5 ปีเ&น. พระมหาสมขาย รานจุฑฺโฒ M.D., Ph.D. www.kalyanamitra.org
A .'ร^ ทันโลก ทันธรรม i: พระมหาสมซาย รานวทฺโฒ M.D., Ph.D. www.kalyanamitra.org
k' www.kalyanamitra.org
ทันโลกทันธรรม 5 พระมหาลมซาย ธานๅฑฺโฒ M.D., Ph.D. บรรณาธิการบริหาร พระมหาวิเชียร นาถกโร เบญจวรรณ มนัสไพบูลย์ บรรณาธิการ ผศ.วันเพึญ ธีรสวัสดี๋ ทพญ.อรเอม เสมอวงศ์ กองบรรณาธิการ พระทีฆายุ ถาวรจิตฺโต พระยิ่งยงศ์ ธมฺมทิบโน ปณิตา ขิณประกายรัตน์ สุธีดา จินดากิจบุกล ดร.มุทิตา ปีนสุนทร อลิรัตน์ อมดาริยกุล สิไพ ประดิษฐ์ภูมิ สายชล จันทร์โสดา Wj บ่ สำ นักงานเลขานุการและทีมงานสื่อโสตทัศน์ สำ นักการสืกษา ปก/รูปเล่ม กลรดา เอกบตร ภาพประกอบ ศูนย์ภาพนิ่ง / พุทธดิลป จัดพิมพ'โดย ขมรมแทงตลอดในธรรม ลิขสิหธี๋ มูลนิธิธรรมะคุ้มครองโลก อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี พิมพ์ครั้งที่ 1 15 พฤศจิกายน 2555 จำ นวน 20,000 เล่ม พิมพ์ที่ บริษัท รุ่งศิลปีการพิมพ์(1977)จำ กัด 'i ข้อมูลทางบรรณานุกรม พระมหาสมขาย ธานวุทฺโฒ. ทันโลกทับธรรม 5-ปทุมธานี :ขมรมแทงตลอดในธรรม,2555 128 หนัา 1.5รรมเทศนา. 2. ธรรมะกับชีวิตประจำวัน. 3. พุทธศาสนากับกังคม -ไทย. I. ขื่อเรื่อง :>i 294.315 ISBN 978-616-90719-7-6 www.kalyanamitra.org
คำ นำ เภ เทคโนโลยีอาจย่อโลกให้เล็กลงได้ แตใม่ ^ อาจทำให้มนุษย์มองเห็นโลกได้อย่างแจ่มขัด ม CG เพียงธรรมะของพระสัมมาส้มพุทธเจ้าที่ทำให้เรา เห็นความเป็นไปของโลกและจักรวาล เห็น เส้นทางอันยาวไกลแห่งวัฏสงสาร แม้การเกิดดับของจักรวาล ก็เป็นเพียง เศษเสียวของกาลเวลา ที่สำ คัญพระพุทธองค์ทรง ฃึ้[ห้เราเห็นว่า มนุษย์เกิดมาเพื่ออะไร พระมหา สมขาย ธานวุฑฺโฒ จึงได้เมตตานำธรรมะของ พระพุทธองค์มาย่อโลกให้เราเห็นอย่างแจ่มขัด เพื่อการดำเนินขึวิตอย่างผู้รู้ www.kalyanamitra.org
ขอกราบขอบพระคุณในความเมตตา ของพระมหาสมชาย ธานๅฑฺโฒ ทื่เทศน่สอน ธรรมะและการดำเนินชีวิตที่สอดประสานกัน อย่างกลมกลืนนี้ เพี่อชี้ทางสว่าง สร้างพลังใจ ให้สาธุซนทั้งหลายสามารถนำพาชีวิตตนและ ซาวโลก ให้พบกับความสุขและความสำเร็จที่ ยั่งยืน ซมรมแทงตลอดในธรรม 15 พฤศจิกายน 2555 www.kalyanamitra.org
www.kalyanamitra.org
สารบัญ คุณภาพใจในยุคสังคมไซเบอร์ 9 _ ประเทศไทยวัยซรา 17 o~^ ภัยพิบตและการแก้!ข 27 ป)ี ZD นอนไม่หลับ 35 ^ มองบวก คิดบวก 45 sf ตัดใจ...เพื่อขัยชนะ 53 CA รูปร่าง หน้าตา กับความพอใจ 61 oJ\\ การสื่อสารภายในองค์กร เพื่อการฟ้องกันข่าวลือ 71 Q-ji ร่วมมือกับงาน ร่วมมือกับคน 81 cn ฮวงจุ้ย 91 สามก๊ก 99 มนษยต่างดาว 109 www.kalyanamitra.org
8 หันโลกทนธรรม 5 www.kalyanamitra.org
คุณ/ไาพใจโนยุคสังคนใซเบอร์ คุณภาพใจในยุคสังคมไซเบอร์ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นในประเทศจีนเมื่อไม่นานมานี้ หญิงคนหนึ่งทำงานเป็นพนักงานของโรงแรม โดยมีหน้าที่ ล้างเท้า ทำ เล็บให้กับแขกที่มาพัก ครั้งหนึ่งได้มีเจ้าหน้าที่ ระดับสูงของรัฐมาพักที่โรงแรม และหญิง^ทำหน้าที่ส้างเท้า ให้ เจ้าหน้าที่รัฐได้ลวนลามเธอ เธอจีงต่อสู้และใช้มีดแทง เขาจนถึงแก'ความตาย จากนั้นเฮอได้เช้ามอบตัวกับเจ้าหน้าที่ ตำ รวจ แม้จะรู้ว่าต้องถูกลงโทษสถานหนัก เพราะผู้ตายเป็น ผู้มีอำ นาจมาก www.kalyanamitra.org
10 @ พระม จานวุฑฺโฒ M.D,,Ph.D. แต่เมื่อข่าวนี้ปรากฎขี้นในอินเทอร์ณ็ต เรื่องราว ของเธอก็แพร่กระจายไปอย่างกว้างขวางฃั่วพริบตา มีผู้คน เข้ามาแสดงความคิดเห็นอย่างมากมาย จนเกิดเป็นกระแส สังคม ยกย่องเธอว'าเป็นวีรสตรีผู้กล้า ที่หาญล้กับความ อยุติธรรม สู้กับการข่มเหงรังแกจากเจ้าหน้าที่รัฐที่!ร้ศืลธรรม เมื่อทั่วโลกจับตามอง จึงเกิดแรงกดดันที่ส่งผลให้ศาลพิพากษา ดัดสินให้เธอพ้นผิด และได้รับอิสรภาพในเวลาต่อมา เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในประเทศจึนนี้ แสดงให้เห็นถึง พลังของกระแสความคิดเห็นในสังคมไซเบอร์สเปซ เพราะ เป็นที่ทราบกันดีว่าในประเทศจีนนั้น การแสดงความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์ หรือการขุม\"นุมกันเป็นจำนวนมากนั้นไมใช่ เรื่องง่าย ด้วยนโยบายการปกครองที่เข้มงวด เน้นความ มั่นคงภายในประเทศเป็นสำคัญ แต่ถึงอย่างนั้นสิ่งที่เป็นไ'ป!ด้ ยากในสังคมชีวิตจริง กลับเกิดขึ้นได้อย่างง่ายดายในสังคม ไซเบอร์ อิสรเสรีทางความคิด เปีดกว้างอย่างเต็มที่ในโลก ไซเบอร์ ทุกคนมีสิทธึ๋มีเสียง และสามารถส่งสารถึงผู้อื่นได้ โดยไม่จำเป็นต้องแสดงคัว ทั้งมีความปลอดภัย และเป็น ประชาธิปไตย แต่สิ่งนี้ก็เป็นดาบสองคมที่มีอันตรายอย่างยิ่ง www.kalyanamitra.org
คุณภ)ฬฟ้นยุคสังคมโซเนอร 4^ 11 ในสังคมจริง การที่เราจะพูดคุยกับใคร หรือนำ เสนอข้อมูลข่าวสารใด หรือหากจะแสดงความคิดเห็นต่อ สาธารณชน เราทุกคนต่างต้องรับผิดชอบต่อทุกคำพูด ทุก การแสดงออกของเรา ดังนั้นมารยาททางสังคมและความ เคารพเกรงใจกันในสังคมจีงมีอยู่สูง เพราะเห็นหน้าค่าตากัน อยู่ รู้ว่าใครเป็นใคร พลังทางสังคมเข่นนี้เองที่ช่วยควบคุม กำ กับให้คนเรา มีความสำรวมระวังในการใช้คำพูด และ แสดงออกอย่างเหมาะสม เพราะเกรงกลัวต่อบทลงโทษทาง www.kalyanamitra.org
12 *1'นโลกทันธรรน 5 LC^J สังคม ทั้งในแง่การลงโทษทางกฎหมาย และการยอมรับ ของสังคม แต่ในสังคมไซเบอร์ ที่ไม่จำเป็นต้องแสดงสถานะ ที่แท้จริงของตน กิเลสดิบ ๆ ในใจของคน จีงถูกแสดงออก มาอย่างไม่เกรงใจใคร มีการใช้ภาษาที่หยาบคายโดยไม่ต้อง กลัวถูกซกหน้า มีการกล่าวหากันโดยไม่ต้องกลัวถูกฟ้อง หมิ่นประมาท และมีเรื่องอื่น ๆ อีกมากมายที่คนเราไม่กล้า www.kalyanamitra.org
คุณภาพนโนยุคสังคม\"Iขเบอร์ ^ 13 ทำ ในส์งคมจริง เมื่อคนเราเสพคุ้นสิ่งเหล่านี้จนเป็นนิสัย ใบที่สุดก็จะรู้สิกว่า ความก้าวร้าวรุนแรง หรือเรื่องที่ผิด เพี้ยนทั้งหลายนั้น เป็นเรื่องธรรมดา สิ่งเหล่านี้ล้วนบ่งบอก ว่า คุณภาพใจของคนเราได้ตกตํ่าลงไปอย่างไม่รู้ตัว และ แน่นอนว่า ในสังคมไซเบอร์ที่เฃื่อมโยงผู้คนจำนวนมหาศาล ไว้ด้วยกันนี้ กระแสใจของคนย่อมส่งผลกระทบซี่งกันและ กัน และกระทบถงเยาวซนอย่างไม่อาจหลีกเลี่ยงได้ เยาวชน ของเราจะเป็นเซ่นไร เมื่อได้ซึมซับความก้าวร้าว อคติ กิเลส ต่าง ๆ ในโลกที่เขาก็สามารถเข้าไปได้[ดยไม่มืใครรู้เซ่นกัน www.kalyanamitra.org
14 ^ พระมหาสมขาย ฉาบวุฬฒ M.D,. Ph.D. คุณภาพใจจึงถูกบ่อนทำลายไปเรื่อย ๆ เข่นนี้อย่าง ยากที่จะปีองกัน แม้จะไข้มาตรการทางกฎหมาย หรือไข้ เทคโนโลยีควบคุมตรวจสอบ ทั้งหมดก็ยังเป็นเพียงการวิ่งตาม ปีญหา ทางเดียวเท่านั้นที่จะยับยั้งวงจรการบ่อนทำลายนี้ ได้ นั่นคือการพีนฟูดีลธรรมขึ้นมาในใจคน เมื่อใดก็ตามที่ คนเราได้เรียนรู้ความเป็นจริงของซีวิตอย่างถ่องแท้ เมื่อนั้น ความละอายและเกรงกลัวต่อบาปจะเกิดขึ้นมาในใจ แม้เม่มี ใครรู้ ไม่มีใครเห็น ไม่จำเป็นด้องมีมาตรการ หรือระบบ www.kalyanamitra.org
คุณภาพไจใบยุคสังคร!!จเบ0ร้ 15 ตรวจสอบใด ๆ คบเราก็สามารถยับยั้งชั่งใจละเว้นความชั่ว ได้ด้วยตนเอง ดังนั้น แม้พลังทางสังคมจะอ่อนกำลังลงไป แต่เรา ก็สามารถคุ้มครองใจเรา และคุ้มครองโลกได้ ด้วยพลังแห่ง ศีลธรรม เมื่อเราร่วมกันสร้างเครือข่ายคนดี ช่วยกันแปง ปีนเรื่องราวดี ๆ ทำ หน้าที่กัลยาณมิตรอย่างไม่ลดละ ลักวัน หนึ่ง โลกไซเบอร์ก็จะเพื่เองฟด้วยศีลธรรมเข่นกัน ร ร*^ www.kalyanamitra.org
พ^''^m www.kalyanamitra.org
ประเทศไทยวัยใ)รา ^ 17 ประเทศไทยวัยชรา ฟ้จจุบันสังคมไทยเริ่มเคลื่อนตัวเช้าสู'สังคมผู้สู-3 อายุ คือจำนวนประซากรที่มีอายุเกิน 60 ปี มีมากขึ้น เรื่อย ๆ ในขณะที่เด็กอายุตากว่า 15 ปี มีจำ นวนลดลง การ ที่สังคมไทยเริ่มเช้าสู่วัยชราเซ่นนี้มีเรื่องสำคัญ 2 ประการที่ อยากจะฝากไว้คือ ประการที่ 1 การเตรียมความพร้อมทาง ด้านเศรษฐกิจ www.kalyanamitra.org
18 ^ ทันโลกทับธรรม 5 เมื่อคนในวัยทำงานมีอัตราส่วนลดลงเรื่อย ๆ การ บริหารทรัพยากรบุคคลจึงเป็นเรื่องที่ต้องวางแผนให้ดี อาจ ต้องมีการปรับแก้กฎหมายใหม่ เข่น แต่เดิมการเกษียณอายุ กำ หนดไว้ที่ 60 ปี ก็อาจต้องขยับไปที่ 65 ปี หรือ 70 ปี เพราะผู้สูงวัยในษีจจุบันนี้ จำนวนไม่น้อยที่มีลุขภาพแข็งแรง อีกทั้งมีความรู้ความสามารถ เกินกว่าจะนั่งจับเจ่าอยู่กับ บ้าน หรือมีข็วิตอยู่ไปวัน ๆ ในบ้านพักคนชรา บุคคลที่น่าชื่นซมท่านหนึ่ง คือ เติ้งเสี่ยวผิง ผู้พลิก แผ่นดินจีน จากประเทศที่ประชากรมีรายได้ต่อหัวตํ่ามาก ทะยานขึ้นมาอยู่แถวหน้าของโลก โดยการผลักดันระบบ เศรษฐกิจการตลาดเข้าสู่ประเทศจีน เปสี่ยนวิถีชีวิตของคน www.kalyanamitra.org
ประเทศไทยวัยชรา @ 19 1,300 ล้านคน นับตั้งแต่ปี ค.ศ.1978 ซึ่งขณะนั้นเติ้งเสี่ยวฝิง มีอายุถึง 75 ปีแล้ว นี่คือศักยภาพอันยิ่งใหญ่ของชายชราผู้หนึ่ง ในหลายวงการอาชีพ ประลบการณ์ของผู้ลูงวัยนับ เป็นประโยชน์ต่องานอย่างยิ่ง เซ่น นักวิชาการ นักบริหาร นักกฎหมาย สถาปนิก วิศวกร หรือแม้แต่แพทย์ที่เกษียณ อายุแล้ว ก็สามารถใช้ความเชี่ยวชาญรักษาคนไขได้เป็น อย่างดี และไม่เฉพาะแต่ในแวดวงวิฃาการ ผู้สูงอายุยัง สามารถเป็นผู้เชี่ยวชาญในงานแมีอเซ่นกัน ขอเพียงแต่มีผู้ เห็นความสำคัญ และเปีดโอกาสให้ท่านเหล่านั้นได้ใช้ความ สามารถที่สั่งสมมา ตวอย่างเช่น เมื่อครั้งที่ประเทศจีนกำลัง สร้างหลักปีกฐาน ต้องการความรู้ และเทคโนโลยีด้าน ต่าง ๆ อย่างมาก องค์กรและบริษัทจากประเทศจีน จึงได้เช้า มาเสาะแสวงหาผู้สูงอายุซาวญี่ปุนซึ่งเกษียณอายุแล้ว และ เป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านต่าง ๆ แม้แต่ผู้สูงวัยที่เป็นแรงงานมี ปีมือ เซ่น เป็นผู้เชี่ยวชาญในการเลี้ยงหอยมุก ก็ได้รับเชิญ ไปถ่ายทอดทักษะความรู้ การเล็งเห็นถึงคุณค่าของผู้สูงอายุ เซ่นนี้ ได้สร้างประโยชนั[ห้กับประเทศจีนอย่างมหาศาล รวมทั้งอุตสาหกรรมการเลี้ยงหอยมุกของประเทศจีน ก็มี การเติบโตอย่างมากในปีจจุบัน www.kalyanamitra.org
20 ^ ฬรร!มVทลมขาย ฉานวุทโฒ M.O.. Ph.D. ส่วนในสังคมไทย หลาย ๆ วงการก็เริ่มมีการปรับ ตัวสำหรับการเป็นสังคมผู้สูงอายุ เซ่น ในระบบตุลาการ ผู้ พิพากษาที่เกษืยณอายุแล้ว ก็ยังสามารถทำหน้าที่พิพากษา คดีได้ เพียงแต่ไม่ได้รับงานด้านบริหาร เซ่นกันกับอัยการ อาวุโส เมื่อเกษียณอายุก็จะวางงานด้านบริหาร และทำ หน้าที่อัยการอย่างเดียว ซึ่งส่งผลดีต่อระบบงานโดยรวม อย่างมาก เพราะได้แก้ษีญหาคดีคั่งค้าง อันเนื่องมาจากจำนวน ผู้พิพากษาและอัยการไม่เพียงพอ www.kalyanamitra.org
ประเหคไทยวัยขรา 21 ขณะนี้จึงมีความพยายามที่จะปรับแก้กฎหมาย ใหมในเรื่องการเกษียณอายุ เพียงแต่จะต้องกระทำอย่าง ค่อยเป็นค่อยไป เพราะถ้าเลื่อนจาก 60 ปี เป็น 65 ปี หรือ 70 ปี ทันทีทันใด ก็จะเกิดความชะงักงันในการเลื่อน ตำ แหน่งต่าง ๆ แต่ถ้าค่อย ๆ ปรับครั้งละ 1 ปี ผู้ที่อยู่ใน ตำ แหน่งรองลงไปก็ไม่เสียผลประโยชน์มากนัก การป้องกัน ปีญหาเหล่านี้ ต้องอาศัยการวางแผนการจัดการต่าง ๆ ให้ตี ส่วนในระบบงานชองเอกชน ปิญหาที่อาจจะเกิด ขึ้นก็คือ โดยมากบรืษี'ทเอกชนมักไม่ต้องการจ้างพนักงานที่ มีอายุการทำงานยาวนาน เนื่องจากต้องจ่ายเงินเดือนสูง การมีพนักงานผู้สูงอายุที่เลื่อนเวลาการเกษียณออกไปอีก ยิ่งเป็นการเพิ่มรายจ่ายให้กับบริษัท และในบางกรณี แมั ผู้สูงอายุจะมีประสบการณ์และความสุขุมรอบคอบใน การทำงาน แต่ในต้านความฉับไวในการตัดสินใจ หรือ ประสิทธิภาพต้านอื่น ๆ ก็อาจลดลง ดรงจุดนี้บริษัทเอกชน ต่าง ๆ ก็มักจะคำนึงถึงความต้มค่า เมื่อเทียบกับการจ้าง งานพนักงานที่อายุยังน้อย อย่างไรก็ตาม ปิญหาต่าง ๆ เหล่านี้ล้วนสามารถหา ทางออกไต้ ด้วยการบริหารจัดการที่ดีเช่นกัน เช่น อาจต้อง www.kalyanamitra.org
22 ^ ทันโล(าห่นธรรม 5 มีการพบกันครึ่งทาง โดยบริษัทยังคงจ้างงานผู้สูงอายุต่อ แต่ อาจปรับลดเงินเดือนลงตามภาระงาน ให้สมประโยชน์ซึ่ง กันและกัน บริษัทก็ประหยัดรายจ่าย ผู้สูงอายุกึ!ด้ใซ้ศักยภาพ ของตนให้เกิดประโยชน์ ปีญหาลักษณะนี้จ้งต้องพิจารณาเป็น กรณี ๆ ไป ไม่อาจใช้ระบบอัตโนม้ตมาประเมินได้ ส่วนผู้สูงอายุในกลุ่มผู้ใช้แรงงาน ซึ่งไม่สามารถ ทำ งานหนักเซ่นเดิมได้ ก็ต้องมีมาตรการช่วยเหลือรองรับ ปรับรูปแบบเนื้องานให้พอเหมาะลงตัว ผู้สูงอายุกลุ่มนื้ก็ สามารถใช้ชีวิตอย่างมีคุณค่าในวัยเกษียณอายุได้เซ่นกัน www.kalyanamitra.org
ประเทศไทยวัยซรา 23 เราทุกคนล้วนกำลังก้าวเข้าสู่วัยชราอยู่ทุกขณะ เราจะเป็นคนฃราที่ต้องเป็นภาระของผู้อื่น หรือจะเป็น ผู้หยิบยื่นประโยฃน์สุขให้ลังคมก็อยูทว่า วันนี้เราดำเนิน ชีวิตอย่างไร ไต้สั่งสมทักษะความรู้ และประสบการณ์ ต่าง ๆ ให้เพิ่มพูนตามอายุหรือไม่ หากเราได้ร่วมใจกัน บริหารทรัพยากรบุคคลเป็นอย่างดี เขื่อแน่ว่าเศรษฐกิจของ ประเทศไทยวัยชรา ก็จะมีความกินดีอยู่ดีแน่นอน ประการที่ 2 การเตรียมความพร้อมค้านจิตใจ คนขราที่ไม่มีเป้าหมายชีวิตนี้นน่าสงสาร จะมี ความเงียบเหงาอยู่ภายในจิตใจ และมองไม่เห็นคุณค่าที่แท้ จริงของตนเอง แม้ในสังคมที่เจริญแล้ว เข่น ญี่ปุน คนขราจำนวน ไม่น้อยก็ยังมีชีวิตที่น่าหดหู่ใจ ในยามหนุ่มสาวต่างก็ขยัน ข้นแข็ง ทำ งานหน้กเก็บออมเงินทองด้วยความประหยัด แต่ พอสูงอายุกลับต้องไปอยู่ที่บ้านพักคนชรา ซึ่งมีค่าใข้จ่ายสูง มาก เท่ากับว่าเก็บเงินมาทั้งชีวิตเพื่อการนี้ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้เฒ่าบางคนที่ขาดความรู้เรื่องบุญ และบาป จะใช้ชีวิตฆ่าเวลาไปวัน ๆ บ้างก็เล่นไฟ เล่นเกมส์ เสพสื่อประโลมโลก ผู้เฒ่าบางคนนั่งอ่านการ์ตูนลามกบน รถสาธารณะ โดยไม่สนใจไยดีสายตาใครแม้แต่เด็ก ๆ ที่มอง www.kalyanamitra.org
www.kalyanamitra.org
ประเทศ!ทยวัยชรา ^ 25 ดูอยู่ ภาพที่น่าสลดใจเหล่านี้ ยิ่งทำให้ความเคารพต่อผู้สูง อายุลดหายไป นับเป็นสังคมคนชราที่น่าเป็นห่วงอย่างยิ่ง ฉะนั้น การพัฒนาเศรษฐกิจและการพัฒนาจิตใจ จึงต้องทำควบคู่กันไป ทุกคนในสังคมไม่ว่าจะมีอายุเท่าใด ต้องไต้เรียนรู้ความเป็นจริงของชีวิต เพื่อที่จะไต้รู้ถึงเปัาหมาย ของการเกิดมาเป็นมนุษย์ ต้องรู้ว่ากายมนุษย์นี้สำคัญที่สุด เพราะเป็นอุปกรณ์ในการสร้างบุญกุศลที่จะเป็นเสบียง ติดตัวข้ามภพข้ามขาติ ความรู้เรื่องบุญและบาป กฎแห่ง กรรม และชีวิตในสังสารวัฏ จึงเป็นสิ่งที่ต้องปลูกฝืงให้แน่น หนา เพราะความรู้เหล่านี้เท่านั้น ที่จะช่วยให้คนเราดำเนิน ชีวิตอย่างถูกต้องและมีความสุข ทุกวันที่มีชีวิตอยู่ จึงเป็น วันที่มีคุณค่าและมีความหมาย แม้เป็นผู้เฒ่า ก็มิใช่ผู้เฒ่าที่ อยู่เพื่อรอวันตาย แต่จะอยู่เพื่อสร้างบารมี ใครได้เข้าใกล้ ผู้เฒ่าเข่นนี้ ก็จะรู้สีกสงบเยึน มีความสุข จึงเป็นที่เคารพรัก ของลูกหลาน ขอให้ทุกคนเตรียมความพร้อมตั้งแต่วันนี้ ดำ เนิน ชีวิตอย่างมีเฟ้าหมาย เพื่อก้าวเข้าสู่สังคมวัยฃราที่เจริญ รุ่งเรืองทั้งเศรษฐกิจและจิตใจ เป็นผู้สูงวัยที่ประสบความ สำ เร็จทั้งทางโลกและทางธรรม www.kalyanamitra.org
26 ^ ทนโลกทันธรรม 5 I www.kalyanamitra.org
ภัยพิบตและการแกIข ® 27 ภัยพิบัติและการแก้ไข มนุษยชาติทุกวันนี้ ต่างต้องเผชิญกับภัยพิบัติ ที่รุนแรงและน่ากลัว จนดูเหมือนว่า โลกช่างโหดร้ายต่อ มนุษย์เหลือเกิน แท้จริงแล้ว โลกมิได้โหดร้ายเลย เพราะ ภัยพิบัติต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นนั้น ล้วนมาจากแมือมนุษย์ เรามักจะพูดกันถึงภาวะโลกร้อน อันทำให้ตินฟ้า อากาศแปรปรวน ที่เคยหนาวกลับร้อน ที่เคยร้อนกลับ หนาว บางท้องที่ในทวีปยุโรปแม้เช้าสู่หน้าร้อนแล้ว แต่กลับ มืหิมะตกอย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก้อน www.kalyanamitra.org
28 ^ พระมหาajiขาย รานวฑไฒ พ.ว-, Ph.D. โลกจะร้อนขึ้นได้อย่างไร ถ้ามใซ่เพราะมนษย่ไข้ ทรัพยากรธรรมซาติอย่างถล่มทลาย จนธรรมชาติไม่อาจ ปรับสมดุลได้ เกิดความผันผวนแปรปรวนกระทบกันไปหมด ดังนั้นภัยธรรมชาติทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นนั้าท่วม แผ่นดิน ไหว หรือลมพายุ จึงล้วนเกิดจากมนุษย์ตัวเล็ก ๆ นี่เอง ยิ่งไปกว่านั้น การก่อการร้าย การกระทำอันเห็น แก่ตัว และความประมาทของมนุษย์ ยังก่อให้เกิดภัยพิบ้ติที่ สร้างความเสียหายอย่างใหญ่หลวงมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน www.kalyanamitra.org
ภัยฟ้บตและการนก้!ข ^ 29 ดังเหตุการณ์ที่เกิดไฟปาครั้งใหญ่ในประเทศ ออสเตรเลียเมื่อประมาณปี พ.ศ. 2551-2552 ซึ่งเป็นข่าว ไปทั่วโลก เนื่องจากมีผู้เสียซีวิตนับร้อย และสร้างความเสีย หายรุนแรงที่สุดในประว้ตศาสตร์ของออสเตรเลีย ในขณะ ที่สาเหตุของภัยพีนัติครั้งนี้ เกิดจากการที่วัยรุ่นจุดไฟเล่น เพียงเพราะอยากเห็นความโกลาหลวุ่นวายเท่านั้นเอง ในเมืองไทยการเผาป่าก็สร้างความเสียหายไม่น้อย เข่นกัน พื้นที่ป่านับ 2,000 - 3,000 ไร่ สามารถถูกทำลาย ได้ภายในเวลาไม่กี่ฃั่วโมง โดยที่ผู้กระทำนั้นอาจหวังเพียงแค่ ว่า เมื่อพื้นที่ป่ากลายเป็นเถ้าถ่านแล้ว จากนั้นอึกไม่นานก็ จะมืเห็ดงอกขึ้นมาให้เก็บไปขาย มนุ'ษย์ทุกคนต่างมือึทธิพลต่อโลกใบนี้ สภาพความ เป็นไปของโลก ก็คือภาพสะท้อนจิตใจของมนุษย์นั่นเอง ยิ่งมนุษย์มืความเห็นแก่ตัว ภัยพิบตก็จะยิ่งร้ายแรงเป็นเงา ตามตัว ดังที่พระสัมมาสัมทุทธเจ้าทรงตรัสเล่าถึงยุคที่ มนุษย์มีจิตใจตกตํ่าถึงขีดสุด จนทำให้เกิดภัยพิบัติอันน่า สะพรึงกลัว 3 รูปแบบคือ 1.ไฟบรรลัยกัลป้ล้างโลก มืสาเหตุมาจากกิเลส www.kalyanamitra.org
30 ^ ทันโลกท้นรรรม 5 ตระกูลโทสืะของมนุษย์ ยุคใดที่มนุษย์มีโทสะมาก โลกก็จะ ร้อนขึ้นเรื่อย ๆ จนถึงจุดหนึ่งจะเกิดไฟบรรลัยกัลป้ที่เผา ทำ ลายโลกมนุษย์ แล้วลุกลามไปยังสวรรค์ทั้ง 6 ชั้น และ รูปพรหมอีก 3 ชั้น จนมอดไหม้หมดสิ้น 2. นํ้าบรรลัยกัลฟ้ล้างโลก มีสาเหตุมาจากกิเลส ตระกูลราคะของมนุษย์ ยุคใดที่มนุษย์มีความโลภมาก มี ราคะเกิดขึ้นท่วมท้น ถึงจุดหนึ่งจะเกิดนํ้าบรรลัยกัลฟ้ล้างโลก สามารถทำลายล้างนับตั้งแตโลกมนุษย์ สวรรค์ทั้ง 6 ชั้น จนถึงรูปพรหมอีก 6 ชั้น จนหมดสิ้น 3. ลมบรรลัยกัลฟ้ล้างโลก มีสาเหตุมาจากกิเลส ตระกูลโมหะของมนุษย์ ยุคใดที่มนุษย์มีความลุ่มหลงมัวเมา ไม่รู้จักบาปบุญคุณโทษ จะเกิดลมบรรลัยกัลปล้างโลก ซึ่งมี www.kalyanamitra.org
ภ้ยพบัติและการแก้1ข ร iSs ร!ร 9!l อำ นาจทำลายล้างยิ่งกว่าไฟและนํ้า สามารถพัดทำลายโลก มนุษย์ ตลอดจนสวรรค์ทั้ง 6 ชั้น จนถึงรูปพรหมอีก 9 ชั้น จนหมดสิ้น นี่คือภัยพิบัติ ที่บังเกิดขึ้นในยุคที่ไม่อาจเยียวยา แก!ฃสิ่งไดได้แล้ว ส่วนเรานั้นยังโขคดีที่เกิดมาในยุคที่ พระพทธศาสนายังดำรงอยู่ จึงไล้รู้ว่า ภัยพิใ!(ติที่ดูเผิน ๆ เหมือนภัยธรรมชาติจากนั้า ลม ไฟนี้ แท้จริงเกิดจากกิเลส ในใจคน ด้งนั้นการแก้ไขภัยพิ■ยัติ จึงต้องเริ่มต้นที่จิตใจคน ในอดีต เมื่อเกิดภาวะผิดปกติ เข่น เกิดภัยแล้งฝน ฟ้าไม่ตกต้องตามฤดูกาล หรอเกิด'ตุกข์ภัยต่าง ๆ พระราซา www.kalyanamitra.org
32 ^ ฑระมหาลม'tาฃ ราน'\" โ?ฆ M อ., Ph.D www.kalyanamitra.org
ภัยพนัต๊และทารแก้ไข ^ 33 จะนำซาวเมืองทั้งหมดนุ่งขาวห่มขาว รักษาศีล และสวดมนต์ เจริญภาวนาอย่างต่อเนื่อง 7 วัน 7 คืน หรือจนกระทั้ง เหตุการณ์ค่อย ๆ คลี่คลาย จนในที่สุดฝนฟ้ากลับมาตกต้อง ตามฤดูกาล พืฃพันธุธัญญาหารกลับมาอุดมสมบูรณ์ นื่คือ สิ่งที่บัณฑิตนักปราชญไนกาลก่อนไต้กระทำเป็นต้นแบบ คนร่นใหม่ที่ได้ยินได้ฟ้งเรื่องราวเหล่านี้ อาจคิดว่า เป็นเพียงนิทาน แต่ขอให้ลองพิจารณาดูว่า บรรยากาศโลก ของเราจะเป็นอย่างไร ถ้าคนทุกคนอยู่ในศีลในธรรม ตั้งใจ ทำ ความดี สิ่งแวดล้อมย่อมได้รับการดูแล สรรพสิ่งย่อม ปรับเข้าล่ภาวะสมดุล ขอเพียงเราเรื่มต้นที่ตัวของเราเองก่อน แล้วซักซวน ผู้คนรอบข้าง ให้พลังความดีขยายวงกว้างออกไป เราจะพบ ว่า ภัยพี'บตธรรมฃาติมิใซ่เหตุสุดวิสัย แต่สามารถ'ป็องกัน และแก้ไขได้ ด้วยการร่วมแรงร่วมใจกันทำความดี www.kalyanamitra.org
34 ^ ทันใลกทนธรรม 5 ๙ www.kalyanamitra.org
นอบใม่หลับ 35 นอนไม่หลับ การนอนหลับสำคัญที่ใจ เพราะการนอนหลับนีใซ่ เป็นเพียงแค่การพักผ่อนร่างกาย แต่จุดสำคัญคือการพักใจ นี่คือเหตุผลที่ว่า เหตุใดผู้ที่นอนไม่หลับ จึงรู้สึกเหมือนไม่ได้ พักผ่อน ทั้ง ๆ ที่นอนอยู่เฉย ๆ ตั้งหลายชั่วโมง ในขณะที่ผู้ ที่งีบหลับไปแค่ไมกนาที กลับรู้สึกสดขื่นเมื่อตื่นขึ้น ทั้งนี้เป็นเพราะขณะที่คนเราหลับ ใจจะแซ่อิ่มอยู่ ในนํ้าเลี้ยงใจ ณ ศูนย์กลางกายฐานที่ 7 เมื่อตื่นขึ้นมาจึง รู้สึกสดขื่น ส่วนคนที่นอนไม่หลับแม้จะนอนนี่ง ๆ อยู่นาน www.kalyanamitra.org
36 พใเะมหาลม๚'-ty รานๅฬฺร! M.O., Ph.D. แต่ใจไม่ได้แซ่อิ่มอยู่ในนํ้าเลี้ยง ใจจึงแห้งผาก มีอาการมนงง ไม่สดชื่น ในพระพุทธศาสนา เป็นที่ปรากฏมากมายว่า พระ อรหันต์สามารถประกอบความเพียรโดยไม่นอนเลยทั้งวัน ทั้งคืน ต่อเนื่องยาวนานนับเดือน นับปี ที่น่าอัศจรรย์ยิ่งคือ พระมหากัสสปะ ผู้เป็นเลิศในทางผู้ทรงธุดงค์ ท่านปฎิปีติ ธุดงควัตรทั้ง 13 ข้ออย่างเคร่งครัด และในข้อสุดท้ายที่ เรียกว่า เนสัฃฃิกังคะ คือการอยู่ในอิริยาบถ 3 อันได้แก่ ยืน เดิน และนั่งเท่านั้น ท่านก็สามารถปฏิบ้ติได้จนตลอดชีวิต โดยไม่นอนเลย เนสัซซิกังคะ จึงเป็นการประกอบความเพียร ชื่ง ถ้าหากใครมีพี้นฐานการปฏินัติธรรมในระดับหนื่งแล้ว และ มีความตั้งใจจะปฏิบัติธรรมอย่างอุกฤษฏ์ ก็สามารถทำได้ เพราะแม้จะไม่ได้นอน แต่ใจที่นิ่งเป็นสมาธินั้น จะโปร่งเบา ชุ่มชื่น จึงไม่กระทบต่อสุขภาพ และมีผลดีคือ ช่วยให้ สามารถปฏิบัติธรรมได้อย่างต่อเนื่องเป็นเวลานาน ดังที่เรา ทราบกันว่า พระอรหันต์สามารถเข้านิโรธสมาบัติ 7 วัน 7 คืน โดยไม่นอนเลย เพราะใจของท่านนิ่งสนิท แม้ ร่างกายก็แทบไม่หายใจ แต่สำหรับบุคคลทั่วไป ไม่แนะนำ www.kalyanamitra.org
บอนใม่หลัท 37 ให้ฝืนสังขารร่างกายเซ่นนั้น เพราะถ้าใจไม่ชุ่มอยู่ในสมาธิ ร่างกายอาจรับไม่ไหว มีปิญหาสุขภาพตามมา อาตมาเคยได้พบพระญี่ป่นรูปหนึ่ง ในห้องนอน ของท่านมีแค่เบาะให้นั่งเท่านั้น ไม่มีเตียง ไม่มีฟูก เพราะ ท่านไม่นอนมานบสิบปีแล้ว หากแต่ท่านมิได้เป็นพระนัก ปฏินัตี แต่เป็นพระนักกิจกรรม ขอบช่วยเหลือสังคม ได้ถาม ท่านว่า ท่านไม่ได้นอนหลับแล้วอยู่ได้หรือ ท่านบอกว่า อยู่ ได้ เพราะถึงแม้ท่านจะไม่ได้นอนหลับ แต่ก็อาศัยการงีบแค่ ไม่กี่วินาทีเป็นช่วง ๆ ไป ครั้งนั้นได้นั่งสนทนากับท่านราว ครึ่งชั่วโมง และสังเกตเห็นว่า ในฺระหว่างที่คุยกันนั้น บางที www.kalyanamitra.org
38 ทนโลกทันธรรม ท่านก็งีบไปนิดหนง สัก 5 วินาที 10 วินาที แล้วก็คุยต'อ จึงนิกถึงว่า ล้าหากท่านกำลังท่ากิจกรรมต่าง ๆ อยู่ แล้วงีบ ไป จะไม่เกิดอันตรายหรือ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง พระญี่ปุน สามารถขับรถได้ จึงถามท่านด้วยความเป็นห่วงว่า ล้าหาก ท่านกำลังขับรถอยู่ แล้วเกิดงีบไปจะท่าอย่างไร ท่านตอบ ว่า ล้าหากกำลังท่าเรื่องสำคัญ เข่น ขับรถ ท่านจะไม่เผลอ งีบ เพราะมีความตั้งใจเป็นพิเศษ ท่านจะงีบเป็นข่วงสัน ๆ ก็เฉพาะตอนที่ท่ากิจกรรมที่ไม่จรืงจัง เข่น การพูดคุย การ ฉันภัตตาหาร เป็นด้น พิงแล้วก็อดคิดไม่ได้ว่า การนอนหลับ อย่างเป็นกิจจะลักษณะแลัวตื่นมาอย่างสดซื่นน่าจะดีกว่า ตั้งในแง่ฃองสุขภาพ และประสิทธิภาพในการดำเนินซีวิต V'fc IV - r> s - โ; ะ^';. www.kalyanamitra.org
นอนไม่หลับ ^ 39 ที่กล่าวมาข้างต้น เป็นตัวอย่างของผู้ที่ตั้งใจไม่นอน หลับ ส่วนกรณีของผู้ที่นอนไม่หลับควรทำอย่างไร เราต้องทราบก่อนว่า ข่วงรอยต่อระหว่างการหลับ และการตื่นนั้น ใจจะมาจรดที่ศูนย์กลางกาย เป็นเซ่นนี้ทุก คน ไม่ว่าจะเคยทำลมาธิหรือไม่ก็ตาม เมื่อหลับแล้ว ใจก็ อาจเตลิดเที่ยวไป คนเราจึงหลับแล้วฝืนไปต่าง ๆ นานา แตใจจะยังคงมีสายใยยึดโยงที่ศูนย์กลางกาย และมีนั้าหล่อ เลี้ยงใจอยู่ การที่ใจมาจรดที่ศูนย์กลางกายในซ่วงรอยต่อ ระหว่างการหลับและการตื่นนี้เอง ที่เป็นเหตุให้ผู้ที่กำลัง 13กสมาธิบางท่าน เกิดความสว่างแวบขึ้นมาในขณะที่กำลัง เคลิ้ม ๆ คล้ายจะเผลอหลับ ทั้งที่ตอนนั่งทำสมาธิตัวตรงเอา จริงเอาจังนั้นมีดตื้อทีเดียว แม้แต่พระอานนท์พุทธอุปัฏฐาก ผู้เป็นพระ โสดาบันมายาวนานก็ยังไม่บรรลุพระอรหันต์ กระทั่งพระ สัมมาส้มพุทธเจ้าปรินิพพาน ครั้งนั้นพระอานนท์!ต้รับเลือก ให้เข้าร่วมการทำปฐมสังคายนาพระไตรปีฏก ร่วมกับพระ อรหันต์อีก 499 รูป แม้ว่าพระอานนท์จะยังเป็นเทียงพระ โสดาบัน แต่เนื่องจากท่านคอผู้ที่ได้อยู่รับไข้ใกล้ชดพระ สัมมาส้มพุทธเจ้ายาวนานที่สุด ไต้ทีงพระธรรมเทศนามาก www.kalyanamitra.org
40 ^ ฑระมหาสมขาย ธาบวุทโฒ M.D..Ph.D. ที่สุด อีกทั้งท่านยังเปีนผู้มีความทรงจำเป็นเลิศ ดังนั้นใน การสังคายนาพระไตรปิฎก จึงจำเป็นต้องมีท่านร่วมอยู่ด้วย พระอานนท์ปรารถนาที่จะทำหน้าที่ที่ท่านได้ รับมอบหมายนี้อย่างบริบูรณ์ ท่านจึงตั้งใจบำเพ็ญเพียร ภาวนาอย่างเต็มที่ เพื่อบรรลุพระอรหันต์ แต่ไม่ว่าท่านจะ พากเพียรเพียงใด ก็ไม่อาจบรรลุไต้ กระทั่งใกล้จะถึงรุ่ง เข้าของวันปฐมสังคายนา ในที่สุดท่านก็คิดว่า ...ไม่ไต้เป็น พระอรหันต์ ก็ไม่เป็นไร... คิดดังนั้นแล้ว ท่านก็เอนกาย ลงเพื่อจะพักผ่อนนอนหสับ ขณะที่ศีรษะของท่านยังไม่ทัน ถึงหมอน ใจที่คลายแล้วนั้นก็เคลื่อนเข้าศูนย์กลางกายของ www.kalyanamitra.org
บอนไม่หลับ © 41 กายธรรมพระอรหัต บรรลุธรรมในยามนั้นนั่นเอง การทำ ปฐมสังคายนาจึงเกิดขึ้นโดยพระภิกษ 500 รูป ซี่งล้วนแล้ว แต่เป็นพระอรหันต์ทั้งสิ้น เมื่อเราได้ทราบถึงกลไกการหลับ ที่ใจจะต้อง เคลื่อนมาที่คูนย์กลางกายฐานที่ 7 ชั่วขณะหนี่ง จึงจะเกิด การเชื่อมต่อจากการตื่นไปสู่การหลับไต้ เราก็ย่อมสามารถ เข้าสู่การหลับอย่างเป็นสุขไต้ทุกครั้งที่ต้องการพักผ่อน โดย หมั่นแกเอาใจมาอยู่ที่คูนย์กลางกายให้คุ้นเคย สำ หรับผู้ที่เป็นโรคนอนไม่หลับ ให้ลองทำดังนี้ เมื่อถึงเวลาที่ควรจะเข้านอน ให้ปล่อยวางจากภารกิจทั้ง หลาย โดยบอกกับตัวเองว่า วันนี้พอแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้ค่อย ว่ากันใหม่ แล้วจึงอาบนั้าอาบทำให้กายสบาย เป็นการปู พื้นให้เกิดความสบายใจ จากนั้นก็สวดมนต์โดยเลือกบทที่ มีความยาวพอสมควร เพราะขณะที่สวดมนด้!จเราจะเริ่ม สงบ ความวิตกกังวล ความฟ้งซ่านจะค่อย ๆ คลายไปจาก ใจ เหมือนเป็นการอาบนํ้าให้ใจผ่องแผ้ว ปลอดโปร่ง เสร็จแล้วจึงนั่งสมาธิ ทำ ใจนิ่ง ๆ ผู้ที่เริ่มแกใหม่ ๆ อาจยัง ไม่คุ้น นั่งไปฟ้งไปก็ไม่เป็นไร ขอให้แกไปอย่างสมํ่าเสมอ เราจะรู้สึกไต้เองว่า ใจของเราจะนิ่งขึ้นไปเรื่อย ๆ www.kalyanamitra.org
www.kalyanamitra.org
นอนไม่หลับ (^ 43 เมื่อนั่งสมาธิแล้ว จากนั้นจึงเอนตัวลงนอน จังหวะ สำ คัญอยู่ตรงนี้ ถ้าหัวถึงหมอนแล้ว ยังคงรักษาใจให้นิ่ง ๆ อยู่ที่กลางห้องได้ สักพักเดียวก็จะหสับสบาย และเป็นการ หลับอย่างถูกหสักวิชา เพราะหลับในอู่ทะเลบุญ คือ พระ นิพพาน จึงหลับอย่างเป็นสุขและปลอดภัย ครั้นตื่นขึ้นมา ก็ เอาใจวางไว้นิ่ง ๆ ที่กลางห้องก่อนลักครู่หนิ่งจึงค่อยลุกขึ้น มาปฏิบัติภารกิจ เริ่มด้นวันใหม่อย่างสดชื่น แจ่มใส แต่ถ้าหากใครที่หัวถึงหมอนแล้วนอนคิดโน่นคิดนิ่ คิดไป สัก 5 นาที 10 นาที คราวนี้ตาแข็งจนนอนไม่หลับ เลย ฉะนั้นอย่าลืมเตือนตัวเองว่า \"วันนี้พอแค่นี้ก่อน พรุ่งนี้ ค่อยว่ากันใหม่\" ยดหลักอย่างนี้แล้ว เราจะหายจากโรคนอนไม่หลับ แต่จะกลายเป็นผู้ที่หลับเป็นสุข ตื่นเป็นสุข เทวดาลงรักษา ให้มีสุขภาพกายและใจที่สตใสแข็งแรง เป็นยอดนักสร้าง บารมีที่เต็มเป็ยมด้วยพลังชีวิต www.kalyanamitra.org
www.kalyanamitra.org
มองบวก คิดบวก © 45 มองบวก คิดบวก ในยุคสมัยที่ราซวงศ์ฮั่นปกครองประเทศจีนนั้น ประเทศจีนมีความรุ่งเรืองมาก การที่คนจีนเรียกตนเองว่า ซาวฮั่น ก็เพราะมีความรู้สึกภูมิใจว่าตนเ{เนคนของราชวงศ์ ฮั่น และการที่อักษรจีนปิจจุบันเรียกว่า ฮั่นจื้อ ก็หมายถึง เป็นอักษรของราซวงศ์ฮั่นนั้นเอง ปฐมกษัตริย์ของราชวงศ์ฮั่นพระนามว่า พระเจ้า ฮั่นโกใจ ทรงมีแม่ทัพที่ยิ่งใหญ่ผู้หนึ่งซื่อว่า ฮั่นสิน มีความ www.kalyanamitra.org
46 ^ ทันโลกท■น!)รรม 5 เก่งกาจสามารถในการคุมทัพออกรบ และเป็นกำลังสำคัญ ใบการสถาปนาราชวงศ์ฮั่น จึงนับเป็นบุคคลสำคัญผู้หนึ่งใน ประวัติศาสตร์ชาติจีนทีเดียว แต่ใครจะรู้บ้างว่า ในอดีต ฮั่นสินคนนี้ เป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ที่เคยถูกอันธพาล รังแก ในครั้งนั้น มีอยู่วันหนึ่งอันธพาลประจำเมืองสั่งให้ 1;-พๅ r www.kalyanamitra.org
มองนวก คิดบวก ^ 47 ฮั่นสินคุกเข่าลง และให้คลานลอดหว่างฃาของตน ตาม ธรรมเนียมของจีนนั้นถือว่า หัวเข่าของชายซาตรีมีคุณค่า ยิ่งกว่าทองคำ ฮั่นสินทั้งต้องคุกเข่า ทั้งต้องคลานลอดหว่าง ขาของคนพาล ท่ามกลางเสียงหัวเราะเยาะเย้ย สร้างความ อับอายให้กับฮั่นสินยิ่งนัก การสูญเสียคักดี้ศรีของลูกผู้ชายในครั้งนั้น ทำ ให้ นับแต่นั้นเป็นต้นมา ฮั่นสินไต้มุ่งมั่นฝ็กปรือวิทยายุทธ และ!!กฝนความสามารถทางการรบในทุก ๆ ต้าน อาศัย เหตุการณ์ที่น่าอัปยศในครั้งนั้นเป็นแรงผลักดัน จนกระทั่ง สามารถก้าวขี้นมาเป็นแม่ทัพใหญ่ของพระเจ้าฮั่นโกใจ ใต้ รับมอบหมายให้คุมทัพออกรบ และสถาปนาราชวงคํฮั่นไต้ สำ เร็จ เมื่อชนะศึกทุกต้านแล้ว แม่ทัพใหญ่ฮั่นสินไต้ ย้อนกลับไปยังเมีองที่ตนเคยอยู่ แล้วสั่งให้ทหารไปนำต้ว อันธพาลประจำเมีองมา เมื่ออันธพาลผู้นั้นถูกนำตัวมาถึง แทนที่ฮั่นสินจะลงโทษให้สาสม แต่เขากลับมอบรางวัลให้ อันธพาล พร้อมทั้งกล่าวขอบใจว่า ถ้าไม่มีเหตุการณ์ที่เขา ถูกเหยียดหยามในครั้งนั้น ก็คงใม่มีแม่ทัพใหญ่ฮั่นสินใน วันนี้ เขาคงยังเป็นเพียงชาวบ้านธรรมดา ๆ คนหนึ่ง ที่มีชีวิต ธรรมดาสามัญ และจบชีวิตในขาตินี้ไปอย่างเงียบ ๆ www.kalyanamitra.org
48 ^ พระมหาลมชาย M.D., Ph.D. เหตุการณ์ร้าย ๆ ในซีวิตอาจทำให้บางคนท้อแท้ หมดอาลัยตายอยากในชีวิต หรือเฝืาแต่คิดว่าตนข่างเป็น คนโซคร้ายเหลือเกิน ในขณะที่บางคนกลับมองเหตุการณ์ เหล่านั้น เป็นพลังขับเคลื่อนในการพัฒนาตนเองอย่าง จริงจัง จนสามารถประสบความสำเร็จที่ยิ่งใหญ่ นี่คิอ พลานุภาพของการมองบวก คิดบวก หากเปรียบชีวิตเรา ดุจเรือที่แล่นไปในมหาสมุทร เมื่อกระแสลมพัดมา เราย่อมไม่อาจเปลี่ยนทิศของลมได้ แต่สิ่งที่เราทำได้ก็คือ การปรับใบเรือของเราแทนที่จะปล่อย ให้เรือแล่นไปตามยถากรรม นักเดินเรือที่ชาญฉลาด และมุ่งมั่นที่จะเดินเรือให้ ไปถึงจุดหมาย แม้ต้องแล่นเรือทวนกระแสลม เขาย่อมจะ ปรับใบเรือของตน พยายามควบคุมเรือให้แล่นเฉียงไปมาแบบ สลับฟ้นปลา แลัวอาศัยแรงลมนี้ล่งเรือให้แล่นไปในทิศที่ ต้องการ ชีวิตของเราก็เข่นกัน เราไม่อาจบังคับเหตุการณ์ ต่าง ๆ ให้เป็นอย่างนั้นอย่างนี้!ต้ ไม่อาจสั่งให้ใครเป็นอย่าง ที่เราพอใจ แต่เราสามารถปรับใจของเราได้ ปรับความคิด ของเราได้ และปรับปรุงตัวของเราไต้ โดยเราจะอาศัยสิ่งที่ www.kalyanamitra.org
มองบวก ค็คบวก ^ เกิดขึ้นรอบตัวเรา เป็นพลังในการขับเคลื่อนนาวาขีวิตลำนี้ ไปสู่เป็าหมาย หรือความสำเร็จที่เราต้องการ เราทุกคนต่างเวียนว่ายตายเกิดมานับกพนับ'ชาติ ไม่ถ้วน เราย่อมเคยสรืางบุญไว้ไม่น้อย ขณะเดียวกันเราก็ ย่อมสร้างบาปมาไม่น้อยเซ่นกัน เพียงแต่การที่บุญหรือบาป จะส่งผลเมื่อใดนั้น ขึ้นอยู่กับสภาพจิตใจของเรา www.kalyanamitra.org
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117