Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore คู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้ ประวัติศาสตร์ ป.3

คู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้ ประวัติศาสตร์ ป.3

Published by 113ed00277, 2020-05-10 23:24:32

Description: คู่มือครู แผนการจัดการเรียนรู้ ประวัติศาสตร์ ป.3

Search

Read the Text Version

คู่มือครูแผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  133 ข้นั ที่ 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 8. ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมที่เกี่ยวกบั ทา้ วเทพกระษตั รี ทา้ วศรีสุนทร ในแบบฝึกทกั ษะ รายวชิ า พ้ืนฐาน ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 ของบริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบที่ถกู ตอ้ ง ข้นั ที่ 4 นําไปใช้ 9. ครูแนะนาํ ใหน้ กั เรียนนาํ เรื่องทา้ วเทพกระษตั รี ทา้ วศรีสุนทรกลบั ไปเล่าใหผ้ ปู้ กครองฟัง ข้นั ที่ 5 สรุป 10. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เร่ือง ทา้ วเทพกระษตั รี ทา้ วศรีสุนทร โดยใหน้ กั เรียน สรุปประเด็นสาํ คญั เป็นแบบเรียงความ 11. ครูมอบหมายใหน้ กั เรียนอ่านเน้ือหาเก่ียวกบั ชาวบา้ นบางระจนั เป็นการบา้ นเพ่ือเตรียมจดั การ เรียนรู้ในคร้ังต่อไป 8. กจิ กรรมเสนอแนะ  ครูใหน้ กั เรียนศึกษาคน้ ควา้ เพม่ิ เติมเก่ียวกบั ประวตั ิและผลงานของทา้ วเทพกระษตั รี ทา้ วศรี สุนทร แลว้ นาํ ขอ้ มลู มาจดั ป้ ายนิเทศร่วมกนั หนา้ ช้นั เรียน 9. สื่อ/แหล่งเรียนรู้ 1. ภาพอนุสาวรียท์ า้ วเทพกระษตั รี ทา้ วศรีสุนทร 2. ใบความรู้เรื่อง ทา้ วเทพกระษตั รี ทา้ วศรีสุนทร 3. หนงั สือเรียน รายวชิ าพ้นื ฐาน ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 4. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้นื ฐาน ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 5. คู่มือการสอน ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 6. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพ้นื ฐาน ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั

คู่มือครูแผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  134 10. บันทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางแกไ้ ข 3. ส่ิงท่ีไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงชื่อ ผู้สอน //

คู่มือครูแผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  135 แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 19 ชาวบ้านบางระจนั สาระที่ 4 ประวตั ิศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 3 หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 วรี กรรมของบรรพบุรุษไทย เวลา 1 ช่ัวโมง 1. สาระสําคญั การต่อสูข้ องชาวบา้ นท่ีน่าจดจาํ ท่ีสุดในช่วงการเสียกรุงศรีอยธุ ยาคร้ังที่ 2 คือ วีรกรรมของชาวบา้ น บางระจนั ท่ีชาวบา้ นทุกคนร่วมมือกนั ตา้ นทพั ของพม่าอยา่ งสุดกาํ ลงั ถึงแมว้ า่ ตนเองจะขาดอาวธุ ที่ทนั สมยั และไม่อาจตา้ นทพั ไวไ้ ด้ แต่วรี กรรมของชาวบา้ นบางระจนั กเ็ ป็นที่กล่าวขานถึงความเสียสละมาจน ปัจจุบนั 2. ตัวชี้วดั ช้ันปี  เล่าวีรกรรมของบรรพบุรุษไทยที่มีส่วนปกป้ องประเทศชาติ (ส 4.3 ป. 3/3) 3. จุดประสงค์การเรียนรู้ 1. บอกเล่าเก่ียวกบั วรี กรรมของชาวบา้ นบางระจนั ไดถ้ ูกตอ้ ง (K) 2. สืบคน้ ขอ้ มลู เก่ียวกบั ชาวบา้ นบางระจนั ( P) 3. ภาคภมู ิใจในความกลา้ หาญ ความเสียสละ และความสามคั คีของชาวบา้ นบางระจนั และยดึ ถือ เป็นแบบอยา่ งได้ (A) 4. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ด้านความรู้ (K) ด้านคุณธรรม จริยธรรม ด้านทักษะ/กระบวนการ (P) และค่านิยม (A) • ประเมินพฤติกรรมในการ 1. ทดสอบหลงั เรียน • ประเมินพฤติกรรมในการ ทาํ งานเป็นรายบุคคลหรือ เป็นกลุ่มในดา้ นการส่ือสาร 2. ซกั ถามความรู้เรื่อง ทาํ งานเป็นรายบุคคลในดา้ น การคิด การแกป้ ัญหา ฯลฯ ชาวบา้ นบางระจนั ความมีวินยั ความใฝ่ เรียนรู้ ฯลฯ 3. ตรวจผลงาน/กิจกรรม เป็ นรายบุคคลหรื อเป็ นกลุ่ม 5. สาระการเรียนรู้  ชาวบา้ นบางระจนั

คู่มือครูแผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  136 6. แนวทางการบูรณาการ ภาษาไทย ฟัง พดู อ่าน และเขียนขอ้ มลู เก่ียวกบั ชาวบา้ นบางระจนั ศิลปะ จดั ป้ ายนิเทศเกี่ยวกบั ชาวบา้ นบางระจนั การงานอาชีพฯ สืบคน้ ขอ้ มลู เก่ียวกบั วีรกรรมของชาวบา้ นบางระจนั จากแหล่งการเรียนรู้ ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต 7. กระบวนการจดั การเรียนรู้ ข้นั ที่ 1 นําเข้าสู่บทเรียน ช่ัวโมงที่ 39 1. ครูแจง้ ตวั ช้ีวดั ช้นั ปี และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ใหน้ กั เรียนทราบ 2. ครูเปิ ดเพลงตน้ ตระกลู ไทยใหน้ กั เรียนฟัง พร้อมกบั ใหด้ ูภาพอนุสาวรียช์ าวบา้ นบางระจนั 3. ครุสนทนากบั นกั เรียนวา่ รู้จกั ชาวบา้ นบางระจนั หรือไม่ ชาวบา้ นบางระจนั มีความสาํ คญั อยา่ งไร โดยใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ จากน้นั ครูสรุปเพ่ือเชื่อมโยงสู่เน้ือหาที่จะเรียน ข้นั ที่ 2 กจิ กรรมการเรียนรู้ 4. ครูสนทนาและซกั ถามความรู้ของนกั เรียนเกี่ยวกบั เรื่องที่ไดร้ ับมอบหมายใหไ้ ปอ่านมาใน ประเดน็ ต่าง ๆ เช่น 1) ผนู้ าํ ชาวบา้ นบางระจนั ประกอบดว้ ยใครบา้ ง 2) วรี กรรมของชาวบา้ นบางระจนั เกิดข้ึนเม่ือไร 3) ชาวบา้ นบางระจนั ต้งั มนั่ อยทู่ ่ีเมืองใด 5. ครูอธิบายเน้ือหาเกี่ยวกบั ชาวบา้ นบางระจนั จากน้นั นกั เรียนสืบคน้ ขอ้ มลู เกี่ยวกบั วรี กรรมของ ชาวบา้ นบางระจนั จากแหล่งการเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น อินเทอร์เน็ต ครูต้งั คาํ ถาม ใหน้ กั เรียนช่วยกนั ตอบ 1) วรี กรรมของชาวบา้ นบางระจนั เกิดข้ึนในสมยั ใด 2) อะไรเป็นสาเหตุท่ีทาํ ใหช้ าวบา้ นบางระจนั พา่ ยแพ้ 3) นกั เรียนคิดวา่ คุณธรรมของชาวบา้ นบางระจนั ขอ้ ใดท่ีควรนาํ มาเป็นแบบอยา่ งในการ ดาํ เนินชีวิต 6. ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมที่เก่ียวกบั ชาวบา้ นบางระจนั แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบที่ถูกตอ้ ง ข้นั ที่ 3 ฝึ กฝนผู้เรียน 7. ครูใหน้ กั เรียนทาํ กิจกรรมที่เกี่ยวกบั ชาวบา้ นบางระจนั ในแบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้นื ฐาน ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 ของบริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั แลว้ ช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบท่ีถูกตอ้ ง ข้นั ท่ี 4 นําไปใช้ 8. ครูแนะนาํ ใหน้ กั เรียนนาํ คุณธรรมของชาวบา้ นบางระจนั ไปเป็นแบบอยา่ งในการดาํ เนินชีวิต ประจาํ วนั

คู่มือครูแผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  137 ข้นั ที่ 5 สรุป 9. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรุปความรู้เร่ือง ชาวบา้ นบางระจนั โดยใหน้ กั เรียนสรุปประเดน็ สาํ คญั เป็นแบบเรียงความ 10. ครูใหน้ กั เรียนทาํ แบบทดสอบหลงั เรียนและช่วยกนั เฉลยคาํ ตอบที่ถูกตอ้ ง 11. ครูใหน้ กั เรียนทาํ แบบทดสอบการวดั และประเมินผลการเรียนรู้ ประจาํ หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 วรี กรรมของบรรพบุรุษไทย ในแบบฝึกทกั ษะ รายวชิ าพ้ืนฐาน ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 ของบริษทั สาํ นกั พิมพ์ วฒั นาพานิช จาํ กดั เพอ่ื ประเมินผลการเรียนรู้ดา้ นความรู้ ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม และดา้ น ทกั ษะ/กระบวนการของนกั เรียน 8. กจิ กรรมเสนอแนะ  ครูใหน้ กั เรียนท่ีเคยชมภาพยนตร์เร่ืองบางระจนั ออกมาเล่าใหเ้ พ่อื นฟัง ผฟู้ ังสอบถาม และแสดง ความคิดเห็น 9. สื่อ/แหล่งเรียนรู้ 1. แบบทดสอบหลงั เรียน 2. วีดิทศั นห์ รือซีดีเพลงตน้ ตระกลู ไทย 3. ภาพอนุสาวรียช์ าวบา้ นบางระจนั 4. หนงั สือเรียน รายวิชาพ้นื ฐาน ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 บริษทั สาํ นกั พิมพว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 5. แบบฝึกทกั ษะ รายวิชาพ้ืนฐาน ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 6. คู่มือการสอน ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 7. ส่ือการเรียนรู้ PowerPoint รายวชิ าพ้ืนฐาน ประวตั ิศาสตร์ ป. 3 บริษทั สาํ นกั พมิ พว์ ฒั นาพานิช จาํ กดั 10. บันทกึ หลงั การจัดการเรียนรู้ 1. ความสาํ เร็จในการจดั การเรียนรู้ แนวทางการพฒั นา 2. ปัญหา/อุปสรรคในการจดั การเรียนรู้ แนวทางแกไ้ ข 3. สิ่งที่ไม่ไดป้ ฏิบตั ิตามแผน เหตุผล 4. การปรับปรุงแผนการจดั การเรียนรู้ ลงช่ือ ผู้สอน //

คู่มือครูแผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  138 การทดสอบปลายปี สาระที่ 4 ประวตั ศิ าสตร์ ช้ันประถมศึกษาปี ที่ 3 การทดสอบปลายปี เวลา 1 ช่ัวโมง ชั่วโมงที่ 40  ครูใหน้ กั เรียนทาํ แบบทดสอบปลายปี

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  139 ตอนท่ี 3 เอกสาร/ความรู้เสริมสําหรับครู สาระท่ี 4 ประวตั ศิ าสตร์ (ประวตั ศิ าสตร์ ป. 3) กล่มุ สาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนา และวฒั นธรรม

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  140 ตอนท่ี 3.1 มาตรฐานการเรียนรู้ ตวั ชี้วดั ช้ันปี และสาระการเรียนรู้ สาระท่ี 4 ประวตั ิศาสตร์ มาตรฐาน ส 4.1 เขา้ ใจความหมาย ความสาํ คญั ของเวลาและยคุ สมยั ทางประวตั ิศาสตร์ สามารถใชว้ ธิ ีการ ทางประวตั ิศาสตร์มาวิเคราะห์เหตุการณ์ต่าง ๆ อยา่ งเป็นระบบ ตวั ชี้วดั ช้ันปี สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. เทียบศกั ราชท่ีสาํ คญั ตามปฏิทินท่ีใชใ้ น 1. ท่ีมาของศกั ราชที่ปรากฏในปฏิทิน เช่น ชีวติ ประจาํ วนั พทุ ธศกั ราช คริสตศ์ กั ราช อยา่ งสงั เขป (ถา้ เป็น มุสลิมควรเรียนฮิจเราะห์ศกั ราชดว้ ย) 2. วิธีการเทียบ พ.ศ. เป็น ค.ศ. หรือ ค.ศ. เป็น พ.ศ. 3. ตวั อยา่ งการเทียบศกั ราชในเหตุการณ์ท่ี เก่ียวขอ้ งกบั นกั เรียน เช่น ปี เกิดของนกั เรียน 2. แสดงลาํ ดบั เหตุการณ์สาํ คญั ของโรงเรียน 1. วธิ ีการสืบคน้ เหตุการณ์สาํ คญั ของโรงเรียน และชุมชนโดยระบุหลกั ฐานและแหล่งขอ้ มลู และชุมชนโดยใชห้ ลกั ฐานและแหล่งขอ้ มลู ที่เก่ียวขอ้ ง ท่ีเก่ียวขอ้ ง 2. ใชเ้ สน้ เวลา (Time Line) ลาํ ดบั เหตุการณ์ ที่เกิดข้ึนในโรงเรียนและชุมชน มาตรฐาน ส 4.2 เขา้ ใจพฒั นาการของมนุษยชาติจากอดีตจนถึงปัจจุบนั ในดา้ นความสมั พนั ธแ์ ละการ เปล่ียนแปลงของเหตุการณ์อยา่ งต่อเนื่อง ตระหนกั ถึงความสาํ คญั และสามารถวิเคราะห์ ผลกระทบที่เกิดข้ึน ตวั ชี้วดั ช้ันปี สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. ระบุปัจจยั ท่ีมีอิทธิพลต่อการต้งั ถ่ินฐาน 1. ปัจจยั การต้งั ถ่ินฐานของชุมชนซ่ึงข้ึนอยกู่ บั และพฒั นาการของชุมชน ปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์และปัจจยั ทางสงั คม เช่น ความเจริญทางเทคโนโลยี การคมนาคม ความ ปลอดภยั 2. ปัจจยั ท่ีมีอิทธิพลต่อพฒั นาการของชุมชนท้งั ปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์และปัจจยั ทางสงั คม 2. สรุปลกั ษณะท่ีสาํ คญั ของขนบธรรมเนียม • ขนบธรรมเนียมประเพณีและวฒั นธรรมชุมชน ประเพณี และวฒั นธรรมของชุมชน ของตนที่เกิดจากปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์และ 3. เปรียบเทียบความเหมือนและความต่างทาง ปัจจยั ทางสงั คม วฒั นธรรมของชุมชนตนเองกบั ชุมชนอื่น ๆ • ขนบธรรมเนียม ประเพณี และวฒั นธรรมของ ชุมชนใกลเ้ คียงที่มีความเหมือนและความต่างกบั

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  141 ชุมชนของตนเอง มาตรฐาน ส 4.3 เขา้ ใจความเป็นมาของชนชาติไทย วฒั นธรรม ภมู ิปัญญาไทย มีความรัก ความ ภมู ิใจ และธาํ รงความเป็นไทย ตวั ชี้วดั ช้ันปี สาระการเรียนรู้แกนกลาง 1. ระบุพระนามและพระราชกรณียกิจโดยสงั เขป • พระราชประวตั ิ พระราชกรณียกิจโดยสงั เขป ของพระมหากษตั ริยไ์ ทยที่เป็นผสู้ ถาปนา ของพอ่ ขนุ ศรีอินทราทิตย์ สมเด็จพระรามาธิบดี อาณาจกั รไทย ที่ 1 (พระเจา้ อู่ทอง) สมเด็จพระเจา้ ตากสิน มหาราช และพระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้ า จุฬาโลกมหาราช ผสู้ ถาปนาอาณาจกั รสุโขทยั อยธุ ยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์ตามลาํ ดบั 2. อธิบายพระราชประวตั ิและพระราชกรณียกิจ • พระราชประวตั ิและพระราชกรณียกิจของ ของพระมหากษตั ริยใ์ นรัชกาลปัจจุบนั พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภมู ิพลอดุลยเดช โดยสงั เขป และสมเดจ็ พระนางเจา้ สิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ โดยสงั เขป 3. เล่าวีรกรรมของบรรพบุรุษไทยที่มีส่วนปกป้ อง • วรี กรรมของบรรพบุรุษไทยที่มีส่วนปกป้ อง ประเทศชาติ ประเทศชาติ เช่น ทา้ วเทพกระษตั รี ทา้ วศรีสุนทร ชาวบา้ นบางระจนั พระยาพิชยั ดาบหกั สมเด็จ พระนเรศวรมหาราช สมเด็จพระเจา้ ตากสิน มหาราช

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  142 ตอนท่ี 3.2 โครงงานและแฟ้ มสะสมผลงาน โครงงาน (Project Work) โครงงานเป็นการจดั การเรียนรู้ที่ส่งเสริมใหน้ กั เรียนไดล้ งมือปฏิบตั ิและศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเอง ตาม แผนการดาํ เนินงานท่ีนกั เรียนไดจ้ ดั ข้ึน โดยครูช่วยใหค้ าํ แนะนาํ ปรึกษา กระตุน้ ใหค้ ิด และติดตามการปฏิบตั ิงานจน บรรลุเป้ าหมาย โครงงานแบ่งออกเป็น 4 ประเภท คือ 1. โครงงานประเภทสาํ รวจ รวบรวมขอ้ มลู 2. โครงงานประเภททดลอง คน้ ควา้ 3. โครงงานที่เป็นการศึกษาความรู้ ทฤษฎี หลกั การหรือแนวคิดใหม่ 4. โครงงานประเภทสิ่งประดิษฐ์ การเรียนรู้ดว้ ยโครงงานมีข้นั ตอนดงั น้ี 1. กาํ หนดหัวข้อที่จะศึกษา นกั เรียนคิดหวั ขอ้ โครงงาน ซ่ึงอาจไดม้ าจากความอยากรู้อยากเห็นของนกั เรียน เองหรือไดจ้ ากการอ่านหนงั สือ บทความ การไปทศั นศึกษาดูงาน เป็นตน้ โดยนกั เรียนตอ้ งต้งั คาํ ถามวา่ “จะศึกษา อะไร” “ทาํ ไมตอ้ งศึกษาเร่ืองดงั กล่าว” 2. ศึกษาเอกสารทีเ่ กย่ี วข้อง นกั เรียนศึกษาทบทวนเอกสารที่เกี่ยวขอ้ งและปรึกษาครู หรือผทู้ ี่มีความรู้ความ เช่ียวชาญในสาขาน้นั ๆ 3. เขยี นเค้าโครงของโครงงานหรือสร้างแผนผงั ความคดิ โดยทวั่ ไปเคา้ โครงของโครงงานจะประกอบดว้ ย หวั ขอ้ ต่าง ๆ ดงั น้ี 1) ชื่อโครงงาน 2) ชื่อผทู้ าํ โครงงาน 3) ชื่อที่ปรึกษาโครงงาน 4) ระยะเวลาดาํ เนินการ 5) หลกั การและเหตุผล 6) วตั ถุประสงค์ 7) สมมุติฐานของการศึกษา (ในกรณีที่เป็นโครงงานทดลอง) 8) ข้นั ตอนการดาํ เนินงาน 9) ปฏิบตั ิโครงงาน 10) ผลที่คาดวา่ จะไดร้ ับ 11) เอกสารอา้ งอิง/บรรณานุกรม 4. การปฏิบัตโิ ครงงาน ลงมือปฏิบตั ิงานตามแผนงานท่ีกาํ หนดไว้ ในระหวา่ งปฏิบตั ิงานควรมีการจดบนั ทึก ขอ้ มลู ต่าง ๆ ไวอ้ ยา่ งละเอียดวา่ ทาํ อยา่ งไร ไดผ้ ลอยา่ งไร มีปัญหาหรืออุปสรรคอะไร และมีแนวทางแกไ้ ขอยา่ งไร

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  143 5. การเขยี นรายงาน เป็นการรายงานสรุปผลการดาํ เนินงาน เพ่ือใหผ้ อู้ ่ืนไดท้ ราบแนวคิด วิธีดาํ เนินงาน ผลท่ี ไดร้ ับ และขอ้ เสนอแนะต่าง ๆ เกี่ยวกบั โครงงาน ซ่ึงการเขียนรายงานน้ีควรใชภ้ าษาท่ีกระชบั เขา้ ใจง่าย ชดั เจน และ ครอบคลุมประเดน็ ที่ศึกษา 6. การแสดงผลงาน เป็นการนาํ ผลของการดาํ เนินงานมาเสนอ อาจจดั ไดห้ ลายรูปแบบ เช่น การจดั นิทรรศการ การทาํ เป็นส่ือสิ่งพมิ พ์ ส่ือมลั ติมีเดีย หรืออาจนาํ เสนอในรูปของการแสดงผลงาน การนาํ เสนอดว้ ยวาจา บรรยาย อภิปรายกลุ่ม สาธิต แฟ้ มสะสมผลงาน (Portfolio) แฟ้ มสะสมผลงาน หมายถึง แหล่งรวบรวมเอกสาร ผลงาน หรือหลกั ฐาน เพื่อใชส้ ะทอ้ นถึงผลสมั ฤทธ์ิ ความสามารถ ทกั ษะ และพฒั นาการของนกั เรียน มีการจดั เรียบเรียงผลงานไวอ้ ยา่ งมีระบบ โดยนาํ ความรู้ ความคิด และการนาํ เสนอมาผสมผสานกนั ซ่ึงนกั เรียนเป็นผคู้ ดั เลือกผลงานและมีส่วนร่วมในการประเมิน แฟ้ มสะสม ผลงานจึงเป็นหลกั ฐานสาํ คญั ที่จะทาํ ใหน้ กั เรียนสามารถมองเห็นพฒั นาการของตนเองไดต้ ามสภาพจริง รวมท้งั เห็น ขอ้ บกพร่องและแนวทางในการปรับปรุงแกไ้ ขใหด้ ีข้ึนต่อไป ลกั ษณะสําคญั ของการประเมนิ ผลโดยใช้แฟ้ มสะสมผลงาน 1. ครูสามารถใชเ้ ป็นเครื่องมือในการติดตามความกา้ วหนา้ ของนกั เรียนเป็นรายบุคคลไดเ้ ป็นอยา่ งดี เน่ืองจากมีผลงานสะสมไว้ ครูจะทราบจุดเด่น จุดดอ้ ยของนกั เรียนแต่ละคนจากแฟ้ มสะสมผลงาน และสามารถ ติดตามพฒั นาการไดอ้ ยา่ งต่อเนื่อง 2. มุ่งวดั ศกั ยภาพของนกั เรียนในการผลิตหรือสร้างผลงานมากกวา่ การวดั ความจาํ จากการทาํ แบบทดสอบ 3. วดั และประเมินโดยเนน้ ผเู้ รียนเป็นศนู ยก์ ลาง คือ นกั เรียนเป็นผวู้ างแผน ลงมือปฏิบตั ิงาน รวมท้งั ประเมิน และปรับปรุงตนเอง ซ่ึงมีครูเป็นผชู้ ้ีแนะ เนน้ การประเมินผลยอ่ ยมากกวา่ การประเมินผลรวม 4. ฝึกใหน้ กั เรียนรู้จกั การประเมินตนเอง และหาแนวทางปรับปรุงพฒั นาตนเอง 5. นกั เรียนเกิดความมน่ั ในและภาคภมู ิใจในผลงานของตนเอง รู้วา่ ตนเองมีจุดเด่นในเร่ืองใด 6. ช่วยในการสื่อความหมายเก่ียวกบั ความรู้ ความสามารถ ตลอดจนพฒั นาการของนกั เรียนใหผ้ ทู้ ี่เกี่ยวขอ้ ง ทราบ เช่น ผปู้ กครอง ฝ่ ายแนะแนว ตลอดจนผบู้ ริหารของโรงเรียน ข้นั ตอนการประเมนิ ผลโดยใช้แฟ้ มสะสมผลงาน การจดั ทาํ แฟ้ มสะสมผลงาน มี 10 ข้นั ตอน ซ่ึงแต่ละข้นั ตอนมีรายละเอียดดงั น้ี 1. การวางแผนจัดทําแฟ้ มสะสมผลงาน การจดั ทาํ แฟ้ มสะสมผลงานตอ้ งมีส่วนร่วมระหวา่ งครู นกั เรียน และ ผปู้ กครอง ครู การเตรียมตวั ของครูตอ้ งเร่ิมจากการศึกษา และวิเคราะหห์ ลกั สูตร คู่มือครู คาํ อธิบายรายวชิ า วิธีการวดั และ ประเมินผลในหลกั สูตร รวมท้งั ครูตอ้ งมีความรู้และเขา้ ใจเกี่ยวกบั การประเมินโดยใชแ้ ฟ้ มสะสมผลงาน จึงสามารถ วางแผนกาํ หนดชิ้นงานได้ นักเรียน ตอ้ งมีความเขา้ ใจเกี่ยวกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ เน้ือหาสาระ การประเมินผลโดยใชแ้ ฟ้ มสะสม ผลงาน การมีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ การกาํ หนดชิ้นงาน และบทบาทในการทาํ งานกลุ่ม โดยครูตอ้ งแจง้ ให้ นกั เรียนทราบล่วงหนา้

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  144 ผ้ปู กครอง ตอ้ งเขา้ มามีส่วนร่วมในการคดั เลือกผลงาน การแสดงความคิดเห็น และรับรู้พฒั นาการของ นกั เรียนอยา่ งต่อเน่ือง ดงั น้นั ก่อนทาํ แฟ้ มสะสมผลงาน ครูตอ้ งแจง้ ใหผ้ ปู้ กครองทราบหรือขอความร่วมมือ รวมท้งั ใหค้ วามรู้ในเร่ืองการประเมินผลโดยใชแ้ ฟ้ มสะสมผลงานแก่ผปู้ กครองเม่ือมีโอกาส 2. การรวบรวมผลงานและจดั ระบบแฟ้ ม ในการรวบรวมผลงานตอ้ งออกแบบการจดั เก็บหรือแยกหมวดหมู่ ของผลงานใหด้ ี เพื่อสะดวกและง่ายต่อการนาํ ขอ้ มลู ออกมาใช้ แนวทางการจดั หมวดหม่ขู องผลงาน เช่น 1) จดั แยกตามลาํ ดบั วนั และเวลาที่สร้างผลงานข้ึนมา 2) จดั แยกตามความซบั ซอ้ นของผลงาน เป็นการแสดงถึงทกั ษะหรือพฒั นาการของนกั เรียนท่ีมากข้ึน 3) จดั แยกตามวตั ถุประสงค์ เน้ือหา หรือประเภทของผลงาน ผลงานที่อยใู่ นแฟ้ มสะสมผลงานอาจมีหลายเร่ือง หลายวชิ า ดงั น้นั นกั เรียนจะตอ้ งทาํ เคร่ืองมือในการช่วย คน้ หา เช่น สารบญั ดชั นีเรื่อง จุดสี แถบสีติดไวท้ ี่ผลงานโดยมีรหสั ท่ีแตกต่างกนั เป็นตน้ 3. การคดั เลอื กผลงาน ในการคดั เลือกผลงานน้นั ควรใหส้ อดคลอ้ งกบั เกณฑห์ รือมาตรฐานท่ีโรงเรียน ครู หรือนกั เรียนร่วมกนั กาํ หนดข้ึนมา และผคู้ ดั เลือกผลงานควรเป็นนกั เรียนเจา้ ของแฟ้ มสะสมผลงาน หรือมีส่วน ร่วมกบั ครู เพอ่ื น และผปู้ กครอง ผลงานท่ีเลือกเขา้ แฟ้ มสะสมผลงานควรมีลกั ษณะดงั น้ี 1) สอดคลอ้ งกบั เน้ือหาและวตั ถุประสงคข์ องการเรียนรู้ 2) เป็นผลงานช้ินท่ีดีที่สุด มีความหมายต่อนกั เรียนมากที่สุด 3) สะทอ้ นใหเ้ ห็นถึงพฒั นาการของนกั เรียนในทุกดา้ น 4) เป็นสื่อที่จะช่วยใหน้ กั เรียนมีโอกาสแลกเปล่ียนความคิดเห็นกบั ครู ผปู้ กครอง และเพอ่ื น ๆ ส่วนจาํ นวนช้ินงานน้นั ใหก้ าํ หนดตามความเหมาะสม ไม่ควรมีมากเกินไป เพราะอาจจะทาํ ใหผ้ ลงานบางชิ้น ไม่มีความหมาย แต่ถา้ มีนอ้ ยเกินไปจะทาํ ใหก้ ารประเมินไม่มีประสิทธิภาพ 4. การสร้างสรรค์แฟ้ มสะสมผลงานให้มเี อกลกั ษณ์ของตนเอง โครงสร้างหลกั ของแฟ้ มสะสมผลงานอาจ เหมือนกนั แต่นกั เรียนสามารถตกแต่งรายละเอียดยอ่ ยใหแ้ ตกต่างกนั ตามความคิดสร้างสรรคข์ องแต่ละบุคคล โดย อาจใชภ้ าพ สี สติกเกอร์ ตกแต่งใหส้ วยงามเนน้ เอกลกั ษณ์ของเจา้ ของแฟ้ มสะสมผลงาน 5. การแสดงความคดิ เห็นหรือความรู้สึกต่อผลงาน ในข้นั ตอนน้ีนกั เรียนจะไดร้ ู้จกั การวิพากษว์ จิ ารณ์ หรือ สะทอ้ นความคิดเกี่ยวกบั ผลงานของตนเอง ตวั อยา่ งขอ้ ความที่ใชแ้ สดงความรู้สึกต่อผลงาน เช่น 1) ไดแ้ นวคิดจากการทาํ ผลงานชิ้นน้ีมาจากไหน 2) เหตุผลท่ีเลือกผลงานชิ้นน้ีคืออะไร 3) จุดเด่น จุดดอ้ ยของผลงานชิ้นน้ีคืออะไร 4) รู้สึกพอใจกบั ผลงานชิ้นน้ีมากนอ้ ยเพียงใด 5) ไดข้ อ้ คิดอะไรจากการทาํ ผลงานชิ้นน้ี 6. การตรวจสอบความสามารถของตนเอง เป็นการเปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนไดป้ ระเมินความสามารถของ ตนเอง โดยพิจารณาตามเกณฑย์ อ่ ย ๆ ที่ครูและนกั เรียนช่วยกนั กาํ หนดข้ึน เช่น นิสยั การทาํ งาน ทกั ษะทางสงั คม การทาํ งานเสร็จตามระยะเวลาที่กาํ หนด การขอความช่วยเหลือเม่ือมีความจาํ เป็น นอกจากน้ีการตรวจสอบ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  145 ความสามารถตนเองอีกวธิ ีหน่ึง คือ การใหน้ กั เรียนเขียนวิเคราะห์จุดเด่น จุดดอ้ ย ของตนเอง และสิ่งท่ีตอ้ งปรับปรุง แกไ้ ข 7. การประเมนิ ผลงาน เป็นข้นั ตอนที่สาํ คญั เน่ืองจากเป็นการสรุปคุณภาพของงานและความสามารถหรือ พฒั นาการของนกั เรียน การประเมินแบ่งออกเป็น 2 ลกั ษณะ คือ การประเมิน โดยไม่ใหร้ ะดบั คะแนน และการประเมินโดยใหร้ ะดบั คะแนน 1) การประเมินโดยไม่ให้ระดับคะแนน ครูกลุ่มน้ีมีความเช่ือวา่ แฟ้ มสะสมผลงานมีไวเ้ พื่อศึกษา กระบวนการทาํ งาน ศึกษาความคิดเห็น ความรู้สึกของนกั เรียนที่มีต่อผลงานของตนเอง ตลอดจนดูพฒั นาการหรือ ความกา้ วหนา้ ของนกั เรียนอยา่ งไม่เป็นทางการ ครู ผปู้ กครองและเพื่อนสามารถใหค้ าํ ช้ีแนะแก่นกั เรียนได้ ซ่ึง วธิ ีการน้ีจะทาํ ใหน้ กั เรียนไดเ้ รียนรู้และปฏิบตั ิงานอยา่ งเตม็ ท่ี โดยไม่ตอ้ งกงั วลวา่ จะไดค้ ะแนนมากนอ้ ยเท่าไร 2) การประเมินโดยให้ระดบั คะแนน มีท้งั การประเมินตามจุดประสงคก์ ารเรียนรู้ การประเมินระหวา่ ง ภาคเรียน และการประเมินปลายภาค ซ่ึงจะช่วยในวตั ถุประสงคด์ า้ นการปฏิบตั ิเป็นหลกั การประเมินแฟ้ มสะสม ผลงานตอ้ งกาํ หนดมิติการใหค้ ะแนน (Scoring Rubrics) ตามเกณฑท์ ่ีครูและนกั เรียนร่วมกนั กาํ หนดข้ึน การให้ ระดบั คะแนนมีท้งั การใหค้ ะแนนเป็นรายชิ้นก่อนเกบ็ เขา้ แฟ้ มสะสมผลงาน และการใหค้ ะแนนแฟ้ มสะสมผลงาน ท้งั แฟ้ ม ซ่ึงมาตรฐานคะแนนน้นั ตอ้ งสอดคลอ้ งกบั วตั ถุประสงคก์ ารจดั ทาํ แฟ้ มสะสมผลงาน และมุ่งเนน้ พฒั นาการ ของนกั เรียนแตล่ ะคนมากกวา่ การนาํ ไปเปรียบเทียบกบั บุคคลอื่น 8. การแลกเปลย่ี นประสบการณ์กบั ผู้อนื่ มีวตั ถุประสงคเ์ พอื่ เปิ ดโอกาสใหน้ กั เรียนไดร้ ับฟังความคิดเห็นจาก ผทู้ ่ีมีส่วนเกี่ยวขอ้ ง ไดแ้ ก่ เพ่อื น ครู และผปู้ กครอง อาจทาํ ไดห้ ลายรูปแบบ เช่น การจดั ประชุมในโรงเรียนโดยเชิญ ผทู้ ี่มีส่วนเกี่ยวขอ้ งมาร่วมกนั พิจารณาผลงาน การสนทนาแลกเปล่ียนระหวา่ งนกั เรียนกบั เพ่ือน การส่งแฟ้ มสะสม ผลงานไปใหผ้ ทู้ ี่มีส่วนเก่ียวขอ้ งช่วยใหข้ อ้ เสนอแนะหรือคาํ แนะนาํ ในการแลกเปลี่ยนประสบการณ์น้นั นกั เรียนจะตอ้ งเตรียมคาํ ถามเพือ่ ถามผทู้ ี่มีส่วนเกี่ยวขอ้ ง ซ่ึงจะเป็น ประโยชนใ์ นการปรับปรุงงานของตนเอง ตวั อยา่ งคาํ ถาม เช่น 1) ท่านคิดอยา่ งไรกบั ผลงานชิ้นน้ี 2) ท่านคิดวา่ ควรปรับปรุงแกไ้ ขส่วนใดอีกบา้ ง 3) ผลงานช้ินใดท่ีท่านชอบมากท่ีสุด เพราะอะไร 9. การปรับเปลย่ี นผลงาน หลงั จากที่นกั เรียนไดแ้ ลกเปล่ียนความคิดเห็น และไดร้ ับคาํ แนะนาํ จากผทู้ ่ีมีส่วน เก่ียวขอ้ งแลว้ จะนาํ มาปรับปรุงผลงานใหด้ ีข้ึน นกั เรียนสามารถนาํ ผลงาน ท่ีดีกวา่ เกบ็ เขา้ แฟ้ มสะสมผลงานแทนผลงานเดิม ทาํ ใหแ้ ฟ้ มสะสมผลงานมีผลงานที่ดี ทนั สมยั และตรงตาม จุดประสงคใ์ นการประเมิน 10. การประชาสัมพนั ธ์ผลงานของนักเรียน เป็นการแสดงนิทรรศการผลงานของนกั เรียน โดยนาํ แฟ้ มสะสม ผลงานของนกั เรียนทุกคนมาจดั แสดงร่วมกนั และเปิ ดโอกาสใหผ้ ปู้ กครอง ครู และนกั เรียนทว่ั ไปไดเ้ ขา้ ชมผลงาน ทาํ ใหน้ กั เรียนเกิดความภาคภมู ิใจในผลงานของตนเอง ผทู้ ี่เริ่มตน้ ทาํ แฟ้ มสะสมผลงานอาจไม่ตอ้ งดาํ เนินการท้งั 10 ข้นั ตอนน้ี อาจใชข้ ้นั ตอนหลกั ๆ คือ การรวบรวมผลงานและการจดั ระบบแฟ้ ม การคดั เลือกผลงาน และการแสดงความคิดเห็นหรือความรู้สึกต่อผลงาน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  146 องค์ประกอบสําคญั ของแฟ้ มสะสมผลงาน มีดงั น้ี 1. ส่วนนํา ประกอบดว้ ย 2. ส่วนเนือ้ หาแฟ้ ม ประกอบดว้ ย - ปก - ผลงาน - คาํ นาํ - ความคิดเห็นที่มีต่อผลงาน - สารบญั - Rubrics ประเมินผลงาน - ประวตั ิส่วนตวั - จุดมุ่งหมายของการทาํ 3. ส่วนข้อมูลเพมิ่ เติม ประกอบดว้ ย แฟ้ มสะสมผลงาน - ผลการประเมินการเรียนรู้ - การรายงานความกา้ วหนา้ โดยครู - ความคิดเห็นของผทู้ ี่มีส่วน เกี่ยวขอ้ ง เช่น เพ่ือน ผปู้ กครอง

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  147 ตอนท่ี 3.3 ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้และรูปแบบแผนการจดั การเรียนรู้รายช่ัวโมง 1. ผงั การออกแบบการจัดการเรียนรู้ตามแนวคดิ Backward Design ผงั การออกแบบการจดั การเรียนรู้ หน่วยการเรียนรู้ที่ ข้นั ท่ี 1 ผลลพั ธ์ปลายทางทตี่ ้องการให้เกดิ ขนึ้ กบั นักเรียน ตวั ชี้วดั ช้ันปี ความเข้าใจท่คี งทนของนักเรียน คาํ ถามสําคญั ทีท่ ําให้เกดิ ความเข้าใจทีค่ งทน นักเรียนจะเข้าใจว่า… 1. 1. 2. 2. ทักษะ/ความสามารถของนักเรียนท่ีนําไปสู่ความเข้าใจ ความรู้ของนักเรียนท่ีนําไปสู่ความเข้าใจท่ีคงทน ท่ีคงทน นักเรียนจะสามารถ... นักเรียนจะรู้ว่า… 1. 1. 2. 2. ข้นั ท่ี 2 ภาระงานและการประเมนิ ผลการเรียนรู้ซ่ึงเป็ นหลกั ฐานทแ่ี สดงว่านักเรียนมีผลการเรียนรู้ ตามท่ีกาํ หนดไว้อย่างแท้จริง 1. ภาระงานท่ีนักเรียนต้องปฏิบัติ 1.1. 1.2 2. วธิ ีการและเครื่องมอื ประเมนิ ผลการเรียนรู้ 2.1 วิธีการประเมินผลการเรียนรู้ 2.2 เคร่ืองมือประเมินผลการเรียนรู้ 1) 1) 2) 2) 3. ส่ิงท่มี ุ่งประเมนิ 3.1. 3.2 ข้ันที่ 3 แผนการจัดการเรียนรู้

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  148 2. รูปแบบแผนการจดั การเรียนรู้รายช่ัวโมง เม่ือครูออกแบบการจดั การเรียนรู้ตามแนวคิด Backward Design แลว้ ครูสามารถเขียนแผนการจดั การ เรียนรู้รายชวั่ โมงโดยใชร้ ูปแบบของแผนการจดั การเรียนรู้แบบเรียงหวั ขอ้ ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี ชื่อแผน...(ระบุชื่อและลาํ ดบั ที่ของแผนการจดั การเรียนรู้) ช่ือเรื่อง...(ระบุชื่อเร่ืองท่ีจะทาํ การจดั การเรียนรู้) สาระท่ี...(ระบุสาระที่ใชจ้ ดั การเรียนรู้) ช้ัน...(ระบุช้นั ท่ีจดั การเรียนรู้) หน่วยการเรียนรู้ท่ี...(ระบุลาํ ดบั ที่และชื่อของหน่วยการเรียนรู้) เวลา...(ระบุระยะเวลาที่ใชใ้ นการจดั การเรียนรู้ต่อ 1 แผน) สาระสําคญั ...(เขียนความคิดรวบยอดหรือมโนทศั นข์ องหวั เรื่องท่ีจะจดั การเรียนรู้) ตวั ชี้วดั ช้ันปี ...(ระบุตวั ช้ีวดั ช้นั ปี ท่ีใชเ้ ป็นเป้ าหมายของแผนการจดั การเรียนรู้) จุดประสงค์การเรียนรู้...กาํ หนดใหส้ อดคลอ้ งกบั สมรรถนะสาํ คญั และคุณลกั ษณะอนั พึง ประสงคข์ องนกั เรียนหลงั จากสาํ เร็จการศึกษา ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาข้นั พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 ซ่ึง ประกอบดว้ ยดา้ นความรู้ความคิด (Knowledge–K) ดา้ นคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม (Affective–A) และดา้ น ทกั ษะ/กระบวนการ (Performance–P)) การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้...(ระบุวธิ ีการและเคร่ืองมือวดั และประเมินผลที่สอดคลอ้ งกบั จุดประสงคก์ ารเรียนรู้ท้งั 3 ดา้ น) สาระการเรียนรู้...(ระบุสาระและเน้ือหาที่ใชจ้ ดั การเรียนรู้ อาจเขียนเฉพาะหวั เร่ืองกไ็ ด)้ แนวทางบูรณาการ...(เสนอแนะและระบุกิจกรรมของกลุ่มสาระอื่นท่ีบูรณาการร่วมกนั ) กระบวนการจัดการเรียนรู้...(กาํ หนดใหส้ อดคลอ้ งกบั ธรรมชาติของกลุ่มสาระและการบรู ณาการขา้ มกลุ่ม สาระการเรียนรู้) กจิ กรรมเสนอแนะ...(ระบุรายละเอียดของกิจกรรมท่ีนกั เรียนควรปฏิบตั ิเพม่ิ เติม) ส่ือ/แหล่งการเรียนรู้...(ระบุสื่อ อุปกรณ์ และแหล่งการเรียนรู้ที่ใชใ้ นการจดั การเรียนรู้) บันทกึ หลงั การจดั การเรียนรู้...(ระบุรายละเอียดของผลการจดั การเรียนรู้ตามแผนท่ี กาํ หนดไว้ อาจนาํ เสนอขอ้ เด่นและขอ้ ดอ้ ยใหเ้ ป็นขอ้ มลู ท่ีสามารถใชเ้ ป็นส่วนหน่ึงของการทาํ วจิ ยั ในช้นั เรียนได)้

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  149 ตอนที่ 3.4 แบบทดสอบก่อนเรียนและหลงั เรียน ประจาํ หน่วยการเรียนรู้ แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 1 ศักราชและการเทยี บศักราช คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบท่ีถูกต้องท่สี ุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว 1. ศักราชและการแบ่งยุคสมยั ทางประวตั ศิ าสตร์มคี วามสําคญั ต่อการศึกษาเร่ืองราวเหตุการณ์ทางประวตั ศิ าสตร์ อย่างไร ก ทาํ ใหท้ ราบความเป็นมาของมนุษย์ ข ทาํ ใหส้ ามารถเรียงลาํ ดบั เหตุการณ์ไดถ้ กู ตอ้ ง ค ทาํ ใหท้ ราบการเปลี่ยนแปลงของเหตุการณ์ตลอดเวลา ง ทาํ ใหท้ ราบความแตกต่างของเหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึนแต่ละสมยั 2. วนั ๒ ฯ๓๗ หมายถึงวนั อะไร ก วนั เสาร์ เดือน ๒ ข้ึน ๓ ค่าํ ข วนั องั คาร เดือนย่ี ข้ึน ๗ ค่าํ ค วนั พธุ เดือน ๗ แรม ๒ ค่าํ ง วนั จนั ทร์ เดือน ๗ ข้ึน ๓ ค่าํ 3. การนับพทุ ธศักราชแบบไทยเริ่มนับเมอ่ื ไร ก เมื่อพระพทุ ธเจา้ ประสูติ ข เมื่อพระพทุ ธเจา้ เสด็จปรินิพพาน ค เมื่อพระพทุ ธเจา้ เสด็จปรินิพพานไปแลว้ 1 ปี ง เมื่อมีการเปล่ียนแปลงวนั ข้ึนปี ใหม่ พ.ศ. 2484 4. พุทธศักราช 1792 ตรงกบั มหาศักราชใด ก ม.ศ. 611 ข ม.ศ. 1171 ค ม.ศ. 1249 ง ม.ศ. 2413 5. ข้อใดหมายถงึ ทศวรรษ ก รอบ 10 ปี ข รอบ 12 ปี ค รอบ 100 ปี ง รอบ 1,000 ปี

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  150 6. นักประวตั ศิ าสตร์ใช้เกณฑ์อะไรแบ่งยุคสมยั ทางประวตั ิศาสตร์ ออกเป็ นยุคก่อนประวตั ศิ าสตร์และยคุ ประวตั ศิ าสตร์ ก การต้งั ถ่ินฐาน ข เคร่ืองมือเคร่ืองใช้ ค ตาํ นานหรือคาํ บอกเล่า ง หลกั ฐานท่ีเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร 7. ในยุคใดท่ีมนุษย์ยงั ไม่มกี ารต้งั ถ่ินฐานเป็ นหลกั แหล่ง ก ยคุ เหลก็ ข ยคุ สาํ ริด ค ยคุ หินใหม่ ง ยคุ หินกลาง 8. หลกั ฐานท่ีชัดเจนทส่ี ุดของการต้งั ถน่ิ ฐานของมนุษย์มขี นึ้ ในยุคใด ก ยคุ หินเก่า ข ยคุ หินกลาง ค ยคุ หินใหม่ ง ยคุ โลหะ 9. ข้อใดจัดเป็ นหลกั ฐานสมยั ประวตั ศิ าสตร์ ก จารึก จดหมายเหตุ ข ตาํ นาน ซากกระดูกสตั ว์ ค คูเมือง โครงกระดูกมนุษย์ ง เมลด็ พชื โครงกระดูกมนุษย์ 10. การทาํ ความเข้าใจถึงความหมายหรือข้อเท็จจริงของหลกั ฐาน จดั เป็ นข้นั ตอนใดของวธิ ีการทางประวตั ศิ าสตร์ ก การกาํ หนดปัญหา ข การตีความหลกั ฐาน ค การรวบรวมหลกั ฐาน ง การเรียบเรียงและนาํ เสนอ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  151 แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 ศักราชและการเทยี บศักราช คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบท่ีถูกต้องทีส่ ุดเพยี งคาํ ตอบเดียว 1. การนับ ค.ศ. 1 เร่ิมนับจากปี ใด ก ปี ท่ีพระเยซูคริสตป์ ระสูติ ข ปี ท่ีพระเยซูคริสตอ์ อกบวช ค ปี ที่พระเยซูคริสตส์ ิ้นพระชนม์ ง ปี ท่ีพระเยซูคริสตเ์ ผยแผศ่ าสนา 2. ค.ศ. 1 ตรงกบั พ.ศ. ใด ก พ.ศ. 542 ข พ.ศ. 543 ค พ.ศ. 544 ง พ.ศ. 545 3. โรเจอร์เกดิ เมอ่ื ค.ศ. 1985 ตรงกบั พ.ศ. ใด ก พ.ศ. 2527 ข พ.ศ. 2528 ค พ.ศ. 2529 ง พ.ศ. 2530 4. ถ้าต้องการเทียบพทุ ธศักราชเป็ นคริสต์ศักราชทําอย่างไร ก พ.ศ. – 543 ข พ.ศ. + 543 ค พ.ศ. – 544 ง พ.ศ. + 544 5. ศักราชใดทีผ่ ้นู ับถือศาสนาอสิ ลามต้งั ขึน้ ก จุลศกั ราช ข พทุ ธศกั ราช ค คริสตศ์ กั ราช ง ฮิจเราะห์ศกั ราช

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  152 6. ถ้าต้องการเทียบคริสต์ศักราชเป็ นพทุ ธศักราชทาํ ได้อย่างไร ก เอา 543 ลบ ค.ศ. ข เอา 544 ลบ ค.ศ. ค เอา 543 บวก ค.ศ. ง เอา 544 บวก ค.ศ. 7. 1 ปี ของฮิจเราะห์ศักราชมปี ระมาณกว่ี นั ก 351 วนั ข 352 วนั ค 353 วนั ง 354 วนั 8. ค.ศ. 2006 ตรงกบั พ.ศ. ใด ก พ.ศ. 2546 ข พ.ศ. 2547 ค พ.ศ. 2548 ง พ.ศ. 2549 9. พ.ศ. 2553 ตรงกบั ค.ศ. ใด ก ค.ศ. 2008 ข ค.ศ. 2009 ค ค.ศ. 2010 ง ค.ศ. 2011 10. ต้องการทราบว่า พ.ศ. 2550 ตรงกบั ค.ศ. ใด ใช้วธิ ีคาํ นวณอย่างไร ก 2550 – 543 ข 2550 + 543 ค 2550 – 544 ง 2550 + 544

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  153 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ประวตั ขิ องโรงเรียนและชุมชน คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบท่ีถูกต้องที่สุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว 1. เอกสารท่ีไม่ใช่ลายลกั ษณ์อกั ษรคอื ข้อใด ก ภาพถ่าย ข แผน่ พบั ค หนงั สือรุ่น ง วารสารแนะนาํ โรงเรียน 2. นักเรียนศึกษาประวตั ิศาสตร์ชุมชนเพอื่ อะไร ก เพอ่ื จดั ทาํ เป็นรายงาน ข เพอื่ พฒั นาชุมชนในอนาคต ค เพือ่ เรียนรู้ประวตั ิความเป็นมา ง เพอ่ื อนุรักษว์ ฒั นธรรมของชุมชนตนเอง 3. เอกสารของโรงเรียนให้ข้อมูลในด้านใด ก ศิลปวฒั นธรรม ข ประวตั ิของโรงเรียน ค บุคคลสาํ คญั ในชุมชน ง หลกั ฐานทางประวตั ิศาสตร์ 4. โรงเรียนวดั มหรรณพ์สร้างขนึ้ ในสมยั รัชกาล ใด ก รัชกาลที่ 3 ข รัชกาลที่ 4 ค รัชกาลที่ 5 ง รัชกาลท่ี 6 5. การศึกษาความเป็ นมาของชุมชนควรทาํ อะไรเป็ นอย่างแรก ก คน้ หาขอ้ มลู ข กาํ หนดหวั ขอ้ ค สอบถามจากผรู้ ู้ ง ตรวจสอบขอ้ มูล

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  154 6. ปัจจุบันประเทศไทยมอี ุทยานประวตั ิศาสตร์ทเ่ี ป็ นมรดกโลกกแี่ ห่ง ก 4 แห่ง ข 6 แห่ง ค 8 แห่ง ง 10 แห่ง 7. โรงเรียนวดั มหรรณพ์มคี วามสําคญั อย่างไร ก เป็นโรงเรียนหลวงแห่งแรก ข เป็นโรงเรียนเอกชนแห่งแรก ค เป็นโรงเรียนหญิงลว้ นแห่งแรก ง เป็นโรงเรียนชายลว้ นของรัฐบาลแห่งแรก 8. สถานทใ่ี ดเป็ นแหล่งท่ีให้ข้อมูลด้านศาสนาและความเช่ือของคนในชุมชน ก โรงเรียน ข พิพธิ ภณั ฑ์ ค ศาสนสถาน ง อุทยานประวตั ิศาสตร์ 9. เส้นเวลา คอื อะไร ก เสน้ ระบุวนั เวลานดั หมายต่าง ๆ ข เสน้ แสดงขอ้ มลู วา่ ขณะน้ีเวลาเท่าใด ค เสน้ แสดงขอ้ มูลตารางงานในแต่ละวนั ง เสน้ ที่ระบุช่วงเวลาและเหตุการณ์ท่ีเกิดในช่วงเวลาน้นั 10. เพราะเหตุใดจึงต้องใช้เส้นเวลา ก เพ่ือกาํ หนดเวลา ข เพือ่ ลาํ ดบั ความสาํ คญั ค เพ่อื ใหง้ ่ายต่อความเขา้ ใจ ง เพอ่ื บอกรายละเอียดของเหตุการณ์

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  155 แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ประวตั ิของโรงเรียนและชุมชน คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบที่ถูกต้องท่สี ุดเพยี งคาํ ตอบเดียว 1. เราสืบค้นประวตั ขิ องโรงเรียนด้วยวธิ ีต่อไปนีย้ กเว้นข้อใด ก ดูภาพถ่าย ข อ่านเอกสาร ค สอบถามผรู้ ู้ ง ศึกษาจากศูนยว์ ฒั นธรรม 2. ถ้าอยากทราบข้อมลู ว่า 2–3 ปี ทผี่ ่านมาโรงเรียนได้จัดกจิ กรรมอะไรบ้าง จะค้นได้จากทีไ่ หน ก ภาพถ่าย ข หนงั สือรุ่น ค คาํ บอกเล่า ง สถิติโรงเรียน 3. ใครคอื ผู้ท่ีรู้เร่ืองราวของโรงเรียนน้อยท่ีสุด ก ครูในโรงเรียน ข ภารโรงในโรงเรียน ค ผอู้ าํ นวยการโรงเรียน ง ประชาชนท่ีอยรู่ อบบริเวณโรงเรียน 4. ข้อใดมคี วามหมายตรงกบั คาํ ว่า “ชุมชน” มากท่สี ุด ก ตลาด ข โรงเรียน ค ละแวกบา้ น ง สวนสาธารณะ 5. ประวตั ขิ องชุมชนไม่ได้แสดงให้เห็นถึงข้อใด ก สภาพแวดลอ้ ม ข การดาํ เนินชีวิต ค การก่อต้งั ชุมชน ง จาํ นวนประชากรในชุมชน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  156 6. บุคคลใดมคี วามรู้เกยี่ วกบั เร่ืองราวในอดีตของชุมชนดที ่สี ุด ก ผเู้ ฒ่าผแู้ ก่ ข นายอาํ เภอ ค เจา้ อาวาสวดั ง ผอู้ าํ นวยการโรงเรียน 7. ศูนย์วฒั นธรรมเป็ นสถานท่ีรวบรวมผลงานด้านใด ก ประเพณี ข ดาราศาสตร์ ค วทิ ยาศาสตร์ ง อุปกรณ์การเรียน 8. แหล่งข้อมูลท่ีอยู่ใกล้ตวั เรามากท่ีสุดคอื ท่ีใด ก วดั ข พิพธิ ภณั ฑ์ ค ศนู ยว์ ฒั นธรรม ง หอ้ งสมุดโรงเรียน 9. ถ้าต้องการทราบเกยี่ วกบั เจ้าอาวาสในชุมชนควรไปทีใ่ ด ก วดั ข พพิ ธิ ภณั ฑ์ ค ศูนยว์ ฒั นธรรม ง หอ้ งสมุดโรงเรียน 10. ข้อใดจดั เป็ นอุทยานประวตั ศิ าสตร์ ก เทวสถาน ข ศาลากลางจงั หวดั ค หอศิลป์ ราชดาํ เนิน ง วดั พระศรีสรรเพชญ์

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  157 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 การต้ังถิ่นฐานและพฒั นาการของชุมชน คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบที่ถูกต้องที่สุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว 1. ในสมัยก่อนมนุษย์ยงั ไม่ต้งั บ้านเรือนเป็ นหลกั แหล่งจะอาศัยอยู่ที่ใด ก วดั ข แพ ค ถ้าํ ง ใตต้ น้ ไม้ 2. ปัจจัยใดที่มอี ทิ ธิพลต่อการต้งั ถ่นิ ฐานของชุมชน ก ปัจจยั ทางภาษา ปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์ ข ปัจจยั ทางเทคโนโลยี ปัจจยั ทางภาษา ค ปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์ ปัจจยั ทางสงั คม ง ปัจจยั ทางวฒั นธรรม ปัจจยั ทางสงั คม 3. บริเวณใดมคี นอาศัยกนั อยู่อย่างหนาแน่น ก บนภเู ขาสูง ข บริเวณเชิงเขา ค บริเวณท่ีราบลุ่มแม่น้าํ ง บริเวณท่ีมีอากาศหนาว 4. ภาคเหนือของไทยมลี กั ษณะอากาศอย่างไร ก อบอุ่น ข ร้อนช้ืน ค หนาวเยน็ ง ฝนตกชุก 5. บริเวณทรี่ าบเหมาะแก่การประกอบอาชีพอะไร ก คา้ ขาย ข ทาํ ป่ าไม้ ค ทาํ ไร่นา ง ทาํ ประมง

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  158 6. ข้อใดเป็ นปัจจยั ทางสังคม ก ความปลอดภยั ข ลกั ษณะภมู ิอากาศ ค ลกั ษณะภมู ิประเทศ ง ทรัพยากรธรรมชาติ 7. บริเวณใดต่อไปนีท้ ี่คนต้งั ถน่ิ ฐานอยู่เป็ นจาํ นวนมาก ก บริเวณที่ราบเชิงเขา ข บริเวณท่ีเป็นที่ดอน ค บริเวณท่ีเป็นทุ่งหญา้ ง บริเวณที่ถนนตดั ผา่ น 8. “ชาวประมงรู้จักวิธีเพาะพนั ธ์ุสัตว์นํา้ เพม่ิ รายได้ให้กบั ตนเอง” จัดเป็ นปัจจัยทางสังคมด้านใด ก ความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยี ข ความเจริญกา้ วหนา้ ทางสงั คม ค ความเจริญกา้ วหนา้ ทางการศึกษา ง ความเจริญกา้ วหนา้ ทางวฒั นธรรม 9. ข้อใดไม่ใช่การควบคุมธรรมชาติ ก ฝนเทียม ข สร้างเขื่อนก้นั น้าํ ค เพาะพนั ธุ์สตั วน์ ้าํ ง จดั ระบบชลประทาน 10. ปัจจุบันนักเรียนได้รับการศึกษาข้ันพนื้ ฐาน 15 ปี เป็ นปัจจัยสังคมทางด้านใด ก การควบคุมธรรมชาติ ข การปรับปรุงบริการสาธารณะ ค ความกา้ วหนา้ ทางเทคโนโลยี ง ความเจริญทางดา้ นวฒั นธรรม

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  159 แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 การต้งั ถิ่นฐานและพฒั นาการของชุมชน คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดียว 1. ข้อใดไม่ใช่ลกั ษณะภูมปิ ระเทศทีช่ ุมชนมกั เข้าไปต้งั ถ่ินฐาน ก ภูเขาสูง ข ที่ราบลุ่ม ค ชายฝ่ังทะเล ง บริเวณริมแม่น้าํ 2. ข้อใดแสดงถึงความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ก ไถนาโดยใชร้ ถไถ ข จบั สตั วน์ ้าํ โดยใชแ้ ห ค ปลกู ผกั โดยใชป้ ๋ ุยคอก ง พรวนดินโดยใชจ้ อบ เสียม 3. “การสร้างบ้านเรือนเราควรคาํ นึงถงึ ความปลอดภยั ไว้ก่อน” ข้อความนีห้ มายถงึ ปัจจัยใด ก ปัจจยั ทางสงั คม ข ปัจจยั ทางเศรษฐกิจ ค ปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์ ง ปัจจยั ทางสิ่งแวดลอ้ ม 4. ปัจจัยต่อไปนีม้ อี ทิ ธิพลต่อพฒั นาการของชุมชนยกเว้นข้อใด ก มีที่ต้งั เหมาะสม ข คุณภาพของคนในชุมชน ค มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบรู ณ์ ง ความปลอดภยั ในชีวิตและทรัพยส์ ิน 5. ข้อใดไม่ใช่ปัจจยั ทางสังคมท่มี ีผลต่อการต้ังถนิ่ ฐานของมนุษย์ ก ความปลอดภยั ข ทรัพยากรธรรมชาติ ค ศาสนา ภาษา และประเพณี ง โอกาสในการประกอบอาชีพ 6. บริเวณใดมคี นอาศัยกนั อยู่อย่างเบาบาง ก บนภเู ขาสูง ข บริเวณเชิงเขา ค บริเวณท่ีราบลุ่มแม่น้าํ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  160 ง บริเวณท่ีมีอากาศหนาว 7. “ปัจจุบันคนนิยมต้งั ถนิ่ ฐานอยู่บริเวณทม่ี กี ารคมนาคมสะดวก” ข้อความนีก้ ล่าวถงึ ปัจจัยอะไร ก ปัจจยั ทางสงั คม ข ปัจจยั ทางเศรษฐกิจ ค ปัจจยั ทางภมู ิศาสตร์ ง ปัจจยั ทางส่ิงแวดลอ้ ม 8. อะไรไม่ใช่ปัจจัยทางภูมศิ าสตร์ ก ภมู ิอากาศ ข ความปลอดภยั ค ลกั ษณะภมู ิประเทศ ง ทรัพยากรธรรมชาติ 9. บริเวณใดทีม่ ปี ระชากรต้งั ถิ่นฐานอย่นู ้อย ก ตลาด ข ริมแม่น้าํ ค ชายทะเล ง บริเวณที่เกิดวาตภยั 10. ข้อใดหมายถึงชุมชนท่ีมกี ารดําเนนิ ชีวติ แบบเดยี วกนั ก ชุมชนในตลาด ข ชุมชนชาวจีนที่เยาวราช ค ชุมชนท่ีอยใู่ นจงั หวดั เดียวกนั ง ชุมชนที่ทาํ งานอยบู่ ริษทั เดียวกนั

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  161 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 4 วัฒนธรรมของชุมชน คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบท่ีถูกต้องทีส่ ุดเพยี งคาํ ตอบเดียว 1. ข้อใดเป็ นวฒั นธรรมท่ีเป็ นวตั ถุ ก การอุปสมบท ข การเวียนเทียน ค การสร้างเรือนไทย ง การรดน้าํ ขอพรผใู้ หญ่ 2. เพราะเหตุใดจึงต้องมกี ารเรียนรู้และปฏิบตั วิ ฒั นธรรมน้ัน ๆ ก ป้ องกนั การสูญหาย ข แสดงเอกลกั ษณ์ของตนเอง ค เผยแพร่วฒั นธรรมใหเ้ ป็นท่ีรู้จกั ง ตอ้ งการเป็นท่ียอมรับของคนในสงั คม 3. ประเพณบี ายศรีสู่ขวญั มอี ทิ ธิพลมาจากปัจจยั ใด ก ศาสนา ข ภมู ิศาสตร์ ค การเกษตร ง อิทธิพลของชาติอื่น 4. เพราะเหตุใดวฒั นธรรมแต่ละภาคจงึ ไม่เหมือนกัน ก ศาสนา ข ความเช่ือ ค สภาพแวดลอ้ ม ง จาํ นวนประชากร 5. วฒั นธรรมใดเป็ นวฒั นธรรมท่ีรับอทิ ธิพลมาจากตะวนั ตก ก การนุ่งผา้ ถุง ข การใส่รองเทา้ ค การก่อเจดียท์ ราย ง การเปิ บอาหารดว้ ยมือ 6. ส่ิงใดช่วยหล่อหลอมให้คนไทยรวมกนั เป็ นหน่ึงเดียว ก เงิน ข แฟชน่ั ค เทคโนโลยี

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  162 ง วฒั นธรรมไทย 7. การใช้ตะเกยี บเป็ นวฒั นธรรมท่ีรับมาจากชาตใิ ด ก จีน ข อินเดีย ค องั กฤษ ง ฝรั่งเศส 8. ข้อใดเป็ นวฒั นธรรมของภาคเหนือ ก เล่นโปงลาง ข รํากลองยาว ค เล่นหนงั ตะลุง ง ตีกลองสะบดั ชยั 9. นํา้ พริกปลาทู เป็ นวฒั นธรรมด้านอาหารของภาคใด ก ภาคใต้ ข ภาคกลาง ค ภาคเหนือ ง ภาคอีสาน 10. ข้อใดคอื การแสดงพนื้ บ้านของชุมชนภาคเหนือ ก เซิ้ง ข ลิเก ค ฟ้ อนเลบ็ ง รํามโนราห์

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  163 แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 วฒั นธรรมของชุมชน คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบที่ถูกต้องท่ีสุดเพยี งคาํ ตอบเดียว 1. ข้อใดคอื วฒั นธรรมท่ีไม่ใช่วตั ถุ ก อาหาร ข บา้ นเรือน ค กฎหมาย ง เคร่ืองแต่งกาย 2. ข้อใดไม่ใช่ลกั ษณะสําคญั ของวฒั นธรรมชุมชน ก เป็นมรดกชุมชน ข เป็นวถิ ีชีวิตชุมชน ค เป็นส่ิงท่ีตอ้ งเรียนรู้ ง เป็นส่ิงถาวรไม่เปล่ียนแปลง 3. เครื่องดนตรีของชุมชนภาคกลางคอื อะไร ก แคน ข สะลอ้ ค ปี่ กาหลอ ง กลองยาว 4. ข้อใดเป็ นวฒั นธรรมทางวตั ถุ ก ประเพณี ข กฎหมาย ค ภาษาพดู ง ตม้ ยาํ กงุ้ 5. เราควรใช้ภาษาถน่ิ ในกรณใี ด ก พดู กบั พอ่ แม่ ข ติดต่อราชการ ค พดู คุยกบั คนต่างถิ่น ง เขียนจดหมายขอรับทุนการศึกษา 6. หากคนในชุมชนของนักเรียนนิยมรับประทานแกงอ่อม นํา้ พริกหนุ่ม แสดงว่าชุมชนของนักเรียนอย่ใู นภาคใด ก ภาคใต้ ข ภาคเหนือ ค ภาคกลาง

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  164 ง ภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 7. ข้อใดเป็ นวฒั นธรรมของชุมชนในจังหวดั เลยท่ีแตกต่างจากชุมชนอน่ื ๆ ก ลอยกระทง ข แห่ผตี าโขน ค ทาํ บุญตกั บาตร ง เวยี นเทียนในวนั สาํ คญั ทางพระพทุ ธศาสนา 8. ประเพณลี งแขกเกย่ี วข้าวได้รับอทิ ธิพลมาจากปัจจยั ใด ก ศาสนา ข ความเช่ือ ค สภาพภมู ิศาสตร์ ง การรับวฒั นธรรมอ่ืน 9. การละเล่นหนังตะลุงของชุมชนภาคใต้คล้ายกบั การละเล่นในข้อใด ก ราํ มโนราห์ของชุมชนในภาคใต้ ข ฟ้ อนเลบ็ ของชุมชนในภาคเหนือ ค หนงั ใหญข่ องชุมชนในภาคกลาง ง เซิ้งของชุมชนในภาคตะวนั ออกเฉียงเหนือ 10. ภาคเหนือมกี ารฟ้ อนเลบ็ ภาคใต้มกี ารแสดงพนื้ บ้านในข้อใดที่มลี กั ษณะคล้าย ๆ กนั ก กาหลอ ข มโนราห์ ค เพลงบอก ง หนงั ตะลุง

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  165 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 5 ผู้สถาปนาอาณาจักรไทย คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบที่ถูกต้องที่สุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว 1. บุคคลทเี่ ป็ นหัวหน้าในการขับไล่เขมรออกไปจากสุโขทัยคอื ใคร ก พอ่ ขนุ บานเมือง ข พอ่ ขนุ ศรีนาวนาํ ถุม ค พอ่ ขนุ รามคาํ แหงมหาราช ง พอ่ ขนุ ผาเมืองและพอ่ ขนุ บางกลางหาว 2. ใครเป็ นพระสหายของพ่อขุนบางกลางหาว ก พอ่ ขนุ ผาเมือง ข พอ่ ขนุ บานเมือง ค พอ่ ขนุ ศรีนาวนาํ ถุม ง พอ่ ขนุ รามคาํ แหงมหาราช 3. ก่อนขึน้ ครองราชย์พ่อขนุ ศรีอินทราทติ ย์ทาํ สงครามกบั ใคร ก ขนุ สามชน ข เจา้ หนา้ ท่ีเขมร ค พอ่ ขนุ ผาเมือง ง พอ่ ขนุ ศรีนาวนาํ ถุม 4. สินค้าทสี่ ําคญั ทส่ี ่งออกไปขายยงั ต่างประเทศของสุโขทยั คอื อะไร ก ขา้ ว ข พชื ไร่ ค สตั วเ์ ล้ียง ง ของป่ าและเคร่ืองป้ันดินเผา 5. พระมหากษัตริย์พระองค์ใดทส่ี ถาปนาอาณาจักรอยธุ ยา ก สมเด็จพระรามาธิบดีท่ี 1 ข พอ่ ขนุ รามคาํ แหงมหาราช ค สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ง พระมหาธรรมราชาท่ี 1 (ลิไทย)

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  166 6. การปกครองแบบจตุสดมภ์มขี นึ้ ในสมยั ใด ก สมยั พอ่ ขนุ ศรีอินทราทิตย์ ข สมยั พอ่ ขนุ รามคาํ แหงมหาราช ค สมยั สมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 ง สมยั สมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราช 7. ในสมยั อยุธยาไทยส่งทูตไปเจริญสัมพนั ธไมตรีและทําการค้ากบั ชาติใด ก จีน ข ชวา ค ลงั กา ง อินเดีย 8. “สิน” เป็ นพระนามเดมิ ของกษตั ริย์พระองค์ใด ก สมเดจ็ พระรามาธิบดีท่ี 1 ข สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ค สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช ง พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราช 9. ในสมยั รัชกาลที่ 1 พระพุทธมหามณีรัตนปฏิมากร (พระแก้วมรกต) ประดิษฐานอยู่ที่วดั ใด ก วดั เทพธิดาราม ข วดั สุทศั นเทพวราราม ค วดั พระศรีรัตนศาสดาราม ง วดั พระเชตุพนวมิ ลมงั คลาราม 10. กฎหมายใดท่ีเกดิ ขนึ้ ในสมยั พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราช ก มงั รายศาสตร์ ข กฎหมายอาญา ค กฎมณเทียรบาล ง กฎหมายตราสามดวง

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  167 แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 ผู้สถาปนาอาณาจักรไทย คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบที่ถูกต้องทีส่ ุดเพยี งคาํ ตอบเดียว 1. พ่อขุนศรีอนิ ทราทิตย์มพี ระนามเดมิ ว่าอะไร ก พอ่ ขนุ ผาเมือง ข พอ่ ขนุ บานเมือง ค พอ่ ขนุ ศรีนาวนาํ ถุม ง พอ่ ขนุ บางกลางหาว 2. ราชวงศ์พระร่วงแห่งอาณาจักรสุโขทัยต้งั ขนึ้ เมอื่ ใด ก พ.ศ. 1792 ข พ.ศ. 1822 ค พ.ศ. 1841 ง พ.ศ. 1890 3. พระมหากษัตริย์พระองค์แรกของราชวงศ์อู่ทองคอื ใคร ก พอ่ ขนุ รามคาํ แหงมหาราช ข สมเด็จพระรามาธิบดีท่ี 1 ค สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช ง สมเด็จพระนารายณ์มหาราช 4. พระราชกรณียกจิ ท่ีสําคญั ของสมเด็จพระรามาธิบดีที่ 1 คืออะไร ก ส่งเสริมการศึกษา ข จดั รูปแบบการปกครอง ค ทาํ การคา้ กบั ต่างประเทศ ง ทาํ นุบาํ รุงพระพทุ ธศาสนา 5. พระมหากษัตริย์พระองค์ใดกอบก้เู อกราชคนื จากพม่าหลงั เสียกรุงศรีอยุธยาคร้ังที่ 2 ก สมเด็จพระนเรศวรมหาราช ข สมเดจ็ พระนารายณ์มหาราช ค สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช ง พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราช

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  168 6. พระยาตากตฝี ่ าวงล้อมของพม่าไปต้งั ม่ันอยู่ท่ีเมอื งใด ก ระยอง ข จนั ทบุรี ค พิษณุโลก ง สุพรรณบุรี 7. ในสมยั ธนบุรี พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราชทรงมบี รรดาศักด์เิ ป็ นอะไร ก ทองดว้ ง ข นายสุดจินดา ค เจา้ พระยาสุรสีห์ ง สมเด็จเจา้ พระยามหากษตั ริยศ์ ึก 8. เหตกุ ารณ์ใดเกดิ ขนึ้ เมอ่ื วนั ท่ี 6 เมษายน พ.ศ. 2325 ก รัชกาลที่ 1 เสด็จข้ึนครองราชย์ ข รัชกาลท่ี 1 ทรงสร้างกรุงเทพมหานคร ค รัชกาลท่ี 1 ประกอบพระราชพธิ ีบรมราชาภิเษก ง รัชกาลท่ี 1 ทรงอญั เชิญพระแกว้ มรกตมายงั วดั พระแกว้ 9. “ทองด้วง” เป็ นพระนามเดิมของกษัตริย์พระองค์ใด ก สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช ข สมเด็จพระเจา้ ตากสินมหาราช ค พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ง พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราช 10. การชําระกฎหมายตราสามดวงทําในสมยั รัชกาลใด ก รัชกาลที่ 1 ข รัชกาลที่ 2 ค รัชกาลที่ 3 ง รัชกาลท่ี 4

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  169 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 6 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมพิ ลอดลุยเดช และสมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบที่ถูกต้องทส่ี ุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว 1. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเป็ นพระราชโอรสของใคร ก พระบาทสมเดจ็ พระปกเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ข พระบาทสมเดจ็ พระมงกุฎเกลา้ เจา้ อยู่ ค พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ง สมเดจ็ พระมหิตลาธิเบศอดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก 2. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงทาํ พธิ ีบรมราชาภิเษกเมอ่ื ใด ก 5 ธนั วาคม พ.ศ. 2490 ข 9 มิถุนายน พ.ศ. 2489 ค 28 เมษายน พ.ศ. 2493 ง 5 พฤษภาคม พ.ศ. 2493 3. โครงการแก้มลงิ เป็ นโครงการทบี่ รรเทาปัญหาด้านใด ก ปัญหาอุทกภยั ข ปัญหาน้าํ เน่าเสีย ค ปัญหาความแหง้ แลง้ ง ปัญหาการพงั ทลายของดิน 4. เข่อื นป่ าสักชลสิทธ์ิอยู่ในจังหวดั อะไร ก ลพบุรีกบั สระบุรี ข สิงห์บุรีกบั อ่างทอง ค สุพรรณบุรีกบั นนทบุรี ง พระนครศรีอยธุ ยากบั ปทุมธานี 5. ข้อใดไม่ใช่จุดประสงค์ของโครงการแพทย์หลวงเคลอ่ื นที่พระราชทาน ก ตรวจรักษาผปู้ ่ วย ข พฒั นาพ้ืนท่ีทาํ กินใหแ้ ก่ราษฎร ค จดั หาแหล่งน้าํ ชลประทานตามพระราชดาํ ริ ง ฝึกอบรมความรู้พ้นื ฐานดา้ นสุขภาพแก่ชุมชน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  170 6. สมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถทรงดาํ รงตาํ แหน่งพนั เอกผ้บู งั คบั การพเิ ศษที่กรมใด ก กรมทหารมา้ ข กรมทหารปื นใหญ่ ค กรมทหารท่ีราบ 21 รักษาพระองค์ ง กรมทหารราบท่ี 1 มหาดเลก็ รักษาพระองคฯ์ 7. โครงการส่งเสริมศิลปาชีพช่วยเหลอื ราษฎรในเรื่องอะไร ก การศึกษา ข การแพทย์ ค การประกอบอาชีพ ง การเกษตรและเล้ียงสตั ว์ 8. ข้อใดไม่ใช่ผลงานของศูนย์ศิลปาชีพ ก คอมพวิ เตอร์ ข งานแกะสลกั ค งานดอกไมป้ ระดิษฐ์ ง เคร่ืองจกั สานยา่ นลิเภา 9. ข้อใดคอื ผลผลติ ทีไ่ ด้จากโครงการศิลปาชีพ ก นมววั อดั เมด็ ข น้าํ มนั ไบโอดีเซล ค กระเป๋ ายา่ นลิเภา ง เพาะเล้ียงเน้ือเยื่อพืช 10. “สมเด็จพระนางเจ้าสิริกติ ์ิ พระบรมราชินีนาถทรงดาํ รงตาํ แหน่งสภานายกิ าสภากาชาดไทย” จากข้อความนี้ เกยี่ วข้องกบั พระราชกรณยี กจิ ด้านใด ก การศึกษา ข การอาชีพ ค การทหาร ง สาธารณสุข

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  171 แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ท่ี 6 พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมพิ ลอดลุยเดช และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบที่ถูกต้องทส่ี ุดเพยี งคาํ ตอบเดียว 1. วนั ที่ 5 ธันวาคมของทุกปี เป็ นวนั เฉลมิ พระชนมพรรษาของใคร ก พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจา้ อยหู่ วั ข สมเดจ็ พระนางเจา้ สิริกิต์ิ พระบรมราชินีนาถ ค พระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อยหู่ วั ภมู ิพลอดุลยเดช ง พระบาทสมเดจ็ พระพทุ ธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราช 2. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภมู พิ ลอดุลยเดชเป็ นพระมหากษตั ริย์รัชกาลใดแห่งราชวงศ์จกั รี ก รัชกาลที่ 6 ข รัชกาลที่ 7 ค รัชกาลท่ี 8 ง รัชกาลที่ 9 3. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวภูมิพลอดุลยเดชเสด็จขึน้ ครองราชย์เมอ่ื ไร ก 9 มิถุนายน 2488 ข 9 มิถุนายน 2489 ค 9 มิถุนายน 2490 ง 9 มิถุนายน 2491 4. ข้อใดเป็ นโครงการอนั เนื่องมาจากพระราชดาํ ริของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว ก โครงการฝนหลวง ข โครงการศิลปาชีพ ค โครงการป่ ารักน้าํ ง โครงการขาเทียมพระราชทานเคลื่อนที่ 5. โครงการใดทพ่ี ระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัวทรงก่อต้งั ขนึ้ มาเพอื่ ให้เยาวชนในท้องถน่ิ ได้มโี อกาสได้รับ การศึกษา ก โครงการป่ ารักน้าํ ข โครงการสวนจิตรลดา ค โครงการโรงเรียนร่มเกลา้ ง โครงการแพทยห์ ลวงและแพทยพ์ ระราชทาน

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  172 6. โครงการกงั หันนาํ้ ชัยพฒั นาทรงจดั ต้งั ขึน้ มาเพอ่ื อะไร ก เพือ่ กกั เกบ็ น้าํ ข เพ่ือระบายน้าํ ค เพอื่ แกไ้ ขปัญหาน้าํ เน่าเสีย ง เพือ่ แกไ้ ขปัญหาความแหง้ แลง้ 7. พระนามาภิไธยย่อของสมเดจ็ พระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถคอื อะไร ก ส.ธ. ข ส.ก. ค ม.ว.ก. ง ภ.ป.ร. 8. โครงการใดทีป่ ลูกฝังให้ราษฎรรักและหวงแหนธรรมชาติ ก โครงการป่ ารักน้าํ ข โครงการสวนจิตรลดา ค โครงการโรงเรียนร่มเกลา้ ง โครงการส่งเสริมศิลปาชีพ 9. ข้อใดคอื โครงการในพระราชดําริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกติ ์ิ พระบรมราชินีนาถ ก โครงการแกม้ ลิง ข โครงการปลกู ป่ าชายเลน ค โครงการส่งเสริมศิลปาชีพ ง โครงการศูนยศ์ ึกษาการพฒั นาเขาหินซอ้ น 10. การจกั สานย่านลเิ ภาในภาคใต้เป็ นโครงการในพระราชดําริของโครงการใด ก โครงการฝนหลวง ข โครงการป่ ารักน้าํ ค โครงการสวนจิตรลดา ง โครงการส่งเสริมศิลปาชีพ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  173 แบบทดสอบก่อนเรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 วรี กรรมของบรรพบุรุษไทย คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบที่ถูกต้องทสี่ ุดเพยี งคาํ ตอบเดียว 1. พระนเรศวรไปเป็ นตวั ประกนั ในสมยั กษัตริย์พระองค์ใดของพม่า ก พระเจา้ ปดุง ข พระเจา้ บุเรงนอง ค พระเจา้ อลองพญา ง พระเจา้ ตะเบงชะเวต้ี 2. พระนเรศวรทรงประกาศอสิ รภาพที่เมอื งใด ก เมืองแกลง ข เมืองแครง ค เมืองจนั ทบุรี ง เมืองเมาะตะมะ 3. สงครามคร้ังสําคญั ของสมเด็จพระนเรศวรคอื สงครามคร้ังใด ก สงคราม 9 ทพั ข สงครามชา้ งเผือก ค สงครามยทุ ธหตั ถี ง สงครามเสียกรุงศรีอยธุ ยาคร้ังที่ 1 4. พระยาพชิ ัยดาบหักช่วยใครในการก้เู อกราชคนื จากพม่า ก สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช ข สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช ค สมเด็จเจา้ พระยามหากษตั ริยศ์ ึก ง พระบาทสมเดจ็ พระนงั่ เกลา้ เจา้ อยหู่ วั 5. พระยาพชิ ัยได้เป็ นเจ้าเมอื งอะไร ก เมืองตาก ข เมืองพิชยั ค เมืองตราด ง เมืองพิษณุโลก

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  174 6. เมอื งถลาง ปัจจุบันอย่ใู นจังหวดั อะไร ก จงั หวดั ภเู กต็ ข จงั หวดั ชุมพร ค จงั หวดั กระบ่ี ง จงั หวดั ระนอง 7. วรี กรรมของท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทรเกดิ ขนึ้ ในสมยั รัชกาลใด ก รัชกาลที่ 1 ข รัชกาลท่ี 2 ค รัชกาลท่ี 3 ง สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช 8. อนุสาวรีย์ชาวบ้านบางระจนั ปัจจุบันอยู่ในจังหวดั อะไร ก สระบุรี ข สิงห์บุรี ค ชยั นาท ง อ่างทอง 9. เพราะเหตุใดค่ายของชาวบ้านบางระจันจึง ได้พ่ายแพ้แก่พม่า ก เกิดโรคระบาด ข ชาวบา้ นขาดความสามคั คี ค มีชาวบา้ นเป็ นไสศ้ ึกใหพ้ ม่า ง โดนยงิ ปื นใหญ่เขา้ ไปในค่าย 10. ข้อใดต่อไปนีท้ ี่ไม่ได้เป็ นผู้อยู่ร่วมกบั ผ้นู ําชาวบ้านบางระจนั ก สุก้ีนายกอง ข นายทองแกว้ ค นายทองเหมน็ ง นายจนั หนวดเข้ียว

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  175 แบบทดสอบหลงั เรียน หน่วยการเรียนรู้ที่ 7 วีรกรรมของบรรพบุรุษไทย คาํ ชี้แจง เลอื กคาํ ตอบท่ีถูกต้องทสี่ ุดเพยี งคาํ ตอบเดยี ว 1. สมเด็จพระนเรศวรมหาราชเป็ นพระมหาอปุ ราชครองเมอื งใด ก ลา้ นนา ข เชียงใหม่ ค พษิ ณุโลก ง สุพรรณบุรี 2. สมเด็จพระนเรศวรมหาราชทรงกระทาํ ยุทธหัตถีกบั ใคร ก อะแซหวนุ่ ก้ี ข พระเจา้ แปร ค พระมหาอุปราชา ง พระเจา้ ตะเบงชะเวต้ี 3. สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราชทรงประกาศอสิ รภาพที่เมอื งใด ก เมืองแปร ข เมืองแครง ค เมืองราชบุรี ง เมืองสุพรรณบุรี 4. พระยาพชิ ัยดาบหักมชี ่ือเดมิ ว่าอะไร ก โม ข มุก ค จนั ง จอ้ ย 5. พระยาพชิ ัยดาบหักรับราชการในสมยั ใด ก สมเด็จพระเจา้ เอกทศั ข สมเด็จพระเจา้ อยหู่ วั บรมโกศ ค สมเดจ็ พระเจา้ ตากสินมหาราช ง พระบาทสมเด็จพระพทุ ธยอดฟ้ าจุฬาโลกมหาราช

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  176 6. ใครท่ีชักชวนพระยาพชิ ัยเข้ารับราชการ ก พระยาตาก ข เจา้ พระยาสุรสีห์ ค สมเดจ็ พระนเรศวรมหาราช ง สมเด็จเจา้ พระยามหากษตั ริยศ์ ึก 7. ท้าวเทพกระษัตรีเดิมชื่อว่าอะไร ก โม ข มุก ค จนั ง ศรีสุนทร 8. ท้าวเทพกระษัตรีและท้าวศรีสุนทรรบป้ องกนั เมอื งใด ก ตรัง ข ถลาง ค พทั ลุง ง นครศรีธรรมราช 9. ใครเป็ นผ้นู ํากองทัพพม่าเมอ่ื คร้ังท่ียกทัพมาต่อสู้กบั ชาวบ้านบางระจัน ก พระเจา้ ปดุง ข เนเมียวสีหบดี ค สุก้ีพระนายกอง ง พระมหาอุปราชา 10. ทหารพม่าที่รับอาสาเคลอื่ นทพั มาประชิดค่ายบางระจนั คอื ใคร ก เนเมียวสีหบดี ข สุก้ีนายกองใหญ่ ค พระเจา้ นนั ทบุเรง ง พระมหาอุปราชา

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  177 ตอนที่ 3.5 แบบทดสอบกลางปี ด้านความรู้ ตอนที่ 1 เลอื กคาํ ตอบทถ่ี ูกต้องทีส่ ุดเพยี งคาํ ตอบเดียว 1. ถ้าต้องการเทียบพทุ ธศักราชเป็ นคริสต์ศักราชจะต้องทาํ อย่างไร ก เอา พ.ศ. – 543 ข เอา พ.ศ. + 543 ค เอา พ.ศ. + 544 ง เอา พ.ศ. – 544 2. พ.ศ. 2535 ตรงกบั ค.ศ. ใด ก ค.ศ. 1992 ข ค.ศ. 1993 ค ค.ศ. 1994 ง ค.ศ. 1995 3. ค.ศ. 2010 ตรงกบั ฮ.ศ. ใด ก ฮ.ศ. 1431 ข ฮ.ศ. 1432 ค ฮ.ศ. 1433 ง ฮ.ศ. 1434 4. พ.ศ. 2559 ตรงกบั อ.ศ. ใด ก 1430 ข 1122 ค 1437 ง 2443 5. ผ้อู าํ นวยการเล่าเรื่องราวของโรงเรียน เป็ นหลกั ฐานประเภทใด ก เอกสาร ข ภาพถ่าย ค คาํ บอกเล่า ง หนงั สือรุ่น

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  178 6. ถ้าอยากทราบว่าปัจจุบันโรงเรียนมจี าํ นวนนักเรียนกค่ี นจะดูได้จากที่ไหน ก สถิติของโรงเรียน ข ป้ ายประวตั ิของโรงเรียน ค ป้ ายประวตั ิของอาคารเรียน ง ภาพถ่ายกิจกรรมของโรงเรียน 7. หลกั ฐานทไี่ ม่ใช่ลายลกั ษณ์อกั ษรคอื ข้อใด ก ป้ ายประวตั ิโรงเรียน ข วารสารแนะนาํ ชุมชน ค อนุสาวรียบ์ ุคคลสาํ คญั ง บนั ทึกรายงานการประชุมผใู้ หญ่บา้ น 8. ใครท่ีรู้เรื่องราวของโรงเรียนน้อยท่ีสุด ก ผอู้ าํ นวยการโรงเรียน ข นกั เรียนในโรงเรียน ค ศิษยเ์ ก่าของโรงเรียน ง ประชาชนรอบโรงเรียน 9. เราจะเร่ิมต้นศึกษาความเป็ นมาของชุมชนของเราด้วยวธิ ีใด ก กาํ หนดหวั ขอ้ ข นาํ เสนอขอ้ มลู ค ตรวจสอบขอ้ มลู ง รวบรวมหลกั ฐาน 10. “บริเวณทร่ี าบลุ่มแม่นํา้ เหมาะแก่การเพาะปลกู ดงั น้ันจงึ มคี นอาศัยอยู่อย่างหนาแน่น” ข้อความนีห้ มายถงึ ปัจจัยทางภูมศิ าสตร์ในข้อใด ก ภมู ิอากาศ ข ทรัพยากรธรรมชาติ ค ลกั ษณะภมู ิประเทศ ง ลกั ษณะของประชากร 11. ข้อใดไม่ใช่ปัจจัยทางภูมศิ าสตร์ท่ีมอี ทิ ธิพลต่อการต้งั ถน่ิ ฐาน ก บริเวณที่ราบลุ่มจะมีคนอาศยั อยมู่ าก ข บริเวณท่ีแหง้ แลง้ จะมีคนอาศยั อยนู่ อ้ ย ค บริเวณที่มีป่ าไมม้ ากจะมีคนอาศยั อยหู่ นาแน่น ง บริเวณที่เสี่ยงต่อความปลอดภยั จะมีคนอาศยั อยนู่ อ้ ย

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  179 12. ข้อใดเป็ นปัจจัยทางสังคมในด้านการพฒั นาคุณภาพชีวติ ของคนในชุมชน ก การทาํ ฝนเทียม ข การสาธารณสุข ค การสร้างเขื่อนก้นั น้าํ ง การเพาะพนั ธุ์สตั วน์ ้าํ 13. ประเพณใี ดท่มี คี วามสอดคล้องกบั สภาพทางภูมศิ าสตร์ ก การบวช ข เทศนม์ หาชาติ ค การแข่งเรือยาว ง การถวายเทียนพรรษา 14. ข้อใดเป็ นวฒั นธรรมเกย่ี วกบั อาหารของคนภาคกลาง ก สม้ ตาํ ข แกงอ่อม ค แกงเหลือง ง น้าํ พริกกะปิ ปลาทู 15. ประเพณถี วายเทียนพรรษาเกยี่ วข้องกบั ปัจจัยทางสังคมด้านใด ก การดาํ เนินชีวิต ข การประกอบอาชีพ ค ศาสนาและความเชื่อ ง การรับวฒั นธรรมอื่น ตอนที่ 2 ตอบคาํ ถาม 1. กบฏนกั มวยในประเทศจีนเกิดข้ึนเม่ือ พ.ศ. 2443 ตรงกบั สมยั รัชกาลท่ี 5 ของประเทศไทย เหตุการณ์ท่ีเกิดข้ึน ตรงกบั ค.ศ. และ ฮ.ศ. ใด แนวคาํ ตอบ ตรงกับ ค.ศ. 1900 และตรงกบั ฮ.ศ. 1321 2. ทรัพยากรธรรมชาติมีอิทธิพลต่อการต้งั ถิ่นฐานจริงหรือไม่ เพราะอะไร สรุปผล คะแนน แนวคาํ ตอบ การประเมิน เต็ม ได จริง เพราะทรัพยากรธรรมชาติเป็นสิ่งท่ีนาํ มาใช้ประโยชน์ในการ ตอนที่ 1 ดาํ รงชีวิตได้ ตอนที่ 2 รวม ลงช่ือ ผู้ประเมนิ

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  180 ด้านคุณธรรม จริยธรรม และค่านิยม สําหรับครูประเมนิ นักเรียน คาํ ชี้แจง สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนแลว้ ใส่คะแนนลงในช่องใหต้ รงกบั ความเป็นจริง รายการประเมิน พฤตกิ รรมทแ่ี สดงออก คะแนน หมายเหตุ 321 1. มีวนิ ัย 1. มีการวางแผนการทาํ งานและจดั ระบบการทาํ งาน 3 หมายถึง 2. ทาํ งานตามข้นั ตอนต่าง ๆ ที่ไดว้ างแผนไว้ นกั เรียน 2. ใฝ่ เรียนรู้ 3. ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ความเรียบร้อย หรือคุณภาพของงาน แสดง 4. มีความกระตือรือร้นและสนใจที่จะแสวงหาความรู้ พฤติกรรม 3. อย่อู ย่าง 5. ชอบสนทนา ซกั ถาม ฟัง หรืออ่านเพอื่ ใหไ้ ดค้ วามรู้เพ่ิมข้ึน น้นั อยา่ ง พอเพยี ง 6. มีความสุขท่ีไดเ้ รียนรู้ในส่ิงที่ตนเองตอ้ งการเรียนรู้ สม่าํ เสมอ 7. ใชจ้ ่ายทรัพยส์ ินของตนเอง เช่น เงิน เส้ือผา้ สิ่งของ 2 หมายถึง 4. รักความเป็ น นกั เรียน ไทย อยา่ งประหยดั แสดง 8. ใชน้ ้าํ ไฟฟ้ า และทรัพยากรธรรมชาติอื่น ๆ อยา่ งประหยดั พฤติกรรม 5. รักชาติ ศาสน์ และคุม้ ค่า น้นั เป็ น กษตั ริย์ 9. มีส่วนร่วมในการดูแลและรักษาทรัพยส์ ินของส่วนรวม คร้ังคราว 10. ใชภ้ าษาไทยไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง 1 หมายถึง 11. รู้จกั อ่อนนอ้ มถ่อมตนและมีสมั มาคารวะ นกั เรียน 12. มีส่วนร่วมในการเผยแพร่และอนุรักษว์ ฒั นธรรม แสดง พฤติกรรม และขนบธรรมเนียมประเพณีไทย น้นั นอ้ ยคร้ัง 13. ร่วมกิจกรรมที่สาํ คญั เก่ียวกบั ชาติ ศาสนา พระมหากษตั ริย์ 6. มจี ติ 14. เสียสละ มีน้าํ ใจ รู้จกั เอ้ือเฟ้ื อเผ่ือแผต่ ่อผอู้ ่ืน สาธารณะ 15. เห็นแก่ประโยชนส์ ่วนรวมมากกวา่ ประโยชนส์ ่วนตน 7. มคี วาม 16. ยอมรับผลการกระทาํ ของตนเองท้งั ที่เป็นผลดีและผลเสีย รับผดิ ชอบ 17. ทาํ งานที่ไดร้ ับมอบหมายใหส้ มบูรณ์ตามกาํ หนดและตรงต่อเวลา 8. ซ่ือสัตย์สุจริต 18. บนั ทึกขอ้ มลู ตามความเป็นจริงและไม่ใชค้ วามคิดเห็นของ ตนเองไปเกี่ยวขอ้ ง 19. ไม่แอบอา้ งผลงานของผอู้ ื่นวา่ เป็นของตน 20. เคารพหรือปฏิบตั ิตามขอ้ ตกลง กฎ กติกา หรือระเบียบของ กลุ่มที่กาํ หนดไว้ คะแนนรวม คะแนนเฉลี่ย เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ช่วงคะแนนเฉลย่ี 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66 หมายเหตุ การหาคะแนนเฉล่ียหาไดจ้ ากการนาํ เอาคะแนนรวม ระดับคุณภาพ 3 = ดมี าก 2 = พอใช้ 1 = ควรปรับปรุง ในแต่ละช่องมาบวกกนั แลว้ หารดว้ ยจาํ นวนขอ้ จากน้นั นาํ คะแนน เฉลี่ยท่ีไดม้ าเทียบกบั เกณฑก์ ารตดั สินคุณภาพและสรุปผลการประเมิน สรุปผลการประเมิน (เขยี นเคร่ืองหมาย  ลงใน ) ระดบั คุณภาพทีไ่ ด้ 3 21

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  181 ด้านทักษะ/กระบวนการ สําหรับครูประเมินนักเรียน คาํ ชี้แจง สงั เกตพฤติกรรมของนกั เรียนแลว้ ใส่คะแนนลงในช่องใหต้ รงกบั ความเป็นจริง รายการประเมนิ พฤตกิ รรมทแี่ สดงออก คะแนน หมายเหตุ 321 1. การส่ือสาร 1. ใชว้ ธิ ีการส่ือสารในการนาํ เสนอขอ้ มลู ความรู้ไดอ้ ยา่ ง 3 หมายถึง เหมาะสม นกั เรียนแสดง 2. เลือกรับขอ้ มูลความรู้ดว้ ยหลกั เหตผุ ลและความถกู ตอ้ ง พฤตกิ รรมน้นั 2. การใช้ 3. ศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มูลความรู้จากสื่อและแหล่งเรียนรู้ต่าง ๆ ได้ อยา่ งสม่าํ เสมอ เทคโนโลยี ดว้ ยตนเอง 2 หมายถึง 3. การคดิ 4. เลือกใชเ้ ทคโนโลยใี นการศึกษาคน้ ควา้ ขอ้ มูลความรู้ได้ นกั เรียนแสดง อยา่ งถกู ตอ้ งเหมาะสมและมีคุณธรรม พฤตกิ รรมน้นั 4. การแก้ปัญหา 5. สรุปความคิดรวบยอดหรือสาระสาํ คญั ของเร่ืองท่ีศึกษา เป็ นคร้ ังคราว 6. แปลความ ตีความ หรือขยายความของคาํ ขอ้ ความ ภาพ 1 หมายถงึ และสญั ลกั ษณ์ในเรื่องที่ศึกษา นกั เรียนแสดง 7. วเิ คราะห์หลกั การและนาํ หลกั การไปใชไ้ ดอ้ ยา่ งสมเหตุสมผล พฤติกรรมน้นั 8. ต้งั คาํ ถามหรือต้งั สมมติฐานต่อเรื่องที่ศึกษาอยา่ งมีระบบ นอ้ ยคร้ัง 9. รวบรวมขอ้ มูลความรู้ท่ีเกี่ยวขอ้ งกบั เรื่องท่ีศึกษาจากสื่อ และแหลง่ การเรียนรู้ต่าง ๆ 10. ตรวจสอบและประเมินความถกู ตอ้ งครบถว้ นของขอ้ มูล ความรู้ที่ไดจ้ ากการเกบ็ รวบรวม 11. นาํ ขอ้ มูลความรู้ที่ไดจ้ ากการตรวจสอบและประเมินมา วิเคราะห์หรือแยกแยะเพอ่ื ความสะดวกในการทดสอบ สมมุตฐิ าน 12. ทดสอบสมมุติฐานและสรุปเป็นหลกั การดว้ ยภาษาของตนเอง ท่ีเขา้ ใจงา่ ย 13. นาํ ขอ้ มูลความรู้ที่ไดไ้ ปใชแ้ กป้ ัญหาตา่ ง ๆ ที่เกิดข้นึ ใน ชีวติ ประจาํ วนั 5. กระบวนการ 14. มีส่วนร่วมในการกาํ หนดเป้ าหมายการทาํ งานของกลุม่ กลุ่ม 15. ร่วมกนั วางแผนและแบ่งหนา้ ท่ีการทาํ งานกบั สมาชิกในกลุม่ 16. เป็นท้งั ผนู้ าํ และผตู้ ามในการทาํ งานกลุ่ม 17. ปฏิบตั ิหนา้ ท่ีตามท่ีไดร้ ับมอบหมายดว้ ยความรับผดิ ชอบ 18. ช่วยลดขอ้ ขดั แยง้ และแกป้ ัญหาของกลุ่มไดอ้ ยา่ งมี ประสิทธิภาพ 19. สร้างสรรคผ์ ลงานเสร็จทนั เวลาและมีคุณภาพ 20. ภูมิใจและพึงพอใจในผลงานและการทาํ งานกลมุ่ คะแนนรวม คะแนนเฉล่ีย เกณฑ์การตดั สินคุณภาพ ช่วงคะแนนเฉลย่ี 2.34–3.00 1.67–2.33 1.00–1.66 หมายเหตุ การหาคะแนนเฉลี่ยหาไดจ้ ากการนาํ เอาคะแนนรวม 1 = ควรปรับปรุง ในแต่ละช่องมาบวกกนั แลว้ หารดว้ ยจาํ นวนขอ้ จากน้นั นาํ คะแนน ระดบั คุณภาพ 3 = ดีมาก 2 = พอใช้ เฉล่ียที่ไดม้ าเทียบกบั เกณฑก์ ารตดั สินคณุ ภาพและสรุปผลการประเมิน สรุปผลการประเมนิ (เขียนเครื่องหมาย  ลงใน ) ระดับคุณภาพที่ได้ 3 21

คู่มือครู แผนการจดั การเรียนรู้ ประวตั ิศาสตร์ ป. 3  182 ตอนที่ 3.6 แบบทดสอบปลายปี ด้านความรู้ ตอนที่ 1 เลอื กคาํ ตอบที่ถูกต้องทสี่ ุดเพยี งคาํ ตอบเดียว 1. การเทียบพทุ ธศักราชเป็ นคริสต์ศักราชทําได้อย่างไร ก เอา 543 ไปลบพทุ ธศกั ราช ข เอา 543 ไปบวกพุทธศกั ราช ค เอา 544 ไปลบพทุ ธศกั ราช ง เอา 544 ไปบวกพทุ ธศกั ราช 2. น้อยเกดิ พ.ศ. 2551 ตรงกบั ค.ศ. ใด ก ค.ศ. 2007 ข ค.ศ. 2008 ค ค.ศ. 2009 ง ค.ศ. 2010 3. ถ้าต้องการทราบว่า พ.ศ. 2558 ตรงกบั ค.ศ. ใด ใช้วธิ ีคาํ นวณอย่างไร ก 2558 – 543 ข 2558 + 543 ค 2558 – 544 ง 2558 + 544 4. สถานทใ่ี ดทใี่ ห้ความรู้และอบรมส่ังสอนให้เราเป็ นคนดี ก โรงงาน ข โรงเรียน ค โรงละคร ง โรงภาพยนตร์ 5. ภาพถ่ายกจิ กรรมของโรงเรียนจัดเป็ นหลกั ฐานประเภทใด ก หลกั ฐานช้นั รอง ข หลกั ฐานที่เป็นตวั หนงั สือ ค หลกั ฐานที่เป็นลายลกั ษณ์อกั ษร ง หลกั ฐานท่ีไม่เป็นลายลกั ษณ์อกั ษร


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook