Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore PhD Journey (eBook)

PhD Journey (eBook)

Published by prueksarose, 2019-05-27 05:26:14

Description: PhD Journey (eBook)

Search

Read the Text Version

PHD JOURNEY in Penang



รายงานการฝึกปฏบิ ัตงิ านทางเทคโนโลยีการศึกษา ณ เมอื งปีนัง ประเทศมาเลเซยี ระหว่างวนั ที่ 6-20 เมษายน 2562 โดย นกั ศกึ ษาหลักสูตรปรัชญาดษุ ฎบี ณั ฑติ ภาควิชาเทคโนโลยีการศึกษา รายงานนี้เป็นสว่ นหนึง่ ของรายวิชา 468624 การฝึกปฏบิ ัตงิ านทางเทคโนโลยีการศึกษา หลักสตู รปรชั ญาดษุ ฎบี ณั ฑติ ภาควชิ าเทคโนโลยีการศึกษา คณะศกึ ษาศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยศลิ ปากร



คานา รายงานน้ีเป็นส่วนหน่ึงของรายวิชาการฝึกปฏิบัติงาน ทางเทคโนโลยีการศึกษา ท่ีคณะผู้จัดทาได้เดินทางไปศึกษายัง ต่างประเทศ ณ เมืองปีนัง ประเทศมาเลเซีย ในระหว่างวันท่ี 6-20 เมษายน 2562 ท่ีได้รวบรวมข้อมูลทางด้านวิชาการ ด้าน วัฒนธรรม การใช้ชีวิต และการเก็บเก่ียวประสบการณ์ต่างๆ จากต่างแดน นาเสนอเพ่ือเป็นประโยชน์แก่บัณฑิตศึกษาในรุ่น ต่อๆ ไป การเดินทางในครั้งน้ี พวกเราต้องขอขอบพระคุณ คณาจารย์ในภาควิชาเทคโนโลยีการศึ กษา มหาวิทยาลัย ศิลปากรทุกท่าน โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ท่านรองศาสตราจารย์ ดร. ฐาปนีย์ ธรรมเมธา และผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร. น้ามนต์ เรืองฤทธ์ิ ท่ีได้ประสานงาน และตามไปช่วยดูแลคณะของเรา อย่างดีย่ิง หากมีส่ิงหนึ่งสิ่งใดท่ีผิดพลาดในรายงานน้ี คณะ ผ้จู ดั ทาขอน้อมรับ และตอ้ งขออภยั มา ณ ท่นี ้ี คณะผ้จู ัดทา พฤษภาคม 2562

YESTERDAY ...was history TODAY ...is a gift TOMORROW ...will be a mystery

สารบัญ 001 การเดินทาง... สกู่ ารแสวงหาความรู้ 009 PENANG ดนิ แดนหลากวฒั นธรรม 015 วิถีทาง การสญั จร 025 เป็น อยู่ คอื 041 Eat Guide สไตลป์ ีนัง 053 เทย่ี วฟนิ เมืองสตรีทอาร์ต 077 EdTech Trends ผ่านเลนส์ตา่ งวฒั นธรรม 107 บอกเลา่ ประสบการณ์ สง่ ผา่ นความประทบั ใจ

การเดนิ ทาง... สู่การแสวงหาความรู้ หนา้ 1  PhD Journey

การเดินทางไปที่เมืองปีนังน้ัน สามารถเลือกเดินทางได้หลายรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นทางเคร่ืองบิน เรือ รถยนต์ ทัวร์ รถตู้ หรือรถไฟ สาหรับคร้ังน้ี พวกเราเลือกเดินทางโดยเคร่ืองบิน ซ่ึงจะมีสายการบินที่บินตรงจานวน 2 สายการบนิ และ 4 เท่ียวบิน/วัน ได้แก่ สายการบิน Air Asia เที่ยวบินเวลา 10.50 น. และ 15.40 น. สายการบิน Thai Smile เที่ยวบินเวลา 16.10 น. และ 19.30 น. โดยพวกเราได้เลือกเดินทางไปกับสายการบิน Air Asia ใน วันท่ี 6 เมษายน 2562 เวลา 10.50 น. ข้ึนท่ีท่าอากาศยานดอนเมือง ใช้เวลา เดินทางประมาณ 1 ช่ัวโมง 45 นาที ถึงปีนังเวลา 13.35 น. ตามเวลา ท้องถิ่นของมาเลเซีย ที่จะเรว็ กว่าประเทศไทยประมาณ 1 ชว่ั โมง PhD Journey  หนา้ 2

สาหรับการเดินทางครั้งน้ี พวกเราได้ซ้ือน้าหนักกระเป๋าไว้คนละ 20 กิโลกรัม ซึ่งก็เพียงพอกับสัมภาระของแต่ละคน โดยประมาณการพวกเรา จะนากระเป๋าเดินทางไปคนละ 1 ใบ ท่ีสามารถใส่เสื้อผ้าและข้าวของเครื่องใช้ ท่ีใช้ชีวิตอยู่ที่ปีนังท้ัง 2 สัปดาห์ นอกจากนี้พวกเรายังได้ส่ังอาหารสาหรับ รับประทานบนเคร่ืองบิน โดยอาหารท่ีเสิร์ฟบนเคร่ืองบินนั้นจะเป็นเมนู พื้นฐานปกติ ซ่ึงพวกเราเลือกเมนูข้าวพะแนงไก่ และเพ่ิมเติมจากน้ีก็จะมี อาหารประเภทอื่นให้เราสามารถสั่งรับประทานได้ เช่น บะหมี่กึ่งสาเร็จรูป เมนอู าหารอิตาเลี่ยน ของหวาน น้าอดั ลม และน้าเปล่า หนา้ 3  PhD Journey

นับเป็นความโชคดีท่ีพวกเราได้บิน ในเวลากลางวัน ทาให้ได้เห็นทัศนียภาพ และภูมิประเทศในมุมมองของ Bird’s eye view โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงท่ีบิน ผ่านทะเลและเกาะต่างๆ ซ่ึงพวกเราต่าง ก็ต่ืนเต้น และไม่ลืมท่ีจะเก็บภาพความ ประทับใจเหลา่ นน้ั มาด้วย PhD Journey  หน้า 4

พวกเราไปถึงจุดหมายปลายทางท่ี Penang International Airport ตรงตามเวลาท่ีกาหนด และสามารถผ่านด่านตรวจคนเข้าเมืองได้อย่างไม่มี ปัญหา ซ่ึง ตม. ของที่น่ี เจ้าหน้าที่บางคนก็สามารถพู ดภาษาไทยได้ และ ก่อนเดินทางต่อไปยังท่ีพัก พวกเราก็ไม่ลืมที่จะซ้ือ Net Sim ซึ่งสามารถหา ซื้อได้ที่สนามบิน เราเลือกใช้ Net Sim ของค่าย Digi ในราคา RM 40 ซึ่งสามารถใช้อินเทอร์เน็ตได้จานวน 5 GB เป็นเวลาทั้งหมด 30 วัน หลัง จากนั้นพวกเราก็จัดแจงเรียก Grab Car เพื่อพาพวกเราไปยังที่พัก นั่นก็ คอื Mansion One นัน่ เอง หน้า 5  PhD Journey

PhD Journey  หน้า 6

หนา้ 7  PhD Journey

นอกจากนี้ พวกเรายังได้ทาประกันการเดินทางเพื่อคุ้มครองอุบัติเหตุ การเจ็บป่วย หรือเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง ซ่ึงในสมัยน้ีเราสามารถทาประกัน การเดนิ ทางได้อย่างรวดเร็วผ่านทางเว็บไซต์ และมีราคาให้เลือกต้ังแต่ถูกไป จนถงึ แพงอยา่ งหลากหลาย ตามข้อเสนอของประกันเจ้าต่างๆ โดยพวกเรา เลือกแพ็คเกจราคาประมาณ 300 บาท ท่ีคุ้มครองการประกันอุบัติเหตุ เดินทางส่วนบุคคล ค่ารักษาพยาบาล การยกเลิกการเดินทาง และการสูญ หายหรอื ความเสียหายของสัมภาระในการเดินทาง จานวน 15 วัน PhD Journey  หนา้ 8

PENANG ดินแดนหลากวฒั นธรรม หนา้ 9  PhD Journey

เมืองปีนัง (Penang) เป็นเกาะเล็กๆ ทางตอนใต้ของแหลมมลายู เป็น หน่ึงใน 12 รัฐของประเทศมาเลเซีย เดิมชาวมลายูรุ่นแรกเรียกว่า ปูเลาวา ซาตู หรือเกาะเด่ียว ต่อมาพบในแผนที่เดินเรือ เรียกว่า ปูเลาปีนัง หรือเกาะ หมาก เน่ืองจากสมัยก่อนบนเกาะปีนังมีต้นหมากอยู่เป็นจานวนมาก โดย แรกเร่ิมน้ัน ปีนังเป็นเพียงเกาะดิบท่ีมีป่าเขาและหมู่บ้านชาวประมงเล็กๆ ภายใต้การปกครองของสุลต่านแห่งเคดะห์ ซึ่งถือว่าล้าหลังกว่าเพ่ือนมาก ต่อมาเมื่อกัปตันฟรานซิส ไลท์ ตัวแทนของบริษัทอีสต์อินเดียของอังกฤษ เข้ามาบุกเบิกจัดทาสัญญาเช่าเป็นผลสาเร็จ จากเกาะรกร้างก็กลายเป็น ชุมชนเมืองตามแบบแผนอาณานิคมอังกฤษ เปลี่ยนช่ือจากปูเลาปีนังเป็น ปรินซ์ออฟเวลส์ (Prince of Wales Island) และพัฒนาจนกลายเป็นเมือง ทา่ ท่ีเจรญิ ที่สดุ ในเวลานั้น PhD Journey  หนา้ 10

ปีนังมีพื้นท่ีประมาณ 1,048 ตารางกิโลเมตร (405 ตารางไมล์) มี ความหนาแน่นของประชากร ประมาณ 1,500 คน/ตารางกิโลเมตร รัฐปีนัง ประกอบด้วยส่วนที่เป็นแผ่นดินใหญ่ 2 ส่วน ได้แก่ Butterworth หรือ Seberang Parai และเกาะปีนัง โดยต้ังอยู่ทางภาคตะวันตกเฉียงเหนือของ มาเลเซยี และเป็นที่ตั้งของจอร์จทาวน์ (George Town) ซ่ึงเป็นเมืองหลวง ของรัฐปีนัง ซึ่งห่างจากอาเภอสะเดา จังหวัดสงขลา ประมาณ 160 กิโลเมตร นอกจากน้ี รัฐปีนังยังได้รับการขนานนามว่าเป็น “ไข่มุกแห่ง บรู พาทิศ” เนอ่ื งจากเป็นเมืองชายทะเลที่สวยงามและโรแมนตกิ หน้า 11  PhD Journey

ความเจริญของเมืองปีนัง ทาให้ปีนังให้กลายเป็นเมืองหลากเช้ือชาติ มีท้ังคนพ้ืนท่ีซ่ึงเป็นคนมลายูที่ยังขนบธรรมเนียมด้ังเดิมอยู่ คนจีนเช้ือสาย ฮกเกี้ยนท่ีอพยพแสวงหาความเจริญในช่วงปลายราชวงศ์ชิง แต่งงานกับ คนพื้นเมืองจนกลายเป็นพวกเปอรานากัน (Peranakan) ชาวทมิฬอินเดียใต้ ที่เข้ามาเป็นแรงงานสร้างสรรค์ส่ิงต่างๆ ให้รัฐบาลอังกฤษ รวมถึงชาวไทย ที่มาตั้งรกรากจากการไปมาหาสู่กันจนคุ้นชิน และด้วยเสน่ห์ทางวัฒนธรรม ที่แตกต่างจากภูมิภาคอื่นของมาเลเซีย ทาให้เมืองจอร์จทาวน์ (George Town) ถูกขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวัฒนธรรม รับรองโดยองค์การ UNESCO ในปี พ.ศ. 2551 PhD Journey  หน้า 12

ภาษาทีใ่ ช้สื่อสารกันท่ีปีนัง หากเป็นภาษาราชการ จะใช้ภาษามาเลเซีย หรือบาฮาซาร์มาเลเซีย (Bahasa Malaysia) ภาษาจีนฮกเกี้ยนเป็นภาษาท้อง ถ่ินที่ใช้ท่ัวไปคู่กับภาษาบาฮาซาร์มาเลเซีย และเน่ืองจากปีนังเป็นดินแดน ท่ีตกเป็นอาณานิคมแห่งแรกของอังกฤษในคาบสมุทรมลายู การสอน ภาษาอังกฤษครั้งแรกในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้จึงเกิดข้ึนที่น่ี ในอดีต เศรษฐีไทยจึงนิยมส่งลูกหลานมาเรียนต่อท่ีปีนัง เพ่ือให้ได้ศึกษาความรู้ด้าน ภาษาอังกฤษน่ันเอง และปัจจุบันก็ยังเป็นเมืองที่คนไทยนิยมไปศึกษา ภาษาอังกฤษ ด้วยผู้คนส่วนใหญ่สื่อสารด้วยภาษาอังกฤษได้ เพราะในอดีต ที่น่ีเคยเป็นอาณานิคมของประเทศอังกฤษ การเดินทางสะดวก ค่าใช้จ่าย ไม่สูง มหาวิทยาลัยหลายแห่งในประเทศไทย จึงแสวงหาความร่วมมือทาง วชิ าการกับเพ่ือนบ้านในแถบภูมิภาคนี้ เช่นเดียวกบั มหาวิทยาลยั ศิลปากร หนา้ 13  PhD Journey

เมืองปีนัง เป็นเมืองที่สามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวจากทั่วสารทิศด้วย สีสันแห่งตะวันออก สถาปัตยกรรมเก่าแก่อันมีเอกลักษณ์ และอาหารอร่อย นานาชนิดท่ีได้รับอิทธิพลมาจากวัฒนธรรมจีน อังกฤษ และอินเดีย เสน่ห์ สาคัญอย่างหน่ึงของปีนังท่ีนักท่องเท่ียวสามารถสัมผัสได้คือ การผสาน รวมของวัฒนธรรมจากสองซีกโลกมาอยู่ร่วมกันอย่างลงตัว และการ พัฒนาเศรษฐกจิ การค้า โดยทีย่ ังสามารถรักษาเอกลักษณ์ของวันวานเอาไว้ ได้เป็นอย่างดี ท่ีนี่จึงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวท่ีสามารถตอบสนองความ ต้องการได้อย่างหลากหลาย สาหรับผู้ที่ช่ืนชอบการจับจ่ายใช้สอย ก็จะจุใจ ไปกับห้างสรรพสินค้าต่างๆ มากมาย ซึ่งสาวๆ นิยมไปซ้ือเครื่องสาอาง บารุงผิวย่ีห้อดังท่ีราคาถูกกว่าเมืองไทย หรือจะเป็นเครื่องใช้ไฟฟา้ ของเก่า ของสะสมกม็ ใี ห้เลือกกันอยา่ งจใุ จตามแหล่งขายของท่รี ะลกึ PhD Journey  หน้า 14

วิถีทาง การสญั จร หนา้ 15  PhD Journey

PhD Journey  ระบบคมนาคมในปีนัง หรือการสัญจร เดินทางไปยังสถานท่ีต่างๆ มีตั้งแต่การเดินทาง โดยยานพาหนะส่วนบุคคล ไปจนถึงระบบการ ขนส่งสาธารณะที่ได้มาตรฐานและทันสมัย การ เ ดิ น ท า ง แ ล ะ ท่ อ ง เ ท่ี ย ว ภ า ย ใ น เ มื อ ง ปี นั ง จึ ง สามารถทาได้ ง่ายแ ละสะดว กสบาย แ ม้ไม่มี รถยนต์ส่วนตัว เพราะมีพาหนะอื่นๆ ให้เลือกใช้ มากมายหลายรูปแบบ ท้ังทางบกและทางน้า อย่างเช่น รถเมล์ รถแท็กซ่ี Grab Car รถไฟ และ เรือ หนา้ 16

การเดินทางของพวกเราส่วนใหญ่จะใช้ Grab Car เนื่องจากพวกเราต้องเดินทางไปพร้อมๆ กัน 7 คน ซึ่งจะมี ประเภทรถให้เลือกทั้งรถ 4 ท่ีนั่ง และ 7 ท่ีน่ัง ซึ่งรถ 4 ท่ี นั่งจะน่ังได้ 3 คน และรถ 7 ที่นั่งจะนั่งได้ 6 คน เพราะต้อง รวมจานวนคนขับรถด้วย ซึ่งส่วนใหญ่พวกเราจะเรียก Grab Car 2 คัน โดยบางครงั้ จะเรียกเป็น 4 ที่นั่งทั้ง 2 คัน หรือเรียกท้ัง 4 และ 7 ท่ีนั่งคละกันไป นอกจากน้ีเรายัง สามารถเรียก Grab Car 7 ที่นั่ง เพ่ือขนสัมภาระอย่างเช่น กระเปา๋ เดนิ ทางได้อกี ด้วย หนา้ 17  PhD Journey

การเดนิ ทางด้วย Grab Car ในปีนัง ถือเป็นการเดินทางที่สะดวกและ ประหยัดค่าใช้จ่ายมากท่ีสุด โดยเฉลี่ยที่ใช้ Grab Car เดินทางไปยังสถานท่ี ในละแวกที่พักอยู่ที่ราคาประมาณ RM 5-10 ต่อคัน นอกจากนี้ยังมีคนขับ Grab Car ในปีนังเป็นจานวนมาก จึงทาให้เราสามารถเรียก Grab Car ได้ อย่างสะดวกและรวดเร็ว โดยในแอปพลิเคชันจะแจ้งทะเบียนรถและสีของรถ ให้ผู้โดยสารทราบก่อน และคนขับ Grab Car ส่วนมากจะพู ดภาษาอังกฤษ ได้และมคี วามเป็นมิตรต่อผโู้ ดยสาร PhD Journey  หนา้ 18

หนา้ 19 ในการเดินทางไปห้างสรรพสินค้าอย่าง Gurney Paragon และ Gurney Plaza พวกเรามักเดินทางโดย รถเมล์ เนื่องจากเรารู้จักจุดหมายปลายทางท่ีแน่นอน ที่ ป้ายรถเมล์ก็จะมี Bus Map เพื่อดูหมายเลขของรถเมล์ และสถานที่ที่ต้องการจะไป ค่าโดยสารรถเมล์จะอยู่ท่ี RM 1.4 ต่อคน การจ่ายเงินค่าโดยสารจะจ่ายกับตู้รับค่า โดยสารที่อยู่บริเวณคนขับ โดยจะไม่มีกระเป๋ารถเมล์ คอยเก็บค่าโดยสาร และผู้โดยสารต้องเตรียมเงินมาให้ พอดี เพราะตู้รับค่าโดยสารจะไม่มีการถอนเงิน จากนั้น คนขับรถเมล์จะกดพิมพ์ต๋ัวให้ โดยจะมีราคาปรากฏอยู่ เม่ือรบั ตัว๋ แลว้ ก็หาทีน่ ั่งหรือท่ียืนไดต้ ามสะดวก  PhD Journey

บรรยากาศบนรถเมล์ที่ปีนังนั้นค่อนข้างกว้างขวางและสะอาด แต่มีท่ี นั่งจานวนน้อย ภายในรถจะมีจอท่ีแจ้งว่าป้ายหน้าคือสถานท่ีใด ผู้โดยสาร ต้องคอยสังเกตเพื่อท่ีจะเตรียมตัวลงให้ถูกป้าย จานวนความแออัดของ ผู้โดยสารบนรถเมล์นั้นจะขึ้นอยู่กับว่าเป็นช่วงเวลาใด ซึ่งช่วงเวลาที่มี ผ้โู ดยสารหนาแน่นส่วนใหญจ่ ะเป็นในช่วงเย็นถึงช่วงหัวค่า PhD Journey  หนา้ 20

นอกจากนี้ พวกเรามีโอกาสได้ลองนั่งเรือข้ามฟาก (Ferry) ซ่ึงเป็น การข้ามฟากจากเกาะปีนังไปสู้ฝ่ งั บัตเตอร์เวิร์ธ ซ่ึงทางฝ่ งั บัตเตอร์เวิร์ธจะมี สถานีรถไฟและรสบัสอยู่ด้วย โดยเราสามารถเดินทางด้วยรถไฟไปยัง กัวลาลัมเปอร์และประเทศสิงคโปร์ได้จากสถานีนี้ ผู้โดยสารจะไม่เสีย ค่าบริการขาไปจากฝ่ ังเกาะปีนัง แต่หากกลับจากฝ่ ังบัตเตอร์เวิร์ธจะมีค่า เดินทาง RM 1.2 ต่อคน บรรยากาศบนเรือข้ามฟากจะมีให้ชมท้ังท่าเรือต่างๆ เรือสาราญ เรือขนส่งสินค้า รวมถึงสะพาน Sultan Abdul Halim Muadzam Shah ทเี่ รียกว่าเปน็ ไฮไลทข์ องการนั่งเรือข้ามฟากน้ีเลยทีเดียว หนา้ 21  PhD Journey

PhD Journey  หน้า 22

หนา้ 23  PhD Journey

PhD Journey  หน้า 24

เป็น อยู่ คอื หนา้ 25  PhD Journey

ชีวิตความเป็นอยู่ที่ปีนัง เร่ิมด้วยที่พักที่เราใช้พานักพักพิงทั้งหมด 14 วัน นั่นคือ Mansion One มีลักษณะเป็นคอนโดจานวน 30 ชั้น ห้องท่ี เราได้ทาการจองไว้ จองผ่านเอเยนซี่ที่เป็นเจ้าของห้องและขายผ่านเว็บไซต์ เป็นหอ้ ง Suit จานวน 3 หอ้ งนอน 1 หอ้ งนา้ ต้ังอย่บู นชน้ั 18 สามารถเข้าพัก ได้ประมาณ 6-10 คน ในราคาคืนละ RM 350 หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 2,700 บาท PhD Journey  หน้า 26

ภายในห้องพักมีอุปกรณ์เครื่องใช้และส่ิงอานวยความสะดวกให้อย่าง ครบคัน เช่น เคร่ืองซักผ้า เคร่ืองทาน้าอุ่น เคร่ืองกรองน้า ตู้เย็น เตาไฟฟา้ ไมโครเวฟ กาต้มน้าร้อนไฟฟา้ จานชาม ช้อนส้อม กาแฟ บะหม่ีกึ่งสาเร็จรูป เตารีด โต๊ะรีดผ้า ไดร์เป่าผม ผ้าเช็ดตัว ชุดเคร่ืองนอน และฟู กท่ีนอนเสริม โดยมีให้ใช้สอยเพียงพอต่อการอยู่ถึง 10 คน นอกจากนี้ยังสามารถขอ อุปกรณ์ต่างๆ เพิ่มเติมจากเอเยนซี่หรือเจ้าของห้องได้ ซึ่งพวกเราได้ขอ อุปกรณ์ประกอบอาหารอย่างกระทะ ตะหลิว ไม้กวาด ไม้ถูพื้น และเจ้าของ ห้องจะเข้ามาทาความสะอาดห้องให้ 3 วัน/ครั้ง โดยจะเข้ามาดูดฝุ่น ขัด หอ้ งนา้ และเปล่ยี นผา้ ปูท่ีนอนให้ หน้า 27  PhD Journey

PhD Journey  หน้า 28

หนา้ 29  PhD Journey

ข้อดีของการพักที่ Mansion One คือ เราทุกคนสามารถอยู่รวมกัน ได้ และถ้ามีปัญหาสามารถช่วยเหลือกันได้ทันที ใกล้แหล่งอาหาร ใกล้ สถานท่ีท่องเท่ียว ใกล้ห้างสรรพสินค้า ใกล้โรงพยาบาล Gleneagles Hospital และใกล้มหาวิทยาลัย Wawasan Open University ที่พวกเรา ต้องไปเรียน ซึ่งสามารถเดินทางเท้าไปเรียนได้ในระยะทางประมาณ 700 เมตร ใต้คอนโดจะมีร้านกาแฟ Starbuck และร้านมินิมาร์ทขายน้าดื่ม ข้าว ของเครือ่ งใช้ อาหารสาเร็จรูป และขนมขบเคย้ี ว PhD Journey  หน้า 30

บรเิ วณหลงั ที่พัก ในช่วงเช้าถึงช่วงบ่ายจะมีตลาดเล็กๆ ที่ขายอาหาร ท้องถิ่นอย่างชา กาแฟ โรตี ก๋วยเตี๋ยว และข้าวหน้าต่างๆ ซึ่งส่วนมากผู้ ท่ีมาซื้ออาหารรับประทานก็จะเป็นผู้ที่ทางานอยู่ในละแวกนั้น ซึ่งร้านท่ีพวกเรา ช่ืนชอบหรือเรียกได้ว่าเป็นร้านประจา นั่นคือ “ร้านกาแฟอาบัง” ท่ีขายกาแฟ รสชาติเข้มข้นแบบต้องยกน้ิวให้ มีชาเย็น ชาร้อน Samosa (กะหร่ีพัฟเมือง ไทย) ขนมปังป้ ิง ข้าวห่อ ก๋วยเตี๋ยวผัด ซึ่งราคาเคร่ืองด่ืมต่างๆ อยู่ท่ีถุงละ RM 1 หรือราคาไมถ่ งึ 10 บาทเท่านน้ั หนา้ 31  PhD Journey

PhD Journey  หน้า 32

ในแต่ละวันที่เราใช้ชีวิตอยู่ที่ปีนัง ท่ีบางวันจะต้องไปเรียนหรือไปทา ภารกิจต่างๆ พวกเราจะจัดลาดับคิวผลัดกันไปอาบน้าและธุระส่วนตัว เนื่องจากห้องน้ามีเพียงห้องเดียว แต่สิ่งนั้นก็ไม่ได้เป็นปัญหา เพราะพวก เราจัดลาดับกันตั้งแต่เวลาต่ืนนอน นอกจากนี้พวกเรายังประกอบอาหาร ทานเองในบางมื้อ มีการสังสรรค์กันภายในห้องในบางวัน และช่วยกันเก็บ กวาดทาความสะอาดเป็นกจิ วตั รประจาวัน หน้า 33  PhD Journey

การทาอาหารทานเองของเราในแต่ละวันนั้น พวกเราจะมีการเก็บเงิน กองกลาง เฉลี่ยคนละ RM 150 เพื่อที่จะซื้อวัตถุดิบในการประกอบอาหาร น้าด่ืม และข้าวของเคร่ืองใช้ต่างๆ ที่จาเป็น น้าดื่มที่ปีนังนั้นถือว่ามีราคาสูง เม่ือเปรียบเทียบกับของไทย สามารถหาซ้ือได้ท่ีร้านมินิมาร์ทใต้คอนโด แต่ใน บางเวลาน้าด่ืมก็มีจานวนไม่เพียงพอทจ่ี ะขายใหล้ ูกคา้ PhD Journey  หนา้ 34

สาหรบั การซอื้ วัตถุดบิ ในการประกอบอาหาร พวกเราจะพากันไปเลือก ซ้ือที่ซุปเปอร์มาร์เก็ต ห้าง Gurney Plaza และห้าง Gurney Paragon จะ สลับกันไปซื้อท้ัง 2 ห้างน้ี เนื่องจากมีวัตถุดิบที่เราต้องการไม่เหมือนกัน การเลือกซื้อของในซุปเปอร์มาร์เก็ต ผักสดบางอย่างก็มีเหมือนกับไทย แต่ บางอย่างกไ็ มม่ ี เช่น ใบกะเพรา ผักชีล้อม (คื่นช่าย) วัตถุดิบท่ีเราหาซื้อได้ใน ซปุ เปอรม์ ารเ์ ก็ตกจ็ ะมี ไข่ไก่ ปลากระป๋อง บะหมี่กึ่งสาเร็จรูป ข้าวสาร น้ามัน พืช น้าปลา เกลือ พริกไทยป่น น้าตาลทราย น้าจ้ิมซีฟู ด้ ผักสลัด มะเขือ เทศ พริกขี้นก มะนาว กระเทียม หอมแดง หอมใหญ่ ผักบุ้ง กะหล่าปลี แค รอท เน้ือไก่ และเน้ือวัว ซ่ึงในซุปเปอร์มาร์เก็ตท่ีนี่จะไม่มีเนื้อหมูขาย และ ทราบมาวา่ มีขายทีต่ ลาดแหง่ หน่ึง แตก่ ไ็ ม่มีโอกาสได้ไปซ้อื หนา้ 35  PhD Journey

PhD Journey  หน้า 36

เมนูท่ีเรามักจะทาทานกันก็คือ สเต็กเน้ือ สเต็กไก่ ทานกับผักสลัดและ น้าจิ้มซีฟู ด้ และอีกเมนูท่ีแปลกใหม่และทาทานบ่อยมาก ก็คือ ไข่ดองน้าปลา ท่ีเราต้องแยกไข่ขาวออก เอาเฉพาะไข่แดง แช่ในน้าปลาท่ีเคี่ยวไว้กับน้าตาล ทราย และเพิ่มรสชาติด้วยพริกและกระเทียม ซึ่งอาหารเช้าส่วนใหญ่เราจะ ทาอาหารแบบงา่ ยๆ เพราะเราต้องรีบไปเรียน บางวันก็จะมีข้าวต้ม มีเมนูผัด ผักบุ้งไฟแดง ไข่เจียว หรือบางวันก็ใช้มาม่ามาเลย์ผัดใส่ไข่กับผักกะหล่า รวมไปถึงเมนูไข่ต้ม และไข่ลวกทตี่ อ้ งมีตดิ ตู้กบั ขา้ วของเราไว้ หน้า 37  PhD Journey

PhD Journey  หน้า 38

มื้อกลางวันและม้ือเย็นส่วนใหญ่เราจะพากันออกไปซ้ือทานข้างนอก ตามศูนย์อาหาร หรือที่แหล่ง Street Food ต่างๆ วัตถุดิบที่เป็นของสดเรา จะไปซ้ือที่ซุปเปอร์มาร์เก็ตประมาณ 3 วัน/ครั้ง แล้วประยุกต์เมนูอาหารตาม วตั ถดุ บิ ท่เี รามีและคานวณจานวนคนที่ทาน เมนูที่ทาก็จะผลัดเปลี่ยนเวียนกัน ไป มที ้ังผัด ทอด ยา ย่าง แกงส้ม ต้มยา ต้มจืด น้าพริก เนื่องด้วยสมาชิก ทุกคนเป็นคนทานง่าย จึงไม่เป็นอุปสรรคในเร่ืองอาหารการกินและชีวิต ความเป็นอยู่ ถึงแม้อุปกรณ์เคร่ืองครัวอาจจะมีไม่ครบเหมือนอยู่บ้าน แต่เรา ก็สามารถประยุกต์และแก้ไขปัญหาโดยการใช้อุปกรณ์อย่างอื่นแทน และการ จัดเรียงว่าอะไรควรทาก่อนหรือทาทีหลัง เพ่ือให้ลงตัวกับข้าวของที่เรามีอยู่ ได้อย่างเหมาะสม หนา้ 39  PhD Journey

PhD Journey  หน้า 40

Eat Guide สไตล์ปีนัง หนา้ 41  PhD Journey

อาหารที่ปีนัง เป็นอาหารท่ีเกิดจากสังคมพหุวัฒนธรรมในประเทศ มาเลเซีย ทาให้ ปีนังมีอาหารที่มีความหลากหลายและผสมผสานกับ วฒั นธรรมภายนอกทงั้ มลายู จนี และอินเดีย แต่หน้าตาของอาหารก็มีความ คุ้นชินตาเหมือนๆ กับอาหารไทย เพียงแต่แตกต่างกันท่ีรสชาติเท่านั้น อาหารที่พวกเราได้ตระเวนไปลองลิ้มชิมรสนั้นก็ไม่พ้นพวก Street Food อย่าง Lok Lok (ลวกลวก) ที่จะมีขายตามแหล่ง Street Food ทั่วๆ ไป ซึ่งพวกเราได้ไปชิมที่ถนนจูเลีย (Chulia Street) เพราะสะดุดตากับร้าน รถเข็นท่ีมีคนมากมายมามุงกัน ผลัดกันจุ่มไม้ลงในหม้อ และวิธีกินง่ายๆ คือ รับจานส่วนตัวที่หุ้มถุงพลาสติก เลือกไม้ที่อยากกิน ลวกลงในหม้อ ส่วนกลาง แล้วราดน้าจ้ิมท่ีคล้ายๆ กับน้าจ้ิมสะเต๊ะ ราคาประมาณไม้ละ RM 2 ขึ้นไป PhD Journey  หนา้ 42

หนา้ 43  PhD Journey


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook