ช่วั โมงท่ี ๑
1. เจตนาของประโยค ประโยคทใ่ี ชส้ นทนาอยใู่ นชวี ติ ประจาวนั สามารถแบง่ ออกได้ 3 ประเภท ตามเจตนา ดังน้ี แจง้ ใหท้ ราบ ถามใหต้ อบ บอกใหท้ า 1. ประโยคแจง้ ใหท้ ราบ สอ่ื ให้ผฟู้ งั รับรู้ เปน็ ได้ทงั้ บอกเลา่ และปฏเิ สธ เชน่ ลซิ ่ายม้ิ หวานมาก เขาไม่ชอบเลน่ นา้ ทะเล ชมุ พรเปน็ จังหวัดแรกของภาคใต้
2. ประโยคถามใหต้ อบ สอ่ื เม่ือต้องการคาตอบจากผฟู้ ัง มคี าแสเชดน่ งคาเถธาอมจะไเปช่นอา่ นหหนรือังสไมือท่ ่ีไหใคนร อะไร ท่ไี หน เม่อื ไหร่ กี่ อย่างไร เมอ่ื ไหร่เขาจะมาถงึ บา้ น ใครจะไปเท่ยี วทะเลบา้ ง 3. ประโยคบอกใหท้ า ส่อื ถ้อยคาเชิงคาสั่ง ขอร้อง ออ้ นวอน ตกั เตือนเพอ่ื ให้ผู้ฟังปฏิบตั ิตาม มคี าแสดงคาถาม เชน่ โปรด กรุณา จง อยา่ ห้าม ตอ้ ง โปรดชว่ ยเหลอื คนยากไร้ ห้ามลกั ลอบตดั ไม้ในพืน้ ท่ีป่าอุทยาน กรุณาปฏบิ ตั ิตามคาแนะนาของเจ้าหน้าที่
2. ประโยค ประโยคประกอบดว้ ย ภาคประธาน + ภาคแสดง (กริยา + กรรม) vv S+ v+o ประธาน กรยิ า กรรม
สว่ นประกอบ ดตู รงไหน ? ภาคประธาน ประธาน + ขยายประธาน ภาคแสดง กริยา + ขยายกริยา กรรม + ขยายกรรม “ รถคนั สีแดง วิ่งอยา่ งชา้ ๆ ” ภ. ประธาน ภ. กรยิ า
๑. ประโยความเดยี ว
1. ประโยคความเดยี ว (เอกรรถประโยค) - มใี จความสาคัญเดยี ว กรยิ าหลักตัวเดยี ว จาว่า S1 V1 (ประธาน 1 กรยิ า 1 ทาคนเดยี ว) ( หากมีหลายกรยิ าต้องเรยี งตดิ กนั ไมม่ ีคาเชอ่ื ม) เช่น พอ่ กาลงั น่งั ดูข่าวในโทรทัศน์ - สั้นหรอื ยาวไมเ่ กยี่ วเปน็ ความเดยี วไดท้ ัง้ หมด หากมีใจความเดยี วกรยิ าหลกั ตวั เดียว
v- เช่น ฝนตก ฝน + ตก (ประโยคไมม่ กี รรม) S1 V1 ญาญ่าปลูกตน้ ไม้ ญาญา่ + ปลูก + ตน้ ไม้ (ประโยคมกี รรม) S1 V1 O1
โครงสรา้ งประโยคความเดียว 1. เมือ่ กริยาเป็นอกรรมกรยิ า เชน่ เด็กย้มิ มา้ วิง่ นกร้อง รถตดิ นกตวั โตร้อง รถในกรุงเทพฯตดิ เด็กน้อยยม้ิ มา้ ขาวว่ิง นกในป่าร้องดงั ลัน่ รถในกรุงเทพฯตดิ ทุกวนั เด็กชาวเขายิม้ สวย มา้ ขาววิ่งเรว็ นกร้องเพราะ เขากนิ มมู มาม
โครงสร้างประโยคความเดียว 2. เม่อื กริยาเปน็ สกรรมกรยิ า เชน่ นกกนิ แมลง ครสู อนนกั เรียน ฉันเห็นเต่า เด็กเตะฟตุ บอล นอ้ งของฉันเตะฟุตบอล งสู เี ขยี วในสระกินกบ ววั ตัวผู้กินหญ้าออ่ น เขาเลีย้ งสุนขั หลายตัว ตารวจจบั คนรา้ ยไดโ้ ดยละมอ่ ม
โครงสรา้ งประโยคความเดียว เปน็ เหมอื น 3. เมื่อกริยาเปน็ วิกตรรถกรยิ า เชน่ เท่า คลา้ ย คือ เสมอื น การเลี้ยงดูพอ่ แม่เป็นมงคลอยา่ งย่งิ ดจุ ประดจุ ประหนึ่ง ราวกับ เขาคอื คลนื่ ลูกใหม่ เพยี งดงั เปรยี บเหมอื น
ตวั อยา่ งประโยคความเดียว เขาปดิ เสียงโทรศพั ท์มอื ถอื เจา้ หน้าที่อทุ ยานใหเ้ ขา้ ชมถา้ ได้เพยี งบางส่วน
ตวั อย่างประโยคความเดียว ในปี 2563 คนทัว่ โลกเผชญิ ปญั หาโรคโควิด 19 เดก็ ผู้หญงิ คนนน้ั จูงสุนัขตัวสีนา้ ตาล คณะกรรมการตอ่ ต้านความอดยากและขาดสารอาหาร ได้แจกจา่ ยขนมปงั โปรตนี สงู แกน่ กั เรียนตามชนบท
๒. ประโยความรวม
2. ประโยคความรวม (อเนกรรถประโยค) นาประโยคความเดียวสองประโยคมารวมกนั โดยมีสนั ธานเป็นตัวเชื่อม จาว่า เดยี ว + เดยี ว = รวม โครงสร้าง เดยี ว 1 + เชือ่ มสนั ธาน + เดยี ว 2 ประโยคความรวมมี 4 ชนดิ แยกตามชนดิ สนั ธานเชอ่ื มประโยค ดังน้ี 1. ประโยคความรวมท่ีมีเนอื้ ความคล้อยตามกนั 2. ประโยคความรวมท่ีมีเนอ้ื ความขดั แยว้ กัน 3. ประโยคความรวมที่มีเนื้อความเปน็ เหตุเปน็ ผลกนั 4. ประโยคความรวมท่มี เี น้ือความเลอื กอยา่ งใดอย่างหนึ่ง
1. ประโยคความรวมท่มี เี น้อื ความคล้อยตามกนั สันธานทใ่ี ชเ้ ชอ่ื ม คอื และ กับ พอ...ก็ แลว้ ก็ ท้งั ...และ ฯลฯ เชน่ แป้งและดาวไปเทย่ี วทะเล เขากับพ่อชอบกินอาหารทะเล พอฝนตกนา้ กเ็ ร่มิ ทว่ ม แมล่ า้ งจานเสรจ็ แล้วก็อาบนา้ นอน เขาซือ้ ท้งั ขนมและเคร่ืองดม่ื เป็นจานวนมาก
2. ประโยคความรวมท่ีมีเนือ้ ความขัดแย้งกนั สนั ธานทใ่ี ช้เชอื่ ม คอื แม.้ ..แต่ ถงึ แมว้ า่ ...แต่ก็ ทง้ั ๆท่ี...แต่ กวา่ ...ก็ ฯลฯ เช่น แม้จะใช้เวลานานแต่ผลงานกอ็ อกมาคมุ้ ค่า ถึงแมฝ้ ันของฉนั จะติดดนิ แต่กพ็ รอ้ มทีจ่ ะโบยบนิ ไปหาเธอ ทัง้ ๆ ทเ่ี ขาหนา้ ตาดีแต่กลับพูดจาไม่ไพรเราะ กวา่ จะรวู้ า่ ผดิ กส็ ายเกนิ ไปเสียแล้ว
3. ประโยคความรวมที่มเี น้ือความเป็นเหตุเป็นผลกัน สนั ธานทใ่ี ชเ้ ชื่อม คอื ดังนน้ั ...จงึ เพราะ...จงึ จงึ ฯลฯ เช่น เขารกั ษาวาจาดังนั้นเพ่อื นจึงไว้วางใจเขา เพราะเขายม้ิ แย้มแจม่ ใสจงึ เปน็ ท่ีรักของทุกคน ฝนตกหนกั นา้ จงึ ทว่ มบ้านเรือนประชาชน
4. ประโยคความรวมทมี่ ีเนอ้ื ความเลือกอย่างใดอย่างหน่งึ สนั ธานทใี่ ช้เชือ่ ม คอื ไม.่ ..ก็ หรือ มิฉะนั้น ไมเ่ ช่นน้นั ฯลฯ เช่น ไมเ่ ธอก็ฉันกร็ ับผดิ ชอบงานชน้ิ น้ี คุณต้องการรบั ชาหรอื กาแฟ อยา่ ขบั รถเรว็ เกนิ ไปมฉิ ะนนั้ จะเกิดอบุ ัตเิ หตได้ เธอต้องตั้งใจทางานใหด้ กี อ่ นไม่เช่นนนั้ เพือ่ นร่วมงานจะไมย่ อมรบั เธอ
ช่วั โมงท่ี ๒
๓. ประโยความซอ้ น
3. ประโยคความซอ้ น (สังกรประโยค) ประโยคความเดยี วสองประโยคมาซ้อนกัน สงั เกตประโยคตอ่ ไปน้ี ฝนซึง่ ตกนอกฤดูกาลตกหนกั มาก ประโยคหลกั คอื ฝนตกหนักมาก ประโยคยอ่ ยทซี่ อ้ นลงมาในประโยคหลกั คอื ซ่งึ ตกนอกฤดู หรือ ฝนตกนอกฤดู
ประโยคความซอ้ น สังเกตประโยคตอ่ ไปนี้ แบมแบมทเ่ี ป็นนกั กฬี าวิง่ เรว็ มาก ประโยคหลกั คอื แบมแบมว่ิงเร็วมาก ประโยคย่อยทซ่ี อ้ นลงมาในประโยคหลัก คือ ทเี่ ปน็ นกั กฬี า หรือ แบมแบมเปน็ นกั กฬี า
ประโยคความซอ้ น สังเกตประโยคตอ่ ไปน้ี นอ้ งมองนกนางนวลบินโฉบไปมา ประโยคหลกั คือ น้องมองนกนางนวล ประโยคย่อยท่ซี อ้ นลงมาในประโยคหลัก คอื นกนางนวลบนิ โฉบไปมา
ประโยคความซอ้ น สงั เกตประโยคต่อไปนี้ แมวที่มขี นปุยว่งิ ขึ้นตน้ ไม้ ประโยคหลัก คอื แมววง่ิ ขนึ้ ตน้ ไม้ ประโยคย่อยทซ่ี อ้ นลงมาในประโยคหลัก คอื ที่มขี นปยุ หรือ แมวมขี นปยุ
ลักษณะของประโยคความซอ้ นประกอบดว้ ย 2 ส่วน คือ 1. มุขยประโยค คือ ประโยคหลกั ท่มี ใี จความสาคญั 2. อนุประโยค คือ ประโยคยอ่ ย ทีม่ าซอ้ นประโยคหลกั ขอ้ สังเกตประโยคความซ้อน มกี รยิ ามากกว่า 1 ตวั และบางประโยคมตี วั เชอ่ื มประพนั ธสรรพนาม ผู้ ท่ี ซ่งึ อนั
ตวั อยา่ งประโยคความซอ้ น ช่วยกันหากรยิ า แมวทเี่ ดินอยู่ในสว่ นเป็นแมวเพศผู้ สมชายไม่ชอบคนพูดหยาบคาย
ตวั อย่างประโยคความซ้อน ช่วยกันหากรยิ า ฉนั รจู้ กั คนท่ีมคี วามสามารถด้านดนตรี เขาเห็นผีเสื้อดดู เกสรดอกไม้
ประโยคความซอ้ น ส่วนขยายของประโยคความซอ้ น (ประโยคยอ่ ย) มี 3 ชนิด คือ 1. นามานปุ ระโยค ทาหนา้ ทีเ่ ปน็ ประธาน กรรม และส่วนเติมเตม็ 2. คณุ านปุ ระโยค ทาหน้าทีข่ ยายคานามและคาสรรพนาม 3. วิเศษณานปุ ระโยค ทาหนา้ ทข่ี ยายคากรยิ าและคาวิเศษณ์
ประโยคความซอ้ น นามานปุ ระโยค ประโยคที่นามาซอ้ นในตาแหนง่ ของประธาน กรรมและสว่ นเติมเตม็ มักไมป่ รากฏสันธานเชือ่ ม อาจมีคาว่า “ว่า ให”้ เปน็ ตัวเช่ือม นักเรียนห้วิ กระเป๋าข้ามถนน ประโยคหลกั คือ นักเรียนขา้ มถนน ประโยคยอ่ ยหรือประโยคทน่ี ามาซอ้ น คอื นักเรียนห้ิวกระเป๋า ทาหนา้ ท่ีเปน็ ประธานของประโยค
ประโยคความซอ้ น นามานปุ ระโยค ประโยคทน่ี ามาซ้อนในตาแหนง่ ของประธาน กรรมและส่วนเตมิ เต็ม คุณหมอจดรายการสั่งซอื้ ยา ประโยคหลัก คอื คุณหมอจดรายการ ประโยคยอ่ ยหรือประโยคท่ีนามาซ้อน คือ รายการสัง่ ซ้ือยา ทาหนา้ ทเี่ ป็นกรรมของประโยค
ประโยคความซอ้ น นามานปุ ระโยค ประโยคท่นี ามาซ้อนในตาแหน่งของประธาน กรรมและส่วนเตมิ เตม็ คนเดินรมิ ถนนมองดรู ้านอาหาร ประโยคหลัก คือ คนมองดรู า้ นอาหาร ประโยคย่อยหรือประโยคทนี่ ามาซ้อน คอื คนเดนิ รมิ ถนน ทาหนา้ ท่ีเปน็ ประธานของประโยค
ประโยคความซอ้ น นามานปุ ระโยค ประโยคทนี่ ามาซ้อนในตาแหน่งของประธาน กรรมและส่วนเตมิ เตม็ คนขาดมารยาทเป็นคนนา่ รังเกียจ ประโยคหลัก คอื คนเป็นคนนา่ รงั เกยี จ ประโยคย่อยหรอื ประโยคทนี่ ามาซ้อน คอื คนขาดมารยาท ทาหนา้ ที่เปน็ ประธานของประโยค
ประโยคความซอ้ น นามานปุ ระโยค ประโยคทีน่ ามาซ้อนในตาแหนง่ ของประธาน กรรมและส่วนเตมิ เตม็ นกั เรียนช่วยคุณครถู ือหนังสอื ประโยคหลัก คือ นกั เรยี นชว่ ยคุณครู ประโยคย่อยหรอื ประโยคทน่ี ามาซอ้ น คือ คุณครูถือหนังสอื ทาหน้าท่ีเป็นกรรมของประโยค
ประโยคความซอ้ น นามานปุ ระโยค ประโยคทน่ี ามาซ้อนในตาแหนง่ ของประธาน กรรมและสว่ นเติมเต็ม ตารวจจับผู้ร้ายวงิ่ ราวกระเป๋า ประโยคหลกั คือ ตารวจจับผูร้ ้าย ประโยคย่อยหรอื ประโยคทน่ี ามาซอ้ น คือ ผรู้ ้ายวงิ่ ราวกระเป๋า ทาหนา้ ที่เป็นกรรมของประโยค
ประโยคความซอ้ น นามานปุ ระโยค ประโยคท่ีนามาซ้อนในตาแหน่งของประธาน กรรมและสว่ นเติมเต็ม แมค่ รัวห่ันผักทากับข้าว ประโยคหลกั คอื แมค่ รัวทากบั ขา้ ว ประโยคย่อยหรือประโยคท่นี ามาซ้อน คอื แม่ครัวห่นั ผัก ทาหนา้ ทเ่ี ปน็ ประธานของประโยค
ประโยคความซอ้ น นามานปุ ระโยค ประโยคทน่ี ามาซ้อนในตาแหน่งของประธาน กรรมและส่วนเติมเต็ม สมศรีเปน็ ครสู อนภาษาไทย ประโยคหลกั คือ สมศรเี ป็นครู ประโยคย่อยหรือประโยคทน่ี ามาซ้อน คือ ครสู อนภาษาไทย ทาหนา้ ทเ่ี ป็นสว่ นเตมิ ของประโยค
ประโยคความซอ้ น นามานปุ ระโยค ประโยคทีน่ ามาซอ้ นในตาแหนง่ ของประธาน กรรมและสว่ นเติมเต็ม ความดีขอ้ หนึง่ คือไมพ่ ดู เท็จ ประโยคหลัก คอื ความดขี ้อหน่งึ คอื ประโยคย่อยหรอื ประโยคที่นามาซ้อน คอื ไม่พดู เทจ็ ทาหน้าที่เปน็ ส่วนเตมิ ของประโยค
ประโยคความซอ้ น เรยี งตดิ กบั นามหรือสรรพนาม คณุ านปุ ระโยค ทาหนา้ ทข่ี ยายคานามและคาสรรพนามมี ผู้ ท่ี ซ่ึง อัน เปน็ ตวั เช่อื ม แมวที่จับจ้ิงจกมนี ัยน์ตาสนี ้าเงนิ ฉันรักคนไทยท่รี ักชาตไิ ทย
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152