แผนพฒั นาทอ้ งถ่ิน (พ.ศ.๒๕61 – ๒๕65) ขององคก์ ารบริหารสว่ นตาบลเขาขลุง องค์การบริหารสว่ นตาบลเขาขลงุ อาเภอบ้านโปง่ จงั หวัดราชบุรี
ส่วนที่ ๑ สภาพทั่วไปและข้อมลู พื้นฐาน
สว่ นท่ี ๒ ยุทธศาสตร์องคก์ รปกครองสว่ นท้องถ่นิ
ส่วนที่ ๓ การนาแผนพฒั นาท้องถิ่น ไปสู่การปฏิบตั ิ
สว่ นท่ี ๔ การติดตามและประเมนิ ผล
คำนำ องค์การบริหารส่วนตาบล มีอานาจหน้าท่ีตามพระราชบัญญัติสภาตาบลและองค์การบริหารส่วน ตาบล พ.ศ.๒๕๓๗ ตามมาตรา ๖๖ และทแ่ี ก้ไขเพม่ิ เติม (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. ๒๕42 ตามมาตรา ๖๗ และ 68 และ ตามพระราชบัญญัติกาหนดแผนและขั้นตอนการกระจายอานาจให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน พ.ศ.๒๕๔๒ มาตรา ๑๖ ประกอบกบั ระเบียบกระทรวงมหาดไทย ว่าด้วยการจัดทาแผนพัฒนาขององค์กรปกครองสว่ นท้องถ่ิน พ.ศ. 2548 แก้ไขเพ่ิมเติมถึง (ฉบับท่ี 3) พ.ศ. ๒๕61 กาหนดให้มีการจัดทาแผนพัฒนาท้องถ่ินซึ่งเป็นแผนการ พัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินโดยให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิน่ ใช้แผนพัฒนาท้องถิ่นเป็นกรอบในการ จดั ทางบประมาณรายจา่ ยประจาปี งบประมาณรายจา่ ยเพิม่ เติม และงบประมาณจากเงินสะสมในช่วงของแผนน้ัน รวมท้งั วางแนวทางเพ่ือใหม้ ีการปฏิบัติให้บรรลวุ ัตถุประสงค์ตามโครงการพัฒนาที่กาหนดไว้ในแผนพฒั นาทอ้ งถ่ิน เพือ่ ใชง้ บประมาณท่มี ีอยอู่ ยา่ งจากดั ในการพัฒนาอยา่ งมีประสทิ ธภิ าพและเกดิ ความคุ้มค่า ซ่งึ จะต้องดาเนินการให้ เป็นไปตามข้ันตอน และกระบวนการท่ีกาหนด สอดคลอ้ งกับปัญหาความต้องการของประชาชน ในเขตองค์การ บริหารส่วนตาบล โดยแผนพัฒนาท้องถิ่นห้าปีนี้ ต้องมีความสอดคล้องและเชื่อมโยงกับแผนพัฒนาจังหวัด แผนพัฒนากลุ่มจังหวัด รวมท้ังแผนปฏิบัติราชการประจาปีจังหวัด แผนปฏิบัติราชการประจาปีกลุ่มจังหวัด ตลอดจนสามารถบูรณาการแผนงาน/โครงการ/กิจกรรม และงบประมาณในพื้นที่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อันจะ ก่อใหเ้ กิดประโยชนส์ งู สดุ ให้กบั ประชาชน องคก์ ารบริหารส่วนตาบลเขาขลุง ในฐานะท่ีเป็นองคก์ รปกครองส่วนท้องถิ่นมีอานาจหน้าที่ในการ จดั ระบบบริการสาธารณะ เพ่ือประโยชน์สขุ ของประชาชนในท้องถ่ินตามวสิ ยั ทัศน์การพฒั นาขององค์การบรหิ าร ส่วนตาบล “พัฒนางานโครงสร้างพนื้ ฐาน ส่งเสริมคุณภาพชีวิต การศึกษาก้าวไกล ใส่ใจสง่ิ แวดล้อม เพ่ือมุ่งสู่ ตาบลนา่ อยู่” ดังนั้น การวางแผนจึงเป็นสิ่งสาคัญและจาเป็นอย่างย่ิงในการพัฒนาองค์การบริหารส่วนตาบล แผนพัฒนาท้องถิ่นห้าปี จะเป็นเคร่ืองมือในการบริหารและนาไปสู่การบรรลุวัตถุประสงค์ ความสัมฤทธ์ิผล ต่อภารกิจ ความมีประสิทธิภาพ และตอบสนองความต้องการของประชาชนในที่สุดและการจัดทาแผนพัฒนา พัฒนาท้องถิ่น (พ.ศ. 2561 – 2565) ขององค์การบริหารส่วนตาบลเขาขลุง ได้รับความร่วมมือจาก กานัน ผู้ใหญ่บ้าน สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนตาบล ผู้อานวยการโรงเรียน ผู้อานวยการโรงพยาบาลส่งเสริม สุขภาพ เกษตรประจาตาบล คณะกรรมการพัฒนาท้องถิ่น ส่วนราชการอ่ืน ๆ ที่เก่ียวข้อง และทุกภาคส่วน องคก์ ารบริหารส่วนตาบลเขาขลุง จงึ ขอขอบคณุ มา ณ โอกาสน้ี องคก์ ำรบริหำรส่วนตำบลเขำขลุง มิถนุ ำยน 2562
สำรบญั หน้ำ 1 - 15 สว่ นที่ ๑ สภำพทั่วไปและขอ้ มูลพ้นื ฐำน 16 - 65 สว่ นที่ 2 ยุทธศำสตร์องค์ปกครองสว่ นทอ้ งถน่ิ 65 - 313 สว่ นท่ี 3 กำรนำแผนพฒั นำท้องถน่ิ ไปสกู่ ำรปฏบิ ตั ิ 314 - 341 สว่ นที่ 4 กำรตดิ ตำมและประเมินผล
ส่วนท่ี 1 สภาพทวั่ ไปและขอ้ มลู พน้ื ฐาน ๑. ดา้ นกายภาพ หม่ทู ี่ 10 บา้ นสัมมาราม ๑.๑ ทตี่ ้งั ของหมบู่ ้าน ประกอบดว้ ย หมู่ที่ 11 บา้ นห้วยยาง หมู่ที่ ๑ บ้านเขาแจง หมทู่ ่ี 12 บ้านไผ่สามเกาะ หมทู่ ่ี ๒ บ้านสระส่ีมุม หมทู่ ี่ 13 บา้ นโป่งยอ หมู่ที่ 3 บ้านเจรญิ ธรรม หมู่ที่ 14 บา้ นสมั มาราม หมทู่ ี่ 4 บา้ นหนองไม้เฝา้ หมทู่ ี่ 15 บ้านหนองไกข่ นั หมูท่ ่ี 5 บ้านเขาขลุง หมู่ท่ี 16 บา้ นเจรญิ ธรรม หมู่ที่ 6 บา้ นหนองอมุ่ หมทู่ ่ี 17 บ้านหว้ ยยางเหนือ หมทู่ ่ี 7 บ้านดอนไมล้ าย หมู่ท่ี 18 บ้านสระส่มี ุม หมทู่ ่ี 8 บา้ นหนองขาม หมทู่ ่ี 9 บ้านหนองไกข่ ัน
2 แผนที่ตาบ
2 บลเขาขลงุ
3 ๑.๒ ลักษณะภูมิประเทศ พ้ืนท่ีส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นลอนคลื่น ท่ีดอนและที่ลุ่มมีหีบน้า และมีเขาลูกช้างอยู่ทางตอนเหนือของ ต้าบล ๑.๓ ลกั ษณะภูมิอากาศ ต้าบลเขาขลุงต้ังอยู่ในเขตบริเวณที่มีภูเขา จึงท้าให้ได้รับลมมรสุมไม่เต็มท่ีท้าให้มีฝนตกน้อยและไม่ตก ต้องตามฤดกู าล สภาพอากาศสว่ นใหญ่แหง้ แลง้ ในฤดูหนาวบริเวณเชิงเขาและหุบเขามสี ภาพอากาศหนาว ๑.๔ ลกั ษณะของดิน ลักษณะดินโดยทั่วไปส่วนใหญ่เป็นดินทรายและดินร่วน เหมาะกับการปลูกอ้อยและมันส้าปะหลัง รองลงมาเป็นดนิ รว่ นปนทรายและดินเหนียว เหมาะส้าหรับการทา้ นา ปลูกพชื ไรแ่ ละพชื สวน ๒. ดา้ นการเมือง/การปกครอง องค์การบริหารส่วนต้าบลเขาขลุง มีจ้านวน ๑๘ หมู่บ้าน แต่ละหมู่บ้านมีสมาชิกสภาองค์การบริหาร ส่วนต้าบลที่มาจากการเลือกต้ังโดยตรงจากประชาชนในหมูบ่ ้านๆ ละ ๒ คน ประชาชนมีสว่ นรว่ มในการจัดซอ้ื จัดจ้างของ องคก์ ารบริหารส่วนต้าบล โครงสร้างองค์การบรหิ ารส่วนตาบล โครงสรา้ งและการบริหารงานขององคก์ ารบริหารสว่ นตา้ บลเขาขลุง แบง่ ออกเป็น ๒ สว่ น คอื ๑. สภาองค์การบริหารสว่ นตา้ บล ๒. นายกองค์การบรหิ ารสว่ นต้าบล สภาองค์การบรหิ ารส่วนตาบล สภาองค์การบรหิ ารสว่ นต้าบลเขาขลุง ประกอบด้วยสมาชกิ สภาองคก์ ารบริหารส่วนตา้ บล ท่มี าจากการเลอื กต้ังโดยตรงจากประชาชนในหม่บู ้านๆ ละ ๒ คน โดยตา้ บลเขาขลงุ มีจ้านวน ๑๘ หม่บู า้ น รวมมสี มาชกิ สภาองค์การบริหารส่วนตา้ บลเขาขลุง จา้ นวน ๓๖ คน โดยสมาชิกสภาองคก์ ารบริหารสว่ นต้าบล มวี าระในการด้ารงตา้ แหน่งคราวละ ๔ ปี พระราชบัญญตั ิสภาตา้ บลและองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา้ บล พ.ศ.๒๕๓๗ และแกไ้ ขเพ่มิ เตมิ ฉบับท่ี ๖ (พ.ศ.๒๕๕๒) มาตรา ๔๖ กา้ หนดใหส้ ภาองค์การบริหารส่วนต้าบลมอี า้ นาจหน้าทด่ี งั ต่อไปน้ี (๑) ใหค้ วามเหน็ ชอบแผนพัฒนาองคก์ ารบรหิ ารส่วนตา้ บล เพอื่ เปน็ แนวทางในการบรหิ ารกิจ การขององคก์ ารบรหิ ารส่วนต้าบล (๒) พจิ ารณาและใหค้ วามเห็นชอบร่างขอ้ บัญญตั ิองคก์ ารบรหิ ารสว่ นต้าบล รา่ งขอ้ บัญญัตงิ บ ประมาณรายจา่ ยประจ้าปี และร่างข้อบญั ญตั งิ บประมาณรายจ่ายเพม่ิ เติม (๓) ควบคมุ การปฏิบตั ิงานของนายกองค์การบรหิ ารส่วนต้าบลให้เป็นไปตามกฎหมาย นโยบาย แผนพฒั นาองค์การบรหิ ารส่วนตา้ บล ขอ้ บัญญตั ิ ระเบียบและข้อบงั คับของทางราชการ นายกองค์การบรหิ ารส่วนตาบล นายกองค์การบริหารส่วนต้าบล ซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน ในเขตองค์การบริหาร ส่วนต้าบล มีวาระในการด้ารงต้าแหน่ง ๔ ปี และนายกองค์การบริหารส่วนต้าบลสามารถแต่งต้ังรองนายกองค์การ บริหารสว่ นต้าบล ๒ คน และเลขานุการนายกองคก์ ารบริหารส่วนตา้ บล ๑ คน พระราชบัญญัตสิ ภาต้าบลและองค์การบริหารส่วนตา้ บล พ.ศ.๒๕๓๗ และแก้ไขเพ่ิมเติมฉบับท่ี 5 พ.ศ. ๒๕๕๒ มาตรา ๕๙ กา้ หนดใหน้ ายกองค์การบรหิ ารส่วนต้าบลมีอา้ นาจหน้าทด่ี ังตอ่ ไปน้ี
4 นายกองค์การบรหิ ารส่วนตาบลมีอานาจหนา้ ที่ดังต่อไปนี้ (๑) กา้ หนดนโยบายโดยไมข่ ัดตอ่ กฎหมาย และรับผิดชอบในการบริหารราชการขององคก์ าร บริหารส่วนต้าบลใหเ้ ปน็ ไปตามกฎหมาย นโยบาย แผนพัฒนาองคก์ ารบรหิ ารส่วนต้าบล ขอ้ บัญญัติ ระเบยี บ และขอ้ บังคับของทางราชการ (๒) สง่ั อนญุ าต และอนุมัติเก่ยี วกบั ราชการขององคก์ ารบรหิ ารส่วนตา้ บล (๓) แต่งต้ังและถอดถอนรองนายกองค์การบริหารสว่ นต้าบลและเลขานุการนายกองค์การ บรหิ ารส่วนตา้ บล (4) วางระเบียบเพอื่ ให้งานขององคก์ ารบริหารส่วนตา้ บลเปน็ ไปด้วยความเรียบรอ้ ย (5) รักษาการใหเ้ ปน็ ไปตามข้อบัญญตั ิองคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา้ บล (6) ปฏบิ ตั หิ น้าท่ีอ่ืนตามทบ่ี ัญญัติไวใ้ นพระราชบัญญตั นิ แ้ี ละกฎหมายอ่นื บทบาทและอานาจหนา้ ทข่ี ององคก์ ารบริหารส่วนตาบล องค์การบริหารส่วนต้าบล มีอ้านาจหน้าท่ีตามพระราชบัญญัติสภาต้าบลและองค์การบรหิ ารส่วนต้าบล พ.ศ.๒๕๓๗ ดงั ต่อไปน้ี มาตรา ๖๖ องค์การบริหารส่วนต้าบลมีอ้านาจหน้าที่ในการ พัฒนาต้าบลท้ังในด้านเศรษฐกิจ สังคม และวัฒนธรรม ตามพระราชบญั ญตั สิ ภาต้าบลและองค์การบรหิ ารสว่ นต้าบล พ.ศ.2537 และทแ่ี กไ้ ขเพิม่ เติม ฉบับท่ี 3 พ.ศ.2542 ดังต่อไปนี้ มาตรา ๖๗ ภายใต้บงั คบั แห่งกฎหมาย องค์การบริหารส่วนต้าบล มีหน้าที่ตอ้ งท้าในเขตองค์การบรหิ าร สว่ นตา้ บล ดังตอ่ ไปนี้ (๑) จดั ให้มีและบา้ รงุ รักษาทางน้าและทางบก (๒) รกั ษาความสะอาดของถนน ทางนา้ ทางเดนิ และทส่ี าธารณะ รวมทั้งก้าจัดมลู ฝอยและสิ่งปฏิกูล (๓) ป้องกันโรคและระงับโรคตดิ ต่อ (๔) ปอ้ งกนั และบรรเทาสาธารณภยั (๕) สง่ เสรมิ การศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม (๖) สง่ เสริมการพัฒนาสตรี เดก็ เยาวชน ผู้สงู อายุ และผพู้ กิ าร (๗) คุม้ ครอง ดูแล และบ้ารุงรักษาทรพั ยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดลอ้ ม (๘) บา้ รงุ รักษาศลิ ปะ จารตี ประเพณี ภมู ปิ ญั ญาท้องถิน่ และวัฒนธรรมอันดีของท้องถิน่ (9) ปฏบิ ัตหิ นา้ ทอ่ี ่ืนตามทที่ างราชการมอบหมายโดยจัดสรรงบประมาณหรือบคุ ลากรใหต้ ามความ จ้าเป็นและสมควร มาตรา ๖๘ ภายใต้บังคับแห่งกฎหมาย องค์การบริหารส่วนต้าบลอาจจัดท้ากิจการในเขตองค์การ บริหารสว่ นต้าบล ดงั ตอ่ ไปน้ี (๑) ให้มนี า้ เพ่อื การอปุ โภค บรโิ ภค และการเกษตร (๒) ใหม้ แี ละบา้ รุงการไฟฟ้าหรือแสงสวา่ งโดยวธิ ีอืน่ (3) ใหม้ ีและบ้ารุงรกั ษาทางระบายน้า (4) ให้มีและบา้ รงุ สถานท่ีประชมุ การกีฬา การพักผอ่ น หยอ่ นใจและสวนสาธารณะ (5) ใหม้ ีและสง่ เสริมกลุ่มเกษตรกรและกจิ การสหกรณ์ (6) สง่ เสรมิ ใหม้ อี ตุ สาหกรรมในครอบครัว (7) บ้ารุงและสง่ เสริมการประกอบอาชพี ของราษฎร
5 (8) การคุ้มครองดแู ลและรักษาทรพั ยส์ ินอันเป็นสาธารณสมบัตขิ องแผ่นดนิ (9) หาผลประโยชน์จากทรัพย์สินขององคก์ ารบริหารสว่ นตา้ บล (10) ใหม้ ตี ลาด ท่าเทียบเรอื และท่าขา้ ม (11) กจิ การเกย่ี วกับการพาณิชย์ (12) การท่องเท่ยี ว (13) การผังเมือง องค์การบริหารส่วนต้าบล มีอ้านาจหน้าท่ีตามพระราชบัญญัติก้าหนดแผนและข้ันตอนการกระจาย อา้ นาจให้แกอ่ งคก์ รปกครองส่วนท้องถน่ิ พ.ศ.๒๕๔๒ ดงั ต่อไปนี้ มาตรา ๑๖ ให้เทศบาล เมืองพัทยา และองค์การบริหารส่วนต้าบลมีอ้านาจและหน้าท่ีในการจัดระบบ การบริการสาธารณะเพ่ือประโยชนข์ องประชาชนในท้องถิน่ ของตนเองดงั น้ี (๑) การจัดท้าแผนพัฒนาท้องถน่ิ ของตนเอง (๒) การจดั ให้มแี ละบ้ารุงรักษาทางบก ทางน้า และทางระบายน้า (๓) การจัดให้มีและควบคุมตลาด ท่าเทยี บเรือ ท่าข้าม และที่จอดรถ (๔) การสาธารณปู โภคและการกอ่ สร้างอนื่ ๆ (๕) การสาธารณูปการ (๖) การส่งเสรมิ การฝึก และประกอบอาชพี (๗) การพาณิชย์ และการส่งเสริมการลงทนุ (๘) การสง่ เสริมการท่องเทย่ี ว (๙) การจดั การศึกษา (๑๐) การสังคมสงเคราะห์ และการพัฒนาคุณภาพชีวติ เดก็ สตรี คนชรา และผดู้ ้อยโอกาส (๑๑) การบ้ารุงรักษาศลิ ปะ จารีตประเพณี ภมู ิปญั ญาท้องถ่ินและวัฒนธรรมอันดขี องท้องถิน่ (๑๒) การปรับปรงุ แหลง่ ชุมชนแออดั และการจดั การเก่ียวกบั ที่อยู่อาศยั (๑๓) การจดั ใหม้ ีและบา้ รุงรักษาสถานที่พกั ผอ่ นหย่อนใจ (๑๔) การส่งเสรมิ กฬี า (๑๕) การส่งเสริมประชาธปิ ไตย ความเสมอภาค และสทิ ธเิ สรภี าพของประชาชน (๑๖) ส่งเสรมิ การมสี ว่ นรว่ มของราษฎรในการพัฒนาทอ้ งถ่ิน (๑๗) การรักษาความสะอาดและความเปน็ ระเบียบเรียบรอ้ ยของบ้านเมือง (๑๘) การก้าจัดมูลฝอย ส่ิงปฏิกูล และน้าเสยี (๑๙) การสาธารณสุข การอนามัยครอบครัว และการรกั ษาพยาบาล (๒๐) การจัดใหม้ ีและควบคมุ สุสานและฌาปนสถาน (๒๑) การควบคมุ การเลีย้ งสัตว์ (๒๒) การจดั ใหม้ ีและควบคมุ การฆา่ สตั ว์ (๒๓) การรกั ษาความปลอดภัย ความเป็นระเบยี บเรยี บร้อย และการอนามัย โรงมหรสพและ สาธารณสถานอนื่ ๆ (๒๔) การจดั การ การบา้ รุงรักษา และการใช้ประโยชน์จากป่าไม้ ท่ดี ินทรพั ยากรธรรมชาติ และสิง่ แวดล้อม (๒๕) การผังเมอื ง (๒๖) การขนส่งและการวิศวกรรมจราจร
6 (๒๗) การดูแลรักษาที่สาธารณะ (๒๘) การควบคมุ อาคาร (๒๙) การป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (๓๐) การรักษาความสงบเรยี บรอ้ ย การส่งเสรมิ และสนับสนุนการปอ้ งกนั และรกั ษาความ ปลอดภยั ในชีวติ และทรพั ย์สนิ (๓๑) กิจการอน่ื ใดท่เี ป็นผลประโยชนข์ องประชาชนในทอ้ งถน่ิ ตามท่ีคณะกรรมการประกาศกา้ หนด ๒.๑ เขตการปกครอง องค์การบริหารสว่ นต้าบลเขาขลงุ ได้จดั ขน้ึ ตามพระราชบัญญัติสภาต้าบลและองค์การบริหารส่วนตา้ บล พ.ศ. ๒๕๓๗ และได้รับการจัดต้ังเป็นองค์การบริหารส่วนต้าบล ตามประกาศกระทรวงมหาดไทย เมื่อวันท่ี ๒ มีนาคม พ.ศ.๒๕๓๘ โดยประกาศในพระราชกิจจานุเบกษา ฉบับกฤษฎีกา เล่ม ๑๑๒ ตอนพิเศษ ๖ง ลงวันที่ ๓ มีนาคม พ.ศ. ๒๕๓๘ องค์การบริหารส่วนต้าบลเขาขลงุ เป็นองค์การบรหิ ารสว่ นต้าบลขนาดใหญ่ ความรับผิดชอบในเขตพื้นที่ต้าบล เขาขลุง มีจ้านวน ๑๘ หมู่บ้าน มีพื้นท่ีทั้งหมด ๘๒.๘๓ ตารางกิโลเมตร ห่างจากท่ีว่าการอ้าเภอบ้านโป่ง ประมาณ ๒๕ กิโลเมตร อาณาเขต อาณาเขตโดยรอบพ้ืนท่ี องค์การบริหารสว่ นตา้ บลเขาขลุง มีรายละเอียดดังน้ี ทิศเหนือ ติดกับ ตา้ บลโคกตะบอง อ้าเภอทา่ มะกา จังหวัดกาญจนบรุ ี ทิศใต้ ตดิ กบั ตา้ บลเตาปนู อา้ เภอโพธาราม จงั หวดั ราชบรุ ี ทิศตะวันออก ติดกับ ต้าบลหนองปลาหมอ อา้ เภอบ้านโป่ง จังหวดั ราชบรุ ี ทิศตะวันตก ติดกับ ตา้ บลหนองตากยา อา้ เภอท่ามว่ ง จงั หวัดกาญจนบุรี ๒.๒ การเลอื กต้ัง องคก์ ารบรหิ ารส่วนตา้ บลได้แบ่งเขตการเลอื กต้งั นายกองค์การบริหารสว่ นต้าบลเขาขลงุ และสภาชิกสภา องคก์ ารบรหิ ารส่วนตา้ บลเขาขลงุ ทัง้ ต้าบล เป็น ๑8 เขตเลอื กต้งั ตามท่ีตัง้ ของหมู่บา้ น 18 หมู่บา้ น ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนต้าบลเขาขลุงส่วนใหญ่ร่วมกิจกรรมทางการเมืองเสมอมาและ ประชาชนในเขตองค์การบริหารส่วนต้าบลยังมีส่วนร่วมในการบริหารงาน การช่วยเหลืองานองค์การบริหารส่วนต้าบล เสนอแนะในกิจกรรมขององค์การบริหารส่วนต้าบลในการด้าเนินงานต่างๆ เช่น การประชุมประชาคมในการจัด แผนพัฒนาองค์การบริหารสว่ นต้าบล ประชุมประชาคมแกไ้ ขปัญหาความยากจน ฯลฯ
7 ๓. ประชากร 3.1 ข้อมลู เกี่ยวกบั จานวนประชากร ต้าบลเขาขลงุ มจี า้ นวน ๑๘ หมูบ่ า้ น ประชากร ณ เดือน กุมภาพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕62 จ้านวนท้งั ส้นิ ๑3,430 คน แยกเป็นชาย ๖,515 คน หญงิ ๖,915 คน จ้านวนครัวเรอื นท้ังส้ิน ๔,594 ครัวเรือน ดังนี้ ตารางแสดงรายช่อื หมู่บ้าน / พ้ืนท่ี / ประชากร / ครัวเรอื น หมู่ท่ี ชอ่ื หมู่บา้ น พนื้ ท่ี จานวนประชากร จานวนครัวเรอื น หมายเหตุ (ไร)่ ชาย หญิง รวม ทั้งหมด ๑ บ้านเขาแจง ๒,๘๓๖ ๓85 ๔28 ๘13 265 ๒ บา้ นสระส่มี มุ ๑,๖๓๙ ๒61 ๒๖9 ๕30 ๒12 ๓ บา้ นเจริญธรรม ๑,๗๑๖ ๓38 ๓59 ๖97 ๒24 ๔ บา้ นหนองไม้เฝ้า ๑,๘๔๒ ๓48 ๓31 ๖79 ๒16 ๕ บา้ นเขาขลุง ๑,๒๕๙ ๓26 ๓40 ๖66 ๑74 ๖ บา้ นหนองอุ่ม ๑,๖๔๕ ๓52 ๓53 705 213 ๗ บ้านดอนไม้ลาย ๑,๔๙๑ ๓70 ๓92 ๗62 221 ๘ บ้านหนองขาม ๓,๑๖๑ ๕57 ๕73 ๑,๑30 ๓84 ๙ บา้ นหนองไก่ขัน ๑๑,๐๓๔ ๕31 ๕86 ๑,117 513 ๑๐ บา้ นสัมมาราม ๗,๑๖๓ ๔55 455 910 ๒72 ๑๑ บา้ นหว้ ยยาง ๔,๕๓๐ ๓54 398 ๗52 ๒45 ๑๒ บ้านไผ่สามเกาะ ๑,๒๑๐ ๓35 ๓43 ๖78 ๒40 ๑๓ บ้านโป่งยอ ๒,๑๑๓ ๒86 342 628 259 ๑๔ บ้านสัมมาราม ๒,๓๖๗ 404 414 818 ๒90 ๑๕ บา้ นหนองไกข่ นั ๒,๔๒๘ ๓50 ๓78 728 ๒56 ๑๖ บา้ นเจริญธรรม ๑,๑๒๗ ๒๙1 ๓52 ๖43 ๑80 ๑๗ บา้ นห้วยยางเหนือ ๑,๘๘๑ ๒77 319 596 233 ๑๘ บ้านสระส่มี ุม ๒,๓๒๗ 295 283 ๕78 ๑97 รวม ๕๑,๗๖๙ ๖,515 ๖,915 ๑3,430 ๔,594
8 ข้อมูลเก่ียวกบั จานวนประชากร (ข้อมลู เปรียบเทยี บยอ้ นหลงั ปี พ.ศ. 2558 – พ.ศ. 2562) 13,500 13,430 13,400 13,300 13,350 13,200 13,100 13,287 13,000 13,275 12,900 12,800 12,998 ปี พ.ศ.2558 12,700 ปี พ.ศ.2559 ปี พ.ศ.2560 ปี พ.ศ.2561 ปี พ.ศ.2562 จำนวนประชำกร
9 3.2 ชว่ งอายแุ ละจานวนประชากร ต้าบลเขาขลุงมีประชากร ณ เดอื น กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕62 จ้านวนทั้งสิ้น ๑3,430 คน แยกเปน็ ชาย ๖,515 คน หญงิ ๖,915 คน จ้านวนครัวเรอื นทั้งสิ้น ๔,594 ครวั เรือน และมีหลายเชื้อชาติประกอบดว้ ย เชือ้ ชาติ ไทย จนี มอญ ลาว ช่วงอายุ (ป)ี ตารางเปรยี บเทยี บประชากรจาแนกตามช่วงอายุ จานวนรวม (คน) นอ้ ยกว่า ๑ ปี จานวนเพศชาย (คน) จานวนเพศหญิง (คน) 104 ๑ ปี - ๒ ปี 44 60 ๑84 ๓ ปี - ๕ ปี 478 ๖ ปี - ๑๑ ปี 86 98 1,013 ๑๒ ปี - ๑๔ ปี ๒27 ๒51 493 ๑๕ ปี - ๑๗ ปี 498 515 ๔70 ๑๘ ปี - ๒๕ ปี ๒37 ๒56 ๑,151 ๒๖ ปี - ๔๙ ปี ๒29 ๒41 ๖,360 ๕๐ ปี - ๖๐ ปี 560 591 ๑,249 มากกวา่ ๖๐ ปีขึ้นไป ๓,๑49 ๓,211 ๑,848 584 ๖65 ๑3,430 รวม 880 968 ๖,526 ๖,904 ๔. สภาพทางสังคม ๔.๑ การศกึ ษา ศูนยพ์ ฒั นาเดก็ เล็ก จานวน 3 ศูนย์ 1. ศนู ย์พฒั นาเด็กเลก็ โรงเรยี นบ้านหนองไกข่ ัน (ตั้งอยู่ หม่ทู ่ี 9) 2. ศูนยพ์ ัฒนาเดก็ เล็กโรงเรยี นวัดสัมมาราม (ตั้งอยู่ หม่ทู ี่ 10) 3. ศูนย์พฒั นาเดก็ เลก็ ต้าบลเขาขลุง (ตัง้ อยู่ หมทู่ ี่ 12) โรงเรียน จานวน 9 โรงเรียน 1. โรงเรยี นวัดเจริญธรรม (ตงั้ อยู่ หมู่ท่ี 3) 2. โรงเรยี นวัดเขาขลุง (ตั้งอยู่ หมทู่ ี่ 5) 3. โรงเรียนบ้านดอนไม้ลาย (ตัง้ อยู่ หมู่ที่ 7) 4. โรงเรยี นบ้านหนองไกข่ ัน (ตง้ั อยู่ หมู่ที่ 9) 5. โรงเรยี นวดั สมั มาราม (ตงั้ อยู่ หมู่ท่ี 10) 6. โรงเรียนบ้านห้วยยาง (ต้งั อยู่ หมู่ท่ี 11) 7. โรงเรยี นวัดไผ่สามเกาะ (ตง้ั อยู่ หมู่ที่ 12) 8. โรงเรียนบา้ นโปง่ ยอ (ตง้ั อยู่ หมทู่ ี่ 13) 9. โรงเรียนวดั สระสีม่ มุ (ตั้งอยู่ หมู่ท่ี 18)
10 ๔.๒ สาธารณสุข โรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพตาบล จานวน ๔ แห่ง ๑. โรงพยาบาลส่งเสริมสขุ ภาพต้าบลบ้านหนองไม้เฝา้ (ต้ังอยู่หมู่ท่ี ๔) (ดแู ลรบั ผิดชอบพ้ืนท่ี หมู่ที่ 3, หมูท่ ่ี 4, หม่ทู ่ี 5, หมทู่ ี่ 7, หมู่ท่ี 16) ๒. โรงพยาบาลสง่ เสรมิ สขุ ภาพตา้ บลบ้านสมั มาราม (ต้ังอยู่หม่ทู ี่ ๑๐) (ดูแลรบั ผิดชอบพ้นื ท่ี หมู่ท่ี 8, หมทู่ ่ี 10 หมูท่ ี่ 13, หมูท่ ่ี 14) ๓. โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตา้ บลเขาขลงุ (ตง้ั อย่หู มู่ที่ ๑๒) (ดูแลรบั ผิดชอบพืน้ ที่ หมู่ที่ 1, หมทู่ ี่ 2 หมู่ท่ี 6, หม่ทู ่ี 12, หมทู่ ่ี 18) ๔. โรงพยาบาลสง่ เสริมสุขภาพตา้ บลบ้านหนองไก่ขนั (ตง้ั อยู่หม่ทู ี่ ๑๕) (ดแู ลรับผิดชอบพน้ื ที่ หมู่ท่ี 9, หมทู่ ี่ 11 หมู่ที่ 15, หมทู่ ี่ 17) รา้ นขายยาแผนปจั จุบัน จ้านวน 4 แห่ง อตั ราการมแี ละการใชส้ ว้ มราดน้า ๑๐๐ เปอร์เซน็ ต์ ๔.๓ อาชญากรรม องค์การบริหารส่วนต้าบลเขาขลุง มีสายตรวจต้ารวจชุมชนต้าบลเขาขลุง ประจา้ การอยู่ที่หมู่ที่ ๑๒ ต้าบลเขาขลุง สังกัดสถานีต้ารวจภูธรอ้าเภอบ้านโป่ง ประจ้าการเพ่ือตรวจดูแลรักษาความสงบเรียบร้อยแก่ประชาชน และมีอาสาสมัครป้องกันภัยฝ่ายพลเรือน (อปพร.) องค์การบริหารส่วนต้าบลเขาขลุง จัดชุดปฏิบัติการและออกท้างาน รว่ มกบั สายตรวจต้ารวจชมุ ชนต้าบลเขาขลงุ เพอื่ ชว่ ยเหลอื ผ้ปู ระสบภัย - สายตรวจประจ้าตา้ บลเขาขลงุ จา้ นวน ๑ แหง่ - หมบู่ ้านอาสาพัฒนาและป้องกันตนเอง (อพป.) จา้ นวน ๔ หมู่บ้านคือ หมู่ที่ ๔, ๙, ๑๐ และ หมู่ที่ ๑๑ ๔.๔ ยาเสพติด ปญั หายาเสพติดในเขตพื้นท่ีองค์การบรหิ ารส่วนต้าบล จากการที่สายตรวจต้ารวจชุมชนต้าบลเขาขลุง และทางสถานตี ้ารวจภูธรอา้ เภอบา้ นโปง่ ไดแ้ จง้ ใหก้ ับองค์การบรหิ ารส่วนต้าบลทราบนน้ั พบว่าในเขตองคก์ ารบริหารส่วน ตา้ บล มีผ้ทู ี่ติดยาเสพติด แตก่ ็ไดร้ ับความร่วมมอื จากทางผู้น้า ประชาชน หน่วยงานขององค์การบริหารส่วนต้าบลท่ีชว่ ย สอดส่องดูแลอยู่เป็นประจา้ การแก้ไขปัญหาขององค์การบริหารส่วนต้าบลสามารถท้าได้เฉพาะตามอ้านาจหน้าท่ีเท่าน้ัน เช่น การณรงค์ การประชาสัมพันธ์ การแจง้ เบาะแส การฝกึ อบรมให้ความรู้ ถ้านอกเหนือจากอา้ นาจหน้าท่ี ก็เปน็ เร่อื ง ของอ้าเภอหรอื ตา้ รวจแลว้ แตก่ รณี ท้งั น้ี องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา้ บลก็ไดใ้ ห้ความร่วมมือมาโดยตลอด ๔.๕ การสังคมสังเคราะห์ องคก์ ารบรหิ ารสว่ นตา้ บลไดด้ ้าเนนิ การดา้ นสงคมสงั เคราะห์ ดงั น้ี ๑. ด้าเนนิ การจ่ายเบ้ียยงั ชีพให้กับผู้สูงอายุ ผู้พกิ าร และผู้ปว่ ยเอดส์ ๒. รับลงทะเบียนและประสานโครงการเงนิ อุดหนนุ เพ่ือการเลย้ี งดูเด็กแรกเกดิ ๓. ประสานการท้าบัตรผูพ้ กิ าร ๔. ตัง้ โครงการชว่ ยเหลอื ผ้ยู ากจน ยากไร้ รายได้น้อย และผดู้ อ้ ยโอกาสไร้ทีพ่ ่ึง 5. ตงั้ โครงการปรับปรุงซ่อมแซมบ้านผ้สู งู อายุ ผู้พิการ และผู้ด้อยโอกาส
11 ๕. ระบบบรกิ ารพื้นฐาน ในเขตองค์การบริหารส่วนตาบลมรี ะบบบริการพื้นฐาน ดงั นี้ ๕.1 การคมนาคมขนส่ง ถนนลาดยางแบบแอสฟัลท์ติกคอนกรีต สายโคกสูง - หนองเป็ด ทางหลวงแผ่นดินหมายเลข ๓๒๗๓ ขนาดกว้าง ๖.๐๐ เมตร ยาว ๑๒.๙๕ กิโลเมตร จ้านวน ๑ สาย เป็นถนนสายหลักของต้าบลและใช้เป็นเส้นทาง คมนาคมระหว่างต้าบลกับที่ว่าการอ้าเภอบ้านโป่ง โดยมีรถสองแถวประจ้าทาง คือ สายบ้านโป่ง - หนองตากยา จา้ นวน ๑ สาย การคมนาคมภายในตา้ บล จะมถี นนทง้ั แบบลาดยางชนิดผิวแบบแอสฟลั ท์ตกิ คอนกรีต ถนนคอนกรีต เสรมิ เหล็ก ถนนดนิ ลูกรัง ถนนลงหนิ คลกุ และถนนดนิ ๕.๒ การไฟฟ้า หนว่ ยงานซง่ึ ให้บรกิ ารไฟฟ้าแกป่ ระชาชน ในเขตพน้ื ทอ่ี งคก์ ารบริหารสว่ นต้าบลเขาขลงุ คอื การไฟฟ้า ส่วนภูมภิ าคอ้าเภอบ้านโปง่ และในพ้ืนที่ หมูท่ ่ี ๗,๑๑,๑๗ สว่ นใหญ่เปน็ ของการไฟฟ้าส่วนภูมภิ าคอ้าเภอโพธาราม ๕.3 การประปา องคก์ ารบริหารส่วนตา้ บลเขาขลุง ไม่ได้ให้บรกิ ารระบบนา้ ประปาในพืน้ ท่ี เน่ืองจากแต่ละหมู่บา้ นมกี าร จัดเกบ็ และมกี ารบรหิ ารจดั การจัดเก็บน้าประปาเองภายในหมบู่ า้ น ๕.4 โทรศพั ท์ โทรศัพทส์ าธารณะ จ้านวนทง้ั หมด 3 ตู้ แต่ประชาชนส่วนใหญใ่ ชโ้ ทรศพั ทเ์ คลอ่ื นที่ในการติดตอ่ ส่ือสาร ๕.5 ไปรษณยี ห์ รือการสอื่ สารหรือการขนส่ง และวัสดุ ครภุ ัณฑ์ มีการจดั ส่งพสั ดุโดยบุรษุ ไปรษณีย์ และมีการจัดสง่ พัสดุโดยเคอรี่ เอ็กซ์เพรส รวมถึงมีการให้บริการด้าน การจัดส่งพัสดดุ ่วนท่ัวไทย บริการรับส่งพสั ดุและสินคา้ โดยเคอร่ี เอ็กซ์เพรส ซึง่ ตั้งอยู่บริเวณ หมู่ท่ี 12 บ้านไผ่สามเกาะ ซงึ่ ให้บรกิ ารในการขนสง่ สินคา้ และบรกิ ารแกป่ ระชาชนในพื้นท่ี ๖. ระบบเศรษฐกจิ ๖.๑ การเกษตร ประชากรในเขตองคก์ ารบริหารสว่ นตา้ บลเขาขลงุ ส่วนใหญ่ประกอบอาชพี เกษตรกรรม โดยมกี ารทา้ นา และปลกู พืชไรช่ นิดต่างๆ เชน่ อ้อยโรงงงาน มันส้าปะหลัง สับปะรด ข้าวโพดเล้ียงสัตว์ และมีการท้าสวนผลไมห้ ลาย ชนดิ เชน่ มะมว่ ง แก้วมังกร กล้วย มีการทา้ การปศุสัตวท์ สี่ า้ คญั คือ สกุ ร ไก่ เป็ด โคเน้อื และโคนมนอกจากนี้ยงั มีการ เพาะเลี้ยงสัตว์น้าจืด เช่น ปลาดุก ปลาสวาย และอุตสาหกรรมที่ส้าคัญ คือ อุตสาหกรรมเซรามิค อุสาหกรรมพิมพ์ผ้า อุตสาหกรรมย้อมผา้ อุตสาหกรรมหลอมอลมู ิเนียม ๖.2 การประมง ในพ้ืนท่ีต้าบลเขาขลุง ไม่มีการท้าประมงเน่ืองจากไม่มีแหล่งน้าท่ีสมบูรณ์ และพ้ืนที่ประสบภัยด้านน้า เพ่ือการอปุ โภคบรโิ ภคและด้านน้าเพอ่ื การเกษตร จึงไมส่ ามารถท้าการประมงเปน็ อาชีพได้ 12
๖.3 การปศสุ ัตว์ เปน็ การประกอบการในลักษณะเลี้ยงในครัวเรือนเป็นอาชพี หลักและอาชพี เสริม เช่น การเลีย้ งไก่ เป็ด โค สุกร กระบอื เปน็ ตน้ ๖.4 การบรกิ าร ในพนื้ ท่ีตา้ บลเขาขลุงไมไ่ ดม้ ีการให้บรกิ ารทางดา้ นธุรกิจการบรกิ าร ๖.5 การท่องเท่ยี ว ในเขตพน้ื ท่ีองค์การบรหิ ารสว่ นตา้ บลเขาขลงุ มสี ถานท่ีท่องเทีย่ ว 1 แห่ง คือ อุทยานเขาตะครอง ซงึ่ ตง้ั อยู่ หมทู่ ่ี 18 บา้ นสระสม่ี ุม เป็นแหล่งทอ่ งเที่ยวมตี น้ ไม้ร่มรื่น สวยงาม มีพระพทุ ธรปู ตั้งเดน่ เป็นสงา่ อยู่บนยอดเขา การเดินทางสะดวก คาขวญั ประจาตาบลเขาขลงุ “ท้องถน่ิ เกษตร เขตอุตสาหกรรม งามลา้ พระใหญ่ ร่มรนื่ ใจป่าชมุ ชน” ********************** ๖.6 อตุ สาหกรรม ๑. ป๊มั น้ามนั และปัม๊ ลอย จา้ นวน 6 แห่ง ๒. โรงสีขา้ ว จ้านวน ๓ แห่ง ๓. ร้านค้าเบด็ เตล็ด จ้านวน ๑08 แหง่ ๔. สหกรณ์ปศุสตั ว์ จ้านวน ๑ แห่ง ๕.โรงงานอตุ สาหกรรม จา้ นวน ๑6 แหง่ ๕.๑ บริษัท ธนบูรณค์ อนกรตี อดั แรง จา้ กัด (ต้ังอย่หู มู่ท่ี 2) อุตสาหกรรมวสั ดุก่อสร้าง ๕.๒ บรษิ ัท เซลโลกรีตไทย จ้ากัด (ตง้ั อยูห่ ม่ทู ี่ 9) อุตสาหกรรมผลิตกระเบือ้ ง ๕.๓ บรษิ ัท ไทยอารี อินเตอรเ์ ทก็ ซ์ จ้ากัด (ต้ังอย่หู มู่ท่ี 9) อตุ สาหกรรมยอ้ มผ้า ๕.๔ บริษทั ศรีทองเทก็ ซ์ไทล์ จ้ากดั (ตัง้ อย่หู มู่ที่ 9) อุตสาหกรรมพิมพผ์ ้า ๕.๕ บรษิ ัท ไทซันฟูดส์ จ้ากัด (ตง้ั อยหู่ มูท่ ี่ 9) อุตสาหกรรมน้าผลไม้ ๕.๖ บรษิ ทั รัฐชานนท์ แคนนิง่ จ้ากดั (ตงั้ อย่หู มู่ท่ี 10) อุตสาหกรรมผลติ ปลากระป๋อง ๕.7 บริษทั คราวน์เซรามคิ ส์ จ้ากัด (ตั้งอยู่หมูท่ ่ี 17) อุตสาหกรรมเซรามิคส์ ๕.8 บรษิ ทั ซันคาโอ จ้ากดั (ตั้งอยหู่ มทู่ ่ี 17) อตุ สาหกรรมหลอมอลมู ิเนยี ม ๕.9 บรษิ ัท กรงุ เทพสกรนี จ้ากดั (ตง้ั อยหู่ มทู่ ี่ 17) อตุ สาหกรรมพมิ พผ์ ้า ๕.๑0 บรษิ ัท นาราไรด์ โปรดกั ส์ จ้ากัด (ตง้ั อยู่หมู่ที่ 17) อตุ สาหกรรมผลติ แป้งข้าวเจา้ ๕.๑1 บริษทั เนแรค อารม์ ส์ อนิ ดัสตรี จ้ากดั (ตง้ั อย่หู มู่ที่ 13) อุตสาหกรรมผลติ ปลอกกระสุนปืน ๕.๑2 โรงงาน แสงทวี (ตง้ั อยหู่ มทู่ ่ี 10) อุตสาหกรรมทอผา้ ดิบ ๕.๑3 บรษิ ัท ซูมโิ ตโม อเี ลค็ ตรกิ ไวรงิ่ ซสิ เต็มส์ (ประเทศไทย) จ้ากัด (ตัง้ อย่หู มู่ที่ 17) อตุ สาหกรรมประกอบชดุ สายไฟในรถ 5.14 บรษิ ทั สรุ เสยี ง ประเทศไทย จ้ากดั (ตง้ั อยหู่ มู่ท่ี 13) โกดังเกบ็ พลุ ดอกไม้ไฟ 5.15 บริษทั 5 อมตะ จา้ กดั (ต้ังอยหู่ มทู่ ่ี 9) อุตสาหกรรมแผงโซล่าเซลล์ 5.16 บริษทั ครอฟฟ่ี จ้ากดั (ตงั้ อยูห่ มทู่ ี่ 4) อุตสาหกรรมตดั แต่งผักสด 13
๖.7 การพาณชิ ยแ์ ละกลุ่มอาชีพ ดา้ นกลมุ่ อาชพี จานวน 1 กลุม่ ชอื่ : วสิ าหกิจชุมชนกลุม่ แมบ่ า้ นบ้านเจรญิ ธรรม รหสั ทะเบียน : 2-70-05-13/1-0016 ท่ีอยู่ : เลขท่ี 88 หมู่ที่ 3 ถนน ต้าบลเขาขลุง อา้ เภอบา้ นโปง่ จงั หวัดราชบุรี โทรศพั ท์ : 0819410485 ๖.8 แรงงาน ในต้าบลเขาขลุงมแี รงงานค่อนข้างมาก ทงั้ ทีเ่ ป็นแรงงานไทยและแรงงานตา่ งด้าว เชน่ พมา่ เป็นตน้ เนื่องจากมโี รงงานอุตสาหกรรมในพนื้ ทีอ่ ย่หู ลายโรงงานและมคี วามหลากหลายชนดิ ของลักษณะการประกอบธรุ กจิ 7. ศาสนา ประเพณี วัฒนธรรม ๖. วดั ไผ่สามเกาะ (ตั้งอยหู่ มู่ท่ี ๑๒) 7.๑ การนบั ถอื ศาสนา ๗. วดั โป่งยอ (ตงั้ อย่หู มูท่ ่ี ๑๓) สว่ นใหญ่นับถือศาสนาพุทธ รอ้ ยละ 95 ขึ้นไป ๘. วดั หนองไกข่ ัน (ตง้ั อย่หู มู่ท่ี ๑๕) สถาบันและองคก์ รทางศาสนา วัดพทุ ธ จา้ นวน ๘ แห่ง ๑. วัดเขาแจง (ตงั้ อยหู่ มูท่ ี่ ๑) ๒. วัดสระส่ีมมุ (ต้งั อยู่หมู่ที่ ๒) ๓. วัดเจริญธรรม (ตัง้ อยหู่ มทู่ ี่ ๓) ๔. วดั เขาขลงุ (ตง้ั อยู่หมู่ที่ ๕) ๕. วดั สมั มาราม (ต้งั อย่หู มู่ท่ี ๑๐) 7.๒ ประเพณีและงานประจาปี - ประเพณวี นั ข้นึ ปีใหม่ ประมาณเดอื น มกราคม - ประเพณีวัฒนธรรมท้องถนิ่ (งานประจ้าปีเขาตะครอง) ประมาณเดือน กุมภาพันธ์ มีนาคม - ประเพณวี นั สงกรานต์ ประมาณเดือน เมษายน - ประเพณลี อยกระทง ประมาณเดือน ตุลาคม พฤศจิกายน - ประเพณวี นั เขา้ พรรษา ออกพรรษา ประมาณเดอื น กรกฎาคม ตุลาคม พฤศจกิ ายน 7.๓ ภูมปิ ัญญาทอ้ งถิ่น ภาษาถนิ่ - ภาษาถ่ิน สว่ นมากรอ้ ยละ ๙๐ พดู ภาษากลาง ร้อยละ 10 พูดภาษาลาว, มอญ, ญวน 14 7.4 สินคา้ พ้ืนเมอื งและของทร่ี ะลกึ
- ต่อไม้ประดษิ ฐต์ กแต่งดอกไม้ประดิษฐ์ (รหัสโอทอป 700501065201) สถานที่จดั จ้าหน่าย สุคนธ์ทิพย์ตอ่ ไม้ประดษิ ฐต์ กแตง่ ดอกไม้ประดิษฐ์ 52/1 หนองไมเ้ ฝา้ หมู่ 4 ต.เขาขลงุ อ.บา้ นโปง่ จ.ราชบรุ ี 70110 8. ทรัพยากรธรรมชาติ 8.๑ น้า ที่ใชใ่ นการอปุ โภค-บริโภค เป็นน้าที่ไดจ้ ากน้าฝน และน้าดบิ จากแม่น้าชี (อยู่นอกเขต) ซึ่งจะต้องนา้ มา ผา่ นกระบวนการของระบบประปา ส้าหรับน้าใต้ดินมีปริมาณน้อย ไม่สามารถน้าข้ึนมาใชใ้ หพ้ อเพยี งได้ และบางแห่งเค็ม ไมส่ ามารถใชด้ ่มื และอุปโภคได้ 8.๒ ป่าไม้ มีปา่ ชมุ ชน มเี นือ้ ที่ จ้านวน ๓๕๒ ไร่ ต้งั อยหู่ มู่ท่ี ๒,๓,๔,๕ และ ๑๖ ปลูกต้นไม้และพืชสมนุ ไพร นานาชนิด วนั ท่ี 17 ตุลาคม พ.ศ. 2561 กรมปา่ ไมอ้ นุมตั ิโครงการป่าชมุ ชน ต้าบลเขาขลุง จา้ นวน 5 โครงการ ตัง้ อย่หู มทู่ ี่ 1, 8, 9, 13 และ 18 มีเน้อื ทร่ี วมจา้ นวน 1,394 ไร่ 240 ตารางวา รวมพื้นที่ป่าชมุ ชน ทง้ั สน้ิ จานวน 1,746 ไร่ 240 ตารางวา 8.๓ ภเู ขา ในเขตองคก์ ารบรหิ ารสว่ นต้าบลมีบรเิ วณภูเขา ตั้งอยูห่ มทู่ ่ี ๒,๓,๔,๕ และ ๑๖ ซึง่ มพี นื้ ทตี่ ิดตอ่ กัน 8.4 ทรพั ยากรธรรมชาตทิ สี่ าคญั ทรัพยากรธรรมชาติในพน้ื ที่ ปา่ ชุมชน มีเน้ือท่ี จ้านวน ๓๕๒ ไร่ ตัง้ อย่หู มทู่ ่ี ๒, ๓, ๔, ๕ และ ๑๖ ปลกู ตน้ ไมแ้ ละพชื สมุนไพร นานาชนดิ วันที่ 17 ตลุ าคม พ.ศ. 2561 กรมปา่ ไม้อนุมตั โิ ครงการป่าชุมชน ตา้ บลเขาขลงุ จ้านวน 5 โครงการ ตั้งอยูห่ มทู่ ่ี 1, 8, 9, 13 และ 18 โดยแต่ละโครงการมีพืน้ ที่ดา้ เนนิ โครงการ ดังนี้ 1. โครงการปา่ ชมุ ชนบา้ นเขาแจง หมทู่ ่ี 1 เน้ือท่ี 414 ไร่ 0 งาน 00 ตารางวา 2. โครงการปา่ ชุมชนบ้านหนองขาม หม่ทู ี่ 8 เน้อื ท่ี 778 ไร่ 3 งาน 08 ตารางวา 3. โครงการป่าชมุ ชนบา้ นหนองไกข่ นั หมู่ท่ี 9 เนอื้ ที่ 100 ไร่ 3 งาน 89 ตารางวา 4. โครงการปา่ ชุมชนบา้ นโปง่ ยอ หมู่ท่ี 13 เนือ้ ที่ 17 ไร่ 3 งาน 28 ตารางวา 5. โครงการปา่ ชุมชนบ้านโปง่ ยอ หมู่ที่ 18 เน้อื ที่ 83 ไร่ 0 งาน 15 ตารางวา มเี นื้อที่รวมจ้านวน 1,394 ไร่ 240 ตารางวา รวมพ้ืนที่ปา่ ชุมชน ท้ังส้ิน จานวน 1,746 ไร่ 240 ตารางวา 15 ลักษณะการใชป้ ระโยชนจ์ ากที่ดนิ
ต้าบลเขาขลุง มพี นื้ ท่ีถือครองทง้ั หมด ๕๑,๗๖๙ ไร่ และมพี ้นื ทีท่ ้าการเกษตร ๒๗,๒๓๓ ไร่ หรือรอ้ ยละ ๕๒.๖๐ ดงั นี้ ทา้ นา ๑๐,๙๘๗ ไร่ หรอื ร้อยละ ๒๑.๒๒ ของพน้ื ท่ที ้าการเกษตร หรือรอ้ ยละ ๒๓.๙๔ ของพื้นที่ทา้ การเกษตร ท้าไร่ ๑๒,๓๙๗ ไร่ หรือร้อยละ ๐.๓๙ ของพืน้ ทท่ี า้ การเกษตร พชื ผกั ๒๐๕ ไร่ หรอื ร้อยละ ๐.๙๒ ของพ้นื ท่ีท้าการเกษตร ไม้ผล ๔๗๙ ไร่ หรอื รอ้ ยละ ๑.๐๙ ของพ้ืนท่ที า้ การเกษตร หรอื รอ้ ยละ ๐.๑๐ ของพนื้ ท่ที ้าการเกษตร ไม้ยืนตน้ ๕๖๕ ไร่ หรอื รอ้ ยละ ๐.๕๒ ของพ้ืนท่ีทา้ การเกษตร ไม้ดอกไม้ประดบั ๕๔ ไร่ หรอื ร้อยละ ๔.๓๘ ของพน้ื ท่ที า้ การเกษตร ประมง ๒๗๔ ไร่ ปศุสตั ว์ ๒,๒๗๒ ไร่ 9. อ่ืนๆ 9.1 บริบทในด้านการใชป้ ระโยชน์จากแหล่งน้า ในพนื้ ที่ขององค์การบริหารสว่ นต้าบล ส่วนมากเป็นพ้ืนที่ส้าหรับเพาะปลูก โดยมีการท้านาและปลูกพืช ไร่ชนิดต่างๆ เช่น ออ้ ยโรงงงาน มันส้าปะหลัง ข้าวโพด เล้ียงสตั ว์ และมกี ารท้าสวนผลไมห้ ลายชนิด เช่น มะพรา้ ว มะมว่ ง แก้วมงั กร กล้วย เปน็ ต้น และเป็นที่อยอู่ าศัย ร้านคา้ สถานประกอบการ ตามลา้ ดับ ทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ กไ็ ด้แก่ ดิน น้า ต้นไม้ อากาศท่ีไม่มีมลพิษ ปัญหาคือ เนื่องจากพ้ืนที่ต้าบลเขาขลุงใต้ดินเป็นหินแกรนิต จึงท้าให้หาแหล่งน้าได้ ยาก เพราะน้าท่ีได้จะได้มาจากโพรงหิน ส้าหรับใช้อุปโภค – บริโภค ได้แค่ 1 หรือ 2 ปี เท่าน้ัน ก็ต้องหาแหล่งน้าใหม่ พื้นที่ท้ัง 18 หมู่บ้าน เกือบครึ่งต้าบล ได้แก่ หมู่ท่ี 8, 9, 10, 11, 13, 14, 15, 17 ซ่ึงอยู่เหนือคลองประทาน และ ประสบปัญหาภัยแล้งอยู่เป็นประจ้า น้าในการเกษตรก็ต้องรอฤดูฝน จนได้ขึ้นทะเบียนจากจังหวัดว่าแล้งซ้าซาก ส่วน หมู่บ้าน ในหมู่ท่ี 1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 12, 16, 18 เป็นหมู่บ้านท่ีได้ใช้น้าจากชลประทาน หรือช่วงท่ีทางชลประทาน ปลอ่ ยน้า ทั้งต้าบลเขาขลงุ มีแหลง่ น้าใช้ในการเกษตรไมเ่ พียงพอ ปัญหาคอื ยังไม่สามารถหาแหลง่ น้าส้าหรบั การเกษตรได้ เพม่ิ ขน้ึ เพราะพน้ื ที่ส่วนมากเปน็ ของประชาชน
ส่วนที่ 2 ยุทธศาสตร์องคก์ รปกครองสว่ นท้องถิ่น 1. ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งแผนพฒั นาระดบั มหภาค 1.1 แผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี สถานการณแ์ นวโนม้ วิสยั ทัศน์และเปา้ หมายในการพัฒนาประเทศ ๑. บทนํา การพัฒนาประเทศไทยนับต้ังแต่แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติฉบับที่ ๑ เป็นต้นมาได้ส่งผล ให้ประเทศมีการพัฒนาในทุกมิติทั้งในด้านเศรษฐกิจที่ประเทศไทยได้รับการยกระดับ เป็นประเทศ ในกลุ่มบนของกลุ่มประเทศระดับรายได้ปานกลาง ในด้านสังคมที่มีการพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชน ส่งผลให้ประเทศไทยหลุดพ้นจากการเป็นประเทศยากจน และในด้านสิ่งแวดล้ อมที่ประเทศไทย มีข้อได้เปรียบในความหลากหลายเชิงนิเวศ อย่างไรก็ตาม ประเทศไทยยังมีความท้าทาย ตอ่ การพัฒนาท่ีสาํ คัญ อาทิอัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจในปี ๒๕๖๐ ท่ีรอ้ ยละ ๓.๙ ถอื ว่าอยใู่ น ระดบั ต่ากว่าศักยภาพเม่ือเทียบกับ ร้อยละ ๖.๐ ต่อปีในช่วงเวลาเกือบ ๖ ทศวรรษท่ีผ่านมา โดยมีสาเหตุหลักจากการชะลอตัวของการ ลงทุนภายในประเทศและสถานการณ์เศรษฐกิจโลกที่ยังไม่ฟื้นตัวได้เต็มท่ีโครงสร้างเศรษฐกิจที่ยังไม่สามารถ ขับเคล่ือนด้วยนวัตกรรมได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ภาคบริการและภาคเกษตรมีผลิตภาพการผลิตในระดับต่า ขาดการนําเทคโนโลยีเข้ามาเพิ่มประสิทธิภาพ ในการผลิตประกอบกับแรงงานไทยยังมีปัญหาเร่ืองคุณภาพ และสมรรถนะที่ไมส่ อดคล้องกบั ความตอ้ งการในการขับเคลอ่ื นการพัฒนาของประเทศ นอกจากนั้น ศักยภาพและคุณภาพของประชากรไทยทุกช่วงวัยยังคงเป็นปัจจัยท้าทายสําคัญ ต่อการพัฒนาประเทศ แม้ว่าการเข้าถึงระบบบริการสาธารณะ การศึกษา บริการสาธารณสุข โครงสร้าง พื้นฐานต่าง ๆ และการค้มครองทางสังคมอ่ืนๆ ของคนไทยมีความครอบคลุมเพิ่มมากข้ึน แต่ยังคงมี ปั ญ ห าเร่ื อ ง คุ ณ ภ าพ ก าร ให้ บ ริ ก าร ท่ี มี ม าต ร ฐาน แ ต ก ต่ าง กั น ร ะ ห ว่ า ง พื้ น ที่ ซ่ึ ง เป็ น ห นึ่ ง ใน ส าเห ตุ ห ลั ก ที่ ทํ าให้ ป ร ะ เท ศ ไท ย ยั ง คง มี ปั ญ ห าค ว าม เห ลื่ อ ม ล่ า ใน ห ล าย มิ ติ ขณ ะ ท่ี ปั ญ ห าด้ าน ค ว า ม ย าก จ น ยั ง คง เป็ น ประเด็นท้าทายในการยกระดับการพัฒนาประเทศให้ประชาชนมีรายได้สูงข้ึนและแก้ปัญหาความเหล่ือ มล่า อย่างยั่งยืน ขณ ะเดียวกันการวางกลยุทธ์ระยะยาวในการฟ้ืนฟูการใช้และการรักษาทรัพ ยากร อย่างบูรณาการเพ่ือการพัฒนาประเทศที่ผ่านมายังขาดความชัดเจน ส่งผลให้ทรัพยากรธรรมชาติ และสงิ่ แวดล้อมของประเทศยังมปี ญั หาการใช้อยา่ งส้ินเปลอื งและเสอ่ื มโทรมลงอยา่ งรวดเร็ว ทั้งนี้ปัญหาดังกล่าวข้างต้นมีสาเหตุส่วนหนึ่งมาจากประสิทธิภาพการบริหารจัดการภาครัฐ การ พัฒนาประเทศขาดความต่อเนือ่ งและความยืดหยุ่นในการตอบสนองต่อความต้องการและปญั หาของประชาชน ขณะที่ความมั่นคงภายในประเทศยังมีหลายประเด็นที่ต้องเสริมสร้างให้เกิดความเข้มแข็ง ลดความขัดแย้ง ทางความคิดและอุดมการณ์ท่ีมีรากฐานมาจากความเหลื่อมล่า ความไม่เสมอภาค การขาดความเชื่อมั่นใน กระบวนการยุติธรรม และปัญหาการขาดเสถียรภาพทางการเมือง ตลอดจนส่งเสริมในชาติไทยให้ยึดมั่น สถาบนั หลกั เปน็ ศนู ยร์ วมจิตใจใหเ้ กิดความรักและความสามคั คี ในขณะเดียวกัน การเปล่ียนแปลงโครงสร้างประชากรท่ีมีสัดส่วนประชากรวัยแรงงานและ วัยเด็กท่ีลดลงและประชากรสูงอายุท่ีเพ่ิมข้ึนอย่างต่อเน่ือง จะเป็นปัจจัยเส่ียงสําคัญที่จะทําให้การพัฒนา ประเทศในมิติต่าง ๆ มีความท้าทายมากขนึ ทั้งในส่วนของเสถียรภาพทางการเงินการคลังของประเทศในการ จดั สวัสดิการเพ่ือดูแลผู้สูงอายุท่ีเพิ่มสูงขึน การลงทุนและการออม การเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศ ความม่ันคงทางสังคม การบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ซึ่งจะเป็นประเด็นท้าทายต่อการ ขับเคลอ่ื นประเทศไปสู่การเป็นประเทศพฒั นาแล้ว
17 ๒. ปัจจยั และแนวโนม้ ทคี่ าดวา่ จะสง่ ผลต่อการพัฒนาประเทศ แม้ว่าประเทศไทยจะมีตําแหน่งท่ีต้ังท่ีสามารถเป็นศูนย์กลางในการเชื่อมโยงใน ภูมิภาคและเป็น ประตูสู่เอเชีย แต่การท่ีมีอาณาเขตติดกับประเทศเพ่ือนบ้านหลายประเทศ ทําให้ปัญหาด้านเขตแดนกับ ประเทศเพ่ือนบ้านยังคงเป็นความท้าทายด้านความมั่นคงในอนาคต นอกจากน้ีประเทศไทยยังคงต้องให้ ความสําคัญกับปัญหาด้านความมั่นคงอ่ืน ๆ ท่ีมีความซับซ้อน ละเอีย ดอ่อน และมีความเช่ือมโยงกัน ห ล า ย มิ ติ ที่ อ า จ เป็ น ป ร ะ เด็ น ท้ า ท า ย ต่ อ ก า ร ส ร้ า ง บ ร ร ย า ก า ศ ค ว า ม ไ ว้ ว า ง ใจ ร ะ ห ว่ า ง รั ฐ กั บ ป ร ะ ช า ช น และระหว่างประชาชนกับประชาชน ซึ่งรวมถึงการสร้างความสามัคคีของคนในชาติท่ีจะนําไปสู่ การแกป้ ญั หาความขดั แยง้ ระหว่างกลุม่ ประชากรไทยท่มี ีแนวคดิ และความเช่อื ที่แตกตา่ งกนั อย่างยง่ั ยนื นอกจากน้ีการขยายอิทธิพลและการเพิ่มบทบาทของประเทศมหาอํานาจ ที่อาจก่อให้เกิดการ เปล่ียนแปลงไปสู่ระบบหลายขั้วอํานาจ หรือเกิดการย้ายขั้วอํานาจทางเศรษฐกิจ ซ่ึงอาจส่งผลกระทบต่อ เสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในอนาคต ขณะท่ีองค์กรที่ไม่ใช่รัฐ อาทิองค์การระหว่างประเทศ และ บรรษัทข้ามชาตจิ ะมีบทบาทมากขน้ึ ในการกําหนดกฎ ระเบียบ ทศิ ทางความสมั พนั ธ์ และมาตรฐานสากลตา่ ง ๆ ทังในด้านความมั่นคง และเศรษฐกิจ รวมทั้งการรวมกลุ่มเศรษฐกิจและการเปิดเสรีในภูมิภาคที่น่าไปสู่ความ เช่ือมโยงในทุกระบบ อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงด้านอาชญากรรม ข้ามชาติและเศรษฐกิจนอกระบบ รวมท้งั ปญั หายาเสพติด การค้ามนุษย์และการลกั ลอบเข้าเมอื ง ในทางกลับกัน ความเปลี่ยน แปลงจากโลกาภิวัตน์และความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ และเทคโนโลยีที่ได้รับการพัฒนาอย่างก้าวกระโดดจะก่อให้เกิดนวัตกรรมอย่างพลิกผั น อาทิเทคโนโลยี ปัญญาประดิษฐ์อินเทอร์เน็ตในทุกสิ่ง การวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่หุ่นยนต์และโดรน เทคโนโลยี พันธุกรรมสมัยใหม่และเทคโนโลยีทางการเงิน ซึ่งตัวอย่างแนวโน้มการพัฒนาเทคโนโลยีอย่างก้าวกระโดด เหล่าน้ีคาดว่าจะเป็นปัจจัยสนับสนุนหลักท่ีช่วยทําให้เศรษฐกิจโล กและเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้ม ที่จะกลับมาขยายตัวได้เข้มแข็งข้ึน แนวโน้มสําคัญ ท่ีจําเป็นต้องมีการติดตามอย่างใกล้ชิด อาทิ การรวมกลุ่มทางการค้าและการลงทุนที่จะมีความหลากหลายเพิ่มมากข้ึน การแข่งขันที่คาดว่าจะรุนแรงข้ึน ในการเพ่ิมผลิตภาพและสรา้ งความหลากหลายของสินคา้ และบริการท่ตี อบโจทย์รปู แบบชีวิตใหม่ๆ นอกจากนั้น ประเทศไทยคาดว่าจะเข้าสู่การเป็นสังคมสูงวัยระดับสุดยอดในปี ๒๕๗ ๔ จะก่อให้เกิดโอกาสใหม่ๆ ในการตอบสนองความต้องการของกลุ่มผู้บริโภคสูงอายุท่ีจะมีสัดส่วนเพ่ิมข้ึน อย่างต่อเน่ือง รวมท้ังการคาดการณ์ว่าครอบครัวไทยจะมีขนาดเล็กลงและมีรูปแบบท่ีหลากหลายมากข้ึน ประชากรในประเทศไทยจะมีช่วงอายุท่ีแตกต่างกันและจะมีกลุ่มคนช่วงอายุใหม่ๆ เพิ่มขึ้น ซ่ึงจะส่งผล ต่อทัศนคติและพฤติกรรมที่แตกต่างกัน ดังน้ัน การเตรียมความพร้อมของประชากรให้มีคุณภาพ แ ล ะ ก า ร นํ า เท ค โน โล ยี ที่ เห ม า ะ ส ม ม า ใช้ ใน ก า ร ผ ลิ ต แ ล ะ ก า ร บ ริ ก า ร ข อ ง ป ร ะ เท ศ จ ะ เป็ น ค ว าม ท้ าท า ย สําคัญในระยะตอ่ ไป ในขณะเดียวกัน โครงสร้างประชากรที่เข้าสู่สังคมสูงวัย อาจทําให้เกิดความต้องการแรงงาน ต่างชาติเพิ่มมากขึ้นเพื่อทดแทนจํานวนแรงงานไทยที่ลดลง ซึ่งปัจจัยด้านการเปิดเสรีในภูมิภาค และความก้าวหน้าของการพัฒนาระบบคมนาคมขนส่งในภูมิภาคจะทําให้การเคลื่อนย้ายแรงงานและ การย้ายถ่ินมีความสะดวกมากขึ้น และเป็นปัจจัยสําคัญท่ีจะทําให้เกิดการเคลื่อนย้ายประชากรเข้าออก ประเทศเพ่ิมมากขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรท่ีมีศักยภาพซึ่งมีแนวโน้มในการเคลื่อนย้ายไปเรียนหรือ ทาํ งานในท่ัวทุกมุมโลกสูงขึน้ ท้ังนี้การย้ายถ่ินส่วนใหญม่ ีวัตถปุ ระสงค์เพื่อแสวงหาโอกาสทางเศรษฐกิจ ทด่ี ีข้ึน จึ ง อ า จ จ ะ เป็ น ไ ป ไ ด้ ที่ ป ร ะ เท ศ ไ ท ย จ ะ ยั ง ค ง เป็ น ป ร ะ เท ศ ผู้ รั บ ข อ ง ป ร ะ ช า ก ร จ า ก ป ร ะ เท ศ เพื่ อ น บ้ า น ขณะทป่ี ระชากรไทยโดยเฉพาะแรงงานทกั ษะอาจมีแรงจูงใจในการย้ายถ่ินไปยงั ประเทศท่ีมีระดับการพัฒนาที่ ดีก ว่าอาจทํ าให้ ก ารแย่งชิงแรงงาน มี ความรุน แรงม าก ข้ึน ซ่ึ งจะ ย่ิงทํ าให้ เกิ ดค วามเส่ียงต่ อ การเจริญเตบิ โตทางเศรษฐกิจและการเปล่ยี นแปลงของบรบิ ทสังคมไทย
18 น อ ก จ า ก น้ี ผ ล ก ร ะ ท บ จ า ก ก า ร เป ล่ี ย น แ ป ล ง ส ภ า พ ภู มิ อ า ก า ศ ค า ด ว่ า จ ะ มี ค ว า ม รุ น แ ร ง ม า ก ขึ้ น ทั้งในเชิงความผันผวน ความถี่และขอบเขตที่กว้างขวางมากข้ึน ซ่ึงจะสร้างความเสียหายต่อชวี ิต และทรัพย์สิน ระบบโครงสร้างพ้ืนฐานที่จําเป็น ตลอดจนระบบผลิตทางการเกษตรที่สัมพันธ์ต่อเนื่ องกับความ ม่ันคงด้านอาหารและน่า ขณะท่ีระบบนิเวศต่างๆ มีแนวโน้มเสื่อมโทรมลง และมีความเป็นไปได้ ค่อนข้างสูงในการสูญเสียความสามารถในการรองรับความต้องการของมนุษย์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ดีระดับความรุนแรงของผลกระทบอันเกิดจากการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลกและความเสื่อมโทรม ของระบบนิเวศต่าง ๆ ดังกล่าวท่ีแต่ละประเทศจะต้องเผชิญจะมีความแตกต่างกัน ทําให้การเป็นสังคมสีเขียว การรักษาและบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมอย่างบูรณาการจะได้รับความสําคัญ และความสนใจจากนานาประเทศรวมท้ังประเทศไทยเพิ่มมากข้ึน พลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือก รวมถึงการสร้างสมดุลความม่ันคงด้านพลังงานและอาหารมีแนวโน้มที่จะมีความสําคัญเพ่ิ มมากข้ึน กฎระเบียบและข้อตกลงด้านส่ิงแวดล้อมจะมีความเข้มข้นและเข้มงวดขึ้น โดยกรอบการพัฒ นา ตามข้อตกลงระหว่างประเทศต่าง ๆ ที่สําคัญ เช่น เป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน และบันทึกความตกลงปารีส จะได้รับการนาํ ไปปฏบิ ัตอิ ยา่ งจรงิ จงั มากยง่ิ ขึน้ แนวโน้มเหล่าน้ีจะก่อให้เกิดความท้าทายต่อการพัฒนาประเทศในหลายมิติ ทั้งในส่วนของ การจ้างงานและอาชีพ สาขาการผลิตและบริการใหม่ๆ ความมั่นคงของประเทศอันเกิดจากภัยคุกคามและ ความเส่ียงด้านอื่น ๆ ที่ซับซ้อนขึ้น อาชญากรรมไซเบอร์รูปแบบการก่อสงครามท่ีใช้เทคโนโลยี เป็นเคร่ืองมือ การเคลื่อน ย้ ายอย่างเสรีและรวดเร็วขอ งผู้คน เงิน ทุน ข้อ มูลข่าวสาร อ งค์ความรู้เท คโน โลยี และสินค้าและบริการ การปรับตัวต่อการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศท่ีรวดเร็วและคาดการณ์ได้ยาก การเกิดขึ้นของโรคระบาด และโรคอุบัติใหม่ที่จะส่งผลให้การเฝ้าระวังด้านการสาธารณสุขในประเทศ มีความสําคัญมากข้ึน อาจนําไปสู่ปัญหาความเหลื่อมล่าที่ทวีความรุนแรงมากข้ึนได้ หากไม่มีมาตรการ ที่มีประสิทธิภาพในการป้องกันและรองรับผลกระทบต่าง ๆ ที่คาดว่าจะเกิดข้ึน ซึ่งรวมถึงการเตรียม ความพร้อมเพ่ือรองรับการเปลี่ยนแปลงทางเทคโนโลยีและนวัตกรรมแบบพลิกผันที่จะเกิดขึ้ นอย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากการเข้าถึงเทคโนโลยีโครงสร้างพื้นฐาน และองค์ความรู้สมัยใหม่มีระดับ ความแตกตา่ งกนั ระหว่างกลุ่มประชากรตา่ ง ๆ โดยการเปลย่ี นแปลงทางเทคโนโลยีและนวตั กรรมดังกล่าว จะส่งผลต่อทั้งการจ้างงานและอาชีพที่จะมีรูปแบบและลักษณะงานที่เปล่ียนไป มีความต้องการแรงงาน ที่มีสมรรถนะสูงเพ่ิมมากขึ้น หลายอาชีพอาจหายไปจากตลาดงานในปัจจุบันและบางอาชีพจะถูกทดแทน ด้วยระบบอัตโนมัติโดยเฉพาะอาชีพที่ต้องการทักษะระดับต่า ก่อให้เกิดความเส่ียงต่อความมั่นคงและ คุณ ภาพ ชีวิ ตของปร ะ ชาชน ท่ี ปรับ ตัวไม่ทั น หรือขาดคว าม รู้แล ะ ทัก ษ ะท่ี ทัน กั บ ยุคสมัยท่ีเปล่ียน แปลง ไป กระแสโลกาภิวัตน์ที่จะทําให้เกิดการพัฒนาขยายความเป็นเมือง วิถีชีวิตที่เปลี่ยนไปอย่างรวดเร็ว รวมท้ัง การเปลี่ยนแปลงทางสภาพภูมิอากาศที่อาจจะมีความแปรปรวนมากย่ิงขึ้น ซ่ึงปัจจัยทั้งหมดดังกล่าว จะส่งผลให้ปัญหาความยากจนและความเหลอ่ื มลา่ ของประเทศมีความซบั ซ้อนมากยิง่ ขน้ึ จากปัจจัยและแนวโน้มท่ีคาดว่าจะส่งผลต่อการขับเคล่ือนการพัฒนาประเทศในมิติต่าง ๆ ข้างต้น เห็นได้ว่าบริบทและสภาพแวดล้อมท้ังภายในและภายนอกประเทศมีแนวโน้มท่ีจะเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีพลวัตสูง และมีความซับซ้อนหลากหลายมิติซ่ึงจะส่งผลต่ออนาคตการพัฒนาประเทศอย่างมาก ดังนั้น การพัฒนาประเทศจึงจําเป็นต้องมียทุ ธศาสตรก์ ารพฒั นาที่ครอบคลุมทกุ มิติและ ทุกดา้ นการพัฒนาที่เกยี่ วข้อง มีความรว่ มมือในลกั ษณะประชารัฐจากภาคส่วนต่าง ๆ ในรูปแบบของหุ้นส่วนการพัฒนาท่ีเปน็ การด่าเนินงาน อย่างบูรณาการ เน่ืองจากทุกมิติการพัฒนามีความเก่ียวข้อง ซ่ึงกันและกันโดยประเทศไทยจ่าเป็นต้องมี ทรัพยากรมนุษย์ท่ีมีคุณภาพ มีความรู้สมรรถนะ และทักษะ ท่ีสอดคล้องกับการเปล่ียนแปลงต่าง ๆ ส าม าร ถ รู้ เท่ าทั น แ ล ะ ป รับ ตั ว ให้ ส าม าร ถ ดํ าเนิ น ชี วิ ต ได้ อ ย่ าง มี ค ว าม สุ ข มี อ าชี พ ท่ี ม่ั น ค ง สร้างรายได้ท่ าม ก ลางความ เป ล่ีย น แป ลงก ฎ เก ณ ฑ์ แ ละก ติก าให ม่ๆ และ มาตรฐาน ท่ี สูงขึ้ น โดยเฉพาะในโลกที่มีการเปลยี่ นแปลงอย่างรวดเรว็ ซึง่ จาํ เปน็ ตอ้ งมีการพัฒนาระบบและปจั จัยส่งเสรมิ ตา่ ง ๆ
19 ท่ี เก่ี ย ว ข้ อ ง ไ ป พ ร้ อ ม กั น ท้ั ง ใน ส่ ว น ข อ ง ร ะ บ บ ก า ร เรี ย น ก า ร ส อ น แ ล ะ ก า ร พั ฒ น า ทักษะฝีมือท่ีสอดคล้องกันกับการพัฒนาของคนในแต่ละช่วงวัย ระบบบริการสาธารณะ โครงสร้างพื้นฐาน รวมท้ังการให้ความสําคัญ กับการส่งเสริมเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้ประเทศไทยสามารถ ยกระดับเป็นเจ้าของเทคโนโลยีและนวัตกรรมก้าวทันโลก จากการต่อยอดการพัฒนาบนพ้ืนฐานนโยบาย ไทยแลนด์ ๔.๐ ส่งผลให้เกิดการสร้างห่วงโซ่มูลค่าทางเศรษฐกิจในท้ังภาคอุตสาหกรรม ภาคเกษตร และภาคบริการ กระจายผลประโยชน์จากการพัฒนา ลดปัญ หาความเหล่ือม ล่าและนําไปสู่การ เสรมิ สรา้ งคุณภาพชวี ิตของประชาชนทุกภาคส่วนนอกจากนี้ประเทศไทยต้องใหค้ วามสําคัญกบั การสรา้ งสมดุล ความม่ัน คงด้ าน พ ลังงาน และอาหาร การรักษ าไว้ซ่ึงความหลากห ลายเชิงนิ เวศ การส่งเสริม ก ารดํ าเนิ น ชี วิต แล ะ ธุรกิ จแล ะ ก าร พั ฒ น า แ ละ ขย ายค วาม เป็ น เมื อ งท่ี เติ บ โต อ ย่างต่อ เน่ื อ ง ท่ีเป็นมิตรต่อส่ิงแวดล้อมพ ร้อมกับการมีข้อกําหนดของ รูปแบบและกฎเกณ ฑ์ ที่เก่ียวเนื่องกับ ลักษณะการใช้พื้นที่ที่ชัดเจน ขณะท่ีการพัฒนาโครงสร้างพ้ืนฐาน และระบบโลจิสติกส์กฎหมาย ระบบภ าษีต้องมีกลยุทธ์การพัฒ น าที่สามารถอํ าน วยความสะดวก และส่งเสริมให้ป ระเทศมี มีศักยภาพการแข่งขันที่สูงขึ้น และสามารถใช้จุดแข็งในเร่ืองตําแหน่งที่ตั้งทางภูมิศาสตร์ของประเทศ ให้ เกิ ด ป ระ โย ช น์ ต่ อ ก าร พั ฒ น า ป ร ะ เท ศ ม าก ข้ึ น รว ม ทั้ งให้ ค ว าม สํ าคั ญ ข อ ง ก าร ร ว ม ก ลุ่ ม ความร่วมมือกับนานาประเทศในระดับภูมิภาคและระดับโลก เพ่ือกระชับและสร้าง สัมพันธไมตรี เสริมสร้างความสัมพั น ธ์ท างก ารทู ต ซึ่งจะก่ อ ให้ เกิ ดก ารสร้างพ ลังท างเศรษ ฐกิ จและ รัก ษ า ความมั่นคงของประเทศ โดยจําเป็นต้องสร้างความพร้อมในการที่จะยกระดับมาตรฐานและมีการปฏิบัติให้ เป็นไปตามระเบียบกติกาสากลในด้านต่าง ๆ ขณะเดียวกันประเทศไทยจําเป็นต้องเร่งให้มีการปฏิรูป ระบบราชการและการเมืองเพ่ือให้เกิดการบริหารราชการที่ดีและมีเสถียรภาพทางการเมือง มีการ ส่งเสริม คน ใน ชาติ ให้ยึดม่ั น สถาบัน หลั กเป็ น ศูน ย์ รวม จิ ตใจเพื่ อ ให้เกิ ดความ รั กความ สามั คคีและ ลดความ ขดแย้งภายในประเทศ โดยท่ีนโยบายการพัฒนาต่าง ๆ จําเป็นต้องคํานึงถึงความสอดคล้องกับโครงสร้าง และลักษณะพฤติกรรมของประชากรท่ีอาจจะมีความแตกต่างจากปจั จุบนั มากข้นึ ดังนั้น ภายใต้เง่ือนไขโครงสร้างประชากร โครงสร้างเศรษฐกิจ สภาพสังคม สภาพภูมิอากาศ ส่ิงแวดล้อม และปัจจัยการพัฒนาต่าง ๆ ท่ีเก่ียวข้อง ส่งผลให้ประเทศไทยจําเป็นต้องมีการวางแผน การพัฒนาท่ีรอบคอบและครอบคลุม อย่างไรก็ตาม หลายประเด็นพัฒนาเป็นเร่ืองที่ต้องใช้ระยะเวลาในการ ดํ า เนิ น ง า น เพื่ อ ให้ เกิ ด ก า ร ป รั บ ตั ว ซ่ึ ง จ ะ ต้ อ ง ห ย่ั ง ร า ก ลึ ก ล ง ไ ป ถึ ง ก า ร เป ลี่ ย น แ ป ล ง ใน เชิ ง โค ร ง ส ร้ า ง การขับเคลื่อนการพัฒนาให้ประเทศเจริญก้าวหน้าไปในอนาคตจึงจําเป็นต้องกําหนดวิสัยทัศน์ในระยะยาว ท่ีต้องบรรลุพร้อมท้ังแนวยุทธศาสตร์หลักในด้านต่าง ๆ เพ่ือเป็นกรอบในการขับเคลื่อนการพัฒนา อย่างบูรณาการบนพ้ืนฐานประชารัฐเพ่ือยกระดับจุดแข็งและจุดเด่นของประเทศ และปรับปรุงแก้ไข จดุ อ่อนและจดุ ดอ้ ยตา่ ง ๆ อยา่ งเป็นระบบ โดยยุทธศาสตร์ชาตจิ ะเปน็ เป้าหมายใหญ่ในการขับเคล่ือนประเทศ และถ่ายท อดไป สู่แผน ใน ระ ดับอ่ืน ๆ เพื่ อ นําไป สู่ก ารปฏิ บั ติท้ั งใน ระ ดับยุท ธศาสตร์ภารกิ จ และพ้ืนท่ีซึ่งรวมถึงพื้นที่พิเศษต่าง ๆ อาทิเขตเศรษฐกิจพิเศษชายแดน เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก เพือ่ ให้การพัฒนาประเทศสามารถดําเนินการไดอ้ ยา่ งม่ันคง มงั่ คง่ั และ ยั่งยืน
20 ๓. วิสยั ทัศน์ประเทศไทย “ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ยั่งยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพั ฒนาตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” หรือเป็นคติพจน์ประจําชาติว่า “มั่นคง ม่ังค่ัง ยั่งยืน” เพื่อสนองตอบ ต่อผลประโยชน์แห่งชาติอันได้แก่การมีเอกราช อธิปไตย การดํารงอยู่อย่างมั่นคง และยั่งยืนของ สถาบันหลักของชาติและประชาชนจากภัยคุกคามทุกรูปแบบ การอยู่รว่ มกันในชาติอย่างสันติสุข เป็นปึกแผ่น มีความม่ัน คงทางสังคมท่ามกลางพ หุ สังคมและการมีเกียรติและศักดิ์ศรีขอ งความเป็ น มนุษ ย์ ความเจริญ เติบโตของชาติความเป็นธรรมและความอยู่ดีมีสุขของประชาชน ความย่ังยืนของฐาน ทรัพยากรธรรมชาติส่ิงแวดล้อม ความม่ันคงทางพลังงานและอาหาร ความ สามารถในการรักษา ผลประโยชน์ของชาติภายใต้การเปล่ียนแปลงของสภาวะแวดล้อมระหว่างประเทศ และการอยู่ร่วมกัน อย่างสันติประสานสอดคล้องกันด้านความมั่นคงในประชาคมอาเซียนและประชาคมโลกอย่างมีเกียรติ และศักด์ิศรี ความม่ันคง หมายถึง การมีความมั่นคงปลอดภัยจากภัยและการเปล่ียนแปลงทั้งภายในประเทศ และภายนอกประเทศในทุกระดับ ทั้งระดับประเทศ สังคม ชุมชน ครัวเรือน และปัจเจกบุคคล และ มีความม่ันคงในทุกมิติทั้งมิติทางการทหาร เศรษฐกิจ สังคม สิ่งแวดล้อม และการเมือง เช่น ประเทศ มีความมั่นคงในเอกราชและอธิปไตย มีการปกครองระบอบประชาธิปไตยท่ีมีพระมหากษตั ริย์ทรงเปน็ ประมุข สถาบันชาติศาสนา พระมหากษัตริย์มีความเข้มแข็งเป็นศูนย์กลางและเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจ ของประชาชน มีระบบการเมืองที่มั่นคงเป็นกลไกท่ีนําไปสู่การบริหารประเทศท่ีต่อเน่ืองและโปร่งใสตามหลักธรรมาภิบาล สังคมมีความปรองดองและความสามัคคีสามารถผนึกกําลังเพ่ือพัฒนาประเทศ ชุมชน มีความเข้มแข็ง ครอบครัวมีความอบอุ่น ประชาชนมีความม่ันคงในชีวิต มีงานและรายได้ที่ม่ันคงพอเพียง กับการดํารงชีวิต มีการออมสําหรับวยั เกษียณ ความม่ันคงของอาหาร พลังงาน และน่า มีที่อยอู่ าศัยและความปลอดภัยในชีวิต และทรัพย์สิน ความม่ังค่ัง หมายถึง ประเทศไทยมีการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเน่ืองและมีความยั่งยืน จนเข้าสู่กลุ่มประเทศรายได้สูง ความเหล่ือมล่าของการพัฒนาลดลง ประชากรมีความอยู่ดีมีสุขได้รับ ผลประโยชน์จากการพัฒ นาอย่างเท่าเทียมกันมากขึ้น และมีการพัฒ นาอย่างท่ัวถึงทุกภาคส่ วน มี คุ ณ ภ าพ ชี วิ ต ต าม ม าต ร ฐ าน ข อ ง อ ง ค์ ก า ร ส ห ป ร ะ ช าช าติ ไม่ มี ป ร ะ ช าช น ที่ อ ยู่ ใน ภ า ว ะ ค ว า ม ย า ก จ น เศรษฐกิจในประเทศมีความเข้มแข็ง ขณะเดียวกันต้องมีความสามารถในการแข่งขันกับประเทศต่าง ๆ ทั้งในตลาดโลกและตลาดภายในประเทศเพื่อให้สามารถสร้างรายได้ทั้งจากภายในและภายนอกประเทศ ตลอดจนมีการสร้างฐานเศรษฐกิจและสังคมแห่งอนาคตเพ่ือให้สอดรับกับบริบทการพัฒนา ท่ีเปลี่ยนแปลงไป และประเทศไทยมีบทบาทที่สําคัญในเวทีโลก และมีความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการค้าอย่างแน่นแฟ้น กับประเทศในภูมิภาคเอเชีย เป็นจุดสําคัญของการเชื่อมโยงในภูมิภาค ท้ังการ คมนาคมขนส่ง การผลิต การค้า การลงทุน และการทําธุรกิจ เพื่อให้เป็นพลังในการพัฒนา นอกจากนี้ ยังมีความสมบูรณ์ในทุนที่จะ สามารถสร้างการพัฒนาต่อเนื่องไปได้ได้แก่ทุนมนุษย์ทุนทางปัญญา ทุนทางการเงิน ทุนที่เป็นเคร่ืองมือ เครอ่ื งจกั ร ทนุ ทางสงั คม และทนุ ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อม ความยั่งยืน หมายถึง การพัฒนาที่สามารถสร้างความเจริญ รายได้และคุณภาพชีวิตของ ประชาชนให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจที่อยู่บนหลักการใช้การรักษา และการฟ้ืนฟูฐานทรัพยากรธรรมชาติอย่างยั่งยืน ไม่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติจนเกินพอดีไม่สร้างมลภาวะต่อ ส่ิงแวดล้อมจนเกินความสามารถในการรองรับและเยียวยาของระบบนิเวศ การผลิตและการบริโภค เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม และสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒ นาที่ย่ังยืน ทรัพ ยากรธรรมชาติมี ความอุดมสมบูรณ์มากขึ้นและสิ่งแวดล้อมมีคุณภาพดีข้ึน คนมีความรับผิดชอบต่อสังคม มีความเอื้ออาทร เสยี สละเพ่อื ผลประโยชนส์ ว่ นรวม รฐั บาลมนี โยบายทีม่ ุ่งประโยชน์ส่วนรวมอยา่ งยงั่ ยนื และใหค้ วามสา่ คัญกับการ มสี ่วนร่วมของประชาชน และทุกภาคส่วนในสงั คมยึดถือและปฏิบัติตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อ การพฒั นาอยา่ งสมดลุ มีเสถยี รภาพ และยง่ั ยนื
2 “ประเทศไทยมีความมั่นคง มัง่ คงั่ ยงั่ ยืน เป็นประเทศพฒั นาแล้ว ด้วยการพัฒนาตา
21 ามหลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง”
22 โดยมีเป้าหมายการพัฒนาประเทศ คือ “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข เศรษฐกิจพัฒนา อย่างต่อเนื่อง สังคมเป็นธรรม ฐานทรัพยากรธรรมชาติย่ังยืน” โดยยกระดับศักยภาพของประเทศใน หลากหลายมิติ พัฒ นาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดีเก่ง และมีคุณ ภาพ สร้างโอกาส และความเสมอภาคทางสังคม สร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม และมีภาครัฐของ ประชาชนเพื่อประชาชนและประโยชน์ส่วนรวม โดยการประเมินผลการพั ฒนาตามยุทธศาสตร์ชาติ ประกอบดว้ ย ๑) ความอยดู่ มี สี ขุ ของคนไทยและสงั คมไทย ๒) ขีดความสามารถในการแข่งขัน การพฒั นาเศรษฐกจิ และการกระจายรายได้ ๓) การพัฒนาทรพั ยากรมนุษย์ของประเทศ ๔) ความเท่าเทียมและความเสมอภาคของสังคม ๕) ความหลากหลายทางชีวภาพ คณุ ภาพสิ่งแวดล้อม และความย่ังยืนของทรพั ยากรธรรมชาติ ๖) ประสทิ ธิภาพการบริหารจดั การและการเขา้ ถงึ การใหบ้ รกิ ารของภาครัฐ ๔. ประเด็นยทุ ธศาสตรช์ าติ เพื่อให้ประเทศไทยสามารถยกระดับการพัฒ น าให้บรรลุตามวิสัยทัศน์ “ป ระเทศไทยมีความมั่นคง ม่ังคั่ง ย่ังยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้ว ด้วยการพัฒน าตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” และเป้าหมายการพัฒนาประเทศข้างต้น จึงจําเป็นต้องกําหนดยุทธศาสตร์การพัฒนาประเทศระยะยาว ที่จะทําให้ประเทศไทยมีความมั่นคงในเอกราชและอธิปไตย มีภูมิคุ้มกันต่อการเปลี่ยนแปลงจากปัจจัย ภายในและภายนอกประเทศในทุกมิติทุกรูปแบบและทุกระดับ ภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรม และ ภาคบริการของประเทศได้รับการพัฒนายกระดับไปสู่การใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรมในการสร้างมูลค่าเพิ่ม และพัฒนากลไกท่ีสําคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจใหม่ที่จะสร้างและเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ เพื่อยกระดับฐานรายได้ของประชาชนในภาพรวมและกระจายผลประโยชน์ไปสู่ภาคส่วนต่าง ๆ ได้ อย่างเหมาะสม คน ไทยได้รับการพัฒ น าให้เป็นคนดีเก่ง มีวินัย คํานึงถึงผลประโยชน์ส่วนรวม และมีศักยภาพในการคิดวิเคราะห์สามารถ “รู้รับ ปรับใช้” เทคโนโลยีใหม่ได้อย่างต่อเนื่อง สามารถเข้าถึง บรกิ ารพื้นฐาน ระบบสวัสดกิ าร และกระบวนการยุตธิ รรมไดอ้ ย่างเทา่ เทยี มกนั โดยไมม่ ใี ครถกู ท้งิ ไว้ข้างหลงั ก าร พั ฒ น าป ร ะ เท ศ ใน ช่ ว ง ร ะ ย ะ เว ล าข อ ง ยุ ท ธ ศ า ส ต ร์ ช าติ จ ะ มุ่ ง เน้ น ก าร ส ร้ าง ส ม ดุ ล ร ะ ห ว่ า ง การพัฒนาความม่ันคง เศรษฐกิจ สังคม และส่ิงแวดล้อม โดยการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนในรูปแบบ “ประชารัฐ” โดยประกอบด้วย ๖ ยุทธศาสตร์ได้แก่ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง ยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพ ทรัพยากรมนุษย์ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม ยุทธศาสตร์ชาติ ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม และยุทธศาสตร์ชาติด้านการปรับสมดุล และพัฒนาระบบการบรหิ ารจดั การภาครัฐ โดยแตล่ ะยทุ ธศาสตร์มีเป้าหมายและประเด็นการพฒั นา ดังน้ี ๔.๑ ยุทธศาสตร์ชาติด้านความมั่นคง มีเป้าหมายการพัฒนาท่ีสําคัญ คือ ประเทศชาติม่ันคง ประชาชนมีความสุข เน้นการบริหารจัดการสภาวะแวดล้อมของประเทศให้มีความมั่นคง ปลอดภัย เอกราช อธิปไตย และมีความสงบเรียบร้อยในทุกระดับ ตั้งแต่ระดับชาติสังคม ชุมชน ม่งุ เน้นการพัฒนาคน เคร่ืองมือ เท ค โน โล ยี แ ล ะ ระ บ บ ฐาน ข้ อ มู ล ข น าด ให ญ่ ให้ มี ค ว าม พ ร้อ ม ส าม าร ถ รับ มื อ กั บ ภั ย คุ ก ค าม และภัยพิบัติได้ทุกรูปแบบ และทุกระดับความรุนแรง ควบคู่ไปกับการป้องกันและแก้ไขปัญ หา ด้านความม่ันคงที่มีอยู่ในปัจจุบัน และท่ีอาจจะเกิดขึ้นในอนาคต ใช้กลไกการแก้ไขปัญหาแบบบูรณาการ ท้งั กับสว่ นราชการ ภาคเอกชน ประชาสงั คม และองคก์ รที่ไม่ใช่รฐั รวมถงึ ประเทศเพ่ือนบ้านและมติ รประเทศ
23 ท่วั โลกบนพ้ืนฐานของหลักธรรมาภิบาล เพื่อเอ้ืออํานวยประโยชน์ต่อการดาํ เนินการของยทุ ธศาสตร์ชาติด้าน อืน่ ๆ ใหส้ ามารถขับเคลอื่ นไปได้ตามทศิ ทางและเปา้ หมายทกี่ ําหนด ๔.๒ ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างความสามารถในการแข่งขัน มีเป้าหมายการพัฒ นา ท่ีมุ่งเน้นการยกระดับศักยภาพของประเทศในหลากหลายมิติบนพ้ืนฐานแนวคิด ๓ ประการ ได้แก่ (๑) “ต่อยอดอดีต” โดยมองกลับไปที่รากเหง้าทางเศรษฐกิจ อัตลักษณ์วัฒ นธรรม ประเพ ณี วิถีชีวิต และจุดเด่นทางทรัพยากรธรรมชาติที่หลากหลาย รวมทังความได้เปรียบเชิงเปรียบเทียบของประเทศ ในด้านอื่น ๆ นํามาประยุกต์ผสมผสานกับเทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อให้สอดรับกับบริบทของ เศรษฐกิจและสังคมโลกสมัยใหม่ (๒)“ปรับปัจจุบัน”เพื่อปูทางสู่อนาคตผ่านการพัฒ นาโครงสร้าง พื้นฐานของประเทศในมิติต่าง ๆ ทั้งโครงข่ายระบบคมนาคมและขนส่ง โครงสร้างพ้ืนฐานวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยแี ละดจิ ิทัล และการปรับสภาพแวดล้อมให้เอ้ือต่อการพัฒนาอุตสาหกรรมและบริการอนาคต และ (๓) “สร้างคุณค่าใหม่ในอนาคต” ด้วยการเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการ พัฒนาคนรุ่นใหม่รวมถึงปรับรูปแบบ ธรุ กิจ เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของตลาด ผสมผสานกับยุทธศาสตร์ท่รี องรับ อนาคตบนพืนฐานของการ ต่อยอดอดีตและปรับปัจจุบัน พร้อมทั้งการส่งเสริมและสนับสนุนจากภาครัฐ ให้ประเทศไทยสามารถ สร้างฐานรายได้และการจ้างงานใหม่ขยายโอกาสทางการค้าและการลงทุน ในเวทีโลก ควบคู่ไปกับการ ยกระดับรายได้และการกินดีอยู่ดีรวมถึงการเพ่ิมขึ้นของคนชั้นกลางและลดความเหลื่อมล่าของคนในประเทศ ไดใ้ นคราวเดียวกัน ๔.๓ ยุทธศาสตร์ชาติด้านการพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพทรัพยากรมนุษย์ มีเป้าหมาย การพัฒนาท่ีสําคัญเพื่อพัฒนาคนในทุกมิติและในทุกช่วงวัยให้เป็นคนดีเก่ง และมีคุณภาพ โดยคนไทย มีความพร้อมทั้งกาย ใจ สติปัญญา มีพัฒนาการท่ีดีรอบด้านและมีสุขภาวะท่ีดีในทุกช่วงวัย มีจิตสาธารณะ รับผิดชอบต่อสังคมและผู้อื่น มัธยัสถ์อดออม โอบอ้อมอารีมีวินัย รักษาศีลธรรมและเป็นพลเมืองดีของชาติ มีหลักคิดท่ีถูกต้อง มีทักษะที่จําเป็นในศตวรรษที่ ๒๑ มีทักษะสื่อสาร ภาษาอังกฤษและภาษาที่สาม และอนุรักษ์ภาษาท้องถิ่น มีนิสัยรั กการเรียนรู้และการพัฒ น าตนเอง อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต สู่การเป็น คนไทยที่มีทักษะสูง เป็นน วัตกร นักคิด ผู้ประกอบการ เกษตรกรยุคใหม่ และอ่ืน ๆ โดยมสี ัมมาชพี ตามความถนดั ของตนเอง ๔.๔ ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม มีเป้าหมาย การพัฒนาที่ใหค้ วามสาํ คัญกบั การดึงเอาพลังของภาคสว่ นตา่ ง ๆ ท้ังภาคเอกชน ประชาสงั คม ชุมชน ท้องถ่ิน มาร่วมขับเคล่ือน โดยการสนับสนุนการรวมตัวของประชาชนในการร่วมคิดร่วมทํา เพื่อส่วนรวม การก ระจายอําน าจและ ความรับผิดชอ บ ไป สู่ก ลไก บริห ารราชก ารแผ่น ดิน ใน ระ ดับท้ อ งถ่ิน การเสริมสร้างความเข้มแข็งของชุมชนในการจัดการตนเอง และการเตรียมความพร้อมของประชากรไทย ท้ังในมิติสุขภาพ เศรษฐกิจ สังคม และสภาพแวดล้อมให้เป็นประชากรที่มีคุณภาพ สามารถพ่ึงตนเอง และทําประโยชน์แก่ครอบครัว ชุมชน และสังคมให้นานท่ีสุด โดยรัฐให้หลักประกันการเข้าถึงบริการและ สวสั ดิการทม่ี ีคณุ ภาพอย่างเป็นธรรมและท่วั ถงึ ๔.๕ ยุทธศาสตร์ชาติด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตท่ีเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม มเี ปา้ หมายการพัฒนาทีส่ าํ คัญเพอื่ นําไปส่กู ารบรรลเุ ปา้ หมายการพฒั นาท่ยี ่งั ยืนในทุกมิติ ทั้งดา้ นสังคม เศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม ธรรมาภิบาล และความเป็นหุ้นส่วนความร่วมมือระหว่างกันทังภายในและภายนอกประเทศ อย่างบูรณาการ ใช้พื้นที่เป็นตัวตั้งในการกําหนดกลยุทธ์และแผนงาน และการให้ทุกฝ่ายที่เก่ียวข้อง ได้เข้ามามีส่วนร่วมในแบบทางตรงให้มากท่ีสุดเท่าที่จะเป็นไปได้โดยเป็น การด่าเนินการบนพืนฐาน การเตบิ โตรว่ มกัน ไมว่ ่าจะเป็นทางเศรษฐกจิ สิ่งแวดลอ้ ม และคุณภาพชวี ติ โดยให้ความส่าคญั กับการสร้างสมดุล ทัง้ ๓ ด้าน อนั จะนาํ ไปสคู่ วามยง่ั ยืนเพื่อคนรนุ่ ตอ่ ไปอย่างแท้จริง
24 ๔.๖ ยุทธศาสตร์ชาติด้าน การป รับ สมดุลแล ะพัฒ น าระบ บ การบ ริหารจัดการภาครัฐ มีเป้าหมายการพัฒนาท่ีสําคัญเพื่อปรับเปลี่ยนภาครัฐท่ียึดหลัก “ภาครัฐของประชาชนเพื่อประชาชน และประโยชน์ส่วนรวม” โดยภาครัฐต้องมีขนาดที่เหมาะสมกับบทบาทภารกิจ แยกแยะบทบาท หน่วยงานของรัฐที่ทําหน้าที่ในการกํากับหรือในการให้บริการในระบบเศรษฐกิจท่ีมีการแข่งขัน มีสมรรถนะสูง ยึดหลักธรรมาภิบาล ปรับวัฒนธรรมการทํางานให้มุ่งผลสัมฤทธิ์และผลประโยชน์ส่วนรวม มีความทันสมัย และพร้อมที่จะปรับตัวให้ทันต่อการเปลี่ยนแปลงของโลกอยู่ตลอดเวลา โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การนํานวัตกรรม เท ค โน โล ยี ข้ อ มู ล ข น าด ให ญ่ ร ะ บ บ ก าร ทํ าง าน ที่ เป็ น ดิ จิ ทั ล เข้ าม าป ร ะ ยุ ก ต์ ใช้ อ ย่ าง คุ้ ม ค่ า และปฏิบัติงานเทียบได้กับมาตรฐานสากล รวมทั้งมีลักษณะเปิดกว้าง เช่ือมโยงถึงกันและเปิดโอกาสให้ ทุกภาคส่วนเข้ามามีส่วนร่วมเพื่อตอบสนองความต้องการของประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และ โปร่งใส โดยทุกภาคส่วนในสังคมต้องร่วมกันปลูกฝังค่านิยมความซื่อสัตย์สุจริต ความมัธยัสถ์และสร้าง จิตสํานกึ ในการปฏเิ สธไม่ยอมรับการทจุ รติ ประพฤติมิชอบอย่างส้นิ เชงิ นอกจากน้ัน กฎหมายต้องมีความชัดเจน มีเพียงเท่าที่จําเป็น มีความทันสมัย มีความเป็นสากล มีประสิทธิภาพ และนําไปสู่การลด ความเหลื่อม ล่า และ เอ้ื อ ต่อ ก ารพั ฒ น า โด ย ก ร ะ บ ว น ก าร ยุติ ธ รรม มี ก าร บ ริห ารท่ี มี ป ระ สิ ท ธิ ภ า พ เป็ น ธ รร ม ไม่เลือกปฏบิ ัติและการอํานวยความยุติธรรมตามหลักนิติธรรม
25 1.2 แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาตฉิ บบั ท่ี 12 (พ.ศ. ๒๕๖๐ – ๒๕๖๔) ได้จัดท่าขึนในช่วงเวลาของการปฏิรูปประเทศและสถานการณ์โลกท่ีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและ เชอ่ื มโยงกันใกล้ชิดกนั มากขึน โดยได้น้อมน่าหลัก “ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง” มาเป็นปรชั ญานาทางในการพัฒนา ประเทศต่อเนื่องจากแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๙ – ๑๑ เพอ่ื เสรมิ สร้างภูมิคมุ้ กันและช่วยใหส้ ังคมไทยสามารถยนื หยัดอยไู่ ด้ อย่างม่ันคง เกิดภูมิคุม้ กัน และมีการบริหารจัดการความเส่ยี งอย่างเหมาะสม ส่งผลให้การพัฒนาประเทศสู่ความสมดุล และย่ังยืน การจัดท่าแผนพัฒนาท้องถ่ินขององค์การบริหารส่วนต่าบลมีความสัมพันธ์และสอดคล้องกับแผน ยุทธศาสตร์พัฒนาขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น โดยแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาจะต้องสอดคล้องกับแผนพัฒนา เศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ ฉบับท่ี ๑๒ ดังนัน เพื่อให้การจัดท่าแผนพัฒนาท้องถิ่น (พ.ศ. ๒๕๖๑ – ๒๕๖5) ขององค์การบริหารส่วนต่าบล เขาขลุง มีความสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับท่ี ๑๒ องค์การบริหารส่วนต่าบลเขาขลุง จึงได้จัดท่าแผนท่ีสอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ มีทังหมด 10 ยุทธศาสตร์ โดยมี ๖ ยุทธศาสตรต์ ามกรอบยทุ ธศาสตรช์ าติ ๒๐ ปี และอีก ๔ ยุทธศาสตรท์ ่ีเป็นปจั จัยสนับสนนุ ยุทธศาสตร์ท่ี 1 การเสริมสร้างและพัฒนาศักยภาพทุนมนุษย์ ทุนมนุษย์ของประเทศไทยยังมี ปัญหาในด้านคุณภาพคนในแต่ละช่วงวัย โดยผลลัพธ์ทางการศึกษาของเด็กวัยเรียนค่อนข้างต่า การพัฒนาความรู้ และทักษะของแรงงานไม่ตรงกับตลาดงาน ในขณะท่ีคนไทยจ่านวนไม่น้อยยังไม่สามารถคัดกรองและเลือกรับ วัฒนธรรมได้อย่างเหมาะสม ซ่ึงส่งผลต่อวิกฤตค่านิยม ทัศนคติ และพฤติกรรมในการดา่ เนินชีวิต การพัฒนาในระยะ ต่อไปจึงต้องให้ความสำคัญกับการวางรากฐานการพัฒนาคนให้มีความสมบูรณ์ เพื่อให้คนไทยมีทัศนคติ และ พฤติกรรมตามบรรทัดฐานที่ดีของสังคม ได้รับการศึกษาทม่ี ีคุณภาพสูงตามมาตรฐานสากล และสามารถเรียนรู้ด้วย ตนเองอย่างต่อเนื่อง มีสุขภาวะทดี่ ีขนึ คนทุกช่วงวัยมีทักษะ ความรู้ และความสามารถเพิม่ ขึน รวมทงั สถาบนั ทาง สังคมมีความเขม้ แขง็ และมสี ่วนร่วมในการพฒั นาประเทศเพ่ิมขนึ แนวทางการพัฒนาที่ส่าคัญ ประกอบด้วย (๑) ปรับเปล่ียนค่านิยมคนไทยให้มีคุณธรรม จริยธรรม มีวินัย จิตสาธารณะ และพฤติกรรมที่พึงประสงค์ อาทิ ส่งเสริมให้มีกิจกรรมการเรียนการสอนทังในและนอก หอ้ งเรียนที่สอดแทรกคุณธรรม จรยิ ธรรม ความมีระเบียบวนิ ัย และจิตสาธารณะ (๒) พฒั นาศักยภาพคนให้มีทักษะ ความรู้ และความสามารถในการดำรงชีวิตอยา่ งมีคุณค่า อาทิ ส่งเสริมเดก็ ปฐมวัยให้มีการพัฒนาทักษะทางสมองและ ทางสังคมท่ีเหมาะสม เด็กวัยเรียนและวัยรุ่นมีทักษะการคิดวิเคราะห์อย่างเป็นระบบ (๓) ยกระดับคุณภาพ การศึกษาและการเรียนรู้ตลอดชีวิต อาทิ ปรับระบบบริหารจัดการสถานศกึ ษาขนาดเล็กให้มีการจัดทรัพยากร ร่วมกันให้มีขนาดและจ่านวนที่เหมาะสม ปรับปรุงแหล่งเรียนรู้ในชุมชนให้เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงสร้างสรรค์และ มชี ีวิต (๔) ลดปัจจัยเสี่ยงด้านสุขภาพและให้ทกุ ภาคส่วนคำนึงถึงผลกระทบต่อสุขภาพ อาทิ ส่งเสริมให้มีกิจกรรมทาง สุขภาพและโภชนาการที่เหมาะสมกับวัย ปรบั ปรุงมาตรการทางกฎหมายและภาษีในการควบคุมผลิตภัณฑ์ท่ีส่งผล เสียต่อสุขภาพ (๕) เพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารจัดการระบบสุขภาพ ภาครัฐและปรับระบบการเงินการคลังด้าน สุขภาพ อาทิ ปรับระบบบริหารจัดการทรัพยากรร่วมกันระหว่าง สถานพยาบาลทุกสังกัดในเขตพืนที่สุขภาพ (๖) พัฒนาระบบการดูแลและสร้างสภาพแวดล้อมท่ีเหมาะสมกับสังคมสูงวัย อาทิ ผลักดันให้มีกฎหมายการดูแล ผู้สูงอายุระยะยาว และ (7) ผลักดันให้สถาบันทางสังคมมีส่วนร่วมพัฒนาประเทศอย่างเข้มแข็ง อาทิ ก่าหนด มาตรการดูแลครอบครัวท่ีเปราะบาง และส่งเสริมสถาบันการศึกษาให้เป็นแหล่งบริการความรู้ทางวิชาการที่ทุกคน เข้าถึงได้
26 ยทุ ธศาสตร์ท่ี 2 การสร้างความเป็นธรรมและลดความเหลื่อมล้าในสังคม การพัฒนาในช่วงท่ีผ่านมา ท่าให้สังคมไทยก้าวหน้าไปหลายด้าน แต่การแก้ปัญหาความเหลื่อมล่าและสร้างความเป็นธรรมในสังคมไทยมีความ คืบหน้าช้า ทังเรื่องความแตกตา่ งของรายได้ระหวางกลุม่ ประชากร ความแตกตา่ งของคุณภาพการบริหารภาครัฐรวมทัง ข้อจ่ากัดในการเข้าถึงกระบวนการยุติธรรม และเทคโนโลยีของกลุ่มผู้ด้อยโอกาสและกลุ่มท่ีอยู่ในพืนท่ีห่างไกล ดังนัน การพัฒนาในระยะต่อไปจงึ จ่าเป็นต้องมงุ่ ลดปัญหาความเหล่ือมล่าด้านรายไดข้ องกลุ่มคนทมี่ ีฐานะทางเศรษฐกจิ สังคม ทแ่ี ตกตา่ งกัน แกไ้ ขปญั หาความยากจน เพิ่มโอกาสการเขา้ ถงึ บริการพืนฐานทางสังคมของภาครัฐ รวมทงั เพิ่มศกั ยภาพ ชุมชนและเศรษฐกิจฐานรากให้มีความเข้มแข็ง เพ่ือให้ชุมชนพ่ึงพาตนเองและได้รับสว่ นแบ่งผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ มากขึน แนวทางการพัฒนาส่าคัญ ประกอบด้วย (๑) การเพ่ิมโอกาสให้กับกลุ่มเป้าหมาย ประชากรร้อยละ ๔๐ ท่ีมีรายได้ต่าสุดสามารถเข้าถึงบริการท่ีมีคุณภาพของรัฐและมีอาชีพ อาทิ ขยายโอกาส การเข้าถึงการศึกษาที่มี คุณภาพให้แก่เด็กและเยาวชนที่ด้อยโอกาสทางการศกึ ษาอย่างตอ่ เนื่อง โดยให้การดูแลนักเรยี นท่คี รอบคลมุ ตังแต่การ สร้างรายได้ของครัวเรือน สนับสนุนค่าเดินทางไปยังสถานศึกษา ให้ทุนการศึกษาต่อระดับสูง (๒) การกระจายการ ให้บรกิ ารภาครัฐทังด้านการศกึ ษา สาธารณสุข และสวัสดิการที่มีคุณภาพให้ครอบคลุมและทั่วถึง อาทิ บริหารจัดการ การให้บริการสาธารณสุขที่มีคุณภาพให้ครอบคลุมทุกพืนท่ีผ่านการพัฒนาระบบส่งต่อผู้ป่วยทังในระดับจังหวัด ภาค และระดับประเทศให้มีประสิทธภิ าพมากขึน และ (3) เสริมสร้างศักยภาพชุมชน การพัฒนาเศรษฐกิจชุมชนและ การสร้างความเข้มแข็งการเงินฐานรากตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง เพ่ือให้ชุมชนสามารถพ่ึพาตนเองได้ มีสิทธิในการจัดการทุนที่ดินและทรัพยากรภายในชุมชน อาทิ สนับสนุนการให้ความรู้ในการบริหารจัดการ ทางการเงินแก่ชุมชนและครัวเรือน การปรับองค์กรการเงินของชุมชนให้ทำหน้าที่เป็นสถาบันการเงินในระดับ หมู่บ้าน/ตำบลที่ทำหน้าที่ทังการให้กู้ยืมและการออม และจัดตังโครงข่ายการเงินฐานรากโดยมีธนาคารออมสินและ ธนาคารเพ่ือการเกษตรและสหกรณ์เป็นแมข่ ่าย ยุทธศาสตร์ท่ี 3 การสร้างความเข้มแข็งทางเศรษฐกิจและแข่งขันได้อย่างยั่งยืน เศรษฐกิจไทย ขยายตัวต่ากว่าศักยภาพอย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี ทังจากผลกระทบของเศรษฐกิจโลกซบเซา และข้อจ่ากัด ภายในประเทศเองท่ีเป็นอุปสรรคต่อการเพิ่มผลิตภาพและขีดความสามารถในการแข่งขัน รวมทังฐานเศรษฐกิจ ภายในประเทศขยายตัวชา้ การพัฒนา ๕ ปตี ่อจากนีไป จึงเน้นให้เศรษฐกิจเตบิ โตได้ตามศกั ยภาพและมีเสถียรภาพ ภาคส่งออก มีการพัฒนาจนสามารถขยายตัวและเป็นกลไกส่าคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย ผลิตผลการผลิตของประเทศ เพ่ิมขึน การลงทุนภาครัฐและเอกชนมีการขยายตัวอย่างต่อเนื่องและมาจากความร่วมมือกันมากขึน ประชาชนและ ผู้ประกอบการเข้าสู่ระบบภาษีมากขึน และประเทศไทยมีขีดความสามารถในการแข่งขัน ทางเศรษฐกิจสูงขึน นอกจากนี ยังเน้นให้เศรษฐกิจรายสาขามีการเติบโตอย่างเข้มแข็ง ภาคการเกษตรเน้นเกษตรกรรมย่ังยืนและให้ เกษตรกรมีรายได้เพ่ิมขึน มีการพัฒนาเมืองอุตสาหกรรมนิเวศ การท่องเที่ยวสามารถท่ารายได้และแข่งขันได้มากขึน วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมมีบทบาทตอ่ ระบบเศรษฐกิจมากขึน ภาคการเงนิ มีประสทิ ธิภาพเพิ่มขึน โดยมีแนวทางการพัฒนาที่ส่าคัญ ประกอบด้วย (๑) การบริหารจัดการเศรษฐกิจ ส่วนรวม ทังในด้าน การคลัง อาทิ เพ่ิมประสิทธิภาพการจัดแผนงานโครงการ การจัดสรรงบประมาณการบริหารและการตรวจสอบ กระบวนการงบประมาณ และดา้ นการเงนิ อาทิ เพ่มิ ประสทิ ธิภาพของระบบการเงิน และสถาบนั การเงินทังในตลาดเงิน และตลาดทุนให้สามารถสนับสนุนการขยายตัวทางเศรษฐกิจ และ (๒) การเสริมสร้างและพัฒนาขีดความสามารถ ในการแข่งขันของภาคการผลิตและบริการ มุ่งเน้นการสร้างความเชื่อมโยงของห่วงโซ่มูลค่าระหว่างภาคเกษตร อุตสาหกรรม บริการ และการค้าการลงทุน เพื่อยกระดับศักยภาพในการแข่งขันของประเทศ โดยยกระดับการผลิต สนิ คา้ เกษตรและอาหารเขา้ สรู่ ะบบมาตรฐาน ตอ่ ยอดความเขม้ แข็งของอตุ สาหกรรมท่มี ีศกั ยภาพปจั จบุ นั เพือ่ ยกระดับ
27 ไปสู่อุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีขันสูง วางอนาคตรากฐานการพัฒนาอุตสาหกรรม เสริมสร้างขีดความสามารถการ แข่งขันในเชิงธุรกิจของภาคบริการ ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายและกฎระเบียบเพื่อส่งเสริมการค้าท่ีเป็นธรรมและอ่านวย ความสะดวกดา้ นการค้าการลงทนุ ยุทธศาสตร์ที่ 4 การเติบโตท่ีเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพ่ือการพัฒนาอย่างยั่งยืน ปัจจุบันสภาพ ทรัพยากรธรรมชาติและสง่ิ แวดล้อมก่าลังเป็นจุดอ่อนส่าคัญต่อการรักษาฐานการผลิตและการให้บริการ รวมทังการ ดำรงชีวิตของคนไทย ซึ่งปัญหาดังกล่าวเกิดจากการลดลงของพืนที่ป่าไม้ ทรัพยากรดินเส่ือมโทรม ความ หลากหลายทางชีวภาพถูกคุกคาม ความเสีย่ งในการขาดแคลนทรัพยากรน่าในอนาคต ปัญหาสิ่งแวดล้อมเพ่ิมสูงขึน ตามการขยายตัวของเศรษฐกิจและชุมชนเมือง การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและภัยพิบัติทาง ธรรมชาติ มีความผันผวนและรุนแรงมากขนึ และข้อตกลงระหว่างประเทศเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงสภาพ ภูมิอากาศทวี ความเขม้ ข้น ซงึ่ จะสง่ ผลต่อแนวทางการพฒั นาประเทศในอนาคต ดงั นัน การพัฒนาในระยะต่อไปจึงมงุ่ เน้นการรักษาและฟื้นฟูฐานทรพั ยากรธรรมชาติ การสร้างความ ม่ันคงด้านน่า และการบริหารจัดการทรัพยากรน่าให้มีประสิทธิภาพการสร้างคุณภาพ สิ่งแวดล้อมที่ดี ลดมลพิษ และ ลดผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนและระบบนิเวศ การเพ่ิมประสิทธิภาพการลดก๊าซเรือนกระจกและขีด ความสามารถในการปรบั ตัวต่อการเปล่ียนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการเพ่ิมประสิทธิภาพการบรหิ ารจัดการเพ่ือลด ความเส่ียงจากภัยพิบตั ิ และลดความสญู เสียในชีวติ และทรัพย์สินท่ีเกดิ จากสาธารณภยั แนวทางการพัฒนาส่าคัญ ประกอบด้วย (๑) การรักษาฟ้ืนฟูทรัพยากรธรรมชาติสร้างสมดุลของการ อนุรักษ์และใช้ประโยชน์อย่างยั่งยืนและเป็นธรรม (๒) เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการทรัพยากรน่าเพ่ือให้เกิด ความมนั่ คง สมดลุ และยง่ั ยืน (๓) การแกไ้ ขปัญหาวิกฤตสิ่งแวดลอ้ ม (๔) ส่งเสริมการผลติ และการบริโภคท่ีเป็นมิตรกับ สิ่งแวดล้อม (๕) สนับสนุนการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก และเพ่ิมขีดความสามารถในการปรับตัวต่อการ เปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ (๖) การบริหารจัดการเพ่ือลดความเสี่ยงด้านภัยพิบัติ (๗) การพัฒนาระบบการบริหาร จดั การและกลไกแก้ไขปัญหาความขัดแย้งด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และ (๘) การพฒั นาความร่วมมือ ดา้ นสง่ิ แวดล้อมระหวา่ งประเทศ ยทุ ธศาสตร์ท่ี 5 การเสรมิ สร้างความม่ันคงแหง่ ชาตเิ พ่ือการพฒั นาประเทศส่คู วามม่ังคั่งและย่งั ยืน กระแสโลกาภิวัตน์และความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในปัจจุบันมีแนวโน้มส่งผลกระทบต่อความมั่นคงและเสถียรภาพ ของประเทศไทยในหลายมิติ ทังภัยคุกคามภายนอก ในเร่ืองการขยายอิทธิพลและการเพ่ิมบทบาทของประเทศ มหาอ่านาจในภูมิภาคต่างๆ ของโลกอาชญากรรมข้ามชาติและการก่อการร้าย และภัยคุกคามภายในประเทศ ได้แก่ ความเห็นต่างทางความคิดและอุดมการณ์ของคนในชาติ การสร้างสถานการณ์ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ และการ คกุ คามทางเศรษฐกจิ โดยอาชญากรรมคอมพิวเตอร์ ดังนัน การพัฒนาในระยะต่อไป จึงเน้นในเรื่องการปกป้องและเชิดชูสถาบันพระมหากษัตริย์ให้เป็น สถาบันหลักของประเทศ สังคมมีความสมานฉันท์ ประชาชนมีส่วนรว่ มป้องกันแก้ไขปัญหาความม่ันคง ประชาชนใน จังหวัดชายแดนภาคใต้ มีความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน มีโอกาสในการศึกษาและการประกอบอาชีพท่ีสร้าง รายได้เพิ่มขึน ประเทศไทยมีความสัมพันธ์และความร่วมมือด้านความ มน่ั คงกบั นานาประเทศในการป้องกันภัยคุกคาม ในรูปแบบต่างๆ ควบคู่ไปกับการรักษาผลประโยชน์ของชาติ มีความพร้อมต่อการรับมือภัยคุกคามทังภัยคุกคามทาง ทหารและภัยคุกคามอ่ืนๆ และแผนงานด้านความม่ันคงมีการบูรณาการสอดคล้องกับนโยบายการพัฒนาเศรษฐกิจ สงั คม ทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดลอ้ ม
28 แนวทางการพัฒนาส่าคัญ ประกอบด้วย (๑) การรักษาความมั่นคงภายใน เพ่ือให้เกิดความสงบใน สังคมและธ่ารงไว้ซ่ึงสถาบันหลักของชาติ (๒) การพัฒนาเสริมสรา้ งศกั ยภาพการป้องกันประเทศ เพื่อเตรียมความพรอ้ ม ในการรับมือภัยคุกคามทังการทหารและภัยคุกคามอื่น ๆ (๓) การสง่ เสริมความรว่ มมือกับต่างประเทศด้านความมนั่ คง เพื่อบูรณาการความร่วมมือกับมิตรประเทศเพื่อผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ สังคม และการป้องกันภัยคุกคามข้ามชาติ (๔) การรกั ษาความม่ันคงและผลประโยชน์ของชาติทางทะเลเพ่ือคงไว้ซ่ึงอา่ นาจอธิปไตยและสทิ ธิอธิปไตยในเขตทะเล และ (๕) การบริหารจัดการความมั่นคงเพ่ือการพัฒนาเพื่อให้เกิดความสอดคล้องกันระหว่างแผนงานท่ีเกี่ยวข้องกับ ความมัน่ คงการพัฒนาภายใต้การมีสว่ นรว่ มของภาคประชาชน ยทุ ธศาสตรท์ ่ี 6 การบรหิ ารจดั การในภาครฐั การปอ้ งกนั การทุจริตประพฤตมิ ชิ อบ และธรรมาภบิ าล ในสังคมไทย ระบบการบริหารจัดการในภาครัฐที่ขาดประสิทธิภาพเป็นอุปสรรคท่ีสำคัญต่อการพัฒนาประเทศมา อย่างต่อเนื่อง ทังการให้บริการประชาชนยังไม่ได้มาตรฐานสากล การบังคับใช้กฎหมายท่ีขาดประสิทธิภาพ การบริหารจัดการและการให้บริการของท้องถนิ่ ขาดความโปร่งใส ระบบและกระบวนการ ยุติธรรมไม่สามารถ อ่านวยความยุตธิ รรมได้อยา่ งเสมอภาคและเปน็ ธรรม รวมทังการทุจริต ประพฤตมิ ิชอบในสังคมไทย การพัฒนาระยะต่อไปจึงต้องเร่งปฏิรูปการบริหารจัดการภาครัฐให้เกิดผลสัมฤทธ์ิอยา่ งจริงจัง โดย มุ่งเน้นในเรื่องการลดสัดส่วนค่าใช้จ่ายด้านบุคลากร และเพ่ิมประสิทธิภาพการบริหารจัดการและการให้บริการของ ภาครฐั รวมทังประสทิ ธิภาพการประกอบธุรกิจของประเทศ การเพ่ิมประสทิ ธิภาพการบริหาร จดั การที่ดีขององค์กร ปกครองส่วนท้องถน่ิ การปรับคะแนนดัชนีการรับรูก้ ารทุจริตให้อยู่ในระดับที่ดีขึน และการลดจ่านวนการด่าเนินคดี กบั ผูม้ ิไดก้ ระทา่ ความผดิ แนวทางการพัฒนาส่าคัญ ประกอบด้วย (๑) ปรับปรุงโครงสร้างหน่วยงาน บทบาท ภารกิจ และ คุณภาพบุคลากรภาครัฐ ให้มีความโปร่งใส ทันสมัย คล่องตัว มีขนาดท่ีเหมาะสม เกิดความคุ้มค่า (๒) ปรับปรุง กระบวนการงบประมาณ และสร้างกลไกในการติดตามตรวจสอบการเงินการคลงั ภาครฐั เพื่อใหก้ ารจัดสรรและการใช้ จา่ ยมปี ระสทิ ธภิ าพ (๓) เพิ่มประสทิ ธิภาพและยกระดับการให้บริการสาธารณะให้ได้ มาตรฐานสากล เพอ่ื ให้ประชาชน และภาคธุรกิจได้รับบริการที่มีคุณภาพได้มาตรฐาน และอ่านวยความสะดวกตรงตามความต้องการ (๔) เพิ่ม ประสิทธิภาพการบริหารจัดการให้แก่องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ิน เพ่ือให้ประชาชนได้รับการบริการอย่า งมี ประสิทธิภาพและทั่วถงึ (๕) ปอ้ งกนั และปราบปรามการทุจรติ และประพฤตมิ ชิ อบ เพ่ือให้สังคมไทยมวี ินัย โปร่งใส และ ยุติธรรม และ (๖) ปฏิรูปกฎหมายและกระบวนการยุติธรรมให้มีความทันสมัย เป็นธรรม และสอดคล้องกับข้อบังคับ สากลหรือข้อตกลงระหว่างประเทศ ยุทธศาสตร์ที่ 7 การพัฒนาโครงสร้างพืนฐานและระบบโลจิสติกส์ ท่ีผ่านมาการพัฒนา โครงสร้างพืนฐานและระบบโลจิสติกส์ของประเทศประสบปัญหาด้านความต่อเน่ืองในการด่าเนินการ และ ปัญหาเชิงปริมาณ คุณภาพ และการบริหารจัดการการให้บริการท่ีสอดคล้องกับมาตรฐานสากล ทำให้มี ข้อจา่ กดั ในการสนับสนนุ การพัฒนาประเทศให้มีประสิทธิภาพ การพัฒนาในระยะต่อไปจึงมุง่ เน้นในเรื่องการลดความเขม้ ของการใช้พลังงานและลดต้นทนุ โลจสิ ตกิ ส์ ของประเทศ การพัฒนาระบบขนสง่ ทางรางและทางน่า เพ่ิมปรมิ าณการเดินทางด้วยระบบขนสง่ สาธารณะในเขตเมือง และขยายขีดสามารถในการรองรับปริมาณ ผู้โดยสารของท่าอากาศยานในกรุงเทพมหานครและท่าอากาศยานใน ภูมิภาค การเพ่ิมความสามารถในการแข่งขันด้านโลจิสติกส์และการอ่านวยความสะดวกทางการค้า การพัฒนาด้าน พลงั งานเพ่ือเพ่ิมสดั ส่วนการใช้พลงั งานทดแทนตอ่ ปริมาณการ ใช้พลังงานขันสุดทา้ ย และลดการพ่ึงพากา๊ ซธรรมชาตใิ น การผลิตไฟฟ้า การพัฒนาเศรษฐกจิ ดิจทิ ลั และการพัฒนาด้านสาธารณปู การ (น่าประปา)
29 แนวทางการพัฒนาส่าคัญ ประกอบด้วย (๑) การพัฒนาโครงสร้างพืนฐานด้านขนส่ง อาทิ พัฒนา ระบบรถไฟให้เป็นโครงข่ายหลักในการเดินทางและขนส่งของประเทศ พัฒนาโครงข่ายถนน พัฒนาระบบขนส่งทาง อากาศ และพัฒนาระบบขนส่งทางนา่ (๒) การสนบั สนุนการพัฒนาระบบขนสง่ อาทิ การพัฒนาอุตสาหกรรมต่อเนื่องท่ี เกดิ จากการลงทนุ ด้านโครงสร้างพืนฐาน และพัฒนาการบรหิ ารจดั การในสาขาขนส่ง (๓) พัฒนาระบบโลจิสติกส์ อาทิ พัฒนาและยกระดับมาตรฐานระบบการบริหารจดั การโลจสิ ติกส์และ โซอ่ ุปทานให้ได้มาตรฐานสากล และพัฒนาและยกระดับมาตรฐานการอ่านวยความสะดวกทางการค้า (๔) พัฒนาด้าน พลงั งาน อาทิ จดั หาพลงั งานให้เพียงพอและสร้างความม่นั คงในการผลติ พลงั งาน เพม่ิ ศักยภาพการบริหารจัดการ การผลิต และการใช้พลังงานทดแทนและพลังงานสะอาด (๕) พฒั นาเศรษฐกจิ ดจิ ิทัล อาทิ พฒั นาและปรบั ปรุงโครงสร้างพืนฐาน โทรคมนาคมของประเทศให้ท่ัวถึงและมีประสิทธิภาพ และส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในการสร้างมูลค่าเพ่ิมทาง ธุรกิจ และ (๖) พัฒนาระบบน่าประปา อาทิ พัฒนาระบบน่าประปาให้ครอบคลุมและท่ัวถึง และการบริหารจัดการ การใชน้ ่าอย่างมีประสทิ ธภิ าพและการสรา้ งนวัตกรรม ยทุ ธศาสตรท์ ี่ ๘ การพัฒนาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรม การพัฒนาเศรษฐกจิ ของ ประเทศไทยในช่วงระยะเวลาท่ีผ่านมา อาศัยการเพิ่มประสิทธิภาพจากปัจจัยความได้เปรียบด้านแรงงาน ทรัพยากรธรรมชาติ และการน่าเข้าเทคโนโลยีส่าเร็จรูปจากต่างประเทศมากกว่าการสะสมองค์ความรู้ เพื่อพัฒนา เทคโนโลยีของตนเอง ท่าให้ส่วนแบง่ ผลประโยชน์ทางดา้ นเทคโนโลยซี ่ึงมีมูลค่าเพ่ิมสงู ตกอยู่กบั ประเทศ ผู้เป็นเจ้าของ เทคโนโลยี อกี ทังการลงทุนด้านการวิจยั และพัฒนายังไม่เพียงพอท่ีจะขบั เคล่อื นประเทศสู่สงั คมนวตั กรรมได้ การพัฒนาจึงเน้นในเรอื่ งการเพิ่มความเข้มแข็งด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยขี องประเทศ และการ เพ่มิ ความสามารถในการประยกุ ต์ใช้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมเพื่อยกระดับความสามารถการแขง่ ขันของ ภาคการผลิตและบรกิ าร และคุณภาพชีวติ ของประชาชน แนวทางการพัฒนาสา่ คัญ ประกอบด้วย (๑) เร่งส่งเสริมการลงทุนวิจัยและพัฒนาและ ผลักดันสู่การ ใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์และเชิงสังคม อาทิ ลงทุนวิจัยและพัฒนากลุม่ เทคโนโลยีที่ประเทศไทย มีศักยภาพพัฒนาได้เอง และกลุ่มเทคโนโลยีที่น่าสู่การพัฒนาแบบก้าวกระโดด ลงทุนวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยี และนวัตกรรมทางสังคมเพ่ือ ลดความเหล่ือมล่าและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชน (๒) พัฒนาผู้ประกอบการให้เป็นผู้ประกอบการทาง เทคโนโลยี อาทิ ส่งเสริมผู้ประกอบการให้มีบทบาทหลักด้านนวัตกรรม เทคโนโลยีและร่วมก่าหนดทิศทางการพัฒนา นวัตกรรม ส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมด้านการออกแบบและการจัดการธุรกิจที่ผสานการใช้เทคโนโลยีให้ แพร่หลายในกลมุ่ ผปู้ ระกอบการธุรกิจของไทย และ (๓) พัฒนาสภาวะแวดล้อมของการพัฒนาวทิ ยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรม ดา้ นบุคลากรวิจัย อาทิ การเร่งการผลิตบุคลากรสายวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ที่มีคณุ ภาพและ สอดคล้องกับความต้องการโดยเฉพาะในสาขา STEM และพัฒนาศักยภาพนักวิจัยให้มีทังความรู้และความเข้าใจใน เทคโนโลยี ยทุ ธศาสตรท์ ี่ ๙ การพัฒนาภาค เมือง และพืนทเี่ ศรษฐกจิ ในชว่ งแผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี ๑๒ ประเทศ ไทยต้องใช้ประโยชน์จากศักยภาพและภูมสิ ังคมเฉพาะของพืนท่ี และการด่าเนินยทุ ธศาสตร์เชิงรุก เพื่อเสริมจุดเด่นใน ระดับภาคและจงั หวัดในการเป็นฐานการผลิตและบริการท่ีส่าคัญ ประกอบกับการขยายตัวของ ประชากรในเขตเมือง จะเป็นโอกาสในการกระจายความเจริญและยกระดบั รายได้ของประชาชนโดยการพฒั นาเมืองให้เปน็ เมืองน่าอยู่ และมี ศักยภาพในการรองรับการค้าการลงทุน รวมทังลดแรงกดดันจากการกระจุกตัวของการพัฒนาในกรุงเทพฯและภาค กลางไปสู่ภูมิภาค นอกจากนี การเปน็ สว่ นหนง่ึ ของประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนยังเป็นโอกาสในการเปิดพืนที่เศรษฐกิจ ใหม่บริเวณชายแดนเช่ือมโยงการคา้ การลงทุนในภูมภิ าคของไทยกบั ประเทศเพ่อื นบ้านอกี ด้วย
30 ดังนัน การพัฒนาจึงมุ่งเน้นในเร่ืองการลดช่องว่างรายได้ระหว่างภาคและมีการกระจายรายได้ท่ี เป็นธรรมมากขึน การเพ่ิมจ่านวนเมืองศูนย์กลางของจังหวัดเป็นเมืองน่าอยู่ส่าหรับคนทุกกลุ่มในสังคม พืนท่ี ฐานเศรษฐกิจหลกั มรี ะบบการผลิตที่มปี ระสิทธิภาพสูงและเปน็ มติ รต่อส่ิงแวดลอ้ ม และการเพ่ิมมลู ค่าการลงทุนในพืนท่ี เศรษฐกิจใหม่บริเวณชายแดน แนวทางการพัฒนาสา่ คัญ ประกอบด้วย (๑) การพัฒนาภาคเพื่อสรา้ งโอกาสทางเศรษฐกจิ ให้กระจาย ตัวอย่างทั่วถึง พัฒนาภาคเหนือให้เป็นฐานเศรษฐกิจสร้างสรรค์มูลค่าสูง พัฒนาภาคตะวันออกเฉียงเหนือให้หลุดพ้น จากความยากจนสู่เป้าหมายการพึ่งตนเอง พัฒนาภาคกลางเป็นฐานเศรษฐกิจชันน่า พัฒนาภาคใต้เป็นฐานการสร้าง รายได้ที่หลากหลาย (๒) การพัฒนาเมือง อาทิ พัฒนาสภาพแวดล้อม เมืองศูนย์กลางของจังหวัดให้เป็นเมืองน่าอยู่ สง่ เสรมิ การจัดการสิ่งแวดล้อมเมอื งอย่างมบี ูรณาการภายใตก้ ารมสี ว่ นร่วมของส่วนกลาง ส่วนทอ้ งถิน่ ภาคประชาสังคม และภาคเอกชน พัฒนาระบบขนส่งสาธารณะในเขตเมือง และ (๓) การพัฒนาพืนที่เศรษฐกิจ อาทิ พัฒนาฟ้ืนฟูพืนที่ บริเวณชายฝั่งทะเลตะวันออกให้เป็นฐานการผลิต อุตสาหกรรมหลักของประเทศท่ีขยายตัวอย่างมีสมดุล มี ประสิทธิภาพ สอดคลอ้ งกับศักยภาพของพืนที่ พัฒนาพืนท่ีเศรษฐกิจใหม่บริเวณชายแดนเป็นประตูเศรษฐกิจเชื่อมโยง กับประเทศเพื่อนบา้ นให้เจรญิ เติบโตอยา่ งยงั่ ยืน และเกดิ ผลท่เี ปน็ รปู ธรรม ยุทธศาสตร์ท่ี ๑๐ ความร่วมมือระหว่างประเทศเพ่ือการพัฒนา การพัฒนาความร่วมมือระหว่าง ประเทศของไทยในช่วงแผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี ๑๒ ยึดหลักคิดเสรี เปิดเสรี และเปิดโอกาส โดยมุ่งเน้นการพัฒนาและ ขยายความร่วมมอื ทังด้านเศรษฐกิจ สังคม ความม่ันคง และอื่นๆ กับมิตรประเทศ และเป็นการขับเคลื่อนต่อเน่อื งจาก การด่าเนินการภายใต้แผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี ๑๑ โดยก่าหนดเป็นแนวทางการด่าเนินนโยบายการค้าและการลงทุนที่เสรี เปิดกว้าง และเป็นธรรม ด่าเนินยุทธศาสตร์เชิงรุกในการแสวงหาตลาดใหมๆ่ ส่งเสริมให้ผู้ประกอบการไทยไปลงทุนใน ต่างประเทศ และสง่ เสรมิ ความร่วมมือเพื่อการพัฒนากบั ประเทศในอนภุ ูมภิ าคและภูมิภาครวมทงั ประเทศนอกภมู ิภาค ดงั นนั การพัฒนาจึงมุ่งเน้นในเร่ืองการมีเครอื ข่ายการเชื่อมโยงตามแนวระเบียงเศรษฐกิจทีค่ รอบคลุม และมีการใช้ประโยชน์ได้เต็มศักยภาพ การเพ่ิมระบบห่วงโซ่มูลค่าในอนุภูมิภาคและภูมิภาคอาเซียน ประเทศไทยเป็น ฐานเศรษฐกิจ การค้าและการลงทนุ ท่ีสา่ คัญในภูมิภาคอนุภูมภิ าคอาเซียนและเอเชีย รวมทังมีการพัฒนาส่วนขยายจาก แนวระเบียงเศรษฐกิจในอนุภูมิภาคใหค้ รอบคลุมภูมิภาคอาเซียน เอเชียตะวันออก และเอเชียใต้ และประเทศไทยเป็น หุ้นสว่ นการพัฒนาทีส่ ่าคัญทงั ในทุกระดบั แนวทางการพัฒนาส่าคัญ ประกอบด้วย (๑) ขยายความร่วมมือทางการค้าและการลงทุนกับ มิตรประเทศ และแสวงหาตลาดใหม่ส่าหรับสินค้าและบริการของไทย (๒) พัฒนาความเชื่อมโยงด้านการคมนาคม ขนส่งโลจิสติกส์ และโทรคมนาคมในกรอบความร่วมมืออนุภูมิภาคภายใต้แผนงาน GMS, ACMECS, IMT-GT, BIMSTEC ,และ JDS และภูมภิ าคอาเซยี นเพื่ออ่านวยความสะดวกและลดตน้ ทุนด้านโลจสิ ติกส์ (๓) พฒั นาและส่งเสริม ให้ไทยเป็นฐานของการประกอบธุรกิจ การบริการ และการลงทุนท่ีโดดเด่นในภูมิภาค (๔) ส่งเสริมการลงทุนไทยใน ต่างประเทศของผู้ประกอบการไทย (๕) เปิดประตูการค้าและพัฒนาความร่วมมือกับประเทศเพ่ือนบ้านในลักษณะ หุ้นส่วนทางยุทธศาสตรท์ ังในระดบั อนุภูมิภาคและภูมิภาคที่มีความเสมอภาคกนั (๖) สรา้ งความเป็นหุ้นสว่ นการพัฒนา กับประเทศในอนุภมู ิภาค ภูมิภาค และนานาประเทศ (๗) เข้ารว่ มเป็นภาคีความรว่ มมือระหว่างประเทศ โดยมีบทบาท ที่สร้างสรรค์ (๘) ส่งเสริมความรว่ มมือกบั ภมู ิภาคและนานาชาติในการสร้างความมั่นคงในทุกดา้ นทีเ่ ก่ียวกับเรื่องความ อยู่ดีมีสุขของประชาชน (๙) บูรณาการภารกิจด้านความร่วมมือระหว่างประเทศและด้านการต่างประเทศ และ (๑๐) ส่งเสรมิ ใหเ้ กิดการปรบั ตัวภายในประเทศท่ีส่าคัญ
31 การขับเคลื่อนแผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี ๑๒ สู่การปฏิบัติ มีหลักการและแนวทางด่าเนินงาน สรุปได้ ดังนี 1.หลักการ ๑.๑ ขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศโดยยดึ แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ เป็นกรอบ ทศิ ทางหลัก และแปลง สูก่ ารปฏบิ ตั ใิ นระดับต่างๆ ท่สี อดคล้องกับสภาพภมู สิ ังคม ๑.๒ กระจายการพัฒนาลงสู่พืนท่ี โดยยดึ หลกั การพัฒนาพืนที่ ภารกิจ และการมสี ่วนร่วม ใหจ้ ังหวัด เป็นพืนท่ดี ่าเนนิ การขบั เคล่อื นการพัฒนา และเป็นจุดเชื่อมโยงการพัฒนาจากชุมชนสู่ประเทศ และประเทศสชู่ ุมชน ๑.๓ เพิ่มการใช้องคค์ วามรู้ เทคโนโลยี นวัตกรรม และความคดิ สรา้ งสรรคใ์ ห้เปน็ เคร่ืองมือหลักในการ ขบั เคลื่อนการพัฒนาในทกุ ภาคส่วนในระดับพืนท่ี ท้องถน่ิ และชุมชน ๑.๔ ใช้กลไกและเคร่ืองมือการพัฒนาของภาครัฐ ภาคประชาชน ภาคธุรกิจ เอกชน และส่ือมวลชน อย่างบูรณาการ ให้การขับเคลื่อนเกิดประสิทธิภาพโดยกระบวนการสร้างเครือข่าย หรือคลัสเตอรท์ ี่ตอบสนองต่อการ แก้ไขปญั หาและการพฒั นาศักยภาพของพืนท่ี ๑.๕ ระบบการบริหารจัดการแผนสู่การปฏิบัติท่ีมีความเช่ือมโยงกันในระดับต่างๆ ตังแต่ระดับ ยุทธศาสตร์ที่เช่ือมต่อกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ แผนเฉพาะด้าน และแผนปฏิบัติการ และระบบการ จดั สรรงบประมาณท่ีมีประสิทธิภาพที่ตอบสนองการพัฒนาเชิงบรู ณาการ การพัฒนาเชิงพืนที่และการพัฒนาท่ีต่อเนื่อง รวมทังระบบการติดตามประเมนิ ผลการด่าเนินงานของภาครัฐ ท่ีสอดคลอ้ งกับประเด็นการพัฒนาแนวทางการพัฒนา และผลของการพัฒนาอย่างแท้จริง ๒. แนวทางขบั เคลอ่ื นแผนพฒั นาฯ ฉบบั ท่ี ๑๒ ๒.๑ สรา้ งความรู้ความเข้าใจให้ทุกภาคส่วนตระหนกั ถงึ ความส่าคัญและพร้อมเข้ารว่ มในการผลักดัน แผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ ไปสู่การปฏิบัติ ส่านักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ สร้างความ เข้าใจกบั ภาคีทกุ ภาคสว่ น โดยก่าหนดกิจกรรมด่าเนินการ ประเดน็ ส่ือสาร และ เครื่องมือสื่อประชาสัมพันธ์ แบง่ ตาม กลุ่มเป้าหมาย (Stakeholder) ของการสร้างความรู้ความเข้าใจในการขับเคลื่อนระดับพืนท่ี สศช. จัดประชุมเชิง ปฏิบัติการในระดับภาคและชุมชนเพ่ือสร้างความรู้ความเข้าใจและสร้างความตระหนักถึงภารกิจและความรับผิดชอบ ร่วมกันของประชาชนซ่ึงจะเป็นประโยชน์ต่อการนา่ ประเด็น การพัฒนาของแผนพัฒนาฯ ฉบบั ที่ ๑๒ ไปขับเคลือ่ นผา่ น กลไกการพัฒนาระดับพืนท่ีและสร้างแนวรว่ มการพฒั นาของ สศช. ๒.๒ สร้างความเช่ือมโยงระหว่างแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ ยุทธศาสตร์ชาติ นโยบายรัฐบาล แผน เฉพาะด้าน และแผนปฏิบัติการ โดยก่าหนดประเด็นการพัฒนาส่าคัญภายใต้ยุทธศาสตร์ ของแผนพัฒนาฉบับท่ี ๑๒ น่าไปสู่การก่าหนดแผนงานโครงการ การระดมทรัพยากร และแนวทางการร่วมด่าเนินงานของภาคส่วนต่างๆ รวมถึง บูรณาการประเด็นการพัฒนา ภายใต้ยุทธศาสตร์ที่มีความเช่ือมโยงกันและจัดท่าเป็นแผนการลงทุนการพัฒนา/แผนพัฒนา เฉพาะด้านท่ีตอบสนองการพัฒนาในหลายมิติ ภายใต้ยุทธศาสตร์แผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี ๑๒ เพ่ือปิดช่องว่างการพัฒนา (Development Gap) ของประเทศในแต่ละช่วงเวลา และสร้างรากฐานส่าคัญของการพัฒนาประเทศสู่เป้าหมายท่ี กา่ หนดในแผนพฒั นาฯ ฉบับที่ ๑๒ ๒.๓ หน่วยงานกลาง อาทิ สศช. ส่านักงบประมาณ ส่านักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ (ส่านักงาน ก.พ.ร.) จดั ท่ายุทธศาสตร์การจัดสรรงบประมาณแบบมีส่วนร่วม การจัดสรร งบประมาณรายจ่ายประจ่าปี ใช้เป้าหมาย ตัวชีวัด และแนวทางการพัฒนาของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ ในการก่าหนดล่าดับความส่าคัญของ แผนงานโครงการและภารกิจหน่วยงาน เพ่ือให้การด่าเนินงานสามารถบรรลวุ ัตถุประสงค์และเป้าหมายท่ีก่าหนดไว้ใน แผนฯ อยา่ งมีประสิทธผิ ลบนพืนฐานการมสี ว่ นร่วมของประชาชน
32 ๒.๔ ผลักดันให้ภาคเอกชนน่าประเด็นการพัฒนาส่าคัญในแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ พิจารณา ประกอบการจดั ท่าแผนการลงทุนทางธุรกิจ ท่ีสร้างการมีส่วนรว่ มในการพัฒนาประเทศ อย่างเป็นหุ้นส่วนการพัฒนา และส่งเสริมให้คณะกรรมการร่วมภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขปัญหาทางเศรษฐกิจ (กรอ.) เป็นกลไกหลักในการ เชอื่ มโยงการพัฒนาระหว่างภาครฐั และเอกชน รวมทังให้ กรอ. ส่วนกลางกระจายความรบั ผดิ ชอบและภารกิจให้ กรอ. จงั หวัด/กลุ่มจงั หวัดมากขึน โดยคา่ นึงถงึ ความสอดคล้องของยุทธศาสตรช์ าติและความเชอ่ื มโยงในระดบั พนื ที่ ๒.๕ สร้างสภาพแวดล้อมให้เอือต่อการขับเคลื่อนแผนของภาคีการพัฒนาต่าง โดยก่าหนดให้มีการ ผลักดันปัจจัยหลักให้สามารถปรับเปลี่ยนเพื่อเป็นเคร่ืองมือที่ส่าคัญ อาทิ น่าการศึกษาวิจัย มาเป็นเคร่ืองมือส่าคัญใน การขับเคลื่อนการพัฒนา ปรับปรงุ กฎ ระเบียบ และกฎหมายต่างๆ ให้เอือต่อการขับเคลื่อนการพัฒนาในระดับต่างๆ โดยนา่ เคร่อื งมือวิเคราะห์ผลกระทบทางกฎหมายมาใช้ประเมนิ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ ๒.๖ เพิ่มประสทิ ธิภาพกลไกรบั ผิดชอบการขับเคล่ือนแผนฯที่ชัดเจน สามารถขับเคล่ือนแผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี ๑๒ ในระดับประเทศและระดับพืนท่ีได้อย่างมีประสิทธิภาพ อาทิ การตังและการเช่ือมโยงคณะกรรมการ ระดับชาติท่ีมีอยู่ให้น่ายุทธศาสตร์ของแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ มาเป็นกรอบการด่าเนินงานขับเคลื่อนประเด็น การพัฒนาระดบั ประเทศและพืนที่โดยให้จงั หวดั เปน็ จุดประสาน ๓. การติดตามประเมินผลแผนพัฒนาฯ ฉบับที่ ๑๒ มีแนวคิด หลักการ และแนวทางด่าเนินการ ดังนี ๓.๑ แนวคิดและหลักการติดตามประเมินผลแบบมีส่วนร่วม เน้นการติดตามประเมินผลท่ีเปิดโอกาส ให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามามีส่วนร่วมเป็นระบบประเมินผลเชิงบูรณาการท่ีมุ่งเสนอผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบ ประเมินด้วยตนเองเพื่อสร้างกระบวนการเรียนรู้และติดตามผลอย่างใกล้ชิด ควบคู่กับการให้หน่วยงานหรือสถาบันท่ี เป็นกลางทา่ หนา้ ทีป่ ระเมินผล มีหลกั เกณฑ์การติดตาม ประเมินผลและตัวชีวัดทช่ี ัดเจน โปร่งใส มีมาตรฐาน เปน็ กลาง และถูกตอ้ งตามหลักวิชาการ ๓.๒ แนวทางการประเมนิ ผลแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติแบบมสี ่วนร่วม ด่าเนินการโดย ๑) วางระบบการติดตามประเมินผล ๓ ระยะเวลา ประกอบด้วยการประเมินผลก่อนการปฏิบัติการ หรอื ก่อนเรมิ่ โครงการ การประเมนิ ผลระหว่างดา่ เนินการ และการประเมนิ ผลหลังการดา่ เนินงาน ๒) วางระบบการติดตามประเมินผลแผนงานโครงการระดบั กระทรวงและงานที่เก่ียวข้องมากกว่าหนึ่ง กระทรวง เพื่อเช่ือมโยงตัวชวี ัดของแผนปฏิบัติการกระทรวงและกลุ่มกระทรวงกบั เป้าหมายของยทุ ธศาสตรช์ าติ รวมทัง เปา้ หมายและประเด็นพฒั นาสา่ คัญของแผนพฒั นาฯ ฉบับที่ ๑๒ ๓) วางระบบการติดตามประเมินผลแผนงานโครงการระดับจังหวัดและพืนที่ เพื่อเชื่อมโยงแผนปฏบิ ัติ การจังหวัดและกลุ่มจงั หวัดกบั แผนพฒั นาฯ ฉบบั ที่ ๑๒ และยุทธศาสตร์ชาติ ๔) ตังหน่วยวิจัย ฝึกอบรม และตรวจสอบมาตรฐานระบบติดตามและประเมินผล เพื่อท่าให้ระบบ ติดตามประเมินผลมีมาตรฐานสากลและพัฒนาให้ทันสมัยเพ่ือฝึกอบรม เทคนิค วิธีการ หลักการ แนวคิดในการ ประเมนิ ผลแผนงานโครงการก่อนเริม่ ระหว่างดา่ เนินการ และหลงั ท่เี สรจ็ สินแลว้ ๕) ส่งเสรมิ ใหเ้ กิดการประสานความรว่ มมือระหว่างส่านกั งานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและ สังคมแห่งชาติ ส่านักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบราชการ ส่านักงบประมาณ และ หน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง ทังใน สว่ นกลางและในพืนทเ่ี พ่ือให้การติดตามประเมินผลแบบมีส่วนร่วมมีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ๖) จัดเตรยี มองค์กรกลางทมี่ ีความเป็นมืออาชีพ มีความช่านาญ และเปน็ ทย่ี อมรบั ของทกุ ฝ่าย เพ่ือให้ การติดตามประเมินผลมีความเป็นสากล ถูกต้องตามหลักวิชาการ เช่ือถือได้ เป็นพืนฐานสา่ หรับการตัดสินใจนโยบาย และการดา่ เนินงานภาครฐั
33 ๗) พัฒนาตัวชีวัดและตัวชีวัดร่วมให้ได้มาตรฐานสากล เพ่ือประเมินการบรรลุวัตถุประสงค์และ เป้าหมายของแผนพัฒนาฯ ฉบับท่ี ๑๒ และยุทธศาสตร์ชาติซ่ึงสามารถวัดได้ทังตวั ชีวัด ผลกระทบร่วม ตัวชีวัดผลลัพธ์ ร่วม และตัวชีวัดผลผลิตรว่ ม ๘) จัดเวทีสาธารณะเพ่ือให้ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียได้มีเวทีแสดงความคิดเห็น วิพากษ์วิจารณ์ และแสดง ความคิดเห็นอย่างเปิดเผยและโปร่งใส ตรวจสอบได้ เน้นการส่ือสารแบบสองทาง เน้นการสื่อสารแบบสวนเสวนา มากกวา่ ถา่ ยทอดด้านเดียว และให้มคี ่เู จรจาโดยตรง เช่น ระหวา่ งกลมุ่ เปา้ หมายและผกู้ า่ หนดนโยบาย เป็นต้น ๙) น่าเสนอผลการติดตามประเมินผล เป็นการน่าเสนอผลการประเมินให้ทุกฝ่ายได้รับทราบ ทัง ประชาชนกลุ่มเป้าหมาย ผู้ก่าหนดนโยบาย หนว่ ยงานน่านโยบายไปปฏิบตั ิ หน่วยงานสนบั สนุนงบประมาณ ตลอดจน สาธารณชนผู้สนใจไดร้ ับทราบผลการประเมิน ๑๐) พัฒนาระบบข้อมูลและประยุกต์ใช้เทคโนโลยี เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการประเมินผลโดย จัดท่าระบบข้อมูลการบริหาร การเข้าถึงข้อมูล การวิเคราะห์และการน่าข้อมูลไปใช้ได้อย่างเหมาะสม เพ่ือเพ่ิม ประสิทธิภาพ และสามารถน่าข้อมูลการประเมินไปใช้ในการก่าหนดทางเลือกนโยบาย และสร้างนวัตกรรมในการ บรหิ ารจัดการ ๑.3 แผนพฒั นาภาค/แผนพฒั นากลมุ่ จงั หวัด/แผนพฒั นาจงั หวัด ประกาศคณะกรรมการนโยบายการบรหิ ารงานจังหวัด และกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ เรื่อง การจัดตังกลุ่ม จงั หวัดและก่าหนดจงั หวดั ที่เป็นศูนย์ปฏิบตั ิการของกลุ่มจังหวัด (ฉบับท่ี ๓) โดยทเี่ ป็นการสมควรจดั ตังกลุ่มจงั หวัดและ ก่าหนดจังหวัดที่เป็นศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่มจังหวัด อาศัยอ่านาจตามความในมาตรา ๒๖ วรรคหนึ่ง แห่งพระราช กฤษฎีก าว่าด้วยการบริหารงาน จังหวัด และกลุ่มจังหวัดแบบบูรณ าก าร พ .ศ. ๒ ๕ ๕ ๑ ประกอ บมติ คณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัด และกลุ่มจังหวัดแบบบูรณาการ ครังที่ ๓/๒๕๖๐ เมื่อวันที่ ๑๙ ตุลาคม ๒๕๖๐ โดยความเห็นชอบ ของคณะรัฐมนตรี จงึ ออกประกาศคณะกรรมการนโยบายการบริหารงานจังหวัดและกลุ่ม จังหวัด แบบบูรณาการ เรื่อง การจัดตังกลุ่มจงั หวัดและก่าหนดจังหวัดท่ีเป็นศูนย์ปฏิบัติการของกลมุ่ จังหวัด โดยจัดตัง กลมุ่ จงั หวดั จ่านวน ๑๘ กลมุ่ จงั หวดั 6 ภาค และก่าหนดจังหวัดทเ่ี ป็นศนู ย์ปฏบิ ัตกิ าร ของกลุ่มจงั หวดั ดังต่อไปนี ข้อ 1 ภาคกลาง ประกอบดว้ ย (๑) กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนบน ประกอบด้วย จังหวัดชัยนาท จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดลพบุรี จังหวัดสระบุรี จังหวัดสิงห์บุรี และจังหวัดอ่างทอง โดยให้จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นศูนย์ปฏิบัติการของกลุ่ม จังหวัด (๒) กลุ่มจังหวัดภาคกลางปริมณฑล ประกอบด้วย จังหวัดนนทบุรี จังหวัดปทุมธานี จังหวัดนครปฐม และ จงั หวดั สมุทรปราการ โดยให้จังหวดั นครปฐมเปน็ ศนู ยป์ ฏิบัตกิ ารของกลมุ่ จงั หวดั (3) กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง ๑ ประกอบด้วย จังหวัดกาญจนบุรี จังหวัดราชบุรี และ จังหวัด สุพรรณบุรี โดยให้จังหวัดราชบรุ ีเปน็ ศูนยป์ ฏบิ ตั ิการของกลมุ่ จังหวดั (4) กลุ่มจังหวัดภาคกลางตอนล่าง ๒ ประกอบด้วย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดเพชรบุรี จังหวัด สมทุ รสงคราม และจังหวัดสมุทรสาคร โดยให้จังหวัดเพชรบุรีเปน็ ศนู ย์ปฏบิ ัติการของกลุ่มจงั หวดั ข้อ 2 ภาคใต้ ประกอบดว้ ย (1) กลมุ่ จังหวัดภาคใต้ฝัง่ อา่ วไทย ประกอบดว้ ย จังหวัดชุมพร จงั หวดั นครศรีธรรมราช จงั หวดั พัทลุง จงั หวดั สุ ราษฎร์ธานี และจังหวดั สงขลา โดยให้จังหวดั สุราษฎรธ์ านเี ป็นศนู ยป์ ฏิบตั ิการของกลุ่มจงั หวัด (2) กล่มุ จงั หวัดภาคใต้ฝงั่ อันดามัน ประกอบด้วย จงั หวดั กระบี่ จังหวดั ตรงั จงั หวัดพงั งา จังหวดั ภูเก็ต จังหวัด ระนอง และจงั หวดั สตูล โดยให้จงั หวัดภูเกต็ เป็นศูนยป์ ฏบิ ัติการของกลุ่มจังหวัด ขอ้ 3 ภาคใตช้ ายแดน ประกอบด้วย (1) กลุ่มจังหวดั ภาคใต้ชายแดน ประกอบดว้ ย จังหวัดนราธิวาส จังหวดั ปตั ตานี จงั หวัดยะลา โดยให้จงั หวัด ยะลาเป็นศนู ย์ปฏบิ ัติการของกลุ่มจงั หวัด
34 ข้อ 4 ภาคตะวันออก ประกอบด้วย (1) กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก ๑ ประกอบด้วย จังหวัดฉะเชิงเทรา จังหวัดชลบุรี และ จังหวัดระยอง โดยให้ จงั หวัดชลบรุ เี ป็นศูนย์ปฏิบัตกิ ารของกลมุ่ จังหวดั (2) กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออก ๒ ประกอบด้วย จังหวัดจันทบุรี จังหวัดตราด จังหวัดนครนายก จังหวัด ปราจนี บรุ ี และจงั หวดั สระแกว้ โดยให้จังหวดั ปราจีนบุรีเป็นศูนยป์ ฏิบตั กิ ารของกลุ่มจงั หวัด ข้อ 5 ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนอื ประกอบด้วย (1) กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ๑ ประกอบด้วย จังหวัดบึงกาฬ จังหวัดเลย จังหวัด หนองคาย จงั หวัดหนองบัวล่าภู และจังหวดั อดุ รธานี โดยใหจ้ ังหวดั อุดรธานีเปน็ ศูนยป์ ฏบิ ตั ิการ ของกลุ่มจังหวดั (2) กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ๒ ประกอบด้วย จังหวัดนครพนม จังหวัดมุกดาหาร และ จังหวดั สกลนคร โดยให้จังหวดั สกลนครเป็นศูนย์ปฏิบตั ิการของกลมุ่ จังหวดั (3) กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนกลาง ประกอบด้วย จงั หวัดกาฬสนิ ธุ์ จังหวดั ขอนแก่น จงั หวัด มหาสารคาม และจังหวดั ร้อยเอด็ โดยใหจ้ งั หวดั ขอนแกน่ เปน็ ศนู ย์ปฏบิ ตั ิการของกลุ่มจงั หวดั (4) กลุ่มจงั หวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนอื ตอนลา่ ง ๑ ประกอบดว้ ย จังหวัดชัยภูมิ จังหวัดนครราชสีมา จังหวัด บุรีรมั ย์ และจังหวัดสรุ ินทร์ โดยให้จงั หวัดนครราชสมี าเป็นศนู ย์ปฏบิ ัติการของกลมุ่ จังหวัด (๕) กลุ่มจังหวัดภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ๒ ประกอบด้วย จังหวัดยโสธร จังหวัดศรีสะเกษ จังหวัด อ่านาจเจริญ และจงั หวดั อบุ ลราชธานี โดยให้จังหวัดอุบลราชธานเี ปน็ ศูนย์ปฏิบตั ิการของกล่มุ จงั หวดั ข้อ 6 ภาคเหนอื ประกอบด้วย (1) กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๑ ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ จังหวัดแม่ฮ่องสอน จังหวัดล่าปาง และ จังหวดั ล่าพูน โดยให้จังหวัดเชียงใหม่เป็นศนู ยป์ ฏบิ ตั ิการของกลุม่ จังหวดั (2) กลุ่มจังหวัดภาคเหนือตอนบน ๒ ประกอบด้วย จังหวัดเชียงราย จังหวัดน่าน จังหวัดพะเยา และจังหวัด แพร่ โดยให้จงั หวัดเชียงรายเป็นศนู ยป์ ฏิบตั ิการของกลมุ่ จังหวดั (3) กลุ่มจังหวดั ภาคเหนือตอนล่าง ๑ ประกอบด้วย จังหวัดตาก จังหวัดพิษณุโลก จังหวัดเพชรบูรณ์ จังหวัด สโุ ขทยั และจังหวัดอตุ รดิตถ์ โดยใหจ้ งั หวดั พษิ ณุโลกเปน็ ศูนยป์ ฏิบัติการของกลมุ่ จังหวดั (4) กลุม่ จงั หวดั ภาคเหนอื ตอนล่าง ๒ ประกอบดว้ ย จังหวดั กา่ แพงเพชร จังหวัดนครสวรรค์ จงั หวดั พิจิตร และ จงั หวดั อุทัยธานี โดยใหจ้ ังหวดั นครสวรรค์เป็นศูนย์ปฏบิ ตั กิ ารของกลมุ่ จังหวดั ข้อ ๗ ประกาศนีให้ใช้บังคับกับการด่าเนินการจัดท่างบประมาณรายจ่ายประจ่าปีงบประมาณ พ.ศ. ๒๕๖๒ เป็นต้นไป 1.3.1 แผนพฒั นาภาคกลางและพนื ทก่ี รุงเทพมหานครในช่วงแผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560 - 2564) แนวคิดและทิศทางการพัฒนา ภาคกลางและพืนที่กรงุ เทพฯ เปน็ ภูมภาคทม่ี ีบทบาทส่าคัญในการเชอื่ มโยงกับทุกภาคภายในประเทศ เนื่องจากเป็นท่ีตังของเมืองหลวงกรุงเทพมหานคร และเป็นท่ีตังของหน่วยงานราชการระดับกระทรวง หน่วยงาน รัฐวิสาหกิจ สถาบันการศึกษาและวิจัยชันน่าทุกระดับ สถาบันการรักษาพยาบาลที่ดีที่สุด รวมทังสถาบันธุรกิจและ สถาบันการเงนิ ชันน่าของประเทศ ขณะเดียวกันภาคกลางตงั อยู่ในพืนท่ีลุ่มแม่น่าขนาดใหญ่ทีม่ ีความอุดมสมบรู ณ์เป็น “อู่ข้าว อู่น่า” ของประเทศ และเป็นพืนที่ในแนวระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ของอนุภูมิภาคลุ่มน่าโขง (Southern Economic Corridor) ที่เชื่อมโยงเมียนมา-ไทย-กัมพูชา-เวียดนาม ซึ่งเป็นเส้นทางลัดโลจิสติกส์ (Landbridge) เช่อื มโยงภมู ิภาคอาเซยี นกบั โลก ตะวันตกและโลกตะวนั ออก
35 ดังนนั การพัฒนาภาคกลางสู่ความ “ม่นั คง ม่ังคงั่ ยั่งยืน” จ่าเปน็ ต้องรักษาความมีช่ือเสียงของกรุงเทพมหานคร ใหเ้ ป็นเมอื งชันนา่ ระดับโลกตลอดไป ควบคู่ไปกบั การใชศ้ ักยภ่าชาพพนื ฐานดา้ นความอดุ มสมบรู ณข์ องดินและนา่ และ คามพร้อมของสถาบันการศึกษาวิจัยในการยกระดับภาคการเกษตรสู่เกษตรอุตสาหกรรมที่ใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพ่ือผลิต สินค้าและบริการที่มีมูลค่าสูง รวมทังการเร่งรัดผลักดันเส้นทางลัดโลจิสติกส์เช่ือมโยงทวาย (เมียนมา) กับ ระเบียง เศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) เพื่อให้ภาคกลางเป็นพืนท่ียุทธศาสตร์ในการเช่ือมโยงเส้นทางการค้า การขนส่งระหว่างทะเลตะวันตกและทะเลตะวันออกในระยะยาว เปา้ หมายเชิงยทุ ธศาสตร์ ภ า ค ก ล าง มี บ ท บ า ท ส่ าคั ญ ใน ก า ร เชื่ อ ม โย ง กั บ ทุ ก ภ าค ภ า ย ใน ป ร ะ เท ศ เนื่ อ ง จ าก เป็ น ท่ี ตั ง ข อ ง กรุงเทพมหานคร สถาบนั การศึกษาและวจิ ยั ชนั น่าทุกระดับ สถาบนั การรักษาพยาบาลทด่ี ีที่สุด นอกจากนี ภาคกลางยัง มแี หลง่ ทอ่ งเที่ยวทม่ี ีชอ่ื เสยี ง สภาพพืนที่และระบบชลประทานท่ีอดุ มสมบรู ณ์ เป็นฐานเศรษฐกิจ อตุ สาหกรรมท่ีส่าคัญ ของประเทศและเป็นพืนทีแ่ นวระเบียงเศรษฐกิจตอนใต้ของอนุภมู ิภาคลุ่มน่าโขง (Southern Economic Corridor) ท่ี เช่ือมโยงเมียนมา-ไทย-กมั พชู า-เวยี ดนาม ซงึ่ เป็นเส้นทางลัดโลจิสตกิ ส์ (Landbridge) เชื่อมโยงภูมิภาคอาเซียนกับโลก ตะวันตกและโลกตะวนั ออก ภาคกลางจึงมีเป้าหมายทีจ่ ะ “พัฒนากรงุ เทพฯ สู่มหานครทันสมัยและภาคกลางเป็นฐาน การผลิตสนิ ค้าและบริการท่มี ีมูลค่าสูง” วัตถุประสงค์ (1) เพื่อรักษาภาพลักษณ์ของกรุงเทพฯ ให้เป็นเมืองที่มีความทันสมัย และเป็นเมืองน่าอยู่ น่าเที่ยวใน ลา่ ดับต้นๆ ของโลกตลอดไป (2) เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนให้อยู่ดีมีสุขทังสุขภาพกาย จิตใจ มีความมั่นคง ด้าน อาชีพและรายได้ และมีสภาพแวดล้อมท่ีดี (3) เพื่อเพิ่มขีดความสามารถและยกระดับการผลิตและสร้างมูลค่าเพ่ิมให้กับสินค้าและบริการด้าน การเกษตร อตุ สาหกรรม และการท่องเท่ียว อย่างต่อเนอื่ ง (4) เพ่ือฟื้นฟูและรักษาฐานทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมให้เอือต่อการพัฒนาเศรษฐกิจและ คณุ ภาพชวี ิตอย่างยงั่ ยนื เปา้ หมายและตัวชวี ดั (1) กรงุ เทพฯ ได้รบั การจัดล่าดับเปน็ เมอื งท่ีมีคณุ ภาพชวี ติ ชันนา่ ในโลกดีขึน (2) ประชาชนมคี วามปลอดภยั ในชีวิตและทรัพยส์ ินดขี ึน (3) รายไดก้ ารท่องเทย่ี วเพ่มิ ขนึ (4) มลู คา่ ผลิตภณั ฑ์ภาคเกษตรเพมิ่ ขึน (5) มลู คา่ ผลติ ภณั ฑ์สาขาอุตสาหกรรมเพ่ิมขนึ (6) คณุ ภาพนา่ แมน่ า่ เจา้ พระยาและท่าจีนตอนล่างอยู่ในเกณฑ์มาตรฐาน (7) ปรมิ าณขยะท่ีไดร้ ับการกา่ จดั อย่างถกู ต้องตามหลกั วิชาการเพิ่มขึน
36 1.3.2 แผนพัฒนากลมุ่ จังหวดั ภาคกลางตอนลา่ ง 1 (ประกอบดว้ ย จงั หวดั ราชบรุ ี กาญจนบรุ ี และ สพุ รรณบรุ )ี พ.ศ. 2562 – 2565 (ฉบับทบทวน) ทีม่ คี ุณภาพ จดุ มงุ่ เน้น (1) การผลติ สนิ ค้าเกษตรปลอดภยั (ข้าว พชื ผกั ผลไม้ ปศุสตั ว์ และการประมง) (2) การท่องเท่ยี วเชงิ ธรรมชาติ เชงิ ประวตั ศิ าสตรแ์ ละเชิงศิลปวัฒนธรรม ภายใตอ้ ัตลักษณ์ (3) การพฒั นาและสง่ เสรมิ ศักยภาพการค้าชายแดน และการค้าผา่ นแดนภาคตะวันตก วสิ ยั ทัศน์ “ศูนย์กลางการผลิตและการตลาดสินค้าภาคเกษตร อุตสาหกรรมปลอดภัย การท่องเที่ยวคุณภาพ และการค้าภาคตะวนั ตก” พนั ธกจิ 1) ปรับโครงสรา้ งการด่าเนนิ งานทางเศรษฐกิจของชมุ ชน เกษตรกร วสิ าหกจิ ชมุ ชน สหกรณ์และ วิสาหกจิ ขนาดกลางขนาดยอ่ ม ให้มคี วามสามารถในการแขง่ ขัน ก้าวทันเทคโนโลยีร้ทู ันบรบิ ทโลกรอดพน้ กบั ดกั รายได้ ปานกลางสูก่ ารมีรายได้ท่ีมัน่ คง ม่ังค่ังและยง่ั ยนื 2) สร้างและประสานความร่วมมือในการพฒั นาเครอื ขา่ ยระหว่างภาคเอกชน ชุมชนประชาคม และ ภาครัฐรวมถึงเครอื ข่ายภายใน ในการพัฒนาสง่ เสริมระบบด่าเนินงานทางเศรษฐกจิ และความมน่ั คงในกลุ่มจงั หวัด 3) ปรับปรุง สนับสนุนและส่งเสริมการพัฒนาโครงสร้างพืนฐาน และกิจกรรมอ่ืน ๆ ที่เกี่ยวข้องท่ีมี การเช่ือมโยงกนั และการพัฒนาทางเศรษฐกิจรว่ มกนั ของกลุม่ จังหวัด 4) พัฒนาระบบติดตามและประเมินผล รวมถึงกลไกในการขับเคลื่อนโครงการ/กิจกรรมของกลุ่ม จงั หวัดใหบ้ รรลุผลตามวตั ถปุ ระสงค์ เป้าประสงค์รวม เศรษฐกิจม่นั คง ประชาชนม่ังคั่ง และความสุขที่ยง่ั ยนื โดย (1) เศรษฐกจิ มนั่ คง ประเมินจากอตั ราการขยายตัวมลู ค่าผลิตภัณฑ์กลุม่ จังหวดั ร้อยละ 3.5 (2) ประชาชนม่ังคัง่ ประเมนิ จากมลู คา่ ผลติ ภัณฑก์ ลุ่มจงั หวัดเฉลี่ยต่อหวั เพ่ิมขึนรอ้ ยละ 5 (3) ความสขุ ทย่ี ง่ั ยืน ประเมินจากค่าดชั นคี วามก้าวหน้าของคน(HAI) เฉลยี่ ของกล่มุ จงั หวัด ตอ้ งไม่นอ้ ยกว่าค่าเฉลย่ี ของปี 2559 - 2560 (หรอื ไมน่ ้อยกว่า 0.6229) ประเดน็ ยุทธศาสตร์การพัฒนา 1) ประเดน็ ยุทธศาสตรท์ ี่ 1 พัฒนาสินคา้ เกษตร อุตสาหกรรม และบริการดว้ ยนวัตกรรม สมู่ าตรฐานสากล 2) ประเด็นยุทธศาสตรท์ ่ี 2 ศนู ย์กลางการท่องเทยี่ วเชงิ อนุรกั ษ์ประวัตศิ าสตรภ์ าคตะวนั ตก และอารยธรรมทวารวดี 3) ประเด็นยุทธศาสตร์ที่ 3 พัฒนาและส่งเสริมการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดนให้มี ศกั ยภาพ ผลกั ดันเขตพัฒนาเศรษฐกจิ พิเศษน่าไปส่กู ารกระตุ้นให้เกิดการค้าการลงทนุ ระหว่างประเทศ
37 เปา้ ประสงค์/กลยทุ ธ์/ตวั ชวี ดั ตามประเด็นยุทธศาสตร์ ประเด็นยทุ ธศาสตร์ที่ 1 : พัฒนาสนิ ค้าเกษตร อุตสาหกรรม พาณชิ ยกรรม และบรกิ าร ด้วยนวตั กรรม สมู่ าตรฐานสากล เป้าประสงค:์ (1) พัฒนาสนิ ค้า ผลิตภัณฑก์ ารเกษตร อุตสาหกรรม และบรกิ ารใหไ้ ด้คุณภาพ สูม่ าตรฐานสากล (2) เพ่ิมศักยภาพผู้ผลิตและตลาดสินค้าภาคการเกษตร พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม สู่ประเทศไทย 4.0 กลยุทธ์ (1) เพิม่ พืนที่การทา่ เกษตร GAP และเตรยี มความพรอ้ มเพ่อื การทา่ เกษตรอินทรยี ์ (2) ส่งเสริมผู้ผลิต ผู้ประกอบการแรงงานภาคเกษตรกรรม พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม ใหม้ ศี กั ยภาพในการปรบั เปลีย่ นกระบวนการผลิตการบรหิ ารจดั การตลาด และบริการโดยใชน้ วัตกรรม (3) ส่งเสริมและสนบั สนุนการตลาดประชาสัมพนั ธ์ สินค้าและบริการ (4) ปรับปรุงโครงสร้างพืนฐานและบริหารจัดการแหล่งน่าเพื่อลดความเสี่ยงจากภัยพิบัติ เพ่อื สนบั สนนุ การพัฒนาสินค้า เกษตรอุตสาหกรรม และบริการ ประเด็นยุทธศาสตรท์ ี่ 2 : ศูนย์กลางการท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ประวัติศาสตรภ์ าคตะวันตก และอารยธรรมทวารวดี เป้าประสงค์ : เพิม่ รายได้และจา่ นวนนกั ท่องเทีย่ ว กลยุทธ์ (1) พัฒนาโครงสร้างพืนฐานและสิ่งอ่านวยความสะดวกเพ่ือเชื่อมโยงแหล่งท่องเที่ยวของ กลุ่มจังหวัด (2) สนับสนุนกิจกรรมการตลาด การประชาสัมพันธ์ เพื่อส่งเสรมิ กจิ กรรมการท่องเที่ยวของ กล่มุ จังหวดั (3) พัฒนาแหล่งท่องเท่ียวให้เติบโตอย่างย่ังยืนด้วยการยกระดับการท่องเที่ยวเชิงคุณภาพ (4) พัฒนาศกั ยภาพบคุ ลากรดา้ นการทอ่ งเท่ียว ทงั ผปู้ ระกอบการด้านการท่องเทย่ี ว และผูท้ ่ี มสี ว่ นเกย่ี วขอ้ งกับชมุ ชนในแหล่งท่องเท่ียว ประเดน็ ยุทธศาสตรท์ ่ี 3 : พฒั นาและส่งเสรมิ การค้าชายแดนและการค้าผา่ นแดนให้มี ศักยภาพ ผลักดนั เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ นา่ ไปสู่การกระต้นุ ให้เกดิ การค้าการลงทนุ ระหว่างประเทศ เปา้ ประสงค์ : รายไดจ้ ากการจ่าหน่ายสินค้าและบริการเพม่ิ ขนึ กลยุทธ์ (1) พัฒนาระบบอ่านวยความสะดวก ระบบโลจิสตกิ ส์และเครือข่ายคมนาคม เพ่ือกระต้นุ ใหเ้ กิดการค้าการลงทนุ เชื่อมโยงการค้าส่เู อเชยี (2) พัฒนาด่านชายแดนและเขตพฒั นาเศรษฐกิจพเิ ศษ (3) ส่งเสรมิ กจิ กรรมทางการตลาดและการประชาสัมพนั ธ์ทังในประเทศและต่างประเทศ (4) พัฒนาสนิ ค้าผลิตภัณฑ์และบรกิ ารเพื่อการสง่ ออก
38 (5) ยกระดับผปู้ ระกอบการและแรงงานของกลุ่มจังหวัดให้มคี วามสามารถในการแขง่ ขนั และ สามารถประกอบธุรกจิ ระหว่างประเทศได้ (6) พฒั นาระบบสง่ เสริมและกระต้นุ ให้เกิดการค้า การลงทุนในกลุม่ จังหวัดและผลกั ดัน ให้มี การลงทนุ ในต่างประเทศ 1.3.3 แผนพัฒนาจงั หวัดราชบุรี พ.ศ. 2561 – 2564 (ฉบบั ทบทวน ปี พ.ศ. 2562) วิสัยทัศน์ (Vision) จากจุดยืนการพัฒนาและความพร้อมและความโดดเด่นทางการเกษตรของจังหวัดราชบุรี และความ ตอ้ งการของตลาดทงั ในประเทศและต่างประเทศท่ีต้องการผลผลิตอาหารที่มีคุณภาพ และการมุ่งเน้นการเติบโตท่ีเป็น มติ รกับสง่ิ แวดลอ้ ม ตามนโยบายการพฒั นาตามยุทธศาสตร์ประเทศไทย 20 ปี และการมงุ่ เน้นการเตบิ โตของเศรษฐกิจ ทีเ่ ติบโตอย่งต่อเน่ือง จากศักยภาพและการพัฒนานวัตกรรม พรอ้ มทงั การเช่ือมโยงเศรษฐกิจกับจังหวัดใกล้เคียง ภาค และอาเซยี น และการมุ่งเนน้ การปรบั บรบิ ทของสังคมให้เปน็ เมืองที่มีความเข้มแข็ง ประชาชนมคี ุณภาพ วัฒนธรรม วิถี ชีวิตมีความยัง่ ยืน จังหวดั ราชบรุ จี ึงได้ก่าหนดวิสยั ทศั นว์ า่ “เมืองเกษตรสเี ขียว เศรษฐกจิ ม่ันคง สังคมมีความสุข” เมืองเกษตรสีเขียว หมายถึง การเกษตรของจังหวัดมีคุณภาพ มาตรฐานระดับส่งออก มีการน่าเทคโนโลยี และนวัตกรรมมาใช้ในการเพ่ิมประสิทธิภาพการผลิต และการแปรรูปสินค้าภาคเกษตรให้มีคุณภาพและมาตรฐาน เพ่ือรองรับการเป็น “เมืองเกษตรสีเขียว” เกษตรกรมีสมรรถนะสูงเป็น Young Smart Farmer/Smart Farmer ท่ี เข้าใจ และเข้าถึงหลักการ “ตลาดน่าการผลิต” และการแปรรูปเพื่อสร้างมูลค่าเพิ่ม สถาบันเกษตรกรเข้มแข็งและมี เครือข่ายธุรกิจทังในและต่างประเทศ การพัฒนาการเกษตรประสบความส่าเร็จในการมุ่งเน้นการส่งเสริมและการ พัฒนาการเกษตรที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม มีการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่าและยั่งยืน จังหวัด ราชบรุ ีเป็นเมืองอาหารคุณภาพ เพ่ือสร้างความมั่นคงทางอาหารแก่ชาวราชบุรี ชาวไทย และนานาประเทศ มผี ลผลิต จากการเกษตรท่ีพัฒนาเป็นแบรนด์จากการเกษตรที่เขม้ แข็ง และมีมลู ค่า ความย่ังยืนด้วยทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมท่ีอุดมสมบูรณ์เอือต่อการพัฒนาการเกษตร และการ เสริมสร้างความมน่ั คงในสังคม การอนุรักษ์และฟนื้ ฟูทรัพยากรธรรมชาตเิ ป็นคา่ นิยมทางสังคมทเี่ ข้มแข็งเมืองราชบุรีมี การพัฒนาบ้านเมืองให้สะอาด รักษาส่ิงแวดล้อม จังหวัดราชบุรีให้ความส่าคัญกับการมีแหล่งพลังงานทดแทน พลังงานทางเลอื ก เพอ่ื การพงึ่ ตนเอง การจัดการทรัพยากรธรรมชาติให้มีความอุดมสมบูรณ์ ใช้อย่างสมดุล มุ่งสร้างให้มีพืนที่ต้นแบบนิเวศน์ท่ี ย่ังยืน กระจายทั่วทังจงั หวดั ราชบุรี เน้นการพัฒนาผ่านการบูรณาการความร่วมมือกับภาคีทกุ ภาคส่วนอย่างเขม้ แข็ง ในการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติในระบบนิเวศป่าเขา ลุ่มน่าหลัก ลุ่มน่ารองให้มีความอุดมสมบูรณ์ พืนท่ี ธรรมชาติของจังหวัด เน้นการอนุรักษ์เชิงป้องกัน และการใช้ประโยชน์อย่างมีคุณค่า เพ่ือหนุนเสริมการพัฒนาการ เกษตรการทอ่ งเทย่ี ว การเกษตรเพิม่ คา่ เพอ่ื การพัฒนาการเศรษฐกิจของจงั หวัดและการมีคณุ ภาพท่ีดีของประชาชน การจัดการขยะ น่าเสียในชุมชนเมือง ในแหล่งท่องเท่ียว และในชุมชนดีขึนอย่างต่อเน่ือง จังหวัดให้ ความสา่ คญั กบั การจัดการขยะท่เี ข้าถงึ และนา่ มาใชใ้ หเ้ กดิ ประโยชนส์ ูงสุด พรอ้ มทังการส่งเสริมการจดั การระบบนิเวศ ธรรมชาติในชุมชน เพ่ือเป็นหลกั ประกันที่ยั่งยืนของการพัฒนา ทังความม่ันคงทางอาหาร และการรักษาไว้ซ่ึงวิถชี ีวิต เมืองราชบรุ ี
39 เศรษฐกจิ ม่ันคง หมายถึง ความมนั่ คงจาก 4 องค์ประกอบหลกั คือ - ความมน่ั คงทางด้านเศรษฐกิจฐานการเกษตร เนน้ การพัฒนาผลผลติ สนิ ค้าทางเกษตร ทม่ี คี ุณภาพระดบั เอเชีย และนานาชาติ มุ่งเน้นการสร้างเศรษฐกิจการเกษตรจากการพัฒนาระบบการผลิตแบบครบวงจรด้วยนวัตกรรม การเกษตรทแี่ ขง่ ขนั ได้ ควบคุมคณุ ภาพในรูปแบบเกษตรแปลงใหญ่ และมีมาตรฐานเกษตรอินทรยี ์ เกษตรปลอดภัยเพ่ือ การส่งออก การสร้างโอกาสทางเศรษฐกิจจากการเกษตรเพ่ือการส่งออกด้วยนวัตกรรมเพิ่มคา่ เสริมสร้างความเข้มแข็ง ของการเป็นเมืองปศุสัตว์ โดยระบบส่งเสริมการเกษตรแบบแปลงใหญใ่ หไ้ ด้คุณภาพมาตรฐาน GAP เพ่ือการส่งออกและ สร้างโอกาสทางการตลาดแก่จังหวัด จังหวัดมีแหล่งรวบรวมผลผลิตกลางในระดับชุมชนท่ีเช่ือมโยงกับแหล่งรวบรวม ผลผลติ กลางกับจังหวัด และเช่ือมโยงกับระดับภาค จังหวดั มุ่งพฒั นาเปน็ คลังรวบรวมสินค้าเกษตรทมี่ มี าตรฐาน เน้นการ จดั การระดับสากลผ่านระบบสหกรณ์ การด่าเนินงานทางธรุ กิจ และเครือข่ายประชารัฐ พร้อมทังการพัฒนาจังหวัดให้ เป็นเมืองเศรษฐกิจเมืองอาหารท่ีมีคุณภาพ ปลอดภัย (Food Innopolis) สร้างสรรค์เทคโนโลยีนวตั กรรมมาใช้เพ่อื ช่วย ลดต้นทุนการผลิตและเพิ่มมูลค่าให้สินค้าเกษตรและการบรหิ ารจัดการการเกษตรของจังหวัด พร้อมทังการสรา้ งความ มน่ั คงทางอาหาร การผลิตข้าว และพชื ผกั คณุ ภาพเพอ่ื การบริโภคในจงั วหัด - ความมั่นคงจากการเน้นการเติบโตของอุตสาหกรรมเพิ่มค่าภาคธุรกิจ ภาคอุตสาหกรรมต่อเน่ืองจาก การเกษตร และภาคอุตสาหกรรมทุกภาคส่วนของจังหวัดมีความสามารถในการแข่งขันผู้ประกอบการขนาดกลางและ ขนาดย่อม และผู้ประกอบการใหม่ (SMEs/Start up) วิสาหกิจชุมชน สหกรณ์ กลุ่มอาชีพต่างๆ เติบโตอย่างต่อเน่ือง สามารถสร้างสรรค์ ผลิตภัณฑ์เป็นแบรนด์สินค้าท่ีมีศักยภาพการแข่งขัน ระบบการบริการของรัฐ และการอ่านวยความสะดวกด้านการค้า และการลงทุน มีความทันสมัย มีธรรมาภิบาลจังหวัดสามารถสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อการขับเคลื่อนการพัฒนา เศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ และ OTOP เพื่อรองรับประเทศไทย 4.0 สนับสนุน อุตสาหกรรมท่ีย่ังยืน และ สนบั สนนุ การใช้นวตั กรรม สร้างรูปแบบการผลิตและการบริโภคท่ียั่งยนื - ความม่ันคงจากการบริหารมูลค่าสูง การพัฒนากิจกรรมการท่องเที่ยวของจังหวัดราชบุรีมีหลากหลาย โดย เน้นอัตลักษณ์ของพืนท่ีสามารถสร้างความส่าเร็จในการพฒั นาการท่องเที่ยวตามแนวทาง 12 เมืองต้องห้ามพลาด โดย ค่านึงถึงกลุ่มเป้าหมาย นักท่องเที่ยวทุกกลุ่ม ส่งเสริมการท่องเท่ียวเชิงสร้างสรรค์ ภูมิปัญญา การเกษตร สุขภาพ และ การพฒั นานวตั กรรมทางดา้ นศิลปวฒั นธรรมไปสกู่ ารสรา้ งมลู คา่ - ความม่ันคงจากฐานของการพัฒนาโครงสร้างพืนฐาน การคมนาคมขนส่ง และโลจิสติกส์ทังทางน่า ทางบก และทางราง รองรับการเสรมิ สร้างเศรษฐกิจ ยกระดับการพัฒนาจังหวัดเพื่อเป็นประตูการค้าบริการการท่องเท่ียวและ การลงทุน เชื่อมโยงประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนหรือ Asean Economy Community : AEC ระเบียงเศรษฐกิจ ตะวันออกหรือ Eastern Economic Corridor : EEC และพืนที่เศรษฐกิจพิเศษหรือ Special Economic Zone : SEC และการพัฒนาโครงสร้างพืนฐาน เพื่อกระจายความเจริญและสร้างโอกาสแก่ชุมชน เช่ือมโยงระหว่างชุมชนและเสน้ ทาง หลักการสร้างระบบสาธารณูปโภค และโครงสร้างพืนฐาน รองรับการขยายตัวของเมือง ระหว่างเมือง และการพัฒนา ราชบรุ ีเปน็ เมอื งอจั ฉริยะ (Smart city) รองรับการเปน็ ประตกู ารค้า การลงทุน และการทอ่ งเทยี่ วอาเซยี สังคมมีความสุข หมายถึง เศรษฐกิจชุมชนมีความเข้มแข็ง ประชาชนสามารถพึ่งพาตนเองในการสร้างงาน อาชีพ และรายได้ในชุมชน เกิดระบบเศรษฐกิจหมุนเวียนในชุมชนประชาชนมีความรู้ความเข้าใจ ความเชื่อมั่น และมี สว่ นร่วมของทุกภาคส่วนตามแนวทางประชารัฐ การลดความเหลื่อมล่า ส่งเสริมความเท่าเทียมทางเพศ การขจัดความ ยากจน ส่งเสริมการน้อมน่าปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงมาปรบั ใช้ในการด่าเนินชีวิต เพอ่ื สร้างวัฒนธรรม และค่านิยม แก่ชุมชน และครอบครัว จังหวัดราชบุรีประสบความส่าเร็จในการดูแลประชาชนท่ีเปราะบาง คนยากจน ผู้สูงอายุ คน พิการ ผู้ด้อยโอกาส ผ่านกลไก “บ่าบัดทุกข์ บ่ารุงสุข” แก่ประชาชนทุกกลุ่มด้วยแนวทางประชารัฐ และตามแนวทาง ศาสตรพ์ ระราชา เพื่อการพัฒนาทย่ี ่ังยนื เน้นการไม่ทิงใครไวข้ ้างหลงั ตามนโยบายการพัฒนาประเทศ
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221
- 222
- 223
- 224
- 225
- 226
- 227
- 228
- 229
- 230
- 231
- 232
- 233
- 234
- 235
- 236
- 237
- 238
- 239
- 240
- 241
- 242
- 243
- 244
- 245
- 246
- 247
- 248
- 249
- 250
- 251
- 252
- 253
- 254
- 255
- 256
- 257
- 258
- 259
- 260
- 261
- 262
- 263
- 264
- 265
- 266
- 267
- 268
- 269
- 270
- 271
- 272
- 273
- 274
- 275
- 276
- 277
- 278
- 279
- 280
- 281
- 282
- 283
- 284
- 285
- 286
- 287
- 288
- 289
- 290
- 291
- 292
- 293
- 294
- 295
- 296
- 297
- 298
- 299
- 300
- 301
- 302
- 303
- 304
- 305
- 306
- 307
- 308
- 309
- 310
- 311
- 312
- 313
- 314
- 315
- 316
- 317
- 318
- 319
- 320
- 321
- 322
- 323
- 324
- 325
- 326
- 327
- 328
- 329
- 330
- 331
- 332
- 333
- 334
- 335
- 336
- 337
- 338
- 339
- 340
- 341
- 342
- 343
- 344
- 345
- 346
- 347
- 348
- 349
- 350
- 351
- 352
- 353
- 354
- 355
- 356
- 357
- 358
- 359
- 360
- 361
- 362
- 363
- 364
- 365
- 366
- 367
- 368
- 369
- 370
- 371
- 372
- 373
- 374
- 375
- 376
- 377
- 378
- 379
- 380
- 381
- 382
- 383
- 384
- 385
- 386
- 387
- 388
- 389
- 390
- 391
- 392
- 393
- 394
- 395
- 396
- 397
- 398
- 399
- 400
- 401
- 402
- 403
- 404
- 405
- 406
- 407
- 408
- 409
- 410
- 411
- 412
- 413
- 414
- 415
- 416
- 417
- 418
- 419
- 420
- 421
- 422
- 423
- 424
- 425
- 426
- 427
- 428
- 429
- 430
- 431
- 432
- 433
- 434
- 435
- 436
- 437
- 438
- 439
- 440
- 441
- 442
- 443
- 444
- 445
- 446
- 447
- 448
- 449
- 450
- 451
- 452
- 453
- 454
- 455
- 456
- 457
- 458
- 459
- 460
- 461
- 462
- 463
- 464
- 465
- 466
- 467
- 468
- 469
- 470
- 471
- 472
- 473
- 474
- 475
- 476
- 477
- 478
- 479
- 480
- 481
- 482
- 483
- 484
- 485
- 486
- 487
- 488
- 489
- 490
- 491
- 492
- 493
- 494
- 495
- 496
- 497
- 498
- 499
- 500
- 501
- 502
- 503
- 504
- 505
- 506
- 507
- 508
- 509
- 510
- 511
- 512
- 513
- 514
- 515
- 516
- 517
- 518
- 519
- 520
- 521
- 522
- 523
- 524
- 525
- 526
- 527
- 528
- 529
- 530
- 531
- 532
- 533
- 534
- 535
- 536
- 537
- 538
- 539
- 540
- 541
- 542
- 543
- 544
- 545
- 546
- 547
- 548
- 549
- 550
- 551
- 552
- 553
- 554
- 555
- 556
- 557
- 558
- 559
- 560
- 561
- 562
- 563
- 564
- 565
- 566
- 567
- 568
- 569
- 570
- 571
- 572
- 573
- 574
- 575
- 576
- 577
- 578
- 579
- 580
- 581
- 582
- 583
- 584
- 585
- 586
- 587
- 588
- 589
- 590
- 591
- 592
- 593
- 594
- 595
- 596
- 597
- 598
- 599
- 600
- 601
- 602
- 603
- 604
- 605
- 606
- 607
- 608
- 609
- 610
- 611
- 612
- 613
- 614
- 615
- 616
- 617
- 618
- 619
- 620
- 621
- 622
- 623
- 624
- 625
- 626
- 627
- 628
- 629
- 630
- 631
- 632
- 633
- 634
- 635
- 636
- 637
- 638
- 639
- 640
- 641
- 642
- 643
- 1 - 50
- 51 - 100
- 101 - 150
- 151 - 200
- 201 - 250
- 251 - 300
- 301 - 350
- 351 - 400
- 401 - 450
- 451 - 500
- 501 - 550
- 551 - 600
- 601 - 643
Pages: