Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore แนวข้อสอบนายสิบชั้นต้น-ใช้สอบจริง

แนวข้อสอบนายสิบชั้นต้น-ใช้สอบจริง

Published by โกวิท จันทร์ดวงโอด, 2023-06-18 07:27:47

Description: แนวข้อสอบนายสิบชั้นต้น-ใช้สอบจริง

Search

Read the Text Version

รวมแนวข้อสอบ ส.ช้ันตน้ ทงั้ หมด 1. ขั้นของการกอ่ ความไมส่ งบมีกขี่ น้ั ก. 3 ข้นั ข. 5 ข้ัน ค. 4 ขน้ั ง. 2 ขน้ั 3. ข้อใดไมใ่ ชค่ ณุ ลักษณะของ ค. ขนาด 60 มม. ก. แบบ เอม็ 19 มีเคร่ืองลนั่ ไกทเ่ี คร่ืองปดิ ท้ายลากล้อง ข. ใช้กลอ้ งเล็ง เอ็ม 53 เท่านั้น เปน็ เครอ่ื งช่วยเลง็ ค. แบบเอ็ม 2 แผน่ ฐานมลี ักษณะเป็นรูปสเี่ หลย่ี ม ง. แบบ ศอว.ทบ. แผน่ ฐานลกั ษระกลม 4. “ลวดหยอ่ นอยา่ ดงึ ลวดตึงอย่าตัด” ไม่เกยี่ วขอ้ งกบั ข้อใด ก. เอม็ 5 ข. เอ็ม 142 ค. เอม็ 3 ง. เอม็ 1 ดงึ 5. ลวดหีบเพลงมาตรฐานเมื่อคลี่ใช้งานจะได้ยาวเท่าไร ก. ยาว 20 เมตร ข. ยาว 15 เมตร ค. ยาว 21 เมตร ง. ยาว 11 เมตร 6. อตั รากระสนุ มูลฐาน ของ ปก.๓๘ ใน ๑ กระบอกจะมีกระสนุ จานวนกนี่ ัด ก. 2,600 นัด ข. 1,800 นดั ค. 3,100 นดั ง. 3,600 นัด 7. ปลย.AK.47 ใชก้ ระสนุ ขนาดกี่ มม. ก. 5.56 * 45 มม. ข. 7.62 * 39 มม. ค. 9 * 18 มม. ง. 7.62 * 54 มม. 8. ท่นุ ระเบิดสังหารบคุ คลแบบ M 18 A 1 มรี ะยะหวงั ผลเทา่ ไร ก. 50 เมตร ข. 150 เมตร ค. ไม่มีข้อถูก ง. 100 เมตร 9. ปก. เอม็ 60 จานวน 1 กระบอก จะมลี ากล้องอะไหลก่ ี่ลากลอ้ ง ก. 3 ลากลอ้ ง ข. 1 ลากลอง้ ค. 2 ลากลอ้ ง ง. 4 ลากลอ้ ง 10. ข้อใดกลา่ วไม่ถูกตอ้ งในการตง้ั ค. ปกติ ก. หลักทอ่ี ยูใ่ กล้เครื่องยิงเรยี ก หลักกาหนดทิศทางยงิ ข. หลอดระดบั มุมสงู อยู่ทางซ้ายของกล้องเลง็ ค. หลักทอี่ ันไกลจากเครื่องยิงเรียก หลกั กาหนดทศิ ทางยงิ ง. ปักหลักเล็งหา่ งจากปืน 25 เมตร 11. ในระยะ 25 เมตร หมนุ ศูนยห์ น้าของ ปลย.เอ็ม 16 เอ 1 ไป 1 คลิก๊ จะเล่ือนตาบลกระสุนไปเท่าใด ก. 7 ซม. ข. 0.7 ซม. ค. 1 ซม. ง. 2.8 ซม. 12. ข้อใดคือสว่ นประกอบของกล้องเล็งเอ็ม 4 ก. ศูนยเ์ ปดิ ข. หลอดระดบั มุมสงู ค. ควงมมุ สงู ง. ถกู ทกุ ขอ้ 13. การปรับศูนยร์ บ ในระยะ 100 เมตร ตั้งศนู ย์ระยะ 300 เมตร มุมทิศ 0 (ศูนย์) ต้องการให้กลุ่มกระสนุ อยู่บริเวณใด ของตาบลเลง็ ก. สูงจากตาบลเลง็ 12.5 ซม. ข. ต่าจากตาบลเลง็ 5 ซม. ค. ตา่ จากตาบลเลง็ 12.5 ซม. ง. สูงจากตาบลเลง็ 5 ซม. 14. การปรบั ศูนย์หลังทางทิศของ ปลย.เอม็ 16 เอ 2 จานวน 1 คล๊ิก ในระยะ 25 เมตร หรือในสนาม 1,000 นิว้ จะ เปลี่ยนตาบลกระสุนถูกไปเท่าไร ก. 0.33 ซม. ข. 0.83 ซม. ค. 1 ซม. ง. 0.33 ซม.

15. ดนิ ระเบดิ หลักท่ีบรรจุอยู่ในเช้ือปะทชุ นวนและเชือ้ ปะทไุ ฟฟา้ คือดนิ ระเบดิ ชนิดใด ก. พ.ี อ.ี ที.เอ็น ข. อาร.์ ด.ี เอ๊กซ์ ค. เพน็ .โทไลท์ ง. ดินดา 16. ขอ้ ใดคือรปู แบบของระเบดิ แสวงเคร่อื งท่ีใช้ในพนื้ ที่ 3 จังหวดั ชายแดนภาคใต้ ก. ถ่วงเวลา ข. กระทาโดยเหยื่อ ค. บังคบั จดุ ง. ถกู ทกุ ขอ้ ท่ีกลา่ วมา 17. ระยะยงิ หวงั ผลเปน็ จดุ ของ ปลย.เอ็ม16 เอ 2 ข้อใดถูก ก. 550 เมตร ข. 450 เมตร ค. 800 เมตร ง. 500 เมตร 18. ค.เอ็ม 203 ขนาด 40 มม. ระยะท่ีปลอดภยั ในการฝกึ ( กระสนุ ระเบดิ และซ้อมยิง ) คอื ระยะใด ก. 80 เมตร ข. 15 เมตร ค. 31 เมตร ง. 50 เมตร 20. ถ้าทาการยิง ค. ขนาด 40 มม.เอม็ 203 กระสนุ ไมล่ ่ันหรอื ล่นั ชา้ ให้ทาการปฏบิ ตั ิอย่างไร ก. นากระสนุ ออก ข. ไมม่ ขี ้อถูก ค. คอย 30 วนิ าที ง. คอย 15 วินาที 21. ปลย.11 ระบายความรอ้ นดว้ ยอากาศแต่มรี ะบบการทางานด้วยอะไร ก. ดว้ ยแกส๊ ข. ด้วยการถอยหลังของลากล้อง ค. ด้วยการถอยหลังของสว่ นเคล่อื นท่ี ง. ถกู ทกุ ขอ้ 22. เครอ่ื งกีดขวางลวดหนามแบ่งออกได้ตามภารกจิ ในการตง้ั รับดังนี้ ก. ลวดหนามปอ้ งกันตน และ เพ่ิมเตมิ ข. ลวดหนามทางยุทธวธิ ี , ปอ้ งกันตน และ เพิ่มเติม ค. รั้วลวดหนาทางยุทธวธิ ี และ เพิม่ เติม ง. รั้วลวดหนามทางยุทธวธิ ี , ป้องกนั ตน และ ร้ัวลวดหนามทางปีก 23. การสรา้ งเครือ่ งกีดขวางลวดหนามไมว่ า่ จะสรา้ งแบบใดก็ตาม ประการสาคญั ท่สี ุดอันดบั แรกจะต้อง ก. ไมจ่ าเปน็ ต้องมีอาวุธยงิ คมุ้ ครอง ข. ต้องวางใหม้ ีระเบยี บ ค. มีอาวธุ คุ้มครองเสมอ ง. มอี าวุธค้มุ ครองเสมอและไมจ่ าเป็นจะต้องมีอาวธุ ยงิ คุ้มครอง 25. ซองกระสนุ อาวุธของฝา่ ยตรงขา้ มมีกแ่ี บบ ก. 2 แบบ ข. 4 แบบ ค. 3 แบบ ง. 1 แบบ 26. ขอ้ พจิ ารณาประการแรกในการเลือกท่ตี งั้ หลุมบคุ คล เพือ่ ใช้หลุมทาการรบนัน้ ข้อใดถกู ต้อง ก. สามารถต่อสู้ได้รอบตวั ข. มพี ้นื การยิงดี ค. มีการกาลงั จากการยิงดี ง. มีการซอ่ นเรน้ ดี 27. การแก้ไขเหตุติดขัดทนั ทีทันใดของ ปลย. เอม็ ๑๖ เอ ๑ มขี น้ั ตอนในการปฏิบตั ิที่ถกู ต้องอยา่ งไร ก. ดึง ตบ ดัน เลง็ ยงิ ข. ตบ ดึง ดนั เล็ง ยิง ค. ตบ ดัน ดึง เลง็ ยิง ง. ดัน ดึง ตบ เลง็ ยงิ 28. ขอ้ ใดกล่าวไม่ถกู ตอ้ งในเร่ืองหลักการทางาน ก. ทาการยงิ ดว้ ยท่าลูกเลื่อนเปดิ ข. ปอ้ นกระสนุ ดว้ ยสายกระสุน ค. ทาการยงิ ด้วยทา่ ลูกเล่ือนปิด ง. ทางานด้วยแก๊ส ระบายความรอ้ นดว้ ยอากาศ 29. ระยะยังหวงั ผลของ ค. อัตโนมตั ิ 40 มม. ได้กี่เมตร ก. 1500 เมตร ข. 1700 เมตร ค. 1600 เมตร ง. 1800 เมตร 30. สว่ นประกอบของทุ่นระเบดิ ส่วนใดทอี่ าจไม่มีก็ได้ ก. ดินระเบิดหลัก ข. ชนวน ค. ดินนาหรือดนิ ประทุ ง. เปลือกทนุ่ ระเบิด

31. พ้ืนทีร่ ะหว่างปนื ถึงเป้าหมาย เมอื่ วถิ ึกระสนุ ไม่สงู เกินความสูงเฉลีย่ ของคนยืน ( 1.8 ม. ) รวมทั้งพ้นื ที่ของรปู อาการ กระจายด้วย หมายถงึ ข้อใด ก. รูปอาการกระจาย ข. ย่านอันตราย ค. กรวยกระสุนวิถี ง. การยงิ กราด 32. การใชศ้ นู ย์หลังของ ปลย.เอ็ม 16 เอ 1 ในการยงิ ปรบั ในสนาม 1000 น้วิ ขอ้ ใดถูกตอ้ ง ก. ใช้ศนู ย์ R ข. ใชศ้ นู ย์ระยะใกล้ ค. ใชศ้ นู ยร์ ะยะไกล ง. ใช้ศูนย์รใู หญ่ 33. การยงิ มุมกระสุนตกใหญ่ เป็นประเภทการยงิ เก่ยี วกับข้อใด ก. พน้ื ท่ี ข. ขา้ ศึก ค. เป้าหมาย ง. ปนื 34. การยิงของปืนเล็ก และ อาวธุ กล แบ่งประเภทการยิงออกเปน็ ก่ปี ระเภท ก. 2 ประเภท ข. 5 ประเภท ค. 3 ประเภท ง. 4 ประเภท 36. ข้อใดกลา่ วถึงหลักพน้ื ฐานการยิงปนื 4 ประการได้ถกู ต้องทส่ี ุด ก. ทา่ ยงิ มัน่ คง , การเล็ง , การผ่อนคลาย , การลนั่ ไก ข. ทา่ ยิงม่ันคง , การจดั ภาพศูนยพ์ อดี , การจดั ศูนยน์ ่งั แทน่ , การลั่นไก ค. ทา่ ยิงทม่ี ่ันคง , การเล็ง , การลน่ั ไก , การเล็งตาม ง. ท่ายิงมั่นคง , การเลง็ , การควบคมุ ลมหายใจ , การลั่นไก 37. การกาหนดที่ต้งั เปา้ หมายของผู้ตรวจการณห์ นา้ ทีน่ ยิ มใชม้ ีกว่ี ธิ ี ก. 3 วธิ ี ข. 2 วิธี ค. 4 วิธี ง. 1 วิธี 38. เข็มทิศ เอ็ม 2 สามารถวัดมมุ ภาคได้สงู สุดกม่ี ลิ เลยี ม ก. 4800 มิลเลียม ข. 3200 มิลเลียม ค. 6400 มลิ เลียม ง. 1600 มลิ เลยี ม 39. การหาระยะยิงท่ีนามาใช้เพ่อื ให้ทนั กบั สถานการณท์ างยทุ ธวธิ นี น้ั ใช้วธิ ีหาระยะยงิ อยา่ งไร ก. การกะระยะด้วยสายตา ข. จากตรวจผลการยิง ค. จากเคร่ืองมอื วัดระยะ ค. วดั ระยะในแผน่ ท่ี 40. วธิ ีแกก้ ารส่ายของปนื ขณะท่ที าทา่ ยิงและเลง็ อยนู่ ัน้ จะตอ้ งแก้อย่างไร ก. การกะระยะ ข. การเล็ง ค. ทา่ ยงิ และการควบคุมไก ง. การมอง 41. การหมนุ ศนู ย์หน้า ทวนเข็มนาฬิกา จะทาให้รอยกระสุนถกู สงู ข้ึนหรือต่าลง ก. ออกขวา ข. ต่าลง ค. สงู ขึ้น ง. ไม่มีผล 42. เคร่ืองมือเครือ่ งใช้ของผู้ตรวจการณ์ทใี่ ช้วดั มุมทางระดับเพอื่ นามาคานวณการยา้ ยยิงเรียกวา่ อะไร ก. เขม็ ทิศแบบ M 2 ข. กลอ้ งสอ่ งสองตา ค. แผน่ เรขายงิ ง. เข็มทิศแบบ M 2 และ กล้องสอ่ งสองตา 44. อตั ราการจัด มว.ส. ปี 2552 ของหนว่ ยระดบั พนั .ร. ซง่ึ มหี นว่ ยสอื่ สารในการบงั คบั บญั ชา จดั อย่างไร ก. ชา่ งวทิ ยุ อตั รา จ. ข. พลสลับสาย อัตรา ส.อ. ทาหน้าท่ี พลขับด้วย ค. พลนาสาร และ พลขบั ถกู จดั อย่ใู นตอนทางสาย ง. ผบ.มว.ส่ือสาร อตั รา ร.อ. 47. เม่ือสนิ้ สดุ การเรียนการสอนในหลักสตู ร ความรู้ทีไ่ ดจ้ ากการประเมินผลตนเองในข้นั ต้น ข้อใดกล่าวถูก ก. การส่อื สารทางสาย เปน็ การสง่ สัญญาณคล่ืนแม่เหล็กไฟฟ้าใหก้ ระจายไปในอากาศ ข. เคร่อื งมือทส่ี ามารถสง่ สัญญาณไฟฟ้าไปตามวงจรทางสาย ในระดับ มว.ปล. คอื โทรศัพท์ TA 312/Pt ค. ลอ้ สายแบบหลอดดา้ ย ที่ใช้งานและมปี ระจา อจย. ระดับ มว.ปล. เป็นสว่ นประกอบชุดของ ชุด CE – 11

ง. การสื่อสารทางสาย คือการส่งสญั ญาณไฟฟ้าโดยอาศยั วงจรทางสายเปน็ สือ่ 48. สาย WD – 1 / TT ทถ่ี ือว่าเสอ่ื มคุณภาพ คอื สายท่มี ีรอยต่อมากกวา่ 30 รอย ต่อโดยใช้เกณฑ์อะไร เปน็ เคร่ืองกาหนด ก. ทีน่ ้าหนกั 1 ปอนด์ ข. ที่นา้ หนกั 1 กก. ค. ท่ีความยาว 1 ไมล์ ง. ที่ความยาว 1 กม. 49. เมื่อท่านตกเปน็ เชลยศึก ควรตอบคาถามในเร่ืองอะไรบ้าง ก. ยศ , ชือ่ , สกุล วัน เดอื น ปี เกดิ หมายเลขประจาตัว ข. ยศ , ชอื่ สกลุ ภมู ลิ าเนา สงั กัด หมายเลขประจาตัว ค. ยศ ชื่อ สกลุ หมายเลขประจาตวั ง. ยศ ช่ือ สกลุ ภูมิลาเนา หมายเลขประจาตวั 50. การปฏิบตั ิการเล็ดลอดหลบหนี ทบ. ได้มอบความรับผิดชอบใหก้ ับหนว่ ยใด ก. ยว.ทบ. ข. ยกท.ทบ. ค. นสศ. ง. ศปก.ทบ. 51. การวางแผนในการเล็ดลอดหลบหนี วธิ ีแทรกซึมจะอาศัยปัจจัยท่ีสาคญั อะไรบา้ ง ก. ข้าศกึ , ภูมิประเทศ , ลมฟ้าอากาศ ข. เวลา , ขา้ ศึก , ภมู ปิ ระเทศ , ลมฟ้าอากาศ ค. ที่อยู่ปจั จบุ ัน , การวางกาลังของข้าศึก , ทัศนวสิ ัย , สมรรถภาพของผ้เู ล็ดลอด ง. เวลา , ขา้ ศกึ , ขวญั ทศั นวิสยั 52. การพิสจู นฝ์ า่ ย เพอ่ื ต้องการทราบว่าเป็นหน่วยทหารฝ่ายเดยี วกัน สิ่งทตี่ อ้ งแสดงนน้ั อย่างไร ก. หมายแนว หมายทต่ี ัง้ ข. ลข. ควนั สีแดง ค. ทศั นสัญญาณ ง. แผน่ ผา้ สญั ญาณ VS -17 ปูเป็นตวั อกั ษร 53. หลงั จากเครอ่ื งบนิ โจมตีเปา้ หมายแล้ว หน่วยภาคพืน้ จะต้องรายงานผลการโจมตเี ป้าหมายให้นกั บนิ ทราบ ข้อใดกลา่ วไม่ ถกู ต้องในข้นั ตอนนี้ ก. ปรับแก้ตาบลกระสนุ ตกให้นักบนิ ข. แจง้ ตาบลระเบิดหรือตาบลกระสุนตก ค. แจง้ เวลาระเบิดกระทบเป้าหมาย ง. แจ้งผลการทาลายเป้าหมายเปน็ เปอเซน็ ต์ 54. เมอื่ เราอยู่ในป่าอันตรายทจ่ี ะเกิดกับเรามี 2 ประเภท ได้แก่ ก. พืชที่เปน็ พิษและสตั วป์ า่ ข. นา้ ป่า และ สัตว์ป่า ค. ธรรมชาตขิ องปา่ และทหารขา้ ศกึ ง. กนิ อาหารท่ีเป๋นพิษและไข้ปา่ 55. การแสวงหาอาการในปา่ แบ่งออก 2 ชนิดใหญ่ ๆ คือ ก. ในปา่ ดงดิบ , ในปา่ โปร่ง ข. ในนา้ บนพืน้ ดิน ค. สัตว์ , พืช ง. นา้ ทพี่ กั 56. การสะกดรอยดว้ ยสายตา มิใชข่ องใหม่ แทจ้ รงิ แลว้ คอื ของเก่าท่พี รานป่าไดป้ ฏิบตั ิมาแลว้ หรอื นักเรียนกเ็ คยปฏิบัตมิ านกั สะกดรอยจะต้องเป็นผู้มีความรู้ในเรอ่ื งใด ก. รู้จักการสังเกตสิง่ เล็ก ๆ น้อย ๆ ข. รหู้ ลกั การตรวจการณ์ ค. รจู้ ักการเอาใจใส่ ง. ทกี่ ลา่ วมาถูกต้อง 57. ลกั ษณะการปฏบิ ัติงานของชดุ สะกดรอย มีหลายประการ เช่นเปน็ ชดุ แก้ปัญหาให้ ผบช. ปฏิบัตงิ านเมื่อ ผบช.สง่ั ชดุ สะกดรอยปฏิบตั งิ านใกลข้ ้าศึก 100 – 200 เมตร จุดอ่อนของนักสะกดรอย ไดแ้ ก่ ก. ห้ามขาดการฝกึ ฝนเกิน 3 เดือน และ ต้องฝกึ ตนเองสปั ดาหล์ ะ 3 คร้งั ข. หา้ มขาดการฝึกฝนเกิน 2 เดือน และ ต้องฝึกตนเองสัปดาห์ละ 3 ครัง้ ค. หา้ มขาดการฝึกฝนเกิน 2 เดือน และ ต้องฝกึ ตนเองสปั ดาหล์ ะ ๒ ครัง้ ง. ห้ามขาดการฝึกฝนเกิน ๓ เดือน และ ต้องฝึกตนเองสปั ดาหล์ ะ ๒ คร้งั 58. การเลด็ ลอดชนิดใด ปฏิบัติต่อจากการหลบหนี ก. ระยะใกล้ ข. แทรกซมึ ค. การรบแบบกองโจร ง. ระยะไกล 59. สว่ นระวังป้องกันของกองพนั ทจี่ ดั ออกไปข้างหนา้ เพ่ือทาหน้าที่เปน็ ฉากกาลงั ให้กับหน่วย โดยปกติ จะจดั กาลังมีขนาด หนว่ ยตามขอ้ ใด

ก. 1 มว.ปล. เพ่ิมเตมิ ถงึ 1 กองร้อย เพ่ิมเตมิ ข. 1 หมู่ ปล. เพ่ิมเตมิ ถึง 1 มว.ปล. เพม่ิ เตมิ ค. 1 มว.ปล.เพิม่ เติม ถึง 1 กองร้อย ง. 1 หมู่ ปล. เพม่ิ เติม ถึง 1 มว.ปล. 60. รูปแบบการกอ่ ความไม่สงบ รูปแบบอะไรท่ใี ช้วธิ กี ารตอ่ สยู้ ดื เยอื้ ยาวนาน คือ ก. แบบดั้งเดมิ ข. บ่อนทาลาย ค. แกนนาปฏวิ ตั ิ ง. ม่งุ เนน้ มวลชน 61. ในการวางแผนการใชห้ มู่ปืนกล ในการตั้งรับ โดยปกติจะใช้ต้ังยงิ เปน็ คู่ เพื่อหม่ใหเ้ ป็นอันตรายร่วมกนั ท่ีต้ังยิงของปนื กล ควรต้ังหา่ งกันประมาณเทา่ ใด ก. ห่างกนั ประมาณ 40 เมตร ข. หา่ งกันประมาณ 30 เมตร ค. ห่างกันประมาณ ๔๐ เมตร ง. ห่างกนั ประมาณ 20 เมตร 63. กาลงั ในสว่ นตงั้ รบั หน้า มีหน้าท่ีตามข้อใด ก. ยบั ยัง้ ข้าศึก ผลกั ดันขา้ ศกึ ข. ยับยัง้ ขับไล่ และ ทาลายข้าศกึ ค. ค้นหา ขับไล่ และ ทาลายข้าศึก ง. ยับย้งั ผลักดนั และ ขบั ไลข่ ้าศึก 64. พ้ืนที่ ท่ไี ม่มีกาลงั เขา้ ยึดครอง แต่อย่ใู นระยะยิงหวงั ผลของอาวุธเบา คอื พน้ื ที่ในขอ้ ใด ก. กว้างด้านหนา้ ของหนว่ ยในการตั้งรับ ข. ชอ่ งระหว่างหนว่ ยในการต้ังรับ ค. ระยะเคียงระหว่างหน่วยในการตัง้ รบั ง. ความลกึ ของหน่วยในการตั้งรบั 65. การติดตอ่ สือ่ สารในการตงั้ รบั ระหวา่ ง หมู่ ปล. ต่อ หมู่ ปล.โดยปกติ จะใชก้ ารตดิ ต่อสอ่ื สารชนดิ ใด ก. ใช้วทิ ยุ ข. ใชท้ ัศนสัญญาณ ค. ใชพ้ ลนาสาร ง. ใชโ้ ทรศัพท์ 66. แนบขอบหนา้ พื้นท่กี ารรบ ของหนว่ ยที่แทจ้ ริง จะเกิดขึ้นเม่อื ใด ก. กาลงั ของ มว.ปล.หนุน ไดเ้ ข้าพ้นื ที่วางตวั เรยี บร้อย ข. กาลงั ของ มว.ปล.ในแนวหน้า ไดเ้ ขา้ พน้ื ทว่ี างตวั เรยี บร้อยแลว้ ค. เมอื่ ผบ.มว. ได้สงั่ การใหก้ าลังของแต่ละหมู่ เข้าพื้นทวี างตวั หลังจากรบั คาส่ังเสรจ็ ง. เมื่อ ผบ.ร้อย สง่ั การ ผบ.มว.ปล.เสรจ็ เรยี บร้อย 67. โดยปกติ ในการวังกาลังตงั้ รบั ของ มว.ปล.ในแนวหน้า จะพจิ ารณาการวางกาลังตามข้อใด ก. 5 หมู่ ปล. เคียงกนั หมู่ ปก. ตั้งยงิ ในพื้นทข่ี อง บก.มว. ข. 3 หมู่ ปล. เคยี งกนั หมู่ ปก.ตงั้ ยงิ นอกพื้นทขี่ อง หมู่ ปล. ค. 2 หมู่ ปล. ในแนวหนา้ 1 หมู่ ปล.หนุน ง. 3 หมู่ ปล. เคยี งกัน หมู่ ปก. ตัง้ ยงิ ในพ้ืนท่ีของ หมู่ ปล. 68. ลกั ษณะการรบด้วยวธิ รี บั คอื ข้อใด ก. การใช้การยิงสนับสนนุ ท่มี ีอยู่ เพ่ือปอ้ งกันและตา้ นทานขา้ ศึก ข. การใชเ้ ครือ่ งมอื และ วธิ ีการทั้งมวลทม่ี ีอยูเ่ พื่อเข้าตีฝา่ ยขา้ ศกึ ค. การใชเ้ ครื่องมอื และวิธีการท้งั มวลทมี่ ีอย่เู พ่ือป้องกันและตา้ นทานขา้ ศึก ง. การใช้กาลัง และ วธิ ีการทงั้ มวลทีม่ อี ยู่ เพ่อื ทาการรบหน่วงเวลา 69. มเี อกภาพในการปฏิบตั ิ ให้ข่าวกรองมากทสี่ ุด ลดความรุนแรงนอ้ ยทีส่ ุด รฐั บาลมีประสทิ ธภิ าพ กลา่ วถงึ เร่อื งไร ก. กาหนดการ ปปส. ข. วิธีปฏิบตั ใิ นการ ปปส. ค. หลกั ในการ ปปส. ง. การวางแผนในการ ปปส. 70. ผู้ท่ีเลอื กทต่ี ้งั ยิง และ กาหนดเขตการยิงให้กับอาวธุ กลภายในหมู่คอื ใคร ก. หน.ชุดยิง ข. พลยิงอาวุธกล ค. ผบ.หมู่ ง. ผบ.มว. 71. แนวทเี่ กิดจากที่มน่ั ของ มว.ปล. ในแนวหนา้ ตดั กบั เส้นแบง่ เขตท่จี ุดประสานงาน คือแนวในข้อใด ก. แนวประสาน ข. แนวฉากกาบัง ค. แนวขอบหน้าพนื้ ท่ีการรบ ง. แนวกองหนุน

72. แนวออกตี คือ แนวซ่ึงประสานการเร่มิ ต้นในการเขา้ ตี ซ่ึงอยหู่ ่างจากที่รวมพลระยะประมาณเทา่ ใด ก. 4 – 6 กม. หรอื เดนิ ประมาณ 2 ชม. ข. 3 – 4 ไมล์ หรือ เดินประมาณ 3 ชม. ค. 5 – 6 ไมล์ หรือเดนิ ประมาณ 4 ชม. ง. 4 กม. หรือ เดินประมาณ 1 ชม. 73. พนื้ ท่ี ทีเ่ หมาะสมใชเ้ ป็นที่รวมพล ควรมลี ักษณะอยา่ งไร ก. พ้นื ท่ีกว้างขวางกระจายกาลงั ได้ ข. ถูกทุกข้อ ค. มกี ารกาบังและซ่อนพราง ง. พน้ จากระยะยงิ ของ ป. และ ค. 74. การจดั กาลังในการเข้าตี ประกอบด้วย 3 สว่ น คือสว่ นอะไรบา้ ง ก. ส่วนบังคบั บญั ชา , สว่ นเขา้ ตี , ส่วนเข้าตสี นบั สนุน ข. สว่ นบงั คับบัญชา , ส่วนดาเนินกลยุทธ , ส่วนยิงสนับสนนุ ค. ส่วนระวงั ปอ้ งกนั , สว่ นดาเนนิ กลยทุ ธ , ส่วนยงิ สนบั สนนุ ง. สว่ นบังคับบญั ชา , ส่วนดาเนินกลยทุ ธ , ส่วนกองหนนุ 75. ขอ้ ความทกี่ ลา่ ววา่ ค้น ตรงึ สรู้ บ ติดตาม ทาลาย เปน็ หลักการทางยุทธวธิ ีขอ้ ใด ก. หลักพื้นฐานการรบดว้ ยวธิ ีรุก ข. หลักนิยมการรบด้วยวธิ รี ุก ค. แบบของการดาเนนิ กลยุทธ ง. ความม่งุ หมายของการรบด้วยวธิ ีรกุ 76. ภารกจิ ของหมู่ปืนกลในการเข้าตี คือ อะไร ก. ผลักดนั ขา้ ศึก ข. ยบั ย้ังข้าศึก ค. ไม่มขี ้อถูก ง. สนับสนนุ มว.ปล. อยา่ งใกล้ชิด 77. ลักษณะในการเข้าตี แบง่ ออกได้กีล่ ักษณะอะไรบ้าง ก. 2 ลกั ษณะ คือ เข้าตีเร่งรีบ , เข้าตเี รง่ ดว่ น ข. 3 ลกั ษณะ คือ เข้าตีเรง่ รบี เคล่อื นทีเ่ ข้าประทะ และ ไล่ติดตาม ค. 3 ลักษณะ คือ เข้าตปี ระสาน , เคลื่อนทเ่ี ข้าประทะ และ เข้าตปี ระณีต ง. 2 ลักษณะ คือ เขา้ ตีเร่งรบี และ เข้าตีประณีต 78. ลักษณะท่หี มายของ มว.ปล. ซึง่ ผบ.รอ้ ย กาหนดให้ ควรมีลักษณะใด ก. ต้องบรรลุความสาเรจ็ รว่ มกนั ข. เมอ่ื ยดึ ได้ ต้องคมุ ได้ ค. สังเกตเหน็ ง่ายในภมู ิประเทศ ง. ถูกทุกขอ้ 79. นา้ หนักบรรทุกของรถท่ีตดิ ตงั้ ยุทโธปกรณ์ พรอ้ มดว้ ยเตมิ น้ามนั เช้อื เพลงิ น้า นา้ มันหลอ่ ลน่ื แต่ไม่มีพลประจารถคือ ความหมายของคาวา่ อะไร ก. นา้ หนักรถ ข. นา้ หนักบรรทกุ ในภูมปิ ระเทศ ค. น้าหนกั สมั ภาระ ง. นา้ หนกั ทง้ั หมด 80. การปรนนบิ ตั บิ ารงุ เป็นหัวใจสาคญั พลขับจะละเลยเสียมิได้ คือการปฏิบัติประเภทไหน ก. การ ปบ. ประจาวนั ข. การ ปบ. ประจาสัปดาห์ ค. การ ปบ. ประจาเดือน ง. การ ปบ. รอบ 6 เดอื น 81. ผบช. มงุ่ หวงั ในการปฏบิ ตั ใิ นหนา้ ทีพ่ ลขับ ( ขัน้ ที่ ๑ ) น้นั เพอ่ื ประสงค์อะไร ก. เพือ่ ต้องการเบกิ สป. ข. ตอ้ งการให้มีงานทา ค. เพอื่ เอาไปแก้ไขขอ้ บกพร่อง ง. เพอื่ รักษายทุ ธปกรณ์ และ เพื่อให้มีประสิทธิภาพ 82. คาวา่ รถบรรทุกทางทหารหมายความวา่ อะไร ก. รถท่ีใช้ล้อสาหรบั เคลื่อนย้ายคน อาวธุ กระสุน และเคร่ืองมอื เครือ่ งใช้ ข. รถทใี่ ชล้ อ้ หรือ สายพาน สาหรบั บรรทกุ คน และสิ่งของทางทหาร ค. รถท่ีใชล้ อ้ สาหรบั เคล่ือนย้าย คน , สตั ว์ สงิ่ ของ ง. รถที่ใช้ล้อสาหรบั เคลอ่ื นย้ายคน 83. การปรนนบิ ัตบิ ารุงในหน้าท่พี ลขับ (ขน้ั ที่ ๑ ) มีการปฏบิ ัติหลักอยู่ 3 ข้ัน คือ ข้อใด ก. กอ่ นใช้งาน ขณะใชง้ าน และ ในโรงรถ ข. ก่อนใช้งาน ขณะใช้งาน และ หลงั ใช้งาน ค. ก่อนใช้งาน ขณะหยุดพัก และ ขณะใช้งาน ง. ขณะหยดุ พัก ขณะใช้งาน และ ในโรงรถ

84.การปรนนิบัตบิ ารงุ ในหน้าท่ีพลขับ พลขบั จะใช้แบบพิมพ์อะไรในการปรนนบิ ตั ิบารุงประจาวัน ก. ทบ. 486 – 310 ข. ทบ. 468 – 013 ค. ทบ. 468 – 301 ง. ทบ. 468 – 310 86. ข้อใดกลา่ วถกู ต้องแลว้ ก. การ ปบ. ข้ัน 1 ตอ้ งทาบ่อยเพอ่ื จะได้นาไปเบิก สป. ข. ทกี่ ล่าวมาแลว้ ถูกต้องทกุ ข้อ ค. การ ปบ. ขน้ 1 เป็นงานในหน้าทีพ่ ลขบั ทาก็ไดไ้ ม่ทากไ็ ด้ ง. การ ปบ. ขน้ั 1 เป็นการตรวจสภาพทั่วไป เพ่ือให้ทราบข้อบกพร่องของยทุ โธปกรณ์ 87. ข้อใดตอ่ ไปน้คี ือระยะสงู พ้นพืน้ ของรถ ก. ระยะระกวา่ งระดบั พ้ืนดินกบั ความสูงของตวั รถ ข. ระยะระหวา่ งระดบั พน้ื ดินกบั ความสงู ของล้อรถ ค. ระยะระหวา่ งระดับพน้ื ดินกับ พื้นใต้ทอ้ งรถ ง. ระยะระหวา่ งระดบั พน้ื ดนิ กับ จุดทตี่ ่าที่สุดใตท้ ้องรถ 88. เหตใุ ดหลงั จากรบั ภารกจิ และ ผบ.มว. ไดว้ ิเคราะหก์ ิจของตนเองเรียบรอ้ ยแลว้ จงึ ตอ้ งออกคาสั่งเตอื นให้แก่ ผบ.หมู่ ก. เพ่อื เปน็ การใหค้ วามสนใจแก่ ผบ.หมู่ ข. เพอ่ื เป็นการวางแผนคู่ขนาน ระหวา่ ง ผบ.มว. และ ผบ.หมู่ ค. เพอื่ เป็นการให้ความยุติธรรมแก่ ผบ.หมู่ ง. เพื่อให้ ผบ.รอ้ ย รบั ทราบภารกิจตนเองก่อน ผบ.หมู่ 89. ระเบียบการนาหนว่ ย 8 ข้น ข้อใดกลา่ วไม่ถกู ตอ้ ง : ข้ันที่ 2 คาส่ังเตอื น มีแบบฟอร์มทตี่ ายตวั เปล่ียนแปลงไม่ได้ ถูกต้อง ตามแบบของคาสั่งเตือน ออกได้ไม่เกิน 1 คร้ัง ต่อภารกจิ และไม่จาเป็นต้องระบุเวลา/สถานท่รี บั คาสั่งยุทธการ 90. ผบ.มว.ปล. ออกคาสัง่ ให้ ผบ.หมู่ ปล. ท่ี 1 2 3 และ ผบ.หมู่ ปก. คาสงั่ มรี ายละเอียดดงั ตอ่ ไปนี้ “ ภารกิจ มว.ปล.ท่ี 1 เข้าตใี น 160900 ก.พ.52 เพ่อื เข้ายึดเขานกกระจิบ ให้ ผบ.หมู่ ปล.ที่ 1 2 3 และ หมู่ ปก. ไปรบคั าสงั่ เขา้ ตที ี่ ตก.มว. บริเวณพกิ ัด ..........ใน 150800 ก.พ.52 หมายถึงคาส่ังในขอ้ ใด ก. คาส่ังเป็นสว่ น ๆ ข. คาสั่งช้แี จง ค. คาสงั่ ยทุ ธการ ง. คาสั่งเตือน 91. สว่ นประกอบเขม็ ทศิ เลนเซติก ท่ีสาคัญมี 3 ส่วน ขอ้ ใดถูก ก. ฝาตลบั เข็มทศิ , ครอบหน้าปัดเข็มทิศ , เรอื นเข็มทศิ ข. ไม่มีข้อถูก ค. เรือนเข็มทศิ กา้ นเล็ง หนา้ ปดั เข็มทิศ ง. ก้านเล็ง , ฝาตลบั เขม็ ทิศ เรือนเข็มทิศ 92. การวัดมมุ ภาคทศิ เหนือบนแผนที โดยใช้เครื่องมือ P 67 หากมุมทีต่ ้องการวัดมากกว่า 180 องศา เราจะหันส่วนโคง้ ของ เครื่องมอื ไปในลักษณะใด ก. หสั ส่วนโค้งขน้ึ ดา้ นบน ข. หันส่วนโค้งไปทางซา้ ย ค. หันสว่ นโค้งไปทางใดก็ได้ ง. หนั สว่ นโคง้ ไปทางขวา 93. ขอ้ ระวังในการใชแ้ ละเก็บรักษาเข็มทิศแบบเลนเซติก ขอ้ ใดกล่าวถูกต้อง ก. เมื่อไมใ่ ชจ้ ะต้องเกบ็ ใส่กล้องใหเ้ รยี บร้อย ข. ต้องหา่ งจากปนื กล 0.2 เมตร ค. ควรใหห้ า่ งจากสายโทรเลข 10 เมตร ง. จะต้องอยู่หา่ งจากปนื ใหญ่สนามนอ้ ยกวา่ 18 เมตร 94. จะปรากฏอยทู่ ีก่ ึ่งกลางขอระวางด้านบน และ ดา้ นล่างทางซา้ ย ปกติใช้ช่ือภูมิประเทศเด่นทางภูมิศาสตร์ หรือ ชอื่ ทาง ธรรมชาติ หรือใชช้ ่ือเมอื งที่ใหญ่เป็นความหมายของคาวา่ อะไร ก. ช่อื ชดุ ข. ช่ือระวาง ค. หมายเลขลาดับชุด ง. ชอื่ มาตรส่วน 95. ถ้ากาลังพลในหน่วยงานของทา่ นมีขีดความสามารถในการปฏบิ ตั ิงานตามหน้าที่ หรือ ภารกิจท่ีไดร้ บั มอบ อยูใ่ นระดบั มาตรฐานทีส่ ูง แสดงว่าหนว่ ยของท่านมีสภาพอย่างไร ก. มขี วญั ดี ข. มีความรักหมู่คณะ ค. มคี วามรู้ ความชานาญดี ง. มวี ินัยดี 96. ข้อใดเป็นความมงุ่ หมายของการเรียนวชิ าผ้นู าทางทหาร ก. เพอ่ื ให้ทราบถงึ พฤตกิ รรมของมนุษย์ ข. เพื่อใหท้ ราบถงึ วตั ถปุ ระสงคค์ วามเปน็ ผูน้ าทางทหาร ค. เพ่ือให้ทราบและมคี วามเข้าใจหลกั การผู้นา ง. เพื่อให้ทราบและมีความเขา้ ใจในศลิ ปะแหง่ ความเปน็ ผ้นู า

97. ข้อความใดมีความหมายตรงกับคาว่าง ความรกั หมู่คณะ ก. ความจงรกั ภักดี ความภาคภูมิใจ ความศรัทธาต่อหน่วยท่ีสมาชกิ แตล่ ะบุคคลของหนว่ ยแสดงออกใหเ้ ห็น ข. ความจงรกั ภกั ดี ความภาคภูมใิ จ ความศรทั ธาในตวั ผ้นู าและหนว่ ยมีประสทิ ธภิ าพ ค. ความจงรกั ภกั ดี ทบ่ี ุคคลในหนว่ ยมใี ห้ซ่ึงกันและกัน ง. ความจงรกั ภักดี ความภาคภูมิใจ ความศรทั ธาต่อหน่วยและบุคคลท่ีอยรู่ ว่ มกัน 98. ขอ้ ใดเปน็ อานาจหน้าท่ีตามกฎหมายของแตล่ ะบุคคลในหนว่ ยทหาร ท่มี ตี ่อผู้ใตบ้ ังคับบัญชา ชัน้ ยศ และ อานาจท่ีได้รับมอบ ก. การบังคับบญั ชา ข. การจัดการ ค. ผบู้ ังคบั บญั ชา ง. ผู้นา 99. หนา้ ทแ่ี ละความรับผิดชอบเก่ียวกบั เร่ืองการฝึกน้ัน ผู้อานวยการฝกึ คอื ผทู้ ่รี ับผิดชอบในเรื่อง การวางแผนการฝกึ การจดั ระเบยี บ การฝกึ การดาเนินการฝกึ และ การประเมนิ ผลการฝึก สว่ นผฝู้ ึก หรอื ครฝู กึ มีหน้าทแี่ ตกต่างจากผอู้ านวยการฝึกในเรื่องอะไร ก. การดาเนินการฝึก ข. การประเมนิ ผลการฝกึ ค. การเตรยี มการฝึก ง. การจัดระเบียบการฝึก 100. ในการเตรียมการสอน บทเรยี นเรื่องใดน้นั สิ่งแรกท่ีครูจะต้องนามาพจิ ารณาคือ อะไร ก. การทาแผนการสอน ข. เอกสารหรือหลักฐานอ้างอิง ค. วธิ ดี าเนนิ การสอน ง. ความมงุ่ หมายของบทเรยี น 101. หลงั จากทาแผนการสอนเรยี บรอ้ ยแลว้ ข้ันตอนต่อไปจะต้องทาอะไรก่อนทาการสอน ก. เตรยี มหลกั ฐานทางธรุ การใหเ้ รียบร้อย ข. ต้องมีการซักซ้อมทดลอง ค. ตอ้ งมีการตรวจสอบคร้ังสดุ ทา้ ย ง. เข้าสอนได้เลย 102. การปรับปรุงตัวครู โดยวธิ ีสงั เกตการสอนของครผู ู้อื่นนน้ั เป็นการเน้นทจี่ ะใหม้ กี ารพฒั นาในเร่ืองใด ก. เนน้ เรอื่ งความเปน็ ผูน้ า ข. เน้นเร่ืองให้มีความรู้ดี ค. เนน้ เรือ่ งการควบคุมห้องเรียน ง. เน้นเรือ่ งให้มีเทคนิคการสอนดี ๑. แบบหรือวิธีสอน ทใี่ ช้ในทางราชการทหาร จะมที ง้ั หมดกี่แบบ ก. ๓ แบบ ข. ๒ แบบ ค. ๕ แบบ ง. ๔ แบบ ๒. ข้อใดกลา่ วถูกต้องที่สดุ เกยี่ วกับการพูดของครู ก. จงั หวะการพดู ตอ้ งสม่าเสมอ ข. ระดับเสยี งในการพูดจะตอ้ งสม่าเสมอ ค. พดู เชน่ เดยี วกับการให้โอวาท ง. พูดเชน่ เดียวกบั สนทนา ๓. ครคู วรให้นักเรยี นมสี ่วนร่วมในการเรยี นการสอนมากท่สี ุด วธิ ีการทถี่ ูกต้องควรทา่ อย่างไร ก. ใหน้ กั เรยี นช่วยลบกระดาน ข. ทกุ ข้อทก่ี ล่าวมา ค. ใหน้ ักเรียนต้งั ค่าถามและตอบคา่ ถาม ง. ใหน้ กั เรียนช่วยแจกเอกสาร ๔. ถา้ ต้องการวัดทักษะของนักเรียนในการถอดประกอบอาวธุ ยทุ โธปกรณ์ แบบของการประเมินผลทเ่ี หมาะสมที่สุดท่ีจะ นา่ มาใช้ คือแบบใด ก. การสงั เกต ข. การสัมภาษณ์ ค. การทดสอบปฏบิ ตั ิ ง. การทดสอบข้อเขียน ๕. บคุ คลท่สี ามารถปฏิบตั ิงานได้ทกุ สภาวะและตดั สินใจจากส่งิ ยวั่ ยไุ ด้ จงึ น่าไปส่คู วามสา่ เรจ็ ลลุ ว่ งไปด้วยดีไมว่ ่าจะอยู่ สภาพแวดลอ้ มใดๆ ก็ตาม บคุ คลเช่นนม้ี ีคณุ ลกั ษณะของผนู้ ่าเร่อื งใด ก. ความอดทน ข.ความเชอื่ ถือได้ ค. ความเดด็ ขาด ง. ความกล้าหาญ ๘. ขอ้ ใด ผูน้ า่ ไม่ควรน่าใชม้ ากที่สุดในการจงู ใจผู้ใต้บังคับบัญชา ก. การตา่ หนิควรต่าหนใิ นท่ีประชุมเทา่ น้ัน เพอื่ ให้ทราบดว้ ยทวั่ กัน ข. การให้รางวัลควรใช้เป็นค่าชมเชยมากกว่าเปน็ ส่ิงของ ค. การให้รางวลั ควรใหใ้ นเวลามีการประชุมช้แี จง ง. การต่าหนคิ วรเรียกมาต่าหนิสองตอ่ สอง

๙. แผนทมี่ าตราส่วน ๑ : ๕๐,๐๐๐ ซ่งึ เป็นแผนทมี่ าตรฐาน จัดอยู่ในกลุ่มแผนท่มี าตราส่วนใด ก. ย่อย ข. ใหญ่ ค. เล็ก ง. กลาง ๑๐. การใชเ้ ขม็ ทศิ เพอื่ ใช้งานในเวลากลางคนื หลงั จากทีห่ มุนแหวนครอบหนา้ ปดั เขม็ ทิศให้ขดี พรายนา่้ ยาว และหัวลูกศรทกั กบั มุมภาคทิศเหนือที่ต้องการ แลว้ ทิศทางหรือแนวท่จี ะต้องเดิมทาง คือแนวใด ก. แนวฝาตลบั เขม็ ทิศ ข. ขดี พรายน้า่ ขาว ค. ไมม่ ีข้อใดถกู ง. หัวลูกศร ๑๓. ระเบียบการน่าหน่วย ขนั้ ที่ ๑ รบั ภารกิจ คา่ ว่า “ภารกิจหรืองาน” มี ๒ รปู แบบ คือ แบบแรกผู้บังคบั หน่วย คดิ เอง และ แบบท่สี องจากหน่วยเหนือหรอื ผู้บงั คบั บญั ชามอบให้ ข้อใดคอื ภารกิจหรอื งานที่หน่วยเหนือมอบให้ ก. ค่าสง่ั ยุทธการ ข. คา่ ส่ังเตอื น ค. ค่าส่ังเป็นส่วนๆ ง. ถูกทุกข้อ ๑๔. เมอ่ื ผบ.หน่วยท่าการวิเคราะห์ปจั จัย METT-TC แล้วผลลพั ธ์ในการวเิ คราะหจ์ ะเป็นข้อมลู ในการกระทา่ หรือ ปฏบิ ัติการตามระเบยี บน่าหนว่ ยข้อใด ก. ใหค้ ่าส่ังเตอื น ข. ออกคา่ สงั่ ยทุ ธการ ค. วางแผนขนั้ ตน้ ง. วางแผนสมบูรณ์ ๑๕. การประมาณสถานการณ์ของผูบ้ งั คับหน่วยทางยุทธวธิ ีนั้นมี ๕ ข้อ อยากทราบว่า การประมาณสถานการณใ์ นข้อท่ี ๔ กล่าวถงึ เรื่องอะไร ก. ข้อตกลงใจ ข. สถานการณ์และหนทางปฏิบตั ิ ค. การวิเคราะหห์ นทางปฏิบัติของทัง้ สองฝ่าย ง. การเปรยี บเทยี บหนทางการปฏบิ ัตขิ องฝ่ายเรา ๑๗. ขอ้ ความ “ท่ีลาดชนั ทีส่ ดุ ซ่ึงยานยนตต์ ิดต้ังยุทโธปกรณ์รบและบรรทกุ น่้าหนักเต็มที่ สามารถ แล่นข้ามลาดไดด้ ว้ ย ความเร็วที่สม่าเสมอ โดยใชเ้ กียร์ตามทก่ี า่ หนด” เป็นความหมายของอะไร ก. มุมลงลาด ข. ระยะสงู พน้ พ้ืน ค. ความสามารถในการไตล่ าด ง. มุมข้นึ ลาด ๑๙. การปรนนิบัตบิ ่ารงุ กอ่ นใชง้ านกระทา่ เพื่ออะไร ก. ตรวจสภาพการยึดตรงั ของตวั รถ ข. ดคู วามถูกต้องของยานพาหนะ ค. ตรวจระบบตา่ งๆ ของเครื่องยนต์ ง. ถูกทุกขอ้ ๒๐. ขอ้ ใดคือความหมายของ “รถพว่ ง” ก.รถยนตท์ ีอ่ อกแบบให้มกี ่าลังมากๆ เพอื่ จะไดล้ ากจงู ได้ ข. รถยนตท์ ีอ่ อกแบบไว้ลากจูงได้โดยมหี ่วงสา่ หรับเกาะ ค. รถทอ่ี อกแบบไว้ส่าหรบั ลากจูงโดยมีคาน และห่วงส่าหรับเกาะ ง. รถยนตท์ ่อี อกแบบไวส้ า่ หรับลากจูงได้ทุกสภาพถนนโดยมีห่วงส่าหรับเกาะ 1 หลักการสอนที่ว่าด้วย \"บอกความม่งุ หมาย\" จะนามาใชใ้ นขน้ั ตอนใดขณะทาการสอน ? a. ขนั้ การอภิปราย b. ขั้นการกล่าวนา c. ขั้นการสรปุ d. ขน้ั ตอนไหนก็ไดแ้ ล้วแตโ่ อกาส 2 วิธีสอนมีอยูห่ ลายวิธี การท่จี ะเลอื กใชว้ ิธกี ารสอนแบบใดนน้ั จะขึ้นอยกู่ บั ปัจจัยในเรือ่ งอะไรบา้ ง ? a. จานวนนักเรียน b. เร่อื งทสี่ อนและเวลา c. พืน้ ฐานความรขู้ องนกั เรียน d. ต้องพิจารณาทกุ ขอ้ ที่กลา่ วมา 3 ในขนั้ ตอนการอธิบายของครู สิ่งทค่ี รจู ะต้องคานึงถงึ มากทีส่ ุด คือ ? a. การรกั ษาความสนใจของนกั เรียน b. การต่อเนือ่ งระหวา่ งหวั ข้อการสอน c. การเนน้ หัวข้อสาคญั d. ต้องกระทาทุกหวั ข้อท่ีกล่าวมา 4 ดาเนินการฝกึ และการประเมนิ ผลการฝึก ส่วนผู้ฝกึ หรือครูฝึกมหี นา้ ทแ่ี ตกต่างจากผอู้ านวยการฝึกในเรื่องอะไร ? a. การเตรยี มการฝึก b. การดาเนินการฝกึ c. การประเมนิ ผลการฝึก d. การจดั ระเบยี บการฝกึ

5 สิ่งท่ีแรก ทีต่ ้องทา เม่ือส่ังการใหก้ ับผ้ใู ตบ้ งั คับบัญชาไปแลว้ คืออะไร ? a. การกากับดูแลท่ีเหมาะสม b. การวางแผนอยา่ งรดั กมุ c. การประเมนิ ความสามารถในการปฏิบตั งิ าน d. การแกป้ ญั หาเฉพาะหนา้ ทร่ี วดเร็ว 6 ผนู้ าอาศยั หลกั เกณฑ์อะไรเพ่ือเป็นเคร่ืองบ่งบอกผลการปฏบิ ตั งิ านของหนว่ ยว่าจะสาเร็จหรอื ล้มเหลว ? a. สง่ิ ชีส้ อบความเปน็ ผนู้ า b. คณุ ลกั ษณะผ้นู า c. พฤตกิ รรมมนุษย์ d. หลกั การผู้นา 7 ขอ้ ใดที่จะไม่ทาใหต้ วั ผ้นู าลัมเหลว ? a. ใช้เวลาในการประมาณสถานการณ์ b. ไมม่ ีความรแู้ ละไมศ่ กึ ษา c. ใช้คนไม่ตรงกบั งาน d. ไมเ่ ข้าใจความต้องการของคน 8 องคป์ ระกอบของความเปน็ ผู้นาทีม่ ีประสิทธภิ าพข้อใดไมเ่ กยี่ วข้องกับ \"การจดั การ\" ? a. อานาจเตม็ b. ประสานงาน c. อานวยการ d. การวางแผน ๙ มาตราสว่ นเส้นบรรทัด ( Bar Scale ) ปรากฎอยู่ส่วนใดของบขอบระวาง a. กงึ่ กลางขอบระวางดา้ นบน b. กึง่ กลางขอบระวางดา้ นล่าง c. มุมขวาขอบระวางด้านลา่ ง d. มมุ ซา้ ยขอบระวางด้านลา่ ง ๑๐ การอ้างกรดิ ทางทหาร (การอ่านพิกัดบนแผนท)่ี ทถี กู ตอ้ งด้วยตาเปล่า ขอ้ ใดถกู ต้อง ? a. ถกู ตอ้ ง 2 กระการ คอื (อ่านพกิ ดั ใกลเ้ คยี ง1,000 ม. และเลยพิกัด 4 ตวั , อา่ นพิกัดใกลเ้ คียง 100 ม. และ เลขพกิ ดั 6 ตวั ) b. อ่านพกิ ดั ใกล้เคียง 100 ม. และเลยพกิ ัด 6 ตวั c. อ่านพิกัดใกลเ้ คยี ง 1,000 ม. และเลยพกิ ัด 4 ตวั d. อา่ นพกิ ดั ใกล้เคียง 10 ม. และเลยพิกัด 8 ตวั 11 สว่ นประกอบของเขม็ ทิศแบบเลนเซติกทีส่ าคัญมี 3 ส่วน ขอ้ ใดถกู a. ฝ่าตลบั เข็มทิศ, ครอบหน้าปดั เข็มทิศ,เรอื นเข็มทศิ b. ไมม่ ีข้อถกู c. เรอื นเขม็ ทศิ , ก้านเลง็ , หน้าปดั เขม็ ทิศ d. ก้านเล็ง, ฝ่าตลบั เข็มทิศ, เรอื นเขม็ ทศิ 12 การวัดมุมภาคทิศเหนือบนแผนท่ีโดยใช้เคร่ืองมือ p-67 หากมุมท่ีต้องการวัดมากกว่า 180 องศา เราจะหัน ส่วนโค้งของเคร่ืองมือไปในลกั ษณะใด a. หันส่วนโคง้ ขึน้ ดา้ นบน b. หันสว่ นโค้งไปทางใดก็ได c. หนั สว่ นโค้งไปทางซ้าย d. หนั ส่วนโคง้ ไปทางขวา 13 ข้อใดใหค้ วามหมายของคาว่า \"กจิ แฝง\"ไดถ้ กู ต้อง a. ภารกจิ /งาน ทหี่ น่วยเหนือมอบให้ b. ภารกจิ /งาน ท่ี ผบ.หนว่ ยทาแลว้ ทาให้งานท่ีหนว่ ยเหนือมอบให้สาเร็จ c. ภารกจิ /งาน ที่ผบ.หนว่ ยรองมอบให้ d. ภารกจิ /งาน ท่ี ผบ.หน่วยคิดข้ึนเอง 14 ระเบียบการนาหน่วย ๘ ขน้ั ข้อใดกลา่ วไม่ถูกตอ้ ง a. ข้นั ที่ ๑ รบั ภารกิจ \"ภารกิจได้มาจาก ๑.ผบ.หน่วยคิดขนึ้ เอง ๒. หนว่ ยเหนอื มอบให้ b. ข้ันที่ ๗ การออกคาส่ังสมบูรณ์หากไม่สามารถมองเห็นที่หมาย ผบ.หน่วย สามารถจัดทาภูมิประเทศจาลองหรือภาพ สงั เขปเพื่อประกอบการออกคาสง่ั ได้ c. ข้ันท่ี ๕ การลาดตระเวนตรวจภูมิประเทศหาก ผบ.หน่วย ไม่สามารถตรวจภูมิประเทศด้วยตนเอง ผบ.หน่วยสามารถ ลาดตระเวนบนแผนท่ีได้,และสามารถสอบถามหน่วยลาดตระเวนของฝ่ายเราได้ d. ข้ันที่ ๒ คาส่ังเตือน มีแบบฟอร์มที่ตายตัวเปลี่ยนแปลงไม่ได้ถูกต้องตามแบบของคาสั่งเตือน ออกได้ไม่เกิน ๑ คร้ังต่อ ภารกจิ และไม่จาเปน็ ตอ้ งระบเุ วลา/สถานทที่ ่ีออกคาสัง่ ยุทธการ 15 ระเบียบการนาหน่วยเป็นกรรมวิธีเพื่อให้บรรลุภารกิจที่ได้รับมอบ เพื่อให้ทุกคนทราบภารกิจ/เตรียมการ พอ มี ๘ ขั้น มีกรรมวธิ ดี าเนินการอย่างไร? a. ไม่จาเป็นต้องทาตามลาดับขัน้ ขนึ้ อยูก่ ับเวลาและสถานการณ์ b. ตอ้ งทาตามลาดบั ขัน้ c. เปน็ กรรมวิธดี าเนินการก่อนรบั ภารกจิ เท่านั้น d. เป็นกรรมวธิ ีดาเนนิ การหลักรบั ภารกจิ เท่านัน้

16 พืน้ ท่ี หากฝ่ายใดฝา่ ยหนึง่ ยดึ หรือครอบครองไว้ไดแ้ ละเกิดความได้เปรียบอย่างเหน็ ไดช้ ดั เรยี กวา่ อะไร a. พน้ื การยงิ b. เครื่องกีดขวาง c. ภูมิประเทศสาคัญ d. แนวทางการเคลอื่ นที่ 17 รยบ. ๑/๔ ตนั ๔x๔ เอ็ม ๑๕๑ เอ.๑ อยากทราบว่า๔X๔ หมายความว่าอย่างไร ? a. รถทม่ี ี ๔ ลอ้ เคลือ่ นทไี่ ดท้ ง้ั ๔ ล้อ b. รถท่ีมี ๔ ลอ้ บรรทกุ กาลังพลได้ ๔ ลน้ c. รถท่มี ี ๔ ล้อ มกี าลงั ขับเคลือ่ น ๔ ล้อ d. รถทีม่ ี ๔ ล้อ ลากจงู รถพ่วงท่ีมลี อ้ ๔ ล้อ 18 ขอ้ ใดต่อไปน้ีคือ \" ระยะสูงพน้ พื้น \" ของรถ ? a. ระยะระหว่างระดบั พ้ืนดินกบั ความสูงของล้อรถ b. ระยะระหว่างระดบั พื้นดินกับความสูงของตวั รถ c. ระยะระหว่างระดบั พนื้ ดนิ กับพนื้ ใต้ทอ้ งรถ d. ระยะระหว่างระดบั พน้ื ดินกับจุดท่ีตา่ ท่สี ุดใตท้ อ้ งรถ 19 การปรนนิบตั บิ ารุงกอ่ นใช้งานกระทาเพือ่ อะไร a. ตรวจระบบต่าง ๆ ของเครอ่ื งยนต์ b. ตรวจสภาพการยึดตรึงของตวั รถ c. ถกู ทุกขอ้ d. ดคู วามถูกต้องของยานพาหนะ 21 คาว่า \" รถบรรทุก \" ทางทหารหมายความว่าอะไร a. รถทใี่ ช้ลอ้ สาหรบั เคล่ือนยา้ ยคน,อาวุธ,กระสนุ และเครือ่ งมือเคร่อื งใช้ b. รถท่ใี ชล้ อ้ หรือสายพานสาหรบั บรรทกุ คนและส่งิ ของทางทหาร c. รถที่ใช้ลอ้ สาหรบั เคล่อื นยา้ ยคน d. รถที่ใชล้ อ้ สาหรบั เคล่ือนยา้ ยคน,สัตว์,ส่งิ ของ 22 ข้อใดคอื ความหมายของคาว่า \"น้าหนกั รถ\" a. นา้ หนกั ทงั้ หมดของรถท่ตี ิดตงั้ อุปกรณพ์ ร้อมเติมน้ามนั เชื้อเพลิงเรยี บร้อย รวมท้งั พลประจารถ b. น้าหนักสมั ภาระหรือผโู้ ดยสาร รวมท้ังเจา้ หน้าทีป่ ระจารถ c. น้าหนักของรถทัง้ หมดท่ตี ิดต้ังอุปกรณแ์ ละสามารถปฏิบัติการได้ รวมทง้ั ผลประจารถและนา้ หนักสมั ภาระ d. นา้ หนักทั้งหมดของรถท่ีตดิ ตงั้ อปุ กรณ์พร้อมด้วยเติมนา้ มันเช้อื เพลิงเรียบรอ้ ย แต่ไม่มผี ลประจารถ 23 ข้อใดคือความหมายของ \" รถพว่ ง \"? a รถยนตท์ ีอ่ อกแบบไวส้ าหรบั ลากจงู ได้ทุกสภาพถนนโดยมีห่วงสาหรบั เกาะ b. รถท่ีออกแบบไว้สาหรบั ลากจงู โดยมีคานและหว่ งสาหรับเกาะ c. รถยนตท์ ่อี อกแบบไว้ลากจงู ได้โดยมีห่วงสาหรบั เกาะ d. รถยนตท์ ่อี อกแบบใหม้ กี าลังมาก ๆ เพ่อื จะไดล้ ากจงู ได้ 24 การปรนนบิ ัติบารงุ ในหน้าท่พี ลขับ (ขนั้ ท่ี ๑) มีการปบ.หลกั อยู่ ๓ ขน้ั คือขอ้ ใด a. กอ่ นใช้งาน ขณะหยุดพกั และขณะใช้งาน b. ขณะหยดุ พัก ขณะใช้งานและในโรงรถ c. กอ่ นใช้งาน ขณะใชง้ านและในโรงรถ d. กอ่ นใช้งาน ขณะใช้งานและหลงั ใช้งาน 25 ลักษณะท่ีหมายของ มว.ปล.ซงึ่ ผบ.รอ้ ย.กาหนดให้ควรมลี ักษณะใด ? a. เมอื่ ยดึ ไดต้ อ้ งควบคุมได้ b. ถูกทกุ ขอ้ c. สงั เกตเหน็ งา่ ยในภูมปิ ระเทศ d. ตอ้ งบรรลุความสาเร็จร่วมกนั 26 แนวปรับรปู ขบวน ผบ.รอ้ ย.เป็นผู้กาหนด อยู่ห่างจากที่หมายประมาณเท่าใด ? a. ๑๐๐ – ๒๐๐ เมตร b. ๑๐๐ - ๑๕๐ เมตร C. ๒๐๐ - ๓๐๐ เมตร d. ๑๕๐ - ๒๐๐ เมตร 27 ความมงุ่ หมายหลักของการรบดว้ ยวธิ ีรกุ คือข้อใด ? a. เพอ่ื ลวงและหันเหการปฏบิ ัติของข้าศึก b. เพอ่ื ยดึ รักษาภูมิประเทศสาคัญ c. เข้าประชิดและตรงึ กาลงั ข้าศกึ ไว้ d. ทาลายกาลงั รบของขา้ ศกึ 28 ภารกิจของหมูป่ นื กลในการเขา้ ตี คืออะไร ? a ยบั ย้ังข้าศกึ b. ผลกั ดันขา้ ศกึ c. ไม่มีข้อใดถูก d. สนบั สนนุ มว.ปล.อย่างใกล้ชิด

29 การเขา้ ตีในเวลากลางคนื ของ มว.ปล. กระทาเพ่ือสงิ่ ใด ? a. หลีกเลีย่ งการสูญเสยี b. ถกู ทุกขอ้ c. ชิงความได้เปรยี บ d. ขยายผลแหง่ ความสาเร็จ 30 แบบของการดาเนินกลยทุ ธ์ แบบใดทม่ี ีความเหมาะสมน้อยท่สี ดุ ? a. ตตี ลบ b. ตเี จาะ c. ตีโอบ d. ตตี รงหน้า 31 แบบของการดาเนินกลยุทธ์ ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ ง ? a. ตีตรงหนา้ , เจาะ , โอบ , ตลบ และแทรกซึม b. ถกู ทุกข้อ c. ตีตรงหนา้ , เจาะ , โอบลอ้ ม , โอบ ๒ ปกี และ แทรกซึม d. เคลื่อนท่ีเขา้ ปะทะ , การเข้าตี , การขยายผล และ การไลต่ ิดตาม 32 การแบง่ มอบพนื้ ท่ใี นการ ปปส. \"กองพนั ทหารราบ\" โดยใชเ้ สน้ แบ่งเขตการปกครองกระทรวง มหาดไทย คอื ? a. ตาบล b. อาเภอ c. หมู่บ้าน d. จังหวดั 33 \"ทหารต้องกระทาการใด ๆ ไม่ให้ข้าศึกได้รับข่าวสารเพ่ิมเติมเกี่ยวกับการปฏิบัติการของฝ่ายเรา\" การกระทาเช่นน้ี เรยี กวา่ ? a. มาตรการควบคมุ b. การแจกจา่ ยขา่ วกรอง c. การรวบรวมข่าวสาร d. การต่อตา้ นขา่ วกรอง 34 การแบ่งพนื้ ท่ีในการ ปปส.\"กองร้อย\" โดยใชเ้ ส้นแบ่งเขตการปกครองกระทรวงมหาดไทย คอื ? a. หม่บู ้าน b. ตาบล c. อาเภอ d. จังหวดั 35 การควบคมุ ของ หมู่ ปล.ในการตั้งรบั โดยปกติผบ.หมู่ มักจะใชว้ ิธีการสอื่ สารเพ่ือควบคุมหมูต่ ามขอ้ ใด. a. ใชพ้ ลนาสาร b. ใชว้ ทิ ยุ c. ใช้ทศั นะ / เสียงสญั ญาณ d. ใชโ้ ทรศพั ท์ 36 หลักการในการป้องกนั การปราบปรามการกอ่ ความไมส่ งบท่ีดีควรมีลักษณะอย่างไร ? a. มเี อกภาพในการปฏิบัติ,ให้ข่าวกรองมากท่สี ุด, ลดความรนุ แรงให้เหลือนอ้ ยทีส่ ุด b. การเตรยี มการฝึกกาลงั พลใหป้ ระสทิ ธิภาพและเขา้ ใจพื้นท่ีปฏิบตั กิ าร c. มกี ารวางแผนท่ีดี สามารถปฏบิ ัติตามแผนเผชญิ เหตุไดต้ ลอด ๒๔ ชม. d เข้าใจปญั หาที่เกิดขึ้น หนว่ ยมงี บประมาณเพียงพอ 37 การควบคุมเชลยศกึ มวี ธิ ปี ฏบิ ตั ิอย่างไร ? a. ดว้ ยระบบ SALUTE b. ระบบใดกไ็ ดท้ ส่ี ามารถทาได้ c. ด้วยระบบเอส (S) (ค้น - แยก - เงียบ -เร็ว - พิทักษ์ ) d. ค้นหา - ตรงึ - ยึด - ลวง 38 ในการเลือกท่ตี ั้งยงิ ของ ปกโดยปกติ ผ้ทู ่ีเลอื กและกาหนดทตี่ ั้งยงิ ท่ีแน่นอน คอื ใคร. a. ผบ.มว.ค. b. ผบ.หมู่ ปก. c. ผบ.มว.ปล. d. ผบ.หมู่ ปล. 39 การพัฒนาภายในและการป้องกันภายในมอี งคประกอบทส่ี าคัญทางยุทธศาสตรใ์ นการปปส. คอื ? a. การพัฒนาทีส่ มดุล,คารระดมสรรพกาลัง การรกั ษาความปลอดภัย,การทาลายองคก์ รของ ฝกส. b. เศรษฐกิจ, สงั คม,จิตวทิ ยา, ยุทธศาสตรก์ ารป้องกันการกอ่ ความไม่สงบ c. การปรบั ปรุงสภาพแวดลอ้ มช่วยเหลอื ประชาชนและทรพั ยากร d. มเี อกภาพในการปฏิบัติ,ใหข้ ่าวกรองมากทส่ี ดุ , ลดความรนุ แรงให้เหลอื น้อยทส่ี ุด

40 ในการเลอื กใชห้ ลมุ บคุ คลในการตง้ั รบั ของมว.ปล.โดยปกตกิ จะพิจารณาจากปจั จยั พนื้ ฐานใด. a. กาลงั ของหมู่ b. ขวัญของกาลงั พล c. ห่ีกลา่ วมาถูกทกุ ข้อ d. พนื้ การยงิ 41 ขอ้ ใดกลา่ วถงึ การจัดตรยี มทม่ี ่ันในการตงั้ รบั ไดถ้ กู ต้อง a. ที่ม่ันยดึ พื้นท่ี และท่มี ่ันคล่องตวั b. ทมี่ ่ันยึดพนื้ ที่ และท่ีมน่ั ตง้ั รบั ประณีต c. กม่ี ่นั ต้งั รบั ประณีตและที่มั่นต้ังรบั เร่งดว่ น d. ทมี่ ั่นคลอ่ งตวั และทม่ี ั่นต้ังรบั เรง่ ดว่ น 42 ในระหวา่ งการตัง้ รบั โดยปกติ ผบ.หมู่ จะไมท่ าการยงิ แต่จะทาการยงิ ได้ ในกรณีใด. a. ทาการยิงเพ่ือช้ีเปา้ หมาย b. ท่กี ล่าวมาถูกทกุ ขอ้ c. ขา้ ศึกเขา้ มาในระยะประชิด d. เป็นสัญญาณเปิดฉากการยิง 43 หัวขอ้ การรายงานข่าวสารเกยี่ วกับขา้ ศกึ ประกอบดว้ ย ? a. ด้วยระบบเอส (S) b. SALUTE / ขนาด พฤติกรรม ทีต่ ั้ง หนว่ ย เวลา ยทุ โธปกรณ์ c. ขนาด พฤติกรรม ทต่ี ง้ั หน่วย เวลา ยทุ โธปกรณ์ d. SALUTE 44 ข่าวสารตา่ ง ๆ ทไี่ ด้มา จะสมบูรณจ์ นกลายเป็นขา่ วกรอง หลังจาก ? a. ทกุ ข้อที่กลา่ วมา b. ตคี วามแลว้ c. รายงานให้ ผบช.ทราบแลว้ d. รวบรวมและรายงานแล้ว 45 การทดสอบพชื ที่กนิ ได้ กระทาได้อยา่ งไร a. ชิมคอย b. ดจู ากสัตว์ c. สอบถามชาวบา้ น d. ถูกทกุ ข้อ 46 การปลอมแปลง ปดิ บัง โดยการเดินทางปะปนไปกับพลเรอื น เปน็ การเลด็ ลอดหลงั แนววิธีใด a. เลด็ ลอดโดยการลวง b. เลด็ ลอดโดยการลวง และ ปฏิบัตกิ ารแบบกองโจร c. ปฏบิ ตั กิ ารแบบกองโจร d. โดยการแทรกซมึ 47 การเลด็ ลอดชนิดใด ปฏิบัตติ อ่ จากการหลบหนี a. ระยะใกล้ b. แทรกซมึ c. ระยะไกล d. การรบแบบกองโจร 48 การคานวณจานวนคนมีสูตรการคานวณอยา่ งไร ? a. ขีดกรอบยาว 36 นิว้ หารด้วย 2 b. หารอยเทา้ หลกั c. ขีดกรอบยาว 18 น้ิว d. ท่กี ล่าวมาถูกทุกขอ้ 50 ลักษณะรอยท่ีพบเกิดจากขา้ ศึกเคล่อื นท่เี ร็ว ๆ หรือวิ่ง รอยจะมีลักษณะอย่างไร ? a. รอยห่าง, รอยลึก, รอยเป็นแนวเดยี วกนั b. รอยหา่ ง, รอยกระจาย, รอยเป็นแนวเดียวกนั c. รอยหา่ ง, รอยค่อย, รอยลึก d. รอยห่าง, รอยกระจาย, รอยต้ืน 51 การพสิ ูจนฝ์ ่ายเพอ่ื ต้องการทราบวา่ เป็นหน่วยทหารฝ้ายเดียวกนั สิง่ ทต่ี อ้ งแสดงนน้ั อยา่ งไร ? a. หมายแนว หมายทต่ี งั้ b. ทัศนสญั ญาณ c. ลข.ควน้ สแี ดง d. แผน่ ผ้าสญั ญาณ VS - 17 ปูเป็นตัวอักษร 52 ในการเตรยี มการในระหวา่ งรออนมุ ตั ิคาขอ และรออากาศยานมาสนบั สนุน ผ้บู งั คบั หน่วยจะตอ้ งกระทาส่ิงใดบา้ ง? a. ดารงการตดิ ตอ่ ส่ือสารกับ บ. หนว่ ยเหนือ b. ถกู กขุ อ c. ผบ.หน่วย ให้ พลวิทยเุ ปน็ ผูใ้ ช้วทิ ยุเพยี งผเู้ ดยี ว d. ใหก้ าลังพลในหน่วยเฉลีย่ กระสนุ เตรียมตะลมุ บอน ๕๓ เม่ือเราอยใู่ นป้าอันตรายท่จี ะเกิดกับเรามี 2ประเภทได้แก่ ? a. กินอาหารท่ีเป็นพษิ และไขป้ า่ b. ธรรมชาตขิ องปา่ และทหารข้าศึก c นาปา่ และสัตวป์ า่ d. พชื ทเ่ี ปน็ พิษและสตั ว์ปา่ ๕๔ คาขอทนั ทที ันใดมหี วั ข้ออะไรบ้าง ? a. ใคร อะไร ท่ไี หน เมือ่ ไร ทาไม อย่างไร b. ใคร อะไร ทีไ่ หน เมอ่ื ไร อย่างไร เทา่ ไร c. ใคร อะไร ทไี่ หน ทาไม เมอ่ื ไร d. ใคร อะไร ทไี่ หน อย่างไร

๕๕ เม่อื มีการเรยี นการสอนท่ีเนน้ ความสาคญั ในระดบั มว.ปล. ผู้เขา้ รบั การฝึก / ศึกษา ทราบหรอื ไม่วา่ ชุด โทรศพั ทส์ นาม (ตาม อจย.) ท่ีนยิ มใชใ้ นแนวหน้าระดบั หมู่, มว. คอื ? a. โทรศัพท์กาลงั งานเสียง b. โทรศพั ท์ประจาสนาม c. TA-43 d. SAMSUNG ๕๖ การสอื่ สารทางสาย ปกติจะไม่นามาใชส้ าหรบั ในกรณีใด ? a. ควบคมุ การยิง b. ควบคมุ ทางยุทธวิธี c. ใช้ รบั - ส่ง ข่าวคาสงั่ ยุทธการในการรบ d. ติดต่อทางดา้ นธุรการและสง่ กาลังบารงุ ท่ัวไป ๖๐ การจัดอัตรายุทโธปกรณ์กองทัพบก ฉบับท่ี ๑๖(พ.ศ.๒๕๕๒) ในส่วน บก.พัน ร. เพิ่มเติมให้มี \"ฝ่ายสื่อสารและ สารสนเทศ\" อยากทราบว่า อจย.หมายเลข ๗ -๑๑ วา่ ดว้ ยเรอ่ื งอะไร ? a. อตั ราการจดั ฯ กรม ร. b. อัตราการจัดฯ ร้อย.ค. หนกั กรม ร. c. อตั ราการจัดฯ พนั .ร. d. อตั ราการจดั ฯ กองร้อยอาวธุ เบา ๖๑ เครอ่ื งมือเครือ่ งใชข้ องผ้ตู รวจการณท์ ใ่ี ชว้ ดั มุมทางระดับเพ่ือนามาคานวณการยา้ ยยงิ เรียกวา่ อะไร a. กลอ้ งสอ่ งสองตา b. แผน่ เรขายิง c. เข็มทิศแบบ M2 และ กล้องส่องสองตา d. เขม็ ทิศแบบ M.2 ๖๒ หนึ่งคลกิ ของควงมมุ สงู และควงมุมทศิ ของปืนเลก็ ยาว เอม็ .16 ในระยะ 25 เมตร จะเล่อื นรอยกระสุนถกู ก่ี ชม.? a. 3 ซม. b. 0.7 ซม. c. 2.8 ซม. d. 2.4 ซม. ๖๓ การกะระยะด้วยสายตา โดยวิธีกาหนดหน่วยหลัก 100 เมตร ควรฝึกให้ทหารสามารถกะระยะได้แม่นยาและ ใกล้เคียงกับความเปน็ จริงจนถึงระยะเท่าใด ? a. 300 เมตร b. 800 เมตร c. 900 เมตร d. 500 เมตร ๖๕ การยิงซง่ึ แกนทางยาวของรปู อาการกระจายทบั หรือเกือบทบั แกนทางยาวของเป้าหมาย หมายถงึ ข้อใด ? a. การยงิ ตามแนว b. การยงิ ทางปีก c. การยงิ ตรงหน้า d. การยงิ ทางเฉยี ง ๖๖ รศั มอี นั ตรายของเคร่อื งยิงลูกระเบิด เอม็ 79 หรือเอม็ 203 จะมีรศั มีอันตรายประมาณกีเ่ มตร ? a. 3 เมตรู b. 7 เมตร c. 10 เมตร d. 5 เมตร ๖๗ พนื้ ทีร่ ะหวา่ งปืนถึงเป้าหมาย เม่อื วิถกึ ระสุนไมส่ งู เกนิ ความสงู เฉลยี่ ของคนยืน (1.8 เมตร) รวมทั้ง พ้นื ท่ี ของรปู อาการกระจายด้วย หมายถงึ ข้อใด ? a. กรวยกระสนุ วถิ ี b. การยงิ กราด c. ย่านอนั ตราย d. รปู อาการกระจาย ๖๘ ขอ้ ใดกลา่ วถึงการลั่นไกได้ถกู ต้องทีส่ ุด a. ล่นั ไกอยา่ งเร็ว b. ลัน่ ไกท่ีละคลกิ c. ล่นั ไกโดยการค่อยๆสร้างแรงบบี d. ลนั่ ไกโดยใช้ปลายน้วิ โดยคอ่ ยๆสร้างแรงบีบ ๖๙ เขม็ ทศิ เอ็ม.2 จะมตี วั เลขคกู่ ากับไวต้ ัง้ แต่ 0 ถงึ 6200 โดยเว้นหา่ งกนั เทา่ ไร ? a. 100 มิลเลยี ม b. 400 มลิ เลียม c. 200 มิลเลียม d. 300 มิลเลียม ๗๐ การกาหนดที่ตงั้ เปา้ หมายท่บี อก \"มมุ ภาค, ระยะ,สูงข้ึน/ตา่ ลง\" เป็นการกาหนดที่ต้งั เปา้ หมายแบบใด ? a. แบบหมายตาบลระเบิด b. พิกัดโปล่าร์ c. แบบย้ายจากจุดที่ทราบ d. แบบพิกัดตาราง ๗๑ การกาหนดท่ตี ั้งเปา้ หมายของผู้ตรวจการณห์ นา้ ที่นิยมใช้มีกี่วริ ี ? a. 2 วธิ ี b. 3 วธิ ี c. 4 วิธี d. 1 วิธี ๗๒ เปา้ หมายที่มีขนาดความกวา้ งและความลกึ เกือบเท่ากนั หมายถงึ ข้อใด ? a. เปา้ หมายเป็นแนว b. เปา้ หมายเปน็ พนื้ ที่ c. เปา้ หมายเป็นตอนทางลึก d. เป้าหมายเปน็ จดุ

๗๓ ดินระเบิด TNT ขนาดใด เหมาะสาหรับใชใ้ นการฝกึ เพอ่ื ให้เกดิ ความค้นุ เคย a. ๑ ปอนด็ b. ๑/๔ ปอนด์ c. ๑/๒ ปอนด์ d. ๓/๔ ปอนด์ ๗๔ วตั ถรุ ะเบิดทางทหารแบ่งออกเปน็ ก่ีประเภท a. ๑ ประเภท b. ๔ ประเภท c. ๒ ประเภท d. ๓ ประเภท ๗๕ อัตราการจดั ของ มว.ค. ๖๐ ประกอบดว้ ยกี่ หมู่ ๆละกี่ นาย ทงั้ มวด. มกี าลังพลทงั้ สน้ิ กี นาย a. ๓ หมู่ ๆ ๔ นาย รวมทั้ง มว.ค. ๑๕ นาย b. ๓ หมู่ ๆ ๔ นาย รวมทงั้ มว.ค. ๑๘ นาย c. ๓ หมู่ ๆ ๖ นาย รวมท้งั หมวด ๒๒ นาย d. ๓ หมู่ ๆ ๕ นาย รวมทัง้ มว.ค. ๒๐ นาย ๗๖ ปก.เอม็ .อ๐ สามารถทาการยิงหวงั ผลได้ในระยะเท่าใด a. ๑,๕00 เมตร b. ๑,๒00 เมตร C. ๑,๑00 เมตร d. ๑,000 เมตร ๗๗ สว่ นประกอบของท่นุ ระเบิดส่วนใดทอี่ าจไม่มีก็ได้ a. ดนิ ระเบดิ หลัก b. ดนิ นาหรือดินปะทุ c. เปลือกทุ่นระเบิด d. ชนวน ๗๘ เครอื่ งกีดขวางลวดหนามแบง่ ออกไดต้ ามภารกจิ ในการตัง้ รับดงั นี้ a. ร้ัวลวดหนามปอ้ งกนั ตน และเพมิ่ เตมิ b. ร้วั ลวดหนามทางยทุ ธวธิ ี,ป้องกันตน และรว้ั ลวดทางปกี c. ร้วั ลวดหนามทางยทุ ธวธิ ี และเพิ่มเติม d. รว้ั ลวดหนามทางยุทธวิธี,ปอ้ งกนั ตน และเพมิ่ เตมิ ๗๙ การแกไ้ ขเหตุติดขดั ทันทีทนั ใดของ ปลย.เอม็ .๑อ เอ ๑ มีขน้ั ตอนในการปฏิบัตทิ ่ถี ูกต้องอย่างไร a. ตบ, คัน, ดงึ , เลง็ , ยิง b. ดนั , ดงึ , ตบ, เล็ง, ยิง c. ดงึ , ตบ, คนั , เล็ง, ยิง d. ตบ, ดงึ , ดนั , เล็ง, ยิง ๘๐ ปลย.เอม็ .๑๖ เอ ๔ มีเกลยี วภายในลากล้อง ๖ เกลยี ว เวียนขวา ๒ รอบ ยาวกนี่ วิ้ a. ๗ นิว้ b. ๑๖ นิ้ว c. ๑๔ นิว้ d. ๑๕ น้วิ ๘๑ ขอ้ ใดคือโอกาสใช้เลง็ ทีศ่ นู ย์บาก ปลย.11 a. เป้าอย่ทู ่รี ะยะ ๒๐๐ ม. ยงิ เปา้ เคลื่อนท่ี b. เปา้ อยูเ่ กินระยะยิง ๒๐๐ ม. ขึน้ ไปทศั นะวิสัยไม่ดี c. ทัศนะวสิ ยั ไมด่ ี เป้าเคลอ่ื นทร่ี ะยะไมเ่ กิน ๑00 ม. d. เปา้ อยู่ทีร่ ะยะ ๑๕๐ ม. ถงึ ๒๐๐ ม. เปา้ เคลอ่ื นที่ ๘๒ ขอ้ พิจารณาประการแรกในการเลอื กทีต่ งั้ หลมุ บุคคล เพอ่ื ใชท้ าหลมุ ทาการรบนนั้ ข้อใดถกู ตอ้ ง a. มีการซอ่ นเรน้ ดี b. มกี ารกาบังจากการยงิ ดี c. มีพนื้ การยิงดี d. สามารถตอ่ สู้ได้รอบตวั ๘๓ ท่นุ ระเบิดสังหารบุคคลแบบ M ๑๔ มกี ารทางานอย่างไร: a. แบบบงั คบั จุด b. บังคับทิศทาง c. การระเบิดอยกู่ ับท่ี d. กระโดดระเบิด ๘๔ ขอ้ ใดเปน็ องคป์ ระกอบของการจดุ ระเบิด กับระเบดิ แสวงเครื่องพวกใช้เช้อื ปะทุไฟฟ้า a. ดนิ ระเบดิ , เชอื้ ปะทไุ ฟฟา้ , เคร่ืองจุดระเบิดมาตรฐาน และแบตเตอร่ี b. ดนิ ระเบิด , เช้ือปะทุไฟฟา้ , สวิทชจ์ ดุ ระเบิด และแบตเตอรี่ c. ดนิ ระเบิด , เชื้อปะทุชนวน , เครอ่ื งจดุ ระเบดิ มาตรฐาน และสวิทชจ์ ุดระเบดิ d. ดนิ ระเบิด , เช้อื ปะทชุ นวน , สวิทช์จุดระเบดิ และแบตเตอร่ี ๘๕ ขอ้ ใดเปน็ องคป์ ระกอบของการจดุ ระเบดิ กบั ระเบิดแสวงเคร่อื งพวกใช้เชื้อปะทุชนวน a. ดนิ ระเบิด , เชอ้ื ปะทชุ นวน และเครื่องจุดระเบิดมาตรฐาน b. ดินระเบดิ , เชอ้ื ปะทุไฟฟา้ และเคร่ืองจุดระเบิดมาตรฐาน c. ดนิ ระเบดิ , เชอ้ื ปะทชุ นวน และแบตเตอร่ี d. ดินระเบดิ ..เนือ้ ปะทไฟฟ้า และแบตเตอร่ี

๘๖ ท่ายงิ ปกตขิ อง ปพ.๘๖ คอื ขอ้ ใด a. ทา่ ยนื ยงิ ,นงั่ คกุ เขา่ ยงิ b. ทา่ ยืนยงิ ,นง่ั คุกขา่ ยิง,ยืนย่อตวั ยงิ c. ห่ายนื ยงิ ,น่งั ราบยงิ สองมอื ,นั่งคกุ เข่ายงิ ,ยืนย่อตัวยงิ d. ท่ายนื ยิง ๘๗ กระสุนของ ปพ.๘๖ มกี ่ีชนิด a. 6 b. ๒ C. ๕ d. ๓ ๘๘ ถ้าทาการยงิ ค. ขนาด ๔๐ มม.เอ็ม.๒๐ต กระสุนไม่ลนั่ หรอื ล่ันช้าใหท้ าการปฏิบัติอย่างไร a. คอย ๑๕ วนิ าที b. คอย ๓๐ วินาทีี c. ไมม่ ขี อ้ ถูก d. นากระสุนออก ๘๙ ข้อใดไมใ่ ช่คุณลกั ษณะของ ค. ขนาด ๖๐ มม. a. แบบ ศอว.ทบ. แผ่นฐานลักษณะกลม b. ใชก้ ล้องเลง็ เอม็ .๕๓ เท่านั้น เปน็ เคร่อื งช่วยเลง็ c. แบบ เอม็ ๑๙ มีเครื่องล่ันไกทีเ่ ครือ่ งปดิ ท้ายลากล้อง d. แบบ เอม็ .ษ แผน่ ฐานมีลกั ษณะเป็นรูปสี่เหลี่ยม ๙๐ อัตรากระสนุ มลู ฐาน ของ ปก.๓๘ ใน ๑ กระบอกจะมกี ระสนุ จานวนก่ีนดั a. ๓,๖๐๐ นดั b. ๑,๘๐0 นัด c. ๒,๖๐๐ นดั d. ๓,๑๐๐ นัด ๙๔ ดนิ ระเบดิ หลกั ท่ีบรรจุอยู่ในเชื้อปะทุชนวนและไฟฟ้า คือดนิ ระเบดิ ชนดิ ใด a. อาร.ดี.เอก๊ ซ์ b. ดนิ ดา c. เพ็นโกไลท์ d. พี.อี.ท.ี เอน็ ๙๕ ขอ้ ใดคือรปู แบบของระเบดิ แสวงเครือ่ งทใี่ ชใ้ นพืน้ ท่ี ๓ จังหวัดชายแดนภาคใต้: a. ถูกทุกข้อท่กี ล่าวมา b. บังคับจุด c. ถว่ งเวลา d. กระทาโดยเหยือ่ ๙๖ พ้นื ทอ่ี ันตรายท้ายเครือ่ งยิงของ ปรส.๘๔ มม.เอม็ .ตมีระยะเท่าไร a. ๗๕ เมตร b. ๖๕ เมตร C. ต๕ เมตร d. ๕๕ เมตร ๙๗ การพนั ลวดเขา้ กบั เสาเหล็กเกลยี วมีอยู่ ๒ แบบดังนี้ a. การพันลวดกบั ตากลางและตาลา่ ง b. การพนั ลวดกับตาบนและตาล่าง c. การพนั ลวดกบั ตาบนและตากลาง d. การพันลวดกบั ตาบนและตาที่ ๓ ๙๘ ปก.เอ็ม.๖๐ ใน ๑ หมู่ ปก. จะมีกาลังพลกน่ี าย a. ๕ นาย b. ๙ นาย C. ๘ นาย d. ๔ นาย ๙๙ อตั รามูลฐานกระสุน ค. อตั โนมัติ ๔๐ มม. มีจานวนเท่าไร (ตามคาส่งั ทบ.) a. ๓๒0 นัด b. ๓๐๐ นดั c. ๓๕๐ นัด d. ๔๐๐ นัด ๑๐๐ ระยะยงิ หวงั ผลของ ปลก.เนเกฟ ข้อใดถูก a. ๗๑0 เมตร b. ๘00เมตร c. ๙O0เมตร d. ๑,000 เมตร ๑. ขอ้ ใดเปน็ เหตุผลและ ความจา่ เปน็ ที่ต้องศึกษาวชิ าครทู หาร ก. เพราะเปน็ วชิ าท่เี รยี นง่าย ข. เพอ่ื ให้มีความร้ใู นข้นั ตน้ ค. เพ่ือเป็นหลักในการอบรมสั่งสอนผู้อ่นื ง. เพือ่ ความก้าวหน้าทางราชการ ๒. ขณะท่าการสอนหรือเม่ือสอนจบบทเรียนแล้ว นักเรยี นถามค่าถามมาก จ่านวนค่าถามจะเปน็ เคร่ืองบ่งช้ีถงึ เร่ืองอะไรมากที่สดุ ก. บทเรียนนนั้ เป็นเร่อื งทยี่ ากมาก ข. บทเรียนนน้ั มีความสา่ คัญมาก ค. นกั เรยี นสนใจเรยี นในวิชานน้ั ง. บทเรยี นนน้ั ครูสอนได้ดมี าก ๓. วธิ ีการสอนแบบใด ทไ่ี มส่ ่งเสริมใหน้ ักเรยี นใช้ความคิดและจะไมน่ า่ มาสอนกบั นักเรยี นในระดบั ตา่ ๆ ก. วธิ ีสอนแบบเชงิ บรรยาย ข. วธิ สี อนแบบเชิงประชุม

ค. วธิ สี อนแบบแกไ้ ขปญั หา ง. วิธีสอนแบบเชงิ แสดง ๔. องค์ประกอบของการกลา่ วน่าทตี่ อ้ งนา่ มากลา่ วเสนอในครั้งแรกของการสอนคอื อะไร ก. การแนะน่าตวั ของครู ข. ความมงุ่ หมายและเหตุผลในการเรียน ค. การแนะน่าอปุ กรณ์การสอน ง. ต้องกล่าวท้ังหมดทุกขอ้ ๕. “ความจงรกั ภักด”ี มีความหมายตรงกบั ขอ้ ใด ก. เปน็ ผทู้ ่มี อี ุปนสิ ัยซื่อตรงและต้ังมัน่ อยใู่ นหลักธรรมต่างๆ และมคี วามซื่อสตั ย์อยา่ งแทจ้ ริง ข. เป็นคุณสมบัติของความซ่ือสัตย์ที่มตี ่อประเทศชาติกองทัพบก หน่วยของตน ผู้อาวุโส ผู้ใต้บังคับบัญชา มิตรสหาย ค. เป็นผูท้ ี่มีความรกั เพอ่ื น มิตรสหาย อยา่ งจรงิ ใจ ง. การแสดงออกถงึ ความสนใจและมใี จจดจ่อต่อการปฏบิ ตั ิงาน ๖. องคป์ ระกอบของความเป็นผนู้ า่ ท่มี ปี ระสิทธภิ าพ ข้อใดไมเ่ ก่ยี วกับ “การจดั การ” ก. การวางแผน ข. อา่ นวยการ ค. ประสานงาน ง. อา่ นาจเตม็ ๗. ขอ้ ใดทจี่ ะไม่ท่าให้ตัวผู้น่าล้มเหลว ก. ใช้คนไม่ตรงกบั งาน ข. ไม่เข้าใจความต้องการของคน ค. ใชเ้ วลาในการประมาณสถานการณ์ ง. ไมม่ คี วามรู้และไม่ศึกษา ๘. ผูน้ ่าอาศยั หลกั เกณฑ์อะไรเพ่ือเปน็ เครอื่ งบง่ บอกผลการปฏิบตั ิงานของหนว่ ยว่าจะสา่ เร็จหรือล้มเหลว ก. พฤตกิ รรมมนษุ ย์ ข. คุณลักษณะผ้นู ่า ค. สง่ิ ช้ีสอบความเป็นผ้นู ่า ง. หลกั การผนู้ ่า ๙. เส้นช้ันความสูงท่ีแสดงบนแผนที่ มี ๕ ประเภท ข้อใดไม่ใช่ ก. เสน้ ชั้นความสูงพอประมาณ ข. เสน้ ชัน้ ความสงู ดเี พรสชน่ั ค. เสน้ ช้นั ความสงู รอง ง. เสน้ ชน้ั ความสงู หลกั ๑๐. โดยปกตถิ า้ เราตอ้ งการจะอา่ นคา่ มุมภาคทิศเหนอื บนเข็มทิศเลนเซติก จะตอ้ งอ่านค่ามมุ ภาคทิศเหนือที่ส่วนใดบน หนา้ ปดั ข็มทิศ ก. เส้นดชั นีช้ีมมุ ภาคทศิ เหนอื และ เสน้ ดชั นสี ีด่า ข. เสน้ ดชั นีช้ีมมุ ภาคทศิ เหนือ ค. หัวลูกศร ง. เสน้ ดชั นีสีด่า ๑๑. การกา่ หนดพกิ ัดกริดใกล้เคียง ๑๐ เมตรหรือการอ่านพิกัดใกล้เคียง ๑๐ เมตร ต้องอ่านด้วยตัวเลขกต่ี วั ก. ๕ ตัว ข. ๖ ตวั ค. ๗ ตวั ง. ๘ ตวั ๑๒. ข้อระวงั ในการใชแ้ ละเก็บรักษาเข็มทิศแบบเลนเซติก ข้อใดกลา่ วถูกต้อง ก. จะต้องอยหู่ า่ งจากปืนใหญ่สนามนอ้ ยกวา่ ๑๘ เมตร ข. ควรให้หา่ งจากสายโทรเลข ๑๐ เมตร ค. เม่ือไมใ่ ชจ้ ะต้องเกบ็ ใสซ่ องให้เรียบร้อย ง. ต้องห่างจากปืนกล ๐.๒ เมตร ๑๓. เม่อื ผบ.มว.ปล. ไดร้ บั ค่าส่ังยุทธการเข้าตดี ้วยวาจา ผบ.ร้อย เสรจ็ เรียบร้อย แล้ว ผบ.มว.ปล. จะตอ้ งวางแผนการใช้เวลา อย่างไร ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้อง ก. ผบ.มว.ปล. ใช้เวลา ๒ ใน ๓ เวลา ๑ ใน ๓ ท่เี หลือจะเปน็ เวลาของ ผบ.หนว่ ยรอง ข. ผบ.มว.ปล. ใชเ้ วลา ๑ ใน ๓ เวลา ๑ ใน ๒ ทเ่ี หลอื จะเป็นเวลาของ ผบ.หน่วยรอง ค. ผบ.มว.ปล. ใช้เวลา ๑ ใน ๓ เวลา ๑ ใน ๓ ที่เหลอื จะเปน็ เวลาของ ผบ.หนว่ ยรอง ง. ผบ.มว.ปล. ใช้เวลา ๑ ใน ๓ เวลา ๒ ใน ๓ ท่เี หลอื จะเป็นเวลาของ ผบ.หนว่ ยรอง ๑๔. ผบ.มว.ปล ออกคา่ สัง่ ให้ ผบ.หมู่ ปล. ท่ี ๑, ๒, ๓ และ ผบ.หมู่ กก. คา่ สั่งมรี ายละเอยี ดดงั ต่อไปน้ี “ภารกิจ มว.ปล. ที่ ๑ จะเข้าตีใน ๑๖๐๙๐๐ ก.พ.๕๒ เพื่อเข้ายึดเขานกกระจบิ ให้ ผบ.หมู่ ปล. ที่ ๑, ๒, ๓ และ ผบ. กก. ไปรับค่าสั่ง เข้าตที ี่ ตก. หมวด บรเิ วณพิกดั NP๙๒๑๗๔๓ ใน ๑๕๐๘๐๐ กงพ.๕๒” หมายถึงค่าสง่ั ข้อใด ก. คา่ สัง่ ยุทธการ ข. คา่ ส่งั เตือน ค. คา่ สั่งชี้แจง ง. คา่ ส่งั เป็นสว่ นๆ

๑๕. ปจั จัยการยทุ ธ (METT - TC) อยากทราบวา่ T ตัวแรก คือข้อใด ก. ภมู ปิ ระเทศและลมฟา้ อากาศ ข. กา่ ลงั ท่ีมีอยู่ ค. ขา้ ศึก ง. เวลาทมี่ อี ยู่ ๑๖. การประมาณสถานการณ์ของผู้บงั คับหน่วย ทางยุทธวธิ ีนนั้ มี ๕ ข้อ อยากทราบว่า การประมาณสถานการณ์ในที่ขอ้ ท่ี ๔ กล่าวถงึ เรอื่ งอะไร ก. ภารกจิ ข. สถานการณ์และหนทางการปฏิบตั ิ ค. การเปรียบเทียบหรทางปฏิบตั ิของฝ่ายเรา ง. ข้อตกลงใจ ๑๗. การปรนนิบัติบ่ารุงในหน้าท่พี ลขบั (ขน้ั ท่ี ๑) มีการ ปบ.หลกั อยู่ ๓ ขนั้ คือขอ้ ใด ก. กอ่ นใชง้ าน ขณะหยุดพัก และขณะใชง้ าน ข. ขณะหยดุ พกั ขณะใช้งานและในโรงรถ ค. ก่อนใชง้ าน ขณะใชง้ านและในโรงรถ ง. กอ่ นใชง้ าน ขณะใชง้ านและหลังใชง้ าน ๑๘. ข้อใดคือความหมายของค่าวา่ “นา่้ หนักรถ” ก. น้า่ หนักทง้ั หมดขจองรถท่ีติดตั้งอุปกรณ์พรอ้ มเตมิ นา่้ มันเช้อื เพลิงเรียบร้อย รวมท้งั พลขบั ประจ่ารถ ข. น้่าหนักสมั ภาระหรอื โดยสาร รวมทั้งเจา้ หนา้ ที่ประจา่ รถ ค. นา้่ หนักท้ังหมดของรถทตี่ ิดต้ังอุปกรณพ์ ร้อมด้วยเติมนา่้ มันเชอื้ เพลงิ เรยี บร้อย แตไ่ ม่มีพลประจ่ารถ ง. นา่้ หนกั ของรถทงั้ หมดท่ีตดิ ตง้ั อปุ กรณ์และสามารถปฏบิ ตั ิการได้รวมทั้งพลประจา่ รถ และน่้าหนกั สมั ภาระ ๑๙. น่า้ หนักทั้งหมดของรถท่ีตดิ ต้งั ยทุ โธปกรณ์พรอ้ มดว้ ยเตมิ น้่ามันเช้ือเพลงิ น่้า นา่้ มนั หลอ่ ล่นื แตไ่ ม่มีพลประจ่ารถคือ ความหมายของค่าวา่ อะไร ก. น่า้ หนักบรรทกุ ในภูมิประเทศ ข. น้า่ หนกั ทงั้ หมด ค. นา้่ หนักรถ ง. น่้าหนกั สมั ภาระ ๒๐. ผบช. มุ่งหวังในการ ปบ. ในหน้าที่พลขบั (ขั้นที่ ๑) นัน้ เพอ่ื ประสงค์อะไร ก. ต้องการให้มีงานท่า ข. เพ่อื ต้องการเบิก สป. ค. เพอื่ รักษายทุ โธปกรณแ์ ละเพ่ือให้มปี ระสิทธิภาพ ง. เพอ่ื เอาไปแก้ไขข้อบกพร่อง ๒๑. การปรนนบิ ตั ิบา่ รงุ เป็นหวั ใจส่าคัญ พลขบั จะละเลยเสียมไิ ด้ คือการ ปบ. ประเภทไหน ก. การ ปบ. รอบ ๖ เดือน ข. การ ปบ. ประจ่าสัปดาห์ ค. การ ปบ. รอบ ๓ เดอื น ง. การ ปบ. ประจา่ วัน ๒๓. การปรนนิบัตบิ า่ รุงก่อนใช้งานกระทา่ เพ่ืออะไร ก. ดคู วามถกู ตอ้ งของยานพาหนะ ข. ตรวจระบบต่างๆ ของเครื่องยนต์ ค. ตรวจสภาพการยดึ ตรงึ ของตัวรถ ง. ถกู ทกุ ข้อ ๒๔. ค่าว่า “รถบรรทกุ ” ทางทหารหมายความวา่ อะไร ก. รถที่ใช้ล้อส่าหรบั เคลื่อนยา้ ย คน, สตั ว์, สิ่งของ ข. รถท่ใี ชล้ อ้ สา่ หรบั เคลื่อนย้าย คน, อาวธุ , กระสนุ และเคร่ืองมือเคร่ืองใช้ ค. รถท่ใี ชล้ อ้ ส่าหรับเคลื่อนยา้ ยคน ง. รถทใ่ี ช้ล้อ หรือสายพานสา่ หรับบรรทกุ คน และสิ่งของทางทหาร ๒๕. ขอ้ ความท่กี ลา่ วสั้นๆ ว่า “ ค้น-ตรึง-ส้รู บ-ตดิ ตาม และ ทา่ ลาย ” เปน็ หลักการทางยุทธวธิ ีข้อใด ก. หลกั นิยมในการรบดว้ ยวิธรี กุ ข. แบบของการด่าเนนิ กลยุทธ์ ค. ความมุ่งหมายของการรบด้วยวิธรี กุ ง. หลกั พน้ื ฐานของการรบด้วยวธิ รี กุ ๒๖. ในทร่ี วมพล ตอ้ งเตรียมการปฏบิ ัตใิ นดร่อื งใดบา้ ง ก. การสง่ กา่ ลงั ข. การจัดก่าลังรบ ค. ถกู ทกุ ขอ้ ง. การซ่อมบา่ รุง ๒๗. หลกั พ้นื ฐานทางยุทธวิธีของการรบด้วยวธิ รี กุ ผบ.หนว่ ย ไดค้ ดิ และดดั แปลงมาจาก ก. หลักการสงคราม ข. หลักการรบด้วยวธิ รี ุก ค. หลกั นิยมการรบทางยทุ ธวธิ ี ง. ถูกทุกขอ้ ทก่ี ลา่ วมา

๒๘. แบบของการด่าเนินกลยุทธข์ ้อใดกลา่ วถกู ต้อง ก. ตตี รงตรงหนา้ , เจาะ, โอบ, ตลบ และแทรกซึม ข. เคลอื่ นท่ีเขา้ ปะทะ, การเขา้ ต,ี การขยายผลและการไลต่ ดิ ตาม ค. ถูกทุกขอ้ ง. ตตี รงหน้า, เจาะ, โอบล้อม, โอบ ๒ ปกี และแทรกซึม ๒๙. แผนการด่าเนนิ กลยทุ ธ์ คอื แผนการใช้ หมู่ ปล.ตา่ งๆ ซ่งึ เป็นสว่ นด่าเนนิ กลยทุ ธ์ แผนนีจ้ ะตอ้ งประกอบด้วยส่งิ ใดบา้ ง ก. เส้นทาง, รูปขบวน, การเขา้ ตะลุมบอน, การเสรมิ สรา้ งความม่ันคง, การควบคุม ข. การใชใ้ นข้นั ตน้ , การใชร้ ะหว่างเคลื่อนท,ี่ การเขา้ ตะลุมบอน, การควบคุม ค. เส้นทาง, รูปขบวน, การเขา้ ตะลมุ บอน, การใชร้ ะหวา่ งเคลื่อนท,่ี การควบคุม ง. การเคลื่อนที่, การผา่ นแนว, การปะทะข้าศึก, การปะทะขา้ ศึก, การเขา้ ตะลุมบอน ๓๐. พนื้ ทที่ ีเ่ หมาะสมใช้เป็นที่รวมพล ควรมีลักษณะอย่างไร ก. มีการก่าบังและซ่อนพราง ข. พ้นจากระยะยิงของ ป. และ ค. ค. พืน้ ทก่ี ว้างขวางกระจายก่าลังได้ ง. ถกู ทุกข้อ ๓๒. “ทหารตอ้ งกระท่าการใด ๆ ไม่ให้ข้าศึกได้รบั ข่าวสารเพมิ่ เติมเกี่ยวกบั การปฏบิ ัตกิ ารของฝา่ ยเรา” การกระท่าเชน่ น้ี เรียกว่าอะไร ก. การแจกจ่ายขา่ วกรอง ข. มาตรการควบคุม ค. การรวบรวมขา่ วสาร ง. การต่อตา้ นขา่ วกรอง ๓๓. การรายงานขา่ วสารเกยี่ วกับขา้ ศึกเพื่อให้ ผบ.หน่วย ทราบนัน้ ขา่ วน้ันจะต้อง ก. รวดเรว็ – ส้นั – ไดใ้ จความ ข. รวดเร็ว – ถกู ต้อง – สมบรู ณ์ ค. รวดเรว็ – เข้าใจ – สมบูรณ์ ง. ส้นั – กะทัดรดั – สมบูรณ์ ๓๕. ก่าลงั ในสว่ นตงั้ รบั หน้า มีหนา้ ที่ตามข้อใด ก. ยบั ย้งั ขา้ ศึก,ผลักดันข้าศึก ข. ยบั ยงั้ ,ผลกั ดัน และขบั ไล่ข้าศกึ ค. ยับย้งั ,ขับไล่ และท่าลายข้าศึก ง. ค้นหา,ขับไล่ และท่าลายข้าศึก ๓๖. แนวขอบหน้าพื้นท่ีการรบ ของหนว่ ยท่แี ทจ้ รงิ จะเกดิ ข้นึ เมื่อใด ก. เม่อื ผบ.รอ้ ย ส่ังการ ผบ.มว.ปล. เสร็จเรียบร้อยแล้ว ข. ก่าลงั ของ มว.ปล. ในแนวหนา้ ได้เข้าพ้ืนวางตวั เรียบร้อยแลว้ ค. กา่ ลังของ มว.ปล. หนุน ไดเ้ ข้าพน้ื ที่วางตัวเรยี บร้อยแล้ว ง. เม่ือ ผบ.มว. ไดส้ ั่งการใหก้ ่าลังของ แตล่ ะหมู่ เข้าพืน้ ที่วางตัวหลังจากรบั ค่าสงั่ เสร็จ ๓๙. การตอ่ ตา้ นข่าวกรอง จะประกอบด้วยการปฏิบัติอย่างไร ก. การลวงขา้ ศกึ ถึงแผนและความมงุ่ มัน่ ต่างๆ ข. ไม่บอกขา่ วสารใหข้ ้าศกึ ทราบเกีย่ วกบั แผนปฏิบตั กิ ารของฝ่ายเรา ค. การสบื หาความพยายามของขา้ ศึก เพอื่ ใหไ้ ด้ขา่ วสาร ง. ถูกทุกขอ้ ๔๑. รูปแบบการกอ่ ความไม่สงบ รปู แบบอะไรทีใ่ ชว้ ิธกี ารต่อสยู้ ดื เยอ้ื ยาวนานคือ ก. บอ่ นท่าลาย ข. มงุ่ เน้นมวลชน ค. แกนนา่ ปฏวิ ัติ ง. แบบด้ังเดิม ๔๒. พนื้ ทใ่ี นการ ปปส. ทีม่ คี วามรุนแรงทสี่ ดุ คือพน้ื ท่ีอะไร ก. พ้นื ทีส่ ีส้ม ข. พื้นทสี่ ีเขยี ว ค. พ้ืนทส่ี แี ดง ง. พ้นื ทสี่ เี หลอื ง ๔๓. ในการเลอื กทตี่ ้ังยงิ ของ ปก. ปกติ ผทู้ ่เี ลอื กและก่าหนดทตี่ ง้ั ยงิ ที่แน่นอนคือใคร ก. ผบ.หมู่ ปก. ข. ผบ.มว.ค. ค. ผบ.หมู่ ปล. ง. ผบ.มว.ปล. ๔๔. การควบคมุ เชลยศกึ มวี ิธีปฏบิ ัตอิ ยา่ งไร ก. คน้ หา – ตรงึ – ยึด – ลวง ข. ดว้ ยระบบ SALUTE ค. ระบบใดก็ได้ท่ีสามารถท่าได้ ง. ดว้ ยระบบเอส (S) (คน้ – แยก – เงยี บ – เรว็ – พทิ กั ษ)์

๔๕. การสรา้ งท่ีพกั ทางทหารกระทา่ ได้ ๒ วธิ ี คอื ก. เร่งด่วน, ถาวร ข. กึง่ ถาวร, ถาวร ค. เร่งด่วน, กึง่ ถาวร ง. กงึ่ เรง่ , เรง่ ด่วน, ถาวร ๔๖. คณุ ลักษณะของนกั สะกดรอยท่ดี ปี ระกอบดว้ ย สายตาดี, ปญั ญาดี, ความจา่ ด,ี อดทน, แข็งแรง, เป็นพล ลว. ดี ประเภท การสะกดรอย ๓ อย่างคือ ก. สายตา, จมกู ดี, การสังเกต ข. สายตา, ดมกล่นิ , การฟงั เสียง ค. สายตา, ดมกลน่ิ , การสังเกต ง. สายตา, จมกู ด,ี การจ่าดี ๔๗. ความมุง่ หมายของการเล็ดลอดหลบหนี เพื่อให้ทราบหลกั การในข้อใด ก. ทกุ ข้อทก่ี ลา่ วมา ข. เม่อื ตนเองหรือหนว่ ยถูกตัดขาดจากก่าลังพลส่วนใหญ่ ค. เมื่อตนอยใู่ นเขตหลงั ของข้าศกึ ง. เมอ่ื ตกเปน็ เชลยศึก ๔๘. การแสวงหาอาหารในป่าแบ่งออกเปน็ ๒ ชนดิ ใหญ่ๆ คอื ก. น่้า, ท่ีพกั ข. ในปา่ ดงดิบ, ในป่าโปรง่ ค. สตั ว์, พชื ง. ในนา่้ , บนพื้นดนิ ๕๐. สง่ิ ส่าคญั ทีส่ ดุ ในการดา่ รงชพี ในปา่ ได้แก่ ก. การมที ่ีพักทีส่ ุขสบาย ข. การมนี ้่าดม่ื ที่ปลอดภยั ค. การมอี าหารรบั ประทานสมบรู ณ์ ง. การมีก่าลังใจและความต้ังใจอันแน่วแน่ ๕๑. การค่านวณจ่านวนคนมีสตู รการคา่ นวณอย่างไร ก. หารอยเท้าหลัก ข. ขดี กรอบยาว ๑๘ นวิ้ ค. ขดี กรอบยาว ๓๖ นวิ้ หารดว้ ย ๒ ง. ท่กี ลา่ วมาถกู ทกุ ข้อ ๕๒. การหาจา่ นวนคนรอยเท้า ถา้ รอยเท้าไมช่ ัดเจน จะใช้วธิ ใี ดในการหาจา่ นวนคนจากรอย ก. หารอยเท้าหลกั ข. ขดี กรอบยาว ๑๘ นิ้ว ค. ขีดกรอบยาว ๓๖ นว้ิ แลว้ หารด้วย ๒ และ ขีดกรอบยาว ๑๘ นิ้วถกู ง. ขีดกรอบยาว ๓๖ นิ้ว หารดว้ ย ๒ ๕๓. ประเภทของการเลด็ ลอดแบ่งออก ๒ ประเภท ไดแ้ ก่อะไรบา้ ง ก. ๑. ประเภทระยะใกล้ ๒. ประเภทระยะไกล ข. ๑. ประเภทระยะใกล้ ๒. ประเภทหลงั แนวรบ ค. ๑. ประเภทใกลป้ ระชดิ ๒. ประเภทไมป่ ระชิด ง. ๑. ประเภทระยะใกล้ ๒. ประเภทระยะยาว ๕๔. ลกั ษณะของรอยที่พบเกิดจากข้าศกึ เคลอื่ นทีเ่ รว็ ๆ หรือว่งิ รอยจะมีลกั ษณะอย่างไร ก. รอยหา่ ง รอยค่อย รอยลึก ข. รอยหา่ ง รอยลึก รอยเป็นแนวเดียวกัน ค. รอยห่าง รอยกระจาย รอยเปน็ แนวเดียวกนั ง. รอยห่าง รอยกระจาย รอยตน้ื ๕๕. เมื่อมกี ารเรียนการสอนที่มีความส่าคัญในระดับ มว.ปล. ผู้เข้ารบั การฝกึ /ศึกษา ทราบหรือไมว่ า่ ชุดโทรศัพทส์ นาม (ตาม อจย.) ที่นิยมใชใ้ นแนวหน้าระดบั หมู่ มว. คอื ก. TA-๔๓ ข. โทรศัพท์ก่าลงั งานเสยี ง ค. SAMSUNG ง. โทรศพั ท์ประจ่าสนาม ๕๖. นายสิบสือ่ สารในระดับกองรอ้ ย (ร้อย อวบ.) เมื่อต้องวางแผนในการใช้เคร่อื งมอื สื่อสาร อยากทราบว่า กองร้อยท่ี ๑ จะ ใช้เครอ่ื งมือสอ่ื สารตามอตั ราการจัด (ปี ๒๒) คอื อะไร และเทา่ ไหรบ่ ้าง ก. TA-๑/PT ๒ เครื่อง ข. TA-๓๑๒/PT ๒ เครอื่ ง ค. PRC/๖๒๔ ๒ เครอื่ ง, ชดุ MK-๔๕๖ ๑ ชดุ ง. ชดุ CE-๑๑ ๑ ชุด ๕๗. ชุดสายอากาศ RC-๒๙๒ ใช้ติดตัง้ กับวทิ ยทุ ่ีทา่ การสอ่ื สารในย่านความถี่เทา่ ไร ก. ๒๐.๐๐ – ๗๕.๙๕ MHz ข. ๑๕.๐๐ – ๓๐.๐๐ MHz ค. ๒๐ – ๒๙.๙๙ MHz ง. ๒ – ๒๙.๙๙ MHz ๕๙. อตั ราการจัด มว.ส. ปี ๒๕๕๒ ของหน่วยระดบั พัน.ร. ซงึ่ มีหน่วยสอ่ื สารในการบงั คบั บัญชา จัดอยา่ งไร ก. พลน่าสารและพลขับถูกจัดอยูใ่ นตอนทางสาย ข. ผบ.มว.สือ่ สาร อัตรา ร.อ. ค. ช่างวิทยุ อตั รา จ. ง. พลสลับสาย อัตรา ส.อ. ทา่ หน้าทพ่ี ลขับดว้ ย

๖๐. เมอ่ื มว.ปล.ท่ี ๒ เขา้ ทา่ การรบในระหวา่ งตั้งรับ”พลศรราม กรามใหญ่ ซึ่งเป็นพลวิทยโุ ทรศัพท์ของหนว่ ยไดท้ ่าการวาง สายจาก บก.มว. ไปยงั สว่ นตง้ั รบั หน้า (หมู่ ปล.ที่ ๑, ๒, ๓ และสว่ นยงิ สนบั สนนุ ) พรอ้ มมอบหมายให้พลฉลาด เหลือเกิน ตรวจสอบความเรียบรอ้ ย สงิ่ ดงั กล่าวตรงกบั ความรับผิดชอบทางการส่ือสารอย่างไร ก. จากหน่วยเพ่ิมเติมกา่ ลงั ไปยังหน่วยรบั การเพิม่ เติมก่าลงั ข. จากหน่วยข้างเคยี งซ้ายไปขวา ค. จากหนว่ ยเหนือไปยงั หน่วยรอง และหน่วยขึ้นสมทบ ง. จากหน่วยสนบั สนนุ ไปยงั หนว่ ยรับการสนับสนุน ๖๑. ในการฝกึ การกะระยะดว้ ยสายตา โดยใช้วธิ ีเดนิ นับกา้ วนน้ั ระยะ ๑๐๐ เมตร โดยเฉลย่ี จะเดินไปไดก้ ี่ก้าว ก. ๑๕๐ กา้ ว ข. ๑๓๐ กา้ ว ค. ๑๐๐ ก้าว ง. ๑๑๐ ก้าว ๖๓. การกะระยะดว้ ยสายตา โดยวิธีก่าหนดหนว่ ยหลัก ๑๐๐ เมตร ควรฝกึ ให้ทหารสามารถกะระยะไดแ้ มน่ ยา่ และใกล้เคยี ง กับความเป็นจริง จนถึงระยะเทา่ ใด ก. ๘๐๐ เมตร ข. ๙๐๐ เมตร ค. ๓๐๐ เมตร ง. ๕๐๐ เมตร ๖๔. การหมุนศูนย์หนา้ ทวนเข็มนาฬกิ า จะท่าใหร้ อยกระสุนถกู สูงขึ้นหรือต่าลง ก. สูงขึ้น ข. ไมม่ ีผล ค. ออกขวา ง. ต่าลง ๖๕. ข้อใดกล่าวถงึ ความมุง่ หมายของการยงิ จบั กลุ่ม ได้ถกู ตอ้ งทส่ี ุด ก. การยงิ ให้กระสุนถูกเป้าเป็นกล่มุ เล็ก และกลุ่มกระสุนคงที่ ข. การย้ายตา่ บลกระสนุ ใหถ้ ูกเป้า ค. ไม่มขี ้อถูก ง. การยงิ ให้กระสนุ ถูกกึ่งกลางเปา้ ๖๘. ท่ายงิ พนื้ ฐานทลี ะนัดในการฝึกพลแมน่ ปืนมีกี่ทา่ ก. ๔ ทา่ ข. ๕ ท่า ค. ๓ ทา่ ง. ๖ ทา่ ๖๙. การวดั มมุ ด้วยมอื น้นั อยากทราบวา่ ถา้ วดั มมุ เป้าหมายได้ นิว้ ชีถ้ งึ นิ้วนาง มีคา่ เทา่ ใด ก. ๑๐๐ มลิ เลยี ม ข. ๓๐ มิลเลยี ม ค. ๗๐ มิลเลยี ม ง. ๑๒๕ มิลเลียม ๗๐. เข็มทิศ เอม็ .๒ จะมตี ัวเลขก่ากับไวท้ ุกๆ ก่มี ลิ เลียม ก. ๕๐ มลิ เลียม ข. ๑๐๐ มลิ เลยี ม ค. ๒๐๐ เมตร ง. ๒๐๐ มิลเลียม ๗๑. พนื้ ทร่ี ะหวา่ งปนื ถงึ เป้าหมาย เมื่อวถิ ีกระสุนไม่สงู เกินความสงู เฉลีย่ ของคนยืน (๑.๘ เมตร) รวมท้งั พื้นท่ี ของรูปอาการ กระจายดว้ ย หมายถงึ ข้อใด ก. การยงิ กราด ข. รูปอาการกระจาย ค. ย่านอนั ตราย ง. กรวยกระสุนวถิ ี ๗๒. เขม็ ทศิ เอม็ .๒ สามารถวัดมมุ ภาคไดส้ ูงสุดกีม่ ิลเลียม ก. ๓,๒๐๐ มิลเลยี ม ข. ๑,๖๐๐ มิล ค. ๖,๔๐๐ มิลเลยี ม ง. ๔,๘๐๐ มลิ เลียม ๗๓. ค. ขนาด ๔๐ มม. เอม็ .๒๐๓ ระยะยงิ หวงั ผลเป็นจุดและเปน็ พนื้ ทเ่ี ท่าไร ก. เปน็ จดุ ๑๕๐ เมตร เปน็ พื้นท่ี ๓๕๐ เมตร ข. เป็นจุด ๑๕๐ เมตร เป็นพ้ืนท่ี ๓๐๐ เมตร ค. เป็นจุด ๑๐๐ เมตร เป็นพื้นที่ ๓๕๐ เมตร ง. เป็นจุด ๒๐๐ เมตร เป็นพ้ืนท่ี ๔๐๐ เมตร ๗๔. ปยล.ทราโว ทา่ งานด้วยอะไร ก. ท่างานดว้ ยแรงสะทอ้ นถอยหลังของลา่ กล้อง ข. ท่างานด้วยส่วนเคลือ่ นที่ ค. ทา่ งานดว้ ยมือ ง. ท่างานด้วยแกส๊ ๗๕. เคร่ืองกีดขวางลวดหนามทางยุทธวิธจี ะจัดสร้างอยหู่ น้าแนวตง้ั รบั ดงั นี้ ก. หา่ งจากที่มนั่ ตั้งรบั ตั้งรบั ตั้งแต่ ๓๐ – ๑๐๐ เมตร ข. หา่ งจากที่ม่นั ต้ังรับระยะ ๓๐ เมตรลงมา ค. หา่ งจากที่มั่นต้ังรบั ระยะ ๑๐ เมตรข้ึนไป ง. ตามแนวยงิ ป้องกันขัน้ สุดท้ายของฝ่ายเรา

๗๖. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ต้อง ก. ควงส่ายเปน็ องศา ข. ควงสงู เปน็ มิลเลยี ม ค. ใชก้ ล้อง เอ็ม.๔ ในการเล็ง ง. มมุ สูงปฏิบตั กิ ารยิง ๔๕ – ๘๕ องศา ๗๗. ANFO คอื อะไร ก. แอมโมเนียมไนเตรท + ยูเรยี ข. วัตถรุ ะเบิดทางทหาร ค. แอมโมเนียมไนเตรท + น้่ามนั เช้อื เพลิง ง. แอมโมเทยี มไนเตรท + TNT ๗๘. ปืนไรแ้ รงสะท้อนขนาด ๘๔ มม. แบบ เอม็ .๓ (CARL-GUSTAF M3) แบง่ เป็นอาวุธต่อสู้รถถังประเภทใด ก. ขนาดหนกั ข. ถูกทกุ ขอ้ ค. ขนาดกลาง ง. ขนาดเบา ๗๙. ขอ้ ใดคือระยะยงิ ไกลสุด และระยะยงิ หวังผลของ ปพ.๘๖ ก. ๑,๖๔๕ หลา, ๕๐ หลาลงมา ข. ๑,๖๔๐ ม., ๕๐ ม.ลงมา ค. ๑,๔๖๕ หลา, ๕๐ หลาลงมา ง. ๑,๖๔๐ หลา, ๕๐ หลาลงมา ๘๐. ระยะยิงไกลสุดและระยะยงิ หวงั ผลของ ปลย.เอม็ .๑๖ เอ ๑ มีระยะยงิ เท่าใด ก. ๒,๕๖๓ เมตร และ ๔๖๐ เมตร ข. ๒,๖๕๓ เมตร และ ๔๖๐ เมตร ค. ๒,๖๕๓ เมตร และ ๒๕๐ เมตร ง. ๒,๕๖๓ เมตร และ ๒๕๐ เมตร ๘๑. กับระเบิดมี ๒ ประเภทข้อใดกล่าวถูกต้อง ก. กบั ระเบดิ พว่ งใช้เชื้อประทุชนวน และกับระเบิดพว่ งใชเ้ ช้ือประทุไฟฟ้า ข. กับระเบิดท่ผี ลติ จากโรงงาน และกับระเบดิ แสวงเครื่อง ค. กบั ระเบิดทสี่ ร้างขึน้ ในสนามรบ และกับระเบดิ ที่สร้างข้ึนในสถานการณ์ปกติ ง. กับระเบดิ ทป่ี ระดษิ ฐ์ขึน้ และพ่วงใช้เชอ้ื ประทุไฟฟา้ ๘๒. หลกั การใหญ่ๆ ในการท่างานของ ปลก.เนเกฟ มดี งั ต่อไปนี้ขอ้ ใดกล่าวไม่ถกู ต้อง ก. ทา่ การยิงด้วยท่าลูกเลอ่ื นเปิด ข. ปอ้ นกระสุนด้วยสายกระสุน ค. ปอ้ นกระสนุ ด้วยซองกระสุน ง. ทา่ งานด้วยส่วนเคล่ือนท่ี ๘๓. ทต่ี ั้ง ปก. เอ็ม ๖๐ ที่จัดเป็นท่ตี ง้ั ยงิ ขัน้ ต้นแบบเร่งด่วนเป็นที่ตัง้ ยิงแบบใด ก. แบบเกอื กมา้ ข. แบบบอ่ ค. แบบหลุมบคุ คล ๓ หลมุ ง. แบบหลมุ บคุ คล ๒ คน ๘๔. ทนุ่ ระเบิดสังหารบุคคลแบบ เอม็ .๑๔ มกี ารทา่ งานอย่างไร ก. กระโดดระเบิด ข. การระเบดิ อยกู่ บั ที่ ค. บงั คับทศิ ทาง ง. แบบบังคับจดุ ๘๕. ข้อใดคือรูปแบบของระเบดิ แสวงเครื่องทใ่ี ชใ้ นพน้ื ที่ ๓ จังหวดั ชายแดนภาคใต้ ก. บงั คับจุด ข. กระท่าโดยเหยื่อ ค. ถ่วงเวลา ง. ถกู ทกุ ข้อท่ีกล่าวมา ๘๗. ระบบจดุ ระเบิดแบบใดเหมาะสา่ หรับเป้าหมายเคลอื่ นท่ี ก. นับถอยหลงั ด้วยวงจรอเิ ลค็ ทรอนคิ ส์ ข. ถ่วงเวลา ค. โทรศัพทม์ ือถือ ง. บงั คบั จุดดว้ ยสายไฟฟา้ คู่ ๘๘. ระยะยงิ หวงั ผลเปน็ จุดของ ปลย.เอม็ ๑๖ เอ ๒ ข้อใดถูก ก. ๔๕๐ เมตร ข. ๘๐๐ เมตร ค. ๕๐๐ เมตร ง. ๕๕๐ เมตร ๘๙. การแกไ้ ขเหตุตดิ ขดั ทันทีทันใด ข้อใดกลา่ วถูกต้อง ก. ดงึ ดัน ดู เหนย่ี ว ข. ดึง ดู ดนั เหนีย่ ว ค. เหนี่ยว ดู ดนั ดึง ง. ดู ดัน ดงึ เหนย่ี ว

๙๑. ปก.๓๘ ท่กี รวยจดั แกส๊ สามารถปรบั จังหวะการยงิ ได้แต่ตามปกติในขนั้ แรกจะต้องปรบั ปลอกเกลยี วกรวยจดั แก๊สอยู่ใน ตา่ แหนง่ หมายเลขใด ก. หมายเลข ๑ ข. หมายเลข ๒ ค. หมายเลข ๔ ง. หมายเลข ๓ ๙๒. ระยะยงิ หวงั ผลของ ปก.๓๘ เทา่ ไร ก. ๑,๘๐๐ ม. ข. ๒,๐๐๐ ม. ค. ๓,๕๐๐ ม. ง. ๓,๐๐๐ ม. ๙๓. ระยะยงิ หวงั ผลของ ปลย.ทาโว ขอ้ ใดถกู ก. ๘๐๐ เมตร ข. ๕๕๐ เมตร ค. ๔๕๐ เมตร ง. ๕๐๐ เมตร ๙๔. ท่ีจานปรบั ทางระยะ ปลย.เอ็ม ๑๖ เอ ๒ สามารถเลอื่ นระได้เทา่ ไร ก. ๒๐๐ – ๖๐๐ เมตร ข. ๓๐๐ – ๖๐๐ เมตร ค. ๒๐๐ – ๘๐๐ เมตร ง. ๓๐๐ – ๘๐๐ เมตร ๙๕. ขอ้ ใดไม่ใชค่ ณุ ลักษณะของ ค. ขนาด ๖๐ มม. ก. ใช้กลอ้ งเล็ง เอ็ม.๕๓ เท่านัน้ เปน็ เคร่ืองช่วยเลง็ ข. แบบ เอ็ม.๒ แผ่นฐานมีลกั ษณะเปน็ รปู สี่เหลย่ี ม ค. แบบ ศอว.ทบ. แผ่นฐานลักษณะกลม ง. แบบ เอ็ม.๑๙ มีเครอื่ งลนั่ ไกทเ่ี คร่ืองปิดท้ายล่ากล้อง ๙๖. บอ่ ดักลกู ระเบิดของหลมุ บุคคลเด่ยี ว ท่ีถูกตอ้ งทส่ี ุด คือข้อใด ก. ถกู ทุกข้อ ข. กว้างเสน้ ผ่าศนู ย์กลางปากบอ่ ๘ น้วิ ลกึ ๑ ๑/๒ ฟุต ลาด ๓๐ องศา ค. กว้างเสน้ ผ่าศนู ยก์ ลางปากบอ่ ๘ น้วิ ลกึ ๑๘ นิว้ ลาด ๓๐ องศา ง. กวา้ งเส้นผ่าศนู ยก์ ลางปากบ่อ ๒/๓ ฟุต ลกึ ๑ ๑/๒ ฟตุ ลาด ๓๐ องศา ๙๗. อะไรคือข้อได้เปรียบของปืนเลก็ ยาวแบบ BULL PUP ก. ล่ากลอ้ งสน้ั ปนื ส้ัน ข. ลา่ กล้องยาว ปืนสน้ั ค. ลา่ กลอ้ งส้นั ปืนยาว ง. ล่ากลอ้ งยาว ปนื ยาว ๙๘. ข้อใดเป็นขนาดของหลมุ บุคคลเด่ียวทถี่ ูกต้อง ก. กวา้ ง ๒ ฟตุ ยาว ๓ ๑/๒ ฟุต ลกึ ๒ ๑/๒ ฟตุ ข. กว้าง ๒ ฟุต ยาว ๓ ๑/๒ ฟตุ ลกึ ระดับอกผใู้ ช้ ค. กว้าง ๒ ฟตุ ยาว ๓ ๑/๒ ฟตุ ลกึ ๓ ๑/๒ ฟุต ง. กวา้ ง ๒ ฟุต ยาว ๓ ๑/๒ ฟุต ลกึ ๓ ฟุต ๑๐๐. ทนุ่ ระเบดิ สงั หารบุคคลแบบ เอ็ม.๑๘ เอ ๑ มรี ะยะหวังผลเท่าไร ก. ๑๐๐ เมตร ข. ๑๕๐ เมตร ค. ไมม่ ขี ้อถูก ง. ๕๐ เมตร ขอ้ 1. การจะเปน็ ครูท่ีดแี ละประสบความสา่ เรจ็ น้นั จะต้องมคี ุณลักษณะอย่างไร ท่ีส่าคัญทีส่ ดุ ? ก. มีความรู้กว้างขวางทุกวชิ าและมปี ระสบการณ์ในสนามมาก ข. ควรมยี ศและต่าแหนง่ สูงกว่าผ้เู รยี น ค. มคี วามรู้ในบทเรยี นที่สอนและมีเทคนคิ การสอนดี ง. สอนแบบเดิม ๆ ทเี่ คยสอน ขอ้ 4. วิธสี อนมีอยหู่ ลายวธิ ี การทจี่ ะเลอื กใชว้ ธิ กี ารสอนแบบใดน้ัน จะขึ้นอยูก่ บั ปัจจยั ในเรอ่ื งอะไรบ้าง ? ก. จ่านวนนกั เรียน ข. ตอ้ งพจิ ารณาทุกข้อที่กล่าวมา ค. พ้นื ฐานความรขู้ องนกั เรยี น ง. เรอ่ื งที่สอนและเวลา ข้อ 5. “ความเปน็ ผูเ้ ช่ือถือได้” มคี วามหมายตรงกับข้อใด ? ก. การไดร้ บั ความไว้วางใจในการปฏิบัติงานตามหน้าที่ได้อย่างถกู ต้อง ข. ได้รับความไวว้ างใจและความเช่ือถือจากสงั คม ค. ปฏบิ ตั ิหนา้ ท่ีด้วยความถูกต้อง ด้วยความซื่อสตั ย์สุจริต ง. ปฏบิ ตั งิ านตามหน้าท่ีใหส้ า่ เร็จลุลว่ งไปด้วยดี

ขอ้ 7. ขอ้ ใดเป็นรากฐานของพฤติกรรม ? ก. ความตอ้ งการบงั คับบัญชา ข. ความตอ้ งการรวมกลมุ่ ค. ความต้องการปจั จยั ๔ ง. ความต้องการอนั เกดิ จากการเรียนรู้ ขอ้ 8. ความเจรญิ กา้ วหน้าทางด้านวทิ ยาการของโลก นัน้ จะเจริญก้าวหนา้ ไปอยา่ งไมห่ ยุดยัง้ และมีการพัฒนาให้เจรญิ ย่งิ ๆ ขึ้นไป ตลอดเวลา ท่านจะพจิ ารณาคุณลักษณะของผ้นู ่าในเร่ืองใดจงึ จะไดช้ ่ือว่าเปน็ ผ้นู ่าทีท่ นั สมัย ? ก. ความเป็นผเู้ ชือ่ ถือได้ ข. ความรู้ ค. กาลเทศะ ง. ความกระตือรอื ร้น ข้อ 10. มาตราส่วนเส้นบรรทัด ( Bar Scale ) ปรากฏอยูส่ ่วนใดของขอบระวาง ? ก. มุมซ้ายขอบระวางดา้ นล่าง ข. กึ่งกลางขอบระวางดา้ นล่าง ค. กงึ่ กลางขอบระวางดา้ นบน ง. มุมขวาขอบระวางด้านล่าง ขอ้ 11. ขนาดระวางมาตรฐาน ของแผนที่ 1 : 50,000 คอื ขอ้ ใด ? ก. 4’ x 6° ข. 15’ x 15’ ค. 1° x 1’30° ง. 7’30° x 7’30° ข้อ 12. หากต้องการแปลงมุมทศิ เหนอื 90 องศา ให้เป็นมุมภาคทิศเหนือกลับ จะได้เทา่ กับกอี่ งศา ? ก. 270 องศา ข. 20 องศา ค. 180 องศา ง. 0 องศา ข้อ 13. ระเบยี บการนา่ หน่วย 8 ขัน้ อยากทราบวา่ ข้นั ใดไม่ตอ้ งเรยี งล่าดับ ? ก. ขั้นท่ี 3 – 8 ข. ขน้ั ท่ี 4 – 8 ค. ขั้นท่ี 1 – 8 ง. ขน้ั ที่ 5 – 8 ขอ้ 14. พืน้ ท่ี หากฝ่ายใดฝ่ายหนงึ่ ยดึ หรือครอบครองไว้ไดแ้ ละเกิดความได้เปรยี บอยา่ งเห็นได้ชัด เรียกว่าอะไร ? ก. เครอ่ื งกดี ขวาง ข. พนื้ ทีก่ ารยงิ ค. แนวทางการเคล่ือนที่ ง. ภูมิประเทศสา่ คญั ขอ้ 15. ระเบยี บการนา่ หนว่ ยเป็นกรรมวธิ เี พอ่ื ใหบ้ รรลภุ ารกิจที่ไดร้ ับมอบ เพอ่ื ใหท้ กุ คนทราบภารกิจ/เตรียมการพอ มี 8 ขั้น มีกรรมวธิ ดี ่าเนินการอย่างไร ? ก. เป็นกรรมวิธีดา่ เนนิ การก่อนรบั ภารกิจเทา่ น้นั ข. เป็นกรรมวธิ ดี ่าเนินการหลักรบั ภารกจิ เท่านน้ั ค. ไม่จ่าเปน็ ต้องทา่ ตามล่าดบั ข้นั ขึ้นอยกู่ ับเวลาและสถานการณ์ ง. ตอ้ งทา่ ตามล่าดับขัน้ ขอ้ 16. การประมาณสถานการณ์ของผู้บังคับหน่วยทางยุทธวธิ นี น้ั มี 5 ข้อ อยากทราบวา่ การประมาณสถานการณใ์ นที่ ข้อที่ 4 กล่าวถงึ เร่ืองอะไร ? ก. ข้อตกลงใจ ข. การเปรยี บเทียบหนทางปฏิบัตขิ องฝ่ายเรา ค. ภารกิจ ง. สถานการณ์และหนทางปฏิบัติ ข้อ 17. ขอ้ ใดกลา่ วถกู ต้องแลว้ ก. ทก่ี ลา่ วมาแลว้ ถูกต้องทุกข้อ ข. การ ปบ. ขนั้ 1 เปน็ การตรวจสภาพทั่วไปเพอ่ื ให้ทราบขอ้ บกพร่องของยุทโธปกรณ์ ค. การ ปบ. ขนั้ 1 ต้องท่าบ่อยๆ เพื่อทจี่ ะไดน้ า่ ไปเบิก สป. ง. การ ปบ. ขั้น 1 เป็นงานในหน้าที่พลขบั ทา่ ก็ไดไ้ มท่ ่าก็ได้

ขอ้ 21. รยบ. ¼ ตัน 4 x 4 เอ็ม 151 เอ.1 อยากทราบว่า 4 x 4 หมายความว่าอย่างไร ? ก. รถทีม่ ี 4 ล้อ บรรทุกก่าลังพลได้ 4 คน ข. รถทีม่ ี 4 ล้อ เคลื่อนที่ได้ทั้ง 4 ล้อ ค. รถทีม่ ี 4 ล้อ มีก่าลงั ขบั เคล่ือน 4 ลอ้ ง. รถท่ีมี 4 ลอ้ ลากจูงรถพ่วงที่มลี ้อ 4 ลอ้ ข้อ 25. แนวออกตี คือ แนวซ่งึ ประสานการเรมิ่ ตน้ ในการเขา้ ตี ซึ่งอย่หู ่างจากทีร่ วมพลระยะประมาณเทา่ ใด ? ก. 5 – 6 ไมล์ หรือ เดนิ ประมาณ 4 ชม. ข. 3 – 4 ไมล์ หรือ เดินประมาณ 3 ชม. ค. 4 กม. หรือเดนิ ประมาณ 1 ชม. ง. 4 – 6 กม. หรือ เดนิ ประมาณ 2 ชม. ขอ้ 27. ลักษณะที่ต้องยงิ ของปนื กล ควรมีลกั ษณะอยา่ งไร ? ก. ตรวจการณเ์ ห็นเปา้ หมาย ข. มพี น้ื การยงิ ดี ค. ถกู ทุกข้อ ง. มกี ่าบังและซอ่ นพราง ข้อ 30. วิธีการเดินทางเฝ้าตรวจสลับ ในระหว่างที่ชุดยิง ก. หยุดการเคลื่อนที่เฝ้าตรวจชุดยิง ข. เคลื่อนท่ีข้างหน้า ปกติจะ เคล่ือนที่ ลา้่ ไปข้างหน้าระยะประมาณเทา่ ใด ? ก. 300 เมตร ข. 200 เมตร ค. 250 เมตร ง. ไมเ่ กิน 150 เมตร ขอ้ 32. ในการต้งั ยงิ ของ ปก. โดยปกติ หมู่ ปก. จะตอ้ งมีการจดั การระวังป้องกัน ปก. ตามขอ้ ใด ? ก. ปก. แตล่ ะกระบอก จะต้องมกี ่าลังพลของ หมู่ ปล. ประจา่ ตลอดเวลา อย่างน้อย 2 นาย ข. ปก. ทง้ั หมู่ จะตอ้ งมที หารประจา่ ตลอดเวลา อยา่ งนอ้ ย หมูล่ ะ 1 นาย ค. ปก. แตล่ ะกระบอก จะตอ้ งมที หารประจ่าตลอดเวลา อย่างน้อย 1 นาย ง. ปก. ท้ังหมู่ จะต้องมกี ่าลังของ หมู่ ปล. ประจ่าตลอดเวลา อยา่ งน้อย 1 ชุดยิง ข้อ 54. ขา่ วสารอะไรทไี่ ด้จากรอย ? ก. ทศิ ทาง, ความเร็ว, อายุของรอย, มีของหนักหรือไม่ ข. ยทุ โธปกรณ์, เวลา, ทิศทาง, มขี องหนัก ค. เพศชาย - หญงิ , ยุทโธปกรณ,์ เวลา, ขวญั ง. จ่านวนคน, ทศิ ทาง, อายุคน, เพศชาย – หญงิ ข้อ 62. ท่ายงิ ทีม่ ัน่ คงท่ีสุดคือท่าใด ? ก. ท่าน่ังสูงยิง ข. ไดท้ ุกทา่ ค. นอนยิง ง. ท่ายนื ยิง ข้อ 63. ปัจจัยทท่ี ่าให้การกะระยะดว้ ยสายตาคลาดเคล่อื น คือขอ้ ใด ? ก. ลกั ษณะภูมิประเทศ ข. แสงสว่าง ค. ความชัดเจนของเปา้ หมาย ง. ถกู ทุกขอ้ ข้อ 66. ในการปรบั ศนู ย์ ปลย. เอม็ 16 เอ 1 เม่ือตอ้ งการใหต้ า่ บลกระสุนถูกสงู ขนึ้ ต้องทา่ อย่างไร ? ก. หมุนศูนย์หนา้ ตาลูกศร R ข. หมนุ ศนู ยห์ น้าตามเข็มนาฬิกา และหมนุ ศนู ย์หนา้ ตาลูกศร UP ค. หมุนศูนยห์ นา้ ตามเข็มนาฬิกา ง. หมนุ ศูนย์หน้าตามลูกศร UP

ขอ้ 71. มาตราทางระดับหน่งึ ช่อง มีคา่ เทา่ กบั ก่มี ลิ เลียม ? ก. 5 เมตร ข. 10 มลิ เลียม ค. 20 มลิ เลยี ม ง. 10 เมตร ขอ้ 72. การดา่ เนนิ ภารกิจยงิ ของ ผ้ตู รวจการณห์ นา้ มกี ขี่ นั้ ? ก. 3 ข้นั ข. 5 ขน้ั ค. 4 ขัน้ ง. 2 ขนั้ ข้อ 74. ปลย.เอม็ 16 เอ 1 ท่างานดว้ ยอะไร ? ก. ท่างานด้วยสว่ นเคลือ่ นที่ ข. ทา่ งานด้วยแรงสะทอ้ นถอยหลงั ของลา่ กล้อง ค. ท่างานดว้ ยมือ ง. ท่างานดว้ ยแกส๊ ขอ้ 75. ค.เอม็ 203 ขนาด 40 มม. ท่างานอย่างไร ? ก. ทา่ งานด้วยการเล่อื นล่ากลอ้ งออกและเข้า ข. ทา่ งานดว้ ยการถอยหลงั ของสว่ นเคล่ือนท่ี ค. ท่างานดว้ ยการสะทอ้ นของล่ากล้อง ง. ไมม่ ขี ้อถูกตอ้ ง ขอ้ 80. แอมโมเนยี มไนเตรทต้องผสมกับวัสดุใดถึงจะไดผ้ ลการระเบิดดีท่ีสดุ ? ก. ดเี ซล ข. แกส๊ โซฮอล์ ค. เบนซิล ง. น่้ามนั พืช ข้อ 81. หลักการใหญ่ๆ ในการท่างานของ ปลก. เนเกฟ มีดังตอ่ ไปน้ขี อ้ ใดกล่าวไม่ถูกต้อง ก. ป้อนกระสนุ ด้วยของกระสนุ ข. ทา่ การยิงด้วยทา่ ลูกเลื่อนเปดิ ค. ท่างานดว้ ยสว่ นเคลื่อนท่ี ง. ป้อนกระสุนด้วยสายกระสนุ ขอ้ 82. ข้อใดคอื โอกาสใช้เลง็ ทศี่ นู ยบ์ าก ปลย.11 ก. ทัศนะวสิ ัยไม่ดี เปา้ เคลือ่ นทรี่ ะยะไมเ่ กนิ 100 เมตร ข. เปา้ อยู่เกินระยะยงิ 200 เมตร ขึ้นไปทศั นะวสิ ยั ไมด่ ี ค. เปา้ อยูท่ ีร่ ะยะ 150 เมตร ถึง 200 เมตร เปา้ เคล่ือนที่ ง. เป้าอยู่ทรี่ ะยะ 200 เมตร ยงิ เปา้ เคล่ือนท่ี ข้อ 85. ปลก. เอ็ม249 ผลติ จากประเทศอะไร ? ก. อินเดยี ข. จนี ค. อเมริกา ง. เบลเย่ียม ข้อ 87. ปพ. 86 มีเกลียวในล่ากล้องเพอ่ื แก้อาการเย้ืองของการเหน่ียวไกจึงออกแบบให้มี ? ก. มี 6 เกลยี วเวียนซา้ ย ข. มี 4 เกลยี วเวยี นซา้ ย ค. มี 7 เกลียวเวยี นขวา ง. มี 5 เกลียวเวยี นขวา ข้อ 88. ศนู ยห์ ลังทม่ี ีเครอื่ งหมายตวั L ใชส้ ่าหรบั ยิงระยะใด ก. 0 – 300 เมตร ข. 250 เมตร ค. 300 – 500 เมตร ง. 460 เมตร 1. หลังจากการสอนของครูจบไปแลว้ ถ้านกั เรียนยงั ไมเ่ กิดการเรยี นร้ตู ามวตั ถปุ ระสงค์ a. อุปกรณเ์ คร่ืองช่วยฝกึ ในการเรยี นการสอน b. เทคนิคหรือวิธีการสอนของครู c. ความสนใจและตง้ั ใจเรียนของนกั เรียน d. สภาพแวดล้อมของการเรียนการสอน 5. ผนู้ าท่ีไม่หาความสะดวกสบายและความก้าวหนา้ ให้กับตนเองจากความเดือดร้อนของผอู้ ื่นและผู้ใต้บังคบั บัญชาเปน็ คุณลักษณะผู้นาข้อใด. ? a. ความอดทน b. ความจงรักภกั ดี c. ความไม่เห็นแกต่ วั d. ความซ่อื สัตย์

7. คาพดู ที่ว่า “ ไม่ฆ่าน้อง ไม่ฟอ้ งนาย ไม่ขายเพ่ือน “ ไมน่ าปัญหาสว่ นตวั ของผใู้ ตบ้ งั คบั บัญชาของตนไปนนิ ทาให้ผอู้ ่ืนฟัง ไม่ วิพากษว์ จิ ารย์ผบู้ ังคับบัญชาของตนต่อหนา้ ผู้ใตบ้ ังคับบญั ชาเปน็ คุณลักษณะผนู้ าเรือ่ งใด.? a. การไม่เหน็ แก่ตัว b. ความจงรกั ภกั ดี c. กาลเทศะ d. วิจารณญาณ 9. สญั ลักษณข์ นาดหนว่ ย (จดุ กลมสดี า 2 จดุ ) คอื ขนาดหนว่ ยใด. ? a. กองพัน b. ตอน c. หมู่ d. หมวด 12. การกาหนดพิกดั กริดใกลเ้ คยี ง ๑๐ เมตร หรือการอ่านพิกดั ใกเ้ คยี ง ๑๐ เมตร ต้องอา่ นดว้ ยตวั เลขกีต่ วั . a. ๖ ตวั b. ๘ ตวั c. ๗ ตวั d. ๕ ตวั 14. ผบ.หน่วยจะดาเนินตามขนั้ ตอนการประมาณสถานการณห์ รือข้ันตอนการแกป้ ัญหาอยา่ งละเอียดเทา่ ทเ่ี วลาจะอานวยใน การดาเนินการดงั กลา่ วตามระเบียบการนาหนว่ ย ข้ันที่ ๓ การวางแผน ขนั้ ตน้ โดยใชป้ จั จยั มาตรฐาน METT-T มาใช้ อยาก ทราบวา่ T-Terrain and Weather ซึ่งต้องนาข้อพจิ ารณาลักษณะภมู ปิ ระเทศทางทหาร OCOKA มาพจิ ารณาอยากทราบว่า ถ้าอยากไมอ่ ยากใหข้ ้าศกึ ทาการยงิ จากอาวธุ ยิง เลง็ ตรง และเสยี งจาลอง หรือตรวจการณ์ผล ควรนาขอ้ พิจารณาทางทหารขอ้ ใดมาใช้ a. O b. C c. d. 15. คาสง่ั ยุทธการในข้อ ๒ ภารกิจ ซึง่ เป็นภารกจิ แถลงใหม่ ผบ. หนว่ ยมักจะกระทา ออกมาอย่างชัดเจน มีใจความส้นั ๆ สมบรู ณ์เขา้ ใจง่ายโดยจะกลา่ วเป็นรูปคาถามเรยี งตามลาดับหัวข้อ ข้อใดกล่าวถูกต้องทสี่ ุด a. ใคร, เมอ่ื ใด, ท่ไี หน, อะไร, ทาไหม b. ใคร, ท่ีไหน, เม่อื ใด, อะไร, ทาไหม c. ใคร, เม่อื ใด, อะไร, ที่ไหน, ทาไหม d. ใคร, อะไร, เมอ่ื ใด, ท่ีไหน, ทาไหม 17. น้าหนกั ทงั้ หมดของรถที่ติดตัง้ ยุทโธปกรณ์พรอ้ มดว้ ยเตมิ นา้ มันเชอ้ื เพลิง น้า น้ามันหลอ่ ลืน่ แต่ไม่มีพลประจารถ คอื ความหมายของคาว่าอะไร. ? a. นา้ หนกั ทัง้ หมด b. น้าหนกั รถ c. นา้ หนักบรรทุกในภมู ิประเทศ d. นา้ หนักสมั ภาระ 18. ข้อใดกล่าวถูกตอ้ ง a. การ ปบ. ข้ัน ๑ เป็นงานในหน้าที่ท่ีพลขบั ทาก็ได้ไมท่ าก็ได้ b. การ ปบ. ขน้ั ๑ ตอ้ งทาบ่อยๆ เพ่ือจะไดน้ าไปเบกิ สป. c. การ ปบ. ขั้น ๑ เปน็ การตรวจสภาพทัว่ ไปเพอื่ ให้ทราบข้อบกพร่องของยุทโธปกรณ์ d. ทีก่ ล่าวมาแล้วถกู ต้องทุกข้อ 28. หมู่ ปก. เอม็ ๖๐ คจตก ในอัตราของ มว.ปล.ใครเป็นผู้สัง่ ใช้โดยตรง.? a. ผบ.หมู่ ปล. b. ผบ.มว. ปล. c. ผบ. ร้อย d. ผบ.มว. ค.๖๐ 29. จุดแยกหมวด ในการเข้าตเี วลากลางคนื ใครเปน็ ผู้กาหนด a. ผบ.หมู่ b. ผบ.พนั c. ผบ.มว. d. ผบ.รอ้ ย 33. การแบง่ พนื้ ท่ีในการ ปปส. มีกี่พน้ื ท่ีอะไรบา้ ง.? a. ๒ พน้ื ที่ พื้นที่ ฝกส. พืน้ ทข่ี องรัฐบาล b. ๓ พน้ื ที่ แดง, เหลือง, ส้ม c. ๒ พืน้ ที่ พ้ืนท่ขี องรัฐบาล, พื้นที่ประชาชน d. ๓ พืน้ ที่ แดง, เหลอื ง, เขยี ว 35. โดยปกติ ผบ.หน่วย จะอาศัยข่าวกรองจากที่ใดเป็นหลักในการปฏิบัตภิ ารกจิ ทุกครง้ั .? a. หน่วยเหนอื b. หน่วยสมทบ c. หนว่ ยขา้ งเคียง d. หนว่ ยของตนเอง

39. ประเภทของการเลด็ ลอดแบง่ ออก 2 ประเภท ได้แก่อะไรบา้ ง? a. 1. ประเภทระยะใกล้ 2. ประเภทระยะไกล b. 1. ประเภทใกลป้ ระชดิ 2. ประเภทไม่ประชิด c. 1. ประเภทระยะใกล้ 2. ประเภทระยะยาว d. 1. ประเภทระยะใกล้ 2. ประเภทหลงั แนวรบ 40. การแบง่ ประเภทปญั หาใหญ่ๆซง่ึ เกี่ยวกับการดารงชีพให้เหมาะสมกับภมู ภิ าคมีอยดู่ ้วยกัน 4 ประการ คือ a. ชุดดารงชีพในทะเล b. ชดุ ดารงชีพในป่า c. ถกู ทกุ ขอ้ d. ชดุ ดารงชพี ในทะเลทราย 49. การกาหนดที่ตัง้ เปา้ หมายด้วยวธิ ีพิกดั ตารางท่ีถกู ต้องคือการบอกอะไร a. พกิ ัด,ระยะ b. พกิ ดั ,มมุ ภาค c. พกิ ดั ,มมุ ภาค,ระยะ d. มุมภาค,พิกัด ๑. ปจั จุบันท่านในฐานะเป็น ผบ.มว.ปล. และได้ใหค้ ่าส่งั ยุทธการ กับ ผบ.หมู่ เสรจ็ เรยี บร้อยแลว้ ผบ.หมู่ ของท่านจะรู้ เจตนารมณข์ องท่านข้อใด ก.ขอ้ ๑ ก ข. ข้อ ๑ ข ค. ขอ้ ๓ ก ง. ข้อ ๓ ข ๒. การวิเคราะห์เวลาและการวางแผนการใช้เวลา ผบ. หน่วยต่างๆ มกั นยิ มใชเ้ วลาในการวางแผน คอื ใชเ้ วลาไมเ่ กิน ๑ ใน ๓ สว่ น ของเวลาท่ีมอี ยู่ ท่านในฐานะเป็น ผบ.มว.ปล. ไดร้ บั ค่าสง่ั ยุทธการในการเข้าตีจาก ผบ.ร้อยเสรจ็ เรียบรอ้ ยแลว้ ใน ๑๕๐๙๐๐ ก.พ. ๕๒ ซง่ึ ภารกจิ ในการเขา้ ตีใน ๑๖๐๙๐๐ ก.พ. ๕๒ ตามหลักการวางแผนการใชเ้ วลาน้ันทา่ นนา่ จะใหค้ ่าสงั่ ยุทธการกบั ผบ. หมู่ ในเวลาใดจงึ จะเหมาะสมกับการใช้เวลาของทา่ นมากทสี่ ดุ ก. ใน ๑๕๑๒๐๐ ก.พ. ๕๒ ข. ใน ๑๕๑๔๐๐ ก.พ. ๕๒ ค. ใน ๑๕๑๖๐๐ ก.พ. ๕๒ ง. ใน ๑๕๑๘๐๐ ก.พ. ๕๒ ๓. ค่าสงั่ ยทุ ธการ ในขอ้ ๑ สถานการณ์ ในขอ้ ย่อย ข้อ ๑ ก. กา่ ลังฝา่ ยขา้ ศึก ในข้อ ก ก่าลังฝา่ ยข้าศึกน้ันจะกล่าวถึงข้อย่อย เปน็ ตัวเลขไปอีก ๓ ขอ้ ขอ้ ใดกล่าวถกู ต้อง ก. ก่าลังข้าศึก, กา่ ลงั เพิ่มเตมิ , กองหนุน ข. กา่ ลงั ข้าศึก, ท่ตี ั้งข้าศกึ . ส่ิงบอกเหตุ ค. สถานการณ์ข้าศึก, ก่าลงั ข้าศกึ , ส่ิงบอกเหตุ ง. สถานการณข์ ้าศึก,ขดี ความสามารถข้าศึก,สิง่ บอกเหตุ ๔. ค่าสงั่ ยุทธการ ขอ้ ๓ ทก่ี ล่าวถงึ ข้อ ก. แนวความคิดในการปฏบิ ตั จิ ะกล่าวถึงเรอ่ื งอะไร? ข้อใดกลา่ วถูกตอ้ งที่สดุ ก. เจตนารมณ์, กลยุทธ, การช่วยรบ ข. เจตนารมณ,์ กลยทุ ธ, การปฏบิ ตั ิ ค. เจตนารมณ,์ กลยุทธ, การยงิ ง. เจตนารมณ์, กลยทุ ธ, การบงั คบั บญั ชา ๕. แผนยทุ ธการและค่าสงั่ ยทุ ธการนนั้ จะใชแ้ บบฟอร์มอยา่ งเดยี วกัน ส่าหรับคา่ ส่งั ยทุ ธการนั้นจะแตกต่างจากแผนยุทธการ อย่างไร ข้อใดกล่าวถูกต้องที่สุด ก. บ่งวนั เวลาและมีสมมตุ ฐิ าน ข. บ่งวันเวลาและไม่มีสมมุติฐาน ค. ไม่บง่ วันเวลาและไมม่ สี มมุตฐิ าน ง. ไม่บ่งวันเวลาและไม่มสี มมุติฐาน ๖. เม่ือทา่ นเป็น ผบ.มว.ปล. ในคา่ สัง่ ยุทธการ ข้อ ๑ (ข. กา่ ลงั ฝา่ ยเรา) กลา่ วถงึ ขา่ วสารท่ีสา่ คญั ทห่ี น่วยรองจา่ เปน็ ตอ้ งทราบ เพ่อื การปฏิบัติใหบ้ รรลุภารกิจโดยระบถุ ึงภารกจิ ของหนว่ ยเหนือ ขอ้ ใดกลา่ วถูกตอ้ ง ก. ระบภุ ารกจิ ของหน่วยเหนอื ๑ ระดบั ข. ระบุภารกจิ ของหน่วยเหนือ ๒ ระดับ ค. ระบุภารกจิ ของหน่วยเหนือ ๓ ระดับ ง. ระบเุ ฉพาะหนว่ ยของตนเองเท่านัน้ ๗. ค่าส่ังการรบ ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ ง ก. บันทกึ ข้อความ ข. คา่ สัง่ ทั่วไป ค. ค่าสั่งเฉพาะ ง. ค่าสั่งนโยบาย ๘. ค่าสั่งซึง่ แจง้ สถานการณ์ ภารกจิ การตกลงใจของผู้บงั คบั บัญชา และแผนการปฏบิ ัติตา่ งๆ และรายละเอยี ดของการปฏิบตั ิ ทีต่ ้องการเพื่อความแนน่ อนในการประสานงาน หมายถงึ ข้อใด ก. คา่ สง่ั ยุทธการ ข. คา่ สั่งการชว่ ยรบ ค. ค่าสงั่ เป็นสว่ นๆ ง. ค่าสงั่ นโยบาย ๙. ค่าสงั่ ปกติ ข้อใดกลา่ วถูกต้อง ก. คา่ สัง่ ทวั่ ไป ข. คา่ สง่ั การชว่ ยรบ ค.ค่าส่ังเป็นส่วนๆ ง. คา่ สั่งนโยบาย

๑๐. เป็นค่าสั่งชีแ้ จงลว่ งหน้าถึงการปฏิบัติ และค่าส่ังตา่ งๆทจี่ ะต้องปฏบิ ตั ิตาม ค่าสัง่ นี้มักจะออกมาในรูปส้ันๆ ดว้ ยวาจาหรือ ข้อเขียนก็ได้ ชว่ ยให้หนว่ ยรองมีเวลาในการเตรยี มการเพื่อเข้าปฏบิ ัติการในโอกาสต่อไปเม่ือได้รบั ค่าสง่ั ข้อใด ก. ค่าส่ังเตอื น ข. ค่าสง่ั ชี้แจง ค. ระเบยี บปฏิบตั ิประจา่ ง. ค่าสั่งเฉพาะ ๑๑. เครือ่ งนิรภยั ของ ปพ.๘๖ มีกอ่ี ย่าง ก. ๑ ข. ๒ ค. ๓ ง. ๔ ๑๒. ข้อใดไม่ใช่ขอ้ แตกต่างระหวา่ ง ปพ.๘๖ เอม็ ๑๙๑๑ กับ เอ็ม ๑๙๑๑ เอ ๑ ก. ไกด้านหน้าท่าใหย้ าวขึ้น ข. ศนู ย์หนา้ ขยายใหญ่กว่าเดิม ค. หนา้ ไกมีลายกนั ลน่ื ง. เหลก็ ปิดทา้ ยโครงปืนโค้งออกมา ๑๓. ปลย.๑๑ มี ๔ แบบ แบบทีต่ ดิ กล้องเลง็ คือแบบใด ก. ปลย.๑๑ ข. ปลย.๑๑ เอ.๑ ค. ปลย.๑๑ K ง. ปลย.๑๑ ZF ๑๔. กล้องเลง็ ท่นี า่ มาติดกับ ปลย.๑๑ สามารถปรบั ระยะยิงได้ถงึ เทา่ ไร ก. ๖๐๐ เมตร ข.๗๐๐ เมตร ค.๘๐๐ เมตร ง.๙๐๐ เมตร ๑๕. ศูนย์หลงั ของ ปลย.เอม็ .๑๖ เอ.๑ ทม่ี ีเคร่ืองหมายตัว L ใชส้ า่ หรบั ยงิ ระยะใด ก. ๒๕๐ เมตร ข. ๐ - ๓๐๐ เมตร ค. ๓๐๐ - ๕๐๐ เมตร ง. ๔๖๐ เมตร ๑๖. การฝกึ ยงิ ปนื เบ้ืองต้น ขั้นตอนแรกคอื ก. การใช้ศนู ยแ์ ละการเล็ง ข. การฝึกทา่ ยิง ค. การปรับศูนย์ ง. การฝึกบังคับลมหายใจ ๑๗. ขอ้ ใดเปน็ ระยะยงิ หวงั ผลเปน็ พื้นทข่ี อง ปลย.เอม็ .๑๖ เอ ๒ ก. ๖๐๐ เมตร ข. ๗๐๐ เมตร ค. ๘๐๐ เมตร ง. ๙๐๐ เมตร ๑๘. ทจ่ี านปรับทางระยะของ ปลย.เอ็ม.๑๖ เอ ๒ สามารถเลอ่ื นระยะได้เทา่ ไร ก. ๒๐๐ – ๗๐๐ เมตร ข. ๒๐๐ – ๘๐๐ เมตร ค. ๓๐๐ – ๗๐๐ เมตร ง. ๓๐๐ – ๘๐๐ เมตร ๑๙. การทา่ งานของเคร่ืองกลไก ชิ้นสว่ นบางส่วนท่างานพร้อมกันในขณะเดยี วกนั บางส่วนทา่ งานตามล่าดบั เป็นวงรอบการท่างานของปนื โดยแบ่งออกเป็น ๘ ข้ันตอน อยากทราบว่าขนั้ ตอนที่ ๒ คืออะไร ก. การเข้าสู่รังเพลิง ข. การขึ้นนก ค. การปลดกลอน ง. การรง้ั ปลอกกระสนุ ๒๐. ฝาประกับลา่ กล้อง ปลย.เอ็ม.๑๖ เอ.๔ มีลกั ษณะกลมชนดิ กันความร้อน ๒ อนั ท่าดว้ ยวสั ดแุ ขง็ พิเศษ มีรรู ะบายอากาศอย่างไร ก.ด้านบน ๑๐ รู ดา้ นล่าง ๖ รู ข. ด้านบน ๑๐ รู ด้านลา่ ง ๕ รู ค. ด้านบน ๑๕ รู ด้านล่าง ๑๕ รู ง. ดา้ นบน ๑๕ รู ด้านล่าง ๑๒ รู ๒๑. ปลย.ทาโวร์ ท่านตอ้ งดึงคันรง้ั เพ่ือขึน้ นก หลงั กระสนุ หมดซองหรือไม่ ก. ใช,่ หลงั บรรจุซองกระสุนอันใหม่ ข. ไม่, ท่านบรรจุซองกระสุนอันใหม่ แล้วดันปุม่ ปลดโครงนา่ ลูกเลอื่ นได้เลย ค. ใช,่ กอ่ นท่านบรรจุซองกระสนุ อันใหม่ ง. ใช,่ ทา่ นดึงคันร้ังเพอ่ื ขึน้ นกก่อน, แล้วจึงดนั ปุ่มปลดโครงนา่ ลกู เลื่อน ๒๒. ท่านจัดการกบั อาการปืนติดขดั แบบที่สอง (block 2) ของ ปลย.ทาโวร์ อย่างไร ก. ตบซองกระสนุ ใหเ้ ข้าที่ แล้วดึงคันร้งั เพ่ือขน้ึ นก ข. ดนั ปุ่มปลดโครงน่าลูกเล่อื น ค. ปลดซองกระสนุ ออก, ข้นึ นกสองครั้ง, บรรจซุ องกระสนุ , ขนึ้ นก (ข้ึนนก = ดงึ คันรั้งแลว้ ปล่อย) ง. เปลย่ี นซองกระสนุ , ดนั ปุ่มปลดโครงน่าลูกเลือ่ น ๒๓. การปรับมุมทศิ ส่วนย่อยทีช่ ุดใบศูนย์ (ศูนย์ยิงเร่งด่วน) ของ เอ็ม.๒๐๓ เม่อื หมนุ เพิ่มไป ๑ ขีดในระยะ ๒๐๐ เมตรจะ เล่อื นต่าบลกระสุนตกไปเท่าไร ก. ๒ เมตร ข. ๑ เมตร ค. ๑ ๑/๒ เมตร ง. ๑/๒ เมตร ๒๔. การปรับมุมสูงของ เอ็ม.๒๐๓ เมอื่ หมนุ ควงมุมสงู ท่ีหลักศนู ย์หน้า ๑ รอบ ในระยะ ๒๐๐ เมตร จะเลือ่ นตา่ บลกระสุนตก ไปกี่เมตร ก. ๕ ข. ๑๐ ค. ๑๕ ง. ๒๐

๒๕. ปลก.เอม็ .๒๔๙ มนิ มิ ิ การถอดประกอบข้นั ที่ ๒ ชุดชน้ิ ส่วนที่ ๓ ท่ีจะตอ้ งถอดคอื อะไร ก. ขาทราย ข. ชุดกรวยจดั แก๊ส ค. กระบอกสบู ง. ลกู สบู ๒๖. ปลก.เอม็ .๒๔๙ เมือ่ เราบดิ คนั ปลอกกรวยจดั แกส๊ มาทางขวาสดุ จะเป็นการยิงลักษณะใด ก. การยงิ ต่อเน่ือง ข. การยิงเรว็ ปานกลาง ค. การยงิ เร็วสูงสดุ ง. การยงิ ปกติ ๒๗. หลักการใหญ่ ๆ ในการท่างานของ ปลก.เนเกฟ มีดังต่อไปนี้ขอ้ ใดกลา่ วไม่ถกู ต้อง ก. ทา่ งานดว้ ยสว่ นเคล่ือนที่ ข. ปอ้ นกระสนุ ด้วยสายกระสนุ ค. ทา่ การยงิ ด้วยท่าลกู เลื่อนเปิด ง. ปอ้ นกระสุนด้วยซองกระสุน ๒๘ .ในการปรับศูนย์ของ ปลก.เนเกฟ ในระยะ ๒๕ เมตร ในทางทิศและทางระยะท่ศี ูนย์หนา้ มคี ่าเท่ากนั อยากทราบวา่ หมุน ๒ คล๊กิ จะเปลยี่ นตา่ บลกระสนุ ถูกเทา่ ไร ก. ๐.๗ ซม. ข. ๑ ซม. ค. ๑.๔ ซม. ง. ๒ ซม. ๒๙. อตั รากระสนุ มูลฐาน ของ ปก.๓๘ ใน ๑ กระบอกจะมีกระสนุ จ่านวนกน่ี ัด ก. ๑,๘๐๐ นดั ข. ๒,๖๐๐ นดั ค. ๓,๑๐๐ นัด ง. ๓,๖๐๐ นดั ๓๐. ระยะยิงหวงั ผลของ ปก.๓๘ เทา่ ไร ก. ๑,๘๐๐ ม. ข. ๒,๐๐๐ ม. ค. ๓,๐๐๐ ม. ง. ๓,๕๐๐ ม. ๓๑. ปก.๙๓ มรี ะยะยงิ ไกลสุดเท่าไร ก. ๕,๔๐๐ หลา ข. ๖,๔๐๐ หลา ค. ๗,๔๐๐ หลา ง. ๘,๔๐๐ หลา ๓๒. ชนิ้ สว่ นประกอบหลัก ค.อัตโนมัติ ๔๐ มม. มีก่ีชดุ ชิ้นสว่ น ก. ๕ ชุดชนิ้ สว่ น ข. ๖ ชดุ ชิน้ สว่ น ค. ๔ ชดุ ช้ินสว่ น ง. ๓ ชดุ ชิ้นสว่ น ๓๓. อุดมการณ์ในการสร้างอาวุธของกลุม่ ประเทศสงั คมนยิ มคอื ขอ้ ใด ก. อาวธุ ตอ้ งท่าการยิงโดยไม่ตดิ ขัด ข. สร้างอย่างง่าย รกั ษาง่าย ใช้ง่าย คงทน ค. สามารถพกพาติดตวั ได้คล่อง ง. ปอ้ งกันการกัดกร่อนของสนมิ ได้ ๓๔. เครอ่ื งยงิ จรวด อารพ์ ีจี ๒ ขนาด ๔๐ มม. มสี ่วนประกอบส่าคัญอยู่ ๔ ส่วน คือ ก. เคร่ืองยงิ , ล่ากล้อง, เคร่ืองเล็ง, เครื่องลั่นไก ข. เคร่อื งยงิ , เครอื่ งเลง็ , เคร่ืองล่นั ไก, ลา่ กล้อง ค. ล่ากล้อง, เครอื่ งลน่ั ไก, เครอ่ื งเล็ง, เขม็ แทงชนวน ง. ลา่ กล้อง, เครอ่ื งลัน่ ไก, เครือ่ งยิง, เข็มแทง ชนวน ๓๕. เคร่ืองยิงจรวด อารพ์ จี ี ๒ ขนาด ๔๐ มม. ทศี่ นู ยห์ ลังจะมีชอ่ งเลง็ อยู่ ๓ ชอ่ งเลง็ อยากทราบว่าชอ่ งเล็งที่ ๒ ใชเ้ ล็งยงิ ระยะเทา่ ไร ก. ๕๐ เมตร ข. ๑๐๐ เมตร ค. ๑๕๐ เมตร ง. ๒๐๐ เมตร ๓๖. เครือ่ งยงิ จรวด อาร์พีจี ๗ ขนาด ๔๐ มม. ขอ้ ใดกล่าวไมถ่ กู ตอ้ งเกย่ี วกับคุณลกั ษณะทั่วไป ก. ใชใ้ นการทา่ ลายต่อสรู้ ถถงั ข. ทา่ ลายยานยนต์ชนดิ ตา่ ง ๆ ได้ ค. มีขาทรายประกอบกับการยงิ ง. ทา่ การบรรจุลกู จรวดทางทา้ ยล่ากลอ้ ง ๓๗. พืน้ ที่อันตรายทา้ ยเครือ่ งยงิ จรวด อาร์พีจี ๗ ขนาด ๔๐ มม. ขอ้ ใดกลา่ วไว้ถกู ต้อง ก. เป็นรปู กรวยระยะไกล ๑๐ – ๕๐ เมตร ข. เป็นรูปกรวยระยะไกล ๑๐ – ๓๐ เมตร ค. เป็นรปู กรวยระยะไกล ๓๐ เมตร ง. เป็นรปู กรวยระยะไกล ๓๕ เมตร ๓๘. ปนื ไร้แรงสะท้อน ขนาด ๘๔ มม. แบบ เอ็ม.๓ มีระยะหวังผลเทา่ ไร เม่ือใช้กล้องเล็งและกระสุน HEAT 551 ก. เปา้ หมายอยู่กับที่ ๗๐๐ เมตร เปา้ หมายเคล่อื นท่ี ๓๐๐ เมตร ข. เปา้ หมายอย่กู ับที่ ๗๐๐ เมตร เป้าหมายเคลือ่ นที่ ๔๐๐ เมตร ค. เป้าหมายอยูก่ ับที่ ๕๐๐ เมตร เป้าหมายเคลอื่ นท่ี ๓๐๐ เมตร ง. เป้าหมายอยู่กบั ที่ ๔๐๐ เมตร เปา้ หมายเคลื่อนที่ ๗๐๐ เมตร ๓๙. พนื้ ที่อนั ตรายท้ายเคร่ืองยงิ ของ ปรส.๘๔ มม.เอม็ .๓ มีระยะเท่าไร ก. ๓๕ เมตร ข. ๕๕ เมตร ค. ๖๕ เมตร ง. ๗๕ เมตร

๔๐. ปรส.๑๐๖ มม. เอม็ .๔๐ เอ ๒ สามารถต้ังยงิ ได้บนพ้ืนดนิ และบนรถ รยบ.๑/๔ ตัน เอ็ม ๘๒๕ อยาก ทราบวา่ มรี ะยะยงิ หวังผลเท่าใด ก. ๗,๗๐๐ เมตร ข. ๑,๕๐๐ เมตร ค. ๑,๑๐๐ เมตร ลงมา ง. ๑,๑๐๐ เมตร ขึ้นไป ๔๑. ปรส.๑๐๖ มม. สามารถทา่ ลายรถถังไดท้ ุกชนดิ และสามารถเจาะเกราะเหลก็ กลา้ ได้หนาเทา่ ใด ก. ๑.๘ เมตร ข. ๒๐ นิว้ ค. ๑.๕ เมตร ง. ๑๘ น้วิ ๔๒. อัตราการจดั ของ มว.ค.๖๐ ประกอบด้วย........หมู่ ๆละ.......นาย ท้งั มว.ค มีกา่ ลังพลทั้งสิ้น.......นาย ก. ๓, ๔ , ๑๕ ข.๓, ๔ , ๑๘ ค. ๓ , ๕ , ๒๐ ง. ๓ , ๖ ,๒๒ ๔๓. การต้งั ค.ปกติควรต้งั กล้องเล็งอย่างไร ก. ตง้ั มุมทิศ ๖๒ มลิ เลยี ม ข. ตงั้ มมุ สงู ๖๐ มลิ เลยี ม ค. ตง้ั มุมทิศ ๐ มิลเลยี ม ง. ตั้งมุมทิศ ๐ องศา ๔๔. ลกั ษณะท่ัวไปของ ค. ขนาด ๘๑ มม. ข้อใดกล่าวไว้ไมถ่ กู ตอ้ ง ก. จัดเป็นอาวธุ ประจ่าหน่วย ข. ภายในล่ากลอ้ งเกลยี้ ง ค. ปฏบิ ัตกิ ารยิงดว้ ยมุมสูงคงท่ี ง. ปฏิบตั ิการยงิ โดยใชศ้ ูนย์อ่านวยการยิง ๔๕. การต้งั เคร่อื งยิงปกติของ ค. ขนาด ๘๑ มม. เมือ่ ยงั ไมท่ ราบทศิ ทางยิงท่ีแนน่ อน จะตัง้ มาตรามุมทศิ และ มุมสูงเท่าไร ก. มุมทิศ ๓,๒๐๐ มุมสงู ๑,๑๐๐ ข. มมุ ทิศ ๐ มมุ สูง ๑,๑๐๐ ค. มุมทิศ ๓,๒๐๐ มมุ สูง ๑,๐๐๐ ง. มุมทิศ ๐ มุมสงู ๖๒ ๔๖. การแบ่งประเภทลกู ระเบิดยงิ ท่ีใชย้ งิ กบั ค. ขนาด ๑๒๐ มม. แบง่ ออกเป็น ๔ ประเภท มีประเภทอะไรบ้าง ก. ลย.สังหาร, ลย.ท่าลาย, ลย. ซ้อมยงิ , ลย.ฝกึ ยงิ ข. ลย.สังหาร, ลย.ฝึกยิง, ลย.ซ้อมยิง, ลย.ฝกึ หกั บรรจุ ค. ลย.ท่าลาย, ลย.รบ, ลย.ฝึกยิง, ลย.ซอ้ มยิง ง. ลย.ซอ้ มยงิ , ลย.ฝึกยิง, ลย.รบ, ลย.ฝกึ หัดบรรจุ ๔๗. มาตรามมุ ทศิ ส่วนใหญแ่ ละมาตรามุมทศิ ส่วนย่อยสแี ดงมีไวใ้ ช้เพื่อจดุ ประสงค์อะไร ก. เพือ่ ตง้ั ยิงปกติ ข. เพ่อื จา่ ลองทิศ ค. เพื่อต้งั ค.ให้ถกู ทิศ ง. เพ่ือวางพนื้ ยิง ๔๘. ดินระเบิดชนดิ ใด ที่ไวต่อการระเบิดมากทีส่ ดุ ก. พ.ี อ.ี ท.ี เอ็น ข. อาร์.ด.ี เอก๊ ซ์ ค. ที.เอ็น.ที ง. คอมโปซิชัน่ ซี ๔๙. ระบบการจุดระเบิดดว้ ยเชอ้ื ปะทุชนวนมีองค์ประกอบการจุดอยา่ งไร ก. เครอ่ื งจดุ ระเบดิ – ชนวนฝกั แคเวลา – เชอื้ ปะทุชนวน – ดินระเบิด ข. ตจู้ ุดระเบดิ – ชนวนฝักแคระเบิด - เช้ือปะทุชนวน – ดนิ ระเบดิ ค. เคร่อื งจดุ ชนวน - ชนวนฝกั แคเวลา – เช้ือปะทชุ นวน – ดินระเบดิ ง. เครอื่ งจดุ ระเบิด - ชนวนฝกั แคระเบิด - เชื้อปะทชุ นวน – ดนิ ระเบิด ๕๐. ทุน่ ระเบิดสังหารบุคคลแบบ M ๑๔ มกี ารทา่ งานอยา่ งไร ก. การระเบดิ อยกู่ บั ท่ี ข. กระโดดระเบดิ ค. บงั คบั ทิศทาง ง. แบบบงั คบั จุด ๕๑. ทนุ่ ระเบิดสังหารบุคคลแบบ M ๑๘ A ๑ มีระยะหวงั ผลเทา่ ไร ก. ๕๐ เมตร ข. ๑๐๐ เมตร ค. ๑๕๐ เมตร ง. ไม่มขี ้อถูก ๕๒. ขอ้ ใดเป็นองค์ประกอบของการจดุ ระเบิด กับระเบดิ แสวงเครื่องพวกใช้เชอ้ื ปะทุไฟฟา้ ก. ดินระเบดิ , เชื้อปะทุไฟฟ้า , เคร่อื งจดุ ระเบดิ มาตรฐาน และแบตเตอรี่ ข. ดินระเบิด , เช้อื ปะทชุ นวน , สวิทชจ์ ดุ ระเบิด และแบตเตอร่ี ค. ดินระเบิด , เชอ้ื ปะทุชนวน , เครือ่ งจดุ ระเบิดมาตรฐาน และสวทิ ช์จุดระเบิด ง. ดินระเบิด , เช้อื ปะทุไฟฟา้ , สวทิ ช์จุดระเบดิ และแบตเตอรี่

๕๓. “ลวดหยอ่ นอย่าดงึ ลวดตึงอย่าตัด” ไม่เกี่ยวข้องกบั ข้อใด ก.เอม็ ๓ ข.เอม็ ๑ ดึง ค. เอม็ ๑๔๒ ง.เอ็ม ๕ ๕๔. ระบบจุดระเบิดแบบใดเหมาะสา่ หรับเป้าหมายเคลอื่ นท่ี ก. โทรศัพทม์ ือถือ ข. ถว่ งเวลา ค. นบั ถอยหลังดว้ ยวงจรอิเลคทรอนิคส์ ง. บงั คับจุดด้วยสายไฟฟา้ คู่ ๕๕. ข้อใดคือหลักเกณฑ์ท่ีใช้จา่ แนกวตั ถตุ ้องสงสัยออกจากสิ่งของทว่ั ไป ก. ๓ ใช่ ๑ อยู่ ข. ๓ ไม่ ๑ ดู ค. ๓ ไม่ ๑ หมู่ ง. ๓ ไม่ ๑ อยู่ ๕๖. ขอ้ ใดคือความหมายของป้อมสนาม ก. ปอ้ มค่ายทีส่ รา้ งข้ึนเมื่อปะทะกับข้าศึก ข. ปอ้ มค่ายทส่ี ร้างขึ้นเมื่อยังไมม่ ีการปะทะกับขา้ ศกึ ค. ป้อมคา่ ยทสี่ ร้างขึน้ เม่ือใกลจ้ ะปะทะกบั ขา้ ศึก ง. ข้อ ก. และ ค. ถูก ๕๗. ข้อพจิ ารณาประการแรกในการเลือกทีต่ ัง้ หลุมบุคคล เพื่อใชท้ ่าหลุมท่าการรบนัน้ ข้อใดถกู ต้อง ก. มกี ารก่าบังจากการยิงดี ข. มพี ้ืนการยิงดี ค. มกี ารซอ่ นเร้นดี ง. สามารถต่อสู้ได้รอบตัว ๕๘. ทต่ี ้งั ยงิ ปก.เอ็ม.๖๐ แบบหลุมบคุ คลสองหลุม อยากทราบวา่ หลมุ ของพลยงิ และพลบรรจุกระสนุ ขดุ หา่ งกนั เท่าไร ก. ๑ ฟตุ ข. ๑ ๑/๒ ฟตุ ค. ๒ ฟตุ ง. ๒ ๑/๒ ฟุต ๕๙. เคร่ืองกีดขวางลวดหนามแบง่ ออกไดต้ ามภารกจิ ในการตั้งรบั ดังนี้ ก. รั้วลวดหนามทางยทุ ธวิธ,ี ป้องกนั ตน และร้ัวลวดทางปกี ข. รวั้ ลวดหนามทางยทุ ธวธิ ,ี ปอ้ งกันตน และเพ่ิมเติม ค. รัว้ ลวดหนามป้องกันตน และเพ่ิมเตมิ ง. ร้ัวลวดหนามทางยุทธวิธี และเพิ่มเติม ๖๐. การพันลวดเข้ากับเสาเหล็กเกลียวมีอยู่ ๒ แบบดงั นี้ ก. การพันลวดกบั ตาบนและตากลาง ข. การพนั ลวดกับตาบนและตาล่าง ค. การพันลวดกบั ตาบนและตาท่ี ๓ ง. การพนั ลวดกบั ตากลางและตาลา่ ง ๖๑. การสรา้ งเครื่องกีดขวางลวดหนามไม่ว่าจะสร้างแบบใดก็ตามประการส่าคัญทีส่ ดุ อนั ดับแรกจะต้อง ก. มอี าวุธคมุ้ ครองเสมอ ข. ไมจ่ า่ เปน็ จะตอ้ งมีอาวุธยิงคมุ้ ครอง ค. ต้องวางให้มรี ะเบยี บ ง. ถกู ทง้ั ข้อ ก,ข ๖๒. การพันลวดกบั ลวดหมายถงึ การพนั ลวดตามข้อใด ก. การพันลวดขนานกระโจมกบั ลวดทแยง ข. การพนั ลวดกระโจมกบั ลวดรัว้ ลวดแนวกลาง ค. การพันลวดทแยงกบั ลวดร้ัวลวดแนวกลาง ง. การพันลวดขนานกบั ลวดแนวกลาง ๖๓. การยงิ มุมกระสนุ ตกใหญ่ เปน็ การยงิ ของปนื กลประเภทใด ? ก. การยงิ เกย่ี วกบั พนื้ ท่ี ข. การยงิ เก่ียวกับเปา้ หมาย ค. การยงิ เกย่ี วกบั ปืน ง. การยิงเฉพาะตา่ บล ๖๔ การก่าหนดที่ต้ังยิงของปืนกลสามารถก่าหนดเป็นพิกัดก่ตี ัว ? ก. 4 ตวั ข. 8 ตวั ค. 6 ตวั ง. 10 ตวั ๖๕. อยากทราบว่า ขอ้ ใดต่อไปนี้กลา่ วถกู ต้อง เก่ียวกับรูปอาการกระจายของ ปก. ? ก.ยิงปนื ระยะไกล รูปอาการกระจายทางยาวมาก ทางกว้างมาก ข. ยิงปนื ระยะใกล้ รปู อาการกระจายทางยาวนอ้ ย ทางกวา้ งมาก ค. ยงิ ปืนลงพ้ืนท่ีลาดต่า รูปอาการกระจายจะสัน้ ง. ยิงปนื ระยะไกล รปู อาการกระจายทางยาวน้อย ทางกวา้ งมาก ๖๖. การยิงทกี่ ระท่าต่อเป้าหมายที่มีความกว้างมาก และก่าลงั เคลือ่ นที่อย่างรวดเรว็ ผา่ นข้างหน้าพลยงิ เปน็ การยิง ชนดิ ใด ? ก.การยิงกราดทางลกึ ข. การยิงกราดผสม ค. การยงิ กราดคลายปืน ง. การยิงกราดตลอด ๖๗. การหาระยะยิงของปนื กล ควรใหใ้ กลเ้ คียง 100 เมตร มากที่สุด อยากทราบว่าวธิ กี ารใช้อย่างธรรมดามากทสี่ ุดในขณะ ท่าการรบคือวธิ ใี ด ? ก.การวัดระยะในแผนที่ ข. วิธนี บั ก้าว ค. ใช้หลักฐานจากหนว่ ยอนื่ ง. การกะระยะด้วยตา, การยงิ จากปืน

๖๘. เม่ือไดป้ รบั ปนื ช้ีต่าบลกระสุนถกู เปน็ แนวเดียวกันกบั ปรส.106 มม. แลว้ กระสนุ วิถขี องปืนท้ังสองจะอยใู่ นแนวเดียวกนั จนถึงระยะเทา่ ไร ? ก. 500 เมตร ข. 1000 เมตร ค. 1500 เมตร ง. 2000 เมตร ๖๙. รถถังเคลอ่ื นท่ีเข้าหาทีต่ ้ังปืนทิศทางตรงหน้า พลยิงจะเล็งไปที่สว่ นไหนของรถถัง ? ก.กง่ึ กลางตัวรถ ข.ก่ึงกลางสว่ นล่าง ค. ก่งึ กลางส่วนบน ง.กึ่งกลางสายพาน ๗๐. คา่ สั่งยิงที่ระบถุ ึงรายละเอียดเก่ยี วกับการปรบั การยงิ การย้ายยงิ และการหยดุ ยิง เรียกว่าคา่ สง่ั อะไร ? ก. คา่ สั่งยงิ เร่ิมต้น ข. คา่ สง่ั ยิงเริ่มแรก ค. ค่าส่ังยงิ แก้ไข ง. ค่าสงั่ ยิงต่อมา ๗๑. การยงิ ทที่ ่าให้เกิดความสูญเสียแกก่ า่ ลงั พลและส่งิ มีชวี ติ รวมท้ังยทุ โธปกรณ์ คือการยิงอย่างไร ? ก.การยิงท่าลาย ข. การยงิ ตดั รอนกา่ ลงั ค. การยิงขดั ขวาง ง. การยงิ รบกวน ๗๒. การยงิ ของ ค. ที่ท่าให้เกิดผลในการทา่ ลาย ขวัญและก่าลังใจของขา้ ศึกทดี่ ีที่สุดนนั้ คอื ข้อใด ? ก.การยิงหาผล ข. การยงิ เป็นพ้นื ที่ ค.การยิงปรับการยิงเป้าหมาย ง. การยงิ อยา่ งจู่โจม ๗๓. ช้นิ สว่ นประกอบของแผน่ กรยุ จุด แบบ ทบ.35 ประกอบด้วยอะไรบ้าง ? ก. แผน่ ฐาน แผน่ หมุน ขาหย่ัง ข. แผน่ ฐาน แผน่ หมนุ มาตรามุมทิศ ค. แผน่ ฐาน แผ่นหมนุ ก้านวัดระยะ ง. แผ่นฐาน แผ่นหมุน มาตราวดั ระยะ ๗๔. ท่านต้องการยงิ ค.60 มม. ไปยังเป้าหมาย หนว่ ย ลว.ของ ขศ. ซง่ึ อยู่ต่ากว่าท่ตี ัง้ ยิง 200 เมตร และท่านกะระยะ (พนื้ ระดับ) จากทต่ี ง้ั ยงิ ถงึ เปา้ หมายได้ 1400 เมตร อยากทราบว่า ท่านจะสงั่ ใหพ้ ลยิงท่าการยิงไปที่ระยะเทา่ ใด ? ก. 1200 เมตร ข. 1300 เมตร ค. 1400 เมตร ง. 1500 เมตร ๗๕. สาเหตุที่ ผตน.ตรวจต่าบลระเบดิ ไดว้ า่ “สงสยั ” เพราะอะไร ? ก. ไม่แน่ใจว่าตา่ บลระเบิด ตกทางขวาหรือซ้ายของเปา้ หมายกันแน่ ข. มองไมเ่ หน็ ตา่ บลระเบดิ ค. ไม่แน่ใจวา่ ต่าบลระเบดิ ตกหนา้ หรอื หลงั เปา้ หมายกันแน่ ง. ตรวจไมไ่ ด้ ๗๖. ในการยิง ค.60 หลงั จากได้ท่าการปรับการยิงต่อ จดุ ยิงหาหลักฐานและหมายมุมทิศหลกั ปักหลักเลง็ เพม่ิ เรียบร้อยแลว้ ต่อมาเกิดเปา้ หมายขนึ้ ในฐานะท่ที า่ นเปน็ ผตน.ซง่ึ ตง้ั ทต่ี รวจการณอ์ ยภู่ ายในรัศมี 100 เมตร จากท่ตี ั้งยิง วดั มุมทางขา้ งจาก จล.ได้ “ซา้ ย 250” ทา่ นจะสง่ั ยงิ ในหัวข้อ “มมุ ทิศ” อยา่ งไร ? ก. ขวา 50 หลักเล็งเพ่ิมซ้ายหลักทส่ี อง ข. ซา้ ย 100 หลกั เลง็ เพิม่ ซา้ ยหลักแรก ค. ซา้ ย 250 หลักเลง็ หลกั ง. ซา้ ย 100 หลักเลง็ เพ่ิมขวาหลักแรก ๗๗. ทา่ นเป็นผู้ตรวจการณพ์ บเป้าหมาย ขศ.วางตัวเปน็ แนว กะระยะจากตวั ท่านถงึ เป้าหมายดังกล่าวได้ 2000 เมตร วดั มุม จากปีกซา้ ยถึงปีกขวา ของเป้าหมายได้ 90 มิลเลยี ม อยากทราบว่าเป้าหมายดังกลา่ ว มีความกว้างเท่าใด ? ก.150 เมตร ข. 180 เมตร ค. 200 เมตร ง. 300 เมตร ๗๘. ใช้ชดุ TE – 33 ทา่ การตัดตอ่ สายโทรศัพท์สนาม แบบเรง่ ด่วน มี ๔ ข้ันตอน ข้ันตอน ท่ี ๑ เรยี กว่าอะไร ? ก. ขั้นการวดั สาย ข. ข้นั การตดั สาย ค. ขั้นการปลอกสาย ง. ขน้ั การเตรียมตัวนา่ ๗๙. ตูส้ ลับสาย SB – 993 /GT ท่อี ยู่ประจ่า ทก.รอ้ ยอวบ.ที่ ๑ สามารถเชือ่ มต่อรบั ทางสายไดก้ ่ที างสาย ? ก. ๕ ทางสาย ข. ๖ ทางสาย ค. ๗ ทางสาย ง. ๘ ทางสาย ๘๐. ลกั ษณะท่วั ไปของวิทยทุ ี่ใช้อยู่ในหน่วยตา่ ง ๆ มีชนิดของเคร่ืองที่ใชต้ ิดตั้งได้หลายวธิ ี มีชอ่ื เรียกวา่ อย่างไร ก. PRC ข. GRC ค. VRC ง. FRC

๘๑. ผลของการทดสอบตนเองของชดุ วิทยุ PRC – 624 จะแสดงผลในเรอ่ื งอะไร ? ก. ถ้า RT – 624 ดี จะมีข้อความ GOOD ข. ถา้ RT – 624 เสีย จะมขี ้อความ BAD ค. ขดี ระดับไฟแบตเตอร่ีจะปรากฏท่จี อภาพ ง. ถูกทุกข้อ ๘๒. แบบฟอร์มกระดาษเขยี นข่าวท่ที างราชการกองทัพบกใช้มีอยูก่ แี่ บบ ? ก. ๔ แบบ ข. ๓ แบบ ค. ๒ แบบ ง. ๑ แบบ ๘๓. รสพ.บ.๑๑๓ เอ.๒ สามารถบรรทกุ ทหารพร้อมยทุ โธปกรณ์ รวมทั้งพลประจา่ รถได้ก่นี าย ? ก. ๑๑ นาย ข. ๑๒ นาย ค. ๑๓ นาย ง. ๑๔ นาย ๘๔ รสพ.บ.๑๑๓ เอ.๒ ระยะปฏิบตั กิ ารบนถนนเท่าใด ? ก. ๒๐๐ ไมล์ ข. ๓๐๐ ไมล์ ค. ๓๕๐ ไมล์ ง. ๔๐๐ ไมล์ ๘๕. ก่าลังในส่วนตัง้ รบั หนา้ มีหนา้ ท่ี ตามข้อใด ก. ยบั ยั้งข้าศึก , ผลกั ดนั ข้าศกึ ข. ยบั ยง้ั , ผลกั ดัน และขับไล่ ขา้ ศึก ค. ยับย้งั , ขับไล่ และท่าลาย ข้าศึก ง. ค้นหา ,ขับไล่ และท่าลาย ข้าศึก ๘๖. ข้อใดกล่าวถึง การปฏบิ ัติ ในขน้ั ตอนของการเตรยี มก่าลังเขา้ ท่าการรบ ได้ถูกต้อง ก. เลือกใช้เสน้ ทางท่ีมีการกา่ บังและซอ่ นพราง ข. การตรวจสอบ และการเบกิ รับ สป.ตา่ งๆ ค. การเลือกพื้นทร่ี ะดมยิงของหมวด ง. การปรับปรุงทม่ี นั่ ตัง้ รับ ๘๗. ข้อใดกลา่ วถึง การปฏิบัติ ในขน้ั ตอนของการเคล่ือนยา้ ยไปยังพื้นทต่ี งั้ รับ ไดถ้ ูกต้อง ก. เลอื กใชเ้ ส้นทางที่มีการกา่ บงั และซอ่ นพราง ข. การตรวจสอบ และการเบกิ รับ สป.ตา่ งๆ ค. การเลอื กพ้ืนท่ีระดมยิงของหมวด ง. การปรบั ปรงุ ทีม่ นั่ ต้ังรับ ๘๘. ข้อใดกล่าวถึง การปฏิบัติ ในขัน้ ตอนของการจดั ต้ังพื้นทตี่ ั้งรบั ได้ถกู ต้อง ก. เลอื กใช้เสน้ ทางที่มีการกา่ บังและซอ่ นพราง ข. การตรวจสอบ และการเบกิ รับ สป.ต่างๆ ค. การเลอื กพ้ืนทีร่ ะดมยงิ ของหมวด ง. การใชเ้ ครือ่ งมอื เฝ้าตรวจเวลากลางคนื ๘๙. ข้อใดกลา่ วถึง การปฏบิ ัติ ในขั้นตอนของการปฏิบตั เิ มื่อเกิดการปะทะ ได้ถูกต้อง ก. การเลอื กพืน้ ที่ระดมยิงของหมวด ข. การตรวจสอบ และการเบกิ รบั สป.ต่างๆ ค. การรอ้ งขอและปรับการยิง อว.เลง็ จา่ ลอง ง. ตรวจการสรา้ งลวดหนามและสนามทุน่ ระเบดิ ๙๐. สว่ นระวงั ป้องกนั ท่ี ผบ.รอ้ ย.เปน็ ผรู้ ับผิดชอบ โดยมว.ปล.เป็นผจู้ ดั กา่ ลงั คอื ส่วนระวงั ปอ้ งกันในข้อใด ก. สว่ นระวงั ปอ้ งกันเฉพาะบรเิ วณ ข. ส่วนลาดตระเวน ค. ฉากก่าบัง ( กองรักษาด่านรบ ) ง. กองรกั ษาด่านท่วั ไป ๙๑. ท่ีมนั่ ในการตั้งรบั ถ้ามีเวลาจะตอ้ งดัดแปลงภมู ปิ ระเทศให้มีทัง้ ๓ ทมี่ น่ั คือ ที่ม่ันหลัก ท่มี ่นั สา่ รอง และท่ีมน่ั เพม่ิ อยาก ทราบวา่ ทม่ี นั่ ท่เี ตรียมการยิงหันไปคนละทศิ ทางกับท่ีม่ันหลัก คอื ทม่ี ั่นชนิดใด ก. ท่มี นั่ ส่ารอง ข. ท่มี ัน่ เพ่ิมเตมิ ค. ท่ีมัน่ รบ ง. ท่ีมน่ั ตอ่ สู้ ๙๒. แนวขอบหนา้ พนื้ ท่ีการรบ ท่แี ท้จรงิ ของหน่วยทีท่ ่าการต้ังรับ จะเกิดขนึ้ ได้สมบูรณ์เมอื่ ใด ก. เมื่อกา่ ลังของ มว.ปล.ในแนวหนา้ ได้เขา้ พื้นทวี่ างตัวเรียบร้อยแลว้ ก. เมอื่ ก่าลังของ มว.ปล.หนุน ไดเ้ ข้าพน้ื ทวี่ างตัวเรียบร้อยแล้ว ข. เม่ือ ผบ.มว.ได้สง่ั การให้ก่าลังของ แต่ละหมู่ เข้าพ้นื ที่วางตัว หลงั จากรบั ค่าสั่งเสรจ็ ค. เมือ่ ผบ.รอ้ ย. สง่ั การ ผบ.มว.ปล.เสรจ็ เรียบร้อยแล้ว ๙๓. แนวทเ่ี กดิ จากทีม่ ่นั ของ มว.ปล.ในแนวหน้า ตดั กับเสน้ แบง่ เขต ท่ีจดุ ประสานงาน คือแนว ในข้อใด ก. แนวประสานงาน ข. แนวฉากก่าบงั ค. แนวกองหนุน ง. แนวขอบหนา้ พื้นที่การรบ ( ขนพร. )

๙๔. ระยะระหวา่ งทตี่ ง้ั จริงของหมู่ ปล.กับทต่ี ้งั เพมิ่ เติมของหมู่ ปล. คือ พืน้ ทีใ่ นขอ้ ใด ก. ความลึก ข. กวา้ งด้านหน้า ค. ระยะเคยี ง ง. ชอ่ งวา่ ง ๙๕. ผกู้ า่ หนดที่ตั้งยิงทวั่ ไป และภารกจิ ยิง ของมว.ค.๖๐ ในการต้งั รับ คือ ผบ.หน่วยในข้อใด ก. ผบ.หมู่ ค. ๖๐ ข. ผบ.ตอน ค. ๖๐ ค. ผบ.มว.ค. ๖๐ ง. ผบ.รอ้ ย.อวบ. ๙๖. ผเู้ สนอแนะการใชก้ ารยิงสนบั สนุน ของ มว.ค. ๖๐ มม. ให้กบั กองร้อย คือ ผู้ใด ก. พลยงิ ข. ผบ.หมู่ ค. ผบ.ตอน. ง. ผบ.มว. ๙๗. ขอ้ ใด กลา่ วถึง การเขยี นสัญลักษณข์ อง ปก. ลงบนแผนการยงิ ของหมวดได้ถูกตอ้ ง ก. เขยี นกระบอกเดียว และแสดงจุดท่ีตง้ั ๑ จดุ ข. เขยี นสองกระบอก และแสดงจุดทต่ี ้ัง ๑ จดุ ค. เขยี นกระบอกเดียว แต่แสดงจุดทีต่ ั้ง ๒ จุด ง. เขียนสองกระบอก แต่แสดงจุดทต่ี ัง้ ๒ จดุ ๙๘. โดยปกตใิ นการวางแผนการใช้ ปก.ผบ.มว.จะต้องก่าหนด สง่ิ ใดให้กบั ปก.ในการต้งั ยงิ ขน้ั ตน้ ก. เขตการยงิ และแนวยงิ ป้องกันขั้นสุดท้าย ข. ทิศทางยงิ หลกั และแนวยงิ ปอ้ งกันขน้ั สุดทา้ ย ค. ที่หมายหลัก และเขตการยงิ ง. เขตการยิงหลักและเขตการยิงรอง ๙๙. ข้อใด กล่าวถงึ ลักษณะการยิงกวาด ของ ปก.ไดถ้ ูกต้อง ก. การยงิ ท่ีมีวถิ กี ระสนุ สงู ไมเ่ กนิ ศีรษะของคนยืน เหนือพน้ื ระดบั ในระยะ ๖๐๐ เมตร ข. การยงิ ทม่ี ีวิถกี ระสนุ สูงไมเ่ กินศีรษะของคนยนื เหนอื พน้ื ระดับ ในระยะ ๗๐๐ เมตร ค. การยิงท่มี ีวิถกี ระสุนสงู เกนิ ศรี ษะคนยนื เหนือพ้นื ระดับ ในระยะ ๖๐๐ เมตร ง. การยงิ ท่มี วี ถิ ีกระสนุ สงู ไม่เกิน ๑ เมตร เหนือพ้ืนระดับ ในระยะ ๗๐๐ เมตร ๑๐๐. ข้อใด กลา่ วถึงการจดั ระเบยี บใหมต่ ่อท่ีหมาย ท่ีหน่วยเขา้ ตีจะต้องกระทา่ ทุกครั้งเมื่อยึดทีห่ มายได้ ก. การทา่ ลายป้อมสนาม ข. การคน้ หาเชลยศกึ ค. การวางแผนการยงิ เลง็ จา่ ลอง ณ ท่ีหมาย ง. การทดแทนก่าลังพลในต่าแหน่งที่ส่าคัญ ๑๐๑. หน่วยทมี่ คี วามเหมาะสมท่ีสุดในระดับกองร้อยอาวธุ เบา เพ่อื ด่ารงรักษาเสรใี นการด่าเนนิ กลยุทธ์ ในการเคลอื่ นทเ่ี ขา้ ปะทะ คือหนว่ ยอะไร ก. มว.ปล. ข. หมู่ ปล. ค. สว่ นลาดตระเวนและระวังป้องกนั ง. ทก่ี ลา่ วมาถกู ทุกขอ้ ๑๐๒. การเขา้ โจมตตี ่อท่หี มายในขณะที่ทัศนวสิ ยั จ่ากัด หน่วยมักจะกระทา่ เพื่อความมงุ่ หมาย ในข้อใด ก. หลกี เล่ียงการสูญเสยี ข. ขยายผลแห่งความสา่ เรจ็ ค. บรรลุผลในการจโู่ จม ง. ทก่ี ลา่ วมาคือความมุ่งหมายท้ังหมด ๑๐๓. การเข้าตเี วลากลางคืน ส่ิงทจี่ ่าเป็นที่สุดและส่าคัญย่ิงตอ่ การเขา้ ตีทุกคร้ัง คือ การปฏิบตั ิในข้อใด ก. การจดั ก่าลงั เฉพาะกจิ ข. การท่าแผนโดยละเอยี ด ค. การลาดตระเวน ง. การส่งกา่ ลังบ่ารุง ๑๐๔. เทคนิคในการเข้าตะลุมบอนทด่ี ีท่ีสุดในการเข้าตเี วลากลางคืน คือ เทคนิคในขอ้ ใด ก. การใชร้ ูปขบวนแถวตอน ข. การใชร้ ปู ขบวนหน้ากระดาน ค. การใช้รปู ขบวนการแทรกซมึ ง. การใชร้ ูปขบวนการเคลอ่ื นที่เข้าปะทะ ๑๐๕. มาตรการควบคุมการยิงทีใ่ ชเ้ พ่ือมอบความรบั ผิดชอบ และให้อาวธุ ต่างๆวางการยิงให้ครอบคลมุ กว้างด้านหน้าและทาบ ทบั กันกับหนว่ ยข้างเคียงด้วย คือ มาตรการควบคุม ในข้อใด ก. เขตการยิง ข. พ้ืนทีร่ ะดมยิง ค. จุดระดมยิง ง. พ้ืนท่สี ังหาร

๑๐๖. มาตรการควบคมุ การยิง ทใี่ ช้เพื่อรวมอ่านาจการยงิ ของอาวุธชนิดต่างๆไปยังพืน้ ท่ีนัน้ ๆ คอื มาตรการควบคุม ในขอ้ ใด ก. เขตการยิง ข. พืน้ ท่รี ะดมยิง ค. จุดระดมยิง ง. พนื้ ที่สังหาร ๑๐๗. ข้อใด คอื ความมุ่งหมายหลักของการยงิ ฉากป้องกนั ขน้ั สุดทา้ ย ในการตงั้ รับ ก. เพอ่ื ท่าลายการเขา้ ตะลมุ บอนในระยะใกลข้ องขา้ ศึกต่อทม่ี ั่นฝา่ ยตง้ั รบั ข. เพือ่ ท่าลายการเขา้ ตะลมุ บอนในระยะไกลของขา้ ศึกตอ่ ทีม่ ัน่ ฝา่ ยต้งั รบั ค. เพื่อทา่ ลายข้าศึก กอ่ นการเขา้ โจมตใี นระยะใกล้ของขา้ ศึกต่อท่ีมั่นฝา่ ยต้ังรับ ง. เพ่ือท่าลายข้าศกึ ก่อนการเข้าโจมตใี นระยะไกลของข้าศึกต่อที่มน่ั ฝา่ ยตั้งรบั ๑๐๘. แบบของการตั้งรบั ชนดิ ใด ท่ีมุ่งการท่าลายข้าศกึ เป็นหลกั ก. แบบคลอ่ งตวั ข. แบบยดึ พื้นท่ี ค. แบบเร่งด่วน ง. แบบประณตี ๑๐๙. ในการจัดท่าประมาณสถานการณ์ ผบ.หน่วย จะได้รายละเอยี ดในข้อใด มาเปน็ แนวทางในการวางแผนการ ตง้ั รบั ของหน่วย ก. มาตรการควบคุม ข. แผนการยงิ ค. แผนการใชก้ องหนุน ง. ท่กี ลา่ วมาถูกทุกข้อ ๑๑๐. ปกติผ้บู งั คับบญั ชามักจะเลือกใช้การรน่ ถอยในลักษณะใด เปน็ วิธที ีพ่ ึงประสงค์ในการถอนตัวของหนว่ ยเป็นวิธที ่ีดที ี่สดุ ? ก. ขา้ ศึกไมก่ ดดัน ข. ขา้ ศึกกดดัน ค. ไมส่ มัครใจ ง. ถอนตัวกลางวนั ๑๑๑. การถอนตวั เมื่อข้าศึกกดดนั หน่วยปฏิบตั ิจะจัดกา่ ลงั อยา่ งไร ก. ส่วนใหญ่ และ ส่วนกา่ บงั ข. ส่วนใหญ่ และ สว่ นเหลือไวป้ ะทะ ค. สว่ นรบปะทะ, ส่วนหนุน และสว่ นเพม่ิ เติม ง. สว่ นใหญ,่ สว่ นน้อย และ ส่วนต้านทาน ๑๑๒. การปฏิบัตติ ามระเบียบการนา่ หน่วยของ ผบ.หน่วย ในข้ันการ ลว. ถ้า ผบ.หน่วยไม่สามารถทา่ การ ลว.ไดจ้ ะต้อง ก่าหนดตวั แทนในการ ลว. สว่ นตัวแทนของ ผบ.มว.ปล.ไดแ้ ก่ข้อใด.? ก. รอง ผบ.ร้อย. ข. รอง ผบ.มว.ปล. ค. ผบ.มว.ค.๖๐ ง. จา่ กองรอ้ ย ๑๑๓. ในการก่าหนดมาตรการควบคมุ การถอนตัวผ้ทู ี่กา่ หนดทรี่ วมพลของ หมู่ ปก.คือข้อใด ? ก. ผบ.พัน. ข. ผบ.ร้อย. ค. รอง ผบ.มว.ปล. ง. ผบ.มว.ปล. ๑๑๔. คุณลกั ษณะของการรบด้วยวธิ รี กุ ก.ความรเิ ร่ิม ความเร็ว การรวมอา่ นาจก่าลังรบ การพิทักษห์ น่วย และความหา้ วหาญ ข.การจู่โจม ความเร็ว การรวมอา่ นาจก่าลงั รบ ความอ่อนตวั และความห้าวหาญ ค.ความรเิ รม่ิ ความเรว็ การรวมอ่านาจกา่ ลงั รบ ความอ่อนตัว และความห้าวหาญ ง.การจโู่ จม ความเร็ว การรวมอา่ นาจกา่ ลังรบ การพทิ ักษ์หนว่ ย และความห้าวหาญ ๑๑๕. อ่านาจกา่ ลงั รบคือ อา่ นาจก่าลังรบ คือ ความสามารถในการสรู้ บท่สี ามารถวดั ไดจ้ าก ผูน้ ่าหน่วย ผสมผสานขดี ความสามารถใน การดา่ เนินกลยุทธ์ อา่ นาจการยงิ การพิทักษห์ นว่ ยทีม่ ีอยู่ ใหม้ ีอัตราสว่ นเหมาะสมกบั สถานการณ์ ใน ความหมายของการ การพิทกั ษห์ น่วยคอื การถนอมรักษาศักยภาพในการส้รู บของก่าลังท่ีมอี ยู่ ใหส้ ามารถนา่ ไปใช้ ณ ตา่ บล และเวลาแตกหักประกอบดว้ ย ส่วนทสี่ า่ คัญกส่ี ว่ น ก. 2 ส่วน ข. 3 ส่วน ค. 4 ส่วน ง. 5 สว่ น

๑๑๖. เปน็ เสน้ ทีล่ ากตามทศิ ทางไปสขู่ ้าศกึ เพอื่ ชีท้ างเคล่ือนท่ี สามารถ หลีกเล่ียง หรอื อ้อมผ่านเคร่ืองกีดขวางหรือ กา่ ลงั ข้าศกึ ได้ แต.่ . ตอ้ งรายงานให้หนว่ ยเหนือทราบ เปน็ มาตรการควบคุมในข้อใด ก. แนวทางเคลือ่ นที่ ข.เส้นหลักการรกุ ค. ทิศทางเข้าตี ง.เสน้ จา่ กดั การรกุ ๑๑๗. ข้อความทีก่ ลา่ วส้ัน ๆ วา่ “ คน้ –ตรึง–สรู้ บ–ตดิ ตาม และ ทา่ ลาย ” เป็นหลักการทางยทุ ธวธิ ขี อ้ ใด ? ก. ความมุ่งหมายของการรบด้วยวธิ รี กุ ข. หลกั นยิ มในการรบด้วยวธิ รี กุ ค. หลักพืน้ ฐานของการรบดว้ ยวธิ รี กุ ง. แบบของการดา่ เนินกลยุทธ์ ๑๑๘. แบบการรน่ ถอยมีกี่แบบอะไรบา้ ง ก. 2 แบบ คอื ถอนฉาก และ การผละจากการรบ ข. 2 แบบ คอื การถอย และ การหลกี เล่ียง ค. 2 แบบ คือ การถอนตวั จากการรบ, การรบหนว่ งเวลา และ การถอย ง. 2 แบบ คือ การถอนตัว, การตัง้ รับหนา้ และ การถอย ๑๑๙. ปกติผู้บังคับบัญชามกั จะเลือกใชว้ ธิ ใี ด เปน็ วธิ ที พี่ ึงประสงค์ในการถอนตัวของหนว่ ย เปน็ วธิ ที ่ดี ีท่ีสุด ก. ข้าศกึ ไม่กดดนั ข. ขา้ ศกึ กดดนั ค. ไมส่ มคั รใจ ง. ถอนตวั กลางวัน ๑๒๐. การถอนตวั เมอื่ ข้าศึกกดดนั หน่วยปฏิบัตจิ ะจัดกา่ ลงั อยา่ งไร ก. ส่วนใหญ่ และ ส่วนกา่ บงั ข. ส่วนใหญ่ และ สว่ นเหลอื ไวป้ ะทะ ค. สว่ นรบปะทะ, สว่ นหนุน และส่วนเพ่ิมเตมิ ง. ส่วนใหญ,่ สว่ นนอ้ ย และ ส่วนตา้ นทาน ๑๒๑. แผนการดา่ เนนิ กลยทุ ธ์ของหมู่ หมวดปืนเล็ก ถอนตัวภายใตค้ วามกดดัน มี ๓ แบบ คอื ถอนตัวเปน็ บคุ คล, ชดุ ยงิ และเปน็ หมู่ ผบู้ ังคบั หมู่ ผูบ้ งั คับหมวด จะใช้ปัจจัยในการวางแผนใดบา้ ง เพ่ือความเหมาะสมในการปฏิบัติ ก. กา่ ลังพล, ยุทโธปกรณ์ และ เวลา ข. สถานการณ์ข้าศึก และภมู ิประเทศ ค. ภมู ปิ ระเทศ และลมฟ้าอากาศ ง. สถานการณ์ข้าศึก และฝ่ายเรา ๑๒๒. การถอนตัวภายใต้การกดดนั การปฏบิ ตั ิโดยส้รู บพราง ถอยพราง เพื่อความปลอดภยั ท่รี วมพลของหมวดในแนวหนา้ กองร้อยจะกา่ หนดให้ ณ ทใ่ี ดในเขตของกองร้อย ก. หลังหมวดหนนุ ของกองร้อย ข. หน้าหมวดหนุนของกองร้อย ค. หนา้ พ้นื ท่กี องร้อยหนุน ง. ท่ีรวมพลกองร้อย ๑๒๓. การจดั ก่าลังในการถอนตวั ภายใตค้ วามกดดนั ส่วนก่าบงั ของหมวดปืนเลก็ คือ ก. ชดุ ยงิ หนุนของหมู่ ข. หมู่หนุนของหมวด ค. หมวดหนนุ ของกองร้อย ง. หมวดในแนวหน้า ๑๒๔. การรบหน่วงเวลาเป็นการปฏิบัตเิ พ่ือขดั ขวางหน่วงเหน่ียวและท่าลายขา้ ศึกโดยไม่ท่าการรบแตกหัก ยอมเสยี พื้นท่เี พ่ือให้ได้ เวลาจะวางแผนดา่ เนินกลยทุ ธ์การยงิ อย่างไร ก. เข้าตีท่าลายการเข้าตี, ตีโฉบฉวย ข. ตัง้ รับเร่งด่วน, ซมุ่ โจมตี ค. การยิงสนับสนนุ ของอาวุธในอัตรา และอาวธุ ยิงสนบั สนุนของหน่วยเหนอื ง. การเข้าจูโ่ จม ๑๒๕. รสพ./ยานเกราะล้อยาง อยู่ในหน่วยใด? ก. ร้อย.ยก ข. รอ้ ย.ลว./ฝต. ค. รอ้ ย.ค.หนัก. ง. บก./รอ้ ย.บก ๑๒๖ ยานยนตช์ นิดใด ไม่อยู่ในอัตรา พัน ร. ? ก.ยานเกราะล้อยาง ข. รยบ.๓/๔ ตนั (พยาบาล) ค. รถชา่ งโยธาสนาม ง. รถยนตบ์ รรทกุ น้่ามนั ๑๒๗. ขอ้ ใดไม่ใช่ชนดิ ของยานยนตใ์ นอัตรา กรม ร. สาย ขส. ก. รยบ.ปกติขนาดเลก็ ข. รยบ.ปกติขนาดใหญ่ ค. รดส.ขนาดเล็ก ง. รดส.ขนาดใหญ่ ๑๒๘. ความแตกตา่ งทางมุมระหว่างทศิ เหนือกริด กับมมุ ภาคทิศเหนือแมเ่ หลักเป็นความหมายของมุมอะไร ? ก. มมุ กรดิ แม่เหลก็ ข. มุมทิศเหนือกรดิ

ค. มมุ ทิศภาคทิศเหนือแม่เหลก็ ง. มมุ เยอื้ งกริดแมเ่ หล็ก ๑๒๙. การกา่ หนดจุดท่หี มายลงบนแผนทีโ่ ดยวิธีโปล่า เปน็ วิธีท่ีเหมาะอะไร? ก. หน่วยระดับหม่ปู ฏิบัติในสนาม ข. หนว่ ยระดับหมวดปฏบิ ตั ิการในสนาม ค. หนว่ ยระดบั กองรอ้ ยปฏิบัติการอสิ ระ ง. หนว่ ยขนาดเลก็ ทปี่ ฏบิ ตั ิการในสนาม ๑๓๐. ท่าการแบ่งโลกออกเป็นพื้นทกี่ ว้าง ๖ องศา ตะวันตก – ตะวันออก และยาว ๘ องศาเหนือ – ใต้ จากน้นั กา่ หนดด้วย “เลขและอกั ษร” เรยี กว่าอะไร ? ก. เลขอกั ษรประจา่ กรดิ โซน ข. อักษรประจา่ กริดโซน ค. กริดโซน ง. โซน ๑๓๑. โดยปกตเิ สน้ ชั้นความสงู จะไมต่ ัดกันหรือจดกัน นอกจากบรเิ วณนั้นจะเปน็ อะไร ? ก. หนา้ ผาหรือลาดชัน ข. ชะโงกเขาหรือหน้าผาชัน ค. ชะงอ่ นเขาหรือหนา้ ผาดิ่ง ง. ข้อ ก. และ ข. ถูกท่ีสดุ ๑๓๒. ครอบหน้าปดั เขม็ ทิศ ประกอบด้วยอะไรบ้าง ? ก. วงแหวน และกระจกหนา้ ปัด ข. กระจกที่มีขีดพรายนา้่ กบั วงแหวนมรี ่องอยู่ ๑๒๐ ร่อง ค. แผ่นใสหมนุ ไปมาได้ กับกระจกหน้าปดั ทม่ี ีเส้นดัชนีสีด่า ง. วงแหวน กระจก และหน้าปัดเข็มทิศ ๑๓๓. หมุนตวั ใหไ้ ปอย่ใู นแนวของท่ีหมาย และให้ฝาตลับเข็มทิศพุง่ ตรงตรงไปยังท่ีหมาย แลว้ กม้ ศีรษะ อ่านค่ามุมทศิ เหนือใต้ เสน้ ดชั นสี ดี ่า เป็นความหมายของอะไร ? ก. การจับถอื เข็มทศิ ข. การวดั มุมภาคทิศเหนอื ดว้ ยวธิ ีเล็งเร่งดว่ น ค. การจบั เข็มทิศโดยไม่ต้องยกขนึ้ เล็ง ง. เทคนคิ การจบั เขม็ ทิศให้อยู่ก่งึ กลางล่าตวั ๑๓๔. การตัง้ เข็มทิศในเวลากลางคนื ประกอบด้วย เม่อื มีแสงสว่างและไมม่ ีแสงสว่าง ส่วนการเดนิ อ้อมเคร่ืองกีดขวางหรอื ข้าศกึ ไดแ้ ก่ อ้อมในเวลากลางวัน และในเวลากลางคนื อยากทราบวา่ การวางแผนทใี่ หท้ ิศโดยใช้เข็มทิศ ข้อใดกล่าวผิด ? ก. เปดิ ฝาตลับเขม็ ทิศ และยกก้านเล็งข้ึนจนสดุ ข. ใชม้ าตราส่วนบรรทดั (ขอบด้านข้าง) ทาบไปตามด้านข้างโดยหันฝาตลับไปทางหวั แผนท่ี ค. จบั แผนทหี่ มนุ จนหวั ลูกศรท่หี น้าปัดเข็มทิศมาอยใู่ ตเ้ ส้นดัชนสี ีดา่ ง. ยกเขม็ ทิศออกและนา่ ไปใชง้ าน โดยไม่ให้แผนท่ีขยับเขย้อื น ๑๓๕. ขอ้ ระวงั ในการใช้เขม็ ทิศและการเก็บรักษาเข็มทิศ เม่ือไมใ่ ชต้ อ้ งปดิ ฝาและใส่ไว้ในซอง และเมื่อใช้ต้องห่างจากส่ิงตา่ งๆ ดงั นี้ ขอ้ ใดถูกต้องทสี่ ุด ? ก. สายไฟ ปนื ใหญ่ รถถงั ๑๘ เมตร ข. รถยนต์ สายโทรศพั ท์ ลวดหนาม ๑๐ เมตร ค. ปนื กล ปืนเล็ก หมวกเหล็ก ๒ - ๐.๕ เมตร ง. สายโทรเลข สายเคเบิล้ สายใยแกว้ ๑๘ - ๑๐ เมตร ๑๓๖. การก่าหนดจุดทีอ่ ยู่ สามารถแบ่งออกเปน็ ข้อใดกล่าวถูกตอ้ ง ? ก. การก่าหนดจุดท่ีอยู่และการก่าหนดจดุ ทห่ี มาย ข. การเล็งสกดั กลับ และการเล็งสกดั ตรง ค. วธิ โี ปล่า และเล็งสกดั ตรง ง. การเลง็ สกัดกลบั และการเล็งสกดั ตรง ๑๓๗. การเลง็ สกัดกลับ เป็นวิธกี ารก่าหนดจุดท่ีอย่ขู องตนเองบนแผนที่ โดยการวัดมุมภาคทิศเหนือจากต่าบลท่ียนื อยู่ในภูมิ ประเทศไปยังต่าบลเดน่ อีกอย่างน้อย ๒ ตา่ บล อยากทราบวา่ ของใดกล่าวถูกตอ้ งทสี่ ุด ? ก. วางแผนที่ให้ถกู ทศิ และเลือกต่าบลเดน่ ในภูมปิ ระเทศ ๒ ตา่ บล ข. วดั มุมภาคทิศเหนือจากจดุ ท่ียนื อยไู่ ปยังต่าบลทง้ั สอง ค. เปลย่ี นค่ามมุ ทีว่ ดั ได้เป็นมุมภาคทิศเหนือ ง. ขีดแนวมมุ ภาค จากทัง้ สอง จุดทีแ่ นวมมุ ภาคตดั กันเปน็ จดุ ท่ีอย่ขู องตนเอง

๑๓๘. รยบ. ๑/๔ ตัน ๔x๔ เอ็ม ๑๕๑ เอ.๑ อยากทราบวา่ ๔x๔ หมายความว่าอย่างไร ? ก. รถทีม่ ี ๔ ลอ้ เคลอื่ นท่ีไดท้ ้ัง ๔ ลอ้ ข. รถทม่ี ี ๔ ล้อ มีกา่ ลังขับเคลอื่ น ๔ ลอ้ ค. รถทมี่ ี ๔ ล้อ ลากจงู รถพ่วงทม่ี ลี ้อ ๔ ล้อ ง. รถทมี่ ี ๔ ล้อ บรรทุกก่าลังพลได้ ๔ คน ๑๓๙. รยบ. ๑/๔ ตัน ๔ x ๔ เอม็ ๑๕๑ เอ.๑ อยากทราบวา่ ๑/๔ ตัน หมายถงึ อะไร ? ก. นา้่ หนกั รถ ข. น่า้ หนกั บรรทุก ค. นา้่ หนักบรรทุกในภูมปิ ระเทศ ง. นา่้ หนักทง้ั หมดของรถ ๑๔๐. ระยะปฏิบัติการ หมายความว่าอยา่ งไร ? ก. ระยะทางทีร่ ถยนต์นา่ กา่ ลงั พลเข้าถึงที่หมายดว้ ยความปลอดภัย ข. ระยะทางที่ยานยนตส์ ามารถทา่ งานได้ภายในน่า้ มนั เชอ้ื เพลิงเต็มถงั ค. ระยะทางท่ียานยนต์น่าก่าลงั พลไปส่งยงั ทีห่ มาย และกลับด้วยความปลอดภัย ง. ขน้ึ อยกู่ ับดุลพินิจของ ผบช. ๑๔๑. ผ้ทู ่เี ป็นครจู ่าเป็นจะต้องเรียนรหู้ ลกั วิชาครซู ง่ึ ประกอบดว้ ยทฤษฎีและการปฏิบตั ิข้อใดเปน็ เหตผุ ลในการเรียนวชิ าครู ? ก. อบรมศิษยใ์ หเ้ ปน็ คนดี ข. อบรมสง่ั สอนตนเองและผู้อื่น ค. มคี วามรูค้ วามสามารถ ง. เปน็ แบบอยา่ งท่ีดี มจี ติ ใจสูง ๑๔๒. ผูท้ ่ีเปน็ ครจู ะตอ้ งเปน็ ผู้ที่มีความรู้ความสามารถดี อยากทราบว่าคุณลักษณะของครูที่ดคี อื ข้อใด ? ก. มีความรอบรูใ้ นทุกเรอ่ื ง ข. เป็นผทู้ ม่ี ีความมั่นใจสูง ค. เปน็ ผู้ท่มี ีผลการเรยี นดีเด่น ง. มบี คุ ลิกลกั ษณะน่าเคารพนับถือ ๑๔๓. ครจู ะตอ้ งเป็นผู้ท่สี ามารถน่าเอาหลกั การ วิธีการ และเทคนิคการสอนต่างๆ ไปใช้ให้บังเกดิ ผลดี ขอ้ ความดงั กลา่ วอย่ใู น คณุ ลกั ษณะของครทู ี่ดีข้อใด ? ก. มคี วามรูใ้ นบทเรียนทีส่ อน ข. มบี คุ ลกิ ลกั ษณะในการเปน็ ผนู้ า่ ค. มีความรู้ในเทคนิคการสอน ง. มที ัศนคติที่ดตี อ่ อาชีพครู ๑๔๔. หลกั การปฏิบัติในการปรับปรุงการสอนของครใู หด้ ีย่ิงขน้ึ สง่ิ ท่คี รูจะตอ้ งเขา้ ใจเปน็ ปัจจยั แรกคือ ? ก. สังเกตการณส์ อนของผู้อื่น ข. วเิ คราะหล์ ักษณะของตนเอง ค. พยายามปรับปรงุ ตวั เองอยู่เสมอ ง. ร้หู ลกั และเทคนิคการสอนดี ๑๔๕. ครูจะต้องร้ถู งึ ลักษณะของการเรยี น กระบวนการสอน หลกั โดยท่วั ไป หรือแนวทางอน่ื ทีจ่ ะเป็นการเสริมสรา้ งการเรียน การสอนใหเ้ กดิ ประสิทธิภาพ ขอ้ ดงั กล่าวอยูใ่ นบทเรียนเรือ่ งอะไร ? ก. ครูทหาร ข. วธิ ีสอน ค. หลักการสอน ง. การประเมินผล ๑๔๖. หลังจากจบบทเรียนหนึ่งๆ แล้ว ถ้านักเรียนไม่สามารถท่าอะไรได้แสดงว่ายังไม่มีการเรียนรู้อะไรท่ีเป็นผลจากการสอน ครจู ะต้องรบั ผิดชอบโดย ? ก. ทบทวนตนั เองและวิธสี อน ข. ส่ารวจตัวเองและการดา่ เนินการสอน ค. หลักการสอน ง. ส่ารวจตวั นกั เรียนและเทคนิคการสอน ๑๔๗. กระบวนการสอนเป็นวธิ ีหลักสา่ หรับการสอนบทเรยี นหนง่ึ ๆ หรือทุกขนั้ ตอนของบทเรียน อยากทราบวา่ “กระบวนการ สอนขั้นใดสา่ คญั ที่สุด” ? ก. ขั้นการสอน ข. ขั้นการแนะนา่ ค. ขน้ั การปฏบิ ัติ ง. ขน้ั การประเมนิ ผล ๑๔๘. การประเมินผลแบง่ ออกเป็น ๒ แบบ คอื การทดสอบปกติ และการทดสอบที่ไมเ่ ปน็ ไปตามปกติ อยากทราบวา่ “การ ทดสอบปกติ” คือข้อใด ? ก. การซักถาม ข. จบข้นั ตอนการสอน ค. ขั้นการสังเกต ง. จบการอธบิ ายหรือสาธิต ๑๔๙. การตอ่ เนื่องระหวา่ งหวั ข้อการสอนเป็นเทคนคิ อย่างหนึ่ง ซงึ่ จะเป็นเคร่ืองช่วยใหค้ รูท่าการสอนได้อย่างราบรื่น ใน หลกั การข้อน้ขี ้อใดถือว่ามีประโยชน์ตอ่ นกั เรยี นมากทส่ี ดุ ? ก. อา้ งถงึ ความมุ่งหมายบ่อยๆ ข. สรุปบอ่ ยๆ

ค. ใช้คา่ ถามบ่อยๆ ง. เน้นการเชือ่ มคา่ หรือวลบี ่อยๆ ๑๕๐. แผนการสอน ข้อใดกล่าวถกู ต้องท่สี ดุ ? ก. เพื่อใชเ้ ปน็ คมู่ ือการสอน ข. เพอ่ื ใหส้ ามารถสอนแทนกันได้ ค. เพื่อใชเ้ ป็นตา่ รามาท่าการสอน ง. เพ่อื ใช้เป็นหลกั ฐานการรับตรวจ ๑๕๑.สิ่งทน่ี ักสะกดรอยไม่ควรท่า 5 ประการคืออยา่ ก้มหน้าหารอยตลอดเวลา, อยา่ เสียงดัง, อยา่ จบั ต้นไม้, อย่าหลอกตวั เอง, อย่าไปเมื่อเหน่อื ยปัจจัยทม่ี ผี ลกระทบต่อการสะกดรอยมีอะไรบ้าง ? ก. แดด, ลม, ฝนุ่ , ระยะทาง ข. แสง, เสยี ง, เวลา, เหน่อื ย ค. แดด, ลม, ฝน, เวลา ง. แสง, เสยี ง, ฝน, เวลา ๑๕๒. ลกั ษณะรอยท่พี บเกิดจากข้าศกึ เคลื่อนทเี่ รว็ ๆ หรือ ว่ิง รอยจะมลี กั ษณะอย่างไร ? ก. รอยหา่ ง, รอยกระจาย, รอยตืน้ ข. รอยหา่ ง, รอยค่อย, รอยลกึ ค. รอยห่าง, รอยกระจาย, รอยเปน็ แนวเดยี วกนั ง. รอยหา่ ง, รอยลึก, รอยเปน็ แนวเดยี วกัน ๑๕๓.ประเภทของรอยมีรอยบนพน้ื ดนิ และรอยระดับสงู เม่ือท่านสะกดรอยแล้วรอยหายท่านควรท่าอย่างไร ? ก. ถอยหลังกลับไปเรม่ิ ตน้ ใหม่ ข. แยกกนั เดนิ หาให้ทวั่ ค. ถอยหลังไป 4 - 5 ก้าวเรมิ่ คน้ หาอย่างเป็นระบบ ง. จบภารกิจ ๑๕๔.ข่าวสารอะไรที่ได้จากรอย ? ก. จ่านวนคน, ทิศทาง, อายุคน, เพศชาย – หญงิ ข. ทิศทาง, ความเร็ว, อายขุ องรอย, มีของหนกั หรือไม่ ค. เพศชาย – หญงิ , ยทุ โธปกรณ์, เวลา, ขวญั ง. ยทุ โธปกรณ์, เวลา, ทศิ ทาง, มีของหนัก ๑๕๕.การคา่ นวณจ่านวนคนมีสูตรการค่านวณอย่างไร ? ก. ขดี กรอบยาว36 นวิ้ หารด้วย 2 ข. ขดี กรอบยาว18 น้ิว ค. หารอยเท้าหลกั ง. ที่กล่าวมาถูกทกุ ขอ้ ๑๕๖. รอยตอ่ ไปน้ีอะไรจดั เป็นรอยบนพืน้ ดิน ? ก. รอยน่า้ กระเพ่ือม ข. รอยมอื จับบนต้นไม้ ค. ก่ิงไมห้ รือใบไมห้ ัก ง. ใยแมลงมมุ ๑๕๗. การลวงและการตอ่ ต้านการสะกดรอยเป็นลักษณะพึงประสงค์ของหนว่ ยทหาร เพื่อการต่อต้านการติดตามของข้าศึก ข้อใดไม่ใช่ ก. จงใจน่าออกนอกทาง, ลวงเขา้ พืน้ ทซี่ มุ่ ข. คงหลังคอยกลบเกล่ือนรอ่ งรอย ค. แยกออกเปน็ กลุ่มเลก็ ๆ ง. หกั กิง่ ไม้ท่าเคร่ืองหมายตลอดทาง ๑๕๘. การหาจา่ นวนคนรอยเท้า ถา้ รอยเท้าไมช่ ัดเจน จะใช้วิธีใดในการหาจ่านวนคนจากรอย ก. ขดี กรอบยาว 36 นว้ิ แล้ว หารด้วย 2 ข. ขดี กรอบยาว 18 นิ้ว ค. หารอยเท้าหลกั ง. ขอ้ ก. และ ข. ถูก ๑๕๙. ขอ้ ใดเป็นคณุ สมบตั ขิ องผนู้ ่าอากาศยานหน้า FORWARD AIR GUIDE (FAG) ก. มีความรู้ยทุ ธวิธภี าคพ้นื และยทุ ธวธิ ีอากาศยาน ข. มีความรู้ภาษาอังกฤษและการอ่านแผนที่ ค. ผ่านการอบรมหนา้ ที่ ผนอ. (FAG) ง. มีควรมารกู้ ารติดต่อส่อื สาร,ยทุ ธวิธีภาคพ้นื และยุทธวธิ อี ากาศยาน ๑๖๐. พนื้ ทใ่ี นการสนับสนุนทางอากาศโดยใกล้ชดิ ขอ้ ใดกล่าวถกู ตอ้ ง ก. จากหนา้ สุดของการวางกา่ ลงั ฝา่ ยเราไปจนถึงขอบหนา้ ของเขตภายในข้าศึก ข. จากแนวประสานการยิงสนับสนุนและเขา้ ไปในเขตภายในข้าศกึ ค. จากขอบหนา้ พ้นื ที่การรบไปจนถงึ แนวประสานการยงิ สนับสนุน ง. จากขอบหนา้ พื้นที่การรบไปจนถงึ เขตภายในข้าศึก ๑๖๑. การสง่ คา่ ขอทันที(เรง่ ด่วน) จะต้องใหค้ ่าขอถึงผู้มอี ่านาจอนมุ ตั ิการใช้ บ. ของ ทอ. และจะไดร้ ับการตอบสนองในเวลา อยา่ งชา้ เทา่ ไร ? ก. 2 ชั่วโมงเขา้ รหัส ข. 6 ช่วั โมงเข้ารหัส ค. 2 ช่ัวโมงไมเ่ ขา้ รหัส ง. 6 ช่ัวโมงไมเ่ ขา้ รหัส

๑๖๒. ค่าขอทนั ทีทนั ใดมีหัวข้ออะไรบา้ ง ? ก. ใคร อะไร ทไี่ หน เม่อื ไร อยา่ งไร เท่าไร ข. ใคร อะไร ที่ไหน ทา่ ไม เม่ือไร ค. ใคร อะไร ที่ไหน เมอ่ื ไร ท่าไม อยา่ งไร ง. ใคร อะไร ทไี่ หน อยา่ งไร ๑๖๓. ก่อนที่เคร่ืองบนิ จะออกจากจุดบินวน(CP) นักบินจา่ ได้รบั ข้อมูลข่าวสารจากหน่วยภาคพน้ื ในเร่ืองใดบ้าง ข้อใดกลา่ วถูกต้อง ก. สภาพอากาศ ลกั ษณะทหี่ มาย สถานการณ์ขา้ ศึก ข. นามเรียกขาน จา่ นวนละแบบอากาศยาน เวลาในการให้การสนบั สนุน ค. สภาพอากาศ ลักษณะที่หมาย สถานการณ์ขา้ ศึกและการต่อตา้ น แนวก่าลังฝา่ ยเดียวกนั การยงิ ของปนื ใหญ่ ง. นามเรยี กขาน ลกั ษณะท่หี มาย สภาพอากาศ เวลาในการให้การสนับสนุน ๑๖๔. หลงั จากเครื่องบินโจมตีเป้าหมายแล้ว หน่วยภาคพ้ืนจะตอ้ งรายงานผลการโจมตีเปา้ หมายให้นักบนิ ทราบ ข้อใดกล่าว ไมถ่ ูกตอ้ งในขนั้ ตอนน้ี ก. แจง้ ตา่ บลระเบดิ หรือต่าบลกระสุนตก ข. แจง้ ผลการทา่ ลายเป้าหมายเปน็ เปอร์เซน็ ต์ ค. แจง้ เวลาระเบิดกระทบเป้าหมาย ง. ปรับแกต้ า่ บลกระสนุ ตกให้นกั บนิ ๑๖๕. การพิสูจน์ฝ่ายเพอื่ ต้องการทราบว่าเปน็ หนว่ ยทหารฝ่ายเดียวกนั สิ่งทตี่ ้องแสดงนนั้ อยา่ งไร ? ก. แผน่ ผ้าสญั ญาณ VS - 17 ปูเป็นตัวอักษร ข. ลข.ควนั สีแดง ค. ทัศนสญั ญาณ ง. หมายแนว หมายท่ตี ัง้ ๑๖๖. การเลด็ ลอดหมายถึง ? ก. การปฏบิ ตั ิทุกวิถีทางเพอ่ื ให้พน้ จากท่ีคุมขงั ข. การปฏบิ ตั ทิ ุกวถิ ีทางเพ่ือให้พน้ จากการทรมาน ค. การปฏบิ ัติทุกวิถีทางเพ่ือใหพ้ ้นจากการถูกจับ ง. การปฏิบัตทิ กุ วิถีทางเพ่ือให้พน้ จากพ้ืนทกี่ ารรบ ๑๖๗. เม่ือทา่ นตกเป็นเชลยศึกควรตอบค่าถามในเรื่องอไรบา้ ง ? ก. ยศ, ชื่อ, สกลุ , หมายเลขประจา่ ตวั ข. ยศ, ชื่อ, สกุล, ภูมิล่าเนา, หมายเลขประจ่าตวั ค. ยศ, ชอ่ื , สกลุ , ภมู ิลา่ เนา, สงั กดั , หมายเลขประจ่าตัว ง. ยศ, ชอื่ , สกุล, วนั เดอื นปีเกดิ , หมายเลขประจ่าตัว ๑๖๘. การวางแผนในการเล็ดลอดหลบหนวี ิธีแทรกซมึ จะอาศัยปจั จัยทีส่ า่ คัญอะไรบา้ ง ? ก. ที่อย่ปู ัจจุบนั , การวางกา่ ลังของขา้ ศึก, ทัศนวิสยั , สมรรถภาพของผเู้ ล็ดลอด ข. เวลา, ข้าศกึ , ภมู ปิ ระเทศ, ลมฟ้าอากาศ ค. เวลา, ข้าศึก, ขวัญ, ทศั นวิสยั ง. ขา้ ศกึ , ภมู ิประเทศ, ลมฟา้ อากาศ ๑๖๙. การปฏบิ ัตกิ ารเล็ดลอดหลบหนี ทบ.ไดม้ อบความรบั ผดิ ชอบใหก้ บั หน่วยใด ? ก. ขว.ทบ. ข. ขกท.ทบ. ค. นสศ. ง. ศปก.ทบ. ๑๗๐. ข้อใดเป็นสาเหตุท่ีไม่คิดจะหลบหนี ? ก. ขาดการฝึก ข. ไม่วางแผน ค. ความเพิกเฉย ง. ความหวาดกลวั ๑๗๑. ขอ้ ใดไม่ใชค่ ณุ ค่าของการหลบหนี ? ก. อสิ ระภาพ ข่าวสารทางทหาร ข. เพิ่มก่าลงั ใหฝ้ า่ ยเดียวกันควบคุมไว้ ค. บน่ั ทอนก่าลังรบขา้ ศึกใหเ้ กดิ ความว่นุ วาย ง. ทา่ ใหข้ ้าศกึ ขวัญต่า ๑๗๒. ประเภทของการเล็ดลอดแบ่งออก 2 ประเภท ไดแ้ ก่อะไรบ้าง ? ก. 1.ประเภทระยะใกล้ 2.ประเภทระยะยาว ข. 1.ประเภทระยะใกล้ 2.ประเภทหลงั แนวรบ ค. 1.ประเภทระยะใกล้ 2.ประเภทระยะไกล ง. 1.ประเภทใกล้ประชดิ 2.ประเภทไม่ประชดิ ๑๗๓. ข้อใดกลา่ วถงึ การเล็ดลอดระยะใกล้ไดถ้ ูกต้อง ? ก. มสี ภาพร่างกายดี,รทู้ ิศทางระยะทาง ข. รทู้ ่ตี ้งั ,การวางกา่ ลังของขา้ ศึก ค. มีอาหารและเส้อื ผ้า ง. ที่กลา่ วมาถูกทุกขอ้

๑๗๔. ในการใชเ้ ขม็ ทิศ เอ็ม. ๒ เมอ่ื เปดิ ฝาตลับเข็มทิศผใู้ ช้จะต้องท่าใหฝ้ าตลับเขม็ ทิศกางออกทา่ มุมกับตวั เรอื นเข็มทิศกี่ องศา? ก. ๓๕ องศา ข. ๔๐ องศา ค. ๔๕ องศา ง. ๕๐ องศา ๑๗๕. ในการใชเ้ ขม็ ทิศ เอ็ม. ๒ ผ้ตู รวจการณ์สามารถใช้ศูนยร์ ูปใบไม้ รว่ มกับกระจกเงาทีฝ่ าปิดเรือนเขม็ ทิศ โดยเลง็ ผ่าน ศนู ยแ์ ลว้ อ่านค่าของมมุ โดยอ่านท่ปี ลายหัวลกู ศรสีอะไร? ก. ศรทศิ สีแดง ข. ศรทศิ สขี าว ค. ศรทิศสีด่า ง. ศรทิศสีเขียว ๑๗๖. ในการใช้เขม็ ทศิ เอ็ม. ๒ ผู้ตรวจการณ์สามารถใช้ศูนยร์ ูปใบไม้ รว่ มกบั กระจกเงาที่ฝาปิด โดยเลง็ ผา่ นศนู ย์แล้วอา่ นค่า ของมุม อยากทราบวา่ ระยะห่างระหวา่ งขีดแตล่ ะขดี มคี ่ากม่ี ิลเลียม ก. ๑๐ มลิ เลียม ข. ๒๐ มลิ เลยี ม ค. ๓๐ มิลเลียม ง. ๔๐ มลิ เลยี ม ๑๗๗. ในการวัดมุมดว้ ยมอื ถ้าผู้ตรวจการณว์ ดั มมุ เปา้ หมายได้ ๔ นวิ้ มอื (ชี้ กลาง นาง ก้อย)จะได้คา่ ของมุมโดยประมาณ เทา่ ไร? ก. ๓๐ มิลเลยี ม ข. ๗๐ มลิ เลยี ม ค. ๑๐๐ มิลเลียม ง. ๑๒๕ มลิ เลียม ๑๗๘. ผตู้ รวจการณ์และ ศอย. จะร่วมกนั เลอื กจดุ ตา่ ง ๆ ในบรเิ วณพน้ื ทเ่ี ปา้ หมาย ซ่ึงผูต้ รวจการณ์สามารถมองเห็นไดช้ ัดเจน และได้กรุยไว้บนแผน่ เรขายงิ แล้ว ที่ต้ังเหลา่ นเี้ ราเรยี กว่าอยา่ งไร? ก. ทตี่ ง้ั เป้าหมาย ข. ทตี่ ง้ั ของจดุ ท่ีทราบ ค. ท่ีตั้งเป้าหมายตามแผน ง. ท่ตี ง้ั ตา่ บลระเบิด ๑๗๙. ผู้ตรวจการณ์มลี ่าดับขั้นการปฏบิ ตั มิ าตรฐานกี่ข้นั ตอน? ก. ๒ วิธี คือ การรอ้ งขอการยงิ และการปรับการยิง ข. ๓ วธิ ี คือ การค้นหาเป้าหมาย รอ้ งขอการยิง และ ยิงหาผล ค. ๔ วิธี คอื การกา่ หนดที่ต้งั เป้าหมาย การเตรียมและส่งค่าขอยิง การปรับการยิงเม่ือจ่าเป็น และการเฝา้ ตรวจ ผลของการยิงหาผล ง. ๕ วธิ ี คอื การก่าหนดที่ตัง้ เป้าหมาย การสง่ ค่าขอยิงเร่มิ แรก การปรับการยิงเมื่อจา่ เปน็ การรอ้ งขอการยงิ หาผล และการเฝ้าตรวจผลของการยิงหาผล ๑๘๐. สูตร มิลเลียม W = RM ผ้ตู รวจการณ์สามารถน่าสูตรนไี้ ปใชค้ า่ นวณหาอะไรไดบ้ ้าง ? ก. ระยะ ต.-ม.,มมุ ต.-ม. ข. ระยะ , มุมทางข้างและทางดิง่ ค. ระยะควบ และระยะ ต.-ม. ง. ระยะ ค.-ม. และระยะทางข้าง ๑๘๑. การใชส้ ตู รมลิ เลียม คา่ นวณการยา้ ยทางขา้ ง ผตู้ รวจการณ์จะใชส้ ตู รนีไ้ ดก้ ็ตอ่ เมอ่ื มุมทีว่ ดั ไดม้ ีลักษณะเปน็ อยา่ งไร? ก. นอ้ ยกว่า ๖๐๐ มลิ เลยี ม ข. ไมเ่ กนิ ๖๐๐ มลิ เลยี ม ค. ๖๐๐ มลิ เลยี มหรอื มากกวา่ ง. มมุ ที่ไม่ใหญเ่ กินไป ๑๘๒. ถ้าเปา้ หมายมคี วามสงู มากกว่าท่ีตรวจการณ์ ๑๒๐ เมตร และผูต้ รวจการณ์ทราบวา่ ระยะจากตนเองไปยังเปา้ หมาย ๒๐๐๐ เมตร อยากทราบวา่ มุมดิ่งจากผู้ตรวจการณ์ไปยังเป้าหมายมคี ่าก่มี ลิ เลียม? ก. ๖๐ มลิ เลียม ข. ๘๐ มลิ เลียม ค. ๑๐๐ มลิ เลยี ม ง. ๑๒๐ มิลเลยี ม ๑๘๓. ผตู้ รวจการณ์มวี ธิ ีที่จะบอก ศอย.ให้ทราบวา่ เป้าหมายตงั้ อยู่ ณ ท่ีใด โดยเลอื กใช้วิธีใดวิธหี นง่ึ อยากทราบว่า ผตู้ รวจการณม์ วี ิธบี อก ศอย.ก่ีวธิ ี? ก. ๒ วิธี ข. ๓ วธิ ี ค. ๔ วธิ ี ง. ๕ วิธี

๑๘๔. ปา่ ในประเทศไทยเราสามารถแบ่งป่าไมอ้ อกตามลักษณะของปา่ เปน็ 2 ชนิดไดแ้ ก่ ? ก. ป่าแดงและป่าดงดบิ ข. ปา่ ดงดิบและปา่ ผลัดใบ ค. ปา่ ดงดบิ และปา่ เบญจพรรณ ง. ป่าดินน่้าจดื และปา่ ดินน่้าเคม็ ๑๘๕. เม่อื เราอยู่ในปา่ อนั ตรายทจี่ ะเกิดกับเรามี 2 ประเภทไดแ้ ก่ ? ก. นา่้ ป่าและสัตว์ป่า ข. พืชทเ่ี ปน็ พิษและสตั วป์ า่ ค. ธรรมชาติของป่าและทหารข้าศกึ ง. กินอาหารทีเ่ ปน็ พษิ และไข้ป่า ๑๘๖ ปัญหาใหญ่ๆ ของการด่ารงชีพ แบง่ ออกเปน็ 3 ประเภทได้แก่ ? ก. พืช, สตั ว,์ น่า้ ข. อาหาร, น่้า, ท่ีพัก ค. ก่าลงั พล, อาวุธยทุ โธปกรณ์, ยารกั ษาโรค ง. อาวธุ , เครอ่ื งนุ่งห่ม, ท่ีพัก ๑๘๗ การนอนในปา่ ที่ถูกต้องในการดา่ รงชพี ควรเลือกใหท้ หารนอนอย่างไร ? ก. นอนสูงกวา่ พน้ื ดิน ข. นอนในพ้นื ที่โล่งแจง้ ค. นอนเอาศีรษะเข้าหาตน้ ไม้ใหญๆ่ ง. นอนใกลก้ องไฟ ๑๘๘ การแสวงหาอาหารในป่าแบ่งออก 2 ชนิด ใหญๆ่ คอื ? ก. ในนา่้ ,บนพืน้ ดิน ข. น่า้ , ท่พี ัก ค. ในป่าดงดิบ,ในป่าโปรง่ ง. สตั ว,์ พชื ๑๘๙ การแบ่งประเภทปัญหาใหญๆ่ ซึ่งเก่ียวกับการด่ารงชพี ใหเ้ หมาะสมกับภมู ิภาคมีอยู่ด้วยกนั 4 ประการ คือ ? ก. ชดุ ด่ารงชีพในปา่ ข. ชดุ ด่ารงชีพในทะเล ค. ชดุ ด่ารงชีพในทะเลทราย ง. ถกู ทุกขอ้ ๑๙๐ วิธีการติดไฟในขณะท่ีเราอยู่ในปา่ ซงึ่ ไม่มีไม้ขีดไฟหรือไฟแชค็ ท่ีนา่ ตดิ ตัวไปวิธกี ารตดิ ไฟที่ยากทีส่ ุดได้แกช่ นดิ ใด ? ก. หินและเหลก็ ข. ใช้ไมถ้ กู ัน ค. กระจกและแสงแดด ง. ใช้เชอื กป่าน ถูกับไม้ ๑๙๑ รถทจ่ี ดั ไว้บรกิ ารบุคคลสา่ คญั ซงึ่ มีสภาพพร้อมใชต้ ลอดเวลา นัน้ หมายถึงอะไร ? ก. รถสว่ นกลาง ข. รถรบั รอง ค. รถประจา่ ต่าแหน่ง ง. รถเฉพาะทาง ๑๙๒. เมอื่ แจกจ่ายรถประจ่าต่าแหนง่ แลว้ อยากทราบว่าใครเป็นผ้รู ับผดิ ชอบการกา่ กบั ดูแลการปรนนิบตั ิบ่ารุง ก. ผบ.ร้อย สสช. ข. นยน.ร้อย สสช ค. ผู้ทีไ่ ดร้ บั รถประจา่ ต่าแหน่ง ง. หนว่ ยท่รี ับรถมาอยใู่ นความครอบครอง ๑๙๓. ในการจัดเปลย่ี นรถคนั ใหมม่ าทดแทนคนั เก่าโดยใช้ดุลยพินจิ ของหัวหนา้ สว่ นราชการคือรถอะไร ? ก. รถประจา่ ตา่ แหน่ง ข. รถส่วนกลาง ค. รถรับรอง ง. รถประจ่าหนว่ ย ๑๙๔. ในกรณมี คี วามจา่ เป็นจะตอ้ งนา่ รถไปเก็บที่อ่ืนเป็นครั้งคราวจะต้องไดร้ ับอนญุ าตจากใคร ? ก. ไดร้ ับจากหวั หน้าสว่ นราชการ ข. ไดร้ บั อนุมัตจิ ากหนว่ ย ค. ได้รบั จาก หน่วยใช้ / ผใู้ ช้ ง. ถูกทงั้ ข้อ ก. และ ข้อ ข. ๑๙๕. ผบ.ร้อย ไดร้ ับเงนิ เป็นสนิ น่า้ ใจจาก ผบ.พนั ท่ีน่ากา่ ลงั พลไปช่วยเหลอื ผูป้ ระสบอุทกภยั ทจี่ ังหวัดชมุ พร ผบ.รอ้ ย จงึ ใช้เงินก้อนน้จี ัดเลี้ยงผู้ใต้บังคบั บญั ชาทง้ั กองร้อย ผบ.ร้อยผู้นี้มีคุณลักษณะผู้นา่ ในเรอ่ื งอะไร ? ก. ความรเิ รม่ิ ข. ความซ่ือสัตย์ ค. ความยตุ ิธรรม ง. ความไม่เหน็ แก่ตวั ๑๙๖. จ.ส.อ. รักชาติ รกุ รบ เป็น ผบ.หมู่.ปล. ปะทะกับ ผู้ก่อความไม่สงบ และถกู ยิงบาดเจบ็ แต่ยงั สามารถสัง่ การรบต่อไป ได้ จ.ส.อ. รักชาติ ฯ มีคณุ ลกั ษณะผนู้ า่ ขอ้ ได ? ก. ความอดทน ข. ความเดด็ ขาด ค. ความกลา้ หาญ ง. ความไม่เป็นแก่ตวั

๑๙๗. จ.ส.อ. วลั ลภ ขยันขนั แขง็ มารอรบั พลทหารทง้ั กองร้อยจากสบิ เวร ตั้งแต่เวลา ๐๕๐๐ เพ่ือน่าพลทหาร ออกกา่ ลงั กายทุกวัน จ.ส.อ. วัลลภ ฯ มคี ณุ ลกั ษณะผนู้ ่าขอ้ ใด ? ก. ความริเรมิ่ ข. ความอดทน ค. ความกระตือรือร้น ง. ความเป็นผูเ้ ชื่อถอื ได้ ๑๙๘. ในขณะทก่ี ่าลังเผชิญหน้าอยู่ในภาวะคับขันและอนั ตราย แตผ่ ูน้ ่าสามารถควบคุมจิตใจตนเองให้ปฏบิ ตั ิงาน ตอ่ ไปได้อย่างไมส่ ะทกสะทา้ น ผู้นา่ ผนู้ ้ีมีคุณลักษณะผนู้ า่ ในเรอื่ งใด ? ก. ความซอ่ื สตั ย์ ข. ความกล้าหาญ ค. ความยุติธรรม ง. ความไมเ่ หน็ แกต่ วั ๑๙๙. คุณลกั ษณะผู้น่าในเรื่อง ความรเิ รม่ิ มลี ักษณะอย่างไร ? ก. ทา่ ทนั ทเี มื่อไดร้ ับค่าสั่ง ข. เคยทา่ อยา่ งไรก็ทา่ อยา่ งน้ัน ค. ทา่ เฉพาะงานในหน้าทท่ี ี่ได้รับมอบ ง. คิดคน้ พฒั นารูปแบบและวิธีการปฏบิ ัติงานใหม่ ๆ ให้ได้ผลดอี ยเู่ สมอ ๒๐๐. การพัฒนาคุณลักษณะผูน้ า่ เร่อื ง “ ความซื่อสัตย์ ” จะตอ้ งกระทา่ เช่นไร ? ก. ซื่อสัตย์ สจุ ริต และจริงใจ ข. ซอ่ื สัตย์ สจุ ริต และยดึ ม่ัน ค. ซือ่ สัตย์ สุจรติ และมีสจั จะ ง. ซอ่ื สัตย์ สจุ รติ และมศี ลี ธรรม ๒๐๑. “ ความเปน็ ผู้เชอ่ื ถือได้ ” มลี ักษณะอยา่ งไร ? ก. ยึดมัน่ ในสิง่ ท่ีตนเช่อื วา่ ถูกตอ้ ง ข. เปน็ ผทู้ ่ีมคี วามเห็นอกเห็นใจผอู้ น่ื ค. ไม่ตกลงใจท่าการใด ๆ แบบหนุ หันพลันแล่น ง. ได้รับความไวว้ างใจในการปฏิบัติงานตามหน้าที่อยา่ งถกู ตอ้ ง ๒๐๒. การพัฒนาตนเองให้เป็นผูไ้ ม่วพิ ากษว์ จิ ารณผ์ ู้บังคับบัญชาของตน ต่อหนา้ ผู้ใตบ้ ังคับบญั ชาพยายามป้องกัน ไม่ใหผ้ ใู้ ต้บังคบั บญั ชาของตนถูกกล่าวรา้ ย และไมน่ ่าปัญหาต่าง ๆ ในหนว่ ยของตนไปพดู นอกหน่วย เป็นการพฒั นาคุณลกั ษณะผูน้ า่ ในเรื่องใด ? ก. กาลเทศะ ข. วิจารณญาณ ค. ความจงรักภกั ดี ง. ความไม่เห็นแกต่ วั ๒๐๓. ผบ.ร้อย. ได้ไปเย่ียมจ่ากองร้อยทบ่ี ้านพกั พบเห็นจ่ากองร้อยกา่ ลงั รวบรวมเอกสารสว่ นตัวใส่แฟม้ เปน็ ระเบยี บเรยี บร้อยและมีห้องสมดุ ส่วนตวั จ่ากองร้อยมกี ารพัฒนาคุณลักษณะผู้นา่ เร่อื งอะไร ? ก. ความรู้ ข. ความรเิ ริ่ม ค. ความกระตือรือรน้ ง. ความมีวิจารณญาณ ๒๐๔. กรณีมี ผบ.ชา มาตรวจหน่วยของท่าน พบว่า หน่วยงานของท่านมี สุขวิทยาอนามัยส่วนบุคคลดี โรงอาหารหรือโรง เลี้ยงสะอาดเรียบร้อย เปน็ การประเมินค่าเคร่อื งช้คี วามเป็นผู้น่าของผูบ้ ังคับหน่วยท่านในเร่ืองใด ก. วินัย ข. ความรักหมคู่ ณะ ค. ขวัญ ง. ความไม่เหน็ แก่ตวั ๒๐๕. ยานหุม้ เกราะล่าเลียงพลแบบ BTR - 3E1 เปน็ ยานหมุ้ เกราะล่าเลียงพลมีลักษณะแบบใด ? ก. เปน็ ยานหุ้มเกราะสะเทนิ น่้าสะเทินบก ข. เป็นยานพาหนะที่มีความคลอ่ งแคลว่ ในการเคลอ่ื นท่ีในภมู ิประเทศสูง ค. มพี ลประจ่ารถ จา่ นวน ๓ นาย ง. ท่กี ล่าวมาถกู ทกุ ข้อ

การปรนนบิ ตั บิ ารุง ๑.ผบช.มงุ่ หวงั ในการปบ. ในหนา้ ทพ่ี ลขับ (ขัน้ ท่ี ๑)น้ันเพอื่ ประสงคอ์ ะไร ก.ตอ้ งการใหม้ งี านทา ข. เพื่อตอ้ งการเบิก สป. ค.เพื่อเอาไปแกไ้ ขข้อบกพรอ่ ง ง.เพ่ือรักษาง.ยุทโธปกรณแ์ ละเพอื่ ให้มปี ระสทิ ธภิ าพ ๒.การปบ. เม่ือตรวจพบข้อบกพร่องหรอื ทางานไมส่ มบูรณเ์ กนิ ขั้นที่ ๑พลขบั ต้องปฏิบัตอิ ย่างไร ก.แขวนป้ายชะงักใชง้ าน ข.รายงาน ผบช.ทราบทันที ค.ทาการแกซ้ อ่ มเองไดเ้ ลย ง.ส่งซอ่ มตามสายงานของ ผบช. ๓.จา่ สิบเอกปยิ ะทัศนฯ์ นา รยบ.บรรทุกนา้ ขนาด ๕,๐๐๐ ลติ รไปสง่ น้าขณะวง่ิ อย่ไู ดย้ นิ เสยี งเครือ่ งยนตด์ ังไมส่ มา่ เสมอแล้วจดจา ไป ปบ.เม่อื ถึงหนว่ ยถือว่าเป็นการ ปบ.ห้วงใด ก.การ ปบ.ขณะใช้งาน ข.การ ปบ.ขณะหยุดพกั ค.การ ปบ. หลงั ใชง้ าน ง.การ ปบ.กอ่ นใช้งาน ๔.ขอ้ ใดกลา่ วถูกตอ้ งแล้ว ก.การ ปบ.ขน้ั ๑ เปน็ งานในหน้าทีพ่ ลขับทากไ็ ดไ้ มท่ าก็ได้ ข.การ ปบ.ขน้ั ๑ เป็นการตรวจสภาพทว่ั ไปเพ่ือให้ทราบข้อบกพรอ่ งของยุทโธปกรณ์ ค.การ ปบ.ขน้ั ๑ ต้องทาบอ่ ยๆ เพ่ือจะไดน้ าไปเบิก สป. ง.ทก่ี ลา่ วมาแลว้ ถกู ต้องทกุ ข้อ ๕.การปบ.ในหน้าท่ีพลขับ (ขนั้ ท่ี ๑)มกี ารปบ.หลักอยู่ ๓ ขนั้ คอื ข้อใด ก.ก่อนใชง้ าน ขณะใชง้ านและหลังใช้งาน ข.ก่อนใชง้ าน ขณะหยุดพักและขณะใช้งาน ค.ขณะหยดุ พกั ขณะใช้งานและในโรงรถ ง.หลังใช้งาน ขณะใช้งานและในโรงรถ ๖.การปรนนิบัตบิ ารุงเปน็ หวั ใจสาคัญ พลขบั จะละเลยเสยี มิได้ คือการ ปบ.ประเภทไหน ก.การ ปบ.รอบ ๓ เดือน ข.การ ปบ. รอบ ๖ เดอื น ค.การ ปบ.ประจาวนั ง.การ ปบ.ประจาสัปดาห์ ๗.กอ่ นนา รยบ.ออกไปใชง้ าน พลขับทาการตรวจสภาพเรียบรอ้ ย เป็นการตรวจสภาพทั่วไปดว้ ยอะไร ก.ตรวจสภาพดว้ ยหู ข.ตรวจสภาพด้วยความชานาญ ค.ตรวจสภาพดว้ ยจมูก ง.ตรวจสภาพด้วยสายตา ๘. พลขบั ทุกคนท่ีนารถออกใช้งานจะตอ้ งมีบตั รการใชร้ ถประจาวันเสมอ แตม่ ีข้อยกเวน้ อะไรบา้ ง ก. ขับรถเข้าขบวน,ขบั รถพยาบาลฉกุ เฉนิ ข. ขับรถพยาบาลฉุกเฉนิ ,ขับรถปฏิบัติงานทางยทุ ธวธิ ี ค. ขับรถปฏบิ ัตงิ านทางยุทธวิธ,ี ขบั รถรับสง่ ทหารกองเกียรตยิ ศ ง. ขบั รถเข้าขบวน,ขบั รถปฏบิ ัตงิ านทางยทุ ธวิธี ๙. การ ปบ.ประจาวนั จะปฏบิ ัตใิ นกรอบของแบบพิมพ์ อะไร ก. ทบ. 468 – 360 ข. ทบ. 468 – 310 ค. ทบ. 468 – 201 ง. ทบ. 468 – 378 ๑๐. พลขบั จะกระทาการ ปบ.ขณะใชง้ าน จะกระทาการไดอ้ ยา่ งไร ก. ตรวจดูรอยบริเวณใต้รถ ข.ฟงั เสยี งและกลน่ิ ทีผ่ ิดปกติ ค. ตรวจเครอื่ งช่วยความปลอดภัยขณะขับรถ ง. สงั เกตดูระดบั น้าในเครอ่ื งวดั ขณะขับรถ

แผนกวิชาการจูโ่ จมและส่งทางอากาศ การสนบั สนุนทางอากาศโดยใกล้ชดิ 1.ข้อใดคือความหมายของการสนบั สนนุ ทางอากาศโดยใกล้ชิด ก. การปฏบิ ตั ทิ ่ีลึกเขา้ ไปในดนิ แดนขา้ ศกึ เปา้ หมายไมจ่ าเป็นตอ้ งมกี ารควบคมุ ปฏิบตั ไิ ดต้ ามเสรี ตามความรเิ รมิ่ ของกองทพั อากาศ ข. การปฏบิ ัติทางอากาศหรือการโจมตีทางอากาศท่ีกระทาต่อเป้าหมายของ ขศ. บนผวิ พื้น โดยการร้องขอจากหน่วยภาคพ้ืน ค. การปฏิบตั ิไปตามความริเร่มิ ของกาลังทางอากาศหลงั จากได้วางแผนรว่ มกบั หนว่ ยกาลงั ภาคพ้ืน ง. การปฏบิ ัตทิ างอากาศหรอื การโจมตีทางอากาศที่กระทาต่อเป้าหมายที่ลึกเขา้ ไปในดินแดนของ ขศ. หลงั จากได้วางแผนร่วมกับกาลังทางอากาศ 2.ข้อใดไมจ่ ดั วา่ เปน็ ประเภทของการสนับสนุนโดยใกลช้ ดิ ก. การคมุ้ กันขบวนเดินเทา้ ข. การบนิ คมุ้ กัน ค. การโจมตีทางอากาศ ง. การขดั ขวางทางอากาศ 3.ผู้ควบคมุ อากาศยานหน้าคือใคร (FAC) ข. นายทหารอากาศ (นักบนิ ) ก. ผตู้ รวจการณ์ทไ่ี ด้รบั การฝกึ ง. ถกู ทุกข้อ ค. ผบู้ ังคบั หนว่ ยทีผ่ ่านการอบรม 4.ในการจดั หนว่ ยควบคมุ ทางอากาศยุทธวิธี จะมีชุดผู้ควบคมุ อากาศยานหนา้ (ชผคน)ที่จัดส่งออกไปปฏิบตั ิการรว่ มกับหน่วย กาลงั ภาคพ้นื มีหน้าทใี่ ห้คาแนะนาต่อ ผบ.หน่วยนั้นเกีย่ วกับการขอใชก้ าลังทางอากาศและทาหนา้ ทส่ี ่งคาขอไปยงั หนว่ ยเหนือที่มี อานาจในการสั่งใชก้ าลังทางอากาศ อยากทราบว่า ชผคน.จะจดั ส่งไปหนว่ ยถงึ หน่วยภาคพ้นื ระดบั ใด ก. กองทัพภาค ข. กองพล ค. กองกาลังผสม ง. กรมและกองพนั 5.ข้อใดเป็นคุณสมบัตขิ องผ้นู าอากาศยานหนา้ FORWARD AIR GUIDE (FAG) ก. มีความรู้ยุทธวธิ ีภาคพืน้ และยทุ ธวธิ อี ากาศยาน ข. มคี วามรภู้ าษาอังกฤษและการอา่ นแผนที่ ค. ผา่ นการอบรมหนา้ ท่ี ผนอ. (FAG) ง. มีควมารู้การติดต่อสื่อสาร,ยุทธวธิ ีภาคพื้นและยุทธวิธอี ากาศยาน 6.พ้นื ท่ีในการสนับสนนุ ทางอากาศโดยใกลช้ ิด ข้อใดกล่าวถูกต้อง ก. จากหนา้ สดุ ของการวางกาลังฝ่ายเราไปจนถึงขอบหนา้ ของเขตภายในขา้ ศกึ ข. จากแนวประสานการยิงสนบั สนุนและเขา้ ไปในเขตภายในข้าศึก ค. จากขอบหนา้ พื้นทีก่ ารรบไปจนถงึ แนวประสานการยงิ สนบั สนุน ง. จากขอบหน้าพืน้ ที่การรบไปจนถงึ เขตภายในขา้ ศึก 7.การสง่ คาขอทนั ที(เรง่ ดว่ น) จะตอ้ งใหค้ าขอถึงผู้มีอานาจอนุมตั ิการใช้ บ. ของ ทอ. และจะไดร้ ับการตอบสนองในเวลาอย่างช้า เท่าไร ? ก. 2 ช่วั โมงเข้ารหสั ข. 6 ชั่วโมงเขา้ รหัส ค. 2 ชั่วโมงไมเ่ ขา้ รหสั ง. 6 ชัว่ โมงไมเ่ ข้ารหัส 8.คาขอทนั ทีทันใดมีหวั ขอ้ อะไรบา้ ง ? ก. ใคร อะไร ทไี่ หน เม่อื ไร อย่างไร เท่าไร ข. ใคร อะไร ท่ไี หน ทาไม เมื่อไร ค. ใคร อะไร ท่ไี หน เมือ่ ไร ทาไม อย่างไร ง. ใคร อะไร ท่ไี หน อย่างไร

9.กอ่ นท่ีเครื่องบินจะออกจากจดุ บนิ วน(CP) นกั บนิ จาได้รับขอ้ มูลข่าวสารจากหน่วยภาคพื้นในเร่อื งใดบ้าง ขอ้ ใดกลา่ วถกู ตอ้ ง ก. สภาพอากาศ ลักษณะทหี่ มาย สถานการณ์ข้าศึก ข. นามเรียกขาน จานวนละแบบอากาศยาน เวลาในการใหก้ ารสนบั สนนุ ค. สภาพอากาศ ลักษณะท่ีหมาย สถานการณ์ข้าศึกและการต่อต้าน แนวกาลังฝ่ายเดียวกนั การยิงของ ปืนใหญ่ ง. นามเรยี กขาน ลักษณะที่หมาย สภาพอากาศ เวลาในการใหก้ ารสนับสนนุ 10.หลังจากเครื่องบินโจมตีเป้าหมายแลว้ หนว่ ยภาคพ้ืนจะต้องรายงานผลการโจมตีเปา้ หมายใหน้ ักบนิ ทราบ ข้อใดกลา่ วไม่ ถูกต้องในขั้นตอนนี้ ก. แจง้ ตาบลระเบิดหรือตาบลกระสนุ ตก ข. แจ้งผลการทาลายเป้าหมายเป็นเปอร์เซน็ ต์ ค. แจ้งเวลาระเบิดกระทบเป้าหมาย ง. ปรบั แกต้ าบลกระสุนตกใหน้ ักบนิ 11.การพิสูจน์ฝ่ายเพ่ือต้องการทราบวา่ เปน็ หนว่ ยทหารฝา่ ยเดยี วกนั สิ่งทตี่ ้องแสดงน้ันอย่างไร ? ก. แผ่นผ้าสัญญาณ VS - 17 ปูเปน็ ตัวอักษร ข. ลข.ควันสแี ดง ค. ทศั นสญั ญาณ ง. หมายแนว หมายที่ต้งั 12.ในการเตรยี มการในระหวา่ งรออนมุ ตั คิ าขอ และรออากาศยานมาสนับสนุน ผู้บังคบั หน่วยจะตอ้ งกระทา สงิ่ ใดบา้ ง? ก.ดารงการตดิ ต่อสื่อสารกบั ป. หน่วยเหนอื ข.ผบ.หน่วย ให้ พลวิทยุเป็นผูใ้ ช้วิทยุเพียงผเู้ ดยี ว ค.ให้กาลงั พลในหน่วยเฉลย่ี กระสนุ เตรยี มตะลุมบอน ง.ถกู ทขุ ้อ 13.ผู้นาอากาศยานหน้า (FAG) มหี นา้ ทีอ่ ย่างไร ก. นาอากาศยานเขา้ โจมตีเปา้ หมายได้ ข. รายงานสภาพอากาศ ค. แนะนา บ.โจมตี เก่ยี วกับทิศทางที่ปลอดภัย ง. ถูกทกุ ขอ้ 14.จดุ ที่ไดก้ าหนดอ้างทางภมู ิศาสตร์บนพน้ื ดนิ หรอื บนผิวนา้ ใชเ้ พ่อื เป็นตาบลใหเ้ คร่ืองบินหรือการส่งทางอากาศมาปรากฏทน่ี ัน้ คอื ความหมายอย่างไร ก. ที่ตงั้ ขา้ ศึก ข. จุดบินวน ค. ที่ตงั้ ฝ่ายเดียวกัน ง. ทิศทางการโจมตี 15.ในการปอู กั ษรรหสั บอกฝา่ ยเมอ่ื บ. ใกลถ้ ึงทต่ี ั้งหน่วย ใครต้องเป็นผสู้ ่ังใหป้ ูสญั ญาณ ก. นักบิน ข. ผบ.หน่วย ค. ผนอ. ง. หน.ชุดปแู ผน่ ผ้า

การดารงชพี ในปา่ 1.การทดสอบพชื ที่กินได้ กระทาได้อยา่ งไร ก. ชิมคอย ข. สอบถามชาวบา้ น ค.ดูจากสัตว์ ง. ถูกทุกขอ้ 2. กาสร้างที่พกั ทางทหารกระทาได้ 2 วธิ ี คือ ก. เร่งดว่ น , ถาวร ข. ก่งึ ถาวร , ถาวร ค. กึ่งเร่ง , เรง่ ดว่ น , ถาวร ง. เร่งดว่ น , ก่งึ ถาวร 3. การทานา้ ให้สะอาดมีกวี่ ธิ ีอะไรบา้ ง ก. 3 วธิ ี ต้ม , ยาฆ่าเช้ือ , กรอง ข. 3 วธิ ี ต้ม , กลั่น , ใส่ยาฆา่ เช้ือ 2 ชนิด ค. 3 วธิ ี ยาฆ่าเชอื้ , กรอง , ซ้อื ตดิ ตัว ง. ผิดทกุ ขอ้ 4. ส่งิ สาคญั ที่สุดในการดารงชพี ในป่าไดแ้ ก่ ? ข. การมนี ้าดม่ื ที่ปลอดภัย ก. การมีอาหารรบั ประทานสมบรู ณ์ ง. การมีกาลงั ใจและความตั้งใจอันแน่วแน่ ค. การมที พ่ี กั ท่สี ุขสบาย 5. ปา่ ในประเทศไทยเราสามารถแบ่งป่าไม้ออกตามลักษณะของปา่ เป็น 2 ชนดิ ได้แก่ ? ก. ป่าแดงและปา่ ดงดิบ ข. ปา่ ดงดิบและป่าผลดั ใบ ค. ป่าดงดบิ และป่าเบญจพรรณ ง. ปา่ ดินน้าจดื และป่าดินนา้ เค็ม 6. เมอ่ื เราอยใู่ นปา่ อนั ตรายที่จะเกดิ กบั เรามี 2 ประเภทได้แก่ ? ก. น้าปา่ และสตั ว์ป่า ข. พชื ท่ีเป็นพิษและสัตวป์ า่ ค. ธรรมชาตขิ องป่าและทหารข้าศกึ ง. กนิ อาหารทเี่ ป็นพษิ และไขป้ ่า 7. ปัญหาใหญๆ่ ของการดารงชพี แบง่ ออกเป็น 3 ประเภทไดแ้ ก่ ? ก. พืช, สตั ว์, นา้ ข. อาหาร, นา้ , ทพี่ ัก ค. กาลงั พล, อาวธุ ยทุ โธปกรณ์, ยารกั ษาโรค ง. อาวุธ, เคร่อื งนุ่งหม่ , ทพ่ี ัก 8. การนอนในปา่ ทถ่ี กู ตอ้ งในการดารงชพี ควรเลอื กให้ทหารนอนอย่างไร ? ก. นอนสงู กวา่ พน้ื ดนิ ข. นอนในพน้ื ทีโ่ ลง่ แจง้ ค. นอนเอาศรี ษะเขา้ หาต้นไม้ใหญๆ่ ง. นอนใกลก้ องไฟ 9. การแสวงหาอาหารในป่าแบง่ ออก 2 ชนิด ใหญๆ่ คอื ? ก. ในน้า,บนพืน้ ดนิ ข. นา้ , ที่พัก ค. ในปา่ ดงดิบ,ในปา่ โปร่ง ง. สัตว์,พืช 10. การแบง่ ประเภทปัญหาใหญๆ่ ซ่งึ เกี่ยวกับการดารงชีพให้เหมาะสมกบั ภูมิภาคมอี ยูด่ ้วยกนั 4 ประการ คอื ? ก. ชุดดารงชีพในปา่ ข. ชดุ ดารงชีพในทะเล ค. ชดุ ดารงชพี ในทะเลทราย ง. ถกู ทุกขอ้

11. วิธีการติดไฟในขณะทเี่ ราอยูใ่ นป่าซงึ่ ไมม่ ไี ม้ขดี ไฟหรือไฟแชค็ ที่นาติดตวั ไปวธิ กี ารติดไฟทย่ี ากทสี่ ุดได้แก่ชนิดใด ? ก. หินและเหล็ก ข. ใช้ไม้ถูกนั ค. กระจกและแสงแดด ง. ใชเ้ ชือกป่าน ถกู ับไม้ 12. รา่ งกายของคนเรามีตอ้ งการน้า 1 คน/วนั นน้ั 2 - 5 ลิตรการทานา้ แสวงหาไดจ้ ากในปา่ ให้สามารถ ทาใหส้ ามารถดื่มไดด้ ้วย วธิ กี ารใส่ยาฆ่าเชอ้ื ฮาราโฮน 2 เมด็ ต่อน้า 1 กระติก ควรใส่ยาแลว้ ท้ิงไวก้ ี่นาที ? ก. 3 นาที ข. 10 นาที ค. 30 นาที ง. 40 นาที 13. ผลไม้และพืชต่างๆท่เี ราพบในป่าซ่งึ จะนามาประกอบอาหารหรือกินนนั้ มีวิธีปฏบิ ตั ดิ ว้ ยกัน 4 วธิ วี ิธใี ดท่ีไมป่ ลอดภัย 100 % การปฏิบัติ 4 วิธี ? ก. สอบถามชาวบ้าน ข. ดูจากสตั ว์ ค. ความคุ้นเคย ง. ชิมแลว้ คอย 14. เรอ่ื งทส่ี าคญั ทส่ี ุดในการดารงชีพอยู่ในปา่ ซง่ึ เป็นกญุ แจท่จี ะนาไปสคู่ วามสาเร็จ 8 ประการ คอื ขอ้ ใด ? ก. SERVIVAL ข. SURVIVEL ค. SURVIVAL ง. SEVRIVAL 15. พืชในประเทศไทยมีประมานกีช่ นิด ก. สองแสนหา้ หมืน่ ชนิด ข. สามแสนกวา่ ชนดิ ค. นบั ไมถ่ ว้ น ง. ข้อ ก. และ ข. ถูกตอ้ งทีส่ ุด

แผนกวชิ าทว่ั ไป --------------------------------- ๑. ขอ้ ใดเป็นเหตุผล และความจาเป็นทต่ี ้องศึกษาวิชาครทู หาร? ก. เพราะเป็นวชิ าท่ีเรยี นง่าย ข. เพือ่ ความก้าวหน้าทางราชการ ค. เพ่อื เป็นหลักในการอบรมสั่งสอนผ้อู น่ื ง. เพอ่ื ใหม้ คี วามรขู้ ั้นตน้ ๒.การจะเป็นครทู ด่ี ีและประสบความสาเรจ็ น้นั จะต้องมีคุณลกั ษณะอยา่ งไร สาคญั ท่สี ุด ? ก. มคี วามรกู้ วา้ งขวางทกุ วชิ าและประสบการณ์ในสนามมาก ข. มคี วามรใู้ นบทเรียนทส่ี อนและมีเทคนิคการสอนดี ค. สอนแบบเดิม ทร่ี ุ่นพีเ่ คยสอน ง.ควรมียศและตาแหน่งสูงกวา่ ผู้เรียน ๓.ลกั ษณะของครทู ด่ี ีประการหน่ึงคือ จะต้องมวี ิญญาณครู คาว่า “วิญญาณครู” น้นั มีความหมายตรงกับ ของใด? ก. มีบคุ ลิกลักษณะเหมาะสมทจี่ ะเปน็ ครู ข. มีความสามารถในการสอนเปน็ อย่างดี ค. มีจิตรกั การสอนและพอใจในอาชีพครู ง. เปน็ ผคู้ งแกเ่ รยี น ๔. การฝึกภาคสนามของหลกั สูตรต่างๆ น้นั เปน็ การนาเอาหลกั การสอนข้อใดมาใชม้ ากที่สดุ ? ก. การเร้าใจ ข.ความสมจริง ค. ความรู้เดมิ ง. การกระตุ้น ๕. องคป์ ระกอบของการกลา่ วนาทีต่ อ้ งนามากล่าวเสมอในครั้งแรกของการสอน คอื อะไร ? ก. การแนะนาอปุ กรณ์การสอน ข. การแนะนาตัวครู ค.ความมุ่งหมายและเหตผุ ลในการเรยี น ง. ต้องกล่าวทัง้ หมดทกุ ขอ้ ๖. วิธีสอนมอี ยหู่ ลายวธิ ี การเลอื กใช้วิธีการสอนแบบใดนั้น จะข้นึ อยู่กับปัจจัยในเร่ืองอะไรบ้าง ? ก.จานวนนกั เรียน ข.ความรเู้ ดมิ ค. พนื้ ฐานความรู้ของนักเรยี น ง. ตอ้ งพจิ ารณาทกุ ข้อท่กี ล่าวมา ๗. วิธีการสอนแบบใด ทไี่ ม่ทาให้เกิดความสนใจ และไม่ส่งเสริมให้นกั เรียนมีทศั นคตใิ นการเรียน? ก. วิธีสอนแบบเชิงแสดง ข. วิธีสอนแบบเชิงประชุม ค.วธิ สี อนเชิงบรรยาย ง. ทกุ วิธที ี่กลา่ วมา ๘.ข้อใดกลา่ วถกู ตอ้ งทส่ี ุด เกี่ยวกับการพดู ของครู ? ก. พูดเชน่ เดยี วกับการใหโ้ อวาท ข. จังหวะการพดู ตอ้ งสม่าเสมอ ค. พดู เช่นเดยี วกบั การพูดสนทนา ง. ระดับเสยี งในการพดู ตอ้ งสมา่ เสมอ ๙. ผทู้ ่ที าหน้าท่ีครจู าเป็นอยา่ งยิ่งทจี่ ะต้องเปน็ ผู้ที่มคี วามรู้ในเร่ืองทส่ี อน มีเทคนิคการสอนทีด่ ี และทส่ี าคญั คอื จะต้องมีศิลปะในการพูดท่ดี ดี ว้ ย ดังน้นั การพดู จงึ เปน็ การสรา้ งสมั ผัสทีด่ รี ะหว่างครูกับนกั เรยี น อยาก ทราบวา่ “การสรา้ งสัมผัสระหว่างครกู บั นกั เรียน” ตรงกับขอ้ ใด ? ก. พดู เมื่อนกั เรียนต้งั ใจฟงั ข. เตรยี มการสอนมาเปน็ อย่างดี ค. มีทัศนคติที่ดี ง. เตรยี มการกลา่ วนามาเปน็ อยา่ งดี


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook