หลักการออกแบบเบื้องต้น

167ภาพท่ี 9.2 ตวั อยา่ งการจดั วางผงั หอ้ งน้าขนาดใหญ่

168ตาแหน่งของห้องนา้ หอ้ งน้าอาจต้งั อยภู่ ายในตวั บา้ น หรือแยกออกไปต้งั ภายนอก หอ้ งน้าสาหรับแขก ควรอยู่ใกลก้ บั หอ้ งรับแขก หอ้ งน้าช้นั บนควรติดกบั หอ้ งนอน สิ่งท่ีควรระมดั ระวงั คือหอ้ งน้า ตอ้ งต้งั อยใู่ นท่ีซ่ึงระบายอากาศไดด้ ี และควรต้งั บริเวณทิศตะวนั ตกเพอ่ื ใหแ้ สงแดดยามบ่ายสามารถส่องถึงได้ข้อพจิ ารณาในการจดั แต่งห้องนา้ 1. การติดต้งั โคมไฟใหแ้ สงสวา่ งควรติดต้งั ตายตวั และเตา้ สาหรับเสียบปลก๊ั ควรควรมีฝาครอบ เพอ่ื ความปลอดภยั สวทิ ชไ์ ฟควรติดไวภ้ ายนอกหอ้ งน้า หรือถา้ เอาไวใ้ นหอ้ งน้า ควรปิ ด-เปิ ดดว้ ยการดึงเชือก และควรต่อเชือกใหย้ าวพอ สาหรับเดก็ ๆดว้ ย การติดโคมไฟโดยทว่ั ไป จะติดกลางหอ้ ง และอาจสร้างบรรยากาศ โดยการติดกระจก ท่ีมีคุณสมบตั ิกระจายแสง หรืออาจใชไ้ ฟฟ้ าที่ปรับแสงได้ โดยเฉพาะหนา้ กระจกส่องหนา้ ตอ้ งจดั แสง ใหส้ วา่ งเพยี งพอ ใหเ้ หมาะสมกบั กิจกรรมตา่ งๆหนา้ กระจก เช่น การโกนหนวด หรือ แต่งหนา้ 2. ผนงั และพ้นื ท่ีนิยมนามาตกแต่ง ปูพ้นื และบุผนงั หอ้ งน้ามากที่สุดคือ กระเบ้ืองเซรามิกซ่ึงเป็นผลิตภณั ฑ์ ท่ีมีคุณภาพ คงทน ต่อการใชง้ าน มีสีสันและลวดลายหลายแบบใหเ้ ลือกใช้ ในการตกแต่งอาจใชว้ ิธีปกู ระเบ้ืองที่พ้ืนและบุผนงั ตลอดจรดเพดาน หรือถา้ เป็นหอ้ งขนาดใหญ่ ตอ้ งการลดคา่ ใชจ้ ่าย อาจใชก้ ระเบ้ืองเซรามิคบุผนงั เพยี งเศษสามส่วนส่ี ของความสูงของผนงั หอ้ ง ส่วนที่เหลือทาสี โดยเลือกสีใหส้ มั พนั ธก์ บั สีกระเบ้ือง ถา้ หอ้ งมีขนาดแคบ อาจแกไ้ ขโดยติดกระจกท่ีผนงัเพือ่ ทาใหห้ อ้ งดูกวา้ งข้ึน แต่ตอ้ งคานึงถึงความสะดวก ในการทาความสะอาดดว้ ย ส่วนวิธีบุผนงั ที่มีราคาถกู ท่ีสุดคือ การทาสี อาจจะทา สีเดียวกนั ตลอด หรืออาจทาสีเดียว แลว้ ใชส้ ีเขม้ ๆ ทาเนน้ งานไม้ งานท่อที่มีอยู่ จะทาใหด้ ูสดใส มากข้ึน วสั ดุที่ปิ ดผนงั อีกชิ้นหน่ึงคือ ไวนิลวอลลเ์ ปเปอร์ ซ่ึงปัจจุบนั มีสีลวดลาย และพ้นื ผวิ ท่ีแตกต่างกนั มากมายใหเ้ ลือก 3. ในหอ้ งน้าจะมีของใชม้ ากมาย ดงั น้นั จึงตอ้ งจดั หา ท่ีเกบ็ ใหเ้ ป็น ระเบียบเรียบร้อยสวยงามและท่ีสาคญั คือหยบิ ใชส้ ะดวก เช่น อาจทาราว พาดผา้ เชด็ ตวั หรือจดั ไวท้ ี่ช้นั วางสบู่แชมพสู ระผม เครื่องสาอาง และมีดโกน ควรเกบ็ ไวใ้ หพ้ น้ มือเดก็ ควรเป็นช้นั วางหรือตูก้ ระจกเหนืออ่างลา้ งหนา้ หรือทาท่ีวางของไวอ้ ่างลา้ งหนา้ เพ่ือบงั ท่อน้าทิ้งไปในตวั สาหรับบา้ นท่ีมีหอ้ งน้าขนาดใหญ่มีเน้ือท่ีในการตกแต่งไดม้ าก อาจต้งั ช้นั วางหนงั สืออ่านเล่น ติดม่านมู่ลี่ที่หนา้ ต่างต้งั กระถาง ตน้ ไม้ ตามมุมต่างๆ หรือนาศิลปะในยคุ ใดยคุ หน่ึงมาประดบั 4. การเปิ ดหนา้ ต่างในหอ้ งน้า จะตอ้ งตรวจดู ใหป้ ลอดจาก สายตาคนภายนอก แตอ่ าจจะหากระจกทึบแสง หรือกระจกหกั เหแสงไดม้ าติดไว้ หากเป็นม่ลู ี่ควรเป็นม่ลู ี่บานเกร็ดแนวดิ่ง

169เพราะแสงจะเขา้ ได้ แมป้ ิ ดอยหู่ รืออาจติดมา่ น เพียงคร่ึงลา่ งของหนา้ ต่าง หรือทาช้นั วางตน้ ไม้ หรือส่ิงของจะบงั สายตาได้แนวคดิ การออกแบบตกแต่งห้องนา้ รูปแบบ หรือ สไตลใ์ นการตกแต่งหอ้ งน้า โดยส่วนใหญ่มกั ข้ึนอยกู่ บั รสนิยม และ ความชื่นชอบ ของแต่ละบุคคล การเลือกรูปแบบ หรือ สไตล์ การตกแต่งควรใหส้ อดคลอ้ งกบั รูปแบบและ การตกแต่งภายในโดยรวมของอาคาร บา้ นเรือน น้นั ๆ โดยมีขอ้ คิดวา่ ไม่ควรใชร้ ูปแบบท่ีมีการประดบั ประดารุงรัง หรือมีรายละเอียดซอกมุมมาก เพราะจะทาใหย้ ากต่อการทาความสะอาด ภาพที่ 9.3 แสดงตวั อยา่ งการออกแบบปรับปรุงหอ้ งน้า ก่อน – หลงั

170 ภาพท่ี 9.4 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งน้าเนน้ ความโปร่งโล่งและสีสนั สดใส

171ภาพท่ี 9.5 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งน้าเนน้ ความโดดเด่นของอา่ งอาบน้า

172 ภาพท่ี 9.6 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งน้าท่ีมีบรรยากาศคลา้ ยหอ้ งรับแขก

173ภาพที่ 9.7 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งน้าบรรยากาศอบอุ่น

174 ภาพท่ี 9.8 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งน้ารูปแบบทนั สมยั

175ภาพที่ 9.9 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งน้าเนน้ บรรยากาศธรรมชาติ

176 ภาพท่ี 9.10 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งน้าขนาดเลก็

177ภาพท่ี 9.10 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งน้าเนน้ ลวดลายที่สวยงามของกระเบ้ือง

178 ภาพที่ 9.11 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งน้าเนน้ แสงจากธรรมชาติ

179ภาพที่ 9.12 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งน้าบรรยากาศทอ้ งทะเล

180สรุป การออกแบบหอ้ งน้าจะมีการวางผงั หอ้ งน้าที่แบ่งเป็น 2 แบบ คือ ผงั หอ้ งน้าขนาดใหญ่ และผงั หอ้ งน้าขนาดเลก็ การวางผงั หอ้ งน้าขนาดใหญจ่ ะมีปัญหาการจดั วางอยา่ งไรไม่ใหด้ ูอา้ งวา้ งเกินไป ส่วนการวางผงั หอ้ งน้าขนาดเลก็ จะมีปัญหาการจดั วางอยา่ งไรใหม้ ีประโยชน์ใชส้ อยครบและ ควรจะจดั วางอยา่ งไรใหป้ ระหยดั เน้ือท่ี เพื่อทาใหห้ อ้ งดูมีมิติความกวา้ งยาวท่ีมากข้ึนได้ สิ่งที่ควรระมดั ระวงั ในการวางตาแหน่งของหอ้ งน้า คือ ตอ้ งต้งั อยใู่ นที่ซ่ึงระบายอากาศไดด้ ี และควรต้งับริเวณทิศตะวนั ตกเพื่อใหแ้ สงแดดยามบ่ายสามารถส่องถึงได้คาถามทบทวน 1. การวางผงั หอ้ งน้าแบ่งเป็นก่ีแบบ อะไรบา้ ง 2. ผงั หอ้ งน้าขนาดใหญ่ ควรมีการจดั วางผงั อยา่ งไร 3. ผงั หอ้ งน้าขนาดเลก็ ควรมีการจดั วางผงั อยา่ งไร 4. ในหอ้ งน้าขนาดเลก็ ควรมีความสูงของเพดานท่ีระยะเท่าใด 5. การทาใหห้ อ้ งน้าเลก็ ดูมีขนาดใหญ่ข้ึน ควรทาอยา่ งไร 6. ประตหู อ้ งน้าขนาดเลก็ ควรมีลกั ษณะเช่นใด 7. ตาแหน่งของหอ้ งน้าควรอยใู่ นตาแหน่งใด เพราะเหตุใด 8. การติดต้งั โคมไฟใหแ้ สงสวา่ งในหอ้ งน้าควรติดต้งั อยา่ งไร 9. ผนงั และพ้นื ของหอ้ งน้าควรมีลกั ษณะอยา่ งไร 10. แนวความคิดในการออกแบบหอ้ งน้าของท่านเป็นแบบใด

181 เอกสารอ้างองิNorman, D. (2011). Bathroom Idea Book. Revised and Expanded Edition. San Francisco: Berrett-Koehler Publishers, Inc.Reis, D., & Wiedemann, J. (2010). Best Signature Baths: Over 100 Fabulous Bathrooms from Top Designers. Boston: McGraw Hill.Robbins, S. (2009). Small Bath Solutions. New Jersey: Prentice Hall International, Inc.

บทท่ี 10 การออกแบบห้องเดก็ การจดั หอ้ งใหก้ บั เดก็ น้นั ถือเป็นการสร้างนิสยั การมีวินยั ใหเ้ ดก็ เพ่อื ใหเ้ ดก็ มีความเป็นตวัของตวั เอง รู้จกั ท่ีะรับผดิ ชอบมากข้ึน ตามหลกั การในการตกแต่งไดม้ ีการแบ่งวยั ของเดก็ ออกเป็นแรกเกิด – 3 ปี , 4 – 8 ปี , 9 – 14 ปี และ 15 ข้ึนไป โดยแต่ละวยั น้นั จะมีพฒั นาการ หรือรสนิยมส่วนตวั ที่แตกต่างกนั ไป ถึงแมค้ รอบครัวไทย จะนิยมใหล้ กู นอนดว้ ย ต้งั แต่แรกเกิดจนโต แต่ในปัจจุบนั หลายครอบครัวกม็ กั จะจดั เตรียมหอ้ งไวเ้ ป็นพเิ ศษสาหรับลูกดว้ ย ซ่ึงหากเตรียมการตกแต่งไวอ้ ยา่ งดีแลว้ กจ็ ะเป็นหอ้ งที่เอ้ืออานวยความสะดวก ใหก้ บั คุณแม่ในการดูแลลูก และยงั สามารถปรับเปล่ียนการใชง้ านสาหรับในยามท่ีลกู โตพอจะมีหอ้ งเป็นของตวั เองได้การวางผังห้องเด็ก ภายในหอ้ งของเดก็ ควรมีส่วนต่าง ๆ ดงั น้ี 1. ส่วนนอน เตียงเดก็ ควรจะจดั เขา้ มุมเพ่ือใหม้ ีพ้นื ที่วา่ งเพม่ิ ข้ึน นอกจากน้ี ผนงั หอ้ งยงั ช่วยหอ้ งกนัไม่ใหเ้ ดก็ ตกเตียง ขณะที่เดก็ ยงั เลก็ ควรจดั ใหน้ อนรวมกนั เพอื่ ใหเ้ ดก็ ๆ มีความสัมพนั ธ์ที่ดีต่อกนัและควรหลีกเล่ียงการใชเ้ ตียงสองช้นั เน่ืองจากอาจเกิดอนั ตรายจากการปี นป่ ายและการตกจากเตียงช้นั บนได้ 2. ส่วนเด็กเล่น เดก็ ๆ เป็นวยั ที่ตอ้ งการเล่นสนุกสนาน ส่วนท่ีจดั ไวใ้ หเ้ ดก็ เล่นท้งั กลางแจง้ และในบา้ นจึงมีความสาคญั อยา่ งยงิ่ ภายในหอ้ งเดก็ ควรกนั ส่วนหน่ึงไวเ้ ป็นที่เล่น มีเครื่องเล่นสาหรับพฒั นาการทางกายและสมองของเดก็ ไวใ้ หเ้ ดก็ ดว้ ย 3. ส่วนทางาน ความตอ้ งการในส่วนน้ีเหมาะสาหรับเดก็ ท่ีเขา้ สู่วยั ศึกษาเล่าเรียนแลว้ เดก้ ตอ้ งใชโ้ ตะ๊สาหรับทาการบา้ นการฝีมือ เขียนภาพระบายสี ฯลฯ อาจทาเป็นโตะ๊ ที่พบั เกบ็ ไดโ้ ดยพบั ติดฝาผนงัหรือติดช้นั หรือเป็นโตะ๊ มีลอ้ เลื่อนเกบ็ เขา้ ใตเ้ ตียงหรือพบั เกบ็ เขา้ ตูเ้ กบ็ ของได้ 4. ส่วนเกบ็ ของ ใชเ้ กบ็ สิ่งของจาพวกเส้ือผา้ หนงั สือและของเล่น จดั ไวต้ ามที่ที่ไม่คอ่ ยไดใ้ ชป้ ระโยชน์

186เช่น ตามมุมหอ้ ง ท่ีวา่ งหลงั ประตู ฯลฯ โดยทาเป็นช้นั สูง เลือกเกบ็ ของท่ีหยบิ ใชบ้ อ่ ย ๆ ไวใ้ นช้นั ที่เดก็ หยบิ ถึง ช้นั เกบ็ ของเดก็ อาจใชไ้ มท้ าเป็นกล่องส่ีเหล่ียมจตั ุรัส เปิ ดดา้ นหน่ึง ทาสีสดใสและมีตวั อกั ษรติดอยู่ เดก็ สามารถใชเ้ รียงตวั อกั ษรเล่น หรือ ต่อเป็นโตะ๊ ได้ เม่ือเลิกใชแ้ ลว้ กน็ าข้ึนวางซอ้ นกนั เป็น ช้นั เกบ็ ของ ภาพที่ 10.1 ตวั อยา่ งการจดั ผงั หอ้ งเดก็ ขนาดต่าง ๆ

187องค์ประกอบของห้องเด็ก องคป์ ระกอบของหอ้ งเดก็ มีส่วนประกอบที่สาคญั ดงั น้ี 1. พนื้ ห้องเดก็ การตกแต่งพ้ืนช่วยพรางขอ้ บกพร่องของหอ้ งไดเ้ ช่นกนั เช่น ลายทแยงมุมทาใหห้ อ้ งรู้สึกกวา้ งข้ึน แต่ถา้ หอ้ งมีรูปร่างไม่ปกติใหห้ ลีกเล่ียงพ้นื ลายตาราง หรือลายสลบั สีกนั หรือลายทางยาว เพราะจะเนน้ ความไม่ปกติยงิ่ ข้ึน เดก็ มกั จะ ชอบนง่ั บนพ้ืน เพราะฉะน้นั พ้นื หอ้ งเดก็ ควรจะนุ่มสบาย และทาความสะอาดง่าย เพราะการรักษา ความสะอาด ของพ้นื เป็นเรื่องสาคญั ยงิ่ สาหรับ หอ้ งเดก็ โดยเฉพาะเดก็ ที่ยงั คลานกบั พ้ืน อาจจะเอานิ้วใส่ปากได้ นอกจากน้ีพ้นื ยงั เป็นที่เล่นของเดก็ จึงควรอานวย ความสะดวกในการเล่นดว้ ย คือเรียบสามารถวางของเล่นต่าง ๆ ได้ และควรจะเกบ็ เสียงไดด้ ีเวลาเดินเขา้ ไปดูเดก็ ตอนกลางคืน เดก็ จะไดไ้ ม่ตื่น 2. ม่านหน้าต่าง ม่านจะช่วยบงั แสง ท่ีรบกวน การนอนของเดก็ และเป็นของตกแต่งท่ีทาใหห้ อ้ ง ดูสวยงาม ไดอ้ ีกอยา่ งหน่ึง ม่านมีอยหู่ ลายรูปแบบ เช่น ม่านแบบที่รวบสองขา้ ง แบบธรรมดา ควรยาวแค่ระดบั ขอบหนา้ ต่างไม่ควรยาวถึงพ้ืน เพราะเดก็ อาจดึงเล่นและจะสกปรกไดง้ ่าย ส่วน VenetianBlind หรือม่ลู ี่ ม่านแบบน้ีจะมีลกั ษณะ เป็นบานเกลด็ สาหรับเปิ ดปิ ด ใหร้ ับแสงไดต้ ามตอ้ งการหรือจะรูดข้ึนไปหมดกไ็ ด้ จึงประหยดั พ้นื ที่ ส่วนมากทาดว้ ยไมห้ รือโลหะ ปัจจุบนั น้ีมีแบบ พลาสติกและพวี ีซี เป็นม่านท่ีแขง็ แรง ทนทาน ใชง้ านไดน้ าน แตก่ ม็ ีขอ้ เสียคือ เม่ือเปิ ดไฟ ตอนกลางคืนขา้ งนอก จะมองเห็นเขา้ มาขา้ งในได้ ควรหาม่านคลุมทบั อีกช้นั หน่ึง นอกจากน้ียงั ทา ความสะอาดคอ่ นขา้ งยากดว้ ย Roman Blinds หรือม่านผา้ ท่ีเปิ ดปิ ดดว้ ยการรูดข้ึนลงเป็นจีบอยดู่ า้ นบน เป็นอีกแบบหน่ึง ท่ีเหมาะ กบั หอ้ งเดก็ เพราะประหยดั ท่ี และใชผ้ า้ นอ้ ยกวา่ ม่านธรรมดา ทาความสะอาดได้ดว้ ยการซกั 3. แสงไฟในห้องเดก็ แสงไฟใน หอ้ งเดก็ ควรเป็นแสงท่ีสวา่ งพอแต่ไม่มาก จนแสบตา ไม่ควรใชไ้ ฟท่ีหอ้ ยลงมา จากเพดานตรงกลางหอ้ ง เพราะนอกจากแสงจะแขง็ แลว้ ยงั ส่องแยงตาเดก็ เวลานอนอยใู่ นเตียงหรือเปล ไฟผนงั เป็นไฟที่เหมาะกวา่ โดยเฉพาะ แบบที่ส่องแสงข้ึนขา้ งบน กระทบเพดาน แลว้สะทอ้ นแสง ลงมาขา้ งล่างอีกทีหน่ึงทาใหไ้ ดแ้ สดงไฟที่นุ่มนวลข้ึน ควรใชแ้ บบที่มี โคมบงั หลอดไฟไวข้ า้ งใน เพอ่ื ท่ีเดก็ จะไดไ้ ม่ตอ้ งจอ้ งมองแสงจากหลอดไฟโดยตรงใหเ้ สียสายตา ควรมีสักสองจุดเพอ่ื ที่จะไดแ้ สงสวา่ ง ท่ีเพียงพอสาหรับท้งั หอ้ ง หรืออาจจะใชส้ ปอตไลท์ 2-3 อนั ติดบนราว ซ่ึงสามารถปรับมุมใหแ้ สงส่องเขา้ ท่ีผนงั แลว้ สะทอ้ นออกมาอีกที เพือ่ ลดความจา้ ของแสงลง เช่นเดียว

188กบั ดาวน์ไลท์ กเ็ ป็นอีกทางเลือกหน่ึงท่ีดี ไม่ควรติดดาวนไ์ ลทเ์ หนือที่นอนของเด็ก และไมว่ า่ จะใช้ไฟชนิดใดกต็ าม ควรใชด้ ิมเมอร์แทนสวิทซ์ไฟธรรมดา ซ่ึงทาใหส้ ามารถเลือกปรับความเขม้ ขน้ ของแสงตามที่ตอ้ งการได้ เช่นเวลาท่ีเขา้ ดู ลูกกลางดึก หรืออาจใชด้ ิมเมอร์หร่ีไฟ เพื่อใชเ้ ป็นไฟเปิ ด ในหอ้ งตอนกลางคืนกไ็ ด้ ควรมีแสงไฟขา้ งเตียงไวด้ ว้ ยและควรอยสู่ ูงพอท่ีเดก็ จะเอ้ือมไม่ถึง เช่นสปอตไลทต์ ิดกาแพง ไม่ควรใชโ้ คมไฟแบบต้งั พ้นื จนกวา่ เดก็ จะโตถึงระดบั หน่ึง เพราะเดก็ อาจคลานและดึงสายไฟจนโคมลม้ ลงมาได้ สิ่งแรกและส่ิงที่สาคญั ตอ้ งคานึงถึงสาหรับหอ้ งเดก็ กค็ ือความปลอดภยั เช่น ปลกั๊ ไฟในหอ้ งเดก็ ควรเป็นแบบที่ปิ ดได้ และตอ้ งอยหู่ ่างในระยะท่ีเดก็ เอ้ือมไม่ถึง เป็นตน้เฟอร์นิเจอร์ในห้องเดก็ เฟอร์นิเจอร์ในหอ้ งเดก็ จะแตกต่างจากเฟอร์นิเจอร์ทว่ั ไป เน่ืองจากขนาดของเดก็ จะเลก็ กวา่และมีรูปร่างและรูปทรงที่ตอ้ งคานึงถึงวยั ของเดก็ และการส่งเสริมพฒั นาการดา้ นต่าง ๆ ของเดก็โดยทวั่ ไปจะมีเฟอร์นิเจอร์ดงั น้ี 1. ที่นอน ไม่ควรใหเ้ ดก็ นอนที่นอนเก่า เพราะนอกจาก จะไม่ถูกสุข ลกั ษณะแลว้ ท่ีนอนเก่ายงัมกั จะเสียรูป ทาใหร้ ูปร่างของเดก็ ที่กาลงั โตเสียได้ เพราะเดก็ จะเติบโตมากที่สุดเวลาที่นอนหลบัควรเลือกเท่ีนอนใหม้ ีความกวา้ งอยา่ งนอ้ ย 100 ซม. เพราะเดก็ มกั จะนอนดิ้นมากกวา่ ผใู้ หญ่ การเลือกที่นอนนิ่มหรือแขง็ น้นั ข้ึนอยกู่ บั น้าหนกั ตวั ของคน ที่นอนคนท่ีน้าหนกั มากตอ้ งการท่ีนอนแขง็ ๆ ซ่ึงสามารถ รับน้าหนกั ไดด้ ี และคนท่ีเบากวา่ กต็ อ้ งการเตียงท่ีนุ่มกวา่ เพราะฉะน้นั อยา่ เลือกเตียงท่ีแขง็ เกินไป 2. เฟอร์นิเจอร์อนื่ ๆ และทเี่ กบ็ ของ เฟอร์นิเจอร์ในหอ้ งเดก็ แต่ละวยั จะมีความพิเศษ แตกตา่ งกนั ไป อยา่ งเช่น ในยามท่ีเดห็ยงั ดูแลตวั เองไม่ได้ ผทู้ ี่จะมีส่วนในการใชห้ อ้ งเดก็ มากท่ีสุดกค็ ือ แม่หรือ ผดู้ ูแลเดก็ ดงั น้นั ควรจดัเฟอร์นิเจอร์ ที่จะเอ้ือประโยชน์ ใหก้ บั คุณแม่ดว้ ย เช่น พ้นื ที่สาหรับดูแล เปลี่ยนผา้ ออ้ ม หรือแต่งตวัใหล้ กู ซ่ึงควรมีตูเ้ กบ็ ของจาเป็นอยใู่ กลม้ ือเพื่อความสะดวกของคุณแม่ ซ่ึงพ้นื ที่น้ีสามารถปรับเปล่ียนเป็นโตะ๊ เขียนหนงั สือ หรือโตะ๊ เคร่ืองแป้ งของลกู ได้ เมื่อโตข้ึน นอกจากเตียงนอน ที่ตอ้ งเปลี่ยนเม่ือเดก็ โตข้ึนแลว้ เฟอร์นิเจอร์ อยา่ งอ่ืนควรปรับเปลี่ยนได้เช่น ตเู้ ส้ือผา้ เดก็ ตอนแรกเกิดน้นั เส้ือผา้ เดก็ มกั จะใชพ้ บั มากกวา่ แขวน ดงั น้นั ลิ้นชกั จะสาคญั กวา่ราวแขวนเส้ือ ตเู้ ส้ือผา้ ของเด็ก จึงควรจะใชร้ าวแบบที่ปรับระดบั ได้ หรือถอดออกได้ โดยอาจเสริมลิ้นชกั แบบตะแกรงลวดเขา้ ไปชว่ั คราว เมื่อเดก็ ไตข้ึนกถ็ อดออก และใส่ราวแขวนเขา้ ไปแทน ระดบั

189ของราวแขวนเส้ือควรใหเ้ หมาะกบั วยั ของเดก็ เพือ่ ท่ีเดก็ จะสามารถหยบิ มาแต่งตวั เองได้ เฟอร์นิเจอร์สาหรับเกบ็ ของเป็นอีกส่ิงท่ีจาเป็น สาหรับ หอ้ งนอนทุกหอ้ งไม่เฉพาะหอ้ งเดก็ ซ่ึงมีท้งั แบบที่เป็นเฟอร์นิเจอร์ บิลด-์ อิน หรือแบบลอยตวั แบบแรกจะเป็นแบบ ท่ีใชง้ าน ไดด้ ีท่ีสุดเพราะประหยดัพ้ืนที่ และสามารถ ใชพ้ ้ืนที่ได้ ต้งั แต่พ้นื จรดเพดาน ทาใหไ้ ดพ้ ้นื ที่เกบ็ ของไดม้ าก ช้นั วางของแบบโล่ง เป็นเฟอร์นิเจอร์อีกแบบที่มีประโยชนม์ ากสาหรับหอ้ งเดก็ อาจใชช้ ้นัแบบปรับระดบั ได้ เพอ่ื ใหเ้ หมาะกบั เดก็ แต่ละวยั เดก็ จะไดห้ ดั เกบ็ ขา้ วของดว้ ยตนเอง แต่อยา่ วางของหนกั ๆ เอาไวบ้ นช้นั สูง ๆ เพ่ือให้ เดก็ หยบิ ไม่ถึง แตเ่ ดก็ อาจจะปี นข้ึน ไป ดึงลงมาจนหล่นลงมาทบั ได้แนวคดิ การออกแบบตกแต่งห้องเด็ก แนวคดิ การออกแบบตกแต่งหอ้ งเดก็ ควรใส่จินตนาการที่กวา้ งไกล โดยสามารถออกแบบไดอ้ ยา่ งอิสระดงั น้ี ภาพท่ี 10.2 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งเดก็ เนน้ พ้ืนท่ีการเล่น

190 ภาพที่ 10.3 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งเดก็ เนน้ พ้นื ท่ีเล่นของเดก็ ชาย

191ภาพท่ี 10.4 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งเดก็ หญิง

192 ภาพท่ี 10.5 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งเดก็ หญิง-ชาย

193ภาพท่ี 10.6 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งเดก็ ทารก

194 ภาพท่ี 10.7 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งเดก็ เลก็ หญิง

195ภาพที่ 10.8 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งเดก็ หญิงแนวตุก๊ ตาบาร์บ้ี

196 ภาพท่ี 10.9 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งเดก็ หญิงท่ีใชโ้ ทนสีฟ้ าเป็นสีหลกั

197ภาพที่ 10.10 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งเดก็ ชายเด่นดว้ ยสีสม้

198 ภาพที่ 10.11 แนวคิดเทพนิยายกบั การออกแบบตกแต่งหอ้ งเดก็ หญิง

199ภาพที่ 10.12 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งเดก็ เลก็ ชายโทนสีฟ้ า

200 ภาพที่ 10.13 แนวคิดการออกแบบตกแต่งหอ้ งเดก็ แนวสารวจธรรมชาติ

201สรุป การออกแบบหอ้ งเดก็ จะแบ่งการออกแบบหอ้ งเดก็ ตามวยั แรกเกิด – 3 ปี , 4 – 8 ปี , 9 – 14ปี และ 15 ข้ึนไป ภายในหอ้ งเดก็ ควรมีส่วนต่าง ๆ คือ ส่วนนอนโดยการจดั เตียงนอนใหเ้ ขา้ มมุเพอ่ื ใหม้ ีพ้ืนท่ีวา่ งเพิ่มข้ึน ส่วนเดก็ เล่นโดยมีเคร่ืองเล่นสาหรับการพฒั นาการทางกายและสมองของเดก็ ส่วนทางานโดยเนน้ การทางานที่เป็นการบา้ น งานฝีมือ และส่วนเกบ็ ของเพอื่ ใชเ้ กบ็ ของท่ีวางกระจดั กระจายและการจดั ระเบียบของหอ้ ง ส่วนองคป์ ระกอบของหอ้ งเดก็ มีส่วนประกอบที่สาคญัคือ พ้นื หอ้ งเดก็ ม่านหนา้ ต่าง แสงไฟ ส่วนเฟอร์นิเจอร์คาถามทบทวน 1. ภายในหอ้ งเดก็ ควรมีส่วนต่าง ๆ อะไรบา้ ง 2. ส่วนนอนของหอ้ งเดก็ ควรมีลกั ษณะอยา่ งไร 3. ส่วนเดก็ เล่นของหอ้ งเดก็ ควรมีลกั ษณะอยา่ งไร 4. ส่วนทางานของหอ้ งเดก็ ควรมีลกั ษณะอยา่ งไร 5. การตกแต่งพ้ืนหอ้ งเดก็ ทาอยา่ งไรใหพ้ ้นื ดูกวา้ งข้ึน 6. พ้ืนหอ้ งเดก็ ควรมีลกั ษณะอยา่ งไร 7. การติดม่านในหอ้ งเดก็ ไม่ควรยาวถึงพ้นื เพราะเหตใุ ด 8. แสงไฟประเภทใดท่ีเหมาะกบั การตกแต่งหอ้ งเดก็ และควรจดั วางอยา่ งไร 9. เฟอร์นิเจอร์หอ้ งเดก็ ควรมีลกั ษณะอยา่ งไร 10. ท่านมีแนวคิดในการออกแบบหอ้ งเดก็ อยา่ งไร

202 เอกสารอ้างองิConnelley, M. (2009). The Smart Approach to Kids' Rooms. 3rd edition. San Francisco: Berrett-Koehler Publishers, Inc.Gilberg, L. (2010). Ideas for Great Kids' Rooms. Massachusetts : Harvard Business School Press.Morris, R. (2012). Pottery Barn Kids: Kids' Rooms. Boston: McGraw Hill.

บรรณานุกรมนภาพรรณ สุทธพินทุ (2549). ปฏิบัตกิ ารออกแบบตกแต่งภายใน 1. กรุงทพฯ : สมาคมส่งเสริม เทคโนโลยี (ไทย-ญี่ป่ ุน).ปิ ยานนั ท์ ประสารราชกิจ. ( 2549). ทฤษฎสี ีและการออกแบบตกแต่งภายใน. กรุงเทพฯ : บริษทั พริกหวาน กราฟฟิ ค จากดั .วฒั นะ จฑู ะวิภาต. (2554). ศิลปะการออกแบบตกแต่งภายใน. พิมพค์ ร้ังที่ 3. กรุงเทพฯ : พมิ พด์ ี.Brainard, S. (2011). A Design Manual. New Jersey : Prentice Hall.Brcker, H. (2009). The Color Scheme Bible: Inspirational Palettes for Designing Home Interiors. Boston: McGraw Hill Irwin.Cohen, J. (2011). Color Coordition for Interiors: Home Color Design. Newyork : Harper & Row.Connelley, M. (2009). The Smart Approach to Kids' Rooms. 3rd edition. San Francisco: Berrett-Koehler Publishers, Inc.Creagan, L. (2009). House Beautiful Kitchens: Creating a Beautiful Kitchen of Your Own. Boston: McGraw Hill Irwin.Daniel, K. (2008). Home Quick Planner. London : Thames and Hudson Ltd.Edward, J. (2009). Reading Architectural Working Drawings. New York : Van Nostrand Reinhold.Ellis, T. (2010). Interior Design: Decorating Ideas for Every Room. Boston: McGraw Hill.Engel, H. (2011). Bedroom Makeover and Decorating Ideas. Massachusetts: HRD Press Inc.George, C. (2010). Architectural Drawing and Design. London : Thames and Hudson Ltd . Publication, Inc.Gilberg, L. (2010). Ideas for Great Kids' Rooms. Massachusetts : Harvard Business School Press.Kellar, J. (2011). Kitchen Ideas. New Jersey : Prentice Hall. Inc.Levy, J. (2010). Kitchen Design and Renovation. London : Thames and Hudson Ltd . Publication, Inc.Lock ,W. (2009 ) . Choosing a colour scheme : How to handle samples and use colour successfully in your home . London : Cassell Company.

204McCarthy, B. (2010). Luminous Interiors: The Houses of Brian McCarthy. Newyork : Harper & Row.Maureen, M. (2012) Interior Design Visual Presentation: A Guide to Graphics, Models and Presentation Techniques. London: Marshell Cavendish.Morris, R. (2012). Pottery Barn Kids: Kids' Rooms. Boston: McGraw Hill.Norman, D. (2011). Bathroom Idea Book. Revised and Expanded Edition. San Francisco: Berrett-Koehler Publishers, Inc.O’Shea, L., Grimley, C. (2010). The Interior Design Reference & Specification Book: Everything Interior Designers Need to Know Every Day. New Jersey: Prentice Hall International, Inc.Panero, J., & Zelnik, M. (2009). Time-Saver Standards for Interior Design and Space Planning, 2nd Edition . New Jersey: Prentice Hall International, Inc.Phillips, B. (2010). Interiors by Design. Boston: McGraw Hill.Reis, D., & Wiedemann, J. (2010). Best Signature Baths: Over 100 Fabulous Bathrooms from Top Designers. Boston: McGraw Hill.Rengel, B. (2011). The Interior Plan: Concepts and Exercises. Cambridge: Vivays Publishing.Robbins, S. (2009). Small Bath Solutions. New Jersey: Prentice Hall International, Inc.Robinson, R. (2004). Beautiful Bedrooms. San Francisco: Berrett-Koehler Publishers, Inc.Rodgers, P. (2011). Room and Furniture Layout. England:Pearson Education Limited.Schaude, H. (2009). Residential Interior Design: A Guide To Planning Spaces. Newyork : Van Nostrand Reinhold.Slotkis, J. (2012). Foundations of Interior Design. London : Oxford University Press.Tangaz, C. (2011). Interior Design Course: Principles, Practices, and Techniques for the Aspiring Designer. Upper Saddle River, NJ: Prentice Hall.Veilette , B. (2009 ) . Kitchen Ideas that Work: Creative Design Solutions for Your Home. London : Cassell Company.Walton, J. (2009). Bedroom Makeover and Decorating Ideas: How To Design The Bedroom of Your Dreams. England: Pearson Education Limited.