๑๐๑ คาอธบิ ายรายวิชา รหัสวชิ า ง๓๒๒๗๑ รายวชิ าเศรษฐศาสตรเ์ บือ้ งตน้ สาระการเรยี นรูเ้ พมิ่ เตมิ กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ จานวน ๒ ชวั่ โมง จานวน ๑.๐ หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาเกี่ยวกับเศรษฐศาสตร์ ระบบเศรษฐกิจ อุปสงค์ อุปทาน การกาหนดราคาดุลยภาพ พฤติกรรม ผู้บริโภค ทฤษฎีการผลิต ตลาดในระบบเศรษฐกิจ รายได้ประชาชาติ เงินเฟูอ เงินฝืด เงินดึงตัว วัฏจักร เศรษฐกจิ ดลุ การคา้ และดุลการชาระเงิน การพัฒนาเศรษฐกิจ โครงสรา้ งและปญั หาเศรษฐกิจของประเทศ และ แนวทางแกไ้ ข ผลการเรียนรู้ 1. อธบิ ายแนวคดิ พน้ื ฐานทางเศรษฐศาสตร์ โครงสร้างของระบบเศรษฐศาสตร์ ๒. เขา้ ใจอุปสงค์ อุปทาน และราคาดลุ ยภาพ ๓. นาหลกั เศรษฐศาสตร์ไปประยุกตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวัน รวมทง้ั หมด ๓ ผลการเรยี นรู้
๑๐๒ คาอธิบายรายวิชา รหสั วิชา ง๓๑๒๘๘ รายวชิ าการบญั ชเี บ้อื งตน้ ๒ สาระการเรียนรู้เพิ่มเตมิ กลมุ่ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๔ จานวน ๓ ช่วั โมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต คาอธิบายรายวิชา ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับ ความหมายของสินค้า การบันทึกรายการเกี่ยวกับการซ้ือขายสินค้าสาหรับ กิจการที่จดทะเบียนและไม่จดทะเบียนภาษีมูลค่าเพ่ิม การบันทึกรายการในสมุดรายวันทั่วไป การผ่านรายการไป บัญชีแยกประเภท รายการปรับปรุงและปิดบัญชีเม่ือสิ้นงวดบัญชี กระดาษทาการชนิด ๘ ช่อง งบกาไรขาดทุนงบ แสดงฐานะการเงิน งบทดลองหลังปดิ บญั ชี และสรปุ วงจรบัญชี ผลการเรียนรู้ ๑. มีความเข้าใจหลกั การ วธิ ีการ และข้นั ตอนการจดั ทาบัญชีสาหรับกิจการเจ้าของคนเดียวประเภทธุรกิจ ซอ้ื ขายสนิ คา้ ๒. มีทกั ษะปฏบิ ตั งิ านบัญชตี ามหลักการบัญชีที่รับรองทั่วไป สาหรับกิจการเจ้าของคนเดียวประเภทธุรกิจ ซอ้ื ขายสินค้า ๓. มกี จิ นิสยั มีระเบยี บ ละเอยี ดรอบคอบ ซื่อสตั ย์ มวี ินัยตรงต่อเวลา และมเี จตคติทดี่ ีตอ่ วชิ าชพี บญั ชี รวมท้ังหมด ๓ ผลการเรียนรู้
๑๐๓ คาอธบิ ายรายวชิ า รหสั วิชา ง๓๑๒๘๙ รายวชิ าการขายเบือ้ งตน้ ๒ สาระการเรียนรู้เพิม่ เติม กลุ่มสาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๔ จานวน ๓ ชวั่ โมง จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวิชา ศึกษาและปฏิบัติเกี่ยวกับกระบวนการขาย การแสวงหาลูกค้า การเตรียมตัวก่อนเข้าพบ การเข้าพบการ เสนอขาย การตอบข้อโต้แย้ง การปิดการขาย การติดตามผลหลังการขาย การบริการก่อนและหลังการขาย จรรยาบรรณของนกั ขาย เทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารการขาย ผลการเรียนรู้ ๑. เขา้ ใจกระบวนการขาย และจรรยาบรรณของนักขาย ๒. เขา้ ใจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสือ่ สารทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั งานขาย ๓. มที ักษะในการปฏบิ ัตงิ านขายตามกระบวนการขายและบรกิ ารลูกคา้ ๔. มเี จตคติและกิจนิสัยที่ดใี นการทางานด้วยความรบั ผดิ ชอบ ความอดทน ความซ่ือสตั ยแ์ ละจิตบริการ รวมทั้งหมด ๔ ผลการเรยี นรู้
๑๐๔ คาอธบิ ายรายวชิ า รหสั วิชา ง๓๑๒๙๒ รายวชิ าพิมพ์ดดี ไทยเบื้องต้น สาระการเรียนรเู้ พิม่ เตมิ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๔ จานวน ๓ ช่วั โมง จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาและปฏิบัติเก่ียวกับหลักการพิมพ์ไทยแบบสัมผัส การพิมพ์แปูนอักษร แปูนตัวเลข สัญลักษณ์ เครื่องหมาย การพิมพป์ ระโยค การคานวณคาสทุ ธิ และการบารุงรกั ษาเคร่ืองพมิ พ์ดีดหรอื เครื่องคอมพิวเตอร์ ผลการเรียนรู้ ๑. มคี วามรู้ความเขา้ ใจเกยี่ วกับการพิมพไ์ ทย ๒. มที ักษะในการพิมพ์ไทยแบบสัมผสั ๓. มที ักษะในการบารุงรกั ษาเครอ่ื ง ๔. มกี ิจนสิ ยั ท่ดี ใี นการพิมพ์ รวมท้งั หมด ๔ ผลการเรียนรู้
๑๐๕ กลมุ่ ทกั ษะวิชาชีพเฉพาะ คาอธิบายรายวชิ า รหสั วชิ า ง๓๑๒๙๓ รายวิชาการใช้คอมพิวเตอรใ์ นงานบญั ชี สาระการเรยี นร้เู พิม่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรูก้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๔ จานวน ๔ ชว่ั โมง จานวน ๒.๐ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศกึ ษาและปฏบิ ัติเกี่ยวกบั ฐานขอ้ มลู ของกิจการ การปอู นข้อมูล และจดั รปู แบบเอกสารประกอบการลงบัญชี การ บนั ทึกบญั ชดี ้วยโปรแกรมสาเร็จรปู ทใี่ ชใ้ นธุรกจิ การออกรายงาน การจัดทา งบการเงินตามกฎหมายทเ่ี กี่ยวข้อง ของธุรกจิ บริการและธรุ กจิ ซอื้ ขายสินค้า ผลการเรยี นรู้ ๑. ประมวลความรู้ ความเขา้ ใจเกีย่ วกับ เอกสารทางการค้า หลักการ กระบวนการจัดทาบญั ชีของ ธุรกิจที่ใชโ้ ปรแกรมสาเร็จรปู ทางด้านบญั ชี ๒. มีทักษะปฏบิ ัติงานบญั ชีดว้ ยคอมพิวเตอร์ ตามหลกั การบัญชีที่รับรองทัว่ ไป พร้อมสาหรับ การปฏิบตั ิงานในวชิ าชพี บญั ชี ๓. มีกจิ นสิ ัย มีระเบียบ ละเอียดรอบคอบ ซอ่ื สัตย์ มวี นิ ัยตรงต่อเวลา และมีเจตคตทิ ่ีดตี ่อวชิ าชีพ บัญชี รวมทงั้ หมด ๓ ผลการเรยี นรู้
๑๐๖ คาอธิบายรายวชิ า รหสั วิชา ง๓๒๒๙๔ รายวิชาการบญั ชีสาหรับกิจการซ้อื ขายสนิ ค้า สาระการเรยี นรู้ เพิ่มเตมิ กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๕ จานวน ๔ ชัว่ โมง จานวน ๒.๐ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาและปฏิบตั ิเกยี่ วกบั การบันทกึ รายการซ้อื ขายสินคา้ ในสมดุ รายวันเฉพาะ สมดุ เงินสด ๒ ชอ่ ง สมุดเงนิ สด ๓ ช่อง การผ่านรายการไปบัญชแี ยกประเภท รายการปรับปรงุ การแก้ไขข้อผดิ พลาด และปิด บัญชเี มอ่ื สนิ้ งวดบญั ชี กระดาษทาการชนดิ ๘ ชอ่ ง งบกาไรขาดทนุ งบแสดงฐานะการเงิน และงบ ทดลองหลังปดิ บัญชี ผลการเรียนรู้ ๑. มคี วามรคู้ วามเขา้ ใจเกีย่ วกับหลกั การ วธิ ีการ และข้ันตอนการจัดทาบญั ชีสาหรบั กิจการเจา้ ของคนเดียว ประเภทธรุ กิจซอื้ ขายสินค้า ๒. มีทักษะปฏิบัติงานบญั ชีตามหลักการบญั ชีท่รี บั รองทัว่ ไป สาหรบั กจิ การเจ้าของคนเดียวประเภทธรุ กิจซ้ือขาย สินคา้ ๓. มีกจิ นสิ ัย มรี ะเบยี บ ละเอียดรอบคอบ ซอ่ื สตั ย์ มวี ินัยตรงตอ่ เวลา และมเี จตคตทิ ี่ดีต่อวิชาชพี บญั ชี
๑๐๗ รวมทงั้ หมด ๓ ผลการเรยี นรู้ คาอธิบายรายวิชา รหัสวิชา ง๓๒๒๗๒ รายวิชาการบัญชีหา้ งหุ้นส่วน สาระการเรียนรเู้ พ่ิมเตมิ กลมุ่ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๕ จานวน ๔ ช่ัวโมง จานวน ๒.๐ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศกึ ษาและปฏบิ ตั ิเกย่ี วกบั ความหมายและประเภทของห้างหนุ้ ส่วน กฎหมายท่ีเก่ียวข้องกับห้างหนุ้ ส่วน การจดั ตั้งหา้ งห้นุ สว่ น การบันทกึ รายการเปดิ บัญชี การแบ่งผลกาไรขาดทนุ การบันทึกบัญชีตามวิธที ุนเปลีย่ นแปลง และวิธีทุนคงที่ การจัดทางบการเงนิ การรบั ห้นุ ส่วนใหม่ หุ้นส่วนลาออก ห้นุ ส่วนตาย การเลิก กจิ การ และการชาระบัญชีหา้ งหนุ้ สว่ น ผลการเรียนรู้ ๑. มคี วามเข้าใจหลักการ และกระบวนการปฏบิ ตั งิ านบญั ชี สาหรับกิจการหา้ งหุ้นสว่ น ๒. มีทกั ษะปฏบิ ัติงานบัญชีตามหลักการบญั ชที รี่ บั รองท่ัวไป สาหรับกจิ การหา้ งหุ้นส่วน ๓. มีกจิ นสิ ยั มีระเบียบ ละเอียดรอบคอบ ซอ่ื สัตย์ มีวนิ ัยตรงตอ่ เวลา และมเี จตคตทิ ี่ดตี ่อวิชาชพี บัญชี รวมทงั้ หมด ๓ ผลการเรียนรู้
๑๐๘ คาอธิบายรายวิชา รหัสวชิ า ง๓๒๒๗๓ รายวิชาการบัญชีตน้ ทนุ เบอ้ื งตน้ สาระการเรยี นร้เู พม่ิ เตมิ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ จานวน ๔ ชั่วโมง จานวน ๒.๐ หน่วยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศกึ ษาและปฏบิ ตั เิ กี่ยวกบั ลักษณะของกจิ การผลติ เปรยี บเทียบกับกิจการซื้อขายสินค้าองค์ประกอบของต้นทนุ การ ผลติ การรับจ่ายวัตถุดิบ การบันทึกรายการเกีย่ วกับแรงงาน ช่ัวโมงทางาน อัตราค่าแรงคา่ ล่วงเวลา เงนิ ประกนั สังคมภาษีเงินได้บคุ คลธรรมดาหัก ณ ทจ่ี า่ ย รายการหกั ต่าง ๆ ค่าใชจ้ า่ ยการผลิตการบันทึกรายการ เกี่ยวกับวตั ถุดิบตามวิธบี ัญชีสนิ คา้ คงเหลือแบบสนิ้ งวด และวธิ กี ารบญั ชสี นิ ค้าคงเหลือแบบตอ่ เน่ืองต้นทนุ การผลติ การคานวณตน้ ทุนสนิ คา้ ทผี่ ลิตเสร็จ กระดาษทาการ รายการปรับปรงุ ปดิ บญั ชกี ารจดั ทางบต้นทนุ ผลติ ผลการเรียนรู้ ๑. มีความเขา้ ใจหลักการ และกระบวนการปฏิบัตงิ านบัญชีของกิจการประเภทธรุ กจิ อุตสาหกรรม ๒. มที กั ษะปฏบิ ัติงานบญั ชีตามหลักการบัญชีท่รี ับรองท่ัวไป สาหรับกจิ การประเภทธรุ กิจ อตุ สาหกรรม ๓. มีกจิ นสิ ยั มีระเบียบ ละเอียดรอบคอบ ซือ่ สตั ย์ มีวนิ ยั ตรงต่อเวลา และมเี จตคตทิ ่ีดตี ่อวิชาชีพ บัญชี รวมท้ังหมด ๓ ผลการเรียนรู้
๑๐๙ คาอธบิ ายรายวิชา รหัสวิชา ง๓๒๒๘๗ รายวิชาการบัญชบี ริษทั จากัด สาระการเรยี นรเู้ พม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ จานวน ๔ ชวั่ โมง จานวน ๒.๐ หน่วยกิต คาอธิบายรายวิชา ศึกษาและปฏบิ ัติเกยี่ วกับความหมาย ประเภท และกฎหมายทีเ่ กย่ี วกับบรษิ ัทจากัด และบริษัทจากดั (มหาชน) ขอ้ แตกตา่ งระหว่างบรษิ ัทจากัด และบรษิ ัทจากัด (มหาชน) การจดทะเบียนบริษัทจากัด และบรษิ ัทจากดั (มหาชน) การจัดทาทะเบียนผู้ถอื หนุ้ การบนั ทกึ บัญชีการจาหน่ายหุน้ ทุนค่าใช้จา่ ยในการจัดตง้ั บรษิ ัท การรบิ หนุ้ การเพิ่มทุน การลดทุน การจัดสรรกาไร ต้ังสารองตามกฎหมายและสารองอื่น ๆการแกไ้ ขขอ้ ผดิ พลาดทางบัญชี การจดั ทางบการเงิน การเลกิ กจิ การและชาระบญั ชี การบนั ทึกรายการเกย่ี วกับหนุ้ กู้ และการไถ่ถอนหนุ้ กู้ของ บริษัทจากัด (มหาชน) ผลการเรยี นรู้ ๑. มีความเขา้ ใจหลักการ และกระบวนการปฏิบตั งิ านบญั ชีของกิจการบริษัทจากัดและบริษัทจากดั (มหาชน) ๒. มที ักษะปฏบิ ัติงานบัญชีตามหลักการบัญชีทร่ี บั รองทั่วไป สาหรบั กิจการบริษัทจากดั และบรษิ ัทจากัด(มหาชน) ๓. มกี ิจนิสัย มีระเบยี บ ละเอียดรอบคอบ ซือ่ สัตย์ มวี นิ ัยตรงตอ่ เวลา และมเี จตคติทีด่ ตี ่อวชิ าชีพบัญชี รวมทัง้ หมด ๓ ผลการเรยี นรู้
๑๑๐ คาอธบิ ายรายวชิ า รหสั วิชา ง๓๒๒๘๖ รายวชิ ากระบวนการจัดทาบัญชี สาระการเรยี นร้เู พิ่มเตมิ กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๕ จานวน ๕ ช่ัวโมง จานวน ๒.๕ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศกึ ษาและปฏิบตั ิเกย่ี วกับ กระบวนการจดั ทาบัญชตี ามวงจรบญั ชโี ดยจัดทากรณศี ึกษาของธรุ กิจบริการซ้อื ขายสินค้า และอตุ สาหกรรม การจดทะเบยี นธรุ กจิ และการจดั การเอกสารทเ่ี ก่ียวข้อง การวเิ คราะห์ รายการค้าจากเอกสาร การจดั ทางบการเงินวิธีการกรอกแบบแสดงรายการภาษีประเภทตา่ งๆ โดยถือปฏิบตั ิ ตามกฎหมายท่ีเกย่ี วข้อง ผลการเรียนรู้ ๑. ประมวลความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั เอกสารการดาเนินงาน หลักการ และกระบวนการปฏบิ ตั ิงานบัญชี ของ กิจการในประเภทธรุ กจิ บริการ ซอ้ื ขายสนิ คา้ และอุตสาหกรรม ท้ังในรูปแบบของกิจการเจา้ ของคนเดียว ห้าง หุ้นส่วน และบรษิ ัทจากัด ๒. มีทกั ษะปฏิบตั ิงานบญั ชตี ามหลกั การบัญชที ี่รับรองทั่วไป พร้อมสาหรับการปฏิบตั งิ านในวชิ าชพี บญั ชี ๓. มกี จิ นิสัย มีระเบยี บ ละเอียดรอบคอบ ซอื่ สัตย์ มวี นิ ัยตรงตอ่ เวลา และมเี จตคตทิ ี่ดตี ่อวิชาชีพบัญชี
๑๑๑ รวมท้ังหมด ๓ ผลการเรียนรู้ คาอธบิ ายรายวชิ า รหัสวชิ า ง๓๒๒๘๘ รายวชิ าภาษเี งินไดบ้ คุ คลธรรมดากบั การบญั ชี สาระการเรียนรู้เพมิ่ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๕ จานวน ๓ ชว่ั โมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต คาอธิบายรายวิชา ศกึ ษาและปฏิบัตเิ กยี่ วกบั ผ้มู ีหน้าที่เสียภาษเี งนิ ไดบ้ คุ ลธรรมดา เงินได้พึงประเมิน เงินได้พึงประเมินทไ่ี ดร้ บั การ ยกเว้น การหกั คา่ ใชจ้ า่ ย ค่าลดหยอ่ น เงนิ บรจิ าค การคานวณภาษี วธิ กี ารกรอกแบบและกาหนดเวลาในการย่นื แบบแสดงรายการภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา ภาษหี กั ณ ท่จี ่าย ภาษีมลู ค่าเพิ่ม และการบันทึกบญั ชตี ามประมวล รัษฎากร ผลการเรยี นรู้ ๑. มคี วามเขา้ ใจหลกั การบนั ทึกบัญชี วธิ ีการคานวณ และข้ันตอนการยนื่ แบบแสดงรายการเสยี ภาษเี งนิ ได้บุคคล ธรรมดา ๒. มที กั ษะปฏบิ ตั ิงานบญั ชีเก่ียวกบั ภาษเี งนิ ไดบ้ ุคคลธรรมดา ตามทก่ี ฎหมายกาหนด ๓. มกี จิ นสิ ยั มีระเบยี บ ละเอียดรอบคอบ ซ่อื สตั ย์ มีวินัยตรงตอ่ เวลา และมีเจตคตทิ ่ีดีต่อวิชาชีพบัญชี รวมท้งั หมด ๓ ผลการเรียนรู้
๑๑๒ คาอธิบายรายวิชา รหัสวชิ า ง๓๓๒๖๑ รายวชิ าภาษเี งินไดน้ ติ บิ คุ คลกับการบัญชี สาระการเรียนรเู้ พมิ่ เตมิ กลมุ่ สาระการเรยี นร้กู ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๕ จานวน ๓ ช่วั โมง จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศกึ ษาและปฏบิ ตั ิเกยี่ วกบั ผู้มีหนา้ ท่เี สยี ภาษีเงนิ ได้นิติบุคคล การคานวณกาไรสทุ ธิเพ่ือเสียภาษี เงนิ ได้นิติบุคคล การบันทกึ บัญชี วธิ ีการยืน่ แบบแสดงรายการภาษีเงินไดน้ ติ บิ คุ คลครึง่ รอบและส้นิ รอบ ระยะเวลาบัญชี ศึกษาและปฏิบัติเก่ยี วกับ ผู้มหี น้าทห่ี กั ภาษี ณ ทีจ่ า่ ย การคานวณ การบนั ทึกบัญชี การจัดทา หนังสอื รับรองการหักภาษี ณ ทจี่ ่าย และวิธีการนาส่งภาษหี ัก ณ ที่จ่าย ศกึ ษาและปฏิบตั เิ ก่ยี วกบั ผมู้ หี น้าทเี่ สียภาษีมลู ค่าเพมิ่ ภาษีธุรกจิ เฉพาะและอากรแสตมป์ ผู้ได้รบั การยกเวน้ ภาษี การคานวณภาษี การบนั ทึกบญั ชี วธิ กี ารยน่ื แบบแสดงรายการภาษมี ูลค่าเพม่ิ และภาษธี ุรกจิ เฉพาะ ผลการเรยี นรู้ ๑. มคี วามเขา้ ใจหลักการ และกระบวนการปฏิบตั ิงานบญั ชีท่เี กย่ี วข้องกับภาษเี งินไดน้ ิติบุคคล ๒. มีทักษะปฏิบตั ิงานบัญชเี ก่ียวกบั ภาษเี งนิ ได้นิตบิ ุคคล ตามหลกั การบญั ชที ่ีรับรองทั่วไปและ ทกี่ ฎหมายกาหนด
๑๑๓ ๓. มกี จิ นสิ ัย มรี ะเบียบ ละเอียดรอบคอบ ซือ่ สัตย์ มีวนิ ัยตรงตอ่ เวลา และมีเจตคตทิ ่ีดตี ่อวชิ าชีพบญั ชี รวมทงั้ หมด ๓ ผลการเรียนรู้ กลมุ่ ทกั ษะวชิ าเลอื ก คาอธิบายรายวิชา รหสั วิชา ง๓๑๒๙๑ รายวชิ าการเป็นผ้ปู ระกอบการ สาระการเรียนร้เู พิ่มเตมิ กลมุ่ สาระการเรียนรูก้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๔ จานวน ๒ ชวั่ โมง จานวน ๑.๐ หน่วยกิต คาอธิบายรายวิชา ศึกษาแนวคิดเกยี่ วกบั การเป็นผู้ประกอบการที่ดี จัดทาแผนธรุ กจิ ทีม่ ีประสิทธิภาพ และนาปรัชญาการดาเนินธุรกิจ ท่ีเหมาะสมไปประยกุ ต์ใชก้ บั สังคมและชมุ ชนได้ ตลอดจนบทบาทหนา้ ที่ของธรุ กิจ ภาษีธุรกิจและกฎหมายที่ เกีย่ วข้อง ผลการเรียนรู้ ๑. เข้าใจหลกั การของการเป็นผ้ปู ระกอบการทีด่ ี ๒. เข้าใจหลกั การจัดทาแผนธุรกจิ ๓. ประเมนิ ผลความเหมาะสมของแผนธรุ กิจ ๔. เขา้ ใจหลักการของระบบเศรษฐกจิ ตลาด ๕. เข้าใจบทบาทหน้าทขี่ ององค์กรธุรกจิ และกฎหมายท่ีเก่ียวขอ้ ง รวมทั้งหมด ๕ ผลการเรียนรู้
๑๑๔ คาอธิบายรายวชิ า รหัสวิชา ง๓๒๒๗๕ รายวชิ าการบัญชสี ินค้าและระบบบัญชีเดย่ี ว สาระการเรียนรู้ เพิ่มเตมิ กลุ่มสาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๕ จานวน ๓ ชว่ั โมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศึกษาและปฏบิ ัติเกี่ยวกบั ระบบการควบคุมสินคา้ โดยการทาบัญชคี มุ สินค้าตามมาตรฐานการบัญชี การ ตรวจนับ การตรี าคาสินคา้ คงเหลอื ในวนั สิ้นงวดบัญชี การบันทกึ รายการเกี่ยวกบั สินค้าคงเหลือแบบสิน้ งวดและ แบบตอ่ เน่ือง และการเปดิ เผยขอ้ มูลเกยี่ วกบั สนิ ค้าคงเหลือในวันส้ินงวดบัญชีศึกษาและปฏิบตั ิเกี่ยวกับ งบแสดง ฐานะการเงนิ การคานวณกาไรหรอื ขาดทนุ ตามระบบบัญชีเดี่ยวการคานวณยอดซื้อสินค้า การคานวณยอดขาย สินคา้ การคานวณรายได้ ค่าใชจ้ า่ ย สนิ ทรพั ย์ หน้สี ิน และส่วนของเจา้ ของตามระบบบญั ชีเด่ียว การคานวณโดยใช้ อตั รากาไรขั้นต้น การจดั ทางบการเงิน ผลการเรยี นรู้ ๑. มคี วามเข้าใจหลักการปฏบิ ตั ิงานบัญชสี นิ ค้า ๒. มีความเขา้ ใจหลกั การคานวณสนิ ทรพั ย์ หนี้สนิ และส่วนของเจา้ ของ รายได้ คา่ ใชจ้ า่ ยตาม ระบบบญั ชีเดยี่ ว เพ่ือจัดทางบการเงิน ๓. มที ักษะปฏิบัติงานบัญชีตามหลักการบัญชที รี่ บั รองทัว่ ไป พรอ้ มสาหรับการปฏิบตั ิงาน
๑๑๕ ในวชิ าชีพบญั ชี ๔. มีกจิ นิสัย มรี ะเบียบ ละเอยี ดรอบคอบ ซ่อื สัตย์ มวี นิ ยั ตรงตอ่ เวลา และมีเจตคติที่ดตี ่อวิชาชีพบญั ชี รวมท้งั หมด ๔ ผลการเรียนรู้ คาอธบิ ายรายวิชา รหสั วชิ า ง๓๒๒๘๙ รายวิชาการบัญชีตว๋ั เงิน สาระการเรียนรู้เพิม่ เตมิ กลมุ่ สาระการเรียนรู้การงานอาชีพและเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๕ จานวน ๓ ช่วั โมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาและปฏบิ ัตเิ กี่ยวกบั ความหมายและประเภทของตว๋ั เงิน คานวณวันครบกาหนดของตัว๋ เงินและ ดอกเบยี้ ตวั๋ เงิน การบันทึกบัญชีเกยี่ วกับตั๋วเงนิ สมุดทะเบียนเกี่ยวกับต๋วั เงนิ การปรบั ปรงุ บญั ชแี ละการปิด บัญชีเกี่ยวกับดอกเบ้ยี ตว๋ั เงินในวนั สน้ิ งวดบัญชี การบันทึกบัญชเี ก่ียวกับการสลกั หลงั โอนตัว๋ เงินการขายลดต๋วั เงนิ และต๋วั เงนิ ขาดความเชอ่ื ถอื ศึกษาและปฏิบตั เิ ก่ียวกับ ความหมายและประเภทของเช็ค การตดิ ต่อกับธนาคารและรายการ ที่เกี่ยวกบั เช็ค การบนั ทึกบญั ชีทีเ่ กยี่ วกับการฝากและการถอนเงินจากธนาคาร ระบบเงนิ สดย่อยและการทา งบพสิ ูจนย์ อดเงินฝากธนาคาร ผลการเรียนรู้ ๑. มคี วามเข้าใจหลักการ และกระบวนการปฏบิ ัตงิ านบญั ชีเกีย่ วกับต๋วั เงิน ๒. มที กั ษะปฏิบัติงานบัญชเี บ้ืองตน้ ตามหลกั การบัญชีท่รี บั รองทวั่ ไปเก่ียวกับต๋ัวเงิน ๓. มีกิจนิสัย มีระเบยี บ ละเอียดรอบคอบ ซอ่ื สัตย์ มวี นิ ัยตรงตอ่ เวลา และมเี จตคตทิ ่ีดตี ่อวิชาชีพ
๑๑๖ บัญชี รวมทงั้ หมด ๓ ผลการเรยี นรู้ คาอธิบายรายวิชา รหสั วชิ า ง๓๒๒๖๙ รายวิชาโครงการ สาระการเรียนรู้เพ่ิมเตมิ กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี ๖ จานวน ๘ ชั่วโมง จานวน ๔ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาและปฏบิ ัตเิ กี่ยวกับ หลกั การจัดทาโครงการ การวางแผน การดาเนินงาน การแก้ไขปญั หา การประเมนิ ผล การจดั ทารายงานและการนาเสนอผลงาน โดยปฏบิ ัตจิ ัดทาโครงการสรา้ งและหรือพฒั นางาน ท่ีใชค้ วามรแู้ ละทักษะในระดับฝีมือสอดคล้องกบั สาขาวชิ าชพี ท่ศี กึ ษา ดาเนนิ การเป็นรายบุคคลหรือกลุ่มตาม ลักษณะของงานให้แล้วเสรจ็ ในระยะเวลาท่ีกาหนด ผลการเรียนรู้ ๑. เขา้ ใจหลกั การและกระบวนการวางแผนจัดทาโครงการสรา้ งและหรือพฒั นางาน ๒. ประมวลความรแู้ ละทักษะในการสรา้ งและหรอื พฒั นางานในสาขาวิชาชพี ตามกระบวนการวางแผน ดาเนนิ งาน แก้ไขปญั หา ประเมนิ ผล ทารายงานและนาเสนอผลงาน ๓. มเี จตคติและกิจนสิ ัยในการทางานดว้ ยความรับผิดชอบ มีวินัย คุณธรรม จรยิ ธรรม ความคดิ ริเรมิ่ สรา้ งสรรค์และ สามารถทางานร่วมกับผ้อู ่นื
๑๑๗ รวมทงั้ หมด ๓ ผลการเรียนรู้ คาอธบิ ายรายวิชา รหัสวิชา ง๓๒๒๖๐ รายวิชาการจดั การสนิ คา้ คงคลัง สาระการเรียนรเู้ พิ่มเตมิ กลมุ่ สาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๖ จานวน ๓ ชวั่ โมง จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต คาอธิบายรายวิชา ศกึ ษาและปฏิบตั เิ กยี่ วกับ หลกั การบรหิ ารจัดการสินค้าคงคลัง ระบบการจัดซ้ือ ข้ันตอนและวิธกี าร ปฏิบัตงิ านการจดั ซ้ือ การกาหนดจดุ สงั่ ซือ้ การตรวจรับ จัดเก็บสนิ คา้ จัดทาและให้รหสั สินคา้ บัญชคี วบคุมสินค้า การเบกิ จ่าย การตรวจนบั การคานวณ การตรี าคาและรายงานสนิ ค้าคงเหลือในวนั สนิ้ งวดบญั ชี ผลการเรียนรู้ ๑. มคี วามเข้าใจหลกั การจัดการสนิ คา้ คงคลัง วธิ กี าร ขน้ั ตอนการปฏบิ ัติงานเกยี่ วกับสินค้าคงคลงั ๒. มที ักษะในการปฏิบัติงานเกย่ี วกบั การจัดทาและใหร้ หัสสนิ คา้ บัญชีควบคมุ สนิ ค้าและการบรหิ ารจัดการ คลงั สินคา้ ๓. มีกิจนสิ ัย มีระเบยี บ ละเอียดรอบคอบ ซอ่ื สัตย์ มีวินัยตรงต่อเวลา และมีเจตคตทิ ่ีดตี ่อวชิ าชพี บญั ชี รวมท้ังหมด ๓ ผลการเรยี นรู้
๑๑๘ คาอธิบายรายวชิ า รหสั วชิ า ง๓๓๒๖๓ รายวชิ าการบัญชีกจิ การพเิ ศษ สาระการเรยี นรู้เพ่ิมเตมิ กลุ่มสาระการเรียนรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๖ จานวน ๓ ชัว่ โมง จานวน ๑.๕ หนว่ ยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศกึ ษาและปฏิบัติเกี่ยวกบั การบัญชขี องกิจการพเิ ศษ ประเภทสถานศึกษาเอกชน สถานพยาบาล มูลนธิ ิ สมาคม สโมสร เกษตรกร ผปู้ ระกอบอาชีพอสิ ระ และนาเสนองบการเงิน ผลการเรยี นรู้ ๑. มคี วามเข้าใจหลกั การ กระบวนการปฏิบตั งิ านบัญชีของกิจการพิเศษประเภทสถานศึกษาเอกชน สถานพยาบาล มลู นิธิ สมาคม สโมสร ผูป้ ระกอบอาชีพอสิ ระ และเกษตรกร ๒. มีทักษะการปฏบิ ตั งิ านบัญชีของกิจการพเิ ศษ ลกั ษณะต่าง ๆ และสามารถประยุกต์ใช้ในการดารงชีวิตประจาวัน ๓. มกี จิ นิสยั มีระเบยี บ ละเอียดรอบคอบ ซอ่ื สตั ย์ มวี นิ ัยตรงตอ่ เวลา และมีเจตคติท่ีดตี ่อวชิ าชีพบญั ชี รวมท้ังหมด ๓ ผลการเรียนรู้
๑๑๙ คาอธบิ ายรายวิชา รหัสวชิ า ง๓๒๒๖๒ รายวชิ าการบญั ชีสินคา้ สาระการเรียนรู้เพม่ิ เตมิ กลุ่มสาระการเรียนรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ ๖ จานวน ๓ ชั่วโมง จานวน ๑.๕ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวิชา ศกึ ษาและปฏิบตั ิเกีย่ วกบั ระบบการควบคุมสนิ คา้ โดยการทาบัญชคี วบคุมสนิ คา้ ตามมาตรฐาน การบัญชี การตรวจนบั สนิ คา้ คงเหลือในวนั สนิ้ งวดบญั ชี การตรี าคาสินค้าคงเหลอื วธิ ีการบนั ทึกบัญชีสินคา้ คงเหลอื แบบสนิ้ งวด และวิธกี ารบัญชีสินค้าคงเหลอื แบบต่อเน่ือง ผลการเรียนรู้ ๑. มีความเขา้ ใจในหลักการ และกระบวนการปฏบิ ัติงานบญั ชีเกี่ยวกบั สนิ ค้า ๒. มีทักษะปฏิบตั ิงานบัญชี ท้ังในการควบคมุ และตรวจสอบการปฏบิ ตั ิงานเก่ยี วกับสนิ ค้า ๓. มีกิจนิสัย มีระเบียบ ละเอียดรอบคอบ ซ่อื สัตย์ มวี ินัยตรงตอ่ เวลา และมีเจตคติท่ีดีต่อวิชาชพี บัญชี รวมทั้งหมด ๓ ผลการเรยี นรู้
๑๒๐ คาอธบิ ายรายวชิ า รหสั วชิ า ง รายวชิ าการบญั ชีเช่าซอื้ และฝากขาย สาระการเรยี นรู้เพมิ่ เตมิ กลุม่ สาระการเรยี นรู้การงานอาชพี และเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ่ี ๖ จานวน ๔ ชั่วโมง จานวน ๒.๐ หน่วยกิต คาอธิบายรายวชิ า ศกึ ษาและปฏบิ ัตเิ กี่ยวกบั กฎหมายการเช่าซื้อและซ้ือขายผอ่ นชาระ การบันทึกบัญชเี ช่าซ้ือและซ้ือขาย ผ่อนชาระ สนิ คา้ รบั แลกเปลย่ี น การยึดสินค้าคืน การคานวณดอกเบี้ย แสดงรายการเกี่ยวกับการเช่าซ้ือและ ซ้อื ขายผ่อนชาระในงบการเงิน ศึกษาและปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั การบญั ชฝี ากขายสินค้า วิธีส่งสินคา้ ไปฝากขาย การรับฝากขาย เงินทดรองจา่ ย หน้ีสินระหวา่ งผ้ฝู ากขายกับผ้รู ับฝากขาย และการแสดงรายการเกย่ี วกบั การฝากขายในงบการเงนิ ผลการเรยี นรู้ ๑. มคี วามเขา้ ใจหลักการ และกระบวนการปฏิบัตงิ านบัญชีของกิจการที่ดาเนินการเช่าซื้อและฝากขายสินค้า ๒. มที ักษะปฏบิ ตั ิงานบญั ชี ตามหลกั การบัญชีท่รี บั รองทว่ั ไป ของกจิ การท่ดี าเนินการเช่าซอ้ื และฝากขายสนิ ค้า ๓. มกี ิจนสิ ยั มรี ะเบียบ ละเอียดรอบคอบ ซอื่ สัตย์ มวี ินยั ตรงต่อเวลา และมีเจตคตทิ ่ีดตี ่อวชิ าชพี บญั ชี รวมทง้ั หมด ๓ ผลการเรียนรู้
๑๒๑ คาอธิบายรายวชิ า รหสั วิชา ง รายวิชาการประยุกตโ์ ปรแกรมตารางงานเพอื่ งานบัญชี สาระการเรยี นรเู้ พ่ิมเตมิ กลมุ่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๖ จานวน ๔ ชั่วโมง จานวน ๒.๐ หน่วยกิต คาอธบิ ายรายวชิ า ศึกษาและปฏิบัตเิ ก่ยี วกบั การเรม่ิ ตน้ ใช้โปรแกรมตารางงาน ส่วนประกอบของโปรแกรมตารางงาน การปอู นและจดั รปู แบบข้อมูล การสรา้ งสตู รและการใชฟ้ ังก์ชัน่ ในการคานวณ เพอื่ สรา้ งสมดุ บนั ทึก รายการขั้นตน้ การผ่านรายการไปบญั ชีแยกประเภท การปรับแกข้ ้อมลู การจดั การฐานข้อมูลในตารางงาน จดั ทารายงานทางการเงิน การออกรายงาน การวิเคราะห์ข้อมลู ในรปู แบบขอ้ ความและแผนภูมิ ผลการเรียนรู้ ๑. มีความเขา้ ใจหลกั การใช้โปรแกรมตารางงานเพื่องานบัญชี ๒. มีทักษะในการใชโ้ ปรแกรมตารางงานเพ่อื งานบญั ชี ๓. มกี ิจนสิ ยั มีระเบยี บ ละเอียดรอบคอบ ซอ่ื สัตย์ มวี นิ ัยตรงตอ่ เวลา และมีเจตคติที่ดตี ่อวิชาชพี บญั ชี รวมท้งั หมด ๓ ผลการเรียนรู้
๑๒๒ คาอธิบายรายวิชา รหสั วิชา ง รายวิชาการฝกึ งาน สาระการเรยี นรเู้ พ่มิ เตมิ กลุ่มสาระการเรยี นรูก้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๖ จานวน ๘ ช่ัวโมง จานวน ๔.๐ หนว่ ยกติ คาอธิบายรายวชิ า ปฏิบัติงานทส่ี อดคลอ้ งกับลักษณะของงานในสาขาวิชาชีพในสถานประกอบการ สถานประกอบ อาชพี อิสระหรอื แหล่งวทิ ยาการ ให้เกิดความชานาญ มที กั ษะและประสบการณง์ านอาชีพในระดบั ฝีมอื โดย ผา่ นความเห็นชอบรว่ มกนั ของผรู้ ับผดิ ชอบการฝึกงานในสาขาวิชานน้ั ๆ และรายงานผลการปฏบิ ตั งิ าน ตลอดระยะเวลาการฝึกงาน ผลการเรียนรู้ ๑. เข้าใจขัน้ ตอนและกระบวนการปฏบิ ัติงานอาชพี อย่างเปน็ ระบบ ๒. ปฏิบตั งิ านอาชีพในสถานประกอบการ สถานประกอบอาชพี อสิ ระหรือแหลง่ วิทยาการจนเกิดความชานาญ มี ทกั ษะและประสบการณ์ นาไปประยกุ ต์ใช้ในการปฏิบตั ิงานอาชพี ระดบั ฝมี ือ ๓. มีเจตคติทีด่ ตี อ่ การปฏบิ ัติงานอาชีพ และมีกิจนิสยั ในการทางานดว้ ยความรบั ผดิ ชอบ มีวินัย คณุ ธรรมจรยิ ธรรม ความคดิ สร้างสรรค์และสามารถทางานรว่ มกับผ้อู ่ืน
๑๒๓ รวมทั้งหมด ๓ ผลการเรียนรู้ คาอธบิ ายรายวชิ า รหัสวชิ า ง รายวิชาคอมพิวเตอร์และการบารุงรกั ษา สาระการเรียนร้เู พ่ิมเติม กลมุ่ สาระการเรียนรูก้ ารงานอาชพี และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ ๖ จานวน ๔ ชัว่ โมง จานวน ๒.๐ หน่วยกติ คาอธิบายรายวชิ า ศึกษาและปฏิบตั ิเก่ยี วกับหลักการทางานของอุปกรณ์คอมพิวเตอร์และอปุ กรณ์ตอ่ พ่วง ประกอบ เครอ่ื งคอมพวิ เตอรแ์ ละติดต้งั โปรแกรมตามลักษณะงาน การบารุงรักษาอปุ กรณ์คอมพวิ เตอร์ ตรวจและ กาจัดไวรัส แก้ปัญหาคอมพวิ เตอรด์ ้วยโปรแกรมอรรถประโยชน์ สารองและปูองกันความเสยี หายของ ขอ้ มลู การกู้คืนขอ้ มูล ผลการเรียนรู้ ๑. เขา้ ใจเกย่ี วกับหลักการทางานและการใช้งานอุปกรณ์คอมพวิ เตอร์ ๒. สามารถประกอบ และบารุงรกั ษาคอมพวิ เตอร์ ๓. ตรวจสอบและแก้ปญั หาคอมพิวเตอรด์ ้วยโปรแกรมอรรถประโยชน์ ๔. มีคุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ มที่ดีในการใช้คอมพวิ เตอร์
๑๒๔ คาอธบิ ายรายวชิ า รหสั วชิ า ง รายวชิ า การสง่ เสรมิ การขาย สาระการเรียนรเู้ พม่ิ เตมิ กลุม่ สาระการเรยี นรกู้ ารงานอาชีพและเทคโนโลยี ชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี ๖ จานวน ๔ ช่ัวโมง จานวน ๒.๐ หน่วยกติ คาอธิบายรายวชิ า ศกึ ษาและปฏิบัติเกี่ยวกบั หลักการส่งเสริมการขาย การสง่ เสรมิ การขายมุ่งสู่ผูบ้ รโิ ภค การส่งเสรมิ การขายมุ่งสู่คนกลาง การส่งเสรมิ การขายมุ่งสพู่ นักงานขาย ปญั หาและอปุ สรรค การวัดผลและประเมนิ ผล กฎหมายและจรรยาบรรณการส่งเสรมิ การขาย เทคโนโลยีสารสนเทศและการสอื่ สารการส่งเสริมการขาย ผลการเรียนรู้ ๑. เขา้ ใจหลักการและกระบวนการส่งเสริมการขาย ๒. เขา้ ใจกฎหมายและจรรยาบรรณการสง่ เสริมการขาย ๓. เข้าใจเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสารการสง่ เสรมิ การขาย ๔. มที ักษะในการวางแผนและจดั กจิ กรรมส่งเสริมการขายตามสถานการณ์ทางการตลาด ๕. มเี จตคติและกจิ นิสยั ท่ดี ีในการทางานด้วยความคิดรเิ ริ่มสรา้ งสรรค์ ความกระตอื รือร้น การทางานเปน็ ทมี และความประหยัด
๑๒๕ กจิ กรรมพฒั นาผู้เรียน ความหมาย กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รยี น เปน็ กิจกรรมทจี่ ดั อย่างเป็นกระบวนการด้วยรปู แบบ วิธีการที่หลากหลาย ในการ พฒั นาผู้เรียนทั้งด้านร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์ และสังคม มุ่ง เสริมสร้างเจตคติ คุณค่าชีวิต ปลูกฝัง คุณธรรมและค่านิยมอันพึงประสงค์ ส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จักและเข้าใจตนเองสร้างจิตสานึก แล ะร่วมอนุรักษ์ พลังงาน และสิ่งแวดล้อม ปรับตัวและมีจิตสาธารณะโดยคานึงถึงประโยชน์ต่อสังคม ประเทศชาติและดารงชีวิต อยา่ งมีความสขุ รวมท้ังการน้อมนาเอาหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาเป็นฐานในการดารงชีวติ ลกั ษณะของกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน ๑. ผูเ้ รียนไดร้ ับประสบการณ์ท่ีหลากหลาย เกดิ ความรู้ ความชานาญ ทง้ั วชิ าการและวิชาชีพ อย่าง กวา้ งขวางมากย่ิงข้นึ ๒. ผู้เรยี นค้นพบความสนใจ ความถนดั และพัฒนาความสามารถพิเศษเฉพาะตัว มองเห็นชอ่ งทางใน การสร้างงานอาชพี ในอนาคตไดเ้ หมาะสมกบั ตนเอง ๓. ผู้เรียนเหน็ คณุ คา่ ขององค์ความรูต้ า่ ง ๆ สามารถนาความรู้และประสบการณ์ไปใช้ในการพัฒนา ตนเอง และประกอบสัมมาชพี ๔.ผูเ้ รยี นพฒั นาบคุ ลิกภาพ เจตคติในค่านิยมในการดารงชีวติ และเสรมิ สร้างศีลธรรม จรยิ ธรรม ๕. ผเู้ รียนมีจิตสาธารณะ และทาประโยชน์เพ่ือสงั คม และประเทศชาติ กิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน ๑. กจิ กรรมแนะแนว ชั้นประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ เรยี นสัปดาหล์ ะ ๑ ชั่วโมง
๑๒๖ ๒. กจิ กรรมนักเรียน ๒.๑ กิจกรรมลกู เสอื เนตรนารี ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑-๖ เรยี นสปั ดาหล์ ะ ๑ ช่ัวโมง ๒.๒ กิจกรรมพัฒนาความถนัด ความสนใจ ตามความต้องการของผู้เรียน เป็นกิจกรรมท่ี จัดใน เวลาเรยี น ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๑-๖ เรยี นสัปดาหล์ ะ ๑ ชั่วโมง ๓. กจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ ชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี ๑-๖ จัดบรู ณาการไว้ในกิจกรรม ลูกเสือเนตรนารี จดั เรียนปีละ ๑๐ ช่วั โมง โดยจัดยืดหยนุ่ เองตามความเหมาะสมและความจาเปน็ ในแตล่ ะระดบั ชนั้ เรียนท้ังนใี้ หค้ รผู สู้ อนในระดับชน้ั เรยี นนน้ั ๆ ร่วมกนั ออกแบบกิจกรรมเพื่อให้ผ้เู รียนไดบ้ รรลเุ ปาู หมายทห่ี ลกั สูตร แกนกลาง ฯ กาหนด โดยคานึงถงึ วยั และวฒุ ภิ าวะของผู้เรียน ๔. กจิ กรรมพฒั นาทักษะดารงชีวิต ๘ กิจกรรมโรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จัดกิจกรรมพัฒนา ผเู้ รยี น ดังน้ี ๑. กจิ กรรมแนะแนว เป็นกิจกรรมท่สี ่งเสริมและพัฒนาความสามารถของผ้เู รียนให้เหมาะสม ตาม ความแตกต่างระหวา่ งบุคคล สามารถคน้ พบและพฒั นาศักยภาพของคน เสริมสรา้ งทักษะชีวิต วฒุ ิภาวะทาง อารมณ์ และการสร้างสัมพนั ธภาพทีด่ ี ซึ่งผสู้ อนทุกคนต้องทาหน้าทแ่ี นะแนวให้คาปรกึ ษา ดา้ นการเรยี นรู้ ทักษะ ชวี ติ การอย่รู ่วมกนั ในสังคม การศกึ ษาต่อและการพฒั นาตนเอง ส่โู ลกเพื่อการอยรู่ ่วมกนั ในสังคมอยา่ งปกติสขุ กจิ กรรมแนะแนวเป็นบทบาทของครูทุกคน ทจ่ี ะต้องดาเนินการ คัดกรอง และจัดกจิ กรรมหรือ บรกิ ารต่าง ๆ เพื่อสง่ เสรมิ พัฒนา ปอู งกันแกไ้ ข โดยครทู ุกคนดาเนนิ การดงั นี้ ๑. ศกึ ษาและรวบรวมข้อมูลผเู้ รียนเป็นรายบคุ คล ๒. คัดกรองผูเ้ รยี นเพื่อจาแนกผู้เรียนออกเป็น ๒ กล่มุ คือ กลุ่มปกติ และกลุ่มพิเศษ ๓. ดูแลช่วยเหลอื ให้คาปรกึ ษาในด้านต่าง ๆ ใหผ้ ู้เรียนได้พัฒนาเตม็ ตามศกั ยภาพ ๔. พัฒนาระบบขอ้ มลู และภูมิความรู้ทีท่ นั สมัย อันจะเกิดประโยชน์ และจาเปน็ ในการดาเนินชีวติ ๕. ประสานงานกับผปู้ กครอง ชมุ ชน เพ่ือการร่วมมือในการดูแลชว่ ยเหลือผู้เรยี น ๖. ประสานงานกบั ผู้เก่ยี วข้องทงั้ ภายในและภายนอกสถานศึกษา เพอ่ื การดูแลช่วยเหลือ และ การส่งต่อผู้เรยี น ๗. จดั กจิ กรรมทั้งในและนอกหอ้ งเรียน เพื่อปูองกนั แก้ไข ส่งเสริมและพัฒนาผ้เู รียนทุกคน รวมท้ังผ้ทู ม่ี คี วามสามารถพเิ ศษ ผดู้ อ้ ยโอกาส คนพกิ าร ตลอดจนผมู้ ีปัญหาชีวิตและสงั คม ใหส้ ามารถพัฒนาตน ไดเ้ ตม็ ตามศักยภาพ ๘. ร่วมจดั บริการต่าง ๆ เชน่ - จัดบริการด้านสุขภาพ - จดั หาทนุ และอาหารกลางวัน - จดั ศนู ยก์ ารเรยี นรู้ให้ผู้เรยี น เพอ่ื การวางแผนชวี ติ - จดั บรกิ ารชว่ ยผู้เรยี นทีม่ ีปัญหา หรอื ความต้องการ - ตดิ ตามผลผเู้ รียนทัง้ ในปัจจุบัน และจบการศึกษาแลว้ ๙. นเิ ทศ กากับ ตดิ ตาม ประเมินผล และประชาสัมพันธ์ กจิ กรรมแนะแนวที่โรงเรียนจัดมีดังน้ี ๑. การศกึ ษาเด็กเปน็ รายบคุ คล ใหค้ รปู ระจาชั้น และครปู ระจาวชิ า มกี ารศกึ ษาเดก็ เป็น รายบุคคลอย่างตอ่ เนือ่ ง ๒. การสอนซ่อมเสริม เป็นการสอนซ่อมดว้ ยกิจกรรมทห่ี ลากหลายให้กับเด็กท่เี รียนอ่อน และมีปญั หา และสอนเสรมิ ให้กับเดก็ ท่เี รียนเก่ง สามารถศกึ ษาหาความรดู้ ้วยตนเองได้ด้วยกลวธิ ีทห่ี ลากหลาย ทั้งนต้ี ้องเป็นไปตามความต้องการของผเู้ รียน ๓. การส่งเสริมศักยภาพของนักเรยี น ซงึ่ ครูผู้รับผดิ ชอบจะใช้ขอ้ มลู พื้นฐานของนักเรยี น
๑๒๗ รายบุคคลเป็นฐานในการสง่ เสรมิ ศักยภาพเฉพาะด้านใหก้ ับนกั เรยี นน้ัน ๆ และดาเนินการอย่างเปน็ ระบบ เพ่ือให้ นกั เรยี นไดร้ บั การส่งเสริมเตม็ ศกั ยภาพ ๔. การตรวจสุขภาพ มีการตรวจสขุ ภาพและวิเคราะห์ผลการเจรญิ เตบิ โตของนักเรยี น ทกุ คน อยา่ งเปน็ ระบบสามารถตรวจสอบได้ ๕. การจดั ทุนการศกึ ษา และทนุ อาหารกลางวัน ให้กบั นกั เรยี นทขี่ าดแคลนทางด้านทนุ ทรัพย์ ๖. รวบรวมข้อมลู ข่าวสาร สารสนเทศ ของนกั เรยี นเพอ่ื ให้นักเรยี นไดส้ ารวจตนเอง และ รู้จกั ตนเองในทุกดา้ น ๗. การตดิ ตามผลผู้เรยี นในปจั จุบันและจบการศกึ ษาแล้ว ๘. การแนะแนวการศึกษา ให้ผเู้ รียนพัฒนาการเรียนไดเ้ ต็มศักยภาพ วางแผนการเรียนและ การศึกษาต่อไปอย่างมีประสิทธภิ าพ ๒. กิจกรรมนกั เรียน เป็นกิจกรรมทเี่ กิดจากความสมัครใจของผูเ้ รยี นได้พฒั นาตามคุณลักษณะอันพึง ประสงค์ เพ่ิมเตมิ จากกิจกรรมในกล่มุ สาระการเรยี นรู้ เป็นกิจกรรมที่อาศยั ความรว่ มมือระหว่างครู นกั เรียน ผปู้ กครอง ทีช่ ว่ ยกนั คดิ ช่วยกนั ทา ชว่ ยกันแก้ปัญหา ส่งเสริมศกั ยภาพของผเู้ รยี นอยา่ งเตม็ ที่ รวมถึงกิจกรรมท่ี ปลูกฝงั ความมีระเบยี บวนิ ยั รับผิดชอบ รจู้ กั สทิ ธิและหน้าท่ีของตนเอง ซง่ึ แบ่งเปน็ กิจกรรมหลัก ๒ กจิ กรรม คือ ๒.๑ กจิ กรรมลกู เสือ เนตรนารี ยุวกาชาด เปน็ กิจกรรมที่มุ่งปลูกฝงั ระเบียบวินัย กฎกติกา เพอ่ื การอย่รู ่วมกนั ในสภาพชวี ติ ต่าง ๆ นาไปสู่พนื้ ฐานการทาประโยชนแ์ ก่สงั คม และวิถชี วี ติ ในระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ๒.๒ กจิ กรรมพัฒนาความถนัด ความสนใจ ตามความต้องการของผู้เรียน เป็นกจิ กรรมที่ มุ่งเนน้ การเติมเตม็ ความรู้ความสามารถ ความชานาญ และประสบการณข์ องผูเ้ รียนให้กวา้ งขวางย่ิงขนึ้ เพ่ือการ ค้นพบความถนดั ความสนใจของตนเองและพัฒนาตนเองใหเ้ ตม็ ศักยภาพ ตลอดจนการพฒั นาทกั ษะทางสงั คม และปลูกฝงั จิตสานึกของการทาประโยชนเ์ พ่ือสังคม ๓. กิจกรรมเพอ่ื สังคมและสาธารณะประโยชน์ เปน็ กจิ กรรมทตี่ ้องการปลูกฝังให้ผู้เรียนเล็งเหน็ ถงึ ความสาคัญของตนเองในการมีสว่ นร่วมและชว่ ยเหลือสังคมตามระดับของวัยวุฒิ คณุ วุฒิ หรือตามศักยภาพของตน ทพี่ ึงจะกระทาได้ จนเกิดเปน็ กิจนิสยั ท่ีได้รบั การบ่มเพาะสิ่งที่ดงี ามใหบ้ ังเกิดในตัวผเู้ รียนต้ังแต่วยั เยาว์ จนสง่ ผลให้ ผเู้ รยี นเหลา่ นนั้ เปน็ ทรัพยากรมนุษย์ท่ีมีคณุ ภาพของสงั คม ๔. กิจกรรมพฒั นาทักษะดารงชวี ติ
๑๒๘ การจัดการเรยี นรู้และการส่งเสริมการเรยี นรู้ ตามหลักสูตรโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑พุทธศักราช ๒๕๕๗ ตามหลักสูตรแกนกลางการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ การจดั การเรียนรู้เปน็ กระบวนการสาคัญในการนาหลักสูตรสู่การปฏบิ ตั ิ หลักสูตรแกนกลางการศึกษา ข้ันพน้ื ฐาน เป็นหลักสูตรทม่ี ีมาตรฐานการเรยี นรู้ สมรรถนะสาคญั และคุณลักษณะอันพึงประสงค์ของผ้เู รยี น เป็น เปูาหมายสาหรับพัฒนาเด็กและเยาวชน ในการพฒั นาผู้เรยี นใหม้ คี ุณสมบตั ติ ามเปูาหมายหลกั สตู ร ผ้สู อนพยายามคดั สรร กระบวนการเรยี นรู้ จดั การเรียนรู้โดยช่วยให้ผูเ้ รียนเรียนร้ผู า่ นสาระท่กี าหนดไวใ้ นหลกั สูตร ๘ กล่มุ สาระการเรยี นรู้ รวมท้งั ปลกู ฝงั เสรมิ สรา้ งคุณลักษณะอนั พึงประสงค์ พฒั นาทักษะต่าง ๆ อนั เป็นสมรรถนะสาคัญให้ผเู้ รยี นบรรลุ ตามเปาู หมาย หลกั การจดั การเรยี นรตู้ ามหลักสตู รโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑ การจดั การเรยี นรู้ตามหลักสูตรสถานศกึ ษาโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ พุทธศักราช ๒๕๕๗ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ยดึ หลักการจดั การเรยี นร้ตู ามแนวทางของ พระราชบญั ญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ท่ีเนน้ ผู้เรียนมีความสาคัญท่สี ดุ เชอ่ื ว่าทุกคนมีความสามารถ เรยี นรู้และพฒั นาตนเองได้ ยึดประโยชน์ท่ีเกิดกบั ผู้เรยี น โดยมเี ปาู หมายให้ผู้เรียนเปน็ คนดี เก่ง มคี วามเป็นไทย และทางานร่วมกบั ผอู้ ่ืนได้อย่างมคี วามสขุ ในกลุ่มสาระการเรยี นรูท้ ง้ั ๘ กลุม่ กระบวนการจัดการเรียนร้ตู ้อง
๑๒๙ สง่ เสริมให้ผ้เู รียน สามารถพฒั นาตามธรรมชาตแิ ละเต็มตามศักยภาพ คานงึ ถงึ ความแตกต่างระหว่างบุคคลและ พฒั นาการทางสมอง เน้นให้ความสาคญั ท้ังความรู้ และคุณธรรม คิดเป็นองคร์ วม และร่วมมือกันพฒั นาสงั คมไทย การจัดการเรียนรู้เพื่อใหผ้ ู้เรียนมีความรู้ ความสามารถตามมาตรฐานการเรียนรู้ สมรรถนะสาคญั และคุณลักษณะ อนั พึงประสงค์ ตามที่กาหนดไว้ในหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พนื้ ฐาน กระบวนการจดั การเรยี นรู้ตอ้ งส่งเสรมิ ใหผ้ ู้เรียน สามารถพฒั นาตามธรรมชาติและเตม็ ตามศักยภาพ คานึงถงึ ความแตกตา่ งระหว่างบคุ คลและพฒั นาการ ทางสมอง เน้นให้ความสาคัญท้ังความรู้ และคุณธรรม การจัดการเรียนรู้ตามหลกั สตู รสถานศึกษาโรงเรยี นราช ประชานุเคราะห์ ๓๑ พุทธศกั ราช ๒๕๕๗ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ จึงไดก้ าหนดแนวดาเนินการเพื่อให้การจัดการเรียนรูต้ ามหลักสูตรประสบความสาเร็จตามจุดมงุ่ หมาย ดงั น้ี ๑. จัดประสบการณ์การเรียนรโู้ ดยยึดหลกั การพฒั นาผ้เู รียนใหถ้ งึ ศักยภาพสงู สุด คือ ผู้เรียนได้ พฒั นา ตนเอง ทัง้ รา่ งกาย สติปญั ญา อารมณ์ และสังคม มีความร้สู ึกที่ดเี ก่ยี วกับตนเอง ภาคภมู ิใจในผลการปฏบิ ตั ิ ๒. จดั ประสบการณก์ ารเรยี นรู้โดยยึดชีวิตจรงิ ของผู้เรยี นเป็นหลกั เน้นใหผ้ ูเ้ รียนมศี กั ยภาพในการคิดเชิง ระบบ และคิดอย่างมีวจิ ารณญาณ มรี ปู แบบการคดิ ของตนเอง คน้ พบตนเอง ๓. จัดประสบการณก์ ารเรยี นรโู้ ดยยึดหลกั ความแตกตา่ งระหว่างบคุ คล และหลักการเรยี นร้ใู นเชงิ พหุ ปัญญา และใชก้ ระบวนการวิจยั ในการแก้ปัญหาและพฒั นาผู้เรียน ๔. จดั ประสบการณโ์ ดยใช้คุณธรรมนาความรู้ บูรณาการคุณธรรมในการจดั ประสบการณท์ กุ กลุ่มสาระ การเรียนรู้ และทุกขน้ั ตอนในการจดั การเรียนรู้ ถือวา่ ครูทุกคนมหี นา้ ทีพ่ ฒั นาผเู้ รียนให้ประพฤติตนยดึ หลัก คุณธรรม และพัฒนาตนให้มีค่านยิ มอนั พงึ ประสงค์ ๕. จดั บรรยากาศให้เอ้ือต่อการแสวงหาความรู้ด้วยตนเอง มีอิสระในการคิด ได้ลงมือปฏิบัตจิ รงิ ครู พรอ้ มให้คาปรึกษา ให้กาลังใจ เสริมแรงให้ผ้เู รยี นมีความเช่ือมน่ั ว่า ตนเองมศี กั ยภาพในการเรียนรใู้ นเชงิ พหุ ปัญญา ไม่ด้านใดก็ดา้ นหนึง่ หรือหลายด้านพร้อมกัน ๖. จัดประสบการณก์ ารเรียนรใู้ หม้ ีความสมั พันธ์ เชื่อมโยง หรือบรู ณาการทง้ั ภายในกลุ่มสาระการเรียนรู้ และระหว่างกลุ่มสาระการเรียนรู้ใหม้ ากทีส่ ดุ ๗. จัดประสบการณก์ ารเรียนร้ใู ห้ยดื หยนุ่ ตามเหตุการณ์ และสภาพท้องถนิ่ โดยใช้แหล่งการเรียนรแู้ ละ ภมู ิปญั ญาท้องถ่นิ ในการจดั การเรยี นรู้ตามความเหมาะสม ๘. จัดประสบการณก์ ารเรียนรู้โดยมุ่งเน้นกระบวนการเรยี นรู้ กระบวนการคิดอยา่ งมเี หตุผล และ สร้างสรรค์ กระบวนการกลุ่ม การจัดการเรยี นรทู้ ี่เนน้ ผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ ผเู้ รยี นจะตอ้ งอาศัยกระบวนการเรียนรทู้ ห่ี ลากหลาย เปน็ เครอ่ื งมือที่จะนาพาตนเองไปสู่เปาู หมายของหลกั สตู ร กระบวนการเรยี นรู้ที่จาเป็นสาหรับผู้เรยี น อาทิ กระบวนการเรียนรู้แบบบูรณาการ กระบวนการสรา้ งความรู้ กระบวนการคดิ กระบวนการทางสงั คม กระบวนการเผชญิ สถานการณ์และแกป้ ัญหา กระบวนการเรียนรู้ จากประสบการณจ์ ริง กระบวนการปฏบิ ัติ ลงมอื ทาจรงิ กระบวนการจดั การ กระบวนการวจิ ยั กระบวนการเรียนรกู้ ารเรียนรขู้ องตนเอง กระบวนการพัฒนา ลักษณะนิสัย กระบวนการเหล่าน้ีเปน็ แนวทางในการจดั การเรียนรู้ทผี่ ้เู รียนควรไดร้ บั การฝึกฝน พฒั นา เพราะจะ สามารถชว่ ยให้ผ้เู รยี นเกิดการเรยี นรูไ้ ด้ดี บรรลเุ ปูาหมายของหลักสตู ร ดงั นัน้ ผูส้ อน จงึ จาเป็นตอ้ งศกึ ษาทาความ เขา้ ใจในกระบวนการเรยี นรตู้ ่าง ๆ เพอ่ื ใหส้ ามารถเลือกใช้ในการจดั กระบวนการเรยี นรู้ไดอ้ ย่างมีประสทิ ธภิ าพ การออกแบบการจัดการเรียนรู้ ผ้สู อนต้องศึกษาหลกั สตู รสถานศกึ ษาให้เข้าใจถึงมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชว้ี ัด สมรรถนะสาคญั ของ ผู้เรียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ และสาระการเรียนรทู้ ี่เหมาะสมกับผเู้ รียน แล้วจงึ พิจารณาออกแบบการ
๑๓๐ จดั การเรียนรูโ้ ดยเลอื กใชว้ ิธสี อนและเทคนคิ การสอน ส่อื /แหล่งเรียนรู้ การวัดและประเมินผล เพื่อใหผ้ เู้ รยี นได้ พฒั นาเต็มตามศักยภาพและบรรลุตามเปาู หมายท่ีกาหนด ๑. บทบาทของผูส้ อนและผู้เรียน การจดั การเรยี นรเู้ พื่อให้ผ้เู รยี นมคี ณุ ภาพตามเปูาหมายของหลกั สตู ร ท้งั ผู้สอนและผู้เรยี นควรมีบทบาท ดงั นี้ ๑.๑ บทบาทของผู้สอน ๑) ศกึ ษาวเิ คราะหผ์ ู้เรยี นเปน็ รายบุคคล แล้วนาข้อมูลมาใช้ในการวางแผน การจัดการเรยี นรู้ ท่ีทา้ ทายความสามารถของผู้เรยี น ๒) กาหนดเปาู หมายทต่ี ้องการใหเ้ กิดขึ้นกับผู้เรียน ดา้ นความร้แู ละทักษะ กระบวนการ ท่เี ปน็ ความคดิ รวบยอด หลักการ และความสัมพันธ์ รวมทง้ั คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๓) ออกแบบการเรียนรู้และจัดการเรยี นรู้ที่ตอบสนองความแตกต่างระหวา่ งบุคคลและ พัฒนาการทางสมอง เพื่อนาผู้เรียนไปสู่เปูาหมาย ๔) จดั บรรยากาศท่ีเอื้อตอ่ การเรียนรู้ และดูแลช่วยเหลือผู้เรียนให้เกิดการเรยี นรู้ ๕) จดั เตรยี มและเลือกใชส้ ื่อใหเ้ หมาะสมกับกิจกรรม นาภูมปิ ัญญาท้องถิน่ เทคโนโลยีทเ่ี หมาะสมมาประยุกตใ์ ชใ้ นการจัดการเรยี นการสอน ๖) ประเมนิ ความก้าวหน้าของผู้เรยี นด้วยวิธกี ารท่ีหลากหลาย เหมาะสมกับ ธรรมชาตขิ องวชิ าและระดับพัฒนาการของผ้เู รียน ๗) วิเคราะห์ผลการประเมนิ มาใชใ้ นการซอ่ มเสริมและพัฒนาผู้เรยี น รวมทงั้ ปรับปรุงการจัดการเรียนการสอนของตนเอง ๑.๒ บทบาทของผ้เู รยี น ๑) กาหนดเปาู หมาย วางแผน และรบั ผดิ ชอบการเรียนรขู้ องตนเอง ๒) เสาะแสวงหาความรู้ เข้าถึงแหลง่ การเรียนรู้ วเิ คราะห์ สังเคราะห์ข้อความรู้ ต้ังคาถาม คิดหาคาตอบหรอื หาแนวทางแก้ปัญหาด้วยวธิ กี ารตา่ ง ๆ ๒) ลงมอื ปฏิบตั จิ รงิ สรปุ สิง่ ท่ไี ดเ้ รยี นรดู้ ้วยตนเอง และนาความรู้ไปประยุกตใ์ ช้ ในสถานการณต์ า่ ง ๆ ๓) มปี ฏิสมั พันธ์ ทางาน ทากิจกรรมร่วมกบั กล่มุ และครู ๔) ประเมินและพัฒนากระบวนการเรียนรู้ของตนเองอยา่ งต่อเนอ่ื ง การสง่ เสริมการเรียนรู้ ปจั จัยสาคญั ทเ่ี ป็นสว่ นหนง่ึ ของการจดั การศึกษาให้มีคุณภาพ และประสบความสาเรจ็ ตามจุดมุ่งหมาย ของหลกั สตู ร คือการพฒั นาระบบการสง่ เสริม สนบั สนนุ ของสถานศกึ ษาในด้านตา่ ง ๆ ที่จะเออ้ื ให้สามารถจดั การ เรียนการสอนไดอ้ ยา่ งมีคุณภาพ สาหรบั แนวปฏบิ ัตใิ นการส่งเสริมการเรียนรู้ และสนบั สนนุ การจัดกจิ กรรมการ เรียนการสอนของสถานศกึ ษา ไดก้ าหนดแนวในการสง่ เสรมิ การเรียนรู้ ดงั ต่อไปน้ี ๑. การจัดสภาพแวดล้อมในสถานศกึ ษาให้เออื้ ต่อการใชห้ ลักสตู ร การจัดสภาพแวดลอ้ มในสถานศกึ ษา ให้เอ้ือตอ่ การใช้หลักสตู รเป็นหน้าที่โดยตรงของบคุ ลากรทุกคนในสถานศกึ ษาท่จี ะต้อง ร่วมมอื กัน โดยยดึ เปาู หมาย หลักการ และจุดเน้นต่าง ๆ ของหลักสตู รเปน็ หลักในการดาเนินการ ท้ังนเี้ พ่ือให้ ผ้เู รียนได้เรยี นรแู้ ละพัฒนาตนเองไดอ้ ย่างเตม็ ศักยภาพ
๑๓๑ ๒. การจดั ให้มีแหล่งการเรยี นรู้ หอ้ งสมดุ และมมุ หนังสอื หรือแหลง่ วชิ าท่จี ะใหผ้ ้เู รียนได้ศกึ ษา คน้ ควา้ หาความรดู้ ว้ ยตนเอง เพือ่ เพิ่มพูนประสบการณ์และความชานาญ โดยเฉพาะห้องสมดุ เปน็ แหลง่ การเรียนรู้ที่ สาคญั ย่งิ เพราะเป็นแหล่งทีร่ วบรวมองค์ความรทู้ เ่ี ปน็ ประโยชนก์ ับผู้เรยี นโดยตรง นอกจากนีย้ งั จดั ให้มีแหล่งการ เรียนรใู้ นรปู ของศูนยก์ ารเรียนรแู้ บบพง่ึ พาตนเอง คอมพิวเตอร์ หอ้ งปฏบิ ัติการทางภาษา หอ้ งปฏบิ ัตกิ ารทาง วทิ ยาศาสตร์ และ เทคโนโลยตี ่าง ๆ ๓. การจัดให้มีบรเิ วณสาหรับให้ผูเ้ รียนได้ฝึกปฏบิ ัตกิ ิจกรรมในกลมุ่ สาระการเรยี นรตู้ า่ ง ๆ เพื่อใหผ้ ู้เรยี น ได้เรยี นรูจ้ ากประสบการณ์จริง ได้คิด ได้ทา ได้แสดงออก ได้เรยี นรเู้ อง และค้นพบความรู้ด้วยตนเองตาม ศกั ยภาพของนักเรยี นแตล่ ะคน ๔. การจัดใหม้ ีแหล่งการเรียนรูใ้ นทอ้ งถน่ิ และการใชภ้ มู ปิ ญั ญาทอ้ งถิ่น การจดั การเรียนรู้ตามหลกั สูตร เน้นการเรยี นรจู้ ากแหล่งการเรยี นรทู้ ั้งในและนอกห้องเรยี น ทงั้ น้เี พื่อผเู้ รียนจะไดม้ โี อกาสทจ่ี ะสัมผัสกบั ชวี ติ จรงิ นอกห้องเรยี นหรือนอกโรงเรียน ไดพ้ บปะกับผู้คน ผ้รู ู้ ภมู ิปญั ญาของท้องถ่นิ เพ่ือจะไดเ้ รียนร้สู ิง่ ต่าง ๆ มากข้นึ มี ประสบการณ์กวา้ งขวางข้นึ เรยี นรไู้ ด้ทุกเวลาและทุกสถานที่ไม่จากัดวา่ จะต้องเรยี นร้จู ากผูส้ อนในสถานศึกษา เท่านั้น ๕. การวิจัยเพื่อพฒั นาคุณภาพ การวิจัยเปน็ กระบวนการทค่ี วบคู่กบั กระบวนการเรยี นรู้ และ กระบวนการทางานของผู้ที่เกี่ยวขอ้ งกบั การศึกษา ซง่ึ เปน็ กลไกทนี่ าไปสสู่ ังคมแหง่ ภมู ิปัญญาและการเรยี นรู้ ดังน้ันในการจดั การเรียนรู้ ผู้สอนต้องนากระบวนการวจิ ยั มาผสมผสานหรือบูรณาการเพ่ือพัฒนาคณุ ภาพของ ผู้เรยี น และสามารถใช้กระบวนการการวจิ ยั เป็นสว่ นหนง่ึ ของกระบวนการเรียนรู้ นอกจากน้ีผลการวิจยั ยังเป็น ประโยชน์ตอ่ การแกป้ ญั หาหรือพฒั นาคณุ ภาพของผ้เู รียนได้เปน็ อยา่ งดี ๖. การจัดเครือข่ายวิชาการ ผูส้ อนนบั ว่ามสี ว่ นสาคญั ทีจ่ ะทาให้การจดั การเรียนรปู้ ระสบผลสาเรจ็ สถานศกึ ษาจงึ จัดให้มเี ครือข่ายเชือ่ มโยงกบั สถานศึกษาอื่น ซึง่ เปน็ สถานศึกษาในโครงการโรงเรียนเครอื ขา่ ยการใช้ หลักสตู รสถานศึกษาของจงั หวัดชลบุรี ทง้ั นเี้ พอื่ ให้ผู้สอนไดแ้ ลกเปล่ยี นเรยี นรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการ จัดการเรียนร้ซู งึ่ กันและกัน ทาให้ไดร้ บั ความรู้ และแนวคิดใหม่ ๆ ท่หี ลากหลาย และกว้างขวาง ท่ีสามารถนาไป พัฒนาการจัดการเรียนการสอนได้อยา่ งมคี ุณภาพ นอกจากนี้ยงั สง่ เสริม และสนับสนุนให้มีการแลกเปลยี่ นเรียนรู้ ทางวิชาการ จากผูส้ อนในสถานศกึ ษาเดียวกนั และสถานศึกษาอ่นื ๆ ตลอดจนชมรมวิชาการตา่ ง ๆ เพ่ือใหผ้ สู้ อน ได้รบั การพัฒนาตนเองอยา่ งสม่าเสมอ
๑๓๒ ระเบยี บโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ ว่าด้วยการประเมนิ ผลการเรียนตามหลกั สูตรโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ พุทธศักราช ๒๕๕๗ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ ……………………………… โดยที่โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ ไดป้ ระกาศใช้หลักสูตรสถานศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ ตามคาส่ังกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สพฐ. ๒๙๓ / ๒๕๕๑ ลงวันท่ี ๑๑ กรกฎาคม ๒๕๕๑ เรอื่ ง ใหใ้ ช้ หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้ันพื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ และกระจายอานาจให้สถานศกึ ษากาหนดหลักสตู ร สถานศกึ ษาขน้ึ ใชเ้ อง เพ่ือให้สอดคลอ้ งกับคาสัง่ ดังกลา่ ว ฉะน้ัน อาศยั อานาจตามความในมาตรา ๒๑ และมาตรา ๑๕ แหง่ พระราชบญั ญตั ริ ะเบยี บบรหิ าร ราชการกระทรวงศกึ ษาธิการ พ.ศ.๒๕๔๖ และคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ จึงวางระเบียบไว้ดังต่อไปน้ี ข้อ ๑ ระเบยี บนเ้ี รยี กว่า “ระเบยี บสถานศกึ ษาว่าด้วยการประเมนิ ผลการเรยี นตามหลกั สตู รแกนกลาง การศึกษาข้ันพน้ื ฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑” ข้อ ๒ ระเบียบน้ีให้ใช้บงั คบั ตั้งแตป่ กี ารศึกษา ๒๕๕๗ เป็นตน้ ไป ข้อ ๓ ให้ยกเลกิ ระเบยี บข้อบงั คับหรือคาสั่งอน่ื ใดในส่วนทีก่ าหนดไวใ้ นระเบียบนี้หรือซึ่งขดั หรือแย้งกับ ระเบยี บนี้ ใหใ้ ชร้ ะเบยี บนี้แทน ข้อ ๔ ระเบยี บน้ใี ห้ใช้ควบคู่กบั หลกั สตู รสถานศึกษาขน้ั พื้นฐาน โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ พุทธศักราช ๒๕๕๑ ข้อ ๕ ในระเบยี บนี้ “หลักสตู ร” หมายถึง หลักสูตรการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ “โรงเรยี น” หมายถึง โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ “ผู้อานวยการโรงเรยี น” หมายถึง ผ้อู านวยการสถานศกึ ษา โรงเรยี นราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ “ครู” หมายถึง ครู ผปู้ ฏบิ ัติการสอนในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ “นักเรียน” หมายถึง นักเรียนโรงเรียนราชประชานเุ คราะห์ ๓๑ ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี ๑ ถงึ ชั้น มธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๖ ข้อ ๖ ใหผ้ อู้ านวยการโรงเรียนรกั ษาการใหเ้ ป็นไปตามระเบยี บนี้
๑๓๓ หมวดท่ี ๑ หลักการในการวัดและประเมนิ ผลการเรียน ข้อ ๗ การวัดและประเมนิ ผลการเรียนให้เปน็ ไปตามหลักการดงั น้ี ๗.๑ ทุกระดับชัน้ ตัง้ แตช่ นั้ ประถมศกึ ษาปีที่ ๑ ถึงช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๖ มีการวัดและประเมนิ ผล ตัดสินผลการเรียนตามรายวิชาเป็นรายปี ส่วนระดับมธั ยมศกึ ษาปีที่ ๑ – ๖ มกี ารวดั และประเมนิ ผล ตัดสนิ ผล การเรยี นตามรายวชิ าเป็นรายภาค ๗.๒ โรงเรยี นมหี นา้ ทว่ี ัดและประเมนิ ผลการเรยี นให้สอดคล้องกับวิธกี ารวัดและประเมินผลการ เรยี น ๗.๓ การวัดและประเมินผลการเรียน ต้องสอดคล้องและครอบคลุมมาตรฐานการเรียนรู้ และตวั ชีว้ ดั ที่กาหนดในหลักสูตรแกนกลางฯ ๗.๔การวัดผลและประเมินผลการเรียน เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการเรยี นการสอน ต้อง ดาเนนิ การด้วยวธิ ีการท่ีหลากหลาย เหมาะสม ตามสภาพจรงิ ธรรมชาตวิ ิชา และระดับชั้นของนกั เรยี น ๗.๕ วดั และประเมนิ ผล ทง้ั เพื่อปรบั ปรงุ การเรยี นและเพ่ือตดั สินผลการเรยี น ๗.๖ ให้มีการวัดและประเมินความร้คู วามสามารถของนกั เรยี นด้านการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และ เขยี นสื่อความในทุกกลุม่ สาระการเรียนรู้ ๗.๗ ใหม้ กี ารประเมนิ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ของนักเรยี น ในทกุ กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ๗.๘ ใหม้ กี ารวดั และประเมนิ ผลคุณภาพนกั เรียน ทั้งระดับชั้นเรียนและระดับ สถานศึกษาในแต่ละชั้นปี ๗.๙ ให้นกั เรียนทีก่ าลงั ศึกษาในช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๑ถงึ ช้ันประถมศึกษาปที ่ี ๖ เข้า รับการประเมินคณุ ภาพระดับต่าง ๆ ตามทีโ่ รงเรยี น สานักงานเขตพนื้ ท่ี หรือกระทรวงศึกษาธกิ ารกาหนด ๗.๑๐ ให้มกี ารเทยี บโอนผลการเรียนระหวา่ งสถานศกึ ษาและรูปแบบการศกึ ษาต่างๆ หมวดท่ี ๒ วิธกี ารวดั และประเมินผลการเรียน การตดั สินผลการเรยี น ข้อ ๘ การวัดและประเมินผลการเรียน การตดั สนิ ผลการเรยี นนี้ เปน็ การประเมินผลระดบั ช้นั เรียน ปฏิบตั ดิ งั น้ี ๘.๑ การวดั และประเมนิ ผลการเรยี น กล่มุ สาระการเรียนรู้ ๘.๑.๑ ก่อนการเรียน ครูแจ้งใหน้ กั เรยี นทราบถงึ วิธีการวัดและประเมนิ ผล ตวั ช้ีวัด การ ประเมินการอา่ น คิด วิเคราะห์ เขียนสอ่ื ความ การประเมินคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงค์ เกณฑก์ ารประเมนิ และการตดั สินผลการเรยี น ๘.๑.๒ ครปู ระเมินความรู้พ้ืนฐานของนักเรียน ก่อนการเรียนการสอนสาระการเรยี นรู้ต่างๆ ๘.๑.๓ ครูวัดและประเมินผลการเรียนเพื่อศกึ ษาผลการเรียน เพอื่ จัดการสอนซ่อมเสริม และประเมินผลตามตวั ช้ีวัดเพื่อตัดสินผลการเรียน ดังน้ี ๘.๑.๓.๑ วดั และประเมนิ ผลการเรยี นตามตัวชวี้ ัด ของแตล่ ะสาระการเรียนรู้ ทีก่ าหนดในหลักสตู ร ๘.๑.๓.๒ วัดและประเมนิ ผลการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียนสือ่ ความ ที่ สอดคล้องกบั ตวั ช้ีวัดของแตล่ ะสาระการเรียนรู้
๑๓๔ ๘.๑.๓.๓วัด และประเมินผลคุณลักษณ์อนั พึงประสงคข์ องแต่ละสาระการเรยี นรู้ที่ กาหนดในหลักสตู ร ๘.๑.๔ ครวู ดั และประเมนิ ผลการเรียนได้ตลอดในขณะเวลาทเี่ รียน ตามตวั ชว้ี ดั ท่กี าหนด โดยประเมินในรูปเกณฑ์คณุ ภาพ ๘ ระดบั โดยใชส้ ัญลกั ษณ์เป็นเลขฮินดูอารบิกหรืออยู่ในดุลยพนิ จิ ของครูผสู้ อน ดังน้ี ผลการประเมนิ “๔” หมายถงึ เกณฑ์คุณภาพ “ดีเยี่ยม หรอื มผี ล การวดั ตง้ั แตร่ ้อยละ ๘๐ ขน้ึ ไป ผลการประเมิน “๓.๕” หมายถงึ เกณฑ์คุณภาพ “ดมี าก” หรอื มผี ลการวัด ตัง้ แต่ร้อยละ๗๕-๗๙ ผลการประเมิน “๓” หมายถึงเกณฑ์คุณภาพ “ด”ี หรือมีผลการวดั ตั้งแต่รอ้ ยละ๗๐-๗๔ ผลการประเมิน “๒.๕” หมายถงึ เกณฑค์ ุณภาพ “ค่อนข้างดี” หรือมผี ลการวดั ตั้งแตร่ อ้ ยละ๖๕-๖๙ ผลการประเมนิ “๒” หมายถึงเกณฑ์คุณภาพ “นา่ พอใจ” หรอื มีผลการวดั ตัง้ แต่ร้อยละ๖๐-๖๔ ผลการประเมนิ “๑.๕” หมายถึงเกณฑ์คุณภาพ “พอใช้” หรือมผี ล การวดั ตั้งแตร่ อ้ ยละ๕๕-๕๙ ผลการประเมิน “ ๑” หมายถึงเกณฑ์คุณภาพ “ผ่านเกณฑ์ขน้ั ตา่ ” หรือมีผลการวดั ตงั้ แตร่ ้อยละ๕๐-๕๔ ผลการประเมนิ “๐” หมายถึงเกณฑ์คุณภาพ “ต่ากวา่ เกณฑ์” หรอื มผี ลการวัด ตา่ กวา่ รอ้ ยละ ๕๐ ๘.๑.๕ การตดั สินผลการเรยี น ผลการประเมนิ การเรยี นรูข้ องสาระการเรยี นรู้น้ันๆ เปรยี บเทยี บตัวเลขแสดงความหมายระดบั ผลการเรยี นแต่ละรายวิชา โดยใชส้ ัญลักษณ์เป็นเลขฮินดูอารบกิ ดังนี้ ผลการประเมิน “๔” หมายถงึ เกณฑ์คุณภาพ “ดเี ยย่ี ม หรอื มีผล การวดั ตง้ั แตร่ ้อยละ ๘๐ ข้นึ ไป ผลการประเมิน “๓.๕” หมายถงึ เกณฑค์ ุณภาพ “ดมี าก” หรอื มผี ลการวัด ต้ังแต่รอ้ ยละ๗๕-๗๙ ผลการประเมนิ “๓” หมายถึงเกณฑ์คุณภาพ “ด”ี หรือมีผลการวดั ตั้งแต่รอ้ ยละ๗๐-๗๔ ผลการประเมิน “๒.๕” หมายถงึ เกณฑค์ ุณภาพ “ค่อนข้างดี” หรือมผี ลการวดั ตง้ั แตร่ ้อยละ๖๕-๖๙ ผลการประเมิน “๒” หมายถึงเกณฑ์คุณภาพ “น่าพอใจ” หรือมีผลการวัด ตง้ั แต่รอ้ ยละ๖๐-๖๔ ผลการประเมิน “๑.๕” หมายถงึ เกณฑค์ ุณภาพ “พอใช้” หรอื มีผล การวัดต้งั แต่รอ้ ยละ๕๕-๕๙ ผลการประเมิน “ ๑” หมายถึงเกณฑ์คณุ ภาพ “ผ่านเกณฑ์ขัน้ ต่า” หรือมีผลการวัดตั้งแตร่ ้อยละ๕๐-๕๔ ผลการประเมนิ “๐” หมายถึงเกณฑค์ ุณภาพ “ต่ากว่าเกณฑ์” หรอื มผี ลการวัด ตา่ กวา่ รอ้ ยละ ๕๐
๑๓๕ ๘.๑.๖ การประเมนิ ผลการเรยี นเพื่อตัดสนิ ผลการเรียน ใชเ้ ฉพาะนักเรยี นผทู้ ่ีมีเวลาเรียน ตลอดปไี ม่น้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นรายวิชานั้น ๘.๑.๗ นกั เรยี นทมี่ เี วลาเรยี นไมถ่ ึงร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนในวชิ าน้นั โรงเรียน แต่งต้งั คณะกรรมการประกอบด้วยผู้บรหิ ารสถานศึกษา หวั หน้ากล่มุ งานวิชาการ ครูประจาชั้น ครูผู้สอน และผูป้ กครอง พจิ ารณาให้มีโอกาสซ่อมเสรมิ เวลาเรียน ปรับปรุงแก้ไขการเรยี น แล้วประเมินผลใหม่ ภายใน ๙๐ วันของปกี ารศึกษาถดั มา หากระยะเวลาเกินกว่าท่ีกาหนด ให้เรยี นซ้าในรายวชิ าน้ัน ๘.๑.๘ นกั เรยี นทีม่ ผี ลการเรียนเฉลย่ี ของปี ต่ากว่า “๑” หรือมีผลการประเมนิ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์ เขยี นสือ่ ความไม่ผ่านเกณฑ์ หรือ มผี ลการประเมินคุณลกั ษณะพึงประสงค์ ไม่ผ่านเกณฑ์ หรอื มผี ลการ ประเมนิ กจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รยี นไมผ่ ่านเกณฑ์ หรือไมเ่ อาใจใส่ในการเรียน คณะกรรมการ ตามข้อ ๘.๑.๗ เหน็ วา่ ควรเรียนซา้ ชั้น ให้มกี ารเรียนซา้ ชัน้ ในปีถัดมา ๘.๑.๙ นกั เรียนที่มีการทจุ ริตในการสอบหรือทุจรติ ในงานทมี่ อบหมายใหไ้ ดค้ ะแนน ๐หรอื มีผลการประเมิน “ตก”ในการประเมนิ ครั้งนั้น ข้อ ๙ การประเมินการอ่าน คิด วเิ คราะห์ และเขยี นส่ือความ ในระดับสถานศกึ ษา เพ่ือ ปรบั ปรุงพฒั นา และจบชั้นประถมศึกษาปีท่ี ๖โดยปฏิบัติดงั นี้ ๙.๑ โรงเรยี นแต่งต้ังคณะกรรมการประเมินการอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขยี นส่อื ความขนึ้ คณะ หนึง่ ในแต่ละปีการศึกษา ๙.๒ คณะกรรมการประเมนิ การอ่าน คิด วิเคราะห์ และเขียนสื่อความกาหนดแนวทาง วธิ ีการประเมินและเกณฑ์การตดั สิน ตามทห่ี ลกั สตู รกาหนด ๙.๓ มกี ารประเมนิ เปน็ รายปี เพื่อปรับปรุงและพฒั นาในปที ี่ ๑-๕ การตดั สนิ จบชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี ๖ ให้ถือผลการประเมนิ ปลายปขี องปที ี่ ๖ ๙.๔ ประเมินนักเรียนเปน็ รายบคุ คลตามมาตรฐานการเรียนรแู้ ละเกณฑ์ท่ีกาหนด ๙.๕ นักเรยี นทีผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ ตดั สนิ “ดี หรอื ดเี ยย่ี ม” แลว้ แตก่ รณี ๙.๖ นักเรยี นทไี่ ม่ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ตัดสนิ “ปรบั ปรงุ ” ๙.๗ นักเรียนท่ไี ด้รับการตดั สิน “ปรับปรุง” ต้องดาเนินการซอ่ มเสริมปรับปรุง แก้ไข ตาม แนวทางที่คณะกรรมการกาหนด และมีการประเมินใหม่ ๙.๘ นักเรียนที่ได้รับการตดั สิน “ปรบั ปรุง” และมีการประเมินใหมแ่ ล้วผ่านเกณฑก์ าร ประเมิน ตัดสิน “ผา่ น” ๙.๙ นักเรียนทไ่ี ด้รับการตดั สิน “ดี หรอื ดีเย่ยี ม หรือ ผ่าน” มีสิทธไิ ดร้ บั การพิจารณาการจบ ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๖ ข้อ ๑๐ การประเมนิ คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ของโรงเรยี น การประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์ของโรงเรยี น ระดับสถานศึกษา เพื่อ ปรับปรงุ พฒั นา และจบช้นั ประถมศึกษาปีท่ี ๖ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ และชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๖ โดยปฏบิ ัตดิ ังนี้ ๑๐.๑ โรงเรยี นแต่งต้งั คณะกรรมการประเมินคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ของ โรงเรยี นข้ึนคณะ หน่งึ ในแตล่ ะปีการศึกษา ๑๐.๒ คณะกรรมการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงคข์ องโรงเรียน กาหนดแนวทาง วธิ ีการประเมิน และเกณฑก์ ารตัดสินตามที่หลกั สตู รกาหนด ๑๐.๓ มีการประเมนิ เป็นรายปี เพ่อื ปรับปรงุ และพัฒนาในปีท่ี ๑-๕ การตดั สนิ จบช้นั ประถมศึกษาปที ่ี ๖ ให้ถือผลการประเมนิ ปลายปีของปที ่ี ๖ สาหรับมธั ยมศกึ ษามีการประเมนิ ผลเปน็ รายภาค ๑๐.๔ ประเมินนักเรียนเป็นรายบคุ คล ตามมาตรฐาน และเกณฑ์ท่ีกาหนดในหลกั สูตร ๑๐.๕ นกั เรียนผา่ นเกณฑก์ ารประเมนิ ตัดสนิ “ดี หรือ ดีเยี่ยม” แล้วแตก่ รณี
๑๓๖ ๑๐.๖ นักเรียนไมผ่ า่ นเกณฑก์ ารประเมิน ตดั สิน “ปรบั ปรงุ ” ๑๐.๗ นกั เรียนทไี่ ด้รบั การตดั สิน “ปรับปรุง” ตอ้ งดาเนินการปรับปรงุ ซ่อมเสรมิ แก้ไข ตาม แนวทางทีค่ ณะกรรมการกาหนดและมีการประเมนิ ใหม่ ๑๐.๘ นกั เรียนทีไ่ ด้รับการตัดสิน “ปรับปรงุ ” และไดร้ ับการประเมนิ ใหม่แลว้ ผา่ นเกณฑ์การ ประเมนิ ตดั สนิ “ผา่ น” ๑๐.๙ นกั เรยี นท่ไี ดร้ บั การตดั สนิ “ดี หรอื ดเี ยยี่ ม หรือ ผ่าน” มีสทิ ธิได้รับการพิจารณาจบชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๖ ขอ้ ๑๑ การประเมนิ กิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน การประเมินกจิ กรรมพัฒนาผูเ้ รียน ระดบั สถานศึกษา โดยปฏบิ ัตดิ ังน้ี ๑๑.๑ โรงเรยี นแต่งตั้งคณะกรรมการประเมินกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนของ โรงเรียน ขนึ้ คณะหนงึ่ ในแตล่ ะปีการศึกษา ๑๑.๒ คณะกรรมการประเมินกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียนของโรงเรยี น กาหนดแนว ทางวิธีการประเมิน และเกณฑ์การตัดสนิ ตามท่หี ลักสูตรกาหนด ๑๑.๓ นักเรียน ตอ้ งเข้ารว่ มกิจกรรม ๓ กลุ่ม ดงั นี้ ๑๑.๓.๑ กิจกรรมแนะแนว เวลาเรียน ๑ ชั่วโมง/สัปดาห์ เป็นกิจกรรมที่ส่งเสริมและพัฒนาผู้เรียนให้รู้จักตนเอง รู้รักษ์สิ่งแวดล้อม สามารถคิดตัดสินใจ คิดแก้ปัญหา กาหนดเปูาหมาย วางแผนชีวิตท้ังด้านการเรียน และอาชีพ สามารถปรับตนได้ อย่างเหมาะสม นอกจากนี้ยังช่วยให้ครูรู้จักและเข้าใจผู้เรียน ทั้งยังเป็นกิจกรรมที่ช่วยเหลือและให้คาปรึกษาแก่ ผู้ปกครองในการมีส่วนรว่ มพฒั นาผเู้ รยี น ๑๑.๓.๒ กจิ กรรมนักเรยี น เวลาเรยี น ๑ ชวั่ โมง/สัปดาห์ เป็นกิจกรรมท่ีมุ่งพัฒนาความมีระเบียบวินัย ความเป็นผู้นาผู้ตามท่ีดี ความ รบั ผดิ ชอบ การทางานร่วมกัน การรู้จักแก้ปัญหา การตัดสินใจท่ีเหมาะสม ความมีเหตุผล การช่วยเหลือแบ่งปันกัน เอื้ออาทร และสมานฉันท์ โดยจัดให้สอดคล้องกบั ความสามารถ ความถนดั และความสนใจของผู้เรียน ให้ได้ปฏิบัติ ดว้ ยตนเองในทกุ ขัน้ ตอน ได้แก่ การศึกษาวิเคราะหว์ างแผน ปฏิบตั ิตามแผน ประเมินและปรับปรุงการทางาน เน้น การทางานร่วมกันเป็นกลุ่ม ตามความเหมาะสมและสอดคล้องกับวุฒิภาวะของผู้เรียน บริบทของสถานศึกษาและ ท้องถ่ิน กิจกรรมนกั เรยี นประกอบด้วย ก. กิจกรรมลูกเสอื เนตรนารหี รือ ยุวกาชาด หรือผู้บาเพ็ญประโยชน์ ข. กจิ กรรมชุมนมุ ชมรม ๑๑.๓.๓ กิจกรรมเพ่ือสงั คมและสาธารณประโยชน์ เวลาเรยี น ช้ันปีละ ๑๐ ช่ัวโมง เป็นกิจกรรมทสี่ ่งเสริมให้ผเู้ รียนบาเพ็ญตนให้เปน็ ประโยชนต์ อ่ สงั คม ชมุ ชน และ ท้องถนิ่ ตามความสนใจในลกั ษณะอาสาสมัคร เพื่อแสดงถงึ ความรบั ผิดชอบ ความดีงาม ความเสียสละต่อสงั คม มีจติ สาธารณะ เชน่ กจิ กรรมอาสาพัฒนาต่าง ๆ กิจกรรมสร้างสรรคส์ ังคม ๑๑.๔ ครผู ู้รบั ผดิ ชอบกจิ กรรมแนะแนว เป็นผปู้ ระเมินและตัดสนิ ผลกจิ กรรม แนะแนว
๑๓๗ ๑๑.๕ ครูผู้บงั คับบัญชาในกจิ กรรมลูกเสือเนตรนารี ยุวกาชาด หรือ ผ้บู าเพ็ญ ประโยชน์ เปน็ ผู้ประเมินและตดั สนิ ผลการพฒั นาผเู้ รียนในกจิ กรรมลกู เสือเนตรนารี ยุวกาชาด หรือผบู้ าเพ็ญ ประโยชนต์ ามแต่กรณี ครทู ่ีปรึกษาในกิจกรรมชุมนุม หรอื ชมรมเป็นผกู้ าหนดกจิ กรรม และประเมิน ผ้เู รยี นใน กจิ กรรมน้นั โดยนาผลการประเมินท้ัง ๒ กิจกรรม มาประเมนิ ตดั สนิ ร่วมกัน ๑๑.๖ ครผู รู้ บั ผิดชอบ กจิ กรรมเพ่อื สงั คมและสาธารณประโยชน์เป็นผู้ประเมนิ และ ตดั สนิ กิจกรรมเพื่อสังคมและสาธารณะประโยชน์ ๑๑.๗ นกั เรียนทม่ี ีเวลาเข้าร่วมกจิ กรรมไมน่ ้อยกวา่ ร้อยละ ๘๐ ของเวลารว่ ม กจิ กรรมรายปี และผา่ นจุดประสงคส์ าคัญของกจิ กรรม มผี ลการประเมินและตัดสนิ “ผา่ น” ๑๑.๘ นกั เรียนทม่ี ีเวลาเขา้ รว่ มกิจกรรมน้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลารว่ ม กิจกรรมรายปี หรือไม่ผา่ นจดุ ประสงค์สาคัญของกิจกรรม มีผลการประเมินและตัดสนิ “ไม่ผา่ น” ๑๑.๙ นกั เรยี นที่ได้รบั การตดั สนิ “ไม่ผ่าน” ตอ้ งดาเนนิ การปรบั ปรุง ซ่อมเสรมิ แก้ไข ตามแนวทางทีค่ รปู รึกษาหรอื บังคบั บัญชากาหนดและมีการประเมนิ ใหม่ ๑๑.๑๐ นักเรยี นท่ีได้รบั การตดั สิน “ไมผ่ ่าน” และได้รบั การประเมนิ ใหม่แลว้ ผ่านเกณฑ์ การประเมิน ตัดสนิ “ผ่าน” ๑๑.๑๑ นกั เรยี นที่ได้รบั การตดั สนิ “ผา่ น” ทกุ กจิ กรรมได้รับสิทธพิ ิจารณาจบชั้น ประถมศกึ ษาปีที่ ๖ หมวดที่ ๓ เกณฑก์ ารจบหลกั สตู ร ข้อ ๑๒ นักเรียนจะไดร้ ับการพจิ ารณาอนุมัติให้จบชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี ๖ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ และช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๖ ต้องมีคณุ สมบัติครบถ้วนทุกข้อดังน้ี ๑๒.๑ ตอ้ งมีเวลาเรยี นไมน่ ้อยกว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นทั้งหมด ๑๒.๒ ต้องไดร้ ับการประเมินทุกตวั ชีว้ ัด และมีผลการประเมินแตล่ ะกลมุ่ สาระการเรียนรไู้ ม่ ต่ากว่า ระดบั ผลการเรียน ๑ ๑๒.๓ ต้องไดร้ ับการตดั สินผลการเรยี นทุกกลมุ่ สาระการเรียนรู้ ๑๒.๔ ตอ้ งไดร้ ับการประเมนิ และมีผลการประเมินผา่ นตามเกณฑ์ทีโ่ รงเรียนกาหนด ใน ๓ ด้านดงั น้ี ๑๒.๔.๑ การอา่ น คดิ วเิ คราะห์และเขียน ๑๒.๔.๒ คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ ๑๒.๔.๓ กจิ กรรมพัฒนาผู้เรียน ข้อ ๑๓ ผ้อู านวยการโรงเรียนเปน็ ผอู้ นุมัติผลการเรียนและการจบหลักสูตร
๑๓๘ หมวดท่ี ๔ การเทยี บโอนผลการเรยี น ขอ้ ๑๔ โรงเรยี นจะรับเทียบโอนผลการเรียน ซึ่งเปน็ ความรู้ ทกั ษะ และประสบการณข์ องผูเ้ รียน ที่เกิดจากการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศัย มาประเมินเป็นสว่ นหน่ึงของ การศึกษา ตามหลักสตู รของโรงเรียนตามแนวปฏิบตั ติ ่อไปน้ี ๑๔.๑ คณะกรรมการเทียบโอนผลการเรยี น ๑๔.๑.๑ โรงเรียนแต่งต้ังคณะกรรมการเทียบโอนผลการเรยี นข้ึนคณะหนงึ่ มี จานวนไม่น้อยกว่า ๓ คน แต่ไม่เกนิ ๕ คน ประกอบดว้ ยหวั หน้ากล่มุ วิชาการเป็นประธานกรรมการ ๑ คน ครู ประจาช้ัน เปน็ กรรมการและเลขานกุ าร ๑ คน และครูในโรงเรยี นผู้มีความรปู้ ระสบการณ์ในสาขาวิชาการศึกษา รวมไมเ่ กนิ ๓ คน เป็นกรรมการ ๑๔.๒ วธิ ีดาเนินการเทียบโอนผลการเรยี น ๑๔.๒.๑ ผ้ขู อเทียบโอนผลการเรียน ต้องขน้ึ ทะเบียนเป็นนักเรียนของโรงเรยี นราช ประชานุเคราะห์ ๓๑ และโรงเรียนต้องดาเนินการเทียบโอนในภาคเรียนแรกทขี่ อข้ึนทะเบยี น ๑๔.๒.๒ คณะกรรมการเทียบโอนผลการเรยี น ตอ้ งพจิ ารณาจากสาระการเรยี นรู้/ มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้วี ดั ความรู้ ทักษะ ประสบการณ์ของผ้เู ทียบโอน โดยเทยี บเคยี งกบั โครงสรา้ งหลกั สตู ร สาระการเรยี นรแู้ ละมาตรฐานของโรงเรยี น โดยมผี ลการพิจารณาแลว้ สอดคล้องกับโครงสร้างหลกั สูตร สาระการ เรียนร้แู ละมาตรฐานของโรงเรียนไมน่ อ้ ยกว่ารอ้ ยละ ๖๐ ๑๔.๒.๓ การเทียบโอนความรู้ ทกั ษะ และประสบการณ์ ให้พจิ ารณาจากเอกสาร หลักฐาน (ถา้ มี) โดยให้มีการประเมินด้วยเคร่ืองมือทห่ี ลากหลาย และใหไ้ ด้ระดบั ผลการเรียนตามเกณฑก์ าร ประเมินผลการเรียนของหลักสูตรโรงเรยี น ๑๔.๒.๔ จานวนกล่มุ วิชา รายวิชา ที่จะรับเทียบโอนและอายขุ องผลการเรียนทจ่ี ะ นามาเทยี บโอนให้อย่ใู นดลุ ยพินจิ ของคณะกรรมการบริหารหลกั สูตรและวิชาการ ทงั้ นี้ เม่ือเทียบโอนแล้วผูข้ อ เทียบโอนตอ้ งมีเวลาเรยี นในโรงเรียนไมน่ ้อยกวา่ ๑ ภาคเรียน ๑๔.๒.๕ ผลการพจิ ารณาและตดั สนิ ของคณะกรรมการเทียบโอนผลการเรียน ใหเ้ สนอ คณะกรรมการบริหารหลักสตู รและงานวิชาการพจิ ารณาให้ความเหน็ ชอบแลว้ เสนอผู้อานวยการพิจารณาตาม เกณฑ์กาหนด คือ มผี ลการเรียนเทยี บโอนสอดคล้องกับหลักสตู รของโรงเรียนมากกว่าร้อยละ ๖๐ พิจารณาอนุมตั ิ ผลการเรยี นเทยี บโอนสอดคล้องกบั หลักสตู รของโรงเรียนน้อยกวา่ รอ้ ยละ ๖๐ พิจารณาไม่อนุมัติ ๑๔.๒.๖ การกาหนดรายละเอียดวิธีการและหลักการเทียบโอนให้เปน็ ไปอย่าง สอดคล้องกับกฎกระทรวงและระเบยี บทีก่ ระทรวงศึกษาธกิ ารกาหนด
๑๓๙ หมวดที่ ๖ เอกสารหลกั ฐานการศกึ ษา ข้อ ๑๕ โรงเรียนจัดให้มีเอกสารการประเมินผลการเรยี นตา่ ง ๆ ดงั นี้ ๑๕.๑ ระเบียนแสดงผลการเรียน (ปพ. ๑) ๑๕.๒ หลักฐานแสดงวุฒิการศกึ ษา (ประกาศนยี บตั ร) (ปพ. ๒) ๑๕.๓ แบบรายงานผูส้ าเรจ็ การศึกษา (ปพ. ๓) ๑๕.๔ แบบแสดงผลการพฒั นาคุณลกั ษณะที่พึงประสงค์(ปพ. ๔) ๑๕.๕ แบบบันทกึ ผลการพฒั นาคุณภาพผ้เู รยี น(ปพ.๕) ๑๕.๖ แบบรายงานผลการพัฒนาคุณภาพผู้เรยี นรายบุคคล(ปพ. ๖) ๑๕.๗ ใบรับรองผลการศกึ ษา(ปพ. ๗) ๑๕.๘ ระเบียนสะสม(ปพ. ๘) ๑๕.๙ สมดุ /คูม่ ือหลักสตู รโรงเรียน(ปพ. ๙) เอกสาร ปพ. ๑ ปพ. ๒ ปพ. ๓ ให้ใชร้ ูปแบบท่กี ระทรวงศึกษาธกิ ารกาหนด ข้อ ๑๖ โรงเรยี นอาจจดั ให้มีเอกสารอนื่ ๆ เพื่อเป็นหลกั ฐานการศึกษาเพมิ่ เติม ตามนโยบายและความ เหมาะสมกบั สถานการณ์ หรือบูรณาการเอกสารทโี่ รงเรยี นจดั ทาตามสภาพความเหมาะสม หมวดที่ ๗ การปรับปรุงและพัฒนาระเบียบ ข้อ ๑๗ ใหค้ ณะกรรมการบรหิ ารหลกั สูตรและงานวิชาการ พิจารณาเสนอข้อมลู มติ เพ่ือปรับปรงุ และ พัฒนาระเบยี บนี้ต่อผู้อานวยการโรงเรียนพจิ ารณาให้ความเหน็ ชอบ ข้อ ๑๘ การใชร้ ะเบยี บ ระเบียบนีม้ ผี ลบงั คับใช้ ต้งั แตว่ ันท่ี ผู้อานวยการโรงเรียน ลงนามประกาศเปน็ ต้นไป ประกาศ ณ วันที่ ๒ มนี าคม พ.ศ. ๒๕๕๘ (นางวลิ าวลั ย์ ยอดผา่ นเมอื ง) ผอู้ านวยการโรงเรยี นราชประชานุเคราะห์ ๓๑
๑๔๐ การบริหารจัดการหลักสตู รโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ การบริหารจดั การหลักสูตรโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ ๓๑ กระบวนการในการบรหิ ารจดั การนาหลกั สตู รไปใชถ้ อื ว่าเป็นปัจจยั ทีส่ าคญั เปน็ อยา่ งมากที่จะช่วย สนับสนนุ ส่งเสริมให้การใช้หลักสูตรของสถานศึกษาบรรลผุ ลสงู สุด ดงั นัน้ สถานศกึ ษาจึงไดก้ าหนดแผนการ บริหารจดั การหลกั สูตรของสถานศกึ ษาข้ึน เพื่อให้ผ้ทู ม่ี ีส่วนเกย่ี วข้องกบั การจัดการศึกษาของสถานศึกษาในทุก ๆ ส่วน และทกุ ระดับ เกดิ ความรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั จดุ หมายของหลกั สตู ร การพฒั นาการเรียนการสอน การนเิ ทศ การศึกษา การบริหารหลักสตู ร การประเมินผล และแนวปฏิบัตขิ องสถานศกึ ษาท่จี ะตอ้ งดาเนินการใหส้ อดคลอ้ ง และเหมาะสมกับสภาพความตอ้ งการของหลักสตู รสถานศึกษา สาหรับการบรหิ ารจดั การหลักสูตรของสถานศึกษา โรงเรยี นพัฒนาการศึกษา กาหนดแนวทางการบรหิ ารจัดการไว้ ๓ ขัน้ ตอน ๙ ภารกจิ ดงั น้ี ๑. แนวทางการบรหิ ารจัดการด้านวชิ าการ ขนั้ ตอนท่ี ๑ การเตรยี มความพร้อมของสถานศกึ ษา ภารกจิ ท่ี ๑ การเตรียมความพรอ้ มของสถานศึกษา ๑.๑ สร้างความตระหนักให้แก่บุคลากร ซ่ึงประกอบด้วย คณะกรรมการสถานศึกษา ผู้บริหาร ผู้สอน ผู้ปกครอง ชุมชน นักเรียน ทั้งน้ีเพื่อให้เห็นความสาคัญ ความจาเป็นท่ีจะต้องร่วมมือกันบริหารจัดการ หลักสตู รสถานศกึ ษาของสถานศกึ ษา ๑.๒ แต่งตั้งคณะกรรมการ และคณะอนุกรรมการของสถานศึกษาตามระเบียบของ กระทรวงศกึ ษาธิการว่าดว้ ยคณะกรรมการบรหิ ารหลักสูตรและงานวชิ าการสถานศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน พ. ศ. ๒๕๕๒ ๑.๓ ประชาสัมพันธใ์ หน้ กั เรยี น ผ้ปู กครอง ชุมชน หน่วยงาน องค์กรในชมุ ชนทุกฝาุ ย ไดร้ บั ทราบ และความรว่ มมอื ในการบริหารจดั การหลกั สูตรของสถานศึกษา ๑.๔ จดั ทาขอ้ มลู สารสนเทศของสถานศกึ ษาอย่างเปน็ ระบบ ๑.๕ จัดทาแผนพฒั นาคณุ ภาพการศึกษา ๑.๖ พัฒนาบุคลากรของสถานศึกษาให้มีความรู้ ความเข้าใจ และสามารถนาความรู้ไปใช้ในการ จัดทาสาระของหลกั สตู รสถานศึกษา ข้ันตอนท่ี ๒ การดาเนินการจัดทาสาระของหลักสตู รสถานศึกษา ภารกิจท่ี ๒ จัดทาสาระของหลักสตู รสถานศกึ ษา ๒.๑ ศกึ ษาวิเคราะหข์ อ้ มูลท่ีเกี่ยวขอ้ ง ๒.๒ กาหนดปรชั ญา และเปูาหมายของการจดั การศึกษาของสถานศกึ ษา ๒.๓ กาหนดโครงสรา้ งของหลักสตู รแตล่ ะรายชั้น และจัดสัดส่วนเวลาเรยี น ๒.๔ กาหนดตัวชีว้ ัด และสาระการเรยี นร้ขู องกล่มุ วชิ า ๒.๕ กาหนดสาระและกจิ กรรมพฒั นาผเู้ รยี น ๒.๖ กาหนดสื่อการเรยี นรู้ ๒.๗ กาหนดการวดั และประเมนิ ผล ภารกิจที่ ๓ การวางแผนบริหารจดั การหลักสูตรสถานศึกษา ๓.๑ การบริหารการจัดการกิจกรรมการเรยี นรู้ ๓.๒ การบริหารการจดั การกิจกรรมพัฒนาผ้เู รยี น ๓.๓ การสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ การจัดการกิจกรรมการเรียนรู้ และกจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น
๑๔๑ ภารกจิ ที่ ๔ ปฏบิ ัติการบริหารจดั การหลกั สูตรสถานศกึ ษา ดาเนนิ การบรหิ ารจัดการหลักสตู รตามภารกิจที่ ๒ และภารกจิ ที่ ๓ ที่กาหนดไว้ ขนั้ ตอนท่ี ๓ การนิเทศ กากับ ติดตาม ประเมนิ ผล และรายงาน ภารกจิ ที่ ๕ การนิเทศ กากบั ติดตาม ประเมินผล ๕.๑ การนิเทศ กากบั ติดตาม ประเมนิ ผลการบริหารหลกั สตู ร และงานวชิ าการภายในสถานศึกษา ๕.๒ การนิเทศ กากับ ติดตาม ประเมินผลการบริหารหลักสูตร และงานวิชาการจากภายนอก สถานศึกษา ภารกิจท่ี ๖ สรุปผลการดาเนนิ การบรหิ ารจัดการหลกั สตู รของสถานศกึ ษา ๖.๑ สถานศึกษาสรปุ ผลการดาเนินการ และเขียนรายงาน ๖.๒ สรปุ ผลการดาเนินงานรูปแบบบริหารจดั การหลักสูตรสถานศกึ ษา ภารกจิ ที่ ๗ ปรับปรงุ และพัฒนากระบวนการบริหารจดั การหลักสูตร ๗.๑ สถานศึกษานาผลการดาเนินการ ปัญหา และข้อเสนอแนะต่าง ๆ มาใช้เป็นข้อมูลพ้ืนฐานใน การวางแผนปรบั ปรุง และพฒั นากระบวนการบริหารจัดการหลกั สตู รของสถานศกึ ษา ๗.๒ สถานศึกษาดาเนินการปรับปรุง และพัฒนากระบวนการบริหารจัดการหลักสูตร เพ่ือให้เกิด ประโยชนม์ ากขึ้น ข้ันตอนท่ี ๔ การบริหารทัว่ ไปตรียมความพร้อมของสถานศกึ ษา ภารกิจท่ี ๘ การสนบั สนนุ กระบวนการบริหารจดั การหลักสูตร เป็นภารกิจการสนบั สนนุ การบรหิ ารงานวิชาการของโรงเรียน ให้มปี ระสิทธิภาพสงู สุด โดยมี กจิ กรรมทส่ี าคญั ดงั นี้ ๘.๑ การพัฒนาบุคลากรของสถานศึกษา ดาเนนิ การพฒั นาบุคลากรให้มีความรู้ ทักษะความสามารถและเจตคติที่ถูกต้องต่อการ จัดการเรยี นการสอนท่เี น้นผ้เู รยี นเป็นสาคัญตามนโยบายปฏิรปู การเรยี นรู้ สามารถจัดการเรยี นการสอนไดต้ าม จดุ เนน้ ทีห่ ลกั สูตรสถานศึกษากาหนด มีคณุ ธรรมจริยธรรมท่เี หมาะสมกับอาชพี และเป็นที่ยอมรบั ของนักเรยี น ผู้ปกครอง ๘.๒ การใชห้ ้องเรยี น อาคารเรียน และสถานที่ เพ่อื ให้ประโยชน์ในการจดั การศกึ ษาของ โรงเรียน ๑) สนับสนนุ การจดั หอ้ งเรยี นให้สามารถจดั กจิ กรรมการเรยี นรูไ้ ด้หลากหลายลกั ษณะ สวยงาม น่าอยู่ มกี ารสื่อการเรยี นและสื่อสนับสนุนการเรียนรูท้ ี่เพียงพอ ๒) สนับสนนุ ให้ครใู ชแ้ ละอานวยความสะดวกในการใช้หอ้ งปฏบิ ตั กิ าร สถานทปี่ ฏิบตั ิงาน จดุ ศึกษาและแหลง่ เรียนรภู้ ายในโรงเรียน เพอื่ เนน้ ให้ได้เรยี นร้ดู ้วยการปฏิบัติจริง ๓) การสรา้ งความสะอาด สวยงาม ร่มร่นื และความปลอดภัยในโรงเรียน โดยการจดั ใหโ้ รงเรยี นมคี วามสวยงาม ร่มร่ืนด้วยไม้ยนื ตน้ ไม้ดอก ไม้ประดบั ใหน้ กั เรียนเป็นผรู้ ับผิดชอบในการรักษาความ สะอาดในบริเวณโรงเรียน ให้โรงเรยี นเปน็ สถานทีพ่ ักผ่อนหยอ่ นใจและเลน่ กีฬาของนักเรียน มคี วามปลอดภยั ใน การใช้ชวี ิตในโรงเรียนและความปลอดภัยในทรัพยส์ นิ ของทางราชการและเปน็ เขตปลอดส่งิ เสพติดทุกประเภท ๘.๓ การบริหารจัดการงบประมาณในการจดั การเรยี นการสอน โรงเรยี นเน้นให้การจดั สรรงบประมาณคา่ วัสดุการศึกษา (รายหวั ) และงบประมาณอน่ื ๆ ที่ เก่ียวขอ้ งกับการพฒั นาคุณภาพการจดั การศึกษาใหเ้ ปน็ ประโยชน์ต่อนกั เรียนและการจัดการเรยี นการสอนตาม หลกั สูตรสถานศกึ ษา
๑๔๒ ๘.๔ การขอรบั การสนบั สนุนช่วยเหลือการจดั การศกึ ษาของโรงเรยี น มีกจิ กรรมการดาเนินงาน ดงั นี้ ๑) การประชุมคณะกรรมการสถานศึกษาขัน้ พ้ืนฐานของโรงเรียน เพ่อื ให้การปฏบิ ตั ิงานตาม ภารกจิ หน้าท่ี ความรับผดิ ชอบของคณะกรรมการสถานศึกษาขั้นพน้ื ฐาน เกดิ ประโยชน์และมีประสิทธภิ าพ สงู สดุ ตอ่ การจดั การศึกษาของโรงเรียน ๒) การประชุมผปู้ กครองนักเรียน เพ่ือการชี้แจงการดาเนินงานของโรงเรยี น การ ประสานงานการจัดการศึกษาและพัฒนางาน ๓) การรว่ มกจิ กรรมกบั ชมุ ชน ทอ้ งถน่ิ องคก์ รปกครองท้องถน่ิ และหนว่ ยงานในท้องถิ่น ๘.๕ การประกนั คุณภาพการจัดการศกึ ษาภายในของสถานศึกษา เป็นการดาเนินงานของสถานศึกษาทีร่ ่วมมือกับชุมชนและหนว่ ยงานต้นสงั กดั ท่ีเก่ียวขอ้ ง ใหเ้ ปน็ ที่เชื่อมน่ั ได้วา่ ผเู้ รยี นทุกคนจะได้รบั บริการด้านการศึกษาที่มีคณุ ภาพจากสถานศึกษา สามารถพัฒนาความรู้ ความสามารถและคุณลกั ษณะที่พึงประสงค์ตามท่กี าหนดในมาตรฐานหลกั สตู รการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน โดยมกี าร ดาเนินงาน ดังน้ี ๑) การประเมินตนเองประจาปีของครูผู้สอน ๒) การประเมินตนเองประจาปีของสถานศกึ ษา ๓) การรายงานคุณภาพการศึกษาประจาปี เสนอต่อหน่วยงานตน้ สังกัด หน่วยงานท่เี ก่ยี วข้อง คณะกรรมการสถานศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน ผู้ปกครองนกั เรยี นและชมุ ชน เกณฑ์การวัดและประเมนิ ผลการเรยี นรู้ ๑. ระดับประถมศึกษา ๑.๑ การตดั สินผลการเรยี น หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ กาหนดหลักเกณฑ์การวัดและประเมนิ ผล การเรยี นรู้ เพื่อตัดสินผลการเรยี นของผเู้ รียน ดังนี้ ๑) ผเู้ รยี นต้องมีเวลาเรยี นไม่น้อยกวา่ ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนทง้ั หมด ๒) ผ้เู รียนต้องได้รับการประเมนิ ทุกตวั ชวี้ ัดและผา่ นตามเกณฑ์ทส่ี ถานศกึ ษากาหนด ๓) ผเู้ รียนตอ้ งไดร้ ับการตดั สนิ ผลการเรยี นทกุ รายวชิ า ๔) ผู้เรียนต้องได้รับการประเมินและมผี ลการประเมนิ ผ่านตามเกณฑท์ ่สี ถานศึกษากาหนดในการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขียน คุณลักษณะอนั พึงประสงค์ และกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน การตดั สินผลการเรยี น ตัดสนิ เป็นรายวิชา โดยใช้ผลการประเมินระหวา่ งปแี ละปลายปตี ามสัดส่วนท่ี สถานศกึ ษากาหนด ทุกรายวิชาตอ้ งได้รับการตัดสนิ ให้ผลการเรยี นตามแนวทางการใหร้ ะดับผลการเรยี นตามท่ี สถานศกึ ษากาหนด และผเู้ รยี นต้องผ่านทุกรายวชิ าพื้นฐาน
๑๔๓ ๑.๒ การให้ระดบั ผลการเรียน การประเมินผลการเรยี นสาระการเรียนรู้รายวชิ า ตามผลการเรยี นรทู้ ี่คาดหวังของรายวชิ า ซงึ่ สถานศกึ ษา วิเคราะหจ์ ากตวั ชี้วัดชนั้ ปี การประเมนิ สาระการเรยี นรรู้ ายวชิ า ให้ตดั สินผลการประเมนิ ระดบั ผลการเรยี น ๘ ระดบั คือ “๔” หมายถงึ ผลการเรียนดีเยย่ี ม “๓.๕” หมายถึง ผลการเรียนดมี าก “๓” หมายถงึ ผลการเรียนดี “๒.๕” หมายถึง ผลการเรยี นคอ่ นขา้ งดี “๒” หมายถงึ ผลการเรยี นนา่ พอใช้ “๑.๕” หมายถงึ ผลการเรียนพอใช้ “๑” หมายถึง ผลการเรียนผา่ นเกณฑ์ขัน้ ต่า “๐” หมายถึง ผลการเรยี นตา่ กวา่ เกณฑ์ การประเมนิ การอา่ น คิดวิเคราะห์ และเขียน และคณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์นัน้ ให้ผลการประเมิน เป็นผา่ นและไมผ่ า่ น กรณที ผ่ี า่ นให้ระดับผลการประเมนิ เป็นดเี ยย่ี ม ดี และผ่าน ๑. ในการสรปุ ผลการประเมินการอ่าน คิดวิเคราะห์ และเขียน เพอ่ื การเลือ่ นช้นั และจบการศกึ ษา กาหนดเกณฑ์การตดั สนิ เปน็ ๔ ระดับ และความหมายของแตล่ ะระดับ ดังน้ี ดเี ยยี่ ม หมายถงึ มีผลงานทแ่ี สดงถึงความสามารถในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขียนทม่ี ีคุณภาพดเี ลิศอย่เู สมอ ดี หมายถึง มีผลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขียนท่ีมี คุณภาพเปน็ ทย่ี อมรบั ผา่ น หมายถึง มผี ลงานท่แี สดงถึงความสามารถในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขียน ท่ีมีคุณภาพเป็นท่ยี อมรับ แต่ยังมขี ้อบกพร่องบางประการ ไม่ผ่าน หมายถงึ ไมม่ ผี ลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขียนหรือถ้ามีผลงาน ผลงานนนั้ ยงั มขี ้อบกพร่องท่ีต้องได้รบั การ ปรับปรุงแก้ไขหลายประการ ๒. ในการสรุปผลการประเมนิ คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงคร์ วมทกุ คณุ ลกั ษณะเพื่อการเลื่อนชั้นและ จบการศึกษา กาหนดเกณฑ์การตัดสินเปน็ ๔ ระดับ และความหมายของแต่ละระดับ ดงั นี้ ดีเย่ยี ม หมายถงึ ผเู้ รยี นปฏิบัติตนตามคุณลักษณะจนเป็นนิสยั และนาไปใชใ้ น ชวี ติ ประจาวนั เพอ่ื ประโยชน์สขุ ของตนเองและสงั คม โดยพิจารณาจาก ผลการประเมนิ ระดับดเี ย่ยี ม จานวน ๕-๘ คณุ ลกั ษณะ และไม่มี คณุ ลักษณะใดไดผ้ ลการประเมนิ ต่ากวา่ ระดบั ดี ดี หมายถึง ผเู้ รยี นมีคุณลักษณะในการปฏิบตั ติ ามกฎเกณฑ์ เพื่อให้เป็นการ ยอมรับของสงั คม โดยพจิ ารณาจาก ๑. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดบั ดเี ยี่ยม จานวน ๑-๔ คณุ ลกั ษณะ และ ไม่มี คณุ ลกั ษณะใดได้ผลการประเมินต่ากวา่ ระดับดี หรือ ๒. ไดผ้ ลการประเมินระดับดเี ยยี่ ม จานวน ๔ คณุ ลักษณะ และไม่มี คณุ ลักษณะใดได้ผลการประเมินตา่ กว่าระดับผ่าน หรือ ๓. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดี จานวน ๕-๘ คุณลักษณะ และไม่มี คณุ ลกั ษณะใดไดผ้ ลการประเมินต่ากว่าระดับผา่ น ผ่าน หมายถงึ ผ้เู รยี นรับรู้และปฏบิ ัตติ ามกฎเกณฑแ์ ละเงอื่ นไขที่สถานศึกษา กาหนดโดยพิจารณาจาก
๑๔๔ ๑. ได้ผลการประเมนิ ระดับผ่าน จานวน ๕-๘ คุณลกั ษณะ และไมม่ ี คณุ ลักษณะใดได้ผลการประเมินตา่ กว่าระดับผ่าน หรือ ๒. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดี จานวน ๔ คณุ ลักษณะ และไม่มี คณุ ลักษณะใดได้ผลการประเมินต่ากว่าระดบั ผา่ น ไมผ่ า่ น หมายถงึ ผเู้ รยี นรับร้แู ละปฏบิ ตั ิไดไ้ มค่ รบตามกฎเกณฑ์และเง่ือนไขที่ สถานศกึ ษากาหนดโดยพจิ ารณาจากผลการประเมินระดบั ไม่ผา่ น ต้ังแต่ ๑ คุณลกั ษณะ การประเมินกิจกรรมพัฒนาผเู้ รียน จะตอ้ งพจิ ารณาทัง้ เวลาการเข้ารว่ มกจิ กรรม การปฏบิ ัตกิ ิจกรรม และผลงานของผู้เรยี นตามเกณฑท์ สี่ ถานศึกษากาหนด และใหผ้ ลการประเมนิ เปน็ ผา่ นและไม่ผา่ น กิจกรรมพัฒนาผู้เรียน มี ๓ ลกั ษณะ คือ ๑) กิจกรรมแนะแนว ๒) กจิ กรรมนักเรียน ซ่งึ ประกอบดว้ ย (๑) กิจกรรมลูกเสือ เนตรนารี และผบู้ าเพญ็ ประโยชน์ โดยผเู้ รยี นเลือกอย่างใดอย่างหนง่ึ ๑ กิจกรรม (๒) กิจกรรมชมุ นุมหรือชมรมอีก ๑ กจิ กรรม ๓) กจิ กรรมเพื่อสังคมและสาธารณประโยชน์ ใหใ้ ช้ตวั อกั ษรแสดงผลการประเมนิ ดังน้ี “ผ” หมายถงึ ผู้เรียนมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน ปฏบิ ตั ิกจิ กรรม และมผี ลงานตามเกณฑ์ท่สี ถานศึกษากาหนด “มผ” หมายถึง ผู้เรยี นมีเวลาเข้าร่วมกิจกรรมพฒั นาผู้เรยี น ปฏิบัตกิ จิ กรรม และมผี ลงานไมเ่ ป็นไปตามเกณฑ์ท่ีสถานศกึ ษากาหนด ในกรณีท่ีผ้เู รียนไดผ้ ลของกจิ กรรมเปน็ “มผ” สถานศึกษาต้องจัดซ่อมเสริมให้ผเู้ รียนทากิจกรรมในส่วน ทผี่ ้เู รียนไม่ไดเ้ ขา้ รว่ มหรือไม่ได้ทาจนครบถ้วน แล้วจึงเปลย่ี นผลจาก “มผ” เป็น “ผ” ได้ ทั้งนี้ ต้องดาเนนิ การให้ เสร็จสน้ิ ภายในปกี ารศกึ ษาน้ัน ยกเวน้ มีเหตสุ ดุ วสิ ัยใหอ้ ยใู่ นดลุ ยพนิ จิ ของสถานศึกษา ๑.๓ การเล่ือนช้ัน เม่อื สิ้นปกี ารศึกษา ผเู้ รยี นจะได้รบั การเลอื่ นชั้น เมอ่ื มีคุณสมบัติตามเกณฑด์ ังต่อไปน้ี ๑) ผเู้ รยี นมีเวลาเรยี นตลอดปีการศกึ ษาไม่น้อยกว่ารอ้ ยละ ๘๐ ของเวลาเรยี นทงั้ หมด ๒) ผเู้ รียนมผี ลการประเมนิ ผ่านทกุ รายวิชาพน้ื ฐาน ๓) ผู้เรียนมีผลการประเมินการอ่าน คดิ วิเคราะห์ และเขียน คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์ และกจิ กรรม พฒั นาผูเ้ รียนผา่ นตามเกณฑ์ที่สถานศกึ ษากาหนด ทง้ั นี้ ถา้ ผเู้ รยี นมีข้อบกพร่องเพียงเล็กน้อย และสถานศึกษาพิจารณาเหน็ ว่าสามารถพัฒนาและสอน ซ่อมเสรมิ ได้ ให้อยู่ในดุลยพินิจของสถานศกึ ษาที่จะผอ่ นผันใหเ้ ล่อื นชัน้ ได้ อน่ึง ในกรณีที่ผู้เรยี นมีหลกั ฐานการเรียนร้ทู ่ีแสดงว่ามีความสามารถดีเลศิ สถานศกึ ษาอาจให้โอกาส ผู้เรียนเลือ่ นช้ันกลางปีการศึกษา โดยสถานศึกษาแต่งต้ังคณะกรรมการ ประกอบด้วย ฝาุ ยวชิ าการของสถานศึกษา และผ้แู ทนของเขตพ้ืนท่ีการศึกษาหรือต้นสงั กดั ประเมนิ ผเู้ รยี นและตรวจสอบคุณสมบตั ใิ หค้ รบถว้ นตามเงื่อนไขทง้ั ๓ ประการ ตอ่ ไปน้ี ๑. มีผลการเรียนในปีการศึกษาทผ่ี า่ นมาและมผี ลการเรยี นระหวา่ งปที ่ีกาลงั ศึกษาอยู่ในเกณฑ์ดีเยีย่ ม ๒. มวี ุฒิภาวะเหมาะสมที่จะเรยี นในชั้นที่สูงข้ึน ๓. ผ่านการประเมนิ ผลความรู้ความสามารถทกุ รายวชิ าของชั้นปีทเ่ี รยี นปจั จุบนั และความรู้ ความสามารถทกุ รายวิชาในภาคเรยี นแรกของชัน้ ปีท่จี ะเลื่อนขน้ึ การอนุมัติให้เลื่อนชน้ั กลางปกี ารศึกษาไปเรียนชัน้ สงู ขึ้นได้ ๑ ระดับชั้นนี้ ต้องไดร้ ับการยินยอมจาก ผู้เรียนและผู้ปกครอง และตอ้ งดาเนนิ การให้เสร็จสนิ้ ก่อนเปิดภาคเรียนที่ ๒ ของปีการศึกษาน้ัน
๑๔๕ สาหรับในกรณีที่พบวา่ มผี เู้ รยี นกลมุ่ พิเศษประเภทตา่ ง ๆ มปี ัญหาในการเรียนรู้ ให้สถานศกึ ษา ดาเนินงานรว่ มกับสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา/ศูนยก์ ารศึกษาพิเศษประจาจงั หวดั /ศูนย์การศึกษาพิเศษเขต การศึกษา/หน่วยงานต้นสังกัด โรงเรยี นเฉพาะความพกิ าร หาแนวทางการแก้ไขและพฒั นา ๑.๔ การเรยี นซ้าช้นั ผ้เู รยี นที่ไม่ผ่านรายวิชาจานวนมากและมีแนวโน้มว่าจะเปน็ ปัญหาตอ่ การเรยี นในระดับชัน้ ท่ีสงู ขนึ้ สถานศกึ ษาอาจตั้งคณะกรรมการพจิ ารณาใหเ้ รยี นซ้าช้นั ได้ ท้งั น้ี ให้คานงึ ถึงวฒุ ิภาวะและความรู้ความสามารถของ ผู้เรียน เปน็ สาคัญผเู้ รยี นที่ไม่มีคุณสมบตั ิตามเกณฑ์การเลื่อนชัน้ สถานศึกษาควรใหเ้ รียนซ้าช้ัน ทัง้ น้ี สถานศึกษา อาจใชด้ ุลยพนิ ิจให้เลื่อนชั้นได้ หากพจิ ารณาว่าผูเ้ รยี นมีคุณสมบัตขิ อ้ ใดข้อหนึง่ ดงั ตอ่ ไปนี้ ๑) มีเวลาเรยี นไมถ่ ึงรอ้ ยละ ๘๐ อนั เนื่องจากสาเหตุจาเป็นหรอื เหตุสุดวสิ ยั แตม่ ีคณุ สมบัติตามเกณฑ์ การเล่อื นชนั้ ในข้ออ่ืน ๆ ครบถ้วน ๒) ผ้เู รยี นมีผลการประเมินผา่ นมาตรฐานการเรียนรู้และตัวชีว้ ัดไมถ่ ึงเกณฑต์ ามทีส่ ถานศึกษากาหนดใน แตล่ ะรายวชิ า แตเ่ หน็ ว่าสามารถสอนซ่อมเสริมไดใ้ นปีการศึกษานนั้ และมคี ุณสมบัตติ ามเกณฑ์การเล่อื นชั้นในขอ้ อ่ืน ๆ ครบถว้ น ๓) ผู้เรยี นมผี ลการประเมินรายวิชาในกลมุ่ สาระภาษาไทย คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรมอยู่ในระดับผา่ นก่อนท่ีจะใหผ้ ู้เรยี นเรียนซ้าชน้ั สถานศึกษาควรแจง้ ให้ผปู้ กครองและผเู้ รยี น ทราบเหตุผลของการเรยี นซ้าช้ัน ๑.๕ การสอนซ่อมเสรมิ หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พุทธศกั ราช ๒๕๕๑ กาหนดให้สถานศึกษาจัดสอนซอ่ มเสรมิ เพ่ือพฒั นาการเรยี นรูข้ องผู้เรยี นเตม็ ตามศกั ยภาพ การสอนซ่อมเสรมิ เป็นการสอนเพ่ือแก้ไขข้อบกพร่อง กรณีทผ่ี ูเ้ รียนมคี วามรู้ ทกั ษะ กระบวนการ หรอื เจตคติ/คณุ ลกั ษณะไมเ่ ป็นไปตามเกณฑท์ ส่ี ถานศึกษากาหนด สถานศกึ ษาตอ้ งจัดสอนซ่อมเสรมิ เปน็ กรณีพิเศษอก เหนือไปจากการสอนตามปกติ เพอ่ื พฒั นาให้ผู้เรียนสามารถบรรลุตามมาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ดั ทกี่ าหนดไว้ เป็น การใหโ้ อกาสแกผ่ ้เู รยี นไดเ้ รียนรแู้ ละพัฒนา โดยจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ทห่ี ลากหลายและตอบสนองความแตกต่าง ระหว่างบุคคล ๑.๖ เกณฑ์การจบระดับประถมศกึ ษา ๑. ผเู้ รียนเรียนรายวชิ าพ้ืนฐาน จานวน............ชว่ั โมง และรายวิชาเพ่มิ เติม / กจิ กรรมเพ่ิมเติม จานวน .........ช่ัวโมงและมีผลการประเมนิ รายวิชาพืน้ ฐานผ่านทุกรายวชิ า ๒. ผู้เรียนต้องมีผลการประเมินการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขยี น ระดบั “ผ่าน” ข้ึนไป ๓. ผู้เรียนตอ้ งมลี การประเมิน คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ ระดบั “ผา่ น” ข้ึนไป ๔. ผู้เรียนตอ้ งเข้ารว่ มกิจกรรมพัฒนาผเู้ รยี น และไดร้ ับการตัดสนิ ผลการเรยี น “ผ่าน” ทุกกจิ กรรม ๒. ระดับมัธยมศึกษา ๒.๑ การตดั สนิ ผลการเรยี น หลักสูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พทุ ธศกั ราช ๒๕๕๑ กาหนดหลักเกณฑก์ ารวดั และประเมนิ ผล การเรียนรู้ เพื่อตัดสินผลการเรียนของผ้เู รยี น ดงั น้ี ๑) ตัดสินผลการเรียนเป็นรายวชิ า ผเู้ รียนตอ้ งมีเวลาเรยี นตลอดภาคเรยี นไม่น้อยกวา่ ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนท้งั หมดในรายวิชานั้น ๆ ๒) ผูเ้ รยี นตอ้ งได้รับการประเมินทุกตัวชีว้ ัดและผ่านตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากาหนด ๓) ผู้เรียนต้องได้รับการตดั สนิ ผลการเรยี นทุกรายวิชา ๔) ผู้เรยี นตอ้ งไดร้ บั การประเมินและมีผลการประเมินผา่ นตามเกณฑท์ ส่ี ถานศึกษากาหนดในการอา่ นคิด วิเคราะห์ และเขียน คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ และกิจกรรมพฒั นาผ้เู รียน
๑๔๖ การตัดสินผลการเรียน ตดั สนิ เปน็ รายวิชา โดยใช้ผลการประเมินระหวา่ งภาคและปลายภาคตามสัดส่วน ท่ีสถานศึกษากาหนด ทุกรายวิชาต้องไดร้ ับการตัดสนิ และให้ระดบั ผลการเรยี น ทั้งนี้ ผเู้ รียนตอ้ งผ่านทุกรายวชิ า พื้นฐาน ๒.๒ การใหร้ ะดบั ผลการเรยี น การตัดสนิ ผลการเรยี นในระดับการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐานใชร้ ะบบผ่านและไมผ่ า่ น โดยกาหนดเกณฑ์การ ตดั สนิ ผา่ นแต่ละวชิ าทีร่ อ้ ยละ ๕๐ จากนั้นจงึ ให้ระดับผลการเรยี นท่ผี า่ น สาหรับระดบั มัธยมศึกษาตอนต้น และ ตอนลาย ใชต้ วั เลขแสดงระดับผลการเรยี นเปน็ ๘ ระดับ แนวการใหร้ ะดับผลการเรียน ๘ ระดบั และความหมาย ของแต่ละระดบั ดงั น้ี “๔” หมายถึง ผลการเรยี นดีเยี่ยม “๓.๕” หมายถงึ ผลการเรยี นดีมาก “๓” หมายถึง ผลการเรียนดี “๒.๕” หมายถงึ ผลการเรียนคอ่ นข้างดี “๒” หมายถึง ผลการเรียนน่าพอใช้ “๑.๕” หมายถงึ ผลการเรียนพอใช้ “๑” หมายถึง ผลการเรียนผ่านเกณฑข์ ัน้ ต่า “๐” หมายถงึ ผลการเรยี นตา่ กว่าเกณฑ์ ในกรณีที่ไมส่ ามารถให้ระดบั ผลการเรียนเปน็ ๘ ระดบั ได้ให้ใช้ตัวอักษรระบเุ ง่ือนไขของผลการเรียน ดังน้ี “มส” หมายถึง ผเู้ รยี นไมม่ ีสิทธเิ ข้ารับการวดั ผลปลายภาคเรยี น เนอ่ื งจาก ผูเ้ รียนมีเวลาเรียนไมถ่ งึ ร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนในแต่ละ รายวิชา และไมไ่ ดร้ บั การผ่อนผนั ใหเ้ ขา้ รับการวัดผล ปลายภาคเรียน “ร” หมายถึง รอการตัดสนิ และยงั ตัดสินผลการเรยี นไม่ได้ เน่ืองจาก ผู้เรยี นไม่มีข้อมูลผลการเรยี นรายวชิ านัน้ ครบถ้วน ไดแ้ ก่ ไม่ได้วดั ผลระหวา่ งภาคเรยี น/ปลายภาคเรยี น ไมไ่ ด้สง่ งาน ทมี่ อบหมายใหท้ า ซงึ่ งานนั้นเป็นสว่ นหนง่ึ ของการตดั สนิ ผลการเรยี นหรอื มเี หตสุ ดุ วิสัยทท่ี าให้ประเมินผลการเรยี น ไม่ได้ การประเมินการอ่าน คิดวเิ คราะห์ และเขียน และคณุ ลกั ษณะอนั พึงประสงคน์ ัน้ ใหร้ ะดับผลการประเมิน เปน็ ผา่ นและไมผ่ ่าน กรณีทีผ่ า่ นใหร้ ะดบั ผลการประเมินเป็นดเี ยี่ยม ดี และผ่าน ๑. ในการสรุปผลการประเมนิ การอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขียน เพื่อการเล่อื นช้ันและจบการศกึ ษา กาหนดเกณฑ์ การตดั สนิ เปน็ ๔ ระดับ และความหมายของแต่ละระดับ ดังน้ี ดีเย่ียม หมายถงึ มผี ลงานท่ีแสดงถึงความสามารถในการอ่าน คดิ วเิ คราะห์ และเขยี นท่ีมีคุณภาพดเี ลศิ อยู่เสมอ ดี หมายถึง มผี ลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขียน ทมี่ ีคณุ ภาพเปน็ ที่ยอมรบั
๑๔๗ ผา่ น หมายถงึ มผี ลงานทีแ่ สดงถึงความสามารถในการอา่ น คดิ วเิ คราะห์ และเขียนที่มีคุณภาพเปน็ ที่ยอมรบั แตย่ ังมขี ้อบกพร่องบาง ประการ ไม่ผา่ น หมายถงึ ไมม่ ีผลงานที่แสดงถึงความสามารถในการอ่าน คิด วเิ คราะห์ และเขยี น หรือถา้ มีผลงาน ผลงานนนั้ ยงั มี ข้อบกพร่องท่ีต้องได้รบั การปรับปรงุ แกไ้ ขหลายประการ ๒. ในการสรุปผลการประเมนิ คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์รวมทุกคณุ ลกั ษณะเพื่อการเลอ่ื นช้นั และจบ การศกึ ษา กาหนดเกณฑ์การตดั สินเป็น ๔ ระดับ และความหมายของแต่ละระดับ ดังนี้ ดีเยี่ยม หมายถงึ ผ้เู รยี นปฏบิ ตั ติ นตามคณุ ลักษณะจนเป็นนสิ ยั และนาไปใช้ ในชวี ติ ประจาวันเพ่อื ประโยชนส์ ขุ ของตนเองและสงั คม โดยพิจารณาจากผลการประเมนิ ระดบั ดเี ยี่ยม จานวน ๕-๘ คุณลกั ษณะ และไมม่ ีคณุ ลักษณะใดไดผ้ ลการประเมนิ ต่ากว่า ระดับดี ดี หมายถึง ผเู้ รยี นมคี ณุ ลักษณะในการปฏิบัติตามกฎเกณฑ์ เพ่ือให้ เป็นการยอมรบั ของ สงั คม โดยพจิ ารณาจาก ๑. ไดผ้ ลการประเมินระดับดีเยีย่ ม จานวน ๑-๔ คณุ ลักษณะ และไมม่ ี คุณลกั ษณะใดได้ผลการประเมิน ตา่ กวา่ ระดบั ดี หรอื ๒. ได้ผลการประเมนิ ระดบั ดีเย่ียม จานวน ๔ คุณลกั ษณะ และไม่มคี ุณลักษณะใดไดผ้ ลการประเมินตา่ กวา่ ระดบั ผา่ น หรือ ๓. ได้ผลการประเมินระดบั ดี จานวน ๕-๘ คุณลกั ษณะ และไม่มีคุณลักษณะใดได้ผลการประเมินต่ากวา่ ระดบั ผ่าน ผา่ น หมายถึง ผู้เรียนรับรแู้ ละปฏิบตั ิตามกฎเกณฑ์และเงื่อนไขท่ี สถานศึกษากาหนดโดยพิจารณาจาก ๑. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับผ่าน จานวน ๕-๘ คุณลกั ษณะ และไม่มี คณุ ลักษณะใดได้ผลการประเมินตา่ กวา่ ระดบั ผา่ น หรอื ไม่ผา่ น หมายถึง ๓. ไดผ้ ลการประเมนิ ระดับดี จานวน ๔ คุณลักษณะ และ ไม่มีคณุ ลกั ษณะใดได้ผลการประเมนิ ตา่ กวา่ ระดับผา่ น ผู้เรยี นรับรแู้ ละปฏิบัติได้ไม่ครบตามกฎเกณฑแ์ ละ เงือ่ นไขท่สี ถานศกึ ษากาหนด โดยพิจารณาจากผลการ ประเมนิ ระดบั ไม่ผ่าน ตงั้ แต่ ๑ คณุ ลักษณะ
๑๔๘ การประเมนิ กจิ กรรมพัฒนาผเู้ รียน จะตอ้ งพจิ ารณาท้งั เวลาการเขา้ ร่วมกิจกรรม การปฏบิ ตั ิกจิ กรรม และผลงานของผเู้ รียนตามเกณฑ์ที่สถานศึกษากาหนด และให้ผลการประเมนิ เป็นผา่ นและไมผ่ า่ น กจิ กรรมพัฒนาผู้เรยี น มี ๓ ลักษณะ คอื ๑) กจิ กรรมแนะแนว ๒) กจิ กรรมนักเรยี น ซึง่ ประกอบดว้ ย (๑) กจิ กรรมลูกเสือ เนตรนารี ผู้บาเพ็ญประโยชน์ และนกั ศกึ ษาวชิ าทหาร โดยผ้เู รยี นเลือกอยา่ งใดอยา่ งหนึง่ (๒) กิจกรรมชมุ นุมหรือชมรม ทง้ั นี้ ผ้เู รยี นระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ จะตอ้ งเขา้ รว่ มกิจกรรมท้งั ข้อ (๑) และ (๒) ๓) กจิ กรรมเพ่อื สังคมและสาธารณประโยชน์ ใหใ้ ชต้ วั อักษรแสดงผลการประเมนิ ดังนี้ “ผ” หมายถึง ผเู้ รียนมเี วลาเข้าร่วมกิจกรรมพัฒนาผ้เู รียน ปฏบิ ัติกิจกรรม และมผี ลงานตามเกณฑ์ท่สี ถานศึกษากาหนด “มผ” หมายถงึ ผูเ้ รยี นมีเวลาเข้ารว่ มกิจกรรมพฒั นาผูเ้ รียน ปฏบิ ัตกิ ิจกรรม และมผี ลงานไมเ่ ปน็ ไปตามเกณฑท์ ีส่ ถานศกึ ษากาหนด ๒.๓ การเปลย่ี นผลการเรยี น ๒.๓.๑ การเปลยี่ นผลการเรียน “๐” สถานศกึ ษาจัดใหม้ ีการสอนซ่อมเสรมิ ในมาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้ีวดั ทีผ่ เู้ รยี นสอบไมผ่ ่านก่อนแล้วจงึ สอบแกต้ วั ได้ไม่เกนิ ๒ ครั้ง ถา้ ผู้เรียนไมด่ าเนนิ การสอบแก้ตวั ตามระยะเวลาทส่ี ถานศึกษากาหนด ใหอ้ ยใู่ นดลุ ย พินิจของสถานศกึ ษาท่จี ะพิจารณาขยายเวลาออกไปอกี ๑ ภาคเรียน สาหรับภาคเรียนท่ี ๒ ตอ้ งดาเนินการให้เสร็จ สิ้นภายในปีการศกึ ษานนั้ ถ้าสอบแก้ตัว ๒ คร้ังแล้ว ยงั ได้ระดับผลการเรยี น “๐” อีก ให้สถานศกึ ษาแต่งต้ัง คณะกรรมการดาเนินการเก่ียวกับการเปลย่ี นผลการเรยี นของผเู้ รียน โดยปฏบิ ัติดงั นี้ ๑) ถา้ เปน็ รายวชิ าพ้ืนฐาน ใหเ้ รยี นซ้ารายวชิ านนั้ ๒) ถา้ เป็นรายวิชาเพิ่มเติม ให้เรียนซา้ หรือเปล่ยี นรายวิชาเรียนใหม่ ทัง้ น้ี ให้อยใู่ นดุลยพินิจของ สถานศกึ ษาในกรณีที่เปลี่ยนรายวชิ าเรียนใหม่ ใหห้ มายเหตุในระเบยี นแสดงผลการเรียนว่าเรียนแทนรายวชิ าใด ๒.๓.๒ การเปล่ยี นผลการเรยี น “ร” การเปล่ียนผลการเรยี น “ร” ใหด้ าเนนิ การดังน้ี ใหผ้ เู้ รยี นดาเนนิ การแกไ้ ข “ร” ตามสาเหตุ เมอ่ื ผู้เรียนแก้ไขปญั หาเสรจ็ แล้วให้ไดร้ ะดับผลการเรียน ตามปกติ(ต้ังแต่ ๐-๔)ถ้าผู้เรียนไม่ดาเนนิ การแกไ้ ข “ร” กรณีท่ีสง่ งานไมค่ รบ แต่มผี ลการประเมนิ ระหว่างภาคเรียน และปลายภาคให้ผสู้ อนนาขอ้ มลู ทม่ี ีอยู่ตดั สนิ ผลการเรยี น ยกเวน้ มีเหตสุ ดุ วิสยั ให้อยใู่ นดุลยพินิจของสถานศึกษาท่ี จะขยายเวลาการแก้ “ร” ออกไปอีกไม่เกิน ๑ ภาคเรยี น สาหรบั ภาคเรียนท่ี ๒ ตอ้ งดาเนินการให้เสรจ็ สนิ้ ภายในปี การศกึ ษาน้ัน เม่อื พ้นกาหนดนแี้ ลว้ ให้เรียนซ้า หากผลการเรยี นเปน็ “๐” ให้ดาเนินการแก้ไขตามหลักเกณฑ์ ๒.๓.๓ การเปล่ยี นผลการเรยี น “มส” การเปล่ียนผลการเรยี น “มส” มี ๒ กรณี ดังน้ี ๑) กรณีผเู้ รยี นไดผ้ ลการเรียน “มส” เพราะมเี วลาเรียนไม่ถึงร้อยละ ๘๐ แต่มีเวลาเรยี นไมน่ ้อยกว่าร้อย ละ ๖๐ ของเวลาเรยี นในรายวชิ านั้น ให้สถานศึกษาจดั ใหเ้ รยี นเพมิ่ เตมิ โดยใชช้ วั่ โมงสอนซ่อมเสรมิ หรือใช้เวลาว่าง หรอื ใช้วันหยุด หรือมอบหมายงานให้ทา จนมเี วลาเรยี นครบตามที่กาหนดไว้ สาหรับรายวชิ าน้ัน แล้วจึงให้วัดผลปลายภาคเปน็ กรณีพเิ ศษผลการแก้ “มส” ให้ได้ระดับผลการ เรียนไมเ่ กิน “๑” การแก้ “มส” กรณีนีใ้ หก้ ระทาให้เสรจ็ สิ้นภายในปกี ารศึกษานั้น ถา้ ผ้เู รียนไม่มา ดาเนินการแก้ “มส” ตามระยะเวลาทก่ี าหนดไว้นี้ให้เรียนซา้ ยกเว้นมีเหตสุ ุดวสิ ัย ใหอ้ ย่ใู นดุลยพินจิ ของสถานศึกษาทีจ่ ะขยายเวลาการแก้ “มส” ออกไปอีกไมเ่ กิน ๑ ภาคเรยี น แตเ่ ม่ือพน้ กาหนดนี้ แล้ว ให้ปฏิบตั ิดังนี้
๑๔๙ (๑) ถา้ เปน็ รายวชิ าพืน้ ฐานใหเ้ รียนซ้ารายวิชานน้ั (๒) ถา้ เป็นรายวิชาเพิ่มเตมิ ให้อยใู่ นดุลยพินิจของสถานศึกษา ใหเ้ รยี นซา้ หรอื เปลย่ี น รายวชิ าเรียนใหม่ ๒) กรณีผู้เรียนไดผ้ ลการเรยี น “มส” เพราะมเี วลาเรยี นนอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ ๖๐ ของเวลาเรียน ท้งั หมด ให้สถานศกึ ษาดาเนนิ การดังน้ี (๑) ถา้ เปน็ รายวชิ าพนื้ ฐาน ให้เรียนซ้ารายวิชานั้น (๒) ถ้าเปน็ รายวิชาเพิ่มเตมิ ให้อยู่ในดุลยพนิ ิจของสถานศึกษา ให้เรียนซา้ หรอื เปลีย่ นรายวิชา เรยี นใหม่ ในกรณีที่เปล่ยี นรายวิชาเรยี นใหม่ ให้หมายเหตุในระเบียนแสดงผลการเรยี นวา่ เรียนแทนรายวชิ าใด การเรียนซ้ารายวิชา ผู้เรยี นทไ่ี ดร้ ับการสอนซ่อมเสริมและสอบแกต้ วั ๒ ครัง้ แลว้ ไมผ่ ่านเกณฑ์การประเมนิ ให้ เรียนซา้ รายวิชานน้ั ทง้ั นี้ ใหอ้ ยใู่ นดุลยพินิจของสถานศึกษาในการจัดให้เรยี นซา้ ในช่วงใดชว่ งหนง่ึ ท่ีสถานศึกษาเหน็ ว่าเหมาะสม เช่น พกั กลางวัน วนั หยุด ชั่วโมงว่างหลังเลกิ เรียน ภาคฤดรู อ้ น เปน็ ตน้ ในกรณีภาคเรียนที่ ๒ หากผ้เู รยี นยงั มผี ลการเรยี น “๐” “ร” “มส” ให้ดาเนินการใหเ้ สร็จสนิ้ กอ่ นเปิด เรียนปีการศึกษาถัดไป สถานศึกษาอาจเปดิ การเรียนการสอนในภาคฤดรู อ้ นเพ่อื แก้ไขผลการเรียนของผเู้ รียนได้ ทง้ั นห้ี ากสถานศึกษาใดไม่สามารถดาเนินการเปิดสอนภาคฤดูร้อนได้ ใหส้ านกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษา/ต้นสงั กดั เป็น ผูพ้ จิ ารณาประสานงานให้มีการดาเนนิ การเรียนการสอนในภาคฤดูร้อนเพื่อแก้ไขผลการเรียนของผู้เรยี น ๒.๓.๔ การเปลีย่ นผล “มผ” กรณที ่ีผู้เรยี นไดผ้ ล “มผ” สถานศกึ ษาตอ้ งจัดซ่อมเสริมให้ผู้เรียนทากิจกรรมในสว่ นที่ผู้เรยี นไมไ่ ดเ้ ขา้ ร่วม หรอื ไม่ได้ทาจนครบถ้วน แล้วจงึ เปล่ียนผลจาก “มผ” เป็น “ผ” ได้ ทง้ั นี้ ดาเนินการให้เสร็จสน้ิ ภายในภาคเรียนนน้ั ๆยกเว้นมีเหตุสุดวิสัยให้อยูใ่ นดุลยพินิจของสถานศึกษาทจ่ี ะพิจารณาขยายเวลาออกไปอีกไม่เกนิ ๑ ภาคเรียน สาหรบั ภาคเรียนท่ี ๒ตอ้ งดาเนินการใหเ้ สร็จส้ินภายในปีการศึกษานัน้ ๒.๔ การเลอื่ นชั้น เมื่อสิ้นปีการศึกษา ผูเ้ รียนจะได้รับการเลอ่ื นชั้น เมื่อมคี ุณสมบัติตามเกณฑ์ ดงั ต่อไปนี้ ๒.๔.๑ รายวิชาพืน้ ฐานและรายวิชาเพ่ิมเติมไดร้ ับการตัดสินผลการเรยี นผ่านตามเกณฑท์ ่ีสถานศึกษา กาหนด ๒.๔.๒ ผู้เรียนต้องไดร้ ับการประเมินและมีผลการประเมินผ่านตามเกณฑ์ทสี่ ถานศึกษากาหนดในการ อา่ น คดิ วิเคราะห์ และเขียน คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ และกจิ กรรมพฒั นาผู้เรยี น ๒.๔.๓ ระดับผลการเรยี นเฉลี่ยในปีการศึกษานน้ั ควรได้ไม่ต่ากว่า ๑.๐๐ ทงั้ นี้ รายวชิ าใดท่ีไม่ผา่ นเกณฑก์ ารประเมิน สถานศกึ ษาสามารถซ่อมเสรมิ ผ้เู รยี นให้ไดร้ บั การแก้ไข ในภาคเรยี นถัดไป ทง้ั นี้สาหรับภาคเรียนที่ ๒ ต้องดาเนนิ การใหเ้ สร็จสน้ิ ภายในปีการศกึ ษานั้น ๒.๕ การสอนซ่อมเสรมิ หลักสตู รแกนกลางการศึกษาข้นั พื้นฐาน พทุ ธศักราช ๒๕๕๑ กาหนดให้สถานศึกษาจดั สอนซอ่ มเสรมิ เพื่อพฒั นาการเรียนรู้ของผเู้ รียนเต็มตามศกั ยภาพ การสอนซ่อมเสรมิ เป็นการสอนเพื่อแกไ้ ขข้อบกพร่อง กรณีทีผ่ ูเ้ รียนมีความรู้ ทกั ษะ กระบวนการ หรือ เจตคติ/คุณลกั ษณะ ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ท่สี ถานศึกษากาหนด สถานศกึ ษาตอ้ งจัดสอนซ่อมเสริมเป็นกรณีพิเศษอก เหนอื ไปจากการสอนตามปกติ เพอ่ื พัฒนาใหผ้ ูเ้ รยี นสามารถบรรลตุ ามมาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ัดท่กี าหนดไว้ เป็น การใหโ้ อกาสแกผ่ เู้ รียนไดเ้ รียนรู้และพฒั นา โดยจดั กิจกรรมการเรียนรู้ทีห่ ลากหลายและตอบสนองความแตกตา่ ง ระหวา่ งบคุ คลการสอนซ่อมเสริมสามารถดาเนนิ การไดใ้ นกรณี ดงั ต่อไปน้ี ๑) ผเู้ รยี นมีความรู้/ทกั ษะพื้นฐานไม่เพียงพอทจี่ ะศึกษาในแตล่ ะรายวิชาน้ัน ควรจัดการสอนซ่อมเสริม ปรบั ความรู้/ทกั ษะพ้ืนฐาน
๑๕๐ ๒) ผเู้ รียนไม่สามารถแสดงความรู้ ทกั ษะ กระบวนการ หรือเจตคติ/คุณลกั ษณะท่ีกาหนดไวต้ าม มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั ในการประเมนิ ผลระหวา่ งเรียน ๓) ผู้เรียนทไี่ ดร้ ะดับผลการเรียน “๐” ใหจ้ ดั การสอนซอ่ มเสริมก่อนสอบแก้ตวั ๔) กรณีผเู้ รยี นมีผลการเรียนไมผ่ ่าน สามารถจดั สอนซ่อมเสริมในภาคฤดูร้อนเพ่ือแก้ไขผลการเรยี นทั้งนี้ ใหอ้ ยู่ในดลุ ยพนิ ิจของสถานศึกษา ๒.๖ การเรียนซ้าชั้น ผู้เรียนที่ไม่ผ่านรายวิชาจานวนมากและมีแนวโนม้ ว่าจะเปน็ ปัญหาต่อการเรยี นในระดับช้ันทสี่ ูงขน้ึ สถานศึกษาอาจต้งั คณะกรรมการพิจารณาให้เรยี นซา้ ชัน้ ได้ ทั้งนี้ ให้คานงึ ถงึ วุฒภิ าวะและความร้คู วามสามารถของ ผเู้ รียนเปน็ สาคญั การเรียนซา้ ชน้ั มี ๒ ลักษณะ คือ ๑) ผู้เรียนมรี ะดบั ผลการเรยี นเฉลย่ี ในปีการศึกษานนั้ ต่ากว่า ๑.๐๐ และมีแนวโนม้ ว่าจะเป็นปญั หาต่อ การเรยี นในระดับช้ันทสี่ งู ขน้ึ ๒) ผู้เรียนมผี ลการเรียน ๐, ร, มส เกนิ คร่งึ หนง่ึ ของรายวชิ าทีล่ งทะเบยี นเรียนในปีการศกึ ษาน้ัน ทงั้ น้ี หากเกิดลักษณะใดลกั ษณะหนง่ึ หรือทั้ง ๒ ลกั ษณะ ใหส้ ถานศึกษาแตง่ ต้ังคณะกรรมการพิจารณา หากเหน็ วา่ ไม่มีเหตุผลอนั สมควรกใ็ ห้ซ้าช้ัน โดยยกเลิกผลการเรยี นเดิมและให้ใชผ้ ลการเรียนใหมแ่ ทน หาก พจิ ารณาแลว้ ไม่ต้องเรียนซ้าช้ัน ใหอ้ ยใู่ นดุลยพนิ ิจของสถานศกึ ษาในการแกไ้ ขผลการเรียน ๒.๗ เกณฑก์ ารจบระดบั มัธยมศกึ ษาตอนตน้ ๑. ผู้เรยี นเรยี นรายวชิ าพื้นฐาน และรายวชิ าเพ่ิมเติม จานวน..........หน่วยกติ โดยเป็นรายวชิ าพ้นื ฐาน จานวน ๖๖ หนว่ ยกิต และรายวชิ าเพิม่ เติม จานวน..........หนว่ ยกิต ๒. ผูเ้ รยี นต้องไดห้ นว่ ยกติ ตลอดหลักสูตร ไมน่ ้อยกวา่ ๗๗ หน่วยกติ โดยเปน็ รายวิชาพนื้ ฐาน จานวน ๖๖ หนว่ ยกิต และรายวชิ าเพมิ่ เตมิ ไม่น้อยกวา่ ๑๑ หน่วยกติ ๓. ผู้เรียนตอ้ งมีผลการประเมินการอา่ น คิดวเิ คราะห์ และเขียน ระดับ “ผ่าน” ขน้ึ ไป ๔. ผู้เรียนต้องมีผลการประเมินคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ระดับ “ผ่าน” ข้ึนไป ๕. ผู้เรยี นต้องเขา้ ร่วมกิจกรรมพฒั นาผเู้ รยี น และไดร้ บั การตัดสินผลการเรยี น “ผา่ น” ทุกกจิ กรรม
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163