Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore ประวัติศาสตร์ ม.1

ประวัติศาสตร์ ม.1

Published by sunisa.sombunma, 2020-05-17 05:47:14

Description: ประวัติศาสตร์ ม.1

Search

Read the Text Version

ทีต่ ้งั และสภาพทางภูมศิ าสตร์ทมี่ ผี ลต่อพฒั นาการด้านการเมือง • ก่อนเขา้ สู่สมยั จกั รวรรดินิยม รัฐต่างๆ ในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตไ้ ดร้ ับแนวคิดการปกครอง จากอินเดียและจีน โดยรับแนวคิดสมมติเทพจากศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และคติธรรมราชา ของพระพุทธศาสนาจากอินเดีย • เม่ือเขา้ สู่สมยั จกั รวรรดินิยมในคริสตศ์ ตวรรษที่ 19 รัฐส่วนใหญ่ตกเป็นอาณานิคมของชาติ ตะวนั ตก • จนกระทง่ั หลงั สงครามโลกคร้ังท่ี 2 หลายประเทศไดร้ ับเอกราช ขณะท่ีบางประเทศตอ้ งต่อสู้ กบั เมืองแม่ เช่น เวยี ดนาม ทาใหป้ ระเทศต่างๆ ไดร้ ับผลกระทบจากสงครามเยน็

เหตุการณ์การสูร้ บในสงครามเวยี ดนาม

รูปแบบการปกครองของประเทศในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ระบอบประชา- ระบอบ ระบอบประชา- ระบอบ ธิปไตยอนั มี สมบูรณาญา ธิปไตยโดยมี สังคมนิยม พระมหากษัตริย์ สิทธิราชย์ ประธานาธิบดี เป็ นประมุข เป็ นประมุข ได้แก่ คือ บรูไน เวยี ดนาม ได้แก่ ไทย ได้แก่ อนิ โดนเี ซีย และลาว กมั พูชา มาเลเซีย ฟิ ลปิ ปิ นส์ สิงคโปร์ พม่า และตมิ อร์-เลสเต

ที่ต้งั และสภาพทางภูมศิ าสตร์ที่มผี ลต่อพฒั นาการด้านเศรษฐกจิ • พ้นื ฐานเศรษฐกิจของเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ต้งั แต่อดีตจนถึงปัจจุบนั คือ เกษตรกรรม • ต้งั แต่คริสตศ์ ตวรรษท่ี 19 เป็นตน้ มา สินคา้ สาคญั คือ ขา้ ว ยางพารา ดีบุก • ปัจจุบนั ไทยและเวยี ดนามเป็นผสู้ ่งออกขา้ ว อนั ดบั ตน้ ๆ บางประเทศ เช่น มาเลเซีย บรูไน อินโดนีเซีย มีทรัพยากรน้ามนั มาก พม่ามี ป่ าไม้ และอญั มณี และมีแรงงานท่ีมีค่าแรงถูก

ที่ต้งั และสภาพทางภูมศิ าสตร์ทีม่ ผี ลต่อพฒั นาการด้านสังคมและวฒั นธรรม • เดิมชนพ้ืนเมืองมีความเช่ือด้งั เดิม คือ การนบั ถือ ส่ิงศกั ด์ิสิทธ์ิ ธรรมชาติและผี ต่อมามีการติดต่อกบั อินเดีย จีน และอาหรับ จึงรับอารยธรรมต่างชาติ เขา้ มาผสมผสาน • ต่อมาในคริสตศ์ ตวรรษท่ี 19 อารยธรรมตะวนั ตก ไดเ้ ผยแพร่เขา้ มา ทาใหส้ ภาพสังคมเป็นสงั คมเมือง มากข้ึน เอเชียตะวนั ออกเฉียงใตม้ ีวฒั นธรรม แบบผสมผสาน และมีเอกลกั ษณ์เป็นของตนเอง



พฒั นาการในสมยั โบราณ • เอเชียตะวนั ออกเฉียงใตม้ ีผคู้ นอยอู่ าศยั มานาน ดงั พบหลกั ฐานโครงกระดูกมนุษยช์ วาบนเกาะชวา มีอายปุ ระมาณ 5 แสนปี ล่วงมาแลว้ • รู้จกั นาสาริดมาใช้ เช่น ที่ดองซอนในเวยี ดนาม บา้ นเชียงในไทย และรู้จกั เพาะปลูก • มีการรับอารยธรรมจีน (มีอิทธิพลต่อเวยี ดนาม) และอินเดีย (มีอิทธิพลต่อพม่า ไทย ลาว และกมั พชู า อินโดนีเซียและมาเลเซียในระยะแรก) จนก่อใหเ้ กิด การต้งั อาณาจกั รตามแบบอินเดีย

อาณาจักรสาคญั ที่ได้รับอทิ ธิพลอารยธรรมอนิ เดยี อาณาจักร ทต่ี ้งั ช่วงเวลา / เหตุการณ์สาคญั ฟูนนั กมั พชู า พทุ ธศตวรรษที่ 7-12 ฟูนนั หมดอานาจ อาณาจกั ร ขอมหรือเขมรเขา้ มาแทนท่ี จามปา เวยี ดนามตอนกลาง พทุ ธศตวรรษที่ 8-15 ไดร้ ับอารยธรรมอินเดีย มีการทาสงครามกบั เวยี ดนาม และแพเ้ วยี ดนาม ศรีวชิ ยั เกาะสุมาตราและทางใต้ ประมาณพทุ ธศตวรรษท่ี 13-19 มีความรุ่งเรือง ของไทยตลอดแหลม ทางการคา้ มลายู ในช่วงพทุ ธศตวรรษที่ 12-กลางพทุ ธศตวรรษท่ี 14 ขอมหรือเขมร กมั พชู า เรียกวา่ อาณาจกั รเจนละ ต้งั แต่กลางพทุ ธศตวรรษ ที่ 14 คือ อาณาจกั รขอมสมยั เมืองพระนคร

อาณาจกั รสาคญั ท่ไี ด้รับอทิ ธิพลอารยธรรมอนิ เดยี อาณาจกั ร ทตี่ ้งั ช่วงเวลา / เหตุการณ์สาคญั ศรีเกษตรและ พม่า ไทย พทุ ธศตวรรษท่ี 8-19 เริ่มจากอาณาจกั รปยุ พกุ าม เกาะชวา อินโดนีเซีย หรือศรีเกษตร นบั ถือพระพทุ ธศาสนา ต่อดว้ ย อาณาจกั รพกุ ามทางเหนือ ส่วนทางใตเ้ ป็น ทวารวดี อาณาจกั รมอญ มะตะรัม พทุ ธศตวรรษที่ 11-16 เป็นสมยั ที่พระพทุ ธศาสนา รุ่งเรืองมาก โดยเผยแผย่ งั ทุกภาคของไทย พทุ ธศตวรรษท่ี 14 กษตั ริยแ์ ห่งราชวงศไ์ ศเลนทร์ สร้างบุโรพทุ โธ พระเจา้ ทกั ษาแห่งราชวงศส์ ัญชยั สร้างปรัมบานนั

อทิ ธิพลของอารยธรรมอนิ เดยี ทม่ี ตี ่ออาณาจกั รโบราณ แนวคิดเร่ืองเทวราชา และธรรมราชา รูปแบบศิลปกรรม กฎหมาย พระธรรมศาสตร์ อทิ ธิพลของอารยธรรมอนิ เดยี การใช้ พ.ศ. วรรณกรรม ภาษาบาลี และ จ.ศ. เรื่ องรามเกียรต์ ิ และสันสกฤต และมหาภารตะ

พฒั นาการด้านการเมืองการปกครอง • ในพม่า ไทย ลาว ท่ีนบั ถือพระพทุ ธศาสนา มีพระมหากษตั ริย์ • ในมลายู (มาเลเซีย) ชวา (อินโดนีเซีย) ท่ีนบั ถือศาสนา อิสลาม มีสุลต่าน • ในเวยี ดนามท่ีรับอิทธิพลอารยธรรมจีนมีจกั รพรรดิ หรือหวา่ งเด๋ • ส่วนฟิ ลิปปิ นส์ยงั ไมไ่ ดร้ วมประเทศมีหวั หนา้ ของ แต่ละชนเผา่ พระบรมราชานุสาวรียพ์ ระเจา้ บุเรงนอง

พฒั นาการด้านเศรษฐกจิ • เป็นเศรษฐกิจแบบยงั ชีพหรือเศรษฐกิจ แบบพ่งึ ตนเอง • ส่วนใหญ่ประกอบอาชีพเกษตรกรรม ทานาเป็นหลกั มีการเล้ียงสตั ว์ และเกบ็ หา ของป่ า • ดา้ นการคา้ มีท้งั การคา้ ภายในและภายนอก ที่สาคญั คือ การคา้ ทางทะเล ตลาดสาคญั ไดแ้ ก่ จีน ญี่ป่ ุน อินเดีย เปอร์เซีย เมืองท่าสาคญั เช่น ปัตตาเวยี มะละกา อยธุ ยา

พฒั นาการด้านสังคมและวฒั นธรรม • มีลกั ษณะเป็นสงั คม ชนช้นั โดยแบ่งเป็นชนช้นั ปกครองหรือมูลนาย กบั ชนช้นั ท่ีถูกปกครอง หรือราษฎรสามญั และทาส • นอกจากน้ียงั มีพระสงฆ์ เป็น ผสู้ ืบทอดพระพทุ ธศาสนาและ ไดร้ ับการยกยอ่ งในสงั คม • สาหรับในสังคมมสุ ลิม ผทู้ ่ีเคย ไปแสวงบุญที่นครเมกกะกไ็ ดร้ ับ การยกยอ่ งเช่นเดียวกนั

พฒั นาการด้านสมยั ใหม่ • เริ่มในกลางพทุ ธศตวรรษท่ี 21 เม่ือโปรตุเกส เขา้ ยดึ ครองมะละกา ซ่ึงเป็นเมืองท่าสาคญั และหมู่เกาะเคร่ืองเทศหรือหมเู่ กาะโมลุกกะ โดยมีชาติตะวนั ตกอื่นๆ เขา้ มาแข่งขนั • จุดมุ่งหมายสาคญั ในการแข่งขนั ของชาติ ตะวนั ตกในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ คือ เขา้ ควบคุมเมืองท่าสาคญั และแหล่งผลิต เครื่องเทศ ยกเวน้ ฟิ ลิปปิ นส์ท่ีสเปนเขา้ ยดึ ครองแต่แรกในปลายพทุ ธศตวรรษที่ 21 แผนที่แสดงหมู่เกาะเครื่องเทศหรือหมู่เกาะโมลกุ กะ

• การยดึ ครองดินแดนของชาติตะวนั ตกน้นั ฮอลนั ดาเขา้ ครอบครองอินโดนีเซียแทนโปรตุเกส องั กฤษขอเช่าเกาะสิงคโปร์จากสุลต่านแห่งยะโฮร์ ต่อมาใน พ.ศ. 2367 ไดท้ าสนธิสัญญากบั ฮอลนั ดาแบ่งเขตอิทธิพลกนั โดยฮอลนั ดามีอิทธิพลต้งั แต่ใตเ้ กาะสิงคโปร์ลงไป ส่วนองั กฤษ มีอิทธิพลเหนือสิงคโปร์ข้ึนมา หลงั จากน้นั องั กฤษไดข้ ยายอิทธิพลเขา้ ปกครองมลายู • ในปี ที่ทาสัญญากบั ฮอลนั ดา องั กฤษทาสงครามคร้ังแรกกบั พมา่ และในคร้ังที่ 3 พม่าตอ้ งเสีย เอกราชใหแ้ ก่องั กฤษใน พ.ศ. 2428 และถกู รวมเขา้ เป็น ส่วนหน่ึงของจกั รวรรดิอินเดีย ขององั กฤษ

• สาหรับเวยี ดนาม หลงั จากเป็นอิสระจากจีนกต็ อ้ งสู้กบั อาณาจกั รจามปา จนไดช้ ยั ชนะ ต่อมา เกิดการแบ่งแยก และในตน้ พทุ ธศตวรรษที่ 24 ไดเ้ กิดกบฏไกเซินหรือไตเซิน ไม่นานกเ็ กิด ขดั แยง้ กบั ฝรั่งเศสจนนาไปสู่การทาสงคราม เวยี ดนามแพจ้ นตอ้ งยกดินแดนเวยี ดนามตอนล่าง ที่เรียกวา่ โคชินไชน่า (โคชินจีน) ใหฝ้ รั่งเศส จากน้นั ฝร่ังเศสไดข้ ยายอานาจเขา้ ยดึ ครอง เวยี ดนามท้งั หมดใน พ.ศ. 2428 • ภายใตก้ ารปกครองของฝร่ังเศส เวยี ดนาม ถูกแบ่งออกเป็น 3 ส่วน ไดแ้ ก่ ภาคเหนือเป็น แควน้ ตงั เก๋ีย ภาคกลางเป็นแควน้ อนั นมั และภาคใตเ้ ป็นแควน้ โคชินไชน่า (โคชินจีน) และถูกรวมเขา้ กบั เขมร และลาว เรียกวา่ อินโดจีนของฝรั่งเศส

ตารางแสดงการยดึ ครองดนิ แดนในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ชาติตะวนั ตกทย่ี ดึ ครอง ดนิ แดนทถี่ ูกยดึ ครอง ปี ทไี่ ด้รับเอกราช องั กฤษ • พม่า • พ.ศ. 2491 • มลายู (มาเลเซีย) • พ.ศ. 2500, พ.ศ. 2506 ก่อต้งั สหพนั ธ์มาเลเซีย ฝรั่งเศส • สิงคโปร์ • พ.ศ. 2508 แยกจากมาเลเซียเป็นเอกราช ฮอลนั ดา • บรูไน • พ.ศ. 2527 สหรัฐอเมริกา โปรตุเกส • เวยี ดนาม • พ.ศ. 2497 • กมั พชู า • พ.ศ. 2496 • ลาว • พ.ศ. 2497 • อินโดนีเซีย • พ.ศ. 2492 • ฟิ ลิปปิ นส์ • พ.ศ. 2489 • ติมอร์ตะวนั ออก • พ.ศ. 2518 โปรตุเกสถอนตวั ออกไป อินโดนีเซียเขา้ ยดึ ครอง และประกาศเอกราช เม่ือ พ.ศ. 2545 และเปลี่ยนชื่อเป็นติมอร์-เลสเต

ผลจากการถูกยดึ ครองดนิ แดน ผลเสีย ผลดี ถูกชาติตะวนั ตกแยง่ ชิงผลประโยชน์ ทาใหค้ วามขดั แยง้ และสงคราม ตอ้ งสูญเสียชีวติ ผคู้ นจากการ ระหวา่ งอาณาจกั รต่างๆ สิ้นสุดลง ต่อสู้เรียกร้องเพอื่ เอกราชจานวนมาก คนพ้ืนเมืองไดร้ ับการศึกษา แบบตะวนั ตก มีการพฒั นาพ้นื ที่ใหเ้ ป็น แหล่งเพาะปลูกขนาดใหญ่ ก่อใหเ้ กิดชาตินิยมร่วมกนั เพื่อต่อสู้เพือ่ เอกราช

พฒั นาการในสมยั ใหม่ด้านการเมืองการปกครอง • ประเทศในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตย้ กเวน้ ไทยตกเป็นอาณานิคมของชาติตะวนั ตกแมภ้ ายหลงั สงครามโลกคร้ังท่ี 2 ต่างทยอยไดร้ ับเอกราช แต่ความขดั แยง้ ยงั คงมีอยู่ จากปัญหาเรื่องพรมแดน

พฒั นาการสมยั ใหม่ด้านเศรษฐกจิ • มีการบุกเบิกเพอ่ื ทาเกษตร • เริ่มเปล่ียนแปลงจากเศรษฐกิจแบบยงั ชีพ เป็ นเศรษฐกิจการคา้ • มีการคา้ ขายเสรี • มีการใชเ้ งินตราอยา่ งแพร่หลาย • เร่ิมมีการพฒั นาอุตสาหกรรม พืชเศรษฐกิจของเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้

พฒั นาการสมยั ใหม่ด้านสังคมและวฒั นธรรม • มีการยกเลิกระบบทาส • ราษฎรมีเสรีภาพในการเลือกท่ีอยแู่ ละการ ประกอบอาชีพ • มีการจดั การศึกษาแบบใหม่ในหลายประเทศ • ราษฎรมีโอกาสเล่ือนฐานะทางสงั คมมากข้ึน • มีส่วนร่วมทางการเมืองการปกครองเพมิ่ ข้ึน การเลิกทาสในประเทศไทย

พฒั นาการในสมยั ปัจจุบัน • หลงั สงครามโลกคร้ังที่ 2 เป็นยคุ สงครามเยน็ ประเทศต่างๆ ในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ท่ีไดร้ ับเอกราชดาเนินนโยบายต่างกนั เช่น เวยี ดนามเหนือเป็นฝ่ ายโลกคอมมิวนิสต์ ฟิ ลิปปิ นส์ ไทยเป็นฝ่ ายโลกเสรี อินโดนีเซียเป็นกลาง ขณะท่ีบางประเทศมีความพยามยาม ต่อสู้เพ่อื สร้างชาติข้ึนใหม่ เช่น พมา่ เวยี ดนาม • ในช่วงสงครามเวยี ดนามคร้ังท่ี 2 หลายประเทศไดร้ ่วมกนั ก่อต้งั สมาคม อาสาซ่ึงต่อมาพฒั นาเป็นอาเซียน

• ภายหลงั สิ้นสุดสงครามเยน็ เกือบทุกประเทศในเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตใ้ หค้ วามสาคญั กบั การพฒั นาเศรษฐกิจ จนนาไปสู่การผอ่ นคลายและปรับตวั ของประเทศเวยี ดนาม ลาว กมั พชู า และยอมรับระบบเศรษฐกิจของโลกเสรี • นอกจากน้ียงั มีการพฒั นาดา้ นการศึกษา สาธารณสุข การคมนาคม ซ่ึงทาใหป้ ระชากรมีชีวติ ความเป็นอยดู่ ีข้ึน แต่ในขณะเดียวกนั กส็ ่งผลใหเ้ กิดปัญหาต่างๆ ดว้ ยเช่นกนั เช่น ปัญหา สิ่งแวดลอ้ ม ปัญหาการเพมิ่ ข้ึนของประชากร ปัญหาความยากจน ปัญหาอาชญากรรม กล่าวไดว้ า่ แมว้ า่ ภูมิภาคเอเชียตะวนั ออก เฉียงใตม้ ีความหลากหลายทาง เช้ือชาติ ศาสนา วฒั นธรรม ภาษา แต่กม็ ีความพยายามที่จะสร้าง ความเป็นเอกภาพในความหลากหลาย เพ่อื ให้ เกิดความเขา้ ใจอนั ดีต่อกนั

5-31

อาเซียน ในระยะเวลาหลายสิบปี ที่ผา่ นมา ประเทศต่างๆในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใตไ้ ด้ ร่วมมือกนั ผา่ นทางสมาคมประชาชาติแห่งเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ (Association of Southeast Asian Nations) หรืออาเซียน (ASEAN) วตั ถุประสงค์ของการก่อต้งั อาเซียน เพ่อื ส่งเสริมความเขา้ ใจอนั ดีต่อกนั ระหวา่ งประเทศในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ ธารงไวซ้ ่ึงสันติภาพ เสถียรภาพ และความมนั่ คงปลอดภยั ทางการเมือง สร้างความ เจริญเติบโตทางดา้ นเศรษฐกิจ การพฒั นาสงั คมและวฒั นธรรม การกินดีอยดู่ ี บนพ้ืนฐาน ของความเสมอภาคและผลประโยชนร์ ่วมกนั

ลาดับการเข้าเป็ นสมาชิกอาเซียน บรูไน ลาวและพม่า 2527 2540 พ.ศ. 2538 2542 2510 เวยี ดนาม กมั พูชา ไทย อนิ โดนีเซีย มาเลเซีย ฟิ ลปิ ปิ นส์ และสิงคโปร์

ความร่วมมือด้านการเมืองและความมน่ั คง • การจดั ทาสนธิสญั ญาไมตรีและความร่วมมือ ในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ (Treaty of Amity and Cooperation : TAC) เพ่ือกาหนดหลกั การพ้นื ฐานของความ ร่วมมือและการดาเนินความสมั พนั ธ์ ระหวา่ งกนั ของประเทศสมาชิก สานกั งานเลขาธิการอาเซียน ประเทศอินโดนีเซีย

ความร่วมมือด้านเศรษฐกจิ • การจดั ต้งั เขตการคา้ เสรีอาเซียน (ASEAN Free Trade Area : AFTA) • เพื่อส่งเสริมการคา้ ระหวา่ งกนั • พฒั นาสู่การเป็นประชาคมเศรษฐกิจ อาเซียน (ASEAN Economic Community : AEC)

ความร่วมมือด้านสังคมและวฒั นธรรม ด้านสตรี • มีนโยบายขจดั ความรุนแรงต่อสตรี มีการจดั โครงการฝึกอบรม และเยาวชน ดา้ นวชิ าชีพ มีโครงการพฒั นาเยาวชน ด้านการพฒั นา • มีการฝึกอบรมสร้างศกั ยภาพแก่องคก์ รทอ้ งถ่ินในการพฒั นา ชนบท ชนบท การเสริมสร้างรายไดแ้ ก่ผมู้ ีรายไดน้ อ้ ย ด้านการท่องเทย่ี ว • ไดม้ ีการลงนามในขอ้ ตกลงดา้ นการท่องเที่ยวอาเซียน เพ่ือให้ อาเซียนเป็ นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยว ด้านการศึกษา • มีการใหท้ ุนการศึกษา การจดั ต้งั เครือข่ายมหาวทิ ยาลยั อาเซียน (ASEAN University Network : AUN)

ความร่วมมือด้านสังคมและวฒั นธรรม ด้านสาธารณสุข • มีโครงการความร่วมมือในการป้องกนั และขจดั โรคต่างๆ มีการ เสริมสร้างขีดความสามารถของบุคลากรดา้ นสาธารณสุข การ พฒั นาวคั ซีน ยา ด้านแรงงาน • มีการพฒั นาทกั ษะและฝีมือแรงงาน โครงการเสริมสร้างระบบ การรับรองมาตรฐานแรงงานในอาเซียน โครงการบริหารการ ส่งแรงงานไปทางานต่างประเทศ โครงการดา้ นประกนั สงั คม ด้านวฒั นธรรม • มีการส่งเสริมการเรียนรู้ภาษาของประเทศสมาชิก โครงการ และสารสนเทศ ส่งเสริมความรู้ความเขา้ ใจในวฒั นธรรมของประเทศสมาชิก

ความร่วมมือด้านวทิ ยาศาสตร์และสิ่งแวดล้อม • ไดม้ ีการจดั ต้งั เครือข่ายและโครงการดา้ นวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยสี าหรับการพฒั นา ทรัพยากรมนุษยข์ องท้งั ภาครัฐและเอกชนในกลุ่มประเทศสมาชิก • ดา้ นส่ิงแวดลอ้ ม มีการวางแผนร่วมกนั เพ่อื จดั การภยั พิบตั ิท่ีเกิดข้ึนบ่อยในภูมิภาค เช่น ไฟป่ า หมอกควนั ท่ีเกิดจากไฟ การตดั ไมท้ าลายป่ า ภูเขาไฟปะทุ และภยั พิบตั ิอ่ืนๆ • มีการจดั ต้งั ศูนยห์ รือเครือข่าย เพือ่ ส่งเสริมเทคโนโลยี ที่ไมเ่ ป็นภยั ต่อส่ิงแวดลอ้ ม และเทคโนโลยสี ะอาด

ความร่วมมือด้านการจดั การภัยพบิ ัติ • ไดม้ ีการจดั ทาปฏิญญาอาเซียนวา่ ดว้ ยการช่วยเหลือซ่ึงกนั และกนั เมื่อเกิดภยั พิบตั ิตาม ธรรมชาติ และมีขอ้ ตกลงดา้ นการจดั การภยั พบิ ตั ิ เช่น เมื่อคร้ังพม่าประสบวาตภยั จากพายุ นาร์กีสใน พ.ศ. 2551 ประเทศสมาชิกไดจ้ ดั ส่งอาหารและเวชภณั ฑไ์ ปช่วยเหลือ ใน พ.ศ. 2551 ไดเ้ ร่ิมมีการประกาศใชก้ ฎบตั รอาเซียนซ่ึงเปรียบไดก้ บั ธรรมนูญหรือ กฎหมายสูงสุดท่ีทุกประเทศในอาเซียนตอ้ งปฏิบตั ิร่วมกนั เพ่อื ใหอ้ าเซียนเป็นที่ยอมรับในเวที ระหวา่ งประเทศ และเพ่อื รองรับการเขา้ สู่ประชาคมอาเซียนใน พ.ศ. 2558

หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 แหล่งอารยธรรมในภูมภิ าค เอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้

แหล่งอารยธรรมในภูมภิ าคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ • แหล่งอารยธรรมในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ • แหล่งมรดกโลกในภูมิภาคเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้



แหล่งโบราณคดถี า้ หลงั โรงเรียน • ต้งั อยทู่ ่ีตาบลทบั ปริก อาเภอเมือง จงั หวดั กระบ่ี • เคยเป็นที่อยขู่ องมนุษยต์ วั ตรงที่เก่าแก่ที่สุด ท่ีพบในประเทศไทย เมื่อประมาณ 37,000 ปี ล่วงมาแลว้ • พบเครื่องมือเครื่องใชท้ าดว้ ยหิน สาหรับใชใ้ นการยงั ชีพดว้ ยการล่าสตั วแ์ ละจบั ปลา ถ้าหลงั โรงเรียน ตาบลทบั ปริก อาเภอเมือง จงั หวดั กระบ่ี

แหล่งวฒั นธรรมดองซอน • อยทู่ ่ีปากแมน่ ้าแดง ในตงั เก๋ีย หรือเวยี ดนามตอนเหนือ • มีการพบกลองมโหระทึกทาดว้ ยสาริด อายปุ ระมาณ 2,500 ปี ล่วงมาแลว้ โดยพบแพร่หลาย ในดินแดนเอเชียตะวนั ออกเฉียงใต้ แสดงวา่ มีการติดต่อคา้ ขายกบั ดินแดนอ่ืน ขวานดา้ มยาวในวฒั นธรรมดองซอน กลองมโหระทึกดองซอน

แหล่งวฒั นธรรมบ้านเชียง • อยทู่ ี่อาเภอหนองหาน จงั หวดั อุดรธานี • มีความเจริญทางวฒั นธรรมสูงมาแต่โบราณ ชาวบา้ นเชียงโบราณรู้จกั ทาการเกษตร ทาเครื่องมือเครื่องใชจ้ ากสาริดและเหลก็ ทาเครื่องป้ันดินเผาลายเขียนสี รู้จกั ทอผา้ • วฒั นธรรมบา้ นเชียงไดร้ ับการข้ึนทะเบียนเป็นมรดกโลกทางวฒั นธรรมใน พ.ศ. 2535 เครื่องป้ันดินเผาและเคร่ืองประดบั สาริดจากวฒั นธรรมบา้ นเชียง

แหล่งวฒั นธรรมยะรัง • อยใู่ กลบ้ ริเวณแมน่ ้าปัตตานี อาเภอยะรัง จงั หวดั ปัตตานี • เป็นเมืองโบราณขนาดใหญ่ท่ีเคยเป็นเมืองท่าคา้ ขายระหวา่ งจีนกบั อินเดีย ไดร้ ับอิทธิพล อารยธรรมจากทวารวดีและนบั ถือพทุ ธศาสนา



• มรดกโลกเป็นแหล่งมรดกทางวฒั นธรรมและธรรมชาติในโลกที่มีคุณค่าสูงยงิ่ ต่อมนุษย์ แบ่งเป็นมรดกทางวฒั นธรรม มรดกทางธรรมชาติ และมรดกแบบผสมระหวา่ งวฒั นธรรม กบั ธรรมชาติ • มรดกโลกไดร้ ับการรับรองโดยองคก์ าร การศึกษาวทิ ยาศาสตร์ และวฒั นธรรม แห่งสหประชาชาติ หรือยเู นสโก (UNESCO) • ปัจจุบนั เอเชียตะวนั ออกเฉียงใตม้ ีแหล่ง มรดกโลกรวม 31 แห่ง แบ่งเป็นมรดกโลก ทางวฒั นธรรม 19 แห่ง ทางธรรมชาติ 12 แห่ง สญั ลกั ษณ์มรดกโลก

แหล่งมรดกโลกทางวฒั นธรรมในประเทศไทย • อุทยานประวตั ศิ าสตร์สุโขทัย ครอบคลุมพ้ืนท่ีโบราณ สถานในบริเวณเมืองเก่าสุโขทยั ในอดีตเป็นศูนยก์ ลางการปกครองของอาณาจกั ร สุโขทยั เป็นมรดกโลกเมื่อ พ.ศ. 2534

• นครประวตั ศิ าสตร์พระนครศรีอยุธยาและเมืองบริวาร ในอดีตเป็นราชธานีของไทย มีอายุ ยาวนานถึง 417 ปี (พ.ศ. 1893-2310) ไดร้ ับการข้ึนทะเบียน เป็นมรดกโลกเม่ือ พ.ศ. 2534

• แหล่งโบราณคดบี ้านเชียง เป็นอารยธรรมสมยั ก่อนประวตั ิศาสตร์ที่มีความโดดเด่น ของภูมิภาคท่ีมีอายยุ าวนานกวา่ 5,000 ปี ไดร้ ับการข้ึนทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อ พ.ศ. 2535 หลุมขดุ คน้ ทางโบราณคดีบา้ นเชียง

แหล่งมรดกโลกทางวฒั นธรรมในประเทศลาว • เมืองหลวงพระบาง มีการผสมผสานทางดา้ นสถาปัตยกรรมทอ้ งถ่ินกบั สถาปัตยกรรม ยโุ รปยคุ อาณานิคมในพุทธศตวรรษท่ี 24-15ไดร้ ับการข้ึนทะเบียนเป็นมรดกโลกเม่ือ พ.ศ. 2538 สภาพทิวทศั นเ์ มืองหลวงพระบาง

• ปราสาทหินวดั พูและส่ิงก่อสร้างใกล้เคยี งในแขวงจาปาศักด์ิ เป็นภูมิทศั น์ทางวฒั นธรรม ท่ีไดร้ ับการรักษาเป็นอยา่ งดีมากวา่ 1,000 ปี สร้างดว้ ยศิลปะขอม สะทอ้ นใหเ้ ห็นอิทธิพลของ ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู ไดร้ ับการข้ึนทะเบียนเป็นมรดกโลกเม่ือ พ.ศ. 2544

แหล่งมรดกโลกทางวฒั นธรรมในประเทศเวยี ดนาม • หมู่โบราณสถานเมืองเว้ เมืองหลวงเก่าของราชวงศเ์ หงียน (พ.ศ. 2345-2488) เป็นศูนยก์ ลางทาง วฒั นธรรมและศาสนา ประกอบดว้ ยพระราชวงั วดั ป้อมปราการ และโบราณสถานต่างๆ ไดร้ ับ การข้ึนทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อ พ.ศ. 2536

• เมืองโบราณฮอยอนั เมืองท่าโบราณที่รุ่งเรืองยาวนานถึง 400 ปี ซ่ึงไดผ้ สมผสาน สถาปัตยกรรมท้งั ของทอ้ งถิ่นและต่างชาติเขา้ ดว้ ยกนั ไดร้ ับการข้ึนทะเบียนเป็นมรดกโลก เมื่อ พ.ศ. 2542

• สถานทศ่ี ักด์สิ ิทธ์ิหมีเซิน เคยเป็นศูนยก์ ลางทางศาสนาและวฒั นธรรมของอาณาจกั รจามปา ถือเป็นแบบอยา่ งสถาปัตยกรรมในศาสนาพราหมณ์-ฮินดูในภูมิภาค ไดร้ ับการข้ึนทะเบียนเป็น มรดกโลกเม่ือ พ.ศ. 2542

• พระราชวงั จกั รพรรดแิ ห่งทังลอง-ฮานอย สร้างโดยราชวงศล์ ีเวยี ดบนซากป้อมเมืองเก่าของจีน ในบริเวณท่ีราบลุ่มปากแม่น้าแดง สะทอ้ นลกั ษณะเฉพาะของวฒั นธรรมที่ไดร้ ับอิทธิพลจาก จีนและจามปา ไดร้ ับการข้ึนทะเบียนเป็นมรดกโลกเม่ือ พ.ศ. 2553


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook