Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore report62

report62

Published by วินัย ปานโท้, 2020-05-08 03:46:50

Description: report62

Search

Read the Text Version



ข คำนำ รายงานผลการนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาของสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 เล่มนี้ จัดทาขึ้นเพ่ือรายงานผลการนิเทศ ติดตามและประเมินผลการ พฒั นาคุณภาพการจัดการศกึ ษาของโรงเรยี นในสังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ประจาปีการศึกษา 2562 โดยมีการแตง่ ตั้งคณะกรรมการในการประเมินคุณภาพการจัดการศึกษา จานวน 17 ทีม ในแต่ละทีมประกอบด้วยคณะกรรมการผู้มีส่วนเกี่ยวข้องกับการพัฒนาคุณภาพการจัด การศกึ ษา จานวน 2 คน ได้แก่ ประธานเครือข่ายโรงเรียนฯ และศึกษานิเทศก์ประจาเครือข่ายฯ และได้ ดาเนินการนิเทศ ติดตามและประเมินคุณภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนทุกโรงเรียนในสังกดั จานวน ทั้งส้ิน 163 โรงเรียน ระหว่างวันท่ี 9 – 25 มีนาคม 2563 การนาเสนอผลการนิเทศ ติดตามและ ประเมินผลการจัดการศึกษาในรายงานฉบับนี้ประกอบด้วยผลการประเมินคุณภาพการจัดการศึกษาใน ภาพรวมของเขตพื้นที่การศึกษา ผลการประเมินรายเครือข่าย และผลการประเมินรายโรงเรียน เพ่ือให้ คณะครู ผู้บรหิ ารโรงเรียน และบุคลากรที่มีส่วนเก่ียวข้องกับการจัดการศึกษาได้รับทราบผลการประเมิน และนาผลการประเมนิ ไปใชใ้ นการพฒั นาคณุ ภาพการจัดการศึกษาตอ่ ไป หวังเปน็ อย่างยิง่ ว่าเอกสารเลม่ น้ีจะเปน็ ประโยชนต์ ่อครู ผู้บรหิ ารโรงเรยี น และบุคลากรผมู้ ีส่วน เกยี่ วขอ้ งกบั การจัดการศึกษาทุกท่าน สานักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศกึ ษาพิษณโุ ลก เขต 3

ข สำรบญั บทที่ หน้ำ 1 บทนำ ความเป็นมาและความสาคญั ................................................................................. 1 ความม่งุ หมาย ....................................................................................................... 2 ขอบเขตของการศกึ ษา .......................................................................................... 2 นยิ ามศัพท์เฉพาะ .................................................................................................. 3 2 เอกสำรทเ่ี กยี่ วข้อง แนวทางการยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น....................................................... 4 แนวทางการพฒั นานกั เรยี นดา้ นการอา่ นการเขยี น................................................ 8 แนวทางการพัฒนานกั เรียนด้วยกิจกรรมลกู เสือแบบเขม้ ข้น................................. 11 รปู แบบและแนวทางการนเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา.............. 14 3 วิธีดำเนินกำรพัฒนำ ความมุ่งหมาย....................................................................................................... 21 กลุ่มเป้าหมาย………………………............................................................................. 21 เครื่องมือทใ่ี ช้ในการพัฒนา .................................................................................. 21 การสรา้ งและหาคณุ ภาพของเครือ่ งมือทใ่ี ช้ในการพฒั นา ..................................... 22 วธิ ีดาเนินการพฒั นา ............................................................................................ 22 การวิเคราะหข์ อ้ มูล .............................................................................................. 23 สถติ ทิ ่ีใช้ในการวิเคราะหข์ อ้ มูล ............................................................................ 23 4 ผลกำรวเิ ครำะหข์ ้อมูล ตอนท่ี 1 ผลการนเิ ทศรายโรงเรยี น..............................................….................... 24 ตอนที่ 2 ผลการประเมินความพึงพอใจของครู ผบู้ รหิ าร และบคุ ลากรทางการศกึ ษา……………………………………………............... 192 5 บทสรปุ ความมุ่งหมาย ........................................................................................................ 195 กลมุ่ เปา้ หมาย.................... .................................................................................... 195 เครื่องมือทีใ่ ช้ในการพัฒนา .................................................................................... 195 วิธีดาเนนิ การพฒั นา ............................................................................................... 196 การวิเคราะหข์ ้อมูล ................................................................................................ 196 สรุปผล ................................................................................................................... 196 อภปิ รายผล............................................................................................................. 197 ข้อเสนอแนะ .......................................................................................................... 198 บรรณานุกรม........................................................................................................... 199 ภำคผนวก คณะผจู้ ัดทา........................................................................................................... 201

1 บทที่ 1 บทนำ ควำมเปน็ มำและควำมสำคัญของปัญหำ สานักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามีหนา้ ท่สี ่งเสริม สนับสนุน ตลอดจนกากบั ติดตามและประเมินผล การพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดให้มีคุณภาพ สามารถพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ความสามารถเต็มตามศักยภาพ สามารถดารงชีวิตอยู่ในสังคมได้อย่างมีคุณภาพ สานักงานเขตพ้ืนท่ี การศกึ ษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ตระหนกั ในความสาคญั ดงั กลา่ ว จงึ ได้มุ่งเนน้ พัฒนาคณุ ภาพการจัด การศึกษาของสถานศึกษาในสังกัดทุกแห่งอย่างต่อเน่ือง มีการขับเคล่ือนนโยบายสาคัญของสานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐานสู่การปฏิบัติ โดยบูรณาการนโยบายของรัฐบาลด้านการจัดการศึกษา กลยทุ ธข์ องสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน นโยบายและเอกลกั ษณ์ของจงั หวัดพิษณโุ ลกเข้า กับพนั ธกิจที่เป็นภารกจิ ของสานกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 เน้นการมสี ่วนรว่ ม จากทุกภาคส่วนในทุกข้ันตอนของการดาเนินงาน ต้ังแต่การกาหนดเป้าหมายและแนวทางการพัฒนา ร่วมกัน โดยจัดทาเป็นคู่มือการนิเทศบูรณาการโดยใช้พื้นที่เป็นฐานเพ่ือให้ครู ผู้บริหารและบุคลากรของ โรงเรียน ตลอดจนศึกษานิเทศก์และบุคคลากรทางการศึกษาในสังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษา ประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ทุกคน ได้ใช้คู่มือการนิเทศบูรณาการโดยใช้พื้นท่ีเป็นฐานเป็นแนวทางท่ีจะ ไปสู่จุดมุ่งหมายเดียวกัน การพัฒนาให้ความสาคัญกับกระบวนการนิเทศ กากับ ติดตามอย่างต่อเนื่อง เป็นระบบ มีการติดตามประเมินผลการพัฒนาตลอดปีการศึกษา และจัดทาสรุปรายงานผลการนิเทศ ตดิ ตามและประเมินผลเผยแพร่ให้แก่ ทุกโรงเรียน เพ่ือให้ผู้บริหาร และคณะครูได้นาผลการประเมินไปใช้ เป็นขอ้ มูลในการวางแผนพฒั นาการจดั การศกึ ษาในปกี ารศึกษาตอ่ ไปใหม้ ีประสทิ ธิภาพสูงขึน้ การนิเทศ ติดตามและประเมินคุณภาพการจัดการศึกษาของโรงเรียนในสังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ี การศึกษาประถมศกึ ษาพษิ ณุโลก เขต 3 เป็นการนิเทศโดยใช้พื้นทเ่ี ปน็ ฐานเพ่ือสง่ เสริมสนับสนนุ การพฒั นา คุณภาพการจดั การศึกษาตามบริบทของโรงเรียน โดยเนน้ กระบวนการนเิ ทศเชิงรุก ที่เปน็ ระบบและมีความ ต่อเนื่อง เน้นการมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเก่ียวข้องทุกฝ่ายแบบเป็นกัลยาณมิตร การประเมินผลการจัด การศึกษาเน้นการประเมินกระบวนการและผลผลิตเพื่อการพัฒนาคณุ ภาพผูเ้ รียนเปน็ สาคญั ดงั น้ันแนวคิด สาคญั ท่ีนาไปสู่การออกแบบการประเมนิ จงึ เนน้ การประเมินเพอ่ื นาผลการประเมนิ ไปพัฒนาโรงเรยี นอย่าง ตอ่ เน่ือง อีกทั้งสนับสนุนให้ครู ผู้บรหิ าร และบุคลากรในโรงเรียนเห็นจุดท่ีต้องพัฒนาอย่างเป็นรูปธรรมใน เชงิ ประจกั ษ์ สร้างความร่วมมือร่วมใจในการพัฒนาท้งั ระบบโรงเรยี น ทั้งน้ีเพราะทุกคนมเี ป้าหมายร่วมกัน คือคุณภาพผู้เรียน นอกจากนี้การประเมินยังให้ความสาคัญต่อข้อมูลที่มาจากการนิเทศ ติดตาม และ ขอ้ มลู ความก้าวหนา้ ของโรงเรียนตามสภาพบรบิ ทของโรงเรียน การนิเทศ ติดตามและประเมินผลการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาประจาปีการศึกษา 2562 ในครั้งน้ี สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ได้แต่งต้ังคณะกรรมการนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาของโรงเรียนทุกโรงเรียนในสังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ซ่ึงคณะกรรมการนิเทศ ติดตามและประเมินผลการพัฒนานาคุณภาพการ จัดศึกษาในคร้ังน้ีมีจานวน 17 ทีม ในแต่ละทีมประกอบด้วย ประธานเครือข่ายโรงเรียนอาเภอฯ และ ศึกษานิเทศก์ประจาเครือข่ายฯ โดยการนิเทศ ติดตามและประเมินผลให้ความสาคัญกับผลผลิต คือ

2 คุณภาพผู้เรียนเป็นลาดับแรก กระบวนการประเมินบูรณาการเข้ากับการนิเทศ ช่วยเหลือ แนะนา โรงเรียน และสรุปรายงานผลการประเมินแจ้งให้ทุกโรงเรียนได้นาผลการประเมินไปใช้เป็นข้อมูลในการ พฒั นาคุณภาพการจัดการศกึ ษาใหม้ ีประสทิ ธภิ าพและมคี วามก้าวหน้าตอ่ ไป ควำมมุ่งหมำย 1. เพือ่ นิเทศ ติดตามและประเมินผลการพฒั นาคุณภาพการจดั การศกึ ษาประจาปกี ารศึกษา 2562 ของโรงเรียนในสงั กัดสานกั งานเขตพนื้ ทกี่ ารศกึ ษาประถมศึกษาพษิ ณโุ ลก เขต 3 2. เพ่ือศกึ ษาสภาพปญั หา อปุ สรรค จุดเด่น จดุ ทคี่ วรพฒั นา และเสนอแนะแนวทางในการพัฒนา คณุ ภาพการจดั การศึกษาของโรงเรยี น ทกุ โรงเรียนในสงั กัดสานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศึกษาประถมศึกษา พษิ ณุโลก เขต 3 3. เพือ่ ศกึ ษาความพงึ พอใจของครู ผบู้ ริหาร และบคุ ลากรทางการศกึ ษาที่มีต่อการดาเนนิ โครงการ นเิ ทศบรู ณาการโดยใชพ้ น้ื ทเี่ ปน็ ฐาน ขอบเขตของกำรศึกษำ 1. ขอบเขตดำ้ นกลุม่ เป้ำหมำย กลุ่มเป้ำหมำย ไดแ้ ก่ โรงเรียนในสังกัดสานกั งานเขตพื้นทกี่ ารศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ปกี ารศกึ ษา 2562 จานวน 163 โรงเรียน 2. ขอบเขตด้ำนเนอื้ หำ รายงานผลการนิเทศ ติดตามและประเมินผลการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาในคร้ังน้ี คณะกรรมการนิเทศ ติดตามและประเมินผลการพัฒนาคณุ ภาพการจดั การศึกษาได้สรปุ ผลเป็นรายโรงเรียน ตามประเด็นการนิเทศ ติดตามท่ีเป็นนโยบายและจุดเน้นการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของรัฐบาล กระทรวงศกึ ษาธิการ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน ดงั นี้ 2.1 สภาพปัญหา อุปสรรคในการพัฒนาการจัดการศึกษาของโรงเรียน 2.2 สรุปจดุ เดน่ และส่ิงท่ีประสบผลสาเรจ็ ของโรงเรยี น 2.3 สรุปสง่ิ ท่ีโรงเรียนควรพฒั นา 2.4 ความพึงพอใจของครู ผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษาท่ีมีต่อการดาเนินโครงการ นิเทศบูรณาการโดยใชพ้ ื้นทีเ่ ปน็ ฐาน 3. ขอบเขตด้ำนตวั แปร 3.1 ตวั แปรต้น ได้แก่ การดาเนินงานพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาโดยเน้นกระบวนการ นิเทศอย่างเป็นระบบตามโครงการนิเทศบูรณาการโดยใช้พื้นท่ีเป็นฐานของสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาพษิ ณุโลก เขต 3 3.2 ตัวแปรตำม ไดแ้ ก่ 3.2.1 คุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศกึ ษาที่เกิดข้ึนสบื เน่ืองจากการพัฒนาโดย เน้นกระบวนการนเิ ทศอยา่ งเป็นระบบตามโครงการนิเทศบูรณาการโดยใช้พื้นท่เี ป็นฐานของสานกั งานเขต พื้นท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาพษิ ณโุ ลก เขต 3 3.2.2 ความพึงพอใจของครู ผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษาที่มีต่อการดาเนิน โครงการนเิ ทศบรู ณาการโดยใช้พื้นที่เปน็ ฐาน

3 นิยำมศัพทเ์ ฉพำะ 1. กำรนิเทศบูรณำกำรโดยใช้พ้ืที่เป็นฐำน หมายถึง การติดตาม ส่งเสริม สนับสนุนและให้ ขอ้ เสนอแนะแกค่ รูผู้บริหารและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรยี นในการพัฒนาคุณภพาการจดั การศึกษา แกท่ ุกโรงเรียนในสังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาพษิ ณุโลก เขต 3 ตามสภาพปัญหา ความ พรอ้ ม และบรบิ ทของโรงเรียน โดยมีขนั้ ตอนการดาเนินงานที่ชัดเจน ไดแ้ ก่ การวางแผนและกาหนดปฏิทิน การนิเทศ การพัฒนาแนวทางและเครอื่ งมือการนเิ ทศ ดาเนินการนิเทศ และสรปุ ผลการนเิ ทศ โดยเน้นการมี สว่ นรว่ มของผมู้ ีสว่ นเก่ียวขอ้ งกบั การจดั การศึกษา อยา่ งต่อเน่อื งตลอดปีการศึกษา 2. ควำมพึงพอใจ หมายถึง ความคิดเหน็ หรอื ความร้สู ึกทด่ี ตี อ่ การดาเนนิ กจิ กรรมการนเิ ทศตาม โครงการนเิ ทศบรู ณาการโดยใช้พ้ืนทป่ี น็ ฐานของสานกั งานเขตพืน้ ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาพษิ ณโุ ลก เขต 3 ทั้งในด้านรูปแบบวธิ ีการการนเิ ทศ ผู้นิเทศ ระยะเวลาและความต่อเนอื่ งในการนิเทศ

4 บทที่ 2 เอกสำรที่เก่ยี วข้อง รายงานผลการประเมนิ คณุ ภาพการจัดการศึกษาตามโครงการนเิ ทศบรู ณาการโดยใชพ้ น้ื ทีเ่ ป็นฐาน ของสานักงานเขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ปกี ารศึกษา 2562 ผรู้ ายงานไดศ้ กึ ษา วเิ คราะหแ์ ละสรปุ องค์ความรู้จากเอกสารท่ีเกี่ยวข้อง ดงั รายละเอยี ดต่อไปน้ี 1. แนวทางการยกระดบั ผลสัมฤทธิ์ทางการเรยี น 2. แนวทางการพฒั นานกั เรียนดา้ นการอ่านการเขียน 3. แนวทางการพฒั นานกั เรียนด้วยกจิ กรรมลกู เสอื แบบเข้มข้น (Scout all day) 4. รูปแบบและแนวทางการนิเทศ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา 1. แนวทำงกำรยกระดบั ผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียน การยกระดับผลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นของผเู้ รยี น ทางการทดสอบระดับชาติ (NT) ช้นั ประถมศึกษา ปที ่ี 3 และผลการทดสอบระดับชาติขน้ั พนื้ ฐาน (O-NET) ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 6 และมัธยมศึกษาปที ี่ 3 ประเด็นกำรนเิ ทศ วธิ ีดำเนนิ กำร ผลกำรดำเนินงำน สานกั งานเขตพื้นทม่ี ขี ้อมูล วิธีกำรดำเนนิ กำรยกระดบั ผลสมั ฤทธิ์ เชงิ ปรมิ ำณ และมแี นวทาง/ วธิ ีการ ทำงกำรเรยี นของผเู้ รียน ผูบ้ ริหารโรงเรียนและครูผสู้ อน ส่งเสริม สนบั สนนุ สร้าง ดาเนนิ การ 5 ขั้นตอน ดังน้ี ไดร้ บั การสง่ เสรมิ สนบั สนนุ สร้าง ความรู้ ความเข้าใจกบั ขนั้ ตอนท่ี 1 การวเิ คราะหผ์ ลการ องค์ความรูค้ วามเขา้ ใจในการ โรงเรียนในการยกระดับ ประเมนิ และจดั ทาฐานขอ้ มูลผลการ ยกระดบั ผลสัมฤทธิ์ NT และ O- ผลสัมฤทธิ์ รวมทัง้ สร้าง นวตั กรรมใหก้ ับโรงเรยี น ทดสอบทางการศึกษาระดับชาติ NET ใหส้ ูงขนึ้ (NT/O-NET) 1. ผบู้ ริหารโรงเรยี น จานวน 163 ข้นั ตอนที่ 2 การสรา้ งความตระหนกั คน และสร้างความเข้าใจแก่ครผู สู้ อน 2. ครผู สู้ อนชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 3 นกั เรียน และผู้ทีเ่ ก่ียวข้อง จานวน 163 คน ขั้นตอนที่ 3 การพัฒนาการจัดการ 3. ครูผสู้ อนชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 6 เรียนการสอน จานวน 163 คน ขน้ั ตอนที่ 4 การสรา้ งความคนุ้ เคย 4. ครูผสู้ อนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 3 เก่ียวกับข้อสอบ NT และ O-NET จานวน 71 คน ให้แก่ผู้เรียน เชงิ คณุ ภำพ ขั้นตอนท่ี 5 การกากบั และตดิ ตามการ ผ้บู รหิ ารโรงเรียนในสังกัด และ ดาเนนิ งานโดยการนิเทศภายใน ครผู สู้ อนช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 3 ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 6 และช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 3

5 ประเดน็ กำรนิเทศ วธิ ดี ำเนนิ กำร ผลกำรดำเนินงำน สานกั งานเขตพ้ืนที่ใช้ขอ้ มูล วิธีดำเนนิ กำร เชงิ ปริมำณ การทดสอบในระดับตา่ ง ๆ ในการสง่ เสรมิ สนบั สนุน สานักงานเขตพนื้ ท่ี ผ้บู ริหารโรงเรียนและครูผ้สู อนไดร้ บั สรา้ งความรคู้ วามเข้าใจกบั โรงเรียนในการยกระดบั การศกึ ษาประถมศกึ ษาพษิ ณุโลก การนิเทศ ชว่ ยเหลอื โรงเรยี นในการ ผลสัมฤทธิ์ รวมทง้ั แนวทาง/ แผนงาน/ โครงการ/ เขต 3 นารายงานผลการทดสอบ ยกระดบั ผลสมั ฤทธิ์ NT และ กิจกรรมการยกระดับ ผลสัมฤทธิใ์ หก้ ับโรงเรียน ทีท่ างสถาบนั ทดสอบทาง O-NET ใหส้ ูงขึน้ การศึกษาแหง่ ชาติ (องค์การ 1. ผ้บู ริหารโรงเรียน จานวน 163 มหาชน) มาใช้ในการสง่ เสริม คน สนบั สนนุ สร้างความรู้ความเขา้ ใจ 2. ครูผู้สอนชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 3 กบั ทกุ โรงเรยี นในการยกระดับ จานวน 163 คน ผลสมั ฤทธ์ิ และนาขอ้ มูลมาใชใ้ น 3. ครผู สู้ อนช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 6 การวางแผนโครงการยกระดบั จานวน 163 คน ผลสัมฤทธ์ิทางการทดสอบ NT 4. ครูผู้สอนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 และ O-NET ให้สงู ข้ึน ดาเนนิ การ จานวน 71 คน ดงั นี้ เชิงคุณภำพ 1. วเิ คราะห์ผลการทดสอบ ผู้บรหิ ารโรงเรียนในสงั กดั และ ระดับชาติ (NT) ชัน้ ประถมศึกษา ครูผู้สอนช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 3 ปีที่ 3 และผลการทดสอบ ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 6 และช้ัน ระดับชาติข้ันพ้นื ฐาน (O-NET) มัธยมศึกษาปที ี่ 3 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 และ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 (3 ปกี ารศึกษายอ้ นหลงั ) 2. นาข้อมลู มาสงั เคราะห์ กาหนดโรงเรยี นกลุม่ เป้าหมาย ตามระดับคณุ ภาพ (สแี ดง สดี า สี เหลอื ง และสีเขยี ว) เพ่ือหาสาเหตุ และแนวทางแก้ไขปัญหา 3. จดั ทาโครงการ/กิจกรรม การยกระดับผลการทดสอบ ระดบั ชาติ (NT) ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3 และ ผลการทดสอบระดับชาติ ข้นั พนื้ ฐาน (O-NET) ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 6 และ มัธยมศึกษาปีท่ี 3

6 ประเด็นกำรนิเทศ วธิ ีดำเนินกำร ผลกำรดำเนินงำน สานักงานเขตพื้นทมี่ ีระบบ วิธีดำเนนิ กำร เชิงปรมิ ำณ นเิ ทศ ช้ีแนะ ช่วยเหลอื สานกั งานเขตพื้นที่ ผบู้ ริหารโรงเรียนและครผู ู้สอนไดร้ ับ โรงเรียนในการยกระดบั การนเิ ทศ ช่วยเหลือโรงเรยี นในการ ผลสมั ฤทธ์ิอยา่ งเป็นระบบ การศึกษาประถมศึกษาพษิ ณุโลก ยกระดับผลสัมฤทธิ์ NT และ O-NET ตอ่ เนือ่ ง เขต 3 ใชร้ ะบบนเิ ทศ ชแ้ี นะ ใหส้ งู ข้นึ ชว่ ยเหลอื โรงเรียน ในการยกระดบั 1. ผบู้ รหิ ารโรงเรียน จานวน 163 คน ผลสมั ฤทธิ์ รปู แบบ Coaching 2. ครผู สู้ อนช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3 Team โดยแบ่งออกเป็น 4 ทมี คือ จานวน 163 คน 3. ครผู สู้ อนชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 6 1. ทมี Coaching Team จานวน 163 คน ประจาอาเภอวดั โบสถ์ 4. ครูผูส้ อนชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 3 จานวน 71 คน 2. ทีม Coaching Team เชิงคุณภำพ ประจาอาเภอพรหมพริ าม ผู้บรหิ ารโรงเรียนในสังกดั และ 3. ทีม Coaching Team ครูผสู้ อนชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ประจาอาเภอชาตติ ระการ ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 6 และชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 3 4. ทมี Coaching Team ประจาอาเภอนครไทย เพอ่ื ดาเนนิ การขับเคล่อื น การยกระดบั ผลสัมฤทธิท์ างการ เรียน ตามแนวทางการยกระดับ ผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น ของ สานักงานเขตพ้นื ทก่ี ารศกึ ษา ประถมศกึ ษาพษิ ณโุ ลก เขต 3

แนวทำงกำรยกระดบั ผลกำรทดสอบระดับชำติ (NT) ชนั้ ประถมศกึ ษำปที ่ี 3 และผลกำรทดสอบ ระดับชำตขิ ั้นพน้ื ฐำน (O-NET) ช้นั ประถมศึกษำปที ่ี 6 และมธั ยมศกึ ษำปีที่ 3 ----------------------------------------------------------------- ขัน้ ตอนที่ 1 กำรวิเครำะห์ผลกำรประเมินระดับชำตแิ ละจดั ทำฐำนข้อมลู ผลกำรทดสอบทำงกำรศกึ ษำ ระดับชำติ (NT/O-NET) ดาเนนิ การดงั น้ี 1.1 สถานศกึ ษาการวิเคราะหผ์ ลการประเมินระดับชาติ (NT และ O-NET) 1) ค้นหา มาตรฐานและตัวชีว้ ัดทต่ี อ้ งแก้ไข ปรับปรุง เร่งดว่ น 2) คน้ หาเน้ือหาสาระการเรยี นรู้ที่ต้องแก้ไข ปรับปรุง เรง่ ดว่ น 1.2. วเิ คราะหห์ าสาเหตุของปัญหาและกาหนดแนวทางการแกไ้ ขปญั หา ในแต่ละกล่มุ สาระ การเรียนร้ขู องแต่ละสถานศึกษา (พจิ ารณาจากสภาพบริบทต่างๆของสถานศกึ ษา) 1) แหล่งสาเหตุของปัญหา 2) จดุ อ่อน/อปุ สรรค 3) จดุ แขง็ /โอกาส 4) แนวทางการแก้ปัญหา (สอดคล้องกบั 3ประเด็นขา้ งต้น) 1.3 กาหนดกลยุทธแ์ ละแผนในการยกระดบั คณุ ภาพผลสมั ฤทธ์ผิ ู้เรียนของสถานศึกษา ทีส่ อดคล้องสาเหตขุ องสภาพปัญหาและบรบิ ทของสถานศึกษา 1) กาหนดกลยุทธ์ แผนงาน โครงการ กจิ กรรมหรือแนวทางการแก้ไขปญั หาของ สถานศกึ ษา 2) จดั ทาโครงการ/กจิ กรรมยกระดับคุณภาพผู้เรียนในการทดสอบทางการศึกษา ระดับชาติ (NT/O-NET) ปกี ารศกึ ษา 2562 ข้ันตอนที่ 2 กำรสร้ำงควำมตระหนักและสรำ้ งควำมเข้ำใจแก่ครูผสู้ อน นกั เรียน และผู้ทเี่ ก่ยี วขอ้ ง เกี่ยวกับ กำรสอบ NT/O-NET 2.1 ศกึ ษาแผนผงั โครงสรา้ งขอ้ สอบ (Test Blueprint) เพอ่ื ใหว้ เิ คราะหต์ ัวชวี้ ัดท่ีใช้ออกขอ้ สอบ และวางแผนการเรยี นการสอนเตรียมความพร้อมในการสอบ 2.2 ศึกษาแนวทางการสอบ NT/O-NET รปู แบบข้อสอบ และลกั ษณะข้อสอบให้ครผู ู้สอน และ นกั เรียนทราบ ขัน้ ตอนที่ 3 พัฒนำกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนและวดั และประเมินผลในชัน้ เรียนทีส่ อดรับกับกำรประเมนิ ระดบั ชำติ 3.1 ให้ความสาคญั กบั องคป์ ระกอบสาคัญในการจัดการเรยี นรู้ในชั้นเรียน 3 องค์ประกอบ ต่อไปน้ี องค์ประกอบท่ี 1 เปา้ หมายการเรียนรู้ (Objective) องคป์ ระกอบท่ี 2 การจัดการเรียนรู้ (Learning) องคป์ ระกอบท่ี 3 การวดั และประเมนิ ผล (Evaluation)

8 ขนั้ ตอนที่ 4 กำรสรำ้ งควำมคนุ้ เคยเก่ียวกับขอ้ สอบ NT และ O-NET ใหแ้ กผ่ เู้ รียน 4.1 นาขอ้ สอบของปกี ารศกึ ษาทผี่ ่านมานามาใช้ในการทดสอบผเู้ รยี นระหว่างการจัดการเรยี น การสอนในแต่ละหนว่ ยการเรียนรู้ 4.2 จดั การทดสอบ Pre NT และ Pre O-NET ก่อนการทดสอบจรงิ 4.3 นาผลการทดสอบ Pre NT และ Pre O-NET มาจดั ทาแผนพัฒนาผู้เรยี นเปน็ รายบุคคล ขน้ั ตอนท่ี 5 กำรกำกับและตดิ ตำมกำรดำเนนิ งำนยกระดับสถำนศึกษำ 5.1 นเิ ทศ กากบั ติดตามการดาเนินกิจกรรมยกระดบั คุณภาพของผ้เู รยี นในการทดสอบ ระดบั ชาติ (NT/O-NET) ระดบั เครือข่ายสถานศึกษา โดยใช้การนิเทศของคณะกรรมการระดบั เครือขา่ ย โรงเรียน 5.2 นิเทศ กากบั ตดิ ตามการดาเนนิ กจิ กรรมยกระดับคณุ ภาพของผูเ้ รียนในการทดสอบ ระดับชาติ (NT/O-NET) ระดับสถานศึกษาโดยใช้กระบวนการนิเทศภายในโรงเรียน 1) ผู้บริหารสถานศึกษา นิเทศ กากับ ตดิ ตามการออกแบบการเรยี นรู้ การจัดการเรียนรู้ และการวัดและประเมนิ ผลของครูผู้สอนให้มคี วามสอดคล้องกัน โดยมมี าตรฐานและตัวชว้ี ัดของหลักสูตร เป็นตัวเช่อื มโยง 2) ครผู ูส้ อนใหค้ วามสาคญั กบั การประเมนิ เพ่อื ปรบั ปรุงและพฒั นา (Formative Assessment) โดยเฉพาะอยา่ งยิ่งการนาผลการประเมินใช้ในการพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รียนแต่ละคนอย่าง แท้จรงิ 2. แนวทำงกำรพัฒนำนักเรยี นด้ำนกำรอำ่ นกำรเขียน แนวทางการพัฒนานักเรียนทกุ คนอา่ นออกเขียนได้ อา่ นคล่องเขยี นคล่อง และสอ่ื สารได้ ปกี ารศึกษา 2562 สังกัดสานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศึกษาพษิ ณโุ ลก เขต 3 ตัวช้ีวัดควำมสำเร็จ 1. สานักงานเขตพนื้ ท่มี ีขอ้ มูลและมแี นวทาง/วิธีการส่งเสรมิ สนับสนุน สร้างความร้คู วามเข้าใจ การแกป้ ัญหาการอา่ นออก เขียนได้ การสร้างนวตั กรรมใหก้ บั โรงเรยี น 2. สานกั งานเขตพืน้ ทมี่ ีระบบนเิ ทศ ชี้แนะ ชว่ ยเหลือโรงเรยี นในการอา่ นออก เขียนไดแ้ ละนาผล การนเิ ทศไปใชใ้ นการพัฒนา 3. ครมู กี ารคดั กรองและข้อมลู ด้านการอา่ นและการเขียนของนักเรียนเป็น รายบคุ คล 4.. ครูมวี ิธกี าร/นวตั กรรมในการแก้ปญั หาและพฒั นานกั เรยี นให้มีความสามารถในการอา่ นและ การเขียนตามระดบั ชั้น 5. นักเรียนอา่ นไมไ่ ด้ เขยี นไมไ่ ด้ลดลง จนเปน็ โรงเรียนอา่ นออกเขยี นได้ 100 % คณุ ลักษณะทต่ี อ้ งเกิดแก่นักเรียน 1. นักเรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 ทุกคนอ่านออกเขียนได้ 2. นักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 2 – 6 ทุกคนอ่านคล่องเขียนคลอ่ ง 3. นกั เรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 1 – 3 ทุกคนอ่านรูเ้ ร่อื งและสอ่ื สารได้

9 กำรดำเนนิ งำนระดบั ชั้นเรยี น 1. ครผู ้สุ อนทาความรู้จัก ศกึ ษาปัญหานกั เรียนเป็นรายบคุ คล แล้วสารวจข้อมลู นักเรียนทุกคนแลว้ จัดทาสารสนเทศ แสดงจานวนนกั เรียนที่อา่ นไมอ่ อก/อา่ นไมค่ ลอ่ ง โดยระบุ ปญั หาและสาเหตุ 1.1 ประเมินความสามารถในการอ่าน การเขยี นของนักเรยี นทกุ คน 1.2 จัดกลุ่มนกั เรยี นตามสภาพปัญหา 1.3 จดั ทาแฟม้ นักเรยี นรายบุคคล 2. จดั ทาโครงการ/แผนพัฒนาการอา่ น การเขียนเพือ่ พฒั นานกั เรียนตามสภาพปัญหามีขั้นตอน การดาเนนิ การดงั นี้ 2.1 เสนอโครงการ/แผนพัฒนาตอ่ ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา 2.2 ดาเนนิ การตามกิจกรรมในโครงการ/แผนพฒั นา 2.3 วดั และประเมินผลความก้าวหน้า 2.4 สรุปและรายงานโครงการ 3. สร้างนวัตกรรม/จดั หา/จดั ทาสื่อ แบบฝกึ แล้วนามาใช้พฒั นาการอา่ น การเขยี น 4. เตรียมการสอน 4.1 ศกึ ษาหลักสตู ร โครงสรา้ ง มาตรฐาน ตวั ชวี้ ดั 4.2 จดั ทาแผนการจัดการเรียนรู้และบนั ทกึ ผลทุกวนั 4.3 เตรยี มส่ือการเรยี นการสอน 4.4 จัดกจิ กรรมที่สง่ เสริมการอา่ น การเขียนทกุ ครงั้ ทีส่ อน มขี ้ันตอนดงั นี้ 4.4.1 นกั เรียนได้ลงมือปฏบิ ัติ 4.4.2 นกั เรยี นได้คิดแกป้ ญั หา ด้วยตนเอง 4.4.3 ยอมรบั ความแตกต่างระหวา่ งบคุ คล 4.4.4 นักเรียนรกั การอา่ น ใชเ้ วลาว่างในการแสวงหาความร้เู พม่ิ เตมิ 4.4.5 ใหน้ ักเรียนจับค่กู นั อ่าน ทกุ วนั 5. จดั ทาค่มู อื นักเรยี น “บัญชคี าพื้นฐาน” ทกุ ระดับช้ัน ให้นกั เรียนทุกคน 5.1 อ่านคาพ้ืนฐานพร้อมความหมายทกุ วนั (อย่างนอ้ ยวันละ 4-5 คา) 5.2 เขยี นตามคาบอกคาพื้นฐาน (อย่างน้อยสัปดาหล์ ะครั้ง) 5.3 คัดลายมอื 5.4 ฝกึ เขียนเรอ่ื งจากภาพ 6. จดั ปา้ ยนเิ ทศ/บัตรคาศพั ท์ใหมจ่ ากบทเรยี นโดยพมิ พ์หรือเขยี นตัวใหญๆ่ มีสีสนั 7. จัดมมุ หนงั สือในห้องเรยี น ควรจดั มมุ หนังสือให้น่าอา่ น ช้นั วางหนังสือมสี ีสนั สวยงาม 8. ประเภทหนังสอื ควรเป็นหนงั สือทน่ี ักเรยี นสนใจและเหมาะกบั วยั เชน่ ป.1-3 เป็นหนังสือนิทาน ป.4-6 เปน็ นทิ าน การต์ ูน สารคดฯี ลฯ 9. ให้นักเรียนทาการบา้ นเกีย่ วกบั คาศพั ท์ วนั ละ 2 - 5 คา อาจจัดให้มีสมุดการบ้านคาศพั ท์ โดยเฉพาะ และให้ทาการบ้านทั้งการอา่ น การเขียน 10. สอนซอ่ มเสริม และบนั ทกึ ผลการสอนทกุ ครั้ง

10 11.ประเมินการอ่าน การเขยี นของนักเรยี นควรมกี ารทดสอบนกั เรียนอย่างเปน็ รูปธรรม เปน็ ระยะ เพ่ือดูพัฒนาการ กำรดำเนินงำนระดบั สถำนศกึ ษำ 1. สถานศกึ ษาจัดทาแผนงาน/โครงการพฒั นาการอา่ น การเขยี น เพอ่ื สง่ เสรมิ ให้นกั เรยี นอ่านออก เขยี นได้ อ่านคลอ่ งเขียนคลอ่ ง และสือ่ สารได้ 2. ประชมุ ครทู ุกคนรว่ มวางแผน พัฒนา/ปรบั ปรงุ คุณภาพนักเรียนใหน้ กั เรยี นอ่านออกเขียนได้ อา่ นคล่องเขียนคลอ่ งและส่ือสารได้ 3. จดั หา/จัดทาส่ือ แบบฝึกให้แกค่ รู 4. ดาเนินการตามแผนงาน/โครงการ ของสถานศึกษา 5. ผบู้ ริหารสถานศกึ ษาและผู้เกยี่ วขอ้ งนิเทศ ติดตามผลการดาเนินงาน 6. ประชุมคณะครเู พ่ือรายงานความก้าวหน้าทกุ เดือน 7. กระตนุ้ และส่งเสริมให้ครูค้นหาวธิ ีการ/รูปแบบ/นวัตกรรมในการพัฒนาและ แก้ปญั หานักเรียนที่ อ่านไมอ่ อกเขยี นไมไ่ ด้ อ่านไมค่ ลอ่ งเขยี นไมค่ ลอ่ ง 8. จัดระบบการสอนซ่อมเสรมิ ใหน้ ักเรียนอย่างมคี ุณภาพ 9. สถานศึกษารายงานผลการดาเนินงานตาม. สถานศกึ ษารายงานผลการดาเนินงานตามโครงการ เม่อื สน้ิ ปกี ารศึกษา กำรดำเนินงำนระดับเขตพื้นทก่ี ำรศกึ ษำ 1. สร้างความตระหนกั /ประสานนโยบายสกู่ ารปฏบิ ตั ใิ นสถานศึกษา 1.1 แจ้งนโยบายจากส่วนกลาง/ กาหนดนโยบายในการมสี ่วนรว่ มจากทุกฝา่ ยที่เก่ยี วข้อง 1.2 ประสานความรว่ มมอื ระหว่างเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษา กับสถานศกึ ษาในสังกดั ในการ กาหนดแนวทางการพฒั นา 1.3 ทดสอบความสามารถด้านการอ่าน การเขียนของนกั เรียนทุกระดบั ช้ัน 1.4 วิเคราะห์ผลการทดสอบความสามารถของนักเรยี นท่ีมีปัญหาการอ่าน การเขยี น จดั ทาเปน็ สารสนเทศระดบั เขตพ้ืนทีก่ ารศกึ ษา 1.5 การจัดทาแผนงานการพัฒนาความสามารถด้านการอา่ น และการเขียน 2. เสรมิ องคค์ วามรู้สูก่ ารปฏิบัติในช้นั เรยี น 2.1 ประชุมช้ีแจงแนวทางการพัฒนาคุณภาพการเรียนการสอนภาษาไทยและแนวปฏิบัติ ในการส่งเสริมใหน้ กั เรยี น อ่านออกเขยี นได้ อ่านคล่องเขยี นคล่อง และส่อื สารได้ ให้แกผ่ ู้บรหิ ารสถานศกึ ษา 2.2 อบรมเชิงปฏิบตั ิการสาหรบั ครูผสู้ อนภาษาไทย ระดับสพฐ. เขตพ้นื ท่กี ารศึกษา เครอื ขา่ ยโรงเรียนอาเภอ และการศกึ ษาค้นควา้ ด้วยตนเอง เช่นระบบออนไลนต์ ่างๆ 2.3 สนับสนนุ ส่ือนวัตกรรมการพัฒนา การอา่ นออก เขยี นได้ อา่ นคล่องเขยี นคล่อง และ สอื่ สารได้ ให้กับทุกสถานศกึ ษาในสงั กัด 2.4 สง่ เสริมความสามารถทกั ษะภาษาไทยสาหรับนกั เรียน 2.5 สรา้ งขวัญกาลงั ใจ ดงั น้ี 2.5.1 มอบโลร่ างวลั /เกยี รตบิ ัตรบัตรแก่สถานศกึ ษาที่จัดกิจกรรมส่งเสรมิ การอา่ น การเขียนท่ปี ระสบความสาเรจ็ เปน็ แบบอยา่ งได้ (บรู ณาการโครงการสง่ เสรมิ นิสยั รักการอ่าน)

11 2.5.2 มอบโลร่ างวัล/เกียรตบิ ตั รแก่สถานศกึ ษา ครูผู้สอน และนักเรียน ที่ ดาเนนิ การยกระดบั ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรียน O-NET (ชนั้ ป.6,ม.3) กล่มุ สาระการเรยี นรภู้ าษาไทย และ NT ชั้น ป.3 ด้านภาษา สูงกว่าระดบั ประเทศ (บรู ณาการการทดสอบระดับชาติ O-NET , NT) 3. สนับสนุนเครือขา่ ยรว่ มพัฒนา 3.1 เครือข่ายวทิ ยากรแกนนาภาษาไทย 3.2 เครือขา่ ยครวู ชิ าการภาษาไทย 3.3 เครือขา่ ยโรงเรยี นอาเภอ 4. นเิ ทศ กากบั ตดิ ตาม และประเมินผล 4.1 นเิ ทศ ติดตาม และประเมินผลการดาเนนิ งานของสถานศึกษาโดยศึกษานเิ ทศกป์ ระจา เครอื ขา่ ยโรงเรียนอาเภอ และประธานเครือขา่ ยโรงเรยี นอาเภอ ทั้ง 24 เครอื ข่ายฯ 4.2 ทดสอบความสามารถด้านการอา่ น การเขยี นนักเรยี นระดบั ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 – 6 ภาคเรียนละ 1 ครัง้ 3. แนวทำงกำรพัฒนำนักเรยี นดว้ ยกิจกรรมลูกเสอื แบบเขม้ ข้น (Scout all day) กิจกรรม “Scout all day” ทุกวันพฤหัสบดีของวันเปิดเรียน สานักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาพษิ ณุโลก เขต 3 ไดเ้ สนอแนะแนวทางในการจัดกิจกรรมลูกเสือแบบเข้มข้น ดังน้ี 1. ผูบ้ ริหารสถานศกึ ษา ครู และนกั เรยี นทุกคนแตง่ เครื่องแบบลูกเสือ 2. ทุกเชา้ ผบู้ งั คบั บัญชาลกู เสอื (คร)ู ยืนรบั นกั เรียนหน้าประตโู รงเรียน ลกู เสือทาความเคารพ ผู้บงั คบั บัญชาลกู เสอื 3. เวลา 07.30 – 08.15 น. ลกู เสอื ปฏิบตั กิ จิ กรรม “ลกู เสือจิตอาสา” ตามทีไ่ ดร้ ับมอบหมาย 4. เวลา 08.15 – 08.45 น. พธิ ีเปดิ ประชมุ กองตามประเภทของลูกเสือ หรือบรู ณาการ ร่วมกันกรณีลกู เสือ เนตรนารี มจี านวนน้อย (เขา้ แถว เคารพธงชาติ สวดมนต์ สงบนงิ่ ตรวจรา่ งกาย/เครือ่ ง แตง่ กาย) 5. เดนิ เป็นระบบหมู่เขา้ ห้องเรยี น รายงานตวั เข้าหอ้ งเรียน ผ้บู งั คบั บญั ชา (ครู) กลา่ วต้อนรับ กรณีนักเรยี นเดนิ เรยี น หรอื ครูสอนรายวิชาก็ปฏบิ ัติในลักษณะเดยี วกัน 6. เวลา 14.30 – 16.30 น. โรงเรยี นจดั กจิ กรรมลกู เสือตามหลกั สูตร 7. ปิดประชุมกอง ตรวจเครอ่ื งแต่งกาย นดั หมาย นกั เรยี นกลบั บ้าน กจิ กรรมเคำรพธงชำตหิ นำ้ เสำธง ผู้บริหารโรงเรียน ครู และนักเรียนแต่งเคร่ืองแบบลูกเสือ เนตรนารี มาโรงเรียน โดยการ จดั การเรยี นการสอนของโรงเรียนเป็นไปตามปกติ เข้าแถวเคารพธงชาติ เวลาเข้าแถวลูกเสือ ไม่ต้องนาไม้ พลองหรือไม้ง่ามเข้าแถว แม้แต่นายหมู่ก็ไม่ต้องนาธงหมู่ไปเพราะถือว่าเป็นการเคารพธงชาติของบุคคล ท่วั ไปตามระเบยี บของกระทรวงศึกษาธกิ าร การส่ังเคารพธงชาติ สั่ง “ตรง” ลูกเสือทาความเคารพด้วยท่าตรง ส่วนผู้บังคับบัญชาลูกเสือ ไม่ว่าจะอยู่ในสนามหรือในอาคารทาความเคารพธงชาติด้วยท่าวันทยหัตถ์ ผู้บังคับบัญชาลูกเสือที่อยู่ใน สนามจะตอ้ งสวมหมวกเสมอ ถือไดว้ ่าผูบ้ ังคับบญั ชานั้นไมอ่ ยใู่ นแถวควบคุมตามระเบียบแถว จะยนื ตรงเฉย ๆ เสมอื นลูกเสือที่อยู่ในแถวไมไ่ ด้

12 สาหรับลูกเสือที่อยู่นอกแถว ซ่ึงอาจกาลังทาหน้าท่ีอยู่ที่ประตโู รงเรียน หรืออยู่ในอาคาร โดย ไม่เข้าอยู่ในแถวก็เคารพธงชาติด้วยท่าวันทยหัตถ์เช่นเดียวกับผู้บังคับบัญชาเพราะถือว่า ไม่อยู่ในแถว ควบคมุ กจิ กรรมเปดิ ประชมุ กอง ลูกเสือ เนตรนำรี พิธเี ปิดประชมุ กองลกู เสอื สามญั ใหป้ ฏบิ ัติตามขน้ั ตอน ดงั น้ี 1. การเปิดกอง 2. การเชญิ ธงขึ้น 3. การสวดมนต์ 4. การสงบน่ิง 5. การตรวจ – แยก กำรเปดิ กอง การเปิดกอง ผูก้ ากบั ยืนหนา้ เสาธง หา่ งจากเสาธงพอสมควรเรยี กลูกเสือเข้าแถวรูปครงึ่ วงกลม กำรชกั ธงขนึ้ การชักธงข้ึน เมื่อลูกเสือเข้าแถวเรียบร้อยแล้วผู้กากับส่ังลูกเสือ “กอง – ตรง” ลูกเสือท่ีทา หน้าทเ่ี ป็นหมู่บริการ หรือทาหน้าทีห่ ม่บู รกิ าร 2 คน เขา้ ไปชักธง โดยยืนห่างจากเสาธงประมาณ 3 ก้าว ทา วันทยหัตถ์พรอ้ มกัน ลดมอื ลง คนที่ยนื ด้านขวามือก้าวเข้าไปข้างหนา้ 2 กา้ ว แล้วยนื เท้าชิด แกเ้ ชอื กทผ่ี กู ธง ออกถอยกลับมายืนท่ีเดมิ ส่งเชือกท่ีชกั ธงใหก้ ับคนทางซา้ ยมอื (ให้ผนื ธงอยูท่ างขวาของผู้ชักธง) ผู้กากับเป็น ผู้สั่ง “กอง – วันทยหัตถ์” ให้ลูกเสือทาวันทยหตั ถ์ ผู้กากับและรองผู้กากับทาวันทยหัตถ์ด้วย หมู่บรกิ ารนา รอ้ งเพลงชาติ เมื่อธงชาติขึ้นสู่ยอดเสา ผู้ชักธงคนด้านขวามือก้าวเข้าไป 2 ก้าว เท้าชิด ผูกเชือกธง อีกคน หนงึ่ คงยืนในท่าตรง เมือ่ ผูกเชอื กเรียบร้อยแล้ว ถอยกลบั มายืนท่เี ดมิ ทั้งสองทาวนั ทยหตั ถพ์ ร้อมกนั ลดมือ ลง กลับหลงั หันว่ิงกลับเข้าหมู่ของตนเอง ผู้กากับและรองผูก้ ากบั ลดมือลงพร้อมกับผู้ชักธง ส่วนลูกเสืออ่ืน ยังทาวันทยหัตถ์อยู่ และเมื่อลูกเสือ 2 คน ที่ชักธงกลับเข้าไปยืนท่ีหมู่ของตนแล้ว ให้ทาวันทยหัตถ์เหมือ ลูกเสือคนอื่นด้วย ผู้กากับจึงสั่งว่า “มือลง” ทุกคนลดมือลงพร้อมกัน ถ้าลูกเสือมีอาวุธ (ไม้พลอง หรือไม้ งา่ ม) เมื่อจะออกไปชักธงให้ฝากอาวุธไวก้ บั ลูกเสอื คนต่อไปก่อน เมอ่ื ชักธงเสรจ็ กลบั เขา้ ทีก่ ็ให้รบั อาวุธ มาถือ และทาวันทยาวุธ เหมือลูกเสือคนอื่นและคาส่ังที่ผู้กากับสั่ง เปล่ียนคาส่ังจาก “กอง – วันทยหัตถ์” เป็น “กอง – วนั ทยาวุธ” จากคาว่า “มือลง” เป็น “เรยี บ – อาวุธ” กำรสวดมนต์ การสวดมนต์เมื่อทุกคนลดมือลง (หรือเรียบอาวุธ) แล้วให้อยู่ในท่าตรงถอดหมวกเตรียมตัว สวดมนต์ หมบู่ รกิ ารนาสวดมนต์ (ลกู เสือท่นี บั ถือศาสนาอน่ื ยนื สงบ) กำรสงบนง่ิ การสงบนิ่ง เมื่อสวดมนต์จบแล้ว ทุกคนสงบน่ิง โดยลดมือจากการพนมมือมาถือหมวกไว้ ด้านหน้าด้วยมอื ทง้ั สอง ให้แขนเหยยี ดตรง กม้ หนา้ เล็กน้อย กำรตรวจ การตรวจในการเปิดประชมุ กองจะตรวจอะไรก็ได้ เช่น เครอ่ื งแบบ เล็บ ฟนั และความสะอาด อื่นๆ ซึ่งผู้กากบั จะเป็นผูส้ งั่ สอนกอ่ นวา่ จะตรวจอะไร

13 วิธีตรวจ ตามปกติผู้กากับจะให้รองผู้กากับเป็นผู้ตรวจ รองผู้กากับจะทาความเคารพ (วันทยหัตถ์) ผู้ กากับกอ่ น แลว้ จงึ ไปตรวจหมู่ลูกเสอื พอถึงหน้าหมลู่ กู เสือที่จะตรวจ (ห่างจากนายหมู่พอสมควร นายหมู่ส่ัง ลูกเสือในหมู่ของตนว่า “หมู่ .. ตรง” ทุกคนตรง นายหมู่ทาวันทยหัตถ์ ลดมือลง ก้าวออกมา 1 ก้าว ทา วันทยหัตถ์อีกครั้ง รายงานว่า “หมู่ … พร้อมที่จะรับการตรวจแล้ว” ลดมือลง ถอยกลับเข้าไปยืนที่เดิม (ในขณะที่ลูกเสือรายงานและทาวันทยหัตถ์ ผู้ตรวจควรทาวันทยหัตถ์รับดว้ ย) ผู้ตรวจจะตรวจนายหมู่ก่อน แล้วจึงตรวจลกู หมู่ ขณะตรวจนายหม่จู ะเดินตามไปดว้ ย เพอ่ื จะได้ทราบถึงขอ้ บกพร่องของลูกหมู่ เม่ือตรวจ ครบทกุ คนแล้ว นายหมู่กลับเข้าท่ีทาวันทยหัตถผ์ ู้ตรวจอกี ครั้งลดมอื ลง แล้วสงั่ “หมู่…ตามระเบียบ – พัก” ถา้ มีอาวุธ ให้สั่ง “หมู่...วันทย – วุธ”ทุกคนทาวันทยาวุธ นายหมู่ลูกเสือลดมือลงก้าวออกมารายงานในท่า วันทยาวุธ ลดมือลง กลับไปยืนที่เดิม ทาท่าวันทยาวุธ อีกคร้ังและสั่ง “หมู่…เรียบ อา – วุธ” และอยู่ในท่าตรง เมื่อตรวจเสร็จให้นายหมู่สั่ง “หมู่…วันทยา – วุธ”และอยู่ในท่าตรง เม่ือตรวจเสร็จ ให้นายหมู่ส่ัง “หมู่ … วัน ทยา – วุธ” อีกครั้ง และ “เรียบอา – วุธ” จากน้ันส่ัง “ตามระเบียบ – พัก” รองผู้กากับท่ีไปตรวจจะ รายงานผลการตรวจให้ผู้กากับทราบ คนไหนตรวจเสร็จก่อนให้รายงานก่อน โดยไม่ต้องรอกัน จากน้ันผู้ กากับสรุปผลการตรวจและให้ขอ้ เสนอแนะแลว้ ส่งั แยก โดยออกคาส่ังวา่ “กอง – ตรง – แยก” ให้ลูกเสอื ทา ขวาหนั แล้วแยกกนั ไป ในกรณที ่ไี มม่ รี องผู้กากับก็ให้นายหมเู่ ป็นผู้ตรวจแทน เมื่อผู้กากับสง่ั ให้ตรวจอะไรแลว้ ผู้กากับ จะส่ัง “นายหมตู่ รวจ” ให้นายหมู่ก้าวออกมาหน้าแถวของตนประมาณ 3 ก้าว แลว้ กลบั หลังหัน รองนาย หมวู่ ิ่งออ้ มดา้ นหลงั แถวมายนื แทนท่ีนายหมู่และทาหน้าที่เสมือนนายหมู่ ใชว้ ิธีตรวจเช่นเดียวกับรองผู้กากับ ตรวจ เมื่อตรวจเสร็จให้ยืนรอหน้าหมู่ของตนจนหมู่อ่นื ตรวจเสร็จครบทุกหมู่ จึงวง่ิ ไปเข้าแถวหน้ากระดาน ข้างหน้าผู้กากบั โดยมีนายหมบู่ รกิ ารอยหู่ ัวแถวเพ่ือรายงานผลการตรวจ การรายงานให้รายงานทลี ะคนจาก หัวแถวก่อนคนไหนจะรายงานให้ก้าวออกไปข้างหน้า 1 ก้าว พร้อมกับทาวันทยหัตถ์ (ถ้ามีอาวุธให้ทา วันทยาวุธ) แล้วรายงาน เสร็จแล้วลดมือลงถอยเข้าที่ในแถวเมื่อรายงานครบทุกคนให้ผู้กากับสั่ง “เข้าท่ี” นายหม่จู ะว่งิ กลับเขา้ ท่พี รอ้ มกับรองนายหม่วู ่งิ ออ้ มด้านหลังกลับมายืนท่ีเดมิ ของตน ลกู เสือ เนตรนำรี เดนิ แถวไปท่ีหน้ำหอ้ งเรียน ลกู เสือ เนตรนารี แสดงความเคารพครูหน้าหอ้ งเรียนเดินแถวเข้าห้องเรยี น โดยหวั หน้าหอ้ งส่ัง วันทยหัตถ์ ให้ทาวันทยหัตถ์ 3 นิ้ว คอื ยกมอื ขวาข้ึนให้น้ิวช้ี นิว้ กลาง นิว้ นาง ติดกัน แลว้ ให้นว้ิ ช้แี ตะที่ขอบ หมวก หมวกปีก หรือน้ิวชี้แตะท่ีหางค้ิวขวา ถ้าสวมหมวกทรงอ่อน (เบเร่) ถ้ามิได้สวมหมวกก็ทาอย่างเดียวกับ สวมหมวก ครูแสดงความเคารพตอบนักเรียน โดยทาวันทยาหัตถ์ 3 นิ้ว คือ ยกมือขวาข้ึนให้น้ิวช้ี น้ิวกลาง นว้ิ นาง ตดิ กัน แลว้ ใหน้ ้ิวชีแ้ ตะท่ีขอบหมวก หมวกปกี หรือน้ิวชีแ้ ตะท่ีหางคิว้ ขวา เรยี นตำมปกติ ลูกเสือ เนตรนารี เข้าเรียนตามปกติ โดยแสดงความเคารพคุณครู แบบลูกเสือ เนตรนารี จนถงึ เวลาพักรบั ประทานอาหารกลางวัน พักรับประทำนอำหำรกลำงวนั ลูกเสอื เนตรนารเี ดินแถวไปโรงอาหาร รบั อาหาร นั่งประจาที่ ท่องคาพจิ ารณาอาหาร เรียนตำมปกติ จนถึงเวลำ 14.30 น. ลูกเสือ เนตรนารี เข้าเรียนตามปกติ โดยแสดงความเคารพคุณครู แบบลูกเสือ เนตรนารี จนถึงชัว่ โมงลกู เสือ เนตรนารี

14 เรยี นกิจกรรมลกู เสือ เนตรนำรี ลูกเสือ เนตรนารี เข้าเรียนวิชาลูกเสือ เนตรนารี เมื่อจบบทเรียน ทาพิธีปิดประชุมกองให้ ปฏิบัตติ ามขั้นตอน ดงั นี้ พธิ ีปดิ ประชุมกอง 1. การนัดหมาย 2. การตรวจ (เครอื่ งแบบ) 3. การเชญิ ธงลง กำรนัดหมำย การนดั หมายผกู้ ากับยนื หน้าเสาธงเหมอื ตอนเปดิ เรียกลูกเสอื จัดแถวคร่งึ วงกลมและอาจ สรุปผลการเรยี นเลก็ นอ้ ย แล้วนัดหมายวา่ คร้ังต่อไปจะเรยี นอะไร เพ่ือให้ลกู เสอื เตรียมอุปกรณ์มา กำรตรวจ การตรวจในการปิดประชุมกองจะตรวจอย่างอื่นไม่ได้ ต้องตรวจเคร่ืองแบบเพียงอย่างเดียว เพราะว่าลูกเสือเรียนและทากิจกรรมหลายอย่าง เคร่ืองแบบย่อมไม่เรียบร้อย และจะต้องแต่งเคร่ืองแบบ กลับบา้ น ผา่ นที่ชมุ ชนหลายแห่ง ถ้าไม่เรียบรอ้ ยอาจนาความเส่อื มเสียมาสกู่ องลูกเสือของตนได้ เมื่อผกู้ ากับ สัง่ “ตามระเบียบ – พัก” และสั่งตรวจเคร่ืองแบบ รองผู้กากบั และลกู เสอื จะมวี ิธเี ดียวกับการตรวจตอนเปิด ประชุมกอง แต่เมื่อ ผู้ตรวจตรวจเคร่ืองแบบด้านหน้านายหมู่เรียบร้อยแล้วให้ส่ัง “นายหมู่ กลับหลังหัน” เพอ่ื จะตรวจความเรยี บร้อยดา้ นหลัง เมอ่ื เรียบร้อยแล้วให้ส่ังกลบั หลงั หนั อีกครัง้ แล้วตรวจคนอ่นื ตอ่ ไป โดย มนี ายหมูเ่ ดินตามไปด้วย เมอ่ื ตรวจถึงคนสดุ ท้ายของหมใู่ ห้เดนิ อ้อมไปตรวจด้านหลงั ด้วย เมื่อตรวจเสรจ็ นาย หมู่กลับไปยืนที่ของตน ทาวันทยหัตถ์อีกครั้ง ลดมือลง แล้วส่ัง “หมู่ …ตามระเบียบ – พัก” (ถ้าลูกเสือมี อาวธุ กใ็ ห้ปฏิบัตเิ หมอื นพธิ ีเปิดประชมุ กอง) กำรชักธงลง ให้ลูกเสือที่ทาหน้าท่ีหมู่บริการ 2 คน ออกไปท่ีเสาธง (ทาเหมือนพิธีเปิดประชุมกอง) เมื่อแก้ เชือกธงมาถือเรียบร้อยแล้ว ผู้กากับสั่ง “กอง – วันทยหัตถ์” ถา้ มอี าวุธ สัง่ “กอง – วันทยา – วุธ” เมื่อผูก เชือกเรยี บรอ้ ยแลว้ ทาความเคารพและกลับเข้าทใี่ หท้ าวันทยหัตถ์ (หรอื วนั ทยาวธุ ) อีกครั้ง จากนั้นผู้กากับ สั่ง “มือลง” (หรือ เรียบอาวุธ) หลังจากน้ันผู้กากับจะส่ัง “กอง – เลิก” ให้ลูกเสือ ทาวันทยหัตถ์ (หรือ วนั ทยาวุธ) พร้อมกับกล่าว “ขอบคุณ – ครับ” หรือ “สวสั ดี – ครับ” ลูกเสือลดมอื ลง ทาขวาหันกลับ และ ในกรณที ไี่ มม่ รี องผู้กากับและให้นายหมูต่ รวจ กใ็ ชว้ ิธีเดียวกบั พิธีเปดิ ประชุมกอง กิจกรรมหน้ำเสำธง ลกู เสือ เนตรนารที ากิจกรรมหนา้ เสาธงกอ่ นกลบั บ้าน 4. รูปแบบและแนวทำงกำรนิเทศ ตดิ ตำมและประเมนิ ผลกำรจดั กำรศึกษำ 1. แนวทำงกำรดำเนินงำนและกำรนิเทศ ติดตำมของสำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำ ประกอบดว้ ยประเด็นการนเิ ทศ ติดตามต่าง ๆ ดงั นี้ 1) การพัฒนาหลกั สตู รสถานศกึ ษา 2) การจดั การศึกษาระดบั ปฐมวัย 3) การจดั การเรยี นรู้ เชิงรุก (Active Learning) 4) การจัดการเรียนรู้โดยใช้สื่อเทคโนโลยีทางไกล DLTV/ DLIT 5) การจัดการ ศกึ ษาสาหรับเด็กพิการเรียนรวม 6) การยกระดับผลสัมฤทธทิ์ างการเรยี น

15 2. ปฏิทนิ กำรนิเทศ (ระดบั เขตพ้ืนที่การศกึ ษา) สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 กาหนดการนิเทศ กากับ ติดตามเพ่ือสนับสนุนและประเมินผลการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศึกษาทุกแห่งในสังกัด ประจาปกี ารศกึ ษา 2562 ใน 2 ลกั ษณะ ดงั น้ี 2.1 การนิเทศ ติดตามและประเมินผลการปฏิบัติงานโดยคณะกรรมการนิเทศ ติดตาม ของสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศกึ ษาพิษณุโลก เขต 3 ซึ่งเนน้ การมีส่วนร่วมของผู้มสี ่วนเก่ียวข้อง กับการจัดการศึกษา ได้แก่ ประธานเครือข่ายโรงเรียน ศึกษานิเทศก์ประจาเครือข่ายโรงเรียน คณะกรรมการ ก.ต.ป.น. ผู้อานวยการกลุ่มและบุคลากรทางการศึกษาของสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา ประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 โดยกาหนดการนิเทศ พร้อมกันทุกคณะ ครอบคลุมโรงเรียนทุกโรงเรียนใน สังกัด 163 โรงเรียน ตามกาหนดการนเิ ทศ ดังน้ี 1) นิเทศ ความพรอ้ มวนั เปิดภาคเรียน วันท่ี 17-31 พฤษภาคม 2562 2) นิเทศ ติดตามผลการปฏิบัติงาน ประจาภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2562 วันท่ี 2-13 กนั ยายน 2562 3) นิเทศ ติดตามผลการปฏิบัติงาน ประจาภาคเรียนท่ี 2 ปีการศึกษา 2562 วนั ที่ 9-25 มนี าคม 2563 2.2 การนิเทศ ส่งเสริมสนับสนุนตามความต้องการของโรงเรียน เครือข่ายโรงเรียน เนื่องด้วยโรงเรียน และเครือข่ายโรงเรียนแต่ละแห่งน้ันมีสภาพปัญหา บริบทและ ความตอ้ งการในการพัฒนาทแ่ี ตกตา่ งกัน ดังนน้ั เมือ่ โรงเรียน หรือเครือข่ายโรงเรยี นใด แจ้งความประสงค์ ความต้องการทจ่ี ะพฒั นาด้านใดมายังสานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษา ก็จะจดั ทมี ศึกษานิเทศก์ท่ีมคี วามรู้ความสามารถในเร่ืองนั้นๆ ใหไ้ ปช่วยเหลือ ส่งเสริม สนับสนุนตามความต้องการของโรงเรยี น/เครือขา่ ย 3. แนวทำงกำรนเิ ทศ/ปฏิทินกำรรำยงำนผลกำรนิเทศ (ระดับสถานศึกษา) สานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ตระหนักถึงความสาคัญของ การนิเทศภายในสถานศึกษาโดยครูและผู้บริหารสถานศึกษา โดยสนับสนุนให้มีการนิเทศภายในอย่าง สมา่ เสมอต่อเน่ือง และกาหนดให้สถานศกึ ษาในสังกดั สรุปรายงานผลการนิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการ นิเทศภายในของสถานศึกษาตอ่ สานกั งานเขตพ้นื ที่การศึกษาภาคเรยี นละ 1 ครงั้ 4. เครือ่ งมอื กำรนิเทศระดบั เขตพืน้ ทกี่ ำรศึกษำ สานกั งานเขตพื้นทีก่ ารศกึ ษาประถมศึกษาพิษณโุ ลก เขต 3 กาหนดการนิเทศ ตดิ ตามและ ประเมินผลการจัดการศึกษา ตามนโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ สานักงานคณะกรรมการ การศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน และสานักงานเขตพืน้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาพษิ ณุโลก เขต 3 โดยได้จัดทาเคร่ืองมือ การนิเทศ เพ่ือใหค้ ณะกรรมการนเิ ทศ ตดิ ตามไดน้ าไปใชใ้ นการนิเทศ ติดตาม ตามแผนการนเิ ทศตอ่ ไป 5. เครือ่ งมอื กำรนิเทศภำยในโรงเรยี น สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ส่งเสรมิ ใหส้ ถานศึกษาทุกแห่ง มกี ารนิเทศภายในโรงเรียนอย่างต่อเนื่อง จงึ ได้รวบรวบตัวอย่างเครื่องมือการนิเทศภายในโรงเรียน เพื่อให้ ครู ผู้บรหิ ารไดน้ าไปประยกุ ตใ์ ช้ในการนิเทศภายในโรงเรยี น

16 แนวทำงกำรนิเทศ/ปฏิทนิ กำรรำยงำนผลกำรนิเทศ (ระดบั สถำนศึกษำ) การจัดการศึกษาหรือการจัดการเรียนรู้ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 ที่มุ่งให้ผู้เรียนทุกคนมีความสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ โดยถือว่าผู้เรียนสาคัญท่ีสุด ครูจะต้องมี ศักยภาพในการจัดการเรียนรู้ให้มีคุณภาพได้มาตรฐานสูงตามมาตรฐานหลักสูตรและมาตรฐานการศึกษา ชาติ และโรงเรียนมีศักยภาพในการบริหารจัดการเพื่อพัฒนาเข้าสู่ระบบ การประกนั คุณภาพการศึกษาและ การยกระดับโรงเรียนช้ันนาของสานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐานท่ีมีความพร้อมสู่การเป็น โรงเรียนมาตรฐานสากล ( World-Class Standard School ) ซ่ึงบุคลากรทุกฝ่ายจะต้องเข้ามามีส่วนร่วม ในการจัดการศึกษาเพ่ือให้เป็นโรงเรียนที่มีระบบการพัฒนาผู้เรียน สถานศึกษา แหล่งเรียนรู้ สภาพแวดลอ้ ม หลักสูตร และการจัดการเรียนรูท้ ีเ่ อ้ืออานวยใหผ้ ้เู รยี นสามารถแสดงถึงการพฒั นาตนเองก้าว ไกลตามความต้องการจนถึงระดบั สากล ภารกิจท่ีสาคัญประการหนึ่งของผูบ้ ริหารสถานศึกษาและผู้ร่วมบริหาร ก็คอื การนิเทศ โดยเฉพาะ การนิเทศภายในโรงเรียน เป็นแนวทางหน่ึงที่จะช่วยปรับปรุงคุณภาพการศึกษา ซ่ึงจะช่วยแกไ้ ขปรับปรงุ ส่ิง ท่ีบกพร่องด้านวิชาการให้มีการพัฒนา และส่งเสริมให้การเรียนการสอนบรรลุวัตถุประสงค์ ผู้บริหาร สถานศกึ ษาและผู้รว่ มบริหาร เป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิดกับคุณครูและนักเรยี น จงึ ย่อมทราบถึงปัญหาต่างๆได้ดีกว่า บคุ ลากรภายนอก เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว การนิเทศภายในโรงเรียนจะสนองตอบความต้องการของบุคลากรใน โรงเรียนได้อยา่ งถูกตอ้ งและเหมาะสมทีส่ ุด ควำมหมำยของ “กำรนเิ ทศภำยใน” นกั การศกึ ษาท่มี ีความเชีย่ วชาญทางด้านการนิเทศการศึกษาไดใ้ ห้ความหมายไว้ดังน้ี วัชรา เล่าเรียนดี (2545 : 130) ได้กล่าวว่า การนิเทศภายในโรงเรียน เป็นกระบวนการบริหาร การศึกษาที่จัดดาเนินการในโรงเรียนโดยบุคลากรในโรงเรียนเป็นหลัก ซ่ึงประกอบด้วย ผู้บริหารโรงเรียน คณะครูอาจารย์และบคุ ลากรที่เกี่ยวข้องกับการศึกษาในโรงเรียนเพ่ือพัฒนา คุณภาพการศึกษาในโรงเรียน โดยตรง ชัด บุญญา (2546 : 44) ได้ให้ความเห็นว่า การนิเทศภายในโรงเรียน หมายถึง การดาเนินใด ๆ ที่ทาใหค้ รมู คี วามพึงพอใจและมกี าลังใจท่จี ะพฒั นาการจัดการเรียนการสอน และพัฒนาการดาเนินงานใดๆ ของโรงเรยี นใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานของโรงเรยี นและของบุคลากรใหส้ ูงขึน้ และรกั ษาไว้ จนส่งผลให้โรงเรียน เป็นทยี่ อมรบั ของผรู้ ับประโยชน์จากโรงเรียนทกุ ฝ่าย อีกทั้งผา่ นการประเมินภายในและภายนอก จากความหมายของการนเิ ทศภายในโรงเรยี นดังกลา่ ว สรปุ ได้วา่ การนเิ ทศภายในโรงเรียน เปน็ กระบวนการทางานและดาเนนิ กจิ กรรมรว่ มกนั ระหว่างผบู้ ริหารและบคุ ลากรภายในโรงเรียน ในการ แนะนาช่วยเหลือ มีขวญั กาลังใจ สง่ เสรมิ เก่ียวกับการเรยี นการสอนและพัฒนาการดาเนนิ งานของโรงเรยี น ใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานของโรงเรยี น เพื่อปรบั ปรุงและพัฒนาคณุ ภาพการศึกษาใหม้ ีประสิทธิภาพ เปน็ ที่ ยอมรบั ของผู้รบั ประโยชนจ์ ากโรงเรยี นทุกฝา่ ย เป็นไปตามวัตถุประสงคแ์ ละเป้าหมายของการจดั การศกึ ษา ท่กี าหนดไว้

17 จุดมงุ่ หมำยของกำรนิเทศ สงัด อุทรานนั ท์(2530 : 12) กลา่ วถึงจุดมุ่งหมายของการนเิ ทศภายในโรงเรยี นไว้ 4 ประการ คอื 1) เพื่อพัฒนาคน 2) เพอ่ื พฒั นางาน 3) เพื่อสรา้ งการประสานสมั พันธ์ และ 4) เพื่อสรา้ งขวัญกาลังใจ ชัด บญุ ญา (2546:46) กลา่ วว่า ความมุ่งหมายของการนิเทศ ภายในโรงเรยี น เพอื่ สนบั สนนุ ส่งเสรมิ กระตุน้ ใหค้ รแู ละผูท้ ี่มสี ว่ นไดส้ ว่ นเสยี จากการจัดการศกึ ษาทุกฝา่ ยเป็นรายบคุ คลหรือหลายคนได้ ร่วมมอื ร่วมใจกนั ปฏิรูปวธิ ีการจดั การเรียนการสอน วิธกี ารบรหิ ารจัดการศึกษาท่ีมุ่งสู่ความสาเร็จตาม มาตรฐานของโรงเรยี น และของบคุ ลากรของโรงเรยี นให้สงู ขึ้นและรกั ษาไวไ้ ดอ้ ย่างต่อเน่อื งด้วยความเตม็ ใจ กระบวนการนเิ ทศภายในโรงเรียน จากแนวคิดต่าง ๆ ของนักการศกึ ษาพอสรุปได้ว่า การนิเทศภายในมจี ุดมุ่งหมายทจ่ี ะพัฒนาคนใน องค์กร พัฒ นาครูให้มีความรู้ความสามารถในงานพัฒ นาหลักสูตร การจัดการเรียนการสอน ช่วยประสานงานและความรว่ มมอื ให้เกิดความเข้าใจอันดีระหว่างงานทุกงานท่ีเก่ยี วขอ้ ง อีกทั้งยงั สรา้ งความ มั่นคงในอาชีพครู สร้างสรรค์กาลังใจแก่บุคลากรเพื่อการพัฒนานักเรียนให้มีคุณภาพตามความ มงุ่ หมายของการจัดการศึกษา ข้ันตอนกำรนิเทศ การนิเทศภายในโรงเรียนเป็นการดาเนินการอย่างมีข้ันตอนเป็นระบบและต่อเนื่อง สรุปได้ว่ามี 4 ข้ันตอน คือ ข้นั ท่ี 1 การศึกษาสภาพปัจจบุ นั ปัญหาและความตอ้ งการ (เปิดใจ) ขั้นท่ี 2 การวางแผนการนเิ ทศ (ร่วมใจ) ขนั้ ท่ี 3 การปฏิบัตกิ ารนิเทศ (ตง้ั ใจ เต็มใจ)) ข้ันท่ี 4 การประเมนิ ผลการนิเทศ (ชืน่ ใจ ) การนเิ ทศภายในโรงเรยี นนนั้ การดาเนินการควรคานึงถึงปญั หาของโรงเรียน รวมทงั้ ความต้องการ ของบุคลากรในโรงเรียนด้วย ดังน้ัน การดาเนินการนิเทศภายในโรงเรียนจึงต้องมีการวางแผนกาหนด แนวทางร่วมกัน ประสานสมั พันธ์รว่ มมือให้การช่วยเหลือซ่งึ กนั และกัน และมี เป้าหมายเดียวกัน คือพัฒนา คณุ ภาพการศกึ ษาของโรงเรียนใหไ้ ด้ตามเกณฑม์ าตรฐานท่ีกาหนดไว้ ผทู้ ำหนำ้ ทนี่ ิเทศภำยในโรงเรยี น การนิเทศการศึกษามีจุดมุ่งหมายหลักก็คือ มุ่งพัฒนาครูหรือบุคลากรให้รู้จักวิธีการปรับปรุง การเรียนการสอนหรืองานในหน้าท่ีให้ดีข้ึน เพื่อทาให้การศึกษาเกิดผลสัมฤทธ์ิตามความคาดหมาย ผู้นิเทศการศึกษาจึงเปน็ บคุ คลใดก็ตามท่ีสามารถปฏิบัติตามจุดมุง่ หมายน้ี ในเรื่องนีม้ ีผกู้ ล่าวไว้หลายแนวคดิ อดมั ส์ และ ดิกกยี ์ (Adams and Dickey, 1966 : 8) ไดใ้ หค้ วามเห็นในเร่ืองของการนิเทศโดย กลา่ วไว้ว่า “ผู้นิเทศ คือ บุคคลใดกต็ ามท่ีมหี น้าท่ีในการทางานร่วมกับผู้อื่นเพื่อเพมิ่ พูน และปรับปรุงสภาพ การเรียนการสอน” ดังน้นั อาจจะเป็นครใู หญใ่ นโรงเรียนหรือผู้ชว่ ยเหลือ แขนงหน่ึงแขนงใดพิเศษ เชน่ พล ศึกษา ดนตรี หรอื อาจจะเป็นศกึ ษาธิการ หรือผูอ้ านวยการโรงเรียนกไ็ ด้

18 ในทัศนะของ สนุ ยี ์ เอยี่ มอดุลย์ (2523 : 4) ผู้ที่สามารถทาหน้าทน่ี ิเทศการศกึ ษาไดก้ ค็ ือ 1. ศกึ ษานเิ ทศก์ 2. ผูบ้ รหิ ารโรงเรียน ได้แก่ ครูใหญ่ อาจารย์ใหญ่ ผอู้ านวยการโรงเรียน หรอื อธกิ ารวิทยาลัย ผู้ช่วยครูใหญ่ ผู้ช่วยอาจารย์ใหญ่ ผู้ช่วยผู้อานวยการฝ่ายวิชาการ รองอธิการฝ่ายวิชาการ หวั หน้าคณะวิชา หัวหนา้ สายวิชาตา่ งๆ หวั หนา้ ภาควิชาตา่ งๆ 3. ผู้ท่สี ถานศึกษาเชิญไปใหค้ าแนะนาเปน็ ครั้งคราว 4. ครู – อาจารย์ที่มคี วามร้คู วามสามารถ ยง วัชชวัลคุ (2523 : 42) ได้กล่าวสนับสนุนในเรื่องที่ว่า ผู้บริหารโรงเรียนมีบทบาทต่อการ นิเทศภายในโรงเรียนว่า ครูใหญ่จะต้องรับผิดชอบงานวิชาการของโรงเรียนด้วย ครูใหญ่จึงต้องมีบทบาท ในการนิเทศการศึกษาภายในโรงเรียน งานนี้เป็นงานในหน้าท่ีโดยตรง จะโยนให้เป็นภาระหน้าที่ของ ศึกษานิเทศก์หรือผู้บรหิ ารระดับสงู ขึ้นต่อไปหาได้ไม่ ว่าไปแล้วบุคคลดังกล่าวนั้นมคี วามสาคัญในการนิเทศ การศึกษาภายในโรงเรยี นนอ้ ยกวา่ ครูใหญ่ จากแนวคดิ เก่ียวกับผู้นเิ ทศภายในโรงเรียน พอประมวลได้ว่า ผู้นเิ ทศคือบุคคลใดก็ตามที่มีหน้าที่ ทางานร่วมกับผู้อื่น เพื่อปรับปรุงสมรรถภาพการเรียนการสอน โดยการให้ความช่วยเหลือสนับสนุนให้ ความร่วมมือมากกว่าการแนะนาหรือสั่งการอย่างเดียว สาหรับผู้นิเทศภายในโรงเรียนก็ คือ บุคลากร ภายในโรงเรียน เช่น ผูอ้ านวยการ รองผู้อานวยการ หัวหน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้หรือกลุ่มวชิ าหัวหน้างาน ต่างๆ รวมไปถึงครูผู้สอนที่มีความรคู้ วามสามารถ ความชานาญ และประสบการณ์ ในสาขาวิชาใดวิชา หนึ่ง ที่โรงเรียนได้แต่งต้ังเพ่ือทาหน้าที่คอยช่วยเหลือครูในการปรับปรุงการเรียนการสอนหรือภาระงานท่ี ไดร้ ับมอบหมายใหม้ ีคณุ ภาพยิ่งขึน้ หรอื ดีขึน้ ” บทบำทและหนำ้ ทขี่ องผู้นิเทศกำรศกึ ษำ ผูท้ ม่ี หี น้าทีก่ ารศึกษาในโรงเรยี นจะตอ้ งทราบว่าภาระหนา้ ที่อันถือว่าเปน็ หลักของการนเิ ทศนนั้ เป็น อยา่ งไร เพอื่ จะไดย้ ดึ เป็นแนวทางปฏบิ ตั ิได้ถูกตอ้ ง มดี งั ต่อไปนี้ 1. ช่วยเหลือครใู นการพฒั นาและปรบั ปรงุ ตนเอง 2. สง่ เสริมให้มีการปรับปรงุ หลักสูตร 3. ชว่ ยเหลือครูในการปรับปรุงการสอนของตนให้ดขี ึ้น 4. เปดิ โอกาสให้ผ้เู ชี่ยวชาญในสาขาวชิ าซ่ึงมอี ยู่ในโรงเรียนไดช้ ว่ ยเหลือเพอื่ นครู 5. สง่ เสริมใหค้ ณะครมู ีความสนใจในอปุ กรณ์การสอน 6. ชว่ ยเหลือครูในการทาความเข้าใจเก่ยี วกับเด็กให้ดขี ึน้ 7. ช่วยเหลอื ครใู นการประเมนิ ผลนักเรียน 8. สง่ เสริมกระตุ้นให้ร้จู ักประเมินผลโครงการปฏิบัตงิ านและความก้าวหน้าของตน 9. ชว่ ยใหค้ รูประสบผลสาเร็จและมีความรูส้ ึกมน่ั คง งานนิเทศเป็นงานที่ให้ความช่วยเหลือ แนะนา ส่งเสริม ให้คาปรึกษา ดังน้ัน พอจะสรุปได้ว่า ผู้บรหิ ารโรงเรียนจะตอ้ งรับผิดชอบงานด้านการจัดการนิเทศการศกึ ษา ดงั น้ี 1. ช่วยครูแต่ละคนในการทาการสอนให้ได้ผลดี ช่วยแกป้ ัญหาในดา้ นการสอนและปัญหาส่วนตวั 2. เป็นผู้ประสานงานและบรกิ ารแก่ครทู ุกคนในด้านวธิ ีการสอน

19 3. ทาหน้าท่ีเป็นวิทยากรท่ีดีของครูทุกโอกาส สามารถให้คาปรึกษาแนะนาชี้แจง ช้ีแหล่ง วิชาการท่เี หมาะสมใหแ้ กค่ รู 4. ประเมินผลการเรียนการสอน เพ่ือหาลู่ทางในการปรับปรุงการเรียนการสอน และการจัด โปรแกรมของโรงเรยี นใหม้ ีประสทิ ธภิ าพสงู สุด 5. สร้างขวญั ของครูใหอ้ ย่ใู นสภาพสูง 6. ส่งเสริมสนับสนนุ และพฒั นาวชิ าชีพครใู ห้กา้ วหนา้ สาหรับบทบาทของผู้บริหารในฐานะผู้นิเทศ คิมบอลล์ ไวลส์ และ จอห์น ที โลเวล สรุป ความเห็นไวว้ า่ ผบู้ รหิ ารควรมบี ทบาทดงั นี้ ก. บทบาทในด้านมนุษยสัมพันธ์ ผู้บริหารมีหน้าที่ทาให้เกิดความเข้าใจอันดีภายในกลุ่มและ มิให้เกิดความขดั แย้งภายในกลุ่ม ข. บทบาทในฐานะเปน็ ผูน้ า ผ้บู ริหารทาหนา้ ที่ดังน้ี 1. พฒั นาความเปน็ ผ้นู าใหเ้ กดิ ขน้ึ แก่ตวั ผู้อื่น 2. ช่วยให้ผ้อู ่นื มสี ว่ นร่วมในการตัดสนิ ใจ 3. ให้ผ้อู ่นื มีสว่ นรว่ มในการตัดสนิ ใจ 4. ใหผ้ อู้ น่ื มสี ว่ นร่วมในการใช้อานาจและใหผ้ อู้ นื่ มสี ่วนร่วมในการรบั ผดิ ชอบ ค. บทบาทในดา้ นการจดั แนะนาดาเนนิ การในหนว่ ยงาน ผู้บรหิ ารมีหนา้ ทีด่ ังนี้ 1. พัฒนาในดา้ นการจัดและการดาเนนิ งานในโรงเรยี น 2. ชว่ ยให้การดาเนินงานตา่ ง ๆ ดาเนนิ ไปอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ 3. การตัดสินใจใด ๆ ก็ตามต้องดาเนินไปตามข้นั ตอน 4. เมอ่ื กลุม่ ใดตดั สนิ ใจไปแลว้ ต้องไม่มีการยับย้งั 5. พยายามทาใหท้ กุ คนมีเปา้ หมายอันเดยี วกัน เพ่ือใหเ้ กิดวนิ ัย 6. ส่งเสริมให้ทุกคนมวี ินยั ในตนเอง ง. บทบาทในการคดั เลอื กและการใชป้ ระโยชน์บคุ ลากร ผูบ้ ริหารมหี นา้ ท่ดี งั นี้ 1. พจิ ารณาเลือกบคุ ลากรใหม่ให้ตรงตามความตอ้ งการ โดยให้ครมู สี ่วนร่วม 2. ช่วยให้บุคลากรใหม่รู้สึกวา่ เป็นท่ตี อ้ งการของโรงเรียน 3. ดาเนนิ การวัดผลของครหู ลาย ๆ วิธี เพื่อใหก้ ารวดั ผลเปน็ ไปอย่างยตุ ธิ รรม 4. การตั้งบคุ ลากรใหป้ ฏบิ ตั งิ านต้องคานงึ ถงึ ความเหมาะสม จ. บทบาทในการสร้างขวัญของครู ผบู้ ริหารมีหน้าท่ีดังตอ่ ไปน้ี 1. ชว่ ยใหค้ รูพอใจในงานทท่ี า 2. ช่วยให้ครูมคี วามสะดวกสบาย ปลอดภยั ในการทางาน 3. ช่วยให้ครมู ีสว่ นรว่ มในการวางโครงการและนโยบายต่าง ๆ 4. ช่วยใหค้ รูเช่อื มั่นในความสามารถของตน 5. ช่วยใหค้ รรู ้สู ึกว่าตนเองมคี วามสาคัญและเปน็ ทต่ี อ้ งการ 6. จดั ให้มีบริการตา่ ง ๆ เช่น คูม่ ือครู การศึกษาต่อ การอบรมตามทีค่ รูต้องการ

20 ฉ. บทบาทในการพัฒนาบคุ ลากร ผบู้ รหิ ารมีหนา้ ท่ีดงั นี้ 1. จดั ให้มกี ารอบรมในหนว่ ยงานโดยจัดใหต้ รงตามความต้องการ 2. การประชมุ ทีจ่ ัดขึน้ ชว่ ยใหค้ รมู คี วามก้าวหนา้ 3. ใช้วิธีการสังเกตการสอน แต่ต้องให้ครูใหญแ่ ละครผู ูส้ อนมีความเขา้ ใจซึง่ กันและกัน 4. ใช้วิธกี ารวดั ผลเพอ่ื พัฒนาบุคลากร เพ่ือใหเ้ กดิ ประสิทธภิ าพดา้ นการเรยี นการสอน กำรนเิ ทศและกำรรำยงำนผลกำรนิเทศภำยใน แนวทางการพัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาของสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ในปีการศึกษา 2562 น้ี ให้ความสาคัญกับการนิเทศ ตดิ ตามและประเมินผลการพัฒนาคุณภาพการ จดั การศึกษาอย่างต่อเนื่อง ท้ังการนิเทศโดยศึกษานิเทศก์ บุคลากรทางการศึกษา และผู้บริหารการศึกษา ระดับเขตพ้ืนที่การศึกษา ตลอดจนการนิเทศภายในโดยผู้บริหารโรงเรียนและครูวิชาการ จึงกาหนดให้ ผู้บริหารโรงเรียนนิเทศ กากับ ติดตามผลการดาเนินงานอย่างต่อเน่ือง และรายงานผลการนิเทศไปยัง สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ภาคเรียนละ 1 ครั้ง (เดือนตุลาคม และเดือน มีนาคม)

21 บทที่ 3 วธิ ีดำเนินกำรพฒั นำ รายงานผลการนิเทศ ติดตามและประเมนิ คณุ ภาพการจดั การศกึ ษาของสถานศึกษา ตามโครงการ นิเทศบรู ณาการโดยใชพ้ ืน้ ทีเ่ ปน็ ฐาน ปีการศึกษา 2562 สานกั งานเขตพื้นทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาพษิ ณุโลก เขต 3 ผู้รายงานไดด้ าเนินการรายงานตามลาดบั หัวข้อดงั ต่อไปนี้ คือ 1. ความมงุ่ หมาย 2. กลุ่มเป้าหมาย 3. เคร่อื งมอื ท่ีใช้ในการพัฒนา 4. การสร้างและหาคุณภาพเครอ่ื งมือทใ่ี ชใ้ นการพัฒนา 5. วธิ ีดาเนินการพฒั นา 6. การวเิ คราะหข์ ้อมลู 7. สถติ ิทใ่ี ช้ในการวเิ คราะห์ข้อมลู ควำมมุ่งหมำย 1. เพอื่ นิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการพฒั นาคณุ ภาพการจดั การศกึ ษาประจาปีการศกึ ษา 2562 ของโรงเรยี นในสงั กดั สานักงานเขตพนื้ ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาพษิ ณโุ ลก เขต 3 2. เพ่อื ศกึ ษาสภาพปัญหา อปุ สรรค จุดเด่น จดุ ทค่ี วรพฒั นา และเสนอแนะแนวทางในการพฒั นา คณุ ภาพการจัดการศกึ ษาของโรงเรยี น ทกุ โรงเรยี นในสงั กดั สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษาประถมศึกษา พิษณโุ ลก เขต 3 3. เพื่อศกึ ษาความพงึ พอใจของครู ผ้บู รหิ าร และบคุ ลากรทางการศกึ ษาที่มีต่อการดาเนนิ โครงการ นิเทศบูรณาการโดยใชพ้ ืน้ ทเ่ี ป็นฐาน กลมุ่ เป้ำหมำย กล่มุ เป้าหมาย ได้แก่ โรงเรียนในสังกัดสานักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาพษิ ณุโลก เขต 3 ปกี ารศกึ ษา 2562 จานวน 163 โรงเรียน เครอื่ งมือท่ใี ชใ้ นกำรพัฒนำ การพฒั นาคุณภาพสถานศกึ ษา สานักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาพิษณโุ ลก เขต 3 มเี คร่ืองมอื ทง้ั เคร่อื งมือทีใ่ ช้ในการพฒั นาและเคร่ืองมือทใ่ี ช้ในการเกบ็ รวบรวมข้อมูล ดังนี้ 1. แผนการนเิ ทศบูรณาการโดยใชพ้ ้ืนทีเ่ ป็นฐาน และแผนการนเิ ทศรายบุคคลของศกึ ษานเิ ทศก์ 2. ค่มู ือการนิเทศบูรณาการโดยใชพ้ ื้นที่เป็นฐาน 3. เอกสารแนวทางการยกระดบั ผลสมั ฤทธ์ิทางการเรยี น 4. เอกสารแนวทางการพัฒนานกั เรยี นด้านการอ่านการเขียน 5. แนวทางการจดั กิจกรรมลกู เสือแบบเข้มขน้ (Scout all day)

22 กำรสรำ้ งและหำคุณภำพของเครือ่ งมอื ทีใ่ ช้ในกำรพัฒนำ กระบวนการสร้างและหาคุณภาพของเคร่อื งมือทใี่ ชใ้ นการพัฒนาคุณภาพการจดั การศึกษา ผรู้ ายงานนาเสนอรายละเอยี ดตามลาดบั ของเครอ่ื งมือดงั น้ี คือ 1. คูม่ อื การนเิ ทศบูรณาการโดยใชพ้ ้นื ทเี่ ปน็ ฐาน ปกี ารศกึ ษา 2562 สานักงานเขตพ้นื ท่ีการศึกษา ประถมศึกษาพษิ ณุโลก เขต 3 มขี ้ันตอนการสรา้ งและหาคุณภาพ ดงั นี้ คือ 1.1 แตง่ ตั้งคณะกรรมการจัดทาคมู่ ือการนิเทศบูรณาการโดยใชพ้ ืน้ ทเ่ี ป็นฐาน ปีการศกึ ษา 2562 ของสานกั งานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศึกษาพิษณโุ ลก เขต 3 ประกอบดว้ ย ครู ผู้บรหิ ารโรงเรียน ศึกษานิเทศก์ คณะกรรมการตดิ ตาม ตรวจสอบประเมนิ ผลและนิเทศการศกึ ษา (ก.ต.ป.น.) รองผู้อานวยการ สานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศกึ ษา ผู้อานวยการกลุ่ม และเจ้าหน้าที่ทม่ี ีส่วนเกี่ยวขอ้ ง 1.2 คณะกรรมการศึกษาวิเคราะห์นโยบายของรัฐบาล กลยุทธ์ของสานกั งานคณะกรรมการ การศกึ ษาข้นั พืน้ ฐาน นโยบายและเอกลกั ษณ์ของจังหวัดพษิ ณโุ ลก และนโยบายทเ่ี ปน็ จุดเนน้ ของ สานักงานเขตพน้ื ที่การศึกษาประถมศกึ ษาพษิ ณโุ ลก เขต 3 1.3 กาหนดกรอบโครงสรา้ งและรายละเอยี ดของคมู่ ือการนิเทศบูรณาการโดยใช้พ้ืนท่เี ปน็ ฐาน ปีการศึกษา 2562 ตามมาตรฐานการศึกษาของสานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐานและนโยบายท่ี เปน็ จุดเน้นของสานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาพิษณโุ ลก เขต 3 1.4 ดาเนนิ การจัดทาค่มู ือการนเิ ทศบรู ณาการโดยใช้พืน้ ทเ่ี ป็นฐาน ปีการศกึ ษา 2562 1.5 นาคมู่ อื การนเิ ทศบรู ณาการโดยใช้พ้นื ทเี่ ปน็ ฐาน ปีการศกึ ษา 2562ไปให้คณะกรรมการ ติดตามตรวจสอบประเมนิ ผลและนเิ ทศการศึกษา พิจารณาความเหมาะสม ความถูกตอ้ ง และสามารถ นาไปใช้ได้ 1.6 ปรับปรุง แกไ้ ข และพฒั นาคมู่ ือการนิเทศบูรณาการโดยใชพ้ น้ื ท่เี ปน็ ฐาน ปีการศกึ ษา 2562 ตามความคดิ เห็นและขอ้ เสนอแนะของคณะกรรมการ 1.7 เผยแพร่คูม่ อื การนเิ ทศบรู ณาการโดยใช้พน้ื ท่ีเป็นฐาน ปีการศึกษา 2562 พรอ้ มทจ่ี ะให้ครู ผ้บู รหิ ารและบุคลากรทางการศกึ ษานาไปใช้ 2. เอกสารแนวทางการพัฒนาคณุ ภาพการจดั การศึกษาในด้านต่าง ๆ ศกึ ษานิเทศกผ์ ้รู บั ผิดชอบ โครงการได้ดาเนินการรวบรวมขอ้ มูลแนวทางการพัฒนาจากข้อมลู ทไ่ี ดร้ ับจากการอบรม ประชมุ สัมมนา และเอกสารความรู้จากหน่วยงานท่เี กยี่ วข้อง จัดทาเปน็ เอกสารแนวดาเนินการให้แก่ครู ผบู้ รหิ าร 3. แบบประเมนิ คุณภาพสถานศึกษาสาหรับคณะกรรมการประเมิน 3.1 ศกึ ษา วเิ คราะหอ์ งคป์ ระกอบของคูม่ อื การนเิ ทศบรู ณาการโดยใชพ้ ืน้ ท่เี ปน็ ฐาน ปีการศกึ ษา 2562 3.2 จัดทาแบบประเมนิ ตามตวั ชี้วัดในคู่มือการนิเทศบรู ณาการโดยใช้พน้ื ทเี่ ปน็ ฐาน ปีการศึกษา 2562 ตามมาตรฐานการศึกษาของสานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พนื้ ฐานและนโยบาย ทีเ่ ปน็ จุดเนน้ ของสานักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาพิษณุโลก เขต 3 วธิ ดี ำเนินกำรพฒั นำ เมอ่ื สานกั งานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาพิษณโุ ลก เขต 3 ดาเนนิ การสรา้ งและพฒั นา เคร่อื งมอื ท่ีใชใ้ นการพฒั นาท่ปี ระกอบด้วยคู่มอื การนเิ ทศบูรณาการโดยใชพ้ ื้นทเี่ ปน็ ฐาน ปีการศกึ ษา 2562 และแบบประเมินเสรจ็ เรียบรอ้ ยแล้วจงึ ดาเนนิ การพฒั นา โดยมีข้นั ตอนการดาเนินการพฒั นา ดงั น้ี

23 1. เผยแพร่ค่มู อื การนิเทศบรู ณาการโดยใชพ้ ื้นทีเ่ ป็นฐาน ปีการศกึ ษา 2562 ใหก้ ค่ รู ผู้บริหารและ บ๕ุ ลากรทางการศกึ ษาทกุ คนในสงั กดั สานักงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศกึ ษาพษิ ณุโลก เขต 3 เพือ่ ใช้ เป็นแนวทางในการพฒั นาคณุ ภาพการจัดการศกึ ษา 2. ดาเนินการนเิ ทศ ตดิ ตามผลการพัฒนาสถานศึกษาอย่างต่อเน่อื ง โดยเรม่ิ ตั้งแต่การประเมิน ความพรอ้ มวันเปิดภาคเรียน ในระหว่างภาคเรยี นมีการนิเทศ ตดิ ตามเพอ่ื พัฒนาสถานศกึ ษาดว้ ยวิธีการท่ี หลากหลาย เช่น การจัดประชมุ การอบรม การศึกษาดงู าน การเยย่ี มเยียน และการทาวิจัย 3. ดาเนนิ การประเมินผลการพฒั นาคณุ ภาพการจดั การศึกษา ความพงึ พอใจของครู ผู้บริหาร โรงเรียน ปญั หาอปุ สรรคในการพฒั นาในช่วงปลายภาคเรยี นท่ี 2 4. วเิ คราะห์ สรุปและเขยี นรายงานผลการนเิ ทศ ติดตามและประเมินผลการจดั การศึกษาเพ่อื นาเสนอ เผยแพร่ และประชาสมั พันธ์ให้แก่ครู ผู้บริหารโรงเรยี น บคุ ลากรและองคก์ รทเี่ ก่ียวขอ้ งกับการจัด การศึกษาเพอ่ื นาไปใช้เป็นข้อมูลในการวางแผนพฒั นาคณุ ภาพการจัดการศกึ ษาต่อไป กำรวเิ ครำะห์ขอ้ มูล ผูร้ ายงานใชข้ อ้ มลู จากการเก็บรวบรวมตามแบบประเมนิ คณุ ภาพการจดั การศกึ ษา และข้อมูลจาก คณะกรรมการประเมินในด้านความพึงพอใจของครู ผบู้ รหิ ารโรงเรยี น ปญั หาอปุ สรรค ในการพฒั นา โดยยดึ การวิเคราะห์ขอ้ มลู เพ่ือให้ไดข้ ้อคน้ พบตามความมงุ่ หมายดงั น้ี 1. การวเิ คราะห์ความพึงพอใจของครู ผบู้ รหิ าร สภาพปัญหาในการจดั การศกึ ษา จุดเดน่ จุดทค่ี วร พฒั นา และข้อเสนอแนะ ใชก้ ารวิเคราะห์เนือ้ หา (content analysis) ซงึ่ เปน็ ขอ้ มลู เชงิ คณุ ภาพ ท่ไี ด้จาก การสงั เกต สมั ภาษณ์นักเรียน ครู ผู้บรหิ าร และบคุ ลากรทเ่ี กี่ยวขอ้ งในโรงเรยี น สถติ ทิ ี่ใชใ้ นกำรวิเครำะห์ขอ้ มลู การรายงานผลการพัฒนาคุณภาพสถานศกึ ษาตามคมู่ อื ประเมนิ คุณภาพการจดั การศึกษา ใชค้ ่าทาง สถติ ิ ดงั น้ี 1. ร้อยละ (Percentage) เป็นสถิติที่ใช้กันมากท่ีสดุ ในงานวจิ ยั เพราะสามารถคานวณ และทาความเขา้ ใจได้ง่าย การคานวณใช้สูตร ดังนี้ (พสิ ณุ ฟองศรี, 2551 : 161) รอ้ ยละ = ตัวเลขทีต่ อ้ งการเปรียบเทียบ  100 จานวนเต็ม 2. คำ่ เฉล่ียคา่ เฉล่ยี (ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ, 2538 : 78 ) X  X N เม่อื X คอื ค่าเฉลย่ี X คอื ผลรวมของคะแนนท้ังหมด N คือ จานวนข้อมลู ท้งั หมด

24 บทที่ 4 ผลกำรวเิ ครำะหข์ ้อมูล รายงานผลการนิเทศ ติดตามและประเมนิ คุณภาพการจัดการศึกษาของสถานศกึ ษาในสงั กดั สานักงานเขตพนื้ ท่ีการศกึ ษาประถมศกึ ษาพษิ ณโุ ลก เขต 3 ประจาปกี ารศกึ ษา 2562 ผู้รายงานนาเสนอ รายละเอยี ดผลการวิเคราะห์ข้อมูลตามลาดบั ดังน้ี ตอนที่ 1 ผลการนเิ ทศรายโรงเรยี น ตอนที่ 2 ผลการประเมนิ ความพงึ พอใจของครู ผ้บู ริหารและบุคลากรทางการศึกษา ตอนที่ 3 ปญั หา อุปสรรค และข้อเสนอแนะ ตอนท่ี 1 ผลกำรนิเทศรำยโรงเรียน การนิเทศ ตดิ ตามและประเมินคณุ ภาพการจัดการศึกษาของสถานศกึ ษาในสงั กดั สานักงานเขต พน้ื ที่การศกึ ษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 ประจาปีการศกึ ษา 2562 ในคร้ังน้ี สานกั งานเขตพ้นื ท่ี การศกึ ษาประถมศกึ ษาพษิ ณโุ ลก เขต 3 ได้แตง่ ตั้งคณะกรรมการนิเทศ ติดตามและประเมนิ ผลการพฒั นา คณุ ภาพการจดั การศึกษาทุกแห่งในสังกดั จานวนทง้ั สนิ้ 163 โรงเรยี น และนาเสนอผลการนิเทศ ติดตาม เป็นรายโรงเรียน ดังนี้ เครือข่ำยโรงเรยี นวดั โบสถ์ 1 โรงเรียนชมุ ชนบ้ำนท่ำงำม โรงเรยี นชมุ ชนวัดทา่ งาม เป็นโรงเรยี นขนาดเล็ก มจี านวนนักเรยี น ทงั้ สนิ้ 85 คน (ขอ้ มลู ณ 10 พ.ย.2562) ครูและบคุ ลากรทางการศึกษา จานวน 5 คน ผอู้ านวยการโรงเรียนชื่อ นางณัฐธยาน์ ชมภูน้อย ผลกำรพัฒนำคณุ ภำพกำรจัดกำรศึกษำ 1. ผลการทดสอบ O-NET ค่าเฉล่ียรวม ป.6 41.92 ค่าเฉลย่ี รวม สูงกว่าระดับชาติ  สงู กวา่ ปกี ารศึกษา 2561 ร้อยละ ………-…… คา่ เฉลย่ี สูงกว่าระดบั ชาติ 3 กลุม่ สาระฯ ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วทิ ยาศาสตร์ 2. ผลการประเมินทกั ษะการอ่านของนกั เรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 – 6 ทอ่ี ่านคลอ่ งในระดบั ดีข้นึ ไปคดิ เป็นรอ้ ยละ 100 3. ผลการสอบ RT ของนักเรียนช้ัน ป.1 ดา้ นการอา่ นออกเสียง คะแนนเฉลี่ยรอ้ ยละ 100 4. ผลการจัดกิจกรรมลกู เสอื แบบเข้ม (Scout all day) โรงเรียนจัดกิจกรรมลูกเสอื แบบเข้มตามแนวกจิ กรรม .......1 วัน/สปั ดาห.์ ขา้ ราชการครูและบคุ ลากรทางการศึกษามสี ่วนร่วม รอ้ ยละ.........100........

25 สรุปจุดเดน่ และสง่ิ ทป่ี ระสบควำมสำเร็จของโรงเรยี น -จดุ เด่น 1. เป็นโรงเรียนขนาดเลก็ ทมี่ สี ว่ นร่วมของคณะกรรมการสถานศกึ ษา ผู้ปกครอง ชมุ ชนทีเ่ ข้มแขง็ 2. มีการบริหารจัดการอย่างระบบ เนื่องจากโครงสร้างของโรงเรียนชัดเจน มกี ารแบ่งหน้าที่อย่าง เหมาะสม 3. การบริหารจัดการแหล่งเรียนรู้ท้ังภายในและภายนอกโรงเรียนเกี่ยวกับเศรษฐกิจพอเพียงและ การนาสูอ่ าชีพทม่ี ีรายได้ใหก้ บั นกั เรียน -สง่ิ ทปี่ ระสบควำมสำเร็จ 1. รางวัลการประกวดการแข่งขันโครงการคุณธรรม ป.1 – ป.3 งานมหกรรมความสามารถทาง ศลิ ปหัตถกรรม วชิ าการและเทคโนโลยขี องนกั เรยี น ระดับชาตปิ กี ารศึกษา 2562 2. รางวลั เหรียญทองแข่งขนั การทาอาหาร ประเภทนักเรียนท่ีมีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ป.1 – ป.6 งานมหกรรมความสามารถทางศิลปหัตถกรรม วิชาการและเทคโนโลยีของนักเรียน ระดับชาติปี การศึกษา 2562 3. รางวัลการประกวดการแข่งขันโครงการคุณธรรม ป.1 – ป.3 งานมหกรรมความสามารถทาง ศิลปหตั ถกรรม วชิ าการและเทคโนโลยขี องนักเรยี น ระดบั เขตพื้นที่การศกึ ษา 2562 4. รางวัลเหรียญทองแข่งขันการทาอาหาร ประเภทนักเรียนท่ีมีความบกพร่องทางการเรียนรู้ ป.1 – ป.6 งานมหกรรมความสามารถทางศิลปหัตถกรรม วิชาการและเทคโนโลยีของนักเรียน ระดับเขตพื้นที่ การศกึ ษา 2562 5. รางวัลการประกวดการแข่งขันโครงการคุณธรรม ป.4– ป.6 งานมหกรรมความสามารถทาง ศลิ ปหัตถกรรม วชิ าการและเทคโนโลยขี องนกั เรียน ระดับเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษา 2562 6. รางวัลเหรียญทอง การแข่งขันทาน้าพริก ผักสด เครื่องเคียง ป.4– ป.6 งานมหกรรม ความสามารถทางศิลปหัตถกรรม วิชาการและเทคโนโลยีของนักเรยี น ระดบั เขตพ้ืนทก่ี ารศึกษา ปีการศกึ ษา 2562 7. รางวัลเหรียญทอง การแข่งขันทาอาการคาว ป.4– ป.6 งานมหกรรมความสามารถทาง ศลิ ปหตั ถกรรม วชิ าการและเทคโนโลยีของนักเรียน ระดบั เขตพ้ืนท่กี ารศึกษา ปีการศกึ ษา 2562 8. รบั รางวลั โรงเรยี นดีไมม่ ีอบายมุข ประจาปกี ารศกึ ษา 2562 9. โรงเรยี นระดบั คุณธรรมระดับดเี ย่ยี ม ตามโรงเรียนคุณธรรมระดับ สพฐ 10. เป็นโรงเรียนแกนนาการศึกษาเรียนรวม สรปุ จุดทโี่ รงเรียนควรพฒั นำ 1. ฝึกเทคนคิ กิจกรรมการเรียนการสอนท่ีหลากหลาย 2. ฝึกเทคนิคการวิเคราะห์ การกล้าแสดงความคิดเหน็ และแสดงออกของนกั เรยี น 3. จดั หาสอื่ เทคโนโลยที ท่ี ันสมัย และนา่ สนใจ ใหก้ บั นักเรียนอย่างเพียงพอ เช่น คอมพวิ เตอร์ 4. เทคนคิ การจัดการเรียนการสอนทักษะกระบวนการคิด

26 โรงเรียนบ้ำนคลองชำ้ ง โรงเรยี นบา้ นคลองช้าง เปน็ โรงเรียนขนาดเลก็ บุคลากรในโรงเรยี น 7 คน มนี กั เรียนทัง้ หมด 60 คน บริหารงานโดย นางสาวพัลลภา ตุ้ยเตม็ วงศ์ ผลกำรพัฒนำคุณภำพกำรจัดกำรศึกษำ 1. ผลการทดสอบ O-NET คา่ เฉล่ียรวม ป.6 เท่ากบั 37.24 คา่ เฉลย่ี รวม  สูงกว่าระดับชาติ  สูงกวา่ ปีการศึกษา 2561 รอ้ ยละ.......-...... 2. ผลการประเมินทกั ษะการอา่ นของนกั เรยี นชัน้ ประถมศกึ ษาปีที่ 1 – 6 ทอ่ี ่านคล่องในระดบั ดี ข้นึ ไปคิดเปน็ รอ้ ยละ 97.65 3. ผลการสอบ RT ของนกั เรียนชน้ั ป.1 ดา้ นการอา่ นออกเสียง คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 83.33 4. ผลการจัดกิจกรรมลูกเสือแบบเข้ม (Scout all day) โรงเรยี นจัดกิจกรรมลกู เสือแบบเขม้ ตาม แนวกิจกรรม .1 วนั /สัปดาห.์ ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษามีส่วนรว่ ม ร้อยละ.........100........ สรุปจดุ เด่นและสง่ิ ท่ีประสบควำมสำเร็จของโรงเรียน จุดเดน่ 1.โรงเรยี นบรหิ ารจัดการอยา่ งเป็นระบบ มีการพัฒนางาน 4 งานอย่างชัดเจน 2. โรงเรยี นจดั บริเวณสิ่งแวดล้อมภายในโรงเรยี นเอือ้ ต่อการจัดการเรียนการสอน 3. โรงเรยี นเนน้ การจัดการเรียนการสอนดนตรีไทยพ้นื บ้าน สง่ เสริมใหน้ กั เรียนมที ักษะการเล่นดนตรีไทย และเน้นตระหนักความเป็นไทย 4. ครมู ีประสบการณ์จัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ มีการวเิ คราะห์นักเรียนเป็นรายบุคคล สง่ เสริมความรู้ความสามารถ ความถนดั ของนกั เรียนเป็นรายบคุ คล สรุปจดุ ทีโ่ รงเรยี นควรพัฒนำ 1. เทคนิคการจัดการเรียนการสอนภาษาอังกฤษดา้ นการสอ่ื สารในชวี ิตประจาวนั 2. การจดั การเรยี นการสอนทักษะกระบวนการคดิ โดยใชน้ ักเรียนเป็นฐาน

27 โรงเรยี นบ้ำนทำ่ กระดนุ โรงเรยี นบา้ นท่ากระดุนเปน็ โรงเรยี นขนาดเลก็ มจี านวนนกั เรยี นท้งั สนิ้ 28 คน ครูและบคุ ลากร ทางการศกึ ษา จานวน 2 คน ผู้บริหารโรงเรยี นชอื่ นายพงษศ์ ักดิ์ บญุ เหลอื ผลกำรพฒั นำคุณภำพกำรจดั กำรศึกษำ 1. ผลการทดสอบ O-NET คา่ เฉลยี่ รวม ป.6 เทา่ กับ 41.31 คา่ เฉลยี่ รวม  สงู กว่าระดบั ชาติ  สูงกว่าปีการศึกษา 2561 รอ้ ยละ.......-...... สงุ กวา่ ระดับประเทศ 2 สาระการเรยี นรู้ ได้แก่ ภาษาไทย คณติ ศาสตร์ 2. ผลการประเมนิ ทักษะการอา่ นของนกั เรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 – 6 ท่อี ่านคลอ่ งในระดับดี ขึ้นไปคิดเปน็ รอ้ ยละ 89.47 3. ผลการสอบ RT ของนักเรียนช้นั ป.1 ดา้ นการอ่านออกเสียง คะแนนเฉล่ยี รอ้ ยละ 75 .00 4. ผลการจัดกิจกรรมลกู เสอื แบบเข้ม (Scout all day) โรงเรียนจดั กิจกรรมลูกเสือแบบเข้มตาม แนวกิจกรรม .......1 วนั /สปั ดาห.์ ข้าราชการครูและบคุ ลากรทางการศกึ ษามสี ว่ นร่วม ร้อยละ.........100........ สรปุ จุดเด่นและสงิ่ ท่ีประสบควำมสำเร็จของโรงเรียน -จุดเดน่ 1. โรงเรียนเป็นศูนย์การเรียนรู้เรอ่ื งการจัดการขยะร่วมกับหมู่บ้าน ซ่ึงมีหน่วยงานอื่นๆมาศึกษาดู งานอย่างตอ่ เน่ือง 2. การแข่งขันศิลปะหัตกรรมได้รับรางวัลเหรียญเงินการแข่งขันวาดรปู โดยโปรแกรมPaint ระดับ เขตพื้นที่ ครั้งท่ี 69 ปกี ารศกึ ษา 2562 3. โรงเรยี นไดจ้ ัดจดั กจิ กรรมตามแนวพระราชดารัสเศรษฐกจิ พอเพยี ง สรปุ จุดท่โี รงเรียนควรพฒั นำ 1.การพัฒนาเทคนิคการจัดการเรียนการสอนโดยการใช้รูปแบบ NEW DLTV ที่สร้างความสนใจ ให้กับนักเรียนและสอดคลอ้ งกบั มาตรฐานการเรยี นรู้ ตามตัวช้วี ดั 2.การพัฒนาส่ิงแวดล้อมท่ีเอื้อต่อการเรียนรใู้ นห้องเรียน จัดการเรียนรู้โดยการใช้สื่อ เทคโนโลยี ที่ สอดคลอ้ งกับวยั ของผเู้ รยี น 3. การพฒั นาเทคนิคการจดั การเรียนการสอนทกั ษะกระบวนการคิดตามวัยของผเู้ รียน 4. การจัดการบริหารจดั การระบบงานท้ัง 4 งานท่ีเป็นระบบและสอดคล้องกบั ขอบข่ายการทางาน ให้เหมาะสมกับบริบทของโรงเรยี น

28 โรงเรียนบ้ำนเนนิ มะคดึ โรงเรียนบา้ นเนนิ มะคดึ เป็นโรงเรียนขนาดเลก็ มีจานวนนกั เรียนทัง้ สิ้น 44 คน ครูและบคุ ลากร ทางการศึกษา จานวน 4 คน ผู้บรหิ ารโรงเรียนชอ่ื นางสาวปญั ญพร เดชขจร ผลกำรพัฒนำคณุ ภำพกำรจดั กำรศึกษำ 1. ผลการทดสอบ O-NET ค่าเฉลยี่ รวม ป.6 เท่ากับ 42.28 ค่าเฉล่ียรวม  สงู กวา่ ระดับชาติ  สูงกว่าปีการศกึ ษา 2561 ร้อยละ.......-...... ค่าเฉล่ยี สูงกว่าระดับประเทศทงั้ 4 สาระการเรยี นรู้ ไดแ้ ก่ คณิตศาสตร์ ภาษไทย วิทยาศาสตร์ อังกฤษ 2. ผลการประเมนิ ทกั ษะการอ่านของนักเรียนช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 – 6 ทอ่ี ่านคลอ่ งในระดบั ดี ขน้ึ ไปคิดเป็นร้อยละ 96.97 3. ผลการสอบ RT ของนกั เรียนช้ัน ป.1 ดา้ นการอา่ นออกเสียง คะแนนเฉลย่ี ร้อยละ 88.88 4. ผลการจัดกจิ กรรมลกู เสือแบบเข้ม (Scout all day) โรงเรียนจัดกิจกรรมลกู เสอื แบบเข้มตาม แนวกจิ กรรม ..1 วัน/สัปดาห์. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีส่วนร่วม รอ้ ยละ.........100........ สรุปจดุ เด่นและสง่ิ ท่ปี ระสบควำมสำเรจ็ ของโรงเรียน -จดุ เดน่ 1.จัดการบริหารงานไดอ้ ยา่ งเปน็ ระบบ มีโครงสรา้ งการบรหิ ารทช่ี ัดเจน วเิ คราะห์การบริหารงานทง้ั งานเปน็ แนวทางการปฏิบตั ทิ ีส่ อดคล้องกบั บริบทของโรงเรยี น 2. การจัดสภาพสิง่ แวดลอ้ มเอื้อตอ่ การเรียนรูท้ ั้งภายในหอ้ งเรียนและส่ิงแวดลอ้ มภายนอกหอ้ งเรียน 3. จดั การบริหารการมีส่วนรว่ มกบั คณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพื้นฐานได้รับการสนับสนุนจาก ชมุ ชนและผูป้ กครอง ได้รบั ความร่วมมอื จากทุกฝ่ายอยา่ งเป็นระบบและมีประสิทธภิ าพ 4. การจดั การเรยี นการสอนโดยเน้นผเู้ รยี นเป็นสาคัญ มกี ารวิเคราะห์หลกั สูตร มาตรฐานตัวชี้วดั ท่ี สอดคล้องตามวัยของผเู้ รยี นโดยเน้นการสอนรูปแบบ NEW DLTV และการสอนแบบบูรณาการ 5.มีผลทดสอบความสามารถ NT ชัน้ ป.3 ความสามารถไดค้ ะแนนอันดับ 1 ของ สานกั งานเขตพืน้ ที่ การศกึ ษาประถมศึกษาพิษณโุ ลก เขต 3 สรปุ จุดท่ีโรงเรยี นควรพัฒนำ 1. การจดั การเรยี นการสอนทกั ษะกระบวนการคดิ 2. การพฒั นาการยกผลสัมฤทธิท์ างการเรียนสูงกวา่ ระดบั ชาติอยา่ งตอ่ เน่อื ง

29 บ้ำนวัดโบสถ์ (บำรงุ วุฒิวทิ ยำ) โรงเรียนบา้ นวดั โบสถ์ (บารุงวฒุ ิวทิ ยา) เป็นโรงเรยี นขนาดกลาง มีจานวนนักเรียนทัง้ สน้ิ 182 คน ครูและบุคลากรทางการศกึ ษา จานวน 13 คน ผู้บรหิ ารโรงเรยี นช่ือ นายพงษศ์ ักด์ิ บญุ เหลือ ผลกำรพฒั นำคุณภำพกำรจดั กำรศึกษำ 1. ผลการทดสอบ O-NET คา่ เฉลี่ยรวม ป.6 เท่ากับ 30.39 คา่ เฉลี่ยรวม  สูงกว่าระดับชาติ  สูงกว่าปีการศึกษา 2561 ร้อยละ.......-...... 2. ผลการประเมินทักษะการอา่ นของนกั เรียนช้ันประถมศกึ ษาปที ี่ 1 – 6 ที่อ่านคลอ่ งในระดับดี ขนึ้ ไปคดิ เปน็ ร้อยละ 96.19 3. ผลการสอบ RT ของนักเรียนชน้ั ป.1 ด้านการอา่ นออกเสยี ง คะแนนเฉลย่ี ร้อยละ 100 4. ผลการจัดกิจกรรมลูกเสอื แบบเข้ม (Scout all day) โรงเรยี นจดั กิจกรรมลูกเสือแบบเข้มตาม แนวกจิ กรรม ..1 วัน/สัปดาห์. ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีส่วนร่วม ร้อยละ.........100........ สรปุ จดุ เด่นและสง่ิ ท่ปี ระสบควำมสำเรจ็ ของโรงเรยี น จดุ เด่น 1. โรงเรยี นมีบคุ ลากรครบช้นั และตรงตามสาระการเรยี นรู้ 2. โรงเรียนจดั การเรียนการสอนโดยการเน้นผู้เรยี นเป็นสาคัญทสี่ อดคลอ้ งตามวัยของผู้เรยี น 3. โรงเรียนมีแผนการจัดกิจกรรมสงเสริมทักษะอาชีพให้กับนักเรียนในแต่ระดับช้ันให้นักเรียนมี พ้นื ฐานการประกอบอาชพี และเรยี นรูอ้ าชีพในท้องถ่นิ 4.โรงเรียนจัดระบบดูแลช่วยเหลือนกั เรียนอย่างเป็นระบบและตดิ ตามการช่วยเหลือเป็นรายบุคคล ที่เข้มแข็ง สรปุ จดุ ที่โรงเรยี นควรพัฒนำ 1. การพัฒนาการใช้ส่ือการสอน และการใช้สื่อท่ีสนับสนุนการเรียนการสอนและการจัดการ เรยี นรู้ 2. การพัฒนาแนวทางการจดั การเรียนการสอนโดยยดึ ผู้เรียนเปน็ สาคญั ที่สอดคล้องกบั มาตรฐาน การเรียนรู้และตวั ชวี้ ดั 3. การพฒั นาวิเคราะห์ การนาหลกั สตู รไปใช้ให้เหมาะสมและสอดคล้องบรบิ ทตัวผู้เรยี น 4. เทคนคิ การจดั การเรยี นการสอนรูปแบบ NEW DLTV

30 โรงเรียนบำ้ นหนองมะคงั (จ่ำงอนสุ รณ์) โรงเรียนบ้านหนองมะคงั เปน็ โรงเรยี นขนาดเลก็ มจี านวนนกั เรยี นทง้ั สิ้น 41 คน ครูและบุคลากร ทางการศึกษา จานวน คน รกั ษาการในตาแหน่งผูอ้ านวยการโรงเรียนชอื่ นางศศภิ ทั ร ผลกำรพัฒนำคุณภำพกำรจัดกำรศึกษำ 1. ผลการทดสอบ O-NET ค่าเฉลีย่ รวม ป.6 เท่ากบั 35.41 คา่ เฉลี่ยรวม  สูงกวา่ ระดับชาติ  สูงกว่าปกี ารศึกษา 2561 รอ้ ยละ.......-...... 2. ผลการประเมินทักษะการอ่านของนกั เรียนชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 – 6 ท่ีอ่านคลอ่ งในระดับดี ขน้ึ ไปคิดเป็นร้อยละ 98 3. ผลการสอบ RT ของนกั เรียนชน้ั ป.1 ดา้ นการอ่านออกเสยี ง คะแนนเฉลยี่ ร้อยละ 100 4. ผลการจัดกจิ กรรมลูกเสือแบบเขม้ (Scout all day) โรงเรียนจัดกิจกรรมลูกเสอื แบบเขม้ ตาม แนวกิจกรรม ..1 วัน/สปั ดาห์. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีส่วนร่วม รอ้ ยละ.........100........ สรปุ จดุ เดน่ และสิ่งที่ประสบควำมสำเรจ็ ของโรงเรียน จดุ เด่น 1. มีผลการทดสอบระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O-NET) ระดับช้ันประถมศึกษาปีที่6 มีค่าเฉล่ีย ระดับประเทศท้งั 5 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ 3 ปซี ้อนและมกี ารพฒั นาการจัดการเรยี นการสอนอยา่ งตอ่ เนื่อง 2. มีการบรหิ ารจดั การอย่างเป็นระบบ ท้ัง 4 งาน วเิ คราะหง์ านสแู่ นวทางการปฏิบัติที่สอดคล้องกับ โรงเรยี นอย่างมีประสทิ ธิภาพ 3. การจัดแหล่งเรียนรู้ทั้งภายในและภายนอกห้องเรียนเอ้ือต่อการจัดการเรียนการสอน ตาม มาตรฐานและตัวช้ีวัดของวยั ผู้เรียน สรปุ จุดทโ่ี รงเรยี นควรพฒั นำ 1. การพัฒนาด้านอาคารสถานที่ทรุดโทรม ต้องปรับปรงุ พัฒนา 2. การพฒั นาดา้ นยกระดบั คุณภาพทางการศึกษา.ใหป้ ระสิทธิภาพอย่างต่อเนือ่ ง

31 โรงเรยี นวัดทองแท้ (จำ่ งอนกุ ูลพิทยำ) โรงเรียนวัดทองแท้ (จา่ งอนุกูลพิทยา) เปน็ โรงเรียนขนาดเล็ก มีจานวนนกั เรยี นท้ังสน้ิ 98 คน ครู และบคุ ลากรทางการศึกษา จานวน 6 คน ลกู จ้าง 1 คน ผูบ้ รหิ ารโรงเรยี น จ.ส.อ.นนิ นาท ชานาญยา ผลกำรพัฒนำคุณภำพกำรจัดกำรศึกษำ 1. ผลการทดสอบ O-NET คา่ เฉลย่ี รวม ป.6 เท่ากบั 34.23 คา่ เฉล่ยี รวม  สงู กว่าระดับชาติ  สูงกว่าปีการศึกษา 2561 รอ้ ยละ.......-...... 2. ผลการประเมนิ ทกั ษะการอา่ นของนกั เรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 – 6 ที่อ่านคล่องในระดับดี ขึ้นไปคิดเป็นร้อยละ 99.66 3. ผลการสอบ RT ของนกั เรียนชน้ั ป.1 ด้านการอา่ นออกเสยี ง คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 100 4. ผลการจัดกจิ กรรมลกู เสือแบบเข้ม (Scout all day) โรงเรียนจัดกจิ กรรมลกู เสอื แบบเข้มตาม แนวกจิ กรรม ..1 วัน/สัปดาห์. ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีสว่ นร่วม รอ้ ยละ.........100........ สรุปจดุ เด่นและสิ่งทป่ี ระสบควำมสำเร็จของโรงเรียน -จุดเดน่ 1.โรงเรยี นจัดการเรียนการสอนในรปู แบบ NEW DLTV การใชส้ อื่ 60 พรรษาสมเดจ็ พระเทพฯ 2. การจดั การบรหิ ารงานอยา่ งเปน็ ระบบ มโี ครงสร้างการบรหิ ารงานท่ี มกี ารวิเคราะห์การจัดการ บริหารใหส้ อดคล้องในแนวทางการปฏบิ ตั งิ าน 3. การวิเคราะห์หลักสูตร และการนาหลักสูตรไปใช้ตามมาตรฐานตัวชี้วัด ที่สอดคล้องกับการใช้ รปู แบบ NEW DLTV 4. มีการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนและชุมชน โดยผู้ปกครองและชุมชนมีส่วนร่วมใน การจดั การศกึ ษา จดุ ที่ควรพฒั นำของโรงเรยี น 1. การพฒั นาการจัดการเรยี นการสอนทักษะกระบวนการคดิ 2. การพัฒนาการนาส่ือ นวัตกรรม เทคโนโลยี มาใช้ในการจดั การเรยี นการสอนท่ีสอดคลอ้ งกับ ผู้เรยี น 3. การพัฒนาดา้ นโครงงานการคัดแยกขยะ ให้เกิดประสทิ ธภิ าพและเป็นระบบก่อให้เกดิ พนื้ ฐาน การเรียนรอู้ าชีพและมงี านทา

32 โรงเรยี นวัดโบสถ์ โรงเรียนวัดโบสถ์ เปน็ โรงเรียนขนาดใหญ่ มีจานวนนักเรียนทงั้ ส้ิน 952 คน ครูและบุคลากร ทางการศึกษา จานวน 45 คน ลูกจ้าง 1 คน ผบู้ รหิ ารโรงเรยี นชอ่ื นายทลู ใจ ศรีพรหม ผลกำรพฒั นำคณุ ภำพกำรจดั กำรศึกษำ 1. ผลการทดสอบ O-NET คา่ เฉล่ียรวม ป.6 เท่ากบั 33.71 ค่าเฉล่ยี รวม  สูงกวา่ ระดบั ชาติ  สูงกวา่ ปีการศกึ ษา 2561 ร้อยละ.......-...... 2. ผลการประเมนิ ทกั ษะการอ่านของนักเรยี นช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1 – 6 ที่อ่านคลอ่ งในระดับดี ข้นึ ไปคิดเปน็ ร้อยละ 95.69 3. ผลการสอบ RT ของนักเรยี นชั้น ป.1 ด้านการอ่านออกเสยี ง คะแนนเฉลย่ี ร้อยละ 91.59 4. ผลการจัดกจิ กรรมลูกเสือแบบเข้ม (Scout all day) โรงเรียนจัดกิจกรรมลกู เสอื แบบเข้มตาม แนวกิจกรรม ..1 วนั /สัปดาห์. ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษามสี ่วนร่วม รอ้ ยละ.........100........ สรุปจุดเด่นและส่ิงทีป่ ระสบควำมสำเรจ็ ของโรงเรียน จุดเดน่ 1. โรงเรยี นจัดการเรียนการสอนภาองั กฤษ โครงการ English we can say 2. โรงเรียนบริหารแบบมีสว่ นร่วมอย่างเข้มแข็ง กบั องค์กร คณะกรรมการสถานศกึ ษา ผู้ปกครอง ชมุ ชน ได้รับการสนบั สนุนส่งเสริมอยา่ งเป็นระบบ 3. โรงเรียนจัดระบบการบริหารจัดการระบบดูแลช่วยเหลือนักเรียนด้านสุขภาพอนามัย ผู้เรียนมี สุขภาพเปน็ ทแ่ี ขง็ แรง นา้ หนกั สว่ นสงู ตามเกณฑ์ ทีก่ าหนด 4. โรงเรียนจัดกิจกรรมด้านระเบียบ วินัย มีความรับผิดชอบ ต่อสังคม ซ่ึงผู้เรียนเคารพ กฎ กติกา ระเบยี บวินัยของสงั คม ทเี่ ปน็ รูปธรรมและชัดเจน 5. โรงเรียนเป็นโรงเรียนแกนนาวิทยาศาสตร์น้อย ส่งเสริมการจัดการเรียนการสอนที่เน้นผู้เรียน เป็นสาคัญ วิเคราะห์ มาตรฐานการเรียนรู้ ตามวัยของผู้เรียน มีการวัดผลประเมินผลเป็นระยะต่อเนื่องใน การพัฒนาการเรียนรู้ของผ้เู รียนไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ 6. โรงเรียนจัดการเรียนการสอนเน้นให้นกั เรียนอนุรักษ์ศลิ ปะ ไดร้ ับรางวัลในระดับเขตพ้นื ที่ ระดับ ภาคและระดบั ชาติ อย่างตอ่ เนอ่ื งทกุ ปี -จดุ ที่ควรพัฒนำของโรงเรยี น 1. ห้องเรียนไม่เพียงพอต่อการจัดการเรียนการสอนของผู้เรียนและไม่เอื้อในการจัดกิจกรรมการ เรยี นการสอนบา้ งกจิ กรรมทต่ี อ้ งการใชพ้ ้นื ที่การจัดกจิ กรรม 2. การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนทีเ่ น้นทักษะกระบวนการคิดของผู้เรยี น 3. การพัฒนาด้านเทคนิคการจัดทาสื่อการเรียนการสอน และการนาสื่อ เทคโนโลยีมาใช้ใน กระบวนการจัดการเรียนการสอนอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ

33 โรงเรยี นวดั เหลำ่ ขวัญ(จำ่ งอนุเครำะห์) โรงเรยี นวดั เหล่าขวัญ (จา่ งอนเุ คราะห)์ เปน็ โรงเรยี นขนาดเล็ก มจี านวนนกั เรียนทงั้ สนิ้ 89 คน ครู และบุคลากรทางการศกึ ษา จานวน 10 คน ผู้บริหารโรงเรียนชอ่ื นายนรนิ ทร์ ชโู ตศรี ผลกำรพฒั นำคณุ ภำพกำรจดั กำรศึกษำ 1. ผลการทดสอบ O-NET คา่ เฉล่ยี รวม ป.6 เท่ากบั 33.15 คา่ เฉล่ียรวม  สงู กว่าระดับชาติ  สูงกว่าปีการศกึ ษา 2561 รอ้ ยละ.......-...... 2. ผลการประเมนิ ทักษะการอ่านของนักเรยี นชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1 – 6 ทีอ่ ่านคล่องในระดับดี ขน้ึ ไปคิดเป็นร้อยละ 97.92 3. ผลการสอบ RT ของนักเรียนชั้น ป.1 ด้านการอ่านออกเสยี ง คะแนนเฉลี่ยร้อยละ 100 4. ผลการจัดกิจกรรมลูกเสือแบบเขม้ (Scout all day) โรงเรยี นจัดกิจกรรมลูกเสอื แบบเขม้ ตาม แนวกจิ กรรม ..1 วนั /สัปดาห์. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีส่วนรว่ ม รอ้ ยละ.........100........ สรุปจดุ เด่นและส่งิ ที่ประสบควำมสำเรจ็ ของโรงเรยี น 1. โรงเรยี นบรหิ ารจัดการแบบมีส่วนรว่ มกับคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน ผู้ปกครอง ชมุ ชน สร้างความเขม้ แข็งไดร้ บั การสนับสนนุ จากชมุ ชนเปน็ อยา่ งดี 2. โรงเรยี นจัดการเรยี นการสอนโดยเนน้ ผเู้ รียนเป็นสาคัญ เนน้ ทักษะอาชพี และมีงานทา 3. โรงเรยี นจดั กิจกรรมที่เป็นรูปธรรมตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพียงอย่างเป็นระบบตามวัย ของผูเ้ รยี น จดุ ควรพฒั นำของโรงเรียน 1. การพฒั นาการจัดการเรียนการสอนทักษะกระบวนการคดิ 2. การพัฒนาสง่ เสริมการจัดการเรยี นรู้ การนาสื่อ นวตั กรรม มาใช้ให้สอดคล้องกับมาตรฐานการ เรียนรู้ตามวยั ของผ้เู รยี น 3. การพฒั นาแหล่งเรียนรภู้ ายในห้องเรยี นและภายในโรงเรยี นใหเ้ อือ้ ตอ่ การจดั การเรยี นการสอน ตามวัยของผเู้ รียน 4. การพฒั นาการนาหลักสตู รไปใชใ้ หส้ อดคล้องกบั การจัดการเรียนการสอนรปู แบบ NEW DLTV 5. การพฒั นาการจัดการเรียนการสอนการใช้เทคนคิ การสอนตามรูปแบบ NEW DLTV

34 เครอื ขำ่ ยโรงเรียนวัดโบสถ์ 2 โรงเรยี นบ้ำนแก่งคันนำ โรงเรยี นบ้านแก่งคนั นา มจี านวนนกั เรยี นทัง้ สิ้น 126 คน ครูและบุคลากรทางการศึกษา จานวน 15 คน ผู้บรหิ ารโรงเรยี นช่อื นายสรุ ชาติ คาอินทร์ ผลกำรพฒั นำคุณภำพกำรจดั กำรศึกษำ 1. ผลการทดสอบ O-NET คา่ เฉลี่ยรวม ป.6 เท่ากับ 31.63 ค่าเฉลยี่ รวม  สงู กวา่ ระดบั ชาติ  สงู กว่าปกี ารศกึ ษา 2561 ร้อยละ.......-...... 2. ผลการประเมินทกั ษะการอ่านของนักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 – 6 ทีอ่ ่านคลอ่ งในระดับดี ข้นึ ไปคิดเป็นรอ้ ยละ 95.08 3. ผลการสอบ RT ของนกั เรียนช้นั ป.1 ด้านการอ่านออกเสียง คะแนนเฉลย่ี ร้อยละ 90 4. ผลการจัดกิจกรรมลูกเสอื แบบเข้ม (Scout all day) โรงเรียนจัดกจิ กรรมลกู เสือแบบเขม้ ตาม แนวกจิ กรรม ..1 วัน/สัปดาห.์ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีส่วนร่วม รอ้ ยละ.........100........ สรปุ จดุ เดน่ และส่งิ ทป่ี ระสบควำมสำเรจ็ ของโรงเรยี น จดุ เด่น 1. โรงเรยี นมีการส่งเสรมิ การพฒั นาครดู า้ นการจดั การเรยี นการสอนตามมาตรฐานการเรยี นรู้ 2. โรงเรยี นมีพ้ืนท่ีบรเิ วณในการจดั แหล่งเรียนรทู้ ้ังภายในและภายนอกสู่ทักษะอาชพี และมีงานทา 3. โรงเรียนมีหอ้ งปฎิบตั กิ ารการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีเอ้อื ตอ่ การเรยี นรู้ 4. โรงเรยี นมีบคุ ลากรทมี่ ีความรู้ความสามารถในการจัดการเรียนการสอนตรงสาขาวิชาเอก จุดควรพฒั นำของโรงเรียน 1. การพฒั นาการจัดการเรยี นการสอนทักษะกระบวนการคิด ท่ีเนน้ ผ้เู รยี นเปน็ สาคญั 2. การพัฒนา วเิ คราะห์ แนวทางการจัดทาหลักสูตรและนาหลกั สูตรไปใช้ตามมาตรฐานการ เรยี นรแู้ ละสอดคลอ้ งกบั ตามวยั ของผู้เรยี น 3. การพฒั นาการเนน้ กิจกรรมการอา่ นออกเขียนได้ 4. การพฒั นาด้านเทคนิคการจดั การเรยี นการสอนของครู เนื่องจากครสู ว่ นใหญ่บรรจใุ หม่ ยงั ขาดประสบการณ์ด้านเทคนคิ การจัดการเรยี นการสอน

35 โรงเรยี นท่ำหนองปำกพำน โรงเรยี นท่าหนองปากพาน เป็นโรงเรียนขนาดเล็ก มีจานวนนักเรยี นทง้ั สน้ิ 26 คน ครูและบคุ ลากร ทางการศกึ ษา จานวน 2 คน ผบู้ ริหารโรงเรยี นช่อื นางสาวพัชรกมล คาไวย์ ผลกำรพัฒนำคุณภำพกำรจัดกำรศึกษำ 1. ผลการทดสอบ O-NET ค่าเฉล่ียรวม ป.6 เท่ากบั 29.89 ค่าเฉล่ียรวม  สูงกว่าระดบั ชาติ  สงู กวา่ ปีการศกึ ษา 2561 ร้อยละ.......-...... 2. ผลการประเมินทักษะการอา่ นของนกั เรยี นชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 – 6 ทอ่ี ่านคล่องในระดบั ดี ขึ้นไปคิดเป็นรอ้ ยละ 94.74 3. ผลการสอบ RT ของนกั เรียนชน้ั ป.1 ด้านการอ่านออกเสยี ง คะแนนเฉล่ยี ร้อยละ 100 4. ผลการจัดกิจกรรมลูกเสือแบบเขม้ (Scout all day) โรงเรียนจัดกิจกรรมลูกเสอื แบบเขม้ ตาม แนวกิจกรรม ..1 วนั /สัปดาห.์ ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษามสี ่วนร่วม รอ้ ยละ.........100........ สรปุ จุดเดน่ และส่งิ ท่ีประสบควำมสำเรจ็ ของโรงเรยี น จุดเด่น 1. โรงเรยี นบริหารจัดการด้านสง่ิ แวดลอ้ มสวยงาม เน้นความสะอาดทง้ั สถานที่และตวั นกั เรยี น ที่เอ้ือตอ่ การจดั การเรยี นการสอน 2. โรงเรยี นมกี ารบริหารจัดการการจดั การเรียนการสอนรปู แบบ NEW DLTV โดยการวเิ คราะห์ หลกั สตู ร การนาใช้ท่ีสอดคล้องกับมาตรฐานการเรยี นรู้ 3. โรงเรยี นจดั กิจกรรมการออมต้ังแต่ระดับอนุบาลถงึ ประถมศึกษาอยา่ งต่อเนือ่ ง ให้นกั เรียนตระหนักถึงประโยชนข์ องการออมและการใชเ้ งินอยา่ งประหยดั เห็นคุณค่าของเงนิ 4. โรงเรียนไดจ้ ัดทากิจกรรมนอ้ มนาเศรษฐกิจพอเพียงมาเปน็ แหล่งเรียนรู้ในการจัดกจิ กรรมการ เรยี นการสอนทีสอดคล้องกบั วัยของผ้เู รยี น จดุ ควรพฒั นำของโรงเรียน 1. การพัฒนาการจดั การเรียนการสอนท่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญและจัดการเรยี นการสอนนักเรียน เปน็ รายบุคคล 2. การพัฒนากระบวนการจดั การเรยี นการสอนรปู แบบ Active learning และกระบวนการคิด 3. การพัฒนาการจัดการเรียนการสอนแบบคละช้ันที่สามารถจัดการเรียนการสอนให้ครบตาม มาตรฐานการเรยี นรตู้ ามวัยของผู้เรียน

36 โรงเรยี นบำ้ นน้ำโจน โรงเรยี นบา้ นน้าโจน เปน็ โรงเรียนขนาดกลาง มจี านวนนกั เรียนทง้ั สิ้น 203 คน ครแู ละบคุ ลากร ทางการศกึ ษา จานวน 15 คน ผบู้ รหิ ารโรงเรียนชอื่ นางนุชนาถ ชยั พนั ธ์ุ ผลกำรพฒั นำคุณภำพกำรจัดกำรศึกษำ 1. ผลการทดสอบ O-NET ค่าเฉลยี่ รวม ป.6 เท่ากับ 29.25 คา่ เฉล่ยี รวม  สงู กวา่ ระดบั ชาติ  สูงกวา่ ปีการศึกษา 2561 ร้อยละ.......-...... 2. ผลการประเมนิ ทักษะการอา่ นของนักเรียนชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 – 6 ทีอ่ ่านคลอ่ งในระดับดี ขึ้นไปคดิ เป็นรอ้ ยละ 97.00 3. ผลการสอบ RT ของนักเรียนชัน้ ป.1 ด้านการอ่านออกเสียง คะแนนเฉลีย่ ร้อยละ 95.24 4. ผลการจัดกิจกรรมลูกเสอื แบบเข้ม (Scout all day) โรงเรียนจดั กจิ กรรมลกู เสอื แบบเข้มตาม แนวกิจกรรม ..1 วัน/สัปดาห.์ ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษามีสว่ นร่วม ร้อยละ.........100........ สรปุ จุดเด่นและสง่ิ ท่ีประสบควำมสำเรจ็ ของโรงเรยี น จุดเดน่ 1. โรงเรยี นบริหารจดั การมีโครงการการบรหิ ารเปน็ ระบบ เป็นแนวทางในการส่กู ารปฏิบัติ อยา่ งชัดเจน 2. โรงเรยี นจัดโครงการกจิ กรรมเศรษฐกจิ พอเพยี ง สูอ่ าชีพทีย่ งั่ ยืน ได้รบั รางวลั ดีเยยี่ ม ระดบั เขตพน้ื ท่กี ารศึกษาประถมศึกษาพิษณุโลก เขต 3 3. โรงเรียนจัดกิจกรรมการเรียนการสอนภาษาจีน ต้ังแต่ระดับช้ันอนุบาล-ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3 ไดร้ บั รางวัลเหรียญเงนิ และเหรยี ญทองแดง จากการเขา้ ร่วมแขง่ ขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรยี น ระดบั ชาติ ครั้งท่ี 69 ณ จังหวดั สโุ ขทยั 4. โรงเรยี นจัดแหล่งเรียนรทู้ เ่ี อื้อตอ่ การจัดการเรียนการสอนตามวัยผเู้ รยี น จดุ ควรพัฒนำของโรงเรยี น 1. การพฒั นาการจดั การเรียนการสอนทกั ษะกระบวนการคิด 2. การพัฒนาการเรียนการสอนโดยเนน้ ผ้เู รยี นเปน็ สาคัญ 3. การพัฒนาด้านการวิเคราะห์หลักสูตรและมาตรฐานการเรียนรู้ในระดับชั้นเรียนที่สามารถ นามาเขยี นแผนการเรยี นรใู้ นการจดั การเรยี นการสอน

37 โรงเรยี นบำ้ นหนองกระบำก โรงเรียนบ้านหนองกระบาก เปน็ โรงเรยี นขนาดเล็ก มจี านวนนักเรียนทั้งส้ิน 69 คน ครูและ บุคลากรทางการศึกษา จานวน 5 คน ผู้บริหารโรงเรียนชอ่ื นายทรงศกั ด์ิ จนั ทร์สง่ ผลกำรพัฒนำคณุ ภำพกำรจดั กำรศึกษำ 1. ผลการทดสอบ O-NET คา่ เฉล่ียรวม ป.6 เท่ากบั 33.27 ค่าเฉลีย่ รวม  สงู กวา่ ระดับชาติ  สูงกว่าปกี ารศึกษา 2561 รอ้ ยละ.......-...... 2. ผลการประเมนิ ทักษะการอ่านของนกั เรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 – 6 ที่อ่านคล่องในระดับดี ขน้ึ ไปคดิ เปน็ รอ้ ยละ 97.83 3. ผลการสอบ RT ของนกั เรยี นช้นั ป.1 ดา้ นการอา่ นออกเสยี ง คะแนนเฉลยี่ รอ้ ยละ 100 4. ผลการจัดกิจกรรมลกู เสอื แบบเขม้ (Scout all day) โรงเรียนจัดกิจกรรมลกู เสือแบบเข้มตาม แนวกจิ กรรม ..1 วัน/สัปดาห.์ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษามสี ว่ นรว่ ม ร้อยละ.........100........ สรปุ จดุ เด่นและสงิ่ ท่ีประสบควำมสำเร็จของโรงเรียน จุดเด่น 1. โรงเรียนได้เข่าร่วมการแข่งขันศิลปหัตถกรรม ครั้งท่ี 69 ในกิจกรรมลูกเสือ รายการเข็มทิศ และการคาดคะเน ป.4-6 ไดช้ นะเลศิ 2. โรงเรียนจัดการเรียนการสอนในรปู แบบ NEW DLTV และการบูรณาการ การใช้สื่อ นวัตกรรม เทคโนโลยี ในการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนท่ีเอ้อื ต่อวยั ของผูเ้ รียน 3. โรงเรียนจัดส่ิงแวดล้อมท่เี อื้อตอ่ การจัดการเรียนการสอนภายในห้องเรยี นและนอกห้องเรียน 4. โรงเรียนเน้นการอนุรกั ษ์ความเป็นไทยพ้ืนบ้าน การเล่นดนตรี อังกะลุง. ให้กับนักเรียนที่เน้น ตระหนักความรักความสามัคคี 5. โรงเรียนจดั ระบบดูแลช่วยเหลือนักเรยี นเป็นรายบุคคลท่สี ง่ เสริมเอ้ือใหน้ ักเรียนมีทักษะชีวิตใน การดารงชวี ิตอยา่ งมคี วามสขุ จดุ ควรพฒั นำของโรงเรียน 1. การพัฒนาเทคนิคการสอนของครูรูปแบบการจัดการเรียนการสอนรูปแบบ NEW DLTV ที่ให้ นกั เรียนมีความสนใจในกิจกรรมและเกิดการเรยี นรูอ้ ยา่ งมคี วามสุข 2. การพฒั นาการจดั การเรยี นการสอนทักษะกระบวนการคิดโดยเนน้ ผเู้ รยี นเป็นสาคัญ

38 โรงเรยี นบำ้ นหว้ ยเจยี ง โรงเรียนบา้ นหว้ ยเจยี ง เปน็ โรงเรยี นขนาดกลาง มีจานวนนักเรยี นทัง้ สน้ิ 83 คน ครูและบุคลากร ทางการศึกษา จานวน 6 คน ผู้บรหิ ารโรงเรียนชื่อ นางสาวสกุ ญั ญา คอนสาร ผลกำรพฒั นำคณุ ภำพกำรจดั กำรศึกษำ 1. ผลการทดสอบ O-NET คา่ เฉล่ียรวม ป.6 เท่ากบั 29.53 คา่ เฉลยี่ รวม  สงู กว่าระดบั ชาติ  สงู กวา่ ปีการศึกษา 2561 รอ้ ยละ.......-...... 2. ผลการประเมนิ ทักษะการอ่านของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปที ่ี 1 – 6 ทอ่ี ่านคล่องในระดบั ดี ขน้ึ ไปคดิ เป็นร้อยละ 97 3. ผลการสอบ RT ของนกั เรียนชนั้ ป.1 ด้านการอา่ นออกเสียง คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ 100 4. ผลการจัดกิจกรรมลกู เสือแบบเขม้ (Scout all day) โรงเรียนจัดกจิ กรรมลูกเสือแบบเข้มตาม แนวกจิ กรรม ..1 วนั /สัปดาห.์ ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษามีส่วนร่วม รอ้ ยละ.........100........ สรุปจุดเด่นและสง่ิ ท่ปี ระสบควำมสำเร็จของโรงเรยี น จดุ เดน่ 1. โรงเรียนบริหารจัดการอย่างเป็นระบบ มีโครงสร้างการบริหารท่ีชัดเจนและนาไปปฏิบัติได้ อยา่ งเป็นชดั เจน 2. โรงเรียนส่งเสริมด้านคุณธรรมอัตลักษณ์ และอัตลักษณ์ของโรงเรียน เป็นรูปธรรมท่ีส่งผลให้ นักเรยี นพฤตกิ รรมท่ดี ีและเกิดการเรียนรู้อยา่ งมีความสุข มีจติ อาสา สูช่ ุมชน 3. โรงเรยี นจดั สภาพแวดลอ้ ม แหล่งเรยี นรทู้ ีส่ อดคล้องและเอ้อื ในการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน ของโรงเรียน 4.. โรงเรียนเน้นการจัดกิจกรรมการเรียนการสอน เน้นตระหนักเก่ียวกับปลอดภัยยาเสพติดและ อบายมขุ ไดร้ ับรางวลั โรงเรยี นดไี ม่มีอบายมขุ 5.โรงเรยี นจัดโครงการกจิ กรรมโรงเรียนสขี าว ตอ่ เน่ืองจนไดร้ ับรางวัลโรงเรียนสีขาว จุดควรพัฒนำของโรงเรียน 1. การพัฒนาการบริหารหลกั สูตรและการนาหลักสูตรไปใช้ให้สอดคล้องกบั บริบทของตัวผู้เรียน แตร่ ะดบั ชน้ั 2. การพัฒนาการนาสื่อ นวตั กรรม เทคโนโลยี ทห่ี ลากหลายมาใช้ในการจัดกจิ กรรมการเรียนการ สอนที่สอดคล้องตามมาตรฐานและตัวช้ีวดั 3. การพัฒนาการวิเคราะห์ วางแผน การจัดแผนการเรยี นร้ใู นรปู แบบการสอน NEW DLTV 4. การพฒั นาการจัดการเรยี นการสอนทักษะกระบวนการคดิ และเนน้ ผูเ้ รยี นเป็นสาคญั

39 โรงเรยี นวัดคนั โช้ง โรงเรยี นวัดคนั โชง้ เปน็ โรงเรียนขนาดเลก็ มจี านวนนักเรียนทงั้ ส้ิน 49 คน ครแู ละบุคลากรทางการ ศึกษา จานวน 4 คน ผบู้ ริหารโรงเรยี นช่ือ นางสาวทิพาภรณ์ อินแปง (รักษาการ) ผลกำรพฒั นำคุณภำพกำรจัดกำรศึกษำ 1. ผลการทดสอบ O-NET คา่ เฉลี่ยรวม ป.6 เท่ากบั 34.22 คา่ เฉลยี่ รวม  สงู กวา่ ระดับชาติ  สงู กวา่ ปีการศกึ ษา 2561 รอ้ ยละ.......-...... 2. ผลการประเมินทกั ษะการอา่ นของนกั เรยี นช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 1 – 6 ท่ีอ่านคล่องในระดับดี ขนึ้ ไปคิดเปน็ ร้อยละ 89.74 3. ผลการสอบ RT ของนกั เรียนชนั้ ป.1 ดา้ นการอา่ นออกเสยี ง คะแนนเฉลย่ี รอ้ ยละ 100 4. ผลการจัดกจิ กรรมลกู เสือแบบเขม้ (Scout all day) โรงเรยี นจัดกิจกรรมลูกเสอื แบบเข้มตาม แนวกิจกรรม ..1 วนั /สัปดาห.์ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษามีสว่ นร่วม ร้อยละ.........100........ สรปุ จดุ เด่นและสิ่งท่ีประสบควำมสำเร็จของโรงเรียน จดุ เดน่ 1.โรงเรียนมกี ารจดั สภาพแวดลอ้ มทีเ่ ออ้ื ตอ่ การเรียนร้ทู ั้งภายในห้องเรยี น และนอกหอ้ งเรยี น 2. โรงเรยี นจัดบรเิ วณโรงเรียนสะอาด รม่ รื่น เอ้อื ตอ่ การจัดกจิ กรรมการเรียนการสอน 3. โรงเรยี นจัดโครงการกจิ กรรมตามหลักปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี งเน้นให้นักเรยี นเรียนร้ทู กั ษะ อาชพี และมงี านทาเป็นพน้ื ฐานการเรียนรู้ จดุ ควรพฒั นำของโรงเรยี น 1. การพฒั นาการบริหารโครงสร้างการปฏบิ ัตงิ านที่ชัดเจนและเปน็ รูปธรรม 2. การพัฒนาบริหารจัดการระบบการบริหารทั้ง 4 งาน โดยการนาการบริหารงาน 4 งานมา วเิ คราะห์ขอบข่ายงาน ใหส้ อดคล้องกับบรบิ ทของโรงเรียน 3. การพัฒนาการจัดทาแผนพัฒนาการศึกษาของโรงเรียน ท่ีต้องเคราะห์ให้สอดคล้องกับบริบท ของโรงเรยี นเป็นแนวทางในการขับเคลอ่ื นการบริหารจดั การท่เี ป็นรปู ธรรม

40 โรงเรยี นวดั บำ้ นนอ้ ย โรงเรยี นบ้านน้อย เป็นโรงเรียนขนาดกลาง มจี านวนนักเรียนทงั้ สิ้น 173 คน ครูและบุคลากร ทางการศกึ ษา จานวน 16 คน ผบู้ ริหารโรงเรยี นชอ่ื นายอานวย แดงโสภณ 1. ผลการทดสอบ O-NET ค่าเฉลีย่ รวม ป.6 เทา่ กับ 36.00 ค่าเฉล่ียรวม  สูงกวา่ ระดับชาติ  สูงกว่าปีการศึกษา 2561 ร้อยละ.......-...... 2. ผลการประเมินทกั ษะการอา่ นของนักเรียนช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 – 6 ทีอ่ ่านคลอ่ งในระดับดี ขน้ึ ไปคิดเปน็ รอ้ ยละ 96.70 3. ผลการสอบ RT ของนักเรยี นชั้น ป.1 ดา้ นการอ่านออกเสียง คะแนนเฉลี่ยรอ้ ยละ 100 4. ผลการจัดกิจกรรมลูกเสอื แบบเข้ม (Scout all day) โรงเรยี นจดั กิจกรรมลูกเสือแบบเขม้ ตาม แนวกิจกรรม ..1 วัน/สัปดาห์. ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีสว่ นร่วม ร้อยละ.........100........ สรปุ จุดเดน่ และสง่ิ ที่ประสบควำมสำเร็จของโรงเรยี น จดุ เดน่ 1.โรงเรยี นบรหิ ารแบบมีส่วนร่วมผู้ที่เก่ียวข้องอย่างเป็นระบบ มีการจดั การวิเคราะห์แนวทางการ บริหารจัดการความร่วมมอื จากผูบ้ รหิ าร ครู นักเรียน ผู้ปกครอง และชุมชน 2. โรงเรยี นจัดสิ่งแวดล้อมและภายแหล่งเรียนรู้ทง้ั ภายในและภายนอกชนั้ เรยี นท่ีเออ้ื ต่อการเรียนรู้ ของนักเรียน 3. โรงเรียนมบี ุคลากรทมี่ ีความรคู้ วามสามารถ ทักษะ ตามขอบข่ายงานทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย มีเทคนิค กระบวนการจัดการเรียนการสอนทสี่ อดคลอ้ งของวัยผู้เรียน 4. โรงเรียนได้ส่งเสริมการจัดทา สื่อ นวตั กรรมและการใชเ้ ทคโนโลยี การสอนรูปแบบ NEW DLTV การสอนรูปแบบ DLIT โดยเนน้ ผเู้ รียนเปน็ สาคัญ จดุ ควรพฒั นำของโรงเรยี น 1. การพฒั นาเทคนคิ การจัดการเรียนการสอนทกั ษะกระบวนการคิดโดยยึดผเู้ รียนเป็นฐาน 2. การพัฒนาด้านการส่งเสริมทักษะการเรียนรู้ด้านทักษะอาชีพสู่มีงานทาที่มีความชัดเจนและ เปน็ รปู ธรรมอยา่ งเปน็ ระบบแตล่ ะระดับชว่ งชน้ั 3. การพฒั นาส่งเสริมโครงการกิจกรรมตามแนวปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี งสูก่ จิ กรรมการเรียน การสอนและสามารถนาไปใช้ในชีวติ ประจาวนั

41 โรงเรยี นวัดหินลำด โรงเรียนวดั หนิ ลาด เปน็ โรงเรยี นขนาดกลาง มีจานวนนกั เรียนทง้ั สนิ้ 205 คน ครแู ละบุคลากร ทางการศึกษา จานวน 16 คน ผบู้ รหิ ารโรงเรียนช่อื นายกิจ พานทอง ผลกำรพฒั นำคณุ ภำพกำรจัดกำรศึกษำ 1. ผลการทดสอบ O-NET คา่ เฉลยี่ รวม ป.6 เท่ากบั 34.74 คา่ เฉลี่ยรวม  สงู กวา่ ระดับชาติ  สูงกวา่ ปกี ารศึกษา 2561 รอ้ ยละ.......-...... 2. ผลการประเมินทกั ษะการอา่ นของนักเรยี นชัน้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 – 6 ทอี่ ่านคล่องในระดับดี ขึน้ ไปคดิ เปน็ ร้อยละ 95.04 3. ผลการสอบ RT ของนักเรยี นชน้ั ป.1 ดา้ นการอา่ นออกเสียง คะแนนเฉล่ยี รอ้ ยละ 91.61 4. ผลการจัดกจิ กรรมลกู เสอื แบบเขม้ (Scout all day) โรงเรยี นจัดกจิ กรรมลูกเสอื แบบเขม้ ตาม แนวกจิ กรรม ..1 วัน/สปั ดาห์. ขา้ ราชการครูและบุคลากรทางการศกึ ษามสี ่วนร่วม ร้อยละ.........100........ สรุปจุดเด่นและสิง่ ทป่ี ระสบควำมสำเร็จของโรงเรยี น จุดเด่น 1. โรงเรียนส่งเสริมดา้ นโครงการกิจกรรม การอา่ นคลอ่ ง เขียนได้ สง่ ผลใหน้ ักเรียนมีทักษะการอ่าน ทค่ี ลอ่ ง เขียนคล่อง อย่ใู นระดบั ดี 2. โรงเรียนบริหารจัดการงานอย่างเป็นระบบ มีโครงสร้างการบริหารงานอย่างชัดเจน มีการ วิเคราะหบ์ คุ ลากรมีความถนัดและสอดคล้องกับบริบทของงาน 3. โรงเรียนมีการบริหารจัดการแบบมีส่วนร่วมกับผู้ท่ีเก่ียว มีการบริหารจัดการวิเคราะห์ จุดอ่อน จุดแข็ง โอกาส ที่มีแผนการพฒั นาจดั การศึกษาท่ชี ัดเจนสู่แผนการปฏิบตั ิการประจาปี 4. โรงเรียนส่งเสริมโครงการกิจกรรมสิ่งแวดล้อมและแหล่งเรียนรู้ภายในและภายนอกช้ันเรียนท่ี เออ้ื ต่อการจัดการเรยี นรู้ จุดควรพัฒนำของโรงเรียน 1. การพัฒนาเทคนคิ การจดั การเรียนการสอนทักษะกระบวนการคิด 2. การพฒั นาระบบชว่ ยเหลอื นกั เรียนเป็นรายบุคคล โดยการประชมุ ช้แี จงทาความเข้าใจ แนวทางการปฏิบัตขิ องโรงเรยี นสูร่ ะบบชว่ ยเหลอื ของนกั เรยี น

42 โรงเรียนห้วยปลำไหล โรงเรียนบา้ นห้วยปลาไหล เป็นโรงเรยี นขนาดเล็ก มีจานวนนกั เรียนทั้งสน้ิ 90 คน ครูและบคุ ลากร ทางการศึกษา จานวน 8 คน ผบู้ ริหารโรงเรยี นช่อื นางสาวอมั พร กลุ คง (รักษาการ) ผลกำรพัฒนำคุณภำพกำรจดั กำรศึกษำ 1. ผลการทดสอบ O-NET ค่าเฉลี่ยรวม ป.6 เท่ากับ 31.70 ค่าเฉลย่ี รวม  สงู กว่าระดบั ชาติ  สูงกวา่ ปกี ารศึกษา 2561 ร้อยละ.......-...... 2. ผลการประเมินทักษะการอา่ นของนักเรียนชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 1 – 6 ที่อ่านคล่องในระดับดี ข้ึนไปคดิ เปน็ ร้อยละ 97.91 3. ผลการสอบ RT ของนักเรยี นชนั้ ป.1 ดา้ นการอ่านออกเสยี ง คะแนนเฉลย่ี รอ้ ยละ 88.88 4. ผลการจัดกจิ กรรมลูกเสือแบบเขม้ (Scout all day) โรงเรยี นจัดกิจกรรมลูกเสือแบบเขม้ ตาม แนวกิจกรรม ..1 วนั /สัปดาห์. ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษามสี ่วนร่วม ร้อยละ.........100........ สรปุ จดุ เดน่ และส่ิงท่ีประสบควำมสำเร็จของโรงเรยี น จุดเดน่ 1. โรงเรยี นจัดทาโครงการ กิจกรรม ทกั ษะอาชีพและมีงานทาอย่างต่อเน่อื งและเปน็ ระบบ เปน็ พ้ืน ฐานความรู้ส่อู าชีพและมงี านทา 2.โรงเรียนบริหารจัดการสิ่งแวดล้อมและแหล่งเรียนรู้ท้ังภายในและภายนอกที่เอื้อต่อการจัด การ เรียนการสอน 3. โรงเรียนจัดทาโครงการตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงส่งเสริมใหน้ ักเรียนมีพื้นฐานการ เรียนรู้การปลูกพชื ผักสวนครวั ในรูปแบบต่างๆ จุดควรพัฒนำของโรงเรยี น 1. การพัฒนาดา้ นทักษะการเรยี นการสอนโดยเน้นผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ 2. การบรหิ ารจัดการการนาหลกั สูตรไปใช้จริงส่แู ผนการเรียนร้ทู ี่สอดคลอ้ งและตามวยั ของผเู้ รยี น 3. การพัฒนาเทคนิคการจัดการเรียนการสอนโดยการนา ส่ือ นวตั กรรม เทคโนโลยี มาใช้ในการ จัดกจิ กรรมการเรียนการสอน

43 เครอื ข่ำยโรงเรียนวัดโบสถ์ 3 โรงเรียนบ้ำนแก่งเจ็ดแคว โรงเรยี นบ้านแกง่ เจด็ แควเป็นโรงเรียนขนาดเล็ก มีจานวนนักเรียนท้งั ส้ิน 34 คน ครูและบคุ ลากร ทางการศกึ ษา จานวน 4 คน ผ้บู รหิ ารโรงเรียนชอ่ื นางสาวรตั ติยา คงรอด ผลกำรพฒั นำคุณภำพกำรจดั กำรศึกษำ 1. ผลการประเมนิ ทกั ษะการอา่ นของนักเรยี นช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 1 – 6 ที่อ่านคล่องในระดบั ดีขนึ้ ไป คิดเปน็ ร้อยละ 92 2. ผลการสอบ RT ของนักเรียนชน้ั ป.1 มีคะแนนรวมร้อยละ 78.95 ผลการประเมินอยู่ในระดบั ดมี าก 3. ผลการทดสอบ O-NET ชั้น ป. 6 มีค่าเฉลีย่ ต่ากวา่ ค่าเฉลย่ี ระดับประเทศทกุ วิชา สรปุ จุดเด่นและสง่ิ ทีป่ ระสบควำมสำเร็จของโรงเรยี น -จดุ เดน่ 1. โรงเรยี นมีการส่งเสริมให้นักเรียนมีทักษะอาชีพที่สอดคล้องกับบริบทของโรงเรียน เช่น การทา นา้ ปลา การทานา้ ยาล้างจาน 2. ครจู ัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ DLTV ทุกช้ันเรียนและมีการนิเทศตดิ ตามการสอนอย่าง ต่อเน่อื ง 3. โรงเรียนไดร้ ับการสนับสนุนทนุ การศึกษา วัสดุอุปกรณ์การเรียน และการพฒั นาสภาพแวดลอ้ ม บริเวณโรงเรียนจากหน่วยงานภายนอกอย่างตอ่ เน่ือง 4. นักเรียนได้รับการสนับสนุนให้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาและทักษะทางวิชาการต่าง ๆ ร่วมกับ เครือขา่ ย อาเภอ และเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษา 5. มีการปรับปรุงสภาพแวดล้อมบริเวณโรงเรียนและภายในห้องเรียนสะอาด เป็นระเบียบ และ ปลอดภยั 6. มีการส่งเสริมความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งโรงเรยี น วดั และชมุ ชน โดยผู้ปกครอง พระภิกษุ และชมุ ชนมี ส่วนรว่ มในการจัดการศึกษา -สิ่งทป่ี ระสบควำมสำเรจ็ 1. ได้รับรางวัลโรงเรยี นปลอดภัยดีเด่น จากบริษัทสยามสไมล์ โบรกเกอร์ จากดั ประจาปี 2562 2. นกั เรยี นช้นั ป.1 มีผลการทดสอบ RT อย่ใู นระดับดมี าก สรปุ จดุ ที่โรงเรียนควรพัฒนำ 1. นักเรียนยังขาดทักษะในการแสวงหาความรู้เพื่อพัฒนาทักษะการคิด การแก้ปัญหา และ ความคิดสร้างสรรค์ 2. ผลสัมฤทธิท์ างการเรยี น 3. ปญั หาด้านระบบอนิ เทอรเ์ น็ตและระบบไฟฟ้า

44 โรงเรยี นวดั นำขำม โรงเรยี นวัดนาขามเป็นโรงเรยี นขนาดกลาง มจี านวนนักเรยี นทง้ั สิ้น 142 คน ครแู ละบคุ ลากร ทางการศึกษา จานวน 14 คน ผ้บู รหิ ารโรงเรยี นช่อื นายสนุ นั แก้วมาก ผลกำรพฒั นำคุณภำพกำรจดั กำรศึกษำ 1. ผลการประเมนิ ทกั ษะการอา่ นของนักเรียนชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 – 6 ทอ่ี ่านคล่องในระดับดีขน้ึ ไปคิดเปน็ รอ้ ยละ 93.26 2. ผลการสอบ RT ของนกั เรยี นชั้น ป.1 คะแนนรวมร้อยละ 83.22 ผลอยู่ในระดับดมี าก 3. ผลการทดสอบ O-NET ชน้ั ป. 6 และชัน้ ม.3 มีค่าเฉลย่ี ต่ากว่าคา่ เฉลี่ยระดับประเทศทกุ วิชา สรุปจุดเด่นและส่งิ ทป่ี ระสบควำมสำเร็จของโรงเรียน -จดุ เด่น 1. โรงเรียนจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนลูกเสือสรา้ งทักษะชีวติ (Scout all day) และเปน็ ตน้ แบบ ของเครอื ข่ายและเขตพื้นทกี่ ารศกึ ษา 2. นกั เรียนมีทกั ษะงานอาชพี และกิจกรรมเศรษฐกจิ พอเพียง ไดแ้ ก่ การทาโครงงานไขเ่ ค็มสมนุ ไพร การทาโดนัทจิว๋ การปลูกผกั เพอ่ื อาหารกลางวนั 3. นักเรียนได้รับการสนับสนุนให้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาและทักษะทางวิชาการต่าง ๆ ร่วมกับ เครือขา่ ย อาเภอ และเขตพืน้ ทกี่ ารศกึ ษา -ส่ิงท่ปี ระสบควำมสำเร็จ 1. ได้รับรางวัลจากการแข่งขันศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งท่ี 69 ระดับเขตพื้นท่ี จานวน 14 รายการ 2. ไดร้ ับคัดเลือกเป็นโรงเรียนตน้ แบบลูกเสอื ประจาอาเภอวัดโบสถ์ 3. รางวลั Best Practice กจิ กรรมการสอนลูกเสอื แบบเข้มขน้ (Scout all day) ระดับยอดเยี่ยม 4. นกั เรยี นช้ัน ป.1 มีผลการทดสอบ RT อยใู่ นระดับดมี าก สรปุ จุดที่โรงเรียนควรพัฒนำ 1. ปัญหาพฤติกรรมนักเรียนระดับมัธยมศึกษา เช่น มารยาทในการพูด การประหยัดพลังงาน การอนรุ กั ษส์ ง่ิ แวดลอ้ ม นิสัยรกั การอา่ น เปน็ ต้น 2. นกั เรียนขาดทักษะในการแสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเอง และการใช้เทคโนโลยี 3. ครบู างท่านขาดการนาเทคโนโลยีมาใช้ในการสอน โดยเฉพาะในการสอนวทิ ยาการคานวณ 3. สภาพอาคารเรยี นเกา่ ทรดุ โทรม 4. ผลสมั ฤทธทิ์ างการเรยี น

45 โรงเรยี นบ้ำนหนองปลิง โรงเรียนบ้านหนองปลงิ เปน็ โรงเรยี นขนาดเลก็ มจี านวนนักเรียนทั้งส้ิน 43 คน ครูและบคุ ลากร ทางการศกึ ษา จานวน 7 คน ผู้บริหารโรงเรยี นชื่อ นายบรรเจดิ สาลี ผลกำรพัฒนำคณุ ภำพกำรจดั กำรศึกษำ 1. ผลการประเมินทกั ษะการอ่านของนักเรียนช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1 – 6 ท่อี ่านคลอ่ งในระดบั ดีขึน้ ไปคดิ เปน็ ร้อยละ 96.67 2. ผลการสอบ RT ของนักเรยี นช้ัน ป.1 คะแนนร้อยละ 78.75 มีผลการประเมนิ อยใู่ นระดบั ดี มาก 3. ผลการทดสอบ O-NET ช้นั ป. 6 วิชาภาษาไทยและภาษาองั กฤษมคี ่าเฉล่ียสงู กว่าค่าเฉลี่ย ระดับประเทศ ส่วนวชิ าคณิตศาสตรแ์ ละวทิ ยาศาสตร์ มีค่าเฉล่ยี ต่ากวา่ ค่าเฉลีย่ ระดบั ประเทศ 4. ผลการจัดกจิ กรรมลกู เสอื แบบเข้ม (Scout all day) โรงเรียนจัดกจิ กรรมแบบเข้มตาม แนวกิจกรรมทุกวนั พฤหสั บดี/ สปั ดาห์ ขา้ ราชการครแู ละบุคลากรทางการศึกษามีสว่ นรว่ มมากกวา่ รอ้ ยละ 80 สรปุ จุดเด่นและส่ิงทป่ี ระสบควำมสำเร็จของโรงเรยี น -จุดเดน่ 1. การส่งเสรมิ กิจกรรมการออมทุกชั้นเรียน 2. นกั เรียนมที ักษะการอ่านและการเขียนผา่ นเกณฑ์รอ้ ยละ 100 3. การมีส่วนร่วมในการจดั การศกึ ษาของผ้ปู กครองและชุมชน 4. สภาพแวดล้อมของโรงเรยี นสะอาด ปลอดภยั 5. ครูจัดกิจกรรมการเรียนการสอนโดยใช้ DLTV ทุกช้ันเรียนและมกี ารนิเทศติดตามการสอนอยา่ ง ตอ่ เน่อื ง 6. นักเรียนได้รับการสนับสนุนให้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาและทักษะทางวิชาการต่าง ๆ ร่วมกับ เครือข่าย อาเภอ และเขตพ้นื ที่การศึกษา -ส่งิ ท่ปี ระสบควำมสำเรจ็ 1. ผลการทดสอบ O-NET ชั้น ป. 6 ปีการศึกษา 2562 วิชาภาษาไทยและภาษาอังกฤษมีค่าเฉล่ีย สูงกว่าค่าเฉลี่ยระดับประเทศ 2. การทาโครงงานอาชีพ เช่น โครงการขนมจากน้าตาลสด 3. ผลการสอบ RT ของนกั เรยี นชนั้ ป.1 คะแนนรอ้ ยละ 78.75 มีผลการประเมนิ อยู่ในระดับดีมาก สรปุ จดุ ท่ีโรงเรียนควรพัฒนำ 1. ครยู ังขาดการบรู ณาการเทคโนโลยที ่ที นั สมัยมาใช้ในการจัดการเรยี นการสอน 2. นกั เรียนขาดทกั ษะในการแสวงหาความรดู้ ว้ ยตนเอง และการใชเ้ ทคโนโลยี 3. สง่ เสริมใหผ้ เู้ รียนกล้าแสดงออก และทางานกล่มุ

46 โรงเรียนบำ้ นนำ้ หกั ศึกษำ โรงเรยี นบา้ นนา้ หกั ศกึ ษาเป็นโรงเรียนขนาดเลก็ มีจานวนนกั เรียนทงั้ ส้นิ 84 คน ครูและบคุ ลากร ทางการศึกษา จานวน 9 คน ผบู้ รหิ ารโรงเรียนชือ่ นายสมศกั ดิ์ คุ้มพงษ์ ผลกำรพัฒนำคณุ ภำพกำรจัดกำรศึกษำ 1. ผลการประเมินทักษะการอ่านของนักเรยี นชั้นประถมศกึ ษาปีที่ 1 – 6 ทีอ่ ่านคลอ่ งในระดับดขี ้ึน ไปคดิ เป็นร้อยละ 91.43 2. ผลการสอบ RT ของนกั เรียนชัน้ ป.1 คะแนนรอ้ ยละ 76.77 มผี ลการประเมนิ อย่ใู นระดับดี มาก 3. ผลการทดสอบ O-NET ช้ัน ป. 6 มคี า่ เฉลยี่ ตา่ กวา่ คา่ เฉลีย่ ระดับประเทศทกุ วิชา 4. ผลการจัดกิจกรรมลูกเสือแบบเข้ม (Scout all day) โรงเรยี นจัดกิจกรรมแบบเข้มตาม แนวกจิ กรรมทุกวนั พฤหสั บดี/ สปั ดาห์ ขา้ ราชการครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษามีส่วนร่วมมากกว่าร้อยละ 80 สรุปจุดเด่นและส่งิ ท่ีประสบควำมสำเร็จของโรงเรียน -จุดเด่น 1. การร่วมการแก้ปัญหาด้านลายมือนักเรียนทุกคนในโรงเรียน โดยให้คัดลายมือส่งผู้อานวยการ โรงเรียนสปั ดาหล์ ะ 1 ครงั้ 2. นักเรียนมีทักษะงานอาชีพ เช่น การถนอมอาหาร (หน่อไม้อัด) น้ายาล้างจาน การปลกู ผักสวน ครวั รัว้ กนิ ได้ 3. นักเรียนได้รับการสนับสนุนให้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาและทักษะทางวิชาการต่าง ๆ ร่วมกับ เครือขา่ ย อาเภอ และเขตพืน้ ทกี่ ารศึกษา 4. ครูจดั กิจกรรมการเรยี นการสอนโดยใช้ DLTV ทุกชั้นเรียนและมีการนิเทศตดิ ตามการสอนอยา่ ง ต่อเนอื่ ง -ส่งิ ท่ีประสบควำมสำเรจ็ 1. เป็นตัวแทนเขตพื้นท่ีการศึกษาฯ เข้าแข่งขันศิลปหัตถกรรมนักเรียน คร้ังที่ 69 ระดับภาค “คตี ะมวยไทย” 2. ผลการสอบ RT ของนักเรยี นชน้ั ป.1 คะแนนรอ้ ยละ 76.77 มผี ลการประเมินอยใู่ นระดับดี มาก 3. นกั เรียนมีระเบยี บวินัย มีมารยาท พูดจาไพเราะ รักษาความสะอาดและสิ่งแวดลอ้ มในโรงเรียน เปน็ อย่างดี สรุปจุดท่โี รงเรยี นควรพฒั นำ 1. นักเรยี นขาดทกั ษะในการแสวงหาความรูด้ ว้ ยตนเอง และการใชเ้ ทคโนโลยี 2. ครผู สู้ อนขาดความร้แู ละทักษะในการสอนวิทยาการคานวณ (coding) 3. ขาดแคลนโตะ๊ และเก้าอ้นี กั เรียนระดบั ประถมศกึ ษา 4. ครขู าดการประชมุ PLC และการบันทกึ Log Book อย่างตอ่ เนื่อง

47 โรงเรยี นแกง่ บ้ำนยำงปำ่ คำย โรงเรยี นแกง่ บ้านยางป่าคายเปน็ โรงเรียนขนาดเล็ก มีจานวนนกั เรยี นท้งั ส้นิ 86 คน ครูและ บคุ ลากรทางการศึกษา จานวน 9 คน ผบู้ ริหารโรงเรยี นชือ่ นายพลายงาม บุญญะ ผลกำรพฒั นำคุณภำพกำรจัดกำรศึกษำ 1. ผลการประเมนิ ทักษะการอ่านของนกั เรียนชน้ั ประถมศึกษาปีท่ี 1 – 6 ท่อี ่านคลอ่ งในระดบั ดีข้ึน ไปคิดเป็นร้อยละ 94.73 2. ผลการสอบ RT ของนกั เรียนช้ัน ป.1 คะแนนร้อยละ 63.3 มีผลการประเมินอย่ใู นระดับดี 3. ผลการทดสอบ O-NET ชัน้ ป. 6 มีค่าเฉลยี่ ต่ากว่าค่าเฉล่ียระดับประเทศทกุ วิชา ชน้ั ม.3 วิชาภาษาไทยมีคา่ เฉลย่ี สูงกว่าระดับประเทศ สว่ นวชิ าอ่นื มีคา่ เฉลย่ี ต่ากว่าระดบั ประเทศ 4. ผลการจัดกิจกรรมลกู เสอื แบบเขม้ (Scout all day) โรงเรยี นจัดกจิ กรรมแบบเขม้ ตาม แนวกจิ กรรมทกุ วันพฤหสั บดี/ สัปดาห์ ข้าราชการครแู ละบุคลากรทางการศกึ ษามีส่วนรว่ มมากกว่าร้อยละ 80 สรปุ จดุ เดน่ และสงิ่ ที่ประสบควำมสำเร็จของโรงเรยี น -จุดเดน่ 1. นักเรียนมีทักษะงานอาชีพและโครงการกิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียง โดยเฉพาะการแกะสลัก การทานา้ หมกั ชวี ภาพไวใ้ ช้ในโรงเรยี นและท่บี า้ น 2. นักเรียนได้รับการสนับสนุนให้เข้าร่วมการแข่งขันกีฬาและทักษะทางวิชาการต่าง ๆ ร่วมกับ เครอื ขา่ ย อาเภอ และเขตพ้นื ที่การศึกษา 3. มีการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างโรงเรียนและชุมชน โดยผู้ปกครองและชุมชนมีส่วนร่วมใน การจัดการศึกษา -สิง่ ทป่ี ระสบควำมสำเร็จ 1. เป็นตัวแทนเขตพ้ืนท่ีการศึกษาฯ เข้าแข่งขันศิลปหัตถกรรมนักเรียน ครั้งท่ี 69 ระดับภาค “การแกะสลกั ผลไม้” 2. การยกระดับผลสมั ฤทธ์ิ O-NET ชน้ั ม.3 วชิ าภาษาไทยมีคา่ เฉล่ยี สงู กวา่ ระดบั ประเทศ สรุปจดุ ท่ีโรงเรียนควรพฒั นำ 1. ครูผู้สอนขาดความรู้และทักษะในการสอนวิทยาการคานวณ (coding) และการใช้เทคโนโลยีที่ ทนั สมัย 2. ครขู าดการประชุม PLC และการบนั ทกึ Log Book อยา่ งตอ่ เนือ่ ง 3. ปญั หาด้านระบบอินเทอร์เน็ต 4. ปัญหาด้านการขาดแคลนครูผู้สอนในระดับอนุบาลและมัธยมศึกษา ทาให้ต้องสอนในรายวิชาที่ ไมถ่ นัด


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook