Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore รายงานสุขภาพคนไทย_ปี_2561 (1)

รายงานสุขภาพคนไทย_ปี_2561 (1)

Description: รายงานสุขภาพคนไทย_ปี_2561 (1)

Search

Read the Text Version

บอกกลา่ ว ปี 2564 ประเทศไทยจะเข้าสู่สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ โดยมปี ระชากรสงู อายถุ งึ รอ้ ยละ 20 เนอ่ื งจากอตั ราเกดิ ตำ่� กวา่ ระดับทดแทน สัดส่วนวัยแรงงานลดลง การพัฒนาคน ทุกช่วงวัยเป็นเร่ืองส�ำคัญ ช่วง “ปฐมวัย” เป็นช่วงชีวิต ท่ีมนุษย์มีการพัฒนาทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญาและ การเรียนรู้ เกิดขึ้นมากที่สุด หากช่วงวัยน้ีเด็กได้รับการ เลี้ยงดู การดูแลและการพัฒนาที่ดี จะท�ำให้เด็กเติบโต อย่างมีรากฐานชีวิตที่มั่นคง เกิดผลในระยะยาวทั้งต่อตัว บุคคลและสังคมประเทศ สุขภาพคนไทย ฉบับน้ีจึงขอ น�ำเสนอ “10 หมวดตัวช้ีวัดสุขภาพเด็กปฐมวัย” เพ่ือให้ เห็นถึงสถานการณ์ ข้อมูลและสถิติ ที่จะท�ำให้เห็นภาพ ความส�ำเร็จ รวมถึงความท้าทายของประเทศในการ ขบั เคลอ่ื นการพฒั นาสขุ ภาวะ และคณุ ภาพชวี ติ เดก็ ปฐมวยั เพ่ือสนับสนุนให้มีการลงทุนในเด็กปฐมวัยโดยเฉพาะด้าน สุขภาพและการศึกษา ซ่ึงในระยะยาวจะให้ผลตอบแทน ทค่ี มุ้ ค่าตอ่ สงั คมในสดั ส่วนที่สงู

10 สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ ยังคงรวบรวมเร่ืองส�ำคัญของปี 2560 มาให้เรียนรู้ เร่ืองที่ 1) คือ พระจักรีนิวัตฟ้า สถิตใจ ประชานิรนั ดร์ บอกเลา่ เรอื่ งราวพระราชพธิ ถี วายพระเพลงิ พระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมนิ ทรมหาภูมพิ ลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร 2) ก้าวคนละก้าว จากเบตง สู่แม่สาย 3) แก้ไข พ.ร.บ. หลักประกันสุขภาพแห่งชาติ และ พ.ร.บ. กองทุน สนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ: ประเมินผลกระทบตามแนวทางของรัฐธรรมนูญ 4) พ.ร.บ. ควบคุมผลิตภัณฑ์ยาสูบ 2560 อีกหนึ่งความก้าวหน้าด้านสุขภาพไทย 5) พ.ร.บ.ควบคุมการส่งเสริมการตลาดอาหารส�ำหรับทารกและเด็กเล็ก พ.ศ. 2560 ชยั ชนะเบือ้ งตน้ ของแม่และเด็กไทย 6) บัตรสวสั ดิการแห่งรัฐ “Inclusive Growth” จรงิ หรือ 7) EEC อย่าลมื เศรษฐกิจฐานราก 8) การพัฒนาภูมิปัญญาไท สุขภาพวิถีไท 9) คสช. เดินหน้าปฏิรูปประเทศ วาดฝันก้าวพ้นวังวนปัญหา 10) คดีจ�ำน�ำข้าวพ่นพิษ: ย้อนรอยการตรวจสอบทุจริตภาครัฐ ส่วน 4 ผลงานดีๆ เพื่อสุขภาพคนไทย ประกอบด้วย 1) องค์การยูเนสโกถวายราชสดุดีในหลวงรัชกาลท่ี 9 2) WHO ชื่นชมระบบหลักประกันสุขภาพไทย ที่สามารถให้บริการ ลา้ งไตทบี่ า้ น 3) ยกยอ่ งไทยประเทศชน้ั นำ� แกโ้ รคไมต่ ดิ ตอ่ เรอ้ื รงั (NCDs) 4) สสส. ไดร้ างวลั No Tobacco Day ควบเชดิ ชเู กยี รติ ธรรมาภบิ าล บทความพเิ ศษประจำ� ฉบบั ในปนี ้ี ชวนทา่ นผอู้ า่ นมาทบทวนเรอ่ื งพทุ ธศาสนา วา่ จะสามารถเออ้ื ตอ่ การสรา้ งสขุ ภาวะไดอ้ ยา่ งไร ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงของสังคม ที่มีผลต่อความคิดความเช่ือและวิถีชีวิต เราจึงเปิดประเด็นชวนคิดว่า ศาสนายังมี ความสำ� คญั และจำ� เปน็ ตอ่ ชวี ติ มนษุ ยอ์ ยหู่ รอื ไม?่ และเพอื่ ทจี่ ะเขา้ ใจความเชอ่ื มโยงระหวา่ งพทุ ธศาสนากบั สขุ ภาวะในปจั จบุ นั ก็จ�ำเป็นจะต้องรับรู้รับทราบที่มาของพุทธศาสนาก่อนว่าเข้ามาในแผ่นดินไทยเมื่อใด อย่างไร และท�ำหน้าที่ต่อสังคมไทย อย่างไรบ้าง บทความน้ี น�ำท่านวิเคราะห์ความเก่ียวข้องระหว่างแก่นแท้ของพุทธศาสนา คือ หลักธรรมและวินัย ที่เป็น แนวทางของการสร้างสุขภาวะในทุกมิติ โดยได้เน้นให้เห็นความส�ำคัญของมิติทางปัญญา ท่ีถือเป็นพ้ืนฐานของความสุข ทางกาย ทางจติ ใจ และทางสงั คม ปญั ญา จะนำ� ใหค้ นเรามองเหน็ ชวี ติ ตามความเปน็ จรงิ หรอื ตามกฎของธรรมชาติ และใชช้ วี ติ โดยไม่ประมาท ไม่ว่าจะการเป็นอยู่ การบริโภคอาหาร การประพฤติปฏิบัติ แล้วปัจจุบันนี้ กลไกของพุทธศาสนา ได้ท�ำ หนา้ ทสี่ รา้ ง ปญั ญา ใหส้ งั คมหรอื ไม่ นน่ั คอื สงิ่ ทท่ี า่ นจะไดเ้ รยี นรตู้ อ่ ไป พระสงฆแ์ ละวดั ทำ� หนา้ ทสี่ รา้ งเสรมิ สขุ ภาวะอยา่ งไร เช่น ธรรมเนียมการบวช บทบาทของวัดต่อชุมชน รวมไปถึงบทบาทของขบวนการชาวพุทธ ที่เกิดขึ้นมาช้านาน ท้ายท่ีสุด บทความได้ข้อสรุปว่า พุทธศาสนา เป็นหนทางไปสู่การสร้างสุขภาวะไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง และในระดับที่มากน้อยต่างกัน ขึ้นอยทู่ ว่ี า่ พวกเรานบั ถอื พทุ ธศาสนาแบบไหน

สารบญั 10 หมวดตัวช้วี ดั สขุ ภาพเดก็ ปฐมวัย 1. ภาวะโภชนาการ 10 2. การเจบ็ ปว่ ยและความผดิ ปกต ิ 12 3. การบาดเจ็บ 14 4. สุขภาพชอ่ งปากและสายตา 16 5. พัฒนาการ 18 6. สขุ ภาพแม่และเด็ก 22 7. การเล้ยี งด ู 24 8. การศกึ ษาของเดก็ ปฐมวยั 26 9. เดก็ กลุ่มเปราะบาง 28 10. ข้อพิจารณาทางนโยบาย 30

10 สถานการณ์เดน่ ทางสุขภาพ 4 ผลงานดๆี เพือ่ สขุ ภาพคนไทย 1. พระจักรีนิวตั ฟ้า สถิตใจประชานิรนั ดร์ 34 1. องคก์ ารยูเนสโกถวายราชสดุด ี 86 2. กา้ วคนละก้าว จากเบตง สู่แมส่ าย 40 ในหลวงรชั กาลท่ี 9 3. แก้ไข พ.ร.บ. หลักประกันสขุ ภาพแห่งชาติ 44 2. WHO ชน่ื ชมระบบหลักประกันสุขภาพไทย 87 และ พ.ร.บ. กองทนุ สนบั สนุนการสร้างเสรมิ ทสี่ ามารถใหบ้ ริการล้างไตท่ีบา้ น สขุ ภาพ: ประเมินผลกระทบตามแนวทาง 3. ยกยอ่ งไทยประเทศช้ันนำ� 88 ของรฐั ธรรมนญู แก้โรคไม่ตดิ ต่อเรือ้ รงั (NCDs) 4. พ.ร.บ. ควบคมุ การส่งเสริมการตลาดอาหาร 50 4. สสส. ได้รางวลั No Tobacco Day 89 สำ�หรบั ทารกและเด็กเล็ก พ.ศ. 2560 ควบเชดิ ชูเกียรติธรรมาภิบาล 5. พ.ร.บ. ควบคมุ ผลิตภณั ฑย์ าสูบ 2560 55 อกี หนง่ึ ความก้าวหนา้ ด้านสุขภาพไทย เรือ่ งพิเศษประจำ�ฉบับ 6. บตั รสวสั ดิการแห่งรัฐ 60 พุทธศาสนากับการสร้างเสริมสขุ ภาวะ 92 “Inclusive Growth” จรงิ หรอื 7. การพฒั นาภมู ิปัญญาไท สขุ ภาพวถิ ีไท 64 ภาคผนวก 8. EEC อยา่ ลืมเศรษฐกจิ ฐานราก 68 เกณฑ์ในการจดั ทำ�รายงาน 118 9. คดจี ำ�นำ�ขา้ วพ่นพิษ: 74 “สุขภาพคนไทย 2561” ย้อนรอยการตรวจสอบทจุ รติ ภาครัฐ รายชื่อคณะกรรมการช้ที ศิ ทาง 121 10. คสช. เดนิ หน้าปฏิรูปประเทศ 80 รายช่ือผ้ทู รงคณุ วฒุ ิ 122 วาดฝนั กา้ วพ้นวงั วนปัญหา รายชอื่ คณะทำ�งานจัดทำ�รายงานสุขภาพคนไทย 123 บรรณานกุ รม 124

ส�ำหรบั การอ้างองิ บทความ โครงการสุขภาพคนไทย. 2561. ชือ่ บทความ. สุขภาพคนไทย 2561 (เลขหนา้ ของบทความ). นครปฐม: สถาบนั วิจัยประชากรและสังคม มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล. ตวั อย่าง โครงการสุขภาพคนไทย. 2561. สุขภาพช่องปากและสายตา. สุขภาพคนไทย 2561 (หนา้ 16-17). นครปฐม: สถาบนั วิจยั ประชากรและสังคม มหาวิทยาลัยมหิดล.



10 หมวดตัวชี้วัด สุขภาพเด็กปฐมวัย ในปัจจุบันที่ประเทศไทยมีผู้สูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) มากถึงร้อยละ 17.7 ของประชากรทั้งหมด1 สัดส่วน วัยกำ�ลังแรงงานจะลดลงในอนาคตอันใกล้ ขณะที่อัตราเกิดของประชากรรุ่นใหม่อยู่ในระดับที่ต่ำ�เมื่อ เทียบกับในอดีต การพัฒนาคนที่จะเป็นกำ�ลังหลักสำ�คัญในการพัฒนาประเทศในอนาคตให้มีคุณภาพ มีสุขภาวะที่ดีและศักยภาพที่เหมาะสมในแต่ละช่วงวัยเป็นเรื่องที่มีความสำ�คัญ “ปฐมวัย” เป็นช่วงชีวิตที่มนุษย์มีการพัฒนาทาง นยิ ามและการกำ� หนดชว่ งอายทุ ชี่ ดั เจนของเดก็ ปฐมวยั ร่างกาย จิตใจ สติปัญญาและการเรียนรู้ เกิดข้ึนมากที่สุด มีการใช้ท่ีแตกต่างกันในเอกสารงานศึกษาท่ีเกี่ยวข้อง และเร็วที่สุด หากในช่วงวัยน้ี เด็กได้รับการเล้ียงดู ในการน�ำเสนอตัวช้ีวัดสุขภาพคนไทย ใช้นิยามเด็กปฐมวัย การดแู ลและพฒั นาทด่ี ี โดยเฉพาะดา้ นสขุ ภาพ การสง่ เสรมิ ในความหมายทใ่ี ชก้ นั เปน็ สว่ นใหญโ่ ดยครอบคลมุ เดก็ ทารก การเรียนรู้ และพัฒนาการ ย่อมจะท�ำให้เด็กเติบโตอย่างมี แรกเกดิ ไปจนถงึ กอ่ นอายคุ รบ 6 ปบี รบิ รู ณ์ ยกเวน้ ในบางเรอ่ื ง รากฐานชีวิตท่ีดี เกิดประโยชน์ในระยะยาวทั้งต่อตัวบุคคล โดยเฉพาะที่เก่ียวข้องกับการส่งเสริมสุขภาวะและพัฒนา และสังคมประเทศ สุขภาพคนไทย ฉบับปี 2561 ขอน�ำ เด็กปฐมวัย ที่การน�ำเสนอข้อมูลอาจครอบคลุมกว้างตั้งแต่ เสนอ “10 หมวดตัวชว้ี ัดสุขภาพเดก็ ปฐมวยั ” เพอ่ื บอกเลา่ ช่วงทารกในครรภ์มารดาไปจนถึงอายุครบ 8 ปีบริบูรณ์2 สถานการณ์ในเรื่องน้ีผ่านข้อมูลตัวเลขและสถิติ ที่จะท�ำให้ จากฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร์ จ�ำนวนเด็กปฐมวัยอายุ เห็นภาพจุดแข็ง ความส�ำเร็จ รวมถึงช่องว่างและความ 0-5 ปีในไทยลดลงต่อเนื่องในช่วง 20 ปีที่ผ่านมา จาก ท้าทายของประเทศในการขับเคลื่อนการพัฒนาสุขภาวะ 5.4 ล้านคนในปี 2540 เหลอื พียง 4.2 ลา้ นคนในปัจจบุ นั และคณุ ภาพชวี ติ เด็กปฐมวยั ต่อไป ตวั ชว้ี ดั ทนี่ ำ� เสนอทง้ั 10 หมวด แบง่ ออกไดเ้ ปน็ 4 สว่ น ส่วนแรก (หมวด 1-4) เป็นสถานการณ์สุขภาพเด็กปฐมวัย จำ�นวนเด็กปฐมวัยไทย (อายุ 0-5 ปี) และความเส่ียงทางสุขภาพท่ีส�ำคัญ ประกอบด้วย ภาวะ โภชนาการ การเจ็บป่วยและความผิดปกติ การบาดเจ็บ 5,449,256 4,223,668 ในเด็ก สุขภาพช่องปากและสายตา ส่วนที่ 2 (หมวด 5) 4,712,763 เป็นตัวชี้วัดพัฒนาการเด็ก ทางด้านร่างกาย สติปัญญา ความฉลาดทางอารมณ์ รวมถึงทักษะการคิดเชิงบริหาร 2540 2550 2560 สว่ นที่ 3 (หมวด 6-8) เปน็ ตวั ชว้ี ดั เกยี่ วกบั ปจั จยั ทมี่ อี ทิ ธพิ ล ต่อสุขภาพและพัฒนาการของเด็ก ประกอบด้วย สุขภาพ ท่มี า : ส�ำนักบริหารการทะเบยี น กรมการปกครอง แม่และเดก็ การเลีย้ งดู และการศึกษาของเดก็ ปฐมวัย และ ในสว่ นที่ 4 (หมวด 9-10) เปน็ ขอ้ มลู เดก็ ปฐมวยั กลมุ่ เปราะบาง และขอ้ พจิ ารณาทางนโยบายสำ� หรับประเทศไทย 1 สารประชากร มหาวิทยาลยั มหดิ ล “ประชากรของประเทศไทย พ.ศ. 2561” 2 จากคำ� อธบิ ายเกี่ยวกบั การพฒั นาเดก็ ปฐมวยั หรอื Early Child Development โดยองคก์ ารอนามัยโลกและยนู เิ ซฟ (http://www.who.int/topics/early-child-development/en/ และ https://www.unicef.org/dprk/ecd.pdf) 8 สุขภาพคนไทย 2561

โดยภาพรวมเด็กปฐมวัยไทยมีภาวะ “เต้ีย” เป็น ความฉลาดทางอารมณต์ ำ่� กวา่ เกณฑ์และเดก็ อายุ2-5ปีประมาณ สัดส่วนที่สูงกว่า “อ้วน” และ “ผอม” แต่หากเทียบใน รอ้ ยละ 30 มปี ญั หาดา้ นการคดิ เชงิ บรหิ ารลา่ ชา้ กวา่ เกณฑเ์ ฉลยี่ ช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ปัญหาเด็กเตี้ยมีแนวโน้มลดลง ขณะท่ี การสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพและพฒั นาการของเดก็ ปฐมวยั ตอ้ ง เด็กอ้วนและผอมกลับเพ่ิมขึ้น ทารกท่ีได้กินนมแม่เพียง เรม่ิ ตง้ั แตช่ ว่ งทารกในครรภ์ หญงิ ตง้ั ครรภไ์ ทยทกุ คนควรได้ อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกมีแนวโน้มเพ่ิมขึ้นแต่ยังเป็น รบั ธาตเุ หลก็ และไอโอดนี ทเ่ี พยี งพอ รวมถงึ เขา้ ถงึ บรกิ ารฝาก สดั สว่ นทตี่ ำ่� เพยี งประมาณ 1 ใน 4 การไดร้ บั วคั ซนี ทเี่ หมาะสม ครรภแ์ ละตรวจหลงั คลอดทจี่ ำ� เปน็ ซง่ึ จากขอ้ มลู ทพ่ี บ มคี วาม ในขวบปแี รก (ครบตามคำ� แนะนำ� ) คดิ เปน็ รอ้ ยละ 71.6 โดย ทา้ ทายในเรอ่ื งนที้ ต่ี อ้ งพฒั นาตอ่ ไป ปจั จยั การเลยี้ งดแู ละการ พบว่าเด็กอีกร้อยละ 3.3 ไม่ได้รับวัคซีนเลย อัตราตายเด็ก ไดร้ บั การสง่ เสรมิ การเรยี นรทู้ เ่ี หมาะสมเปน็ อกี ปจั จยั ก�ำหนดที่ อายุต่�ำกว่า 5 ปีของไทยแม้จะต่�ำกว่าหลายประเทศ แต่ยัง มคี วามสำ� คญั เดก็ ไทยมากกวา่ 1 ใน 3 มผี เู้ ลยี้ งดหู ลกั ทไี่ มใ่ ช่ สูงกว่าสิงคโปร์ 4-5 เท่า โดยการตายของเด็กอายุ 1-4 ปี พ่อแม่ ส่วนใหญ่เป็นปู่ย่าหรือตายาย ซ่ึงในกลุ่มน้ีมีสัดส่วน มาจากการบาดเจบ็ มากกวา่ จากโรคหรอื การเจบ็ ปว่ ย สาเหตุ พัฒนาการสงสัยล่าช้าที่สูงกว่าเด็กท่ีได้อยู่กับพ่อแม่ การใช้ หลักคือ การจมน้ำ� และอุบตั ิเหตจุ ราจร ความรุนแรงในการเล้ียงดูและลงโทษทางร่างกายซ่ึงอาจ ปญั หาและความเสยี่ งทางสขุ ภาพอน่ื ๆ ทสี่ ำ� คญั ทอี่ าจสง่ สร้างบาดแผลและผลกระทบทางจิตใจต่อเด็กในระยะยาว ผลกระทบตอ่ ความสามารถในการเรยี นรแู้ ละพฒั นาการของ เปน็ เรอื่ งทผ่ี เู้ ลยี้ งและครอบครวั ไทยตอ้ งปรบั ทศั นคติ เกยี่ วกบั เดก็ ในวยั น้ี ไดแ้ ก่ ภาวะผดิ ปกตทิ างการเรยี นรซู้ งึ่ สว่ นหนงึ่ เปน็ การศกึ ษาระดบั ปฐมวยั ประมาณ 3 ใน 4 ของเดก็ อายุ 3-5 ปี ผลจากการเลยี้ งเดก็ ดว้ ยอปุ กรณเ์ ทคโนโลยใี นชว่ งอายทุ เ่ี รว็ ก�ำลังอยู่ในระบบการศึกษาระดับอนุบาล ขณะที่ประมาณ เกนิ ไปและมากเกนิ ไป ปญั หาฟนั นำ�้ นมผแุ ละการดแู ลสขุ ภาพ ครงึ่ หนงึ่ ของเดก็ อายตุ ำ่� กวา่ 3 ปี อยใู่ นระดบั เตรยี มอนบุ าลใน ชอ่ งปากที่ไมเ่ หมาะสม รวมถึงภาวะสายตาผิดปกติ ซง่ึ เป็น ศนู ยก์ ารเรยี น สถานเลย้ี งเดก็ และศนู ยพ์ ฒั นาเดก็ ทว่ั ประเทศ เรอ่ื งทพ่ี อ่ แมผ่ ปู้ กครองไทยตอ้ งดแู ลเฝา้ ระวงั หาความรแู้ ละ เพ่ือเป็นข้อพิจารณาเชิงนโยบายในการขับเคล่ือน ตระหนกั ใหเ้ ทา่ ทนั การพัฒนาสุขภาวะและคุณภาพชีวิตของเด็กปฐมวัยไทย เกย่ี วกบั พฒั นาการ การสำ� รวจในปี 2560 พบเดก็ ปฐมวยั เด็กกลุ่มเปราะบาง โดยเฉพาะเด็กถูกทอดท้ิง เด็กพิการ รอ้ ยละ 23.1 มพี ฒั นาการสงสยั ลา่ ชา้ สว่ นใหญเ่ ปน็ ในดา้ น เด็กยากจน กลุ่มเด็กเร่ร่อนและเด็กข้ามชาติหรือไร้สัญชาติ กล้ามเน้ือมัดเล็กและสตปิ ญั ญา การเข้าใจภาษาและการใช้ เปน็ กลมุ่ เดก็ ทต่ี อ้ งการการดแู ลและชว่ ยเหลอื จากสงั คม การ ภาษา ตามลำ� ดบั พฒั นาการดา้ นความฉลาดทางอารมณแ์ ละ ลงทนุ ในเดก็ ปฐมวยั ดา้ นสขุ ภาพและการศกึ ษามคี วามคมุ้ คา่ ทกั ษะการคดิ เชงิ บรหิ าร หรอื Executive Function (EF) เปน็ และให้ผลตอบแทนคืนกลับต่อสังคมในสัดส่วนท่ีสูงใน อกี เรอ่ื งทมี่ คี วามสำ� คญั การศกึ ษาในประเทศไทย พบเดก็ ไทย ระยะยาว แตจ่ ำ� เปน็ ตอ้ งไดร้ บั ความรว่ มมอื และการสนบั สนนุ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 (อายปุ ระมาณ 6-7 ป)ี ราว 1 ใน 4 มรี ะดบั จากทกุ ภาคสว่ นที่เกีย่ วข้อง 910 หมวดตัวชี้วัดสุขภาพเด็กปฐมวัย

1 ภาวะโภชนาการ เด็กไทยอายุต�่ำกว่า 5 ปี เกือบ 1 ใน 10 มีภาวะ “อ้วน” ขณะที่อีกร้อยละ 5.4 ยงั มปี ญั หา “ผอม” 10 ปีที่ผ่านมา ภาวะโภชนาการเด็กปฐมวัยไทยบางเรื่องดีขึ้น บางเรื่องยังต้องเฝ้าระวัง การส่งเสริม การเลี้ยงดูด้วยนมแม่และอาหารที่เหมาะสมกับอายุของทารกและเด็กเล็กในวัยนี้เป็นเรื่องที่มีความสำ�คัญ รอยละเ ็ดกอายุ ่ตำกวา 5 ป ่ทีมีภาวะทุพโภชนาการ แนวโน้มความชุกของภาวะทุพโภชนาการในเด็กอายุต่ำ�กว่า 5 ปี เด็กไทยที่เตี้ยและผอม มีน้อยกว่าค่าเฉลี่ยโลก 16.3 % (23% และ 8% ตามลำ�ดับ) แต่ที่อ้วน เตีย้ กลับมีมากกว่า (ค่าเฉลี่ยโลก 6%) ทีม่ า : Global Nutrition Report 2017 11.9 % 10.9 % 10.5 % อวน สุขภาพกายท่ีสมบูรณ์และ 6.9 % 6.7 % 8.2 % ผอม ภาวะโภชนาการท่ีเหมาะสมเป็น 4.1 % เงอื่ นไขพน้ื ฐานของโอกาสในการ 5.4 % เรียนรู้และมีพัฒนาการที่สมวัย ของเด็กปฐมวัย ซ่ึงเป็นปัจจัย 2548-2549 2555 2558-2559 ปก ารสำรวจ ก�ำหนดคุณภาพประชากรของ ทมี่ า : การสำ� รวจสถานการณเ์ ดก็ และสตรใี นประเทศไทย (MICS) พ.ศ. 2558-2559, สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ ประเทศในระยะยาว โภชนาการช่วงแรกของชีวิตท่ีดีเร่ิมต้นที่ “นมแม่” การส�ำรวจสถานการณ์เด็กและสตรีในประเทศไทย ปี 2558-2559 พบว่า การเล้ียงทารกด้วยนมแม่อย่างเดียวในช่วง 6 เดือนแรกของไทย แม้จะมีแนวโน้มดีข้ึนแต่ยังอยู่ในระดับที่ต่�ำ หรือ ประมาณเพียง 1 ใน 4 ของทารกวัยนี้ โดยเฉลี่ยเด็กไทยอายุต�่ำกว่า 3 ปี ได้กินนมแม่เพียงอย่างเดียวเป็นระยะเวลาเพียง 0.6 เดือน หรอื ประมาณ 18 วัน เก่ียวกับภาวะโภชนาการ เด็กอายุต�่ำ ภาวะทุพโภชนาการในเด็กปฐมวัย ในภูมิภาคต่างๆ กวา่ 5 ปมี ปี ญั หาทพุ โภชนาการในสดั สว่ นที่ รอยละเ ็ดกอา ุยต่ำก วา 5 ปที่ ีมภาวะ ุทพโภชนาการ 13.6% กรงุ เทพฯ ภาคเหนอื ภาคใต นอ้ ยลงจากผลการสำ� รวจรอบกอ่ นในปี 2555 ภาคกลาง ภาคอสี าน ท่วั ท้ังประเทศ อยา่ งไรกต็ าม หากเทยี บกบั ผลการสำ� รวจในปี 11.8% 2548-2549 หรอื 10 ปกี อ่ น จะเหน็ วา่ ความ 9.8% 10.5% 9.1% 8.8% 8.2% 7.9% ชกุ ของเดก็ “เตยี้ ” นน้ั ลดลง แตค่ วามชกุ ของ 8.7% 7.3% 8.2% เดก็ “อว้ น” และ “ผอม” ยงั นบั วา่ เพม่ิ ขน้ึ 7.9% นอกจากนสี้ ภาพและความรนุ แรงของปญั หา 7.8% 5.2% 5.2% 4.8% เตย้ี อว้ น และผอม ยงั มคี วามแตกตา่ งกนั ใน แตล่ ะภมู ภิ าคและตามสถานะทางเศรษฐสงั คม 3.6% 5.4% ของครอบครวั เดก็ ใตม้ ปี ญั หาเรอื่ ง “เตยี้ และ ผอม” มากทสี่ ดุ ขณะทเี่ ดก็ กรงุ เทพฯ และ เตี้ย ผอม อ้วน ในภาคกลางมปี ญั หาเรอ่ื ง “อว้ น”มากกวา่ ทมี่ า : การสำ� รวจสถานการณเ์ ดก็ และสตรใี นประเทศไทย (MICS) พ.ศ. 2558-2559, สำ� นกั งานสถติ แิ หง่ ชาติ 10 สุขภาพคนไทย 2561

ทารกอายุต่ำ�กว่า 6 เดือนที่กินนมแม่อย่างเดียว มีแนวโน้มเพิ่มขึ้น รอยละของทารกอา ุย 0-5 เ ืดอน ่ีทกินนมแ มอ ยางเ ีดยว23.1 % รอรยอลยะเละเ็ดด็กกอาอายุ ุย11--55ปป ี่ท ่ที ้นน้ำำหห ันนักเกเกิกินน ระยะเวลา (เดือน) โดยเฉลี่ย (มัธยฐาน) ของการกินนมแมข องเดก็ อายุตำ่ กวา 3 ป 12.3 % กินนมแม กินนมแม กนิ นมแมร ปู แบบใด เพียงอยา งเดียว เปน หลกั รปู แบบหนึ่ง 5.4 % 1.8 เดือน 7.9 เดอื น 0.6 เดือน 2548-2549 2555 2558-2559 ปก ารสำรวจ ทีม่ า : การส�ำรวจสถานการณ์เดก็ และสตรีในประเทศไทย (MICS) พ.ศ. 2558-2559, สำ� นกั งานสถติ ิแหง่ ชาติ ผลสำ�รวจสุขภาพประชาชนไทย 1111.3.3%% โดยการตรวจร่างกาย พบความชุกเด็กที่มีภาวะ 77.9.9 %% 88..55 %% นำ�้หนักเกิน “เพิ่มขึ้น” ต่อเนื่อง 55.8.8%% ในช่วงปี 2538-2557 22553388 22554444 22555522 22555577 ปปกกาารรสสำรำรววจจ ที่มา : การสำ� รวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย คร้ังท่ี 5 พ.ศ. 2557 (สุขภาพเดก็ ), สวรส. ปัญหาพฤติกรรมการบริโภคในเด็กปฐมวัย จากข้อมูล Global Nutrition เด็กไทยอายุ 2-5 ปี Report 2017 เปรยี บเทยี บกบั ค่าเฉลี่ยใน 141 ประเทศท่ัวโลก ประเทศไทยยังมี กนิ ผักเพียงพอ กินผลไมเพยี งพอ กนิ ผักและผลไมเ พยี งพอ ร้อยละของปัญหาเด็กอ้วนสูงกว่าค่าเฉลี่ย ตามขอแนะนำ ตามขอแนะนำ ตามขอ แนะนำ ส่วนหนึ่งอาจมาจากปัจจัยด้านการเลี้ยงดู และการบริโภคอาหาร จากการส�ำรวจ 3.8 % 24.9 % 6.5 % สขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจรา่ งกาย ปี 2557 พบว่า ในเด็กกลุ่มอายุ 2-5 ปี เด็กไทย “ตดิ หวานมากข้ึน” - การบริโภคนำ้ อัดลม นำ้ หวาน เครื่องดมื่ หวาน มีเพียงร้อยละ 6.5 เท่าน้ันที่บริโภคผัก ในปริมาณ “1 คร้งั ข้นึ ไปตอ 1 วัน” เพิม่ ข้นึ ในเด็ก 2-5 ป จาก 10% เปน 12% และผลไมไ้ ดเ้ พยี งพอตามปรมิ าณทแี่ นะนำ� และเดก็ 6-9 ป จาก 14% เปน 20 % ระหวางการสำรวจป 2551-52 และ 2557 ในแต่ละวัน ขณะที่การบริโภคน้�ำอัดลม นำ้� หวานหรอื เครอื่ งดมื่ หวานของเดก็ กลบั มี ท่ีมา : การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย ครงั้ ที่ 5 พ.ศ. 2557 (สขุ ภาพเด็ก), สวรส. แนวโน้มเพมิ่ สูงขึ้น 1110 หมวดตัวชี้วัดสุขภาพเด็กปฐมวัย

2 การเจ็บป่วยและความผิดปกติ มือ เท้า ปาก โรคติด 1 ใน 5 อันดับแรกในเด็กปฐมวัย มักพบในเด็กอายุ ต�่ำกว่า 5 ปี เป็นโรคติดต่อท่ีไม่มีวัคซีนป้องกันในประเทศไทย ปี 2560 พบเด็กป่วยกวา่ 6 หมื่นราย การดูแลส่งเสริมสุขภาพที่สมบูรณ์พร้อม ทั้งทางกาย รวมถึงภาวะอารมณ์และจิตใจของเด็กปฐมวัย เป็นบทบาทหน้าที่ที่สำ�คัญของพ่อแม่และครอบครัว ความผิดปกติรูปแบบใหม่ เช่น อาการสมาธิสั้น และ ภาวะความจำ�เสือ่ มจากสือ่ ดจิ ทิ ลั ทีเ่ กดิ จากการหยบิ ยืน่ เทคโนโลยมี ากเกนิ ไปใหก้ บั เดก็ เปน็ เรือ่ งทีพ่ อ่ แมไ่ ทย ต้องตระหนัก การรับวัคซีนตามคำ�แนะนำ�ภายในขวบปีแรก จากข้อมูลในปี 2559 เด็กอายุ ของเด็กอายุ 12-23 เดือน 12-23 เดือนท่ีได้รับวัคซีนครบตาม 80 รอยละ 70 60 50 40 30 20 10 0 ตารางแนะน�ำในขวบปีแรก (โปลิโอ ไดร ับ 75.1% คอตบี ไอกรน บาดทะยกั ตบั อกั เสบบี วคั ซีนครบ 7619.6% หัด คางทูม หัดเยอรมัน) มีสัดส่วน ไมไดรับ 1.9% ป 2555 ลดลงจากร้อยละ 75.1 ในปี 2555 วคั ซีนเลย 3.3% ป 2559 เป็นร้อยละ 71.6 และพบว่ามีเด็ก ที่ไม่ได้รับวัคซีนเลยเพ่ิมข้ึน ทม่ี า : การสำ� รวจสถานการณเ์ ดก็ และสตรใี นประเทศไทย (MICS) พ.ศ. 2555 และ 2558-2559, สำ� นกั งานสถิติแห่งชาติ สำ� หรบั โรคทไ่ี มม่ วี คั ซนี ในการปอ้ งกนั ในประเทศไทย เชน่ โรค มอื เทา้ ปาก เกดิ จากเชอื้ เอนเทอโรไวรสั หลายชนดิ แตเ่ ชอ้ื ไวรสั สายพนั ธอ์ุ วี ี 71 ในประเทศไทยยงั เปน็ เชอ้ื ทรี่ นุ แรงทสี่ ดุ ทำ� ใหเ้ กดิ การอกั เสบของกลา้ มเนอ้ื สมอง กลา้ มเนอ้ื หวั ใจ และมโี อกาส เสยี ชวี ติ ได้ ในปี 2560 พบเดก็ เสียชีวติ 3 ราย ภาคท่มี ีอตั ราปว่ ยสงู สุด คอื ภาคเหนือ รองลงมาเปน็ ภาคกลาง ภาคใต้ และ ภาคตะวันออกเฉยี งเหนอื ตามล�ำดบั โดยส่วนใหญจ่ ะพบมากในกลุ่มเด็กอายุ 1 ปี 10 อันดับแรกของโรคที่พบใน จำ�นวนเด็กอายุ 0-5 ปี เด็กปฐมวัยมากที่สุด ปี 2560 ที่ป่วยและเสียชีวิตด้วย ลำดบั ที่ โรค จำนวนเด็กอายุ โรค มือ เท้า ปาก 0-5 ป ท่ปี วย จำนวนปว ย (คน) จำนวนเสยี ชวี ติ (คน) 1 ทองรว ง 252,417 90,000 15 2 ปอดบวม 92,108 3 มือ เทา ปาก 64,115 61,308 74,244 64,115 4 ไขหวัดใหญ 43,286 38,370 5 อสี กุ อีใส 17,147 60,000 10 6 เยือ่ ตาอักเสบ 14,924 42,998 30,000 5 7 ไขเลือดออก 2,744 ปวย 3 2 3 2 3 0 8 คางทมู 754 เสยี ชวี ิต 9 โรคบดิ 633 2556 2557 2558 2559 2560 10 ไขสนั หลงั อกั เสบ 196 ท่มี า : รายงานสถานการณโ์ รค มอื เทา้ ปาก ประจ�ำปี 2556-2560, ส�ำนกั ระบาดวิทยา ที่มา : รายงานสถานการณโ์ รค 2560, ส�ำนักระบาดวิทยา ปว ย เสยี ชีวติ 12 สุขภาพคนไทย 2561

ปี 2560 พบความชุกของสมาธิสั้นในคนไทย สมาธสิ น้ั เปน็ ความผดิ ปกตทิ เี่ กดิ ในชว่ งปฐมวยั แตจ่ ะตรวจพบ (ทุกกลุ่มอายุ) สูงถึง 5.4 โดยมีการ เม่ืออายุ 7 ขวบข้ึนไป สาเหตุของอาการส่วนหน่ึงเป็นผลจาก เข้าถึงบริการเพียงร้อยละ 11.2 การเลย้ี งดแู ละสง่ิ แวดลอ้ ม เชน่ พอ่ แมห่ ยบิ ยนื่ สมารท์ โฟนใหเ้ ดก็ ที่มา : รอ้ ยละของผู้ป่วยโรคสมาธิสั้นเข้าถงึ บริการ ซงึ่ จะทำ� ใหเ้ ดก็ สามารถอยนู่ ง่ิ เฉย ทงั้ ยงั สามารถเลอื่ นดสู ง่ิ ตา่ ง ๆ ปงี บประมาณ 2560, กรมสุขภาพจิต ไดด้ ว้ ยตวั เดก็ เอง พอ่ แมบ่ างทา่ นอาจจะชนื่ ชมวา่ ลกู เกง่ แตห่ ารไู้ มว่ า่ เป็นการหยิบย่ืนพัฒนาการด้านสมองในทางที่ผิดให้กับลูก และอาจส่งผลให้ลูกกลายเป็นเด็กสมาธิสั้น ซง่ึ จะทราบกเ็ มอ่ื ลกู พน้ ชว่ งปฐมวยั ไปแลว้ ผลเสยี ของสมารท์ โฟนทน่ี า่ ตกใจกวา่ โรคสมาธสิ น้ั คอื โรค Digital Dementia หรือ อาการความจ�ำเส่ือมจากสื่อดิจิทัล หรือเสพติดอินเทอร์เน็ตและเทคโนโลยีมากเกินไป ซ่ึงนอกจากจะความจ�ำเสือ่ มแล้วยังพบวา่ เดก็ ไม่รบั รสู้ ังคมรอบข้าง และน�ำไปสู่อาการทางจติ อกี ดว้ ย ? จำ�นวนผู้ป่วยโรคความผิดปกติในการอ่าน (Dyslexia) และมารับริการ ? ? ? ?ป จำนวนผูปวยทม่ี ี 2558 อายุ 0-5 ป จำนวนผูป ว ยทม่ี ี จำนวนผปู วยท้งั หมด อายุ 0-5 ป ที่มารบั บรกิ าร 2,358 2,358 29,763 2,639 1,593 2559 36,834 2,639 2560 36,466 1,593 ท่มี า : รายงานจำ� นวนผู้ป่วยที่มารับบรกิ ารโรคความผดิ ปกตใิ นการอ่าน (Dyslexia), กรมสุขภาพจิต อัตราตายเดก็ อายุตำ่ กวา 5 ป ความผิดปกติในการอ่าน (Dyslexia) เป็นอีกความผิดปกติ ตอการเกิดมีชพี 1,000 คน ในป 2559 ด้านการเรียนรู้ท่ีพ่อแม่ไทยต้องท�ำความรู้จัก เนื่องจากเป็น อตั ราตายเดก็ อายุตำ่ กวา 5 ป อุปสรรคส�ำคัญต่อการเรียนในเด็กท่ีมีอาการแต่ไม่ถูกตรวจพบ หญงิ หากผู้ปกครองและครูไม่เข้าใจ เด็กอาจถูกลงโทษและน�ำไปสู่ ตอ การปเกรดิ ะมเีชทพี ศ1,000 คน ในปช า2ย559 พฤตกิ รรมทไี่ มพ่ งึ ประสงคไ์ ด้ ประเทไศทย ชาย 14 หญิง 11 เชน่ ไมอ่ ยากเรยี น หนีเรียน หากพบได้เร็วในช่วงเด็ก ไทยเมียนมา 14 55 11 46 ปฐมวัย และคนรอบข้างมี พแลใลบแดนะตอลผตใแยตันง่ำมูห ังรปกวญจสาวาตา2งู าสงิกากเ5ถพปยแวพา5แลเือ่ลานด2ใลบส9แนดะนก็กะ5ติงอบล4าผอตใคปแย3าัตรนงา.่ำมนูหโร7ณังยร3ปปกะหวญจสาุตเรจวลเทาตาถ2ทูงำ่ะาสิงาศก3กึงดาากเย5ถไพใปยว.ีขทแว7ปน3า5านึ้เอ่ืลยารผนด2ส95นเะะเชูกท็กทเ5ิงบทาา4าอาปคปยศา3รา.นโร7ณย3ปะหุตเรจลเทถทำ่ะาศ3กงึดายไใว.ขีท7ปน3านึ้ ยรผ5เะเชูทสเคมแทเทดาาวีคาาลปยศ็กามวะมเาาอตเมรขิบยสถา้ ู่โใุขใชตนจ่วอแสยยลังกะ่าคันเงมอมพาไีคัใฒดจุณ้อนใสภยา่ าใจ่าหพะง้ เมยี นกมัมา พูชา 55 17 46 14 กมั พสูชงิ าคโปร 17 3 14 3 สิงคอโินปโรด นเี ซยี 3 29 3 23 อินโดนเี ซยี 29 23 มาเลเซยี 98 มาเลเซยี 98 11 11 9 9 บรไู นบรไู น ลาว ลาว 70 70 58 58 ฟล ปิ ฟปนลสปิ  ปน ส 30 30 24 24 เวียดเนวาียมดนาม 25 25 18 18 ทม่ี า : Levels & Trends in Child Mortality Report 2017, UN Inter-agency Group for Child Mortality Estimation 1310 หมวดตัวชี้วัดสุขภาพเด็กปฐมวัย

3 การบาดเจ็บ เด็กปฐมวัยอายุ 1 ปีขึ้นไปเสียชีวิตจากการบาดเจ็บมากกว่าจากโรคหรือ การเจ็บปว่ ย การจมน้ำ� และอุบัติเหตุจราจร ซึ่งเป็นต้นตอสำ�คัญของการตายจากการบาดเจ็บของเด็กปฐมวัยไทย เป็นเหตุที่ป้องกันได้ หากผู้ปกครองและสังคมรอบข้างเข้าใจและตระหนักถึงความสำ�คัญในเรื่อง ความปลอดภัยใกล้ตัวเด็ก อนั ตรอาัตยรจาาตกากยจาารกบกาาดรเบจาบ็ ดแเจล็บะแกลาะรกไาดรรไดบั ้รสับาสราพรพษิ ิษ ในปี 2557 เดก็ ปฐมวยั ไทยอายุ 1-4 ปี ในเดก็ในอเดา็ยกอุ 1าย-ุ 41-ป4 พปี.ศพ..ศ2. 5255577 เสียชีวิตจากการบาดเจ็บและการได้รับ สารพิษที่อัตรา 18.5 คนต่อเด็กแสนคน การจมน้ำ อุบตั เิ หตุจราจร 5.9 สาเหตุหลัก 2 อันดับแรกมาจากการ 8.6 จมน�้ำและอุบัตเิ หตจุ ราจร ส่วนสาเหตุอน่ื ๆ ได้แก่ การอุดตันทางเดินหายใจ เช่น จาก สาเหตุอื่นๆ การสำ� ลกั สงิ่ ของ เสน้ สายรดั คอ ใบหนา้ หรอื 4.0 ทางเดินหายใจถูกกดทับ การบาดเจ็บจาก กระแสไฟฟ้า และจากวัตถุสิ่งของ (หนวย : อตั ราตายตอ เดก็ 100,000 คน) อตั าราการตายรวม 18.5 ตอ เด็ก 100,000 คน ทมี่ า : สรปุ จาก อดศิ ักด์ิ ผลิตผลการพิมพ์, 2559 เฉล่ยี การจมนำ้� ของเดก็ ในวยั นี้ สว่ นใหญ่ ในช่วงปี 2550-2559 170 เกิดจากการท่ีผู้ดูแลท้ิงเด็กไว้ล�ำพัง เด็กไทยอายุ 1-2 ปี ในช่วงเวลาเพียงสั้นๆ เพื่อท�ำธุระ คนตอ ป เสียชีวิตจากการจมน้ำ� หรอื 1 คน ในทกุ 2 วนั หรอื กจิ กรรมบางอยา่ ง เฉลยี่ ชว่ ง 10 ปี • ร้อยละ 92.9 เกิดจากการทิ้งเด็กไว้ตามลำ�พังระหว่างที่ผู้ดูแลทำ�กิจกรรมระยะเวลาสั้นๆ ท่ีผ่านมา ทุก 2 วันจะมีเด็กอายุ 1-2 ปี เสียชีวิต 1 คนจากการจมน�้ำ • มาตรการป้องกันการจมน้ำ�ในเด็กวัยนี้ คือ เทน้ำ�ทิ้งหลังใช้งาน ฝังกลบหลุมหรือร่องน้ำ�ที่ไม่ได้ แม้การฝึกให้เด็กว่ายน�้ำเป็นจะไม่ใช่ ใช้งาน กั้นคอก จัดให้มีสถานที่เล่นที่ปลอดภัยสำ�หรับเด็กซึ่งห่างไกลจากแหล่งน้ำ� ปิดฝาภาชนะ ปัจจัยหลักของการป้องกันการจมน้�ำ ใส่น้ำ� กะละมัง โอ่งน้ำ� ตุ่มน้ำ� เฝ้าดูตลอดเวลาไม่ปล่อยให้เด็กอยู่ตามลำ�พังแม้เพียงชั่วขณะ แต่ก็ช่วยลดความเสี่ยงของการเสีย • “หากว่ายน้ำ�เป็น มีโอกาสรอด (จากการจมน้ำ�) มากกว่าถึง 4 เท่า” ทม่ี า : สำ� นักโรคไม่ตดิ ต่อ กรมควบคมุ โรค กระทรวงสาธารณสขุ , 2559 ชีวิตของเด็กเมื่อพลัดตกน�้ำ อย่างไร วายพอไดต อ งมคี นชว ย วา ยไดด ว ยตวั เอง กต็ าม ขอ้ มลู จากการส�ำรวจพบว่าเดก็ ปฐมวัยไทย (อายุ 1-5 ปี) ที่สามารถ 3.2% 0.9% ว่ายน้�ำเองได้หรืออย่างน้อยว่ายพอได้ ความสามารถ บ้างหากมีคนช่วยเหลือ ยังมีน้อยมาก ในการว่ายน้ำ� วายนำ้ ไมเปน ไมถ่ ึงร้อยละ 5 ของเด็กอายุ 1-5 ปี 95.9% ทีม่ า : การส�ำรวจสุขภาพประชาชนไทย โดยการตรวจร่างกาย ครั้งที่ 5 พ.ศ. 2557 (สขุ ภาพเดก็ ), สวรส. 14 สุขภาพคนไทย 2561

ในเร่ืองอุบัติเหตุจราจร การตายและบาดเจ็บ ในกลมุ ผปู กครองเดก็ แรกเกิดจนถึง 1 ป ของเด็กกว่าร้อยละ 60-70 มาจากการโดยสาร จังหวดั กทม. ขอนแกน ลำปางและตรัง พบวา... รถจกั รยานยนต์ การรณรงคใ์ ชห้ มวกนริ ภยั สำ� หรบั เดก็ และสรา้ งความตระหนกั กบั ผใู้ หญถ่ งึ ความเสย่ี งจาก รอยละ 80 หลงั ไดร บั การอบรม รอ ยละ การให้เด็กซ้อนท้ายรถโดยปราศจากเคร่ืองป้องกัน \"เคยไดย ินหรือรูเ รอ่ื ง\" สง เสริมการใชแ ละ 70 โดยเฉพาะในการเดนิ ทางประจำ� วนั เชน่ การไปรบั - ไดรบั เบาะนริ ภัย เห็นวา สง่ ทศ่ี นู ยเ์ ดก็ ฯ หรอื โรงเรยี นอนบุ าล เปน็ เรอื่ งทต่ี อ้ ง เบาะนริ ภัยมากอน เพือ่ ทดลองใช เบาะนริ ภัย สง่ เสรมิ หรอื ออกเปน็ ข้อบังคบั ใหม้ กี ารปฏบิ ัตอิ ยา่ ง แตเ พียงรอยละ 55 รอ ยละ 34.2 ราคาสงู ถูกต้องเพื่อความปลอดภัย นอกจากนี้ในบริบทท่ี ยังคงไมไดใชเ บาะนริ ภัย เกินไป ความเปน็ เมอื งมเี พม่ิ มากขน้ึ ความเสยี่ งจากการตาย ที่ \"เคยเห็น\" และ เด็กในรถยนตท กุ ครงั้ และบาดเจ็บจากการถูกเฉี่ยวชนบนท้องถนน และ รอ ยละ 13.3 เทา น้ัน จากการโดยสารรถยนต์ที่เกิดอุบัติเหตุของเด็ก กม็ แี นวโนม้ เพมิ่ ขนึ้ การศกึ ษาในตา่ งประเทศพบวา่ ท่ี \"เคยใช\" การใช้เบาะนั่งนิรภัยสามารถลดโอกาสในการ เสยี ชวี ติ กรณเี กดิ อบุ ตั เิ หตขุ องทารกไดถ้ งึ รอ้ ยละ 70 สาเหตจุ าก... และของเด็กโตร้อยละ 54-80 แต่ในเร่ืองนี้พ่อแม่ ไทยจ�ำนวนมากยังมีความเข้าใจและพฤติกรรม การตดิ ต้ังไมส ะดวก 5.8 % ความปลอดภัยท่ีเหมาะสมค่อนข้างน้อย ส่วนหน่ึง อาจเป็นผลจากการท่ียังไม่มีกฎหมายในการบังคับ พนื้ ท่ใี นรถจำกดั 10.7 % ใช้เบาะนงั่ นิรภยั สำ� หรับเด็กในประเทศไทย มีคนอมุ เดก็ ทกุ ครั้งที่เดินทาง 21.5 % เด็กรอ งกวน 28.1 % คิดวาเดินทางเพยี งใกลๆ 33.1 % รอยละของผูปกครองท่ไี มไ ดใชเ บาะนริ ภัยทกุ ครัง้ ทีม่ า : รายงานการศกึ ษา เบาะนิรภัยเดก็ ในรถยนต:์ กรณีศกึ ษาประเทศไทย พ.ศ. 2558 จากผลการสำ�รวจพฤติกรรมการใช้หมวกนิรภัยขณะโดยสาร ร้อยละ 8.7 ของเด็กอายุ 1-5 ปี รถจักรยานยนต์ของเด็กปฐมวัยที่เดินทางจากบ้านมาโรงเรียน หรือศูนย์พัฒนาปฐมวัยในจำ�นวน 4,500 คนใน 9 จังหวัด เคยได้รับบาดเจ็บหรืออุบัติเหตุจนต้อง เข้ารักษาที่โรงพยาบาลหรือคลินิก ร้อยละ 72.0 ในรอบ 1 ปีสาเหตุหลักเกิดจากการ ของผู้ขับขี่รู้ว่ามีหมวกนิรภัยสำ�หรับเด็กเล็กวางจำ�หน่าย หกล้มมีบาดแผล (ร้อยละ 26.1) ร้อยละ 36.6 รองลงมาจาก ของผขู้ ับขไี่ ดม้ ีการจัดหาและมหี มวกนริ ภัยสำ�หรับเด็กแลว้ อุบัติเหตุจราจร (ร้อยละ 22.9) แต่มีเพียงร้อยละ 6.8 ของผู้ขับขี่ที่ใช้หรือใส่หมวกนิรภัยให้แก่เด็ก ท่ีมา : การสำ� รวจสุขภาพประชาชนไทย โดยการตรวจรา่ งกาย ครั้งท่ี 5 ที่มา : อดิศักดิ์ ผลิตผลการพมิ พ,์ 2559 พ.ศ. 2557 (สุขภาพเดก็ ), สวรส. 1510 หมวดตัวชี้วัดสุขภาพเด็กปฐมวัย

4 สุขภาพช่องปากและสายตา กว่าคร่ึงของเด็กไทยอายุ 3 ปี มีปัญหาฟันน้�ำนมผุ ซ่ึงเพิ่มความเสี่ยงท่ีฟันแท้ จะผตุ ่อไปในอนาคต ฟันน้ำ�นมผุและภาวะสายตาผิด ร้อยละเด็กอายุ 3 ปี และ 5 ปี ปกติไม่มีอันตรายถึงชีวิต แต่หาก ที่ปราศจากฟันผุ ไม่ได้รับการดูแลและแก้ไข อาจ รอ ยละ เดก็ อายุ 3 ป เดก็ อายุ 5 ป* ส่งผลกระทบต่อภาวะโภชนาการ 48.3% 51.1% พัฒนาการและความสามารถใน การเรียนรู้ของเด็กปฐมวัย นำ�ไปสู่ 48.3% 48.5% ปัญหาระยะยาวสืบเนื่องตามมาได้ โดยเฉลย่ี ฟนั นำ�้ นมของเดก็ ซแี่ รกจะ 38.3% 38.6% 33.5% 33.3% 19.4% 21.5% ปก ารสำรวจ** 17.2% 14.7% 12.5% ขน้ึ เมอ่ื อายุ 6-8 เดอื น และขนึ้ ครบ 20 ซ่ี ในช่วงอายุ 3 ปี หลังจากนนั้ จะเรม่ิ หลดุ 2532 2537 2543-43 2549 2555 2557 2558 2559 และถกู แทนทด่ี ว้ ยฟนั แทใ้ นชว่ งอายุ 6-7 ปี หมายเหตุ : * ในปี 2532, 2537 เปน็ การส�ำรวจในกล่มุ เดก็ อายุ 6 ปี และในปี 2543-44 เปน็ ในกลุ่มเด็กอายุ เป็นต้นไป แม้ฟันน้�ำนมจะไม่ใช่ชุดฟัน 5-6 ป;ี ** ระยะห่างของจำ� นวนปรี ะหวา่ งรอบการสำ� รวจไมเ่ ทา่ กัน ถาวร แต่การรักษาให้มีสภาพท่ีแข็งแรง ทม่ี า : ปี 2532-2555 จากรายงานผลการส�ำรวจสภาวะสขุ ภาพชอ่ งปากแห่งชาติ ครั้งท่ี 7 พ.ศ. 2555; นับว่ามีความส�ำคัญ ส�ำหรับเด็กไทย ปี 2557-2559 จากผลการสาํ รวจเพ่ือประเมินสถานการณท์ นั ตสขุ ภาพกลมุ่ เด็กอายุ 3 ปี 12 ปี และผสู้ ูงอายุ พ.ศ.2559 ฟนั นำ้� นมผเุ ปน็ ปญั หาหนง่ึ ทมี่ องขา้ มไมไ่ ด้ หากคดิ วา่ ทอี่ ายุ 6 เดอื น ไมม่ เี ดก็ ทฟี่ นั ผเุ ลย (เพราะฟนั เพงิ่ เรมิ่ ขน้ึ ) ทอ่ี ายุ 18 เดอื น จะมีเดก็ ที่มีปญั หาฟนั ผุถึงร้อยละ 12.3 ทอ่ี ายุ 3 ปี เพ่มิ ขึน้ เปน็ รอ้ ยละ 51.5 หรอื ประมาณครง่ึ หนง่ึ มีฟันผุ และทีอ่ ายุ 5 ปี เดก็ ท่มี ีฟนั ผุจะเพม่ิ ขึ้นเป็นเกอื บร้อยละ 80 หรอื 4 ใน 5 เลยทเี ดยี ว การดแู ลสุขภาพชอ่ งปากเด็กและแปรงฟันอย่างถูกวธิ ี โดยพ่อแม่หรือผู้ปกครองเป็นเร่ืองที่ต้องส่งเสริม เช่นเดียวกับการสร้างความตระหนักและเห็นความส�ำคัญในการเลือก แปรงสฟี นั เดก็ ทม่ี คี ณุ ภาพไดม้ าตรฐาน และมขี นาด ที่เหมาะสมกับอายแุ ละช่องปากของเด็ก ใคร (ควร) แปรงฟันเด็กในตอนเช้า... เด็กอายุ 18 เดือนที่ปราศจากฟันผุ 83.4% เด็กจะแปรงฟนเองไดสะอาด เด็กอายุ 3 ป คิดเป็นร้อยละ 87.6 และ 88.7 52.4% เมอื่ อายุ 7-8 ปข น้ึ ไป เดก็ อายุ 5 ป ในปี 2557 และ 2558 ตามลำ�ดับ โดยเด็กที่ได้รับการแปรงฟันก่อนนอนทุกวันจาก รอยละของเ ็ดกที่แปรงฟนตอนเ ชา 44.2% ผู้ปกครองคิดเป็น ร้อยละ 68.4 ในปี 2559 11.6% เดก็ แปรงเอง ผูปกครอง ท่ีมา : ระบบเฝา้ ระวังทนั ตสุขภาพ เดก็ อายุ 0-3 ป,ี หมายเหตุ : ร้อยละของเด็กอายุ 3 ปี และ 5 ปที ีแ่ ปรงฟันตอนเชา้ เท่ากบั รอ้ ยละ 94.5 และ 93.5 ตามล�ำดบั ส�ำนกั ทนั ตสาธารณสขุ กรมอนามยั ทมี่ า : รายงานผลการสำ� รวจสภาวะสขุ ภาพชอ่ งปากแหง่ ชาติ ครง้ั ท่ี 7 พ.ศ. 2555, สำ� นกั ทนั ตสาธารณสขุ กรมอนามยั 16 สุขภาพคนไทย 2561

คุณภาพแปรงสีฟันเด็ก พ.ศ. 2559 ผานเกณฑ มาตรฐาน ไมผ านเกณฑ มาตรฐาน 71.8% 28.4% คุณภาพตามเกณฑม าตรฐานวชิ าการ ไมร ะบุ 17% ระบุ 83% 2 ใน 3 ของ แปรงสฟี นท่ไี มระบุอายเุ ด็กบนฉลาก มคี ณุ ภาพไมผ านเกณฑตามมาตรฐานวชิ าการ การระบอุ ายุเดก็ ทีเ่ หมาะสมกบั แปรงบนฉลาก หมายเหตุ : เปน็ การส�ำรวจในเขตกรุงเทพฯ และปริมณฑลจากแปรงสีฟนั เด็ก 33 ย่หี อ้ 81 รนุ่ ที่มา : ผลการสำ� รวจคุณภาพแปรงสฟี นั เดก็ พ.ศ. 2559, สำ� นกั ทนั ตสาธารณสขุ กรมอนามัย นอกจากฟันน�้ำนมผุ ภาวะสายตาผิดปกติเป็นอีก ภาวะสายตาผิดปกติในเด็กไทย หนง่ึ ปญั หาทด่ี เู หมอื นไมร่ า้ ยแรงแตม่ ผี ลกระทบระยะยาว การมองเห็นท่ีพร่าเลือนจากปัญหาสายตาในเด็ก หากไม่ เดก็ ไทย รอยละ 6.6 ถกู ตรวจพบและแกไ้ ข อาจเปน็ ตน้ เหตนุ ำ� ไปสปู่ ญั หาความ สามารถในการเรียนรู้ต�่ำและความล่าช้าของพัฒนาการ มีภาวะสายตาผิดปกติ ดา้ นตา่ งๆ งานวจิ ยั ในประเทศไทยเมอื่ ปี 2555 พบเดก็ ไทย จ�ำนวนมากมีภาวะสายตาผิดปกติ โดยท่ีเพียง 1 ใน 4 รอยละ 4.1 มีภาวะสายตาผดิ ปกติ เท่าน้ันที่พ่อแม่ผู้ปกครองทราบและแก้ไขโดยการให้ ใส่แว่น ในจ�ำนวนนี้มีเพียงจ�ำนวนหนึ่งท่ีแว่นท่ีใส่นั้นถูก และตองใสแวนตา ตอ้ งตรงตามสายตาของเดก็ ขอ้ คน้ พบนที้ ำ� ใหป้ ระเทศไทย ตระหนักและให้ความส�ำคัญต่อการตรวจคัดกรองสายตา ในจำนวนเด็กทส่ี ายตาผิดปกติ ในกลุ่มเด็กเร่ิมเข้าวัยเรียนมากข้ึน เช่น โครงการเด็กไทย และจำเปนตองใสแวน สายตาดี ทตี่ ง้ั เปา้ ตรวจคดั กรองสายตาเดก็ นักเรยี น ป. 1 ให้ได้ท่ัวประเทศ ความครอบคลุมในการคัดกรองและ มเี พยี ง 1 ใน 4 เทานัน้ ท่ี การแกไ้ ขปญั หาสายตาทพ่ี บในเดก็ เปน็ เรอื่ งทต่ี อ้ งตดิ ตาม และปรบั ปรงุ ต่อไป \"ใสแวน \" ในจำนวนเด็กทใี่ สแวน มีเพยี ง 1 ใน 4 ท่ีแวน มคี วามถูกตอง ตรงตามสายตาของเด็ก ท่ีมา : รายงานวิจยั การประเมนิ ความถูกตอ้ งและความเป็นไปได้ในการตรวจคดั กรองภาวะ สายตาผดิ ปกติในเด็กไทยระดับช้นั อนบุ าลและประถมศึกษาโดยคุณครู (2555), โครงการประเมินเทคโนโลยแี ละนโยบายดา้ นสุขภาพ 1710 หมวดตัวชี้วัดสุขภาพเด็กปฐมวัย

5 พัฒนาการ ปัจจุบันเด็กไทยเกือบ 1 ใน 4 มีพัฒนาการสงสัยล่าช้า โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในด้านกลา้ มเน้ือมดั เลก็ และสติปัญญาท่ีสงสัยลา่ ช้ากวา่ คร่งึ เด็กที่พัฒนาการสงสัยล่าช้า ไม่ได้หมายความว่าเด็กมีความบกพร่องเสมอไป แต่อาจเป็นเพราะเด็กไม่ได้ รับการกระตุ้นที่เหมาะสมจากสภาพแวดล้อมการเลี้ยงดู เมื่อได้รับการกระตุ้นพัฒนาการอย่างต่อเนื่อง และสม่ำ�เสมอ จะกลับมามีพัฒนาการที่สมวัยได้ ด้วยเหตุนี้การคัดกรองพัฒนาการจึงมีความสำ�คัญ อย่างยิ่ง ช่วงปฐมวัยเป็นโอกาสทองของการเจริญ เด็กปฐมวัยไทยที่มีระดับพัฒนาการสมวัย และพัฒนาการสงสัยล่าช้า ปี 2560 เติบโตในทุกๆ มิติของชีวิต การมีพัฒนาการที่ สมวัยส่งผลต่อทั้งสุขภาพและความสามารถใน การเรียนรู้ของเด็กในอนาคต พัฒนาการด้าน กล้ามเนื้อมัดเล็กและสติปัญญา (ความสามารถ 23.1% ในการใช้มือในการท�ำกิจกรรมต่างๆ เช่น การหยิบ จับ ติดกระดุม ตักอาหาร เป็นต้น) มีความจ�ำเป็นในการใช้ชีวิตประจ�ำวัน และ 76.9% เป็นพื้นฐานส�ำคัญในการเขียนหนังสือในอนาคต สำ� หรับเดก็ ปฐมวยั ไทย วัยแรกเกิดถงึ 5 ปีพบวา่ ปญั หาพฒั นาการทส่ี งสยั ลา่ ชา้ ในดา้ นตา่ งๆ ลดลง คมตอ่ัาดมนเเดอขลก็าา้็กยงปแสุขฐลูงอมใะงนวเสทดยั ตกุ็กไิชปทแ่วัยญงตพว่พญัยัฒัฒานยนัางากคกางารอรดสย้าูง่นในสกยัรละ้าลมดา เชับนา ทื้อ่ีจำทหแมม่ี าานย:เกหรตารุย:างเาปยนน็ ปดกราะารจศนำ�กึ ปษี า2ใ5น6เด0เสดก็,งก็ไสสททถยั ยี่มาลวบีพยัานั ชแฒั พรากฒันเานกกดิาาอถรนงึ า5มปยั ีเโดด็กยแสหมุ่ ง่ใชนากตพเลดิมุ่กัฒ็กเรดทนมก็ ีม่อาอกีนาายารมุ 9สัย,ม1ว8ัย, 30 และ 42 เดอื น เด็กปฐมวัยไทยพัฒนาการสงสัยล่าช้า จำ�แนกรายด้าน ในด้านสติปัญญา โดยรวมแล้ว เดก็ ไทยชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 ซงึ่ อยใู่ น 52.4% 47.5% ช่วงอายุ 6-7 ปีมีระดับไอคิวเฉล่ียอยู่ท่ี 43.2% 33.4% 98.2 คะแนน ซง่ึ ถอื วา่ อยใู่ นเกณฑป์ กติ 32.6% คอ่ นขา้ งไปทางตำ่� แตเ่ มอ่ื ดกู ารกระจายตวั ของคะแนนระดบั สตปิ ญั ญาแลว้ พบวา่ กลามเนอ้ื มดั เลก็ การใชภ าษา มีถึงร้อยละ 32 ที่มีคะแนนไอคิวต่�ำ และสติปญ ญา กว่าเกณฑ์ปกติ นับว่าเกินกว่าเกณฑ์ เป้าหมายคือไม่เกินร้อยละ 25 เด็ก การเคลอ่ื นไหว การเขาใจภาษา ท่ีอยู่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ (กลามเน้อื มดั ใหญ) และภาคใต้เป็นกลุ่มท่ีมีความเสี่ยง การชว ยเหลือตัวเอง ดา้ นระดบั สตปิ ญั ญามากกว่าภาคอ่นื ทหมม่ี าาย:เหรตาุย:งเปาน็นปกราะรจศำ�กึ ปษี า2ใ5น6เด0,็กสไทถยาบวยันั แพรฒักเนกาิดอถนงึ า5มัยปเีดโ็กดแยหส่งมุ่ ชในาตกิลกมุ่ รเมดอก็ นอาามยุยั 9, 18, 30 และ 42 เดือน 18 สุขภาพคนไทย 2561

พัฒนาการสงสัยลาชา ในกลุมเด็กอายุ 9 เดอื น จำแนกรายดา น การเคลอื่ นไหวท่ีสมวัย ของเด็ก 9 เดือน การชว ยเหลอื ตวั เอง 12.6% การเขาใจภาษา o ลกุ ขึน้ น่งั ไดจากทา นอน การใชภ าษา o เกาะเดินไปขางๆ ได 4-5 กา ว กลา มเน้ือมดั เล็กและสติปญญา 31.4% การเคลื่อนไหว 30.6% 31.2% 40.2% การเขาใจภาษาท่ีสมวยั พัฒนาการสงสัยลา ชา เด็กอายุ 18 เดือน จำแนกรายดา น ของเด็ก 18 เดอื น การชวยเหลอื ตัวเอง 17.4% o เลือกวตั ถตุ ามคำส่งั ไดถ กู ตอ ง 3 ชนดิ การเขา ใจภาษา o ช้อี วยั วะได 1 สวน 45.8% การใชภ าษา 44.5% 3 กลามเนอ้ื มัดเล็กและสตปิ ญญา 39.1% 12 การเคล่ือนไหว 13.8% พฒั นาการสงสยั ลาชา เด็กอายุ 30 เดือน จำแนกรายดาน การเขา ใจภาษาทสี่ มวยั ของเด็ก 30 เดือน การชวยเหลือตัวเอง 68.1% การเขาใจภาษา 83.1% o สนใจฟง นิทานไดน าน 5 นาที การใชภ าษา o วางวัตถุไว “ขา งบน” และ 65.5% กลามเนือ้ มดั เลก็ และสติปญ ญา 79.1% “ขา งใต” ไดตามคำสั่ง การเคลอื่ นไหว 55.4% กลา มเนือ้ มดั เล็กและสติปญ ญา พฒั นาการสงสยั ลาชาเดก็ อายุ 42 เดือน จำแนกรายดา น ทีส่ มวัยของเดก็ 42 เดอื น การชวยเหลือตวั เอง 32.1% o แยกรปู ทรงเรขาคณิตได 3 แบบ การเขา ใจภาษา 27.8% o ประกอบชนิ้ สวนของรปู ภาพ การใชภาษา ทีถ่ กู ตัดออกเปน 3 ชน้ิ ได 30.8% กลามเนื้อมดั เล็กและสตปิ ญญา 63.4% การเคลอื่ นไหว 21.8% ทหม่ีมาาย:เหรตาุย:งเปานน็ ปกราะรจศ�ำึกปษี า2ใ5น6เด0,ก็ สไทถยาบวยัันแพรฒักเนกาดิ อถนึงา5มยั ปเีดโก็ดแยหส่งุ่มชในาตกิลกมุ่ รเมดอก็ นอาามยุัย9, 18, 30 และ 42 เดือน 1910 หมวดตัวชี้วัดสุขภาพเด็กปฐมวัย

สถานการณ IQ สถานกาคระแณนนIQไอคิวเฉลี่ยทวั่ ประเทศ ความฉลาดทางอ2า7รม.7ณ%เ์ ปน็ พน้ื 3ฐ1า.น8ส%ำ� ค2ญั 7.ใ7น%การปปดำ� 22เ3น551นิ.558ช49%วี ติ ==อย99า่84ง..ม62คี คปวะาแ2มน5สน5ขไุ อ9คเดิว=ก็เฉ9ไลท8ย่ี ย.ท2ช่ัวนั้ปประรเทะศถมศกึ ษาปที ่ี 1 ราวรอ้ ยละ 23 มีระดับความฉลาดทางอารมณ์ต่�ำกว่าเกณฑ์ปกติ โดยตเำ่ ฉกวพา 9า0ะอ(ตย่ำก่าวางเกยณิ่งปฑใป น2กตด5)ิ ้า5น4เก=่ง9ค4ือ.6การขาดความมุ่งม่ันพยายาม และ การขาดทกั ษะในการแกไ้ ขปญั หา เป็นตน้ 90-109 (ปกติ) ต่ำกวา 90 (ต่ำกวาเกณฑปกติ) 40.5ส%ถานการณ์ IQ4แ0ล.5ะส%ถEาQนมกากาเกดรวณา็ก1ไ 1ทIQ0ย(สชูงั้นกวปา เกรณะถฑม9ป มา0กก-ตศก1)ิวึ0กา 91ษ1(ปา0กปต(สี)ิทงู กี่ ว1าเกณปฑปี ก2ต)ิ 559 สถานการณ IQ 27.7 % 31.8 % คะแนนไอคิวเฉลยี่ ท่ัวประเทศ ป 2559 = 98.2 27.7 % 31.8 % คะแนนไอควิ เฉลยี่ ทว่ั ประเทศ ป 2554 = 94.6 ป 2559 = 98.2 ป 2554 = 94.6 ตำ่ กวา 90 (ตำ่ กวาเกณฑป กติ) 90-109 (ปกติ) IQ>100 12ต่ำจกังวาห9ว0ัด ((ตIQรำ่4กอ0>วย.1า 5เลก0ณ%ะ0ฑ1ป16ก2ต)ิ) มากกวา 110 (สงู กวา เกณฑปกติ) จงั หวัด (รอ ยละ 16) 40.5 % IQ=100 309มา0จก-กงั 1วห0า ว91ดั 1(ป0(IกQรต(อส)ิ=ูงย1กลว0า ะเ0ก3ณ39ฑ0ป)กตจ)ิังหวดั (รอ ยละ 39) IQ<100 35 จงั หวดั (IQรอ <ย1ล0ะ04355) จังหวัด (รอยละ 45) หมายเหตุ : เกณฑ์เป้าหมาย สัดสว่ นเดก็ ท่ไี อคิวต่�ำกวา่ เกณฑ์ปกติไมเ่ กินรอ้ ยละ 25 IQ>100 12 จงั หวดั (รอยละ 16) IQ=100 30 จังหวัด (รอยละ 39) IQ<100 35 จังหวดั (รอ ยละ 45) IQ>100 12 จงั หวดั (รอ ยละ 16) สถานการณ EQ IQ=100 30 จงั หสวถดั าน(รกอายรลณะ 3 9E)Q 13.0 % 22.91%ต9ำ่ ก.ส7วดัาเ%สกวณนฑเดป2็กกท4ต่มี ิ .รีจ12ะำดตแ9%ำ่บันก.กส7วEรดัาQาเ%สกย1วณดน8าฑเดนป2ก็.ก1ท4ต่มี %ิ .รีจ2ะำดแ%ับนกEรQาย1ด8าน.1% ต่ำกวาเกณIQฑป <ก1ติ00 ตำ่ กวา เกณฑป กติ ปกติ 35 จงั ปห1กว3ตดั ิ.0(ร%อ ยละ 4225.)9 % สูงกวาเกณฑปกติ สูงกวาเกณฑป กติ สถานการณ EQ ต่ำกวา เกณฑปกติ 13.0 % ด2า 2น.9ด%ี ดา นเดกาง นดตี ำ่ กดสวัดา า เสกนวณดสนฑเาุขดปนก็ กเทกตม่ี ิง ีรจะำดแบันกEรดQายานดาสนุข 64.1 % 19.7% 24.2% 18.1% ปกติ 64.1สงู %กวา เกณฑปกติ สถานกทา่มี ราณ: การEสQ�ำรวจสถานการณร์ ะดับสตปิ ญั ญา (พ6IQ.ส4ศ)ัด..แ12สล5%วะ5นค9วเ,ดากมก็ รฉทมลส่มี าุขดรี ภทะาดาพงับอจติาEรมQณ์ (EQ) ดานดี ดา นเกง ดานสขุ ต่ำกวา เกณฑป กติ ในเด็กไทยระดบั ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 ใ นสปงูกดกตว้าิ ทา นเกกั ณอษฑาปะรกมสติำ�ณค์ ญัควอากี มปครดิ 1ะ3กแ.า0ลระท%กส่ี าง่ รผกลร2ตะ2อ่ ท.9ช�ำวี%ทติ ใกั นษระะเยหะลยา่ านวี้เรคียอื ก1ควต9า่ว่ำกาก.7มวาารสเ%กคาณดิมเาฑชรป2ิงถกบ4ใตนริ .จิห2กำาาแ%รรนทกหรำ� ารงย1อืาดน8าEขนx.นั้1eสc%งูuขtiอvงeสFมuอnงcใtนioกnาร(กEำ�Fก)บั เมตอื่นเเดอก็ง มีพัฒนาการด้านการคิดเชิงบริหารดีจะลดปัญหาพฤติกรรม เช่น ความหุนหันพลันแล่น ท�ำโดยไม่คิด ใจร้อนรอคอยไม่เป็น สมาธิสั้น ซ่ึงอาจส่งผลต่อการเรียน การท�ำงาน และทักษะดกาานรดใชี ้ชีวิตอดื่นา ๆนเใกนง อนาคดตานปสัจุขจุบันได้มีการพัฒนาแบบประเมิน การคดิ เชงิ บรหิ ารในเดก็ ปฐ6ม4ว.1ยั อ%ายุ 2-5 ปี ผลการศกึ ษาพบวา่ เดก็ ไทยทมี่ พี ฒั นาการและพฤตกิ รรมทเ่ี ปน็ ปญั หาดา้ นการคดิ เชงิ บริหารล่าชา้ กว่าเกณฑ์เฉล่ยี มปี ระมาณร้อยละ 30 20 สุขภาพคนไทย 2561

Executive Function หรือ EF การเติบโตด้วยพัฒนาการ ท่ีสมวัยในทุกด้านเป็นรากฐาน เป็นศักยภาพการทำ�งานของสมองในระดับสูง ที่ควบคุมความคิด สำ� คญั ทจี่ ะนำ� ไปสกู่ ารมคี ณุ ภาพ อารมณ์ และการกระทำ�ให้ถึงเป้าหมาย เพื่อให้เด็กเติบโตอย่างมีความสุข ชีวิตท่ีดีในอนาคต การส่งเสริม และมีคุณภาพในยุคศตวรรษที่ 21 พัฒนาการเด็กปฐมวัยให้สมวัย สำ�หรับเด็กในขวบปีแรก การพัฒนา EF ทำ�ได้โดย ในทกุ ๆ ดา้ น จงึ ควรเปน็ นโยบาย - การสร้างแม่และสายสัมพันธ์ที่แข็งแกร่ง แม่ต้องให้ความรัก ส�ำคัญในการพัฒนาคุณภาพ ความอบอนุ่ อย่างเพียงพอ เพื่อประทบั ลงลึกถงึ จิตใต้สำ�นึกของเดก็ ประชากรของประเทศ สำ�หรับเด็กวัย 2-6 ปี การพัฒนา EF ทำ�ได้โดย - การฝึกดูแลตัวเอง เช่น กินข้าวเอง อาบน้ำ�แต่งตัวเอง - การฝึกดูแลรอบกายตัวเอง เช่น เก็บของเล่นเอง กินเสร็จเก็บจานข้าวเอง - การเล่น เช่น ปีนป่าย ปั้นดินปั้นทราย เล่นน้ำ� ระบายสี เล่นบทบาทสมมติ หรือการเล่นอย่างอิสระ ช่วงปฐมวัยจึงเป็นโอกาสทองในการสร้างรากฐานที่แข็งแรงเพื่อพัฒนา EF ต่อไปในอนาคต ทีม่ า : รวบรวมขอ้ มูลจากเพจเฟซบุก๊ นายแพทยป์ ระเสรฐิ ผลิตผลการพิมพ์ การคิดเชิงบริหาร (Executive Function: EF) ของเด็กปฐมวัยไทย เด็กไทยทีม่ พี ัฒนาการดา นการคดิ เชิงบรหิ ารลา ชา กวา เกณฑเฉลี่ย จำแนกตามอายแุ ละเพศ 28.7% 28.2% 28.1% 29.4% 28.4% 27.2% 28% 26.8% รอยละ 2 ป 3 ป 4 ป 5 ป ชาย เดก็ ไทยท่มี พี ฤติกรรมทเ่ี ปนปญหาดา นการคิดเชิงบริหารมากกวาเกณฑเฉลย่ี จำแนกตามอายุและเพศ หญิง อายุ 31.6% 31.9% 32.5% 33.1% 32.6% 31.9% 33% 32.5% รอยละ ชาย หญิง 2 ป 3 ป 4 ป 5 ป อายุ หมายเหตุ : ประเมินในกลมุ่ ตวั อยา่ งเดก็ ชายหญิงอายุ 2-5 ปี ที่มา : นวลจนั ทร์ จุฑาภกั ดีกลุ ปนดั ดา ธนเศรษฐกร อรพนิ ท์ เลิศอวสั ดาตระกลู , 2560 10 หมวดตัวชี้วัดสุขภาพเด็กปฐมวัย 21

6 สุขภาพแม่และเด็ก เกือบคร่ึงของหญิงต้ังครรภ์เสี่ยงขาดสารไอโอดีน ในขณะที่การได้รับยาเม็ด เสรมิ ไอโอดนี ยงั ไม่ครอบคลมุ หญิงต้งั ครรภ์ทกุ ราย อัตราตายทารกแรกเกิดของประเทศไทยปัจจุบันลดลงมาอยู่ในเกณฑ์ที่น่าพึงพอใจแล้ว แต่อัตราส่วน การตายมารดายังสูงกว่าเกณฑ์เป้าหมายของประเทศ เช่นเดียวกับการลดจำ�นวนเด็กทารกแรกเกิดที่มี น้ำ�หนักตัวน้อย ที่ปัจจุบันยังเกินเกณฑ์เป้าหมาย ตวั ช้ีวัด สถานการณ์รวมสุขภาพมารดาและเด็กแรกเกิด ทารกที่จะเกิดมาอย่างมีสุขภาพแข็งแรง พร้อม เติบโตได้อยา่ งมคี ุณภาพ ต้องเริม่ ต้นจากแมท่ ม่ี ีสุขภาพดี อตั ราสวน 26.6 ตอการเกดิ มชี พี หญงิ ตง้ั ครรภส์ ขุ ภาพดี จะเพมิ่ โอกาสทล่ี กู จะเกดิ มาอยา่ ง การตายมารดา 100,000 ราย สมบรู ณ์ และลดความเสยี่ งการเกดิ ภาวะแทรกซอ้ นตา่ งๆ ระหวา่ งการคลอด อนั เปน็ สาเหตกุ ารตายทส่ี ำ� คญั ของเดก็ เกณฑเปา หมาย: ไมเ กนิ 15 อายตุ �่ำกวา่ 1 ปี ในประเทศไทย ตอการเกิดมชี ีพ 100,000 ราย อัตราตาย 3.5 ตอ 1,000 หญิงตั้งครรภ์ที่มีภาวะโลหิตจาง ทารกแรกเกดิ ทารกเกิดมีชีพ 20.4 % 17.9 % 18.6 % (28 วันหลังคลอด) เกณฑเปา หมาย: ไมเกิน 5 ตอ 1,000 ทารกเกิดมชี พี 17.3 % 17.0 % ทารกแรกเกดิ นำ้ หนกั 2,500 กรัม 11.1% หรอื นอยกวา เกณฑเปา หมาย: ไมเกินรอยละ 7 ไมโครกรัม ตอ ิลตร ท่มี า : สถติ ิสาธารณสขุ พ.ศ. 2559, กระทรวงสาธารณสุข รอยละ สถานการณ์ระดับสารไอโอดีนของหญิงตั้งครรภ์ 2556 2557 2558 2559 2560 ก่อนกินยาเม็ดเสริมไอโอดีน คา มธั ยฐานไอโอดนี ในปสสาวะหญงิ ต้งั ครรภ หมายเหตุ : หญงิ ตง้ั ครรภท์ มี่ ภี าวะโลหติ จาง คอื มผี ล เฮมาโตครติ (Hematocrit: HCT) อยรู่ ะหวา่ ง 1-32 (รายงานเป็นสัดส่วนจากหญิงไทยที่มารับ คา ไอโอดนี 181.2 บริการฝากครรภแ์ ละไดร้ ับการตรวจ HCT ในแตล่ ะปงี บประมาณ ไมควรต่ำกวา 150 ไม่รวมกรุงเทพมหานคร) 142.1 159.4 146.8 155.7 147.1 145 ท่ีมา : Health Data Center ปี 2556-2560, กระทรวงสาธารณสุข 108.2 125.5 117.8 สำ� หรบั สตรตี ง้ั ครรภ์ การไดร้ บั ธาตเุ หลก็ และไอโอดนี ท่ีเพียงพอมีความส�ำคัญต่อการเจริญเติบโตทางร่างกาย และสตปิ ญั ญาของทารกในครรภ์ ปจั จบุ นั หญงิ ตง้ั ครรภใ์ น ประเทศไทยเกือบ 1 ใน 5 มีภาวะโลหิตจางจากการขาด ธาตเุ หลก็ อนั สง่ ผลตอ่ ความเสย่ี งในการเสยี ชวี ติ จากภาวะ 2550 2551 2552 2553 2554 2555 2556 2557 2558 2559 ตกเลอื ดหลงั คลอด ทารกในครรภเ์ ตบิ โตชา้ หรอื คลอดกอ่ น ก�ำหนด และเดก็ ท่ีเกิดมามีโอกาสโลหติ จางมากข้ึน ซ่ึงสง่ หมายเหตุ : ค่ามธั ยฐานของปรมิ าณไอโอดีนในปสั สาวะหญงิ ตง้ั ครรภท์ ี่น้อยกว่า 150 ผลต่อพัฒนาการด้านสติปัญญา ในส่วนสถานการณ์ด้าน ไมโครกรมั ต่อลิตร หมายถงึ ยังมีปัญหาการขาดสารไอโอดีน ที่มา : สำ� นกั โภชนาการ กรมอนามยั สารไอโอดนี ในหญงิ ตงั้ ครรภ์ ถงึ แมค้ วามเสยี่ งจะมแี นวโนม้ ลดลงอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง แตย่ งั คงอยใู่ นระดบั ทตี่ อ้ งเฝา้ ระวงั โดยเฉพาะ ในพื้นทเี่ สยี่ ง เช่น ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จึงจำ� เป็นตอ้ งผลกั ดันการให้เมด็ ยาเสรมิ ไอโอดีนใหม้ ีความครอบคลมุ ยิง่ ขึน้ 22 สุขภาพคนไทย 2561

รอ ยละหญรอ งิ ยตลง้ั ะคหรญรภงิ ทตไ่ี้ังดครรับรยภาทเมไ่ี ดด็ รเสับรยมิ าไเอมโด็อดเสีนริมไอโอดนี การฝากครรภ์เป็นปัจจัยส�ำคัญต่อ 63.5 % 70.7 % 78.3 % 78.3 % สขุ ภาพมารดาและการเกดิ การฝากครรภ์ 56.7 % 63.5 % 70.7 % เร็วจะช่วยลดความเสี่ยงต่างๆ ท่ีจะ เกิดขึ้นกับแม่หรือลูกได้ โดยเฉพาะใน 45.6 % 56.7 % 3 เดือนแรกท่ีทารกมีการเติบโตอย่าง 45.6 % รวดเรว็ กลมุ่ แมท่ อ่ี ายนุ อ้ ยกวา่ 20 ปกี วา่ 1 ใน 3 ไมไ่ ดไ้ ปฝากครรภภ์ ายใน 3 เดอื น 2556 2557 2558 2559 2560 แรก ซง่ึ เปน็ การเพมิ่ ความเสย่ี ง นอกจาก นกี้ ารตรวจสขุ ภาพหลงั คลอดเปน็ บรกิ าร หมายเหตุ : เกณ2ฑ5์เป56า้ หมาย รอ้2ย5ล5ะ7 100 2558 2559 2560 ส า ธ า ร ณ สุ ข ท่ี ยั ง มี ค ว า ม เ ห ลื่ อ ม ล้� ำ ระหว่างผู้หญิงในกรุงเทพมหานครและ ทีม่ า : Health Data Center ปี 2556-2560, กระทรวงสาธารณสุข ภูมิภาคอื่นๆ ท่ีรัฐจ�ำเป็นต้องให้ความ ส�ำคัญ เพื่อสุขภาพของแม่และการเกิด สาเหตุการตายที่สำ�คัญ 5 อันดับแรก ทม่ี คี ณุ ภาพของประชากรไทย ของเด็กอายุต่ำ�กว่า 1 ปี อตั ราตอ ประชากร จำนวน อายตุ ำ่ กวา 1 ป 100,000 คน การเข้าถึงบริการสาธารณสุข ภาวะแทรกซอน 2,185 328.0 ของหญิงตั้งครรภ์ ทเ่ี กิดในระยะปรกิ ำเนิด 992 148.9 ความผิดปกติ ความพิการแตกำเนดิ 375 56.3 การฝากครรภ์ภายใน 3 เดือนแรก และโครโมโซมผิดปกติ จำ�แนกตามกลุ่มอายุ อาการ อาการแสดง และส่ิงปกติ ท่ีพบจากการตรวจทางคลินกิ และ ตรวจทางหองปฏบิ ตั ิการทีม่ ิไดม รี หสั ระบุไว โรคของทางเดินระบบหายใจ 252 37.8 (โดยมากเปน ปอดบวม) 83.2% 81.3% โรคติดเช้ือและปรสติ (ประมาณครึ่งหน่ึงมาจากอาการทองรว ง กระเพาะและลำไสอักเสบ) 125 18.8 62.9% ร้อยละ ทม่ี า : สถติ สิ าธารณสุข พ.ศ. 2559, กระทรวงสาธารณสขุ ร้อยละ การตรวจหลังคลอดอย่างน้อย 1 ครั้ง ภายใน 42 วัน จำ�แนกตามภูมิภาค 86.0% 79.5% นอ ยกวา 20 ป 20-34 ป 35-49 ป 74.5% 77.0% 75.1% 86.0% กรงุ เทพมหานคร กลาง เหนือ ตะวนั ออก ใต กรงุ เทพมหานคร เฉียงเหนือ ท่มี า : การสำ� รวจสถานการณเ์ ด็กและสตรีในประเทศไทย พ.ศ. 2558-2559, สำ� นักงานสถิติแหง่ ชาติ 2310 หมวดตัวชี้วัดสุขภาพเด็กปฐมวัย

7 การเลี้ยงดู เด็กปฐมวัยเป็นช่วงอายุที่ถูกท�ำโทษด้วยวิธีรุนแรงทางร่างกายมากท่ีสุด ราว 3 ใน 4 ของเด็กวัย 3-4 ขวบถูกสมาชิกในครัวเรือนท�ำร้ายร่างกาย ใน 1 เดือนท่ผี ่านมา เด็กอายุ 1-5 ปี จำ�แนกตามผู้เลี้ยงดูหลัก เทคโนโลยีมีบทบาทอย่างมาก 3.8 % 1.3 % เด็กในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ในการเลี้ยงดูเด็กในปัจจุบัน มีสัดส่วนพ่อหรือแม่ แม้ว่าเวลาที่เด็กใช้ดูโทรทัศน์ 33.6 % 61.4 % ไม่ได้เปลี่ยนแปลงมากในช่วง เป็นผู้เลี้ยงดูหลักต่ำ�ที่สุด (52.4%) ระยะเวลาที่ผ่านมา แต่อุปกรณ์ ในขณะที่สัดส่วนปู่ย่าตายาย อิเล็กทรอนิกส์ เช่น แท็บเล็ต กลายเปน็ อกี ทางเลอื ก ทผ่ี เู้ ลย้ี งดู เป็นผู้เลี้ยงดูหลักสูงที่สุด (42.7%) สามารถหยิบยื่นให้เด็กได้ เมื่อเปรียบเทียบกับเด็กในภาคอื่น พอ หรอื แม ปู ยา หรอื ตา ยาย ลุง ปา นา อา อน่ื ๆ ทีม่ า : การส�ำรวจสขุ ภาพประชาชนไทยโดยการตรวจร่างกาย คร้ังท่ี 5 พ.ศ. 2557 (สขุ ภาพเด็ก), สวรส. การเลย้ี งดเู ปน็ ปจั จยั สำ� คญั ในการกำ� หนดคณุ ภาพของเดก็ สำ� หรบั เดก็ ปฐมวยั ในประเทศไทยผเู้ ลย้ี งดหู ลกั ราว 2 ใน 3 คอื พอ่ หรอื แม่ ในขณะทป่ี ระมาณ 1 ใน 3 เปน็ ปยู่ า่ หรอื ตายาย ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ทมี่ กี ารยา้ ยถน่ิ สงู ปยู่ า่ /ตายายจงึ เปน็ ผเู้ ลยี้ งดู หลกั เกือบคร่งึ งานวจิ ัยพบว่าการได้อย่พู ร้อมหนา้ พร้อมตากับพ่อและแมม่ คี วามสัมพนั ธ์กับพัฒนาการของเดก็ เดก็ ท่อี ยู่กับ พอ่ และแมม่ สี ดั สว่ นพฒั นาการสงสยั ลา่ ชา้ ราวรอ้ ยละ 17 เปรยี บเทยี บกบั เดก็ ทไ่ี มไ่ ดอ้ ยกู่ บั พอ่ และแมท่ ม่ี สี ดั สว่ นสงู กวา่ ทร่ี าว รอ้ ยละ 25 คุณภาพการเล้ียงดูในแต่ละครอบครัว เปน็ อกี ปจั จยั สำ� คญั ทส่ี ง่ ผลตอ่ ความเหลอื่ มลำ�้ สัดส่วนเด็ก 0-36 เดือนที่สงสัยพัฒนาการล่าช้า จำ�แนกตามการอยู่อาศัย ระหว่างชนชั้น เด็กในครอบครัวร�่ำรวยมาก 24.8% มีโอกาสท�ำกิจกรรมร่วมกับพ่อหรือแม่ มากกว่าเด็กในครอบครัวยากจนมากเกือบ เท่าตัว ซ่ึงอาจส่งผลต่อความแตกต่างด้าน 17.1% 17.4% พัฒนาการ อันจะส่งผลให้ความเหล่ือมล�้ำ รอ ยละ ระหว่างชนช้ันเด่นชัดมากย่ิงขึ้น นอกจากน้ี เกือบคร่ึงของผู้เล้ียงดูเด็กเห็นว่าการลงโทษ ทางร่างกายเป็นสิ่งจ�ำเป็น เด็กปฐมวัยจึงมี แนวโนม้ ถกู ทำ� โทษทางรา่ งกายมากกวา่ เดก็ โต อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีแนวทางการอบรม เด็กที่หลากหลายมากข้ึน เช่น การเล้ียงลูก อยูกบั พอ แม ไมไดอยกู บั พอ ไมไดอ ยูกับพอ แม ด้วยวิธีเชิงบวก ซ่ึงน่าจะส่งผลดีต่อเด็กใน ท่ีมา : อารี จ�ำปากลาย และคณะ, 2559 ระยะยาวมากกว่า 24 สุขภาพคนไทย 2561

การเลี้ยงลูกเชิงบวก สมองของมนุษย์พัฒนาได้ดีในสภาพแวดล้อมเชิงบวก ความท้าทายในการเลี้ยงลูกเชิงบวก การอบรมเด็กด้วยวิธีลบจะ เด็กจะพัฒนาความรู้สึกรักและนับถึงตนเอง คือ ความเคยชินกับวิธีการเดิมๆ กระตุ้นสมองส่วนสัญชาตญาณ พ่อแม่ต้องตั้งสติก่อนจะบ่น ดุ ด่า ให้ “สู้ หนี หรือยอม” ซึ่งเด็ก รู้สึกว่าตัวเองเป็นคนมีศักยภาพ และถึงล้มก็ไม่เป็นไร ประชด เปรียบเทียบ หรือตีลูก จะไม่ได้เรียนรู้อะไรอย่างแท้จริง เพราะยังมีคนรักและคอยสนับสนุนอยู่เสมอ ท่ีมา : สัมภาษณ์ พญ. จิราภรณ์ อรุณากรู (หมอโอ)๋ เพจเลี้ยงลกู นอกบา้ น เด็กอายุ 1-14 ปี ที่ได้รับการอบรมโดยการทำ�ร้ายร่างกายในช่วง 1 เดือนที่ผ่านมา 65.1% 72.7% เด็กปฐมวัยถูกอบรม ดวยวิธีรนุ แรงทางกาย 62.8% มากท่ีสดุ รอยละ 40.5% 47.5% ของผูเลยี้ งดู เชื่อวา การลงโทษ ทางรางกายเปน สง่ิ จำเปน ในการเล้ยี งเด็ก 1-2 ป 3-4 ป 5-9 ป 10-14 ป อายุ เด็ก 36-59 เดือน ที่สมาชิกผู้ใหญ่ในครัวเรือน เด็กใน ในยุคดิจิทัล ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ ร่วมทำ�กิจกรรมอย่างน้อย 4 กิจกรรมใน 3 วันที่ผ่านมา ครอบครัวร่ำรวยมาก มีบทบาทในการเล้ียงดูลูกมากข้ึน มีโอกาสทำกิจกรรม ปัจจุบันเด็กไทยจ�ำนวนมากยังคงดู กบั พอ และแมมากกวา โทรทัศน์เกิน 2 ช่ัวโมงต่อวัน อย่างไร รำ่ รวยมาก ร่ำรวย ปานกลาง ยากจน ยากจนมาก เด็กในครอบครวั ยากจน ก็ตาม เด็กในปัจจุบันมีทางเลือกอื่น มากเกือบเทาตัว ป 255618-2.25%52 87.1% มากขึ้นป 2551-2552 เกือบป ค25ร57่ึงของเด็กปฐมวัย 68.7% ป 2557 % แม 39.6 40.945.6%52.9% % 5อใ6ชิเ.ล้2ส็ก%มทารร์อทนโฟิก5นส1์เหห.8รลือ%่าแนท้ีส็บ่งเผลล็ตใ แต่สื่อ ห้เด็กมี 51.9% วันธรรมดา กิจกรวรนั มหทยางุดกายและการปฏิสัมพันธ์ กับสมาชิกในครอบครัวลดลงไม่ต่าง พอ 353.68.%6% กปบั 25ก51า-ร25ด52โู ทรทศั น์ ป 2557 ป 2551-2552 242.75%.7% รอ ยละ เดก็ 1-5 ป... 39.6% 40.9% 56.2% 41.0% ใชสมารท โฟนทเ่ี ลน เกมได วันธรรเพมดมิ่ ดทูเตาวี มิ เี ทคาือเดมิมอื ถือ วันหย หมายเหตุ : กิจกรรมร่วมกับเดก็ ได้แก่ การอ่านหนงั สือหรอื ดูสมดุ ภาพ การเล่านิท4าน4ก.8า%รรอ้ ใงชเแพทลบ็ งเกลาต็ รพาออกไป นอกบ้าน/บรเิ วณบา้ น/สนาม การเลน่ การใชเ้ วลาเรยี กชือ่ ส่ิงของ นับเลข หรือวาดรูป และแทบ็ เล็ต ที่มา : การสำ� รวจสถานการณ์เดก็ และสตรใี นประเทศไทย (MICS) พ.ศ. 2558-2559, ส�ำนักงานสถิตแิ ห่งชาติ สัดส่วนของเด็กอายุ 1-5 ปี ที่ดูโทรทัศน์วันละ 2 ชั่วโมง หรือมากกว่า เด็ก 1-5 ป. .. ป 2551-2552 ป 2557 ป 2551-2552 ป 2557 41.0% ใชสมารทโฟนทีเ่ ลน เกมได 44.8% ใชแ ท็บเลต็ 39.6% 40.9% 56.2% 51.8% วันธรรมดา วันหยดุ ทมี่ า : การส�ำรวจสุขภาพประชากรไทยโดยการตรวจรา่ งกาย คร้งั ที่ 4 พ.ศ. 2551-2552 และ ครัง้ ที่ 5 พ.ศ. 2557 (สขุ ภาพเดก็ ), สวรส. เด็ก 1-5 ป... 2510 หมวดตัวชี้วัดสุขภาพเด็กปฐมวัย 41.0% ใชสมารทโฟนทเ่ี ลนเกมได ดทู วี เี ทาเดิม 44.8% ใชแ ทบ็ เลต็

8 การศึกษาของเด็กปฐมวัย 3 ใน 4 คน ของเด็กไทยอายุ 3-5 ปี ได้เข้าเรียนในหลักสูตรปฐมวัย (ระดับกอ่ นประถมศกึ ษา) ลงทนุ ผลตอบแทนทางสงั คม ก า ร ศึ ก ษ า ป ฐ ม วั ย เ ป็ น ัอตราผลตอบแทนการลง ุทนในม ุนษ ย ผลตอบแทนทางสังคมจากการลงทุน ตลอดชว งชีวิต ร า ก ฐ า น ที่ สำ� คั ญ ข อ ง ก า ร ในเด็กปฐมวัย บ1าท (Life cycle benefits) 7บ.า3ท พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ใน โครงการพฒั นาเดก็ แรกเกดิ และวัยเตาะแตะ (หรอื อัตราผลตอบแทน รอ ยละ 13.7% ตอป) ระยะยาว การลงทุนด้าน การศึกษากอ นวัยเรียน การพัฒนาทกั ษะการทำงาน การศึกษาลา สดุ ในป 2559 พบวา การลงทนุ น้ี งบประมาณกับการศึกษาและ การศึกษา (เพอื่ พฒั นาเด็กปฐมวยั ต้งั แตแ รกเกิด) สุขภาพของเด็กในวัยนี้ให้ อายุ (ป) ผ ล ต อ บ แ ท น ก ลั บ คื น ต่ อ กอ นคลอด 0-3 4-5 วัยเรียน ใหผลตอบแทนท่ีสงู กวาการลงทุนในการศกึ ษาระดับ สังคมมากถึง 7.3 เท่า กอ นวัยเรยี น (3-4 ป) ซ่งึ ใหอ ตั ราผลตอบแทน รอ ยละ 7-10 ตอ ป ซ่ึงก็นับวา สงู อยูแ ลว โดยผลตอบแทนจะสูงมาก ในกลุมเดก็ ทีม่ าจากครอบครัวดอ ยโอกาส หลังจบการเรยี น ทมี่ า : Heckman, James J.(2008). Quantifying the Life-cycle Benefits of a Prototypical Early Childhood Program. งานศกึ ษาของนกั เศรษฐศาสตรร์ างวลั โนเบล เจมส์ เจ. เฮกแมน พบวา่ การลงทนุ ในการศกึ ษาสำ� หรบั เดก็ ปฐมวยั เปน็ การ ลงทนุ ทใ่ี หผ้ ลตอบแทนทางสงั คมทสี่ งู มากโดยเฉพาะในกลมุ่ เดก็ ยากจนหรอื ดอ้ ยโอกาส และยง่ิ สามารถลงทนุ ในเดก็ กลมุ่ นไี้ ด้ เรว็ เทา่ ไร (ทแ่ี นะนำ� คอื ตง้ั แตแ่ รกคลอด ทงั้ ในดา้ นการศกึ ษาและพฒั นาการเรยี นรขู้ องเดก็ ควบคไู่ ปกบั การลงทนุ ดา้ นสขุ ภาพ) ผลตอบแทนทส่ี งั คมจะไดร้ บั กย็ ง่ิ สงู ขนึ้ ในทางเดยี วกนั งานศกึ ษาในไทยพบวา่ การไดร้ บั การศกึ ษาระดบั ปฐมวยั สง่ ผลเชงิ บวก ต่อพัฒนาการและผลสัมฤทธ์ิการเรียนของเด็กในระยะยาว โดยเฉพาะทักษะทางปัญญา ด้านการอ่าน วิทยาศาสตร์และ คณิตศาสตร์ โดยผลสัมฤทธค์ิ อ่ นข้างเห็นไดช้ ัดในกลุม่ เด็กที่มาจากครอบครวั ฐานะปานกลางจนถึงยากจน1,2 ร้อยละของนักเรียนระดับก่อนประถมศึกษา จากขอ้ มลู ในปี 2559 ประมาณ ต่อจำ�นวนประชากรเด็กอายุ 3-5 ปี ปี 2555-2559 รอ้ ยละ 50 ของเดก็ ไทยอายุ 0 - 2 ปี (หรือเกือบ 1 ล้านคน) ก�ำลังอยู่ 101.0% 95.5% 98.1% 96.2% 95.6% 98.0% 94.6% 92.5% ภายใต้การดูแลของศูนย์การเรียน 97.2% 92.5% สถานเล้ียงเด็ก หรือศูนย์พัฒนาเด็ก ขณะทป่ี ระมาณ รอ้ ยละ 75 ของเดก็ นักเรียน อ. 1/ อายุ 3 – 5 ปี (หรือประมาณ 1.7 เดก็ 3 ขวบ ล้านคน) ก�ำลังเข้าเรียนในระบบ โรงเรียน ระดับก่อนประถมศึกษา 77.1% 76.0% 72.9% 73.8% 74.8% ชน้ั อนุบาล 1 – 3 นกั เรยี น อ. 2/ เด็ก 4 ขวบ 32.4% 32.9% 32.5% 34.8% นักเรยี น อ. 3/ เด็ก 5 ขวบ 27.8% รวมนักเรยี น อ. 1-3/ เด็ก 3-5 ขวบ 2555 2556 2557 2558 2559 ที่มา : ค�ำนวณจากตารางข้อมลู สถิตกิ ารศกึ ษา พ.ศ. 2559, กระทรวงศกึ ษาธิการ (1) พริ ิยะ ผลพริ ุฬห์ และศิวชั เทียมทัด, 2559, “เศรษฐศาสตร์การศกึ ษาปฐมวยั : การเขา้ ถึงการศึกษาปฐมวัยและผลสมั ฤทธข์ิ องการศกึ ษาตอ่ ในอนาคต” วารสารเศรษฐศาสตร์ ประยกุ ต์ ปที ี่ 23 ฉบับท่ี 1 (มิถุนายน 2559) : 1-34, (2) อรพรรณ บวั อ่ิน, 2560, การศกึ ษาปฐมวัยและพฒั นาการเด็กกอ่ นวัยเรยี นในประเทศกำ� ลงั พัฒนา: หลักฐานเชิง ประจกั ษจ์ ากประเทศไทย, พฒั นาการเศรษฐกจิ ปริทรรศน์ ปที ี่ 11 ฉบับที่ 1 (มกราคม 2560), 73-107 26 สุขภาพคนไทย 2561

2,028,997 คน เด็กอายุ แม้เด็กในช่วงอายุน้ี 0-2 ขวบ จ�ำนวนหนึ่งอาจเขา้ เรียน ป 2559 สำนกั พฒั นาสังคม 2.6 % 0.2 % อ่ืนๆ ชา้ หรอื เรว็ เกนิ กวา่ เกณฑ์ (สังกัด กทม.) จ�ำนวนหน่ึงอาจได้รับ 988,503 คน กรมสง เสริม การพัฒนาการเรียนรู้ สถานรองรบั การปกครอง นอกระบบโรงเรียน แต่ กล่าวได้ว่าน่าจะยังมี เด็กเอกชน 7.2 % ทอ งถน่ิ เด็กจ�ำนวนอีกไม่น้อย ท่ี ไ ม ่ ไ ด ้ รั บ ก า ร ศึ ก ษ า ทจ่ี ดทะเบยี น 90.0 % หรือพัฒนาการเรียนรู้ ในระดบั ปฐมวัย จำแนกตามสงั กัด ของศนู ยการเรียนฯ จำนวนประชากรเดก็ อายุ จำนวนนักเรยี นเตรยี มอนุบาล 0-2 ขวบ (อายตุ ำ่ กวา 3 ขวบ) ในศนู ยการเรียน สถานเลยี้ งเด็ก ศูนยพัฒนาเดก็ ที่มา : ค�ำนวณจากตารางข้อมลู สถิตกิ ารศกึ ษา พ.ศ. 2559, กระทรวงศกึ ษาธิการ สัดส่วนผู้เรียนต่อครูในการศึกษาระดับปฐมวัย ปี 2558 25.5 จำนวนเด็กตอครู 1 คน 5.4 6.4 7.6 8.8 10.0 11.7 12.1 12.3 12.4 13.6 13.8 14.0 15.4 15.9 17.1 19.9 20.0 20.1 20.3 ส ีวเดน ส ิวตเซนิเเวอกนยรีซาอแแอหสรลลเรเลีในนวปม ตนดดนยี ฮังการี สห ิอัรฐนโอเด ิอมนีเิรต ีซาก ีลาย บาหเรน เวีมายเดลเนซีายม บ ูรไน จีน ไทย ิอนเ ีดย ฝ ่ัรงเศส ี่ญ ุปน หมายเหตุ : ข้อมลู ปี 2558 หรือปีที่เป็นปัจจบุ นั ท่ีสดุ ท่ีมา : Pupil/teacher ratio by level of education (headcount basis), UNESCO การพฒั นาคณุ ภาพการศกึ ษาปฐมวยั ปรัชญาการศึกษาปฐมวัยของไทย ในระบบโรงเรียนรวมถึงมาตรฐานการ ดูแลเด็กในศูนย์พัฒนาเด็ก โดยเฉพาะ “เปนการพัฒนาเดก็ ตั้งแตแรกเกดิ ถึง 6 ปบ ริบรู ณ อยา งเปน องคร วมบนพื้นฐาน ด้านคุณภาพและปริมาณของครูผู้สอน การอบรมเลี้ยงดแู ละการสง เสรมิ กระบวนการเรียนรูท่ีสนองตอ ธรรมชาติ และพี่เลี้ยงเด็ก ความปลอดภัยของ สภาพแวดล้อมในโรงเรียนและศูนย์ฯ และพฒั นาการตามวัยของเดก็ แตละคนใหเตม็ ตามศักยภาพ ภายใตบ ริบทสงั คม ค ว า ม เ พี ย ง พ อ ข อ ง ง บ ป ร ะ ม า ณ แ ล ะ และวฒั นธรรมท่ีเด็กอาศยั อยูดวยความรกั ความเอ้ืออาทร และความเขาใจของทุกคน ทรัพยากร รวมถึงแนวทางการจัดการ ศึกษาท่ีสอดคล้องตามปรัชญาการศึกษา เพอ่ื สรางรากฐานคณุ ภาพชีวติ ใหเดก็ พัฒนาไปสคู วามเปน มนุษยท ส่ี มบูรณ ปฐมวยั ทก่ี ำ� หนดไวเ้ ปน็ ขอ้ ทา้ ทายทส่ี ำ� คญั เกดิ คุณคาตอตนเองครอบครัว สังคมและประเทศชาต”ิ สำ� หรับประเทศไทย ที่มา : หลกั สตู รการศกึ ษาปฐมวยั พ.ศ. 2560, ส�ำนกั งานคณะกรรมการ การศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ 2710 หมวดตัวชี้วัดสุขภาพเด็กปฐมวัย

9 เด็กกลุ่มเปราะบาง แตล่ ะปมี เี ดก็ ทารกถูกทอดทงิ้ อยา่ งนอ้ ยประมาณ 150 - 200 คน สถานการณ์เด็กปฐมวัยกลุ่มเปราะบางมีแนวโน้มที่ท้าทาย ลักษณะและรูปแบบหลากหลายขึ้น เช่น เด็กทารกถูกทอดทิ้ง เด็กพิการ กลุ่มเด็กเร่ร่อน และกลุ่มเด็กข้ามชาติหรือไร้รัฐ ปญั หาเดก็ ทารกถกู ทอดทง้ิ สะทอ้ น สถิติการทอดทิ้งเด็กในไทยจำ�แนกตามสถานที่ สาเหตปุ ญหาการทอดทิง้ ภาพปญั หาสงั คมไทยไดห้ ลายดา้ น ทงั้ การ 1. ต้งั ครรภไ มพรอ มในวัยรนุ ต้ังครรภ์ไม่พร้อมในวัยรุ่น การหย่าร้าง 2. หยารา ง ปัญหาครอบครัวและความยากจน ซึ่งล้วนเป็นความท้าทายส�ำคัญท่ีควร 197 คน 3. ปญหาครอบครวั ต้องได้รับการจัดการอย่างเป็นองค์รวม 4. ความยากจน 87 154 คน 133 คน 69 146 คน 68 64 61 จำนวนคน ในสว่ นเดก็ ปฐมวยั ทพี่ กิ าร สถติ ลิ า่ สดุ พบ 39 36 42 33 36 วา่ มจี ำ� นวนเกอื บสองหม่นื คน สว่ นหน่ึง 33 มีสาเหตุมาจาก กลุ่มอาการออทิสติก 23 เด็กกลุ่มนี้เป็นเด็กพิเศษท่ีสามารถ 10 10 9 10 พัฒนาให้เติบโตข้ึนตามศักยภาพและ 2556 2557 2558 2559 อยู่ร่วมกับผู้อ่ืนในสังคมต่อไป จึงเป็น กลุ่มท่ีไม่ควรถูกละเลยหรือเพิกเฉย โรงพยาบาล สาธารณะ ผูรบั จางเล้ียง / สถานรบั เลยี้ ง ญาติ รวม ในการสนับสนุนการเข้าถึงบริการการ พฒั นาเดก็ ทจ่ี ำ� เปน็ หมายเหตุ : รวมเฉพาะทารกถูกทอดทิง้ ทอ่ี ยใู่ นความดแู ลของสถานสงเคราะห์เดก็ ออ่ น 8 แหง่ ทัว่ ประเทศ ทีม่ า : จากเว็บไซต์ http://www.nationtv.tv/main/content/378530079 และ https://www.thairath.co.th/clip/117776 รอ ยสลัดะสข่วอนงขเอดง็กเดอ็กายอุา0ยุ-05-5ป ปพี ิกทาี่พริกจาำรแนจำก�แตนากมตปารมะปเภระทเภท ชาย หญงิ เดก็ อายุ 0 – 5 ป 13.9% 3.9% 0.5% 12.9% ในป 2560 มี 0.6% 10.9% 4.3% จำนวน 17,012 ราย ทพี่ กิ ารและไดร ับการ 5.0% จดทะเบยี นคนพิการ ในจำนวนนี้ สามารถระบคุ วามพกิ ารได 33.0% 36.7% 39.4% 10,691 ราย 1.0% 0.4% นอกจากนี้ยังมเี ดก็ ทีไ่ มท ราบ 37.4% ประเภทความพกิ ารอกี 6,321 ราย พิการ พิการทางการ พิการทางการ พิการทางจติ ใจ พิการ พิการ พกิ ารทาง ทางการเหน็ ไดย นิ หรือ เคล่อื นไหว หรือพฤติกรรม ทางสติปญ ญา ทางการเรยี นรู ออทสิ ติก หรอื รา งกาย ส่ือความหมาย หมายเหตุ : คำ� นวณจากจำ� นวนเด็กพิการทส่ี ามารถระบุความพิการไดจ้ ำ� นวน 10,691 ราย (ชาย 6,236 ราย หญิง 4,455 ราย) ทม่ี า : ขอ้ มูลจากฐานขอ้ มูลทะเบียนกลางคนพิการ กรมส่งเสริมและพฒั นาคุณภาพชีวติ คนพกิ าร 28 สุขภาพคนไทย 2561

ปญั หาของเดก็ เรร่ อ่ นมคี วามซบั ซอ้ นมากขน้ึ สถานการณเ ดก็ เรร อ นยงั คงสูง เด็กเร่ร่อนปฐมวัยปัจจุบันมาจากครัวเรือน โดยคาดวา จะมีเด็กไทยเรร อน ยากจนมากและไม่มกี ารศกึ ษา มกั ถกู พอ่ แมพ่ า ท่วั ประเทศประมาณ 30,000 ราย ออกมาเรร่ อ่ นตง้ั แตอ่ ายตุ ำ�่ กวา่ 5 ปี เพอื่ หาเงนิ ในกทม. ยงั คงพบเด็กเรร อนใตทางดว น โดยการขอทานหรือเก็บขยะขาย ไม่มีบ้านพัก และพบวาอายุนอ ยลงอีกดว ย หสจะร่วอืกนเลมใหาอ่ื ยญแเมป่ออ่ น็าอเศกดัยมก็ อาเเรยรร่รู่่ใอ่อ่ตนน้สแตะลาพะมาตพนง้ัทอ่คหแรค่ี รรมือภล่ ซ์ใเตดอง่ึ สก้็ทดทว่ านเี่เงใกดใดดนิห่วมก็ญสนา่ขถา ามนชพโดาปยหยตญพากบหาเิสพเากดบถซอก็าบัแดินอามซกาอเลยใปานรนุนนขมณอคายปรอกร ทอนุขรี่สบงนึ้แดุคระนรงครเขอวัอื ฐัท้ึนเกร3จร ศาอก(ขนวไ4นบท้ี 1ย8 ราย) มปี ญั หาการเขา้ ถงึ บรกิ ารสขุ ภาพ เชน่ รบั วคั ซนี ลกู เกดิ มาจะเปน เดก็ เรรอ นตามไปดว ย ไม่ครบตามเกณฑ์ และไม่ได้รับการพัฒนาเด็ก ทีเ่ หมาะสมตามวัยในเดก็ กลุ่มน้ีทม่ี า: สัมภาษณครูทองพูล บัวศรี (ครจู ิว๋ ) มลู นิธสิ รา งสรรคเ ดก็ ทม่ี า : สัมภาษณ์ครูทองพลู บวั ศรี (ครจู ว๋ิ ) มลู นธิ สิ รา้ งสรรค์เด็ก เด็กข้ามชาติเกิดในประเทศไทย ที่คลอดในสถานพยาบาลของรัฐ (418 ราย) 82.8 ใบรับรองการเกิด จดทะเบียนเพือ่ รบั สูติบตั ร 71.2 27.6 1.2 17.2 0 ไดร ับ ไมไดร ับ ไมทราบวา ตองจด ท่มี า : เฉลมิ พล แจ่มจนั ทร์ กัญญา อภิพรชัยสกุล กาญจนา เทยี นลาย, 2560 กรุงเทพมหานคร คาดว่าจะมีเด็กข้ามชาติ พระราชบัญญัติการทะเบียนราษฎร (ฉบับที่ 2) พ.ศ.2551 อายุ 0-5 ปี ถึง 53,437 คน บญั ญตั ใิ หเ้ ดก็ ขา้ มชาตทิ เี่ กดิ ในประเทศไทยไดส้ ตู บิ ตั รทกุ คน สำ� หรบั เอกสารท่ีน�ำไปขอสูติบัตร คือ ใบรับรองการเกิด หรือ ทร.1/1 ในกลุ่มเด็กที่คลอดในไทยพบว่ามีน้ำ�หนักแรก แตส่ ถานการณใ์ บรบั รองการเกดิ กลบั พบวา่ เดก็ ทเ่ี กดิ ในประเทศไทย คลอดต่ำ�กว่า 2,500 กรัม ถึงร้อยละ 14 และในสถานบรกิ ารสาธารณสขุ ของรฐั ยงั คงมเี ดก็ ขา้ มชาตทิ ไี่ มไ่ ดร้ บั ใบรับรองการเกิดอยู่ เหตุผลท่ีไม่ไปจดทะเบียนเกิด คือ ไม่ทราบว่า นอกจากนี้การเข้าถึงวัคซีนที่จำ�เป็น ต้องไปจด ไม่ทราบสถานทจี่ ด และไม่กลา้ ไปจดเพราะพดู ภาษาไทย ในขวบปีแรกน้อยกว่าเด็กไทยถึง 1 ใน 3 ไม่ได้ ด้วยเหตุผลดังกล่าวอาจพอจะมองเห็นถึงเด็กข้ามชาติท่ีด้อย โอกาสในการเข้าถึงการจดทะเบียนเกิด ภาครัฐควรหันกลับมามอง และพบว่าความครอบคลุมวัคซีน ในเรอื่ งของระบบการสง่ ตอ่ เพอ่ื ไปจดทะเบยี นรบั ใบสตู บิ ตั ร หรอื การ ป้องกันโปลิโอยังต่ำ�มากอีกด้วย ให้ความรใู้ นเรือ่ งความสำ� คญั ของการจดทะเบยี นเกิด ทม่ี า : การคาดประมาณประชากรขา้ มชาตเิ พอื่ พฒั นาบรกิ ารอนามยั 2910 หมวดตัวชี้วัดสุขภาพเด็กปฐมวัย แม่และเดก็ ในกทม. 2556, สวรส.

10 ข้อพิจารณาทางนโยบาย การละเลยเรื่องสขุ ภาพและการศึกษาของเด็กปฐมวัยอาจนำ� มาซง่ึ ความสญู เสีย ระยะยาวมหาศาล ท้ังระดบั บุคคลและระดับสงั คม ...ในการขับเคลื่อนงานพัฒนาเด็กปฐมวัย ต้องใช้กระบวนการที่ประสานพลังการทำ�งานของภาคส่วน ต่างๆ ไปด้วยกัน ในกลุ่มพ่อแม่ตั้งแต่เริ่มสร้างครอบครัว ตั้งครรภ์ จนถึงคลอด ในช่วงเด็กแรกเกิด ตลอดช่วงปฐมวัย จนเข้าโรงเรียน ให้เป็นเนื้อหาที่เชื่อมโยงกัน เกิดเป็นพลังการทำ�งานที่เข้มแข็ง... งานศกึ ษา The 2016 Lancet Early Childhood Development Series ไดใ้ หข้ อ้ เสนอแนะวา่ มาตรการเชงิ นโยบาย เพอื่ ดแู ลและพฒั นาเดก็ ปฐมวยั ทจ่ี ะประสบผลสมั ฤทธแิ์ ละมคี วามยงั่ ยนื จำ� เปน็ ตอ้ งไดร้ บั ความรว่ มมอื และการประสานการ ท�ำงานจากหลายภาคสว่ น ในลกั ษณะชดุ มาตรการหรอื intervention packages ทเ่ี หมาะสมในแตล่ ะช่วงการกำ� เนดิ และ เติบโตของเด็ก ควบคู่ไปกับการพิจารณาและระบุถึงปัจจัยที่เป็นความเส่ียงเพื่อก�ำหนดแนวทางป้องกันหรือจัดการ ภายใต้ แนวคดิ นี้ พอ่ แม่ ผปู้ กครอง ผดู้ แู ลเดก็ และสมาชกิ ในครอบครวั เปน็ กลมุ่ เปา้ หมายสำ� คญั ทต่ี อ้ งใหค้ วามสำ� คญั ในการสนบั สนนุ และสง่ เสรมิ ความพรอ้ มตา่ งๆ ทจ่ี ำ� เปน็ ในการดแู ลและพฒั นาลกู หรอื เดก็ ปฐมวยั ในครอบครวั การละเลยการลงทนุ เพอ่ื พฒั นา คณุ ภาพประชากรกลมุ่ ปฐมวยั ตงั้ แตแ่ รกเกดิ โดยเฉพาะการเขา้ ถงึ บรกิ ารสขุ ภาพทจี่ ำ� เปน็ รวมถงึ โอกาสในพฒั นาการเรยี นรู้ และการศกึ ษาของเดก็ ปฐมวยั จากครวั เรอื นทยี่ ากจนและมคี วามเปราะบางทางสงั คม อาจนำ� ไปสกู่ ารสญู เสยี ทง้ั ทางเศรษฐกจิ และทางสงั คมตอ่ ประเทศ ทเี่ รยี กวา่ “cost of inaction” ในระยะยาวทมี่ มี ลู คา่ สงู กวา่ ตน้ ทนุ ทจ่ี ะเกดิ ขน้ึ หากเลอื กทจี่ ะลงทนุ ในประชากรเด็กกลมุ่ น้ีอยา่ งเหมาะสมในปัจจุบันหลายเท่าตวั มาตรการที่มีผลเชิงประจักษ์ (evidence-based interventions) ในการดูแลและพัฒนาเด็กปฐมวัย การวางแผนครอบครวั ดูแลฝากครรภ ดูแลระหวางคลอด ปองกันโรคและดูแลทารกหลงั คลอด การปองกันโรคตดิ ตอในเดก็ โภชนาการกอนตั้งครรภ ปอ งกันโรคและการดูแล ปองกนั และจัดการ สนับสนุนครอบครัวในการดูแลทารกแรกเกิด การคัดกรองและจัดการการเจ็บปว ย ความผดิ ปกติระหวา งคลอด สงเสรมิ วธิ ีการเลย้ี งและการโภชนาการทารก ระหวา งตัง้ ครรภ การดูแลทารกหลังคลอด และความผิดปกติ ประเมนิ ตดิ ตามการเติบโต และเด็กเล็กทเ่ี หมาะสม ระบบการดูแลและสงเสรมิ ของตัวออนปอ งกนั และจดั การ ระบบการดูแลและสง เสริมพัฒนาการเรียนรู พฒั นาการเรียนรูท ม่ี ีคุณภาพ ความผดิ ปกตริ ะหวา งต้ังครรภ ของทารกและเด็กเลก็ ท่ีมคี ณุ ภาพ วยั รนุ และวยั ผูใ หญ ระหวา งต้ังครรภ ระหวางการคลอด/ แรกเกดิ ชว งทารก ปฐมวยั 5 วัยเรยี น ชว งหลงั เกิด 3 วันแรก (1 เดอื นแรก) (1-2 ปแรก) (24-71 เดือน) (6-10 ป) 10 12 14 16 >18 0 4 8 12 16 20 24 28 32 36 40 คลอด 24 48 72 1 2 34 6 12 18 24 34 6 8 >10 ป สปั ดาห ชั่วโมง สัปดาห เดือน ป มาตรการดแู ลและคมุ ครองตลอดชวงชีวิต (life-course) สงเสริมสนบั สนุน สขุ ภาพจติ และ การคุม ครอง สุขอนามยั นำ้ และสาธารณสขุ มลู ฐาน ดานการเล้ียงดู สขุ ภาวะมารดา ทางสังคม รวมถึงการสง เสรมิ พฤติกรรม (แกค รอบครัว/ผูปกครอง) ทางสุขภาพทเ่ี หมาะสม) ทม่ี า : Britto, P. R. et al., 2016 30 สุขภาพคนไทย 2561

3 ยทุ ธศาสตร 1) การสงเสรมิ พฒั นาการเดก็ ปฐมวยั ส�ำหรับประเทศไทย นโยบาย 2) การสงเสรมิ พอ แมแ ละผเู ก่ียวขอ งเพอ่ื พัฒนาเด็กปฐมวยั และยุทธศาสตร์การพัฒนาเด็ก \"นโยบายและยทุ ธศาสตร 3) การสง เสรมิ สภาพแวดลอมท่เี อื้อตอการพัฒนาเดก็ ปฐมวยั ป ฐ ม วั ย ร ะ ดั บ ช า ติ ฉ บั บ แ ร ก ไ ด ้ การพฒั นาเด็กปฐมวัย จัดท�ำข้ึน เพ่ือใช้เป็นกรอบการ (0-5 ป) ระยะยาว พ.ศ. 2550-2559\" 7 ยุทธศาสตร 1) การจดั และการใหเดก็ เขาถงึ บริการพัฒนาเด็กปฐมวัย ท� ำ ง า น ร ะ ย ะ ย า ว ข อ ง ป ร ะ เ ท ศ \"รา ง นโยบายและ 2) การพัฒนาการเปนพอเปนแม การอบรมเลีย้ งดู ในชว่ งพ.ศ. 2550-2559 ตามมาดว้ ย แผนยทุ ธศาสตร ฉบับท่ี 2 ในชว่ ง พ.ศ. 2560-2564 ดานเด็กปฐมวยั และบทบาทของครอบครัว โดยจุดมุ่งหมายที่ส�ำคัญของท้ังสอง พ.ศ. 2560-2564\" 3) การพฒั นาคณุ ภาพการใหบริการพัฒนาเดก็ ปฐมวยั ฉบับ เป็นเร่ืองการส่งเสริมพัฒนา 4) การจัดระบบขอมูลและตัวช้วี ดั เด็กปฐมวัย ที่เน้นครอบครัวเป็น 5) การปรับปรงุ กฎหมาย กฎระเบียบ ท่เี กี่ยวของกบั เดก็ ปฐมวัย และการดำเนนิ การตามกฎหมาย 6) การศึกษา วิจยั และการเผยแพรอ งคค วามรู เกย่ี วกับเดก็ ปฐมวยั 7) การบริหารจัดการ การตดิ ตามงานและประเมนิ ผล แกนหลัก และส่งเสริมให้ทุกภาค และการสรา งเครือขา ยประสานการทำงานรว มกนั ส่วนของสังคมได้มีส่วนร่วมใน ท่ีมา : รา่ งนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ดา้ นเด็กปฐมวยั พ.ศ. 2560-2564, ส�ำนกั งานเลขาธิการสภาการศึกษา การด�ำเนินงาน โดยในฉบับที่ 2 ได้เพ่ิมจุดเน้นในการท�ำงานเพ่ือ จัดการปัญหาความเหล่ือมล้�ำในการเข้าถึงบริการพัฒนาเด็กปฐมวัย การพัฒนาคุณภาพการให้บริการพัฒนาเด็กปฐมวัย สง่ เสรมิ ความรู้ ความเขา้ ใจ และบทบาทของพอ่ แมแ่ ละครอบครวั ในการอบรมเลยี้ งดเู ดก็ ทเี่ หมาะสม การปรบั ปรงุ กฎหมาย และกฎระเบยี บทีเ่ กย่ี วขอ้ ง การศกึ ษาและเผยแพรอ่ งค์ความรเู้ ก่ียวกับเดก็ ปฐมวัย รวมถึง การสรา้ งความเข้มแข็งของกลไก การบรหิ ารจดั การ เครอื ขา่ ยประสานงานและระบบขอ้ มลู ในการกำ� กบั ตดิ ตามประเมนิ ผลการดำ� เนนิ งานตามยทุ ธศาสตร์ จุดเน้นการขับเคลื่อนนโยบายและแผนยุทธศาสตร์ การลงทุนในการศึกษาระดับปฐมวัยของไทย ด้านเด็กปฐมวัย พ.ศ. 2560-2564 ยัง “ต่ำ�กว่า” ระดับที่แนะนำ� ร้อยละของงบประมาณการศึกษาระดับปฐมวัย/งบประมาณการศึกษารวม 10% ระดับที่แนะนำ�สากลคือ 10 %* 6.56% พฒั นาเด็กปฐมวัยดวยแนวทางและองคค วามรูใ หม 5.58% 5.42% (เชน การจัดการเรียนรูตามหลกั การพฒั นาสมอง ใหความสำคัญสูงสดุ กับการพฒั นาความรคู วามเขา ใจ หรอื BBL (Brain-Based Learning) การสงเสรมิ พฒั นาการ EF หรอื Executive function) ทักษะ รวมถงึ บทบาทของ “พอ แมผ ปู กครอง” ควบคู ไปกับ จดั การปญ หาความเหล่อื มลำ้ ทย่ี ังมใี นการพฒั นาเดก็ ปฐมวยั สรา งความเข็มแข็งของกลไก 2554 2555 2556 ปี (คณะกรรมการ และสำนักงานชาต)ิ และระบบขอมูล ในการกำกบั ติดตาม ประเมินผล * Unicef (2017), “Early Moments Matter for Every Child”, หน้า 53 การดำเนนิ งานตามยุทธศาสตรฯ ทมี่ า : UNESCO Institute for Statistics (2017) ทีม่ า : สัมภาษณ์ นายแพทย์ยงยุทธ วงศภ์ ิรมยศ์ านต์ิ ประธานคณะอนุกรรมการ จัดท�ำยทุ ธศาสตร์ 3110 หมวดตัวชี้วัดสุขภาพเด็กปฐมวัย และตดิ ตามผลการด�ำเนินงาน คณะกรรมการพฒั นาเดก็ ปฐมวัยแห่งชาติ

สำ�หรบั การอ้างอิงบทความ โครงการสุขภาพคนไทย. 2561. ชอื่ บทความ. สุขภาพคนไทย 2561 (เลขหนา้ ของบทความ). นครปฐม: สถาบนั วิจัยประชากรและสงั คม มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล. ตวั อยา่ ง โครงการสุขภาพคนไทย. 2561. พระจกั รีนิวตั ฟา้ สถติ ใจประชานิรนั ดร์. สุขภาพคนไทย 2561 (หนา้ 34-39). นครปฐม: สถาบันวจิ ยั ประชากรและสังคม มหาวทิ ยาลยั มหิดล.



ภาพ : วรศิ โสภณพศิ (ช่างภาพ) นติ ยสารสารคดี 1 พระจักรีนิวัตฟ้า สถิตใจประชานิรันดร์ พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ได้มีข้ึนระหว่างวันท่ี 25-29 ตุลาคม 2560 โดยตลอดหน่ึงปีท่ีผ่านมาก่อนหน้าพระราชพิธีฯ ช่างฝีมือจากทุก แขนงทั้งจากส่วนกลางและส่วนภูมิภาคต่างมารวมตัวกัน เพื่อสร้างสรรค์งานประณีตศิลป์ที่เกี่ยวข้องกับพระราชพิธี ถวายพระเพลิงพระบรมศพ อาทิ การสร้างพระเมรุมาศและอาคารโดยรอบ การจัดสร้างพระโกศจันทน์ การบูรณะ ราชรถ ราชยานทใ่ี ชอ้ ญั เชญิ พระบรมศพ และมกี ารฝกึ ซอ้ มรวิ้ ขบวนพระราชพธิ ถี วายพระเพลงิ พระบรมศพโดยความ ร่วมแรงร่วมใจของข้าราชการ ทหาร ตำ�รวจ ตลอดจนนักเรียน นักศึกษา ฯลฯ เพื่อถวายพระเกียรติยศ และถวาย ความจงรักภักดีอย่างสมพระเกียรติตามแบบอย่างโบราณราชประเพณี บทความน้ีจะเป็นการประมวลเหตุการณ์ สำ�คัญโดยสังเขป เพ่อื เปน็ อกี หนง่ึ บทบันทกึ ความทรงจำ�ของประวัติศาสตร์ชาตไิ ทย 34 สุขภาพคนไทย 2561

วนั ศกุ รท์ ่ี 13 ตลุ าคม พ.ศ. 2560 นน้ั ถอื เปน็ วนั ครบรอบ ภาพ : สรุ ศักด์ิ เพญ็ ใหม่ 1 ปี แหง่ การสวรรคตของพระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหา ภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ในวันดังกล่าวมีกิจกรรม ด้วยเหตุน้ีพระเมรุมาศพระบาทสมเด็จพระปรมินทร ส�ำคัญ คือ การเชิญชวนประชาชนชาวไทยทุกคนร่วมกัน มหาภูมิพลอดุลเดช บรมนาถบพิตร จึงเป็นอาคาร ยืนสงบน่ิงเม่ือเวลา 15.52 น. เป็นเวลา 89 วินาที ซึ่งเป็น ทรงบุษบก 9 องค์ ต้ังอยู่บนฐานชาลาสี่เหลี่ยมจัตุรัส ชว่ งเวลาเดยี วกนั ทพี่ ระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ล 4 ช้ัน บันไดทางข้ึนท้งั 4 ทิศ บุษบกประธานมชี น้ั เชิงกลอน อดุลยเดช บรมนาถบพิตร เสด็จสวรรคต เพ่ือถวายความ 7 ชั้น ยอดบนสุดประดิษฐานพระนพปฎลมหาเศวตฉัตร อาลยั และรำ� ลกึ ถงึ พระมหากรุณาธิคุณอนั หาท่สี ดุ มิได้ (ฉัตรขาว 9 ช้ัน) ภายในมีพระจิตกาธาน (เชิงตะกอน) ตลอดช่วงเวลาท่ีผ่านมา ประชาชนจ�ำนวนมากมาย ประดษิ ฐานพระโกศพระบรมศพ ผนงั สดี่ า้ นตดิ ฉากบงั เพลงิ มหาศาลจากท่ัวประเทศได้เดินทางไปสักการะพระบรมศพ เขยี นรปู นารายณอ์ วตารและภาพโครงการตามพระราชดำ� ริ พระบาทสมเดจ็ พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถ บริเวณฐานชาลาท้ังสามช้ันประดับประติมากรรม เสาครุฑ บพิตร ณ พระท่ีน่ังดุสิตมหาปราสาท พระบรมมหาราชวัง ท้าวจตุโลกบาล เทพยดา ราชสีห์ คชสีห์ นาคราวบันได โดยคนทุกเพศ ทุกวัย ท้ังชาวไทยและชาวต่างชาติ ตลอด ฐานชาลาชนั้ ลา่ งมสี ตั วม์ งคลประจำ� ทศิ รอบฐานพระเมรมุ าศ จนกลุ่มชาติพันธุ์ต่างๆ จากท่ัวทุกสารทิศต่างอดทนรอเป็น มสี ระอโนดาต เขามอประดบั ด้วยสตั ว์หมิ พานตช์ นดิ ตา่ งๆ เวลาหลายชั่วโมง เพ่ือได้กราบสักการะพระบรมศพอย่าง การออกแบบพระเมรมุ าศในครงั้ นยี้ ดึ การวางผงั บรเิ วณ ใกล้ชิด ท้ังน้ีส�ำนักพระราชวังได้สรุปยอดรวมประชาชนที่ ตามคตจิ กั รวาล โดยกำ� หนดตำ� แหนง่ จดุ กงึ่ กลางพระเมรมุ าศ เดนิ ทางมาถวายสกั การะพระบรมศพ ตงั้ แตว่ นั ท่ี 29 ตลุ าคม ซ่ึงเปรียบเสมือนกึ่งกลางจักรวาล คือใช้ต�ำแหน่งจุดตัดของ 2559 ถงึ วนั ที่ 5 ตลุ าคม 2560 รวม 337 วนั เปน็ จำ� นวนถงึ แกนส�ำคัญ 2 แกน คือ แกนทิศเหนือ-ใต้ ได้แก่ แนวแกน 12,739,531 คน และมียอดเงินที่ประชาชนถวายเพื่อร่วม ที่ขนานไปกับสนามหลวง ตรงไปยังยอดพระศรีรัตนเจดีย์ บำ� เพญ็ พระราชกศุ ลเปน็ จำ� นวนเงนิ ทงั้ สน้ิ 889,545,100.01 ในวดั พระศรรี ตั นศาสดาราม และแกนทศิ ตะวนั ออก-ตะวนั ตก บาท1 ซึ่งต้ังฉากกับแนวแกนแรกไปยังจุดศูนย์กลางพระอุโบสถ วดั มหาธาตยุ วุ ราชรงั สฤษดริ์ าชวรมหาวหิ าร สว่ นปรมิ ณฑล การกอ่ สรา้ งพระเมรุมาศ พระเมรมุ าศยงั มอี าคารสำ� คญั คอื พระทน่ี งั่ ทรงธรรมสำ� หรบั บำ� เพญ็ พระราชกศุ ล ศาลาลกู ขนุ ทมิ และทบั เกษตรรายรอบ พระเมรุมาศ สร้างขึ้นภายใต้คติเขาพระสุเมรุ ซ่ึงเป็น ส�ำหรับเป็นที่เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทของพระบรม ศูนย์กลางของจักรวาลและภพภูมิทั้งสาม ลักษณะทาง วงศานวุ งศ์ ทตู านทุ ตู ขา้ ราชการ และขา้ ราชบรพิ าร เฉพาะ กายภาพเชงิ อดุ มคตขิ องเขาพระสเุ มรเุ ปน็ จอมเขากง่ึ กลางสงู ด้านหน้านอกเขตราชวัติ จัดภูมิทัศน์โครงการพระราชด�ำริ ที่สุด ล้อมรอบด้วยเขาสัตตบริภัณฑ์ 7 ทิวสลับด้วยมหานที ภายนอกปริมณฑลพระราชพิธ3ี สที นั ดร อกี ทงั้ มที วปี ทง้ั สแ่ี ละมหาสมทุ รประจำ� ตามทศิ เชงิ เขา นอกจากนี้ยังมีพระเมรุมาศจ�ำลองที่พระลาน พระสเุ มรเุ ปน็ ปา่ หมิ พานต์ ซง่ึ เปน็ ทอ่ี าศยั ของสตั วน์ านาพนั ธ์ุ พระราชวังดุสิต 1 แห่ง ณ 4 มุมของท้องสนามหลวง ส่วนยอดเขาพระสุเมรุเป็นที่ต้ังของสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ ทศิ เหนอื บรเิ วณสำ� นกั งานสลากกนิ แบง่ รฐั บาล (เดมิ ) ทศิ ใต้ ซ่ึงมีพระอินทรเ์ ป็นกษตั รยิ ผ์ ปู้ กครอง2 บรเิ วณพระปฐมบรมราชานสุ รณ์ (สะพานพระพทุ ธยอดฟา้ ) สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณ์ บดินทร เทพยวรางกูร มีพระราชกระแสรับส่ังให้สมเด็จพระเทพ 3510 สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ รัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงเป็นแม่งานในการ ออกแบบพระเมรมุ าศครง้ั น้ี โดยทรงมพี ระราชวนิ จิ ฉยั เลอื ก แบบร่างพระเมรุมาศทรงบุษบก 9 ยอด 7 ชั้นเชิงกลอน ของนายก่อเกียรติ ทองผุดซ่ึงเป็นการออกแบบท่ีจัด วางส่วนยอดให้ความรู้สึกอิสระ ลดหลั่น และสวยงาม

ทิศตะวันออก บริเวณลานคนเมือง กรุงเทพมหานคร รามเกยี รต์ิ เวทที ี่ 2 แสดงหุ่นหลวง ห่นุ กระบอก และละคร ทศิ ตะวนั ตก บรเิ วณสวนนคราภริ มย์ (ทา่ เตยี น) และ 4 มมุ เมอื ง เร่ืองพระมหาชนก ส่วนเวทีท่ี 3 การบรรเลงดนตรีสากล ของกรุงเทพมหานคร เพื่อถวายดอกไมจ้ นั ทน์ ส่วนภูมภิ าค ธ คอื ดวงใจไทยท่วั หล้า บทเพลงพระราชนพิ นธ์ ตลอดจน สรา้ งในทกุ จงั หวดั จงั หวดั ละ 1 แหง่ สำ� หรบั ซมุ้ ถวายดอกไม้ บลั เลต์มโนราห์ ซึ่งหาชมไดย้ ากด้วย จันทน์ส�ำหรับประชาชนร่วมถวายสักการะพระบรมศพ ร้ิวขบวนท่ี 4 อัญเชิญพระโกศพระบรมอัฐิและพระ สรา้ งอยบู่ รเิ วณนอกมณฑลพระราชพธิ ี กรมศลิ ปากรออกแบบ ผอบพระบรมราชสรีรางคาร โดยพระท่ีน่ังราเชนทรยาน และใชเ้ ปน็ ตน้ แบบนำ� ไปจดั สรา้ งในสถานทต่ี า่ งๆ ทว่ั ประเทศ และพระทน่ี งั่ ราเชนทรยาน (นอ้ ย) เขา้ สพู่ ระบรมมหาราชวงั แนวการออกแบบเนอื่ งในพระราชกรณยี กจิ ดา้ นการเกษตร ประดิษฐานพระบรมอัฐิที่พระท่ีน่ังดุสิตมหาปราสาท คือ โครงการพระราชด�ำริฝนหลวง พ้ืนหลังเป็นรูปเมฆและ สว่ นพระบรมราชสรรี างคารนน้ั อญั เชญิ ไปพกั ไว้ ณ พระศรรี ตั น สายฝน มีเส้นสินเทาเป็นกรอบนอกอย่างจิตรกรรมไทย เจดีย์ วดั พระศรีรัตนศาสดาราม เปน็ ซมุ้ 3 ขนาด ซมุ้ ขนาดใหญ่ ซมุ้ ขนาดกลาง และซมุ้ ขนาดเลก็ รว้ิ ขบวนท่ี 5 อญั เชญิ พระโกศพระบรมอฐั โิ ดยพระทนี่ งั่ สำ� หรบั ในตา่ งประเทศ ตงั้ แทน่ ยกพน้ื สำ� หรบั ถวายดอกไมจ้ นั ทน์ ราเชนทรยานไปประดษิ ฐาน ณ พระท่นี ัง่ จกั รมี หาปราสาท เบ้ืองหน้าพระบรมฉายาลักษณ์ พร้อมเครื่องสักการะ ณ เมื่อบำ� เพ็ญพระราชกุศลถวายพระบรมอัฐิแลว้ สถานทตู และสถานกงสลุ ทวั่ โลก4 วันศุกร์ท่ี 27 ตุลาคม 2560 มี ร้ิวขบวนท่ี 6 ซึ่งเป็น ขบวนสุดท้าย อัญเชิญพระบรมราชสรีรางคารโดยรถยนต์ พระราชพธิ ีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระท่ีนั่งจากพระศรีรัตนเจดีย์ วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ไปบรรจุไว้ ณ วัดราชบพิตรสถิตมหาสีมาราม และวัดบวร พระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาท นเิ วศวหิ าร ในการนี้ พนั โทหญงิ พระเจา้ หลานเธอ พระองค์ สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร เจา้ สริ วิ ณั ณวรนี ารรี ตั น์ ผบู้ งั คบั กองทหารมา้ เกยี รตยิ ศ ทรงมา้ เร่ิมตั้งแต่การออกพระเมรุในวันพุธที่ 25 ตุลาคม 2560 นำ� ร้ิวขบวน ซ่งึ เป็นรว้ิ ขบวนพระบรมราชอสิ รยิ ยศรวิ้ ขบวน โดยมพี ระราชพธิ บี ำ� เพญ็ พระราชกศุ ลออกพระเมรุ ณ พระทนี่ ง่ั สดุ ทา้ ยในพระราชพธิ ถี วายพระเพลงิ พระบรมศพ พระบาท ดสุ ติ มหาปราสาท ตอ่ มาในวนั พฤหสั บดที ี่ 26 ตลุ าคม 2560 สมเดจ็ พระปรมินทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพิตร5 มกี ารอญั เชญิ พระบรมศพสพู่ ระเมรมุ าศดว้ ยขบวนพระบรม ท้ังนี้ พระเมรุมาศ ราชรถ ราชยาน และริ้วขบวนทุก ราชอิสริยยศ ส�ำหรับริว้ ขบวนต่างๆ ประกอบดว้ ย ขบวนในพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาท ริ้วขบวนท่ี 1 อัญเชิญพระโกศพระบรมศพโดย สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร พระยานมาศสามลำ� คาน ออกจากพระทนี่ ง่ั ดสุ ติ มหาปราสาท ได้สื่อถึงขนบธรรมเนียมตามโบราณราชประเพณีท่ีสืบมา ไปยงั พระมหาพชิ ยั ราชรถ หนา้ วดั พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลาราม และยังสะท้อนคติความเชื่อที่ว่าพระมหากษัตริย์เปรียบได้ ริ้วขบวนที่ 2 อัญเชิญพระบรมศพโดยขบวนพระมหา กับสมมติเทพท่ีอวตารมายังโลกมนุษย์ และได้เสด็จกลับสู่ พชิ ยั ราชรถจากหนา้ วดั พระเชตพุ นวมิ ลมงั คลารามสมู่ ณฑล สรวงสวรรค์อยา่ งสมบูรณแ์ ละสมพระเกียรติทุกประการ พระราชพธิ ที ้องสนามหลวง นอกจากนร้ี ฐั บาลไดเ้ ปดิ โอกาสใหป้ ระชาชนวางดอกไม้ ริ้วขบวนที่ 3 อัญเชิญพระบรมศพโดยราชรถปืนใหญ่ จันทน์ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพล เวยี นอตุ ราวฏั (เวยี นซา้ ย) รอบพระเมรมุ าศ แลว้ อญั เชญิ ขน้ึ อดุลยเดช บรมนาถบพิตร ณ พระเมรุมาศจ�ำลองและ ประดษิ ฐาน ณ พระเมรมุ าศโดยเกรนิ บนั ไดนาค ซุ้มถวายดอกไม้จันทน์ จ�ำนวน 878 จุดท่ัวประเทศใน ในเวลาค�่ำมีการถวายพระเพลิง พร้อมส่งเสด็จ 76 จงั หวดั ของวนั ที่ 26 ตลุ าคม 2560 ตง้ั แตเ่ วลา 09.00 น. สูส่ วรรคาลัยในเวลา 22.00 น. ถงึ 16.30 น. และเวลา 18.30-22.00 น. (จนกวา่ ประชาชนคน ในวนั เดยี วกนั มกี ารแสดงมหรสพ ตามแบบแผนโบราณ สดุ ทา้ ยไดว้ างดอกไมจ้ นั ทน)์ ไดม้ กี ารหยดุ วางดอกไมจ้ นั ทน์ ราชประเพณี เริ่มต้ังแต่ 18.00 น. ไปจนถึง 06.00 น. ในช่วงเวลาประกอบพระราชพิธใี นพระเมรมุ าศ นับจำ� นวน ของวนั รงุ่ ขน้ึ โดยจดั ขน้ึ อยา่ งสมพระเกยี รตปิ ระกอบดว้ ย 3 เวที ประชาชนทีม่ ารว่ มถวายดอกไม้จันทนก์ ว่า 19 ล้านคน6 ได้แก่ เวทีท่ี 1 การแสดงหนังใหญ่ และการแสดงโขนเร่ือง 36 สุขภาพคนไทย 2561

พระราชวงศ์และบุคคลสำ� คัญท่ัวโลกเข้าร่วม ภาพ : www.matichon.co.th/news/703436 งานพระราชพธิ ฯี สมเด็จพระราชินีซิลเวีย จากสวีเดน บุคคลส�ำคัญจาก ในพระราชพิธีมีพระราชวงศ์รวม 16 ประเทศ และ ต่างประเทศ อาทิ นายบาร์นาบาส ซิบูซิโซ ดลามินี นายก บคุ คลสำ� คญั จาก 26 ประเทศไดเ้ ดนิ ทางมาเขา้ รว่ มพระราช รัฐมนตรีของสวาซิแลนด์ สมเด็จอัคคมหาเสนาบดีเดโช พธิ ฯี ดว้ ย อาทิ เจ้าชายอะกิชโิ นะ พร้อมด้วยเจา้ หญงิ คโิ กะ ฮนุ เซน ของกมั พชู า นายจาง เกาล่ี รองนายกรฐั มนตรขี องจนี (พระชายา) จากญี่ปุ่น ทั้งน้ีราชวงศ์ญี่ปุ่นมีความสัมพันธ์ เป็นตน้ 7 ใกล้ชิดกับราชวงศ์ไทยมาอย่างยาวนาน สมเด็จพระราชินี มาทิลด์ จากเบลเยียม สมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี เคเซอร์ โครงการจติ อาสา นัมเกล วังชุก และสมเด็จพระราชินีเจตซุน เปมา วังชุก และกจิ กรรมของภาคประชาสงั คม จากภูฏาน สมเด็จพระราชินีแม็กซิมา จากเนเธอร์แลนด์ ในช่วงเวลาท่ีส�ำนักพระราชวังได้เปิดให้ประชาชน ภาพ : http://news.thaipbs.or.th/content/267096 ท่ัวไปเข้าไปสักการะพระบรมศพในพระบรมมหาราชวัง ระหว่างนั้นได้เกิดผู้มีจิตอาสาที่รวมตัวข้ึนมาอย่างมากมาย เพอื่ ทำ� หนา้ ทอี่ ำ� นวยความสะดวกดา้ นตา่ งๆ ใหแ้ กผ่ เู้ ดนิ ทาง มาสักการะพระบรมศพ เช่น การรับส่งโดยไม่เสียค่าใช้จ่าย การน�ำอาหาร ขนม ผลไม้ น้�ำ ยาดม มาแจก การช่วยเก็บ ขยะ ฯลฯ สะท้อนให้เหน็ ถงึ น้�ำใจและความเสียสละของคน ไทยทมี่ ตี อ่ เพ่อื นรว่ มชาตดิ ้วยกัน นอกจากนยี้ ังมี “จติ อาสา เฉพาะกิจ” งานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ เพื่อเป็นการรวมพลังความรัก และน้�ำใจของปวงประชาชน ชาวไทยทุกหมู่เหล่าถวายแด่ในหลวงรัชกาลท่ี 9 ก่อน เสด็จสู่สวรรคาลัย โดยเปิดให้ประชาชนลงทะเบียน 8 ประเภทงานตามความสมัครใจ ได้แก่ งานดอกไม้จันทน์ 3710 สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ

งานประชาสัมพันธ์ งานโยธา งานขนส่ง ภาพ : ภรู ติ เนตมิ งคลชยั (Vin Buddy) เพื่อความปลอดภัยของประชาชาชน งานบริการประชาชน งานแพทย์ งาน ดวงตา บรจิ าคอวยั วะ การปลกู ตน้ ไม้ ปลอ่ ยสตั วน์ ำ้� ไถช่ วี ติ รักษาความปลอดภัย และงานจราจร โคกระบอื การปนั่ จกั รยาน การเดนิ -ว่งิ การกศุ ล ฯลฯ10 ซึ่งผู้สมัครจะได้รับบัตรประชาชนจิต อาสาสีฟ้า และบัตรจิตอาสางานพระ นอ้ มนำ� ศาสตรพ์ ระราชาสกู่ ารพฒั นาทย่ี ง่ั ยนื ราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ และจะได้รับพระราชทาน หมวกแก๊ป ตลอด 70 ปี แห่งการครองราชย์ของพระบาทสมเด็จ ผ้าพันคอ เสื้อโปโลสีด�ำ ปลอกแขน พระปรมนิ ทรมหาภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร มไิ ดท้ รง เปน็ ตน้ 8 ทงั้ นมี้ ปี ระชาชนจากทว่ั ประเทศ คาดหวงั เพยี งการแกไ้ ขปญั หาความทกุ ขย์ ากเฉพาะหนา้ ของ ลงทะเบียนเข้าร่วมเป็นจิตอาสาจ�ำนวน ราษฎรเท่าน้ัน แต่ทรงสัมผัสปัญหาอย่างใกล้ชิด ทรงทุ่มเท ทั้งสิ้น 4,006,825 คน เวลาในการประชุม ซักถาม ติดตามงานกับข้าราชการ นอกจากนเี้ นอื่ งในโอกาสเฉลมิ พระชนมพรรษาสมเด็จ และประชาชน ภาพเหล่านี้กลายเป็นพระจริยวัตรท่ีทรง พระเจ้าอยู่หัวมหาวชิราลงกรณบดินทร เทพยวรางกูร ขะมกั เขมน้ และกอ่ เกดิ เปน็ โครงการในพระราชดำ� รหิ ลายพนั เมื่อวันท่ี 28 กรกฎาคม 2560 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรง โครงการภายใต้แนวคิด “เข้าใจ เข้าถึง พัฒนา” ทรง พระกรณุ าโปรดเกลา้ โปรดกระหมอ่ มใหจ้ ดั โครงการจติ อาสา น�ำพาราษฎรให้ผาสุก มิใช่เพียงกลุ่มคนที่เฝ้ารับเสด็จฯ ณ “เราท�ำความดีด้วยหัวใจ” ทางการจึงเชิญชวนประชาชน ที่ห่างไกล แต่รวมถึงลูกหลานของพระองค์ในวันน้ีและวัน เข้าร่วมโครงการจิตอาสา ระหว่างวันท่ี 28 กรกฎาคม - ขา้ งหนา้ และเปน็ แรงบนั ดาลใจสงู สดุ ทค่ี นไทยจะนอ้ มเกลา้ ฯ 3 สงิ หาคม 2560 เพอื่ สานตอ่ โครงการพระราชดำ� รใิ นหลวง น�ำหลักคิดและพระราชกรณียกิจของพระองค์มาด�ำเนิน รัชกาลท่ี 9 โดยมีหน่วยทหารมหาดเล็กราชวัลลภรักษา รอยตาม11 จนเกดิ โครงการตา่ งๆ ดังตวั อยา่ งตอ่ ไปน้ี พระองค์ ข้าราชบริพารในพระองค์ และหน่วยราชการ “โครงการสานต่อทพ่ี ่อท�ำ” คือโครงการท่ีไดว้ เิ คราะห์ อื่นๆ รว่ มกนั บ�ำเพ็ญสาธารณประโยชน์ในพน้ื ทชี่ มุ ชนตา่ งๆ แนวคิดจากการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร อกี ดว้ ย9 มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ผ่านโครงการ สำ� หรบั กจิ กรรมของภาคประชาสงั คมในสว่ นภมู ภิ าคนน้ั พระราชด�ำริ แนวคิดปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งว่าด้วย ภาครัฐ ภาคเอกชน และประชาชนทั่วไปได้แสดงพลังแห่ง แนวทางการพัฒนาท่ีต้ังอยู่บนทางสายกลาง มีความพอ ความจงรักภักดีและส�ำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่าง ประมาณ มเี หตผุ ล สรา้ งภมู คิ มุ้ กนั ในตวั เอง โดยรวบรวมและ หาที่สุดมิได้ โดยมีการจัดกิจกรรมต่างๆ มากมาย อาทิ เรียบเรียงออกมาในสื่อรูปแบบต่างๆ เพ่ือให้ทุกคนสามารถ การบ�ำเพ็ญกุศลเพื่อถวายเป็นพระราชกุศลตามแนวการ เข้าถึงได้ ตัวอย่างจากหนังสือ The Visionary กษัตริย์ ปฏิบัติของแต่ละศาสนา การรวมพลังสามัคคีแปรขบวน ผู้มองเห็นอนาคต โดยได้ถอดบทเรียนเรื่องแนวคิดเร่ือง แสดงสัญลักษณ์แห่งความอาลัย การจุดเทียน การขับร้อง บทเพลงสรรเสริญพระบารมี การขับร้องเพลงพระราช นพิ นธ์ เพลงรำ� ลกึ ในพระมหากรณุ าธคิ ณุ รวมไปถงึ การสดดุ ี พระเกียรติคุณในหลายลักษณะ ได้แก่ การจัดนิทรรศการ การวาดภาพพระบรมสาทิสลักษณ์ การบรรยายเกี่ยวกับ พระราชกรณยี กจิ การจดั ทำ� สารคดผี า่ นสอ่ื วดี ทิ ศั น์ สอื่ วทิ ยุ กระจายเสยี ง สอ่ื สงั คมออนไลน์ และสอ่ื สงิ่ พมิ พ์ นอกจากนี้ ยงั รวมถึงการท�ำความดสี ืบสานพระราชปณธิ านในลกั ษณะ ต่างๆ ได้แก่ การท�ำความสะอาด บริจาคโลหิต บริจาค 38 สุขภาพคนไทย 2561

ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงในมุมมองเก่ียวกับการด�ำรงชีวิต ภาพ : https://regional.kachon.com/86443 เชน่ การแยกสง่ิ ทต่ี อ้ งมอี อกจากสงิ่ ทตี่ อ้ งการ โดย “ตอ้ งม”ี น้ันต้องมาก่อน และสุดท้ายคอื ชงั่ ตวงความอยากใหส้ มดลุ บทสง่ ทา้ ย จากแนวคดิ ดงั กลา่ วจะชว่ ยปรบั มมุ มองของชวี ติ ใหม้ คี วามสขุ บนความเรยี บงา่ ยและพอเพยี ง พระราชกรณียกิจของพระบาทสมเด็จพระปรมินทร “โครงการพันธุ์พอเพียง” เป็นโครงการปลูกต้นไม้ มหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร ท่ีมีต่อประชาชน 9 ลา้ นตน้ ท่จี ัดขน้ึ โดยกรมป่าไม้ เพอื่ นอ้ มร�ำลกึ ถึงพระบาท ที่ผ่านมา จนน�ำไปสู่โครงการในพระราชด�ำริมากมายกว่า สมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร 4,000 โครงการ เปรียบเสมือนสายธารท่ีไหลรินไปท่ัวทุก ตามแนวทางพระราชด�ำริความพอเพียงและการพัฒนาที่ พื้นที่หล่อเล้ียงทุกชีวิตให้มีความเป็นอยู่ท่ีดีและมีความสุข ย่ังยืน โดยมีเป้าหมายเพื่อปลูกจิตส�ำนึกความพอเพียงผ่าน โดยไม่เลือกชนช้ันวรรณะหรือชาติพันธุ์ ด้วยเหตุน้ี วันท่ี การปลูกต้นไม้ เพ่ือเพิ่มจ�ำนวนต้นไม้ในเมือง และเพ่ือให้ พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช เกดิ กระบวนการแลกเปลย่ี นเรยี นรทู้ ยี่ ง่ั ยนื ของตน้ ไม้ โดยการ บรมนาถบพิตร สวรรคตจึงนับเป็นความสูญเสียครั้งยิ่ง แจกกลา้ ไมใ้ หแ้ กป่ ระชาชนและบคุ คลทว่ั ไปจำ� นวน 9 ลา้ นคน ใหญ่ของชนชาวไทยอย่างหาที่เปรียบมิได้ แต่ส่ิงหน่ึงท่ี ใหร้ ว่ มกนั ปลกู ตน้ ไมภ้ ายในบรเิ วณบา้ น หรอื พนื้ ทข่ี องตนเอง เป็นเคร่ืองยึดเหน่ียวจิตใจและระลึกถึงพระบาทสมเด็จ โดยประชาชนสามารถรบั กลา้ ไมผ้ า่ นสถานเี พาะชำ� ใกลบ้ า้ น พระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร สงิ่ สำ� คญั กวา่ การปลกู ตน้ ไม้ 9 ลา้ นตน้ คอื การปลกู จติ สำ� นกึ ได้ตลอดไปน้ัน คือ พระราชด�ำรัสและพระบรมราโชวาท ของการรกั ษาธรรมชาตแิ ละสิ่งแวดลอ้ ม ท่ีพระราชทานไว้แก่ปวงชนชาวไทยในวาระโอกาสต่างๆ ตัวอย่างข้างต้นน้ีเป็นเพียงบางส่วนของการส่งต่อ ซ่ึงเป็นทั้งศาสตร์และศิลป์แห่งการด�ำเนินชีวิตและพัฒนา สืบสาน ปณิธานของพระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหา ตนให้ถูกต้องตามศีลธรรมอันดีงามของสังคม ตราบใดท่ี ภมู พิ ลอดลุ ยเดช บรมนาถบพติ ร ทที่ กุ คนสามารถทำ� ไดเ้ พยี ง ประชาชนชาวไทยได้น้อมน�ำสิ่งท่ีพระองค์มอบไว้มาปฏิบัติ นกึ ถงึ คนรอบขา้ ง สงั คม ตลอดจนประเทศชาติ ย่อมก่อให้เกิดประโยชน์แก่ตนเองและสังคม หากตระหนัก เชน่ นแ้ี ลว้ ไซรจ้ ะพบวา่ “พระองคไ์ มเ่ คยละทงิ้ ประชาชนของ พระองค”์ แม้ในวนั ท่ีพระองคจ์ ากไปแล้วกต็ าม 3910 สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ

2 ก้าวคนละก้าว จากเบตง สู่แม่สาย ภาพ : ภรู ิต เนติมงคลชยั (Vin Buddy) เมื่อปลายปี 2560 คงไม่มีปรากฏการณ์ใดที่สร้างกระแสความนิยมให้กับสังคมไทยได้มากเท่ากับการวิ่ง ระดมทุนซื้ออุปกรณ์ทางการแพทย์ช่วยเหลือโรงพยาบาลศูนย์จำ�นวน 11 โรงพยาบาลทั่วประเทศของ ตนู -อาทวิ ราห์ คงมาลยั หรอื “ตนู บอดีส้ แลม” ผา่ นโครงการ “กา้ วคนละกา้ ว เพือ่ 11 โรงพยาบาลทัว่ ประเทศ” การวิ่งของตูนได้กลายเป็นปรากฎการณ์ที่ยิ่งใหญ่แห่งปี 2560 ซึ่งท่าน ว.วชิรเมธี ให้คำ�จำ�กัดความว่า “วิ่งบนถนนแต่สะเทือนถึงหัวใจ”1 เราอยากทจ่ี ะ “กา้ ว” ไปใหถ้ งึ ที่สุด ค�ำกล่าวของตูนข้างต้น บ่งบอกถึงจุดประสงค์ ในการว่ิงไว้อย่างชัดเจน การวิ่งคร้ังน้ีประสบความ เท่าทพ่ี ลงั ของเราและทุกๆ คนจะมี ส�ำเร็จอย่างมาก โดยตูนใช้เวลาในการวิ่ง 55 วัน เพื่อแสดงใหท้ ุกคนเหน็ ว่า... แค่กา้ วเล็กๆ โดยออกวงิ่ จาก อ.เบตง เมอื่ วนั ท่ี 1 พฤศจกิ ายน 2560 จากทุกคนเมือ่ รวมกันแล้ว... มันจะสามารถ และเข้าเส้นชัยทดี่ า่ นทา่ ข้เี หล็ก อ.แมส่ าย เมื่อเวลา ประมาณ 18 นาฬกิ า ของวนั ที่ 25 ธนั วาคม 2560 และ กลายเปน็ ‘ก้าวยาวๆ’ ขึน้ มาไดจ้ รงิ ๆ ได้รับเงินบริจาคจากประชาชนทั่วประเทศมากกว่า 1,200 ล้านบาท แม้โครงการได้สิ้นสุดลงแล้ว แตย่ อดบริจาคกย็ ังเพ่มิ สูงข้นึ อย่างตอ่ เนื่อง 40 สุขภาพคนไทย 2561

จุดเริ่มต้นของโครงการ “ก้าวคนละกา้ ว” ย้อนกลับไปเม่ือปี 2559 ตูนได้ท�ำการระดมทุนผ่าน กจิ กรรมการวง่ิ ระยะไกล เพอื่ ชว่ ยเหลอื โรงพยาบาลขนาดกลาง แหง่ หนงึ่ ในจงั หวดั ประจวบครี ขี นั ธ์ ใจความสำ� คญั การวงิ่ ของ ตูนนั้น เป็นการว่ิงเพื่อสื่อสารให้ทุกคนได้รับรู้ว่า “เราควร ดูแลสุขภาพตนเองไม่ให้ป่วยเป็นภาระของโรงพยาบาล” ภาพ : ภูริต เนตมิ งคลชัย (Vin Buddy) การระดมทุนนี้เป็นมากกว่าการแก้ปัญหาสภาพคล่องของ โรงพยาบาล เพราะเงินบริจาคเหล่าน้ีจะน�ำไปซื้อเคร่ืองมือ สำ� หรบั การวง่ิ ระดมทนุ ชว่ ยเหลอื 11 โรงพยาบาลครง้ั นี้ แพทย์ โครงการก้าวคนละก้าวเพ่ือโรงพยาบาลบางสะพาน ตูนมุ่งม่ันท่ีจะว่ิงไกลกว่าเดิมและไกลท่ีสุดในชีวิต จาก จึงเกิดข้ึน เร่ิมจากโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย กรุงเทพฯ อ.เบตง จ.ยะลา สู่ อ.แม่สาย จ.เชียงราย ซ่ึงเป็นความยาว ถึง โรงพยาบาลบางสะพาน จ.ประจวบคีรีขันธ์ รวมระยะ จากใต้สุดจนถึงเหนือสุดของประเทศ รวมระยะทางกว่า ทาง 400 กิโลเมตร ซึ่งประสบความส�ำเร็จไปได้ด้วยดี 2,000 กิโลเมตร โดยตั้งเป้ายอดบริจาคไว้ประมาณ 700 ท้ังการวิ่งและการได้รับยอดบริจาคถึง 85 ล้านบาท2 ลา้ นบาท โดยมคี วามเชอ่ื ทว่ี า่ ถา้ คนไทย 70 ลา้ นคนบรจิ าค นอกจากนี้กิจกรรมน้ีได้เป็นแรงบันดาลใจให้คนไทยหันมา ใหก้ บั โครงการเพียงคนละ 10 บาท ก็คงไม่ไกลเกินเอื้อม ออกก�ำลงั กายด้วยการวงิ่ กนั มากมาย แต่ทว่าปัญหาด้านสาธารณสุขของไทยไม่ได้เกิดที่ ก้าวคนละก้าวฯ กับความสำ� เร็จที่ยงิ่ ใหญ่ โรงพยาบาลบางสะพานเพียงแห่งเดียว ทางทีมงานของ ตูนจึงได้ขยายผลโดยเริ่มกิจกรรม “ก้าวคนละก้าวเพื่อ 11 การวง่ิ ครงั้ นป้ี ระสบความสำ� เรจ็ อยา่ งมาก โดยตนู ใชเ้ วลา โรงพยาบาลทว่ั ประเทศ” ขน้ึ มาในปี 2560 โดย “กา้ วครงั้ ใหม”่ ในการวิ่ง 55 วัน โดยออกว่ิงจาก อ.เบตง จ.ยะลา เม่ือวันที่ นี้ ตนู ไดน้ ำ� ขอ้ มลู จากกจิ กรรมกา้ วครง้ั แรกมาวเิ คราะห์ และ 1 พฤศจิกายน 2560 (วางแผนการว่ิง 4 วัน สลับหยุดพัก เลือกท่ีจะระดมทุนช่วยเหลือแก่ “โรงพยาบาลศูนย์” ท่ีท�ำ 1 วนั ) และเข้าเส้นชยั ทีด่ ่านท่าขี้เหล็ก อ.แมส่ าย จ.เชียงราย หน้าท่ีเป็นศูนย์กลางการรักษาให้จังหวัดใกล้เคียง ในการ เมอื่ เวลาประมาณ 18 นาฬกิ า ของวันที่ 25 ธนั วาคม 2560 ส่งเคสการรักษาที่ซับซ้อน โดยมีความเชื่อที่ว่า จะเป็นการ ได้รับเงินบริจาคจากประชาชนทั่วประเทศมากกว่า 1,200 กระจายความชว่ ยเหลอื ไดก้ วา้ งทสี่ ดุ โดยทมี งานไดห้ าขอ้ มลู ล้านบาท เกินเปา้ ทวี่ างไวแ้ ตเ่ ดมิ ที่ 700 ล้านบาท และออกเย่ียมโรงพยาบาลทั่วประเทศ จนเลือกออกมาได้ ด้วยความสามารถที่ยอดเย่ียมของค่ายต้นสังกัด 11 โรงพยาบาล ไดแ้ ก่ แม่สาย ของตูน ท�ำให้การว่ิงของตูนและทีมงานกลายเป็นข่าว ใหญ่อย่างต่อเนื่อง ขณะเดียวกันได้เกิดเหตุการณ์ส�ำคัญ 1. โรงพยาบาลยะลา ระหว่างวิ่งมากมาย ซ่ึงสะท้อนแรงศรัทธาของประชาชนทุก เพศทุกวัย ทุกวงการ ทุกสาขาอาชีพ รวมทั้งชาวต่างชาติ 2. โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี ที่พากันเข้าร่วมกิจกรรมกับตูนทุกวัน ทั้งการร่วมว่ิง ร่วมให้ ก�ำลังใจ และการร่วมบริจาคเงินด้วยความเต็มใจ มีศิลปิน 3. โรงพยาบาลศูนย์ราชบุรี ดารา คนดงั ออกมาร่วมวิ่งไปกับตูนมากมาย อาทิ แพนเค้ก เขมนิจ แอ๊ด คาราบาว บอย ปกรณ์และน้องวันใหม่ อากู๋ 4. โรงพยาบาลเจ้าพระยายมราช ไพบูลย์ และศิลปินแกรมม่ี ตลอดจนนักกีฬา เช่น บัวขาว บัญชาเมฆ และบุคคลผู้มีชื่อเสียงในสังคม อาทิ ตั๊ก บงกช จ. สุพรรณบุรี โน้ต อุดม แต้พานิช ฯลฯ ขณะที่ดารานักแสดงอีกหลายคน จัดกิจกรรม “วิ่งเก็บตกให้พี่ตูน” ในเส้นทางท่ีตูนเข้าไม่ถึง 5. โรงพยาบาลสระบุรี เบตง เช่น จาตุรงค์ มกจ๊ก และทีมงาน วิ่งเก็บตกจนได้เงินบริจาค 6. โรงพยาบาลขอนแก่น กว่า 4 ล้านบาท หรือ เชษฐ์ สไมล์บัฟฟาโล่ ได้เงินร่วมบุญ โครงการกวา่ 13 ล้านบาท เป็นต้น 7. โรงพยาบาลเจ้าพระยาอภัยภูเบศร จ. ปราจีนบุรี 4110 สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ 8. โรงพยาบาลนครพิงค์ จ. เชียงใหม่ 9. โรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์ 10. โรงพยาบาลน่าน (ไม่ใช่โรงพยาบาลศูนย์ แต่อยู่ในพื้นที่พิเศษห่างไกลจากตัวเมือง) 11. โรงพยาบาลพระมงกุฏเกล้า

แม้แต่เจ้าหน้าท่ี อาทิ ทหารจากหลายหน่วยก็ได้ขอ ก้าวแรกในทุกเชา้ ของ “ตูน บอดีส้ แลม” เปน็ ก้าวแรก อนุญาตกรมทหารที่สังกัดออกมาวิ่งร่วมกับตูน เพ่ือมาคอย ของทีมงานเกือบ 100 ชวี ติ ท่ีต้องเตรยี มตัวออกวงิ่ ด้วยเช่น ช่วยเหลอื รกั ษาความปลอดภัย เสริมให้การว่ิงของตูนและ กนั จากจดุ เรมิ่ ตน้ ถงึ สน้ิ สดุ โครงการกา้ วคนละกา้ วฯ ซง่ึ เปน็ ทีมก้าว เป็นไปอย่างราบร่ืนมากข้ึน คุณหมอ-พยาบาลใน กลไกส�ำคัญให้การว่ิงคร้ังน้ีประสบความส�ำเร็จ อาทิ เบล- โรงพยาบาลท่ีเป็นเส้นทางการว่ิงผ่าน ก็ออกมาตั้งแถว ชายชาญ ใบมงคล ครีเอทีฟคนเก่ง หมอเมย์-พญ.สมิตดา ตอ้ นรบั และขอบคณุ ทมี งานฯ สว่ นประชาชนทวั่ ไป นอกจาก สังขะโพธิ์ ว่ิงคู่ตลอดเส้นทางพร้อมกับดูแลสุขภาพของตูน จะร่วมบริจาคให้ตูนแล้ว ทุกคนได้มอบก�ำลังใจให้ตูนอย่าง พ่ีป๊อก-อิทธิพล สมุทรทอง ดูแลเรื่องของการประสานงาน มหาศาลในรูปแบบที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการชูป้าย นกั ว่ิง แผนการวิ่ง การทำ� รหัสมือ การควบคมุ แถวขบวนใน ตอ้ นรบั และใหก้ ำ� ลงั ใจ การตะโกน “พตี่ นู สๆู้ ” การถา่ ยภาพ การวงิ่ แตล่ ะวนั 4 คงไมส่ ามารถเอย่ ชอ่ื ทมี เบอ้ื งหลงั ไดท้ ง้ั หมด เซลฟเี ปน็ ทรี่ ะลกึ หรอื นำ� เอาของดขี องเดน่ ในทอ้ งถนิ่ ทต่ี นู วง่ิ อาทิ ทมี นกั วง่ิ ทมี แพทยแ์ ละกายภาพ ทมี ดแู ลอาหารเครอ่ื ง ผา่ นมาฝากไวใ้ หเ้ ปน็ เสบยี ง ดงั จะเหน็ ไดจ้ ากภาพขา่ วทพ่ี ตี่ นู ด่ืม ทีมดูแลเส้นทางว่ิง ทีมพาหนะจับเวลาและระยะทาง หยุดถ่ายรูปกับคนท่ีมาให้ก�ำลังใจเป็นระยะๆ และภาพรับ ทมี กลอ้ ง ทมี Media และถา่ ยทอด Live เปน็ ตน้ อาจกลา่ ว ของฝากประจำ� ถนิ่ นน้ั ๆ ไวใ้ นมอื ขณะวงิ่ อยบู่ อ่ ยๆ จนมกี ลมุ่ ได้ว่า โครงการก้าวคนละก้าวฯ มีการบริหารจัดการแบบ ผใู้ ชเ้ ฟซบกุ๊ กลมุ่ หนง่ึ รวมตวั กนั สรา้ งเพจเฟซบกุ๊ “วนั นพ้ี ต่ี นู มอื อาชีพและมีประสิทธภิ าพยอดเยย่ี ม ได้อะไร” ขึ้นมาเพอ่ื ใหข้ ้อมลู ขำ� ขนั นา่ รกั วา่ พี่ตูนได้รับกำ� ลัง สิ่งต่างๆ เหล่านี้จึงเกิดเป็นปรากฏการณ์ “ตูน ก้าว ใจเป็นสิ่งใดบ้าง เช่น เป็ดพะโล้ โอ่ง ปลาเค็ม พระพุทธรูป คนละก้าว” ท่ีต้องบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ประเทศไทย สะตอ หรอื แมแ้ ตผ่ ลไมข้ องแตล่ ะทอ้ งถนิ่ ไมว่ า่ จะเปน็ กลว้ ย ว่าผู้ชายธรรมดาสามัญคนหน่ึงสามารถสร้างปรากฏการณ์ ทง้ั เครือ มะพรา้ ว เงาะ ทเุ รยี น เปน็ ต้น ระดมความรู้สึกนกึ คดิ ของผูค้ นไดม้ ากมายขนาดนี้ นอกจากนี้ทีมก้าวได้รับขนมไทยพระราชทาน ซ่ึงถือเป็นพระมหากรุณาสูงสุดจากสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ปรากฏการณ์ตูนกับกระแสสังคม มหาวชริ าลงกรณ บดนิ ทรเทพยวรางกรู รชั กาลที่ 10 ดว้ ย3  ในส่วนของการบริจาคเงิน มีประชาชนคนไทยทั้งใน แมว้ า่ โครงการ “กา้ วคนละกา้ ว” จะประสบความสำ� เรจ็ และนอกประเทศร่วมกันบริจาค หน่วยงานทั้งจากภาครัฐ อยา่ งยง่ิ ใหญ่ แตก่ ารวงิ่ ของตนู กม็ ที งั้ เสยี งชนื่ ชมและวพิ ากษ์ เอกชน ภาคประชาสังคมต่างร่วมสมทบทุนให้โครงการ วิจารณ์ควบคู่กัน ซึ่งเป็นภาพสะท้อนถึงความหลากหลาย ก้าวคนละก้าวฯ อาทิ จิมมี่ ชวาลา บริจาคเงินในนามชาว ทางความคดิ ในสงั คม โดย พล.อ.ประยทุ ธ์ จนั ทรโ์ อชา นายก จ. นครศรีธรรมราช 16 ล้านบาท กลุ่มบริษัทคิงพาวเวอร์ รัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) 100 ลา้ นบาท กลมุ่ บรษิ ทั เครอื เจรญิ โภคภณั ฑ์ 60 ลา้ นบาท ได้กล่าวขอบคุณตูนท่ีน�ำความสุขและรอยยิ้มมาสู่คนไทย นอกจากนยี้ งั มปี ระชาชนผไู้ มป่ ระสงคอ์ อกนามอกี หลายคน และเป็นสะพานเช่ือมใจคนไทยไว้รวมกันผ่านเส้นทาง หลายกลมุ่ กำ� เงนิ สดหลกั หมนื่ หลกั แสน หยอ่ นใสถ่ งุ บรจิ าค 2 พันกว่ากิโลเมตร พร้อมชื่นชมในความเป็นต้นแบบ ให้โครงการก้าวคนละก้าวฯ ดว้ ยความเต็มใจ เป็นคนรุ่นใหม่ที่กล้าคิดกล้าท�ำเพื่อคนไทยทั้ง 70 ล้านคน ระหว่างการวิ่งมีเหตุการณ์ท่ีตูนได้รับบาดเจ็บในหลาย และยงั อวยพรใหภ้ ารกจิ ดำ� เนนิ ไปอยา่ งสำ� เรจ็ โดยสวสั ดภิ าพ ช่วง ไม่สามารถว่ิงได้ครบเซตตามก�ำหนด และจ�ำเป็นต้อง นอกจากนี้ตูนยังได้รับค�ำชมเชยจากพระมหาวุฒิชัย หยุดพักตามค�ำส่ังแพทย์ แต่ตูนและทีมงานไม่ย่อท้อต่อ วชริ เมธี หรอื ทา่ น ว.วชริ เมธี ซงึ่ เขยี นจดหมายถงึ ตนู ตอนหนง่ึ อาการบาดเจ็บ เขาพักฟื้นร่างกาย จนสามารถวิ่งเข้าเส้น ระบุว่า “ตูนไม่ได้วิ่งจากเบตงถึงแม่สายเท่าน้ัน แต่ตูนได้วิ่ง ชัยได้ส�ำเร็จในท่ีสุด แสดงให้เห็นถึงความอุตสาหะของตูน เข้าไปในหวั ใจของคนไทยทง้ั 70 ลา้ นดวงดว้ ยอย่างสง่างาม” และทมี งานกา้ วคนละกา้ วทท่ี กุ คนตา่ งชน่ื ชม จนเกดิ กระแส และยงั บอกวา่ “..การวง่ิ ของตนู นนั้ ยงิ่ ใหญม่ าก ตนู ตอ้ งวางชวี ติ “ตนู ฟเี วอร”์ ไปทว่ั ประเทศ โดยผคู้ นตา่ งเฝา้ ตดิ ตามขา่ วการ เปน็ เดมิ พนั เพอื่ การนี้ สง่ิ ทที่ ำ� กเ็ ปน็ ปรากฏการณร์ ะดบั โลกไม่ ว่ิงของตูนทุกวนั ตลอดระยะเวลาการวงิ่ ลมื แตต่ นู กอ้ ย และทมี งานกน็ า่ รกั เหลอื เกนิ เพราะแมจ้ ะทำ� สงิ่ ทยี่ ง่ิ ใหญเ่ พยี งใด แตต่ นู กอ้ ย และทกุ คนกลบั ออ่ นนอ้ มถอ่ มตน 42 สุขภาพคนไทย 2561

อย่างย่ิง ตูนท�ำตัวต่�ำติดเส้นดินเส้นหญ้า ตูนท�ำเหมือนกับว่า ภาพ : ภรู ติ เนติมงคลชัย (Vin Buddy) ตูนไม่ส�ำคัญอะไรเลย ความอ่อนน้อมถ่อมตนและการท�ำดี โดยไมม่ ตี วั ตนอยา่ งนน้ี เ่ี อง คอื สง่ิ ทที่ ำ� ให้ กา้ วคนละกา้ ว ไมใ่ ช่ นอกเหนือเงินบริจาคแล้ว ส่ิงที่โครงการนี้คาดหวังคือ โครงการของใครคนใดคนหน่ึงอีกต่อไป หากแต่โครงการนี้ “อยากเห็นคนไทยทุกคนออกก�ำลังกายกันมากขึ้น” เพราะ ได้กลายเปน็ โครงการของคนไทยทกุ คนไปแล้ว” เมอ่ื ทกุ คนมสี ขุ ภาพทด่ี ี ไมเ่ จบ็ ปว่ ยกจ็ ะลดการใชบ้ รกิ ารสถาน สว่ นคำ� วจิ ารณก์ ม็ เี ชน่ กนั อาทิ คำ� วจิ ารณจ์ ากนกั วชิ าการ พยาบาลไปในตัว และที่ส�ำคัญขอให้คนไทย “ส่งก�ำลังใจไป บางคนทแ่ี สดงความเหน็ วา่ การกระทำ� เชน่ นเี้ ปน็ การกระทำ� ให้แก่แพทย์ พยาบาลผู้เสียสละทุกท่านที่ท�ำหน้าท่ีเข้มแข็ง ทไ่ี รป้ ระโยชน์ บา้ งมองวา่ สรา้ งกระแส และมองวา่ ไมส่ ามารถ อยู่ในขณะน้ี” อย่างท่ีเขามักจะขอให้กองเชียร์ที่มาให้ก�ำลัง แก้ปัญหาได้จริงเพราะเป็นการแก้ที่ปลายเหตุ แต่ตูนก็ไม่ ใจตะโกนคำ� ว่า “คุณหมอสู้ๆ พยาบาลสูๆ้ ” ตอบโต้ และบอกว่าเขาชอบ “ทำ� มากกวา่ พูด” แน่นอนว่า การว่ิงเพ่ือระดมทุนคร้ังน้ี อาจไม่ได้ช่วยแก้ ปญั หาทตี่ น้ ตอของระบบสาธารณสขุ ไทย แตน่ บั วา่ เปน็ วธิ หี นงึ่ บทสง่ ท้าย ทน่ี า่ ศกึ ษา โดยเฉพาะถา้ จะทำ� ใหเ้ กดิ การเรม่ิ ตน้ สางปมปญั หา ทที่ บั ซอ้ นสะสมมายาวนาน เพราะทา้ ยทส่ี ดุ แลว้ ประโยชนก์ ็ การว่ิงของตูนผ่านโครงการ “ก้าวคนละก้าว เพื่อ 11 ปรากฏชดั เจนกวา่ อะไรทง้ั หมดทผี่ ปู้ ว่ ยและประชาชนจำ� นวน โรงพยาบาลทวั่ ประเทศ” นอกจากจะไดเ้ งนิ บรจิ าคไปชว่ ยเหลอื หนง่ึ ไดร้ บั บรกิ ารทดี่ ขี น้ึ จากเงนิ กอ้ นน้ี ซง่ึ เปน็ ไปตามความตง้ั ใจ โรงพยาบาล 11 แหง่ แลว้ ยงั ไดจ้ ดุ ประกายความเชอ่ื ความหวงั ทต่ี นู อยากจะสรา้ งใหก้ บั โรงพยาบาลนนั้ ๆ และก�ำลังใจให้ผู้คนในสังคมว่าเราสามารถร่วมมือกันท�ำ ประโยชน์ให้สังคมได้ หากกล้าหาญและมุ่งม่ันอย่างแท้จริง ตูน บอดี้สเเลม ทำ�ให้คนที่ไม่รู้จัก ตั้งเเต่วัยเด็ก ที่ส�ำคัญคือการลงมือท�ำด้วยความตั้งใจจริง ไม่ต้องเขินอาย ไปจนถึงคนชราเฝ้ารอติดตาม เเละรอที่จะร่วม เหมือนกับท่ีตูนเคยพูดไว้ว่า “ท�ำดีเอาหน้า...ผมกลัวค�ำ คำ� นมี้ าตลอด แตเ่ ราตอ้ งกา้ วขา้ มความกลวั และมองทผี่ ลลพั ธ์ บริจาคเงิน ซึ่งคนทั้งประเทศให้ฉายาเขาว่า ปลายทาง”5 ฮีโร่ ซุปเปอร์ฮีโร่ #ก้าว #ก้าวคนละก้าว #ก้าวนี้เพื่อหมอพยาบาลและเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลทุกคน 4310 สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ

3 แก้ไข พ.ร.บ. หลักประกัน ภาพ : www.freepik.com สุขภาพแห่งชาติ และ พ.ร.บ. กองทุนสนับสนุน การสร้างเสริมสุขภาพ: ประเมินผลกระทบตาม แนวทางของรัฐธรรมนูญ ในรอบปี 2560 ข่าวที่บุคลากรด้านสุขภาพให้ความสนใจและกล่าวถึงมากเรื่องหนึ่งคือ ข่าวการแก้ไขพระราช บัญญัติกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ พ.ศ. 2544 (กฎหมาย สสส.) และพระราชบัญญัติหลักประกัน สุขภาพแห่งชาติ พ.ศ. 2545 (กฎหมาย สปสช.) โดยเหตุการณ์ดังกล่าวนี้ทำ�ให้เกิดวิวาทะทั้งฝ่ายเห็นด้วยและ เห็นต่าง บทความนี้จะนำ�การประเมินผลกระทบจากการออกกฎหมาย (Regulatory Impact Assessment) ซึ่งบัญญัติไว้ใน ม. 77 ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 มาใช้ในการวิเคราะห์การ ดำ�เนินการแก้ไขกฎหมาย เพื่อศึกษาถึงกระบวนการและแนวทางในการดำ�เนินการ ประเด็นการแก้ไขที่สำ�คัญ รวมทั้งเสนอแนะถึงแนวทางในการหาทางออกร่วมกันในอนาคต การประเมนิ ผลกระทบจากการออกกฎหมาย การวิเคราะห์ผลกระทบในการออกกฎหมายเป็นเคร่ืองมือ ในประเทศไทย ในการวเิ คราะห์ “ผลทไ่ี ด”้ ทกี่ ฎหมายแตล่ ะฉบบั สรา้ งขนึ้ 3,4 การประเมินผลกระทบจากการออกกฎหมายเป็นส่วนหน่ึง การประเมินผลกระทบจากการออกกฎหมาย คือ ในการปฏริ ปู ระบบบรหิ ารราชการแผน่ ดนิ และธรรมาภบิ าล กระบวนการในการตรวจสอบและประเมนิ ผลกระทบทคี่ าด ของภาครฐั 5 ว่าจะเกิดข้ึนจากการออกกฎหมายโดยมีเป้าประสงค์หลัก ทผ่ี า่ นมา ประเทศไทยไมไ่ ดต้ ระหนกั ถงึ ความสำ� คญั และ 2 ประการ คือ (1) ตรวจสอบ ก�ำกับดูแลภาครัฐ และ (2) ความจำ� เปน็ ในการประเมนิ ผลกระทบจากการออกกฎหมาย ปรับปรุงคุณภาพของกฎระเบียบของภาครัฐให้มีคุณภาพ จนกระท่ังรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช การประเมนิ ผลกระทบจากการออกกฎหมายใหค้ วามสำ� คญั 2560 น�ำหลักการน้มี าบรรจไุ ว้ใน ม.776 โดยอยูห่ มวดแนว กับการเปิดโอกาสให้ผู้ที่มีส่วนได้เสียเข้ามามีส่วนร่วมใน นโยบายพน้ื ฐานแห่งรฐั 7 ซ่งึ กำ� หนดให้เปน็ แนวทางในการที่ การแสดงความเห็นและแลกเปลี่ยนข้อมูลกับภาครัฐท่ีจัด รัฐตรากฎหมายและก�ำหนดนโยบายในการบริหารราชการ ท�ำกฎหมายขึ้น (หรือปรับปรุงกฎหมาย) โดยหน่วยงานรัฐ แผ่นดิน8 โดยคณะรัฐมนตรีได้ก�ำชับให้ส่วนราชการต่างๆ ต้องช้ีแจงเหตุผลและความจ�ำเป็นในการจัดท�ำกฎหมาย ดำ� เนนิ การตาม ม.77 ดงั กลา่ วดว้ ย9 ม. 77 แบง่ เปน็ 3 วรรค ตลอดจนผลกระทบทค่ี าดวา่ จะเกดิ ขน้ึ ซง่ึ ทำ� ใหก้ ระบวนการ แตล่ ะวรรคมสี าระส�ำคัญทแ่ี ตกต่างกนั ออกไป คือ ออกกฎหมายมีความโปร่งใสและรอบคอบมากขึ้น1,2 44 สุขภาพคนไทย 2561

ม. 77 วรรคหน่ึง มีสาระส�ำคัญ คือ (1) รัฐจัดให้มี กระทรวงสาธารณสุขว่ากระบวนการแก้ไขกฎหมาย สสส. กฎหมายเพียงเท่าท่ีจ�ำเป็น (2) รัฐพึงยกเลิกหรือปรับปรุง ไมช่ อบดว้ ย ม.77 ของรฐั ธรรมนญู โดย สสส. ไมม่ สี ว่ นเกยี่ วขอ้ ง กฎหมายทห่ี มดความจำ� เปน็ หรอื ไมส่ อดคลอ้ งกบั สภาพการณ์ กบั การแกไ้ ขกฎหมายมาตงั้ แตต่ น้ ดงั นนั้ กระทรวงสาธารณสขุ สังคมหรือเป็นอุปสรรคต่อการด�ำรงชีวิตของประชาชนหรือ จงึ แตง่ ตงั้ ผแู้ ทนของ สสส. เปน็ กรรมการเพมิ่ เตมิ โดยผแู้ ทน เป็นอุปสรรคต่อการประกอบอาชีพเพ่ือไม่ให้เป็นภาระแก่ สสส. ได้แจ้งว่าในกระบวนการแก้ไขกฎหมายแต่เดิมไม่มี ประชาชน (3) รัฐพึงด�ำเนินการให้ประชาชนเข้าถึงตัวบท ผแู้ ทน สสส. และในระหวา่ งการรบั ฟงั ความคดิ เหน็ 2 ครง้ั ที่ กฎหมายต่างๆ ได้โดยสะดวกและสามารถเข้าใจกฎหมายได้ ผ่านมามีประเด็นเพ่ิมเติมจาก 16 ประเด็นข้ึนมาอีก จึงควร งา่ ยเพื่อปฏิบัติตามกฎหมายไดอ้ ยา่ งถูกต้อง เร่ิมกระบวนการแก้ไขกฎหมายใหม่ แต่คณะกรรมการแก้ไข ม. 77 วรรคสอง มีสาระส�ำคัญ คือ (1) ก่อนการตรา กฎหมายเห็นว่าสามารถน�ำประเด็นเหล่าน้ันมาเพิ่มเติมได้ กฎหมายรัฐพึงจัดให้รับฟังความคิดเห็นของผู้เกี่ยวข้อง แตไ่ มค่ วรเอามาทงั้ หมด จนถงึ ชว่ งปลายปี 2560 (8 ธนั วาคม วิเคราะห์ผลที่อาจเกิดข้ึนจากกฎหมายอย่างรอบด้านและ 2560) การแกไ้ ขกฎหมาย สสส. ยงั ไมม่ ขี อ้ สรปุ ทชี่ ดั เจนวา่ จะ เป็นระบบ เปิดผลการรับฟังความคิดเห็นและการวิเคราะห์ ดำ� เนนิ การอยา่ งไรตอ่ จะยอ้ นไปเรม่ิ ตน้ ใหม่ หรอื จะเดนิ หนา้ ผลที่อาจเกิดข้ึนจากกฎหมายต่อประชาชน และน�ำผลนี้มา ตอ่ ไป โดยกระบวนการการแกไ้ ขกฎหมาย สสส. ทผ่ี า่ นมากอ่ ประกอบการพิจารณาในการตรากฎหมายทุกข้ันตอน (2) ใหเ้ กดิ การวพิ ากษว์ จิ ารณอ์ ยา่ งมากจากกรณที หี่ า้ มมใิ หผ้ แู้ ทน เมื่อกฎหมายมีผลใช้บังคับแล้วรัฐพึงจัดให้มีการประเมินผล ขององคก์ ารอนามยั โลกแสดงความคดิ เหน็ ในทปี่ ระชมุ รบั ฟงั สัมฤทธิ์ของกฎหมายทุกรอบระยะเวลาท่ีก�ำหนด โดยรับฟัง ความคดิ เหน็ ในการแกไ้ ขกฎหมาย จนทำ� ใหต้ อ้ งมกี ารขอโทษ ความคิดเห็นของผู้เก่ียวข้องเพื่อพัฒนากฎหมายทุกฉบับให้ ตอ่ การกระทำ� ดงั กลา่ ว12 นอกจากนน้ั ภาคประชาสงั คมยงั ออก สอดคลอ้ งและเหมาะสมกับบริบทต่างๆ ทเี่ ปลี่ยนแปลงไป แถลงการณป์ ระทว้ ง13 และเดนิ ออกจากทป่ี ระชมุ (Walkout) ม.77 วรรคสาม มสี าระสำ� คญั คอื รฐั พงึ ใชร้ ะบบอนญุ าต เพอ่ื ประทว้ งตอ่ กระบวนการแกไ้ ขกฎหมายดงั กลา่ ว14,15 หรือใช้ระบบคณะกรรมการในกฎหมายเฉพาะในกรณีท่ี ส่วนกระบวนการแก้ไขกฎหมาย สปสช. เกิดขึ้นคล้าย จำ� เปน็ รฐั พงึ กำ� หนดหลกั เกณฑก์ ารใชด้ ลุ พนิ จิ ของเจา้ หนา้ ท่ี กบั กฎหมาย สสส. โดยมกี ารสัง่ พักการปฏบิ ตั ิงานเลขาธกิ าร รฐั ไวใ้ นกฎหมายใหช้ ดั เจน กำ� หนดเวลาในการดำ� เนนิ การตาม สปสช.16 โดยส�ำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ได้เข้าไป ข้ันตอนต่างๆ ท่ีบัญญัติไว้ในกฎหมาย รวมท้ังก�ำหนดโทษ ตรวจสอบการใช้งบประมาณของ สปสช. จากนั้นรัฐบาลได้ อาญาเฉพาะความผดิ รา้ ยแรงเท่าน้ัน มอบหมายใหก้ ระทรวงสาธารณสขุ ใชข้ อ้ สงั เกตและขอ้ ทว้ งตงิ จาก สตง. เป็นแนวทางในการแก้ไขกฎหมาย โดยกระทรวง กระบวนการแกไ้ ขกฎหมาย สสส. สาธารณสุขได้ต้ังคณะท�ำงานแก้ไขกฎหมาย 27 คน โดยมี และกฎหมาย สปสช. ประธาน 1 คน ผู้แทนจากฝ่ายผู้ให้บริการ 12 คน ผู้แทน ส่วนราชการ 12 คน และผู้แทนภาคประชาชน 2 คน กระบวนการแกไ้ ขกฎหมาย สสส. เรม่ิ มเี คา้ ลางชดั เจนขน้ึ เมอ่ื คำ� นงึ ถงึ สดั สว่ นของผมู้ สี ว่ นไดเ้ สยี พบวา่ กฎหมาย สปสช. เมอื่ มกี ารสงั่ พกั งานกรรมการกองทนุ สสส. 7 คน10 และการ กอ่ ใหเ้ กดิ สทิ ธแิ ละผลประโยชนก์ บั ภาคประชาสงั คมนอ้ ยกวา่ ทคี่ ณะกรรมการตดิ ตามและตรวจสอบการใชจ้ า่ ยงบประมาณ ฝ่ายผู้ให้บริการทางการแพทย์และส่วนราชการต่างๆ ท�ำให้ ภาครัฐ (คตร.) เข้ามาตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณของ ภาคประชาสังคมเกิดข้อกังขาและแสดงความไม่พอใจต่อ สสส. จนกระท่ังมีรายงานข้อสังเกตการใช้งบประมาณท่ีไม่ องคป์ ระกอบของคณะกรรมการแกไ้ ขกฎหมาย ทงั้ นมี้ กี ารยน่ื ถกู ตอ้ งรวม 16 ประเดน็ 11 และนำ� ไปสกู่ ารแกไ้ ขกฎหมายโดย หนังสือต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขเพ่ือทักท้วง รฐั บาลมอบหมายใหก้ ระทรวงสาธารณสขุ กระทรวงการคลงั ในประเด็นดังกล่าวหลายครั้ง คณะท�ำงานแก้ไขกฎหมาย กระทรวงยตุ ธิ รรมดำ� เนนิ การ โดยกระทรวงสาธารณสขุ ไดจ้ ดั มี 14 ประเด็นที่ต้องการแก้ไข และกระทรวงสาธารณสุขได้ ตงั้ คณะกรรมการแก้ไขกฎหมายข้ึนโดยไดจ้ ัดเวทรี ับฟังความ มอบหมายใหส้ ำ� นกั งานคณะกรรมการสขุ ภาพแหง่ ชาติ (สช.) คิดเห็นไปแล้ว 2 ครั้ง ต่อมา สสส. และภาคีเครือข่ายภาค เปน็ ผดู้ ำ� เนนิ การรบั ฟงั ความคดิ เหน็ มกี ารจดั รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ประชาชนได้ร้องเรียนต่อนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการ 4510 สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ

ภาพ : https://prachatai.com/journal/2017/06/71795 ผู้เก่ียวข้อง วิเคราะห์ผลท่ีอาจเกิดขึ้นจากการแก้ไขกฎหมาย อยา่ งรอบด้านและเป็นระบบ เปิดผลการรับฟังความคิดเห็น 3 รปู แบบ คอื (1) รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ทางอนิ เทอรเ์ นต็ (2) จดั เวที และการวิเคราะห์ผลท่ีอาจเกดิ ขนึ้ จากการแกไ้ ขกฎหมายตอ่ รับฟังความคิดเห็น 4 ภูมิภาค ได้แก่ สงขลา เชียงใหม่ ประชาชน และนำ� ผลนมี้ าประกอบการพจิ ารณาในกระบวนการ ขอนแก่น กรุงเทพฯ (3) จัดเวทีปรึกษาสาธารณะ (Public แก้ไขกฎหมายทุกขั้นตอน เม่ือน�ำหลักการดังกล่าวมาใช้ใน consultation) ซึ่ง สช. ได้ส่งผลการรับฟังความคิดเห็นให้ การพจิ ารณาการแกไ้ ขกฎหมายทง้ั สองฉบบั นีจ้ ะพบวา่ กระทรวงสาธารณสุขพิจารณาแล้ว กระทรวงสาธารณสุขได้ 1) รัฐธรรมนูญก�ำหนดว่า “ก่อนการแก้ไขกฎหมายรัฐ ปรับปรุงร่างกฎหมายก่อนส่งให้ส�ำนักงานเลขาธิการคณะ พงึ จดั ใหม้ กี ารรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผเู้ กย่ี วขอ้ ง วเิ คราะห์ รัฐมนตรี (สลค.) พิจารณาเพ่ือเสนอตอ่ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ผลท่ีอาจเกิดขึ้นจากการแก้ไขกฎหมายอย่างรอบด้านและ โดย สลค. ได้ส่งร่างกฎหมายนี้ให้หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องให้ เปน็ ระบบ” ความเห็นต่อร่างกฎหมายนี้ จนปลายปี 2560 (8 ธันวาคม กฎหมาย สสส. และกฎหมาย สปสช. เปน็ กฎหมายทมี่ ี 2560) สลค. อยู่ระหว่างรอหนังสือตอบกลับความเห็นจาก ผทู้ เี่ กย่ี วขอ้ งหลากหลายมาก กฎหมาย สสส. มวี ตั ถปุ ระสงค์ หนว่ ยงานตา่ งๆ เพอื่ ทำ� ความเหน็ เสนอให้ ครม. สงั่ การตอ่ ไป เพื่อบริหารกองทุนและจัดสรรงบประมาณให้แก่หน่วยงาน ครม. มที างเลอื กในการตดั สนิ ใจ 2 ทาง คอื ใหค้ วามเหน็ ชอบ และองคก์ รทที่ ำ� กจิ กรรมในเรอ่ื งการสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพ สสส. ในหลกั การของรา่ งกฎหมายและสง่ ใหส้ ำ� นกั งานคณะกรรมการ จงึ มภี าคเี ครอื ขา่ ยทมี่ าขอรบั การสนบั สนนุ งบประมาณหลาก กฤษฎีกาพิจารณาต่อ หรือถ้าความเห็นและประเด็นที่ หลายมากทั้งหน่วยงานราชการ สถาบันการศึกษา องค์กร หนว่ ยงานตา่ งๆ สง่ มานน้ั มมี ากและหลากหลาย ครม. อาจจะ ภาคเอกชนและประชาสังคมต่างๆ ส่วนกฎหมาย สปสช. ส่งคืนใหก้ ระทรวงสาธารณสขุ นำ� กลับไปพจิ ารณาใหม่ เป็นกฎหมายท่ีมีวัตถุประสงค์เพื่อบริหารกองทุนเพ่ือเป็น คา่ ใชจ้ า่ ยสำ� หรบั บรกิ ารสาธารณสขุ ของประชากรประมาณ ม. 77 กับการแก้ไขกฎหมาย สสส. 48 ล้านคน ดังนั้นกลุ่มผู้ที่เกี่ยวข้องกับกฎหมาย สปสช.จึง และกฎหมาย สปสช. เป็นประชาชนส่วนใหญ่ของประเทศ และสถานพยาบาล ของรฐั (รวมทงั้ บคุ ลากรภายใน) ท่ีใหบ้ ริการสาธารณสุขแก่ มีข้อพิจารณาว่ารัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ประชาชน พุทธศักราช 2560 ได้ประกาศใช้เม่อื วนั ที่ 6 เมษายน 2560 เมื่อพิจารณากระบวนการแก้ไขกฎหมายทั้งสองฉบับ ก่อนเร่ิมกระบวนการแก้ไขกฎหมาย สปสช. และกฎหมาย พบว่าเริ่มต้นจากข้อสังเกตและข้อท้วงติงของ คตร. และ สสส. แต่เมื่อรัฐธรรมนูญประกาศใช้บังคับแล้วหน่วยงาน สตง. โดยรัฐบาลได้มอบหมายให้กระทรวงสาธารณสุข ของรัฐก็ต้องปฏิบัติตาม ม. 77 ของรัฐธรรมนูญด้วย โดย เป็นเจ้าภาพในการด�ำเนินการ กระทรวงสาธารณสุขใช้ข้อ การแก้ไขกฎหมาย สปสช. และ สสส. จะเป็นไปตาม ม. 77 สังเกตเหล่าน้ีเป็นแนวทางในการแก้ไข ต้ังคณะกรรมการ วรรคสอง เน่ืองจากเป็นการปรับปรุงกฎหมายเดิม โดย เพื่อแก้ไขกฎหมาย นอกจากนั้นผู้แทนองค์กรวิชาชีพและ ม. 77 วรรคสองได้วางหลักการในการแก้ไขกฎหมายไว้ว่า สถานพยาบาลบางส่วนได้ออกมาช้ีน�ำและแสดงความเห็น กอ่ นการแกไ้ ขกฎหมายรฐั พงึ จดั ใหม้ กี ารรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของ เสมือนเป็นการตั้งธงชี้น�ำว่าต้องแก้ไขกฎหมายอย่างไรบ้าง ไม่สอดคล้องกับแนวทางท่ีรัฐธรรมนูญก�ำหนดไว้ว่าก่อน 46 สุขภาพคนไทย 2561 การแก้ไขกฎหมายรัฐจะต้องจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น จากผู้เก่ียวข้องเพื่อวิเคราะห์ผลกระทบท่ีเกิดจากการแก้ไข กฎหมายกอ่ นดำ� เนนิ การแกไ้ ขกฎหมาย แตใ่ นความเปน็ จรงิ รัฐบาลมิได้เร่ิมกระบวนการดังกล่าว แต่เริ่มจากข้อสังเกต และข้อท้วงติงของหน่วยงานตรวจสอบ ซ่ึงก็ต้องพิสูจน์อีก ว่าการแก้ไขกฎหมายดังกล่าวเป็นไปตามข้อทักทว้ งหรอื ไม่

การแก้ไขกฎหมายทั้งสองฉบับนี้ได้รับความสนใจจาก 3) รัฐธรรมนูญก�ำหนดว่า “รัฐพึงน�ำผลการวิเคราะห์ สังคมในวงกว้าง ตั้งแต่เร่ิมต้นกระบวนการแก้ไขกฎหมายก็ ไปประกอบการพจิ ารณาในกระบวนการตรากฎหมายทกุ เกิดวิวาทะจากฝ่ายท่ีเห็นด้วยและเห็นต่างออกทางสื่อสาร ขน้ั ตอน” เจตนารมณใ์ นสว่ นนตี้ อ้ งการใหน้ ำ� ผลของการรบั มวลชนและเครือข่ายสื่อสังคมอย่างกว้างขวาง โดยมี ฟงั ความคดิ เหน็ มาใชใ้ นการพจิ ารณาเนอ้ื หาของกฎหมายวา่ ความเห็นมาจากท้ังฝ่ายผู้ให้บริการสุขภาพ องค์กรวิชาชีพ ควรจะเป็นเช่นไร แต่รัฐบาลยังไม่เคยเปิดเผยผลการรับฟัง บุคลากรสาธารณสุข ภาคประชาชน กลุ่มเครือข่ายผู้ป่วย ความคดิ เหน็ และการวเิ คราะหผ์ ลกระทบตอ่ สถานพยาบาล ต่างๆ17,18,19,20 และมีการประท้วงด้วยการเดินออกจากท่ี ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสาธารณสุข และประชาชนให้ ประชุม (Walk out)21,22 นอกจากน้ันยังได้รับความสนใจ สาธารณะชนรับทราบ ทำ� ใหข้ ้นั ตอนน้เี ป็นไปไดย้ าก จากองค์การอนามัยโลกที่ขอเข้ามาร่วมสังเกตการณ์ในการ รบั ฟงั ความคดิ เหน็ ดว้ ย โดยหนว่ ยงานของรฐั ไดส้ ง่ สญั ญาณ ประเด็นการแกไ้ ขกฎหมายทส่ี �ำคัญ ผา่ นสอ่ื วา่ “บตั รทองเปน็ ภาระของงบประมาณประเทศ23” หรือ “สปสช. และ สสส. มีผลประโยชน์ทับซ้อน” ท�ำให้ เนอ่ื งจากเนอื้ หาของ ม.77 เปน็ การกำ� หนดกระบวนการ บรรยากาศการแก้ไขกฎหมายถูกโยงเข้าสู่ประเด็นทางการ ในการประเมินผลจากการออกกฎหมายไว้ แต่ไม่ได้บัญญัติ เมือง มีการขยายผลโจมตีรัฐบาลผ่าน facebook และ ว่าการพิจารณากฎหมายควรจะใช้กรอบอะไร ดังน้ันจึงต้อง line อย่างกว้างขวาง24 ท�ำให้รัฐบาลต้องออกมาชี้แจงผ่าน กลับไปพิจารณาท่ีรัฐธรรมนูญว่าก�ำหนดกรอบความสัมพันธ์ สอ่ื หลายครงั้ วา่ จะไมม่ กี ารยกเลกิ สทิ ธบิ ตั รทอง ไมม่ กี ารยบุ ระหว่างรัฐและประชาชนในเรื่องสาธารณสุขอย่างไรบ้าง สปสช. หรือ สสส. แต่อย่างใด25,26,27 ในทางสากล โดยจะพบว่ารัฐธรรมนูญได้ก�ำหนดกรอบในการพิจารณา การออกแบบ “กระบวนการ” ในการประเมนิ มคี วามสำ� คญั มาก ไว้ด้วยเช่นกัน ในเร่ืองสาธารณสุขน้ันมี 2 มาตรา คือ ม.47 ดังน้ัน หน่วยงานที่เป็นผู้เสนอร่างกฎหมายควรพิจารณา สทิ ธขิ องประชาชนในการรบั บรกิ ารสาธารณสขุ จากรฐั 35 และ ว่าการประเมินเป็นเครื่องมือในการช่วยพัฒนาคุณภาพ ม.55 หนา้ ทข่ี องรัฐในการพฒั นาระบบสาธารณสุข36 แต่เมือ่ กฎหมายอย่างแท้จริงมิใช่เป็นเพียง “ข้ันตอน” ท่ีต้องท�ำ รฐั บาลไมเ่ คยเปดิ เผยผลการรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ตามทกี่ ลา่ วไว้ ตามรัฐธรรมนูญเท่านั้น มิฉะนั้นแล้วจะได้กฎหมายที่ไม่มี ขา้ งตน้ ใหส้ าธารณชนรบั ทราบ จงึ ตอ้ งนำ� ประเดน็ ทม่ี กี ารเผย คุณภาพและไม่เป็นไปตามเจตนารมณ์ท่ตี ั้งไว2้ 8 แพร่ทางส่ือสารมวลชนมาเป็นฐานในการวิเคราะห์ โดยเมื่อ 2) รฐั ธรรมนญู กำ� หนดวา่ “รฐั พงึ เปดิ เผยผลการรบั ฟงั นำ� หลกั การทรี่ ฐั ธรรมนญู ไดร้ บั รองไวม้ าพจิ ารณาประกอบกบั ความคดิ เหน็ และการวเิ คราะหท์ อี่ าจเกดิ ขน้ึ จากการแกไ้ ข เนอื้ หาในสว่ นท่มี กี ารแกไ้ ขกฎหมาย สสส. หรอื สปสช. ดงั นี้ กฎหมายต่อประชาชน” ในกระบวนการแก้ไขกฎหมาย 1) กรณขี องกฎหมาย สสส. มีประเดน็ ทีเ่ ผยแพร่ผ่าน สสส. และ สปสช. รฐั บาลไดจ้ ดั ใหม้ กี ระบวนการรบั ฟงั ความ สื่อดังต่อไปนี้ คิดเห็นด้วยเช่นกัน แต่รัฐยังไม่เคยเปิดเผยผลจากการรับ การแก้ไขนิยามค�ำว่าการสร้างเสริมสุขภาพ โดยที่ ฟังความคิดเห็นและผลการวิเคราะห์ว่าเม่ือแก้ไขกฎหมาย ประชุมรับฟังความคิดเห็นส่วนใหญ่ให้ความเห็นว่าควร แล้วจะส่งผลกระทบต่อสถานพยาบาล ผู้ประกอบวิชาชีพ ก�ำหนดค�ำจ�ำกัดความเร่ืองการสร้างเสริมสุขภาพให้ชัดเพ่ือ ด้านสาธารณสุข และประชาชนอย่างไร ให้สาธารณชนรับ ไม่ให้ทับซ้อนกับองค์กรท่ีมีอยู่แล้ว โดยเฉพาะการท�ำงาน ทราบ มีแต่เพียงการให้สัมภาษณ์ทางส่ือว่าแก้ไขกฎหมาย ของ สสส. ผู้แทนจากแพทยสภาเสนอให้จ�ำกัดการท�ำงาน สสส. อยา่ งไร เพอื่ ปรบั แผนบรหิ ารกองทนุ 29 แกไ้ ขกฎหมาย เพียงด้านองค์ความรู้ตอบสนองหน่วยงานของรัฐ การแก้ไข สสส. เพื่อป้องกันการทุจริต30แก้ไขกฎหมาย สปสช. ขอ้ กฎหมายควรมเี นอ้ื หาทร่ี ะบถุ งึ การลดขนาดองคก์ รใหเ้ ลก็ เพื่อประโยชน์ประชาชน31 หรือประชาชนไม่เสียสิทธิ และปรับลดงบประมาณลง และให้ด�ำเนินการในส่วนเฉพาะ จากการแก้ไขกฎหมาย สปสช.32 แก้ไขกฎหมาย สปสช. งานท่ีไม่มีหน่วยงานรัฐไหนด�ำเนินการ37 แต่มีนักวิชาการ เพ่ือความย่ังยืนของระบบสุขภาพ33 แก้ไขกฎหมาย สปสช. และภาคประชาสังคมที่ไม่เห็นด้วยกับผู้แทนแพทยสภา เพื่อให้การดแู ลประชาชนดขี ้ึนเทา่ น้ัน34 เนอ่ื งจากประเดน็ ดา้ นการสง่ เสรมิ สขุ ภาพในปจั จบุ นั เกย่ี วขอ้ ง 4710 สถานการณ์เด่นทางสุขภาพ

กว้างไกลมากกว่าเร่ืองการรักษาพยาบาลมาก เรื่องสุขภาพ ม.55 วรรคทา้ ยของรฐั ธรรมนญู เนอ่ื งจากทำ� ใหป้ ระสทิ ธภิ าพ อาจเปน็ เรื่องความม่ันคงทางอาหาร การเกษตร สง่ิ แวดลอ้ ม ของระบบบรกิ ารสาธารณสุขทม่ี อี ยู่เดิมลดลง หรือเรื่องการศึกษาด้วยก็ได้ ซ่ึงสอดคล้องกับนิยามสุขภาพ ประเดน็ การทจุ รติ ใน สสส. จากเดมิ ทมี่ กี ระแสขา่ วการ ขององค์การอนามัยโลก (WHO) ท่ีรวมถึงด้านกาย ใจ ทจุ รติ ผา่ นหนา้ สอื่ วา่ สสส. มกี ารทจุ รติ แตจ่ ากการตรวจสอบ ปัญญา และสิ่งแวดล้อม38 และนิยามนี้สอดคล้องกับนิยาม ของ คตร. และ สตง. ไม่พบการกระท�ำใดท่ีเป็นประเด็น ค�ำวา่ “สขุ ภาพ” ตามพระราชบญั ญัติสุขภาพแหง่ ชาติ พ.ศ. ทจุ รติ หรอื ผดิ ระเบยี บ41 แตก่ ระทรวงสาธารณสขุ กย็ งั ดำ� เนนิ 255039 และสอดคล้องกับนิยามของการสร้างเสริมสุขภาพ การแก้ไขกฎหมายต่อไปโดยมีประเด็นท่ีต้องการแก้ไขหลัก ของกฎบัตรออตตาวาด้วย มุมมองที่ผู้แทนแพทยสภาเสนอ 3 ประเด็นคือ ต้องการให้มีการใช้จ่ายเงินตามวัตถุประสงค์ นั้นเป็นมุมมองด้านสุขภาพแบบเก่า ไม่สอดคล้องกับความ ของกองทุน ใช้หลักเกณฑ์การใช้จ่ายเงินของกองทุนตาม เปลยี่ นแปลงไปของสงั คม หากแกไ้ ขกฎหมายโดยลดกรอบใน หลกั เกณฑข์ องระบบราชการ และปอ้ งกนั เรอื่ งประโยชนท์ บั ซอ้ น มติ กิ ารสรา้ งเสรมิ สขุ ภาพลงจะเปน็ การขดั ตอ่ ม.55 วรรคทา้ ย ซงึ่ ประเดน็ นไ้ี ดร้ บั การวพิ ากษว์ จิ ารณจ์ ากภาคประชาชนและ ของรัฐธรรมนูญเน่ืองจากท�ำให้ประสิทธิภาพและมาตรฐาน นกั วชิ าการอยา่ งมาก เนอ่ื งจากกอ่ นหนา้ นมี้ กี ารแกไ้ ขระเบยี บ ของเรื่องการสร้างเสรมิ สุขภาพลดลง ของ สสส. กวา่ 15 ฉบบั ซง่ึ เปน็ การแกไ้ ขประเดน็ เหลา่ นห้ี มด การจ�ำกัดงบประมาณ สสส. ท่ีประชุมรับฟังความคิด แล้ว จงึ เกดิ ค�ำถามวา่ สงิ่ ที่ต้องการแกไ้ ขจรงิ ๆ คืออะไร เหน็ มแี นวคดิ ทจี่ ะจำ� กดั วงเงนิ งบประมาณแตล่ ะปขี อง สสส. 2) กรณีของกฎหมาย สปสช. มีประเดน็ ท่เี ผยแพรผ่ ่านสื่อ กฎหมายเดมิ ให้ สสส. ไดง้ บประมาณจากภาษสี รุ าและยาสบู ดงั ตอ่ ไปน้ี ปลี ะประมาณ 4 พนั ลา้ น ทปี่ ระชมุ มคี วามเหน็ หลากหลาย เชน่ การเพ่ิมสัดส่วนของฝ่ายผู้ให้บริการสุขภาพใน เสนอว่า สสส. ควรได้รับงบประมาณจากกระทรวงการคลัง คณะกรรมการหลักประกันสุขภาพแห่งชาติ ในระยะเวลา ซ่ึงการระบุงบประมาณในข้อกฎหมายอาจเป็นข้อจ�ำกัด ท่ีผ่านมาผู้แทนผู้ประกอบวิชาชีพและกระทรวงสาธารณสุข ตายตัว ขณะที่แต่ละปีมีการท�ำงานท่ีต่างกัน มีความคุ้มทุน ส่งสัญญาณผ่านส่ือมาตลอดว่าต้องการเพ่ิมสัดส่วนฝ่าย ระหว่างนโยบายกับงบประมาณแตกต่างกัน นอกจากนั้น ผู้ให้บริการสาธารณสุข และให้ลดจ�ำนวนผู้แทนของ บางสว่ นยงั เสนอวา่ ควรจำ� กดั เพดานงบประมาณไวท้ ่ี 4,000 ภาคประชาชนและองคก์ รปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ แตข่ อ้ เสนอน้ี ล้านบาทหรือปรับข้ึนตามอัตราเงินเฟ้อ อย่างไรก็ตามความ ได้รับการคัดค้านอย่างกว้างขวางจากนักวิชาการและ เห็นส่วนใหญ่เห็นด้วยในการคงมาตราเดิมท่ีให้งบประมาณ ภาคประชาชนเนอื่ งจากมองวา่ เปน็ การทำ� ลายหลกั การถว่ งดลุ ของ สสส. มาจากภาษีสุราและยาสูบในอัตราร้อยละ 2 และคานอ�ำนาจกันในคณะกรรมการ ทั้งนี้ตามหลักการ ซ่ึงปัจจุบันอยู่ที่ประมาณปีละ 4 พันล้านบาท นอกจากน้ัน ของการออกกฎหมาย สปสช. คือ ต้องการให้ สปสช. ที่ประชุมส่วนใหญ่ยังมีประเด็นท่ีเห็นตรงกันว่าหาก สสส. ท�ำหน้าที่แทนประชาชนในการซื้อบริการสุขภาพจาก ถูกก�ำหนดรูปแบบการใช้จ่ายงบประมาณเช่นเดียวกับ กระทรวงสาธารณสุข การบริหารกองทุนจึงจ�ำเป็นต้องมี กระทรวง ทบวง กรม จะเปรียบเสมือนการกลับถอยหลัง การคานอ�ำนาจระหว่างภาคประชาชนกับฝ่ายผู้ให้บริการ ไปสู่วิธีการแบบเดิม ซึ่งพิสูจน์แล้วว่าล่าช้า ไม่ยืดหยุ่น และ สาธารณสุข ซ่ึงก็คือโรงพยาบาลและผู้ประกอบวิชาชีพด้าน มีข้อจ�ำกัด ซึ่งท�ำให้ สสส. เป็นองค์กรที่ไม่ก่อประโยชน์กับ สาธารณสุข หากแก้ไขกฎหมายโดยเพ่ิมสัดส่วนฝ่ายผู้ให้ ประชาชนในเรื่องการส่งเสริมสุขภาพอย่างแท้จริง40 หากมี บริการและลดสดั ส่วนภาคประชาชนจะเป็นการขัดต่อ ม.55 ความกงั วลวา่ การบรหิ ารเงนิ จะไมโ่ ปรง่ ใส กส็ ามารถเสนอให้ วรรคทา้ ยของรฐั ธรรมนญู เนอื่ งจากเปน็ การทำ� ลายระบบการ มหี มวดตรวจสอบวา่ ดว้ ยการตรวจสอบโดยเฉพาะ อาจจะจดั คานอำ� นาจและควบคมุ ตรวจสอบตามทรี่ ฐั ธรรมนญู กำ� หนดไว้ ทำ� เปน็ กฎหมายอกี ฉบบั หนงึ่ เพอื่ ใหเ้ กดิ ความชดั เจน แตห่ าก จะท�ำให้การบรหิ ารกองทนุ ไม่มีประสิทธภิ าพ แก้ไขกฎหมายโดยกำ� หนดให้ สสส. ใช้รปู แบบการใชจ้ า่ ยงบ การร่วมจ่ายค่าบริการ ผู้แทนผู้ประกอบวิชาชีพและ ประมาณแบบส่วนราชการปกติจะท�ำให้ลดประสิทธิภาพ กระทรวงสาธารณสุขส่งสัญญาณผ่านส่ือมาตลอดว่าควรมี การท�ำงานของ สสส. ลงจากที่เป็นอยู่เดิมซึ่งจะขัดต่อ 48 สุขภาพคนไทย 2561