บทที่ 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 139 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ ะมว่ ง\" (4) ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียง เหนอื ตอนล่าง ชว่ งเก็บเก่ยี วประมาณ ปลายเดือนเมษายน ได้แก่ จังหวัด นครสวรรค์ เพชรบูรณ์ ก�ำแพงเพชร พิจิตร พิษณุโลก สุโขทัย ตาก นครราชสมี า มหาสารคาม บรุ รี มั ย์ สรุ นิ ทร์ ศรสี ะเกษ ยโสธร อบุ ลราชธานี ร้อยเอด็ และชยั ภมู ิ (5) ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ตอนบน ชว่ งเกบ็ เกยี่ ว ประมาณตน้ เดอื นพฤษภาคม ไดแ้ ก่ จงั หวดั ขอนแกน่ เลย กาฬสนิ ธ์ุ นครพนม สกลนคร อดุ รธานี หนองคาย อตุ รดติ ถ์ ลำ� พนู ลำ� ปาง แพร่ นา่ น เชยี งใหม่ และแม่ฮ่องสอน (6) ภาคเหนอื ตอนบน ชว่ งเกบ็ เกยี่ วประมาณปลาย เดือนพฤษภาคมถงึ มถิ นุ ายน ได้แก่ จงั หวดั เชียงราย น่าน เชยี งใหม่ และ แม่ฮอ่ งสอน 3.2.2 สถานการณก์ ารตลาด 1) ตลาดภายในประเทศ โครงสรา้ งทางการตลาดมะมว่ งภายในประเทศทว่ั ไป สามารถจ�ำแนกประเภทของตลาดและลักษณะการเช่อื มโยงกนั ไดด้ ังนี้ (1) ตลาดระดับไร่นา/ระดับท้องที่ เป็นตลาด ทท่ี �ำการซ้ือขาย ณ แหลง่ ผลติ เกษตรกรจะรวบรวมผลผลิตมะม่วงไว้ที่ สวนของเกษตรกรหรอื นดั หมายใหพ้ อ่ คนกลาง/พอ่ คา้ เรเ่ ขา้ ไปรบั ซอ้ื ผลผลติ หรอื นำ� คนงานมาเกบ็ มะมว่ งเองทส่ี วนตามทไ่ี ดต้ กลงลว่ งหนา้ ไว้ โดยจะรบั ซือ้ ผลผลิตทงั้ แบบ คละขนาด และแบบแยกขนาดไมแ่ ยกเกรด
140 การวิเคราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร (2) ตลาดรวบรวมระดบั ทอ้ งถน่ิ แหลง่ รวบรวมผลผลติ มะมว่ งจากเกษตรกรโดยตรง และจากพอ่ คา้ คนกลาง/พอ่ คา้ เร่ เพอื่ จำ� หนา่ ย ต่อไปยังตลาดปลายทาง ลักษณะส�ำคัญของตลาดท้องถ่ินจะมีพ่อค้าทุก ระดับเข้ามาท�ำการซ้ือขาย ได้แก่ พ่อค้ารวบรวมผลผลิต พ่อค้าขายส่ง ตลาดกลางกรุงเทพฯ พ่อค้าขายส่งต่างจังหวัด พ่อค้าขายส่งในจังหวัด พอ่ คา้ ขายปลกี ในจงั หวดั พอ่ คา้ ขายปลกี ตา่ งจงั หวดั โดยตลาดจะทำ� หนา้ ท่ี รวบรวมหรือรับซือ้ ผลผลติ แยกขนาด และคัดคุณภาพของผลผลิต การ ขายจะแยก ตามขนาดและคณุ ภาพของผลผลติ โดยคดิ คา่ จดั การหรอื สว่ น ตา่ งประมาณร้อยละ 1-2 ของมลู คา่ สนิ คา้ ตามหน่วยน้ำ� หนกั (3) ตลาดกลางกรงุ เทพฯ เปน็ ตลาดกลางขายสง่ ผลไม้ ที่เป็นแหล่งรับซ้ือและกระจายผลผลิตไปยังตลาดปลายทางต่างๆ ของ ประเทศ ได้แก่ ตลาดปากคลองตลาด ตลาดสม่ี มุ เมอื ง ตลาดไท (4) ตลาดตา่ งจงั หวดั เปน็ ตลาดในภมู ภิ าคอนื่ ๆ ไมร่ วม ตลาดกรงุ เทพฯ พ่อค้า ในตลาดลกั ษณะนี้สว่ นใหญ่จะมาตง้ั จุดรบั ซือ้ ตาม แหล่งผลิตในช่วงฤดูกาล หรือใช้รถมาตระเวนรับซ้ือแล้วขนส่งกลับไปยัง จงั หวัดทเ่ี ป็นแหลง่ รองรับผลผลติ ที่สำ� คัญ เชน่ ตลาดจังหวดั นครราชสีมา ตลาดหาดใหญ่ ตลาดจงั หวดั สงขลา ตลาดจงั หวดั สตูล ตลาดชายแดน สะไหง-โกลก ตลาดจังหวัดนราธิวาส ตลาดมหานาค ตลาดโอเดียน ตลาดศรีเมือง ตลาดหัวอิฐ
บทที่ 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 141 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ ะมว่ ง\" (5) ตลาดรวบรวมผลผลิตของเกษตรกร เป็นตลาดท่ีเป็น ศนู ยก์ ลางในการรวบรวม และขายผลผลติ ของเกษตรกรทเ่ี ปน็ สมาชกิ ภายใน กลมุ่ เกษตรกร เชน่ สหกรณ์ หรอื วสิ าหกิจชมุ ชน โดยจะรวบรวมผลผลติ มะม่วงคณุ ภาพได้มาตรฐานส่งออกจากสมาชิกเพ่อื เตรยี มการ หรือจดั ส่ง ใหก้ บั บรษิ ทั สง่ ออก นอกจากนยี้ งั ทำ� หนา้ ทใี่ หบ้ รกิ ารแกส่ มาชกิ โดยการจดั หา ชอ่ งทางการตลาดอน่ื ๆ เชน่ การคดั มะมว่ งคณุ ภาพรองลงมาทไ่ี มส่ ามารถ สง่ ไปจำ� หนา่ ยยงั ตา่ งประเทศไดบ้ รรจกุ ลอ่ งขายตรงใหก้ บั ผบู้ รโิ ภคเพอ่ื เปน็ ของขวัญหรของฝาก หรือจัดส่งให้กับห้างค้าปลีกขนาดใหญ่ เช่น ห้าง โลตัส แมคโคร เดอะมอลล์ ทอปส์ สยามพารากอน หรือคุณภาพทรี่ อง ลงไปอกี ส่งให้กับโรงงานแปรรูปผลิตภณั ฑ์มะมว่ ง (6) ตลาดโรงงานแปรรปู เปน็ ตลาดทรี่ องรบั ผลผลติ มะมว่ งเปน็ ส่วนใหญ่ โดยจะมีลักษณะรับซื้อมะม่วงแบบไม่แบ่งเกรด และแยกขนาด แต่จะเน้นท่ีมะม่วงต้องแก่จัด เนื้อต้องมีคุณภาพเหมาะสมต่อการน�ำไป แปรรูปเปน็ ผลิตภัณฑม์ ะมว่ งชนดิ ตา่ ง ๆ ไดแ้ ก่ มะมว่ งทอดกรอบ มะมว่ ง อบแห้ง มะม่วงดอง มะมว่ งแชอ่ ิม่ น�้ำมะม่วง มะมว่ งสุกแช่แข็ง โรงงาน แปรรปู ทเ่ี ปน็ แหลง่ รบั ซอื้ ผลผลติ สำ� คญั ตงั้ อยทู่ จี่ งั หวดั จนั ทบรุ ี ชลบรุ ี ราชบรุ ี นครราชสีมา เชยี งใหม่ สมทุ รสาคร นครปฐม 2) ตลาดส่งออก ตลาดสง่ ออกมะม่วงไทยทสี่ ำ� คญั แบ่งได้เป็น 5 กลุ่ม ได้แก่ กลมุ่ ตลาดเอเชยี กลมุ่ ตลาดยโุ รป กลมุ่ ตลาดอเมรกิ า กลมุ่ ตลาดออสเตรเลยี และกลมุ่ ตลาดตะวนั ออกกลาง
142 การวิเคราะหส์ ถานการณด์ ้านการเกษตร มะมว่ งและผลติ ภณั ฑม์ ะมว่ งทปี่ ระเทศไทยสามารถสง่ ไปจำ� หนา่ ย ยังต่างประเทศ มีประมาณเพียงร้อยละ 2 ของผลผลิตมะม่วงท่ีผลิตได้ ทงั้ หมด ซง่ึ เปน็ จำ� นวนทนี่ อ้ ยมากเมอื่ เทยี บกบั ปรมิ าณผลผลติ มะมว่ งทผ่ี ลติ ได้ภายในประเทศ ประเภทของมะม่วงท่ีมกี ารส่งออกสามารถแบ่งออกได้ เป็น 2 ลกั ษณะ ไดแ้ ก่ 1) มะมว่ งผลสดสำ� หรับรบั ประทานสุก รอ้ ยละ 90 2) มะม่วงผลสดส�ำหรบั รบั ประทานดิบ ร้อยละ 10 การสง่ ออกมะมว่ งไปจำ� หนา่ ยยงั ตลาดตา่ งประเทศจำ� เปน็ ตอ้ ง มกี ารปฏิบตั ิ ตามข้ันตอน วธิ ีการตง้ั แต่การผลิต การเกบ็ รวบรวมผลผลิต และการจัดการผลผลิตหลังการเก็บเก่ียวไปจนถึงการจัดการผลผลิตเพื่อ การสง่ ออกตามเง่ือนไขและกฎเกณฑท์ ีแ่ ตล่ ะประเทศยอมรับ เช่น มะมว่ ง สดทสี่ ง่ ไปจำ� หนา่ ยยงั ประเทศญป่ี นุ่ ตอ้ งผา่ นกรรมวธิ กี ารอบไอนำ้� เพอื่ ควบคมุ แมลงวันผลไม้ แต่ถ้าสง่ ไปจำ� หน่าย ยงั ประเทศมาเลเซยี สิงคโปร์ ฮ่องกง ไมต่ อ้ งผา่ นกรรมวธิ กี ารอบไอนำ�้ แตถ่ า้ สง่ ไปขายยงั ประเทศในสหภาพยโุ รป ต้องผา่ นการชบุ น�้ำยา เพือ่ ปอ้ งกนั เช้อื โรคและแมลง ในปี 2554 ส�ำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรได้รายงานว่า ประเทศไทยส่งออกมะม่วง ปริมาณรวม 66,438 ตนั มูลคา่ 2,006 ลา้ นบาท เมอ่ื เปรยี บเทยี บกบั ปี 2553 ซง่ึ มปี รมิ าณการสง่ ออก 47,613 ตนั และมูลค่า 1,493 ล้านบาท พบวา่ ทง้ั ปรมิ าณและมูลค่ามีอตั ราการขยาย ตวั การสง่ ออกเพม่ิ ขึน้ รอ้ ยละ 39.54 และ 34.36 ตามล�ำดบั ซง่ึ มีการ ส่งออกในรปู ของมะม่วงสด มะมว่ งกระป๋อง มะม่วงอบแหง้ และมะม่วง
บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 143 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ ะมว่ ง\" แช่แข็ง จากการเปรยี บเทยี บกับการส่งออกในปที ี่ผ่านมา พบวา่ ปริมาณ และมูลคา่ การส่งออกมะมว่ งผลสดเพิม่ สงู ข้นึ มาก สว่ นปรมิ าณและมลู คา่ การสง่ ออกผลติ ภณั ฑม์ ะมว่ งเพมิ่ สงู อยา่ งมากเชน่ เดยี วกนั โดยเฉพาะมะมว่ ง แช่แข็ง ยกเว้นมะม่วงอบแห้งที่มีปริมาณและมูลค่าการส่งออกลดลงมาก รายละเอยี ดมดี งั นี้ (ตารางที่ 2,3) ตารางที่ 2 ปรมิ าณและมลู คา่ การสง่ ออกมะมว่ งสดและผลติ ภณั ฑ์ ปี 2550 - 2554 (แยกรายผลิตภัณฑ์) หนว่ ย : ปรมิ าณ (ตัน) มลู คา่ (ลา้ นบาท) ปี มะมว่ งสด มะมว่ งกระป๋อง มะม่วงอบแห้ง มะม่วงแชแ่ ขง็ รวม 2550 ปริมาณ มูลค่า ปริมาณ มลู ค่า ปรมิ าณ มลู ค่า ปรมิ าณ มูลค่า ปรมิ าณ มูลค่า 2551 2552 11,272 294 12,455 438 6,370 101 5,253 314 35,350 1,147 2553 15,476 354 17,253 670 5,870 139 3,061 270 41,660 1,433 2554 23,837 485 19,244 772 5,510 92 1,710 198 50,305 1,547 อัตราเพม่ิ เปรยี บ 22,369 505 18,421 700 5,080 98 1,743 190 47,613 1,493 เทียบ ปี 53-54 37,501 703 22,074 885 2,900 95 3,963 323 66,438 2,006 อัตราเพม่ิ 67.65 39.21 19.83 26.43 42.91 3.06 127.37 70.00 39.54 34.36 เฉลีย่ ร้อยละ 38.2 25.19 16.4 21.32 -16.17 1.82 10.86 6.32 18.2 15.94 ท่มี า : ศนู ย์สารสนเทศการเกษตร สำ� นักงานเศรษฐกจิ การเกษตร, 2554
144 การวเิ คราะห์สถานการณ์ด้านการเกษตร ตารางที่ 3 ปริมาณและมูลคา่ การสง่ ออกมะม่วงสดและผลิตภณั ฑ์ ปี 2554 แยกรายประเทศ หนว่ ย : ปริมาณ (ตัน) มูลคา่ (ลา้ นบาท) ล�ำดับ มะม่วงสด มะมว่ งกระป๋อง มูลค่า ประเทศ ปรมิ าณ มูลคา่ ประเทศ ปรมิ าณ 448 93 1 JAPAN 1,500 221 JAPAN 11,464 52 44 2 VIETNAM 19,467 176 U.S.A. 2,057 32 25 3 MALAYSIA 9,406 86 UNITED KINGDOM 1,289 24 4 S. KOREA 757 81 AUSTRALIA 1,208 18 16 5 CHINA 961 35 FRANCE 796 14 88 6 LAOS 3,032 30 GERMANY 699 855 7 HONG 680 14 IRAN 540 KONG 8 SINGAPORE 766 14 CHINA 378 9 INDONESIA 517 11 NETHERLANDS 392 10 GERMANY 59 10 NEW ZEALAND 384 11 อื่นๆ 354 25 อืน่ ๆ 2,867 รวม 37,501 703 รวม 22,074
บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 145 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ ะมว่ ง\" ตารางที่ 4 ปรมิ าณและมูลคา่ การสง่ ออกมะมว่ งสดและผลิตภัณฑ์ ปี 2554 แยกรายประเทศ (ตอ่ ) หน่วย : ปรมิ าณ (ตนั ) มูลคา่ (ลา้ นบาท) ลำ� ดับ มะม่วงอบแห้ง มะม่วงแช่แขง็ ประเทศ ปรมิ าณ มูลค่า ประเทศ ปริมาณ มูลคา่ 222 1 U.S.A. 1,508 64 JAPAN 1,885 28 27 2 CHINA 362 10 BELGIUM 634 16 15 3 GERMANY 179 4 S. KOREA 496 2 4 4 S. KOREA 153 4 NETHERLANDS 363 7 2 5 JAPAN 146 2 UNITED KINGDOM 305 1 1 6 SINGAPORE 105 2 CHINA 88 323 7 AUSTRALIA 67 1 AUSTRALIA 82 8 SAUDI ARABIA 40 1 U.S.A. 52 9 HONG KONG 47 1 LITHUANIA 40 10 MALAYSIA 23 1 SOUTH AFRICA 16 11 อน่ื ๆ 272 5 อน่ื ๆ 3 รวม 2,900 95 รวม 3,963 ที่มา : ศูนย์สารสนเทศการเกษตร ส�ำนักงานเศรษฐกจิ การเกษตร, 2554
146 การวิเคราะหส์ ถานการณ์ดา้ นการเกษตร การกำ� หนดมาตรฐานและคณุ ภาพของมะมว่ งทกี่ ำ� หนดไว้ตาม ความตอ้ งการของตลาดตา่ งประเทศ โดยการท�ำสัญญาซอ้ื ขายมะมว่ งกบั บรษิ ัทสง่ ออกตา่ งๆ ได้กำ� หนดมาตรฐานตา่ งๆ ไว้ดงั นี้ 1) มะม่วง เกรด A หมายถึง มะม่วงทม่ี ีพ้ืนทีข่ องผวิ มะมว่ ง ท่มี ีรอยข่วน (แผลเก่า) ขนาดไมเ่ กนิ 1 มิลลิเมตร ความยาวไมเ่ กิน 2 เซนติเมตร จำ� นวนไม่เกิน 2 แผล โดยรวมปานด�ำและรอยขีดข่วนไมเ่ กนิ รอ้ ยละ 5 ของพน้ื ทม่ี ะมว่ ง ปราศจากโรคแอนแทรคโนส ราน�้ำค้าง หรือ จุดด�ำ 2) มะมว่ ง เกรด B หมายถึง มะม่วงที่มพี น้ื ท่ีทัง้ หมดของ ผวิ มะม่วงท่มี ีรอยขีดข่วน (แผลเก่า) ขนาดไมเ่ กิน 1 มลิ ลิเมตร ความยาว ไม่เกิน 3 เซนติเมตร จำ� นวนไม่เกนิ 3 ผล รวมปานดำ� และรอยขีดข่วน ไมเ่ กนิ รอ้ ยละ 10 ของพน้ื ทมี่ ะมว่ ง ปราศจากโรคแอนแทรคโนส รานำ้� คา้ ง หรือจุดดำ� 3) มะม่วง เกรด C หมายถึง มะม่วงท่ีอยู่นอกเหนือจากท่ี กำ� หนดไว้ใน เกรด A และ B ไมใ่ ช่โรคแอนแทรคโนส ราน้�ำค้าง จุดด�ำ จ�ำนวนแผล ปานดำ� ไมเ่ กินร้อยละ 20 ของพื้นท่ีผวิ มะมว่ งถือเปน็ เกรด C 4) มะมว่ งตกเกรด หมายถึง มะมว่ งท่ีมโี รค แมลง รูปทรง ไม่ปกติ มีรอยแผลใหม่ น�้ำหนกั ไมถ่ ึงหรอื เกนิ ความแกไ่ ม่พอหรือเกินไป
บทที่ 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 147 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ ะมว่ ง\" 3.2.3 ตน้ ทนุ การผลิต ในปี 2554 สำ� นกั งานเศรษฐกจิ การเกษตรไดร้ ายงานวา่ ตน้ ทนุ การผลติ มะมว่ งเฉลย่ี ทง้ั ประเทศทกุ สายพนั ธเ์ุ ทา่ กบั 4.92 บาทตอ่ กโิ ลกรมั และราคาทเ่ี กษตรกรขายได้ อยทู่ ี่ 18 บาทตอ่ กโิ ลกรมั (ตารางที่ 4) สำ� หรบั ราคามะม่วงส่งออกที่ส�ำรวจจากสมาคมชาวสวนมะม่วงไทย ปี 2553 ราคาขายตำ่� สุดอยู่ที่ 65 บาทต่อกโิ ลกรัม สงู สดุ 90 บาทต่อกิโลกรมั ตารางท่ี 5 ต้นทนุ การผลติ มะม่วงเฉล่ยี ทัง้ ประเทศ ปี 2552-2554 หนว่ ย : บาท/ไร่ รายการ ปี 2552 ปี 2553 ปี 2554 1. ตน้ ทุนคงที่ 1,188.63 1,247.09 1,277.03 2. ตน้ ทนุ รวมตอ่ ไร่ 5,648.86 6,547.98 6,811.26 3. ตน้ ทุนรวมตอ่ กิโลกรัม (บาท/กก.) 4. ราคาท่ีเกษตรกรขายได้ ณ ไรน่ า (บาท/กก.) 4.40 4.99 4.92 5. ผลตอบแทนสุทธติ อ่ ไร่ 14.58 14.52 18.00 6. ผลตอบแทนสุทธิตอ่ กโิ ลกรัม 13,057.28 12,502.26 18,082.74 10.18 9.53 13.08 ท่มี า : ศูนยส์ ารสนเทศการเกษตร ส�ำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร, 2554
148 การวเิ คราะห์สถานการณ์ด้านการเกษตร 3.3 ปัจจยั ทส่ี ง่ ผลกระทบกบั การผลติ การผลติ มะมว่ งจะมปี รมิ าณและคณุ ภาพดมี ากนอ้ ยเพยี งใด มปี จั จยั ท่ีเกี่ยวข้อง ไดแ้ ก่ 1) ศักยภาพดา้ นการผลิต ประกอบดว้ ย เทคโนโลยกี ารผลิต ทุน แรงงาน และระบบการผลิต เทคโนโลยีการผลิต ตอ้ งมีความก้าวหน้า ทนุ การผลติ นบั วนั จะสงู ขนึ้ ตามคา่ เศรษฐกจิ แรงงานทขี่ าดแคลนตอ้ งนำ� เขา้ ระบบการผลติ ต้องแขง่ ขันเรื่องคณุ ภาพ การสง่ ออกมีการรบั รองคุณภาพ การบรโิ ภคสุดทา้ ยใหม่ๆ ต้นทุนการผลติ ตำ่� เพ่ือการแขง่ ขนั 2) ศกั ยภาพดา้ นการตลาด ประกอบดว้ ย ความตอ้ งการของ ตลาด ผรู้ บั ซอ้ื ราคา ความตอ้ งการของผบู้ ริโภค กฎระเบียบ มาตรฐาน สินค้า มุ่งเน้นประชาสัมพันธ์ เจาะตลาดใหม่ รักษาตลาดเก่า ราคา ยุติธรรม แข่งขันได้ สรา้ งจุดขายเพอ่ื กระตุ้นการบรโิ ภค สินค้าต้องมกี าร รบั รองคุณภาพสามารถตรวจสอบยอ้ นกลับได้ 3) ศกั ยภาพของพ้นื ท่ี ประกอบด้วย ความเหมาะสม ชนิดดิน แหลง่ นำ้� ปรมิ าณนำ�้ ฝน การขนสง่ ประเทศไทยมคี วามเหมาะสมทงั้ สภาพ ภูมิประเทศ ภูมิอากาศ มีแหล่งน�้ำ และปริมาณน้�ำฝนที่เพียงพอ และ อณุ หภูมิเหมาะสม พร้อมท้ังมีระบบขนสง่ ทที่ ันสมยั 4) ศักยภาพของผู้ผลิต ประกอบด้วย ความเหมาะสม การ รวมกลุ่ม การบริหารจัดการ เกษตรกรมีความเข้มแขง็ เขา้ ถงึ ในบทบาทใน การเปน็ ผู้ผลิต ขวนขวายตดิ ตามสถานการณ์ พร้อมปรบั ปรุงเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมทั้งมีการรวมกลุ่มเป็นสมาคมชาวสวนมะมว่ งไทย
บทที่ 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 149 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ ะมว่ ง\" 3.4 ววิ ฒั นาการสง่ เสรมิ และพฒั นาการผลติ มะมว่ งจากอดตี -ปจั จบุ นั กรมส่งเสริมการเกษตรมีภารกิจหลักในการส่งเสริมและพัฒนา การผลิต ซงึ่ มะม่วงไดม้ กี ารสง่ เสรมิ และพัฒนาอย่างต่อเนือ่ งมาไม่นับกว่า 20 ปี โดยล�ำดับเหตกุ ารณด์ ังนี้ ระยะตน้ จากอดีต - กอ่ น ปี 2540 2540 เปน็ การมงุ่ เนน้ การขยายพนั ธด์ุ พี รอ้ มการจดั เทคโนโลยี การผลิตเชงิ สวนเดีย่ วและสวนผสม มกี ารจดั การทรงพมุ่ และ การอารักขาพืช โดยมุ่งเน้นการขยายพ้ืนที่เพื่อเพิ่มปริมาณ ผลผลติ มะมว่ งพนั ธด์ุ ี ใหส้ อดคลอ้ งกบั ความตอ้ งการของตลาด เพียงอย่างเดยี ว จึงทำ� ใหเ้ กิดปญั หา คือ 1) ปริมาณพื้นท่ีเพ่มิ ขน้ึ ในภาพรวมอยา่ งต่อเนอื่ ง 2) ผลผลติ มะมว่ งคณุ ภาพดมี ปี รมิ าณไมเ่ พยี งพอตอ่ ความต้องการของตลาด และมีมะม่วงเกรดรองค่อนขา้ งมาก 3) คุณภาพมีความหลากหลายเน่ืองจากเกษตรกร ใช้เทคโนโลยที ีแ่ ตกต่างกัน 4) เกษตรกรขาดอ�ำนาจการต่อรองราคาผลผลิต และถกู กดราคาจากพ่อคา้ คนกลาง
150 การวเิ คราะห์สถานการณด์ า้ นการเกษตร 2553 ระยะทก่ี ลาง ช่วงระหวา่ ง ปี 2540-2553 ได้ปรับเปลี่ยนการส่งเสริมจากการขยายพื้นท่ีปลูกมา เน้นการปรบั ปรงุ คุณภาพผลผลติ แทน 1) พฒั นาคณุ ภาพและสง่ เสรมิ การผลติ ในรปู กลมุ่ (กลมุ่ ปรับปรุงคณุ ภาพมะม่วง ปี 2542-2544) เพอ่ื ใหผ้ ลผลิต มคี ณุ ภาพเหมอื นกนั และเกษตรกรมอี ำ� นาจตอ่ รองราคาและ ก�ำหนดราคาซ้ือขายร่วมกบั พ่อค้าได้ 2) พฒั นาความเขม้ แขง็ ของกลมุ่ และเชอ่ื มโยงผผู้ ลติ และ ผสู้ ่งออก 3) สง่ เสรมิ การซอ้ื ขายตามเงอ่ื นไขสญั ญาแบบลว่ งหนา้ (Contract Farming) ซึ่งไดด้ ำ� เนินการมาอย่างต่อเนอื่ งทงั้ ในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค 4) กลุม่ /ชมรม มีการพัฒนาและยกระดับเปน็ วสิ าหกิจ ชุมชนท่ีมีพระราชาบัญญัติรองรับ และบางกลุ่มรวมตัวจัด ตงั้ เปน็ สหกรณแ์ ละรวมตวั เปน็ สมาพนั ธม์ ะมว่ งแหง่ ประเทศไทย (ยังไมถ่ กู ตอ้ งตามกฎหมาย) ซึ่งในระยะน้ปี ญั หาทีพ่ บ คือ การรวมตัวกันยังเป็นแบบหลวมๆ ต่างคนต่างผลิต ตา่ งคนต่างขาย ไม่มีการก�ำหนดโซนการผลติ ท�ำให้ผลผลติ กระจายตัว และยังขาดการส่งผ่านและแลกเปลี่ยนข้อมูล การผลติ และการตลาด
บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 151 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ ะมว่ ง\" 2 5ระยะปจั จุบนั หลงั ปี 2553 จนถงึ ปจั จบุ ัน 56 1) ส่งเสริมเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตเพื่อเพิ่มผลผลิต กระจายตลอดปี มีคุณภาพ ต้นทุนต�่ำ 2) ยกระดับมาตรฐานคุณภาพความปลอดภยั และเช่อื มัน่ ของผบู้ รโิ ภค (From farm to table) 3.5 แนวทางในการพัฒนามะมว่ งไทยในอนาคต การก�ำหนดกรอบทิศทางและแนวทางการด�ำเนินงานในการ พัฒนางานส่งเสริมน้ัน หากแบ่งออกตามช่วงเวลาเพ่ือน�ำไปสู่เป้าหมาย แบ่งออกได้เป็น 2 ระยะ ไดแ้ ก่ 1) เปา้ หมายระยะสน้ั มงุ่ เนน้ ในเรอ่ื งความเขม้ แขง็ ขององคก์ ร เป็นหลกั กอ่ น สามารถด�ำเนนิ การ (1) ใหส้ มาคมชาวสวนมะมว่ งไทยเปิดรบั สมคั รสมาชกิ เพม่ิ ข้ึนเพอื่ ขยายความเปน็ ปึกแผน่ (2) จดั ตง้ั คณะกรรมการบรหิ ารสมาคม และใหค้ ณะกรรมการ สมาคมจัดประชุมเพ่ือ วางแผนการด�ำเนินงาน ได้แก่ แผนการตลาด แผนการหารายได้ แผนทางวชิ าการ ในเรอื่ งการใชเ้ ทคโนโลยเี พอ่ื ลดตน้ ทนุ เพ่มิ ประสิทธิภาพ/พฒั นาคุณภาพ แผนการผลิตและเพ่มิ ผลผลติ ต่อหนว่ ย พืน้ ท่ี และแผนประชาสมั พันธ์ 2) เป้าหมายระยะยาว ต้องมีการบูรณาการท�ำงานร่วมกัน ระหวา่ งภาครฐั และองคก์ ร ด�ำเนินการโดย (1) ภาครัฐต้องสนับสนุนและสร้างความเข้มแข็งการผลิต โดยนำ� ระบบ IT เขา้ มาช่วยในการปรบั การจัดการการผลิต และการตลาด
152 การวิเคราะหส์ ถานการณด์ ้านการเกษตร ข้อมลู ทางดา้ นเทคโนโลยี การรับรองคณุ ภาพ แผนทที่ างภมู ิสารสนเทศ ตลอดจนการเชอ่ื มโยงขอ้ มูลหนว่ ยงานภายนอกผ่านระบบอนิ เตอร์เน็ต (2) สมาคมตอ้ งมกี ารกำ� หนดมาตรฐานสนิ ค้าของตนเองใน ทศิ ทางเดียวกนั ประกอบกบั การก�ำหนดช่วงเวลาการผลติ ใหม้ กี ารกระ จายตวั ตลอดปไี มเ่ กดิ การทบั ซ้อนกัน (3) สร้างเครือข่ายการเช่ือมโยงกับหน่วยงานอื่นท่ีมีส่วนได้ ส่วนเสยี กับสมาคมชาวสวนมะม่วงไทย เปน็ คลัสเตอร์ (4) ยกระดบั ความเขม้ แขง็ ของสมาคมชาวสวนมะมว่ งไทย สู่ สากลเปน็ องคก์ รมะม่วงโลก 3.6 แนวคดิ ในการสรา้ งจดุ แขง็ มะมว่ ง 1) ผลกั ดนั ใหส้ นิ ค้ามะมว่ งของไทยกา้ วไปไดไ้ กลและอยา่ งยงั่ ยนื น้ัน โดยเราจะต้องสรา้ งจดุ แขง็ ใหก้ ับตวั เองเสยี กอ่ น ซ่ึงมะมว่ งน้ันเดิมทมี ี จดุ แขง็ อยู่แลว้ อาทเิ ชน่ มคี วามหลากหลายของสายพนั ธ์ุ ท�ำใหเ้ ปน็ ทาง เลือกให้กับลูกค้า 2) สร้างการยอมรับและความเช่ือถือในการรับประกันคุณภาพ ทง้ั ภายนอกและภายในทส่ี มำ่� เสมอและความปลอดภยั ตอ่ ผบู้ รโิ ภคดว้ ยระบบ ตรวจสอบยอ้ นกลับ 3) สร้างกระแสความนิยมในเรื่องการบริโภคมะม่วงไทย โดย การให้ความรู้เร่ืองประโยชน์ ในการบริโภคมะม่วง วิธีการรับประทาน มะม่วง วิธีการน�ำมะม่วงไปใชใ้ นการประกอบอาหาร 4) สร้างความสะดวกรวดเร็วในการผลิตและการตลาด โดยกระบวนการขนส่งและจัดจ�ำหน่ายมะม่วงจนถึงมือผู้บริโภคทันเวลา (Just in Time)
บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 153 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ ะมว่ ง\" ตวั อยา่ ง การวิเคราะห์สถานการณม์ ะมว่ ง กรณศี กึ ษา “วสิ าหกจิ ชมุ ชนกลมุ่ ผผู้ ลติ มะมว่ งสง่ ออก อ�ำเภอบางคล้า จังหวดั ฉะเชงิ เทรา” 1. การวเิ คราะหต์ นเองของกลุ่ม 1.1 ขอ้ มูลพื้นฐานกล่มุ 1) ขอ้ มลู ดา้ นสังคม/เศรษฐกิจ - จำ� นวนสมาชิก 50 คน - จ�ำนวนแรงงานเฉล่ีย 3 – 5 คน/ครวั เรือน - รายไดร้ วมของกลมุ่ 26,455,940 บาท - แหลง่ เงินทนุ ภายนอก งบประมาณ CEO สร้างโรงคัด บรรจุ เป็นเงิน 1,250,000 บาท - เงินกองทุนของกล่มุ 2) ขอ้ มลู ด้านการผลติ - พื้นที่ปลูก 37,892 ไร่ - ผลผลติ 812 กิโลกรัม/ไร่ - ปรมิ าณผลผลิตรวม (สง่ ออก) 682,661 กโิ ลกรมั - ช่วงเวลาทผี่ ลผลิตออกส่ตู ลาด 1) ตลุ าคม (ตลาดทั่วไป) ตลาดไท 2) ธนั วาคม (ส่งออก) - คุณภาพผลผลติ ความแก่ โดยมีตลาดภายในประเทศ 95% และตลาดสง่ ออก 85%
154 การวิเคราะห์สถานการณ์ด้านการเกษตร แผนที่ตั้งกลุ่มและแผนผังแปลง วิสาหกจิ ชมุ ชนกล่มุ ผผู้ ลิตมะม่วงส่งออก อำ� เภอบางคลา้ จงั หวดั ฉะเชิงเทรา หนองสอง หอง หนองห วา หนองตารอด หนอง วานเห ืลอง 14 ก.ม. สวนถาวร เจรญิ สขุ เลา หมูบุญสง สวนปวิมล ปลัง่ คลาง วัดเกาะแกว บ.หนองแสง ห มู บานเกษตรกรรมหนองห วา ทางเขา วดั เกาะแกว เตาถา น ฉางขา ว บ. หนองปรอื สวนวนั ชัย บ.หนองหมู สวนบญุ ชู สวนอดเิ รก รร. วัดลำ สวนบัญชา มหาชยั สวนสุนทร รร. วดั หนองแซง บา นหนองยายแจม สวนเกยี รติอมั พร หนองวานเหลือง 1 สวนกิมล้ี วัดหนอง สวนผาวนั ดี บ.หนองกะพอ หนองวา นเหลอื ง วา นเหลือง หนองวานเหลอื ง 2 สวนอำพล ฟารมไก CP สวนชชั ชัย ไปก ิบนท รบุรี สวนกิติ ตลาดเทศบาล สวนอำพล วิทยาลยั เกษตร ต.เขาหนิ ซอ น เทศบาล ซอย 14 ศนู ยพฒั นากนั รร. เขาหนิ ซอน วนอุทยาน เนื่องมาฯ สวนสุรินทร สวนสมบัติ วดั เขาหนิ ซอ น
บทที่ 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 155 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ ะมว่ ง\" 1.2 การวเิ คราะหศ์ กั ยภาพบริหารจดั การกล่มุ 1.2.1 การบริหารจัดการกลมุ่ วิสาหกิจชุมชนกลุม่ ผ้ผู ลิตมะมว่ งส่งออก อำ� เภอบางคล้า จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา จดทะเบยี นเปน็ วสิ าหกจิ ชมุ ชนขนึ้ เมอื่ วนั ท่ี 11 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2548 สถานทที่ ำ� การปัจจบุ ัน ต้งั อยู่ ณ บ้านเลขที่ 121 หมทู่ ี่ 3 ต�ำบลสาวชะโงก อำ� เภอบางคลา้ จงั หวัดฉะเชงิ เทรา โดยสมาชิกวสิ าหกจิ ชุมชนแต่เดิมเป็นสมาชิกชมรมชาวสวนมะม่วงฉะเชิงเทรา เม่ือรัฐบาลได้ ออกพระราชบัญญตั สิ ่งเสรมิ วิสาหกจิ ชุมชน พ.ศ.2548 ขนึ้ ทางสมาชิกผู้ ส่งมะม่วงไปจ�ำหน่ายยังต่างประเทศ จึงได้รวมตัวกันจัดต้ังเป็นวิสาหกิจ ชมุ ชนกลมุ่ ผผู้ ลติ มะมว่ งสง่ ออกไปจำ� หนา่ ยยงั ตา่ งประเทศและไดข้ ยายเครอื ขา่ ยไปยงั อำ� เภอตา่ งๆ ของจงั หวดั ปจั จุบันมสี มาชกิ จำ� นวน 50 คน โดย ผลผลิตท่จี �ำหน่ายสามารถส่งออกไปจำ� หน่ายในประเทศต่างๆ อาทิ เชน่ ญ่ปี ุ่น เกาหลี จนี มาเลเซีย อินโดนเี ซยี 1) วตั ถปุ ระสงค์ : (1) เพอ่ื สรา้ งโอกาสดา้ นการตลาดใหก้ บั สนิ คา้ เกษตร ใหส้ ามารถแขง่ ขันได้ในตลาดต่างประเทศ (2) เพ่ือสรา้ งมูลค่าให้กับสินค้าเกษตรท่ีปลอดภัยและ ได้มาตรฐาน (3) เพอื่ สง่ เสรมิ การผลติ มะมว่ งพชื เศรษฐกจิ ทป่ี ลอดภยั จากสารพษิ (4) เพอ่ื สง่ เสรมิ การรวมกลมุ่ ผผู้ ลติ มะมว่ งทมี่ คี ณุ ภาพดี
156 การวิเคราะห์สถานการณ์ด้านการเกษตร (5) เพ่ือถ่ายทอดความรู้ ประสบการณ์และภูมิปัญญา ให้แกส่ มาชิกของกล่มุ 2) การแบง่ โครงสรา้ ง วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผผู้ ลติ มะม่วงสง่ ออก อำ� เภอบางคล้า จังหวัดฉะเชงิ เทรา ได้แบ่งหน้าท่คี วามรบั ผิดชอบของบคุ คลต่างๆ ดงั น้ี (1) นายมานพ แกว้ วงษน์ กุ ูล ประธาน (2) นายสมเกียรติ กิจเจรญิ ไชย รองประธาน (3) นายนคิ ม เกียรติฉวีวรรณ เลขานุการ (4) นายประทีป เทพพนม ประชาสัมพันธ์ (5) นางจรวยพร กิจเจรญิ ไชย เหรัญญกิ (6) นายวิทยา แกน่ สอน ปฎิคม (7) นางปยิ ภรณ์ นกศิริ กรรมการ (8) นางวนิดา เกษมสวัสด ิ์ กรรมการ (9) นางนัฐฐาพร กิจเจรญิ ชัย กรรมการ 3) วธิ ีการดำ� เนินงาน (1) ประชมุ สมาชิกผ้เู กยี่ วข้องเพอื่ ก�ำหนด กฎ ระเบียบ ขอ้ บงั คับ เงื่อนไข ผลตอบแทน (2) เกบ็ รวบรวมขอ้ มลู บนั ทึกการผลติ การตลาดของ สมาชกิ และลกู ค้า (3) ประสานเชอื่ มโยงหนว่ ยงานทเ่ี กย่ี วขอ้ งทง้ั ภาครฐั และ ภาคเอกชน
บทที่ 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 157 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ ะมว่ ง\" (4) จดั ทำ� แผนแนวทางพฒั นาการดำ� เนนิ งานของวสิ าหกจิ ชมุ ชน (5) ถ่ายทอดความรู้ ประสบการณใ์ หแ้ ก่สมาชกิ (6) ติดตามผลการดำ� เนนิ งาน 4) กิจกรรมการด�ำเนินงานท่ผี ่านมา (1) ศกึ ษาดูงาน แลกเปลี่ยน ความรูป้ ระสบการณ์กบั สมาชิกกลุม่ เกษตรกร ในภาคเหนอื เช่น จังหวดั เชียงใหม่ ล�ำพนู ล�ำปาง น่าน พษิ ณโุ ลก อตุ รดติ ถ์ เป็นต้น เม่อื วนั ท่ี 26 สงิ หาคม 2548 ณ มหาวทิ ยาลัยเชียงใหม่ (2) จดั ทำ� ข้อมูลแผนการผลติ การตลาด (3) ไดส้ ญั ลกั ษณก์ ารรบั รองสนิ คา้ เกษตรและอาหาร จาก กรมวิชาการเกษตรรับรองแหล่งผลติ พืช (GAP) 1.2.2 การบริหารจัดการธรุ กจิ กลมุ่ ไดด้ ำ� เนนิ การเซน็ สญั ญาซอื้ ขายลว่ งหนา้ (Contract Farming) กบั บรษิ ทั ผสู้ ง่ ออก ซงึ่ สรปุ การจำ� หนา่ ย ผลผลติ มะมว่ งของวสิ าหกจิ ชมุ ชน กลมุ่ ผผู้ ลติ มะมว่ งสง่ ออก อำ� เภอบางคลา้ จงั หวดั ฉะเชงิ เทรา ปี 2549/2550 (ตัดยอด ณ วันท่ี 31 พฤษภาคม 2550)
158 การวิเคราะห์สถานการณ์ด้านการเกษตร ที่ ชอ่ื บริษทั ปรมิ าณ (กก.) มูลค่า (บาท) 1 ธานียามา สยาม จ�ำกดั 219,000 10,950,000 2 ทิมฟ้ดู จ�ำกดั 238,696 6,683,488 3 สยามเอก็ ซปอรต์ มาร์ท จำ� กดั 16,664 833,200 4 MR โปรเกรท 7,430 371,800 5 C.O. สวนสระแก้ว จำ� กัด (ส่งเยอรมนั ) 5,125 261,265 6 แมงโก สตลี 1,840 101,279 7 แลนด้ี แอนดเ์ กรซ 30,471 1,423,570 8 สยามฟดู้ เอก็ เพสท ไทยแลนด์ จำ� กดั 43,729 2,186,458 9 พสิ ทิ ธิชัย อินเตอร์ เนชน่ั แนล จำ� กัด (ตกเกรด) 20,777 739,380 10 เอเชยี เอ็กโซตกิ คอเปอเรช่ัน จ�ำกัด 4,799 239,950 11 สยามเมอรกิ พลสั จ�ำกดั 8,261 289,168 12 ยเู มโนกิ เทรดดิ้ง จ�ำกัด 17,060 853,000 13 คาร์ฟูร 29,700 741,202 14. จำ� หนา่ ยประเทศอนิ โดนเี ซยี (เขยี วเสวย) 39,109 782,180 682,661 26,455,940 รวมทง้ั สน้ิ
บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 159 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ ะมว่ ง\" 2. การวเิ คราะหผ์ มู้ สี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี ในการผลติ และการตลาดของกลมุ่ 2.1 การเช่ือมโยงความสมั พนั ธผ์ ู้มีสว่ นได้สว่ นเสยี - ผผู้ ลิต (เกษตรกร) สมาชิกจะมีเครือข่ายอยู่ในอ�ำเภอบางคล้า สนามชัยเขต พนมสารคาม คลองเขอื่ น ท่าตะเกียบ ซงึ่ จะมพี ้นื ทปี่ ลกู อยู่ในแตล่ ะทอ้ งท่ี และสมาชิกแต่ละเครือข่ายจะไดร้ บั ยอดปรมิ าณผลผลิตท่ีจะสง่ ออก แตล่ ะท่ี การส่งมะม่วง สมาชิกจะน�ำผลผลิตมาส่งที่จุดที่ตั้งกลุ่ม เพราะมีโรงคัด แยกผลผลิตบรรจุกล่อง โดยสมาชิกจะต้องจ่ายให้กลุ่มเพ่ือเป็นค่าใช้จ่าย กโิ ลกรมั ละ 1.50 บาท - ผู้รบั ซอ้ื บริษัทผู้ส่งออกจะท�ำสัญญาซื้อขายล่วงหน้ากับกลุ่ม โดย ก�ำหนดชนิดมะม่วง ขนาดและคุณภาพของผลผลิตของแต่ละชนิดซ่ึงในปี 2550 ปริมาณ 750 ตนั มบี รษิ ทั ท�ำสญั ญาไว้ 5 บรษิ ทั ผลผลิตมะมว่ ง นำ้� ดอกไมส้ ที อง น�้ำดอกไม้เบอร์ 4 โดยแบ่งเป็นเกรด A B และ C ส่วน มะมว่ งทีต่ กเกรด มีบริษัททรี่ ับซอ้ื เพอ่ื ขายในประเทศ เช่น บริษทั ในเครือ ของซีพี ห้างสรรพสินคา้ เช่น คาร์ฟรู โลตัส บิก๊ ซี
160 การวิเคราะห์สถานการณด์ า้ นการเกษตร 3. การวเิ คราะห์สภาพแวดลอ้ มท่มี ตี ่อการผลติ สินค้าทีป่ ลอดภยั และ ไดม้ าตรฐาน 3.1 พืน้ ทปี่ ลูก แบง่ เปน็ 2 ลกั ษณะ - ลักษณะเปน็ รอ่ งสวน ได้แก่ อำ� เภอบางคล้า คลองเขื่อน - ลักษณะไม่เป็นร่องสวน คือ พ้ืนท่ีดอน ได้แก่ อ�ำเภอ พนมสารคาม สนามชยั เขต ท่าตะเกยี บเป็นพืน้ ทีป่ ลกู ทไ่ี ม่มีความเสย่ี งตอ่ การปนเปอื้ นของสารเคมี และจุลินทรีย์ และโลหะหนัก ซ่งึ สมาชิกทกุ ราย ไดว้ ิเคราะห์ดินทางเคมี 3.2 แหลง่ น�้ำ ซึง่ ส่วนใหญ่ใชบ้ ่อน้ำ� ไดต้ รวจวเิ คราะห์นำ�้ แลว้ กลุ่มได้รับการ ตรวจวเิ คราะห์ดิน น�้ำ และ ใบพชื ดว้ ยงบประมาณ CEO เมอื่ ปี 2547 3.3 ภูมิอากาศ ปรมิ าณน้�ำฝน การกระจายตัวของฝน อณุ หภมู ิของแสง ใน ระยะ 2 - 3 ปี ทผี่ ่านมา - ปี 2548 - 2549 เกดิ สภาวะฝนทิ้งชว่ งติดต่อกันเป็น เวลานาน ตั้งแต่เดอื นพฤษภาคมถึงกรกฎาคม ท�ำใหเ้ กิดผลกระทบตอ่ การ สรา้ งตาดอกของมะม่วงนอกฤดกู าล และเกิดการระบาดของเพล้ียไฟ - ชว่ งเดอื นตลุ าคมถงึ พฤศจกิ ายน เกดิ ฝนตกชกุ นำ้� ทว่ ม แต่ เปน็ ชว่ งของการออกดอกตดิ ผลของมะมว่ งตามฤดูกาล
บทที่ 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 161 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ ะมว่ ง\" 4. การวิเคราะห์กระบวนการผลติ และการจดั การ 4.1 กระบวนการผลติ - พนั ธุ์ ผลดิบ : เขยี วเสวย, ฟ้าล่ัน, แรด ผลสกุ : นำ้� ดอกไม้สีทอง, น้ำ� ดอกไม้เบอร์ 4 - การปลกู และดูแลรกั ษา - การตัดแต่งกิง่ ช่วงเดอื นพฤษภาคม - กำ� จดั วชั พืช ก่อนการใชป้ ยุ๋ ทกุ คร้ัง - การบำ� รงุ ต้น หลังจากตัดแตง่ ก่ิง สตู ร 15-15-15 อัตรา 1-2 กโิ ลกรัม/ตน้ ปุ๋ยอนิ ทรีย์ 10-20 กโิ ลกรัม/ตน้ - การสรา้ งตาดอก - ก่อนมะม่วงออกดอก 2-3 เดือนใส่ปุ๋ย สตู ร 12-24-24 หรือ 8-24-24 อัตรา 1-2 กิโลกรัม/ต้น - การบำ� รงุ ผล หลงั ดอกบาน 1 เดอื น ใสป่ ยุ๋ สตู ร 15-15-15 อัตรา 1-2 กิโลกรัม/ตน้ - ปรบั ปรุงคุณภาพผลผลิต กอ่ นเก็บเกย่ี วผลผลติ 1 เดือน ใส่ป๋ยุ สตู ร 13-13-21 อตั รา 1-2 กิโลกรัม/ตน้ - การหอ่ ผล อายุ 45-55 วนั หรือมผี ลขนาดเท่าไขไ่ ก่ - การเกบ็ เก่ยี ว เก็บเกีย่ วผลผลติ แก่ 85% - การจดบนั ทกึ ขอ้ มลู เกษตรกรจดบนั ทกึ ขอ้ มลู การปฏบิ ตั ใิ น แปลงทกุ ขั้นตอนการผลติ
162 การวิเคราะห์สถานการณด์ ้านการเกษตร 4.2 ต้นทุนในการผลิตมะม่วง (อายุ 5 ปี ข้นึ ไป) 1. ค่าตัดแตง่ ก่ิง 375 บาท 2. ค่าปุ๋ย 750 บาท 3. ค่ากำ� จดั วัชพืช 500 บาท 4. ค่าสารเคมปี ้องกันกำ� จดั โรค-แมลง 1,250 บาท 5. ถุงห่อผล 1,500 บาท 6. ค่าแรงงานหอ่ ผล เกบ็ ผลผลิต 1,250 บาท 7. ค่านำ้� มนั เชอื้ เพลงิ 500 บาท 8. ค่าเชา่ ท่ดี นิ 1,500 บาท รวม 7,625 บาท รายได้เฉล่ีย ผลผลิตเฉล่ยี 812 กโิ ลกรมั /ไร่ ราคาเฉล่ยี กิโลกรมั ละ 15 บาท = 12,180 บาท/ไร่ 5. การวิเคราะห์ปัญหาและความเสี่ยงในการผลิตและจัดการ สนิ ค้าเกษตร วิสาหกจิ ชมุ ชนกลุ่มผ้ผู ลติ มะมว่ งสง่ ออก อ�ำเภอบางคล้า จงั หวดั ฉะเชิงเทรา 5.1 ขอ้ มลู ความเสี่ยง * จุดเสี่ยงในชว่ งออกดอก - การเกดิ เพลีย้ ไฟ เกษตรกรจะใช้ สารเคมที ี่อนุญาตใหใ้ ช้ไดห้ รือใช้สารชวี ภณั ฑ์ หรือพืชสมุนไพร * จุดเสย่ี งในชว่ งออกดอก - เก็บเกยี่ ว โรคแอนแทรคโนส ซงึ่ สามารถเกดิ ขนึ้ ไดท้ กุ ระยะ การเจรญิ เตบิ โตซง่ึ ขนึ้ อยกู่ บั ปจั จยั เสยี่ ง เชน่ อณุ หภมู ิ ความชนื้ เกษตรกรจะใชส้ ารเคมปี อ้ งกนั กำ� จดั เชอ้ื โรคแอนแทรคโนส ฉดี พน่
บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 163 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ ะมว่ ง\" และก่อนหอ่ ผลเกษตรกรจะผสมสารเคมปี ้องกนั เช้อื รา ชบุ ผลผลิตมะม่วง และหอ่ ดว้ ยถุงห่อผล 5.2 ผลการวิเคราะห์ SWOT วิสาหกิจชุมชนกลุ่มผู้ผลิตมะม่วงส่งออก อ�ำเภอบางคล้า จังหวดั ฉะเชิงเทรา จดุ อ่อน 1. ขาดแรงงานที่มฝี มี อื 2. ขาดความมน่ั ใจ ในการเลือกซอื้ สารเคมี 3. ทดี่ ิน (สวน) ไม่ใชข่ องตนเอง 4. ขาดการจดั การดา้ นการตลาดในการผลติ ทตี่ กเกรดสง่ ออก 5. ขาดการจดั ทำ� แผนการผลิตและการตลาด 6. ขาดความรู้เร่ืองช่องทางการตลาด 7. การพฒั นาศกั ยภาพการผลติ โดยโรงเรยี นเกษตรกรไมพ่ อเพยี ง ขอ้ จ�ำกัด 1. ขาดเงินทนุ หมนุ เวยี น 2. เกษตรกรไมส่ ามารถก�ำหนดปริมาณการผลติ / วันหรอื สัปดาห์ท่แี น่นอนได้ 3. ค่าก�ำหนดคุณภาพผลผลิตสงู เกนิ ไป 4. ไมม่ เี ครอ่ื งมอื ตรวจวดั เปอรเ์ ซน็ ต์ ความเขม้ ขน้ ของสารเคมี 5. ราคาผลผลติ ในประเทศไมแ่ น่นอน 6. ขาดความรู้ การอบรม ถ่ายทอดด้านการผลติ
164 การวิเคราะห์สถานการณ์ดา้ นการเกษตร จดุ แข็ง 1. มเี ครอ่ื งมอื อปุ กรณก์ ารผลิตครบครัน ไดแ้ ก่ รถพน่ สารเคมี ถงุ ห่อผล รถตัดหญ้า รถไถขนาดกลาง ปัม๊ ฉีดสารเคมแี รงดันสูง 2. ท่ีดินเปน็ ของตนเอง ไฟฟา้ แหล่งน�ำ้ 3. สามารถจดั การ การผลติ มะมว่ งคุณภาพได้ 4. เปน็ กลมุ่ การผลติ ทม่ี วี สิ าหกจิ ชมุ ชนเพอื่ การสง่ ออกมะมว่ งรองรบั สินคา้ 5. มีความสามารถผลิตเคร่ืองพ่นสารเคมีได้ด้วยตนเอง (ใช้เอง จ�ำหนา่ ยทวั่ ไป) 6. มเี กษตรกรท่มี คี วามช�ำนาญด้านการผลิตประจ�ำกลมุ่ 7. มีการทำ� สญั ญาซ้อื ขายลว่ งหนา้ กับบริษทั ส่งออก 8. มตี ลาดภายในระดบั คณุ ภาพสนิ คา้ หา้ งสรรพสนิ คา้ ตา่ งๆ รองรบั ผลผลิต 9. สามารถผลิตมะมว่ งได้ 2 ครง้ั / ปี - บังคับ กรกฎาคม เก็บเก่ยี วพฤศจกิ ายน - บงั คับ พฤศจกิ ายน เก็บเก่ยี วกุมภาพันธ์ - เมษายน
บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 165 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ ะมว่ ง\" โอกาส 1. อยูใ่ นกลุ่มการจดั การสินค้าเกษตร 2. ได้รบั ความรูท้ างการผลติ ในระบบโรงเรียนเกษตรกร 3. สามารถส่งออกผลิตไปสตู่ ลาดต่างประเทศ 4. มีโอกาสเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นในด้านการใช้สารเคมี การต่อรองสนิ ค้ากับบริษัทสารเคมี 5. มโี อกาสเขา้ รว่ มแลกเปลยี่ นแนวทางการผลติ กบั หนว่ ยงานของ ทางราชการ 6. มโี อกาสจำ� หนา่ ยสนิ คา้ และเผยแพรค่ ณุ ภาพผลผลติ ในงานเทศกาล ตา่ ง ๆ ตามทีท่ างราชการจดั ข้นึ จุดแขง็ +โอกาส 1. มีเคร่อื งมือ+อุปกรณ ์ มโี อกาสส่งผลผลติ สูต่ ลาดตา่ งประเทศ 2. ที่ดนิ ของตนเอง สามารถสง่ ผลผลิตสูต่ ลาดตา่ งประเทศได้ 3. สามารถจัดการผลติ มะมว่ งคณุ ภาพได้อยใู่ นกลุม่ ฯ ได้รบั ความรู้ ผลผลิตสู่ตลาดต่างประเทศ 4. กลมุ่ การผลติ มวี สิ าหกจิ ชมุ ชนรองรบั มโี อกาสตอ่ รองราคาสนิ คา้ แลกเปลี่ยนซอ้ื ขายผลผลติ กับบริษัทสง่ ออก ศึกษาดงู านสัมมนาศักยภาพ กับภาครัฐ 5. มคี วามสามารถผลิตเครอื่ งฉีดพ่นสารเคมี 6. มีเกษตรกรมคี วามร้คู วามช�ำนาญประจ�ำกลุม่ มโี อกาสเพ่มิ พนู ความรตู้ ลอดเวลา
166 การวิเคราะหส์ ถานการณด์ ้านการเกษตร มี 7. มกี ารทำ� สญั ญาซอื้ ขายลว่ งหนา้ กบั บรษิ ทั สง่ ออก จำ� หนา่ ยสนิ คา้ และเผยแพร่คณุ ภาพผลผลิต 8. มตี ลาดสนิ คา้ คณุ ภาพภายในประเทศ (หา้ งสรรพสนิ คา้ ) ยอมรบั บ 9. ผลติ มะมว่ ง ได้ 2 คร้ัง/ปี จ�ำหนา่ ยผลผลติ ในเทศกาลทท่ี าง ราชการ/เอกชนจดั ขึน้ จดุ ออ่ น+ข้อจ�ำกัด 1. ขาดแรงงานฝมี ือ เพราะขาดเงนิ ทุนหมุนเวยี น 2. ขาดความมั่นใจในการเลือกซื้อสารเคมีเพราะ ไมม่ ีเครือ่ งตรวจ วัดความเขม้ ข้นของสาร 3. ทีด่ นิ 50% เปน็ ของตนเอง และ 50% เปน็ ที่เช่าเพราะขาด เงนิ ทุนหมุนเวียน 4. ขาดการจัดการด้านการตลาด ในผลผลิตท่ีตกเกรดส่งออก เพราะขาดการวางแผนการกระจายผลผลิตในตลาดภายในประเทศ 5. ขาดการจัดท�ำแผนและการตลาดเกษตรกรไม่สามารถก�ำหนด ปริมาณการผลิต/วัน/สัปดาห์ท่ีแนน่ อนเพราะเกษตรกรขาดความรู้ 6. ขาดความรู้เรื่องช่องทางการตลาด เพราะเกษตรกรไม่ได้รับ การอบรมด้านการตลาดจากหน่วยงานท่เี กีย่ วขอ้ งโดยตรง 7. การพัฒนาศักยภาพการผลติ โดยโรงเรียนเกษตรกร (FFS) ไม่ เพยี งพอในปจั จบุ นั
บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 167 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณม์ ะมว่ ง\" 6. การจัดทำ� แผนแก้ไขปัญหาและการควบคมุ ความเส่ยี งในจดุ ต่างๆ - แนวทางแก้ไขปญั หาหรอื ควบคุมความเสีย่ ง - หลกั นิตธิ รรม (rule of law) - หลกั ความรบั ผิดชอบ (responsiveness) - หลักความโปร่งใส (transparency) - หลกั การตรวจได้ (accountability) - หลักความคุ้มค่าประสิทธิภาพและประสิทธิผล (efectiveness & effieny) - หลักการมสี ว่ นรว่ ม (participation) - หลักความทวั่ ถงึ และเท่าเทยี ม (equity & equality) - หลักการเหน็ พ้องร่วมกนั (consensus)
168 การวเิ คราะห์สถานการณ์ด้านการเกษตร แผนปฏิบัตงิ านในการปรับปรุงการผลิตและการจดั การสนิ ค้าเกษตร ลำ� ดับ ประเภทของ วธิ กี ารแกไ้ ขปญั หาความเสีย่ ง วิธกี ารการควบคมุ ความเสีย่ ง ความเส่ียง 1 การปฎิบัติใน - ใช้สารเคมีที่อนญุ าตให้ใช้ตามกำ� หนด - จดบันทกึ ขอ้ มูล แปลง ในระยะเวลาทเี่ หมาะสมโดยมกี ารส�ำรวจ สภาพภูมอิ ากาศ ระบบนเิ วศน์ในแปลงกอ่ นตัดสนิ ใจใช้ ปรมิ าณนำ�้ ฝนและ สารเคมีปอ้ งกนั กำ� จัดโรค-แมลงศตั รมู ะม่วง สถานการณก์ าร - เลือกซ้อื สารเคมีการเกษตรจากร้านที่ ระบาดของศตั รพู ืช เช่ือถอื ได้ - สังเกตสภาพ - เก็บตัวอย่างสารเคมีการเกษตรที่ ภูมอิ ากาศ สงสยั สง่ ตรวจสอบ - ส�ำรวจระบบนเิ วศ 2 กฏระเบียบและ - ให้หนว่ ยงานท่เี กยี่ วข้องแจ้งข่าวสาร นโยบาย การตลาด และสถานการณท์ ั่วไปใหก้ ลมุ่ ทราบใหท้ ันเวลา 3 การเงิน-การ - เกษตรกรปฏบิ ตั ใิ นแปลงตามระบบ ลงทนุ มาตรฐาน GAP 4 การตลาด - รวมกลุ่มจ�ำหน่ายผลผลติ - รวมกลุ่มแปรรปู ผลผลิต - บรหิ ารจดั การผลผลติ - จดั ทำ� แผนการผลติ หาชอ่ งทางการตลาด เพิม่ ใหแ้ กก่ ลุม่ - จดั งานวนั จำ� หนา่ ยผลผลติ ในทอ้ งถนิ่ ให้ แก่กลุ่ม โดยร่วมกับ อบต. ฯลฯ
บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 169 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณห์ นอ่ ไมผ้ รง่ั \" 4. กรณีศกึ ษา \"การวิเคราะหส์ ถานการณ์หนอ่ ไมฝ้ รั่ง\" อรสา ดิสถาพร สำ� นกั ส่งเสรมิ และจัดการสินค้าเกษตร เรยี บเรียง 4.1 สถานการณ์หนอ่ ไม้ฝร่ัง การสง่ เสริมการปลกู หน่อไม้ฝรั่งในประเทศไทย เรมิ่ ในปี 2529 โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ ์ ไดม้ อบหมายใหก้ รมสง่ เสรมิ การเกษตร รับผิดชอบ และศึกษาความเป็นไปได้ในการส่งเสริมการปลูกหน่อไม้ฝร่ัง รวมท้ัง พิจารณาหาพื้นที่ท่ีเหมาะสมในการด�ำเนินการ ซ่ึงกรมส่งเสริม การเกษตรไดพ้ จิ ารณาแลว้ เหน็ วา่ หนอ่ ไมฝ้ รง่ั เปน็ พชื ทน่ี า่ สนใจและสามารถ ปลกู ได้ได้ในพ้ืนทตี่ า่ งๆ ตลอดจน มตี ลาดรบั ซื้อทแ่ี น่นอน ราคารบั ซ้อื อยู่ ในเกณฑด์ ี และมสี ญั ญาซอื้ ขายระหวา่ งกลมุ่ เกษตรกรและบรษิ ทั นอกจากนน้ั หนอ่ ไมฝ้ รงั่ เปน็ พชื ทใี่ หผ้ ลตอบแทนสงู แกเ่ กษตรกร และเปน็ การสนบั สนนุ นโยบายการสง่ ออกผลผลติ การเกษตรของรฐั บาล กรมสง่ เสรมิ การเกษตร จงึ ไดเ้ รม่ิ ดำ� เนนิ โครงการสง่ เสรมิ การผลติ หนอ่ ไมฝ้ รง่ั ในรปู แบบครบวงจร โดยมี บรษิ ทั ธานยี ามา สยาม จำ� กดั เปน็ ผู้รบั ซือ้ และทำ� สญั ญาซื้อขาย กบั กลมุ่ เกษตรกรและประกันราคารบั ซือ้ ตัง้ แตป่ ี 2529 จนถึงปัจจบุ ัน รปู แบบการดำ� เนนิ การสง่ เสรมิ การผลติ หนอ่ ไมฝ้ รง่ั ของประเทศไทย ด�ำเนินการในรูปแบบครบวงจร โดยมีบริษัทผู้รับซื้อท�ำสัญญาซ้ือขายกับ กลมุ่ เกษตรกรและประกนั ราคารบั ซอื้ ผลผลติ ตามมาตรฐาน เหตทุ หี่ นอ่ ไมฝ้ รงั่
170 การวเิ คราะหส์ ถานการณ์ด้านการเกษตร จำ� เปน็ ตอ้ งใชร้ ะบบการผลติ แบบครบวงจร เนอื่ งจาก เปน็ พชื ทม่ี คี วามเสย่ี ง ตอ่ เกษตรกร เพราะใชเ้ วลาปลกู จนกระทงั่ เกบ็ เกยี่ วคอ่ นขา้ งนาน การลงทนุ ในการผลติ สงู และตลาดหลกั ในขณะนนั้ ยงั อาศยั ตลาดตา่ งประเทศ โดยตลาด ตา่ งประเทศท่สี �ำคัญ คอื ประเทศไต้หวนั และประเทศญ่ีปุ่น รองลงมา ไดแ้ ก่ ตลาดยุโรป และตลาดในแถบเอเชีย เชน่ ฮ่องกง สงิ คโปร์ และ มาเลเซยี ในปจั จบุ นั ผสู้ ง่ ออกมคี วามตอ้ งการหนอ่ ไมฝ้ รงั่ หนอ่ เขยี วสดเพมิ่ ขน้ึ จนทำ� ใหผ้ ลผลติ ทไี่ ดไ้ มเ่ พยี งพอกบั ความตอ้ งการ จงึ ตอ้ งเรง่ รดั ในการเพม่ิ ปรมิ าณผลผลติ และการปรบั ปรงุ คณุ ภาพของผลผลติ เพอ่ื สนองความตอ้ งการ ของตลาด 4.1.1 สถานการณก์ ารผลิตและการตลาดหนอ่ ไมฝ้ รงั่ 1) สถานการณก์ ารผลติ หน่อไม้ฝรง่ั ของโลก ปี 2552 การผลติ หนอ่ ไมฝ้ รง่ั ของโลกมปี รมิ าณ 7,309,432 ตนั จากพื้นท่เี กบ็ เก่ยี ว 8,745,106 ไร่ โดยประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน เปน็ ผ้ผู ลติ รายใหญม่ พี ้ืนทีเ่ กบ็ เกยี่ ว 7,941,469 ไร่ ผลผลติ 6,502,476 ตัน คิดเป็นร้อยละ 89 ของการผลิตทง้ั โลก รองลงมา ได้แก่ ประเทศ เปรู เยอรมนั เมก็ ซิโก และสหรฐั อเมรกิ า มปี รมิ าณการผลติ 313,880, 98,193, 63,950 และ 49,670 ตัน ตามลำ� ดับ ส่วนประเทศไทยมี ปรมิ าณการผลิต 16,137 ตัน คดิ เป็นอนั ดับที่ 12 ของโลก (ตารางท่ี 1)
บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 171 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณห์ นอ่ ไมผ้ รง่ั \" ตารางท่ี 1 ปริมาณการผลติ หนอ่ ไม้ฝร่งั ของโลก ปี 2552 ประเทศ ปริมาณการผลิต (ตัน) ประเทศ ปรมิ าณการผลิต (ตัน) สาธารณรฐั ประชาชนจนี 6,502,479 โมร็อกโก 2,924 ออสเตรยี 2,479 เปรู 313,880 นิวซแี ลนด์ 2,200 โปแลนด์ 2,054 เยอรมนี 98,193 เบลเยียม 1,500 สโลวะเกีย 1,296 เม็กซิโก 63,950 เอกวาดอร์ 1,019 สหรัฐอเมริกา 49,670 สเปน 48,800 อติ าลี 44,500 ญีป่ ุน่ 28,000 สาธารณรฐั เช็ก 773 ชลิ ี 18,849 แอฟรกิ าใต้ 773 ฝร่ังเศส 18,423 มาซโี ดเนยี 701 กรซี 17,000 สวิตเซอรแ์ ลนด์ 368 ไทย 16,137 ซิมบบั เว 235 เนเธอร์แลนด์ 14,500 เคนยา 217 อิหร่าน 13,437 ตนู ีเซยี 151 อาร์เจนตินา 8,141 เรอเู นยี ง 91 แคนาดา 7,856 อิสราเอล 83 ฟลิ ิปปินส์ 7,121 โคลอมเบีย 82 ออสเตรเลีย 6,981 เดนมารก์ 51 บลั กาเรยี 6,457 ตุรกี 18 ฮงั การี 4,649 ฟนิ แลนด์ 4 สหราชอาณาจักร 3,390 รวม 7,309,432 ทมี่ า : FAO, 2552
172 การวเิ คราะห์สถานการณ์ดา้ นการเกษตร 2) สถานการณ์ภายในประเทศ การผลิต ในชว่ ง 10 ปที ่ผี ่านมา พื้นท่ปี ลกู หนอ่ ไมฝ้ ร่ัง ในประเทศไทยเพิ่มข้นึ ต้ังแต่ ปี 2543/44 ถึงปี 2548/49 และลดลง อยา่ งตอ่ เนอ่ื งตงั้ แตป่ ี 2549/50 ถงึ ปี 2551/52 (ภาพที่ 1) ทงั้ น้ี เนอื่ งจาก เกษตรกรบางรายเปลย่ี นจากการปลกู หนอ่ ไมฝ้ รงั่ ไปปลกู พชื เศรษฐกจิ ชนดิ อน่ื การลดลงของพน้ื ทป่ี ลกู หนอ่ ไมฝ้ รง่ั สง่ ผลใหป้ รมิ าณการผลติ ลดลงดว้ ยเชน่ กนั (ภาพท่ี 2) ปี 2552/53 ประเทศไทยมพี น้ื ทีป่ ลกู หน่อไมฝ้ ร่ัง 13,318 ไร่ ผลผลิต 31,963.20 ตนั ซ่งึ พ้ืนทปี่ ลูกเพิม่ ขนึ้ จากปี 2551/52 คดิ เป็น ร้อยละ 2.95 (ตารางที่ 2) จังหวัดที่ปลูกหน่อไม้ฝรั่งที่ส�ำคัญของ ประเทศไทย ได้แก่ จังหวัดราชบุรี กาญจนบุรี นครปฐม สุพรรณบุรี ประจวบครี ีขันธ์ ศรสี ะเกษ เพชรบรู ณ์ นครราชสมี า กาฬสนิ ธุ์ สระแก้ว และจังหวัดอุตรดิตถ์ พื้นท่ีปลูกส่วนใหญ่เป็นการผลิตหน่อไม้ฝร่ังชนิด หน่อเขยี ว และปจั จบุ นั มี บริษทั สวิฟท์ จ�ำกดั ไดส้ ่งเสริมให้เกษตรกรใน จงั หวดั สระแกว้ ปลกู หนอ่ ไมฝ้ รงั่ แบบอนิ ทรยี ์ โดยเรมิ่ สง่ เสรมิ ตง้ั แตป่ ี 2543 เป็นต้นมา
ื้พนที่ป ูลก (ไร่) บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 173 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณห์ นอ่ ไมผ้ รง่ั \" 2543/44 30,000 2544/45 25,000 2545/46 20,000 22554467//4478 15,000 2222555545459180////54559012 10,000 2552/53 5,000 ผลผลิต (ต้น) 0 ปี (พ.ศ.) ภาพท่ี 1 พื้นทป่ี ลูกหน่อไมฝ้ รง่ั ของประเทศไทย ปี 2543/44 – 2552/53 ที่มา : กรมสง่ เสรมิ การเกษตร, 2553 50,000 40,000 30,000 20,000 10,000 0 ปี (พ.ศ.) ภาพที่ 2 ผลผลิตของหน่อไมฝ้ รงั่ ของประเทศไทย ปี 2543/44 – 2552/53 ที่มา : กรมสง่ เสริมการเกษตร, 2553 2543/44 2544/45 2545/46 2546/47 2547/48 2548/49 22554590//5510 2551/52 2552/53
174 การวิเคราะห์สถานการณ์ด้านการเกษตร ตารางท่ี 2 พืน้ ทป่ี ลกู และปริมาณผลผลติ หนอ่ ไม้ฝรัง่ ของประเทศไทย ประจำ� ปี 2543/44 – 2552/53 ปี พนื้ ทป่ี ลูก (ไร)่ ผลผลติ รวม (ตนั ) 2543/44 7,655 6,000.00 2544/45 9,655 11,050.00 2545/46 10,057 15,085.00 2546/47 13,145 19,717.00 28,950.00 2547/48 19,300 37,635.00 2548/49 25,090 42,939.80 2549/50 24,196 32,539.03 2550/51 17,746 31,020.00 2551/52 12,925 31,963.20 2552/53 13,318 ท่ีมา : กรมสง่ เสริมการเกษตร, 2553
บทที่ 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 175 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณห์ นอ่ ไมผ้ รงั่ \" การตลาด การส่งออกหน่อไม้ฝรั่งสดของประเทศไทยปี 2549 – 2553 (ตารางท่ี 3) พบว่าการส่งออกหน่อไมฝ้ รง่ั ลดลงอย่างตอ่ เนื่อง โดยในปี 2553 ประเทศไทยสง่ ออกหน่อไมฝ้ รั่งสดมีปริมาณ 5,999.29 ตนั มลู คา่ 431.29 ลา้ นบาท ประเทศคคู่ า้ ทส่ี ำ� คญั ของประเทศไทย ไดแ้ ก่ ประเทศไตห้ วนั และประเทศญป่ี ุ่น โดยตงั้ แตป่ ี 2549 ปริมาณการสง่ ออกหน่อไม้ฝร่ังไปยังประเทศญี่ปุ่นลดลงทุกปี ในขณะที่การส่งออกหน่อ ไมฝ้ รงั่ ของประเทศไทยไปยงั ประเทศไตห้ วนั มปี รมิ าณเพมิ่ ขน้ึ ตงั้ แตป่ ี 2549 จนถงึ ปี 2551 แตใ่ นปี 2552 การส่งออกเรมิ่ ลดลง ถงึ แม้วา่ ปรมิ าณ การส่งออกหน่อไม้ฝร่ังของประเทศไทยไปยังประเทศไต้หวันจะมีปริมาณ สงู กวา่ ส่งไปยังประเทศญ่ีปุ่นกต็ าม (ภาพที่ 3) แต่มลู ค่าท่ไี ด้จากการส่ง ออกหนอ่ ไมฝ้ รงั่ ไปยังประเทศญ่ปี นุ่ สงู กวา่ ไปยงั ประเทศไต้หวัน (ภาพที่ 4) หน่อไมฝ้ รัง่ ท่สี ่งออกไปยงั ประเทศญ่ีปุน่ มีคณุ ภาพทด่ี กี ว่า ปัญหาอุปสรรคท่ีท�ำให้หน่อไม้ฝร่ังจากประเทศไทยมีปริมาณการ สง่ ออกน้อยลง คือ กฎระเบียบ มาตรฐานต่างๆ ท่ีประเทศคคู่ ้าก�ำหนด เชน่ การประกาศใช้ positive list ของประเทศญปี่ นุ่ ซง่ึ กำ� หนดคา่ มาตรฐาน สารเคมีตกค้างในผลผลติ ท่ตี �่ำกวา่ ทผี่ ่านมา และการตรวจพบสารเคมเี กนิ ค่ามาตรฐานในผลผลิตหน่อไม้ฝรั่งจากประเทศไทย ท�ำให้ต้องตรวจสอบ 100% ประกอบกับปัญหาสภาพอากาศเปลี่ยนแปลงพันธุ์หน่อไม้ฝรั่งที่ เกษตรกรใชม้ คี ณุ ภาพไมด่ ีเทา่ ทผี่ ่านมา ความไมต่ ้านทานโรคแมลง ทำ� ให้ ผลผลติ ไมไ่ ดค้ ณุ ภาพ
176 การวเิ คราะหส์ ถานการณ์ด้านการเกษตร ตารางที่ 3 ปริมาณและมลู คา่ การส่งออกหนอ่ ไม้ฝร่ังสดของไทยปี 2549 - 2553 ปรมิ าณ : ตนั รายการ 2549 2550 ปริมาณ มลู ค่า ปรมิ าณ มลู คา่ ไตห้ วัน 9,911.79 334.42 10,058.00 329.09 ญปี่ ่นุ 3,759.56 585.17 3,00.16 405.71 ออสเตรเลยี 250.30 21.14 172.64 16.13 เยอรมัน 2.56 0.10 1.84 0.08 เนเธอรแ์ ลนด์ 48.60 9.27 80.12 24.16 สหราชอาณาจกั ร 49.45 5.10 46.20 5.07 สาธารณรฐั ประชาชนจนี 26.45 0.80 104.19 1.65 สงิ คโปร์ 6.05 0.24 22.10 0.88 ฮอ่ งกง 66.26 9.42 12.45 1.17 เดนมารค์ 0.38 0.097 34.06 9.41 สหรัฐอเมรกิ า 0.06 0.008 11.85 0.32 สวิสเซอรแ์ ลนด์ 7.06 2.03 9.45 1.55 ฝรงั่ เศส 52.30 16.04 27.52 7.85 เวยี ดนาม 15.54 1.58 13.69 1.48 สาธารณรฐั แอฟริกาใต้ 14.96 2.24 10.61 1.59 ประเทศอ่ืนๆ 56.98 5.71 597.17 48.99 รวม 14,268.36 993.37 14,205.05 855.13
บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 177 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณห์ นอ่ ไมผ้ รง่ั \" มลู ค่า : ล้านบาท 2551 2552 2553 ปรมิ าณ มลู คา่ ปรมิ าณ มูลค่า ปริมาณ มูลค่า 10,153.96 348.35 6,913.47 232.53 3,753.49 109.61 2,232.25 338.22 2,025.00 315.97 1,691.14 255.53 329.51 33.93 231.55 24.79 255.51 22.88 4.33 0.40 3.27 0.38 5.63 0.52 61.29 9.98 33.25 3.52 36.93 2.06 18.69 3.54 15.55 5.10 36.07 8.95 102.19 1.87 26.50 0.48 19.20 0.31 5.20 0.22 7.37 0.38 4.23 0.22 11.61 0.48 2.74 0.27 7.89 0.91 45.62 13.61 0.00 0.00 0.03 0.00 0.00 0.00 0.00 0.00 0.00 0.00 3.01 0.64 0.02 0.03 0.68 0.16 29.39 8.86 9.10 2.83 0.37 0.01 11.63 1.21 11.02 1.19 14.10 1.27 20.55 2.41 16.50 1.12 5.98 0.23 236.74 14.38 178.54 11.75 168.04 28.63 13,265.97 778.91 9,473.88 600.34 5,999.29 431.29 ที่มา : http://www.customs.go.th/Statistic/Index.jsp
178 การวิเคราะหส์ ถานการณ์ดา้ นการเกษตร เนเธอรแ์ ลนด์ 0.62% ประเทศอืน่ ๆ 2.80% ออสเตรเลีย 4.26% ญ่ีปนุ่ 28.19% ไตห้ วัน 62.57% ภาพท่ี 3 ปรมิ าณการส่งออกหน่อไม้ฝร่งั ของประเทศไทยไปประเทศต่างๆ ปี 2553 ทีม่ า : ส�ำนักงานเศรษฐกจิ การเกษตร เนเธอร์แลนด์ 0.48% ประเทศอื่นๆ 6.64% ออสเตรเลยี 5.31% ไตห้ วนั 25.41% ญ่ีปุ่น 59.25% ภาพที่ 4 มลู คา่ การสง่ ออกหน่อไม้ฝร่งั ของประเทศไทยไปประเทศต่างๆ ปี 2553 ที่มา : สำ� นกั งานเศรษฐกจิ การเกษตร
บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 179 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณห์ นอ่ ไมผ้ รงั่ \" การขยายตลาดหน่อไม้ฝร่ังของประเทศไทยยังมีความเป็นไป ไดส้ งู เนอ่ื งจากตลาดต่างประเทศยงั มคี วามต้องการมาก แต่มีเงอ่ื นไขทวี่ า่ ดา้ นการผลิตจะตอ้ งมีการปรับปรงุ คุณภาพผลผลติ ใหไ้ ดม้ าตรฐานและ มี ปริมาณผลผลิตสม�่ำเสมอด้วย รวมท้ัง ลดต้นทุนผลผลิตเพ่ือแข่งขันใน ตลาดโลก ส่วนในด้านการตลาดทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจะต้องมีการ ประชาสัมพันธ์ และหาตลาดหน่อไม้ฝรั่งทั้งตลาดชั้นหน่ึงท่ีต้องการ หน่อไม้ฝร่ังที่มีคุณภาพสูง และตลาดอื่นซ่ึงต้องการหน่อไม้ฝร่ังคุณภาพ รองลงมาใหม้ ากข้ึน สำ� หรบั ด้านอตุ สาหกรรมควรใหค้ วามสนใจเร่ืองการ แชแ่ ขง็ หรอื การนำ� เอาหนอ่ ไมฝ้ รง่ั ทไี่ มส่ ามารถสง่ ออกไดม้ าทำ� การแปรรปู ในลักษณะต่างๆ เชน่ นำ้� หนอ่ ไมฝ้ ร่ัง และซปุ ผลหนอ่ ไมฝ้ รัง่ เปน็ ต้น 3) สถานการณก์ ารผลิต และการนำ� เขา้ หน่อไมฝ้ รัง่ ของประเทศญปี่ ุ่น พชื ผกั เปน็ อาหารประจำ� วนั ทสี่ ำ� คญั ของคนญปี่ นุ่ โดยรปู แบบ การบรโิ ภคสว่ นใหญ่เปน็ แบบรบั ประทานสด ในประเทศญีป่ ุ่นมีการผลติ พืชผักใช้ส�ำหรับบริโภคกันเอง แต่มีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการ ของคนในประเทศ แนวโนม้ ความตอ้ งการของพืชผกั สดคาดว่าสงู ขึน้ ตาม การเพม่ิ ขนึ้ ของประชากร นอกจากน้ี ความตอ้ งการบรโิ ภคพชื ผกั ยงั ขน้ึ อยู่ กับปัจจัยต่างๆ เชน่ นิสยั การบริโภค ราคาขายดว้ ยเชน่ กัน สำ� หรบั หนอ่ ไมฝ้ รง่ั ประเทศญปี่ นุ่ มคี วามตอ้ งการเพอ่ื ใชบ้ รโิ ภค ประมาณ 40,000 - 50,000 ตัน/ปี แตส่ ามารถผลติ ได้เอง 28,000 ตัน ดังน้ัน จึงมีความจ�ำเป็นทีต่ ้องน�ำเขา้ จากต่างประเทศ
180 การวเิ คราะห์สถานการณ์ด้านการเกษตร การผลิต การปลูกหน่อไม้ฝรั่งในประเทศญ่ีปุ่นมีปลูกทั้งบน แปลงแบบโลง่ แจง้ ทวั่ ไป และปลกู ในโรงเรอื น ซงึ่ มปี รมิ าณผลผลติ ประมาณ ปลี ะ 28,000 ตนั โดยผลผลติ จะออกสูต่ ลาดในเดอื นเมษายน - มถิ นุ ายน และเดอื นกนั ยายน - ตลุ าคมของทกุ ปี แหลง่ การผลติ ทส่ี ำ� คญั ไดแ้ ก่ จงั หวดั Hokkaido Nagono Fukushima และจงั หวดั Akita การน�ำเข้า แม้ว่าประเทศญ่ีปุ่นจะสามารถผลิตหน่อไม้ฝร่ัง ไดเ้ อง แตม่ ปี รมิ าณไมเ่ พยี งพอตอ่ ความตอ้ งการของประชาชนจงึ ตอ้ งนำ� เขา้ จากตา่ งประเทศ โดยในปี 2553 ประเทศญีป่ นุ่ มีปรมิ าณการน�ำเข้าหน่อ ไม้ฝรั่ง ประมาณ 12,538.10 ตัน โดยน�ำเข้าจากประเทศเม็กซิโก ออสเตรเลยี เปรู ไทย และประเทศสหรัฐอเมริกา คดิ เป็นรอ้ ยละ 37.39, 21.40, 13.89, 11.98 และ 9.69 ตามลำ� ดบั (ภาพที่ 5) นวิ ซีแลนด์ 2% อืน่ ๆ 1% ไทย 12% ฟิลปิ ปินส์ 3% ออสเตรเลีย 2% สหรัฐอเมริกา 10% เปรู 14% เม็กซิโก 37% ภาพที่ 5 ปรมิ าณการนำ� เข้าหนอ่ ไม้ฝรัง่ ของประเทศญ่ปี ุ่นจากประเทศตา่ งๆ ปี 2553 ที่มา : บริษัท ธานยี ามา สยาม จ�ำกัด
บทที่ 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 181 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณห์ นอ่ ไมผ้ รงั่ \" ปรมิ าณการนำ� เข้าหน่อไม้ฝร่งั ของประเทศญปี่ ุ่น จะมากหรอื นอ้ ย ขึน้ อยกู่ บั - ผลผลติ ภายในประเทศต่ำ� เน่ืองจากไดร้ ับความเสียหาย - น�ำเขา้ มากในฤดกู าลท่ญี ี่ปนุ่ ไม่สามารถผลติ เองได้ - การบรโิ ภคทเ่ี ปลี่ยนไปตามรสนยิ มของคนรุ่นใหม่ (1) ความต้องการหนอ่ ไม้ฝรงั่ ของตลาดญี่ปนุ่ โดยทวั่ ไปคนญปี่ นุ่ ตอ้ งการบรโิ ภคหนอ่ ไมฝ้ รง่ั สดทม่ี หี นอ่ สมบรู ณ์ ตรงและมสี เี ขยี ว ปลายหนอ่ แนน่ ไมบ่ านออก ความยาวของหนอ่ 20 เซนตเิ มตร ขนาดของหนอ่ สม่ำ� เสมอ ไมม่ โี รคและแมลง ปัจจุบนั ตลาดตอ้ งการหน่อ ขนาดใหญ่และกลาง ส่วนการก�ำหนดมาตรฐานของขนาดน้ันไม่แน่นอน ขึน้ อยูก่ ับความตอ้ งการของตลาดและผนู้ �ำเขา้ รายละเอียด ดังนี้ ● ขนาดซ่ึงชง่ั ตามนำ� หนัก เชน่ ขนาด L มจี �ำนวน 4 - 7 หน่อ/100 กรมั หรือ 5 - 7 หนอ่ /100 กรัม และขนาด M มีจำ� นวน 8 - 11 หนอ่ /100 กรมั หรือ 8 - 12 หนอ่ /150 กรมั ● ผ้นู �ำเขา้ ก�ำหนดขนาดเอง เชน่ ก�ำหนดจากมาตรฐานหนอ่ ไมฝ้ รัง่ สดของสหรฐั อเมริกา และเม็กซโิ ก ซงึ่ มี 3 ขนาด ดงั นี้ Extra Large เสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางสว่ นโคน 18 mm - 22 mm Large เส้นผ่าศนู ย์กลางส่วนโคน 14 mm - 18 mm Medium เสน้ ผา่ ศูนย์กลางสว่ นโคน 12 mm - 14 mm
182 การวิเคราะห์สถานการณ์ด้านการเกษตร (2) ระเบยี บการนำ� เข้า เม่ือหน่อไม้ฝร่ังสดน�ำเข้ามาในประเทศญ่ีปุ่นจะถูกตรวจสอบ ด้านสุขอนามัยจากเจ้าหน้าท่ีกระทรวงสาธารณสุขญี่ปุ่น และตรวจสอบ เกีย่ วกบั โรคพชื และแมลงจากเจา้ หนา้ ทกี่ ระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (3) แนวโน้มการน�ำเขา้ ปจั จบุ นั คนญป่ี นุ่ มกี ารพฒั นาปรบั เปลยี่ นรายการอาหารใหม้ ี ความหลากหลายมากข้ึนกว่าแต่ก่อน และหน่อไม้ฝร่ังสดเป็นสินค้าอีก รายการหนงึ่ ทคี่ นญปี่ นุ่ นำ� มาใชป้ รงุ เปน็ อาหาร และบรโิ ภคโดยตรงเพม่ิ ขนึ้ จงึ ทำ� ใหม้ แี นวโนม้ การนำ� เขา้ เพม่ิ ขนึ้ สาเหตปุ ระการสำ� คญั ทที่ ำ� ใหแ้ นวโนม้ การน�ำเขา้ หน่อไม้ฝร่งั ของประเทศญป่ี ่นุ เพมิ่ ข้นึ คอื ราคาของหนอ่ ไม้ฝร่งั ทถี่ กู กวา่ ทผ่ี ลิตในประเทศ เนอ่ื งจาก ตน้ ทนุ การผลติ ที่สงู ส�ำหรับแนวทางในการขยายการส่งออกและรักษาตลาด หน่อไม้ฝร่ังสดของประเทศไทยในตลาดญป่ี ุน่ ใหม้ ัน่ คงนนั้ ท�ำได้โดยการ ปรับปรุงคุณภาพให้ตรงกับความต้องการของตลาดและปรับปรุงกลยุทธ์ การผลติ รวมท้งั การตลาดให้สามารถแข่งขันกบั ประเทศอ่นื ๆ
บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 183 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณห์ นอ่ ไมผ้ รงั่ \" 4.2 ปจั จยั ท่สี ่งผลกระทบกบั การผลิตหนอ่ ไม้ฝรงั่ การผลิตหน่อไม้ฝร่ังจะมีปริมาณและคุณภาพดีมากน้อยเพียงใด มีปจั จยั ทีเ่ กย่ี วข้อง ได้แก่ 4.2.1 ดา้ นเทคโนโลยกี ารผลิต 1) พันธุ์ พันธุ์หน่อไม้ฝร่ังท่ีปลูกในประเทศไทยใช้พันธุ์น�ำ เขา้ จากต่างประเทศ โดยในอดีตเมือ่ มีการเรมิ่ ตน้ ส่งเสรมิ การปลกู หน่อไม้ ฝร่งั เพื่อการส่งออกของประเทศไทยในปี 2523 ไดม้ ีการใช้พนั ธท์ุ ีน่ ำ� เขา้ จากตา่ งประเทศโดยเฉพาะสหรฐั อเมรกิ า โดยเร่ิมจากการใช้พนั ธ์ุผสมเปดิ เชน่ UC 309 และ UC 500 แต่ผลผลติ ทไี่ ดค้ อ่ นขา้ งต�่ำ จึงไดม้ กี ารน�ำ พันธลุ์ ูกผสม ชั่วท่ี 1 (F1 hybrid) มาใชป้ ลกู ซ่งึ ให้ผลผลิตสงู และผลผลิต มคี ุณภาพ ได้มาตรฐานในการสง่ ออกสูงกวา่ พันธุผ์ สมเปิด ปจั จบุ ัน พนั ธุ์ ท่ีประเทศไทยใช้ปลูกส่วนใหญ่ คือ พันธ์ุ Brock Improved 2) การปลกู และการดูแลรักษา หนอ่ ไม้ฝรัง่ เปน็ พืชยืนตน้ เมอ่ื ปลกู แลว้ สามารถเจรญิ เตบิ โตและเกบ็ เกย่ี วผลผลติ ไดต้ อ่ เนอ่ื ง อายหุ นอ่ ไม้ฝร่งั สามารถเจรญิ เตบิ โตไดต้ อ่ เนอื่ งนับ 10 ปี แตโ่ ดยทั่วไปในการปลูก เพอื่ การค้าของประเทศไทย จะปลกู และเก็บหน่อจนอายุ 3 - 5 ปี กจ็ ะ รือ้ ตน้ ท้งิ และท�ำการปลกู ใหม่ เพอ่ื ใหไ้ ดผ้ ลผลิตสงู และหนอ่ มีคุณภาพดี วิธี ปลูกต้องท�ำการเพาะกล้าในแปลงเพาะ เม่ือกล้าอายุ 3 - 4 เดือน ยา้ ยปลกู ลงในแปลงปลกู ระยะปลกู ทเ่ี หมาะสมระหวา่ งตน้ 50 เซนตเิ มตร และระหวา่ งแถว 1 - 1.20 เมตร การคัดเลอื กกลา้ ที่มีความแขง็ แรงไป ปลกู จะช่วยให้ต้นเจรญิ เตบิ โตและใหผ้ ลผลติ เรว็
184 การวิเคราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 3) การจัดการดินและปุ๋ย การเก็บเกี่ยวและการพักดิน ส่ิงที่มีความส�ำคัญส�ำหรับการปลูกหน่อไม้ฝรั่งเพ่ือให้ได้ผลผลิตสูงและ สามารถเก็บเก่ียวได้โดยผลผลิตสูงสม�่ำเสมออยู่ได้นานตลอดอายุการปลูก และเกบ็ เกย่ี ว คอื ตอ้ งใหค้ วามสำ� คญั กบั การปรบั ปรงุ ดนิ กอ่ นปลกู เนอ่ื งจาก หนอ่ ไม้ฝรง่ั เป็นพชื ทม่ี ีลำ� ต้นใต้ดนิ หากดินปลกู ไม่มคี วามรว่ นซยุ และไมม่ ี ความอุดมสมบูรณ์เพยี งพอ จะทำ� ใหห้ นอ่ ไมไ่ ด้คุณภาพ เชน่ หน่อเลก็ เกดิ การคดงอ ดนิ ท่ีเหมาะสมในการปลกู คือ ดินร่วน หรอื ดนิ ร่วนปนทราย หากดนิ เปน็ ดนิ เหนยี วตอ้ งมกี ารใชป้ ยุ๋ คอกหรอื ปยุ๋ หมกั ในการปรบั ปรงุ บำ� รงุ ดินในปรมิ าณท่ีสงู กว่าดินร่วน หรอื ดินร่วนปนทราย คอื ประมาณ 2 - 3 ตนั /ไร่ การใหน้ �ำ้ หน่อไม้ฝร่ังตอ้ งดูแลใหน้ �้ำอย่างสม�่ำเสมอใหม้ ปี ริมาณนำ้� เพียงพอแตไ่ มข่ งั แฉะในแปลงปลกู เพราะอาจทำ� ใหต้ าหนอ่ ที่อยู่ใต้ดนิ เนา่ ส่งผลกระทบต่อผลผลิต เป็นต้น ปุ๋ยเคมีที่ใช้ในการปลูกหน่อไม้ฝรั่ง หนอ่ เขียวใช้ปุ๋ยยเู รียหลังย้ายปลูก 10 - 15 วัน อัตราประมาณ 25 - 50 กิโลกรัม/ไร่ ใชป้ ุ๋ย 15-15-15 อตั รา 30 - 50 กโิ ลกรัม/ไร่ เมอื่ อายุ 30 วนั หลงั ยา้ ยกล้า และใสป่ ยุ๋ 15-15-15 ในอตั รา 30 - 50 กิโลกรัม/ไร่ ทุกเดอื น อกี 2 - 3 ครัง้ จึงเรม่ิ เกบ็ เกย่ี วหน่อไม้ฝร่งั ในระหวา่ งการ เกบ็ เก่ียวหนอ่ ใช้ปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 30 - 50 กโิ ลกรมั /ไร่ ทกุ เดอื น โดยแต่ละวันจะเก็บหน่อไม้ฝร่ัง 3 เดือน และท�ำการพักต้น 1 เดือน เพอ่ื บำ� รงุ รกั ษาใหต้ น้ หนอ่ ไมฝ้ รง่ั มคี วามอดุ มสมบรู ณแ์ ขง็ แรง โดยระหวา่ ง พกั ตน้ ใชป้ ๋ยุ คอกหรอื ปยุ๋ หมัก อัตรา 1 - 2 ตัน รว่ มกับปุย๋ ยเู รีย 30 -50 กโิ ลกรมั /ไร่ และเมื่อเร่มิ เกบ็ หนอ่ ใชป้ ๋ยุ สูตร 15-15-15 ทกุ เดือน ดังนนั้ ใน 1 ปี จะมีการเกบ็ หนอ่ ไม้ฝรัง่ 8 เดือน และพกั ต้น 4 เดือน
บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 185 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณห์ นอ่ ไมผ้ รง่ั \" 4) การจัดการโรคและศัตรูพืชท่ีส�ำคัญส�ำหรับหน่อไม้ฝร่ัง โรคที่สำ� คญั คือ โรคลำ� ต้นไหม้ แอนแทรคโนส โรครากและโคนเนา่ และ โรคใบเทียมร่วง และแมลงท่ีส�ำคัญ ได้แก่ เพล้ียไฟ หนอนกระทู้หอม หนอนเจาะสมอฝา้ ย หนอนกระทผู้ กั และหนอนกระทกู้ ดั กนิ ตน้ การปอ้ งกนั ก�ำจัดโดยหมั่นดูแลแปลงปลูก หากพบโรคให้ตัดแต่งส่วนท่ีมีโรคน�ำไปท้ิง นอกแปลงหรอื เผาทำ� ลาย หากมกี ารระบาดมากเมอื่ ตดั แตง่ แลว้ ใชย้ ากำ� จดั เชือ้ รา ฉีดพ่นเพ่ือลดการระบาดหรืออาจใชว้ ิธีตดั ตน้ ทงิ้ ดแู ลรักษาให้ปุ๋ย และนำ้� ใหเ้ จรญิ เตบิ โตใหม่ สำ� หรบั แมลง เพลยี้ ไฟมกี ารระบาดมากในฤดรู อ้ น วิธีป้องกันโดยควรจัดการให้แปลงปลูกมีความช้ืนสม่�ำเสมอ การให้น้�ำ ดว้ ยวธิ พี น่ ฝอย ทำ� ใหช้ ว่ ยสรา้ งบรรยากาศใหแ้ ปลงปลกู มคี วามชน้ื สงู ลดการ ระบาดของเพลี้ยไฟลงได้ ส�ำหรับหนอนต่างๆ หากมกี ารระบาดมากใหใ้ ช้ สารชวี ภณั ฑใ์ นการควบคุม ไดแ้ ก่ ยาฆ่าเช้ือแบคทเี รีย (BT) ซง่ึ จะทำ� ให้ ปลอดภัยตอ่ ผ้บู ริโภค และไม่ทำ� ลายสงิ่ แวดลอ้ ม 5) การเก็บเกย่ี วและการปฏบิ ัติหลังการเกบ็ เก่ยี ว การเกบ็ เกย่ี วหนอ่ ตอ้ งใหไ้ ดห้ นอ่ ทมี่ คี ณุ ภาพตามทตี่ ลาดตา่ งประเทศตอ้ งการ สำ� หรบั ตลาดท่ีส�ำคัญ คือ ประเทศญ่ีปุ่น ซ่ึงมีการก�ำหนดมาตรฐานคุณภาพ หน่อไมฝ้ ร่งั ทช่ี ดั เจน วธิ กี ารเก็บเกี่ยวโดยเกบ็ เกย่ี วในเวลาเชา้ โดยการใช้ มอื จบั บริเวณโคนหน่อท่ีติดดนิ และ ดึงเบาๆ ระมดั ระวังอย่าให้หนอ่ ช้�ำ หรือมีบาดแผล เก็บหน่อในท่รี ่มอย่าให้โดนแสงแดด
186 การวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 6) คุณภาพหน่อไมฝ้ รัง่ ทต่ี ลาดตอ้ งการ (1) ลกั ษณะโดยทวั่ ไป - ลกั ษณะของยอดหนอ่ ตอ้ งแนน่ และไมบ่ าน (ตอ้ งไมม่ ี ชอ่ ใบโผล่ตรงกาบหมุ้ ใบ) หน่อมคี วามสะอาด ปราศจากโรคและแมลง - ลกั ษณะของหนอ่ ตอ้ งตรงไม่คดงอ หรือแคระแกร็น หนอ่ ทจ่ี ะรบั ซอ้ื ตอ้ งมีความยาวไม่ตำ�่ กวา่ 25 เซนตเิ มตร โดยส่วนทีเ่ ปน็ สเี ขียวจะตอ้ งมีความยาวมากกว่า 19 เซนติเมตรขึน้ ไป ซงึ่ ผขู้ ายจะเป็น ผู้ตัดให้ไดข้ นาดดังกลา่ วก่อนสง่ มอบให้แกผ่ ู้ซอ้ื - หนอ่ ไม้ฝร่งั ที่มสี ่วนโคนเปน็ สีเขียว จะตอ้ งพิจารณา มาตรฐานนำ้� หนกั ตอ่ หนอ่ ของหนอ่ ไมฝ้ รง่ั ในแตล่ ะเกรดดว้ ย ซง่ึ จะพจิ ารณา แยกเกรดโดยอาศยั การเปรียบเทียบขนาดเฉพาะส่วนท่เี ป็นสเี ขียวเท่านนั้ (2) ขนาดหนอ่ ไม้ฝรั่ง แบง่ ออกเป็น 3 ขนาด ด้วยกนั คอื - เกรดเอ คือ หน่อไม้ฝรั่งท่ีมีความยาวหน่อ 25 เซนติเมตร มีขนาดเสน้ ผ่าศนู ยก์ ลางทโี่ คนหน่อมากกว่า 1.0 เซนตเิ มตร - เกรดบี คือ หน่อไม้ฝร่ังที่มีความยาวหน่อ 25 เซนตเิ มตร มขี นาดเสน้ ผา่ ศนู ยก์ ลางทโี่ คนหนอ่ ตง้ั แต่ 0.8 – 1.0 เซนตเิ มตร - เกรดซี คือ หน่อไม้ฝรั่งที่มีความยาวหน่อ 25 เซนตเิ มตร มขี นาดเสน้ ผ่าศนู ยก์ ลางทีโ่ คนหน่อ นอ้ ยกว่า 0.8 เซนตเิ มตร 4.2.2 ดา้ นเศรษฐกจิ 1) การตลาด หน่อไม้ฝร่ังเป็นพืชที่ตลาดต่างประเทศมีความ ตอ้ งการสงู โดยเฉพาะประเทศญปี่ นุ่ และสหภาพยโุ รป เปน็ พชื ทย่ี งั มโี อกาส ด้านการตลาด เน่ืองจากลูกค้ามีก�ำลังซื้อและมีความต้องการผลผลิต ท่ีปลอดภัยเน่ืองค�ำนึงถงึ คณุ ภาพของชวี ิตสงู ซง่ึ ประเทศไทยมเี ทคโนโลยี
บทท่ี 4 กรณศี กึ ษาการวเิ คราะหส์ ถานการณด์ า้ นการเกษตร 187 กรณศี กึ ษา \"การวเิ คราะหส์ ถานการณห์ นอ่ ไมผ้ รง่ั \" สามารถผลติ หนอ่ ไมฝ้ รง่ั ท่ีปลอดภัยและสง่ ออกได้ นอกจากนนั้ ยังมีจุดแขง็ ในด้านการตลาด คือ มีบริษัทผู้รับซ้ือเพื่อการส่งออกมีการท�ำสัญญา การซ้อื ขายลว่ งหนา้ (Contract farming) แกเ่ กษตรกรโดยมกี ารลงนาม ในสญั ญาซอื้ ขาย 3 ปี และกำ� หนดราคารบั ซอื้ ในสัญญาท่แี นน่ อน โดย ราคารบั ซอื้ ผลผลติ จะมกี ารตกลงราคากนั ระหวา่ งบรษิ ทั และกลมุ่ เกษตรกร ทุกปี ตลาดหนอ่ ไม้ฝรง่ั หนอ่ เขยี วสดทีส่ ำ� คัญ คือ ไตห้ วนั 60% ญป่ี นุ่ 37% สหภาพยโุ รป 1% อนื่ ๆ 2% ส�ำหรับคู่แข่งในการส่งออกท่ีส�ำคัญของประเทศไทย คือ เปร ู เมก็ ซโิ ก และออสเตรเลยี 2) ตน้ ทุนในการผลติ การลงทุนในการผลติ หน่อไมฝ้ ร่ัง ในปีแรก ค่อนข้างสูง เม่ือเปรียบเทียบกับพืชผักชนิดอื่นๆ เนื่องจากเมล็ดพันธุ์มี ราคาสูง เมล็ดพันธุ์ต้องน�ำเข้าจากต่างประเทศ โดยท่ัวไปพันธุ์ท่ีใช้คือ บลอ็ ก อมิ พรปู๊ ซงึ่ นำ� เขา้ จากสหรฐั อเมรกิ า ราคาประมาณ 20,000 บาท/ กิโลกรมั ซง่ึ 1 ไร่ ใชเ้ มลด็ พนั ธป์ุ ระมาณ 250 กรัม ซึ่งคดิ เปน็ ตน้ ทนุ ค่า เมลด็ พันธุ์ ประมาณ 5,000 บาท นอกจากนี้ ต้นทนุ การผลติ ท่ีส�ำคัญ อีกส่วนหน่ึง คอื ค่าปัจจยั การผลิต ได้แก่ ป๋ยุ สารปอ้ งกันก�ำจัดศตั รพู ืช และ แรงงาน ซง่ึ มคี วามสำ� คญั เปน็ อยา่ งยงิ่ โดยเฉลย่ี ตน้ ทนุ การผลติ หนอ่ ไมฝ้ รง่ั เฉล่ียทุกอายุไร่ละ 44,207.71 บาท หรือกิโลกรัมละ 11.92 บาท เป็นต้นทนุ ผนั แปร 41,588.63 บาท หรอื ร้อยละ 94.08 ของตน้ ทุน ทั้งหมดและตน้ ทุนคงท่ี 2,619.08 บาท หรอื ร้อยละ 5.92 ของตน้ ทุน ทง้ั หมด ราคาท่เี กษตรกรขายไดเ้ ฉล่ียกโิ ลกรมั ละ 37.43 บาท เกษตรกร ทีไ่ ดร้ ับกำ� ไรไรล่ ะ 94,582.73 บาท หรือกโิ ลกรัมละ 25.51 บาท
188 การวเิ คราะหส์ ถานการณด์ ้านการเกษตร ตารางแสดงตน้ ทนุ และผลตอบแทนการผลติ หนอ่ ไมฝ้ รง่ั (เฉลย่ี ทกุ อาย)ุ ปี 2550/51 รายการ เงินสด ไมเ่ ปน็ เงนิ สด รวม รอ้ ยละ 1. ต้นทุนผนั แปร 24,204.50 17,384.13 51,588.63 94.08 1.1 คา่ แรงงาน 2,264.15 16,718.51 18,982.66 42.94 - เตรียมดนิ + ปรับดิน 961.83 2.18 - ปลกู (หยอดเมลด็ ) 321.39 - 961.83 1.45 - ใหน้ ้�ำ ดแู ลรกั ษาแปลง 171.41 321.39 642.78 7.99 - ใส่ปยุ๋ และสารเคมี 809.52 3,360.16 3,531.57 6.62 - เกบ็ เกีย่ ว 2,115.37 2,924.89 24.71 1.2 คา่ วัสดุ - 10,921.59 10,921.59 49.20 - ค่าเมลด็ พนั ธ์ุ 21,750.64 21,750.64 0.81 - คา่ ปุ๋ย - 357.10 25.89 - คา่ สารเคมปี ราบศตั รพู ชื และวัชพชื 357.10 - 11,443.19 6.77 - ค่าไฟฟ้า 11,443.19 - 2,992.24 4.13 - คา่ น�ำ้ มันเช้ือเพลงิ และหล่อลื่น 2,992.24 - 1,825.86 5.20 - ค่าวัสดุการเกษตรและวสั ดุส้ินเปลือง 1,825.86 - 2,300.72 6.41 1.3 อ่นื ๆ 2,300.72 - 2,831.53 0.43 - คา่ ซ่อมแซมอปุ กรณก์ ารเกษตร 2,831.53 - 189.71 0.43 - ค่าเสียโอกาสของเงนิ ลงทนุ - 189.71 1.51 189.71 - 665.62 2. ตน้ ทุนคงที่ 189.71 665.62 5.92 - คา่ ภาษี ค่าเชา่ และค่าใชท้ ด่ี ิน 2,619.56 2.70 - คา่ เสอ่ื มเครอ่ื งมอื และอปุ กรณ์ - 2,614.08 1,193.56 2.03 - คา่ เสยี โอกาสของเครอื่ งมอื และอปุ กรณ์ 1,188.56 897.30 1.19 3. ตน้ ทนุ รวมต่อไร่ (บาท) 5.00 897.30 528.22 100.00 4. ตน้ ทนุ รวมท้งั หมดต่อกิโลกรมั 5.00 528.22 44,207.71 5. ผลผลิตตอ่ ไร่ (กก.) 19,998.21 6. ราคาทีเ่ กษตรกรขายได้ (บาท/กก.) - 11.92 7. รายได้ทัง้ หมดตอ่ ไร่ - 3,708.00 8. ก�ำไร (ขาดทนุ ) ตอ่ ไร่ (บาท) 24,209.50 37.43 138,790.44 94,582.73
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242