เผยแพร่ผลงานวิชาการ รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ BOND Model โดยใช้บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์แบบมีปฏิสัมพันธ์ในสภาพแวดล้อมยูบิควิตัส ร่วมกับเอกสารประกอบการเรียนในรูปแบบนิตยสาร เพื่อยกระดับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชา ส33202 โลกศึกษา สำหรับผู้เรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสตรีปากพนัง ปีการศึกษา 2564 นายจิรพล ลิวา
แบบเสนอเพ่อื รับรางวัลวิธกี ารปฏิบัติทเ่ี ป็นเลศิ (Best Practice) ระดบั เขตพ้นื ที่การศึกษา ปีการศึกษา 2563 สานกั งานเขตพน้ื ที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต 12 จังหวัดนครศรีธรรมราช ชือ่ ผู้สง่ ประกวด นายจิรพล ลวิ า ประเภทสถานศึกษา สถานศึกษาขนาดกลาง ประเภทผลงาน วธิ ีการปฏิบตั ทิ ี่เป็นเลศิ ของขา้ ราชการครูและครอู ัตราจา้ ง ดา้ นนวตั กรรมและเทคโนโลยเี พอ่ื การเรยี นการสอน โรงเรียน/ศูนย์พฒั นาวชิ า โรงเรียนสตรปี ากพนัง ชือ่ ผลงาน รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ BOND Model โดยใช้บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์ แบบมปี ฏิสมั พนั ธ์ในสภาพแวดล้อมยบู ิควิตัสร่วมกับเอกสารประกอบการเรียนใน รูปแบบนิตยสาร เพ่ือยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรายวิชา ส33202 โลก ศกึ ษา สาหรบั ผู้เรยี นชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 6 โรงเรียนสตรปี ากพนงั 1. ความสาคญั ของผลงาน 1.1 ความสาคัญของสภาพปญญหา ปัจจุบันสังคมโลกในศตวรรษที่ 21 เป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วในทุกด้านรวมทั้งด้าน การศึกษา การจัดการเรียนรู้สาหรับผ้เู รียน จึงต้องตอบสนองทักษะสาหรับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ด้วยการใช้ เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อการศึกษามาเป็นส่วนประกอบในการจัดการเรียนรู้ เพ่ือใช้ในการพัฒนาทักษะต่างๆ ที่ จาเป็นสาหรับผู้เรียน เพ่ือเตรียมความพร้อมสาหรับการเป็นกาลังสาคัญของสังคมในศตวรรษท่ี 21 ตาม พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2542[1] ที่กล่าวถึงการศึกษาตลอดชีวิต เพื่อพัฒนาสังคมไทยให้เป็น สังคมแห่งการเรียนรู้ สอดคล้องกับแนวนโยบายการจัดการศึกษาโดยใช้สื่อ ICT ของนายกรัฐมนตรี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่เน้นให้การจัดการเรียนรู้เพื่ออยู่ในโลกยุคไร้พรมแดนได้มากกว่าการเรียนรู้เพ่ือสอบ [2] ทาให้ผู้สอนต้องมีการปรับเปลยี่ นกระบวนการจัดการเรียนรู้ใหม่ เพ่ือดึงความสนใจของผู้เรียน ยกระดับการใช้ ส่อื การเรยี นการสอนให้ทันสมัย[3] เพอ่ื ดงึ ดูดความสนใจของผูเ้ รียนและพฒั นาทกั ษะที่พึงประสงค์ของผู้เรียนใน ศตวรรษท่ี 21 ตามท่ีหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐานกาหนดไว้ในคุณภาพของผู้เรียนระดับชั้น มัธยมศึกษา ปีที่ 6[4] ซึ่งกระบวนการจัดการศึกษาเพ่ือก่อให้เกิดการเปล่ียนแปลงในตัวของผู้เรียนในเชิง ความคิดและพฤติกรรมนั้น ต้องเกิดจากกระบวนการถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิด ตามที่ระบุในวัตถุประสงค์ของ การเรียนรู้ โดยเป้าหมายคือเพื่อให้เกิดเป็นการเรียนรู้ตลอดชีวิต คือ เรียนเป็น คิดเป็น อยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้ รวมทั้งมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนผ่านในระดับคุณภาพตามที่สถานศึกษากาหนด[5] การเลือกวิธีการสอนท่ีดี ท่ี สามารถสร้างประสบการณ์ให้กับผู้เรียนได้นั้นต้องสามารถทาให้ผู้เรียนได้เกิดการฝึกหัดและแก้ปัญหาได้ด้วย ตนเอง ผ่านการเสาะแสวงหาความรู้ และพัฒนาต่อยอด ซึ่งจะเกิดได้ด้วยการที่ผู้สอนปรับเปล่ียนกระบวนการ จัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาทักษะท่ีจาเป็นต่อศตวรรษที่ 21 ของผู้เรียนให้ได้คุณภาพตามเป้าหมายท่ีรัฐบาล กาหนดโดยประเมินจากผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนของผู้เรยี นใน รายวชิ า ส33202 โลกศึกษา จัดการเรยี นรูใ้ หก้ ับ ผู้เรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนสตรีปากพนังในภาคเรียนท่ี 1 โดยมีผลการจัดการเรียนรู้ในหน่วยการ เรยี นรู้ที่ 1-8 ในภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2561 – ปกี ารศึกษา 2563
2 1.2 แนวทางแกป้ ญญ หาและพฒั นา จากสภาวการณ์เบื้องต้นผู้วิจัยได้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ BOND Model โดยใช้บทเรียน อิเล็กทรอนิกส์แบบมีปฏิสัมพันธ์ในสภาพแวดล้อมยูบิควิตัสร่วมกับเอกสารประกอบการเรียนในรูปแบบ นิตยสาร เพอ่ื ยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรายวชิ า ส33202 โลกศกึ ษา สาหรบั ผ้เู รยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนสตรีปากพนัง โดยใช้กระบวนการซ่ึงสอดคล้องกับแนวคิดของ Bela H. Banathy[6] ท่ีกล่าวถึงการใช้ รูปแบบการเรียนรู้ที่ผสมผสานกับการใช้นวัตกรรมอย่างหลากหลายเพื่อจัดการเรียนรู้สาหรับการยกระดับ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียน สอดคล้องกับ กิตติ เสือทอง[7] กล่าวถึงการพัฒนาและความก้าวหน้าอยา่ ง ต่อเนื่องของเทคโนโลยีดิจิทัลท่ีถูกนามาประยุกต์ใช้เพ่ือการศึกษา ทาให้การเรียนการสอนจาเป็นต้องมีการ ปรับเปล่ียนกระบวนการ สร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการเรียนรู้ของผู้เรียน โดยต้องสอดคล้องกับวัยและ ทักษะพื้นฐานท่ีผู้เรียนมีอยู่ โดยผู้วิจัยได้ดาเนินการพัฒนาบทเรียน ด้วยการศึกษาข้อมูลพื้นฐาน เอกสารและ งานวิจัยที่เก่ียวข้องกับ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์แบบมีปฏิสัมพันธ์ในสภาพแวดล้อมยู บิควิตัส Google Applications เอกสารประกอบการเรียนในรูปแบบนิตยสาร เอกสารอื่นๆ ทเ่ี ก่ยี วข้องกับการ พฒั นารูปแบบการจัดการเรียนร้ดู งั กล่าว 2. จดุ ประสงคแ์ ละเปา้ หมาย 2.1 จุดประสงค์ 2.1.1 เพื่อศึกษาสภาพปัญหาของการจัดการเรียนการสอนรายวิชาโลกศึกษา ส33202 ในปีการศึกษา 2561-2562 ที่ผ่านมา จากการใชน้ วัตกรรมทพ่ี ัฒนาข้นึ ในปี 2561 และ 2562 2.1.2 เพื่อพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ BOND Model โดยใช้บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์แบบมี ปฏิสัมพันธ์ในสภาพแวดล้อมยูบิควิตัสร่วมกับเอกสารประกอบการเรียนในรูปแบบนิตยสาร เพ่ือยกระดับ ผลสมั ฤทธิท์ างการเรียนรายวชิ า ส33202 โลกศึกษา สาหรับผู้เรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6 โรงเรียนสตรีปากพนงั 2.1.3 เพือ่ ศึกษาประสิทธิผลการจัดการเรยี นรดู้ ว้ ยรปู แบบการเรยี นรแู้ บบ BOND Model ที่พฒั นาขน้ึ 2.2 เป้าหมายเชิงคุณภาพ ผู้เรียนกลุ่มตวั อยา่ งทผ่ี า่ นการจัดการเรยี นรู้ดว้ ยรูปแบบท่ีพฒั นาขนึ้ มีผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนในรายวิชา ส33202 โลกศกึ ษา รอ้ ยละ 70 ในระดับ 3 ขน้ึ ไป โดยประเมินจากค่าประสิทธิภาพ (E1/E2) เป็นไปตามหรือสูงกวา่ เกณฑ์ที่กาหนดที่ 80/80 มีค่าการทดสอบ t-test ในระดับท่ีมากกว่า 0.05 และ มผี ลการประเมนิ ความพงึ พอใจต่อรูปแบบการจดั การเรียนรู้ทพี่ ัฒนาขึ้นในภาพรวมได้ผลทร่ี ะดับดขี นึ้ ไป 2.3 เปา้ หมายเชิงปริมาณ กลุม่ ทดลอง (กลมุ่ ท่ี 1) คอื ผเู้ รียนชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2561 โรงเรียนสตรี ปากพนังจานวน 60 คน จัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบบรรยายร่วมกับเอกสารประกอบการเรียน ในลกั ษณะใบกจิ กรรมพืน้ ฐาน กลมุ่ ทดลอง (กลุม่ ที่ 2) คอื ผู้เรยี นชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศกึ ษา 2562 โรงเรียนสตรี ปากพนังจานวน 60 คน จัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดการเรียนรู้แบบบรรยายร่วมกับเอกสารประกอบการเรียน ในรูปแบบนติ ยสาร
3 กลุ่มตัวอย่าง คือ ผู้เรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6 ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โรงเรียนสตรีปากพนัง จานวน 60 คน จัดการเรียนรู้โดยใชร้ ปู แบบการจดั การเรียนรู้ BOND Model โดยใช้บทเรยี นอิเล็กทรอนิกส์ใน สภาพแวดลอ้ มยูบิควติ ัสและเอกสารประกอบการเรียนในรูปแบบนิตยสารที่พัฒนาขึน้ 3. กระบวนการผลติ ผลงานหรอื ข้ันตอนการดาเนินงาน 3.1 การออกแบบผลงาน/นวตั กรรม ผู้วิจัยดาเนินการออกแบบนวัตกรรมโดยดาเนินงานตามเป้าหมายของการพัฒนานวัตกรรม โดยมีการ กาหนดกรอบแนวคิดการวจิ ัยไว้ดังภาพที่ 1 ศกึ ษาเอกสารและงานวจิ ัยท่ี ตวั แปรตน้ ตัวแปรตาม เกยี่ วขอ้ ง - รปู แบบการจัดการเรียนรู้ รูปแบบการจดั การ ประสทิ ธิผล - บทเรียนอิเลก็ ทรอนิกสแ์ บบมี เรียนร้แู บบ BOND - ผลสัมฤทธ์ทิ างการ Model โดยใชบ้ ทเรียน ปฏสิ ัมพนั ธ์ อเิ ล็กทรอนกิ สแ์ บบมี เรียน - จัดการเรยี นรใู้ น ปฏิสัมพนั ธใ์ น สภาพแวดล้อมยบู คิ วติ สั สภาพแวดลอ้ มยูบิ - เอกสารประกอบการเรียนใน ควิตัสรว่ มกบั เอกสาร ประกอบการเรียนใน รูปแบบนิตยสาร รูปแบบนิตยสาร เพื่อ - การพฒั นาระบบสารสนเทศ ยกระดบั สมั ฤทธ์ิ - ผลสัมฤทธท์ิ างการเรยี น ทางการเรยี นรายวชิ า ส33202 โลกศึกษา ถอดความรูจ้ ากผลงานแนว สาหรับผู้เรยี นช้ัน ปฏิบัติทเ่ี ปน็ เลศิ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6 (Best-Practice) โรงเรียนสตรปี ากพนัง ภาพที่ 1 กรอบแนวคิดในการวจิ ัย จากภาพท่ี 1 สามารถอธิบายได้ว่า ผู้วิจัยค้นพบปัญหาในการจัดการเรียนการสอนรายวิชา ส33202 โลกศึกษา ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนสตรีปากพนัง คือ ในปีการศึกษา 2561 สื่อการจัดการเรียนรู้ท่ี ใช้ ไม่ตอบสนองต่อผู้เรียนในศตวรรษท่ี 21 ผู้วิจัยจึงได้พัฒนา เอกสารประกอบการเรียนในรูปแบบของใบ กิจกรรม (Work Sheet) ข้ึน โดยมีผลคือผู้เรียนมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนในกลุ่มทดลองจานวน 60 มีผลการ เรียนหน่วยท่ี 1-8 อยู่ในระดับ 1 สูงท่ีสุดคือ ร้อยละ 72.73 ซึ่งไม่เป็นไปตามเป้าหมายที่กาหนด ให้ผู้เรียนไม่ น้อยกว่าร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนอยู่ในระดับร้อยละ 70 ขึ้นไป โดยในการปีการศึกษา 2562 ผู้วิจัยได้ทาการพัฒนาส่ือการเรียนรู้ในรูปแบบนิตยสารประกอบการเรียนของผู้เรียน โดยมีผลสัมฤทธ์ิทางการ เรียน สูงสุดอยู่ท่ี ระดับ 1.5 ในอัตราร้อยละ 53.57 ซ่ึงต่ากว่าค่าเป้าหมายในการจัดการเรียนรู้ที่ผู้วิจัยกาหนด และในปีการศึกษา 2563 ผู้วิจัยได้นาผลการจัดการเรยี นรู้และพัฒนานวตั กรรมใน 2 ปีการศึกษาก่อนหน้า มา วิเคราะห์รายละเอียดตามวงจร PDCA
4 3.2 การดาเนนิ งานตามกจิ กรรม ผู้วิจยั ดาเนนิ งานโดยพฒั นาตามวงจร PDCA ตามลาดบั กระบวนการดงั ตารางที่ 1 ดังน้ี ตาราง 1 กระบวนการพัฒนานวัตกรรม ระยะ/ วตั ถุประสงค์ เคร่ืองมอื / แหลง่ ข้อมลู การวเิ คราะห์/ ตัวชวี้ ดั ขน้ั ตอน วธิ กี าร สถติ ิ ขนั้ เตรยี มการ (Plan) 1. ศึกษา รูส้ ภาพปญั หาของ แบบประเมนิ ผเู้ ชยี่ วชาญ ค่า IOC ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนตา่ สภาพปญั หา การจัดการเรยี นรู้ ข้อสอบฯ ค่า E1/E2 กวา่ ค่า (กล่มุ ทดลอง 1 เปา้ หมาย ในปีการศึกษา แบบวดั ผลสัมฤทธิ์ และ 2) 2561-2562 ผลสมั ฤทธ์ิ ทางการเรียน ทางการเรียน ของกลมุ่ ทดลอง ขน้ั ดาเนนิ การ (Do) 2. พัฒนา พฒั นารูปแบบ รปู แบบการ ผเู้ ช่ียวชาญ คา่ IOC รปู แบบการ จัดการเรียนรู้ นวตั กรรม การจดั การเรยี นรู้ จดั การเรียนรู้ คา่ IOC แบบ BOND Model ร่วมกบั (ใช้ ADDIE ฯ BOND BOND Model ค่า IOC เอกสารฯและ บทเรียน Model และ MODEL รว่ มกบั แบบวดั ผู้เช่ียวชาญ คา่ t-test อเิ ล็กทรอนิกส์ คา่ E1/E2 (สมบรู ณ)์ Stage and เอกสารฯและ ผลสมั ฤทธ์ิ คา่ ������̅ คา่ S.D. ประสทิ ธผิ ลของ Gate) บทเรยี น ทางการเรยี น การใช้ รูปแบบ การจัดการ อิเล็กทรอนกิ ส์ แบบประเมิน ผู้เช่ยี วชาญ เรียนรู้ BOND Model รว่ มกบั ความพึงพอใจ เอกสารฯและ บทเรยี น ขั้นตรวจสอบและประเมินผลการพฒั นางาน (Check) อเิ ล็กทรอนิกส์ 3. วัด ประเมนิ แบบวดั ผลสมั ฤทธ์ิ รายงาน ผลการวจิ ยั ประเมินผล ประสทิ ธผิ ลการ ผลสัมฤทธิ์ ทางการเรยี น ใชง้ านนวตั กรรม ทางการเรยี น และผลการ แบบประเมนิ ประเมินความ ความพึงพอใจ พงึ พอใจของ ฯ กลุม่ ตัวอย่าง ขน้ั สรุปและรายงาน (Action) ผลการ เขยี นรายงานการ Contents ศกึ ษาวิจัย วิจัยฯ Analysis
5 จากตารางที่ 1 แสดงวา่ ผ้วู จิ ัยพบคน้ พบปญั หาของการวจิ ัยในระยะที่ 1 คือ ผู้เรียนมีผลสมั ฤทธิท์ างการ เรยี นตา่ กว่าค่าเป้าหมายท่ีกาหนดคือ ผู้เรียนไมน่ ้อยกว่าร้อยละ 70 มผี ลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในระดบั 3 ข้ึนไป ดังนั้นจึงได้ดาเนินการวิจัยโดยใช้ ADDIE Model เพ่ือนามาใช้ในการออกแบบระบบการจัดการเรียนการสอน ร่วมกับกระบวนการ Stage and Gate เพื่อคัดเลือกแนวคิดใหม่ในการนามาใช้เพื่อแก้ปัญหา และเลือกใช้ นวัตกรรมในการแก้ปัญหาที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด คือ การนาเอาบทเรียนอิเล็กทรอนิกส์แบบมี ปฏิสัมพันธ์ในสภาพแวดล้อมยูบิควิตัส มาพัฒนาร่วมกับการใช้เอกสารประกอบการเรียนในรูปแบบนิตยสาร โดยจัดการเรียนการสอนผ่านรูปแบบการจัดการเรียนรู้ BOND Model ท่ีพัฒนาข้ึน และจัดระบบการประเมิน โดยมีการพิจารณาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิ และแบบประเมินความพึงพอใจ โดยผ่านการพิจารณาหาค่า ความสอดคล้องระหว่างข้อคาถามกบั วัตถปุ ระสงค์โดยผู้เช่ียวชาญ ทงั้ 2 ประเดน็ โดยแนวทางการแก้ปัญหาที่ ผู้วิจัยเลือกนามาใช้เป็นแนวทางการ แก้ปัญหา คือ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ แบบ BOND Model โดยใช้บทเรียน อิ เ ล็ ก ท ร อ นิ ก ส์ แ บ บ มี ป ฏิ สั ม พั น ธ์ ใ น สภาพแวดล้อมยูบิควิตัสร่วมกับเอกสาร ประกอบการเรียนในรูปแบบนิตยสาร เพื่อยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน รายวิชา ส33202 โลกศึกษา สาหรับ ผู้เรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรียนสตรี ปากพนัง โดยเป็นการจัดการเรียนรู้ที่ ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ก า ร จั ด ก า ร เ รี ย น รู้ ใ น ภาพที่ 2 BOND Model (Blended with Ubiquitous and Education Magazine) ศ ต ว ร ร ษ ที่ 21 พ ร ะ ร า ช บั ญ ญั ติ การศกึ ษาแหง่ ชาติ รวมท้ังแนวนโยบายของนายกรฐั มนตรี ท่ีมุ่งพฒั นาผเู้ รยี นใหเ้ กดิ ทักษะการใชส้ อื่ สารสนเทศ และเทคโนโลยีการสื่อสาร ตรงกับเป้าหมายของโรงเรียนสตรีปากพนัง และเป็นกาลังสาคัญของชุมชนต่อไป โดยมีรายละเอยี ดดงั ภาพท่ี 2 ประกอบดว้ ย B มาจาก Based on Basic หมายถึง การพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรู้โดยอาศัยฐานข้อมูลหลัก ของผู้เรียนเป็นสาคัญ ประกอบด้วย การมุ่งพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 ของผู้เรียน (21st Century Skills) การปฏิบัติหลักการของพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ (Act of Education) และการเชื่อมโยงกับ แนวนโยบายของนายกรฐั มนตรี (Prime Minister’s Policy) ด้านการใช้ทกั ษะ ICT ของผูเ้ รยี น O มาจาก Operation System หมายถึง การเลือกใช้ระบบปฏิบัติการที่เช่ือมโยงกับการจัดการเรยี นรู้ แบบยูบิควิตัส (ภควันตภาพ หรือ U-Learning) โดยใช้ Google Application ท่ีหลากหลายมาผสมผสานเข้า ด้วยกัน โดยยึดหลักการพัฒนาตามลาดับของการปฏิบัติการผ่านระบบบริหารจัดการชัน้ เรยี นออนไลน์ (LMS : Learning Management System) เปน็ หลัก
6 N มาจาก New Text Books หมายถึงการผลิตสื่อการเรียนรู้แบบสร้างสรรค์ในรูปแบบใหม่ที่กระตุ้น ความสนใจผู้เรียน ในลักษณะของเอกสารออนไลน์ (E-Books) และจัดรูปเล่มของเอกสารให้เป็นลักษณะของ นติ ยสาร (Education Magazine) เพื่อเพิม่ แรงจูงใจใฝส่ มั ฤทธขิ์ องผู้เรียนในการอยู่กบั บทเรยี นมากขึน้ D มาจาก Deal หมายถึง การปฏิบัติการและการประเมินประสิทธิผลโดย มุ่งเน้นท่ีการพัฒนา ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของผู้เรียนให้เป็นไปตามเป้าหมายคือ ผู้เรียนไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 มีผลสัมฤทธ์ิ ทางการเรียนในระดับ 3 ข้ึนไป และมีระดับความพึงพอใจในภาพรวมในระดับดี โดยใช้สถิติในการวิจัย ประกอบด้วย t-test, E1/E2, IOC, ������̅ และ S.D. 3.3 ประสทิ ธภิ าพของการดาเนนิ งาน ผ้วู จิ ัยดาเนนิ การวิจยั ตามระยะของการดาเนนิ งานวิจัย โดยมผี ลการดาเนินงานตามภาพที่ 3 ดงั นี้ จากภาพท่ี 3 จะเห็น ประสิทธภิ าพของการดาเนนิ งาน (ร้อยละ) ไ ด้ ว่ า ผ ล สั ม ฤ ท ธิ์ ทางการเรียนในหน่วย 80.00 75.00 36.67 75.00 ที่ 1 – 8 รายวิชาโลก 70.00 61.67 ศึ ก ษ า ส 33202 ปี 60.00 21.67 0.00 ก า ร ศึ ก ษ า 2561 50.00 1.67 4 ผู้ เ รี ย น มี ผ ล สั ม ฤ ท ธ์ิ 40.00 1 10.00 5.00 105...006070 ทางการเรียนส่วนใหญ่ 30.00 0.00 อยูท่ ่ี 1 ในอตั ราร้อยละ 20.00 3.33 30..3030 0.00 72 และปีการศึกษา 10.00 0.00 1.5 2 2.5 3 2.5 2561 2562 2563 2562 ส่วนใหญ่อยู่ที่ ภาพท่ี 3 ประสทิ ธภิ าพของการดาเนินงาน (รอ้ ยละ) 1.5 ในอัตราร้อยละ 53.57 แ ล ะ ผ ล สั ม ฤ ท ธิ์ ทางการเรียนจากการใช้ รูปแบบการจัดการเรียนรู้ BOND Model ท่ีผู้วิจัยได้พัฒนาข้ึน มีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนส่วนใหญ่ในระดับ 4 ในอัตราร้อยละ 76.27 ซึ่งสูงกว่าค่าเป้าหมายท่ีกาหนดไว้ท่ีผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนไม่น้อยกว่า ร้อยละ 70 อยู่ ในระดับ 3 ข้ึนไป ท้ังนี้ผู้วิจัยกาหนดลาดับของการวิจัยตามกระบวนการพัฒนานวัตกรรมการวิจัยเพ่ือพัฒนา (Research and Development) โดยมีผลการพัฒนาการนวัตกรรมตามลาดบั ในระยะเวลาระหว่างปี 2561- 2563 เป็นเวลา 3 ปี โดยเลือกใชข้ อบเขตเนอ้ื หาในหนว่ ยท่ี 1-8 มผี ลการดาเนนิ งานตามตารางที่ 2-6 ดังน้ี ตารางที่ 2 แสดงผลการหาค่าความสอดคล้องของเครอื่ งมือ ผลการหาค่าความสอดคล้อง มคี ่า IOC 0.91 เครอ่ื งมอื วิจัย มคี ่า IOC 0.90 แบบทดสอบวัดผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียนฯ มีคา่ IOC 0.91 เอกสารประกอบการเรียนในรูปแบบนติ ยสารฯ รปู แบบการจดั การเรียนรูแ้ บบ BOND Model
7 ตารางท่ี 3 แสดงผลการพฒั นานวัตกรรม ในระยะ 3 ปี 1 1.5 2 2.5 3 3.5 4 รวม กลมุ่ 75.00 21.67 3.33 0.00 0.00 0.00 0.00 100.00 ทดลอง1 45 13 2 0 0 0 0 60 กล่มุ 61.67 36.67 0.00 0.00 0.00 1.67 0.00 100.00 ทดลอง2 37 22 0 0 0 1 0 60 กลมุ่ 1.67 3.33 10.00 0.00 5.00 5.00 75.00 100.00 ตวั อย่าง 1 2 6 0 3 3 45 60 ตารางที่ 4 แสดงผลการวิเคราะห์ค่าประสิทธิภาพของนวัตกรรมฯ ในระยะ 3 ปี กลมุ่ จานวน ทดสอบกอ่ นเรยี น รอ้ ยละ ทดสอบหลงั เรียน ร้อยละ ประสิทธิภาพ (คน) เตม็ เฉล่ยี เต็ม เฉลีย่ E1/E2 ทดลอง1 60 10 3.42 52.55 10 5.75 57.50 52.55/57.50 ทดลอง2 60 10 3.67 53.39 10 6.17 61.67 53.39/61.67 ตวั อย่าง 60 10 5.17 82.18 10 8.52 85.17 82.18/85.17 หมายเหตุ คา่ E1 เปน็ ผลรวมของคะแนนก่อนเรยี นและคะแนนระหว่างเรยี น ตารางท่ี 5 แสดงค่าประสิทธผิ ลของนวตั กรรม ในระยะ 3 ปี กลมุ่ การทดสอบ X̅ S.D. D̅ S.D.D t Sig.(1-tailed) ทดลอง1 ก่อนเรยี น 3.42 0.83 2.33 1.10 16.44* 0.0000 หลังเรียน 0.57 5.75 2.50 1.24 15.59* 0.0000 ทดลอง2 ก่อนเรียน 3.67 0.54 3.35 1.07 24.23* 0.0000 หลังเรียน 6.17 0.99 ตวั อย่าง ก่อนเรยี น 5.17 0.78 หลังเรียน 8.52 0.77 มีนัยสาคัญทางสถติ ทิ รี่ ะดบั .05 ตารางท่ี 6 แสดงผลการประเมินความพึงพอใจของผูเ้ รียน ในระยะ 3 ปี รายการประเมินความพึงพอใจ คา่ เฉลีย่ คา่ เบี่ยงเบน ระดับความ ต่อนวัตกรรมการเรยี นรู้ มาตรฐาน พึงพอใจ X̅ กลุ่มทดลอง 1 3.96 S.D. มาก 0.37 มาก มากทส่ี ดุ กลมุ่ ทดลอง 2 4.18 0.12 กลุ่มตัวอย่าง 4.51 0.33
8 จากตารางท่ี 2-6 แสดงว่า ในปีการศึกษา 2561 ผู้วิจัยจัดการเรียนรู้ผ่านกระบวนการบรรยาย และใช้ เอกสารประกอบการเรียนในรูปแบบดั้งเดิม ท่ีประกอบด้วย คาส่ัง ใบงาน ใบความรู้ และแบบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน โดยการนาเอาแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธด์ิ ังกล่าวไปหาค่าความสอดคล้องของเนื้อหา (IOC) จาก ผู้เช่ียวชาญเปน็ ครชู านาญการพิเศษ กลุ่มสาระการเรยี นรสู้ ังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม จานวน 5 คน โดย พบว่า แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ท่ีจัดพิมพ์ข้ึน มีค่าคะแนนความคิดเห็นของผู้เช่ียวชาญ เท่ากับ 0.91 จึงสรุปได้ว่า มีความเหมาะสมในทุกประเด็น ถือว่าเป็นแบบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนท่ีมีคุณภาพ เมื่อ ผู้วิจัยนาไปใช้กับผู้เรียนในกลุ่มทดลองครั้งที่ 1 พบว่า ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนในหน่วยที่ 1-8 มี ผู้เรียนได้ผล การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามลาดับดังนี้ ผลการเรียนเฉลี่ยที่ 1 จานวน 45 คน 1.5 จานวน 13 คน และ 2 จานวน 2 คน รวม 60 คน มคี า่ ประสทิ ธิภาพท่ี 53.39/61.67 ซง่ึ ตา่ กวา่ คา่ เปา้ หมายฯ ทั้ง 2 ประเด็น และมผี ล การประเมินความพึงพอใจในระดบั มาก ในปกี ารศึกษา 2562 ผู้วจิ ัยจัดการเรียนรผู้ า่ นกระบวนการบรรยาย และใชเ้ อกสารประกอบการเรยี นใน รูปแบบนิตยสาร (Education Magazine) ที่ประกอบด้วย คาสั่ง ใบงาน ใบความรู้ และแบบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธ์ิชุดเดียวกับปีการศึกษา 2561 และการนาเอาเอกสาร ประกอบการเรียนฯ ดังกล่าวไปหาค่าความสอดคล้องของเนื้อหา (IOC) จากผู้เชี่ยวชาญเป็นครูชานาญการ พิเศษ กลุ่มสาระการเรียนรู้สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม จานวน 5 คน โดยพบว่า แบบทดสอบวัด ผลสัมฤทธ์ิทางการเรียน ที่จัดพิมพ์ขึ้น มีค่าคะแนนความคิดเห็นของผู้เช่ียวชาญ เท่ากับ 0.90 จึงสรุปได้ว่า มี ความเหมาะสมในทุกประเด็น ถือวา่ เป็นเอกสารประกอบการเรียนฯ ที่มีคณุ ภาพเมอ่ื ผ้วู จิ ยั นาไปใชก้ ับผู้เรียนใน กลุ่มทดลองครั้งที่ 2 พบว่า ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนในหน่วยที่ 1-8 มี ผู้เรียนได้ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ตามลาดับดังนี้ ผลการเรียนเฉลยี่ ท่ี 1 จานวน 37 คน 1.5 จานวน 22 คน 2.5 จานวน 1 คน รวม 60 คน มีค่า ประสิทธิภาพท่ี 52.55/57.50 ซ่ึงต่ากว่าค่าเป้าหมายฯ ท้ัง 2 ประเด็น และมีผลการประเมินความพึงพอใจใน ระดบั มาก ในปีการศึกษา 2563 ผู้วิจัยจัดการเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ BOND Model โดยใช้ บทเรียนอิเล็กทรอนิกส์แบบมีปฏิสัมพันธ์ในสภาพแวดล้อมยูบิควิตัสร่วมกับเอกสารประกอบการเรียนใน รูปแบบนิตยสาร เพื่อยกระดับผลสัมฤทธ์ิทางการเรียนรายวิชา ส33202 โลกศึกษา สาหรับผู้เรียนชั้น มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6 โรงเรยี นสตรีปากพนงั โดยใช้แบบทดสอบวดั ผลสมั ฤทธ์ชิ ดุ เดยี วกับปีการศึกษา 2561 ควบคู่ กับเอกสารประกอบการเรียนในรูปแบบนิตยสารฯ โดยการนาเอารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ BOND Model ดังกล่าวไปหาค่าความสอดคล้องของเน้ือหา (IOC) จากผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดการเรียนรู้ในรูปแบบ การเรียนรู้อย่างสร้างสรรค์ จานวน 5 คน โดยพบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ BOND Model ที่จัดพิมพ์ ข้ึน มีค่าคะแนนความคิดเห็นของผู้เช่ยี วชาญ เท่ากับ 0.91 จึงสรุปได้ว่า มีความเหมาะสมในทุกประเด็น ถือว่า เป็นรปู แบบการจัดการเรียนรู้ที่มีคุณภาพเม่ือผ้วู ิจัยนาไปใช้กับผูเ้ รียนในกลุ่มตัวอย่าง พบวา่ ผลสมั ฤทธทิ์ างการ เรียนในหน่วยท่ี 1-8 มี ผู้เรียนได้ผลการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามลาดับดังนี้ ผลการเรียนเฉล่ียที่ 1 จานวน 1 คน 1.5 จานวน 2 คน 2 จานวน 6 คน 3 จานวน 3 คน 3.5 จานวน 3 คน และ 4 จานวน 45 คน รวม 60 คน มีค่าประสิทธิภาพท่ี 82.18.55/85.17 ซึ่งสูงกว่าค่าเป้าหมายฯ ท้ัง 2 ประเด็น โดยตลอดระยะเวลาระหว่างปี 2561-2563 มีผลของคะแนนสอบหลังเรียนของผู้เรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยสาคัญทางสถิติที่ระดับ .05
9 ทุกปี แสดงว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ ท่ีพัฒนาข้ึนมีประสิทธิภาพตรงตามวัตถุประสงค์ และมีผลการ ประเมินความพงึ พอใจในระดบั มากท่ีสดุ 3.4 การใชท้ รพั ยากร ผู้วจิ ัยดาเนินการพัฒนารปู แบบการจัดการเรยี นร้แู บบ BOND Model โดยมงุ่ เนน้ ท่ีการประหยัด โดยใช้ ระบบ E-Book เข้ามาใช้งานร่วม เพ่ือลดภาวการณ์ใช้กระดาษ และใช้ระบบอินเทอร์เน็ตของโรงเรียนในการ ดาเนินงาน รวมถงึ ใชโ้ ทรศพั ทม์ ือถอื ของผู้เรียนในการเขา้ ถงึ บทเรยี นตลอดการจดั กิจกรรมการเรียนรู้ 4. ผลการดาเนนิ การ / ผลสมั ฤทธ์ิ 4.1 ผลท่ีเกดิ ตามจุดประสงค์ ผู้วิจัยดาเนินการปฏิบัติตามจุดประสงค์ของการวิจัยตลอดกระบวนการ ในด้านการศึกษาสภาพปัญหา พัฒนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ BOND Model และ ศึกษาประสิทธิผลของรูปแบบการจัดการเรียนรู้ฯ ตามรายละเอียดขา้ งตน้ และเลม่ เอกสารอา้ งอิงประกอบการพิจารณา 4.2 ผลสมั ฤทธิข์ องงาน ผู้วิจัยดาเนินการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ตามรูปแบบการเรียนรู้แบบ BOND Model และมีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนสูงกว่าค่าเป้าหมายท่ีกาหนด มีค่าประสิทธิภาพท่ี 82.18/85.17 และมีผลการประเมินความพึง พอใจในระดับมากทส่ี ดุ ซึ่งสูงกว่าเกณฑท์ ่ีกาหนดทุกดา้ น 4.3 ประโยชนท์ ่ีไดร้ บั ผูว้ จิ ยั นารปู แบบการจัดการเรียนรู้แบบ BOND Model ท่ีพฒั นาขึ้นไปขยายผลจากการจัดกิจกรรมการ อบรมเชิงปฏิบัติการการพัฒนาสื่อด้วย Google Application ดาเนินการ โดย สหวิทยาเขตปากพนัง เชียร ใหญ่ ในวันท่ี 10 ตุลาคม 2562 และ ขยายผลกับ ผู้สอนโรงเรียนเอกชน ในการประชุมเชิงปฏิบัติการยกระดับ ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชาสังคมศึกษา ดาเนินการโดย สานักงานศึกษาธิการจังหวัดนครศรีธรรมราช ใน วันท่ี 27-28 สงิ หาคม 2563 ซงึ่ เป็นการขยายผลในระดับสถานศกึ ษาและระดบั จงั หวัด 5. ปญจจัยความสาเร็จ ผู้วิจัยดาเนินการวิจัยแล้วเสร็จลงได้ โดยการสนับสนุนจากคณะผู้บริหารโรงเรียนสตรีปากพนัง ผู้สอนใน กลุ่มสาระการเรยี นร้สู ังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม โรงเรียนสตรปี ากพนงั รวมท้งั ผเู้ ชย่ี วชาญในการตรวจ เคร่ืองมือการวิจัย จากสถานศึกษาภายนอก ทั้งโรงเรียนเมืองกระบ่ี โรงเรียนเมืองสุราษฏร์ และมหาวิทยาลัย ราชภัฏนครศรีธรรมราช รวมท้ังความร่วมมือในการเก็บข้อมูลจากผู้เรียนท่ีเป้นกลุ่มทดลอง ทั้ง 2 ปีการศึกษา และกลุ่มตวั อย่าง ในปกี ารศึกษาปจั จบุ ัน 6. บทเรียนท่ีไดร้ บั ปรับคณุ ภาพมงุ่ พฒั นาต่อไป 6.1 บทเรียนที่ไดร้ บั ผู้วิจัยค้นพบว่า รูปแบบการจัดการเรียนรู้ในปัจจุบันท่ีใช้กันอย่างแพร่หลายสามารถดัดแปลงและต่อ ยอดเพิ่มเติมเพื่อสร้างความเช่ือมโยงกับการจัดการเรียนรู้ให้กับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ได้ โดยผู้สอนสามารถ นาเอาความรู้จากวิถีชีวิตประจาวันในการใช้สื่อสารสนเทศและเทคโนโลยีทางการส่ือสารต่างๆ มาประกอบ เพือ่ ยกระดับผลสัมฤทธิท์ างการเรยี นได้ สอดคล้องกบั หลักการพฒั นาตนเอง 4 ประการเพ่ือความกา้ วหน้าของ ชีวิต โดยเฉพาะการเปิดรับสิ่งใหม่ๆ ตลอดเวลา รวมท้ังยังเป็นการสนับสนุนให้ผู้เรียนดึงเอาศักยภาพของ
10 เครื่องมือใกล้ตัว เช่น สมาร์ทโฟน มาใช้ให้เกิดประโยชน์ในทางการจัดการเรียนรู้มากกว่าการใช้ในเชิงบรรเทิง หรือนนั ทนาการเพียงอยา่ งเดียว 6.2 ปรบั คณุ ภาพมงุ่ พัฒนาต่อไป ผู้วิจัยมีความประสงค์และมองเห็นช่องทางในการพัฒนาระบบ Application ทางการเรียนรู้ที่ ดาเนนิ การผ่านระบบปฏิบัติการไอโอเอส และ แอนดรอย ในอนาคตเพือ่ เข้าถึงผเู้ รียนและผสู้ อนในวงกว้างมาก ข้ึนต่อไป 6.3 ขอ้ ควรพึงระวงั ผู้ท่ีนารูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ BOND Model ไปใช้ความระวังในประเด็นการเปิดเผยข้อมูล สาธารณะและการใช้ข้อมูลในรูปแบบออนไลน์ เนื่องด้วยประเดน็ ของลขิ สิทธิท์ างปัญญาในหลายๆ ชนิ้ งาน 7. การเผยแพร่ / การได้รบั ยอมรบั / รางวัลทีไ่ ด้รับ 7.1 การเผยแพร่ ผู้วิจัย ทาการเผยแพร่ผลงานรูปแบบการจัดการเรียนรู้แบบ BOND Model เป็น 2 ลักษณะ ประกอบด้วย 1) ผ่านการจัดประชุมเชิงปฏิบัติการจานวน 3 ครั้ง โดยรับเชิญจาก โรงเรียนวิทยาศาสตร์ จฬุ าภรณ์ สหวทิ ยาเขตปากพนงั เชยี รใหญ่ และ สานักงานศกึ ษาธกิ ารจังหวัดนครศรธี รรมราช 2) ผ่านการสง่ ผล งานไปเผยแพรย่ งั สถานศกึ ษาอ่ืนๆ ผ่านเครอื ขา่ ยออนไลน์ เชน่ Facebook และ email 7.2 การได้รบั การยอมรับ / รางวัลทไ่ี ด้รับ ตลอดระยะเวลาระหว่างปีการศึกษา 2561-2563 ผู้วิจัยได้ส่งผลงานเข้าร่วมประกวดรางวัลแนวปฏิบตั ิ ท่ีเป็นเลศิ (Best Practice) มาโดยตลอด และไดร้ บั รางวัลชนะเลิศเหรยี ญทองเปน็ เวลา 3 ปี ต่อเนือ่ ง ในผลงาน ทมี่ กี ารพัฒนาต่อยอดตามลาดับ ลงชอื่ ผู้เสนอ ( นายจริ พล ลิวา ) ตาแหน่ง ครชู านาญการ โรงเรยี น สตรีปากพนัง ลงชอ่ื ผู้รบั รอง ( นางจริ าพร รัตนกลุ ) ตาแหน่ง ผู้อานวยการโรงเรยี น สตรีปากพนัง
11 บรรณานกุ รม [1] กระทรวงศึกษาธกิ าร. (2545). พระราชบญั ญตั ิการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และ ทแี่ ก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับ ที่ 2) พ.ศ. 2545.กรุงเทพฯ: โรงพมิ พ์คุรสุ ภาลาดพรา้ ว. [2] กรอบทิศทางการพฒั นาการศึกษาในชว่ งแผนพัฒนาเศรษฐกจิ และสังคมแหง่ ชาติฉบับที่ 10 พ.ศ. 2550 – 2554 ทส่ี อดคลอ้ งกบั แผนการศกึ ษาแห่งชาติ พ.ศ. 2545-2559. (2559). กรุงเทพฯ: สานักงานเลขาธกิ าร สภาการศกึ ษา. [3] สุนทรัสส์ เพชรรักษ์คาด้วง. (2559). รูปแบบการบริหารเชิงกลยุทธเ์ พื่อพัฒนาทกั ษะการคิด ของนักเรียน ในศตวรรษท่ี 21. นครศรธี รรมราช: สาขาวิชาการบริหารการศกึ ษา มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏนครศรีธรรมราช. [4] สานักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา. (2557). รายงานการประเมินคุณภาพ ภายนอกของสถานศึกษาระดบั การศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน. กรุงเทพฯ: พิมพ์ด.ี [5] พรทิพย์ อุดร. (2550). ศึกษาเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาวิทยาศาสตร์ และความสามารถ ด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณของนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 3 ที่เรียนด้วยวิธีการจัดการเรียนรู้แบบ บูรณาการกับการจัดการเรียนรู้แบบร่วมมือรูปแบบ STAD. พระนครศรีอยุธยา: บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภฏั พระนครศรอี ยุธยา. [6] Bela H. Banathy. (2014). “Systems Inquiry and its Application in Education” in Handbook of Dewey’s theory and Practice in Education. New York: The Free Press. [7] กิตติ เสือทอง. (2559). “การพัฒนาแอพพลิเคช่ันเพื่อการเรียนรู้บนระบบปฏิบัติการแอนดรอยด์” ใน การประชุมวิชาการครุศาสตร์อุตสาหกรรมระดับช้ัน ครั้งท่ี 9. กรุงเทพมหานคร : คณะครุศาสตร์ อตุ สาหกรรม มหาวทิ ยาลยั เทคโนโลยีพระจอมเกลา้ พระนครเหนอื .
ก Introduction I CANNOT TEACH ANYBODY ANYTHING, I CAN ONLY MARK THEM THINK ฉนั สอนอะไรใครไม่ได้ สง่ิ เดียวท่ีทำไดก้ ค็ อื ทำใหพ้ วกเขำคดิ เอง
ข Introduction หลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ ของหน่วยงานราชการ นักวิชาการ และ พ้ืนฐาน พุทธศกั ราช 2551 ไดก้ าหนดให้ องคก์ รเอกชนท่ีเก่ียวขอ้ ง สอบถามจากผูร้ ู ้ สถานศึกษาขน้ั พ้ืนฐานจัดทาหลักสูตร ในสถานศึกษา ตลอดจนคน้ ควา้ ขอ้ มูลจาก สถานศึกษาในสว่ นท่เี ก่ยี วกบั โลกศึกษา เพ่อื ส่ือเทคโนโลยี เพ่ือใหไ้ ดข้ อ้ มูลท่ีเป็นจริง เนน้ ในเร่ืองการเป็นพลเมืองโลก และการ และเป็นประโยชนต์ อ่ การเรยี นรูม้ ากทส่ี ุด พฒั นาตนเองเป็นมนุษยท์ ส่ี มบูรณ์ เอกสารประกอบการเรียนเล่มน้ ีใช ้ เพอ่ื ใหก้ ารจดั กิจกรรมการเรียนการ วิธีการนาเสนอเน้ ือหาสาระเป็ นหน่ ว ยการ สอนของกลุ่มสาระการเรียนรูส้ งั คมศึกษา เรียนรู ้ ซ่งึ มที งั้ หมด 10 หน่วย แตล่ ะหน่วย ศาสนา และวฒั นธรรม สอดคลอ้ งตามความ จะแบ่งเป็นตอนๆ โดยเรียงเน้ือหาท่ีควร ตอ้ งการหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั ศึกษาไวต้ ามลาดบั ก่อนหลงั แต่ละตอนจะ พ้ืนฐาน พุทธศักราช 2551 จึงไดจ้ ัดทา กาหนดจุดประสงคก์ ารเรียนรูใ้ หส้ อดคลอ้ ง เอกสารประกอบการเรียน รายวชิ าโลกศึกษา กบั แผนการจดั การเรยี นรู ้ ส33202 ข้นึ สาหรบั นกั เรียนชนั้ มธั ยมศึกษา ปีท่ี 6 ใชเ้ป็นเคร่อื งมอื ประกอบการเรียนรูใ้ น ผูจ้ ดั ทาขอขอบพระคุณบุคคลและ สาระการเรยี นรูโ้ ลกศึกษา ทงั้ น้เี พอ่ื ใหผ้ ูเ้รยี น หน่วยงานต่างๆ ท่ีใหค้ วามอนุเคราะห์ มคี วามรู ้ ความเขา้ ใจ ในเร่อื งราวของสงั คม เก่ีย วกับ ขอ้ มู ล ภ าพ ป ระก อบ แล ะ โลก การพฒั นาตนเอง การอยู่ในสงั คมคม ขอ้ เสนอแนะในการจดั ทา ตลอดถึงการ โลกอย่างสงบสุข มีความภาคภูมิใจ และ ตรวจสอบเพ่ือปรบั ปรุงแกไ้ ข ทาใหเ้ อกสาร ตระหนกั ถงึ หนา้ ท่ี บทบาท รวมทง้ั สิทธิของ สาเร็จเป็นรูปเลม่ ท่สี มบรู ณ์ ผูจ้ ดั ทาหวงั เป็น ตนเอง ในฐานะมนุษยชาตแิ ละพลเมอื งโลก อย่างย่ิงว่าเอกสารประกอบการเรียนเล่มน้ี จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนรูข้ องผูเ้ รียน ในการจดั ทาเอกสารประกอบการ อยา่ งแทจ้ รงิ เรีย นเล่มน้ี ผู ้จัดทาได้ศึ ก ษาค้นควา้ รวบรวมขอ้ มลู จากหนงั สอื เอกสารต่างๆ จริ พล ลวิ ำ ครูชำนำญกำร ผูจ้ ดั ทา
Introduction ค 21
ค Contents
ง Contents คำนำ ข. ฉ. Premise ช. คำอธิบำยรำยวชิ ำ ฌ. Course Syllabus ฎ. ผลกำรเรยี นรูท้ ค่ี ำดหวงั 1-2. จดั ทำโดย Premise 3-7. นำยจริ พล ลวิ ำ 8-17. ครูชำนำญกำร คำช้แี จงกำรเรยี นกำรสอน กลมุ่ สำระสงั คมศึกษำศำสนำและวฒั นธรรม โรงเรยี นสตรปี ำกพนงั Statement of teaching and learning 18-23. เอกสำรประกอบกำรเรยี นเลม่ น้ี ผูจ้ ดั ทำ รูปแบบกำรจดั ทำรำยงำนคน้ ควำ้ 24-34. มคี วำมเตม็ ใจส่งต่อขอ้ มลู เพอ่ื กำรศึกษำ 35-43. เท่ำนน้ั ไมอ่ นุญำตใหน้ ำไปใชเ้พอ่ื กำร Template Topic Research พำณิชย์ นกั เรยี นทต่ี อ้ งกำรศึกษำสำมำรถ ถ่ำยสำเนำเอกสำรได้ นำขอ้ มลู ไปใชต้ ่อได้ เร่อื งจำกปก โดยระบแุ หลง่ อำ้ งองิ ทถ่ี กู ตอ้ งและเหมำะสม Cover Story แบบทดสอบก่อนเรยี น Pro - Test หน่วยท่ี 1 สทิ ธมิ นุษยชน Unit 1 : Human Rights / Test 1 หน่วยท่ี 2 ควำมหลำกหลำย Unit 2 : Diversity / Test 2 หน่วยท่ี 3 ควำมเป็นธรรมในสงั คม Unit 3 : Social Justice / Test 3 หน่วยท่ี 4 กำรแกป้ ญั หำควำมขดั แยง้ Unit 4 : Conflict Resolution / Test 4 จดั ทำข้นึ ภำยใตโ้ ครงกำรกำรศึกษำ รำยวชิ ำ โลกศึกษำ ส33202 สำหรบั นกั เรยี นชน้ั มธั ยมศึกษำปีท่ี 6 โรงเรยี นสตรปี ำกพนงั เพอ่ื เผยแพร่ควำมรูเ้กย่ี วกบั รำยวชิ ำโลกศึกษำ และผลกั ดนั กำรใชค้ วำมคดิ เพอ่ื สรำ้ งสรรคแ์ ละขบั เคลอ่ื นสงั คมไทย.
จ Contents หน่วยท่ี 5 กำรพง่ึ พำอำศยั กนั 44-55. Unit 5 : Interdependence / Test 5 หน่วยท่ี 6 ค่ำนยิ มและกำรตระหนกั รู้ 56-69. Unit 6 : Values and Perceptions / Test 6 หน่วยท่ี 7 กำรพฒั นำอย่ำงยงั่ ยนื 70-74. Unit 7 : Sustainable Development หน่วยท่ี 8 ควำมเป็นพลเมอื งโลก 75-78. Unit 8 : Global Citizenship หน่วยท่ี 9 ควำมขดั แยง้ ในศตวรรษท่ี 19-21 79-146. Unit 9 : Conflict in The 19th – 20th Centuries สรปุ ภำระงำนทต่ี อ้ งส่ง 147-148. Summary of Work แนะนำหนงั สอื ดี 149. Book’s Recommends บรรณำนุกรม 150. Bibliography ประวตั ผิ ูส้ อน / เรยี บเรยี ง 153. Biography Contact us มนุษยส์ รำ้ งสอ่ื .... มนุษยบ์ รโิ ภคสอ่ื .... Teacher bond ดงั นน้ั ..อย่ำ... [email protected] ปลอ่ ยใหส้ อ่ื เป็นผูใ้ ชเ้รำ Jiraponliwa ใชใ้ หเ้ป็น และสอ่ื จะเป็นเคร่อื งมอื ทรงประสทิ ธภิ ำพ....
จ Subject Details
ฉ Subject Details คำอธบิ ำยรำยวชิ ำ ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปี ท่ี 6 กล่มุ สำระกำรเรยี นรูส้ งั คมศกึ ษำ ศำสนำและวฒั นธรรม จำนวน 40 คำบ รำยวชิ ำ โลกศึกษำ ศึกษำ ความรูเ้ ก่ียวกบั สิทธิมนุษยชน ความหลากหลายทางชีวภาพ วฒั นธรรม ศาสนาและ ชวี ติ ความเป็นอยู่ ความเป็นธรรมในสงั คม การแกป้ ญั หาความขดั แยง้ การพ่งึ พาอาศยั ซง่ึ กนั และกนั ค่านยิ มและการตระหนกั รบั รูส้ ภาพการณ์ เพ่อื การพฒั นาท่ยี งั่ ยนื พฒั นาการคดิ และเน้อื หาเก่ียวกบั ประวตั ศิ าสตรแ์ ละปรชั ญาในการเป็นพลโลกในสถานการณ์โลกปจั จุบนั เพ่ือใหผ้ ูเ้ รียน มที กั ษะพ้นื ฐานในการส่ือสาร การคานวณ การใช้ ICT การแกป้ ญั หาและ การทางานร่วมกบั ผูอ้ น่ื เพ่ือใหผ้ ูเ้ รียน มีทกั ษะการเรียนรูแ้ ละการพฒั นาตน เห็นคุณค่าและเช่ือมนั่ ในตนเอง มี ทศั นะเชงิ บวกต่อการเรียนรู ้ จดั การและควบคุมตนเองได้ คดิ และวเิ คราะหอ์ ยา่ งมเี หตผุ ล เพ่อื ใหผ้ ูเ้ รียน มที กั ษะในการทางาน รูจ้ กั วางแผนกิจกรรมได้ ตรงเวลา มวี นิ ยั ทางานได้ ดว้ ยตนเอง จดั ลาดบั ความสาคญั ของงานและทางานไดต้ ามเวลา สามารถทางานร่วมกบั ผูอ้ ่นื ได้ เตรียมการทางาน ลว่ งหนา้ อยา่ งตง้ั ใจ และมคี วามยดื หยุน่ ในการทางาน มจี ริยธรรมในการทางาน เพอ่ื ใหผ้ ูเ้ รยี น มที กั ษะพลเมอื งและความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม มสี ว่ นร่วมกบั กจิ กรรมชมุ ชน และสงั คม เคารพความหลากหลายของสงั คม เห็นบทบาทและมสี ่วนร่วมในการสรา้ งใหเ้ กิดความ ยุติธรรมในสงั คม เห็นปญั หาสงั คมและเป็นผูน้ าการเปล่ยี นแปลง เขา้ ใจว่าสทิ ธิมาพรอ้ มกบั ความ รบั ผดิ ชอบ และปฏบิ ตั ติ ามสทิ ธินน้ั มขี นั ตติ อ่ ความหลากหลายและไมเ่ ลอื กปฏบิ ตั อิ ย่างมอี คติ ดว้ ยกระบวนกำร แสวงหาความรูด้ ว้ ยตนเองจากแหลง่ ความรูท้ ่หี ลากหลาย มคี วามสามารถ ในการคิดวิเคราะห์ คิดอย่างมวี ิจารณญาณ คิดสรา้ งสรรค์ มวี ิสยั ทศั น์ แสดงความคิดเห็นและ ยอมรบั ความคิดเห็นของผูอ้ ่ืน มีความสามารถสรา้ งและสรุปองคค์ วามรู ้ไดอ้ ย่างเป็นระบบ มกี าร เรียนรูแ้ ละเขา้ ใจผูอ้ ่นื มคี ่านิยมและคุณธรรมจริยธรรม สามารถสรา้ งทางเลอื กอย่างหลากหลายใน การแกป้ ัญหาดว้ ยตนเอง เห็นคุณค่าของตนเองและผูอ้ ่ืน มีความสามารถตดั สินใจไดอ้ ย่างมี ประสทิ ธิภาพ เป็นพลเมอื งดขี องสงั คมโลก
ช Subject Details ผลกำรเรยี นรูท้ ค่ี ำดหวงั และแผนกำรประเมินผล วชิ าโลกศกึ ษา ส 33202 ภาคเรยี นท่ี 1 อตั ราสว่ นคะแนนระหวา่ งภาค : คะแนนปลายภาค 70 : 30 เวลาเรียน 2 คาบ / สปั ดาห์ / 1.0 หน่วยการเรยี น คะแนนกำรประเมินผล หน่วย ผลกำรเรยี นรูต้ ำมตวั ช้ีวดั จำนวนคำบ ระห ่วำงภำค กลำงภำค ปลำยภำค รวม สทิ ธมิ นุษยชน 1. รูแ้ ละเขา้ ใจเร่ืองสทิ ธิมนุษยชน เหน็ คณุ ค่าในการรกั ษาและ 2 3 2 5 ปกป้องสทิ ธขิ องตนเองและผูอ้ ่นื ความหลากหลาย 2. รู ้ เขา้ ใจและยอมรบั ความเหมอื น ความแตกต่างของความ 2 3 2 5 หลากหลายทางชวี ภาพเช้อื ชาติ เศรษฐกิจ สงั คม วฒั นธรรม ศาสนาและชีวติ ความเป็นอยู่ และยอมรบั ผลกระทบของสภาพแวดลอ้ มท่เี กดิ ข้นึ ความเป็นธรรมใน 3. ตระหนกั ในความสาคญั ของความเสมอภาคและความ 2 3 2 5 สงั คม ยุตธิ รรมในสงั คม มสี ่วนร่วมในการสรา้ งความเป็นธรรม ในสงั คม การแกป้ ญั หาความ 4. รูแ้ ละเขา้ ใจธรรมชาติของความขดั แยง้ หาทางลดปญั หา 2 3 2 5 ขดั แยง้ ความขดั แยง้ โดยปราศจากความรุนแรง การพง่ึ พาอาศยั กนั 5. รูแ้ ละเขา้ ใจการพ่งึ พาอาศยั ซ่งึ กนั ระหวา่ งคน ธรรมชาติ 2 3 2 5 ส่งิ แวดลอ้ ม เศรษฐกจิ และสงั คมทม่ี ผี ลต่อความสมั พนั ธ์ ของชมุ ชนโลก ค่านิยมและการ 6. ประเมนิ ค่าเก่ยี วกบั ค่านิยมท่สี าคญั ระดบั โลกทม่ี ผี ลต่อ 2 3 2 5 ตระหนกั รบั รู ้ เจตคติและค่านยิ มของคนทเ่ี ก่ยี วขอ้ ง การพฒั นาอยา่ ง 7. รูเ้ขา้ ใจและมสี ว่ นร่วมในการรกั ษาและพฒั นาคุณภาพชวี ติ 2 3 2 5 ยงั่ ยนื โดยไมท่ าลาย เพอ่ื ความอยูร่ อดของชวี ติ รุ่นต่อไป ความเป็นพลเมอื ง 8. เสาะแสวงหาและสรา้ งองคค์ วามรูเ้ก่ยี วกบั การเป็นพลโลก 2 3 2 5 โลก ในสถานการณโ์ ลกปจั จบุ นั สถานการณ์ความ 1. รูแ้ ละเขา้ ใจเร่ืองสทิ ธมิ นุษยชน เหน็ คุณค่าในการรกั ษาและ 4 3 4 7 ขดั แยง้ ในศตวรรษท่ี ปกป้องสทิ ธิของตนเองและผูอ้ ่นื ภายใตก้ รอบของแนวคดิ 19 สทิ ธมิ นุษยชน 2. รู ้ เขา้ ใจและยอมรบั ความเหมอื น ความแตกต่างของความ 2 3 25 หลากหลายทางการเมอื งการปกครอง แนวคิด และชีวติ ความเป็นอยู่ และยอมรบั ผลกระทบจากพฤตกิ รรมของ มนุษย์
ซ Subject Details คะแนนกำรประเมนิ ผล หน่วย ผลกำรเรยี นรูต้ ำมตวั ช้ีวดั จำนวนคำบ ระห ่วำงภำค กลำงภำค ปลำยภำค รวม 3. ตระหนกั ในความสาคญั ของความเสมอภาคและความ 2 3 25 ยุตธิ รรมในสงั คม มสี ่วนร่วมในการสรา้ งความเป็นธรรม ในสงั คม สถานการณค์ วาม 4. รูแ้ ละเขา้ ใจธรรมชาตขิ องความขดั แยง้ หาทางลดปญั หา 2 3 25 ขดั แยง้ ในศตวรรษท่ี ความขดั แยง้ โดยปราศจากความรุนแรง 20 5. รูแ้ ละเขา้ ใจการพง่ึ พาอาศยั ซ่งึ กนั ระหวา่ งคน ธรรมชาติ 2 2 46 สง่ิ แวดลอ้ ม เศรษฐกจิ และสงั คมท่มี ผี ลต่อความสมั พนั ธ์ ของชมุ ชนโลก แนวทางการ 6. ประเมนิ ค่าเก่ยี วกบั ค่านยิ มท่สี าคญั ระดบั โลกทม่ี ผี ลต่อ 2 2 46 แกป้ ญั หาความ เจตคตแิ ละค่านิยมของคนท่เี ก่ยี วขอ้ ง ขดั แยง้ 7. รูเ้ขา้ ใจและมสี ่วนร่วมในการรกั ษาและพฒั นาคณุ ภาพชีวติ 2 2 46 โดยไมท่ าลาย เพ่อื ความอยูร่ อดของชวี ติ รุ่นต่อไป 8. เสาะแสวงหาและสรา้ งองคค์ วามรูเ้ก่ยี วกบั การเป็นพลโลก 2 2 35 ในสถานการณโ์ ลกปจั จุบนั สงครามเยน็ 1. รูแ้ ละเขา้ ใจเร่อื งสทิ ธมิ นุษยชน เหน็ คณุ ค่าในการรกั ษาและ 2 2 35 ปกป้องสทิ ธขิ องตนเองและผูอ้ ่นื มหาอานาจเด่ยี ว 2. รู ้ เขา้ ใจและยอมรบั ความเหมอื น ความแตกต่างของความ 2 2 35 (USA) หลากหลายทางชวี ภาพเช้อื ชาติ เศรษฐกิจ สงั คม วฒั นธรรม ศาสนาและชีวติ ความเป็นอยู่ และยอมรบั ผลกระทบของสภาพแวดลอ้ มท่เี กดิ ข้นึ การก่อการรา้ ย 3. ตระหนกั ในความสาคญั ของความเสมอภาคและความ 2 2 35 ยุตธิ รรมในสงั คม มสี ว่ นร่วมในการสรา้ งความเป็นธรรม ในสงั คม รวม 40 50 20 30 100 ท่ี คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์ คะแนนการประเมนิ 1. มคี วามรบั ผดิ ชอบ 100 2. มรี ะเบยี บวนิ ยั เคารพกฎหมาย และยดึ มนั่ ในวถิ ที างประชาธิปไตย 100 3. มคี วามขยนั หมนั่ เพยี รและพง่ึ พาตนเองได้ 100
ฌ Subject Details ใบงาน และ ใบความรู้ วธิ กี ารสง่ งาน รายวชิ า ส33202 โลกศึกษา เนน้ การมที กั ษะใน รายวชิ า ส33202 โลกศกึ ษา เป็นการ บูรณาการ การใชส้ ่อื อิเล็กทรอนิกสอ์ ย่างเหมาะสม ดงั น้ัน และประยุกต์วิชาเขา้ ดว้ ยกนั การส่งงานของ การรับใบงานและใบความรูใ้ นแต่ล่ะครั้ง นกั เรียนจะใชก้ ารส่งงานทาง e-mail adressได้ นกั เรยี นสามารถ download ไดจ้ ากเวป็ ไซตข์ อง ท่ี ครู ซ่ึงสามารถหาไดจ้ าก google โดยใชค้ าว่า [email protected] โดยการส่งงานแต่ละครงั้ “จริ พล ลวิ า” หรือ เขา้ จาก facebook เพอ่ื เขา้ ไป ส่งเป็น Google Doc หรือ Google Slide เพ่ือ ใชง้ านใน fan page ของครู Teacher Bond ความสะดวกในการตรวจสอบ หลงั จากกด like / ถกู ใจ แลว้ นกั เรียนสามารถ แลกเปล่ยี นขอ้ มูลข่าวสารและรบั ทราบการแจง้ **งานท่ีส่ง ควรเป็นการพิมพ์ ไม่ใช่ รายละเอียดต่าง ๆ ล่วงหนา้ เก่ียวกับวิชาโลก การ copy เน่ืองจากสามารถตรวจสอบได้ และ ศึกษาเพ่ือเตรียมตวั มาเรียนล่วงหนา้ ไดอ้ ย่าง ควรสง่ งานตรงตามเวลาทก่ี าหนด (ส้นิ สดุ การส่ง เหมาะสม งานแต่ ล่ะครั้งท่ีเวลา เท่ีย งคืน ของวันท่ี กาหนดใหส้ ่งงาน)
ญ Subject Details รายงาน และ การนาเสนอ การนาเสนอใชเ้วลา ในกำรนำเสนอ ไม่ เกิน 15 นาทีต่อ 1 กลุ่ม ในรูปแบบคลปิ วิดโี อ รายวิชา ส3202 โลกศึกษา มีการทารายงาน 1 ผ่าน YouTube เลม่ โดยเป็นรายงานกลุม่ ซ่งึ มรี ายละเอยี ดดงั น้ี ทงั้ น้ี นักเรียนเลือกกลุ่มในคาบท่ี 1 และ ก่อนการนาเสนอแต่ล่ะกลุ่มตอ้ งส่ง เลอื กหวั เร่ืองในการทารายงานดว้ ยการจบั สลาก รายงานทเ่ี สร็จสมบรู ณแ์ ลว้ ในรูปแบบ E-book. (ประชาธปิ ไตย) นกั เรยี นในแต่ล่ะกลุ่มดาเนนิ การศกึ ษา เน้ือหาเบ้ืองตน้ และส่ง โครงร่ำงรำยงำน ได้ ตง้ั แต่สปั ดาห์ท่ี 3 ของการเรียน และไม่เกิน สปั ดาหท์ ่ี 4 หลงั การศึกษารายงานตามหัวขอ้ ท่ี ไดร้ บั แลว้ นกั เรียนเตรียมตวั นาเสนอเร่ืองทไ่ี ป ศกึ ษาโดย ไม่จำกดั รูปแบบกำรนำเสนอ
ฎ Subject Details เคา้ โครงการศกึ ษาเรอื่ ง เคา้ โครงการศึกษา ................................. บทนา.........(ไม่ตอ้ งใสช่ ่อื บท)............. เอกสารอา้ งองิ เบือ้ งตน้ โดย .............................. บทท่ี ๑ .........(ใสช่ ือ่ บท)....... ...(ชื่อผแู้ ต่ง).. , ...(ชอื่ หนังสอื )... , (สานักพิม) , ปีทีพ่ ิมพ์ ................................ ๑.๑ ...(ชื่อผแู้ ตง่ ).. , ...(ชอื่ หนังสอื )... , (สานักพิม) , ปีทีพ่ ิมพ์ ................................ ๑.๒ ...(ชื่อผแู้ ตง่ ).. , ...(ชอื่ หนังสอื )... , (สานักพิม) , ปีทีพ่ ิมพ์ ** เรยี งตามตวั อกั ษร เคา้ โครงการศกษึ าฉบบั นี้เป็นสว่ นหน่งึ ของการศกึ ษารายวิชา ส๒๒๒๐๓ โลกศกึ ษา บทท่ี ๒.........(ใส่ชื่อบท)....... ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี ๒ โรงเรียนกลั ยาณีศรธี รรมราช ๒.๑ เอกสารอา้ งองิ เบื้องตน้ ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๕๓ ๒.๒ ปกเค้าโครงการศกึ ษา บทที่ ๓.........(ใส่ชื่อบท)....... ๓.๑ ๓.๒ บทที่ ๔ สรุป บรรณานกุ รม เคา้ โครงการศกึ ษา Theme ในการเขียน บรรณานุกรม โกวทิ ย์ วงศ์สุรวฒั น์ , กำรเมืองกำรปกครองสหรฐั อเมริกำ แนวพินิจทำงประวตั ิศำสตร์ , กรุงเทพฯ : สานกั พมิ พโ์ อเดยี นสโตร์ , ๒๕๔๘. สมร นิติทณั ฑ์ประภาส , สหรฐั อเมริกำในโลกปจั จุบนั ค.ศ. ๑๙๔๕ - ๑๙๘๐ เล่ม ๑ , กรุงเทพฯ : สานกั พมิ พโ์ อเดยี นสโตร์ , ๒๕๓๑. _______________ . สหรฐั อเมรกิ ำในโลกปจั จบุ นั ค.ศ. ๑๙๔๕ - ๑๙๘๐ เล่ม ๒ , กรงุ เทพฯ : สานกั พมิ พ์ โอเดยี นสโตร์ , ๒๕๓๑. แอลแลน เนวนิ ส์ และ เอนร่ี สตลี คอมเมเจอร์ , ประวตั ศิ ำสตรส์ งั เขปของสหรฐั อเมรกิ ำ ตอนท่ี ๓ , กรุงเทพฯ : สานกั พมิ พแ์ พร่พทิ ยา , ๒๕๑๘.
ฏ Subject Details ตวั อย่าง.....ลาดบั การนาเสนอในเล่มรายงาน รายงานเรือ่ ง คานา สารบญั ................................. บทที่ ๑ โดย .............................. .............................. ................................ ................................ รายงานฉบบั นี้เป็นสว่ นหนึ่งของการศึกษารายวิชา ส33202 โลกศกึ ษา บทนา ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6 โรงเรยี นสตรปี ากพนงั ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2562 สารบญั ภาพ สารบญั ตาราง บทที่ ... ภาคผนวก บรรณานกุ รม สรุป ..............................
ฐ Subject Details 1. ใหน้ กั เรยี นแบ่งกลุ่มออกเป็น 5 กลมุ่ ตามอธั ยาศยั 2. ใหน้ กั เรยี นใชเ้วลาในการปรกึ ษาหารอื เพอ่ื พจิ ารณาเลอื กหวั ขอ้ รายงานตามเงอ่ื นไขดงั ต่อไปน้ี 2.1 เน้ือหาของรายงานอยู่ในขอบเขตของเวลาตงั้ แต่ ปี ค.ศ. 1914 ถงึ ปี ค.ศ.1949 2.2 ประเด็นทนี่ ามาเป็นกรณีศกึ ษาในรายงานตอ้ งไม่ซา้ กนั 2.3 สถานการณท์ นี่ ามาศึกษาตอ้ งสามารถอธบิ ายถึงความเกย่ี วเนื่องกบั 8 ประเด็นหลกั ของโลกศึกษา 2.4 สถานการณท์ นี่ ามาศึกษาอาจจะเป็นบทบาทขององคก์ ร หรือ ความขดั แยง้ หรืออน่ื ๆ กไ็ ด้ 2.5 ไม่จากดั พ้นื ทศ่ี ึกษา อาจจะเป็น ยุโรป เอเชีย อเมริกา หรือ แอฟริกา กไ็ ด้ เงอ่ื นไขทง้ั 5 ขอ้ ขา้ งตน้ คอื กรอบแนวทางการศกึ ษา ทน่ี กั เรยี นตอ้ งคดิ และหาประเดน็ ทน่ี ่าสนใจ 3. ใหน้ กั เรียนส่ง เคำ้ โครงกำรศึกษำ ครงั้ ท่ี 1 ภายใน สปั ดาหท์ ่ี 3 ของการเปิดเรียน และ ไม่ใหเ้กิน สปั ดาหท์ ่ี 4 ของการเปิดภาคเรยี น และปรบั ปรงุ แกไ้ ขภายในระยะเวลา 2 เดอื น ปิดการรบั สง่ เคา้ โครงการศึกษา ในสปั ดาหท์ ่ี 8 ของการเปิดภาคเรียน 4. การเลอื กประเดน็ ศกึ ษา นกั เรยี นสามารถปรึกษาครูไดต้ ลอดเวลา ทงั้ ในและนอกเวลาเรยี น
ฑ Subject Details ความดแี ละประโยชนท์ ง้ั หมดของหนงั สอื เลม่ น้ถี า้ มี ขา้ พเจา้ ขอมอบใหก้ บั นางยุพาภรณ์ ลวิ า แม่ และ ครูคนแรกของขา้ พเจา้
1 Cover Story ทฤษฎีสันติภาพ มีนักวิชาการมา1กมายหลาย ซ่งึ เราจะเรียกลักษณะของสังคมดังท่ีกล่าวมา ท่านได้ทาการศึกษาทฤษฎีสันติภาพไว้อย่าง นว้ี า่ เป็นสงั คมท่มี ีความสนั ตสิ ุข กว้างขวาง แต่ละท่านก็พ ยายามจะอธิบาย ดั ง น้ั น ก่ อ น ท่ี เร า จ ะ เริ่ ม ก า ร คิ ด วิ เค ร า ะ ห์ ความหมายและตคี วามคาวา่ \"สนั ติภาพ\" ในแง่มุมที่ องคป์ ระกอบของสันติภาพเราจาเป็นจะต้องเรยี นรู้ ต่างกนั ออกไป เก่ียวกับประวตั ิความเปน็ มาและปรัชญาของทฤษฎี แง่มุมของสันติภาพที่น่าสนใจแง่มุมหนึ่งก็คือ สันติภาพเสียกอ่ น สันติภาพในมุมมองของสังคมศาสตร์ การวิเคราะห์ สภาพของสันตภิ าพและแนวทางในการทาให้บุคคล ใน สั ง ค ม ได้ ต ร ะ ห นั ก ถึ ง แ น ว ท า ง แ ล ะ เป้ า ห ม า ย ร่วมกันอนั จะนาไปสู่สงั คมท่มี คี วามสงบสุขและสันติ ภาพที่ 1 : Peace Dolly นัน้ ย่อมจะเปน็ วิธีท่พี ึงประสงค์ ท่มี า : http://fc07.deviantart.net/fs27/f/2008 ทฤษฎีสันติภาพในมุมมองของนักสังคมวิทยา /080/a/f/Peace_Doodle_by_Kacedilla.jpg แท้จรงิ แล้วกค็ ือการศกึ ษาธรรมชาติของมนุษย์และ ธรรมชาติของสังคมมนุษย์ท่ีมีความโน้มเอียงไปใน การเกื้อกูลกัน พ่ึงพากัน พร้อมที่จะยอมรับซ่ึงกัน และกัน รวมถึงการอยู่ร่วมกันของมนุษย์โดย 1 ปเอรกาศพจันาธกุ์ คปวิณาฑมรวนุณแิชรง,ใดนรท.ุก,รเปู อแกบสบารประกอบการบรรยายทฤษฎีสนั ติภาพ , กรุงเทพฯ : ศนู ย์ศึกษา และพัฒนา สันติวธิ ี มหาวิทยาลัยมหิดล , 2553.
2 Cover Story ปรชั ญาสนั ตภิ าพในโลกตะวนั ตก ด้วยแนวคิดเช่นนี้อาจจะกล่าวได้ว่า กูสมันได้รับ อิทธิพลทางความคิดด้านปรัชญา สันติภาพ สิทธิ มีนักวิชาการชาวตะวันตกหลายท่านที่พยายามจะ มนุษยชน และการพัฒนาศักยภาพของมนุษย์จาก อธบิ ายปรัชญาของทฤษฎสี ันติภาพแต่ในที่น้ผี เู้ ขียนจะ แนวคิดแล ะปรัชญ าของ เอมมานูเอล ค าน ท์ กล่าวถึงนักวิชาการท่านหนึ่งที่มองสันติภาพในเชิง (Immanuel Kant) ผู้ซ่ึงได้รับการยอมรับว่าเป็นนัก สร้างสรรค์ ท่านน้ีคือ ศาสตราจารย์ วิเซนต์ มาติเนส ปรัชญาที่นิยามความหมาย ของสันติภาพในเชิง กูสมัน (Vicent Martinez Guzman) ผู้ซึ่งนับได้ว่า สร้างสรรค์เป็นคนแรกๆ ทฤษฏีสาคัญของนักปรัชญา เป็นนักปรัชญาสันติภาพท่ีมีช่ือเสียงท่านหนึ่งในโลก ท่านน้ีที่ถูกหยิบยกขึ้น มาอ้างถึงในงานเขียนของ กู แห่งวิชาสันติศึกษาศาสตราจารย์ วิเซนต์ มาติเนส กู สมัน คือ \"สันติภาพอันสถาพร\" (Perpetual Peace) สมัน ได้บรรยายเกี่ยวกับปรัชญาสันติภาพไว้ใน แ ล ะ \" เป้ า ป ร ะ ส ง ค์ แ ห่ ง ก ฎ ที่ เป็ น ส า ก ล \" ห นั งสือ \"ป รัช ญ าเพ่ื อก ารส ร้างสั น ติภ าพ (ท่ี (Cosmopolitan intent) ซ่ึงแนวปรัชญาท้ังสองน้ีได้ หลากหลาย)\" (Filosofia para hacer las paces) ให้นิยาม ของความสามารถของมนุษย์ในการที่จะทา การใดๆท่ีจะเป็นคุณแก่ผู้อ่ืน กิจกรรมใดๆท่ีทาโดย โดยมีการวิเคราะห์เกี่ยวกับสันติภาพและการ บุคคลใดๆกต็ ามต่างกอ็ ยู่ภายใต้เจตจานง และผลแห่ง พัฒนา โดยเน้ือหานั้นจะรวมถึงวิวัฒนาการของ สันติ การกระทาท่ีผู้อื่นน้ันรับรู้ เข้าใจ และนับว่ากิจกรรม ศึกษาในโลกตะวันตก ไปจนถึงการเช่ือมโยงการใช้ นั้นๆเป็นคุณ ด้วยจึงจะนับว่ากิจกรรมนั้นๆเป็น สันติวธิ ีและการพัฒนาสงั คมในบริบทของโลกที่พัฒนา คณุ ธรรม แล้ว กาลงั พัฒนา และด้อยพัฒนากูสมันให้นิยามของ สันติภาพไว้ว่า \"สันติภาพนั้นเกิดจากการต่ืนตัวของ ในงานเขียนของกูสมัน เขาอ้างอิงนักสันติ ผู้คนในแต่ละชุมชนท่ีจะสร้างสังคมแห่งสันติสุขใน ศึกษาที่โด่งดังท่านหน่ึง คือ โจฮัน เกาล์ตุง (Johan บริบทของแต่ละชุมชนเอง\" ในภาษาสเปน คาว่า Galtung) ผู้ซ่ึงได้ช่ือวา่ เป็นบิดาของสนั ติศึกษายุคใหม่ สันติภาพ (Paz) สามารถใช้ในรูปของพหูพจน์ได้ ดังนั้นผู้เขียนจึงนาแนวคิดของ นักสันติศึกษาท่านน้ี เพราะฉะน้ันความหมาย ของคาว่า \"Paces\" นั้นก็คือ มาอธิบายพอสังเขป โดยบทความน้ีได้สรุปความจาก ความห ลากห ลายของสันติภ าพ สันติภ าพใน หนังสือของ เกาล์ตุงท่ี โด่งดังเล่มหนึ่งคือ \"สันติภาพ หลากหลายบริบท และรูปแบบของสันติภาพท่ีสร้าง โดยสันติวิธี\" (Peace by Peaceful Means) การ ขึ้นและดารงอยโู่ ดยผู้คนในแต่ละกลุ่มชน อธิบายความคิดและปรัชญาสันติภาพของ เกาล์ตุงจะ ทาให้เกิดความเช่ือมโยงในแนวคิดของ กูสมันและ นอกจากนั้น กูสมัน ได้เชอ่ื มโยงแนวคิดของสันติ นยิ ามตา่ งๆของสนั ตศิ กึ ษาไดด้ ยี งิ่ ขนึ้ ศึกษาในแง่มุมและมุมมองต่างๆเข้าด้วยกัน แนวคิด ทั้งหลายเหล่านี้ กูสมันเช่ือว่าจะเป็นแนวทางที่จะ สร้างสรรค์สภาพแวดลอ้ มทางสังคมอันสันติสุขตั้งแต่ ชุมชนขนาดเล็กจนถึงระดับชุมชนโลก หลักความคิด ทางสันตศิ ึกษาเหล่านีต้ ัง้อยู่บนรากฐานท่ีว่ามนษุ ย์น้ัน มีศักยภาพในการสร้างสรรค์และทาลาย ทฤษฎีและ แนวทางการปฏิบัติทางสันติวิธีท่ีสร้างสรรค์จะช่วย นาพาใหม้ นุษย์ คดิ และทาในสิง่ ทีเ่ ป็นคุณประโยชนต์ ่อ ตนเองและสิ่งแวดล้อมรอบตัว และคุณประโยชน์ที่ เกิดข้ึนน้ันก็จะส่งผลให้มีวิวัฒ นาการของสันติ วฒั นธรรมขึ้นในสังคมมนษุ ย์
3 PRE - Test 1. ข้อใดคือรากฐานแนวคิดเรอื่ งสิทธมิ นษุ ยชน ก. หลกั ธรรมทางศาสนา ข. แนวคิดเรื่องสทิ ธขิ ้นั พ้ืนฐานในรัฐธรรมนูญ ค. การพัฒนาสังคมและความเปน็ อยู่ของมนุษย์ ง. สัญชาตญาณของมนุษย์ในการเอาตัวรอด 2. ข้อใดคือความหมายของ \"ความหลากหลาย\" ก. ความแตกตา่ งของส่ิงมชี ีวติ ในสังคม ข. ความแตกต่างและนาไปสูค่ วามขัดแยง้ ค. วถิ ชี วี ติ และประวตั ิศาสตร์ ทเี่ ป็นแบบแผนเฉพาะ ง. แบบแผนเฉพาะของสงั คมและทอ้ งถน่ิ ในเรอื่ งของอาชีพ 3. ขอ้ ใดคอื ความหมายของคาวา่ ความเสมอภาคทางสงั คม ก. การปฏบิ ัติตอ่ บุคคลอย่างเทา่ เทยี มกนั ข. สทิ ธิไดร้ บั ความคุ้มครองข้นั พนื้ ฐานเทา่ เทียมกนั ค. สิทธิพ้นื ฐานระหวา่ งมนษุ ย์ ท่ปี ฏิบัติกนั ดว้ ยความเคารพ ง. ทกุ คนมคี วามเสมอภาคเทา่ เทียมกนั ในสิทธิพืน้ ฐานที่จาเปน็ 4. ขอ้ ใดต่อไปนีไ้ มใ่ ชล่ ักษณะของความเสมอภาคในโอกาส ก. การศึกษา ข. การจ้างงาน ค. การเขา้ ถงึ การแพทย์ ง. การเลือกชาติพนั ธ์ุ 5. ข้อใดคอื ที่มาของการเกิดความขดั แยง้ ในโลกต้ังแต่สมยั ก่อนประวตั ศิ าสตร์ทถ่ี กู ต้องท่สี ุด ก. มนุษย์มสี ัญชาตญาณแบบสัตว์ ข. มนุษยม์ สี ัญชาตญาณของการแย่งชงิ ค. มนุษยม์ ีสญั ชาตญาณของการเอาตวั รอด ง. มนุษย์มสี ญั ชาตญาณของการเอารดั เอาเปรยี บ 6. ความขดั แย้งทเ่ี กิดขึน้ ในระดับใดทีเ่ ปน็ ประเด็นปญั หาที่จะทาให้เกดิ ความวนุ่ วายได้มากที่สุด ก. ระดับตัวบคุ คล ข. ระดบั ระหว่างรฐั ค. ระดับระหว่างองคก์ ร ง. ระดับระหว่างตัวบคุ คล
4 PRE - Test 7. ข้อใดคอื ความหมายของคาว่า ความขัดแยง้ ก. ความไมล่ งรอยกันระหวา่ งตัวบุคคล ข. ความไม่พอใจในการตดั สนิ ใจของคณะบุคคล ค. ความวุ่นวายภายในประเทศและภายนอกประเทศ ง. การตอ่ ส้รู ะหว่าง ๒ ฝา่ ย เพือ่ ขัดขวางการบรรลเุ ป้าหมาย 8. ปัจจุบันเด็กไทยนยิ มแก้ปญั หาด้วยการใช้ความรุนแรงเพ่มิ มากข้ึน ข้อใดคือปัจจยั หลักท่ที า ใหเ้ กดิ สภาวการณด์ ังกล่าว ก. ปญั หาครอบครวั ข. ปญั หาสงั คม ค. ปญั หาการศึกษา ง. ปญั หาเศรษฐกิจ 9. การใช้สอื่ ออนไลน์มบี ทบาทต่อการติดต่อส่ือสารระหว่างสังคมมากข้ึน และเป็นอีกเหตุผลที่ ทาให้เกิดปัญหาตามมาข้อใดไม่ใช่ปัญหา โดยตรง ท่ีเกิดจากการใช้ส่ือออนไลน์อย่างไม่ เหมาะสม ก. ปัญหาการขม่ ขืน ข. ปญั หาการสร้างข่าวเทจ็ เพอ่ื ผลประโยชน์ ค. ปัญหาเร่อื งการละเมดิ สิทธิมนุษยชน ง. ปัญหาความเสอื่ มโทรมทางสงิ่ แวดลอ้ ม 10. ข้อใดสาคญั ท่สี ุดในการดารงตนเองในฐานะ มนษุ ยท์ ่ีสมบูรณ์ ก. การรู้จกั เคารพสทิ ธขิ องผู้อ่ืน ข. การร้จู กั และเข้าใจความหลากหลาย ค. การยุติปญั หาความขัดแยง้ โดยสันติวิธี ง. การเชื่อมนั่ และปฏิบตั ิตามความเปน็ ธรรมในสงั คม 11. ในระหว่างสงครามโลกคร้ังที่ 2 ขบวนการใดท่ีเกิดข้ึนและได้ส่งผลให้ประเทศในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉยี งใตไ้ ดร้ ับเอกราช และมีผลต่อการจดั การรปู แบบการเมืองการปกครอง สมัยใหม่ ก. ปจั เจกชนนยิ ม ข. ชาตินิยม ค. มนุษยนยิ ม ง. สงั คมนิยม 12. ข้อใดไมใ่ ช่ผลกระทบของ ลทั ธิดาร์วนิ ” ก. การเกิดแนวคิดทางการคา้ สมยั ใหม่ของระบบทุนนิยม ข. ความเจริญก้าวหน้าทางชวี วทิ ยา ค. การฆ่าล้างเผา่ พนั ธุ์ ง. การขยายตวั ของลัทธิสงั คมนิยม
5 PRE - Test 13. ข้อใดไมส่ มั พันธ์กับการเรยี กร้องเอกราชของอนิ เดีย ก. ลัทธิไตรราษฎร์ ข. ขบวนการสวาเทสิ ค. หลักการสัตยาเคราะห์ ง. วธิ ีการด้ือแพง่ 14. สหรัฐอเมรกิ าประกาศสงครามกบั เยอรมนใี นสงครามโลกครง้ั ท่ี 1 เน่ืองจากสาเหตุในข้อใด ก. ผู้นาทางการเมอื งคนสาคญั ของอเมริกาถูกลอบสังหาร ข. สหรฐั อเมรกิ าตอ้ งการรักษาสนั ตภิ าพของโลก ค. สหรัฐอเมริกาปฏบิ ตั ิตามพันธะสัญญาทใี่ หไ้ ว้กับองั กฤษ ง. แผนการของอเมริกาท่จี ะป้องกนั เวียดนามใต้ 15. ความขดั แย้งทางการเมอื งของศรลี งั กาในปจั จุบันเกดิ จากสาเหตุใดมากท่ีสุด ก. ความขดั แย้งของนกั การเมอื ง ข. ปัญหาความตกต่าทางเศรษฐกิจ ค. ปญั หาการแทรกแซงทางการเมอื งจากอนิ เดยี ง. ปญั หาความแตกตา่ งทางเช้ือชาตแิ ละศาสนา 16. ภายหลังการเกิดสงครามโลกคร้ังท่ี 2 วิกฤตการณ์ใดเกิดขน้ึ ตามมา ก. สงครามเย็น ข. การเพ่ิมข้นึ ของประชากร ค. ประเทศมหาอานาจแขง่ ขนั กนั แสวงหาอานาจ ง. สภาพเศรษฐกจิ ทั่วโลกตกต่า 17. หน่วยงานใดในองค์การสหประชาชาติท่ีแต่งต้ังนายอังตอนียู กูแตรึช เป็นเลขาธิการ สหประชาชาติ ก. คณะมนตรีความมนั่ คง ข. คณะมนตรีเศรษฐกิจและสังคม ค. สมัชชาใหญ่แห่งสหประชาชาติ ง. องคก์ รสาคัญท้งั 6 ของสหประชาชาติ 18. ในระหว่างสงครามโลกคร้ังที่ 2 การประชุมคร้ังใดเป็นการสะท้อนให้เห็นถึงการพยายาม แกป้ ัญหาทางเศรษฐกจิ ก. ดันบาร์ตนั โอ๊คส์ ข. ซานฟรานซิสโก ค. ยัลตา ง. เบรตตนั วูดส์ 19. บทบาททส่ี าคญั ทสี่ ุดของการพยายามจดั ต้งั องค์การระหวา่ งประเทศคือข้อใด ก. ลดแนวโน้มการเกดสงครามโลก ข. เพิม่ ความเขม็ แขง็ ในการต่อรอง ค. สร้างความเปน็ รัฐเดยี่ วให้สาเร็จ ง. แกไ้ ขปญั หาเศรษฐกิจตกต่า
6 PRE - Test 20. สันติภาพจะเกิดไดด้ ้วยการประทาในข้อใดมากทสี่ ดุ ก. การทาสงคราม ข. การเจรจาต่อรอง ค. การสร้างกาลังทางทหาร ง. การพดู คุยกอ่ นเกดิ ความขดั แยง้ 21. ข้อใดไม่เก่ยี วขอ้ งกบั การลม่ สลายของสหภาพโซเวียตและการยตุ สิ งครามเยน็ ก. การพังทลายกาแพงเบอร์ลิน ข. การใช้นโยบายเปเลสทรอยกาและกลาสนอส ค. การหนั สรู่ ะบอบประชาธปิ ไตยของประเทศยุโรปตะวนั ออก ง. การใชห้ ลกั การอยู่ร่วมกันโดยสนั ติ ของ นีกีตา กรุชชอฟ 22. ข้อใดคือปัญหาและอปุ สรรคขององคก์ ารสหประชาชาติ ในการรักษาสันตภิ าพโลกในปัจจบุ ัน ก. อเมรกิ ามบี ทบาทมากขึ้นในการดาเนนิ งานเพือ่ รักษาสันตภิ าพของโลก ข. ความร่วมมอื และความชว่ ยเหลอื จากประเทศสมาชกิ ทม่ี ฐี านะมั่นคงลดน้อยลง ค. องค์การระหว่างประเทศในภูมิภาคต่างๆมีบทบาทมากข้ึนในการประสานความร่วมมือ ระหว่างประเทศเพื่อรกั ษาสันตภิ าพ ง. ขอบข่ายการดาเนินงานรักษาสันติภาพขององค์การสหประชาชาติกว้างขวางและมี ปรมิ าณมากข้นึ 23. ปญั หาความสมั พันธ์ระหวา่ งประเทศในปจั จบุ ันมแี นวโนม้ ในลักษณะใด ก. การทาสงครามทางเศรษฐกิจ ข. การทาสงครามลา้ งเผ่าพันธ์ุ ค. การแข่งขันสรา้ งอาวธุ ปรมาณู ง. การเผชญิ หน้าทางอดุ มการณ์การเมอื ง 24. ขอ้ ใดเปน็ สาเหตทุ ส่ี าคญั ทสี่ ดุ ของความขัดแยง้ ระหว่างประเทศในยุคสงครามเยน็ ก. การแย่งชิงทรพั ยากรระหว่างประเทศต่าง ข. ความแตกต่างของอดุ มการณ์การเมอื งของประเทศมหาอานาจ ค. การแข่งขนั กนั เป็นใหญใ่ นภูมิภาคของประเทศตา่ ง ๆ ง. ความแตกตา่ งทางศาสนา และเช้อื ชาติของประเทศมหาอานาจ 25. ในกรณีท่ีเกิดปัญหาข้อพิพาทระหว่างประเทศ รัฐแต่ละรัฐควรใช้แนวทางแก้ไขปัญหา อย่างไรจงึ จะถูกต้องเหมาะสม ก. ใชย้ ุทธวธิ ีสงครามเยน็ ข. วิธีทางการทูตและการเมือง ค. ใชว้ ิธกี ารปิดลอ้ มทางเศรษฐกจิ ง. ใช้วิธีทางกฎหมายระหว่างประเทศ
7 PRE - Test 26. ภาวะของสงครามเยน็ ที่มมี าต้ังแตโ่ ลกครงั้ ที่ 2 ส้ินสุดลงปจั จุบันเพราะเหตุใด ก. การรวมเยอรมนีเป็นประเทศเดยี วกัน ข. การส้นิ อานาจของกอร์บาชอฟแหง่ โซเวยี ต ค. การลม่ สลายของสหภาพโซเวยี ต ง. การกา้ วขนึ้ สอู่ านาจของประธานาธบิ ดีคลนิ ตันแหง่ สหรัฐอเมริกา 27. นโยบายกลาสนอสท์ - เปเรสทรอยกา ในสมัยประธานาธิบดีกอร์บาชอฟของสหภาพโซเวียด ซ่ึง ประกาศใชเ้ มอ่ื ค.ศ.1988 มีจดุ ม่งุ หมายอยา่ งไร ก. การปฏิวัติอตุ สาหกรรมสมัยใหม่ ข. ยกระดับมาตรฐานชวี ิตความเปน็ อย่ขู องประชาชนให้สงู ข้ึน ค. ยกเลกิ อุดมการณค์ อมมวิ นสิ ตแ์ บบเกา่ ง. ปฏริ ปู บา้ นเมอื งใหม้ ีลักษณะเสรีมากขน้ึ 28. สหภาพโซเวยี ตลม่ สลายเกดิ จากสาเหตุใด ก. ผลิตอาวุธนวิ เคลยี ร์จงึ ถูกทั่วโลกรวมตัวกนั ทาสงคราม ข. ปรับเปล่ียนประเทศในภูมิภาคยุโรปตะวันออกเป็นระบอบการปกครองเป็นแบบสังคมนิยม คอมมวิ นสิ ต์ ค. พ่ายแพ้สงครามทีส่ ู้รบกบั สหรฐั อเมริกา ง. ประเทศเลอื่ มโทรมเพราะถกู อาวธุ เชอ้ื โรคจากประเทศมหาอานาจที่ทาสงครามระหวา่ งกัน 29. ในสภาพปัจจุบัน การที่จะเป็นมหาอานาจของโลกได้จะต้องมุ่งเน้น และพัฒนา ตลอดจน ครอบครองความเป็นใหญท่ างด้านใดจึงจะมศี ักยภาพมากทส่ี ุด ก. อาวุธนวิ เคลยี ร์ ข. ดินแดน ค. อดุ มการณ์ทางการเมอื ง ง. เศรษฐกิจ 30. ข้อใด มใิ ช่สาเหตุทีท่ าให้สภาพโซเวียตและสาธารณรฐั ประชาชนจีนแตกแยกกนั ก. เกดิ กรณพี ิพาททางชายแดน ข. ขดั แยง้ กันทางอดุ มการณ์ ค. แขง่ ขันกันเป็นผู้นาคอมมิวนสิ ต์ ง. สหภาพโซเวยี ตงดใหค้ วามช่วยเหลอื
1 7 Unit 1 Human Right
81 Unit 1 Human Right 1. สทิ ธมิ นุษยชน :: ความหมาย 2. สทิ ธมิ นุษยชน :: ความสาคญั Human Right หมายถงึ สิทธิของความ สิทธิมนุ ษ ยชน มีรากฐานท่ีสาคัญ คือ เป็นมนุษย์ สิทธิของความเป็น คน ทีท่ ุกคน ศั ก ด์ิ ศ รี ค ว า ม เป็ น ม นุ ษ ย์ (Human มตี ิดตวั มาตงั้ แต่เกิด เป็นสิทธิทีไ่ ม่สามารถ Dignity) ท่มี นุษยท์ กุ คนมเี ท่าเทยี มกนั การ ถ่ายโอนใหผ้ ูใ้ ดได้ เป็นสิทธิที่ บุคคลอื่น ปฏิบตั ิต่อกนั ระหว่างมนุษยจ์ ึงตอ้ งเป็นการ องคก์ ร รฐั ไม่สามารถล่วงละเมิดได้ และ ปฏิบตั ิท่ีใหค้ วามเสมอหนา้ แก่กันและกนั เป็นสทิ ธิทีไ่ ม่ถูกจากดั อยู่ดว้ ย เช้ือชาติ สผี ิว ดงั นนั้ การประทุษรา้ ย การดูหม่ินเหยียด อายุ เพศ ศาสนา ความมงั่ คงั่ หรือยากจน หยาม หรือการกระทาใด ๆ ท่ที าใหม้ นุษย์ ค วาม พิ ก ารห รือค วาม ส ม บู รณ์ หรือ เส่ือมเสียศักด์ิศรีความเป็นมนุษย์ จึงเป็น สถานภาพทางสงั คม ใด ๆ ทงั้ ส้นิ 1 การละเมดิ สทิ ธิมนุษยชน 1 ภิญโญ ตนั พิทยคุปต์, ผศ., พลวตั สงั คมโลก , เอกสารประกอบการสอน , คณะมนุษยศาสตรแ์ ละ สงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลยั ทกั ษณิ . 2549. หนา้ 73.
1 9 Unit 1 Human Right ประเดน็ สาคญั ของ \"สทิ ธมิ นุษยชน\"... 1. สิทธิมนุษยชนและศกั ด์ิศรีความเป็น มนุ ษย์ ไม่มีบุคคล องค์กร หรือรัฐ กาหนด เป็นสิทธิท่ีติดตวั มาแต่กาเนิด \"สิทธิมนุษยชน เริม่ จากครรภม์ ารดาถึง 2 เชงิ ตะกอน\" 2. สิทธิมนุษยชนเป็ นสิทธิของบุคคล และในขณะเดยี วกนั บคุ คลอน่ื ๆ ก็มสี ทิ ธิ มนุษยชนเช่นเดียวกนั ดงั นัน้ ขอบเขต ของสิทธิมนุษยชน จึงมีกรอบความคิด ทว่ี ่า \"บคุ คลมสี ิทธิและเสรีภาพของตนเอง ตราบเท่าทไี่ ม่ละเมิดสิทธิและเสรีภาพของ บคุ คลอนื่ \" สิทธิมนุษยชนไดร้ บั การคุม้ ครองจากรฐั ดว้ ยการออกกฎหมาย และมีรฐั ธรรมนูญ เป็นเคร่ืองมือหลกั ในการรบั รอง ซ่ึงเป็นไป ตามอนุสญั ญาและปฏญิ ญาระหวา่ งประเทศ 2 สุทนิ นพเกตุ , สทิ ธิมนุษยชนศึกษา :; ยุทธศาสตรส์ ู่วฒั นธรรมและวิถชี ีวิต สทิ ธิมนุษยชนและสุจรติ ชน , สานกั งานคณะกรรมการสทิ ธมิ นุษยชนแห่งชาต.ิ 2548. หนา้ 56.
10 1 Unit 1 Human Right 3. ท่มี าของแนวคดิ สทิ ธิมนุษยชน แนวคิดเร่ืองสิทธิมนุษยชนไม่ใช่เป็ น ในยุคท่ีศาสนาเร่ิมเขา้ มามีบทบาทใน แนวคิดท่ีมาจากตะวนั ตก (ยุโรป) หรือมา ชีวิตประจาวนั มากข้ึน มีการกล่าวถึงสิทธิ จากตะวนั ตก (เอเชีย) แต่เพยี งทวปี ใดทวีป มนุษยชนเอาไวใ้ นคมั ภรี ข์ องทกุ ศาสนา แม้ หน่ึง แต่เป็ นแนวคิดพ้ืนฐานท่ีตั้งอยู่บน จะไม่ไดเ้ ป็นการกลา่ วโดยตรงแต่เน้ือหาโดย รากฐานของความเช่ือของมนุษยม์ าชา้ นาน สรปุ ก็เป็นการกล่าวถงึ สทิ ธิมนุษยชน / สทิ ธิ ต้ังแต่มนุ ษย์ยังไม่มีศาสนาในยุคก่อน ขน้ั พ้นื ฐานของมนุษยน์ น้ั เอง ประวตั ิศาสตร์ มนุษยเ์ รียนรูท้ จ่ี ะรกั ษาสทิ ธิ ของตนเองจากการเอาตวั รอดในสภาวะแหง้ แลง้ รอ้ นจดั หนาวจดั และอดยาก แมว้ า่ จะ เป็นการละเมดิ สทิ ธิของผูอ้ ่นื บา้ ง แต่ก็นบั ได้ ว่าเร่ิมเรียนรูโ้ ดยไม่รูต้ วั แลว้ ถึงความเป็น สทิ ธมิ นุษยชน ภาพท่ี 2 : การแสดงออกถงึ ลกั ษณะนิสยั ของชาวตะวนั ตก ท่ตี ่นื ตวั เร่อื งสทิ ธิมนุษยชน ทม่ี า : http://absarahmed.files.wordpress.com/2009/12/human-rights.jpg
1 11 Unit 1 Human Right ค า ส อ น ศาสนาอสิ ลาม กล่าวไวใ้ นคมั ภีรอ์ ลั กุรอ่าน \"สูเจา้ จะปฏิเสธอลั ลอฮไ์ ดไ้ ฉน มสุ ลมิ เมอื่ สูเจา้ ปราศจากชีวิตแลว้ พระองคใ์ หส้ ูเจา้ มีชวิ ติ แลว้ พระองค์ ใหส้ ูเจา้ ตาย และพระองคท์ าใหส้ ูเจา้ มีชีวิตอีกครงั้ และเจา้ จะ กลบั คืนสู่พระองค\"์ และ \"มนุษยเ์ อย๋ แทจ้ ริงพระผูอ้ ภิบาลของ พวกท่านนั้ มีเพียงองคเ์ ดียวเท่านนั้ และบิดาของท่านก็เป็นคน เดียวกนั เพราะท่านทงั้ หลายเป็นลูกหลานของอดมั และอดมั นนั้ ถูก สรา้ งมาจากดิน แน่นอนผูท้ ี่ดีที่สุดในพวกท่านตามทัศนะ ของอลั ลอฮน์ นั้ คือ ผูท้ ีส่ ารวมตนใหพ้ น้ ความชวั่ ชาวอาหรบั ที่ดี ทีส่ ุดนนั้ ไม่ไดด้ ีกว่าชนชาติอืน่ ชนชาติอืน่ ก็ไม่ไดด้ ีกว่าชาวอาหรบั คนผิวดาและคนผิวขาวก็ไม่ไดด้ ีกว่ากนั โดนขอ้ แตกต่างเหล่านนั้ เวน้ แต่จากการสารวมตนใหพ้ น้ ความชวั่ \" ภาพท่ี 3 : หญงิ สาวชาวมสุ ลมิ ทด่ี าเนินชวี ติ ตามหลกั สทิ ธมิ นุษยชนและคมั ภรี อ์ ลั กรุ อ่าน ทม่ี า : นางสาวนาสนีน จนั ทรวโิ รจน์ ศิษยเ์ ก่าโรงเรยี นกลั ยาณีศรธี รรมราช รุ่น 87.
12 1 Unit 1 Human Right ศาสนาครสิ ต์ คาสอนครสิ เตยี น กล่าวถงึ ในคมั ภรี ไ์ บเบลิ ว่า \"พระผูเ้ป็นเจา้ ทรงสรา้ ง มนุษยใ์ หต้ า่ กว่าพระองค์แต่หน่อยเดียว และสวม ศกั ดิศ์ รีกบั เกียรติใหแ้ ก่เขา พระองคท์ รงมอบอานาจให้ ครอบครองบรรดาพระหตั กิจของพระองค์ พระองค์ ทรงใหส้ ิง่ ทงั้ ปวงอยู่ใตฝ้ ่ าเทา้ เขา\" และ \"พระผูเ้ ป็นเจา้ ทรงสรา้ งมนุษยข์ ้ึนตามฉายาของพระองค์ ตามพระ ฉายาของพระเจา้ นนั้ พระองคไ์ ดท้ รงสรา้ งมนุษยข์ ้ึน และไดท้ รงสรา้ งเป็นชายและหญงิ \" ภาพท่ี 4 : รูปปน้ั พระเยซู ครสิ ต์ ท่ี รโิ อ เดอ จาเนโร ทม่ี า : http://namaha.files.wordpress.com/2009/09/jesus-christ-divine.jpg
1 13 Unit 1 Human Right ศาสนาพทุ ธ กลา่ วถงึ ในพระไตรปิฏกว่า \"มนุษยท์ กุ คน ไมว่ ่าจะอย่ใู นวรรณะใด กม็ คี วามเสมอภาคเท่า เทยี มกนั วรรณะทกุ วรรณะต่างก็เสมอกนั ดว้ ย กรรม คือ ทาดีไดร้ บั ผลดี ทาชวั่ ไดร้ บั ผลชวั่ \" และ \"มนุษยไ์ ม่ควรเบียดเบียนกนั ไม่ควร ทาลายชีวิตกนั และกนั เพราะเป็นหลกั ความ จริงหรือสจั ธรรมทีว่ ่า ชีวติ แต่ล่ะชวี ติ รกั ตวั เอง รกั สุขเกลียดทุกข์ กลวั ภยั กลวั ความตาย ดว้ ยกนั ทงั้ ส้นิ \"” พทุ ธทาสภกิ ขุ ซ่งึ เป็นพระสงฆท์ ่ีไดร้ บั การ ย ก ย่ อ ง อ ย่ า ง สู ง ใน ป ร ะ เท ศ ไ ท ย ใน ร ะ ด ับ นานาชาติได้อธิบายเอาไวเ้ ก่ียวกับสิทธิ มนุษยชนว่า \"ทุกชีวิตมีค่า ทุกคนมีศักดิศ์ รี ศักดิ์ศรีความเป็นมนุษยเ์ ท่าเทียมกนั เขามี สทิ ธิแห่งความเป็นมนุษยชนเท่ากบั เรา\" ภาพท่ี 5 : พระพทุ ธรูป ยามเยน็ ทป่ี ระเทศญ่ปี ่นุ ท่มี า : http://www.watpanya.com/home/images/stories/wallpaper/buddha_sunset.jpg
14 1 Unit 1 Human Right 4. สทิ ธมิ นุษยชนในระบอบประชาธปิ ไตย ระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตย จากฐานความเช่ือดังกล่าวน้ี ทาให้ เป็นระบอบการปกครองท่ีเนน้ ในเร่ืองของ ม นุ ษ ย์ใน ร ะบ อ บ ก ารป ก ค รอ งแ บ บ ความเช่ือพ้ืนฐานตามลทั ธิปจั เจกชนนิยม ประชาธิปไตย มสี ทิ ธิ เสรีภาพ และท่สี าคญั (Individalism) แ ล ะ ลัท ธิ ม นุ ษ ย นิ ย ม ทส่ี ุดคือ มสี ิทธิท่จี ะมีชีวติ รอด และกาหนด (Hunamnism) ซง่ึ มสี าระสาคญั ดงั น้ี ชีวิตของตนเอง มีสิทธิท่ีจะไดร้ ับการ ๑. เช่ือว่ามนุษยท์ ุกคนมีคุณค่าใน ยอมรบั สทิ ธิในทรพั ยส์ นิ และอน่ื ๆ รวมทง้ั ตัวเอง และมีความเท่าเทียมกันอย่าง สทิ ธิทจ่ี ะมเี สรภี าพในการแสดงความคดิ เหน็ หลกี เลย่ี งไมได้ เสรีภาพในการนบั ถอื ศาสนา เสรภี าพในการ ๒. เชอ่ื ว่ามนุษยเ์ ป็นผูม้ เี หตุมผี ล มี เลือกถ่ินท่ีอยู่ตั้งรกราก และอ่ืน ๆ ใน ความสามารถในการจดั การปกครองตนเอง ขอบเขต และเฉพาะในขอบเขตท่ีจะไม่ เป็นอย่างดี ละเมิดสิทธิเสรีภาพของผูอ้ ่ืนตามกรอบท่ี ๓. เช่ือว่ามนุษยม์ ีสิทธิท่ีจะไดร้ บั กฎหมายกาหนด เสรภี าพและใชป้ ระโยชนจ์ ากเสรภี าพนน้ั ๆ ดงั นน้ั เม่ือพิจารณาจากหลกั การและ ๔. เช่ือว่ามนุษยเ์ ป็นเป้ าหมายของ ลกั ษณะแนวคดิ ดงั กลา่ ว สามารถกล่าวไดว้ ่า การปกครองทม่ี งุ่ เนน้ ประโยชนส์ ุขของมนุษย์ การปกครองระบอบประชาธิปไตย เป็นการ ดว้ ยกนั เอง ปกครองท่ีสอดคลอ้ งกับ หลกั การสิทธิ มนุษยชนอย่างสมบรู ณ์
1 15 Unit 1 Human Right 5. สทิ ธิมนุษยชนในประเทศไทย ในปจั จุบนั ประชาชนคนไทยไดร้ บั การ ๖. รับรองสิทธิ เสรีภาพในชีวิต คุ้ม ค รองสิทธิม นุ ษ ย ชน โด ยต รงจาก ร่างกาย และการดาเนินชวี ติ รฐั ธรรมนูญแห่งราชอาณาจกั รไทย พ.ศ. ๒๕๕๐ ซ่ึงมีการระบุถึงสิทธิขน้ั พ้ืนฐานต่าง ๗ . รับรองสิทธิของบุคคลใน ๆ ทป่ี ระชาชนไดร้ บั เช่น ครอบครวั ๑. รบั รองและคุม้ ครองศักด์ิศรี ๘. รบั รองสิทธิทางการศึกษาและ ความเป็นมนุษย์ สทิ ธิและเสรภี าพ วชิ าการ ๒. รบั รองการไดร้ บั การคุม้ ครอง ๙. รบั รองสิทธิในการชุมนุมโดย และบรกิ ารโดยเสมอหนา้ กนั สงบ ปราศจากอาวุธและการต่อตา้ นโดย สนั ตวิ ธิ ี ๓. จากดั การใชอ้ านาจขององคก์ ร ของรฐั ใหต้ อ้ งคานึงถึงศักด์ิศรีความเป็น ๑๐. รับรองสิทธิในการรวมตัว มนุษย์ สทิ ธิและเสรภี าพ จดั ตงั้ กลมุ่ และองคก์ ร ๔. กาหนดขอบเขตของศักด์ิศรี ๑๑. รบั รองสทิ ธใิ นทรพั ยส์ นิ ความเป็นมนุษย์ ๑๒. ใหค้ วามคุม้ ครองสิทธิเด็ก เยาวชนและบุคคลในครอบครวั จากการใช้ ๕. รับรองความเสมอภาคของ ความรนุ แรงและการปฏบิ ตั ทิ ไ่ี มเ่ ป็นธรรม บุคคล และหา้ มการเลือกปฏิบตั ิดว้ ยเหตุ ๑๓. รบั รองสิทธิของผูพ้ ิการและ แห่งเพศ อายุ เช้ือชาติ ศาสนา ฐานะทาง ผูส้ ูงอายุ เศรษฐกิจหรือสงั คม สภาพร่างกาย และอ่นื ๑๔. รบั รองสิทธิของชุมชนในการ ๆ บารุงรกั ษา และไดร้ บั ประโยชน์จากการใช้ ทรพั ยากรธรรมชาติ ๑๕. รบั รองสทิ ธผิ ูบ้ รโิ ภค ๑๖. รบั รองสิทธิของประชาชนใน การรบั ขอ้ มลู ขา่ วสาร และขา่ วสารสาธารณะ
16 1 Unit 1 Human Right 6. ปฏญิ ญาสากลวา่ ดว้ ยสทิ ธมิ นุษยชน ปฏิญญาสากลว่าดว้ ยสิทธิมนุษยชน ๑. เก่ียวกบั สิทธิทางดา้ นกฎหมาย ความ หมายถึง คารบั รองของประเทศสมาชกิ ของ ยุตธิ รรมและชวี ติ องคก์ ารสหประชาชาติ ท่จี ะนาไปปฏบิ ตั แิ ละ กาหนดไวใ้ นรฐั ธรรมนูญของประเทศของตน ซ่ึงหมายความรวมถึง สิทธิทาง รวมทง้ั ยงั ใชเ้พอ่ื การอา้ งองิ ในกรณีทป่ี ระเทศ การเมือง สิทธิในการมีชีวิต เสรีภาพและ สมาชกิ ถูกละเมิดสิทธิมนุษยชนในประเทศ ความมนั่ คงของบคุ คล อสิ รภาพจากการเป็น หรือระหว่างประเทศ ดงั นน้ั จึงกล่าวไดว้ ่า ทาส เชลย และการถูกทรมาน มีความ ปฏิญญาสากลว่าดว้ ยสิทธิมนุษยชน เป็น เสมอภาคในทางกฎหมาย การคุม้ ครองเม่อื หลกั การท่ีประเทศสมาชิกทวั่ โลกใหก้ าร ถูกจบั กกั ขงั หรือเนรเทศ สิทธิท่ีจะไดร้ บั ยอมรบั ว่า ศกั ด์ศิ รขี องมนุษยน์ นั้ มคี วามเท่า การพิจารณาคดีอย่างเป็นธรรม การมีส่วน เทียมกันท้งั ในแง่ของศักด์ิศรีความเป็ น ร่วมทางการเมืองสิทธิในการสมรสและการ มนุษย์ รากฐานของเสรีภาพ ความยุติธรรม ตงั้ ครอบครวั เสรีภาพขนั้ พ้ืนฐานในทาง และการสรา้ งสนั ติภาพ และไม่อาจจะถ่าย ความคิด มโนธรรม และศาสนาการแสดง โอนได ้ ความคดิ เหน็ และการแสดงออกเสรีภาพใน การชุมชน การเขา้ ร่วมสมาคมอย่างสนั ติ ปฏญิ ญาสากลว่าดว้ ยสทิ ธมิ นุษยชน สิทธิในการมีส่วนร่วมในการปกครองใน สามารถจาแนกออกไดเ้ป็น ๒ ลกั ษณะ คอื ประเทศของตนเองทงั้ ทางตรงและทางออ้ ม เป็นตน้ ๒. เก่ยี วกบั สทิ ธิทางเศรษฐกจิ สงั คม และวฒั นธรรม ครอบคลุมสทิ ธิในการทางาน การไดร้ บั ค่าตอบแทน เท่ากนั สาหรบั งานท่ที าเท่ากนั ประเภท เดียวกนั สิทธิในการก่อตง้ั และเขา้ ร่วมสหพนั ธแ์ รงงาน สิทธิในมาตรฐานการครองชีพท่เี หมาะสม สทิ ธใิ นการศึกษา และสทิ ธใิ นการเขา้ ร่วมการใชว้ ฒั นธรรมอย่างเสรี เป็นตน้
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195