www. artlampangluang.org Art - lampangluang Trip Lampang Luang
ถอดรหสั ความงาม วดั พระธาตลุ ำ� ปาง หนงั สอื เลม่ น้ี ไดร้ บั ทนุ วจิ ยั จากคณะกรรมการวจิ ยั แหง่ ชาตปิ ระจำ� ปี 2561
ช่ือหนังสือ ถอดรหสั ความงาม วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง ผเู้ ขียน วราภรณ์ ภมู ลี พิมพค์ รงั้ ท่ี 1 มนี าคม พ.ศ. 2562 จำ� นวน 300 เลม่ ผสู้ นับสนุน คณะกรรมการวจิ ยั แหง่ ชาติ พิมพท์ ่ี อมรนิ ทรพ์ รน๊ิ ตง้ิ พิสจู น์อกั ษร ตุลาภรณ์ แสนปรน ออกแบบปก สพุ ชิ า มลู ดี ISBN
คำ� น�ำ หนังสอื เล่มน้ี เป็นผลงานวจิ ยั จากแผนงานการขบั เคล่อื นศลิ ปะและ วฒั นธรรมเชงิ พน้ื ทว่ี ดั พระธาตลุ ำ� ปางหลวงจงั หวดั ลำ� ปางซ่ง่ึ ไดร้ บั ทนุ วจิ ยั จาก คณะกรรมการวจิ ยั แหง่ ชาติ ประจำ� ปี 2561 โดยรวบรวมขอ้ มลู จากองคค์ วามรู้ ทไ่ี ดจ้ ากการศกึ ษาในครงั้ น้ี ทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั วดั พระธาตุล�ำปางหลวง จากแหลง่ ต่างๆ มาอา้ งองิ ในหนงั สอื เล่มน้ี เพอ่ื บนั ทกึ ขอ้ มลู ไวใ้ นชว่ งปีทท่ี ำ� การศกึ ษา หลงั จากเรมิ่ ศกึ ษาจากทำ� งานวจิ ยั เชงิ สรา้ งสรรค์ เรอ่ื ง วดั พระธาตลุ ำ� ปางหลวง : จติ รกรรมสนี ้�ำและขอ้ มลู ในปี 2558 ขอ้ มลู ทไ่ี ด้ อยใู่ นชว่ งรวบรวมซง่ึ ยงั ตอ้ ง คน้ ควา้ และศกึ ษาเพมิ่ เตมิ อยอู่ กี มาก การเกบ็ ขอ้ มลู ทไ่ี ดแ้ ลว้ น�ำมาเผยแพรเ่ พอ่ื เป็นหลกั ฐานการศกึ ษาเพม่ิ เตมิ ในสว่ นตอ่ ไปทต่ี อ้ งอาศยั ระยะเวลา ความเขา้ ใจ จนกวา่ จะตกผลกึ การวจิ ยั จงึ เป็นกระบวนการทส่ี ามารถเป็นตน้ ทนุ ในการเผย แพร่ ความงาม และแกน่ แทข้ องพระพทุ ธศาสนา ผา่ นรหสั ทางกาลเวลาทข่ี า้ ม ศตวรรษผา่ นรปู แบบศลิ ปกรรมสมยั ตา่ งๆ ณ ทแ่ี หง่ น้ี
สารบญั ความเป็นมา.................................................................................................. 1 ก่อนพทุ ธศตวรรษท่ี 19...................................................................... 3 สมยั หรภิ ุญไชย.................................................................................. 3 สมยั ลา้ นนา....................................................................................... 3 สมยั อยภู่ ายใตก้ ารปกครองของพมา่ ................................................... 4 สมยั เป็นประเทศราชของสยาม........................................................... 4 ศลิ ปะ............................................................................................................ 5 สถาปตั ยกรรม.................................................................................. 7 ปฏมิ ากรรม....................................................................................... 33 ประตมิ ากรรม.................................................................................... 43 จติ รกรรม........................................................................................... 45 ลวดลาย............................................................................................ 50 พทุ ธศลิ ป์.......................................................................................... 59 สตั ตภณั ฑ.์ ........................................................................................ 59 ธรรมาสน์.......................................................................................... 64 หบี ธรรม............................................................................................ 65 อาสนา.............................................................................................. 66 ตุง.................................................................................................... 67 รอยพระพทุ ธบาท............................................................................. 70 วฒั นธรรม..................................................................................................... 73 ประเพณี 12 เดอื นลา้ นนาไทย........................................................................ 74 ตำ� นาน.......................................................................................................... 95 จารกึ ............................................................................................................. 109 คตจิ กั รวาล..................................................................................................... 110 บรรณานุกรม................................................................................................. 114
ถอดรหสั ความงาม 1 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง ความเป็ นมา ชมุ ชนวดั พระธาตุลำ� ปางหลวง จากการรายงานการศกึ ษา สำ� รวจแหลง่ ชมุ ชน โบราณเวยี งพระธาตลุ ำ� ปางหลวง โดยหน่วยอนุรกั ษส์ งิ่ แวดลอ้ มศลิ ปกรรมทอ้ งถนิ่ จงั หวดั ลำ� ปาง สถาบนั ราชภฏั ลำ� ปาง เมอ่ื ปี พ.ศ. 2543 ทำ� ใหเ้ หน็ ภาพวดั พระธาตุลำ� ปางหลวง ในฐานะเวยี งทางศาสนาหมายถงึ เมอื งทท่ี ำ� หน้าทท่ี างศาสนามากกวา่ เป็นเมอื งทม่ี เี จา้ เมอื งปกครอง ซง่ึ จะมคี วามสำ� คญั มากขน้ึ ในยามทม่ี สี งครามจากต�ำแหน่งของวดั ทต่ี งั้ อย่บู นเนินสงู และอย่หู ่างจากแมน่ ้�ำสายใหญ่ ไกลจากแหล่งเพาะปลกู ซง่ึ ชุมชนไมอ่ าจ ใชเ้ ป็นทอ่ี ยถู่ าวร จงึ มกี ลุ่มคนหลายชนชาตแิ ละเผา่ พนั ธุอ์ าศยั อยอู่ ยา่ งกระจดั กระจาย ตามลุม่ แมน่ ้�ำ มหี ลกั ฐานจากตำ� นานและจารกึ แสดงใหเ้ หน็ วา่ เป็นเมอื งเกา่ แกค่ เู่ มอื งหริ ภุญไชย จากคตคิ วามเชอ่ื ทางพระพทุ ธศาสนาทไ่ี ดจ้ ำ� ลองแดนสวรรค์ หรอื โลกธรรมซง่ึ เกดิ จากภมู ปิ ญั ญาชาวบา้ นในทอ้ งถน่ิ ทถ่ี มเนินดนิ บรเิ วณทต่ี งั้ ของวดั ใหส้ งู เพอ่ื ไมใ่ หร้ บั ผลกระทบจากน้�ำท่วมเพอ่ื รกั ษาโบราณสถานทไ่ี ดร้ ะบุไวว้ า่ เป็นทป่ี ระดษิ ฐานพระธาตุ ของพระพทุ ธเจา้ และการศกึ ษาประวตั ศิ าสตรว์ ดั พระธาตุลำ� ปางหลวง โดยการบนั ทกึ รปู แบบจติ รกรรมสนี ้�ำทำ� ใหเ้ หน็ การเปลย่ี นแปลงในชว่ งระยะ 10 ปีทผ่ี า่ นมาวา่ การถกู ท�ำลายของรูปแบบศลิ ปกรรมค่อยๆ ถูกท�ำลายอย่างค่อยเป็นค่อยไปจากการบูรณะ จากการศกึ ษาประวตั ศิ าสตรล์ า้ นนา (สรุ สั วดี อ๋องสกุล, 2544) ไดแ้ บง่ การ ศกึ ษาประวตั ศิ าสตรเ์ ป็น 2 แนว 1. แนวจารตี ท้องถนิ่ หรอื แนวต�ำนาน เป็นการบอกเล่าทางประวตั ศิ าสตร์ท่ี สืบทอดกัน เป็นรุ่นสู่รุ่น จนเม่ือชาวล้านนาเดินทางไปยงั ศรีลงั กา ในช่วงปลาย ศตวรรษท่ี 20 จงึ ไดร้ บั อทิ ธพิ ลการเขยี นประวตั ศิ าสตรจ์ ากสำ� นักสงฆล์ งั กา จงึ ไดม้ ี การบนั ทกึ เป็นลายลกั ษณ์อกั ษรอย่างมรี ูปแบบ โดยการเขยี นอา้ งถงึ เร่อื งราวของ พระพทุ ธเจา้ ของสถานทน่ี นั้ ซง่ึ เน้ือหาของตำ� นานแบง่ เป็นสองภาค ภาคแรกมลี กั ษณะ ประวตั ศิ าสตรส์ ากล กล่าวถงึ ประวตั พิ ทุ ธศาสนา เรมิ่ ตงั้ แต่พระพทุ ธเจา้ เมอ่ื ครงั้ เป็น
ถอดรหสั ความงาม 2 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง พระโพธสิ ตั วไ์ ดต้ งั้ ปณิธานจะตรสั รเู้ ป็นพระพุทธเจา้ ต่อมาเกดิ พระพุทธศาสนา ครนั้ พระพุทธเจา้ ปรนิ ิพานแลว้ พุทธศาสนาไดร้ บั การอุปถมั ภจ์ ากพระเจา้ อโศก และพุทธ ศาสนาไดเ้ ผยแผม่ าสลู่ า้ นนา ภาคทส่ี องเป็นประวตั ศิ าสตรท์ อ้ งถน่ิ (สรสั วดี อ๋องสกุล, 2544: 1-5) เชน่ จงั หวดั ลำ� ปาง กม็ กี ารเขยี นในลกั ษณะดงั กลา่ ว ไดแ้ ก่ ตำ� นานวดั พระ ธาตุลำ� ปางหลวง และตำ� นานพระแกว้ มรกต เป็นตน้ 2. แนวประวตั ศิ าสตร์ เป็นการรวบรวมขอ้ มูลงานวชิ าการ ทไ่ี ดอ้ ทิ ธพิ ล จากการศึกษาประวัติศาสตร์จากตะวันตก โดยพระยาประชากิจกรจักร (แช่ม บุนนาค) เป็นผรู้ เิ รม่ิ การศกึ ษาประวตั ศิ าสตรล์ า้ นนา การศกึ ษาแนวน้ีไดถ้ ูกยอมรบั จากนักวิชาการเป็นอย่างมาก การศึกษาประวัติศาสตร์ล้านนาทัง้ 2 แนวทาง ส่งผลให้การยืนยันทางข้อมูลมรดกศิลปะและวัฒนธรรมชัดข้ึน ซ่ึงรายละเอียด ของต�ำนานได้กล่าวไว้ในหัวข้อก่อนหน้าน้ีแล้ว (สุรัสวดี อ๋องสกุล, 2544: 5) ชมุ ชนแหง่ น้ไี ดพ้ บหลกั ฐานทางโบราณคดมี ณฑปรา้ งทบ่ี า้ นหลอ่ มหรอื บา้ นลอมศรี ป้อ ลกั ษณะคอื ฐานสเ่ี หลย่ี มจตั รุ สั ขนาด 4.5 เมตร มพี ระประธานปนู ปนั้ อยใู่ นมณฑปเป็น มณฑปสเ่ี หลย่ี มทรงชะลดู การกอ่ ซุม้ ตอนหลงั คาและประตมู ลี กั ษณะสอบเขา้ ใชว้ ธิ เี รยี ง อฐิ ซอ้ นกนั ขน้ึ ไปแบบเดยี วกบั ซุม้ ทว่ี ดั กกู่ ุด คลา้ ยกบั ศลิ ปะหรภิ ุญไชย ลกั ษณะการเรยี ง อฐิ สีน้�ำหนกั ของอฐิ และขนาดเหมอื นกบั ในสมยั ทวารวดี (ภาสกร โทณะวณกิ , 2529: 26 ) ภาพมณฑปสมยั ทวารวดีที่มีเรียงอิฐเจดียล์ กั ษณะคล้ายกบั เจดียก์ ่กู ดุ สมยั หริภญุ ไชย
ถอดรหสั ความงาม 3 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง ก่อนสมยั พทุ ธศตวรรษที่ 19 ก่อนสมยั พุทธศตวรรษท่ี 19 พบว่ามชี ุมชนเกดิ ขน้ึ อยู่ก่อนแลว้ หน่วยชุนชน ขณะนนั้ มฐี านะเป็นแวน่ แควน้ และนครรฐั คอื แควน้ หรภิ ญุ ไชย แควน้ โยนก เมอื งพะเยา นครเขลางค์ เมอื งแพร่ และเมอื งน่าน ซง่ึ เป็นกลุม่ เมอื งน้อยใหญ่แตล่ ะแวน่ แควน้ และ นครรฐั ดงั กลา่ ว ต่างมอี สิ ระต่อกนั การกำ� เนิดอาณาจกั รลา้ นนา เป็นการรวบรวมแควน้ และนครรฐั เขา้ ดว้ ยกนั แลว้ สถาปนาเมอื งเชยี งใหมเ่ ป็นศนู ยอ์ ำ� นาจรฐั (สรสั วดี ออ๋ งสกลุ , 2544: 30) สมยั หริภญุ ไชย ลำ� ปางในสมยั หรภิ ุญไชย มพี ระนางจามเทวเี ป็นกษตั รยิ ์ ทม่ี าจากวฒั นธรรม ภาคกลาง (ละโว)้ สรา้ งเมอื งหรภิ ุญไชยในราวพทุ ธศตวรรษท่ี 14 มโี อรสแฝด 2 องค์ คอื เจา้ มหนั ตยศครองเมอื งหรภิ ุญไชยและเจา้ อนนั ตยศครองเมอื งเขลางนคร แสดงถงึ ความเป็นเมอื งพเ่ี มอื งน้องกนั (สรสั วดี อ๋องสกุล, 2544: 54) เมอื งลำ� ปางอกี มอี กี ชอ่ื วา่ “เขลางนคร” มลี กั ษณะเป็นนครรฐั เชน่ เดยี วกบั หรภิ ญุ ไชย แพร่ และพะเยา (สรสั วดี ออ๋ ง สกุล, 2544: 73) ตำ� นานพระธาตุลำ� ปางหลวงไดก้ ลา่ วการเสดจ็ มาของ พระนางจามเทวี ทำ� ใหล้ กั ษณะ ของพระพทุ ธศาสนาของอาณาจกั รหรภิ ุญไชยและเมอื งเขลางคเ์ ม่อ่ื พทุ ธ ศตวรรษท่ี 13 – 18 เป็นพระพทุ ธศาสนาแบบเถรวาท ทอ่ี าศยั คำ� สอนจากพระไตรปิฎก บาลเี ป็นหลกั ยกยอ่ งการปฏบิ ตั ธิ รรมทล่ี กึ ซง้ึ ของพระภกิ ษุสงฆ์ ความเชอ่ื คตกิ ารสวด พระปรติ ร คตกิ ารบชู าตน้ ศรมี หาโพธิ ์(พรรณนิภา ปิณฑวณชิ , 2546: 40)คตคิ วามเชอ่ื เรอ่ื งพระธาตุ พระพทุ ธบาท และพระศรมี หาโพธเ์ิ ปรยี บเสมอื นตวั แทนของพระพทุ ธเจา้ แมพ้ ระองคจ์ ะเสดจ็ ดบั ขนั ธป์ รนิ ิพพานไปแลว้ สง่ิ เหล่าน้ียงั แทนสญั ลกั ษณ์แห่งความ บรสิ ทุ ธขิ ์ องพระองคท์ ย่ี งั ดำ� รงอยใู่ หเ้ คารพบชู า (สภุ าพรรณ ณ บางชา้ ง, 2536: 47) สมยั ล้านนา สมยั สร้างอาณาจกั รล้านนาราชวงศ์มงั ราย (พ.ศ.1839-1898) ในสมยั น้ีมี อาณาจกั รสโุ ขทยั และอยธุ ยาเกดิ ขน้ึ พรอ้ มกนั โดยมพี ญามงั รายเป็นผรู้ วบรวมอ�ำนาจ ตงั้ เมอื งเขลางค์เป็นเมอื งหน่ึงของอาณาจกั รล้านนาศูนย์กลางอยู่ท่ีเชียงรายสมยั อาณาจกั รลา้ นนารงุ่ เรอื ง (พ.ศ.1898-2068) มศี นู ยก์ ลางอยทู่ เ่ี ชยี งใหม่ สมยั เสอ่ื มและ
ถอดรหสั ความงาม 4 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง อาณาจกั รสลาย (พ.ศ.2068-2101) เพราะความออ่ นแอของสถาบนั กษตั รยิ ์ ขนุ นางมี อำ� นาจมากขน้ึ และ เกดิ ความขดั แยง้ กนั ปญั หาสภาพเศรษฐกจิ และการรกุ รานจาก รฐั ใกลเ้ คยี งในสมยั ลา้ นนาอยภู่ ายใตก้ ารปกครองของพมา่ ในสมยั น้ีเองทห่ี นานทพิ ย์ ชา้ งเป็นผนู้ �ำในการตอ่ สู้ ขบั ไลก่ องทพั ทา้ วมหายศจากลำ� พนู ทต่ี งั้ มนั่ อยทู่ บ่ี รเิ วณ วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง หนานทพิ ยช์ า้ งจงึ ไดเ้ ป็นเจา้ เมอื งลำ� ปาง (พรรณนิภา ปิณฑวณชิ , 2546: 27-28) สมยั อย่ภู ายใต้การปกครองของพม่า ความเสอ่ื มของอาณาจกั รลา้ นนาเกดิ ขน้ึ ในปลายสมยั ราชวงศม์ งั รายตงั้ แต่ พระญาเกศเชษฐราชขน้ึ ครองราชยใ์ น พ.ศ. 2069 จนกระทงั่ ตกเป็นเมอื งขน้ึ ของพมา่ ในปี พ.ศ. 2101 สมยั เสอ่ื มน้ีประมาณ 32 ปี ซง่ึ ปจั จยั เสอ่ื ม ของอาณาจกั รลา้ นนา มที งั้ ปจั จยั ภายในทเ่ี ป็นเงอ่ื นไขใหอ้ าณาจกั รอ่อนแอและเสอ่ื มสลาย แบ่งเป็นปญั หา การเมอื งและปญั หาเศรษฐกจิ และปจั จยั ภายนอกจากการถกู รกุ รานจากรฐั ใกลเ้ คยี ง ทำ� ใหอ้ าณาจกั รลา้ นนาซง่ึ ออ่ นแออยแู่ ลว้ เสอ่ื มสลายเรว็ ขน้ึ (พรรณนิภา ปิณฑวณชิ , 2546: 31-32) สมยั เป็นประเทศราชของสยาม ลำ� ปางในสมยั ลา้ นนาเป็นประเทศราชของสยามในรชั กาลท่ี 5 ชอ่ื นามของสกลุ เจา้ แหง่ ลำ� ปาง ไดก้ ลายเป็นตำ� แหน่งเจา้ ผคู้ รองนครไป ในสมยั แบง่ เขตการปกครอง เป็นแควน้ แขวงฝงั่ เกา่ เรยี กวา่ แขวงเวยี งเหนอื ฝงั่ เมอื งใหม่ เรยี กวา่ แขวงนครลำ� ปาง ตอ่ มา พ.ศ. 2447 ไดป้ ระกาศยบุ แขวงเวยี งเหนอื และแขวงนครลำ� ปางรวมกนั ขน้ึ กบั เคา้ สนามหลวงนครลำ� ปาง และใน พ.ศ.2459 ไดเ้ ปลย่ี นเป็นจงั หวดั ลำ� ปาง (ศกั ดิ ์ รตั นชยั , 2516: 67-68) พระบาทสมเดจ็ พระจลุ จอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั รชั กาลท่ี 5 มกี ารปรบั เปลย่ี น โครงสรา้ งทางการปกครอง ซง่ึ ไดร้ บั อทิ ธพิ ลจากตะวนั ตก จงึ เปลย่ี นชอ่ื จากเมอื งเขลาง ค์ มาเป็นจงั หวดั ลำ� ปาง ศาสตราจารย์ ร.ต.ท.แสง มนวทิ รู ใหค้ วามเหน็ วา่ เป็นภาษา มอญมาจาก ลาง หรอื ขลาง แปลวา่ ขนั หรอื โอ ตามลกั ษณะของเมอื งทม่ี ลี กั ษณะ เป็นแอง่ กระทะ (สรสั วดี อ๋องสกุล, 2544: 74-75) ดงั นนั้ ลำ� ปางในสมยั การปกครอง แบบมณฑลเทศาภบิ าลเพอ่ื การรวมอำ� นาจเขา้ สศู่ นู ยก์ ลาง มกี ารปฏริ ปู การเมอื ง การ ปกครอง การศกึ ษาและศาสนาจงึ ทำ� ใหเ้ กดิ การเปลย่ี นแปลงทงั้ ระบบ
ถอดรหสั ความงาม 5 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง ศิลปะ ศลิ ปะวดั พระธาตุลำ� ปางหลวง หมายถงึ สถาปตั ยกรรม จติ รกรรม ปฏมิ ากรรม ประตมิ ากรรม และพทุ ธศลิ ป์ทพ่ี บอยใู่ นพน้ื ทช่ี มุ ชนวดั พระธาตุลำ� ปางหลวง ดงั น้ี มรดกทางวฒั นธรรม (Cultural Heritage) เป็นค�ำนิยามท่ถี ูกก�ำหนดจาก ยูเนสโก หรือองค์การการศึกษาวิทยาศาสตร์และวฒั นธรรมแห่งสหประชาชาติ แบง่ ตามลกั ษณะทป่ี รากฏหรอื ทม่ี อี ยู่ (existence) ได้ 2 ประเภท คอื 1. มรดกทางวฒั นธรรมทจ่ี บั ตอ้ งได้ ไดแ้ ก่ โบราณวตั ถุ โบราณสถาน แหลง่ โบราณคดี งานจติ รกรรม เป็นตน้ 2. มรดกทางวฒั นธรรมทจ่ี บั ตอ้ งไมไ่ ด้ ไดแ้ ก่ ภาษา ศลิ ปะการแสดง งานชา่ ง ฝีมอื ดงั้ เดมิ เป็นตน้ แมว้ า่ มรดกทางวฒั นธรรมทงั้ 2 ประเภทจะมคี วามหมายหลากหลาย แตก่ ไ็ ม่ สามารถแบง่ แยกเน้ือหางานทงั้ 2 ประเภทไดช้ ดั เจนเดด็ ขาด เพราะมคี วามเกย่ี วขอ้ ง สมั พนั ธซ์ ง่ึ กนั และกนั โดยเฉพาะงานจบั ตอ้ งได้ ซง่ึ เป็นรปู ธรรมมพี น้ื ฐานมาจากแนว ความคดิ ความเชอ่ื และทกั ษะ เทคนิคอนั เป็นลกั ษณะนามธรรมของงานจบั ตอ้ งไมไ่ ด้ ทำ� ใหเ้ กดิ ความหลากหลายและโดดเดน่ น�ำไปสกู่ ารคมุ้ ครองและอนุรกั ษ(์ ชาครติ สทิ ธิ ฤทธ,ิ ์ 2559: 141) มรดกทางวฒั นธรรมทจ่ี บั ต้องไดข้ องชุมชนวดั พระธาตุล�ำปางหลวง ไดแ้ ก่ สถาปตั ยกรรม ปฏมิ ากรรม ประตมิ ากรรม จติ รกรรม พพิ ธิ ภณั ฑว์ ดั พระธาตุลำ� ปาง หลวง พทุ ธศลิ ป์ สตั ตภณั ฑ์ ธรรมาสน์ หบี ธรรม อาสนา ตุง และรอยพระพทุ ธบาท มรดกทางวฒั นธรรมทจ่ี บั ตอ้ งไมไ่ ดข้ องชมุ ชนวดั พระธาตุลำ� ปางหลวง ไดแ้ ก่ ตำ� นาน จารกึ และประเพณปี ระจำ� เดอื นตา่ งๆ ในรอบ 1 ปีของชมุ ชน การน�ำเร่ืองการท่องเท่ียว เซรามิก อาหาร ท่ีพกั และการเดินทางเพ่ือ เช่ือมโยงข้อมูลให้กับผู้ท่ีมาเยือนยงั วดั แห่งน้ี มีความเข้าใจในคุณค่าทางมรดก วฒั นธรรม ซ่ึงเป็นสถานท่ี ท่ีสามารถเช่ือมโยงความเป็นมาในประวตั ิศาสตร์ใน แต่ละยุคสมยั รวมถงึ ศลิ ปะท่เี ป็นผลสะท้อนของความเจรญิ งดงามทางวฒั นธรรม
ถอดรหสั ความงาม 6 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง
ถอดรหสั ความงาม 7 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง สถาปัตยกรรม
ถอดรหสั ความงาม 8 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง
ถอดรหสั ความงาม 9 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง พระธาตเุ จดีย์ ภายในวดั พระธาตลุ ำ� ปางหลวง กอ่ ดว้ ยอฐิ ถอื ปนู เจดยี อ์ งค์ น้ีตามตำ� นานไดก้ ลา่ วถงึ การสรา้ งหลายครงั้ หลายคราว ลกั ษณะขององคเ์ จดยี ป์ ระกอบ ดว้ ย ลกั ษณะสำ� คญั คอื เป็นเจดยี ท์ รงกลมแบบลานนาไทยประกอบดว้ ยฐานบวั ลกู แกว้ สเ่ี หลย่ี มยอ่ เกจ็ ตงั้ บนฐานเขยี งสเ่ี หลย่ี มจตั ุรสั มฐี านเขยี งกลมซอ้ นกนั 3 ชนั้ จากใหญ่ ไปหาเลก็ ตงั้ บนฐานบวั ลกู แกว้ ถดั ขน้ึ ไปเป็นมาลยั เถา 3 วง จากนนั้ กถ็ งึ องคร์ ะฆงั เลก็ ปลายผายออกคาดกลาง ดว้ ยลายประจำ� ยามอกตรงกลาง บลั ลงั กก์ ลม ปลอ้ งไฉนและ สว่ นยอดเป็นฉตั ร องคเ์ จดยี ห์ มุ้ ดว้ ยแผน่ ทองจงั โกทงั้ หมดตงั้ แตฐ่ านถงึ ยอด การหมุ้ พระ เจดยี ด์ ว้ ยแผน่ ทองและการยกฉตั รไวต้ ามมุมพระเจดยี ถ์ อื ว่าเป็นคตจิ ากพุกามซง่ึ แพร่ อทิ ธพิ ลมาถงึ ดนิ แดนแถบน้ี (ภาสกร โทณะวณกิ , 2529: 24) การศกึ ษาเอกสารต่างๆ สอดคลอ้ งกบั หลกั ฐานทป่ี รากฏโดย ศกึ ษาถงึ รปู ทรง และรปู แบบของเจดยี ว์ ดั พระธาตุลำ� ปางหลวง ทม่ี ลี กั ษณะเป็นเจดยี ท์ รงกลมแบบ ลาน นาไทยซง่ึ ลกั ษณะทส่ี ำ� คญั ของเจดยี ท์ รงกลมแบบลานนาไทย คอื เจดยี ท์ ม่ี สี ว่ นสำ� คญั อนั เป็นจดุ เดน่ มลี กั ษณะเป็นทรงกลม คอื สว่ นองคร์ ะฆงั สำ� คญั ทส่ี ดุ เจดยี ท์ รงกลมของ ลานนาจะมสี ว่ นประกอบทส่ี ำ� คญั คอื สว่ นฐาน ทำ� เป็นบวั ลกู แกว้ ยอ่ เกจ็ ถดั ไปเป็นสว่ น มาลยั เถา ซง่ึ มแี ผนผงั เป็นวงกลม ถดั มาจากมาลยั เถาเป็นทต่ี งั้ ขององคร์ ะฆงั กลม องค์ ระฆงั น้ี จะมสี ดั สว่ นทส่ี มั พนั ธก์ นั กบั สว่ นประกอบทเ่ี ป็นมาลยั เถาขา้ งลา่ ง กลา่ วคอื ถา้ เน้นสว่ นมาลยั เถาในปรมิ าณทม่ี าก องคร์ ะฆงั จะเลก็ แตถ่ า้ ไมเ่ น้นมาลยั เถาองคร์ ะฆงั จะเดน่ ถดั จากองคร์ ะฆงั ขน้ึ ไปจะเป็นสว่ นยอด ซง่ึ ประกอบดว้ ย บลั ลงั ก์ ปลอ้ งไฉน ปลยี อด และฉตั ร (ภาสกร โทณวณกิ , 2529: 25-27) เจดยี ์ พระบรมธาตุลำ� ปางหลวงเป็นพระธาตุเจดยี ป์ ระธานในเขตพทุ ธาวาส รปู ระฆงั ทรงกลม ฐานสเ่ี หลย่ี มยอ่ เกจ็ ลอ้ มรอบดว้ ยรวั้ 2 ชนั้ ภายในองคเ์ จดยี ต์ าม ตำ� นานไดบ้ รรจเุ สน้ พระเกศา พระอฐั ธาตุ พระนลาตขา้ งขวา และพระอฐั ธาตุพระสอ (พรรณนิภา ปิณฑวณชิ , 2546: 98-100)
ถอดรหสั ความงาม 10 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง
ถอดรหสั ความงาม 11 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง ซุ้มโขง อยบู่ รเิ วณประตทู างขน้ึ ดา้ นทศิ ตะวนั ออก ประตซู ุม้ โขงอยบู่ รเิ วณทางขน้ึ ดา้ นทศิ ตะวนั ออกเป็นประตผู า่ นเขา้ สภู่ ายในเขตพทุ ธาวาส ทใ่ี หค้ วามสำ� คญั มากวา่ ประตู ทางเขา้ สว่ นอน่ื เหน็ ไดจ้ าก การประดบั ตกแตง่ ทงั้ สถาปตั ยกรรม และประตมิ ากรรม ซุม้ โขงแบง่ เป็น 3 สว่ น คอื สว่ นฐาน สว่ นอาคาร และสว่ นยอด (พรรณนิภา ปิณฑวณชิ , 2546: 81) ซุม้ ประตโู ขง เป็นสถาปตั ยกรรม ทท่ี ำ� หน้าทเ่ี ป็นซุม้ ประตู กำ� แพงทางเขา้ ของวดั ลกั ษณะของซุม้ ประตโู ขง มรี ปู แบบเชน่ เดยี วกบั ปราสาท มกี ารประดบั ตกแตง่ ดว้ ยลวดลายปูนปนั้ ตามส่วนต่างๆ ลกั ษณะส�ำคญั ของซุ้มประตูโขง คอื เป็นมณฑป ทรวดทรงเป็นปราสาทเครอ่ื งยอด ลดทลี ะชนั้ ผนงั ดา้ นขา้ งซุม้ ชว่ งทต่ี ่อกบั กำ� แพง สว่ น บนเป็นซุม้ โคง้ ประดบั ดว้ ยนาคทม่ี มุ ทงั้ สองขา้ ง ปลายหางขมวดยอด กระหวดั รดั เป็น เกลยี วสเู่ บอ้ื งบน สว่ นซุม้ โคง้ ขา้ งบนของทางเขา้ แบง่ เป็นสองสว่ น คอื ซุม้ โคง้ สว่ นหน้า และสว่ นหลงั ลวดลายปนู ปนั้ ทป่ี ระดบั ซุม้ สว่ นหน้า ทำ� เป็นลายพนั ธพุ์ ฤกษาโคง้ ไปตาม แนวของซุม้ ดา้ นบนของซุม้ โคง้ สว่ นหน้า ทำ� เป็นรปู หงส์ ยนื เรยี งรายกนั เป็นแถว สว่ น มมุ ของซุม้ สว่ นหน้า ทงั้ สองขา้ งทำ� เป็นรปู กนิ นร และกนิ รยี นื ขา้ งละตวั ปลายซุม้ เป็นรปู ตวั เหงา ซุม้ โคง้ สว่ นหลงั ทม่ี มุ ซุม้ ทำ� เป็นรปู มกรคายนาคหา้ เศยี ร หางนาคพนั เกย่ี วกนั เป็นมมุ แหลมอยทู่ ส่ี ว่ นยอดกง่ึ กลางซุม้ ทอดลำ� ตวั ตามแนวความโคง้ ของซุม้ แนวหลงั ของตวั นาคทำ� เป็นครบี แบบใบระกา เรยี งลดหลนั่ เป็นแถว โครงสรา้ งสว่ นลา่ ง ทำ� เป็น ยอ่ เกจ็ ทม่ี มุ และมเี สาประกอบรองรบั สว่ นซุม้ มกี ารประดบั ตกแต่งลวดลาย สว่ นทย่ี อ่ มมุ ซง่ึ ประกอบดว้ ยมมุ เหลย่ี มหลายมมุ ลวดลายประดบั เสาซุม้ และมมุ เหลย่ี มเหลา่ น้ี แบง่ เป็น 3 สว่ น ไดแ้ ก่ สว่ นบนเรยี กวา่ ลายบวั คอเสอ้ื สว่ นกลางเรยี กวา่ ประจำ� ยาม อก และสว่ นลา่ ง เรยี กวา่ บวั เชงิ ลา่ ง ลกั ษณะลวดลาย เชน่ เดยี วกบั มณฑปปราสาท คอื เป็นลายพนั ธุพ์ ฤกษา มาบรรจภุ ายในกรอบ ทม่ี เี สน้ ลวดบงั คบั อยรู่ อบนอก กรอบนอก เป็นเสน้ หยกั และคดโคง้ ลายบวั คอเสอ้ื และบวั เชงิ ลา่ ง จะหมุ้ อยทู่ ม่ี มุ ตอนบน และรา่ ง ของเสาซุม้ หรอื สว่ นมมุ โครงสรา้ งเป็นรปู กลบี บวั หรอื สามเหลย่ี ม สว่ นลายประจำ� ยาม อก โครงสรา้ ง เป็นรปู สเ่ี หลย่ี มขนมเปียกปนู ในลกั ษณะทพ่ี บั งอหมุ้ สว่ นกลางของเสา ซุม้ สว่ นหลงั คาของซุม้ โขงแตล่ ะชนั้ จะลดขนั้ ขน้ึ ไปทลี ะขนั้ ทกุ มมุ ประดบั ดว้ ยนาค ทกุ มมุ ยอ่ มมุ ทงั้ สท่ี ศิ สว่ นยอดเป็นรปู ดอกบวั ตมู (ภาสกร โทณะวณกิ , 2529: 28-30)
ถอดรหสั ความงาม 12 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง ประตทู างด้านทิศเหนือ บรเิ วณทางขน้ึ เชงิ บนั ได เป็นรปู มกร คายนาค เชน่ เดยี วกบั ทางทศิ ตะวนั ออก แตล่ กั ษณะการตกแตง่ ดว้ ยปนู ปนั้ ความละเอยี ด ลออของลวดลายน้อยกว่าเพราะมใิ ช่ประตูหลกั จงึ ถูกปิดไว้ จะเปิดทุกวนั พระและวนั ประเพณสี ำ� คญั เชน่ ประเพณยี เ่ี ป็ง ประเพณี เดอื น 4 หรอื 6 เพอ่ื ใหช้ มุ ชนศรทั ธาของ วดั พระธาตุลำ� ปางหลวงมที างเขา้ ออกในการเดนิ ทางมาทำ� กจิ กรรม
ถอดรหสั ความงาม 13 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง ประตทู างด้านทิศใต้ ภายในเขตพทุ ธาวาส กำ� แพงผนงั ดา้ นซา้ ย และขวาของประตู ฉาบดว้ ยปนู เรยี บสขี าว มชี ว่ งเสาแบง่ หอ้ งเป็นศาลาบาตรลอ้ มรอบ เขตพุทธาวาสใชส้ ำ� หรบั ประกอบศาสนกจิ และเกบ็ ของประตูทางดา้ นทศิ ใตภ้ าพน้ี อยู่ ดา้ นเขตพทุ ธาวาส กำ� แพงแกว้ ดา้ นซา้ ยและขวาของประตู กอ่ อฐิ ถอื ปนู มไิ ดฉ้ าบเรยี บ เชน่ ในเขตพทุ ธาวาส ความแตกตา่ งน้ี สรา้ งเสน่หข์ องกำ� แพงไดอ้ ยา่ งงดงาม (พรรณนภิ า ปิณฑวณชิ , 2546: 96-97 )
ถอดรหสั ความงาม 14 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง ระเบยี งคด คอื สถาปตั ยกรรมทท่ี ำ� หน้าทล่ี อ้ มเขตพทุ ธาวาส เปิดทางเขา้ ออก 3 ทาง มซี ุม้ ประตโู ขงทางทศิ ตะวนั ออก รปู ระเบยี งคดทป่ี รากฏอยใู่ นปจั จบุ นั บรู ณะเมอ่ื พ.ศ. 2507 ลกั ษณะสถาปตั ยกรรมและศลิ ปกรรม ระเบยี งคดของวดั พระธาตลุ ำ� ปางหลวง ประกอบดว้ ย กำ� แพงแกว้ และศาลาบาตร ก�ำแพงแกว้ เป็นกำ� แพงกอ่ อฐิ ถอื ปนู ทบึ ตนั มี ความหนามาก ทำ� หน้าทเ่ี ป็นผนงั ขา้ งหน่ึงของศาลาบาตร แต่มลี กั ษณะทางโครงสรา้ ง ทแ่ี ยกออกจากกนั ศาลาบาตรเป็นศาลาเปิดดา้ นหน้า หลงั โครงสรา้ งไมบ้ นเสาปนู ทค่ี ง ไดร้ บั การบรู ณะขน้ึ ภายหลงั ลกั ษณะโครงสรา้ งใชข้ อ่ื และดงั้ ในการรบั น้�ำหนกั หลงั คา กระเบอ้ื ง(พรรณนิภา ปิณฑวณชิ , 2546: 96-97)
ถอดรหสั ความงาม 15 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง วิหารหลวง เป็นวหิ ารโถงขนาดใหญ่อยทู่ างทศิ ตะวนั ออกของพระธาตุเจดยี ์ มฝี ายอ้ ยปิดลงมา บงั ระนาบดา้ นซา้ ยและขวา การลดชนั้ ของหลงั คา ดา้ นหน้า 2 ชนั้ ชนั้ หลงั 1 ชนั้ ชนั้ ละ 3 ตบั มฐี านเตย้ี เมอ่ื เทยี บกบั สดั สว่ นของอาคาร (พรรณนิภา ปิณฑ- วณชิ , 2546: 115 ) วหิ ารหลวง อยทู่ างทศิ ตะวนั ออกขององคเ์ จดยี ์ ลกั ษณะเป็นวหิ ารโถง ตวั วหิ ารจะเรยี งชนั้ ซอ้ นของชนั้ หลงั คา จากสว่ นสงู ทส่ี ดุ ลงมาหาต่ำ� สดุ ตามลำ� ดบั ภายใน อาคาร การกอ่ สรา้ งเป็นชนดิ มเี สาเรยี ง ภายในเป็นวงกลม เสาเรยี งภายในน้ี เป็นลกั ษณะ ของอาคารวหิ ารสว่ นใหญท่ างภาคเหนอื เพราะตอ้ งการความกวา้ ง โดยเสาทเ่ี รยี งภายใน น้ี จะใชร้ บั ขอ่ื ประธานและขอ่ื คดั บนแผงคอสองมภี าพจติ รกรรมฝาผนงั ภายในวหิ ารมี ซุม้ ปราสาทประดษิ ฐาน พระเจา้ ลา้ นทอง เป็นประธานของวหิ าร วหิ ารหลวงน้ไี มป่ รากฏ วา่ สรา้ งเมอ่ื ใด แต่จากศลิ าจารกึ เจา้ หมน่ื คำ� เพชร จศ.838 (พ.ศ.2019) ไดก้ ลา่ วถงึ การ สรา้ งวหิ าร และในจารกึ เจา้ หาญสที ตั จศ.858 (พ.ศ.2039) กไ็ ดก้ ลา่ วถงึ การสรา้ งวหิ าร ในวดั พระธาตุลำ� ปางหลวงเชน่ กนั อาจเป็นไปไดว้ า่ วหิ ารหลวง อาจสรา้ งขน้ึ ในชว่ งระยะ เวลาดงั กลา่ ว แตท่ ป่ี รากฏไดถ้ กู บรู ณปฏสิ งั ขรณ์ ในสมยั รตั นโกสนิ ทร์ แตก่ ค็ งรกั ษารปู แบบและคตโิ บราณไว้ (ภาสกร โทณะวณกิ , 2529: 31)
ถอดรหสั ความงาม 16 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง วิหารพระพทุ ธ วหิ ารพระพทุ ธตงั้ อยบู่ รเิ วณทศิ ใตข้ องพระธาตุเจดยี ์ เป็น วหิ ารปิดทบึ มกี ารก่อผนังลอ้ ม เปิดโล่งสว่ นมุขหน้า ปิดลอ้ มดว้ ยก�ำแพงเตย้ี ดา้ นทศิ ตะวนั ออกเป็นประตทู างเขา้ ฐานเตย้ี หลงั คามกี ารลดชนั้ หน้า 1 ชนั้ ดา้ นหลงั ชนั้ ละ 2 ตบั (พรรณนิภา ปิณฑวณชิ , 2546: 177-178) วหิ ารพระพทุ ธ อยทู่ างดา้ นใตข้ ององค์ เจดยี พ์ ระธาตุลำ� ปางหลวง สรา้ งครงั้ ใดไมป่ รากฏ แต่คงมกี ารซ่อมแซมบรู ณะเป็นระยะ เสมอมาซง่ึ คงไมเ่ ปลย่ี นไปจากรปู แบบเดมิ มากนกั หลงั คาดา้ นหน้าและดา้ นขา้ งลด 2 ชนั้ ผนงั ดา้ นขา้ งตอนบนเป็นไมต้ อนลา่ งโบกปนู ทบึ จากหลกั ฐานจารกึ อกั ษรพน้ื เมอื ง ทป่ี รากฏทเ่ี สาภายในวหิ ารพระพทุ ธ กลา่ วไวว้ า่ มกี ารซ่อมวหิ ารน้ี ใน จศ. 1164 (พ.ศ. 2345) (ภาสกร โทณะวณกิ , 2529: 31-32)
ถอดรหสั ความงาม 17 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง วิหารน�้ำแต้ม เป็นอาคารไมอ้ ยใู่ นเขตพุทธาวาสของวดั พระธาตุลำ� ปาง หลวง ตวั วหิ ารหนั หน้าไปทางทศิ ตะวนั ออก ลกั ษณะทส่ี ำ� คญั คอื เป็นวหิ ารโถงและมี คอสองทม่ี ภี าพจติ รกรรมฝาผนงั กวา้ ง 8 เมตร ยาว 20 เมตร สงู 7 เมตร หลงั คาจวั่ ลด ชนั้ มตี ุ๊กตาดนิ เผา ประดบั อยตู่ ามชว่ งตอ่ ระหวา่ งจนั ทนั และเชงิ กลอนสนั หลงั คาเป็น รปู สตั วต์ า่ งๆ หน้าบนั แบบฝาปะกน โครงสรา้ งภายในไมม่ ฝี ้าเพดาน สนั หลงั คาประดบั บราลี มเี สาไมเ้ รยี งคภู่ ายในวหิ าร 8 ตน้ วหิ ารน้�ำแตม้ สรา้ งขน้ึ ครงั้ ใด ไมป่ รากฏ แต่จาก ลกั ษณะรปู ทรงทป่ี รากฏเป็นอาคารไมท้ เ่ี ก่าทส่ี ดุ แหง่ หน่ึงในภาคเหนือ(ภาสกร โทณะ วณกิ ,2529: 31) นอกจากน้ี วหิ ารน้�ำแตม้ เป็นวหิ ารโถง กอ่ ผนงั ปิดทบึ บรเิ วณหอ้ ง สดุ ทา้ ย 3 ดา้ น ฐานเตย้ี หลงั คาคลมุ ต่ำ� สนั หลงั คาเป็นเสน้ ตรง มกี ารลดหลนั่ ของหลงั คา ดา้ นหน้า 2 ชนั้ ดา้ นหลงั 1 ชนั้ ชนั้ ละ 2 ตบั (พรรณนิภา ปิณฑวณชิ , 2546: 148-149)
ถอดรหสั ความงาม 18 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง วิหารละโว้ หรอื วหิ ารพระเจา้ ศลิ าอยทู่ างทศิ ตะวนั ตกของพระธาตุเจดยี เ์ ป็น วหิ ารโถง มผี นงั ปิดทบึ 2 หอ้ งสดุ ทา้ ย มฝี ายอ้ ยปิดทางดา้ นซา้ ยและขวา มฐี านเตย้ี ตาม รปู แบบดงั้ เดมิ ตวั อาคารใชว้ สั ดใุ หม่ หลงั คาและลวดลายแบบภาคกลาง (พรรณนิภา ปิณฑวณชิ , 2546: 203-212)
ถอดรหสั ความงาม 19 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง วิหารต้นแก้ว อยบู่ รเิ วณทางดา้ นทศิ เหนอื ของวหิ ารหลวง และดา้ นหน้า ทางทศิ ตะวนั ออกของวหิ ารน้�ำแตม้ เป็นวหิ ารโถงปิดทบึ บรเิ วณหอ้ งสดุ ทา้ ย 3 ดา้ น ฐานเตย้ี มกี ารลดชนั้ ของหลงั คา ดา้ นหน้า 2 ชนั้ ดา้ นหลงั 1 ชนั้ ชนั้ ละ 2 ตบั รปู ทรง อาคารใกลเ้ คยี งกบั วหิ ารน้�ำแตม้ หลงั จากการบรู ณะ การประดบั ของหลงั คาเป็นแบบ อุโบสถภาคกลาง (พรรณนิภา ปิณฑวณชิ , 2546: 232-236 )
ถอดรหสั ความงาม 20 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง หอพระพทุ ธบาท ฐานก่อเป็นชนั้ ทรวดทรงคลา้ ยมณฑป สรา้ งครอบ พระพทุ ธบาทตามตำ� นานกลา่ ววา่ สรา้ งในสมยั เจา้ หาญแตท่ อ้ งเจา้ เมอื งนครเขลางคใ์ น สมยั รชั กาลพระเจา้ ตโิ ลกราชของเชยี งใหม่ ไดม้ บี รู ณะซ่อมแซมบรู ณะหอพระพทุ ธบาท แหง่ น้ี (ภาสกร โทณะวณกิ , 2529: 36) นอกจากน้ีพรรณนิภา ปิณฑวณชิ (2546: 248) กลา่ ววา่ หอพระพทุ ธบาทอยบู่ รเิ วณทางทศิ ใตข้ องวหิ ารพระเจา้ ศลิ า ลกั ษณะของอาคาร เป็นหอสงู ผนงั ปิดทบึ ทงั้ 4 ดา้ น ก่ออฐิ ถอื ปนู มปี ระตทู างเขา้ ดา้ นทศิ ตะวนั ออก ภายใน ประดษิ ฐานรอยพระพทุ ธบาทกลางหอ้ ง
ถอดรหสั ความงาม 21 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง อโุ บสถ มคี วามสำ� คญั เป็นรองวหิ าร เพราะแต่เดมิ ใชก้ ารผกู แพขนานลงไปใน น้�ำเพอ่ื ทำ� พธิ อี ุปสมบท โดยใชน้ ้�ำกำ� หนดเขตสมี า เมอ่ื มกี ารเปลย่ี นแปลงการปกครอง ของคณะสงฆ์ จงึ ใหค้ วามสำ� คญั กบั อุโบสถในวฒั นธรรมลา้ นนา ดงั นนั้ เมอ่ื เปรยี บเทยี บ กบั วหิ ารหลวงจงึ มขี นาดเลก็ กวา่ เพราะเป็นอทิ ธพิ ลทไ่ี ดร้ บั มาในภายหลงั (พรรณนิภา ปิณฑวณชิ , 2546: 257-258 )
ถอดรหสั ความงาม 22 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง มณฑปพระเจ้าล้านทอง ภายในวหิ ารหลวงหรอื มณฑป ปราสาท มลี กั ษณะสำ� คญั คอื แผนผงั เป็นรปู สเ่ี หลย่ี ม ยอ่ เกจ็ ดา้ นละ 4 มมุ และแต่ละ ดา้ น ทำ� เป็นซมุ้ หรอื มขุ ยน่ื ออกมา ฐานเป็นบวั ลกู แกว้ อกไก่ และฐานเขยี งเรยี บ รองรบั สว่ นเรอื นธาตุสเ่ี หลย่ี มยอ่ เกจ็ ทม่ี มุ ทงั้ ส่ี แต่ละดา้ นของเรอื นธาตุ ทำ� เป็นซุม้ ประกอบ เป็นซุม้ จระน�ำ และมดี า้ นหน่ึง คอื ดา้ นทห่ี นั ไปทางทศิ ตะวนั ออก เป็นซุม้ แบบเจาะลกึ เขา้ ไปในเรอื นธาตุ เพอ่ื ประดษิ ฐานพระพทุ ธรปู พระเจา้ ลา้ นทอง การประดบั ตกแตง่ ลวดลายสว่ นซุม้ มลี ายประดบั ทส่ี ว่ นโคง้ ตอนบนของซุม้ ซง่ึ แบง่ เป็น 2 สว่ น คอื ซุม้ โคง้ ดา้ นสว่ นหน้าและสว่ นหลงั ซง่ึ ซอ้ นกนั อยใู่ นแต่ละดา้ น สว่ นโคง้ ตอนบนของซุม้ ดา้ นขา้ ง สว่ นหน้านนั้ มมุ ซุม้ ทำ� เป็นรปู หงส์ ยนื หนั หน้าเขา้ หากนั ขา้ งละตวั สว่ นหาง ของหงสท์ ำ� เป็นชอ่ กระหนก แบบมว้ นอยใู่ นกรอบ สว่ นบนของซมุ้ ทำ� เป็นหงสย์ นื เรยี ง แถวตลอดแนวความโคง้ ซุม้ สว่ นหลงั คาทำ� เป็นมกรคายนาค เป็นนาค 5 เศยี ร หาง ของนาคพนั เกย่ี วกนั เป็นมมุ แหลม อยทู่ ส่ี ว่ นยอดกง่ึ กลางซมุ้ ทอดลำ� ตวั ลงมาตามแนว ความโคง้ ดา้ นใตส้ ว่ นโคง้ ของซุม้ ท�ำเป็นหน้าบนั แบบครง่ึ วงกลม ประดบั ลายพนั ธุ์ พฤกษา การประดบั ตกแตง่ สว่ นโคง้ ตอนบนของซุม้ เรอื นธาตุบรเิ วณมมุ ทำ� เป็นยอ่ เกจ็ ประดบั อยภู่ ายในกรอบรปู กลบี บวั สว่ นบนเรยี กวา่ บวั คอเสอ้ื สว่ นลา่ งของเรอื น ธาตุ เรยี กวา่ บวั เชงิ ลา่ ง และประจำ� ยามอกตรงกลาง เหนือเรอื นธาตุเป็นสว่ นหลงั คา เป็นสว่ นโคง้ แบบบวั ถลา ซอ้ นขนั้ ลดหลนั่ กนั ขน้ึ ไป เจด็ ชนั้ ในรปู ทรงมณฑป ทท่ี กุ มมุ ประดบั ดว้ ยนาคทุกยอ่ มมุ ในสว่ นตรงกลางของแต่ละดา้ นจะทำ� เป็นซุม้ บญั ชรเลก็ ๆ ยอดบวั ตมู ประดบั อยใู่ นแตล่ ะชนั้ นลดหลนั่ กนั ไป สว่ นยอดเป็นรปู ดอกบวั ตมู (ภาสกร โทณะวณกิ , 2529: 26-27)
ถอดรหสั ความงาม 23 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง หอเดง็ หรือหอระฆงั อยทู่ างดา้ นทศิ ใตข้ องวหิ ารใกลก้ บั ตน้ ขะจาว ลกั ษณะของหอเดง็ เป็นอาคารโถงโลง่ แบบพน้ื เมอื งลา้ นนา ฐานเตย้ี ก่ออฐิ ถอื ปนู มเี สา 4 ตน้ กำ� แพงเตย้ี ลอ้ มรอบเป็นทางเขา้ ดา้ นทศิ ตะวนั ตก หลงั คาเป็นทรงจวั่ ชายคาเป็น ไมฉ้ ลุ (พรรณนิภา ปิณฑวณชิ , 2546: 276)
ถอดรหสั ความงาม 24 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง หอไตร หรอื หอพระธรรม ยกฐานสงู ลกั ษณะตวั อาคาร ผายออกเป็นหอธรรมลา้ นนาทเ่ี ก่าทส่ี ดุ สรา้ งขน้ึ ใน พ.ศ. 2067 (สรุ พล ดำ� รหิ ก์ ุล, 2558)
ถอดรหสั ความงาม 25 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง กฏุ ิพระเจ้าแก้วดอนเต้า อย่ภู ายนอกเขตพุทธาวาสหรอื ใน เขตสงั ฆาวาสเป็นอาคารไม้ ภายในประดษิ ฐานพระเจา้ แกว้ ดอนเตา้ อยใู่ กลก้ บั หอไตร หลงั คามชี นั้ ลดหลนั่ ดา้ นหน้า 2 ชนั้
ถอดรหสั ความงาม 26 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง หอสรงน้�ำพระ เป็นสถานทส่ี ำ� หรบั สรงน้�ำพระในประเพณปี ีใหมเ่ มอื ง หรอื ประเพณเี ดอื น 7 ซง่ึ ตรงกบั วนั สงกรานตข์ องไทย
ถอดรหสั ความงาม 27 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง บอ่ น้�ำเลี้ยง เป็นบอ่ น้�ำทพิ ยห์ รอื บอ่ น้�ำศกั ดสิ์ ทิ ธิ ตามตำ� นานของเจา้ แม่ จามเทวี
ถอดรหสั ความงาม 28 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง ผงั เมอื งของชมุ ชนโบราณเวยี งพระธาตุลำ� ปางหลวง (ภาสกร โทณะวณกิ , 2529) เปรยี บเทยี บกบั ผงั เมอื งของชมุ ชนวดั พระธาตุลำ� ปางหลวง (สำ� นกั งานโยธาธกิ ารและผงั เมอื ง, 2560) ผงั เมอื ง จากภาพทำ� ใหเ้ หน็ บรเิ วณชุมชนโบราณทอ่ี ยใู่ นเทศบาลลำ� ปาง หลวง มอี าณาเขตความยาวโดยประมาณ 700 เมตร ความกวา้ งประมาณ 300 เมตร เป็นเมอื งรปู สเ่ี หลย่ี มผนื ผา้ มมุ มน (ภาสกร โทณะวณกิ , 2529: 17) หลกั ฐานทางโบราณ สถานและโบราณวตั ถุของชมุ ชนวดั พระธาตุลำ� ปางหลวง จากการสำ� รวจเชงิ พน้ื ทพ่ี บวา่ รอ่ งรอยโบราณสถานสว่ นใหญ่ถูกทำ� ลายไปเกอื บหมดแต่เป็นทน่ี ่าสงั เกตวา่ บรเิ วณท่ี เคยเป็นโบราณสถานมากอ่ นจะพบตน้ ไมใ้ หญ่ ถงึ แมบ้ รเิ วณนนั้ จะไมเ่ หลอื ซากหากนบั อายตุ น้ ไมแ้ ลว้ เมอ่ื เปรยี บเทยี บกบั ขนาดของตน้ ไมแ้ ละแผนทข่ี องเมอื งโบราณน่าจะอยู่ บรเิ วณนนั้ จรงิ คนในชุมชนโดยเฉพาะผสู้ งู อายไุ ดเ้ ล่าถงึ ความเปลย่ี นแปลงในหมบู่ า้ น จากทเ่ี รมิ่ มไี ฟฟ้า การทำ� ถนนมคี วามเจรญิ บา้ นเรอื นมกี ารขยบั ขยายเพม่ิ มากขน้ึ ในชว่ ง 20 ปีผา่ นมา ไดก้ ลา่ วถงึ โบราณสถาน แตเ่ พยี งบรเิ วณวดั ทอ่ี ยทู่ างดา้ นทศิ เหนือของวดั พระธาตุลำ� ปางหลวง เคยเป็นบรเิ วณวดั อกี วดั (ยา้ ย ขตั ตนิ นท,์ 2560) และ รอ่ งรอย โบราณสถานบรเิ วณหน้าวดั ทศิ ตะวนั ออกกพ็ บตน้ ไมใ้ หญ่แสดงตำ� แหน่งซง่ึ คาดวา่ น่าจะ อยบู่ รเิ วณนนั้ เชน่ กนั
ถอดรหสั ความงาม 29 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง ประตหู นองงู ประตดู อกไม้
ถอดรหสั ความงาม 30 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง ลกั ษณะของคูน้�ำคนั ดนิ รอบชุมชนเวยี งโบราณเดมิ ส�ำรวจเม่อื พ.ศ. 2561 ประชาชนโดยสว่ นใหญ่ไมท่ ราบวา่ เป็น คนู ้�ำคนั ดนิ ของเวยี งโบราณ ทำ� ใหถ้ กู ทำ� ลายไป เกอื บหมดเหลอื คนู ้�ำทางฝงั่ ทศิ เหนือ และทศิ ใตเ้ พยี งบางสว่ น
ถอดรหสั ความงาม 31 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง จากการ สำ� รวจเมอ่ื พ.ศ. 2561 ลกั ษณะของซากโบราณและอดตี ซากโบราณ โดยสว่ นใหญ่ถกู ปลอ่ ยใหท้ ง้ิ รา้ งตามกาลเวลา
ถอดรหสั ความงาม 32 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง
ถอดรหสั ความงาม 33 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง ปฏิมากรรม
ถอดรหสั ความงาม 34 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง พระเจ้าล้านทองในวิหารหลวง ประดษิ ฐานในมณฑปปราสาท พระเจา้ ลา้ นทอง คอื ซุม้ ทรงยอดมณฑป ทใ่ี ชป้ ระดษิ ฐานพระเจา้ ลา้ นทอง พระพทุ ธ รปู ประธานในวหิ ารหลวง หรอื เรยี กวา่ โขงพระเจา้ การทเ่ี รยี กมณฑปเพอ่ื ไมใ่ หซ้ ้ำ� กบั ซุม้ ประตโู ขง สนั นิษฐานวา่ น่าจะสรา้ ง ในปี พ.ศ. 2106 พรอ้ มกบั การหลอ่ พระเจา้ ลา้ น ทอง (พรรณนิภา ปิณฑวณชิ , 2546: 121)
ถอดรหสั ความงาม 35 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง พระพทุ ธรปู ปางมารวิชยั ภายในวิหารพระพทุ ธ รปู แบบ ศลิ ปะเชยี งแสนใตผ้ สมกบั แบบสโุ ขทยั ไดส้ ดั สว่ นสวยงาม มขี นาดใหญ่ทส่ี ดุ ในวดั หน้า ตกั กวา้ ง 2 วา 2 ศอก 1 คบื สงู 2 วา 2 ศอก 1 คบื ประดษิ ฐานอยบู่ นฐานชกุ ชขี นาด ใหญ่ บรเิ วณหอ้ งท่ี 4 มกี ารตกแตง่ ลวดลายภายในวหิ าร (พรรณนภิ า ปิณฑวณชิ , 2546: 177-178)
ถอดรหสั ความงาม 36 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง พระพทุ ธรปู ปางมารวิชยั ภายในวิหารน้�ำแต้ม เป็นพระพทุ ธรปู สมั ฤทธิ์ปางมารวชิ ยั ดา้ นหลงั เป็นจติ รกรรมตน้ ศรมี หาโพธิ์ตอนตรสั รอู้ นุตตรสมั มาสมั โพธญิ าณเป็นพระพทุ ธเจา้ อยา่ งสมบรู ณ์ (พรรณนิภา ปิณฑวณชิ , 2546: 149-152)
ถอดรหสั ความงาม 37 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง พระพทุ ธรปู นาคปรกภายในวิหารพระเจ้าศิลา สมยั ลพบุรี หรอื ละโว้ อยภู่ ายในมณฑปทไ่ี ดร้ บั การซ่อมแซมแลว้ ตามตำ� นานกลา่ ววา่ พระพทุ ธรปู องคน์ ้ี พระนางจามเทวี น�ำมาจากละโว้ เสาวหิ ารแตเ่ ดมิ ตกแต่งดว้ ยลายลงรกั ปิดทอง ปจั จบุ นั เป็นเสาปนู สเ่ี หลย่ี มยอ่ มมุ ซง่ึ ไดร้ บั อทิ ธพิ ลแบบภาคกลาง (พรรณนิภา ปิณฑ วณชิ , 2546: 203-212)
ถอดรหสั ความงาม 38 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง พระพุทธรปู ปางมารวิชยั และ พระปางไสยาสน์ภายในวิหารต้นแก้ว ประดษิ ฐานพระประธานปางมารวชิ ยั และพระปางไสยาสน์ซง่ึ ยา้ ยจากวหิ ารพระพุทธ เสาภายในวหิ ารเป็นเสาไมก้ ลมทาสดี ำ� เชงิ เสาทาสแี ดง เพดานทาสเี หมอื นฝ้าเพดาน วหิ ารพระเจา้ ศลิ า (พรรณนิภา ปิณฑวณชิ , 2546: 232-236)
ถอดรหสั ความงาม 39 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง พระเจ้าทนั ใจภายในวิหารหลวง ดา้ นหลงั คนั ธกุฎี เป็นแทน่ ประดษิ ฐานพระพทุ ธ รปู หลายองค์ หน่งึ ในพระพทุ ธรปู เหลา่ นนั้ ทป่ี ระชาชนเคารพบชู ามาก คอื พระเจา้ ทนั ใจ ชาวลา้ นนาจะเรยี กพระพุทธรปู ใดๆ ว่าพระเจา้ ทนั ใจ กต็ ่อเม่อื พระพุทธรปู สรา้ งเสรจ็ ภายในหน่ึงวนั และดว้ ยนามพระพทุ ธรปู จงึ เชอ่ื กนั วา่ เมอ่ื ขอพรสง่ิ ใด จากพระเจา้ ทนั ใจ กจ็ ะไดร้ บั พรสงิ่ นนั้ ทนั ใจ
ถอดรหสั ความงาม 40 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง พระเจ้าแก้วมรกตหรือพระเจ้าแก้วดอนเต้า ที่วดั พระธาตุล�ำปางหลวง คอื พระพทุ ธรปู องคเ์ ดยี วกบั ทก่ี ลา่ ว ไวใ้ นตำ� นานพระแกว้ ดอนเตา้ ของวดั พระแกว้ ดอนเตา้ สชุ าดาราม จงั หวดั ลำ� ปาง เป็นพระพทุ ธรปู ประทบั นงั่ ขดั สมาธิ หน้าตกั กวา้ ง 6 น้ิวครง่ึ ตามอยา่ งศลิ ปะเชยี งแสน ทไ่ี ดร้ บั อทิ ธพิ ลสโุ ขทยั แลว้ มลี กั ษณะพเิ ศษ คอื พระเศยี รไมม่ ี เมด็ พระศก เพราะใชเ้ ป็นโครงสรา้ งสำ� หรบั รองรบั เครอ่ื งรวม ซง่ึ ทำ� แยกออกไปตา่ งหาก ทรงครองจวี รหม่ เฉยี ง สงั ฆาฏยิ าว เหนือพระนาภี เดมิ ประทบั นงั่ บนฐานเขยี ง ภายหลงั มกี ารสรา้ งฐานทองคำ� รองรบั (สำ� นกั ศลิ ปากรท่ี 7 น่าน, 2551:7)
ถอดรหสั ความงาม 41 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง ปฏิมากรรม พระพทุ ธรปู ไม้ประทบั ยืนภายในวิหารน�้ำแต้ม ดา้ นหลงั พระ ประธาน เป็นพระพทุ ธรปู ไมส้ มยั พทุ ธศตวรรษท่ี 21-21 (สำ� นกั ศลิ ปากรท่ี 7 น่าน, 2551: 7)
ถอดรหสั ความงาม 42 วดั พระธาตุลำ� ปางหลวง พระพทุ ธรปู ไม้แกะสลกั ทช่ี าวบา้ นน�ำมาถวายเป็นพทุ ธบชู าในชว่ งประเพณี ยเ่ี ป็งหรอื ประเพณเี ดอื นท่ี 2 ซง่ึ ตรงกบั วนั ลอยกระทงของไทย อยภู่ ายในพพิ ธิ ภณั ฑภ์ ายในเขต พระแผงไม้ ลงรกั ปิดทอง อยภู่ ายในพพิ ธิ ภณั ฑใ์ นเขตสงั ฆาวาส
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123