Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore 07 การวิเคาราะห์สถานการณ์ด้านการเกษตร

07 การวิเคาราะห์สถานการณ์ด้านการเกษตร

Description: 07 การวิเคาราะห์สถานการณ์ด้านการเกษตร

Search

Read the Text Version

บทที่ 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 89 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณก์ ารผลติ ขา้ วของจงั หวดั สพุ รรณบรุ \"ี การเกษตรได้ และประเดน็ ทไี่ ดน้ ก้ี จ็ ะนำ� ไปสกู่ ารทำ� งานสง่ เสรมิ การเกษตร ของนักส่งเสริมการเกษตร ที่จะน�ำไปใช้ในการวิเคราะห์สถานการณ์การ ผลิตขา้ วของจงั หวัดสุพรรณบรุ ี 1.1 สถานการณก์ ารผลติ ข้าวของจังหวัดสุพรรณบรุ ี จงั หวดั สุพรรณบุรี มีพ้ืนทท่ี �ำการเกษตร ประมาณ 2.2 ล้านไร่ ในจำ� นวนพน้ื ท่ีดงั กลา่ วเป็นพ้นื ท่ปี ลกู ข้าว ประมาณ 1.3 ล้านไร่ และใน พนื้ ทกี่ ารปลกู ขา้ วดงั กลา่ วขา้ งตน้ จะเปน็ การปลกู ขา้ วในฤดนู าปี (ทง้ั อาศยั น�้ำชลประทาน และน�้ำฝน) ประมาณ 1.3 ล้านไร่ ปลูกในฤดูนาปรัง จ�ำนวน 1.1 ลา้ นไร่ และนอกจากนัน้ ยงั มีการปลูกขา้ วมากกวา่ 2 ครั้ง/ปี โดยปลูกติดต่อกัน มกี ารเว้นชว่ งเวลาในการเกบ็ เกยี่ วประมาณ 7 - 15 วัน ซง่ึ ขน้ึ อยกู่ บั สภาพพน้ื ทแี่ ละปรมิ าณนำ้� เพอ่ื การเพาะปลกู โดยภาพรวมแลว้ ใน 1 ปี พืน้ ทใี่ นจงั หวดั สุพรรณบุรีจะมกี ารปลกู ข้าว ประมาณ 2.4 - 2.5 ล้านไร่ เมื่อพิจารณาถงึ มูลค่าของการผลติ ข้าว ถา้ ประมาณการทรี่ าคา ขา้ วเปลอื ก ราคา 10,000 บาท/เกวยี น กจ็ ะมมี ลู คา่ ถงึ 24,000 - 25,000 ลา้ นบาท/ปี เกษตรกรท่ที �ำนาประมาณ 52,000 ครัวเรือน (เฉลย่ี 7 คน ตอ่ ครวั เรือน ก็จะเก่ียวขอ้ งกบั เกษตรกร จ�ำนวน 200,000 คน) ซึ่งหมายถึง 1/4 ของประชากรทงั้ จงั หวดั ซงึ่ ยงั ไมไ่ ดร้ วมภาคการผลติ อนื่ ๆ ทเี่ กยี่ วขอ้ ง เช่น โรงสี ร้านค้าสารเคมี ปุ๋ยเคมี กลุ่มอาชีพท่ีเกี่ยวของการรับจ้าง เตรียมดนิ รบั จ้างเกี่ยวข้าว รับจา้ งฉีดพ่นสารเคมี กลมุ่ ผ้ผู ลติ เมลด็ พนั ธุ์ข้าว จงึ จะเหน็ ไดว้ า่ ขา้ วจงึ เปน็ พชื ทม่ี คี วามสำ� คญั อยา่ งมากในจงั หวดั สพุ รรณบรุ ี

90 การวเิ คราะห์สถานการณด์ ้านการเกษตร แต่อยา่ งไรกต็ าม แม้วา่ การผลติ ข้าวจะเป็นกจิ กรรมที่มคี วามสำ� คญั และมี คณุ คา่ กับอีกหลายๆ อาชีพ แต่ในหลายๆ ครั้งทช่ี าวนาสุพรรณบรุ ี ก็ยงั มี การรวมตัวกัน เพื่อเรียกร้องจากรัฐบาลให้มีการช่วยเหลือ โดยเฉพาะ ในด้านของราคาข้าวเปลือก ฉะนั้นจะเห็นได้ว่าถึงแม้ว่าการผลิตข้าวของ จงั หวดั สพุ รรณบรุ ี จะมมี ลู ค่ามากแตก่ ย็ งั มปี ญั หาในการผลติ ทจ่ี ะตอ้ งไดร้ บั การวิเคราะห์ปญั หาทแี่ ทจ้ ริง เพอ่ื ค้นหาแนวทางท่พี ัฒนาให้การปลกู ข้าว ของจังหวัดสุพรรณบุรี มคี วามยง่ั ยนื /มนั่ คง และเป็นอาชีพของเกษตรกร ในจงั หวัดสุพรรณบุรี ต่อไป 1.2 บทวเิ คราะห์ จากสถานการณ์การผลติ ข้าวทม่ี ีพนื้ ท่ี ประมาณ 60 เปอรเ์ ซน็ ต์ ของพนื้ ทเี่ พาะปลูก มีมูลคา่ มากกว่า 20,000 ล้านบาท/ปี เกยี่ วขอ้ งกับ เกษตรกรถึง 52,000 ครวั เรือน หรือประมาณ 200,000 คน รวมถงึ ความเชอ่ื มโยงเก่ียวข้องถึงกนั ของเกษตรกร และท�ำใหเ้ กิดอาชีพอื่นๆ อกี หลายสาชา เชน่ ธรุ กจิ โรงสี ธรุ กิจการจ�ำหนา่ ยสารเคม/ี ป๋ยุ เคมี ธุรกจิ เกี่ยวกบั การขนส่ง ธรุ กจิ เกยี่ วกับเครือ่ งจักรกล/รถเก่ยี วข้าว รถเตรยี มดนิ ธุรกิจการผลิตเมล็ดพันธ์ุข้าว รวมท้งั อาชีพรบั จา้ ง เชน่ กลุ่มรับจ้างฉีดพน่ สารเคมี กลมุ่ รบั จา้ งตัดขา้ วปน กลมุ่ รบั จ้างหว่านขา้ ว ฉะน้นั ถ้าวิเคราะห์ การผลิตขา้ วของจงั หวดั สุพรรณบรุ ี โดยใชเ้ ครือ่ งมือ SWOT วิเคราะหจ์ ะ พบวา่

บทที่ 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 91 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณก์ ารผลติ ขา้ วของจงั หวดั สพุ รรณบรุ \"ี การวเิ คราะห์ จดุ แขง็ (S) 1) สภาพน้�ำ มพี ืน้ ที่การปลกู ขา้ วทีม่ ีระบบนำ้� สมบูรณ์ สามารถท�ำนาได้ไม่น้อยกว่า 2 คร้ัง/ปี ในพ้ืนท่ีประมาณ 1.1 ลา้ นไร่ 2) สภาพดิน มีลกั ษณะดินทีม่ ตี ามเหมาะสมกบั การทำ� นาตามหลกั ของกรมพฒั นาทด่ี นิ แม้วา่ สภาพความสมบูรณ์ ของดนิ จะลดตำ�่ ลง แตก่ ถ็ อื ว่าเปน็ กลมุ่ ชดุ ดนิ ทม่ี คี วามเหมาะ สมกับการทำ� นา 3) ตัวเกษตรกร มีความรู้/ประสบการณ์ในการท�ำนา อยา่ งดเี ยย่ี มในการปลกู ขา้ วทกุ ๆ ขนั้ ตอน ตลอดจนมสี ถาบนั / องค์กรของรัฐท่ีท�ำหน้าทีเ่ กีย่ วกบั การผลติ ขา้ ว 4) การแปรรปู มโี รงสขี า้ ว ทม่ี ปี รมิ าณมากและกระจาย อยู่ในทุกพื้นที่ท่ีมีการปลูกข้าว และมีก�ำลังการผลิตรวมกัน มากกว่าปริมาณข้าวเปลอื กที่ผลิตไดใ้ นจงั หวดั สพุ รรณบรุ ี 5) การคา้ ขา้ ว เนอ่ื งจากมโี รงสจี ำ� นวนมาก และมกี ำ� ลงั การผลิตข้าวท่ีมากกว่าปริมาณข้าวเปลือก ท�ำให้ระบบการ คา้ ขา้ วมกี ารแขง่ ขนั โดยสมบรู ณ์ ซง่ึ ถอื วา่ เปน็ ความไดเ้ ปรยี บ ของชาวนาจงั หวดั สุพรรณบุรี

92 การวเิ คราะห์สถานการณด์ ้านการเกษตร การวิเคราะห์ จุดออ่ น (W) 1) ผลผลติ แมว้ ่าผลผลติ ขา้ วทเ่ี กิดขึ้นจะเปน็ ของเกษตรกร บางสว่ นทผี่ ลติ ได้มากกว่าหรอื ประมาณ 1,000 กโิ ลกรมั /ไร่ แต่ ก็มีเกษตรกรท่ีมีผลผลิตข้าวได้ยังต�่ำกว่าประสิทธิภาพการผลิตท่ี ควรจะผลิตได้ หรือกล่าวโดยสรุปคือ มีประสิทธิภาพการผลิต ประมาณ 80% ของประสทิ ธิภาพการผลติ ท่คี วรจะผลติ ได้ 2) ต้นทุนการผลิต แม้ว่าจะมีเกษตรกรบางส่วนที่มีความ สามารถในการปรบั ปรงุ วธิ กี ารผลติ โดยควบคมุ และเลอื กวธิ กี าร ใช้ปัจจัยการผลิตที่ท�ำให้ต้นทุนการผลิต ประมาณ 3,500 – 4,500 บาท/ไร่ แตก่ ม็ เี กษตรกรอกี จำ� นวนมากทตี่ น้ ทนุ การผลติ มากกวา่ 5,500 บาท/ไร่ 3) ปจั จัยการผลติ มีราคาสงู และมกี ารใชใ้ นปริมาณท่ีมาก และมกี ารใชท้ ี่มากเกินความจำ� เปน็ 4) พนั ธข์ุ า้ ว เกษตรกรมกี ารเลอื กใชพ้ นั ธข์ุ า้ วทใี่ หผ้ ลผลติ สงู ต้านทานต่อศัตรูข้าว ซ่ึงส่วนใหญ่เป็นพันธุ์ข้าวท่ีมีคุณภาพการ หุงต้มแข็ง ไม่เหมาะกับการบริโภค ท�ำให้ต้องซื้อข้าวเพ่ือการ บริโภคในครวั เรือน

บทที่ 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 93 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณก์ ารผลติ ขา้ วของจงั หวดั สพุ รรณบรุ \"ี การวเิ คราะห์ โอกาส (O) 1) ก�ำลงั การผลติ ขา้ วของโรงสที ี่อยูใ่ นจงั หวดั มมี ากกว่า ปริมาณขา้ วทเี่ กษตรกรในจงั หวดั ผลิตได้ 2) มเี ทคโนโลยกี ารผลติ ขา้ วทผ่ี า่ นการศกึ ษา/ทดสอบของ เกษตรกร เก่ียวกับการใช้ปัจจัยทางชีวภาพท่ีมีราคาถูกกว่า สารเคมีและมีความปลอดภัยต่อเกษตรกร สภาพแวดล้อมและ ผ้บู ริโภค 3) จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นฐานการผลิตข้าวเพื่อการ สง่ ออกที่สำ� คัญ ในพน้ื ทร่ี าบล่มุ ภาคกลาง และของประเทศ 4) ประชากรของจงั หวดั สพุ รรณบรุ ี มปี รมิ าณ 800,000 คน ทตี่ ้องบรโิ ภคข้าวเป็นอาหารประจ�ำ ข้อจำ� กัด (T) ต้นทุนการผลิตข้าวของจังหวัดสุพรรณบุรี ยังมีราคา ตน้ ทุนสงู กว่าประเทศเพอ่ื นบา้ น

94 การวิเคราะห์สถานการณ์ดา้ นการเกษตร 1.3 การกำ� หนดกลยทุ ธใ์ นการสง่ เสรมิ การผลติ ขา้ ว 1กลยทุ ธท์ ่ี การลดตน้ ทุนการผลิตขา้ ว (S1O1) S1 คอื มพี น้ื ทกี่ ารปลกู ขา้ วทม่ี รี ะบบนำ้� สมบรู ณ์ สามารถ ทำ� นาได้ไมน่ อ้ ยกวา่ 2 ครง้ั ในพ้ืนทป่ี ระมาณ 1.1 ลา้ นไร่ O1 คอื กำ� ลงั การผลติ ขา้ วของโรงสที อ่ี ย่ใู นจงั หวดั มี มากกว่าปริมาณข้าวท่ีเกษตรกรในจังหวัดผลิตได้ 2และเลือกวิธีการใช้ปัจจัยการผลิตที่ท�ำให้ ต้นทุนการ การเพิ่มผลผลิตตอ่ ไร่ (W2O3) กลยทุ ธ์ท ี่ W2 คือ ตน้ ทนุ การผลติ แม้วา่ จะมีเกษตรกรบางส่วน ทม่ี คี วามสามารถในการปรบั ปรงุ วธิ กี ารผลติ โดยควบคมุ ผลิต ประมาณ 3,500 – 4,500 บาท/ไร่ แต่ก็มี เกษตรกร อีกจ�ำนวนมากท่ีต้นทุนการผลิตมากกว่า 5,500 บาท/ไร่ O3 คอื จังหวดั สุพรรณบุรี เป็นฐานการผลติ ข้าวเพ่อื การส่งออกที่ส�ำคัญในพ้ืนที่ราบลุ่มภาคกลางและของ ประเทศ

บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 95 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณก์ ารผลติ ขา้ วของจงั หวดั สพุ รรณบรุ \"ี การลดการใช้ปัจจัยการผลิตท่ีเป็นเคมีและเปลี่ยนใช้ กลยทุ ธท์ ่ี ปัจจยั การผลติ ท่เี ปน็ ชวี ภาพทดแทน (W3O3) W3 คอื ปจั จยั การผลติ มรี าคาสงู และมกี ารใชใ้ นปรมิ าณ 3ทมี่ ากและมกี ารใช้ทม่ี ากเกินความจำ� เป็น O3 คอื จังหวดั สพุ รรณบุรี เป็นฐานการผลิตข้าวเพือ่ การส่งออกท่ีส�ำคัญในพ้ืนที่ราบลุ่มภาคกลางและของ ประเทศ 4กลยุทธ์ท ี่ การส่งเสริมการผลติ ขา้ วเพ่ือการบรโิ ภค (W4O4) W4 คือ พันธขุ์ า้ ว เกษตรกรมกี ารเลือกใชพ้ นั ธข์ุ ้าวที่ให้ ผลผลิตสงู ตา้ นทานต่อศัตรขู า้ ว ซึ่งสว่ นใหญ่เป็นพนั ธุ์ ข้าวทมี่ ีคณุ ภาพการหุงต้มแขง็ ไมเ่ หมาะกับการบรโิ ภค ท�ำใหต้ อ้ งซือ้ ขา้ วเพอ่ื การบรโิ ภคในครัวเรอื น O4 คือ ประชากรของจังหวัดสุพรรณบุรี มีปริมาณ 800,000 คน ที่ต้องบริโภคข้าวเปน็ อาหารประจำ�

96 การวิเคราะห์สถานการณ์ดา้ นการเกษตร 1.4 แนวทางการทำ� งานส่งเสรมิ การเกษตร 1) ค้นหาการใช้เทคโนโลยี ค้นหาตัวเกษตรกรท่ีเป็น Best Practice ตามกลยทุ ธท์ ัง้ 4 ด้าน เพือ่ ให้ไดว้ ธิ ีการปฏบิ ตั ขิ องเกษตรกรเอง และนำ� ไปเปรยี บเทยี บกบั วธิ กี ารปฏบิ ตั ทิ างวชิ าการของหนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ ง 2) สรุปการใช้เทคโนโลยีที่เหมาะสม/จ�ำเป็นในการด�ำเนินตาม กลยทุ ธ์ โดยขอความรว่ มมือ จากหนว่ ยงานทีเ่ ปน็ เจ้าของเทคโนโลยกี าร ผลติ เชน่ ศนู ยว์ จิ ัยข้าวสุพรรณบรุ ี ศนู ย์บรหิ ารศตั รขู า้ วสุพรรณบรุ ี สถานี พฒั นาท่ีดนิ จังหวัดสพุ รรณบรุ ี ส�ำนักงานเกษตรจังหวัด ส�ำนักงานเกษตร อำ� เภอ รว่ มกนั สรปุ เปน็ “เทคโนโลยที เ่ี หมาะสม” ในการใหค้ ำ� แนะนำ� และ จัดท�ำเป็นโครงการสง่ เสรมิ การเกษตร ให้แกเ่ กษตรกรเป้าหมายต่อไป 1.5 การจัดทำ� โครงการส่งเสริมการเกษตร จากกลยทุ ธ์ ท้งั 4 ประเดน็ และการค้นหาเทคโนโลยที เ่ี หมาะสม ได้น�ำมาก�ำหนดเปน็ โครงการในการทำ� งานส่งเสริมการเกษตร ดังน้ี 1) โครงการลดตน้ ทนุ การผลิตข้าว 2) โครงการพัฒนาเกษตรอินทรีย์ โดยการใช้ภูมิปญั ญาทอ้ งถน่ิ 3) โครงการสง่ เสรมิ การผลติ ข้าวพันธุ์พ้ืนเมืองเพื่อการบรโิ ภค

บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 97 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณก์ ารผลติ ขา้ วของจงั หวดั สพุ รรณบรุ \"ี จากเนื้อหาดังกล่าวสรุปได้ว่า การด�ำเนินงานส่งเสริมการเกษตร นักส่งเสริมการเกษตรควรจะต้อง มีความรู้และประสบการณ์ในการปฏิบัติงาน ตามภารกิจท่ีรบั ผดิ ชอบในพืน้ ท่ี หรือที่ไดร้ บั มอบหมาย เริ่มตั้งแต่การรวบรวม/ จดั เก็บขอ้ มลู นำ� ขอ้ มลู มาประมวลวิเคราะหเ์ พอื่ สรปุ เปน็ สถานการณ์/ข้อเทจ็ จริง ท่เี กดิ ขนึ้ มกี ารนำ� ข้อมูลมาจำ� แนก แยกแยะหรอื สังเคราะหส์ รปุ เพื่อใช้เปน็ ทางเลอื ก ที่เป็นไปได้กับการท�ำงาน และสุดท้ายนักส่งเสริมการเกษตรจะต้อง สรุปข้อมูล เพอ่ื กำ� หนดเปน็ วธิ กี ารทำ� งาน หรอื แนวทางทเ่ี ปน็ ไปไดใ้ นการสง่ เสรมิ อาชพี การเกษตร ให้กับเกษตรกร โดยน�ำความรู้ตามหลักการวิชาการ มาผนวกกับความรู้ของ เกษตรกร และก�ำหนดเป็นโครงการในการท�ำงานร่วมกับเกษตรกรให้เกิดผลใน เชงิ รปู ธรรม

98 การวเิ คราะห์สถานการณ์ด้านการเกษตร 2. กรณศี กึ ษา “การวิเคราะหส์ ถานการณ์มันส�ำปะหลัง” วิลาวลั ย์ วงษ์เกษม สำ� นักส่งเสริมและจดั การสินคา้ เกษตร เรียบเรยี ง การจัดทำ� แผนพฒั นาระดบั หมูบ่ า้ น เรมิ่ จากการจัดหาขอ้ มูลการผลติ และการตลาดมนั สำ� ปะหลงั ทกุ ระดบั ตง้ั แตร่ ะดบั โลก ประเทศ จงั หวดั และ อำ� เภอ มนั สำ� ปะหลงั เปน็ พชื อาหารทสี่ ำ� คญั ในลำ� ดบั ท่ี 5 ของโลก ปรมิ าณ ผลผลติ ท่ใี ช้เปน็ อาหารมนุษย์ประมาณ 60% ของปรมิ าณผลผลติ ทง้ั หมด ประมาณ 27.5% ใชท้ �ำอาหารสตั ว์ ทเี่ หลือใชป้ ระโยชน์อยา่ งอ่นื ส�ำหรบั ประเทศไทย มันสำ� ปะหลงั เป็นพืชเศรษฐกิจทที่ ำ� รายไดใ้ หเ้ กษตรกร มาก เป็นอันดับ 4 รองจากยางพารา อ้อย และข้าว ประเทศไทยส่งออก มนั สำ� ปะหลงั มากทส่ี ดุ ในโลก ใชบ้ รโิ ภคภายในประเทศนอ้ ยมาก การสง่ ออก มนั สำ� ปะหลงั ของไทยจะแปรรปู เปน็ มนั เสน้ มนั อดั เมด็ และแปง้ มนั สำ� ปะหลงั 2.1 สถานการณ์การผลิตและการตลาดมนั ส�ำปะหลัง 2.1.1 สถานการณ์การผลติ มันสำ� ปะหลังของโลก ปี 2550 - 2554 ผลผลิตของโลกขยายตัวเพิม่ ขึน้ รอ้ ยละ 1.93 ตอ่ ปี เนอ่ื งจากประเทศผผู้ ลติ คอื คองโก โมแซมบคิ กานา เวยี ดนาม และอนิ โดนเี ซยี ไดข้ ยายการผลติ เพม่ิ ขนึ้ เพอ่ื ใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการ บรโิ ภค และการเพิ่มขน้ึ ของความต้องการเพ่ือใชผ้ ลิตพลงั งานทดแทน ปี 2554 ผลผลติ ของโลกขยายตัวเพ่มิ ข้นึ จากปที ่ผี ่านมารอ้ ยละ 5.10 และ

บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 99 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ นั สำ� ปะหลงั \" มีผลผลติ สูงกวา่ 250 ลา้ นตนั เป็นคร้ังแรกในรอบ 20 ปี โดยทวปี แอฟรกิ า เอเชีย ละตนิ อเมริกา และโอเซียเนยี มผี ลผลติ เพมิ่ ขึน้ ร้อยละ 4.34 6.48 5.76 และ 2.21 ตามลำ� ดบั ผู้ผลิตรายใหญ่ 5 อนั ดบั แรก คอื ไนจเี รยี บราซลิ อนิ โดนเี ซยี ไทย และคองโก ในทวปี เอเชยี อนิ โดนเี ซยี กลายมาเป็นผู้ผลิตอันดับ 1 แทนไทย เน่ืองจากไทยประสบปัญหา เพลยี้ แปง้ ระบาดและภยั แลง้ สง่ ผลใหผ้ ลผลติ ลดลงมาก ทศิ ทางการเพมิ่ ขนึ้ ของผลผลติ โลกเปน็ ผลจากทวปี เอเชยี มกี ารพฒั นาอตุ สาหกรรมตอ่ เนอ่ื งจาก มนั สำ� ปะหลงั เชน่ แอลกอฮอล์ และเอทานอลเพอ่ื ใชเ้ ปน็ พลงั งาน ประกอบ กบั มนั สำ� ปะหลงั ยงั คงเปน็ พชื อาหารหลกั ทส่ี ำ� คญั ตอ่ ความมน่ั คงดา้ นอาหาร ของทวีปแอฟริกา ตารางที่ 1 เนอ้ื ท่ีเกบ็ เกยี่ ว ผลผลิต และผลผลิตต่อไร่ของโลก รายการ ปี 2540 ปี 2551 ปี 2552 ปี 2553* ปี 2554** เนอ้ื ทเ่ี กบ็ เกยี่ ว (ลา้ นไร)่ 116.78 117.81 118.23 Na. Na. ผลผลิต (ลา้ นตัน) 226.31 239.84 241.89 ผลผลติ ตอ่ ไร่ (ตัน) 1.94 2.04 2.05 237.92 250.06 Na. Na. หมายเหตุ : * FAO Estimate ** FAO Forecast ท่มี า : องคก์ ารอาหารและเกษตรแหง่ สหประชาชาติ (FAO)

100 การวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 2.1.2 สถานการณก์ ารตลาดมนั สำ� ปะหลังของโลก 1) ความตอ้ งการใช้ ความตอ้ งการใชม้ นั สำ� ปะหลงั ของประเทศผผู้ ลติ ทง้ั ใน ทวปี แอฟรกิ า ละตนิ อเมรกิ า และเอเชยี ใชบ้ รโิ ภคภายในประเทศเปน็ หลกั ประมาณรอ้ ยละ 90 ของผลผลิตทั้งหมด โดยอยใู่ นรูปหวั มนั สดและในรูป ผลิตภัณฑ์ เชน่ Gari Foufou ฯลฯ ยกเวน้ ประเทศไทยท่มี กี ารใช้ ใน ประเทศรอ้ ยละ 25 - 30 ของปรมิ าณผลผลติ ทผ่ี ลติ ได้ ปี 2550 - 2554 ประเทศผผู้ ลิตในเอเชีย เชน่ ไทย จนี อนิ โดนเี ซีย และฟลิ ปิ ปินส์ มนี โยบาย ส่งเสริมการผลิตพลังงานทดแทนเชื้อเพลิงจากฟอสซิลมากข้ึน ท�ำให้ ความตอ้ งการใชม้ นั สำ� ปะหลงั ขยายตวั มากขน้ึ ซง่ึ มาตรการพลงั งานทดแทน ยังขยายไปยังประเทศเวียดนามที่รัฐบาลมีมาตรการให้ก๊าซโซฮอล์ผสม เอทานอล รอ้ ยละ 5 ทำ� ใหค้ าดวา่ แนวโนม้ ความตอ้ งการใชม้ นั สำ� ปะหลงั เพอ่ื พลงั งานทดแทนยงั มที ศิ ทางเพมิ่ สงู ขน้ึ อกี สำ� หรบั ในกลมุ่ ประเทศแอฟรกิ า มีมาตรการส่งเสริมให้ใช้แป้งมันส�ำปะหลังทดแทนธัญพืชน�ำเข้า รวมถึง ละตนิ อเมรกิ า คอื บราซลิ มกี ารสง่ เสรมิ ใหผ้ สมแปง้ มนั สำ� ปะหลงั รอ้ ยละ 10 ในแป้งสาลี ท�ำให้การบริโภคแป้งมันส�ำปะหลังสูงข้ึน ท้ังนี้ทิศทางราคา มันส�ำปะหลงั ข้าวสาลี ขา้ วโพดเล้ยี งสัตว์ และถ่วั เหลอื ง ที่ปรับตัวสูงขนึ้ ท�ำใหแ้ ต่ละประเทศหันมาใช้วัตถดุ บิ ทผ่ี ลิตได้ในประเทศทดแทนการน�ำเขา้ มากข้ึน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการใช้มันส�ำปะหลังเพื่ออุตสาหกรรมอาหาร สัตว์มแี นวโน้มหดตวั ลง ประกอบกับราคาผลิตภณั ฑ์มนั ส�ำปะหลังปรับตวั สูงขึ้น ท�ำให้ความต้องการใช้มันส�ำปะหลังเพ่ืออุตสาหกรรมอาหารสัตว์ ลดลง เนอ่ื งจากผปู้ ระกอบการอาหารสตั ว์หนั ไปใชก้ ากเหลอื จากการกล่นั เอทานอล (Dried Distilled Grains: DDGs) แทนมากขนึ้

บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 101 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ นั สำ� ปะหลงั \" 2) การส่งออก ปี 2548 - 2552 ปริมาณและมูลค่าการส่งออกผลติ ภณั ฑ์ มนั สำ� ปะหลังของโลกขยายตวั เพ่มิ ข้นึ รอ้ ยละ 2.54 และ 14.82 ต่อปี ตามล�ำดับ ประเทศผู้ส่งออกรายใหญ่ คือ ไทย มีส่วนแบ่งการตลาด ประมาณร้อยละ 76.68 รองลงมาได้แก่ เวียดนาม และอินโดนเี ซีย มี สว่ นแบง่ การตลาดร้อยละ 9.44 และ 2.18 ตามล�ำดบั ตารางท่ี 2 ปริมาณและมูลคา่ สง่ ออกผลิตภณั ฑม์ ันสำ� ปะหลังของโลก หนว่ ย : ปริมาณ : ตัน มูลคา่ : พนั ดอลลารส์ หรัฐ ปี ปี 2548 ปี 2549 ปี 2550 ปี 2551 ปี 2552 ปริมาณ มูลค่า ปริมาณ มูลคา่ ปรมิ าณ มลู ค่า ปริมาณ มลู คา่ ปรมิ าณ มลู คา่ 1 ไทย* 4,040,781 552,479 5,884,283 816,707 5,962,341 960,851 4,121,362 974,596 6,154,504 1,087,943 2. เวยี ดนาม 534,049 61,348 1,040,655 120,410 1,316,557 166,341 753,335 133,920 753,335 133,920 3. อินโดนีเซีย 341,643 44,842 148,636 19,062 243,286 43,084 171,718 38,138 183,759 30,861 4. บราซลิ 15,548 7,333 15,333 7,014 16,625 9,769 13,865 11,041 12,973 8,894 5. จีน 16,831 15,126 16,779 14,752 17,110 14,177 14,772 13,417 18,914 18,037 6. ไนจีเรยี 1,247 179 2,551 2,551 7. อื่นๆ 684,553 110,392 794 180 1,673 337 512,036 600 214,390 600 โลก 5,634,652 791,699 272,035 102,059 549,994 160,263 5,589,639 167,469 7,340,426 138,577 7,378,515 1,080,184 8,107,586 1,354,822 1,339,181 1,418,832 หมายเหตุ : * ขอ้ มูลจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ท่มี า : องคก์ ารอาหารและเกษตรแห่งสหประชาชาติ (FAO) (ไม่รวมแปง้ แปรรปู )

102 การวเิ คราะห์สถานการณด์ ้านการเกษตร 2.1.3 สถานการณก์ ารผลิตมันสำ� ปะหลังของไทย ช่วงปี 2550 - 2554 เนอ้ื ท่เี ก็บเก่ยี ว ผลผลิต และผลผลติ ต่อไร่ ลดลงรอ้ ยละ 0.65 5.31 และ 4.68 ต่อปี ตามล�ำดบั เนือ่ งจาก เกิดปัญหาภยั แล้งและเพลี้ยแปง้ ระบาด ทำ� ใหเ้ กษตรกรหันไปปลูกขา้ วโพด เลย้ี งสตั วแ์ ละปลกู ออ้ ยทดแทนมนั สำ� ปะหลงั เพอื่ ตดั วงจรเพลย้ี แปง้ ปี 2554 มีเนือ้ ที่เกบ็ เกยี่ ว 7.10 ลา้ นไร่ ผลผลติ 21.91 ลา้ นตัน และผลผลิตตอ่ ไร่ 3.09 ตนั เมื่อเทยี บกบั เนอ้ื ท่ีเกบ็ เก่ียว 7.41 ลา้ นไร่ ผลผลติ 22.01 ลา้ นตนั และผลผลิตตอ่ ไร่ 2.97 ตนั ของปี 2553 ปรากฏวา่ เน้อื ท่เี ก็บเกี่ยว และผลผลิต ลดลงคดิ เป็นรอ้ ยละ 4.18 และ 0.45 ตามล�ำดับ เนื่องจาก เกษตรกรปลกู พชื อน่ื ทดแทนมนั สำ� ปะหลงั สว่ นผลผลติ ตอ่ ไรเ่ พม่ิ ขนึ้ รอ้ ยละ 4.04 เนอื่ งจากในชว่ งการเจรญิ เตบิ โตมฝี นตกกระจาย ทำ� ใหม้ นั สำ� ปะหลงั เติบโตได้ดีและส่งผลให้การระบาดของเพลี้ยแป้งลดลง ประกอบกับราคา มันสำ� ปะหลังในปี 2554 อยู่ในเกณฑด์ เี มอื่ เทียบกบั ปี 2553 จึงเปน็ แรงจูงใจให้เกษตรกรดแู ลรักษาดี

บทที่ 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 103 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ นั สำ� ปะหลงั \" ตารางท่ี 3 เน้ือทเี่ กบ็ เก่ียว ผลผลิต และผลผลิตต่อไร่ของไทย รายการ ปี 2550 ปี 2551 ปี 2552 ปี 2553 ปี 2554* อตั ราเพิ่มร้อยละ เน้ือท่ีเก็บเก่ียว 7.34 7.40 8.29 7.41 7.10 -0.65 (ลา้ นไร่) ผลผลิต (ล้านตัน) 26.92 25.16 30.09 22.01 21.91 -5.31 ผลผลติ ต่อไร่ (ตัน) 3.67 3.40 3.63 2.97 3.09 -4.68 หมายเหตุ : * ประมาณการ ทม่ี า : สำ� นักงานเศรษฐกจิ การเกษตร 2.1.4 สถานการณก์ ารตลาดมนั สำ� ปะหลงั ของไทย 1) ความตอ้ งการใช้ ผลผลติ มนั สำ� ปะหลงั เขา้ สกู่ ระบวนการแปรรปู ทงั้ หมด โดย แปรรปู เปน็ มันเสน้ มันอัดเมด็ แป้งมันส�ำปะหลงั และเอทานอล ใชเ้ ปน็ วตั ถุดบิ ในอุตสาหกรรมต่อเนือ่ ง ไดแ้ ก่ อาหารสัตว์ อตุ สาหกรรมอาหาร สารความหวาน ผงชูรส กระดาษ ส่ิงทอ ฯลฯ ในปี 2554 ปริมาณการ ใชภ้ ายในประเทศ คดิ เปน็ รอ้ ยละ 26 ทเี่ หลอื รอ้ ยละ 74 สง่ ออก ปี 2550 - 2554 ความตอ้ งการใชม้ ันสำ� ปะหลงั ในประเทศลดลงร้อยละ 5.58 ตอ่ ปี เนื่องจากผลผลิตมันส�ำปะหลังลดลง ประกอบกับราคามันส�ำปะหลัง ปรบั ตวั สงู ขนึ้ ทำ� ใหค้ วามตอ้ งการใชเ้ พอื่ เปน็ วตั ถดุ บิ อาหารสตั วล์ ดลง โดย หนั ไปใชก้ ากมนั สำ� ปะหลงั ทดแทน สว่ นแปง้ มนั สำ� ปะหลงั มกี ารใชข้ า้ วโพด เลยี้ งสตั วท์ ดแทนในอตุ สาหกรรมสารความหวานสำ� หรบั ความตอ้ งการเพอ่ื

104 การวเิ คราะห์สถานการณด์ า้ นการเกษตร ผลติ เอทานอล ไมข่ ยายตวั ตามแผนพลงั งานทดแทน 15 ปี โดยในปี 2554 มีโรงงานท่ีใช้มันส�ำปะหลังเป็นวัตถุดิบ 5 โรง ปี 2554 ผลผลิต มันส�ำปะหลังที่ลดลง ท�ำให้ผลติ ภัณฑ์มนั สำ� ปะหลัง เพอ่ื ใชใ้ นประเทศและ ส่งออกลดลงตามไปด้วย ด้านเอทานอลคาดว่าจะมีการใช้มันส�ำปะหลัง ประมาณ 0.80 ลา้ นตนั เนอื่ งจาก ราคามนั สำ� ปะหลงั ปรบั ตวั สงู ขน้ึ ทำ� ให้ ตน้ ทนุ การผลติ เอทานอลจากมนั สำ� ปะหลงั ไมส่ ามารถแขง่ ขนั กบั ราคากาก น�้ำตาลได้ 2) การส่งออก ปี 2550 - 2554 ปรมิ าณการสง่ ออกผลติ ภณั ฑม์ นั สำ� ปะหลงั ได้แก่ มันเส้น มันอดั เมด็ และแป้งมันสำ� ปะหลงั เพิ่มขึ้นร้อยละ 1.47 ต่อปี โดยการส่งออกมนั อดั เมด็ ลดลง เนอ่ื งจากผลผลิตธัญพืชของสหภาพยุโรป มีปริมาณมากข้ึน ท�ำให้ความต้องการมันอัดเม็ดของสหภาพยุโรปลดลง ไทยจงึ หนั ไปหาตลาดใหมๆ่ ในเอเชยี ทดแทน ปี 2554 คาดวา่ จะมปี รมิ าณ การสง่ ออก 5.92 ลา้ นตนั มลู คา่ 71,777 ลา้ นบาท เมอื่ เทยี บ กบั ปี 2553 ที่สง่ ออกได้ 6.71 ลา้ นตนั มูลค่า 66,140 ล้านบาท ปรมิ าณการสง่ ออก ลดลง ร้อยละ 11.77 สว่ นมลู คา่ เพ่ิมขน้ึ ร้อยละ 8.52 เนอื่ งจากผลผลิต มันส�ำปะหลังลดลง ท�ำให้ราคาผลิตภัณฑ์มันส�ำปะหลังเพิ่มข้ึน ส่งผลให้ มูลค่าการส่งออกเพ่ิมสูงข้ึน การส่งออกมันเส้นและมันอัดเม็ด มีความ ผนั ผวนคอ่ นขา้ งมาก โดยขนึ้ อยกู่ บั การผลติ และราคาธญั พชื ของประเทศคคู่ า้

บทที่ 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 105 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ นั สำ� ปะหลงั \" คือ สหภาพยุโรป และจีน ส่วนแปง้ มันส�ำปะหลงั มกี ารใช้ในอุตสาหกรรม ทหี่ ลากหลายมากขนึ้ ทำ� ใหค้ วามตอ้ งการใชข้ ยายตวั ปจั จบุ นั จนี เปน็ ประเทศ ผู้น�ำเขา้ ผลิตภัณฑ์ มันสำ� ปะหลังรายใหญท่ ส่ี ุดของไทย เนอ่ื งจากมีความ ตอ้ งการมนั เสน้ เพอื่ นำ� ไปผลติ แอลกอฮอล์ และแปง้ ดบิ เพอื่ ใชใ้ นอตุ สาหกรรม กระดาษและสง่ิ ทอ ตลาดหลกั ทส่ี ำ� คญั ของผลติ ภณั ฑม์ นั สำ� ปะหลงั มนั เสน้ ได้แก่ จีน มันอัดเม็ด ได้แก่ จนี และญีป่ ุน่ แปง้ มนั ส�ำปะหลงั ไดแ้ ก่ จีน ญี่ปุน่ อนิ โดนีเซยี และไตห้ วัน ตารางที่ 4 ปรมิ าณและมลู คา่ การส่งออกมนั สำ� ปะหลังและผลิตภัณฑ์ หน่วย : ปรมิ าณ : ล้านตนั มลู ค่า : ลา้ นบาท ปี มนั อัดเม็ด มันเส้น แปง้ มันส�ำปะหลัง รวมผลติ ภัณฑ์ 2550 ปริมาณ มูลค่า แปง้ ดิบ แป้งดิบ แป้งแปรรปู ปรมิ าณ มูลค่า 2551 ปริมาณ มลู ค่า ปรมิ าณ มูลค่า ปรมิ าณ มูลค่า 2552 1.651 7,196 2.680 11,136 1.471 13,995 0.736 12,917 6.538 45,244 2553 1.564 8,681 1.202 6,540 1.272 15,000 0.715 14,795 4.754 45,016 2554* 0.332 1,482 4.024 18,964 1.798 16,651 0.699 12,844 6.853 49,941 0.156 785 4.117 25,193 1.471 24,553 0.691 15,609 6.705 66,140 0.022 177 3.400 26,600 1.720 26,000 0.780 19,000 5.922 71,777 หมายเหตุ : * ประมาณการ ทมี่ า : กรมศุลกากร

106 การวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 3) ราคา ปี 2550 - 2554 ราคาทเี่ กษตรกรขายได้ ณ ไรน่ า เพม่ิ ขน้ึ ร้อยละ 14.58 ต่อปี เน่ืองจากผลผลติ มนั สำ� ปะหลังลดลง ประกอบกบั ราคาสนิ คา้ พชื ทดแทน เชน่ ขา้ วโพดเลย้ี งสตั ว์ และขา้ วสาลี ทง้ั ในและตา่ ง ประเทศ มีราคาสงู ขนึ้ มาก ท�ำให้ความตอ้ งการใช้มนั สำ� ปะหลงั ทงั้ ในและ ต่างประเทศขยายเพ่ิมมากขึ้นสง่ ผลให้ราคาสง่ ออก (F.O.B) สูงขึ้น เปน็ เหตุ ให้ราคาทีเ่ กษตรกรขายได้สูงตามไปด้วย ปี 2554 ราคาทเ่ี กษตรกรขายได้ ราคาสง่ ออกมนั อดั เมด็ มันเสน้ และแป้งมันสำ� ปะหลงั ปรบั สูงขึ้นจากปี ท่ผี ่านมา รอ้ ยละ 6.22 34.47 24.96 และ 5.75 ตามล�ำดบั ตารางที่ 5 ราคาผลติ ภณั ฑ์มนั สำ� ปะหลงั หนว่ ย : บาท/กก. รายการ ปี 2550 ปี 2551 ปี 2552 ปี 2553 ปี 2554* อตั ราเพิม่ 2.39 ร้อยละ ราคาหวั มนั สดทเ่ี กษตรกรขายได้ 1.38 1.73 1.32 2.25 7.37 14.58 ราคาขายสง่ มันเสน้ ตลาด กทม. 4.20 5.01 4.00 6.02 19.38 13.98 ราคาขายสง่ แป้งมันตลาด กทม. 11.07 12.93 11.88 17.47 7.88 15.27 ราคาส่งออกมนั อดั เมด็ 4.32 5.81 4.89 5.86 7.86 12.87 ราคาส่งออกมนั เสน้ 4.30 5.50 4.51 6.29 15.27 14.35 ราคาส่งออกแปง้ มนั 9.64 11.76 9.20 14.44 11.91 หมายเหตุ : * ประมาณการ ทีม่ า : สำ� นักงานเศรษฐกิจการเกษตร

บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 107 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ นั สำ� ปะหลงั \" 2.2 แนวโนม้ การผลิตและการตลาดมนั ส�ำปะหลัง ปี 2555 2.2.1 ของไทย 1) การผลิต ปี 2555 (คาดคะเน ณ เดือนกันยายน 2554) มเี น้ือทีเ่ กบ็ เก่ียว 7.37 ลา้ นไร่ ผลผลิต 25.11 ล้านตนั และผลผลติ ต่อไร่ 3.41 ตนั เทียบกบั เนอื้ ท่ีเก็บเกีย่ ว 7.10 ล้านไร่ ผลผลิต 21.91 ลา้ นตนั และผลผลิตต่อไร่ 3.01 ตนั ของปี 2554 เพ่มิ ขึ้นคิดเปน็ รอ้ ยละ 3.80 14.61 และ13.29 ตามลำ� ดบั เนอ่ื งจากราคาทเี่ กษตรกรขายไดใ้ นปี 2554 อยใู่ นเกณฑด์ ี ทำ� ใหเ้ กษตรกรขยายเนอื้ ทเี่ พาะปลกู และสภาพดนิ ฟา้ อากาศ ท่ีเอื้ออ�ำนวย มีฝนตกกระจาย ประกอบกับเกษตรกรให้ความร่วมมือกับ ภาครฐั ในการปอ้ งกนั และก�ำจดั เพลีย้ แป้ง ท�ำให้การระบาดของเพลี้ยแปง้ ลดลง 2) การตลาด (1) การใช้ในประเทศ ปี 2555 คาดวา่ จะมกี ารใช้ในประเทศประมาณ 7.58 ล้านตนั เพม่ิ ขน้ึ จาก 6.32 ล้านตนั ของปี 2554 ร้อยละ 19.94 เนื่องจากผลิตภัณฑ์มันส�ำปะหลัง โดยเฉพาะแป้งมันส�ำปะหลังสามารถ ใช้ในอตุ สาหกรรมท่หี ลากหลายมากขน้ึ ทำ� ใหค้ วามต้องการใชข้ ยายตัว

108 การวเิ คราะหส์ ถานการณ์ดา้ นการเกษตร (2) การสง่ ออก ปี 2555 คาดวา่ การสง่ ออกจะเพม่ิ ขน้ึ จากปที ผ่ี า่ นมา เนอื่ งจากผลผลติ หวั มนั สำ� ปะหลงั สดเพมิ่ สงู ขนึ้ และความตอ้ งการของตลาด ทงั้ ในรูปของมันเส้น แปง้ มนั ส�ำปะหลังและมนั อัดเม็ด ขยายเพิ่มขึ้นอย่าง ตอ่ เนอื่ ง (3) ราคา ปี 2555 คาดวา่ ราคาทเ่ี กษตรกรขายไดจ้ ะสงู ขนึ้ จาก ปี 2554 เนอื่ งจากผลผลติ ยงั มปี รมิ าณนอ้ ยกวา่ ความตอ้ งการใช้ ประกอบ กบั ประเทศผนู้ ำ� เขา้ ยงั คงมคี วามตอ้ งการใชผ้ ลติ ภณั ฑม์ นั สำ� ปะหลงั จากไทย อย่างต่อเน่ือง และในช่วงเดือนตุลาคม 2554 คณะกรรมการนโยบาย มนั สำ� ปะหลงั มมี ตใิ หด้ ำ� เนนิ การรบั จำ� นำ� มนั สำ� ปะหลงั เพอื่ ชว่ ยเหลอื เกษตรกร จึงคาดวา่ ราคาทเี่ กษตรกรขายไดจ้ ะอยู่ในเกณฑ์สงู 2.3 ปัจจัยทมี่ ีผลกระทบตอ่ ผลผลติ มันส�ำปะหลงั ปี 2555 ปจั จยั สำ� คญั ทม่ี ผี ลกระทบตอ่ ผลผลติ มนั สำ� ปะหลงั ปี 2555 คอื ปญั หาการระบาดของเพลย้ี แปง้ มนั สำ� ปะหลงั และปญั หาภยั แลง้ โดยเพลย้ี แป้งมนั สำ� ปะหลังเร่มิ ระบาดตัง้ แตป่ ี 2551 และ ระบาดรนุ แรงในชว่ งท่ี เกดิ ภาวะแหง้ แลง้ ระหว่างปี 2552 - 2553 พ้ืนท่ีปลกู ทีไ่ ดร้ บั ความเสียหาย ตอ้ งตดั ทำ� ลายตน้ มนั สำ� ปะหลงั อายนุ อ้ ย สว่ นตน้ มนั สำ� ปะหลงั ทล่ี งหวั แลว้ จะ แคระแกรน็ และเชอ้ื แปง้ ตำ่� จากปญั หาดงั กลา่ วสง่ ผลใหเ้ นอื้ ทเี่ กบ็ เกยี่ วลดลง จาก 8.30 ลา้ นไร่ ในปี 2552 เหลอื 7.41 ลา้ นไร่ ในปี 2553 และ

บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 109 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ นั สำ� ปะหลงั \" 7.10 ล้านไร่ ในปี 2554 ตามล�ำดบั และผลผลิตรวมลดลงจาก 30.09 ล้านตัน ในปี 2552 เหลอื 22.01 ลา้ นตัน ในปี 2553 และ 21.91 ล้านตัน ในปี 2554 ตามล�ำดบั หากในปี 2555 เกิดภาวะฝนแลง้ อาจ ท�ำให้เพล้ียแป้งกลับมาระบาดซ้�ำอีก และส่งผลให้ผลผลิตมันส�ำปะหลัง ลดลงได้ 2.4 สถานการณ์การผลิตและการตลาดมันส�ำปะหลังในจังหวัด นครราชสมี า ขอ้ มูลทวั่ ไป จงั หวดั นคราชสมี าเปน็ จงั หวดั ใหญ่ มพี นื้ ทมี่ ากทสี่ ดุ ในประเทศไทย แบง่ เขตการปกครองได ้ 32 อำ� เภอ จำ� นวน 287 ตำ� บล 3,712 หมบู่ า้ น มปี ระชากรท้ังหมด 2.53 ลา้ นคน มีพ้ืนท่ีทง้ั หมด 12.8 ลา้ นไร่ โดยแยก เป็นพื้นท่ที ำ� การเกษตร 8.9 ล้านไร่ สามารถแยกเปน็ พ้นื ทน่ี า จ�ำนวน 3.9 ล้านไร่ พน้ื ท่ีพชื ไร่ จำ� นวน 3.8 ล้านไร่ (เชน่ มนั สำ� ปะหลัง จ�ำนวน 1.9 ลา้ นไร่ ขา้ วโพดเลยี้ งสตั ว์ จำ� นวน 0.9 ลา้ นไร่ ออ้ ยโรงงาน ประมาณ 0.7 ลา้ นไร่ )พชื สวน 0.44 ล้านไร่ พืน้ ท่พี ืชผกั จำ� นวน 0.046 ล้านไร่ และมีครวั เรอื นเกษตรกร จ�ำนวน 332,126 ครัวเรอื น (ร้อยละ 46.14 ของครวั เรือนทั้งจังหวดั )

110 การวิเคราะหส์ ถานการณด์ ้านการเกษตร 2.4.1 สถานการณ์การผลติ มันสำ� ปะหลังจงั หวัดนครราชสีมา จงั หวดั นครราชสมี าเปน็ จงั หวดั ทม่ี พี นื้ ทป่ี ลกู มนั สําปะหลงั มากท่ีสุดในประเทศไทยมีพ้ืนที่ปลูกมันสําปะหลังมีพื้นที่เพาะปลูกเฉลี่ย (ปี 49-54) ประมาณ 1.9 ลา้ นไร่ มลู คา่ ผลผลติ ประมาณ 1.4 หมืน่ ล้าน บาทตอ่ ปี ครอบคลมุ พื้นที่ 32 อําเภอ เกษตรกรประมาณ 73,000 ราย ในปี 2549 พน้ื ทปี่ ลกู 1.9 ลา้ นไรแ่ ละเพม่ิ ขน้ึ ในปี 51/52 พน้ื ทปี่ ระมาณ 2.1 ล้านไร่ เนอื่ งจากราคาจูงใจอยา่ งตอ่ เนอ่ื ง และในปี 53 ราคายังสงู ถงึ 3.5 บาท/กก. แตใ่ นปี 52/53ประสบปัญหาภยั แลง้ และการระบาดของ เพลี้ยแป้งท�ำใหผ้ ลผลิตเสยี หาย ท�ำใหผ้ ลผลติ รวมเหลือเพียง 5.67 ล้านตัน (ลดลงประมาณ 20% ซงึ่ เดมิ คาดวา่ ประมาณ 7.2 ล้านตัน) ผลผลติ เฉลย่ี ประมาณ 2.8 ตนั /ไร่ ส่งผลให้ ในปี 2552/53 มพี น้ื ท่ปี ลูกลดลงเหลอื 1.85 ล้านไร่ เน่ืองจากการขาดแคลนท่อนพันธุ์ และเพ่ือตัดวงจรการ ระบาดของเพลีย้ แป้ง ปญั หาการผลิตส่วนใหญ่ทีพ่ บ ได้แก่ ตน้ ทุนการผลติ สูง ซึ่งเน่ืองมาจากความเสื่อมโทรมของดิน และการระบาดของโรคแมลง เชน่ เพลยี้ แป้ง ไรแดงซึง่ มผี ลใหผ้ ลผลติ ลดลง ตงั้ แต่ รอ้ ยละ 10-80 ส่วน ในปี 53/54 และ54/55 มพี นื้ ทแี่ ละผลผลิตเพิม่ เน่ืองจากเกษตรกรมี การดแู ลแปลงปลกู มนั สำ� ปะหลงั อยา่ งตอ่ เนอื่ งภาครฐั รณรงคใ์ หค้ วามรดู้ า้ น การเพม่ิ ผลผลิต และการป้องกันก�ำจัดศัตรพู ืช รวมถึงราคาของผลผลิตท่ี เป็นแรงจงู ใจในการดแู ลรกั ษาแปลง สภาพภูมิอากาศท่ีเออื้ อำ� นวย ฝนตก อยา่ งตอ่ เนื่อง ราคาผลผลติ มแี นวโน้มสูงขนึ้ ปลูกทดแทนในพ้นื ทีเ่ กดิ การ ระบาดโรคใบขาวออ้ ย

บทที่ 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 111 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ นั สำ� ปะหลงั \" แบง่ ฤดกู ารผลติ เปน็ 2 ชว่ งคอื ปลกู ในชว่ งตน้ ฝนรอ้ ยละ 70 ตงั้ แตม่ นี าคม ถงึ เดอื นกรกฎาคม และจะมกี ารปลกู ชว่ งปลายฝนตง้ั แตเ่ ดอื น ตลุ าคมถงึ เดือนกมุ ภาพนั ธ์ ประมาณ รอ้ ยละ 27 โดยมกี ารเกบ็ เกยี่ วมาก ในชว่ งเดอื นมีนาคมถึงเดอื นเมษายน เกษตรกรมกี ารใช้มันสำ� ปะหลงั พนั ธด์ุ ี เกอื บ 100 เปอรเ์ ซน็ ต์ โดยมพี นั ธเ์ุ กษตรศาสตร์ 50 ประมาณ 518,000ไร่ (28%) พนั ธรุ์ ะยอง 5 จ�ำนวน 370,000 ไร่ (20%) พันธ์ุห้วยบง 60 จ�ำนวน 555,000 ไร่ (30%) พนั ธุร์ ะยอง 72 จ�ำนวน 148,000 ไร่ (8%) พนั ธุร์ ะยอง 7 และระยอง 9 จำ� นวน 55,500 ไร่ (3%) พันธุ์หว้ ยบง 80 จ�ำนวน 92,500 ไร่ (5%) พันธร์ุ ะยอง 11 จำ� นวน 101,750 ไร่ (5.5%) อ่นื ๆ (เช่นระยอง 90 ระยอง 60 ศรรี าชา) จ�ำนวน 9,250 ไร่ (0.5%) 2.4.2 สถานการณ์การตลาดมนั สำ� ปะหลงั จังหวัดนครราชสมี า ความตอ้ งการของตลาด จงั หวดั นครราชสมี ามโี รงงานอตุ สาหกรรมดา้ นมนั สำ� ปะหลงั ค่อนขา้ งมาก เช่น โรงงานแปง้ มันสำ� ปะหลงั จ�ำนวน 22 แหง่ ลานมนั จ�ำนวน 220 ลาน มคี วามต้องการหวั มนั สำ� ปะหลงั สด 3.6 ลา้ นตัน/ปี ผลผลิตมนั สำ� ปะหลังของเกษตรกรสว่ นใหญ่ร้อยละ 60 เกษตรกรจะขาย ใหก้ ับโรงงานแป้ง และร้อยละ 40 ขายให้กับลานมนั แนวโนม้ ในปี 2555 พนื้ ทเี่ พาะปลกู มนั สำ� ปะหลงั ประมาณ 1.95 ลา้ นไร่เกษตรกร จำ� นวน 71,240 ราย คาดวา่ ผลผลิตเฉลีย่ ไมต่ ำ่� กวา่ 4 ตนั /ไร่ (ปีทผ่ี ่านมา 3.8 ตนั /ไร)่ คาดวา่ ผลผลติ รวม ประมาณ 7.4 ลา้ นตนั

112 การวิเคราะห์สถานการณ์ด้านการเกษตร ทงั้ นี้ คาดการณพ์ นื้ ทเ่ี กบ็ เกยี่ วจะเพมิ่ ขน้ึ จากปที แี่ ลว้ ประมาณ รอ้ ยละ 5 ส่วนผลผลิตคาดวา่ จะเพม่ิ ข้ึนประมาณ ร้อยละ 8 ซึ่งในช่วงนี้ อยู่ในช่วงของการเจริญเติบโตทางล�ำต้นและลงหัว กอปรกับมีฝนตก อยา่ งตอ่ เนอื่ งหลายวนั ขณะทเ่ี กษตรกรมกี ารดแู ลรกั ษาโดยการกำ� จดั วชั พชื ในแปลงเพาะปลูกและใส่ปุ๋ยบ�ำรุงดิน พบว่ามีการระบาดของเพล้ียแป้ง ในมันส�ำปะหลังเพียงเล็กน้อยในบางพื้นท่ีเท่านั้น แต่อยู่ในระดับที่ไม่ส่ง ผลกระทบต่อผลผลิตมาก แตข่ ณะเดียวกนั พบวา่ เกษตรกรสว่ นใหญล่ ะเลย ไม่แช่ท่อนพันธุ์ด้วยสารเคมีก่อนปลูกและจากปัญหาดังกล่าวอาจท�ำให้ เพล้ียแป้งกลับมาระบาดได้อกี ครัง้ ในชว่ งต่อไป

บทที่ 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 113 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ นั สำ� ปะหลงั \" ตวั อยา่ ง การวิเคราะหส์ ถานการณ์มนั สำ� ปะหลัง กรณีศึกษา ภาวะการณ์ผลติ และการตลาดมนั สำ� ปะหลงั ใน หมูบ่ ้าน มนั สำ� ปะหลงั พฒั นา บา้ นบอ่ ลงิ ตำ� บลโนนสมบรู ณ์ อำ� เภอเสงิ สาง จงั หวดั นครราชสมี า ปี 2551 การวิเคราะห์ในระดับชุมชนจะต้องมีข้อมูลภาวะความเป็นไปในระดับ ชมุ ชน ซ่งึ อาจเป็นปจั จัยที่มีผลกระทบตอ่ การผลติ มันส�ำปะหลัง ซงึ่ จำ� เป็น ตอ้ งศกึ ษา วเิ คราะห์ดว้ ยการใชเ้ ครื่องมอื ตา่ งๆ ซึ่งกรณีศกึ ษาดังกล่าวได้ ทำ� การศกึ ษา รวบรวม และวิเคราะห์ขอ้ มลู ตา่ งๆ ดงั น้ี ตำ� บลโนนสมบูรณ์ มีครัวเรอื นเกษตรกรทั้งส้นิ 225 ครวั เรอื นจาก 247 ครัวเรอื น พื้นท่ีทำ� การเกษตร 2,012 ไร่ คิดเป็นรอ้ ยละ 29 ของพืน้ ที่ ทง้ั หมด พน้ื ทสี่ ว่ นใหญ่ เพาะปลกู พชื ไร่ พชื ไรท่ น่ี ยิ มปลกู ไดแ้ ก่ มนั สำ� ปะหลงั และออ้ ย ไมผ้ ล 10% พชื ผกั 10% ออ้ ย 4% มนั สำ� ปะหลัง 71% ข้าว 5% รปู ที่ 1 แสดงสดั สว่ นการเพาะปลูกพืชของเกษตรกร ตำ� บลโนนสมบูรณ์

114 การวิเคราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 1. การวเิ คราะห์ตนเองของกลุ่ม 1.1 ข้อมูลพ้นื ฐานกลมุ่ 1.1.1 ขอ้ มูลด้านเศรษฐกจิ และสังคม - รายได้ เกษตรกรบา้ นบอ่ ลงิ สว่ นใหญม่ อี าชพี ทางดา้ นการเกษตร รายได้หลักมาจากการปลูกพืชและเล้ียงสัตว์ พืชหลักท่ีส�ำคัญ ได้แก่ มันสำ� ปะหลงั วัว 3% ออ้ ย 5% พชื ผกั /ไมผ้ ล 10% มันส�ำปะหลัง 57% รูปท่ี 2 แสดงสัดส่วนรายได้จากการทำ� การเกษตรของเกษตรกร บา้ นบ่อลิง ต�ำบลโนนสมบูรณ์

บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 115 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ นั สำ� ปะหลงั \" - แหล่งเงนิ ทุน เกษตรกรส่วนใหญ่ใช้เงินทุนจากภายนอก ได้แก่ ธกส. กองทุนหมบู่ า้ น นายทุน รา้ นคา้ ปยุ๋ และสารเคมี ตามล�ำดบั 80 60 40 20 0 ธกส. กองทุนหมู่บา้ น นายทนุ ร้านคา้ ปุ๋ย-ยา รปู ท่ี 3 แสดงแหล่งเงนิ ทุนของกล่มุ ผปู้ ลูกมันสำ� ปะหลังบ้านบอ่ ลิง ต�ำบลโนนสมบูรณ์ อำ� เภอเสิงสาง

116 การวิเคราะห์สถานการณ์ดา้ นการเกษตร นอกจากรายไดจ้ ากการทำ� การเกษตรแลว้ เกษตรกรยงั มรี ายไดเ้ สรมิ จากการรับจ้างทั่วไป เช่น รับจ้างเก็บเก่ียวมันส�ำปะหลัง รับจ้างขนส่ง เป็นต้น และจากการศึกษารายจ่ายของเกษตรกรจะเห็นว่าเกษตรกร เสยี คา่ ใชจ้ า่ ยในสว่ นทม่ี คี วามจำ� เปน็ นอ้ ยคอ่ นขา้ งมาก เชน่ หวย คา่ โทรศพั ท์ คา่ เหลา้ โดยลงทุนกับการศึกษา ของบุตรหลานน้อยกว่า โทรศพั ท์ 10% ค่าอาหาร 23% คา่ เล่าเรยี นลูก 9% เส้อื ผา้ 9% เคร่อื งใช้ใน น้�ำเมา 4% ครวั เรอื น 12% นำ�้ -ไฟ 12% หวย 5% หมอ 11% รูปท่ี 4 แสดงสดั สว่ นการใช้จา่ ยนอกภาคเกษตร ของเกษตรกร บา้ นบอ่ ลิง ตำ� บลโนนสมบรู ณ์

บทที่ 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 117 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ นั สำ� ปะหลงั \" 1.1.2 ข้อมลู ดา้ นการผลิต ช่ือกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันส�ำปะหลังบ้านบ่อลิง ตั้งอยู่ท่ีหมู่ 10 ต�ำบลโนนสมบรู ณ์ อ�ำเภอเสิงสาง เป็นกลมุ่ เกษตรกรท่จี ัดต้ังขนึ้ เพื่อ รองรับโครงการจัดระบบพิเศษเฉพาะพ้ืนท่ีมันส�ำปะหลัง ปี 2550/51 สมาชิกรวมจ�ำนวนทั้งสน้ิ 50 คน เกิดจากกลมุ่ เกษตรกร 2 กลุม่ รวมกนั ได้แก่ 1) กลมุ่ วสิ าหกจิ ชมุ ชนผผู้ ลติ ผกั ปลอดภยั จากสารพษิ ประกอบ ดว้ ยสมาชกิ 12 คน สมาชิกมีรายไดจ้ ากการปลกู ข้าว อ้อย มนั ส�ำปะหลงั ปาล์มน้�ำมัน ยางพารา พืชผัก การเลยี้ งสตั ว์ (ววั ควาย สุกร) และการ เลี้ยงปลาได้รับเงินทนุ สนับสนุนเพ่ือจดั ตงั้ กล่มุ จำ� นวน 100,000 บาท ตงั้ แตป่ ี 2548 จากองคก์ ารบริหารส่วนตำ� บลโนนสมบรู ณ์ ในลกั ษณะ เงนิ ยมื ไมค่ ดิ ดอกเบยี้ มกี ารแตง่ ตง้ั คณะกรรมการบรหิ ารกลมุ่ และกลมุ่ มกี าร ดำ� เนนิ กจิ กรรมอย่างตอ่ เนอ่ื ง เชน่ มกี ารประชมุ คณะกรรมการ การอบรม สมาชิก การให้สมาชิกกู้ยืมเงินอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 2 บาทต่อเดือน เปน็ ตน้ 2) กลุ่มเกษตรกรโครงการจัดระบบพิเศษเฉพาะพ้ืนท่ี มนั สำ� ปะหลงั สมาชกิ 38 คน เกษตรกรเรมิ่ จดั ตง้ั ขน้ึ เพอ่ื รองรบั โครงการ

118 การวิเคราะหส์ ถานการณ์ดา้ นการเกษตร 1.2 การวเิ คราะห์ศกั ยภาพการบริหารจัดการกลมุ่ เนอื่ งจากเปน็ กลมุ่ ทเ่ี รมิ่ จดั ตง้ั เพอื่ รองรบั โครงการ แตส่ มาชกิ กลุ่มได้มีความตงั้ ใจท่จี ะบรหิ ารจัดการ ให้กลมุ่ มคี วามเข้มแขง็ โดยไดแ้ ตง่ ตงั้ คณะกรรมการบรหิ ารจดั การกลมุ่ จำ� นวน 12 คนประกอบดว้ ย ประธาน รองประธาน เลขานุการ เหรัญญิก ประชาสัมพนั ธ์ และกรรมการ 7-9 คน กำ� หนดใหม้ กี ารประชมุ ทกุ เดอื น เพอ่ื ตรวจสอบการดำ� เนนิ งานและวางแผน การด�ำเนินงานกลุ่ม โดยต้ังกฎระเบียบของกลุ่มด้านการบริหารจัดการ และการบรหิ ารรายได้ และเพิ่มเงินทุนหมุนเวียนเพ่อื ใชใ้ นการบริหารงาน การให้สินเชอ่ื การจดั ซ้ือจัดหาปัจจยั การผลิตดา้ นต่างๆ แกส่ มาชิก โดย ระดมทนุ จากสมาชกิ หนุ้ ละ 100 บาท จากแหลง่ เงนิ ทนุ เชน่ ธกส. สหกรณ์ สปก. อบต. อบจ.และการเรียกเกบ็ คนื คา่ ปจั จัยการผลติ เป็นต้น กิจกรรมการพัฒนาการผลิตมันส�ำปะหลังของสมาชิกกลุ่มที่ ได้ดำ� เนนิ การแลว้ ได้แก่ - รวบรวมรายช่ือสมาชิกเพ่ือขอการสนับสนุนเมล็ดพันธุ์พืช ปุ๋ยสดจากกรมพฒั นาที่ดิน - จัดทำ� แผนพัฒนาความร้แู ละการผลติ ในอนาคต เชน่ การ พฒั นาคุณภาพผลิตผลเป็นมนั เส้นสะอาด การฝกึ อบรมดงู าน การจัดท�ำ แปลงเรียนรู้ การใชว้ สั ดจุ ากเหลอื ใช้เพือ่ ท�ำถา่ นอดั แท่ง

บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 119 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ นั สำ� ปะหลงั \" กิจกรรมด้านการตลาด กลุ่มยังไม่มีแผนการด�ำเนินงานการ พัฒนาการตลาดมันส�ำปะหลัง เช่นยังไม่มีการรวมกลุ่มเพ่ือขายผลผลิต เป็นต้น 2. การวเิ คราะหผ์ มู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ในการผลติ และการตลาดของกลมุ่ 2.1 การวเิ คราะหค์ วามส�ำคัญและความสัมพันธผ์ ู้มสี ว่ นได้สว่ นเสีย การวเิ คราะหก์ ารผลติ และการตลาดมนั สำ� ปะหลงั ของเกษตรกร วเิ คราะหโ์ ดยใชบ้ ตั รคำ� แยกแยะความสมั พนั ธ์ ดว้ ยขนาดและการวางบตั รคำ� จะพบว่าธนาคารเพอื่ การเกษตรและสหกรณม์ คี วามสำ� คญั ในการผลติ ของ เกษตรกร (ใหส้ นิ เชอ่ื ) รองลงมาไดแ้ กโ่ รงแปง้ (แหลง่ รบั ซอ้ื ผลผลติ ) สำ� หรบั เจา้ หน้าทีส่ ่งเสรมิ การเกษตรมีความส�ำคัญนอ้ ย

120 การวิเคราะห์สถานการณ์ด้านการเกษตร ผเู้ กีย่ วขอ้ งภายนอก หมูบ่ า้ น พ่อคา้ ยา-ปยุ๋ ธกส. นายทุน เพอื่ นบา้ น รถไถ กองทนุ เจ้าหน้าที่เกษตร หม่บู า้ น แรงงานจ้าง โรงแป้ง ลานมัน ผเู้ ก่ียวขอ้ งภายใน หมูบ่ า้ น รูปท่ี 5 แสดงความสัมพนั ธข์ องผ้มู สี ว่ นได้ส่วนเสียในการผลติ และ การตลาดมันสำ� ปะหลังของกลุ่ม 2.2 ความต้องการของลกู คา้ และผูบ้ ริโภค เกษตรกรจำ� หนา่ ยผลผลติ มนั สำ� ปะหลงั โดยไมม่ กี ารรวมกลมุ่ และไม่มีการตกลงซ้ือขายล่วงหน้า โดยเกษตรกรจะจ�ำหน่ายผลผลิตใน ลักษณะหัวมันสดในชว่ งเดอื นพฤศจิกายน - เดือนเมษายน เปน็ ส่วนใหญ่ ซง่ึ เปน็ ช่วงผลิตผลประดงั ออกส่ตู ลาดพรอ้ มๆกนั ในราคา 1.5-1.8 บาท ต่อกิโลกรัม (ขอ้ มูลปี 2552) ซง่ึ ผลผลิตรอ้ ยละ 99 จะถูกจ�ำหน่ายให้กบั โรงแป้งใกลเ้ คยี ง

บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 121 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ นั สำ� ปะหลงั \" 3. การวิเคราะห์ปัจจัยสภาพแวดล้อมที่มีผลต่อการผลิตสินค้าที่ ปลอดภยั และได้มาตรฐาน 3.1 พื้นท่ปี ลกู พื้นท่ีปลูกมันส�ำปะหลังเกษตรกรต�ำบลโนนสมบูรณ์ อ�ำเภอ เสงิ สาง สว่ นใหญเ่ ปน็ พ้นื ที่ราบสูง จากแผนที่ดนิ บา้ นบ่อลิงอยูใ่ นชุดดนิ ที่ 40 ซง่ึ มีเนอื้ ดนิ เปน็ ดินรว่ นปนทราย ดนิ สนี ้�ำตาลออ่ น สเี หลืองหรอื แดง บางแห่งอาจพบจุดประสีในดินช้ันล่าง เกดิ จากวตั ถุต้นก�ำเนดิ พวกตะกอน ลำ� นำ้� หรอื จากการสลายตวั ผพุ งั ของหนิ เนอื้ หยาบ พบบรเิ วณพน้ื ทค่ี อ่ นขา้ ง ราบเรยี บจนถงึ พน้ื ทลี่ าดเชงิ เขา สว่ นใหญม่ คี วามลาดชนั ประมาณ รอ้ ยละ 2 - 20 และบางส่วนมีความลาดชันประมาณร้อยละ 20 - 35 เปน็ ดนิ ลึก มกี ารระบายนำ้� ดี ระดบั นำ�้ ใตด้ นิ อยลู่ กึ กวา่ 1 เมตรตลอดปี มีความอดุ ม สมบรู ณต์ ามธรรมชาตติ ่ำ� pH 4.5 - 5.5 3.2 แหลง่ นำ�้ การผลิตมันส�ำปะหลังของเกษตรกรจะใช้น้�ำฝนเป็นหลัก จากสถิติน้�ำฝนเฉล่ีย 10 ปี (2540-2549) มีปริมาณน้�ำฝนประมาณ 1,055.05 มม./ปี แม้จะเพียงพอกับการเพาะปลูกมันส�ำปะหลัง แต่ใน ระหวา่ งการเพาะปลกู เกษตรกรมกั ประสบปญั หาฝนทง้ิ ชว่ ง ในชว่ งเดือน มถิ นุ ายน-กรกฎาคม ประกอบกบั ดนิ มคี วามสามารถในการอมุ้ นำ�้ ตำ�่ ทำ� ให้ มนั ส�ำปะหลงั ขาดนำ้� เป็นระยะเวลา 2- 4 อาทิตย์ ผลผลติ มนั สำ� ปะหลัง จึงไม่สงู เทา่ ท่คี วร

122 การวเิ คราะหส์ ถานการณด์ ้านการเกษตร ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. ม.ิ ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. รูปที่ 6 แสดงการกระจายของปรมิ าณนำ�้ ฝน บ้านบอ่ ลิง ตำ� บลโนนสมบูรณ์ อำ� เภอเสิงสาง 4. การวเิ คราะห์กระบวนการผลติ และการจัดการ 4.1 กระบวนการผลติ 1) การใชแ้ รงงาน มันส�ำปะหลังแม้จะเป็นพืชท่ีต้องการการดูแลเอาใจใส่ น้อยกว่าพืชไร่ชนิดอื่นๆ ก็ตามแต่ก็มีช่วงท่ีเกษตรกรขาดแคลนแรงงาน โดยเฉพาะในชว่ งปลกู ซง่ึ อยรู่ ะหวา่ งเดอื นมนี าคม - เดอื นเมษายนรองลงมา เปน็ ชว่ งการเกบ็ เกี่ยว ระหวา่ งเดือนมกราคม - เดือนมีนาคม

บทที่ 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 123 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ นั สำ� ปะหลงั \" 50 4450 35 30 25 20 15 150 0 ม.ค. ก.พ. มี.ค. เม.ย. พ.ค. มิ.ย. ก.ค. ส.ค. ก.ย. ต.ค. พ.ย. ธ.ค. รูปท่ี 7 แสดงการใชแ้ รงงานในรอบปขี องเกษตรกรผู้ปลูกมนั ส�ำปะหลัง บ้านบ่อลงิ ตำ� บลโนนสมบูรณ์ 2) การเตรยี มดิน เกษตรกรมกี ารไถ 2 คร้ัง คือไถผาล 3 และผาล 7 หลงั จาก นัน้ จึงยกร่องปลกู โดยด�ำเนนิ การในเดอื น มนี าคม- เมษายน ใชป้ ๋ยุ มูลไก่ เฉล่ยี ไร่ละ 100 กิโลกรมั รองพน้ื และไถคลุก

124 การวิเคราะหส์ ถานการณด์ ้านการเกษตร 3) การใช้พนั ธ์ุ เกษตรกรส่วนใหญร่ ้อยละ 33 ใช้พนั ธรุ์ ะยอง 72 รองลงมา ใชพ้ ันธ์หุ ้วยบง 60 ระยอง 5 ร้อยละ 31, 27 ตามลำ� ดับ นอกจากน้ี เกษตรกรยังใชพ้ ันธุ์เกษตรศาสตร์ 50 และ ระยอง 9 ในสัดสว่ นเลก็ น้อย คดิ เปน็ รอ้ ยละ 7 และ 2 ตามลำ� ดบั สำ� หรบั คณุ ลกั ษณะของพนั ธท์ุ เี่ กษตรกร น�ำมาใชใ้ นการตัดสนิ ใจเลือกใช้พนั ธท์ุ ีส่ ำ� คญั เปน็ อันดับแรก ได้แก่ ผลผลิต สูงหัวดกและ เปอรเ์ ซน็ ตแ์ ป้งสูง นอกจากนี้ควรจะเป็นพนั ธุท์ ี่ทนแลง้ ทรงต้น ไมแ่ ตกกง่ิ ก้านมาก สามารถเข้าไปปฏบิ ตั ดิ แู ล เชน่ ใสป่ ยุ๋ กำ� จดั วชั พชื ไดง้ ่าย เจรญิ เติบโตเรว็ และเกบ็ รกั ษาต้นพนั ธุไ์ ด้นาน คดิ เปน็ รอ้ ยละ 14, 12, 12 และ 6 ตามล�ำดบั ห้วยบง 60 31% ระยอง 9 2% เกษตรศาสตร์ 50 7% ระยอง 72 33% ระยอง 5 27% รปู ที่ 8 แสดงสดั สว่ นพนั ธ์ุมันสำ� ปะหลงั ที่ปลกู ในพ้นื ท่บี ้านบอ่ ลงิ

บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 125 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ นั สำ� ปะหลงั \" ทรงตน้ ทำ� งานงา่ ย 12% กง่ิ พันธุ์ เก็บได้นาน 12% ทนแล้ง 14% หัวดก 28% เจรญิ เตบิ โตเรว็ 14% เปอรเ์ ซน็ ตแ์ ปง้ สงู 28% รูปท่ี 9 แสดงสดั ส่วนคณุ ลักษณะของพนั ธมุ์ ันสำ� ปะหลงั ที่เกษตรกรน�ำมาใช้ ตดั สินใจเลอื กพนั ธุ์ปลกู 4) การปลกู ระยะปลูก 80 x 120 ม., 80 x 100 ซม., 100 x 100 ซม. 4.2 ผลผลิต ผลผลิตมันส�ำปะหลังเฉล่ีย 4.66 ตันต่อไร่ โดยเกษตรกร ส่วนใหญร่ ้อยละ 39 มีผลผลติ เฉล่ยี ไรล่ ะ 3 - 4 ตนั รองลงมามผี ลผลิตเฉลี่ย ไรล่ ะ 4 - 5 ตนั มากกวา่ 6 ตัน 17% 2-3 ตัน 16% 5-6 ตนั 9% 3-4 ตนั 39% 4-5 ตนั 19% รูปท่ี 10 แสดงสดั สว่ นผลผลติ มันส�ำปะหลังเฉล่ยี ตอ่ ไร่ของเกษตรกร บา้ นบอ่ ลิง

126 การวิเคราะห์สถานการณด์ า้ นการเกษตร 4.3 การกำ� จดั วัชพชื เกษตรกรดำ� เนนิ การทงั้ วธิ กี ารใชแ้ รงงาน เครอ่ื งจกั รขนาดเลก็ (รถไถเดนิ ตาม) ในชว่ ง 1 เดือนหลงั ปลูก และบางรายใช้สารเคมกี �ำจดั วชั พืช บางรายใชร้ ถไถเดนิ ตามแถกร่องไถกลบ เมือ่ มนั ส�ำปะหลงั อายุ 3 เดือน 4.4 การใช้ปุ๋ย เกษตรกรส่วนใหญ่ใช้ปุ๋ยมูลไก่ รองก้นหลุมปลูกในอัตรา ประมาณ 250 - 300 กิโลกรัมต่อไร่ หลังจากนั้นจะใส่ปุ๋ยเคมีสูตร 15-15-15 ในอัตราไร่ละ 50 กโิ ลกรัม เพือ่ เร่งการเจรญิ เตบิ โตพร้อมกบั การกำ� จัดวัชพืชเมื่อมันส�ำปะหลงั อายุ 3 เดอื น 4.5 การเกบ็ เก่ยี ว ใชแ้ รงงานคนขุดถอน 4.6 การขายผลผลิต การจ�ำหน่ายผลผลิตส่วนใหญ่ร้อยละ 99 จ�ำหน่ายให้แก่ โรงงานแปง้ เนอ่ื งจากโรงงานแปง้ ใหร้ าคาดกี วา่ ลานมนั ไดแ้ ก่ โรงงานแปง้ หนองไผใ่ หญ่ โรงงานแป้งเอยี่ มเฮง โรงงานแป้งสระประทีป/ซพี ี โรงงาน แปง้ หวั แหวน โรงงานแป้ง ลานมนั ศรโี สภณ 1% โรงงานแปง้ หัวแหวน 3% โรงงานแปง้ หนองไผใ่ หญ่ 51% เอ่ยี มเฮง 31% โรงงานแป้ง สระประทีป/ซีพี 14% รปู ที่ 11 แสดงสัดส่วนการจ�ำหน่ายผลผลิตของเกษตรกรไปยังผ้รู ับซื้อ

บทที่ 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 127 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ นั สำ� ปะหลงั \" 4.7 คุณภาพของผลผลติ มันส�ำปะหลัง ผลผลติ มนั สำ� ปะหลงั สว่ นใหญร่ อ้ ยละ 43 มเี ปอรเ์ ซน็ ตแ์ ปง้ 23-25 % (เปอรเ์ ซ็นต์แป้งเฉลย่ี ของผลผลิตมันสำ� ปะหลังท้งั ประเทศ คอื 24 %) ซงึ่ จากการศกึ ษาพบวา่ ผลผลติ มนั ส�ำปะหลังสว่ นนอ้ ยร้อยละ 25 ทเ่ี กษตรกรผลติ ไดม้ เี ปอรเ์ ซน็ ตแ์ ปง้ สงู กวา่ คา่ เฉลยี่ และผลผลติ รอ้ ยละ 32 ยงั มแี ปง้ ตำ�่ กวา่ คา่ เฉลย่ี ซงึ่ เกษตรกรระบสุ าเหตทุ ผี่ ลผลติ แปง้ ตำ่� เนอื่ งจาก ชนิดของดินที่ปลูก ดินท่ีมีความอุดมสมบูรณ์ต�่ำจะให้ผลผลิตต่�ำ และ เปอรเ์ ซน็ ตแ์ ปง้ ตำ�่ ลกั ษณะของดนิ ดงั กลา่ วจะมเี นอื้ ดนิ ละเอยี ด เปน็ ทรายแปง้ ซึ่งการปลูกมันส�ำปะหลังดังกล่าวต้องใส่ปุ๋ยเคมี และปุ๋ยคอก(ขี้ไก่) มาก เกษตรกรไม่มีเงินทนุ ทีจ่ ะจดั หาป๋ยุ ดังกลา่ ว เปอรเ์ ซน็ ตแ์ ปง้ 26-28% เปอรเ์ ซน็ ตแ์ ปง้ มากกวา่ 28% เปอรเ์ ซน็ ตแ์ ปง้ 20-22% 18% 7% 32% เปอรเ์ ซ็นตแ์ ปง้ 23-25% 43% รปู ท่ี 12 แสดงสัดสว่ นของเกษตรกรทส่ี ามารถผลิตมนั ส�ำปะหลงั ทีม่ คี ุณภาพ

128 การวเิ คราะห์สถานการณ์ด้านการเกษตร 4.8 ตน้ ทุนและผลตอบแทนการผลิตมันสำ� ปะหลัง จากการศึกษาต้นทุนการผลิตมันส�ำปะหลังของเกษตรกร บ้านบ่อลงิ พบวา่ เกษตรกรมตี ้นทุนการผลิตเฉลย่ี 3,624 บาทต่อไร่ โดย ส่วนใหญร่ อ้ ยละ 40 เปน็ ค่าจา้ งแรงงาน รองลงมาร้อยละ 33 เป็นคา่ ปุ๋ย ซึง่ รวมทงั้ ปุ๋ยเคมี ปยุ๋ อินทรีย์ และปุ๋ยน้ำ� คา่ รถขนส่ง 13% คา่ ไถ 7% คา่ สารเคมีวชั พชื 7% คา่ ปุย๋ 33% ค่าแรงงาน 40% รูปท่ี 13 แสดงสัดส่วนต้นทุนการผลติ มันสำ� ปะหลงั ของเกษตรกร ผลตอบแทนในการผลิตมันส�ำปะหลังของเกษตรกรบ้านบ่อลิง อ�ำเภอโนนสมบรู ณ์ เฉลย่ี ไร่ละ 5,984 บาท โดยขายผลผลติ ไดร้ าคาเฉล่ีย กโิ ลกรมั ละ 1.28 บาทดงั นน้ั เกษตรกรจะมกี ำ� ไรจากการผลติ มนั สำ� ปะหลงั ประมาณไร่ละ 2,359 บาท

บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 129 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ นั สำ� ปะหลงั \" 5. การวิเคราะห์ปญั หาและความเสี่ยงในการผลิตและการจดั การ จากการศกึ ษาพบสาเหตทุ ม่ี นั สำ� ปะหลงั ผลผลติ ตำ่� มสี าเหตหุ ลกั ดงั นี้ 1) ความอดุ มสมบูรณ์ของดินต่ำ� เนือ่ งจากเกษตรกรปลูกมนั สำ� ปะหลงั ติดตอ่ กันเปน็ ระยะเวลานาน ขาดการเพม่ิ อนิ ทรยี วตั ถใุ หก้ ับ ดิน และชนิดของดิน ประกอบกับปัจจุบันปุ๋ยเคมีมีราคาแพงท�ำให้ เกษตรกรใสป่ ยุ๋ เคมลี ดลง 2) ขาดความรู้เร่ืองดินและการจัดการดินอย่างเหมาะสม เกษตรกรรู้แต่เพียงว่าการใส่ปุ๋ยให้แก่ดิน มีความส�ำคัญแต่ไม่ทราบ กระบวนการ วิธกี ารอนรุ กั ษ์ดนิ การเพิม่ ความอดุ มสมบูรณด์ นิ โดยวิธี อ่ืนๆ ตลอดจนไม่ทราบหน้าท่ีของธาตุอาหารหลักที่ส�ำคัญท่ีมีต่อพืช ดงั น้ันการใช้ปยุ๋ เคมีจึงมปี ระสิทธภิ าพนอ้ ย เกษตรกรเลอื กชนิดของป๋ยุ ด้วยเหตุผลหลายๆเหตุผล เช่น เลือกตามค�ำแนะน�ำของพ่อค้าปุ๋ย ตามค�ำโฆษณา ตามคำ� แนะน�ำ ของเพ่อื นบา้ น และเงนิ ทุนของตนเอง เปน็ ตน้ น�ำไปสู่การเลือกชนิดและอัตราการใชป้ ุย๋ ไม่ถกู ต้อง 3) มนั สำ� ปะหลังขาดนำ�้ ในบางช่วงของการเจริญเตบิ โต

130 การวิเคราะห์สถานการณด์ ้านการเกษตร แบบการวเิ คราะหป์ ญั หาและความเสยี่ งในการผลติ สนิ คา้ เกษตร กลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกมันส�ำปะหลังบ้านบ่อลิง ต�ำบลโนนสมบูรณ์ อ�ำเภอเสิงสาง จงั หวัดนครราชสีมา ปรบั ปรงุ บำ� รงุ ดนิ ดว้ ยปยุ๋ พชื สด ประสานงานกับ (ถว่ั พร้า ถว่ั พ่มุ ถั่วเขยี ว) กระทรวงพาณิชย์ ดินขาดความอุดมสมบูรณ์ รวมกลุ่มเพอ่ื จดั หา ปจั จัยการผลติ ดนิ จดื เสอ่ื มคณุ ภาพ ราคาต่�ำ สนับสนนุ การใชป้ ุ๋ยตามคา่ ผลผลิตต่�ำ การวิเคราะหด์ นิ ไมใ่ ส่ปยุ๋ ปลูกมันซ�้ำๆ มานาน ปุ๋ยยา ราคาแพง ขาดนำ�้ เพ่มิ รายได้ อบรมให้ความรู้ ประสานงานหน่วยงานเพอื่ ขอรบั การ เร่ืองการวางระบบนำ้� สนับสนุนเตาเผาถ่าน จากการวิเคราะห์ข้อมูลการผลิตมันส�ำปะหลังในภาพรวมของ บ้านบ่อลิง ตำ� บลโนนสมบูรณ์ อำ� เภอเสิงสาง จังหวัดนครราชสมี า พบว่า มนั สำ� ปะหลงั เปน็ พชื เศรษฐกจิ หลกั ของหมบู่ า้ น ในขณะเดยี วกนั เปน็ พชื เศรษฐกจิ หลกั ของจงั หวดั ดว้ ย การผลติ ภายในหมบู่ า้ นมปี ญั หาเรอ่ื งผลผลติ ตำ่� ราคา ตกตำ�่ โดยผลผลติ ตำ�่ มสี าเหตจุ ากดนิ ขาดความอดุ มสมบรู ณ์ แหง้ แลง้ ทำ� ให้ มนั ส�ำปะหลังขาดน้ำ� และปยุ๋ มรี าคาแพง

บทที่ 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 131 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ นั สำ� ปะหลงั \" 6. การจัดท�ำแผนแก้ไขปญั หาและการควบคุมความเส่ียงในจดุ ตา่ งๆ ก�ำหนดแผนปฏิบัติงานการพัฒนาการผลิตมันส�ำปะหลัง ในกลุ่ม เกษตรกรผปู้ ลกู มนั สำ� ปะหลงั บา้ นบอ่ ลงิ ตำ� บลโนนสมบรู ณ ์ อำ� เภอเสงิ สาง จงั หวัดนครราชสมี า ดังน้ี 1) อบรมใหเ้ กษตรกรมคี วามรู้ การเพมิ่ ความอดุ มสมบรณู ข์ องดนิ ความรู้พ้ืนฐานเกยี่ วกับดิน การใชป้ ยุ๋ เคมี เพ่อื ให้เกษตรกรสามารถเลอื ก วิธีท่เี หมาะสมกบั ตนเอง 2) สนับสนุนให้เกษตรกรปรับปรุงบ�ำรุงดินด้วยการใช้พืชปุ๋ยสด โดยประสานงานกบั สำ� นกั งานพฒั นาทด่ี นิ จงั หวดั ใหก้ ารสนบั สนนุ เมลด็ พนั ธ์ุ 3) เพม่ิ รายได้ โดยประสานงานกบั หนว่ ยงานทเี่ กยี่ วขอ้ งในการนำ� สนับสนุนงบประมาณ ความรู้หรือวัสดุ ในการท�ำเตาเผาถ่านจากเหง้า มนั ส�ำปะหลงั ท่เี หลอื ใช้ จากกระบวนการผลติ

132 การวเิ คราะหส์ ถานการณด์ ้านการเกษตร แผนปฏิบตั งิ านการพฒั นากล่มุ เกษตรกรมนั สำ� ปะหลังบา้ นบอ่ ลงิ ต�ำบลโนนสมบรู ณ์ อำ� เภอเสงิ สาง จังหวดั นครราชสมี า ลำ� ดบั รายละเอยี ดกิจกรรม ช่วงเวลาดำ� เนิน วิธดี �ำเนินการ ผู้รบั ผิดชอบ แหล่ง ท่ี การ งบประมาณ กสก./ 1 การไถระเบิดดนิ ดาน พ.ย. 50 - เม.ย. 51 - ส�ำรวจความต้องการของเกษตรกร อำ� เภอ/ เกษตรกร/ 3,000 ไร่ จังหวัด อปท. - สนบั สนนุ รถไถระเบดิ ดนิ ดานโดย เกษตรกร กสก.อปท./ - สมทบคา่ น�้ำมนั เชื้อเพลงิ ไร่ละ กรมพฒั นา 250 บาท ทด่ี นิ กสก./อปท. 2 การปรบั ปรงุ บำ� รงุ ดิน พ.ย. 50 - เม.ย. 51 - จดั ทำ� แปลงสาธติ การใช้ปุ๋ยอินทรีย์ อำ� เภอ/ กสก./ - การใช้ปยุ๋ อินทรีย์ และพชื ปุ๋ยสด จังหวัด การคา้ ภายใน/ อ�ำเภอ/ อปท. - การปลูกพืชปุ๋ยสด พ.ย. 50 - เม.ย. 51 - รัฐสนบั สนนุ ปุ๋ยอินทรียแ์ ละพันธุ์ จงั หวดั กสก./อปท. พืชปุ๋ยสด กสก./อปท. 3 การถ่ายทอด เทคโนโลยกี ารเพ่ิม ต.ค. 50 - มี.ค. 51 - ถา่ ยทอดความรกู้ ารผลิตมนั ฯตาม อปท./กลมุ่ ผลผลิตมนั สำ� ปะหลงั กระบวนการโรงเรยี นเกษตรกร (สมาชิก)กสก./ การคา้ ภายใน 4 การเพม่ิ มลู ค่าผลผลิต พ.ย. 50 เป็นตน้ ไป - ขอรับการสนบั สนนุ เครื่องสบั อำ� เภอ/ อปท./กสก. มันส�ำปะหลัง (มันเสน้ ม.ี ค. 51 หวั มนั ฯ จงั หวัด สะอาด) ม.ี ค. 51 - จัดตง้ั กองทุนกลมุ่ - ประสานเชื่อมโยงดา้ นการตลาด อำ� เภอ/ 5 ศึกษาดูงานการผลิต - น�ำเจ้าหน้าทีส่ ่งเสรมิ และคณะ จงั หวัด มันฯ ทป่ี ระสบผล กรรมการกล่มุ ไปศกึ ษาดงู าน อำ� เภอ/ สำ� เรจ็ เกษตรกรทปี่ ระสบผลส�ำเรจ็ จังหวัด - รัฐสนับสนนุ วัสดุอุปกรณ์ใน 6 การจดั ท�ำแปลง การด�ำเนนิ การ ทดสอบการเพ่มิ - จดั ทำ� แปลงทดสอบ ชนิดละ ผลผลิตมนั ส�ำปะหลงั 5 แปลงๆ ละ 5 ไร่ - การใช้ปุ๋ยอินทรยี ์ - จัดท�ำแปลงติตามสถานการณ์ น�้ำ, พนั ธุ์ดี,อายุการ 5 แปลงๆ ละ 5 ไร่ เกบ็ เก่ยี ว,ระบบนำ�้ - การปอ้ งกนั ก�ำจัด พ.ย. 50 - พ.ค. 51 - กลมุ่ จดั หาปัจจยั การผลติ ราคาถูก อำ� เภอ/ แมลงนนู หลวง จำ� หน่ายสมาชิก จังหวัด - รวบรวมผลผลติ หัวมันสดจาก 7 การจัดต้งั กลมุ่ เพอ่ื สมาชิกแล้วแปรรูปเป็นมันเส้นสะอาด จดั หาปัจจยั การผลติ จ�ำหน่าย และรบั ซ้ือผลผลติ จาก สมาชิก พ.ย. 50 - พ.ค. 51 - จัดหาเคร่อื งมอื /ชุดตรวจสอบ อ�ำเภอ/ ความเปน็ กรดเป็นดา่ งของดนิ ใน จงั หวัด 8 การตรวจสอบความ ไรม่ ันสำ� ปะหลัง เป็นกรดเป็นดา่ งของดิน

บทที่ 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 133 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ ะมว่ ง\" 3. กรณศี กึ ษา “การวเิ คราะหส์ ถานการณ์มะม่วง” มนู โป้สมบรู ณ์ สำ� นกั ส่งเสริมและจัดการสินค้าเกษตร ทัศนา คิดสร้าง สำ� นักส่งเสริมและจดั การสนิ ค้าเกษตร เรยี บเรียง มะม่วงเป็นไม้ผลเศรษฐกิจที่มีศักยภาพในการผลิตและมีแนวโน้มการ สง่ ออกเพม่ิ สงู ขน้ึ สามารถสรา้ งรายไดเ้ ขา้ ประเทศไดป้ ลี ะไมน่ อ้ ยกวา่ 2,000 ลา้ นบาท ทำ� ใหม้ เี หน็ โอกาสในการพฒั นาศกั ยภาพในการผลติ และการตลาด ในการสง่ ออกสูง ดงั น้นั หากภาครฐั นำ� ขอ้ มลู มาวิเคราะหแ์ ละน�ำผลทไ่ี ด้ไปสู่ การสนบั สนนุ ผลกั ดนั การผลติ มะมว่ งไทยใหม้ คี ณุ ภาพอยา่ งจรงิ ๆจงั ๆ กจ็ ะ ท�ำให้มะมว่ งไทยก้าวไกลและเป็นหน่งึ ในอาเซียน และโลกอย่างยง่ั ยืน 3.1 สถานการณก์ ารผลติ และการตลาดมะม่วงโลก 3.1.1 สถานการณ์การผลิตมะมว่ งโลก ปี 2552 การผลติ ไมผ้ ลของโลกมปี รมิ าณ 18,484,427 ตนั พนื้ ทเ่ี กบ็ เกย่ี ว 27,376,975 ไร่ โดยมะมว่ งเปน็ ผลไมเ้ ศรษฐกจิ ทเ่ี กษตรกร เลอื กปลกู มากทส่ี ดุ เปน็ อนั ดบั 5 ของโลก รองลงมาจากกลว้ ย องนุ่ แอป๊ เปล้ิ และส้ม และเปน็ ไม้ผลเขตรอ้ นทีป่ ลูกมากท่ีสดุ เปน็ อันดบั 2 ของโลก รอง ลงมาจากลว้ ย โดยประมาณครง่ึ หนง่ึ ของผลไมท้ ผ่ี ลติ ไดท้ ว่ั โลก แหลง่ ผลติ ที่ส�ำคัญอยู่บริเวณแถบเอเชีย เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ อเมริกาใต้ และ

134 การวเิ คราะห์สถานการณด์ า้ นการเกษตร แอฟฟริกา จากรายงานของสำ� นกั งานองคก์ ารอาหารและเกษตรแหง่ ชาติ (FAO) ปี 2552 การผลิตมะมว่ งของโลกโดยประเทศผผู้ ลิตมะม่วง ราย ใหญ่ที่สุดของโลก คือ ประเทศอินเดีย มีการผลิตมะม่วงคิดเป็นร้อยละ 41.3 ของผลผลิตทั่วโลก รองลงมา ได้แก่ จนี รอ้ ยละ 14 ไทย รอ้ ยละ 6.9 และประเทศอนื่ ๆ อกี ประมาณร้อยละ 37.8 ชว่ งฤดกู าลเกบ็ เกย่ี ว และชว่ งเวลาทผ่ี ลผลติ มะมว่ งออกสตู่ ลาดโลก ของแตล่ ะประเทศทส่ี �ำคัญ ช่ือประเทศ ช่วงเวลา (เดอื น) สหรฐั อเมรกิ า (แคลฟิ อร์เนยี ) ตุลาคม - พฤศจิกายน เมก็ ซิโก มนี าคม - กนั ยายน และ พฤษภาคม - กรกฎาคม ออกสตู่ ลาดมาก ไฮติ มีนาคม - กรกฎาคม และ เมษายน - มิถนุ ายน ออกสตู่ ลาดมาก บราซลิ พฤศจิกายน - ธันวาคม เปรู มกราคม - กุมภาพนั ธ์ เอควาดอร์ ตุลาคม - กมุ ภาพันธ์ เวเนซูเอลา มนี าคม - กรกฎาคม และ เมษายน - พฤษภาคม ออกสตู่ ลาดมาก กวั เตมาลา มีนาคม - มิถุนายน

บทที่ 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 135 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ ะมว่ ง\" ช่อื ประเทศ ช่วงเวลา (เดือน) ไทย มกราคม - พฤษภาคม และ มีนาคม - เมษายน ออกสู่ตลาดมาก ปากีสถาน พฤษภาคม - กันยายน ฟลิ ปิ ปนิ ส์ เมษายน - สงิ หาคม มาเลเซีย เมษายน - กรกฎาคม อินโดนีเซยี ธนั วาคม - มกราคม อินเดีย มีนาคม - กรกฎาคม แอฟริกา มนี าคม - กรกฎาคม อเมรกิ า มถิ นุ ายน - กนั ยายน 3.1.2 สถานการณก์ ารตลาดมะมว่ งโลก ในปี 2552 ประเทศไทยมมี ูลคา่ การสง่ ออกมะมว่ งไปยัง ตลาดโลก โดยประเทศไทยมีส่วนแบ่งการตลาดมะม่วงสดและผลิตภัณฑ์ ตามตารางท่ี 2 (หนา้ 143)

136 การวิเคราะห์สถานการณ์ด้านการเกษตร 3.2 สถานการณก์ ารผลติ และการตลาดมะม่วงของประเทศไทย 3.2.1 สถานการณ์การผลิต 1) ครวั เรือนเกษตรกร เน้ือทปี่ ลูกและผลผลิต ปัจจุบันเกษตรกรชาวสวนมะม่วงมีการรวมตัวกันเป็น กลมุ่ เกษตรกรผูผ้ ลติ มะม่วงทั่วประเทศไทย กว่า 38 กลุ่ม ทั้งภาคตะวนั ตก ภาคเหนอื ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ภาคตะวันตก และ ภาคกลาง มี สมาชกิ มากกว่า 200 ราย ก่อเกดิ องค์กรระดับประเทศทมี่ คี วามเข้มแขง็ ทง้ั ดา้ นการควบคมุ คณุ ภาพมะมว่ งใหเ้ ปน็ ไปตามเกณฑม์ าตรฐานการสง่ ออก และมีอำ� นาจการต่อรอง ในนามของ “สมาคมชาวสวนมะม่วงไทย” ซึ่งได้ จดทะเบยี นเมือ่ วนั ที่ 14 มกราคม 2553 ซง่ึ เป็นไปตามพระราชบัญญตั ิ สมาคมการค้า พ.ศ. 2509 ในปี 2554 สำ� นกั งานเศรษฐกจิ การเกษตรไดร้ ายงานวา่ มคี รัวเรือนเกษตรกร ทป่ี ลูกมะม่วง 347,308 ครัวเรือน พ้นื ท่ปี ลกู 2.4 ลา้ นไร่ เน้อื ทใ่ี หผ้ ล 2.01 ลา้ นไร่ ผลผลติ รวม 2.79 ล้านตนั ผลผลติ เฉล่ีย 1,383 กโิ ลกรัมตอ่ ไร่ โดยในช่วงเวลา 5 ปีท่ผี ่านมา (ปี 2550 - 2554) การผลิตมะม่วงมีอตั ราการขยายตัวของพ้ืนที่การผลติ มะมว่ งที่ เพม่ิ ข้นึ เฉลยี่ ร้อยละ 3.07 อตั ราการขยายตวั ของผลผลิตมะมว่ งทีเ่ พิ่มขน้ึ เฉลยี่ ร้อยละ 5.96 และอัตราการขยายตวั ของผลผลติ มะมว่ งเฉล่ียท่เี พ่ิม ข้นึ เฉลีย่ ร้อยละ 2.82 ตามลำ� ดับ ตารางที่ 1

บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 137 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ ะมว่ ง\" 2) แหลง่ ผลิตและชนดิ พนั ธม์ุ ะมว่ งที่ส�ำคญั แหล่งผลิตมะม่วงท่ีส�ำคัญ ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา สุพรรณบรุ ี และฉะเชิงเทรา พนั ธม์ุ ะมว่ งทน่ี ยิ มปลกู ในประเทศไทยจำ� แนกออกได้ 3 กลมุ่ คอื (1) กล่มุ มะม่วงรบั ประทานผลดิบ ได้แก่ เขียวเสวย ฟา้ ลน่ั มนั ขุนศรี พิมเสนมนั (2) กลมุ่ มะมว่ งรับประทานผลสุก ไดแ้ ก่ น้�ำดอกไม้ แรด หนงั กลางวัน ทองด�ำ (3) กลมุ่ มะม่วงแปรรปู ไดแ้ ก่ แก้ว สามปี พมิ เสนแดง ตารางที่ 1 เนื้อทใ่ี ห้ผล ผลผลติ และผลติ เฉล่ียมะม่วงของประเทศไทย ปี 2550 - 2554 ปี เน้อื ทีใ่ ห้ผล (ไร)่ ผลผลิต (ตนั ) ผลผลติ เฉล่ยี (กิโลกรัม/ไร่) 2550 1,791,856 2,218,262 1,238 2551 1,906,960 2,374,165 1,245 2552 1,925,164 2,469,814 1,283 2553 1,944,050 2,550,600 1,312 2554 2,019,980 2,793,640 1,383 อตั ราเพ่มิ เฉลีย่ 2.82 3.07 5.96 ทีม่ า : ศนู ยส์ ารสนเทศการเกษตร ส�ำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, 2554

138 การวิเคราะห์สถานการณ์ดา้ นการเกษตร 3) ฤดกู าลผลติ และเก็บเก่ยี ว ฤดกู าลผลติ มะมว่ งในฤดู ปกตมิ ะมว่ งจะเรม่ิ ออกดอกใน ช่วงเดือนธันวาคม - กุมภาพันธ์ และเก็บเกี่ยวในช่วงเดือนเมษายน - พฤษภาคม ซึ่งเปน็ ช่วงทีม่ ีผลผลิตมะม่วงและผลไม้ ชนิดอืน่ ๆ ออกสตู่ ลาด เป็นจ�ำนวนมาก ฤดกู าลของผลผลติ มะมว่ งในประเทศไทยจะทยอยกนั แก่ ในแหลง่ ผลติ ทางตอนลา่ งของประเทศ ไดแ้ ก่ จงั หวดั ในภาคกลางตอนลา่ ง ขนึ้ มาทางจงั หวดั ในภาคกลางตอนกลางรวมภาคตะวนั ตก และภาคตะวนั ออก ขน้ึ ไปยงั จงั หวดั ภาคกลางตอนบน ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื และภาคเหนอื ตามล�ำดบั โดยอาจแบง่ เขตการผลิตมะม่วงออกได้เป็น 6 เขต ดังน้ี (1) ภาคกลางตอนลา่ ง ช่วงเกบ็ เก่ียวเร่ิมประมาณต้น เดอื นมีนาคม ได้แก่ จงั หวดั สมุทรสาคร สมุทรสงคราม นครปฐม ราชบุรี เพชรบุรีและประจวบครี ีขันธ์ (2) ภาคกลาง (รวมภาคตะวนั ตก) ชว่ งเกบ็ เกย่ี วเรม่ิ ตน้ ประมาณชว่ งปลาย เดือนมนี าคม - ภาคกลาง ได้แก่ กรุงเทพมหานคร นนทบุรี ปทมุ ธานี สมุทรปราการ ลพบุรี สระบุรี อ่างทอง สิงห์บุรี นครนายก ชยั นาท และพระนครศรีอยธุ ยา - ภาคตะวันตก ได้แก่ จังหวัดกาญจนบุรี และ สุพรรณบรุ ี (3) ภาคตะวันออก ช่วงเก็บเก่ียวประมาณต้นเดือน เมษายน ได้แก่ จงั หวัดฉะเชิงเทรา ชลบุรี ระยอง ตราด และปราจนี บุรี