Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ7ppt

ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ7ppt

Published by hunter_za55, 2017-06-26 00:39:17

Description: ระบบสารสนเทศเพื่อการจัดการ7ppt

Search

Read the Text Version

บทท่ี 1ความรู้พนื้ ฐานเกย่ี วกบั ระบบสารสนเทศ อาจารย์ศรีนวล ฟองมณี

ความหมายของระบบกติ ติ ภกั ดวี ฒั นะกุล และ พนิดา พานิชกลุ (2546:23) กลา่ ววา่ระบบ หมายถึง การนาองค์ประกอบต่าง ๆ อนั ได้แก่ คน (People) ทรัพยากร(Resource) แนวคิด (Concept) และกระบวนการ (Process) ผสมผสานการทางานร่วมกนั เพื่อให้บรรลเุ ป้ าหมายอยา่ งใดอยา่ งหนง่ึ ตามทไ่ี ด้วางแผนไว้ เชน่ -ระบบการเรียนการสอน -ระบบบญั ชี ระบบจดั ซือ้ --ระบบสารสนเทศโดยภายในระบบอาจประกอบไปด้วยระบบยอ่ ยต่างๆ ท่ีต้องทางานร่วมกนั เพื่อให้บรรลวุ ตั ถปุ ระสงค์เดยี วกนั

ความหมายของระบบ(ต่อ)ฝ่ ายผลติ หนังสือตาราวชิ าการคอมพวิ เตอร์ (2551:12) กลา่ ววา่ระบบ หมายถึง กล่มุ ขององค์ประกอบที่มีความสมั พนั ธ์กนั โดยความสมั พนั ธ์กนั ในท่ีนีย้ งั สามารถเป็นความสมั พนั ธ์แบบบางสว่ นหรือทงั้ หมดแต่ละองค์ประกอบของระบบจะต้ องประสานทางานร่วมกันเพื่อบรรลุวตั ถปุ ระสงค์เดียวกนั

ความหมายของระบบ(ต่อ)โอภาส เอ่ยี มสริ ิวงศ์ (2555:18) กลา่ ววา่ระบบ (System) คือกลมุ่ ขององค์ประกอบตา่ งๆ ท่มี ีความสมั พนั ธ์กนั แตล่ ะองค์ประกอบจะประสานการทางานร่วมกนั เพื่อบรรลสุ เู่ ป้ าหมายเดยี วกนัระบบที่ดจี าเป็นต้องมีองค์ประกอบของระบบทเี่ รียกวา่ ระบบยอ่ ย (Subsystem) ทีส่ ามารถประสานการทางานร่วมกนั ภายในระบบได้เป็นอยา่ งดี เพื่อนาไปสสู่ ภาพใหญ่ของระบบให้สามารถทางานได้บรรลตุ ามเป้ าหมาย เชน่ระบบงานทางคอมพิวเตอร์ที่ประกอบด้วยระบบยอ่ ยอยู่ 3 สว่ นหลกั ๆ ด้วยกนั คอื ฮาร์ดแวร์ซอฟต์แวร์ และบคุ ลากร สว่ นประกอบทงั้ 3 เหลา่ นี ้จะต้องประสานการทางานร่วมกนั เพื่อบรรลถุ งึเป้ าหมายเดียวกนั เพ่ือให้ได้มาซง่ึ ผลลพั ธ์ตรงตามความต้องการ หากมีสว่ นใดขดั ข้องสง่ ผลกระทบตอ่ ระบบโดยรวม และผลกระทบได้พอกพนู มากขนึ ้ ก็อาจนาไปสคู่ วามล้มเหลวของระบบได้ในทสี่ ดุ

ความหมายของระบบ(ต่อ)จากความหมายข้างต้นสรุปได้ว่าระบบ (System) หมายถงึ กลมุ่ ขององค์ประกอบที่มีความสมั พนั ธ์กนั ทางานร่วมกนัเพื่อบรรลุวตั ถุประสงค์เดียวกัน โดยแต่ละองค์ประกอบจะต้องประสานการทางานร่วมกนั ระบบที่ดี จาเป็นต้องมีระบบย่อยท่ีสมบรู ณ์ในตวั สว่ นประกอบภายในระบบจาเป็นต้องได้รับการประสานการทางานท่ีดี ภาพรวมของระบบ ถกู กาหนดด้วยขอบเขต(System Boundary) ขอบเขตของระบบประกอบด้วยองค์ประกอบตา่ งๆ ของระบบเรียกวา่ ระบบย่อย ระบบยอ่ ยสามารถถกู เปลีย่ นแปลงได้ในระหวา่ งขนั้ ตอนการออบแบบระบบ โดย ส่ิงตา่ งๆ ที่อย่ภู ายนอกขอบเขตระบบ จงึ เรียกว่า สภาพแวดล้อม (Environment)

ความหมายของระบบ(ต่อ) ระบบที่ดคี วรมีระบบยอ่ ยตา่ งๆ ทมี่ ีความสมบรู ณ์ในตวั ระบบยอ่ ยจะมีการสือ่ สารร่วมกนั การสง่ ผลป้ อนกลบั (Feedback) ระหว่างกนั มีระบบเฝ้ าสังเกตการณ์ (Monitoring) เพื่อควบคุมให้ ระบบดาเนินการตาม วตั ถปุ ระสงค์ท่ีต้องการ ระบบท่ีดีจะต้องได้รับการออกแบบระบบย่อยต่างๆ ให้มีความเป็ นอิสระต่อกนั มาก ทสี่ ดุ ด้วยการลดจานวนเส้นทางการไหลของข้อมลู (Flows)ระหว่างกนั

ชนิดของระบบ1. ระบบปิ ด(Closed System)เป็นระบบแบบโดดเด่ียว ไมม่ ีการปฏิสมั พนั ธ์ใดๆ กบัสง่ิ แวดล้อม

ตัวอย่างระบบปิ ด- ระบบสารสนเทศของธนาคารที่ใช้สาหรับบนั ทกึ การธรุ กรรมทางการเงินของลกู ค้า พนกั งานจะเป็นผ้ดู าเนินการบนั ทกึ ข้อมลู ตามขนั้ ตอนที่ระบบกาหนดไว้- ระบบสารสนเทศสาหรับการทาบตั รประชาชนของหน่วยงานภาครัฐเจ้าหน้าท่ีจะเป็นผ้ดู าเนินการบนั ทกึ ข้อมลู ตามขนั้ ตอนที่กาหนดไว้-เวบ็ ไซต์สาหรับการแจ้งขา่ วประกาศของมหาวิทยาลยั ราชภฏั เชียงราย ที่มีไว้สาหรับการแจ้งขา่ วประกาศเกี่ยวกบั การรับสมคั รนกั ศกึ ษา การรับสมคั รบคุ ลากร แจ้งขา่ วการเปิดประมลู วสั ดคุ รุภณั ฑ์ แจ้งขา่ วกิจกรรมตา่ งๆของมหาวิทยาลยั ซงึ่ เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องจะเป็นผ้บู นั ทกึ ข้อมลู

ชนิดของระบบ(ต่อ)2. ระบบเปิ ด (Open System) เป็นระบบที่มกี ารปฏสิ มั พนั ธ์กบั สิ่งแวดล้อม มกี ารโต้ตอบกบั ระบบอ่ืนๆ

ตัวอย่างระบบเปิ ด- ระบบการลงทะเบยี นเรียนออนไลน์ของนกั ศกึ ษามหาวิทยาลยั ราชภฏั เชียงราย- ระบบรับฝากประกาศขายสินค้าออนไลน์ ทเ่ี ปิดโอกาสให้สมาชกิ ฝากข้อความประกาศขายสนิ ค้า และเปิดให้สมาชิกแลกเปลี่ยนความคดิ เหน็ กนั ได้ ซง่ึ ข้อมลู ทีเ่ กิดขนึ ้ มาจากสมาชิกทไ่ี ม่สามารถคาดเดาได้- ระบบการขายสนิ ค้าออนไลน์ ทีล่ กู ค้าสามารถเลอื กซอื ้ สินค้าด้วยตนเองผา่ นทางเวบ็ ไซต์กระบวนการซอื ้ ขายสินค้าจะเกิดจากลกู ค้าเป็นผ้กู าหนด

แนวทางการศึกษาระบบอะไร (What)วตั ถุประสงค์ของระบบคืออะไร มีแผนงานขนั้ ตอนอะไรบ้าง ที่สามารถนาพาองค์กรให้บรรลตุ ามเป้ าหมายท่ีวางไว้อยา่ งไร (How)มีวิธีการทางานอย่างไร จาเป็นต้องนาเครื่องมือใดมาใช้บ้าง เพ่ือให้งานสาเร็จได้อยา่ งรวดเร็ว

แนวทางการศึกษาระบบ (ต่อ)เม่อื ไร (When)จะเร่ิมดาเนินงานเมอ่ื ไร และผลสาเร็จของงานจะสาเร็จลลุ ว่ งได้เม่อื ไรใคร(Who)บคุ คลหรือทีมงานใดที่รับผิดชอบและบทบาทหน้าทค่ี ืออะไร

ระบบสารสนเทศ (Information System)หมายถงึการรวบรวมองค์ประกอบตา่ งๆ (ข้อมลู การประมวลผล การเช่ือมโยง เครือข่าย)เพอื่ นาเข้า (Input) สรู่ ะบบใดๆ แล้วนามาผ่านกระบวนการบางอย่าง (Process)ท่ีอาจใช้คอมพิวเตอร์ช่วยเพื่อเรียบเรียง เปลี่ยนแปลง และจัดเก็บ เพื่อให้ได้ผลลพั ธ์ (Output) ที่สามารถใช้สนบั สนนุ การตดั สินใจทางธรุ กิจได้

แสดงกระบวนการทางานของระบบสารสนเทศ

กระบวนการทางานของระบบสารสนเทศInput คอืการเก็บรวบรวมสมาชิกหรือองค์ประกอบของระบบ เช่น ข้อมูล (Data) หรือสารสนเทศ (Information) เพ่ือนาไปทาการประมวลผลต่อไป เช่น การเก็บข้อมลู ที่เป็ นคะแนนสอบของนกั ศกึ ษา เพื่อท่ีจะนาไปส่กู ารคานวณให้เป็ นเกรดตอ่ ไป

กระบวนการทางานของระบบสารสนเทศ(ต่อ)• Processing คือการเปลย่ี นแปลง หรือแปรสภาพ ข้อมลู ที่นาเข้าสรู่ ะบบ (Input) เพ่ือให้ได้ผลลพั ธ์ (Output) ทีส่ ามารถใช้ในการตดั สินใจได้การเปลี่ยนแปลง หรื อแปรสภาพ นัน้ อาจจะเป็ นการคานวณเปรียบเทียบหรือวธิ ีการอ่นื ๆ ก็ได้

กระบวนการทางานของระบบสารสนเทศ(ต่อ)•Output คือผลลพั ธ์ทไี่ ด้เน่ืองจากการประมวลผลข้อมลู หรือสารสนเทศ แสดงอย่ใู นรูปแบบของรายงาน (Report) หรือเป็นแบบฟอร์มต่างๆ เพื่อนาไปใช้ในการดาเนินงานทางธรุ กิจตอ่ ไป

กระบวนการทางานของระบบสารสนเทศ(ต่อ)•Feedback คือผลลพั ธ์ที่ทาให้เกิดการปรับปรุง เปลี่ยนแปลง ในการนาข้อมลู เข้า หรือการประมวลผลข้อมลู เช่น ข้อผิดพลาดที่พบจากรายงานต่างๆ นนั้ ทาให้ทราบได้ว่า ในขณะนาข้อมูลเข้า หรือการประมวลผลนัน้ อาจมีข้อผิดพลาดเกิดขึน้ ทาให้เกิดการปรับปรุงพฤติกรรมในการทางานขององค์กรเพ่อื ให้มีความถกู ต้องมากขนึ ้Feedback จึงมีความสาคัญอย่งยิ่งในการทางานเพื่อให้ เกิดประสทิ ธิภาพและประสทิ ธิผลเป็นทนี่ า่ พอใจ

ชนิดของระบบสารสนเทศ 1. ระบบการประมวลผลรายการ(Transaction Processing Systems: TPS) 2. ระบบสารสนเทศเพ่อื การจัดการ(Management Information Systems: MIS) 3. ระบบสนับสนุนการตัดสนิ ใจ (Decision Support Systems: DSS) 4.ระบบผู้เช่ียวชาญ (Expert Systems: ES) 5. ระบบสานักงานอตั โนมัติ (Office Automation Systems:OAS)6. ระบบสารสนเทศเพ่อื ผู้บริหารระดบั สูง (Executive Information Systems: EIS)

1. ระบบการประมวลผลรายการ(Transaction Processing Systems: TPS)เป็นระบบท่ีช่วยในการจดั เก็บและประมวลผลข้อมลู ที่เกิดจากเหตกุ ารณ์ประจาวนั ของธรุ กิจ หรือเรียกอกี อย่างหนง่ึ วา่ Data Processing Systemเช่น - การจดั ซือ้ วตั ถดุ บิ - ยอดสงั่ ซอื ้ สนิ ค้าจากลกู ค้า - ยอดขาย - การสง่ ของ - การจอง - ลงทะเบยี น - การออกใบแจ้งรายการสินค้า (Invoice) - ใบสาคญั จ่ายเงนิ

แสดงการทางานของวงจรการประมวลผลระบบสารสนเทศรประมวลผลรายการ

คุณลกั ษณะของระบบการประมวลผลรายการ1. สามารถจดั เก็บข้อมลู ท่ีเกิดขนึ ้ ประจาวนั ของการดาเนินธุรกิจได้ เช่นประวตั ลิ กู ค้า รายการสงั่ ซอื ้ สนิ ค้าจาก ลกู ค้า2. สามารถสร้างข้อมลู เพื่อดาเนินธุรกิจได้ เช่น ออกใบกากบั ภาษี ออกใบแจ้งหนี ้ออกใบรายการสินค้า3. บารุงรักษาข้อมลู (Data maintenance) โดยการปรับปรุงข้อมลู (เพิ่มลบ แก้ไข) ให้เป็ นปัจจุบันมากที่สุดไม่ว่าจะเป็ นการเปลี่ยนแปลงของราคาสนิ ค้า ชื่อทอ่ี ย่ขู องลกู ค้า รหสั สินค้า เป็นต้น4. สนบั สนนุ การตดั สินใจแบบไมม่ ีโครงการสร้าง

ส่ิงทตี่ ้องคานึงถงึ ในระบบการประมวลผลรายการได้แก่1. การตอบสนองการทางาน (Response time) ต้องมีความรวดเร็ว2. สามารถประมวลผลข้อมลู จานวนมาก3. ผลลพั ธ์ท่ีได้ต้องมีความถกู ต้อง (Accuracy)4. กรณีที่ประมวลผลพร้อมกนั จากผ้ใู ช้หลายคนข้อมลู จะต้องมีความสอดคล้องกนั (Consistency)

2. ระบบสารสนเทศเพ่ือการจัดการ(Management Information Systems: MIS)ระบบสารสนเทศเพ่ือการจดั การ เป็ นระบบท่ีนาสารสนเทศมาช่วยในการจดั ทารายงานลกั ษณะตา่ งๆ วางแผน และควบคมุ การดาเนินงานทางธรุ กิจ

คุณลกั ษณะของระบบสารสนเทศเพอ่ื การจัดการ1. สามารถสร้างสารสนเทศที่อ้างอิงได้ตามหลกั การด้านการจดั การ ด้านคณิตศาสตร์ หรือสถิติ ที่เป็นท่ียอมรับได้2.ข้อมลู มาจากระบบประมวลผลรายการ หรือแหลง่ ข้อมลูภายนอก

คุณลกั ษณะของระบบสารสนเทศเพอื่ การจดั การ3. สว่ นของรายงานประกอบด้วย 4 สว่ นดงั นี ้ (1) สว่ นรายละเอยี ด เป็นสว่ นแสดงรายละเอียดงานด้านการปฏิบตั ิงานท่ีเป็นกิจวตั รประจาวนั ขององค์กร วตั ถปุ ระสงค์เพอ่ื การควบคมุ การปฏบิ ตั ิงานขององค์กร (2) สว่ นผลสรุป เป็นสว่ นท่ีเกิดจากการรวบรวมข้อมลู เพ่อื นาไปใช้ในการวิเคราะห์แนวโน้มและความเป็นไปได้ท่ีจะเกิดปัญหาในด้านตา่ งๆ (3) สว่ นกรณีเฉพาะ เป็นข้อมลู ท่ีเกิดจากการกรองตามเงื่อนไขที่ต้องการ (4) สว่ นการพยากรณ์ เป็นข้อมลู การคาดคะเนตามเงื่อบไขท่ีต้องการ4. สนบั สนนุ การตดั สินใจแบบมโี ครงสร้าง

3. ระบบสนับสนุนการตดั สินใจ(Decision Support Systems: DSS)เป็นระบบสารสนเทศที่สร้างแนวทางการตดั สินใจให้แก่ผ้ใู ช้ โดยมีการสร้ างสถานการณ์จาลองการตดั สินใจในแต่ละทางเลือก เพื่อให้ผู้ใช้มน่ั ใจในการตดั สนิ ใจทางเลอื กท่ีต้องการ สว่ นใหญ่เป็นการตดั สินใจในเหตกุ ารณ์ที่ไมส่ ามารถคาดการณ์ได้ลว่ งหน้า

ส่วนประกอบของ DSS

คุณลกั ษณะของระบบสนับสนุนการตัดสินใจ1) จดั เตรียมสารสนเทศจากระบบประมวลผลรายการ หรือคลงั ข้อมลู2) มีการสร้างแบบจาลองการตดั สนิ ใจโดยจะสร้างทางเลอื กในการตดั สนิ ใจหลายๆ ทางและแสดงผลลพั ธ์ของการตดั สนิ ใจในแตล่ ะทางเลอื กเน3่อื) งมจีคาวกาลมกั ยษดื ณหยะนุ่ขอสงาปมัญารหถาสมนีคอวงาตมอไบมคแ่ วนาน่ มอตน้องแกลาะรเทปีเ่ลป่ยี ลนย่ี แนปแลปงลตงาไมปสขถอางนผ้กใู ชา้ รณ์4) เป็ นระบบท่งี า่ ยตอ่ การเรียนรู้และใช้งาน5) สามารถโต้ตอบกบั ผ้ใู ช้อยา่ งรวดเร็วและมีประสทิ ธิภาพ6) สนบั สนนุ ตดั สนิ ใจแบบก่ึงมีโครงสร้างและการตดั สินใจแบบไมม่ ีโครงสร้าง

ระบบสนับสนุนการตัดสินใจการทางานของ DSS ต้องอาศัยสารสนเทศจากฐานข้ อมูล(Database) ซึ่งมีการเตรียมสารสนเทศท่ีเหมาะสาหรับการตัดสินใจไว้ โดยเฉพาะ เพ่ือเพ่ิมความรวดเร็วในการดึงสารสนเทศนัน้ มาใช้ งาน จึงได้ มีการแยกฐานข้ อมูลของสารสนเทศท่ีเตรียมไว้สาหรับ DSS และระบบอื่นที่เกี่ยวข้องโดยเฉพาะ เราเรียกฐานข้อมลู นนั้ วา่ “คลังข้อมลู (Data Warehouse)”

คลงั ข้อมูล (Data Warehouse)คือ ฐานข้อมลู ท่ีได้มีการเตรียมสารสนเทศเพ่ือระบบสนบั สนนุ การตดั สินใจไว้โดยเฉพาะมีลกั ษณะดงั นี ้1)สามารถอา่ นข้อมลู จากคลงั ข้อมลู ได้อย่างเดยี ว2)สารสนเทศที่จดั เกบ็ ในคลงั ข้อมลู ประกอบด้วยสารสนเทศทม่ี สี ว่ นรายละเอยี ด สว่ นผลสรุปและสว่ นสารสนเทศกรณีเฉพาะ3)สามารถเข้าถงึ ข้อมลู ได้ทงั้ ผ้ใู ช้ลาดบั สดุ ท้ายและผ้บู ริหาร4)เตรียมเคร่ืองมือที่สนบั สนนุ การตดั สนิ ใจ

4. ระบบผู้เชี่ยวชาญ(Expert Systems: ES)เป็ นระบบท่ีช่วยแก้ปัญหาหรือทาการตดั สินใจแทนผ้ใู ช้ โดยทาการลอกเลียนแบบเหตุผลและความคิดนัน้ จากสารสนเทศที่เก็บรวบรวมมาจากประสบการณ์ในการแก้ปัญหาจริง และนามาเป็นทางเลอื กในการแก้ปัญหาหรือตดั สินใจ

องค์ประกอบของระบบผู้เชี่ยวชาญ ตดิ ตอ่ กบั ผ้ใู ช้ ระบบผ้เู ชี่ยวชาญ (User Interface) (Expert System)ผู้ใช้ (User) กฎขนั้ พนื ้ ฐาน (Rule Base) กลไกในการวินิจฉยั ข้อมลู (Interface Engine) องค์ความรู้ (Knowledge Base)

ระบบผู้เชี่ยวชาญ- กฎขนั้ พืน้ ฐาน (Rule Base) เป็นการควบคมุ ให้เครื่องคอมพิวเตอร์ทาการตดั สนิ ใจตามกฎขนั้ พืน้ ฐานท่ีสร้างลอกเลียนเหตผุ ลการตดั สนิ ใจในการแก้ปัญหาจากผ้เู ช่ียวชาญ- กลไกลการวินิจฉยั ข้อมลู (Interface Engine) เป็นสว่ นท่ีทาการวินิจฉยั ข้อมลู ที่ทาการป้ อนเข้าสรู่ ะบบจากผ้ใู ช้ โดยใช้อาศยั ข้อมลู จากองค์ความรู้ที่รวบรวมไว้และใช้วิธีการตดั สนิ ใจจากกฏขนั้ พืน้ ฐาน- องค์ความรู้ คอื ความรู้และเหตผุ ลของการตดั สินใจ ท่ีรวบรวมจากผ้เู ชี่ยวชาญจดั เกบ็ ไว้เป็นระบบเพอื่ นาไปใช้ประกอบการตดั สนิ ใจในกลไกลการวินิจฉยั ข้อมลู

คุณลกั ษณะของระบบผู้เช่ียวชาญ1)เลียนแบบวธิ ีการคิดและเหตผุ ลของผ้เู ชี่ยวชาญจากประสบการณ์ในการแก้ปัญหาจริงในด้านตา่ งๆ2)ใช้ข้อมลู จากคลงั ข้อมลู ของระบบสนบั สนนุ การตดั สนิ ใจ3)สนบั สนนุ การตดั สนิ ใจแบบมีโครงสร้างตวั อยา่ งระบบผ้เู ชี่ยวชาญ เช่น ระบบวินิจฉยั โรคท่ีใช้ในวงการแพทย์ ผ้ใู ช้เพียงป้ อนข้อมลู อาการของโรค ระบบผ้เู ชี่ยวชาญจะทาการตดั สนิ ใจวา่ อาการนนั้ ป่ วยเป็นโรคอะไร พร้อมทงั้ แนะนาวิธีการรักษา และให้ความรู้เกี่ยวกบั โรคนนั้ เป็นต้น

ความแตกต่างระหว่างระบบผู้เช่ียวชาญและระบบสนับสนุนการตดั สินใจระบบสนบั สนนุ การตดั สนิ ใจเป็นระบบที่เสนอทางเลือกในการตดั สินใจให้แก่ผ้ใู ช้ สว่ นระบบผ้เู ช่ียวชาญจะตดั สนิ ใจแทนผ้ใู ช้ โดยอาศยั ประสบการณ์จริงของผ้เู ช่ียวชาญ

5. ระบบสานักงานอตั โนมตั ิ(Office Automation Systems: OAS)เป็นระบบสนบั สนนุ กิจกรรมการทางานในสานกั งานท่ีเกิดขนึ ้ ในแต่ละวนั รวมทงั้ ช่วยในการติดต่อส่ือสารของบคุ ลากรไม่ว่าจะอยใู่ นสถานท่ีเดยี วกนั หรือไม่ก็ตาม

คุณลกั ษณะของระบบสารสนเทศเพอื่ สานักงานคุณลกั ษณะของระบบสารสนเทศเพ่ือสานักงาน1)เก็บรวบรวมสารสนเทศ ที่เกี่ยวข้องกบั กลมุ่ บคุ คลทกุ กลมุ่ ไว้เพื่อการใช้งาน2)ชว่ ยการทางานอตั โนมตั ิด้านตา่ งๆ ได้แก่ - การประมวลผลคา (Word Processing) - สง่ ข้อความอเิ ลก็ ทรอนิกส์ หรือ จดหมายอเิ ล็กทรอนิกส์ - การทางานร่วมกนั เป็ นเครือขา่ ยคอมพวิ เตอร์ (Work Group Computing) - การกาหนดการทางานร่วมกนั (Work Group Scheduling) - การจดั การกระแสการทางาน (Work Flow Management)3) สนบั สนนุ การตดั สนิ ใจแบบมีโครงสร้าง

การประยกุ ต์ใช้เทคโนโลยรี ่วมกนั ระหว่าง ระบบสานักงานอตั โนมตั กิ บั ระบบประมวลผลรายการ1)เทคโนโลยกี ารสร้างแบบฟอร์มอเิ ลก็ ทรอนิกส์ เป็นการชว่ ยสร้างแบบฟอร์มอเิ ลก็ ทรอนิกส์ เพ่ือให้สามารถใช้งานร่วมกบั ฐานข้อมลู ของระบบประมวลผลรายการ2)เทคโนโลยกี ารทางานร่วมกนั เป็นกลมุ่ (Work Group Technology) เชน่ การทางานที่มีการใช้งานของผ้ใู ช้หลายคนเพื่อเข้าถงึ และปรับปรุงข้อมลู ร่วมกนั จากการทางานทเี่ กิดขนึ ้ ประจาวนั3)เทคโนโลยขี ้อความอเิ ลก็ ทรอนิกส์ (Electronic Messing Technology) พนกั งานสามารถตดิ ตอ่ สอื่ สารกนั ได้ด้วยการสง่ ข้อความอเิ ลก็ ทรอนิกส์4)เทคโนโลยชี ดุ โปรแกรมสานกั งานอตั โนมตั ิ (Office Automation Suite Technology) นาโปรแกรมทีใ่ ช้ในสานกั งานมาประยกุ ต์ใช้ร่วมกนั5)เทคโนโลยรี ูปภาพ (Imaging Technology) เป็นการผสมผสานกนั ระหว่างรูปภาพและแบบฟอร์มอิเลก็ ทรอนิกส์เพ่ือใช้ในการทางาน หรือการสแกนรูปภาพ ชว่ ยทาให้องค์กรประหยดั คา่ ใช้จา่ ย

ระบบสารสนเทศเพอื่ ผู้บริหารระดับสูง (Executive Information Systems: EIS)เป็นระบบที่ออกแบบมาเพอ่ื ตอบสนองความต้องการของผ้บู ริหารระดบั สงู มีรูปแบบการใช้งานที่ง่าย สารสนเทศท่ีได้สามารถชว่ ยพยากรณ์ และวิเคราะห์แนวโน้มตา่ งๆ ท่ีเก่ียวข้องกบั การควบคมุ นโยบาย และการวางแผนเชิงกลยทุ ธ์ของผ้บู ริหารระดบั สงู โดยใช้งานร่วมกบั ระบบสนบั สนนุ การตดั สนิ ใจ

คุณลกั ษณะของระบบสารสนเทศเพอื่ ผู้บริหารระดบั สูง1)ใช้งานงา่ ย ผ้ใู ช้ไมจ่ าเป็นต้องมที กั ษะทางคอมพวิ เตอร์สงู2)สารสนเทศท่ีได้จะอย่ใู นรูปแบบของรูปภาพ แผนภาพ ตาราง หรือกราฟ3)แหลง่ ข้อมลู ที่ใช้มาจากแหลง่ ข้อมลู ภายในและภายนอกองค์กร4)มีระบบรักษาความปลอดภยั สงู5)ทางานร่วมกบั ระบบสารสนเทศสนบั สนนุ การตดั สินใจ6)สามารถตอบสนองความต้องการได้อยา่ งรวดเร็ว7)สนบั สนนุ การตดั สนิ ใจแบบไมม่ โี ครงสร้าง

ระบบสารสนเทศทางธุรกจิ1. ระบบสารสนเทศทางการบญั ชี2. ระบบสารสนเทศทางการเงนิ3. ระบบสารสนเทศทางการตลาด4. ระบบสารสนเทศทางการผลิตและการดาเนินงาน5. ระบบสารสนเทศด้านทรัพยากรบุคคล

1. ระบบสารสนเทศทางการบญั ชีการพฒั นาโปรแกรมสาเร็จรูปท่สี ามารถนามาใช้เพ่ือจดั เก็บ รวบรวมและประมวลผล โดยระบบสารสนเทศทางการบญั ชีเป็นระบบทีร่ วบรวม จดั ระบบ และนาเสนอสารสนเทศทางการบญั ชีท่ชี ว่ ยในการตดั สินใจสาหรับผ้ใู ช้สารสนเทศทงั้ ภายในและภายนอกองค์กร และระบบสารสนเทศทางการบญั ชียงั มีสว่ นประกอบหลกั 2 สว่ นด้วยกนั คือ1.1 ระบบบัญชีการเงนิ คือการบนั ทกึ รายการค้าทเ่ี กิดขนึ ้ ในรูปตวั เงนิ การจดั หมวดหม่รู ายการตา่ งๆ การสรุปผลและตคี วามหมายในงบการเงนิ1.2 ระบบบัญชีบริหาร คอื การนาเสนอข้อมลู ทางการเงินแก่ผ้บู ริหาร เพอื่ นาไปใช้ในการตดั สินใจทางธรุ กิจ ซง่ึประกอบด้วย บญั ชีต้นทนุ งบประมาณ เป็นต้น

2. ระบบสารสนเทศทางการเงิน2.1 การพยากรณ์ เก่ียวข้องกบั การศกึ ษา วิเคราะห์ คาดการณ์ กาหนดทางเลือกและวางแผนด้านการเงินของธรุ กิจ เพื่อให้เกิดการใช้ทรัพยากรทางการเงินให้มีประสทิ ธิภาพสงู สดุ2.2 การจัดการด้านการเงนิ เก่ียวข้องกบั การบริหารเงินให้เกิดประโยชน์ใช้สอยสงู สดุ เชน่ รายรับและรายจา่ ย การหาแหลง่ เงินทนุ จากภายนอกเพอื่ เพิ่มทนุ ไมว่ า่ จะเป็นการก้ยู ืม การออกห้นุ หรือตราสารทางการเงินอ่ืนๆ เป็นต้น2.3 การควบคุมทางการเงนิ เกี่ยวข้องกบั การตดิ ตามผล การตรวจสอบ และประเมินความเหมาะสมในการดาเนินงานวา่ เป็นไปตามแผนท่ีกาหนดหรือไม่ตลอดจนการวางแนวทางแก้ไขหรือปรับปรุงระบบให้การดาเนินงานทางการเงินของธรุ กิจเป็นไปอยา่ งมีประสิทธิภาพ ทงั้ นีก้ ารตรวจสอบและการควบคมุ ทางการเงินของธรุ กิจก็จะมีระบบการควบคมุ ภายใน และระบบการควบคมุ ภายนอก

3. ระบบสารสนเทศทางการตลาด3.1 การปฏบิ ัตงิ านคือข้อมลู ที่เก่ียวข้องกบั ยอดขาย และการดาเนินงานด้านการตลาดตลอดช่วงระยะเวลาท่ีผ่านมา3.2 การวจิ ยั ตลาด คอื ข้อมลู ที่ได้จากการศกึ ษาและวิเคราะห์ข้อมลู ทางการตลาด ท่ีเก่ียวข้องกบั พฤตกิ รรมและความสมั พนั ธ์ของผ้บู ริโภคท่ีมตี อ่ ผลติ ภณั ฑ์หรือบริการของธรุ กิจ3.3 ค่แู ข่ง ข้อมลู การดาเนินงานของคแู่ ขง่ จะช่วยประเมินศกั ยภาพของเราเพ่ือนามาปรับใช้กบั ธรุ กิจของเรา3.4 กลยุทธ์ขององค์กร กลยทุ ธ์จดั เป็นเคร่ืองกาหนดแนวทางปฏิบตั ิของธรุ กิจ และเป็นฐานสาคญั ของการกาหนดกลยทุ ธ์ทางการตลาดขององค์กร3.5 ข้อมูลภายนอก เกี่ยวข้องกบั การเมอื ง เศรษฐกิจ และเทคโนโลยีอาจสง่ ผลตอ่โอกาสหรืออปุ สรรคของ

4. ระบบสารสนเทศทางการผลติ และการดาเนินงาน4.1 ข้อมูลการผลติ /การดาเนินงานคือข้อมลู จากกระบวนการผลติ หรือการ4.2 ข้อมูลสนิ ค้าคงคลงั คือการบนั ทกึ ปริมาณของวตั ถดุ บิ และสนิ ค้าสาเร็จรูปท่ีเก็บไว้4.3 ข้อมูลจากผู้ขายวตั ถุดบิ คือข้อมลู ท่ีเก่ียวกบั รปริมาณ คณุ สมบตั ิ และราคาวตั ถดุ ิบ ตลอดจนชอ่ งทางและต้นทนุ การลาเลยี งวตั ถดุ ิบ4.4 ข้อมูลแรงงานและบุคลากร คือข้อมลู เกี่ยวข้องกบั พนกั งานระดบั ปฏิบตั ิการ4.5 กลยุทธ์องค์กร สาหรับแผนกกลยทุ ธ์ขององค์กร จะเป็นแมแ่ บบและเป็นแนวทางในการกาหนดกลยทุ ธ์การผลิต และการดาเนินงานให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ

5. ระบบสารสนเทศด้านทรัพยากรบุคคล5.1 ข้อมูลบุคลากร คอื ข้อมลู บคุ ลากรในองค์กรซง่ึ ประกอบด้วยประวตั ิ เงินเดือนและสวสั ดกิ ารเป็นต้น5.2 ผังโครงสร้างองค์กร คอื ผงั แสดงถงึ โครงสร้างการบริหารขององค์กร การจดัหน่วยงาน และแผนกาลงั คน ซงึ่ แสดงถงึ รปิมาณและการจดั สรรทรัพยากรบคุ คล5.3 ข้อมูลจากภายนอก ระบบบริหารทรัพยากรมใิ ชร่ ะบบปิดอย่างที่เข้าใจกนั ที่จะควบคมุ ดแู ลบคุ ลากรภายในองค์กรเท่านนั้ แตจ่ ะเก่ียวข้องกบั สภาพแวดล้อมทางเศรษฐกิจ สงั คม และการเมอื ง เชน่ การสารวจเงินเดือนขนั้ ตา่ อตั ราการวา่ งงานอตั ราเงินเฟ้ อ เป็นต้น

คุณสมบตั ิของสารสนเทศท่ดี ี1.ตรงกับความต้องการ (Relevance)2.ทนั เวลาต่อการนาไปใช้ให้เกดิ ประโยชน์ (Timeliness)3.มีความเท่ยี งตรง (Accurate)4.ประหยดั (Economy)5.มปี ระสิทธภิ าพ (Efficiency)

การใช้ระบบสารสนเทศและหน้าทค่ี วามรับผดิ ชอบ1. ผู้บริหารระดับสูงเป็ นระดบั วางแผนระยะยาว ควบคมุ นโยบาย การวางแผนเชิงกลยทุ ธ์เพ่ือไปสเู่ ป้ าหมายขององค์กรทีว่ างไว้ สารสนเทศทีใ่ ช้สว่ นใหญ่เป็ นสารสนเทศผลสรุปทีส่ ามารถนามาใช้ประกอบการตดั สินใจแหลง่ ทมี่ าของสารสนเทศจะมีทงั้ ภายในองค์กรและภายนอกองค์กรสว่ นใหญ่จะใช้สารสนเทศจากภายนอกที่มีผลกระทบตอ่ องค์กรเช่น ประธานบริษัท เจ้าของกิจการ ผ้อู านวยการสงู สดุ ประธานกรรมการบริหารขององค์กร เป็ นต้น

การใช้ระบบสารสนเทศและหน้าที่ความรับผดิ ชอบ2. ผู้บริหารระดบั กลางเป็นระดบั วางแผนระยะสนั้ เกี่ยวข้องกบั งานจดั การและควบคมุปริมาณ เวลา และด้านการประเมินผลการทางาน แหลง่สารสนเทศที่ใช้จะมาจากทงั้ ภายในองค์กรและภายนอกองค์กรแตส่ ว่ นใหญ่จะเป็นสารสนเทศจากภายในองค์กรเช่น ผ้จู ดั การสาขา ผ้จู ดั การโรงงาน ผ้อู านวยงานกองงานผ้อู านวยการสานกั งาน เป็นต้น


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook