Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore การพยาบาลผู้ป่วยออสโตมีและแผล

การพยาบาลผู้ป่วยออสโตมีและแผล

Published by jitrada.pong, 2020-08-25 01:22:53

Description: Nursing Care for patient of Ostomy and Wound - update

Search

Read the Text Version

(2) นาแผ่นพลาสติกที่ลอกลายไว้มาตัดตามรอยปากกกาท่ี วาดไว้ แล้วนามาทาบกับแป้นถุงรองรองอุจจาระอันใหม่ แลว้ ลอกลายจากแผน่ พลาสติกลงไป 7) ใช้กรรไกรตัดแป้นของถุงรองรับอุจจาระ (flange of colostomy bag) ตามที่วาดไว้ โดยขนาดความกว้างของแป้นถุงรองรับอุจจาระ ต้องมขี นาดไม่เกิน 2 มลิ ลิเมตรจากขอบของ stoma 8) กรณีมีการมีระคายเคืองรอบ ๆ stoma หรือมีความเสี่ยงต่อการ เกิดการระคายเคืองสามารถใช้ผลิตภัณฑ์เพื่อลดการระคายเคืองได้ ตามขน้ั ตอนดงั น้ี (1) ใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวหนังชนิดผง (skin barrier powder) โรยแผลบาง ๆ ปัดส่วนเกนิ ออก (2) ใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวหนังชนิดสเปรย์พ่นทับผงแป้ง และเคลือบบรเิ วณผิวหนงั ขอบแผล (3) ใช้ผลิตภัณฑ์ปกป้องผิวหนังชนิดข้ีผ้ึงป้ายลงบนสาลีหรือ สาลีพันปลายไม้ท่ีชุบน้า ทาบาง ๆ บริเวณผิวหนังที่มีการ ระคายเคอื ง (4) รอให้ผลติ ภณั ฑ์ปกป้องผิวหนังชนดิ ข้ีผงึ้ ปา้ ยแห้งหมาด ๆ 8) ลอกกระดาษกาวใตแ้ ปน้ หรือใต้ถงุ ออก 9) ครอบถุงรองรับอุจจาระ (colostomy bag) ลงบน stoma โดย เริ่มปิดจากด้านล่างของ stoma ก่อน เพ่ือป้องกันกรณีที่มีอุจจาระไหลออก กรณีศึกษา หนา้ 174

ระหวา่ งครอบ colostomy bag กดแป้นให้แนบกับผิวหนังเร่ิมจากด้านล่าง จนรอบ stoma 10) กรณีเป็นถุงรองรับอุจจาระชนิด 2 ชิ้น (two piece colostomy bag) ให้นาแป้นมาครอบ stoma ก่อน แล้วลูบแป้นให้แนบสนิทกับ ผิวหนัง แล้วจึงนาส่วนของถุงรองรับอุจจาระมาประกบกับแป้นแล้ว กดเบา ๆ แตใ่ ห้แนบสนิทกนั ดี 11) ปิดรูปลายถุงรองรับอุจจาระ โดยพับปลายถุงออกด้านนอก อปุ กรณป์ ิดปลายถุงมี 2 แบบ แตล่ ะแบบมีวธิ ีการปดิ ดังนี้ (1) แบบขดลวด จะมีแถบกาวติดอยู่ จึงต้องลอกกระดาษ กาวออกก่อนตดิ ทีป่ ลายปากถุง เมอื่ ตดิ แลว้ ใหแ้ ล้วม้วนปลาย ปากถุงออกด้านนอกประมาณ 2-3 รอบแล้วหักพับขดลวด ออกด้านนอกเพ่ือล็อคปลายถุงไว้ เหตุผลของการหักขดลวด ออกด้านนอกเพ่ือป้องกันไม่ให้ปลายขดลวดกดทับผิวหนัง ผปู้ ว่ ยซ่งึ อาจทาใหเ้ กิดแผลได้ (2) แบบพลาสตกิ ล็อคให้นาอุปกรณเ์ สียบท่ีส่วนปลายปากถุง แล้วกดส่วนปลายเข้าหากันจะล็อคที่ปลายปากถุงได้เลย ให้ แกะ เพ่ือป้องกันการเสียดสีระคายเคืองกับผิวหนัง ปิดปลาย ถุงใหส้ นิท 12) ภายหลังติดถุงรองรับอุจจาระแล้วพักไว้สักครู่ ตรวจสอบการรั่ว ของแป้น หากเรยี บร้อยดจี ึงสวมเสอื้ ผ้า 3. ติดตามผลการปฏบิ ัตขิ องผปู้ ว่ ยและผู้ดูแลหากไม่สามารถปฏิบัติได้ต้องสอน สาธิตซา้ จนกวา่ จะสามารถเปลีย่ นถุงรองรบั อุจจาระไดอ้ ยา่ งถูกต้องและมีความ มั่นใจในการเปลย่ี นถุงรองรับอุจจาระ กรณีศึกษา หนา้ 175

4. ให้กาลังใจผู้ป่วย ผู้ดูแลและครอบครัว เสริมสร้างความม่ันใจในการ ปฏิบตั กิ ารเปลีย่ นถุงรองรับอุจจาระ การประเมนิ ผล - ผปู้ ว่ ยสามารถเปลี่ยนถุงรองรบั อจุ จาระทางหน้าทอ้ งได้ถูกต้องตามคาแนะนา ข้อวนิ จิ ฉยั ทางการพยาบาลที่ 3 เสี่ยงต่อการเกิดการระคายเคืองของผิวหนังรอบ stoma เนอื่ งจากพร่องความรู้ในการปฏิบตั ิตัว เป้าหมาย ผิวหนังบริเวณรอบ stoma ดี ไม่มกี ารระคายเคือง เกณฑ์การประเมิน 3. ผิวหนังรอบ stoma ไม่มรี อยแดง ถลอกหรอื เปน็ แผล 4. ผิวหนงั ท่ชี ดิ ขอบ stoma ไมม่ ีรอยแยก กิจกรรมการพยาบาล 1. ให้ความรู้เรอ่ื งหลักการปอ้ งกนั การระคายเคืองรอบ stoma ดังนี้ 1) ตดั ขนาดของรแู ป้นให้พอดี ไม่แน่นเกนิ ไป เพราะอาจทาให้เกิดการ เสียดสีเม่ือมีการเคลื่อนไหวร่างกาย และไม่ตัดรูแป้นให้กว้างมากเกิด ไป เนื่องจากอาจทาใหเ้ กิดการระคายเคืองเนื่องจากอุจจาระท่ีออกมา ทาลายผิวรอบ stoma ได้ ดังน้ันการตัดรูแป้นท่ีเหมาะสม คือ ห่าง จากขอบ stoma ไม่เกนิ 2 มลิ ลิเมตร กรณีศึกษา 2) กรณที ่ลี าไสบ้ วม (edematous stoma) สามารถใช้เทคนิคการตัด รูแป้นแบบเป็นรอยแฉก ชื่อว่า “Radial slit technique” (พิกุล, 2562) เน่อื งจากชว่ ยให้สามารถใสไ่ ด้ง่ายโดยทร่ี ูไมก่ วา้ งจนเกนิ ไป หนา้ 176

3) ปกป้องลาไส้หน้าท้องจากการบาดเจ็บ ลาไส้หน้าท้องจะไม่มี เส้นประสาทมาเลี้ยง จึงทาให้ไม่มีความรู้สึกเจ็บหรือความรู้สึกจาก การสัมผัส ดังน้ันจึงต้องทาความสะอาด stoma อย่างเบามือ ด้วย ความระมัดระวัง หากเกิดอุบัติเหตุ stoma ถูกกระทบกระเทือน มี เลือดออกควรรีบแจ้งพยาบาล 4) เปลี่ยนถุงรองรับส่ิงขับถ่ายทันทีเมื่อสังเกตพบการร่ัวซึมของถุง รองรับอจุ จาระ หรือมีการระคายเคอื ง มีรอยแดง 5) การปกปอ้ งผวิ หนังจากการแพ้ผลิตภณั ฑท์ ่มี ีสว่ นผสมของกาว หรือ แอลกอฮอล์ ดังนั้นจึงควรมีการทดสอบการแพ้ผลิตภัณฑ์ด้วยวิธีการ (พิกุล, 2562) ดงั น้ี (1) ทดสอบแผ่นผลิตภัณฑ์บริเวณผิวหนังที่อ่อน เช่น ท้องแขน หลัง โดยตดิ แปน้ ไว้ 48 ช่วั โมง (2) เม่ือครบ 48 ชั่วโมงให้ลอกผลิตภัณฑ์ออกแล้ว แล้ว ทดสอบใหม่อักคร้งั ใน 2 วนั ถัดไป (3) หากกรณีมีอาการแพ้ ผื่นคัน ถุงน้า ต้องรีบลอก ผลติ ภัณฑ์ออกแลว้ ปรกึ ษาแพทย์ 6) การใช้ผลิตภัณฑ์เพ่ือช่วยปกป้องผิว (skin barrier) รอบๆ stoma โดยเฉพาะในผู้ป่วยที่มี ileostomy เนื่องจากส่วนประกอบของสิ่ง ขับถา่ ยเปน็ น้า และมสี ่วนประกอบของเอนไซม์ช่วยย่อย ซ่ึงจะทาลาย ผวิ หนงั ได้ 2. แนะนาการรับประทานอาหารท่ีป้องกันท้องเสีย (diarrhea) เนื่องจาก อจุ จาระที่เหลวมากหรือเป็นนา้ จะระคายเคืองผิวหนังรอบ stoma มาก ดังนั้น กรณีศึกษา หนา้ 177

ผู้ป่วยควรรับประทานอาหารท่ีสะอาด ปรุงสุกใหม่ รสไม่จัดหรือไม่เผ็ดเกินไป เฝ้าระวังการเกิดอาการท้องเสีย หากผู้ป่วยมีอาการถ่ายเหลวเป็นน้าจานวน มาก ควรรายงานแพทยเ์ พอื่ พจิ ารณารกั ษาอาการท้องเสยี ต่อไป 3. ติดตามประเมินภาวะการระคายเคืองรอบ stoma ทุก 8 ช่ัวโมงในระยะท่ี ยังรักษาในโรงพยาบาล หากผู้ป่วยกลับบ้าน แนะนาวิธีการสังเกตอาการ ระคายเคือง ใหต้ ดิ ตอ่ พยาบาลเพือ่ วางแผนการพยาบาลต่อไป การประเมนิ ผล 1. - ผวิ หนังรอบ stoma ไม่มีรอยแดง ถลอกหรือเป็นแผล 2. ผิวหนงั ท่ชี ิดขอบ stoma ไม่มีรอยแยก ข้อวินิจฉัยการพยาบาลที่ 4 จาเป็นต้องได้รับการวางแผนจาหน่ายเน่ืองจาก พร่องความรูใ้ นการดูแลตนเองเมือ่ กลบั บา้ น เปา้ หมาย มคี วามรใู้ นการดแู ลตนเองเม่อื มีรเู ปดิ ทางหนา้ ท้อง เกณฑ์การประเมิน 1. สามารถเทอจุ จาระได้อยา่ งถกู ตอ้ ง 2. เปลยี่ นถงุ รองรบั อุจจาระอยา่ งถูกต้อง 3. บอกหลกั การดูสขุ ภาพตนเองไดอ้ ยา่ งถูกต้อง กรณีศึกษา หนา้ 178

กจิ กรรมการพยาบาล 1. สอนสาธิตการเทอุจจาระ โดยควรเทอุจจาระเมื่อมีปริมาณอุจจาระ ประมาณ 1 ใน 3 ส่วน ของ colostomy bag เน่ืองจากหากมีปริมาณ อจุ จาระมากจะทาให้เกดิ การดึงรั้ง เกดิ รูรวั่ ไดง้ ่าย ขน้ั ตอนการเทอุจจาระ ดังนี้ 1) เทอจุ จาระในห้องนา้ ทีช่ กั โครก โดยกดน้าขณะทาเพ่ือป้องกันไม่ให้ อจุ จาระกระจายเปอื้ น หากกรณีไม่สะดวกเทในห้องน้า เช่น การออก นอกบ้าน ผปู้ ่วยนอนติดเตียง สามารถเทใส่ถุงพลาสติกได้แล้วจึงค่อย นาไปท้งิ ในห้องน้า 2) ล้างบรเิ วณปลายถงุ หรอื ใสน่ ้าเข้าไปล้างในถุงเล็กน้อย เสร็จแล้วใช้ สาลหี รอื ผา้ นุม่ ๆ เชด็ ปลายถุงให้สะอาด 3) ปิดปลายถุงด้วยอุปกรณ์ปิดปลายถุงตามวิธีการใช้อุปกรณ์นั้น ๆ โดยทุกครั้งของการปิดปลายถุงต้องม้วนออกด้านนอกเพื่อป้ องกัน อปุ กรณก์ ดผิวหนังผ้ปู ว่ ย จนอาจกลายเป็นแผลได้ 2. แนะนาการปฏิบัติตัวเมื่อมีแก๊สภายในถุงจนทาให้ถุงโป่งพอง ควรเปิดถุง ระบายแก๊สออกเพือ่ ปอ้ งกนั ไม่ใหเ้ กดิ แรงดนั จนทาให้เกิดการรัว่ ของถุง 3. สอนสาธิตการเปลี่ยนถุงรองรับอุจจาระอย่างถูกต้อง พร้อมท้ังประเมินผล การปฏิบัติและสอนสาธิตจนกว่าผู้ป่วยหรือผู้ดูแลจะสามารถปฏิบัติได้อย่าง ถกู ต้อง 4. ให้ความรู้การปฏิบัติตัวอ่ืน ๆ ที่เกี่ยวข้องเพ่ือให้ผู้ป่วยมีภาวะสุขภาพที่ดี ดังนี้ กรณีศึกษา หนา้ 179

กรณีศึกษา 1) การดูแลสุขวิทยาส่วนบุคคล ผู้ป่วยควรดูแลความสะอาดร่างกาย เพ่ือป้องกันการติดเชื้อในอวัยวะต่าง ๆ ของร่างกาย สามารถอาบน้า ไดต้ ามปกติ ซึง่ มีวีการปฏิบัติดงั นี้ (1) กรณีถุงรองรับอุจจาระ (colostomy bag) ยังติดดี ไม่มี รูร่วั ให้ใชถ้ ุงพลาสติก มาปิดครอบ colostomy bag ไว้แล้ว ใช้พลาสเตอร์ปิดรอบทั้ง 4 ด้าน เพ่ือป้องกันไม่ให้น้าเข้าไป เซาะกาวท่ีติดขอบถุง แล้วอาบน้าตามปกติ ระมัดระวังการ ขัดถูดว้ ยแรงบรเิ วณท่ีครอบไว้ (2) กรณีขอบ colostomy bag มีรอยลอก มีรูรั่วหรือ ต้องการเปล่ียน colostomy bag ใหม่ สามารถลอกถุงออก แล้วอาบน้าตามปกติ แล้วจึงค่อยใส่ colostomy bag ชิ้น ใหม่ แต่ให้ระมัดระวังบริเวณ stoma ให้ทาความสะอาด ด้วยน้าเปล่าหรือหากต้องการใช้สบู่ทาความสะอาดคต้อง เป็นสบู่ที่เป็นกลางคา่ pH ประมาณ 5.5 2) การแต่งกายที่เหมาะสม ผู้ป่วยควรสวมเส้ือผ้าท่ีไม่รัดหรือกด บรเิ วณ stoma เสอ้ื ผา้ ควรมีการระบายอากาศดี สวมใสส่ ุขสบาย 3) การออกกาลังกาย ผู้ป่วยสามารถออกกาลังกายเบา ๆ ได้ เช่น การบริหารแขน ขา และลาตัว หลีกเล่ียงการเล่นกีฬาที่ต้องปะทะ หลีกเลี่ยงการออกกาลังกายหรือการทากิจกรรมท่ีมีการเคล่ือนไหว มากหรือมีเหงื่อออกมากเนื่องจากอาจทาให้แถบกาวของถุงรองรับ อุจจาระหลุกลอกได้งา่ ย 4) การรับประทานอาหาร ภายหลังการผ่าตัด 1 – 2 สัปดาห์ ผู้ป่วย ควรเป็นอาหารท่ีย่อยง่าย สามารถรับประทานอาหารได้ทุกชนิดตาม หนา้ 180

ความต้องการ แต่ควรเคี้ยวอาหารให้ละเอียด เพ่ือให้อาหารย่อยง่าย ด่ืมน้าอย่างเพียงพอ หลีกเลี่ยงมีผลต่อภาวะสุขภาพ โดยการ รบั ประทานอาหารเพอื่ ป้องกันภาวทอ้ งผกู ทอ้ งเสยี ที่เหมาะสมมดี ังนี้ (1) การรับประทานอาหารเพ่ือป้องกันภาวะท้องผูก (constipation) เนื่องจากอาการท้องผูกจะทาให้ผู้ป่วยเกิด ความไม่สุขสบายโดยสาเหตุของการเกิดภาวะท้องผูกของ ผู้ป่วยที่มีรูเปิดทางหน้าท้อง เช่น การรับประทานอาหารท่ีมี กากใยน้อย ดม่ื นา้ ไมเ่ พียงพอ ยาบางประเภทที่มีผลข้างเคียง ให้เกิดภาวะท้องผูก ความเครียด การพักผ่อนไม่เพียงพอ ดังนั้นผู้ป่วยควรรับประทานอาหารท่ีมีกากใยสูง เช่น ผัก ผลไม้ สามารถด่ืมนา้ ผลไม้ท่ีสามารถแกป้ ัญหาท้องผูกได้ เช่น น้าลูกพรุน นาสับปะรด ด่ืมน้าประมาณ 2,000 – 3,000 มิลลิลิตรต่อวัน แนะนาให้มีการเคลื่อนไหวร่างกายเพ่ือให้ ลาไส้มีการเคล่ือนไหว หลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารย่อย ยาก เชน่ เนือ้ สตั ว์ อาหารปรุงแต่ง (2) การรับประทานอาหารเพ่ือป้องกันภาวะท้องเสีย (diarrhea) อาการท้องเสียอาจเกิดได้ในผู้ป่วยท่ีมีการผ่าตัด ในส่วนลาไส้เล็กเนื่องจากเก่ียวข้องกับการดูดซึม ร่างกาย ต้องใช้เวลาในการปรับตัวเพื่อให้ลาไส้มีการดูดซึมใกล้เคียง กับปกติ นอกจากน้ีอาการท้องเสียยังอาจเกิดจากการ รับประทานอาหารที่ไม่เหมาะสม ดังน้ันควรแนะนาการ รับประทานอาหาร ดังนี้ อาหารที่สะอาด ปรุงสุกใหม่ รสไม่ จดั หรือไมเ่ ผด็ เกินไป หลีกเลีย่ งอาหารหมักดอง กรณีศึกษา หนา้ 181

(3) หลักการรบั ประทานอาหารที่ช่วยลดการเกิดกลิ่น / แก๊ส ดังนี้ จากัดอาหารประเภทปลา หัวหอม กระเทียม กะหล่าปลี หลีกเลี่ยงการเคี้ยวหมากฝรั่ง สูบบุหรี่ การด่ืม เครื่องด่ืมแอลกอฮอล์ การรับประทานโยเกิร์ต สามารถช่วย ลดการเกิดแก๊ส 5) การพักผ่อนอย่างเพียงพอ 6 – 8 ชั่วโมงเพ่ือให้ร่างกายแข็งแรง การทางานของระบบต่าง ๆ ในรา่ งกายดีข้ึน 5. แนะนาการเตรียมตัวก่อนก่อนออกจากบ้านเพ่ือให้ผู้ป่วยสามารถใช้ ชวี ิตประจาวนั หรอื ทางานได้ตามปกติ พยาบาลต้องให้คาแนะนาการเตรียมตัว ของผปู้ ่วยกอ่ นออกจากบ้าน ดังนี้ 1) การเตรียมอุปกรณ์ของใช้ที่เก่ียวข้องกับการเปล่ียนถุงรองรับ อุจจาระ การเทอุจจาระ ควรเตรียมให้พร้อมตลอดเวลา มีถุงรองรับ อุจจาระสารองไว้กรณเี กิดเหตุการณ์ถุงรองรับอุจจาระมีรอยรั่ว เล่ือน หลุด เตรียมอุปกรณ์สาหรับทาความสะอาด เช่น กระดาษเปียกเช็ด ทาความสะอาดสามารถนาแทนสาลชี บุ นา้ ในกรณที ่ีไมส่ ะดวก 2) เตรยี มอปุ กรณ์ดังกล่าวข้องตน้ ให้สามารถหยิบได้สะดวก อาจใส่ใน กล่องกรือกระเป๋า ทั้งนี้เพ่ือให้สามารถหยิบใช้ได้ทันที โดยเฉพาะใน กรณฉี ุกเฉนิ 3) ไมท่ ้ิงอุปกรณ์ดังกล่าวไว้ในรถ เนื่องจากสภาพอากาศที่ร้อนอาจทา ให้แป้นของ ถุงรองรับอุจจาระและอุปกรณ์เสริมต่าง ๆ เส่ือมสภาพ หรือเสยี ได้ 6. แนะนาการสงั เกตอาการผิดปกตทิ ี่ต้องปรกึ ษาพยาบาลหรอื แพทย์ ดังนี้ 1) ผิวหนังรอบ ๆ stoma มีอาการระคายเคือง เป็นผื่นแดง หรือเป็น แผล อาการคัน ผิวหนงั อกั เสบ หรือติดแปน้ แล้วหลุดก่อนเวลา หรือมี การรัว่ ซมึ ของอจุ จาระที่ทา ให้ต้องเปลยี่ นแป้นบ่อยขึ้น กรณีศึกษา หนา้ 182

3) stoma ยุบตัวลงไปต่ากว่าระดับผิวหนัง ผิวหนังรอบ ๆ stoma บวมนนู หรือโป่งออกเมือ่ นอนราบไมก่ ลบั คนื 4) stoma มีความผิดปกติ มีเลือดสดๆ ออกไม่หยุดเมื่อทาการห้าม เลือดที่ stoma หรือมีลา ไส้ย่ืนยาว stoma ตีบตัน หรือมีถ่ายเป็น เลอื ดออกมาจากลา ไส้ 5) ปวดทอ้ ง หนา้ ทอ้ งแขง็ ตงึ อจุ จาระออกน้อยกว่าปกติลา เล็กลง ไม่ ผายลม คลื่นไสอ้ าเจียน ควรงดนา้ และอาหารไว้ก่อน เน่ืองจากอาจมี การอดุ ตันของลา ไส้เกิดขน้ึ แลว้ รบี มาโรงพยาบาล การประเมนิ ผล - สามารถเทอุจจาระได้อย่างถูกตอ้ ง - เปลย่ี นถุงรองรับอุจจาระอย่างถกู ตอ้ ง - บอกหลักการดสู ขุ ภาพตนเองได้อยา่ งถูกตอ้ ง ครบถ้วน สรปุ กรณีศกึ ษา ผู้ป่วยได้รับการผ่าตัด Tumor removal with Transvers Colostomy bag at right Quadrant มีปัญหาดงั น้ี 1. การสญู เสยี ภาพลกั ษณ์ 2. ไม่สามารถเปลีย่ นถุงรองรบั อุจจาระทางหนา้ ท้องได้ 3. ขาดความรเู้ กย่ี วกับการปฏบิ ตั ิตัวที่เหมาะสมเมอ่ื มีถุงอจุ จาระทางหน้าท้อง ภายหลังให้การพยาบาล ผู้ป่วยยอมรับการเจ็บป่วยได้ สามารถเปล่ียนถุงรองรับ อจุ จาระไดถ้ ูกตอ้ ง บอกการปฏบิ ตั ติ วั ทถ่ี กู ต้องได้ กรณีศึกษา หนา้ 183



ดัชนี กระบวนการหายของแผล……………………………………………………………………… 7 กายวภิ าคศาสตรข์ องผิวหนัง…………………………………………………………………. 1 การเปลยี่ นถุงรองรบั อุจจาระ………………………………………………………………… 113 การทาความสะอาดพน้ื แผล…………………………………………………………………… 46 การประเมินภาวะโภชนาการ………………………………………………………………… 28 การประเมินรเู ปิดหน้าท้อง……………………………………………………………………. 95 การป้องกนั แผลกดทับ………………………………………………………………………….. 24 การพยาบาลผู้ป่วยท่ีมแี ผลกดทับ ………………………………………………………….. 37 ปัจจัยทม่ี ีอิทธิพลตอ่ การหายของแผล……………………………………………..……… 8 แผล……………………………………………………………………………………………………. 5 แผลกดทับ …………………………………………………………………………………………. 12 แผลกดทบั ระดับ 1………………………………………………………………………………. 25 แผลกดทบั ระดับ 2…………………………………………………………………………….... 26 แผลกดทับระดับ 3……………………………………………………………………………… 41 แผลกดทับระดับ 4………………………………………………………………………………. 43 ผวิ หนงั อักเสบจากการควบคุมการขบั ถา่ ยไม่ได้…………………........................ 72,78 โภชนาการในผู้ป่วยมแี ผลกดทับ…………………………………………………………….. 28 ดชั นี หนา้ 184

ผลิตภณั ฑ์ปกป้องผวิ ………………………………………………………………………….. 103 ผวิ หนังอักเสบจากการควบคุมการขบั ถ่ายไมไ่ ด้ ……………………………………. 72, 78 ภาวะโภชนาการพร่อง ……………………………………………………………………… ภาวะกลนั้ ปัสสาวะไม่ได้…………………………………………………………………….. 33 ภาวะกลนั้ อุจจาระไม่ได้……………………………………………………………………… 76 รเู ปิดหนา้ ท้อง…………………………………………………………………………………… 77 วิธที าความสะอาดแผล……………………………………………………………………….. 90 อุปกรณส์ าหรบั รเู ปิดหน้าท้อง …………………………………………………………….. 47 98 ดชั นี หนา้ 185

Index 50 alginate dressing. 99,100 Colostomy 77 fecal incontinence 26, 27, Foam dressing.. 51,52,53 gauze dressing 50 honey - containing dressing 57 hydrocolloid dressing 54 hydrogel dressing 55 incontinence associated dermatitis 72, 81 incontinence of urine 76 negative pressure wound therapy 58 pouching 113 Process of wound healing 7 silver-containing dressing 56 skin barrier 98, 103 stoma stoma assessment 90 stoma equipment 97 topical agent 98 wound 50 wound bed dressing 5 46 ดชั นี หนา้ 186




Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook