ทศิ ตะวนั ออก • ไดเ้ มืองสระหลวง สองแคว (พิษณุโลก) ลุมบาจาย (หล่มเก่า) สระคาถึงขา้ มฝ่ังแมน่ ้าโขง ถึงเวยี งจนั ทนแ์ ละเวยี งคา ทศิ ตะวนั ตก • ไดเ้ มืองฉอด หงสาวดีจนสุดฝั่งทะเล ทศิ เหนือ • ไดเ้ มืองแพร่ น่าน พลวั่ (อ. ปัว จ. น่าน) เลยฝ่ังโขงไปถึง ทศิ ใต้ เมืองชวา (หลวงพระบาง) • ไดเ้ มืองคณฑี (กาแพงเพชร) พระบาง (นครสวรรค)์ แพรก (ชยั นาท) สุพรรณภูมิ ราชบุรี เพชรบรุ ี นครศรีธรรมราชจนสุด ฝั่งทะเล
แผนทีแ่ สดงอาณาจักรสุโขทยั สมยั พ่อขุนรามคาแหงมหาราช ทิศตะวนั ออก ไดเ้ มืองสระหลวง สองแคว (พิษณุโลก) ลุมบาจาย (หล่มเก่า) สระคาถึง ขา้ มฝ่ังแม่น้าโขง ถึงเวยี งจนั ทร์และเวยี งคา ทิศตะวนั ตก ไดเ้ มืองฉอด หงสาวดีจนสุด ฝั่งทะเลเป็ นอาณาเขต ทิศเหนือ ไดเ้ มืองแพร่ เมืองน่าน เมืองพลว่ั (อาเภอบวั จงั หวดั น่าน) เลยฝ่ังโขงไปถึง เมืองชวา (หลวงพระบาง) ทิศใต้ ไดเ้ มืองคณฑี (กาแพงเพชร) พระบาง (นครสวรรค)์ แพรก (ชยั นาท) สุพรรณภูมิ ราชบุรี เพชรบุรี นครศรีธรรมราชจนสุดฝั่งทะเล
อาณาเขตการปกครองสมยั พระมหาธรรมราชาท่ี 1 (ลไิ ทย) ทศิ ตะวนั ออก • มีอาณาเขตไปถึงเมืองสระหลวง สองแคว (พษิ ณุโลก) • มีอาณาเขตไปถึงเมืองปากยม (พิจิตร) ชากงั ราว ทิศตะวนั ออกเฉียงใต้ สุพรรณภาว นครพระชุม (ในเขตกาแพงเพชร) บางพาน (อ. พรานกระต่าย จ. กาแพงเพชร) ทศิ เหนือถงึ ทศิ • มีอาณาเขตไปถึงเมืองราด สะคา้ และลุมบาจาย ตะวนั ออกเฉียงเหนือ ท้งั 3 เมืองอยใู่ นบริเวณลุ่มแมน่ ้าน่าน
รูปแบบการปกครอง • เป็นลกั ษณะกระจายอานาจจากราชธานีไปยงั หวั เมืองต่างๆ • เมืองต่างๆ ท่ีข้ึนอยกู่ บั กรุงสุโขทยั ตามท่ีปรากฏในศิลาจารึกรวมกนั เป็นกลุ่มเมืองช้นั ใน ช้นั กลาง ช้นั นอก ตามระยะทางใกลไ้ กลตามลาดบั โดยเมืองใหญ่ที่สาคญั ปกครองเมืองเลก็ ๆ มี 4 เมือง ไดแ้ ก่ กรุงสุโขทยั (ราชธานี) ศรีสัชนาลยั กาแพงเพชร และสองแคว (พษิ ณุโลก) พระมหากษตั ริยท์ รงแต่งต้งั พระโอรสไปปกครองเมืองดงั กล่าว (ยกเวน้ ราชธานี) อยา่ งไรกด็ ี ในบางคร้ังท่ีมีการเปลี่ยนรัชกาล เมืองข้ึนต่างๆ ท่ีอยหู่ ่างไกลอาจต้งั ตวั เป็นอิสระได้ เช่น เม่ือสิ้นสมยั พอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราช เมืองเชียงทอง (ตาก) และพระบาง (นครสวรรค)์ ต่างต้งั ตวั เป็นอิสระ เป็นตน้
ปัจจยั ท่ีเอือ้ ต่อพฒั นาการทางด้านเศรษฐกจิ • การใช้ระบบชลประทานในการเกษตร เช่น การสร้าง “ตระพงั ” เกบ็ น้าเพื่อใชใ้ นการเพาะปลูก เป็ นตน้ • เป็ นศูนย์กลางในการตดิ ต่อกบั ดนิ แดนอื่นๆ ท้งั ภายในและภายนอกอาณาจักร ซ่ึงเอ้ือต่อ การคา้ ไดเ้ ป็นอยา่ งดี • นโยบายยกเว้นการจัดเกบ็ ภาษผี ่านด่าน ทเ่ี รียกว่า จกอบ (จงั กอบ) ตระพงั ตระกวน ตวั อยา่ งหน่ึงของสระน้า
ลกั ษณะทางด้านเศรษฐกจิ ทส่ี าคญั การเกษตรกรรม • พ้ืนฐานเศรษฐกิจข้ึนอยกู่ บั อาชีพเกษตรกรรม โดยมีการจดั ระบบชลประทานเขา้ ช่วยใน การเพาะปลกู ในฤดูแลง้ การพาณชิ ยกรรม • มีตลาดคา้ ขาย เรียกวา่ ตลาดปสานมีการใชเ้ งินตราในการซ้ือขายสินคา้ เช่น เบ้ีย บาท เงินพดดว้ ง • สินคา้ ออก เช่น เคร่ืองเทศ ของป่ าหายาก พริกไทย น้าตาล งาชา้ ง สินคา้ ขาเขา้ เช่น ผา้ ไหม ผา้ ทอ การหัตถกรรม • การผลิตเครื่องป้ันดินเผาหรือเคร่ืองสงั คโลก
กลุ่มคนในสังคม กล่มุ บุคคล พระมหากษตั ริย์ กล่มุ บุคคล ไพร่ ที่มอี านาจใน ทอี่ ยู่ใต้การ การปกครอง ปกครอง พระราชวงศ์ ข้า (เจ้านาย) ขนุ นาง นอกจากนี้ ยงั มพี ระภกิ ษุสงฆ์เป็ นกลุ่ม สาคญั อกี กล่มุ หนึ่งในสังคมสุโขทยั ด้วย
กฏหมายและการพจิ ารณาคดี ในสมยั สุโขทยั ไดม้ ีการตรากฎหมายในลกั ษณะต่างๆ เพื่อความเป็นระเบียบ เรียบร้อยและความเป็นธรรมในสังคม กฎหมายท่ีตราข้ึนในสมยั สุโขทยั จากหลกั ฐาน ท่ีพบมีลกั ษณะต่างๆ ดงั น้ี • ลกั ษณะทรัพยส์ ินมรดก • ลกั ษณะการพจิ ารณาคดีความ • ลกั ษณะการร้องฎีกา • ลกั ษณะโจร
สถาปัตยกรรม เจดียท์ รงพมุ่ ขา้ วบิณฑ์ เจดียท์ รงกลมแบบลงั กา เจดียแ์ บบลงั กาผสมศรีวชิ ยั วดั เจดียเ์ จด็ แถว จ.สุโขทยั วดั ชา้ งลอ้ ม จ.สุโขทยั วดั เจดียเ์ จด็ แถว จ.สุโขทยั
สถาปัตยกรรม มณฑปวดั ศรีชุม • อาคาร มีลกั ษณะเป็นอาคารโถง หรืออาคาร ที่มีฝาผนงั มีหลงั คาซอ้ นกนั เป็นช้นั ๆ • อาคารทเี่ ป็ นรูปส่ีเหลยี่ มผืนผ้า เช่น วหิ าร ท่ีวดั สวนแกว้ อุทยานนอ้ ย เมืองศรีสัชนาลยั • อาคารที่ก่อด้วยศิลาแลง เช่น วหิ ารท่ีวดั กฎุ ีราย เมืองศรีสัชนาลยั • อาคารทเี่ ป็ นปราสาทราชวงั ส่วนใหญ่ สร้างดว้ ยไม้ จึงผพุ งั ไปหมดแลว้ • อาคารทเี่ ป็ นรูปส่ีเหลยี่ ม เช่น มณฑป วดั ศรีชุม เมืองสุโขทยั
ประตมิ ากรรม • การแกะสลกั ศิลปวตั ถุต่างๆ • การป้ันพระพทุ ธรูป • การทาเคร่ืองสังคโลก • การป้ันเชิงเทียนและตุ๊กตาดินเผา พระพุทธรูปสุโขทยั ไดร้ ับการยกยอ่ งวา่ สร้างสรรคไ์ ดง้ ดงามมาก
จติ รกรรม • มีท้งั ภาพลายเสน้ และภาพเขียน ภาพลายเสน้ จะสลกั ลงบน แผน่ ชนวนหิน • จิตรกรรมฝาผนงั จะใชส้ ีแบบ ดาแดง เรียกวา่ สีเอกรงค์ ภาพโคชานิยชาดก เป็นภาพลายเสน้ สลกั บนแผน่ หิน
ภาษาและวรรณกรรม • พอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราชทรงประดิษฐอ์ กั ษรไทย เรียกวา่ ลายสือไทย • ศิลาจารึก • ไตรภูมิพระร่วง สมุดภาพเร่ืองไตรภูมิพระร่วง ศิลาจารึกสุโขทยั หลกั ที่ 1
ศาสนา ความเชื่อ และประเพณี • มีการนบั ถือผี วญิ ญาณบรรพบรุ ุษ • พระพทุ ธศาสนานิกายเถรวาท • การใหท้ านและถือศีล • การเผาเทียนเล่นไฟ • การทอดกฐิน • การทาบุญและฟังธรรม • ประเพณีการฟังเทศนม์ หาชาติ ประเพณีจองเปรียงลอยพระประทีป
จุดประสงค์ในการสร้างความสัมพนั ธ์ • เพ่ือขยายอานาจหรือขอบเขตใหก้ วา้ งขวางออกไป • เพ่อื รักษาความมนั่ คงและป้องกนั การรุกรานจากภายนอก • เพือ่ ผลประโยชนท์ างการคา้ • เพอ่ื เผยแพร่และรับการถ่ายทอดวฒั นธรรม • เพ่ือรักษาสมั พนั ธไมตรีกบั รัฐอื่น
ความสัมพนั ธ์กบั ล้านนา • มีท้งั ความสัมพนั ธ์ทางการทูต การเมือง และวฒั นธรรม • ในสมยั พอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราช ไทยดาเนินความสมั พนั ธ์ทางการทูต กบั ลา้ นนา ดว้ ยการร่วมมือกบั พระยา งาเมืองแห่งแควน้ พะเยาช่วยเหลือ พระยามงั รายมหาราชเลือกชยั ภูมิ และวางผงั เมืองราชธานีแห่งใหม่ คือ นพบุรีศรีนครพิงคเ์ ชียงใหม่ • ในสมยั พระมหาธรรมราชาที่ 1 • (ลิไทย) ความสมั พนั ธเ์ ร่ิมห่างเหินกนั เพราะลา้ นนายดึ เมืองตากของสุโขทยั
ความสัมพนั ธ์กบั ล้านนา • ในสมยั พระมหาธรรมราชาท่ี 2 ทรงส่งพระสุมนเถระไปเผยแผ่ พระพทุ ธศาสนานิกายเถรวาทแบบ ลงั กาวงศท์ ่ีเมืองเชียงใหม่ และได้ เจรจาขอเมืองตากกลบั คืน • ในสมยั พระมหาธรรมราชาที่ 3 (ไสลือไทย) ทรงช่วยทา้ วยกี่ มุ กาม พระเชษฐาของพระยาสามฝ่ังแกน แห่งลา้ นนาบุกเขา้ ตีเมืองเชียงใหม่ ทาใหเ้ กิดความบาดหมางระหวา่ ง สุโขทยั กบั ลา้ นนากนั มากข้ึน
ความสัมพนั ธ์กบั อยุธยา • มีท้งั ความสมั พนั ธท์ างการทูตการเมือง และระบบเครือญาติ • ในสมยั พระมหาธรรมราชาท่ี 1 (ลิไทย) อยธุ ยายดึ เมืองพิษณุโลกของสุโขทยั ไวไ้ ด้ สุโขทยั จึง ส่งคณะทูตไปเจรจาขอคืนไดส้ าเร็จ • ในสมยั พระมหาธรรมราชาท่ี 2 อยธุ ยาตีเมืองกาแพงเพชรของสุโขทยั ได้ สุโขทยั จึงยอมเป็นเมืองข้ึน • ในสมยั พระมหาธรรมราชาที่ 3 (ไสลือไทย) ทรงประกาศเอกราช แต่สุโขทยั กต็ กเป็นเมืองข้ึนของ อยธุ ยาอีก
ความสัมพนั ธ์กบั อยุธยา • สุโขทยั ไดส้ ร้างความสมั พนั ธท์ างเครือญาติกบั อยธุ ยา โดยพระราชธิดาของพระมหาธรรมราชา ที่ 2 ทรงอภิเษกกบั เจา้ สามพระยา • ภายหลงั พระมหาธรรมราชาที่ 3 (ไสลือไทย) สวรรคต เกิดการชิงอานาจกนั ระหวา่ งพระยาบาล กบั พระยาราม สมเดจ็ พระอินทราชาแห่งกรุงศรีอยธุ ยาทรงไกล่เกล่ียใหพ้ ระยาบาลครองเมือง พษิ ณุโลก ทรงพระนามวา่ พระมหาธรรมราชาท่ี 4 (บรมปาล) ส่วนพระยารามครองเมือง สุโขทยั • สุโขทยั ในฐานะเมืองประเทศราชของอยธุ ยาไดถ้ ูกผนวกรวมเขา้ เป็นส่วนหน่ึงของอยธุ ยา ใน พ.ศ. 2006 เมื่อสมเดจ็ พระบรมไตรโลกนาถแห่งกรุงศรีอยธุ ยาไดเ้ สดจ็ ข้ึนมาปกครองเมือง พิษณุโลกในฐานะราชธานีแทนกรุงศรีอยธุ ยา
ความสัมพนั ธ์กบั นครศรีธรรมราช • มีท้งั ความสมั พนั ธ์ทางดา้ นการเมือง และวฒั นธรรม • ความสมั พนั ธ์ทางดา้ นการเมือง สันนิษฐานวา่ เร่ิมตน้ ในสมยั พอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราช เม่ือสุโขทยั เขา้ ไปปกครองในฐานะเมือง ประเทศราช • ความสัมพนั ธ์ทางดา้ นวฒั นธรรม โดยพอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราชนิมนตพ์ ระสงฆ์ ในพระพทุ ธศาสนานิกายเถรวาทลทั ธิลงั กาวงศ์ จากนครศรีธรรมราชข้ึนมาเผยแผท่ ี่สุโขทยั • หลงั สมยั พอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราช ความสมั พนั ธ์เร่ิมห่างเหินกนั ไป
ความสัมพนั ธ์กบั หัวเมืองมอญ • มีท้งั ความสัมพนั ธ์ทางดา้ นการเมือง การคา้ และวฒั นธรรม • ความสัมพนั ธท์ างดา้ นการเมืองน้นั ในสมยั พอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราช สุโขทยั ปกครองหวั เมือง มอญในฐานะเมืองประเทศราช แต่ภายหลงั สิ้น รัชสมยั หวั เมืองมอญเริ่มเป็นอิสระ • ส่วนความสมั พนั ธท์ างดา้ นการคา้ สุโขทยั ใชห้ วั เมืองมอญเป็นเมืองท่าคา้ ขาย ทางดา้ นอ่าวเมาะตะมะ • ความสมั พนั ธ์ทางดา้ นวฒั นธรรม สุโขทยั ไดส้ ่งคณะสงฆเ์ ดินทางไปศึกษา พระธรรมวนิ ยั กบั คณะสงฆม์ อญ
ความสัมพนั ธ์กบั ลงั กา • เป็นความสมั พนั ธท์ างดา้ นวฒั นธรรม • ในสมยั พอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราชทรงนิมนตพ์ ระมหาเถรสังฆราชจากเมืองนครศรีธรรมราช พร้อมคณะภิกษุสงฆน์ าพระพทุ ธศาสนานิกายเถรวาทลทั ธิลงั กาวงศม์ าเผยแผท่ ี่สุโขทยั • ในสมยั พระมหาธรรมราชาท่ี 1 (ลิไทย) พระอโนมทสั สีและพระสุมนเถระนา พระพทุ ธศาสนานิกายลงั กาวงศเ์ ก่า (หรือรามญั วงศ)์ จากนครพนั มาเผยแผท่ ี่สุโขทยั • ในสมยั พระมหาธรรมราชาที่ 4 (บรมปาล) พระธรรมคมั ภีร์จากเชียงใหม่นาพระพทุ ธศาสนา นิกายลงั กาวงศใ์ หมจ่ ากลงั กามาเผยแผท่ ่ีสุโขทยั
ความสัมพนั ธ์กบั จนี • เป็นความสมั พนั ธ์ทางการคา้ ในระบบบรรณาการ โดยเริ่มในสมยั พอ่ ขนุ รามคาแหงมหาราช • การสร้างความสัมพนั ธ์อนั ดีกบั จีน ทาใหส้ ุโขทยั ไดร้ ับประโยชนท์ างการคา้ และเร่ืองอื่นๆ เช่น การเดินเรือทางทะเล วธิ ีการทาเคร่ืองป้ันดินเผา จากช่างจีน
อทิ ธิพลของอารยธรรมตะวนั ออกทม่ี ผี ลต่อสุโขทยั ด้านการเมืองการ • การปกครองท่ีทรงไวซ้ ่ึงทศพิธราชธรรม ปกครอง • แนวคิดสมมติเทพในศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ด้านเศรษฐกจิ • การคา้ สาเภา • การคา้ ในระบบบรรณาการ ด้านสังคม • พระมหากษตั ริยท์ รงมีฐานะเป็น “ธรรมราชา” • การนบั ถือพระพทุ ธศาสนา
ด้านวฒั นธรรม • การนบั ถือพระพทุ ธศาสนา • การทาเคร่ืองป้ันดินเผาหรือเครื่องสังคโลก ด้านความสัมพนั ธ์ • ไตรภูมิพระร่วง ระหว่างประเทศ • ภาษาขอม มอญ อินเดีย • กฎหมายพระธรรมศาสตร์ • การรับพระพทุ ธศาสนาทาใหค้ วามสมั พนั ธร์ ะหวา่ ง สุโขทยั กบั นครศรีธรรมราช ลงั กา มอญ และลา้ นนา เป็นไปอยา่ งราบรื่น • การรับการคา้ ในระบบบรรณาการทาใหส้ ุโขทยั มีความสมั พนั ธท์ ่ีดีกบั จีน อารยธรรมตะวนั ออกมอี ทิ ธิพลต่อไทยสมยั สุโขทยั ท้งั ด้านการเมืองการปกครอง เศรษฐกจิ สังคม วฒั นธรรม และความสัมพนั ธ์ระหว่างประเทศ ซ่ึงมสี ่วนทน่ี าไปสู่การพฒั นา ความเจริญรุ่งเรืองของอาณาจกั รสุโขทยั
ปัจจัยท่ีมอี ทิ ธิพลต่อการสร้างสรรค์ภูมปิ ัญญา ภูมปิ ัญญา หมายถึง ความรู้ ทกั ษะ ความเช่ือ และพฤติกรรมของคนไทยในการปรบั ตวั ใหเ้ ขา้ กบั ธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม แลว้ สร้างสรรคส์ ังคมและส่งั สมประสบการณเ์ ป็นเวลานาน เพ่อื อนุชนรุ่นหลงั • ความตอ้ งการปัจจยั ในการดารงชีวติ • ความตอ้ งการแกไ้ ขปัญหาในการดารงชีวติ • ความตอ้ งการใหเ้ กิดความสนั ติสุขในสงั คม • ความตอ้ งการใหเ้ กิดความมน่ั คงของอาณาจกั ร
ผลงานการสร้างสรรค์ภูมปิ ัญญาไทยในสมยั สุโขทัย • การรู้จกั สร้างระบบชลประทานท่ีกกั เกบ็ น้าเอาไวใ้ ชใ้ นฤดูแลง้ ดว้ ยการสร้างสรีดภงส์ หรือทานบพระร่วง ตระพงั
การรู้จกั ใช้ศิลาแลงมาสร้างอาคารสถานทตี่ ่างๆ
การรู้จกั เคลือบเครื่องป้ันดนิ เผา หรือเคร่ืองสังคโลก
การรู้จกั ประดษิ ฐ์โลหะสาริด
การรู้จักใช้วสั ดุทมี่ สี ่วนผสมเหมาะ สาหรับทาให้ปูนป้ันแขง็ ตัว
การใชค้ ติความเช่ือในพระพทุ ธศาสนา ควบคุมพฤติกรรมของคนในสงั คม
การประดษิ ฐ์ตวั อกั ษรไทย ท่เี รียกว่า ลายสือไทย
ความเสื่อมอานาจของอาณาจกั รสุโขทัย อานาจทางทหารของ เกิดการแยง่ ชิงอานาจทาง การคา้ ขายกบั ต่างประเทศ สุโขทยั เร่ิมอ่อนแอ การเมืองภายในราชวงศ์ ซบเซา พระร่วง
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 พฒั นาการของภูมภิ าคเอเชีย ตะวนั ออกเฉียงใต้
พฒั นาการของภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ • ที่ต้งั และสภาพทางภูมิศาสตร์ที่มีผลต่อพฒั นาการในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ • พฒั นาการของประเทศในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ • ความร่วมมือของประเทศในเอเชียตะวนั นอกเฉียงใต้
ทีต่ ้งั ของเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ • ต้งั อยรู่ ะหวา่ งละติจูด 10 องศาใตท้ ี่ติมอร์-เลสเต กบั ละติจูด 28 องศาเหนือท่ีภาคเหนือของพมา่ และลองจิจูด 92 องศาตะวนั ออกที่ภาคตะวนั ตกของพมา่ กบั ลองจิจูด 141 องศาตะวนั ออก บริเวณอิเรียนจายา (อินโดนีเซีย) กบั ปาปัวนิวกินี • ทศิ เหนือ ติดต่อกบั สาธารณรัฐประชาชนจีน • ทิศตะวนั ตก ติดต่อกบั อินเดีย บงั กลาเทศ และมหาสมทุ รอินเดีย • ทศิ ตะวนั ออก จดมหาสมทุ รแปซิฟิ ก และประเทศปาปัวนิวกินี • ทศิ ใต้ จดทะเลติมอร์ และทะเลอะราฟูรา
ประเทศในภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ประเทศทตี่ ้งั พม่า ประเทศทตี่ ้งั สิงคโปร์ อยู่บนผืน ไทย อยู่บนเกาะ บรูไน แผ่นดนิ ใหญ่ ลาว หรือหมู่เกาะ ฟิ ลปิ ปิ นส์ เวยี ดนาม อนิ โดนีเซีย กมั พูชา ดมิ อร์-เลสเต กมั พูชา
ลกั ษณะภูมปิ ระเทศ เขตทร่ี าบลุ่มแม่นา้ • เช่น ท่ีราบลุ่มแมน่ ้าโขงในกมั พชู าและลาว ซ่ึงเป็นเขตที่อุดมสมบูรณ์ บริเวณชายฝั่ง • เช่น ชายฝ่ังทะเลตอนใต้ และตะวนั ตกของพม่า ทางตะวนั ตก ทะเล คาบสมุทร และตะวนั ออกของไทย ประเทศที่เป็นเกาะ คือ สิงคโปร์ และหมู่เกาะ เกาะ และหมู่เกาะ คือ อินโดนีเซีย ฟิ ลิปปิ นส์ ซ่ึงมีสตั วน์ ้าอุดมสมบูรณ์ เขตทรี่ าบสูง • เช่น ที่ราบสูงทางตะวนั ออกของพม่า ประชากรอาศยั อยนู่ อ้ ย แต่มีทรัพยากรธรรมชาติที่มีค่า เช่น ป่ าไม้ อญั มณี เขตเทือกเขา • มีท้งั เทือกเขาขนาดไม่สูงมาก เช่น เทือกเขาในรัฐฉานของพม่า และเทือกเขาสูง เช่น เทือกเขาในเกาะสุมาตรา เกาะชวา
ลกั ษณะภูมอิ ากาศ • สภาพภูมิอากาศเป็นแบบร้อนช้ืนและอยใู่ นเขตมรสุม • โดยช่วงเดือน พ.ค.-ต.ค. ไดร้ ับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวนั ตกเฉียงใต้ ทาใหม้ ีฝนตกชุก • ช่วงเดือน พ.ย.-เม.ย. ไดร้ ับอิทธิพลจากลมมรสุมตะวนั ออกเฉียงเหนือ ทาใหม้ ีฝนตกนอ้ ย ทรัพยากรธรรมชาตทิ สี่ าคญั เช่น ป่ าไม้ สัตว์ป่ า แร่ธาตุ อญั มณี นา้ มนั ทรัพยากรดนิ และนา้ ทอี่ ดุ มสมบูรณ์ จงึ ไม่ต้องพง่ึ พาทรัพยากรจากถ่นิ อ่ืน
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212