Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คลังธรรมเล่ม๑

Description: คลังธรรมเล่ม๑

Search

Read the Text Version

๓๓๘ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ ภาวนากถา ว่าด้วยการภาวนา ฅ (นัยที่ ๒) ๑. บริกรรมภาวนา ภาวนาขั้นบริกรรม (ขั้นเตรียม) ๒. อุปจารภาวนา ภาวนาขั้นอุปจาร (ขั้นจวนเจียน) ต. อัปปนาภาวนา ภาวนาขั้นอัปปนา (ขั้นแน่วแม่) ที่มา : ภาวนาเภท นวมปริจเฉท อภิธมฺมตถ. ๕๖ ปริกมมภาวนา อุปจารภาวนา อปุปนาภาวนา เจติ ติฟ้ส ภาวนา ฯ แปล : ภาวนา ต คือ บริกรรมภาวนา ๑ อุปจารภาวนา ๑ อัปปนาภาวนา ๑ ฯ อธิบาย : ภาวนาในที่นี้หมายถึงการเจริญกรรมฐานหริอสิกสมาธิ ขั้นต่าง ๆ อนุตตริยกถา ว่าด้วยส์งยอดเยี่ยม ๓ ๑. ทสสนาชุตตริยะ ความเห็นอย่างยอดเยยม ๒. ปฏิปทาบุฅฅริยะ ความปฏิบัติอย่างยอดเยี่ยม ต. วิajฅดาดตริยะ ความพ้นอย่างยอดเยี่ยม ที่มา : ส์งสืติสูตร ที.ปา.๑๑/ต©๕ ติณิ อา{ตดริยานิ ะ ทสุสนาา{ฤตริยํ ปฏิปทาใ{ตดริยํ วิา{ฤดา- ร{ฤตริยํ ฯ www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด ฅ 0)๓^ แปล : อนุตตริยะ ตฺ คือ ทัสสนานุตตริยะ ๑ ปฏิปทานุตตริยะ ๑ วิมุตตานุตตริยะ ๑ ฯ อธิบาย ทัสสนานุตตริยะ ได้แก่วิปัสสนา ปฏิปทานุตตริยะ ได้แก่อริยมรรค วิมุตตานุตตริยะ ได้แก่อริยผล อนึ่ง อริยผลซื่อว่า ทัสสนานุตตริยะ อริยมรรคซื่อว่าปฏิปทานุตตริยะ นิพพานซื่อว่าวิมุตตา นุตตริยะ อีกนัยหนึ่ง นิพพานซื่อว่าทัสสนานุตตริยะ เพราะสิงที่บุคคลพึง รูเห็นอันยอดเยี่ยมกว่านิพพานนั้นย่อมไม่มี อริยมรรคซื่อว่าปฏิปทานุตตริยะ อริยผลซื่อว่าวิมุตตานุตตริยะ (ที.ปา.อ. ๑๙๙) สมาธิกถา ว่าด้วยสมาธิ ต (นัยที่ ๑) ๑. สวิตักกสวิจารสมาธิ สมาธิที่อังมีวิตกมีวิจาร ๒. อวิตักกวิจารมัตตสมาธิ สมาธิที่โม่มีวิตก มีเพึยงวิจาร ฅ. อวิตักกอวิจารสมาธิ สมาธิที่ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร ที่มา : สังคีติสูตร ที.ปา.๑๑/ตอ๕ ตโย สมาธิ ะ สวิตกกสวิจาโร สมาธิ, อวิตกุกวิจารมตุโต สมาธิ, อวิตกุกอวิจาโร สมาธิ ฯ แปล : สมาธิ (ภาวะจิตที่ตั้งมั่น) ต คือ สมาธิที่อังมีวิตกวิจาร ๑ สมาธิที่ไม่มีวิตก มีเพึยงวิจาร ๑ สมาธิที่ไม่มีวิตก ไม่มีวิจาร ๑ ฯ อธิบาย : ข้อ ๑ หมายถึงสมาธิระดับปฐมฌาน ข้อ ๒ หมายถึง สมาธิระดับทุติยฌานตามหลักการจิตฌาน ๕ หมวด ข้อ ฅ หมายถึงสมาธิ ที่เหลือ หรือสมาธิระดับตติยฌานเป็นด้นไป (ที.ปา.อ. ๑๙๙) www.kalyanamitra.org

๓๔๐ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ สมาธิกถา ว่าด้วยสมาธิ ฅ (นัยที่ ๒) ๑. สุญญตสมาธิ สมาธิที่พิจารณาเห็นความว่าง ๒. อนิมิตตสมาธิ สมาธิที่พิจารณาสิงไม่มีนิมิต ฅ. อัปปณิหิฅสมาธิ สมาธิที่พิจารณาสิงไม่มิความตั้งปรารถนา ที่มา : ส์งคีติสูตร ที.ปา.๑๑/ฅอ๕ อปเรปี ฅโย สมาธิ : สุญฌโฅ สมาธิ, อนิมิตฺโฅ สมาธิ, อปฺปณิหิโต สมาธิ ฯ แปล : สมาธิอีก ฅ คือ สุญญตสมาธิ ๑ อนิมิตตสมาธิ ๑ อี'ปปณิหิตสมาธิ ๑ ฯ อธิบาย : สมาธิ ในที่นี้เรนซื่อของอริยมรรค คือสมาธิในวิปัสสนา หรือตัววิปัสสนาที่ให้ถึงความหลุดพ้น สุญญตสมาธิ หมายถึงสมาธิที่พิจารณา เห็นความว่างจากกิเลสมีราคะเรนต้นเป็นอารมถ! ไต้แก่สมาธิในวิปัสสนาที่ ให้ถึงความหลุดพ้นต้วยกำหนดอนัตตลักษณะ อนิมิตตสมาธิ สมาธิที่พิจารณา เห็นธรรมไม่มีนิมิตเพราะไม่มีกิเลสเหตุก่อนิมิตเป็นอารมถ! ไต้แก่สมาธิใน วิปัสสนาที่ให้ถึงความหลุดพ้นต้วยกำหนดอนิจจลักษณะ อัปปณิหิตสมาธิ สมาธิที่พิจารณาเห็นธรรมไม่มีความตั้งปรารถนาเพราะปราศจากกิเลสเหตุให้ ปรารถนามีราคะเป็นต้นเป็นอารมถ! ไต้แก่สมาธิในวิปัสสนาที่ให้ถึงความ หลุดพ้นต้วยกำหนดทุกขลักษณะ (นัย ที.ปา.อ. ๑๙๙) www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด (ท 6»๔๑ ไสเจยยกฝิา ว่าด้วยความสะอาด ๓ ๑. คายโสเจยยะ ความสะอาดทางกาย ๒. วจีใสเจยยะ ความสะอาดทางวาจา ๓. มโนใสเจยยะ ความสะอาดทางใจ ที่มา ๑: ส์งคีตสูตร ที.ปา.๑๑/ฅ0๕ ดึณิ ใสเจยยานิ ะ กายใสเจยุยํ วจีใสเจยยํ มโนใสเจยยํ ฯ แปล : โสเจยยะ ต คือ กายโสเจยยะ ๑ วจีใสเจยยะ ๑ มโนใสเจยยะ ๑ ฯ ที่มา ๒ะ ทุ^^''^^^^^ ตดยปัณณาสก์ องฺ.ดิก. ๒0/๑0๕๖, โสเจยยสูตร ทุดิยวรรค ดิกนิบาต ชุ.อิดิ. ๒๕/๖๖ กายทุ[จี วาจาทุ[จี เจใตทุ[จีมนาสวํ อุ[จี ใสเจยยสมุปนุนํ อาทุ นิมุหาตปาปกํ ฯ แปล ะ พระอริยเจ้ามีพระสัมมาส์'มพุทธเจ้าเป็นต้นตรัส เรียกบุคคลผู้สะอาดกาย ๑ สะอาดวาจา ๑ สะอาดใจ ๑ หาอาสวะมีไต้ ว่าเป็นผู้สะอาด ถึงพร้อมต้วยความ สะอาด เป็นผู้รางบาปไต้แต้ว ฯ www.kalyanamitra.org

๓๔๒ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ โมเนยยคฝืา ว่าด้วยธรรม^ทำให้เป็นมุนี ๓ ๑. กายโมเนยยะ ธรรมที่ทาให้เป็นมุนีทางกาย ๒. วจึโมเนยยะ ธรรมที่ทำให้เป็นมุนีทางวาจา ฅ. มโนโมเนยยะ ธรรมที่ทำให้เป็นมุนีทางใจ ที่มา ๑: ส์'งคีติสูตร ที.ปา.๑๑/ต©๕ ดืณิ โมเนยฺยานิ ะ กายโมเนยฺยํ วจีโมเนยยํ มโนโมเนยยํ ฯ แปล : โมเนยยะ ต คือ กายโมเนยยะ ๑ วจีโมเนยยะ ๑ มโนโมเนยยะ ๑ ฯ ที่มา ๒: โมเนยยสูตร ทุติยวรรค ติกนิบาต ชุ.อิติ. tofiA>๗ กายมุนิ วาจามุนิ มโนมุนิมนาสวํ มุนิ โมเนยฺยสมุปนน อามุ นินหาตปาปกํ ฯ แปล : พระอริยเจ้ามีพระส์มมาส์มพุทธเจ้าเป็นต้นตรัสเรียก บุคคลผู้เป็นมุนีทางกาย เป็นมุนีทางวาจา เป็นมุนีทางใจ หาอาสวะมีไต้ ว่าเป็นมุนี ผู้ถึงพรีอมต้วยความเป็นมุนี ผู้ล้างบาปทั้งปวงไต้แล้ว ฯ www.kalyanamitra.org

นละคณะ] หมวด ๓ ๓๔๓ โกสัลลคลา ว่าด้วยความฉลาด ๓ ๑. อายโกสัลละ ความฉลาดในเหตุแห่งความเจริญ ๒. อปายโกสัลละ ความฉลาดในเหตุแห่งความเส์อม ฅ. รุม่ายโกสัลละ ความฉลาดในเหตุแห่งความเจริญและความเส์อม ที่มา ะ ส์งคีติสูตร ที.ปา.พฅฮ๕/๒๔๗ ตีณิ โกสลลานิ ะ อายโกสลลํ อม่ายโกสลลํ รุม่ายโกสลุลํ ฯ แปล : โกส์ลละ ฅ คือ อายโกส์'ลละ ๑ อปายโกส์ลละ ๑ อุปาย โกส์ลละ ๑ ฯ (เรียกสามัญว่าโกศล ฅ คือ อายโกศล อปายโกศล อุปายโกศล) มฑกถา ว่าด้วยความเมา ฅ ๑. อาโรคยมทะ ความเมาในความไม่มีโรค ๒. โยพพนมทะ ความเมาในความเป็นหนุ่มสาว ๓. ชีวิตมทะ ความเมาในชีวิต ที่มา ๑: ส์งสืติสูตร ที.ปา.๑«)/ต0๕ ฅโย มทา : อาโรคุยมโท โยพ.พนมโท ชีวิตมโท ฯ แปล : มทะ (ความเมา) ๓ คือ อาโรคยมทะ ๑ โยพพนมทะ ๑ ชีวิตมทะ ๑ ฯ www.kalyanamitra.org

๓๔๔ คลังธรรม [พระธรรมกตติวงส์ ที่มา ๒: สุชุมาลฐดร ปฐมปืณณาฟิก องฺ.ดก.๒0/๔๙๔ โสหํ เอวํ วิหรนุโต ณฅวา ธมมํ นิเปร อาโรคเย โยพพนสมิผจ ชีวิตสมิผจ โย มโท สพฺเพ มเท อภิโภสมิ เนๆขมุมิ ทฎุชุ เขมโต ฯ แปล ะ เรานั้นฟ็นอยู่อย่างนี้ รู้จักธรรมที่หมดอุปธิ เห็น เนกขัมมะโดยความเป็นธรรมเกษม ย่อมครอบงำความ เมาในความไม่มีโรค โนความเป็นหนุ่มสาว และในชีวิต ได้ทั้งหมด ฯ อธิปเตยยคฝืา ว่าส์วยความเป็นใหญ่ ฅ ๑. อัตตาธิปไตย ความมีตนเป็นใหเy ๒. โลกาธิป้เตย ความมีโลกเป็นใหญ่ ๓. อัมมาธิป้เตย ความมีธรรมเป็นใหญ่ ที่มา ๑ ะ ลังคีติสูดร ที.ปา.oWcnofi ดีณาธิปเตยยานิ ะ อดตาธิปเตยุยํ โลกาธิปเตยุยํ ธมมาธิปเตยยํ ฯ แปล : อธิปเตยยะ ๓ คือ อัตตาธิปไตย ๑ โลกาธิปไตย ๑ อัมมาธิปไตย ๑ ฯ www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด ๓ ๓๔๕ ที่มา ๒: อธิปเตยยสูตร เทวทูตสูตร ปฐมปัณณาสก อง..ดิก. ๒0/๘๙<ะ ตสุมา หิ อตตาธิปโก สโต จเร โลกาธิโป จ นิปโก จ ฌายี ธมุมารโป จ อาเธมุมจารี น หียฅิ สจุจปรกกโม มุนิ ฯ แปล ะ เพราะฉะนั้นแล คนที่มีตนเป็นใหญ่ควรมีสติเที่ยวไป คนที่มีโลกเป็นใหญ่ควรมีปัญญาและเพ่งพินิจ และคนที่ มีธรรมเป็นใหญ่ควรเป็นผู้ประพฤติโดยสมควรแก่ธรรม มุนีผู้มีความบากบั่นอย่างจริงจังย่อมจะไม่เลวลง ฯ วิชชากถา ว่าด้วยวิชชา ฅ ๑. า^พเพนิวาสามุสสติญาณ ความรู้ระลึกชาติก่อนได้ ๒. ธุดูปปาดญาณ ความรู้จุติและอุบัติของสรรพสัตว์ ฅ. อาสวักฃยญาณ ความรู้ความสินไปแห่งอาสวะ ที่มา ๑: ส์งคีดิสตร ที.ปา. ๑®/ฅ0๕ ติสโส วิชชา : 1]พฺเพนิวาสามุสสติณาณํ วิชชา, สตุฅานํ อุดูปปาเต ฌาฌํ วิชชา, อาสวานิ ฃเย ณาณํ วิชชา ฯ แปล : วิชชา ต คือ วิชชาคือความรู้จักระลึกชาติในกาลก่อน ได้ ๑ วิชชาคือความรู้จักกำหนดจุติและอุบัติของสัตว์ทั้งหลาย ๑ วิชชาคือ ความรู้จักความสินไปแห่งอาสวะ ๑ ฯ www.kalyanamitra.org

6»๔b คลังธรรม [พระธรรมกิตตวงส์ ที่มา ๒: ติกัณณสูตร.ซาถเศโศณิสูตรพราหมณวรรคทุติยปัณณาสก์องฺ.ติก ๒0/๙๑๗.๙๑๙ เพนิวาสํ โย เวที สคุคาปายณจ ปลุ[สติ อโล ชาติกขยํ ปดุโด อภิญผาโวสิโด 9{นิ ฯ เอดาหิ ตีหิ วิชุชาหิ เดวิชุโช โหติ พฺราหมโณ ดมหํ วทามิ เดวิชชํ นาผผํ ลปีดลาปนํ ฯ แปล : ตรัสรู้ปุพเพนิวาสญาณ เห็นทั้งสวรรค์ที่งอบาย บรรลุถึงธรรมเป็นที่สินชาติ เป็นมุนิผู้อยู่จบพรหมจรรย์ เพราะรู้ด้วยปัญญาอันยิ่ง เป็นพราหมณ์ผู้เตวิซชะโดย วิชชา ต นี้ เรากล่าวถึงผู้นั้นว่าเป็นผู้!ด้วิชชา ฅ มิได้ กล่าวถึงผู้อี่นร่งถูกคนอื่น ๆ พูดว่าเป็นผู้!ด้วิชชา ฅ ฯ วิหารธัมมกถา ว่าด้วยธรรมเป็นเครื่องอยู่ ฅ ๑. ทิพพวิหาร ธรรมเป็นเครื่องอยู่ของเทวดา ๒. พรหมวิหาร ธรรมเป็นเครื่องอยู่ของพรหม ฅ. อริยวิหาร ธรรมเป็นเครื่องอยู่ของพระอริยะ ที่มา : ส์งคีติสตร ที.ปา. ๑๑/ตอ๕ ดโย วิหารา ะ ทีพฺโพ วิหาโร, พุรหมา วิหาโร, อริโย วิหาโร ฯ แปล : วิหารธรรม ต คือ ทิพพวิหาร ๑ พรหมวิหาร ๑ อริยวิหาร ๑ ฯ www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด ๓ ผ๔๗ พหการธัมมกถา ว่าด้วยธรรมมีอุปการะมาก ต ๑. สัฟ่1jริสสังเสวะ คบท่านสัตบุรุษ ๒. สัทธัมมสวนะ ฟ้งธรรมของท่าน ต. ธัมมาบุธัมมปฎิฟ้ตติ ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ที่มา : ทสุตตรสูตร ที.ปา.๑๙ฅรต กตเม ตโย ธม.มา พทุการา ฯ สปฺใJริสสํเสโว สท.ธม.มสสวนํ ธม.มาบุธมมปฎิปดุติ ฯ แปล : ธรรม ต อย่างที่มีอุปการะมากเป็นไฉน คือ การคบหา สัตบุรุษ ๑ การฟังธรรมของสัตบุรุษ ๑ การปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม ๑ ฯ นิสสารฌียธาตุกถา ว่าด้วยธรรมเป็นเครื่องสลัดออก ๓ ๑. เนกขัมมะ เป็นเครื่องสลัดออกซึ๋งกาม ๒. อรูปธรรม เป็นเครื่องสลัดออกที่งรูป ต. นิโรธ เป็นเครื่องสลดออกที่งส์งที่ปัจจัยปรุงแต่ง ที่มา ๑: ทสตดรสตร ที.ปา. ๑๑/ฅ๕ต กดเม ฅโย ธมมา บุป.ปฎิวิช.ผา ฯ ติสฺโส นิสุสารณียา ธาบุโย ; กามานเมด นิสสรผํ ยทิทํ เนกขมมํ, รูปานเมดํ นิสสรผํ ยทิทํ อรูป, ยํ โข ปน กิผ.จิ ฏดํ สงขดํ ปฎิจ.จสบุปุปน.นํ, นิโรโธ ดสุส นิสฺสรณํ ฯ www.kalyanamitra.org

๓๔๘ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ แปล ะ ธรรม ฅ อย่างที่รู้แจ้งแทงตลอดได้ยากคืออะไรบ้าง คือ นิลสารณียธาตุ ธรรมเป็นเครื่องสลัดออก ฅ ได้แก่ เนกขัมมะเป็นเครื่อง สลัดออกซึ๋งกาม ๑ อรูปเป็นเครื่องสลัดออกซึ๋งรูป ๑ นิโรธเป็นเครื่อง สลัดออกซึ๋งสิงที่เกิดแล้ว อันป้จจัยปรุงแต่งแล้ว อาลัยเหตุเกิดขึ้นแล้ว อย่างโดอย่างหนึ๋ง ๑ ฯ ที่มา ๒: ปิสสาร{นยฐตร ตติยวรรค ติกนิบาต ชุ.กิติ. ๒๕/๗๒ กามนิสสรณํ ผดวา รูปานผจ อดิฤกมํ สพพสงขารสมถํ ชุสํ อาฅาปี สพพทา ฯ แปล : ภิกษุผู้มีความเพียร รู้ธรรมเป็นที่สลัดกามออกไป และอุบายเป็นเครื่องก้าวล่วงรูปธรรมทั้งหลาย เห็นแจ้ง นิพพานอันเป็นที่สงบระงับลังขารทั้งปวงในกาลทุกเมื่อ ฯ ดัผหาลัคขณคถา ว่าด้วยลักษณะตัณหาในทุกขสมุทัย ฅ ๑. ทำ ให้เกิดโนภพใหม่ ๒. ประกอบด้วยความกำหนัดด้วยอำนาจความพอใจ ต. ทำ ให้เพลินยิ่งนักในอารมณ์นั้น ๆ ที่มา : สติปัฏฐานสูตร มูลปริยายวรรค ม.มู. ๑๒/๑ตต กดมผจ ภิกขท ทุๆขสษุทโย อริยสจจํ ฯ ยายํ ดกเหา ไปโนพุ- กริกา นนทิราคสหคดา ดดรดตุรากินนฺทินี ฯ www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด ฅ cn๔๙ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ทุกฃสมุทัยอริยส์จเป็นไฉน คือ ตัณหาอันทาให้เภิดในภพใหม่ ๑ ประกอบด้วยความกำหนัดด้วยอำนาจ ความพอใจ ๑ มีความเพลิดเพลินยิ่งนักในอารมณ์นั้น ๆ ๑ ฯ สัมมาคัมมันตกถา ว่าด้วยการงานชอบ ฅ ๑. เว้นจากการฆ่าส์ตว์ ๒. เว้นจากการถือเอาลิงของที่เขาไม่ให้ ฅ. เว้นจากการประพฤติผิดในกาม ที่มา ะ ศตปัฏฐานสูตร ยูลปริยายวรรค ม.ยู. ๑๒/๑ฅร กตโม จ ภิกฃท สมุมากมุมนโต ฯ ปาฌาติปาตา เวรมณี, อทินนาทานา เวรมณี, กาเมอุ[มิจฉาจารา เวรมณี ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ก็ลิ'มมาอัมมันตะเป็นไฉน คือ เจตนางดเว้นจากปาณาติบาต(การข่าลิตว้)๑ เจตนางดเว้นจากอทินนาทาน (การอักทรัพย์) ๑ เจตนางดเว้นจากกาเมสุมิจฉาจาร (การประพฤติผิดใน กาม)๑ อันนี้เรียกว่าอัมมาอัมมันตะ ฯ www.kalyanamitra.org

๓๕๐ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ ก้มมกถา ว่าด้วยการกระทำ ๓ ๑. กายกรรม การกระทาทางกาย ๒. วจืกรรม การกระทำทางวาจา ฅ. มโนกรรม การกระทำทางใจ ที่มา ธุปาสิวาทสูตร คหปติวรรค ม.ม.๑๙๕๗ ดีณิ โข อหํ ดปสสิ กมฺมานิ ปญผาเปมิ ปาปสุส กมุมสุส กิริยาย ปาปสส กมุมสส ปวฤดิยา ฯ เสยุยลีทํ ฯ กายกมุมํ วขืกมุมํ มโนกมุมํ ฯ แปล : ดูก่อนตป้สสี เราบัญญัติกรรมในการทำบาปกรรม ใน การประพฤติบาปกรรมไว้ ต ประการ คือ กายกรรม ๑ วจีกรรม ๑ มโนกรรม ๑ ฯ มิจฉาฑิฎฐิกถา ว่าด้วยความเห็นผิด ฅ ๑. นัตถิกทิฎฐิ ความเห็นว่าบุญบาปไฝมี ๒. อกิริยทิฏเ ความเห็นว่าทำบุญทำบาปไม่เป็นอันทำ ต. อเหอุกทิฎเ ความเห็นว่าได้คืได้ชั่วไม่มีเหตุปัจจัย ที่มา : อปืณณกสูตร คหปติวรรค ม.ม.๑๙๙๕.๙๘.๑0๑ ออ อ ปนายํ ฟิวํ ว่ริสljคคโอ ทิฎเฟึว ธมุเม วิผุญนํ ดารยุโห ชุสสิโอ สใ^คคโอ มิจฉาทิฎุริ นตถิกวาโทติ ... อกิริยวาโทติ ... อเหอุกวาโทติ ... ฯ www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด (ท ๓๕๑ แปล : ถึงอย่างนั้น บุรุษบุคคลนี้ก็เป็นผู้อันวิญฌูซนพึงตำหนิใน ปัจจุบันได้ว่า 'เป็นบุคคลผู้ทุสืล เป็นมิจฉาทิฐิ เป็นนัตถิกวาท' .... เป็น อกิริยวาท ... เป็นอเหตกวาท ... ฯ คัฏปีปมากลา ว่าด้วยอุปมาบุคคลกับไฟ้ ๓ ๑. ผู้ที่อังละกามไม่ได้ เปรียบเหมือนไม้สด ชุ่มด้วยยาง ทั้งแซ่อยูในนํ้า ๒. ผู้ที่อังละกามไม่ได้ เปรียบเหมือนไม้สด ชุ่มด้วยยาง อยู่บนบก ไกลนั้า ฅ. ผู้ที่ละกามได้เด็ดขาด เปรียบเหมือนไม้แห้ง ทั้งอยู่บนบก ไกลนั้า ที่มา ะ โพรราซกมารสูตร ราซวรรค ม.ม.๑ต/ฅto๙-ตฅ0 อ1|สอุ[ มํ ราชภูมาร ติสโส ภูปมา ปฎิภํอุ[ อนชุฉริยา ชุ่พฺเพ อสฺอุ[ดปุพพา ฯ เสยุยฝิาโเ ราชภูมาร อลลํ กฏุฮํ สเสนุหํ ภูทเก นิภูขิดดํ ... ออุลํ กฏรํ สเสนหํ อารกา อุทกา ถเล นิกฃิฅฺตํ ... อุ[กฃํ กฎรํ โกฬาป็ อารกา อุทกา ถเล นิคุขิตฺตํ ... ฯ แปล : ดูก่อนราชกุมาร ครั้งนั้น มือุปมา ฅ ข้อที่น่าอัศจรรย์ซึ่ง ไม่เคยพึงมาก่อนมาปรากฏแก่ดถาคดแล้ว คือ เปรียบเหมือนไม้สด ชุ่มด้วย ยาง ทั้งแซ่อยู่ในนั้า ล้ามืบุรุษมานำไม้นั้นเป็นไม้ส์โฟด้วยหวังว่า 'จักทำให้ เกดไฟ จักทำไฟให้ปรากฏ' ดังนี้ (ดูก่อนราชกุมาร พระองค์จะทรงเข้าพระทัยความข้อนั้นเป็นไฉน บุรุษนั้นนำไม้สดที่ชุ่มด้วยยางทั้งแซ่อยู่ในนํ้านั้นมาสั1ฟ จะพึงทำให้เถึดไฟ พึงทำไฟให้ปรากฏไดั!หม'' www.kalyanamitra.org

๓๕๒ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ โพธิราชคุมารกราบ'คูลว่า \"ไม่ได้ พระพุทธเจ้าข้า ข้อนั้นเพราะ เหตุไร เพราะไม้นั้นสด ชุ่มด้วยยาง ทั้งแซ่อยูในนํ้า บุรุษนั้นก็จะ เหน็ดเหนื่อยลำบากกายเปล่า\" \"ดูก่อนราชคุมาร ฉันใดก็ฉันนั้น สมณะหรือพราหมณ์เหล่าโด เหล่าหนื่งมีกายที่ยังไม่หลีกออกจากกามอยู่ ถึงมีดวามพอใจในกาม ความ เสน่หาในกาม ความหลงในกาม ความกระหายในกาม ความเร่าร้อนใน กามที่ยังละไม่ได้เด็ดขาด ให้สงบระงับไม่ได้เด็ดขาดในภายใน สมณ พราหมณ์ผู้เจรืญเหล่านั้นถึงแม้จะได้เสวยทุกขเวทนาที่แข็งกล่าเผ็ดร้อนยัน เกิดเพราะความเพียรก็ดี ถึงจะไม่ได้เสวยทุกขเวทนาเซ่นนั้นก็ด็ ก็เป็นผู้ ไม่ควรแก่การรู้ การเห็น การตรัสรู้ยันยอดเยี่ยมได้ ... ดูก่อนราชคุมาร อุปมาที่น่ายัศจรรย์ที่ไม่เคยได้พีงมาก่อนข้อที่ ๒ มา ปรากฏแก่ตถาคตแล่ว คือเปรืยบเหมีอนไม้สด ชุ่มด้วยยาง อยู่บนบกไกลนํ้า ล่ามีบุรุษมานำไม้นั้นเป็นไม้สัIฟด้วยหรังว่า 'จักทำให้เกิดไฟ จักทำไฟให้ ปรากฏ' ดังนี้ ... ดูก่อนราชคุมาร อุปมาที่น่ายัศจรรย์ที่ไม่เคยได้พีงมาก่อนข้อที่ ฅ มา ปรากฏแก่ตถาคตแล้ว คือ เปรืยบเหมีอนไม้แห้งทั้งอยู่บนบกไกลนํ้า ล่ามี บุรุษมานำไม้นั้นเป็นไม้สั!ฟด้วยหวังว่า 'จักทำให้เกิดไฟ จักทำไฟให้ปรากฏ' ดังนี้ ... \"ได้ พระพุทธเจ้าข้า ข้อนั้นเพราะเหตุไร เพราะไม้นั้นแห้ง ทั้ง อยู่บนบกไกลนั้า\" \"ดูก่อนราชคุมาร ฉันใดก็ฉันนั้น สมณะหรือพราหมณ์เหล่าใด เหล่าหนื่งมีกายที่หลีกออกจากกามอยู่ มีความพอใจในกาม ความเสน่หา ในกาม ความหลงอยู่ในกาม ความกระหายในกาม ความเร่าร้อนใน www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด ต ๓๕๓ กามที่ละได้เด็ดขาดแล้ว ให้สงบระงับได้เด็ดขาดแล้วในภายใน ท่าน สมณพราหมณ์เหล่านั้นถึงแม้จะได้เสวยทุกขเวทนาที่แข็งกล้าเผ็ดร้อนอัน เกิดเพราะความเพียรก็ดี ถึงแม้จะไม่ได้เสวยทุกขเวทนาเซ่นนั้นก็ดี ก็ควร แก่การร้ การเห็น การตรัสร้อันยอดเยี่ยม\" ... ฯ คัพภาวักกันติกถา ว่าด้วยเหตุให้ตั้งครรภ์ ๓ ๑. บิดาและมารดาอยู่ร่วมกัน ๒. มารดามีระดู ฅ. อัดว์ผู้จะเกิดในครรภ์ปรากฏ ที่มา : อัสสลายนสูตร พราหมณวรรค ม.ม.๑ค/๕๑๑ อิธ มาตา!เตโร จ สนุนิปติตา โหนฺติ, มาตา จ รุดูนี โหติ, คนุธพฺโพ จ ปจทุปฎริโต โหติ, เอวํ ติณฺณํ สนุนิปาตา คพฺภสส อวคุกนติ โหติ ฯ แปล : การตั้งครรภ์จะมีได้ด้วยอาการอย่างนี้คือ บิดาและ มารดาในโลกนอยู่ร่วมกัน ๑ มารดามีระดู ๑ อัตว์ผู้จะเกิดในครรภ์ปรากฏ ๑ การตั้งครรภ์ย่อมมีได้เพราะความพร้อมแห่งเหตุ ต ประการอย่างนี้ ฯ www.kalyanamitra.org

๓๕๔ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ ภยคลา ว่าด้วยภัยแห่งชีวิต ฅ ๑. ถูกชรานำไปส่ความตาย ๒. มีช่วงอายุเน ฅ. เมื่อถูกชรานำไปส่ความตาย ถ็ไม่มีใครต้านทาน ที่มา : (เทวดาภาษิต) อุปเนยยสูตร นฬวรรค เหวตาลังยุต ลั.ส.๑๕/ต ยุปนียดิ ชีวิตมปฺปมายุ ชฐปนีตสุส น สนติ คาณา เอตํ ภยํ มรฒ เปฤขมาโน าเญผานิ กรราถ อุ[ขาวหานิ ฯ แปล ะ ชีวิตของสัตว์ทั้งหลายถูกชรานำไปส่ความตาย ชีวิต นี้มีช่วงอายุสัน เมื่อชีวิตนรชนถูกชรานำไปแล้ว ย่อม ไม่มีใครช่วยต้านทานไต้ บุคคลเมื่อมองเห็นมรณภัยนี้อยู่ ควรบำเพ็ญบุญที่จะนำความสุขมาให1ว้เถิด ฯ วัณณปสีทนคลา ว่าด้วยเหตุให้มีผิวพรรณผ่องใส ๓ ๑. ไม่เศร้าสร้อยถิงอดีต ๒. ไม่ปรารถนาถิงอนาคต ฅ. ดำ รงชีวิตต้วยป้จจฺบัน www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด ๓ ๓๕๕ ที่มา : อรัญญสูตร นฬวรรค เทวดาส์งยุต ||.ส. ๑๕/๑0 อตีตํ นาใjโสจนุติ นปปชปฺปนฺติ นาคฅํ ปชุธุปปนฌน ยาเปนุติ เฅน วณโณ ปสีทติ ฯ แปล : ภิกษุทั้งหลายย่อมไม่เศร้าสร้อยถึงส์งที่ผ่านไปแล้ว ย่อมไม่ปรารถนาถึงส์งที่ยังไม่มาถึง ย่อมเลี้ยงชีวิตด้วย สิงที่เภิดฃึ้นเฉพาะหน้า ผิวพรรณของภิกษุเหล่านั้นจึง ผ่องใสด้วยเหตุนั้น ฯ พุทธภาสิตกถา (๑) ว่าด้วยพระพุทธภาษิต ฅ ๑. ควรนั่งร่วมกับสิ'ตบุรุษ ๒. ควรทำความสนิทสนมกับสิ'ตบุรุษ ฅ. ทราบธรรมของสิ'ตบุรุษแล้ว ย่อมฟันจากทุกข์ทั้งปวงได้ ที่มา : ส์พภิสูตร สดุลลปกายิกวรรค เทวตาส์งยุต ส์.ส.๑๕/m๑ สพุภิเรว สมาเสถ สพุภิ คูพเพส สนถวํ สตํ สทุธมฺมมณุณาย สพุพทุกฺขา ปมุชุจติฯ แปล : บุคคลพึงคบหากับพวกสิ'ตบุรุษ พึงทำความสนิท สนมกับพวกสิตบุรุษไร้ บุคคลร้แจึงสิทธรรมของพวก สิตบุรุษแล้วย่อมหลุดฟันจากทุกข์ทั้งปวง ฯ www.kalyanamitra.org

๓๕๖ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ พุทธภาสิตกถา(๒) ว่าด้วยพระพุทธภาษิต ฅ ๑. บุตรธิดาเป็นที่พึ่งของมนุษย์ทั้งหลาย ๒. ภรรยาเป็นเพึ่อนอย่างยิ่ง ฅ. เหล่าสัตว์บนแผ่นดินอาสัยนํ้าฝนเลี้ยงชีพ ที่มา : วัตลุสูตร ขราวรรค เทาตาส์งยุต ลั.ส.๑๙๕๔ 1]ตตา วตุรุ มนุสสานํ ภริยา ปรมา สฃา ^ฎเ ฎฅา อุปชีวนุติ เย ปาณา ป®วึ สิตา ฯ แปล : บุตรธิดาเป็นที่พึ่งของมนุษย์ทั้งหลาย ภรรยาเป็น เพึ่อนอย่างยิ่ง เหล่าสัตว์ที่อาสัยอยู่บนพื้นแผ่นดินอาสัย นํ้าฝนเลี้ยงชีพ ฯ พุทธภาสิตกถา(๓) ว่าด้วยพระพุทธภาษิต ฅ ๑. ศรัทธาเป็นเพึ่อนของคน ๒. ปัญญาสังสอนคน ต. ผู้ยินดีในพระนิพพานจึงพ้นจากทุกข1ด้ ที่มา : ทุติยสูตร ซราวรรค เทวตาส์งยุต สํ.ส.๑๙๕๙ สทุธา ชุติยา ว่ริสสส โหติ ปณณา เจนํ ปสาสติ นิพพานาภิรโต มจโจ สพพชุๆฃา ปนุจจติ ฯ www.kalyanamitra.org

และคณะ] ทมวด ๓ ๓๕๗ แปล : ศรัทธาเป็นเพี่อนของคน ป้ญญาส์งสอนคน สัตว์ผู้ ยินดีในนิพพานย่อมพ้นจากทุกข์ทั้งปวงได้ ฯ พุทธภาสิตกถา(๔) ว่าด้วยพระพุทธภาษิต ฅ ๑. โลกถูกจิตนำไป ๒. โลกกระเสิอกกระสนไปด้วยจิต ฅ. โลกทั้งหมตเป็นไปตามอำนาจของจิต ที่มา : จิตตสูตร อันธวรรค เทวตาอังยุต อั.ส.๑๕/๖๒ จิด&ตน นียติ โลโค จิดุเตน ปริคิสสติ จิตตสส เอกธมมสฺส สพฺ&พว วสมนวถู ฯ แปล : โลกถูกจิตนำไป ถูกจิตฉุดคร่าไป โลกทั้งหมดเป็นไป ตามอำนาจของธรรมอันหนึ่งคือจิต ฯ พุทธภาสิตกถา(๕) ว่าด้วยพระพุทธภาษิต ฅ ๑. โลกถูกตัณหานำไป ๒. โลกกระเสือกกระสนไปเพราะตัณหา ฅ. โลกทั้งหมดเป็นไปตามอำนาจของตัณหา www.kalyanamitra.org

๓๕๘ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ ที่มา : ตัณหาสูตร อันธวรรค เทวดาตังยุต สํ.ส. ๑๕/ร)ฅ แปล : ดณฺหาย นืยดิ ใลโค ดณฺหาย ปริคิสุสติ ตณฺหาย เอกธมมสส สพเพว วสมนุวคู ฯ โลกถูกตัณหานำไป ถูกตัณหาฉุดคร่าไป โลกทั้งหมด ย่อมเป็นไปตามอำนาจของรรรมอันหนึ่งคือตัณหา ฯ พุทธภาสิตกถา (๖) ว่าด้วยพระพุทธภาษิต ฅ ๑. โลกมีความเพลิดเพลินประกอบไว้ ๒. วิตกเป็นเครื่องนำเที่ยวของโลก ฅ. เพราะละตัณหาได้ขาด จึงเรียกว่านิพพาน ที่มา : ตัญโญซนสูตร อันธวรรค เทวดาตังยุต ส์.ส. ๑๕/ร)๕ นนฺทิสณฺโณชโน โลโล วิตกกสุส วิจารณํ ฅณหาย วิปปหาเนน นิพพานํ อิติ ๅจจติ ฯ แปล : โลกมีความเพลิดเพลินประกอบไว้ วิตกเป็นเครื่อง นำ เที่ยวของโลกนั้น เพราะละตัณหาได้ขาด จึงเรียกว่า นิพพาน ฯ www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด ๓ en๕& พุทธภาสิตกถา(๗) ว่าด้วยพระพุทธภาษิต ฅ ๑. โลกมีความเพลิดเพลินผูกไว้ ๒. วิตกเป็นเครื่องนำเที่ยวของโลก ฅ. เพราะละตัณหาได้ขาด จึงตัดเครื่องผูกได้หมด ที่มา ฟันธนสูตร อันธวรรค เทวตาสังยุต สํ.ส. ๑๕/๖๕ นนทิสมพนุธโน โลโก วิตฤกสส วิจารณํ ตณุหาย วิปปหาเนน สพุฬ ฉินุฑติ พนุธนํ ฯ แปล : โลกมีความเพลิดเพลินผูกไว้ วิตกเป็นเครื่องนำ เที่ยวของโลกนั้น เพราะละตัณหาได้ขาด จึงตัดเครื่อง ผูกได้หมด ฯ พุทธภาสิตกถา(๘) ว่าด้วยพระพุทธภาษิต ๓ ๑. ฆ่าความโกรธได้ อยู่เป็นสุข ๒. ฆ่าความโกรธได้ ไม่เศร้าโศก ฅ. ฆ่าความโกรธซึ๋งมีรากเป็นพิษ มียอดหวานได้ ไม่เศร้าโศก ที่มา : ฆัตวาสูตร ฆัตวาวรรค เทวตาอังยุต สํ.ส.๑๕/๗๑ โกธํ ฆตวา อุ[ขํ เสติ โกธํ ฆตุวา น โสจติ โกธสุส วิสรุเลสุส มธุรคคสุส เทวเต วธํ อริยา ปสํสนุติ ฅญหิ ฆตุวา น โสจติ ฯ www.kalyanamitra.org

๓๖o คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ แปล : บุคคลฆ่าความโกรธเสืยได้ จึงจะอยู่เปีนสุข ฆ่า ความโกรธเสียได้ จึงจะไม่เศร้าโศกเสียใจ แน่ะเทวดา พระอริยเจ้าทั้งหลายย่อมสรรเสริญการฆ่าความโกรธ ซึ๋งมีรากเป็นพิษ มียอดหวาน เพราะว่าบุคคลฆ่าความ- โกรธนั้นได้แล้วย่อมไม่เศร้าโศกเสียใจเลย ฯ พุทธภาสิตกถา (๙) ว่าด้วยพระพุทธภาษิต ฅ ๑. ความอยากซักลากนรซนไป ๒. ความอยากละได้ยากในโลก ฅ. สีตว์เป็นอันมากถูกความอยากผูกมัดไร้ ที่มา : ปาเถยยสูตร ฆัตวาวรรค เทวตาส์เงยุต ลั.ส.๑๕/๗๙ อิจฉา นรํ ปริกิสสฅิ อิจฉา โลกสุมิ ทุชุชหา อิจุฉาพทุธา ijg สตตา ปาเสน สคูณี ยถา ฯ แปล : ความอยากย่อมฉุดคร่านรชนไป ความอยากละได้ ยากในโลก สีตร้เป็นอันมากติดอยู่ในความอยากเหมีอน นกติดปวงฉะนั้น ฯ www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด ฅ 6ท๖๑ พุทธภาสิตกถา (๑๐) ว่าด้วยพระพุทธภาษิต ฅ ๑. วันคืนผ่านพ้นไป ๒. ชีวิตร่นถอยไป ฅ. อายุของสัตว์ทั้งหลายสันไป ที่มา : ทุติยอายุสูตร ปฐมวรรค มารส์งยุต สํ.ส.๑๕/๑๔๖ อจจยนฺติ อโหรตุตา ชีวิตํ ลูป'เชุฌติ อาลู ฃียติ มจจานํ คูนนทีนํว โอฑกํ ฯ แปล : วันคืนย่อมผ่านพ้นไป ชีวิตย่อมใกล้ดับเข้าไป อายุ ของสัตว์ทั้งหลายย่อมสันไป ดุจนํ้าแห่งแม่นํ้าสายเล็ก า มีแต่แห้งลงฉะนั้น ฯ พุทธภาสิตกถา (๑๑) ว่าด้วยพระพุทธภาษิต ฅ ๑. ที่ใดไม่มีสัตบุรุษ ที่นั้นไม่ชีอว่าสภา ๒. ผู1ม่กล่าวเปีนธรรม ไม่ซื่อว่าสัตบุรุษ ฅ. สัตบุรุษละราคะ โทสะ โมหะแล้วกล่าวเปีนธรรมอยู่ ที่มา : โขมทุสสสูตร อุบาสกวรรค พราหมณสังยุต สํ.ส. ๑๕/๒0๔ เนสา สภา ยตุล น สนติ สนฺโต สนโต น เต เย น วทนติ ธมมํ www.kalyanamitra.org

®'๖๒ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ แปล : ราคญจ โทสญอ ปหาย โมหํ ธมมํ วทนฺตา จ ภวนติ สนุโฅ ฯ ในที่ใดไม่มีพวกส์'ตบุรุษ ที่นั้นไม่ซื่อว่าสภา คน เหล่าใดไม่กล่าวเป็นธรรม คนเหล่านั้นไม่ซื่อว่าส์'ตบุรุษ เพราะว่าส์'ตบุรุษทั้งหลายละราคะ โทสะ และโมหะได้ แล้ว จึงกล่าวเป็นธรรมอยุ' ฯ อุฎฐานาธิปปายกลา ว่าด้วยวัตถุประสงค์ใฟ้ฃยันหมั่นเพียร (ท ๑. เพื่อบรรลุมรรคผลที่ยังไม่บรรลุ ๒. เพื่อให1ด้มรรคผลที่ยังไม่ได้ ฅ. เพื่อทำให้แจ้งมรรคผลที่ยังมีได้ทำให้แจ้ง ทมา : สุสิมสูตร ปฐมวรรค ส์กกส์งยุต ลั.ส. ๑๕/เอ๔๘ อิธ เขวตํ ภิกฺขเว โสเภถ, ยํ ดูมุเห เอวํ สวาๆขาเต ธมฺมวินเย ป\"แพรตา สมานา ลุฎฮเหยยาถ ฆเฏยยาถ วายเมยุยาถ อปปตุตสส ปตติยา อนธิคตสส อธิคมาย อสจฉิกตลุ[ส สจฉิกิริยาย ฯ แปล ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย การที่พวกเธอบวชในธรรมวินัยที่เรา กล่าวชอบแล้วอย่างนี้จะพึงขยันหมั่นเพียรพยายามเพื่อบรรลุมรรคผลf{gงโjj บรรลุ ๑ เพื่อได้มรรคผลที่ยังไม่ได้ ๑ เพื่อทำให้แจ้งซึ่งมรรคผลที่ยังมีได้ ทำ ให้แจ้งกัน ๑ ข้อนี้จะพึงงดงามในธรรมวินัยนี้[ดยแห้ ฯ www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด ต ๓๖๓ สามัญญลักขณคถา ว่าด้วยสามัญญลักษณะ ๓ ๑. อนิจจตา ความเป็นของไม่เที่ยง ๒. ทุกฃฅา ความเป็นทุกข์ ฅ. อนัตฅตา ความเป็นของไมใช่ตน ที่มา : อัชฌัตตานิจจสูตร อนิจจวรรค สฬายตนส์งยุต สํ.สฬา.๑๘/๑ ฯลฯ จกชุ๊ ภิกฃท อนิจจ, ... โสตํ ... ฆานํ ... ชิวหา ... กาโย ... มโน อนิชุโจ, ยฑนิจจํ ตํ ทุกฃํ, ยํ ทุกข์ ฅทนตุตา, ยทนตุตา ตํ 'ฌตํ มม, เนโสหมสุมิ, น ฌโส อตุตาดิ เอวฒตํ ยกาฎดํ สมมปุปผณาย ทฏจพุพํ ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย จักษุเป็นของไม่เที่ยง ใสตะเป็น ของไม่เที่ยง ... ฆานะเป็นของไม่เที่ยง ... ชิวหาเป็นของไม่เที่ยง ... กายเป็น ของไม่เที่ยง ... มโนเป็นของไม่เที่ยง สิงโตไม่เที่ยง สิงนั้นเป็นทุกข์ สิง ใดเป็นทุกข์ สิงนั้นเป็นอนัตตา สิงใดเป็นอนัตตา สิงนั้นเธอทั้งหลายพึง เห็นด้วยปัญญาอันชอบตามความเป็นจริงอย่างนี้ว่า 'นั้นไม่ใช่ของเรา เรา ไม่เป็นนั้น นั้นไม่ใช่อัตตาของเรา' ฯ หมายเหตุ : แม่ในอายตนะภายนอก คือ รูป เสียง กลิ่น รส โผฏฐัพพะ ธรรมารมณ์ ก็มีสามัญลักษณะ ฅ เช่นเดียวกัน พึงเปลี่ยน บาลีเป็น รูปา ... สทุทา ... คนธา ... รสา ... โผฎุฮพฺพา ... ธมมา {ปรากฏ ในพาหิรานิจจสูตร เป็นด้น ข้อ ๔ แห่งสฬายตนวรรค ลังยุตตนิกาย) www.kalyanamitra.org

๓๖๔ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ เอชากถา ว่าด้วยความหวั่นไหว ฅ ๑. ความหวั่นไหวเป็นประดุจโรค ๒. ความหวั่นไหวเป็นประดุจหัวล ฅ. ความหวั่นไหวเป็นประดุจลูกศร ที่มา : ปฐมเอซาสูตร ฉันนวรรค สฬายตนส์งยุต สํ.สฬา.๑๘/๙© เอชา ภิกฃเว โรโค, เอชา คณโฑj เอชา สลลํ, ตสฺมาติห ภิกฃเว ตถาคโต อเนโช วิหรติ วีฅสลุโล ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุที่งหลาย ความหวั่นไหวเป็นโรค ความหวั่น ไหวเป็นล ความหวั่นไหวเป็นลูกศร ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เพราะเหดุนั้นแล ตถาคตจึงซื่อว่าเป็น^ม่มีความหวั่นไหว ปราศจากลูกศรอยู่ ฯ พรหมจริยเหตุกถา ว่าด้วยเหตุให้ภิกชุประพฤติพรหมจรรย์ ๓ ๑. ตั้งจิตว่าเป็นมารดาในสตรีรุ่นมารดา ๒. ตั้งจิตว่าเป็นพี่สาวฟ้องสาวในสตรีรุ่นพี่สาวน้องสาว ต. ตั้งจิตว่าเป็นธิดาในสตรีรุ่นธิดา ที่มา : ภารทวาชสูตร คหปติวรรค สฬายตนส์'งยุต สํ.สฬา.๑๘/๑๒๗ เอถ ดุมเห ภิฤขเว มาดุมตติชุ มาดุจิดุตํ ดุปฏฺปีเปล, ภคินิมดุติq ภคินีจิฅตํ อุปฏปีเปล,ธีดุมดุตีธุ[ธีดุจิฅตํ อุปฎุปีเปลาติ ฯ อยํโข มหาราช เหดุ อยํ ปจจโย, เยนีเม ทหรา ภิคุดู ... ปริลุโทุธํ พรหมจริยํ จรนฺติ ... ฯ www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด ๓ ๓๖๕ แปล : (ท่านพระป็ณโฑลภารทวาซะถวายพระพรว่า \"ขอถวาย พระพร พระผู้มีพระภาคเจ้าผู้ทรงรู้ผู้ทรงเห็นเป็นพระอรหันตสัมมาส์'ม พุทธเจ้าพระองค์นั้นตรัสไว้ดังนี้ว่า) 'ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย เธอทั้งทลายจงตั้งจิต ว่าเป็นมารดาในสตรีปูนมารดา เธอทั้งหลายจงตั้งจิตว่าเป็นพี่สาวฟ้องสาว ในสตรีปูนพี่สาวฟ้องสาว เธอทั้งหลายจงตั้งจิตว่าเป็นธิดาในสตรีปูนธิดา' ขอถวายพระพร ข้อนี้แลเป็นเหตุเป็นปัจจัยที่ทำให้ภิกษุเหล่านี้ที่ยังหนุ่มยังแน่น มีผมดำสนิท ประกอบไปด้วยวัยแรกรุ่นอันจำเริญ แต่ไฝเพลิดเพลินใน กามคุณทั้งหลาย ประพฤติพรหมจรรย์บริสุทธึ๊บริบูรถ!จนตลอดข้วิต ...ฯ ปีติกลา ว่าด้วยปีติ ต A ๑. ๒. ปีติไม่มีอามิส ฅ. ปีติไม่มีอามิสกว่าปีติไม่มีอามิส ที่มา : นิรามิสสูตร อัฏฐสตปริยายวรรค เวทนาอังยุต อั.สฬา.๑๘/๒๗๙ อลุถิ ภิคุฃเว สามิสา ปีติ, อตถิ นิรามิสา ปีติ, อตฺถิ นิรามิสา นิรามิสตรา ปีติ ฯ แปล ; ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ปีติมีอามิสก็มี ปีติไม่มีอามิสก็มี ปีติ ไม่มีอามิสกว่าปีติไม่มีอามิสก็มี ฯ อธิบาย : ข้อที่ ๑ หมายถึงปีติที่เกิดขึ้นเพราะอาดัยกามคุณ ๕ ข้อ ที่ ๒ หมายถึงปีติในปฐมฌานและทุติยฌาน ข้อที่ ฅ หมายถึงปีติของ www.kalyanamitra.org

obb คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงเ^ พระอรหันตขีณาสพที่พิจารณาถึงความเนกิเลส อนึ่ง แม้สุข อุเบกขา และวิโมกข์ ก็มี ฅ เซ่นเดียวกัน พึงเปลี่ยนบาลีเป็น อุ[ฃํ ... อุเปคุขา ... วิโมคุโข ฯ อปายุปปาทคลา ว่าด้วยสาเหตุให้ผู้หญิงไปเกิดในอบายภูมิ ฅ ๑. เวลาเช้า มีใจกลัดกลุ้มเพราะความตระหนึ่ ๒. เวลาเที่ยง มีใจกลัดกลุ้มเพราะความริษยา ต. เวลาเย็น มีใจกลัดกลุ้มเพราะกามราคะ ที่มา : ตีหิธัมเมหิสูตร มาตุคามส์งยุต สํ.สฬา.๑๔/๒๘ต ตีหิ ภิคุขท ธมฌหิ สมนนาคโด มาตุคาโม พฦยพน คายสส เภทา ปรํ มรณา อปายํ ชุคุคดี วินิปาตํ นิรยํ คุปปชุชติ ... อิธ ภิคุขเว มาตุคาโม 1^พฺพณุหสมยํ มชุเฉรมลปริคูฎแดน เจดสา อคารํ อชุฌาวสติ, มชผนดิกสมยํ อิอุ[สาปริคุฏฺจิเดน ...สายณํหสมยํ กามราคปริคุฎจิเดน ...ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย มาตุคามผู้ประกอบดีวยธรรม ๓ ประการ โดยมาก หลังจากตายไปย่อมเช้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ธรรม ต ประการคืออะไรบ้าง คือ มาตุคามในโลกนี้เวลาเช้ามีใจถูกมลทิน คือความตระหนึ่กลุ้มรุมแล้วอยู่ครองเรือน ๑ เวลาเที่ยงมีใจถูกความริษยา กลุ้มรุมแล้วอยู่ครองเรือน ๑ เวลาเย็นมีใจถูกกามราคะกลุ้มรุมแล้วอยู่ครอง เรือน ๑ ฯ www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด ๓ ๓๖๗ นิพพานลักฃณกถา ว่าด้วยลักษณะแห่งพระนิพพาน ๓ ๑. สินราคะ ๒. สินโทสะ ฅ. สินโมหะ ที่มา : นิพพานปัญหาสูตร ชัมทุขาทกส์งยุต สํ.สฬา.๑๔/ต๑๔ นิพพานํ นิพพานนติ อาวุโส สาริljตุฅ วุจจติ, กตมํ บุ โข อาวุโส นิพพานบุติ ฯ โย โข อาวุโส ราคคุขโย โทสคุขโย โมหคุขโย, อิทํ วุจจติ นิพพานบุติ ฯ แปล : (ปริพาซกซื่อว่าซัมพุขาทกะได้เข้าไปถามท่านพระสารีบุตร ว่า) \"ดูก่อนท่านสารีบุตร ที่เรียกว่า 'นิพพาน นิพพาน' ดังนี้ นิพพานเป็น ไฉนหนอ\" ท่านพระสารีบุตรตอบว่า \"ผู้มีอายุ ความสินราคะ ความสินโทสะ ความสินโมหะ นี้เรียกว่านิพพาน\" ฯ ทุกกรกถา ว่าด้วยสิงที่ทำได้ยากในพระพุทธศาสนา ฅ ๑. การบวชโนพระพุทธศาสนา ๒. การบวชแล้วไม่สิก ฅ. การบวชไม่สิกแล้วปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม www.kalyanamitra.org

๓๖๘ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ ที่มา : ทุกกรปัญหาสูตร สามัณฑกส์งยุต ฟ้.สพา.๑๘/ฅฅ๑ ปพุพชชา โข อา'Jโส อิมสมึ ธมุมวินพ ทุกกรา ... ปพุพชิเตน โข อา'Jโส อภิรติ ทุคุกรา ... อภิรเคน โข อา^โส ธมุมาทุธมุมปฎิปตุติ ทุคุกรา ฯ แปล : (สามัณฑกปริพาชกถามพระสารีบุตรว่า) \"ดูก่อนท่าน สารีบุตร อะไรหนอเป็นสิงที่ทำได้ยากโนพระธรรมวินัยนี้\" (พระสารีบุตรตอบว่า) \"การบวชเป็นสิงที่ทำได้ยาก\" \"ก็อะไรเล่าอัน บุคคลผู้บวชแล้วทำได้โดยยาก\" \"ความยินดียิ่ง\" \"ก็อะไรเล่าอันภิกษุผู้ยินดี ยิ่งแล้วทำได้โดยยาก\" \"การปฏิบัติธรรมสมควรแก่ธรรม\" ฯ วิริยุปปาทกลา ว่าด้วยเหตุเกิดวิริยส์มโพซฌงค์ ๓ ๑. อารัมภธาตุ ความริเริ่ม ๒. นิกกมธาตุ ความพยายาม ฅ. ปรักกมธาตุ ความบากบั่น ที่มา : กายสูตร ปัพพตวรรค โพซ๘]โงคลังยุต ลั.ม.๑๙/๑๘เท อตุถิ ภิคุขท อารมุภธาตุ นิคุกมธาตุ ปรคุกมธาตุ, ฅตุถ โยนิโส มนสิการพชุลืกาโร, อยมาหาโร รุปปนนสฺส วา วิริยสมุโพชุฌงุคสุส คุปปาทาย คุปฺปนนสส วิริยสมุโพชุฌงฺคสส ภาวนาย ปาริชุ]ริยา ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ความริเริ่ม ความพยายาม ความ บากบั่น มีอยู่ การทำให้มากที่งโยนิโสมนสิการในสิงเหล่านั้น นี้เป็น www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด ๓ ๓๖๙ อาหารเพื่อความเกิดขึ้นแห่งวิริยส์'มโพซฌงค์ที่ยังไม่เกิด หรือเพื่อความ เจริญเต็มที่แห่งวิริยลํโมโพซฌงค์ที่เกิดขึ้นแล้ว ฯ พาลภยกถา ว่าด้วยเหตุร้ายจากคนพาล ฅ ๑. ทาให้ประสบภัย ๒. ทำ ให้!ด้รับอุปัทวันตราย ฅ. ทำ ให้พบอุปสรรค ที่มา : ภยสูตร พาลวรรค ปฐมปัณณาสก์ องุ.ดิก. ๒0/๘๕๕ ยานิ กานิจิ ภิกฃท ภยานิ อุปุปชุชนุติ, สพพานิ ตานิ พาลโต อุปปชชนุติ โน ปณฑิตโต ... อุปททวา ... อุปสคุคา ... ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภัยไม่ว่าชนิดใด ๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งหมดนั้นย่อมเกิดขึ้นจากคนพาล หาเกิดขึ้นจากบัณฑิตไม่ อุปัทวะไม่ว่า ชนิดใด ๆ... อุปสรรคไม่ว่าชนิดใด ๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งหมดนั้นย่อมเกิดขึ้นจาก คนพาล หาเกิดขึ้นจากบัณฑิตไม่ ฯ พาลลักฃณกถา ว่าด้วยลักษณะของคนพาล ฅ (นัยที่ ๑) ๑. ตั้งป้ญหาไม่แยบคาย ๒. ตอบปัญหาไม่แยบคาย ฅ. ไม่ขึ้นชมปัญหาที่ผู้อื่นตอบโดยแยบคาย www.kalyanamitra.org

6ท๗๐ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ ทีมา : อโยนิโสสูตร พาลวรรค ปฐมปัณณาสก์ องฺ.ติก. ๒0/๘๕๙ ตีหิ ภิคุขเว ธมฺฌหิ สมนุนาคโต พาโล ททิฅพโพ ... อโยนิโส ปญหํ กฅุฅา โหติ, อโยนิโส ปญหํ วิสุสชุเชตา โหติ, ปรสุส โข ปน โยนิโส ปณหํ วิสุสชุชิตํ ปริมถเฑเลหิ ปทพยญชฌหิ สิลิฏเรหิ รุปคเตหิ นาพฺภานุโมทิตา โหติ ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ฅ ประการพึงทราบว่าเป็นคนพาล ธรรม ฅ ประการคืออะไรบ้าง คือ ทั้ง ปัญหาโดยไม่แยบคาย ๑ ตอบปัญหาโดยไม่แยบคาย ๑ ไม่ชื่นซมยินดี ปัญหาที่ผู้อี่นดอบโดยแยบคายด้วยบทพยัญขนะที่เหมาะสม สละสลวยเข้า เหตุเข้าผล ๑ ฯ พาลลักฃณกถา ว่าด้วยลักษณะของคนพาล ฅ (นัยที่ ๒) ๑. มีกายกรรมที่ก่อให้เกิดโทษ ๒. มีวจีกรรมที่ก่อให้เกิดโทษ ฅ. มีมโนกรรมที่ก่อให้เกิดโทษ ทีมา : สาว้ซซสูตร พาลวรรค ปฐมปัณณาสก์ องฺ.ติก. ๒0/๔๖๑ ตีหิ ภิกุขท ธมเมหิ สมนุนาคโต พาโล เวทิตพโพ ... สาวชุเชน กาย กมเมน สาวชุเชน วจืกมเมน สาวชุเชน มโนถมเมน ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรมตประการ พึงทราบว่าเป็นคนพาล ธรรม ต ประการคืออะไรบ้าง คือ กายกรรมที่ เป็นโทษ ๑ วจีกรรมที่เป็นโทษ ๑ มโนกรรมที่เป็นโทษ ๑ ฯ www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด ๓ ๓๗๑ พาลลักฃณกถา ว่าด้วยลักษณะของคนพาล ๓ (นัยที่ ฅ) ๑. มีกายกรรมที่เป็นการเบียดเบียน ๒. มีวจีกรรมที่เป็นการเบียดเบียน ๓. มีมโนกรรมที่เป็นการเบียดเบียน ที่มา : ส์พยาปัซฌสูตร พาลวรรค ปฐมปัณณาสก์ อง..ติก. ๒0/๔๖๒ ตีหิ ภิคุฃท ธมฺเมหิ สมนนาคโต พาโล เวทิฅพฺโพ ... สพุยาปชุเฌน กายกมฺเมน ... วจีกมุฌน ... มโนกมฺฒน ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ฅ ประการพึงทราบว่าเป็นคนพาล ธรรม ฅ ประการคืออะไรบ้าง คือ กายกรรมที่เป็นการเบียดเบียน ๑ วจีกรรมที่เป็นการเบียดเบียน ๑ มโน กรรมที่เป็นการเบียดเบียน ๑ ฯ มลกลา ว่าด้วยมลทินที่เป็นเหตุให้ตกนรก ฅ ๑. ความเป็นผู้ทุคืล ๒. ความเป็นผู้ริษยา ฅ. ความเป็นผู้ตระหนี่ www.kalyanamitra.org

๓๗๒ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ ทีมา : มลสูตร พาลวรรค ปฐมปัณณาสก์ องฺ.ติก. lao/cib๔ ดีหิ ภิคขท ธมฌหิ สมนฺฬาคโต ฅโย ม&ล อปปหาย ยลาภดํ นิคุฃิตุโต, เอวํ นิรเย ... ทุสสีโล จ โหติ ชุสสีลุยมลญจสฺส อปปหีนํ โหติ, อิสฺลุ[กี จ โหติ อิสสามลญจสุส อปปหืนํ โหติ, มชุฉรี จ โหติ มจเฉรมลญจชุส อปปหีนํ โหติ ฯ แปล ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคลผู้ประกอบด้วยธรรม ฅ ประการไม่ละมลทิน ต ประการ จะด้องตกนรกแน่แท้ ธรรม ฅ ประการคือ อะไรบ้าง คือ เป็นผู้ทุคืลและไม่ละมลทินคือความเป็นผู้ทุคืล ๑ เป็นผู้ ริษยาและไม่ละมลทินคือความริษยา ๑ เป็นผู้ตระหนี่และไม่ละมลทินคือ 4 ความตระหน ๑ ฯ อปัณณกปฏิปทาคลา ว่าด้วยข้อปฏิบัติไม่ผิด ต ๑. อินทรียสังวร สำ รวมอินทรีย์ ๖ ๒. โภชเน มัตตัญญตา รู้จักประมาณในการบริโภค ต. ชาครียาษุโยค หมั่นประกอบความเพียรตื่นอยู่เสมอ ที่มา : อปัณณกสูตร รถการวรรค ปฐมปัณณาสก์ องฺ.ติก. ๒0/๘๗0 ติหิ ภิฤขเว ธมฺเมหิ สมนนาคโต ภิฤขุ อปณฺณคปฎิปทํ ปฎิปนฺโน โหติ,โยนิ จสส อารฑธา โหติ อาสวานํ ขยาย...อิธ ภิกขเว ภิกขุ อินทรีเยลุ คูตุตทุวาโร โหติ, โภชเน มตุตลเญ โหติ, ชาครียํ อบุยูตุโต โหติ ฯ www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด ๓ ๓๗๓ แปล ะ ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ฅ ประการ ซื่อว่าเป็นผู้ปฏิบัติอปัณณกปฏิปทา และซื่อว่าเธอปรารภเหตุเพื่อความสิน อาสวะทั้งหลาย ธรรม ฅ ประการคืออะไรบ้าง คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เป็นผ้คุ้มครองทวารในอินทรีย์ทั้งหลาย ๑ เป็นผ้รีจักประมาณในโภชนะ ๑ เป็นผู้ประกอบเนือง ๆ ในความตื่นตัวอยู่ ๑ ฯ อภัพพปาปณิคคลา ว่าด้วยพ่อค้าอาภัพเจริญไม่ได้ ๓ ๑. เวลาเช้า ไฝดูแลเอาใจใส่กิจการให้เรียบร้อย ๒. เวลาเที่ยง ไม่ดูแลเอาใจใส่กิจการให้เรียบร้อย P1. เวลาเย็น ไม่ดูแลเอาใจใส่กิจการให้เรียบร้อย ที่มา : ปฐมปาปณิกสูตร รถการวรรค ปฐมปัณณาสก์ อง..ติก. ๒ฮ/๘๗ฅ ตีหิ ภิกฃท องุเคหิ สมนนาคโต ปาปณิโก อภพโพ อนธิคตํ วา โภคํ อธิคนตํ, อธิคตํ วา โภคํ ผาดิกาตํ ... อิธ ภิกุฃเว ปาปณิโก ใ]พฺพฌฺหสมยํ น สคุกจจํ กมฺมนุตํ อธิฏฺฮาดิ, มชุฌนุดิกสมยํ น สคุกจุจํ กนุมนุตํ อธิฎฮาดิ, สายลเหสมยํ น สคุกจจํ กมมนุดํ อธิเj€าดิ ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พ่อด้าผู้ประกอบด้วยองค์ ฅ ประการ ย่อมไม่สามารถที่จะได้โภคทรัพย์ที่ยังไม่ได้หรีอทำโภคทรัพย์ที่ได้แล้วให้ ทวิมากขึ้นได้ องค์ ฅ ประการคืออะไรบ้าง คือ พ่อค้าในโลกนี้ เวลาเช้า ไม่ จัดแจงการงานโดยเอื้อเพื่อ ๑ เวลาเที่ยง ไม่จัดแจงการงานโดยเอื้อเพื่อ ๑ เวลาเย็น ไม่จัดแจงการงานโดยเอื้อเพื่อ ๑ ฯ www.kalyanamitra.org

6ท๗๔ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงลั อภัพพภิกขุกถา ว่าด้วยภิกษุอาภัพบรรลุธรรมไม่ได้ ฅ ๑. เวลาเฟ้า ไม่ใส่ใจอธิษฐานสมาธินิมิต ๒. เวลาเที่ยง ไม่ใส่ใจอธิษฐานสมาธินิมิต ต. เวลาเย็น ไม่ใส่ใจอธิษฐานสมาธินิมิต ที่มา : ปฐมปาปณิกสูตร รถการวรรค ปฐมปีณณาสลั องฺ.ติก. ๒0/๘๗ฅ เอวเมว โข ภิคุขเว ตีหิ ธมุเมหิ สมนุนาคโต ภิกชุ อภพุโพ อนธิคตํ วา คูสลํ ธนุมํ อธิคนุ4 อธิคตํ วา ภูสลํ ธมมํ ผาติกาดู... อิธ ภิกขเว ภิกุฃุ ปุพุพณหสมยํ น สกกจจํ สมาธินิมิดูตํ อธิฎฺฮาติ, มชุฌนุติกสมยํ ... สายณฺหสมยํ ... ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย ภิกษุผู้ประกอบด้วยธรรม ต ประการ ก็ฉันนั้นเหมือนกัน เป็นผู้ไม่สามารถที่จะบรรลุกุศลธรรมที่ยังไม่บรรลุหรือ ทำ กุศลธรรมที่ได้บรรลุแล้วให้เจริญมากขึ้นได้ ธรรม ฅ ประการคืออะไรบ้าง คือ ภิกษุในธรรมวินัยนี้ เวลาเช้า ไม่อธิษฐานสมาธินิมิตโดยเคารพ ๑ เวลา เที่ยง ไม่อธิษฐานสมาธินิมิตโดยเคารพ ๑ เวลาเย็น ไม่อธิษฐานสมาธินิมิต โดยเคารพ ๑ ฯ วิปุลปาปณิกคลา ว่าด้วยพ่อค้าผู้ทำการค้าเจริญ ๓ ๑. มีตาดี ๒. มีธุระดี ต. มีที่พึ๋งดี www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด ๓ ๓๗๕ ที่มา : ทุติยปาปณิกสูตร รถการวรรค ปฐมปัณณาสก์ องฺ.ติก. ๒0/๘๗๔ ตีหิ ภิคุขท องฺเคหิ สมนุนาคโต ปาปณิโก นจิรสฺเสว มหนุฅฅตํ เวใJลุลตุตํ ปาใJณาติ โภเคลุ ... อิธ ภิฤฃเว ปาปณิโก จกชุมา จ โหติ วิ5โร จ นิสุสยสนุปนุโน จ ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พ่อค้าผู้ประกอบด้วยองค์๓ ประการ ย่อมถึงความมีโภคทรัพย์มากมายเหลือเพ่อไม่นานเลย องค์ ฅ ประการคือ อะไรบ้าง คือ พ่อค้าในโลกนี้เบ้นคนมีตาคื ๑ เบ้นคนมีธุระดี ๑ เบ้นคนถึง v ทุคคลกถา ว่าด้วยบุคคล ๓ ประ๓ท (นัยที่ ๑) ๑. ผู้หมดหวัง ๒. ผู้มีหวัง ฅ. ผู้ปราศจากความหวัง ที่มา : อาส์งสสูตร ปคคลวรรค ปฐมปัณณาสก์ องฺ.ติก. ๒อ/๘๖๗ ตโยเม ภิฤฃเว ijfjคลา สนุโฅ สํวิชุชมานา โลกสฺมึ ฯ กฅเม ฅโย ฯ นิราโส อาสํโส วิคฅาโส ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ฅ ประ๓ทนี้มีปรากฏอยู่ใน โลก ต ประเภทคืออะไรบ้าง คือ บุคคล^ม่มีหวัง ๑ บุคคลผู้มีหวัง ๑ บุคคลผู้ปราศจากความหวัง ๑ ฯ www.kalyanamitra.org

๓๗๖ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ คลกลา ว่าด้วยบุคคล ๓ ประเภท (นัยที่ ๒) ฟิ. เมีfตเหมีอนแผลเก่า ๒. ผู้มีจิตเหมือนฟ้าแลบ ฅ. ผู้มืจิตเหมือนเพชร ที่มา : วซิรูปมสูตร ปุคคลวรรค ปฐมปัณณาสก์ องฺ.ติก. ๒0/๘๗๙ ตโยเม ภิกฃเว ใเคุคลา สนโต สํวิชุชมานา โลกสมึ ฯ กดเม ฅโย ฯ อเคูปมจิตโค ปุคคโล, วิชุชุปมจิตโต คโล, วชิรูปมจิตโต 1]คุคโล ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ต ประเภทนี้มืปรากฏอยูใน โลก ฅ ประเภทคืออะไรบ้าง คือ บุคคลผู้มืจิตเหมือนแผลเก่า ๑ บุคคลผู้มื จิตเหมือนฟ้าแลบ ๑ บคคลผ้มืจิตเหมือนเพชร ๑ ฯ ปุคคลกถา ว่าด้วยบุคคล ฅ ประเภท (นัยที่ ฅ) ๑. คนทีไม่ควรคบ ไม่ควรเข้าใกล้ ๒. คนที่ควรคบ ควรเข้าใกล้ ฅ. คนที่ควรสักการะแล้วจึงคบ ที่มา ะ เสวิตัพพสูตร ปุคคลวรรค ปฐมปัณณาสก์ องฺ.ติก. ๒0/๘๘๐ ตโยเม ภิคุฃเว บุกคลา สนฺโต สํวิชุชมานา โลกสฺมึ... อตุถิ ภิคุขเว บุคุคโล น เสวิตพฺโพ น ภชิตพุโพ น ปยิ'5ปาสิตพุโพ ... เสวิตพุโพ www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด ๓ ๓๗๗ ภชิตพฺโพ ปยิ^ปาสิฅพโพ ... สกกฅ.วา ค'เกตุวา เสวิฅพโพ ภชิตพุโพ ปยิรุปาสิตพุโพ ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ฅ ประ๓ทนี้มีปรากฏอยูโน โลก ฅ ประเภทคืออะไรบ้าง คือ บุคคลที่ไม่ควรซ่องเสพ ไม่ควรคบหา ไม่ควรเข้าไปนั่งใกล้ ๑ บุคคลที่ควรซ่องเสพ ควรคบหา ควรเข้าไปนั่งใกล้๑ บุคคลที่ควรจะส์โกการะ เคารพแล้วจึงซ่องเสพ คบหา เข้าไปนั่งใกล้ ๑ ฯ นิหียติ ใ^ริโส นิหีนเสวี น จ หาเยล กทาจิ ตุฤยเสวี เสฎฮบุปนมํ ^เทติ ขิปุป ตสุมา อตุตโน อุตุตรึ ภเชถ ฯ แปล : คบหากับคนเลวย่อมเส์อมลง คบหากับคนที่เสมอกัน ย่อมไม่เส์อมในกาลไหน ๆ เมื่อคบหากับคนที่ดีกว่าย่อม เด่นขึ้นทันใด เพราะฉะนั้น จงคบหาแด่ผู้ที่ดีกว่าตน ฯ ปุคคลกถา ว่าด้วยบุคคล ฅ ประเภท (นัยที่ ๔) ๑. คนที่น่ารังเกียจ ไม่ควรคบ ไม่ควรเข้าใกล้ ๒. คนที่ควรวางเฉย ไม่ควรคบ ไม่ควรเข้าใกล้ ฅ. คนที่ควรเสพ ควรคบ ควรเข้าใกล้ ที่มา : 5คุจฉตัพพสูตร ปฐมปัณณาสก์ อง.ตํก. ๒0/๘๘๑ ตโยเม ภิคุฃเว ใ]คคลา สนฺโต สํวิชุชมานา โลกสมึ...อตุถิ ภิคุฃเว ใ^คคโล ชิคูจฉิตพุโพ น เสวีตพุโพ น ภชิตพุโพ น ปยิเปาสิตพุโพ ... www.kalyanamitra.org

๓๗๘ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ อชุชุเปกฃิตพุโพ น เสวิฅพฺโพ น ภชิตพุโพ น ปยิรุปาสิฅพุโพ ... เสวิฅพุโพ ภชิฅพุโพ ปยิรูปาสิฅพุโพ ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ฅ ประเภทนี้มีปรากฏอยู่ใน โลก ฅ ประ๓ทคืออะไรบ้าง คือ บุคคลที่น่ารังเกียจ ไม่ควรซ่องเสพ ไม่ ควรคบหา ไม่ควรเข้าไปนั่งใกล้ ๑ บุคคลที่ควรวางเฉย ไม่ควรซ่องเสพ ไม่ ควรคบหา ไม่ควรเข้าไปนั่งใกล้ ๑ บุคคลที่ควรซ่องเสพ ควรคบหา ควร เข้าไปนั่งใกล้ ๑ ฯ 1^คคลกลา ว่าด้วยบุคคล ๓ ประเภท (นัยที่ ๕) ๑. คนพูดเหม็น (คนปากเหม็น) ๒. คนพูดหอม (คนปากหอม) ฅ. คนพูดหวาน (คนปากหวาน) ที่มา : คูถภาณีสูตร คลวรรค ปฐมปัณณาสก์ องฺ.ติก. ๒0/๘๘๒ ฅโยเม ภิกฃเว ใ^คคลา สนโค สํวิชุชมานา โลกสมี ฯ กดเม ฅโย ฯ ดูลภาณี 1]ปผภาณี ม^ภาณี ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ต ประเภทนี้มีปรากฏอยู่ใน โลก ต ประเภทคืออะไรบ้าง คือ ผู้พูดถ้อยคำเหม็นเหมือนคูถ ๑ ผู้พูดถ้อยคำ หอมเหมือนดอกไม้ ๑ ผู้พูดถ้อยคำหวานเหมือนนํ้าผึ้ง ๑ ฯ www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด ๓ ๓๗๙ 1]คคลกลา ว่าด้วยบุคคล ต ประเภท (นัยที่ ๖) ๑. คนตาบอด ๒. คนตาเดียว ต. คนสองตา ที่มา : อันธสูตร 1]คคลารรค ปฐมปัณณาสก์ องฺ.ติก. ๒0/๔๘ฅ ตโยเม ภิฤฃเว ปุคุคลา สนฺโต ส์วิชุชมานา โลกสมึ ฯ กดเม ฅโย ฯ อนุโธ เอกจฤชุ ทฺวิจกฃุ ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ตประเภทนี้มีปรากฏอยูโนโลก ต ประเภทคืออะไรบ้าง คือ คนตาบอด ๑ คนตาเดียว ๑ คนสองตา ๑ ฯ อนุธฌจ เอกจกชุญจ อารกา ปริวซุชเย ทวิจกชุ๊ ปน เสเวล เสแจํ ใเริสปุคคลํ ฯ แปล : บุคคลควรเว้นคนตาบอดกับคนตาเดียวเสืยให้ห่างไกล แต่ควรคบหาคนสองตาซึ๋งเป็นบุคคลผู้ประเสริฐสุด ฯ ไเคคลกลา ว่าด้วยบุคคล ต ประเภท (นัยที่ ๗) ๑. ผู้มีป้ญญาเหมือนหม้อควํ่า ๒. ผู้มืปัญญาเหมือนหน้าตักหริอชายพก ต. ผู้มืปัญญากว้างขวางหรือแน่นหนา www.kalyanamitra.org

๓๘0 คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ ที่มา : อวกุชซสูตร ปุคคลวรรค ปฐมปัณณาสก์ องฺ.ดิก. ๒๐/๘๘๔ ตโยฌ ภิกฃท ใ^คุคลา สนุโต สํวิชุชมานา โลกสุมึ ฯ กตฒ ตโย ฯ อวภูชุชปณโณ 1^คคโล, อุจฉงคปณโณ 1^คุคโล, iJgปญโณ 1]คคโล ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ฅ ประเภทนี้มีปรากฏอยู่ใน โลก ฅ ประเภทคืออะไรบ้าง คือ บุคคลผู้มีปัญญาเหมือนหม้อควํ่า ๑ บุคคล ผู้มืปัญญาเหมือนหน้าตัก ๑ บุคคลผู้มืปัญญากว้างขวาง ๑ ฯ อวอุชุชปฌโฉ) 1]ริโส ชุมฺเมโธ อวิจกฃโณ อภิกขณช เจ โหติ คนตา ภิกฃูน สนุติเก ฯ อาฑึ กลาย มชุฌลเจ ปริโยสานณจ ตาฑิโส อุคุคเหดู๊ น สกโกติ ปณฌา หิสส น วิชุชติ ฯ แปล : ผู้มืปัญญาเหมือนหม้อควํ่าจัดเบ้นคนเขลา ไม่มื ปัญญาเห็นประจักษ์ แม้หากจะหมั่นไปในสำนักของ ภิกษุเสมอ คนเซ่นนั้นก็ไม่อาจจะกำหนดเอาเบื้องต้น ท่ามกลาง และที่สุดของกถาไต้ เพราะเขาไม่มืปัญญา ฯ อุจฉงฺคปญโฉ) 1]ริโส เสยุโย เอเตน ^จจติ อภิกขณ๊ป็ เจ โหติ คนฺตา ภิกฃูน สนุติเก อาฑี กถาย มชุฌฉเจ ปริโยสานญจ ตาทิโส นิสินฺโน อาสเน ตสฺมึ อุคุคเหตุวาน พฺยณชนํ วุฎฺฮิโต น!!ปชานาติ คหิตํ หิสส บุสสติ ฯ แปล : ผู้มืปัญญาเหมือนหน้าตักเรากล่าวว่าดีกว่าผู้มืปัญญา เหมือนหม้อควํ่า ถึงแม้จะไปในสำนักของภิกษุเสมอ www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด ฅ ๓๘๑ นั่งบนอาสนะนั้น คนเซ่นนั้นย่อมกำหนดเอาเบื้องต้น ท่ามกลาง และที่สุดของกถาไต้ ครั้นลุกมาแล้วย่อมจดจำ ไม่ไต้ ต้วยว่าส์งที่เขากำหนดเอาไว้แล้วเลอะเลือนไป ฯ ปถเโฉเ จ ใเริโส เสยฺโย เอเตน วุฬฺติ อภิฤขณ๊ปี เจ โหติ คนฺตา ภิฤดูน สนติเก อาทึ กลาย มชุฌญจ ปริโยสานณจ ตาฑิโส นิสินโน อาสเน ตสุมึ อคุคเหตุวาน พยญชนํ ธาเรติ เสฎจสงฺกปโป อพุยคุคมนโส นโร ธมมาบุธมุมปฎิปนุโน ชุกขสสนุตกโร สิยา ฯ แปล : ส่วนผู้มีปัญญากว้างขวางเรากล่าวว่าดีกว่าผู้มีปัญญา เหมือนหน้าตัก คนเซ่นนั้นไปในสำนักของภิกษุเสมอ นั่งบนอาสนะนั้น ย่อมกำหนดเอาเบื้องต้น ท่ามกลาง และที่สุดของเรื่องแล้วจำพยัญชนะไ^ต้ เป็นคนมืความ ดำ ริประเสริฐสุด มืใจไม่สงสํย ปฏิบัติธรรมสมควรแก่ ธรรม พึงทำที่สุดแห่งทุกฃ1ต้ ฯ ปุคคลกลา ว่าด้วยบุคคล ต ประเภท (นัยที่ ๘) ๑. ผู้เปรียบด้วยรอยขีดที่แผ่นหิน ๒. ผู้เปรียบด้วยรอยขีดที่แผ่นติน ฅ. ผู้เปรียบด้วยรอยขีดที่นั้า www.kalyanamitra.org

๓๘๒ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ ทีมา : เลขสูตร กุสินารวรรค ตติยปัณณาสก์ องฺ.ติก.(00/๑0๕๘ ตโยเม ภิกฺฃเว ใ^คุคลา สนฺโต ส์วิชุชมานา โลกสมึ ฯ กตเม ตโย ฯ ปาสาณเลดูปโม ij^คโล, ป®วีเลขูปโม คโล, รุฑณลดูปโม ใ^คุคโล ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ฅ ประเภทนี้มีปรากฏอยู่ใน โลก ฅ ประ๓ทคืออะไรบ้าง คือ บุคคลผู้เปรียบด้วยรอยขีดที่แผ่นหิน ๑ บุคคลผู้เปรียบด้วยรอยขีดที่แผ่นดิน ๑ บุคคลผู้เปรียบด้วยรอยขีดที่นํ้า ๑ ฯ ปุคคลกถา ว่าด้วยบุคคล ฅ ประเภท (นัยที่ ๙) ๑. ผู้เปรียบเหมือนฝนไม่ตก ๒. ผู้เปรียบเหมือนฝนตกในพื้นที่บางส่วน ฅ. ผู้เปรียบเหมือนฝนตกในพื้นที่ทั่วไป ทมา ะ อวฎเกสูตร ตติยวรรค ติกนิบาต ฃุ.อิติ.(0๕/๗๕ ตโยเม ภิกขเว 1]คคลา สนฺโต สํวิชุชมานา โลกสมี ฯ กตเม ฅโย ฯ อวุฏริกสโม ปเทสวสสี สพพตุลาภิวสุสี ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ฅ ประ๓ทนี้มืปรากฏอยู่ใน โลก บุคคล ฅ ประเภทคืออะไรบ้าง คือ บุคคลที่เปรียบเหมือนฝนไม่ตก ๑ บุคคลที่เปรียบเหมือนฝนตกในพื้นที่บางส่วน ๑ บุคคลที่เปรียบเหมือนฝนตก ในพื้นที่ทั่วไป ๑ ฯ น สมเณ น พราหุมเณ น กปณทุธิเก น วนิพฺพเก ลทธา น สํวิภาเชติ อนนปานณจ โภชนํ ตํ เว อ'5ฎริกสโมติ อาหุ นํ า^ริสาธมํ ฯ www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด ฅ ๓๘๓ แปล : ^ด้พบสมณพราหมณ์ คนกาพร้า คนเดินทาง วณิพก แล้วไม่แปงปันข้าว นํ้า และของบริโภคให้ นักปราชญ์ ทั้งหลายเรียกบุคคลใจแคบนั้นวำเปีนผู้เปรียบเหมือนฝน ไม่ตก ฯ เอกจจานํ น ททาติ เอกชุจานํ ปเวชุฉติ ตํ เว ปเทสวสฺสีติ อาทุ เมธาวิโน ชนา ฯ แปล : ^มให้ข้าวนั้าเปีนต้นแก่คนบางพวก แต่ให้แก่คน บางพวก นักปราชญ์ทั้งหลายเรียกบุคคลนั้นว่าเปีนผู้ เปรียบเหมือนฝนตกในพื้นที่บางส่วน ฯ ลุ[ภิกขวาใจ tJIIส สพพฎตาทุกมปโก อาโมทมาโน ปกิเรติ เทถ เทถาติ ภาสติ ยถาปี เมโฆ ถนยิตุวา คชุชยิตุวา ปวสฺสติ ถลํ นินนณุจ \\|เรติ อภิสนทนโต ว วารินา ฯ แปล : คนที่พูดให้ภิกษาง่าย อนุเคราะห์สงเคราะห์คนโดย ทั่วหนัา ย่อมมืใจยินดีแจกจ่ายส์งของ ชอบพูดชวนว่า ให้ทานกันเถิด ให้ทานกันเถิด' เปรียบเหมือนเมฆฝน ร้องคำรามแล้วตกลงมา จนนั้าไหลนองเต็มทั้งที่ลุ่มและ ที่ดอน ฉันใด ฯ เอวเมว อิเธกชุโจ ปคุคโล โหติ ตาฑิโส ธมเมน สํหริตุวาน ชุฎจานาธิคตํ ธนํ ตปเปติ อทุนปาเนน สมมา ปตุเต วนิพฺพเก ฯ www.kalyanamitra.org

๓๘๔ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ แปล : บุคคลบางคนในโลกนี้เป็นฉันนั้น รวบรวมทรัพย์ที่ ตนหามาได้ด้วยความขยันหมั่นเพียรโดยชอบธรรม เอา มาเลี้ยงวณิพกมากหลายผู้มาถึงแล้วให้อิ่มหนำด้วยข้าว และนั้าโดยชอบ ฯ มาตา!)ตุกลา ฐานะของบิดามารดา (ท ๑. เป็นพระพรหมของบุตร ๒. เป็นอาจารย์คนแรกของบุตร ฅ. เป็นพระอรหันต์ของบุตร ที่มา : สพรัหมกสูตร เทวทูตวรรค ปฐมปัณณาสก์ อง..ติก. ๒0/๔๘๕ พรหมาติ มาตาปีตโร า]พพาจริยาติ ๅฉm อาทุฌยุยา จ ปุฅตานํ ปชาย อบุกมุปกา ฯ แปล : บิดามารดาผู้อนุเคราะห์ประชาคือบุตร ท่านเรียกว่า เป็นพรหม เป็นบุรพาจารย์ และเป็นอาทุไนยบุคคล (พระอรหันต์)ของบุตรธิดา ฯ ฅสฺมา หิ ฌ นมสุเสยุย สฤกเรยย จ ปณฺฑิโต อบุเนน อล ปาเนน วตเถน สยเนน จ รุจฉาทเนน บุหาปเนน ปาฑานํ โธวเนน จ ตาย ปริจริยาย มาตาปีดูสุ ปณฑิตา อิเธว นํ ปสํสนติ เปจจ สคฺเค ปโมทติ ฯ www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด ๓ ๓๘๕ แปล ะ เพราะเหตุนั้นแล บุตรผู้เปีนบัณฑิตพึงนอบน้อม สักการะท่านด้วยข้าว นํ้า ผ้านุ่งห่ม ที่นอน ที่นั้ง ด้วยการอบกลิ่น การอาบนั้าให้ และด้างเห้าให้ เพราะ เหตุที่บุตรปรนนิบัติบิดามารดา บัณฑิตทั้งหลายจึง สรรเสริญเขาในโลกนี้ ครั้นเขาละโลกนี้!ปแด้วย่อม บันเทิงในสวรรค์ ฯ กิเลสกถา ว่าด้วยกิเลสเป็นเหตุให้สำคัญตน ๓ ๑. อหังการ ความติดเห็นว่าเป็นเรา ๒. มมังการ ความยึดถือว่าเป็นของเรา ต. มานาบุสัย ความถือตัวที่นอนเนื่องในสันดาน ที่มา อานันทสูตร เทาทูตวรรค ปฐมปัณณาสก์ อง..ดิก. ๒0/๘๘๖ สิยา อานนท ภิกชุโน ตถารูโป สมาธิปฏิลาโภ, ยถา อิมสมิณุจ สวิณณาณเก กาเย อหงุการมมงฺการมานาบุสยา นาสฺธุ[ ... ฯ แปล : ดูก่อนอานนท์ อหังการ ๑ มมังการ ๑ มานานุสัย ๑ จะไม่พึงมีในกายอันมีวิญญาณนี้และในสรรพนิมิตภายนอก ... การได้สมาธิ ด้วยประการนั้นของภิกษุพึงมีได้ ฯ www.kalyanamitra.org

๓๘๖ คลังธรรม [พระธรรมกิตติวงส์ กัมมกถา ว่าด้วยกรรมชั่ว ๓ ๑.. โลภชกรรม กรรมเกิดแต่ความโลภ ๒. โฑสชกรรม กรรมเกิดแต่ความโกรธ ฅ. โมหชกรรม กรรมเกิดแต่ความหลง ที่มา : นิทานสูตร เทวทูตวรรค ปฐมปัณณาสก อง..ดิก. ๒0/๘๔๘ โลภชํ โทสชณเจว โมหชณจาปี วิฑทอุ[ ยนเตน ปกดํ กมมํ อปฺป็ วา ยทิ วา พชุ๊ อิเธว ดํ เวทนียํ วดฤ อญณํ น วิชชติ ฯ แปล : ^ม่รู้แจ้งกรรมอันเกิดแดโลภะ เกิดแดโทสะ และ เกิดแดโมหะ เขาทำกรรมใด จะน้อยหรือมากก็ตาม เขา จะต้องเสวยผลแห่งกรรมนั้นในอัตภาพนี้แหละ วัตถุ (ที่ รองรับผลกรรม) อื่นย่อมไม่มี ฯ เฑวทูตกถา ว่าด้วยเทวทต ฅ ๑. ชิณณะ คนแก่ ๒. อาพาธิกะ คนเจ็บไข้ ต. มฅะ คนตาย www.kalyanamitra.org

และคณะ] หมวด ๓ ๓๘๗ ที่มา : เทาทูตสูตร เทาทูตวรรค ปฐมปัณณาสก์ องุ.ติก. ๒0/๘๙0 ตีณิมานิ ภิคุขท เทวดูตานิ ...คเมนํ ภิฤฃเว ยโม ราชา เอวมาห อมฺโภ 1Jริส น ตุวํ อทุทส มบุสุเสอุ[ อิตุถึ วา 1]ริสํ วา ... ชาติยา ชิฌุณํ โคปานสิวงก ... อาพาธิกํ ทุกขิตํ ... เอกาหมฅํ วา ทุวีหมตํ วา ... ฯ แปล : ดูก่อนภิกษุที่งหลาย เหวทูตนี้มี ต ประเภท ฅ ประเภท คืออะไรบ้าง คือ บุคคลบางคนในโลกนี้ประพฤติทุจริตทางกาย ประพฤติ ทุจริตทางวาจา ประพฤติทุจริตทางใจ ครั้นประพฤติแล้ว หลังจากตายไป ย่อมเข้าถึงอบาย ทุคติ วินิบาต นรก ... ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย พญายม จะสอบสวน ซ'กไซIล'เลียงถึงเทวทูตที่ ๑ กะลัตว์นั้นว่า 'พ่อมหาจำเริญ เจ้าไฝเคยเห็นเทวทูตที่ ๑ ... ที่ ๒ ... ที่ ๓ ... ที่ปรากฏอยู่ในแดนมนุษย์บ้าง เลยหรือ' ลัตว์นั้นตอบอย่างนี้ว่า 'ข้าพเจ้าไม่เคยเห็นเลย เจ้าข้า' พญายม จึงถามเขาต่อไปว่า 'ดูก่อนพ่อมหาจำเริญ เจ้าไม่เคยเห็นหญิงหรือซายที่ มีอายุ ๘อปี ๙0ปี หรือ ๑00ปี นับแต่เกิดมา ผู้แก่หง่อม มีซี่โครงคด หลังงอ ถึอไม้เท้า เตินงก ๆ เงิ่น ๆ โซเซ ฟันวัยหนุ่มสาวแล้ว ฟันหัก ผมหงอก หนังย่น คืรษะล้าน เที่ยว ตัวตกกระในแตนมนุษย์บ้างเลยหรือ ... เจ้า ไม่เคยเห็นหญิงหรือซายที่ตายแล้ววันหนึ่ง หรือสองวัน หรือสามวันที่ขึ้น พองอืด เขียวซํ้า มีนํ้าเหลีองเยิ้มในแดนมนุษย์บ้างเลยหรือ ... เจ้าไม่เคย เห็นหญิงหรือซายที่ตายแล้ววันหนึ่ง หรือสองวัน หรือสามวันที่ขึ้นพองอืด เขียวซํ้า มีนํ้าเหลีองเยิ้มในแดนมนุษย์บ้างเลยหรือ ฯ www.kalyanamitra.org