ระบบสารสนเทศInformation System
ภาพรวมของระบบสารสนเทศ
หลกั การและแนวคดิ ในการใช้ ระบบสารสนเทศ Information is POWER www.puvadon.cjb.net
Contents1 หนา้ ทแี่ ละบทบาทของผบู้ รหิ ารองคก์ ร2 ขอ้ พงึ มสี าหรบั ความสาเร็จในการบรหิ ารจดั การ3 ประเภทของงานและกจิ กรรมการจดั การ 4 สารสนเทศเพอื่ การบรหิ าร 5 เทคโนโลยสี ารสนเทศ
บทนาเทคโนโลยเี ปลย่ี นแปลงสภาพแวดลอ้ มภายในขององคก์ รการลดตน้ ทนุ หรอื การเพมิ่ คณุ ภาพในการผลติ โดยการนาระบบอตั โนมตั มิ าใชใ้ นงานทตี่ อ้ งใชแ้ รงงานงานของผบู ้ รหิ ารมลี กั ษณะเปลย่ี นไปตลอดเวลาตามสภาพแวดลอ้ ม
1. หนา้ ทแี่ ละบทบาทของผบู ้ รหิ ารองคก์ ร กาหนดความตอ้ งการสารสนเทศของผบู ้ รหิ าร มนิ ช์ เบอรก์ อธบิ ายวา่ งานอนั ไดแ้ ก่ การตดิ ตาม (Monitor) การตรวจสอบ (Audit) การใหค้ าปรกึ ษาแนะนา (Consult) สมควรเป็ นผบู ้ รหิ ารเพยี งไมก่ ค่ี น “ผบู ้ รหิ ารมกั ทาสงิ่ ตา่ งๆ ใหล้ ลุ ว่ งไดโ้ ดยอาศัยผอู ้ นื่ ” การจัดการเป็ นองคค์ วามรู ้ เป็ นความสามารถและทักษะที่ สามารถเรยี นรกู ้ นั ได ้ ปัจจัยกาหนดความสาเร็จของผบู ้ รหิ ารและขององคก์ ร คอื การปฏบิ ตั ขิ องผบู ้ รหิ าร ผนวกกบั ความรู ้ บคุ ลกิ ลกั ษณะ ทกั ษะ และประสบการณ์ ลกั ษณะตา่ งๆ ทผ่ี บู ้ รหิ ารควรมี
2. ขอ้ พงึ มสี าหรบั ความสาเร็จในการบรหิ ารจดั การ ทกั ษะการจดั การ ผบู ้ รหิ ารจะสามารถทางานไดโ้ ดยอาศยั ทมี งานและ ทกั ษะในการสอื่ สารทดี่ ี ทงั้ การพดู และการเขยี นตลอดจน ตอ้ งมคี วามเขา้ ใจเกย่ี วกบั พฤตกิ รรม และแรงบนั ดาลใจของ มนุษยอ์ ยา่ งลกึ ซงึ้ บคุ ลกิ ภาพการจดั การ คณุ สมบัตสิ าคญั ของผบู ้ รหิ ารมคี วามฝัน ทะเยอทะยาน แรงบนั ดาลใจ ความรเู ้ กยี่ วกบั งาน ผลผลติ และการบรกิ าร ความคดิ สรา้ งสรรค์ การมวี นิ ัยตนเอง การจัดการ การ เปลยี่ นแปลงสภาพแวดลอ้ มทาใหผ้ บู ้ รหิ ารตอ้ งปรับตัว ตลอดเวลา
การศกึ ษาและความรดู ้ า้ นการจัดการ หลักสตู รการจัดการควรประกอบดว้ ยความรู ้หลาย ๆ ดา้ น ไดแ้ ก่ องคก์ ร งบประมาณและการเงนิ สารสนเทศ เทคโนโลยสี ารสนเทศ เศรษฐกจิ และกจิ การปัจจบุ นั กฎหมายและกรอบระเบยี บขอ้ บงั คบั การวางแผน
การศกึ ษาและความรดู ้ า้ นการจัดการ หลกั สตู รการจัดการควรประกอบดว้ ยความรู ้หลาย ๆ ดา้ น ไดแ้ ก่ การวดั ผลงาน การจดั การทรพั ยากรมนุษย์ การจดั การการดาเนนิ งาน การจดั การสงิ่ อานวยความสะดวก การตลาดและการจาหน่าย วธิ วี เิ คราะหแ์ ละเชงิ ปรมิ าณ การกาหนดโครงการ
ประเภทของงานและกจิ กรรมการจัดการ การจดั การผปู ้ ฏบิ ตั งิ านใหเ้ ป็ นทมี สรา้ งผลงานหรอืแผนกตา่ งๆ ทางานเป็ นทมี เพอื่ ใหอ้ งคก์ รบรรลุวตั ถปุ ระสงคท์ ต่ี งั้ ไวท้ าใหท้ กุ คนมคี วามรสู ้ กึ รว่ มกนั การพฒั นาคน ลกั ษณะขององคก์ รทม่ี กี ารเปลยี่ นแปลงอยตู่ ลอดเวลา จะประสบผลสาเร็จได ้ตอ้ งมกี ารพฒั นา มันวตั กรรมใหมๆ่ และมกี ารเปลย่ี นแปลงกระบวนการตลอดเวลา สรา้ งและรกั ษามาตรฐาน ผบู ้ รหิ ารจะตอ้ งกาหนดมาตรฐานเชงิ คณุ ธรรม เชน่ ความซอ่ื สตั ย์ ตรงตอ่เวลา
ประเภทของงานและกจิ กรรมการจัดการกาหนดระดบั ผลงานและตดิ ตามผล ผบู ้ รหิ ารจะตอ้ งกาหนดใหช้ ดั เจนพฤตกิ รรมใดเป็ นทย่ี อมรับ ถา้ มพี ฤตืกรรมเบยี่ งเบนไปจากมาตรฐานจะตอ้ งหยดุ พฤตกิ รรมเหลา่ นัน้ ใหว้ สิ ยั ทศั น์ ผบู ้ รหิ ารจะตอ้ งมวี สิ ยั ทศั นก์ าหนดอนาคตขององคก์ ร ใชแ้ รงกระตนุ ้ อยา่ งไรเพอ่ื ใหบ้ รรลุวสิ ยั ทศั น์ ป้องกนั และหยดุ ความขดั แยง้ ความขดั แยง้ ในองคก์ รอาจไมช่ อบเกย่ี วกบั วธิ กี ารปฏบิ ตั งิ าน ตอ้ งคาดเดาความขดั แยง้ มที กั ษะ ประนีประนอมเพอื่ แกไ้ ขสถานการณ์ นาคนทเี่ กยี่ วขอ้ งในองคก์ ร ตอ้ งมความเป็ นผนู ้ า
ประเภทของงานและกจิ กรรมการจัดการ กระตนุ ้ ผอู ้ นื่ ผบู ้ รหิ ารตอ้ งสรา้ งแรงกระจนุ ้ ใหแ้ กพ่ นักงาน จัดการความเปลย่ี นแปลง องคก์ รสว่ นใหญอ่ ยใู่ นสภาพการเปลยี่ นแปลงตลอดเวลา ตอ้ งสามารถจัดการเปลย่ี นแปลงไดแ้ ละทาใหท้ กุ คนตระหนักถงึ การเปลย่ี นแปลง การจัดการสภาวะวกิ ฤต จะตอ้ งรักษาความเชอ่ื มน่ั ของผทู ้ ่ีมสี ว่ นเกย่ี วขอ้ งได ้ ตอ้ งสามารถบรรเทาปัญหาความขัดแยง้ การประนปี ระนอม มคี วามสามารถในการประนปี รานอมผทู ้ ี่อยภู่ ายในองคก์ ร การตัดสนิ ใจ การวางแผน ความมวี นิ ัยและจัดการกบั ปัญหาเหลา่ นัน้ ไดอ้ ยา่ งยตุ ธิ รรม การแบง่ ปันทรัพยากรและงบประมาณ
ประเภทของงานและกจิ กรรมการจัดการ การตดั สนิ ใจ ผบู ้ รหิ ารตอ้ งกลา้ ตดั สนิ ใจ การวางแผน ตอ้ งเรม่ิ และพัฒนาแผนกลยทุ ธ์ ความมวี นิ ัยและความทกุ ข์ ผบู ้ รหิ ารจะตอ้ งมีนโยบายกบั เรอื่ งทข่ี ดั ตอ่ วนิ ัย และเรอื่ งทท่ี าใหเ้ กดิความไมเ่ ป็ นสขุ ในองคก์ รดว้ ยจดั การกบั ปัญหาเหลา่ นัน้ ไดอ้ ยา่ งยตุ ธิ รรม การแบง่ ปันทรัพยากรและงบประมาณ ผบู ้ รหิ ารตอ้ งสามารถจดั การทรัพยากรทงั้ หมดเพอ่ืกอ่ ใหเ้ กดิ ประสทิ ธภิ าพและประสทิ ธผิ ลทสี่ ดุ ไมว่ า่จะเป็ นบคุ ลากร การผลติ ผลงาน การลงทนุ การจดั การและสง่ิ อานวยความสะดวกอนื่ ๆ
MIS for Adminองคป์ ระกอบระบบสารสนเทศ Technology Information SystemOrganization Management
สารสนเทศเพอื่ การบรหิ ารองคป์ ระกอบสาคญั ภายในองคก์ รทม่ี ผี ลตอ่ การพฒั นาระบบสารสนเทศ กลยทุ ธ์ (Strategy) คอื การกาหนดนโยบาย แนวทางเป้าหมายในการดาเนนิ งานขององคก์ ร เพอื่ ใหท้ กุ หน่วยงานมองเหน็ เป้าหมายเดยี วกนั กฎเกณฑ์ (Rules) หมายถงึ ขอ้ กาหนดในการดาเนนิ งานสเู่ ป้าหมายขององคก์ ร ขน้ั ตอน (Procedures) หมายถงึ วธิ กี ารดาเนนิ งานตามขอ้ กาหนดทต่ี งั้ ขน้ึ เพอื่ บรรลเุ ป้าหมายในภาพรวมขององคก์ ร
ระบบสารสนเทศทดี่ คี วรประกอบดว้ ย ซอฟทแ์ วร์ (Software) ฮารด์ แวร์ (Hardware) ฐานขอ้ มลู (Data base) โทรคมนาคม (Telecommunication)
ระบบสารสนเทศ (Information System) ระบบสารสนเทศ (Information System) คอื กลมุ่ ของระบบงานทปี่ ระกอบไปดว้ ย ฮารด์ แวร์ หรอื อปุ กรณ์ และซอฟทแ์ วร์ หรอื โปรแกรมคอมพวิ เตอร์ ทท่ี าหนา้ ทรี่ วบรวมจดั เก็บ ประมวลผล และแจกจา่ ยสารสนเทศ เพอื่ การจดั การตดั สนิ ใจและควบคมุ การดาเนนิ งานภายในองคก์ ร นอกจากน้ียงั ชว่ ยในการประสานงานขององคด์ ว้ ย (Laudon C. Kennthand Jane P.Lundon., 1998) ระบบสารสนเทศสรา้ งขน้ึ มาเพอ่ื จดุ มงุ่ หมายประการหนงึ่คอื การประมวลผลขอ้ มลู (Data) ใหเ้ ป็ นสารสนเทศ(Information) และนาไปสคู่ วามรู้ (Knowledge) ทชี่ ว่ ยแกป้ ญั หาในการดาเนนิ งาน
Key Issues•ระบบสารสนเทศ • Transaction Processing Systems (TPS) •Management Information Systems (MIS) •Decision Support Systems (DSS) •Executive Information Systems (EIS) •Office Automation (OA) •Expert Systems (ES)
Information System - Classification By Support Function •5-year sales trend •Profit Planning •5-year budget forecasting •Product developmentExecutive Support System S enior M gr •Sales Management •Inventory ControlManagement Information System •Annual budget •Production SchedulingDecision Support System M iddle M anagers •Cost Analysis •Pricing AnalysisIntelligent Support Systems •SimulationKnowledge Management System D ata W orkers •Pgm codingOffice Automation System •System support •Word Processing •Desktop PublishingTransaction Processing System O perational M anagers •Order Processing •Fulfillment •Material Movement •A/R, A/P, GL •Payroll •POS
สารสนเทศสารสนเทศ (information) หมายถงึ การนาขอ้ มลูทต่ี รงกบั ความตอ้ งการ (Raw data)ไมว่ า่ จะเป็ นตวั หนังสอื ตวั เลข รปู ภาพ และอนื่ ๆ ไปประมวลผลดว้ ยเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์ เพอื่ ใหไ้ ดผ้ ลลพั ธต์ ามความตอ้ งการทเี่ รยี กวา่ สารสนเทศ ทผ่ี ใู ้ ชส้ ามารถนาไปชว่ ยในการตดั สนิ ใจ การวางแผนกาหนดนโยบาย การจัดการขององคก์ ร ทงั้ ภาครัฐและเอกชนไดถ้ กู ตอ้ งและรวดเร็ว
คณุ สมบตั ขิ องสารสนเทศสาหรบั ผบู้ รหิ าร ใชง้ านงา่ ย ความถกู ตอ้ งชดั เจน ความทนั ตอ่ การใชง้ าน ความสมบรู ณค์ รบถว้ นและมคี ณุ สมบตั เิ ชงิ ปรมิ าณพอเพยี ง ความกระทดั รดั ชดั เจน โครงสรา้ งของระบบตรงกบั ความตอ้ งการ ขยายระบบได ้ ยอมรบั ไดใ้ นทกุ ระดบั เป็ นระบบอสิ ระไม่ ผกู พนั เทคโนโลยี สามารถตรวจสอบได ้
ชนิดของสารสนเทศStructured เป็ นสารสนเทศรายละเอยี ด ปจั จบุ นั เกย่ี วกบั เหต การณใ์ นอดตี บนั ทกึ ขอ้ เท็จจรงิ ในชว่ งเวลาสน้ั ๆ เป็ นสารสนเทศภายในองคก์ รSemistructured เป็ นสารสนเทศทง้ั แบบมโี ครงสรา้ งและไมม่ ี โครงสรา้ ง.Unstructured เป็ นรายงานสรปุ สารสนเทศเกยี่ วกบั เหตกุ ารณ ในอนาคตบนั ทกึ ขอ้ เท็จจรงิ ในระยะยาวเป็ น สารสนเทศภายในและภายนอกองคก์ ร.
ความหมายของเทคโนโลยสี ารสนเทศ เทคโนโลยสี ารสนเทศ คอื ฮารด์ แวร์ ซอรฟ์ แวร์ การสอ่ื สารโทรคมนาคม การจดั การฐานขอ้ มลู และเทคโนโลยที ใ่ี ชใ้ นการประมวลผลสารสนเทศ ทใ่ี ชค้ อมพวิ เตอร์ (O’Brien, 2001)ความหมายของระบบสารสนเทศเพอื่ การจดั การ ระบบสารสนเทศเพอื่ การจดั การ คอื ระบบท่ี รวบรวม ประมวล เก็บรกั ษา และเผยแพร่ สารสนเทศ เพอื่ ใชใ้ นการวางแผน การพฒั นา ตดั สนิ ใจ ประสานงานและควบคมุ การดาเนนิ งาน
องคป์ ระกอบระบบสารสนเทศทใ่ี ชค้ อมพวิ เตอร์ ระบบสารสนเทศเพอื่ การจัดการทใี่ ชค้ อมพวิ เตอร์ (Computer-Based Information Systems : CBIS) มอี งคป์ ระกอบทส่ี าคญั 5 สว่ นคอื ฮารด์ แวร์ (Hardware) ซอรฟ์ แวร์ (Software) ฐานขอ้ มลู (Database) เครอื ขา่ ย (Network) กระบวนการ (Procedure) คน (People)
บทบาทของนกั บรหิ ารและ ผปู้ ฏบิ ตั งิ านเกยี่ วกบั สารสนเทศกาหนดสารสนเทศทตี อ้ งการ (what) โดยพจิ ารณาจากลกั ษณะงาน หรอื หนา้ ทข่ี องหน่วยงานพจิ ารณาเวลา (when) ทต่ี อ้ งใชส้ ารสนเทศนนั้เพอื่ กาหนดเวลารวบรวม ประมวลผล จดั ทารายงานทราบวา่ จะหาสารสนเทศดงั กลา่ วไดท้ ไี่ หน(where) จากแหลง่ ขอ้ มลู ภายใน หรอื ภายนอกเขา้ ใจวา่ ทาไม (why) จงึ ตอ้ งมสี ารสนเทศนน้ัทราบถงึ สาเหตใุ นการเก็บรวบรวมขอ้ มลู
บทบาทของนกั บรหิ ารและ ผปู้ ฏบิ ตั งิ านเกย่ี วกบั สารสนเทศทราบวา่ ผใู้ ชส้ ารสนเทศคอื ใคร (for whom) เพอื่ จะไดจ้ ัดทารปู แบบการนาเสนอใหเ้ หมาะสมจะใชเ้ ครอื่ งมอื อะไร (how) ในการเกบ็ รวบรวมประมวล รักษาสารสนเทศสามารถเขา้ ใจความหมายของสารสนเทศทห่ี ามาได ้สามารถดาเนนิ การหรอื ปฏบิ ตั งิ านไดอ้ ยา่ งเหมาะสมใชส้ ารสนเทศอยา่ งถกู ตอ้ งตามกฎหมายและอยา่ งมีจรยิ ธรรม
แนวทางเกย่ี วกบั ระบบสารสนเทศการศกึ ษาเรอ่ื งระบบสารสนเทศเพอ่ื การจัดการ จาเป็ นตอ้ งอาศยั ความรใู ้ นสาขาวชิ าตา่ ง ๆ ดงั นัน้ ระบบ สารสนเทศจงึ มลี กั ษณะเป็ น สหวทิ ยาการ (multidisciplinary) ดงั นัน้ จงึ แบง่ การศกึ ษาระบบ สารสนเทศออกเป็ น 3 แนวทางคอื (Laudon, 1999) แนวทางดา้ นเทคนคิ (Technical Approach) แนวทางดา้ นพฤตกิ รรม (Behavioral Approach) แนวทางการผสมผสานระหวา่ งเทคโนโลยแี ละสงั คม (Sociotechnical Systems)
แนวทางเกย่ี วกบั ระบบสารสนเทศ แนวทางดา้ นเทคนคิTechnical Approachคอมพวิ เตอร์ วจิ ยั เชงิ ปฏบิ ตั กิ ารComputer science Operation Researchวทิ ยาการการจดั การ MIS องคก์ ารManagement Science Organizationจติ วทิ ยา สงั คมวทิ ยาPsychology Sociology แนวทางดา้ นพฤตกิ รรม Behavioral Approach
แนวทางเกยี่ วกบั ระบบสารสนเทศแนวทางดา้ นเทคนคิ เนน้ เรอื่ งเทคโนโลยดี า้ นกายภาพ และความสามารถในดา้ นเทคนคิ ของระบบ ความรทู ้ ใี่ ช ้ ในแนวทางนไ้ี ดแ้ ก่ วทิ ยาการจดั การ » เนน้ เรอ่ื งการพัฒนาโมเดลใน การตดั สนิ ใจและการจดั การ Computer Science » สนใจการสรา้ งทฤษฎแี ละ วธิ กี ารทางานของคอมพวิ เตอร์ วธิ เี ก็บรวบรวมและ การเขา้ ถงึ ขอ้ มลู การวจิ ยั เชงิ ปฏบิ ตั กิ าร » เนน้ เทคนคิ ทาง คณติ ศาสตร์ เพอ่ื หาทางเลอื กทด่ี ที ส่ี ดุ ในการ บรหิ าร การทางาน
แนวทางเกยี่ วกบั ระบบสารสนเทศแนวทางดา้ นพฤตกิ รรม เนน้ ทกี่ ารเปลยี่ นแปลงทศั นคติ พฤตกิ รรมการบรหิ าร รวมทงั้ นโยบายองคก์ ร ความรทู ้ ใี่ ชใ้ นแนวทางนไ้ี ดแ้ ก่ วชิ าองคก์ รและการจดั การ » ชว่ ยในการพจิ ารณา วา่ กลมุ่ หรอื องคก์ รจะพัฒนาระบบอยา่ งไร และระบบ นัน้ จะมผี ลตอ่ บคุ คลอยา่ งไร วชิ าจติ วทิ ยา » ชว่ ยศกึ ษาพฤตกิ รรมของคนเมอ่ื มี การเปลย่ี นแปลงดา้ นเทคโนโลยใี นองคก์ าร สงั คมวทิ ยา » เป็ นเรอื่ งผลกระทบของระบบ สารสนเทศทม่ี ตี อ่ กลมุ่ องคก์ าร และสงั คม
แนวทางเกยี่ วกบั ระบบสารสนเทศแนวทางการผสมผสานดา้ นเทคนคิ และสงั คม แนวคดิ น้ีเป็ นการผสมผสานแนวคดิ ดา้ นเทคนคิ และ พฤตกิ รรมเขา้ ดว้ ยกนั โดยมจี ดุ มงุ่ หมายเพอื่ ใหเ้ กดิ ดลุ ย ภาพระหวา่ งความพงึ พอใจของผปู ้ ฏบิ ตั งิ าน และ ประสทิ ธภิ าพของการทางาน แนวคดิ น้ี เชอื่ วา่ องคก์ รมี องคป์ ระกอบทส่ี าคญั 4 ประการ คอื งาน คน โครงสรา้ ง และเทคโนโลยี หากมกี ารเปลยี่ นแปลงปัจจัยหนง่ึ จะ สง่ ผลตอ่ ปัจจยั อนื่ ๆ ดว้ ย
ประโยชนข์ องสารสนเทศสารสนเทศทดี่ มี ปี ระโยชนใ์ นดา้ นตอ่ ไปนี้ประสทิ ธภิ าพ (Efficiency)ประสทิ ธผิ ล (Effectiveness)ความไดเ้ ปรยี บในการแขง่ ขนั (Competitive Advantage)คณุ ภาพชวี ติ การทางาน (Quality of Working Life)
ประโยชนข์ องสารสนเทศประสทิ ธภิ าพ (Efficiency)1. ระบบสารสนเทศทาใหก้ ารปฏบิ ตั งิ านมคี วามรวดเร็ว2. ระบบสารสนเทศชว่ ยในการเขา้ ถงึ ขอ้ มลู ขนาดใหญ่ ไดอ้ ยา่ งรวดเร็ว3. ระบบสารสนเทศชว่ ยใหก้ ารตดิ ตอ่ สอื่ สารเป็ นไปได้ อยา่ งรวดเร็ว4. ชว่ ยลดตน้ ทนุ5. ชว่ ยใหก้ ารประสานงานระหวา่ งฝ่ ายตา่ ง ๆ เป็ นไป ไดด้ ว้ ยดี
ประโยชนข์ องสารสนเทศประสทิ ธผิ ล (Effectiveness)1. ระบบสารสนเทศชว่ ยในการตดั สนิ ใจ สง่ ผลให้ การดาเนนิ งานบรรลวุ ตั ถปุ ระสงคไ์ ด้2. ระบบสารสนเทศชว่ ยในการเลอื กผลติ สนิ คา้ / บรกิ ารทเ่ี หมาะสม3. ระบบสารสนเทศชว่ ยในการปรบั ปรงุ คณุ ภาพของ สนิ คา้ /บรกิ ารใหด้ ขี น้ึ , ทาไดถ้ กู ตอ้ งและรวดเร็ว ขน้ึ , ตรงกบั ความตอ้ งการของลกู คา้ ไดด้ ขี น้ึ
ประโยชนข์ องสารสนเทศความไดเ้ ปรยี บในการแขง่ ขนั (Competitive Advantage) มกี ารนาสารสนเทศมาใชแ้ ละทาใหเ้ กดิ การบรหิ าร/จดั การ งานแบบใหม่ เชน่ Supply Chain Management, Good Governance, Customer Relationship Management- CRM, E-Business, E-Government, E-commerce, Re-engineering, Knowledge Management, Virtual Organization เป็ นตน้
ประโยชนข์ องสารสนเทศคณุ ภาพชวี ติ การทางาน (Quality of Working Life) เทคโนโลยสี ารสนเทศทาใหเ้ กดิ เครอื่ งมอื การทางาน แบบใหม่ เชน่ Internet, E-mail, Hand phone และทาใหเ้ กดิ การทางานรปู แบบใหม่ ๆ เชน่ ระบบ Tele/Video Conferencing, Electronic Data Interchange, Virtual Organization เป็ นตน้ ซง่ึ ทาใหป้ ระหยดั ทรัพยากร และเพมิ่ คณุ ภาพการเป็ นอยู่ ของคนได ้
ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งระบบสารสนเทศ กบั องคก์ รและการจดั การระบบสารสนเทศเพอื่ การจดั การ เป็ นเรอื่ งการออกแบบและการใชเ้ ทคโนโลยสี ารสนเทศใหเ้ กดิประโยชนป์ ระมปี ระสทิ ธผิ ล โดยจะตอ้ งเขา้ ใจถงึสง่ิ แวดลอ้ ม โครงสรา้ งหนา้ ทกี่ ารทางานวฒั นธรรม การเมอื ง ภายในองคก์ าร ตลอดจนบทบาทของผบู้ รหิ ารและระบบการตดั สนิ ใจ
การจดั การความรู้ (Knowledge Management)ในระบบเศรษฐกจิ ยคุ ใหม่ ฐานความรถู ้ อื เป็ นทรัพยส์ นิทม่ี คี วามสาคญั ขององคก์ าร การแขง่ ขนั ดา้ นธรุ กจิตอ้ งอาศยั ความรใู ้ นดา้ นกระบวนการตา่ ง ๆ ดงั นัน้ทฤษฎกี ารจดั การบางทฤษฎจี งึ เชอ่ื วา่ ทรัพยส์ นิ ทางความรมู ้ คี วามสาคญั ตอ่ การสรา้ งความไดเ้ ปรยี บในการแขง่ ขนั และความอยรู่ อดขององคก์ ารมากกวา่ทรัพยส์ นิ ทางกายภาพและทรัพยส์ นิ ทางการเงนิ(Laudon, Laudon, 2002)
การจดั การความรู้ (Knowledge Management)ความรู้ คอื สารสนเทศทมี่ คี ณุ คา่ มากทส่ี ดุ เพราะเป็ น สารสนเทศทผี่ สมผสานเขา้ กบั ประสบการณ์ วจิ ารณญาณ และปญั ญาของคนเขา้ ไปดว้ ยความรจู้ าแนกเป็ นสองประเภทคอื ความรแู้ บบไมช่ ดั แจง้ (Tacit Knowledge) คอื ความรู้ ทม่ี เี นอ้ื หาเฉพาะเจาะจง ยากทจี่ ะสอ่ื สารใหค้ นอนื่ ทราบ หรอื เขา้ ใจไดง้ า่ ย ตอ้ งอาศยั ทกั ษะในการฝึ กฝน เชน่ การวา่ ยนา้ การขจี่ กั รยาน เป็ นตน้ ความรแู้ บบชดั แจง้ (Explicit Knowledge) คอื ความรู้ ทส่ี ามารถรวบรวม จดั ระบบ และถา่ ยทอดโดยใช้ IT ได้ เชน่ ความรทู้ ไ่ี ดจ้ ากหนงั สอื หรอื ตาราตา่ ง ๆ เป็ นตน้
การจดั การความรู้ (Knowledge Management)การจดั การความรู้ คอื กระบวนการทส่ี าคญั ในการ สรา้ ง จัดระบบ และถา่ ยทอดความรอู ้ ยา่ งทวั่ ถงึ ภายใน องคก์ ร เพอ่ื สรา้ งความไดเ้ ปรยี บในการแขง่ ขนั หรอื ทา ใหก้ ารทางานมปี ระสทิ ธภิ าพ ประสทิ ธผิ ลมากขน้ึองคป์ ระกอบของ Knowledge Management มดี งั น้ี การสรา้ งความรู ้ การจดั ระบบความรู ้ การถา่ ยทอดความรู ้
การจดั การความรู้ (Knowledge Management)การสรา้ งความรู้ คอื การแสวงหาความรใู้ หม่ ๆ ใหเ้ กดิ ขนึ้ ในองคก์ ร โดยผา่ น กลไก การเรยี นรู้ อาทิ การวจิ ยั และพฒั นา การรว่ มกนั แกไ้ ข ปญั หา, การพฒั นาเครอื ขา่ ย, หรอื การพฒั นาผา่ นเครอื ขา่ ย เป็ นตน้การจดั ระบบความรู้ เมอ่ื ความรไู้ ดส้ รา้ งขน้ึ แลว้ จะมกี ระบวนการตอ่ เนอ่ื งในการ จดั ระบบความรู้ รวมถงึ การแสดงความรใู้ นลกั ษณะทง่ี า่ ยตอ่ การเขา้ ถงึ หรอื ถา่ ยโอนการถา่ ยทอดความรู้ คอื การนาความรทู้ ม่ี อี ยถู่ า่ ยทอดไปยงั บคุ คลอนื่ หรอื หนว่ ยงานอน่ื เชน่ การใชเ้ ครอื ขา่ ยในองคก์ ร หรอื การใช้ ซอรฟ์ แวรส์ าหรบั ทางานเป็ นกลมุ่
ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศเฮอรไ์ ชม์ (Hirscheim, 1985) ไดเ้ สนอแนวคดิเกย่ี วกบั ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศสามารถจาแนกได้ 3 กลมุ่ คอื กลมุ่ ทมี่ องผลกระทบในดา้ นบวก (optimism) กลมุ่ ทม่ี องผลกระทบในดา้ นลบ (Pessimisms) กลมุ่ ทม่ี องผลกระทบในลกั ษณะสมั พนั ธ์ (Relativism)
ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศแนวคดิ ทมี่ องในดา้ นบวก แนวคดิ นซ้ี มึ ลกึ อยใู่ นวฒั นธรรมของอเมรกิ นั โดยมี สมมตฐิ านวา่ IT ไมค่ วรไดร้ บั การปฏเิ สธไมว่ า่ ภายใตส้ ถานการณใ์ ด ๆ แตค่ วรจะมกี ารนาไปใช้ อยา่ งแพรห่ ลายและรวดเร็ว แนวคดิ นเี้ ชอ่ื วา่ IT เป็ นยาสารพดั โรคทแ่ี กป้ ญั หา ทกุ อยา่ งได้ แนวคดิ นเี้ ชอื่ วา่ IT มลี กั ษณะเบ็ดเสร็จสมบรู ณ์ใน การควบคมุ กระบวนการทางานภายในองคก์ ร แนวคดิ นเี้ ชอ่ื วา่ IT จะนาไปสกู่ ารจา้ งงานเพมิ่ ขนึ้ , ทาใหม้ กี ารกระจายอานาจมากขนึ้ , ทาใหก้ าร ตดิ ตอ่ สอ่ื สารดขี นึ้ , ชว่ ยเพมิ่ ผลผลติ
ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศแนวคดิ ทมี่ องในดา้ นลบ แนวคดิ นมี้ องวา่ องคก์ รประกอบดว้ ยกลมุ่ คนทม่ี ี ความขดั แยง้ และกลมุ่ ทมี่ อี านาจเหนอื กวา่ จะนา IT เขา้ มาใชใ้ นการควบคมุ การทางาน กลมุ่ นมี้ องวา่ IT จะนาไปสกู่ ารจา้ งงานทลี่ ดลง, ทาใหม้ กี ารรวมศนู ยอ์ านาจมากขนึ้ , ทาใหม้ ี สารสนเทศมากเกนิ ไป และไมไ่ ดท้ าใหเ้ กดิ การ เปลย่ี นแปลงในผลผลติ ทแ่ี ทจ้ รงิ แตอ่ ยา่ งใด กลมุ่ นมี้ องวา่ IT ทาใหก้ ารทางานเป็ นลกั ษณะ ประจา, นา่ เบอื่ , ทาใหค้ วามพอใจและคณุ ภาพ ชวี ติ การทางานลดลง กลมุ่ นมี้ องวา่ IT ทาใหเ้ กดิ ปญั หาตา่ ง ๆ เชน่ ปญั หาเศรษฐกจิ ,สงั คม ฯลฯ
ผลกระทบของเทคโนโลยสี ารสนเทศแนวคดิ เชงิ สมั พนั ธ์ กลมุ่ นม้ี องวา่ IT จะเป็ นตวั แปรแทรกระหวา่ ง ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งคนและองคก์ าร กลมุ่ นม้ี องวา่ IT จะเป็ นบวกหรอื ลบขนึ้ อยกู่ บั การ สรา้ งและการใชเ้ ทคโนโลยี กลมุ่ นมี้ องวา่ การออกแบบ IT ทดี่ ี คอื การสรา้ ง ดลุ ยภาพระหวา่ งความพอใจของผใู้ ชแ้ ละ ประสทิ ธภิ าพดา้ นเทคนคิ การออกแบบระบบ คอมพวิ เตอรท์ ดี่ ไี มเ่ พยี งแตช่ ว่ ยใหง้ านประสบ ความสาเร็จ แตย่ งั ชว่ ยใหค้ นมคี วามพอใจในการ ทางานเพมิ่ ขนึ้ ดว้ ย
What is Enterprise Computing?What is an enterprise? เป็ นองคก์ รขนาดใหญ่ เชน่ multinational corporation, university, hospital, research laboratory, or government organizationตอ้ งการการคานวณในการแกป้ ญั หาเนอ่ื งจากมปี รมิ าณขอ้ มลู จานวนมาก Enterprise computing—ใชค้ อมพวิ เตอรร์ ะบบเครอื ขา่ ย ทม่ี รี ะบบการทางานทแี่ ตกตา่ งกนั ของระบบปฏบิ ตั กิ าร โปรโตคอล และสถาปตั ยกรรมเครอื ขา่ ยp. 714 Nex t
What is Enterprise Computing? การไหลของสารสนเทศในองคก์ รขนาดใหญ?่ องคก์ รขนาดใหญจ่ ะมกี ารจดั การขอมลู จานวนมากท่ี เชอื่ มโยงเขา้ ดว้ ยกนั ในกลมุ่ หรอื นอกกลมุ่ เครอื ขา่ ยp. 714 Fig. 14-1 Nex t
What is Enterprise Computing? What are the four categories of users? Executive management strategic decisions Middle management tactical decisions Operational management operational decisions Nonmanagement employees on-the-job decisionsp. 717 Next
What is Enterprise Computing? What is enterprise information? Information ชว่ ยในการดาเนนิ งานขององคก์ ร รวบรวม ผสาน และวเิ คราะหข์ อ้ มลู ทนั เวลา ชว่ ยในการตดั สนิ ใจทด่ี กี วา่p. 718 Next
ระดบั ปฏบิ ตั กิ าร (Operational Level) ( Lower Manager)เป็ นการปฏบิ ตั งิ านประจา กจิ กรรมในการทางานแตล่ ะวนั กบั ลกู คา้ดแู ลและควบคมุ การทางานในการปฏบิ ตั งิ านการตดั สนิ ใจ (Operational Decision) เป็ นแบบมโี ครงสรา้ ง การทางานซา้ ๆระบบสารสนเทศ (Information system) กจิ กรรมทม่ี รี ปู แบบซา้ ๆกนั มกี ารตรวจสอบมปี ระสทิ ธภิ าพการทางานกบั ลกู คา้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161