-โครงการเพาะพนั ธุ์ปญั ญา ปี 2560- ศนู ยพ์ ่เี ลี้ยงมหาวทิ ยาลยั อบุ ลราชธานี
-โครงการเพาะพนั ธุ์ปญั ญา ปี 2560- ศนู ยพ์ ่เี ลี้ยงมหาวทิ ยาลยั อบุ ลราชธานี
โครงงาน RBL เรื่อง ปุ๋ยโบกาฉิ ผูท้ าโครงงาน 1. นางสาว กรรณิการ์ สุวิน 2. นางสาว ธนาภา สาระพล 3. นาย มานนท์ วงชาลี ครทู ปี่ รึกษา นายเดชมณี เนาวโรจน์ โรงเรียนสมเด็จพระญาณสงั วร ในพระสงั ฆราชปู ถัมภ์ อาเภอคาเข่ือนแก้ว จังหวดั ยโสธร สานักงานเขตพน้ื ท่ีการศึกษามธั ยมศกึ ษา เขต 28 ศนู ย์พเี่ ล้ียงมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี -โครงการเพาะพนั ธ์ปุ ญั ญา ปี 2560- ศนู ย์พเี่ ลีย้ งมหาวิทยาลยั อบุ ลราชธานี
กติ ติกรรมประกาศ ในการจดั ทาโครงงานเรื่อง ปุ๋ยโบกาฉิ ในครัง้ นี้ สาเร็จลลุ ว่ งได้ ตอ้ งขอกราบขอบคุณ นายชาตชิ าย สงิ ห์พรหมสาร ผู้อานวยการโรงเรยี นสมเดจ็ พระญาณ ในพระสังฆราชูปถมั ภ์ นาย เชิดชัย สิงห์คิบุตร รอง ผู้อานวยการโรงเรยี นสมเดจ็ พระญาณสงั วร ในพระสังฆราชูปถมั ภ์ ในการสนับสนนุ และส่งเสรมิ ใหน้ กั เรียนมี การพฒั นาทกั ษะการคิด ให้คาชีแ้ นะและอานวยความสะดวกในการทาโครงงานคร้ังน้ี กราบขอบพระคุณ คณุ ครเู ดชมณี เนาวโรจน์ และคุณครูทุกทา่ น ที่ให้คาปรึกษาดูแล แนะนาและ แก้ไขข้อบกพรอ่ งในการทางานทุกๆดา้ น กราบขอบพระคุณผู้อานวยการศนู ยห์ มอ่ มไหมเฉลิมพระเกียรติ อุบลราชธานี ทใ่ี หค้ าแนะนา ขั้นตอนการทาปุ๋ยโบกาฉิ ทท่ี าจากใบไม้ เพ่ือเป็นพื้นฐานมาปรบั ใช้ใน การทาปุ๋ย โบกาฉิ ท้องถิ่น ของกล่มุ ผทู้ าโครงงานคร้ังน้ี กราบขอบพระคณุ คณะครแู ละบุคลาการทางการศึกษาและ ให้ กาลงั ใจจนกระทัง่ โครงงานสาเรจ็ ขอขอบพระคุณ ทุกท่านทม่ี สี ว่ นเก่ยี วขอ้ งให้งานบรรลุตามวตั ถปุ ระสงค์ -โครงการเพาะพันธุ์ปัญญา ปี 2560- ศูนย์พ่ีเล้ียงมหาวทิ ยาลัยอบุ ลราชธานี
บทนา ทีม่ าและความสาคัญของโครงงาน โรงเรียนของเราเป็นโรงเรียนขนาดกลางซึ่งโรงเรียนของเราอุดมสมบรูณ์มีต้นไม้หลายชนิดจานวนมากใน แต่ละวนั มีเศษใบไม้ร่วงจานวนมากและปัญหาท่ีพบในโรงเรียนคือใบไม้เกล่ือนโรงเรียน โดยโรงเรียนแก้ปัญหา โดยจัดทาโครงการโรงเรยี นสวยด้วยมือเรา มีการรวมใบไม้ไว้เยอะๆ ซึ่งไม่ได้ใช้เกิดประโยชน์แต่อย่างใด อีกทั้ง ถ้าเรานาใบไม้มาใช้ให้เกิดประโยชน์จะเป็นการนาสิ่งที่ไม่มีค่าทาให้มีค่าโดยยึดหลักคามพอเพียงตามทฤษฎี เศรษฐกจิ พอเพียงของในหลวงรัชกาลที่ 9 ได้อยา่ งสมบรู ณ์ ปยุ๋ โบกาฉิ เปน็ การนา EM มาประยุกต์ใช้โดยการผ่านกระบวนการหมักแห้ง มีการผสมกากน้าตาลเข้าไป เพ่ือช่วยในการย่อยสลายของจุลินทรีย์ ก่อนจะหมักด้วยวัตถุดิบตามสูตรจนได้ท่ีย่อมาจาก Effective Microorganisms หมายถงึ กลมุ่ จลุ นิ ทรยี ท์ มี่ ปี ระสิทธภิ าพ ซ่งึ ศ.ดร.เทรูโอะ ฮิงะ นักวิทยาศาสตร์ ผู้เชี่ยวชาญ สาขาพชื สวน มหาวทิ ยาลยั ริวกิว เมอื งโอกินาวา ประเทศญปี่ ุ่น ได้ศึกษาแนวคิดเร่ือง \" ดินมีชีวิต\" ของท่านโมกิ จิ โอกะดะ (พ.ศ.2425-2498) บิดาเกษตรธรรมชาติของโลกจากน้ัน ดร.ฮิงะ เริ่มค้นคว้าทดลองต้ังแต่ปี พ.ศ 2510 และค้นพบ EM เม่ือ พ.ศ. 2526 ท่านอุทิศทุ่มเททาการวิจัยผลว่ากลุ่มจุลินทรีย์นี้ใช้ได้ผลจริง หลังจาก น้ันศาสนาจารย์วาคุกามิ ได้นามาเผยแพร่ในประเทศไทย โดยท่านเป็นประธานมูลนิธิบาเพ็ญ สาธารณประโยชน์ด้วยกิจกรรมทางศาสนา หรือ คิวเซ (คิวเซ แปลว่า ช่วยเหลือโลก) ปัจจุบัน ตั้งอยู่ที่ อ.แก่ง คอย จ.สระบรุ ี และนาไปใชใ้ ห้เกดิ ผลดใี นการปรับสภาพโครงสรา้ งของดนิ ใหร้ ว่ นซุยในแปลงปลกู พืช ดาวเรือง เป็นไม้ดอกท่ีคนไทยนิยมปลูกกันมาก เนื่องจากเมลด็ มีขนาดใหญป่ ลูกง่าย งอกเร็ว ตน้ โตเร็ว และแข็งแรงไม่ค่อยมีโรคหรือแมลงรบกวน ให้ดอกเรว็ ดอกดก มีหลายชนดิ และหลายสี รูปทรงของดอก สวยงาม สสี นั สดใส ท่ดี าวเรอื งเพราะชว่ งนีเ้ ปน็ ชว่ งที่ รชั กาลท่ี9 ทรงเสด็จสวรรณคต และเปน็ พืชทหี่ าไดต้ าม ท้องถิน่ หาไดง้ า่ ย กลมุ่ ของขา้ พเจ้าจึงมีความสนใจท่ีจะใช้ประโยชน์จากเศษใบไม้คือเราจะนาเศษใบไม้มาใช้เป็นส่วนผสมใน การทาป๋ยุ หมักโบกาฉิ เพอื่ ให้ได้อัตราส่วนท่ีเหมาะสมในการปลกู ดอกดาวเรือง ตัวแปรและสมมุติฐานของโครงงาน สมมติฐาน ปยุ๋ โบกาฉิ สูตร 1 ทาใหต้ อ่ การเจริญเตบิ โตของดาวเรืองดกี วา่ สตู ร 2 และไม่ใสป่ ยุ๋ ตวั แปร ตัวแปรอิสระ(ตวั แปรตน้ ) ได้แก่ ปุ๋ยโบกาฉสิ ูตรตา่ งๆ. ตัวแปรตาม ได้แก่ การเจรญิ เตบิ โตของลาตน้ ดอก และใบ ของดาวเรือง ตัวแปรควบคมุ ไดแ้ ก่ ชนดิ ดาวเรือง กระถาง แสง ดินปลกู ปรมิ าณ 21-35 วัน -โครงการเพาะพันธ์ปุ ัญญา ปี 2560- ศูนยพ์ ่เี ลยี้ งมหาวิทยาลัยอบุ ลราชธานี
ขยะ EM รา กากน้าตาล น้า ปัญหาในโรงเรยี น ปุ๋ยโบกาฉิ เศษอาหาร ความสูง ใบไม้ ดอกดาวเรอื ง ดอก ใบ รูปท่ี 1 ผงั เหตุ-ผล หรือตวั แปรต้น(เหต)ุ ตัวแปรตาม (ผล) ของโครงงานฐานวจิ ัยนี้ วธิ ีการทดลอง วิธกี ารทาปยุ๋ โบกาฉิ วัสดปุ กุ รณ์ 1. มูลสัตว์ (ทกุ ชนิด) 1 ส่วน ( กระสอบ) 2. ราละเอยี ด 1 สว่ น ( กระสอบ) 3. ใบไม้แห้ง 1 สว่ น ( กระสอบ) 4. จลุ นิ ทรยี ์ EM 20 ซซี ี (2 ช้อนโตะ๊ ) 5. กากน้าตาล 20 ซซี ี (2 ช้อนโต๊ะ) 6. นา้ สะอาด 10 ลติ ร หรือ 1 ถงั วิธที า 1. ขนั้ ท่ี 1 เตรียมจลุ นิ ทรีย์ EM , กากน้าตาล , นา้ สะอาด , ผสมไวใ้ นถงั น้า 2. ขั้นที่ 2 นามลู สัตว์ + ราละเอียดผสมคลกุ เคลา้ ใหเ้ ข้ากนั 3. ขน้ั ท่ี 3 นาแกลบดบิ ใส่ลงในนา้ ทขี่ ยายจลุ ินทรยี ์ EM ในขัน้ ท่ี 1 จุ่มให้เปยี กแลว้ บบี พอหมาดๆ 4. นามาคลุกกับส่วนผสม ขน้ั ท่ี 2 ให้เขา้ กนั จะไดค้ วามชน้ื 40 – 50 % ( กาแลว้ ไมม่ ีนา้ หยดจากง่าม มือ) การหมัก เอาสว่ นผสมท้งั หมดบรรจุลงในกระสอบป่าน , ถุงป๋ยุ ที่อากาศถ่ายเทได้ โดยบรรจลุ งไป 3/4 ของกระสอบไม่ต้องกดให้แน่น นาไปวางลงในที่มีฟางรอง เพ่อื การระบายอากาศในสว่ นสว่ นล่างพลกิ กลบั กระสอบ ในวันที่ 2,3,4 ทุกๆ วนั ในวันที่ 2 – 3 อณุ หภูมิ จะสงู ถงึ 50 0c – 60 0c วนั ที่ 4 และวันที่ 5 อุณหภมู เิ ยน็ ลงจนปกติตรวจดไู ม่ให้อุณหภมู ิเกนิ 36 0c ปุ๋ยแหง้ สนทิ สามารถนาไปใช้ได้ วิธีการทดลอง 1. ขน้ึ ตอนที่ 1 เตรยี มถุงดาขนาด 5x11 นวิ้ ใว้ประมาณ 4 ถุง 2. ขึ้นตอนที่ 2 เตรยี มดินร่วนใสถ่ งุ ทัง้ 4 ถุง คอื ใช้ดนิ ชนดิ เดียวกนั ใสด่ ินในถงุ ดาในปริมาณท่ีเท่ากนั 3. ข้นึ ตอนที่ 3 เตรยี มต้นดาวเรือง 4 ตน้ เลก็ ขนาดท่ีเทา่ กนั 4. ขนั้ ตอนท่ี 4 นาดินทีเ่ ตรยี มมาผสมกับปุ๋ยโบกาฉขิ องเราที่เตรียมใว้ทั้ง 3 สตู ร -โครงการเพาะพันธุป์ ัญญา ปี 2560- ศนู ยพ์ ่ีเล้ยี งมหาวิทยาลัยอบุ ลราชธานี
5. ขนึ้ ตอนท่ี 5 นาตน้ ดาวเรอื งทเ่ี ตรยี มใว้ 3 ต้น นาไปปลกู ใสด่ นิ ทผี่ สมกับปุย๋ โบกิฉิทง้ั 2 สตู ร ไห้ เรยี บร้อย 6. ขั้นตอนท่ี 6 ในวนั แรกทป่ี ลกู รดนา้ จนโชก 2-3 คร้ังต่อวนั สว่ นวนั ตอ่ ไปรดน้าแค่เชา้ กบั เย็น รอดผู ล ประมาณ 21 – 35 วัน บันทกึ ผลการเขรญิ เติบโตของตน้ ดาวเรอื งทุก 15 วัน ** หมายเหตุ ขัน้ ตอนที่ 1 – 6 ทาการทดลอง 5 ชุดการทดลองเพื่อเก็บข้อมลู ท่ีละเอียดและชัดเจนขึน้ ผลการทดลอง สตู รปุย๋ โบกาฉิ ผลการทดลอง (ค่าเฉลีย่ การเจริญเติบโตของดาวเรอื ง) อตั ราส่วน 15 วัน 30 วัน 45 วัน มูลวัว : ราละเอยี ด : ใบไมแ้ ห้ง : EM : สงู ใบ ดอก สงู ใบ ดอก สูง ใบ ดอก กากน้าตาล : น้า (ซม) (ซม) (จานวน (ซม) (ซม) (จานวน (ซม) (ซม) (จานวน 20 19 ดอก) ดอก) ดอก) 17 สูตรที่ 1 1:1:1:2:1:2 8 - 26 13 6 28 15 9 สตู รท่ี 2 1:1:1:1:1:2 ไม่ใสป่ ยุ๋ 6 - 25 10 4 27 12 7 - 5 - 23 9 3 25 11 6 กราฟเปรียบเทียบการเจรญิ เติบโต(ความสูง)ของดอกดาวเรืองจากการใส่ปยุ๋ โบกาฉสิ ูตรต่าง ๆ 30 ใสป่ ๋ ยุ สตู ร 1(cm) 25 ใสป่ ๋ ยุ สตู ร 2(cm) 20 ไมใ่ สป่ ๋ ยุ (cm) 15 10 5 0 15 วนั 30 วนั 45 วนั อภปิ รายผล จากการทดลองนาปยุ๋ โบกาฉิ มาทดลองกับตน้ ดาวเรอื ง โดยใช้ปยุ๋ โบกาฉสิ ตู รท่ี 1 ปุ๋ยโบกาฉิ สูตรที่ 2 และปลกู ต้นดาวเรือง โดยใสน่ ้า สงั เกตผลเป็นระยะเวลา 45 วนั พบว่า ตน้ ดาวเรอื งที่ปยุ๋ โบกาฉิสตู รท่ี 1 จะมี การเจรญิ เติบโตความสูงมากกวา่ ปุ๋ยโบกาฉิ สตู รท่ี 2 และปลูกตน้ ดาวเรือง โดยใส่นา้ -โครงการเพาะพนั ธุ์ปญั ญา ปี 2560- ศูนย์พี่เล้ียงมหาวิทยาลัยอบุ ลราชธานี
กราฟเปรยี บเทียบการเจรญิ เติบโต(จานวนดอก)ของดอกดาวเรอื งจากการใส่ปุ๋ยโบกาฉสิ ูตรต่าง ๆ 10 ใสป่ ๋ ยุ สตู ร 1(ดอก) 9 ใสป่ ๋ ยุ สตู ร 2(ดอก) 8 ไมใ่ สป่ ๋ ยุ (ดอก) 7 6 5 4 3 2 1 0 15 วนั 30 วนั 45 วนั อภปิ รายผล จากการทดลองนาปยุ๋ โบกาฉมิ าใสก่ บั ต้นดาวเรอื งโดยแยกตามสูตรนามาใสใ่ นถุงทีเ่ ตรียมไว้โดยใส่ปยุ๋ โบกาฉสิ ตู รทห่ี นงึ่ ในปริมาณหนึ่งกามือกับต้นดาวเรอื งตน้ ที่หน่งึ แล้วนาปุ๋ยโบกาฉสิ ตู รท่สี องใสต่ ้นท่ีสองใน ปรมิ าณหน่งึ กามือสว่ นต้นดาวเรืองตน้ ท่ีสามไม่ใสป่ ุ๋ยไดเ้ ห็นว่าตน้ ดาวเรอื งตน้ ท่หี นึง่ ทใ่ี ส่สูตรทหี่ นงึ่ มีการ เจรญิ เติบโตของต้นและดอกมากกวา่ ต้นดาวเรืองต้นท่ีสองและตน้ ทีส่ าม สรปุ ผล การศกึ ษาทดลองเปรยี บเทยี บการปลูกดอกดาวเรื่องโดยใช้สูตรปุ๋ยโบกาฉิ ทง้ั 3 ตวั เปรียบเทยี บและ สงั เกตการณ์เจริญเตบิ โตของดอกดาวเรือง พบวา่ สูตรปุย๋ โบกาฉสิ ตู รท่ี 1 ทาให้การเจรญิ เติบโตของต้น ดาวเรอื งทัง้ ความสงู และจานวนดอกดีกว่าปุย๋ โบกาฉิสูตรที่ 2 และไม่ใสป่ ุ๋ยโบกาฉิ แสดงวา่ ป๋ยุ โบกาฉิ สตู รที่ 1 มสี ารอาหารทเี่ หมาะต่อการเจริญเติบโตของดอกดาวเรืองเหมาะสมทส่ี ุด เอกสารอา้ งอิง 1. Dhammachard (2557) , การทาปยุ๋ แห้งโบกาฉิ , สืบคน้ เมื่อวนั ที่ 1 กรกฎาคม 2560 จากเวบไซด์ : http://www.kasedtakon.com/36 2. บริษทั ออรก์ านิกโตต๊ โตะจากัด. (2557). จุลินทรีย์นา้ EM พร้อมใช.้ สบื ค้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคม 2560 จากเวบไซด์ : http://www.organictotto.com/ 3. บริษัทอเี อม็ คิวเซจากัด (2557). การประยกุ ต์ใช้ EM แบบแห้ง สืบคน้ เม่ือวันที่ 1 กรกฎาคม 2560 จากเวบไซด์ : http://www.emkyusei.com/em1_2.html 4. Dhamma Articles ( 2556) ดาวเรอื ง ข้อมูลพน้ื ฐานของดอกดาวเรอื ง สบื คน้ เมื่อวนั ที่ 1 กรกฏาคม 2560 จากเวบไซด์ : https://www.dmc.tv 5. Pranisa pansri. ( 2555) . การทาปยุ๋ แหง้ โบกาฉิ สืบคน้ เม่อื วันที่ 1 กรกฏาคม 2560 จากเวบ ไซด์ : https://www.youtube.com/watch?v=hBp3MfVKAew -โครงการเพาะพันธ์ุปัญญา ปี 2560- ศูนย์พเ่ี ลีย้ งมหาวทิ ยาลัยอบุ ลราชธานี
ภาคผนวก -โครงการเพาะพนั ธุ์ปญั ญา ปี 2560- ศนู ย์พเ่ี ลย้ี งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ภาพกิจกรรม -โครงการเพาะพันธ์ปุ ัญญา ปี 2560- ศนู ย์พเ่ี ล้ยี งมหาวทิ ยาลยั อบุ ลราชธานี
โครงงาน RBL เรอื่ ง การรณรงคส์ รา้ งจิตสานึกในการสร้างและทงิ้ ขยะในสถานศึกษา สนับสนุนโดยสานักงานกองทนุ สนบั สนุนการวจิ ยั (สกว) และ บมจ.ธนาคารกสกิ รไทย ชดุ โครงการ “เพาะพนั ธปุ์ ญั ญา (พัฒนายุววิจัย)” ผ้จู ัดทาโครงงาน 1 นายกายสิทธิ์ สันดร 2 นายนนทกานต์ ทองทา 3 นางสาวชนิภรณ์ มงุ่ งาม 4 นายธรี เดช หลกั คา นกั เรียนระดบั ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 5 โรงเรยี นสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสงั ฆราชูปถมั ภ์ อาเภอคาเขอื่ นแก้ว จงั หวดั ยโสธร สานกั งานเขตพืน้ ที่การศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต 28 พ.ศ. 2560 -โครงการเพาะพันธ์ปุ ญั ญา ปี 2560- ศนู ย์พีเ่ ลี้ยงมหาวทิ ยาลยั อบุ ลราชธานี
กิตติกรรมประกาศ ในการจัดทาโครงงาน RBL เร่ือง การรณรงค์สร้างจิตสานึกในการสร้างและทิ้งขยะในสถานศึกษา ครั้งนี้สาเร็จลุล่วงไปได้ด้วยดีต้อง ขอกราบขอบพระคุณ นายชาติชาย สิงห์พรหมสาร ผู้อานวยการโรงเรียน สมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ นายเชิดชัย สิงห์คิบุตร รองผู้อานวยการโรงเรียนสมเด็จพระ ญาณสังวร ในพระสงั ฆราชปู ถมั ภ์ ที่ให้คาชี้แนะ อานวยความสะดวกในการจัดทาโครงงานคร้งั นี้ กราบขอบพระคุณ คณะครูพ่ีเล้ียงศูนย์มหาวิทยาลัยอุบลราชธานีทุกท่าน คาปรึกษา ดูแลแนะนา และแก้ไขขอ้ บกพรอ่ งในการทาโครงงานทุกด้าน กราบขอบพระคุณคุณครูกิตติมา สาระรักษ์ ท่ีให้คาปรึกษา ดูแลแนะนา และแก้ไขข้อบกพร่องใน การทาโครงงานทุกด้าน รวมถงึ ให้ ใหก้ าลงั ใจอยา่ งดที ่ีสุดในการทาโครงงานจนเสรจ็ สมบรู ณ์ ขอกราบขอบพระคุณ คุณพ่อ คุณแม่และผู้ปกครองของสมาชิกในกลุ่มทุกท่าน ที่ช่วยส่งเสริมและให้ โอกาสทางการศึกษา และทไ่ี ด้ใหก้ าลังใจยิง่ ในการศกึ ษาและการทาโครงงานในครั้งน้ี กราบขอบพระคุณ คณะครูเพาะพันธ์ปัญญา โรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ท่ีให้คาปรกึ ษา ดแู ลแนะนาและใหก้ าลังใจในการทาโครงงาน ขอขอบใจเพ่ือนนักเรียนทุกคนท่ีคอยให้กาลังใจ และร่วมแสดงในภาพยนตร์สั้น จนกระท่ังโครงงาน เรื่อง การรณรงค์สรา้ งจติ สานึกในการสรา้ งและทง้ิ ขยะ สาเร็จลลุ ่วงไปดว้ ยดี -โครงการเพาะพันธปุ์ ญั ญา ปี 2560- ศนู ย์พ่ีเลยี้ งมหาวทิ ยาลัยอุบลราชธานี
บทคดั ย่อ ชื่อโครงงาน การรณรงคส์ ร้างจติ สานึกในการสร้างและทิง้ ขยะในสถานศึกษา ช่ือนักเรยี นผู้จดั ทาโครงงาน 1 นายกายสิทธ์ิ สนั ดร 2 นายนนทกานต์ ทองทา 3 นางสาวชนิภรณ์ มงุ่ งาม 4 นายธรี เดช หลักคา นักเรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 5 โรงเรยี นสมเด็จพระญาณสงั วร ในพระสังฆราชปู ถัมภ์ ครทู ่ีปรกึ ษา นางสาวกิตติมา สาระรกั ษ์ ตาแหนง่ ครู วิทยฐานะ ครูชานาญการพเิ ศษ โรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชปู ถมั ภ์ ปีทีท่ า พ.ศ. 2560 จากการศึกษาโครงงานเรื่อง การรณรงคส์ รา้ งจิตสานกึ ในการสรา้ งและท้งิ ขยะ ทางกลมุ่ ผ้ศู กึ ษามี วัตถปุ ระสงคใ์ นการศึกษา คือ 1) ศึกษาพฤตกิ รรมเกี่ยวกบั การสรา้ งและการทิง้ ขยะของนักเรียนโรงเรยี น สมเด็จพระญาณสังวรฯ 2) ศึกษาระดับความรู้และเจตคตติ ่อการสร้างและท้งิ ขยะในโรงเรียนของนักเรยี น โรงเรยี นสมเดจ็ พระญาณสังวรฯ 3) พัฒนาสือ่ ในการให้ความรูแ้ ละสง่ เสรมิ ใหน้ กั เรียนโรงเรียนสมเด็จพระ ญาณสงั วรฯมเี จตคติท่ีดีในการสร้างและทง้ิ ขยะในสถานศึกษา ผลการศึกษาพบว่า ระดับความรู้เก่ียวกับขยะของผู้บริหาร คณะครู บุคลากรทางการศึกษา แม่ค้า ของโรงเรยี นสมเดจ็ พระญาณสังวร ในพระสงั ฆราชูปถัมภ์ มีระดับความรู้ท่ีถูกต้องเกี่ยวกับขยะ จานวน 120 คิดเป็นร้อยละ 68.97 และ มีระดับความรู้ท่ียังไม่ถูกต้องชัดเจน จานวน 54 คน คิดเป็นร้อยละ 31.03 จึงจาเป็นอย่างยิ่งท่ีต้องมีการจัดกิจกรรมในการให้ความรู้เกี่ยวกับขยะเพ่ือพัฒนาความรู้ความเข้าใจอย่าง ถกู ตอ้ ง ดา้ นพฤติกรรมการสร้างและการทงิ้ ขยะในการสร้างและท้ิงขยะในสถานศึกษาโดย พบว่าส่วนใหญ่ยัง มีพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้องในการทิ้งขยะ จาเป็นต้องมีการรณรงค์ให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ส่วนในด้าน เจตคติต่อการสร้างและท้ิงขยะในโรงเรียนน้ัน ส่วนใหญ่มีเจตคติที่ดี และเห็นว่าโรงเรียนควรมีการรณรงค์ เพื่อให้ความรู้และสร้างเจตคติท่ีดีเกี่ยวกับการสร้าและการทิ้งขยะ ถ้าโรงเรียนมีกิจกรรมดังกล่าวจะเข้าร่วม กิจกรรมดว้ ยความเตม็ ใจ ระดับความพึงพอใจต่อสื่อเพ่ือรณรงค์สร้างเจตคติท่ีดีในการสร้างและการทิ้งขยะของนักเรียนใน โรงเรียน พบว่า สื่อท่ีจัดทาขึ้นเพ่ือรณรงค์ให้ความรู้เก่ียวกับปัญหาขยะในสถานศึกษามีเน้ือหาที่เหมาะสม มี รปู แบบทด่ี ึงดูดความสนใจ ใหค้ วามรูเ้ กี่ยวกับปัญหาทเ่ี กดิ จากขยะทีม่ ตี อ่ การดาเนินชีวิตได้ ให้ความรู้เกี่ยวกับ วิธีการท้ิงขยะท่ีถูกต้อง มีความเหมาะสมกับบุคลากรในสถานศึกษาทุกเพศ ทุกวัย สามารถปรับเปลี่ยน พฤติกรรมไปในทางท่ีดี และสามารถให้ข้อคิดท่ีดีในการสร้างและท้ิงขยะในสถานศึกษา โดยมีค่าเฉล่ีย 4.14 อยู่ในระดบั มาก -โครงการเพาะพนั ธปุ์ ญั ญา ปี 2560- ศนู ยพ์ ีเ่ ลี้ยงมหาวทิ ยาลัยอุบลราชธานี
ระดับความพึงพอใจในการเข้าร่วมกิจกรรมรณรงค์สร้างเจตคติที่ดีในการสร้างและการท้ิงขยะของ นักเรียนในโรงเรียนน้ัน พบว่า ระยะเวลาในการดาเนินกิจกรรมและการประชาสัมพันธ์กิจกรรมมี ความเหมาะสม ส่ือท่ีใช้ในการรณรงค์มีความเหมาะสม สื่อและกิจกรรม Big cleaning Day ที่ใช้ในการ รณรงค์นั้นช่วยพัฒนาความรู้ เปล่ียนแปลงเจตคติและพฤติกรรมได้ จนทาให้เกิดความพึงพอใจ ได้รับ ประโยชน์ และมีความต้องการในการจัดกิจกรรมการรณรงค์สร้างจิตสานึกในการสร้างและทิ้งขยะใน สถานศกึ ษาในปีการศึกษาต่อไป โดยมีค่าเฉลี่ย 3.99 อย่ใู นระดับมาก -โครงการเพาะพันธุ์ปญั ญา ปี 2560- ศนู ยพ์ เ่ี ล้ียงมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
สารบัญ หนา้ เรือ่ ง 2 3 กติ ตกิ รรมประกาศ 6 บทคัดย่อ 7 ท่มี าและความสาคัญของโครงงาน 7 วตั ถุประสงค์การศึกษาวิจยั 8 ขอบเขตของการศึกษาวจิ ยั 15 แนวคดิ และทฤษฎที เ่ี ก่ียวข้อง 16 วิธกี ารศึกษาขอ้ มลู 27 ผลการวจิ ยั 29 การอภปิ รายผล 31 อา้ งอิง 32 ภาคผนวก 43 ภาคผนวก ก เครื่องมือทใ่ี ชใ้ นการศึกษา ภาคผนวก ข ภาพกจิ กรรมการดาเนินโครงการ -โครงการเพาะพันธ์ุปญั ญา ปี 2560- ศูนยพ์ ี่เลีย้ งมหาวิทยาลยั อุบลราชธานี
บทนา ท่มี าและความสาคัญของโครงงาน ปัจจุบันปัญหาเรื่องขยะนับว่าเป็นปัญหาสาคัญทั้งในระดับชุมชนและระดับประเทศ สาเหตุ เนื่องมาจากประชากรในประเทศมีจานวนมากข้ึน สถานประกอบการต่างๆ มีมากขึ้น และสิ่งที่ตามมาอย่าง เลยี่ งไม่ได้ก็คอื ขยะ ยอ่ มมจี านวนมากข้นึ ตามไปด้วย ประชาชนในประเทศเองก็ยังขาดจิตสานึกในการท้ิงขยะ ให้เป็นท่ี ขาดความรู้เก่ียวกับการนาขยะกลับมาใช้ใหม่ และหลายๆ คนไม่เห็นคุณค่า ทั้งที่ขยะเหล่านั้นหาก นามาคัดแยกอย่างถูกวิธีแล้วจะสามารถสรา้ งประโยชนไ์ ด้ และยงั สามารถนากลับมาหมุนเวียนเข้ากระบวนการ ผลิตเพื่อนากลบั มาใช้ใหมไ่ ดอ้ กี ครัง้ ซง่ึ จะสง่ ผลดีทง้ั ตอ่ สิง่ แวดล้อม ต่อประชากร และต่อประเทศชาติต่อไป ( https://is.gd/5IAP4f ) โรงเรยี นสมเด็จพระญาณสงั วร ในพระสงั ฆราชูปถัมภ์ โรงเรียนมัธยมศึกษาประจาตาบลดงแคนใหญ่ อาเภอคาเขอ่ื นแก้ว จังหวัดยโสธร เป็นอีกโรงเรียนหน่ึงที่ประสบปัญหาขยะในโรงเรียน อันเกิดจากความมักง่าย ขาดความรู้ และขาดจิตสานึก ในการสร้างและทิ้งขยะ สาเหตุท่ีพบบ่อย คือการท้ิงขยะลงตามพ้ืน ใต้โต๊ะเรียน บริเวณพุ่มไม้ การท้ิงขยะไม่ถูกที่นั้นสร้างปัญหาทาให้โรงเรียนไม่สะอาด และยังเป็นแหล่งอาหารและแหล่ง เพาะพันธ์ุของแมลงนาโรค เช่น แมลงวัน แมลงสาบ ยุง ฯลฯ ทาให้เกิดกลิ่นเหม็น พื้นท่ีบริเวณน้ันๆ สกปรก ก่อให้เกิดความราคาญ และเป็นสาเหตุเกิดของปัญหาสุขภาพตามมา (https://is.gd/GgJdqq ) จึงมี ความจาเปน็ อย่างยงิ่ ที่ปัญหาขยะดังกล่าวจะต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน ซ่ึงการแก้ไขปัญหาเกี่ยวกับการ สร้างและการท้ิงขยะท่ีดีวิธีการหนึ่งคือ การให้ความรู้ที่ถูกต้อง และการสร้างเจตคติในเชิงบวกให้แก่ผู้มีส่วน เกย่ี วขอ้ งในปญั หาน้นั ๆ การดาเนินการรณรงค์สร้างจิตสานึกในการสร้างและการท้ิงขยะในโรงเรียนนั้น การพัฒนา กระบวนการคิด และการให้ความรู้โดยผ่านสื่อต่างๆ จนสามารถทาให้เกิดการเปลี่ยนเจตคติได้น้ัน จะต้อง อาศัยขั้นตอนการให้ข้อมูลเบื้องต้น (Information)ทางความคิด การสร้างความคิดรวบยอด (Concept) การวิเคราะห์ (Analysis) แยกแยะส่วนต่างๆให้เห็นความสัมพันธ์หรือผลกระทบซึ่งกันและกัน การนาไปใช้ (Application) จนกระทั่งถึงการสร้างเจตคติ ( Attitude) เมื่อข้อมูลความรู้ถูกใช้หรือส่งผ่านมาถึงข้ันสุดท้าย แล้ว ผู้เกี่ยวข้องทุกฝ่ายก็สามารถสรุปผลด้วยตนเองได้ว่าเขามีความเช่ือหรือเจตคติอย่างไร แต่ท้ังน้ีท้ังนั้น การใหร้ ณรงคด์ งั กล่าวจะประสบความสาเรจ็ จนสามารถเปลี่ยนเจตคตไิ ดห้ รอื ไม่ ต้องประกอบไปด้วยปัจจัยอีก หลายประการ เช่น การรับรู้ (Perception) ความสนใจ และความจา ดังนั้นในการรณรงค์เพ่ือเปล่ียนเจตคติ จงึ จาเป็นต้องคานึงการส่ือความหมายซึ่งเป็นสิ่งสาคัญในการส่งและรับข้อมูล ข้อมูลที่ส่ือสารนั้นจะต้องเป็นท่ี น่าสนใจ มีการรับรู้ในทางบวก จึงจะเป็นการส่งเสริมให้ผู้รับจดจาข้อมูลได้ดี ก็จะทาให้การพัฒนาเจตคติ เปน็ ไปได้อย่างตอ่ เนอ่ื ง (Interfere) จากแนวคิด เหตุผล ท่ีมาและความสาคัญดังกล่าว จึงเป็นแรงจูงใจให้คณะผู้ศึกษาได้ ศึกษาระดับ ความรู้เก่ียวกับขยะ เจตคติในการสร้างและทิ้งขยะในสถานศึกษา รวมถึงการพัฒนาส่ือเพื่อการรณรงค์ใน การสร้างและท้ิงขยะในสถานศึกษา ผู้คณะผู้ศึกษาเชื่อม่ันว่าข้อมูลและเคร่ืองมือดังกล่าว จะสามารถส่งผลให้ ผู้เกี่ยวข้องกับปัญหาดังกล่าวมีเจตคติในทางที่ดีข้ึน จนสามารถแก้ไขปัญหา ก่อเกิดความตระหนักใน ความสาคัญ และผลกระทบท่ีเกิดขึ้นจากขยะท่ีเกิดข้ึนในโรงเรียน เพ่ือเป็นการรักษาความสะอาดและส่งเสริม สุขลักษณะท่ีดีในการดารงชีวิตให้เกิดขึ้นในโรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวรฯ รวมถึงเป็นแนวทางใน การรณรงคแ์ ก้ไขปัญหาในเรือ่ งอื่นๆ ต่อไป -โครงการเพาะพันธุ์ปญั ญา ปี 2560- ศนู ย์พี่เลีย้ งมหาวทิ ยาลัยอุบลราชธานี
วัตถปุ ระสงคก์ ารศกึ ษาวิจัย 2.1 เพ่อื ศึกษาพฤตกิ รรมเกี่ยวกบั การสรา้ ง และการทงิ้ ขยะของนกั เรียน โรงเรียนสมเดจ็ พระญาณสังวร ในพระสงั ฆราชปู ถมั ภ์ 2.2 เพ่ือศกึ ษาระดบั ความร้แู ละเจตคตติ อ่ การสรา้ งและท้ิงขยะในโรงเรียนของนักเรียนโรงเรียน สมเด็จพระญาณสงั วร ในพระสงั ฆราชปู ถัมภ์ 2.3 เพ่อื พฒั นาสอ่ื ในการให้ความรู้และสง่ เสริมให้นักเรยี นโรงเรียนสมเดจ็ พระญาณสังวร ในพระ- สงั ฆราชปู ถัมภ์ ให้มีเจตคติท่ีดีในการสร้างและท้ิงขยะในสถานศกึ ษา ขอบเขตของการศึกษาวิจัย ประชากร - คณะผบู้ ริหาร คณะครแู ละบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนสมเด็จพระญาณสงั วร ในพระสงั ฆ- ราชูปถมั ภ์ จานวน 36 คน - นกั เรยี นโรงเรียนสมเดจ็ พระญาณสงั วร ในพระสงั ฆราชปู ถมั ภท์ กุ จานวน 493 คน - แมค่ า้ ในโรงเรียนสมเดจ็ พระญาณสงั วร ในพระสงั ฆราชูปถมั ภ์ทุก จานวน 11 คน จานวนประชากรรวมทัง้ สิน้ จานวน 540 คน กลมุ่ ตวั อยา่ ง - คณะผู้บรหิ าร คณะครูและบคุ ลากรทางการศึกษาของโรงเรยี นสมเด็จพระญาณสงั วร ในพระสังฆ- ราชปู ถัมภ์ จานวน 10 คน - นกั เรยี นโรงเรยี นสมเดจ็ พระญาณสังวร ในพระสงั ฆราชปู ถมั ภท์ กุ จานวน 150 คน - แมค่ า้ ในโรงเรียนสมเด็จพระญาณสงั วร ในพระสังฆราชูปถมั ภท์ กุ จานวน 5 คน จานวนกลมุ่ ตวั อยา่ งรวมทั้งสนิ้ จานวน 165 คน เครื่องมือ - แบบสอบถาม เพ่ือวัดระดับความรู้ เจตคตแิ ละความต้องการในการรณรงคเ์ กี่ยวกับ การสรา้ งและการท้ิงขยะของนักเรยี นในโรงเรียน - ส่อื เพื่อรณรงคส์ รา้ งเจตคติทด่ี ีในการสร้างและการท้ิงขยะของนักเรียนในโรงเรียน - แบบสอบถามเพื่อประเมินความพึงพอใจ สอื่ เพอื่ รณรงค์สร้างเจตคติทีด่ ีในการสร้างและการทิ้ง ขยะของนักเรียนในโรงเรียน - กิจกรรม Big Cleaning Day - แบบสอบถามเพื่อประเมินความพึงพอใจ ในการเขา้ รว่ มโครงการรณรงค์สร้างเจตคติท่ีดีในการ สรา้ งและการทงิ้ ขยะของนักเรยี นในโรงเรียน -โครงการเพาะพันธุป์ ัญญา ปี 2560- ศนู ย์พเ่ี ลี้ยงมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
แนวคิดและทฤษฎที ีเ่ กีย่ วข้อง 1. ความรเู้ กี่ยวกับขยะและการแกไ้ ขปญั หาขยะ ขยะ เป็นปัญหาสภาพแวดล้อมที่มีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของมนุษย์ทั้งทางตรงและทางอ้อม มากมายหลายรปู แบบ ทัง้ ท่ีเปน็ ของแข็ง ของเหลว ขยะท่ียอ่ ยสลายได้และท่ีย่อยสลายไม่ได้ ของที่ใช้ประโยชน์ ได้และท่ีใช้ประโยชน์ไม่ได้ และขยะมีพิษต่อมนุษย์และส่ิงแวดล้อม จากการใช้สอยของมนุษย์หรือจาก ขบวนการผลิตจากกจิ กรรมภาคอุตสาหกรรมและเกษตรกรรมขยะมีหลายประเภท เช่นขยะท่ีสามารถนามาใช้ ประโยชน์ได้ หรือขยะรีไซเคลิ เชน่ ขวดแกว้ พลาสติก โลหะ และกระดาษ ขยะธรรมชาติหรือขยะที่ย่อยสลาย ได้ เช่น เศษผัก เศษใบไม้ใบหญ้า เศษอาหาร (https://www.im2market.com) ปัญหาท่ีเกิดจากขยะมูล ฝอยนั้น นับวันจะเพิ่มมากข้ึนตามจานวนของประชากร ถ้าหากไม่มีการกาจัดขยะมูลฝอยให้ถูกต้องและ เหมาะสมแล้ว ปัญหาความสกปรกต่างๆ ทเี่ กิดจากขยะมลู ฝอย จะต้องเกิดขึ้นอย่างแน่นอน ถ้ามองกันอย่างผิว เผินแล้ว ขยะมูลฝอยน้ันไม่ได้มีผลกระทบต่อมนุษย์มากนัก ทั้งนี้อาจเป็นเพราะผลกระทบที่เกิดขึ้นโดยตรงต่อ มนุษย์ ยังอยู่ในขั้นท่ีไม่รุนแรงมากนัก แต่ในความเป็นจริงแล้ว ขยะมูลฝอยจะก่อให้เกิดปัญหาต่อ สภาพแวดล้อมเป็นอย่างมากและจะมีผลกระทบต่อสุขภาพอนามัยของผู้ท่ีอาศัยบริเวณใกล้เคียง นอกจากนี้ ขยะมูลฝอยท่ีตกอยู่หรือถูกทิ้งลงในคูคลอง หรือทางระบายน้า จะไปสกัดกั้นการไหลของน้า ทาให้แหล่งน้า สกปรกและเกิดการเน่าเสีย เม่ือน้าเสียจากกองขยะมูลฝอยไหลไปตามพ้ืนดินบริเวณใด ก็จะทาให้บริเวณน้ัน เกิดความสกปรก และความเสื่อมโทรมของพื้นดินและอาจเปล่ียนสภาพได้ น้าที่สกปรกมากหรือมีสารพิษเจือ ปนอยู่ ก็อาจทาให้สัตว์น้าตายในเวลาอันสั้น ขยะมูลฝอยท่ีกองทิ้งไว้นาน ๆ จะมีก๊าซท่ีเกิดจากการหมัก ขึ้น ไดแ้ ก่ กา๊ ซชีวภาพ ซง่ึ ตดิ ไฟหรอื เกดิ ระเบิดข้ึนได้ และก๊าซไข่เน่า ซ่ึงมีกล่ินเหม็น ส่วนการแก้ไขปัญหาขยะ มลู ฝอยทาได้โดยพิจารณา ถึงต้นเหตุที่ก่อให้เกิดขยะมูลฝอยขึ้นมา ซ่ึงก็คงจะหมายถึง มนุษย์ หรือผู้สร้างขยะ มลู ฝอยนั้นเอง การป้องกนั และการแก้ไขปัญหาของขยะมูลฝอย เร่ิมต้นด้วยการสร้างจิตสานึกแก่มนุษย์ให้รู้จัก รับผิดชอบในการรักษาความสะอาด ทั้งในบ้านเรือนของตัวเอง และภายนอกบ้าน ไม่ว่าจะเป็นถนน สถานท่ี ทางาน หรอื ทส่ี าธารณะอ่นื ๆให้รู้จักท้งิ ขยะมูลฝอยลงในภาชนะให้เป็นท่ีเป็นทาง ไม่มักง่ายทิ้งขยะเกล่ือนกลาด ทั้ ง นี้ เ ป็ น ก า ร ช่ ว ย ใ ห้ พ นั ก ง า น เ ก็ บ ข ย ะ น า ไ ป ยั ง ส ถ า น ที่ ก า จั ด ไ ด้ ส ะ ด ว ก แ ล ะ ร ว ด เ ร็ ว ขึ้ น http://www.chaiwbi.com/0drem/web_children/2551/ms201/c_camp51/600.htm lและอีกวิธีการ ท่ีจะกาจัดขยะได้อย่างมีประสิทธิภาพ ลดปริมาณขยะของประเทศ และยังนาเอาขยะกลับมาใช้ใหม่ให้เป็น ประโยชน์ได้คือวธิ กี ารจดั การขยะด้วยแนวคดิ 7R ดังนี้ 1. REFUSE : หลกี เลี่ยงการใช้ส่ิงของหรือบรรจภุ ัณฑ์ท่สี รา้ งปญั หา รวมท้ังเปน็ มลพิษต่อส่ิงแวดลอ้ ม เช่น กลอ่ งโฟม หรือ ขยะมีพษิ อน่ื ๆ 2. REFILL : เลอื กใชส้ ินคา้ ชนิดเตมิ 3. RETURN : เลือกใชส้ นิ คา้ ท่ีสามารถสง่ คนื บรรจุภัณฑก์ ลบั สผู่ ูผ้ ลติ ได้ เชน่ ขวดเคร่อื งดมื่ ประเภทตา่ งๆ 4. REPAIR : ซ่อมแซมเครอื่ งใชใ้ ห้สามารถใชป้ ระโยชนไ์ ดต้ ่อไป 5. REUSE : นาบรรจภุ ัณฑ์ใช้แล้วกลบั มาใชใ้ หม่ เช่น ใช้ถงุ ผา้ แทนถงุ พลาสตกิ 6. RECYCLE : แยกขยะทีย่ ังใช้ประโยชน์ได้ เพอ่ื ให้ง่ายในการจดั เก็บและสง่ ต่อไปแปรรูป เชน่ กระปอ๋ ง ขวด พลาสตกิ ขวดแก้ว ฯลฯ 7. REDUCE : ลดปริมาณการใช้และหาทางเพ่ิมประสิทธิภาพการใช้งานของส่ิงของตา่ งๆ http://www.yaklakyim.com -โครงการเพาะพนั ธุ์ปญั ญา ปี 2560- ศูนย์พ่เี ลย้ี งมหาวิทยาลยั อบุ ลราชธานี
2. การจัดกจิ กรรมเพือ่ ปลกู จิตสานกึ ในด้านกระบวนการคดิ การใหค้ วามรูโ้ ดยการจดั ทาสอื่ ตา่ งๆล้วนเปน็ การทาให้เกิดการเปลี่ยนเจตคติในเร่ืองใดเร่ือง หน่ึง ถา้ จะมองในลักษณะของการสอนแล้วก็คงจะต้องมเี ป้าหมายวา่ ผ้สู อนตอ้ งการให้ผู้เรยี นมเี จตคตใิ นเร่ืองใด อยา่ งไร แล้วจะจัดสภาพการเรยี นให้อย่างไร การทีจ่ ะใหเ้ กิดผลอย่างใดอยา่ งหนง่ึ นน้ั มปี ัจจยั เขา้ มาเก่ยี วข้อง มากมาย ซ่ึงการพัฒนาจติ สานกึ เป็นกระบวนการที่ความรู้ถูกส่งผา่ นแล้ว ทา้ ยทีส่ ดุ กอ็ อกมาเป็นเจตคติ โดย อาศยั ข้นั ตอนต่างๆ ของ Benjamin Bloom เปน็ หลกั ดังน้ี 1. ข้ันข้อมูลเบื้องต้น (Information) การเปล่ียนเจตคติของคนนั้นอย่างน้อยท่ีสุดก็จะต้อง ได้รับข้อมูลเสียก่อนเพ่ือจะเข้าไปทาให้เกิดการจาในทางความคิดข้อมูลเบื้องต้นทางความคิดในการสร้าง จิตสานึกตอ่ การสร้างและการทงิ้ ขยะ คือ การเรยี นร้เู รอ่ื งขยะ การเปลยี่ นแปลงของระบบนิเวศในโรงเรียน และ ความรเู้ รอ่ื งขยะท่สี ่งผลต่อสุขภาพของนักเรียนในโรงเรียน 2. ขั้นความคิดรวบยอด (Concept) เมื่อข้อมูลถูกส่งมายังผู้รับ ซ่ึงสมองไม่สามารถจะเก็บ รายละเอียดต่างๆ ไวท้ ้งั หมดได้ แตจ่ ะเกบ็ ไวใ้ นลกั ษณะท่ีสรุปเปน็ ใจความส้นั ๆ 3. ขัน้ การวเิ คราะห์ (Analysis) การวเิ คราะห์เป็นการแยกแยะส่วนตา่ งๆให้เหน็ ความสัมพันธ์ หรือผลกระทบซึ่งกันและกัน เช่นเร่ืองของขยะในโรงเรียน ก็จะต้องแยกแยะดูว่าขยะเหล่าน้ีเกิดจากสาเหตุ อะไร 4. ข้ันการนาไปใช้ (Application) ขั้นการนาไปใช้น้ีอาจนาความรู้ในเร่ืองเดิมไปใช้ใน สถานการณ์อื่นๆหรือทัศนะที่เกิดขึ้นไปใช้ซึ่ง Jerome Bruner กล่าวว่าการนาไปใช้เป็นการ ถ่ายทอดการ เรียนรู้โดยตรงและโดยอ้อม (Specific and Non-Specific Transfer) ตัวอย่างใน เร่ืองของขยะในโรงเรียน ได้แก่ เมื่อผู้เรียนใช้ถุงพลาสติกแล้วนักเรียนก็สามารถ นาความรู้ที่ได้ในการเรียนเร่ือขยะ เพ่ือท่ีจะลด พฤติกรรม ปรับเปล่ียนเจตคติท่ีทาให้เกิดความเสียหายแก่สุขภาพของนักเรียนเอง ต้องทิ้งขยะให้ถูกต้องตาม ประเภทขยะ 5. ขั้นเจตคติ ( Attitude) เม่ือข้อมูลความรู้ถูกใช้หรือส่งผ่านมาถึงข้ันน้ีแล้วผู้เรียนก็สามารถ สรุปผลด้วยตนเองได้ว่าเขามีความเชื่อหรือเจตคติอย่างไร ซ่ึงในข้ันน้ีถือได้ว่าเป็นเป้าหมายของการเรียน การ สอนตามแนวทางของบลูมมีลักษณะที่เหมือนกันกับการสอนโดยทั่วไปคือ เป็นทฤษฎีที่เน้นถึงกระบวนการ เรียนรู้ของบุคคลทีม่ ีข้อมูล เข้าไปทาให้เกิดการเปล่ียนเจตคติ แต่ยังมีปัจจัยอีกหลายประการท่ีเข้ามาเกี่ยวข้อง ในการสอนเพือ่ ให้เกิดการเปลยี่ นเจตคติดงั น้ีคือ 5.1. การรับรู้ (Perception) การรับรู้คร้ังแรกท่ีบุคคลมีต่อเร่ืองใดเรื่องหน่ึงมีผลต่อ การเปล่ยี นเจตคติโดยตรง ความรู้สกึ ที่มตี ่อเร่ืองใดๆ ในครั้งแรกอาจจะทาให้บุคคลไม่รับข้อมูลดังกล่าวก็ได้ ถ้า ขอ้ มูลดงั กล่าวถกู ปฏเิ สธ การส่งตอ่ ขอ้ มลู เพื่อใหเ้ กดิ การเปล่ยี นเจตคติกอ็ าจไมเ่ กิดขนึ้ 5.2. ความสนใจ บคุ คลจะยนิ ดีใหข้ ้อมูลส่งผ่านระบบประสาท เพ่ือใหเ้ กดิ การเรยี นรู้ หรือเปลยี่ นเจตคตหิ รือไม่ อยู่ทีค่ วามสนใจทผี่ ู้รับมีต่อข้อมูลน้ันด้วย เช่น ถ้าข้อมูลนั้นอ่านง่าย ลงมือปฏิบัติเป็น เรื่องทนี่ า่ ต่นื เต้น ฯลฯ ผูร้ บั ก็ยอ่ มมคี วามสนใจต่อขอ้ มลู นั้น 5.3. ความจา ถ้าข้อมูลนา่ สนใจมีการรับรใู้ นทางบวก ก็จะสง่ เสรมิ ใหผ้ รู้ ับจดจาข้อมูล ได้ดี กจ็ ะทาให้การพฒั นาเจตคติเปน็ ไปได้อย่างตอ่ เนื่อง เช่น ถ้าผู้รับสามารถจดจาเร่ืองประเภทของขยะได้ ลืม ข้อมูลอะไรนั้นเกิดจาก ข้อมูล หลายเรื่องเข้ามาสู่ระบบความจามากเกินไปและ ข้อมูลเก่าถูกรบกวน ( -โครงการเพาะพนั ธป์ุ ญั ญา ปี 2560- ศูนย์พี่เล้ยี งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
Interfere) ด้วยข้อมูลที่รับเข้ามาใหม่ ดังน้ันการให้ข้อมูลต่างๆแก่ผู้เรียนจึงต้องคานึงถึงสิ่งเหล่านี้ด้วย โดยเฉพาะการสอื่ ความหมายซึง่ เป็นสิ่งสาคัญในการสง่ และรับข้อมูล จากแนวคิดและทฤษฏีต่างๆที่กล่าวมาข้างต้นสรุปได้ว่า การจะสร้างให้ผู้เรียนเกิดจิตสานึกในการ อนุรักษ์และพัฒนาสิ่งแวดล้อมได้น้ันควรต้องจัดกิจกรรมโดยเริ่มต้นด้วยการสร้างความตระหนักเกี่ยวกับ ส่ิงแวดล้อมภายในโรงเรียน พัฒนาการสังเกต การบันทึกข้อมูล การให้ความรู้เกี่ยวกับขยะ ฝึกให้ผู้เรียนรู้จัก วางแผนร่วมกัน ตัดสินใจในการแก้ปัญหา และจัดการกับขยะ ส่ิงเหล่าน้ีจะส่งผล ให้ผู้เรียนมีเจตคติที่ดีต่อการ สร้างและทิง้ ขยะ ผู้วจิ ยั จงึ เลือกวิธกี ารจดั กิจกรรมตามหลกั การของส่ิงแวดล้อมศึกษา ตามลาดับดังนี้ 1. ให้ความรู้หรือข้อมูลเกี่ยวกับสภาวะแวดล้อมภายในโรงเรียน ตลอดจนผลกระทบจาก กิจกรรมของมนุษย์นั่นคือขยะ หรือให้ข้อมูลท่ีเป็นความจริงท่ีเกิดข้ึน เช่น ความรู้เกี่ยวกับปัญหาขยะที่มี ผลกระทบต่อสุขภาพของนักเรียนในโรงเรียน เพื่อให้ผู้เรียนได้มองเห็นความสัมพันธ์ระหว่างมนุษย์กับ ส่งิ แวดลอ้ ม 2. ให้ผู้เรียนได้มีประสบการณ์ตรงจากการลงมือปฏิบัติด้วยตนเองในธรรมชาติหรือ สภาพแวดลอ้ มโดยตรง ซ่งึ เปน็ การพฒั นาทักษะในเร่ืองการวิเคราะห์ แยกแยะต้นตอของปัญหาผลกระทบของ ปัญหาที่เกิดขึ้น ตลอดจนหาแนวทางในการแก้ปัญหาน้ันๆ เช่น ปัญหาผู้ป่วยเนื่องจากย่าฆ่าแมลง ผู้เรียนอาจ คิดวธิ ีกาจดั แมลงดว้ ยวิธใี หม่ แทนการใชย้ าฆา่ แมลงชนิดทเี่ ป็นอันตราย เปน็ ตน้ 3. นาสงิ่ ทีไ่ ดเ้ รียนรทู้ ัง้ หมดสูค่ วามต้งั ใจจรงิ ในการปฏิบตั ิทางาน และเป็นการสร้างความ ตระหนักทางด้านความคดิ จะทาใหม้ องเห็นอันตรายของปัญหาท่เี กดิ ขึ้นในปจั จบุ ันและอนาคต นาไปสูก่ าร เปล่ียนแปลง แบบแผนการดาเนนิ ชวี ิต เพอื่ ดารงรักษาสิง่ แวดล้อมเอาไว้โดยมีสงิ่ บ่งชี้ความสมั ฤทธผิ์ ลหรอื ความสาเร็จดังน้ี 1. การสนใจรบั รขู้ า่ วสารสิ่งแวดล้อมและมคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกับการสรา้ งและ การท้ิงขยะ 2. การไมล่ ะเมดิ กฎหมาย และข้อบงั คับต่างๆ 3. การช่วยดูแลสอดสอ่ งไมใ่ ห้เกดิ การทาลายสภาพแวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติ 4. การรว่ มมือรกั ษาสภาพแวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติ 6. การใหค้ วามรว่ มมือกนั ในการรักษาความสะอาดของชมุ ชน 7. การปฏบิ ัติตนเปน็ แบบอย่างให้ผู้อน่ื ในการรักษาสิ่งแวดล้อม 8. การชกั ชวนให้ผู้อ่นื ปฏิบัติตาม https://jarunart.files.wordpress.com 3. การโน้มน้าวใจและการรณรงค์ 1. ความหมายของการโน้มนา้ วใจ กระบวนการส่ือสารท่ีผสู้ ่งสารมีความพยายามและเจตนาสง่ สารเพือ่ ให้ผรู้ บั สารมีการเปล่ียนทศั นคติ และพฤติกรรมไปในทศิ ทางท่ีได้กาหนดโดยผกู้ ากับการส่ือสารหรือผ้สู ง่ สาร 2. ลักษณะของการโน้มน้าวใจ • ผ้โู นม้ น้าวใจมคี วามต้ังใจที่จะมีอิทธพิ ลเหนือผูถ้ ูกโนม้ น้าวใจ • โดยปกติผถู้ กู โนม้ นา้ วมที างเลอื กมากกว่าหนงึ่ ทางเลือก และผ้โู นม้ นา้ วใจพยายามชักจงู ผูถ้ กู โน้มน้าว ใจให้ยอมรับทางเลือกทีต่ นเสนอ -โครงการเพาะพนั ธ์ุปัญญา ปี 2560- ศนู ย์พ่ีเลย้ี งมหาวทิ ยาลยั อุบลราชธานี
• สิง่ ทีผ่ ้โู น้มน้าวใจตอ้ งการ คือ การเปล่ียนแปลง หรือการสร้าง หรอื ดารงไวซ้ ึง่ ความคดิ เห็น ทศั นะคติ คา่ นยิ ม และความเชือ่ ของผู้ถูกโน้มน้าวใจ 3. วัตถุประสงค์การโน้มน้าวใจ • เพือ่ การรับรู้หรือความตระหนัก • ดา้ นความร้สู ึก • ด้านพฤตกิ รรม 4. การพิจารณาผลของการโน้มน้าวใจ เกณฑ์ 3 ประการพิจารณาสาหรับตัดสิน 1. ความสอดคล้องกันระหวา่ งเจตนาของผสู้ ง่ สารและพฤติกรรมของผ้รู บั สารในระยะเวลาฉบั พลนั หรอื ชว่ งเวลานน้ั 2. ระดับความสอดคลอ้ งระหว่างเจตนาของผ้สู ง่ สารและพฤตกิ รรมของผู้รับสารท่ีตามมา 3. ระดบั ความยากของการสื่อสารผสู้ ่งสาร 5. องค์ประกอบพื้นฐานในการโนม้ น้าวใจ 1. ความเหมอื นกนั หรือแตกตา่ งกันระหว่างผู้ส่งสารและผู้รับสาร 2. ความแตกตา่ งของเนอ้ื หาข่าวสาร สารแตล่ ะชิน้ มคี วามโนม้ นา้ วใจไม่เหมอื นกนั 3. ความแตกตา่ งของสารในด้านวิธกี ารเขียน การพูด การจัดเรียงสาร หรอื ลลี าในการพูด การเขียน 6. ข้อสงั เกตผลการโนม้ น้าวใจ 1. การเปลย่ี นแปลงความรู้ และสานกึ 2. การเปลยี่ นแปลงในอารมณแ์ ละความร้สู กึ 3. การมวี ธิ ีการตรวจสอบทางสรีระวิทยา และการเปลยี่ นแปลงในทางพฤติกรรม การรณรงค์ (campaign) การรณรงค์ คือ เป็นศพั ทท์ ม่ี าจากทางทหาร การรณรงคส์ ร้างกาลังเพื่ออุดมการณ์ทีท่ าให้คนทงั้ หลาย ให้เกิดพลงั อะไรสักอยา่ ง เช่น สัปดาหร์ ณรงคเ์ ก่ียวกับ 1. การรณรงค์ หมายถงึ กระบวนการตอ่ เน่ืองท่ปี ระกอบด้วยกิจกรรม หรือการดาเนนิ การทอ่ี อกแบบ ขน้ึ เพื่อให้ไดม้ าซี่งผลลพั ท์ที่คาดหวงั ในช่วงระยะเวลาท่ีกาหนด (kendall.1992) 2. การรณรงค์ คือการพยายามในการส่ือสารท่ีต่อเน่ืองท่มี ีสาร (massage) มากกว่าหนึง่ ซึ่งเปน็ วัตถุประสงค์ของความพยายามของการสื่อสาร คือ การมีอิทธิพล ตอ่ สังคม หรือ สาธารณะชน 3. รณรงค์คือ กจิ กรรมที่ถูกวางไวล้ ว่ งหนา้ ได้ออกแบบโดย ผู้ท่ีตอ้ งการการเปลย่ี นแปลง ( change agent)* เพ่ือใหไ้ ด้มาซึง่ การเปล่ยี นแปลงเชิงพฤติกรรมของผู้รบั สารในชว่ งระยะเวลาท่กี าหนด ( change agent) ผนู้ าการเปลย่ี นแปลง ไมไ่ ด้หมายถงึ บุคคลเพียงอย่างเดียวยังหมายถงึ องค์กรด้วย 4. สรุป รณรงคเ์ ป็นกจิ กรรมการสื่อสารเพ่ือโน้มนา้ วใจ โดยมีการกาหนดชดุ กจิ กรรมการส่ือสารและ วางแผนไวล้ ่วงหนา้ รวมถงึ การกระทาหมดเวลาครอบคลุมในการแพร่กระจายข่าวสาร โดยผา่ นสือ่ จารวนหนึ่ง ณ เวลาที่ใดจะให้สารเขา้ ถงึ ประชาชนกลมุ่ เปา้ หมายไดม้ ากทสี่ ุด หรอื คมุ้ ค่ามากท่สี ุดต่อความพยายามลงทุน ลงแรงน้ัน -โครงการเพาะพันธป์ุ ญั ญา ปี 2560- ศนู ย์พีเ่ ลีย้ งมหาวิทยาลยั อุบลราชธานี
นยั สาคัญของการณรงค์ 1. ความหมายตอ้ งการใหผ้ ูร้ บั สารเหน็ คณุ คา่ หรืออประโยชน์ หรืออันตรายทจี่ ะไดร้ บั 2. เพื่อแสดงความคิดเหน็ ให้ผรู้ บั สารทราบถงึ ความสาคญั และความจาเป็นและสาเหตทุ ี่ต้องมีการ เผยแพรก่ ระจายเรอื่ งราวนั้น เพอื่ ใหเ้ กิดความรู้ ความตระหนัก และความเขา้ ใจต่อเรื่องนั้นๆ 3. ต้องการดงึ ความสนใจ แสวงหาการสนบั สนนุ เพ่ือให้เกิดความเขา้ มามสี ว่ นร่วมและเกิดความรว่ มมือ ในกิจกรรมจากสาธารณชน หรอื ผ้รู ับสาร เช่น การหาเสยี งเลอื กตง้ั ,กรณชี ่วยกนั ทาความสะอาด กทม.หลงั เหตกุ ารณค์ วามรนุ แรง 4. ต้องการยา้ เตือน เพราะส่ือระยะสน้ั ต้องยา้ ให้เกดิ การระลึกได้ ความสนใจ 5. เพ่อื ใหเ้ กิดการเปลีย่ นแปลงทศั นะคติ คือ ความรู้ + ความเข้าใจ+ ความเช่ือ โดยทง้ั สามอย่างน้ตี ้อง ทาเปน็ กระบวนการ ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งความรู้ทศั นะคติ+พฤตกิ รรม เช่น KPI คอื ความรู้ ทัศนคติ ได้รูไ้ ด้ เห็น ความเคยชิน การยอมรับปฏบิ ัตติ าม ลักษณะท่ัวไปของการรณรงค์ 1. การกระทาเพื่อเปา้ หมาย 2. เจาะกลุ่มเปา้ หมายคนกลุ่มไหน 3. กาหนดระยะเวลาชดั เจน 4. ประกอบดว้ ยชุดกิจกรรม และทาต่อเนื่อง ชนิดของการรณรงค์ โดยปกติการรณรงค์ มี อยู่ 3 ประเภท คอื 1. การรณรงค์ทางการเมือง 2. การรณรงคโ์ ฆษณาประชาสัมพันธ์ 3. การรณรงคเ์ พอื่ อดุ มการณ์ คือ อยากเผยแพรแ่ นวคิดต่างๆ เชน่ เศรษฐกิจพอเพยี ง โดยเน้นคนเขา้ มี สว่ นรว่ ม ขนั้ ตอนที่นาไปสู่ความสาเรจ็ ของการรณรงค์ จุดรว่ มของการรณรงคท์ ง้ั 3 แบบ คือ จะมกี ารเปลี่ยนแปลงและปรับให้เข้ากบั ประเดน็ ใหม่ที่เกิดขนึ้ โดยจะไม่ใช้จังหวะ หรือยา้ อย่างเดียว คือไม่ใช้กลยุทธเ์ ดยี วตลอดตอ้ งมีหลายๆรปู แบบ กลยทุ ธ์ท่เี ข้าถึงกลุ่มเป้าหมายมี 5 ขัน้ ตอน 1. ขน้ั ตอนให้คนรู้จัก หรอื ประกาศตวั (identification) 2. ข้นั ตอนการสรา้ งความชอบธรรม (legitimacy)หรือ ความถกู ต้อง 3. ขัน้ ตอนการมสี ว่ นร่วม (Participation) .ขั้นตอนการชอบธรรม มีผกู้ ารสนบั สนุนอย่างเปิดตวั ในขัน้ การมีส่วนรว่ ม ผ้นู าการรณรงคพ์ ยายามดึงคนที่ไมม่ ีส่วนร่วมเข้ารว่ มดว้ ย 4. ขน้ั ตอนเข้าไปอยู่ในตลาด (penetration) ถงึ ข้ันน้แี สดงว่า มผี ลติ ภณั ฑ์ /แนวคดิ /อุดมการณ์ ได้มี ส่วนแบ่ง หรอื ส่วนครองใจผรู้ ับสาร 5. ขั้นสาเรจ็ (distribution) ขั้นสุดทา้ ยของการรณรงค์เม่ือประสบความสาเร็จ ต้องรักษาไว้ ลกั ษณะการส่อื สารแบบต่างในการรณรงค์ ท่ีนา่ รู้ 1. ความน่าเช่ือถือ ตอ่ ผลิตภัณฑ์ บคุ คล โดยส่วนใหญค่ นรู้จกั มชี ่อื เสียง หรอื บญุ บารมี 2. ความนิยมของประชาชน (climate of opinion) คอื ความนยิ มของประชาชนเปลยี่ นแปลงงา่ ย คน ที่ทาการรณรงคต์ ้องจบั กระแสนไี้ ด้ (บริบทของสังคมจะมีผลต่อกระแส) 3. ผนู้ าความคิด (opinion leaders) คอื การรณรงค์มุ่งสง่ สารไปยงั ผูน้ าความคดิ เพราะ มผี ลต่อทศั นะ คติ ความเช่อื แนวผรู้ ับสาร มีบทบาทสาคัญ เผยแพร่ สาร ปฏบิ ตั ิ หรอื ไมป่ ฏิบตั ิ ยอมรบั หรอื ไม่ยอมรบั ผู้นา -โครงการเพาะพันธปุ์ ญั ญา ปี 2560- ศูนย์พี่เลยี้ งมหาวิทยาลยั อบุ ลราชธานี
ความคิด จะถา่ ยทอดข้อมูลข่าวสารไปยงั ผรู้ ับสาร จะแสดงความคดิ เหน็ ทัศนะคติ ของเขาไปยังผู้รับสาร ผู้นา ความคดิ จงึ ต้องไดร้ บั การยอมรบั 4. ความเปน็ หนึ่งเดียว (uniqueness) คอื ทาให้ไม่ธรรมดา คอื สร้างเอกลกั ษณ์ ให้เป็นเร่ืองนา่ สนใจ แม้แตช่ ื่อโครงการของเรา เราจะใชภ้ าษา คาพูดอะไร ถึงจะโดนใจ การใช้ภาษาจึงมคี วามสาคัญ 5. ความร้สู กึ “ใชไ้ ด้” เปน็ การเน้นพยายามให้ผูร้ ับสาร ยอมรบั ในการรณรงค์ ความรู้สกึ คานกึ ถึงมาก โดยเนน้ การยอมรับของสงั คม 6. สภาพภายในจิตใจผู้รับสาร อาจดู ส่ิงแวดลอ้ ม ,จิตใจ.สถานการณ์ทางสงั คม เปน็ ตน้ ขัน้ ตอนรณรงค์ 1. การวจิ ยั เพอ่ื ให้ได้ข้อมลู กล่มุ เปา้ หมายผูร้ บั สาร /ประเด็นปัญหา/ หลกั การ เหตุผล/ความคิดเห็น/ ทัศนะคติของกลมุ่ เป้าหมาย - หาขอ้ มลู ด้านแรงจงู ใจ - พฤตกิ รรมกลมุ่ เปา้ หมายผ้บู ริโภค/ผ้ใู ชบ้ รกิ าร - ทัศนะคติกลุ่มเปา้ หมาย 2. การวางแผนการณรงค์ - กาหนดวตั ถปุ ระสงค์และเป้าหมาย (ทราบและเข้าใจ) - กาหนด Theme การรณรงค์ (คือทต่ี ้องการใหค้ นสนบั สนุน) - กาหนดกลุม่ เปา้ หมาย (คือต้องการบรรลุเรื่องอะไร เชน่ กลมุ่ เป้าหมายหลัก กลมุ่ เป้าหมายรอง คือ ตอ้ งดเู จตนาว่ากาหนดว่าอยา่ งไร) - กาหนดระยะเวลาการรณรงค์ (คือ ระยะทีห่ มายกาหนดการใชท้ รพั ยากร เชน่ งบประมาณ บุคลากร เพราะจะทาให้เราประมาณการ การใช้ส่ือได้ - เตรียมงบประมาณในการดาเนินการทรพั ยากรอนื่ ๆ 3. การเลือกใช้สือ่ - กาหนดชนิดของส่ือท่ีต้องใช้ ความบอ่ ย/ความครอบคลุม ช่วงเวลาท่ตี ้องการ (คอื ต้องเหมาะสมกบั กลุม่ เป้าหมาย) - กาหนดเนอื้ หาและรปู แบบข่าวสาร กระชับ เขา้ ใจ - จาง่าย ไม่ซบั ช้อน 4. นาแผนไปปฏบิ ตั ิ (Implementation) 5. ประเมินผลการรณรงคแ์ ละการทางาน - เพ่ือวัดประสทิ ธิภาพ/ประสิทธิผล ของการเผยแพร่ และการใชส้ ื่อ ทัง้ นเ้ี พ่ือจะไดน้ าผลจากการ ประเมนิ มาใช้เปน็ ประโยชน์และวางกลยุทธต์ ่อไป สรุป การรณรงค์ 1. ศกึ ษาปัญหา (อะไรเด่น/อะไรควรเนน้ ) 2. ศกึ ษาประเมนิ กลุ่มเป้าหมาย กลุ่มผูม้ ีอิทธผิ ลต่อการตดั สินใจ ต่อการกระตุ้นจูงใจโน้มน้าวใจ 3. พิจารณาช่องทางท่ีเหมาะสมทีส่ ดุ ทจ่ี ะทาการเผยแพร่ 4. ต้องแน่ใจว่าโอกาสที่เหมาะสมทีส่ ดุ ท่ีจะทาการเผยแพร่อย่ชู ว่ งใด 5. ทบทวนงานเกา่ ๆและแนวโน้ม( ศึกษาข้อมลู เกา่ ใหเ้ ราพัฒนาโครงการใหม่ๆของเราได้ สะดวกข้ึน มีแหลง่ อ้างอิงมากข้นึ โครงการมีแหล่งอา้ งอิงทาให้โครงการมีนา้ หนัก มคี วามน่าเช่ือถือ โดดเดน่ นา่ สนใจมากข้ึน 6. พยามกาหนดวตั ถุประสงค์ใหแ้ น่ชัดการรณรงค์ -โครงการเพาะพันธุป์ ญั ญา ปี 2560- ศนู ย์พเ่ี ลยี้ งมหาวิทยาลัยอบุ ลราชธานี
7. พยายามให้วัตถุประสงค์ของการรณรงค์สอดคล้องสมั พันธก์ บั นโยบาย/เป้าหมายระยะยาวขององคก์ รของ หนว่ ยงานท่ีเปน็ change agent 8. กาหนดงบประมาณ 9. กาหนด Theme หรอื เรยี กรอ้ งความสนใจ สาหรบั campaign 10. การทา วิจัย ด้านการตลาดมาใช้ใหเ้ ปน็ ประโยชน์ (โดยอาศัยขอ้ มูลจากสหวทิ ยาการ เกี่ยวข้องกบั วชิ าดา้ น การตลาดจะทาใหเ้ ราเข้าใจสภาพปญั หามากข้นึ ) 11. ตรวจเช็คว่าสื่อใดเหมาะสมท่สี ดุ https://devcomru7.blogspot.com/2011/09/blog-post_21.html วิธกี ารศกึ ษาขอ้ มูล โรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ประสบปัญหาในเร่ืองของความสะอาดอัน เนอื่ งมาจากพฤติกรรมเก่ียวกับการสร้างและการทิ้งขยะของนักเรียนในโรงเรียนที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นผู้ศึกษาจึงมี ความต้องการที่จะศึกษาพฤติกรรม ความรู้ และเจตคติต่อการสร้างและทิ้งขยะ เพื่อหาวิธีการแก้ไขปัญหาท่ี ถูกต้อง โดยมขี นั้ ตอนการทางานดังนี้ 1. กาหนดหัวข้อโครงงาน 2. ศกึ ษา คน้ ควา้ รวบรวมข้อมูล 3. สรา้ งแบบสอบถาม เพ่ือวัดระดบั ความรู้ เจตคตแิ ละความต้องการในการรณรงค์เกีย่ วกับ การสร้างและการท้ิงขยะของนักเรียนในโรงเรียน 4. แจกแบบสอบถามผ่านระบบ Internet เพือ่ เก็บรวบรวมข้อมลู ระดบั ความรู้ เจตคติและความตอ้ งการ ในการรณรงคเ์ กยี่ วกับ การสร้างและการทง้ิ ขยะของนักเรียนในโรงเรยี นโดยใช้ Google Forms 5. สรปุ ผลขอ้ มลู ระดับความรู้ เจตคติและความต้องการในการรณรงค์เกย่ี วกบั การสร้างและการทิ้งขยะ ของนักเรยี นในโรงเรียน 6. นาข้อมลู มาออกแบบสอ่ื เพื่อรณรงค์สร้างเจตคตทิ ี่ดใี นการสรา้ งและการทิ้งขยะของนักเรียนในโรงเรยี น 7. เผยแพรส่ ือ่ เพ่อื รณรงคส์ รา้ งเจตคตทิ ด่ี ีในการสรา้ งและการท้ิงขยะของนักเรียนในโรงเรียนต่อนักเรียน กลุ่มทดลอง 8. สรา้ งแบบสอบถามเพ่ือประเมินความพงึ พอใจ และความรู้ที่ไดร้ บั ขา่ วสารจากสื่อท่เี ผยแพร่ 9. แจกแบบสอบถามผา่ นระบบ Internet เพื่อเก็บรวบรวมขอ้ มูลระดบั ประเมนิ ความพึงพอใจส่ือและ กจิ กรรมเพือ่ รณรงคส์ รา้ งเจตคตทิ ี่ดใี นการสร้างและการท้ิงขยะของนักเรียนในโรงเรียนที่เผยแพรโ่ ดย ใช้ Google Forms 10. สรุปผลการประเมนิ / ปรับปรงุ ส่ือ 11. เผยแพร่สอื่ เพื่อรณรงค์สรา้ งเจตคติทด่ี ีในการสร้างและการท้ิงขยะของนักเรยี นในโรงเรียนต่อนักเรียน ทัง้ หมดของโรงเรียนและสาธารณชน 12. จัดกิจกรรม กจิ กรรม Big Cleaning Day สปั ดาหล์ ะ 1 ครั้ง 13. สรา้ งแบบสอบถามเพอ่ื แบบสอบถามเพ่ือประเมนิ ความพึงพอใจ ในการเข้ารว่ มโครงการรณรงค์สร้าง เจตคตทิ ี่ดใี นการสรา้ งและการท้งิ ขยะของนักเรียนในโรงเรียน -โครงการเพาะพนั ธปุ์ ญั ญา ปี 2560- ศูนยพ์ ่เี ลย้ี งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
14. แจกแบบสอบถามผ่านระบบ Internet เพอ่ื เก็บรวบรวมขอ้ มลู ระดับเพ่ือประเมินความรู้ เจตคติ และความพึงพอใจ ในการเขา้ รว่ มโครงการรณรงค์สร้างเจตคติทีด่ ใี นการสรา้ งและการท้ิงขยะของ นักเรยี นในโรงเรียนโดยใช้ Google Forms 15. สรปุ ผลการดาเนนิ งาน ผลการวิจัย ในการศึกษาเร่อื ง การรณรงค์สร้างจิตสานึกในการสร้างและทิ้งขยะในสถานศึกษา ซ่ีงคณะผู้ศึกษาได้ ดาเนินการศึกษาโดยใช้กระบวนการพัฒนาความคิดและเจตคติ ผ่านสื่อการรณรงค์ โดยมีกลุ่มตัวอย่างเป็น คณะผู้บริหาร คณะครูและบุคลากรทางการศึกษาของโรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ จานวน 10 คน นักเรยี นโรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชปู ถัมภท์ ุก จานวน 150 คน แมค่ า้ ในโรงเรยี นสมเด็จพระญาณสงั วร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ทุก จานวน 5 คน รวมท้งั สิน้ จานวน 165 คน มีเคร่ืองมือที่ใช้ในการศึกษา คือ แบบสอบถาม เพื่อวัดระดับความรู้ เจตคติและความต้องการในการรณรงค์ เก่ียวกับการสร้างและการท้ิงขยะของนักเรียนในโรงเรียน สื่อเพ่ือรณรงค์สร้างเจตคติที่ดีในการสร้างและการ ทิ้งขยะของนกั เรียนในโรงเรียน แบบสอบถามเพ่ือประเมินความพึงพอใจส่ือเพ่ือรณรงค์สร้างเจตคติที่ดีในการ สร้างและการท้ิงขยะของนักเรียนในโรงเรียน กิจกรรม Big Cleaning Day แบบสอบถามเพ่ือประเมินความรู้ เจตคติ และความพึงพอใจ ในการเข้าร่วมโครงการรณรงค์สร้างเจตคติท่ีดีในการสร้างและการท้ิงขยะของ นักเรยี นในโรงเรยี น โดยมีเเกณฑก์ ารแปลความหมายของคะแนนเฉลย่ี ดงั น้ี (ชูศรี วงศ์รัตนะ 2549 :104-015) คะแนนเฉลี่ย 4.51-5.00 หมายความว่า ระดับความพงึ พอใจ มากทีส่ ดุ คะแนนเฉลยี่ 3.51-4.50 หมายความวา่ ระดับความพึงพอใจ มาก คะแนนเฉล่ยี 2.51-3.50 หมายความวา่ ระดับความพึงพอใจ ปานกลาง คะแนนเฉลี่ย 1.51-2.50 หมายความว่า ระดับความพึงพอใจ นอ้ ย คะแนนเฉลย่ี 1.00-1.50 หมายความวา่ ระดบั ความพึงพอใจ นอ้ ยทส่ี ดุ เกณฑ์การตัดสินแปลความหมายคะแนน พิจารณาค่าเฉล่ียของการประเมินค่าเฉลี่ยรวม 3.51 ขึ้นไป จึงถอื ว่าผ่านเกณฑ์ จากการดาเนนิ งานดังกลา่ ว ผลการศึกษาพบว่า -โครงการเพาะพนั ธ์ุปัญญา ปี 2560- ศูนย์พี่เลยี้ งมหาวิทยาลยั อุบลราชธานี
ตารางท่ี 1 ระดับความรู้ เจตคตแิ ละความตอ้ งการในการรณรงคเ์ ก่ยี วกับการสรา้ งและการทิ้งขยะของนกั เรียน ในโรงเรยี นก่อนเขา้ ร่วมกจิ กรรม ขอ้ ที่ หัวข้อ ตัวเลอื ก ค่าความถ่ี(คน) รอ้ ยละ ตอนท่ี 1 ขอ้ มูลท่ัวไปของผตู้ อบแบบสอบถาม 1 เพศ ชาย 97 55.6 หญงิ 77 44.4 2 สถานภาพ นกั เรยี นระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 1 10 5.9 นักเรียนระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 2 21 11.8 นักเรียนระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 3 13 7.7 นกั เรยี นระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4 28 16 นกั เรยี นระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 5 39 22.5 นกั เรียนระดับชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 6 39 22.5 แมค่ ้า – บคุ ลากรในโรงเรยี น 2 1.2 ผบู้ ริหาร - คณะครู 22 12.4 ตอนที่ 2 การสารวจความรู้เกี่ยวกบั ขยะ 1 ท่านคดิ ว่าข้อใดคือขยะเปยกท้ังหมด ถงุ พลาสติกเปยกน้า ใบตอง 35 20.1 เศษกระดกู ไก่ 120 69.2 เศษอาหาร เปลอื กผลไม ใบไมสด ขวดน้าอัดลม ขวดพลาสติก 4 2.4 เศษเหล็ก ใบไมส้ ด แก้วพลาสติกที่ใส่กาแฟ 13 7.7 เศษหนังปลาเผา -โครงการเพาะพนั ธปุ์ ัญญา ปี 2560- ศนู ยพ์ ่เี ลีย้ งมหาวทิ ยาลัยอบุ ลราชธานี
ขอ้ ท่ี หวั ขอ้ ตวั เลอื ก คา่ ความถ่ี(คน) ร้อยละ 2 ทา่ นคดิ วา่ ขอใดเปน็ ขยะมูลฝอยท่ีใช้ มลู สตั ว์ 4 2.4 ซากพืชซากสตั ว์ 16 9.4 เวลาในการยอ่ ยสลายนานทส่ี ุด พลาสติก 61 35.3 92 52.9 3 ท่านคดิ วา่ ข้อใดคอื ขยะอันตราย โฟม 141 80.8 ท้งั หมด ถา่ นไฟฉาย กระปองยาฆาแมลง หลอดไฟ 26 15 4 ทา่ นคดิ ว่าขยะในขอใดท่สี ามารถนามา เศษแกว หลอดไฟ ตะปู 2 1.2 รไี ซเคิลได เปลอื กทุเรียน ตะปู หลอดไฟ 5 3 ถานหิน เปลือกทุเรียน เศษแกว 5 2.9 5 ทา่ นคิดวา่ ขยะชนิดใดที่สามารถนามา ถุงขนมขบเคี้ยว กระดูกไก มูลสัตว 137 78.8 ทาเปนปยุ หมักได กระดาษลัง ขวดพลาสติก เศษเหล็ก 27 15.3 เปลอื กลูกอม เศษผา หลอดยาสฟี น 5 2.9 6 เม่ือต้องท้ิงขยะที่เปน็ ขยะเปยี ก ท่าน เปลือกสม เศษเหล็ก เศษกระดาษ 125 72 คดิ ว่าควรท้งิ ในถงั ขยะสีใด เปลือกลองกอง - เศษอาหาร 39 22.6 เศษใบไม - เศษกระดาษ 8 4.8 7 ทา่ นคิดว่าขอใดคือโทษท่ีอนั ตรายท่สี ดุ ถงุ พลาสติก - ซากสตั ว 1 0.6 ที่เกดิ จากขยะ มูลสัตว – ขวดนา้ พลาสติก 95 54.4 ถังขยะสเี ขียว 17 9.5 ถังขยะสีแดง/สีส้ม 25 14.2 ถังขยะสนี า้ เงนิ /สฟี ้า 38 21.9 ถังขยะสีเหลอื ง 19 11.2 ทาให้น้าเนาเสีย 14 8.3 130 74.6 มีกลิ่นเหมน็ และไม่สวยงาม 10 5.9 เปนแหลงเพาะพันธุเชอ้ื โรค บริเวณที่มขี ยะมีความสกปรก ไมน่ ่ามอง -โครงการเพาะพนั ธป์ุ ญั ญา ปี 2560- ศูนยพ์ ่ีเลย้ี งมหาวิทยาลยั อุบลราชธานี
ข้อท่ี หัวขอ้ ตวั เลือก คา่ ความถ่ี(คน) ร้อยละ 4.7 8 ทา่ นคดิ ว่าขอใดเปนการกาจัดขยะท่ีถกู การท้งิ ขางทาง สาดไวใตโคนตนไม 8 7.1 สขุ ลักษณะ การนาพลาสติกและกลองโฟมไปเผา 12 78.8 การทิ้งขยะลงแมน้าลาคลอง 8.8 การขุดหลุมฝงในทหี่ างจากแหลงนา้ 137 81.8 การนาเศษอาหารไปทาปุยหมัก 8.2 5.3 การทงิ้ รวมๆ กันทุกประเภทลงในถงั 15 4.1 ขยะเพือ่ ใหเทศบาลมาจดั เก็บ 42.9 142 14.9 9 ท่านคดิ ว่าเม่ือต้องทาการกาจัดขยะควร พจิ ารณาว่าขยะประเภทใดยังใชประ 14 36.3 ปฏิบตั ิข้ันตอนใดเปน็ อนั ดับแรก โยชนไดแลวคัดแยกกอนท้ิง 9 7 6 นาขยะทุกชนดิ ไปเก็บไวในทมี่ ิดชิด 75 24 44.6 นาขยะทุกชนดิ มารวมกนั ก่อนนาไปทิ้ง 12.5 63 6 จัดหาแหล่งทงิ้ ขยะมูลฝอย 11.9 10 6.5 10 ท่านคิดวา่ ข้อใดต่อไปน้เี ปน็ ปัญหา สมศรี ไม่ไดค้ ัดแยกขยะมลู ฝอยก่อนท้ิง 17.9 เกี่ยวกบั ขยะมลู ฝอยมากท่สี ุด 78 0 สมหมาย ซ้ือผลติ ภณั ฑ์ทม่ี บี รรจุ 22 ภณั ฑท์ ท่ี ันสมัย 10 21 สมบตั ิ ไม่ท้ิงขยะมูลฝอยลงถังรองรบั 11 ขยะมลู ฝอย 31 0 สมชาย ไปซื้อของท่ีตลาดโดยนาถุง ผ้าไปใสข่ องดว้ ยทกุ คร้ัง ตอนที่ 3 ขอ้ มูลเกี่ยวกับพฤตกิ รรมการสร้างและทิ้งขยะในโรงเรยี น 11 การดาเนนิ ชวี ติ ประจาวันของทา่ นใน ขวดน้าพลาสตกิ โรงเรียน ท่านสรา้ งขยะประเภทใด กระดาษ มากทสี่ ุด เศษอาหาร ถงุ พลาสติก แกว้ นา้ พลาสตกิ ถุงขนม/พลาสตกิ ห่อลูกอม อน่ื ๆ (โปรดระบุ) ............................ -โครงการเพาะพนั ธุป์ ญั ญา ปี 2560- ศนู ย์พเี่ ล้ียงมหาวิทยาลยั อบุ ลราชธานี
ขอ้ ที่ หัวขอ้ ตวั เลอื ก ค่าความถี่(คน) รอ้ ยละ 12 เมื่ออยูใ่ นโรงเรยี น โดยปกติ ท่านสร้าง 26 14.7 ไม่เคยสร้างขยะเลย 109 62.9 ขยะใน 1 วัน กีช่ ิ้นโดยประมาณ ประมาณ 1-3 ชิ้นต่อวัน 28 15.9 ประมาณ 4 – 5 ชิน้ ตอ่ วัน 11 6.5 13 ปจั จุบนั ทานทิ้งขยะทุกประเภทรวม มากกว่า 5 ชิ้นต่อวัน 61 35.1 กันลงในถงั ขยะภายในโรงเรยี นโดยไม ใช่ 30 14.9 คดั แยก ไมใ่ ช่ 86 49.4 เปน็ บางคร้ัง 38 21.6 14 ท่านรบั ประทานอาหารเที่ยงและเหลือ ใช่ 44.7 25.7 เศษอาหารทุกคร้ังใช่หรอื ไม่ ไม่ใช่ 92 52.7 เปน็ บางครงั้ 150 81 15 ทา่ นมีพฤตกิ รรมอย่างไร เมื่อต้องการ เก็บไวใ้ นกระเปา๋ กอ่ นเมื่อพบถังขยะ ทง้ิ ขยะเศษเล็กๆ แต่บรเิ วณนั้นไม่มี จงึ ค่อยท้ิง 15 8.9 ถงั ขยะ ทง้ิ ขยะลงพ้ืนในบรเิ วณนน้ั เลย 18 10.1 ไมเ่ คยมีพฤติกรรมนนั้ เลย 0 0 16 ทา่ นเคยท้ิงขยะลงบรเิ วณใดในเขต อืน่ ๆ โปรดระบุ……………………… 66 38.2 โรงเรยี น ทนี่ อกเหนือจากถังขยะท่ที าง บริเวณพ้นื ท่ีท่ัวไป 17 10.3 โรงเรยี นจดั ไว้ให้ บนอาคารเรียน 58 33.3 ใตโ้ ต๊ะเรียน 14 7.9 ในหอ้ งเรยี น 7 4.2 ระเบียงท่นี ่งั หน้าหอ้ งเรยี น 10 5.5 ใตโ้ ต๊ะมา้ หินออ่ น 0 0 อ่ืนๆ (โปรดระบุ) ……………………… -โครงการเพาะพันธปุ์ ัญญา ปี 2560- ศนู ยพ์ ี่เลีย้ งมหาวทิ ยาลัยอบุ ลราชธานี
ข้อท่ี หวั ข้อ ตัวเลอื ก คา่ ความถี่(คน) รอ้ ยละ ตอนที่ 4 การสารวจเจตคติตอ่ การสร้างและท้ิงขยะในโรงเรยี น 9.4 17 ท่านคิดวา่ ปัจจัยใดที่มอี ิทธพิ ลต่อการ พนกั งานท่ที าหนา้ ท่กี าจดั ขยะไม่ 16 14.1 เพม่ิ ขึ้นของปรมิ าณขยะในโรงเรยี น เพียงพอ 12.9 62.9 ถงั ขยะมีไม่เพยี งพอ 25 0 ถังขยะอยู่ไกลไม่สะดวกในการใช้งาน 22 15.4 จติ สานกึ ในการสรา้ งและทิ้งขยะของ 109 5.3 ทกุ คนในโรงเรยี น 70.4 อื่น ๆ โปรดระบุ ……………. 0 7.7 18 เมื่อท่านเดินอยู่ในบริเวณโรงเรยี นเห็น เกบ็ แต่ท้ิงลงบริเวณทขี่ ยะชิน้ อนื่ ๆ 27 23.2 58.3 ขยะ ท่านจะ ทาอย่างไร รวมๆอยู่ 17.9 0 ไม่เกบ็ เพราะไม่ได้เปน็ คนทิง้ 9 15.5 72.6 ขยะชนิ้ น้นั 11.9 0 เกบ็ และนาทิ้งลงถังขยะ 123 32.9 52.1 ไมเ่ ก็บเพราะเป็นหน้าท่ีของเจ้าของ 13 15 เขตรบั ผดิ ชอบชั้นเรียนนัน้ ๆ 0 19 เศษใบไมท้ รี่ ว่ งหล่นอยู่ตามโคนตน้ ไม้ เห็นดว้ ย 40 ควรนาไปเผา เพราะเป็นการกาจดั ท่ีง่าย ไมเ่ หน็ ดว้ ย 101 และรวดเร็วสะดวกต่อผูด้ ูแล 31 ไมแ่ นใ่ จ อน่ื ๆ โปรดระบุ…………… 0 20 ในสถานทที่ างาน จะมีผู้ดูแลรักษาความ เหน็ ด้วย 27 สะอาดอยแู่ ลว้ เราจึงไมจ่ าเป็นตอ้ ง 126 รับผิดชอบใดๆ ทง้ั สนิ้ ไมเ่ ห็นดว้ ย 21 ไม่แน่ใจ อ่ืน ๆ โปรดระบุ…………… 0 21 การจัดการและคัดแยกประเภทของขยะ เห็นดว้ ย 57 มลู ฝอยควรทาในท่ีทางานเทา่ นน้ั 91 ไม่เห็นดว้ ย 26 เพราะเปน็ กฎระเบียบ ไมแ่ นใ่ จ อื่น ๆ โปรดระบุ…………… 0 -โครงการเพาะพันธุป์ ัญญา ปี 2560- ศนู ย์พี่เล้ยี งมหาวทิ ยาลัยอบุ ลราชธานี
ข้อท่ี หวั ขอ้ ตัวเลอื ก ค่าความถ่ี(คน) ร้อยละ 135 77.5 22 หากว่าโรงเรียนมีกจิ กรรมเก่ยี วกบั การ เข้าร่วม 8 4.7 18 10.1 รณรงคเ์ รอ่ื งขยะทา่ นจะเขา้ รว่ ม เข้ารว่ มตามเพอ่ื น 13 7.7 0 0 กจิ กรรมด้วยหรือไม่ เข้าร่วมเพราะเปน็ กิจกรรมบงั คบั 56 32.7 94 54.2 ไมแ่ นใ่ จ 22 12.5 0 0 ไม่เขา้ ร่วม 143 82 10 6 23 การแยกขยะมลู ฝอยในโรงเรยี นโดย เหน็ ดว้ ย 20 11.4 0 0 วิธีการแยกขยะแล้วทิง้ ในถงั ขยะตาม ไม่เห็นด้วย ประเภทของขยะ ท่านรสู้ กึ ว่าเป็นสงิ่ ที่ ไม่แนใ่ จ 148 84.4 ยุ่งยาก อนื่ ๆ โปรดระบุ…………… 13 7.2 14 7.8 24 ท่านคดิ ว่านักเรียนในโรงเรยี นควรมกี าร เห็นด้วย 0 0 รณรงค์เพอ่ื ให้ความรู้และสร้างเจตคติ ไม่เห็นด้วย เกีย่ วกับการสร้างและทิ้งขยะทีว่ ิธีใน การกาจดั ขยะมูลฝอยภายในรงเรียน ไมแ่ น่ใจ เพื่อลดจานวนขยะมลู ฝอย อื่น ๆ โปรดระบุ…………… 25 เม่ือโรงเรยี น มโี ครงการและกิจกรรม เหน็ ดว้ ย รณรงคเ์ พื่อให้ความร้แู ละสรา้ งเจตคติ ไม่เห็นด้วย เกี่ยวกบั การสรา้ งและท้ิงขยะ เราควรให้ ความรว่ มมอื อย่างเต็มท่ีเพราะการดูแล ไมแ่ นใ่ จ สิง่ แวดลอ้ มในโรงเรยี นเป็นหน้าท่ขี อง อนื่ ๆ โปรดระบุ…………… ทุกคน -โครงการเพาะพันธ์ุปัญญา ปี 2560- ศนู ย์พ่ีเล้ียงมหาวทิ ยาลัยอุบลราชธานี
ข้อท่ี หัวขอ้ ตัวเลอื ก ค่าความถี่(คน) รอ้ ยละ 26 ทา่ นมีความคดิ เหน็ อย่างไรต่อการ มีความสาคญั มากในการปรบั เปลีย่ น 131 75.3 25 14.1 รณรงค์สร้างจิตสานกึ ในการสรา้ งและ เจตคตใิ นทางท่ดี ี ทิ้งขยะ ในโรงเรียน ไมม่ ปี ระโยชนเ์ พราะเม่อื ปฏิบตั แิ ล้ว ผลการทางานไมส่ ามารถเปน็ ไป ตามท่ีคาดหวงั เหมือนเดมิ มคี วามคิดวา่ เป็นเร่ืองนา่ เบื่อ เปน็ 9 5.3 การเพิ่มภาระ เพราะไมใ่ ชห่ น้าที่ ท่ตี อ้ งทา มคี วามคิดว่าเฉยๆ ทาก็ได้ ไมท่ าก็ได้ 9 5.3 อ่ืน ๆ โปรดระบุ…………… 00 ตอนที่ 5 การสารวจข้อมูลความตอ้ งการเกี่ยวกับส่ือและวธิ ีการในการให้ความรแู้ ละส่งเสรมิ เจตคตทิ ่ีดีในการสร้า และท้ิงขยะในสถานศกึ ษา 27 ทา่ นตอ้ งการสอ่ื ประเภทใดในการ แผ่นพับเก่ียวกบั วิธีการในการให้ 23 13.1 รณรงค์ใหค้ วามรแู้ ละส่งเสรมิ เจตคติทดี่ ี ความร้แู ละสง่ เสรมิ เจตคติท่ีดี ใน ในการสร้างและท้งิ ขยะในสถานศกึ ษา การสรา้ งและทิ้งขยะในสถานศกึ ษา โปสเตอรเ์ กยี่ วกับวธิ กี ารในการให้ 39 22.6 ความรู้และสง่ เสรมิ เจตคตทิ ี่ดี ในการ สรา้ งและท้ิงขยะในสถานศึกษา วารสารเก่ียวกับวธิ กี ารในการให้ 4 2.4 ความรู้และสง่ เสริมเจตคติทดี่ ี ใน การสรา้ งและทิง้ ขยะในสถานศึกษา ส่อื บุคคลนาเสนอเกีย่ วกบั วธิ ีการใน 14 8.3 การใหค้ วามรู้และส่งเสรมิ เจตคติทด่ี ี ในการสร้างและทิง้ ขยะใน สถานศกึ ษา -โครงการเพาะพนั ธุ์ปญั ญา ปี 2560- ศูนยพ์ ่เี ลย้ี งมหาวิทยาลัยอบุ ลราชธานี
ข้อท่ี หัวขอ้ ตวั เลือก คา่ ความถ่ี(คน) ร้อยละ 23.8 27 ทา่ นต้องการส่ือประเภทใดในการ ส่อื ทีเ่ ป็นกิจกรรมเกี่ยวกบั วิธกี ารใน 41 (ต่อ) รณรงค์ให้ความร้แู ละสง่ เสริมเจตคตทิ ีด่ ี การให้ความรู้และส่งเสริมเจตคตทิ ีด่ ี 29.2 ในการสรา้ งและทงิ้ ขยะในสถานศึกษา ในการสรา้ งและทิง้ ขยะใน 0 สถานศึกษา 17.2 49.7 ภาพยนตร์สั้นเกี่ยวกบั วธิ กี ารในการ 51 14.2 ใหค้ วามรู้และส่งเสริมเจตคติทีด่ ี ใน 17.8 การสรา้ งและท้งิ ขยะในสถานศกึ ษา 0 81.5 อน่ื ๆ โปรดระบุ…………… 0 9.5 8.9 28 ทา่ นคิดว่าเวลาทีเ่ หมาะสมในการใช้ ไมเ่ กนิ 5 นาที 30 0 ศกึ ษาส่ือการรณรงค์ให้ความรู้และ 5-10 นาที 86 20.7 สง่ เสรมิ เจตคตทิ ีด่ ีในการสร้างและท้งิ 11-15 นาที 25 39.1 ขยะในสถานศึกษาคือข้อใด มากกวา่ 15 นาที 31 22.5 17.8 อน่ื ๆ โปรดระบุ…………… 0 0 29 ท่านต้องการให้โรงเรียนมีกิจกรรมใน ต้องการ 142 การจัดการขยะและสง่ิ แวดล้อมใน ไม่ต้องการ 17 สถานศึกษาหรอื ไม่ ไม่แน่ใจ 16 อนื่ ๆ โปรดระบุ…………… 0 30 หากโรงเรยี นจัดกจิ กรรมในการจดั การ จัดกจิ กรรมทุกวัน 36 ขยะและสง่ิ แวดลอ้ มในสถานศกึ ษา จดั กิจกรรมสปั ดาห์ละ 1 ครัง้ 68 ทา่ นคิดว่าระยะเวลาที่เหมาะสมคอื จัดกจิ กรรมเดือนละ 1 ครัง้ 39 จัดกิจกรรมภาคเรยี นละ 1 ครั้ง 31 อ่นื ๆ โปรดระบุ…………… 0 จากตารางที่ 1 พบว่า ระดับความรู้เก่ียวกับขยะของกลุ่มตัวอย่างของการศึกษาในครั้งน้ี มีระดับ ความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับขยะ จานวน 120 คิดเป็นร้อยละ 68.97 และ มีระดับความรู้ท่ียังไม่ถูกต้องชัดเจน จานวน 54 คน คิดเป็นร้อยละ 31.03 มีพฤติกรรมในการสร้างและทิ้งขยะในสถานศึกษาโดย ส่วนใหญ่ สร้างขยะที่เป็นขวดน้าพลาสติก สร้างขยะ 1-3 ชิ้นต่อวัน ท้ิงขยะโดยไม่คัดแยกขยะก่อนท้ิง รับประทาน อาหารเหลือทิ้งเป็นเศษขยะ เม่ือมีขยะช้ินเล็กๆแต่ไม่พบถังขยะก็มักจะเก็บไว้ในกระเป๋าก่อนเม่ือพบถังขยะจัง ทิ้ง บริเวณท่ีทิ้งขยะส่วนใหญ่มักทิ้งในพ้ืนท่ีทั่วไปของโรงเรียนและบริเวณใต้โต๊ะนักเรียน ส่วนเจตคติต่อการ สร้าง และทิ้งขยะในโรงเรียน ส่วนใหญ่มีความเห็นว่า จิตสานึกท่ีดีในการสร้างและทิ้งขยะของทุกคน เป็น ปัจจัยสาคัญของการเพ่ิมปริมาณขยะในโรงเรียน เมื่อพบเห็นขยะในบริเวณโรงเรียนจะเก็บและนาไปทิ้งลงถัง ขยะ ไม่เห็นด้วยกับการกาจัดขยะโดยการเผา ไม่เห็นด้วยกับการผลักภาระในการดูแลความสะอาดให้ ผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว เห็นด้วยกับการคัดแยกขยะก่อนท้ิงและไม่คิดว่าเป็นเร่ืองยุ่งยากในการปฏิบัติ และเห็นว่าโรงเรียนควรมีการรณรงค์เพ่ือให้ความรู้และสร้างเจตคติที่ดีเก่ียว กับการสร้าและการทิ้งขยะ -โครงการเพาะพันธุป์ ัญญา ปี 2560- ศูนยพ์ ่ีเลีย้ งมหาวทิ ยาลัยอุบลราชธานี
ถา้ โรงเรยี นมีกจิ กรรมดังกล่าวจะเข้ารว่ มกจิ กรรมด้วยความเต็มใจ โดยความตอ้ งการสือ่ ในการรณรงค์ดังกล่าว น้ัน ส่วนใหญ่เห็นวา่ ภาพยนตร์สน้ั เวลา 7-10 นาที เปน็ สื่อทเ่ี หมาะสมท่ีสุด และควรจัดให้มีกิจกรรมในการ จดั การขยะและสิ่งแวดลอ้ มในสถานศกึ ษา อย่างน้อยสปั ดาหล์ ะ 1 ครัง้ ตารางท่ี 2 ความพึงพอใจสอ่ื เพื่อรณรงค์สรา้ งเจตคตทิ ่ดี ใี นการสร้างและการทิ้งขยะของนักเรียนในโรงเรียน X. S รายการ ระดับ มาก 1. สอ่ื ที่จดั ทาขนึ้ เพ่ือรณรงคใ์ หค้ วามรเู้ กยี่ วกบั ปญั หาขยะในสถานศึกษามี 4.31 0.63 มาก เน้อื หาที่เหมาะสม มาก 2. ส่อื ที่จัดทาขึ้นเพื่อรณรงค์ใหค้ วามร้เู กี่ยวกบั ปญั หาขยะในสถานศกึ ษา 4.13 0.68 มาก มีรปู แบบทด่ี ึงดดู ความสนใจ มาก 3. สอ่ื ที่จัดทาขน้ึ สามารถให้ความรู้เกี่ยวกับปัญหาท่ีเกิดจากขยะที่มีตอ่ การ 4.18 0.71 มาก ดาเนนิ ชวี ิต มาก 4. สอ่ื ที่จัดทาขน้ึ สามารถให้ความรเู้ ก่ยี วกบั วิธีการทงิ้ ขยะที่ถกู ต้อง 4.07 0.70 มาก 5. สอ่ื ทจ่ี ดั ทาขน้ึ มคี วามเหมาะสมกบั บุคลากรในสถานศึกษาทุกเพศ ทุกวยั 4.11 0.73 มาก มาก ในด้านการให้ความรู้และวธิ กี ารแก้ปญั หาเกย่ี วกับขยะในสถานศึกษา มาก 6. สื่อท่จี ดั ทาขนึ้ สามารถปรบั เปลยี่ นพฤติกรรมไปในทางทีด่ ีในการสร้าง 3.95 0.78 และการทงิ้ ขยะ 7. ส่อื ทจ่ี ดั ทาข้ึนสามารถเป็นแนวทางการแกไ้ ขปัญหาทเี่ กิดจากขยะใน 4.03 0.75 สถานศกึ ษา 8. ความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับปัญหาขยะในสถานศึกษาและการทงิ้ ขยะท่ี 4.13 0.72 ถูกต้อง ทไี่ ดร้ บั หลงั จากการใชส้ ่ือ 9. ข้อคิดทไี่ ด้จากสอื่ ทจี่ ัดทาขึ้นเพื่อรณรงคแ์ กไ้ ขปัญหาขยะในสถานศึกษา 4.19 0.76 10.ความพงึ พอใจต่อสื่อทจ่ี ดั ทาขึน้ เพื่อรณรงคแ์ กไ้ ขปญั หาขยะใน 4.26 0.75 สถานศึกษา เฉลี่ย 4.14 0.72 จากตารางที่ 2 พบว่า ระดับความพึงพอใจส่ือเพื่อรณรงค์สร้างเจตคติท่ีดีในการสร้างและการทิ้งขยะ ของนักเรียนในโรงเรียน ของกลุ่มตัวอย่างของการศึกษาในครั้งนี้ พบว่า ส่ือที่จัดทาข้ึนเพ่ือรณรงค์ให้ความรู้ เกยี่ วกับปญั หาขยะในสถานศกึ ษามีเนื้อหาทเ่ี หมาะสม มีค่าเฉล่ียสูงสุด โดยมีค่าเฉลี่ย 4.31 อยู่ในระดับมาก ความพึงพอใจต่อสือ่ ทจี่ ดั ทาข้นึ เพ่อื รณรงค์แกไ้ ขปญั หาขยะในสถานศึกษา อยู่ในระดับรองลงมา โดยมีค่าเฉลี่ย 4.26 อยใู่ นระดับมาก และระดบั ความพึงพอใจน้อยทส่ี ดุ คือ สอื่ ทีจ่ ดั ทาข้ึนสามารถปรับเปลี่ยนพฤติกรรมไป ในทางทด่ี ีในการสร้างและการทิง้ ขยะ มีคา่ เฉลยี่ 3.95 อยใู่ นระดับมาก -โครงการเพาะพันธป์ุ ัญญา ปี 2560- ศนู ย์พเี่ ลี้ยงมหาวิทยาลยั อบุ ลราชธานี
ตารางท่ี 3 ระดับความพงึ พอใจ ในการเขา้ ร่วมกจิ กรรมรณรงคส์ ร้างเจตคติทด่ี ใี นการสร้างและการทง้ิ ขยะ ของนักเรยี นในโรงเรยี น X . S ระดบั รายการ 1. ความเหมาะสมของระยะเวลาในการดาเนนิ กิจกรรม 4.25 0.57 มาก 2. ความเหมาะสมของการประชาสัมพันธก์ จิ กรรม 4.19 0.64 มาก 3. ความเหมาะสมของสื่อที่ใชใ้ นการรณรงค์รณรงค์สรา้ ง 3.87 0.71 มาก เจตคตทิ ดี่ ีในการสร้างและทงิ้ ขยะของนักเรียนในโรงเรยี น 4. การเพิ่มขน้ึ ของความรู้เก่ียวกบั ขยะ ปญั หาและการแก้ไข 3.80 0.62 มาก ปญั หาทีเ่ กดิ จากขยะ 5. การเปลย่ี นแปลงของเจตคติในการสร้างและการท้ิงขยะ 3.79 0.64 มาก ในสถานศกึ ษา 6. การเปลย่ี นแปลงพฤติกรรมในการสรา้ งและการทง้ิ ขยะ 3.77 0.70 มาก ในสถานศึกษา 7. ความพงึ พอใจตอ่ กจิ กรรม Big cleaning Day 4.05 0.65 มาก 8. ประโยชน์ทไ่ี ด้รับจากการเข้าร่วมกจิ กรรมการรณรงค์ 3.87 0.66 มาก สรา้ งจติ สานกึ ในการสรา้ งและท้งิ ขยะในสถานศึกษา 9. ความพึงพอใจตอ่ กิจกรรมการรณรงค์สร้างจิตสานกึ ใน 4.09 0.62 มาก การสร้างและท้ิงขยะในสถานศกึ ษา 10. ความตอ้ งการในการจดั กิจกรรมการรณรงคส์ ร้าง 4.24 0.74 มาก จิตสานกึ ในการสรา้ งและทิ้งขยะในสถานศึกษาในปี การศกึ ษาต่อไป เฉลย่ี 3.99 0.65 มาก จากตารางที่ 3 พบว่า ระดบั ความพึงพอใจในการเขา้ ร่วมกจิ กรรมรณรงค์สรา้ งเจตคติท่ีดใี นการสร้าง และการทงิ้ ขยะของนกั เรียนในโรงเรียน ของกลมุ่ ตัวอย่างของการศึกษาในคร้ังน้ี พบว่า ความเหมาะสมของ ระยะเวลาในการดาเนินกจิ กรรม มรี ะดับค่าเฉลย่ี สูงสุด โดยมคี ่าเฉลี่ย 4.25 อยใู่ นระดับมาก ความต้องการ ในการจัดกิจกรรมการรณรงค์สรา้ งจติ สานึกในการสร้างและทงิ้ ขยะในสถานศึกษาในปีการศึกษาต่อไป อยู่ใน ระดบั รองลงมา โดยมคี ่าเฉลย่ี 4.24 อยู่ในระดบั มาก และระดบั ความพงึ พอใจน้อยทส่ี ดุ คอื การเปล่ยี นแปลง พฤติกรรมในการสร้างและการท้ิงขยะในสถานศกึ ษา โดยมคี า่ เฉลี่ย 3.77 อยใู่ นระดับมาก การอภิปรายผล จากการศึกษาพบว่า ระดับความรู้เก่ียวกับขยะของผู้บริหาร คณะครู บุคลากรทางการศึกษา แม่ค้า ของโรงเรยี นสมเด็จพระญาณสงั วร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ มีระดับความรู้ที่ถูกต้องเกี่ยวกับขยะ จานวน 120 คิดเป็นร้อยละ 68.97 และ มีระดับความรู้ที่ยังไม่ถูกต้องชัดเจน จานวน 54 คน คิดเป็นร้อยละ 31.03 จึงจาเป็นอย่างย่ิงท่ีต้องมีการจัดกิจกรรมในการให้ความรู้เก่ียวกับขยะเพ่ือพัฒนาความรู้ความเข้าใจอย่าง ถูกตอ้ ง ด้านพฤตกิ รรมการสรา้ งและการทิง้ ขยะในการสรา้ งและทิ้งขยะในสถานศึกษาโดย ส่วนใหญ่สร้างขยะ ท่ีเป็นขวดน้าพลาสติก สร้างขยะ 1-3 ช้ินต่อวัน ท้ิงขยะโดยไม่คัดแยกขยะก่อนท้ิง รับประทานอาหารเหลือ -โครงการเพาะพนั ธุ์ปญั ญา ปี 2560- ศนู ย์พเ่ี ลยี้ งมหาวิทยาลัยอบุ ลราชธานี
ท้งิ เปน็ เศษขยะ เมื่อมีขยะช้นิ เล็กๆแตไ่ มพ่ บถังขยะกม็ กั จะเก็บไว้ในกระเปา๋ กอ่ นเม่ือพบถังขยะจังท้ิง บริเวณที่ ท้ิงขยะส่วนใหญ่มักทิ้งในพื้นท่ีท่ัวไปของโรงเรียนและบริเวณใต้โต๊ะนักเรียน จากข้อมูลดังกล่าวจะเห็นว่าส่วน ใหญย่ ังมีพฤติกรรมท่ีไม่ถูกต้องในการทิ้งขยะ จาเป็นต้องมีการรณรงค์ให้เกิดการปรับเปลี่ยนพฤติกรรม ส่วน ในด้านเจตคตติ ่อการสรา้ งและท้ิงขยะในโรงเรียนนั้น ส่วนใหญ่เจตคติที่ดี โดยพบว่า จิตสานึกที่ดีในการสร้าง และท้ิงขยะของทุกคน เป็นปัจจัยสาคัญของการเพิ่มปริมาณขยะในโรงเรียน เมื่อพบเห็นขยะในบริเวณ โรงเรียนจะเก็บและนาไปท้ิงลงถังขยะ ไม่เห็นด้วยกับการกาจัดขยะโดยการเผา ไม่เห็นด้วยกับการผลักภาระ ในการดูแลความสะอาดให้ผู้รับผิดชอบแต่เพียงผู้เดียว เห็นด้วยกับการคัดแยกขยะก่อนท้ิงและไม่คิดว่าเป็น เรือ่ งยุง่ ยากในการปฏิบัติ และเหน็ วา่ โรงเรยี นควรมีการรณรงคเ์ พ่อื ให้ความรู้และสร้างเจตคติท่ีดีเกี่ยวกับการส รา้ และการท้ิงขยะ ถ้าโรงเรียนมีกิจกรรมดังกล่าวจะเข้าร่วมกิจกรรมด้วยความเต็มใจ โดยความต้องการส่ือ ในการรณรงค์ดงั กลา่ วนนั้ ส่วนใหญเ่ ห็นวา่ ภาพยนตรส์ ้นั เวลา 7-10 นาที เป็นส่ือท่ีเหมาะสมที่สุด และควร จดั ใหม้ กี จิ กรรมในการจดั การขยะและสิง่ แวดล้อมในสถานศึกษา อยา่ งน้อยสัปดาหล์ ะ 1 ครง้ั ส่วนระดับความพึงพอใจต่อส่ือเพื่อรณรงค์สร้างเจตคติท่ีดีในการสร้างและการท้ิงขยะของนักเรียนใน โรงเรียน พบว่า ส่ือที่จัดทาขึ้นเพื่อรณรงค์ให้ความรู้เก่ียวกับปัญหาขยะในสถานศึกษามีเน้ือหาท่ีเหมาะสม มี รปู แบบท่ีดึงดูดความสนใจ ใหค้ วามรู้เกย่ี วกบั ปัญหาท่เี กิดจากขยะทม่ี ตี ่อการดาเนินชีวิตได้ ให้ความรู้เก่ียวกับ วิธีการทิ้งขยะที่ถูกต้อง มีความเหมาะสมกับบุคลากรในสถานศึกษาทุกเพศ ทุกวัย สามารถปรับเปลี่ยน พฤติกรรมไปในทางท่ีดี และสามารถให้ข้อคิดที่ดีในการสร้างและทิ้งขยะในสถานศึกษา โดยมีค่าเฉลี่ย 4.14 อยใู่ นระดับมาก ส่วนระดบั ความพึงพอใจในการเขา้ ร่วมกจิ กรรมรณรงค์สร้างเจตคตทิ ่ดี ีในการสรา้ งและการทง้ิ ขยะ ของนักเรียนในโรงเรียนนน้ั พบวา่ ระยะเวลาในการดาเนินกจิ กรรมและการประชาสัมพนั ธก์ ิจกรรมมีความ เหมาะสม ส่อื ทใี่ ช้ในการรณรงค์มคี วามเหมาะสม สือ่ และกิจกรรม Big cleaning Day ที่ใช้ในการรณรงค์น้นั ชว่ ยพัฒนาความรู้ เปลยี่ นแปลงเจตคตแิ ละพฤตกิ รรมได้ จนทาให้เกิดความพงึ พอใจ ได้รับประโยชน์ และมี ความต้องการในการจดั กจิ กรรมการรณรงค์สร้างจิตสานึกในการสร้างและทงิ้ ขยะในสถานศกึ ษาในปกี ารศกึ ษา ตอ่ ไป โดยมีค่าเฉล่ีย 3.99 อยู่ในระดับมาก -โครงการเพาะพนั ธุป์ ญั ญา ปี 2560- ศูนยพ์ ี่เลยี้ งมหาวทิ ยาลัยอบุ ลราชธานี
อ้างอิง 7.1 มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกลา้ ธนบรุ ี.(2560) หลักการและเหตุผล. สบื ค้นเมื่อวนั ที่ 1 กรกฎาคม 2560. จากช่อื เวบไซต์: http://arts.kmutt.ac.th/ssc210/Group%20Project/ASSC210/1.46anti%20drug/1.htm. 7.2 pump lee. (2560). ขยะคือ?. สืบคน้ เมื่อวนั ท่ี 1 กรกฎาคม 2560. จากช่อื เวบไซต์ : https://www.im2market.com/2015/12/15/2189. 7.3 มหาวิทยาลัยนเรศวร.(2558) ปญั หาจากขยะ. สืบคน้ เมื่อวันท่ี 2 กรกฎาคม 2560 จากช่อื เวบไซต์ : http://www.chaiwbi.com/0drem/web_children/2551/ms201/c_camp51/600.html 7.4 ปตท. (2558) โครงการแยกแลกย้มิ . สืบค้นเมือ่ วันที่ 2 กรกฎาคม 2560. จากเวบ็ ไซต์ :http://www.yaklakyim.com 7.5 สานักงานหลักประกันสขุ ภาพแห่งชาติ.(2559) โครงการ 4D รณรงค์และสง่ เสรมิ การลดปรมิ าณ ขยะมลู ฝอยอยา่ งถูกวธิ ี ปี 2560. สืบคน้ เม่ือวันท่ี 2 กรกฎาคม 2560. จากช่ือเวบไซต์ : http://localfund.happynetwork.org/paper/486 7.6 มหาวทิ ยาลยั มหดิ ล วิทยาเขตนครสวรรค์.(2560) โครงการลดขยะลดภาระของชมุ ชนเขาทอง. สบื คน้ เมอ่ื วันที่ 2 กรกฎาคม 2560 จากเวบไซต์ : http://www.na.mahidol.ac.th/greencampus/images/document/waste 7.7 อรวรรณ บุญสง่ .ผลการพัฒนาจิตสานึกในการอนรุ กั ษแ์ ละพัฒนาส่งิ แวดล้อมของนักเรียนช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 3 โดยใชก้ ิจกรรมสิ่งแวดล้อมศกึ ษาประกอบการประเมินตามสภาพจริง. มหาวทิ ยาลัยศรนี ครินทรวโิ รฒ.2551. 7.8 The dregs of society. (2557) ปัญหาขยะสังคม. สบื ค้นเม่ือวนั ท่ี 2 กรกฎาคม 2560 จากชื่อ เวบไซต์ : https://guardianemz.wordpress.com 7.9 สารานกุ รมไทยสาหรับเยาวชน โดยพระราชประสงค์ในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หวั เล่มที่ 15. (2559) ปญั หาสิ่งแวดล้อมระดับสากล. สืบคน้ เม่อื วนั ท่ี 2 กรกฎาคม 2560 . จากเวบไซต์: https://web.ku.ac.th/schoolnet/snet6/envi3/en-sakol/sakoln.htm 7.10 phenpittayakhom school. (2560) ปญั หาขยะในโรงเรียน. สืบค้นเม่อื วันที่ 3 กรกฎาคม 2560 จากชือ่ เวบไซต์: https://kannikabiw.wordpress.com/ 7.11 โรงเรยี นโพธ์ิไทรพทิ ยาคาร.(2560) รายงานศกึ ษาคน้ คว้าเร่ือง วิธลี ดปริมาณขยะในโรงเรียน. สืบค้นเมอ่ื วันที่ 3 กรกฎาคม 2560. จากช่อื เวบไซต์: http://howtoreducewasteinschoolis2.blogspot.com/ 7.12 อาณาจักร โกวิทย.์ (2554) การโนม้ น้าวใจและการรณรงค์. สืบคน้ เมอ่ื วันที่ 3 กรกฎาคม 2560. จากชอื่ เวบไซต์ : https://devcomru7.blogspot.com/2011/09/blog-post_21.html 7.13 ชศู รี วงศ์รตั นะ. เทคนคิ การเขียนเคา้ โครงการวิจัย : แนวทางส่คู วามสาเรจ็ . กรงุ เทพฯ : บรษิ ทั ไทเนรมติ กิจ อินเตอรโ์ ปรเกรสซิฟจากัด, 2549. -โครงการเพาะพนั ธ์ปุ ัญญา ปี 2560- ศูนยพ์ ีเ่ ลีย้ งมหาวิทยาลยั อุบลราชธานี
ภาคผนวก -โครงการเพาะพนั ธุ์ปญั ญา ปี 2560- ศนู ย์พเ่ี ลย้ี งมหาวิทยาลัยอุบลราชธานี
ภาคผนวก ก เครอ่ื งมอื ทีใ่ ชใ้ นการศกึ ษา แบบสอบถามเรอื่ ง การสารวจระดบั ความรู้ พฤตกิ รรม เจตคติ และความตอ้ งการของผู้บริหาร คณะครู บคุ ลากรทางการศกึ ษา แมค่ ้า และนักเรียนโรงเรยี นสมเด็จพระญาณสังวรฯ ตอ่ ปญั หา เร่ืองขยะท่ีเกิดขึ้นภายในโรงเรยี น แบบสอบถามชุดนี้เป็นการสารวจพฤติกรรมและความต้องการของผู้บริโภคที่มีต่อการรณรงค์สร้าง จติ สานึกในการสรา้ งและทง้ิ ขยะ ซ่ึงเป็นงานวิจัยของโครงการเพาะพันธ์ปัญญา โรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ ดังนั้นจึงใคร่ขอความร่วมมือจากท่าน กรุณาตอบแบบสอบถามให้สมบูรณ์ ข้อมูล ทงั้ หมดที่ทา่ นตอบมาจะเป็นประโยชนอ์ ยา่ งยง่ิ สาหรับการศึกษาปัญหาในคร้ังน้ี และทุกคาตอบของท่านจะไม่มี ผลกระทบต่อตวั ทา่ นทง้ั สน้ิ ขอขอบคณุ ทที่ ่านใหค้ วามรว่ มมือในการตอบ แบบสอบถามคร้งั น้ี ตอนที่ 1 ข้อมูลทัว่ ไปของผตู้ อบแบบสอบถาม คาแนะนา: กรุณาตอบแบบสอบถาม โดยเลือกตัวเลือก ทตี่ รงกับคาตอบ และความคิดเห็นของท่านมากที่สดุ 1. เพศ ชาย หญงิ 2. นกั เรียน นักเรียนระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 1 นักเรยี นระดบั ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 2 นกั เรียนระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 3 นักเรียนระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 นกั เรยี นระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ี่ 5 นกั เรยี นระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 6 แม่คา้ – บุคลากรในโรงเรียน ผบู้ ริหาร - คณะครู ตอนท่ี 2 การสารวจความรู้เกย่ี วกับขยะ 1. ท่านคดิ ว่าข้อใดคือขยะเปยกท้ังหมด ถุงพลาสตกิ เปยกนา้ ใบตอง เศษกระดูกไก เศษอาหาร เปลอื กผลไม ใบไมสด ขวดน้าอดั ลม ขวดพลาสตกิ เศษเหล็ก ใบไมส้ ด แก้วพลาสติกที่ใสก่ าแฟ เศษหนงั ปลาเผา 2. ทา่ นคดิ วา่ ขอใดเป็นขยะมูลฝอยท่ีใช้เวลาในการย่อยสลายนานที่สดุ มลู สตั ว์ ซากพืชซากสตั ว์ พลาสตกิ โฟม 3. ท่านคดิ วา่ ขอ้ ใดคือขยะอันตรายท้งั หมด ถา่ นไฟฉาย กระปองยาฆาแมลง หลอดไฟ เศษแกว หลอดไฟ ตะปู เปลอื กทุเรยี น ตะปู หลอดไฟ ถานหนิ เปลอื กทุเรยี น เศษแกว 4. ทา่ นคดิ วา่ ขยะในขอใดที่สามารถนามารไี ซเคลิ ได ถุงขนมขบเคยี้ ว กระดูกไก มูลสตั ว กระดาษลงั ขวดพลาสตกิ เศษเหลก็ เปลือกลกู อม เศษผา หลอดยาสีฟน เปลือกสม เศษเหล็ก เศษกระดาษ 5. ทา่ นคิดว่าขยะชนดิ ใดทีส่ ามารถนามาทาเปนปยุ หมักได เปลอื กลองกอง - เศษอาหาร เศษใบไม - เศษกระดาษ ถงุ พลาสติก - ซากสัตว มูลสตั ว – ขวดนา้ พลาสติก -โครงการเพาะพนั ธุ์ปัญญา ปี 2560- ศูนย์พีเ่ ลีย้ งมหาวทิ ยาลยั อุบลราชธานี
6. เมอ่ื ต้องทิง้ ขยะทีเ่ ปน็ ขยะเปยี ก ทา่ นคิดว่าควรทง้ิ ในถังขยะสใี ด ถังขยะสีเขียว ถงั ขยะสแี ดง/สีสม้ ถงั ขยะสนี ้าเงิน/สีฟา้ ถงั ขยะสีเหลือง 7. ทา่ นคดิ วา่ ขอใดคือโทษที่อันตรายที่สดุ ท่เี กิดจากขยะ ทาให้น้าเนาเสีย มีกล่นิ เหม็นและไมส่ วยงาม เปนแหลงเพาะพันธุเชื้อโรค บริเวณทม่ี ขี ยะมคี วามสกปรกไมน่ ่ามอง 8. ทา่ นคดิ ว่าขอใดเปนการกาจดั ขยะทีถ่ ูกสุขลักษณะ การท้งิ ขางทาง การสาดไวใตโคนตนไม การนาพลาสติกและกลองโฟมไปเผา การทิ้งขยะลงแมนา้ ลาคลอง การขดุ หลุมฝงในทห่ี างจากแหลงนา้ การนาเศษอาหารไปทาปุยหมัก การทิ้งรวมๆ กนั ทุกประเภทลงในถงั ขยะเพอื่ ใหเทศบาลมาจัดเก็บ 9. ทา่ นคิดว่าเมอ่ื ต้องทาการกาจดั ขยะควรปฏบิ ตั ขิ น้ั ตอนใดเปน็ อนั ดบั แรก พิจารณาวา่ ขยะประเภทใดยงั ใชประโยชนไดแลวคดั แยกกอนทิ้ง นาขยะทุกชนดิ ไปเกบ็ ไวในทม่ี ิดชดิ นาขยะทุกชนดิ มารวมกนั ก่อนนาไปท้งิ จดั หาแหลง่ ท้ิงขยะมูลฝอย 10. ทา่ นคิดวา่ ข้อใดตอ่ ไปน้ีเปน็ ปญั หาเกี่ยวกบั ขยะมูลฝอยมากที่สุด สมศรี ไม่ได้คดั แยกขยะมูลฝอยก่อนท้ิง สมหมาย ซอ้ื ผลิตภณั ฑ์ที่มบี รรจุภณั ฑ์ท่ีทันสมยั สมบตั ิ ไม่ทิง้ ขยะมูลฝอยลงถงั รองรบั ขยะมลู ฝอย สมชาย ไปซื้อของที่ตลาดโดยนาถุงผา้ ไปใสข่ องด้วยทกุ ครั้ง ตอนท่ี 3 ขอ้ มูลเกี่ยวกับพฤติกรรมการสร้างและท้ิงขยะในโรงเรยี น 11. การดาเนนิ ชวี ติ ประจาวันของท่านในโรงเรยี น ทา่ นสร้างขยะประเภทใดมากท่สี ุด ขวดนา้ พลาสติก กระดาษ เศษอาหาร ถุงพลาสติก แกว้ นา้ พลาสติก ถุงขนม/พลาสตกิ ห่อลูกอม อืน่ ๆ (โปรดระบ)ุ ................................................ 12. เมือ่ อย่ใู นโรงเรียน โดยปกติ ทา่ นสรา้ งขยะใน 1 วัน ก่ชี ้ินโดยประมาณ ไมเ่ คยสร้างขยะเลย ประมาณ 1-3 ชน้ิ ต่อวัน ประมาณ 4 – 5 ช้นิ ตอ่ วนั มากกวา่ 5 ชน้ิ ตอ่ วนั 13. ปัจจุบนั ทานทิ้งขยะทกุ ประเภทรวมกันลงในถังขยะภายในโรงเรียนโดยไมคดั แยก ใช่ ไม่ใช่ เป็นบางครง้ั 14. ทา่ นรบั ประทานอาหารเท่ยี งและเหลอื เศษอาหารทกุ คร้ังใชห่ รอื ไม่ ใช่ ไมใ่ ช่ เปน็ บางครง้ั 15. ทา่ นมีพฤติกรรมอยา่ งไร เมอ่ื ต้องการทิ้งขยะเศษเล็กๆ แตบ่ รเิ วณน้ันไม่มีถังขยะ เกบ็ ไว้ในกระเป๋าก่อนเม่ือพบถังขยะจงึ ค่อยทิง้ ทิง้ ขยะลงพื้นในบรเิ วณน้นั เลย ไม่เคยเลย อื่น ๆ โปรดระบุ……………………… -โครงการเพาะพนั ธปุ์ ัญญา ปี 2560- ศูนย์พีเ่ ล้ียงมหาวิทยาลยั อุบลราชธานี
16. ทา่ นเคยทิ้งขยะลงบรเิ วณใดในเขตโรงเรยี น ทน่ี อกเหนอื จากถังขยะท่ีทางโรงเรยี นจดั ไว้ให้ บรเิ วณพนื้ ทีท่ วั่ ไป บนอาคารเรยี น ใตโ้ ตะ๊ เรยี น ใตโ้ ต๊ะม้าหินอ่อน ในห้องเรียน ระเบียงท่นี ง่ั หน้าห้องเรยี น ใต้โตะ๊ ม้าหินอ่อน อืน่ ๆ (โปรดระบ)ุ ……………………… ตอนที่ 4 การสารวจเจตคติตอ่ การสรา้ งและท้ิงขยะในโรงเรยี น 17. ทา่ นคิดวา่ ปัจจัยใดที่มอี ิทธิพลตอ่ การเพิ่มข้ึนของปริมาณขยะในโรงเรยี น พนักงานท่ีทาหน้าที่กาจดั ขยะไมเ่ พียงพอ ถงั ขยะมีไมเ่ พยี งพอ ถังขยะอยไู่ กลไมส่ ะดวกในการใช้งาน จิตสานกึ ในการสรา้ งและทงิ้ ขยะของทุกคนในโรงเรียน อื่น ๆ โปรดระบุ ……………. 18. เมือ่ ท่านเดินอยใู่ นบรเิ วณโรงเรียนเห็นขยะ ทา่ นจะ ทาอยา่ งไร เกบ็ แตท่ ง้ิ ลงบริเวณทีข่ ยะช้นิ อ่นื ๆรวมๆอยู่ ไม่เก็บเพราะไม่ได้เป็นคนท้งิ ขยะชิน้ นั้น เก็บและนาทิ้งลงถงั ขยะ ไมเ่ กบ็ เพราะเปน็ หน้าทีข่ องเจา้ ของเขตรบั ผดิ ชอบชั้นเรยี นนน้ั ๆ 19. เศษใบไม้ทร่ี ว่ งหล่นอยู่ตามโคนตน้ ไม้ ควรนาไปเผา เพราะเป็นการกาจดั ทง่ี ่ายและรวดเร็วสะดวกต่อผู้ดแู ล เหน็ ดว้ ย ไม่เห็นดว้ ย ไม่แน่ใจ อื่น ๆ โปรดระบุ…………… 20. ในสถานทท่ี างาน จะมีผ้ดู ูแลรกั ษาความสะอาดอยู่แล้ว เราจึงไม่จาเปน็ ต้องรบั ผิดชอบใดๆ ทัง้ สน้ิ เหน็ ด้วย ไม่เห็นดว้ ย ไมแ่ นใ่ จ อนื่ ๆ โปรดระบุ…………… 21. การจดั การและคดั แยกประเภทของขยะมลู ฝอยควรทาในที่ทางานเท่านน้ั เพราะเปน็ กฎระเบยี บ เหน็ ดว้ ย ไมเ่ หน็ ดว้ ย ไมแ่ น่ใจ อนื่ ๆ โปรดระบุ…………… 22. หากวา่ โรงเรียนมกี จิ กรรมเกี่ยวกับการรณรงคเ์ รอ่ื งขยะท่านจะเขา้ รว่ มกิจกรรมด้วยหรือไม่ เข้ารว่ ม เข้ารว่ มตามเพ่อื น เข้าร่วมเพราะเปน็ กิจกรรมบงั คบั ไมแ่ นใ่ จ ไม่เข้าร่วม 23. การแยกขยะมลู ฝอยในโรงเรียนโดยวิธีการแยกขยะแลว้ ทิ้งในถงั ขยะตามประเภทของขยะ ทา่ นรสู้ ึกว่าเป็นส่ิงทย่ี ุ่งยาก เหน็ ด้วย ไมเ่ ห็นดว้ ย ไมแ่ น่ใจ อ่ืน ๆ โปรดระบุ…………… 24. ทา่ นคิดวา่ นกั เรียนในโรงเรียนควรมกี ารรณรงคเ์ พอื่ ให้ความรูแ้ ละสรา้ งเจตคติ เกี่ยวกบั การสรา้ งและ ท้ิงขยะ วิธีในการกาจดั ขยะมูลฝอยภายในรงเรียนเพื่อลดจานวนขยะมูลฝอย เหน็ ด้วย ไมเ่ หน็ ด้วย ไมแ่ น่ใจ อ่นื ๆ โปรดระบ…ุ ………… 25. เม่ือโรงเรียน มโี ครงการและกจิ กรรมรณรงค์เพ่อื ให้ความรู้และสร้างเจตคติ เก่ยี วกับการสรา้ งและท้ิงขยะ เราควรใหค้ วามร่วมมืออยา่ งเต็มท่ีเพราะการดูแลสงิ่ แวดลอ้ มในโรงเรยี นเปน็ หน้าทขี่ องทุกคน เหน็ ดว้ ย ไม่เหน็ ดว้ ย ไม่แนใ่ จ อ่นื ๆ โปรดระบุ…………… -โครงการเพาะพันธุป์ ัญญา ปี 2560- ศนู ย์พี่เล้ยี งมหาวทิ ยาลัยอุบลราชธานี
26. ท่านมีความคดิ เห็นอย่างไรต่อการรณรงคส์ ร้างจิตสานึกในการสร้างและทิ้งขยะ ในโรงเรยี น มีความสาคญั มากในการปรบั เปล่ียนเจตคติในทางท่ดี ี ไมม่ ีประโยชนเ์ พราะเม่ือปฏบิ ตั แิ ล้วผลการทางานไมส่ ามารถเป็นไปตามทคี่ าดหวงั เหมอื นเดมิ มีความคดิ วา่ เปน็ เร่ืองนา่ เบ่ือ เปน็ การเพมิ่ ภาระ เพราะไม่ใชห่ นา้ ท่ีทต่ี ้องทา มีความคิดว่าเฉยๆ ทาก็ได้ ไมท่ ากไ็ ด้ อ่นื ๆ โปรดระบุ…………… ตอนท่ี 5 การสารวจข้อมลู ความต้องการเก่ียวกบั สื่อและวธิ ีการในการใหค้ วามร้แู ละส่งเสริมเจตคตทิ ีด่ ีใน การสรา้ งและทง้ิ ขยะในสถานศึกษา 27. ทา่ นต้องการสอ่ื ประเภทใดในการรณรงคใ์ ห้ความรูแ้ ละสง่ เสรมิ เจตคติทดี่ ใี นการสรา้ งและทง้ิ ขยะใน สถานศกึ ษา แผน่ พับเกยี่ วกับวธิ ีการในการใหค้ วามรู้และส่งเสริมเจตคติทดี่ ี ในการสร้างและท้ิงขยะในสถานศกึ ษา โปสเตอร์เกี่ยวกับวิธีการในการใหค้ วามรู้และส่งเสรมิ เจตคติท่ดี ี ในการสรา้ งและท้งิ ขยะในสถานศกึ ษา วารสารเกย่ี วกบั วิธกี ารในการใหค้ วามรแู้ ละส่งเสรมิ เจตคติท่ดี ี ในการสรา้ งและท้ิงขยะในสถานศกึ ษา สื่อบคุ คลนาเสนอเกีย่ วกับวธิ กี ารในการให้ความรูแ้ ละส่งเสริมเจตคตทิ ด่ี ี ในการสรา้ งและทงิ้ ขยะในสถานศึกษา ส่ือทีเ่ ปน็ กิจกรรมเกย่ี วกับวิธีการในการใหค้ วามรู้และส่งเสรมิ เจตคติที่ดี ในการสร้างและทิ้งขยะในสถานศึกษา ภาพยนตร์สน้ั เกย่ี วกบั วิธกี ารในการใหค้ วามรแู้ ละสง่ เสรมิ เจตคตทิ ดี่ ี ในการสรา้ งและท้งิ ขยะในสถานศกึ ษา อ่นื ๆ โปรดระบุ…………… 28. ท่านคดิ ว่าเวลาทีเ่ หมาะสมในการใชศ้ กึ ษาสอ่ื การรณรงค์ใหค้ วามรูแ้ ละส่งเสริมเจตคติทด่ี ีในการสรา้ ง และทิง้ ขยะในสถานศึกษาคือข้อใด ไมเ่ กนิ 5 นาที 5-10 นาที 11-15 นาที มากกว่า 15 นาที อืน่ ๆ โปรดระบุ…………… 29. ทา่ นต้องการใหโ้ รงเรียนมีกจิ กรรมในการจัดการขยะและส่งิ แวดล้อมในสถานศกึ ษาหรือไม่ ตอ้ งการ ไม่ตอ้ งการ ไม่แน่ใจ อนื่ ๆ โปรดระบุ…………… 30. หากโรงเรียนจัดกิจกรรมในการจดั การขยะและสิ่งแวดลอ้ มในสถานศึกษา ทา่ นคิดว่าระยะเวลาท่ี เหมาะสมคือ จัดกิจกรรมทกุ วนั จดั กิจกรรมสปั ดาหล์ ะ 1 ครง้ั จัดกิจกรรมเดอื นละ 1 คร้งั จดั กจิ กรรมภาคเรียนละ 1 คร้งั อื่น ๆ โปรดระบุ…………… ตอนท่ี 6 ขอ้ เสนอแนะเพ่ิมเติม ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ขอขอบคุณทท่ี า่ นให้ความร่วมมือในการตอบแบบสอบถามครงั้ นี้ -โครงการเพาะพนั ธุ์ปญั ญา ปี 2560- ศูนยพ์ ีเ่ ล้ยี งมหาวทิ ยาลยั อุบลราชธานี
แบบประเมินความพงึ พอใจสอ่ื เพอ่ื รณรงคส์ รา้ งเจตคตทิ ่ีดีในการสรา้ งและการทงิ้ ขยะ ของนกั เรียนโรงเรียนสมเดจ็ พระญาณสังวร ในพระสงั ฆราชูปถมั ภ์ อาเภอคาเขือ่ นแก้ว จังหวดั ยโสธร คาชี้แจง แบบประเมินนี้เป็นคาถามแสดงระดับความเหมาะสมและ ความพึงพอใจสื่อเพ่ือรณรงค์สรา้ งเจตคติทดี่ ี ในการสรา้ งและการทิ้งขยะของนกั เรียนในโรงเรียน ภายในโรงเรียนสมเด็จพระญาณสังวร ในพระสังฆราชปู ถัมภ์ ประจาปีการศกึ ษา 2560 ขอความกรณุ าท่านโปรดได้ตอบแบบประเมินตามความคิดเห็นทีเ่ ปน็ จรงิ ของทา่ น โดย ทาเครื่องหมาย / ลงในตารางน้ี เกณฑ์การประเมนิ 5 หมายถงึ ความเหมาะสมและความพึงพอใจในการปฏิบตั ิมากที่สุด 4 หมายถงึ ความเหมาะสมและความพงึ พอใจในการปฏิบตั มิ าก 3 หมายถงึ ความเหมาะสมและความพงึ พอใจในการปฏิบตั ิปานกลาง 2 หมายถึง ความเหมาะสมและความพงึ พอใจในการปฏิบัติน้อย 1 หมายถงึ ความเหมาะสมและความพึงพอใจในการปฏิบัติน้อยทส่ี ุด ตอนที่ 1 ข้อมลู ผูต้ อบ นกั เรียนระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 1 นักเรียนระดับชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 นกั เรยี นระดับชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 3 นักเรียนระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 นกั เรียนระดบั ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 5 นักเรยี นระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี 6 ผู้บริหารโรงเรยี นสมเดจ็ พระญาณสังวรฯ ครโู รงเรียนสมเดจ็ พระญาณสังวรฯ บุคลากรทางการศึกษาในโรงเรยี นสมเด็จพระญาณสงั วรฯ แม่คา้ ในโรงเรยี นสมเด็จพระญาณสงั วรฯ ตอนท่ี 2 ให้กาเคร่ืองหมาย ลงในข้อที่ตรงกับความคิดเหน็ ของท่าน ลาดบั รายการประเมิน มาก ระดับคณุ ภาพ นอ้ ย ท่ี ทีส่ ุด มาก ปานกลาง น้อย ท่สี ดุ 1 สอ่ื ทจ่ี ดั ทาข้นึ เพื่อรณรงค์ให้ความร้เู กย่ี วกบั ปัญหาขยะใน สถานศกึ ษามีเนื้อหาทเ่ี หมาะสม 2 สือ่ ทีจ่ ัดทาขนึ้ เพ่ือรณรงค์ให้ความรเู้ ก่ยี วกบั ปัญหาขยะใน สถานศกึ ษามรี ปู แบบทด่ี งึ ดดู ความสนใจ -โครงการเพาะพันธุป์ ญั ญา ปี 2560- ศูนย์พ่ีเลยี้ งมหาวิทยาลัยอบุ ลราชธานี
ตอนที่ 2 ใหก้ าเคร่ืองหมาย ลงในขอ้ ทีต่ รงกบั ความคดิ เหน็ ของท่าน ( ตอ่ ) ลาดบั รายการประเมิน มาก ระดบั คุณภาพ ท่ี ที่สดุ มาก ปานกลาง น้อย น้อย 3 สอ่ื ท่ีจัดทาขนึ้ สามารถใหค้ วามรู้เก่ียวกบั ปัญหาที่เกดิ จาก ท่สี ุด ขยะที่มตี ่อการดาเนินชวี ติ 4 สือ่ ทจ่ี ดั ทาข้ึนสามารถใหค้ วามรูเ้ ก่ยี วกับวธิ กี ารทิง้ ขยะ ท่ีถูกต้อง 5 สอ่ื ทีจ่ ัดทาขนึ้ มคี วามเหมาะสมกบั บุคลากรใน สถานศึกษาทุกเพศ ทกุ วัย ในด้านการใหค้ วามรู้และ วธิ ีการแกป้ ัญหาเกย่ี วกบั ขยะในสถานศึกษา 6 สอ่ื ทจี่ ดั ทาขึ้นสามารถปรับเปลย่ี นพฤติกรรมไปในทางที่ ดใี นการสร้างและการท้งิ ขยะ 7 สื่อทจ่ี ดั ทาขน้ึ สามารถเปน็ แนวทางการแก้ไขปญั หาที่เกดิ จากขยะในสถานศึกษา 8 ความรู้ ความเขา้ ใจเกยี่ วกับปัญหาขยะในสถานศึกษา และการทิง้ ขยะท่ีถกู ต้อง ที่ได้รับหลังจากการใช้สื่อ 9 ขอ้ คิดที่ไดจ้ ากส่อื ทจ่ี ดั ทาขน้ึ เพ่ือรณรงคแ์ ก้ไขปญั หาขยะ ในสถานศกึ ษา 10 ความพึงพอใจตอ่ สื่อท่จี ัดทาขึ้นเพื่อรณรงคแ์ กไ้ ขปญั หา ขยะในสถานศึกษา ข้อเสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… -โครงการเพาะพันธ์ุปัญญา ปี 2560- ศูนย์พเี่ ลยี้ งมหาวทิ ยาลยั อบุ ลราชธานี
แบบประเมนิ ผลการดาเนินงานการรณรงคส์ ร้างจติ สานึกในการสรา้ งและทง้ิ ขยะ ในโรงเรยี นสมเดจ็ พระญาณสงั วร ในพระสังฆราชูปถัมภ์ อาเภอคาเขือ่ นแกว้ จงั หวัดยโสธร คาชแี้ จง แบบประเมนิ น้เี ปน็ คาถามแสดงระดบั ความเหมาะสมและความพงึ พอใจในการปฏิบัติเกีย่ วกับการ ดาเนินงาน รณรงคส์ ร้างจิตสานึกในการสร้างและท้ิงขยะ ภายในโรงเรียนสมเดจ็ พระญาณสงั วร ในพระสังฆ ราชปู ถมั ภ์ ประจาปีการศึกษา 2560 ขอความกรณุ าท่านโปรดได้ตอบแบบประเมินตามความคดิ เห็นทเ่ี ป็น จรงิ ของท่าน โดยทาเคร่ืองหมาย / ลงในตารางนี้ เกณฑ์การประเมนิ 5 หมายถึง ความเหมาะสมและความพึงพอใจในการปฏิบตั มิ ากที่สุด 4 หมายถงึ ความเหมาะสมและความพึงพอใจในการปฏิบัตมิ าก 3 หมายถงึ ความเหมาะสมและความพงึ พอใจในการปฏิบตั ปิ านกลาง 2 หมายถึง ความเหมาะสมและความพึงพอใจในการปฏิบัตินอ้ ย 1 หมายถงึ ความเหมาะสมและความพงึ พอใจในการปฏิบัติน้อยทส่ี ุด ตอนที่ 1 ข้อมลู ผ้ตู อบ นกั เรยี นระดบั ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 1 นักเรียนระดบั ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 นกั เรียนระดับชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 3 นักเรยี นระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 นกั เรยี นระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 5 นักเรียนระดับชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 6 ผู้บริหารโรงเรยี นสมเด็จพระญาณสังวรฯ ครโู รงเรยี นสมเดจ็ พระญาณสังวรฯ บคุ ลากรทางการศกึ ษาในโรงเรยี นสมเดจ็ พระญาณสังวรฯ แม่ค้าในโรงเรยี นสมเดจ็ พระญาณสังวรฯ ตอนที่ 2 ใหก้ าเคร่ืองหมาย ลงในข้อทต่ี รงกับความคิดเหน็ ของท่าน ลาดับ รายการประเมิน มาก ระดับคณุ ภาพ นอ้ ย ท่ี ทส่ี ดุ มาก ปานกลาง น้อย ทส่ี ดุ 1 ความเหมาสมของระยะเวลาในการดาเนนิ กิจกรรม 2 ความเหมาะสมของการประชาสัมพันธ์กจิ กรรม 3 ความเหมาะสมของส่อื ท่ใี ช้ในการรณรงค์รณรงค์สรา้ ง เจตคตทิ ด่ี ใี นการสร้างและทง้ิ ขยะของนักเรยี นใน โรงเรียน -โครงการเพาะพนั ธุป์ ญั ญา ปี 2560- ศูนยพ์ ีเ่ ลีย้ งมหาวิทยาลยั อุบลราชธานี
ตอนท่ี 2 ใหก้ าเคร่ืองหมาย ลงในขอ้ ท่ีตรงกบั ความคดิ เห็นของทา่ น ( ตอ่ ) ระดับคณุ ภาพ ลาดบั รายการประเมิน มาก มาก ปานกลาง น้อย น้อย ทสี่ ดุ ท่ี ที่สุด 4 การเพิ่มขึน้ ของความรู้เกย่ี วกับขยะ ปญั หาและการแก้ไข ปญั หาทเ่ี กิดจากขยะ 5 การเปล่ียนแปลงของเจตคติในการสร้างและการท้ิงขยะ ในสถานศึกษา 6 การเปล่ยี นแปลงพฤติกรรมในการสรา้ งและการท้งิ ขยะ ในสถานศกึ ษา 7 ความพงึ พอใจต่อกิจกรรม Big cleaning Day 8 ประโยชน์ทไ่ี ดร้ บั จากการเข้าร่วมกิจกรรมการรณรงค์ สร้างจิตสานึกในการสร้างและทง้ิ ขยะในสถานศึกษา 9 ความพึงพอใจต่อกิจกรรมการรณรงคส์ ร้างจิตสานกึ ใน การสรา้ งและทิ้งขยะในสถานศกึ ษา 10 ความตอ้ งการในการจดั กิจกรรมการรณรงค์สรา้ ง จิตสานกึ ในการสร้างและท้ิงขยะในสถานศกึ ษาในปี การศึกษาต่อไป ขอ้ เสนอแนะ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………… -โครงการเพาะพันธปุ์ ัญญา ปี 2560- ศูนย์พ่เี ลี้ยงมหาวิทยาลยั อุบลราชธานี
สอ่ื ภาพยนตร์สั้นเพอ่ื รณรงค์สรา้ งเจตคตทิ ีด่ ใี นการสรา้ งและการทงิ้ ขยะ ของนักเรียนโรงเรียนสมเด็จพระญาณสงั วร ในพระสงั ฆราชูปถมั ภ์ อาเภอคาเขื่อนแก้ว จังหวดั ยโสธร ภาพยนตรส์ น้ั เร่ือง One Piece ขยะหนึง่ ชนิ้ โดย Khadong Film ในชีวิตประจาวันหรือวิถีชีวิตในโรงเรียนที่พบเจออยู่บ่อยๆ น้ัน คือ การสร้างและการทิ้งขยะใน โรงเรยี นที่ไมถ่ ูกท่ี ไม่แยกขยะ บางคนกินแล้วทง้ิ ตรงน้ันทาเหมือนลืมแล้วเดินหนนี แ่ี หละการใช้ชีวิตในโรงเรียน ของแตล่ ะคน เจมสเ์ ปน็ เด็กนกั เรยี นคนหนึ่งทม่ี กั งา่ ยไมใ่ ส่ใจในการทงิ้ ขยะ ขณะที่แก้วเพ่ือนร่วมชั้นเรียนจะคอย กลา่ วตักเตอื นเจมสเ์ สมอ แตเ่ จมสก์ ็ไม่เคยใสใ่ จ ภายในโรงเรียนไม่ได้มีแค่เจมส์ที่มักง่ายยังมีนักเรียนอีกหลาย คนที่ทิ้งขยะไม่ถูกท่ี จนสภาพบริเวณในโรงเรียนไม่สะอาด ภายในห้องก็มีกล่ินเหม็นท่ีเกิดจากการทิ้งขยะโดย ไมแ่ ยกประเภทของนกั เรยี น ตามระเบียงเตม็ ไปดว้ ยขวดนา้ และแก้วพลาสติก เศษกระดาษ เศษพลาสติกห่อ ลูกอม อยู่ตามซอกตามมุมตามต้นไม้ รกเกล่ือนกลาดไปหมด มีเพียงแก้วและวิที่พยายามเก็บขยะแต่เก็บ เท่าไหร่ก็ไมห่ มดซกั ที เมื่อเวลาพักเท่ียง เจมส์จึงแอบซื้ออาหาร ผลไม้และน้าขึ้นมากินบนห้องและเล่นเกมไปด้วย เมื่อกิน เหลือเจมส์จงึ ทิ้งขยะนั้นโดยปาท้ังหมดลงถงั ขยะโดยไมใ่ ส่ใจวา่ ขยะจะลงไปในถงั ขยะหรือไม่ และไม่มีใครสนใจ ที่จะเก็บกวาด จนมาถึงวันหน่ึงภายในห้องถังขยะเต็ม ขณะเวลาพักเที่ยงเจมส์เดินเข้าห้องมาแล้วถามเพื่อน ว่ากล่นิ อะไร แล้วพากนั เดินหาท่ีมาของกลนิ่ จนมาพบกับขยะท่ีอยู่หลังห้อง เจมส์ได้แต่บ่นว่าเพ่ือนไม่รู้จักเก็บ กวาดขยะ และเอาเท้าเตะถังขยะให้ล้มลง ขยะเน่าๆกระจายเกล่ือนกลาด แก้วเดินเข้ามาเห็นพอดีจึงดุเจมส์ ขณะเดยี วกนั เพอ่ื นเจมสว์ ง่ิ ไล่หยอกล้อกันอยู่ว่ิงผ่านมาจึงล่ืนเศษขยะนั้นเสียล้มลงและมีบาดแผล เจมส์ตกใจท่ี เพื่อนเกิดอุบัติเหตุเพราะตนเองและรู้สึกแย่ แก้วรีบพาเพ่ือนไปทาแผลท่ีห้องพยาบาล คุณครูพยาบาลจึงถาม ถึงเหตกุ ารณ์ทีเ่ กิดขนึ้ แก้วเลา่ เหตกุ ารณ์ให้ครูฟัง ครจู งึ ตักเตอื นเจมส์ถึงโทษของการท้ิงขยะไม่ถูกท่ี พร้อมกับ ทาโทษโดยให้เจมส์ไปคน้ คว้าข้อมลู เก่ียวกับขยะ แล้วมาเล่าให้ ครูและเพื่อนๆฟัง เม่ือได้ศึกษาข้อมูลต่างๆแล้ว เจมส์เร่ิมสงั เกตเหน็ ว่า โรงเรยี นเตม็ ไปดว้ ยขยะ แกว้ เห็นเจมสย์ ืนอยูค่ นเดยี ว จงึ เดนิ ออกมาหาเจมส์และพูดใน สิง่ ทีพ่ ูดทกุ วัน ไม่ใชม่ ีแค่เราท่ีทิ้งไม่ถูกยังมีนักเรียนหลายคนท่ีขาดจิตสานึก มีแต่สร้างขยะ แล้วทิ้งไม่ถูกที่ ไม่ คานึงถึงโทษท่ีจะตามมาภายหลัง เจมส์รู้สึกผิดหวังในตัวเองที่ทาตัวแย่ แก้วได้ให้กาลังใจแล้วชักชวนให้เจมส์ เปล่ยี นแปลงพฤตกิ รรม -โครงการเพาะพนั ธ์ปุ ญั ญา ปี 2560- ศนู ย์พี่เล้ยี งมหาวทิ ยาลัยอุบลราชธานี
ภาคผนวก ข ภาพกจิ กรรมการดาเนนิ โครงการ -โครงการเพาะพนั ธ์ปุ ญั ญา ปี 2560- ศูนยพ์ ี่เลี้ยงมหาวิทยาลยั อบุ ลราชธานี
ภาพการดาเนนิ การของโครงงาน ภาพการดาเนนิ การของโครงงาน -โครงการเพาะพันธ์ปุ ญั ญา ปี 2560- ศูนย์พี่เล้ยี งมหาวิทยาลยั อบุ ลราชธานี
ภาพกจิ กรรม Big Cleaning Day -โครงการเพาะพันธ์ปุ ญั ญา ปี 2560- ศูนย์พ่ีเลี้ยงมหาวทิ ยาลัยอุบลราชธานี
Search
Read the Text Version
- 1
- 2
- 3
- 4
- 5
- 6
- 7
- 8
- 9
- 10
- 11
- 12
- 13
- 14
- 15
- 16
- 17
- 18
- 19
- 20
- 21
- 22
- 23
- 24
- 25
- 26
- 27
- 28
- 29
- 30
- 31
- 32
- 33
- 34
- 35
- 36
- 37
- 38
- 39
- 40
- 41
- 42
- 43
- 44
- 45
- 46
- 47
- 48
- 49
- 50
- 51
- 52
- 53
- 54
- 55
- 56
- 57
- 58
- 59
- 60
- 61
- 62
- 63
- 64
- 65
- 66
- 67
- 68
- 69
- 70
- 71
- 72
- 73
- 74
- 75
- 76
- 77
- 78
- 79
- 80
- 81
- 82
- 83
- 84
- 85
- 86
- 87
- 88
- 89
- 90
- 91
- 92
- 93
- 94
- 95
- 96
- 97
- 98
- 99
- 100
- 101
- 102
- 103
- 104
- 105
- 106
- 107
- 108
- 109
- 110
- 111
- 112
- 113
- 114
- 115
- 116
- 117
- 118
- 119
- 120
- 121
- 122
- 123
- 124
- 125
- 126
- 127
- 128
- 129
- 130
- 131
- 132
- 133
- 134
- 135
- 136
- 137
- 138
- 139
- 140
- 141
- 142
- 143
- 144
- 145
- 146
- 147
- 148
- 149
- 150
- 151
- 152
- 153
- 154
- 155
- 156
- 157
- 158
- 159
- 160
- 161
- 162
- 163
- 164
- 165
- 166
- 167
- 168
- 169
- 170
- 171
- 172
- 173
- 174
- 175
- 176
- 177
- 178
- 179
- 180
- 181
- 182
- 183
- 184
- 185
- 186
- 187
- 188
- 189
- 190
- 191
- 192
- 193
- 194
- 195
- 196
- 197
- 198
- 199
- 200
- 201
- 202
- 203
- 204
- 205
- 206
- 207
- 208
- 209
- 210
- 211
- 212
- 213
- 214
- 215
- 216
- 217
- 218
- 219
- 220
- 221