานที่ให้ความรู้ สมาชิกของโรงเรียน ใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับ ประกอบดว้ ยบคุ คลตา่ ง ๆ ทมี่ คี วามสมั พนั ธก์ นั จงึ จา� เปน็ ตอ้ งนา� ขาวดังกลา ว กระบวนการประชาธิปไตยมาใช้ในการอยู่ร่วมกัน ซึ่งจะท�าให้ สมาชิกในโรงเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมและอยู่ร่วมกันอย่าง เลือกตง้ั สภานกั เรยี นโรงเรียนบานยารอ มคี วามสุข เมอื่ วนั ท่ี 3 มถิ นุ ายน 2554 โรงเรยี นบา น การปฏิบัติตนตามกิจกรรมประชาธปิ ไตยในโรงเรยี น นักเรียนสามารถรว่ มมือกันทา� กิจกรรมต่าง ๆ ได ้ เช่น ยารอจัดกิจกรรมสงเสริมประชาธิปไตยใน ● การเลือก โรงเรียน โดยใหนักเรียนมีสวนรวมในการ หวั หนา้ กลมุ่ หวั หนา้ สรุปวา่ เด็กชายกมล ออกเสยี งเพอ่ื เลอื กประธานนกั เรยี น รวมทง้ั เป็นหัวหนา้ กลุ่มสีแดงนะจะ๊ คณะครูไดรวมออกเสียงเลือกประธาน นกั เรยี นในคร้ังน้ี ห้อง หรือประธาน ในการสมัครมีผูรวมสมัครเปนประธาน นักเรียนจํานวน 2 คน แตดวยคะแนน เสียงของหมายเลข 1 สูง จึงทําใหเ ดก็ หญิง โณรฮูดา ไดเปนประธานนักเรียน ทม่ี า : http://www.norsorpor.com 2. ครูอธิบายเชื่อมโยงใหนักเรียนเขาใจถึง ครอบครัวและโรงเรียนเปนสังคมที่ใกลตัว และสังคมจะมีความสุขไดตองเปนสังคม ประชาธิปไตย นกั เรยี น โดยทกุ คน มีส่วนร่วมเสนอชื่อ เมอ่ื ผสู้ มคั รคนใดได ้ คะแนนเลอื กตง้ั มาก ทส่ี ดุ เราตอ้ งยอมรบั ผลการตดั สินนัน้ ▲▲ การเลอื กหัวหนา้ ถือเปน็ กิจกรรมประชาธปิ ไตย 83 ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู โรงเรียนทเ่ี ปน ประชาธิปไตย มีลักษณะอยา งไร ครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ วา การทาํ กจิ กรรมประชาธปิ ไตยอาจใชก ารตกลงรว มกนั 1. มกี ารเลือกหัวหนา หอ ง โดยครูเลอื กจากนักเรยี นท่ีเรียนเกง กไ็ ด เชน การดโู ทรทศั น อาจใชก ารตกลงวา ใครจะไดด ชู ว งเวลาใด หรอื ผลดั กนั วา ทีส่ ดุ ถาวันนดี้ ูชว งเวลาน้ี พรุง น้ีอาจเปล่ยี นชว งเวลา เพ่ือใหคนอ่ืนไดด บู า ง เปน ตน 2. มกี ารเลือกประธานนกั เรียนท่ีมาจากการตดั สินของ ผูอํานวยการ 3. มีการเลอื กประธานนกั เรียนโดยการลงคะแนนเสยี ง เลือกตัง้ (วเิ คราะหคําตอบ ขอ 3. โรงเรยี นท่ีเปน ประชาธิปไตยโดยจะตอง นําหลักการประชาธิปไตยมาใชในโรงเรียน เชน การใชเสียงขาง มาก การแบง หนา ทีก่ ันทาํ งาน การรบั ฟงความคิดเห็นของผูอน่ื ) T87

นํา สอน สรุป ประเมนิ ขน้ั สอน ● การร่วมท�างานกลุ่มมีการเลือกหัวหน้าหรือประธาน กลมุ่ แบง่ หนา้ ทร่ี บั ผดิ ชอบ รบั ฟงั และรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ สาํ รวจคน หา อย่างมีเหตุผล ยอมรับเสียงข้างมากและร่วมมือท�ากิจกรรม ตามที่ได้รบั มอบหมายจนงานสา� เร็จ 3. ครูใหน ักเรียนกลมุ เดิมจับคูก นั ศึกษาความรู เรื่อง ลักษณะสังคมทีเ่ ปนประชาธปิ ไตย ▲▲ การรว่ มกันคิดร่วมกนั วางแผนในการท�างานกลุ่ม ยอ่ มทา� ให้งานส�าเร็จไดร้ วดเรว็ และเรียบร้อย จากหนงั สือเรยี น หนา 82-84 ตามประเด็น ทกี่ าํ หนด ดงั น้ี ●▲▲ครูและนักเรียนร่วมกันจัดกิจกรรมในวันส�าคัญ เช่น - คูท่ี 1 ศึกษาความรูเร่ือง ครอบครวั ที่เปน วนั ขน้ึ ปีใหม่ วนั ลอยกระทง วันสงกรานต ์ เปน็ ตน้ ประชาธิปไตย - คทู ่ี 2 ศึกษาความรูเร่อื ง โรงเรียนที่เปน 84 ประชาธปิ ไตย อธบิ ายความรู 4. สมาชิกแตละคใู นกลุม ผลัดกันอธิบายผลการ ศกึ ษาเรือ่ ง ลักษณะครอบครวั และโรงเรยี นที่ เปน ประชาธิปไตย พรอมทงั้ ผลดั กนั ซักถาม จนมคี วามเขา ใจตรงกัน 5. ตัวแทนของแตล ะกลุม ออกมาอภปิ รายความรู จากการศึกษาที่หนา ชัน้ เรียน หากมขี อ สงสยั ใหสอบถามจนมคี วามเขา ใจตรงกัน 6. นักเรียนตอบคาํ ถามกระตุนความคดิ • ถาหากโรงเรียนมีการเลือกตั้งประธาน นกั เรยี น นกั เรียนควรทําอยา งไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน เขารว มกจิ กรรมดวยความเต็มใจ) • ครอบครัวท่ีเปนประชาธิปไตยมีลักษณะ อยางไร (แนวตอบ : เชน พอแมตองรับฟงความ คิดเห็นของลูก สมาชิกในครอบครัวควรมี สวนรวมในกจิ กรรม เปน ตน) • โรงเรียนท่ีเปนประชาธิปไตยมีลักษณะ อยางไร (แนวตอบ : เชน สมาชิกในโรงเรียนควรมี สว นรวมในกจิ กรรมที่โรงเรยี นจัด เปน ตน ) เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคดิ ครูควรจัดโครงการสงเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียน เพื่อใหนักเรียนได ขอใดไมเก่ียวขอ งกับกจิ กรรมประชาธปิ ไตย ปฏิบัติจริงและเขาใจกิจกรรมประชาธิปไตยไดมากข้ึน โดยมีหัวขอตางๆ เชน 1. การมเี หตุผล หลักการและเหตุผล วัตถุประสงคของโครงการ เปาหมายของโครงการ 2. การมีสวนรวม ลักษณะของโครงการ คาใชจาย ระยะเวลาในการดําเนินการ ปญหาอุปสรรค 3. การใชกาํ ลังตัดสินปญ หา ผลทีค่ าดวาจะไดร บั การติดตามและประเมนิ ผล เปนตน (วิเคราะหคําตอบ ขอ 3. กิจกรรมประชาธิปไตยเนนใหสมาชิก ทกุ คนมสี ว นรว มในการทาํ กจิ กรรมรว มกนั มเี หตผุ ลในการแกป ญ หา ไมใชกําลังในการแกปญหา และยอมรบั เสยี งสวนใหญ) T88

นาํ สอน สรุป ปปรระเะมเนิ มิน กิจกรรมพัฒนาการเรยี นรู้ ขน้ั สอน ๑. วาดภาพกจิ กรรมในครอบครวั ที่ใชก้ ระบวนการประชาธปิ ไตย ขยายความเขาใจ และเขียนบรรยายใตภ้ าพ แลว้ น�าเสนอผลงานหน้าชั้น ๒. เขียนเล่าประสบการณก์ ารตัดสินใจโดยใช้เสยี งขา้ งมากทเ่ี คย 7. นกั เรียนตอบคาํ ถามกระตุน ความคดิ ปฏิบัติ และบอกผลดีทเ่ี กิดขน้ึ • ลกั ษณะสังคมทเี่ ปน ประชาธปิ ไตยท่ี ๓. รว่ มกนั อภปิ รายเกยี่ วกบั การเลอื กเพอื่ นเปน็ หวั หนา้ ชนั้ หรอื เลอื ก นกั เรยี นตอ งการควรเปน อยา งไร ประธานนักเรียน ว่าควรปฏิบตั อิ ย่างไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น ๔. บนั ทึกการกระทา� ทีเ่ ปน็ ประชาธปิ ไตยในครอบครวั ของตนเอง โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน แลว้ น�าเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เปนสังคมท่ีมีความยุติธรรม ไมเอารัด ๕. วิเคราะหค์ า� ถามทกี่ �าหนดให ้ แลว้ เขียนค�าตอบมาพอเขา้ ใจ เอาเปรยี บกัน) ๑) นักเรียนคิดวา่ กิจกรรมประชาธปิ ไตยมผี ลดีอย่างไรบา้ ง ๒) นกั เรยี นคดิ วา่ สังคมที่เป็นประชาธปิ ไตย มีลกั ษณะอยา่ งไร 8. นักเรียนแตละกลุมรวมกันนําความรูที่ไดมา ทําใบงานที่ 4.3 เรื่อง ลักษณะสังคมท่ีเปน กิจกรรมรวบยอด ประชาธปิ ไตย เสรจ็ แลว นําสง ครผู ูส อน ยกตวั อยา่ งการกระทา� ตามกระบวนการประชาธปิ ไตยใน 9. นกั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั นาํ ความรทู ไ่ี ดม าทาํ ครอบครัวและโรงเรยี นท่ตี นเองเคยปฏบิ ตั ิ แลว้ รว่ มกนั แสดงความ ใบงานท่ี 4.4 เรือ่ ง กิจกรรมประชาธปิ ไตยใน คดิ เหน็ ว่า การกระทา� ตามกระบวนการประชาธปิ ไตยในครอบครวั ครอบครัว และใบงานท่ี 4.5 เรอื่ ง กจิ กรรม และโรงเรยี นมีผลดอี ย่างไร จากน้ันบนั ทึกผล แลว้ น�าเสนอผลงาน ประชาธิปไตยในโรงเรียน เสร็จแลวนําสงครู หน้าช้ัน ผูสอน 85 10. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมพัฒนาการเรียนรู และกจิ กรรมรวบยอด จากหนงั สอื เรยี น หนา 85 ตรวจสอบผล 11. ครูตรวจสอบใบงานและการทํากิจกรรม พัฒนาการเรียนรูและกิจกรรมรวบยอดของ นักเรยี น ขน้ั สรปุ 1. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรู เรอ่ื ง ลกั ษณะ สงั คมทีเ่ ปน ประชาธปิ ไตย 2. นักเรยี นบนั ทกึ ขอ มลู ลงในสมดุ ขน้ั ประเมนิ ครูประเมินผลการทําใบงานท่ี 4.3, 4.4, 4.5 กิจกรรมพัฒนาการเรียนรูและกิจกรรมรวบยอด ของนักเรยี น ขอสอบเนน การคดิ แนวทางการวัดและประเมินผล เราใชห ลกั ประชาธิปไตยในโรงเรยี นเพื่ออะไร ครูศึกษาแนวทางการวัดและประเมินผลเพ่ือประเมินชิ้นงานของนักเรียน 1. ไมใ หน กั เรียนแสดงความคิดเหน็ ท่แี ตกตา งกัน จากใบประเมินชน้ิ งานท่ีแนบทา ยแผนการสอน 2. ทําใหน กั เรยี นแยกกันเปน กลุม ๆ 3. ลดความขัดแยงในโรงเรียน แบบประเมินการนาเสนอผลงาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 3. หลกั ประชาธปิ ไตยทสี่ าํ คญั คอื การทาํ งาน คาชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด  ลงในชอ่ งที่ คาชี้แจง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี  ลงในช่องท่ี คำช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด  ลงในชอ่ งท่ี เปนกลุม รวมกันแสดงความคิดเห็นและตัดสินใจโดยใชเสียงขาง ตรงกบั ระดับคะแนน ตรงกบั ระดบั คะแนน ตรงกับระดับคะแนน มาก ใชเ หตผุ ลในการทาํ งาน และรบั ฟง ความคดิ เหน็ ของสมาชกิ ใน โรงเรยี น ซง่ึ ทง้ั หมดนกี้ เ็ พอื่ ลดความขดั แยง ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ในโรงเรยี น) ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รำยกำรประเมนิ ระดบั คะแนน 1 เนื้อหาละเอยี ดชดั เจน 321 1 การแสดงความคิดเหน็ 321 อันพึงประสงค์ดำ้ น 321 2 ความถูกตอ้ งของเนื้อหา 2 การยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผูอ้ น่ื 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ 3 ภาษาทใ่ี ชเ้ ข้าใจงา่ ย 3 การทางานตามหนา้ ท่ที ไี่ ด้รับมอบหมาย กษตั ริย์ 1.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมที่สรา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ 4 ประโยชนท์ ่ีได้จากการนาเสนอ 4 ความมีนาใจ 5 วธิ ีการนาเสนอผลงาน 5 การตรงตอ่ เวลา 2. ซอื่ สัตย์ สจุ ริต ตอ่ โรงเรียน 3. มีวนิ ัย รบั ผิดชอบ 1.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถอื ปฏบิ ัติตามหลักศาสนา รวม รวม 4. ใฝ่เรยี นรู้ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่เี ก่ียวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามท่ีโรงเรียนจัดขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ต้อง และเป็นจริง ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมนิ 5. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสิ่งทถ่ี ูกต้อง ............../.................../................ ............../.................../................ 3.1 ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคบั ของครอบครัว 6. มุ่งม่ันในการ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ทางาน มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวัน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน 4.1 รจู้ ักใชเ้ วลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ิได้ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครัง ให้ 1 คะแนน 7. รกั ความเปน็ ไทย 4.2 รู้จักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมนิ บางสว่ น ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั 8. มีจิตสาธารณะ 4.3 เชือ่ ฟงั คาสง่ั สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โตแ้ ย้ง 4.4 ตั้งใจเรยี น เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ 5.1 ใช้ทรัพย์สินและส่ิงของของโรงเรยี นอยา่ งประหยัด ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 5.2 ใชอ้ ุปกรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยัดและรคู้ ุณคา่ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 12 - 15 ดี 5.3 ใช้จา่ ยอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 6.1 มีความตง้ั ใจและพยายามในการทางานท่ีไดร้ บั มอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเร็จ 7.1 มีจติ สานึกในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ ักช่วยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครทู างาน 8.2 รู้จกั การดูแล รกั ษาทรัพยส์ มบตั แิ ละส่ิงแวดล้อมของหอ้ งเรยี น โรงเรียน 8 - 11 พอใช้ ตา่ กว่า 8 ปรับปรงุ ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมิน ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรุง ............../.................../................ เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ัติบางคร้งั ภมู ศิ าสตร์ ป.1 15 ภูมศิ าสตร์ ป.1 16 ภมู ศิ าสตร์ ป.1 18 T89


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook