Important Announcement
PubHTML5 Scheduled Server Maintenance on (GMT) Sunday, June 26th, 2:00 am - 8:00 am.
PubHTML5 site will be inoperative during the times indicated!

Home Explore sarabun

sarabun

Published by pattiim1982, 2019-02-13 23:34:24

Description: sarabun

Search

Read the Text Version

วชิ า ระเบียบงานสารบรรณ บรรยายโดย พ.อ.วโรตม์ ปี ตะกลุ 1

ประวตั ผิ ู้บรรยาย • การศึกษา นิติศาสตรบัณฑติ ม.รามคาแหง (รุ่นท่ี ๗) ช้ันนายร้อย รร.สห.สห.ทบ. (รุ่นท่ี ๑๘) ช้ันนายพนั รร.สห.สห.ทบ. (รุ่นท่ี ๑๖) หลกั สูตรหลกั ประจา รร.สธ.ทบ. (ชุดที่ ๗๐ ) ศิลปศาสตรมหาบัณฑิต รร.สธ.ทบ. (รุ่นที่ ๗) ปลดั บญั ชีระดบั บริหาร รร.กง.กง.ทบ. (รุ่นที่ ๙) นายทหารกจิ การพลเรือนช้ันสูง รร.กร.กร.ทบ. (รุ่นที่ ๑๘) • ตาแหน่งปัจจุบนั นายทหารปฏบิ ัติการ ประจา.สบ.ทบ. • โทรศัพท์ ๘๙๒๙๔

หลกั ฐานอ้างองิ - ระเบยี บ ทบ.ว่าด้วยงานสารบรรณ พ.ศ. ๒๕๕๕ - ระเบียบ กห.ว่าด้วยการใช้คาย่อ พ.ศ.๒๕๕๕ - ระเบียบ ทบ.ว่าด้วยการใช้คาย่อในกองทพั บก พ.ศ. ๒๕๔๐ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ.๒๕๔๒ - ข้อบังคบั กห.ว่าด้วยการส่ังการและประชาสัมพนั ธ์ พ.ศ. ๒๕๒๗ (ฉบบั ท๒่ี ) พ.ศ.๒๕๔๓ (ฉบบั ท๓่ี ) พ.ศ.๒๕๕๑

บนั ได ๕ ข้นั สาหรับงานสารบรรณ ข้ันที่ ๕ การลงนามในหนังสือราชการ ข้ันที่ ๔ การตรวจหนังสือราชการ ข้ันที่ ๓ การร่างหนังสือราชการ ข้ันท่ี ๒ การพมิ พ์หนังสือราชการ ข้ันท่ี ๑ ชนิดและรูปแบบหนังสือราชการ

คาจากดั ความ - งานสารบรรณ : งานทเ่ี กยี่ วกบั การบริหารงานเอกสารเริ่มต้งั แต่ การจดั ทา การรับ การส่ง การเกบ็ รักษา การยมื และการทาลาย - หนังสือ : หนังสือราชการ - ส่วนราชการ : กระทรวง ทบวง กรม สานักงาน หรือหน่วยงานอน่ื ใด ของรัฐ ท้งั ในราชการบริหารส่วนกลาง ราชการบริหารส่วนท้องถ่ิน หรือในต่างประเทศ - ส่วนราชการของกองทพั บก : หน่วยระดบั กองร้อยหรือเทียบเท่าขนึ้ ไป

คาจากดั ความ (ต่อ) - อเิ ลก็ ทรอนิกส์ : การประยกุ ต์ใช้วธิ ีการทางอเิ ลก็ ตรอน ไฟฟ้ า คลน่ื แม่เหลก็ ไฟฟ้ า หรือวธิ ีอน่ื ใดในลกั ษณะคล้ายกนั และให้หมายความ รวมถงึ การประยุกต์ใช้วธิ ีการ ทางแสง วธิ ีการทางแม่เหลก็ หรืออุปกรณ์ ทเี่ กย่ี วข้องกบั การประยุกต์ใช้วธิ ีต่าง ๆ เช่นว่าน้ัน - ระบบสารบรรณอเิ ลก็ ทรอนิกส์ : การรับส่งข้อมูลข่าวสารหรือหนังสือ ผ่านระบบส่ือสารด้วยวธิ ีการทางอเิ ลก็ ทรอนิกส์

การปฏิบัติงานสารบรรณ อาศยั หลกั ๓ ประการ ๑.ระเบียบแบบธรรมเนียมและระเบียบงานสารบรรณ ๒.การปฏิบตั ิต่อๆ กนั มาจนเป็นประเพณีนิยม ๓.นโยบายผบู้ งั คบั บญั ชา

หนังสือราชการ คือ เอกสารท่ีเป็นหลกั ฐานในราชการ ไดแ้ ก่ ๑.หนงั สือท่ีมีไปมาระหวา่ งส่วนราชการ ๒.หนงั สือท่ีส่วนราชการมีไปถึงหน่วยงานอ่ืนใดซ่ึงมิใช่ส่วนราชการหรือ ที่มีไป ถึงบุคคลภายนอก ๓.หนงั สือที่หน่วยงานอื่นใดซ่ึงมิใช่ส่วนราชการหรือที่บุคคลภายนอกมีมาถึง ส่วนราชการ ( ซ่ึงเป็นเร่ืองท่ีเก่ียวขอ้ งกบั ทางราชการและทางราชการรับไวเ้ ป็น หลกั ฐาน ) ๔.เอกสารท่ีทางราชการจดั ทาข้ึนเพ่ือเป็นหลกั ฐานในราชการ ๕.เอกสารท่ีทางราชการจดั ทาข้ึนตาม กฎหมาย ระเบียบหรือขอ้ บงั คบั ๖.ขอ้ มลู ขา่ วสารหรือหนงั สือท่ีไดร้ ับจากระบบสารบรรณอิเลก็ ทรอนิกส์

ลกั ษณะของหนังสือราชการ ๑.ลกั ษณะเฉพาะทางรูปแบบ ๒.ลกั ษณะเฉพาะทางเน้ือหา

ลกั ษณะเฉพาะทางรูปแบบ - มีตราครุฑในตาแหน่งที่กาหนด - มีรูปแบบท่ีแน่นอนและตอ้ งปฏิบตั ิตาม - มีการกาหนดยอ่ หนา้ การเวน้ บรรทดั ท่ีแน่นอน

ลกั ษณะเฉพาะทางเนือ้ หา - เน้ือหามกั จะมี ๓ ส่วน ส่วนละ ๑ ยอ่ หนา้ - ยอ่ หนา้ ท่ี ๑ มกั เขียนบอกท่ีมาที่ไปของเรื่องส้นั ๆ - ยอ่ หนา้ ท่ี ๒ เขียนบอกความประสงคข์ องการส่ือสารคร้ังน้นั - ยอ่ หนา้ ท่ี ๓ เขียนสรุปและย้าความเขา้ ใจ - เน้ือหาสาคญั มกั จะอยทู่ ่ียอ่ หนา้ ท่ี ๒ - เน้ือหาท้งั หมดตอ้ งเกี่ยวขอ้ งกบั เรื่องราชการ มิใช่เร่ืองส่วนตวั

ครุฑ - เป็นสญั ลกั ษณ์แรกสุดที่สื่อวา่ เอกสารน้นั เป็นเอกสารทางราชการ - ไทยไดร้ ับลทั ธิเทวราชจากอินเดีย กษตั ริยค์ ืออวตารของพระนารายณ์ - ครุฑ ผมู้ ีฤทธ์ิมากและเป็นพาหนะของพระนารายณ์ - ครุฑมี ๒ ขนาด (ขนาดสูง ๓ ซม. และ ขนาดสูง ๑.๕ ซม.) (วดั จาก ปลายปี กถึงปลายหาง)

๓ ซม. ๑.๕ ซม. 13

หนังสือราชการมี ๖ ชนิด ๑.หนงั สือภายนอก ๒.หนงั สือภายใน ๓.หนงั สือประทบั ตรา ๔.หนงั สือสงั่ การ ๕.หนงั สือประชาสัมพนั ธ์ ๖.หนงั สือท่ีเจา้ หนา้ ที่ทาข้ึนหรือรับไวเ้ ป็นหลกั ฐานทางราชการ

แผนผงั ชนิดหนังสือราชการ หนังสือภายนอก หนังสือ หนังสือ ภายใน ประทบั ตรา - ภายนอกทใ่ี ช้ภายนอก กห. - ภายนอกที่ใช้ภายใน กห. หนังสือสั่งการ หนังสือประชาสัมพนั ธ์ หนังสือทเ่ี จ้าหน้าทจี่ ดั ทาขนึ้ รับ - คาส่ัง - ประกาศ ไว้เป็ นหลกั ฐานในราชการ - ระเบยี บ - แถลงการณ์ - ข้อบงั คบั - ข่าว - หนังสือรับรอง - บนั ทกึ - รายงานการประชุม - หนังสืออน่ื 15

๑.หนังสือภายนอก มี ๒ ชนิด ๑.หนงั สือภายนอกท่ีใชภ้ ายนอก กห. ๒.หนงั สือภายนอกท่ีใชภ้ ายใน กห.

หนังสือภายนอกทใี่ ช้ภายนอก กห. „ หนงั สือติดต่อราชการท่ีเป็นแบบพิธี „ เป็นหนงั สือติดต่อระหวา่ งส่วนราชการหรือส่วนราชการมีถึง หน่วยงานอ่ืนใดซ่ึงมิใช่ส่วนราชการหรือที่มีถึงบุคคลภายนอก „ ใชก้ ระดาษตราครุฑ

18

19

20

21

การพมิ พ์ส่วนราชการเจ้าของเรื่อง กองการสารบรรณ โทร. ๐ ๒๒๔๑ ๔๐๖๕ - ๗ โทรสาร ๐ ๒๒๔๑ ๔๐๕๗ ไปรษณียอ์ ิเลก็ ทรอนิกส์ [email protected].

การพมิ พ์หนังสือทม่ี ีหลายหน้ากระดาษ • ใชก้ ระดาษปอนดข์ าว ขนาด เอ ๔ • ระยะขอบบน ล่าง หนา้ หลงั เหมือนหนา้ แรก • พมิ พเ์ คร่ืองหมายยตั ิภงั ค(์ -)ตามดว้ ยหมายเลขหนา้ ท่ีก่ึงกลาง หนา้ กระดาษดา้ นบนห่างขอบกระดาษประมาณ ๒ ซม. • โดยปกติใหพ้ ิมพ์ ๒๕ บรรทดั บรรทดั แรกอยหู่ ่างขอบกระดาษ ดา้ นบนประมาณ ๔ เซนติเมตร

การก้นั ระยะในการพมิ พ์ - ในบรรทดั หน่ึงใหต้ ้งั จงั หวะเคาะของพมิ พด์ ีดไว้ ๗๐ จงั หวะเคาะ - ใหก้ ้นั ระยะห่างจากขอบกระดาษดา้ นซา้ ย ๓ ซม. - ตวั อกั ษรสุดทา้ ยควรห่างจากขอบกระดาษดา้ นขวาไม่นอ้ ยกวา่ ๒ ซม. - ถา้ คาสุดทา้ ยของบรรทดั มีหลายพยางคไ์ ม่สามารถพิมพจ์ บคาใน บรรทดั เดียวกนั ไดใ้ หใ้ ชเ้ คร่ืองหมาย (-) ระหวา่ งพยางค์ - การยอ่ หนา้ ใหเ้ วน้ ระยะห่างจากระยะก้นั หนา้ ๑๐ จงั หวะเคาะ - การเวน้ บรรทดั จะตอ้ งเวน้ บรรทดั ใหส้ ่วนสูงของตวั พิมพแ์ ละส่วน ต่าสุดของตวั พมิ พไ์ ม่ทบั กนั

การเว้นวรรค - การเวน้ วรรคโดยทว่ั ไปเวน้ ๒ จงั หวะเคาะ - การเวน้ วรรคระยะห่างหวั ขอ้ เรื่องกบั เร่ืองใหเ้ วน้ ๒ จงั หวะเคาะ - การเวน้ วรรคในเน้ือหาเร่ืองท่ีพิมพม์ ีเน้ือหาเดียวกนั ใหเ้ วน้ ๑ จงั หวะเคาะ ถา้ เน้ือหาต่างกนั ใหเ้ วน้ ๒ จงั หวะเคาะ - การพมิ พห์ นงั สือที่มีความสาคญั และมีจานวนหลายหนา้ ใหพ้ มิ พเ์ ครื่องหมาย / ตามดว้ ยคาต่อเนื่องของขอ้ ความที่ยกไปพิมพห์ นา้ ใหม่ ตามดว้ ย ...(จุด ๓ จุด) ไว้ ดา้ นล่างทางมุมขวาของหนา้ น้นั ๆ โดยปกติใหเ้ วน้ ระยะห่างจากบรรทดั สุดทา้ ย ๓ ระยะบรรทดั พมิ พแ์ ละควรมีขอ้ ความเหลือไปพิมพห์ นา้ สุดทา้ ยอยา่ งนอ้ ย ๒ บรรทดั ก่อนพมิ พค์ าลงทา้ ย

คาขนึ้ ต้น สรรพนาม คาลงท้าย ในหนังสือราชการ ต้องสัมพนั ธ์กบั ฐานะของผู้รับหนังสือ - พระบรมวงศานุวงศ์ - พระภกิ ษุ - ผู้ดารงตาแหน่งสูงเป็ นพเิ ศษ - ผู้ดารงตาแหน่งอน่ื หรือบุคคลอน่ื

พระบรมวงศานุวงศ์ - พระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอย่หู ัว - สมเดจ็ พระบรมราชินีนาถ - สมเดจ็ พระบรมราชินี สมเดจ็ พระบรมราชชนนี สมเดจ็ พระยพุ ราช สมเดจ็ พระบรม ราชกมุ ารี - สมเดจ็ เจ้าฟ้ า - พระบรมวงศ์ช้ันพระองค์เจ้า - พระเจ้าวรวงศ์เธอ (ทม่ี ิได้ทรงกรม) พระอนุวงศ์ พระวรวงศ์เธอ (ทท่ี รงกรม) - พระอนุวงศ์ พระวรวงศ์เธอ (ทมี่ ิได้ทรงกรม) - พระอนุวงศ์ ช้ันหม่อมเจ้า

พระภิกษุ ผ้รู ับหนังสือ คาขนึ้ ต้น คาลงท้าย สมเดจ็ พระสังฆราชเจ้า ขอประทานกราบทูล ควรมคิ วรแล้วแต่จะโปรดเกล้าโปรดกระหม่อม สมเดจ็ พระสังฆราช กราบทูล ควรมคิ วรแล้วแต่จะโปรด สมเดจ็ พระราชาคณะ, นมสั การ ขอนมัสการด้วยความเคารพอย่างยง่ิ รองสมเดจ็ พระราชาคณะ พระราชาคณะ นมสั การ ขอนมสั การด้วยความเคารพอย่างสูง พระภกิ ษุสงฆ์ทวั่ ไป นมัสการ ขอนมัสการด้วยความเคารพ

ผู้ดารงตาแหน่งสูงเป็ นพเิ ศษ - ประธานองคมนตรี - นายกรัฐมนตรี - ประธานรัฐสภา - ประธานสภาผ้แู ทนราษฎร - ประธานวุฒสิ ภา - ประธานศาลฎกี า - ประธานศาลรัฐธรรมนูญ - ประธานศาลปกครองสูงสุด - ประธานกรรมการเลอื กต้งั - ประธานกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ - ประธานกรรมการป้ องกนั และปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ - รัฐบุรุษ - ประธานกรรมการตรวจเงนิ แผ่นดนิ - อยั การสูงสุด - ประธานผ้ตู รวจการแผ่นดนิ หรือผู้ตรวจการแผ่นดนิ คาขึน้ ต้น กราบเรียน คาลงท้าย ขอแสดงความนับถืออย่างยง่ิ สรรพนาม ข้าพเจ้า กระผม - ผม ดฉิ ัน ท่าน

ผู้ดารงตาแหน่งอน่ื หรือบุคคลภายนอกทวั่ ไป • คาขนึ้ ต้น : เรียน • สรรพนาม : ข้าพเจ้า กระผม ผม ดฉิ ัน ท่าน (กรณเี ป็ นการรายงานถึงผู้บังคบั บัญชาใช้ กระผม หรือ ดฉิ ัน แล้วแต่กรณ)ี • คาลงท้าย : ขอแสดงความนับถือ

อ้างถึงประกอบด้วย - ช่ือส่วนราชการเจา้ ของหนงั สือ - เลขท่ีหนงั สือ - วนั ที่ เดือน ปี พ.ศ. ของหนงั สือน้นั ตวั อยา่ งการเขียน อา้ งถึง หนงั สือภายนอกท่ีใชภ้ ายนอก กห. - อา้ งถึง หนงั สือสานกั งานปลดั สานกั นายกรัฐมนตรี ท่ี นร ๐๙๐๔/๑๖ ลงวนั ที่ ๑๐ มกราคม ๒๕๕๑ หนงั สือภายนอกที่ใชภ้ ายใน กห. - อา้ งถึง หนงั สือ ยก.ทบ.(ลบั มาก)(ด่วนมาก) ที่ กห ๐๔๐๓/๑๒๔ ลง ๕ มิ.ย.๕๑ - อา้ งถึง ระเบียบ ทบ.วา่ ดว้ ยการลา พ.ศ.๒๕๓๖ ลง ๒๙ ม.ค.๓๖

ส่ิงท่สี ่งมาด้วย ใหล้ งช่ือสิ่งของ เอกสารหรือบรรณสารที่ส่งไปพร้อมกบั หนงั สือน้นั เช่น ๑. ส่ิงที่ส่งมาดว้ ย เอกสารการสอนชุดวชิ าภาษาไทย จานวน ๑ ชุด ๒. ส่ิงที่ส่งมาดว้ ย หนงั สือ สบ.ทบ.ท่ี กห ๐๔๒๑/๘๑ ลง ๒ ก.ย.๕๑ จานวน ๑ ฉบบั ** มากกวา่ ๑ แผน่ = ๑ ชุด ๑ แผน่ = ๑ ฉบบั

การลงชื่อและตาแหน่ง - โดยปกตหิ ัวหน้าส่วนราชการ หรือหัวหน้าหน่วย เป็ นผู้ลงชื่อใน หนงั สือราชการของส่วนราชการหรือหน่วยน้ันๆ - การรักษาราชการ รักษาราชการแทน ทาการแทน หรือการส่ังการ ตามทไ่ี ด้รับมอบหมาย จะต้องเป็ นผู้ทไี่ ด้รับการแต่งต้งั หรือได้รับ มอบหมาย หรือมอบอานาจตามท่กี ฎหมาย ข้อบงั คบั หรือระเบียบ ของทางราชการกาหนดไว้

การพมิ พ์ชื่อเต็มของเจ้าของลายมอื ชื่อ ๑.กรณีผลู้ งนามมียศ - พมิ ยย์ ศไวห้ นา้ ลายมือชื่อ - พิมพช์ ่ือเตม็ ของผลู้ งนามไวใ้ นวงเลบ็ ใตล้ ายมือชื่อ - พิมพต์ าแหน่ง พลตรี………………………………. ( ณฐั ธรณินทร์ ขอบทอง ) เจา้ กรมสารบรรณทหารบก

การพมิ พ์ชื่อเต็มของเจ้าของลายมอื ช่ือ ๒.กรณีผลู้ งนามไม่มียศ - ใชค้ าวา่ นาย/นาง/นางสาว ไวห้ นา้ ชื่อเตม็ ในวงเลบ็ ใตล้ ายมือชื่อ ………………………………. ( นายเสริมศกั ด์ิ พงษพ์ านิช ) ปลดั กระทรวงมหาดไทย

การพมิ พ์ช่ือเต็มของเจ้าของลายมือช่ือ ๓.กรณีผลู้ งนามมีบรรดาศกั ด์ิ - พิมพบ์ รรดาศกั ด์ิไวห้ นา้ ช่ือเตม็ ในวงเลบ็ ใตล้ ายมือช่ือ ………………………………. ( พระยามานนวราชเสวี ) องคมนตรี - กรณีมียศ พิมพย์ ศไวห้ นา้ ลายมือช่ือดว้ ย พลโท………………………………. ( พระยาราชรังสรรค์ ) องคมนตรี

การพมิ พ์ชื่อเต็มของเจ้าของลายมอื ชื่อ ๔.กรณีผลู้ งนามมีฐานนั ดรศกั ด์ิ - พิมพฐ์ านนั ดรศกั ด์ิไวห้ นา้ ชื่อเตม็ ในวงเลบ็ ใตล้ ายมือชื่อ ………………………………………. ( หม่อมเจา้ สุภทั รดิส ดิสสกลุ ) อธิการบดีมหาวิทยาลยั ศิลปากร - กรณีมียศ พิมพย์ ศไวห้ นา้ ลายมือช่ือดว้ ย พลโท…………………………………... ( หม่อมหลวง วบิ ลู ย์ สุประดิษฐ์ ) ผชู้ ่วยเสนาธิการทหารบก ฝ่ ายยทุ ธการ

การพมิ พ์ช่ือเตม็ ของเจ้าของลายมือช่ือ ๕.กรณีผหู้ ญิงท่ีไดร้ ับพระราชทานเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกลา้ - ปฐมจุลจอมเกลา้ ท่านผหู้ ญิง - ทุติยจุลจอมเกลา้ วเิ ศษ - ทุติยจุลจอมเกลา้ คุณหญิง - ตติยจุลจอมเกลา้ - จตุตถจุลจอมเกลา้

การพมิ พ์ช่ือเต็มของเจ้าของลายมอื ช่ือ สตรีท่ีไดร้ ับพระราชทานเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ช้นั ทุติยจุลจอมเกลา้ วิเศษข้ึนไป ใชค้ านานามวา่ ท่านผหู้ ญิง สตรีท่ีไดร้ ับพระราชทานเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์ช้นั ทุติยจุลจอมเกลา้ ตติยจุลจอมเกลา้ และจตุตถจุลจอมเกลา้ ซ่ึงทาการสมรสแลว้ ใชค้ านานามวา่ คุณหญิง …………………………………….. ( ท่านผหู้ ญิง มนสั นิตร วนิกกกลุ ) ราชเลขานุการในพระองคส์ มเดจ็ ฯ พระบรมราชินีนาถ หมายเหตุ (สตรีท่ีไดร้ ับพระราชทานเคร่ืองราชอิสริยาภรณ์จุลจอมเกลา้ ซ่ึงยงั มิไดส้ มรสใชค้ านานามวา่ คุณ)

เคร่ืองราชอสิ ริยาภรณ์ตามช้ันยศ

การขอพระราชทานเคร่ืองราชอสิ ริยาภรณ์ ให้แก่ข้าราชการทหาร (บญั ชี ๘) ต่ากว่าช้ันสายสะพาย ลาดบั ยศ เครื่องราชอสิ ริยาภรณ์ ระยะเวลา หมายเหตุ เร่ิมขอ เลอื่ นถงึ ๑ ส.ต. ร.ง.ม. - ขอพระราชทานได้เฉพาะกรณพี เิ ศษเท่าน้ัน ๑. ต้องมรี ะยะเวลา ๒ ส.ท. ร.ง.ช. - รับราชการตดิ ต่อกนั ไม่น้อย ๓ ส.อ. ร.ท.ม. - -เร่ิมขอ ร.ท.ช.(๕ ปี ) บ.ม. กว่า ๕ ปี บริบูรณ์ นับต้ังแต่ ๔ จ.ส.ต.- จ.ส.อ. ร.ท.ช. บ.ม. -เร่ิมขอ ร.ท.ช.(๕ ปี ) บ.ม.(๕ ปี ) บ.ช.(๕ ปี ) จ.ม. วนั เริ่มรับราชการ ๕ จ.ส.อ.(พเิ ศษ) ร.ท.ช. จ.ม. -เร่ิมขอ บ.ม. (๕ ปี ) บ.ช. (๕ ปี ) จ.ม. ๑. นักเรียนทหารนับต้งั แต่วนั ๖ ร.ต. บ.ม. จ.ม. ขนึ้ ทะเบยี นกองประจาการ ๗ ร.ท. จ.ม. - ๒. เกณฑ์การขอพระราชทานท่ี ๘ ร.อ. จ.ช. - กาหนกไว้ตามช้ันยศให้ ๙ พ.ต. ต.ม. - รวมถงึ ว่าทย่ี ศน้ันๆ ด้วย ๑๐ พ.ท. ต.ช. - ๓. ลาดบั ๖ ซ่ึงกาหนดระยะ ๑๑ พ.อ. ท.ม. - เวลาเลอื่ นช้ันตรา ๕ ปี ๑๒ พ.อ.(พเิ ศษ) ท.ช. -

การพมิ พ์ช่ือเต็มของเจ้าของลายมอื ช่ือ ๖.กรณีผทู้ ี่ดารงตาแหน่ง ศาสตราจารย,์ รองศาสตราจารย,์ ผชู้ ่วยศาสตราจารย,์ ศาสตราจารย์ เกียรติคุณ โรงเรียนทหารมีสิทธิใชต้ าแหน่งทางวิชาการท่ีไดร้ ับเป็นคานาหนา้ นามประกอบ ยศทหารและคานาหนา้ อื่นๆ ในการลงช่ือหนงั สือ เอกสาร งานสารบรรณ หรือการเรียกขานใดๆ ในหว้ งเวลาท่ีไดร้ ับการโปรดเกลา้ ฯ หรือแต่งต้งั ใหด้ ารงตาแหน่งทางวชิ าการ เม่ือประสงคจ์ ะใช้ ในการดารงลงชื่อใหใ้ ชเ้ รียงตามลาดบั ก่อนหลงั ดงั น้ี - ยศ พล.ต. ศ. …………………………………….. - ตาแหน่งทางวชิ าการ (ชรินทร์ สุวรรณพนั ธุ์) - บรรดาศกั ด์ิ - ฐานนั ดรศกั ด์ิ ศาสตราจารยส์ ่วนการศึกษา รร.จปร. -คานาหนา้ นามสตรี หมายเหตุ ขอ้ บงั คบั กห.วา่ ดว้ ย ศาสตราจารย์ รองศาตราจารย์ และผชู้ ่วยศาตราจารย์ สถาบนั การศึกษาสงั กดั กระทรวงกลาโหม พ.ศ.๒๕๕๓

หากใช้นอกกระทรวงกลาโหม ใหใ้ ชต้ ามระเบียบสานกั นายกรัฐมนตรี วา่ ดว้ ยการใชต้ าแหน่งทางวชิ าการเป็นคาหนา้ นาม พ.ศ.๒๕๓๖ ดงั น้ี - ตาแหน่งทางวชิ าการ ศ. พล.ต.…………………………………….. - ยศ (ชรินทร์ สุวรรณพนั ธุ์) - บรรดาศกั ด์ิ - ฐานนั ดรศกั ด์ิ ศาสตราจารยส์ ่วนการศึกษา รร.จปร. -คานาหนา้ นามสตรี ** คาแสดงวชิ าชีพ เช่น นายแพทย์ หรือคาแสดงวฒุ ิการศึกษา เช่น ดร.เหล่าน้ีไม่ใช่คา นาหนา้ นามตามที่กาหนดไวต้ ามพระราชบญั ญตั ิ จึงตอ้ งใชค้ าวา่ นาย นาง นางสาว ซ่ึง เป็นคานาหนา้ นามท่ีทางราชการกาหนดใหใ้ ชใ้ นราชการเขียนหนงั สือราชการ

กรณผี ู้ลงนามไม่ใช่หัวหน้าส่วนราชการ ให้ลงตาแหน่งของเจ้าของลายมอื ช่ือและอานาจในการลงชื่อ ไว้เหนือตาแหน่งเจ้าของหนงั สือ (การรักษาราชการ รักษาราชการแทน ทาการแทน หรือการสั่งการ ตามทไ่ี ด้รับมอบหมาย จะต้องเป็ นผู้ทไี่ ด้รับการแต่งต้งั หรือได้รับ มอบหมาย หรือมอบอานาจตามที่กฎหมาย ข้อบงั คบั หรือระเบยี บ ของทางราชการกาหนดไว้)

การส่ังการแทน - ใหก้ ระทาในตาแหน่งหวั หนา้ ส่วนราชการโดยใหอ้ านาจแทน และเม่ือสงั่ ไปแลว้ ถือวา่ มีอานาจหนา้ ที่ตามตาแหน่งน้นั - การสง่ั การแทนมี ๔ กรณี ๑.รักษาราชการ (รรก.) ๒.รักษาราชการแทน ๓. ทาการแทน ๔. การสง่ั การตามที่ไดร้ ับมอบหมาย

รักษาราชการ ใชใ้ นกรณีตาแหน่งในส่วนราชการหรือหน่วยใดวา่ งลงและยงั ไม่ได้ แต่งต้งั ขา้ ราชการผใู้ ดดารงตาแหน่งน้นั ผบู้ งั คบั บญั ชาจะสง่ั ให้ ขา้ ราชการที่เห็นสมควร รักษาราชการในตาแหน่งน้นั เป็นการ ชวั่ คราวกไ็ ด้ สาระสาคญั - ตาแหน่งวา่ ง - ตอ้ งทาเป็นหนงั สือ - ผสู้ งั่ ตอ้ งเป็นผมู้ ีอานาจ (ข้อบงั คบั กห.ว่าด้วยการส่ังการและประชาสัมพนั ธ์ พ.ศ.๒๕๒๗ ข้อ ๑๓)

อานาจในการแต่งต้งั ผู้รักษาราชการ ผไู้ ดร้ ับแต่งต้งั ผมู้ ีอานาจสง่ั แต่งต้งั ผบ.ร้อย ผบ.พล. ผบ.พนั . / ผบ.กรม ผบ.ทบ. ผบ.พล.ข้ึนไป รมว.กห. (ขอ้ บงั คบั กห. เร่ืองการบรรจุ เล่ือน ลด ปลด ยา้ ยตาแหน่ง พ.ศ.๒๕๐๒)

รักษาราชการแทน ใช้ในกรณผี ู้ดารงตาแหน่งในส่วนราชการหรือหน่วยใดไม่สามารถปฏบิ ตั ิ หน้าทไ่ี ด้เป็ นคร้ังคราว ผู้บงั คบั บัญชาจะสั่งให้ข้าราชการทเ่ี ห็นสมควร รักษาราชการแทนเป็ นการช่ัวคราวกไ็ ด้ สาระสาคญั - ตาแหน่งไม่ว่าง - ต้องทาเป็ นหนังสือ - ผู้ส่ังต้องเป็ นผู้มีอานาจ (ข้อบงั คบั กห.ว่าด้วยการสั่งการและประชาสัมพนั ธ์ พ.ศ.๒๕๒๗ ข้อ ๑๔)

อานาจในการแต่งต้งั ผู้รักษาราชการแทน ผไู้ ดร้ ับแต่งต้งั ผมู้ ีอานาจสงั่ แต่งต้งั ผบ.ร้อย ผบ.กรม ผบ.พนั . / ผบ.กรม ผบ.พล. ผบ.พล. ผบ.ทบ. แม่ทพั (พล.ท.ข้ึนไป) รมว.กห. (ขอ้ บงั คบั กห. เร่ืองการบรรจุ เล่ือน ลด ปลด ยา้ ยตาแหน่ง พ.ศ.๒๕๐๒ ขอ้ ๘)

ทาการแทน มีได้ ๒ ลกั ษณะ ๑. ทาการแทนโดยการมอบหมาย ๒. ทาการแทนโดยอตั โนมตั ิ


Like this book? You can publish your book online for free in a few minutes!
Create your own flipbook