Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore เเด่นักสร้างบารมี๑--ok

เเด่นักสร้างบารมี๑--ok

Description: เเด่นักสร้างบารมี๑--ok

Search

Read the Text Version

แด่ '^'''^' r ¥ Ttr r -f -r พ www.kalyanamitra.org

ขุมทรัพย์จากพรรไตรปีฏก ะ ขุดบทฟืกผู้นำ นด... นักส์ร้าง บารมี รวมโอวาทในวาระวันคล้ายวันเกิดพระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทตฺตสิโว) ปีพทธศักราช ๒๕๓๑ - ๒๕๓๔ 7 พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทตฺตสิโว) www.kalyanamitra.org

r คำ น่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ตรัสสรรเสริญคจามยิงใหญ่ของ กัลยาณมิตรไว้จ่า (รนเสมิอนแสงเงินแสงทอง ส่องทางพระนิพพาน ให้แก่นักสร้างบารมีทั้งหลายทีเดียจ ด้วยเหตุนี้ ทุกยุคทุกสมัยท่าน^ประมาทในชีวิต หากทราบว่ไผู้ใด มีสติปัญญา ทรงความรู้ความสามารถ อาจเป็นกัลยาณมิตรให้กับตนได้ ก็จะเร่งขวนขวาย ดั้นด้น ค้นหา ไปขอความเมตตากรุณาจากยอด กัลยาณมิตรท่านนั้น แล้วยอมมอบกายถวายตัวเป็นค้ษย์ ให้ท่านอบรม บ่มนิสัย และปลูกฝังความเห็นถูกในเรื่องโลกและชีวิตให้ตรงต่อหนทาง พระนิพพาน นต่...นักสร้างบารน ๑ ((Sr) คำ นำ www.kalyanamitra.org

ฝ่ายวิชาการ อาศรมบัณฑิต ได้พิจารณาเห็นว่า โอวาท ข้อคิด ความเห็นที่พระภาวนาวิริยคุณ {เผด็จ ทตฺตชีโว} ให้แก่คิษยานุคิษย์ ทั้ง ที่เป็นพระภิกชุ สามเณร อุบาสก และอุบาสิกา ตลอดจนญาติโยม ทั่วไป ในวาระต่างๆ เช่น วันคล้ายวันเกิด วันสำคัญทางศาสนา และ การอบรมในโอกาสต่างๆ นอกจากหลวงพ่อท่านจะให้เหตุผลได้อย่าง ละเอียดลออแล้ว ยังมีบทฝ็กอันทรงคุณค่า กำ กับไว้อีกด้วย หากใคร ทดลองนำไปประพฤติปฏิบัติตาม ย่อมลามารถทำให้ความคิดและความ เห็นในเรื่องโลกและชีวิตถูกต้องร่องรอย เป็นสัมมาทิฏฐิบังเกิดขึ้นอย่าง มั่นคง เรื่องนี้เป็นที่ประจักษ์ในกลุ่มผู้นำทุกระดับ และนักสร้างบารมี ที่มาปฏิบัติธรรม ณ วัดพระธรรมกาย ลมควรอย่างยิ่งที่จะได้นำมา เผยแพรให้แก่ผู้นำและนักสร้างบารมีผู้กำลังเร่งฝึกหัดขัดเกลาตนเองอยู่ ให้แพร่หลายยิ่งขึ้น ฝ่ายวิชาการ อาศรมบัณฑิต จึงใด้กราบขออนุญาต หลวงพ่อ รวบรวม และเรียบเรียงโอวาทเหล่านั้น จัดพิมพ์หนั3สีอ เพื่อ ให้เป็นกัลยาณมิตรประจำตัวและเพื่อใข้เป็นบทฝึกผู้นำในแต่ละระดับ ต่อไป เนื่องจากโอวาทเหล่านี้มีอยู่มากพอลมควร จึงได้รวบรวมทำเป็น ชุดขึ้น ภายใต้ซื่อว่า \"แด่...นักสร้างบารมี\" สำ หรับชุดแรกนี้!ด้รวบรวม โอวาทในวาระวันคล้ายวันเกิด พ.ศ. ๒๕๓๑ เรื่อง \"ทุกอย่างสำเร็จได้ ด้วยใจใสๆ\" พ.ศ. ๒๕๓๒ เรอง \"นักสร้างบารมีด้องไม่มีข้อแม้\" พ.ศ. ๒๕๓๓ เรื่อง \"ด้ดสินได้ ด้ดใจลง\" และโอวาทใน พ.ศ. ๒๕๓๔ เรื่อง \"สร้างบารมีอย่างไรให้ก้าวหนัา\" ไวในเล่มเดียวกัน ๓น่า (จ) แด่...นักสร้างบารมี ๑ www.kalyanamitra.org

ขอให้ทุกท่านสามารถสืกษา ค้นคว้า และนำโอวาท อันทรงคุณค่า นื้!ปประพฤติปฏิบัติ เพื่อฝึกหัดขัดเกลาตนเอง ให้บังเกิดเป็นคุณธรรม ความดี เป็นบุญบารมียิ่งใหญ่ ติดตัวไปข้ามภพข้ามชาติ และเป็นผู้นำ ซึ่งเพียบพร้อมด้วยคุณธรรมตั้งแต่ปัจจุบันชาตินี้เป็นตันไป ฝ่ายวิชาการ อาศรมบัณฑิต กุมภาพันธ์ พุทธตักราช ๒๕๔0 นท่...นกafางบารมี ๑ (cy) คำ นำ www.kalyanamitra.org

r« สารบัญ คำ นำ {๕) ทุกอย่างส์าเร็จได้ด้วยใจใสๆ ฅ ทุกอย่างล้วนสำเร็จด้วยใจใสๆ ๕ ทำ อย่างไรใจจึงจะใสได้ ๙ ใจใสบังคับธาตุ ๔ได้ (ร^<Si ความสำเร็จช้าเร็ว ขึ้นกับความใสของใจ ๑๔ ใจใส ภาพสำเร็จชัดเจน ๑๖ บริหารงานด้วยใจใส ๑๗ บทสืกความสามารถในการจับประเด็น ๑®' ทุศโลบายฝึกใจให้ใส ๒0 สTรปัญ (C5) แด่...นักสร้างบารมี ๑ www.kalyanamitra.org

ใจใสทำให้เห็นการณ!กล ๒๑ สืกแม้คน3านให็ใจใสตาม ๒๔ ได้ผู้นำและทีมงานใจใส การสร้างวัดจึงสำเร็จเร็ว ๒๕ ใจใสทำให้มีฤทธื้ ๒๘ กำ ลังใจที่จะฝึกให้ใจใสยิ่งขึ้น ๓๓ ความสำเร็จเกิดได้ด้วยใจ ๓๙ สืลและทิฏเ ๔๒ นกสร้างบารมีต้องไม่มีข้อแม้ ๔๗ ลูกๆ พระเณรที่รักของหลวงพ่อทุกรูป ๔๗ ข้อแม้เรื่องเวลา ๕๐ ข้อแม้เรื่องอุปกรณ์กับทุน ๕๔ ข้อแม้เรื่องคน ๕๗ การฝึกคนอย่างไม่มีข้อแม้ ๖๐ สินไต้ ดัดใจลง ๖๙ ผิดพลาดได้ แต่อย่าทำผิดทั้งๆ รู้ ๗๐ เหตุที่สร้างบารมีอยู่ได้ตลอดรอดผิง ๗๑ เรื่องที่ ๑ ดัดสินไต้ ดัดใจลง ๗๔ ฝึกตัดสินให้!ด้ ตัดใจให้ลงตั้งแต่เด็ก ๗๕ การตัดสิน ๗๗ ทุกอย่างต้องตัดสินได้ ตัดใจลง ๗๘ อานิสงส์ของการตัดสินได้ ตัดใจลง ๘๐ นดํ...นกสร้างบารน ๑ (<7C} ๓รบัญ www.kalyanamitra.org

เรัองที ๒ ความอดทน ๘๔ อดทนต่อความลำบากตรากตรำ ๘๔ อดทนต่อทุกขเวทนา ๘๕ อดทนต่อการกระทบกระทั่ง ๘๕ อดทนต่ออำนาจความเย้ายวนใจ ๘๖ เพดานความอดทน ๘๗ ความเคารพ ๘๘ ความหมายของความเคารพ ๘๑' ความกตัญญรู้คุณ ๙๐ วิธียกระดับความอดทน ๙๖ ผลสำเร็จจากความอดทน ๙๙ ส'^ ๑๐๑ สเางบารมีอย่างไรให้ก้าวหน้า ๑๐๗ เรื่องที่ ๑ การตั้งเป้าหมายธีวิต ๑๐๘ เป้าหมายในการสร้ไงบารมี ๑๐๘ สร้างวัดสำเร็จได้ เพราะกำหนดเป้าหมายไว้ทุกระดับ ๑๐๙ ความเสือมแห่งสังขาร (ร)(3)ฝิท ถล่มสังขารในวัยต้น (ร)^^ รักธรรมะไม่จริง ๑๑๘ การบริหารเวลา ๑๑๙ สารบัญ (®o) นส่...นัทสร้างบารมี ๑ www.kalyanamitra.org

เรื่องที่ ๒ การรักษาสุขภาพ ๑๒๒ เรื่องที่ ๓ การสังสมบารมี ๑๐ ทัศ ๑๒๗ ทานบารมี ๑๒๗ สืลบารม ๑๒๘ เนกขัมมบารมี ๑๒๙ ปัญญาบารมี ๑๓๐ วิริยบารมี ๑๓๒ ขันติบารมี ๑๓๓ สัจจบารมี ๑๓๕ อธิษฐานบารมี ๑๓๖ ฒตตาบารมี ๑๓๗ อุฌกขาบารมี ๑๓๗ การแกสมาธิเบื้องด้น ๑๔ฅ นด่...นักสร้างบารมี ๑ (๑๑) สารบัญ www.kalyanamitra.org

-1^ .'H I.I «^\" '.V.' ■'•.V*lttg^'>?-C.' . www.kalyanamitra.org

Is; ศ^ย่างสำเร็จ^ lin www.kalyanamitra.org

ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจใส ๆ โอวาทพระเดชพระคุณพระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทตฺต^ว) ในวาระวันคล้ายวันเกิด ๒๑ ร้นวาคม พุทธสักราช ๒๕๓๑ ขอขอบไจพวกเราทุกๆ รูป ที่ได้ร่วมกันตั้งจิตอธิษฐาน อาราธนา ไห้บุญบารมี รัศมี กำ ลังฤทธี้ ของพระต้นธาตุต้นธรรมสัมมา ล้มพุทธเจ้า คุ้มครองไห้หลวงพ่อมีสุขภาพพลานามัยดี มีร่างกาย แข็งแรงสมบุรณ์ ตลอดจนมีอายุขัยยีนยาว แต่ลูกเอ๊ย...การที่คนได คนหนึ่งจะมีอายุยีนยาว สุขภาพพลานามัยแข็งแรง ตลอดจนจิตไจ ชุ่มชื่น เบิกบาน อิ่มเอิบอยู่ไนเล้นทางบุญของพระล้มมาลัมพุทธเจ้าได้ www.kalyanamitra.org

ตลอดไป ตามคำอธิษฐานของลูกๆ นั้น มันไม'ใช่เรื่องที่ได้มาง่ายๆ หรอกนะ เพราะว่าต้องได้มาจากการประพฤติปฏิบัติธรรมกันอย่างชนิด เอาสิวิดเแนเติมพันทีเดียว ตั้งแต่เราจำความได้ เรามักจะคุ้นเคยกับคำให้พรทำนองนี้มานาน แล้ว เราก็เลยไม่คํอยได้นำมาคิดให้ลึกว่า คำ ให้พรนั้น ถ้าจะให้ศักดื้ สิทธิ้เป็นจริง ตามที่ตั้งใจไว้ จะต้องมีการประกอบเหตุดีๆ อย่าง มากมายมหาศาล กล่าวคือ ประการแรก ผู้ที่จะสามารถอธิษฐานขอพรให้คุ้มครองผู้อึ่นได้ ตัวของผู้นั้นจะต้องตั้งใจประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างจริงจัง ชนิดเอาหัว วางเขียง เอาชีวิตเป็นเดิมพัไฌาก่อน จนกระทั่งใจ รวมทั้งก้อนกายของ เขาทั้งก้อน ที่ประกอบด้วยธาตุดิน นํ้า ลม ไฟ สมTJรณ์ด้วยอาการครบ ทั้ง ๓๒ นั้นได้ถูกกลั่นให้บริสุทธื้เป็นก้อนบุญล้วนๆ แล้ว ประการที\"สอง ผู้รับความปรารถนาดี หริอผู้รับพร คือตัวของ หลวงฟอเอง ต้องทุ่มเทประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างชนิดเอาชีวิตเป็น เดิมพันมาก่อนอีกเช่นกันไม่ใช่นั่งนอนรอรันพรเฉยๆ ประการที่สาม บุญของผู้ที่มีความปรารถนาดี มีความบริสุทธิ้ กาย วาจา ใจ ต่อผู้รับพร คือหลวงฟอ รวมกับบุญของหลวงพ่อที่มี ความบริสุทธ กาย วาจา ใจ ต่อผู้ที่มาให้พร คือพวกเรา จะต้องเป็น บุญที่เกิดจากการประพฤติปฏิบัติที่แน่วแนํต่อพระรัตนตรัย ยึดเอา พระรัตนตรัยเป็นที่พึ่งที่ระลึกตลอดเวลา คือนึกถึงพระรัตนตรัยป็บ ทุกอย่างสำIริจได้พ้วยใจใสๆ <r นดํ...นักสร้างบารมี ๑ www.kalyanamitra.org

พระธรรมกายปรากฏให้เห็นปับในศูนย์กลางกายทันที ทั้งชัดใสสว่าง มั่นคง รวมบุญใหญ่ๆ ทั้ง ๓ ประการนี้เข้าด้วยกันได้แล้ว จึงจะสามารถ ส่งผลดลบันดาลให้คำอธิษฐานนั้นสำเร็จได้สมใจนึก ถ้าไม'เช่นนั้นแล้ว ยากที่จะเป็นได้อย่างที่เราปรารถนานะลูก ทุกอย่างล'วนสำเรจด้วยใจใส ๆ ถ้าอยากทราบว่า ทำ ไมเราจึงได้หรือไม่ได้รับความสมหวัง ตามที่ เราอธิษฐานจิต ตามที่เราตั้งใจไว้ หรือตามที่เราปรารถนา ก็ต้องมา พิจารณาคำกล่าวที่ว่า \"ทุกอย่างล้วนสำเร็จด้วยใจ\"® คำ พูดประโยคนี้ ไม'ใช่คำพูดลอยๆ แต่ว่าเป็นพระดำรัสของพระสัมมาล้มพุทธเจ้า เรารู้ แล้วนะว่าพระสัมมาล้มพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ หากตรัสว่าอย่างไรย่อม จะต้องเป็นอย่างนั้นเสมอไป เพราะพระล้มมาล้มพุทธเจ้าทุกๆ พระองค์ ย่อมตรัสเฉพาะล้มมาวาจา คือทรงมีแต่พระวาจาสุภาษิตเท่านั้น คำ พูด ลอยๆ หรือคำพูดเพ้อเจ้อเช่นพวกเรา ไม่มีวันหลุดออกจากพระโอษฐ์ ของพระองค์โดยเด็ดขาด ในเมื่อสิงทีพระองค์ตรัสเอาไว้ย่อมต้องจริง เพราะฉะนั้น ก็ หมายความว่า ทุกอย่างสำคัญที่ใจ มีใจเแนใหญ่ สำ เร็จได้ด้วยใจ แต่ ทำ ไมบางครั้งเราคิดหวังอะไรต่ออะไร ตั้งใจว่าจะให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้ มั{ดูๅณฑลี. ชุ.ธ. ๔๐/๑๑/๕๓ (มมร.) นฅํ...นักสร้างบารมี (อ <sr ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจใสๆ www.kalyanamitra.org

บางทีก็เป็น บางทีก็ไม่เป็น ตามที่คิดหวัง อะไรหนอที่เป็นอุปสรรค เป็น ตัวขวางความสำเร็จเอาไว้ ขอให้ดูตัวอย่างเต็นท์ยักษ์หลังนี้ให้ดี เมื่อแรกเราอยากจะได้เต็นท์ ยักษ์ลักหลังหนึ่ง เพี่ออยู่กันสบายๆ สามารถเคลื่อนย้ายไปไหนเมื่อไหร่ ก็ได้ ใช้กันแดด กันลม กันฝนก็ได้ อยากจะขยายใหญ่เท่าไหร่ ก็ต่อให้ ยาวออกไปได้!ม่มีที่สินสุด แบบก็ง่ายๆ ใช้ก็สะดวก มองรูปทรงจากข้าง นอกก็ยังสวยด้วย เราก็คิดของเราอย่างนั้น แต่เนื่องจากเราไม่ใช่ สถาปนิก สิงที่เราคิดจึงไม่เป็นภาพที่ช้ดเจน มันเป็นเพียงภาพเสือนๆ สางๆ ยังลอยเคว้งคว้างอยู่ แต่ถ้าเป็นสถาปนิกคิด เขาสามารถคิดออก มาได้เป็นรูปร่าง ๓ มิติทันทีเลย ทำ ไมเราคิดเป็นภาพ ๓ มิติอย่างเขาไม่ได้ เราคิดไม่ได้ ก็เพราะ เราไม่ค่อยได้หัดคิดในลักษณะที่เป็นโครงสร้าง ๓ มิติมาก่อน อยู่ดีๆ จะให้เรานึกเป็นภาพ ๓ มิติทันที เรานึกไม่ออก รู้แต่ว่า อยากได้เต็นท์ ที่พักขนาดใหญ่ อยู่ได้สบายๆ ใหญ่ขนาดไหนจึงจะพอเหมาะ ก็ยังไม่รู้ ขอแต่ให้มันใหญ่ๆ ก็แล้วกัน จุคนได้แค'นั้นแค'นี้ และถ้าวันไหน ต้องการให้มันเล็ก ก็ขอให้ย่อขนาดลงมาได้ด้วยก็จะยิ่งดี ถ้าเราพูดให้สถาปนิกเขาเข้าใจความต้องการของเราแล้ว เขาก็ สามารถนึกภาพเป็นโครงสร้างคร่าวๆ ได้ทันที มิความสูง ความกว้าง ความยาวอยู่ในตัวเสร็จ จากนั้นรายละเอียดต่างๆ ก็จะค่อยๆ พรั่งพรู ปรากฎช้ดเจนในใจของเขาขึ้นเรื่อยๆ ตั้งแต่มันควรจะกว้างเท่านี้ ยาว เท่านั้น สูงเท่าโน้นจึงจะพอดี บางคนประมาณการได้ไม่คลาดเคลื่อน ทุกอย่างสำเ!จได้พ้วยใจใสๆ 10 นทํ...นกสร้างนารมี ๑ www.kalyanamitra.org

แม้สักเชนต์หนึ่ง เขาทำได้เพราะว่าเขาได้ฝึกนึกสิงเหล่านี้ในเชิงๆ{างอยู่ เป็นประจำ จากนั้นเขาก็จะนึกภาพรายละเอียดต่อไปได้อีกว่า จะต้องมีฃี่อ มีแป มีส่วนประกอบชิ้นต่างๆ ขนาดเท่าไร จำ นวนกี่ตัว แล้วในที่สุดเรา ก็จะพบว่าในบรรดาสถาปนิกทั้งหลายที่ต้องคิดอย่างนี้ แต่ละคนยังคิด ช้าคิดเร็วต่างกัน รายละเอียดก็เก็บได้ใม'เท่ากันอีก บางคนคิดได้ ละเอียดยิบ บางคนคิดได้หยาบๆ แต่จากการคิดซํ้าแล้วซํ้าอีก จนกระทั่ง ลงตัว- ความคิดก็กลายเป็นภาพบนกระดาษ คือเวลาคิดครั้งแรก เขาคิด เป็นภาพกลางอากาศ แล้วจากนั้นจึงเป็นภาพลงในกระดาษ เมื่อเป็นภาพที่ปร้ปลงตัวในกระดาษ หรือที่เรียกว่าพิมพ์เขียวแล้ว ก็ลงมีอไปหาวัสดุมาก่อสร้าง ไปหาช่างมาสงมีอทำได้ จนในที่สุดก็ได้ อาคาร หรือเต็นท์ขนาดยักษ์ออกมา ขบวนการมันต่อเนึ่องกันอย่างนี้ คือจากภาพกลางอากาศ กลายมาเป็นภาพในกระดาษพิมพ์เขียว แล้ว ในที่สุดเราก็หาเงินหาทอง หาช่าง หาอุปกรณ์มาสร้าง เป็นอาคารตามที่ เราต้องการได้ มื่อคิดครั้งแรก สถาปนิกแต่ละคนคิดได้ช้าเร็วไม'เท่ากัน ตอน เขียนแบบลงพิมพ์เขียว แต่ละคนก็เขียนได้ช้าเร็วไม่เท่ากัน ครั้นลงมือ หาทุน ลงมือหาช่าง ลงมือทำ ลงมือหาวัสดุอะไรก็ตามที ก็ช้าเร็วไม่เท่า กัน ความประณีตขณะก่อสร้างก็ไม่เท่ากัน หลายสิงหลายอย่างล้วน แตกต่างกัน เพราะชิ้นอยู่กับบุคคล แต่สิงที่เหมือนกันก็คือ มันเป็นขั้น ตอนอย่างที่หลวงพ่อบอก คือ นฅ่...นกสร้างบารมี 0 ct ทุกอย่■พส่าพ็จได้๓ยใจใสๆ www.kalyanamitra.org

๑. เริมจากคิดกลางอากาศ ๒. นำ มาขีดเขียนเป็นรูป ๓. เป็นตัวอาคารอย่างที่เราปรารถนา ทีนี้ถ้าจะถามว่า ทำ ไมสถาปนิกแต่ละคน คิดช้าคิดเร็วไม่เท่ากัน แม้ที่สุดขั้นตอนการคิดจนกระทั่งสำเร็จมาเป็นของจริง ก็ช้าเร็วไม่เท่ากัน ปัญหานี้ถ้าใครยังไม่พบคำสอนในพระพุทธคาสนา จะให้คำตอบที่ถูก ต้องแท้จริงไม่ได้ คำ ตอบก็คือ เพราะความใสของใจแต่ละคนไม่เท่ากัน ใจใครใสมาก ภาพทีคิดกลางอากาศกขัดมาก ใจใครใสน้อย ภาพก็ซัดน้อย ใครมีความซัานาญในการคิดด้วยก็คิดได้เร็ว ใครไม่ ชำ นาญก็คิดได้ซัา โดยทั่วไป ภาพในใจจะชัดมากชัดน้อย ต่างกันก็ตรงที่ใจใสหรือ ใจขุ่น ยิ่งภาพในใจชัดเจนมากเท่าไร ภาพในกระดาษก็จะยิ่งชัดตามมา ด้วย งานที่ท่าก็จะสำเร็จได้อย่างละเอียดลออ แต่ถ้าภาพในใจเลือนๆ ลางๆ ภาพในกระดาษก็ไม่สามารถให้รายละเอียดได้ งานไหนถ้ารืบมาก ก็จำ เป็นต้องท่า การก่อสร้างไปด้วย และแก้แบบกันไปด้วย ผลงานจึง ออกมาหยาบ ทุกอย่างสำ1ฬิได้ด้วยใจใสๆ a แด่...นักสร้างบารมี © www.kalyanamitra.org

ทำ อย่างไรใจจึงจะใสได้ หลายคนสงสัยว่า ทำ อย่างไรใจจึงจะใส ปัญหานี้พระพุทธศาสนา มีคำ ตอบอยู่แล้วชัดเจน ศาสนาอื่นๆ เท่าที่สืกษามาบ้าง ยังไม่พบคำ ตอบประ๓หนี้ คำ ตอบที่ท่านกล่าวไว้ในพระพุทธศาสนา คีอสืลของใคร บริสุทธี้ สมาธิของใครมั่นคง ใจของเขาก็จะใส® เพราะฉะนั้น ถ้าใครสืล ไม่บริสุทธื้ สมาธิไม่มั่นคง ลูกเอ๊ย...ใจมันไมใสหรอก ธรรมชาติของใจ มันเป็นอย่างนี้ ถ้าถามต่อว่าสืลที่บริสุทธิ้ สมาธิที่มั่นคง ทำ ให้ใจใสขึ้นมาได้ อย่างไร ก็ตอบว่าใจใสได้เพราะคนยิ่งมีสืลบริสุทธิมาก!,ท่าไร มีสมาธิ มั่นดงมากเท่าไร บุญก็เกิดขึ้นในใจของเขามากขึ้นเท่านั้น แล้วบุญ นั่นเองที'ท่วยชัาระใจให้สะอาดให้บริสุทธิ จนกระทั่งใจใสเพิ่มขึ้นเป็น ลำ ดับ ถ้าถามอีกว่า แล้วสืลกับสมาธิ ท่าให้บุญเกิดขึ้นได้อย่างไร ก็ สามารถตอบได้ว่า เมื่อสืลบริสุทธื้เต็มที่ ใจจะย้อนกลับเข้ามาอยู่ในตัว ไม่เที่ยวเพ่นพ่านออกไปภายนอก คนที่สืลกระพร่องกระแพร่ง พระที่ สืลไม่บริสุทธ สามเณรที่สืลขาดวิ่น ใจมันหลุดเตลิดเปิดเปิงออกจากตัว ไปเกาะติดพอใจวัตลุภายนอก แต่พระที่สืลดี สามเณรที่สืสดี ญาติโยมที่สืลดี ใจจะวนเวียนอยู่ ในตัวตลอดเวลา แล้วก็เข้าใกล้ศูนย์กลางกายเข้าไปเรื่อยๆ พอได้ฝึก \" สีลสูตร. องฺ.จตุๆก. ๓๕/®๒/๓๖ {มมร.) นต่...นักสร้างบารมี ๑ (X ทุกอย่างสำเร็จได้๓ยใจใสๆ www.kalyanamitra.org

สมาธิเพิ่มขึ้นอีก ใจก็จะปักแน่นติดอยูในสูนย์กลางกายสนิททีเดียว ถ้าผู้ใดมีแค่ดีล แต่ไม่ได้ฝึกสมาธิ ใจของผู้นั้นก็เพียงวนเวียนๆ อยู่แถวศูนย์กลางกาย ยังไม่ยอมหยุดนิ่ง แต่ถ้าใครดีลก็บริสุทธด้วย สมาธิก็ดีด้วย คราวนั้เม่ใช่วนเวียนอยู่รอบๆ เท่านั้น ใจปักติดดำดิ่งเข้า ศูนย์กลางกายไปเลย ไปหยุดนิ่งสนิทอยู่ที่นั่น ปกติใจคนเราที่ยังไม่หมดกิเลสจะวิ่งเพ่นพ่านไปมา แต่ศูนย์กลาง กายตั้งอยู่กับที่ ศูนย์กลางกายฤปมาเหมือนกับช้างกลักไม้ขีด ใจเหมือนกับ ถ้าหัวไม้ขีด^กขีดควับลงไปข้างกลักได้เร็วฤกส่วนเมื่อไร เมื่อนั้น ไฟก็จะติดพรึบชื้นทันที ถ้าเราเริ่มมีดีล ใจก็จะถูกตีกรอบให้วนเวียนอยู่แถวศูนย์กลาง กาย พอฝึกใจให้เป็นสมาธิเข้าอีก ใจก็เข้าไปอยู่ในศูนย์กลางกายได้ มัน เหมือนเอาหัวไม้ขีดบุญ ขีดควับลงไปที่ศูนย์ข้างกลักไม้ขีด บุญก็เกิด เป็นไพ่สว่างพรึบขึ้นมาทันที บุญที่เกิดขึ้นมาในใจ มีคุณสมบัติทั้งใสตั้ง สว่าง จะชำระใจให้ใสสะอาดบริสุทธี้เพิ่มขึ้นเป็นลำดับ เหตุกับผล รองร้บกันอย่างนิ เพราะฉะนั้น คนที่มืทั้งดีสทั้งสมาธิ ใจก็เลยใส เมื่อใจใสแล้ว เอา ไปใช้นึกอะไร ภาพมันก็ปรากฏขึ้นในใจซัดเจน เหมือนลืมตาเห็น ทำ ให้ ทุกอย่างสำทิจได้ด้วยใจใสๆ ๑0 แด่...นักสร้างบารฝ็ (อ www.kalyanamitra.org

สามารถเปลี่ยนภาพที่นึกสร้างขึ้นในใจ ให้กลายมาเป็นภาพเขียนได้ทันที จากภาพเขียนก็กลายมาเป็นของจริง เสร็จสรรพให้ใช้สอยได้ กลไกการ ทำ งานของใจแบบนี้คนธรรมดาๆ ก็ทำ ได้ สำ หรับใจของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ใจของพระอรหันต์นั้นเป็นใจ ที่ใสถึงที่สุด เพราะจรดลงนิ่งแน่นในสูนย์กลางกายเป็นปกติ พลังจิตที่ สะสมไว้จึงมากมาย เพียงแค่พระองค์นึกอธิษฐานจิตป็บ ก็สำ เร็จเป็น ของนั้นๆ ออกมาปับ ทั้งเร็วทั้งได้ดังใจคิด อย่างที่เราเรียกกันว่า \"เสกขึ้นมา\" ใจใสบังคับธาตุ ๔ ได้ ความจริงแล้ว การที่นักปฏิบัติธรรมสามารถเสกหรือว่าแสดง ปาฏิหาริย์ต่างๆ ได้อย่างที่ว่านั้น แท้ที่จริงเป็นผลของปฏิกิริยาลูกโต่ทาง จิต ซึ่งเริ่มต้นจากใจที่ใสมากๆ ใสเกินมนุษย์ธรรมดาทั้งหลาย เพราะ ฉะนั้น เพียงท่านอธิษฐานจิตเท่านั้น ก็กลายเป็นของสำเร็จรูปปรากฏขึ้น มาเลย แต่ถ้าคนอย่างพวกเราคิด อย่างมากก็เป็นเพียงภาพทางใจ แล้ว ค่อยกลายเป็นภาพในกระดาษ คีอค่อยๆ เขียนขึ้นมา แล้วในที่สุดก็ กลายเป็นวัสดุลี่งของที่จะเอามาใช้ก่อสร้างกัน กว่าจะถึงขั้นนี้ต้องใช้ เวลานานทีเดียว แต่ของพระองค์ไม่ต้องรอให้เป็นขั้นตอนยึดยาวอย่าง นัน เนิ่องจากใจของท่านใสเกินใส พออธิษฐานจิตเท่านั้น ก็ปรากฏเป็น ของสำเร็จเกิดพรึบขึ้นมาได้เลย นฅ่...นกสร้างบารมี (ร่เ) oo ทุกอย่ฬสำผ็จได้ด้วยใจใสๆ www.kalyanamitra.org

เราได้เรียนกันมาแล้วในเรื่องของธาตุ ๔ ว่า สิงของทั้งหลายใน โลกนี้ประกอบขึ้นด้วยธาตุดิน ธาตุนํ้า ธาตุลม ธาตุไฟ เมื่อธาตุ ๔ ประกอบกันได้ถูกส่วน พอเหมาะที่จะเป็นวัตถุอะไร ก็เกิดเป็นวัตถุ อันนั้นขึ้นมา เช่น พอเหมาะที่จะเป็นกระดาษทิชชู มันก็เป็นกระดาษ ทิชชูขึ้นมา ธาตุ ๔ ที่ประกอบพอเหมาะจะเป็นรูปเทียนแพ พอได้ส่วน ปับ มันก็เป็นรูปเทียนแพขึ้นมา ถ้าพอเหมาะที่จะเป็นดอกไม้ มันก็เป็น ดอกไม้ ทั้งที่จริงๆ แล้วมันก็คีอ ธาตุดิน ธาตุนํ้า ธาตุลม ธาตุไฟนั่นเอง คราวนี้ใจของพระสัมมาล้มพุทธเจ้า หรีอใจของพระอรหันต์ ท่าน ใสถึงที่สุด พอนึกจะให้ธาตุ ๔ รวมด้จเแนอะไร มันก็ได้สัดส่วนสำเร็จ ออกมาเป็นอย่างนั้นทันทีเลย นํ้าในแก้วนี้ ถามว่าเป็นธาตุอะไร ? เป็นธาตุ นํ้าเดี่ยวๆ หรือว่า เป็นธาตุ ๔ ปนกัน ก็ต้องตอบว่า เป็นธาตุ ๙ ปนกัน แต่ว่ามีธาตุนํ้ามาก กว่าอย่างอื่น ในนํ้าแก้วนี้มีธาตุดินปนอยู่ไหม ? มี ถ้าใครไม่เชื่อลองเอาไปต้มดู เมื่อนํ้าแห้งงวด ก็จะมีคราบ มีตะกอนให้เห็น ตะกอนนั่นแหละคือธาตุ ดิน ในนํ้านี้มีธาตุลมปนไหม ? มี ถ้าไมม ปลามันจะเอาอะไรไป หายใจ มีธาตุไฟปนอยู่ในนํ้าไหม ? มี ถ้าไม่มี นํ้านี้คงเย็นเจี๊ยบจับเข้า กระดูกแน ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจใสๆ ๑® นดํ...นกสร้างบารมี ๑ www.kalyanamitra.org

เพราะฉะนั้น นํ้าในแก้วนี้มีทั้งธาตุนํ้า ธาตุดิน ธาตุลม และธาตุ ไฟปนก้นอยู่ครบหมด เพียงแต่ว่าธาตุนั้ามีมากกว่าอย่างอื่น เราจึงเห็น เหมือนว่ามีแต่ธาตุนํ้าเพียงอย่างเดียวลำพังๆ ในอากาศที่พวกเราเห็นโล่งๆ อย่างนี้ ถ้าถามว่ามืธาตุดินปนอยู่ ไหม ? มื อย่างน้อยส่วนหยาบที่เราพอจะเห็นได้ ก็คีอพวกฝุนละออง ต่างๆ มืธาตุนั้าปนอยู่ไหม ? มื ก็พวกความชี้นที่อยู่ไนอากาศ มืธาตุลม ปนอยู่ไหม ? มื ก็ที่มันทำไห้ยอดไม!หวไปไหวมานั่นไง มืธาตุไฟปนอยู่ ไหม ? มื ถ้าไม่มื พวกเราก็คงนั่งหนาวตายไปแล้ว ธาตุไฟมันอยู่ไนรูป ของความอบอุ่นกระจายๆ อยู่ทั่วไป รอบตัวเรานี้มืธาตุ ๔ อยู่เต็มไปหมด แต่เรามองไม่ออกว่า มันมื ครบทั้ง ๔ ธาตุ ต่อเมื่อได้สืกไห็ไจไสดีแล้ว ก็จะเห็นเลยว่ากลางอากาศ ก็มืธาตุทั้ง ๔ ปนก้นอยู่ครบ แม้สบง จึวร ที่หลวงพ่อนุ่งห่มอยู่นี้ ก็เกิด จากธาตุดิน นํ้า ลม ไฟ มาประกอบก้นครบถ้วน ได้สัดส่วนพอดีทั้ง ๔ ธาตุ จนเหมาะจะเป็นสบงจีวรนั่นเอง ทีนี้ที่พูดกันว่า พระอรหันต์ท่านมีฤทธี้สำเร็จด้วยไจนั้นจริง แค่ไหน ตอบว่า ท่านสำเร็จจริงๆ เพราะว่าไจของท่านบริสุทธี้ถึงที่สุด ธาตุ ๔ ที่มือยู่กลางอากาศหรือที่ไหนก็ตาม พอท่านน้อมเอาธาตุทั้งหมด นั้นเข้ามาจรดไนไจที่ศูนย์กลางกาย แล้วนึกอธิษฐานไห้เกิดสิงนั้นสิงนี้ มันก็จะเกิดพรึบขึ้นมาอย่างที่ท่านตั้งไจไว้ทันที ซึ่งเราเรียกอาการอย่างนี้ ว่ามืฤทธ โดยย่อก็คีอธาตุ ๔ จะถูกจัดส่วนขึ้นมาใหม่ด้วยฤทธิ้ทางไจ ไห้มืส่วนประกอบเป็นสิงของอย่างที่ท่านตั้งจิตอธิษฐานไว้ นด่...นักสร้างบารมี ๑ oc> ทุกอม่■พสำทํจได้ด้วยใจใสๆ www.kalyanamitra.org

ถ้าพูดในฟ้งจิทยาศาสตร์ การอธิษฐานจิต ก็เแนการไถ้อำนาจ จิต จัดอณูจัดมวลของธาตุ ๔ เสิยใหม่ ให้เรียบร้อยลูกส่วน หากจัด นถ้วพอเหมาะที่จะเแนสิงใด ก็จะสำเร็จพรึบเาฌารนสิงนั้นทันที ความสำเร็จช้าเร็ว ขึ้นกับความใสของใจ พวกเราใจยังใสไม่เต็มที่ เพียงแค่นึกให้เป็นภาพก็ยังนึกไดไม่ซัด เมื่อเรานึกภาพในใจยังไม่ซัด ภาพที่วาดออกมามันจึงยังลางๆ เลือนๆ จะให้ซัดเจนออกมาเป็น3Jม เป็นองศา เป็นเชนติฒตรก็ยังไม่ได้ ได้เพียง กะประมาณว่าเท่านี้เมตรเท่านั้นศอก ยิ่งให้บอกละเอียดเป็นมิลลิเมตร ยิ่งไม่ต้องพูด ไม่มีทางทำได้ ครั้นถึงเวลาลงมือก่อลร้างตามภาพที่นึกไว้ พอทำให้เป็นของจริงขึ้นมา ของนั้นก็เลยผิดรูปผิดร่าง ผิดสัดส่วน ไม่ได้อย่างที่ใจต้องการ ส่วนใจทีใลเต็มที' นึกถึงอะไรก็นึกออกได้ซัดเจนรวดเร็ว ถ่ายทอดเป็นภาพก็รวดเร็ว ถึงเวลา ลงมือทำก็สำเร็จเร็ว แต่ใจที่ชุ่นมัว คิดเป็นภาพในใจหรือภาพกลางอากาศก็ช้า จะถ่ายทอดออกมา เป็นภาพในกระดาษ ก็ยิ่งช้าลงไปตามส่วนอีก บางคนคิดหวังไว้ตั้งแต่ หนุ่มจนกระทั่งแก่ ก็ยังไม่ลมหวัง ตั้งใจจะมีบ้านใหญ่ๆ กับเขาสักหลัง นึกตั้งแต่หนุ่ม ไปได้บ้านจริงๆ เอาตอนอายุ ๗๐ ปี หนวดหงอกเลย แล้วยังได้บ้านหลังไมใหญ่เท่ากับที่ตั้งใจไว้ด้วยชํ้า ทุกอย่างส์าพํจนด้วยใจใสๆ mar นด่...น'ทสฑ้งบารมี ๑ www.kalyanamitra.org

บางคนนึกเอาไว้เมื่อตอนหนุ่มเหมือนกัน แต่ไปได้บ้านเอาเมื่อ ตอนอายุกลางคน บางคนนึกวันนั้นแหละ อีก ๗ วันถัดมาได้บ้านแล้ว ถ้าพูดภาษาพระก็พูดรวบยอดว่า \"ครามสำเร็จของคนเราจะล้าหรือเร็ว ขึ้นอยู่กับกำลังบุญ ใครบุญมาก และเแนบุญบรืสุทรด้จย ก็สำ เร็จเร็ว\"\" ถ้าพูดสำนวนทางโลกก็บอกว่าเงินถึง มือถึง ก็ได้บ้านเร็ว แล้วเงินมา จากไหน ความสามารถมาจากไหน ก็มาจากบุญทั้งนั้น ใครบุญมาก ใจจะใสมาก ใจยิ่งใสมากเท่าไร ฤทธก็มากตามไปด้วย ความสำเร็จสมหวังทั้งหลายก็มืที่มาอย่างนี้ คีอทุกอย่างสำเร็จ ด้วยใจ และต้องเป็นใจที่ใสอีกด้วย ความใสความขุ่นของใจ จึงมีผลต่อ ความสำเร็จหรือไม่สำเร็จ หรือสำเร็จช้า สำ เร็จเร็วของโครงการทำความ ดี และที่เรามาบวชกันนี้ แท้จริงแล้วโดยสรุป เรามาบวชเพื่อกลั่นใจให้ ใสถึงที่สุด จะได้เล้าพระนิพพาน ตามพระลัมมาลัมพุทธเจ้า และเหล่า พระอรหนตนนเอง มีครั้งหนึ่งที่พระอานนท์กราบทูลถามพระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า \"การสอนในพระพุทธศาสนานี้เป็นอย่างไร\" พระพุทธองค์ตรัสตอบชัดเจนว่า \"พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทุก พระองค์ ทรงสอนเหมือนกันหมด คือทรงสอนให้ละชั่ว ให้ทำดี แล้วไป จบสุดท้ายทีการกลั่นใจให้ใส\"'\" ซึ่งความจริงถ้าจะพูดกันสันๆ พระสัมมาส้มพุทธเจ้าทุกพระองค์ทรงสอนเหมือนกันหมด คือทรงสอน สิริชาดก, ชุ.ซา.อ. ๕๘/Ct๕๑-<£๕๓/๒๘๑-๒«๓ (มมร.) \" เรื่องปัญหาของพระอานนเถระ, ชุ.ธ.อ.(£๒/๒(£/๓๓®-๓๓๓ (มมร.) แด่...นักaร้างบาร}! ๑ off ทุกอย่ไงสำท็จได้ด้วยใจใสๆ www.kalyanamitra.org

ว่าต้องกลั่นใจให้ใส แต่ถ้าพูดรวบรัดอย่างนี้ ยากที่คนส่วนมากจะตามทัน ท่านก็ต้องตรัสจากง่ายไปหายาก คีอเริ่มจากละชั่ว ทำ ดี แล้วกลั่แใจให้ใส ใจใสเมื่อไหร่ คิดจะทำอะไรขึ้นมา!รนต้องสำเร็จไต้ดังใจคิดหมดทุกเรื่อง ใจใส ภาพสำเร็จชัดเจน ย้อนไปดูประวัติการสร้างวัดพระธรรมกาย เราเริ่มท่างานเป็น ปฐมฤกษ์ในวันมาฆบูชา ปีพุทธดักราช ๒๕๑๓ เริ่มต้นก็มีกันไม่กี่คน ด้วยเงินทุนเพียง ๓,๒๐๐ บาท ในคณะมีพระภิกษุเพียงรูปเดียว คือ หลวงพ่อธัมมชโย (ปัจจุบันใน พ.ศ. ๒๕๕๕ ดำ รงสมณดักดี้ ท'ี พระเทพญาณมหามุนี) แล้วก็มีคุณยายอาจารย์ของพวกเรา (มหารัตน- อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูง ผู้ให้กำเนิดวัดพระธรรมกาย) คณะท่างาน เฉพาะที่เป็นกำลังสำดัญมีประมาณ ๓๐ คน พอเริ่มลงมือเป็นปฐมฤกษ์ แล้ว งานของเราก็ก้าวพรวดๆ เข้าปีที่ ๓ ปีที่ ๔ เท่านั้น ผลสำเร็จก็ เห็นหน้าเห็นหลังกันแล้ว ถ้าพูดอย่างนี้บางทีจะนึกไม่ออก ก็ขอให้ คิดตามให้ดีนะ หลวงพ่อธัมมชโยท่านเองก็เพิ่งบวช เพิ่งจบการคืกษาใหม่ๆ เป็น รุ่แน้องหลวงพ่อด้วยชํ้า หลวงพ่อเป็นนิสิต มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ รุ่นที่ ๒๐ ท่านเป็นรุ่นที่ ๒๓ งานการอาชีพทางโลก ท่านก็ยังไม่เคยทำ แต่อาดัยว่าท่านแกสมาธิมามาก เข้าใจว่าใจของหลวงพ่อธัมมชโยท่าน คงใสมาก ใจอย่างนี้พอนึกอะไร ก็จะเป็นภาพสำเร็จชัดเกิดขึ้นมาที่ ศูนย์กลางกาย ท่านจึงสามารถลังงานให้รองรับกันได้เป็นฉากๆ ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจใสๆ ดาอ แด่...นักสร้า']บารมี © www.kalyanamitra.org

ใจของท่านโสกร่าทีมงานทุกคนเแนปกติ เพรารติลท่านติ สมาธิ ท่านติ ภาพที่ท่านคิดมันก็เลยชัดกว่าใครๆ เมื่อภาพที่คิดชัด รูปที่ท่าน เขียนฃื้นก็ชัด เมื่อรูปที่ท่านเขียนสังงานก็ชัด คนที่รับคำสังท่างานแต่ละ ส่วน แต่ละขั้นตอนก็จะเข้าใจชัด เมื่อทุกคนเข้าใจชัดตรงกัน การท่างาน ก็ง่าย ผลที่สุดแทนที่งานจะค่อยๆ เดิน ก็กลายเป็นแส่นลิ่วไปเลย บริหารงานด้วยใจใส หลวงพ่อเองไมใช่คนเก่ง ใจก็ใสบ้างชุ่นบ้าง ขึ้นบ้างลงบ้าง แต่ เพราะอยู่กับผู้ที่ใจใสเป็นปกติ คือหลวงพ่อธัมมชโย และโดยเฉพาะ อย่างยิ่ง มีคุณยายอาจารย์ ซึ่งสามารถคิดเป็นภาพได้ชัดเจน อธิบาย งานให้เห็นเป็นภาพได้รวดเร็ว แม้เราไม่เก่ง ก็ท่าตามภาพที่ท่านกำหนด ไปเรื่อยๆ เดี๋ยวก็รู้เรื่อง ความชำนาญต่างๆ ก็เกิดตามมาเอง ความจริงทีแรก พวกเราบางคนก็ยังไม่ค่อยเชื่อท่านนัก แต่พอ ลงมีอท่า ผลสำเร็จมันเกิดขึ้นเร็วเกินคาด เลยท่าให้เกิดความเชื่อมั่น พอเกิดความเชื่อมั่น คราวนี้พอท่านสังมา ทุกคนก็ท่าตามด้วยความ ทุ่มเทชนิดเอาหัววางเขียงกันเลย เพราะฉะนั้น ประสิทธิภาพในการ ท่างานจึงสูงเกินปกติ สูงจนกระทั่งใครมาเห็นเข้าก็ตกใจ เมื่อเรื่มแรกจะสร้างวัด ก็คิดกันว่าจะท่าอย่างไรวัดจึงจะเสร็จเร็ว ขณะนั้นหลวงพ่อเองยังไม'ได้บวช ก็เสนอตัวอาสาว่า ถ้าอนุญาตให้ หลวงพ่อไปท่างานกับหน่วยงานยูซ่อมของอฌริกา จะมีรายได้สูง เอามา สมทบทุนสร้างวัดได้อีกทางหนึ่ง แต่มีข้อแม้ว่าต้องออกไปท่างานแถว แด่...นักร'ร้างบารมี ๑ <nev ทุกอบ่างสำเร็จได้ด้วยใจใสๆ www.kalyanamitra.org

ชายแดน บางทีต้องข้ามไปฝังลาว ต้องห่างจากจากศูนย์กลางไหEyของ ทีมงาน ซึ่งตอนนั้นอยู่ที่บ้านธรรมประสิทธื้ วัดปากนํ้า ภาษีเจริญ หลวงพ่อธัมมชโยท่านทักท้วงว่า ถึงจะได้เงินมากก็ไม่คุ้ม เพราะ ถ้าปล่อยให้ออกไปไกลๆ อาจจะลืมปณิธานที่จะสร้างบุญบารมี ถากถาง ทางไปพระนิพพาน เดี๋ยวจะไปเสียท่ายักขินี ต้องไกวเปลเลี้ยงลูกเสีย เปล่าๆ ท่านไมให้!ป เสร็จแล้วท่านก็สังงานเปรี้ยงเลย \"พี่เด็จ เอาอย่าง นี้ก็แล้วกัน เพี่อเป็นการหาประสบการณ์ด้วย แล้วก็เพี่อเป็นการตามหา คนที่บารมีแก่ๆ มาช่วยงานด้วย พี่เด็จไปเป็นเซลส์เฌน\" ท่านล้งเลย หลวงพ่อก็รับคำ เมื่อล้งไห้ไปก็ไป ทั้งที่จริงๆ แล้วหลวงพ่อไม่ ถนัดทางด้านการค้าขาย เซลส์เฒนนี่เราไม่เคยเป็นเลย แต่ว่าเราก็เซึ่อ ท่าน แล้วก็ตั้งใจทำตามคำสังอย่างดีที่สุด ระหว่างเวลานั้นหลวงพ่อไปขายสินค้าถึงไหน พูดขายสินค้าไม่กี่ คำ หรอก นอกนั้นก็พูดเรื่องบุญเรื่องกุศล แต่ว่าเลือกพูดเอาเฉพาะเรื่อง ที่พอเหมาะกับตัวบุคคล หลายคนสังชี้อสินค้าที่หลวงพ่อเอามาเสนอ ทันที ภายหลังจึงทราบว่าที่เขาชื้อ ไม่ใช่เพราะหลวงพ่อโฆษณาสินค้าจน เขาเซึ่อ แต่เป็นเพราะเขาเห็นว่า เซลส์เฌนคนนี้ดีเหลือเกิน เอาประทีป ธรรมมาจุดสว่างทางใจให้แก่เขา เขาก็เลยชื้อของเป็นการตอบแทน เพี่อนที่ทำงานด้วยกัน เขาไม'เข้าใจ ก็นึกสงสัยว่าหลวงพ่อขาย ของได้อย่างไร ไม่เห็นจะรู้เรื่องการค้าเท่าไรเลย เห็นพูดแต่เรื่องบุญเรื่อง ทาน แต่ว่าคนก็ชื้อสินค้าของหลวงพ่อมากมาย ทุกอย่างสำIร็จได้ด้วยใจใสๆ 6)G แด่...นัทสร้างบารมี www.kalyanamitra.org

ยิ่งกว่านั้นตลอดเวลาที่เป็นเซลส์แมน สืลห้าหลวงพ่อก็รักษาได้ดี ตลอด ไม่ว่าจะไปด้างคีนที่ไหน หลวงพ่อนั่งฝึกสมาธิไม่ขาด มีโอกาส ผ่านวัดวาอารามที่มีชี่อเสียง มีคุณงามความดีทางด้านไหน ก็แวะไปดู ไปสำรวจมาหมด เพียงปีเศษๆ เมืองไทยตอนนั้นมี ๗๑ จังหวัด หลวงพ่อไดีไปถึง ๗๐ จังหวัด เหลือจังหวัดเดียวที่ไม่ได้ไป คือจังหวัด เฟฮ่องสอน บทแกความสามารถในการจับประเด็น หลวงพ่อไปเป็นเซลส์แมนคราวนี้ เพี่อหาเงินสรไงวัด เพราะฉะนั้น พอไปค้าขายได้สักระยะหนึ่ง แทนที่จะมีชี่อเสียงทางการค้า กลายเป็น ว่าหลวงพ่อเก็บข้อมูลมาได้เพียบเลย เอาข้อมูลทั่วประเทศกสับมาเล่าให้ คุณยายอาจารย์ ให้หลวงพ่อธัมมชโยฟัง ความสามารถที\"ไม'เคยมี ประการหนึ่ง ก็เลยเกิดขึ้นมาคือ ความสามารลในการรายงาน ทุกครั้ง ที่ออกต่างจังหวัด กลับมาแล้วหลวงพ่อจะต้องรายงานสิงที่ไปพบเห็นมา ให้ท่านทั้งสองนึกออกเป็นภาพได้ คุณยายท่านอ่านหนังสือไม่ออก หลวงพ่อธัมมชโยเองท่านก็ ไม่เคยเดินทางไปทั่วเมืองไทย เพราะฉะนั้น ข้อมูลที่หลวงพ่อรายงาน จึงต้องให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะละเอียดได้ เหตุนี้เองทำให้หลวงพ่อได้ นิสัยอีกอย่างหนึ่งขึ้นมาด้วย คือนิสัยนักเขียน เพราะไปทำการค้าถึง ที่ไหน ต้องเขียนรายงานส่งเข้าบริษัท เป็นการรายงานทางด้านการค้า นทํ...นทลร้างบารม็ Q - ogK - ทุกอย่างสำพ็จไต้ด้วยใจใลๆ www.kalyanamitra.org

ส่วนที่หลวงพ่อไปเห็นในเรื่องของทางธรรม หลวงพ่อก็ต้องบันทึก เอาไว้ เพี่อกลับมารายงานหลวงพ่อธัมมชโย การที่หลวงพ่อต้องทำ รายงานอยู่เป็นประจำอย่างนี้ ทำ ให้หลวงพ่อจับประเด็นเรื่องราวต่างๆ ไต้เร็ว เพทะว่าสิงที่เราไปเห็นมาทั้งวันจะต้องสรุปให้ได้เรื่องใน ๑ หน้า กระดาษ ทางด้านการค้าส่งให้บริษัท ๑ หน้า ทางด้านธรรมส่งให้ หลวงพ่อธัมมชโยและคุณยาย ๑ หน้า ครั้นพอสินเดือน กลับมาจากการตระเวนต่างจังหวัด ก็ต้องมา สรุปให้ผู้จัดการที่บริษัทฟัง โดยใช้เวลาทยงานประมาณ ๕ - ๑๐ นาที แล้วก็มาสรุปเรื่องทางธรรมให้หลวงพ่อธัมมชโยฟัง เรื่องราวทั้งเดือน ต้องย่อให้เหลีอดรื่งชั่วโมง หลวงพ่อต้องทำอย่างนี้เป็นประจำ จึงทำให้ สามารถจับประเด็นเรื่องทวต่างๆ ได้เร็ว กุศโลบายtlกใจให้ใส การที่หลวงพ่อต้องทั้งค้าขายและเยี่ยมวัด เยี่ยมนักปฏิบัติธรรม เป็นประจำ ทำ ให้หลวงพ่อไม่มีเวลาว่างไปคิดทำเรื่องอื่น คิลก็เลยอยู่ ครบ แล้วสมาธิหลวงพ่อก็ได้นั่งทุกคืน ใจก็เลยใสขึ้นมาเป็นลำดับ หลวงพ่อมาสังเกตได้ภายหลัง เมื่อบวชแล้วว่า ที่ใจไม'วอกแวก จนใจใสขึ้พาได้นั้น เป็นเพทะเหตุ ๒ ประการ คือ ทุกอย่างสำพิจได้ร่ทยใจใสๆ ISO นส่...นักสร้างบารมี ๑ www.kalyanamitra.org

ประการที่ ๑ หลวงพ่อธัมมชโยท่านทุ่มงานให้หนักมาก งานของ บริษัทก็ต้องเขียนรายงานทุกวัน งานของหลวงพ่อธัมมชโยที่ท่านใช้ให้ ไปดูที่นั่นที่นี่ ก็ต้องเขียนรายงานส่งท่าน ประการที่ ๒ หลวงพ่อไม'ทิ้งการนั่งสมาธิ ไม่ว่างานจะหนักเพียง ใดก็ตาม เหตุดังกล่าวนี่เองที่ทำให้ไม'มีเวลาว่างเหลือใหไปคิดฟ้งซ่านอย่าง อื่น เมื่อไม่มีความคิดฟ้งซ่าน สืลก็อยู่ไต้ดี สมาธิก็มั่นคง ทำ ให้ใจใส ขึ้นๆ ด้วยอาการอย่างนี้ ใจใสทำให้เหนการถรไกล หลวงพ่อเป็นเซลส์แมนอยู่ได้ปีเศษๆ รวบรวมเงินทองมาได้ จำ นวนหนี่ง ก็ตั้งบริษัทกับพรรคพวก หวังว่าจะให้เงินทองงอกเงยขึ้นมา มากๆ จะได้เอาไปชื้อที่ดินสร้างวัด แต่พอตั้งบริษัทได้ระยะหนี่ง หมู่ คณะที่ปฏิบัติธรรมมาด้วยกัน ก็ได้ที่ดินที่จะสร้างวัด พอได้ที่ดินขึ้นมา หลวงพ่อธัมมชโยท่านก็สังให้หลวงพ่อลาออกจากบริษัท แล้วให้มา ลงมีอสร้างวัดกันเลย สิงแรกที่ท่านสังเปรยงลงมา คีอ \"ท้องทุ่งโล่งๆ นี่ขุดดูล้อมรอบที่ เลอะ\" ตอนนั้นหลวงพ่อก็แย้งว่ามันน่าจะสร้างกุฏิก่อน ท่านก็ไม'เอา บอกให้ขุดดูให้รอบที่ก่อน นด่...นกสร้า4บารมี ๑ ISO ทุกอน่ใงสำผํจได้ด้วยใจใสๆ www.kalyanamitra.org

ตอนนั้น เรามีเพียงที่ดินโล่งๆ ผีนหนึ่ง แล้วก็เงินสดอีก ๓,๒๐๐ บาท ท่านบอกให้ชุดคูล้อมให้รอบที่ เงินแค่ ๓,๒๐๐ บาท จ้างคนงาน ชุดคู ๒ - ๓ วัน ได้งานนิดเดียว เงินก็หมดแล้ว แต่เมื่อท่านล้งก็ต้อง ท่า นึกไม่ออกจริงๆ ว่าจะไปหาเงินจากไหน มาชุดคูไห้รอบพื้นที่ได้ ไน ฌื่อเราเองก็ออกจากงานแล้ว วันหนึ่ง อยู่กันลำพังๆ จึงเลียบเคียงถามท่านว่า ทำ ไมต้องชุดคู ก่อน ท่านก็ไห้เหตุผลว่า \"ล้าเราไม่ชุดคูก่อน ผลงานก็ไม่มี\" ซึ่งก็จริง ของท่าน งานชุดคูเห็นผลเร็วกว่าการสร้างกุฏิเป็นไหนๆ \"เมื่อผลงานมี เงินก็ตามมาเอง\" ชึ่งก็จริงอีก เมื่อเริ่มลงมือชุด เราก็ประกาศไห้ ญาติโยมที่มานั่งสมาธิภาวนากับเราทราบว่า เรามีเงินเริ่มต้น ๓,๒๐๐ บาท อีกไม่ถึงอาทิตย์เงินก็จะหมด เมื่อเป็นอย่างนี้ลูกคีษย์ลูกหาก็นึ่งอยู่ไม'ไต้ ต้องรีบไปบอกบุญ หาเงินมาจ่ายค่าชุดคู เมื่อสร้างงาน เงินก็จะมา นี้คีอเหตุผลประการ แรก เหตุผลประการที่ลอง \"การสร้างวัดกลางทุ่งโล่ง ล้าไม่มีขอบเขต ชัดเจน ไปบอกใครๆ เขาก็ไม่เซึ่อว่าเราจะสร้างวัดจริง\" เหตุผลข้อนี้ก็จริงอีก ก่อนหน้านี้หลวงพ่อเคยชวนพรรคพวก เพี่อนยู่ง ที่เคยไปเรียนต่างประเทศมาด้วยกัน แต่ละคนฐานะดีทั้งนั้น ชวนเขามาดูว่าจะลร้างวัดตรงนี้ ยีนอยู่ริมถนนแล้วชี้ไห้เขาดู เพี่อนรัก กันแท้ๆ นอกจากไม่ช่วยแล้ว ยังไปด่าลับหลังอีกว่า หลวงพ่อเที่ยวไปชี้ ทุกอย่างสำพิจได้ฟ้วยใจใสๆ าร๏ นทํ...นกสร้างบารมิ ๑ www.kalyanamitra.org

ที่ดินของใครส่งเดช อ้างว่าจะสร้างวัด เขาไม่เชื่อ เพราะว่ามันเป็นท้อง ทุ่งโล่งๆ ไม่มีขอบเขต นี่คีอเหตุผลที่หลวงพ่อธัมมชโย ท่านให้ฃุดคูรอบพี้นที่เป็นแนว เขตไว้ก่อน ชุดแล้วก็ดูเป็นธรรมชาติที่ซุ่มชื่นดี นี่คีอความเป็นผู้มอง การณ!กลของท่าน พอเริ่มชุดคู ที่ดินของเราก็เริ่มมีขอบเขต คราวนี้พาใครมาดู เขาก็ เชื่อ แค่เห็นเราชุดคู แม้จะชุดไปยังไม่ได!กลเท่าไร เขาก็เริ่มเชื่อว่าเราจะ ต้องสร้างวัดจริง ประกอบกับหลวงพ่อธัมมชโย ท่านทำตนให้เป็นที่ตั้ง แห่งศรัทธา เพราะตั้งแต่ก่อนบวชคุณยายก็แต่งตั้งให้ท่านเป็นครูสอน ภาวนา นำ ญาติโยมนั่งสมาธิมาก่อน แม้แรกๆ เขายังไม่ค่อยเชื่อท่านนัก ว่าจะสร้างวัดอย่างจริงจัง เพราะท่านยังหนุ่มอยู่มาก แต่พอเริ่มลงมีอ ทำ งาน เขาก็เชื่อมั่นว่าเราเอาจริง พอชุดคูไป การเงินก็เริ่มดิขื้นมาเริ่อยๆ สิงที่ได้มาเป็นของแถม คีอได้นํ้าในคูมาใช้ ในเวลาเดียวกัน ทำ ให้ สามารถปลูกต้นไม้บนคันคูได้ หลวงพ่อเลยเอาต้นยูคาลิปตัสลงปลูก เพราะมันโตเร็ว พอเช้าปีที่ ๒ ปีที่ ๓ ต้นยูคาลิปตัสก็ให้ร่มเงาได้ ต่อมา อีก ๙-๕ ปี เริ่มลงมีอสร้างกำแพงรอบวัด ต้นยูคาลิปตัสก็โตพอให้ตัด มาทำเสาเข็มกำแพงได้อีก ดูนะ เพียงแค่ชุดคูนี้ารอบวัดอย่างเดียว ยังเหมีอนกับยิงนกด้วย กระสุนนัดเดียว ไม่ใช่ได้นกแค่ ๒ ตัว แต่มันได้มาตั้งหลายตัว พอชุด คุ งานมันเกิด พองานเกิด การเงินก็เริ่มดี ขอบเขตก็เริ่มชัดเจน นค่...นกสรางบารมี ๑ ®C) ทุกอย่างสำเพินด้วยใจใสๆ www.kalyanamitra.org

ญาติโยมที่มาเห็นหมู่คณะของเราทำจริง ก็ยิ่งเกิดความศรัทธาเพิ่มขึ้น นํ้าก็ไดใช้ ต้นไม้ก็ได้ปลูก คนก็ยิ่งมา เงินทองก็เริ่มไหลมาให็ได้ สร้างวัดกัน มันมาอย่างนี้ หลวงพ่อธัมมชโยทำนเห็นเป็นฉากๆ ล่วงหน้าแล้ว เพราะใจท่านใส หลวงพ่อเองตอนแรกก็ไม่สามารถตามความคิดของ ท่านได้ทัน บางเรื่องก็ขัดคอท่านเหมือนกัน สาธุ...อย่าให้บาปเสย เพราะไม่ใช่แกล้งขัดคอให้เสียงาน แต่มันโง่ คิดตามไม่ทันจริงๆ แกแม้คนงานให้ใจใสตาม สิงหนึ่งที\"เกิดขึ้นเหนือการคาดหมายของทุกคน คือทุกเช้า หลวงพ่อจะต้องนำสวดมนต์ ให้กับคนงานที่จ้างมาสร้างวัดสวดตาม เพราะหลวงพ่อธัมมชโยท่านให้น้ยไว้ว่า \"ถ้าคพานของเรามารยาทดีเท่านั้นแหละ เราจะสามารถเปีนที่ตั้ง แห่งศพัธาของมหาชนได้ และจะท่าให้การกระทบกระทั่งกันเองของคน งานหมดไป เราจะสามารถใช้คนงาน ซึ่งอ่านหนังดีอไม่ค่อยจะออก นี่แหละ ไปทำงานที่ประณีตได้ด้งใจ\" ท่านพูดแค่นี้ หลวงพ่อชักจะเริ่มเข้าใจ เห็นตามท่านว่องไวขึ้น แล้วหลวงพ่อก็ตั้งหน้าตั้งตานำคนงานสวดมนต์ นำ คนงานนั่งสมาธิ เคี่ยวเข็ญสืกมารยาท จนในที่สุดคนงานที่ไม่เคยมีคิลมาก่อน เขาก็เริ่มมี ทุกอย่างส่าท็จได้ส้วยใจใสๆ นส่...นทสร้างบารมี G) www.kalyanamitra.org

สืล ท'ีไม่เคยสวดมนต์นั่งสมาธิ เขาก็ได้มาสวดมนต์นั่งสมาธิทุกวัน แล้ว ทำ ไมรูไหม หน้าตาผิวพรรณของคนงานเริ่มผ่องใส มารยาทก็งามขื้นมา เอง ชาวบ้านถึงกับพูดล้นว่า ล้าอยากรู้ว่า ชาวบ้านย่านคลองหลวงคน ไหนเแนคนงานวัดพระธรรมกาย ก็ให้ลูหน้า ล้าใครหน้าใสๆ ก็ใฟทั้ง นั้นแหละ แม้ลูกคนงาน อายุ ๗ ขวบ ๘ ขวบ หลวงพ่อก็ผิกให้ ฝึกทั้ง มารยาท ฝึกให้รักษาสืล ให้นั่งสมาธิ เด็กพวกนี้พอไปกราบหลวงพ่อ หลวงพี่ตามวัดต่างๆ ทำ นถามเสยว่า เอ็งลูกสืษย์วัดไหน เด็กๆ ก็บอก ว่า \"วัดศูนย์\" คือตอนนั้นเราใช้ซื่อ \"ศูนย์ทุทธจักรปฏิบ้ติธรรม\" เพราะ ยังเป็นเพียงสำนักสงฆ์ พอเด็กบอก ท่านร้อง \"อํอ...มาจากวัดศูนย์ มิน่าล่ะถึงได้กราบงามอย่างนี้\" แค'ท่ากราบเท่านั้นบอกยี่ห้อได้เลย หลวงพ่อได้ฝึกคนของเรามาตั้งแต่ต้นในลักษณะอย่างนี้ ได้ผู้ฟ้าและทีมงานใจใส การสร้างวัดจึงสำเร็จเร็ว เนื่องจากที่ดินของเราเป็นท้องนา และเป็นที่ลุ่ม เมื่อเราวาง แปลนลร้างวัดเสร็จเรียบร้อยแล้ว จึงมีความจำเป็นจะต้องถมที่ แต่เรา ไม่มีปัญญาจะถมที่ดินทั้ง ๑(3f๖ ไร่ หลวงพ่อธัมมชโยท่านก็ปรารภว่า เรามีความจำเป็นจะต้องตามคนที่มีบุญมากๆ ของประเทศไทยให้เขามา Pa นค่...นทสร้างบารมี ๑ ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจใสๆ www.kalyanamitra.org

ท่านบอกให้ไปคัดรายชื่อผู้มีบุญมากๆ ของประเทศมาพิจารณา เมื่อพิจารณากันแล้ว เห็นว่ามีแต่นายกรัฐมนตรีเท่านั้น ที'บุญมาก สามารถจะสังการได้ ท่านก็ไห!ปเชิญท่านนายกฯ มาร่วมบุญชุดคูทันที ที่จริงท่านนายกรัฐมนตรีท่านนั้นเราก็ไม'รู้จัก แต่ว่าในที่สุดก็เชิญ ได้ ทำ อย่างไร เรื่องนี้ก็เป็นความหสังที่ไม่ค่อยได้เล่าให้ใครพิง หลวงพ่อธัมมชโย ท่านถามว่าในบรรดาคนที่มาปฏิบัติธรรมที่บ้าน ธรรมประสิทธนั้น มีใครเป็นภรรยานายทหารบ้าง แล้วท่านก็ให้ไปตาม มา มีคนหนึ่งสามีเขาเป็นนายพันเอกพิเคษ แล้วครูบาอาจารย์ที่สามีของ เขาเคารพนับถือนั้นเป็นใคร ก็ปรากฏว่านายทหารท่านนั้น เป็นลูกติษย์ พฝืเอกลนอม ป็ทมานนท์ ชื่งเป็นที่ปรึกษาของ ฯพณฯ จอมพลลนอม กิตติขจร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้น ความที่ พลเอกถนอม ปัทมานนท์ ท่านเป็นคนใจบุญ นายก รัฐมนตรีจึงไว้วางใจ เราก็ไปตามสายของคนใจบุญ ไปปรารภให้ พลเอกถนอม ปัทมานนท์ พิง บอกว่าเราอยากจะสร้างวัด ท่านก็ดีเหลีอ เกิน บอกว่า \"เกิดมาก็เพิ่งเห็นเด็กหนุ่มๆ อายุ ๓๐ คิดจะสร้างวัด เอา ล่ะผมจะช่วย\" ความที่ใจเราใส กิริยามารยาทฝ็กมาดี หน้าตาก็ผ่องใส เพราะคิล เราดี สมาธิเราดี เข้าไปหาผู!หญ่ ท่านก็เอ็นดูยอมรับ แล้วท่านก็ช่วยร่าง จดหมายให้ เป็นจดหมายเชิญท่านนายกรัฐมนตรีมาเป็นที่ปรึกษาของ มูลนิธิธรรมประสิทธื้ ตอนนั้นหลวงพ่อเป็นเลขานุการมูลนิธิฯ และยัง ทุกอย่างสำท็จได้(พ้ยใจใสๆ lst> นส่...นกสร้างบารมี © www.kalyanamitra.org

จดหมายนี้ เมื่อถึงท่านนายกรัฐมนตรี ท่านก็อยากได้บุญกับเรา จึงได้รับเป็นผู้อุปถัมภ์ ตอนนั้นเราอยากได้เรีอมาชุดดิน ท่านก็สังให้เชิญ อธิบดีกรมชลประทานมาร่วมสร้างบุญกับท่านด้วย แล้วให้หลวงพ่อถึอ จดหมายไปถึงอธิบดีกรมชลประทานในสมัยนั้น ก็ต้องเรียกว่า \"บุญบันดาล\" เพราะเมื่อจดหมายไปถึงอธิบดี กรมชลประทาน เรือชุดที่เขาส่งไปชุดตามที่ต่างๆ มีอยู่ลำหนึ่งส่งเข้ามา จากต่างจังหวัดเพื่อซ่อม ซ่อมเสร็จแล้วกำลังจะส่งกลับ ฒื่อเรื่องของเรา เข้าไปพอดี ท่านอธิบดีกรมชลฯ ก็เลยให้เรือชุดลำนั้นมาทำงานของเรา ให้เรียบร้อยเสียก่อน แล้วค่อยกลับ งานก็สำเร็จออกมาสะดวกเป็นช่อง อย่างนึ่ พอชุดเสร็จ หลวงพ่อธัมมชโย ท่านก็สั่งงานต่อ ความที่ท่านใจใส ท่านเห็นทางเป็นซ่องไปเลย ท่านสั่งว่าญาติโยมที่มาบ้านธรรมประสิทธี้ ฟ้นประจำ มีเท่าไหร่ให้พานั่งเรือชมวัดกัน แต่ว่าต้องไปตอน ๔*^งเย็น แล้ว อย่าเอาเขามาชมตอนเที่ยงตอนปาย ไม่อย่างนั้นนอกจากเขาจะไม่ ร่วมทำบุญแล้ว เดี๋ยวจะปนเอาด้วย เพราะต้องออกกลางแดด พอนั่ง เรือเที่ยวเดียวเท่านั้นแหละ ผู้ที่มาทั้งหมดได้ทุ่มเทช่วยสร้างวัดเป็นการ เลย หลังจากนั้นมา ไม่ว่าหลวงพ่อธัมมชโย ท่านจะนึกเรื่องอะไร สั่ง เรื่องอะไรมา ผลสำเร็จมันได้เกิดขึ้นมาทันตาเห็นตามลำดับๆ ทุกคนก็ เกิดความเชื่อมั่น โดยเฉพาะเชื่อมั่นในดีล เชื่อมั่นในสมาธิ และเชื่อมั่น ในวิชชาธรรมกาย นฅํ...นกลร้างบารมี Q ISC* ทุกอย่างสำทจได้ด้วยใจใสๆ www.kalyanamitra.org

เมื่อเชื่อมั่นก็ชวนกันนั่งสมาธิมากขึ้น พอนั่งสมาธิมากเข้า ใจก็ไม่ วอกแวกไปคิดเรื่องอื่น มันผูกติดคิดอยู่แต่เรื่องงาน กับเรื่องบุญสร้าง วัด ก็เลยมีลักษณะการทำงานชนิดที่เรียกว่า เอาหัววางเขียง หรือเอา ขีวิตเแนเดิมพันร่วมกันทั้งรัด อย่างอื่นนอกนั้น ไม่สามารถกลํ้ากราย เข้ามาในใจเสย เพราะใจไม่มีเวลาไปคิดเรื่องอื่น ใจเลยใสไปตลอด และเพราะใจ ใสๆ โครงงานที่ดีๆ ก็เกิด ขึ้นตามมาเป็นระลอกๆ เราก็ทุ่มเททำกัน เข้าไป จนกระทั่งเป็นผลสำเร็จงดงามอย่างที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ วัดใดๆ ในประเทศไทยที่สร้างมา ๑๙ - ๒๐ ปี แล้วสามารถนำ คนมาวัด มาปฏิบัติธรรมเป็นประจำ อาทิตย์ละเป็นพันๆ หมื่นๆ คน ได้ต่อเนื่องตลอดทั้งปี ยังไม่เคยมีในประวัติศาสตร์ชาติไทย แต่บัดนี้มี ขึ้นมาแล้ว เพราะอำนาจใจใสๆ ของหผู่คณะของเรา ใจใสทำให้มีฤทธี้ เมื่อไม่นานมานี้ มีจดหมายมาถึงหลวงพ่อฉบับหนื่งแจ้งว่า เขา กำ ลังรวบรวมวิธีการบริหารงานของผู้ที่ประสบความสำเร็จในประเทศ ไทย เพื่อแจกจ่ายให้ประชาชนได้ดูเป็นตัวอย่าง เขาเขียนว่า 'ทำนเป็นผู้ที่มีความสามารถในการบริหารงานคนหนื่ง ที่เราตรวจ สอบแล้ว เพราะฉะนั้น ขอให้ช่วยเขียนวิธีบริหารงานของท่านมาให้ด้วย จะได้รวบรวมทำเป็นหนังสีอ เป็นวิทยาทานแกํคนอื่นต่อไป'' ทุกอย่างสำทํรเได้ด้วยใจใสๆ 1SCS นด่...ฟ้กสร้างบารมี ๑ www.kalyanamitra.org

หลวงพ่อก็อยากจะเขียนให้เขาเหมือนกัน แต่ถ้าเขียนตามความ จริงว่า วิธีสำ คัญในการบริหารงาน คือต้องหมั่นทำใจให้ใสๆ ถ้าเขียน อย่างนี้ เขาคงคิดว่าเราโม้ หรือว่าหลวงพ่อเพี้ยนอะไรทำนองนั้น แต่เรา ทำ อย่างนั้นจริงๆ แม้เป็นความใสของใจในระดับที่ไม่ใช่พระอริยบุคคล เพราะว่าวัดนี้ก็ไม่ไดัมืใครบรรลุอริยธรรมเป็นพระอรห้นต์ ไม่มีใคร เป็นพระอนาคามี ไม่มีใครเป็นพระสกิทาคามี และยังไม่มีใครเป็น พระโสดาบัน แตกเป็นความใสของใจในระดับของผู้เข้าถึงธรรมกาย โคตรภู® คีออยู่กํ้ากึ่งระหว่างชาวโลกทั่วไปกับพระอริยเจ้า อาดัยความใสของใจในระดับเพียงเล็กน้อยเท่านี้ เราก็สามารถมี ฤทธแบบเย็นๆ ได้ ใครเข้าใกล้แล้ว เขาก็เย็นตาม จะคิดทำอะไรก็ สำ เร็จเป็นอัศจรรย์ ก็ถีอเป็นปาฏิหาริย์อย่างหนึ่ง อะไรเป็นเครื่องยืนยันว่าใครเข้าใกล้แล้วเย็น ? ก็เวลามีงานบุญ ใหญ่ เราต้อนรับพระอาคันตุกะแต่ละครั้ง เป็นพันเป็นหมื่นกันมาแล้ว ความที่เราใจใส แม้พระอาคันตุกะเหล่านั้นจะมากันมากๆ และไม่ได้รับ ความสะดวกเท่าที่ควร ท่านอยากจะปนว่าออกมาดังๆ แต่พอเห็นหน้า พวกเรา แม้ท่านจะร้อนแดดมาเท่าไหร่ ท่านก็เย็นหมด พระอาคันตุกะท่านมาเห็นสามเณรวัดเรา ท่านชมว่า ท่านรู้สืก สบายใจ ที่เจอสามเณรอย่างนี้ นึ่ขนาดสามเณรยังไม่ได้เทคน้1ห้ฟังเลย สามเณรเพียงตั้งใจขัดล้วมให้ท่านใช้ วันหนึ่งก็ล้างก็ขัดกันถึง ๕ รอบ ° โดตรภู หมายถึง บุคคลผู้ตั้งอยู่ในญาณ^งเป็นล่าดับอริยมรรค (พจนานุกรม ฉบับ ราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕ate. น. ๒๖พ) นค่...นทสร้างบารมี (ริ) ทุกอย่างสำผ็จไดัด้วยใจใสๆ www.kalyanamitra.org

ท่านเห็นสามเณรตั้งใจทำกันด้วยความเบิกบาน ทำ นก็ยอมรับความใจ ใสของสามเณร วันกลับหลวงหลวงพ่อหลวงพี่กี่องค์ๆ ก็ถามว่า ทำ อย่างไรห้องนํ้าจึงสะอาดได้ตลอดวัน ทังร้อยๆ ห้อง ทำ ไมเราถึง สามารถขัดห้องนํ้าให้สะอาดได้วันหนึ่งถึง ๔ รอบ ๕ รอบ ก็เพราะใจ ของเรามันรักสะอาด ไม่อย่างนั้นเราก็ทำไม่ได้ ทำ ไมใจเราจึงรักครามสะอาด ก็เพราะใจมันใสสะอาด ถ้าใจไม่ ใสแล้ว ขัดลัวมไปก็บ่นกันไป ไม่มีทางหรอกที่มันจะสะอาดได้อย่างนัน ขอให้เร่อเถอะว่า ยิ่งขัดข้างนอกได้สะอาดเท่าไหร่ ข้างในคือใจ ซองเราก็ใสเพิ่มเนเท่านั้น ข้างในยิ่งใสเทำไร สามเณรก็ยิ่งกลายเป็นสามเณรด้กดสิทธี้ แสะ เป็นความด้กดสิทธแบบเย็นๆ มีฤทธี้แบบเย็นๆ เมื่อก่อนนี้ สามเณรเองก็อยู่วัดที่บ้านนอก เวลาจะไบ่ไหนมาไหน มีใครเขาสงมานั่งยกมีอไหว้เณร หรือเขาเปิดทางให้เณรเดินอย่างนี้!หม ไม่มี แต่เดี๋ยวนี้เณรเดินไปไหนในวัดพระธรรมกาย เขาแหวกให้เณรเป็น ทาง เณรมีฤทรนะ ทำ ไมมีฤทธื้ ก็เพราะเณรใจใส หน้าก็ใส ใจก็ใส หลวงพ่อ หลวงพี่ทุกรูปในวัดนี้ รดนํ้ามนต์ก็ไม่เป็น ผูกดวงก็ไม่ เป็น ลายมีอก็ไม่เคยดูให้!คร ของขลังก็ไม่มี แต่ว่ามันด้กดี๋สิทธี้แบบ เย็นๆ อะไรเป็นเครื่องวัดความด้กดี๋สิทธื้ ก็คนเป็นพัน เป็นหมื่น เป็น แสน ที่ไหลเข้ามาปฏิบัติธรรม นั่นแหละคือเครื่องวัดความด้กดี๋สิทธื้ ทุกอ(ภ่งสำผจได้ด้วยใจใสๆ oo แด่...นักสร้างบารมี ® www.kalyanamitra.org

หลวงพ่อไปมาแล้วทั่วเมืองไทย เคยเจอที่ต่างจังหวัด มืเณร ร้องไห้เดินมา เพราะว่าไม'มืไครตักบาตรกับสามเณร แต่ที่วัดพระ- ธรรมกาย มีสามเณรร้องไห้ เพราะว่าญาติโยมตักบาตรให้จนอุ้มบาตร ไม่ไหว ก็เลยร้องไห้ฮือๆ คงอยากจะบอกว่า \"ไปใส่คนอื่นบ้างเหอะ\" ท่านเป็นสามเณรอาคันตุกะมาเจอญาติโยมที่วัดพระธรรมกายตักบาตร ให้จนอุ้มไม่ไหว นี่ก็เป็นความคักดี้สิทธิ้ แต่เป็นความคักดิ้สิทธี้แบบ เย็นๆ พวกท่านบวชมาเพียงพรรษาเดียวบ้าง ๒ พรรษาบ้าง แต่ หลวงพ่อ หลวงหลายรูป ซึ่งมาร่วมพิธีที่วัดเรา อายุทางโลกของท่าน เหล่านั้นก็แก่กว่าโยมพ่อของพวกท่านบางรูปอีก อายุทางธรรม ท่านก็ บวชมานาน จนได้เป็นอุปัชฌาย์บวชลูกดิษย์มามากตั้งไม่รู้เท่าไหร่ แต่ เมื่อเราขอร้องให้หลวงพ่อ หลวงท่านตั้งแถวอย่างนั้น เดินแถวอย่างนี้ แล้วท่านก็ยินดีทำตาม นี่ถ้าท่านเหล่านั้นไปที่อื่นแล้วมีคนมาจัดแถว อย่างนี้ ถ้าไม่โดนดีดก็ลองดูเถอะ ความที่พวกท่านสืกสมาธิมามาก ทำ ให้ใจใส หน้าตาก็ใสๆ คำ พูด ที่ออกมาก็เลยเย็นๆ พอไปขอร้องให้หลวงพ่อหลวงปูท่านตั้งแถว จะให้ ไปตรงนั้น จะให้ไปตรงนี้ หลวงพ่อ หลวงปู หลวงตา ท่านก็เลยฒตตา ไม่เคยขัด ทำ ตามหมด นี่ก็เป็นฤทธทางใจขั้นต้นของพวกท่านนะ พวกเราอีกหลายๆ รูป แม้องค์พระภายในฐานที่ ๗ ก็ยังเห็น ไม่ขัด แต่ถึงกระนั้นใจก็ใสมาได้ระดับหนึ่ง จึงมีฤทธื้ทางใจขั้นตันได้ นฅํ...นกสร้างบารมี Q 00 ทุกอย่างสำเร็จได้ส์วยใจใสๆ www.kalyanamitra.org

เพราะฉะนั้น ขอใพ้ท่านตังใจทำใ'พใจใสต่อไป ตัองนึกเสมอว่า เรายังไม่ได้เป็นพระอร'สันต์ ยังไม่ได้เป็นพระอนาคามี ไม่ได้เป็น พระสกิทาคามี ยังไม่ได้เป็นแม้พระโสดาบัน ยังต้องสิฑดนอีกมาก เพี่อใหใจใสๆ หลวงพ่อสร้างวัดมาจนปานนี้ ๑๙'ปี ทุ่มเทลงไป ไม่เคยใบ้หวย ไม่เคยแจกเครื่องรางของขลัง ไม่เคยไปผูกดวง ไม่เคยดูลายมือให้ใคร ถ้าจะเคย ก็\"ที่ท่านได้ยินนั่นแหละ 'ทั้ง'พูด\"ทั้งปนเป็นประจำเลย แต่ว่า จริงๆ เป็นการเทศน์ขนาบแล้วขนาบอีก เป็นการชี้ช่องทางให้ญาติโยมใจ ใส ท่านเอ๊ย...ชี้ให้เขาใจใสน่ะ แม้จะชี้แรงๆ เจ็บบ้าง แสบบ้าง คันบ้าง ตอนแรกอาจจะเคืองๆ ประเดี๋ยวหนึ่งพอหายแสบ หายคัน เดี๋ยว ญาติโยมก็กลับมากราบใหม่ เพราะรู้ว่าเราเตือนด้วยความบริสุทธี้ใจ นี้ก็เป็นฤทธี้อย่างหนึ่งของใจใสๆ นะลูก ยิ่งเมื่อเขาได้ทำตามคำเตือน แล้วใจของเขาใสขึ้นจริง การงาน ต่างๆ ประสบความสำเร็จเ'พิ่มขึ้นจริง ก็ยิ่งนึกถึงเรา แล้วก็มาช่วยกัน สร้างวัดอย่างที่เห็นนึ่แหละ ความตั้งใจทำให้ใจใส ม้นจะทำให้ด้วของเราด้กดี๋สิทธี้ ทำ ให้มี ผลงานออกมาให้เห็น ทำ ให้วัดพระธรรมกายของเราเจริญรุ่งเรืองยิ่งขึ้น อีก ทำ ให้พระพุทธศาสนาเจริญ ใจใสดีอย่างนี้แหละลูก เวลา ©Of ปี นับโดยประมาณจากปีแรกที่เริ่มสร้างวัด พ.ศ. ๒๕๑๓ จนถึงปีที่เทศน์เริ่องนื้ พ.ศ. ๒๕๓® ทุกอย่างสำทํจไต้ด้วยใจใสๆ C5® แด่...นักสร้างบารมี (?) www.kalyanamitra.org

กำ ลังใจที่จะแกใหใจใสยิ่งขึ้น สิงที่หลวงพ่ออยากให้พวกเราได้คิดต่อไปอีกก็คือ ทำ ไมหลวงพ่อ จึงสามารถมีกำลังใจอย่างต่อเนื่องที่จะทำให้ใจตนเองใส เมื่อพิจารณา แล้วก็พบสาเหตุ ๒ ประการใหญ่ๆ คือ ประการที่ ๑ หลวงพ่อได้ต้นแบบที่ดี คือ หลวงพ่อธัมมชโยกับ คุณยายอาจารย์อุบาสิกาจันทร์ ขนนกยูงของพวกเรา ท่านเป็นต้นแบบ ให้ แล้วท่านก็ทำความด้กดื้สิทธแบบเย็นๆ ให้หลวงพ่อได้เห็Itมาตลอด ประการที่ ๒ หลวงพ่อได้รบการปูพื้นฐานให้มีดวามอดทนdJาตั้ง แต่เด็กๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งทนต่อการรับคำลังสอนดุด่าว่ากล่าวจาก ^หญ่ ไม'มีใครในโลกหรอกลูกเอ๊ย...ทีจะชอบให้คนโน้นลังคนนี้ใช้ เพราะเขาจะรู้สีกว่าถูกบังคับ ทุกคนไม่ชอบให้[ครมาดุด่า ทุกคนชอบ สบาย หลวงพ่อถูกฝึกมาจากโยมพ่อ เนื่องจากเดิมโยมพ่อเป็นทหาร แล้วท่านเป็นคนดุ เคร่งครัด ระเบียบวินัย ตั้งแต่เกิดมาหลวงพ่อไม่เคย เถียงท่านเลย เพราะถ้าเถียงเดี๋ยวโดนตีหลังขาด แต่โยมเฌใจดี ถ้าพ่อตี แม่ก็ปลอบ ถ้าเปรียบแม่เป็นพระจันทร์ พ่อก็เป็นพระอาทิตย์ในบ้าน เวลาท่านดุ เวลาท่านตี นอกจากเถียงท่าน ไม่ได้แล้ว ยังต้องพIเมมีอฟังท่านอีกด้วย นฅ่...นกสร้างบารมี Q) CIO ทุกอข่างสำเร็จได้ด้วยใะ!ใสๆ www.kalyanamitra.org

คนรุ่นย่าตาทวดของเรา ไปวัดเมื่อไหร่ เขาจะนั่งพนมมือฟัง เทศน์ แต่ว่ารุ่นหลังๆ นั่งพนมมือนานๆ เข้าชักเมื่อย ทนไม่ไหว อยาก จะเอามือลงก็เอา แต่ว่าตอนโดนทำโทษโดนตำหนิ ไม่ควรเอามือลง ควรพนมมือไว้ เพราะอะไร ? เพราะพอพนมมือแล้ว ความคิดที่จะโต้แย้งมันไม่มี หรือถ้ามีก็จะ น้อยกว่าที่ไม่ได้พนมมีอ หลวงพ่อถูกฝึกว่า เวลาโยมพ่อดุด่าว่ากล่าว อะไรแล้ว ต้องยกมือพนมหรืออย่างน้อยถ้าไม่ได้ยกมีอพนม ก็ต้องยืน ชนิดสำรวมที่สุด ตอนนั้นคิดด้วยความกลัวว่า ถ้าไม่ยืนอยู่ในท่าสำรวม คงโดนตีตาย โยมพ่อฝึกให้อย่างนื้มาแล้วแต่เล็ก ทำ ให้อดทนต่อการรับคำลัง หรือรับคำตำหนิติเตียน คำ ดุว่าต่างๆ โดยไม่แสดงกิริยาต่อต้าน ทำ พนมมือฟังนี่มันขลัง พ!เมมือเมื่อไหร่ มันสำรวมทันที แต่ถ้าปล่อยมือ ทิ้งห้อยลงมา หรือว่าปล่อยให้กำหมัด ให้หยิบอะไรต่อมิอะไรได้ แล้ว ความคิดต่อต้านมันอาจจะเกิดขึ้นมา พอพนมมีอแล้ว ท่าทางของเราก็สำรวมเรียบร้อยขึ้น ที่ท่านด่า เกรี้ยวกราดมาดังๆ แต่ต้น พอเห็นท่าสำรวมของเราเข้า ก็ชักลดเสียงลง มาเอง ก็มันพนมมือแต้อยู่อย่างนั้น จะไปรุนแรงอะไรกับมันอีก หลวงพ่อตั้งแต่เล็กจนโต ความคิดที่จะไปต่อต้านคำดุด่าของท่าน ไม่ค่อยมี มีแต่จะคิดตามว่า ที่ท่านด่านี่หมายความว่าอย่างไร แล้วเรา จะทำตามอย่างไร จึงจะไม่ขาดตกบกพร่อง ให้ท่านต้องมาดุด่าตำอีก ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วขใ'รใสๆ Off แด่...นักสร้างบารมี 0 www.kalyanamitra.org

นอกจากโยมพ่อ ครูบาอาจารย์ที่โรงเรียนบางท่านเวลาดุแล้ว ท่านยังบังคับให้ขอบคุณท่านอีก เมี่อดุด่าลงโทษเสร็จ เมื่อขอบคุณท่าน บ่อยๆ เข้า มันก็เกิดความขลังไปในตัว คือนอกจากความคิดต่อต้านจะ ไม่มีแล้ว บางครั้งถูกท่านดุ เพราะเข้าใจเราผิด ก็ไม่เคยถือโทษโกรธ ท่าน แต่กลับซาบชึ้งว่าท่านหวังดีต่อเรา หลวงพ่อเคยสงสัยบ้างเหมีอนกันว่า ทำ ไมเพื่อนๆ อีกหลายคน ทั้งที่พ่อแม่ของเขาดุยิ่งกว่าโยมพ่อของหลวงพ่ออีก แต่มันกล้าเถียง ฉอดๆ หลวงพ่อมาพบในภายหลังว่า ที่เป็นเช่นนั้น เพราะโยมพ่อของ หลวงพ่อ แม้ดุก็ไม่ใช่ดุอย่างพ่อแม่คนอื่น 'ท่านดุแบบมีมาตรฐาน\" ตรง นั้!ม่ใช่ยกย่องโยมพ่อตัวเอง แต่ว่ามันเป็นเรื่องจริง ก็ต้องเอามาพูด ที่ ว่าทำนดุแบบมีมาตรฐาน คือเป็นอย่างนี้ ๑) ท่านพูดคำไหนคำนั้น ท่านพูดดัง พูดชัด พูดตรง พูดนํ้า เสียงเด็ดขาด โยมพ่อไม่เคยพูด หรีอทำอะไรเหยาะแหยะ ให้เห็นเลยตลอดชีวิต แม้เราคิดอยากจะพูดอะไรย้อนท่าน ก็ไม่มีช่องให้ย้อนได้ เพราะคำพูดและการกระทำของท่าน เป็นมาตรฐานชัด ๒) ท่านเป็นคนตรงต่อเวลา โยมพ่อถึงเวลากินต้องกิน ถึง เวลาตื่นต้องตื่น ถึงเวลาทำงานต้องทำงาน ท่านเอาเวลา หลักแคน ส่วนเวลาอย่างอื่นก็โดยประมาณ แต่เรื่องกิน เรื่องตื่น เรื่องทำงาน ถูกกำหนดตายตัวเหมีอนกันทั้งบ้าน ท่านทำตัวเป็นมาตรฐานให้ดูเลยเถียงท่านไม่ไต้ นฅ่...นกสร้างบารน ๑ C)<sr ทุกอย่างสํไท็จได้ด้วยใจใลๆ www.kalyanamitra.org

ท) ท่านเแนคนเกความสะอาด ทุกอย่างในบ้าน ไม่ว่าจะเป็น อาหารการกิน เสือผ้าอาภรณ์ บ้านช่องต้องทำให้สะอาดอยู่ เสมอ ๔) ท่านเป็นคนมีระเบียบวินัย หากใครทำผิด ท่านกำหนด โทษไว้หนัก จนเราขยาด เรื่องทั้ง ๙ นี้ท่านวางเป็นมาตรฐานของท่านชัด เรานึกจะย้อน เถียงท่านก็ไม่ได้สักคำ นึกจะจับผิดท่านก็ไม่ได้สักเรื่อง เมื่อหาช่อง จับผิดท่านไม'ได้ แล้วเราเองก็ไปทำความผิดมาจริง ก็เลยต้องยกมือ พนมรับฟังท่านด้วยความเต็มใจ ก็ยอมรับว่าเราผิดจริง คำ ที่คิดจะเอา มาเถียงมันหาไม่เจอ ไม่เหมือนกับอีกหลายคน ทั้งที่พ่อแม่พูดถูก แต่ก็ ยังเถียงพ่อแม่ฉอดๆ ที่ลูกเถียงคงเป็นเพราะการกระทำของพ่อแม่ยังไม่ ถูก ไม่ตรงเหมือนพูด การกระทำยังไม่มาตรฐาน เพราะฉะนั้น ลูกก็มื ช่องทางเถียงเรื่อยไป โยมพ่อของหลวงพ่ออบรมให้รู้จักรับฟังคำดุด่าว่ากล่าวมาอย่างดี ทำ ให้อดทนที่จะรับคำสังจากผู้ใหญ่ท่านอื่นๆ และต่อมาก็ทำให้อดทนที่ จะริบฟังความคิดเห็นของพรรคพวกเพื่อนฝูง ถูกกระทบเท่าไหร่ก็ทนได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง \"คำขอบคุณหลังจากโดนตำหนิ\" ถ้าเราถูก ฝึกมาจนเคย ทำ ให้เวลาเราผิดพลาด ถูกเพื่อนโกรธมามากเท่าไหร่ เพื่อนจะด่าเราโครมๆ จวกเราหนักแค่ไหน เราทนริบเขาได้ นอกจากทน ได้แล้ว ยังแถมท้ายด้วยคำขอบคุณเสืยอีก เพื่อนคนนี้ต่อให้โกรธเรามา ทุกอย่างสำพิจได้ด้วยใจใสๆ OlD นด่...นักสร้างบารมี ® www.kalyanamitra.org

เท่าไหร่ๆ ก็ใจอ่อน เลิกโกรธเอง สุดท้ายทำให้เราได้เพี่อนแท้ เพี่มขึ้นมา อีกด้วย เพราะถูกฝึกมาอย่างนี้ คือขอให้ผู้ใหญ่พูดถูกมา พรรคพวก เพื่อนฝูงพูดถูกมา หากเราผิดจริง แล้วจะลงโทษอย่างไร ก็อดทน ยอมริบได้หมด แม้แต่รุ่นน้อง ถ้าเขาพูดถูกมา หลวงพ่อก็ยอมริบหมด ไม่เคยใช้อำนาจบาตรใหญ่ไปต่อด้าน ดื้อด้านดันทุรัง ตรงนี้นับว่าเป็น บุญของหลวงพ่ออีกอย่างหนึ่ง เพราะฉะนั้น เมื่อมาพบว่าหลวงพ่อธัมมชโยมีคุณธรรมจริงใจใส จริง แม้อายุท่านจะน้อยกว่าและเป็นนิสิตรุ่นน้อง เราก็พร้อมที่จะกราบ จะไหว้บูชาท่านได้สนิทใจ หสวงพ่อกราบหสวงพ่อธัมมชโย นับถือท่าน เป็นอาจารย์ตั้งแต่ท่านยังไม่ได้บวช เพราะเลื่อมใสว่าท่านเป็นผู้รู้จริง ขนาดเอาปัญหาธรรมะยากๆ ชนิดพลิกพระไตรปิฎกมาถาม ท่านยัง ตอบเราได้โดยไม่ติดขัด และยังตอบเจาะลึกลงไปในภาคปฏิบัติอีกด้วย ซึ่งนับว่าหาคนตอบอย่างนี้โด้ยากมาก มีหนำชํ้าพอถึงเวลานั่งสมาธิ ท่านยังนั่งได้ดีกว่าเรา สามารถสอน เราได้อีก พอพบอย่างนี้เช้า ก็เชิญท่านมาอยู่บ้านพักเดียวกัน ถึงเวลา นอน หลวงพ่อก็ลงจากเตียงมานอนช้างล่าง เชิญให้ท่านขึ้นไปนอนบน เตียงแทน เมื่อรู้ว่าท่านมีคุณธรรม ก็ยกเตียงนอนให้เลย แต่ว่าเวลากราบ ท่าน ตอนแรกๆ มันเขินเหมีอนกัน ก็เรามันนักเลงเก่า มากราบรุ่นน้อง มันชักเขินๆ ก็เลยเริ่มจากกราบตอนที่ท่านนอนหลับแล้ว พอกราบจน นฅ่...นกสร้างบารมี Q cr>a ทุกอฒ่สำท็จได้ด้วยใจใสๆ www.kalyanamitra.org

เคยเข้าแล้ว คราวนี้ต่อหน้าท่าน ก็ยกมือไหวได้ พอท่านบวชก็กราบได้ สนิทใจเลย เพราะมันเต็มโจกราบมาตั้งแต่ยังไม่บวชแล้ว ตรงนี้ก็ขอฝากกับพวกเราว่า เมื่อเราพบพระรุ่แพี่ พบพระอาจารย์ ของเรา ที่ท่านทำตัวเป็นมาตรฐาน มีความใสสะอาด ทั้งกาย วาจา ใจ ให้เราดูท่านเป็นต้นแบบ แล้วจงให้ความเคารพท่านให้ดี อดทนต่อการ สอนล้งต่อการขนาบของท่าน อย่าไปเถียง ถ้ารู้สีกอยากจะเถียงขึ้นมา เมื่อไหร่ ให้ยกมือพนมเอาไว้ หลังจากท่านดุด่าว่ากล่าวเสร็จเรียบร้อย รีบกล่าวคำขอบคุณท่านเสียด้วย ถ้าทำอย่างนี้ได้ปอยๆ จนเป็นนิสัย กำ ลังใจที่จะทุ่มเทฝึกฝน เพี่อ ทำ ใจให้ใสตามท่านไปจึงจะเกิด หลวงพ่อเองเมื่อก่อนบวช ไม่ว่าคุณยาย จะดุจะว่าจะเตือนเรื่องอะไร หลวงพ่อพนมมือรับฟังตลอด พอท่านดุ เสร็จ หลวงพ่อก็กราบ บางทีท่านดุว่าเพราะเข้าใจหลวงพ่อผิดก็มี ความ จริงเรื่องผิดๆ นั้น หลวงพ่อไม่ได้เป็นคนทำ คนอื่นทำเอาไว้ก่อน แล้ว เราไปทำงานตรงนั้นต่อทีหลัง ท่านจึงเข้าใจผิดคิดว่าหลวงพ่อทำ พอท่านเอ็ดหลวงพ่อเสร็จเรียบร้อย หลวงพ่อก็กราบขอบคุณท่าน แล้วก็ไม'เคยแก้หรอกว่าเราไม่ได้ทำ ถ้าท่านไม่พูดขึ้นมาอีกในภายหลัง หลวงพ่อก็ปล่อยให้มันผ่านเลยไป แต่ถ้าท่านพูดขึ้นมาหลวงพ่อจึงจะ บอกว่าเรื่องนั้นๆ ความจริงผมไม่ได้ทำหรอก คนโน้นๆ เขาทำทิ้งไว้ ท่านก็จะพูดว่า \"อ้าวเหรอ...นึกว่าคุณทำ\" โดนดุพ่รี ก็ไม่เป็นไร เพราะยิ่งทำให้เรารู้ว่าทำนปรารถนาดีอย่างยิ่งแก่เรา ถีอว่าเป็นโอกาสดีที่ จะได้ริบฟังความปรารถนาดีอย่างจริงใจของท่านโดยตรง ทุกอย่างส์าเร็จได้พวยใจใสๆ CICS นสํ...นัทสร้างบารมี Q www.kalyanamitra.org

เพราะฉะนั้น ภายหลังไม่ว่าหลวงพ่อจะไปผิดไปพลาดอะไรมาอีก ท่านก็มีกำลังใจที่จะตำหนิติเตียนต่อไป เพราะรู้ว่ายังไงๆ ก็ไม่เถียง แต่ พอหลวงพ่อบวชแล้ว หมดสิทธิ้ที่จะไปยกมีอพนมฟังท่าน หมดสิทธที่ จะไปกราบท่าน เพราะว่าเราอยูในเพศพระภิกษุเสียแล้ว ก็ได้แต่เพียงว่า หากท่านจะพูดจะกล่าวเตือนอะไรมา ไม่ว่าจะด้วยความเข้าใจถูกหรือ ผิด ก็ฟังท่านไปไม่โต้เถียง อะไรที่จะทำให้ท่านสบายใจได้ ก็ตั้งใจทำไป เรนการตอบแทนพระคุณของท่าน หลวงพ่อยังเคารพคุณยาย อยากกราบท่านเหมือนตอนก่อนบวช เพราะถีอว่าท่านเป็นครูบาอาจารย์ผู้ดึงหลวงพ่อขึ้นมาจากนรก แต่ว่า เป็นพระแล้วจะไปกราบไปไหว้ท่าน ตอนนั้!ม่อยูในภาวะที่จะทำได้ เราก็ ความสำเร็จเกิดได้ด้วยใจ วัดพระธรรมกายได้เป็นตัวอย่างของความสำเร็จให้ทุกท่านได้ดู ด้วยตาของตนเอง ทุกสิงล้วนเกิดจากอำนาจของใจที่ใส และเป็นไปตาม พระพูทธตำรัสที่ว่า ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจ มันสำเร็จ มาจากใจใสๆ จริงๆ จากเดิมมีเนื้อที่ ๑๑๖ ไร่ แต่เดี๋ยวนี้กลับไม่พอที่จะให้ญาติโยม มานั่งประพฤติปฏิบัติธรรมอย่างสบายๆ เสียแล้ว ก็ต้องขยายออกไป แม้จะขยายออกมาอีกตั้ง ๒ พันกว่าไร่ ความที่เรามีใจใสๆ พูดอะไร ญาติโยมที่รู้เข้า เขาก็มาช่วย วัดก็เลยขยายออกมาเร็วอย่างที่เห็น นค่...นักสร้างบารมี Q) C)0C ทุกอย่างสำเร็จได้'ด้วยใจใสๆ www.kalyanamitra.org

ต่อไปนี้ กว่าจะทำโครงการของวัดที่เหลือให้สำเร็จได้ ก็พูดกัน ตรงๆ ว่าจะต้องใช้งบอีกมหาศาล แค่ปร้บพื้นที่ ๒ พันกว่าไร่ ก็ใช้งบ ประมาณอีกมากโขแล้ว ปรับแล้วก็ยังต้องชุดสระ ไม่ชุดก็ไม่ไต้ ที่ผีน ใหญ่ๆ ถ้าไม่ชุดสระ เวลาฝนตกลงมา นํ้าก็ท่วม แล้วเราจะต้องใช้งบ ประมาณอีกจำนวนไม'น้อยสำหรับการก่อสร้างถาวรวัตถุต่างๆ เพื่อ รองรับมหาชนในอนาคต แล้วตอนนี้หลวงพ่อมีงบประมาณเท่าไหร่ ก็มี แด่สบงจีวรที่ฬ่มนี้เท่านั้นแหละลูฑเอ๊ย... แต่ว่าเมื่อเราไต้ตั้งใจประพฤติตน ให้เป็นเนี้อนาบุญที่ดีของซาว โลกมาถึงปานนี้แล้ว ถึงคราวจะต้องบอกบุญก็ให้บอกบุญไปเถอะ ไม่ ต้องเกรงใจ เมื่อใครร่วมทำบุญด้วย เขาก็จะไต้บุญมาก แล้วใจของเขา ก็จะใสตามเรามาไต้เร็วๆ ทำ กันทุกวัน 'รเวยกันบอกบุญให้เต็มที่อย่างนี้ บอกต้วยใจใสๆ เดี๋ยวญาติโยมก็ทนไม่ไต้ ต้องมาร่วมทำบุญกับเรา บุญนั้นย่อมบันดาลให้เขา ไม่ว่าจะท่าอะไรที่ดีงาม ย่อมท่าไต้ สำ เร็จเแนอัศจรรย์ไปหมดทุกเรื่อง เมื่องานเขาสำเร็จ เขาก็ยิ่งรู้คุณค่า ของบุญ เขาก็จ ^ ..ฯ .^ เพราะฉะนั้น หลวงพ่อจึงมั่นใจว่า โครงการทุกๆ โครงการที่จะมี ในภายหน้าต้องสำเร็จ แต่ก็มีช้อแม้ว่าทุกท่านต้องช่วยกันทำใจให้ใสอยู่ เสมอนะลูก!เะ แล้วถ้าพบเห็นใครในพวกเราชักจะทำตนให้หบุ่คณะใจ ไม่ใส ก็ต้องเรียกมาตักเตือนกัน ถ้าหมู่คณะช่วยกันตักเตือนแล้วยังไม่ ยอมเซี่อ ก็คงจะต้องเชิญให็ไปตามทางชุ'นๆ ที่เขาถนัด ตามอัธยาตัย ชุ่นๆ ของเขาไป vinadางสำเฬ็ได้ด้วยใจใสๆ ffo แด่...นักสร้างบารมี ๑ www.kalyanamitra.org

บางครั้งมันก็ต้องยอมตัดใจไปอย่างนั้นเหมือนกัน ทั้งๆ ที่ใจ หลวงพ่อก็อยากจะเข็นทุกคน ไปนิพพานให้หมด แต่ว่าถ้าไม่ยอมทำใจ ให้ใสตามหยู่คณะ มันก็จนใจ ต้องคัดกันออกไป ซึ่งตอนนั้นก็อย่ามา ต่อว่า อย่ามาตำหนิกันเลยนะ ช่วยกันให้ดี ทำ ใจให้ใสทั้งวันทั้งคืนอย่างที่ว่ามานี้ไม'ยอมเลิก แล้วเชื่อหลวงพ่อเถอะ ไม่ว่าอะไรในโลกนี้ ที่ท่านปรารถนาในลิงที่ดีงาม ที่มันจะไม่สำเร็จ ย่อมไม่มี มันต้องสำเร็จเป็นอัศจรรย์ทั้งหมด โดย เฉพาะอย่างยิ่งช่วยกันทำใจให้ใสเป็นทีมอย่างนี้ ทุกอย่างต้องสำเร็จหมด ละลูกเอ๊ย... แต่อย่างไรก็ตาม ความใสที่เป็นต้นทางของความสำเร็จนั้น ย่อม ต้องอาศัยพื้นฐานสำคัญ ๒ ประการ คือ ๑) ตัวท่านเองจะต้องตั้งใจเดินดามรอยของครู ๒) ท่านเองต้องอดทนต่อการขนาบแล้วขนาบอีก ให้อดทนไปเถอะ ปฏิบัติตามไปเถอะ แล้วท่านจะใจใสไต้อย่าง แน่นอน หลวงพ่อเดินมาตามเส้นทางสายนี้นานแล้ว ก็หวังอยากให้พวก เราได้เดินตามมาด้วย จะได้ไม่พลาด มีบ้างไหมพวกเรา พระก็ดี เณร ก็ดี เวลาครูบาอาจารย์ เวลาพระพี่เลี้ยงเตือน แล้วชอบเถียง ถ้ามีก็ให้ รีบแก้เสีย หรีอแมไม'ได้เถียงออกมาสักคำ แต่ว่านึกเถียงอยูในใจ ก็ อย่าให้มีเสย พยายามตัดออกไปจากใจใหได้นะ นฅ่...นกสร้างบารมี ๑ ar® ทุกอย่างสำเร็จได้ด้วยใจใสๆ www.kalyanamitra.org