Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การดำเนินการทางวินัย

การดำเนินการทางวินัย

Published by naruemol.smile, 2018-10-02 08:41:17

Description: การดำเนินการทางวินัย

Keywords: การดำเนินการทางวินัย

Search

Read the Text Version

การดาเนินการทางวินยั

ลกั ษณะเฉพาะของ “วินยั ” ๑) ไม่มีอายคุ วาม ๒) ตอ้ งมีสถานภาพเป็ นขา้ ราชการ ๓) เป็ นอานาจของผบู้ งั คบั บญั ชาปัจจบุ นั

อานาจในการดาเนินการทางวินยัไดแ้ ก่ ๑. การออกคาสงั่ แต่งตง้ั กรรมการสอบสวน ๒. การออกความเห็น/ออกคาสง่ั ระหว่างสอบสวน ๓. การออกคาสงั่ ลงโทษ ๔. การรายงานไปยงั ก.จงั หวดัเป็ นอานาจของ ๑. นายกฯ (ม.๑๕) ๒. ผบ.อ่ืนท่ีนายกฯ มอบ (ม.๑๕ ว.๒)หมายเหต ุผกู้ ากบั ดแู ล (นอภ./ผวจ.) ไมม่ ีอานาจ

หนา้ ที่ของผบู้ งั คบั บญั ชาเกีย่ วกบั วินยั มี ๓ ดา้ น คือ (ขอ้ ๒๐) ๑) เสรมิ สรา้ งและพฒั นาใหม้ ีวินยั (ทาตวั เป็ นแบบอยา่ ง ใหอ้ บรม สรา้ งขวญั ฯ) ๒) ป้ องกนั ไมใ่ หก้ ระทาผิดวินยั (เอาใจใส สงั เกตการณ์ ขจดั เหต)ุ ๓) ดาเนินการทางวินยั ทนั ทีเม่ือกระทาผิดผบู้ งั คบั บญั ชาละเลยหรอื ไมส่ จุ รติ ถือว่าผิดวินยั เสียเอง

เมื่อมีบตั รสนเท่ห/์ รอ้ งเรยี น/สง่ เรอื่ ง ๑. มีบตั รสนเท่ห์ เฉพาะรายที่ระบหุ ลกั ฐาน/กรณี แวดลอ้ มชดั แจง้ /ช้ีพยานบคุ คลแน่นอน ๒. มีหนงั สอื รอ้ งเรยี นที่ปรากฏตวั ผรู้ อ้ ง หรอื ผบ.สงสยั โดยยงั ไม่มีพยานหลกั ฐานในเบ้ืองตน้ ๓. สตง./ป.ป.ช./อาเภอ/จงั หวดั หน่วยงานรฐั สง่เรอ่ื งทง้ั ๓ ขอ้ ขา้ งตน้ เป็ นกรณียงั ไมม่ ีพยานหลกั ฐานในเบ้ืองตน้ใหน้ ายกฯ สอบขอ้ เท็จจรงิ กอ่ น (ขอ้ ๒๐ วรรค ๕) ถา้ ๑) ไม่มีมลู ใหย้ ตุ ิเรอ่ื ง ๒) มีมลู ใหด้ าเนินการทางวินยั ทนั ที

วิธีการสอบขอ้ เท็จจรงิ ๑. มอบ ขรก.ผใู้ ดผหู้ น่ึงสืบสวนขอ้ เท็จจรงิ หรอื ๒. ออกคาสง่ั แต่งตงั้ กรรมการสบื สวน/สอบสวน/ ตรวจสอบขอ้ เท็จจรงิ ทงั้ ๒ กรณี ใหก้ าหนดวนั เวลาแลว้ เสรจ็ ไวด้ ว้ ยตามความยากง่ายของเรอื่ ง

เมื่อมีการ “ช้ีมลู ” ความผิดทางวินยัใหถ้ ือว่ามีพยานหลกั ฐานในเบ้ืองตน้ นายกฯ ตอ้ งดาเนินการทางวินยั ทนั ที (ขอ้ ๒๐ ว.๔) โดย ๑. ตงั้ กรรมการสอบวินยั (อยา่ สอบขอ้ เท็จจรงิ อีก) ๒. กรณีช้ีมลู แต่ไมร่ ะบตุ วั บคุ คล นายกฯ ตอ้ งมอบให้ ตรวจสอบจากเอกสาร (โครงการ) ท่ีมีอยเู่ ดิมเพื่อ ทราบตวั บคุ คลในการตง้ั กรรมการสอบวินยั

สถานโทษทางวินยั ๕ สถาน (ขอ้ ๒๑) ๑. ภาคทณั ฑ์ ๒.ตดั เงินเดือน ๓. ลดขนั้ เดือนเดือน (ลดเงินเดือน) (๑-๓ วินยั ไมร่ า้ ยแรง) ๔. ปลดออกจากรากชาร ๕. ไลอ่ อกจากราชการ (๔-๕ วินยั รา้ ยแรง)หมายเหต ุลกู จา้ ง/พนกั งานจา้ ง มีเพียง ๔ สถาน ไมม่ ีปลด

การดาเนินการทางวินยั หมายถึง การดาเนินการทง้ั หลายที่ ตอ้ งกระทาเป็ นพิธีการตามกฎหมาย ว่าดว้ ยมาตรฐานทว่ั ไป เมื่อพนกั งานสว่ นทอ้ งถิ่นกระทาผิดวินยั หรอื มีกรณีถกูกลา่ วหาว่า กระทาผิดวินยั อยา่ งรา้ ยแรง และนายกฯพิจารณาเห็นว่ากรณีมีมลู แลว้

การสบื สวนทางวินยั หมายถึง การแสวงหาขอ้ เท็จจรงิและพยานหลกั ฐานเบ้ืองตน้ เพื่อทราบรายละเอียดแหง่ กรณีในการดาเนินการทางวินยั

การสืบสวนทางวินยั มี ๒ กรณี คือ ๑. การสบื สวน กอ่ น การดาเนินการทางวินยั หมายถึง การแสวงหาขอ้ เท็จจรงิ และพยาน หลกั ฐานกอ่ นการวินิจฉยั ว่า กรณีมีมลู หรอื ไม่ ๒. การสบื สวน ที่เป็ น การดาเนินการทางวินยั หมายถึง การสืบสวนกรณีความผิดปรากฏชดั แจง้ เช่น กรณีละท้ิงหนา้ ท่ีราชการ

การสอบสวนทางวินยั หมายถึง การรวบรวมพยานหลกั ฐานและการดาเนินการทง้ั หลายอื่นเพ่ือท่ีจะทราบขอ้ เท็จจรงิ และพฤติการณต์ ่างๆ หรอื พิสจู นเ์ กีย่ วกบั เรอ่ื งท่ีกลา่ วหาใหไ้ ดค้ วามจรงิ และยตุ ิธรรม และเพ่ือท่ีจะพิจารณาว่าผถู้ กู กลา่ วหาได้ กระทาผิดวินยั จรงิ หรอื ไม่ อยา่ งไร และถา้ กระทาผิดวินยั ควรไดร้ บั โทษสถานใด

การสอบสวนทางวินยั มี ๒ กรณี๑. การสอบสวนท่ี ไมเ่ ป็ น กระบวนการตามกฎหมาย เชน่ การสอบสวนกรณีความผิดวินยั อยา่ งไม่รา้ ยแรง๒. การสอบสวนท่ี เป็ น กระบวนการตามกฎหมาย คือ การสอบสวนโดยคณะกรรมการสอบสวนท่ีแต่งตงั้ ตามกฎหมาย ซ่ึงจะสอบสวนตามหลกั เกณฑแ์ ละวิธีการ ท่ีกฎหมายกาหนด

การตง้ั เรอื่ งกลา่ วหาหมายถึง การตงั้ เรอ่ื งดาเนินการทางวินยั แก่ ขา้ ราชการ ไมว่ ่าจะเป็ นความผิดวินยั อยา่ งรา้ ยแรง หรอื อยา่ งไมร่ า้ ยแรง

เรอื่ งกลา่ วหาหมายถึง เรอื่ งราวหรอื การกระทาหรอื พฤติการณท์ งั้ หลาย ที่กลา่ วอา้ งว่าผถู้ กู กลา่ วหากระทาผิดวินยั (ไมใ่ ชฐ่ านความผดิ )

การตงั้ เรอ่ื งกลา่ วหา นายกฯ ไดส้ บื สวนขอ้ เท็จจรงิควรกระทา เมื่อ เบ้ืองตน้ เก่ียวกบั เรอื่ งท่ีกลา่ วหาแลว้ เห็นว่ากรณีมีมลู ท่ีควรดาเนินการ ทางวินยั ไมค่ วรตง้ั เรอ่ื งกลา่ วหา โดยยงั ไมส่ บื สวนใหเ้ ห็นว่ากรณีมีมลู เสียกอ่ นเพราะจะเป็ นทางเสยี หายแก่ ผนู้ นั้

การตง้ั เรอ่ื งกลา่ วหา วินยั อยา่ งไมร่ า้ ยแรง วินยั อยา่ งรา้ ยแรงบนั ทึกแจง้ ขอ้ กลา่ วหา แต่งตง้ั คณะกรรมการสอบสวนโดยมีสาระสาคญั คือ (ตามแบบ สว.๑)ตอ้ งระบชุ ื่อผถู้ กู กลา่ วหา ตอ้ งระบชุ ่ือและตาแหน่งผถู้ กู กลา่ วหาและเรอื่ งกลา่ วหา เรอื่ งกลา่ วหา ช่ือและตาแหนง่ ของ กรรมการสอบสวน

หลกั “การสอบสวน” ทางวินยั (ขอ้ ๒๒ ว.๑)มี ๓ องคป์ ระกอบ ดงั น้ี ๑. ตอ้ งแจง้ และอธิบายขอ้ กลา่ วหาใหท้ ราบ ๒. ตอ้ งสรปุ พยานหลกั ฐานที่สนบั สนนุ ขอ้ กลา่ วหาใหร้ ู้ ๓. ตอ้ งใหโ้ อกาสช้ีแจงหรอื นาสบื แกข้ อ้ กลา่ วหา (สาคญั )หมายเหต ุหากยงั ไมม่ ีการสอบสวน แต่ออกคาสง่ั ลงโทษทางวินยั กอ่ น คาสงั่ ลงโทษนนั้ ยอ่ มไมช่ อบดว้ ยกฎหมาย

ในการสอบปากคา (ขอ้ ๒๒ ว.๒) ผถู้ กู กลา่ วหามีสิทธิ ๑. นาทนายความ หรอื ๒. ที่ปรกึ ษา เขา้ ฟังคาช้ีแจงหรอื ใหป้ ากคาของตนได้

การสอบสวน ไมร่ า้ ยแรง รา้ ยแรง- สอบสวนตามวิธีท่ีนายกฯ เห็น - ตง้ั กรรมการสอบสวน (สว.๑) สมควร โดย... - แจง้ ขอ้ กลา่ วหา (สว.๒) - สรปุ พยานหลกั ฐาน (สว.๓)- แจง้ ขอ้ กลา่ วหา สรปุ พยาน - ใหโ้ อกาสช้ีแจง (สว.๔) หลกั ฐานสนบั สนนุ ขอ้ กลา่ วหา - สอบพยาน (สว.๕) และใหโ้ อกาสผถู้ กู กลา่ วหาช้ีแจง - รายงานการสอบสวน (สว.๖)- รายงานการสอบ (กรณีนายกฯ (วิธีการตามกฎหมาย) ไมส่ อบเอง)

สอบสวนตามวิธีที่นายกฯ เห็นสมควร - สอบสวนเอง (โดยนายกฯ) - มอบหมาย - สอบขอ้ เท็จจรงิ เพ่ือลงโทษวินยั อยา่ งไมร่ า้ ยแรง - ตงั้ กรรมการสอบวินยั อยา่ งไม่รา้ ยแรง

สถานะของกรรมการสอบสวน (ขอ้ ๒๓) ๑. ไม่เป็ นเจา้ พนกั งานตาม ปอ.จึงไมม่ ีอานาจตาม ป.วิ.อ. ๒. เม่ือจาเป็ นตอ้ งเรยี กพยาน อาจโยงไปอา้ งกฎหมายจดั ตง้ั (อบจ.ม.๔๔/เทศบาล ม.๔๘ เอกวีสติ/พทั ยา ม.๖๑/อบต.ม.๖๕หนา้ ที่ของกรรมการสอบสวน (ขอ้ ๒๓) ๑. เรยี กสว่ นราชการ หน่วยงานเอกชน ช้ีแจง สง่ เอกสาร หรอื สง่ บคุ คลใหม้ าช้ีแจงในเรอ่ื งท่ีสอบสวน ๒. เรยี กผถู้ กู กลา่ วหา หรอื บคุ คลใด ช้ีแจง สง่ เอกสาร หลกั ฐานในเรอ่ื งที่สอบสวน

เงื่อนไขการดาเนินการทางวินยัผทู้ ่ีออกจากราชการไปแลว้ (ขอ้ ๒๔) ๑. ถกู กลา่ วหาไวก้ อ่ นออก ว่ากระทาผิดวินยั อยา่ งรา้ ยแรง ๑) เป็ นหนงั สอื ๒) ต่อ ผบ.ของผนู้ น้ั หรอื ผมู้ ีหนา้ ท่ีสืบสวนสอบสวน หรอื ตรวจสอบตามกฎหมาย หรอื ผบ.กลา่ วหาเป็ น หนงั สอื เอง หรอื ถกู ฟ้ อง/ตอ้ งหาคดีอาญา (เวน้ ประมาท /ลหโุ ทษ) ๒.ใหน้ ายกฯ ดาเนินการทางวินยั ไดต้ ่อไปเสมือนยงั ไม่ออก (เวน้ แต่ออกเพราะตาย) ๓. หากสอบเสรจ็ จะลงโทษเป็ นวินยั ไม่รา้ ยแรง ก็ใหง้ ดเสีย

การดาเนินการระหว่างสอบสวน (ขอ้ ๒๕) ๑. ถกู ตงั้ กรรมการสอบสวน (วินยั อยา่ งรา้ ยแรง) ถกู ฟ้ อง/ ตอ้ งหาคดีอาญา (เวน้ ประมาท/ลหโุ ทษ) นายกฯ อาจ ๑) สง่ั พกั ราชการ (ตาแหน่งไม่ว่าง) ๒) สงั่ ใหอ้ อกจากราชการไวก้ อ่ น (ตาแหน่งว่าง) ๒. การสงั่ ตอ้ งมีเหต ุดงั น้ี (ขอ้ ๑๒ มาตรฐานใหอ้ อก) ๑) ถกู ตงั้ กรรมการสอบสวน หรอื ถกู ฟ้ อง/ตอ้ งหา คดีอาญาในเรอื่ งทจุ รติ หรอื พฤติการณไ์ ม่ เหมาะสม โดยอยั การไมร่ บั เป็ นทนายแกต้ ่างให้ และนายกฯเห็นว่าใหอ้ ยจู่ ะเกดิ ความเสยี หาย ๒) ผนู้ นั้ มีพฤติการณจ์ ะเป็ นอปุ สคั ต่อการสอบสวน พิจารณา หรอื จะกอ่ ความไมส่ งบข้ึน

๓) ผนู้ นั้ อยรู่ ะหว่างถกู ควบคมุ ขงั จาคกุ ในคดีอาญา ติดต่อกนั เกนิ กว่า ๑๕ วนั แลว้ ๔) ผนู้ น้ั ถกู ตง้ั กรรมการสอบสวนและต่อมามีคา พิพากษาถึงที่สดุ ว่าผิดในเรอื่ งนนั้ หรอื ถกู ตง้ั กรรมการสอบสวนภายหลงั ที่มีคาพิพากษาถึง ท่ีสดุ ว่าผิดในเรอื่ งนน้ั และนายกฯ เห็นว่า ขอ้ เท็จจรงิ ตามคาพิพากษาชดั แลว้ ว่าผิดวินยั อยา่ งรา้ ยแรง๓. นายกฯ มีอานาจสงั่ พกั ราชการ หรอื สงั่ ใหอ้ อกจากราชการไวก้ อ่ น (โดยความเห็นชอบของ ก.จงั หวดั ) เพ่ือรอฟังผลการสอบสวนพิจารณาได้๔. เม่ือสอบสวนพิจารณาแลว้ เสรจ็ ผนู้ น้ั ไม่ไดท้ าผิดหรอื ผิด แต่ไม่ถึงปลดออกไลอ่ อก หรอื ไมม่ ีเหตอุ ่ืนที่จะใหอ้ อกจาก

ราชการ กใ็ หน้ ายกฯ สงั่ กลบั ในตาแหน่งเดิมหรอื ตาแหน่งในระดบั เดียวกนั ๕. ผถู้ กู สง่ั พกั ราชการหรอื สง่ั ใหอ้ อกจากราชการไวก้ อ่ น เมื่อกลบั เขา้ มาใหม้ ีสถานภาพเป็ นขา้ ราชการตลอดเวลา ๖. เงินเดือน เงินอื่น และระยะเวลา ใหเ้ ป็ นไปตามกฎหมาย ว่าดว้ ยการนนั้ผทู้ ่ีโอนมาจากที่อ่ืน/ประเภทอ่ืน (ขอ้ ๒๖) ๑. ให้ ผบ.ดาเนินการทางวินยั ตามมาตรฐานน้ี ๒. ถา้ สืบสวนสอบสวนอยกู่ อ่ น ใหด้ าเนินการจนเสรจ็ ๓. ถา้ จะลงโทษ ใหป้ รบั บทตามกฎหมายเดิมนนั้

คาว่า “การสอบสวนพิจารณา” ท่ีมีผลต่อการเลื่อนขนั้ เงินเดือน / เลอ่ื นระดบั มี ๒ อยา่ ง ดงั น้ี ๑. การสอบสวนพิจารณาของนายกฯ เม่ือแลว้ เสรจ็ เห็นว่า ๑) ยตุ ิเรอ่ื ง/ภาคทณั ฑ์ เล่อื นไดท้ งั้ สอง ๒) ตดั เงินเดือน/ลดขน้ั เงินเดือน เลือ่ นไม่ได้ ๑ รอบ ๓) ปลดออก/ไลอ่ อก หา้ มเล่ือน ๒. การสอบสวนพิจารณาของศาล อเั น่ืองมาจากการปฏิบตั ิ หนา้ ที่ เมื่อคดีถึงที่สดุ พิพากษาว่า ๑) ยกฟ้ อง/ไมม่ ีความผิด เลือ่ นไดท้ ง้ั สอง ๒) มีความผิด หา้ มเลือ่ น

คาว่า “ถกู แต่งตง้ั คณะกรรมการสอบสวนทางวินยั ” ท่ีมีผลต่อการเลอ่ื นขนั้ เงินเดือน/เลอื่ นระดบั มี ๓ ดงั น้ี ๑. ถกู แต่งตง้ั กรรมการสอบสวนทางวินยั อยา่ งไมร่ า้ ยแรง ๑) เล่อื นขน้ั เงินเดือนได/้ เลอ่ื นระดบั ได้ ๒. ถกู แต่งตงั้ กรรมการสอบสวนทางวินยั อยา่ งรา้ ยแรง ๑) ตาแหน่งปฏบิ ตั ิ เล่ือนขนั้ เงินเดือน/ระดบั ได้ ๒) ตาแหน่งนกั บรหิ าร - เลื่อนขนั้ เงินเดือนได้ - เลื่อนระดบั ไมไ่ ด้ ๓. ถกู ฟ้ อง/ตอ้ งหาคดีอาญา อนั เนื่องมาจากการปฏบิ ตั ิ หนา้ ท่ี ๑) เลื่อนขนั้ เงินเดือนได/้ เลือ่ นระดบั ได้

การกระทาที่ปรากฏชดั แจง้ ซึ่งนายกฯ จะดาเนินการทางวินยั โดยไมส่ อบสวน หรอื งดการสอบสวนก็ได้ ดงั น้ี ๑. กรณีวินยั ไม่รา้ ยแรง ขอ้ ๒๗ ๑. ตอ้ งคาพิพากษาถึงที่สดุ ว่าผิด และนายกฯ เห็นว่าขอ้ เท็จจรงิ ชดั แลว้ ๒. กระทาผิดไมร่ า้ ยแรงและรบั สารภาพเป็ นหนงั สือ ต่อนายกฯ หรอื ผมู้ ีหนา้ ที่สบื สวน หรอื กรรมการ สอบสวน (ตามหมวด ๔) และบนั ทึกเป็ นหนงั สือไว้ ๒. กรณีวินยั อยา่ งรา้ ยแรง ขอ้ ๒๘ ๑. ตอ้ งคาพิพากษาถึงท่ีสดุ ใหจ้ าคกุ (ไมร่ อ) เวน้ ประมาท/ลหโุ ทษ

๒. ละท้ิงราชการติดต่อกว่า ๑๕ วนั และนายกฯ สืบสวนแลว้ เห็นว่าไม่มีเหตอุ นั สมควร หรอื มี พฤติการณจ์ งใจไม่ปฏิบตั ิตามระเบียบราชการ ๓. กระทาผิดรา้ ยแรงและรบั สารภาพเป็ นหนงั สือ ต่อนายกฯ หรอื ผมู้ ีหนา้ ที่สบื สวน หรอื กรรมการ สอบสวน (ตามหมวด ๔) และบนั ทึกเป็ นหนงั สือไว้ ๓. กรณีหยอ่ น/บกพรอ่ ง/ประพฤติไมเ่ หมาะ ขอ้ ๒๙นายกฯ เห็นว่าอยจู่ ะเสียหาย จะใหอ้ อกโดยไมส่ อบสวนกไ็ ด้ ดงั น้ี ๑. ตอ้ งคาพิพากษาถึงที่สดุ ว่าผิด แต่ใหร้ อ และ นายกฯ เห็นว่าขอ้ เท็จจรงิ ชดั แลว้ ๒. หยอ่ น/บกพรอ่ ง/ประพฤติไม่เหมาะสม และรบั สารภาพเป็ นหนงั สือต่อนายกฯ หรอื ผมู้ ีหนา้ ที่ สืบสวน หรอื กรรมการสอบสวน (ตามหมวด ๔) และบนั ทึกเป็ นหนงั สอื ไว้

ขอ้ ยกเวน้ ความผิดที่ปรากฏชดั แจง้วินยั อยา่ งไมร่ า้ ยแรง (ขอ้ ๒๗) วินยั อยา่ งรา้ ยแรง (ขอ้ ๒๘)- รบั สารภาพเป็ นหนงั สือ - ไดร้ บั โทษจาคกุ (เวน้ ประมาท,- ตอ้ งคาพิพากษาถึงท่ีสดุ ว่ากระทา ลหโุ ทษ) ผิด (ขอ้ เท็จจรงิ ตามคาพิพากษา - ละท้ิงหนา้ ท่ี (ติดต่อเกิน ๑๕ วนั ) ประจกั ษช์ ดั ) - รบั สารภาพเป็ นหนงั สอื

ขอ้ ยกเวน้ หยอ่ น/บกพรอ่ ง/ประพฤติตนไม่เหมาะฯ (ขอ้ ๒๙) - ตอ้ งคาพิพากษาถึงที่สดุ ว่ากระทาผิด โดยศาลมิไดร้ อการ กาหนดโทษหรอื รอการลงโทษ นายกฯ เห็นว่าขอ้ เท็จจรงิ ตาม คาพิพากษาประจกั ษช์ ดั แลว้ - มีกรณีหยอ่ นฯ และไดร้ บั สารภาพเป็ นหนงั สอื

กำรดำเนินกำรทำงวนิ ยั ท่ีสำคญั มีดงั น้ี๑. คำส่งั แต่งตง้ั คณะกรรมกำรสอบสวน ๑) ผมู้ ีอานาจแต่งตง้ั คณะกรรมการสอบสวน ๒) องคป์ ระกอบและคณุ สมบตั ิของคณะกรรมการ สอบสวน ๓) การคดั คา้ นกรรมการสอบสวน

๒. กำรพิจำรณำควำมผิด๑) ความผิดวินยั อยา่ งไมร่ า้ ยแรง๒) ความผิดวินยั อยา่ งรา้ ยแรง๓. กำรพิจำรณำกำหนดโทษโทษทางวินยั มี ๕ สถาน๑) ภาคทณั ฑ์๒) ตดั เงินเดือน วินยั อยา่ งไมร่ า้ ยแรง๓) ลดขนั้ เงินเดือน๔) ปลดออก วินยั อยา่ งรา้ ยแรง๕) ไลอ่ อก

ขน้ั ตอนการสอบสวน ที่สาคญั มีดงั น้ี ๑) การแจง้ และอธิบายขอ้ กลา่ วหา (สว.๒) ๒) การรวบรวมพยานหลกั ฐานที่เก่ียวขอ้ งกบั เรื่องท่ี กลา่ วหา (สว.๕) ๓) การแจง้ ขอ้ กลา่ วหาและสรปุ พยานหลกั ฐานที่ สนบั สนนุ ขอ้ กลา่ วหา (สว.๓) ๔) การสอบสวนและรวบรวมพยานหลกั ฐานของ ผถู้ กู กลา่ วหา (สว.๔,๕) ๕) การลงมติและทารายงานการสอบสวน (สว.๖)

องคป์ ระกอบและคณุ สมบตั ิคณะกรรมการสอบสวน (ขอ้ ๓๑)องคป์ ระกอบ คณุ สมบตั ิ๑. ประธานกรรมการ ๑. เป็ นพนกั งานสว่ นทอ้ งถ่ินนนั้ หรอื อ่ืน๒. กรรมการอยา่ งนอ้ ย หรอื ขา้ ราชการฝ่ ายพลเรอื นโดย ไดร้ บั ความยนิ ยอมจากตน้ สงั กดั ๒ คน (รวม ๓ คน)๓. ผชู้ ่วยเลขานกุ าร ๒. ประธานฯ ระดบั ไม่ต่ากว่าผถู้ กู กลา่ วหา (ใหด้ ซู ี) (กรณีจาเป็ น) ๓. ตอ้ งมีนิติกร หรอื ผไู้ ดร้ บั ปริญญา ทาง ก.ม.หรอื ผผู้ า่ นการฝึ กอบรม หรอื ผมู้ ีประสบการณฯ์ (๑ คน)

นายกฯ เป็ นค่กู รณี หรอื ถกู กลา่ วหาว่ารว่ มกนั (ขอ้ ๓๑) ๑. ให้ ก.จงั หวดั ตรวจสอบ หากเป็ นความจรงิ ตอ้ ง มีมติเลือกกรรมการ แลว้ สง่ ใหน้ ายกฯ ออกคาสง่ั ๒. นายกฯ แจง้ ตน้ สงั กดั ของกรรมการทราบ ๓. เม่ือสอบสวนเสรจ็ ตอ้ งรายงานไปยงั ก.จงั หวดั ๔. ก.จงั หวดั มีมติประการใด นายกฯ ตอ้ งสง่ั ตามนน้ั คาสง่ั ตงั้ กรรมการสอบสวน ออกแลว้ จะเลกิ ไม่ได้

องคป์ ระกอบคาสง่ั แต่งตงั้ คณะกรรมการสอบสวน (ขอ้ ๓๒)๑. ชื่อและตาแหน่งของผถู้ กู กลา่ วหา๒. เรอ่ื งท่ีกลา่ วหา๓. ชื่อและตาแหนง่ ของคณะกรรมการสอบสวน๔. ชื่อและตาแหน่งของผชู้ ว่ ยเลขานกุ าร (ถา้ มี) ตามแบบ สว.๑

การแจง้ คาสง่ั แต่งตงั้คณะกรรมการสอบสวน (ขอ้ ๓๓) แจง้ ผถู้ กู กลา่ วหา แจง้ คณะกรรมการสอบสวน๑. มอบสาเนาคาสงั่ ใหล้ งลายมือ ๑. สง่ สาเนาคาสง่ั ใหก้ รรมการสอบสวน ช่ือและวนั ที่รบั ทราบ ๒. สง่ เอกสารต่อไปน้ีใหป้ ระธานกรรมการ๒. สง่ ทางไปรษณียล์ งทะเบียน - สาเนาคาสงั่ ตอบรบั (ลว่ งพน้ ๑๕ วนั - หลกั ฐานการรบั ทราบของผถู้ กู กลา่ วหา ถือว่ารบั ทราบ) - เอกสารหลกั ฐานเก่ียวกบั เรอื่ งท่ี กลา่ วหา - ประธาน ก.ก.ลงลายมือชื่อรบั ทราบ ไวเ้ ป็ นหลกั ฐานในสานวน

เหตคุ ดั คา้ นกรรมการสอบสวน (ขอ้ ๓๖ ว.๑)๑. รเู้ ห็นเหตกุ ารณใ์ นขณะกระทาการตามเรอื่ งท่ีกลา่ วหา๒. มีประโยชนไ์ ดเ้ สียในเรอื่ งที่สอบสวน๓. มีสาเหตโุ กรธเคืองกบั ผถู้ กู กลา่ วหา๔. เป็ นผกู้ ลา่ วหา หรอื คส่ ู มรส บพุ การี ผสู้ ืบสนั ดาน หรอื พ่ีนอ้ งรว่ มบิดามารดา หรอื รว่ มบิดาหรอื มารดาของ ผกู้ ลา่ วหา๕. เหตอุ ่ืนซ่ึงอาจทาใหก้ ารสอบสวนเสียความเป็ นธรรม

วิธีคดั คา้ นกรรมการสอบสวน (ขอ้ ๓๖ ว.๒) ๑. ทาเป็ นหนงั สอื แสดงขอ้ เท็จจรงิ และเหตแุ หง่ การ คดั คา้ นว่าจะทาใหก้ ารสอบสวนไมไ่ ดค้ วามจรงิ และ ยตุ ิธรรมอยา่ งไร ๒. ยน่ื ต่อนายกฯ ผอู้ อกคาสงั่ แต่งตงั้ ๓. ยน่ื ภายใน ๗ วนั นบั แต่วนั ทราบคาสง่ั หรอื วนั ทราบ เหตคุ ดั คา้ น

การสงั่ คาคดั คา้ น (ขอ้ ๓๖ ว.๓ และ ๔)๑. ใหน้ ายกฯ สง่ สาเนาหนงั สอื คดั คา้ นใหป้ ระธาน ก.ก. ทราบ๒. ใหน้ ายกฯ พิจารณาสงั่ การภายใน ๑๕ วนั ดงั น้ี - เห็นว่าหนงั สือคดั คา้ นไมม่ ีเหตคุ วรรบั ฟัง ใหย้ กคาคดั คา้ น - เห็นว่าหนงั สือคดั คา้ นมีเหตคุ วรรบั ฟังได้ สง่ั ใหผ้ ถู้ กู คดั คา้ น พน้ จากกรรมการสอบสวน๓. แจง้ ผคู้ ดั คา้ น และสง่ เรอื่ งใหค้ ณะกรรมการสอบสวนถา้ นายกฯ ไมส่ ง่ั การใดๆ ภายใน ๑๕ วนั- ใหถ้ ือว่าผถู้ กู คดั คา้ นพน้ จากกรรมการสอบสวน- ใหเ้ ลขานกุ ารรายงานนายกฯ เพ่ือเปลีย่ นตวั กรรมการสอบสว



๑. กรรมการผนู้ น้ั ตอ้ งราย งานนายกฯ๒. นาขอ้ ๓๖ ว.๓,๔,๕ มาใช้ บงั คบั โดยอนโุ ลม



หนา้ ท่ีหลกั ของคณะกรรมการสอบสวน๑. สอบสวนตามที่กฎหมายกาหนด๒. แสวงหาความจรงิ ในเรอ่ื งที่กลา่ วหา๓. ดแู ลใหเ้ กดิ ความเป็ นธรรมตลอดระยะเวลาสอบสวน๔. รวบรวมประวตั ิและความประพฤติของผถู้ กู กลา่ วหา ท่ีเกย่ี วขอ้ งกบั เรอ่ื งที่กลา่ วหา๕. จดั ทาบนั ทึกประจาวนั ท่ีมีการสอบสวนทกุ ครงั้๖. จดั ทาสารบาญสานวนสอบสวน

องคป์ ระชมุ คณะกรรมการสอบสวน๑. องคป์ ระชมุ ปกติ - มีกรรมการสอบสวนไมน่ อ้ ยกว่ากึ่งหน่ึง - มีประธานรว่ มประชมุ ถา้ ไมอ่ ยใู่ หเ้ ลอื กผทู้ าหนา้ ท่ีแทน๒. องคป์ ระชมุ พิเศษ (สว.๓/สว.๖) - มีกรรมการมาประชมุ ไมน่ อ้ ยกว่า ๓ คน และไมน่ อ้ ย กว่ากง่ึ หน่ึง - มีประธานรว่ มประชมุ ถา้ ไมอ่ ยใู่ หเ้ ลือกผทู้ าหนา้ ที่แทน๓. การลงมติ ใหถ้ ือเสยี งขา้ งมาก (หากเท่ากนั ประธานออกเสียงช้ีขาด)

องคป์ ระชมุ พิเศษ มีกรณีดงั น้ี๑. ประชมุ พิจารณาพยานหลกั ฐานสนบั สนนุ ขอ้ กลา่ วหา (สว.๓) (ขอ้ ๔๓)๒. ประชมุ พิจารณาลงมติว่า ผถู้ กู กลา่ วหา (ขอ้ ๕๗) - ผิดหรอื ไม่ กรณีใด ตามขอ้ ใด มีโทษสถานใด - หยอ่ นความสามารถหรอื ไม่ - มีมลทินหรอื มวั หมองหรอื ไม่

ความหมายของแบบ สว.ต่าง ๆ มีดงั น้ีสว.๑ คาสง่ั แต่งตง้ั คณะกรรมการสอบสวนสว.๒ บนั ทึกแจง้ และอธิบายจอ้ กลา่ วหาสว.๓ บนั ทึกสรปุ พยานหลกั ฐานที่สนบั สนนุ ขอ้ กลา่ วหาสว.๔ บนั ทึกถอ้ ยผถู้ กู กลา่ วหาสว.๕ บนั ทึกถอ้ ยคาพยาน (ทกุ ฝ่ าย)สว.๖ รายงานการสอบสวน

ประเด็นการสอบสวนประเด็น คือ จดุ สาคญั ท่ีจะตอ้ งพิสจู นห์ รอื วินิจฉยั เป็ นจดุที่ยงั โตเ้ ถียงกนั อยู่ หรอื ยงั ไมไ่ ดค้ วามกระจ่างชดัประเด็นการสอบสวน มี ๓ ลกั ษณะ๑. ประเด็นขอ้ กลา่ วหา๒. ประเด็นท่ีฝ่ ายกลา่ วหาอา้ ง๓. ประเด็นที่ฝ่ ายถกู กลา่ วหายกข้ึนอา้ ง หรอื ยกข้ึนโตแ้ ยง้


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook