Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือเทียบโอน o

Description: คู่มือเทียบโอน o

Search

Read the Text Version



ข คำนำ สำนักงำนส่งเสริมกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัย ได้ดำเนินกำรจัดกำรศึกษำ หลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ (ปวช.) สำหรับกลุ่มเป้ำหมำยนอกระบบ เป็นกำรจัดกำรศึกษำให้กับกลุ่มเป้ำหมำย ท่ีประกอบอำชีพอยู่ในสถำนประกอบกำรหรือประกอบอำชีพอิสระ โดยใช้หลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ พุทธศักรำช 2556 ที่สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำพัฒนำขึ้น เพ่ือเป็นกำรยกระดับคุณวุฒิกำรศึกษำ ของกลุ่มเป้ำหมำยให้สูงข้ึน และพัฒนำอำชีพของผู้ที่มีอำชีพอยู่แล้ว ให้มีควำมม่ันคงและเป็นที่ยอมรับของสังคม ท้ังน้ี ตำมระเบียบกระทรวงศึกษำธิกำรว่ำด้วยกำรจัดกำรศึกษำและกำรประเมินผลกำรเรียนรู้ ตำมหลักสูตร ประกำศนียบัตรวิชำชีพ พุทธศักรำช 2556 กำหนดให้มีกำรเทียบโอ นผลกำรเรียนรู้ที่ผู้เรียนได้ สะสมไว้ ทั้งจำกกำรศึกษำในระบบ กำรศึกษำนอกระบบ หรือกำรศึกษำตำมอัธยำศัย สำมำรถนำมำเทียบโอน เปน็ สว่ นหน่ึงของกำรศึกษำตำมหลักสูตรได้ สำนกั งำนส่งเสริมกำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัย จงึ ได้จดั ทำแนวทำงกำรเทยี บ โอนผลกำรเรียนรู้ ตำมหลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ พุทธศักรำช 2556 สำหรับกลุ่มเป้ำหมำยนอกระบบ ซ่ึงประกอบด้วยกำรเทียบโอนผลกำรเรียน และกำรเทียบโอนควำมรู้และประสบกำรณ์ เพื่อให้กลุ่มเป้ำหมำย สำมำรถนำควำมร้แู ละประสบกำรณ์ทส่ี ะสมไวม้ ำเทียบโอนเป็นสว่ นหน่งึ ของกำรเรยี นร้ตู ำมหลกั สตู ร กำรจัดทำแนวทำงเทียบโอนผลกำรเรียนรู้ ตำมหลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ พุทธศักรำช 2556 สำหรับกลุ่มเป้ำหมำยนอกระบบ ได้รับควำมร่วมมือจำกผู้แทนสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำ ผู้บริหำร ครู นักวิชำกำร และผู้ทรงคุณวุฒิ ซึ่งเป็นผู้มีควำมรู้และประสบกำรณ์ ได้ให้ข้อคิดเห็น ข้อเสนอแนะต่ำง ๆ ท่ีเป็นประโยชน์ ช่วยให้กำรจัดทำเอกสำรเล่มน้ีประสบควำมสำเร็จ ลุล่วงด้วยดี สำนักงำน กศน. ขอขอบคุณ ในควำมรว่ มมือของทกุ ท่ำนมำ ณ โอกำสน้ี (นำยกฤตชัย อรุณรัตน์) เลขำธิกำร กศน. กนั ยำยน 2561

ค สำรบญั หน้ำ ประกำศสำนกั งำนปลดั กระทรวงศกึ ษำธกิ ำร เรื่อง แนวทำงกำรเทียบโอนผลกำรเรยี นรู้ ก ตำมหลกั สูตรประกำศนยี บัตรวชิ ำชีพ พทุ ธศกั รำช 2556 สำหรบั กลุ่มเปำ้ หมำยนอกระบบ คำนำ ข สำรบญั ค บทท่ี 1 บทนำ 1 บทท่ี 2 กำรเทียบโอนผลกำรเรียน 4 คณุ สมบตั ขิ องผู้ขอเทียบโอนผลกำรเรียน 4 เกณฑ์กำรเทยี บโอนผลกำรเรียน 4 ขั้นตอนกำรเทยี บโอนผลกำรเรียน 6 แผนผังขน้ั ตอนกำรดำเนินงำน 7 แบบโอนผลกำรเรียน และ เทยี บโอนผลกำรเรียน 8 บทที่ 3 กำรเทียบโอนควำมรู้และประสบกำรณ์รำยวิชำ 15 คุณสมบตั ิของผู้ขอเทียบโอนผลกำรเรยี น 16 เกณฑ์กำรเทียบโอนผลกำรเรียน 16 ข้ันตอนกำรเทียบโอนควำมรู้และประสบกำรณ์ 17 แบบดำเนินงำนประเมินควำมรแู้ ละประสบกำรณ์ 20 ภำคผนวก 33 ระเบยี บกระทรวงศึกษำธิกำรวำ่ ด้วยกำรจดั กำรศึกษำและและกำรประเมินผลกำรเรียน ตำมหลกั สตู รประกำศนยี บัตรวชิ ำชพี พุทธศกั รำช 2556 ประกำศคณะกรรมกำรกำรอำชวี ศกึ ษำ เร่อื ง หลักเกณฑ์และแนวปฏิบัตใิ นกำรเทียบโอน ควำมรูแ้ ละประสบกำรณร์ ำยวิชำ คณะทำงำนพัฒนำแนวทำงกำรเทียบโอนผลกำรเรียนรู้ ตำมหลกั สตู รประกำศนียบัตรวิชำชีพ พทุ ธศักรำช 2556 สำหรบั กลุ่มเป้ำหมำยนอกระบบ ตวั อยำ่ งคู่มือกำรประเมินควำมรแู้ ละประสบกำรณ์รำยวิชำ กำรขบั รถยนต์

บทท่ี 1 บทนำ 1.หลกั กำรและเหตผุ ล สำนักงำน กศน. เป็นหน่วยงำนหลักที่รับผิดชอบกำรจัดกำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำ ตำมอัธยำศัย โดยนอกจำกกำรจัดกำรศึกษำสำยสำมัญแล้ว กำรศึกษำสำยอำชีพเป็นอีกช่องทำงหน่ึง ท่ีสำนักงำน กศน. พัฒนำข้ึน เพ่ือตอบสนองควำมต้องกำรของประชำชนท่ีมีอำชีพแล้ว ให้ได้รับวุฒิกำรศึกษำ ท่ีสูงข้ึนถึงระดับประกำศนียบัตรวิชำชีพ เพ่ือตอบสนองควำมต้องกำรกำลังแรงงำนระดับฝีมือของประเทศ ส่งเสริมให้ผู้ที่ประกอบอำชีพ สำมำรถนำควำมรู้และประสบกำรณ์ท่ีได้จำกกำรทำงำน ให้เป็นส่วนหนึ่งของ กำรศึกษำ ในรูปแบบกำรศึกษำนอกระบบ โดยนำหลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ พุทธศักรำช 2556 ของสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำ มำใช้ในกำรจัดกำรศึกษำ โดยพระรำชบัญญัติกำรอำชีวศึกษำ พ.ศ. 2551 มำตรำ 6 กำหนดว่ำ กำรจัดกำรอำชีวศึกษำและกำรฝึกอบรมวิชำชีพ ต้องเป็นกำรจัดกำรศึกษำ ในด้ำนวิชำชีพท่ีสอดคล้อง กับแผนพัฒนำเศรษฐกิจและสังคมแห่งชำติและแผนกำรศึกษำแห่งชำติ เพื่อผลิตและ พัฒนำกำลังคนในด้ำนวิชำชีพระดับฝีมือ ระดับเทคนิค และระดับเทคโนโลยี รวมท้ัง เป็นกำรยกระดับกำรศึกษำ วิชำชีพให้สูงขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับควำมต้องกำรของตลำดแรงงำน โดยนำควำมรู้ในทำงทฤษฎีอันเป็นสำกล และภูมิปัญญำไทยมำพัฒนำผู้รับกำรศึกษำ ให้มีควำมรู้ ควำมสำมำรถ และมีสมรรถนะ จนสำมำรถนำไป ประกอบอำชีพ ในลักษณะผู้ปฏิบัติหรือประกอบอำชีพ โดยอิสระได้ และมำตรำ 10 กำหนดว่ำ เพื่อให้บรรลุ วัตถุประสงค์ตำมมำตรำ 6 กำรจัดกำรอำชีวศึกษำ และกำรฝึกอบรมวิชำชีพต้องคำนึงถึง (1) กำรมีเอกภำพ ด้ำนนโยบำยและมีควำมหลำกหลำยในทำงปฏิบัติ โดยมีกำรกระจำยอำนำจจำกส่วนกลำงไปสู่สถำนศึกษำ อำชีวศึกษำและสถำบัน (2) กำรศึกษำในด้ำนวิชำชีพสำหรับประชำชนวัยเรียนและวัยทำงำน ตำมควำมถนัดและ ควำมสนใจอย่ำงทั่วถึงและต่อเนื่องจนถึงระดับปริญญำตรี (3) กำรศึกษำท่ีมีควำมยืดหยุ่น หลำกหลำย และมีระบบ เทียบโอนผลกำรเรียน และระบบเทียบควำมรู้และประสบกำรณ์กำรทำงำนของบุคคล เพื่อเข้ำรับกำรศึกษำและ กำรฝึกอบรมวิชำชีพอย่ำงต่อเนื่อง และตำมระเบียบกระทรวงศึกษำธิกำร ว่ำด้วยกำรจัดกำรศึกษำและ กำรประเมินผลกำรเรียนตำมหลักสตู รประกำศนียบัตรวิชำชีพ พุทธศักรำช 2556 และตำมประกำศคณะกรรมกำร กำรอำชีวศึกษำ เรื่อง หลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติในกำรเทียบโอนควำมรู้และประสบกำรณ์รำยวิชำ ลงวันที่ 9 กุมภำพันธ์ 2560 กำหนดให้หน่วยงำนต้นสังกัดกำกับดูแลสถำนศึกษำ ให้ดำเนินกำรเทียบโอนควำมรู้และ ประสบกำรณ์รำยวิชำ ให้แก่ผู้เรียนตำมหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติได้โดยต้องไม่ขัดแย้งกับประกำศคณะกรรมกำร กำรอำชวี ศึกษำ ดังน้ัน เพื่อให้สถำนศึกษำในสังกัดสำนักงำน กศน. ท่ีจัดกำรศึกษำตำมหลักสูตรประกำศนียบัตร วิชำชีพ พุทธศักรำช 2556 สำหรับกลุ่มเป้ำหมำยนอกระบบ มีแนวทำงกำรดำเนินงำนเทียบโอนผลกำรเรียน และเทียบโอนควำมรู้และประสบกำรณ์ สำนักงำน กศน. จึงได้จัดทำแนวทำงกำรเทียบโอนผลกำรเรียนรู้ขึ้น เพื่อให้สถำนศึกษำดำเนินงำนเทียบโอนผลกำรเรียน และเทียบโอนควำมรู้และประสบกำรณ์ ได้อย่ำงมีคุณภำพ และเป็นมำตรฐำนเดยี วกัน

2 2. วตั ถปุ ระสงค์ 2.1 เพื่อให้กลุ่มเป้ำหมำยสำมำรถเทียบโอนผลกำรเรียน และเทียบโอนควำมรู้และประสบกำรณ์ เข้ำสู่หลักสูตรประกำศนยี บัตรวิชำชพี พทุ ธศกั รำช 2556 สำหรบั กลมุ่ เปำ้ หมำยนอกระบบ 2.2 เพ่ือให้สถำนศึกษำมีแนวทำงในกำรดำเนินงำนเทียบโอนผลกำรเรียน และเทียบโอนควำมรู้ และประสบกำรณอ์ ย่ำงเปน็ ระบบ มีคุณภำพและเป็นมำตรฐำนเดียวกัน 3. ขอบข่ำย กำรเทยี บโอนผลกำรเรียนรู้ แบง่ เปน็ 2 ลกั ษณะ ได้แก่ 1. กำรเทียบโอนผลกำรเรียน 1.1 กำรโอนผลกำรเรยี น 1.2 กำรเทยี บโอนผลกำรเรยี น 2. กำรเทียบโอนควำมร้แู ละประสบกำรณ์รำยวิชำ 4. นิยำมศัพท์ กำรเทียบโอนผลกำรเรียนรู้ หมำยถึง กำรเทียบโอนผลกำรเรียน และกำรเทียบโอนควำมรู้และ ประสบกำรณร์ ำยวิชำ กำรโอนผลกำรเรียน หมำยถึง กำรรับโอนผลกำรเรียนทุกรำยวิชำ ท่ีอยู่ในหลักสูตร ประกำศนยี บัตรวิชำชีพ พทุ ธศักรำช 2556 กำรเทียบโอนผลกำรเรียน หมำยถึง กำรรับเทียบโอนผลกำรเรียน จำกหลักสูตรอ่ืน ซึ่งไม่ต่ำกว่ำระดับประกำศนียบตั รวิชำชีพ กำรเทียบโอนควำมรู้และประสบกำรณ์รำยวิชำ หมำยถงึ กำรวัด กำรตรวจสอบ กำรประเมินผล กำรเรียนรู้ ควำมรู้ ควำมสำมำรถ และประสบกำรณ์ของผู้เรียน ที่เกิดจำกกำรเรียนรู้ตำมอัธยำศัย กำรทำงำน และ กำรประกอบอำชีพ สถำนศึกษำในสังกัดสำนักงำน กศน. หมำยถึง สถำนศึกษำที่จัดกำรศึกษำตำมหลักสูตร ประกำศนยี บตั รวิชำชีพ พทุ ธศกั รำช 2556 สำหรับกลุ่มเปำ้ หมำยนอกระบบ คณะกรรมกำรสถำนศึกษำ หมำยถึง คณะกรรมกำรบริหำรสถำนศึกษำท่ีได้รับกำรแต่งต้ัง เพอื่ เขำ้ มำมสี ่วนรว่ มในกำรบริหำร และจัดกำรศกึ ษำของสถำนศึกษำในสังกดั สำนกั งำน กศน. หน่วยงำนของรฐั หมำยถึง หน่วยงำนในสงั กดั กระทรวง ทบวง กรม และรฐั วิสำหกจิ พระรำชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2525 ตำม มำตรำ 15 (2) หมำยถึง โรงเรียนท่ีจัด กำรศึกษำตำมหลักสูตรของกระทรวงศึกษำธิกำร หรือหลักสูตรท่ีได้รับกำรอนุมัติจำกกระทรวงศึกษำธิกำรและ จัดเป็นรปู แบบกำรศกึ ษำนอกระบบโรงเรียน

3 5. ประโยชนข์ องกำรเทียบโอนผลกำรเรยี น และเทยี บโอนควำมรแู้ ละประสบกำรณ์รำยวชิ ำ มดี งั น้ี 5.1 ด้ำนผู้เรียน 5.1.1 นำควำมรู้และประสบกำรณเ์ ทียบโอนเข้ำสูร่ ะบบกำรศึกษำ 5.1.2 เพิ่มคุณวฒุ ิกำรศึกษำและควำมก้ำวหนำ้ ในงำนอำชีพ 5.1.3 ลดกำรเรยี นซำ้ ในรำยวิชำ/กลุ่มวิชำ ทม่ี ีควำมรู้และประสบกำรณ์อยแู่ ล้ว 5.1.4 สง่ เสรมิ ให้ผเู้ รยี นไดเ้ ลือกเรียนตำมควำมตอ้ งกำร 5.1.5 มีสมรรถนะตำมหลักสูตรแตล่ ะประเภทวิชำ สำขำวิชำ และสำขำงำน 5.2 ดำ้ นสถำนศกึ ษำ 5.2.1 ตอบสนองนโยบำยในกำรเพม่ิ ปรมิ ำณกำลังคนด้ำนอำชพี และกำรประกอบอำชีพที่ม่นั คง 5.2.2 เพ่มิ คุณภำพกำรจดั กำรเรยี นรู้อยำ่ งหลำกหลำย เน้นผเู้ รยี นเปน็ สำคญั 5.2.3 เนน้ กำรบรู ณำกำรกำรเรียนร้ดู ้วยกำรปฏิบตั ิจรงิ 5.3 ด้ำนสถำนประกอบกำร 5.3.1 เพ่ิมประสิทธิภำพ และส่งเสริมควำมก้ำวหน้ำในงำนอำชีพ ให้กบั บุคลำกรในสถำนประกอบกำร 5.3.2 ลดค่ำใช้จ่ำยในกำรพฒั นำบุคลำกรในสถำนประกอบกำร 5.4 ดำ้ นอื่น ๆ 5.4.1 ชมุ ชนได้รบั กำรพฒั นำดำ้ นวิชำชีพและเทคโนโลยอี ยำ่ งท่ัวถึง 5.4.2 ชมุ ชนมีควำมเข้มแข็ง โดยมีควำมร่วมมือระหวำ่ งสถำนศึกษำ หน่วยงำนของรฐั สถำนประกอบกำร องค์กร และชมุ ชน 5.4.3 ผ้ปู ระกอบอำชพี อิสระได้รบั กำรพฒั นำตำมสำขำอำชีพของตนเอง

4 บทที่ 2 กำรเทียบโอนผลกำรเรยี น กำรเทียบโอนผลกำรเรียน ตำมหลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ พุทธศักรำช 2556 สำหรับกลุ่มเป้ำหมำยนอกระบบ เป็นกำรโอนผลกำรเรียนจำกกำรนำหลักฐำนกำรศึกษำ ที่ออกให้ โดยสถำนศึกษำ ไม่ว่ำจะเป็นสถำนศึกษำเดียวกัน หรือต่ำงสถำนศึกษำ ท่ีจัดกำรศึกษำหลักสูตรประกำศนียบัตร วิชำชีพ พุทธศักรำช 2556 หรือกำรเทียบโอนผลกำรเรียนจำกหลักสูตรอื่น ท่ีไม่ต่ำกว่ำระดับประกำศนียบัตร วิชำชพี มำเป็นส่วนหนึ่งของกำรเรยี นรตู้ ำมหลกั สตู ร คณุ สมบัตผิ ขู้ อเทียบโอนผลกำรเรยี น เป็นผู้ที่ขึ้นทะเบียนเรียนของสถำนศึกษำ ท่ีจัดกำรศึกษำตำมหลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ พุทธศกั รำช 2556 สำหรบั กลุ่มเปำ้ หมำยนอกระบบ เกณฑก์ ำรเทียบโอนผลกำรเรียน เกณฑ์กำรเทียบโอนผลกำรเรียน แบ่งเป็น 2 ลกั ษณะ ดงั นี้ 1. กำรโอนผลกำรเรียน 1.1 กำรโอนผลกำรเรียน สำหรับผเู้ รียนจำกสถำนศกึ ษำ ซึ่งใช้หลักสตู รประกำศนยี บัตรวิชำชีพ พุทธศักรำช 2556 ให้สถำนศึกษำท่ีรับผู้เรียนเข้ำเรียน รับโอนผลกำรเรียนทุกรำยวิชำ นอกจำกรำยวิชำท่ีได้รับ ผลกำรเรียนต่ำกว่ำ 2.0 สถำนศึกษำจะรับโอนหรือจะทำกำรประเมินใหม่ จนเห็นว่ำได้ผลกำรเรียนถึงเกณฑ์ มำตรฐำนของสถำนศึกษำแล้ว จึงรบั โอนในรำยวิชำน้นั ก็ได้ 1.2 ในกรณีที่ผู้เรียนย้ำยสถำนศึกษำ ถ้ำผู้เรียนมีผลกำรเรียนระดับ 0 (ศูนย์) ในรำยวิชำใด และมีสิทธิได้รับกำรประเมินใหม่ ให้สถำนศึกษำท่ีผู้เรียนเรียนอยู่ก่อน ดำเนินกำรประเมินใหม่ให้แก่ผู้เรียนผู้นั้น เวน้ แต่มีเหตสุ ุดวิสยั ให้สถำนศกึ ษำที่รับเข้ำเรียนดำเนนิ กำรประเมินใหม่ได้ ทง้ั นี้ ให้อยใู่ นดลุ ยพินจิ ของสถำนศึกษำ ที่รับเข้ำเรียนเปน็ รำย ๆ ไป 1.3 กำรโอนผลกำรเรียน ควรดำเนินกำรให้แล้วเสร็จก่อนเปิดภำคเรียนแรก เพื่อวำงแผน กำรลงทะเบยี นเรยี นของผเู้ รยี น 1.4 ผู้เรียนที่ขอเทียบโอนผลกำรเรียน จะต้องลงทะเบยี นเรียน และมเี วลำเรียนในสถำนศึกษำ ที่รบั เทียบโอน ไม่น้อยกวำ่ 1 ภำคเรยี น 1.5 สถำนศึกษำจะอนุญำตให้ผู้เรียน ไปเรียนรำยวิชำบำงรำยวิชำจำกสถำนศึกษำแห่งอ่ืน ที่จดั กำรศึกษำตำมหลกั สตู รประกำศนียบัตรวิชำชพี พทุ ธศกั รำช 2556 ในกรณที ี่สถำนศึกษำไม่สำมำรถเปิดทำกำร สอนในรำยวิชำนั้นได้ และให้สถำนศึกษำท้ังสองแห่งทำควำมตกลงร่วมกันในกำรเรียนกำรสอนแ ละรับโอน ผลกำรเรยี น

5 2. กำรเทยี บโอนผลกำรเรยี น 2.1 สถำนศึกษำจะรับเทียบโอนผลกำรเรียนรำยวิชำ ตำมหลักสูตรมัธยมศึกษำตอนปลำย ของกระทรวงศึกษำธิกำร หลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพอ่ืน นอกเหนือจำกหลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ พุทธศักรำช 2556 และหลกั สูตรอ่นื ของสถำนศกึ ษำสังกัดกระทรวงศกึ ษำธกิ ำร สถำนศึกษำเอกชน หรอื หนว่ ยงำน ของรำชกำรได้ ตำมเง่อื นไข ดังนี้ 2.1.1 เป็นรำยวิชำหรือกลุ่มวิชำ ท่ีมีจุดประสงค์หรือเนื้อหำเดียวกันในระดับ ประกำศนียบัตรวิชำชีพ ไม่ต่ำกว่ำร้อยละ 60 และมีจำนวนหน่วยกิตไม่น้อยกว่ำหน่วยกิตของรำยวิชำที่ระบุไว้ใน หลักสูตร 2.1.2 รำยวิชำที่ได้ระดับผลกำรเรียนต่ำกว่ำ 2.0 ให้สถำนศึกษำที่รับ เทียบโอน ผลกำรเรียน ทำกำรประเมินใหม่ ถ้ำมผี ลตำมเกณฑม์ ำตรฐำน (ไม่ต่ำกวำ่ 2.0) แลว้ จึงรบั เทียบโอนรำยวิชำน้ัน 2.1.3 รำยวิชำท่ีได้ระดับผลกำรเรียนต้ังแต่ 2.0 ข้ึนไป สถำนศึกษำจะรับเทียบโอน ผลกำรเรียน หรือจะทำกำรประเมินผลกำรเรยี นใหม่ แลว้ จงึ รบั เทียบโอนรำยวชิ ำน้นั ก็ได้ 2.1.4 สถำนศึกษำจะรับเทียบโอนผลกำรเรียนรำยวิชำ จำกหลักสูตรอื่นซ่ึง ก.พ. รับรอง คุณวุฒิไม่ต่ำกวำ่ ระดับประกำศนียบัตรวิชำชีพ และจำกหลักสูตรอื่นที่มีลักษณะเดียวกันหรือเทียบเท่ำ แต่เรียกชื่อ เป็นอย่ำงอ่ืน ของหน่วยงำนต่ำง ๆ ในสังกัดกระทรวงศึกษำธิกำร สถำนศึกษำเอกชน หรือหน่วยงำนรำชกำร เช่น สถำนศึกษำท่ีจัดกำรศึกษำตำมพระรำชบัญญัติโรงเรียนเอกชน พ.ศ. 2525 ตำม มำตรำ 15 (2) เป็นต้น ตำมเง่ือนไขตอ่ ไปน้ี 1) เป็นรำยวิชำหรือกลุ่มวิชำท่ีมีจุดประสงค์หรือเน้ือหำเดียวกันในระดับ ประกำศนียบตั รวิชำชีพ ไม่ตำ่ กวำ่ รอ้ ยละ 60 และมีจำนวนหนว่ ยกิตไมน่ ้อยกวำ่ รำยวชิ ำทกี่ ำหนดไว้ในหลกั สูตร 2) เป็นรำยวิชำที่ได้ระดับผลกำรเรียนตั้งแต่ 2.0 ขึ้นไป โดยสถำนศึกษำ จะรับเทยี บโอนผลกำรเรยี น หรอื จะทำกำรประเมนิ ใหมแ่ ละรับเทยี บโอนรำยวิชำนนั้ กไ็ ด้ 2.1.5 กำรเทียบโอนผลกำรเรียนควรดำเนินกำรให้แล้วเสร็จก่อนเปิดภำคเรียนแรก เพือ่ วำงแผนกำรลงทะเบียนเรียนของผูเ้ รียน 2.1.6 กำรบันทึกผลกำรเรียนลงในระเบียนแสดงผลกำรเรียน ให้ใช้รหัสวิชำ และ ช่ือรำยวิชำตำมหลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ พุทธศักรำช 2556 ของสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำ ท่ีประกำศใช้ โดยแสดงหมำยเหตุว่ำเป็นรำยวิชำที่รับเทียบโอนมำจำกหลักสูตรอ่ืน หรือจำกกำรเทียบรำยวิชำ รหสั วิชำใด ยกเวน้ มขี ้อกำหนดเพพำะในเร่ืองนัน้ 2.2 สถำนศึกษำจะอนุญำตให้ผู้เรียน ไปเรียนรำยวิชำบำงรำยวิชำจำกสถำนศึกษำแห่งอ่ืน ทมี่ ไิ ด้จัดกำรศกึ ษำตำมหลักสตู รประกำศนยี บัตรวิชำชพี พุทธศักรำช 2556 ในกรณที ่ีสถำนศึกษำไม่สำมำรถเปดิ ทำ กำรสอนในรำยวชิ ำนั้นได้ โดยสถำนศกึ ษำพิจำรณำรำยละเอยี ดเกยี่ วกบั จดุ ประสงค์ สมรรถนะ ตวั ชี้วดั และเน้อื หำ ของหลักสูตร และให้สถำนศึกษำทั้งสองแห่งทำควำมตกลงรว่ มกันในกำรเรยี นกำรสอนและรับเทียบโอนผลกำรเรียน โดยพิจำรณำรับเทยี บโอนผลกำรเรียน ดังน้ี 2.2.1 รับเทยี บโอนรำยวชิ ำท่ีมผี ลกำรเรียนตัง้ แต่ 2.0 ขึน้ ไป 2.2.2 รำยวิชำที่ได้รับผลกำรเรียนต่ำกว่ำ 2.0 สถำนศึกษำท่ีจะรับเทียบโอนผลกำรเรียน ทำกำรประเมินใหม่เมื่อได้ตำมเกณฑ์มำตรฐำน (ไม่ต่ำกวำ่ 2.0) แล้วจงึ รับเทยี บโอนผลกำรเรียนรำยวชิ ำน้ัน

6 ทัง้ นี้ ให้สถำนศึกษำแจง้ ใหผ้ ูเ้ รียนทรำบก่อนทจ่ี ะให้ไปเรยี นในสถำนศึกษำแห่งอน่ื 2.3 กรณีที่มีกำรประเมินใหม่ ให้ผลกำรเรียนเป็นไปตำมผลกำรเรียนที่ประเมินใหม่ แต่ต้อง ไม่สูงไปกวำ่ เดิม 2.4 ผู้เรียนที่สถำนศึกษำให้พ้นสภำพผู้เรียนตำมระเบียบกระทรวงศึกษำธิกำร ว่ำด้วย กำรจัดกำรศึกษำและประเมินผลกำรเรียนตำมหลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ หรือสถำนศึกษำแห่งอ่ืน ท่ีมิได้ จัดกำรศึกษำตำมหลักสตู รประกำศนยี บัตรวิชำชพี พุทธศักรำช 2556 สำมำรถสมัครเข้ำเรียนใหม่ในสถำนศึกษำเดิม หรือสถำนศึกษำแห่งใหม่ได้ ให้สถำนศึกษำรับเทียบโอนผลกำรเรียน เพพำะรำยวิชำที่ยังปรำกฏอยู่ในหลักสูตรน้ี และไดผ้ ลกำรเรียนต้งั แต่ 2.0 ขึ้นไป 2.5 ผู้เรียนท่ีขอเทยี บโอนผลกำรเรยี น จะต้องลงทะเบียนเรียน และมเี วลำเรียนในสถำนศึกษำ ท่ีรับเทียบโอน ไมน่ อ้ ยกว่ำ 1 ภำคเรยี น 2.6 ผลกำรเรียนที่จะนำมำขอรับกำรเทียบโอนผลกำรเรียน ให้อยู่ในดุลยพินิจของ คณะกรรมกำรเทียบโอนผลกำรเรียน ทั้งน้ี ให้พิจำรณำจำกพื้นฐำนธรรมชำติรำยวิชำ ควำมทันสมัย ทันต่อ เหตุกำรณ์ และสอดคล้องกบั ควำมเปล่ยี นแปลงในโลกปจั จุบัน ขั้นตอนกำรเทียบโอนผลกำรเรยี น เพื่อให้กำรเทียบโอนผลกำรเรียน ของสถำนศึกษำมีควำมถูกต้อง โปร่งใส ตรวจสอบได้ ต้องดำเนนิ กำร ดงั นี้ 1. แต่งตัง้ คณะกรรมกำร จำนวนไมน่ ้อยกวำ่ 3 คน ประกอบด้วย 1.1 ผอู้ ำนวยกำรสถำนศกึ ษำ หรอื รองผ้อู ำนวยกำรสถำนศึกษำ เป็นประธำนกรรมกำร 1.2 หัวหน้ำกลุ่มส่งเสริมปฏิบัติกำร หรือ หัวหน้ำงำนหลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ หรือ หวั หน้ำงำนทะเบยี นสถำนศึกษำ เปน็ กรรมกำร 1.3 ครปู ระจำกลุม่ หลักสตู รประกำศนียบัตรวชิ ำชพี เปน็ กรรมกำรและเลขำนกุ ำร 2. ผเู้ รียนย่ืนคำร้องขอเทยี บโอนผลกำรเรียน พร้อมหลกั ฐำนผลกำรเรยี นพบบั จรงิ 3. คณะกรรมกำรตรวจสอบหลกั ฐำน 4. ดำเนินกำรเทยี บโอนผลกำรเรียน 5. อนุมัตผิ ลกำรเทยี บโอนผลกำรเรยี น 6. ประกำศผลกำรเทยี บโอนผลกำรเรียน 7. ลงทะเบยี นเรยี นรำยวิชำท่ีเหลือ ใหค้ รบตำมโครงสรำ้ งหลักสูตร

7 แผนผงั ขัน้ ตอนกำรเทียบโอนผลกำรเรยี น ผเู้ รียน ยน่ื คำรอ้ งพรอ้ มเอกสำรหลักฐำน คณะกรรมกำรตรวจสอบหลกั ฐำน ไม่ผ่ำน ลงทะเบียนเรียนตำมปกติ คณะกรรมกำรดำเนินกำรเทียบโอน ผำ่ น อนมุ ัติ บันทกึ ผล/เกบ็ หลักฐำน ประกำศผล ลงทะเบียนเรยี นให้ครบตำมโครงสร้ำงหลกั สูตร

8 แบบโอนผลกำรเรยี นและเทียบโอนผลกำรเรียน 1. แบบโอนผลกำรเรยี น 1.1 แบบคำรอ้ งขอโอนผลกำรเรียน (แบบ อ. 1) 1.2 แบบสรปุ ผลกำรโอนผลกำรเรยี น (แบบ อ. 2) 1.3 แบบเสนอขออนุมตั ิผลกำรโอนผลกำรเรียน (แบบ อ. 3) 2. แบบเทียบโอนผลกำรเรียน 2.1 แบบคำรอ้ งขอเทยี บโอนผลกำรเรยี น (แบบ ทอ. 1) 2.2 แบบสรุปผลกำรเทยี บโอนผลกำรเรียน (แบบ ทอ. 2) 2.3 แบบเสนอขออนุมัติผลกำรเทียบโอนผลกำรเรียน (แบบ ทอ. 3)

แบบคำรอ้ งขอโอนผลกำรเรยี น 9 แบบ อ.1 เขยี นที.่ ......................................................... วนั ท.ี่ ........ เดือน...................... พ.ศ. ........... เรอื่ ง ขอโอนผลกำรเรียน เรียน ผอู้ ำนวยกำรศูนยก์ ำรศกึ ษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอัธยำศัยอำเภอ/เขต........................................... ขำ้ พเจ้ำ (นำย/นำง/นำงสำว)....................................................นำมสกุล....................................... รหสั ประจำตัวนกั ศึกษำ.............................................. วุฒิกำรศึกษำเดิมประกำศนียบัตรวิชำชีพ พุทธศักรำช 2556 จำกสถำนศกึ ษำ................................................................อำเภอ..................................จังหวัด................................ มีควำมประสงค์ขอโอนผลกำรเรียน เพื่อเข้ำศึกษำต่อในระดับประกำศนียบัตรวิชำชีพ พุทธศักรำช 2556 ภำคเรียนท.่ี ..................ปกี ำรศึกษำ................. โดยมีเอกสำร/หลกั ฐำน/ผลงำนประกอบกำรพิจำรณำ ดงั น้ี (ให้ทำเครื่องหมำย  ในช่อง  เพ่ือระบเุ อกสำรประกอบกำรพจิ ำรณำ)  ระเบียนแสดงผลกำรเรยี น  ใบรบั รองผลกำรเรยี นระหว่ำงภำคเรยี น  อื่น ๆ (โปรดระบุ)........................................................................... จงึ เรยี นมำเพื่อโปรดพิจำรณำ (ลงช่ือ)...........................................นักศกึ ษำ (..........................................) ------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------------- สำหรับเจำ้ หนำ้ ท่ี ได้พจิ ำรณำคุณสมบัติและเอกสำรหลกั ฐำนแลว้ เห็นว่ำ  สำมำรถโอนผลกำรเรยี นไดจ้ ำกหลกั ฐำน  ไมส่ ำมำรถโอนผลกำรเรยี นไดเ้ นอื่ งจำก ................................................................................................................................................................... ................. ..................................................................................................... ............................................................................... (ลงชื่อ) ............................................................ (................................................) ตำแหนง่ .........................................................

แบบสรปุ ผลกำรโอนผลกำรเรยี น 10 แบบ อ. 2 ชอ่ื สถำนศกึ ษำ.....................................................................อำเภอ...................................จังหวดั ........................... ช่อื (นำย/นำง/นำงสำว)..................................................................นำมสกุล........................................................... รหัสประจำตัวนักศึกษำ........................................... ระดับกำรศกึ ษำประกำศนียบตั รวชิ ำชีพ จำกหลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชพี พทุ ธศักรำช 2556 เขำ้ สู่หลักสตู รประกำศนียบัตรวิชำชีพ พุทธศักรำช 2556 ที่ สำหรับกลุ่มเปำ้ หมำยนอกระบบ รหสั วชิ ำ ชอื่ รำยวิชำ จำนวน ผล รหัสวิชำ ชอื่ รำยวิชำ จำนวน ผล หน่วยกิต กำรเรียน หนว่ ยกติ กำรเรียน รวม รวม ลงชือ่ ....................................................ประธำนกรรมกำร (.................................................) วันที่ ............ เดอื น..................พ.ศ. ..............

แบบเสนอขออนุมตั ิผลกำรโอนผลกำรเรยี น 11 แบบ อ. 3 วันที.่ ...........เดอื น..........................พ.ศ.................... เร่ือง ขออนมุ ัตผิ ลกำรโอนผลกำรเรียน เรียน ผอู้ ำนวยกำรศนู ยก์ ำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศัยอำเภอ/เขต......................... ต ำ ม ท่ี ค ณ ะ ก ร ร ม ก ำร โอ น ผ ล ก ำร เรี ย น ได้ พิ จ ำร ณ ำ ก ำ ร โอ น ผ ล ก ำ ร เรี ย น ข อ ง ช่อื (นำย/นำง/นำงสำว)............................นำมสกลุ ................................รหัสประจำตัวนักศึกษำ............................ ระดับกำรศึกษำประกำศนียบัตรวิชำชีพจำกสถำนศึกษำ.................................................................................... อำเภอ ................................................................จังหวัด....................................... ซ่ึงขอโอนผลกำรเรียนเพื่อเข้ำ ศึกษำต่อในระดบั กำรศกึ ษำประกำศนยี บตั รวิชำชพี ภำคเรยี นท่ี...... ปกี ำรศกึ ษำ.....................ปรำกฏผลกำรโอน ผลกำรเรียน ดังนี้ รหสั ชอ่ื รำยวชิ ำ จำนวน ผล รหัส ช่ือรำยวชิ ำ จำนวน ผล วชิ ำ หนว่ ยกิต กำรเรียน วชิ ำ หนว่ ยกิต กำรเรยี น จงึ เรยี นมำเพ่ือโปรดอนุมัติผลกำรโอนผลกำรเรยี น (ลงชือ่ ).............................................ประธำนกรรมกำร (............................................) (ลงชอื่ )..........................................กรรมกำร (ลงชอ่ื ).............................................กรรมกำร (.........................................) (............................................)  อนุมตั ิ  ไม่อนมุ ัติ เน่ืองจำก........................................................................................................................... (ลงชือ่ )....................................................... (...............................................) ตำแหนง่ ....................................................

แบบคำร้องขอเทยี บโอนผลกำรเรียน 12 แบบ ทอ.1 เขยี นท.่ี .............................................................. วันท่.ี ......... เดือน........................ พ.ศ. ............. เรอื่ ง ขอเทียบโอนผลกำรเรียน เรียน ผู้อำนวยกำรศนู ย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัยอำเภอ/เขต............................................ ข้ำพเจ้ำ (นำย/นำง/นำงสำว).............................................นำมสกุล.............................................. รหสั ประจำตวั นักศึกษำ......................................วุฒิกำรศกึ ษำเดิม........................................................................... จำกสถำนศกึ ษำ.................................................อำเภอ.......................................จังหวัด.......................................... มีค วำม ป ระส งค์ ขอ ให้ เที ยบ โอ น ผ ลก ำรเรีย น เพ่ื อเข้ำศึ ก ษ ำต่อ ใน ระ ดับ ก ำรศึ กษ ำป ระกำศ นี ย บั ต รวิช ำชี พ ภำคเรยี นที่...................ปกี ำรศกึ ษำ....................... โดยมีเอกสำร/หลกั ฐำน/ผลงำนประกอบกำรพิจำรณำ ดังนี้ (ใหท้ ำเคร่ืองหมำย ในช่อง  เพ่ือระบเุ อกสำรประกอบกำรพจิ ำรณำ)  หลกั สตู รสถำนศึกษำ  ระเบียนแสดงผลกำรเรียน  ใบรับรองผลกำรเรียนระหวำ่ งภำค  อ่ืน ๆ (โปรดระบ)ุ .......................................................................... จงึ เรยี นมำเพื่อโปรดพจิ ำรณำ (ลงชอ่ื ) ...........................................นักศึกษำ (..........................................) สำหรบั เจ้ำหน้ำที่ ได้พิจำรณำคุณสมบตั แิ ละเอกสำรหลักฐำนแล้วเหน็ ว่ำ  สำมำรถเทยี บโอนผลกำรเรยี นไดจ้ ำกหลักฐำน  ไม่ สำมำรถเทียบโอนผลกำรเรียนไดเ้ นื่องจำก ......................................................................................................................................................... ........................... ........................................................................................................ ...................................................................... (ลงชอ่ื ) ..................................................... (.............................................) ตำแหน่ง .................................................... วนั ที่.......... เดือน......................... พ.ศ. ..........

แบบสรปุ ผลกำรเทยี บโอนผลกำรเรยี น 13 แบบ ทอ. 2 ชอื่ สถำนศึกษำ........................................................................อำเภอ......................................จังหวดั ...................... ชื่อ(นำย/นำง/นำงสำว)...................................................นำมสกลุ ............................................................................ รหสั นกั ศึกษำ.........................................................................................ระดบั กำรศึกษำประกำศนียบตั รวิชำชีพ จำกหลักสูตร……………………………………………… เขำ้ สูห่ ลกั สตู รประกำศนียบัตรวิชำชีพ พทุ ธศักรำช 2556 ท่ี สำหรับกลุ่มเปำ้ หมำยนอกระบบ รหสั วิชำ ช่อื รำยวิชำ จำนวน ผล รหสั วิชำ ชื่อรำยวิชำ จำนวน ผล หน่วยกิต กำรเรียน หนว่ ยกิต กำรเรียน รวม รวม ลงชอ่ื ....................................................ประธำนกรรมกำร (..................................................) วนั ที่ .............เดือน.....................พ.ศ. ................

แบบเสนอขออนุมัติผลกำรเทยี บโอนผลกำรเรียน 14 แบบ ทอ. 3 วนั ท.่ี ...............เดอื น......................พ.ศ.................................. เรอ่ื ง ขออนมุ ตั ผิ ลกำรเทียบโอนผลกำรเรยี น เรยี น ผ้อู ำนวยกำรศูนยก์ ำรศึกษำนอกระบบและกำรศึกษำตำมอธั ยำศยั อำเภอ/เขต................................................ ตำมท่ีคณะกรรมกำรเทียบโอนผลกำรเรียน ได้พิจำรณำกำรเทียบโอนผลกำรเรียนของ ชอ่ื (นำย/นำง/นำงสำว).................................................นำมสกุล............................................................................. รหัสประจำตัวนักศึกษำ ........................................... ระดับกำรศึกษำ................................................................... จำกสถำนศกึ ษำ............................................................... อำเภอ.................................. จงั หวดั .............................. ซงึ่ ขอเทียบโอนผลกำรเรียนเพื่อเข้ำศึกษำต่อในระดับประกำศนียบัตรวิชำชีพ ภำคเรียนท่ี.....ปีกำรศึกษำ............... ปรำกฏผลกำรเทียบโอนผลกำรเรียน ดังนี้ รหัส ชอื่ รำยวชิ ำ จำนวน ผล รหัส ช่อื รำยวชิ ำ จำนวน ผล วชิ ำ หนว่ ยกิต กำรเรียน วิชำ หน่วยกติ กำรเรยี น จงึ เรยี นมำเพ่ือโปรดอนุมตั ผิ ลกำรขอเทยี บโอนผลกำรเรยี น (ลงชื่อ).............................................ประธำนกรรมกำร (............................................) (ลงช่อื )..........................................กรรมกำร (ลงชอ่ื )..........................................กรรมกำร (.........................................) (...........................................)  อนุมัติ  ไมอ่ นุมัติ เนอื่ งจำก ..................................................................................................................................... ............................................................................................................................................................................ ............................................................................................................................... ............................................. (ลงชอ่ื )................................................... (...............................................) ตำแหนง่ .................................................. วนั ที่ ......... เดอื น.....................พ.ศ. .........

15 บทที่ 3 กำรเทียบโอนควำมรแู้ ละประสบกำรณ์รำยวชิ ำ กำรเทียบโอนควำมรู้และประสบกำรณ์รำยวิชำ เป็นวิธีกำรหน่ึงของกำรเทียบโอนผลกำรเรียนรู้ โดยวิธีกำรประเมินควำมรู้ ควำมสำมำรถ และประสบกำรณ์ของผู้เรียน ที่เกิดจำกกำรเรียนรู้ตำมอัธยำศัย และ กำรประกอบอำชีพ โดยผ่ำนคณะกรรมกำรที่ทำหน้ำที่ประเมินผู้เรียน เพ่ือรับรองกำรมีควำมรู้และประสบกำรณ์ รำยวิชำ จำกกรณีใดกรณีหนึ่ง หรอื หลำยกรณี ดงั นี้ 1. ได้เรียนรำยวิชำท่ีขอเทียบโอน โดยไม่นับจำนวนหน่วยกิตมำรวม เพ่ือกำรสำเร็จกำรศึกษำ ตำมหลกั สตู ร และมผี ลกำรประเมนิ ผำ่ น โดยมหี ลกั ฐำนจำกสถำนศกึ ษำทเ่ี รียนรำยวชิ ำน้นั 2. ได้เรียนรำยวิชำหรือกลุ่มวิชำจำกหลักสูตรอื่น ท่ีไม่ต่ำกว่ำหลักสูตรของรำยวิชำ ท่ีขอเทียบโอน โดยมีจุดประสงค์ และเนื้อหำใกล้เคียงกันไม่ต่ำกว่ำร้อยละ 60 โดยมีหลักฐำนจำกสถำนศึกษำท่ีเรียนรำยวิชำ หรือ กลมุ่ วิชำนั้น 3. ได้ฝึกอบรมหลักสูตรวิชำชีพระยะส้ัน หรือฝึกอำชีพตำมมำตรฐำนฝีมือแรงงำน หรือฝึกอบรม ตำมมำตรฐำนอำชีพ หรือฝึกอำชีพต่ำง ๆ ตำมท่ีสถำนศึกษำหน่วยงำนของรัฐได้จัดข้ึนจำนวนหนึ่งหลักสูตร หรือ หลำยหลักสูตรรวมกัน โดยมีหลักฐำนจำกสถำนศึกษำ หน่วยงำนของรัฐที่จัดกำรฝึกอบรมที่แสดงว่ำเป็นผู้ท่ีมี สมรรถนะตรง หรอื สอดคล้องกับสมรรถนะของรำยวิชำที่ขอเทยี บโอน 4. ได้ฝึกงำน โดยมีหลักฐำนจำกสถำนประกอบกำร หน่วยงำนที่เป็นสถำนท่ีฝึกงำน ระบุจำนวนช่ัวโมงกำรฝึกงำน ไม่น้อยกว่ำจำนวนช่ัวโมงกำรเรียน ตำมหลักสูตรในหน่ึงภำคเรียน ของรำยวิชำ ที่ขอเทียบโอน และเป็นผู้ท่ีมีสมรรถนะตรงหรือสอดคล้องกับสมรรถนะของรำยวิชำท่ีขอเทียบโอน ไม่ต่ำกว่ำ ร้อยละ 60 5. ได้ทำงำน โดยมีหลักฐำนจำกสถำนประกอบกำร สถำนท่ีทำงำน ระบุจำนวนช่ัวโมง กำรทำงำน ไม่น้อยกว่ำจำนวนช่ัวโมงกำรเรียน ตำมหลักสูตรในหนึ่งภำคเรียนของรำยวิชำที่ขอเทียบโอน และเป็น ผู้ที่มีสมรรถนะตรง หรือสอดคล้องกับจุดประสงค์และสมรรถนะของรำยวิชำท่ีขอเทียบโอน ไม่ต่ำกว่ำ รอ้ ยละ 60 6. มีประสบกำรณ์ในกำรประกอบอำชีพที่ประสบควำมสำเร็จตรง หรือสอดคล้องกับจุดประสงค์ หรือสมรรถนะหรือเน้ือหำรำยวชิ ำทข่ี อเทียบโอน โดยมหี ลักฐำนเปน็ รำยได้ท่ีชัดเจน ตอ่ เน่ือง และเป็นทย่ี อมรบั ของ สังคม หรือคำรับรองจำกผู้นำชุมชน หน่วยงำนท่ีเก่ียวข้อง หรือหลักฐำนกำรยกย่องเชิดชูเกียรติ กำรรับรำงวัล ระดบั ชำติ หรือนำนำชำติ ฯลฯ มำแสดง

16 คุณสมบัติของผรู้ บั กำรประเมนิ ผู้ขอรับกำรประเมินเทียบโอนควำมรู้และประสบกำรณ์รำยวิชำ เข้ำสู่หลักสูตรประกำศนียบัตร วิชำชีพ พทุ ธศักรำช 2556 สำหรับกลมุ่ เป้ำหมำยนอกระบบ ตอ้ งมคี ณุ สมบัติดังตอ่ ไปนี้ 1. ขึ้นทะเบียนเป็นนักศึกษำของสถำนศึกษำท่ีเปิดสอน ตำมหลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ พุทธศกั รำช 2556 สำหรบั กลุม่ เป้ำหมำยนอกระบบ 2. มีประสบกำรณ์จำกกำรประกอบอำชีพหลังจำกจบกำรศึกษำระดับมัธยมศึกษำตอนต้น ติดต่อกนั ไมน่ ้อยกวำ่ 2 ปี จึงสำมำรถขอเขำ้ รับกำรเทยี บโอนในสำขำทเ่ี ก่ียวข้องได้ เกณฑ์กำรเทยี บโอนควำมรูแ้ ละประสบกำรณ์รำยวชิ ำ ผู้เรียนลงทะเบียน เพ่ือขอรับกำรประเมินเทียบโอนควำมรู้และประสบกำรณ์รำยวิชำ ได้ไม่เกิน 2 ใน 3 (68 หน่วยกิต) ของจำนวนหน่วยกิต ตำมโครงสร้ำงของหลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ พุทธศักรำช 2556 สำหรบั กลุ่มเป้ำหมำยนอกระบบ อนึ่ง ผู้เรียนท่ีมปี ระสบกำรณ์ในกำรประกอบอำชีพ หรอื ฝึกอำชีพในสถำนประกอบกำร หรอื ทำงำน ในอำชีพน้ันอยู่แล้ว หรือ มีควำมรู้ในรำยวิชำตำมหลักสูตรดังกล่ำวมำก่อนเข้ำเรียน หรือ เข้ำเรียนแล้ว แต่ขอไปเรียนหรือไปฝึกปฏิบัติในสถำนประกอบกำร สำมำรถขอประเมินเทียบโอนควำมรู้ และประสบกำรณ์รำยวิชำ เพื่อยกเว้นกำรเรียนรำยวิชำนั้นได้ ผู้เรียนท่ีประเมินแล้วไม่ผ่ำนเกณฑ์ จะขอประเมินเทียบโอนควำมรู้และ ประสบกำรณ์รำยวิชำ ในภำคเรียนนั้นอีกไมไ่ ด้ แตส่ ำมำรถลงทะเบียนเรียนในภำคเรียนนั้น หรือขอรับกำรประเมิน ในภำคเรียนตอ่ ไปได้ คณะกรรมกำรประเมินเทยี บโอนควำมร้แู ละประสบกำรณร์ ำยวิชำ ประกอบดว้ ยคณะกรรมกำร จำนวน 2 ชดุ ดังนี้ คณะกรรมกำรชุดที่ 1 มีหน้ำที่ ตรวจสอบกำรมีควำมรู้และประสบกำรณ์รำยวิชำที่ผู้เรียนขอเทียบโอน ควำมรู้และประสบกำรณ์ คณะกรรมกำรมีจำนวน 3 คน ประกอบด้วย 1. ผู้อำนวยกำร หรือ รองผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำที่รับผิดชอบด้ำนวิชำกำร หรือ หัวหน้ำงำน ทร่ี ับผิดชอบดำ้ นหลักสตู ร เป็นประธำนกรรมกำร 2. หัวหน้ำงำน หลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ กศน. ของสถำนศึกษำท่ีรับผิดชอบรำยวิชำน้ัน เปน็ กรรมกำร 3. ครผู ู้สอนประจำรำยวชิ ำนน้ั เปน็ กรรมกำรและเลขำนุกำร คณะกรรมกำรชุดท่ี 2 มีหน้ำที่ ประเมินควำมรู้และประสบกำรณ์ ด้วยวิธีกำรที่หลำกหลำยเพื่อรับรอง กำรมคี วำมรู้และประสบกำรณ์รำยวชิ ำ คณะกรรมกำรมจี ำนวน 3 คน ประกอบด้วย 1. หัวหน้ำคณะวิชำ หรือ หัวหน้ำแผนกวิชำ หรือ หัวหน้ำกลุ่มงำน หรือ หัวหน้ำกลุ่มท่ีรับผิดชอบ รำยวิชำน้ัน เปน็ ประธำนกรรมกำร 2. ผู้ปฏิบัติงำนหัวหน้ำงำน หลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ กศน. หรือหัวหน้ำงำนหลักสูตร ประกำศนียบตั รวชิ ำชพี จำกสถำนศกึ ษำอ่ืน โดยได้รบั กำรอนุญำตจำกสถำนศึกษำตน้ สงั กัด เปน็ กรรมกำร 3. ครู หลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ หรือครูผู้สอนประจำรำยวิชำน้ัน เป็นกรรมกำรและ เลขำนกุ ำร

17 ในกรณีท่ีสถำนศึกษำไม่มีหัวหน้ำคณะวิชำ หรือหัวหน้ำแผนกวิชำ หัวหน้ำกลุ่มงำน หรือ หัวหน้ำกลุ่ม ให้ผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำพิจำรณำแต่งตั้งประธำน จำกครูผู้สอนในสำขำงำนของสถำนศึกษำอ่ืน จำกทะเบียนของคณะกรรมกำรอำชีวศึกษำจังหวัด หรือ บุคลำกรจำกสถำนประกอบกำร องค์กรวิชำชีพ โดยไดร้ บั อนญุ ำตจำกสถำนศกึ ษำตน้ สังกดั หรอื หนว่ ยงำนต้นสังกัดคนใดคนหนึง่ จำนวน 1 คน เปน็ ประธำน สำหรับผู้ประเมินท่ีเป็นคณะกรรมกำรจำกสถำนประกอบกำร จะต้องเป็นสถำนประกอบกำร ที่ขึ้นทะเบียนกบั สำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำจังหวดั (อศจ.) ในกรณีท่ีบุคลำกรจำกสถำนประกอบกำร องค์กรวิชำชีพ ยังไม่ขึ้นทะเบียนกับ อศจ. ให้สถำนศึกษำเสนอรำยช่ือบุคลำกรจำกสถำนประกอบกำรหรือองค์กร วชิ ำชพี เพอ่ื ขึน้ ทะเบียนกบั สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรอำชวี ศึกษำจงั หวัด (อศจ.) ข้ันตอนกำรประเมนิ เทียบโอนควำมรู้และประสบกำรณร์ ำยวิชำ เพื่อให้กำรดำเนินกำรเทียบโอนควำมรู้และประสบกำรณ์รำยวิชำได้อย่ำงถูกต้อง ตำมหลักเกณฑ์ มีมำตรฐำน มีควำมยุตธิ รรมโปรง่ ใส ต้องดำเนินกำร ดังน้ี 1. สถำนศึกษำจัดทำประกำศ เร่ือง กำรเทียบโอนควำมรู้และประสบกำรณ์ รำยวิชำ ตำมหลักสตู รประกำศนียบตั รวิชำชีพ พทุ ธศกั รำช 2556 สำหรับกลุ่มเป้ำหมำยนอกระบบ 2. แนะแนวกำรประเมนิ เทียบโอนควำมรแู้ ละประสบกำรณ์รำยวิชำ 3. สถำนศึกษำจัดเตรียมแบบคำรอ้ งขอรับกำรประเมนิ ตำมเกณฑท์ ี่กำหนด 4. ผูข้ อรบั กำรประเมินยื่นแบบคำร้องเพอื่ เทยี บโอนควำมรู้และประสบกำรณ์รำยวิชำ 5. คณะกรรมกำรชุดที่ 1 ดำเนินกำรตรวจสอบกำรมคี วำมรู้และประสบกำรณร์ ำยวิชำ ของผู้ขอเข้ำรับกำรเทียบโอนควำมร้แู ละประสบกำรณ์รำยวชิ ำ จำกเอกสำรหลกั ฐำน กำรสมั ภำษณ์ และส่งผลกำร พิจำรณำให้คณะกรรมกำรสถำนศึกษำให้ควำมเห็นชอบ และสถำนศึกษำประกำศรำยช่ือผู้ผ่ำนกำรประเมินของ คณะกรรมกำรชุดท่ี 1 6. คณะกรรมกำรชุดที่ 2 ดำเนินกำรประเมินควำมรู้และประสบกำรณ์รำยวิชำ ด้วยวิธีกำร ท่ีหลำกหลำย เพื่อรับรองกำรมีควำมรู้และประสบกำรณ์รำยวิชำ โดยประเมินผู้เรียนเป็นรำยบุคคล และต้องจัดทำ เครื่องมือท่ีครอบคลุมสมรรถนะ จุดประสงค์ และเน้ือหำทั้งหมดของรำยวิชำ รวมทั้งแจ้งผลกำรประเมินให้งำน ทะเบยี นของสถำนศึกษำทรำบและเสนอขออนุมัติ 7. สถำนศึกษำอนุมัติและประกำศผลกำรประเมินควำมรู้และประสบกำรณ์รำยวิชำ ให้ผู้เข้ำรับ กำรประเมนิ ทรำบ 8. งำนทะเบียนบันทึกผลกำรประเมินในรำยวิชำท่ีผ่ำนกำรประเมินกำรเทียบโอนควำมรู้และ ประสบกำรณ์รำยวิชำ โดยกำรรบั รองควำมถูกต้องจำกนำยทะเบยี น

18 วิธกี ำรประเมนิ 1. กำรประเมินเบ้ืองต้นพิจำรณำรำยวิชำ หรือกลุ่มวิชำท่ีขอรับกำรประเมินโดยคณะกรรมกำร ชุดท่ี 1 ดังนี้ 1.1 มจี ำนวนชั่วโมงปฏบิ ตั ิงำน ฝกึ อบรมไมน่ ้อยกว่ำชัว่ โมงของรำยวิชำท่ีกำหนดไว้ในหลักสูตร 1.2 มีสมรรถนะหรือเนื้อหำท่ีสอดคล้องกับรำยวิชำหรือกลุ่มวิชำในระดับประกำศนียบัตร วิชำชพี ไม่ต่ำกว่ำร้อยละ 60 1.3 พิจำรณำข้อมูลจำกกำรสัมภำษณ์เบื้องต้นจำกลักษณะงำน สถำนประกอบกำร และ ประสบกำรณ์ 2. กำรประเมินเทียบโอนควำมรู้และประสบกำรณ์รำยวิชำ โดยคณะกรรมกำรชุดท่ี 2 ใช้วิธีกำร ประเมินท่ีหลำกหลำยซ่ึงครอบคลุมสมรรถนะ จุดประสงค์ และเน้ือหำทั้งหมดของรำยวิชำ สำหรับรำยวิชำที่มี เพพำะภำคทฤษฏี หรือภำคปฏิบัติเพียงอย่ำงเดียว ให้ประเมินเพพำะภำคทฤษฏีหรือภำคปฏิบัติ หรือแล้วแต่กรณี เพียงอย่ำงเดียว ถ้ำมีทั้งภำคทฤษฏีและภำคปฏิบัติ ให้ประเมินท้ังภำคทฤษฏีและภำคปฏิบัติ ตำมผังกำรสร้ำง แบบทดสอบท่ีสำนักงำนคณะกรรมกำรกำรอำชีวศึกษำกำหนด ท้ังน้ี ให้อยู่ในดุลพินิจของคณะกรรมกำรที่ได้รับ มอบหมำย 3. กำรประเมินให้ถือปฏิบัติตำมเกณฑ์กำรประเมินในรำยวิชำนั้น ทั้งนี้ จำนวนชั่วโมงของ กำรประเมนิ ต้องไม่น้อยกว่ำจำนวนชั่วโมงทีเ่ รียนตอ่ สัปดำห์ ในรำยวิชำน้ัน 4. กำรตัดสินผลกำรประเมินและกำรให้ค่ำผลกำรประเมิน ให้เป็นไปตำมระเบียบ กระทรวงศกึ ษำธิกำร ว่ำด้วยกำรจัดกำรศึกษำและประเมินผลกำรเรยี นตำมหลักสตู ร 4.1 ให้ตดั สนิ ผลกำรประเมินเปน็ รำยวิชำตำมหลกั สตู ร 4.2 รำยวิชำท่ีมีระดับผลกำรประเมินตั้งแต่ 1.0 ข้ึนไป หรือคะแนนไม่ต่ำกว่ำร้อยละ 50 ถือว่ำผำ่ นกำรประเมิน 4.3 รำยวิชำที่มีผลกำรประเมิน 0 (ศูนย์) หรือ คะแนนต่ำกว่ำร้อยละ 50 ถือว่ำไม่ผ่ำน กำรประเมนิ ให้ลงทะเบยี นเรยี นใหมใ่ นรำยวชิ ำนน้ั หรือขอรบั กำรประเมินในภำคเรียนต่อไป 4.4 ให้ใช้ค่ำระดับผลกำรเรียน ตำมระเบียบกระทรวงศึกษำธิกำร ว่ำด้วยกำรจัดกำรศึกษำ และประเมินผลกำรเรียนตำมหลักสตู ร 5. ใหส้ ถำนศกึ ษำเป็นผู้อนุมตั ิผลกำรประเมนิ กำรเทียบโอนควำมรู้และประสบกำรณ์รำยวชิ ำ 6. ให้สถำนศึกษำเก็บรกั ษำเอกสำร ในกำรดำเนินกำรเทียบโอนควำมรู้และประสบกำรณ์รำยวิชำ เพ่ือกำรตรวจสอบเป็นเวลำ 3 ปี นับจำกวันที่สถำนศึกษำอนุมัติผลกำรประเมินกำรเทียบโอนควำมรู้และ ประสบกำรณร์ ำยวิชำ กรณี ผู้เรียนที่ประเมินแล้วไม่ผ่ำนเกณฑ์ จะขอประเมินเทียบโอนควำมรู้และประสบกำรณ์ รำยวิชำ ในภำคเรียนน้ันอีกไม่ได้ แต่สำมำรถลงทะเบียนเรียนในภำคเรียนน้ัน หรือขอรับกำรประเมินในภำคเรียน ตอ่ ไปได้

19 ขน้ั ตอนกำรประเมินกำรเทยี บโอนควำมรแู้ ละประสบกำรณ์รำยวิชำ ข้ันตอนกำรประเมนิ ควำมรู้และประสบกำรณ์รำยวชิ ำ ขั้นตอนกำรประเมินควำมรู้และประสบกำรณ์ ของสถำนศึกษำ รำยวชิ ำของผเู้ รียน ประกำศกำรเทยี บโอนควำมรู้และประสบกำรณ์ ผู้เรียนย่นื คำรอ้ งตำมแบบท่ีกำหนด รำยวชิ ำ ส่งหลักฐำนให้สถำนศึกษำเพื่อให้คณะกรรมกำร แนะแนว/รบั คำร้องเทยี บโอนควำมรู้ ชดุ ท่ี 1 ตรวจสอบ และประสบกำรณ์รำยวิชำ คณะกรรมกำรชดุ ที่ 1 ดำเนินกำรตรวจสอบและ รบั ทรำบผลกำรตรวจหลกั ฐำน ประเมินคุณสมบัติผู้เข้ำรบั กำรประเมิน ผำ่ น ไม่ผ่ำน คณะกรรมกำรชุดท่ี 2 ดำเนนิ กำรประเมินควำมรู้ และประสบกำรณ์ เขำ้ รบั กำรประเมิน ลงทะเบยี นเรียน ควำมร้แู ละประสบกำรณ์ ตำมแผนกำรเรยี น อนมุ ัติผลกำรประเมินและ หรือสมคั รขอรบั ประกำศผลกำรประเมิน รำยวิชำ (โดยคณะกรรมกำร กำรประเมิน ในภำคเรยี นตอ่ ไป ชดุ ที่ 2) บันทึกผลกำรประเมนิ ผำ่ น ไมผ่ ำ่ น ในระบบงำนทะเบียน ลงทะเบียนเรยี น รำยวิชำให้ครบตำม โครงสรำ้ งหลกั สูตร

20 แบบประเมินควำมรู้และประสบกำรณ์รำยวิชำ 1. แบบคำร้องขอประเมินเทยี บโอนควำมร้แู ละประสบกำรณร์ ำยวชิ ำ ตำมหลักสตู รประกำศนยี บัตร วิชำชพี พุทธศกั รำช 2556 สำหรบั กลมุ่ เปำ้ หมำยนอกระบบ 2. แบบเสนอข้อมูลเขำ้ รบั กำรประเมนิ ควำมรแู้ ละประสบกำรณร์ ำยวิชำ ระดับประกำศนียบตั รวิชำชพี 3. แบบคำรอ้ งหนังสอื รับรอง 4. แบบตรวจสอบควำมรแู้ ละประสบกำรณ์รำยวิชำ ของคณะกรรมกำรชุดที่ 1 5. แบบประเมินควำมรู้และประสบกำรณ์รำยวิชำ ของคณะกรรมกำรชดุ ที่ 2 6. แบบสรุป 7. แบบประเมนิ ภำคปฏิบตั ิ 8. แบบสรปุ ผลประเมนิ

21 สำหรับผเู้ รียน แบบคำร้องขอประเมนิ เทียบโอนควำมรูแ้ ละประสบกำรณ์รำยวิชำ ตำมหลกั สตู รประกำศนยี บัตรวชิ ำชีพ พุทธศักรำช 2556 สำหรับกลุ่มเปำ้ หมำยนอกระบบ ภำคเรยี นท่ี...............ปีกำรศกึ ษำ.................. เขยี นท.ี่ .......................................................... วนั ท่ี….……เดอื น………….…………พ.ศ…....…… เร่อื ง ขอประเมนิ เทยี บโอนควำมรแู้ ละประสบกำรณ์รำยวิชำ ตำมหลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ พทุ ธศกั รำช 2556 สำหรับกลุ่มเป้ำหมำยนอกระบบ เรียน ผอู้ ำนวยกำร.............................................................................................. ขำ้ พเจำ้ (นำย/นำง/นำงสำว) …………………………………….… รหสั ประจำตัวนกั ศกึ ษำ.……..……..............…… ระดับหลกั สูตรประกำศนียบัตรวชิ ำชีพ ประเภทวิชำ .....................................สำขำ................................................. สำขำงำน..................................................... มีควำมประสงค์ขอประเมินเทียบโอนควำมรู้และประสบกำรณ์ รำยวิชำ ตำมหลักสูตรประกำศนียบัตรวิชำชีพ พุทธศักรำช 2556 สำหรับกลุ่มเป้ำหมำยนอกระบบ ซ่ึงมีเอกสำร/ หลักฐำน ประกอบกำรขอประเมนิ ตำมแฟม้ สะสมงำนที่แนบมำดว้ ย จำนวน ............ แฟ้ม โดยมคี วำมประสงคข์ อประเมินเทยี บโอนควำมรู้และประสบกำรณ์รำยวชิ ำ จำนวน ...................... รำยวชิ ำ ดงั น้ี 1. รำยวชิ ำ .................................................... 4. รำยวชิ ำ ................................................................ 2. รำยวิชำ ..................................................... 5. รำยวชิ ำ ................................................................. 3. รำยวชิ ำ ...................................................... 6. รำยวชิ ำ ................................................................ จึงเรยี นมำเพ่ือโปรดทรำบ และพิจำรณำ ลงช่ือ……………………………...... นกั ศกึ ษำ (………….…………………….....) วนั ท…่ี ……เดอื น……………พ.ศ. ……… ควำมเห็นของเจ้ำหนำ้ ที่ ควำมเหน็ ของผู้บริหำรสถำนศกึ ษำ ได้ดำเนินกำรตรวจสอบเอกสำรเบ้ืองตน้ ( ) เห็นชอบ เรยี บรอ้ ยแล้ว เหน็ สมควรให้ประเมนิ รำยวิชำได้ ( ) ไมเ่ หน็ ชอบ เพรำะ ............................................. ลงช่ือ…………………………….. เจำ้ หนำ้ ที่ ........................................................................ (……….……………………) ........................................................................ ลงชอ่ื …………………………….. ผู้อำนวยกำรสถำนศึกษำ วนั ท่ี………เดอื น……………พ.ศ. ……… (……….……………………) วันที่………เดอื น……………พ.ศ. ………

22 สำหรับผเู้ รียน แบบเสนอขอ้ มลู เข้ำรับกำรประเมนิ ควำมรู้และประสบกำรณ์รำยวชิ ำ ระดบั ประกำศนียบตั รวิชำชีพ ------------------------------ ช่ือ (นำย/นำง/นำงสำว) .................................................. นำมสกุล...............................................อำยุ.................ปี รหสั ประจำตวั นักศึกษำ ........................................................ศูนย์กำรศึกษำนอกระบบและกำรศกึ ษำตำมอัธยำศัย อำเภอ/เขต .............................. จังหวัด .......................ปัจจบุ นั ประกอบอำชีพ ..................................................... ตำแหน่ง (ถำ้ ม)ี .......................จำนวน...............ปี สถำนท่ีประกอบอำชีพ เลขท.่ี ....... ถนน................................... ตำบล/แขวง..........................อำเภอเขต..................จงั หวัด........................................โทรศพั ท์................................ ระบขุ ้อมลู ของตนเองที่แสดงถึงควำมรู้ ควำมสำมำรถ ประสบกำรณ์ในกำรทำงำนและกำรประกอบอำชีพ (ตำมรำยวชิ ำท่ีขอรบั กำรประเมินโดยละเอียด) ................................................................................................. ...................................................... ........................... ................................................................................................. ................................................................................. .................................................................................................................................................................................. ................................................................................................. ................................................................................. ................................................................................................. ................................................................................. .................................................................................................................................................................................. ............................................................................................... ................................................................................... ................................................................................................. .......................................................................... ....... ................................................................................................. ................................................................................. .................................................................................................................................................................................. 7. ระบหุ ลักฐำนรอ่ งรอยท่เี ก่ยี วขอ้ งซงึ่ แสดงถงึ ประสบกำรณ์ เชน่  วฒุ บิ ตั รกำรอบรม  ภำพถ่ำยผลงำน  โล่  ใบแสดงผลกำรเรยี น  อ่นื ๆ โปรดระบุ ............................................................................................................................. ................................................................................................. ................................................................................. ลงชื่อ...........................................นกั ศกึ ษำผูข้ อรบั กำรประเมิน (..........................................) วันที่ ........... เดอื น................. พ.ศ. ...........

23 สำหรับผเู้ รียน หนังสอื รับรองควำมรู้และประสบกำรณ์ ข้ำพเจ้ำ(นำย/นำง/นำงสำว)..............................................นำมสกลุ ............................................ ตำแหน่ง ............................................................................................................................................................... ขอรบั รองว่ำ (นำย/นำง/นำงสำว) .......................................................นำมสกุล................................................... ปฏบิ ัตหิ น้ำทใี่ นตำแหน่ง.............................................สถำนทีท่ ำงำน ................................................................... ตั้งอย่เู ลขท่ี.........................หมูท่ .่ี ................ ถนน..............................ตำบล/แขวง................................................ อำเภอ/เขต...........................................จงั หวดั ......................................โทรศพั ท.์ ................................................. มคี วำมร้แู ละประสบกำรณเ์ ก่ียวกบั ........................................................................................................................ ............................................................................................................................. .................................................. ............................................................................................................................. .................................................. ........................................................................................................................................................................... .... ลงชื่อ........................................... (ผรู้ ับรอง) (........................................) ตำแหนง่ ........................................ วันที่ ........... เดือน................. พ.ศ. ........... หมำยเหตุ 1. หนงั สือรับรองพบบั นจี้ ะสมบรู ณ์เม่อื ประทบั ตรำของหน่วยงำนหรอื สถำนประกอบกำร และแนบสำเนำบตั รประจำตำแหน่งของผูร้ ับรอง 2. ผทู้ ่ีให้กำรรับรองต้องเป็นบุคคลทส่ี ังคมให้กำรยอมรับ สว่ นรำชกำรหรือหน่วยงำน/ผู้นำชุมชน

สำหรับคณะกรรมกำรชุดท่ี 1 24 แบบตรวจสอบควำมรูแ้ ละประสบกำรณร์ ำยวิชำ ภำคเรียนท่ี...............ปกี ำรศึกษำ.................. รหัสรำยวชิ ำ ............................................... ชือ่ รำยวชิ ำ ....................................... หมวดวชิ ำ ................................... ประเภทวชิ ำ................................................ สำขำวิชำ ........................................ สำขำงำน ................................. ช่ือ (นำย/นำง/นำงสำว) ....................................... นำมสกลุ ......................รหสั ประจำตัวนกั ศึกษำ............................ รำยกำรประเมินตำมเอกสำร/หลักฐำน ผลกำรพิจำรณำ เอกสำร/หลกั ฐำน ผำ่ น ไม่ผ่ำน 1. สมรรถนะ /จุดประสงค์/เนอ้ื หำรำยวิชำ ............................................................................................................... 2. สมรรถนะ /จุดประสงค/์ เนอ้ื หำรำยวิชำ ............................................................................................................... 3. สมรรถนะ /จดุ ประสงค์/เนื้อหำรำยวิชำ ............................................................................................................... 4. สมรรถนะ /จุดประสงค์/เนอ้ื หำรำยวชิ ำ ............................................................................................................... 5. สมรรถนะ /จดุ ประสงค/์ เน้ือหำรำยวชิ ำ .............................................................................................................. . หมำยเหตุ 1. เอกสำร/หลักฐำนท่ีมจี ำกกำรเรยี น โดยพจิ ำรณำจำกจดุ ประสงคร์ ำยวชิ ำ 2. เอกสำร/หลกั ฐำนทมี่ ำจำกประสบกำรณก์ ำรทำงำน /ฝึกอำชีพมำตรฐำนฝีมือแรงงำน /อบรมตำมมำตรฐำนอำชีพ/ ฝึกอำชีพตำ่ ง ๆ /ฝกึ งำน โดยพจิ ำรณำจำกสมรรถนะ 3. เอกสำรทนี่ ำมำใชเ้ ทยี บโอนแลว้ ไมส่ ำมำรถนำมำใช้เทียบโอนได้อกี เกณฑ์กำรประเมิน : ผูท้ ี่ผำ่ นกำรประเมนิ ตอ้ งแสดงวำ่ เปน็ ผูม้ สี มรรถนะที่สอดคลอ้ งกบั สมรรถนะรำยวชิ ำทข่ี อเทยี บโอน ไม่ตำ่ กว่ำร้อยละ 60 ของสมรรถนะทง้ั หมด จะได้รบั ผลกำรประเมนิ ผำ่ น สรุปผลกำรประเมิน  ผำ่ น ร้อยละ ..................................  ไม่ผ่ำน เนอ่ื งจำก........................................................................................................................ ลงช่ือ..…....……….…… ประธำนกรรมกำร ลงชือ่ …………………….กรรมกำร ลงชื่อ.………....…..…กรรมกำรและเลขำนกุ ำร (……….........………….) (…….......…………….....) (………....…....…….....) วันที่..........เดอื น............ พ.ศ. .......... วันท่.ี .........เดือน............ พ.ศ. .......... วันที่..........เดือน............ พ.ศ. .......... ควำมเห็นของคณะกรรมกำรสถำนศึกษำ  เหน็ ชอบ  ไมเ่ ห็นชอบ เน่ืองจำก....................................................................................................... ลงช่ือ ....................................... ประธำนคณะกรรมกำรสถำนศึกษำ (......................................) วนั ที.่ .........เดอื น............ พ.ศ. ..........

25 สำหรับคณะกรรมกำรชุดท่ี 2 แบบประเมนิ ควำมรแู้ ละประสบกำรณร์ ำยวชิ ำ รำยวิชำ .......................................................... วนั ท.่ี ............ เดอื น.........................พ.ศ. ..............................(ท่ีประเมนิ ) จำนวนชั่วโมงทป่ี ระเมิน...........ช่วั โมง รหัสวชิ ำ.......................................... ชือ่ รำยวชิ ำ...................................... จำนวนหน่วยกติ ................ (ท-ป-น) ประเภทวชิ ำ.................................... สำขำวชิ ำ........................................ สำขำงำน...................................... จดุ ประสงคร์ ำยวชิ ำ ............................................................................................................................. ..................................................... ................................................................................................................................................. ................................. .................................................................................................. ................................................................................ ............................................................................................................................. ..................................................... ............................................................................................................................. ..................................................... ................................................................................................................................................................................. สมรรถนะรำยวิชำ ............................................................................................................................. ..................................................... ............................................................................................................................. ..................................................... .................................................................................................................................................................. ................ ................................................................................................................... ............................................................... ............................................................................................................................. ..................................................... ........................................................................................................................................... ...................................... คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ .................................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ..................................................... ............................................................................................................................. ..................................................... ................................................................................................................................................................................. . ............................................................................................................................. ..................................................... ............................................................................................................................. ....................................................

สมรรถนะ เนื้อหำ ค่ำน 1. 2. 3. 4. 5. 6. หมำยเหตุ เคร่ืองมือประเมินต้องครอบคลุมเนื้อหำ และสมรรถนะท้ังหมดของ ให้ประเมินเพพำะภำคทฤษฎีหรือภำคปฏิบัติ แล้วแต่กรณีเพียงอย่ำงเ ตำมผงั กำรสร้ำงแบบทดสอบและแนวปฏิบัติ ที่สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำร

น้ำหนกั เคร่ืองมือประเมนิ เกณฑ์กำรให้คะแนน งรำยวิชำ ที่ขอเทียบโอนรำยวิชำท่ีมีเพพำะภำคทฤษฎีหรือภำคปฏิบัติอย่ำงเดียว ดียว ถ้ำมีท้ังภำคทฤษฎีและภำคปฏิบัติ ให้ประเมินท้ังภำคทฤษฎีและภำคปฏิบัติ รอำชวี ศึกษำกำหนด กรณีไม่มีให้คณะกรรมกำรเป็นผ้กู ำหนด

เคร่อื งมือในกำรประเมนิ ............................................................................................................................. ....................................................... ................................................................................................................................................................... ................. .................................................................................................................. .................................................................. ............................................................................................................................. ....................................................... ....................................................................................................................................... ................................... ............................................................................................... .................................................................................. ระยะเวลำกำรประเมิน ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ....................................................... .............................................................................................................................................................................. ...... ............................................................................................................................. ....................................................... ............................................................................................................................. ............................................. ........................................................................................................................................................... ...................... กำรตดั สินผลกำรประเมนิ พิจำรณำจำกผลกำรทดสอบภำคทฤษฎีและภำคปฏิบัติ ตัดสินผลกำรประเมินควำมรู้และประสบกำรณ์ รำยวชิ ำ โดยใหค้ ำ่ ระดบั ผลกำรประเมิน 8 ระดบั เชน่ เดยี วกบั กำรตัดสินผลกำรเรียนรำยวิชำ ดังนี้ ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 80-100 ใหร้ ะดับ 4 หมำยถึง ดีเยี่ยม ได้คะแนนร้อยละ 75-79 ใหร้ ะดับ 3.5 หมำยถึง ดีมำก ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 70-74 ใหร้ ะดับ 3 หมำยถงึ ดี ได้คะแนนรอ้ ยละ 65-69 ให้ระดบั 2.5 หมำยถงึ ค่อนข้ำงดี ได้คะแนนร้อยละ 60-64 ใหร้ ะดับ 2 หมำยถึง ปำนกลำง ไดค้ ะแนนร้อยละ 55-59 ให้ระดับ 1.5 หมำยถงึ พอใช้ ได้คะแนนรอ้ ยละ 50-54 ใหร้ ะดบั 1 หมำยถึง ผ่ำนเกณฑข์ น้ั ต่ำท่กี ำหนด ไดค้ ะแนนรอ้ ยละ 0-49 ให้ระดบั 0 หมำยถงึ ตำ่ กว่ำเกณฑข์ น้ั ตำ่ ที่กำหนด

28 ขัน้ ตอนกำรประเมิน กำรประเมินควำมรู้และประสบกำรณ์รำยวชิ ำ มกี ำรแต่งตง้ั คณะกรรมกำรกำรประเมินท่ีได้รบั กำรแตง่ ต้ัง จำกสถำนศึกษำ จำนวน 3 คน และมีขน้ั ตอนกำรดำเนนิ งำนประเมนิ ดังนี้ 1. กำรเตรยี มกำรประเมนิ ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .................................................. ............................................................................................. ............................... ............................................................................................................................. ................................................. 2. กำรดำเนินกำรประเมนิ (ดำเนนิ ตำมกรอบกำรประเมนิ ที่กำหนด) ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .................................................. ............................................................................................. ............................... ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................................... ............................... 3. กำรดำเนนิ กำรหลังกำรประเมนิ .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. ................................................. .............................................................................................................................................................................. ............................................................................................................................. ................................................. ............................................................................................................................. .................................................

29 แบบสรปุ ผลกำรประเมนิ ควำมรู้และประสบกำรณ์รำยวิชำ ภำคทฤษฎี ภำคเรยี นท่ี...............ปีกำรศกึ ษำ.................. รหัสวชิ ำ.........................รำยวิชำ.................................................................... ที่ ชอ่ื - สกลุ คะแนนทดสอบ คะแนนรวม หมำยเหตุ ผู้เข้ำรับกำรประเมิน ตอนที่ 1 ตอนที่ 2 ตอนที่ 3 ลงช่อื ........................................... กรรมกำรประเมนิ ภำคทฤษฎี (…………........……………….) ลงช่ือ........................................... กรรมกำรประเมนิ ภำคทฤษฎี (…………........………………..) ลงชอื่ ........................................... กรรมกำรประเมนิ ภำคทฤษฎี (…………........………………..) วันท.่ี .........เดือน........................พ.ศ. …….……. หมำยเหตุ คะแนนทีไ่ ด้ให้เป็นไปตำมเครื่องมือประเมนิ

30 แบบประเมินภำคปฏบิ ัติของคณะกรรมกำร ภำคเรียนท่ี...............ปีกำรศกึ ษำ.................. รหัสวิชำ.....................รำยวิชำ........................................................... ชอื่ (นำย/นำง/นำงสำว) ................................................................นำมสกุล................................................... ขอ้ ท่ี เน้อื หำ ผลกำรประเมนิ หมำยเหตุ คะแนนเต็ม คะแนนท่ีได้ 1 รวม 2 รวม 3 รวม รวมทั้งสนิ้ ลงชื่อ............................................กรรมกำร (……….......……………………) วนั ท.ี่ ......... เดือน....................... พ.ศ. .……...

31 แบบสรุปผลกำรประเมินควำมรแู้ ละประสบกำรณ์รำยวิชำ ภำคปฏิบตั ิ ภำคเรยี นท่ี...............ปีกำรศกึ ษำ.................. รหสั วิชำ................ รำยวชิ ำ................................................................. ชือ่ – สกลุ คะแนนผลกำรประเมิน ผูเ้ ข้ำรับกำรประเมนิ ท่ี กรรมกำร กรรมกำร กรรมกำร รวม เฉลย่ี หมำยเหตุ คนท่ี 1 คนท่ี 2 คนที่ 3 ลงชือ่ ........................................... ประธำนกรรมกำร (………………..........…………..) ลงชือ่ ............................................ กรรมกำร (………………..........…………..) ลงชอ่ื ............................................ กรรมกำร (………………..........…………..) วันท.ี่ .........เดือน........................พ.ศ. …….…….

32 แบบสรปุ ผลกำรประเมนิ ควำมรแู้ ละประสบกำรณ์รำยวชิ ำ ภำคทฤษฎแี ละภำคปฏิบัติ ภำคเรยี นท่ี...............ปีกำรศกึ ษำ.................. รหสั วิชำ............รำยวิชำ............................................................. ที่ ช่ือ – สกลุ ผลกำรประเมิน คะแนนรวม ระดับผล หมำยเหตุ ผู้เข้ำรบั ประเมิน คะแนนภำคทฤษฎี คะแนนภำคปฏบิ ตั ิ กำรประเมิน ลงชือ่ ............................................ประธำนกรรมกำร (……….........……………………) ลงชอ่ื ........................................... กรรมกำร ลงชอ่ื ............................................กรรมกำร (…………….......…………….) (………..........………………….) ลงช่อื .......................................... ผู้อนุมัติ (………..…...………………...) วนั ท.ี่ .........เดือน........................พ.ศ. …….…

33 ภำคผนวก 1. ระเบียบกระทรวงศึกษำธกิ ำรวำ่ ด้วยกำรจดั กำรศึกษำและและกำรประเมินผลกำรเรยี น ตำมหลักสูตรประกำศนยี บตั รวิชำชีพ พทุ ธศักรำช 2556 2. ประกำศคณะกรรมกำรกำรอำชีวศกึ ษำ เรื่อง หลกั เกณฑ์และแนวปฏบิ ัติในกำรเทียบโอน ควำมรู้และประสบกำรณร์ ำยวิชำ 3. คณะทำงำนพฒั นำแนวทำงกำรเทียบโอนผลกำรเรียนรู้ ตำมหลักสตู รประกำศนยี บัตรวิชำชพี พุทธศกั รำช 2556 สำหรับกลุ่มเป้ำหมำยนอกระบบ 4. ตัวอยำ่ งคมู่ ือกำรประเมนิ ควำมรู้และประสบกำรณร์ ำยวิชำ กำรขบั รถยนต์

เลม่ ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๒๐๐ ง หน้า ๑ ๘ กันยายน ๒๕๕๙ ราชกิจจานุเบกษา ระเบยี บกระทรวงศกึ ษาธกิ าร วา่ ดว้ ยการจดั การศึกษาและการประเมินผลการเรยี นตามหลักสตู รประกาศนียบตั รวชิ าชีพ พุทธศกั ราช ๒๕๕๖ ตามที่ได้มีประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง ให้ใช้หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช ๒๕๕๖ ลงวันที่ ๒๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๕๖ และระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วย การจัดการศึกษาและการประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช ๒๕๕๖ พ.ศ. ๒๕๕๖ ลงวันที่ ๒๗ กันยายน พ.ศ. ๒๕๕๖ เพ่ือประโยชน์ในการจัดการศึกษา ตามมาตรฐาน คุณวุฒิอาชีวศึกษาระดบั ประกาศนียบัตรวิชาชพี พ.ศ. ๒๕๕๖ นน้ั เพื่อให้การจัดการศึกษาและการประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช ๒๕๕๖ มีประสิทธิภาพและมีประสิทธิผลย่ิงข้ึน จึงสมควรปรับปรุงระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการจัดการศึกษาและการประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช ๒๕๕๖ พ.ศ. ๒๕๕๖ อาศัยอํานาจตามความในมาตรา ๘ และมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ โดยคําแนะนําของคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา ในการประชุมครั้งท่ี ๔/๒๕๕๙ เมื่อวันที่ ๕ เมษายน ๒๕๕๙ จึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปน้ี ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดการศึกษา และการประเมนิ ผลการเรียน ตามหลกั สตู รประกาศนยี บัตรวิชาชีพ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๖” ข้อ ๒ ระเบียบน้ีใหใ้ ช้บงั คับต้งั แตว่ นั ถัดจากวันประกาศในราชกิจจานเุ บกษาเปน็ ตน้ ไป ขอ้ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดการศึกษาและการประเมินผล การเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช ๒๕๕๖ พ.ศ. ๒๕๕๖ ลงวันที่ ๒๗ กนั ยายน ๒๕๕๖ บรรดาระเบียบ ข้อบังคับหรือคําสั่งอื่นใดในส่วนที่กําหนดไว้แล้วในระเบียบนี้ หรือซึ่งขัด หรอื แยง้ กบั ระเบียบน้ี ใหใ้ ช้ระเบียบนแี้ ทน ข้อ ๔ ให้ใช้ระเบียบนี้บังคับแก่สถานศึกษาที่จัดการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พทุ ธศักราช ๒๕๕๖ ข้อ ๕ ในระเบยี บน้ี “หลกั สตู ร” หมายความว่า หลักสตู รประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ พทุ ธศักราช ๒๕๕๖ “ประกาศนียบัตรวิชาชีพ” หมายความว่า การศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๖ หลงั จากจบการศึกษาระดับมธั ยมศึกษาตอนตน้ หรือเทยี บเท่า ใชอ้ กั ษรยอ่ ว่า “ปวช.” “สถานศึกษา” หมายความว่า วิทยาลัยหรือสถานศึกษาที่เรียกชื่ออย่างอื่นของรัฐและเอกชน ท่จี ัดการศึกษาตามหลักสตู รนี้

เล่ม ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๒๐๐ ง หนา้ ๒ ๘ กันยายน ๒๕๕๙ ราชกิจจานุเบกษา “หวั หน้าสถานศึกษา” หมายความว่า ผู้อํานวยการวิทยาลัยหรือหัวหน้าสถานศึกษาที่เรียกชื่ออย่างอื่น ของรฐั และเอกชน ท่จี ดั การศึกษาตามหลักสตู รนี้ “หน่วยงานต้นสังกัด” หมายความว่า หน่วยงานท่ีมีสถานศึกษาที่จัดการศึกษาตามหลักสูตรน้ี อยใู่ นสังกดั หรือในความควบคุมดแู ล “ผู้เข้าเรียน” หมายความว่า ผู้มาสมัครเข้าเรียนในสถานศึกษา หรือสมัครฝึกอาชีพกับสถาน ประกอบการที่ยังไมไ่ ดข้ นึ้ ทะเบยี นเปน็ นกั เรยี น “นักเรียน” หมายความวา่ ผู้ทไี่ ด้ขน้ึ ทะเบยี นเปน็ นักเรยี นตามหลกั สตู รนี้ “ภาคเรียน” หมายความว่า ช่วงเวลาที่สถานศึกษาเปิดทําการสอน โดยกําหนดให้ ๑ ปี การศึกษาแบง่ ออกเปน็ ๒ ภาคเรียน ภาคเรียนละ ๑๘ สปั ดาห์ “ภาคเรียนฤดูร้อน” หมายความว่า ช่วงเวลาที่สถานศึกษาเปิดทําการสอนในช่วงปิดภาคเรียน ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการเปิดภาคเรียนฤดูร้อนในสถานศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ และในช่วงปดิ ภาคเรียนกลางปโี ดยอนุโลม “สถานประกอบการ” หมายความว่า บริษัท ห้างหุ้นส่วน ร้าน รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ และเอกชน ทง้ั ในประเทศและตา่ งประเทศทีร่ ว่ มมอื กับสถานศึกษาเพอื่ จดั การอาชีวศกึ ษา “ผู้ปกครอง” หมายความว่า บิดา มารดา และบุคคลอ่ืนที่ทําหน้าที่ปกครองดูแลและให้ความอุปการะ แก่นักเรียนและให้คํารับรองแก่สถานศึกษาหรือสถานประกอบการว่าจะปกครองดูแลความประพฤติ ของนักเรียนในระหว่างที่เรียนอยู่ในสถานศึกษา และฝึกประสบการณ์ทักษะวิชาชีพในสถานประกอบการ หรอื ฝึกอาชีพในการศกึ ษาระบบทวภิ าคี “การศึกษาในระบบ” หมายความว่า การจัดการศึกษาวิชาชีพที่เน้นการศึกษาในสถานศึกษา เป็นหลัก โดยมีการกําหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลา การวัดและการประเมินผล ท่เี ป็นเงอื่ นไขของการสาํ เรจ็ การศกึ ษาทีแ่ น่นอน “การศึกษานอกระบบ” หมายความว่า การจดั การศกึ ษาวิชาชพี ทม่ี ีความยืดหยุ่นในการกําหนด จดุ มุ่งหมาย รปู แบบ วธิ ีการศกึ ษา ระยะเวลา การวัดและการประเมินผลท่ีเป็นเง่ือนไขของการสําเร็จการศึกษา โดยเน้ือหาและหลักสูตรจะต้องมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของบุคคล แตล่ ะกลุ่ม “การศึกษาระบบทวิภาคี” หมายความว่า การจัดการศึกษาวิชาชีพที่เกิดจากข้อตกลงระหว่าง สถานศึกษากับสถานประกอบการ ในเร่ืองการจัดหลักสูตร การเรียนการสอน การวัดและการประเมินผล โดยนกั เรยี นใช้เวลาสว่ นหน่ึงในสถานศกึ ษา และเรยี นภาคปฏบิ ัตใิ นสถานประกอบการ “ผู้ควบคุมการฝึก” หมายความว่า ผู้ที่สถานประกอบการมอบหมายให้ทําหน้าที่ประสานงาน กับสถานศึกษาในการจัดการศึกษาระบบทวิภาคี และรับผิดชอบดแู ลการฝึกอาชีพของนักเรียนในสถานประกอบการ “ครูฝึก” หมายความว่า ผู้ทําหน้าท่ีสอน ฝึก อบรมนักเรียนในสถานประกอบการ ตามหลักเกณฑ์ ทค่ี ณะกรรมการการอาชีวศกึ ษากําหนด

เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๒๐๐ ง หน้า ๓ ๘ กนั ยายน ๒๕๕๙ ราชกิจจานุเบกษา “ครูนิเทศก์” หมายความว่า ครูที่สถานศึกษามอบหมายให้ทําหน้าที่นิเทศ ให้คําปรึกษา แนะนาํ แก่นกั เรียนท่ีฝกึ อาชีพและฝกึ ประสบการณท์ ักษะวชิ าชีพ “ครูที่ปรึกษา” หมายความวา่ ครูทสี่ ถานศกึ ษามอบหมายให้ทาํ หน้าท่ีให้คําแนะนํา ให้คําปรึกษา ติดตามผลการเรยี น และตักเตือนดูแลความประพฤตขิ องนกั เรยี น “มาตรฐานวิชาชีพ” หมายความว่า ข้อกําหนดด้านสมรรถนะวิชาชีพ เพ่ือใช้เป็นเกณฑ์ในการกํากับดูแล ตรวจสอบและประกันคุณภาพผู้สําเรจ็ การศึกษา “การประเมินมาตรฐานวิชาชีพ” หมายความว่า การทดสอบความรู้ ความสามารถ ตลอดจน ลักษณะนิสัยในการปฏิบัติงานตามมาตรฐานวิชาชีพ โดยใช้เคร่ืองมือที่เหมาะสมซึ่งกําหนดเกณฑ์ การตัดสินไวช้ ัดเจน พรอ้ มทั้งจัดดาํ เนินการประเมินภายใตเ้ งื่อนไขท่ีเป็นมาตรฐาน “คณะกรรมการประเมินมาตรฐานวิชาชีพ” หมายความว่า คณะกรรมการผู้ทําหน้าที่รับผิดชอบ ในการอํานวยการ ตดิ ตามและกํากับดแู ลการประเมินมาตรฐานวชิ าชีพของนกั เรียนในสถานศึกษา ขอ้ ๖ ให้เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา รักษาการให้เป็นไปตามระเบียบน้ี และใหม้ อี ํานาจตคี วามและวนิ ิจฉัยปญั หาเก่ยี วกับการปฏบิ ัติตามระเบียบน้ี หมวด ๑ สภาพนกั เรียน ส่วนที่ ๑ พ้นื ความรู้และคุณสมบตั ิของผูเ้ ขา้ เรยี น ขอ้ ๗ ผู้เข้าเรียน ต้องมีพ้ืนความรู้ สําเร็จการศึกษาไม่ตํ่ากว่าระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หรอื เทยี บเทา่ ความในข้อนี้ ไม่ใช้บังคับสําหรับผู้ที่เรียนเป็นบางเวลา บางรายวิชา หรือบางส่วนของรายวิชา โดยไมน่ ับจํานวนหน่วยกิตมารวมเพ่ือตดั สนิ การสําเร็จการศกึ ษาตามหลกั สตู รและรับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ข้อ ๘ ผู้เขา้ เรียนตอ้ งมีคณุ สมบตั ิ ดงั ต่อไปน้ี (๑) มีความประพฤตเิ รียบรอ้ ย (๒) มีสขุ ภาพร่างกายแขง็ แรงไม่เปน็ อปุ สรรคตอ่ การเรยี น (๓) มีภูมิลําเนาเป็นหลักแหล่งโดยมีทะเบียนบ้านฉบับเจ้าบ้าน หรือมีหลักฐานของทางราชการ ในลกั ษณะเดยี วกันมาแสดง (๔) มีความเคารพ เลื่อมใส ศรัทธาต่อสถาบันชาติ ศาสนา และพระมหากษัตริย์ ด้วยความบริสทุ ธใ์ิ จ (๕) มเี จตคตทิ ี่ดีต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอนั มพี ระมหากษัตรยิ ์ทรงเปน็ ประมุข (๖) สําหรับผู้เข้าเรียนการศึกษาระบบทวิภาคี ในวันทําสัญญาการฝึกอาชีพต้องมีอายุไม่ต่ํากว่า ๑๕ ปบี รบิ รู ณ์ และมคี วามตั้งใจที่จะรับการฝึกอาชีพในสาขาวิชาทสี่ มคั ร

เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๒๐๐ ง หนา้ ๔ ๘ กันยายน ๒๕๕๙ ราชกิจจานุเบกษา ผู้เขา้ เรยี นตามโครงการตา่ ง ๆ ของสถานศึกษา ให้สถานศึกษากําหนดคุณสมบัติเพ่ิมเติมได้ตาม ความเหมาะสมของโครงการนน้ั สว่ นท่ี ๒ การรับผเู้ ข้าเรียน ขอ้ ๙ การรบั ผ้เู ข้าเรียน ให้ทาํ การสอบคดั เลือกหรือคัดเลอื กตามท่ีสถานศึกษากําหนด ในกรณีท่ีมกี ารสอบคดั เลอื ก ใหป้ ฏิบัตดิ ังน้ี (๑) ทาํ การสอบขอ้ เขียนในหมวดวิชาใด ๆ ตามความต้องการของสถานศึกษา หรือสถานประกอบการ หากสถานศึกษาหรือสถานประกอบการจะทําการสอบความถนัดทางการเรียนวิชาชีพ และสอบสัมภาษณ์ ด้วยก็ได้ (๒) สถานศึกษาประกาศรับสมัคร ดําเนินการสอบและประกาศผลสอบ ตามวันและเวลา ท่หี น่วยงานตน้ สังกดั กาํ หนด (๓) ถ้าเหตุการณ์เกี่ยวกับการสอบเป็นไปโดยปกติ ให้สถานศึกษาเก็บรักษาเอกสารเกี่ยวกับ การสอบคัดเลอื กไวเ้ ปน็ เวลาไมน่ อ้ ยกวา่ ๑ ปี นบั แต่วันประกาศผลการสอบ การรับผู้เข้าเรียนการศึกษาระบบทวิภาคี สถานประกอบการจะเป็นผู้สอบคัดเลือกหรือคัดเลือก ผู้เข้าเรียนเองตามคุณสมบัติที่กําหนดและตามจํานวนท่ีได้ตกลงร่วมกับสถานศึกษา หรือจะมอบให้ สถานศึกษาเปน็ ผดู้ าํ เนนิ การ หรอื ดาํ เนินการรว่ มกันก็ได้ การรับผู้เข้าเรียนตามโครงการต่าง ๆ ของสถานศึกษา ให้สถานศึกษาคัดเลือกตามคุณสมบัติ ทกี่ าํ หนดตามความเหมาะสมของโครงการนัน้ ข้อ ๑๐ ให้มีการตรวจรา่ งกายโดยแพทย์ปริญญา เฉพาะผู้ที่ผ่านการสอบคัดเลือก หรือได้รับ การคดั เลือก ส่วนที่ ๓ การเป็นนักเรียน ขอ้ ๑๑ ผ้เู ข้าเรยี นจะมสี ภาพเปน็ นักเรยี น เม่ือไดข้ นึ้ ทะเบยี นเปน็ นกั เรยี นของสถานศกึ ษา สาํ หรับการศึกษาระบบทวภิ าคี ผ้เู ขา้ เรียนต้องทาํ สัญญาการฝึกอาชพี กบั สถานประกอบการ การขึ้นทะเบียนเป็นนักเรียนและการทําสัญญาการฝึกอาชีพต้องกระทําด้วยตนเองพร้อมท้ังแสดงหลักฐาน การสําเร็จการศึกษาตามวัน เวลา ที่สถานศึกษาและสถานประกอบการกําหนด โดยชําระเงินค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ตามที่สถานศึกษากําหนด ทั้งนี้ ให้เสร็จส้ินก่อนวันเปิดภาคเรียน โดยมีผู้ปกครองซึ่งสถานศึกษาเช่ือถือ มาให้คาํ รบั รองและทําหนังสือมอบตวั ในกรณีผู้เข้าเรียนท่ีบรรลุนิติภาวะ สถานศึกษาอาจให้ผู้ปกครองมาทําหนังสือมอบตัวหรือดําเนินการ ในส่วนทเี่ กย่ี วขอ้ งกบั ระเบยี บน้ีหรือไมก่ ไ็ ด้

เลม่ ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๒๐๐ ง หน้า ๕ ๘ กนั ยายน ๒๕๕๙ ราชกจิ จานุเบกษา ให้สถานศึกษาจัดการประชุมช้ีแจงผู้ปกครอง และปฐมนิเทศนักเรียน เพ่ือให้ทราบแนวทางการเรียน และกฎ ระเบยี บ ข้อบังคับตา่ ง ๆ ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง ขอ้ ๑๒ ให้สถานศกึ ษาออกบัตรประจาํ ตัวให้แก่นักเรียน บัตรประจําตัว ต้องระบุเลขท่ี ช่ือสถานศึกษา รหัสสถานศึกษา ชื่อ ช่ือสกุลนักเรียน รหัสประจําตัวนักเรียน เลขประจําตัวประชาชน วันออกบัตร วันหมดอายุ ลายมือช่ือหัวหน้าสถานศึกษา หรือผู้ได้รับมอบหมายให้ทําการแทน และให้มีรูปถ่ายครึ่งตัวของนักเรียน หน้าตรง ไม่สวมหมวก ไม่สวมแว่นตาสีดํา แต่งเครื่องแบบนักเรียน ถ่ายไว้ไม่เกิน ๖ เดือน ติดลงในบัตร กับให้มีลายมือช่ือ ของนักเรียน ใหม้ ตี ราของสถานศึกษาทม่ี มุ ใดมุมหนงึ่ ของรูปถ่ายนกั เรยี น โดยให้ตดิ ท่รี ปู ถา่ ยบางส่วน บัตรประจําตัวนี้ให้มีอายุเท่ากับระยะเวลาท่ีมีสภาพนักเรียนในสถานศึกษาแห่งน้ัน แต่ต้องไม่เกิน ๓ ปี นับแต่วันออกบัตร ถ้าบัตรประจําตัวหมดอายุ ในระหว่างที่ยังมีสภาพนักเรียนก็ให้สถานศึกษา ตอ่ อายุบัตรเป็นปี ๆ ไป และให้สง่ คนื บตั รประจําตัวต่อสถานศึกษาเมอ่ื พน้ สภาพการเป็นนกั เรยี น สถานประกอบการจะใช้บัตรประจําตัวท่ีสถานศึกษาออกให้ หรือจะออกให้ใหม่ตามความต้องการ ของสถานประกอบการกไ็ ด้ ข้อ ๑๓ ให้สถานศึกษาแต่งตั้งครูท่ีปรึกษา เพื่อทําหน้าที่ให้คําแนะนําเก่ียวกับการเรียน ให้คําปรึกษา ติดตามผลการเรียน และตักเตือนดูแลความประพฤติของนักเรียน และให้สถานประกอบการ จัดใหม้ ผี ูค้ วบคุมการฝึกของนักเรยี นในสถานประกอบการ ส่วนท่ี ๔ การพ้นสภาพและคนื สภาพนักเรียน ขอ้ ๑๔ การพน้ สภาพนักเรยี น เป็นไปตามกรณีใดกรณีหนึ่งต่อไปนี้ (๑) สําเร็จการศกึ ษาตามหลกั สูตร (๒) ลาออก (๓) ถึงแกก่ รรม (๔) สถานศึกษาส่งั ใหพ้ ้นสภาพนักเรียนในกรณีใดกรณหี นึง่ ตอ่ ไปน้ี ก. ขาดเรียน ขาดการฝึกอาชีพ ขาดการฝึกประสบการณ์ทักษะวิชาชีพ หรือขาดการติดต่อ กับสถานศึกษาหรือสถานประกอบการเกินกว่า ๑๕ วันติดต่อกัน ซึ่งสถานศึกษาหรือสถานประกอบการ พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือมีพฤติกรรมอย่างอื่นท่ีแสดงว่าไม่มีความตั้งใจที่จะศึกษาเล่าเรียน หรอื รบั การฝกึ อาชีพ หรอื รับการฝกึ ประสบการณท์ กั ษะวิชาชพี ข. ไมย่ ่นื คาํ ร้องขอกลับเข้าเรียนภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันถัดจากวันครบกําหนดลาพักการเรียน หรอื การฝึกอาชีพตามข้อ ๒๐ ค. ไมม่ าตดิ ตอ่ เพือ่ รกั ษาสภาพนักเรียนตามขอ้ ๒๗

เลม่ ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๒๐๐ ง หนา้ ๖ ๘ กันยายน ๒๕๕๙ ราชกจิ จานุเบกษา ง. ได้รับโทษจําคุก โดยคําพิพากษาถึงท่ีสุดให้จําคุก เว้นแต่เป็นโทษสําหรับความผิด ทไ่ี ด้กระทาํ โดยประมาทหรอื ความผดิ ลหโุ ทษ จ. ขาดพื้นความร้ตู ามข้อ ๗ ฉ. ขาดคณุ สมบตั ขิ องผู้เขา้ เรยี นตามขอ้ ๘ ช. พ้นสภาพนกั เรียนตามข้อ ๕๘ ซ. พ้นสภาพนกั เรยี นตามขอ้ ๕๙ ขอ้ ๑๕ ผู้ท่ีพ้นสภาพนักเรียนตามข้อ ๑๔ (๒) (๔) ก. ข. และ ค. ถ้าประสงค์จะขอคืน สภาพการเป็นนักเรียน จะต้องย่ืนคําร้องขอต่อสถานศึกษาภายใน ๑ ปี นับแต่วันถัดจากวันพ้นสภาพนักเรียน เมือ่ สถานศกึ ษาพจิ ารณาเห็นสมควรกใ็ ห้รบั เข้าเรยี นได้ ขอ้ ๑๖ การขอคืนสภาพการเป็นนกั เรยี นตามขอ้ ๑๕ ใหป้ ฏิบัติ ดงั นี้ (๑) ต้องเข้าเรียนภายในสัปดาห์แรกของภาคเรยี น เวน้ แตก่ ลับเข้าเรยี นในภาคเรยี นเดียวกัน (๒) ให้นํารายวิชาและจํานวนหน่วยกิตที่ได้ลงทะเบียนรายวิชาไว้ มานับรวมเพ่ือพิจารณาตัดสิน การสําเรจ็ การศกึ ษาดว้ ย สว่ นที่ ๕ การพกั การเรียน ข้อ ๑๗ สถานศึกษาและสถานประกอบการอาจพิจารณาอนุญาตให้นักเรียน ลาพักการเรียน หรือการฝกึ อาชีพได้ตามทีเ่ หน็ สมควร เมือ่ มเี หตจุ าํ เปน็ กรณใี ดกรณีหนึ่ง ตอ่ ไปน้ี (๑) ได้รับทุนการศึกษาให้ไปศึกษา หรือดูงาน หรือเป็นตัวแทนของสถานศึกษา หรือสถาน ประกอบการ ในการเขา้ รว่ มประชุม หรือกรณอี ่ืน ๆ อนั ควรแกก่ ารส่งเสรมิ (๒) เจ็บป่วยตอ้ งพกั รกั ษาตัวเป็นเวลานาน โดยมีคาํ รับรองของแพทยป์ ริญญา (๓) กรณลี าพักเพ่อื รับราชการทหารกองประจาํ การให้ลาพักได้จนกว่าจะไดร้ บั การนําปลด (๔) เหตจุ ําเป็นอย่างอน่ื ตามทส่ี ถานศกึ ษาและสถานประกอบการจะพิจารณาเห็นสมควร ในกรณีที่มีนักเรียนลาพักการเรียน หรือการฝึกอาชีพต้ังแต่ต้นปีเป็นระยะเวลานานเกินกว่า ๑ ปี สถานศกึ ษาและสถานประกอบการอาจพจิ ารณารับนกั เรยี นอื่นเข้าเรียนหรอื ฝกึ อาชพี แทนทีไ่ ด้ ตามท่ีเหน็ สมควร นักเรียนท่ีลาพักการเรียนหรือการฝึกอาชีพต้องชําระเงินค่ารักษาสภาพนักเรียนและค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ตามที่สถานศึกษากําหนด แต่ถ้านักเรียนได้ชําระเงินค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ครบถ้วนสําหรับภาคเรียนนั้น แลว้ ไมต่ อ้ งชาํ ระเงินค่ารกั ษาสภาพนกั เรยี นสําหรับภาคเรยี นน้นั อกี ขอ้ ๑๘ นักเรียนที่ขออนุญาตลาพักการเรียนหรือการฝึกอาชีพ ต้องย่ืนคําร้องเป็นลายลักษณ์ อักษรต่อสถานศึกษา โดยมีผู้ปกครองเป็นผู้รับรอง สําหรับผู้ที่บรรลุนิติภาวะจะมีผู้รับรองหรือไม่ก็ได้ เมอื่ ได้รบั อนญุ าตแลว้ จึงพกั การเรยี นหรอื การฝึกอาชพี ได้ มิฉะน้นั จะถือวา่ ขาดเรียน เว้นแต่มเี หตุผลสมควร

เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๒๐๐ ง หนา้ ๗ ๘ กนั ยายน ๒๕๕๙ ราชกจิ จานุเบกษา ข้อ ๑๙ การอนุญาตให้นักเรียนลาพักการเรียน หรือการฝึกอาชีพ ให้สถานศึกษาทําหลักฐาน เป็นลายลักษณ์อักษรแจ้งให้ผู้ปกครองทราบ เว้นแต่ผู้ที่บรรลุนิติภาวะที่ไม่มีผู้ปกครองมอบตัวให้แจ้ง นักเรียนโดยตรง ข้อ ๒๐ นักเรียนที่ลาพักการเรียน หรือการฝึกอาชีพ เมื่อครบกําหนดเวลาท่ีลาพักการเรียน หรือการฝึกอาชีพแล้ว ให้ยื่นคําร้องขอกลับเข้าเรียนพร้อมด้วยหลักฐานการอนุญาตให้ลาพักการเรียน หรือการฝึกอาชีพต่อสถานศึกษาภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันถัดจากวันครบกําหนด หากพ้นกําหนดนี้ ให้ถอื ว่าพ้นสภาพนกั เรียนเวน้ แต่มีเหตุผลสมควร ส่วนท่ี ๖ การลาออก ข้อ ๒๑ นักเรียนที่ประสงค์จะลาออกจากการเป็นนักเรียน ต้องให้ผู้ปกครองเป็นผู้รับรอง การลาออก เวน้ แตผ่ ้ทู ีบ่ รรลุนติ ภิ าวะ ข้อ ๒๒ นักเรียนท่ีลาออกแล้วได้รับอนุญาตให้กลับเข้าเรียนในภาคเรียนเดียวกัน ให้ถือว่า นกั เรยี นผนู้ ัน้ มีสภาพนักเรียนมาต้ังแต่ต้นภาคเรียนน้นั ทกุ ประการ หมวด ๒ การจดั การเรียน ส่วนท่ี ๑ การเปิดเรียน ข้อ ๒๓ ให้สถานศึกษากําหนดวันเปิดและปิดภาคเรียนตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา หากสถานศึกษาใดจะกําหนดวันเปิดและปิดภาคเรียน แตกตา่ งไปจากระเบยี บดังกล่าว ใหข้ ออนญุ าตต่อหน่วยงานตน้ สังกัด ข้อ ๒๔ สถานศึกษาท่ีเปิดภาคเรียนฤดูร้อน ให้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ วา่ ดว้ ยการเปิดภาคเรียนฤดรู อ้ นในสถานศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ สว่ นท่ี ๒ การลงทะเบยี นรายวชิ า ข้อ ๒๕ สถานศึกษาต้องกําหนดวันและเวลาให้นักเรียนลงทะเบียนรายวิชาต่าง ๆ ให้เสร็จ กอ่ นวันเปดิ ภาคเรียน

เล่ม ๑๓๓ ตอนพเิ ศษ ๒๐๐ ง หนา้ ๘ ๘ กนั ยายน ๒๕๕๙ ราชกจิ จานุเบกษา ข้อ ๒๖ สถานศึกษาอาจใหน้ กั เรียนลงทะเบียนรายวิชาภายหลังกําหนดตามข้อ ๒๕ ก็ได้โดย ให้สถานศึกษากําหนดวันส้ินสุดการลงทะเบียนตามที่เห็นสมควร แต่ต้องไม่เกิน ๑๕ วัน นับแต่วันเปิดภาคเรียน หรือไม่เกิน ๕ วัน นับแตว่ ันเปิดภาคเรียนฤดูรอ้ น การลงทะเบียนรายวิชาตามวรรคหนง่ึ นักเรยี นต้องชาํ ระคา่ ปรบั ตามทีส่ ถานศึกษากําหนด ข้อ ๒๗ นักเรียนท่ีมิได้ลงทะเบียนรายวิชาภายในวันและเวลาที่สถานศึกษากําหนดตามข้อ ๒๖ ถ้าประสงค์จะรักษาสภาพนักเรียน ต้องติดต่อรักษาสภาพนักเรียนภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันถัดจาก วนั สิ้นสดุ การลงทะเบยี น หากพน้ กําหนดน้ีให้ถอื วา่ พน้ สภาพนักเรยี น เว้นแต่มีเหตุผลสมควร ขอ้ ๒๘ การลงทะเบียนรายวชิ าตอ้ งได้รบั ความเห็นชอบจากครทู ปี่ รึกษา ข้อ ๒๙ นักเรียนตอ้ งลงทะเบยี นรายวิชาดว้ ยตนเอง ตามวันและเวลาทส่ี ถานศกึ ษากาํ หนด ในกรณีที่นักเรียนไม่สามารถมาลงทะเบียนรายวิชาด้วยตนเองได้ จะมอบหมายให้ผู้อื่น มาลงทะเบยี นแทนใหห้ วั หนา้ สถานศกึ ษาพิจารณาเป็นราย ๆ ไป ขอ้ ๓๐ นักเรียนลงทะเบียนรายวิชาได้ไม่เกินภาคเรียนละ ๒๒ หน่วยกิต สําหรับการเรียน แบบเต็มเวลา และได้ไม่เกินภาคเรียนละ ๑๒ หน่วยกิต สําหรับการเรียนแบบไม่เต็มเวลา ส่วนการลงทะเบียน รายวชิ าในภาคเรยี นฤดรู ้อน ให้ลงทะเบียนไดไ้ มเ่ กิน ๑๒ หน่วยกิต เว้นแต่ไดร้ ับอนุญาตจากหวั หนา้ สถานศกึ ษา หากสถานศึกษามีเหตุผลและความจําเป็นในการให้นักเรียนลงทะเบียนรายวิชาท่ีแตกต่างไปจาก เกณฑข์ ้างต้น อาจทําได้แต่ต้องไมก่ ระทบต่อมาตรฐานและคณุ ภาพการศึกษา ข้อ ๓๑ นักเรียนที่ขอโอนผลการเรียนรายวิชาตามข้อ ๖๐ และข้อ ๖๑ ต้องลงทะเบียน เรียนรายวิชาในสถานศึกษาทีข่ อสําเรจ็ การศกึ ษา ไม่น้อยกวา่ ๑ ภาคเรยี น นักเรียนที่ขอเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ตามข้อ ๖๗ ต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชา ในสถานศึกษาที่ขอสําเร็จการศึกษาไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๓ ของจํานวนหน่วยกิตที่ระบุไว้ในหลักสูตร แต่ละประเภทวิชาและสาขาวชิ าและตามแผนการเรยี นทส่ี ถานศกึ ษากาํ หนด สว่ นท่ี ๓ การเปลี่ยน การเพม่ิ และการถอนรายวชิ า ขอ้ ๓๒ นักเรียนจะขอเปล่ียนรายวิชาที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้ว หรือขอเพ่ิมรายวิชาต้องกระทํา ภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันเปิดภาคเรียน หรือภายใน ๕ วัน นับแต่วันเปิดภาคเรียนฤดูร้อน ส่วนการขอถอนรายวิชาต้องกระทําภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันเปิดภาคเรียน หรือภายใน ๑๐ วัน นบั แต่วันเปดิ ภาคเรียนฤดูร้อน การถอนรายวิชาภายหลังกําหนดตามวรรคหนึ่งอาจกระทําได้ ถ้าหัวหน้าสถานศึกษาพิจารณา เหน็ ว่ามเี หตุผลสมควร การขอเปลี่ยน ขอเพิ่ม หรือขอถอนรายวิชา ต้องได้รับความเห็นชอบจากครูที่ปรึกษา และครผู ูส้ อนประจาํ รายวชิ า

เลม่ ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๒๐๐ ง หนา้ ๙ ๘ กันยายน ๒๕๕๙ ราชกจิ จานุเบกษา ขอ้ ๓๓ การถอนรายวิชาภายในกําหนด ตามข้อ ๓๒ ให้ลงอักษร “ถ.น.” ในระเบียน แสดงผลการเรียนช่อง “ผลการเรยี น” การถอนรายวิชาภายหลังกาํ หนดตามข้อ ๓๒ และหัวหน้าสถานศึกษาพิจารณาเห็นว่ามีเหตุผลสมควร ให้ลงอักษร “ถ.น.” ในระเบียนแสดงผลการเรียนช่อง “ผลการเรียน” แต่ถ้าหัวหน้าสถานศึกษา พจิ ารณาเห็นว่าไมม่ ีเหตผุ ลอนั สมควร ให้ลงอักษร “ถ.ล.” ลงในระเบยี นแสดงผลการเรียนช่อง “ผลการเรียน” สว่ นท่ี ๔ การเรียนโดยไม่นบั จาํ นวนหนว่ ยกิตมารวมเพอ่ื การสําเร็จการศึกษาตามหลักสตู ร ขอ้ ๓๔ สถานศึกษาอาจอนุญาตให้นักเรียนลงทะเบียนเรียนรายวิชาใดวิชาหนึ่งเพ่ือเป็นการ เสริมความรู้ โดยไม่นับจํานวนหนว่ ยกิตของรายวิชานนั้ มารวมเพ่อื การสาํ เรจ็ การศึกษาตามหลักสตู รได้ ข้อ ๓๕ เมอื่ ได้ทาํ การวดั และประเมินผลการเรียนแล้วได้ระดับผลการเรียนตั้งแต่ ๑.๐ ข้ึนไป ถือว่าประเมินผ่านให้บันทึก “ม.ก.” ลงในระเบียนแสดงผลการเรียนช่อง “ผลการเรียน” ถ้าผลการประเมิน ไมผ่ ่านไม่ต้องบันทึกรายวิชานั้น และให้ถือเป็นการสิ้นสุดสําหรับการเรียนรายวิชานั้นโดยไม่นับจํานวนหน่วยกิต มารวมเพ่อื การสําเร็จการศึกษาตามหลกั สตู ร สว่ นที่ ๕ การนบั เวลาเรียนเพือ่ สทิ ธใิ นการเขา้ รับการวัดผลปลายภาคเรียน ขอ้ ๓๖ นักเรียนต้องมีเวลาเรียนในแต่ละรายวิชาไม่ตํ่ากว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเปิดเรียนเต็ม สําหรับรายวชิ านัน้ จงึ จะมีสิทธิ์เข้ารบั การวัดผลปลายภาคเรียน ในกรณที ี่มีความจําเป็นอยา่ งแท้จริงหัวหนา้ สถานศกึ ษาอาจพจิ ารณาผ่อนผนั ใหเ้ ปน็ ราย ๆ ไป นักเรียนท่ีไม่มีสิทธิ์เข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียนตามวรรคหน่ึง จะขอประเมินเทียบโอน ความรูแ้ ละประสบการณต์ ามขอ้ ๖๗ ในภาคเรยี นน้ันมไิ ด้ ขอ้ ๓๗ การนับเวลาเรยี นให้ปฏิบตั ิดงั นี้ (๑) เวลาเปิดเรยี นเตม็ ภาคเรยี นละ ๑๘ สปั ดาห์ (๒) นักเรียนท่ีย้ายสถานศึกษาระหว่างภาคเรียน ให้นําเวลาเรียนจากสถานศึกษาทั้งสองแห่ง มารวมกัน (๓) นักเรียนท่ีลาออกแล้ว ได้รับอนุญาตให้กลับเข้าเรียนในภาคเรียนเดียวกันให้นับเวลาเรียน ท่เี รียนแลว้ มารวมกัน (๔) นักเรียนท่ีลาพักการเรียน หรือการฝึกอาชีพในภาคเรียนใด ได้รับอนุญาตให้กลับเข้าเรียน หรือฝึกอาชีพในภาคเรียนเดียวกัน ให้นับเวลาเรียนหรือฝึกอาชีพก่อนและหลังการลาพักการเรียน หรือการฝึกอาชพี ในภาคเรียนนน้ั มารวมกนั (๕) รายวิชาที่มีครูผู้สอน หรือครูฝึกตั้งแต่ ๒ คนข้ึนไป และแยกกันสอน ให้นําเวลาเรียน ท่เี รยี นกับครูผูส้ อน หรอื ครูฝึกทกุ คนมารวมกัน

เลม่ ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๒๐๐ ง หน้า ๑๐ ๘ กนั ยายน ๒๕๕๙ ราชกิจจานุเบกษา (๖) ถ้ามกี ารเปลีย่ นรายวิชา หรือเพมิ่ รายวิชา ให้นบั เวลาเรียนต้งั แต่เริ่มเรยี นรายวชิ าใหม่ ส่วนที่ ๖ การขออนญุ าตเล่ือนการเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน ขอ้ ๓๘ นักเรียนที่ไม่สามารถเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียนตามวันและเวลาที่สถานศึกษากําหนด หวั หนา้ สถานศกึ ษาอาจอนญุ าตให้เล่อื นการเข้ารบั การวดั ผลปลายภาคเรียนไดใ้ นกรณตี ่อไปน้ี (๑) ประสบอุบัตเิ หตุ หรอื เจ็บปว่ ยกอ่ น หรอื ระหว่างการเข้ารบั การวดั ผลปลายภาคเรยี น (๒) ถูกควบคมุ ตัวโดยพนกั งานเจ้าหน้าท่ีตามกฎหมาย (๓) เป็นตัวแทนของสถานศึกษา หรือสถานประกอบการ ในการเข้าร่วมประชุม หรือกิจกรรมพิเศษ อย่างอื่น โดยไดร้ ับความยินยอมจากสถานศกึ ษา (๔) มีความจําเป็นอย่างอ่ืน โดยสถานศึกษา หรือสถานศึกษาและสถานประกอบการพิจารณาแล้ว เห็นวา่ เป็นความจาํ เปน็ อย่างแท้จริง ขอ้ ๓๙ นักเรียนที่ขออนุญาตเลื่อนการเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน ต้องย่ืนคําร้อง พร้อมท้ังหลักฐานประกอบต่อสถานศึกษาก่อนการวัดผลปลายภาคเรียนไม่น้อยกว่า ๓ วัน หากไม่สามารถ กระทาํ ไดใ้ หห้ วั หนา้ สถานศึกษาพจิ ารณาเปน็ ราย ๆ ไป กรณีที่หัวหน้าสถานศึกษาอนุญาตให้เลื่อนได้ ให้บันทึก “ม.ส.” ลงในระเบียนแสดงผลการเรียน ในช่อง “ผลการเรียน” และให้นักเรียนเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียนทดแทนภายใน ๑๐ วัน นับแต่ วนั ประกาศผลการเรยี น หากไม่สามารถดาํ เนินการไดใ้ ห้หวั หนา้ สถานศึกษาพิจารณาจัดการวัดผลปลายภาคเรียน ทดแทนภายในกาํ หนดการวัดผลปลายภาคเรียนของภาคเรียนถดั ไป การอนญุ าตใหเ้ ลอื่ นการเขา้ รบั การวัดผลปลายภาคเรียน ให้สถานศึกษาทําเป็นลายลักษณ์อักษร มอบใหน้ ักเรยี น หมวด ๓ การประเมินผลการเรยี น สว่ นท่ี ๑ หลักการในการประเมนิ ผลการเรียน ขอ้ ๔๐ ใหส้ ถานศกึ ษาและสถานประกอบการ มีหนา้ ท่แี ละรบั ผดิ ชอบในการประเมนิ ผลการเรียน ข้อ ๔๑ ให้ประเมินผลการเรียนเป็นรายวิชาตามระบบหน่วยกิต จํานวนหน่วยกิตของแต่ละรายวิชา ใหถ้ ือตามทกี่ าํ หนดไวใ้ นหลักสตู ร ขอ้ ๔๒ ให้สถานศึกษา และสถานประกอบการพิจารณาทําการประเมินผลการเรียนรายวิชา เม่ือส้ินภาคเรยี น หรอื เมื่อส้นิ สุดการเรียน หรือการปฏบิ ัตงิ านในทกุ รายวชิ า

เล่ม ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๒๐๐ ง หน้า ๑๑ ๘ กนั ยายน ๒๕๕๙ ราชกจิ จานุเบกษา สําหรับรายวิชาที่เรียน หรือฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการให้ครูฝึกและครูนิเทศก์ร่วมกัน ประเมนิ ผลการเรยี น ข้อ ๔๓ ให้หน่วยงานต้นสังกัดร่วมกับสถานศึกษา ดําเนินการส่งเสริมคุณภาพและควบคุม มาตรฐานการจดั การเรียนการสอน การวัดผลและการประเมินผลการเรยี น ส่วนที่ ๒ วิธกี ารประเมินผลการเรยี น ขอ้ ๔๔ ให้ประเมินผลการเรียนเป็นรายวิชาตามสภาพจริงต่อเน่ืองตลอดภาคเรียนท้ังด้าน ความรู้ ความสามารถ และคุณลักษณะอันพึงประสงค์จากกิจกรรมการเรียนการสอน การฝึกปฏิบัติ และงานท่ีมอบหมายรวมท้ังการวัดผลปลายภาคเรียน ซ่ึงครอบคลุมจุดประสงค์ สมรรถนะรายวิชาและ เน้ือหาวิชา โดยใชเ้ ครอ่ื งมือและวิธีการหลากหลายตามความเหมาะสม ข้อ ๔๕ ให้ใชต้ ัวเลขแสดงระดับผลการเรยี นในแตล่ ะรายวิชา ดังตอ่ ไปนี้ ๔.๐ หมายถึง ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีเยยี่ ม ๓.๕ หมายถึง ผลการเรียนอยใู่ นเกณฑด์ มี าก ๓.๐ หมายถึง ผลการเรยี นอยใู่ นเกณฑ์ดี ๒.๕ หมายถึง ผลการเรียนอยูใ่ นเกณฑด์ ีพอใช้ ๒.๐ หมายถงึ ผลการเรียนอยใู่ นเกณฑพ์ อใช้ ๑.๕ หมายถึง ผลการเรียนอยใู่ นเกณฑ์ออ่ น ๑.๐ หมายถึง ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ออ่ นมาก ๐ หมายถงึ ผลการเรียนตาํ่ กวา่ เกณฑ์ (ตก) ขอ้ ๔๖ รายวิชาใดทแี่ สดงระดบั ผลการเรยี นตามข้อ ๔๕ ไม่ได้ ใหใ้ ชต้ ัวอักษรตอ่ ไปนี้ ข.ร. หมายถึง ขาดเรียน ไม่มีสิทธิ์เข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน เนื่องจาก มเี วลาเรียนตาํ่ กว่าร้อยละ ๘๐ โดยสถานศึกษาพิจารณาแลว้ เหน็ ว่าไมม่ เี หตุผลสมควร ข.ป. หมายถึง ขาดการปฏิบัติงาน หรือปฏิบัติงานไม่ครบ โดยสถานศึกษา พจิ ารณาแล้วเห็นว่าไมม่ ีเหตุผลสมควร ข.ส. หมายถึง ขาดการวัดผลปลายภาคเรยี น โดยสถานศึกษาพิจารณาแล้วเห็นว่า ไมม่ ีเหตุผลสมควร ถ.ล. หมายถึง ถอนรายวิชาภายหลังกําหนด โดยสถานศึกษาพิจารณาแล้วเห็นว่า ไมม่ ีเหตุผลสมควร ถ.น. หมายถงึ ถอนรายวิชาภายในกําหนด ท. หมายถึง ทจุ ริตในการสอบ หรอื งานท่มี อบหมายให้ทํา

เลม่ ๑๓๓ ตอนพิเศษ ๒๐๐ ง หนา้ ๑๒ ๘ กนั ยายน ๒๕๕๙ ราชกิจจานุเบกษา ม.ส. หมายถึง ไม่สมบูรณ์ เน่ืองจากไม่สามารถเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน โดยได้รับอนุญาตจากหัวหน้าสถานศึกษา หรอื ไม่สง่ งานอันเป็นส่วนประกอบของการเรียนรายวิชาตามกําหนด ม.ท. หมายถึง ไม่สามารถเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียนทดแทนภายในเวลา ทีส่ ถานศกึ ษากําหนด ผ. หมายถงึ ได้เข้าร่วมกิจกรรมตามกาํ หนด หรือผลการประเมนิ ผา่ น ม.ผ. หมายถงึ ไม่เข้าร่วมกิจกรรม หรือผลการประเมนิ ไม่ผ่าน ม.ก. หมายถงึ การเรียนโดยไม่นับจํานวนหน่วยกิตมารวมเพ่ือการสําเร็จการศึกษา ตามหลกั สูตร และผลการประเมินผา่ น ขอ้ ๔๗ ในกรณตี ่อไปนใี้ ห้ระดบั ผลการเรยี นเปน็ ๐ (ศนู ย)์ เฉพาะรายวชิ า (๑) ได้ ข.ร. (๒) ได้ ข.ป. (๓) ได้ ข.ส. (๔) ได้ ถ.ล. (๕) ได้ ท. (๖) ได้ ม.ท. ข้อ ๔๘ นักเรียนท่ีทําการทุจริต หรือส่อเจตนาทุจริตในการสอบ หรืองานท่ีมอบหมายให้ทํา ในรายวิชาใด ใหส้ ถานศกึ ษาพิจารณาดาํ เนนิ การ ดังนี้ (๑) ให้ได้คะแนน ๐ (ศนู ย์) เฉพาะครง้ั น้ัน หรือ (๒) ให้ระดับผลการเรียนเป็น ๐ (ศูนย์) โดยบันทึก “ท.” ลงในระเบียนแสดงผลการเรียน ชอ่ ง “ผลการเรียน” ในรายวิชาน้นั หรือ (๓) ดําเนินการตาม (๒) และตัดคะแนนความประพฤติตามระเบียบว่าด้วยการตัดคะแนน ความประพฤติทส่ี ถานศึกษากาํ หนดตามความร้ายแรงแลว้ แต่กรณี ข้อ ๔๙ การคาํ นวณคา่ ระดบั คะแนนเฉลีย่ ใหป้ ฏบิ ตั ิ ดงั นี้ (๑) ให้นําผลบวกของผลคูณระหว่างจํานวนหน่วยกิตของแต่ละรายวิชากับระดับผลการเรียน หารดว้ ยผลบวกของจํานวนหน่วยกิตของแตล่ ะรายวชิ า คดิ ทศนิยมสองตําแหนง่ ไมป่ ัดเศษ (๒) ให้คํานวณค่าระดับคะแนนเฉล่ีย จากรายวิชาท่ีได้ระดับผลการเรียนตามข้อ ๔๕ และข้อ ๔๗ สําหรับรายวิชาท่ีนักเรียนเรียนซ้ํา เรียนแทน ให้ใช้ระดับผลการเรียนและนับจํานวนหน่วยกิต ตามข้อ ๕๐ (๓) ให้คํานวณค่าระดับคะแนนเฉลี่ย ดังนี้ ก. ค่าระดับคะแนนเฉล่ียประจําภาคเรียน คํานวณจากรายวิชาท่ีได้ระดับผลการเรียน เฉพาะในภาคเรียนหน่ึง ๆ ข. ค่าระดับคะแนนเฉล่ียสะสม คํานวณจากรายวิชาท่ีเรียนมาทั้งหมดและได้ระดับผลการเรียน ตั้งแต่สองภาคเรียนขนึ้ ไป