นํา สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน ๓. บทบาท หน้าท่ี และสทิ ธขิ องสมาชกิ ในครอบครัว ๑) บทบาท หนา้ ท่ี ของสมาชกิ ในครอบครวั ขยายความเขา ใจ สมาชกิ ทกุ คนในครอบครวั จะมบี ทบาทและหนา้ ที่ แตกตา่ งกนั ไป เชน่ 11. นักเรยี นแตล ะคนนาํ ความรทู ไ่ี ดมาทาํ ใบงานที่ 1.2 เรือ่ ง ครอบครวั ของฉัน ปยู่ ่า ตายาย มีบทบาทหน้าท่ี พอ่ แม่ มบี ทบาทหนา้ ท่ี เสร็จแลว ตรวจสอบความถูกตอ ง คอยอบรมส�ังสอนและให้ เล้ยี งลูก คอยส�งั สอนลกู ใหเ้ ปน็ ค�าแนะน�าแก่ลกู หลาน คนด ี และดูแลปยู่ ่า ตายาย 12. นักเรียนตอบคาํ ถามกระตุนความคดิ • นักเรียนมวี ธิ ีทจ่ี ะอยรู ว มกบั สมาชกิ ใน ลูก ตอ้ งเชือ่ ฟังพ่อแม่ หลาน ใหค้ วามเคารพรัก ครอบครัวท่มี ีบทบาทตางกันอยา งไร และต้ังใจเรยี นหนงั สอื ตอ่ ปยู่ า่ ตายาย ลุงปา้ นา้ อา (แนวตอบ : พิจารณาตามคําตอบของ นักเรียน โดยใหอยูในดุลยพินิจของครู ทุกคนในครอบครัวต่างมี เพราะเหตุใด ผสู อน เชน เราควรปฏบิ ตั ติ ามบทบาทหนา ที่ หนา้ ทแี่ ละความสมั พนั ธซ์ งึ่ กนั และกนั เราจึงมีบทบาท ของตนเองใหถูกตองสมบูรณ เชน เราเปน หน้ำทีแ่ µกµำ่ งกัน ลูกมีหนาที่เรียนหนังสือ ชวยทํางานบาน เช่ือฟงพอแม เราตองทําหนาที่ตนเองให เราจึงควรปฏิบัติตามบทบาทหน้าท่ี ถูกตองสมบูรณเพ่ือใหครอบครัวของเรามี ของตนเองให้ถกู ตอ้ งสมบรู ณ ์ เพ่อื ให้ ความสขุ ) ครอบครัวของเรามคี วามสุข • นกั เรยี นคดิ วา สมาชกิ แตล ะคนในครอบครวั มสี ทิ ธทิ จ่ี ะทาํ กจิ กรรมตา งๆ ตามทต่ี นสนใจ ไดหรือไม เพราะเหตใุ ด (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน สมาชิกแตละคนในครอบครัวมีสิทธิท่ีจะทํา กิจกรรมตางๆ ตามท่ีตนสนใจได แตตอง ไมส รางความเดอื ดรอ นใหกับผอู ่นื ) 13. ครใู หนกั เรยี นจดั ทําโครงสรา งของครอบครัว ตนเอง โดยติดภาพและเขียนชอื่ กาํ กับ และ บอกความสมั พันธข องสมาชิกในครอบครัว ลงในแบบฝก ปฏบิ ตั ฯิ หนา 12 (ครูควรบอก ลวงหนาใหนกั เรียนเตรียมภาพถา ยสมาชกิ ในครอบครัวของตนกอ นทํากิจกรรม) 46 เกร็ดแนะครู าผภู มสะามหเมาตดาขนอขมสิ�พอเอรืบหดเนล น การคดิ ครูนําบัตรคําเก่ียวกับสมาชิกในครอบครัวมาใหนักเรียนจับอีกคร้ัง แลวให ขอใดไมใ ชห นา ที่ของพอแม นักเรียนบอกหนาที่ของสมาชิกในบัตรคําท่ีตนจับได เชน จับไดบัตรคําวา พอ 1. ปกปองคมุ ครองลกู ใหบ อกหนา ทข่ี องพอ เชน พอ มหี นา ทเี่ ลยี้ งดลู กู ทาํ งานหาเงนิ มาใชจ า ยในครอบครวั 2. อบรมสงั่ สอนลูก เปน ตน 3. ตามใจลูก (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 3. พอ แมม หี นา ทมี่ ากมาย เชน ทาํ งานหาเงนิ มาใชจายในครอบครัว ดูแลครอบครัว ปกปองคุมครองสมาชิก ในครอบครัว อบรมสง่ั สอนเล้ยี งดลู ูกๆ เปน ตน แตการตามใจลกู แมลูกจะทําในสิ่งท่ีไมดี เปนสิ่งท่ีไมถูกตอง เพราะอาจทําใหลูก เขา ใจผดิ คดิ วา สงิ่ ทไี่ มด นี นั้ ไมใ ชส ง่ิ ทผ่ี ดิ และยงั เปน การสรา งนสิ ยั ทีไ่ มดีใหก ับลกู อีกดวย) T50
นาํ สอน สรปุ ประเมิน ๒) สทิ ธขิ องสมาชกิ ในครอบครวั ขนั้ สอน สมาชกิ ทกุ คนในครอบครวั ตา่ งมสี ทิ ธิในเรอ่ื งตา่ ง ๆ เชน่ มีสทิ ธิในทรพั ย์สนิ ของตน มสี ิทธิในชีวิตและร่างกายของ ตรวจสอบ ตน มีสิทธิในการแสดงความคิดเห็น มีสิทธิในการกระท�า สงิ่ ตา่ ง ๆ ที่ไมท่ า� ให้ผู้อืน่ เดือดร้อน ไม่ผดิ กฎหมาย ไม่ขดั ต่อ 14. ครสู ุมตวั แทนนักเรยี นออกมานาํ เสนอผลงาน ข้อตกลงในครอบครวั หรือกฎระเบียบในสังคม ในใบงานท่ี 1.2 โดยครูเปน ผูตรวจสอบความ ถกู ตอ ง ▲▲ เรามสี ทิ ธทิ ี่จะท�าสง่ิ ตา่ ง ๆ ได ้ แต่ตอ้ งไม่ท�าใหผ้ อู้ ืน่ เดอื ดร้อน 15. ครตู รวจสอบผลงานการจดั ทําโครงสรา ง ครอบครัวของนกั เรียนและใหค าํ แนะนํา เมอ่ื อยู่ในครอบครวั เราควรเคารพสทิ ธขิ องสมาชกิ เพมิ่ เติมเพ่อื ใหผลงานมคี วามถกู ตอ งและ ในครอบครวั เชน่ ไมร่ อื้ คน้ สง่ิ ของของผอู้ นื่ ไมน่ า� สง่ิ ของของผอู้ นื่ สมบูรณย ่ิงขึ้น มาใช ้ ถา้ ตอ้ งการใชส้ งิ่ ของของผอู้ น่ื ตอ้ งขออนญุ าตเจา้ ของกอ่ น การเคารพสทิ ธขิ องผอู้ น่ื จะทา� ใหอ้ ยรู่ ว่ มกนั ไดอ้ ยา่ ง ขนั้ สรปุ มีความสุข ไมเ่ กดิ การทะเลาะวิวาท หรือขดั แยง้ กัน 1. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมพัฒนาการเรียนรูใน 47 หนังสือเรียน หนา 48 2. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูที่ไดจาก การเรียนเร่ืองความสัมพันธของสมาชิกใน ครอบครวั ในประเดน็ ทีส่ ําคัญ เชน - โครงสรางของครอบครวั (ครอบครัวประกอบดวยสมาชิกท่ีมีความ สัมพันธก นั สมาชิกบางครอบครัวมเี พยี งพอ แมแ ละลกู แตส มาชกิ บางครอบครวั อาจมพี อ แม ลูก ปู ยา ตา และยาย) - ความสัมพนั ธของสมาชิกในครอบครัว (สมาชกิ ในครอบครัวมคี วามสมั พนั ธ เกยี่ วของกนั เชน ปู คอื พอ ของพอ ยา คือ แมของพอ ตา คอื พอของแม ยาย คอื แมของแม ลงุ คือ พ่ีชายของพอหรือแม ปา คือ พส่ี าวของพอหรือแม อา คือ นองของพอ นา คอื นองของแม) ขอสอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู ขอใดถือเปนการละเมิดสทิ ธขิ องผอู น่ื ครูเขียนเนื้อเพลงความเกรงใจ บนกระดาน แลวสอนนักเรียนรอง 1. เลอื กรับประทานอาหารที่ตนเองชอบ 2-3 เที่ยว จากนนั้ อธบิ ายใหนักเรียนเขา ใจวา เราควรมีความเกรงใจผูอนื่ เคารพ 2. นาํ ของเลนของตนมาเลนกบั เพือ่ นๆ ในสทิ ธขิ องผอู น่ื เชน ไมร อ้ื คน สงิ่ ของของผอู นื่ ถา เราไมม คี วามเกรงใจหรอื ละเมดิ 3. นาํ ส่งิ ของของเพ่อื นมาใชโ ดยไมบ อก สิทธิของผูอนื่ ก็จะเปนคนไรมารยาท และเปนที่นารงั เกียจของผอู น่ื (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 3. เมอ่ื เราอยรู ว มกบั ผอู นื่ เราควรเคารพสทิ ธิ เพลงความเกรงใจ ของผูอ่นื และไมละเมดิ สิทธิของผอู น่ื ดวยการร้ือคน หรอื นําส่ิงของ ความเกรงใจเปนสมบัติของผูดี ตรองดซู ิทุกคนก็มีหวั ใจ ของคนอ่นื มาใชโดยไมขออนญุ าต) เกดิ เปนคนถาหากไมเกรงใจใคร คนนน้ั ไซรไ รค ุณธรรมประจาํ ตน กรมพลศกึ ษา T51
นํา สอน สรุป ประเมนิ ขน้ั สรปุ ๔. การใชอ้ า� นาจในครอบครัวตามบทบาทหนา้ ท่ีและสทิ ธิ พ่อแม่มีอ�านาจหน้าท่ีในการอบรมสั่งสอนลูกให้เป็น - บทบาท หนาที่และสทิ ธขิ องสมาชกิ ใน คนด ี ใหป้ ฏบิ ตั ิในสง่ิ ทดี่ งี าม และมสี ทิ ธทิ จ่ี ะมอบหมายงานใหล้ กู ครอบครวั ช่วยท�า เชน่ ใหล้ า้ งจาน ถบู ้าน มสี ิทธิทีจ่ ะต้งั กฎกตกิ าใหล้ กู ๆ (สมาชิกทุกคนในครอบครัวตางมีบทบาท ปฏบิ ตั ติ าม เชน่ หา้ มเลน่ เกมเปน็ เวลานาน ๆ หา้ มลกู ดูโทรทศั น์ หนา ท่ี และสทิ ธิ เชน พอ และแมม หี นา ทหี่ าเงนิ จนดึก หา้ มเท่ียวเล่นนอกบ้านในเวลากลางคนื เป็นต้น และเล้ียงดูอบรมสั่งสอนลูก พอและแมมี ถา้ ลกู ๆ ไมป่ ฏบิ ตั ติ าม สทิ ธอิ อกคาํ สง่ั ใหล กู ปฏบิ ตั ติ นเปน คนดี ลกู มี กฎ พ่อแม่มีสิทธิท่ีจะลงโทษ หนเู ข้าใจแล้วคะ่ ว่า ดีแล้วลกู หนาทีเ่ รียนหนังสอื และชว ยเหลอื งานบานใน ลกู ไดต้ ามความเหมาะสม เชน่ การเล่นเกมจนดกึ ครอบครัว ลูกมีสิทธิทํากิจกรรมที่ชอบโดย ไม่ใหด้ ูโทรทศั น ์ ลดเงนิ คา่ ขนม ท�าให้นอนตื่นสาย ไมขดั กับกฎระเบยี บในครอบครัวได) และไปโรงเรยี นไม่ทัน - การใชอ าํ นาจในครอบครวั ตามบทบาทหนา ท่ี หนูจะไม่ทา� อกี แลว้ คะ่ และสิทธิ (สมาชิกทุกคนในครอบครัวตองปฏิบัติตาม ไม่ใหเ้ ลน่ เกม วา่ กลา่ วตกั เตอื น บทบาท หนาที่ของตน เพื่อใหอยูรวมกันได ลกู พรอ้ มกบั บอกผลเสยี ทอ่ี าจ อยางมีความสุขและปฏิบัติตามสิทธิของตน เกดิ ขึน้ เพื่อใหล้ ูกเขา้ ใจ โดยไมท ําใหผอู นื่ เดอื ดรอน) 3. นักเรียนบนั ทกึ ความรลู งในสมุด กจิ กรรมพฒั นาการเรียนร้ทู ่ี ๑ ขนั้ ประเมนิ ๑. จัดท�าโครงสร้างของครอบครัวตนเอง โดยติดภาพและเขียนช่ือ กา� กบั และบอกความสมั พันธ์ของสมาชกิ ในครอบครวั จากนนั้ 1. ครปู ระเมินใบงานและการตอบคาํ ถามของ น�าเสนอผลงานหนา้ ช้ัน นักเรียน ๒. ยกตัวอย่างหนา้ ท่ขี องสมาชกิ ในครอบครัวของตนมาคนละ ๒ ตัวอย่าง แลว้ นา� เสนอผลงานหนา้ ชน้ั 2. ครูคัดเลือกผลงานที่มีคุณภาพตามเกณฑที่ ๓. บอกประโยชนข์ องการปฏบิ ตั ติ นตามบทบาทหนา้ ทขี่ องสมาชิก กําหนดตดิ ปา ยนเิ ทศท่ีหนา ชั้นเรียน ในครอบครัว 48 แนวทางการวัดและประเมินผลสําหรับครู กิจกรรม สรางเสรมิ ครูศึกษาแนวทางการวัดและประเมินผลเพ่ือประเมินช้ินงานของนักเรียน ครใู หน กั เรยี นนาํ รปู ถา ยตนเองและสมาชกิ ในครอบครวั มาตดิ จากใบประเมินชน้ิ งานที่แนบทายแผนการสอน ลงในโครงสรา งความสมั พนั ธของครอบครวั แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ กจิ กรรม ทา ทาย คาชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ลงในช่องที่ คาชแ้ี จง : ใหผ้ ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ลงในช่องท่ี คำช้แี จง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในช่องท่ี ครใู หน กั เรยี นวาดภาพตนเองและสมาชกิ ในครอบครวั พรอ ม ตรงกับระดับคะแนน ตรงกับระดบั คะแนน ตรงกบั ระดบั คะแนน ท้ังระบุช่ือ นามสกุล อายุ ความสัมพันธลงในโครงสรางความ สมั พันธข องสมาชกิ ในครอบครวั ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ลาดับที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รำยกำรประเมิน ระดับคะแนน 1 เนอ้ื หาละเอียดชัดเจน 321 1 การแสดงความคิดเห็น 321 อนั พึงประสงค์ดำ้ น 321 2 ความถูกต้องของเนอื้ หา 2 การยอมรับฟังความคดิ เห็นของผูอ้ น่ื 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาตไิ ด้ 3 ภาษาทีใ่ ชเ้ ข้าใจงา่ ย 3 การทางานตามหนา้ ทีท่ ีไ่ ด้รับมอบหมาย กษตั ริย์ 1.2 เข้ารว่ มกิจกรรมทีส่ รา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ 4 ประโยชน์ที่ได้จากการนาเสนอ 4 ความมนี าใจ 5 วิธีการนาเสนอผลงาน 5 การตรงต่อเวลา 2. ซ่ือสตั ย์ สุจริต ตอ่ โรงเรียน 3. มีวินัย รบั ผดิ ชอบ 1.3 เข้าร่วมกิจกรรมทางศาสนาที่ตนนับถอื ปฏิบัติตามหลกั ศาสนา รวม รวม 4. ใฝเ่ รียนรู้ 1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมท่เี ก่ียวกับสถาบันพระมหากษัตรยิ ์ตามทโ่ี รงเรยี นจัดข้นึ 2.1 ให้ข้อมลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ ลงช่อื ...................................................ผู้ประเมิน ลงชอื่ ...................................................ผูป้ ระเมิน 5. อยู่อย่างพอเพียง 2.2 ปฏบิ ัตใิ นส่งิ ท่ีถูกตอ้ ง ............../.................../................ ............../.................../................ 3.1 ปฏิบัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคับของครอบครวั 6. มุง่ ม่ันในการ เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ทางาน มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรมตา่ งๆ ในชีวิตประจาวัน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมินสมบูรณ์ชัดเจน ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน 4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาวา่ งให้เป็นประโยชน์ และนาไปปฏบิ ัตไิ ด้ ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินเปน็ ส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครัง ให้ 1 คะแนน 7. รักความเปน็ ไทย 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางส่วน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมบางครัง 8. มจี ิตสาธารณะ 4.3 เช่ือฟงั คาสั่งสอนของบิดา-มารดา โดยไม่โต้แยง้ 4.4 ต้งั ใจเรยี น เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ 5.1 ใช้ทรพั ยส์ นิ และสิ่งของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 5.2 ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรียนอยา่ งประหยดั และรู้คณุ คา่ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 12 - 15 ดี 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยดั และมกี ารเก็บออมเงิน 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 6.1 มคี วามตัง้ ใจและพยายามในการทางานท่ีได้รบั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพ่ือให้งานสาเรจ็ 7.1 มีจิตสานึกในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏิบัตติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ ักชว่ ยพอ่ แม่ ผ้ปู กครอง และครทู างาน 8.2 รู้จักการดแู ล รกั ษาทรพั ยส์ มบัติและส่งิ แวดลอ้ มของห้องเรียน โรงเรียน 8 - 11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรุง ............../.................../................ เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ตั ิชัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมท่ีปฏิบัตชิ ัดเจนและบอ่ ยครัง้ ให้ 1 คะแนน พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ตั บิ างครั้ง ภมู ิศาสตร์ ป.1 15 ภมู ศิ าสตร์ ป.1 16 ภูมิศาสตร์ ป.1 18 T52
นํา นํา สอน สรุป ประเมิน ๒ ความสัมพนั ธข์ องสมาชกิ ในโรงเรียน1 ขนั้ นาํ โรงเรยี น หมายถงึ สถานศึกษา เป็นแหลง่ เรียนรู้ ช่วยให้ ครูใหนักเรียนดูภาพกิจกรรมในโรงเรียน เราอ่านออก เขียนได้ ทา� ได้ และน�าความรู้ไปใช้ จากบตั รภาพ แลว ใหน กั เรยี นชวยกันแสดงความ เราเปน็ สมาชิกคนหนึง่ ของโรงเรียน ซึง่ ในโรงเรียนของเรา คิดเห็นเกี่ยวกับความสัมพันธของสมาชิกใน มีผบู้ รหิ ารโรงเรยี น คร ู นักเรยี นจ�านวนมากมายหลายชนั้ เรยี น โรงเรียน และบางโรงเรียนอาจมีภารโรง แม่ครัว และบุคคลอื่น ๆ รวม อยดู่ ว้ ย ซงึ่ บคุ คลตา่ ง ๆ เหลา่ น ้ี ถอื วา่ เปน็ สมาชกิ ของโรงเรยี น • สมาชิกในโรงเรยี นมีใครบาง และมคี วามสมั พนั ธ์ระหว่างกัน (แนวตอบ : พจิ ารณาคาํ ตอบของนกั เรยี นตาม ๑. โครงสร้างของโรงเรยี น ความเปน จรงิ เชน มผี ูอ ํานวยการโรงเรียน โรงเรียนต่าง ๆ อาจมีสมาชกิ มากน้อยแตกตา่ งกนั จึงมี ครปู ระจาํ ชนั้ นักเรยี น ภารโรง) โครงสรา้ งตา่ งกนั แตโ่ ดยท่ัวไปจะมโี ครงสรา้ งท่คี ล้ายกนั ดงั นี้ • สมาชกิ เหลา นั้นมีบทบาทหนาทีอ่ ยางไรบา ง ผ้อู า� นวยการ/ผู้บริหารโรงเรยี น (แนวตอบ : พจิ ารณาคาํ ตอบของนกั เรยี นตาม รองผอู้ า� นวยการ/รองผู้บรหิ ารโรงเรยี น ความเปนจริง เชน ผูอํานวยการโรงเรียน มีบทบาทหนาที่ในการบริหารโรงเรียน ครูประจา� ช้นั ครูประจําชั้นมีบทบาทหนาที่ในการสอน นักเรยี น หนังสือใหกับนักเรียน นักเรียนมีบทบาท ภารโรง หนา ท่ใี นการเรียนหนังสือ เปน ตน) แมค่ รัว ขน้ั สอน 49 กระตนุ ความสนใจ 1. ครูใหนักเรียนชวยกันยกตัวอยางกิจกรรมใน โรงเรียนวา ในโรงเรียนของเรามีกิจกรรมใดที่ สมาชกิ ในโรงเรยี นทาํ รว มกนั บา ง เชน ทาํ ความ สะอาดหอ งเรยี น จดั งานแขง ขนั กฬี าสี เขา แถว เคารพธงชาติ เปนตน ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู บุคคลใดตอ ไปนี้ไมมีในโครงสรา งของโรงเรียน ครสู อนนักเรียนรอ งเพลงโรงเรียนของเรา ซง่ึ มีเนอ้ื เพลง ดังนี้ 1. แมคา 2. นกั เรยี น เพลงโรงเรยี นของเรา 3. ครูประจําช้ัน โรงเรยี นของเรานา อยู คุณครใู จดที ุกคน เด็ก เดก็ ก็ไมซ ุกซน พวกเราทกุ คนชอบมาโรงเรียน ç(วิเคราะหคําตอบ ขอ 1. โครงสรางของโรงเรียนโดยท่ัวไปจะมี ชอบมา ชอบมาโรงเรียน ชอบมา ชอบมาโรงเรียน บุคคลตางๆ เชน ผูอํานวยการ รองผูอํานวยการ ครูประจําช้ัน นกั เรียน ภารโรง เปนตน แตไ มมแี มค า ) นักเรียนควรรู 1 โรงเรียน แหงแรกสําหรบั ประชาชนทม่ี ีขนึ้ ในประเทศไทย คือ โรงเรยี น วัดมหรรณพาราม ตงั้ ขน้ึ เมื่อป พ.ศ. 2427 และโรงเรยี นกรุงเทพคริสเตยี น วทิ ยาลัยเปนโรงเรยี นเอกชนแหง แรกในประเทศไทย ตัง้ ขึ้นเมือ่ ป พ.ศ. 2395 T53
นาํ สอน สรุป ประเมิน ขน้ั สอน (ตอ) ๒. บทบาทหนา้ ทขี่ องสมาชิกในโรงเรยี น สมาชิกทุกคนในโรงเรยี นจะมีบทบาทหน้าท่ีแตกต่างกัน กระตนุ ความสนใจ เชน่ ผู้บริหารโรงเรียนหรือผู้อ�านวยการโรงเรียน มีหน้าท ี่ 2. ครูอธิบายความรูเพ่ิมเติมใหนักเรียนเขาใจ บรหิ ารโรงเรยี น ใหน้ กั เรยี นเปน็ คนดมี คี ณุ ภาพ โดยรว่ มมอื กบั ครู เกี่ยวกับความสัมพันธของสมาชิกในโรงเรียน คร ู มีหนา้ ท่สี อนนักเรียนใหม้ คี วามรู้ความสามารถ และ เชน โรงเรียนโดยทั่วไปจะมีบุคคลตางๆ เชน อบรมให้นกั เรยี นเป็นคนดี ผูอํานวยการโรงเรียนหรือครูใหญมีหนาท่ี นักเรยี น มหี น้าท่ีต้ังใจเรียนหนังสือ เชอ่ื ฟงั ค�าสอนของ บริหารโรงเรียนใหมีคุณภาพ มีครูประจํา ครู และปฏิบตั ติ ามกฎระเบยี บของโรงเรียน ชั้นที่สอนหนังสือใหกับนักเรียนในแตละชั้น ภารโรง มหี น้าที่ดแู ลความสะอาดภายในโรงเรียน มีนักเรียนที่มีหนาท่ีเรียนหนังสือ มีภารโรง แมค่ รัว มหี น้าที่ท�าอาหารให้กับทุกคนในโรงเรยี น คอยดูแลเรื่องความสะอาดภายในโรงเรียน มีแมครัวที่ทําอาหารใหกับทุกคนในโรงเรียน สวสั ดคี ะ่ เพ่ือน ๆ ฉันชือ่ ดวงพร เปน ตน ฉนั เปน็ นกั เรียน จะต้ังใจเรียนหนงั สอื สาํ รวจคน หา และรักเพ่อื น ๆ ทุกคนค่ะ 3. ครูใหนักเรียนกลุมเดิมจับคูกันเปน 4 คู ให แตละคูรวมกันศึกษาความรู เร่ือง ความ สัมพันธของสมาชิกในโรงเรียน จากหนังสือ เรียน หนา 49-55 ตามประเด็นทก่ี ําหนด ดังนี้ - คทู ่ี 1 ศึกษาเรอื่ ง โครงสรา งของโรงเรียน - คทู ี่ 2 ศึกษาเรื่อง บทบาทหนาที่ของสมาชิก ในโรงเรยี น - คทู ่ี 3 ศกึ ษาเรอ่ื ง สทิ ธขิ องสมาชกิ ในโรงเรยี น - คูที่ 4 ศึกษาเร่อื ง การใชอ าํ นาจในโรงเรยี น ตามบทบาทหนา ทแ่ี ละสทิ ธิ ▲▲ การปฏบิ ัติตามบทบาทหนา้ ท่ขี องสมาชกิ ท่ีดีในโรงเรยี นเป็นสิง่ ที่นักเรียนควรปฏบิ ัติ 50 เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ ครูเขียนบัตรคําเกย่ี วกบั สมาชกิ ในโรงเรียน ขอใดไมใชห นา ทข่ี องการเปน นักเรยี น ผอู าํ นวยการโรงเรียน ครูประจําช้นั นักเรียน ภารโรง แมค รัว 1. ชว ยทาํ การบา นใหเ พ่ือน แลวใหนักเรียนผลัดกันออกมาจับบัตรคําคนละ 1 ใบ แลวใหนักเรียนบอก 2. เช่อื ฟงคาํ สั่งสอนของครู หนาท่ีของสมาชิกในโรงเรียนตามบตั รคาํ ท่ีตนจบั ไดใหถ ูกตอ ง 3. ต้ังใจเรยี นหนงั สอื (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 1. เราเปน นกั เรยี นมหี นา ทใี่ นการเรยี นหนงั สอื จึงควรตั้งใจเรียน เชอ่ื ฟง คําสงั่ สอนของครูอาจารย และชวยเหลอื เพื่อนตามความเหมาะสม เชน สอนการบานเพื่อน แตไมควร ทาํ การบานใหเ พือ่ น เปนตน) T54
นาํ สอน สรปุ ประเมิน ๓. สทิ ธิของสมาชกิ ในโรงเรยี น ขน้ั สอน สมาชกิ ในโรงเรยี น มสี ทิ ธทิ จี่ ะทา� สงิ่ ตา่ ง ๆ โดยไมล่ ะเมดิ สิทธิของผู้อ่ืนและข้อบังคับของโรงเรียน ถ้าทุกคนท�าตามสิทธิ อธิบายความรู ของตน และเคารพในสทิ ธิของผู้อน่ื โรงเรยี นกจ็ ะนา่ อยนู่ ่าเรยี น และสมาชกิ ในโรงเรียนกจ็ ะอยรู่ ่วมกันอย่างสงบสขุ 4. สมาชิกแตละคูในกลุมนําความรูที่คูของตนได ศกึ ษามาผลดั กนั อภปิ รายความรู พรอ มท้งั ซกั ถามจนมีความเขา ใจตรงกัน 5. ครูสุมตัวแทนนักเรียน 2-3 กลุม ออกมา อภิปรายผลการศึกษาเกี่ยวกับความสัมพันธ ของสมาชิกในโรงเรียนท่ีหนาช้ันเรียน หากมี ขอ สงสยั ใหซ กั ถามจนมคี วามเขา ใจตรงกนั (ครู อาจสมุ ตวั แทนกลมุ ออกมาอภปิ รายหวั ขอ ละ 1 กลมุ ก็ได ตามความเหมาะสม) ตวั อยางการสรุปผลการอภปิ ราย เชน ในโรงเรียนจะมีสมาชิก เชน ผูอํานวยการ โรงเรยี น ครปู ระจาํ ชนั้ นกั เรยี น ภารโรง แมค รวั เปน ตน ซงึ่ สมาชกิ แตล ะคนจะมบี ทบาทหนา ที่ แตกตา งกนั ไป 6. นกั เรียนรวมกนั ตอบคาํ ถามกระตุน ความคิด เชน • นกั เรียนมวี ิธที จี่ ะอยูรว มกับสมาชิกใน โรงเรยี นที่มบี ทบาทตางกนั อยางไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ปฏิบัติตามบทบาทและหนาท่ีของตนเองให สมบรู ณ เราเปน นกั เรยี นมหี นา ทเี่ รยี นหนงั สอื ตองต้ังใจเรียน ปฏิบัติตามกฎระเบียบของ โรงเรียนอยางเครงครัด และเชื่อฟงในส่ิงที่ ครูสอน) ▲▲ นักเรยี นมีสทิ ธทิ ่ีจะเล่นในเวลาพักกลางวัน แตต่ ้องไมท่ ะเลาะกบั เพ่อื น ๆ 51 ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู ขอ ใดเปน การปฏิบัตติ นทถ่ี กู ตองเมือ่ อยใู นหอ งเรยี น ครอู ธิบายเพ่มิ เติมวา ทุกคนมีสิทธทิ ีจ่ ะทาํ ในสิ่งตา งๆ ได แตสิทธินน้ั จะตอง 1. นาํ ของเลนของเพ่ือนไปเลน ไมรบกวนหรือทํารายผูอื่น เชน นักเรียนอยากเลนไมล่ืนท่ีเพ่ือนกําลังเลนอยู 2. รื้อคนสงิ่ ของเครอ่ื งใชส วนตัวของคนอื่น กไ็ มค วรผลกั เพอ่ื นออกไปจากไมลื่น แตค วรขอเพื่อนเลนดว ยอยางสุภาพ สว น 3. เมื่อจะใชส ง่ิ ของของเพ่อื นตอ งขออนุญาตกอ น เพ่ือนก็ควรแบงใหเพื่อนคนอื่นเลนดวย เพราะทุกคนมีสิทธิเลนเทาเทียมกัน (ç วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 3. เมอื่ เราอยรู ว มกบั ผอู น่ื เราตอ งรจู กั เคารพ เปน ตน สิทธิของผอู น่ื เชน ไมร อ้ื คน สง่ิ ของเครอ่ื งใชข องคนอนื่ ไมห ยบิ เอา สิ่งของของคนอื่นไปเลน ไมทะเลาะชกตอยกับเพื่อนที่มาแกลง แตควรบอกครู เมื่อจะใชสิ่งของของเพ่ือนก็ตองขออนุญาตกอน ทกุ ครง้ั ) T55
นํา สอน สรุป ประเมนิ ขน้ั สอน (ตอ) สมาชิกในโรงเรียนมีสิทธิท่ีจะกระท�าสิ่งต่าง ๆ ได้ตาม บทบาทหนา้ ทข่ี องตน เช่น อธบิ ายความรู ผู้บริหารโรงเรียน ผู้บริหารโรงเรียนมีสิทธิท่ีจะออกกฎ ระเบ ียบ●เ พหื่อา้ ใมหน้สกั มเารชียนกิ ใแนตโ่งรกงาเรยยี1ผนดิ ปรฏะเบิ บัตียิตบาขมอ งเโชร่นงเรยี น • นักเรียนคิดวา เพ่ือนๆ มีสิทธิที่จะทําส่ิง ● หา้ มสมาชกิ ในโรงเรยี นเกยี่ วขอ้ งกบั ยาเสพตดิ ใหโ้ ทษ ตา งๆ ทตี่ า งจากเราไดห รอื ไม เพราะเหตใุ ด ● ห้ามสมาชกิ ในโรงเรยี นเลน่ การพนัน (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น คร ู ครมู ีสทิ ธทิ จี่ ะแนะน�าสง่ั สอนให้นักเรยี นเป็นคนด ี โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน มคี วามร ู้ โดยให้นักเรียนทา� สงิ่ ต่าง ๆ เชน่ ได เพราะเพื่อนๆ แตละคนมีความชอบท่ี ● ให้นักเรียนท�าการบ้านสง่ ครู ตางกัน บางคนชอบเลนกฬี าในชว งเวลาพัก ● ให้นกั เรยี นร่วมกันรักษาความสะอาดของหอ้ งเรยี น บางคนชอบอานหนังสือ บางคนชอบเลน ● ใหน้ กั เรยี นรว่ มทา� กจิ กรรมตา่ ง ๆ ทที่ างโรงเรยี นจดั ขนึ้ ดนตรี บางคนชอบวาดรูป บางคนชอบทํา กิจกรรมอยางอื่นซ่ึงอาจตางจากเรา และ พรุง่ น้ีใหน้ กั เรียน เปนสิทธทิ ่เี พื่อนๆ สามารถทําได เพราะไม น�าการบา้ นมาส่งครูนะคะ สรา งความเดอื ดรอนใหก บั คนอ่นื ) • ถานกั เรียนบงั คบั ใหเ พอ่ื นทาํ ในสงิ่ ท่ตี น ตองการเทานน้ั ผลจะเปน อยา งไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน เพอื่ นอาจไมช อบใจ อดึ อดั ใจ และเบอ่ื หนา ย ในการเอาแตใ จของเรา และอาจเปน สาเหตุ ทาํ ใหเพือ่ นเลกิ คบหาและไมพดู ดว ย) ทะหเลา้ มาะนวักวิ เารทียกนนั ทนุกะคคนรบั ▲▲ ผบู้ รหิ ารมีสทิ ธอิ อกกฎระเบยี บตา่ ง ๆ ได้ ▲▲ ครมู ีสทิ ธิใหน้ กั เรยี นทา� การบา้ นได้ 52 เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ ครเู ชญิ ผบู รหิ ารโรงเรยี นมาพดู คยุ กบั นกั เรยี นเกยี่ วกบั บทบาทหนา ทแ่ี ละสทิ ธิ ผบู ริหารโรงเรยี นไมมสี ทิ ธิออกกฎระเบยี บขอ ใด ของผูบริหารโรงเรียน เพอื่ ใหน ักเรยี นเกิดความเขา ใจมากขน้ึ 1. หา มนกั เรยี นแตง กายผิดระเบยี บ 2. หามนักเรียนเลนการพนัน นักเรียนควรรู 3. หา มนกั เรยี นพูดคยุ กัน 1 แตง กาย ชดุ นกั เรยี นของไทยเรม่ิ มขี นึ้ ครงั้ แรกในสมยั รชั กาลท่ี 5 ประมาณ (วิเคราะหคําตอบ ขอ 3. ผูบริหารโรงเรียนมีสิทธิท่ีจะออก พ.ศ. 2428 เปนเส้ือราชปะแตนสีขาว กางเกงไทย ถุงเทาขาว รองเทาดํา กฎระเบียบตางๆ เพ่ือใหสมาชิกในโรงเรียนอยูดวยกันอยางมี หมวกฟาง ในปจ จบุ นั ชดุ นกั เรยี นไทยในแตล ะโรงเรยี นอาจมคี วามแตกตา งกนั ความสุข แตไ มม สี ทิ ธิทจ่ี ะหามนักเรียนพูดคุยกัน) เล็กนอยทั้งในโรงเรียนของรัฐบาลและเอกชน เชน นักเรียนชาย ใสเสื้อเช้ิต สีขาว แขนสั้น กางเกงสีกากี สีนํ้าเงินเขม หรอื สดี าํ รองเทาผา ใบสีดาํ สว น นักเรียนหญงิ ใสเ สอ้ื สขี าวและผูกโบทค่ี อเสอื้ กระโปรงยาวเทา หวั เขา สีน้ําเงนิ เขมหรือสีดํา เปนตน T56
นาํ สอน สรุป ประเมิน นักเรียน นักเรียนมสี ทิ ธทิ จี่ ะทา� สิง่ ตา่ ง ๆ ตามสทิ ธิของตน ขน้ั สอน เช่น ถา้ เพอื่ นเล่นเครื่องเล่นอยู่ ● มีสิทธทิ ี่จะใช้หอ้ งสมุด แลว้ นักเรียนอยำกเล่นด้วย ขยายความเขา ใจ ● มสี ิทธทิ ่ีจะเล่นอปุ กรณก์ ีฬา ควรทา� อย่างไรครับ 7. นกั เรยี นแตล ะคนนาํ ความรทู ไ่ี ดม าทาํ ใบงานท่ี ● มีสิทธิที่จะเลอื กหวั หนา้ ห้องหรือ 1.3 เรอ่ื ง ความสมั พนั ธข องสมาชกิ ในโรงเรยี น ประธานนักเรยี น เสร็จแลวตรวจสอบความถกู ตอง ● มีสทิ ธิทจ่ี ะใชโ้ ตะ๊ เกา้ อ้ีในโรงเรยี น 8. นักเรยี นตอบคาํ ถามกระตนุ ความคิด าผูภ • ถาสมาชิกในโรงเรยี นไมป ฏิบัติตามบทบาท หนาทแี่ ละสิทธิของตนอยางถูกตอ ง มสะามหเมาตดานขมพ�ิ เอรื หดล เหมาะสม จะเกิดผลเสียอยางไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน อาจทําใหเกิดความวุนวายขึ้นในโรงเรียน เกิดการทะเลาะวิวาทขัดแยงกัน สงผลให สมาชิกในโรงเรียนอยูดวยกันอยางไมมี ความสุข) • ถานักเรียนกําลังเลนเคร่ืองเลนอยู แลว เพอื่ นมาขอเลน บาง นกั เรยี นควรทาํ อยางไร เพราะเหตุใด (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน แบงใหเ พ่ือนเลน ดวย เพราะเพ่ือนกม็ สี ทิ ธิที่ จะเลนไดเหมือนกัน) ▲▲ นกั เรียนมสี ิทธิทจ่ี ะท�าส่งิ ตา่ ง ๆ ในโรงเรียนได้โดยตอ้ งไม่ท�าให้คนอื่นเดือดร้อน การที่ทุกคนในโรงเรียนปฏิบัติตนตามสิทธิของตนเอง ไม่ทา� ให้คนอ่นื เดือดรอ้ น จะท�าใหท้ �างานและอยู่รว่ มกนั อย่างมี ความสขุ 53 ขอ สอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู นักเรียนควรปฏิบัตติ นอยา งไรเมือ่ อยใู นหองเรียน ครูพานักเรียนไปที่หองสมุด แลวแนะนําใหนักเรียนรูจักครูบรรณารักษ ซึ่ง 1. ท้งิ เศษขยะไวในล้นิ ชกั โตะ มีหนาที่ดูแลรับผิดชอบหองสมุด โดยครูบรรณารักษจะชวยใหผูท่ีมาใชบริการ 2. เขยี นชือ่ ตนเองท่ีโตะ เรยี น ทราบขอเทจ็ จริง จัดหาหรือใหค ําแนะนําหนงั สือหรือสง่ิ ตางๆ ที่อยใู นหองสมดุ 3. โตแ ยง กบั เพือ่ นเรอื่ งรายงาน จัดการหรอื จัดซือ้ สิ่งตางๆ ทผ่ี ใู ชต อ งการ ç(วเิ คราะหคําตอบ ขอ 3. เมอื่ อยูใ นหอ งเรียน นักเรียนควรรักษา จากนั้นใหครูบรรณารักษมาใหความรูเก่ียวกับกฎระเบียบในการใชหองสมุด ความสะอาดของหองเรียน และไมสรางความเดือดรอนใหกับ เพอ่ื ใหนักเรียนเกิดความเขาใจและปฏิบัตติ นในการใชหอ งสมุดไดอ ยางถกู ตอ ง คนอนื่ เชน ตะโกนสง เสยี งดงั แตส ามารถโตแ ยง กนั ในเรอื่ งทศ่ี กึ ษา เรยี นรไู ด) T57
นํา สอน สรปุ ประเมิน ขน้ั สอน ๔. การใช้อา� นาจในโรงเรียนตามบทบาทหนา้ ทแ่ี ละสิทธิ การอยรู่ ว่ มกนั ในโรงเรยี นซงึ่ มสี มาชกิ จา� นวนมาก จา� เปน็ ตรวจสอบผล ตอ้ งมกี ฎระเบยี บและขอ้ บงั คบั เพอ่ื ใหท้ กุ คนปฏบิ ตั ติ าม เมอื่ มคี น กระทา� ผดิ กฎระเบยี บและขอ้ บงั คบั ของโรงเรยี น จะตอ้ งถกู ลงโทษ 9. ครูสมุ ตวั แทนนกั เรียนออกมานาํ เสนอผลงาน เช่น นักเรียนทะเลาะวิวาท ชกต่อยกนั ทา� สมบตั ิของโรงเรยี น ในใบงานที่ 1.3 โดยครูเปนผูตรวจสอบความ ใหไ้ ดร้ บั ความเสยี หาย เปน็ ตน้ ครมู อี า� นาจหนา้ ทวี่ า่ กลา่ วตกั เตอื น ถกู ตอง หรือลงโทษตามความเหมาะสม เช่น ให้ท�าความสะอาดบริเวณ ห้องเรียนหรอื ใหเ้ กบ็ ขยะบรเิ วณโรงเรียน เปน็ ตน้ 10. ครูมอบหมายใหนักเรียนแตละคนเขียน แผนผังความคิด เร่ือง โครงสราง บทบาท ๑ หนา ทขี่ องสมาชกิ ในโรงเรยี น เสรจ็ แลว ผลดั กนั นําเสนอผลงานที่หนาชั้นเรยี น ๒ ใน°านะทเี่ ธอสองคน ตัวอยา งแผนผงั ความคดิ ทา� ให้ห้องเรยี นสกปรก ครูจะให้ พวกเธอทา� ความสะอาดหอ้ งเรียน โครงสรางบทบาท หนา ทข่ี องสมาชิกในโรงเรียน เป็นเวลา ñ สปั ดาห ครบั ผูอํานวยการโรงเรยี น บริหารโรงเรยี น ▲▲ ครมู ีสิทธิทจ่ี ะตกั เตือนและลงโทษนกั เรียนท่ที �าความผิดไดต้ ามความเหมาะสม และต้องไม่ใชค้ วามรุนแรง ครูประจําช้นั ใสหอกนับหนนักังเรสียอื น นักเรียน ตหั้งในจังเสรียือน 54 ภารโรง แมครัว ดภูแาลยคใวนาโมรงสเะรอยี านด ททกุ ําคอนาใหนาโรรใงหเรกยี บั น 11. ครใู หน กั เรยี นทาํ แบบฝก ปฏบิ ตั ทิ กั ษะรวบยอด เร่ือง ความสัมพันธของสมาชิกในโรงเรียน จากแบบฝกปฏิบัติทักษะรวบยอด สังคม ศึกษาฯ ป.1 หนา 14 เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ ครใู หน กั เรยี นรว มกนั คดิ วา ถา นกั เรยี นทาํ ผดิ กฎระเบยี บและขอ บงั คบั ของ ถานักเรียนชกตอยกัน ครูมีสิทธิที่จะลงโทษนักเรียนไดหรือไม โรงเรยี น นกั เรยี นควรไดรับการลงโทษอยา งไร เชน ถกู ตักเตือน ถกู ตัดคะแนน เพราะอะไร ใหท าํ ความสะอาดหอ งเรยี น ถกู ตี เปน ตน เพอื่ ครจู ะไดน าํ ไปใชเ ปน แนวทางและ ขอ ตกลงในการลงโทษนกั เรยี นที่ทําผดิ 1. ได เพราะครไู มชอบการชกตอยกนั 2. ได เพราะเปน กฎระเบยี บทีใ่ หครลู งโทษได 3. ได เพราะนักเรยี นตองปฏบิ ัติตามกฎระเบยี บของโรงเรยี น เพอ่ื ไมใหเกิดความวุนวายข้ึนในโรงเรียน (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 3. ได เพราะครมู บี ทบาทอาํ นาจหนา ทแ่ี ละสทิ ธิ ในการลงโทษนักเรียนท่ีทําผิด เชน ทะเลาะชกตอยกัน เปนตน เพื่อใหนักเรียนปฏิบัติตามกฎระเบียบ และขอบังคับของโรงเรียน เพื่อใหส มาชิกในโรงเรียนอยูดวยกันอยา งมีความสขุ ) T58
นํา สอน สรุป ประเมิน กิจกรรมพัฒนาการเรยี นรู้ท่ี ๒ ขนั้ สรปุ ๑. บอกบทบาทหนา้ ทข่ี องบุคคลต่างๆ ในโรงเรยี นทกี่ า� หนดให้ 1. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมพัฒนาการเรียนรูใน (ผ้บู ริหารโรงเรยี น ครู นักเรียน ภารโรง แม่ครวั ) แลว้ บนั ทกึ หนังสอื เรียน หนา 55 ข้อมูล จากนั้นเสนอผลงานหน้าช้ัน ๒. ร่วมกันอภิปรายแสดงความคิดเห็นว่า ถ้าสมาชิกในโรงเรียนไม่ 2. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมรวบยอดในหนังสือ ปฏิบัติตามบทบาทหน้าท่ีและสิทธิของตนอย่างถูกต้องเหมาะสม เรยี น หนา 55 จะเกิดผลเสียอย่างไร แล้วสรุปผลการอภปิ รายและบันทึกข้อมูล ๓. ด ูภาพที่ก�าหนดให้ แล้วร่วมกันแสดง 3. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูที่ไดจาก การเรียนเรื่อง ความสัมพันธของสมาชิกใน ความคดิ เหน็ วา่ เปน็ การกระทา� ทถี่ กู ตอ้ ง โรงเรยี น หรือไม่ และควรถูกครูลงโทษหรือไม ่ เพราะเหตใุ ด 4. นักเรยี นบันทกึ ความรูลงในสมุด กจิ กรรมรวบยอด ขนั้ ประเมนิ 1. ครสู งั เกตความเขา ใจของนกั เรยี นผา นการตอบ คาํ ถามและการรว มอภปิ ราย 2. ครปู ระเมนิ ผลการทาํ ใบงานท่ี 1.3 ของนกั เรยี น แตล ะคน 3. ครตู รวจแบบฝกปฏิบตั ทิ ักษะรวบยอด 4. ครูตรวจสอบการเขียนแผนผังความคิดเรื่อง โครงสรา งบทบาทหนา ทข่ี องสมาชกิ ในโรงเรยี น 5. ครตู รวจสอบการทาํ กจิ กรรมพฒั นาการเรยี นรู และกจิ กรรมรวบยอดของนักเรียนแตล ะคน ๑. วาดภาพการกระท�าของสมาชกิ ในครอบครัวทท่ี �าใหค้ รอบครวั มีความสขุ มา ๒ ตัวอย่าง พรอ้ มทง้ั เขยี นอธิบายสั้น ๆ ๒. เขียนโครงสรา้ งสมาชกิ ในโรงเรียนของตน พร้อมบอกบทบาท หนา้ ทข่ี องสมาชกิ ในโรงเรยี นใหถ้ ูกต้อง ๓. ร่วมกันคดิ วเิ คราะห ์ และหาคา� ตอบจากคา� ถามตอ่ ไปน้ี ๑) เมอื่ นกั เรยี นและเพอ่ื นมคี วามคดิ เหน็ ขดั แยง้ กนั ในการทา� งาน นักเรยี นควรแก้ไขปญั หาน้อี ยา่ งไร ๒) ถา้ เรารจู้ กั ปรองดองกนั และปฏบิ ตั ติ ามบทบาท หนา้ ท ่ี และสทิ ธิ ของตนเองอยา่ งเหมาะสม ทง้ั ทบี่ า้ นและโรงเรยี น จะสง่ ผลด ี อย่างไร 55 ขอสอบเนน การคดิ แนวทางการวัดและประเมินผล ถา นกั เรยี นทะเลาะชกตอ ยกนั ครคู วรลงโทษนกั เรยี นดว ยวธิ ใี ด ครูศึกษาแนวทางการวัดและประเมินผลเพ่ือประเมินชิ้นงานของนักเรียน จงึ จะเหมาะสมท่ีสุด จากใบประเมินชิน้ งานทแี่ นบทายแผนการสอน 1. ใหยืนคาบไมบ รรทัดท่หี นาเสาธงตอนเที่ยง แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ 2. ใหเ ก็บขยะบริเวณโรงเรียนคนละ 1 สัปดาห 3. ใหว่ิงรอบสนามฟตุ บอล 10 รอบ พรอ มกบั ตะโกนบอก คาช้ีแจง : ใหผ้ ้สู อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ งที่ คาช้แี จง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในชอ่ งที่ คำชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในช่องที่ ตรงกบั ระดับคะแนน ตรงกับระดับคะแนน ตรงกบั ระดบั คะแนน ความผิดท่ตี นไดทําลงไป (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 2. เม่ือนักเรยี นทะเลาะชกตอยกนั ควรถกู ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน ลาดับที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน คุณลักษณะ รำยกำรประเมนิ ระดับคะแนน ตักเตือนและลงโทษตามความเหมาะสม เชน ใหเก็บขยะบริเวณ 1 เน้ือหาละเอียดชัดเจน 321 1 การแสดงความคิดเหน็ 321 อันพึงประสงค์ด้ำน 321 โรงเรียน ใหทําความสะอาดโรงเรียน แตไมควรลงโทษดวย 2 ความถกู ต้องของเน้อื หา 2 การยอมรบั ฟังความคิดเหน็ ของผู้อน่ื 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติได้ ความรนุ แรงหรอื ใหอ บั อายโดยการประจาน) 3 ภาษาทใี่ ช้เข้าใจงา่ ย 3 การทางานตามหน้าที่ทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย กษตั ริย์ 1.2 เขา้ รว่ มกิจกรรมที่สร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ 4 ประโยชน์ทีไ่ ด้จากการนาเสนอ 4 ความมนี าใจ 5 วิธีการนาเสนอผลงาน 5 การตรงตอ่ เวลา 2. ซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต ต่อโรงเรียน 3. มวี ินยั รับผดิ ชอบ 1.3 เขา้ ร่วมกิจกรรมทางศาสนาท่ตี นนับถอื ปฏบิ ัติตามหลกั ศาสนา รวม รวม 4. ใฝ่เรยี นรู้ 1.4 เขา้ ร่วมกิจกรรมทเ่ี กี่ยวกบั สถาบันพระมหากษัตรยิ ต์ ามทโี่ รงเรยี นจัดขึน้ 2.1 ให้ขอ้ มลู ทถ่ี กู ตอ้ ง และเป็นจรงิ ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมิน ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน 5. อยู่อยา่ งพอเพียง 2.2 ปฏิบตั ใิ นสิ่งท่ีถูกตอ้ ง ............../.................../................ ............../.................../................ 3.1 ปฏิบัติตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คับของครอบครัว 6. มุ่งม่ันในการ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ทางาน มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัติกจิ กรรมตา่ งๆ ในชวี ติ ประจาวนั ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมินสมบรู ณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 4.1 รจู้ กั ใช้เวลาว่างใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏิบัตไิ ด้ ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ เปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครงั ให้ 1 คะแนน 7. รกั ความเปน็ ไทย 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางส่วน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤติกรรมบางครงั 8. มจี ิตสาธารณะ 4.3 เช่อื ฟังคาสง่ั สอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ต้แย้ง 4.4 ตัง้ ใจเรียน เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ 5.1 ใช้ทรพั ย์สินและสิ่งของของโรงเรยี นอย่างประหยัด ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 5.2 ใชอ้ ปุ กรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยดั และรคู้ ณุ ค่า ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 12 - 15 ดี 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงนิ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 6.1 มีความตง้ั ใจและพยายามในการทางานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไม่ทอ้ แท้ตอ่ อุปสรรคเพ่อื ให้งานสาเร็จ 7.1 มีจติ สานึกในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภูมิปญั ญาไทย 7.2 เห็นคุณคา่ และปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 ร้จู ักชว่ ยพ่อแม่ ผู้ปกครอง และครูทางาน 8.2 รู้จกั การดูแล รกั ษาทรัพยส์ มบัตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของห้องเรียน โรงเรียน 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรงุ ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ ต่ากว่า 8 ปรับปรงุ ............../.................../................ เกณฑก์ ำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัตชิ ัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมท่ีปฏิบตั ชิ ัดเจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน พฤตกิ รรมท่ีปฏิบตั บิ างคร้งั ภมู ศิ าสตร์ ป.1 15 ภูมศิ าสตร์ ป.1 16 ภูมศิ าสตร์ ป.1 18 T59
นาํ นํา สอน สรุป ประเมิน ขนั้ นาํ òº··Õè ÊÁÒª¡Ô ·´Õè ¢Õ Í§¤Ãͺ¤ÃÇÑ áÅÐâçàÃÂÕ ¹ กิจกรรมนําสกู ารเรยี น นาํ เขาสูบทเรยี น เพือ่ น ๆ คิดวา ครูใหนกั เรียนดูภาพจากหนงั สอื เรยี น หนา 56 การกระทําของเดก็ ในภาพน้ี และชวยกนั ตอบคาํ ถาม ทาํ ใหเ กิดผลดอี ยา งไร • การกระทาํ ของเดก็ ในภาพเปน แบบอยา งทด่ี ี หรือไม เพราะเหตใุ ด แนวคิดสาํ คัญ (แนวตอบ : เปนแบบอยางที่ดี เพราะการ ไหวค รถู อื เปน การแสดงความกตญั กู ตเวที ¡ÒÃ໚¹ÊÁÒªÔ¡·èմբͧ¤Ãͺ¤ÃÑÇáÅÐâçàÃÕ¹ ตอครูอาจารยที่ไดอบรมสั่งสอนใหเราเปน ໚¹ÊèÔ§·ÕèàÃÒ¤Çû¯ÔºÑµÔ à¾è×ÍãËŒÊÒÁÒöÍÂًËÇÁ¡Ñº¤¹Í×è¹ คนดีมีความรู ดังนั้น นักเรียนจึงควรตั้งใจ 㹤Ãͺ¤ÃÑÇáÅÐâçàÃÕ¹䴌Í‹ҧÁÕ¤ÇÒÁÊØ¢ ทาํ ดว ยความเคารพนอบนอ ม) 56 ขน้ั สอน จดั การเรยี นรู 1. ครูใหนกั เรยี นแบง กลุม กลมุ ละ 8 คน แลว ให นกั เรยี นแตล ะกลมุ เลา เกยี่ วกบั วธิ กี ารปฏบิ ตั ติ น เปน สมาชกิ ทดี่ ขี องครอบครวั และวธิ กี ารปฏบิ ตั ติ น เปนสมาชิกท่ีดีของโรงเรียน โดยผลัดกันเลา ทลี ะคน แลวสรุปเปนวิธปี ฏิบัติตนของกลุม 2. ครสู มุ ตวั แทนกลมุ 2-3 กลมุ ออกมาเลา การเปน สมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครวั และการเปน สมาชกิ ที่ ดีของโรงเรียนวาควรปฏิบตั ติ นอยางไร 3. ครูเสนอแนะเพิ่มเติมเพื่อใหนักเรียนมีความ เขา ใจเกย่ี วกบั การเปน สมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครวั และโรงเรยี น เชน ตอ งปฏบิ ัติตามกฎระเบียบ ขอตกลงอยา งเครง ครัด มนี า้ํ ใจชวยเหลือผูอน่ื มีสมั มาคารวะ 4. ครูอธิบายเชื่อมโยงใหนักเรียนเขาใจวา การ เปนสมาชกิ ท่ดี ีของครอบครวั และโรงเรียนเปน สิ่งที่เราควรปฏิบัติเพ่ือใหสมาชิกสามารถอยู รวมกับผูอื่นในครอบครัวและโรงเรียนไดอยาง มคี วามสุข 5. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันศึกษาความรู เร่ือง ความสําคัญของการเปนสมาชิกใน ครอบครัวและโรงเรียนจากหนังสือเรียน และ ชว ยกนั สรปุ สาระสาํ คญั เกร็ดแนะครู ครจู ดั กระบวนการเรยี นรูโดยการใหนกั เรียนปฏิบตั ิ ดงั น้ี • สบื คน ขอ มลู เกย่ี วกบั การเปนสมาชกิ ท่ีดขี องครอบครวั และโรงเรียน • อภปิ รายวธิ กี ารปฏิบัตติ นเปนสมาชกิ ท่ีดขี องครอบครัวและโรงเรยี น • ยกตวั อยา งประโยชนข องการเปน สมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครัวและโรงเรยี น จนเกิดเปนความรูความเขา ใจวา การปฏิบัติตนเปน สมาชิกท่ีดขี องครอบครวั และโรงเรียน ทาํ ใหอ ยรู วมกันอยางมีความสุข T60
นาํ สอน สรุป ประเมิน ๑ ความส�าคญั ของการเป็นสมาชิกทดี่ ขี องครอบครัว ขนั้ สอน (ตอ) และโรงเรยี น จดั การเรียนรู ตัวเราถือเป็นสมาชิกคนหน่ึงของครอบครัวและโรงเรียน ซ่ึงในครอบครัวและโรงเรียนมีคนอยู่ร่วมกันหลายคน และ 6. นักเรียนแตละกลุมรวมกันแสดงความคิดเห็น หลายความคิด จ�าเป็นตอ้ งมีการช่วยเหลอื กนั ท�าตามข้อตกลง ในประเด็นตอไปน้ี และกติกาท่ีก�าหนดไว้ มีสัมมาคารวะ เช่ือฟังค�าส่ังสอนของ • การเปนสมาชิกทีด่ ีของครอบครัวมคี วาม พอ่ แมแ่ ละคร ู เพอ่ื ใหเ้ ราทา� งานและอยรู่ ว่ มกบั สมาชกิ ในครอบครวั สําคัญอยา งไร และโรงเรยี นได้อย่างมีความสขุ (แนวตอบ : ทําใหครอบครวั อบอนุ ตัวอย่างเช่น เมื่อพบผู้ใหญ่ต้องสวัสดี เม่ือวิ่งชนเพื่อน สมาชกิ อยูรว มกันอยางมีความสุข) ต้องขอโทษ เม่ือผ้ใู หญ่ใหส้ ่ิงของต้องขอบคณุ มาโรงเรียนกอ่ น • การเปน สมาชิกท่ดี ขี องโรงเรยี นมีความ เขา้ เรยี น ชว่ ยทา� ความสะอาดบา้ นและโรงเรยี น รว่ มแสดงความ สาํ คัญอยา งไร คิดเห็น ยอมรับข้อตกลงของคนส่วนใหญ่ เป็นต้น เราก็จะมี (แนวตอบ : ทําใหสมาชิกในโรงเรียนอยู เพ่ือนมากและเป็นท่ีรกั ของคนทกุ คน รว มกนั อยางมีความสขุ ) จากน้ันใหแตละกลุมสรุปคําตอบตามมติของ ถา้ เพอ่ื น ๆ ไมป่ ฏบิ ัติตาม กลุม แลวสงตัวแทนกลุม ออกมานําเสนอ ข้อตกลงหรื อกติกาของ ผลสรปุ ทห่ี นาช้นั เรยี น ครอบครวั และโรงเรียน จะสง่ ผลอยา่ งไรครบั ขน้ั สรปุ สรปุ และนําหลักการไปประยกุ ตใช 1. สมาชิกในแตละกลุมชวยกันสรุปความรูเกี่ยว กับความสําคัญของการเปนสมาชิกท่ีดีของ ครอบครวั และโรงเรยี น 2. นักเรียนแตละคนในกลุมนําความรูที่ไดจาก การศึกษามาทําใบงานท่ี 2.1 เร่ือง สมาชิก ที่ดีของครอบครัวและโรงเรียน เสร็จแลว ตรวจสอบความถกู ตอ ง ▲▲ การเป็นสมาชิกท่ีดีของครอบครัวและโรงเรียนเปน็ สิง่ ทน่ี กั เรยี นต้องปฏบิ ัติ ขน้ั ประเมนิ วดั และประเมนิ ผล 1. ตัวแทนนักเรียนแตละกลุมผลัดกันออกมานํา เสนอผลงานในใบงานท่ีหนาชั้นเรียน โดยครู เปนผูต รวจสอบความถกู ตอง 2. ครูประเมินใบงานและการตอบคําถามของ 57 นักเรียน าผูภ มสะามหเมาตดานขมพิ� เอืรหดล การคดิ แนวทางการวัดและประเมินผล ขอ สอบเนน ครูศึกษาแนวทางการวัดและประเมินผลเพ่ือประเมินชิ้นงานของนักเรียน นักเรยี นคดิ วา การเปนสมาชกิ ทดี่ ีของครอบครวั มีความสาํ คัญ จากใบประเมนิ ช้ินงานท่ีแนบทายแผนการสอน อยางไร แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบสังเกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล แบบประเมนิ คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ 1. ทําใหส มาชกิ ในครอบครวั อยูร วมกันอยางมีความสขุ 2. ทําใหสมาชิกของครอบครัวอ่ืนไมพอใจ คาชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในช่องท่ี คาชแ้ี จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขดี ลงในช่องที่ คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ลงในชอ่ งท่ี 3. ทาํ ใหสมาชิกในครอบครวั มีรายไดเ พม่ิ ขึ้น ตรงกับระดับคะแนน ตรงกับระดบั คะแนน ตรงกบั ระดับคะแนน (วิเคราะหคําตอบ ขอ 1. ทําใหอยูรวมกันอยางมีความสุข ทําให รูสึกภาคภูมิใจ ไดรับคําชมจากผูอื่น และเปนท่ีรักใครของทุกๆ คน ลาดบั ที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมนิ ระดบั คะแนน สง ผลใหส มาชกิ ในครอบครวั อยรู วมกนั อยา งเปน ปกติสุข) 1 เนื้อหาละเอียดชัดเจน 321 1 การแสดงความคิดเห็น 321 อนั พึงประสงคด์ ้ำน 321 2 ความถกู ต้องของเน้อื หา 2 การยอมรับฟังความคดิ เห็นของผอู้ ืน่ 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ 3 ภาษาท่ีใชเ้ ข้าใจงา่ ย 3 การทางานตามหนา้ ทีท่ ไี่ ดร้ บั มอบหมาย กษัตริย์ 1.2 เขา้ รว่ มกิจกรรมทีส่ ร้างความสามัคคี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ 4 ประโยชนท์ ไี่ ด้จากการนาเสนอ 4 ความมนี าใจ 5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน 5 การตรงต่อเวลา 2. ซ่ือสัตย์ สจุ ริต ต่อโรงเรียน 3. มีวนิ ยั รบั ผิดชอบ 1.3 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ปฏบิ ัตติ ามหลักศาสนา รวม รวม 4. ใฝ่เรียนรู้ 1.4 เข้าร่วมกิจกรรมทีเ่ ก่ียวกับสถาบันพระมหากษตั ริยต์ ามทโ่ี รงเรยี นจัดขน้ึ 2.1 ให้ขอ้ มลู ทถ่ี ูกตอ้ ง และเปน็ จริง ลงช่ือ...................................................ผปู้ ระเมนิ ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมนิ 5. อยู่อย่างพอเพียง 2.2 ปฏบิ ตั ิในสง่ิ ทถี่ กู ต้อง ............../.................../................ ............../.................../................ 3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบงั คบั ของครอบครวั 6. ม่งุ ม่ันในการ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ทางาน มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมตา่ งๆ ในชีวิตประจาวนั ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมินสมบรู ณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 4.1 ร้จู ักใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏบิ ัตไิ ด้ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ เป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมบ่อยครัง ให้ 1 คะแนน 7. รักความเปน็ ไทย 4.2 รู้จักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมินบางสว่ น ปฏบิ ัตหิ รือแสดงพฤติกรรมบางครัง 8. มจี ิตสาธารณะ 4.3 เชือ่ ฟงั คาส่งั สอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ยง้ 4.4 ต้งั ใจเรียน เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ 5.1 ใชท้ รัพย์สนิ และสิง่ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 5.2 ใช้อุปกรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและรู้คุณคา่ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 12 - 15 ดี 5.3 ใช้จ่ายอย่างประหยดั และมกี ารเก็บออมเงิน 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทางานทไี่ ดร้ บั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพ่อื ให้งานสาเรจ็ 7.1 มจี ิตสานกึ ในการอนุรกั ษ์วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏบิ ัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 รจู้ ักการดูแล รักษาทรัพยส์ มบัตแิ ละสิง่ แวดล้อมของห้องเรยี น โรงเรยี น 8 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรุง ลงชือ่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง ............../.................../................ เกณฑ์กำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบตั ชิ ัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ัติชัดเจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน พฤตกิ รรมท่ีปฏิบตั บิ างครง้ั ภมู ิศาสตร์ ป.1 15 ภูมศิ าสตร์ ป.1 16 ภูมศิ าสตร์ ป.1 18 T61
นาํ นํา สอน สรปุ ประเมิน ขน้ั นาํ ๒ แนวทางการปฏบิ ัตติ นเป็นสมาชกิ ท่ีดขี อง ครอบครัวและโรงเรยี น ครูนําภาพสมาชิกท่ีดีของครอบครัวและ โรงเรียนมาใหนักเรียนดู แลวใหนักเรียนแสดง การอยู่ร่วมกันในครอบครัวและโรงเรียนได้อย่างมีความสุข ความคดิ เหน็ ในประเดน็ ตางๆ เชน จ�าเป็นอย่างย่ิงที่จะต้องค�านึงถึงใจเขาใจเรา คือ รู้ว่าเราชอบ ตวั อยางภาพ อะไร ตอ้ งการให้เขาท�าอยา่ งไร เราก็ควรทา� อยา่ งน้นั กบั คนอ่นื การปฏบิ ตั ติ นเปน็ สมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครวั และโรงเรยี นนนั้ • นักเรียนคิดวา เด็กในภาพแรกปฏิบัติตน มแี นวทางการปฏบิ ตั ิ ดังน้ี เปนสมาชกิ ท่ีดขี องครอบครวั หรอื ไม เพราะ ๑. มีความกตัญญูกตเวทีต่อพ่อแม่ ครูอาจารย์ และญาติ เหตใุ ด ผู้ใหญ่ (แนวตอบ : เปนสมาชิกท่ีดีของครอบครัว ความกตญั ญูกตเวที คือ การรู้จักบุญคณุ และตอบแทน เพราะรูจักชวยงานบานพอแม ทําใหบาน ผู้ทีม่ บี ญุ คณุ แก่เรา เชน่ พอ่ แมเ่ ป็นผูใ้ หก้ า� เนิด ส่ังสอน อบรม สะอาดนาอยู ทําใหงานบานเสร็จเร็ว และเล้ยี งดเู รา ครอู าจารย์เป็นผู้ส่งั สอนให้เราอ่านออกเขยี นได้ ทุกคนในครอบครัวมีความสามคั คกี นั ) มคี วามรู้ ญาตผิ ใู้ หญช่ ว่ ยสัง่ สอน อบรม ใหเ้ ราเปน็ คนดี เป็นตน้ ไ มไ่ ด ร้ บั ทก่าานรเอหปุ ลถ่ามันภีม้ 1เ์ีพลรยี้ ะงคดุณ ู ไมต่อม่ เคี รวาาอมยร่า ู้งแมลาะกเป นถ็ ้าผไขู้ มาม่ ดทีค่าณุ นธเรรรามก ็ • นักเรียนคิดวา เด็กในภาพที่สองปฏิบัติ เราจงึ ต้องตอบแทนบญุ คณุ ของท่านเหลา่ นัน้ ดงั น้ี ตนเปนสมาชิกที่ดีของโรงเรียนหรือไม ๑) ตอบแทนบญุ คุณพอ่ แม ่ เช่น เชื่อฟังค�าส่งั สอนของ เพราะเหตุใด พ่อแม่ ช่วยพ่อแม่ท�าความสะอาดบ้าน ช่วยล้างจาน ชาม (แนวตอบ : เปนสมาชิกท่ีดีของโรงเรียน แก้วน�้า ช่วยรดน้�าต้นไม้ ช่วยจัดเก็บของเล่นของใช้ให้เป็นที่ เพราะเดก็ ในภาพมคี วามกตญั แู ละมสี มั มา ช่วยป้อนอาหาร ป้อนยา เมอ่ื ท่านเจ็บป่วย เป็นตน้ คารวะตอครูโดยการแสดงความเคารพครู ดว ยการไหวเม่อื พบครทู ่ีหนา โรงเรียน) 58 • นักเรียนเคยปฏิบัติตนเปนสมาชิกที่ดีของ ครอบครวั และโรงเรยี นอยา งไรบา ง (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ชวยพอแมท าํ งานบา น ชวยครถู อื ของ) เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ ครแู นะนาํ นกั เรยี นวา การตอบแทนพระคณุ ของพอ แม ครอู าจารย และญาต-ิ นกั เรียนจะแสดงความกตัญูกตเวทตี อ พอแมไดอยา งไรบาง ผใู หญ ควรทําใหเ หมาะสมกบั วัย เชน ในวยั ของนักเรยี นขณะน้ี ควรตอบแทน 1. ชวนพอ แมไ ปซ้ือของในหางสรรพสนิ คา ทานดว ยการเปน เด็กดี เชือ่ ฟง คําสง่ั สอนของทา น ชว ยเหลอื งานทานเทา ทีท่ าํ ได 2. ชว ยพอแมท าํ งานบานเพ่ือแบงเบาภาระใหกับทา น เปนตน 3. ชวนเพอื่ นๆ มาเลน ที่บานและแนะนําใหพ อ แมร จู กั นักเรียนควรรู (ç วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 1. นกั เรยี นสามารถแสดงความกตญั กู ตเวที ตอพอแมไดหลายวิธี เชน เช่ือฟงคําส่ังสอนของพอแม ชวยพอแม 1 อปุ ถัมภ หมายถึง การค้ําชู การสนบั สนุน การเล้ยี งดู ทาํ งานบา น เพอ่ื แบง เบาภาระใหก บั ทา น เชน กวาดบา น ถบู า น รดนา้ํ ตน ไม จัดเก็บของเลนใหเขาท่ี ชวยเล้ียงนอง เปนตน ตามความสามารถ ทต่ี นเองทําได) T62
นาํ สอน สรุป ประเมนิ ๒) ตอบแทนบญุ คณุ ครู ขนั้ สอน อาจารย ์ เชน่ ตง้ั ใจเรยี นเวลา ครูสอน ปฏิบัติตามค�าสอน กระตุนความสนใจ ของครู ท�าความเคารพคุณครู พูดจาไพเราะกับคุณครู ช่วย 1. ครูอธิบายเชื่อมโยงใหนักเรียนเขาใจวา การ ครูถือหนังสือ ช่วยจัดและท�า อยูรวมกันในครอบครัวและโรงเรียนไดอยางมี ความสะอาดโต๊ะครู เป็นตน้ ▲▲ เมื่อพบคณุ ครูต้องยกมอื ไหว้ เพอื่ แสดง ความสุขน้ันจําเปนอยางย่ิงที่จะตองนึกถึงใจ ความเคารพทา่ น เขาใจเรา คอื ไมว า เราจะทาํ อะไร ตอ งคาํ นงึ ถงึ วา เราละเมิดสิทธิคนอื่นหรือไม เราทําอะไร ๓) ตอบแทนบุญคุณญาติผู้ใหญ่ เช่น ช่วยญาติผู้ใหญ่ ท่ีผูอื่นไมชอบและเดือดรอนหรือไม แลวเรา ถือของ ช่วยบีบนวด ช่วยหาน้�าหาอาหารให้ท่านรับประทาน ตองไมทําสิ่งเหลานั้น เพื่อจะไดอยูรวมกันใน เปน็ ต้น ครอบครัวและโรงเรยี นไดอ ยางมีความสขุ ผลจากการปฏิบตั ติ อ่ ผ้มู ีบุญคณุ การทเ่ี ราท�าความดตี ่อผมู้ พี ระคณุ จะส่งผล ดังน้ี 2. ครูถามคําถามกระตุนความคิด ใหนักเรียน ●▲ ผลต่อตนเอง ท�าให้เรามีความสุข เป็นที่รักใคร่ของ ชวยกันตอบ เชน พ่อแม่ ครอู าจารย์ ญาติผู้ใหญ ่ และคนทพ่ี บเห็นทว่ั ไป • นักเรยี นเปนสมาชกิ ท่ดี ขี องครอบครัว ●▲ ผลต่อครอบครัว สมาชิกภายในครอบครัวมีความรัก หรือไม จงอธบิ ายเหตุผลประกอบ เมตตาช่วยเหลือกนั และอย่รู ว่ มกนั อย่างมีความสขุ (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น ●▲▲ ผลต่อโรงเรียน ผู้คนชน่ื ชมสมาชิกในโรงเรียน ท�าให้ โดยใหอยูในดุลยพินิจ ของครูผูสอน เชน เกิดความรกั ความอบอุ่น และเกิดความสามคั คีในหมสู่ มาชิก เปน สมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครวั เพราะชว ยพอ จากการปฏิบัติต่อผู้มีบุญคุณ ส่งผลดีทั้งต่อตนเองและ แมท าํ งานบา น รดนาํ้ ตน ไม เลน ของเลน แลว ผู้อื่น ได้แก่ ครอบครัว และโรงเรียน ช่วยให้เกิดความรัก เกบ็ เขาท่ี มคี วามรักใครส ามัคคีกบั พน่ี อ ง) ทควี่พาบมเอหบ็นอ นุ่ เ อรยาจรู่ ว่ึงมคกวนัรปอยฏา่ ิบงัตมิตคี วนาเมปส็นขุ ค แนลมะีคเปวน็าทมช่ีกน่ืตชัญมญขูอกงตผเค้วู ทน1 ี • นักเรียนเปนสมาชิกท่ีดีของโรงเรียนหรือไม จงอธิบายเหตผุ ลประกอบ (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอ ยใู นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู อน เชน เปน สมาชิกท่ีดีของโรงเรียน เพราะมีนํ้าใจกับ เพอื่ นๆ ชว ยเพอื่ นทาํ ความสะอาดหอ งเรยี น ป ฏิ บั ติ ต า ม ก ฎ ร ะ เ บี ย บ ข อ ง โ ร ง เ รี ย น มีสัมมาคารวะตอคุณครู พูดจาไพเราะกับ ทุกคน) ต่อผมู้ ีบญุ คณุ อยา่ งตอ่ เน่อื ง 59 ขอสอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู ใครมีความกตญั ตู อพอแม 1 ความกตญั ูกตเวที หมายถึง การรูส ึกสํานกึ ในบญุ คณุ หรอื ความดขี อง 1. โกถูบา นในตอนเยน็ ผูอนื่ เชน รคู ณุ ของพอ แม รูคุณของครอู าจารย เปนตน ความกตัญเู ปน 2. แกว ไปโรงเรียนทกุ วนั มงคลขอ ที่ 15 ในมงคล 38 ประการ ผทู ี่มคี วามกตญั ูจะเปนผูท มี่ ีความสุข 3. เกงชวนเพอื่ นมาเลน ทีบ่ าน ความเจรญิ ในชวี ติ ç(วิเคราะหคําตอบ ขอ 1. การชวยทํางานบาน เชน กวาดบาน ถบู า น เปน การแบง เบาภาระใหก บั พอ แมแ ละเปน การแสดงออกถงึ ความกตัญูตอพอ แมดวย) T63
นาํ สอน สรุป ประเมนิ ขน้ั สอน ๒. เช่ือฟังค�าส่ังสอนของพ่อแม่ ครูอาจารย์ ญาติผู้ใหญ่ และผู้มพี ระคุณ สาํ รวจคน หา พอ่ แม่ ครูอาจารย์ ญาตผิ ใู้ หญ ่ และผมู้ ีพระคุณทกุ ท่าน มีบุญคุณต่อเรา ต้องการให้เราเป็นคนดี ท่านจึงสั่งสอนเรา 3. ครูใหนักเรียนกลุมเดิมจับคูกันเปน 4 คู ให ในส่ิงที่ดี เช่น สอนให้เราตั้งใจเรียนหนังสือ พูดจาไพเราะ แตละครู วมกนั ศึกษาความรเู รือ่ ง แนวทางการ คบเพือ่ นทดี่ ี รู้จักอดทน มรี ะเบยี บวนิ ัย เปน็ ตน้ ปฏิบัติตนเปนสมาชิกที่ดีของครอบครัวและ โรงเรยี น จากหนงั สอื เรยี น หนา 58-69 ตาม ค่ะพอ่ หนูจะเล่นท่ี อย่าไปเลน่ ไกลนะลูก ประเดน็ ทกี่ ําหนด ดังนี้ สนามหน้าบ้านนีค่ ่ะ ลกู เราเปน็ เดก็ ดี - คทู ่ี 1 ศึกษาเร่ือง มคี วามกตัญูกตเวทตี อ พอแม ครูอาจารย และญาติผูใหญ และ ทใ่าหท้ผางมจเะลสน่ นดุก้วมยานกะเคลรยบันะ เรอื่ ง เชอ่ื ฟง คาํ สงั่ สอนของพอ แม ครอู าจารย ญาตผิ ูใหญ และผูมีพระคุณ ▲▲ การเชอื่ ฟงั คา� ส่ังสอนของพอ่ แม ่ ท�าใหพ้ ่อแม่ภาคภมู ิใจ - คูท่ี 2 ศึกษาเร่ือง รูจักกลาวคําขอบคุณ ขอโทษ และเรอ่ื ง มีสัมมาคารวะ ผลของการเชือ่ ฟังคา� สั่งสอน - คทู ่ี 3 ศกึ ษาเรอื่ ง ปฏบิ ตั ติ ามขอ ตกลง กตกิ า การเชอื่ ฟงั คา� สง่ั สอนของพอ่ แม ่ ครอู าจารย ์ ญาตผิ ใู้ หญ่ กฎระเบยี บของครอบครัวและโรงเรียน และ และผ้มู ีพระคุณ มผี ลต่อตัวเราเอง คอื ท�าให้เราไม่ทา� อะไรทผี่ ดิ เรือ่ ง มรี ะเบยี บวินยั เป็นท่ีรักของทุกคน และมีความสุข ซ่ึงมีผลต่อครอบครัวและ - คูท่ี 4 ศึกษาเร่ือง มีเหตุผลและยอมรับ โรงเรยี นของเรา เชน่ ทา� ใหค้ รอบครวั อบอนุ่ มคี วามสขุ โรงเรยี น ฟงความคิดเห็นของผูอ่ืน เรื่อง มีน้ําใจ มชี ือ่ เสยี ง สมาชกิ ในโรงเรยี นอยดู่ ้วยกันอยา่ งสงบสุข และเรื่อง การมีสวนรวมในกิจกรรมของ ครอบครัวและโรงเรียน 60 เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคดิ ครูใหนักเรียนแบงกลุมเปน 2 กลุม กลุมละเทาๆ กัน แลวใหนักเรียน ถาพอแมสอนใหเรามีระเบียบวินัย นักเรียนจะปฏิบัติตามได แตละกลุมแสดงบทบาทสมมุติเกี่ยวกับการเช่ือฟงคําส่ังสอนของพอแม ครู อยางไร อาจารย ญาติผใู หญ และผูม ีพระคณุ แลวเกดิ ผลดี และการไมเ ชื่อฟง แลว เกิด ผลเสีย จากน้ันใหนักเรียนเปรียบเทียบวา ควรปฏิบัติตามแบบใด พรอมท้ังให 1. รับประทานอาหารเสรจ็ แลวบอกใหแ มเก็บ เหตผุ ลประกอบ 2. เลนของเลนเสรจ็ แลว เกบ็ เขา ทใี่ หเ รยี บรอย 3. เมือ่ ตื่นนอนแลวไมยอมลกุ จนกวาแมจะบอก ç(วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 2. ปฏิบัตไิ ดห ลายแบบ เชน ต่นื นอนตอนเชา ดวยตนเอง แตงกายใหเรียบรอย จัดเก็บส่ิงของใหเขาท่ี เปนตน ซึ่งจะทําใหเ ราอยรู วมกับผูอ่ืนอยา งมคี วามสุข และเปน ทรี่ ักของทกุ คน) T64
นาํ สอน สรุป ประเมนิ ๓. รจู้ กั กล่าวคา� ขอบคณุ ขอโทษ ขนั้ สอน ขอบคณุ ค�าว่า “ขอบคุณ” เป็นค�าท่ีใช้พูดเพื่อตอบแทนความมี อธบิ ายความรู นา้� ใจของผู้ใหท้ มี่ อี ายุมากกวา่ เรา เช่น ●▲▲▲พอ่ แมใ่ หเ้ งนิ มาโรงเรยี น เราตอ้ งไหวแ้ ละพดู “ขอบคณุ ” 4. สมาชิกแตละคูในกลุมผลัดกันอธิบายผลการ ●▲▲▲ครูใหร้ างวัล เราตอ้ งไหวแ้ ละพดู “ขอบคณุ ” ศึกษาเรื่อง แนวทางการปฏบิ ัตติ นเปนสมาชกิ ●▲▲▲ป้าใหข้ นม เราต้องไหว้และพดู “ขอบคุณ” ท่ีดีของครอบครัวและโรงเรียน พรอมท้ังผลัด ●▲▲▲ปซู่ อื้ หนงั สอื การต์ นู ให ้ เราตอ้ งไหวแ้ ละพดู “ขอบคณุ ” กันซักถามจนมีความเขา ใจตรงกนั ●▲▲▲เพ่ือนให้ยืมสง่ิ ของ เช่น ดนิ สอ ยางลบ เราตอ้ งพดู ตัวอยางผลการศกึ ษา “ขอบใจ” เพราะอายุใกล้เคียงกบั เรา แนวทางการปฏิบัติตนเปนสมาชิกท่ีดีของ การไหว้และกล่าวค�า “ขอบคุณ” จึงเป็นค�าท่ีช่วยให้ ครอบครัวและโรงเรียนสามารถปฏิบัติได เกิดความรกั ใคร่เอ็นดจู ากผู้ใหญ ่ และไดร้ ับความรักเป็นกนั เอง หลายวิธี เชน ตองมีความกตัญูกตเวที จากเพอ่ื น ซึง่ ส่งผลดีท้งั ตอ่ ตนเอง ครอบครัว และโรงเรียน ตอพอแม ครูอาจารย และญาติผูใหญ เชื่อฟงคําส่ังสอนของพอแม ครูอาจารย ครูให้เธอนะ ขอบใจนะ ฉันใหย้ มื ยางลบ ญาติผใู หญ และผมู ีพระคณุ รจู ักกลาวคาํ ขอบคณุ ครับ ขอบคุณ ขอโทษ มีสมั มาคารวะ ปฏิบตั ิ ตามขอตกลง กติกา กฎระเบียบของ ครอบครัวและโรงเรียน มีระเบียบวินัย มี เหตุผลและยอมรับฟงความคิดเห็นของ ผอู นื่ มนี า้ํ ใจ และมสี ว นรว มในกจิ กรรมของ ครอบครวั และโรงเรียน 5. นักเรียนแตละกลุมนําความรูที่ไดจากการ ศกึ ษามาทาํ ใบงานท่ี 2.2 เร่ือง การปฏบิ ัตติ น เปนสมาชิกที่ดีของครอบครัวและโรงเรียน เสร็จแลวตรวจสอบความถูกตอง ▲▲ การกล่าวขอบคุณและขอบใจ เราต้องรูจ้ ักพูดให้เหมาะสม 61 ขอสอบเนน การคิด เกร็ดแนะครู เราควรกลาวคาํ ขอบคณุ เมื่อใด ครูเนนยํ้าใหนักเรียนรูจักกลาวขอบคุณหรือขอบใจ เม่ือผูอ่ืนชวยเหลือเรา 1. เม่อื เราทาํ การบา นเสร็จ หรือเม่ือผูอ ืน่ ทําสิ่งใดสิง่ หนงึ่ ใหกบั เรา หรอื แสดงความมีนา้ํ ใจตอ เรา เชน 2. เมื่อเราวิง่ ไปชนกบั เพื่อน เมื่อเพื่อนหยิบของสงใหเรา เราก็ควรพูด “ขอบใจ” เปน ตน 3. เมอ่ื เราไดร ับสง่ิ ของจากผูใหญ ç(วิเคราะหคําตอบ ขอ 3. การกลาวคําวา ขอบคุณและขอบใจ ในขณะท่ีกลาวคําวา “ขอบคุณ” เราควรมีกิริยาทาทางที่เหมาะสมดวย เพ่ือแสดงถึงความจริงใจ และซาบซ้ึงในนา้ํ ใจของผใู ห เชน เมื่อกลา ว “ขอบคุณ” เปนคําท่ีใชพูดเพ่ือตอบแทนความมีนํ้าใจของผูอ่ืนที่ชวยเหลือเรา เราควรมกี ริ ิยาทาทางนอบนอ ม มีสีหนาท่ียินดี ย้ิมแยม แจม ใส เปนตน หรือใหสงิ่ ตางๆ กับเรา) T65
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน (ตอ) ขอโทษ คา� ว่า “ขอโทษ” เปน็ ค�าที่ใช้พดู เมอื่ เราท�าผดิ ตอ่ ผอู้ ่ืน เช่น อธบิ ายความรู ●▲ วิ่งเลน่ แลว้ ชนคุณคร ู ตอ้ งยกมือไหวแ้ ล้วพูดวา่ “ขอโทษ คะ่ ” “ขอโทษครับ” เพราะทา� ให้ครเู จ็บ 6. นักเรยี นรวมกันตอบคาํ ถามกระตนุ ความคิด ●▲▲เตะลูกบอลไปโดนเพ่ือนที่เดินอยู่ ต้องพูดว่า “ขอโทษ” • ประโยชนข องการเปนสมาชกิ ที่ดขี อง เพราะทา� ใหเ้ พ่อื นเจ็บ ครอบครัวและโรงเรียนคอื อะไร ●▲ ยมื หนงั สอื เพอื่ นอา่ น แลว้ ท�าหนังสือเพื่อนขาด ตอ้ งพดู (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น “ขอโทษ” เพราะท�าให้หนงั สือของเพือ่ นเสียหาย โดยใหอยใู นดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู อน เชน ค�าวา่ “ขอโทษ” จึงเปน็ คา� ทต่ี ้องฝึกพูดบอ่ ย ๆ ซึง่ จะมีผลดี • ทาํ ใหส มาชกิ ในครอบครวั หรอื โรงเรยี นอยู ต่อตัวเรา คือ ผู้ท่ีเรากล่าวขอโทษให้อภัยและยกโทษให้เรา รวมกันอยางสงบสุข ทา� ใหเ้ กิดความรกั ความหว่ งใยกัน • ทําใหสมาชิกในครอบครัวหรือโรงเรียน มีความรักใครสามัคคีกัน) ขอโทÉนะ ฉันลน่ื ลงมา ขอโทÉนะทฉี่ นั • การมสี วนรวมในกิจกรรมของครอบครวั โดยท่ียังไม่ทันตง้ั ตัว วงิ่ ชนนายลม้ และโรงเรียนมีอะไรบา ง (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น ไม่เปน็ ไรครบั โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน รวมกันทํางานบาน รวมกันไปทําบุญที่วัด ▲▲ การกลา่ วค�าขอโทษ เปน็ คา� ท่เี ราต้องพูดดว้ ยความจรงิ ใจ รวมกันแขงกีฬาสี รวมกันทํากิจกรรมหอง สมดุ รว มกันทําความสะอาดโรงเรยี น) 62 • นักเรียนสามารถแสดงความกตญั ูตอใคร ไดบาง และมวี ิธีปฏบิ ตั อิ ยา งไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน กตัญูตอพอแม เชน ชวยพอแมทํางาน บาน กตัญูตอครูอาจารย เชน ชวยครู ถอื ของ เชอื่ ฟง ครู กตญั ตู อ ญาตผิ ใู หญ เชน ชว ยบบี นวด หานํ้าใหด มื่ ) • ถานักเรียนเชอ่ื ฟงคาํ สง่ั สอนของพอ แม ครู อาจารย ญาตผิ ใู หญ และผูมีพระคุณจะ เกดิ ผลดีอยางไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ทาํ ใหเ ปน คนดี มคี นรกั ใครเมตตา) เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคิด ครูเนนย้ําใหนักเรียนเห็นความสําคัญของการกลาวขอโทษ เม่ือเราทําผิด เม่อื เพอื่ นทําผิดตอเราโดยไมไดต งั้ ใจ และกลาวขอโทษเราแลว ตอ ผูอ ื่น ไมว าจะเปน ความผดิ เล็กนอ ยเพียงใด และขณะขอโทษ เราควรทําดว ย เราควรปฏบิ ตั ิอยางไร ความตง้ั ใจและกลา วอยา งจรงิ จงั เพอ่ื ใหผ ทู ไ่ี ดร บั คาํ ขอโทษรสู กึ วา เราขอโทษดว ย ความจริงใจ 1. ทําเฉยๆ 2. ใหอ ภยั เมอื่ เพอื่ นพดู ขอโทษเรา เราอาจพดู วา “ไมเ ปน ไร” เพอื่ แสดงวา เรายกโทษ 3. ดดุ า รุนแรง ใหเ พอื่ น (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 2. การกลาวขอโทษ เปน การแสดงออกวา ผทู กี่ ลา วขอโทษสาํ นกึ ในความผดิ ของตนแลว จงึ ไดก ลา วคาํ ขอโทษ และเมื่อเพือ่ นขอโทษเราแลว เราควรใหอ ภยั และยกโทษใหเ พื่อน) T66
นํา สอน สรปุ ประเมิน ๔. มีสัมมาคารวะ ขน้ั สอน คนไทยมีลักษณะการท�าความเคารพที่เป็นเอกลักษณ์ โดยเฉพาะการไหว้ ชาวตา่ งชาตสิ นใจฝกึ ไหวแ้ บบไทย เราเปน็ ขยายความเขาใจ คนไทยจึงต้องรักษาไว้ การไหว้เป็นการแสดงความเคารพ โดยเฉพาะไหว้พ่อแม่ผู้ให้ก�าเนิดเรา ไหว้ครู ไหว้ญาติผู้ใหญ ่ 7. นักเรียนแตละกลุมสงตัวแทนออกมาอภิปราย และผมู้ บี ุญคุณ ที่สั่งสอนอบรมให้เรามีความรู้และเปน็ คนดี ความรูที่กลุมของตนไดศึกษา พรอมทั้ง การมสี มั มาคารวะ เราสามารถท�าได้ ดงั น้ ี อภิปรายคําตอบของใบงานที่ 2.2 ที่หนา เมอ่ื พบผใู้ หญ ่ เชน่ พอ่ แม ่ คร ู ญาตผิ ใู้ หญค่ นทม่ี อี ายุ ชน้ั เรยี น โดยมคี รเู ปน ผตู รวจสอบความถกู ตอ ง มากกวา่ เราตอ้ งทกั ทายด้วยการไหวแ้ ละกลา่ วคา� วา่ “สวัสดคี ะ่ ” ตวั อยางการอภิปรายคําตอบของใบงาน “สวัสดีครับ” ซ่ึงเป็นมารยาทไทย แสดงถึงการมีสัมมาคารวะ • การชวยกันทํางานบาน ทําใหเกิดผลดี รู้จักท�าความเคารพผู้ที่มีอายุ คือ ทําใหบานสะอาดนาอยูและกอให มากกว่า เกิดความสามัคคใี นครอบครัว การไหว้ผู้ใหญ่มีผลดี สวัสดคี ่ะ • การแสดงความเคารพตอครูอาจารย ทาํ ใหเกดิ ผลดี คอื ทาํ ใหครูอาจารยรัก คือ ท�าให้ผู้ใหญ่เกิดความรัก เอน็ ดู และชนื่ ชม ความเอ็นดูต่อเรา ชื่นชมเรา • นักเรียนต้ังใจเรียนขณะครูสอน ทําให รวมถงึ ครอบครัวของเรา และ เกดิ ผลดี คือ ทําใหเ ขาใจเรื่องท่ีครสู อน สวัสดคี รับ ไดเ ปน อยางดี โรงเรยี นของเรา 8. นักเรยี นตอบคําถามกระตุนความคดิ • นกั เรยี นมแี นวทางการปฏบิ ตั ติ นเปน สมาชกิ ทดี่ ีอยางไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ไมละเมิดสิทธิของผูอื่น พูดจาไพเราะกับ ทุกคน มนี ้ําใจชวยเหลือผูอ่ืน) ▲▲ การมีสัมมาคารวะเป็นส่ิงท่ีนักเรียนต้องปฏิบัติ ใหเ้ ปน็ นสิ ัย ประเทศไทยของเรามวี ัฒนธรรมประเพณี 63 ที่ดงี ามมากมายท่กี อ่ ให้เกดิ ความภาคภูมิใจ ซึ่งเราต้องช่วยกนั สบื ทอดนะครับ ดี นสแมสะามหเมาตดานขมพิ� เอืรหดล ขอสอบเนน การคิด บูรณาการอาเซียน การปฏบิ ัตใิ นขอ ใดถอื วา ไมมีสัมมาคารวะ ครูอธิบายเพิ่มเติมวา ประเทศสมาชิกในกลุมอาเซียน มีคําท่ีใชทักทาย 1. ยกมอื ไหวเ ม่ือพบคุณครู เมอ่ื พบกัน ดังนี้ 2. คอ มตัวเมอื่ เดินผา นผใู หญ 3. แตง กายเลียนแบบพระสงฆ ประเทศ คาํ ทกั ทาย ประเทศ คาํ ทกั ทาย (ç วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 3. การมสี มั มาคารวะ คอื การปฏบิ ตั ติ นดว ย บรูไน ซาลามตั ดาตงั เวียดนาม ซนิ จา ว ความเคารพนอบนอมตอผูอ่ืน และไมปฏิบัติตนที่เปนการลบหลู หรือไมใ หเกยี รตผิ ูอ ่นื เชน แตง กายเลียนแบบพระสงฆ) กมั พูชา ซวั ซะไดย เมยี นมาร มงิ กลาบา อนิ โดนีเชีย ซาลามัต เซยี ง ฟลิปปนส กมู ุสตา ลาว สะบายดี สงิ คโปร หนีหาว มาเลเซยี ซาลามัต ดาตัง ไทย สวัสดี T67
นาํ สอน สรปุ ประเมิน ขน้ั สอน (ตอ) ๕. ปฏิบัติตามข้อตกลง กติกา กฎระเบียบของครอบครัว และโรงเรยี น ขยายความเขา ใจ ในครอบครวั และโรงเรียน มีสมาชกิ อยู่รวมกนั หลายคน หลายประเภท มีทั้งผู้หญิง ผู้ชาย เด็ก ผู้ใหญ่ ซ่ึงแต่ละคน • การกลา วขอบคณุ และขอโทษมผี ลดอี ยา งไร มีความคิดและลักษณะที่แตกต่างกัน จึงท�าให้มีการปฏิบัติตน (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น ทตี่ า่ งกนั ไป ดงั นนั้ จงึ จา� เปน็ จะตอ้ งมขี อ้ ตกลง กตกิ า กฎระเบยี บ โดยใหอยูใ นดลุ ยพนิ จิ ของครูผสู อน เชน ของครอบครัวและโรงเรียน ให้ทุกคนร่วมกันปฏิบัติตาม เพื่อ • ถา มีคนอื่นใหชว ยเหลือเรา เราควรกลา ว ความปลอดภยั และความสขุ ของสมาชกิ ในบ้านและโรงเรียน คําขอบคุณเพื่อตอบแทนความมีน้ําใจ การปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กตกิ า กฎระเบยี บของครอบครวั ของผทู ใ่ี หค วามชว ยเหลอื ซง่ึ จะทาํ ใหเ กดิ เราเป็นสมาชิกคนหน่ึงในครอบครัว ต้องปฏบิ ัติ ดังนี้ ความรักเปนกันเองกบั ทั้งสองฝาย ● เชอื่ ฟงั คา� สอนของพอ่ แม ่ และญาตผิ ใู้ หญ ่ เชน่ พนี่ อ้ ง • เม่อื เราทาํ ผดิ ตอผูอน่ื เชน เตะลูกบอลไป ต้องรักและช่วยเหลือกัน ซื้อของกินท่ีมีประโยชน์ต่อร่างกาย โดนเพือ่ นทเ่ี ดนิ อยู ซงึ่ เราไมไ ดต งั้ ใจ เรา ต ง้ั ใจ เรยี ●น ร ับไมปค่รบะทเพานอื่ นอาทห่เี กาเรรใ หไม้ตร่หงนเเีวรลยี าน1 แเปลน็ะเตมน้ ่ือรับประทาน ควรกลาวคําขอโทษเพื่อน เม่ือเรากลาว เสรจ็ แลว้ ต้องลา้ งจาน ชาม ขอโทษแลว เพ่อื นจะใหอ ภัยเรา ทาํ ใหเ กิด ● เลิกเรียนแล้วต้องรีบ ความรักความหว งใยตอ กนั ) กลับบ้าน เพ่ือมาช่วยพ่อแม่ ท�างานบา้ น • การปฏบิ ตั ติ นอยางไร จึงจะเรยี กวา ● หลงั จากตนื่ นอนแลว้ มสี มั มาคารวะ ตอ้ งเกบ็ ทน่ี อนใหเ้ รยี บรอ้ ย (แนวตอบ : พิจารณาตามคําตอบของ นักเรียน โดยใหอยูในดุลยพินิจของครู ▲▲ เราเปน็ เด็กต้องรู้จักช่วยพ่อแม่ท�างานบ้าน ผสู อน เชน เมอ่ื พบญาตผิ ใู หญต อ งยกมอื ไหว เมื่อพบคุณครูตองแสดงความเคารพดวย 64 การไหว) • การไมม ีสมั มาคารวะ จะสงผลเสียอยา งไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ทําใหไมมีใครรักใครเมตตา และอาจทําให คนอืน่ รงั เกียจได) นักเรียนควรรู ขอ สอบเนน การคดิ 1 รับประทานอาหารใหตรงเวลา การรับประทานอาหารใหตรงเวลาในแต ขอใดเปนสง่ิ ท่ีนักเรียนไมค วรปฏิบตั ิ ละมอื้ จะทาํ ใหไ มเ ปน โfi รคกระเพาะอาหาร เพราะเมอ่ื ถงึ เวลารบั ประทานอาหาร 1. ทําการบานทโี่ รงเรียน รา งกายจะหลงั่ กรดออกมาเพอ่ื ยอ ยอาหารทก่ี นิ เขา ไป แตถ า ไมม อี าหารใหย อ ย 2. นําอาหารมากนิ ในหอ งสมดุ กรดทหี่ ลง่ั ออกมานนั้ กจ็ ะไปทาํ ลายเยอื่ บกุ ระเพาะอาหารแทน ทาํ ใหเ กดิ แผลใน 3. พดู คยุ กับเพื่อนตอนพกั เทีย่ ง กระเพาะอาหารและเกิดการอักเสบ ปวดทองได ดงั น้ัน ในบางครอบครัว พอแมจ ึงกาํ หนดขอ ตกลงเพือ่ ใหล ูกๆ รบั ประทาน (วิเคราะหค ําตอบ ขอ 2. ไมว าเราจะอยูทีบ่ า นหรือโรงเรยี น เรา อาหารใหต รงเวลา เพ่ือใหเกิดผลดีตอสุขภาพของลูกๆ นนั่ เอง ตอ งปฏิบัติตามขอ ตกลง กติกา กฎระเบยี บอยา งเครงครดั เชน ไม นาํ อาหารเขา มากินในหอ งสมดุ เพราะอาจทาํ ใหส กปรกได) T68
นํา สอน สรุป ประเมิน การปฏบิ ตั ติ ามขอ้ ตกลง กตกิ า กฎระเบยี บของโรงเรยี น ขน้ั สอน (ตอ) ขยายความเขาใจ เ●ร ไาปเปถ็นึงโสรมงเารชยี กิ นคกนอ่ หนนเขง่ึ ขา้ แอถงโวรเงคเารรียพนธ งตชอ้ างตป1ิ ฏบิ ัติ ดงั น้ี 10. ครูใหนักเรียนแบงกลุมเปน 5 กลุม กลุมละ เทาๆ กัน จากนั้นใหตัวแทนกลุมออกมาจับ ● แต่งกายให้เรียบร้อย เช่น ตัดผมสั้น สวมถุงเท้า สลากที่ครูเตรียมไว แลวใหแตละกลุมออก รองเท้า แต่งกายถูกตอ้ งตามระเบยี บของ มาแสดงบทบาทสมมตุ ใิ หเ พื่อนๆ ดทู ีห่ นาช้ัน โรงเรียน ตามหัวขอ ทีก่ ลมุ จับสลากได ● ตัง้ ใจเรียน เขา้ เรยี นทุกชั่วโมง • สลากหมายเลข 1 ใหแ สดงบทบาทสมมุติ ● กอ่ นออกนอกห้องเรยี นหรือ เรอ่ื ง การกลาวคาํ ขอบคณุ ขอโทษ โรงเรียนตอ้ งขออนญุ าตครู • สลากหมายเลข 2 ใหแ สดงบทบาทสมมตุ ิ ● ชว่ ยกนั รกั ษาสงิ่ ของของโรงเรยี น เร่อื ง การมีสัมมาคารวะ ไมท่ า� ลายให้เกิดความเสยี หาย เชน่ • สลากหมายเลข 3 ใหแ สดงบทบาทสมมตุ ิ ไมข่ ดี เขยี นโตะ๊ เก้าอ้ี ปดกอ๊ กน�้า เร่อื ง การมีระเบยี บวนิ ัย ใหส้ นิทเม่ือเลกิ ใช ้ • สลากหมายเลข 4 ใหแสดงบทบาทสมมุติ เป็นต้น เรอื่ ง การมีเหตุผลและยอมรับฟงความคิด เห็นของคนอ่นื • สลากหมายเลข 5 ใหแ สดงบทบาทสมมตุ ิ เร่อื ง การมีนํ้าใจ 11. เม่ือนักเรียนแตละกลุมแสดงจบครบแลว ครู และนักเรียนรวมกันบอกผลดีของการปฏิบัติ และผลเสยี ของการไมป ฏบิ ตั ิ จากนน้ั นกั เรยี น จดบันทกึ ความรไู วใ นสมดุ ของตนเอง ▲▲ เราตอ้ งรีบมาเข้าแถวเพื่อเคารพธงชาติในตอนเชา้ ใหท้ ันตามเวลาที่โรงเรยี นกา� หนด 65 นักเรียนควรรู 1 ธงชาติ ธงชาติไทยในปจจบุ นั เรียกอีกอยา งหน่งึ วา ธงไตรรงค ประกาศใชเมอื่ วันท่ี 28 กนั ยายน พ.ศ. 2460 ธงชาตไิ ทยมี 3 สี สแี ตละสี หมายถงึ สถาบันหลกั ของชาตไิ ทย ไดแก สแี ดง หมายถงึ สถาบนั ชาติ สีขาว หมายถึง สถาบันศาสนา และสนี าํ้ เงิน หมายถงึ สถาบนั พระมหากษตั รยิ ซงึ่ เปนส่ิงทคี่ นไทยใหความสําคัญและเคารพนบั ถือ ดังน้ัน จงึ ไมมีการนําแถบสขี องธงชาตไิ ปใชใ นการออกแบบเปน สินคาอ่นื ๆ เชน เสอ้ื กางเกง กระโปรง เพราะเปน สงิ่ ท่ีไมเ หมาะสม บูรณาการอาเซียน ครนู าํ ภาพธงชาตขิ องประเทศในกลมุ อาเซยี นทนี่ อกเหนอื จากประเทศไทยมาใหน กั เรยี นดแู ละเปรยี บเทยี บกบั ธงชาตไิ ทย ธงชาตบิ รไู น ธงชาติกมั พูชา ธงชาตอิ นิ โดนเี ซีย ธงชาติลาว ธงชาติมาเลเซีย ธงชาตเิ มียนมา ธงชาตฟิ ล ปิ ปนส ธงชาตสิ ิงคโปร ธงชาติเวียดนาม T69
นํา สอน สรุป ประเมิน ขนั้ สอน (ตอ) ๖. มรี ะเบียบวินัย ขยายความเขา ใจ 12. ครสู นทนาพดู คยุ กบั นกั เรยี นวา การอยรู ว มกนั ในฐานะทเ่ี ราเปน็ สมาชกิ ของครอบครวั และของโรงเรยี น ในครอบครัว จําเปนตองมีขอตกลง กติกา เราต้องประพฤตติ นใหม้ ีระเบยี บวินัย เพอ่ื ใหค้ รอบครวั ของเรา กฎระเบียบของครอบครัว เพื่อใหสมาชิก และโรงเรยี นของเรามีความสขุ ซงึ่ สามารถท�าได้ ดงั น้ี ปฏบิ ัตติ าม ๑) ระเบยี บวนิ ัยในครอบครัว เชน่ ปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง ในครอบครัวอยา่ งเคร่งครดั เช่น ตื่นนอนแต่เช้าโดยไมต่ ้องให้ 13. ใหนักเรียนยกตัวอยางการปฏิบัติตามขอ ใครปลุก เม่ือต่ืนนอนแล้วเก็บที่นอนให้เรียบร้อย ช่วยพ่อแม่ ตกลง กติกา กฎระเบียบของครอบครัวของ ทา� งานบา้ น อาบน้า� เองและแตง่ กายเองใหเ้ รียบรอ้ ย เป็นต้น ตนเอง คนละ 1 ขอ แลว ผลดั กนั พดู ใหเ พอ่ื นๆ ๒) ระเบียบวนิ ยั ในโรงเรยี น เชน่ ปฏบิ ัติตามกฎระเบียบ ฟง จากนั้นใหนักเรียนรวมกันอภิปรายวา ของโรงเรียนอย่างเคร่งครัด ขอตกลง กติกา กฎระเบียบของครอบครัว เช่น มาโรงเรียนให้ทันเวลา แตล ะครอบครัวเหมอื นกันหรอื แตกตา งกัน เขา้ เรยี นตรงเวลา ทา� การบา้ น ส่งครูตรงเวลา แต่งกายให ้ 14. ครตู งั้ ประเดน็ คาํ ถามใหน กั เรยี นรว มกนั แสดง ถูกต้องตามกฎระเบยี บ ความคิดเหน็ เชน ผลของการมีระเบียบ • ถาเราไมปฏิบัติตามขอตกลง กติกา กฎ วินัย ท�าให้เราเป็นคนตรง ระเบียบของครอบครัวจะเกดิ ผลอยา งไร ต่อเวลา เป็นที่รักใคร่ของคน ▲▲ นักเรียนต้องแต่งกายให้ถูกต้องตามกฎระเบียบ (แนวตอบ : อาจทาํ ใหส มาชกิ ในครอบครวั เกดิ ของโรงเรียน การทะเลาะเบาะแวงกัน และทําใหสมาชิก อยูร วมกันอยางไมมีความสขุ ) ทว่ั ไป • ขอตกลง กติกา กฎระเบียบของครอบครัว มีไวเพอ่ื อะไร (แนวตอบ : เพื่อใหสมาชิกปฏิบัติตาม แลว สง ผลใหส มาชกิ ยรู ว มกนั ไดอ ยา งมคี วามสขุ ) 15. ครูเนนย้ําใหนักเรียนปฏิบัติตามขอตกลง กติกา กฎระเบียบของครอบครัวอยาง เครง ครัด เราเป็นคนไทยตอ้ งมีระเบยี บวินัย มนี �้าใจ เคารพกฎหมาย และร้จู กั รับผิดชอบต่อตนเองและสงั คมนะครับ แสนดี66 ลดหรือเพิม� ขนาดตามเหมาะสม เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ ครูใหนักเรียนท่ีมีระเบียบวินัยออกมาเลาพฤติกรรมของตนเองท่ีแสดงถึง พฤติกรรมในขอ ใดไมเก่ยี วของกับการมีระเบยี บวนิ ัย ความมีระเบียบวินัยที่หนาชั้น จากนั้นใหเพ่ือนๆ รวมกันซักถามถึงการปฏิบัติ 1. มาโรงเรยี นทนั เวลาเขา เรยี น ใหม รี ะเบียบวนิ ัยวา ทาํ ไดยากหรืองาย เพือ่ ใหน ักเรยี นเหน็ วา การมีระเบียบวินัย 2. แตงกายเรียบรอ ยมาโรงเรียน เปนส่งิ ทป่ี ฏิบตั ไิ ดไ มยาก ทกุ คนสามารถปฏิบตั ไิ ด 3. ชวยพอ แมรดนา้ํ ตนไมหลังเลิกเรียน (วิเคราะหคําตอบ ขอ 3. การมีระเบียบวินัย คือ การประพฤติ ปฏบิ ตั ติ ามขอ ตกลง กฎระเบยี บอยา งเครง ครัด เชน มาโรงเรยี น ทันเวลา สงการบานตามกําหนด แตงกายเรียบรอย เปนตน สวนการชวยงานพอแมถือเปนการแสดงความกตัญูกตเวทีตอ พอแม) T70
นาํ สอน สรปุ ประเมิน ๗. มีเหตผุ ลและยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น ขน้ั สอน (ตอ) ขยายความเขา ใจ ในการท�างานหรือการอยู่ร่วมกัน เราต้องช่วยกันคิด 16. ครูสนทนาพูดคุยกับนักเรียนวา ในโรงเรียน ชว่ ยกนั ทา� และชว่ ยกนั แกไ้ ขปญั หา ยอมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของ มีบุคคลตา งๆ มากมายมาอยูร วมกัน ดังนน้ั หลาย ๆ คน เพอ่ื ใหก้ ารทา� งานมคี วามรอบคอบ ถกู ตอ้ ง และเสรจ็ จึงจําเปนตองมีขอตกลง กติกา กฎระเบียบ ทันเวลาทีก่ า� หนด ทกุ คนได้มี ของโรงเรียน เพ่ือใหบุคคลตางๆ ในโรงเรยี น สว่ นรว่ มในการตดั สนิ ใจ ทา� ให้ ปฏบิ ตั ติ าม เพือ่ ใหก ารปฏบิ ัติงานในโรงเรียน เกิดความภาคภูมิใจในผลงาน เปน ไปอยา งมรี ะเบยี บเรยี บรอ ย การทน่ี กั เรยี น นอกจากนี้ ยงั ท�าใหเ้ กดิ ความ ปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียนจึงเปน เข้าใจระหว่างเพื่อนในกลุ่มได้ สิ่งสําคญั ดยี ง่ิ ขน้ึ ▲▲ การร่วมกันแสดงความคิดเห็นในการท�างาน จะท�าให้งานเสรจ็ เรว็ และมคี วามสมบรู ณ์ 17. ใหน กั เรยี นยกตวั อยา งการปฏบิ ตั ติ ามขอ ตกลง กติกา กฎระเบียบของโรงเรียนและผลที่เกิด ๘. มีนา�้ ใจ จากการปฏบิ ัตินั้นๆ การมนี า�้ ใจ คอื การรจู้ กั ชว่ ยเหลอื และแบง่ ปนั ใหแ้ กก่ นั เมอื่ เราอยู่ในครอบครัวและโรงเรยี น เราควรมีน�้าใจต่อสมาชิก 18. ครตู ง้ั ประเดน็ คาํ ถามใหน กั เรยี นรว มกนั แสดง ในบา้ นและโรงเรียน ดงั นี้ ความคิดเหน็ เชน ๑) มีน�้าใจต่อสมาชิกในครอบครัว เช่น • ถาเราปฏิบัติตามขอตกลง กติกา กฎ ●▲▲ชว่ ยน้องท�าการบ้าน ระเบยี บของโรงเรียนจะเกดิ ผลอยา งไร ถา้ ใครชว่ ยเราท�างาน (แนวตอบ : ทําใหไมถูกครูลงโทษ อยูรวม เราควรช่วยเหลอื เขา กับสมาชิกในโรงเรียนอยางมีความสุข ไม ●▲▲เมื่อพ่ีปลกู ตน้ ไม้ นอ้ งชว่ ยรดน้า� เปน็ การตอบแทนนะ ทะเลาะเบาะแวงกนั เกิดความเปน ระเบยี บ ●▲▲เม่ือพอ่ เหนอ่ื ยจากการทา� งาน เรียบรอ ยภายในโรงเรยี น) ช่วยหาน้�าให้ท่านด่ืม • ถา เพอื่ นของนกั เรยี นไมป ฏบิ ตั ติ ามขอ ตกลง ●▲▲เมื่อแม่ท�าอาหาร ช่วยเกบ็ จานชาม กติกา กฎระเบียบของโรงเรียน นักเรียน จะแนะนําเพื่อนอยางไร (แนวตอบ : อธิบายใหเ พื่อนเห็นผลเสียท่จี ะ เกิดขึ้นจากการไมปฏิบัติตามกฎระเบียบ ของโรงเรียน และบอกผลดีของการปฏิบัติ ตามกฎระเบยี บของโรงเรยี น) 19. ครูเนนย้ําใหนักเรียนปฏิบัติตามกฎระเบียบ ของโรงเรยี นอยางเครงครดั ท่ีใชแ้ ลว้ ไปล้าง 67 ขอสอบเนน การคดิลดหรือเพิม� ขภนาูผดตาามเหมาะเสกม ร็ดแนะครู การเปน คนไมม เี หตผุ ลและไมย อมรบั ฟง ความคดิ เหน็ ของผอู น่ื ครูใหนกั เรียนรว มกันคดิ วา ในการทํางานกลมุ ถา นกั เรียนมคี วามคดิ เหน็ อาจเกิดผลในขอ ใด ไมต รงกบั เพอื่ นในกลมุ นกั เรยี นจะแกไ ขปญ หาอยา งไร โดยครใู หน กั เรยี นทกุ คน ไดนําเสนอวิธีแกปญหาของตน จากน้ันครูและนักเรียนรวมกันสรุปแนวทาง 1. เพือ่ นๆ ทกุ คนใหการยอมรบั ในการแกป ญหาความขัดแยง ในกลุมทเ่ี หมาะสม 2. เกิดการทะเลาะแตกแยกกัน 3. ไดรบั คาํ ชมจากผอู นื่ (วิเคราะหคําตอบ ขอ 2. อาจทําใหเกิดการทะเลาะแตกแยกกนั เพราะมคี วามคดิ เหน็ ตา งกนั และไมส ามารถรว มกนั ทาํ งานอยา งใด อยา งหนึง่ ใหส าํ เรจ็ ได เปน ตน) T71
นํา สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั สอน (ตอ) ๒) มนี �้าใจต่อสมาชกิ ในโรงเรยี น เชน่ ●▲▲ ชว่ ยเพ่ือนท�าความสะอาดหอ้ งเรียน ขยายความเขา ใจ 20. ครูสนทนากบั นกั เรยี นวา การทํากจิ กรรมรว ม ถ้าเพื่อนแบ่ง กันในครอบครัวและโรงเรียนเปนสิ่งที่สมาชิก ของเลน่ ใหเ้ รา ทุกคนตองรวมกันทําและใหความสําคัญ เราควรท�า ●▲▲ แบง่ ของเลน่ ใหเ้ พ่ือนเลน่ ด้วย อยำ่ งไรนะ 21. ครตู ง้ั ประเดน็ คาํ ถามใหน กั เรยี นรว มกนั แสดง ความคดิ เหน็ เชน ●▲▲ แบ่งขนมให้เพือ่ นกินด้วย • เพราะเหตุใดสมาชิกในครอบครัวควรมี ●▲▲ ช่วยครูหรอื เพื่อนถือของ สวนรว มในกจิ กรรมของครอบครัว (แนวตอบ : เพราะการทํากิจกรรมรวมกัน รถของฉนั แจ๋วไหม โอโ้ ห! เยีย่ มมาก ทาํ ใหส มาชกิ ในครอบครวั ไดใ กลช ดิ กนั เกดิ ความรกั ใครส ามคั คกี นั มากยง่ิ ขน้ึ และทาํ ให าผภู เกิดความอบอุนในครอบครัว) • ถานักเรียนไมใหความสําคัญในการมี มสะามหเมาตดานขมพ�ิ เอืรหดล สวนรวมในกิจกรรมของโรงเรียน จะเกิด ผลเสยี อยา งไร ▲▲ เมื่อเรามขี องเลน่ ควรแบง่ ให้เพือ่ นเล่นบา้ ง เพื่อแสดงความมีน�้าใจต่อเพื่อน (แนวตอบ : อาจทําใหกิจกรรมของโรงเรียน ไมป ระสบผลสาํ เรจ็ และนกั เรยี นไมม โี อกาส การมีน้�าใจรู้จักแบ่งปันและช่วยเหลือกัน จะท�าให้เรา ในการแสดงความสามารถ ทําใหไมไดรับ ครอบครวั ของเรา และโรงเรียนของเรามีความสขุ การยอมรับจากเพื่อนๆ และขาดโอกาส ๙. มสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมของครอบครวั และโรงเรียน ในการสรางความสามัคคี) ครอบครวั และโรงเรยี นมสี มาชกิ หลายคน มกี จิ กรรมทจ่ี ะ ท�าร่วมกันหลายอย่าง เราเป็นสมาชิกคนหน่ึงจึงต้องมีสว่ นร่วม 22. ครเู นน ยา้ํ ใหน กั เรยี นรจู กั มสี ว นรว มในกจิ กรรม ในกจิ กรรม รว่ มกันคิดรว่ มกันวางแผนวา่ จะทา� อะไร ทา� เมอ่ื ไร ของครอบครัว และโรงเรียนอยูเสมอเมื่อมี ท�าอย่างไร เพราะอะไร เป็นต้น เพือ่ ใหก้ ิจกรรมที่จะทา� มีความ โอกาส ถกู ตอ้ งสมบรู ณ์ 68 เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคิด ครูใหนักเรียนรวมกันคัดเลือกเพ่ือนท่ีมีนํ้าใจจากสมาชิกในหอง พรอมท้ัง เราควรปฏบิ ตั ิตอ เพ่ือนอยา งไร บอกเหตุผลประกอบ จากน้นั ครแู ละเพอ่ื นรว มกันกลาวชมเชยนกั เรยี นท่มี ีนาํ้ ใจ 1. ชวยสอนการบานเพื่อน 2. ชวนเพอ่ื นคุยขณะเรียน ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ วา การแสดงความมนี า้ํ ใจเปน การกระทาํ ทเี่ กดิ ผลดที ง้ั ตอ 3. ชวนเพอ่ื นวง่ิ เลนในหอ งเรยี น ผใู หและผรู บั เชน ชว ยเพ่อื นเก็บอปุ กรณก ารเรยี น ชวยนอ งทํางานบา น เปนตน สวนการแสดงความมีนํ้าใจท่ีทําใหเกิดผลเสียตอตนเองและผูอ่ืน เชน ชวยทํา (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 1. เราควรมนี า้ํ ใจตอ เพอื่ น รจู กั ชว ยเหลอื เพอื่ น การบา นใหน อ ง ชว ยเพอ่ื นปกปด ครวู า ไมไ ดท าํ ของเสยี หาย ชว ยเพอ่ื นหนโี รงเรยี น ในโอกาสตา งๆ เชน เมอื่ เพอื่ นไมเ ขา ใจการบา นกช็ ว ยสอนการบา น เปน ตน เปนส่งิ ทไ่ี มควรทํา และไมใ ชการแสดงความมนี ้ําใจ ใหเ พอื่ น ชว ยเพอ่ื นทาํ กจิ กรรมตา งๆ อยา งเหมาะสม และไมช กั ชวน เพ่อื นทําผดิ กฎระเบียบของโรงเรียน เชน ชวนเพื่อนคยุ ขณะเรียน ไมน ําขนมมากินในขณะครูสอน เปน ตน) T72
นํา สอน สรุป ประเมิน การมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรมของครอบครวั เชน่ ร่วมกัน ขน้ั สอน ท�างานบ้าน ร่วมกันไปท�าบุญที่วัด ร่วมแสดงความคิดเห็นว่า ครอบครัวของเราจะไปเที่ยวไหนในวันหยุดนี้ เป็นต้น เพ่ือให้ ตรวจสอบผล สมาชกิ ในครอบครวั ไดม้ ีสว่ นร่วมในการท�ากิจกรรมตา่ ง ๆ การมีสว่ นรว่ มในกจิ กรรมของโรงเรียน เชน่ รว่ มกนั 23. ครสู มุ ตวั แทนนกั เรยี น 4-5 คน ออกมานาํ เสนอ แขง่ กฬี าสี รว่ มกนั ท�ากจิ กรรมหอ้ งสมดุ รว่ มกนั ท�าความสะอาด ผลงานในใบงานท่ี 2.2 ที่หนา ช้ันเรยี น โดยมี โรงเรยี น ร่วมกันปลกู ตน้ ไม้ในโรงเรยี น เปน็ ตน้ เพอ่ื ให้สมาชกิ ครูเปน ผูต รวจสอบความถูกตอ ง ในโรงเรียนไดท้ �างานรว่ มกันอยา่ งพร้อมเพรยี ง การท�ากิจกรรมร่วมกันในครอบครัวและในโรงเรียน ขน้ั สรปุ จะทา� ใหส้ มาชกิ ทกุ คนไดแ้ สดงความสามารถและเกดิ การยอมรบั เข้าใจกัน เกิดความสมัครสมานสามัคคีกัน ท�าให้อยู่ร่วมกัน 1. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรทู ไ่ี ดจ ากการ ในครอบครัวและโรงเรียนอย่างมคี วามสุข เรยี นเรอื่ ง แนวทางการปฏบิ ตั ติ นเปน สมาชกิ ที่ ดีของครอบครัวและโรงเรยี น 2. นกั เรียนบันทึกขอมูลลงในสมดุ ขน้ั ประเมนิ 1. ครตู รวจสอบความเขา ใจของนกั เรยี นผา นการ สังเกตการตอบคําถาม การอภิปรายความรู และการนาํ เสนอผลงาน 2. ครปู ระเมนิ ผลการทาํ ใบงานท่ี 2.2 ของนกั เรยี น แตละกลุม เสร็จแลวคัดเลือกผลงานท่ีมี คณุ ภาพติดปายนิเทศท่ีหนา ชั้นเรยี น ▲▲ การมีสว่ นรว่ มในกิจกรรมของครอบครัวและโรงเรยี น จะท�าให้ทกุ คนมีความสุข 69 ขอ สอบเนน การคดิ แนวทางการวัดและประเมินผล ขอใดไมจัดเปนการมีสวนรวมในกิจกรรมของโรงเรียน ครูศึกษาแนวทางการวัดและประเมินผลเพ่ือประเมินชิ้นงานของนักเรียน 1. ลงสมัครเลอื กตัง้ เปน ประธานนักเรียน จากใบประเมนิ ชิ้นงานทแี่ นบทายแผนการสอน 2. เขา แขง ขนั กฬี าสีทโ่ี รงเรียนจัดขึน้ 3. เขารวมประทวงครูประจาํ ชน้ั แบบประเมินการนาเสนอผลงาน แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ ç(วิเคราะหคําตอบ ขอ 3. กิจกรรมของโรงเรียนท่ีจัดขึ้นจะเปน คาช้แี จง : ให้ผูส้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ลงในชอ่ งท่ี คาชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ลงในช่องท่ี คำชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ลงในชอ่ งที่ กิจกรรมที่สรางสรรค มีประโยชน ไมใชกิจกรรมที่สรางความ ตรงกบั ระดับคะแนน ตรงกับระดับคะแนน ตรงกับระดับคะแนน เดือดรอ นใหก ับผูอ่นื เชน การเขา รวมประทวงครปู ระจาํ ชั้น) ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน คุณลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดับคะแนน 1 เนือ้ หาละเอยี ดชัดเจน 321 1 การแสดงความคิดเห็น 321 อันพงึ ประสงคด์ ้ำน 321 2 ความถกู ต้องของเน้ือหา 2 การยอมรับฟังความคิดเหน็ ของผู้อื่น 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ 3 ภาษาที่ใชเ้ ข้าใจงา่ ย 3 การทางานตามหน้าที่ทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย กษัตริย์ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมท่ีสร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ 4 ประโยชน์ที่ได้จากการนาเสนอ 4 ความมีนาใจ 5 วธิ ีการนาเสนอผลงาน 5 การตรงต่อเวลา 2. ซ่ือสตั ย์ สจุ ริต ต่อโรงเรียน 3. มวี นิ ัย รบั ผิดชอบ 1.3 เข้ารว่ มกิจกรรมทางศาสนาท่ตี นนับถือ ปฏิบัตติ ามหลกั ศาสนา รวม รวม 4. ใฝ่เรียนรู้ 1.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมทเี่ กี่ยวกับสถาบนั พระมหากษตั ริย์ตามทโ่ี รงเรียนจัดขนึ้ 2.1 ให้ข้อมลู ทถ่ี กู ต้อง และเป็นจรงิ ลงช่อื ...................................................ผ้ปู ระเมิน ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน 5. อยู่อยา่ งพอเพียง 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นส่ิงท่ีถูกตอ้ ง ............../.................../................ ............../.................../................ 3.1 ปฏบิ ัติตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บังคบั ของครอบครวั 6. มงุ่ ม่ันในการ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ทางาน มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ัติกจิ กรรมตา่ งๆ ในชีวิตประจาวนั ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบูรณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 4.1 รจู้ กั ใชเ้ วลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบ่อยครัง ให้ 1 คะแนน 7. รกั ความเป็นไทย 4.2 รจู้ ักจัดสรรเวลาให้เหมาะสม ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมินบางสว่ น ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤติกรรมบางครงั 8. มจี ติ สาธารณะ 4.3 เช่อื ฟงั คาส่งั สอนของบิดา-มารดา โดยไมโ่ ต้แยง้ 4.4 ตง้ั ใจเรยี น เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยดั ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและรคู้ ุณคา่ ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 5.3 ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยดั และมีการเกบ็ ออมเงนิ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 6.1 มคี วามตั้งใจและพยายามในการทางานท่ไี ด้รับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ ่ออปุ สรรคเพื่อให้งานสาเรจ็ 7.1 มจี ติ สานกึ ในการอนุรักษว์ ฒั นธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รู้จกั ช่วยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครูทางาน 8.2 รู้จักการดแู ล รักษาทรพั ย์สมบัติและสิง่ แวดล้อมของห้องเรียน โรงเรยี น 8 - 11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรับปรงุ ลงช่ือ...................................................ผ้ปู ระเมนิ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรุง ............../.................../................ เกณฑก์ ำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤตกิ รรมที่ปฏบิ ตั ิชัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมท่ีปฏิบตั ิชัดเจนและบอ่ ยคร้งั ให้ 1 คะแนน พฤตกิ รรมทีป่ ฏบิ ัตบิ างครงั้ ภูมิศาสตร์ ป.1 15 ภมู ิศาสตร์ ป.1 16 ภูมิศาสตร์ ป.1 18 T73
นํา นํา สอน สรปุ ประเมนิ ขนั้ นาํ ๓ ประโยชน์ของการปฏบิ ัตติ นเป็นสมาชกิ ท่ีดีของ ครอบครวั และโรงเรยี น ครูใหนักเรียนดูคลิปวิดีโอท่ีเก่ียวของกับการ เปนสมาชิกที่ดีของครอบครัวและโรงเรียน จาก การปฏบิ ัติตนเปน็ สมาชิกทดี่ มี ีประโยชน์ ดังน้ี https://www.youtube.com/watch?v=v7Ic_ ▲ ●▲▲ การช่วยกนั ทา� งาน ▲ ▲ท�าใหง้ านเสร็จเรว็ PjXAM4 และ https://www.youtube/watch?v ▲ ●▲▲ การช่วยกนั ประหยดั ▲ ▲ท�าใหล้ ดคา่ ใช้จา่ ย =owxekXVX1Zo แลวถามนักเรยี นวา การปฏบิ ตั ิ ▲ ●▲▲ การมรี ะเบียบวนิ ัย ▲ ▲ท�าใหเ้ กดิ ความสงบเรียบรอ้ ย ตนเปนสมาชิกท่ีดีของครอบครัวและโรงเรียนมี ▲ ●▲▲ การชว่ ยกันท�า ▲ ▲ทา� ใหบ้ า้ นและโรงเรียน ผลดีอยางไร แลวใหนักเรียนตอบตามความคิด ความสะอาด สะอาดนา่ อย่ ู ของตน ●▲▲ การมีน้�าใจต่อกนั ▲ ▲ทา� ให้เกิดความรู้สึกทด่ี ีต่อกัน ▲ ▲▲ ▲ ▲ ▲ ▲ชว่ ยลดความเดอื ดรอ้ นของผอู้ นื่ ขนั้ สอน ขอโทÉครบั สวสั ดคี รับ สวสั ดีค่ะ สควณุัสดคคีระู่ สงั เกต ไมเ่ ปน็ ไรครบั 1. ครใู หน กั เรยี นชว ยกนั ยกตวั อยา งการมสี ว นรว ม ในกจิ กรรมของครอบครวั และโรงเรยี น แลว ครู ▲▲ การปฏบิ ัติตนเปน็ สมาชิกทดี่ ขี องโรงเรียน ท�าให้อยรู่ ่วมกนั ในโรงเรยี นอย่างมีความสุข บันทึกบนกระดาน เชน ชว ยทาํ งานบาน ชวย ทําความสะอาดหองเรียน ชวยสอนการบาน 70 นอง 2. ครูใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยว กับกจิ กรรมตางๆ ของครอบครวั และโรงเรียน ที่นักเรียนชวยกันยกตัวอยางวา ทําใหเกิด ประโยชนตอ ใคร อยางไรบา ง (ตวั อยา งเชน การชว ยพอ แมท าํ งานบา น ทาํ ให บา นสะอาดนา อยู เปน การชว ยแบง เบาภาระให กับพอแม และทาํ ใหพ อ แมป ลืม้ ใจ) วเิ คราะหว จิ ารณ 3. ครใู หน กั เรยี นกลมุ เดมิ จบั คกู นั แลว ใหน กั เรยี น แตละคูรวมกันศึกษาความรูเรื่อง ประโยชน ของการปฏบิ ตั ติ นเปน สมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครวั และโรงเรยี น จากหนังสอื เรยี น หนา 70 4. สมาชกิ แตล ะคใู นกลมุ ผลดั กนั อภปิ รายความรู และประเด็นสําคัญท่ีไดจากการศึกษา เชน การปฏิบัติตนเปนสมาชิกที่ดีของครอบครัว และโรงเรียนมีประโยชนอยางไร แลวผลัดกัน ซกั ถามจนมคี วามเขาใจชัดเจน เกร็ดแนะครู กิจกรรม ทา ทาย ครูใหนักเรียนสังเกตการปฏิบัติตนของสมาชิกในบานและโรงเรียนวา ครูใหนักเรียนจัดทําสมุดบันทึกหนูเปนเด็กดี โดยประดิษฐ ใครปฏิบัติตนเปนสมาชิกที่ดีของครอบครัวและโรงเรียนอยางไรบาง และ จากเศษกระดาษหรือสมุดที่ไมไดใชแลว จากน้ันใหนักเรียน การปฏบิ ัตินั้นมีผลดีอยา งไรบา ง แลว ออกมาเลา ท่ีหนาชนั้ บันทึกการเปนสมาชิกที่ดีของครอบครัวและโรงเรียนท่ีตนเองได ทําในแตละวัน แลว ใหผ ปู กครองเซน็ ชอ่ื รับรอง เม่ือครบ 1 เดือน ครูใหนักเรียนนําสมุดบันทึกมาแสดง แลวบอกความรูสึกท่ีไดจากการเปนสมาชิกท่ีดี จากนั้นครูและ เพอ่ื นกลา วชมเชย เพอ่ื ใหน กั เรยี นเกดิ ความภมู ใิ จในการทาํ ความดี T74
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ ขนั้ สอน (ตอ) ๑. เขยี นเลา่ ประสบการณก์ ารมีสว่ นร่วมในกิจกรรมของครอบครวั วเิ คราะหวิจารณ และโรงเรียนของตนเอง แลว้ นา� เสนอผลงานหนา้ ชนั้ ๒. ยกตวั อย่างเพื่อนในชัน้ เรียนทมี่ ีคุณธรรม คือ มรี ะเบียบวนิ ัย 5. ครูใหนักเรียนแตละกลุมรวมกันวิเคราะห มีน้า� ใจต่อผ้อู ืน่ และกล่าวช่นื ชมเพ่อื นตามความรู้สกึ ของตนเอง เก่ียวกับการปฏิบัติตนเปนสมาชิกที่ดีของ ๓. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั บอกประโยชนข์ องการปฏบิ ตั ติ นเปน็ สมาชกิ ครอบครวั และโรงเรียนวา ทาํ ใหเ กิดประโยชน ทีด่ ขี องครอบครัวและโรงเรียน อยา งไรบา ง ตวั อยาง กจิ กรรมรวบยอด - การชว ยกนั ทํางาน ทาํ ใหง านเสร็จเร็ว - การมีระเบียบวินัย ทําใหเกิดความสงบ ๑. วาดภาพการปฏิบัติตนดตี ่อครอบครัวและโรงเรยี น และเขียน เรยี บรอ ย บรรยายใต้ภาพ จากนน้ั นา� เสนอผลงานหนา้ ช้นั ๒. บันทกึ ผลการปฏบิ ตั ติ นเป็นสมาชกิ ท่ีดขี องครอบครัว 6. สมาชกิ แตล ะกลมุ รว มกนั ทาํ ใบงานที่ 2.3 เรอ่ื ง และโรงเรยี น เปน็ เวลา ๑ สัปดาห์ แล้วใหผ้ ้ปู กครองและครู ประโยชนข องการปฏบิ ตั ติ นเปน สมาชกิ ทด่ี ขี อง ลงช่ือรับทราบ ครอบครัวและโรงเรียน เสร็จแลวตรวจสอบ ๓. ดภู าพ และร่วมกนั วเิ คราะห์ประโยชน์ของการปฏบิ ัติตนเป็น ความถกู ตอง สมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครวั และโรงเรยี น แลว้ นา� เสนอผลงานหนา้ ชนั้ 7. ครแู ละนกั เรยี นชวยกนั เฉลยคําตอบใน ใบงานท่ี 2.3 ขนั้ สรปุ สรุป 1. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปความรูเรื่อง ประโยชนของการปฏิบัติตนเปนสมาชิกที่ดี ของครอบครวั และโรงเรียน 2. นกั เรียนบันทึกความรูล งในสมุด 3. นักเรียนทํากิจกรรมรวบยอดในหนังสือเรียน หนา 71 ขนั้ ประเมนิ 1. ครูประเมินใบงานและการตอบคําถามของ นกั เรยี น 2. ครูตรวจสอบการทาํ กิจกรรมรวบยอด 71 ขอสอบเนน การคดิ แนวทางการวัดและประเมินผล การปฏิบัติตนเปนสมาชิกท่ีดีของครอบครัวและโรงเรียนมีผลดี ครูศึกษาแนวทางการวัดและประเมินผลเพื่อประเมินช้ินงานของนักเรียน อยา งไร จากใบประเมนิ ชิน้ งานท่ีแนบทายแผนการสอน 1. ทาํ ใหค รอบครัวและโรงเรียนมีความสงบสุข แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 2. ทาํ ใหครอบครวั และโรงเรียนมชี ือ่ เสียงโดงดัง 3. ทําใหค รอบครัวและโรงเรยี นไดรบั รางวัลดีเดน คาชี้แจง : ให้ผสู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในชอ่ งท่ี คาช้แี จง : ใหผ้ สู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ลงในช่องท่ี คำชี้แจง : ใหผ้ ูส้ อนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ลงในชอ่ งที่ ç(วิเคราะหคาํ ตอบ ขอ 1. ทาํ ใหสมาชกิ ในครอบครวั และโรงเรยี น ตรงกับระดับคะแนน ตรงกับระดบั คะแนน ตรงกบั ระดบั คะแนน มีความรักใครสามัคคีกัน ไมขัดแยงกัน และอยูรวมกันอยางมี ความสขุ ) ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ลาดบั ที่ รายการประเมนิ ระดับคะแนน คณุ ลักษณะ รำยกำรประเมนิ ระดบั คะแนน 1 เนอื้ หาละเอียดชัดเจน 321 1 การแสดงความคิดเห็น 321 อันพงึ ประสงคด์ ำ้ น 321 2 ความถกู ต้องของเน้อื หา 2 การยอมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อ่นื 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ 3 ภาษาทใ่ี ช้เข้าใจง่าย 3 การทางานตามหน้าท่ที ี่ไดร้ บั มอบหมาย กษัตริย์ 1.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมท่สี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ 4 ประโยชน์ท่ไี ด้จากการนาเสนอ 4 ความมีนาใจ 5 วิธีการนาเสนอผลงาน 5 การตรงตอ่ เวลา 2. ซือ่ สัตย์ สุจริต ตอ่ โรงเรียน 3. มีวินัย รบั ผดิ ชอบ 1.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ตี นนบั ถอื ปฏิบัติตามหลักศาสนา รวม รวม 4. ใฝ่เรยี นรู้ 1.4 เข้ารว่ มกจิ กรรมท่ีเกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริยต์ ามท่โี รงเรียนจัดขึ้น 2.1 ใหข้ ้อมูลทถี่ ูกต้อง และเป็นจริง ลงชอื่ ...................................................ผปู้ ระเมนิ ลงชอ่ื ...................................................ผู้ประเมิน 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 2.2 ปฏบิ ตั ิในสิ่งท่ถี กู ต้อง ............../.................../................ ............../.................../................ 3.1 ปฏบิ ตั ติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ขอ้ บงั คับของครอบครวั 6. ม่งุ มนั่ ในการ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ทางาน มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบตั กิ ิจกรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวัน ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบรู ณ์ชดั เจน ให้ 2 คะแนน ปฏิบัตหิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 4.1 รูจ้ ักใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้ ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมินเป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบอ่ ยครงั ให้ 1 คะแนน 7. รักความเปน็ ไทย 4.2 รจู้ กั จัดสรรเวลาให้เหมาะสม ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางสว่ น ปฏิบัติหรือแสดงพฤตกิ รรมบางครงั 8. มีจติ สาธารณะ 4.3 เชื่อฟังคาสง่ั สอนของบดิ า-มารดา โดยไมโ่ ตแ้ ย้ง 4.4 ตง้ั ใจเรยี น เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ 5.1 ใช้ทรพั ย์สนิ และส่ิงของของโรงเรียนอยา่ งประหยดั ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 5.2 ใช้อปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและรูค้ ณุ คา่ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 12 - 15 ดี 5.3 ใชจ้ ่ายอย่างประหยัดและมีการเก็บออมเงิน 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 6.1 มีความต้งั ใจและพยายามในการทางานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ทอ้ แทต้ ่ออุปสรรคเพ่ือให้งานสาเร็จ 7.1 มจี ิตสานึกในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย 7.2 เหน็ คุณค่าและปฏบิ ตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ชว่ ยพ่อแม่ ผ้ปู กครอง และครทู างาน 8.2 รู้จักการดูแล รกั ษาทรพั ยส์ มบตั แิ ละสง่ิ แวดล้อมของห้องเรียน โรงเรียน 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรงุ ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรงุ ............../.................../................ เกณฑ์กำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤตกิ รรมท่ปี ฏิบัติชัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ัติชัดเจนและบอ่ ยคร้ัง ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏบิ ตั ิบางครง้ั ภูมิศาสตร์ ป.1 15 ภมู ศิ าสตร์ ป.1 16 ภูมศิ าสตร์ ป.1 18 T75
นาํ นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ขน้ั นาํ óº··Õè ¡Ò÷Òí ¤ÇÒÁ´Õ กิจกรรมนาํ สูการเรียน 1. ครทู กั ทายนกั เรยี นและถามนกั เรยี นวา ใครเคย ปอและป›นเกบ็ สร้อยทองได้ ทาํ ความดอี ะไรบา ง จากนนั้ ใหน กั เรยี นผลดั กนั และส่งคืนใหก้ ับเจา้ ของ ออกมาเลาใหเพ่อื นๆ ฟง ครขู อใหเ้ ราปรบมือให้กบั คนดี เพอื่ นของเราดว้ ยคะ่ 2. ใหนักเรียนดูภาพ จากหนังสือเรียน หนา 72 แลวชวยกนั บอกวา เพือ่ น ๆ คดิ วา • เดก็ ในภาพนี้ทําความดีหรือไม เพราะอะไร การกระทําของปอและปน (แนวตอบ : เดก็ ในภาพนที้ าํ ความดี เพราะ เปนแบบอยางทด่ี ีหรอื ไม การนําส่ิงของท่ีเก็บไดสงคืนเจาของ ถือ เปนการชวยเหลือผูอ่ืนใหหายทุกขใจได เพราะอะไร เพราะผูที่ทําของหลนหายมักจะมีความ ทุกขใจ ย่ิงถาของที่หลนหายมีมูลคามาก แนวคิดสําคญั กย็ ่ิงทําใหม คี วามทกุ ขใจมากไปดวย) • ถานักเรียนพบกระเปาสตางคของคนอ่ืน ¡Ò÷íÒ¤ÇÒÁ´Õ ໚¹ÊèÔ§·èÕàÃÒ¤Ç÷íÒ à¾ÃÒмŢͧ ตกอยู นกั เรยี นควรทาํ อยา งไร ¡Ò÷Òí ¤ÇÒÁ´·Õ íÒãËŒàÃÒÁ¤Õ ÇÒÁ梯 áÅзíÒãËÊŒ §Ñ ¤ÁʧºÊØ¢ (แนวตอบ : ควรเกบ็ เอาไปใหคณุ ครปู ระกาศ หาเจา ของ เพ่ือสง คืนใหกบั เจา ของตอไป) 72 ขน้ั สอน กระตนุ ความสนใจ 1. ครถู ามคําถามใหนกั เรยี นชวยกันตอบ เชน • การทําความดจี ะทําใหเกิดผลอยา งไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ทําใหเกิดความสงบสุขในการอยูรวมกัน ทาํ ใหเ กิดความรักใครสามัคคกี ัน) เกร็ดแนะครู ครูจัดกระบวนการเรียนรโู ดยการใหน กั เรียนปฏบิ ัติ ดงั นี้ • สืบคนขอมูลเก่ียวกบั การทําความดแี ละผลของการทาํ ความดี • อภปิ รายเกยี่ วกับการทําความดีและผลของการทาํ ความดี • วเิ คราะหจ ากประเดน็ คาํ ถามและภาพเกย่ี วกับการทาํ ความดีและผลของการทําความดี จนเกดิ เปน ความรคู วามเขาใจวา การทาํ ความดเี ปนสิง่ ที่ควรทาํ เพราะจะทาํ ใหเ ราเกดิ ความภาคภมู ใิ จและมีความสุข เพราะการทาํ ความดเี ปนการทาํ สงิ่ ที่ไมท ําใหต ัวเราและผอู น่ื เดือดรอน ซงึ่ มสี ว นชวยใหสงั คมเกิดความสงบสขุ T76
นาํ สอน สรปุ ประเมนิ ๑ ลกั ษณะความสามารถและความดขี องบุคคล ขนั้ สอน (ตอ) ลักษณะความสามารถของบุคคล กระตุนความสนใจ คนเราทุกคนมีความสามารถแตกต่างกันไป เช่น บางคน เรลอ้ น่ งกเพฬี ลา1งเกไพง่ เเรปาน็ะ ตบน้ า งคควนามเรสยี านมเากร่งถ เบหาลงา่ คนนเี้ วปาน็ ดสรงิ่ ปู ทสเ่ี วรายฝ กึบฝางนคไนด้ 2. ครูใหนักเรียนดูภาพความสามารถของบุคคล ทั้งจากเพื่อน คุณครู และพอ่ แม่ เชน เด็กเลนกีฬา เด็กวาดรูป เด็กเลนดนตรี เปน ตน ตัวอยา งภาพ ▲▲ เด็กบางคนเลน่ กีฬาเก่ง ▲▲ เด็กบางคนวาดรปู สวย ▲▲ เด็กบางคนเล่นดนตรเี กง่ แลวใหนักเรียนรวมกันวิเคราะหแสดงความ คดิ เหน็ เกยี่ วกบั ความสามารถของแตล ะบคุ คล ลักษณะความดขี องบคุ คล เชน นอกจากความสามารถแล้ว แต่ละคนยังมีความดีแตกต่าง - เดก็ แตล ะคนมคี วามสามารถเหมอื นกนั หรอื กันไป เช่น ๑) ความมีระเบียบวินัย หมายถึง การท�าตามข้อตกลง ตางกัน กติกา กฎระเบียบ เช่น แต่งกายเรียบร้อย เข้าแถวเคารพ - ความสามารถของเด็กแตล ะคนเกิดข้ึนได ธงชาติตรงเวลา ไม่คุยหรือเล่นกันในเวลาเรียน ซ่ึงมีผลท�าให้ เพราะเหตใุ ด เปน็ ระเบยี บเรยี บร้อย สวยงาม ทุกคนมคี วามสุข 3. ครใู หน กั เรยี นชว ยกนั ยกตวั อยา งความสามารถ ของนกั เรยี น จากนนั้ ครเู ขยี นบนั ทกึ บนกระดาน ถา้ เราเข้าแถวซอื้ อาหาร 73 4. ครูสอบถามนักเรียนวา เพื่อนๆ ของนักเรียน แลว้ มคี นมาแทรกแถว มีความสามารถเหมือนกัน หรือแตกตางกัน เราควรทา� อย่างไรดีนะ เพราะเหตุใดจึงเปนเชน น้ี โดยใหน กั เรยี นตอบ ตามความเหน็ ของตน 5. ครูอธิบายเช่ือมโยงใหนักเรียนเขาใจวา คน เราทุกคนมีความสามารถแตกตางกันออกไป ซึ่งความสามารถเปนสิ่งที่เราฝกฝนได เชน การเรยี นเกง ถา เราตง้ั ใจเรยี น หมนั่ ฝก ฝนตงั้ ใจ เรยี นอยูเ สมอ กจ็ ะทาํ ใหเ ราเรยี นเกง ขน้ึ ได ขาอผสูภอบเนน การคดิ นักเรียนควรรู บุคค1.ลใจดุมตมอนี ไ้ําปในจ้ีจชดัว ยอเยหใู ลนือลมเสกั พะษอ่ืาณมนหๆะเขมอาตงดผาูทนีม่ ขคีมว�พิ าเอมรื สหาดมลารถ 1 กีฬา ภาษาองั กฤษเขยี นวา sport เปน กจิ กรรมหรอื เปนการใชทกั ษะทาง 2. จอ ยวาดภาพไดส วยงามมาก กายภาพเพื่อการแขงขนั โดยมีกตกิ าเปนตวั กํากับ โดยมีจุดมุงหมาย 3. จว๋ิ พดู จาไพเราะและมเี หตผุ ลตลอด เพ่อื การพักผอ น เพอื่ ความเพลิดเพลิน เพื่อการพัฒนาของทักษะ เพ่อื การแขง ขนั (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 2. การมนี า้ํ ใจชว ยเหลอื ผอู นื่ และการพดู จา หรือหลายสง่ิ รวมกัน ชนิดของกฬี าอาจแบงออกไดเปน 4 กลมุ หลักๆ คอื ไพเราะมีเหตุผลเปนลักษณะของความดี สวนการวาดภาพสวย 1. ประเภทการแขง ขันความเรว็ เชน วง่ิ วายนาํ้ พายเรอื เปนลักษณะของความสามารถ ซึ่งอาจเกิดจากทักษะหรือ 2. ประเภทการแขงขนั เปนคแู ขง ขัน เชน มวย เทนนสิ วอลเลยบอล การฝก ฝน) 3. ประเภทการบรรลุผล เชน ยงิ ปน ยงิ ธนู ยมิ นาสตกิ 4. ประเภทอืน่ ๆ เชน กระบ่-ี กระบอง เพนตบอล T77
นํา สอน สรุป ประเมิน ขนั้ สอน ๒) ความกตัญญูกตเวที หมายถึง การรู้จักบุญคุณผู้อ่ืน และตอบแทนพระคณุ ของทา่ น ผทู้ มี่ บี ญุ คณุ ตอ่ เรา เชน่ พอ่ แม ่ สาํ รวจคน หา คร ู ญาตผิ ใู้ หญ่ เพ่ือน เป็นต้น ▲ ▲ ●▲ ตอบแทนบญุ คณุ พอ่ แม ่ เชน่ ชว่ ยดแู ลเมอ่ื ทา่ นเจบ็ ปว่ ย 6. ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุมละ 8 คน ช่วยทา� งานบ้านเพอื่ เป็นการแบง่ เบาภาระของท่าน คละกันตามความสามารถ คอื เกง ปานกลาง ▲ ▲ ●▲ ตอบแทนบุญคุณ คอ นขา งเกง ปานกลางคอนขางออ น และออน ของคร ู เช่น ช่วยครูถือของ ช่วยท�าความสะอาดโต๊ะให้ครู 7. นกั เรยี นแตล ะกลมุ จบั คกู นั เปน 4 คู ใหแ ตล ะคู เม่ือพบครูต้องยกมือไหว้ ชว ยกนั ศกึ ษาความรเู รอื่ ง ลกั ษณะความสามารถ ●▲ ตอบแทนบุญคุณ และความดขี องบุคคล จากหนงั สอื เรียน หนา ญาติผู้ใหญ่หรือเพื่อน เช่น 73-77 ตามประเดน็ ที่กําหนด ดังนี้ ชว่ ยญาตผิ ใู้ หญถ่ อื สง่ิ ของ ชว่ ย ▲▲ เด็กดตี อ้ งรู้จกั บญุ คุณของครู •คูท่ี 1 ศกึ ษาเร่ือง ความมรี ะเบยี บวนิ ยั นวดให้ท่าน หรือช่วยเพื่อนยกของท่ีหนัก ช่วยเพื่อนท�าความ และความกตญั ูกตเวที สะอาดหอ้ งเรยี น ช่วยสอนการบา้ นใหเ้ พอ่ื น เปน็ ต้น - คูที่ 2 ศกึ ษาเร่ือง ความรับผิดชอบ ผลจากการมีความกตัญญูกตเวที ท�าให้ตนเองมีความ - คูที่ 3 ศึกษาเร่ือง ความขยัน และความ สุขใจที่ได้ดูแลช่วยเหลือตอบแทนผู้มีพระคุณ และผู้ท่ีได้รับ เออื้ เฟอเผือ่ แผผูอน่ื และชวยเหลือผูอน่ื การตอบแทนบุญคุณกม็ คี วามสขุ - คทู ่ี 4 ศกึ ษาเร่อื ง ความซื่อสตั ย และความ เมตตากรณุ า กิจกรรมพฒั นาการเรียนรู้ที่ ๑ อธบิ ายความรู ๑. ใหน้ กั เรียนบอกผลดขี องความมรี ะเบยี บวนิ ัยมาพอเขา้ ใจ ๒. ยกตวั อย่างความกตญั ญกู ตเวทีทีต่ นเคยปฏิบตั ิ และบอกผลด ี 8. นักเรียนแตละคูนําความรูที่ไดจากการศึกษา ทเ่ี กดิ ข้ึนกับตนเองให้เพ่อื น ๆ ฟัง มาผลัดกนั อธิบายความรู พรอมทง้ั ซักถามจน มีความเขาใจตรงกัน 74 9. สมาชิกในแตละกลุมรวมกันสรุปความรูเร่ือง ลกั ษณะความสามารถและความดีของบุคคล เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคิด ครูเนนยํ้าใหนักเรียนมีความกตัญูกตเวทีตอพอแมและผูมีพระคุณ รูจัก นักเรียนมีความคิดเห็นอยางไรกับคําพูดท่ีวา ความกตัญู ทําความดตี อบแทนทาน เชน เชอื่ ฟงพอ แม ญาติผูใหญ ชวยพอ แมท าํ งานบา น กตเวทีเปนเคร่ืองหมายของคนดี เพอ่ื แบง เบาภาระใหก บั ทา นเทา ทที่ าํ ได เมอ่ื พบญาตผิ ใู หญห รอื คณุ ครกู ย็ กมอื ไหว ดวยความนอบนอม 1. เหน็ ดว ย เพราะคนดมี กั มีความกตญั กู ตเวที 2. เหน็ ดว ย เพราะคนทมี่ คี วามกตญั กู ตเวที จะไมท าํ ความชวั่ 3. ไมเ หน็ ดวย เพราะความกตญั กู ตเวทีไมเ กย่ี วขอ งกับ ความดี (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 1. คนทม่ี คี วามกตญั กู ตเวที จะเปน คนทรี่ จู กั บญุ คณุ ผอู น่ื และตอบแทนบญุ คณุ ของผอู น่ื เมอื่ มโี อกาส ซงึ่ คนทมี่ ลี กั ษณะ อยางนถี้ อื วา เปน คนดที ค่ี วรยกยอ ง) T78
นํา สอน สรุป ประเมนิ ๓) ความรับผิดชอบ หมายถงึ การทา� งานตามหน้าท่ีของ ขนั้ สอน (ตอ) ตนให้สมบูรณ์ หรือท�างานท่ีตนเองได้รับมอบหมายด้วยความ ตั้งใจ และท�าให้เสรจ็ ตามเวลาท่ีกา� หนดให ้ เชน่ อธิบายความรู ● เราเปน็ ลกู มีหนา้ ท่ีเชื่อฟงั ค�าสั่งสอนของพ่อและแม่ เราตอ้ งเชอ่ื ฟังค�าสัง่ สอนของทา่ น เพราะท่านจะสอนให้เราเป็น 10. นักเรียนรวมกันตอบคําถามกระตุนความคิด คนดีเสมอ เชน ● เมื่อพ่อและแม่ได้ • นกั เรยี นมคี วามเมตตากรณุ าในเรอื่ งใดบา ง มอบหมายให้เราท�างานอะไร จงอธบิ าย ก็ตาม เช่น ถูบ้าน ล้างจาน (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น เราตอ้ งตงั้ ใจทา� ดว้ ยความเตม็ ใจ โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ● เรายังเป็นนักเรียน ▲▲ ผูม้ คี วามรับผดิ ชอบจะท�างานด้วยความตัง้ ใจ เมตตาตอสัตวโดยการใหอาหารสัตว ไม มหี นา้ ท่ีในการเรยี นหนงั สอื ต้องตงั้ ใจเรยี น เพือ่ ใหเ้ รามคี วามร ู้ รังแกสัตว เมตตาตอเพื่อนโดยชวยอธิบาย อ่านออก เขยี นได้ และน�าความรู้ไปใชใ้ นชีวติ ประจ�าวัน การบา นใหเพื่อนเขาใจจนทําได) ● เม่ือคุณครูมอบหมายให้เราท�าการบ้าน เราต้องมี • ถานักเรียนไมมีความรับผิดชอบ จะสงผล ความรบั ผิดชอบ ท�าการบา้ นใหเ้ สรจ็ ทันสง่ ตามกา� หนดเวลา อยางไร นอกจากน ี้ การยอมรบั ผดิ เชน่ เราเผลอทา� หนงั สอื ขาด (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น หรือท�าส่ิงของหล่นแตก แล้วยอมรับผิดว่า ตนเองเป็นคนท�า โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน แลว้ ชดใชข้ องทเ่ี สยี หายคนื กถ็ อื วา่ เปน็ ความรบั ผดิ ชอบเชน่ กนั ทําใหงานท่ีไดรับมอบหมายทําไมเสร็จ ความรับผิดชอบเป็นคุณธรรมที่เราต้องปฏิบัติเป็น และอาจถกู ทาํ โทษหรือถูกตําหน)ิ ประจ�าและปฏิบตั ดิ ว้ ยความต้ังใจ เพราะจะทา� ให้เรา ครอบครัว • ถา นกั เรยี นมคี วามเออื้ เฟอ เผอื่ แผผ อู นื่ จะสง ของเรา และสงั คมของเรามคี วามสุข ผลดีอยา งไร จงอธิบาย (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น 75 โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ทําใหเ ปนท่รี กั ของทุกคน) • การปฏิบัติตัวเปนคนดีมีประโยชนตอตัว นกั เรยี นอยางไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ทําใหคนอ่ืนยอมรับและเห็นคุณคาของเรา และทาํ ใหคนรอบขา งรักใคร) ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู การปฏบิ ตั ติ นอยางไรทคี่ วรไดรบั คาํ ชมจากผอู ืน่ ครูหานิทานหรือขาวที่แสดงถึงคุณธรรมความรับผิดชอบมาเลาใหนักเรียน 1. ชว ยพอแมทาํ งานบาน ฟง แลว ใหน กั เรยี นรว มกนั บอกผลดขี องการมคี วามรบั ผดิ ชอบของบคุ คลในนทิ าน 2. นําสนุ ัขท่เี ล้ียงไวไ ปปลอ ยทว่ี ดั หรอื ขาว เพ่ือใหนกั เรียนเห็นความสําคัญของการมีความรบั ผดิ ชอบ 3. ขอใหน องชวยทํางานบา นแทน (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 1. ผทู ค่ี วรไดร บั คาํ ชมคอื ผทู ป่ี ระพฤตปิ ฏบิ ตั ิ ดีตามบทบาทหนาท่ีของตน เชน เราเปนลูกควรรูจักชวยพอแม ทาํ งานบาน เพือ่ แบง เบาภาระของทา น ไมส รา งภาระใหก บั ทา น) T79
นํา สอน สรปุ ประเมิน ขนั้ สอน ๔) ความขยัน หมายถึง ความต้ังใจท�างานอย่างต่อเนื่อง อดทนอดกลนั้ ไมย่ อ่ ทอ้ ไมย่ อมแพต้ อ่ ความยากลา� บาก เพอื่ ให้ ขยายความเขา ใจ งานเสร็จ คนทม่ี ีความขยัน อดทนอดกลัน้ ตอ่ ความยากลา� บาก จะท�าให้ประสบกับความส�าเร็จในหน้าท่ีการงานและมีความสุข 11. นักเรียนแตละกลุมนําความรูที่ไดจากการ เราสามารถขยันท�าสง่ิ ต่าง ๆ ได้หลายอยา่ ง เช่น ขยันท�างาน ศึกษามาเปนพ้ืนฐานในการทําใบงานที่ 3.1 ขยนั เรียนหนงั สือ ขยนั อา่ นหนงั สือ เปน็ ตน้ เร่ือง ความดี ๕) ความเอือ้ เฟอื้ เผือ่ แผ่ผ้อู น่ื และช่วยเหลอื ผอู้ นื่ หมายถงึ การแบง่ ปนั เงิน ส่งิ ของ แรงกาย เพอื่ ช่วยเหลือผู้อน่ื 12. นกั เรยี นตอบคาํ ถามกระตุนความคิด การมีความเอ้ือเฟื้อเผ่ือแผ่และช่วยเหลือซ่ึงกันและกัน • นักเรียนมีแนวทางการในการทําความดี จะช่วยให้ทุกคนอยู่ร่วมกันอย่างมีความสุข เช่น ให้เพื่อนยืม อยา งไร ดินสอ ยางลบ ช่วยครูถือของ บริจาคเงินหรือส่ิงของช่วยคน (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น ทุกขย์ าก ใหห้ นงั สือเรียน เส้อื ผ้านกั เรยี นกับรุ่นนอ้ ง แบง่ ขนม โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน ใหเ้ พ่อื นรบั ประทาน ชว่ ยเพือ่ นทา� ความสะอาดห้องเรยี น ช่วย ตอ งมรี ะเบยี บวนิ ยั ในตนเอง มคี วามกตญั -ู เกบ็ กวาดใบไม้ในบริเวณวดั ช่วยปลูกตน้ ไม ้ ช่วยปลูกปา่ เปน็ ต้น กตเวทีตอผูมีพระคุณ มีความรับผิดชอบ ตอหนาท่ี มีความขยันในการเรียน มี ความเอ้ือเฟอเผื่อแผและชวยเหลือผูอ่ืน มีความซ่ือสัตยไมคดโกง มีความเมตตา กรุณา และรจู ักใหอภัย) ตรวจสอบผล 13. นักเรียนแตละกลุมนําความรูท่ีไดจากการ ศึกษามาเปนพ้ืนฐานในการทําใบงานท่ี 3.1 เรือ่ ง ความดี เมอ่ื ทาํ เสรจ็ แลว นักเรยี นแตละ กลมุ รว มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ งของใบงาน 14. ครใู หน กั เรยี นทาํ แบบฝก ปฏบิ ตั ทิ กั ษะรวบยอด เรื่อง การทําความดีในครอบครัว และเรื่อง การทําความดใี นโรงเรียน จากแบบฝกปฏบิ ตั ิ ทักษะรวบยอด สงั คมศึกษาฯ หนา 13, 15 ▲▲ การอ่านหนังสอื ทา� ใหม้ คี วามรู้ ▲▲ การแบง่ ปันความรู้ ท�าใหเ้ รามคี วามสุข 76 เกร็ดแนะครู ขอ สอบเนน การคดิ ครูเขียนเนื้อเพลงความซ่ือสัตยบนกระดาน แลวนํานักเรียนรอง 2-3 รอบ ใครปฏบิ ตั ติ นในการแสดงความเอื้อเฟอเผอื่ แผไ ดอ ยางเหมาะสม กอนนาํ เขา สขู ้ันตอนการอธบิ ายความรเู รือ่ ง ความซอื่ สัตย 1. แนนใหเพื่อนยมื ดินสอสี เพราะเพือ่ นลมื นาํ มา 2. ปอ มใหเพอ่ื นลอกขอสอบเพราะเพื่อนทําไมได เพลงความซอ่ื สตั ย 3. กิง่ แบงขนมท่ตี กพนื้ ใหเ พอื่ น เพราะเพ่อื นไมมีเงนิ ซอ้ื ขนม ความซือ่ สัตยเ ปนสมบตั ิของคนดี หากวาใครไมมชี าตนิ ีเ้ อาดไี มได มีความรูท ว มหัวเอาตวั ไมร อดถมไป คดโกงแลว ใครจะรบั ไวเ ขา รว มการงาน (วิเคราะหคําตอบ ขอ 1. เพราะการเอ้ือเฟอเผื่อแผตองเปนการ กระทาํ ทีเ่ หมาะสม ไมเ กิดโทษทั้งตอผูใ หและผรู ับ ซงึ่ การใหเพ่อื น กรมพลศกึ ษา ลอกขอสอบ ทําใหเพ่ือนไมมีความรู และการนําขนมที่ตกพ้ืนให เพอ่ื น ทําใหเ พื่อนเจบ็ ปว ย) T80
นํา สอน สรปุ ประเมิน ๖) ความซือ่ สตั ย์ หมายถงึ การพดู และการท�าตามความ ขนั้ สรปุ เป็นจริง ไม่เอาของของคนอ่ืนมาเป็นของตน ถ้าคนในสังคม มคี วามซอื่ สัตย์ สังคมของเราก็จะมีแตค่ วามสขุ 1. ครแู ละนักเรียนรวมกันสรปุ ความรเู ร่ือง การเป็นคนซอ่ื สตั ย์ เชน่ เมอื่ ทา� ของแตกไมพ่ ดู ปฏเิ สธ ลักษณะความสามารถและความดีของบุคคล วา่ ตนไมไ่ ดท้ า� แตก เพราะกลวั ถูกตี ถา้ พอ่ แม่รภู้ ายหลงั จะถูกตี มากกว่า เมื่ออยากเลน่ เกมของเพ่อื นก็ขอเพื่อนเล่น ไมเ่ อามา 2. นักเรียนบนั ทึกความรลู งในสมดุ เปน็ ของตน เมอ่ื แมค่ า้ ทอนเงนิ เกนิ กน็ า� เงนิ ไปคนื แมค่ า้ ไมล่ อก ขอ้ สอบหรอื การบา้ นเพ่อื น ตอ้ งพยายามท�าดว้ ยตนเอง รกั ษา ขนั้ ประเมนิ คา� พูด เช่น บอกวา่ จะส่งงานวนั ไหน ตอ้ งรีบทา� ใหเ้ สร็จและสง่ 1. ครตู รวจสอบความเขา ใจของนกั เรยี นผา นการ สังเกตการตอบคําถาม การอธิบายความรูให เพอื่ นๆ ฟง 2. ครปู ระเมนิ ผลการทาํ ใบงานที่ 3.1 ของนกั เรยี น แตล ะกลมุ 3. ครูตรวจแบบฝก ปฏบิ ัตทิ ักษะรวบยอด 4. ครูและนักเรียนชวยกันคัดเลือกผลงานท่ีมี คุณภาพติดปา ยนิเทศที่หนา ชนั้ เรียน มฉิ ะนนั้ คนจะไม่เชอื่ คา� พดู ของเรา ผมขอท�าการบา้ นส่งคณุ ครูพร่งุ นี้ ถงÖ เวลาเข้านอน ใหเ้ สร็จก่อนนะครบั อกี นิดเดียว แลว้ นะจ๊ะ ▲▲ คนเราตอ้ งมคี วามซ่อื สัตย์และจรงิ ใจต่อตนเองและผู้อ่นื อยเู่ สมอ ๗) ความเมตตากรณุ า เปน็ การชว่ ยเหลอื ผอู้ น่ื ที่ไดร้ บั ความ เดือดร้อน อยากเห็นผู้อ่ืนมีความสุข เราสามารถแสดงความ เมตตากรณุ าไดห้ ลายวธิ ี เชน่ ใหอ้ าหารสตั ว ์ บรจิ าคสงิ่ ของใหก้ บั คนยากไร้หรือผู้ประสบภัยต่าง ๆ เป็นต้น คนที่มีความเมตตา กรุณาจะท�าใหส้ ังคมมคี วามสขุ 77 ขอ สอบเนน การคดิ แนวทางการวัดและประเมินผล ขอใดไมใชผ ลของการทําความดี ครูศึกษาแนวทางการวัดและประเมินผลเพ่ือประเมินชิ้นงานของนักเรียน 1. ผคู นยกยอง จากใบประเมนิ ช้นิ งานทีแ่ นบทา ยแผนการสอน 2. เกิดความภาคภมู ใิ จ 3. เพ่อื นๆ พากนั อิจฉารษิ ยา แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบคุ คล แบบประเมินคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ (วเิ คราะหคาํ ตอบ ขอ 3. ผทู ที่ ําความดีมกั จะมผี ูคนยกยองช่ืนชม คาชแ้ี จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ลงในชอ่ งท่ี คาชแ้ี จง : ใหผ้ ูส้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ลงในชอ่ งท่ี คำชแ้ี จง : ใหผ้ ้สู อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ลงในช่องท่ี เปน ทร่ี ักใครข องผอู น่ื จงึ ทําใหเ กิดความภาคภมู ใิ จและมคี วามสุข ตรงกับระดับคะแนน ตรงกบั ระดับคะแนน ตรงกับระดับคะแนน ในการดาํ เนนิ ชวี ิต สวนการถูกเพอ่ื นๆ พากนั อจิ ฉารษิ ยาไมใชผล ของการทาํ ความดี) ลาดบั ที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน 1 เนอ้ื หาละเอียดชดั เจน 321 1 การแสดงความคิดเห็น 321 อันพึงประสงค์ดำ้ น 321 2 ความถกู ต้องของเนือ้ หา 2 การยอมรับฟงั ความคิดเห็นของผอู้ ่ืน 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติได้ 3 ภาษาท่ีใช้เข้าใจงา่ ย 3 การทางานตามหน้าทท่ี ี่ได้รับมอบหมาย กษัตริย์ 1.2 เข้าร่วมกิจกรรมทส่ี ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ 4 ประโยชน์ทไี่ ดจ้ ากการนาเสนอ 4 ความมีนาใจ 5 วธิ กี ารนาเสนอผลงาน 5 การตรงต่อเวลา 2. ซ่ือสัตย์ สุจริต ตอ่ โรงเรียน 3. มีวินยั รับผิดชอบ 1.3 เข้ารว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทตี่ นนบั ถือ ปฏิบัตติ ามหลกั ศาสนา รวม รวม 4. ใฝเ่ รียนรู้ 1.4 เข้าร่วมกจิ กรรมที่เกี่ยวกับสถาบนั พระมหากษัตรยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นจัดขึ้น 2.1 ใหข้ ้อมลู ทถี่ ูกตอ้ ง และเปน็ จรงิ ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมนิ 5. อยอู่ ย่างพอเพียง 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นส่ิงท่ีถูกต้อง ............../.................../................ ............../.................../................ 3.1 ปฏบิ ตั ิตามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบงั คับของครอบครัว 6. มุ่งมนั่ ในการ เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ทางาน มีความตรงตอ่ เวลาในการปฏิบัตกิ ิจกรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวัน ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมินสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรือแสดงพฤตกิ รรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน 4.1 รู้จักใช้เวลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏิบัติได้ ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครัง ให้ 1 คะแนน 7. รักความเป็นไทย 4.2 รู้จกั จัดสรรเวลาให้เหมาะสม ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินบางสว่ น ปฏบิ ตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั 8. มีจติ สาธารณะ 4.3 เช่ือฟงั คาสัง่ สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โต้แยง้ 4.4 ต้งั ใจเรียน เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ 5.1 ใช้ทรัพยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรียนอย่างประหยดั ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอย่างประหยดั และรคู้ ณุ คา่ ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 12 - 15 ดี 5.3 ใชจ้ า่ ยอยา่ งประหยัดและมกี ารเก็บออมเงนิ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 6.1 มีความต้ังใจและพยายามในการทางานท่ีไดร้ บั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแท้ตอ่ อุปสรรคเพอื่ ใหง้ านสาเรจ็ 7.1 มจี ิตสานึกในการอนุรักษว์ ัฒนธรรมและภมู ิปัญญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รู้จักช่วยพ่อแม่ ผปู้ กครอง และครูทางาน 8.2 ร้จู ักการดูแล รกั ษาทรัพย์สมบัตแิ ละสิง่ แวดล้อมของห้องเรยี น โรงเรยี น 8 - 11 พอใช้ ต่ากวา่ 8 ปรับปรุง ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมิน ต่ากว่า 8 ปรบั ปรงุ ............../.................../................ เกณฑ์กำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤตกิ รรมท่ปี ฏบิ ัติชัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ัดเจนและบอ่ ยครัง้ ให้ 1 คะแนน พฤตกิ รรมทปี่ ฏบิ ตั ิบางครั้ง ภูมศิ าสตร์ ป.1 15 ภูมศิ าสตร์ ป.1 16 ภมู ิศาสตร์ ป.1 18 T81
นาํ นาํ สอน สรุป ประเมิน ขน้ั นาํ ๒ ผลของการท�าความด ี ค รู ส น ท น า ซั ก ถ า ม นั ก เ รี ย น เ กี่ ย ว กั บ ก า ร ความดเี ป็นสิง่ ท่ีเราทกุ คนควรทา� เพราะเมอ่ื ท�าความดีแล้ว ทาํ ความดี เชน ใครเคยทาํ ความดอี ะไรบา ง จากนน้ั จะทา� ใหเ้ รารสู้ กึ ภมู ิใจ มคี วามสขุ และไดร้ บั ความชนื่ ชมยกยอ่ ง ใหนกั เรยี น 2-3 คน ผลดั กนั เลา ใหเพ่อื นๆ ฟง จากผอู้ นื่ รวมทง้ั เปน็ ทร่ี กั ใครข่ องคณุ พอ่ คณุ แม ่ คณุ คร ู เพอื่ น ๆ และผู้พบเห็นอกี ด้วย ขน้ั สอน กจิ กรรมพัฒนาการเรียนรทู้ ่ี ๒ 1. ครูใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็น เกี่ยวกับการทําความดีที่เพื่อนเคยทําใน ๑. หาข่าวจากหนังสือพิมพ์เกี่ยวกับการท�าความดีและข่าวเกี่ยวกับ ประเดน็ ตางๆ เชน การทา� ความไมด่ ขี องคนในสงั คมมาตดิ ลงในสมดุ แลว้ ปฏบิ ตั ิ ดงั นี้ • การทาํ ความดีเหลานั้นเกดิ ผลดอี ยา งไร - บอกว่าขา่ วใดเป็นการทา� ความด ี ผลท่ีเกดิ ขึ้นเป็นอย่างไร • นักเรียนสามารถทาํ ไดหรือไม เพราะอะไร - บอกวา่ ข่าวใดเป็นการทา� ความไม่ด ี ผลทเ่ี กดิ ขึน้ เป็นอย่างไร - ในฐานะทเ่ี ราเปน็ พลเมอื งด ี เราควรปฏบิ ตั ติ ามขา่ วใด และไมค่ วร 2. ครูใหนักเรียนแตละกลุมหาขาวเก่ียวกับการ ปฏบิ ัตติ ามขา่ วใด เพราะอะไร ทาํ ความดีของคนในสังคม มากลมุ ละ 1 ขา ว ๒. ให้นักเรียนยกตัวอย่างความสามารถและความดีของตนเอง (ครมู อบหมายใหน กั เรยี นเตรยี มมาลว งหนา )แลว โดยออกมาเลา่ ใหเ้ พอ่ื นฟงั แล้วให้เพือ่ น ๆ รว่ มกนั ปรบมือแสดง ใหน กั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั อภปิ รายเกย่ี วกบั ขา ว ความช่ืนชม ดงั กลา ว โดยครเู ปน ผสู งั เกตการณแ ละกระตนุ ให นกั เรยี นทกุ คนมสี ว นรว มในการแสดงความคดิ กิจกรรมรวบยอด เหน็ จากนน้ั ใหแ ตล ะกลมุ ออกมานาํ เสนอผลการ อภปิ รายที่หนาชั้น ๑. บอกวธิ ีปฏบิ ัตติ นเปน็ สมาชิกท่ดี ีของครอบครัวและโรงเรียน มาอยา่ งละ ๓ ขอ้ พร้อมบอกประโยชน์ของการปฏิบัตติ น 3. นกั เรยี นแตล ะกลมุ ชว ยกนั ทาํ ใบงานท่ี 3.2 เรอ่ื ง เปน็ สมาชกิ ท่ดี ี ผลของการทําความดี เม่ือทาํ เสรจ็ แลวชวยกนั ๒. แบ่งกลมุ่ แต่งนทิ านสนั้ ๆ เก่ยี วกับคณุ ธรรมที่ไดเ้ รยี นมา ตรวจสอบและนําสงครู ๑ เรื่อง แลว้ แสดงบทบาทสมมตุ ิ จากนน้ั อภปิ รายรว่ มกนั ในชน้ั เรยี น ขน้ั สรปุ 78 ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรเู รอ่ื ง ผลของ การทําความดี จากน้ันครูอธิบายใหนักเรียนเห็น ความสาํ คญั ของการทาํ ความดี ขนั้ ประเมนิ ครแู ละนกั เรยี นชว ยกนั คดั เลอื กผลงานทดี่ ที สี่ ดุ 3 อันดบั เพื่อนํามาจดั ปา ยนเิ ทศแสดงผลงานของ นกั เรยี น แนวทางการวัดและประเมินผลสําหรับครู กจิ กรรม ทาทาย ครูศึกษาแนวทางการวัดและประเมินผลเพื่อประเมินช้ินงานของนักเรียน ครใู หน กั เรยี นเลอื กบคุ คลทนี่ กั เรยี นชนื่ ชอบและเปน แบบอยา ง จากใบประเมินชิ้นงานทีแ่ นบทายแผนการสอน ในการใชชีวิตมา 1 คน จากน้ันติดภาพบุคคลนั้นลงในกระดาษ และเขียนชื่นชม แลวนําผลงานออกมาเสนอทหี่ นา ชนั้ เรียน แบบประเมินการนาเสนอผลงาน แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ คาช้ีแจง : ใหผ้ ้สู อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ลงในชอ่ งท่ี คาช้ีแจง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ลงในช่องท่ี คำชแี้ จง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในช่องท่ี ตรงกับระดับคะแนน ตรงกบั ระดบั คะแนน ตรงกับระดบั คะแนน ลาดับที่ รายการประเมิน ระดับคะแนน ลาดับที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน คณุ ลกั ษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน 1 เน้อื หาละเอยี ดชัดเจน 321 1 การแสดงความคิดเห็น 321 อนั พึงประสงคด์ ำ้ น 321 2 ความถูกต้องของเน้อื หา 2 การยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ ืน่ 1. รกั ชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาตไิ ด้ 3 ภาษาที่ใชเ้ ข้าใจงา่ ย 3 การทางานตามหนา้ ที่ที่ไดร้ ับมอบหมาย กษัตริย์ 1.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทส่ี ร้างความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ 4 ประโยชนท์ ีไ่ ดจ้ ากการนาเสนอ 4 ความมนี าใจ 5 วิธีการนาเสนอผลงาน 5 การตรงต่อเวลา 2. ซอ่ื สตั ย์ สจุ ริต ตอ่ โรงเรียน 3. มวี ินัย รับผิดชอบ 1.3 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนับถือ ปฏบิ ัตติ ามหลักศาสนา รวม รวม 4. ใฝ่เรยี นรู้ 1.4 เข้ารว่ มกิจกรรมที่เก่ียวกับสถาบันพระมหากษตั รยิ ต์ ามทโ่ี รงเรยี นจัดข้นึ 2.1 ให้ข้อมลู ทถี่ ูกต้อง และเป็นจรงิ ลงชื่อ...................................................ผูป้ ระเมิน ลงช่ือ...................................................ผู้ประเมนิ 5. อย่อู ย่างพอเพียง 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสง่ิ ที่ถกู ตอ้ ง ............../.................../................ ............../.................../................ 3.1 ปฏบิ ัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบยี บ ข้อบังคับของครอบครัว 6. มุ่งม่นั ในการ เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑ์การใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ทางาน มคี วามตรงต่อเวลาในการปฏิบัติกิจกรรมตา่ งๆ ในชวี ิตประจาวนั ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน 4.1 ร้จู กั ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ป็นประโยชน์ และนาไปปฏิบตั ิได้ ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมินเปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครงั ให้ 1 คะแนน 7. รักความเป็นไทย 4.2 รู้จักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมินบางสว่ น ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครงั 8. มีจิตสาธารณะ 4.3 เชอื่ ฟังคาส่ังสอนของบิดา-มารดา โดยไม่โตแ้ ย้ง 4.4 ตง้ั ใจเรยี น เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ เกณฑก์ ารตัดสินคุณภาพ 5.1 ใชท้ รัพยส์ ินและสง่ิ ของของโรงเรียนอยา่ งประหยัด ชว่ งคะแนน ระดบั คุณภาพ 5.2 ใช้อุปกรณก์ ารเรียนอยา่ งประหยดั และรคู้ ณุ ค่า ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 5.3 ใช้จ่ายอยา่ งประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงิน 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 6.1 มีความตั้งใจและพยายามในการทางานที่ได้รับมอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไม่ท้อแทต้ ่ออปุ สรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเรจ็ 7.1 มีจิตสานกึ ในการอนุรักษ์วัฒนธรรมและภูมปิ ญั ญาไทย 7.2 เห็นคณุ คา่ และปฏบิ ตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รู้จกั ช่วยพ่อแม่ ผูป้ กครอง และครูทางาน 8.2 ร้จู ักการดแู ล รกั ษาทรัพยส์ มบัตแิ ละสิง่ แวดลอ้ มของหอ้ งเรียน โรงเรยี น 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรับปรุง ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมนิ ตา่ กวา่ 8 ปรบั ปรุง ............../.................../................ เกณฑ์กำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิชัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมทีป่ ฏิบัตชิ ัดเจนและบอ่ ยครง้ั ให้ 1 คะแนน พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ิบางครั้ง ภูมศิ าสตร์ ป.1 15 ภมู ศิ าสตร์ ป.1 16 ภูมศิ าสตร์ ป.1 18 T82
นาํ นํา สอน สรปุ ประเมิน ôº··Õè »ÃЪҸ»Ô äµÂ㹤Ãͺ¤ÃÑÇ ขน้ั นาํ áÅÐâçàÃÂÕ ¹ กจิ กรรมนาํ สกู ารเรยี น 1. ครใู หน กั เรยี นชวยกนั เลอื กตวั แทนหอ งไว เปนตัวแทนคุยกบั ครู แลวใหน ักเรียนชวย เธอคิดว่าจะเลือกใคร กันบอกเหตุผลวา ทาํ ไมจงึ เลอื กเพ่ือนคนนน้ั มาเป็นหวั หน้าช้ัน หลังจากน้นั ครสู รุปโยงเขา เรือ่ งประชาธปิ ไตย ในครอบครัวและโรงเรียน เ¸Íละ่ ฉนั จะเลือก ฉนั จะเลอื ก คนทีเ่ รยี นเก่ง คนท่ฉี ันชอบ 2. ครูนําตวั อยา งขา วเกีย่ วกับกจิ กรรมท่แี สดง ถึงประชาธิปไตยมาเลาใหนกั เรียนฟง และ ฉนั จะเลือกคนท่ี ใหน กั เรียนชว ยกันแสดงความคิดเหน็ ถึง มีความรบั ผิดชอบ ประชาธปิ ไตยวาหมายถงึ อะไร เพอ่ื น ๆ เหน็ ดวยกบั การเลือก 3. ครอู ธิบายเชือ่ มโยงใหน กั เรียนเขาใจถงึ หัวหนา ชัน้ ของเด็กคนใดในภาพนี้ ประชาธปิ ไตยท่ีเปน กระบวนการทีถ่ อื เสียงขา งมากในการตดั สินใจ และนําเสยี ง เพราะอะไร สวนนอ ยมาประกอบการพิจารณา แนวคดิ สําคญั ขนั้ สอน »ÃЪҸԻäµÂ㹤Ãͺ¤ÃÑÇáÅÐâçàÃÕ¹໹š 1. ครูแบงนักเรียนออกเปนกลุม กลุมละ 4 คน ¡Ãкǹ¡Ò÷èÕ¶×ÍàÊÕ§¢ŒÒ§Áҡ㹡ÒõѴÊÔ¹ã¨áÅзíÒ¡Ô¨¡ÃÃÁ คละกนั ตามความสามารถ คอื เกง ปานกลาง 㹤Ãͺ¤ÃÇÑ áÅÐâçàÃÂÕ ¹ â´Âầ‹ ˹Ҍ ·ÃÕè ºÑ ¼´Ô ªÍº áÅÐÃÇ‹ ÁáÊ´§ คอนขางเกง ปานกลางคอ นขา งออ น และออ น ¤ÇÒÁ¤Ô´àËç¹Í‹ҧÁÕà˵ØáÅмŠÂÍÁÃѺàÊÕ§¢ŒÒ§ÁÒ¡ áÅÐãËŒ¤ÇÒÁ ÃÇ‹ ÁÁÍ× ã¹¡Ò÷íÒ¡¨Ô ¡ÃÃÁ 2. นักเรียนแตละกลุมจับคูกันเปน 2 คู ให แตละคูรวมกันศึกษาความรูเรื่อง กิจกรรม ประชาธปิ ไตย จากหนังสือเรียน หนา 80 3. สมาชิกแตล ะคใู นกลุม นําความรทู ่ีไดจ ากการ ศกึ ษามาผลัดกนั อธบิ ายความรู พรอ มทง้ั ผลดั กันซักถามจนมคี วามเขาใจตรงกัน 79 เกร็ดแนะครู ครูจัดกระบวนการเรียนรูโดยการใหน กั เรยี นปฏบิ ตั ิ ดังน้ี • อภปิ รายเกย่ี วกบั การทาํ กจิ กรรมในครอบครวั และโรงเรยี นตามกระบวนการประชาธิปไตย • แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกบั หลักประชาธิปไตยในครอบครวั และโรงเรียน • วเิ คราะหจากประเดน็ คําถามและภาพเกี่ยวกบั กิจกรรมประชาธปิ ไตย จนเกิดเปน ความรคู วามเขา ใจวา การมีสวนรวมในการทาํ กจิ กรรมในครอบครัวและโรงเรียนตามระบอบประชาธปิ ไตยทําใหเกดิ ความสงบสุข T83
นํา สอน สรุป ประเมิน ขนั้ สอน ๑ กจิ กรรมประชาธปิ ไตย 4. สมาชิกแตละคูรวมกันทําใบงานท่ี 4.1 เรื่อง เราเป็นสมาชิกคนหน่ึงของครอบครัวและโรงเรียน ทุกคน กิจกรรมประชาธิปไตย เสร็จแลวตรวจสอบ ต้องมีส่วนร่วมในการตัดสินใจและท�ากิจกรรม โดยยึดถือเสียง ความถกู ตอง ขา้ งมาก มกี ารแบง่ หนา้ ทร่ี บั ผดิ ชอบ รว่ มแสดงความคดิ เหน็ อยา่ ง มีเหตุผล ยอมรับเสียงข้างมากที่มีเหตุผลถูกต้อง และรับฟัง 5. สมาชิกในแตละกลุมรวมกันอภิปรายคําตอบ เหตผุ ลของเสยี งสว่ นนอ้ ย และใหค้ วามรว่ มมอื ในการทา� กจิ กรรม ในใบงานที่ 4.1 และใหเ พม่ิ เตมิ เปน ผลงานของ เพอ่ื ใหค้ นสว่ นใหญไ่ ดร้ ว่ มคดิ รว่ มตดั สนิ ใจ และรว่ มทา� กจิ กรรม กลมุ ตามความคดิ ของสมาชกิ ในกลมุ สว นใหญ ซ่ึงจะท�าใหไ้ ด้งานท่ดี ี ตัวอย่างเช่น การท�างานกลุ่ม ทุกคนต้องร่วมกันเลือก 6. นกั เรยี นตอบคาํ ถามกระตุนความคดิ หวั หน้ากลุ่ม ชว่ ยกันแสดงความคดิ เหน็ อย่างมีเหตผุ ลวา่ จะท�า • กจิ กรรมประชาธปิ ไตยมีลกั ษณะอยางไร อะไร อยา่ งไร ตามงานท่ีได้รบั มอบหมายจากคร ู แล้วร่วมกัน (แนวตอบ : เชน กิจกรรมที่ทุกคนตองมี ตัดสินใจ โดยฟังเสียงข้างมาก และร่วมมือแบ่งงานกันท�า สวนรวมในการตัดสินใจและทํากิจกรรม จนงานสา� เรจ็ ซึ่งเป็นกิจกรรมประชาธิปไตย โดยยึดถือเสียงขางมาก และรับฟงความ คดิ เหน็ ของเสียงสว นนอ ยดวย เปนตน) พวกเราจะไปสอบถาม ถา้ อย่างน้ัน เรากแ็ ยกยา้ ยกัน ข้อมลู จากคนในชมุ ชนนะ ไปทา� งานเลยนะ ขนั้ สรปุ 1. ครแู ละนักเรียนรวมกันสรุปความรูเรื่อง กิจกรรมประชาธิปไตย 2. นกั เรียนบันทึกความรลู งในสมดุ ขนั้ ประเมนิ ครูตรวจสอบนักเรียนวาสามารถบอกกิจกรรม ที่แสดงถึงประชาธิปไตยไดผานใบงานที่ 4.1 การอภปิ รายและการตอบคําถาม ส่วนพวกเราจะค้นหาข้อมลู ในห้องสมุดนะ ▲▲ การรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ และทา� กจิ กรรมตามเสียงข้างมาก จะท�าให้งานมคี วามถูกต้องมากขึ้น 80 แนวทางการวัดและประเมินผล ขอ สอบเนน การคิด ครูศึกษาแนวทางการวัดและประเมินผลเพื่อประเมินช้ินงานของนักเรียน ขอใดไมใชลักษณะของกิจกรรมประชาธิปไตย จากใบประเมินช้นิ งานทแ่ี นบทา ยแผนการสอน 1. ยอมรบั เสยี งขา งมาก 2. ใชเ หตผุ ลในการแกป ญหา แบบประเมนิ การนาเสนอผลงาน แบบสงั เกตพฤติกรรมการทางานรายบุคคล แบบประเมนิ คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 3. ไมเขา รวมกจิ กรรมกับผูทม่ี ีความคิดเหน็ ตางจากตน คาชแ้ี จง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขดี ลงในชอ่ งท่ี คาชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ลงในชอ่ งท่ี คำช้แี จง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤตกิ รรมของนักเรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรียน แลว้ ขีด ลงในชอ่ งที่ (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 3. กจิ กรรมประชาธปิ ไตยเนน การมสี ว นรว ม ตรงกับระดบั คะแนน ตรงกบั ระดบั คะแนน ตรงกบั ระดบั คะแนน ในดานตางๆ เชน การพูด การทํา การคิด การแสดงออก ดังน้ัน แมจะมีความคิดเหน็ แตกตางกัน แตก ็ควรรบั ฟงความคิดเห็นของ ลาดบั ที่ รายการประเมนิ ระดบั คะแนน ลาดบั ท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน คุณลักษณะ รำยกำรประเมิน ระดบั คะแนน ผูอ ื่น) 1 เนือ้ หาละเอียดชัดเจน 321 1 การแสดงความคิดเหน็ 321 อันพึงประสงคด์ ำ้ น 321 2 ความถกู ต้องของเนื้อหา 2 การยอมรบั ฟังความคดิ เห็นของผอู้ น่ื 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ 3 ภาษาที่ใชเ้ ข้าใจง่าย 3 การทางานตามหนา้ ทีท่ ่ีไดร้ ับมอบหมาย กษตั ริย์ 1.2 เขา้ ร่วมกจิ กรรมทีส่ ร้างความสามคั คี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ 4 ประโยชนท์ ่ไี ด้จากการนาเสนอ 4 ความมีนาใจ 5 วิธกี ารนาเสนอผลงาน 5 การตรงตอ่ เวลา 2. ซอื่ สัตย์ สจุ ริต ตอ่ โรงเรียน 3. มีวนิ ยั รับผดิ ชอบ 1.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาทต่ี นนบั ถือ ปฏิบตั ติ ามหลักศาสนา รวม รวม 4. ใฝ่เรียนรู้ 1.4 เขา้ รว่ มกจิ กรรมท่ีเกี่ยวกบั สถาบนั พระมหากษตั รยิ ต์ ามท่โี รงเรยี นจัดขน้ึ 2.1 ให้ขอ้ มลู ทถี่ กู ต้อง และเป็นจริง ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ ลงช่อื ...................................................ผปู้ ระเมิน 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 2.2 ปฏบิ ตั ิในส่งิ ทถ่ี ูกต้อง ............../.................../................ ............../.................../................ 3.1 ปฏิบตั ิตามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ข้อบังคบั ของครอบครัว 6. ม่งุ มน่ั ในการ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ทางาน มีความตรงต่อเวลาในการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ิตประจาวัน ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมินสมบูรณช์ ัดเจน ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 4.1 รจู้ ักใชเ้ วลาว่างให้เปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏิบัตไิ ด้ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกบั รายการประเมนิ เป็นส่วนใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏบิ ัติหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครัง ให้ 1 คะแนน 7. รกั ความเปน็ ไทย 4.2 รจู้ ักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางสว่ น ปฏบิ ตั ิหรอื แสดงพฤติกรรมบางครัง 8. มีจิตสาธารณะ 4.3 เชือ่ ฟังคาสัง่ สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โต้แยง้ 4.4 ตั้งใจเรียน เกณฑก์ ารตัดสนิ คุณภาพ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ 5.1 ใช้ทรพั ย์สินและสง่ิ ของของโรงเรยี นอย่างประหยัด ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ 5.2 ใชอ้ ปุ กรณ์การเรยี นอยา่ งประหยัดและร้คู ณุ คา่ ชว่ งคะแนน ระดบั คณุ ภาพ 12 - 15 ดี 5.3 ใช้จา่ ยอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 6.1 มีความตง้ั ใจและพยายามในการทางานท่ีได้รบั มอบหมาย 6.2 มคี วามอดทนและไมท่ ้อแท้ตอ่ อปุ สรรคเพ่ือให้งานสาเรจ็ 7.1 มจี ติ สานึกในการอนุรกั ษว์ ัฒนธรรมและภมู ปิ ญั ญาไทย 7.2 เห็นคณุ ค่าและปฏบิ ัติตนตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ ักช่วยพอ่ แม่ ผปู้ กครอง และครทู างาน 8.2 ร้จู ักการดแู ล รกั ษาทรัพยส์ มบตั แิ ละส่ิงแวดล้อมของห้องเรยี น โรงเรียน 8 - 11 พอใช้ ต่ากว่า 8 ปรบั ปรุง ลงชอื่ ...................................................ผู้ประเมนิ ต่ากว่า 8 ปรับปรุง ............../.................../................ เกณฑก์ ำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมท่ีปฏบิ ตั ชิ ัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤติกรรมทป่ี ฏิบตั ชิ ัดเจนและบ่อยครั้ง ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบตั ิบางคร้ัง ภูมิศาสตร์ ป.1 15 ภูมิศาสตร์ ป.1 16 ภมู ศิ าสตร์ ป.1 18 T84
นํา นํา สอน สรปุ ประเมนิ ๒ ลกั ษณะของผู้ทีม่ คี วามเปน็ ประชาธปิ ไตย ขนั้ นาํ การทา� งานหรอื กจิ กรรมตอ้ งพง่ึ พาอาศยั กนั และกนั และคน ทจี่ ะทา� งานรว่ มกบั คนอน่ื ไดด้ ี ตอ้ งมลี กั ษณะทเี่ ปน็ ประชาธปิ ไตย 1. ครูทบทวนความรูเดิมเก่ียวกับกิจกรรม ได้แก่ ประชาธิปไตยวามีลักษณะอยางไร พรอมทั้ง ●▲ ยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของคนอ่ืน ใ ห นั ก เ รี ย น ช ว ย กั น ย ก ตั ว อ ย า ง กิ จ ก ร ร ม ●▲ ใหส้ มาชิกทกุ คนมสี ว่ นร่วมคิด ร่วมตัดสนิ ใจ และรว่ มท�า ประชาธปิ ไตยที่นกั เรยี นเคยเขารว มกจิ กรรม กิจกรรม ●▲ ตัดสินใจและท�ากิจกรรม ฉันว่าเราไปคน้ ควา้ เพ่มิ เตมิ 2. ครูอธิบายใหนักเรียนเขาใจวา ในการทํางาน จากทอี่ ืน่ ดว้ ยดไี หม ดีจ้ะ หรอื กจิ กรรมตา งๆ จะตอ งพง่ึ พาอาศยั กนั และ กนั และคนทจ่ี ะทาํ งานรว มกบั คนอน่ื ๆ ไดด ี จะ โดยยดึ ถอื ตามเสยี งข้างมาก ตองเปนคนท่ีมลี ักษณะเปน ประชาธปิ ไตย ●▲ ยอมรบั ข้อตกลงของ คนสว่ นใหญ่ ขนั้ สอน ●▲ แบ่งหน้าที่รับผดิ ชอบ ●▲ ร่วมแสดงความคดิ เห็น 1. นกั เรยี นรว มกนั ศกึ ษาความรเู รอ่ื ง ลกั ษณะของ อย่างมเี หตุผล ผทู ม่ี คี วามเปน ประชาธปิ ไตย จากหนงั สอื เรยี น หนา 81 ▲▲ การรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผอู้ น่ื และรจู้ กั ชว่ ยกนั ท�างานตามหน้าท่ี เป็นลักษณะของผู้ที่มีความ 2. นักเรียนนําความรูท่ีไดจากการศึกษามา เปน็ ประชาธปิ ไตย ผลัดกันอธิบายเก่ียวกับลักษณะของผูที่มี ความเปนประชาธิปไตย วามีลักษณะอยางไร เราเปน็ คนไทยต้องสามคั คปี รองดองกัน บาง ทีละคนแบบเลาเรื่องรอบวง พรอมท้ัง มีเหตุมีผล และมีความเปน็ ประชาธปิ ไตยนะครบั ผลัดกันซักถามจนมีความเขาใจตรงกันวา ลักษณะของผูที่มีความเปนประชาธิปไตยตอง ยอมรบั ฟง ความคดิ เหน็ ของผอู นื่ ตดั สนิ ใจและ ทํากิจกรรมโดยยึดเสียงขางมาก รวมแสดง ความคดิ เห็นอยางมเี หตผุ ล 3. นกั เรยี นทกุ คนทาํ ใบงานที่ 4.2 เรอ่ื ง ลักษณะ ของผูที่มีความเปนประชาธิปไตย เสร็จแลว ตรวจสอบความถูกตอง ขน้ั สรปุ ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรเู รอื่ ง ลกั ษณะ ของผทู ม่ี คี วามเปน ประชาธปิ ไตย จากนนั้ นกั เรยี น บนั ทกึ ความรูลงในสมุด แสนดี ลดหรือเพ�มิ ขนาดตามเหมาะสม81 ขน้ั ประเมนิ ครูตรวจสอบนักเรียนวาสามารถบอกกิจกรรม ท่ีแสดงถึงประชาธิปไตยไดผานใบงานท่ี 4.2 และการเลา เรื่อง ขอสอบเนน การคดิ แนวทางการวัดและประเมินผล เราใชห ลักประชาธิปไตยในโรงเรียนเพื่ออะไร ครูศึกษาแนวทางการวัดและประเมินผลเพื่อประเมินชิ้นงานของนักเรียน 1. เพื่อใหมีความเหน็ ตา งกนั จากใบประเมินชิ้นงานทแ่ี นบทา ยแผนการสอน 2. เพ่ือใหส มาชกิ ในโรงเรยี นอยรู ว มกันอยา งมีความสุข 3. เพอื่ ใหเหน็ ความแตกตางของคนทม่ี ีความคิดตา งกัน แบบประเมินการนาเสนอผลงาน แบบสังเกตพฤตกิ รรมการทางานรายบุคคล แบบประเมินคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 2. เหตผุ ลสาํ คญั ในการใชห ลกั ประชาธปิ ไตย คาชีแ้ จง : ให้ผสู้ อนสังเกตพฤติกรรมของนกั เรยี นในระหวา่ งเรียนและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในช่องที่ คาช้แี จง : ให้ผู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขดี ลงในช่องที่ คำชี้แจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ลงในช่องท่ี ในโรงเรียน กเ็ พอ่ื ใหส มาชกิ ในโรงเรยี นอยดู ว ยกนั อยา งมคี วามสขุ ตรงกับระดับคะแนน ตรงกบั ระดับคะแนน ตรงกับระดบั คะแนน เพราะทกุ คนตา งมคี วามคดิ เหน็ ทห่ี ลากหลาย ถา ทกุ คนทาํ สง่ิ ตา งๆ โดยยดึ ความคดิ ของตนเปน หลกั และไมร บั ฟง ความคดิ เหน็ ของผอู น่ื ลาดับที่ รายการประเมิน ระดบั คะแนน ลาดับท่ี รายการประเมิน ระดบั คะแนน คุณลกั ษณะ รำยกำรประเมนิ ระดับคะแนน ก็จะเกิดความวุนวาย แตถาทุกคนทําตามเสียงสวนใหญ เลือก 1 เน้ือหาละเอยี ดชดั เจน 321 1 การแสดงความคิดเห็น 321 อันพึงประสงคด์ ำ้ น 321 สง่ิ ท่ีดีที่สุดมาใช โรงเรยี นก็จะสงบสขุ ) 2 ความถกู ตอ้ งของเนื้อหา 2 การยอมรับฟงั ความคดิ เห็นของผ้อู ื่น 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยนื ตรงเคารพธงชาติ และรอ้ งเพลงชาติได้ 3 ภาษาทีใ่ ช้เข้าใจงา่ ย 3 การทางานตามหนา้ ท่ีทีไ่ ด้รับมอบหมาย กษตั ริย์ 1.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมท่สี รา้ งความสามัคคี ปรองดอง และเป็นประโยชน์ 4 ประโยชนท์ ่ไี ด้จากการนาเสนอ 4 ความมนี าใจ 5 วธิ ีการนาเสนอผลงาน 5 การตรงตอ่ เวลา 2. ซื่อสตั ย์ สจุ ริต ต่อโรงเรียน 3. มีวนิ ยั รับผดิ ชอบ 1.3 เขา้ รว่ มกิจกรรมทางศาสนาทต่ี นนับถอื ปฏบิ ัตติ ามหลักศาสนา รวม รวม 4. ใฝ่เรยี นรู้ 1.4 เข้าร่วมกจิ กรรมทเ่ี กี่ยวกบั สถาบันพระมหากษัตริยต์ ามที่โรงเรยี นจัดข้นึ 2.1 ให้ข้อมลู ทถี่ กู ตอ้ ง และเปน็ จริง ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมิน ลงชือ่ ...................................................ผู้ประเมนิ 5. อยอู่ ยา่ งพอเพียง 2.2 ปฏบิ ตั ิในส่งิ ทถี่ ูกตอ้ ง ............../.................../................ ............../.................../................ 3.1 ปฏิบัตติ ามข้อตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บงั คับของครอบครัว 6. มงุ่ ม่ันในการ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน ทางาน มคี วามตรงตอ่ เวลาในการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ งๆ ในชีวติ ประจาวนั ผลงานหรือพฤติกรรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมินสมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤตกิ รรมอย่างสมา่ เสมอ ให้ 2 คะแนน 4.1 รู้จกั ใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ไิ ด้ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เปน็ สว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบอ่ ยครงั ให้ 1 คะแนน 7. รักความเปน็ ไทย 4.2 ร้จู ักจัดสรรเวลาใหเ้ หมาะสม ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ บางสว่ น ปฏบิ ตั หิ รือแสดงพฤติกรรมบางครงั 8. มีจติ สาธารณะ 4.3 เช่ือฟงั คาสง่ั สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โตแ้ ย้ง 4.4 ต้ังใจเรยี น เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ เกณฑ์การตัดสนิ คุณภาพ 5.1 ใชท้ รพั ย์สนิ และสง่ิ ของของโรงเรยี นอยา่ งประหยดั ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 5.2 ใช้อุปกรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยัดและรูค้ ณุ คา่ ชว่ งคะแนน ระดับคุณภาพ 12 - 15 ดี 5.3 ใชจ้ ่ายอยา่ งประหยัดและมีการเกบ็ ออมเงนิ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 6.1 มีความตงั้ ใจและพยายามในการทางานทไี่ ดร้ ับมอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แท้ต่ออุปสรรคเพอ่ื ให้งานสาเร็จ 7.1 มีจิตสานึกในการอนุรกั ษ์วัฒนธรรมและภมู ิปญั ญาไทย 7.2 เห็นคุณค่าและปฏบิ ตั ิตนตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ กั ช่วยพอ่ แม่ ผ้ปู กครอง และครูทางาน 8.2 ร้จู กั การดูแล รกั ษาทรัพย์สมบัตแิ ละสง่ิ แวดลอ้ มของห้องเรยี น โรงเรียน 8 - 11 พอใช้ ตา่ กวา่ 8 ปรับปรุง ลงชื่อ...................................................ผู้ประเมิน ตา่ กว่า 8 ปรบั ปรงุ ............../.................../................ เกณฑก์ ำรให้คะแนน ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมที่ปฏิบัติชัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมทป่ี ฏบิ ตั ชิ ัดเจนและบ่อยครงั้ ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมท่ีปฏบิ ัติบางครง้ั ภมู ิศาสตร์ ป.1 15 ภูมศิ าสตร์ ป.1 16 ภมู ศิ าสตร์ ป.1 18 T85
นํา สอน สรุป ประเมิน ขน้ั นาํ ๓ ลักษณะสงั คมทีเ่ ปน็ ประชาธปิ ไตย ครูอานเรื่องตอไปน้ีใหนักเรียนฟง แลวถาม ครอบครัวและโรงเรียน เป็นสังคมที่ใกล้และเกี่ยวข้องกับ คาํ ถามใหนักเรียนชวยกันตอบ ตวั เรามากทสี่ ุด สงั คมทจ่ี ะอยรู่ ว่ มกนั อยา่ งมีความสขุ ต้องเปน็ สงั คมท่ีเป็นประชาธปิ ไตย ซ่งึ มลี ักษณะดังน้ี พอ มีลกู อยสู ิบคน วันหนึ่ง ไมม ีขา วสารหงุ ๑. ครอบครัวท่เี ปน็ ประชาธิปไตย ขา วกนิ ไมม เี งนิ พอ เลยถามลกู ๆ ทง้ั หมดวา ครอบครัวเป็นสังคมท่ีใกล้ตัวเรามากที่สุด ครอบครัวที่ เราจะทําอยางไรกันดี เราจึงจะมีขาวกิน เปน็ ประชาธปิ ไตย มกี ารแบง่ หนา้ ท ี่ แสดงความคดิ เหน็ ยอมรบั เยน็ น้ี ลูกสองคนบอกใหไปขุดเผือกขุดมัน ฟังความคิดเห็น และร่วมมือกันท�ากิจกรรม จะท�าให้ทุกคน กนิ แกห วิ ไปกอ น สว นอกี แปดคนบอกวา เรา เกิดความภูมิใจและมคี วามสุข ก็ไปขโมยหรือไปปลนเอาจากบา นขางๆ สิ การปฏิบัติตนตามกิจกรรมประชาธปิ ไตยในครอบครวั งายดี ประชาธิปไตยดวย มีมติ แปดตอ ทกุ ครอบครวั สามารถรว่ มมอื กนั ทา� กจิ กรรมตา่ ง ๆ ได ้ ดงั น้ี สองเสียง แตพอ ไมเห็นดว ยกบั ลูกแปดคน ● แบ่งหน้าท่ีความรบั ผิดชอบในครอบครัว เชน่ แมท่ �า สั่งใหลูกแปดคน ไปชวยกับอีกสองคนขุด อาหาร พ่อท�าสวนปลกู ผัก พีช่ ว่ ยพ่อรดน้า� ผกั นอ้ งกวาดถูบา้ น เผือกขุดมันมากินกัน ลูกแปดคนไมพอใจ เป็นตน้ หาวา พอ เปน เผด็จการ ไมฟ ง เสียงขา งมาก ● รับฟังความคิดเห็นของผู้อื่นและแสดงความคิดเห็น ทําการประทวง ทบุ ทําลายขา วของในบาน อยา่ งมเี หตผุ ล พอ่ แมต่ อ้ งรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของลกู และลกู กต็ อ้ ง ตัวเอง จับนองสาวตัวเองเปนตัวประกัน รับฟังความคิดเห็นของพ่อแม่ เช่น การเลือกรายการอาหาร ใหพ อ ยอมในสิง่ ทีพ่ วกเขาอยากทาํ คือ ไป การเลือกดูรายการโทรทศั น ์ การเลือกสถานที่ไปเที่ยว เป็นตน้ ขโมยหรอื ปลนเขามา ● ยอมรับเสียงขา้ งมาก เช่น สมาชิกสว่ นใหญเ่ ลอื กไป • นักเรียนคิดวา การท่ีลูกแปดคนอางความ เทย่ี วทะเล พ่อแมต่ ้องตดั สินใจไปเทย่ี วทะเล เพราะลกู ๆ ชอบ และจะท�าให้ครอบครวั มีความสขุ เปนประชาธิปไตยในเรื่องนี้ถูกตองหรือไม เพราะเหตใุ ด 82 (แนวตอบ : ไมถูกตอง เพราะเปนการใช เสยี งขา งมากในการทาํ สง่ิ ทผ่ี ดิ แตต ามหลกั ประชาธิปไตยแลว นอกจากจะมีเสียงขาง มากแลว จะตอ งตงั้ อยบู นพน้ื ฐานของเหตผุ ล และความถกู ตอ งดว ย) ความรูบูรณาการอาเซียน ขอสอบเนน การคดิ ครูสืบคนขอมูลวามีประเทศใดบางในอาเซียนที่ปกครองโดยระบอบ ถาในวันหยุดพอแมและพี่ตองการไปสวนสัตว แตนักเรียน ประชาธิปไตย โดยสืบคนจาก www.mfa.go.th/asean ซ่ึงเปนเว็บไซต ตองการไปสวนสนุก นักเรียนควรทําอยา งไร ของกระทรวงการตางประเทศ เปน ตน แลว นาํ มาเลาใหน ักเรยี นฟง 1. หยดุ อยูบ า นคนเดยี ว ประเทศสมาชิกอาเซียนที่มีการปกครองระบอบประชาธิปไตย ไดแก 2. ขอรอ งใหปา พาไปแทน กัมพูชา อนิ โดนีเซยี มาเลเซยี ฟลิปปนส สิงคโปร เมียนมา และไทย 3. ไปเท่ียวสวนสัตวก บั ครอบครวั (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 3. เมอื่ สมาชกิ ในครอบครวั สว นใหญต อ งการ ไปสวนสัตว เราก็ควรทําตามเสียงสวนใหญ โดยไปสวนสัตวดวย เพือ่ ใหเกิดความสขุ ในครอบครัว) T86
นํา สอน สรุป ประเมนิ ● มสี ว่ นรว่ มในการทา� กจิ กรรมของครอบครวั เช่น เม่ือ ขนั้ สอน ตกลงไปเท่ียวทะเล ทุกคนต้องช่วยกันเตรียมเสื้อผ้าไปเล่นน�้า เตรียมอาหารไปรับประทาน เตรียมกล้องถ่ายรูป สอบถาม กระตนุ ความสนใจ เสน้ ทางท่ีจะไป โดยแบง่ หน้าทกี่ นั ทา� 1. ครูนําตัวอยางขาวเกี่ยวกับสังคมท่ีเปน ๒. โรงเรยี นที่เปน็ ประชาธิปไตย ประชาธิปไตยมาเลาใหนักเรียนฟง พรอมทั้ง โรงเรียน เป็นสถานที่ให้ความรู้ สมาชิกของโรงเรียน ใหนักเรียนรวมกันแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับ ประกอบดว้ ยบคุ คลตา่ ง ๆ ทมี่ คี วามสมั พนั ธก์ นั จงึ จา� เปน็ ตอ้ งนา� ขาวดังกลา ว กระบวนการประชาธิปไตยมาใช้ในการอยู่ร่วมกัน ซึ่งจะท�าให้ สมาชิกในโรงเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมและอยู่ร่วมกันอย่าง เลือกตง้ั สภานกั เรยี นโรงเรียนบานยารอ มคี วามสุข เมอื่ วนั ท่ี 3 มถิ นุ ายน 2554 โรงเรยี นบา น การปฏิบัติตนตามกิจกรรมประชาธปิ ไตยในโรงเรยี น นักเรียนสามารถรว่ มมือกันทา� กิจกรรมต่าง ๆ ได ้ เช่น ยารอจัดกิจกรรมสงเสริมประชาธิปไตยใน ● การเลือก โรงเรียน โดยใหนักเรียนมีสวนรวมในการ หวั หนา้ กลมุ่ หวั หนา้ สรุปวา่ เด็กชายกมล ออกเสยี งเพอ่ื เลอื กประธานนกั เรยี น รวมทง้ั เป็นหัวหนา้ กลุ่มสีแดงนะจะ๊ คณะครูไดรวมออกเสียงเลือกประธาน นกั เรยี นในคร้ังน้ี ห้อง หรือประธาน ในการสมัครมีผูรวมสมัครเปนประธาน นักเรียนจํานวน 2 คน แตดวยคะแนน เสียงของหมายเลข 1 สูง จึงทําใหเ ดก็ หญิง โณรฮูดา ไดเปนประธานนักเรียน ทม่ี า : http://www.norsorpor.com 2. ครูอธิบายเชื่อมโยงใหนักเรียนเขาใจถึง ครอบครัวและโรงเรียนเปนสังคมที่ใกลตัว และสังคมจะมีความสุขไดตองเปนสังคม ประชาธิปไตย นกั เรยี น โดยทกุ คน มีส่วนร่วมเสนอชื่อ เมอ่ื ผสู้ มคั รคนใดได ้ คะแนนเลอื กตง้ั มาก ทส่ี ดุ เราตอ้ งยอมรบั ผลการตดั สินนัน้ ▲▲ การเลอื กหัวหนา้ ถือเปน็ กิจกรรมประชาธปิ ไตย 83 ขอสอบเนน การคดิ เกร็ดแนะครู โรงเรียนทเ่ี ปน ประชาธิปไตย มีลักษณะอยา งไร ครอู ธบิ ายเพมิ่ เตมิ วา การทาํ กจิ กรรมประชาธปิ ไตยอาจใชก ารตกลงรว มกนั 1. มกี ารเลือกหัวหนา หอ ง โดยครูเลอื กจากนักเรยี นท่ีเรียนเกง กไ็ ด เชน การดโู ทรทศั น อาจใชก ารตกลงวา ใครจะไดด ชู ว งเวลาใด หรอื ผลดั กนั วา ทีส่ ดุ ถาวันนดี้ ูชว งเวลาน้ี พรุง น้ีอาจเปล่ยี นชว งเวลา เพ่ือใหคนอ่ืนไดด บู า ง เปน ตน 2. มกี ารเลือกประธานนกั เรียนท่ีมาจากการตดั สินของ ผูอํานวยการ 3. มีการเลอื กประธานนกั เรียนโดยการลงคะแนนเสยี ง เลือกตัง้ (วเิ คราะหคําตอบ ขอ 3. โรงเรยี นท่ีเปน ประชาธิปไตยโดยจะตอง นําหลักการประชาธิปไตยมาใชในโรงเรียน เชน การใชเสียงขาง มาก การแบง หนา ทีก่ ันทาํ งาน การรบั ฟงความคิดเห็นของผูอน่ื ) T87
นํา สอน สรุป ประเมนิ ขน้ั สอน ● การร่วมท�างานกลุ่มมีการเลือกหัวหน้าหรือประธาน กลมุ่ แบง่ หนา้ ทร่ี บั ผดิ ชอบ รบั ฟงั และรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ สาํ รวจคน หา อย่างมีเหตุผล ยอมรับเสียงข้างมากและร่วมมือท�ากิจกรรม ตามที่ได้รบั มอบหมายจนงานสา� เร็จ 3. ครูใหน ักเรียนกลมุ เดิมจับคูก นั ศึกษาความรู เรื่อง ลักษณะสังคมทีเ่ ปนประชาธปิ ไตย ▲▲ การรว่ มกันคิดร่วมกนั วางแผนในการท�างานกลุ่ม ยอ่ มทา� ให้งานส�าเร็จไดร้ วดเรว็ และเรียบร้อย จากหนงั สือเรยี น หนา 82-84 ตามประเด็น ทกี่ าํ หนด ดงั น้ี ●▲▲ครูและนักเรียนร่วมกันจัดกิจกรรมในวันส�าคัญ เช่น - คูท่ี 1 ศึกษาความรูเร่ือง ครอบครวั ที่เปน วนั ขน้ึ ปีใหม่ วนั ลอยกระทง วันสงกรานต ์ เปน็ ตน้ ประชาธิปไตย - คทู ่ี 2 ศึกษาความรูเร่อื ง โรงเรียนที่เปน 84 ประชาธปิ ไตย อธบิ ายความรู 4. สมาชิกแตละคใู นกลุม ผลัดกันอธิบายผลการ ศกึ ษาเรือ่ ง ลักษณะครอบครวั และโรงเรยี นที่ เปน ประชาธิปไตย พรอมทงั้ ผลดั กนั ซักถาม จนมคี วามเขา ใจตรงกัน 5. ตัวแทนของแตล ะกลุม ออกมาอภปิ รายความรู จากการศึกษาที่หนา ชัน้ เรียน หากมขี อ สงสยั ใหสอบถามจนมคี วามเขา ใจตรงกัน 6. นักเรียนตอบคาํ ถามกระตุนความคดิ • ถาหากโรงเรียนมีการเลือกตั้งประธาน นกั เรยี น นกั เรียนควรทําอยา งไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน เขารว มกจิ กรรมดวยความเต็มใจ) • ครอบครัวท่ีเปนประชาธิปไตยมีลักษณะ อยางไร (แนวตอบ : เชน พอแมตองรับฟงความ คิดเห็นของลูก สมาชิกในครอบครัวควรมี สวนรวมในกจิ กรรม เปน ตน) • โรงเรียนท่ีเปนประชาธิปไตยมีลักษณะ อยางไร (แนวตอบ : เชน สมาชิกในโรงเรียนควรมี สว นรวมในกจิ กรรมที่โรงเรยี นจัด เปน ตน ) เกร็ดแนะครู ขอสอบเนน การคดิ ครูควรจัดโครงการสงเสริมประชาธิปไตยในโรงเรียน เพื่อใหนักเรียนได ขอใดไมเก่ียวขอ งกับกจิ กรรมประชาธปิ ไตย ปฏิบัติจริงและเขาใจกิจกรรมประชาธิปไตยไดมากข้ึน โดยมีหัวขอตางๆ เชน 1. การมเี หตุผล หลักการและเหตุผล วัตถุประสงคของโครงการ เปาหมายของโครงการ 2. การมีสวนรวม ลักษณะของโครงการ คาใชจาย ระยะเวลาในการดําเนินการ ปญหาอุปสรรค 3. การใชกาํ ลังตัดสินปญ หา ผลทีค่ าดวาจะไดร บั การติดตามและประเมนิ ผล เปนตน (วิเคราะหคําตอบ ขอ 3. กิจกรรมประชาธิปไตยเนนใหสมาชิก ทกุ คนมสี ว นรว มในการทาํ กจิ กรรมรว มกนั มเี หตผุ ลในการแกป ญ หา ไมใชกําลังในการแกปญหา และยอมรบั เสยี งสวนใหญ) T88
นาํ สอน สรุป ปปรระเะมเนิ มิน กิจกรรมพัฒนาการเรยี นรู้ ขน้ั สอน ๑. วาดภาพกจิ กรรมในครอบครวั ที่ใชก้ ระบวนการประชาธปิ ไตย ขยายความเขาใจ และเขียนบรรยายใตภ้ าพ แลว้ น�าเสนอผลงานหน้าชั้น ๒. เขียนเล่าประสบการณก์ ารตัดสินใจโดยใช้เสยี งขา้ งมากทเ่ี คย 7. นกั เรียนตอบคาํ ถามกระตุน ความคดิ ปฏิบัติ และบอกผลดีทเ่ี กิดขน้ึ • ลกั ษณะสังคมทเี่ ปน ประชาธปิ ไตยท่ี ๓. รว่ มกนั อภปิ รายเกยี่ วกบั การเลอื กเพอื่ นเปน็ หวั หนา้ ชนั้ หรอื เลอื ก นกั เรยี นตอ งการควรเปน อยา งไร ประธานนักเรียน ว่าควรปฏิบตั อิ ย่างไร (แนวตอบ : พจิ ารณาตามคาํ ตอบของนกั เรยี น ๔. บนั ทึกการกระทา� ทีเ่ ปน็ ประชาธปิ ไตยในครอบครวั ของตนเอง โดยใหอยูในดุลยพินิจของครูผูสอน เชน แลว้ น�าเสนอผลงานหนา้ ชน้ั เปนสังคมท่ีมีความยุติธรรม ไมเอารัด ๕. วิเคราะหค์ า� ถามทกี่ �าหนดให ้ แลว้ เขียนค�าตอบมาพอเขา้ ใจ เอาเปรยี บกัน) ๑) นักเรียนคิดวา่ กิจกรรมประชาธปิ ไตยมผี ลดีอย่างไรบา้ ง ๒) นกั เรยี นคดิ วา่ สังคมที่เป็นประชาธปิ ไตย มีลกั ษณะอยา่ งไร 8. นักเรียนแตละกลุมรวมกันนําความรูที่ไดมา ทําใบงานที่ 4.3 เรื่อง ลักษณะสังคมท่ีเปน กิจกรรมรวบยอด ประชาธปิ ไตย เสรจ็ แลว นําสง ครผู ูส อน ยกตวั อยา่ งการกระทา� ตามกระบวนการประชาธปิ ไตยใน 9. นกั เรยี นแตล ะกลมุ รว มกนั นาํ ความรทู ไ่ี ดม าทาํ ครอบครัวและโรงเรยี นท่ตี นเองเคยปฏบิ ตั ิ แลว้ รว่ มกนั แสดงความ ใบงานท่ี 4.4 เรือ่ ง กิจกรรมประชาธปิ ไตยใน คดิ เหน็ ว่า การกระทา� ตามกระบวนการประชาธปิ ไตยในครอบครวั ครอบครัว และใบงานท่ี 4.5 เรอื่ ง กจิ กรรม และโรงเรยี นมีผลดอี ย่างไร จากน้ันบนั ทึกผล แลว้ น�าเสนอผลงาน ประชาธิปไตยในโรงเรียน เสร็จแลวนําสงครู หน้าช้ัน ผูสอน 85 10. ครูใหนักเรียนทํากิจกรรมพัฒนาการเรียนรู และกจิ กรรมรวบยอด จากหนงั สอื เรยี น หนา 85 ตรวจสอบผล 11. ครูตรวจสอบใบงานและการทํากิจกรรม พัฒนาการเรียนรูและกิจกรรมรวบยอดของ นักเรยี น ขน้ั สรปุ 1. ครแู ละนกั เรยี นรว มกนั สรปุ ความรู เรอ่ื ง ลกั ษณะ สงั คมทีเ่ ปน ประชาธปิ ไตย 2. นักเรยี นบนั ทกึ ขอ มลู ลงในสมดุ ขน้ั ประเมนิ ครูประเมินผลการทําใบงานท่ี 4.3, 4.4, 4.5 กิจกรรมพัฒนาการเรียนรูและกิจกรรมรวบยอด ของนักเรยี น ขอสอบเนน การคดิ แนวทางการวัดและประเมินผล เราใชห ลกั ประชาธิปไตยในโรงเรยี นเพื่ออะไร ครูศึกษาแนวทางการวัดและประเมินผลเพ่ือประเมินชิ้นงานของนักเรียน 1. ไมใ หน กั เรียนแสดงความคิดเหน็ ท่แี ตกตา งกัน จากใบประเมินชน้ิ งานท่ีแนบทา ยแผนการสอน 2. ทําใหน กั เรยี นแยกกันเปน กลุม ๆ 3. ลดความขัดแยงในโรงเรียน แบบประเมินการนาเสนอผลงาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรมการทางานรายบคุ คล แบบประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ (วเิ คราะหค าํ ตอบ ขอ 3. หลกั ประชาธปิ ไตยทสี่ าํ คญั คอื การทาํ งาน คาชีแ้ จง : ใหผ้ ู้สอนสังเกตพฤตกิ รรมของนักเรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขีด ลงในชอ่ งที่ คาชี้แจง : ใหผ้ สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนในระหวา่ งเรยี นและนอกเวลาเรยี น แล้วขดี ลงในช่องท่ี คำช้ีแจง : ใหผ้ ู้สอนสงั เกตพฤตกิ รรมของนกั เรยี นในระหว่างเรยี นและนอกเวลาเรยี น แลว้ ขีด ลงในชอ่ งท่ี เปนกลุม รวมกันแสดงความคิดเห็นและตัดสินใจโดยใชเสียงขาง ตรงกบั ระดับคะแนน ตรงกบั ระดบั คะแนน ตรงกับระดับคะแนน มาก ใชเ หตผุ ลในการทาํ งาน และรบั ฟง ความคดิ เหน็ ของสมาชกิ ใน โรงเรยี น ซง่ึ ทง้ั หมดนกี้ เ็ พอื่ ลดความขดั แยง ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ ในโรงเรยี น) ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดับคะแนน ลาดับท่ี รายการประเมนิ ระดบั คะแนน คณุ ลักษณะ รำยกำรประเมนิ ระดบั คะแนน 1 เนื้อหาละเอยี ดชดั เจน 321 1 การแสดงความคิดเหน็ 321 อันพึงประสงค์ดำ้ น 321 2 ความถูกตอ้ งของเนื้อหา 2 การยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผูอ้ น่ื 1. รักชาติ ศาสน์ 1.1 ยืนตรงเคารพธงชาติ และร้องเพลงชาติได้ 3 ภาษาทใ่ี ชเ้ ข้าใจงา่ ย 3 การทางานตามหนา้ ท่ที ไี่ ด้รับมอบหมาย กษตั ริย์ 1.2 เขา้ ร่วมกิจกรรมที่สรา้ งความสามคั คี ปรองดอง และเปน็ ประโยชน์ 4 ประโยชนท์ ่ีได้จากการนาเสนอ 4 ความมีนาใจ 5 วธิ ีการนาเสนอผลงาน 5 การตรงตอ่ เวลา 2. ซอื่ สัตย์ สจุ ริต ตอ่ โรงเรียน 3. มีวนิ ัย รบั ผิดชอบ 1.3 เขา้ รว่ มกจิ กรรมทางศาสนาท่ีตนนบั ถอื ปฏบิ ัติตามหลักศาสนา รวม รวม 4. ใฝ่เรยี นรู้ 1.4 เขา้ ร่วมกจิ กรรมท่เี ก่ียวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ตามท่ีโรงเรียนจัดขน้ึ 2.1 ใหข้ อ้ มลู ทถ่ี กู ต้อง และเป็นจริง ลงชื่อ...................................................ผปู้ ระเมนิ ลงชื่อ...................................................ผ้ปู ระเมนิ 5. อยูอ่ ยา่ งพอเพียง 2.2 ปฏบิ ตั ใิ นสิ่งทถ่ี ูกต้อง ............../.................../................ ............../.................../................ 3.1 ปฏิบตั ติ ามขอ้ ตกลง กฎเกณฑ์ ระเบียบ ขอ้ บังคบั ของครอบครัว 6. มุ่งม่ันในการ เกณฑ์การให้คะแนน ให้ 3 คะแนน เกณฑก์ ารให้คะแนน ให้ 3 คะแนน ทางาน มีความตรงต่อเวลาในการปฏิบัตกิ จิ กรรมต่างๆ ในชวี ติ ประจาวัน ผลงานหรอื พฤติกรรมสอดคล้องกบั รายการประเมนิ สมบูรณช์ ดั เจน ให้ 2 คะแนน ปฏิบตั หิ รือแสดงพฤตกิ รรมอยา่ งสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน 4.1 รจู้ ักใชเ้ วลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์ และนาไปปฏบิ ตั ิได้ ผลงานหรอื พฤตกิ รรมสอดคล้องกับรายการประเมนิ เป็นสว่ นใหญ่ ให้ 1 คะแนน ปฏิบตั หิ รอื แสดงพฤติกรรมบอ่ ยครัง ให้ 1 คะแนน 7. รกั ความเปน็ ไทย 4.2 รู้จักจดั สรรเวลาให้เหมาะสม ผลงานหรือพฤตกิ รรมสอดคลอ้ งกับรายการประเมนิ บางสว่ น ปฏบิ ัติหรอื แสดงพฤตกิ รรมบางครงั 8. มีจิตสาธารณะ 4.3 เชือ่ ฟงั คาสง่ั สอนของบดิ า-มารดา โดยไม่โตแ้ ย้ง 4.4 ตั้งใจเรยี น เกณฑ์การตัดสินคณุ ภาพ เกณฑ์การตัดสนิ คณุ ภาพ 5.1 ใช้ทรัพย์สินและส่ิงของของโรงเรยี นอยา่ งประหยัด ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 5.2 ใชอ้ ุปกรณก์ ารเรยี นอยา่ งประหยัดและรคู้ ุณคา่ ช่วงคะแนน ระดบั คุณภาพ 12 - 15 ดี 5.3 ใช้จา่ ยอย่างประหยดั และมกี ารเกบ็ ออมเงนิ 12 - 15 ดี 8 - 11 พอใช้ 6.1 มีความตง้ั ใจและพยายามในการทางานท่ีไดร้ บั มอบหมาย 6.2 มีความอดทนและไมท่ อ้ แทต้ อ่ อุปสรรคเพอ่ื ใหง้ านสาเร็จ 7.1 มีจติ สานึกในการอนุรักษ์วฒั นธรรมและภมู ิปัญญาไทย 7.2 เหน็ คณุ ค่าและปฏิบตั ติ นตามวัฒนธรรมไทย 8.1 รจู้ ักช่วยพอ่ แม่ ผูป้ กครอง และครทู างาน 8.2 รู้จกั การดูแล รกั ษาทรัพยส์ มบตั แิ ละส่ิงแวดล้อมของหอ้ งเรยี น โรงเรียน 8 - 11 พอใช้ ตา่ กว่า 8 ปรับปรงุ ลงชอ่ื ...................................................ผปู้ ระเมิน ต่ากวา่ 8 ปรบั ปรุง ............../.................../................ เกณฑก์ ำรใหค้ ะแนน ให้ 3 คะแนน พฤติกรรมทีป่ ฏบิ ัตชิ ัดเจนและสม่าเสมอ ให้ 2 คะแนน พฤตกิ รรมที่ปฏิบัติชัดเจนและบอ่ ยครั้ง ให้ 1 คะแนน พฤติกรรมท่ปี ฏบิ ัติบางคร้งั ภมู ศิ าสตร์ ป.1 15 ภูมศิ าสตร์ ป.1 16 ภมู ศิ าสตร์ ป.1 18 T89
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178