สาระที่ ๑ ภาษาเพ่อื การสื่อสาร มาตรฐาน ต ๑.๑ เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อยา่ งมีเหตผุ ล ตวั ช้วี ัด ผู้เรยี นร้อู ะไร/ทำอะไรได ้ ทักษะการคดิ ชิ้นงาน/ แนวการจดั การเรยี นรู้ ภาระงาน เพอ่ื พัฒนาทกั ษะการคดิ ๑. ปฏบิ ัตติ าม ผเู้ รยี นรอู้ ะไร ๑. ทักษะ การแสดงบทบาท ๑. ฟงั และอ่านขอ้ ความท่ีเป็น คำสั่ง คำสัง่ คำขอร้อง ภาษาท่าทาง การระบ ุ สมมต ิ กรณีตวั อย่าง เช่น การเลน่ เกม คำขอร้อง และคำแนะนำ ๒. ทกั ษะ การทำอาหารและเครือ่ งดื่ม และคำแนะนำ ผ้เู รียนทำอะไรได้ การเรียงลำดับ และการประดษิ ฐ์ ท่ฟี งั และอ่าน ปฏบิ ัตติ ามคำสงั่ ๓. ทักษะ ๒. บอกลักษณะของประโยค คำขอรอ้ ง และคำแนะนำ การนำความรู้ คำสั่ง คำขอร้อง และ ทฟ่ี ังและอ่าน ไปใช้ คำแนะนำ ในขอ้ ความทฟี่ ัง และอ่าน ๓. ฝกึ ใช้และปฏิบัตติ ามคำสง่ั คำขอร้อง และคำแนะนำ ในข้อความทีฟ่ ังและอา่ น ๔. กำหนดสถานการณ์เพ่อื แสดงบทบาทสมมตเิ กีย่ วกับ คำสั่ง คำขอร้อง ภาษาทา่ ทาง และคำแนะนำ ๒. อ่านออกเสียง ผเู้ รยี นรูอ้ ะไร ๑. ทกั ษะ อา่ นออกเสียง ๑. กำหนดขอ้ ความ นิทาน ข้อความ การอ่านออกเสียงขอ้ ความ การระบ ุ ข้อความ นิทาน และบทกลอนสั้น ๆ นทิ าน และ นทิ าน และบทกลอนส้ัน ๆ ๒. ทกั ษะ หรอื บทกลอนสน้ั ๆ ๒. เสนอการอา่ นออกเสียง บทกลอน ผเู้ รียนทำอะไรได้ การนำความรู้ ทถ่ี ูกต้องตามหลกั การอา่ น ส้นั ๆ ถูกตอ้ ง ๑. การใชพ้ จนานุกรม ไปใช ้ ออกเสียง ตามหลกั เพอ่ื หาการออกเสียง ๓. สังเกตและระบุการอ่าน การอา่ น หนกั -เบาของคำศพั ท์ ออกเสยี งข้อความ นทิ าน ๒. การออกเสียงพยญั ชนะ และบทกลอนสั้น ๆ ต้นคำ และพยัญชนะทา้ ยคำ ๔. ศกึ ษาสญั ลกั ษณ์การอา่ น ๓. การออกเสยี งเนน้ ออกเสียงจากพจนานกุ รม หนัก-เบา ในคำและกลุ่มคำ ๕. อ่านออกเสียงข้อความ ๔. การออกเสียงตามระดับ งา่ ย ๆ นทิ าน หรือบทกลอน เสยี งสงู -ต่ำในประโยค สน้ั ๆ ๕. การออกเสยี งเชอ่ื มโยง (linking sound) ในข้อความ ๖. ออกเสียงบทกลอน ตามจงั หวะ 142 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้เพ่อื พัฒนาทักษะการคิด ระดบั ประถมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ
ตัวชี้วดั ผู้เรยี นรูอ้ ะไร/ทำอะไรได ้ ทกั ษะการคิด ช้นิ งาน/ แนวการจัดการเรียนร ู้ ภาระงาน เพอ่ื พัฒนาทักษะการคดิ ๓. เลอื ก/ ผู้เรยี นร้อู ะไร ๑. ทกั ษะ จบั ค่ปู ระโยคและ ๑. สงั เกตและศกึ ษาประโยค/ ระบปุ ระโยค ประโยคหรอื ข้อความ การระบ ุ ข้อความตรงกบั ขอ้ ความ พรอ้ มภาพสญั ลกั ษณ ์ หรือข้อความ สญั ลกั ษณ์ เครอ่ื งหมาย ๒. ทักษะ ภาพ สญั ลกั ษณ์ และเครื่องหมาย ส้ัน ๆ ตรง และความหมาย การตคี วาม ๒. ตีความประโยค/ข้อความ ตามภาพ ผเู้ รียนทำอะไรได ้ ๓. ทักษะ ๓. เชือ่ มโยงความหมาย สญั ลักษณ์ เลอื ก/ระบปุ ระโยคหรอื การเชอ่ื มโยง ท่ีตรงกับภาพ สัญลกั ษณ์ หรือ ข้อความสั้น ๆ ตรงตาม หรอื เครือ่ งหมาย เครอื่ งหมาย ภาพสญั ลักษณ์ หรือ ๔. ฝึกพดู /อ่านประโยค ทอี่ า่ น เครือ่ งหมายทอ่ี ่าน ขอ้ ความ ทต่ี รงกบั ภาพ สัญลกั ษณ์ และเครือ่ งหมาย ๕. เลอื ก/ระบปุ ระโยค ขอ้ ความตรงกับภาพ สญั ลักษณ์ หรือเคร่อื งหมาย ๔. บอกใจความ ผเู้ รยี นร้อู ะไร ๑. ทักษะ ๑. การต้งั และตอบ ๑. ฟังและอ่านบทสนทนา สำคัญ และ การจับใจความสำคญั ของ การต้งั คำถาม คำถามจากเรอ่ื ง นทิ านง่าย ๆ หรอื เร่ืองเล่า ตอบคำถาม เร่อื งทีฟ่ ังและอา่ น ๒. ทักษะ ทีฟ่ ังและอา่ น ๒. ตคี วามและทำความเขา้ ใจ จากการฟัง ผู้เรยี นทำอะไรได้ การแปลความ ๒. แผนผงั ความคดิ และเร่อื งทฟ่ี งั และอา่ น และอ่านบท ๑. บอกใจความสำคญั ของ ๓. ทกั ษะ (Mind Map) ๓. แปลความและบอก สนทนา เรอ่ื งท่ฟี ังและอ่าน การตีความ ใจความสำคญั ของเรอ่ื งท่ีฟงั นทิ านง่าย ๆ ๒. ตอบคำถามจากเรื่องที่ ๔. ทกั ษะ และอา่ น และเร่ืองเล่า ฟังและอ่าน การสรุปย่อ ๔. ต้งั และตอบคำถาม จากเรอื่ งทฟ่ี งั และอ่าน ๕. จัดทำแผนผังความคดิ (Mind Map) จากเรอ่ื งท่ฟี ัง และอา่ น แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนร้เู พ่ือพฒั นาทกั ษะการคิด ระดบั ประถมศกึ ษา 143 กลุม่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
สาระท่ี ๑ ภาษาเพ่ือการสือ่ สาร มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และความคิดเห็นอยา่ งมีประสิทธภิ าพ ตวั ชว้ี ัด ผู้เรียนรอู้ ะไร/ทำอะไรได ้ ทักษะการคิด ชิน้ งาน/ แนวการจดั การเรียนร้ ู ภาระงาน เพือ่ พัฒนาทักษะการคิด ๑. พูด/เขยี น ผูเ้ รียนรู้อะไร ๑. ทกั ษะ การแสดงบทบาท ๑. นำเสนอคำศพั ท์ ประโยค โตต้ อบใน บทสนทนาท่ใี ชใ้ น การสงั เกต สมมติ และข้อความในการโตต้ อบ การสอ่ื สาร การทักทาย กล่าวลา ๒. ทักษะ การทักทาย กล่าวลา ระหว่างบคุ คล ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การนำความรู้ ขอบคุณ ขอโทษ ชมเชย การแนะนำตนเอง ไปใช้ การพดู แทรกอย่างสภุ าพ การพดู แทรกอยา่ งสุภาพ การแนะนำตนเอง และ และสำนวนการตอบรับ สำนวนการตอบรับ ผูเ้ รยี นทำอะไรได ้ ๒. พดู เลยี นแบบและโต้ตอบ พูด/เขียนโตต้ อบใน ในการสื่อสารระหว่างบุคคล การสือ่ สารระหวา่ งบุคคล จากบทสนทนาทก่ี ำหนดให ้ ๓. สรา้ งสถานการณ ์ เพอ่ื เขยี นบทสนทนาและ นำมาแสดงบทบาทสมมต ิ ๒. ใชค้ ำสั่ง ผเู้ รียนรอู้ ะไร ๑. ทักษะ การแสดงบทบาท ๑. นำเสนอคำศัพทแ์ ละ คำขอร้อง คำขอ คำศัพท์และประโยค การสงั เกต สมมตกิ ารพดู ประโยคคำสง่ั คำขอรอ้ ง อนญุ าต และให้ คำสัง่ คำขอรอ้ ง ๒. ทักษะ แนะนำการใช้ คำขออนญุ าต และคำแนะนำ คำแนะนำ คำขออนญุ าต การรวบรวม สิง่ ของ ทม่ี ี ๒-๓ ขั้นตอน พรอ้ ม และคำแนะนำ ข้อมลู แสดงภาพหรือทา่ ทางประกอบ ทม่ี ี ๒-๓ ขัน้ ตอน ๓. ทักษะ ๒. อา่ นคำสัง่ คำขอรอ้ ง ผเู้ รียนทำอะไรได้ การจำแนก คำแนะนำท่มี ี ๒-๓ ขนั้ ตอน ใชค้ ำสง่ั คำขอรอ้ ง ประเภท ๓. จำแนกโครงสร้างประโยค คำขออนญุ าต และ ๔. ทักษะ ๔. เรียงลำดับประโยคคำสง่ั ให้คำแนะนำที่ม ี การเรียงลำดับ คำขอรอ้ ง คำขออนญุ าต ๒-๓ ขั้นตอน ๕. ทักษะ และคำแนะนำทีม่ ี ๒-๓ ขัน้ ตอน การนำความรู ้ และฝกึ พูด ไปใช ้ ๕. รวบรวมของใช้ในชวี ติ ประจำวนั ที่มคี ำแนะนำการใช ้ ๖. แสดงบทบาทสมมต ิ พูดแนะนำการใชส้ ิ่งของที่พบ 144 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรเู้ พื่อพัฒนาทักษะการคิด ระดับประถมศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ตัวชีว้ ัด ผเู้ รียนรูอ้ ะไร/ทำอะไรได ้ ทักษะการคดิ ชิ้นงาน/ แนวการจัดการเรยี นรู้ ภาระงาน เพือ่ พฒั นาทกั ษะการคดิ ในชวี ิตประจำวันพรอ้ มกบั ส่ิงของท่ีแนะนำดว้ ยวิธีการ แสดงบทบาทสมมติ ๓. พดู /เขยี น ผู้เรยี นรูอ้ ะไร ๑. ทักษะ แสดงบทบาท ๑. ศกึ ษาและระบปุ ระโยค แสดงความ คำศพั ท์ สำนวนภาษา การระบุ สมมติ และข้อความเกยี่ วกบั ตอ้ งการ และประโยคท่ใี ช้บอก ๒. ทกั ษะ การแสดงความตอ้ งการ ขอความ ความตอ้ งการ ขอความ การนำความรู้ การขอความช่วยเหลอื ชว่ ยเหลือ ชว่ ยเหลือ ตอบรบั และ ไปใช้ การตอบรบั และปฏิเสธการให้ ตอบรับและ ปฏเิ สธการใหค้ วามช่วยเหลือ ความชว่ ยเหลอื ในสถานการณ ์ ปฏเิ สธ ผ้เู รยี นทำอะไรได้ งา่ ย ๆ จากส่อื ตา่ ง ๆ การให้ความ พดู /เขียนแสดงความตอ้ งการ ๒. ฝกึ ปฏบิ ัตกิ ารพูดเพ่ือ ชว่ ยเหลอื ใน ขอความช่วยเหลือ แสดงความต้องการ การขอ สถานการณ์ ตอบรบั และปฏเิ สธการให ้ ความชว่ ยเหลอื การตอบรับ และ งา่ ย ๆ ความช่วยเหลือ ปฏเิ สธการใหค้ วามชว่ ยเหลือ ในสถานการณ์งา่ ย ๆ ในสถานการณง์ ่าย ๆ ๓. สร้างสถานการณ์และ เขียนบทสนทนา เพื่อนำมา แสดงบทบาทสมมติ ๔. พูดและเขยี น ผู้เรยี นรอู้ ะไร ๑. ทกั ษะ ๑. บทสนทนา ๑. ศกึ ษาและสังเกตคำศพั ท ์ เพือ่ ขอและ คำศพั ท์ สำนวนภาษา การสังเกต ถาม-ตอบ ขอและ สำนวนภาษา และประโยคที่ ใหข้ ้อมูล และประโยคที่ใชข้ อและ ๒. ทักษะ ใหข้ ้อมลู เกย่ี วกบั ใช้ขอและใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั เกีย่ วกบั ใหข้ อ้ มลู เกยี่ วกบั ตนเอง การตั้งคำถาม ตนเอง เพ่อื น ตนเอง เพือ่ น ครอบครวั ตนเอง เพื่อน ครอบครัว และ ๓. ทักษะ ครอบครัว และ และเร่ืองใกล้ตวั เพื่อน เรื่องใกลต้ ัว การรวบรวม เรือ่ งใกล้ตวั ๒. กำหนดหัวขอ้ ใหฝ้ กึ สนทนา ครอบครัว ผูเ้ รียนทำอะไรได้ ขอ้ มลู ๒. แสดงบทบาท ขอและให้ข้อมลู เก่ียวกับ และเรื่อง พูดและเขียนเพื่อขอและ ๔. ทักษะ สมมติ ตนเอง เพ่ือน และเร่อื งใกลต้ ัว ใกลต้ วั ให้ข้อมูลเก่ียวกับตนเอง การนำความร ู้ ๓. ฝึกพดู ตัง้ คำถามและตอบ เพ่อื น ครอบครัว และ ไปใช ้ คำถามเพ่อื ขอและใหข้ ้อมลู เร่ืองใกลต้ ัว ๔. ฝึกเขียนประโยคคำถาม และคำตอบท่ีศกึ ษา ๕. รวบรวมข้อมูลและเขียน บทสนทนาถาม-ตอบ เพือ่ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นร้เู พ่อื พัฒนาทักษะการคดิ ระดบั ประถมศกึ ษา 145 กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
ตวั ชีว้ ดั ผูเ้ รียนรู้อะไร/ทำอะไรได้ ทักษะการคดิ ชนิ้ งาน/ แนวการจัดการเรยี นรู ้ ภาระงาน เพ่อื พัฒนาทกั ษะการคิด ขอข้อมูลเกีย่ วกบั ตนเอง เพอ่ื น ครอบครัว และ เร่ืองใกลต้ ัว ๖. แสดงบทบาทสมมติ โดยใช้ประโยคถาม-ตอบ เพือ่ ขอและใหข้ อ้ มลู ๕. พดู /เขียน ผูเ้ รียนร้อู ะไร ๑. ทกั ษะ พูดและเขียนแสดง ๑. สงั เกตคำศัพทแ์ ละ แสดงความ คำและประโยคที่ใช ้ การระบ ุ ความรู้สึกของ โครงสร้างประโยคทีใ่ ชแ้ สดง รสู้ กึ ของ แสดงความร้สู ึกและการให้ ๒. ทกั ษะ ตนเองเกยี่ วกับ ความร้สู กึ และใหเ้ หตุผล ตนเอง เหตผุ ล การสรุปอ้างองิ เรือ่ งใกลต้ วั และ ๒. อธิบาย/สรุปโครงสรา้ ง เก่ยี วกับเรื่อง ผเู้ รียนทำอะไรได้ ๓. ทักษะ กิจกรรมต่าง ๆ ประโยคทใี่ ชแ้ สดงความรู้สึก ตา่ ง ๆ ใกล้ตัว พูด/เขียนแสดงความ การให้เหตุผล พรอ้ มใหเ้ หตผุ ล โดยอา้ งอิงจากความรู้และ กิจกรรมต่าง ๆ รสู้ ึกของตนเองเกี่ยวกบั ประกอบ ประสบการณ์เดิม พร้อมทง้ั ให้ เรอ่ื งตา่ ง ๆ ใกล้ตัว ๓. กำหนดหวั ข้อเกี่ยวกบั เหตผุ ลสน้ั ๆ กจิ กรรมตา่ ง ๆ พรอ้ มให้ เร่อื งใกลต้ ัวและกจิ กรรม ประกอบ เหตผุ ลส้นั ๆ ประกอบ ต่าง ๆ ใหส้ ังเกต เพ่อื หา ข้อมูลเชงิ ประจักษ์ ๔. ขยายขอ้ มูล โดยอา้ งองิ ความร/ู้ ประสบการณเ์ ดิม เพือ่ สรปุ และอธบิ าย ความรสู้ กึ ตอ่ สิ่งที่สงั เกต อยา่ งสมเหตสุ มผล ๕. เขียนแสดงความรสู้ ึกของ ตนเองเกี่ยวกบั เรือ่ งใกลต้ ัว และกจิ กรรมต่าง ๆ พร้อมท้ัง ให้เหตผุ ลสั้น ๆ ประกอบ ๖. นำเสนอผลงานเขยี นด้วย การพูดหนา้ ชน้ั 146 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรเู้ พือ่ พัฒนาทักษะการคิด ระดับประถมศึกษา กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ
สาระท่ี ๑ ภาษาเพื่อการสือ่ สาร มาตรฐาน ต ๑.๓ นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเรื่องต่าง ๆ โดยการพดู และการเขยี น ตวั ช้ีวัด ผ้เู รยี นร้อู ะไร/ทำอะไรได้ ทักษะการคดิ ชิน้ งาน/ แนวการจัดการเรยี นร ู้ ภาระงาน เพื่อพัฒนาทักษะการคิด ๑. พดู /เขยี น ผเู้ รียนร้อู ะไร ทักษะ พดู และเขียนให้ ๑. ศกึ ษาและสังเกตการพูด/ ให้ขอ้ มลู ประโยค ขอ้ ความ ที่ใชใ้ น การระบุ ข้อมลู เกี่ยวกบั เขยี นประโยคและข้อความที่ เกีย่ วกับตนเอง การใหข้ อ้ มลู เก่ยี วกับ ตนเอง และ ใชใ้ นการให้ข้อมลู เก่ียวกบั เพือ่ น และ ตนเอง เพอ่ื น และ เรือ่ งใกล้ตวั ตนเอง เพื่อน และสิง่ แวดล้อม สิง่ แวดลอ้ ม ส่งิ แวดลอ้ มใกลต้ ัว และ ใกล้ตัว ใกล้ตวั การใชเ้ ครอื่ งหมายวรรคตอน ๒. บอก/ระบุการใช้ ผเู้ รียนทำอะไรได ้ เคร่ืองหมายวรรคตอน พดู /เขยี นใหข้ อ้ มูลเกี่ยวกบั จากขอ้ มลู เกยี่ วกับบุคคล ตนเอง เพ่อื น และ สัตว์ สถานท่ี และกิจกรรม สง่ิ แวดล้อมใกล้ตวั ต่าง ๆ ที่ครูนำเสนอ ๓. ฝึกพดู /เขยี นประโยคให้ ข้อมลู เกีย่ วกบั ตนเอง เพอื่ น และส่ิงแวดล้อมใกลต้ วั ๔. เขียนบรรยายขอ้ มูลตวั เอง เพือ่ น และส่งิ แวดลอ้ มใกล้ตัว ๕. นำเสนอโดยการพดู ๒. เขียนภาพ ผู้เรียนรอู้ ะไร ๑. ทกั ษะ ภาพ แผนผัง ๑. รวบรวมขอ้ มูลจากการฟงั แผนผงั คำ กลุ่มคำ และประโยคท่ี การรวบรวม แผนภูมิ หรอื ตาราง หรืออา่ นคำ กลุ่มคำ ประโยค แผนภมู ิ มีความหมายสัมพนั ธ์กับ ข้อมลู แสดงขอ้ มลู ๒. ทำความเข้าใจและ และตาราง ภาพ แผนผงั แผนภูม ิ ๒. ทักษะ แปลความ แสดงขอ้ มลู และตาราง การแปลความ ๓. เช่อื มโยงข้อมูลจาก ตา่ ง ๆ ทฟ่ี ัง ผู้เรียนทำอะไรได ้ ๓. ทกั ษะ การอ่าน แลว้ ถอดความออก หรืออ่าน เขียนภาพ แผนผงั การเช่ือมโยง มาเขยี นเปน็ ภาพ แผนผัง แผนภมู ิ และตาราง แสดง แผนภมู ิ หรอื ตาราง ข้อมลู ตา่ ง ๆ ตามที่ฟงั หรือ อ่าน แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้เพื่อพฒั นาทกั ษะการคิด ระดบั ประถมศกึ ษา 147 กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ
ตวั ช้วี ัด ผูเ้ รียนรู้อะไร/ทำอะไรได ้ ทกั ษะการคดิ ชน้ิ งาน/ แนวการจดั การเรียนร ู้ ภาระงาน เพ่อื พฒั นาทกั ษะการคดิ ๓. พดู /เขียน ผเู้ รยี นรอู้ ะไร ๑. สังเกตภาพ เร่ืองใกล้ตัว ๑. ทักษะ พูด/เขียนแสดง ๒. สรุปสิ่งที่สังเกตตามขอ้ มลู แสดง ประโยคทใี่ ช้ในการแสดง การสังเกต ความคดิ เห็น เชิงประจกั ษ์ ความคดิ เหน็ ความคิดเห็น ๒. ทกั ษะ เกย่ี วกับเรื่อง ๓. สรุปความคิดเหน็ จาก เกยี่ วกับ ผเู้ รียนทำอะไรได ้ การสรุปอา้ งองิ ใกลต้ ัว การขยายข้อมูลที่ไดจ้ าก เรอ่ื งตา่ ง ๆ พดู /เขียนแสดงความคิดเหน็ ๓. ทกั ษะ การสงั เกตโดยการอา้ งองิ จาก ใกลต้ ัว เก่ยี วกบั เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั การใหเ้ หตุผล ความร้หู รือประสบการณ์เดิม ๔. อธบิ ายโดยเช่อื มโยง ให้เหน็ ถงึ สาเหตุและผลที่ เกดิ ขนึ้ ในเรอื่ งตา่ ง ๆ ใกลต้ วั ๕. พดู /เขียนแสดง ความคดิ เหน็ เก่ยี วกับ เร่ืองตา่ ง ๆ ใกลต้ วั 148 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนร้เู พอ่ื พัฒนาทกั ษะการคดิ ระดบั ประถมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ
สาระท่ี ๒ ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐาน ต ๒.๑ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได้ อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตัวชว้ี ัด ผเู้ รยี นร้อู ะไร/ทำอะไรได ้ ทกั ษะการคดิ ชิ้นงาน/ แนวการจัดการเรียนรู้ ภาระงาน เพ่ือพัฒนาทักษะการคดิ ๑. ใชถ้ ้อยคำ ผู้เรยี นรอู้ ะไร ๑. ทักษะ การแสดง ๑. ศกึ ษาและสงั เกตตวั อย่าง นำ้ เสยี ง และ การใช้ถอ้ ยคำ น้ำเสยี ง และ การสงั เกต บทบาทสมมติ การใช้ถอ้ ยคำ น้ำเสียง กิรยิ าท่าทาง กิริยาทา่ ทางอยา่ งสภุ าพ ๒. ทักษะ ประกอบกิริยาทา่ ทาง อย่างสุภาพ ตามมารยาทสงั คมและ การนำความรู้ ดว้ ยวดี ทิ ัศน์ หรือการสาธิต เหมาะสม วัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ไปใช้ ๒. ฝึกปฏบิ ัติใช้ถอ้ ยคำ ตามมารยาท ผู้เรยี นทำอะไรได้ น้ำเสยี ง กิรยิ าทา่ ทาง สังคมและ พดู ด้วยนำ้ เสียงและกิรยิ า ตามแบบอยา่ งท่ไี ดศ้ กึ ษา วัฒนธรรม ท่าทางสุภาพ ตามมารยาท ๓. กำหนดสถานการณ ์ ของเจ้าของ สังคมและวฒั นธรรมของ เพอื่ แสดงบทบาทสมมติ ภาษา เจ้าของภาษา ๒. ให้ขอ้ มลู ผู้เรียนร้อู ะไร ๑. ทักษะ ๑. สมุดภาพ ๑. กำหนดเร่อื ง/จุดประสงค ์ เก่ียวกับ ขอ้ มลู เกี่ยวกับเทศกาล/ การรวบรวม เกย่ี วกับเทศกาล/ เพอื่ เกบ็ รวบรวมข้อมลู เทศกาล/ วนั สำคญั /งานฉลอง และ ขอ้ มลู วนั สำคญั / เกยี่ วกบั เทศกาล/วันสำคัญ/ วนั สำคัญ/ ชีวิตความเป็นอย่ขู อง ๒. ทักษะ งานฉลอง และ งานฉลองและชวี ิตความเปน็ อย ู่ งานฉลอง/ เจ้าของภาษา การนำความรู้ ชวี ิตความเปน็ อยู่ ของเจ้าของภาษา ชีวติ ความ ผเู้ รยี นทำอะไรได้ ไปใช้ ของเจ้าของภาษา ๒. กำหนดวธิ กี าร/ เป็นอยูข่ อง ให้ขอ้ มลู เกี่ยวกบั เทศกาล/ ๒. การพูด แหลง่ เรียนรู้ทจ่ี ะหาขอ้ มูล เจ้าของภาษา วันสำคญั /งานฉลองและ นำเสนอผลงาน ๓. เกบ็ รวบรวมข้อมลู ชีวิตความเป็นอยู่ของ ๓. ปา้ ยนเิ ทศ ๔. จดั ทำสมดุ ภาพและนำ เจา้ ของภาษา เสนอรายงานดว้ ยการพูด ๕. จัดปา้ ยนิเทศตามเทศกาล วนั สำคญั ฯลฯ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรูเ้ พื่อพฒั นาทักษะการคดิ ระดบั ประถมศึกษา 149 กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ
ตวั ชว้ี ัด ผเู้ รยี นรู้อะไร/ทำอะไรได้ ทกั ษะการคดิ ชนิ้ งาน/ แนวการจดั การเรยี นรู้ ภาระงาน เพอื่ พฒั นาทักษะการคดิ ๓. เขา้ รว่ ม ผู้เรยี นรูอ้ ะไร ทกั ษะการนำ รายงานผลการจดั ๑. ทบทวนคำศัพท์และ กจิ กรรม กจิ กรรมทางภาษาและ ความรไู้ ปใช ้ กิจกรรมทางภาษา เทศกาล/วันสำคัญ ทางภาษาและ วัฒนธรรม ๒. ทบทวนกิจกรรม วัฒนธรรม ผูเ้ รียนทำอะไรได้ ท่เี คยจดั ข้ึน ตาม เข้าร่วมกจิ กรรมทางภาษา ๓. วางแผนจัดกจิ กรรมทีจ่ ะ ความสนใจ และวัฒนธรรมตาม จดั ข้นึ ในวนั สำคญั ดงั กลา่ ว ความสนใจ ๔. จดั กจิ กรรมตามแผน ๕. รายงานผลการจัด กจิ กรรมทางภาษา 150 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรเู้ พ่ือพัฒนาทกั ษะการคดิ ระดบั ประถมศึกษา กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ
สาระท่ี ๒ ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต ๒.๒ เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กับภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใชอ้ ยา่ งถูกต้องและเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตวั ช้ีวดั ผ้เู รียนร้อู ะไร/ทำอะไรได ้ ทกั ษะการคดิ ชิน้ งาน/ แนวการจัดการเรยี นร ู้ ภาระงาน เพอ่ื พัฒนาทักษะการคิด ๑. บอกความ ผู้เรียนรอู้ ะไร ๑. ทกั ษะ รายงาน ๑. สงั เกตและอ่านออกเสยี ง เหมอื น/ ความเหมือน/ การระบุ ความเหมอื น เรอื่ ง/นิทาน ทง้ั ภาษาต่างประเทศ ความแตกตา่ ง ความแตกต่างระหวา่ ง ๒. ทกั ษะ ความแตกตา่ ง และภาษาไทย ระหวา่ ง การออกเสียงประโยคชนิด การเปรยี บเทยี บ การออกเสยี ง ๒. จำแนกลักษณะโครงสรา้ ง การออกเสียง ต่าง ๆ การใชเ้ ครอื่ งหมาย ๓. ทักษะ ห กวกภตตปปราา่าาารรนรรรงมษะะงั คใลปโโโาสชยยคตไำรอื้เทดะคคอรคเเยงับขชนลรทส คอน่อื่มศรแำงดิงเา้แ ภลลหตงลาะ็กม่าษะ ง าายๆ ๑๓๔๕กวปตเคควปตตรชแภคขจะ.รรวอลานาา.่าวาว.รร. า้ รรหรามงมษะะาางะดิขเกรสมคคใปมมโโควโโาปกะตอชำแรยยคคตตตรา่เแำบราหุป้เ่างตหงะคคอรรอ่าตรียคงุเภนกกคกเงงงมปเชนนกบรทารสสตปกาดลวๆือนร่ือษตเยีรศ่าารรารยีใแุแ่มทนดิงงอ่าามงรกหา้้าะแบลลคหรียงกแตลงงใอเราลร้ะเขชะะำปปทมบบัลา่รำู้แกทวหะกกอ้เงดใรรศาคะขบลปเียควภชาายะะงสับคแอว่าะรๆบรรรราโ้เโโวงียาควลวะงเคื่อษคลลยยคกรมขขมไางโำะรงราำำวคคราทมยียปเ อขอื่ภไหดดงราคหขรยทนคแรอสมงอ้งาับบัมะตอมะ ตยแอรษหเรมหคคาองหโือา้ากกล ามยูลยภวำำยนงมนไเตะ าา่สค าทง อื/ ยงา่ษายียนงนงา / ประโยคชนิด วรรคตอนและการลำดับคำ การจำแนก ต่าง ๆ การใช้ ตามโครงสร้างประโยคของ ประเภท เคร่อื งหมาย ภาษาตา่ งประเทศและ วรรคตอน ภาษาไทย และการ ผู้เรยี นทำอะไรได้ ลำดบั คำตาม บอกความเหมือน/ โครงสรา้ ง ความแตกต่างระหว่าง ประโยคของ การออกเสียงประโยคชนดิ ภาษา ต่าง ๆ การใชเ้ ครื่องหมาย ต่างประเทศ วรรคตอน และ และภาษาไทย การลำดับคำ (order) ตามโครงสร้างประโยค ของภาษาต่างประเทศ และภาษาไทย ๒. เปรียบเทยี บ ผูเ้ รียนรอู้ ะไร ๑. ทักษะ ความเหมือน/ ความเหมือน/ความแตกต่าง การรวบรวม เกยี่ วกับเทศกาล งานฉลอง ความแตกต่าง ระหว่างเทศกาล งานฉลอง ข้อมูล และประเพณีตามวฒั นธรรมของ ระหวา่ งเทศกาล และประเพณีของเจ้าของ ๒. ทักษะ เจา้ ของภาษาและของไทย งานฉลอง ภาษากบั ของไทย การเปรยี บเทียบ ๒. นำเสนอผล/ขอ้ มลู ทร่ี วบรวมได้ และประเพณี ผู้เรยี นทำอะไรได้ ๓. เปรียบเทยี บความเหมอื น/ ของเจา้ ของ เปรียบเทยี บความเหมือน/ ความแตกตา่ ง ภาษากับ ความแตกตา่ งระหว่าง ๔. จดั ทำหนังสือเล่มเลก็ ของไทย เทศกาล งานฉลอง และ เกยี่ วกบั เทศกาล งานฉลอง ประเพณีของเจา้ ของภาษา และประเพณีตามวัฒนธรรม กับของไทย ของเจ้าของภาษากบั ของไทย แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้เพือ่ พฒั นาทักษะการคดิ ระดับประถมศกึ ษา 151 กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ
สาระที่ ๓ ภาษากบั ความสัมพนั ธก์ ับกลมุ่ สาระการเรยี นรู้อนื่ มาตรฐาน ต ๓.๑ ใช้ภาษาต่างประเทศในการเช่ือมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อื่น และ เปน็ พื้นฐานในการพฒั นา แสวงหาความรู้ และเปิดโลกทัศน์ของตน ตัวชี้วดั ผู้เรียนร้อู ะไร/ทำอะไรได้ ทกั ษะการคดิ ชิน้ งาน/ แนวการจดั การเรียนร ู้ ภาระงาน เพ่ือพฒั นาทกั ษะการคิด ๑. คน้ ควา้ ผเู้ รยี นร้อู ะไร ๑. ทกั ษะ แผนผังความคดิ ๑. กำหนดเร่ืองที่จะรวบรวม รวบรวม การค้นคว้า การรวบรวม การรวบรวม (Mind Map) คำศพั ท์ เช่น สตั ว์ ธรรมชาติ คำศัพทท์ ี่ และการนำเสนอคำศัพทท์ ่ี ข้อมูล สิง่ ทีอ่ ยู่รอบตวั อปุ กรณไ์ ฟฟ้า เกี่ยวข้อง เกยี่ วข้องกบั กลมุ่ สาระ ๒. ทักษะ อเิ ลก็ ทรอนิกส์ ฯลฯ กับกลุม่ สาระ การเรียนรู้อ่นื การจำแนก ๒. เลอื กวิธกี ารค้นคว้า การเรียนรู้อื่น ผูเ้ รยี นทำอะไรได ้ ประเภท รวบรวมคำศพั ท์ทีเ่ หมาะสม จากแหลง่ คน้ คว้า รวบรวม และ ๓. ทักษะ เชน่ ห้องสมดุ อินเทอร์เน็ต การเรยี นรู้ นำเสนอคำศพั ท์ทเี่ กยี่ วข้อง การเช่อื มโยง ๓. ค้นคว้า รวบรวมคำศพั ท ์ และนำเสนอ กับกลุ่มสาระการเรียนรูอ้ นื่ ๔. จำแนกประเภทคำศพั ท์ ดว้ ยการพูด/ ดว้ ยการพดู /การเขียน ๕. จัดทำแผนผงั ความคิด การเขยี น (Mind Map) เก่ยี วกบั เรอ่ื งท่ี ค้นควา้ โดยเลอื กเพยี ง ๔ เรือ่ งที่สนใจ และนำเสนอ ความเช่อื มโยง 152 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรเู้ พอ่ื พัฒนาทักษะการคิด ระดบั ประถมศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรยี นรูภ้ าษาต่างประเทศ
สาระที่ ๔ ภาษากบั ความสัมพันธ์กบั ชุมชนและโลก มาตรฐาน ต ๔.๑ ใชภ้ าษาต่างประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชมุ ชน และสงั คม ตวั ชวี้ ัด ผเู้ รยี นรอู้ ะไร/ทำอะไรได ้ ทกั ษะการคดิ ชน้ิ งาน/ แนวการจดั การเรียนรู้ ภาระงาน เพอื่ พฒั นาทกั ษะการคดิ ๑. ใช้ภาษา ผูเ้ รียนรอู้ ะไร ๑. ทักษะ ๑. การเขยี นเรอื่ ง ๑. กำหนดบทอ่านท่เี ป็น สื่อสารใน ประโยคที่ใชส้ ือ่ สารใน การแปลความ ตามลำดบั สถานการณท์ ่เี กดิ ขน้ึ ใน สถานการณ์ สถานการณต์ า่ ง ๆ ใน ๒. ทักษะ เหตุการณ์ใน หอ้ งเรยี นและสถานศกึ ษา ตา่ ง ๆ ท ี่ หอ้ งเรยี นและสถานศึกษา การตคี วาม แผนผังความคิด ๒. ศกึ ษาบทอ่าน เกิดขึน้ ใน ผู้เรยี นทำอะไรได้ ๓. ทักษะ (Mind Map) หาความหมาย แปลความ ห้องเรียนและ ใช้ภาษาส่อื สารใน การเชือ่ มโยง ๒. บทสนทนา และตคี วาม โดยเชอื่ มโยง สถานศกึ ษา สถานการณ์ต่าง ๆ ๔. ทกั ษะ ๓. การแสดง ขอ้ มลู ท่มี อี ยู่ ทเ่ี กดิ ข้นึ ในห้องเรียน การนำความร ู้ บทบาทสมมติ ๓. นำคำ/ประโยคมาจัดกลุ่ม และสถานศกึ ษา ไปใช ้ เขียน Mind Map ๔. แตง่ ประโยคจากคำ และ ประโยคเพิม่ เตมิ ใน Mind Map ๕. เรียงลำดบั ประโยคตาม ลำดบั เหตกุ ารณ์จาก Mind Map และเชือ่ มโยง เขยี นเป็นเรื่องราว ๖. เขียนบทสนทนา สถานการณ์ทีเ่ กดิ ข้ึนใน หอ้ งเรียน/สถานศกึ ษาใหม่ ตามความสนใจของนกั เรียน โดยเลยี นแบบสถานการณเ์ ดิม ๗. แสดงบทบาทสมมต ิ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรเู้ พอื่ พฒั นาทกั ษะการคดิ ระดบั ประถมศึกษา 153 กล่มุ สาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ
สาระที่ ๔ ภาษากบั ความสัมพนั ธก์ บั ชมุ ชนและโลก มาตรฐาน ต ๔.๒ ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการแลกเปล่ยี นเรยี นร้กู ับสงั คมโลก ตวั ช้ีวดั ผ้เู รยี นร้อู ะไร/ทำอะไรได้ ทกั ษะการคดิ ชนิ้ งาน/ แนวการจัดการเรียนรู้ ภาระงาน เพอ่ื พัฒนาทักษะการคดิ ๑. ใช้ภาษา ผ้เู รยี นร้อู ะไร ทักษะ รายงานผล ๑. กำหนดสิ่งหรอื หวั ขอ้ ต่างประเทศ คำศพั ทท์ ใ่ี ชใ้ นการสบื คน้ การสำรวจคน้ หา การสบื คน้ ขอ้ มลู ทีจ่ ะไปสำรวจคน้ หา ในการสบื คน้ และรวบรวมข้อมูล ๒. กำหนดวิธีการทีจ่ ะค้นหา และรวบรวม ผู้เรยี นทำอะไรได้ สิง่ /เรือ่ งทก่ี ำหนด เชน่ ข้อมลู ต่าง ๆ ใช้ภาษาตา่ งประเทศ คน้ หาจากห้องสมดุ Internet ในการสืบคน้ และรวบรวม หนงั สือพมิ พ์ ฯลฯ คำศัพท์ทเ่ี กี่ยวขอ้ งใกลต้ ัว ๓. ใชว้ ิธีการทก่ี ำหนดใน จากสื่อและแหลง่ การเรยี นรู้ การคน้ หาสิ่ง/เร่ืองท่ตี อ้ งการ ต่าง ๆ ๔. รวบรวมข้อมูลท่ไี ดจ้ าก การสำรวจค้นหา ๕. จัดทำรายงานผล การสบื คน้ ข้อมลู ๖. นำเสนอขอ้ มูลทไ่ี ด้จาก การสืบค้น 154 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรเู้ พ่อื พฒั นาทักษะการคดิ ระดบั ประถมศึกษา กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ
✦ การจัดกิจกรรมการเรยี นรเู้ พื่อพฒั นาทกั ษะการคิด การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพ่ือพัฒนาทักษะการคิด เป็นการวิเคราะห์ ต่อเนื่องจากการวิเคราะห์ตัวช้ีวัด โดยวิเคราะห์ใน ๖ ประเด็น คือ ความสัมพันธ์/เช่ือมโยงของตัวช้ีวัดแต่ละตัวที่จะนำมาจัดกิจกรรม การเรียนรู้ร่วมกันได้ ความคิดรวบยอด สาระการเรียนรู้ ทักษะการคิด ชนิ้ งาน/ภาระงาน และแนวการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ Feature
สาระที่ ๑ ภาษาเพอื่ การสื่อสาร มาตรฐาน ต ๑.๑ เข้าใจและตีความเรื่องท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อยา่ งมีเหตุผล มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และความคดิ เหน็ อยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ความคดิ สาระ ทักษะการคิด ชน้ิ งาน/ แนวการจัดกจิ กรรม ตัวชวี้ ัด รวบยอด การเรยี นรู้ ภาระงาน การเรยี นรู้ สาระที่ ๑ ภาษา การเขา้ ใจคำสั่ง ๑. ลักษณะ ๑. ทักษะ ๑. รายงาน ๑. ศกึ ษาและสังเกต เพื่อการส่ือสาร คำขอรอ้ ง ทางภาษา การสงั เกต การจำแนก การใชแ้ ละการปฏบิ ัติ มาตรฐาน ต ๑.๑ คำแนะนำ และ (Language ๒. ทักษะ กลุม่ คำ ตามคำสั่ง คำขอร้อง ๑. ปฏบิ ัตติ าม คำขออนุญาต Feature) การระบุ ๒. การแสดง คำแนะนำ และ คำสงั่ คำขอร้อง ทำใหใ้ ชแ้ ละ - Verb ๓. ทกั ษะ บทบาทสมมติ คำขออนุญาต และคำแนะนำ ปฏบิ ตั ติ ามได้ - Noun การรวบรวม สถานการณ ์ จากสื่อตา่ ง ๆ ที่ฟังและอ่าน อย่างถูกต้อง ๒. หนา้ ท ่ี ข้อมูล ในการใชค้ ำสง่ั ๒. รวบรวมและ มาตรฐาน ต ๑.๒ ของภาษา ๔. ทักษะ คำขอรอ้ ง จำแนกประโยคคำสั่ง ๒. ใชค้ ำสงั่ (Language การจำแนก คำขออนุญาต คำขอรอ้ ง คำแนะนำ คำขอรอ้ ง Function) ประเภท คำแนะนำ และคำขออนุญาต คำขออนุญาต ๑) คำสั่ง ๕. ทักษะ จากสอ่ื ที่สังเกต และให ้ ๒) คำขอร้อง การเรยี งลำดบั ๓. เรียงลำดบั ประโยค คำแนะนำ ๓) คำขออนญุ าต ๖. ทักษะ คำสัง่ คำขอรอ้ ง ๔) คำแนะนำทีม่ ี การนำความร้ ู คำแนะนำ และคำขอ ๒-๓ ขน้ั ตอน ไปใช้ อนุญาต ทีม่ ีมากกว่า เกี่ยวกบั การเล่น ๑ ขั้นตอน เกม การวาดภาพ ๔. ฝกึ การใช้และปฏบิ ตั ิ การทำอาหาร ตามคำส่งั คำขอร้อง และเคร่อื งด่ืม คำแนะนำ คำขออนญุ าต และการประดษิ ฐ์ ตามที่ได้ศกึ ษา ๕. จัดทำรายงาน การจำแนกกลมุ่ คำ ไดแ้ ก่ คำส่งั คำขอรอ้ ง คำแนะนำ คำขออนุญาต ๖. กำหนดสถานการณ ์ เพ่อื นำกลุ่มคำไปใช ้ ๗. แสดงบทบาท สมมติตามสถานการณ ์ ทกี่ ำหนดขน้ึ 156 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้เพอ่ื พัฒนาทักษะการคดิ ระดบั ประถมศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ
สาระที่ ๑ ภาษาเพื่อการสอื่ สาร มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปล่ียนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และความคิดเหน็ อย่างมปี ระสิทธิภาพ สาระที่ ๒ ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต ๒.๑ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได ้ อย่างเหมาะสมกับกาลเทศะ สาระที่ ๔ ภาษากับความสัมพนั ธก์ ับชมุ ชนและโลก มาตรฐาน ต ๔.๑ ใช้ภาษาต่างประเทศในสถานการณต์ า่ ง ๆ ทง้ั ในสถานศึกษา ชมุ ชน และสังคม ตวั ชวี้ ดั ความคิด สาระ ทกั ษะการคดิ ชิน้ งาน/ แนวการจัดกิจกรรม รวบยอด การเรียนร้ ู ภาระงาน การเรยี นร ู้ สาระที่ ๑ ภาษา การเขา้ ใจภาษา ๑. ลักษณะทางภาษา ๑. ทกั ษะ ๑. เขียนบท ๑. กำหนดใหส้ ังเกต เพ่อื การสื่อสาร และวฒั นธรรม (Language การสังเกต สนทนา การพูด/เขยี นโตต้ อบ มาตรฐาน ต ๑.๒ ของเจ้าของภาษา Feature) ๒. ทกั ษะ ๒. การแสดง การใชถ้ ้อยคำ ๑. พดู /เขยี นโตต้ อบ ทำใหส้ ามารถ - Present Tense การแปลความ บทบาทสมมติ น้ำเสยี ง และกิรยิ า สอื่ สาร - Noun ๓. ทกั ษะ ท่าทางในการสื่อสาร ในการสอ่ื สาร ในสถานการณ ์ - Verb การตีความ ระหวา่ งบคุ คลใน ระหวา่ งบคุ คล ต่าง ๆ ทง้ั - Adjective ๔. ทกั ษะ สถานการณ์ตา่ ง ๆ สาระที่ ๒ ภาษา การส่ือสาร - การขออนุญาต การเชื่อมโยง ที่เกิดขึ้นในห้องเรียน และวัฒนธรรม ระหวา่ งบคุ คล May I…? ๕. ทกั ษะ และสถานศกึ ษา มาตรฐาน ต ๒.๑ และการส่ือสาร ๒. หนา้ ท่ขี องภาษา การนำความรู ้ ๒. แปลความ ๑. ใชถ้ อ้ ยคำ น้ำเสียง ทเี่ กดิ ขึ้น (Language ไปใช้ ตีความบทสนทนา และกริ ิยาทา่ ทาง ในหอ้ งเรียนและ Function) ๓. ฝกึ พูดโต้ตอบ อยา่ งสุภาพ สถานศกึ ษาได้ ๑) บทสนทนาทใี่ ช้ ในการสอ่ื สารระหวา่ ง เหมาะสม ตาม ในการทกั ทาย กลา่ วลา บุคคลจากบทสนทนา มารยาทสังคม ทก่ี ำหนดให ้ และวฒั นธรรม อย่างเหมาะสม ขอบคณุ ขอโทษ ๔. เชื่อมโยงความร ู้ ของเจา้ ของ ถกู ต้องตาม ชมเชย การพูด ส่กู ารฝึกปฏิบัตใิ น ภาษา มารยาทสังคม แทรกอย่างสุภาพ สถานการณต์ า่ ง ๆ สาระท่ี ๔ ภาษากบั และวัฒนธรรม - ประโยคขอ้ ความ ท้ังการพดู และ ความสัมพนั ธ์กบั ของเจ้าของภาษา ทใี่ ช้แนะนำตนเอง การเขยี น ชุมชนและโลก เพ่อื นและบคุ คล ๕. เขียนบทสนทนา มาตรฐาน ต ๔.๑ ใกลต้ วั สำนวน ตามสถานการณ์ ๑. ใชภ้ าษาส่อื สาร ตอบรับ ๖. แสดงบทบาท ในสถานการณ์ ๒) การใช้ถอ้ ยคำ สมมต ิ ตา่ ง ๆ ท่ีเกดิ ขน้ึ นำ้ เสียงและกิรยิ า ในห้องเรียน ทา่ ทางตามมารยาท และสถานศกึ ษา สังคมและวัฒนธรรม ของเจ้าของภาษา ๓) การใช้ภาษา สอ่ื สารในสถานการณ ์ ตา่ ง ๆ ทีเ่ กิดข้นึ ในห้องเรียนและ สถานศกึ ษา แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรเู้ พอ่ื พัฒนาทักษะการคิด ระดบั ประถมศึกษา 157 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
สาระที่ ๑ ภาษาเพือ่ การสอื่ สาร มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทักษะการสื่อสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และความคดิ เห็นอย่างมปี ระสิทธิภาพ มาตรฐาน ต ๑.๓ นำเสนอข้อมูลข่าวสาร ความคิดรวบยอด และความคิดเห็นในเร่ืองต่าง ๆ โดยการพดู และการเขียน ความคิด สาระ ทกั ษะการคดิ ชน้ิ งาน/ แนวการจัดกิจกรรม ตวั ชี้วัด รวบยอด การเรียนรู ้ ภาระงาน การเรียนรู ้ สาระท่ี ๑ ภาษา การเข้าใจ ๑. ลักษณะ ๑. ทกั ษะ การแสดงบทบาท ๑. รวบรวมและ เพือ่ การสอื่ สาร ประโยคทใ่ี ช้ใน ทางภาษา การตัง้ คำถาม สมมต ิ ฝกึ พูดคำศัพท ์ มาตรฐาน ต ๑.๒ การพดู /เขียน (Language ๒. ทกั ษะ สำนวนภาษา ๓. พดู /เขียน เพ่อื ขอและให้ Feature) การระบุ ประโยค ทีใ่ ช้ใน แสดงความ ขอ้ มลู บอก - Greeting ๓. ทักษะ การพูดขอและใหข้ อ้ มลู ตอ้ งการ ความต้องการ - สำนวนในการ การรวบรวม ขอความชว่ ยเหลอื ขอความ ขอ ตอบรับ แนะนำตวั เอง ข้อมลู ตอบรบั /ปฏเิ สธ ชว่ ยเหลือ หรือปฏิเสธ - คำศพั ท์ ๔. ทักษะ การให้ความช่วยเหลอื ตอบรบั และ ความช่วยเหลอื สำนวนภาษา การสรปุ อ้างอิง การแสดงความรูส้ กึ ปฏิเสธการให้ แสดงความรูส้ กึ เพ่ือบอก ๕. ทักษะ การแสดงความคิดเหน็ ความชว่ ยเหลือ และแสดง ความตอ้ งการ การให้เหตุผล ตลอดจนการให้ ในสถานการณ์ ความคิดเห็น ขอความชว่ ยเหลอื / ๖. ทักษะ เหตุผลประกอบ งา่ ย ๆ เกยี่ วกบั ตนเอง ตอบรับ เชน่ การนำความรู้ จากส่อื ต่าง ๆ และเร่ืองใกลต้ วั ความชว่ ยเหลือ ๒. ระบโุ ครงสรา้ ง ๔. พูดและเขียน Please…/ ไปใช้ เพ่อื ขอและ ทำให้การส่ือสาร May…?/ ประโยค การใช้ ใหข้ อ้ มลู มีประสทิ ธิภาพ I need… เคร่อื งหมายวรรคตอน เกยี่ วกบั - การตอบรับและ และการนำไปใช ้ ตนเอง เพ่อื น ปฏิเสธการให ้ ๓. ฝกึ พูด/เขยี นต้งั ครอบครวั การชว่ ยเหลือ และเรอ่ื งใกล้ตัว Yes,…/No,… และตอบคำถามตาม ๕. พูด/เขียน - สำนวนภาษา โครงสร้างประโยคที่ แสดงความ เพ่อื ขอและ ศกึ ษา รู้สึกของตนเอง ใหข้ ้อมูลเกี่ยวกับ ๔. กำหนดหัวขอ้ เกย่ี วกับ ตนเอง เพ่อื น เร่ืองใกลต้ ัว รวบรวม เร่อื งต่าง ๆ ครอบครวั และ ข้อมูลเกีย่ วกบั หัวขอ้ ใกลต้ ัว เรือ่ งใกล้ตวั เพ่ือนำมาอภปิ ราย กจิ กรรมต่าง ๆ What do you ๕. สรปุ อา้ งองิ ลง พร้อมทั้งให้ do? I’m… ความเห็น/แสดง 158 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรเู้ พ่ือพัฒนาทักษะการคดิ ระดับประถมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ
ตวั ชี้วดั ความคดิ สาระ ทักษะการคดิ ช้นิ งาน/ แนวการจัดกิจกรรม เหตผุ ลส้นั ๆ รวบยอด การเรียนรู้ ภาระงาน การเรยี นรู ้ ประกอบ มาตรฐาน ต ๑.๓ What is she/ ความรสู้ ึกเกย่ี วกับ ๑. พูด/เขียนให้ he? หัวขอ้ พร้อมให้ ขอ้ มลู เกย่ี วกับ She/he is… เหตผุ ล ตนเอง เพื่อน How old are you? ๖. เขียนบทสนทนา และ I am….. การขอและใหข้ อ้ มูล สิง่ แวดล้อม - บอกความรู้สกึ ขอความชว่ ยเหลือ ใกล้ตวั เช่น I like… ตอบรบั /ปฏิเสธ ๓. พดู /เขยี น because… การใหค้ วามชว่ ยเหลอื แสดง She feels… แสดงความรสู้ ึก ความคดิ เห็น He likes... แสดงความคิดเห็น เกยี่ วกบั เรอ่ื ง He doesn’t like… ๗. แสดงบทบาท ตา่ ง ๆ ใกลต้ ัว ๒. หนา้ ที่ของภาษา สมมติ (Language Function) ๑) การทักทาย ๒) การแนะนำ ตนเอง ๓) การบอก ความต้องการ ๔) การขอ ความช่วยเหลอื การตอบรับและ ปฏเิ สธการให ้ ความช่วยเหลอื ๕) การขอและให ้ ขอ้ มลู เกีย่ วกบั ตนเอง เพ่อื น ครอบครวั และเร่ืองใกล้ตวั ๖) การบอก ความรู้สกึ เกี่ยวกับ ตนเองและ เร่อื งใกลต้ วั ๗) การแสดง ความคิดเหน็ เกีย่ วกับเร่อื ง ตา่ ง ๆ ใกล้ตัว แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรเู้ พอื่ พฒั นาทกั ษะการคิด ระดบั ประถมศกึ ษา 159 กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ
สาระท่ี ๑ ภาษาเพือ่ การสอื่ สาร มาตรฐาน ต ๑.๑ เข้าใจและตีความเรื่องที่ฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อย่างมีเหตผุ ล ความคิด สาระ ทักษะการคดิ ชน้ิ งาน/ แนวการจดั กิจกรรม ตวั ชวี้ ดั รวบยอด การเรียนร้ ู ภาระงาน การเรยี นร ู้ สาระท่ี ๑ ภาษา การฟังและ ๑. ลักษณะ ๑. ทักษะ ๑. การแบง่ กลมุ่ ๑. ฟงั /อ่าน บทอ่าน เพอื่ การส่อื สาร การอ่านจับใจความ ทางภาษา การตั้งคำถาม ตั้งและตอบคำถาม บทสนทนานิทาน มาตรฐาน ต ๑.๑ สำคญั ช่วยให ้ (Language ๒. ทกั ษะ ๒. เขียนสรุป ง่าย ๆ และเรื่องเล่า ๔. บอกใจความ เขา้ ใจเร่อื งราวที่ Feature) การแปลความ เร่อื งท่ีฟัง/อ่าน จากสือ่ ตา่ ง ๆ สำคัญและ ฟงั และอ่านไดด้ ี - Noun ๓. ทักษะ ตอบคำถาม ขนึ้ - Wh-question การตีความ ๒. แปลความ จากการฟัง - Yes-No ๔. ทกั ษะ ตคี วาม และสรปุ และอา่ น question การสรปุ ย่อ ประเด็นสำคัญ บทสนทนา ๓. ระบุ topic นิทานง่าย ๆ - Or-question sentence, และเร่ืองเล่า ๒. หนา้ ท ี ่ main idea, details ของภาษา ๔. เรียบเรียง (Language เหตุการณ์และ Function) ความหมายที่จำเป็น ๑) คำ สำนวน ในการเขา้ ใจเรอ่ื ง ประโยคในนทิ าน ตามลำดับเหตกุ ารณ์ บทสนทนา ๕. พดู นำเสนอ ๒) คำถาม ข้อมูลจากเรอื่ ง เกี่ยวกับใจความ ทฟ่ี งั /อา่ น สำคัญของเรือ่ ง ๖. แบ่งกลมุ่ ตั้งและ Who-ใคร ตอบคำถามจาก What-ทำอะไร เรือ่ งที่ฟัง/อ่าน Where-ทไี่ หน ๗. เขยี นสรปุ When-เมื่อไหร ่ ใจความสำคญั Why-ทำไม ของเร่อื ง How-อย่างไร 160 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้เพ่อื พฒั นาทักษะการคดิ ระดบั ประถมศึกษา กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ
สาระที่ ๑ ภาษาเพอื่ การสื่อสาร มาตรฐาน ต ๑.๑ เข้าใจและตีความเร่ืองท่ีฟังและอ่านจากส่ือประเภทต่าง ๆ และแสดงความคิดเห็น อยา่ งมเี หตุผล สาระท่ี ๒ ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต ๒.๒ เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กับภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใช้อย่างถูกต้องและเหมาะสม ความคดิ สาระ ทกั ษะการคดิ ชิน้ งาน/ แนวการจัดกจิ กรรม ตวั ชีว้ ัด รวบยอด การเรียนรู้ ภาระงาน การเรยี นรู้ สาระท่ี ๑ ภาษา การอา่ นออกเสยี ง ๑. ลักษณะ ๑. ทักษะ ๑. รายงานตาราง ๑. ระบุบทอา่ น จาก เพ่อื การสือ่ สาร ประโยค ทางภาษา การระบุ การเปรียบเทยี บ นิทานส้นั ๆ ทงั้ ภาษา มาตรฐาน ต ๑.๑ ข้อความ นิทาน (Language ๒. ทักษะ การอา่ นออกเสียง ต่างประเทศ ๒. อา่ นออกเสียง และบทกลอน Feature) การจำแนก การใชเ้ ครื่องหมาย และภาษาไทย ข้อความ สน้ั ๆ ช่วยให ้ - Noun ประเภท วรรคตอน และ (บทอา่ นเร่ืองเดียวกัน) นทิ านและ ผู้เรียนอา่ น - Phrase ๓. ทักษะ การลำดับคำ ๒. เปรยี บเทียบ บทกลอนสนั้ ๆ ถูกต้องตามหลกั - Punctuation การเปรยี บเทยี บ ระหวา่ งภาษา ความแตกตา่ งใน ถูกตอ้ งตาม การอ่าน สามารถ - Time-Order ๔. ทักษะ ตา่ งประเทศ การใชเ้ ครือ่ งหมาย หลักการอ่าน บอกความเหมือน - Reading การนำความร้ ู และภาษาไทย วรรคตอน และ สาระท่ี ๒ ภาษา และความแตกต่าง - Pronunciation ไปใช้ ๒. การอ่านออก การลำดบั คำตาม และวัฒนธรรม ระหว่างการใช้ ๒. หนา้ ท ่ี เสยี ง ขอ้ ความ โครงสร้างประโยค มาตรฐาน ต ๒.๒ เครื่องหมาย ของภาษา นทิ าน และ ๓. อ่านออกเสียง ๑. บอกความ วรรคตอน และ (Language บทกลอนส้ัน ๆ และเขยี นบนั ทกึ เหมอื น/ การลำดับคำ Function) ๓. แบบฝกึ หดั ความเหมอื นและ ความแตกตา่ ง (order) ตาม ๑) คำศพั ท์ วล ี การใช้ ความแตกตา่ งทีพ่ บ ระหว่าง โครงสรา้ ง ประโยคในนิทาน เครื่องหมาย ในการออกเสียง การออกเสียง ประโยค บทกลอน วรรคตอน และ ๔. จำแนกประเภท ประโยคชนิด ของภาษา ๒) การใช้ การลำดับคำตาม ของขอ้ ความที่มี ตา่ ง ๆ การใช้ ตา่ งประเทศ พจนานุกรม โครงสรา้ ง ความเหมือนและ เครือ่ งหมาย และภาษาไทย ๓) หลกั การ ประโยค แตกตา่ งของเรอื่ งที่อ่าน วรรคตอน ออกเสยี ง เช่น ๕. จัดทำตารางผล และการลำดบั - การจัดลำดับ การเปรยี บเทียบ คำตาม เรอื่ งในนทิ าน จำแนกตามประเภท โครงสรา้ ง First, Second, ของการจัดกลุ่ม ประโยคของ Third, Finally ความเหมือนและ แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นร้เู พือ่ พัฒนาทกั ษะการคดิ ระดบั ประถมศกึ ษา 161 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
ตวั ช้วี ดั ความคิด สาระ ทกั ษะการคดิ ชน้ิ งาน/ แนวการจัดกิจกรรม ภาษา รวบยอด การเรยี นร้ ู ภาระงาน การเรียนร้ ู ตา่ งประเทศ และภาษาไทย - การออกเสยี ง ความแตกต่าง พยัญชนะ ระหวา่ งภาษา ตน้ -ท้ายคำ ต่างประเทศและ - การออกเสียง ภาษาไทย ทัง้ การอา่ น หนกั -เบา ออกเสยี ง การใช้ - การออกเสียง เครือ่ งหมาย สงู -ต่ำ วรรคตอน - การออกเสยี ง การลำดับคำ ตาม เชอ่ื มโยง โครงสรา้ งประโยค - การอ่านออก และนำเสนอ เสยี งนิทาน ๖. อา่ นออกเสยี ง บทกลอน ข้อความ นทิ าน และ ตามจังหวะ บทกลอนสัน้ ๆ ๔) การใช้ ตามหลักการอา่ น เคร่ืองหมาย ๗. ทำแบบฝกึ หดั วรรคตอน และ การใชเ้ ครือ่ งหมาย การลำดบั คำ วรรคตอน และ ตามโครงสร้าง การลำดบั คำตาม ประโยคของ โครงสรา้ งประโยค ภาษาต่างประเทศ และภาษาไทย ๕) ความเหมอื น ความแตกต่าง ระหวา่ งการออก เสียงประโยค ชนิดตา่ ง ๆ ของ เจ้าของภาษา และของไทย 162 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้เพอ่ื พัฒนาทกั ษะการคิด ระดับประถมศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาต่างประเทศ
สาระท่ี ๑ ภาษาเพอ่ื การสอื่ สาร มาตรฐาน ต ๑.๑ เข้าใจและตีความเรื่องท่ีฟังและอ่านจากสื่อประเภทต่าง ๆ และแสดง ความคดิ เหน็ อยา่ งมีเหตผุ ล สาระท่ี ๓ ภาษากบั ความสัมพันธก์ บั กลมุ่ สาระการเรียนรูอ้ นื่ มาตรฐาน ต ๓.๑ ใช้ภาษาต่างประเทศในการเชื่อมโยงความรู้กับกลุ่มสาระการเรียนรู้อ่ืน และ เปน็ พน้ื ฐานในการพัฒนา แสวงหาความรู้และเปดิ โลกทัศน์ของตน สาระท่ี ๔ ภาษากบั ความสมั พนั ธก์ ับชุมชนและโลก มาตรฐาน ต ๔.๒ ใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเคร่ืองมือพื้นฐานในการศึกษาต่อ การประกอบอาชีพ และการแลกเปลี่ยนเรียนรกู้ ับสงั คมโลก ความคิด สาระ ทักษะการคดิ ชนิ้ งาน/ แนวการจดั กิจกรรม ตวั ชว้ี ดั รวบยอด การเรียนรู้ ภาระงาน การเรยี นรู้ สาระที่ ๑ ภาษา ภาพ สญั ลกั ษณ์ ๑. ลกั ษณะ ๑. ทกั ษะ ภาพ แผนผงั ๑. กำหนดกลมุ่ สาระ เพ่อื การสือ่ สาร แผนภาพ ทางภาษา การระบุ แผนภูมิ และ การเรยี นรทู้ ีจ่ ะสำรวจ มาตรฐาน ต ๑.๑ แผนภูมิ และ (Language ๒. ทกั ษะ ตารางแสดง คน้ หาและรวบรวม ๓. เลือก/ระบุ เครอื่ งหมาย Feature) การสำรวจคน้ หา ข้อมูล คำศัพท์ ประโยค หรอื วรรคตอนต่าง ๆ - คำทุกชนดิ ๓. ทักษะ ๒. วางแผน ข้อความสน้ั ๆ มคี วามหมาย - Punctuations การรวบรวม การศกึ ษาค้นควา้ ตรงตามภาพ ชว่ ยสือ่ ความ - Graph ขอ้ มลู เพอ่ื รวบรวมขอ้ มูล สัญลักษณ์ แทนประโยค ๒. หนา้ ท ี่ ๔. ทักษะ ๓. รวบรวมขอ้ มูล หรอื เครื่องหมาย ขอ้ ความ และ ของภาษา การตคี วาม คำศัพทท์ ่ีค้นคว้า ทอ่ี ่าน ข้อมูลตา่ ง ๆ ได้ (Language ๕. ทกั ษะ ๔. แปลความและ มาตรฐาน ต ๑.๓ Function) การแปลความ เช่ือมโยงขอ้ มลู เพื่อ ๒. เขยี นภาพ ๑) ประโยค ๖. ทกั ษะ เขียนภาพ แผนผงั แผนผัง แผนภูมิ ขอ้ ความ การเชอ่ื มโยง แผนภูมิ และตาราง และตาราง สัญลักษณ์ แสดงข้อมลู แสดงขอ้ มูล เคร่อื งหมาย ๕. ตคี วามและ ต่าง ๆ ทฟ่ี งั และความหมาย เลือก/ระบปุ ระโยค หรอื อ่าน เกี่ยวกบั ตนเอง หรอื ขอ้ ความส้ัน ๆ สาระท่ี ๓ ภาษา ครอบครัว ตรงตามภาพ กับความสมั พนั ธ์ สญั ลกั ษณ์ หรือ กับกลมุ่ สาระ โรงเรียน เครอื่ งหมายที่อา่ น การเรียนร้อู ื่น สิ่งแวดลอ้ ม อาหาร เคร่ืองดม่ื แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรเู้ พื่อพฒั นาทกั ษะการคิด ระดบั ประถมศึกษา 163 กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
ตวั ชี้วัด ความคดิ สาระ ทักษะการคิด ช้นิ งาน/ แนวการจดั กจิ กรรม มาตรฐาน ต ๓.๑ รวบยอด การเรียนรู้ ภาระงาน การเรยี นรู้ ๑. คน้ ควา้ รวบรวม เวลาว่าง และ ๖. นำเสนอภาพ คำศัพทท์ ่ี นนั ทนาการ แผนผัง แผนภมู ิ เก่ียวข้องกับ สุขภาพและ และตารางแสดง กลมุ่ สาระ สวสั ดกิ าร ขอ้ มลู การเรียนรอู้ น่ื การซือ้ ขาย จากแหล่ง ลม ฟ้า อากาศ เรียนรู้ และ ๒) คำ กลมุ่ คำ นำเสนอ และประโยคท่ีม ี ด้วยการพูด/ ความหมาย การเขียน สัมพนั ธ์กบั ภาพ สาระท่ี ๔ ภาษา แผนผงั แผนภมู ิ กับความสัมพันธ์ และตาราง กับชมุ ชนและโลก ๓) การคน้ ควา้ มาตรฐาน ต ๔.๒ การรวบรวม และ ๑. ใช้ภาษา การนำเสนอคำศพั ท ์ ต่างประเทศ ที่เก่ยี วขอ้ งกับ ในการสบื ค้น กลมุ่ สาระ และรวบรวม การเรยี นรอู้ นื่ ขอ้ มูลต่าง ๆ ๔) การใชภ้ าษา ต่างประเทศใน การสืบค้นและ การรวบรวม คำศพั ทท์ ี่เกย่ี วข้อง ใกล้ตวั จากสอื่ และแหลง่ การเรียนรตู้ ่าง ๆ 164 แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นร้เู พ่อื พัฒนาทกั ษะการคิด ระดับประถมศกึ ษา กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ
สาระที่ ๒ ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต ๒.๑ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได ้ อยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ มาตรฐาน ต ๒.๒ เข้าใจความเหมือนและความแตกต่างระหว่างภาษาและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา กบั ภาษาและวฒั นธรรมไทย และนำมาใชอ้ ยา่ งถกู ตอ้ งและเหมาะสม ความคดิ สาระ ทักษะการคดิ ชิ้นงาน/ แนวการจดั กจิ กรรม ตวั ชว้ี ดั รวบยอด การเรยี นรู้ ภาระงาน การเรยี นร ู้ สาระที่ ๒ ภาษา การเข้าใจความ ๑. ลักษณะ ๑. ทกั ษะ ๑. ป้ายนิเทศ ๑. กำหนดหวั ข้อ และวัฒนธรรม สัมพนั ธร์ ะหว่าง ทางภาษา การรวบรวม แสดงผลการคน้ ควา้ ศกึ ษาค้นคว้าเรอ่ื ง มาตรฐาน ต ๒.๑ ภาษาและ (Language ข้อมูล ความเหมอื น/ ความเหมือน/ ๒. ให้ข้อมลู วฒั นธรรมของ Feature) ๒. ทักษะ ความแตกต่าง ความแตกต่าง เกยี่ วกับเทศกาล/ เจ้าของภาษา - Punctuations การเปรียบเทียบ ระหว่างเทศกาล ระหวา่ งเทศกาล วนั สำคัญ/ และการบอก - Comparison ๓. ทักษะ วนั สำคญั วันสำคัญ/งานฉลอง/ งานฉลอง/ ความเหมือน/ - Noun การนำความร ู้ งานฉลอง ประเพณี และ ชวี ิตความเป็น ความแตกต่าง (คำนามเฉพาะ) ไปใช้ ประเพณี และ ชวี ิตความเปน็ อยู่ อยูข่ อง ของเทศกาล/ - Adjective ชีวิตความเป็นอย ู่ ของเจา้ ของภาษา เจา้ ของภาษา วนั สำคัญ/ (ในการบรรยาย ของเจ้าของภาษา กบั ของไทย ๓. เข้าร่วม งานฉลอง/ วนั /เทศกาล) ๒. รายงานผล ๒. สนทนา กจิ กรรมทาง ประเพณีและ - Time-Order การจดั งาน แลกเปลี่ยน ทบทวน ภาษาและ ชวี ติ ความเปน็ การลำดบั เทศกาล ความร้แู ละ วัฒนธรรม อยขู่ องเจ้าของ เหตุการณ ์ วันสำคัญ ประสบการณ ์ ตามความ ภาษากบั ของไทย ในวนั สำคัญ เก่ยี วกบั เทศกาล สนใจ จะชว่ ยใน ๒. หนา้ ท ี่ วนั สำคัญทเ่ี คย มาตรฐาน ต ๒.๒ การเข้าร่วม ของภาษา รว่ มกิจกรรม และ ๒. เปรียบเทียบ กจิ กรรมได้อยา่ ง (Language วิธกี ารรวบรวมขอ้ มลู ความเหมือน/ เหมาะสม Function) ๓. วางแผนเก็บ ความแตกต่าง ๑) ขอ้ มูล และ รวบรวมขอ้ มลู ตาม ระหว่าง ความสำคัญของ เรอ่ื งท่ตี อ้ งการศึกษา เทศกาล งานฉลองและ ท้ังของเจ้าของภาษา งานฉลองและ ชวี ิตความเปน็ อย ู่ และของไทย ประเพณขี อง ของเจ้าของภาษา ๔. รวบรวมขอ้ มลู เจา้ ของภาษา ๒) กจิ กรรมทาง จัดกลุ่ม แยกประเภท กบั ของไทย ภาษาและ ข้อมลู วัฒนธรรม แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นรเู้ พอ่ื พฒั นาทกั ษะการคดิ ระดับประถมศกึ ษา 165 กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
ตัวชี้วัด ความคิด สาระ ทักษะการคิด ชิน้ งาน/ แนวการจดั กิจกรรม รวบยอด การเรยี นร้ ู ภาระงาน การเรียนรู้ ๓) การเปรยี บ- ๕. เปรียบเทยี บ เทียบความ ความเหมือน/ เหมอื น/ความ ความแตกต่างระหวา่ ง แตกตา่ งระหวา่ ง เทศกาล วันสำคัญ เทศกาลของงาน งานฉลอง ประเพณ ี ฉลองและ และชวี ิตความเปน็ อยู่ ประเพณีของ ของเจา้ ของภาษากับ เจ้าของภาษา ของไทย กับของไทย ๖. สรุปและนำเสนอ รายงานผลการคน้ คว้า ๗. จัดงาน/กจิ กรรม ทางภาษาและ วฒั นธรรม และจดั ป้ายนเิ ทศเสนอผล การค้นควา้ ๘. จดั ทำรายงานผล การจดั งานเทศกาล วันสำคัญ 166 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรเู้ พอ่ื พัฒนาทกั ษะการคดิ ระดับประถมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
ตัวอยา่ งหน่วยการเรยี นรู้ ตัวอย่างหน่วยการเรียนรู้ เป็นการนำผลการวิเคราะห์การจัดกิจกรรมการเรียนรู้เพื่อพัฒนา ทักษะการคิดใน ๖ ประเด็น คือ ตัวช้ีวัดท่ีนำมาจัดกิจกรรมร่วมกัน ความคิดรวบยอด สาระการเรียนรู้ ทักษะการคิด ชิ้นงาน/ภาระงาน และแนวการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ นำมาจัดทำหน่วยการเรียนรู้ใน ๓ ข้นั ตอน ดังน ี้ ● การกำหนดเปา้ หมายการเรยี นร ู้ ● การกำหนดหลักฐานการเรียนร้ ู ● การจดั กิจกรรมการเรียนร ู้ ในทางปฏิบัติ สามารถจัดทำเป็นหน่วยการเรียนรู้ได้โดยการวิเคราะห์ความสัมพันธ์/ เชื่อมโยงของแต่ละตัวชี้วัดที่จะนำมาจัดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกันได้ภายในกลุ่มสาระการเรียนรู้ เดียวกันด้วยการวิเคราะห์ตัวช้ีวัดภายในสาระเดียวกันหรือระหว่างสาระ นอกจากนี้ยังสามารถ วิเคราะห์ความสัมพันธ์/เชื่อมโยงของแต่ละตัวชี้วัดที่จะนำมาจัดกิจกรรมการเรียนรู้ร่วมกัน ระหว่างกล่มุ สาระการเรียนร้ไู ด้อีกด้วย
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ ชั้นประถมศกึ ษาปีที่ ๓ สาระท่ี ๑ ภาษาเพอ่ื การสื่อสาร มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทักษะการส่ือสารทางภาษาในการแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสาร แสดงความรู้สึก และความคิดเห็นอยา่ งมีประสิทธภิ าพ สาระท่ี ๒ ภาษาและวัฒนธรรม มาตรฐาน ต ๒.๑ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา และนำไปใช้ได ้ อยา่ งเหมาะสมกับกาลเทศะ สาระท่ี ๔ ภาษากับความสมั พนั ธ์กับชมุ ชนและโลก มาตรฐาน ต ๔.๑ ใชภ้ าษาตา่ งประเทศในสถานการณต์ ่าง ๆ ท้งั ในสถานศกึ ษา ชุมชน และสงั คม ความคดิ สาระ ทักษะการคิด ชน้ิ งาน/ แนวการจดั กิจกรรม ตัวชี้วดั รวบยอด การเรยี นรู้ ภาระงาน การเรียนร ู้ สาระที่ ๑ ภาษา การรู้คำศพั ท์ ๑. ลกั ษณะทาง ๑. ทกั ษะ การแสดงบทบาท ๑. สงั เกตและระบุ เพ่ือการสอ่ื สาร สำนวนภาษา ภาษา (Language การฟัง สมมติตาม การใช้บทสนทนา มาตรฐาน ต ๑.๒ ประโยคทใ่ี ช้ใน Feature) ๒. ทักษะ สถานการณ์ และทา่ ทางใน ๑. พดู โตต้ อบ การโต้ตอบและ - Verbs : การพดู ท่ีกำหนด การทกั ทาย กล่าวลา ด้วยคำสั้น ๆ บอกความ read, write, ๓. ทักษะ ขอบคณุ ขอโทษ ง่าย ๆ ใน ตอ้ งการของ do homework, การสังเกต การแนะนำตนเอง การสื่อสาร ตนเอง ตลอดจน listen, study ๔. ทกั ษะ การบอกความต้องการ ระหว่าง มารยาทสังคม - Adjectives : การระบ ุ ของตนเอง บคุ คลตาม และวฒั นธรรม sick, hot, ๕. ทกั ษะ ตามสถานการณใ์ น แบบทฟี่ งั ของเจ้าของ sore throat, การรวบรวม หอ้ งเรยี น มารยาท ๓. บอกความ ภาษา ชว่ ยใน cold, rare. ข้อมลู สงั คมและวฒั นธรรม ตอ้ งการงา่ ย ๆ การใชภ้ าษาเพื่อ - Has, have ๖. ทกั ษะ ของเจา้ ของภาษา ของตนเอง การสอ่ื สารได ้ เชน่ I have a การนำความรู้ จากสื่อต่าง ๆ ตามแบบที่ฟัง ตรงตาม cold. ไปใช้ ๒. รวบรวมข้อมูล วัตถุประสงค์ She has a นำเสนอ และอภปิ ราย sore throat. ส่ิงทีไ่ ด้เรยี นร ู้ ๓. นำความรูท้ ่ไี ดม้ า ฝกึ ปฏิบัต ิ 168 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรเู้ พ่ือพัฒนาทกั ษะการคดิ ระดบั ประถมศึกษา กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ
ตัวชี้วดั ความคดิ สาระ ทักษะการคิด ช้ินงาน/ แนวการจัดกจิ กรรม สาระที่ ๒ ภาษา รวบยอด การเรียนร ู้ ภาระงาน การเรียนร้ ู และวฒั นธรรม มาตรฐาน ต ๒.๑ - การขออนญุ าต ๔. ทบทวนการใช ้ ๑. พดู และทำทา่ May I…? บทสนทนาใน Can you….? การทักทาย กลา่ วลา ประกอบตาม Please.. ขอบคุณ ขอโทษ มารยาทสังคม/ ๒. หน้าทข่ี อง ประโยค/ข้อความ วัฒนธรรมของ ภาษา (Language ท่ีใช้แนะนำตนเอง เจ้าของภาษา Function) และบอกความ ๑) การแต่ง ต้องการของตนเอง สาระที่ ๔ ภาษา ประโยคเพ่อื บอก ในสถานการณใ์ น กบั ความสัมพนั ธ์ สถานการณ์ใน หอ้ งเรยี นตาม กับชมุ ชนและโลก หอ้ งเรียนโดยใช้ มารยาทสังคม มาตรฐาน ต ๔.๑ Present ๕. ฝึกปฏิบตั ิใช้ ๑. ฟงั /พูดใน Continuous เช่น สนทนาตามขอ้ ๔ สถานการณ์ I’m studying. ในสถานการณต์ ่าง ๆ ง่าย ๆ ที่เกิด ๒) Greeting ๖. แสดงบทบาท ขนึ้ ใน การสนทนาใน สมมติตาม หอ้ งเรยี น ชีวิตประจำวัน สถานการณ ์ เชน่ ทก่ี ำหนดให้ Good morning. How are you ? I am fine. Thank you. And you? ๓) พดู เพอ่ื บอก อาการป่วย เชน่ I have a cold. I have a sore throat. ๔) Introduce yourself. My name is… I am nine years old. I like … I don’t like… ๕) Social manners แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้เพ่อื พฒั นาทักษะการคิด ระดับประถมศกึ ษา 169 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาตา่ งประเทศ
ตัวชวี้ ัด ความคดิ สาระ ทกั ษะการคิด ชิน้ งาน/ แนวการจดั กิจกรรม รวบยอด การเรยี นร ู้ ภาระงาน การเรียนรู ้ (มารยาทสังคม) เช่น Shake hand. Thank you. You’re welcome. Clap your hands. Excuse me. Can you help me? May I go to the toilet? May I come in? 170 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้เพ่ือพัฒนาทกั ษะการคดิ ระดบั ประถมศึกษา กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ
หน่วยการเรยี นรู ้ ชอ่ื หน่วย มารยาทในการส่อื สาร (Social Manners for Communication) เวลา ๙ ชัว่ โมง กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ ชัน้ ประถมศึกษาปที ่ี ๓ ๑. เป้าหมายการเรียนรู้ ๑.๑ ความเข้าใจที่คงทน การรู้จักพูดและทำท่าทางประกอบตามมารยาทสังคมและวัฒนธรรมในการพูดและ การฟัง ชว่ ยใหใ้ ช้ภาษาเพ่ือการสื่อสารตามสถานการณ์ตา่ ง ๆ ในชีวติ ประจำวันไดต้ รงตามจุดประสงค์ และถูกกาลเทศะ ๑.๒ สาระ มาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชวี้ ดั สาระที่ ๑ ภาษาเพอื่ การสื่อสาร มาตรฐานการเรียนร ู้ มาตรฐาน ต ๑.๒ มีทักษะการส่อื สารทางภาษาในการแลกเปลย่ี นข้อมลู ขา่ วสาร แสดงความรูส้ กึ และความคิดเหน็ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ตัวชวี้ ดั ต ๑.๒ ป.๓/๑ พูดโต้ตอบด้วยคำสั้น ๆ ง่าย ๆ ในการสื่อสารระหว่างบุคคล ตามแบบท่ีฟัง ต ๑.๒ ป.๓/๓ บอกความตอ้ งการง่าย ๆ ของตนเองตามแบบทีฟ่ งั สาระท่ี ๒ ภาษาและวฒั นธรรม มาตรฐานการเรยี นร ู้ มาตรฐาน ต ๒.๑ เข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างภาษากับวัฒนธรรมของเจ้าของ ภาษาและนำไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งเหมาะสมกบั กาลเทศะ ตวั ชวี้ ดั ต ๒.๑ ป.๓/๑ พูดและทำท่าประกอบการตามมารยาทสังคม/วัฒนธรรมของ เจา้ ของภาษา แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู้เพ่อื พฒั นาทกั ษะการคดิ ระดบั ประถมศึกษา 171 กลุม่ สาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ
สาระท่ี ๔ ภาษากบั ความสมั พันธก์ บั ชุมชนและโลก มาตรฐานการเรยี นรู ้ มาตรฐาน ต ๔.๑ ใช้ภาษาตา่ งประเทศในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ทั้งในสถานศึกษา ชมุ ชนและสงั คม ตวั ชี้วดั ฟงั /พดู ในสถานการณ์งา่ ย ๆ ทเี่ กดิ ข้นึ ในหอ้ งเรยี น ต ๔.๑ ป.๓/๑ ๑.๓ ความคดิ รวบยอด การรู้คำศัพท์ สำนวนภาษา ประโยค ท่ีใช้ในการโต้ตอบและบอกความต้องการของ ตนเอง ตลอดจนมารยาทสังคมและวัฒนธรรมของเจ้าของภาษา ช่วยในการใช้ภาษาเพ่ือสื่อสารได้ ตรงตามวตั ถปุ ระสงค์ ๑.๔ สาระการเรยี นร ู้ ๑.๔.๑ ทักษะเฉพาะวชิ า Language Features and Functions Grammar - Verb : read, write, do, listen, have like, want, introduce, shake hands, clap your hands, etc. - Adjectives : absent, sick, ill, fine, good, bad, etc. - Greeting : Hello./Good morning./How are you?/How do you do?/Nice to meet you./Goodbye./etc. - Courtesy Phrases : Please./Thank you. I’m sorry./Excuse me./You’re welcome./Don’t mention it./It doesn’t matter./etc. - Questions ◆ Greetings : - How are you? I’m fine. Thank you. - How do you do? How do you do. ◆ Introducing one’s self : - May I introduce myself? My name is ... ◆ Gestures : - What are they doing? - They are shaking hands./waving goodbye./etc. 172 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรเู้ พ่อื พัฒนาทกั ษะการคิด ระดับประถมศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ
◆ Making a request : - May/can + Subject + Infinitive, please? - Please... - I like/want to + Infinitive/noun, please. ◆ Telling symptoms : - How are you? What’s the matter with you? - I have + sickness (e.g., a headaeche, a stomachache, a fever) - Oh, I’m sorry (to hear that). ๑.๕ ทกั ษะการคดิ ๑.๕.๑ ทกั ษะการฟัง ฟังคำศัพท์ ประโยค ท่ใี ช้ในสถานการณต์ ่าง ๆ ๑.๕.๒ ทักษะการพดู ๑) การออกเสยี งคำศพั ท์ สำนวน ประโยค ๒) พูดสนทนาในสถานการณ์ต่าง ๆ ๑.๕.๓ ทักษะการสังเกต สงั เกตกริ ิยาทา่ ทาง คำศัพท์ ประโยค ท่ใี ช้ในสถานการณ์ต่าง ๆ ๑.๕.๔ ทกั ษะการระบ ุ ระบุกิริยาท่าทาง คำศพั ท์ ประโยค ทใ่ี ช้ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ๑.๕.๕ ทักษะการรวบรวมขอ้ มลู รวบรวมข้อมูลคำศัพท์ สำนวน ประโยค ภาษาน้ำเสียง กิริยาท่าทาง นำมา อภิปราย ๑.๕.๖ ทกั ษะการนำความรู้ไปใช้ ๑) การเขียนบทสนทนาง่าย ๆ เหมาะสมกับสถานการณ์และวัตถุประสงค ์ ในการส่อื สาร ๒) การแสดงบทบาทสมมติ ๑.๖ คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๑.๖.๑ ใฝเ่ รยี นร้ ู ๑.๖.๒ ม่งุ มั่นในการทำงาน ๑.๖.๓ มีจิตสาธารณะ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นร้เู พ่อื พัฒนาทักษะการคดิ ระดับประถมศึกษา 173 กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ
๒. หลกั ฐานการเรยี นร ู้ ๒.๑ ช้นิ งาน/ภาระงาน แสดงบทบาทสมมตติ ามสถานการณ์ที่กำหนด ๒.๒ การวดั และประเมนิ ผล ๒.๒.๑ การวดั และประเมนิ ผลระหว่างการจัดกจิ กรรมการเรียนรู ้ ๑) ตรวจแบบฝึกหัด ๒) ประเมินการมสี ว่ นร่วมในกจิ กรรม ๓) ประเมนิ การฟงั และการพูด ๔) ประเมนิ จากการตอบคำถาม ๒.๒.๒ การวัดและประเมนิ ผลเม่อื สิ้นสดุ การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ๑) ประเมินการฝึกปฏิบัติใช้บทสนทนาในการทักทาย กล่าวลา ขอบคุณ ขอโทษ แนะนำตนเอง และบอกความต้องการของตนเองอย่างมมี ารยาทในสถานการณต์ ่าง ๆ ๒) ประเมนิ การแสดงบทบาทสมมตติ ามสถานการณ์ท่กี ำหนด ๓) คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค ์ ๓. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู ้ ๓.๑ Greentings : what are they doing? (เวลา ๒ ช่วั โมง) ๑) ครูสอนคำศัพท์ สำนวน ประโยคทีใ่ ชใ้ นการกลา่ วทักทาย แนะนำตนเอง กล่าวลา - Good morning./Hi!/Hello./etc. - How are you?/How do you do?/etc. - May I introduce myself? My name is... - Nice to meet you./Pleased to meet you. - Goodbye./See you later./etc. ๒) นกั เรียนฟังแล้วฝกึ พูดและเขยี นประโยคท่ีครสู อน ๓) ครูนำนักเรียนเข้าสู่บทเรียนโดยให้นักเรียนสังเกตและรวบรวมข้อมูลจากภาพ วีดิทัศน์ หรือสื่อมัลติมีเดียอื่น ๆ แสดงเหตุการณ์การสนทนาทักทาย แนะนำตนเอง กล่าวลา ในสถานการณ์ตา่ ง ๆ ๔) ครูใชค้ ำถามนำสู่การอภิปราย - What are they doing? - Where are they? 174 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรียนรู้เพ่อื พฒั นาทกั ษะการคดิ ระดับประถมศึกษา กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
- Who are they? - What do they say? ๕) นักเรียนบันทึกและอภิปรายเสนอข้อมูลจากท่ีสังเกตเห็นจากวีดิทัศน์โดยใช้ ประโยค - They are + V-ing/noun. - They are at + Place. - He/She says ... ๖) นกั เรียนฝกึ พดู เลียนสำเนยี งทีไ่ ดย้ ินจากส่อื ๓.๒ Gestures (เวลา ๒ ชว่ั โมง) ๑) ทบทวนความรู้เดิม และสอนคำศัพท์และประโยคเกี่ยวกับอากัปกิริยาท่าทาง เพม่ิ เตมิ เช่น a handshake, shake hands, wave goodbye, wave hello, clap your hands, give someone a big hand เปน็ ตน้ ๒) ครสู าธิตทา่ ทางต่าง ๆ แล้วต้งั คำถามใหน้ กั เรยี นพูดตอบเป็นประโยค - What am I doing? - You are + V-ing. ๓) ให้นักเรียนสังเกตส่งิ ท่เี ห็นจากวดี ิทศั น์หรอื ส่ือมลั ติมีเดยี อีกครั้งต้ังแตต่ ้นจนจบ ๔) นำเสนอส่ืออีกครั้ง โดยคร้ังน้ีหยุดสื่อและต้ังคำถามให้นักเรียนระบุอากัปกิริยา ที่พบเห็นเป็นระยะ โดยใช้โครงสรา้ งคำถาม-คำตอบในขอ้ ๒ ๕) อภิปรายสรปุ ความรู้การใช้ภาษาทา่ ทางประกอบการสนทนาในสถานการณต์ า่ ง ๆ ๖) นักเรียนฝกึ พดู บทสนทนาและแสดงกริ ยิ าทา่ ทาง ๓.๓ Expressing your needs. (เวลา ๒ ช่วั โมง) ๑) นักเรียนฝึกฟังและพูดบทสนทนาท่ีใช้ประโยคแสดงความต้องการ ตอบรับ ปฏิเสธ ขอบคณุ ขอโทษ ในสถานการณ์ต่าง ๆ โดยใชโ้ ครงสร้าง - Excuse me. - Please + Verb. - I want..., please. - May/Can + subject + verb, please? - I like .... - May I ..., please? I have + sickness. แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรเู้ พื่อพฒั นาทักษะการคดิ ระดับประถมศกึ ษา 175 กลมุ่ สาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ
- Yes, of course./No, I’ m sorry. - Thank you. - You’re welcome./Don’t mention it./It doesn’t matter. - I’m sorry (to hear that.) ๒) นักเรียนสังเกตส่ือวีดิทัศน์การสนทนาโดยใช้โครงสร้างประโยคแสดง ความต้องการ ตอบรับ ปฏิเสธ ขอบคุณ ขอโทษ สังเกตภาษา น้ำเสียง และกิริยาท่าทางที่ปรากฏ ในสือ่ ๓) อภิปรายเกี่ยวกับภาษา น้ำเสียง กิริยาท่าทางท่ีใช้ในการแสดงความต้องการ ตอบรับ ปฏเิ สธ ขอบคุณ ขอโทษ ๔) นักเรียนฝึกพูดบทสนทนาด้วยน้ำเสยี งและกริ ิยาทา่ ทางทเี่ หมาะสมตามสอ่ื ๓.๔ Create your own dialoguesl? (เวลา ๓ ช่ัวโมง) ๑) ทบทวนความรู้ที่ไดเ้ รยี นเกี่ยวกบั การพูดสนทนาทกั ทาย แนะนำตนเอง กลา่ วลา แสดงความต้องการ ขอบคุณ ขอโทษ ทง้ั คำศัพท์ โครงสร้างประโยค และวธิ กี ารนำไปใช ้ ๒) ทำแบบฝึกจับคู่สั้น ๆ โดยให้จับคู่ระบุประโยค สถานการณ์ หรือกิริยาท่าทาง ทีส่ มั พนั ธ์กัน ๓) นักเรียนแบง่ กลมุ่ กำหนดสถานการณ์ และเขยี นบทสนทนาง่าย ๆ เพ่อื ใชแ้ สดง บทบาทสมมต ิ ๔) นักเรยี นฝกึ พูดบทสนทนา ๕) นักเรียนนำเสนอการแสดงบทบาทสมมต ิ ๔. ส่อื ประกอบการเรียนร ู้ ๔.๑ รูปภาพ วีดทิ ศั น์ สอื่ มลั ติมเี ดยี อน่ื ๆ ๔.๒ แถบประโยค บัตรคำ ๔.๓ บทสนทนา 176 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นร้เู พือ่ พัฒนาทักษะการคดิ ระดบั ประถมศึกษา กลมุ่ สาระการเรยี นร้ภู าษาตา่ งประเทศ
เกณฑก์ ารประเมนิ ๑) เกณฑก์ ารประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่ (การแสดงบทบาทสมมติ) กปารระปเดร็นะรเ มะินดับ คะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ นำ้ หนัก คะแนน ทุกคนรว่ มมอื สว่ นใหญร่ ว่ ม สมาชิกบางคน ความสำคัญ รวม ๑. ความร่วมมือ ทกุ คนรว่ มมอื ๔ ๑๖ ในการทำงาน กนั ทำงานอยา่ ง กนั ทำงานอยา่ ง กันทำงาน แต่ ไมใ่ หค้ วาม เตม็ ท่ที ำใหไ้ ด้ เตม็ ที่ทำให้ได้ ผลงานออกมา ร่วมมือใน ผลงานออกมา ผลงานออกมา อยู่ในระดับ การทำงาน ดีทส่ี ดุ อยใู่ นเกณฑด์ ี พอใช้ ทำใหง้ านไม่ ประสบผลสำเรจ็ ๒. ขั้นตอน มกี ารกำหนด มกี ารกำหนด มกี ารกำหนด มีการกำหนด ๓ ๑๒ การทำงาน ขนั้ ตอน ขน้ั ตอน ข้ันตอน ข้ันตอน การทำงานท่ี การทำงาน การทำงาน การทำงาน ชัดเจนต้งั แต่ คอ่ นขา้ งชดั เจน แตย่ งั มีความ ไมช่ ดั เจน เร่ิมทำงานจน ตั้งแตเ่ รมิ่ ทำงาน สำเรจ็ ของงาน ทำให้ผลงาน กระทั่งเหน็ จนกระท่งั ไม่ค่อยสมบรู ณ ์ ไม่สมบรู ณ ์ ผลงานสมบูรณ ์ สมบรู ณ์ ๓. ความรับผิดชอบ สมาชิกทกุ คน สมาชิกส่วนใหญ ่ สมาชิกบางคน สมาชกิ บางคน ๓ ๑๒ ทำงานทไ่ี ดร้ ับ ทำงานที่ได้รบั เลยี่ งงาน ไม่ทำ ไมใ่ หค้ วาม มอบหมายจน มอบหมาย หนา้ ทีท่ ่ไี ด้รบั ร่วมมือใน งานเสร็จส้ิน จนงานเสร็จส้ิน มอบหมาย การทำงาน สมบรู ณ ์ สมบูรณ ์ งานเสรจ็ แต ่ ทำให้งาน ทนั เวลา ทันเวลา ไมค่ อ่ ยสมบรู ณ์ ไม่บรรล ุ และไมท่ ันเวลา เปา้ หมาย รวม ๑๐ ๔๐ เกณฑ์การตัดสนิ คะแนน ๓๑-๔๐ หมายถงึ ดีมาก คะแนน ๒๑-๓๐ หมายถึง ดี คะแนน ๑๐-๒๐ หมายถงึ พอใช ้ เกณฑ์การผ่าน ตงั้ แตร่ ะดบั ดีขน้ึ ไป แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรเู้ พอ่ื พฒั นาทกั ษะการคิด ระดับประถมศึกษา 177 กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาต่างประเทศ
๒) เกณฑก์ ารประเมนิ ความสำเรจ็ ของภาระงาน ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ น้ำหนัก คะแนน ความสำคัญ รวม ปการระปเดร็นะเ มิน ๑. ความสมบูรณ์ ผลงานม ี ผลงานม ี ผลงานม ี ผลงานม ี ของผลงาน รายละเอยี ด รายละเอียด รายละเอยี ด รายละเอยี ด ๓ ๑๒ ครอบคลมุ ครอบคลุม ครอบคลมุ ครอบคลมุ ผลการเรยี นร ู้ ผลการเรียนร ู้ ผลการเรยี นร ู ้ ผลการเรยี นร ู้ ตามท่กี ำหนด ตามทีก่ ำหนด ตามทกี่ ำหนด ตามท่กี ำหนด เปน็ สว่ นใหญ ่ เปน็ บางส่วน น้อยมาก ๒. ความคดิ เปน็ ผลงาน เป็นผลงานท่ี เป็นผลงานที่ เปน็ ผลงานที่ ๓ ๑๒ สรา้ งสรรค์ ท่ีดึงดูด ดงึ ดดู ปรับปรงุ เหมอื นตวั อยา่ ง ความสนใจ ความสนใจ เล็กน้อยจาก แปลกใหม่ และ แปลกใหม่ ตัวอย่าง คดิ ขน้ึ เอง สอดคลอ้ งกับ สอดคลอ้ งกับ เรือ่ งที่กำหนด เรือ่ งที่กำหนด แตบ่ างสว่ น เหมือนตวั อย่าง รวม ๖ ๒๔ เกณฑ์การตัดสนิ คะแนน ๑๙-๒๔ หมายถงึ ดมี าก คะแนน ๑๓-๑๘ หมายถงึ ดี คะแนน ๖-๑๒ หมายถงึ พอใช้ เกณฑ์การผา่ น ตัง้ แตร่ ะดับดขี ึน้ ไป 178 แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรเู้ พือ่ พฒั นาทกั ษะการคดิ ระดบั ประถมศกึ ษา กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาต่างประเทศ
๓) เกณฑ์การประเมินความสามารถในการพูดสอ่ื สาร ระดับคะแนน ๔ ๓ ๒ ๑ นำ้ หนกั คะแนน ประเด็น ออกเสยี ง ออกเสียง ออกเสยี ง ความสำคญั รวม การประเมิน คำศพั ท์ คำศัพท์ คำศัพท์ ๑. ความถกู ต้อง ออกเสียง ประโยค ประโยค ประโยค ๔ ๑๖ คำศพั ท ์ ไดถ้ กู ต้อง ได้ถกู ตอ้ ง ไมถ่ ูกตอ้ ง ประโยค ตามหลกั ตามหลัก ทำใหส้ ่อื สาร ได้ถูกตอ้ ง การออกเสียง การออกเสยี ง ไม่ได้ ตามหลัก เนน้ หนักคำ/ แต่ส่วนใหญ่ การออกเสียง ประโยคเป็น ขาดการออก เนน้ หนกั คำ/ ส่วนใหญ่ เสยี งเน้นหนัก ประโยค ไดส้ มบรู ณ ์ ๒. ความ พดู ต่อเนือ่ ง พดู ตะกกุ ตะกกั พูดเปน็ คำ ๆ พดู ไดบ้ างคำ ๓ ๑๒ คล่องแคลว่ ไม่ตดิ ขัด บ้าง แตย่ งั พอ หยุดเปน็ ชว่ ง ๆ ทำใหส้ ื่อ พดู ชดั เจน สือ่ สารได ้ ทำใหส้ ่ือสารได ้ ความหมายไม่ได ้ ทำให้สอื่ สาร ไม่ชัดเจน ได้ดี ๓. การแสดง แสดงท่าทาง พดู ด้วยนำ้ เสยี ง พดู เหมอื นอา่ น พดู ได้นอ้ ยมาก ๒ ๘ ท่าทาง นำ้ เสยี ง และพูดดว้ ย เหมาะสมกบั ไม่เปน็ ธรรมชาติ ประกอบการพดู นำ้ เสียง สถานการณ์แต่ ขาดความ ไม่มีท่าทาง นา่ สนใจ เหมาะสมกับ ประกอบ สถานการณ์ รวม ๙ ๓๖ เกณฑ์การตัดสนิ คะแนน ๒๘-๓๖ หมายถงึ ดมี าก คะแนน ๑๙-๒๗ หมายถึง ด ี คะแนน ๙-๑๘ หมายถึง พอใช ้ เกณฑ์การผา่ น ตัง้ แตร่ ะดบั ดขี ึ้นไป แนวทางการจัดกิจกรรมการเรียนรูเ้ พื่อพฒั นาทกั ษะการคดิ ระดับประถมศึกษา 179 กลุ่มสาระการเรียนรภู้ าษาต่างประเทศ
๔) เกณฑก์ ารประเมินแบบสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน คำช้ีแจง ให้ประเมินนักเรียนตามคุณลักษณะอันพึงประสงค์ที่กำหนดให้โดยใช้คะแนนเป็น ๓ ระดับ คือ ระดับ ๓ = ดีมาก หมายถงึ ปฏิบตั เิ ป็นประจำ ระดบั ๒ = ดี หมายถงึ ปฏิบตั ิบอ่ ยครง้ั ระดบั ๑ = พอใช้ หมายถงึ ปฏิบัติบางคร้ัง ใฝ่เรียนรู ้ ม่งุ มนั่ การทำงาน ท ่ี ชือ่ -สกลุ ต้ังใจ เรยี น ก ระต อื รือรน้ น ำไคปวใาชม ้ รู้ ต้งั ใ จ ทำงาน จเุดสทปรำรจ็ งะตาสนางม ค ์ สง่ งาน รวม (๑๘) ตรงเวลา เกณฑ์การตดั สิน คะแนน ๑๕-๑๘ หมายถึง ดีมาก คะแนน ๑๐-๑๔ หมายถงึ ดี คะแนน ๐-๙ หมายถงึ พอใช้ เกณฑก์ ารผ่าน ตง้ั แต่ระดับดีข้ึนไป 180 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนร้เู พ่ือพฒั นาทักษะการคิด ระดบั ประถมศกึ ษา กล่มุ สาระการเรยี นรู้ภาษาต่างประเทศ
ภาคผนวก ทักษะการคิดทน่ี ำมาใช้ในการพัฒนาผเู้ รยี น ตามหลกั สตู รแกนกลางการศึกษาขนั้ พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑
ทักษะการคดิ ที่นำมาใช้ในการพัฒนาผเู้ รียน ตามหลักสตู รแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ทักษะการคิดท่ีนำมาพัฒนาผู้เรียนให้สอดคล้องตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ ไดใ้ ช้กรอบดา้ นกระบวนการในการคิด ประกอบด้วย ๑. ทักษะการคิดขั้นพื้นฐาน ซึ่งเป็นทักษะท่ีสำคัญและจำเป็นต่อการคิดทั่ว ๆ ไปใน ชีวิตประจำวัน และเป็นทักษะท่ีเป็นพ้ืนฐานของการคิดข้ันสูงท่ีซับซ้อนขึ้น ทักษะการคิดข้ันพื้นฐาน จดั เป็น ๒ กลุ่ม ไดแ้ ก่ ทักษะการคิดทีใ่ ช้ในการสื่อสาร และทักษะการคิดท่ีเปน็ แกน ๒. ทักษะการคิดขั้นสูง จัดเป็น ๓ กลุ่ม ได้แก่ ทักษะการคิดท่ีซับซ้อน ทักษะพัฒนา ลกั ษณะการคดิ และทักษะกระบวนการคิด สำหรับแนวทางการพัฒนาทักษะการคิด มุ่งเน้นการนำกระบวนการท่ีใช้ในการคิดบูรณาการ เข้ากับการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนให้สอดคล้องตามมาตรฐานการเรียนรู้ และตัวชี้วัด ตามหลกั สูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ และเพ่อื ให้ครูผูส้ อนไดม้ ีความชัดเจน ต่อการนำทักษะการคิดสู่การปฏิบัติ ได้นำเสนอความหมายของทักษะการคิดที่นำมาใช้ในการพัฒนา ผเู้ รยี นไวด้ ังนี้ 182 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนร้เู พือ่ พฒั นาทักษะการคิด ระดบั ประถมศึกษา กลมุ่ สาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ
ทกั ษะการคิดขั้นพ้นื ฐาน ทักษะการคดิ ท่ีใช้ในการสือ่ สาร ทกั ษะการคดิ ความหมาย ๑. การฟัง การรบั รคู้ วามหมายจากเสยี งทไี่ ด้ยนิ การไดย้ ินเปน็ ความสามารถทีจ่ ะได้รบั รสู้ ง่ิ ทไ่ี ดย้ ิน ตคี วาม และจบั ใจความส่งิ ท่รี บั รนู้ น้ั เข้าใจและจดจำไว้ ๒. การพดู การใช้ถอ้ ยคำ น้ำเสียง รวมทั้งกิริยาอาการถา่ ยทอดความรู้ ความคดิ และความรู้สกึ ของผพู้ ดู ใหผ้ ู้ฟังได้รับรแู้ ละเกิดการตอบสนอง ๓. การอา่ น การรบั รขู้ ้อความในการเขยี นของตนเองหรือของผู้อ่ืน รวมถงึ การรับรคู้ วามหมาย จากเครอ่ื งหมายและสัญลกั ษณต์ า่ ง ๆ เช่น สัญลักษณ์จราจร ๔. การเขยี น การถ่ายทอดความรู้ ความคดิ ความรู้สึก และความตอ้ งการของบุคคล ออกมาเปน็ ลายลักษณ์อักษร เพือ่ สื่อความหมายใหผ้ ู้อ่นื เขา้ ใจ ทกั ษะการคิดทีเ่ ปน็ แกน ทักษะการคดิ ความหมาย ๑. การสงั เกต การรบั รแู้ ละรวบรวมขอ้ มลู เก่ียวกบั สิ่งใดสิง่ หนึ่งโดยใชป้ ระสาทสัมผสั ทง้ั หา้ เพอื่ ใหไ้ ดร้ ายละเอยี ดเกยี่ วกับส่งิ นน้ั ๆ ซึ่งเปน็ ข้อมลู เชงิ ประจกั ษ์ที่ไม่มีการใช้ประสบการณ์ และความคดิ เห็นของผูส้ ังเกตในการเสนอขอ้ มูล ข้อมูลจากการสงั เกต มที ้งั ข้อมลู เชิงคณุ ภาพและขอ้ มลู เชิงปรมิ าณ ๒. การสำรวจ การพจิ ารณาตรวจสอบสิง่ ทีส่ ังเกตอยา่ งมจี ุดมุ่งหมายเพือ่ ใหไ้ ดข้ ้อเท็จจริง และความคดิ เหน็ เกีย่ วกบั ส่งิ น้นั ๓. การสำรวจคน้ หา การค้นหาส่งิ ใดสิ่งหนึ่งทย่ี ังไม่รู้หรือรนู้ ้อยมากอยา่ งมจี ดุ หมายดว้ ยวิธกี ารต่าง ๆ เพื่อใหไ้ ดข้ ้อมลู มากทส่ี ดุ ๔. การตั้งคำถาม การพูดหรือการเขยี นส่งิ ทส่ี งสยั หรือสง่ิ ท่ตี ้องการรู้ ๕. การระบุ การบง่ ชีส้ งิ่ ต่าง ๆ หรือบอกสว่ นต่าง ๆ ท่เี ป็นองค์ประกอบหรอื ลกั ษณะของส่งิ ที่ศึกษา ๖. การรวบรวมขอ้ มูล การใช้วธิ กี ารตา่ ง ๆ เกบ็ ขอ้ มูลที่ตอ้ งการรู้ ๗. การเปรียบเทียบ การจำแนกระบสุ ิง่ ของหรอื เหตกุ ารณ่ต์ ่าง ๆ ในส่งิ ทเี่ หมอื นกนั และส่ิงท่ตี า่ งกัน ๘. การคดั แยก การแยกสงิ่ ทมี่ ลี ักษณะต่างกนั ตงั้ แต่ ๑ อยา่ งข้ึนไปออกจากกัน ๙. การจัดกลุ่ม การนำสงิ่ ตา่ ง ๆ ทมี่ คี ณุ สมบตั เิ หมอื นกนั ตามเกณฑม์ าจดั เปน็ กลมุ่ โดยแตล่ ะกลมุ่ มเี กณฑ์ตา่ งกัน ๑๐. การจำแนกประเภท การนำสงิ่ ตา่ ง ๆ มาแยกเป็นกลุ่มตามเกณฑ์ทไี่ ด้รบั การยอมรบั ทางวชิ าการ หรือยอมรับโดยทัว่ ไป แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้เพ่ือพัฒนาทักษะการคิด ระดบั ประถมศึกษา 183 กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ
ทกั ษะการคิด ความหมาย ๑๑. การเรยี งลำดับ ๑๒. การแปลความ การนำส่ิงต่าง ๆ มาจัดเรียงไปในทิศทางเดยี วกัน โดยใช้เกณฑก์ ารจัดเกณฑ์ใดเกณฑ์หน่งึ ๑๓. การตคี วาม การเรียบเรยี งและถ่ายทอดขอ้ มูลในรูปแบบ/วธิ กี ารใหม่ทแ่ี ตกต่างไปจากเดิม แตย่ ังคงสาระเดิม ๑๔. การเช่อื มโยง ๑๕. การสรุปยอ่ การบอกความหมายหรือความสัมพันธ์ของข้อมูลหรือสาระท่แี ฝงอย่ไู มป่ รากฏ ๑๖. การสรุปอ้างองิ ให้เห็นอย่างชัดเจน โดยการเชอื่ มโยงกับบรบิ ทความรู/้ ประสบการณเ์ ดิม ๑๗. การใหเ้ หตุผล หรอื ข้อมลู อ่ืน ๆ ๑๘. การนำความรไู้ ปใช ้ การบอกความสัมพันธ์ระหวา่ งข้อมลู อยา่ งมคี วามหมาย การจบั เฉพาะใจความสำคัญของเรือ่ งที่ตอ้ งการสรปุ และนำมาเรียบเรียงให้กระชับ การนำความรหู้ รอื ประสบการณ์เดิมมาใชใ้ นการสรุปลงความเห็นเกยี่ วกับขอ้ มลู การอธบิ ายเหตกุ ารณ์หรอื การกระทำต่าง ๆ โดยเชอื่ มโยงใหเ้ หน็ ถึงสาเหตแุ ละ ผลที่เกิดขนึ้ ในเหตุการณ์หรือการกระทำน้นั ๆ การนำความรทู้ เ่ี กิดจากความเขา้ ใจไปใช้เพอ่ื ใหเ้ กิดความชำนาญ ทกั ษะการคดิ ขัน้ สูง ทกั ษะการคิดที่ซบั ซ้อน ทกั ษะการคดิ ความหมาย ๑. การทำใหก้ ระจา่ ง การให้รายละเอยี ดหรือคำอธิบายเพ่มิ เติมเกีย่ วกบั สิ่งท่ีสงสัยหรือคลมุ เครอื เพื่อให้เกิดความชัดเจน ๒. การสรปุ ลงความเหน็ การใหค้ วามคดิ เหน็ เกยี่ วกบั ข้อมูล/เรอ่ื งทศ่ี กึ ษา โดยการเชอ่ื มโยงและอา้ งอิงจากความร ู้ หรอื ประสบการณเ์ ดิม หรอื จากขอ้ มูลอ่ืน ๆ รวมทั้งเหตผุ ล ๓. การให้คำจำกัดความ การระบลุ ักษณะเฉพาะทสี่ ำคญั ของสงิ่ ใดสิง่ หน่ึงที่ต้องการนยิ าม ๔. การวเิ คราะห ์ การจำแนกแยกแยะส่งิ ใดส่ิงหน่งึ /เรอื่ งใดเรอื่ งหนึ่ง เพอ่ื คน้ หาองค์ประกอบ และความสัมพนั ธร์ ะหวา่ งองคป์ ระกอบเหล่านั้น เพ่อื ช่วยให้เกดิ ความเข้าใจในเร่ืองน้นั ๕. การสังเคราะห ์ การนำความรทู้ ่ีผ่านการวิเคราะหม์ าผสมผสานสร้างสง่ิ ใหมท่ ี่มลี ักษณะตา่ งจากเดมิ ๖. การประยกุ ตใ์ ชค้ วามรู้ การนำความรทู้ ี่มไี ปใชใ้ นสถานการณใ์ หม่ท่ีมลี ักษณะแตกต่างไปจากเดิม ๗. การจดั ระเบยี บ การนำขอ้ มลู หรอื สงิ่ ตา่ ง ๆ มาจัดให้เปน็ ระเบียบในลักษณะใดลกั ษณะหน่งึ เพ่ือให้สะดวกแก่การดำเนินการ ๘. การสร้างความร ู้ การสรา้ งความรูข้ องตนเองจากการทำความเข้าใจเชื่อมโยงข้อมูลใหม่กับขอ้ มลู เดมิ ๙. การจดั โครงสรา้ ง การนำความรมู้ าจัดให้เห็นเป็นโครงสรา้ งทแี่ สดงความสมั พนั ธ์ของขอ้ มลู /ขอ้ ความรู้ ซง่ึ เป็นองค์ประกอบของโครงสรา้ งน้ัน ๆ 184 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรูเ้ พอื่ พฒั นาทกั ษะการคดิ ระดบั ประถมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ
ทกั ษะการคิด ความหมาย ๑๐. การปรับโครงสร้าง การนำขอ้ มูลมาปรับ/เปลี่ยน/ขยายโครงสรา้ งความรเู้ ดมิ ๑๑. การหาแบบแผน การหาชุดความสัมพันธ์ของลักษณะหรือองค์ประกอบในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ๑๒. การพยากรณ์ การคาดคะเนส่งิ ทจี่ ะเกดิ ขึ้นลว่ งหนา้ โดยอาศยั การสงั เกต ปรากฏการณ์ท่เี กิดขน้ึ ซ้ำ ๆ หรอื ใช้ความรู้ท่เี ป็นหลักการ กฎ หรือทฤษฎี ในเร่ืองนัน้ มาชว่ ยในการทำนาย ๑๓. การหาความเชอื่ การใช้หลกั เหตผุ ลคน้ หาความเช่อื ที่กำหนดการกระทำของบคุ คลน้ัน พ้ืนฐาน ๑๔. การตงั้ สมมติฐาน การคาดคะเนคำตอบทยี่ ังไม่ไดพ้ ิสจู น์ บนฐานข้อมลู จากการสังเกต ปรากฏการณค์ วามรู้ และประสบการณ์เดิม ๑๕. การพสิ จู นค์ วามจรงิ การหาขอ้ มูลทเี่ ชอ่ื ถอื ไดม้ าสนับสนุนขอ้ สรปุ หรือคำตอบว่าเปน็ จรงิ ๑๖. การทดสอบ การหาขอ้ มูลท่เี ปน็ ความรูเ้ ชิงประจกั ษเ์ พือ่ ใชส้ นบั สนนุ หรือคัดคา้ นคำตอบลว่ งหนา้ สมมตฐิ าน ทคี่ าดคะเนไว้ หรอื เพือ่ ยอมรับหรือปฏเิ สธคำตอบทีค่ าดคะเนไว้ ๑๗. การตั้งเกณฑ ์ การบอกประเดน็ /หวั ขอ้ ที่ใช้เป็นแนวทางในการประเมิน ๑๘. การประเมิน การตดั สินคณุ คา่ หรอื คณุ ภาพของสง่ิ ใดสง่ิ หนง่ึ โดยการนำผลจากการวัดไปเทยี บกับระดับ คณุ ภาพทก่ี ำหนด ทกั ษะพัฒนาลกั ษณะการคดิ ลักษณะการคดิ ความหมาย ๑. คดิ คล่อง การใหไ้ ด้ข้อมูลจำนวนมากอยา่ งรวดเรว็ ๒. คิดหลากหลาย การให้ได้ขอ้ มลู หลายประเภท ๓. คดิ ละเอียด การให้ไดข้ อ้ มูลที่เปน็ รายละเอยี ดของสง่ิ ท่ีตอ้ งการคดิ ๔. คดิ ชดั เจน การคดิ ที่ผคู้ ดิ รู้วา่ ตนร้แู ละไม่รู้อะไร เข้าใจและไมเ่ ข้าใจอะไร และสงสยั อะไรในเร่ืองท่ีคดิ ๕. คดิ อย่างมีเหตุผล การใช้หลกั เหตุผลในการคดิ พิจารณาเรอ่ื งใดเรื่องหนงึ่ ๖. คดิ ถูกทาง การคดิ ทท่ี ำให้ได้ความคดิ ที่เปน็ ประโยชน์ตอ่ ส่วนรวมและเปน็ ประโยชนร์ ะยะยาว ๗. คดิ กวา้ ง การคิดพจิ ารณาถึงองคป์ ระกอบ/แงม่ มุ ต่าง ๆ ของเรอื่ งท่คี ดิ อยา่ งครอบคลุม ๘. คดิ ไกล การคดิ ทท่ี ำใหส้ ามารถอธบิ ายเหตกุ ารณใ์ นอนาคตได ้ ๙. คิดลึกซ้ึง การคดิ ท่ที ำให้เขา้ ใจความซบั ซ้อนของโครงสร้างและระบบความสมั พันธ์เชิงสาเหตุ ในโครงสร้างของเรอื่ งท่ีคดิ แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้เพ่อื พัฒนาทกั ษะการคดิ ระดบั ประถมศกึ ษา 185 กลมุ่ สาระการเรียนรูภ้ าษาตา่ งประเทศ
ทกั ษะกระบวนการคดิ ความหมาย ทกั ษะกระบวนการคิด ๑. กระบวนการคิด การคดิ อย่างมวี ิจารณญาณเป็นกระบวนการคดิ เพ่อื ใหไ้ ดค้ วามคดิ ทรี่ อบคอบ อยา่ งมวี ิจารณญาณ สาเหตทุ ี่จะเชือ่ หรอื จะทำโดยผา่ นการพิจารณาปจั จัยรอบด้านอย่างกวา้ งไกล ลึกซ้ึง และผ่าน การพิจารณากลน่ั กรอง ไตรต่ รอง ท้ังทางดา้ นคณุ -โทษ และคุณค่าที่แท้จริงของสง่ิ นั้นมาแลว้ ๒. กระบวนการคดิ การตัดสินใจเปน็ กระบวนการทีใ่ ชใ้ นการพจิ ารณาเลือกตวั เลือกทมี่ ีตงั้ แต่ ๒ ตวั เลอื กขน้ึ ไป ตัดสินใจ ทางเลอื กน้ันอาจจะเป็นวตั ถุสิง่ ของ หรือแนวปฏบิ ัตติ า่ ง ๆ ท่ใี ช้ในการแกป้ ัญหา หรอื ดำเนนิ การเพอ่ื ใหบ้ รรลุตามวัตถุประสงคท์ ีต่ ้ังไว ้ ๓. กระบวนการคดิ กระบวนการแก้ปญั หาทวั่ ไป แก้ปัญหา การแกป้ ัญหาเปน็ ขั้นตอน การเผชญิ ฝา่ ฟนั อุปสรรค และแกไ้ ขสถานการณ ์ เพอื่ ให้ปัญหาน้ันหมดไป กระบวนการแกป้ ญั หา (เฉพาะโจทย์ปญั หาตัวเลข) การแกป้ ญั หาทางคณติ ศาสตร์ หมายถงึ ข้นั ตอนในการหาคำตอบของโจทย์ปญั หา ๔. กระบวนการวิจัย ขัน้ ตอนทใี่ ชห้ าคำตอบของปัญหาเปน็ ผลใหพ้ บองค์ความรใู้ หม ่ ข้นั ตอนท่ีใชแ้ ก้ปัญหานน้ั มีความเป็นลำดับข้นั ตอนอยา่ งเป็นระบบ ๕. กระบวนการคิด ความคดิ ท่ีแปลกใหม่ท่ีจะนำไปส่สู ิ่งตา่ ง ๆ ผลผลติ ใหม่ ๆ ทางเทคโนโลยี สรา้ งสรรค ์ และความสามารถในการประดิษฐ์คิดค้นสิ่งแปลกใหม ่ ๖. กระบวนการคิด การคดิ คน้ หาปัญหาอยา่ งแท้จรงิ ชดั เจน เปดิ รับข้อมลู ความคิด พิสูจน์ แยกแยะ แกป้ ญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค ์ ใหไ้ ดค้ วามคิดเหน็ ท่ดี ที ่ีสุด และแปลงความคดิ ไปสู่การปฏบิ ตั อิ ย่างสร้างสรรค ์ ทีม่ าขอ งข้อมลู เอกสาร ทิศนา แขมมณี และคณะ ๒๕๔๙. การนำเสนอรูปแบบเสริมสร้างทักษะการคิดขั้นสูง ของนสิ ติ นกั ศกึ ษาครรู ะดบั ปรญิ ญาตรสี ำหรับหลักสูตรครุศึกษา : รายงานการวิจัย. คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวทิ ยาลัย. (เอกสารเยบ็ เล่ม) เวบ็ ไซต ์ http://www.wikipedia.org/wiki http://www.wangnoi-nfe/index.file/Page1181.html http://www.kku.ac.th/thai416102/SubjectWeb/Critical-Reading_meaning.htm http://www.e-learning.mfu.ac.th/mflu/1001/chapter31.htm 186 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรเู้ พื่อพฒั นาทักษะการคิด ระดับประถมศึกษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาตา่ งประเทศ
คณะทำงาน ที่ปรกึ ษา เลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้ืนฐาน รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้ืนฐาน ๑. นายชนิ ภทั ร ภูมิรตั น ผู้อำนวยการสำนกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา ๒. นางเบญจลักษณ์ น้ำฟ้า ๓. นางสาววณี า อคั รธรรม ผู้ทรงคุณวฒุ ิ ๑. รศ.ดร.ทศิ นา แขมมณี ๒. ดร.เพญ็ นี หลอ่ วฒั นพงษา ผู้กำหนดกรอบแนวคิด รองเลขาธกิ ารคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน รองผูอ้ ำนวยการสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา ๑. นางเบญจลักษณ์ น้ำฟ้า ๒. นางสาวกญั นิกา พราหมณ์พิทกั ษ ์ ผรู้ บั ผิดชอบโครงการ กลมุ่ พฒั นากระบวนการเรียนรู้ สำนกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา ๑. นางสาวกญั นิกา พราหมณพ์ ทิ ักษ์ รองผอู้ ำนวยการสำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา ๒. นางสาวศรินทร เศรษฐการุณย์ นกั วชิ าการศึกษา ๓. นางสาววรณัน ขนุ ศรี นกั วิชาการศึกษา ๔. นางผาณิต ทวีศกั ด์ิ นักวิชาการศกึ ษา ๕. นางบษุ รนิ ประเสริฐรัตน์ นักวชิ าการศกึ ษา ๖. นางสาวเปรมวดี ศรีธนพล นกั วชิ าการศึกษา ๗. นางสาวภัทรา สุวรรณบตั ร นกั วชิ าการศึกษา ๘. นางสาวจรญู ศรี แจบไธสง นกั วิชาการศกึ ษา ๙. นางสาวภัทรา ด่านววิ ฒั น์ นักวิชาการศกึ ษา แนวทางการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้เพ่ือพัฒนาทักษะการคิด ระดบั ประถมศกึ ษา 187 กลุ่มสาระการเรยี นรูภ้ าษาตา่ งประเทศ
คณะทำงาน ครั้งที่ ๑ การวเิ คราะหต์ วั ช้ีวัดสกู่ ารพัฒนาทกั ษะการคิด ๑. นายสมาน สาครเสถียรกุล ศึกษานิเทศก์ สำนกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษากาญจนบุรี เขต ๔ ๒. นางสาวศุภกานต์ ประเสริฐรัตนะ ศกึ ษานเิ ทศก์ สำนักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาขอนแก่น เขต ๑ ๓. นางสนุ ี จนั่ สกลุ ศึกษานิเทศก ์ สำนกั งานเขตพน้ื ท่ีการศกึ ษาระนอง ๔. นางอุทัยวรรณ จิวาลกั ษณ ์ ศึกษานเิ ทศก์ สำนกั งานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษานครราชสีมา เขต ๖ ๕. นางชศู รี ศรวี งศก์ รกฏ ศกึ ษานเิ ทศก์ สำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาระยอง เขต ๑ ๖. นางสาวมณฑริ า มณเฑยี รทอง ศกึ ษานเิ ทศก์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาชุมพร เขต ๒ ๗. นายสุทธิ สวุ รรณปาล ศึกษานเิ ทศก ์ สำนกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษาจันทบุรี เขต ๑ ๘. นางสาวคณาพร คมสัน ศึกษานิเทศก์ สำนกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาสมุทรปราการ เขต ๑ ๙. นางสาวสาล่ี ศิลปสธรรม ครูโรงเรียนบ้านดอนขุนห้วย สำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาเพชรบรุ ี เขต ๒ ๑๐. นางสาวพรพิมล ประสงค์พร นกั วชิ าการศกึ ษา สถาบันภาษาอังกฤษ ๑๑. นางสาวจันทรา ตันติพงศานรุ กั ษ์ นกั วิชาการศึกษา สำนักวชิ าการและมาตรฐานการศึกษา ๑๒. นางเสาวภา ศักดา นักวิชาการศกึ ษา สำนกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา ๑๓. นางพรพรรณ โชตพิ ฤกษวนั นักวชิ าการศกึ ษา สำนกั วชิ าการและมาตรฐานการศึกษา ๑๔. นางผาณติ ทวีศกั ด ์ิ นักวิชาการศึกษา สำนกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา 188 แนวทางการจดั กิจกรรมการเรยี นรูเ้ พ่ือพัฒนาทกั ษะการคิด ระดบั ประถมศกึ ษา กลุ่มสาระการเรยี นรภู้ าษาต่างประเทศ
คณะทำงาน คร้ังท่ี ๒ การจดั กิจกรรมการเรยี นร้เู พ่อื พัฒนาทักษะการคิด ๑. นายสมาน สาครเสถยี รกุล ศกึ ษานเิ ทศก ์ สำนักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษากาญจนบุรี เขต ๔ ๒. นางสาวศภุ กานต์ ประเสริฐรัตนะ ศกึ ษานเิ ทศก ์ สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาขอนแก่น เขต ๑ ๓. นางสนุ ี จน่ั สกุล ศกึ ษานิเทศก ์ สำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศกึ ษาระนอง ๔. นางอทุ ัยวรรณ จวิ าลักษณ์ ศกึ ษานิเทศก์ สำนักงานเขตพนื้ ทีก่ ารศึกษานครราชสมี า เขต ๖ ๕. นางชศู รี ศรวี งศก์ รกฏ ศึกษานเิ ทศก์ สำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาระยอง เขต ๑ ๖. นางสาวสาล่ี ศลิ ปสธรรม ครโู รงเรยี นบา้ นดอนขนุ ห้วย สำนกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษาเพชรบรุ ี เขต ๒ ๗. นางสาวเพลนิ พศิ ฉายจรรยา ครูโรงเรียนปทมุ คงคา สำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษากรุงเทพมหานคร เขต ๑ ๘. นางวนดิ า ยาอินทร์ ครโู รงเรียนชมุ ชนวัดเกยไชยเหนอื สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษานครสวรรค์ เขต ๑ ๙. นางสาววีณา วฒั โนภาษ ครโู รงเรยี นอนุบาลวดั พชิ ัยสงคราม สำนกั งานเขตพน้ื ทีก่ ารศกึ ษาสมทุ รปราการ เขต ๑ ๑๐. นางสภุ ทั รา ดว้ งรอด ครูโรงเรียนชุมชนบ้านเขาหลาง สำนักงานเขตพื้นที่การศกึ ษาชมุ พร เขต ๒ ๑๑. นางทพิ พรรณ สำราญจติ ร ครูโรงเรยี นวัดชุมชนสุวรรณรงั สรรค์ สำนกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาระยอง เขต ๑ ๑๒. นางสาวนำ้ ฝน โยลงุ ครโู รงเรียนบ้านหนองบัวทุ่ง สำนกั งานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษานครราชสมี า เขต ๖ ๑๓. นางสาวพนั วนา พัฒนาอดุ มสนิ คา้ ครูโรงเรยี นอนบุ าลวัดลูกแกประชาชนทู ิศ สำนกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศกึ ษากาญจนบุรี เขต ๒ ๑๔. นางเจริญศรี บูรณะวังศลิ ครโู รงเรยี นตะพงนอก สำนักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาระยอง เขต ๑ ๑๕. นางสาวทษมน เอย่ี มสอาด ครูโรงเรียนบ่อพลอยรชั ดาภเิ ษก สำนักงานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษากาญจนบุรี เขต ๔ ๑๖. นางพรชนก ลาดพันนา ครโู รงเรยี นกลั ยาณวัตร สำนกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาขอนแก่น เขต ๑ แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้เพอ่ื พฒั นาทกั ษะการคิด ระดบั ประถมศกึ ษา 189 กลุ่มสาระการเรียนร้ภู าษาตา่ งประเทศ
๑๗. นางจรรยา โสภาจารีย ์ ครูโรงเรยี นศรยี านุสรณ์ สำนกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาจันทบุรี เขต ๑ ๑๘. นางสาวพรพมิ ล ประสงค์พร นักวิชาการศึกษา สถาบนั ภาษาองั กฤษ ๑๙. นางสาวจนั ทรา ตนั ติพงศานรุ ักษ ์ นกั วชิ าการศึกษา สำนกั วชิ าการและมาตรฐานการศึกษา ๒๐. นางพรพรรณ โชติพฤกษวัน นกั วิชาการศกึ ษา สำนักวิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา ๒๑. นางผาณติ ทวีศักดิ ์ นกั วชิ าการศึกษา สำนกั วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา คณะทำงาน คร้ังท่ี ๓ บรรณาธกิ ารการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้เพ่ือพฒั นาทักษะการคดิ ๑. นายสมาน สาครเสถยี รกุล ศึกษานเิ ทศก์ สำนักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษากาญจนบรุ ี เขต ๔ ๒. นางสาวศภุ กานต์ ประเสรฐิ รตั นะ ศกึ ษานเิ ทศก ์ สำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาขอนแก่น เขต ๑ ๓. นางสุนี จน่ั สกุล ศกึ ษานิเทศก์ สำนกั งานเขตพื้นที่การศึกษาระนอง ๔. นางอทุ ยั วรรณ จวิ าลกั ษณ์ ศึกษานเิ ทศก ์ สำนักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษานครราชสีมา เขต ๖ ๕. นางชศู รี ศรวี งศ์กรกฏ ศึกษานเิ ทศก์ สำนักงานเขตพน้ื ที่การศกึ ษาระยอง เขต ๑ ๖. นางวนดิ า ยาอนิ ทร์ ครโู รงเรยี นชมุ ชนวดั เกยไชยเหนอื สำนกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษานครสวรรค์ เขต ๑ ๗. นางสุภัทรา ด้วงรอด ครโู รงเรียนชมุ ชนบ้านเขาหลาง สำนักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาชมุ พร เขต ๒ ๘. นางพรชนก ลาดพันนา ครโู รงเรียนกัลยาณวตั ร สำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาขอนแก่น เขต ๑ ๙. นางจรรยา โสภาจารีย์ ครโู รงเรียนศรยี านุสรณ ์ สำนักงานเขตพน้ื ทกี่ ารศกึ ษาจนั ทบุรี เขต ๑ ๑๐. นางสมปอง โพธจิ ักร ครูโรงเรยี นสุรธรรมพิทักษ ์ สำนักงานเขตพืน้ ท่กี ารศึกษานครราชสีมา เขต ๑ 190 แนวทางการจัดกจิ กรรมการเรยี นรเู้ พอ่ื พัฒนาทักษะการคดิ ระดบั ประถมศกึ ษา กลุม่ สาระการเรียนรภู้ าษาตา่ งประเทศ
๑๑. นางจิตตมิ า ดวงมณ ี ครโู รงเรยี นบงึ พะไล สำนกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษานครราชสีมา เขต ๖ ๑๒. นางผาณติ ทวีศักดิ์ นกั วชิ าการศกึ ษา สำนกั วชิ าการและมาตรฐานการศึกษา คณะทำงาน ครั้งท่ี ๔ บรรณาธิการเอกสารแนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้เพอ่ื พฒั นาทกั ษะการคิด ๑. นางอุทยั วรรณ จวิ าลกั ษณ ์ ศกึ ษานิเทศก์ สำนักงานเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษานครราชสีมา เขต ๖ ๒. นางสุนี จน่ั สกลุ ศึกษานเิ ทศก ์ สำนกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาระนอง ๓. นายสทุ ธิ สุวรรณปาล ศกึ ษานเิ ทศก์ สำนกั งานเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษาจนั ทบรุ ี เขต ๑ ๔. นางสาวมณฑิรา มณเฑียรทอง ศึกษานเิ ทศก์ สำนักงานเขตพืน้ ทก่ี ารศึกษาชมุ พร เขต ๒ ๕. นางสาวเครอื ฟ้า แกว้ คุ้ม ศึกษานเิ ทศก์ สำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษารอ้ ยเอ็ด เขต ๑ ๖. นางจติ ติมา ดวงมณ ี ครโู รงเรยี นบึงพะไล สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษานครราชสีมา เขต ๖ ๗. นางสาวระพพี รรณ ช่องวาริน ครูโรงเรียนมหาไถ่ศึกษา จงั หวดั ขอนแก่น ๘. นางสาวจนั ทรา ตนั ตพิ งศานรุ ักษ์ นักวชิ าการศกึ ษา สำนกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา ๙. นางผาณิต ทวีศักด ์ิ นกั วชิ าการศึกษา สำนกั วิชาการและมาตรฐานการศกึ ษา คณะทำงาน ครัง้ ที่ ๕ บรรณาธกิ ารหลงั ทดลองใชเ้ อกสารแนวทางการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้เพ่อื พัฒนาทักษะการคดิ ๑. นางอุทัยวรรณ จิวาลกั ษณ ์ ศึกษานเิ ทศก ์ สำนกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษา นครราชสมี า เขต ๖ ๒. นางสนุ ี จนั่ สกุล ศึกษานเิ ทศก ์ สำนกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศกึ ษาระนอง ๓. นายสุทธิ สุวรรณปาน ศกึ ษานเิ ทศก ์ สำนักงานเขตพน้ื ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาจนั ทบุรี เขต ๑ แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรียนร้เู พ่อื พัฒนาทักษะการคิด ระดับประถมศึกษา 191 กลุม่ สาระการเรยี นรภู้ าษาตา่ งประเทศ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202